วิชาประวัติศาสตรส์ ากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 100
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทา้ งานเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอื่ ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.
คา้ ชแ้ี จง สงั เกตพฤติกรรมในการท้างานของนักเรยี น โดยเขียนเครือ่ งหมาย ลงในช่องรายการ
พฤตกิ รรมทน่ี กั เรียนปฏิบัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ที่ ชอื่ –สกลุ สนใจในการ ้ทางาน
ไม่เอาเปรียบเ ื่พอนในการ ้ทางาน
เสนอความคิดเห็น 432 1
ัรบ ัฟงความคิดเห็นของผู้อ่ืน
ให้ความ ่ชวยเหลือ ู้ผ ่อืน
มุ่งม่ัน ้ทางานให้ส้าเ ็รจ
ประเมินและปรับปรุงงาน ้ดวยความเต็มใจ
เคารพข้อตกลงของก ุ่ลม
้ทาตามหน้า ่ีท ี่ทได้ ัรบมอบหมาย
พอใจกับความส้าเ ็รจของงาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การใหค้ ะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรปุ ผลการประเมินให้เป็นระดบั คณุ ภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑด์ งั นี้
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)
วิชาประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 101
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทา้ งานเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอื่ ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดอื น พ.ศ.
คา้ ชแ้ี จง สงั เกตพฤตกิ รรมในการทา้ งานของนกั เรียน โดยเขยี นเคร่อื งหมาย ลงในช่องรายการ
พฤติกรรมท่ีนักเรียนปฏิบัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ที่ ชอ่ื –สกลุ แ ่บงงานกันรับผิดชอบ 432 1
มีกระบวนการท้างานเป็นข้ันตอน
ท้าตามหน้าที่ที่ไ ้ด ัรบมอบหมาย
่รวมกันแสดงความคิดเห็น
รับ ัฟงความ ิคดเ ็หนของสมาชิกกลุ่ม
น้ามติ/ ้ขอตกลงของกลุ่มไปปฏิบัติ
่รวม ักนปรับปรุงผลงาน ้ดวยความเต็มใจ
ุ่มงมั่นท้างานใ ้หส้าเร็จ
พอใจ ักบความส้าเร็จของงาน
บรรยากาศในการท้างาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การให้คะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรุปผลการประเมนิ ให้เป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑ์ดังนี้
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)
วิชาประวตั ศิ าสตร์สากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 102
มติ คิ ณุ ภาพของการบนั ทกึ ผลงาน
ก้าหนดเกณฑ์การประเมนิ ผลการบนั ทึกผลงานโดยใชม้ าตราส่วนประเมินคา่ 4 ระดับ ดงั น้ี
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
– บันทกึ ผลงานได้ถูกต้องตามจดุ ประสงค์ เขยี นบันทกึ ได้ชัดเจน แนวคิดหลกั ถูกตอ้ ง 4
มปี ระเด็นส้าคญั ครบถ้วน
– ใช้ภาษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม คา้ ศัพท์ถูกต้อง
– บนั ทึกผลงานไดถ้ กู ต้องตามจุดประสงค์ เขียนบันทกึ ที่มีบางส่วนยังไมช่ ดั เจน 3
แนวคิดหลกั ถูกต้อง ส่วนท่เี ป็นประเดน็ ส้าคัญมีไม่ครบถ้วน
– ใช้ภาษา ค้าศัพท์ไมถ่ ูกตอ้ งในบางส่วน
– บันทกึ ผลงานยึดตามจุดประสงค์ เขียนบันทกึ ไม่ชดั เจน แนวคิดหลักบางสว่ นไม่ 2
ถกู ตอ้ ง ส่วนทเ่ี ปน็ ประเดน็ ส้าคัญมไี มค่ รบถ้วน
– ใช้ภาษา คา้ ศพั ทไ์ ม่ถูกต้องในบางส่วน
– บันทกึ ผลงานไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ เขยี นบันทึกไมช่ ดั เจน และแนวคดิ หลัก 1
สว่ นใหญไ่ ม่ถกู ต้อง
– ใชภ้ าษา ค้าศัพทไ์ มถ่ ูกตอ้ ง
วชิ าประวตั ิศาสตรส์ ากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 103
บนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้
หวั ขอ้ การประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้
1. ด้านความรู้
(K) ………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
(P)
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
3. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
(A) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
ลงชอ่ื (ครผู ้สู อน)
(นายรชตะ ขาวด)ี
//
วชิ าประวตั ศิ าสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 104
ขอ้ เสนอแนะความคดิ เห็นเพมิ่ เตมิ
หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้
ลงชือ่ หวั หน้ากลุ่มสาระสงั คมศกึ ษาฯ
(นางป่นิ แก้ว แก้วเปน็ บญุ )
วันท่ี / /
รองผอู้ า้ นวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ลงชอ่ื รองผอู้ ้านวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ
(นางยคุ ลทร โพธศิ์ รี)
วนั ท่ี / /
ผอู้ ้านวยการโรงเรยี น
ลงชื่อ ผอู้ า้ นวยการโรงเรียน
(นายเอกชัย คะษาวงค์)
วนั ท่ี / /
วชิ าประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 105
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 พฒั นาการของยโุ รปสมยั กลาง เวลา 6 ชวั่ โมง
ผงั มโนทศั นเ์ ปา้ หมายการเรยี นรแู้ ละขอบขา่ ยภาระงาน/ชน้ิ งาน
ดา้ นความรู้
1. อิทธพิ ลของครสิ ตศ์ าสนาในยุโรปสมยั กลาง
2. การเมอื ง เศรษฐกิจ และสังคมของยโุ รปสมัยกลาง
3. เหตุการณ์สาคัญในยุโรปสมัยกลาง
4. อารยธรรมในสมัยกลาง
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ พัฒนาการของยุโรป ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
1. การสอ่ื สาร สมยั กลาง และคา่ นยิ ม
2. การคดิ
3. การใชก้ ระบวนการกลมุ่ ประวตั ศิ าสตร์ 1. มีวินัย
4. การใชเ้ ทคโนโลยี 2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. รกั ความเปน็ ไทย
4. มุ่งมั่นในการทางาน
ภาระงาน/ช้ินงาน
1. การทาแบบทดสอบ
2. การศกึ ษาคน้ คว้า
3. การวิเคราะห์
4. การสบื ค้นขอ้ มูล
5. การนาเสนอผลงานแผ่นพบั โปสเตอร์
แผนทค่ี วามคดิ ด้วยโปรแกรม Canva
คลิป Powerpoint E-book
วิชาประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 106
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 พฒั นาการของยโุ รปสมยั กลาง
ขั้นท่ี 1 ผลลพั ธป์ ลายทางทตี่ อ้ งการใหเ้ กดิ ขนึ้ กบั นกั เรยี น
ตวั ชว้ี ดั ชว่ งชนั้
• วิเคราะห์อิทธพิ ลของอารยธรรมโบราณ และการติดต่อระหว่างโลกตะวนั ออกกับโลกตะวันตกท่ีมีผล
ต่อพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของโลก (ส 4.2 ม. 4–6/1)
ความเขา้ ใจทคี่ งทนของนกั เรยี น คาถามสาคญั ที่ทาใหเ้ กดิ ความเข้าใจทค่ี งทน
นกั เรยี นจะเขา้ ใจวา่ ...
ในยโุ รปสมัยกลาง คริสต์ศาสนาเข้ามามบี ทบาท คริสต์ศาสนามีความสาคัญต่อยโุ รปสมัยกลาง
แทนจกั รวรรดิโรมันท่ีเสื่อมลง และมอี ทิ ธิพลตอ่ อย่างไร
ประชาชนในทุกด้าน ๆ ทัง้ ด้านสงั คม เศรษฐกิจ
และการเมอื ง เปน็ ผลใหผ้ ลงานสร้างสรรคต์ ่าง ๆ ใน
ยุคน้ไี ดร้ ับแรงบนั ดาลใจ
จากศาสนา
ความรขู้ องนกั เรยี นท่นี าไปสคู่ วามเข้าใจทค่ี งทน ทกั ษะ/ความสามารถของนกั เรยี นทนี่ าไปสู่
นกั เรยี นจะรวู้ า่ ... ความเขา้ ใจทคี่ งทน นกั เรยี นจะสามารถ...
1. คาสาคญั ไดแ้ ก่ ยคุ มดื รัฐชาติ ชนชน้ั กลาง 1. อธิบายความสาคญั ของครสิ ต์ศาสนาทม่ี ตี ่อ
สงครามครูเสด ยุโรปสมัยกลาง
2. เม่ือจกั รวรรดโิ รมันเสือ่ มลง สถาบันครสิ ต์ 2. เห็นความสาคัญของการเมือง เศรษฐกิจ
ศาสนากลับมคี วามแขง็ แกรง่ มากขึน้ และเมือ่ และสังคมของยโุ รปสมัยกลาง
จักรวรรดลิ ม่ สลายไป ดินแดนยโุ รปมีแต่ความ 3. อธิบายเหตุการณ์สาคญั ในยุโรปสมัยกลาง
ปนั่ ปว่ น ทาใหค้ ริสตศ์ าสนาเข้ามามบี ทบาทมากมาย ได้ถูกตอ้ ง
หลายดา้ น ท่ีสาคัญได้แก่ บทบาททางสังคม 4. อธบิ ายและวิเคราะห์อารยธรรมสมยั กลาง
บทบาททางการเมอื ง บทบาททางเศรษฐกจิ
3. เมือ่ จักรวรรดิโรมนั ตะวันตกลม่ สลายใน ค.ศ.
476 สภาพทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
ของยโุ รปตะวันตกมคี วามวุ่นวาย แต่ชว่ งเวลาน้กี ็
กลายเป็นชว่ งเวลาของการสรา้ งอารยธรรมใหม่ ซง่ึ
นักประวตั ิศาสตร์เรียกช่วงนวี้ า่ สมัยกลาง โดยแบง่
ออกเป็น 3 ระยะ คอื ระยะต้น ระยะกลาง ระยะ
ปลาย
4. เหตกุ ารณ์สาคัญในยุโรปสมยั กลาง ได้แก่
สงครามครเู สด สงครามร้อยปี นอกจากนั้นยังเกิด
ลัทธชิ าตินิยมและรฐั ชาตขิ ึน้ ในยุโรป สง่ ผลใหศ้ าสน
จักรสมัยกลางเส่อื มลงจนนาไปสู่การปฏริ ูปศาสนา
วชิ าประวตั ศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 107
และการส้ินสุดของสมัยกลาง
5. อารยธรรมในสมัยกลางไดร้ บั อิทธพิ ลมาจาก
ครสิ ต์ศาสนาและการปกครองระบบฟวิ ดัลที่สร้าง
สังคมทัง้ ดา้ นความเช่ือ จรยิ ธรรม การดาเนินชวี ิต
การปกครอง ศิลปวฒั นธรรม นอกจากนอี้ ิทธิพล
ของครสิ ต์ศาสนายังมผี ลต่องานด้านต่าง ๆ เช่น
สถาปัตยกรรม วรรณกรรม
ข้นั ที่ 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรยี นรซู้ ง่ึ เปน็ หลกั ฐานทแี่ สดงว่านกั เรียนมผี ลการเรยี นรตู้ ามท่ี
กาหนดไวอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ
1. ภาระงานทน่ี กั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิ
1.1 ศกึ ษาค้นควา้ เก่ยี วกับอิทธิพลของครสิ ต์ศาสนาในยโุ รปสมยั กลาง
1.2 วิเคราะห์เปรยี บเทียบการเมือง เศรษฐกจิ และสังคมในแต่ละระยะของยโุ รปสมยั กลาง
1.3 สบื คน้ ข้อมลู เกี่ยวกบั อารยธรรมในสมยั กลาง
2. วธิ กี ารและเครอื่ งมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้
2.1 วธิ กี ารประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2.2 เครอ่ื งมอื ประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น
2) การประเมินผลงาน/กจิ กรรมเป็น 2) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเปน็
รายบุคคลหรอื เป็นกลมุ่ รายบุคคลหรือเป็นกลุม่
3) การประเมนิ ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม 3) แบบประเมินด้านคุณธรรม จริยธรรม
และค่านยิ ม และค่านิยม
4) การประเมนิ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมนิ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ
3. สงิ่ ทมี่ งุ่ ประเมนิ
3.1 ความเขา้ ใจ 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ การอธิบาย ชแ้ี จง การแปลความและตคี วาม การประยุกต์ ดดั แปลง
และนาไปใช้ การมีมมุ มองทีห่ ลากหลาย การใหค้ วามสาคญั และใสใ่ จในความร้สู กึ ของผ้อู ่นื และการรู้จักตนเอง
3.2 ทักษะ/กระบวนการ เช่น การสือ่ สาร การคดิ การแก้ปญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี กระบวนการกล่มุ
3.3 คณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม เชน่ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอ่ื สัตย์สุจรติ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้
อย่อู ย่างพอเพยี ง มงุ่ มั่นในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย มจี ิตสาธารณะ
ขนั้ ท่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 อิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง เวลา 2 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 10 การเมือง เศรษฐกจิ และสังคมของยโุ รปสมัยกลาง เวลา 2 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 11 เหตุการณส์ าคญั ในยุโรปสมยั กลางและ เวลา 2 ชวั่ โมง
อารยธรรมสมัยกลาง
วิชาประวตั ิศาสตรส์ ากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 108
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9
อทิ ธพิ ลของครสิ ตศ์ าสนาในยโุ รปสมยั กลาง
สาระที่ 4 ประวตั ศิ าสตร์ เวลา 2 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 พฒั นาการของยุโรปสมยั กลาง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
1. สาระสาคญั
เม่อื จักรวรรดโิ รมันเสื่อมลง สถาบันคริสต์ศาสนากลับมีความแขง็ แกรง่ มากข้นึ และเม่ือจักรวรรดิล่มสลายไป ดินแดน
ยุโรปมีแตค่ วามปน่ั ป่วน ทาใหค้ ริสต์ศาสนาเขา้ มามีบทบาทมากมายหลายดา้ น ที่สาคัญได้แก่ บทบาททางสงั คม บทบาท
ทางการเมอื ง บทบาททางเศรษฐกิจ
2. ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชน้ั
• วิเคราะหอ์ ทิ ธิพลของอารยธรรมโบราณ และการติดตอ่ ระหวา่ งโลกตะวันออกกับโลกตะวนั ตกท่มี ผี ลตอ่ พฒั นาการ
และการเปล่ียนแปลงของโลก (ส 4.2 ม. 4–6/1)
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความสาคญั ของอทิ ธิพลของครสิ ต์ศาสนาในยโุ รปสมัยกลางได้ (K)
2. เหน็ คุณคา่ และความสาคญั อทิ ธพิ ลของคริสตศ์ าสนาในยโุ รปสมยั กลาง (A)
3. ร่วมกนั วิเคราะหค์ วามสาคัญของอทิ ธิพลของคริสตศ์ าสนาในยโุ รปสมัยกลาง (P)
4. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
และคา่ นยิ ม (A)
1. ทดสอบกอ่ นเรียน • ประเมินพฤตกิ รรมการทางาน • ประเมนิ พฤติกรรมการทางาน
2. ซักถามความรู้เร่ือง อทิ ธพิ ล เป็นรายบคุ คลในด้านความมีวินยั เปน็ รายบคุ คลและเปน็ กลมุ่
ของคริสตศ์ าสนาในยโุ รปสมยั กลาง ใฝเ่ รยี นรู้ ฯลฯ ดา้ นการส่อื สาร การคิด
3. ตรวจผลงาน/กิจกรรมเป็น การแก้ปัญหา ฯลฯ
รายบคุ คลหรอื เป็นกลุ่ม
5. สาระการเรยี นรู้
• อิทธพิ ลของคริสต์ศาสนาในยโุ รปสมัยกลาง
1. บทบาททางสังคม
2. บทบาททางการเมอื ง
3. บทบาททางเศรษฐกจิ
6. แนวทางบรู ณาการ ฟัง พูด อ่าน และเขยี นขอ้ มลู เก่ียวกบั อิทธิพลของคริสตศ์ าสนาในยโุ รปสมัยกลาง
ภาษาไทย
ศิลปะ ทาแผ่นพบั โปสเตอร์ เก่ยี วกบั อทิ ธพิ ลของครสิ ต์ศาสนาในยุโรปสมยั กลาง
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สบื คน้ ขอ้ มูล/แผน่ พับ โปสเตอร์ เกีย่ วกับอทิ ธพิ ลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมยั กลาง
วชิ าประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชัน้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 109
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชัน Line meeting ครูแจ้งตัวชี้วัดช่วงช้ันและ
จุดประสงค์การเรยี นร้ใู หน้ กั เรยี นทราบ
2. ครูให้นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี นผ่านโปรแกรม Quizizz
3. ครูตง้ั ประเด็นคาถาม นกั เรยี นทราบหรอื ไมว่ า่ อิทธพิ ลของคริสต์ศาสนาและอนารยชนเก่ียวขอ้ งกับพัฒนาการ
ของอะไร นักเรยี นตอบ จากนนั้ ครอู ธิบายสรปุ เพอื่ เชอ่ื มโยงเข้าสเู่ น้อื หาท่จี ะเรยี น
ข้ันท่ี 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้
4. ครอู ธิบายเกย่ี วกับอิทธิพลของคริสต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง
5. ครูแบ่งกลมุ่ นกั เรียน กลุ่มละ 5–6 คน โดยจดั กล่มุ และแชร์หน้าจอแสดงรายชื่อกลุ่มในโปรแกรม
Classdojo ศกึ ษาค้นคว้าเกี่ยวกบั อทิ ธพิ ลของคริสตศ์ าสนาในยโุ รปสมยั กลาง จากหนงั สอื เรียนหรอื สอื่ การเรียนรอู้ ่นื ๆ
6. ใหแ้ ต่ละกล่มุ แสดงผลงานจากการค้นควา้ ข้ึนผ่านจอ
7. แตล่ ะกลมุ่ เสนอผลการศกึ ษาค้นควา้ จนครบทกุ กล่มุ
8. ใหแ้ ต่ละกลุ่มอธิบายตอบขอ้ ซักถามของเพอื่ นตา่ งกลมุ่ แล้วจดบนั ทกึ ไว้จนครบทุกหวั ข้อ
9. ครูให้แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันวเิ คราะห์และอภปิ รายแสดงความคดิ เห็น
10. ครใู หน้ กั เรยี นสืบค้นขอ้ มลู ว่าประเทศสมาชกิ อาเซียนประเทศใดได้รบั อทิ ธิพลจากคริสต์ศาสนาในยโุ รปสมัยกลาง
บา้ ง อย่างไร บันทกึ ผลการสบื คน้ แลว้ นามาแสดงความคดิ เหน็ ร่วมกันในชน้ั เรียน
11. ขณะนกั เรียนปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ครูสังเกตพฤตกิ รรมการทางานและการนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามแบบประเมนิ
พฤติกรรมในการทางานเปน็ รายบุคคลหรือเปน็ กลุ่ม
ข้นั ท่ี 3 ฝกึ ฝนผเู้ รยี น
12. ครใู ห้นักเรียนทากจิ กรรมท่ีเกย่ี วกับอิทธิพลของครสิ ต์ศาสนาในยโุ รปสมยั กลาง ในแบบฝกึ ทักษะประวัติศาสตร์
ข้นั ที่ 4 นาไปใช้
13. ครแู นะนาใหน้ กั เรียนทาแผ่นพบั โปสเตอร์ ดว้ ยโปรแกรม Canva เพ่ือเผยแพรค่ วามรเู้ ร่อื งอิทธิพลของครสิ ต์
ศาสนาในยโุ รปสมัยกลาง
ขั้นท่ี 5 สรปุ
14. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ ความรู้เรื่อง อทิ ธพิ ลของคริสตศ์ าสนาในยุโรปสมัยกลาง โดยสรปุ เปน็ แผนท่คี วามคดิ
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่ม ศกึ ษาค้นคว้าเพมิ่ เตมิ เรือ่ ง อิทธพิ ลของครสิ ต์ศาสนาในยุโรปสมัยกลาง จากนัน้ นามาร่วม
กันแสดงความคดิ เหน็
9. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน ผา่ นโปรแกรม Quizizz
2. หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 4–6 เลม่ 2 บรษิ ทั สานักพมิ พว์ ฒั นาพานชิ จากดั
3. แบบฝึกทักษะรายวิชาพ้ืนฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 6
4. โปรแกรม Classdojo
วิชาประวัติศาสตรส์ ากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 110
แบบทดสอบก่อนเรยี น
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 พฒั นาการของยโุ รปสมยั กลาง
คาชแ้ี จง เลือกคาตอบทถี่ กู ตอ้ งท่สี ุดเพยี งคาตอบเดียว
1. เพราะเหตใุ ดครสิ ตจกั รจงึ มบี ทบาทตอ่ การดารงชวี ติ ของชาวยโุ รปในสมยั กลางอยา่ งมาก
ก มีพิธกี รรมทางศาสนามากในยุคนั้น
ข ป้องกนั การแทรกแซงของศาสนาอ่นื
ค เปน็ สอื่ กลางระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
ง เข้าควบคมุ พฤติกรรมของคนในสงั คม
2. ชนเผา่ ทมี่ อี านาจมากทส่ี ดุ ในยโุ รปสมยั กลางระยะตน้ คอื กลมุ่ ใด
ก ชนเผา่ แฟรงก์
ข ชนเผ่าลอมบารด์
ค ชนเผ่าเบอร์กนั เดยี น
ง ชนเผา่ แองโกลแซกซัน
3. เจา้ นายชน้ั สงู สดุ ของระบบฟวิ ดัลคอื ใคร
ก ทหาร
ข ขนุ นาง
ค นักบวช
ง กษัตริย์
4. จกั รวรรดโิ รมนั อนั ศกั ดส์ิ ทิ ธเิ์ สอื่ มลงเพราะอะไร
ก การเกดิ รัฐชาติ
ข เศรษฐกจิ ตกตา่
ค ระบบฟิวดัลหมดไป
ง การแขง่ ขนั ระหวา่ งจกั รพรรดิเยอรมันกับสันตะปาปา
5. ขอ้ ใดไมใ่ ชผ่ ลกระทบของสงครามครูเสด
ก การค้าขยายตัว
ข ขนุ นางมีอิทธพิ ลมากข้นึ
ค เมืองตา่ ง ๆ กลายเปน็ ศูนยก์ ลางการคา้
ง ชนช้นั ผ้นู าฟนื้ ฟูอารยธรรมกรกี –โรมัน
6. สงครามรอ้ ยปเี ปน็ สงครามระหวา่ งชาตใิ ด
ก อติ าลกี บั ตุรกี
ข ฝรง่ั เศสกบั สเปน
ค เยอรมันกับอติ าลี
ง อังกฤษกบั ฝรั่งเศส
วิชาประวตั ิศาสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 111
7. วรี กรรมของโจนออฟอารค์ ในสงครามร้อยปกี อ่ ใหเ้ กดิ แนวความคดิ อะไรในฝรงั่ เศส
ก เสรนี ยิ ม
ข ชาตนิ ิยม
ค มนุษยนิยม
ง ปจั เจกชนนิยม
8. เมอ่ื สมยั กลางสนิ้ สดุ ลงสภาพสงั คมยโุ รปเปลย่ี นแปลงไปอยา่ งไร
ก ชนชั้นกลางเพิ่มมากขึ้น
ข ชาวนาและชา่ งฝีมือมีน้อยลง
ค พ่อค้ามอี านาจทัดเทยี มกบั ขุนนาง
ง ถกู ทุกขอ้
9. สถาปตั ยกรรมศลิ ปะกอทิกมลี กั ษณะอยา่ งไร
ก ทึบตัน
ข กะทดั รัด
ค โปร่งบาง
ง แข็งแกร่ง
10. มหากาพยม์ เี นอื้ หาเกยี่ วกบั อะไร
ก ความรกั แบบเทิดทนู
ข สภาพสงั คมสมัยกลาง
ค วีรกรรมของวรี บุรษุ ในอดีต
ง ความจงรกั ภักดีของอศั วินต่อเจ้าและขุนนาง
วชิ าประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชั้น ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 112
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
ชนั้ วนั เดอื น พ.ศ.
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชื่อ–สกลุ ความถูก ้ตองการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 4321
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดสร้างสรรค์ (4 คะแนน)
รูปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยชน์ (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมินใหเ้ ป็นระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม หรอื
อาจใชเ้ กณฑด์ งั น้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)
วชิ าประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ชั้น ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 113
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี
ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.
กลมุ่ ท่ี
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอื่ –สกลุ ความ ูถกต้องการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 432 1
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดส ้รางสรรค์ (4 คะแนน)
ูรปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยช ์น (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรุปผลการประเมินใหเ้ ป็นระดับคณุ ภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ไดต้ ามความเหมาะสม หรอื อาจใช้
เกณฑ์ดงั น้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)
วชิ าประวตั ศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 114
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.
คาชแ้ี จง สังเกตพฤติกรรมในการทางานของนักเรียน โดยเขยี นเครื่องหมาย ลงในช่องรายการ
พฤตกิ รรมทน่ี ักเรียนปฏิบัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ที่ ชอื่ –สกลุ สนใจในการทางาน
ไม่เอาเปรียบเพ่ือนในการทางาน
เสนอความคิดเห็น 432 1
ัรบฟังความคิดเห็นของผู้ ่ือน
ให้ความ ่ชวยเห ืลอ ู้ผ ือ่น
มุ่งม่ันทางานให้สาเ ็รจ
ประเ ิมนและปรับปรุงงาน ้ดวยความเต็มใจ
เคารพ ้ขอตกลงของก ุล่ม
ทาตามห ้นา ่ีท ี่ทไ ้ด ัรบมอบหมาย
พอใจ ักบความสาเ ็รจของงาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การให้คะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรุปผลการประเมินใหเ้ ป็นระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใช้เกณฑด์ ังนี้
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)
วิชาประวตั ิศาสตร์สากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 115
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี
ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.
คาชแ้ี จง สังเกตพฤติกรรมในการทางานของนกั เรยี น โดยเขยี นเครื่องหมาย ลงในช่องรายการ
พฤติกรรมที่นักเรยี นปฏิบัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอื่ –สกลุ แ ่บงงาน ักนรับผิดชอบ 432 1
ีมกระบวนการทางานเป็นข้ันตอน
ทาตามหน้าที่ที่ไ ้ด ัรบมอบหมาย
ร่วมกันแสดงความ ิคดเห็น
รับ ัฟงความ ิคดเห็นของสมา ิชกกลุ่ม
นามติ/ ้ขอตกลงของกลุ่มไปปฏิบัติ
ร่วม ักนป ัรบปรุงผลงาน ้ดวยความเต็มใจ
่มุงมั่นทางานใ ้หสาเร็จ
พอใจ ักบความสาเร็จของงาน
บรรยากาศในการทางาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การให้คะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรปุ ผลการประเมินให้เป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใช้เกณฑ์ดงั นี้
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)
วชิ าประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 116
มติ คิ ณุ ภาพของการบนั ทกึ ผลงาน ระดบั คณุ ภาพ
กาหนดเกณฑ์การประเมินผลการบันทกึ ผลงานโดยใชม้ าตราส่วนประเมนิ คา่ 4 ระดับ ดังนี้ 4
รายการประเมนิ 3
– บันทึกผลงานไดถ้ กู ตอ้ งตามจดุ ประสงค์ เขยี นบนั ทกึ ได้ชัดเจน แนวคิดหลกั ถูกต้อง 2
มปี ระเด็นสาคัญครบถว้ น
1
– ใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสม คาศัพทถ์ ูกต้อง
– บันทึกผลงานได้ถกู ต้องตามจุดประสงค์ เขียนบันทึกทมี่ บี างส่วนยงั ไม่ชัดเจน
แนวคดิ หลกั ถกู ต้อง ส่วนทเี่ ปน็ ประเด็นสาคญั มีไมค่ รบถ้วน
– ใช้ภาษา คาศพั ทไ์ ม่ถกู ต้องในบางส่วน
– บนั ทกึ ผลงานยึดตามจดุ ประสงค์ เขยี นบนั ทกึ ไม่ชัดเจน แนวคดิ หลักบางส่วนไม่
ถกู ตอ้ ง สว่ นทเ่ี ปน็ ประเด็นสาคัญมไี มค่ รบถว้ น
– ใช้ภาษา คาศพั ท์ไมถ่ กู ตอ้ งในบางส่วน
– บนั ทกึ ผลงานไมส่ อดคล้องกับจดุ ประสงค์ เขยี นบนั ทึกไม่ชดั เจน และแนวคิดหลัก
สว่ นใหญ่ไมถ่ ูกตอ้ ง
– ใช้ภาษา คาศพั ท์ไมถ่ ูกต้อง
วชิ าประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 117
บนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้
หวั ขอ้ การประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้
1. ด้านความรู้
(K) ………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
(P)
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
(A) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
ลงชือ่ (ครผู ู้สอน)
(นายรชตะ ขาวดี)
//
วิชาประวตั ิศาสตร์สากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 118
ขอ้ เสนอแนะความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ
หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ลงช่ือ หวั หนา้ กลุ่มสาระสงั คมศกึ ษาฯ
(นางปิน่ แก้ว แก้วเปน็ บุญ)
วนั ที่ / /
รองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ลงช่ือ รองผู้อานวยการกล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ
(นางยุคลทร โพธ์ศิ รี)
วันท่ี / /
ผอู้ านวยการโรงเรยี น
ลงช่ือ ผู้อานวยการโรงเรียน
(นายเอกชัย คะษาวงค์)
วนั ท่ี / /
วิชาประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 119
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 10
การเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คมของยโุ รปสมยั กลาง
สาระที่ 4 ประวตั ศิ าสตร์ เวลา 2 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 พฒั นาการของยโุ รปสมยั กลาง ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
1. สาระสาคญั
เม่อื จกั รวรรดโิ รมันตะวนั ตกลม่ สลายใน ค.ศ. 476 สภาพทางการเมอื ง เศรษฐกิจ และสงั คมของยโุ รป
ตะวนั ตกมีความวนุ่ วาย แตช่ ่วงเวลานี้กก็ ลายเป็นชว่ งเวลาของการสรา้ งอารยธรรมใหม่ ซงึ่ นกั ประวัตศิ าสตรเ์ รียกช่วงนี้
วา่ สมยั กลาง โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คอื ระยะตน้ ระยะกลาง ระยะปลาย
2. ตวั ชว้ี ดั ชว่ งชนั้
• วิเคราะหอ์ ิทธิพลของอารยธรรมโบราณ และการติดตอ่ ระหว่างโลกตะวันออกกบั โลกตะวนั ตกทมี่ ผี ลตอ่
พัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของโลก (ส 4.2 ม. 4–6/1)
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายความสาคญั เก่ยี วกบั การเมอื ง เศรษฐกจิ และสังคมของยโุ รปสมยั กลางได้ (K)
2. มคี วามสนใจศกึ ษาเกยี่ วกบั การเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คมของยโุ รปสมยั กลาง (A)
3. สืบค้นและวเิ คราะห์ขอ้ มลู เก่ียวกับการเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คมของยุโรปสมยั กลาง (P)
4. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
ดา้ นความรู้ (K) และคา่ นยิ ม (A) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. ซกั ถามความรู้เรื่อง การเมือง • ประเมินพฤตกิ รรมการทางาน • ประเมินพฤตกิ รรมการทางาน
เศรษฐกิจและสังคมของยโุ รปสมยั เปน็ รายบุคคลในดา้ นความมีวินัย เปน็ รายบคุ คลและเปน็ กลุ่ม
กลาง ใฝ่เรียนรู้ ฯลฯ ด้านการส่อื สาร การคดิ
2. ตรวจผลงาน/กจิ กรรมเปน็ การแก้ปญั หา ฯลฯ
รายบุคคลหรอื เป็นกล่มุ
5. สาระการเรียนรู้
• การเมือง เศรษฐกจิ และสังคมของยุโรปสมยั กลาง
1. ระยะต้น
2. ระยะกลาง
3. ระยะปลาย
วชิ าประวตั ิศาสตรส์ ากล (ส30162) ชัน้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 120
6. แนวทางบรู ณาการ ฟงั พดู อา่ น และเขียนขอ้ มูลเกย่ี วกับการเมือง เศรษฐกิจ และสงั คม
ภาษาไทย
ของยโุ รปสมยั กลาง
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี คลปิ Power point E-book เก่ียวกบั การวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทียบการเมอื ง
เศรษฐกจิ และสงั คมของยโุ รปสมยั กลาง
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขัน้ ที่ 1 นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ห้องเรียนออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชัน Line meeting ครูแจ้งตัวชี้วัดช่วงชั้นและ
จุดประสงคก์ ารเรียนรูใ้ ห้นกั เรียนทราบ
2. ครูตั้งประเด็นคาถาม ถามนกั เรยี นวา่ การเมอื ง เศรษฐกิจ และสังคมของยโุ รปสมัยกลางเป็นอยา่ งไร
นกั เรียนตอบ จากนน้ั ครูอธบิ ายสรุปเพอื่ เชอื่ มโยงเข้าสเู่ น้อื หาท่ีจะเรยี น
ข้ันท่ี 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้
3. ครูอธิบายเรอ่ื ง การเมือง เศรษฐกิจ และสงั คมของยุโรปสมัยกลาง
4. ครูให้นักเรียนศกึ ษาหวั ข้อ การเมือง เศรษฐกิจ และสงั คมของยุโรปสมัยกลาง จากสือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้
ต่าง ๆ เชน่ หนงั สอื เรียน เอกสารความรู้ อินเทอรเ์ น็ต ดงั น้ี
1) การเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คมในระยะต้น
2) การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในระยะกลาง
3) การเมอื ง เศรษฐกิจ และสงั คมในระยะปลาย
5. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะคนบนั ทึกสรปุ สาระสาคัญลงในสมดุ บนั ทกึ หรือลงในแบบบนั ทกึ ความรู้
6. ครูแบ่งกลมุ่ นักเรียน กลมุ่ ละ 5–6 คน โดยจัดกลุ่มและแสดงรายชอ่ื กล่มุ ในโปรแกรม Classdojo
แชร์หนา้ จอให้นกั เรียนเหน็ ใหแ้ ต่ละกล่มุ รว่ มกนั วิเคราะหเ์ ปรียบเทยี บว่า การเมือง เศรษฐกจิ และสังคมในแต่ละระยะ
ของยโุ รปสมัยกลางมีลักษณะแตกตา่ งกันอย่างไร
7. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เตรียมตวั นาเสนอผลการวเิ คราะห์เปรยี บเทียบในรปู แบบท่ีหลากหลาย เช่น คลปิ
Power point E-book
8. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบ แล้วเปดิ โอกาสให้นักเรียนกลุ่มอน่ื ซักถาม
และวิจารณ์ผลงาน จากนัน้ ครตู รวจสอบความถูกต้องและอธิบายเพิ่มเตมิ
9. ในขณะนกั เรยี นปฏบิ ัติกิจกรรม ครสู ังเกตพฤตกิ รรมในการทางานและการนาเสนอผลงานของนักเรยี น
ตามแบบประเมนิ พฤตกิ รรมการทางานเป็นรายบคุ คลหรือเปน็ กลุ่ม
ขั้นท่ี 3 ฝกึ ฝนผูเ้ รยี น
10. ครูใหน้ ักเรียนทากจิ กรรมทีเ่ กยี่ วกับการเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คมของยุโรปสมยั กลาง ในแบบฝกึ ทักษะ
ประวัติศาสตร์
ขัน้ ที่ 4 นาไปใช้
11. ครใู หน้ ักเรยี นทาสมุดภาพเรอื่ ง การเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คมของยโุ รปสมัยกลาง
วชิ าประวัติศาสตรส์ ากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 121
ขัน้ ที่ 5 สรปุ
12. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปความรูเ้ ร่อื ง การเมอื ง เศรษฐกจิ และสังคมของยุโรปสมยั กลาง โดยใหน้ ักเรยี น
สรุปเป็นแผนที่ความคดิ
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
ครูใหน้ กั เรยี นศึกษาเพ่มิ เติมเกย่ี วกับการเมือง เศรษฐกจิ และสังคมของยุโรปสมัยกลาง แล้วนาความรู้
ทีไ่ ดม้ ารว่ มกันอภิปรายแสดงความคิดเห็น
9. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. แบบบนั ทึกความรู้
2. หนังสอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 4–6 เลม่ 2 บริษทั สานักพิมพ์วฒั นาพานิช จากัด
3. แบบฝึกทักษะรายวิชาพ้ืนฐานประวัตศิ าสตร์ ม. 6
4. โปรแกรม Classdojo
วิชาประวตั ศิ าสตร์สากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 122
ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชน้ั
แบบบนั ทกึ ความรู้
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี เรื่อง
1. สรุปความรทู้ ไี่ ด้
2. สรปุ แนวคดิ ใหมท่ ี่ได้
3. การนาไปใช้ประโยชน์
วชิ าประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 123
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
ชนั้ วนั เดอื น พ.ศ.
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ช่อื –สกลุ ความถูก ้ตองการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 4321
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดสร้างสรรค์ (4 คะแนน)
รูปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยชน์ (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมนิ ให้เป็นระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม หรือ
อาจใชเ้ กณฑด์ งั น้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)
วิชาประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 124
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.
กลมุ่ ที่
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอื่ –สกลุ ความ ูถกต้องการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 432 1
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดส ้รางสรรค์ (4 คะแนน)
ูรปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยช ์น (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมินใหเ้ ป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ไดต้ ามความเหมาะสม หรอื อาจใช้
เกณฑ์ดงั น้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)
วิชาประวตั ิศาสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 125
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอื่ ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี
ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.
คาชแ้ี จง สังเกตพฤติกรรมในการทางานของนักเรยี น โดยเขยี นเคร่อื งหมาย ลงในช่องรายการ
พฤตกิ รรมทน่ี ักเรียนปฏิบัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ที่ ชอื่ –สกลุ สนใจในการทางาน
ไม่เอาเปรียบเพ่ือนในการทางาน
เสนอความคิดเห็น 432 1
ัรบฟังความคิดเห็นของผู้ ่ือน
ให้ความ ่ชวยเห ืลอ ู้ผ ือ่น
มุ่งม่ันทางานให้สาเ ็รจ
ประเ ิมนและปรับปรุงงาน ้ดวยความเต็มใจ
เคารพ ้ขอตกลงของก ุล่ม
ทาตามห ้นา ่ีท ี่ทไ ้ด ัรบมอบหมาย
พอใจ ักบความสาเ ็รจของงาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การให้คะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรุปผลการประเมินใหเ้ ป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑด์ ังนี้
9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)
วิชาประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 126
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
ชนั้ วนั เดอื น พ.ศ.
คาชแี้ จง สังเกตพฤตกิ รรมในการทางานของนกั เรียน โดยเขียนเคร่อื งหมาย ลงในช่องรายการ
พฤตกิ รรมที่นักเรียนปฏิบัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ที่ ชอ่ื –สกลุ แ ่บงงาน ักนรับผิดชอบ 432 1
ีมกระบวนการทางานเป็นข้ันตอน
ทาตามหน้าที่ที่ไ ้ด ัรบมอบหมาย
ร่วมกันแสดงความ ิคดเห็น
รับ ัฟงความ ิคดเห็นของสมา ิชกกลุ่ม
นามติ/ ้ขอตกลงของกลุ่มไปปฏิบัติ
ร่วม ักนป ัรบปรุงผลงาน ้ดวยความเต็มใจ
่มุงมั่นทางานใ ้หสาเร็จ
พอใจ ักบความสาเร็จของงาน
บรรยากาศในการทางาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การให้คะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรุปผลการประเมนิ ให้เป็นระดับคณุ ภาพ 4, 3, 2, 1 ใช้เกณฑ์ดงั น้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)
วิชาประวตั ิศาสตรส์ ากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 127
มติ คิ ณุ ภาพของการบนั ทกึ ผลงาน ระดบั คณุ ภาพ
กาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ผลการบนั ทึกผลงานโดยใชม้ าตราส่วนประเมนิ คา่ 4 ระดบั ดังนี้ 4
รายการประเมนิ 3
– บันทึกผลงานไดถ้ ูกต้องตามจุดประสงค์ เขยี นบันทกึ ได้ชัดเจน แนวคดิ หลักถกู ต้อง 2
มปี ระเดน็ สาคัญครบถ้วน
1
– ใช้ภาษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม คาศัพท์ถูกตอ้ ง
– บันทึกผลงานได้ถกู ต้องตามจุดประสงค์ เขียนบนั ทกึ ที่มีบางส่วนยงั ไม่ชดั เจน
แนวคดิ หลักถกู ต้อง ส่วนทเ่ี ป็นประเด็นสาคญั มีไม่ครบถว้ น
– ใช้ภาษา คาศัพท์ไมถ่ ูกต้องในบางสว่ น
– บนั ทกึ ผลงานยึดตามจุดประสงค์ เขียนบันทึกไม่ชัดเจน แนวคดิ หลักบางส่วนไม่
ถกู ตอ้ ง ส่วนทเี่ ปน็ ประเด็นสาคัญมีไมค่ รบถว้ น
– ใช้ภาษา คาศัพท์ไม่ถูกตอ้ งในบางสว่ น
– บนั ทกึ ผลงานไมส่ อดคล้องกับจดุ ประสงค์ เขียนบันทึกไม่ชัดเจน และแนวคิดหลัก
สว่ นใหญ่ไมถ่ กู ต้อง
– ใช้ภาษา คาศพั ท์ไมถ่ กู ต้อง
วชิ าประวัตศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 128
บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้
หวั ขอ้ การประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้
1. ด้านความรู้
(K) ………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
(P)
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
(A) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
ลงชื่อ (ครผู ้สู อน)
(นายรชตะ ขาวดี)
//
วชิ าประวตั ศิ าสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 129
ขอ้ เสนอแนะความคดิ เห็นเพมิ่ เตมิ
หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ลงช่ือ หวั หนา้ กลุม่ สาระสงั คมศกึ ษาฯ
(นางปิน่ แก้ว แกว้ เปน็ บญุ )
วนั ที่ / /
รองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ลงช่ือ รองผอู้ านวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ
(นางยุคลทร โพธศ์ิ รี)
วันท่ี / /
ผอู้ านวยการโรงเรยี น
ลงช่ือ ผู้อานวยการโรงเรยี น
(นายเอกชัย คะษาวงค์)
วนั ท่ี / /
วชิ าประวตั ิศาสตรส์ ากล (ส30162) ชั้น ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 130
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 11
เหตกุ ารณส์ าคญั ในยโุ รปสมยั กลางและอารยธรรมสมยั กลาง
สาระที่ 4 ประวตั ศิ าสตร์ เวลา 2 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 พฒั นาการของยุโรปสมยั กลาง ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
1. สาระสาคญั
เหตุการณส์ าคญั ในยุโรปสมัยกลาง ไดแ้ ก่ สงครามครูเสด สงครามรอ้ ยปี นอกจากนนั้ ยังเกิดลัทธชิ าตนิ ิยม
และรัฐชาตขิ ้ึนในยุโรป สง่ ผลให้ศาสนจกั รสมัยกลางเส่อื มลงจนนาไปสกู่ ารปฏริ ปู ศาสนาและการส้นิ สดุ ของสมัยกลาง
อารยธรรมในสมยั กลางไดร้ บั อิทธพิ ลมาจากครสิ ตศ์ าสนาและการปกครองระบบฟวิ ดัลทส่ี ร้างสังคมทง้ั ดา้ น
ความเชือ่ จริยธรรม การดาเนินชวี ติ การปกครอง ศิลปวัฒนธรรม นอกจากนอ้ี ิทธิพลของคริสตศ์ าสนายังมีผลต่อ
งานด้านต่าง ๆ เชน่ สถาปัตยกรรม วรรณกรรม
2. ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชนั้
• วิเคราะหอ์ ิทธิพลของอารยธรรมโบราณ และการตดิ ต่อระหว่างโลกตะวนั ออกกับโลกตะวันตกที่มผี ลต่อ
พฒั นาการและการเปลี่ยนแปลงของโลก (ส 4.2 ม. 4–6/1)
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายเก่ียวกับเหตุการณส์ าคญั ในยโุ รปสมยั กลางและอารยธรรมสมัยกลางได้ (K)
2. มีความสนใจใฝ่รู้เกี่ยวกบั เหตกุ ารณส์ าคญั ในยโุ รปสมยั กลางและอารยธรรมสมยั กลาง (A)
3. สืบค้นขอ้ มลู และวเิ คราะห์เกี่ยวกบั เหตกุ ารณส์ าคญั ในยุโรปสมัยกลางและอารยธรรมสมัยกลางได้ (P)
4. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และ
ดา้ นความรู้ (K) คา่ นยิ ม (A) ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. ทดสอบหลงั เรยี น • ประเมินพฤตกิ รรมการทางาน • ประเมินพฤตกิ รรมการทางาน
2. ซักถามความรเู้ รือ่ งเหตุการณ์ เปน็ รายบุคคลในดา้ นความมวี นิ ัย เป็นรายบคุ คลและเปน็ กลมุ่
สาคญั ในยุโรปสมยั กลางและอารย ใฝเ่ รียนรู้ ฯลฯ ดา้ นการส่ือสาร การคดิ
ธรรมสมัยกลาง การแก้ปญั หา ฯลฯ
3. ตรวจผลงาน/กิจกรรมเป็น
รายบคุ คลหรอื เปน็ กลมุ่
5. สาระการเรยี นรู้
1. เหตกุ ารณส์ าคัญในยุโรปสมัยกลาง
2. อารยธรรมในสมัยกลาง
วิชาประวตั ศิ าสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 131
6. แนวทางบรู ณาการ ฟงั พูด อ่าน และเขียนขอ้ มูลเก่ยี วกับเหตกุ ารณส์ าคัญในยุโรปสมยั
ภาษาไทย
กลางและอารยธรรมสมยั กลาง
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สืบค้นข้อมลู เกย่ี วกับอารยธรรมในสมยั กลาง
ศิลปะ จดั แผ่นพบั โปสเตอร์ หรือ E-Book เกยี่ วกบั อารยธรรมในสมัยกลาง
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ข้นั ท่ี 1 นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชัน Line meeting ครูแจ้งตัวชี้วัดช่วงชั้นและ
จุดประสงคก์ ารเรยี นรใู้ ห้นักเรียนทราบ
2. ครูแสดงภาพพระเยซูครสิ ต์มาให้นกั เรยี นดู แล้วซกั ถามว่าพระเยซูครสิ ต์มคี วามสัมพนั ธ์ต่อเหตกุ ารณส์ าคัญ
ในยโุ รปสมยั กลางอย่างไร ภาพวหิ ารและหอเอนปซิ าเก่ียวข้องกับศลิ ปวัฒนธรรมสมัยกลางอย่างไร นกั เรยี นตอบ ครู
อธบิ ายสรปุ เพ่ือเชอื่ มโยงเข้าสู่เนื้อหาทจ่ี ะเรยี น
ขนั้ ที่ 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้
3. ครูสนทนากับนักเรยี นเกี่ยวกับเหตุการณส์ าคัญในยุโรปสมัยกลาง
4. ครูตงั้ คาถามในประเดน็ ต่าง ๆ เชน่
1) ปัจจยั ใดท่ีทาให้เกิดสงครามครเู สด
2) ผลกระทบของสงครามครเู สดเปน็ อย่างไร
3) อะไรเป็นสาเหตสุ าคัญท่ีทาให้เกดิ สงครามร้อยปี
4) สงครามรอ้ ยปมี ผี ลกระทบต่อประเทศฝรั่งเศสอยา่ งไร
5) ความเสื่อมของศาสนจกั รในชว่ งปลายสมยั กลางมีสาเหตุมาจากอะไร
6) อะไรเป็นสาเหตสุ าคัญท่ที าให้สมัยกลางของยโุ รปส้ินสดุ ลง
เมือ่ นกั เรียนตอบคาถามแลว้ ครูอธบิ ายเพ่มิ เติม
5. ครูสนทนากับนกั เรียนเก่ียวกบั อารยธรรมในสมัยกลาง
6. ครูให้นกั เรยี นแบ่งออกเปน็ 4 กล่มุ โดยจัดกลมุ่ และแสดงรายชอ่ื กลุม่ ในโปรแกรม Classdojo
แชร์หน้าจอให้นกั เรยี นเห็น ศกึ ษาและสืบคน้ ข้อมลู เกีย่ วกับอารยธรรมในสมัยกลาง ในเรอ่ื งตา่ ง ๆ ดังนี้
กลมุ่ ที่ 1 สถาปัตยกรรม
กลมุ่ ที่ 2 วรรณกรรม
กลมุ่ ท่ี 3 เมอื งท่เี กิดจากการค้า
กลมุ่ ที่ 4 มหาวิทยาลยั ตะวันตก
7. ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ดาเนินการดงั น้ี
1) สรปุ สาระสาคัญเก่ยี วกบั อารยธรรมในสมัยกลาง
2) เลือกทาสอื่ โปสเตอร์ Powerpoint แผ่นพับ เพอ่ื แสดงผลงานของกลุ่มในหวั ขอ้ อารยธรรม
ในสมัยกลาง
วิชาประวตั ศิ าสตร์สากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 132
3) ต้งั คาถามเพื่อให้เพอื่ น ๆ หรือบคุ คลท่สี นใจตอบแสดงความคดิ เหน็
8. เก็บรวบรวมคาตอบและข้อคดิ เห็นมาอภปิ รายและสรปุ ร่วมกัน
9. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงานเรอื่ ง สงครามครูเสด
10. ในขณะปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียน ให้ครสู งั เกตพฤตกิ รรมการทางานและการนาเสนอผลงานของนกั เรียน
ตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็นรายบคุ คลหรอื เป็นกลุม่
ขั้นท่ี 3 ฝกึ ฝนผ้เู รยี น
11. ครูใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรมเก่ียวกบั เหตุการณส์ าคัญในยุโรปสมัยกลางและอารยธรรมในสมยั กลาง
และแบบทดสอบการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ประจาหน่วยการเรยี นรู้ ในแบบฝึกทกั ษะประวัติศาสตร์
ขั้นท่ี 4 นาไปใช้
12. ครใู หน้ ักเรียนยกตวั อยา่ งอารยธรรมในสมยั กลางที่นา่ ภาคภูมใิ จในด้านอนื่ ๆ
13. ครูให้นกั เรยี นทาแผ่นพบั โปสเตอร์ หรือ E-Book เรื่อง เหตกุ ารณ์สาคัญในยุโรปสมัยกลาง
และอารยธรรมสมัยกลางเพือ่ เผยแพรค่ วามรู้ผา่ นสื่อออนไลน์
ขัน้ ท่ี 5 สรปุ
14. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความรู้เรือ่ ง เหตกุ ารณส์ าคัญในยโุ รปสมัยกลางและอารยธรรมสมยั กลาง
โดยให้นกั เรียนสรปุ เปน็ แผนทค่ี วามคิด
15. ครใู หน้ ักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน ผ่านโปรแกรม Quizizz
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
ครใู ห้นกั เรยี นศกึ ษาคน้ ควา้ เพิม่ เติมเรอื่ ง เหตุการณ์สาคัญในยโุ รปสมยั กลางและอารยธรรมสมัยกลาง
แล้วรว่ มกันแสดงความคิดเห็น
9. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น ผ่านโปรแกรม Quizizz
2. ภาพพระเยซู ภาพวหิ ารและหอเอนปิซา
3. โปรแกรม Classdojo
4. ใบงานเรอื่ ง สงครามครูเสด
5. หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ม. 4-6 เล่ม 2 บริษทั สานกั พมิ พ์วฒั นาพานชิ จากัด
6. แบบฝึกทักษะรายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 6
วชิ าประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 133
ชอื่ นามสกลุ เลขท่ี ชน้ั
ใบงาน
เรอ่ื ง สงครามครเู สด
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 11 เหตกุ ารณส์ าคญั ในยโุ รปสมยั กลางและอารยธรรมสมยั กลาง
ตวั ชว้ี ดั ชว่ งชนั้ วิเคราะหอ์ ทิ ธิพลของอารยธรรมโบราณ และการตดิ ต่อระหว่างโลกตะวันออกกบั โลกตะวนั ตกที่มีผล
ต่อพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของโลก (ส 4.2 ม. 4–6/1)
คาช้แี จง ตอบคาถาม
1. บอกสาเหตุของสงครามครูเสดมาพอเข้าใจ
สาเหตุของสงครามครเู สดเกดิ จากการเมืองและศาสนา ทางด้านการเมืองพวกเซลจุกเตริ ์ก
ยึดครองคาบสมทุ รตุรกไี วไ้ ดท้ ัง้ หมด และรกุ รานจักรวรรดไิ บเซนไทน์ ขุนนางในยโุ รปจงึ เข้าไปช่วย
รบกบั พวกเซลจุกเตริ ์ก ทางด้านศาสนาพวกเซลจกุ เติรก์ ได้ขดั ขวางการไปแสวงบุญและทารุณกรรม
ชาวคริสต์ สนั ตะปาปาจงึ ชกั ชวนชาวคริสตใ์ หไ้ ปทาสงครามศักดิ์สทิ ธเ์ิ พ่ือปลดปล่อยกรงุ เยรซู าเลม
จากพวกนอกศาสนา
2. สงครามครเู สดมผี ลกระทบอย่างไร อธิบายมาพอเข้าใจ
1. ระบบฟวิ ดลั เสื่อมลง เพราะขุนนางจานวนหนึ่งเสียชีวิตในสงคราม
2. ทาใหก้ ารค้าขยายตัวไปทว่ั ทั้งดินแดนภาคตะวันตกและดนิ แดนภาคตะวนั ออก สินค้า
จากภาคตะวนั ออกได้เขา้ ไปแพร่หลายในยโุ รป
3. เมอื งต่าง ๆ กลายเป็นศนู ย์กลางทางการค้า
4. เกิดระบบเงินตราในการแลกเปลี่ยนสินคา้
5. ชนชั้นผนู้ าของกองทัพครเู สดได้นาอารยธรรมกรีก–โรมันกลบั เข้ามาเผยแพร่ในยุโรป
อกี ครงั้
วิชาประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 134
แบบทดสอบหลงั เรยี น
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 พฒั นาการของยโุ รปสมยั กลาง
คาชแ้ี จง เลือกคาตอบทถี่ กู ตอ้ งท่สี ุดเพยี งคาตอบเดยี ว
1. เพราะเหตใุ ดครสิ ตจกั รจงึ มบี ทบาทตอ่ การดารงชวี ติ ของชาวยโุ รปในสมยั กลางอยา่ งมาก
ก มีพิธกี รรมทางศาสนามากในยคุ นนั้
ข ป้องกนั การแทรกแซงของศาสนาอน่ื
ค เปน็ สอื่ กลางระหว่างมนุษยก์ ับพระเจ้า
ง เข้าควบคมุ พฤติกรรมของคนในสังคม
2. ชนเผา่ ทมี่ อี านาจมากทส่ี ดุ ในยโุ รปสมยั กลางระยะตน้ คอื กลมุ่ ใด
ก ชนเผา่ แฟรงก์
ข ชนเผ่าลอมบารด์
ค ชนเผ่าเบอร์กนั เดยี น
ง ชนเผา่ แองโกลแซกซัน
3. เจา้ นายชน้ั สงู สดุ ของระบบฟวิ ดลั คอื ใคร
ก ทหาร
ข ขนุ นาง
ค นักบวช
ง กษัตริย์
4. จกั รวรรดโิ รมนั อนั ศกั ดส์ิ ทิ ธเิ์ สอื่ มลงเพราะอะไร
ก การเกดิ รัฐชาติ
ข เศรษฐกจิ ตกตา่
ค ระบบฟิวดัลหมดไป
ง การแขง่ ขนั ระหวา่ งจกั รพรรดิเยอรมันกับสันตะปาปา
5. ขอ้ ใดไมใ่ ชผ่ ลกระทบของสงครามครเู สด
ก การค้าขยายตัว
ข ขนุ นางมีอิทธพิ ลมากข้นึ
ค เมืองตา่ ง ๆ กลายเปน็ ศูนยก์ ลางการคา้
ง ชนช้นั ผ้นู าฟนื้ ฟูอารยธรรมกรกี –โรมนั
6. สงครามรอ้ ยปเี ปน็ สงครามระหวา่ งชาตใิ ด
ก อติ าลกี บั ตุรกี
ข ฝรง่ั เศสกบั สเปน
ค เยอรมันกับอติ าลี
ง อังกฤษกบั ฝรั่งเศส
วชิ าประวตั ศิ าสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 135
7. วีรกรรมของโจนออฟอารค์ ในสงครามร้อยปกี อ่ ใหเ้ กดิ แนวความคดิ อะไรในฝรงั่ เศส
ก เสรนี ิยม
ข ชาตนิ ยิ ม
ค มนษุ ยนิยม
ง ปัจเจกชนนยิ ม
8. เมอ่ื สมยั กลางสน้ิ สดุ ลงสภาพสงั คมยโุ รปเปลยี่ นแปลงไปอยา่ งไร
ก ชนชนั้ กลางเพมิ่ มากข้นึ
ข ชาวนาและช่างฝีมือมีน้อยลง
ค พ่อค้ามอี านาจทัดเทยี มกับขนุ นาง
ง ถกู ทกุ ขอ้
9. สถาปตั ยกรรมศลิ ปะกอทกิ มลี กั ษณะอยา่ งไร
ก ทบึ ตนั
ข กะทัดรัด
ค โปร่งบาง
ง แขง็ แกรง่
10. มหากาพยม์ เี นอ้ื หาเกย่ี วกบั อะไร
ก ความรกั แบบเทิดทูน
ข สภาพสงั คมสมัยกลาง
ค วีรกรรมของวรี บุรษุ ในอดตี
ง ความจงรกั ภกั ดขี องอศั วนิ ตอ่ เจ้าและขนุ นาง
วชิ าประวัติศาสตรส์ ากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 136
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
ชนั้ วนั เดอื น พ.ศ.
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ช่อื –สกลุ ความถูก ้ตองการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 4321
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดสร้างสรรค์ (4 คะแนน)
รูปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยชน์ (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมนิ ให้เป็นระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม หรือ
อาจใชเ้ กณฑด์ งั น้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)
วิชาประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 137
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.
กลมุ่ ที่
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอื่ –สกลุ ความ ูถกต้องการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 432 1
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดส ้รางสรรค์ (4 คะแนน)
ูรปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยช ์น (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมินใหเ้ ป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ไดต้ ามความเหมาะสม หรอื อาจใช้
เกณฑ์ดงั น้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)
วิชาประวตั ิศาสตร์สากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 138
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอื่ ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.
คาชแ้ี จง สังเกตพฤติกรรมในการทางานของนกั เรยี น โดยเขยี นเครื่องหมาย ลงในชอ่ งรายการ
พฤตกิ รรมทน่ี ักเรียนปฏิบัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ที่ ชอื่ –สกลุ สนใจในการทางาน
ไม่เอาเปรียบเพ่ือนในการทางาน
เสนอความคิดเห็น 432 1
ัรบฟังความคิดเห็นของผู้ ่ือน
ให้ความ ่ชวยเห ืลอ ู้ผ ือ่น
มุ่งม่ันทางานให้สาเ ็รจ
ประเ ิมนและปรับปรุงงาน ้ดวยความเต็มใจ
เคารพ ้ขอตกลงของก ุล่ม
ทาตามห ้นา ่ีท ี่ทไ ้ด ัรบมอบหมาย
พอใจ ักบความสาเ ็รจของงาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การให้คะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรุปผลการประเมินใหเ้ ป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใช้เกณฑด์ ังนี้
9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)
วชิ าประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 139
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.
คาชแี้ จง สังเกตพฤตกิ รรมในการทางานของนกั เรียน โดยเขียนเคร่อื งหมาย ลงในช่องรายการ
พฤตกิ รรมที่นักเรียนปฏิบัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ที่ ชอ่ื –สกลุ แ ่บงงาน ักนรับผิดชอบ 432 1
ีมกระบวนการทางานเป็นข้ันตอน
ทาตามหน้าที่ที่ไ ้ด ัรบมอบหมาย
ร่วมกันแสดงความ ิคดเห็น
รับ ัฟงความ ิคดเห็นของสมา ิชกกลุ่ม
นามติ/ ้ขอตกลงของกลุ่มไปปฏิบัติ
ร่วม ักนป ัรบปรุงผลงาน ้ดวยความเต็มใจ
่มุงมั่นทางานใ ้หสาเร็จ
พอใจ ักบความสาเร็จของงาน
บรรยากาศในการทางาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การให้คะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรุปผลการประเมนิ ให้เป็นระดับคณุ ภาพ 4, 3, 2, 1 ใช้เกณฑ์ดงั น้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)
วิชาประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 140
มติ คิ ณุ ภาพของการบนั ทกึ ผลงาน ระดบั คณุ ภาพ
กาหนดเกณฑ์การประเมนิ ผลการบนั ทึกผลงานโดยใช้มาตราสว่ นประเมนิ คา่ 4 ระดบั ดังนี้ 4
รายการประเมนิ 3
– บันทึกผลงานไดถ้ ูกตอ้ งตามจุดประสงค์ เขียนบนั ทึกได้ชัดเจน แนวคดิ หลักถกู ต้อง 2
มปี ระเด็นสาคัญครบถว้ น
1
– ใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสม คาศัพทถ์ ูกต้อง
– บันทึกผลงานได้ถูกตอ้ งตามจุดประสงค์ เขยี นบันทกึ ท่มี บี างส่วนยงั ไม่ชดั เจน
แนวคดิ หลกั ถกู ต้อง สว่ นทเ่ี ป็นประเด็นสาคัญมีไมค่ รบถ้วน
– ใช้ภาษา คาศพั ทไ์ ม่ถกู ต้องในบางสว่ น
– บนั ทกึ ผลงานยึดตามจุดประสงค์ เขียนบนั ทึกไม่ชดั เจน แนวคดิ หลักบางส่วนไม่
ถกู ตอ้ ง สว่ นทเี่ ปน็ ประเดน็ สาคัญมีไมค่ รบถ้วน
– ใช้ภาษา คาศพั ท์ไม่ถกู ตอ้ งในบางส่วน
– บนั ทกึ ผลงานไมส่ อดคล้องกับจดุ ประสงค์ เขียนบนั ทกึ ไม่ชัดเจน และแนวคิดหลัก
สว่ นใหญ่ไมถ่ ูกต้อง
– ใช้ภาษา คาศพั ทไ์ มถ่ ูกตอ้ ง
วิชาประวตั ิศาสตร์สากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 141
บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้
หวั ขอ้ การประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้
1. ด้านความรู้
(K) ………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
(P)
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
(A) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
ลงช่อื (ครูผูส้ อน)
(นายรชตะ ขาวดี)
//
วชิ าประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ชั้น ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 142
ขอ้ เสนอแนะความคดิ เห็นเพม่ิ เตมิ
หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ลงช่ือ หวั หน้ากลมุ่ สาระสงั คมศึกษาฯ
(นางปิน่ แก้ว แกว้ เปน็ บุญ)
วนั ที่ / /
รองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ลงช่ือ รองผ้อู านวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ
(นางยุคลทร โพธ์ศิ ร)ี
วันท่ี / /
ผอู้ านวยการโรงเรยี น
ลงช่ือ ผู้อานวยการโรงเรยี น
(นายเอกชัย คะษาวงค์)
วนั ท่ี / /
วิชาประวตั ศิ าสตร์สากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 143
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 พฒั นาการของยโุ รปสมยั ใหม่ เวลา 3 ชว่ั โมง
ผงั มโนทศั นเ์ ปา้ หมายการเรยี นรแู้ ละขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน
ดา้ นความรู้
1. การขยายอิทธิพลของชาตติ ะวันตก
2. การฟ้นื ฟศู ิลปวทิ ยา
3. การปฏิรูปศาสนา
4. กาเนิดรฐั ชาติ
5. การปฏวิ ตั ิทางวิทยาศาสตร์และการปฏิวัตอิ ุตสาหกรรม
6. ยคุ ภมู ิธรรมและแนวคิดประชาธปิ ไตย
7. ศลิ ปวัฒนธรรมสมัยใหม่
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ พัฒนาการของยุโรป ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
1. การสื่อสาร สมยั ใหม่ และคา่ นยิ ม
2. การคิด
3. การใชก้ ระบวนการกล่มุ ประวตั ศิ าสตร์ 1. มีวินยั
4. การใชเ้ ทคโนโลยี 2. ใฝเ่ รียนรู้
3. รักความเป็นไทย
4. ม่งุ มัน่ ในการทางาน
ภาระงาน/ช้ินงาน
1. การทาแบบทดสอบออนไลน์
2. การศึกษาคน้ ควา้
3. การอภปิ ราย
4. การสบื คน้ ขอ้ มลู
5. การนาเสนอผลงาน แผนที่ความคดิ
แผน่ พับ โปสเตอร์ ดว้ ยโปรแกรม
Canva
วิชาประวตั ิศาสตร์สากล (ส30162) ชัน้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 144
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 พฒั นาการของยโุ รปสมยั ใหม่
ขน้ั ที่ 1 ผลลพั ธป์ ลายทางทต่ี อ้ งการใหเ้ กดิ ขน้ึ กับนกั เรยี น
ตวั ชว้ี ดั ชว่ งชนั้
• วิเคราะหเ์ หตกุ ารณส์ าคญั ตา่ ง ๆ ท่สี ่งผลต่อการเปลย่ี นแปลงทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมืองเขา้ สู่โลก
สมยั ปจั จุบัน (ส 4.2 ม. 4–6/2)
ความเขา้ ใจท่ีคงทนของนกั เรยี น คาถามสาคญั ทที่ าใหเ้ กิดความเขา้ ใจทีค่ งทน
นกั เรยี นจะเขา้ ใจวา่ ...
หลงั จากยคุ กลางสิน้ สดุ ลง ยโุ รปสมยั ใหม่กพ็ ัฒนา ยุโรปสมยั ใหม่มีความสาคัญต่อภูมิภาคตา่ ง ๆ ของ
ส่งิ กอ่ สร้างและสง่ิ ประดษิ ฐไ์ ปมากกว่าเดิมและเปน็ โลกอยา่ งไร
ต้นแบบของแนวคิดต่าง ๆ ท่ีเผยแพร่ไปยงั ภูมภิ าคอนื่ ใน
โลก
ความรขู้ องนกั เรยี นทน่ี าไปสคู่ วามเขา้ ใจทีค่ งทน ทกั ษะ/ความสามารถของนกั เรยี นทน่ี าไปสู่
นกั เรยี นจะรวู้ า่ ... ความเขา้ ใจทคี่ งทน นกั เรยี นจะสามารถ...
1. คาสาคัญ ไดแ้ ก่ โลกใหม่ รฐั ชาติ ยคุ ภมู ิธรรม 1. อธบิ ายเกย่ี วกบั การขยายอิทธิพลของชาติ
อาร์มส์แอนดเ์ ดอะแมน ตะวนั ตกและการฟน้ื ฟูศิลปวทิ ยา
2. การขยายอทิ ธพิ ลของชาติตะวนั ตก ทส่ี าคัญไดแ้ ก่ 2. สบื คน้ ข้อมูลและอภิปรายเกย่ี วกบั การปฏิรูป
การสารวจเส้นทางเดินเรือ เพ่ือค้นหาเส้นทางเดนิ เรอื สู่ ศาสนาและกาเนิดรัฐชาติ
ดินแดนอ่ืน ๆ ในภูมิภาคตา่ ง ๆ โดยมจี ุดมงุ่ หมายใน 3. สืบคน้ ขอ้ มูลเก่ียวกับการปฏิวตั ทิ างวิทยาศาสตรแ์ ละ
การเผยแผศ่ าสนา การคา้ ขาย และการถา่ ยทอดอารย การปฏิวตั ิอุตสาหกรรม ยคุ ภมู ธิ รรมและแนวคดิ
ธรรม ประชาธิปไตย ศลิ ปวัฒนธรรมสมัยใหม่
3. การฟน้ื ฟศู ลิ ปวิทยา เปน็ การเกิดใหม่ของการศกึ ษา
การฟ้ืนฟอู ดุ มคติ ศลิ ปะ และวรรณกรรมของกรกี และ
โรมัน เรมิ่ ต้นราวคริสตศ์ ตวรรษที่ 14 และสนิ้ สุดใน
กึ่งกลางครสิ ต์ศตวรรษท่ี 17
4. การปฏริ ปู ศาสนาในชว่ งคริสต์ศตวรรษที่ 15–16
ครสิ ต์ศาสนาไดแ้ ตกแยกออกเปน็ นิกายต่าง ๆ โดยแต่
ละนิกายมีลกั ษณะเปน็ ศาสนาประจาชาตมิ ากขึ้น ปจั จัย
ทสี่ าคัญได้แก่ สาเหตุของการปฏริ ูปศาสนา การเริม่
ปฏิรูปศาสนา การปฏิรูปของศาสนจกั ร ผลของการ
ปฏริ ูปศาสนา
5. รฐั ชาติ คือการรวมกลุ่มคนตามสภาพทางภูมิศาสตร์
และตามเชือ้ ชาติ ซง่ึ ปจั จัยทก่ี ่อให้เกดิ รฐั ชาติ ไดแ้ ก่ การ
ขยายตวั ทางเศรษฐกจิ และการคา้ ความเสื่อมของขุนนาง
ความสานกึ ในความเป็นชาติ และการกาเนิดของระบอบ
สมบรู ณ์ญาสิทธิราชย์
6. การปฏิวตั ิทางวทิ ยาศาสตร์เปน็ การนาวิทยาการ
วชิ าประวัตศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 145
ตา่ งๆ ดั้งเดมิ เช่น ดาราศาสตร์ กลศาสตร์ มาบรรจุใน
หลกั การสอนของมหาวทิ ยาลัยตะวันตกเพ่อื ทาให้
งานคน้ คว้าดา้ นวิทยาศาสตร์เปน็ ท่ียอมรบั โดยท่ัวไป
7. การปฏิวตั ิอตุ สาหกรรมเปน็ การปลี่ยนแปลง
กระบวนการผลติ จากการใชแ้ รงงานคนมาเปน็ เครอ่ื งจกั ร
ซงึ่ เปน็ การปฏวิ ตั ทิ ตี่ อ่ เนือ่ งมาจากการปฏิวัติ
วทิ ยาศาสตร์
8. ยุคภูมธิ รรมและแนวคิดประชาธิปไตย เป็นช่วงท่นี กั
คดิ นกั ปราชญ์ออกมามบี ทบาทเป็นอยา่ งมาก โดยมี
การวางแนวคิดประชาธปิ ไตย ซึ่งส่งผลให้มีการปฏิวัติ
ทางการเมืองครั้งสาคญั ไดแ้ ก่ การปฏวิ ตั ิการเมอื งการ
ปกครองของอังกฤษ การปฏวิ ตั เิ รียกร้องเอกราชของชาว
อเมริกัน และการปฏิวัติฝรั่งเศส
9. ศิลปวัฒนธรรมสมัยใหมแ่ สดงให้เห็นถึงความรงุ่ เรือง
ทัง้ ในด้านสถาปตั ยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม
ดนตรี และวรรณกรรมในยโุ รผปสมัยใหม่ สามารถแบ่ง
ออกเปน็ ศิลปะบารอก ศลิ ปะแบบลทั ธิคลาสสิกใหม่
ศลิ ปะแบบลัทธิจนิ ตนิยม และศิลปะแบบลัทธสิ ัจนยิ ม
ขน้ั ที่ 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรยี นรซู้ ง่ึ เปน็ หลกั ฐานทแ่ี สดงวา่ นกั เรยี นมผี ลการเรยี นรตู้ ามทกี่ าหนดไว้
อยา่ งแทจ้ รงิ
1. ภาระงานทนี่ กั เรยี นตอ้ งปฏบิ ตั ิ
1.1 ศกึ ษาค้นควา้ เกย่ี วกับการขยายอทิ ธิพลของชาติตะวันตกและการฟน้ื ฟูศลิ ปวทิ ยา
1.2 การอภปิ รายเก่ียวกับการปฏิรูปศาสนาและกาเนดิ รัฐชาติ
1.3 สืบค้นข้อมูลเก่ยี วกับการปฏวิ ัตทิ างวิทยาศาสตรแ์ ละการปฏวิ ัติอตุ สาหกรรม ยุคภมู ิธรรมและแนวคิด
ประชาธิปไตย ศลิ ปวฒั นธรรมสมัยใหม่
2. วธิ กี ารและเครอ่ื งมอื ประเมนิ ผลการเรยี นรู้
2.1 วธิ กี ารประเมินผลการเรียนรู้ 2.2 เครื่องมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้
1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน
2) การประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็น 2) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเปน็ รายบุคคล
รายบคุ คลหรือเป็นกลมุ่ หรอื เปน็ กลุ่ม
3) การประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม 3) แบบประเมินด้านคุณธรรม จริยธรรมและ
และคา่ นยิ ม คา่ นิยม
4) การประเมินดา้ นทักษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ
วชิ าประวตั ิศาสตรส์ ากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 146
3. สง่ิ ทมี่ งุ่ ประเมนิ
3.1 ความเขา้ ใจ 6 ด้าน ไดแ้ ก่ การอธบิ าย ช้ีแจง การแปลความและตคี วาม การประยกุ ต์ ดดั แปลง และ
นาไปใช้ การมีมุมมองท่ีหลากหลาย การให้ความสาคญั และใส่ใจในความรู้สึกของผูอ้ ่นื และการรจู้ ักตนเอง
3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ เช่น การสือ่ สาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี กระบวนการกลมุ่
3.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม เชน่ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่าง
พอเพียง มุ่งม่ันในการทางาน รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ
ขน้ั ท่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 12 การขยายอิทธพิ ลของชาตติ ะวันตก เวลา 1 ชัว่ โมง
และการฟน้ื ฟูศิลปวิทยา
เวลา 1 ชั่วโมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 13 การปฏริ ูปศาสนาและกาเนดิ รัฐชาติ เวลา 1 ช่วั โมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 14 การปฏวิ ัติทางวิทยาศาสตรแ์ ละการปฏวิ ตั ิ
อตุ สาหกรรม ยุคภมู ธิ รรมและแนวคดิ
ประชาธิปไตย ศิลปวฒั นธรรมสมยั ใหม่
วชิ าประวัตศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชั้น ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 147
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 12
การขยายอทิ ธพิ ลของชาตติ ะวนั ตกและการฟน้ื ฟศู ลิ ปวทิ ยา
สาระท่ี 4 ประวตั ศิ าสตร์ เวลา 1 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 พฒั นาการของยโุ รปสมยั ใหม่ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
1. สาระสาคญั
การขยายอิทธิพลของชาติตะวันตก ทส่ี าคญั ได้แก่ การสารวจเส้นทางเดินเรอื เพื่อคน้ หาเส้นทาง
เดนิ เรือสู่ดินแดนอ่ืน ๆ ในภมู ภิ าคตา่ ง ๆ โดยมจี ุดมุ่งหมายในการเผยแผ่ศาสนา การคา้ ขาย และการ
ถา่ ยทอดอารยธรรม
การฟนื้ ฟศู ลิ ปวิทยา เปน็ การเกิดใหมข่ องการศกึ ษา การฟน้ื ฟูอุดมคติ ศิลปะ และวรรณกรรมของ
กรกี และโรมนั เร่ิมต้นราวครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 14 และสน้ิ สดุ ในก่งึ กลางครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 17
2. ตวั ชว้ี ดั ชว่ งชน้ั
• วิเคราะห์เหตกุ ารณ์สาคัญตา่ ง ๆ ทส่ี ง่ ผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมอื งเข้า
สโู่ ลกสมัยปัจจุบนั (ส 4.2 ม. 4–6/2)
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความสาคัญของการขยายอิทธิพลของชาตติ ะวันตกและการฟืน้ ฟูศิลปวิทยาได้ (K)
2. เหน็ คุณค่าและความสาคญั ของการขยายอิทธิพลของชาตติ ะวนั ตกและการฟ้นื ฟศู ิลปวิทยา (A)
3. รว่ มกันวเิ คราะหค์ วามสาคัญของการขยายอิทธิพลของชาตติ ะวนั ตกและการฟนื้ ฟศู ลิ ปวิทยา (P)
4. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
ดา้ นความรู้ (K) และคา่ นยิ ม (A) ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. ทดสอบก่อนเรยี น • ประเมนิ พฤติกรรมการทางาน • ประเมนิ พฤตกิ รรมการทางาน
2. ซักถามความร้เู รือ่ ง การขยาย เป็นรายบคุ คลในดา้ นความมีวินัย เปน็ รายบุคคลและเปน็ กลุ่ม
อิทธพิ ลของชาติตะวันตกและการ ใฝเ่ รียนรู้ ฯลฯ ด้านการส่ือสาร การคดิ
ฟน้ื ฟศู ลิ ปวทิ ยา การแกป้ ัญหา ฯลฯ
3. ตรวจผลงาน/กจิ กรรมเป็น
รายบุคคลหรือเปน็ กลุม่
5. สาระการเรียนรู้
1. การขยายอิทธพิ ลของชาตติ ะวันตก
2. การฟนื้ ฟูศิลปวิทยา
6. แนวทางบรู ณาการ
ภาษาไทย ฟัง พดู อ่าน และเขยี นขอ้ มูลเกี่ยวกบั การขยายอิทธพิ ลของชาติ
ตะวนั ตกและการฟนื้ ฟศู ิลปวทิ ยา
วชิ าประวตั ศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 148
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สืบค้นข้อมลู /แผนทีค่ วามคิดเก่ียวกับการขยายอิทธิพลของ
ชาติตะวันตกและการฟน้ื ฟูศิลปวิทยา
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขั้นที่ 1 นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. โดยจัดกลมุ่ และแสดงรายชอ่ื กลุ่มในโปรแกรม Classdojo แชร์หน้าจอใหน้ กั เรยี นเห็น
2. ครใู ห้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ผา่ นโปรแกรม Quizizz
3. ครูต้งั ประเดน็ คาถามว่า ถ้าจะเดินทางไปจงั หวัดทนี่ กั เรียนไม่รู้จกั นกั เรียนจะทาอย่างไร และ
ในอดีตการขยายอิทธิพลของชาตติ ะวันตกสามารถทาไดอ้ ย่างไร นักเรยี นตอบ จากนน้ั ครูอธบิ ายสรุปเพอ่ื
เชื่อมโยงเข้าสูเ่ น้ือหาทจ่ี ะเรียน
ขั้นท่ี 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้
4. ครูอธิบายเก่ยี วกบั การขยายอิทธพิ ลของชาติตะวันตกและการฟ้ืนฟศู ลิ ปวิทยา
5. ครูแบง่ กลมุ่ นกั เรยี น กล่มุ ละ 5–6 คน โดยจดั กลุม่ และแสดงรายชอ่ื กลุม่ ในโปรแกรม
Classdojo แชรห์ น้าจอใหน้ กั เรียนเห็น ศึกษาคน้ ควา้ เกยี่ วกับการขยายอิทธิพลของชาตติ ะวันตก
และการฟ้ืนฟศู ลิ ปวิทยา จากหนงั สอื เรียนหรอื ส่อื การเรียนรูอ้ นื่ ๆ
6. หลงั จากน้ันครถู ามนกั เรียน ตวั อยา่ งคาถาม เชน่
1) สาเหตุท่ตี ้องมกี ารสารวจเส้นทางเดินเรือคืออะไร
2) การค้นพบเส้นทางเดินเรือของดา กามา และมาเจลลนั มีความสาคัญอยา่ งไร
3) การทฮี่ อลนั ดาเดนิ ทางมายังดนิ แดนตะวันออกมีจุดม่งุ หมายเพอื่ อะไร
4) สาเหตุที่ทาให้มกี ารฟ้นื ฟูศิลปวิทยาคืออะไร
5) ฟรันเซสโก เปทราก เก่ียวขอ้ งกับการฟนื้ ฟศู ิลปวิทยาอยา่ งไร
7. ครใู หน้ กั เรยี นตอบคาถาม จากน้นั ครเู ฉลยคาตอบและอธิบายเพมิ่ เตมิ
8. ครูให้นักเรียนสบื ค้นวา่ ประเทศสมาชกิ อาเซียนประเทศใดเคยอย่ภู ายใต้อาณานิคมของชาติ
ตะวนั ตกบ้าง แล้วสง่ ผลอยา่ งไรถงึ ปัจจบุ ัน
9. ในขณะนักเรียนปฏิบัติกิจกรรม ให้ครูสังเกตพฤตกิ รรมการทางานและการนาเสนอผลงาน
ตามแบบประเมนิ พฤติกรรมในการทางานเป็นรายบุคคลหรือเป็นกล่มุ
ขั้นท่ี 3 ฝกึ ฝนผ้เู รยี น
10. ครูใหน้ ักเรียนทากิจกรรมที่เกีย่ วกบั การขยายอิทธพิ ลของชาตติ ะวันตกและการฟืน้ ฟูศิลปวิทยา
ในแบบฝึกทกั ษะประวัตศิ าสตร์
ขน้ั ที่ 4 นาไปใช้
11. ครแู นะนาใหน้ ักเรียนนาความรู้เร่ืองการขยายอิทธพิ ลของชาตติ ะวนั ตกและการฟืน้ ฟูศิลปวิทยามา
ขยายความรู้
ขั้นที่ 5 สรปุ
12. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความร้เู ร่ือง การขยายอิทธิพลของชาติตะวันตกและการฟืน้ ฟู
ศลิ ปวทิ ยา โดยให้นักเรียนสรุปเป็นแผนท่ีความคิดผ่านโปรแกรม Canva
วิชาประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 149
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
ครใู หน้ กั เรียนศึกษาค้นควา้ เพม่ิ เติมเรือ่ ง การขยายอิทธิพลของชาติตะวนั ตกและการฟ้นื ฟู
ศลิ ปวิทยา
9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
1. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น ผา่ นโปรแกรม Quizizz
2. โปรแกรม Classdojo
3. หนงั สือเรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 4–6 เล่ม 2 บริษัท สานกั พมิ พ์วัฒนาพานชิ
จากดั
4. แบบฝกึ ทกั ษะรายวชิ าพื้นฐานประวัตศิ าสตร์ ม. 6