The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by niwat2524, 2021-10-08 19:56:55

physics5

36 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 37






แรงนี้คือแรงสู่ศูนย์กลาง ที่ทำาให้อนุภาคเคลื่อนที่เป็นวงกลม ขณะที่ขนาดของความเร็ว vcosθ

ทำาให้วงกลมเลื่อนไปตามแนวขนานกับสนามแม่เหล็ก ลักษณะการเคลื่อนที่ของอนุภาคจึงเป็นเกลียว
(helical path) ดังรูป
L


v 

v

θ
R

v 

B
รูป การหาระยะช่วงกว้างของเกลียว (L) และรัศมีวงโคจรของอนุภาคในสนามแม่เหล็ก (R)

การหารัศมีวงโคจร (R) และระยะช่วงกว้างของเกลียว (L) มีดังนี้
รัศมีวงโคจรแต่ละรอบ หาได้จาก
R mvsin θ
qB

และระยะระหว่างเกลียวแต่ละรอบ หาได้จากระยะทางในแนวขนานกับสนามแม่เหล็กที่อนุภาค

เคลื่อนที่ในเวลา 1 คาบ (T) ได้แก่ ระยะ L ในรูป ซึ่งหาได้ ดังนี้
L = (vcosθ) T
2 π
เมื่อ T
ω
vsin θ qB
และ ω
R m
 2π  π 2 mvcos θ
v
จะได้ L (cos ) θ  
m
 (qB / )  qB
















สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

36 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 37




15.2.2 แรงแม่เหล็กกระทำาต่อลวดตัวนำาที่มีกระแสไฟฟ้าผ่าน

ความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น


ความเข้าใจคลาดเคลื่อน แนวคิดที่ถูกต้อง



1. ลวดตัวนำาที่อยู่ในสนามแม่เหล็ก เมื่อมี 1. ลวดตัวนาท่อย่ในสนามแม่เหล็ก เม่อม ี








กระแสไฟฟ้าผ่าน จะมีแรงแม่เหล็กกระทำา กระแสไฟฟาผาน จะมแรงแมเหลกกระทา




ต่อลวดตัวนำานั้นเสมอ ต่อลวดตัวนา เม่อลวดตัวนาไม่ขนานกับ
สนามแม่เหล็กเท่านั้น
แนวการจัดการเรียนรู้
ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อที่ 6 ของหัวข้อ 15.2 ตามหนังสือเรียน





ครูนาเข้าส่หัวข้อท 15.2.2 โดยนาอภิปรายทบทวนเก่ยวกับแรงแม่เหล็กท่กระทาต่ออนุภาคท่มีประจ ุ









ไฟฟ้าและเคล่อนท่ในสนามแม่เหล็ก จากน้นต้งคาถามว่ากระแสไฟฟ้าในลวดตัวนาเกิดจากการเคล่อนท ี ่





ของอเล็กตรอนอิสระ ถานาลวดตัวนาท่มีกระแสไฟฟาไปไว้ในสนามแมเหล็กจะเกิดแรงกระทาต่อ







ลวดตัวนาน้น หรือไม อย่างไร เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยไม่คาดหวัง

คำาตอบที่ถูกต้องแล้วให้นักเรียนศึกษา กิจกรรม 15.2
กิจกรรม 15.2 แรงกระทำาต่อลวดตัวนำาที่อยู่ในสนามแม่เหล็กขณะมีกระแสไฟฟ้าผ่าน
จุดประสงค์
1. สังเกตและอธิบายแรงกระทำาต่อลวดตัวนำาเส้นตรงที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านและอยู่ในสนามแม่เหล็ก
เวลาที่ใช้ 50 นาที
วัสดุและอุปกรณ์
1. แท่งแม่เหล็กขั้วข้าง 2 อัน
2. ลวดตัวนำาตรง 3 เส้น
3. ฐานรองรับรูปตัวยู 1 อัน
4. เข็มทิศ 1 อัน
5. สายไฟ 2 เส้น
6. แบตเตอรี่ขนาด 1.5 โวลต์ 4 ก้อนพร้อมกระบะ 1 ชุด
7. สวิตซ์ 1 อัน
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

38 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 39






แนะนำาก่อนทำากิจกรรม





1. ทาแม่เหล็กรูปตัวยูจากการติดแม่เหล็กข้วข้างกับปลายท้งสองของฐานรองรับรูปตัวย โดยหัน


ข้วต่างกันเข้าหากัน ก่อนทาการทดลองควรใช้เข็มทิศตรวจสอบข้วของแม่เหล็กเพ่อให้ทราบ


ทิศทางของสนามแม่เหล็ก






2. ตรวจสอบการต่อข้วของไฟฟ้าท่ต่อกับแบตเตอร เพ่อให้ทราบทิศทางของกระแสไฟฟ้าท่ผ่าน
ลวดตัวนำาเส้นตรง


3. เม่อกระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนาเส้นตรง สังเกตการเปล่ยนแปลงท่เกิดข้น หลังจากน้นปิดสวิตซ ์




ทันที
ตัวอย่างผลการทำากิจกรรม
กระไฟฟ้าผ่านลวดตัวนำาจาก A ไป B เขียนแผนภาพทิศทางของกระแสไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก
และทิศทางการเคลื่อนที่ของลวดตัวนำาเส้นตรงได้ดังรูป

 B
B I
F 
A
กระไฟฟ้าผ่านลวดตัวนำาจาก B ไป A เขียนแผนภาพทิศทางของกระแสไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก
และทิศทางการเคลื่อนที่ของลวดตัวนำาเส้นตรงได้ดังรูป
 B B
 B
F 
I F
I 
A A B
























สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

38 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 39





แนวคำาตอบคำาถามท้ายกิจกรรม





□ กระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนาเส้นตรงมีทิศทางจาก B ไป A สนามแม่เหล็กมีทิศทางช้ลง ลวดตัวนา
เส้นตรงเคลื่อนที่ไปทางใด
แนวคำาตอบ ลวดตัวนำาเส้นตรงเคลื่อนที่ออกจากแม่เหล็กรูปตัวยู



□ กระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนาเส้นตรงมีทิศทางจาก A ไป B สนามแม่เหล็กมีทิศทางช้ลง ลวดตัวนา
เส้นตรงเคลื่อนที่ไปทางใด
แนวคำาตอบ ลวดตัวนำาเส้นตรงเคลื่อนที่เข้าหาแม่เหล็กรูปตัวยู
□ ทิศทางของกระแสไฟฟ้ามีผลต่อการเคลื่อนที่ของลวดตัวนำาเส้นตรงหรือไม่ อย่างไร

แนวคำาตอบ มีผล เพราะ เมื่อกลับทิศทางของกระแสไฟฟ้า การเคลื่อนที่ของลวดตัวนำาเส้นตรง
จะมีทิศทางตรงข้าม



□ เม่อกลับข้วของแม่เหล็กรูปตัวย สนามแม่เหล็กมีทิศทางไปทางใด และลวดตัวนาเคลื่อนท่อย่างไร


เมื่อเทียบกับตอนแรก




แนวคาตอบ เม่อกลับข้วของแม่เหล็กรูปตัวย สนามแม่เหล็กมีทิศทางตรงข้ามกับทิศทางเดิม มีผล
ทำาให้ลวดตัวนำาเส้นตรงเคลื่อนที่ในทิศทางตรงข้ามกับตอนแรก
□ ทิศทางของสนามแม่เหล็กมีผลต่อการเคล่อนท่ของลวดตัวนาเส้นตรงท่มีกระแสไฟฟ้าผ่านหรือไม ่




อย่างไร
แนวคาตอบ มีผล เพราะ เม่อกลับทิศทางของสนามแม่เหล็ก การเคล่อนท่ของลวดตัวนาเส้นตรง





จะมีทิศทางตรงข้าม
□ เพราะเหตุใด เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนำาเส้นตรงจึงเคลื่อนที่ได้




แนวคาตอบ เพราะมีแรงแม่เหล็กกระทากับลวดตัวนา เม่อมีกระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนาท่อย่ใน



สนามแม่เหล็ก

□ ในแต่ละกรณี ลวดตัวนาเส้นตรงเคล่อนท่ในทิศทางท่ต้งฉากกับทิศทางของกระแสไฟฟ้า และ




ทิศทางของสนามแม่เหล็ก หรือไม่

แนวคาตอบ ลวดตัวนาเคล่อนท่ในทิศทางต้งฉากกับทิศทางของกระแสไฟฟ้าและทิศทางของ




สนามแม่เหล็ก
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

40 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 41






อภิปรายหลังการทำากิจกรรม


ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกัน โดยใช้ผลการทำากิจกรรมและคำาถามท้ายกิจกรรม จนสรุป
ได้ดังนี้

เม่อให้กระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนาเส้นตรงท่อย่ในสนามแม่เหล็ก จะมีแรงแม่เหล็กกระทา







ต่อลวดตัวนา โดยทิศทางของแรงท่กระทากับลวดตัวนาขึ้นอยู่กับทิศทางของกระแสไฟฟ้าและ

ทิศทางของสนามแม่เหล็ก ซ่งหาทิศทางของแรงได้โดยใช้มือขวา ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน

ดังรูป 15.30 และอธิบายเพิ่มเติมตามกิจกรรมได้ ดังรูป

B  B
 I B I
F F 

A B A
ก. กระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนำาจาก A ไป B ข. กระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนำาจาก A ไป B

 B B B
F 
I F
I B 
A A

ค. กระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนำาจาก B ไป A ง. กระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนำาจาก B ไป A
รูป แผนภาพของทิศทางของกระแสไฟฟ้า ทิศทางของสนามแม่เหล็ก และทิศทางของแรงที่กระทำาต่อลวดตัวนำา






ครูนาอภิปรายเก่ยวกับการหาขนาดของแรงแม่เหล็กท่กระทาต่อลวดตัวนาเส้นตรง ซ่งสัมพันธ์กับ




ขนาดของกระแสไฟฟา I ความยาวของลวด L และสนามแมเหลก B ตามรายละเอยดในหนังสอเรียน




จนได้สมการ (15.5) และ (15.6) ครูอาจเน้นว่าความยาวของลวด L คือ ความยาวของลวดที่มีกระแสไฟฟ้า
และอยู่ในสนามแม่เหล็ก
ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่าง 15.6 และ 15.7 โดยครูเป็นผู้แนะนำา










สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

40 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 41




15.2.3 แรงระหว่างลวดตัวนำาที่มีกระแสไฟฟ้า

ความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น


ความเข้าใจคลาดเคลื่อน แนวคิดที่ถูกต้อง





1. ลวดตัวนาท่มีกระแสไฟฟ้าสองเส้น เม่ออย ่ ู 1. ลวดตัวนาท่มีกระแสไฟฟ้าสองเส้น เม่ออย ู ่



ใกล้กันจะไม่มีแรงแม่เหล็กกระทาระหว่าง ใกล้กันจะมีแรงแม่เหล็กกระทาระหว่าง


ลวดตัวนำาทั้งสอง ลวดตัวนำาทั้งสอง
สิ่งที่ครูต้องเตรียมล่วงหน้า
กรณีครูสาธิตแรงระหว่างลวดตัวนำาสองเส้นที่มีกระแสไฟฟ้าผ่าน
1. หม้อแปลงโวลต์ต่ำา 1 เครื่อง
2. เครื่องชั่งกระแส 1 เครื่อง
3. ตัวต้านทานปรับค่าได้ (20 โอห์ม) 1 ตัว
4. แอมมิเตอร์ 1 เครื่อง
5. สายไฟ 6 เส้น



กิจกรรมสาธิต แรงระหว่างลวดตัวนำาสองเส้นที่มีกระแสไฟฟ้าผ่าน



จุดประสงค์


1. อธิบายแรงกระทาระหว่างลวดตัวนาเส้นตรงสองเส้นท่วางขนานและห่างกัน ขณะท่มีกระแส


ไฟฟ้าผ่านจะมีแรงกระทำาระหว่างลวดทั้งสอง
เวลาที่ใช้ 30 นาที
วัสดุและอุปกรณ์
1. หม้อแปลงโวลต์ต่ำา 1 เครื่อง

2. เครื่องชั่งกระแส 1 เครื่อง
3. ตัวต้านทานปรับค่าได้ (20 โอห์ม) 1 ตัว
4. แอมมิเตอร์ 1 เครื่อง
5. สายไฟ 6 เส้น







สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

42 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 43






แนะนำาก่อนทำากิจกรรม

1. กิจกรรมนี้ใช้ไฟฟ้ากระแสตรงเริ่มจากความต่างศักย์ 5 โวลต์




2. อธิบายส่วนประกอบของเคร่องช่งกระแสไฟฟ้า ซ่งประกอบด้วยขดลวด ab ท่ติดกับกล่อง
ประมาณ 10 รอบและลวด cd ที่ต่อกับคาน 1 เส้นดังรูป


















รูป เครื่องชั่งกระแส




การท่ต้องใช้ขดลวดจานวนรอบมากเพ่อให้สนามแม่เหล็กรอบขดลวดมีค่ามากข้น แรงท ี ่

กระทำาต่อลวด cd จะมากขึ้นด้วยทำาให้สังเกตได้ชัดเจนขึ้น
3. เลื่อนจุกยางที่คานปรับจนขดลวด cd ที่อยู่ติดกับคานให้อยู่ห่างขดลวด ab เล็กน้อย
4. การต่อแอมมิเตอร์ในวงจร ให้ต่อช่อง 5 แอมแปร เข้ากับข้วบวกของ D.C. และข้วลบกับ



สายไฟจากตัวต้านทานปรับค่าได ดังรูป ก. ข. และ ค. กระแสไฟฟ้าในวงจรควรมีค่า

ประมาณ 3 - 4 แอมแปร์ ถ้าปรับค่าของความต้านทานแล้ว กระแสไฟฟ้าในวงจรยังน้อยไป
และลวด cd ไม่ขยับ ให้เพิ่มความต่างศักย์จากหม้อแปลง แต่ไม่ควรเกิน 8 โวลต์






















สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

42 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 43






























ก.













ข.
b
d A +
I 5 - 8 Vdc - 220 V
I
a
c



ค.
รูป การต่อวงจรไฟฟ้าที่ใช้กับการสาธิตแรงระหว่างลวดตัวนำาสองเส้นที่มีกระแสไฟฟ้าผ่าน
5. ตรวจสอบทิศทางของกระแสไฟฟ้าจากการต่อวงจรไฟฟ้า เพื่อให้ทราบทิศทางของ
กระแสไฟฟ้าที่ผ่านขดลวดทั้งสองส่วนนี้มีทิศเดียวกันหรือมีทิศตรงข้ามกัน
6. เมื่อสังเกตผลได้แล้ว ปิดสวิตช์ของหม้อแปลงโวลต์ต่ำาทันที






สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

44 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 45






ตัวอย่างผลการทำากิจกรรม


1. เม่อกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดตัวนา ab และลวดตัวนา cd มีทิศเดียวกัน ลวด cd จะถูก


ดึงดูดเข้าหาขดลวดตัวนำา ab
2. เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดตัวนำา ab และลวดตัวนำา cd มีทิศตรงข้ามกัน ลวด cd จะถูก
ผลักออกจากขดลวดตัวนำา ab



แนวการจัดการเรียนรู้
ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อที่ 7 ของหัวข้อ 15.2 ตามหนังสือเรียน







ครูนาเข้าส่หัวข้อท 15.2.3 โดยนาอภิปรายทบทวนเก่ยวกับทิศทางของสนามแม่เหล็กรอบลวดตัวนา






เส้นตรงท่มีกระแสไฟฟ้าผ่าน และแรงแม่เหล็กกระทาต่อลวดตัวนาท่มีกระแสไฟฟ้า จากน้นครูต้งคาถามว่า













หากมีกระแสไฟฟาผานลวดตวนาสองเสนทอยใกลกนและขนานกนจะเกดอะไรขนระหวางลวดตวนา







ทั้งสอง เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยไม่คาดหวังคำาตอบที่ถูกต้อง





ครูใช้สถานการณ์หรืออาจสาธิตเคร่องช่งกระแสท่ประกอบด้วยขดลวดตัวนาและลวดตัวนาเส้นตรง
วางขนานกันหรือการสาธิตเครื่องชั่งกระแส ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน ประกอบการจัดการเรียนรู้ ดังนี้


กรณีท 1 กระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดตัวนา ab และลวดตัวนา cd มีทิศทางเดียวกัน พบว่าลวด cd


เคลื่อนที่เข้าหาลวด ab ครูใช้รูป 15.33 นำาอภิปรายโดยใช้ความรู้กระแสไฟฟ้าที่ผ่านลวด ab จะทำาให้เกิด
สนามแม่เหล็กข้นรอบลวด ab ลวด cd ซ่งมีกระแสไฟฟ้าผ่านและอย่ในสนามแม่เหล็กของลวด ab









จึงเกิดแรงกระทาต่อลวด cd ทาให้เคล่อนท่เข้าหาลวด ab ดังรูป 15.34 ทานองเดียวกันกระแสไฟฟ้าท่ผ่าน
ลวด cd เกิดสนามแม่เหล็กรอบลวด cd ลวด ab ซึ่งมีกระแสไฟฟ้าผ่านและจะอยู่ในสนามแม่เหล็กของลวด
cd จึงเกิดแรงกระทาต่อลวด ab ด้วย ดังรูป 15.35 ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน จนสรุปได้ว่า ลวดตัวนา


เส้นตรงสองเส้นวางขนานกัน เมื่อมีกระแสไฟฟ้าผ่านในทิศทางเดียวกันจะมีแรงดึงดูดกัน
กรณีที่ 2 กระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดตัวนำา ab และลวดตัวนำา cd มีทิศทางตรงข้ามกัน พบว่าลวด cd



เคล่อนท่ออกจากลวด ab ครูนาอภิปรายเช่นเดียวกับกรณีท 1 แต่กรณีน้กระแสไฟฟ้าในขดลวดท้งสองม ี




ทิศทางตรงข้ามกัน ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน จนสรุปได้ว่า ลวดตัวนำาเส้นตรงสองเส้นวางขนานกัน
เมื่อมีกระแสไฟฟ้าผ่านในทิศทางตรงข้ามกันจะมีแรงผลักกัน ดังรูป 15.36






ครูนาอภิปรายเก่ยวกับแรงท่เกิดระหว่างลวดตัวนาค่ขนานท่มีกระแสไฟฟ้าผ่านเป็นแรงค่กิริยา-

ปฏิกิริยาระหว่างลวดท้งสอง โดยเป็นแรงดึงดูดเม่อกระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนาในทิศทางเดียวกันและเป็น



แรงผลักเมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านในทิศตรงข้าม ดังรูป 15.37


ครูให้นักเรียนตอบคาถามตรวจสอบความเข้าใจหัวข้อ 15.2 และทาแบบฝึกหัด 15.2 โดยครูอาจ
มีการเฉลยคำาตอบและอภิปรายคำาตอบร่วมกัน
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

44 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 45




แนวการวัดและประเมินผล






1. ความร้เก่ยวกับแรงแม่เหล็กท่กระทากับอนุภาคท่มีประจุไฟฟ้า แนวการเคล่อนท่ของอนุภาคท่ม ี


ประจุไฟฟ้าที่เคลื่อนในสนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทำาต่อลวดตัวนำาเส้นตรงที่มีกระแสไฟฟ้า




ผ่านและอย่ในสนามแม่เหล็ก และแรงระหว่างลวดตัวนาเส้นตรงค่ขนานทมีกระแสไฟฟ้าผาน


จากการอภิปรายร่วมกัน คำาถามตรวจสอบความเข้าใจ 15.2 และแบบฝึกหัด 15.2
2. ทักษะด้านการสังเกต การทดลอง การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป การสื่อสารสารสนเทศ



และการร้เท่าทันส่อ จากการอภิปรายร่วมกันและการนาเสนอผล และทักษะด้านความร่วมมือ
การทำางานเป็นทีมและภาวะผู้นำา จากการทำากิจกรรมร่วมกัน
3. จิตวิทยาศาสตร์ด้านความซื่อสัตย์ ความมุ่งมั่นอดทน จากการอภิปรายและการทำากิจกรรม

แนวคาตอบคาถามตรวจสอบความเข้าใจ 15.2



1. อนุภาคท่มีประจุไฟฟ้าบวกและลบเคล่อนท่เข้าไปในแนวขนานกับสนามแม่เหล็ก B ที่มีค่า


สม่ำาเสมอ ดังรูป
B B





รูป ประกอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 1

การเคลื่อนที่ในสนามแม่เหล็กของอนุภาคทั้งสองจะเป็นอย่างไร






แนวคาตอบ เน่องจากอนุภาคท่มีประจุไฟฟ้าท้งสองเคล่อนท่ขนานกับสนามแม่เหล็ก จึงไม่ม ี
แรงแม่เหล็กกระทาต่ออนุภาคท้งสอง การเคล่อนท่ในสนามแม่เหล็กของอนุภาคท้งสองจะเป็น





แนวเส้นตรง
2. จงเขียนทิศของแรงที่กระทำาต่อประจุที่เคลื่อนที่ในสนามแม่เหล็กจากรูปต่อไปนี้
× ×  × × × ×
v v  v 

× × × × × × v
× × × × × ×  


B B B B
รูป ประกอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 2
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

46 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 47














แนวคาตอบ ใช้มือขวาหาทิศทางของแรงท่กระทาต่อประจ ได้ดังรูป โดยช้น้วท้งส่ตามทิศทางของ
ความเร็ว(v) แล้ววนน้วท้งส่ไปหาทิศทางของสนามแม่เหล็ก (B) น้วหัวแม่มือจะช้ทิศทางของแรง





(F) จะได้แรงกระทำาต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า ดังรูป

F 
× ×  × × × × F
v v  v 


× × × × × F × v

× × × × ×  ×  F 

B B B B
รูป ประกอบแนวคำาตอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 2



3. การเคล่อนท่ของอนุภาคท่มีประจุไฟฟ้าด้วยอัตราเร็วคงตัวในสนามแม่เหล็ก ประจุไฟฟ้าจะเคล่อนท ่ ี

เป็นวงกลมในระนาบที่ตั้งฉากกับสนามแม่เหล็กเสมอ ดังรูป
× × × × ×

v
× v  × F  ×  × ×
F
×r
× ×  × ×
F  F v 
× × × × ×
×

× v  × × ×
รูป ประกอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 3
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. แรงแม่เหล็กมีทิศทางตั้งฉากกับสนามแม่เหล็กเสมอ
ข. อนุภาคมีประจุไฟฟ้าเป็นลบ
แนวคำาตอบ



ก. ถูกต้อง เพราะ แรงแม่เหล็กมีทิศทางต้งฉากกับสนามแม่เหล็กและต้งฉากกับ
ความเร็วของอนุภาคเสมอ ดังรูป









สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

46 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 47






× × × × ×


× × × × ×


× ×  × ×
F 
× × × × v ×

× × × B × ×

รูป ประกอบแนวคำาตอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 3 ก.




ข. ไม่ถูกต้อง เพราะเม่อใช้มือขวาหาทิศทางของแรงท่กระทากับอนุภาคท่เคล่อนท่ด้วย



ความเร็ว ในสนามแม่เหล็กที่มีทิศทางดังรูป อนุภาคต้องมีประจุเป็นบวก
× × × × ×

v
× v  × F  ×  × ×
F
×r
× ×  × ×
F  F v 
× × × × ×

×

× v  × × ×
รูป ประกอบแนวคำาตอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 3 ข.
4. เม่อมีกระแสไฟฟ้าผ่านลวดทองแดงท่วางตัวในแนวระดับระหว่างแท่งแม่เหล็กรูปเกือกม้า ดังรูป









S N
I
รูป ประกอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 4

ลวดทองแดงจะเคลื่อนที่ไปในทิศใด






สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

48 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 49







ตอบ
แนวค




ใช
้ม

ือขวาหาทิศทางของแรงท่กระทาต่อ
ิศทางของแรง
ังรูป ทาให้ลวดทองแดง
ีท



ลวด
ทองแดงม
เคลื่อนที่ในทิศทางลง

B
S N
I F 
รูป ประกอบแนวคำาตอบคำาถาม
ตรวจสอบความเข้าใจข้อ 4
5. ลวดตัวนำาสามเส้น ab cd และ ef วางตัวขนานกัน โดยลวด cd อยู่กึ่งกลางระหว่าง ab และ ef
และมีกระแสไฟฟ้า I ผ่านแต่ละเส้นเท่ากันโดยมีทิศทาง ดังรูป

a c e

I I I








b d f

รูป ประกอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 5

แรงที่กระทำาต่อลวดแต่ละเส้นมีทิศทางใด


แนวคาตอบ พิจารณาแรงท่กระทาต่อลวดแต่ละเส้น โดยใช้แนวคิดว่า ลวดตัวนาเส้นตรงสองเส้น


วางขนานกัน มีกระแสไฟฟ้าในทิศทางเดียวกันจะมีแรงดึงดูดกัน แต่ถ้ามีกระแสไฟฟ้าในทิศทาง
ตรงข้ามกันจะมีแรงผลักกัน จึงเกิดแรงกระทำาต่อลวดแต่ละเส้น ดังรูป













สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

48 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 49







a c e a c e



I ab I cd I ab I cd



F  B ef F  B cd F  B ab

F 
I ef B ef I ef




b d f b d f

ก. แรงกระทำาต่อลวดตัวนำา ab ข. แรงกระทำาต่อลวดตัวนำา cd


a c e



I ab I cd

F  B cd


F 
I ef B ab




b d f


ค. แรงกระทำาต่อลวดตัวนำา ef
รูป ประกอบแนวคำาตอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 5


















สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

50 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 51





เฉลยแบบฝึกหัด 15.2




1. อนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า q เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว v เข้าไปในสนามแม่เหล็ก B ดังรูป





v  30 



B
รูป ประกอบแบบฝึกหัดข้อ 1

ขนาดของแรงแม่เหล็กที่กระทำาต่ออนุภาคนี้มีขนาดเท่าใด









วิธีทำา จากรป อนุภาคทมีประจ q เคลอนทบนระนาบกระดาษ มทิศทางต้งฉากกับสนามแมเหลก



ขนาดของแรงแม่เหล็กที่กระทำาต่ออนุภาค หาได้จากสมการ
F = qvB
ตอบ แรงแม่เหล็กที่กระทำาต่ออนุภาคมีขนาด qvB
6



2. อิเล็กตรอนตัวหน่งเคล่อนท่ด้วยความเร็วคงตัวขนาด 2 × 10 เมตรต่อวินาท เข้าไปใน

-3
สนามแม่เหล็กสม่ำาเสมอขนาด 5.0 × 10 เทสลา ในทิศทางทำามุม 30 องศา กับสนามแม่เหล็ก
ขนาดของแรงแม่เหล็กที่กระทำาต่ออิเล็กตรอนมีค่าเท่าใด
วิธีทำา ขนาดของแรงที่กระทำาต่ออิเล็กตรอน หาได้จากสมการ
F = qvBsinθ
6
-19
-3
จากโจทย์ q = 1.6 × 10 C v = 2 × 10 m/s B = 5.0 × 10 T
และ θ = 30˚
-3
-19
แทนค่า F = (1.6 × 10 C)(2 × 10 m/s)(5.0 × 10 T)(sin30˚)
6
-16
จะได้ F = 8.0 × 10 N
-16
ตอบ แรงแม่เหล็กที่กระทำาต่ออิเล็กตรอนเท่ากับ 8.0 × 10 นิวตัน





สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

50 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 51










3. ลวด PQ มวล 20 กรัม วางบนรางตัวนาค่ขนานในระนาบระดับท่ต่อกับวงจรไฟฟ้าและอย่ใน
สนามแม่เหล็กสม่ำาเสมอที่มีขนาด 0.2 เทสลา ดังรูป

P

B 5 cm
Q

รูป ประกอบแบบฝึกหัดข้อ 3

ถ้ามีกระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนำา 4 แอมแปร์
ก. ลวดนี้จะเคลื่อนที่ในทิศทางใด

ข. ลวดนี้มีความเร่งเท่าใด



วิธีทำา ก. ใช้มือขวาหาทิศทางของแรงท่กระทาต่อลวดตัวนาท่มีกระแสไฟฟ้าผ่านและอย่ใน


สนามแม่เหล็กจะได้ทิศทางการเคลื่อนที่ของลวด PQ ไปทางขวามือ
ข. หาขนาดของแรงจากสมการ F = IlBsinθ
-2
จากโจทย์ I = 4 A l = 5.0 × 10 m B = 0.2 T และ θ = 90˚
-2
จะได้ F = (4 A)(5.0 × 10 m)(0.2 T )sin90˚
-2
F = 4 × 10 N
หาความเร่งของลวดตัวนำาจากกฎการเคลื่อนที่ข้อที่สองของนิวตัน
F = ma
-2
-3
4 × 10 N = (20 × 10 kg)(a)
a = 2 m/s 2
ตอบ ก. ลวดนี้จะเคลื่อนที่ในทิศทางไปทางขวามือ

ข. ลวดนี้มีความเร่งเท่ากับ 2 เมตรต่อวินาทีกำาลังสอง





















สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

52 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 53






4. เมื่อกดสวิตซ์ S ให้กระแสไฟฟ้าผ่านลวดตัวนำา L และ L ที่แขวนขนานห่างกัน d และปลาย
1 2
ลวดทั้งสองจุ่มในสารละลายอิเล็กโทรไลต์ ดังรูป
S









d
L 2
L 1







ลวดตัวนำ สารละลายอิเล็กโทรไลต

รูป ประกอบแบบฝึกหัดข้อ 4

ก. แรงกระทำาต่อกันระหว่างลวดตัวนำา L และ L เป็นแรงดึงดูดหรือแรงผลัก เพราะเหตุใด
1 2
ข. ขนาดแรงกระทำาต่อกันขึ้นกับกระแสไฟฟ้าอย่างไร

ค. กรณีใดที่ทำาให้แรงบนลวดตัวนำา L และ L มีค่าเท่ากัน
1 2


ตอบ ก. แรงท่เกิดข้นระหว่างลวดตัวนาเป็นแรงผลัก ทาให้ลวดตัวนาแยกออกจากกัน เน่องจาก




กระแสไฟฟ้าที่ผ่านลวดตัวนำาขนาน มีทิศทางตรงข้ามกัน



ข. ขนาดของแรงกระทาระหว่างลวดตัวนาข้นกับกระแสไฟฟ้า โดยเปล่ยนแปลงตามขนาด



ของกระแสไฟฟ้า เช่นขนาดของกระแสไฟฟ้ามากข้น ขนาดของแรงกระทาระหว่าง
ลวดตัวนำาจะมากขึ้นด้วย
ค. แรงบนลวดตัวนำาแต่ละเส้นมีค่าเท่ากันเสมอ เนื่องจากเป็นแรงคู่กิริยา











สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

52 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 53




15.3 โมเมนต์ของแรงคู่ควบกระทำาต่อขดลวดที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านเมื่ออยู่ในสนามแม่เหล็ก
จุดประสงค์การเรียนรู้


1. อธิบายและคานวณโมเมนต์ของแรงค่ควบกระทาต่อขดลวดตัวนาท่มีกระแสไฟฟ้าผ่านเม่อ





อยู่ในสนามแม่เหล็ก รวมทั้งปริมาณที่เกี่ยวข้อง
2. อธิบายหลักการทำางานของแกลแวนอมิเตอร์ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง และคำานวณปริมาณ
ที่เกี่ยวข้อง
แนวการจัดการเรียนรู้
ครูนาเข้าส่หัวข้อ 15.3 โดยนาอภิปรายทบทวนเก่ยวกับ การเกิดแรงแม่เหล็กเม่อลวดตัวนาท่ม ี










กระแสไฟฟ้าผ่านและอย่ในสนามแม่เหล็ก จากน้นถามว่า หากเปล่ยนลวดตัวนาเส้นตรงเป็นขดลวดตัวนา





รูปส่เหล่ยมมุมฉาก เม่อกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดตัวนาจะมีผลอย่างไร และให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น

ได้อย่างอิสระ โดยไม่คาดหวังคำาตอบที่ถูกต้อง จากนั้นให้นักเรียนศึกษาในหัวข้อต่อไป
15.3.1 โมเมนต์ของแรงคู่ควบ
ความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น
ความเข้าใจคลาดเคลื่อน แนวคิดที่ถูกต้อง




1. เม่อมีกระแสผ่านขดลวดส่เหล่ยมท่อย่ใน 1. เม่อมีกระแสผ่านขดลวดส่เหล่ยมท่อย่ใน






สนามแม่เหล็ก ขณะระนาบของขดลวด สนามแม่เหล็ก ขณะระนาบของขดลวด


ต้งฉากกับสนามแม่เหล็กจะมีโมเมนต์ของ ต้งฉากกับสนามแม่เหล็กจะมีโมเมนต์ของ
แรงคู่ควบมากที่สุด แรงคู่ควบเป็นศูนย์



2. เม่อมีกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดท่อย่ใน 2. เม่อมีกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดท่อย ู ่


สนามแม่เหล็ก ขณะระนาบขดลวดไม ่ ในสนามแม่เหล็ก ขณะระนาบขดลวดไม ่



ต้งฉากกับสนามแม่เหล็กจะเกิดแรงกระทา ต้งฉากกับสนามแมเหล็ก จะเกิดโมเมนต ์



ให้ขดลวดเคล่อนท่ในแนวต้งฉากกับ ของแรงค่ควบทาให้ขดลวดหมุนตัด



สนามแม่เหล็ก สนามแม่เหล็ก
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

54 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 55




แนวการจัดการเรียนรู้
ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อที่ 8 ของหัวข้อ 15.3 ตามหนังสือเรียน

ครูนำาเข้าสู่หัวข้อที่ 15.3.1 โดยใช้รูป 15.38 ในหนังสือเรียน แล้วตั้งคำาถามว่า เมื่อมีกระแสไฟฟ้า



ผ่านขดลวดจะเกิดแรงแม่เหล็กกระทาต่อลวดแต่ละด้านในทิศใด ขนาดเท่าใด จากน้นครูนาอภิปรายจน
สรุปได้ว่า ขณะระนาบขดลวดวางขนานกับทิศทางของสนามแม่เหล็ก ขดลวดด้าน PS และ QR ไม่มี


แรงกระทา เน่องจากกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดตัวนาในทิศทางขนานกับทิศทางของสนามแม่เหล็ก แต ่

ขดลวดด้าน PQ และ RS กระแสไฟฟ้าตั้งฉากกับสนามแม่เหล็ก ทำาให้มีขนาดแรงกระทำาต่อขดลวดแต่ละ
ด้านเท่ากัน โดยขนาดของแรงหาได้จาก F = IL B และทิศทางของแรงหาได้โดยใช้มือขวา พบว่าแรง
2
ทั้งสองด้านมีทิศทางตรงข้ามกัน ดังรูป 15.39
ครูนำาอภิปรายต่อเกี่ยวกับแรงที่เกิดกับลวดทั้งสองด้านเป็นแรงคู่ควบ ซึ่งอยู่ห่างกันเป็นระยะ l จึง
1

ทาให้เกิดโมเมนต์ของแรงค่ควบตามรายละเอียดในหนังสือเรียน จนสรุปได้ความสัมพันธ M = IAB


ในทิศทวนเข็มนาฬิกา







จากน้นครูใช้รูป 15.40 ต้งคาถามว่า เม่อระนาบขดลวดรูปส่เหล่ยมมุมฉากทามุม θ กับสนามแม่เหล็ก







ขนาดโมเมนต์ของแรงค่ควบท่กระทาต่อขดลวดมีค่าข้นอย่กับมุม θ อย่างไร หลังจากน้นครูใช้รูป 15.41 นา
อภิปรายจนสรุปได้ว่า ขนาดโมเมนต์ของแรงคู่ควบที่กระทำากับขดลวดมีค่า M = IABcosθ


ครูต้งคาถามว่าถ้าขดลวดมีจานวน N รอบ ขนาดของโมเมนต์ของแรงค่ควบจะมีค่าเป็นอย่างไร




และเกิดผลอย่างไรตามมา ครูนาอภิปรายจนสรุปได้ว่า ขนาดโมเมนต์ของแรงค่ควบของขดลวดจานวน

N รอบ จะมีโมเมนต์ของแรงคู่ควบเป็น N เท่าของขดลวด 1 รอบตามสมการ (15.6) ครูควรชี้แจงเพิ่มเติม
ว่าระนาบของขดลวดรูปทรงอื่น เช่น ขดลวดระนาบรูปวงกลม โมเมนต์ของแรงคู่ควบกระทำาต่อขดลวดยัง
คงหาได้จากสมการ (15.6)
ครูอาจตั้งคำาถามว่าถ้ามีลวดยาว L หนึ่งเส้น นักเรียนจะออกแบบเป็นขดลวดสี่เหลี่ยมหนึ่งรอบเพื่อ

ให้เกิดโมเมนต์แรงค่ควบสูงสุดได้อย่างไร ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยไม ่
คาดหวังคำาตอบที่ถูกต้อง ครูใช้ความสัมพันธ์ M = IAB นำาอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่า ขดลวดที่ออกแบบ

เพ่อให้เกิดโมเมนต์แรงค่ควบสูงสุดจะต้องมีพ้นท่มากท่สุด โดยส่เหล่ยมท่มีพ้นท่มากท่สุดสาหรับเส้นรอบรูป











 L  2










คาหน่งคือ รปสเหล่ยมจตุรส เช่น ลวดยาว L จะมรูปร่างเป็นส่เหลยมจัตรัสยาวดานละ ซ่งมีพ้นท่มากท่สด











 L  2  4 
เท่ากับ  
 4 
ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่าง 15.8 โดยครูเป็นผู้แนะนำา
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

54 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 55




15.3.2 แกลแวนอมิเตอร์

ความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น
-

แนวการจัดการเรียนรู้
ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อที่ 9 ของหัวข้อ 15.3 ตามหนังสือเรียน
ครูนำาเข้าสู่หัวข้อที่ 15.3.2 โดยถามว่าโมเมนต์แรงคู่ควบของขดลวดที่มีกระแสไฟฟ้าในสนามแม่เหล็ก

สามารถนำาไปประยุกต์ใช้อย่างไรได้บ้าง หากจะนำาความรู้นี้มาประยุกต์ใช้ในการสร้างเป็นเครื่องวัดทางไฟฟ้า


จะสามารถทาได้อย่างไร เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยไม่คาดหวังคาตอบ
ที่ถูกต้อง



ครูใช้รูป 15.42 นาอภิปรายเก่ยวกับส่วนประกอบของแกลแวนอมิเตอร ซ่งประกอบด้วยขดลวด








ส่เหล่ยมท่ติดเข็มช้และหมุนได้คล่อง อย่ในสนามแม่เหล็ก จากน้นให้ศึกษาหลักการทางานของ


แกลแวนอมิเตอร์ในหนังสือเรียนหรือแหล่งความร้อ่น ให้นักเรียนนาเสนอผลการศึกษา แล้วอภิปราย



ร่วมกันจนสรุปได้ว่า เม่อมีกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดแกลแวนอมิเตอร จะทาให้ขดลวดหมุนพร้อมกับเข็มช ้ ี

เบนไป โดยการเบนของเข็มจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับกระแสไฟฟ้า ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน

ครูอาจนานักเรียนอภิปรายเพ่อให้ความร้เพ่มเติมเก่ยวกับการดัดแปลงแกลแวนอมิเตอร์เป็น




เครื่องวัดกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้น เรียกว่า แอมมิเตอร์ และวัดความต่างศักย์ได้มากขึ้น เรียกว่า โวลต์มิเตอร์
ความรู้เพิ่มเติมสำาหรับครู
แกลแวนอมิเตอร์
แกลแวนอมิเตอร์โดยทั่วไปจะมีเหล็กอ่อนรูปทรงกระบอกอยู่ตรงกลางระหว่างขั้ว N และ ขั้ว S
ของแม่เหล็กโค้ง ทำาให้สนามแม่เหล็กมีทิศทางอยู่ในแนวรัศมีของรูปทรงกระบอก ดังรูป ระนาบของ
ขดลวดสี่เหลี่ยมจะอยู่ในแนวขนานกับสนามแม่เหล็กทุกตำาแหน่งที่ขดลวดหมุนไป



S N








รูป สนามแม่เหล็กของแม่เหล็กโค้ง


สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

56 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 57






ด้วยเหตุนี้มุมที่ระนาบของขดลวดทำากับสนามแม่เหล็กจึงเท่ากับ 0 องศา นั่นคือ ระนาบของ

ขดลวดขนานกับสนามแม่เหล็กตลอดเวลา
จากสมการ M = NIABcosθ
ดังนั้นจะได้ M = NIABcos0 = NIAB
เนื่องจากจำานวนรอบของขดลวด N พื้นที่ระนาบของขดลวด A และสนามแม่เหล็ก B เป็น

ค่าคงตัว
ดังนั้น M ∝ I
เมื่อมีกระแสไฟฟ้าค่าหนึ่งผ่านขดลวดแกลแวนอมิเตอร์ ขดลวดจะหมุนด้วยโมเมนต์ของแรง
คู่ควบค่าหนึ่ง การหมุนของขดลวดเป็นเหตุให้เกิดแรงบิดกลับในสปริงก้นหอย ซึ่งต้านการหมุนของ

ขดลวด โดยพยายามบิดให้ขดลวดเบนกลับสู่ตำาแหน่งเดิม จนกระทั่งขดลวดหยุดนิ่งที่ตำาแหน่งหนึ่ง
นั่นคือ โมเมนต์ของแรงบิดกลับในสปริงมีทิศทางตรงข้ามกับโมเมนต์ของแรงคู่ควบกระทำาต่อขดลวด
และมีขนาดเท่ากันพอดีที่ตำาแหน่งนั้น ซึ่งจะได้
โมเมนต์ของแรงบิดกลับของสปริง = โมเมนต์ของแรงคู่ควบกระทำาต่อขดลวด

ถ้าพิจารณาขณะขดลวดหมุนไปหยุด ณ ตำาแหน่งที่ทำามุม θ กับแนวเดิม จะได้
โมเมนต์ของแรงบิดกลับของสปริง = k' θ

เมื่อ k' คือ ค่าคงตัวโมเมนต์แรงบิดกลับของสปริงก้นหอย (torsion constant)
(k' คล้ายกับกรณีของสปริงในสมการ F = ks ซึ่งอยู่ในแนวแกนตามยาวของสปริง)

นั่นคือ k' θ = NIAB
θ NIAB
' k

เนื่องจาก k' N A และ B มีค่าคงตัว
ดังนั้น θ ∝ I



การท่มุมท่ขดลวดเบนไปจากเดิมหรือมุมท่เข็มช้ของแกลแวนอมิเตอร์เบนไปจากเดิม

แปรผันตาม I ทำาให้สามารถกำาหนดสเกลที่เข็มชี้เบน เพื่อระบุค่ากระแสไฟฟ้าได้















สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

56 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 57








แอมมเตอร (ammeter)






แอมมเตอร ดงรป ก. เปนการดดแปลง







แกลแวนอมเตอรเพือวดกระแสไฟฟาไดสงสด I ตาม




ทตองการ ซงมคามากกวากระแสไฟฟาสงสดของ













แกลแวนอมเตอร I (เขมเตมสเกล) ทาไดโดยนา


G










ตวตานทานทีเรยกวา ชนต (shunt) ซึงมความตานทาน
R มาตอขนานกบแกลแวนอมเตอร เพือแบงกระแส






s







ไฟฟาสงสด I ออกเปนสองสวน คอสวนหนึงทีผาน



ก. แอมมิเตอร์









แกลแวนอมเตอรเทากบ I สวนทเหลอทผานชนต ์



G
เทากบ I ดงรป ข. นันคอ






s
I = I − I G
s
ข. วงจรไฟฟ้าของแอมมิเตอร์
เนื่องจากแกลแวนอมิเตอร์และชันต์ต่อขนานกัน ดังนั้นความต่างศักย์ระหว่างปลายของชันต์
จะเท่ากับความต่างศักย์ระหว่างขั้วของแกลแวนอมิเตอร์
หรือ I R = I R
S S G G
จะได้ R = I G R G
S
I S


โวลตมเตอร (voltmeter)






โวลตมเตอร ดงรป ค. เปนการดดแปลง







แกลแวนอมเตอร เพือวดความตางศกยสงสด V ตาม














ทตองการ ซงมคามากกวาความตางศกยสงสดของ











แกลแวนอมเตอร V ทาไดโดยนาตวตานทาน เรยกวา

G



มลตพลายเออร (multiplier) ทีมความตานทาน R มา



m
ตออนกรมกบแกลแวนอมเตอร เพือแบงความตางศกย ์












สงสดทีตองการวด V ออกเปนสองสวน




ค. โวลต์มิเตอร์
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

58 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 59






ส่วนหน่งเป็นความต่างศักย์ระหว่างปลายของมัลติพลายเออร ์

V อีกส่วนหนึ่งเป็นความต่างศักย์สูงสุดของแกลแวนอมิเตอร์
m
V ดังรูป ง. นั่นคือ
G
V = V + V G
m
จะได้ V = I R + I R
G G
G m
V − I R
R = G G ง. วงจรไฟฟ้าของโวลต์มิเตอร์
m
I G


15.3.3 มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง


ความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น

ความเข้าใจคลาดเคลื่อน แนวคิดที่ถูกต้อง











1. เม่อมีกระแสไฟฟ้าในขดลวดท่อย่ใน 1. เม่อมกระแสไฟฟาในขดลวดทอย่ใน
สนามแม่เหล็ก ขดลวดจะหมุนโดยโมเมนต ์ สนามแม่เหล็ก ขดลวดจะหมุนโดยโมเมนต ์






ของแรงคู่ควบมีค่าคงตัวเสมอ ของแรงคควบมค่าไม่คงตว โดยจะมคามาก





ทสดเมอระนาบของขดลวดทามม 0˚ กับ


สนามแม่เหล็ก และมีค่าน้อยลงจนเป็น


ศูนย์เม่อ ระนาบของขดลวดทามุม 90˚ กบ

สนามแม่เหล็ก
สิ่งที่ครูต้องเตรียมล่วงหน้า
กรณีครูสาธิตกิจกรรมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงจากชุดแม่เหล็กไฟฟ้า
1. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงจากชุดแม่เหล็กไฟฟ้า 1 ชุด
2. หม้อแปลงโวลต์ต่ำา (หรือแบตเตอรี่ 4.5 - 6.0 V) 1 เครื่อง
3. สายไฟ 2 เส้น



สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

58 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 59





กรณีครูสาธิตมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงอย่างง่าย
1. ลวดทองแดงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.3 มิลลิเมตร 1 เส้น
หรือลวดเบอร์ 28 ยาวประมาณ 1 เมตร
2. แท่งแม่เหล็กขั้วข้าง 1 อัน
3. เสาลวดสายไฟฟ้าทองแดงปลายมีห่วง 2 เส้น

4. แบตเตอรี่ขนาด 1.5 โวลต์ 1 ก้อนพร้อมกระบะ 1 ชุด


กิจกรรมสาธิต มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง



จุดประสงค์
1. อธิบายหลักการทำางานของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง

เวลาที่ใช้ 30 นาที

วัสดุและอุปกรณ์
1. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงจากชุดแม่เหล็กไฟฟ้า 1 ชุด


2. หม้อแปลงโวลต์ต่ำา (หรือแบตเตอรี่ 4.5 - 6.0 V) 1 เคร่อง
3. สายไฟ 2 เส้น

แนะนำาก่อนทำากิจกรรม



1. ต่อมอเตอร์กับไฟฟ้ากระแสตรงจากหม้อแปลงโวลต์ตาขนาด 4-6 โวลต (หรืออาจใช้แบตเตอร ี ่
4.5 - 6.0 V) ดังรูป


















รูป การต่อมอเตอร์กับไฟฟ้ากระแสตรง






สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

60 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 61







2. เปิดสวิตซ์หม้อแปลงโวลต์ตา ถ้าขดลวดของมอเตอร์ยังไม่หมุน อาจเป็นเพราะความเสียดทาน

ระหว่างแกนของขดลวดกับท่รองรับแกน ควรช่วยหมุนขดลวด อาจหมุนทวนเข็มนาฬิกาหรือ

หมุนตามเข็มนาฬิกา แต่ถ้าหมุนทวนเข็มนาฬิกาแล้ว ปรากฏว่าขดลวดหมุนไป 2-3
รอบแล้วหยุด แสดงว่าการหมุนของขดลวดในสนามแม่เหล็กโดยลำาพังจะหมุนตามเข็มนาฬิกา
ดังนั้นควรหมุนอีกครั้งหนึ่งโดยหมุนตามเข็มนาฬิกา ขดลวดก็จะหมุนได้ต่อไปเรื่อยๆ




กิจกรรมสาธิต มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงอย่างง่าย


จุดประสงค์

1. อธิบายหลักการทำางานของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง
เวลาที่ใช้ 30 นาที


วัสดุและอุปกรณ์
1. ลวดทองแดงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.3 มิลลิเมตร 1 เส้น
หรือลวดเบอร์ 28 ยาวประมาณ 1 เมตร
2. แท่งแม่เหล็กขั้วข้าง 1 อัน
3. เสาลวดสายไฟฟ้าทองแดงปลายมีห่วง 2 เส้น

4. แบตเตอรี่ขนาด 1.5 โวลต์ 1 ก้อนพร้อมกระบะ 1 ชุด

แนะนำาก่อนทำากิจกรรม
1. สร้างขดลวดของมอเตอร โดยนาลวดทองแดง


พันเป็นวงกลมให้มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ

3 เซนติเมตร และเหลือปลายท้งสองด้านให้เป็น
แกนหมุน ดังรูป
รูป ตัวอย่างขดลวดของมอเตอร์


2. สร้างฐานรองรับ โดยติดแท่งแม่เหล็กเข้ากับ
แบตเตอรี่ที่ติดกับเสาลวดทองแดง ดังรูป





รูป ตัวอย่างฐานรองรับ



สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

60 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 61








3. นาขดลวดในข้อ 1 วางบนฐานรองรับเพ่อหา

ตาแหน่งท่แกนขดลวดสัมผัสกับห่วงเสาทองแดง

ดังรูป


รูป การหาตำาแหน่งที่แกนขดลวดสัมผัส
กับห่วงเสาทองแดง
4. ขูดฉนวนห้มลวดทองแดงบริเวณท่สัมผัสกับ


เขมขดรัดสายไฟท้งสองปลาย ดังรูป โดยขูดคร่ง




ซีกด้านเดียวกันทั้งสองข้างปลาย

5. นาขดลวดในข้อ 4 วางบนฐานรองรับ หาก

ขดลวดไม่หมุนให้สังเกตบริเวณท่ขูดฉนวนออก

ว่าสัมผัสกับเข็มขัดรัดสายไฟหรือไม่ รูป ลวดทองแดงที่ขูดฉนวน
หุ้มออกครึ่งซีก


แนวการจัดการเรียนรู้

ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อที่ 9 ของหัวข้อ 15.3 ตามหนังสือเรียน
ครูนำาเข้าสู่หัวข้อที่ 15.3.3 โดยใช้รูป 15.43 ในหนังสือเรียน หรือชุดสาธิตการทำางานของมอเตอร์
กระแสตรง แล้วต้งคาถามว่า มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดง


ความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยไม่คาดหวังคาตอบท่ถูกต้อง จากน้นนาอภิปรายเก่ยวกับส่วนประกอบของ





มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง จนสามารถระบุส่วนประกอบของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงได้
ครูตั้งคำาถามว่ามอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงหมุนได้อย่างไร เกี่ยวข้องกับโมเมนต์แรงคู่ควบของขดลวด
ที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านและอยู่ในสนามแม่เหล็ก อย่างไร เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ



โดยไม่คาดหวังคาตอบท่ถูกต้อง จากน้นให้นักเรียนสืบค้นจากหนังสือเรียนหรือจากส่ออ่น ๆ เก่ยวกับ



หลักการทำางานของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง
ให้นักเรียนนาเสนอผลการสืบค้น แล้วครูนาอภิปราย โดยใช้รูป 15.44 ในหนังสือเรียน จนสรุป


หลักการทำางานของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน
ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่าง 15.9 โดยครูเป็นผู้แนะนำา

ครูให้นักเรียนตอบคาถามตรวจสอบความเข้าใจ 15.3 และทาแบบฝึกหัด 15.3 โดยครูอาจมีการเฉลย

คำาตอบและอภิปรายคำาตอบร่วมกัน
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

62 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 63




แนวการวัดและประเมินผล






1. ความร้เก่ยวกับโมเมนต์ของแรงค่ควบกระทาต่อขดลวดตัวนาท่อย่ในสนามแม่เหล็ก เม่อ




กระแสไฟฟ้าผ่าน หลักการทางานของแกลแวนอมิเตอร และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงจาก
การนำาเสนอผล การอภิปรายร่วมกัน คำาถามตรวจสอบความเข้าใจ 15.3 และแบบฝึกหัด 15.3

2. ทักษะการสังเกต การทดลอง การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป จากการสรุปผลการทา
กิจกรรม






3. ทักษะดานการส่อสารสารสนเทศและการร้เท่าทันสอ จากการอภิปรายร่วมกนและการนาเสนอผล

และทักษะด้านความร่วมมือ จากการทำากิจกรรมร่วมกัน
4. จิตวิทยาศาสตร์ด้านความซื่อสัตย์ ความมุ่งมั่นอดทน จากการอภิปรายและการทำากิจกรรม

แนวคาตอบคาถามตรวจสอบความเข้าใจ 15.3





1. จงเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างโมเมนต์ของแรงค่ควบท่กระทาต่อขดลวดกับมุมท ี ่
ระนาบของขดลวดทำากับสนามแม่เหล็ก

แนวคาตอบ เขยนกราฟความสัมพันธ์ระหว่างโมเมนต์ของแรงคควบทกระทาตอขดลวดกบมม











ท่ระนาบของขดลวดทากับสนามแม่เหล็ก ตามสมการ M = NIABcosθ โดยให้แกน y เป็น


โมเมนต์ของแรงค่ควบและแกน x คือ มุมท่ระนาบขดลวดทากับสนามแม่เหล็ก

จะได้กราฟความสัมพันธ์ y = kcos x เมื่อ k = NIAB เป็นค่าคงตัว y เป็น M และ x เป็น θ
ดังรูป
M
θ
π π 3π 2π
2 2





รูป ประกอบแนวคำาตอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจ ข้อ 1




สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

62 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 63






2. เพราะเหตุใด การสร้างแกลแวนอมิเตอร์จึงใช้ขดลวดขนาดเล็กและมีน้ำาหนักเบา


แนวคาตอบ เพราะต้องการให้แกลแวนอมิเตอร์มีความไวต่อกระแสไฟฟ้าหรือมีขดลวดท่หมุน

ได้ง่าย เพื่อวัดกระแสไฟฟ้าที่มีปริมาณน้อย ๆ ได้ ขดลวดจึงต้องมีมวลน้อย ๆ
3. โมเมนต์ที่กระทำากับขดลวดของมอเตอร์จะมากขึ้นหรือน้อยลง ถ้า
ก. กระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดตัวนำามากขึ้น จงอธิบายเหตุผลประกอบ

ข. สนามแม่เหล็กในมอเตอร์มีค่ามากขึ้น จงอธิบายเหตุผลประกอบ
ค. จำานวนรอบของขดลวดมีค่ามากขึ้น จงอธิบายเหตุผลประกอบ
แนวคำาตอบ
ก. กระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดตัวนำามากขึ้น โมเมนต์ที่กระทำากับขดลวดมากขึ้น

ข. สนามแม่เหล็กในมอเตอร์มีค่ามากขึ้น โมเมนต์ที่กระทำากับขดลวดมากขึ้น
ค. จำานวนรอบของขดลวดมีค่ามากขึ้น โมเมนต์ที่กระทำากับขดลวดมากขึ้น
เพราะโมเมนต์ที่กระทำากับขดลวดของมอเตอร์เป็นไปตามสมการ M = NIABcosθ จะเห็นว่า




ค่าโมเมนต์ท่กระทากับขดลวดแปรผันตามกระแสไฟฟ้าท่ผ่านขดลวดตัวนา สนามแม่เหล็ก และ
จำานวนรอบของขดลวด

เฉลยแบบฝึกหัด 15.3








1. ขดลวดวงกลมมีพ้นท่หน้าตัด 60 ตารางเซนติเมตร มีขดลวดพันอย่จานวน 600 รอบ และม ี
กระแสไฟฟ้าผ่าน 1 แอมแปร วางไว้ในสนามแม่เหล็กท่มีขนาดเท่ากับ 1 เทสลา จงหาโมเมนต ์


สูงสุดของขดลวด
วิธีทำา โมเมนต์ของแรงคู่ควบที่กระทำากับขดลวดเป็นไป ตามสมการ
M = NIABcosθ
มีค่าสูงสุดเมื่อ cosθ = 1 จะได้ว่าโมเมนต์สูงสุดของขดลวด
M = NIAB
แทนค่าได้ M = (600)(1A)(60 × 10 m )(1T)
-2
-4
= 3.6 N m
ตอบ โมเมนต์สูงสุดของขดลวดเท่ากับ 3.6 นิวตันเมตร








สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

64 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 65






2. ขดลวดตัวนำารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีพื้นที่ 10 ตารางเซนติเมตร วางอยู่ในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็ก




ขนาดเท่ากับ 5 เทสลา ถ้าจานวนขดของลวดตัวนาเท่ากับ 400 รอบ จงหาโมเมนต์ของแรงค่ควบ





ท่เกิดข้นเม่อระนาบขดลวดทามุม 60 องศากับทิศทางของสนามแม่เหล็ก (กาหนดให้กระแสไฟฟ้า
ที่ผ่านขดลวดเท่ากับ 6 แอมแปร์)
วิธีทำา โมเมนต์ของแรงคู่ควบที่กระทำากับขดลวดเป็นไป ตามสมการ
M = NIABcosθ
แทนค่าได้ M = (400)(6A)(10 × 10 m )(5T)(cos60˚)
-4
-2
= 6 N m
ตอบ โมเมนต์ของแรงคู่ควบที่เกิดขึ้นเท่ากับ 6 นิวตันเมตร
3. ขดลวดวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 เซนติเมตร จำานวน 12 รอบ มีกระแสไฟฟ้าผ่าน 5 แอมแปร์

วางอยู่ในสนามแม่เหล็กขนาด 0.6 เทสลา จงหา
ก. โมเมนต์ที่มากที่สุดของขดลวด


ข. มุมระหว่างระนาบของขดลวดกับสนามแม่เหล็กท่มีโมเมนต์เป็นคร่งหน่งของโมเมนต ์

มากที่สุดที่กระทำาต่อขดลวด
วิธีทำา โมเมนต์ของแรงคู่ควบที่กระทำากับขดลวดเป็นไป ตามสมการ
M = NIABcosθ

มีค่าสูงสุดเมื่อ cosθ = 1 จะได้ว่าโมเมนต์สูงสุดของขดลวด
M = NIAB

ก. โมเมนต์ที่มากที่สุดของขดลวด หาได้จากสมการ
M = NIAB
  0.08  2 
แทนค่าได้ M = (12) (5A π   2   m  (0.6T )
2
)


= 0.18 N m  
ข. ขณะที่โมเมนต์เป็นครึ่งหนึ่งของโมเมนต์ที่มากที่สุด จะได้ว่า
1

M = NIAB 
2

1
NIAB


ได cosθ = NIAB 
2

cosθ = 1
2
ดังนั้น θ = 60˚


สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

64 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 65






ตอบ ก. โมเมนต์ที่มากที่สุดของขดลวดเท่ากับ 0.18 นิวตันเมตร




ข. ตาแหน่งของขดลวดท่มีโมเมนต์เป็นคร่งหน่งของโมเมนต์ท่มากท่สุด ทามุมกับ




สนามแม่เหล็ก 60 องศา
15.4 กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำาและอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำา
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สังเกตและอธิบายการเกิดอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำา โดยใช้กฎของฟาราเดย์
2. อธิบายและหาทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำา โดยใช้กฎของเลนซ์
3. อธิบายการทำางานของเครื่องกำาเนิดไฟฟ้า โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำา

4. อธิบายการทำางานของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำา

สิ่งที่ครูต้องเตรียมล่วงหน้า
กรณีครูสาธิตการเหนี่ยวนำากระแสไฟฟ้าโดยใช้เชือกพันแกนมอเตอร์กระแสตรง
1. มอเตอร์ไฟฟ้า
2. เชือก

3. หลอดไฟพร้อมขั้วขนาด 3 โวลต์หรือน้อยกว่า

แนวการจัดการเรียนรู้



ครูนาเข้าส่หัวข้อ 15.4 โดยการสาธิตการเหน่ยวนากระแสไฟฟ้า เช่น ใช้เชือกพันแกนมอเตอร์ไฟฟ้า







กระแสตรงเม่อดึงเชือกอย่างเร็วสามารถทาให้หลอดไฟท่ต่อกับข้วมอเตอร์สว่างได หรือกิจกรรมอ่น ๆ ท่แสดง

ให้เห็นการเกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำา แล้วครูตั้งคำาถามว่าเหตุการณ์เหล่านั้น เช่น หลอดไฟสว่างเมื่อหมุน
แกนมอเตอร์ เกิดขึ้นได้อย่างไร














ครเปดโอกาสใหนกเรยนแสดงความคดเหนอยางอสระ โดยไมคาดหวงคาตอบทถกตอง จากนนคร ู




นาอภิปรายจนสรุปได้ว่า เคร่องกาเนิดไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์เปล่ยนพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้าใช้หลักการ








เหน่ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้า ซ่งค้นพบโดยไมเคิล ฟาราเดย แล้วครูช้แจงหัวข้อต่อไปน้นักเรียนจะได้ศึกษา



การเหน่ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้า และการนาความร้เก่ยวกับอีเอ็มเอฟเหน่ยวนาไปประยุกต์ใช ตามรายละเอียด







ในหนังสือเรียน
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

66 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 67




15.4.1 กฎการเหนี่ยวนำาของฟาราเดย์

ความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น

-

แนวการจัดการเรียนรู้
ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อที่ 10 และ 11 ของหัวข้อ 15.4 ตามหนังสือเรียน

ครูนำาเข้าสู่หัวข้อที่ 15.4.1 โดยทบทวนเกี่ยวกับฟลักซ์แม่เหล็ก โดยบริเวณใกล้ขั้วแม่เหล็กมีฟลักซ์


แม่เหล็กหนาแน่นกว่าบริเวณท่ไกลออกไป และการใช้งานของแกลแวนอมิเตอร และทบทวนหัวข้อ 15.1





เก่ยวกับกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนาทาให้เกิดสนามแม่เหล็ก แล้วครูต้งคาถามว่า ในทางกลับกันสนามแม่เหล็ก
ทำาให้เกิดกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำาได้หรือไม่ อย่างไร เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ
โดยไม่คาดหวังคำาตอบ จากนั้นให้นักเรียนศึกษาการเกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำาในขดลวดตัวนำาผ่านการทำา
กิจกรรม 15.3 กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำา

กิจกรรม 15.3 กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำา



จุดประสงค์
1. สังเกตการเกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำาในขดลวดตัวนำา

เวลาที่ใช้ 30 นาที

วัสดุและอุปกรณ์
1. ขดลวดทองแดงเคลือบฉนวน 1 ขด
2. แกลแวนอมิเตอร์ 1 เครื่อง

3. แท่งแม่เหล็ก 1 อัน
4. สายไฟ 2 เส้น



















สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

66 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 67






ตัวอย่างผลการทำากิจกรรม


การเคลื่อนที่ของแท่งแม่เหล็ก ผลการสังเกตเข็มแกลแวนอมิเตอร์


แท่งแม่เหล็กอยู่นิ่งในขดลวด
















เคลื่อนปลายขั้วแม่เหล็กออก

จากขดลวด














เคลื่อนปลายขั้วแม่เหล็ก
เข้าขดลวด






















สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

68 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 69






ตัวอย่างผลการทำากิจกรรม


การเคลื่อนที่ของแท่งแม่เหล็ก ผลการสังเกตเข็มแกลแวนอมิเตอร์


เคลื่อนปลายขั้วแม่เหล็กออก
ขดลวดเร็วมากขึ้น
























เคลื่อนปลายขั้วแม่เหล็กเข้า

ขดลวดเร็วมากขึ้น






























สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

68 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 69





แนวคำาตอบคำาถามท้ายกิจกรรม


□ ขณะแท่งแม่เหล็กอยู่นิ่งในขดลวดเคลือบฉนวน เข็มแกลแวนอมิเตอร์เบนจากเดิมหรือไม่
แนวคำาตอบ ไม่เบนจากเดิม
□ ขณะเคลื่อนที่ปลายขั้วแม่เหล็กออกแล้วเข้าขดลวด เข็มแกลแวนอมิเตอร์เบนอย่างไร




แนวคาตอบ ขณะเคล่อนท่ปลายข้วแม่เหล็กออกจากขดลวดเข็มแกลแวนอมิเตอร์จะเบนจาก



ตาแหน่งศูนย์ไปในทิศทางหน่ง และขณะเคล่อนท่เข้าขดลวดจะเบนจากตาแหน่งศูนย์ไปใน



ทิศทางตรงข้าม




□ ขณะเคล่อนท่ปลายข้วแม่เหล็กออกแล้วเข้าขดลวดเร็วมากข้น เข็มแกลแวนอมิเตอร์เบนต่างจาก
ตอนแรกอย่างไร


แนวคาตอบ เข็มแกลแวนอมิเตอร์จะเบนจากตาแหน่งศูนย์ไปในทิศทางเช่นเดียวกับตอนแรก
แต่เบนมากกว่าตอนแรก
□ ขณะเคลื่อนที่ปลายขั้วแม่เหล็กออกแล้วเข้า ขดลวดมีกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นหรือไม่ สังเกตได้อย่างไร
แนวคำาตอบ มีกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นสังเกตได้จากการเบนจากตำาแหน่งศูนย์ของเข็มแกลแวนอมิเตอร์











□ ขณะเคล่อนท่ปลายข้วแม่เหล็กออกและขณะเคล่อนทเขาขดลวด กระแสไฟฟ้าทเกดข้นมีทิศ
เดียวกันหรือไม่ สังเกตได้อย่างไร






แนวคาตอบ ขณะเคล่อนท่ปลายข้วแม่เหล็กออกและขณะเคล่อนท่เข้าขดลวดกระแสไฟฟ้าม ี
ทิศทางตรงกันข้ามกัน สังเกตได้จากทิศทางการเบนของเข็มแกลแวนอมิเตอร์จากตำาแหน่งศูนย์
มีทิศทางตรงข้ามกัน
□ การเคลื่อนที่ปลายขั้วแม่เหล็กออกแล้วเข้าขดลวดด้วยความเร็วต่างกัน เกิดกระแสไฟฟ้าภายใน
ขดลวดมีขนาดเท่ากันหรือไม่ สังเกตได้อย่างไร

แนวคาตอบ ไม่เท่ากัน สังเกตได้จากการเบนของเข็มแกลแวนอมิเตอร์จากตาแหน่งศูนย์เบน

ไม่เท่ากัน







สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

70 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 71






อภิปรายหลังการทำากิจกรรม




หลังจากครูให้นักเรียนตอบคาถามท้ายกิจกรรม ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทา
กิจกรรม 15.3 จนสรุปได้ดังนี้
∙ ขณะแท่งแม่เหล็กอย่น่งเข็มแกลแวนอมิเตอร์อย่ท่ตำาแหน่งศูนย แสดงว่าไม่ม ี





กระแสไฟฟ้าจากขดลวดผ่านแกลแวนอมิเตอร์
∙ เม่อเคล่อนปลายข้วแม่เหล็กออกแล้วเข้าขดลวด เข็มแกลแวนอมิเตอร์เบนไปจาก



ตาแหน่งศูนย์แสดงว่ามีกระแสไฟฟ้าจากขดลวดผ่านแกลแวนอมิเตอร และการท ี ่


เข็มแกลแวนอมิเตอร์เบนในทิศทางตรงข้ามกันแสดงว่ากระแสไฟฟ้าท่เกิดข้นใน


ขดลวดมีทิศทางตรงข้ามกัน
∙ เมื่อเคลื่อนปลายขั้วแม่เหล็กเข้า - ออกจากขดลวดเร็วขึ้น เข็มแกลแวนอมิเตอร์เบน
มากขึ้น แสดงว่ามีกระแสไฟฟ้าจากขดลวดมากขึ้น

ครูอาจถามคาถามชวนคิดในหน้า 64 ให้นักเรียนอภิปรายร่วมกัน โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียน
แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ แล้วครูนำาอภิปรายจนได้แนวคำาตอบดังนี้



แนวคำาตอบชวนคิด

จากกิจกรรม 15.3 หากกลับปลายขั้วแม่เหล็กที่เคลื่อนที่ออกแล้วเข้าจากขดลวด การเบนของ

เข็มแกลแวนอมิเตอร์จะมีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างจากกิจกรรมหรือไม่ อย่างไร
แนวคำาตอบ เข็มแกลแวนอมิเตอร์จะเบนออกจากตำาแหน่งศูนย์แตกต่างกัน โดยแต่ละกรณีการเบน
ของเข็มแกลแวนอมิเตอร์จะเบนตรงข้ามกับในกิจกรรม





ครูต้งคาถามว่าการเคล่อนท่ปลายข้วแม่เหล็กออกและเข้าขดลวดตัวนาทาให้ฟลักซ์แม่เหล็กท่ผ่าน







ขดลวดมีการเปล่ยนแปลงหรือไม อย่างไร ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ




โดยไม่คาดหวังคาตอบท่ถูกต้อง จากน้นครูนาอภิปรายจนสรุปได้ว่ามีการเปล่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กท่ผ่าน



ขดลวด ตั้งคำาถามว่า เมื่อเคลื่อนที่ปลายขั้วแม่เหล็กออกหรือเข้าขดลวดทำาให้ฟลักซ์แม่เหล็กที่ผ่านขดลวด
เปลี่ยนแปลงแล้วเกิดกระแสไฟฟ้าในขดลวด ได้อย่างไร ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เกี่ยวการเกิดอีเอ็มเอฟ



เหนยวนาตามรายละเอยดในหนงสอเรยน หรอสบคนจากแหลงความรอน ๆ แลวนาเสนอผลการศกษาหรอ
















การสืบค้น
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

70 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 71








ครูกับนักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ยวกับการเปล่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กท่ผ่านพ้นท่หน้าตัดขดลวด






ทาให้เกิดกระแสไฟฟ้าในขดลวดในกิจกรรม 15.3 จนสรุปได้เก่ยวกับ กระแสไฟฟ้าเหน่ยวนา การเหน่ยวนา













แมเหล็กไฟฟา อเอมเอฟเหนยวนา กฎการเหนยวนาของฟาราเดย์และกฎของเลนซ จนไดสมการ (15.7)
ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน











จากนนครใชรป 15.46 และ 15.47 ในหนงสอเรยน นาอภปรายเกยวกบการหาทิศทางของ



กระแสไฟฟ้าเหน่ยวนาในขดลวดตัวนาตามกฎของเลนซ์โดยใช้มือขวา จนสรุปได้ตามรายละเอียดใน


หนังสือเรียน
ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่าง 15.10 โดยครูเป็นผู้ให้คำาแนะนำา
15.4.2 เครื่องกำาเนิดไฟฟ้า
ความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น
ความเข้าใจคลาดเคลื่อน แนวคิดที่ถูกต้อง




1. ขณะท่ขดลวดของเคร่องกาเนิดไฟฟ้าหมุน 1. ขณะท่ขดลวดของเคร่องกาเนิดไฟฟ้าหมุน


อัตราการเปล่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กท ี ่ อัตราการเปลี่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กผ่าน

ผ่านขดลวดมีค่าคงตัวตลอดเวลา ขดลวดมีค่าเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

2. ขณะท่ขดลวดของเคร่องกาเนิดไฟฟ้าหมุน 2. ขณะท่ขดลวดของเคร่องกาเนิดไฟฟ้าหมุน







อัตราการเปล่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กท ่ ี อัตราการเปล่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กท ่ ี







ผานขดลวดจะมคามากทสด เม่อระนาบ ผ่านขดลวดจะมีค่ามากท่สุด เม่อระนาบ


ขดลวดตั้งฉากกับสนามแม่เหล็ก ขดลวดขนานกับสนามแม่เหล็ก
แนวการจัดการเรียนรู้
ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อที่ 12 ของหัวข้อ 15.4 ตามหนังสือเรียน






ครูนาเข้าส่หัวข้อ 15.4.2 โดยอภิปรายเพ่อทบทวนเก่ยวกับกฎการเหน่ยวนาของฟาราเดย และ




การหมุนแกนของมอเตอร์ทาให้หลอดไฟสว่าง จากน้นอภิปรายเพ่อสรุปว่าฟลักซ์แม่เหล็กในขดลวดของ
มอเตอร์มีการเปลี่ยนแปลงขณะหมุนทำาให้เกิดอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำา แสดงว่าพลังงานกลสามารถเปลี่ยนเป็น
พลงงานไฟฟ้าได้ จากนั้นครูตั้งคำาถามว่า เครื่องกำาเนิดไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านของเรามีหลักการทำางาน




อยางไร โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยไม่คาดหวังคาตอบท่ถูกต้อง
จากนั้นให้นักเรียนทำากิจกรรม 15.4 เครื่องกำาเนิดไฟฟ้า
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

72 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 73






กิจกรรม 15.4 เครื่องกำาเนิดไฟฟ้า



จุดประสงค์










1. สงเกตทศทางของกระแสไฟฟากระแสตรงและไฟฟากระแสสลบจากเครองกาเนดไฟฟา
อย่างง่าย
เวลาที่ใช้ 50 นาที
วัสดุและอุปกรณ์
1. ชุดเครื่องกำาเนิดไฟฟ้า 1 เครื่อง
2. แกลแวนอมิเตอร์ 1 เครื่อง
3. สายไฟ 2 เส้น
ตัวอย่างผลการทำากิจกรรม


การ ผลการสังเกตเข็มแกลแวนอมิเตอร์


วงแหวนแยก




































สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

72 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 73







ตัวอย่างผลการทำากิจกรรม

การ ผลการสังเกตเข็มแกลแวนอมิเตอร์


วงแหวนผ่าซีก


































แนวคำาตอบคำาถามท้ายกิจกรรม





□ ในกรณีท่แปรงสัมผัสแตะกับวงแหวนแยก เม่อหมุนเคร่องกาเนิดไฟฟ้าการเบนของเข็ม
แกลแวนอมิเตอร์มีลักษณะเป็นอย่างไร
แนวคำาตอบ การเบนของเข็มแกลแวนอมิเตอร์เบนกลับไปกลับมาระหว่างบวกกับลบ
□ ในกรณีที่แปรงสัมผัสแตะกับวงแหวนแยก ทิศทางของกระแสไฟฟ้ามีลักษณะอย่างไร สังเกตได้
อย่างไร

แนวคำาตอบ ทิศทางของกระแสไฟฟ้ามีลักษณะสลับทิศไปมา สังเกตได้จากเข็มแกลแวนอมิเตอร์
เบนกลับไปกลับมาระหว่างบวกกับลบ




□ ในกรณีทแปรงสัมผัสแตะกับวงแหวนผ่าซีก เม่อหมุนเคร่องกาเนิดไฟฟ้าการเบนของเข็ม

แกลแวนอมิเตอร์มีลักษณะเป็นอย่างไร
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

74 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 75






แนวคาตอบ การเบนของเข็มแกลแวนอมิเตอร์มีลักษณะเบนไปเบนมา ระหว่างศูนย์กับบวกหรือ

ศูนย์กับลบ ทางใดทางหนึ่ง


□ ในกรณีท่แปรงสัมผัสแตะกับวงแหวนผ่าซีก เม่อหมุนเคร่องกาเนิดไฟฟ้าในทิศทางตรงข้าม


การเบนของเข็มแกลแวนอมิเตอร์ มีลักษณะเป็นอย่างไร
แนวคาตอบ เข็มแกลแวนอมิเตอร์จะเบนออกจากตาแหน่งศูนย์เช่นเดียวกัน แต่เบนใน


ทิศตรงข้ามกับครั้งก่อน


อภิปรายหลังการทำากิจกรรม






ในกรณีท่แปรงสัมผัสแตะกับวงแหวนแยก เม่อหมุนเคร่องกาเนิดไฟฟ้าจะสังเกตได้ว่าแปรง
สัมผัสจะแตะกับวงแหวนหน่งเสมอ และเข็มแกลแวนอมิเตอร์จะเบนกลับไปกลับมาระหว่างบวกกับ

ลบ แสดงว่ากระแสไฟฟ้าที่ผ่านแปรงสัมผัสมีทิศทางกลับไปกลับมา







ในกรณท่แปรงสัมผสแตะกับวงแหวนผาซก เม่อหมุนเครองกาเนิดไฟฟาจะสงเกตไดว่าแปรง






สัมผัสจะสลับการแตะกับวงแหวนทุกคร่งรอบ และเข็มแกลแวนอมิเตอร์จะเบนไปเบนมาระหว่าง


ศูนย์กับบวกหรือศูนย์กับลบทางใดทางหน่ง แสดงว่ากระแสไฟฟ้าท่ผ่านแปรงสัมผัสมีทิศทางเดียว
ตลอดเวลา
ความรู้เพิ่มเติมสำาหรับครู
กรณีกระแสตรงจากเครื่องกำาเนิดไฟฟ้า เข็มแกลแวนอมิเตอร์จะไม่ชี้นิ่งที่ค่าใดค่าหนึ่งเนื่องจากเป็น
กระแสไฟฟ้าตรงที่มีค่าไม่สม่ำาเสมอ

ครูให้นักเรียนศึกษาส่วนประกอบของเคร่องกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับโดยใช้รูป 15.48 จากน้นให ้


นักเรียนร่วมกันอภิปรายจนสรุปส่วนประกอบที่สำาคัญ ได้ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน
ครูให้นักเรียนศึกษาการเกิดอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำาของเครื่องกำาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับเมื่อหมุนขดลวด
ด้วยอัตราเร็วเชิงมุมคงตัวในช่วงเวลาหนึ่งคาบโดยใช้รูป 15.49 แล้วนำาอภิปรายเกี่ยวกับการเกิดอีเอ็มเอฟ





เหน่ยวนาและกระแสไฟฟ้าเหน่ยวนาในแต่ละช่วงเวลาโดยใช้กฎการเหน่ยวนาของฟาราเดย์และกฎของ








เลนซ จนสรุปได้ว่าเม่อเร่มหมุนขดลวดจากตาแหน่งท่ระนาบขดลวดต้งฉากกับสนามแม่เหล็กจนครบหน่ง
คาบ อีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำามีค่าเปลี่ยนแปลงตามเวลา สามารถเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างอีเอ็มเอฟ
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

74 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 75







เหน่ยวนากับเวลา ได้เป็นกราฟเป็นรูปฟังก์ชันแบบไซน ดังรูป 15.49 จ. และพบว่าทิศทางของกระแสไฟฟ้า
T T
เหนี่ยวนำาในช่วงเวลา 0 t≤≤ และ <≤
tT ที่ผ่านวงแหวนแยกและแปรงสัมผัสมายังอุปกรณ์ไฟฟ้า
2 2
มีทิศตรงข้ามกันทุกครึ่งคาบ ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน




ครูต้งคาถามว่าจากกราฟอีเอ็มเอฟเปล่ยนแปลงตามเวลาเป็นรูปฟังก์ชันแบบไซน สามารถเขียน
สมการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างอีเอ็มเอฟเหน่ยวนากับเวลาได้อย่างไร ครูเปิดโอกาสให้นักเรียน


แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยไม่คาดหวังคำาถามที่ถูกต้อง


จากคาตอบของนักเรียนครูนาอภิปรายจนสรุปได้ว่าเม่อขดลวดหมุนด้วยอัตราเร็วเชิงมุม ω คงตัว

ความสัมพันธ์ระหว่างอีเอ็มเอฟเหน่ยวนากับเวลา t เป็นไปตามสมการ (15.8) ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน


ครูอาจถามคาถามชวนคดในหนา 75 ให้นกเรยนอภิปรายรวมกน โดยครูเปดโอกาสให้นักเรียน








แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ แล้วครูนำาอภิปรายจนได้แนวคำาตอบดังนี้
แนวคำาตอบชวนคิด
หากต่อตัวต้านทานแทนอุปกรณ์ไฟฟ้ากับเครื่องกำาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ กราฟความสัมพันธ์
ระหวางอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำาของเครื่องกำาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับกับเวลาเป็นดังรูป


อีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำ
ε 0
0 เวลา
T T 3T 2T
2 2
ε − 0



รูป กราฟความสัมพันธ์ระหว่างอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำาของเครื่องกำาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับกับเวลา

กราฟความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวต้านทานกับเวลาจะมีลักษณะอย่างไร
แนวคำาตอบ ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวต้านทานกับเวลาจะเป็นรูปฟังก์ชัน
แบบไซน์เหมือนกับกราฟอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำากับเวลา ดังรูป โดยค่าของกระแสไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับค่า
ความต้านทานของตัวต้านทานที่นำามาต่อ









สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

76 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 77







กระแสไฟฟา


I 0

0 เวลา
T T 3T 2T
2 2
I − 0







ครูให้นักเรียนศึกษาส่วนประกอบของเคร่องกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรงโดยใช้รูป 15.50 จากน้นให ้


นักเรียนร่วมกันอภิปรายจนสรุปส่วนประกอบที่สำาคัญ ได้ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน





ครูให้นักเรียนศึกษาการเกิดอีเอ็มเอฟเหน่ยวนาของเคร่องกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรงเม่อหมุนขดลวด
ด้วยอัตราเร็วเชิงมุมคงตัวในช่วงเวลาหนึ่งคาบโดยใช้รูป 15.51 แล้วนำาอภิปรายเกี่ยวกับการเกิดอีเอ็มเอฟ






เหน่ยวนาและกระแสไฟฟ้าเหน่ยวนาในแต่ละช่วงเวลาโดยใช้กฎการเหน่ยวนาของฟาราเดย์และกฎของ

เลนซ จนสรุปได้ว่าเม่อเร่มหมุนขดลวดจากตาแหน่งท่ระนาบขดลวดต้งฉากกับสนามแม่เหล็กจนครบหน่ง






คาบ อีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำามีค่าเปลี่ยนแปลงตามเวลา สามารถเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างอีเอ็มเอฟ
T
เหน่ยวนากับเวลา ดังรูป 15.51 จ. และพบว่าทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหน่ยวนาในช่วงเวลา 0 t≤≤




T 2
และ <≤ ี
tT ท่ผ่านวงแหวนผ่าซีกและแปรงสัมผัสมายังอุปกรณ์ไฟฟ้ามีทิศทางเดียวกันตลอดเวลา
2
ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน
ครูอาจถามคาถามชวนคิดในหน้า 78 ให้นักเรียนอภิปรายร่วมกัน โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียน

แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ แล้วครูนำาอภิปรายจนได้แนวคำาตอบดังนี้








สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

76 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 77






แนวคำาตอบชวนคิด


หากต่อตัวต้านทานแทนอุปกรณ์ไฟฟ้ากับเครื่องกำาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง กราฟความสัมพันธ์ระหว่าง
อีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำาของเครื่องกำาเนิดไฟฟ้ากระแสตรงกับเวลาเป็นดังรูป

อีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำ
ε 0




0 T T 3T 2T เวลา
2 2
ε − 0



รูป กราฟความสัมพันธ์ระหว่างอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำาของเครื่องกำาเนิดไฟฟ้ากระแสตรงกับเวลา

กราฟความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวต้านทานกับเวลาจะมีลักษณะอย่างไร
แนวคำาตอบ กราฟความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวต้านทานกับเวลาจะเหมือนกับกราฟ
อีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำากับเวลา ดังรูป โดยค่าของกระแสไฟฟ้าจะขึ้นอยู่ค่าความต้านทานของตัวต้านทาน
ที่นำามาต่อ

กระแสไฟฟา


I 0

0 เวลา
T T 3T 2T
2 2
I − 0



















สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

78 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 79




15.4.3 การประยุกต์ใช้นำาหลักการอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำา

ความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น

-

แนวการจัดการเรียนรู้
ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อที่ 13 ของหัวข้อ 15.4 ตามหนังสือเรียน













ครให้นักเรียนยกตัวอยางอปกรณ์ไฟฟาทประยกตใช้การเหน่ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้าและมการประยกต ์
ใช้การเหน่ยวนาแม่หล็กไฟฟ้าอย่างไร ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ


โดยไม่คาดหวังคำาถามที่ถูกต้อง



ครูให้นักเรียนศึกษาความร้เก่ยวการประยุกต์ใช้นาหลักการอีเอ็มเอฟเหน่ยวนาของอุปกรณ์ไฟฟ้าใน


หนังสือเรียน ได้แก แบลลัสต์แบบขดลวดของหลอดฟลูออเรสเซนต มอเตอร์ไฟฟ้าเหน่ยวนา กีตาร์ไฟฟ้า




เตาแม่เหล็ก หรือสืบค้นจากแหล่งความรู้อื่น ๆ ให้นักเรียนนำาเสนอ จากนั้นนำาอภิปราย จนสรุปได้เกี่ยวกับ
การประยุกต์ใช้หลักการเหนี่ยวนำา ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน
ครูให้นักเรียนตอบคาถามตรวจสอบความเข้าใจ 15.4 และทาแบบฝึกหัด 15.4 โดยครูอาจมีการ


เฉลยคำาตอบและอภิปรายคำาตอบร่วมกัน
แนวการวัดและประเมินผล




1. ความร้เก่ยวกับการเกิดอีเอ็มเอฟเหน่ยวนาและทิศทางของอีเอ็มเอฟเหน่ยวนา การทางานของ



เครื่องกำาเนิดไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ จากการอภิปรายร่วมกัน แบบฝึกหัดและแบบทดสอบ
2. ทักษะการสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ จากการอภิปรายร่วมกันและการนำาเสนอผล
3. ทักษะการใช้จานวน ในการหาปริมาณต่าง ๆ ท่เก่ยวข้องกับอีเอ็มเอฟเหน่ยวนา จากแบบฝึกหัดและ





แบบทดสอบ
4. ทักษะความร่วมมือ การทำางานเป็นทีมและภาวะผู้นำา จากการอภิปรายร่วมกัน
5. จิตวิทยาศาสตร ความรอบคอบ และความอยากร้อยากเห็น จากการทดลองและอภิปรายร่วมกัน




สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

78 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 79





แนวคาตอบคาถามตรวจสอบความเข้าใจ 15.4




1.
วงแหวนอะลูมิเนียม












สวิตซ

รูป ประกอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 1


จากรูปเม่อกดสวิตซ์ให้วงจรปิด ปรากฏว่าวงแหวนอะลูมิเนียมจะกระเด็นข้นจากตาแหน่งเดิม

จงอธิบายว่าวงแหวนอะลูมิเนียมกระเด็นขึ้นได้เพราะเหตุใด



แนวคาตอบ เมอกดสวิตซใหกระแสไฟฟาผ่านขดลวดจะทาใหเกดสนามแมเหล็กมขนาดเพ่มขน














มีฟลักซ์แม่เหล็กเพ่มข้นผ่านวงแหวนอลูมิเนียม ทาให้เกิดอีเอ็มเอฟเหน่ยวนาและกระแสไฟฟ้า






เหน่ยวนาในวงแหวนมีทิศทางตามกฎของเลนซ กระแสเหน่ยวนาในวงแหวนจะเกิดในทิศทาง





สร้างสนามแม่เหล็กมีทิศตรงข้ามกับสนามแม่เหล็กของขดลวดในกรณีท่ฟลักซ์เพ่มข้น น้นคือ
กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำาในวงแหวนจะมีทิศทางตรงข้ามกับกระแสไฟฟ้าในขดลวด ทำาให้เกิดแรง


ผลักระหว่างวงแหวนกับขดลวด เช่นเดียวกับแรงผลักระหว่างลวดตัวนาค่ขนานท่มีกระแสไฟฟ้า

ผ่านในทิศทางตรงข้ามกัน ทำาให้วงแหวนเคลื่อนที่ขึ้น
2.
N S
A B C D
รูป ประกอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 2
จากรูป กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำาจะผ่านตัวต้านทาน AB และ CD ในทิศทางใด เมื่อ
ก. เคลื่อนแท่งแม่เหล็กไปทางขวา
ข. เคลื่อนแท่งแม่เหล็กไปทางซ้าย


แนวคาตอบ สามารถหาทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหน่ยวนาในขดลวดโดยใช้มือขวา ตาม

รายละเอียดในหนังสือเรียนรูป 15.46 และ 15.47
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

80 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 81






ก. ขณะเคล่อนแท่งแม่เหล็กไปทางขวาขดลวดทางด้านซ้ายจะมีฟลักซ์แม่เหล็กลดลง ขณะท ี ่




ขดลวดทางด้านขวามีฟลักซ์แม่เหล็กเพ่มข้น จากกฎของเลนซ์จะได้กระแสไฟฟ้าท้งสอง ดังรูป

จึงได้กระแสไฟฟ้าเหน่ยวนาจะผ่านตัวต้านทาน AB ในทิศทางจาก B ผ่านตัวต้านทานไป A

และผ่านตัวต้านทาน CD จาก C ผ่านตัวต้านทานไป D

NNNN N SSSS S

I A B I C D



รูป ประกอบแนวคำาตอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 2 ก.


ข. กระแสไฟฟ้าเหน่ยวนาจะผ่านตัวต้านทาน AB ในทิศทางจาก A ผ่านตัวต้านทานไป B และ

ผ่านตัวต้านทาน CD จาก D ผ่านตัวต้านทานไป C ดังรูป

N
N N N S S S S S
N
I A B I C D



รูป ประกอบแนวคำาตอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 2 ข.

3.
เคลื่อนเขา

N S รูป 1





เคลื่อนออก


N S รูป 2





รูป ประกอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 3





สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

80 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 81









จากรูป 1 ถ้าเคล่อนข้ว N ของแท่งแม่เหล็กเข้าหาศูนย์กลางของขดลวด และจากรูป 2 เคล่อนข้ว


N ของแม่เหล็กออกจากศูนย์กลางของขดลวด จงเขียนทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหน่ยวนา I

ind
ที่เกิดขึ้นในขดลวด ทั้งสอง



แนวคำาตอบ เม่อเคล่อนแม่เหล็กเข้าหาขดลวด จะเกิดการเปล่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กในทิศทาง

ไปทางซ้าย จึงมีการสร้างสนามแม่เหล็กไปทางขวา เพ่อต้านทิศทางการเปล่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็ก


โดยจะมีกระแสไฟฟ้าเหน่ยวนาในขดลวดในทิศทางตามการใช้มือขวาโดยให้น้วหัวแม่มือช้ไปทางขวา



ดังรูป 1 และสำาหรับเคลื่อนแม่เหล็กออกจากขดลวด จะเกิดการเปลี่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็กในทิศทาง

ไปทางขวา จึงมีการสร้างสนามแม่เหล็กไปทางซ้าย เพ่อต้านทิศทางการเปล่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็ก




โดยจะมีกระแสไฟฟ้าเหน่ยวนาในขดลวดในทิศทางตามการใช้มือขวาโดยให้น้วหัวแม่มือช้ไปทางซ้าย

ดังรูป 2

เคลื่อนเขา
I I
N S รูป 1
เคลื่อนออก
I I N S รูป 2






รูป ประกอบแนวคำาตอบคำาถามตรวจสอบความเข้าใจข้อ 3
























สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

82 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 83





Ø˚ เฉลยแบบฝึกหัด 15.4






1. ในการเคล่อนแท่งแม่เหล็กเข้าหาขดลวดวงกลม ปรากฏว่าฟลักซ์แม่เหล็กท่ตัดกับขดลวดเพ่ม
-4
-4
จาก 1.0 × 10 เวเบอร เป็น 1.2 × 10 เวเบอร ในเวลา 0.2 วินาท จงหาขนาดอีเอ็มเอฟเหน่ยวนา





เฉลี่ยที่เกิดขึ้นมีค่าเป็นเท่าใด
วิธีทำา หาขนาดอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำาเฉลี่ยที่เกิดขึ้นได้จากสมการ ε ∆ φ
t ∆
-4
การเปลี่ยนแปลงฟลักซ์แม่เหล็ก (Δϕ) เท่ากับ 1.2 × 10 Wb และ Δt = 0.2 s
แทนค่า ε
-4
= 1.0 × 10 V
-4
ตอบ ขนาดอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำาเฉลี่ยที่เกิดขึ้นมีค่าเป็น 1.0 × 10 โวลต์
2. วงจรหนึ่งประกอบด้วยหลอดไฟและลวดตัวนำาตรง PQ ที่เคลื่อนที่ผ่านสนามแม่เหล็กสม่ำาเสมอ
ด้วยความเร็วคงตัว v ในทิศทางจากซ้ายไปขวา ดังรูป

× × ×

P
× ×  ×
v

× ×  ×
Q B
× × ×

รูป ประกอบแบบฝึกหัดข้อ 2
ก. กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำาที่ผ่านหลอดไฟมีทิศทางใด

ข. ปลายข้างใดของลวดตัวนำา (P หรือ Q) มีศักย์ไฟฟ้าสูง
วิธีทำา พิจารณาการเปลี่ยนแปลงของฟลักซ์แม่เหล็กในวงปิดในรูป

ก. จากการเคล่อนท่ของวงจร ฟลักซ์แม่เหล็กตัดผ่านวงจรจะเพ่มข้นอย่างสมาเสมอทาให ้










เกิดกระแสไฟฟ้าเหน่ยวนาท่ทาให้เกิดสนามแม่เหล็กในทิศทางต้านการเปล่ยนแปลง



ฟลักซ์แม่เหล็กท่ตัดผ่านวงจร ซ่งมีทิศทางช้ออกจากกระดาษ เม่อใช้มือขวาหาทิศทาง


ของกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำา จะมีทิศทวนเข็มนาฬิกา ดังรูป
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

82 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 83






× × ×
I P
× ×  ×
v
× ×  ×

I Q B
× × ×

รูป ประกอบวิธีทำาสำาหรับแบบฝึกหัดข้อ 2
ข. จากข้อ ก. กระแสไฟฟ้าจะออกจาก P ผ่านหลอดไฟ และเข้าสู่ Q ซึ่งกระแสไฟฟ้าจะ
เคลื่อนที่จากตำาแหน่งที่มีศักย์ไฟฟ้าสูงผ่านอุปกรณ์ไปสู่ศักย์ไฟฟ้าต่ำา ดังนั้น ปลาย P

มีศักย์ไฟฟ้าสูง
ตอบ ก. ทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำาจะมีทิศทวนเข็มนาฬิกา ดังรูป
ข. ปลาย P มีศักย์ไฟฟ้าสูง




15.5 ไฟฟ้ากระแสสลับ
จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักย กระแสไฟฟ้ากับเวลา ในรูปของฟังก์ชันแบบไซน ์
ของไฟฟ้ากระแสสลับ
2. อธิบายและคำานวณ ความต่างศักย์อาร์เอ็มเอสและกระแสไฟฟ้าอาร์เอ็มเอส





3. อธบายหลักการทางานของเคร่องกาเนิดไฟฟากระแสสลับ 3 เฟส และการส่งไฟฟ้ากระแสสลับ
ไปตามบ้านเรือน
4. อธิบายหลักการทำางานของหม้อแปลง และคำานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
แนวการจัดการเรียนรู้


ครูนาเข้าส่หัวข้อ 15.5 โดยครูทบทวนความร้เก่ยวกับไฟฟ้ากระแสสลับจากเคร่องกาเนิดไฟฟ้า








จากน้นครูต้งคาถามว่าเคยเห็นเสาไฟฟ้าแรงสูงหรือไม และไฟฟ้าแรงสูงหมายถึงอะไร ครูเปิดโอกาสให ้




นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยไม่คาดหวังคาตอบท่ถูกต้อง จากน้นครูช้แจ้งว่าในหัวข้อน ี ้



นักเรียนจะได้ศึกษาเก่ยวกับปริมาณต่างๆ ท่เก่ยวข้องกับไฟฟ้ากระแสสลับ การผลิตรวมถึงการส่งไฟฟ้า
กระแสสลับจากโรงไฟฟ้า
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

84 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 85




15.5.1 ค่าอาร์เอ็มเอสของความต่างศักย์และกระแสไฟฟ้าของไฟฟ้ากระแสสลับ

ความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น


ความเข้าใจคลาดเคลื่อน แนวคิดที่ถูกต้อง



1. ค่ายังผลของไฟฟ้ากระแสสลับคือค่าสูงสุด 1. ค่ายังผลของไฟฟ้ากระแสสลับเป็นค่าเฉล่ย


แบบรากท่สองกาลังสองเฉล่ย ซ่งมีค่าน้อย


กว่าค่าสูงสุดเสมอ
2. ปริมาณไฟฟ้ากระแสสลับมีขนาดคงตัว 2. ปริมาณไฟฟ้ากระแสสลับมีขนาดเปล่ยน

แต่มีทิศทางเปลี่ยนกลับไปกลับมา แปลงตามเวลา และมีทิศทางเปลี่ยน

กลับไปกลับมา


แนวการจัดการเรียนรู้
ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อที่ 14-15 ของหัวข้อ 15.5 ตามหนังสือเรียน

ครูนำาเข้าสู่หัวข้อ 15.5.1 โดยตั้งคำาถามว่า เมื่อต่อไฟฟ้ากระแสสลับกับอุปกรณ์ไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า

ท่ผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้าจะมีค่าคงตัวหรือไม่อย่างไร ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ

โดยไม่คาดหวังคาตอบท่ถูกต้อง จากน้นครูใช้สมการ ε (t) = ε sin (ωt) นาอภิปรายเก่ยวกับกระแสไฟฟ้า




0



ท่อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ตัวต้านทาน ซ่งต่ออย่กับแหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับดังรูป 15.57 จนสรุปได้ว่า



กระแสไฟฟ้าท่ผ่านตัวต้านทานมีการเปล่ยนแปลงตามเวลาในรูปของฟังก์ชันแบบไซน เหมือนความต่างศักย ์

โดยมีเฟสตรงกัน ดังรูป 15.58
ครูตั้งคำาถามว่าความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสสลับที่ใช้ตามบ้านเรือนในประเทศไทยมีค่าเป็นเท่าไร ให้

นักเรียนร่วมกันอภิปรายจนตอบได้ว่าตามบ้านเรือนใช้ความต่างศักย์ไฟฟ้าประมาณ 230 โวลต หรือครูอาจ
สาธิตโดยใช้เครื่องวัดความต่างศักย์วัดกระแสไฟฟ้าจากปลั๊กไฟ นำามาอภิปรายร่วมกับนักเรียน จากนั้นตั้ง








คาถามวาการระบความตางศกยขางตนเปนคาคงตวทาไดอยางไร ทงทไฟฟากระแสสลบมค่าความตางศกย ์















และกระแสไฟฟ้าเปล่ยนแปลงตามเวลา ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยไม ่




















คาดหวงคาตอบทีถกตอง จากนนใหนกเรยนศกษาความรเกยวกับคาอารเอมเอสของไฟฟากระแสสลบจาก

หนังสือเรียน หรือสืบค้นจากแหล่งความรู้อื่น แล้วให้นักเรียนนำาเสนอผลการศึกษาหรือการสืบค้น จากนั้น
ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันจนสรุปได้ว่าค่าอาร์เอ็มเอสเป็นค่าเฉล่ยแบบรากท่สองของกาลัง





สองเฉล่ย บางคร้งเรียกว่าค่ายังผล หรือค่ามิเตอร์มีค่าตามสมการ (15.9) และ (15.10) ตามรายละเอียด
ในหนังสือเรียน จากนั้นให้นักเรียนศึกษาตัวอย่าง 15.11
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

84 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า ฟิสิกส์ เล่ม 5 ฟิสิกส์ เล่ม 5 บทที่ 15 | แม่เหล็กและไฟฟ้า 85





ครูอาจถามคาถามชวนคิดในหน้า 78 ให้นักเรียนอภิปรายร่วมกัน โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียน
แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ แล้วครูนำาอภิปรายจนได้แนวคำาตอบดังนี้



แนวคำาตอบชวนคิด


ไฟฟ้าตามบ้านเรือน ที่ระบุความต่างศักย์ไฟฟ้า 230 โวลต์ จะมีความต่างศักย์สูงสุดเท่าใด

แนวคำาตอบ ความต่างศักย์ไฟฟ้าที่ระบุไว้เป็นความต่างศักย์อาร์เอ็มเอส ซึ่งความต่างศักย์สูงสุดมีค่า
เป็น 1.414 เท่าของความต่างศักย์อาร์เอ็มเอส ดังนั้นความต่างศักย์สูงสุดมีค่า 325 โวลต์




ความรู้เพิ่มเติมสำาหรับครู



ค่ายังผลของปริมาณที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้ากระแสสลับ
ค่ายังผลเป็นค่าของกระแสไฟฟ้าหรือความต่างศักย์ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับท ่ ี















เทยบคากบคาทวดไดจากวงจรไฟฟากระแสตรงทมตวตานทานทมความตานทานคาเดยวกน






(หรือเหมือนกันทุกประการ) เกิดความร้อนเท่ากันในเวลาเท่ากัน อาจใช้วิธีอินติเกรต หาได้ดังนี้
ถ้าให้ R เป็นความต้านทาน และ W เป็นความร้อนในตัวต้านทาน
พิจารณาเมื่อกระแสไฟฟ้ากระแสสลับ i = I sin (ωt) ผ่านตัวต้านทาน R ในช่วงเวลา 1 รอบ
0
คือ T
dW = i R dt
2
2
dW = (I sin (ωt)) R dt
0
W T
2 2
∫ dW IR sin ω
0 ∫
( ) tdt
0 0
IR T
2
W 0 ∫ sin 2 ( ) ( ) tω td ω
ω 0
∫ sin 2 θ d θ θ − sin 2θ
จาก 2 4
IR ω t sin2 t ω  T
2

จะได้ W 0  − 
ω  2 4 0 
2
IR  Tω 
W 0 − 0 − 0 − 0

ω  2 

2
IRT
W 0
2
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version