The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชีวประวัติและพระธรรมเทศนา พระเขมปตฺโต หลวงปู่หล้า

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-07-10 00:35:10

ชีวประวัติและพระธรรมเทศนา พระเขมปตฺโต หลวงปู่หล้า

ชีวประวัติและพระธรรมเทศนา พระเขมปตฺโต หลวงปู่หล้า

Keywords: ชีวประวัติและพระธรรมเทศนา พระเขมปตฺโต หลวงปู่หล้า

และของใช้เป็นบางอยา่ ง ตลอดทัง้ เภสชั เป็นหน้าท่ขี องท่านพระอาจารยม์ หาทัง้ นน้ั
เปน็ ผแู้ นะนำ� ใหค้ ณะสงฆร์ คู้ วามหมายลบั หลงั หลวงปมู่ น่ั ทง้ั นนั้ และหลวงปมู่ น่ั กม็ ไิ ด้
นดั หมายใหพ้ ระอาจารยม์ หาบวั ทำ� ประโยชนเ์ พอ่ื องคท์ า่ นเองอยา่ งนน้ั ทง้ั ทางตรงและ
ทางออ้ ม ลกึ หรอื ตน้ื ดว้ ยประการใดๆ เลย พระอาจารยม์ หาเคารพลกึ ซงึ้ เปน็ เองและ
ไมผ่ ดิ ธรรมดว้ ย ไมผ่ ดิ วนิ ยั ดว้ ย เพราะธรรมวนิ ยั มอี ยแู่ ลว้ วา่ ภกิ ษสุ ามเณรใดไปไลท่ ี
ตเี บย้ี ปจั จยั ๔ ทไ่ี ดม้ าโดยทางทช่ี อบจากพระเถระในสงั คมนนั้ ๆ หรอื สำ� นกั นนั้ ๆ เปน็
อาบัติทกุ กฎ ในพระวนิ ยั ปฎิ กไดก้ ลา่ วไว้แล้ว

ฉะนน้ั ในพระพทุ ธศาสนาจงึ เวน้ คณุ วฑุ โฒ วยั วฑุ โฒไมไ่ ด้ บดิ ามารดาฝา่ ยฆราวาส
กโ็ ดยนยั กลุ บตุ รกลุ ธดิ าจะไปไลท่ ตี เี บยี้ ในการกนิ การใชก้ บั บดิ ามารดา ปู่ ยา่ ตา ยาย
ก็ขาดความเคารพและสิริและไม่สมบูรณ์ในธรรมวินัยส่วนนี้ด้วย กลายเป็นตีเสมอ
อกตญั ญู แมถ้ า้ องคท์ า่ นเกนิ งามในการกนิ การใช้ กต็ อ้ งมอี บุ ายละมนุ ละไม กลอบุ าย
ปรารภศึกษาโดยเคารพว่า ท�ำอยา่ งนัน้ มันจะมิเกินไปดอกหรือประการใด เมือ่ ท่าน
เหน็ วา่ เกนิ ไป ท่านก็จะผ่อนลงโดยสภุ าพ เม่อื ทา่ นเห็นว่าไมเ่ กนิ ไป ทา่ นก็จะอธบิ าย
เหตุผลใหฟ้ ังโดยสภุ าพให้เราเข้าใจ เพราะเราใช้อุบายเตอื นโดยเคารพ ทา่ นกจ็ ะใช้
อธบิ ายโดยเคารพละมนุ ละไม ผนู้ อ้ ยเตอื นผใู้ หญ่ ใชค้ ำ� หยาบและเสยี ดสไี มไ่ ด้ พระวนิ ยั
มไี วแ้ ลว้ ผใู้ หญเ่ ตอื นผนู้ อ้ ยแลว้ แตก่ รณใี นเนอื้ เรอ่ื งและเหตผุ ล เปน็ ภาพพจนอ์ ยกู่ บั ทา่ น
แตพ่ ระวนิ ยั และธรรมหา้ มมใิ หผ้ กู อาฆาตและเฆย่ี นตเี พราะเกนิ ไป พระองคท์ รงบญั ญตั ิ
ไวพ้ อดแี ล้ว

144

เสนาสนะยคุ บา้ นหนองผือ

ท่ีนด้ี ้านเสนาสนะ องค์หลวงปู่มไิ ดช้ อบกอ่ สรา้ งหรหู ราอะไรดอก ท�ำพอได้อยู่
ไดพ้ กั กอ๊ กๆ แกก๊ ๆ ไปเทา่ นน้ั อยา่ งสงู กม็ งุ กระดานปกู ระดานกไ็ มไ่ สกบ ฝากเ็ หมอื นกนั
สมยั นนั้ มปี กู ระดานมงุ กระดาน ๔ หลงั เทา่ นนั้ กบั ศาลาอโุ บสถอกี หลงั หนง่ึ กวา้ งประมาณ
๖ เมตร ยาวประมาณ ๘ เมตร เปน็ ศาลาเกา่ โบราณทเ่ี ขาปลกู ไวก้ อ่ นหลวงปมู่ น่ั ไปอยู่
สว่ นศาลาฉนั นนั้ ทป่ี ฟู ากไดก้ ลา่ วแลว้ หลงั อนื่ ๆ ทพ่ี ระเณรอยนู่ น้ั ปฟู ากมดั ดว้ ยเครอื
เถาวัลยแ์ ละมดั ด้วยตอก กนั้ ด้วยฝาแถบตองใบตองกอ่ และใบหูกวางท้ังนั้น ประตู
ท�ำเป็นฝาแถบตองเป็นหผู ลักไปมา หนา้ ตา่ งฝาแถบตองเส้ยี มไมไ้ ผเ่ ป็นง่ามคำ้� เอาใน
เวลาเปดิ เชอื กระเดยี งตากผา้ กฝ็ น้ั เอาฝา้ ยอโี ปเ้ ปน็ สามเกลยี ว เพราะฝา้ ยไมอ่ ด สว่ น
เคร่ืองมุงกฏุ ิหญ้าคาเป็นสว่ นมาก

ตามธรรมดาประจำ� ปี พอถงึ เดอื นกมุ ภาพนั ธก์ ม็ กี ารซอ่ มแซมหลงั คา ระดมไพหญา้
เวลาเชน่ นน้ั โยมกม็ าชว่ ย พระเณรทงั้ หมดกไ็ พหญา้ ใครจะใชอ้ บุ ายหลบการงานไมไ่ ด้
เวน้ ไวแ้ ตผ่ ปู้ ว่ ยจรงิ ๆ จงั ๆ การทำ� งานมไิ ดม้ เี สยี งอกึ ทกึ เมอื่ มเี รอ่ื งจำ� เปน็ พดู กนั พอไดย้ นิ
ถา้ มกี ารผา่ ฟนื กไ็ ดย้ นิ แตเ่ สยี งงาน ฟงั ไกล ๑ เสน้ แลว้ ไมไ่ ดย้ นิ เสยี งพดู ถา้ ไกล ๑ เสน้
แล้วได้ยินเสียง ก็ได้ยินแต่เสียงหลวงปู่องค์เดียวเท่าน้ันละ แต่มิได้ท�ำงานจนเลย
เขตขอ้ วตั ร เช่น กวาดตราดและตักน้ำ� เปน็ ตน้ การเกบ็ เครือ่ งมอื และอะไรตอ่ อะไร
เรยี บรอ้ ย ไมป่ ลอ่ ยระเนระนาด ถา้ ทำ� สองวนั ตดิ ๆ กนั ยงั ไมเ่ สรจ็ หลวงปใู่ หห้ ยดุ วนั หนงึ่
เสยี กอ่ น เกรงวา่ สมถะและวปิ สั สนาจะไมต่ ดิ ตอ่ แลว้ จงึ ทำ� ตอ่ ไปเปน็ ระยะ หยดุ เปน็ ระยะ

145

หยดุ น้ี แปลวา่ งานทเี่ กย่ี วขอ้ งหมดวดั แตข่ อ้ วตั รเกย่ี วกบั ครบู าอาจารยป์ ระจำ� วนั
เวลาน้ัน และส่วนรวมประจ�ำวันเวลาน้ัน จะไม่ตรงต่อเวลาไม่ได้ ผูกขาดอยู่แล้ว
สว่ นข้อวัตรประจ�ำตวั เดินจงกรมภาวนาตอนกลางคืนนัน้ กผ็ ูกขาดอกี จะอวดอ้างว่า
ตอนกลางวนั เรามไิ ดพ้ กั เราจะนอนแตห่ วั คำ�่ ละวนั นี้ หรอื เราจะตนื่ สายละวนั นี้ กไ็ มไ่ ดอ้ กี
เวน้ ไว้แต่เจบ็ ปว่ ยจรงิ ๆ ถ้าเจบ็ นิดๆ หนอ่ ยๆ แลว้ โกหกวา่ เป็นหนกั องค์หลวงปู่กร็ ู้
และหมเู่ พอ่ื นผตู้ าแหลมกร็ ู้อีก วิชาข้เี กยี จขี้ครา้ น วิชามกั ง่าย วิชาเห็นแกต่ วั ในอามิส
ตา่ งๆ ไมม่ ใี นสำ� นกั ของหลวงปเู่ ลย ถา้ มอี ยไู่ มไ่ ด้ กระเดน็ เลย ไมว่ ธิ หี นงึ่ กว็ ธิ หี นงึ่ ละ

ในยคุ วดั ปา่ บา้ นหนองผอื ไมข่ เ้ี กยี จเขยี นเลย พอใจเตม็ ทแ่ี ลว้ เพราะเหน็ ดว้ ยตา
พจิ ารณาดว้ ยใจ เพราะไมไ่ ดอ้ า้ งออกนอกไปวา่ ไดย้ นิ แตเ่ ขาวา่ เขานนั้ มนั เกดิ ทหี ลงั ของหู
และตานอก ตาใน ตาปญั ญา ตาปญั ญาชน้ั สงู สดุ สามารถไลค่ วามหลงและโง่ โงแ่ ละหลง
และอวิชชาและกเิ ลสกอ็ ันเดยี วกัน กองปัญญา นิพพทิ า วิมุตติ ไล่ไปแตกกระเจิง

146

๒๔๙๐ พระเถระผใู้ หญม่ าศึกษาธรรม

วัดปา่ บา้ นหนองผือยคุ น้ัน จะวา่ ชุมทางของพระเณรผูป้ ฏบิ ัติก็ไดไ้ ม่ผิด จะวา่
ชมุ ทางของผู้ปฏบิ ัตินัน้ ก็คือใจอันประกอบดว้ ย ศีล สมาธิ ปญั ญา ก็ได้ไม่ผดิ อกี
แต่ถ้าไม่เขียน ผ้อู า่ นและผู้ฟงั ก็คอยแตจ่ ะแซงอยู่ เขยี นซะอย่าใหแ้ ซงจะเสยี เวลา

ปี ๒๔๙๐ นนั้ เองในฤดแู ลง้ วนั นน้ั เปน็ วนั บงั เอญิ กว็ า่ ได้ มพี ระผใู้ หญอ่ นั เปน็ เถระ
ต่างทิศต่างจังหวัดเข้าไปศึกษาหารือธรรมะกับหลวงปู่ในสำ� นักพร้อมกันในวันเดียว
ท่านเจ้าคุณธรรมเจดยี ์ อดุ ร พระอาจารยส์ ิงห์ นครราชสีมา และทา่ นพระครอู ะไร
ลมื ชอ่ื ไป ทา่ นเจา้ คณุ อรยิ เวที (เขยี น ป.ธ.๙) กาฬสนิ ธ์ุ หลวงปอู่ อ่ น อยวู่ ดั ปา่ หนองโดก
อ.พรรณานคิ ม หลวงปู่ฝั้น อยูธ่ าตนุ าเวง วัดปา่ อ.เมอื ง สกลนคร พระอาจารยม์ หา
ทองสขุ อยวู่ ดั ปา่ สทุ ธาวาส อ.เมอื ง จ.สกลนคร มพี ระอาจารยก์ งมา วดั ดอยธรรมเจดยี ์
แตย่ ังมไิ ดใ้ ส่ช่อื วัดเพราะไปตั้งใหม่ บางวนั บางวาระกอ็ ยูพ่ กั วดั ปา่ บ้านโคก

วนั ทพ่ี ระผใู้ หญม่ าเยย่ี มหลายองคโ์ ดยมไิ ดน้ ดั หมายเชน่ นน้ั พอถงึ หนง่ึ ทมุ่ กจ็ ดุ
ตะเกยี งเจา้ พายุ ตรี ะฆงั ลงไปรวมกนั ทศ่ี าลาอโุ บสถ (ไมใ่ ชศ่ าลาโรงฉนั ดอก เพราะมนั
คบั แคบเกนิ ไป) ครั้นกราบไหวพ้ รอ้ มกันเสรจ็ สนิ้ แลว้ ตา่ งก็นงั่ พับเพยี บเงียบสงัดอยู่
๒-๓ นาที หลวงปมู่ นั่ มสี นั ตวิ ธิ ปี รารภขน้ึ เยน็ ๆ วา่ “เออ วนั นเ้ี หมาะสม ผมจะไดศ้ กึ ษากบั
พวกทา่ น จะผดิ ถกู ประการใด ขอใหพ้ วกทา่ นปรารภไดไ้ มใ่ หเ้ กรงใจ ผมไดศ้ กึ ษานอ้ ย
เรียนนอ้ ย”

147

แล้วองค์ท่านเสนอวา่ “พระบรมศาสดา บญั ญัตอิ นศุ าสน์ ๘ อยา่ ง เปน็ ข้อเว้น
เรอื่ งใหญ่ อนั เป็น ปู่ ย่า ตา ทวด ของความผิด คอื ปาราชกิ ๔ แล้วอกี ๔ ประเภท
ในฝา่ ยปจั จยั ใหป้ ฏบิ ตั จิ นถงึ วนั สนิ้ ลมปราณ เพราะเปน็ ปจั จยั เครอื่ งอาศยั ของบรรพชติ
เรียกนิสยั กม็ ี ๔ อย่าง เท่ยี วบณิ ฑบาตหน่งึ อยโู่ คนไมห้ น่ึง น่งุ หม่ ผา้ บังสุกุลหน่ึง
และก็เภสชั ดองน้�ำมตู รเน่าหน่ึง ด้านบณิ ฑบาต พระองคไ์ ดท้ อดสะพานไว้แลว้ จนส้ิน
ลมปราณ แตพ่ วกเราไมค่ อ่ ยจะไปบณิ ฑบาตกนั กลบั เหน็ วา่ มลี าภแลว้ กค็ อยใหเ้ ขาเอา
มาสง่ และบงั สกุ ลุ พวกเรากไ็ มอ่ ยากแสวงเสยี เลย อยทู่ ส่ี งดั กายวเิ วกพวกเรากไ็ มอ่ ยาก
แสวงเลย ส่ิงเหลา่ นีพ้ วกเราได้นึกคิดอย่างไรบา้ ง พวกเราถูกตามอนศุ าสนแ์ ลว้ หรอื
หากว่าบกพรอ่ งอยู่บา้ ง”

ทา่ นเจ้าคุณธรรมเจดียย์ มิ้ อยโู่ ดยเคารพ มิใช่ยิ้มแย้ม ส่วนทา่ นเจ้าคุณอริยเวที
ป.ธ. ๙ กราบเรยี นวา่ “ไมม่ สี งิ่ จะแซงพระอาจารยไ์ ดด้ อก พวกกระผมจำ� ไดท้ อ่ งไดเ้ ฉยๆ
ขอรบั ผม”

ในสมยั นนั้ ผู้เขยี นอายุสามสบิ ปีกว่าลว่ งไป ได้สังเกตพฤตกิ ารณข์ องพระเถระ
ในทป่ี ระชมุ ทกุ ๆ องค์ ตลอดพระภกิ ษหุ นมุ่ สามเณรนอ้ ย ใชม้ ารยาทเคารพรกั หลวงปมู่ นั่
เหมอื นบดิ ามารดาบงั เกดิ เกลา้ ไมม่ ที า่ นองคใ์ ดจะจบั ผดิ จบั ถกู ในทางแงร่ า้ ยอนั ใดเลย
แหง่ หลวงปมู่ ่นั การประชุมถึงจติ ถงึ ใจจึงได้จำ� ไว้ไมล่ ืม คลา้ ยกบั วา่ เวลาร่างกายรอ้ น
เขา้ พกั รม่ ไมส้ งู ๆ โตๆ มกี ง่ิ กา้ นสาขาอากาศโปรง่ ขา้ งลา่ ง ลมมาพดั พอเยน็ ๆ ดี ไมค่ อ่ ย
ไม่แรง เรยี กว่าประชมุ เย็น มิใชป่ ระชุมร้อน

แลว้ องคห์ ลวงปกู่ ป็ รารภตอ่ ไปอกี วา่ “พระบรมศาสดาทรงพระมหากรณุ าทรงสงั่
และทรงสอนเปน็ ชน้ั ทหี่ นง่ึ คอื ภกิ ษุ จงึ มคี ำ� ออกหนา้ วา่ ภกิ ขเว เกอื บทกุ วรรคทกุ ตอน
ถา้ ภกิ ขเวไมศ่ กึ ษาปฏบิ ตั ิ แลว้ จะใหใ้ ครปฏบิ ตั ศิ กึ ษาเลา่ สว่ นพระองคท์ รงพระกรณุ า
ทรงสงั่ สอนอบุ าสก อบุ าสกิ า เทวดา มาร พรหม กด็ ี วา่ ในพระบาลนี อ้ ยกวา่ ภกิ ษทุ งั้ หลาย
นางภกิ ษณุ กี ด็ ี สามเณรกด็ ี สามเณรกี ด็ ี นางสกิ ขมานากด็ ี ในพระบาลเี หน็ มนี อ้ ยกวา่
ภิกษุ ผมผูน้ ั่งหลับตาได้ความอยา่ งนีต้ ามประสาผู้เฒา่ ”

148

แลว้ องคท์ า่ นหลวงปกู่ ป็ รารภสมาธิ สมาธิ แปลวา่ ตง้ั มนั่ อยใู่ นอารมณท์ เ่ี พง่ อยู่
อนั เดยี วเปน็ หลกั แตเ่ มอ่ื รวมเขา้ ไปจรงิ ๆ แลว้ กพ็ กั อยใู่ หร้ จู้ กั รสชาตขิ องธรรมในชน้ั นี้
แตเ่ มอื่ หมดกำ� ลงั กถ็ อนออกมา สว่ นญาณพเิ ศษวา่ หลดุ วา่ พน้ ยงั ไมป่ รากฏ เปน็ เพยี งพกั
อารมณอ์ นั หยาบเฉยๆ เรยี กวา่ จติ ใจพกั งานอนั หยาบของอารมณ์ แตจ่ ะตดิ อยแู่ คเ่ พยี ง
รสของสมาธไิ มไ่ ด้ เพราะรสของสมาธเิ ป็นรสขนาดกลาง ต้องพจิ ารณาใชส้ ตปิ ัญญา
ลงสธู่ าตขุ นั ธ์ ในสว่ นรปู ขนั ธน์ ามขนั ธใ์ หเ้ สมอภาคเหมอื นหนา้ กลอง ทง้ั อดตี ทงั้ อนาคต
ปจั จุบันใดๆ ทง้ั ส้ิน ลงสู่ไตรลกั ษณเ์ สมอหนา้ กลองอกี เร่ือยๆ ตดิ ตอ่ อยู่ไมข่ าดสาย
ยน่ ย่อลงมาเป็นหลักอนั เดยี วในปจั จุบนั ทรงอยู่ซึง่ หนา้ สติซง่ึ หน้าปัญญา ตราบใด
นิพพิทาญาณยังไม่ปรากฏแก่สันดานอันประณีต ก็พิจารณาติดต่ออยู่ไม่ขาดวรรค
ไม่ขาดตอนอยอู่ ยา่ งนน้ั มที างเดียวเทา่ นัน้ ไมม่ ีทางอ่นื เลย แตน่ านๆ จงึ จะพจิ ารณา
คราวหน่งึ ขาดๆ ว่ินๆ นนั้ ผมู้ ีนสิ ัยหยาบก็พอประทังไปเทา่ นน้ั ไมส่ ามารถจะถงึ
นพิ พทิ าญาณ ความเบื่อหนา่ ยคลายหลงคลายเมาไดง้ ่าย กลายเปน็ หมันไปอีก

สมถกรรมฐานทกุ ประเภท นบั แตห่ นงั หมุ้ อยโู่ ดยรอบเปน็ ตน้ ไปกด็ ี หรอื ลา้ นๆ นยั
กด็ แี ล กต็ อ้ งปลงปญั ญาลงสไู่ ตรลกั ษณท์ ง้ั นนั้ เพราะไตรลกั ษณเ์ ปน็ ทช่ี มุ ทางของสมถะ
และสมถะคล้ายกบั เปน็ เมอื งขนึ้ ของไตรลกั ษณแ์ บบตรงๆ อย่แู ล้ว ไตรลกั ษณ์เปน็
เมืองขึ้นของนิพพิทาญาณ ความเบื่อหน่าย ความเบ่ือหน่ายเป็นเมืองข้ึนของวิมุตติ
วิสุทธิ นิพพาน พระโสดาบันเปิดประตูเข้านิพพานได้แล้ว แต่ยังไม่ถึงศูนย์กลาง
พระนพิ พาน ยงั ไม่ได้เท่ียวรอบในพระนพิ พาน

จรงิ อยู่ พระนพิ พานไมม่ ปี ระตรู ปู ประตนู าม ศนู ยข์ อบศนู ยก์ ลาง ไปๆ มาๆ อยๆู่
อะไร เปน็ เพยี งอทุ าหรณเ์ ทยี บเฉยๆ เพราะคำ� พดู กเ็ ปน็ วจสี งั ขาร พระนพิ พานมใิ ชค่ ำ� พดู
และนกึ คิดหรอื รสส่งิ ต่างๆ มรี สเกลือ เปน็ ต้น ซึ่งเปน็ รสหยาบๆ ในโลก ของโลกล้นิ
โลกผสั สะ กระทบจงึ จะรจู้ กั เคม็ เวน้ ไวแ้ ตช่ วิ หาประสาทพกิ าร แมช้ วิ หาประสาทจะพกิ าร
ก็ตาม รสของเกลือเค็มตามธรรมชาติ ของความจรงิ กเ็ ค็มอยู่อยา่ งน้ันแล ฉนั ใดก็ดี
ความนึกคิดและค�ำพูดก็ดี จะไม่นึกคิดพระนิพพานอยู่ก็ตาม พระนิพพานก็เป็น
ธรรมชาติอันไม่ตายอยูน่ ัน้ แล ลน้ิ พกิ ารเปรยี บเหมือนยังไม่รู้รสนิพพาน

149

องค์ท่านเปรยี บเทยี บอกี สีมา พัทธสีมา ท่ีคณะสงฆ์ท�ำกรรมถูกต้อง ไมเ่ ป็น
สมี าวบิ ตั ิ คณะสงฆ์ ๔ รปู ขนึ้ ไป กส็ วดถอนได้ แตโ่ ลกตุ ตรธรรมนลี้ ะเอยี ดไปกวา่ นน้ั
นบั แตพ่ ระโสดาบนั ขน้ึ ไปหาพระอรหนั ต์ แมพ้ ระบรมศาสดาทกุ ๆ พระองค์ อรยิ สงฆ์
ของพระพุทธเจ้าเหล่าน้ันท้ังหมดจะพร้อมกันมาสวดถอนจิตใจของพระโสดาบันก็ดี
ใหเ้ ป็นปุถุชนคนหนายอ่ มเปน็ ไปไมไ่ ด้

เหตนุ น้ั พระอรยิ เจา้ ทง้ั หลายจงึ ยอมเคารพธรรมอยา่ งแจบจมไมจ่ ดื จาง ไมใ่ ชว่ า่
พระอรยิ เจา้ ทงั้ หลายไมถ่ อื มนั่ แลว้ จะไมเ่ คารพธรรม ยงิ่ เคารพมากกวา่ ปถุ ชุ นคนหนา
ไม่มีประมาณได้ ไม่ใช่ว่าถอนอุปาทานความยึดมั่นถือม่ันได้แล้วก็เลยเถิดไป ไม่มี
ข้อวัตรเคารพธรรม เรียกว่าพระอริยเจ้าเลยเขตแดน กลายเป็นพระอริยะของ
พระเทวทตั แตท่ า่ นกเ็ หน็ ความผดิ ของทา่ นแลว้ แตเ่ หน็ ความผดิ รตู้ วั จวนคำ�่ เลยไมม่ ี
เวลาขอขมาโทษพระองค์ ไดข้ อแตล่ บั หลงั เพยี งไหลข่ นึ้ มาหาคอหาหวั โดยนอ้ มถวาย
ถงึ กระนน้ั กย็ งั จะไดเ้ ปน็ พระปจั เจกในอนาคต เพราะไดส้ รา้ งบารมมี าไดส้ องอสงไขย
แลว้ ยงั เหลอื แสนมหากปั แตย่ งั เปน็ โลกยี อ์ ยู่ จงึ สามารถประพฤตลิ ว่ งอนนั ตรยิ กรรมได้

หลวงปูม่ ัน่ ประชมุ คณะสงฆว์ นั น้นั ถึงหกทุม่ นบั ท้งั ปกณิ กะสารพดั

150

พธิ ีปลุกเสกพระพุทธรปู

กลา่ วเรอื่ งตอ่ ไปอกี ปฏปิ ทาของหลวงปทู่ อดสะพานใหล้ กู ๆ หลานๆ ยงั มอี ยอู่ กี
มากมายนกั การเรย่ี ไรแผๆ่ ขอๆ ในทางตรงและทางออ้ ม และจดั งานขน้ึ ในวดั เพอื่ หา
รายได้สมทบการก่อสร้างหรือซ่อมแซมที่เกี่ยวกับตัวเงินๆ ไม่มีในขันธสันดานของ
องคห์ ลวงปเู่ ลย ของรางของขลงั ไมม่ ใี นปฏปิ ทาเลย รปู เหรยี ญ ขายพระเลก็ พระนอ้ ย
พุทธาภเิ ษก ก็ไม่มีในปฏปิ ทาขององค์ทา่ นเลยนา วิชาปลุกเสก แกะหู แกะตา แคะหู
แคะตา ใหพ้ ระพทุ ธรูป หรือท�ำพธิ บี วชใหพ้ ระพุทธรปู ก็ไมม่ ใี นสนั ตวิ ิธีขององคท์ า่ น

องคท์ า่ นกลา่ ววา่ “สมมตเิ ปน็ พระพทุ ธรปู แลว้ กเ็ สรจ็ กนั เราดอี ยา่ งไรจงึ จะไปบวช
ใหอ้ งค์ท่าน องคท์ า่ นบวชกอ่ นเราแล้ว เราดอี ย่างไรจึงจะไปปลุกทา่ นใหต้ ื่น ทา่ นตน่ื
ก่อนเรา เขา้ ส่อู นุปาทเิ สสนิพพานแล้ว เราดอี ย่างไรจึงจะไปแคะหูแคะตาใหอ้ งค์ทา่ น
ตานอก ตาใน หูนอก หูใน ขององคท์ า่ นดีกวา่ เราแล้ว จะภเิ ษกภิษันให้องค์ทา่ นเปน็
อะไรอกี องคท์ า่ นเปน็ พระพทุ ธเจา้ เตม็ ภมู แิ ลว้ จะเอาไสยศาสตรไ์ ปพอกไปทาองคท์ า่ น
ทำ� ไม นน้ั แหละตวั บาป นน้ั แหละขมุ นรก ขมุ มจิ ฉาทฏิ ฐิ เหน็ ผดิ เตม็ ภมู แิ ลว้ ยงั สำ� คญั วา่
เหน็ ชอบ เขา้ ขา้ งตวั แตไ่ มเ่ ขา้ ขา้ งธรรมวนิ ยั เพยี งเทา่ นกี้ ย็ งั ไมร่ จู้ กั ผดิ รจู้ กั ถกู แลว้ ธรรม
อนั ละเอยี ดลออก็ยงั มีขนึ้ ไปกวา่ น้มี าก ไฉนจะร้ไู ด้”

พดู ไปมากเปน็ ภยั แตม่ ีประโยชน์แกน่ ักปราชญ์ แต่บาดหผู ูไ้ มช่ อบและจะถูก
กลา่ วตวู่ า่ ขดั ขวางรายไดแ้ หง่ วตั ถตุ วั ง. แตเ่ มอื่ ไมพ่ ดู ยามมชี วี ติ อยู่ กไ็ มร่ วู้ า่ จะไปพดู

151

ในเวลาไหน เพราะตายแล้วพูดไม่ได้ และคนเราเป็นส่วนมากมักจะเข้าใจผิดไป
คอื เราจะทำ� ดตี อนไหนๆ กเ็ ปน็ คนขข้ี ลาด แตเ่ มอ่ื มผี พู้ าทำ� ชว่ั กลบั อาจหาญใส่ อยากจะ
อวดว่าตนเป็นผู้ใจถึง นักปราชญ์อวดว่าใจถึงทางท�ำดี คนพาลอวดใจถึงทางท�ำช่ัว
ผลฝ่ายรับได้รับผิดกัน รสชาติของผลที่ได้รับก็ผิดกันราวฟ้ากับแผ่นดิน สิ่งท่ีมี
วิญญาณครองสงิ อยใู่ นไตรโลกธาตยุ ่อมเป็นผู้ใจถึงทั้งน้ัน ถ้าใจถึงทางดี ใจก็ได้รับ
ผลดตี ามสว่ นควรค่าของเหตทุ ี่ท�ำดี ถ้าใจถงึ ทางชัว่ ใจกไ็ ด้รับผลช่ัวตามสว่ นควรคา่
ของเหตุชว่ั พระเทวทัตใจถงึ ทางมหาอเวจี พระอนาคามีใจถงึ ทางปราศจากกามและ
ปราศจากโทสะ พระอรหนั ตใ์ จถงึ ทางไมม่ กี เิ ลส แมลงวนั ใจถงึ ทางกนิ มตู รคถู แมลงผง้ึ
แมลงภใู่ จถงึ ทางกินเกสรดอกไม้

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ได้ความชัดขึ้นว่า เหตุใจ ผลใจ ส่วนไปทางชั่วแล้วแต่เหตุ
สว่ นนอ้ ยมากก็แล้วแตเ่ หตุ จะดับเหตุช่ัวก็ต้องดับทีใ่ จ จะสรา้ งเหตดุ ีก็ต้องสรา้ งทใี่ จ
อนันตเหตกุ ใ็ จเป็นผ้สู รา้ งขึน้ อนนั ตผลก็ใจเป็นผูไ้ ดร้ ับ จะปฏิเสธเหตผุ ลไปทางใด
กไ็ ปไมร่ อดได้ คมั ภโี ร แปลวา่ ลำ�้ ลกึ ถงึ ใจ ใจนจ้ี ะทำ� ใหล้ กึ กล็ กึ ได้ จะทำ� ใหต้ น้ื กต็ นื้ ได้
เพราะใจเปน็ ผทู้ ำ� แตก่ ต็ อ้ งพรอ้ มดว้ ยองคส์ ตอิ งคป์ ญั ญาอกี มฉิ ะนน้ั แลว้ จะเปน็ ศษิ ย์
ไมม่ ีครูไมม่ ขี อบเขตได้ จะกลายเป็นลมพัดนุ่น หรือไม้ลอยน�้ำ หรือวา่ วเชอื กขาด

ฉะนนั้ พระบรมศาสดาจงึ ยนื ยนั วา่ เรามไิ ดอ้ ยใู่ ตอ้ ำ� นาจของใจ เราบงั คบั ใจไดใ้ น
กาลทค่ี วรบังคบั ปุรสิ ทัมมสารถิ เราฝกึ ใจได้เหมือนนายสารถีฝกึ ม้า ใจท่ีฝกึ ฝนแลว้
ตอนไหนๆ กน็ ำ� สุขมาใหใ้ จตอนน้ัน เหมอื นมีดที่ลบั คมแลว้ นำ� คมมาใหม้ ดี ฉะนนั้
เราจงึ มกั พดู กนั วา่ มดี นคี้ มดี ไมไ่ ดพ้ ดู วา่ คณุ นคี้ มดี ถา้ มดี ไมค่ มเลา่ กม็ กั พดู วา่ มดี น้ี
ไมค่ มแท้ ไมไ่ ดพ้ ดู วา่ คณุ นไ้ี มค่ มแท้ นเี้ ปน็ รปู เปรยี บตน้ื ๆ แตม่ ดี มนั กไ็ มไ่ ดย้ นื ยนั วา่
มนั เปน็ มดี ดอก และมนั กม็ ไิ ดย้ นื ยนั วา่ มนั เปน็ เหลก็ ฝนหรอื ไมฝ่ นดอกนะ เพราะเปน็
สมมตใิ ชก้ นั ในสงั สารวฏั เพราะใจเปน็ ตน้ สมมติ สมมตมิ รรคผลนพิ พานเปน็ มหาสมมติ
ที่สงู แต่รสชาตขิ องสมมตมิ รรคผลนพิ พานไกลกนั กับรสชาติสมมติวา่ กเิ ลส จนมอง
ไม่เห็นได้ด้วยตานอกอันจับหน้าผาก ตาจับใต้หน้าผากกับตาเน้ือก็มีความหมายอัน
เดยี วกนั

152

สรรพตาปญั ญาย่นลงมาเปน็ สอง ตาปัญญาทางโลกยี ์ ตาปัญญาทางโลกุตตระ
ตาปัญญาทางโลกุตตระเป็นตาปัญญาอันเดินลัดออกกองทุกข์ ตาปัญญาทางโลกีย์
เป็นตาปัญญาอนั เดนิ วนเวียนอย่ใู นกองทุกข์ เพราะเดินวนเวยี นอยู่ในถนนสายโลภ
โกรธ หลง เรยี กวงเวียนใหญใ่ นไตรโลกธาตุ

ไตร แปลวา่ ๓ หรือจะเรยี กว่าผ้าไตรส�ำหรบั บวชผจู้ ะทอ่ งเทยี่ วอยูใ่ นกองทุกข์
กไ็ ด้ จะวา่ เพลงิ สามกองกไ็ ด้ จะวา่ คกุ ทใี่ สส่ ตั วผ์ ทู้ อ่ งเทย่ี วในสงสารกไ็ ด้ จะวา่ ปา่ โลภ
ปา่ โกรธ ปา่ หลง ให้สตั วผ์ ู้ชอบทอ่ งเท่ยี วทศั นาจรก็ได้ จะว่านรกขมุ ใหญข่ มุ รวมก็ถูก
ทงั้ นนั้ แหละ วา่ ไปเทา่ ใดกไ็ มจ่ บสนิ้ ได้ จะไมว่ า่ อะไรกต็ าม ถา้ กเิ ลสไมจ่ บสนิ้ กม็ คี ณุ คา่
อนั เดยี วกนั เพราะกเิ ลสมนั ไมต่ งั้ อยเู่ มอื งวา่ และเมอื งไมว่ า่ ถา้ หากวา่ ไดอ้ รหนั ตเ์ พราะ
พดู เพราะวา่ จกั จนั่ รอ้ งตลอดวนั จง้ิ หรดี รอ้ งตลอดคนื มนั กไ็ ดอ้ รหนั ต์ ถา้ หากวา่ อยนู่ งิ่ ๆ
ไดอ้ รหนั ต์ สตั วจ์ ำ� พวกทปี่ ากไมเ่ ปน็ พดู ไมเ่ ปน็ กไ็ ดอ้ รหนั ตท์ ง้ั นน้ั ขน้ึ อยกู่ บั สตปิ ญั ญา
อันชอบต่างหากดอกกระมัง ผู้ปฏิบัติเพ่ือพ้นทุกข์ในสงสารจะติดอยู่ในว่าก็ไม่ถูก
จะตดิ อยใู่ นไมว่ า่ กไ็ มถ่ กู อกี คนใบบ้ อดหนวก เปน็ ตน้ พระพทุ ธศาสนาไมร่ บั บวช แตจ่ ะ
อย่างไรก็ใหศ้ ึกษาวชิ าเข็ดหลาบในกองทกุ ข์กใ็ ชไ้ ด้

ปรารภเรอ่ื งอนื่ ตอ่ ไปอีก โรงครวั หงุ ต้มฉันในวัดเป็นนิจวตั รก็ดี หลวงปู่มัน่ ไม่
ส่งเสริมเลย เว้นไวแ้ ตบ่ ิณฑบาตไม่พอฉันจรงิ ๆ จงั ๆ จนใช้ค�ำว่า อดมาก หวิ มาก
องคท์ า่ นอา้ งในอนศุ าสนว์ า่ ไปบณิ ฑบาตไดแ้ ตข่ า้ ว พระวนิ ยั กช็ มวา่  อตเิ รกลาโภ อยู่
ถอื วา่ มลี าภพอทจี่ ะศกึ ษาและปฏบิ ตั ใิ หเ้ ปน็ ไปในพระพทุ ธศาสนาไดอ้ ยู่ ฝา่ ยจวี รไดแ้ ต่
ผา้ ฝา้ ย ผา้ เปลอื กไม้ กถ็ อื วา่ เปน็ ลาภอยแู่ ลว้ ฝา่ ยเสนาสนะกเ็ รอื นรา้ งวา่ งเปลา่ รกุ ขมลู
ลอมฟาง เงือ้ มหนิ หรือถ้ำ� คูหา หรือกฏุ ิ ปราสาท กระตอ๊ บใบไม้ เหล่านี้เปน็ ตน้ ก็ถือ
วา่ เปน็ ลาภแลว้ สว่ นจำ� พรรษาตอ้ งมบี านประตปู ดิ เปดิ เขา้ ออกได้ จะเปน็ ใบตองกใ็ ชไ้ ด้
ทงั้ นนั้ ถอื วา่ เปน็ ลาภท้ังนั้น สว่ นเภสัช นบั แตข่ ามป้อมหรือสมอดองด้วยนำ้� มูตรเนา่
เปน็ ตน้ กถ็ อื วา่ เป็นลาภทางเภสชั แลว้

ถา้ พจิ ารณาแลว้ แตก่ อ่ นรกั สนั โดษมากนกั ยอมเปน็ ยอมตายตอ่ พระธรรมวนิ ยั มาก
เป็นเครื่องขัดเกลากิเลสในตัว แต่ทุกวันนี้ความนิยมสมมติกันก็สับสนปนเปไปบ้าง

153

แต่จะแปลกประหลาดไปสักเพียงใดก็ตาม อันเป็นฝ่ายวัตถุนิยมก็อยู่ในวงแขนของ
พระอนจิ จงั พระทกุ ขงั พระอนตั ตา แลว้ เพราะเปน็ ศาลยตุ ธิ รรมฝา่ ยสงั ขาร ตดั สนิ อยู่
ทุกกาลไมล่ งธรรมาสน์ ไดท้ งั้ หยาบ ทั้งประณตี ทั้งภายนอก ภายใน ไกล ใกล้ อดีต
อนาคต ปัจจุบัน ก็หมดปัญหาอันจะสงสัยอยู่แล้ว เม่ือหมดปัญหาอันจะสงสัยใน
สงั ขารแลว้ สงั ขารจะใชก้ ลมายาสาไถยมาจากประตใู ดอกี กต็ าม กค็ งลวงไมไ่ ดอ้ ยนู่ น้ั เอง
ยอ่ มไดเ้ หยียบเลบ็ เพราะสตปิ ญั ญาจะก้าวเหยียบเล็บของความเข้าใจผดิ ได้ ความ
เข้าใจผิดคงไปไม่รอด ไมม่ ที ่ีซ่อนตวั

นักปฏิบัติเพ่ือพ้นจากความหลงอันดองสันดานของตนให้ติดให้วนอยู่ในอู่ของ
วตั ถนุ ยิ มแลว้ ไมป่ ลงปญั ญาลงสอู่ นจิ จตา ทกุ ขตา อนตั ตตา แลว้ ยอ่ มเปน็ ไปไดย้ าก
เจรญิ ขนึ้ ในธรรมชนั้ สงู ไดย้ าก และกม็ กั ตนื่ ขา่ วในสงั ขารโลก โลกคอื สงั ขาร สตั วโ์ ลก
โลกคอื หมสู่ ตั ว์ โอกาสโลก โลกคอื แผน่ ดนิ ตนื่ ขา่ วทงั้ อดตี ทงั้ อนาคต ทงั้ ปจั จบุ นั ดว้ ย
เมื่อต่ืนข่าวก็ลังเลในปฏิปทาของตน แล้วก็คว้าหา เหมือนตกน�้ำจนตรอกจนมุมว่า
ในใจวา่ ยงั ไงหนอ ยงั ไงหนอ อยอู่ ยา่ งนเี้ สมอๆ ทา่ นผตู้ ดิ อยใู่ นกองนามรปู กค็ อื ผสู้ งสยั
อย่ใู นกองนามรูปน่นั เอง ผู้สงสยั สรรพโลกสรรพสงั ขารก็คอื ผตู้ ดิ อยใู่ นสรรพนิมติ
นมิ ติ แปลวา่ เครอื่ งหมายหมายไวว้ า่ เปน็ สตั วบ์ คุ คลตวั ตนเราเขาจรงิ ๆ จงั ๆ จนแกะไมไ่ ด้
คายไมอ่ อก พรอ้ มทง้ั มคี วามเหน็ ผดิ ดง่ิ ลงไป มกี ำ� ลงั กลา้ ถอนไดย้ ากเพราะฝงั ลกึ แลว้

154

หลวงปมู่ ่นั อาพาธ ไปพักวดั ร้างบ้านนาใน

หันมาปรารภ ปี ๒๔๙๑ ในฤดูแลง้ หลวงป่มู ัน่ ก็เรมิ่ ป่วย มไี ข้สลับมีไอด้วย
แลว้ องคท์ า่ นปว่ ยอยู่ แตไ่ ปบณิ ฑบาตไดอ้ ยอู่ กี ประมาณ ๖๗ วนั องคท์ า่ นนกึ อยากจะ
ไปพกั บา้ นนาในสกั วาระ องคท์ า่ นกส็ ง่ั เสยี หลวงตาทองอยวู่ า่ “อยเู่ อย๋ จะไปพกั วดั รา้ ง
บา้ นนาในสักระหว่างก่อน เพราะไกลกันจากวดั ป่าบา้ นหนองผือประมาณหน่งึ กิโล”

แลว้ กบ็ อกหลวงปมู่ หาใหด้ แู ลหมู่ องคท์ า่ นจะไปกบั องคน์ น้ั องคน์ ี้ กไ็ มล่ น่ั วาจา
ออกช่ือ (โอ ขออภัย ค�ำที่เขียนว่า หลวงปู่มหา นั้นหมายความว่าใช้ในปัจจุบันที่
เขยี นอยู่ คำ� วา่  พระอาจารยม์ หาบวั กด็ หี รอื  พระอาจารยม์ หา เฉยๆ กด็ ี หมายความวา่
เรยี กใช้ในสมัยน้ัน)

แลว้ พระอาจารยม์ หาพจิ ารณาวา่ ควรใหอ้ งคห์ นง่ึ ไปกบั องคท์ า่ น แลว้ ตกลงลบั หลงั
หลวงปวู่ ่า ควรใหท้ า่ นทองค�ำไปดว้ ย แล้วกจ็ ดั แจงบริขารรวดเร็วพลันทันกาล แลว้
องค์ท่านไปพักได้สองคืน พระเณรยังไม่กล้าเข้าไปเย่ียม เพราะเกรงองค์ท่านดุว่า
เรามาวเิ วก พากันมาย่งุ ท�ำไม พระเณรผู้อยู่ข้างหลังเงียบเหงาไปทั้งวัด วา้ เหว่มาก
ปรากฏแก่ตาแก่ใจว่า ต้นไม้ต่างๆ ในวัดและบรรยากาศเงียบเหงา ลมก็ไม่พัดมา
คลา้ ยกับวา่ วา้ เหว่ไปตามกนั หมด ผู้เขียนนี้เดินรดุ ไปรดุ มาในวดั แลดูทศิ ทัง้ สี่รอบๆ
จติ ใจคดิ คลอ้ ยละหอ้ ยหวนชวนใหน้ กึ แตเ่ รอ่ื งภายนอก คดิ ถงึ หลวงปอู่ ยไู่ มข่ าด ภาวนา
ไมล่ งเปน็ ชนิ้ เปน็ อนั หวนคดิ ไปตา่ งๆ นานาวา่ หลวงปทู่ รมานชาวบา้ นชาววดั หรอื บคุ คล
ผใู้ ดหนอ เราไมร่ ู้ได้ทั้งนัน้ ละ เป็นเหตุชวนให้คดิ แทๆ้ โอ๊ยตับจะแตกตายละทีน้ี

155

พอตกพลบคำ�่ หา้ โมงเยน็ กไ็ ปกราบพระอาจารยม์ หาแลว้ ปรารภวา่ “กระผมอยู่
ไมเ่ ปน็ สขุ อยากจะไปเยอื นหลวงปทู่ อ่ี ยกู่ บั ครบู าทองคำ� ๒ องค์ ทง้ั กลวั องคท์ า่ นจะดุ
จติ ใจกระผมวา้ เหวม่ ากขอรบั กระผมนกึ วา่ จะไปองคเ์ ดยี ว แลว้ จะกลบั ตอนกลางคนื
องค์เดยี ว จะเปน็ ประการใดหนอ”

องค์พระอาจารย์มหาตอบว่า “เออ ผมก็ว้าเหว่เหมือนกัน ท่านลองไปดูซิ
ผมไม่วา่ ดอก”

กราบลาองคท์ ่านแล้วกร็ ีบไป พอไปถงึ ก็ค�ำ่ มืดพอดี ขณะนัน้ องคห์ ลวงปู่และ
ครบู าทองคำ� นัง่ อยพู่ น้ื ดนิ พอเรายงั ไมท่ ันนั่งลงกราบ องค์หลวงปูพ่ ดู ขนึ้ เย็นๆ ว่า
“เออ คุณหลา้ มา ไปเอาฟนื น้นั มาใส่ไฟให้กัน ดุน้ ไหนไมเ่ รยี บร้อยก็เกบ็ เสยี เน้อ”

ทนี อ้ี ้ายกิเลสมันสลดใจมากยงั้ ไม่อยู่ มือขวาจับเอาฟืนมาใสไ่ ฟ มอื ซา้ ยเอาชาย
ผา้ อาบมาเชด็ น้ำ� ตา เพราะอา้ ยกเิ ลสมนั ไหลหลง่ั ถัง่ เทออกมา ทง้ั นึกในใจวา่ เออ เรา
หวนผดิ คดิ ผดิ วา่ องคท์ า่ นจะดวุ า่ มนั ตามมาอะไร ยงุ่ แตก่ ลายเปน็ หนา้ มอื อยตู่ ามเดมิ
เป็นเรื่องทดสอบได้ชัดว่าองค์หลวงปู่หนีมาน้ีไม่ใช่เร่ืองเรา เก่ียวอยู่ในการองค์ท่าน
ขดั ขอ้ งดอก เปน็ เรอื่ งใดไมท่ ราบไดอ้ กี ละ นำ้� ตาไหลอยปู่ ระมาณ ๑๕ นาที กพ็ ลกิ จติ
คนื ได้

องคห์ ลวงปู่กับครูบาทองค�ำหัวเราะอยู่ และองคห์ ลวงป่เู ปล่งวาจาวา่ “เทวบตุ ร
รอ้ งไห้ เทวบตุ รรอ้ งไห”้  พรอ้ มทง้ั พดู พรอ้ มทงั้ หวั เราะ และการจบั ไขข้ ององคท์ า่ นกเ็ บา
ลงแลว้ ชะรอยจะเป็นด้วยอากาศโปรง่ กวา่ กันบา้ งหรือยังไงไม่ทราบได้ คร้ันตอนดกึ
ประมาณ ๔ ทุม่ เศษ กก็ ราบลากลบั วดั แลว้ พระอาจารยม์ หายงั มิทนั ไดห้ ลบั ขน้ึ จาก
ทางจงกรมใหม่ๆ ไฟตะเกยี งจดุ ริบหร่ีอยู่ ขนึ้ ไปกราบองคท์ ่าน เลา่ ถวายทุกประการ

องค์ท่านคำ� นึงพจิ ารณาแบบบรรจง องค์ทา่ นกล่าวว่า “เออ พร่งุ นฉี้ นั เชา้ เสรจ็
ผมจะพาหมู่เราทั้งหมดและชาวบ้านหนองผือท้ังหมด ไปอาราธนากราบเท้านิมนต์
วิงวอนให้องค์หลวงปู่คืนมาวัดเราตามเดิม เพราะชาววัดชาวบ้านก็ว้าเหว่เงียบเหงา
กนิ มไิ ดน้ อนไมห่ ลบั แมต้ วั ของผมกส็ ลดใจและวา้ เหวม่ ากคราวนี้ องคท์ า่ นจะไปวเิ วก

156

จรงิ หรอื อะไรๆ ผมกพ็ จิ ารณายากอยสู่ กั หนอ่ ย ไมว่ า่ แตส่ กั หนอ่ ยละ พจิ ารณายากกนั
ดๆี นเ้ี อง หลา้ เอ๋ยหลา้ ”

ครนั้ ตนื่ เชา้ บณิ ฑบาตฉนั เสรจ็ โยมกห็ ลง่ั ไหลเขา้ มารวมกนั ทว่ี ดั ปา่ องคพ์ ระอาจารย์
มหากป็ ระกาศ พระในวัดเตรียมตวั หม่ ผ้าจีวร และโยมก็เอาแครส่ ำ� หรบั จะหามองค์
หลวงปไู่ ปพรอ้ มดว้ ย ทงั้ ชาวบา้ นชาววดั ประมาณรอ้ ยคน พอไปถงึ กเ็ งยี บสงดั ไมม่ ใี คร
กรอบแกรบและไอจาม กราบพร้อมกนั หมดแล้ว โยมผูฉ้ ลาดขอโอกาสกราบเรยี นว่า

“เวลาท่ีองค์หลวงปู่มาพักวิเวกเพียงสองสามวันนี้ เท่ากับว่านานถึงร้อยพันปี
ทั้งชาวบา้ นและชาววัดไมเ่ ป็นอันกนิ อันนอน ว้าเหว่มาก ขอกราบเทา้ เรยี นถวายองค์
หลวงปไู่ ดโ้ ปรดกรณุ ากลบั ตามเคยเทอญ โทษของเกลา้ อนั ใดมี ขอไดโ้ ปรดประทานอภยั
ใหเ้ กลา้ และทกุ ถว้ นหนา้ เทอญ การปฏบิ ตั ทิ กุ ๆ ประการ หลวงปเู่ หน็ สมควรประการใด
ทง้ั ชาวบา้ นและชาววดั จะยอมทำ� ตาม ไมม่ ขี ดั หฤทยั ของธรรมแหง่ องคห์ ลวงปู่ ตามสติ
ก�ำลงั อยูท่ กุ เม่ือเทอญ”

ครนั้ แลว้ กค็ อ่ ยจดั แจงแตง่ บรขิ ารขององคห์ ลวงปู่ นมิ นตห์ ลวงปขู่ นึ้ บนแครห่ าม
เดนิ ชา้ ๆ เงยี บๆ โยมหามออกกอ่ น พระตามหลงั ทนี่ งั่ ขององคท์ า่ นปอู าสนะดว้ ยเบาะ
ยดั ใบกลา้ แหง้ องคท์ า่ นนงั่ ขดั สมาธไิ มข่ งึ ขงั และไมอ่ อ่ นแอ แลดถู งึ ใจไมม่ จี ะเทยี บได้
ขา้ พเจา้ กเิ ลสมาก อยไู่ มไ่ หว กแ็ ทรกโยมเขา้ ไปจบั แครช่ ู นกึ ในใจวา่ เรากม็ สี ทิ ธจิ ะจบั
แครห่ ลวงปชู่ ชู ว่ ยเขา แตเ่ ราจะแลดพู ระอาจารยม์ หาเสยี กอ่ น ถา้ พระอาจารยม์ หาถลงึ ตา
เราจะถอยออก แต่องคท์ า่ นก็เลยปลงธรรมสังเวชในกริ ยิ าซ้ำ� ข้าพเจ้าทงั้ นึกในใจวา่
โอ้ อนจิ จาเอย๋ นำ�้ ตาของขา้ นน้ี าเวยออกมาขายหนา้ อกี แลว้  ผา้ อาบนำ�้ เชด็ นำ�้ ตาไปจน
ตลอดทาง

หลวงปอู่ ยทู่ า่ ภาวนา หลบั ตาภาวนาอยู่ ทำ� ไมถงึ รวู้ า่ เรานำ้� ตาไหล เพราะคนทง้ั หลาย
กห็ ามไปเงยี บๆ ช้าๆ หลวงป่ปู รารภขน้ึ เย็นๆ เบาๆ วา่ “หล้า ท�ำไมไมค่ อยอยวู่ ัด
ถ้ามาแล้วน้�ำตาเธอออกงา่ ย นสิ ยั แปลกกว่าองค์อน่ื ” แลว้ องค์ท่านนั่งภาวนาขัดสมาธิ
ตามเดิมจนถึงวัด

157

คร้ันองคห์ ลวงปู่ข้นึ ถงึ กฏุ ิเรียบร้อยแล้ว บรรดาลูกศิษยท์ ถ่ี ือนสิ ยั ก็มี รบี ห่มผา้
เฉวยี งบา่ มาขอโอกาสตอ่ นสิ ยั ตามเคย ตอ่ แตน่ นั้ ขอ้ วตั รในระหวา่ งลกู ศษิ ยก์ บั หลวงปู่
กข็ องใครของมนั ตามเคยทที่ ำ� มา ขอใหเ้ ขา้ ใจวา่ มพี ระอาจารยม์ หาและหลวงตาทองอยู่
เทา่ นนั้ ไมไ่ ดข้ อนสิ ยั เพราะองคท์ า่ นทง้ั สองนมี้ พี รรษาสงู พอควรแลว้ แตพ่ ระอาจารย์
มหาน้นั ขอหรอื ไมข่ อ กม็ ีขอ้ วตั รประจ�ำหลวงปู่แบบลกึ ซ้ึงอย่แู ล้ว ไมจ่ ำ� เปน็ จะสงสยั
จะเอามากลา่ ววิจยั เลย เพราะองค์ท่านเป็นมือขวาช่วยหลวงปรู่ องรบั อยู่

158

ธุคงควัตรจดั เป็นมัชฌมิ าปฏิปทา

คร้นั ลว่ งเขา้ มา เวลาวันเดือนปชี ีวขี องสงั ขารกเ็ คลอื่ นคล้อยลงทกุ วินาที ไม่ว่า
คนแก่ คนหนมุ่ ปานกลาง สงั ขารทม่ี วี ญิ ญาณแลไมม่ วี ญิ ญาณ มหี นา้ ทแ่ี ปรปรวนไปจาก
สภาพเดมิ อยู่ทุกขณะลมปราณ แล้วองคห์ ลวงปู่ปว่ ยลง

ชัน้ ที่หนงึ่ ไปบณิ ฑบาตได้รอบบา้ น
ชน้ั ทส่ี อง ไปบิณฑบาตรมิ บา้ น
ชน้ั ทส่ี าม ไปบณิ ฑบาตครึ่งทาง
ช้ันทส่ี ี่ ไปบิณฑบาตประตวู ดั
ชนั้ ทห่ี า้ ไปบณิ ฑบาตใกลศ้ าลาฉนั แตไ่ ปฉนั กบั หมทู่ โ่ี รงฉนั อยู่ (หมายเหตุ ในระหวา่ ง
ท่ไี ปไม่ถงึ บา้ น โยมเขาจดั กันมาลดั ใสแ่ ต่เฉพาะองค์ท่านกบั พระผู้ตามหลงั องคห์ นงึ่
เทา่ นน้ั คอื ครบู าวนั สว่ นนอกนนั้ เขา้ บา้ นตามเคย มหี ลวงตาทองอยแู่ ละพระอาจารยม์ หา
เปน็ หวั หนา้ พาเขา้ บา้ น แตย่ น่ เวลาเขา้ เชา้ กวา่ เกา่ เพราะไดม้ าทนั ขอ้ วตั ร)
ชน้ั ท่ีหก หลวงปบู่ ณิ ฑบาตท่รี มิ บันไดกุฏอิ งค์ท่าน
ช้นั ทเ่ี จด็ องค์หลวงป่ยู ืนบณิ ฑบาตท่ีบนระเบียงกฏุ ิ
ชนั้ ที่แปด หลวงปตู่ ้ังบาตรไว้ท่ีระเบยี งอนั น่งั ฉัน ใหเ้ ขา้ ใจว่าขณะท่บี ณิ ฑบาตที่
บนั ไดและระเบยี งขององคห์ ลวงปนู่ น้ั หลวงปไู่ มไ่ ดไ้ ปฉนั กบั ลกู ๆ หลานๆ ในศาลาแลว้
จงึ ยอมฉนั ในถว้ ยในชาม และยอมซดชอ้ นสองสามกลนื บา้ ง นอ้ี ยา่ งไรเลา่ หลวงปมู่ ไิ ดท้ ำ�
เพอื่ ถอื รนั้ ถอื ขลงั อนั ใดใหส้ ง่ เสรมิ มานะทฏิ ฐอิ นั ใดเลย ทำ� เพอ่ื ทอดสะพานโตง้ ๆ ใหแ้ ก่
ลกู ๆ หลานๆ ผสู้ ุดท้ายยอมเปน็ ยอมตายตอ่ ขอ้ วัตรส่วนน้ไี ม่คลอนแคลน ผ้มู ีนสิ ยั

159

อยา่ งนกี้ จ็ ะไดส้ บื ไว้ ผไู้ มม่ นี สิ ยั อยา่ งนกี้ ม็ ที พี่ ดู อกี วา่ ไปบณิ ฑบาตและไมไ่ ปมนั กไ็ ดก้ นิ
และฉนั อยจู่ ะไปทำ� ไม เกรงจะไมไ่ ดฉ้ นั หรอื ทา่ นผชู้ อบอยา่ งนจ้ี ะวา่ กว็ า่ ซะ ถกู ไปคนละ
ส่วนอยู่ ไม่ผดิ ดอก เพราะพระธรรมวนิ ยั ส่วนน้ไี ม่บงั คับ แล้วแตศ่ รัทธาแต่ละราย
ของเจ้าตวั แตเ่ ปน็ เครอ่ื งขดั เกลากเิ ลส บางท่านกล่าวตู่ธรรมวินัยว่า ธุดงควตั รเปน็
อตั ตกลิ มถานโุ ยค

หลวงปมู่ น่ั เคยเทศนาวา่ “ธดุ งควตั รกด็ ี คมั ภรี ว์ สิ ทุ ธมิ รรคกด็ ี ยน่ ลงในพระปาฏโิ มกข์
แลว้ โมกขะโมกขงั แปลวา่ ขา้ มพน้ จากความผดิ ธดุ งควตั รจดั เปน็ มชั ฌมิ าปฏปิ ทาแบบ
ขดั เกลากิเลส ถา้ พระไม่ปฏบิ ตั บิ า้ งแลว้ จะใหผ้ ีตัวใดมาศรัทธาปฏิบัตเิ ลา่ ”

ธคุ งควตั รสบิ สามขอ้ นน้ั ตอ้ งไดค้ นละ ๑-๒-๓ ขอ้ หรอื ๔ ขอ้ อยู่ เพราะเหตวุ า่
บางองคย์ นิ ดแี ตเ่ สนาสนะเดมิ มไิ ดโ้ ยกยา้ ยไปทางอน่ื เพราะสนั โดษในเสนาสนะแลว้
กไ็ ดข้ อ้ ทวี่ า่ ยถาสนั ถตกิ งั คะ ผฉู้ นั หนเดยี วกไ็ ด้ เอกาสนกิ งั คะ เหลา่ นเี้ ปน็ ตน้ ยากนกั
ยากหนาผจู้ ะไม่มธี ุดงค์เลยทีเดยี ว ไม่ข้อหนึ่งกไ็ ดข้ ้อหนงึ่ กนั อยูอ่ ยา่ งนน้ั ผู้เขียนได้
ธดุ งคอ์ ยคู่ อื นงุ่ หม่ ผา้ บงั สกุ ลุ เปน็ วตั ร ฉนั มอ้ื เดยี วเปน็ วตั ร อยปู่ า่ เปน็ วตั ร ฉนั ในบาตร
เป็นวตั ร ฉนั ในบาตรเปน็ วตั รน้ี บางคราวกม็ ีภาชนะสองบ้าง เพราะเกยี่ วกับนมเป็น
บางครงั้ บางทีก็มนี ำ�้ แกงในแกว้ บา้ ง เพราะมสี ่ิงท่ีอา้ งแอบกินกบั โรคทอ้ งผูกบ้าง แต่
ปฏบิ ตั มิ าได้ ๒๕ ปี จงึ มีภาชนะสองบา้ ง แต่ก�ำลังจะแก้กลบั คนื อยู่ เพราะพระหนุ่ม
เณรนอ้ ยเหน็ แลว้ จบั เอาเปน็ ตวั อยา่ ง ถา้ ตอนไหนหวั หนา้ หยอ่ นบา้ ง พระหนมุ่ เณรนอ้ ย
จบั เอาแบบไวไ้ มว่ างเลย ตอนไหนเครง่ เขา้ บา้ งกส็ ะอดิ สะเอยี น ถอื กนั วา่ อากาศไมค่ อ่ ยดี
เทา่ ไรนกั

ที่เขยี นอยู่เดย๋ี วน้ี พรรษา ๓๖ ลว่ งแล้ว อายขุ ัยล่วงไป ๗๐ ปี สว่ นอายพุ รรษา
มหี นา้ ทล่ี ว่ งไปกล็ ว่ งไปซะ แตท่ วา่ สำ� คญั ทกี่ เิ ลสมนั ลว่ งไปหรอื ไม่ ยงั เหลอื อยหู่ นกั เบา
เทา่ ไร หรอื หากวา่ สน้ิ ไปจากขนั ธสนั ดานแลว้ ตอ้ งขนึ้ กบั ภาพพจนแ์ ตล่ ะรายของแตล่ ะ
บุคคล จะ โอปนยิโก และ ปจั จัตตงั ผู้น่ังศาลบัลลงั ก์จะหยัง่ ดตู นเอง มฉิ ะนนั้ แล้ว
จะมัวแต่แอบกินกับอายุพรรษาไปเป็นอ�ำนาจกวาดต้อนขู่เข็ญคนให้หักดอกไม้บูชา
กเิ ลสของตน

160

ตอนนก้ี ไ็ มอ่ ยากเขยี นดอก คลา้ ยกบั วา่ ปากบอนหอนหอ้ แตก่ ม็ อบใหเ้ ปน็ กเิ ลส
ปากบอนไปซะ ปากกบ็ อน มือเขียนกบ็ อน ใจก็บอน บอนกบั บ้อนกม็ ีความหมายอนั
เดยี วกนั เพราะบอน บอ่ น บอ้ น บอ๊ น บอ๋ น มาจากใจ แตเ่ ขยี นแลว้ อา่ นแลว้ ฟงั แลว้
พจิ ารณาแลว้ มใิ หเ้ ปน็ พษิ เดอื ดรอ้ นกแ็ ลว้ ไปเทา่ นนั้ เพราะทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งคดิ แลว้ นกึ
แลว้ กล็ ว่ งไปเทา่ นนั้ เพราะจติ สงั ขารจดั เขา้ ในนามโลก นามสงั ขาร นามธรรม นามธาตุ
นามอนิ ทรยี ์ นามงั อนจิ จงั นามงั ทกุ ขงั นามงั อนตั ตา กนั ดๆี นเี่ อง อยา่ งปฏเิ สธไมไ่ ด้
รู้เขยี นรู้ลบ รไู้ ดร้ ู้เสยี รเู้ กดิ รู้ตาย รู้ไปหลาย รไู้ มเ่ กิดรไู้ ม่ตาย รไู้ ปมากกไ็ มเ่ ป็นไร
แตร่ ะวงั อยา่ ไดเ้ ดอื ดรอ้ น แตร่ อ้ นดบั ไปแลว้ กม็ ไิ ดร้ ะวงั ยาก แตถ่ า้ มอี ยใู่ นใจ กต็ อ้ งระวงั
ตอ้ งรอ้ นแทๆ้ การระวงั เปน็ การไมล่ มื ตวั ของผยู้ งั ไมพ่ น้ เพราะโชกโชนปฏบิ ตั อิ ยู่ แตท่ า่ น
ผ้พู ้นไปแล้ว จะต้องระวังทำ� ไม เพราะไม่มโี ทษ ผทู้ ่มี โี ทษอยกู่ ็ตอ้ งระวัง ถ้าไมร่ ะวงั
มนั ผดิ จรงิ ๆ แตบ่ างสงิ่ บางกรณเี กย่ี วกบั โลกวชั ชะกต็ อ้ งรกั ษาตามพระวนิ ยั แตก่ ไ็ มต่ อ้ ง
หนกั ใจในพระบญั ญตั ิ เพราะพระบรมศาสดาบญั ญตั ไิ วแ้ ลว้ บรบิ รู ณไ์ มบ่ กพรอ่ ง และ
บางท่านชอบกล่าวว่า ทำ� ไมจงึ ไมท่ ำ� สังคายนาอกี เล่า

ผู้เขียนตอบว่า พระไตรปิฎกบริบูรณ์อยู่ ไม่บกพร่องแล้ว ไม่ใช่ขาดเขินเลย
ทา่ นผใู้ ดเหยยี บหลมุ ถา่ นเพลงิ กป็ ลอ่ ยใหห้ ลมุ ถา่ นเพลงิ สงั คายนาเอา ทางดตี รงกนั ขา้ ม
กรรมและผลของกรรมท่ีท�ำดีและช่ัวย่อมสังคายนาปวงสัตว์โลกอยู่ไม่มีกลางวัน
กลางคนื เลย อยทู่ กุ ลมปราณก็วา่ ได้ อย่ทู กุ ขณะจิตกไ็ ม่ผิดอกี เพราะเหตุจติ ผลจิต
มีอยู่ในปัจจุบันแล้ว ไม่ต้องสาวโยงไปอดีตอนาคตก็ได้ เพราะพระไตรปิฏกฝ่าย
สงั คหนยั ยน่ ลงมาในปจั จบุ นั จติ ปจั จบุ นั ธรรมอนั เปน็ ฝา่ ยเหตแุ ละผลแลว้ ฝา่ ยทท่ี รงอยู่
นอกเหตนุ อกผลเล่า กย็ ่นลงในเอกธัมโม ในปจั จบุ นั ธรรม อนั ไม่ตาย ไม่เกิด ไมด่ บั
ไม่แปรแล้ว ถ้าสงสัยตอนไหนๆ แล้ว ความสงสัยตอนนั้นก็เป็นเหตุและเป็นผล
วนกันอยู่ ไม่มีเง่ือนตน้ เง่ือนปลาย ความไม่สงสยั ตอนตน้ เปน็ ภูมขิ องพระโสดาบัน
ความไมส่ งสยั ตอนทา้ ยเปน็ ภมู ขิ องพระอรหนั ต์ แยกความสนิ้ สงสยั ออกเปน็ ๔ ชน้ั ตาม
ชน้ั ของมรรคและผลไปเปน็ ตอนๆ สจั ธรรมกเ็ ชน่ กนั แตก่ ข็ น้ึ อยกู่ บั นสิ ยั ทา่ นผแู้ ตกฉาน
ในธรรมเป็นเกณฑ์ ไมท่ ว่ั ไปทกุ รูปทุกนามผกู ขาดเลย

161

อาหารบิณฑบาตประเสรฐิ กว่า

ปรารภเรอื่ งองคท์ า่ นหลวงปทู่ ไ่ี ดเ้ ขยี นขา้ มไปบา้ งเพราะระลกึ ไดท้ หี ลงั ในระหวา่ ง
ท่านป่วยชราภาพซัดเซไปบิณฑบาตในบ้านอยู่น้ัน วันหนึ่งครูบาทองค�ำกระซิบกับ
ผเู้ ขยี นดว่ นๆ วา่ “ตอนองคท์ า่ นหลวงปอู่ อกจากหอ้ งแลว้ ตอนเชา้ องคท์ า่ นลงไปจงกรม
ก่อนบิณฑบาต ท่านเป็นผู้รักษาไฟอ้ังโล่ท่ีเอาไปต้ังไว้ที่สุดของทางจงกรมทางละอัน
เพราะระวงั คอยดแู ล เกรงองคท์ า่ นจะเซลม้ ใสแ่ ละกไ็ ดร้ กั ษาอยใู่ กลอ้ งคท์ า่ น ทา่ นจง
กราบเทา้ เรยี นถวายวา่ คณะสงฆท์ กุ ถว้ นหนา้ ไดพ้ รอ้ มใจกนั แลว้ วา่ ขอกราบเทา้ เรยี น
ถวายองคห์ ลวงปไู่ มต่ อ้ งลำ� บากไปบณิ ฑบาต คณะสงฆจ์ ะหามาเลย้ี ง ดงั นี้ เพราะเปน็
เวลาสองต่อสอง ไมม่ อี งคอ์ ่นื ร่วมดว้ ยในกาลเทศะอยา่ งนนั้ ”

ตอบครูบาทองค�ำยอ่ ๆ ว่า “เออ ผมก็จะลองกราบเทา้ เรยี นถวายนิมนตด์ ู แต่
รอ้ ยเปอรเ์ ซน็ ตท์ เี ดยี ว ผมเขา้ ใจวา่ องคท์ า่ นคงไมย่ อมรบั และผมเขา้ ใจวา่ พระอาจารยม์ หา
คงได้พิจารณาแลว้ ถ้าหากว่ามปี ระตูจะได้ พระอาจารยม์ หาคงกราบเทา้ เรยี นถวาย
ก่อนพวกเราแล้ว และพระอาจารย์มหาจะไม่วิจารณ์พวกเราว่าอวดฉลาดข้ามกราย
องคท์ ่านดอกหรือ”

ครบู าทองคำ� ตอบวา่ “ไมเ่ ปน็ ไรดอก ผมรบั รองได้ ผมจะแกช้ ว่ ยดอก ถา้ หากวา่
ผดิ พอคอขาดบาดตายตอ่ พระอาจารยม์ หา ผมจะรบั เอาวา่ เปน็ ดว้ ยผมดอก ถา้ โอกาส
วนั นไี้ มท่ นั พรงุ่ นจี้ งึ กราบเรยี นนมิ นตใ์ นยามองคท์ า่ นจงกรมตอนเชา้ ทอ่ี ยสู่ องตอ่ สอง
นนั้ แหละ เพราะไมม่ ใี ครคอยฟงั อยดู่ ว้ ย เพราะหมรู่ วมคอยอยศู่ าลาหมดแลว้ ในตอน
นนั้ ”

162

แตว่ นั นน้ั ไมไ่ ดก้ ราบเทา้ เรยี นถวาย เพราะยงั ไมไ่ ดเ้ ลา่ ถวายพระอาจารยม์ หาฟงั
ทง้ั เวลากไ็ มอ่ ำ� นวย เพราะถา้ วนั ไหนองคห์ ลวงปอู่ อกหอ้ งสายบา้ ง องคท์ า่ นกเ็ ดนิ จงกรม
ไมน่ าน เพราะจวนบณิ ฑบาต แตส่ ดุ ทา้ ยกเ็ ลยไมไ่ ดก้ ราบเรยี นพระอาจารยม์ หาเลย และ
เจา้ ตวั ผจู้ ะกราบเทา้ เรยี นถวายอาราธนานมิ นตก์ น็ กึ ในใจอยแู่ ลว้ วา่ คงไมไ่ ดเ้ ปน็ อนั ขาด
แตด่ ว้ ยความเคารพครบู าทองคำ� กจ็ ะปฏบิ ตั ติ ามลองดู สว่ นครบู าวนั นน้ั ทา่ นฟงั แลว้
พจิ ารณาอย่ไู มว่ ่ากระไร

คำ� วา่ ครบู าทองคำ� ครบู าวนั นนั้ ในสมยั นนั้ ผเู้ ขยี นเรยี กทา่ นทงั้ สองนว้ี า่ ครบู า
แบบเต็มภมู ิ เพราะถือวา่ ทา่ นทง้ั สองนม้ี ีพรรษาเหนอื ตนไปไม่ถึง ๕ พรรษา เพราะ
ม่งุ เรยี กตามพระวนิ ยั ไม่ม่งุ เรียกตามธรรมาจารย์ เหมือนพระสารบี ุตรกับพระอสั สชิ

ครน้ั เปน็ วนั ใหม่ ไดเ้ วลาหมพู่ ระสงฆส์ ามเณรไปรวมกนั ทศ่ี าลารอคอยจะเตรยี มตวั
ไปบณิ ฑบาต องคห์ ลวงปเู่ ดนิ จงกรมกลบั ไปกลบั มาอยู่ ไดน้ ง่ั คกุ เขา่ อยกู่ บั พนื้ ดนิ ใกลๆ้
คอยดแู ลองคท์ า่ นอยู่ เพราะเมอื่ องคท์ า่ นปว่ ยทวเี ขา้ กไ็ ดร้ กั ษาไฟอยใู่ กล้ เกรงจะลม้ ใส่
ยกมอื ประนมพรอ้ มทงั้ คกุ เขา่ อยกู่ บั พนื้ ดนิ วา่ “ขอโอกาสกราบเรยี นถวายพอ่ แมค่ รบู า-
อาจารย์ คณะสงฆพ์ รอ้ มใจกนั ใหเ้ กลา้ กราบเทา้ เรยี นถวายพอ่ แมค่ รบู าอาจารย์ ขอนมิ นต์
วงิ วอนมใิ หไ้ ปบณิ ฑบาตเพราะชราภาพแลว้ เดนิ ซดั ไปเซมา คณะสงฆจ์ ะรบั อาสาบณิ ฑบาต
มาเลยี้ งดอกขอรบั ”

ทนี อี้ งคห์ ลวงปยู่ นื กางขาออกนดิ หนอ่ ย กรณุ ากลา่ วบรรจงพรอ้ มทง้ั แยบคายวา่

“พวกเราเปน็ ขเี้ ทา้ ขเ้ี ลบ็ ของพระองคเ์ จา้ ไปบณิ ฑบาตแตล่ ะวนั มนั ไดป้ ระโยชนอ์ ยู่
เรากไ็ ดข้ อ้ วตั ร เขามาใสบ่ าตร เขากไ็ ดจ้ าควตั รทานวตั รของเขา ขา้ วกอ้ นใดอาหารกบั
อนั ใดตกลงในบาตร ขา้ วและกบั อนั นนั้ เปน็ ของประเสรฐิ กวา่ รบั นมิ นตห์ รอื เขาตามมาสง่
ในวดั ในมหาขันธแ์ ละปฐมสมโพธิกถาได้กลา่ วไว้ชดั แล้ว และผวั เดยี วเมยี เดยี วกับ
ลูกน้อยบางคนเขาก็ได้ใส่บาตร ไม่ได้มีเวลามาวัด และลูกเล็กเด็กน้อยมันตามแม่
มนั มาใสบ่ าตร มนั กไ็ ดก้ ราบไหวก้ เ็ ปน็ บญุ จติ บญุ ใจของมนั กเ็ รยี กวา่ เราโปรดสตั วอ์ ยู่
ในตวั แล้ว ขึ้นธรรมาสนจ์ ึงจะว่าโปรดสตั ว์มนั ก็ไมถ่ กู ละ

163

อีกประการหน่ึง พระบรมศาสดาของพวกเราทรงฉันบิณฑบาตของนายจุนทะ
กมั มารบตุ รแลว้ กท็ รงเสดจ็ ถงึ เมอื งกสุ นิ าราในวนั นนั้ รงุ่ เชา้ กท็ รงสน้ิ พระชนมายุ เรยี กได้
อยา่ งง่ายๆ ว่า พระองคเ์ สด็จบิณฑบาตจนถงึ วันสิน้ ลมปราณ ได้ทอดสะพานทอง
สะพานเงนิ สะพานอรยิ ทรพั ย์ ไวใ้ หพ้ วกเราแลว้ ถา้ พวกเราไมร่ บั มรดกของพระองค์
ท่านก็เรยี กวา่ ลืมตัวประมาท พวกเราก็ต้องพิจารณาคำ� น้นั ใหล้ กึ ซึ้ง”

164

หลวงป่สู ัง่ ไว้

ผู้เขียนเมื่อได้ฟังอย่างนั้น ในขณะน้ันน้�ำตาก็ไหลออกมาเพราะประทับใจและ
เตม็ ตื้นมากนกั แล้ว กพ็ อดไี ดเ้ วลาไปบิณฑบาต ไม่ว่าแต่เทา่ น้ี ขณะท่ีองคห์ ลวงปู่ไป
บณิ ฑบาตไมไ่ ด้ ยอมฉนั อยทู่ รี่ ะเบยี งกฏุ นิ นั้ พอถงึ เวลาจงกรม องคท์ า่ นกเ็ ดนิ จงกรม
วนไปมารอบระเบยี ง เอาไมเ้ ทา้ คอยสกั พน้ื ระเบยี งปอ๊ กแปก๊ ๆ อยู่ สลดสงั เวชและถงึ ใจ
มากนักหนาโลกาเอ๋ย

ครน้ั ลว่ งเวลามา ๒๔๙๒ ปวารณาออกพรรษาแลว้ องคห์ ลวงปกู่ ช็ ราพาธทวเี ขา้
พระอาจารยม์ หากไ็ ดจ้ ดั พระเณรเปลย่ี นวาระเขา้ เฝา้ รอบๆ ใตถ้ นุ และรอบกฏุ ขิ ององค์
หลวงปู่ แต่ครบู าวนั ครบู าทองคำ� และข้าพเจ้าไม่ไดเ้ ปลี่ยน เพราะได้ถูกนอนเฝา้ ท่ี
ขา้ งบนระเบยี งกฏุ อิ งคท์ า่ น และกม็ งี านประจำ� ตวั คนละกระทง ขา้ พเจา้ มงี านประจำ� ตวั
รกั ษาไฟอัง้ โลแ่ ละคอยชำ� ระอาจมของหลวงปู่

วันหน่ึงตอนกลางวัน ประมาณส่ีโมงเช้ากว่าๆ หลวงปู่องค์ท่านส่ังข้าพเจ้าว่า
“ถา้ เราตาย รบี พากนั เผาโดยดว่ นเนอ้ ” ปรารภแบบเยน็ ๆ เบาๆ “ถา้ เผาแลว้ จงสง่ ขา่ วไปหา
ทา่ นเจ้าคณุ ธรรมเจดีย์และญาตขิ องเรา” กลา่ วส้นั ๆ เบาๆ แล้วองคท์ ่านหลวงปกู่ น็ งิ่
ภาวนานอน ไมร่ จู้ ะกราบเรยี นอยา่ งไร เพราะอา้ ยกเิ ลสนำ้� ตามนั ออกมาแลว้ ทงั้ เอยี้ วคอ
ไปแลดูครบู าวัน ครูบาวันกแ็ ลดปู ระสบสายตากัน แตต่ า่ งคนก็ตา่ งนง่ิ อย่เู งยี บๆ

165

อกี สกั ครหู่ ลวงปอู่ งคท์ า่ นบอกเยน็ ๆ วา่ “เอาไฟไปดบั เสยี เพราะรอ้ นบา้ งแลว้ พากนั
ไปพกั จะอยอู่ งคเ์ ดยี วไปสกั พกั กอ่ น” แลว้ กพ็ ากนั เกบ็ สงิ่ ของเงยี บๆ ไมใ่ หก้ ระเทอื น
กอ๊ กๆ แกก๊ ๆ กราบแลว้ กพ็ ากนั ลงมาพรอ้ มกนั ครบู าวนั กข็ น้ึ กฏุ ขิ องทา่ น สว่ นขา้ พเจา้ ยงั
ไมข่ นึ้ กฏุ ขิ องตน ทอดสายตาแลดกู ฏุ ขิ องพระอาจารยม์ หา เหน็ องคท์ า่ นพกั อยธู่ รรมดา
ก็ข้นึ ไปกราบองค์ทา่ น พรอ้ มทงั้ ประนมมือขอโอกาสกราบเรยี นวา่

“วนั นอี้ งคห์ ลวงปกู่ ลา่ ววา่ ถา้ เราตาย รบี พากนั เผาโดยดว่ นเนอ้ ปรารภแบบเยน็ ๆ
เบาๆ ถา้ เผาแลว้ จงสง่ ขา่ วไปหาทา่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี แ์ ละญาตขิ องเรา แลว้ องคห์ ลวงปู่
ก็นงิ่ ภาวนานอน พออีกสักครูก่ ็บอกใหเ้ อาไฟออกเพราะรอ้ นแล้ว แลว้ กบ็ อกใหพ้ วก
กระผมลง วา่ จะพกั อยอู่ งคเ์ ดยี วสกั พกั กอ่ น ดงั นี้ พวกกระผมเกบ็ ของเรยี บรอ้ ยแลว้
กล็ งมาพรอ้ มกนั กบั ครบู าวนั กระผมกไ็ มไ่ ดพ้ ดู กบั ครบู าวนั อนั ใดเลย ตา่ งคนกต็ า่ งนง่ิ
แต่มองดหู น้ากนั อยู่เงียบๆ ขอรับ”

พระอาจารยม์ หาถามวา่ “ในเวลาองคห์ ลวงปสู่ ง่ั นนั้ คณุ อยทู่ ไ่ี หน” เรยี นวา่ “เฝา้ ไฟ
อย่ใู กล้เตยี งขององคห์ ลวงปู่ เพียงหวั เขา่ หลวงปู่”

องคท์ า่ นถามตอ่ ไปว่า “ทา่ นวันอยไู่ กลใกล้ขนาดไหนและทำ� อะไรอยู”่ เรียนว่า
“ครูบาวนั อย่หู า่ งหลวงปู่ประมาณวากวา่ ๆ มธี ุระเลอื กยาอยู่เงียบๆ”

องคท์ ่านถามตอ่ ไปอกี ว่า “ท่านวันไดย้ นิ หรือไม่” เรยี นตอบวา่ “ได้ยนิ เพราะ
กระผมไดเ้ อย้ี วคอคนื ไป แลดคู รบู าวนั ประสบตากนั อยู่ ครบู าวนั กไ็ มพ่ ดู อะไร กระผม
ก็ไมพ่ ดู อะไร ต่างคนก็ต่างเงยี บ แลว้ การส่งั เสียขององค์หลวงปูจ่ ะเปน็ ความจรงิ หรอื
ประการใดขอรบั ”

พระอาจารย์มหาตอบว่า “จรงิ ทีเดยี ว” กราบเรียนวา่ “ถ้าเปน็ ความจรงิ ไฉนจึง
สง่ั กระผมเปน็ คำ� ฝากไปหาครบู าวนั ในตวั เพราะครบู าวนั นง่ั อยใู่ กลอ้ งคห์ ลวงปมู่ ากกวา่
กระผม และกระผมเลา่ กเ็ ปน็ ผนู้ อ้ ยพรรษา และไฉนจงึ ไมส่ ง่ั พระอาจารยม์ หา ซง่ึ เปน็
พระผู้ใหญ่องค์ส�ำคญั ขอรบั ”

166

พระอาจารย์มหาตอบว่า “ไม่เป็นอย่างน้นั ดอก เพราะองค์ทา่ นมองเหน็ ว่าพระ
องค์นเี้ ปน็ พระอ่อนพรรษาก็จริง แต่แก่อายุ ทง้ั ยอมตัวเข้าใกลเ้ ราด้วย ขณะนเ้ี ราไม่
ตอ้ งการพดู มากหลายคำ� ถา้ หากวา่ เราพดู กบั พระผใู้ หญ่ มนั จะตอ่ เราหลายคำ� เธอหาก
จะนำ� คำ� อนั นไี้ ปเลา่ ใหพ้ ระผใู้ หญฟ่ งั เอง เพราะเธอเปน็ ผสู้ นใจอยแู่ ลว้ อนั นเ้ี ปน็ เพยี ง
เริ่มธรรมาสนเ์ ฉยๆ ดอกหล้า พร่งุ น้จี ะพดู ดงั กว่านีใ้ หค้ ณะสงฆ์ได้ยินหมดละ เผงๆ
ทีเดยี วละ”

ครั้นเป็นวันใหม่ ฉนั เสร็จแลว้ คณะสงฆ์ข้นึ ไปมากจนหมดวดั ก็ปรารภขึ้นดงั
พร้อมท้ังบรรยายกว้างขวางออกไปละเอียดอย่างท่ีพระอาจารย์มหาทายไว้ไม่ผิดเลย
องคท์ า่ นหลวงปบู่ รรยายออกไปวา่ “ถา้ เอาเราไวน้ านกจ็ กุ จกิ มาก ลกู ๆ หลานๆ จะจกุ ๆ
จกิ ๆ ขาดจากวเิ วก จะมแี ตว่ วิ นุ่ และสตั วก์ จ็ ะตายมาก และพระองคเ์ จา้ ก็ ๗ วนั เทา่ นนั้
ถวายพระเพลงิ ถงึ กระนนั้ มลั ลกษตั รยิ เ์ ขากเ็ อาไฟไปถวายพระเพลงิ ตงั้ แตว่ นั ท่ี ๓ แลว้
แตไ่ ฟไมต่ ิดถึง ๓ ครง้ั เพราะเทวดาบันดาลไม่ให้ไฟติด เพราะคอยพระมหากสั สปะ
กำ� ลงั เดนิ ทางมาพรอ้ มดว้ ยภกิ ษุ ๕๐๐ นเี้ ราเปน็ ขเี้ ลบ็ ขเ้ี ทา้ ของพระองคเ์ จา้ เกบ็ เราเอาไว้
กค็ อยพระมหากัสสะเหมน็ เทา่ น้นั ” ดังน้ี สั่งซำ้� ๆ ซากๆ ด้วย

ผู้เขียนมิได้มีความสงสัยในองค์หลวงปู่ว่าจะมักใหญ่ใฝ่สูงในเรื่องฌาปนกิจ
อันใดเลยแม้แต่นิดเดยี ว เพราะได้เห็นดว้ ยตาเตม็ ตา เห็นดว้ ยใจเตม็ ใจ และพยาน
อันสำ� คัญก็คือพระอาจารยเ์ นียม ๑๘ พรรษา พระอาจารยส์ อ ก็ ๙ พรรษา ๒ ศพ
ปเี ดยี วกนั สน้ิ ลมปราณวนั ไหนกเ็ ผาวนั นน้ั อกี ดว้ ย ทอ่ี งคห์ ลวงปอู่ ยากจะเผาลกู ศษิ ย์
แบบหนงึ่ แลว้ อยากจะใหท้ ำ� ใหอ้ งคท์ า่ นแบบหนงึ่ นน้ั เปน็ ไมม่ เี ลย เปน็ เรอ่ื งผอู้ ยขู่ า้ งหลงั
ตา่ งหากทเี่ อาไวช้ า้ เพราะมมี ตจิ ะสรา้ งโบสถไ์ วใ้ หเ้ ปน็ ปชู นยี สถานทางวตั ถเุ พอื่ ใหถ้ งึ ใจ
แกป่ ระชาชนผหู้ นกั ไปในทางวตั ถุ พระฝา่ ยปฏบิ ตั กิ เ็ ลยกลายเปน็ ปญั หาโบสถม์ าจนทกุ
วนั น้ีละเอ๋ย

167

วิทยุ ตเู้ ยน็ โทรทศั น์

เร่ืองท่ีควรเขียนไว้เพื่อได้ค�ำนึงก็คือ หลวงปู่ม่ันไม่นิยมส่งเสริมการท�ำครัว
เกย่ี วกบั อาหารในวดั จนเปน็ ประเพณนี จิ วตั ร องคท์ า่ นอา้ งในพระวนิ ยั อยา่ งซำ�้ ๆ ซากๆ วา่
พระองคท์ รงพระอนญุ าตในเวลาขา้ วยากหมากแพง ครงั้ สมยั เมอื งเวสาลไี ปบณิ ฑบาต
ไม่ได้ แมข้ า้ วไมพ่ ออิ่มเลย สว่ นกับนน้ั ไม่วา่ เสยี แลว้ คลา้ ยกบั วา่ กบั ข้าวนน้ั เปน็ ของ
ประเดน็ ตา่ งหาก ครง้ั พทุ ธกาลคลา้ ยกบั วา่ ถา้ มขี า้ วพอจะอมิ่ ไปเปน็ วนั ๆ แลว้ คงถอื วา่
พอเป็นไป พอปฏบิ ตั ิได้ ไม่ถือวา่ ฝืดเคือง

แตท่ กุ วนั นพี้ ญาลนิ้ พญารสมนั เปน็ เจา้ ใหญน่ ายโตเสยี แลว้ ถา้ วดั ไหนมโี รงครวั
อาหารใหญ่ๆ มีงบประมาณประจำ� วันมากๆ อากาศก็เหมาะถกู กับกเิ ลส ข้าชอบนัก
และมนี มมโี อวลั ตนิ ฉนั กอ่ นบณิ ฑบาต แลว้ จงึ ไปบณิ ฑบาต ยงิ่ ถกู นสิ ยั ขา้ มาก กลางวนั
ก่อนเทย่ี งกม็ ีอาหารวา่ งนี้ แหม มันยิง่ เหมาะมาก ดา้ นน้�ำเปดิ เอาที่ไหนกไ็ ด้ ไมต่ ้อง
ลำ� บากตัก โทรทัศน์ วทิ ยุ ตูเ้ ยน็ พัดลม หนงั สือพมิ พไ์ ทยรัฐ สยามรัฐ หรืออะไร
ขา้ รทู้ งั้ นนั้ เจา้ สวั คนนน้ั อยถู่ นนนนั้ บา้ นเลขทเี่ ทา่ นน้ั เทา่ น้ี อาเสย่ี กเ็ หมอื นกนั ผมกร็ ู้
ทงั้ น้นั ผมไม่โงค่ นหรอก สำ� หรับผมไมต่ อ้ งมาหาอุบายโม้และโฆษณาตอ่ หนา้ ผมเลย
ผมนนั้ มนั ไมค่ อ่ ยไดฉ้ นั ขา้ วอยวู่ ดั หรอก เขามาเขา้ ควิ เอาผมไปฉนั ทกุ หนทกุ เเหง่ ประสา
พวกคณุ อะไรไปบณิ ฑบาตหลอ็ งจอ๋ งๆ จึงมีผู้ใสใ่ ห้บา้ งปอ๊ กแป๊กลง บางวันกพ็ อได้
ฉนั บา้ ง บางวนั กท็ อ้ งพรอ่ ง การไปเทยี่ วตา่ งทศิ เลา่ ผมตอ้ งการไปเครอื่ งบนิ รถไฟ รถทวั ร์
อะไรๆ ไดท้ งั้ นนั้ สง่ิ เหลา่ นม้ี นั มใี นธรรมบท บทแหง่ ธรรมในครงั้ พทุ ธกาล กรรมฐานทกุ

168

วนั นม้ี กั จะไปแถวนเี้ ปน็ สว่ นมาก สว่ นครอู าจารยใ์ นฝา่ ยเหตทุ อี่ งคท์ า่ นไดส้ รา้ งสมมาไว้
แลว้ บรบิ รู ณ์ ผลฝา่ ยรบั เปน็ มาเอง องคท์ า่ นเสวยไปแบบโอนาโอนา ไมไ่ ดล้ มื ตวั ลมื ตน
พวกทยี่ งั ไมร่ อู้ โิ หนอ่ เิ หนก่ ำ� ลงั ออกลงิ ออกลาย ประสงคใ์ สอ่ ยากใหไ้ ดล้ าภ ยศ สรรเสรญิ
เยนิ ยอเหมอื นครบู าอาจารย์ ถา้ คราวไดไ้ ปเทย่ี ววเิ วกเลา่ กไ็ ปเทย่ี วววิ นุ่ หาเทศนเ์ อาคน
ส่วนตนเองเป็นยังไงช่างมัน มันเป็นอยู่อย่างน้ีเป็นส่วนมากทีเดียว เขาโคกับขนโค
มนั เปน็ ของเหลอื วสิ ยั อจนิ ไตย ตอ้ งเขยี นไวบ้ า้ ง ตา่ งเปน็ เหตใุ หไ้ ดส้ อนตวั ผเู้ ขยี น เพราะ
กันลมื ตน ลมื ใจ ลมื ธรรม การเขียนจะให้ถกู ใจคนทว่ั โลกยอ่ มท�ำไมไ่ ด้

ยอ้ นคนื มาปรารภในเวลาองคห์ ลวงปเู่ รม่ิ ปว่ ย อนั เปน็ สำ� คญั ในอนาคตงั สญาณ
ญาณในส่วนอนาคต องคท์ า่ นทายไวว้ า่ “เราสน้ิ ลมปราณไปน้ี ต่างองคก์ ต็ า่ งออกลิง
ออกลาย แยง่ กระดูกกัน และก็จะไมล่ งกนั ในฝ่ายปฏปิ ทา เพราะตา่ งก็จะอ้างกันว่า
เราไดฟ้ งั มาอยา่ งนี้ เราไดใ้ กลช้ ดิ อยา่ งนี้ แลว้ กแ็ ตกกนั ไมล่ งกนั ไดส้ นทิ จะพอพดู กนั ได้
แต่ภายนอก สว่ นภายในตา่ งฝา่ ยกต็ ่างเพง่ กนั ว่าปนี เกลียว”

ผเู้ ขยี นไดย้ นิ กบั หอู ยบู่ อ่ ยๆ ซำ้� ๆ ซากๆ กอ่ นเวลาฉนั อาหารนน้ั แหละ องคห์ ลวงปู่
ชอบปรารภในตอนนถี้ งึ ๖-๗ วนั ตดิ ๆ กนั หลวงปกู่ ลา่ วตอ่ ไปอกี วา่ “พระอาจารยเ์ สาร์
สน้ิ ลมปราณแลว้ ตา่ งแยง่ กระดกู กนั บางทา่ นเอาไปปน่ ปน้ั รปู พระ ทำ� เปน็ ของลางของขลงั
สารพดั จะพรรณนาได้ แตม่ นั่ มไิ ดเ้ อาอะไรเลย เพราะถอื วา่ เรามใิ ชห่ มาพอทจี่ ะแยง่ กระดกู
พวกทอ่ี ยกู่ บั เราเดย๋ี วน้ี ผปู้ รารถนาดกี ม็ ี ผจู้ ะออกลงิ ออกลายปนี เกลยี วในอนาคตกม็ ี
ถา้ เราพดู มากกจ็ ะเดอื ดรอ้ น ถา้ เราไมพ่ ดู กค็ ลา้ ยกบั วา่ เราไมร่ ใู้ นอนาคต และกไ็ มม่ ผี กู้ ลา้
พดู อีก”

ฝา่ ยบรรดาลกู ศษิ ยท์ ไ่ี ดย้ นิ แลว้ พอลบั หลงั องคห์ ลวงปแู่ ลว้ กจ็ บั กลมุ่ กนั กระซบิ
กันว่า “ถ้าท่านองค์ใดไม่ได้ฟังเทศน์ตอนนี้ การอยู่กับองค์ท่านก็ไม่มีความหมาย
อะไรเลย เพราะเทศน์ซำ้� ๆ ซากๆ อยู่ ๖-๗ วนั แลว้ ” ฝ่ายผู้เขียนก็พิจารณานิ่งอยู่
แต่นกึ ในใจไวว้ ่า ถา้ เราไมต่ ายกอ่ น องค์ไหนจะเทจ็ จรงิ เพียงไรในสว่ นน้ี เราก็จะได้
เหน็ เราดว้ ย ท่านผอู้ น่ื ดว้ ย ผลสดุ ทา้ ยก.็ ..แตก่ ไ็ มก่ ลา้ เขียน เพราะจะ...

169

ขอ้ อน่ื ยงั มอี ยอู่ กี องคห์ ลวงปไู่ มร่ บั คนเขา้ บวชไดง้ า่ ยๆ การบวชทกี่ ะวนั ลาสกิ ขา
ไวแ้ ลว้ หลวงปไู่ มร่ บั แมก้ ารลาสกิ ขาในสำ� นกั กไ็ มม่ ี พระเณรในวดั ถา้ ทา่ นผใู้ ดคยุ กนั
ปรารภในการลาสิกขาก็ดี หรือปรารภเร่อื งโลกเพ่ือเพลนิ ในโลกกด็ ี องคห์ ลวงปรู่ ู้จกั
กไ็ ลห่ นมี ใิ หอ้ ยดู่ ว้ ย องคใ์ ดทะเลาะกนั ในสำ� นกั กไ็ ลห่ นที งั้ สองดว้ ย เพราะองคห์ ลวงปู่
ถอื วา่ ทปี่ ฏบิ ตั ภิ าวนามใิ ชท่ ที่ ะเลาะกนั เพราะมใิ ชโ่ รงศาลจะมาไตส่ วน ขอใหเ้ อาคดไี ป
วา่ กนั ในฝา่ ยพระเถระ ทางปกครอง ทางปรยิ ตั นิ นั้ เถดิ ดงั น้ี บางเรอื่ งบางกรณกี พ็ จิ ารณา
ระงบั อยใู่ นทนี่ น้ั เสรจ็ แตน่ อ้ ยรายทส่ี ดุ แทๆ้ จงึ จะรบั พจิ ารณาให้ ขา้ พเจา้ ผเู้ ขยี นเหน็ วา่
อบุ ายนี้ดี เพราะตา่ งรปู ตา่ งนามตา่ งพรรคต่างพวกจะไม่จับกลุ่มทะเลาะกนั จะมุ่งแต่
ประโยชน์ต่อกันทางสุภาพ อะไรไม่เหมาะสมก็จะเอาแต่ความดีอันมีเหตุผลพอมา
ปรารภกัน จะไม่เอาความโกรธออกหนา้ ในการตักเตอื นกันและกนั จะรบั ฟงั ของกัน
และกนั จะรบั พจิ ารณาของกนั และกนั จะไมช่ งิ ดชี งิ เดน่ กนั เอาแพเ้ อาชนะ เพราะมงุ่ ความ
เป็นธรรม มุง่ ความสงบเปน็ ใหญ่

องคห์ ลวงปมู่ นั่ มนี โยบายแยบคายลกึ ลบั ในทางตรงและทางออ้ ม สอนลกู ๆ หลานๆ
แยบคาย

170

คำ� อธษิ ฐานของหลวงปหู่ ลา้

องคห์ ลวงปไู่ ดเ้ ทศนป์ กณิ กะตา่ งๆ อนั เปน็ คตทิ ปี่ ระเปรยี ว ไมอ่ ดื อาด ไมม่ กั ใหญ่
ใฝส่ งู ไมน่ อนใจ ไมเ่ กยี จครา้ น ไมท่ ะนงตวั วา่ ๒๕ พรรษา ยงั ไมไ่ ดท้ งิ้ บาตรใหใ้ ครลา้ ง
ใหเ้ ปน็ นจิ วตั รเลย ทำ� เอง และยงั ไมเ่ อาพระเอาเณรเอาตาปะขาวไว้อปุ ฏั ฐากเลย

ขอ้ นก้ี ส็ ำ� คญั ควรเขยี นไว้ พระปฏบิ ตั ทิ กุ วนั นี้ ชะรอยจะตรงกนั ขา้ มเปน็ สว่ นมาก
สว่ นผเู้ ขยี น ๑๕ พรรษา จงึ มผี ลู้ า้ งบาตรใหบ้ า้ ง สว่ นตกั นำ้� ใชน้ ำ้� ฉนั นี้ หามกด็ ี คอนกด็ ี
หวิ้ กด็ ี ๑๘ พรรษา ยงั ไดท้ ำ� อยู่ และทกุ วนั นก้ี ย็ งั ไดก้ ำ� ชบั ดแู ลในการเปดิ ปดิ อยู่ ทงิ้ ไมไ่ ด้
เพราะอาศยั นำ�้ ฝนไหลจากหลงั คาลงสถู่ งั และถา่ ยเทถงั อยสู่ งู ลงไปสทู่ ต่ี ำ�่ แมก้ ระโถน
ทเ่ี อาไวป้ ระจำ� ตอนกลางคนื ตน่ื เชา้ กไ็ มผ่ กู ขาดวา่ จะเอาไวใ้ หแ้ ตล่ กู ๆ หลานๆ ลา้ งให้
ลา้ งกอ่ นไปกม็ ี แตไ่ มเ่ อาความผดิ กบั ลกู ๆ หลานๆ ถอื วา่ เคยทำ� ตดิ นสิ ยั และเปน็ การไม่
นอนใจวา่ ตนเปน็ เถระเตม็ ภมู ิ และเปน็ การแบง่ เบากบั ลกู ๆ หลานๆ อกี ดว้ ย การกวาด
ลานวดั ตกอายุ ๗๐ ล่วงเขา้ ไมค่ อ่ ยจะทันพระเณรเสียแลว้ เพราะบางทกี ม็ แี ขกมา
พูดด้วย ถ้าจะบอกเขาและดดุ า่ บ้างก็วาสนาตนไมพ่ อ ก็กลวั เขาผูกเวร และบางทกี ็
ไสเ้ ลอื่ นลง กจ็ ำ� ไดน้ อนหงายลงชนั หวั เขา่ ใหไ้ สเ้ ลอ่ื นขน้ึ แลว้ รดั ดว้ ยเขม็ ขดั หวั งเู หา่ กอ่ น
แลว้ จงึ ไดไ้ ปกวาดลานวดั กก็ นิ เวลาไปบา้ ง ถา้ รดั ไวห้ มดวนั หมดคนื ลมกเ็ ดนิ ไมส่ ะดวกอกี
มันเปน็ สรรพทุกขไ์ ปทางหนงึ่ อีก

ไสเ้ ลอ่ื นน้ี รงั ควานขนึ้ แต่ พ.ศ. ๒๕๒๒ อายุ ๖๘ พรรษา ๓๔ วา่ นๆ ยาๆ สมนุ ไพร
จปิ าถะสารพดั ไมห่ าย และกม็ ที ่านผูม้ ศี รัทธาเมตตาจะพาไปผา่ ตัดให้ โดยมไิ ดใ้ หล้ ง

171

ทนุ ทรพั ยแ์ ตป่ ระการใดๆ กม็ อี ยหู่ ลายรายแลว้ และขอขอบคณุ ทา่ นทงั้ หลายเหลา่ นนั้
อยู่โดยทกุ เม่ือ เพราะเจตนาดี แต่เมอ่ื พิจารณาดเู หตผุ ลของตนแล้ว ก็มกี ารเพง่ โทษ
ตนเองวา่

ก. ฐานะของเราปา่ เถอ่ื น ไมส่ มฐานะโรงพยาบาลโกเ้ ก๋ และเปน็ ทล่ี ำ� บากแกผ่ อู้ น่ื
ตดิ ตามเฝ้า และเจา้ ตัวก็ไมส่ ะดวกหวั ใจอีก

ข. ตนอยใู่ นป่าในภูเขา คมนาคมก็ไม่สะดวก ขึน้ เขาลงหว้ ยหลวง หูหลวงตา
ผา้ ดำ� ๆ ไมม่ อี ำ� นาจวาสนาอนั ใดเลย แตส่ ำ� คญั ตวั วา่ เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั เิ ดด็ เดยี่ วในปา่ ในเขา
พอมอี ปุ สรรคเขา้ ในทางปว่ ย กท็ ำ� ขมบั หวำ่� ๆ เสน้ เอน็ เปน็ เกลยี ว หนา้ เหยี่ วๆ ไมม่ สี งา่ ราศี
ผมหงอกครง่ึ ทอ่ น ไปนอนคา้ งคนื กดี ขวางประชาชนในโรงพยาบาล อายกุ ล็ ว่ งกาลผา่ น
วัยแลว้ ขอ้ น้แี หละเพง่ โทษตนเองมาก ไมม่ ศี าลอุทธรณ์ตนเองเลย

ค. เมอ่ื ไดค้ วามเฉพาะตนเองอยา่ งนแี้ ลว้ กอ็ ธษิ ฐานซำ�้ ลงไปใหแ้ นน่ ผกู มดั ตนเอง
อกี วา่ จะไมผ่ า่ ไมต่ ดั ใดๆ ทใ่ี นโรงพยาบาลเลย มอบใหค้ ณุ หมอพระเพลงิ ตดั ผา่ อนั เปน็
อิสระผอู้ ยู่ขา้ งหลัง หรอื จะฝงั กแ็ ล้วแต่กรณี แตท่ ด่ี ินภเู ขาขุดยากคาขีห้ นิ

มปี ญั หาวา่ ไฉนจงึ เอาองคห์ ลวงปมู่ นั่ และพระอาจารยม์ หาบวั มาปะปนกบั ประวตั ิ
ของตนสุม่ ส่สี ุ่มห้าด้วย เลา่ ไปแต่เรอ่ื งของตนมไิ ด้ดอกหรอื

ตอบว่า ไมไ่ ด้ เพราะไม่สมดุลในยคุ น้ัน และก็ได้เขยี นไว้ในตอนตน้ นนั้ แล้ว
คลา้ ยๆ กบั วา่ กาไปจบั ภเู ขาทอง จะเลา่ แตเ่ รอื่ งกากไ็ มไ่ ด้ จำ� ตอ้ งไดเ้ ลา่ เรอ่ื งภเู ขาทองดว้ ย
เพราะภูเขาทองมีคุณค่ามากกว่ากาหาประมาณมิได้ ธรรมชาติของกาไม่มีใครถาม
มนั เลย มนั กร็ อ้ งประกาศตวั ของมนั วา่ กา กา กา กา อยอู่ ยา่ งนน้ั เองแลว้ อนจิ จาเอย๋
และกม็ สี ุภาษิตข้อหนงึ่ เป็นของโบราณของไทยในรชั กาลที่หก แหง่ เบด็ เตลด็ เลม่ ๓
กลา่ วไวใ้ หค้ ำ� นงึ วา่ ยางขาวขนเรยี บรอ้ ยดดู ี ภายนอกหมดจดสใี สเปรยี บฝา้ ย ภายใน
หนังนั้นดำ� ปานกา บปุ ผาบางชนิดดอกสวยไมห่ วยหอม บางชนิดทง้ั สวยทั้งหวยหอม
บางชนิดไมส่ วยแตห่ วยหอม บางชนดิ ทง้ั ไม่สวยทัง้ ไม่หวยหอม ไมต้ น้ ใหญไ่ มม่ ีแกน่
กไ็ ด้ ไม้ตน้ ใหญ่ดว้ ยทงั้ แก่นโตด้วย ไมต้ น้ เล็กทั้งไม่มีแกน่ ดว้ ย ไม้ทั้งต้นเลก็ ดว้ ย

172

ท้ังมแี ก่นดว้ ย ของทีด่ ียอ่ มมีประโยชน์แก่ผู้รู้จกั ใช้ ไกแ่ จค้ ยุ้ เขย่ี หาอาหาร ไดพ้ ลอย
เมด็ หนง่ึ งามดมี คี า่ มาก ขนั ขน้ึ เปรยๆ วา่ ถา้ เจา้ ของของเจา้ มาพบเขา้ เชน่ นี้ เขาคงเกบ็ เจา้
ไปฝังไวใ้ นหวั แหวนตามเดิม นเี้ จ้าไม่มปี ระโยชน์อันใดกบั เรา วา่ แล้วก็คยุ้ เขี่ยไปใน
แปลงอืน่ ๆ

ผูเ้ กิดมาพบพระพุทธศาสนาอันเปน็ ของมีคุณคา่ ล�้ำเลิศ
แต่เหน็ ว่าไม่ประเสริฐเท่าลทั ธิของตนท่ีเคยสนใจใครค่ รวญมา
ปล่อยเวลาใหต้ ายไปเปลา่ ประโยชน์
ไมม่ ีวันจะเห็นโทษว่าตนหลง
กรรมนยิ ม กรรมบันดาล ย่อมอาจหาญว่าตนดพี อใชไ้ ด้
สตั ว์อยใู่ ต้โลกา ย่อมตกหลุมบ่มบ้าคือ หลุมกเิ ลส
แตม่ ีขอบเขต ยกเว้นพระโสดาบนั เป็นต้นไปเสีย
เหลอื นอกนนั้ เปน็ อนั ไมแ่ นน่ อนได้ จะแน่นอนได้อยู่กแ็ ตอ่ ขู่ องความหลง
เพราะมไิ ดเ้ ดินตรงออกจากความหลงของตวั
ยังมวั เมาในการเหน็ ผดิ เปน็ ชอบ
ส่งิ ท่ปี ระกอบไปทางผดิ ตดิ นสิ ยั
ทา่ นผู้หวงั ดีมชี ยั ในโลกุตตรสมบตั ิ
อยา่ ได้ใหศ้ ีลหา้ วบิ ตั ิแปรผัน
อบายมขุ ทกุ ๆ อัน รีบเวน้ พลนั ทันทว่ งทเี ทอญ
อย่านานเนนิ่ ช้าชีวาเขา้ หลัง่ ไหลไปมว้ ย
ช่วยตนเองเมอื่ ยงั มีชีวาดีกว่าช่วยตนเองยามหายใจฝืด
เวลามเี พยี งเลก็ นอ้ ยเทา่ เมลด็ งา เมอ่ื หายใจออกมามอี ปุ สรรคสดๆ มาขบถโดย
เรว็ ดว่ นๆ
หายใจเขา้ ไมไ่ ด้ แนน่ หนา้ อก หรอื ลมตขี นึ้ เบอื้ งสงู แรงกลา้ เหลอื วสิ ยั ไดจ้ ำ� ใจมรณา
ผูม้ ีสติปัญญาภาวนาทันกบั เหตกุ ารณ์ พร้อมท้งั มีญาณสัมปยตุ ด้วยปญั ญา
ตดั ความอาลยั ในโลกาไดพ้ ลันทนั กาล
กเ็ ข้าสอู่ นปุ าทิเสสนิพพานโดยแทแ้ ล

173

พระนพิ พานนเ้ี ป็นของลกึ ซึ้งมาก
เปน็ ของยากอยกู่ บั ทา่ นผอู้ าลยั อาวรณก์ บั โลกอดตี กบั โลกอนาคตกบั โลกปจั จบุ นั
โลกอดีตน้ันคือผรู้ ้ทู ่ีลว่ งไปแลว้
โลกอนาคตนัน้ คือผรู้ ทู้ ี่ยงั ไม่มาถงึ
โลกปัจจบุ นั นน้ั คอื ผรู้ ้ทู ีย่ ังมีอยทู่ รงอยใู่ นปจั จุบนั
โลกอดตี โลกอนาคตนัน้ มารวมอยใู่ นโลกผูร้ ู้ในปจั จบุ นั แล้ว
ไม่ต้องสงสยั ไปสง่ สา่ ยหา
จะเป็นกรรมเปน็ วิบากวนกนั อยู่ เหมอื นงูกินหางตน เหมือนหยอกเงาตน
จะไม่มีเงอ่ื นต้นเงอ่ื นปลายไม่จบสน้ิ ลงได้ อยา่ ส�ำคัญตวั เข้าไปสอดแทรกเสวย
และยดึ ถือ
อยา่ ไปจ้ี อยา่ ไปปลน้ อยา่ ไปลกั ไถล่ ักถอน
มอบคืนสง่ คืนใหผ้ ูร้ ดู้ ้วยมหาสติมหาปญั ญาอนั ชัด
อยา่ ไดส้ มุ่ เดาด้นคาดคะเน ให้เป็นมหาปัจจัตตงั อันสุดท้ายแล

174

ดวงประทีปใกล้ส้นิ แสง

ยอ้ นมาปรารภองคห์ ลวงปมู่ นั่ ผชู้ ราพาธเพมิ่ หนกั เขา้

ออกพรรษาแล้ว ครูบาอาจารย์ผู้เป็นหัวหน้าจ�ำพรรษาอยู่ต่างทิศต่างจังหวัด
ตา่ งอำ� เภอ ตา่ งตำ� บล กท็ ยอยกนั เขา้ มาเฝา้ องคห์ ลวงปทู่ ว่ี ดั ปา่ บา้ นหนองผอื ตา่ งกอ็ อก
ความเห็นมตติ ามเจตนาแตล่ ะองค์

๒๔๙๒ เดอื นพฤศจกิ ายน นนั้ เอง เปน็ ขา้ งขนึ้ ของเดอื นนน้ั มพี ระอาจารยเ์ ทสก์
(หลวงปเู่ ทสกใ์ นปจั จบุ นั ) สมยั นน้ั องคท์ า่ นจำ� พรรษาอยเู่ ขานอ้ ย ทา่ แฉลบ จ.จนั ทบรุ ี
มีหลวงปู่อ่อน สมัยนั้นองค์ท่านจ�ำพรรษาอยู่วัดป่าบ้านหนองโดก อ.พรรณานิคม
จ.สกลนคร มหี ลวงปู่ฝัน้ สมยั นั้นองคท์ ่านจำ� พรรษาอยูว่ ัดป่าธาตนุ าเวง ท่เี รยี กวา่
วดั ภธู รพทิ กั ษ์ อ.เมอื ง จ.สกลนคร มพี ระอาจารยก์ งมา หรอื หลวงปกู่ งมา สมยั นนั้ องค์
ท่านจ�ำพรรษาอยู่วัดดอยธรรมเจดีย์ แต่ก�ำลังเริ่มก่อสร้างอยู่ยังไม่ทันกว้างขวาง
ไปบณิ ฑบาตบา้ นนาสนี วล แตอ่ งคท์ า่ นไปๆ มาๆ อยวู่ ดั ปา่ บา้ นโคก เพราะวดั เดมิ อยนู่ น้ั
กถ็ กู ขนึ้ อ.เมอื ง จ.สกลนคร มีพระอาจารย์กู่ หรือหลวงปู่กู่กว็ ่า จำ� พรรษาอย่วู ัดป่า
บา้ นโคกมะนาว อ.พรรณานคิ ม จ.สกลนคร มพี ระอาจารยม์ หาทองสขุ วดั ปา่ สทุ ธาวาส
อ.เมือง จ.สกลนคร และสมยั น้นั วดั ป่าบ้านหนองผือ องคห์ ลวงป่มู น่ั กข็ น้ึ บัญชพี ระ
ประจำ� ปกี บั วดั สทุ ธาวาสอยู่ มพี ระอาจารยส์ โี ห สมยั นนั้ องคท์ า่ นจำ� พรรษาอยนู่ ครราชสมี า
เป็นวัดใดสงสยั จำ� ไมช่ ดั มีพระอาจารย์กวา่ สมยั นน้ั องค์ทา่ นจ�ำพรรษาบ้านนาหัวชา้ ง

175

อ.พรรณานคิ ม จ.สกลนครนนั้ เอง ใหเ้ ขา้ ใจวา่ พระอาจารยก์ กู่ ด็ ี พระอาจารยก์ วา่ กด็ ี
หลวงปฝู่ น้ั กด็ ี เปน็ เครอื ญาตใิ กลช้ ดิ กนั ในฝา่ ยตระกลู วงศ์ แตพ่ ระอาจารยก์ มู่ พี รรษา
เหนอื กวา่ หลวงปฝู่ น้ั ไดส้ น้ิ ลมปราณไปหลงั หลวงปมู่ นั่ พรรษาหนง่ึ เทา่ นน้ั มพี ระอาจารย์
วริ ยิ งั ค์ สมยั นน้ั องคท์ า่ นจำ� พรรษาอยวู่ ดั ปา่ อ.ขลงุ จ.จนั ทบรุ ี และกไ็ ปๆ มาๆ อยวู่ ดั
ปา่ กงสีไร่ อันเปน็ อำ� เภอขลงุ นัน้ เอง จงึ เขียนไวเ้ ปน็ ที่ระลกึ

176

วดั แตกสาแหรกขาด

เมอื่ องค์ท่านพระเถระเหลา่ น้ี ต่างก็มศี รทั ธามารวมกันในยามออกพรรษาแลว้
ทวี่ ดั ปา่ บา้ นหนองผอื ดงั กลา่ วแลว้ ในเรอื่ งหลวงปู่ องคท์ า่ นชราพาธเพมิ่ ทวขี น้ึ กป็ ระชมุ
ปรกึ ษากนั สว่ นหลวงปกู่ งมายนื ยนั ทางเดยี วดว้ ยนำ�้ ใสใจจรงิ วา่ ควรนมิ นตห์ ลวงปพู่ กั
วิเวกวัดป่าบ้านม่วงไข่ก่อน ซ�้ำๆ ซากๆ อยู่เป็นหลายคร้ัง ส่วนองค์หลวงปู่เทสก์
หลวงปอู่ อ่ น หลวงปฝู่ นั้ พระอาจารยก์ ู่ พระอาจารยม์ หาทองสุข พระอาจารยม์ หาบัว
พระอาจารยก์ วา่ เหลา่ น้ี ตามพฤตกิ ารณไ์ มไ่ ดจ้ ำ้� จจี้ ำ�้ ไชกราบเทา้ เรยี น แลว้ แตอ่ งคห์ ลวงปู่
จะสะดวก แตก่ ไ็ มข่ ดั ขวางหลวงปกู่ งมาดว้ ยประการใดๆ อะไรนกั ตกลงองคห์ ลวงปมู่ นั่
กร็ บั ไปแบบจำ� ใจ

ต่ืนขน้ึ เปน็ วนั ใหม่ ไปบณิ ฑบาตแตเ่ ชา้ ฉนั เสรจ็ แล้วกเ็ ตรยี มตัวโกลาหล แลว้
ลกู ศษิ ยท์ ข่ี อนสิ ยั ดว้ ยประจำ� วดั หลวงปมู่ น่ั กแ็ บง่ ออกเปน็ สองพวก พวกทไ่ี ปกอ่ นใหไ้ ป
กอ่ นแตเ่ ฉพาะผมู้ ขี อ้ วตั รจำ� เปน็ อนั เวน้ ไมไ่ ดซ้ งึ่ เกย่ี วกบั องคห์ ลวงปู่ ใหไ้ ป ๓ องคก์ อ่ น
คือ ๑. ครูบาวัน ๒. ขา้ พเจ้า ๓. พระสหี า เทา่ น้ัน ในขอ้ นพ้ี ระอาจารย์มหาบัวเปน็
ผแู้ ตง่ เพราะพระเถระนอกน้นั จ�ำพรรษาอยู่ตา่ งถน่ิ พระอาจารย์มหาบวั และหลวงตา
ทองอยู่ ใหค้ วบคมุ หมผู่ อู้ ยขู่ า้ งหลงั ไปพลางกอ่ น เพราะการตดั เยบ็ จวี รกย็ งั ไมเ่ สรจ็ สน้ิ
เท่าไรนกั เพราะจกุ ๆ จิกๆ กับงานฉกุ เฉินหลายด้าน วดั แตกสาแหรกขาด ฝ่ายพระ
อาจารยต์ า่ งๆ ทมี่ าตา่ งทศิ กย็ กทพั ไปพรอ้ มกองหนา้ หมด เงยี บเหงาเยน็ เงยี บ ออกเดนิ ทาง
สามโมงเชา้ เอาแคร่มาหามหลวงปู่ ทง้ั พระทง้ั โยมประมาณสองรอ้ ยคน หามไปตาม
ทางเกวยี น ผา่ นบา้ นหนองผอื ไปทางทศิ ตะวนั ตก คอ่ ยเดนิ ไปเทา้ ตอ่ เทา้ แลว้ เลยี้ วขวา
โคง้ ตรงไปอ�ำเภอพรรณานคิ ม

177

อนจิ จาเอย๋ บา้ นหนองผอื เศรา้ โศกโศกานำ�้ ตาหลงั่ ไหล เพราะเอาองคม์ ง่ิ ขวญั เขา
หนไี กลไปจากถน่ิ บา้ นเขา สารพดั ผจู้ ะครำ�่ ครวญรำ� พนั พไิ ร เสมอื นพากนั ตายไปเงยี บไง
ท้งั บ้าน

พอผา่ นบา้ นหนองผอื ไปประมาณ ๒ กโิ ลเมตร องคห์ ลวงปพู่ ดู เยน็ ๆ ขนึ้ วา่ “พากนั
หามไปปง้ิ ไปเผาทไ่ี หนหนอ” ขา้ พเจา้ อยใู่ กล้ ไมห่ นจี ากคานหามทางปลายเทา้ ขององค์
หลวงปู่ ปะปนแทรกโยมไปไมว่ าง พอไดย้ นิ เสยี งองคห์ ลวงปบู่ น่ เยน็ ๆ และนอนหลบั ตา
ปรารภเชน่ นน้ั อา้ ยกเิ ลสมนั สงั เวชและโศกขน้ึ มา นำ�้ ตาไหลอาบแกม้ โยมตง้ั รอ้ ยสองรอ้ ย
ทง้ั พระ ไมน่ กึ ละอายเลย มปี ญั หาวา่ ครบู าอาจารยท์ ง้ั หลายและอาจารยว์ นั และคณุ สหี า
ไปไหนขณะนนั้

ตอบวา่ ครบู าวนั และคณุ สหี าไดก้ ระตกิ นำ้� องคล์ ะลกู สะพายออกกอ่ นทหี่ ามแคร่
ไปไกลกนั กวา่ ๑๐ วา ครบู าอาจารยท์ ัง้ หลายก็เดนิ ออกหนา้ ท่ีหามแครไ่ ปไกลกวา่ นน้ั
เป็นลำ� ดบั สว่ นตามหลังแครไ่ ปกเ็ ป็นระยะๆ เป็นทิวแถว สว่ นพวกเกวยี นที่ขนของ
กต็ ามหลงั บาตร บรขิ าร โยมสะพายเอาหมดแลว้ ขา้ พเจา้ จงึ ไดแ้ ทรกเเซงโยมเขา้ ใกล้
ทหี่ ามได้ ขา้ พเจา้ ไมไ่ ดห้ ามใสบ่ า่ หรอก เปน็ เพยี งเอามอื ขวาจบั ชเู อยี งตวั ซกิ แซก็ เดนิ ไป
โยมเขาหาม เขาเอาผา้ ผกู เปน็ งวงสะพาย บา้ งเอามอื จบั คนละมอื บา้ งเพราะมากคน บางแหง่
ก็หย่อนลง บางแห่งกย็ กข้ึนเพราะดินสงู ต่�ำ ทไี่ หนหญา้ รกปกคลุมทาง เพียงเข่าและ
แข้งขาก็เรียบราบไปหมดเพราะคนนั้นเหยียบบ้าง คนนี้เหยียบบ้าง ผู้เขียนมันเป็น
เจา้ กิเลสมนั เปน็ เจา้ นำ�้ ตาไปสดุ ทาง ข้าพเจ้าไม่ได้ใส่รองเทา้ เลย เพราะมคี วามเห็นวา่
เขา้ ใกลอ้ งคห์ ลวงปไู่ มส่ มควร โยมเขาจะใสก่ ต็ าม มอบใหเ้ ปน็ เรอ่ื งของเขา แตเ่ ขากใ็ สบ่ า้ ง
ไม่ใส่บ้าง และบางแห่งก็มีหนาม ตาใครตามัน รักษาเอาเท้าของตัวที่จะเหยียบไป
ไดท้ างพอควรกพ็ กั ดมื่ นำ้� องคห์ ลวงปดู่ ม่ื สองสามจบิ๊ แลว้ นอนตะแคงขา้ งขวาอยบู่ นแคร่
ทีป่ ลงวางไว้ ประทบั จติ ประทบั ใจวา้ เหวเ่ ต็มต้ืนมาก

พกั ประมาณสบิ หรอื สบิ หา้ นาทโี ดยคาดคะเนกเ็ ดนิ ทางตอ่ พอถงึ ทงุ่ นาแหง่ หนง่ึ
เปน็ หนทางมตี มมโี คลนเลอะเทอะ และจวนแจจะคำ่� มดื ไมม่ ที างเวน้ แตท่ น่ี าเขา ขา้ วเขา
กำ� ลังจะพอเก่ียว เขามีศรทั ธาไขรว้ั ร้อื รั้วออกใหฝ้ ่าเหยียบขา้ วไป คนทง้ั สองร้อยกวา่

178

ฝา่ ตะลยุ ขา้ วไปจนสดุ ทงุ่ นาเขา จงึ ไดล้ ดั ใสห่ นทางอนั พน้ โคลนตม ขา้ วกล็ ม้ ไปเรยี บราบ
พร้อมทั้งหล่นพร้อมท้ังขาด นับว่าศรัทธาเขาเกิดขึ้นสดๆ แก้ปัญหาซึ่งหน้าได้โดย
สุจริตใจ จะหาได้ยากในสมัยนี้ และเป็นข้าวที่กอโตและเป็นรวงโตเมล็ดโตด้วย
การเสยี หายอยา่ งนอ้ ยกไ็ มต่ ำ�่ กวา่ หกรอ้ ยกโิ ลกรมั เรยี กวา่ บญุ องคห์ ลวงปเู่ ปน็ ปาฏหิ ารยิ ์
อยู่ในตัวแล้ว จะอัศจรรย์แต่การด�ำดินบินบนได้จึงจะว่าเก่ง ถ้าอย่างนั้นนกมันก็มี
ปาฏหิ ารยิ อ์ ยทู่ กุ วนั เกง่ อยทู่ กุ วนั ไสเ้ ดอื นกด็ ปี ลาไหลกด็ เี ปน็ ตน้ มนั กด็ ำ� ดนิ อยทู่ กุ วนั
มปี าฏหิ ารยิ อ์ ยทู่ กุ วนั เกง่ อยทู่ กุ วนั แตไ่ มถ่ อื เอาเปน็ สรณงั คจั ฉามิ เพราะไมส่ ำ� คญั ใน
สงิ่ เหลา่ นี้ สำ� คญั อยแู่ ตก่ เิ ลสนอ้ ยเบาบางและเหอื ดแหง้ ไปเทา่ นนั้ พรอ้ มทงั้ ขอ้ วตั รปฏบิ ตั ิ
อนั ชอบทถ่ี กู ตอ้ งเทา่ นน้ั คนโดยมากมกั ตนื่ ปาฏหิ ารยิ ท์ างดำ� ดนิ บนิ บน แตผ่ เู้ ขยี นลงเอย
มากทส่ี ดุ กค็ อื อนสุ าสนปี าฏหิ ารยิ ์ คำ� สอนของพระองคเ์ ปน็ ปาฏหิ ารยิ ท์ ไ่ี มจ่ ดื จาง และมี
อยทู่ กุ กาลของแตล่ ะตวั สตั ว์ บคุ คล เทวดา มาร พรหม ดว้ ย ประจำ� กองรปู ขนั ธ์ นามขนั ธอ์ ยู่
ไมล่ บเลอื นไปทางใด คอื กรรมและผลของกรรม เปน็ ปาฏหิ ารยิ อ์ ยทู่ กุ อริ ยิ าบถของจติ ใจ
อยแู่ ลว้ ทำ� ดไี ดด้ ี ทำ� ชว่ั ไดช้ วั่ อยแู่ ลว้ จะไปหาปาฏหิ ารยิ ท์ ไี่ หนอกี จบั ไฟกร็ อ้ น ไมจ่ บั ไฟ
กไ็ มร่ อ้ น เปน็ ปาฏหิ ารยิ ท์ งั้ นนั้ และกม็ คี วามหมายอนั เดยี วกนั กบั กรรมและผลของกรรม
คนเชอื่ กรรมและผลของกรรมกค็ อื เชอ่ื ปาฏหิ ารยิ ์ กค็ อื เชอ่ื พทุ ธ ธรรม สงฆ์ ดว้ ยนน้ั ละ

ปรารภเรอื่ งหลวงปตู่ อ่ ไป ขณะทก่ี ำ� ลงั จะแวะผา่ นขา้ วเขานน้ั พระมหาเถระไดพ้ ดู
กนั วา่ “ไมค่ วรเอาองคห์ ลวงปไู่ ปพกั มว่ งไข่ เพราะเปน็ วดั รา้ งมาหลายปี มตี น้ ไมท้ บึ มาก
อากาศไมโ่ ปรง่ และเดยี๋ วนก้ี ็ค่ำ� แล้ว และองคห์ ลวงปูเ่ ล่าอาการกห็ นกั เข้า เพราะจะ
ออ่ นเพลยี ในการหามมาขา้ มปา่ โคกดงกอ๊ กแกก๊ ๆ” จงึ ตกลงแวะบา้ นกดุ กอ้ ม (ดงภกู่ ว็ า่ )
เปน็ วดั ปา่ พระอาจารยก์ ู่ พอถงึ ทนี่ นั้ กห็ นง่ึ ทมุ่ กวา่ ๆ โดยประมาณ อาการหลวงปกู่ ห็ นกั ขนึ้
ทวีมาก ตอ่ ร่งุ เชา้ จึงเบาลงบ้าง

ในวนั นนั้ ฉนั จงั หนั แลว้ มพี ระองคห์ นง่ึ จะไปตดั ชอ่ งกระดานศาลาใกลท้ พ่ี กั ปว่ ย
ขององค์หลวงปู่เพ่ือให้เป็นช่องขององค์หลวงปู่ถ่ายอาจม องค์หลวงปู่ปรารภดังๆ
ขน้ึ ว่า “อย่ามาท�ำเลย ทา่ นหลา้ เธอกำ� กับของเธอประจำ� อยู่ มาท�ำแล้วกไ็ มถ่ ูกความ
ประสงคข์ องเธอดอก” ดังน้ี ข้าพเจา้ ได้ยนิ แลว้ อา้ ยกิเลสน้ำ� ตามาอีกละ ไหลลงเลย

179

มนั ไมล่ ะอายใคร เพราะส�ำเหนยี กในใจว่า เราปฏบิ ัตอิ งคห์ ลวงปูม่ าด้วยประการใดๆ
ตามประสาเราเป็นเวลา ๔ ปีล่วงเข้า หลวงปูค่ งไมห่ นักธรรมหนกั ใจวา่ เราปฏิบัตเิ พ่อื
เอาหนา้ เอาตา และไมส่ งสยั วา่ เราปฏบิ ตั ไิ มเ่ คารพ และกต็ รงกบั เจตนาของเราดว้ ย องค์
หลวงปดู่ ักใจทายใจเราถกู ไดไ้ ม่ผดิ คิดดังนไี้ ดก้ ะทันหนั อ้ายน้ำ� ตาพลันไหลลงอีก

ห่างจากเรอ่ื งนี้ไปประมาณหนง่ึ ชวั่ โมง จึงละโอกาสไปขอยมื เลอื่ ยปลาตองและ
สวิ่ มา กราบเทา้ เรยี นองคห์ ลวงปู่ ขอโอกาสทำ� ถวายไมใ่ หก้ ระทบกระเทอื น เอาไมห้ นนุ
ทางใตใ้ หต้ งึ สวิ่ เจาะลงพอหลวมปลายเลอ่ื ย เอาเลอ่ื ยเลม่ ทคี่ ม ประมาณหา้ นาทกี เ็ สรจ็
สว่ นทางใตน้ นั้ หาภาชนะรองใบโตๆ แลว้ เอาขเี้ ถา้ รองหนาๆ เวลาไปเกบ็ สะอาด เอามอื
กอบใส่อันอ่ืนไปเทในหลุม แล้วล้างมือให้สะอาดด้วยน้�ำมันก๊าดและขี้เถ้าโดยเร็ว
ไมอ่ ดแตผ่ จู้ ะแห่ถือกระบวยให้ เพราะไดเ้ คยเอาเป็นขอ้ วัตรมาหลายปีแล้ว คราวอยู่
หนองผอื มผี แู้ ยง่ จะทำ� แตห่ ลวงปมู่ หาไมใ่ หท้ ำ� เพราะเกรงองคห์ ลวงปมู่ นั่ จะไมพ่ อใจ
ไม่ไวใ้ จ เพราะเกรงว่าหลวงปู่มนั่ จะวิจัยวา่ ปฏบิ ตั ไิ ม่ถงึ พริกถึงขงิ ระอาแลว้ กม็ อบให้
องคอ์ นื่ มนั เปน็ ภาพพจนเ์ หลาะแหละ เวน้ ไวแ้ ตเ่ จบ็ ปว่ ยนอนคาทไ่ี ปไมไ่ ด้ เมอื่ ไดพ้ ดู
กพ็ ูดไปซ้ำ� ซะ

คราวพกั รกั ษาองคห์ ลวงปอู่ ยวู่ ดั ปา่ กดุ กอ้ ม ขา้ พเจา้ และครบู าวนั มไิ ดไ้ ปบณิ ฑบาตเลย
เพราะคณะพระเถรานุเถระไม่ให้ไป ให้รีบเอาบาตรลงไปตั้งไว้ศาลาฉันเท่าน้ัน
พระสงฆก์ ลบั มาจากบณิ ฑบาตจะใสใ่ ห้ และกไ็ ดฉ้ นั ทหี ลงั หมอู่ กี ซำ�้ สว่ นครบู าวนั นน้ั
ไดล้ งไปฉันพร้อมหมู่ เปน็ เพยี งไม่ไดไ้ ปบณิ ฑบาต ครบู าวันฉันเสร็จแลว้ จงึ ได้ข้ึนมา
เปลย่ี นขา้ พเจา้ ลงไปฉนั แตก่ พ็ อใจอยู่ ไมห่ ว่ ง เพราะพอ่ ของเราปขู่ องเรามคี ณุ คา่ กวา่
อาหารในทอ้ งเราแตล่ ะวนั แล้ว

ในระหวา่ งพกั อยวู่ ดั ปา่ กดุ กอ้ มคอื บา้ นภู่ หรอื วา่ ดงบา้ นภู่ กเ็ รยี กกนั หลายอยา่ ง
มพี ระเถระมาเพิม่ ขนึ้ อีกคอื ท่านเจา้ คุณธรรมเจดยี ์ จ.อดุ รฯ พระอาจารยส์ ลี า วัดป่า
บา้ นวา อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร รวมพระเณรท้ังหมด ๔๐ รูป และมาพกั ได้ ๓ คนื
พระอาจารยม์ หาบวั กท็ ง้ิ บา้ นหนองผอื มา และหมทู่ ง้ั หลายกท็ ยอยมาจากบา้ นหนองผอื
ได้ ๑๑ วนั ครบู าทองค�ำก็มากับหม่อู กี เหลือแต่หลวงตาทองอยู่องคเ์ ดียว ส่วนองค์

180

หลวงปู่มัน่ กป็ ว่ ยหนกั เข้าๆ พักอยูท่ นี่ ้นั ได้ ๑๑ คนื ตื่นเชา้ ชาวสกลนครตลอดถงึ
คุณหมอแพทย์ใหญ่ในสกลนครก็มาถึงแต่เช้าตรู่ ชาวสกลนครกราบเท้าเรียนถวาย
วิงวอนว่า “ขอนิมนต์ใหไ้ ปพักวัดปา่ สทุ ธาวาส” นิมนต์วิงวอนถงึ ๓-๔ ครั้งติดๆ กนั

องคห์ ลวงปปู่ รารภวา่ “เออ หามศพตกปา่ ชา้ หนอ ไมม่ วี นั ไดห้ ามคนื บดั นม้ี าถกู
เราแลว้ ” องคห์ ลวงปู่กลา่ วต่อไปวา่ “ถ้าไปกล็ ำ� บากอกี ละ เพราะลูกศิษย์กม็ าตา่ งทศิ
มากเขา้ สสี่ บิ องค์ รวมทงั้ เกา่ ใหม”่ เขากราบเรยี นวา่ “มากนอ้ ยเทา่ ไรกต็ ามขอรบั จะเอา
รถขนวนั ยงั คำ่� นน้ั แหละ” แทจ้ รงิ สมยั นน้ั มรี ถวง่ิ ไปมาจากสกลนคร อดุ รธานี ๒-๓ คนั
กบั รถกรมทางคนั หนง่ึ หนทางกเ็ ปน็ หนิ ลกู รงั ปถู ๆ่ี หา่ งๆ ลกั ๆ ลนั่ ๆ ยงั ไมเ่ รยี บรอ้ ยได้
แลว้ กก็ ราบเท้าเรียนถวายให้องคห์ ลวงปู่ฉันอาหาร องค์หลวงปกู่ ็นั่งฉนั ได้อยู่ ไม่ได้
พยุงชู ฉันประมาณห้าหกค�ำเล็กแห่งอาหารเหลวๆ ที่ซดด้วยช้อน คร้ันเสร็จแล้ว
คณุ หมอใหญ่ จ.สกลนคร กฉ็ ดี ยานอนหลบั ให้ ดว้ ยการขออนญุ าต ๔-๕ ครง้ั องคห์ ลวงปู่
ก็ยอมใหฉ้ ดี แบบฝืนๆ แลว้ กเ็ ตรียมตัวออกเดินทางโกลาหล อ้ายใจกเิ ลส อา้ ยน้�ำตา
กเิ ลส มนั กไ็ หลลงอกี ละ แลว้ เอาแครม่ าหามองคห์ ลวงปขู่ า้ มทงุ่ องคห์ ลวงปนู่ อนตะแคง
ขา้ งขวาซอ้ นเทา้ เหลอ่ื มกนั หามขา้ มทงุ่ ไปสถู่ นน ไกลประมาณเกอื บกโิ ลเมตรจงึ ถงึ ถนน
แลว้ เอาองคห์ ลวงปขู่ นึ้ รถกรมทาง เอานอนดา้ นหนา้ ครบู าวนั อาจารยว์ ริ ยิ งั ค์ ขา้ พเจา้
คุณสีหา ก็ไปขบวนกองหน้า ส่วนหลวงปู่ก็นอนนิ่งไม่กระดิกพลิกไหวตัวอะไรเลย
ปรากฏแตล่ มเขา้ ออกแบบเบาๆ

พอถงึ วดั ปา่ สทุ ธาวาสแลว้ กห็ ามองคห์ ลวงปขู่ น้ึ กฏุ พิ เิ ศษหลงั หนง่ึ อนั มรี ะเบยี ง
รอบท้ังส่ีด้าน มุงกระดานกั้นฝา มีประตูเข้าห้องนอนสองทาง มีหน้าต่างบริบูรณ์
รอบระเบยี งนอกมีลูกกรง ห้องนอนน้นั กวา้ งประมาณ ๓ เมตร ปริมณฑลระเบยี ง
โดยรอบสามดา้ นน้นั กว้างประมาณ ๒.๕๐ เมตร สว่ นด้านหนา้ น้นั กวา้ งประมาณ
๔ เมตร หรอื ๕ เมตรนแ้ี หละ เพราะเปน็ กฏุ ิ ๒ หอ้ ง แลว้ กม็ รี ะเบยี งรอบสด่ี า้ น แลว้
กน้ั หอ้ งหนงึ่ เปน็ หอ้ งนอน แลว้ ครบู าอาจารยต์ า่ งทศิ กแ็ ตกตน่ื กนั มาเปน็ ระยะๆ องคห์ ลวงปู่
สงิ ห์ โคราช หลวงปบู่ ญุ หลาย หลวงปสู่ าร พระอาจารยเ์ กงิ่ พระอาจารยส์ มิ ตลอดพระ
หนุ่มเณรนอ้ ยฝา่ ยปฏบิ ตั ิหลัง่ ไหลเข้ามาเปน็ ล�ำดับ ไมส่ ามารถจะบอกชอื่ ลอื นามได้

181

ส้ินแล้วร่มโพธ์ิแกว้

แลว้ กเ็ อาองคห์ ลวงปเู่ ขา้ หอ้ งนอนตะแคงขา้ งขวา พอตกเวลาประมาณ ๖ โมงเยน็
หลวงปกู่ งมาบอกวา่ “ทา่ นทองคำ� ทา่ นหลา้ ทา่ นสหี า พากนั บอบโบยหวิ นอนมานานแลว้
จงพากนั รบี นอนอยรู่ ะเบยี งนแ้ี ตห่ วั คำ่� เสยี พระอาจารยฝ์ น้ั กบั ผมจะชว่ ยเฝา้ ในหอ้ งองค์
หลวงปู่ สว่ นทา่ นวัน เขาพักกฏุ ิหนงึ่ กับวิริยังคก์ บั ทา่ นเนตรแล้ว ส่วนท่านมหาบัวพกั
รุกขมลู รม่ ไม้ในวดั เธอเร่งความเพยี ร เกรงหลวงปจู่ ะสน้ิ ลมก่อน”

พอจบคำ� แลว้ ตา่ งกป็ ผู า้ ลงกระดานพน้ื ระเบยี ง กราบพระองคล์ ะ ๓ ที ควา้ เอา
หอ่ ผา้ สงั ฆาฏมิ าหนนุ หวั กำ� หนดลมหายใจเขา้ ออกไป ตาใสแจว๋ ไมห่ ลบั เพราะมนั เคยชนิ
ในการไมห่ ลบั มานานบา้ งแลว้ อาหารฉนั หมดวนั ละเทา่ ไขเ่ ปด็ กท็ งั้ ยาก จดื ชดื ไปหมด
อายขุ ั้นสามสิบกว่าๆ อนิจจาเอ๋ย

ประมาณตหี นงึ่ กวา่ ๆ หลวงปกู่ งมา มาดงึ แขนกระซบิ บอกวา่ “พากนั ลกุ พากนั ลกุ
พระอาจารยใ์ หญใ่ กลจ้ ะสน้ิ ลมแลว้ ” กระซบิ ตอบองคท์ า่ นวา่ “ขา้ นอ้ ยยงั ไมห่ ลบั ดอก”
แล้วองค์ท่านบอกให้รีบด่วน ไปนิมนต์ท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ พระอาจารย์สิงห์
พระอาจารยเ์ ทสก์ พระอาจารยม์ หา และครบู าวนั ขา้ พเจา้ รบี ไปกฏุ ทิ า่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี ์
กอ่ น ไปถงึ แลว้ กลา่ ววา่ “ขอกราบเทา้ เรยี นถวายพระเดชพระคณุ องคห์ ลวงปหู่ นกั มาก”
“เออๆ ข้าจะไปเดย๋ี วนี”้ แลว้ ไปปลกุ พระอาจารย์สิงห์ พระอาจารย์เทสก์ “ขอโอกาส
พอ่ แมค่ รบู าอาจารย์ องคพ์ ระอาจารยใ์ หญห่ นกั เตม็ ทน” “เออ เรากไ็ มค่ อ่ ยหลบั สนทิ ดอก”
แล้วไปปลกุ พระอาจารยม์ หาบวั พอเดนิ ไปท่ีใกล้ใตร้ ่มไม้ องค์ทา่ นถามก่อนแลว้ วา่

182

“ใครๆ” ตอบวา่ “กระผม พระอาจารยใ์ หญเ่ ปน็ มาก” แลว้ ผา่ นไปหาอาจารยว์ นั พระสหี า
ไปบอกกอ่ น ทา่ นไปแลว้ แล้วกร็ บี ขึน้ ไปเกรงไม่ทันเห็นใจหลวงปู่

แลว้ ทา่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี ป์ รารภวา่ “พวกเราตอ้ งอยรู่ ะเบยี งนอกหอ้ ง ปลอ่ ยให้
ลกู ศษิ ยอ์ งคท์ า่ นผโู้ ชกโชนปฏบิ ตั ิ มสี ทิ ธปิ ลงธรรมสงั เวชอาจารยใ์ หญ่ เพราะหอ้ งกแ็ คบ
ถา้ พวกเราชงิ เข้าไปกไ็ ม่เป็นธรรม” ตกลงอยู่ในห้องคอยจ้องดลู มออกเข้าของหลวงปู่
๖ องค์ ๗ กบั หลวงป่ฝู ั้น

หลวงปู่ฝั้นน่ังห่างองค์หลวงปู่ม่ันประมาณวาหนึ่งต่างหาก ผินหน้ามาทางองค์
หลวงปใู่ หญ่ อยขู่ า้ งหลงั พระอาจารยก์ งมา หลวงปฝู่ น้ั นนั้ องคท์ า่ นนงั่ ขดั สมาธภิ าวนา
อย่นู ิง่ ๆ พวกท่ีเขา้ ควิ นง่ั รอบกายขององคห์ ลวงปมู่ นั่ หา่ งจากกายขององค์หลวงปมู่ ่ัน
ก็ประมาณฝ่ามือ พระอาจารย์กงมานั่งอยู่ทางขวาขององค์หลวงปู่ที่นอนตะแคงขวา
นดิ หน่อย เพยี งไหลข่ ององค์หลวงปู่ พระอาจารยม์ หาบัวนัง่ อยู่เพียงบน้ั เอวขององค์
หลวงปู่ ขา้ พเจา้ นงั่ อยใู่ ตฝ้ า่ เทา้ กบั ทา่ นสหี า ครบู าทองคำ� นง่ั อยเู่ พยี งหวั เขา่ ดา้ นหลงั ของ
องคห์ ลวงปู่ ครบู าวนั นง่ั อยเู่ พยี งบนั้ เอวขน้ึ ไปหาอกขององคห์ ลวงปู่ ตา่ งกน็ ง่ิ จอ้ งดลู ม
ขององคท์ ่านอยู่ ประมาณสัก ๒๐ นาที องคท์ า่ นก็สน้ิ ลมปราณไปเงียบๆ

ทีน้ี อา้ ยใจผบี ้าน้�ำตากเิ ลสมันก็ไหลออกมาตามอ�ำเภอใจมนั อีก คงจะเปน็ เวลา
ตสี องกวา่ ทที่ างในเมอื งเขาไดร้ บั ขา่ ว เขากม็ าถงึ ประมาณตสี ามกวา่ ๆ ทา่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี ์
ก็เลยบอกวา่ “พวกพระเราออกจากหอ้ ง ปลอ่ ยใหญ้ าตโิ ยมเขาปลงธรรมสงั เวช ชม
ดศู พพระอาจารยบ์ า้ ง” ข้าพเจ้าลงล้าหลัง เหน็ นาฬิกาอยใู่ กล้ศรี ษะองคห์ ลวงปู่ เป็น
นาฬิกาขององค์หลวงปู่ คิดขึ้นได้รวดเร็วว่า ถ้านาฬิกาอันนี้หายก็จะเป็นปัญหาอีก
เพราะเราลงหนที หี ลงั นกึ แลว้ กเ็ อาไว้ใสย่ ่าม แต่ยกมือขน้ึ ใส่หัวเสยี กอ่ น แล้วกร็ ีบ
เอาไปถวายพระอาจารยส์ ิงห์ หลวงป่สู ิงหก์ เ็ รยี ก ว่าแลว้ องคท์ า่ นก็เกบ็ ไว้

อา... ปรารภผา่ นไป พอองคท์ า่ นสนิ้ ลมปราณ กข็ อโอกาสพระอาจารยม์ หา แลว้
ยกมอื ใสห่ วั อกี เอามอื สองมอื ชคู างขององคห์ ลวงปไู่ วใ้ หส้ นทิ ชไู วป้ ระมาณ ๒-๓ นาที
ก็เลยจบั สนิท เพราะเกรงวา่ เมื่อเยน็ แลว้ ตวั แขง็ แล้วจะไม่สนทิ เข้า

183

มปี ญั หาวา่ ไฉนจงึ เขยี นเรอ่ื งกอ๊ กๆ แกก๊ ๆ แท้ จะเอาไปพระนพิ พานดว้ ยดอกหรอื

หลบั ตาตอบวา่ เร่ืองของเจา้ ตวั ทไ่ี ดผ้ า่ นทุกข์มาในสงสารปจั จบุ นั ชาติ พระบรม
ศาสดาและพระอรยิ สาวกทท่ี รงปพุ เพนวิ าสยงิ่ ระลกึ ไดก้ วา่ เราหาประมาณมไิ ด้ เราเพยี ง
แคน่ จ้ี ะประสาอะไรกนั เทา่ นำ้� ลายขององคท์ า่ นบว้ นทง้ิ กไ็ มไ่ ด้ คราวบา้ เขยี นกต็ อ้ งยอม
ไปตามบา้ กอ่ น เมอื่ เหน็ โทษในบา้ กจ็ ะหายจากบา้ ดอก และกไ็ ดค้ ำ� นงึ วา่ เปน็ ยคุ สำ� คญั
ของผู้เขียนในชาติน้ีด้วย คงจะดีกว่าเขียนกลอนเพลงกลอนล�ำทางโลกสงสารโต้งๆ
ถา้ ไม่เปน็ คติแก่ท่านผูอ้ ่านแก่ทา่ นผ้ฟู ังแลว้ เป็นคตแิ กต่ นเองกเ็ อา เห็นวา่ ไม่ขาดทนุ
สูญกำ� ไรไปไหน เพราะจติ ใจยังหนกั แน่นใน พทุ ธ ธรรม สงฆ์ อยู่ ไม่สงสยั ลงั เล
เมื่อปรารภมากก็รู้จักวา่ ปรารภมาก เมือ่ ปรารภนอ้ ยกร็ จู้ กั ว่าปรารภนอ้ ย เเล้วหัดมิให้
ตดิ อยใู่ นเงอ่ื นทง้ั สอง กต็ อ้ งเปน็ ภาวนาวปิ สั สนาอยใู่ นตวั แลว้ ตอ้ งขนึ้ อยกู่ บั สตปิ ญั ญา
เปน็ เกณฑก์ นั อยดู่ ๆี นเ้ี อง รมู้ ากยากนาน รนู้ อ้ ยพลอยรำ� คาญ จะเอาเปน็ ประมาณไมไ่ ด้
เพราะกลอนพาไป พระองคเ์ จา้ รมู้ ากมไิ ดเ้ หน็ ยากนาน พระอรยิ สาวก พระอรยิ สาวกิ า
กเ็ หมอื นกนั เขา้ สอู่ นปุ าทเิ สสนพิ พานไปกอ่ นทา่ นผอู้ า่ นทา่ นผฟู้ งั ไปกอ่ นแลว้ แตป่ างไหนๆ

ใจใดเหน็ ภยั ในรสใจอนั เดอื ดรอ้ น ใจนน้ั จะรจู้ กั การลดผอ่ นในเรอื่ งรอ้ นของใจ
ใจใดไมร่ จู้ กั รสของใจ ใจนนั้ กไ็ มร่ จู้ กั รสของธรรม ใจใดไมร่ จู้ กั ทางใจ ใจนนั้ กไ็ มร่ จู้ กั
ทางธรรม ใจใดไมร่ จู้ ักพึง่ ใจ ใจนน้ั กไ็ ม่รู้จกั พง่ึ ธรรม ใจใดไมร่ ู้จกั เหตแุ หง่ ใจ ใจนน้ั
ก็ไม่รู้จักเหตุแห่งธรรม ใจใดไม่รู้จักดับเหตุแห่งใจ ใจนั้นไม่รู้จักดับเหตุแห่งธรรม
ใจใดไม่รู้จักหลุดพ้น ใจน้ันก็ไม่รู้จักธรรมอันหลุดพ้น ใจใดไม่เคารพใจ ใจน้ัน
กไ็ มเ่ คารพธรรม ใจใดไมร่ จู้ กั ใจทค่ี วรปฏบิ ตั เิ คารพ ใจนน้ั กไ็ มร่ จู้ กั ธรรมทค่ี วรปฏบิ ตั ิ
เคารพ ใจใดทไ่ี มร่ จู้ กั สรรพใจ ใจนน้ั กไ็ มร่ จู้ กั สรรพธรรม ใจใดไมร่ จู้ กั เอกใจในปจั จบุ นั
ใจนน้ั กไ็ มร่ จู้ กั เอกธรรมในปัจจบุ ัน นจิ จาเอย๋ อนิจจาเอย๋ ...

ตอ่ ไปเรอื่ งศพขององคห์ ลวงปู่ ครน้ั ถงึ เวลาเยน็ ในวนั นน้ั กก็ ราบศพเอาเขา้ หบี ไม้
ทเ่ี หน็ วา่ เปน็ หบี ชนั้ ทหี่ นง่ึ ในสมยั นนั้ แลว้ กเ็ อาไวท้ ศี่ าลาโรงฉนั แลว้ ๓ ทมุ่ ตอนกลางคนื
มีการสวดมนต์ ธรรมจักรบ้าง อนัตตลักขณสูตรบ้าง อาทิตตปริยายสูตรบ้าง
ธรรมนยิ ามบา้ ง อภิธรรมบา้ ง วนไปวนมา และมกี ารฟงั เทศน์ทัง้ โยมทั้งพระรวมกัน

184

ตอนกลางคนื ดว้ ยทกุ คนื ทา่ นเจ้าคณุ ธรรมเจดยี ์เป็นประธาน แตง่ พระเถระทงั้ หลาย
เปล่ียนวาระกันเทศนเ์ ข้าควิ

สมัยนนั้ พระอาจารย์มหายงั มไิ ดเ้ ขา้ ควิ เทศนด์ อก องค์ท่านก�ำลังเรง่ ความเพยี ร
ออกไปวิเวกองค์เดียว ๗ วัน จึงเข้ามาเยือนหนหน่ึงเป็นระยะๆ พระมาต่างทิศ
บางวนั ถงึ ๘๐๐ กม็ ี บางวัน ๔๐๐ ขึ้นไป ๕๐๐ ๖๐๐ ๗๐๐ อย่างน้อย ไม่ตำ�่ กว่า
๔๐๐ ตลอด ๓ เดอื น การขบฉันก็เหลอื แหล่ ไมม่ ีโจรผู้รา้ ยพอทจ่ี ะว่าเดือดร้อน
๗ วนั ทเี่ รยี กวา่ สตั ตมวาร ในสมยั นนั้ ทำ� บญุ ครงั้ หนง่ึ แตก่ เ็ ทา่ กบั วา่ ทำ� ทกุ วนั อยใู่ นตวั
เพราะพระมาก ถา้ คดิ เฉลยี่ แลว้ เอา ๖๐๐ มาคณู ๙๐ แลว้ จะเปน็ พระกอ่ี งคเ์ ลา่ กเ็ ปน็
พระ ๕๔,๐๐๐ องค์ ทีเดยี วละ พระมหาเถระ พระราชาคณะทางกรงุ เทพมหานคร
กม็ าหลายองค์อยู่ สมยั นัน้ วดั ป่าสุทธาวาสเปน็ วัดกว้างขวางวังเวง เพราะยงั ไม่มสี วน
ไม่มีบ้านทา่ นผใู้ ด เป็นดงบา้ ง เปน็ ปา่ บา้ ง กางกลดกางมุ้งอยู่ไหนๆ กไ็ ด้ไมค่ บั แคบ
ใหเ้ ขา้ ใจวา่ องคห์ ลวงปมู่ น่ั สนิ้ ลมปราณลว่ งไป ๓๐ ปกี วา่ เทา่ นนั้ บา้ นเมอื งงอกมาหาวดั
จนกลายเปน็ วดั ในเมอื งไปแลว้

คร้ังพุทธกาลล่วงมา ๒๕๒๔ ปีแล้ว วัดเชตวัน วัดบุพพาราม วัดเวฬุวัน
วดั นโิ ครธาราม กฏุ าคารปา่ มหาวนั เหลา่ นเ้ี ปน็ ตน้ ครง้ั พทุ ธกาลเปน็ วดั ปา่ เปน็ สว่ นมาก
ทัง้ น้นั มหิ น�ำซ้ำ� ท่ีประสูติ ตรสั รู้ ท่ที รงแสดงธรรมจักร ที่ปรินิพพาน เหล่านเ้ี ปน็ ตน้
ยอ่ มเปน็ ปา่ เตม็ ภมู ทิ งั้ นนั้ เมอ่ื ครง้ั พทุ ธกาล พระพทุ ธศาสนาเกย่ี วกบั ปา่ ๆ ดงๆ ภๆู เขาๆ
ตลอดพระวนิ ยั อนศุ าสน์ และพระสตู รตา่ งๆ แทบทกุ สตู รทเ่ี กย่ี วกบั ปา่ ถา้ พวกเราจะ
รงั เกยี จวดั ปา่ วดั ภู ในพระไตรปฎิ กเรอื่ งพระเมฆยิ ะ เขากส็ รา้ งวดั บนหลงั ภเู ขาถวายพระ
คร้งั พทุ ธกาลก็หลายๆ แหง่ ถา้ หากวา่ พวกเราตดั ปา่ ตดั ภูเขาออกแล้ว พระไตรปฎิ ก
กไ็ ม่ครบ เราว่งิ ไปหนา้ เดยี วไม่มองคืนหลังเสยี เลยก็จะเลยเถิดแผนท่ี

ถา้ เขียนผดิ ก็ขออภัยแก่ท่านผู้รทู้ กุ ถ้วนหนา้ และขอรบั ฟังพิจารณาค�ำตักเดอื น
โดยเคารพดว้ ยอยูโ่ ดยทุกเมอ่ื เพราะหวังดผี ูกขาดแล้ว

185

ปรึกษากันถวายพระเพลิง

กลับมาเล่าเร่ืองปรึกษากันจะถวายพระเพลิง คร้ันองค์หลวงปู่ส้ินลมปราณ
ได้ ๒ วันแลว้ ท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์เปน็ พระมหาเถระผ้ใู หญ่ในสังคมนนั้ พรอ้ มทั้ง
คณะสงฆพ์ ระเถระทง้ั หลายกบั คณะญาตโิ ยมผสู้ ำ� คญั กป็ ระชมุ กนั ทรี่ ะเบยี งกฏุ ิ อนั เปน็
กฏุ ิทอ่ี งค์หลวงปสู่ นิ้ ลมปราณ ศพองค์ท่านน้ันเอาไปไวศ้ าลาแลว้ สว่ นข้าพเจา้ ครบู า
ทองคำ� คณุ สหี า ๓ องคน์ ี้ คณะพระเถระสมมตไิ วว้ า่ องคห์ ลวงปใู่ หญส่ นิ้ ลมปราณไปแลว้
กใ็ หพ้ ากนั พกั อยรู่ ะเบยี งตามเคย เพราะทา่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี จ์ ะพกั หอ้ งในทหี่ ลวงปใู่ หญ่
สิ้นลมปราณ ๓ องค์น้ี จงปฏิบัติท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์จนกว่าเสร็จส้ินงานถวาย
พระเพลงิ องคห์ ลวงปู่ ฉะนน้ั จงึ ไดน้ ง่ั ฟงั ใกลท้ พี่ ระเถระทง้ั หลายประชมุ ปรกึ ษาในการ
จะถวายพระเพลิง

ทา่ นเจา้ คุณธรรมเจดียป์ รารภขน้ึ วา่ “นบั แตว่ ันส้นิ ลมปราณไป ๔ วนั กถ็ วาย
พระเพลงิ เพราะองคพ์ ระอาจารยไ์ ดส้ งั่ ลกู ศษิ ยซ์ ำ้� ๆ ซากๆ วา่ เผาใหเ้ รว็ ทสี่ ดุ ” แมข้ า้ พเจา้
กช็ อบใจถวายพระเพลงิ โดยเร็ว เพราะจะไดต้ ่างท่านตา่ งวเิ วกตามอิสระของตน มิได้
กงั วลในอามสิ ใดๆ ในการตอ้ นรบั การเกบ็ ศพไวน้ านมเี สยี มากกวา่ ได้ ถงึ แมว้ า่ จะได้
อามสิ เปน็ ลา้ นๆ ในงานศพกต็ าม แตไ่ มเ่ ทา่ อานสิ งสข์ องความสงบ ไมค่ ลกุ คลี ไมเ่ ทา่
อานิสงส์ของความสันโดษ ยิ่งเป็นพระฝ่ายปฏิบัติแล้วก็ย่ิงประหยัดในการสันโดษ
การมีเล่หเ์ หล่ยี มดักแรว้ เอาปัจจยั กบั ทา่ นผู้อื่น ยอ่ มไม่สมควรกบั ทา่ นผหู้ วังพน้ ทกุ ข์
ในปจั จุบันชาติ ถ้าหากวา่ บวชมาพอเปน็ นสิ ัยอยา่ งนี้ ผู้ที่อยฆู่ ราวาสเขากพ็ ดู กันไดใ้ ช้

186

กนั อยู่ เขาให้ทานเปน็ บางคร้ัง รกั ษาศีลเป็นบางครัง้ ภาวนาเป็นบางคร้ัง ก็เป็นนสิ ัย
ไปทางดขี องเขาอยู่

นิสัย อ่านว่า นสิ ัย ประพฤติไปทางดกี ว็ า่ นิสัยดี ประพฤตไิ ปทางชวั่ กว็ า่ นสิ ัยชวั่
แบง่ นสิ ัยออกเปน็ ๒ นิสยั โลกยี ์ นสิ ยั โลกุตตระ นสิ ยั โลกตุ ตระนับแต่โสดาบันไป
ตำ�่ กวา่ นน้ั ลงมาเปน็ นสิ ยั ไมม่ ขี อบเขต ขา้ พเจา้ เขา้ ใจวา่ การประพฤตถิ กู ในทางเดด็ เดย่ี วน้ี
ยอ่ มเปน็ เครอ่ื งเหนย่ี วใจของทา่ นผตู้ อ้ งการพน้ ทกุ ขใ์ นปจั จบุ นั ชาติ แตก่ ลบั เปน็ อากาศ
ไมด่ ขี องทา่ นผอู้ ยผู่ ไู้ ปพอแลว้ วนั แลว้ คนื ธรรมดาปถุ ชุ นคนหนา อยกู่ อ็ ยใู่ นโลก ไปก็
ไปตามโลก ไมเ่ หมือนพระโสดาบนั ผรู้ ้จู ักหนทาง ทางกาย ทางวาจา ทางใจ จะอยู่
จะไปกร็ จู้ กั หนทางทางใจอยู่ จงึ ไมเ่ รยี กวา่ อยวู่ า่ ไปในโลกโตง้ ๆ เพราะความไมล่ มื ตวั
ไมล่ ืมตน ไม่ลืมใจ ไม่ลืมธรรม เป็นนายหนา้ หวั ใจอยู่

มนษุ ยเ์ ราในไตรโลกธาตุ จะมลี าภยศสรรเสรญิ เยนิ ยอและมปี ฏภิ าณโวหารพดู
จนนำ้� ไหลไฟดบั สกั เพยี งใดก็ตาม แต่ด้านกเิ ลสไม่เบาบางลดละจากขนั ธสันดานเลย
แม้แต่นิดเดียว ก็เป็นภาชนะน้�ำเปล่า ความส�ำคัญตัวว่ามีท่ีพึ่ง ส�ำคัญตัวว่าฉลาด
ความสำ� คญั ตัวน้นั กเ็ ปน็ การโกหกพกลมตนอย่ใู นตัว มิหนำ� ซ้ำ� ท�ำตวั ให้เป็นหมันอยู่
ในตัวโดยไม่รู้ตวั อกี ดว้ ย แต่พอรู้ตวั ก็คำ่� ไปเสยี ค่ำ� คอื ตายไป

187

แจกบริขารหลวงป่มู ั่น

ย้อนคืนมาปรารภเร่ืองการแจกบริขารขององค์หลวงปู่ นับแต่องค์หลวงปู่สิ้น
ลมปราณมาได้ ๗ วนั ท่านเจ้าคณุ ธรรมเจดยี ์ก็ประชุมสงฆ์ ท้งั พระเถระทุกๆ องค์
ยัดเยียดเปน็ ประธาน

ทา่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี ไ์ ดป้ รารภขนึ้ วา่ “ทา่ นมหาบวั เอย๋ บรรดาทขี่ อนสิ ยั อยกู่ บั
องคพ์ ระอาจารยท์ สี่ ้นิ ลมปราณไปน้ี องคใ์ ดบา้ งปฏบิ ัตใิ กล้ชิดพระอาจารยบ์ ้าง”

พระอาจารยม์ หาบวั เรยี นวา่ “ทา่ นวนั ทา่ นทองคำ� ทา่ นหลา้ ทา่ นสหี า” บอกชอื่ ตาม
อายแุ หง่ พรรษา แทจ้ รงิ พระอาจารยม์ หาบวั นนั้ แหละองคห์ นง่ึ เปน็ หวั หนา้ ทา่ นเจา้ คณุ
ธรรมเจดยี ์กร็ ูแ้ ลว้

ทา่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี ก์ ลา่ ววา่ “หลา้ เธอจะเอาอนั ไหน บรขิ ารองคพ์ ระอาจารย”์

ทนี ธี้ รรมสงั เวชไมร่ วู้ า่ มาแตไ่ หน เตม็ ตน้ื พดู ไมอ่ อก นำ้� ตาหยาดเลย ขายหนา้ อกี ละ
ไดเ้ อาผา้ อาบปดิ หนา้ แลว้ พลกิ จติ อยสู่ กั ครู่ แลว้ เรยี นวา่ “เกลา้ มไิ ดเ้ อาอนั ใดดอก ธรรม
และอามสิ อนั ใด องคท์ า่ นใหม้ ากแลว้ บรบิ รู ณ์ ในฝา่ ยอามสิ กด็ ี ในยามองคท์ า่ นมชี วี ติ
บรขิ ารจำ� นวนนเี้ ปน็ บรขิ ารทอ่ี งคห์ ลวงปใู่ ชป้ ระจำ� เกรงจะเปน็ บาป ฐานะของเกลา้ ไมส่ มควร
และเม่อื เกล้าเห็นยามใด จะเปน็ เหตใุ หเ้ กลา้ น�ำ้ ตาไหลอยูไ่ มแ่ ล้ว”

องคท์ า่ นกลา่ วตอ่ ไปวา่ “เธอจงรบั เอาเปน็ พธิ กี บั ขา้ ใหเ้ ปน็ สามจี กิ รรมกอ่ น แลว้
ถวายองคใ์ ดต่อจงึ ถวายตอ่ ไป”

188

แลว้ กย็ กมอื ใส่หวั แลว้ นอ้ มรบั สองมอื ใต้มอื องค์ท่าน ๓ ครง้ั คร้ังท่ี ๑ เปน็
กระตกิ น�ำ้ ร้อน ครง้ั ที่ ๒ เปน็ ยา่ ม ครง้ั ท่ี ๓ เป็นแกว้ น�ำ้

กระตกิ นำ�้ รอ้ นนนั้ พอรบั แลว้ กถ็ วายหลวงปเู่ ทสกต์ อ่ หนา้ สงฆโ์ ดยเคารพ ยา่ มนนั้
นึกว่าจะถวายหลวงปู่ฝั้นจึงจะสมฐานะ แต่ก�ำลังถวายกระติกหลวงปู่เทสก์อยู่นั้น
มีองค์หน่งึ อยูข่ า้ งหลัง ทง้ั พดู ทัง้ ดึงเอาย่ามวา่ “ยา่ มน้ีใหผ้ มซะ” ดงั นี้ (แกว้ นำ้� ก็เอา
ไปดว้ ย) แตไ่ ม่รู้ว่าเปน็ องคใ์ ด ไม่ได้เอ้ียวคอดู เพราะพระข้ึนไปจนยดั เยียด แตค่ ง
เป็นพระต่างอาวาส ไม่ใชพ่ ระอาวาสเดียวกนั และกพ็ อใจอยู่ ไมอ่ าลยั เพราะเคารพ
มากกวา่ อาลัย การวา้ เหว่ การเคารพ การสงั เวช การรกั นบั ถือ ทำ� ให้นำ้� ตาไหล นีค้ ง
เป็นรสชาติอนั เดียวกัน

คำ� วา่ ไมอ่ าลยั ไมอ่ าลยั ในสง่ิ ของขององคท์ า่ น แตอ่ าลยั อาวรณใ์ นธรรมอนั อนื่
ลกึ ไปกวา่ ส่ิงของภายนอกนนั้

189

บาตรหลวงปู่ม่นั

ไฉนทา่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี จ์ งึ ถามขา้ พเจา้ กอ่ นพระองคอ์ น่ื ในการจะแจกให้ กน็ า่
จะถามเปน็ ล�ำดบั พรรษาลงมา แล้วจงึ คดิ เดาดน้ ว่าชะรอยองคท์ ่านจะคิดว่าเอาใหถ้ กู
กับกเิ ลสของผู้เจา้ นำ้� ตานี้ก่อนเถิดกอ็ าจเป็นได้ เพราะองค์อืน่ ภาวนาผา่ นน�ำ้ ตาไปไกล
แลว้ องคน์ ้ียงั เปน็ บอ๋ ยของนำ้� ตาอยู่ ตกนรกทง้ั เปน็ อยู่

สดุ ทา้ ยองค์พระอาจารยม์ หา ครบู าวนั ครบู าทองค�ำ คุณสีหา ก็ไมเ่ อาอะไร
เหมือนกัน ส่วนบาตรน้ันก็ถวายท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ และองค์ท่านก็ต้องการอยู่
ไมเ้ ทา้ นนั้ พระอาจารยก์ งมาเอาไป และตกไปกบั พระเถระองคอ์ นื่ ๆ บา้ ง และเกบ็ ไวเ้ ปน็
อนสุ าวรยี เ์ ป็นส่วนมาก

เมอ่ื สรา้ งพพิ ธิ ภณั ฑท์ เ่ี กบ็ บรขิ ารเสรจ็ แลว้ บาตรกด็ หี รอื ไมเ้ ทา้ เปน็ ตน้ กด็ ี หลวงปู่
มหาบวั กบั ดอ็ กเตอรเ์ ชาวน์ ไปเทยี่ วขอคนื มาเกบ็ ไวท้ พี่ พิ ธิ ภณั ฑต์ อ่ ไปใหเ้ ปน็ ปชู นยี สมบตั ิ
ของกลาง แตบ่ าตรนนั้ ขา้ พเจา้ จำ� ได้ รปู ลกั ษณะเหน็ อยใู่ นตพู้ พิ ธิ ภณั ฑไ์ มเ่ หมอื นลกู ท่ี
องคห์ ลวงปใู่ ชอ้ ยสู่ มยั องคห์ ลวงปสู่ นิ้ ลมปราณ บาตรลกู จรงิ คงจะเอาไวบ้ นเพดานสงู
เพราะบาตรลกู นนั้ เปน็ บาตรกลมสนั ทดั ระบมดว้ ยไฟ ขาวเปน็ ระยบั ไมไ่ ดส้ งู เรยี ว ปาก
ออมๆ แบบน้ี แตก่ น็ า่ พจิ ารณาอกี หลวงปสู่ นิ้ ลมปราณไปหลายปี ทา่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี ์
ใช้ไปใชไ้ ปทะลุแลว้ ก็ไมท่ ราบ และท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ก็สน้ิ ลมปราณก่อนรเิ ร่ิมทำ�
พพิ ธิ ภณั ฑเ์ กบ็ บรขิ ารหลายปี คงจะมที า่ นผอู้ นื่ เอาไปใชแ้ ลว้ ไมเ่ หน็ ตน้ เหน็ ปลายกอ็ าจ
เปน็ ได้ แตเ่ มื่อเวลาถูกไปขอคืน ลา้ ๆ หลงั ๆ กเ็ อาบาตรลูกอน่ื ๆ ทีเ่ ก็บไวใ้ นตู้มาให้
แกป้ ัญหาซ่งึ หนา้ กอ็ าจเป็นได้ สว่ นบรขิ ารอนื่ ๆ นนั้ ไม่สงสัย สงสัยแตบ่ าตรเท่าน้ัน

190

จะอยา่ งไรกต็ าม ปรารภบา้ ๆ บอๆ ไปเฉยๆ ดอก สง่ิ ไหนทเี่ ราสมมตเิ ปน็ บรขิ าร
หลวงปู่มั่นแลว้ เคารพนบั ถอื กราบไหวก้ เ็ ปน็ บุญทงั้ นนั้ พระพทุ ธรปู ไม้ อิฐ ปนู เหลก็
ทอง แกว้ เราทำ� ขนึ้ แทน เปน็ ฉายาของพระบรมศาสดา เปน็ ทร่ี ะลกึ พระคณุ กเ็ ปน็ บญุ
ทไ่ี ดก้ ราบไดไ้ หวไ้ ดร้ ะลกึ ถงึ เปน็ อาหารของจติ วมิ านของจติ กเ็ ปน็ บญุ ทงั้ นน้ั เหน็ เมฆ
ไหลผา่ นอากาศ สมมตวิ า่ พระบรมศาสดาเหาะมากด็ ี กราบไหวไ้ ดบ้ ญุ ทงั้ นน้ั ไมเ่ หน็ อะไร
เป็นวัตถภุ ายนอก แต่เห็นจิตใจของตน ไมต่ รกึ ไปในกามารมณ์ ไม่ตรกึ ไปในทาง
พยาบาท ไมต่ รกึ ไปในทางเบยี ดเบยี น กเ็ ปน็ กศุ ลอนั ละเอยี ดลงไปทใ่ี จอกี เปน็ ภาวนา
จติ ตานปุ สั สนาภาวนาไปในตวั ดว้ ย ไมเ่ หน็ อะไร เหน็ แตด่ นิ นำ�้ ไฟ ลม เตม็ ไตรโลกธาตุ
ท้ังภายนอกทง้ั ภายใน ไกล ใกล้ หยาบ ละเอียด สุขมุ ทงั้ อดตี ด้วย ท้ังอนาคตด้วย
ทงั้ ปจั จบุ นั ดว้ ย เหน็ แบบราบคาบเสมอหนา้ กลองชยั กจ็ ดั เขา้ ในภาวนานยั แหง่ รปู ขนั ธด์ ว้ ย
จะเปน็ การบรรเทาชว่ ยใหล้ ดความหลงดนิ นำ้� ไฟ ลม ลงได้ และการหลงหนงั หมุ้ กจ็ ะ
ผอ่ นคลายลง เพราะหนงั หมุ้ เปน็ ธาตดุ นิ เมอ่ื ไมห่ ลงดนิ นำ้� ไฟ ลม แลว้ ความหลงสง่ิ อนื่ ๆ
อนั ละเอยี ดไปกวา่ นก้ี อ็ ยใู่ นกำ� มอื กำ� ใจจะชนะได้ เมอ่ื รชู้ ดั อนั หนงึ่ อนั อน่ื ๆ กค็ อ่ ยเปน็
ไปดอก ถา้ หลงอนั ใดอนั หนงึ่ ในสกลกาย สกลใจกพ็ ลอยหลงไปดว้ ย ความหลงมอี ำ� นาจ
ฝา่ ยกิเลส

หันมาเร่ืองรอฌาปนกิจขององค์หลวงปู่ต่อไป เม่ือองค์หลวงปู่ยังไม่ได้ถวาย
พระเพลงิ กเ็ ปน็ การจนใจอยใู่ นตวั จะไปวเิ วกทางใดกไ็ มพ่ อจะสะดวกหวั ใจ การงาน
อะไรๆ ทปี่ รุงแต่งข้ึนกห็ นกั ทวขี น้ึ ศาลาก็ต้องปลูกหน่งึ หลงั ยาวประมาณ ๑๕ เมตร
กวา้ งประมาณ ๑๐ เมตร หลวงปอู่ อ่ น หลวงปฝู่ น้ั สมมตใิ หข้ า้ พเจา้ เปน็ ผตู้ ดั เครอื่ งบน
คอื ขอ่ื ดงั้ จนั ทนั เอาเขา้ กนั เปน็ ตบั แตล่ า่ งยกขน้ึ ใสเ่ สาเปน็ หวี เพราะคนมากพระมาก
อนจิ จาเอย๋ ทงั้ อดนอน ทง้ั ฉนั อาหารไมม่ รี ส ทง้ั รบั พระ ทงั้ ปฏบิ ตั ทิ า่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี ์
อนั เป็นอปุ ัชฌายข์ องตน กลับหน้ากลบั หลัง ดา้ นภาวนาพอสาบานไม่ได้ ดา้ นจงกรม
ไม่ได้เดินเสียเลย นึกถึงพระคุณขององค์หลวงปู่ไม่มีประมาณ เพราะองค์ท่านส่ัง
ซำ�้ ๆ ซากๆ ไมใ่ หเ้ อาไวน้ านเพราะเกรงวา่ ลกู ๆ หลานๆ จะหา่ งเหนิ จากสมาธภิ าวนา และ
กเ็ กรงวา่ ลกู ๆ หลานๆ จะเอาเปน็ เยยี่ งอยา่ ง เกบ็ ศพไวน้ านเปน็ การคลกุ คลี นบั วา่ เปน็
อนาคตงั สญาณ ญาณในสว่ นอนาคตขององคท์ า่ นทายไวไ้ มผ่ ดิ เพราะอลหมา่ นจกุ จกิ

191

คลกุ คลยี ่งุ เหยงิ มาก แตก่ ต็ รงกนั ขา้ ม ผู้ชอบเพลินกว็ า่ สนุกดี ผู้รกั ประเพณีของฝา่ ย
ปฏบิ ตั ิก็ว่าไมเ่ หมาะสม

การอยรู่ ว่ มโลกเปน็ ของยากนกั หนามาแตด่ กึ ดำ� บรรพ์ เพราะจติ ใจและความเหน็
ไม่ทรงอยรู่ ะดับเดยี วกันได้ คล้ายกบั พระอาทิตยแ์ ละพระจันทร์ พระอาทิตย์เดนิ เร็ว
พระจันทร์เดนิ ชา้ จ�ำเปน็ ต้องมีปกั ษข์ าดบ้าง ปกั ษ์ถว้ นบ้าง และมีอธิกมาสบ้าง จะได้
มีอุบายห้ามล้อผู้เดินเร็วได้บ้าง จะได้ใช้ผู้ช้าให้เดินเร็วเข้ากว่าน้ันบ้าง มิฉะน้ันแล้ว
ฤดูกาลก็จะผดิ ปกติไปมาก พระวินยั บางแหง่ ก็มีอนโุ ลมภิกษุผูบ้ วชใหม่ เช่น อาบตั ิ
ทกุ กฏบางประเภท อาทิ นงุ่ หม่ ยงั ไมเ่ รยี บรอ้ ย ยงั ไมเ่ ปน็ ปรมิ ณฑล และฉนั เมลด็ ขา้ ว
ตกลงในบาตรและในทน่ี นั้ แตจ่ ะแอบกนิ กบั อนโุ ลมไปหนา้ เดยี วกไ็ มไ่ ด้ เชน่ ภกิ ษเุ ปน็ บา้
ไมใ่ หโ้ จทกท์ า่ นดว้ ยอาบตั ทิ ที่ ำ� ทล่ี ว่ งในเวลาเปน็ บา้ ทเ่ี รยี กวา่ อมฬู หวนิ ยั เหลา่ นเี้ ปน็ ตน้
ถา้ จะใชแ้ ตอ่ นโุ ลมถา่ ยเดยี วกไ็ มไ่ ด้ ฉนั ใดกด็ ี ผปู้ ฏบิ ตั ติ งึ ยอ่ มไมพ่ อใจในผปู้ ฏบิ ตั หิ ยอ่ น
ผปู้ ฏบิ ตั หิ ยอ่ นยอ่ มเปน็ ทไ่ี มพ่ อใจของผปู้ ฏบิ ตั ติ งึ แตต่ งึ ไปทางถกู กน็ า่ ชม ตงึ ไปทางผดิ
นอกธรรมนอกวนิ ยั กเ็ ปน็ ปญั หาไปอกี แตต่ งึ ไปทางถกู ในปจั จบุ นั เดย๋ี วน้ี คงจะเปน็ การ
พอใชไ้ ดใ้ นครง้ั พทุ ธกาลกระมงั การปฏบิ ตั ไิ ปพอปานกลางในยคุ ปจั จบุ นั คงจะจวนจะ
พอใชใ้ นครง้ั พทุ ธกาล ถา้ สำ� คญั วา่ ปฏบิ ตั หิ ยอ่ นในสมยั ปจั จบุ นั ยคุ เดย๋ี วน้ี กค็ งจะเปน็
ชนั้ เลวมากในครั้งพทุ ธกาลกระมงั

แมจ้ ะยง่ิ หรอื หยอ่ น หรอื ปานกลาง หรอื เลว กต็ อ้ งมธี รรมวนิ ยั เปน็ เครอ่ื งวดั ทดสอบ
จะบญั ญตั เิ อาตามอตั โนมตั ิ เอาของใครของมนั กไ็ มไ่ ดอ้ กี ละ เพราะคนเราเปน็ สว่ นมาก
ยอ่ มเขา้ ขา้ งตวั ถา้ เขา้ ขา้ งธรรมแลว้ ไมค่ อ่ ยจะผดิ ถงึ จะผดิ กไ็ มผ่ ดิ มาก มปี ระตแู กไ้ ขได้
คนมกี เิ ลสหนาเทา่ ใดกย็ อ่ มเขา้ ขา้ งตวั มากเทา่ นน้ั พระอรหนั ตเ์ ขา้ ขา้ งธรรมลว้ นๆ เพราะ
ไมม่ อี ปุ าทานใดๆ ในขนั ธสนั ดานเลย จำ� พวกทเี่ ขา้ ถงึ โลกตุ ตระแลว้ ยอ่ มถอื ธรรมาธปิ ไตย
เป็นแวน่ เปน็ กระจกเงา เป็นบรรทัด เป็นเครื่องวัดเครอ่ื งตวง เป็นไม้เมตรไม้เซน็ ต์
เหลือนอกนนั้ เอาเป็นเกณฑไ์ มไ่ ด้

192

วันถวายพระเพลงิ

ปรารภเรือ่ งฌาปนกิจขององคห์ ลวงป่ตู ่อไป เพราะยังไมเ่ สร็จ คร้นั เวลาล่วงไป
ใกลเ้ ดอื น ๓ เพญ็ ทา่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี แ์ ละพระเถรานเุ ถระกจ็ ะเตรยี มถวายพระเพลงิ
องคห์ ลวงปู่ กะไวว้ า่ พอถวายพระเพลิงเสร็จแลว้ บรรดาพุทธบรษิ ัทผู้ต้องการจะไป
ธาตพุ นมประจำ� ปขี องงานธาตพุ นม กจ็ ะไดเ้ ตลดิ ไปใหท้ นั ไดไ้ มเ่ สยี เทยี่ วของผตู้ อ้ งการไป
จงึ ตกลงกนั ในวนั ขา้ งขน้ึ ๑๓ คำ่� แหง่ เดอื น ๓ เปน็ วนั ถวายพระเพลงิ กะกนั วา่ ๓ ทมุ่
จงึ ถวายพระเพลงิ แตม่ ผี ขู้ ด้ี อ้ื ไปลอบถวายพระเพลงิ กอ่ น ๓ ทมุ่ เวลาคำ�่ มดื แลว้ แตก่ เ็ ปน็
การแลว้ ไป

ตนื่ เชา้ เกบ็ พระอฐั ธิ าตใุ นยามฉนั เชา้ เสรจ็ ทา่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี ไ์ ดป้ ระกาศวา่
“ท่านผใู้ ดไปลอบเอาพระธาตุไปเป็นส่วนตวั ฝา่ ยพระเณรตอ้ งปรับปาราชกิ ”

เตาไฟนนั้ ทำ� เปน็ รปู โบสถ์ พนู ดนิ สงู ๑ เมตร เตาอยศู่ นู ยก์ ลาง มเี ปลวทง้ั ๔ ทศิ
เปน็ รโู ตทะลอุ อกมาทกุ ดา้ น ไฟลกุ โพลงโดยรวดเรว็ เกบ็ พระธาตแุ ลว้ มาตกิ า บงั สกุ ลุ
ถวายสง่ิ ของตามประเพณนี ยิ มกนั กอ่ นถวายเพลงิ กเ็ ชน่ กนั วนั ยงั คำ่� กว็ า่ ได้ เมอื่ เสรจ็ สน้ิ
แลว้ ทา่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี ก์ เ็ อาพระธาตขุ น้ึ ไปบนระเบยี งกฏุ ิ องคท์ า่ นถามขา้ พเจา้ วา่
“หลา้ เธอจะเอาไหมอัฐิธาต”ุ

กราบเรยี นวา่ “เกลา้ ไมเ่ อาดอก เพราะองคห์ ลวงปเู่ ทศนซ์ ำ�้ ๆ ซากๆ ในเรอ่ื งพระธาตุ
อยู่บ้านหนองผือ ก่อนสน้ิ ลมปราณแล้ว”

193


Click to View FlipBook Version