บันทึกประวัติศาสตร์ ความทรงจำ

บนั ทกึ ภาพประวตั ศิ าสตรค์ วามทรงจำ�

ในการเยือนประเทศต่างๆ ตามคำ� เชญิ อย่างเป็นทางการ
ระหว่างด�ำรงต�ำแหนง่ ประธานรฐั สภา
โดย
ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน

สาธารณรัฐประชาชนจีน

๒๕๒๘







บนั ทกึ ภาพประวตั ศิ าสตรค์ วามทรงจำ�

ในการเยือนประเทศต่างๆ ตามคำ� เชิญอยา่ งเปน็ ทางการ
ระหว่างด�ำรงตำ� แหนง่ ประธานรฐั สภา

โดย ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน

สาธารณรัฐประชาชนจีน

๒๕๒๘

คำ� น�ำ

หอจดหมายเหตุแห่งชาติได้ขอภาพถ่ายที่น่าสนใจของผม เก่ียวกับ
กจิ กรรมดา้ นตา่ งๆ ทที่ ำ� ไวร้ ะหวา่ งเวลาหลายสบิ ปี เกบ็ รกั ษาทห่ี อจดหมายเหตุ
แหง่ ชาติ ภาพทค่ี ดิ วา่ สำ� คญั สว่ นหนง่ึ ไดแ้ กภ่ าพการไปเยอื นตา่ งประเทศเปน็
ทางการ ภาพการประชุมองค์กรระหว่างประเทศ และภาพการรับรองแขก
ตา่ งประเทศตลอดเวลาทีด่ �ำรงต�ำแหน่งผ้นู ำ� ในรัฐสภา

ภาพต่างๆ เหล่านี้จะมีคุณค่าข้ึนถ้ามีค�ำบรรยายว่าด้วยสถานท่ี
บุคคลและเหตุการณ์ที่เก่ียวข้อง ซ่ึงหอจดหมายเหตุแห่งชาติต้องการมาก
เพ่ือเก็บรักษาไว้เป็นประวัติศาสตร์ และหอสมุดแห่งชาติต้องการเก็บรักษา
และเผยแพรไ่ ปตามหอสมุดแหง่ ชาตทิ ุกแห่ง

ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้จึงใช้เวลาในช่วงปลายชีวิตฝากผลงานท่ี
ส�ำคัญไว้เพื่อมอบให้ผู้สนใจเป็นบรรณาการ โดยไม่มีการจ�ำหน่ายและ
จะเผยแพรใ่ หแ้ กผ่ สู้ มควรไดร้ บั หนงั สอื นเ้ี ทา่ นนั้ “บนั ทกึ ภาพประวตั ศิ าสตร์
ความทรงจำ� ในการเยอื น ประเทศตา่ งๆ ตามคำ� เชิญอย่างเปน็ ทางการ
ระหว่างด�ำรงต�ำแหน่งประธานรัฐสภา” รวม ๑๘ ประเทศ ซ่ึงจะแยกจัด
พมิ พเ์ ปน็ เลม่ ละหนงึ่ หรอื หลายประเทศ ตามความเหมาะสมและตามทโ่ี อกาส
และเวลาจะเอื้ออ�ำนวย

นอกจากภาพการเยือนต่างประเทศแล้ว ยังมีภาพประวัติศาสตร์งาน
ด้านองค์กรระหว่างประเทศ และภาพประวัติศาสตร์ว่าด้วยการรับรองแขก
ชาวต่างประเทศในประเทศไทยด้วย

4

ความต้ังใจเริ่มแรกผมคิดจะด�ำเนินการจัดพิมพ์บันทึกภาพ
ประวัตศิ าสตร์ทั้งหมดแบ่งเปน็ เจด็ เลม่ และจะเผยแพรพ่ ร้อมๆ กัน

แตเ่ มอ่ื ดำ� เนนิ การจดั ทำ� ไปแลว้ จงึ เหน็ วา่ งานนไี้ มน่ า่ จะตอ้ งดำ� เนนิ การ
โดยรวดเร็วแตข่ าดความละเอียดรอบคอบ

เพราะภาพและเรื่องประวัติศาสตร์เหล่านี้เป็นเร่ืองที่เกิดขึ้นเมื่อ ๓๕
ปีมาแล้ว ต้องใช้เวลาในการศึกษาและรวบรวมให้ถูกต้องมากท่ีสุดเท่าท่ีจะ
ท�ำได้

หนังสือชุดนี้นอกจากท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวินแล้ว มีผู้ช่วย
ในการจัดพิมพ์การคัดเลือกภาพ การค้นหาข้อมูลจาก Wikipedia การจัด
ท�ำอาร์ตเวิร์ค จึงขอขอบคุณทุกคนที่ท�ำให้ผลงานชิ้นนี้ของผมเป็นไปตามท่ี
ตง้ั เจตนาไว้

ศาสตราจารย์ ดร. อุกฤษ มงคลนาวนิ

5

สาธารณรฐั ประชาชนจนี

๒๕ กรกฎาคม - ๘ สิงหาคม ๒๕๒๘

ประเทศจีน มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นรัฐเอกราชในเอเชียตะวันออก
เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก กว่า ๑,๔๐๐ ล้านคน เป็นรัฐพรรคการเมืองเดียวปกครอง
โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน มีเมืองหลวงอยู่ท่ีกรุงปักก่ิง ประเทศจีนแบ่งการปกครองออกเป็น

๒๒ มณฑล (ไม่รวมพื้นที่พิพาทไต้หวัน), ๕ เขตปกครองตนเอง, ๔ เทศบาลนคร (ปักก่ิง เทียนจิน
เซี่ยงไฮ้ และฉงชิ่ง), และ ๒ เขตบริหารพิเศษ ได้แก่ ฮ่องกงและมาเก๊า มีพ้ืนที่ ๙.๖ ล้านตาราง
กิโลเมตร

ความสัมพนั ธไ์ ทย-จนี

ไทยกับจีนมีประวัติศาสตร์ในการผูกสัมพันธ์กันมา
ช้านานทางการค้าขาย โดยไทยเคยส่งบรรณาการให้กับ
จนี มาตลอด จนกระทง่ั ไดย้ ตุ คิ วามสมั พนั ธท์ างการทตู แบบ
บรรณาการกบั จีน ตง้ั แต่สมยั รชั กาลท่ี ๔ หลงั จากสงคราม
ฝนิ่ ยตุ ิลง

ต่อมาหลังสงครามโลก ครั้งที่ ๒ ประเทศจีนมี
การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ ท�ำให้ความสัมพันธ์
ทางการทตู ขาดตอนลง

จนกระท่ังมีการฟื้นฟูความสัมพนั ธข์ ึน้ ใหม่ โดยการ
สถาปนาความสัมพนั ธ์ทางการทตู เมือ่ วันที่ ๑ กรกฎาคม
๒๕๑๘ โดย ม.ร.ว.คกึ ฤทธิ์ ปราโมช นายกรฐั มนตรขี องไทย
กบั นายโจวเอนิ ไหลนายกรฐั มนตรสี าธารณรฐั ประชาชนจนี
ไดล้ งนามในแถลงการณร์ ว่ มวา่ ดว้ ยการสถาปนาความสมั พนั ธ์
ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐ
ประชาชนจนี บนพนื้ ฐานของความเสมอภาค เพอ่ื ธ�ำรงไว้
ซ่งึ ความมน่ั คง สันติภาพ และเสถียรภาพของภูมภิ าค

ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศแน่นแฟ้นข้ึน
เม่ือมีการเดินทางเยี่ยมเยียน ระหว่างผู้น�ำระดับสูงของ
ประเทศอย่างสม่ำ� เสมอ

8

นายเตง้ิ เสี่ยวผิง ต้อนรับคณะผู้แทนฝา่ ยไทย ไดแ้ ก่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรฐั มนตรี
และพลตรชี าตชิ าย ชุณหะวณั (ยศในขณะนนั้ ) รฐั มนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

9

ส ม เ ด็ จ พ ร ะ น า ง เ จ ้ า สิ ริ กิ ติ์ พ ร ะ บ ร ม
ราชนิ นี าถในรชั กาลท่ี ๙ (พระราชอสิ รยิ ยศ
ในขณะนั้น)ทรงตรวจแถวกองทหาร
เกียรติยศ สามเหล่าทัพอย่างย่ิงใหญ่
ณ ลานหน้ามหาศาลาประชาชน มีนาย
หจู ่นิ เทา รองประธานาธบิ ดี เฝา้ รับเสดจ็
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม-
ราชินีนาถ (พระราชอิสริยยศในขณะนั้น)
ทรงพบกบั นายเจยี งเจอ๋ หมงิ ประธานาธบิ ดี
สาธารณรฐั ประชาชนจนี เมือ่ พ.ศ. ๒๕๔๓

การเดินทางไปเย่ียมเยียนของผู้น�ำระดับสูงสุดเป็นไปอย่างดียิ่ง โดยเฉพาะ
การเสด็จเยือนอย่างเป็นทางการของพระบรมวงศานุวงศ์ของไทย เริ่มต้ังแต่
สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี (พระราชอิสริยยศในขณะนน้ั )
เสดจ็ เยอื นจีนเป็นครัง้ แรกเม่อื พ.ศ. ๒๕๒๔ สมเดจ็ พระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยา
ณิวัฒนา (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ปี ๒๕๒๘ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชนิ นี าถ ในรชั กาลที่ ๙ (พระราชอสิ รยิ ยศในขณะนน้ั ) เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ
แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตน-
ราชสุดาฯ ตามค�ำกราบบังคมทูลเชิญ ของนายเจียงเจ๋อหมิน (Jiang Jermin)
ประธานาธิบดี ระหว่างวันท่ี ๑๖-๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๓ เพื่อเฉลิมฉลอง ๒๕ ปี
แหง่ ความสมั พันธ์ทางการทูตระหว่างไทย - จนี รัฐบาลจีนจดั พิธีตอ้ นรับอยา่ งสม
พระเกยี รติ มกี ารจดั พธิ สี วนสนาม ทรงตรวจแถวกองทหารเกยี รตยิ ศ สามเหลา่ ทพั
อย่างยิ่งใหญ่ ณ ลานหน้ามหาศาลาประชาชน มีนายหูจ่ินเทา (Hujintau)
รองประธานาธิบดเี ฝา้ รับเสดจ็

10

สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี
(พระราชอสิ รยิ ยศในขณะนนั้ )

เสดจ็ พระราชด�ำเนนิ เยอื นจนี ทรงพบนายเต้งิ เสี่ยวผงิ เม่อื พ.ศ. ๒๕๒๔
สมเด็จพระเจา้ พีน่ างเธอ เจ้าฟ้ากลั ยาณิวัฒนา

กรมหลวงนราธวิ าส ราชนครนิ ทร์ (พระอิสรยิ ยศในขณะนัน้ )
เสดจ็ พระราชดำ� เนินเยอื นสาธารณรฐั ประชาชนจนี ทรงพบประธานาธบิ ดี หลีเซียนเหนยี น

ระหว่างวนั ที่ ๑๔ - ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๒๘
11



ความสัมพันธ์ไทย - จีน
ดา้ นรัฐสภา

ความสัมพันธ์ของรัฐสภา ไทย - จีน

ในส่วนของรัฐสภาน้ัน ความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐประชาชนจีน
ได้เริ่มต้นฟื้นฟูข้ึนใหม่ โดยฝ่ายบริหารน�ำโดย ม.ร.ว.คึกฤทธ์ิ ปราโมช
นายกรัฐมนตรี และพลตรีชาติชาย ชุณหะวัณ (ยศในขณะนั้น) รัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงต่างประเทศ กับ ท่านโจวเอนไล นายกรัฐมนตรี และท่าน
เตงิ้ เสย่ี วผงิ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๘ แลว้

ทางดา้ นรฐั สภา กไ็ ดม้ กี ารเยย่ี มเยอื นกนั ทางฝา่ ยไทย ประธานรฐั สภา
คนแรก ท่ีไปเยือนสาธารณประชาชนจีน คือ พลอากาศเอกหะริน หงสกุล
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ และนายจารุบุตร เรืองสุวรรณ ประธานรัฐสภา ในปี
พ.ศ. ๒๕๒๖

เม่ือผมด�ำรงต�ำแหน่งประธานรัฐสภา เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้มี
การแลกเปล่ียนเย่ียมเยือน โดยผมได้เชิญคณะผู้แทนรัฐสภาจีนน�ำโดย
ท่านเย่เฟย รองประธานรัฐสภาจีน ได้มาเยือนประเทศไทยก่อน
เม่อื วนั ที่ ๑๑-๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๗

รฐั สภาไทยไดต้ อ้ นรบั อยา่ งอบอนุ่ และสมเกยี รติ ทำ� ใหท้ า่ นเยเ่ ฟยและ
คณะประทับใจมาก

14

วันท่ี ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ ท่านเย่เฟย เข้าพบประธานรัฐสภาไทย นายอุกฤษ
มงคลนาวิน อย่างเปน็ ทางการ ณ ห้องรับรองรัฐสภา

15

ฝ่ายไทยเล้ียงอาหารค่�ำ (ต้อนรับ) เพ่ือเป็นเกียรติอย่างเป็นทางการ แก่ท่านเย่เฟย
ณ โรงแรม Hyatt Central Plaza
16

อยา่ งไรกต็ าม มเี หตทุ ไ่ี มค่ าดคดิ เกดิ ขน้ึ เพราะวนั ทท่ี า่ นจะเดนิ ทางกลบั
ในตอนบ่าย ประธานสภาผ้แู ทนราษฎร ในฐานะ รองประธานรฐั สภาในขณะ
นน้ั คอื นายอทุ ยั พมิ พใ์ จชน ไดเ้ ปน็ เจา้ ภาพเลยี้ งอาหารกลางวนั คณะผแู้ ทนจนี

ก่อนการเลี้ยงอาหารจะเสร็จส้ิน ท่านเย่เฟยมีอาการเป็นลมตกจาก
เก้าอี้ ท�ำความตกใจใหแ้ กผ่ ู้ร่วมงานทุกคน และรีบนำ� สง่ โรงพยาบาลทันที

นายแพทย์วินิจฉัยว่า ท่านยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศจีน
โดยเคร่ืองบินได้ ต้องให้บุคคลในคณะส่วนใหญ่เดินทางกลับไปก่อน
ตามกำ� หนด คงมที ่านเยเ่ ฟยและคณะบางสว่ นยงั อยกู่ ับท่าน

ปัญหาใหญ่ของฝ่ายจีนคือ เมื่อการเยือนอย่างเป็นทางการสิ้นสุดลง
แลว้ การเขา้ รกั ษาตวั ในโรงพยาบาลของทา่ นเยเ่ ฟยซง่ึ ขณะนน้ั เปน็ อาคนั ตกุ ะ
ของรัฐสภาไทยอยู่ และค่าใช้จ่ายของคณะที่ยังเดินทางกลับไม่ได้ “ใคร
จะเปน็ ผรู้ บั ภาระ” เพราะตามระเบียบแล้วทางการจีนคงจะไมร่ บั ภาระน้ี

ผมไดไ้ ปเยย่ี มดแู ลทา่ นเยเ่ ฟยตลอด ๕ วนั และแจง้ ใหฝ้ า่ ยจนี ทราบวา่
ค่าใช้จ่ายที่เกิดข้ึนทั้งหมดในช่วงนี้ รัฐสภาไทยขอรับภาระทั้งหมด เสมือน
การดูแลญาตผิ ใู้ หญ่ของเรา

ท่านเย่เฟยและคณะฝ่ายจีนรวมท้ังทางเอกอัครราชทูตซาบซ้ึงและ
ถือเปน็ บญุ คณุ ยิ่ง

เมื่ออาการทุเลาพอจะเดินทางได้แล้ว ทางการจีนส่งเครื่องบินพิเศษ
มารบั ทา่ นเย่เฟยและคณะทเี่ หลือกลับประเทศจนี โดยสวัสดภิ าพ

การเอาใจใส่ดูแลอย่างดีย่ิงของรัฐสภาไทย สร้างความประทับใจให้
ท่านเยเ่ ฟยมาก

ดังนั้นเมื่อผมน�ำคณะรัฐสภาไทยไปเยือนประเทศจีนในปี ๒๕๒๘
ทางการจนี จึงใหก้ ารต้อนรับอยา่ งอบอุ่นเต็มไปด้วยไมตรจี ติ

ทา่ นเยเ่ ฟยจงึ ดใี จทไี่ ดท้ ำ� การตอ้ นรบั คณะรฐั สภาไทยเปน็ การตอบแทน
ทั้งน้ีเพราะเคยมีความคุ้นเคย ได้รับน�้ำใจไมตรีจากเรามาก่อนเม่ือคร้ังมา
ไมส่ บายโดยกะทนั หัน ระหว่างมาเยอื นไทยคราวทแ่ี ล้ว

17



การเยอื นสาธารณรฐั ประชาชนจนี

ทานเยเฟย รองประธานสภาประชาชนจีนมารับทีส่ นามบนิ กรงุ ปกั กิง่
ทา่ นเย่เฟยตอ้ นรบั ทักทายดว้ ยความสนทิ สนมยินดเี ป็นอย่างยิ่ง

20

การเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน

ระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๒๘ - ๘ สงิ หาคม ๒๕๒๘
การเยอื นสาธารณรฐั ประชาชนจนี ของคณะรฐั สภาไทยนน้ั คณะของเรา
เดนิ ทางจากกรงุ เทพฯ ถงึ กรงุ ปกั กงิ่ เมอื่ วนั ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๒๘ ทางการจนี
มอบหมายให้ นายเย่เฟย รองประธานสภาประชาชน และนายพลต้วน
(Chu Tu Han) กรรมการกลางของพรรคคอมมิวนสิ ต์ มาตอ้ นรับทส่ี นามบิน
ฝ่ายไทยน�ำโดย คุณสมพันธ์ โกกิลานนท์ อัครราชทูตที่ปรึกษา
รกั ษาการแทนเอกอคั รราชทตู ไทยและภรยิ า คณุ ทศั นยี ม์ าพบทสี่ นามบนิ และ
รว่ มอยใู่ นคณะของเราไปดว้ ยตลอดการเยยี่ มเยียนประเทศจีนในคราวน้ี

21

จากสนามบินสู่กรุงปกั กง่ิ เขา้ พกั ทเี่ รือนรบั รองเตยี้ วหยวู ไ์ ถ
22

คณะเราเข้าพักในเรือนรับรองของรัฐบาล “เต้ียวหยูว์ไถ” หลังท่ี ๑๔
เม่ือ พ.ศ. ๒๕๒๘ นัน้ เต้ยี วหยูว์ไถ* เป็นทพ่ี ักรับรองแขกเมือง มเี รอื นรบั รอง
ขนาดใหญ่ ๑๕ หลัง อยู่ในบริเวณอันกว้างขวาง ร่มร่ืนไปด้วยต้นไม้ใหญ่
บ้านรับรองแต่ละหลัง ต้ังอยู่ริมสระน้�ำใหญ่น้อย มีสนามหญ้าเขียวขจี
และไม้ดอกประดับงดงาม บา้ นรบั รองแตล่ ะหลังมีความเปน็ เอกเทศ แม้จะมี
อาคันตุกะหลายคณะมาพักในเวลาเดียวกัน ก็แทบจะไม่เห็นกันเลย
จะไมมีเรือนรับรองหมายเลข “๑” อาจเปนเพราะไมใหมีความส�ำคัญกวา
อาคันตุกะที่พักหลังอื่นๆ นอกจากนั้นจะไมมีเรือนรับรองหมายเลข “๑๓”
เพราะถอื วา เปน เลขไมด ี

สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ (พระราชอิสริยยศในขณะนั้น) ประทับ
ท่ีวิลล่าหมายเลข ๑๒ เสด็จพระราชด�ำเนินเยือนเม่ือวันท่ี ๑๒ - ๑๙
พฤษภาคม ๒๕๒๔

สมเด็จพระเจ้าพ่ีนางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครนิ ทร์ (ครั้งเสด็จพระราชด�ำเนนิ เยอื นเม่ือวนั ที่ ๑๔ ถึง ๓๑พฤษภาคม
๒๕๒๘) ประทบั ที่วิลลา่ หมายเลข ๑๔

* เตี้ยวหยูว์ไถ เคยเป็นพระราชฐานสมัยอาณาจักรจินกัว (ค.ศ ๑๑๑๕ - ๑๒๓๔) จักรพรรดิ
เฉยี นหลงใชเ้ ป็นท่ีแปรพระราชฐาน ส�ำหรบั ทรงพกั ผอ่ นโปรดการตกปลา

23

ภายในบา้ นพกั รบั รองแตล่ ะหลงั สามารถพักไดท้ ั้งคณะ ประกอบดว้ ย
หอ้ งนอนประมาณ ๑๐ กวา่ หอ้ ง ทัง้ ชน้ั บนและช้ันลา่ ง

มีห้องอาหารขนาดใหญ่ น่ังรับประทานอาหารร่วมกันได้ทั้งคณะ
อาคันตุกะและเจ้าหน้าที่ต้อนรับฝ่ายจีน เสิร์ฟอาหารเต็มท่ีทุกม้ือ ต้ังแต่
อาหารเชา้ กลางวนั และเย็น

ห้องรับแขกมีขนาดใหญ่ มีจอหนังขนาดใหญ่ และเครื่องฉายหนัง
๒ เครอ่ื งมหี อ้ งประชุมใหญ่ สำ� หรับ ๒๐ ถงึ ๒๕ คน

รองประธานสภา และนายพลต้วน น่ังมาด้วยในรถขบวน เป็นรถ
เบนซ์ ๓ ตอน ประมาณ ๑๐ คนั มีรถต�ำรวจน�ำมาส่งถงึ เรอื นพกั ทีเ่ ต้ียวหยวู ์ไถ
ดแู ลใหค้ ณะเราเขา้ ทพี่ กั เรยี บรอ้ ยแลว้ จงึ ลากลบั เจา้ หนา้ ทป่ี ระจำ� บา้ นทง้ั ชาย
และหญงิ แตง่ เคร่ืองแบบมายืนยม้ิ แย้มมอบดอกไมต้ อ้ นรบั

24

คณุ สมพนั ธ์ โกกิลานนท์ อคั รราชฑตู ท่ปี รึกษารักษาการแทน เอกอัครราชฑตู
มาตอ้ นรับ พร้อมกับคุณทศั นีย์ โกกลิ านนท์ ภรรยา

นายพลต้วนสง่ ขนึ้ ทพ่ี กั

25

26 บรรยากาศดา้ นหน้าเรอื นรับรองทีเ่ ตย้ี วหยวู ไ์ ถ

บรรยากาศโดยรอบเรอื นรับรองท่เี ตี้ยวหยวู ์ไถ 27

ในการเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ ปี ๒๕๒๘ นี้ ท่ีกรุงปักกิ่ง
กำ� หนดการอยา่ งเปน็ ทางการในวนั แรก คอื รองประธานสภา เยเ่ ฟย ตอ้ นรับ
คณะรฐั สภาไทยที่มหาศาลาประชาชน

มหาศาลาประชาชน (The Great Hall of the People)
28

29

30

คณะกรรมการกรมการเมอื งมาต้อนรบั

นายเลยี งฮยุ กรรมการกรมการเมืองคนสำ� คญั 31

เ ป ็ น ก า ร พ บ กั น
ระหว่างทางการจีนและ
คณะรัฐสภา และคณะรัฐ-
สภาไทยอย่างเป็นทางการ
ที่ ม ห า ศ า ล า ป ร ะ ช า ช น
(The Great Hall of the
people) มหี อ้ งรบั รองใหญ่
มีช่ือประจ�ำมณฑลต่างๆ
๓๐ มณฑล

32

ทา่ นเยเ่ ฟย กลา่ วต้อนรับผแู้ ทนไทยอยา่ งเปน็ ทางการ

หัวหนา้ คณะรัฐสภาไทย กล่าวตอบ 33

ในมหาศาลาประชาชนมีหอ้ งรบั รองขนาดใหญ่ ๓๐ ห้อง
มีชอ่ื ตามมณฑลของสาธารณรฐั ประชาชนจีน

ทกุ หองมีรูปภาพหรอื รูปปก ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสญั ลกั ษณ์ประจำ�มณฑล
34

ชมหอ้ งประชมุ สภา

35

36

ห้องประชุมใหญ่สภา ณ มหาศาลา
ประชาชน จคุ นได ๑๐,๐๐๐ คน มเี ครอื่ ง
แปลภาษาได้ ๑๒ ภาษา มีห้องจดั เล้ียง
(Banquet Hall) จุคนได้ ๕,๐๐๐ คน
เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ในเวลาที่
ไม่มปี ระชมุ ตั้งแต่ปี ๑๙๗๙

37

38

หลงั การประชมุ กรรมการกรมการเมอื ง ถ่ายภาพรว่ มกบั คณะผู้แทนรฐั สภาไทย
39

ในตอนค่�ำ ทานเยเฟยและทานนายพลตวน จัดเลี้ยงอาหารค่�ำ
เปนเกียรติ ท่ีมหาศาลาประชาชน ณ ห้องมณฑลอันหุย โต๊ะอาหาร
จัดเป็นรูปตัวยู ประดับดอกไม้สดสวยงาม ท่านเย่เฟยเป็นเจ้าภาพเชิญดื่ม
คมั เปยดว้ ยเหมาไถชน้ั ดกี ันหลายจอก

40

41

42

บรรยากาศระหว่างงานเล้ยี งอาหารค�่ำอยา่ งเปน็ ทางการ
43

ปักกง่ิ

ขณะทพ่ี ำ� นกั อยทู่ ก่ี รงุ ปกั กง่ิ ทางการจนี ไดน้ ำ� คณะของเราเขา้ ชมสถาน
ทสี่ ำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตร์ ทมี่ ศี ลิ ปวฒั นธรรมมายาวนาน อนั เปน็ เอกลกั ษณ์
อนั ยง่ิ ใหญ่ ของประเทศจีน

พระราชวงั โบราณ (Imperial Palace)
หรือพระราชวงั ตอ้ งห้าม

คณะของเราได้ไปชมพระราชวังโบราณ (Imperial Palace) เป็น
พระราชวังหลวงแห่งราชวงศ์หมงิ และราชวงศช์ งิ

ยเู นสโกไดป้ ระกาศใหพ้ ระราชวงั ตอ้ งหา้ มรว่ มกบั พระราชวงั เสนิ่ หยาง
เปน็ หนงึ่ ในมรดกโลกในนาม พระราชวงั หลวงแหง่ ราชวงศห์ มงิ และราชวงศช์ งิ
ในปกั ก่ิงและเสิ่นหยาง เมอ่ื ค.ศ. ๑๙๘๗ ครอบคลุมพนื้ ท่ี ๗๒๐,๐๐๐ ตาราง
เมตร หรือ ๔๕๐ ไร่ อาคาร ๙๘๐ หลัง มีห้องท้ังหมด ๙,๙๙๙ ห้อง และ
มีพระที่น่ัง ๗๕ องค์ หอพระสมุด ห้องหับต่าง ๆ อีกมาก รวมท้ังยังมีสวน
ลานกวา้ ง ทางเดนิ เช่ือมกันโดยตลอด

45

มคี ูและกำ� แพงที่สงู ถึง ๑๑ เมตรลอ้ มรอบ
ใชเ วลากอ สรา งประมาณ ๑๔ ป ตง้ั แต ค.ศ. ๑๔๐๖ จนถงึ ค.ศ. ๑๔๒๐
พระราชวงั ตองหามตัง้ อยูทางทศิ เหนอื ของจตั ุรัสเทยี นอันเหมนิ
นักทองเที่ยวสามารถเขาสูพระราชวังตองหามได ทางประตูวัง ด้าน
จตั ุรัสเทียนอันเหมนิ

46

ภาพภายในพระราชวงั 47

ภาพสง่ิ ของเกา่ แกม่ คี ่าสงู ในพระราชวังโบราณ
48