ผมไดก ลา่ วตอบโดยพดู สดๆ วา มติ รภาพของพวกเราเปรยี บเสมอื น “ปลาเงนิ - ปลาทอง
ในอางแกวใบเดียวกัน ดังท่ีตกแต่งอยู่กลางโต๊ะอาหารน้ี อันแสดงถึงมิตรภาพ
ท่แี นบแนน ม่นั คงระหวา งกนั ” พวกคณะเจาภาพชอบใจมาก
การแลกเปลี่ยนของขวญั 149
อาหารที่จัดเล้ียงวันนี้มี อาหารพิเศษคือ กบภูเขาทอด อรอยดี
ในโตะอาหารไดพ ูดคุยกนั เปนภาษาไทยสนุกมาก
ทา นกนั ขู บอกวา ทา่ นเปน็ คนไทเผา่ จว้ ง ชอ่ื กนั ขู่ แปลเปน็ ภาษาไทย
ตรงๆ ว่า หวาน ขม ท่านเล่าว่าพวกผเู ฒายังพอพูดภาษาไทยได
แตก ารถา ยทอดลําบาก เพราะไมมตี ัวอกั ษร
ภาษาไทยของเรามีตัวอักษรแปดรอยกวาปมาแลว ในสมัยพอขุน
รามคําแหง จากการพูดคุยกันสังเกตวาภาษาไทยของชาวจวงเปนภาษา
คอนไปทางภาษาเหนือ ตรงไปตรงมา เชน เครอ่ื งแตงกาย ทอ นบนเรยี กวา
เสื้อ ทอนลา งคอื ผา ควายไถนา พดู วา ควายถนู า
บานคือ เรอื น ลกั ษณะเปน เรือนใตถนุ สงู
ใชผ า ขะมา เหมือนบ้านเรา
ภรรยา เรียกวา่ แม่เฒ่า
ลูกชาย คอื ลูกทา้ ว
ลูกผหู้ ญิง คอื ลูกสาว
น�้ำพริก เรียก น้�ำพรกิ เหมือนกัน กนิ น�้ำพรกิ กับขา้ วเหนียว
ตะเกียบ ใช้ค�ำวา่ ไมค้ กู่ นั
ยังไม่มีคำ� วา่ ชอ้ น-ส้อม เพราะรับประทานอาหารจะใช้มือเปบิ
ค�ำว่าขอบคุณคนไทยเผา่ จว้ งพูดว่า ขอบมงึ หรือกูขอบมึง
คำ� น้คี ณะคนไทยมีความกระดากท่จี ะพดู เพราะเป็นคำ� หยาบ
ม.ล.ตรีทศยุทธ เทวกุล พยายามจะพูดให้สุภาพ จึงเติมไปเต็มที่ว่า
“กขู อบมงึ ...ครับผม”
ภาษานี้ใชม ากวา ๓,๐๐๐ ปแ ลว ใชเ้ ป็นภาษาพูดไมมีตัวอักษร
เราพดู คยุ ภาษาไทยกนั รเู รอื่ ง ทาํ ใหเ กดิ ความสนทิ สนมมากเหมอื นพดู
คุยอยูใ นเมืองไทยด้วยกนั
150
ถ�้ำขลุ่ยอ้อ (Reed Flute Cave)
เปน็ ทท่ี อ่ งเทย่ี วทมี่ ชี อ่ื เสยี งของเมอื งกยุ้ หลนิ เราไดล้ อ่ งเรอื ไปตามแมน่ ำ้�
หลีเจียง ประมาณ ๑๕ นาทไี ปทางตะวันตกเฉียงใต ลงเรือท่ี Yanti Village
151
โถงภายในถำ�้ กว้างมาก
152
ระหวางทางมีภูเขาสลับซับซอนกันสวยมากสุดที่จะบรรยาย แมน้�ำ
ไมล กึ นำ้� ใส มีเดก็ นําควายหลายตัวมากินน้ำ� เหมือนเมืองไทย
ความสวยงามของภเู ขาเหมอื นบรเิ วณเมอื งพงั งาของเรา แตเ มอื งพงั งา
ต้ังอยรู่ ิมทะเล เมืองกุย้ หลนิ ตงั้ อยรู่ มิ แมน �้ำ
กยุ้ หลนิ มสี ง่ิ ทป่ี ระทบั ใจคอื อากาศเยน็ สบาย
ผูคนอัธยาศัยดี นารัก
มตี น ไมช นดิ หนง่ึ เรยี กวา ตน กยุ ฮวั ดอกกยุ้ ฮวั นี้
ใช้ทาํ เหลาประจําเมอื งเป็นทน่ี ยิ มดืม่ กนั มาก
เหลากุยฮัว หอมหวานอรอย นิยมใช้ดื่มเป็น ดอกกยุ ฮวั
เหลา้ หลงั อาหาร
153
ในระหวา งนงั่ เรอื ทางเจา ภาพบอกวา เมอื่ ถงึ กยุ้ หลนิ ลอ งแมน ำ้� หลเี จยี ง
แลว ทุกคนจะมีอารมณ กวี มีการแตงกลอนทุกคณะ เมื่อคราวที่สมเด็จ
พระเจาพ่ีนางเธอ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร ประทับเรือล่องแม่น้�ำ
หลเี จยี งไดท รงกลอนเปน ภาษาองั กฤษ ความวา “ฝนตกตลอดทาง เลยคน หา
ความสวยงามของกยุ้ หลินไมพ บ”
มีผู้สงกระดาษและปากกามาให ผมนึกสนุกเลยเขียนกลอนเปน
กลอนแปด โดยเกบ็ ธรรมชาติที่โดดเดน ของกุย หลนิ ไวท้ังหมด
“เขาสวย น�ำ้ ใส หินงาม ถำ�้ แปลก” Green Hills - Clean Water
- Charming rocks - Fantastic Cave) ผมใชเ วลา ๕-๑๐ นาที แตงกลอน
พอขน้ึ บกลา มแปลเปน ภาษาจีน และออกอากาศทางวทิ ยทุ ันที
154
155
กุย หลิน ถน่ิ สวรรค เทพสรรสราง
ตลอดทาง มหัศจรรย หนั ทางไหน
เขาสวย เปนชั้นฉัตร ดถู ัดไป
เงานำ�้ ใส เดก็ ลงเลน นา เอ็นดู
แถมยังมี ถำ้� แปลก หนิ แยกโลง
มีหอ งโถง ประชุมสภา ก็ยงั ได
มหี นิ ยอ ย หนิ งอก งามวไิ ล
พวกชาวไทย ตืน่ ใจ กนั ทุกคน
หินก็งาม มีน้ำ� ใจ ไทยเผาจวง
อยูทีเ่ มอื ง กวงสี ทก่ี วา งใหญ
พวกเราลวน เปน คน ชนเผา ไทย
แมอยู่ไกล ใจคะนึง คดิ ถงึ กัน
ใครจะคดิ สักนิด มิตรภาพ
แสนซึมซาบ จีน-ไทย ที่หมายม่ัน
มวลชน หากมจี ติ คดิ ผกู พัน
แมนเขาก้ัน ไมอาจขวาง ทางไมตรี
156
กระดาษรา่ งคำ� กลอนฉีกจากสมดุ บันทกึ
157
เมื่อขึ้นจากเรือล่องแม่น้�ำหลีเจียงก็ตรงไปสนามบิน เพ่ือเดินทางต่อ
ไปยังกวางโจว
การร�่ำลาท่ีสนามบินสรางความประทับใจมาก โดยเฉพาะคุณหญิง
มณฑนิ ี และทานกันขู
คุณหญงิ ถามวา “คดิ ถึง” ตรงกับคําวาอะไร ทา นกนั ขตู อบวา “ใจติด”
แลว้ “ลากอน” ตรงกบั คาํ วา อะไร ทา นกนั ขูตอบวา “ใจหาย”
ค�ำนี้เรียกน�ำ้ ตากันได้พอสมควร
158
ทา่ นกนั ขู่น้ำ� ตาคลอเมื่อตอ้ งจากมติ รชาวไทย 159
160
“ลากอ น - ใจหาย”
การโบกมอื ลาที่สนามบนิ เปน็ การอำ� ลาช่วั ชีวติ
เพราะทราบต่อมาภายหลังวา่ ทา่ นไดเ้ สยี ชวี ติ ไป
โดยเราไมม่ โี อกาสกลับไปเย่ียมเยยี นพบกันอีก
ตามทไี่ ดส้ ัญญาไว้
“ใจติด - คดิ ถงึ ”
161
กวางโจว (มณฑลกวางตงุ้ )
เดนิ ทางจากกยุ้ หลนิ –กวางโจวระยะทาง๔๒๐กโิ ลเมตรดว้ ยเครอ่ื งบนิ
พิเศษ ใช้เวลาเดนิ ทางประมาณ ๔๐ นาที
เคร่ืองบินถึงกวางโจว เน่ืองจากเปนเมืองสุดทายที่ไดรับบริการจาก
เครื่องบินพิเศษ ท�ำให้คณะของเรามีความคุนเคยกับนักบิน และพนักงาน
ประจำ� เครอื่ งพอควร เพราะอยกู่ บั คณะของเราตลอดเวลา เมอ่ื ลงไปชมสถานที่
ต่างๆ กต็ ดิ ตามไปด้วยกัน
163
เข้าพักทีโ่ รงแรม White Swan ช้นั ๒๕ รมิ แมน่ ำ้� ทวิ ทศั นส์ วยงามมาก
วันรุง่ ข้ึนไปชมโรงงานทําเซรามิค
164
ขณะไปชมโรงงานทาํ เซรามคิ
165
เวลาคำ่� เลย้ี งรบั รองทภ่ี ตั ตาคาร Panxi Restaurant โดยทา น ประธานหลวั เทยี น
เปนคนแตจิว๋ มาจากซัวเถา พรอ มกับมาดาม ฮวง อิง เหม็ง และคณะ
166
อาหารทกุ จานอรอ่ ยมาก โดยเฉพาะ “ซุป” เมอื่ หมดถ้วยแล้ว พนักงานจะ
เอามาเตมิ ตามทท่ี กุ คนตอ้ งการ แตถ่ ามวา่ ซปุ อะไร พอรวู้ า่ เปน็ “ซปุ ง”ู ตา่ งวางชอ้ น
หมดไม่ขอเติม เหลอื ผมเพยี งคนเดยี วท่ียังขอเติม
167
168
๗ สงิ หาคม ๒๕๒๘
ออกจากโรงแรม White Swan ไปสถานีรถไฟกวางโจว ระยะทางจาก
กวางโจว - เซิ่นเจ้นิ (Shen Zhen) ๑๔๖ กิโลเมตร ใชเวลา ๒ ชัว่ โมง ๔๓ นาที
เปนขบวนรถไฟพเิ ศษ สะอาดดี
ร่ำ� ลานายพลต้วน ชอื่ เตม็ ของทา่ นคือ ตว้ นฉวน
สมาชิกคณะกรรมการประจำ� สมัชชา เทยี บเทา่ รฐั มนตรีช่วยวา่ การ
169
ในขบวนรถไฟกับคณุ บงั อร อมิ่ โอชา เลขาธกิ ารรฐั สภา
ถงึ เซ่ินเจิ้น พกั ท่เี รอื นรับรอง
170
นายซนุ เสี่ยวอี้ ผ้อู ำ�นวยการคณะ
นายเสี้ยซนิ ล่ี (เสื้อขาว) เจ้าหนา้ ท่รี ักษาความปลอดภยั (security) ของคณะ
171
กงศลุ ไทยประจำ�เซนิ่ เจน้ิ คุณสุพจน์ จงสงวน
เป็นเพื่อนนติ ศิ าสตร์ ธรรมศาสตร์ รุ่น ๙๘ มาต้อนรบั
172
เย่ยี มชมโรงงาน เจียไตอ าหารสตั ว (ซพี ี) เปน บรษิ ัท รว มทนุ ไทยกบั ตา งประเทศ
173
ขวามอื คณุ สพุ จน์ จงสงวน กงศลุ ไทยประจำ�ฮอ่ งกง
174
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ นั้น
บรษิ ัทเจียไตม๋ โี รงงานตา งๆ ๔ แหง ในมณฑลกวางตงุ
เซ่ินเจ้นิ เปด ป ๑๙๘๓
ซวั เถา เปด ป ๑๙๘๔
กวางโจว จะเปดป ๑๙๘๖
จไู ท (ติดกับมาเกา ) โครงการกาํ ลังจะแลวเสร็จ ผลติ อาหารสตั ว เปด
ไก หมู
เลี้ยงไกไ ข และไกเ นือ้ ๖ ลา นตัวตอ ป
เลยี้ งหมู คนงานทงั้ หมด ๒๘๓ คน
ฝายไทยสง ผูเช่ียวชาญมาประจาํ ๑๕ คน
ฝา ยฮองกง มผี ูเ ชยี่ วชาญ ๑๕ คน
ตอไปดูโรงงานผลิตกระจก เปนการรวมทุนระหวางญี่ปุน จีน ไทย
(โดยนายเกียรติ ศรีเฟองฟงุ ) ทย่ี งั สรา งไมเสรจ็
175
รองนายกเทศมนตรีจัดเลยี้ งท่ี หยาหยวน International Hotel
176
177
เมื่อกลับถงึ โรงแรมที่พัก
วทิ ยปุ กกง่ิ ขอสมั ภาษณ
ลาคณะครง้ั สดุ ทายที่ Man Kam Jo (หมน่ั กาํ โต) เปน Check Point
ขา มไปฮอ งกง
คณะผแู ทนรัฐสภาไทยขนึ้ เคร่ือง Air Bus TG๖๑๑ กลับประเทศไทย
ถงึ สนามบินดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ
178
นายพลตว้ นฉวนเดนิ ทางเพ่อื มาสง่ และลากนั ท่ี Check point ของเซ่นิ เจ้นิ
179
180
สรุปการเยอื นสาธารณรฐั ประชาชนจนี
ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน
ล�ำดับแรกต้องขอช่ืนชมต่อการรับรองของฝ่ายจีน ซึ่งจัดเตรียมการ
ต้อนรับคณะผู้แทนสภาไทยอย่างดี อย่างรอบคอบ ให้ความส�ำคัญกับคณะ
ผแู้ ทนไทยอยา่ งมาก
โดยจดั ใหค้ ณะผแู้ ทนสภาไทย ไดม้ โี อกาสเขา้ เยย่ี มคารวะ ผูน้ �ำสงู สุด
ของจนี คอื ทา่ นเตงิ้ เสยี่ วผงิ ,ประธานสภาประชาชนทา่ นเผงิ เจนิ ,นายกรฐั มนตรี
ทา่ นจา้ วจอ่ื หยาง ในวนั เดยี วกนั เปน็ การใหเ้ ขา้ เยย่ี มคารวะเปน็ กรณพี เิ ศษมาก
เพราะในช่วงดังกล่าวเป็นเวลาพักผ่อนของผู้น�ำระดับสูงท่ีเปไต้เหอ และโดย
หลักการจะไม่มีการรับแขกตา่ งประเทศ
สงิ่ ทปี่ ระทบั ใจในการพบปะพดู คยุ กบั ผนู้ ำ� ระดบั สงู สดุ ของจนี ทง้ั ๓ ทา่ น
เป็นไปด้วยความเข้าใจกันและดว้ ยความอบอุน่
ท้งั ๓ ทา่ นให้เวลาการต้อนรับนานพอควร
ไดม้ กี ารพดู คยุ เรอื่ งภาษาและวฒั นธรรมซง่ึ ประเทศไทยไดม้ กี ารพฒั นา
โดยการประดษิ ฐต์ วั อกั ษรไทยขนึ้ เมอ่ื แปดรอ้ ยกวา่ ปมี าแลว้ ทำ� ใหม้ กี ารพฒั นา
ต่อไปโดยนัยส�ำคัญอีกหลายด้าน โดยเฉพาะด้านพิมพ์ดีดซ่ึงไทยได้คิดค้น
พมิ พด์ ดี ภาษาไทยไดน้ านแลว้ โดยเฉพาะการคดิ คน้ เรอื่ งพยญั ชนะและอกั ขระ
ท่มี คี วามชาญฉลาดและอาจกลา่ วได้ว่า
ภาษาไทยสามารถเขียนหนังสือตามภาษาที่ออกเสียงได้ทั้งหมดซึ่ง
หลายๆ ประเทศทำ� ไมไ่ ด้
181
วัฒนธรรมที่ทันสมัยที่สุดของไทยท่ีมีคุณค่าเป็นเอกลักษณ์ส�ำคัญ
ที่สุดอย่างหน่ึง คือการคิดเร่ืองการต้ัง “นามสกุล” โดยพระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ท�ำให้มีการแตกต่างท้ังเรื่องช่ือและนามสกุล
อยา่ งชดั เจน
บรรยากาศในการเยือนประเทศจีนครั้งนี้เป็นการเยี่ยมเยือนระหว่าง
พ่ีน้องกัน โดยมีการย�้ำในการพบปะและปราศรัยทุกคร้ังและทุกสถานท่ีว่า
“จนี ไทยไม่ใช่อ่ืนไกลพน่ี ้องกนั ”
การจดั เตรียมเครือ่ งบินพเิ ศษ เฉพาะคณะของเรา เปน็ พาหนะในการ
เดินทาง ในช่วงเวลาท่ีเดินทางภายในประเทศตลอดการเดินทาง เริ่มจาก
กรุงปักกิ่ง-เปไต้เหอ-เซี่ยงไฮ้-ยูนนาน จนถึงกวางโจวเป็นระยะทาง ๕,๙๐๐
กโิ ลเมตร
การจัดคณะเจ้าหน้าที่อ�ำนวยการไปกับคณะ นอกจากมีสมาชิกสภา
คนส�ำคญั “นายพลตว้ น” แล้วยังมี ซุนเสี่ยวยู่ เปน็ ผูท้ �ำหน้าทเี่ ลขานุการคณะ
ท่มี ปี ระสิทธภิ าพสูงและเปน็ เจ้าหนา้ ทีร่ ะดับอธิบดี
เจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนท่ีท�ำหน้าที่ต้อนรับคณะผู้มาเยือนทุกประเทศและ
ทกุ คณะ เมอ่ื เสรจ็ สนิ้ การเยอื นมกั จะมคี ำ� มนั่ วา่ จะเชญิ คณะเจา้ หนา้ ทฝ่ี า่ ยจนี
ไปเยยี่ มประเทศเปน็ การตอบแทนแตต่ ลอดเวลาหลายปีเจา้ หนา้ ทฝี่ า่ ยตอ้ นรบั
ของจนี ไม่เคยได้รับการเชญิ มาเยือนไทยตามทีไ่ ด้พูดไวเ้ ลย
ส�ำหรับคณะรัฐสภาไทยชุดนี้ ได้รักษาค�ำสัญญาโดยการเชิญคณะ
เจ้าหน้าที่ของสภาจนี รวมท้ัง “ล่าม” ประมาณ ๑๒ คน มาเท่ยี วประเทศไทย
ยกเวน้ “เสยี้ นซนิ ล”่ี ซง่ึ ไปทำ� งานทฮ่ี อ่ งกง การปฏบิ ตั ขิ องสภาไทยครง้ั นี้ เปน็ ท่ี
ชน่ื ชมยนิ ดนี อกจากคณะเจา้ หนา้ ทแ่ี ล้ว ผนู้ ำ� ระดบั สงู ไดร้ บั ทราบและมคี วาม
ยินดมี าก
182
ทางการจีนให้สื่อมวลชนจัดท�ำและเสนอข่าวตลอดเวลา โดยเฉพาะ
การเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ “ซินหัว” เม่ือวันที่เข้าเย่ียมคารวะเป็นการ
เสนอข่าวเต็มหน้า นอกจากนั้น มีการขอสัมภาษณ์โดยสถานีวิทยุปักกิ่ง ใน
วันสุดท้ายท่ีจบการเยือนประเทศจีนสถานีวิทยุท้องถ่ินก็มีการน�ำเสนอข่าว
เป็นระยะๆ
สรุปการเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนคร้ังนี้ ได้รับผลสำ� เร็จ
ในการกระชับและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ฉันพี่น้องอย่างดีเย่ียม คณะผู้แทน
รัฐสภาไทยจะขอจารึกความส�ำเร็จคร้ังนี้ไว้เป็นประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์
ทัง้ สองประเทศระดบั รัฐสภาตอ่ ไป
183
184
รายงานการเยอื นจีนของ ดร.อุกฤษ มงคลนาวนิ
ประธานรฐั สภาแห่งราชอาณาจักรไทยและคณะ
(๒๕ กรกฎาคม ๒๕๒๘ - ๘ สงิ หาคม ๒๕๒๘)
จัดท�ำโดย สถานเอกอคั รราชฑูตไทย ณ กรงุ ปักกง่ิ
เพ่อื สง่ ให้กระทรวงการตา่ งประเทศ
เมอ่ื วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ศกน้ี คณะผแู้ ทนรฐั สภาไทยซึง่ อย่ใู นระหวา่ ง
การเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ตามค�ำเชิญของ
ฯพณฯ นายเผิงเจิน ประธานรัฐสภาจีน ได้หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
กบั คณะผู้นำ� ของรัฐสภาจนี ฯพณฯ ดร. อกุ ฤษ มงคลนาวนิ ประธานรัฐสภา
และหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้เสนอให้รัฐสภาของไทยและจีนร่วมกัน
พิจารณาแสวงหาลู่ทางในการส่งเสริม และขยายขอบเขตความสัมพันธ์
ทวภิ าคใี นดา้ นตา่ งๆ ใหก้ วา้ งขวางยงิ่ ขนึ้ เพอ่ื ผลประโยชนร์ ว่ มกนั ของประเทศ
และประชาชนของราชอาณาจกั รไทยและสาธารณรฐั ประชาชนจนี
คณะผู้น�ำของรัฐสภาทั้งสองฝ่าย ได้ตกลงท่ีจะแลกเปลี่ยนการเยือน
ระหวา่ งกันเป็นประจ�ำ เพ่อื รว่ มกันพิจารณามาตรการตา่ งๆ ในอันท่จี ะขยาย
ขอบเขตและรูปแบบใหม่ๆ ของความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ และการค้า
ระหวา่ งไทย-จนี เพ่อื เสนอแนะให้รัฐบาลของท้ังสองฝ่ายพจิ ารณาต่อไป
โดยที่ฝ่ายจีนได้ชี้แจงว่า ในระยะ ๔-๕ ปี จนถึงปัจจุบัน ผลผลิต
ทางเกษตรของจีน ได้เพิ่มมากขึ้นจนเกินความต้องการภายในประเทศ และ
จำ� ต้องจ�ำหนา่ ยผลิตผลบางอย่างในตลาดต่างประเทศด้วยตามสภาพการณ์
ในปัจจุบัน ท�ำให้จีนจ�ำต้องยุติ หรือลดจ�ำนวนการส่ังซ้ือสินค้า เกษตรกรรม
ท่ีเคยซื้อขายกันอยู่บางประเภทของไทย ประธานรัฐสภาไทยจึงได้เสนอให้
ฝ่ายจีนพิจารณาน�ำเข้าผลไม้ไทย เพื่อทดแทนการน�ำเข้าสินค้าเกษตรกรรม
185
บางชนดิ ของไทย ซง่ึ ฯพณฯ นายอู่เซ่ียะเฉยี น รฐั มนตรวี า่ การตา่ งประเทศจนี
ได้ตกลงในหลักการกับ ฯพณฯ พลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา รัฐมนตรี
ว่าการต่างประเทศไทย เมื่อปลายเดือนมิถุนายนท่ีผ่านมา แต่ยังมีอุปสรรค
บางประการ ประธานรัฐสภาไทยจึงได้เสนอแนะให้มีการลดอัตราภาษี
ศลุ กากรสำ� หรบั ผลไมไ้ ทยฯพณฯเยเ่ ฟยรองประธานรฐั สภาจนี และคณะ
ผนู้ ำ� รฐั สภาจนี เหน็ ชอบดว้ ยและเสนอใหเ้ จา้ หนา้ ทแี่ ละผเู้ ชย่ี วชาญเรอ่ื ง
ผลไม้ของไทย-จีนพบปะหารือท�ำความตกลงในรายละเอียดเก่ียวกับ
ผลไมไ้ ทยแต่ละประเภททีจ่ ะน�ำเขา้ โดยฝา่ ยรัฐสภาจนี จะเสนอเร่ืองน้ี
ใหร้ ฐั บาลจนี พจิ ารณาดำ� เนนิ การตอ่ ไป ทงั้ นี้ ผนู้ ำ� รฐั สภาจนี ยงั ไดแ้ สดง
ความเห็นว่า ประชาชนจนี นา่ จะชอบบริโภคผลไม้ไทยหลายชนดิ เชน่
สม้ เขียวหวาน สม้ เช้ง มะมว่ ง และสัปรส
ต่อมาในค�่ำวันเดียวกัน คณะรัฐสภาจีนได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับเป็น
เกยี รตแิ กค่ ณะผแู้ ทนรฐั สภาไทย หวั หนา้ คณะทง้ั สองฝา่ ย ไดก้ ลา่ วคำ� ปราศรยั
ยนื ยนั เจตนาทจี่ ะตดิ ตอ่ กนั เปน็ ประจำ� เพอ่ื ชว่ ยเหลอื สนบั สนนุ การดำ� เนนิ การ
ของภาครัฐบาลในการส่งเสริมและขยายขอบเขตความสัมพันธ์ไทย - จีน
ในดา้ นตา่ งๆ ประธานรฐั สภาไทยยงั ไดก้ ลา่ วเสนอเพมิ่ เตมิ ใหท้ งั้ สองฝา่ ยไทย
และจีนร่วมมือกันในด้านการค้าเพ่ิมเติมอีกข้ันหนึ่ง คือ พยายามหลีกเลี่ยง
การแข่งขนั ตัดราคาขายสนิ ค้าประเภทเดยี วกนั ในตลาดตา่ งประเทศ
อน่ึง ความริเร่ิมและลู่ทางในการจ�ำหน่ายผลไม้ไทยในประเทศจีน
เป็นครั้งแรก ได้มีความคืบหน้าเพ่ิมเติม คือ เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคมศกน้ี
คณะผแู้ ทนการคา้ ไทย นำ� โดย รองอธบิ ดกี ารคา้ ตา่ งประเทศ และคณะผแู้ ทน
การคา้ จนี ซงึ่ กำ� ลงั เจรจาซอ้ื ขายสนิ คา้ ระหวา่ งกนั ทกี่ รงุ ปกั กงิ่ ไดเ้ หน็ ชอบดว้ ย
กบั ข้อเสนอของฝ่ายรัฐสภาไทย - จีน และได้ตกลงกันอย่างไม่เปน็ ทางการว่า
ฝา่ ยจีนยินดรี บั ค�ำเชญิ มาปรึกษาหารือเก่ียวกับ เรอื่ งผลไม้ไทยที่ประเทศไทย
ในเร็วๆ น้ี เพื่อร่วมกันส�ำรวจข้อมูลและหารือในเงื่อนไขรายละเอียดต่างๆ
186
เพื่อให้สามารถส่งผลไม้ไทยไปยังประเทศจีนได้โดยเร็ว และต่อมาเมื่อวันท่ี
๒๙ กรกฎาคม ฯพณฯ ดร. กมล ทองธรรมชาติ รฐั มนตรีว่าการประจําส�ำนกั
นายกรฐั มนตรี กไ็ ดย้ กเรอื่ งนขี้ นึ้ หารอื เพมิ่ เตมิ กบั รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวง
เศรษฐสัมพันธ์และการค้าต่างประเทศจีนที่กรุงปักก่ิง ซ่ึงฝ่ายจีนได้แจ้งว่า
จะพยายามลดภาษีศุลกากรส�ำหรับผลไม้ไทย และเสนอให้พิจารณาเรื่อง
ผลไมไ้ ทยอย่างจริงจังในท่ปี ระชมุ คณะกรรมการร่วมทางเศรษฐกจิ ไทย - จีน
ซงึ่ ก�ำหนดจะประชมุ กันครง้ั แรกทีก่ รงุ เทพฯ ประมาณเดอื นพฤศจิกายนศกน้ี
เมอื่ วนั ที่ ๓๐ กรกฎาคม ฯพณฯ ประธานรฐั สภาไทย และคณะไดพ้ บปะ
หารือกับบรรดาผนู้ �ำจนี ท่เี มือง “เป้ต้าเหอ” สรุปประเดน็ ไดด้ งั นี้ :
การหารอื กบั ฯพณฯ เตงิ้ เสยี่ ว ผงิ ประธานคณะกรรมการทปี่ รกึ ษา
ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานคณะกรรมาธิการทหารของพรรค
และของสมัชชาประชาชนแห่งชาตริ ะหว่าง ๐๙.๐๐ - ๑๐. ๐๐ น
ฯพณฯ เต้ิงเส่ียวผิง ได้กล่าวว่าในรอบ ๑๐ ปีท่ีมีความสัมพันธ์
ทางการทูตระหว่างกันได้มีการเยือนและติดต่อกันระหว่างผู้น�ำรัฐสภา
และรัฐบาลไทย-จีน บ่อยคร้ังแสดงถึงมิตรภาพอันสนิทแน่นแฟ้นระหว่าง
ประเทศท้ังสอง ตั้งแต่ต้นจนถึงระดับประชาชน รัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนได้
รว่ มมอื กนั เพอื่ สนั ตภิ าพในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ การเยอื นของคณะผแู้ ทน
รัฐสภาไทยจะชว่ ยส่งเสริมมิตรภาพและความเขา้ ใจระหว่างกันย่ิงข้ึน
ฯพณฯ เต้ิงเสี่ยวผิง ได้ช้ีแจงนโยบายพัฒนาประเทศและสภาพ
ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจจีนในปัจจุบัน และว่าในการพัฒนา และปฏิรูป
ระบบเศรษฐกิจของจีนอาจจะประสบกับอุปสรรคบ้าง แต่ก็เชื่อม่ันว่า
จีนจะบรรลุเป้าหมายตามนโยบายท่ีทันสมัยภายในก�ำหนดเวลา คือ
ค.ศ. ๒๐๐๐ อย่างแน่นอนในขณะที่จีนมีอนาคตในการพัฒนาประเทศ ก็
ทราบว่าประเทศไทยก็มีอนาคตในเรื่องน้ี และประสบความส�ำเร็จเช่นเดียว
กับจนี
187
ฯพณฯ ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน แสดงความเห็นว่า สภาพเศรษฐกิจ
ของไทยกบั จนี มลี กั ษณะเหมอื นกนั ไทยกบั จนี ตา่ งกเ็ ปน็ ประเทศเกษตรกรรม
มีเกษตรกรถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ของประชากรประเทศไทยเองก็ก�ำลังพัฒนา
ทางเกษตร อตุ สาหกรรมและเทคโนโลยี เชน่ เดียวกับจีน คณะผแู้ ทนรัฐสภา
ไทย จึงประสงค์จะศึกษาวิธีการและประสบการณ์ของจีนเพื่อประโยชน์
ในการพิจารณาแผนพฒั นาประเทศของไทยด้วย
ฯพณฯ เติ้ง เส่ียว ผิง เห็นพ้องด้วยว่า ทั้งไทยและจีนควรศึกษา
แลกเปล่ียนประสบการณ์ของแต่ละฝ่าย และร่วมมือกันเพ่ือผลประโยชน์
ของสองฝา่ ย
การหารอื กบั ฯพณฯ เผงิ เจนิ ประธานคณะกรรมการประจำ� ของสมชั ชา
ประชาชนแหง่ ชาติ (ประธานรฐั สภาจนี ) ระหว่างเวลา ๑๑.๐๐ - ๑๒.๔๐ น.
ฯพณฯ เผงิ เจนิ ได้ชแ้ี จงนโยบายและการด�ำเนนิ การพัฒนาเศรษฐกิจ
ของจนี และความสัมพันธ์ในดา้ นต่างๆ ระหวา่ งประเทศไทยกับจนี
ฯพณฯ ประธานรัฐสภาไทยกับ ฯพณฯ ประธานรัฐสภาจีน ได้หารือ
แลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับสภาพการณ์ระหว่างประเทศ และความร่วมมือ
สนบั สนนุ ซงึ่ กนั และกนั ระหวา่ งรฐั สภาไทยกบั จนี ในความพยายามเพอื่ รกั ษา
สนั ตภิ าพในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ทงั้ สองฝา่ ย ตา่ งเหน็ พอ้ งกนั
ว่าไทยกับจีนมวี ตั ถปุ ระสงค์และนโยบายทส่ี อดคล้องกนั เกี่ยวกับเรอ่ื งนี้และ
ควรจะร่วมมือกันต่อไป เพ่ือผลประโยชน์วัฒนธรรมของท้ังสองประเทศและ
ของประชาชนท่ัวโลกซึ่งมีสองประการ คือ การพัฒนาเศรษฐกิจของตนเอง
และการพทิ กั ษส์ นั ตภิ าพของโลก การที่ ฯพณฯ เตง้ิ เสย่ี วผงิ ไดก้ ลา่ ววา่ ไทย - จนี
มคี วามสัมพันธอ์ ยา่ งสนิทสนมทง้ั ในระดับรัฐบาลและประชาชนนั้น ถอื ไดว้ า่
เปน็ การกลา่ วแทนรัฐสภาและประชาชนจนี ด้วย
188
ตอ่ คำ� ถามของ ฯพณฯ เผิงเจิน ทวี่ ่าฝ่ายไทยประสงค์จะขอใหฝ้ ่ายจีน
ชว่ ยเหลอื รว่ มมอื -ในเรอ่ื งใดบา้ งหรอื ไม่ ฯพณฯ ประธานรฐั สภาไทยไดต้ อบวา่
การมาเยือนจีนคร้ังน้ี มีวัตถุประสงค์ท่ีจะท�ำความรู้จักคุ้นเคยกับผู้น�ำจีน
เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่าง
ไทย - จีนมิได้มีเจตนาที่จะขอร้องในเร่ืองใด โดยเฉพาะคณะผู้แทนไทย
ประสงค์ที่จะให้ทั้งฝ่ายไทยและจีนปฏิบัติต่อกันอย่างมิตรและมีความจริงใจ
ตอ่ กนั ตลอดไปซง่ึ ในฐานะมติ รสนทิ หากฝา่ ยใดมเี รอ่ื งทจ่ี ะขอความชว่ ยเหลอื
จากอกี ฝ่ายหนึ่งก็ยอ่ มสามารถทจ่ี ะพดู จากนั ไดง้ ่าย
ฯพณฯ ประธานรัฐสภาไทย ไดส้ รุปผลการหารือและเห็นชอบรว่ มกนั
ของคณะผู้แทนรัฐสภาไทยกับจีน เกี่ยวกับบทบาทของรัฐสภาท้ังสองในการ
ร่วมกันพิจารณาเสนอความเห็นเก่ียวกับลู่ทางและมาตรการใหม่ๆ ท่ีมีผล
ในทางปฏิบัติ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าไทย - จีน ซึ่งก็ปรากฏว่าได้มีผล
คืบหน้าหลงั จากการหารือแล้ว
๔.๕ ประธานสภามณฑลกวางตุ้ง และนายกเทศมนตรีเมือง
เซน่ิ เจน้ิ ไดย้ นื ยนั ทจ่ี ะสง่ เสรมิ เศรษฐกจิ การคา้ ไทย-จนี คณะผแู้ ทนรฐั สภาไทย
ได้เยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์มอร์เตอร์ไซค์เท่ียวเมืองเซี่ยงไฮ้ และโรงงาน
ผลิตอาหารสัตว์ที่เมืองเซ่ินเจิ้น ซึ่งเป็นการลงทุนร่วมระหว่างฝ่ายจีนกับ
บรษิ ัทในเครอื เจริญโภคภณั ฑ์
๔.๖ ฝ่ายจีนได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนไทยเป็นอย่างดี โดย
ได้จัดให้พบกับ ฯพณฯ เติ้งเสี่ยวผิง ตามความประสงค์ของคณะผู้แทนไทย
ระหว่างที่อยู่กรุงปักก่ิงและยังได้จัดให้นายต้วนฉวน สมาชิกคณะกรรมการ
ประจ�ำสมัชชาประชาชนแห่งชาติจีน (มีต�ำแหน่งเทียบเท่ากับรัฐมนตรี
ช่วยว่าการ) พรอ้ มกับสือ่ มวลชนอีก ๔ คน ตดิ ตามอ�ำนวยความสะดวกและ
เผยแพร่ข่าวการเยอื นของคณะเปน็ ประจำ� ทุกวันในระหวา่ งการเยือน
189
๕. ขอ้ สงั เกต
ฝ่ายจีนได้ต้อนรับและให้เกียรติแก่คณะผู้แทนรัฐสภาชุดน้ีเป็น
อย่างมาก ได้หารือในเร่ืองท่ีมีสาระส�ำคัญอีกหลายเร่ืองนอกจากนั้นนาย
เติ้งเส่ียวผิงก็ได้ช้ีแจงนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจของจีนเพ่ือให้สื่อมวลชนจีน
เผยแพร่ซ่ึงปกตินายเติ้งจะกล่าวเร่ืองนี้เพื่อผลทางประชาสัมพันธ์ผ่านคณะ
ผแู้ ทนระดับสูงของสหรัฐและญ่ปี ุ่น
เชน่ อนง่ึ ในการสนทนาหารอื กบั ฝา่ ยจนี ประธานรฐั สภาไทยประสงคจ์ ะ
แสดงท่าทีในเร่ืองต่างๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยและสืบต่อ
จากการหารือในครัง้ กอ่ นๆ ของผู้นำ� ฝ่ายไทยเพอ่ื ให้ฝา่ ยจีนเหน็ วา่ ฝ่ายไทยมี
ท่าท่เี ป็นเอกภาพและตอ่ เนอื่ ง
สถานเอกอัครราชทูตจึงได้สรุปภูมิหลังข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์
ไทย-จีนและประเดน็ ทฝี่ า่ ยไทยรวมทงั้ ท่ี ฯพณฯ รฐั มนตรีว่าการต่างประเทศ
เคยยกข้ึนหารือกับฝ่ายจีนโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจเพื่อให้ทราบถึง
ความคบื หน้าและสถานะสุดท้ายของเร่ืองต่างๆ และทุกครงั้ ทมี่ กี ารหารอื กบั
ฝา่ ยจนี รองอธบิ ดีกรมเอเชียจนไดเ้ ข้าร่วมดว้ ยตลอดเวลา
ในโอกาสที่ได้พบหารือกับบรรดาผู้น�ำจีนดังกล่าวคณะผู้แทนรัฐสภา
ไทยไดม้ อบของทรี่ ะลกึ ทแ่ี สดงสญั ญลกั ษณไ์ ทยรวมทงั้ พระนพิ นธข์ องสมเดจ็
พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารเี รอื่ ง “ยำ่� แดนมงั กร” ภาคภาษาจนี
รังนก ทเุ รียน ข้าวหอมมะลิ เปน็ ต้น
190
191
192
193
194
195
ช่ือหนงั สือ บันทึกภาพประวัติศาสตร์ความทรงจ�ำในการเยือน
ประเทศตา่ งๆ ตามคำ� เชญิ อยา่ งเปน็ ทางการ ระหวา่ ง
ดำ� รงตำ� แหนง่ ประธาน รัฐสภา โดย ศาสตราจารย์
ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน (สาธารณรัฐประชาชนจีน
๒๕๒๘)
ปที จ่ี ดั ทำ� เมษายน ๒๕๖๓
จำ� นวนหน้า ๑๙๖
สงวนลิขสิทธ ์ิ ตามพระราชบญั ญตั ลิ ิขสทิ ธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
ห้ามท�ำซ้�ำ ดัดแปลง ไม่ว่าจะท้ังหมดหรือบางส่วน
ไม่ว่าโดยวิธีการใด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลขิ สิทธิ์
มลู นิธิศาสตราจารย์ ดร.อกุ ฤษ – ทา่ นผหู้ ญงิ มณฑนิ ี มงคลนาวิน
เลขท่ี ๖๓ ซอยรว่ มฤดี ๓ ถนนเพลินจติ แขวงลุมพนิ ี เขตปทุมวนั
กรุงเทพฯ ๑๐๓๓๐โทรศัพท์ คณุ จริ ัสย์ คเชนทวา ๐๘๑-๘๙๙-๔๕๔๖,
คุณสจุ ติ ร เอยี่ มวรสมบตั ิ ๐๘๗-๘๓๒-๒๓๘๘
ศาสตราจารย์ ดร.อกุ ฤษ มงคลนาวนิ ด้านการเมือง
เร่มิ เป็นสมาชกิ รัฐสภาตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๕๑๕
ประวตั กิ ารศกึ ษา
- เกดิ เมือ่ วนั ท่ี ๑๐ มีนาคม ๒๔๗๖ จนถึง พ.ศ. ๒๕๓๕ และด�ำรงต�ำแหน่งรอง
- ส�ำเร็จการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต ประธานฯ, ประธานวุฒิสภา, ประธานรัฐสภา
หลายสมยั
และสังคมสงเคราะห์ศาสตร์บัณฑิตจาก
มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ และ ดา้ นบรหิ ารราชการแผน่ ดิน
๒๕๐๒ ตามล�ำดบั ได้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ต้ังแต่
- พ.ศ.๒๕๐๙ สำ� เรจ็ การศกึ ษาปรญิ ญา พ.ศ. ๒๕๑๘ และไดเ้ สนอจดั ตงั้ คณะกรรมการ
เอกทางกฎหมาย (Docteur en Droit) จาก ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ และประพฤติ
มหาวทิ ยาลัยปารีส ประเทศฝร่ังเศส มิชอบในวงราชการ โดยได้รับแต่งต้ังเป็น
ครอบครวั กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการ
ปปป.
สมรสกบั ทา่ นผหู้ ญงิ มณฑนิ ี มงคลนาวนิ
อดตี นางสนองพระโอษฐใ์ นสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ เหตุที่เป็นนักนิติศาสตร์ที่ยึดมั่นใน
พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ หลักยุติธรรม นิติธรรม สันติธรรม จึงได้รับ
ดา้ นการศึกษา แต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการอิสระว่าด้วย
การอำ� นวยความยตุ ธิ รรมใน๓จงั หวดั ชายแดน
เป็นผู้ริเร่ิมในการยกฐานะแผนกวิชา ภาคใต้ (กอยส) และเป็นประธานกรรมการ
นิติศาสตร์ ในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ อิ ส ร ะ ว ่ า ด ้ ว ย ก า ร ส ่ ง เ ส ริ ม ห ลั ก นิ ติ ธ ร ร ม
มหาวิทยาลัย ข้ึนเป็นคณะนิติศาสตร์ เม่ือ แห่งชาติ (คอ.นธ)
พ.ศ. ๒๕๑๕ และดำ� รงตำ� แหนง่ คณบดอี ยู่ ๖ ปี
นอกจากนน้ั เปน็ ผบู้ รรยายกฎหมายในสถาบนั เครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์
การศึกษาอกี หลายแหง่ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้โปรดเกล้า
ด้านวชิ าชีพ
โปรดกระหม่อมให้เป็นศาสตราจารย์พิเศษ
ได้ก่อต้ังส�ำนักกฎหมาย ดร.อุกฤษ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั และไดร้ บั เครอื่ งราช
มงคลนาวนิ ตัง้ แต่ พ.ศ. ๒๕๑๓ จนถงึ ปัจจุบนั อสิ รยิ าภรณต์ ระกลู ตา่ งๆ ไดแ้ ก่มหาปรมาภรณ์
ชา้ งเผอื ก (พ.ศ. ๒๕๒๗), มหาวชริ มงกฎุ (พ.ศ.
๒๕๒๘),ทตุ ยิ จลุ จอมเกลา้ วเิ ศษ(พ.ศ.๒๕๓๒),
เหรียญรัตนาภรณ์ ช้ันท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๓๔),
ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (พ.ศ. ๒๕๔๐)
อิ ส ริ ย า ภ ร ณ ์ ต ่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ด ้ แ ก ่
อิสริยาภรณ์สูงสุดจากสาธารณรัฐเกาหลี
(พ.ศ. ๒๕๒๘) และอิสริยาภรณ์ เลยิออง
คอนเนอร์ ช้ันคอมมานเดอร์ จากประเทศ
ฝรัง่ เศส (พ.ศ. ๒๕๒๙)
นติ ธิ รรม
ยตุ ธิ รรม
สนั ตธิ รรม