๑
หลกั สตู รสถานศึกษา
โรงเรยี นบ้านนาสร้าง (นวิ นามทองอปุ ถัมภ์ ๒)
พทุ ธศักราช ๒๕๖๕
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑
สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานครปฐม เขต ๑
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ประกาศโรงเรียนบ้านนาสรา้ ง
เรอื่ ง ให้ใช้หลกั สูตรโรงเรียนบ้านนาสร้าง พทุ ธศักราช ๒๕๖๕
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
.....................................................................
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้ วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามคาสั่ง
กระทรวงศกึ ษาธิการท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ท่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคาสัง่ สานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และ
ตัวชว้ี ดั กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) และคาสัง่ สานกั งาน
คณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน ที่ ๙๒๑/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ใหย้ กเลกิ มาตรฐานและ
ตัวชี้วัด สาระที่ ๒ และสาระที่ ๓ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ และเปล่ียนชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ
เทคโนโลยีเป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เป็นกลุ่มสาระการ
เรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีคาสั่งให้โรงเรียนดาเนินการปรับปรุงตามคาส่ังดังกล่าว และใช้
หลักสูตรในปีการศึกษา ๒๕๖๓ เป็นต้นไป ให้เป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกาหนดจุดหมาย
และมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนมีพัฒนาการเต็มตาม
ศักยภาพ มีคุณภาพและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ เพ่ือให้สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมาย
ของสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
ทง้ั นี้ หลักสูตรโรงเรยี นไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พื้นฐาน เมือ่ วันที่ ๙
เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ จึงประกาศให้ใชห้ ลกั สูตรโรงเรยี นต้ังแต่บดั นเ้ี ป็นต้นไป
ประกาศ ณ วนั ที่ ๙ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
(นายวิชยั ถ้าเพชร) (นางสาวณัฐธนะนนั ฐนิ ชนะพรรณ)
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้นื ฐาน ผ้อู านวยการสถานศึกษา
ประกาศโรงเรียนบา้ นนาสรา้ ง(นิวนามทองอุปถมั ภ2์ )
เรือ่ ง ให้ใช้หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นนาสร้าง พทุ ธศกั ราช 256๕
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551
โดยที่กระทรวงศึกษาธิการได้ออกคาสัง่ คาสั่งกระทรวงศกึ ษาธิการ ที่ สพฐ. 1239/2560 เรื่องให้
ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ ใน
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตร
แกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 น้นั
โรงเรียนบ้านนาสร้าง (นิวนามทองอุปถัมภ์2) ได้ดาเนินการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ตาม
รายละเอียดท่ีเป็นไปตามกรอบท่ีสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานกาหนด พร้อมกาหนด
ระยะเวลาการใชม้ าตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้ีวดั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระ
ภูมศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) ดงั น้ี
ปีการศึกษา 2561 ให้ใชใ้ นชนั้ ประถมศึกษาปที่ ่ี 1 และ 4 และชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
ปกี ารศึกษา 2562 ให้ใชใ้ นชัน้ ประถมศึกษาปที่ ี่ 1,2,4 และ 5 และช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 และ 2
ปีการศึกษา 2563 เปน็ ตน้ ไปให้ใช้ทกุ ช้ันเรยี น
ท้ังนี้ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านนาสรา้ งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา
ขั้นพน้ื ฐาน เม่อื วนั ที่ ๑๐ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 256๕ จงึ ประกาศใหใ้ ชห้ ลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียน
บา้ นนาสรา้ งตงั้ แต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๐ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 256๕
(นางสาวณัฐธนะนนั ฐนิ ชนะพรรณ)
ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
คานา
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามคาส่ัง
กระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ คาสั่งสานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ท่ี ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันท่ี ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และ
ตวั ชีว้ ดั กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์และสาระภูมศิ าสตร์ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคม
ศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) และคาสงั่ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน
พน้ื ฐาน ที่ ๙๒๑/๒๕๖๑ ลงวันท่ี ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ให้ยกเลกิ มาตรฐานและตัวชวี้ ัด สาระท่ี ๒ และสาระ
ที่ ๓ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ และเปลี่ยนชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีเป็นกลุ่มสาระการ
เรยี นร้กู ารงานอาชีพ กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์เปน็ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยมีคาส่ังให้โรงเรยี นดาเนินการปรับปรุงตามคาส่ังดังกล่าว ให้ใชห้ ลกั สตู รในปีการศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้ใช้
ในชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ และ ๔ หลกั สตู รในปีการศึกษา ๒๕๖๒ ใหใ้ ชใ้ นช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๑,๒,๔ และ
๕ และในปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ให้ใชใ้ นระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ ถึงระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖
เพ่ือให้สอดคล้องกบั นโยบายและเปา้ หมายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน
โรงเรียนบ้านนาสร้าง จึงได้ทาการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านนาสร้าง พุทธศักราช ๒๕๖๕
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุงพ.ศ. ๒๕๖๐ ในกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม ยกเลิกมาตรฐานและตัวช้ีวัดในกลุ่มการงานพื้นฐานอาชีพและเทคโนโลยีชั้นประถมศึกษาปีที่๑
และ๔ เปล่ียนชื่อสาระในกลุ่มการงานพื้นฐานอาชีพและเทคโนโลยีและสาระวทิ ยาศาสตร์ช้ันประถมศึกษา
ปีที่๑และ๔ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ เพื่อนาไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสตู ร
ของสถานศึกษาและจัดการเรยี นการสอน โดยมเี ปา้ หมายในการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียน ใหม้ กี ระบวนการนา
หลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการกาหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลักษณะ
อันพงึ ประสงค์ มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชี้วดั โครงสรา้ ง เวลาเรยี น ตลอดจนเกณฑ์การวดั ประเมินผล
ให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้โรงเรียนสามารถกาหนดทิศทางในการจัดทา
หลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดับตามความพร้อมและจุดเน้น โดยมีกรอบแกนกลางเป็นแนวทางท่ี
ชัดเจนเพ่ือตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการก้าวสู่สังคมคุณภาพ มีความรู้อย่าง
แทจ้ ริง และมที กั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดที่กาหนดไว้ในเอกสารน้ี ช่วยทาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในทุก
ระดับเห็นผลคาดหวังท่ีต้องการในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ชดั เจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถช่วยให้
หน่วยงานที่เก่ียวข้องในระดับท้องถ่ินและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างมั่นใจ ทาให้การจัดทา
หลกั สูตรในระดับสถานศึกษามีคุณภาพและมีความเป็นเอกภาพยง่ิ ขึ้น อกี ท้ังยังช่วยให้เกิดความชัดเจนเรื่อง
การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหวา่ งสถานศึกษา ดังน้ันในการพัฒนา
หลักสูตรในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติจนกระทั่งถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการ
เรียนรู้และตัวช้ีวัดที่กาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน รวมท้ังเป็นกรอบทิศทางในารจัด
การศกึ ษาทกุ รูปแบบ และครอบคลุมผูเ้ รยี นทุกกลุ่มเปา้ หมายในระดับการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน
ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้อง ที่มีส่วนร่วมในการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาดังกล่าวให้มีความ
สมบูรณ์และเหมาะสม สาหรับการจัดการเรียนการสอนในแต่ละระดับชั้น สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มี
คณุ ภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ดั ที่กาหนดในหลกั สูตรโรงเรยี นบ้านนาสรา้ ง พุทธศกั ราช ๒๕๖๕
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐานพุทธศกั ราช ๒๕๕๑
เรื่อง สารบัญ หนา้
ส่วนที่ ๑ ๑
สว่ นนา ๑
ส่วนที่ ๒ - ความหมาย ๑
ส่วนที่ ๓ - ความสาคญั ๓
- ลักษณะของหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านนาสร้าง ๕
ส่วนท่ี ๔ - วสิ ยั ทัศน์ พนั ธกิจ อตั ลกั ษณ์ เอกลกั ษณ์ เป้าประสงค์ ๖
- สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๗
- คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๘
โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศึกษา ๘
- สาระการเรียนรู้ ๑๐
- คุณภาพของผ้เู รียนระดบั การศึกษาขน้ั พื้นฐาน ๑๒
- โครงสร้างหลักสตู รสถานศึกษา ระดบั ช้นั ประถมศึกษา ๑๙
สาระการเรยี นรู้ ๑๙
- สาระและมาตรฐานการเรียนรภู้ าษาไทย ๒๐
- สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ๒๑
- สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) ๒๓
- สาระและมาตรฐานการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๒๔
- สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๒๕
- สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ศลิ ปะ ๒๖
- สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การงานอาชีพ ๒๗
- สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ๒๘
- กรอบสาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน ๓๔
- คาอธิบายรายวิชา ๑๒๔
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ๑๒๕
- โครงสรา้ งและอตั ราเวลาจดั กิจกรรม พัฒนาผู้เรยี น
สารบัญ (ตอ่ ) หนา้
๑๔๒
เร่ือง ๑๔๒
สว่ นที่ ๕ เกณฑก์ ารจบหลักสูตร ๑๔๓
๑๔๕
- การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ๑๔๖
- เกณฑ์การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
- การเทยี บโอนผลการเรยี น
ภาคผนวก
๑
สว่ นที่ 1
ส่วนนา
1.1 ความนา
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามคาส่ังกระทรวงศึกษาธิการ
ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันท่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคาสั่งสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการ
เรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และคาสั่งสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ที่ ๙๒๑/๒๕๖๑
ลงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ให้ยกเลิกมาตรฐานและตัวช้ีวัด สาระที่2และสาระที่3ในกลุ่มสาระการเรียนรู้
การงานอาชีพและเทคโนโลยีตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ และเปล่ียนชือ่
กล่มุ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยีเปน็ กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี กลุม่ สาระการเรยี นรู้
วิทยาศาสตร์เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีคาสั่งให้โรงเรียนดาเนินการปรับปรุง
ตามคาสั่งดังกล่าวและใช้หลักสูตรในปีการศึกษา ๒๕๖๑ โดยให้ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๔ ตั้งแต่ปี
การศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นไป และคาส่ังสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ที่ ๙๒๒/๒๕๖๑ ลง
วันท่ี ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เร่ืองการปรับปรุงโครงสร้างเวลาเรียนตามหลักสูตรแกนกลางตามหลักสูตร
การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน
เพือ่ ให้สอดคล้องกบั นโยบายและเปา้ หมายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน
โรงเรียนบ้านนาสร้างจึงได้ทาการปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนบ้านนาสร้างพุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช 2551ฉบับปรับปรุง ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ยกเลิก
มาตรฐานและตัวชี้วัดและเปลยี่ นชือ่ สาระในชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ รวมทงั้ มีการบูร
ณาการหลักสูตรต้านทุจริต เพศวิถีศึกษา พร้อมทั้งน้อมนาพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัวรัชกาลท่ี ๑๐ เพ่ือนาไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของ
สถานศึกษาและจัดการเรียนการสอนโดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีกระบวนการนา
หลักสูตรไปสู่การปฏิบัติโดยมีการกาหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดโครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การวัดประเมินผลให้มีความ
สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้เปิดโอกาสให้โรงเรียนสามารถกาหนดทิศทางในการจัดทาหลักสูตรการ
เรียนการสอนในแต่ละระดับตามความพร้อมและจุดเน้นของการเป็นโรงเรียนคุณภาพประจาตาบล โดยมี
กรอบแกนกลางเป็นแนวทางที่ชัดเจนเพ่ือตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการก้าวสู่สังคม
คุณภาพ มคี วามรอู้ ย่างแท้จริง และมที ักษะในศตวรรษที่ ๒๑
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่กาหนดไว้ในเอกสารนี้ช่วยทาให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในทุกระดับ
เ ห็ น ผ ล คาด ห วังท่ีต้ องการ ในการ พั ฒน าการเ รี ยน รู้ ของผู้เ รีย น ที่ชัด เ จน ต ลอด แน วซ่ึงจะส ามาร ถช่วยให้
หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในระดับท้องถ่ินและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างม่ันใจทาให้การจัดทา
หลักสูตรในระดับสถานศึกษามีคุณภาพและมีความเป็นเอกภาพย่ิงขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความชัดเจนเรื่อง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ดังนั้นในการพัฒนา
๒
หลักสูตรในทุกระดับต้ังแต่ระดับชาติจนกระทั่งถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการ
เรียนรู้และตัวชี้วัดที่กาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน รวมทั้งเป็นกรอบทิศทางในการจัด
การศึกษาทกุ รปู แบบ และครอบคลุมผเู้ รยี นทุกกลมุ่ เป้าหมายในระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน
การจัดทาหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐานจะประสบความสาเร็จตามเป้าหมายท่ีคาดหวังได้ทุกฝ่าย
ท่ีเกี่ยวข้องทั้งระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลต้องร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกันทางานอย่างเป็นระบบ
และต่อเนื่อง ในการวางแผน ดาเนินการ ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพ่ือพัฒนา
เยาวชนของชาติไปสูค่ ุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ท่กี าหนดไว้
๓
ลกั ษณะของหลกั สตู ร
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านนาสร้างพุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นหลักสูตรท่ีสถานศึกษาได้พัฒนาข้ึนเพ่ือพัฒนาผู้เรียนในระดับประถมศึกษา
โดยยึดองคป์ ระกอบหลักสาคญั ๓ สว่ น คือหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ สาระ
การเรียนรู้ท้องถิ่นและสาระสาคัญที่สถานศึกษาพัฒนาเพ่ิมเติมเป็นกรอบในการจัดทารายละเอียดเพื่อให้
เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาข้ันพ้ืนฐานท่ีกาหนด เหมาะสมกับสภาพชุมชนและท้องถิ่นและจุดเน้นของ
สถานศึกษาโดยมลี ักษณะของหลักสตู ร ดังน้ี
๑. เป็นหลักสูตรเฉพาะของโรงเรียนบ้านนาสร้าง สาหรับจัดการศึกษาในหลักสูตรสถานศึกษา
โรงเรียนบ้านนาสร้างพุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑
ในระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๑ – ๖
๒. มีความเป็นเอกภาพสาหรบั ใหค้ รผู ้สู อนนาไปจัดการเรียนรไู้ ด้อยา่ งหลากหลายซงึ่ กาหนดไว้ ดังนี้
๒.๑ มสี าระการเรยี นรู้ทส่ี ถานศึกษาใช้เปน็ หลกั เพ่ือสรา้ งพน้ื ฐานการคิด การเรยี นรู้และการ
แก้ปัญหา ประกอบดว้ ย ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
2.2 มีสาระการเรียนรู้ท่ีเสริมสร้างความเป็นมนุษย์ ศักยภาพการคิดและการทางาน
ประกอบด้วย สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษาอังกฤษ
2.3 มีสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม โดยจัดทาเป็นรายวิชาเพ่ิมเติมตามความเหมาะสมและ
สอดคลอ้ งกบั โครงสรา้ งเวลาเรยี นสาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่นความต้องการของผู้เรียนและบริบทของสถานศึกษา
2.4 มกี จิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น เพ่อื พัฒนาผูเ้ รยี นท้ังด้านร่างกาย จิตใจ สตปิ ัญญา อารมณ์
และ สงั คม เสรมิ สร้างการเรียนรนู้ อกจากสาระการเรียนรู้ 8 กลุม่ และการพฒั นาตนตามศกั ยภาพ
2.5 มีการกาหนดมาตรฐานของสถานศึกษาท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานระดับต่าง ๆ เพื่อเป็น
เ ป้ าห มาย ของการ พั ฒน าคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาจั ด ทารายล ะเอี ย ด สาระการ เรี ยน รู้และจัด
กระบวนการเรียนรใู้ หส้ อดคล้องกบั สภาพในชุมชน สังคมและภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ
3. มมี าตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสาคญั ของการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นเปน็ หลกั สูตรที่มีมาตรฐาน
เป็นตัวกาหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ของผู้เรยี นเพื่อเป็นแนวทางในการประกันคุณภาพการศึกษา
โดยมกี ารกาหนดมาตรฐานไวด้ งั น้ี
3.1 มาตรฐานหลักสูตรเป็นมาตรฐานด้านผู้เรียนหรือผลผลิตของหลักสูตรสถานศึกษาอัน
เกิดจากการได้รับการอบรมสั่งสอนตามโครงสร้างของหลักสูตรทั้งหมดใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบ
คุณภาพโดยรวมของการจัดการศึกษาตามหลักสูตรในทุกระดับและสถานศึกษาต้องใช้สาหรับการประเมิน
ตนเองเพอื่ จดั ทารายงานประจาปีตามบทบญั ญัติในพระราชบญั ญตั ิการศึกษานอกจากนี้ยงั เปน็ แนวทางในการ
กาหนดแนวปฏบิ ตั ิในการส่งเสริมกากบั ตดิ ตามดูแลและปรับปรุงคุณภาพเพ่ือให้ได้ตามมาตรฐานที่กาหนด
3.2 มีตัวช้ีวัดช้ันปีเป็นเป้าหมายระบุสิ่งที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมท้ังคุณลักษณะของ
ผู้เรียนในแต่ละระดับชั้นซ่ึงสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจง และมีความเป็นรูปธรรม
นาไปใช้ในการกาหนดเน้ือหา จัดทาหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สาคัญสาหรับการวัด
ประเมินผลเพ่ือตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน ตรวจสอบพัฒนาการผู้เรียน ความรู้ ทักษะกระบวนการ คุณธรรม
จริยธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์และเป็นหลักในการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์จากการศึกษาใน
ระบบ นอกระบบและตามอธั ยาศยั
3.3 มีความเป็นสากลคือมุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ
ภาษาอังกฤษ การจัดการสิ่งแวดลอ้ ม ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีคุณลักษณะท่ีจาเป็นในการอยู่ในสังคมได้แก่ ความ
๔
ซื่อสตั ย์ ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา การเสียสละ การเอือ้ เฟ้ือ โดยอยูบ่ นพนื้ ฐานของความพอดรี ะหว่าง
การเป็นผู้นา และผู้ตาม การทางานเป็นทีม และการทางานตามลาพัง การแข่งขันการรู้จักพอ การร่วมมือกัน
เพือ่ สังคม วิทยาการสมยั ใหม่ ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ การรบั วัฒนธรรมตา่ งประเทศและการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
การฝกึ ฝนทกั ษะเฉพาะทาง และการบรู ณาการในลักษณะท่เี ป็นองคร์ วม
4. มีความยืดหยุ่นหลากหลายโดยจดั ทารายละเอียดต่าง ๆ ขึ้นเองยึดโครงสร้างหลกั สูตรที่กาหนดไว้
ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 เป็นขอบข่ายในการจัดทา จึงทาให้หลักสูตร
ของสถานศึกษามีความยืดหยุ่นหลากหลายสอดคล้องกับสภาพปัญหาความต้องการของท้องถ่ินโดยเฉพาะ
อยา่ งยิ่งมีความเหมาะสมกับตวั ผเู้ รียน
5. การวัดและประเมินผลเน้นหลักการพื้นฐาน2ประการคือการประเมินเพ่ือพัฒนาผู้เรียนและเพื่อ
ตัดสินผลการเรียนโดยผู้เรียนต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการ
เรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและ
ประเมินผลการเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับช้ันเรียน ระดับสถานศึกษาระดับเขตพื้นท่ีการศึกษาและ
ระดับชาติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนใช้ผลการประเมินเป็น
ข้อมูลและสารสนเทศท่ีแสดงพัฒนาการความก้าวหน้า ความสาเร็จทางการเรียนของผู้เรียนตลอดจนข้อมูลที่
เป็นประโยชน์ตอ่ การสง่ เสริมให้ผเู้ รียนเกดิ การพฒั นาและเรียนรู้อยา่ งเต็มตามศักยภาพ
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านนาสร้างพุทธศักราช 256๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พื้นฐานพุทธศักราช 2551 มุ่งเน้นให้เป็นสถานศึกษาในชุมชนที่มีการบริหารจัดการด้านการศึกษาอย่าง
ประสิทธภิ าพ มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นทุกคน ซง่ึ เป็นกาลงั ของชาติใหเ้ ปน็ มนุษย์ท่มี ีความสมดุลท้ังด้านรา่ งกาย ความรู้
คุณธรรม ตามมาตรฐานการศึกษา มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองและพลโลก อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และ
พัฒนาตามศักยภาพจนถึงขีดสุดในด้านภาษาไทย คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยส่ือเทคโนโลยี
อิเล็กทรอนิกส์ควบคู่กับการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีความสุขอยู่ใน
สถานศึกษาดว้ ยระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน การมีสว่ นร่วมในการจัดการศึกษาของผู้ปกครองและชมุ ชน โดย
มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญบนพ้ืนฐานความเช่ือที่ว่า“ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตาม
ศักยภาพ”
๕
วสิ ัยทศั น(์ VISION)
โรงเรียนบ้านนาสร้าง (นิวนามทองอุปถัมภ์ ๒) เป็นโรงเรียนคุณภาพประจาตาบล จัดการศึกษาได้
ครอบคลุมตามมาตรฐานก้าวทันเทคโนโลยี มีความรู้ คู่คุณธรรม ส่งเสริมสุขภาพผู้เรียน อนุรักษ์ความเป็น
ไทย สร้างเสริมวินัยและใส่ใจส่ิงแวดล้อม ปรับภูมิทัศน์ให้ร่มรื่น น้อมนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา
บูรณาการตามกลุ่มสาระ พฒั นาบคุ ลากรเป็นครมู ืออาชพี
พนั ธกจิ (MISSION)
1. จัดการศึกษาเพื่อตอบสนองต่อพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน
2. จัดการเรียนการสอนให้ทันสมัยมีประสิทธิภาพตามคุณภาพมาตรฐานการศึกษาในทุกกลุ่มสาระ
การเรยี นรแู้ ละรูจ้ กั การใชเ้ ทคโนโลยีท่เี หมาะสม
3. สง่ เสริมให้นักเรียนมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม มวี ินัย สามารถดารงตนอยู่ในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข
4. ปลูกฝังและสร้างจิตสานกึ ในการอนุรักษ์ความเปน็ ไทยและสิ่งแวดล้อม
5. พัฒนา ปรับปรงุ ภูมทิ ัศนภ์ ายในโรงเรยี นให้รม่ รืน่ สวยงาม
6. ส่งเสริม สนับสนุน ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ชุมชนและองค์กรอื่น ๆ เข้ามามีส่วนร่วมใน
การพัฒนาโรงเรยี นโดยยดึ หลกั ของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
7. ส่งเสรมิ ให้ครูได้รับการพัฒนาศักยภาพในการจดั การเรียนการสอนอย่างมีประสิทธภิ าพ
อตั ลกั ษณ์ของสถานศกึ ษา
ย้มิ ง่าย ไหวส้ วย
เอกลกั ษณ์ของสถานศึกษา
สถานศึกษาพอเพยี ง ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
เป้าประสงค์ (Corporate Objectives)
เพื่อให้นักเรียนได้รับการศึกษาข้ันพื้นฐานอย่างท่ัวถึงและเสมอภาคทุกกลุ่มเป้าหมาย มีคุณธรรม
จริยธรรม รู้จักการใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถดารงชีวิต แบบวิถีไทย
อนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม เป็นสมาชิกท่ดี ขี องโรงเรยี น ครอบครัว ชมุ ชน สังคมและประเทศชาติ
๖
1.1 สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
หลักสูตรโรงเรียนบ้านนาสร้างพุทธศักราช 256๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน
พุทธศกั ราช 2551 มงุ่ ให้ผู้เรียนเกดิ สมรรถนะสาคัญ 5 ประการ ดังน้ี
1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้
ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร
และประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและ
ลดปัญหาความขดั แย้งตา่ ง ๆ การเลอื กรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลกั เหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจน
การเลือกใชว้ ธิ กี ารสอื่ สาร ที่มปี ระสทิ ธภิ าพโดยคานึงถึงผลกระทบทมี่ ีตอ่ ตนเองและสงั คม
2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง
สร้างสรรค์ การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ และการคดิ เป็นระบบ เพอ่ื นาไปสู่การสร้างองคค์ วามรู้หรือสารสนเทศ
เพอ่ื การตดั สินใจเก่ียวกบั ตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ
ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ
ความสัมพนั ธ์และการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณต์ ่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรูม้ าใชใ้ นการ
ป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบท่ีเกิดขึ้นต่อตนเอง สังคม
และสิ่งแวดล้อม
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้
ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่ร่วมกัน
ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่าง
เหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเล่ียง
พฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงคท์ สี่ ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การ
ทางาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม
๗
1.2 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นนาสร้าง พุทธศักราช 256๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา
ขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 มงุ่ พัฒนาผูเ้ รยี นให้มีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ประการ
เปน็ คุณลักษณะทต่ี ้องการใหเ้ กดิ แก่ผู้เรยี นทุกคนในระดับการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน ดังน้ี
1. เปน็ ผูม้ ีความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
1.1 เป็นพลเมอื งดขี องชาติ
1.2 ธารงไว้ซ่ึงความเป็นชาติไทย
1.3 ศรทั ธา ยดึ ม่นั และปฏิบัตติ นตามหลักของศาสนา
1.4 เคารพเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์
2. เปน็ ผมู้ คี วามซ่ือสตั ยส์ จุ ริต
2.1 ประพฤติตรงตามความเปน็ จริง ตอ่ ตนเองทั้งทางกาย วาจา ใจ
2.2 ประพฤติตรงตามความเปน็ จริงต่อผอู้ ่ืนท้งั ทางกาย วาจา ใจ
3. เป็นผู้มรี ะเบียบ มีวนิ ัยและความรับผิดชอบ
3.1 ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง กฎระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครัว โรงเรียนและสงั คม
4. เปน็ ผู้มที กั ษะในการแสวงหาความรู้ ใฝเ่ รียนรู้และมคี วามคดิ สร้างสรรค์
4.1 ตง้ั ใจเพียรพยายามในการเรียน และเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการ
เลอื กใชส้ ่ืออย่างเหมาะสม สรุปเปน็ องค์ความรู้ และสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้
5. เป็นผมู้ ีความประหยดั และอยู่อย่างพอเพียง
5.1 ดาเนินชวี ติ อยา่ งพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม
5.2 มภี มู ิค้มุ กันในตวั ท่ดี ี ปรับตวั เพอ่ื อยู่ในสงั คมได้อย่างมีความสุข
6. เปน็ ผู้มีความมุ่งมัน่ ในการทางานและทางานร่วมกับผ้อู ื่นได้อย่างมีความสุข
6.1 ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ัตหิ น้าท่ีการงาน
6.2 ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพ่ือให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย
7. เป็นผู้มีจิตสานกึ รักความเป็นไทยและใสใ่ จรกั ษส์ ิง่ แวดลอ้ ม
7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทยและมีความ
กตญั ญูกตเวที
7.2 เห็นคณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการส่อื สารได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม
7.3 อนุรักษ์และสบื ทอดภูมิปญั ญาไทย
7.4 อนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม
8. เปน็ ผู้มจี ิตสาธารณะและมีความเสยี สละเพอ่ื ประโยชน์สว่ นรวม
8.1 ชว่ ยเหลือผู้อนื่ ดว้ ยความเตม็ ใจ โดยไมห่ วงั ผลตอบแทน
8.2 เข้าร่วมกจิ กรรมท่เี ป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชมุ ชนและสังคม
๘
ส่วนที่ 2
การกาหนดโครงสร้างหลกั สูตรการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านนาสร้าง พทุ ธศกั ราช 256๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ัน
พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กาหนดโครงสร้างของหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อให้ผู้สอน และผู้ที่เกี่ยวข้อง
ในการจดั การเรียนรู้ มแี นวปฏบิ ัติ ดงั น้ี
1. ระดับการศึกษา กาหนดหลักสูตรตามโครงสร้างของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 ตามภารกิจหลักของการจัดการเรียนการสอนในระดับประถมศึกษา(ชั้น ป.1 –ป.6)
การศึกษาระดับนี้เป็นช่วงแรกของการศึกษาภาคบังคับ มุ่งเน้นทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน การเขียน การ
คิดคานวณ ทักษะการคิดพ้ืนฐาน การติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม และพ้ืนฐานความเป็น
มนุษย์ การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างสมบูรณ์และสมดุลท้ังในด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และ
วัฒนธรรม
2. สาระการเรียนรู้ ได้กาหนดไว้ในหลักสูตร ประกอบด้วยองค์ความรู้และทักษะตามมาตรฐาน
การเรียนรู้ 8 กล่มุ สาระการเรียนรู้ 9 รายวิชา ได้แก่
1) ภาษาไทย
2) คณิตศาสตร์
3) วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
4) สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
5) สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
6) ศิลปะ
7) การงานอาชพี
8) ภาษาองั กฤษ
9) ประวตั ิศาสตร์
๙
แผนภมู ิแสดงเนอ้ื หาการเรียนรู้ในกล่มุ สาระการเรียนรู้ตา่ งๆ
ภาษาไทย : ความรู้ คณิตศาสตร์ : การนาความรู้ทักษะ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี :
ทกั ษะและวฒั นธรรมการ และกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไป การนาความรู้
ใช้ภาษา เพ่ือ การสื่อสาร ใชใ้ นการแกป้ ญั หา การดาเนินชวี ติ และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ความชนื่ ชม การเหน็ และศึกษาตอ่ การมเี หตุมผี ล ไปใชใ้ นการศึกษา ค้นควา้ หาความรู้
คุณค่าภมู ิปญั ญาไทย มเี จตคติท่ดี ีตอ่ คณิตศาสตร์ และแก้ปญั หาอย่างเปน็ ระบบ
พฒั นาการคิดอยา่ งเป็นระบบ การคดิ อย่างเปน็ เหตเุ ปน็ ผล
และภมู ิใจในภาษาประจาชาติ และสร้างสรรค์ คิดวเิ คราะห์ คดิ สร้างสรรค์
และจิตวทิ ยาศาสตร์
ภาษาตา่ งประเทศ : องคค์ วามรู้ ทกั ษะสาคัญ
ความร้ทู กั ษะ เจตคติ และ และคุณลกั ษณะ สังคมศกึ ษา ศาสนาและ
วัฒนธรรม การใชภ้ าษา วัฒนธรรม : การอยรู่ ว่ มกันใน
ตา่ งประเทศในการสอ่ื สาร ในหลกั สตู รแกนกลาง สงั คมไทยและสังคมโลกอยา่ งสนั ตสิ ขุ
การแสวงหาความรู้ และ การเป็นพลเมืองดี ศรทั ธาใน
การประกอบอาชพี การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน หลกั ธรรมของศาสนา การเห็น
คณุ คา่ ของทรพั ยากรและ
การงานอาชพี : ความรู้ ศิลปะ : ความรูแ้ ละ สง่ิ แวดล้อม ความรกั ชาติ และ
ทักษะ และเจตคตใิ นการทางาน ทกั ษะในการคิดรเิ ร่มิ ภมู ใิ จในความเป็นไทย
การจดั การ การดารงชวี ติ การ จนิ ตนาการ สร้างสรรค์
ประกอบอาชพี งานศิลปะ สนุ ทรยี ภาพ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา :
และการเห็นคณุ คา่ ทาง ความรู้ ทักษะและเจตคติในการ
ศลิ ปะ สร้างเสรมิ สุขภาพพลานามยั ของ
ตนเองและผู้อ่นื การป้องกนั และ
ปฏบิ ัตติ ่อสิ่งต่าง ๆ ทม่ี ีผลตอ่
สุขภาพอยา่ งถูกวิธีและทกั ษะใน
การดาเนนิ ชีวติ
๑๐
วสิ ัยทัศน์
หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน มุ่งพฒั นาผเู้ รยี นทุกคน ซ่งึ เปน็ กาลงั ของชาติใหเ้ ป็นมนุษย์ที่มีความสมดุล
ทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานกึ ในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดม่ันในการปกครองตามระบอบ
ประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข มคี วามรแู้ ละทักษะพนื้ ฐาน รวมท้ัง เจตคติ ที่จาเปน็ ตอ่ การศกึ ษาตอ่
การประกอบอาชีพและการศกึ ษาตลอดชวี ติ โดยม่งุ เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั บนพื้นฐานความเชอ่ื วา่ ทกุ คนสามารถ
เรียนรู้และพฒั นาตนเองไดเ้ ตม็ ตามศักยภาพ
จดุ หมาย
๑.มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มทีพ่ ึงประสงค์ เห็นคุณคา่ ของตนเอง มีวินยั และปฏบิ ัติตนตามหลกั ธรรม
ของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทีต่ นนับถอื ยดึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๒. มคี วามรู้อันเปน็ สากลและมีความสามารถในการสือ่ สาร การคิด การแกป้ ัญหา การใช้เทคโนโลยแี ละมี
ทกั ษะชวี ติ
๓. มีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ท่ีดี มสี ขุ นสิ ยั และรกั การออกกาลงั กาย
๔. มีความรักชาติ มจี ติ สานึกในความเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ยึดมัน่ ในวถิ ีชีวิตและการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข
๕. มีจิตสานึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อม มีจติ สาธารณะ
ทมี่ ุ่งทาประโยชนแ์ ละสรา้ งสงิ่ ที่ดงี ามในสงั คม และอยรู่ ว่ มกันในสังคมอยา่ งมคี วามสุข
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ๒. ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต ๓. มวี ินยั ๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๕. อยอู่ ย่างพอเพียง ๖. ม่งุ ม่ันในการทางาน
๗. รกั ความเปน็ ไทย ๘. มีจติ สาธารณะ
มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ดั 8 กลุม่ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
1. กจิ กรรมแนะแนว
1. ภาษาไทย 5. สขุ ศึกษาและพลศึกษา 2. กจิ กรรมนักเรยี น
3. กจิ กรรมเพอื่ สังคมและ
2. คณติ ศาสตร์ 6. ศลิ ปะ สาธารณประโยชน์
3. วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 7. การงานอาชีพ
4. สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 8. ภาษาตา่ งประเทศ
คณุ ภาพของผูเ้ รียนระดบั การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน
๑๑
3. กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน มงุ่ ใหผ้ ูเ้ รียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้าน
เพอื่ ความเปน็ มนุษย์ทส่ี มบูรณ์ ท้งั รา่ งกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ และสังคม เสรมิ สร้างใหเ้ ปน็ ผมู้ ศี ีลธรรม
จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลกู ฝังและสร้างจิตสานึกของการทาประโยชนเ์ พื่อสงั คม สามารถจดั การตน
เองได้ และอยรู่ ว่ มกับผ้อู นื่ อย่างมีความสขุ แบ่งเปน็ 3 ลักษณะ ดังนี้
3.1 กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์
ส่ิงแวดล้อม สามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กาหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียน และอาชีพ
สามารถปรบั ตนได้อย่างเหมาะสม นอกจากน้ยี งั ช่วยให้ครูรูจ้ กั และเข้าใจผู้เรยี น ท้ังยงั เปน็ กจิ กรรมทีช่ ่วยเหลือ
และให้คาปรึกษาแกผ่ ูป้ กครองในการมสี ่วนร่วมพัฒนาผู้เรียน
3.2 กิจกรรมนกั เรียน เปน็ กจิ กรรมท่ีมุง่ พัฒนาความมีระเบียบวนิ ัย ความเปน็ ผ้นู า ผู้ตามที่
ดี ความรับผิดชอบ การทางานรว่ มกัน การรู้จกั แก้ปัญหา การตดั สนิ ใจที่เหมาะสม ความมีเหตผุ ล การช่วยเหลือ
แบ่งปันกัน เอื้ออาทร และสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของ
ผ้เู รียน ให้ไดป้ ฏบิ ัตดิ ว้ ยตนเองในทุกขั้นตอน ไดแ้ ก่ การศกึ ษาวิเคราะห์วางแผน ปฏบิ ตั ิตามแผน ประเมินและ
ปรับปรุงการทางาน เน้นการทางานร่วมกันเป็นกลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของ
ผู้เรียน บริบทของสถานศึกษาและท้องถิ่น กิจกรรมนักเรียนในหลักสูตรโรงเรียนบ้านนาสร้าง พุทธศักราช
2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ประกอบดว้ ย
1 ) กจิ กรรมลูกเสือ - เนตรนารี
2 ) กิจกรรมชุมนุมชมรม
3.3 กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนบาเพ็ญ
ตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถ่ินตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความ
รับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสงั คม มีจิตสาธารณะ
4. เวลาเรียน ไดก้ าหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรยี นขัน้ ต่าสาหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุม่ และ
1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่งผู้สอนสามารถเพ่ิมเติมได้ตามความพร้อมและจุดเน้นของสถานศึกษา โดยสามารถ
ปรับให้เหมาะสมตามบริบทของสถานศึกษาและสภาพของผู้เรียนชั้นระดับประถมศึกษา ทั้งน้ีต้องมีเวลาเรียน
รวมตามท่ีกาหนดไว้ในโครงสร้างเวลาเรียนพื้นฐาน และผู้เรียนต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และ
ตวั ชีว้ ดั ที่กาหนด ให้จัดเวลาเรยี นเป็นรายปี โดยมเี วลาเรียนวนั ละ ไมเ่ กนิ 5 ชว่ั โมง
๑๒
โครงสร้างเวลาเรียนหลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านนาสรา้ ง พทุ ธศกั ราช 256๕
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551
เวลาเรยี น
กล่มุ สาระการเรยี นรู้/ กจิ กรรม ระดับประถมศกึ ษา
ป. 1 ป. 2 ป. 3 ป. 4 ป. 5 ป. 6
กลุ่มสาระการเรียนรู้พ้ืนฐาน
ภาษาไทย 200 200 200 160 160 160
คณิตศาสตร์ 200 200 200 160 160 160
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80 80 80 120 120 120
สังคมศึกษา ศาสนา และ 40 40 40 80 80 80
วัฒนธรรม
ประวตั ิศาสตร์ 40 40 40 40 40 40
สขุ ศึกษาและพลศึกษา 80 80 80 80 80 80
ศลิ ปะ 40 40 40 40 40 40
การงานอาชีพ 40 40 40 40 40 40
ภาษาต่างประเทศ 120 120 120 120 120 120
รวมเวลาเรียน (พน้ื ฐาน) 840 840 840 840 840 840
รายวิชาเพิม่ เติม
หนา้ ท่พี ลเมือง - - - ---
สนกุ กับการอ่าน 40 40 40 40 40 40
รวมเวลาเรยี น(เพ่มิ เติม) 40 40 40 40 40 40
กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน
1. กิจกรรมแนะแนว 40 40 40 40 40 40
2. กจิ กรรมลูกเสอื – เนตรนารี 40 40 40 40 40 40
3. กจิ กรรมชมรม 30 30 30 30 30 30
4. เพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ 10 10 10 10 10 10
รวมเวลาเรยี น (กิจกรรมพัฒนา 120 120 120 120 120 120
ผเู้ รียน)
รวมเวลาเรียนทง้ั หมด 1,000 1,000 1,000 1,000 1,000 1,000
รวมจานวนชั่วโมง / สปั ดาห์ 25 25 25 25 25 25
หมายเหตุ ๑. วิชาหนา้ ท่พี ลเมอื ง บูรณาการกับวิชาสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
๒. วชิ าต้านทุจรติ ศึกษา บูรณาการกบั วชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรมและกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
๓. วิชาเพศวิถีศกึ ษา บูรณาการกบั วิชาสขุ ศกึ ษา
๔. วิชาภาษาอังกฤษ ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๓ จดั สอนในรายวิชาเสริมหลักสตู รภาษาอังกฤษ
80 ชม./ปี
๑๓
โครงสรา้ งเวลาเรียนตามหลักสูตรโรงเรยี นบ้านนาสรา้ ง พทุ ธศกั ราช 256๕
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551
ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1
รหัส กล่มุ สาระการเรียนรู้/กิจกรรม เวลาเรียน
(ชม./ปี)
รายวชิ าพืน้ ฐาน (840)
ท 11101 ภาษาไทย 200
ค 11101 คณติ ศาสตร์ 200
ว 11101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ส 11101 สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 80
ส 11102 ประวัตศิ าสตร์ 40
พ 11101 สุขศึกษาและพลศึกษา 40
ศ 11101 ศลิ ปะ 80
ง 11101 การงานอาชพี 40
อ 11101 ภาษาอังกฤษ 40
รายวชิ าเพ่มิ เติม / กิจกรรมเพม่ิ เตมิ 120
ส 11231 หน้าทพี่ ลเมือง (40)
ท 11201 สนุกกบั การอา่ น -
กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น 40
(120)
แนะแนว 40
ลูกเสือ/เนตรนารี 40
ชุมนุมส่งเสรมิ การเรยี นรู้ 30
กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณะประโยชน์ 10
รวมเวลาเรียนทัง้ ส้ิน 1,000
หมายเหตุ ๑. วชิ าหนา้ ทพ่ี ลเมือง บูรณาการกบั วชิ าสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
๒. วชิ าต้านทุจรติ ศึกษา บรู ณาการกบั วชิ าสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมและกิจกรรม
พฒั นาผู้เรยี น
๓. วิชาเพศวถิ ศี ึกษา บูรณาการกบั วชิ าสขุ ศกึ ษา
๔ .วชิ าภาษาองั กฤษ ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ จัดสอนในรายวชิ าเสรมิ หลักสตู ร
ภาษาอังกฤษ 80 ชม./ปี
๑๔
โครงสร้างเวลาเรียนตามหลักสตู รโรงเรยี นบา้ นนาสรา้ ง พุทธศักราช 256๕
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551
ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2
รหสั กลุม่ สาระการเรียนร/ู้ กิจกรรม เวลาเรียน
(ชม./ปี)
รายวิชาพน้ื ฐาน (840)
ท 12101 ภาษาไทย 200
ค 12101 คณิตศาสตร์ 200
ว 12101 วทิ ยาศาสตร์
ส 12101 สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 80
ส 12102 ประวัตศิ าสตร์ 40
พ 12101 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 40
ศ 12101 ศิลปะ 80
ง 12101 การงานอาชพี และเทคโนโลยี 40
อ 12101 ภาษาองั กฤษ 40
รายวชิ าเพิม่ เติม / กจิ กรรมเพ่มิ เตมิ 120
ส12232 หน้าทีพ่ ลเมือง (40)
ท 12201 สนุกกบั การอ่าน -
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น 40
(120)
แนะแนว 40
ลกู เสอื /เนตรนารี 40
ชมุ นมุ สง่ เสรมิ การเรียนรู้ 30
กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณะประโยชน์ 10
รวมเวลาเรยี นท้ังสิน้ 1,000
หมายเหตุ ๑. วชิ าหน้าทีพ่ ลเมอื ง บูรณาการกบั วชิ าสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
๒. วิชาต้านทจุ ริตศกึ ษา บรู ณาการกบั วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรมและกิจกรรม
พัฒนาผ้เู รียน
๓. วชิ าเพศวถิ ีศกึ ษา บูรณาการกับวชิ าสุขศึกษา
๔ .วชิ าภาษาองั กฤษ ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ จดั สอนในรายวิชาเสริมหลกั สตู ร
ภาษาอังกฤษ 80 ชม./ปี
๑๕
โครงสร้างเวลาเรียนตามหลักสูตรโรงเรียนบา้ นนาสร้าง พุทธศักราช 256๕
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
ระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3
รหสั กล่มุ สาระการเรียนรู้/กจิ กรรม เวลาเรียน
(ชม./ปี)
รายวิชาพ้นื ฐาน (840)
ท 13101 ภาษาไทย 200
ค 13101 คณิตศาสตร์ 200
ว 13101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ส 13101 สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 80
ส 13102 ประวตั ศิ าสตร์ 40
พ 13101 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 40
ศ 13101 ศิลปะ 80
ง 13101 การงานอาชพี 40
อ 13101 ภาษาอังกฤษ 40
รายวิชาเพม่ิ เติม / กิจกรรมเพิม่ เตมิ 120
ส 13233 หน้าที่พลเมือง (40)
ท 13201 สนุกกับการอ่าน -
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น 40
(120)
แนะแนว 40
ลูกเสือ/เนตรนารี 40
ชุมนุมส่งเสรมิ การเรียนรู้ 30
กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ 10
รวมเวลาเรียนทั้งส้ิน 1,000
หมายเหตุ ๑. วชิ าหน้าทพี่ ลเมือง บูรณาการกับวิชาสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
๒. วชิ าตา้ นทุจริตศกึ ษา บรู ณาการกับวิชาสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรมและกิจกรรม
พัฒนาผ้เู รยี น
๓. วิชาเพศวิถีศึกษา บรู ณาการกบั วิชาสุขศึกษา
๔ .วิชาภาษาอังกฤษ ระดับช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓ จดั สอนในรายวิชาเสริมหลกั สตู ร
ภาษาอังกฤษ 80 ชม./ปี
๑๖
โครงสร้างเวลาเรยี นตามหลักสูตรโรงเรยี นบ้านนาสร้าง พุทธศักราช 256๕
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
รหสั กลมุ่ สาระการเรียนรู้/กิจกรรม เวลาเรียน
(ชม./ป)ี
รายวชิ าพื้นฐาน (840)
ท 14101 ภาษาไทย 160
ค 14101 คณติ ศาสตร์ 160
ว 14101 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 120
ส 14101 สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ส 14102 ประวัติศาสตร์ 80
พ 14101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 40
ศ 14101 ศลิ ปะ 80
ง 14101 การงานอาชีพ 40
อ 14101 ภาษาองั กฤษ 40
รายวิชาเพิม่ เติม / กจิ กรรมเพิ่มเติม 120
ส14234 หนา้ ท่ีพลเมือง (40)
ท 14201 สนกุ กับการอ่าน -
กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน 40
(120)
แนะแนว 40
ลูกเสอื /ยวุ กาชาด 40
ชุมนมุ ส่งเสรมิ การเรยี นรู้ 30
กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 10
รวมเวลาเรียนทง้ั สิน้ 1,000
หมายเหตุ ๑. วิชาหน้าท่พี ลเมอื ง บูรณาการกบั วิชาสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม
๒. วิชาต้านทุจรติ ศึกษา บูรณาการกบั วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมและกิจกรรม
พัฒนาผู้เรียน
๓. วิชาเพศวถิ ีศึกษา บูรณาการกบั วิชาสขุ ศึกษา
๑๗
โครงสร้างเวลาเรยี นตามหลักสูตรโรงเรียนบ้านนาสร้าง พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5
รหัส กลุ่มสาระการเรียนรู/้ กิจกรรม เวลาเรียน
(ชม./ป)ี
รายวิชาพืน้ ฐาน (840)
ท 15101 ภาษาไทย 160
ค 15101 คณติ ศาสตร์ 160
ว 15101 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 120
ส 15101 สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ส 15102 ประวตั ิศาสตร์ 80
พ 15101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 40
ศ 15101 ศิลปะ 80
ง 15101 การงานอาชพี 40
อ 15101 ภาษาอังกฤษ 40
รายวชิ าเพิ่มเติม / กจิ กรรมเพ่ิมเติม 120
ส 15235 หนา้ ที่พลเมือง (40)
ท 15201 สนุกกับการอ่าน -
กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น 40
(120)
แนะแนว 40
ลกู เสือ/เนตรนารี 40
ชมุ นุมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ 30
กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ 10
รวมเวลาเรยี นทงั้ สิ้น 1,000
หมายเหตุ ๑. วิชาหนา้ ทพี่ ลเมือง บรู ณาการกับวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม
๒. วชิ าต้านทุจริตศกึ ษา บูรณาการกบั วชิ าสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมและกิจกรรม
พฒั นาผู้เรยี น
๓. วชิ าเพศวิถีศกึ ษา บรู ณาการกบั วชิ าสุขศึกษา
๑๘
โครงสร้างเวลาเรยี นตามหลักสูตรโรงเรยี นบา้ นนาสร้าง พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551
ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6
รหสั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้/กิจกรรม เวลาเรียน
(ชม./ป)ี
รายวชิ าพนื้ ฐาน (840)
ท 16101 ภาษาไทย 160
ค 16101 คณติ ศาสตร์ 160
ว 16101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 120
ส 16101 สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ส 16102 ประวัตศิ าสตร์ 80
พ 16101 สุขศึกษาและพลศึกษา 40
ศ 16101 ศลิ ปะ 80
ง 16101 การงานอาชีพ 40
อ 16101 ภาษาองั กฤษ 40
รายวชิ าเพิ่มเติม / กจิ กรรมเพ่ิมเติม 120
ส16236 หน้าทพ่ี ลเมือง (40)
ท 16201 สนกุ กับการอา่ น -
กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน 40
(120)
แนะแนว 40
ลกู เสอื /เนตรนารี 40
ชมุ นมุ สง่ เสริมการเรียนรู้ 30
กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ 10
รวมเวลาเรยี นทงั้ สน้ิ 1,000
หมายเหตุ ๑. วชิ าหนา้ ท่พี ลเมอื ง บูรณาการกับวชิ าสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
๒. วชิ าตา้ นทุจริตศึกษา บูรณาการกับวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมและกิจกรรม
พัฒนาผ้เู รยี น
๓. วชิ าเพศวถิ ีศกึ ษา บรู ณาการกับวิชาสขุ ศึกษา
๑๙
ส่วนท่ี 3
สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย องค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้ และคุณลั กษณะ
อันพึงประสงค์ ซึ่งกาหนดให้ผู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานจาเป็นต้องเรียนรู้ โดยแบ่งเป็น 8
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ดงั ตอ่ ไปนี้
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ภาษาไทย
สาระท่ี 1 การอา่ น ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หา
มาตรฐาน ท 1.1 ในการดาเนินชวี ิตและมีนิสัยรกั การอา่ น
สาระที่ 2 การเขยี น
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขยี นสอ่ื สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรือ่ งราว
ในรูปแบบขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
สาระท่ี 3 การฟัง การดู และการพดู
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และ
ความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์
สาระท่ี 4 หลกั การใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลงั
ของภาษาภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ
สาระที่ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็
คุณคา่ และนามาประยุกต์ใช้ในชวี ิตจรงิ
๒๐
สาระและมาตรฐานการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช 2560)
สาระที่ 1 จานวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค.1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวน การดาเนินการของ
จานวนผลทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการดาเนนิ การสมบตั ขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
มาตรฐาน ค.1.2 เข้าใจและวิเคราะหแ์ บบรปู ความสมั พันธ์ ฟังกช์ นั ลาดบั และอนุกรม และ
นาไปใช้
มาตรฐาน ค.1.3 ใชน้ พิ จน์สมการอสมการและเมทรกิ ซ์อธิบายความสมั พันธห์ รอื ช่วยแก้ปัญหา
ทก่ี าหนดให้
สาระท่ี ๒ การวดั และเรขาคณิต
มาตรฐาน ค.๒.๑ เข้าใจพนื้ ฐานเก่ยี วกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสง่ิ ที่ต้องการวดั และ
นาไปใช้
มาตรฐาน ค.๒.๒ เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่างรูป
เรขาคณิตและทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช้
มาตรฐาน ค.๒.๓ เขา้ ใจเรขาคณติ วิเคราะห์ และนาไปใช้
มาตรฐาน ค.๒.๔ เขา้ ใจเวกเตอร์ การดาเนินการของเวกเตอร์ และนาไปใช้
สาระท่ี ๓ สถิตแิ ละความน่าจะเป็น
มาตรฐาน ค.๓.๑ เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรทู้ างสถติ ใิ นการแก้ปญั หา
มาตรฐาน ค.๓.๒ เข้าใจหลกั การนบั เบ้อื งตน้ ความน่าจะเปน็ และนาไปใช้
๒๑
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช 2560)
สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสมั พันธ์ระหวา่ งส่งิ ไม่มีชีวติ กบั
สิ่งมชี ีวิต และความสัมพันธร์ ะหว่างส่งิ มีชวี ติ กบั สิ่งมีชีวิตตา่ ง ๆในระบบนิเวศการ
มาตรฐาน ว 1.2 ถ่ายทอดพลงั งานการเปลย่ี นแปลงแทนทใี่ นระบบนิเวศความหมายของประชากร
มาตรฐาน ว 1.3 ปญั หาและผลกระทบทีม่ ตี อ่ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มแนวทางในการ
อนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการแกไ้ ขปัญหาสิง่ แวดลอ้ มรวมทัง้ นาความรู้ไป
ใช้ประโยชน์
เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารเข้าและออก
จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆของสัตว์และ
มนษุ ย์ทที่ างานสมั พนั ธ์กัน ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะต่าง ๆ
ของพืชทีท่ างานสมั พนั ธ์กัน รวมทัง้ นาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์
เขา้ ใจกระบวนการและความสาคัญของการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรมสาร
พนั ธกุ รรมการเปลีย่ นแปลงทางพนั ธกุ รรมท่ีมผี ลตอ่ สงิ่ มีชีวิตความหลากหลายทาง
ชีวภาพและววิ ัฒนาการของส่ิงมีชวี ิตรวมทั้งนาความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัตขิ องสสารองค์ประกอบของสสารความสัมพันธ์ระหวา่ งสมบตั ิของ
สสารกบั โครงสร้างและแรงยึดเหน่ยี วระหวา่ งอนุภาคหลกั และธรรมชาติของการ
เปลยี่ นแปลงสถานะของสสารการเกิดสารละลายและการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี
มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ิตประจาวันผลของแรงทีก่ ระทาต่อวตั ถุลักษณะการ
เคลือ่ นทีแ่ บบต่าง ๆของวตั ถุรวมท้ังนาความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปลย่ี นแปลงและการถา่ ยโอนพลังงาน
ปฏิสัมพันธ์ระหวา่ งสสารและพลงั งาน พลงั งานในชีวติ ประจาวัน ธรรมชาติ
ของคลื่น ปรากฏการณ์ทเี่ ก่ียวข้องกบั เสียง แสง และคลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้ารวมทัง้ นา
ความรไู้ ปใช้ประโยชน์
สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ัฒนาการของเอกภพ
กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์ และระบบสุรยิ ะ รวมทัง้ ปฏสิ มั พนั ธภ์ ายในระบบสุริยะทีส่ ง่ ผล
ตอ่ ส่งิ มชี วี ติ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ
๒๒
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยเี พ่อื การดารงชีวิตในสังคมท่ีมีการเปลี่ยนแปลง
มาตรฐาน ว 4.1 อย่างรวดเร็ว ใช้ความรูแ้ ละทักษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์
อน่ื ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางานอยา่ งมคี วามคดิ สร้างสรรคด์ ว้ ยกระบวนการ
มาตรฐาน ว 4.2 ออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคานึงถึงผลกระทบตอ่
ชวี ติ สังคม และสิง่ แวดล้อม
เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ติ จริงอยา่ งเป็น
ขัน้ ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในการเรยี นรู้
การทางาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมีจริยธรรม
๒๓
สาระและมาตรฐานการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สาระที่ 1 ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม
มาตรฐาน ส 1.1 รู้และเขา้ ใจประวตั ิ ความสาคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือ
ศาสนาทต่ี นนับถือและศาสนาอนื่ มีศรัทธาทถี่ ูกตอ้ ง ยดึ มั่น และปฏิบัตติ าม
หลกั ธรรม เพื่ออยรู่ ว่ มกันอย่างสนั ตสิ ุข
มาตรฐาน ส 1.2 เขา้ ใจ ตระหนักและปฏิบัตติ นเป็นศาสนิกชนที่ดี และธารงรกั ษาพระพุทธศาสนา
หรอื ศาสนาที่ตนนับถือ
สาระที่ 2 หน้าทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนินชวี ติ ในสังคม
มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงาม และธารง
รักษาประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดารงชีวติ อย่รู ่วมกนั ในสงั คมไทย และสงั คมโลก
อยา่ งสนั ตสิ ขุ
มาตรฐาน ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมอื งการปกครองในสังคมปจั จบุ ัน ยดึ มนั่ ศรัทธา และธารง
รักษาไวซ้ ่ึงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ
สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส.3.1 เข้าใจและสามารถบรหิ ารจดั การทรัพยากรในการผลิตและการบรโิ ภคการใช้
ทรพั ยากรทม่ี ีอยจู่ ากดั ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมท้งั เขา้ ใจหลักการของ
เศรษฐกจิ พอเพียง เพ่ือการดารงชีวิตอย่างมดี ลุ ยภาพ
มาตรฐาน ส.3.2 เข้าใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกจิ
และความจาเปน็ ของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก
สาระที่ 4 ประวัตศิ าสตร์
มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสาคญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวัตศิ าสตร์ สามารถ
ใช้วิธกี ารทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณต์ ่าง ๆ อยา่ งเปน็ ระบบ
มาตรฐาน ส 4.2 เขา้ ใจพฒั นาการของมนษุ ยชาติจากอดีตจนถงึ ปจั จบุ ัน ในด้านความสมั พนั ธ์
และการเปล่ยี นแปลงของเหตุการณ์อยา่ งต่อเนอื่ ง ตระหนกั ถงึ ความสาคัญ
และสามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบท่ีเกิดขน้ึ
มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก
ความภูมิใจและธารงความเปน็ ไทย
สาระท่ี 5 ภมู ศิ าสตร์ (ฉบบั ปรับปรุงพุทธศักราช 2560)
มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพนั ธข์ องสรรพสิ่งซึ่งมีผลตอ่ กัน
ใช้แผนที่และเครื่องมอื ทางภมู ิศาสตรใ์ นการค้นหา วิเคราะห์ และสรปุ ขอ้ มูล
ตามกระบวนการทางภมู ิศาสตรต์ ลอดจนใชภ้ มู ิสารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
มาตรฐาน ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสัมพนั ธ์ระหว่างมนุษย์กบั สิง่ แวดล้อมทางกายภาพท่ีก่อใหเ้ กดิ การ
สร้างสรรคว์ ถิ กี ารดาเนนิ ชีวติ มจี ิตสานกึ ในการจดั การทรัพยากรและสิง่ แวดล้อม
เพือ่ การพัฒนาที่ยัง่ ยืน
๒๔
สาระและมาตรฐานการเรยี นรูส้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา
สาระที่ 1 การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์
มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์
สาระที่ 2 ชวี ิตและครอบครวั
มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเห็นคุณคา่ ตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา และมีทกั ษะในการดาเนนิ ชวี ติ
สาระท่ี 3 การเคล่อื นไหว การออกกาลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลอื่ นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า
มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกฬี า ปฏบิ ัติเปน็ ประจาอย่าง
สม่าเสมอ มีวินัย เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ้าใจนักกีฬา มจี ิตวิญญาณในการแขง่ ขนั
และชื่นชมในสุนทรียภาพของการกีฬา
สาระที่ 4 การสรา้ งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกนั โรค
มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคณุ คา่ และมีทักษะในการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ การดารงสขุ ภาพ การป้องกนั โรค
และการสร้างเสรมิ สมรรถภาพเพ่ือสขุ ภาพ
สาระที่ 5 ความปลอดภัยในชวี ิต
มาตรฐาน พ 5.1 ป้องกันและหลกี เลีย่ งปจั จัยเสย่ี ง พฤติกรรมเสย่ี งต่อสุขภาพ อุบัตเิ หตุ การใช้ยา
สารเสพตดิ และความรุนแรง
๒๕
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ศิลปะ
สาระท่ี 1 ทัศนศิลป์ สร้างสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์
มาตรฐาน ศ 1.1 วพิ ากษ์ วิจารณ์คุณคา่ งานทัศนศลิ ป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่าง
อสิ ระ ช่นื ชม และประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน
มาตรฐาน ศ 1.2 เข้าใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งทัศนศลิ ป์ ประวตั ศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ คา่
งานทศั นศิลป์ที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ภมู ปิ ัญญาไทย และ
สากล
สาระที่ 2 ดนตรี เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า
มาตรฐาน ศ 2.1 ดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ช่ืนชม และประยุกต์ใช้ใน
ชวี ติ ประจาวนั
มาตรฐาน ศ 2.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัตศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณค่าของ
ดนตรีที่ เปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ิน ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล
สาระที่ 3 นาฏศิลป์ เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศลิ ปอ์ ยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษว์ ิจารณ์
มาตรฐาน ศ 3.1 คุณค่านาฏศิลป์ถ่ายทอดความรูส้ กึ ความคดิ อย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกตใ์ ช้
ในชวี ิตประจาวัน
มาตรฐาน ศ 3.2 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งนาฏศิลป์ ประวตั ิศาสตรแ์ ละวัฒนธรรม เห็นคณุ ค่า
ของนาฏศิลปท์ ่เี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทยและ
สากล
๒๖
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้การงานอาชพี (ฉบับปรบั ปรุงพทุ ธศกั ราช 2560)
สาระท่ี 1 การดารงชวี ติ และครอบครวั
มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทางาน มคี วามคิดสร้างสรรค์ มที ักษะกระบวนการทางาน ทักษะ
การจดั การ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทกั ษะการทางานร่วมกัน และทักษะ
การแสวงหาความรู้ มคี ณุ ธรรม และลักษณะนิสยั ในการทางาน มจี ิตสานึก
ในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และสิ่งแวดลอ้ มเพื่อการดารงชีวติ และครอบครวั
สาระท่ี 2 การอาชีพ
มาตรฐาน ง 2.1 เขา้ ใจ มีทักษะทจี่ าเปน็ มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ
ใชเ้ ทคโนโลยเี พ่ือพัฒนาอาชพี มคี ุณธรรม และมีเจตคติทีด่ ีต่ออาชีพ
๒๗
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ภาษาองั กฤษ
สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอา่ นจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และ
ความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการ
พูด และการเขียน
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ ได้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ บั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ นื่
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อืน่ และเป็น
พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ ับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเปน็ เครือ่ งมอื พนื้ ฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชพี และ
การแลกเปลย่ี นเรียนร้กู ับสงั คมโลก
๒๘
รายละเอยี ดกรอบสาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ “นครปฐมบ้านเรา”
หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นนาสรา้ ง ปกี ารศกึ ษา 256๕
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551
กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
สาระ/มาตรฐานการเรยี นรู้เกย่ี วกบั ทอ้ งถ่นิ รายละเอียดสาระการเรียนรู้ท้องถ่ิน
สาระท่ี 1 การอา่ น 1. บทร้อยกรอง (นริ าศพระประธม, ย่าเหล,
มาตรฐาน ท1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างใช้
กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือ บทเพลง)
นาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปัญหาและสรา้ งวสิ ัยทัศนใ์ น 2. นิทาน-นทิ านประจาถ่นิ
การดาเนนิ ชีวติ และมีนสิ ัยรักการอ่าน 3. ตานาน (พญากง พญาพาน ยายหอม)
4. สานวนคา
สาระที่ 2 การเขียน 5. บทเพลงพ้ืนบ้าน (สาวนครชยั ศรปี ระจา
มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่อื สาร
เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวใน จงั หวัด)
รปู แบบต่าง ๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและ 6. ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา เชน่ คาให้พร คาขวัญ
รายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมีประสิทธิภาพ
สาระท่ี 3 การฟงั การดูและการพูด จังหวดั นครปฐม คาขวญั อาเภอ คาขวัญ
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมี ท้องถน่ิ
วิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และ 1. สารคดี วธิ ีเขยี น รปู แบบ การเขียน
ความรสู้ กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและ ความเรียงเกย่ี วกับเรื่องราวในท้องถ่นิ
สรา้ งสรรค์ 2. บทเพลงพ้นื บ้าน
3. ปรศิ นาคาทาย
1. ภาษติ - แปลความ
- แสดงความคิดเห็น
- ใช้ได้ นาไปใชย้ กตัวอย่าง
2. บทรอ้ ยกรอง
- แสดงความคดิ เห็น
3. ภมู ิปญั ญาทางภาษา
- แสดงความคิดเห็น
- แปลความ
4. ตคี วาม การนาไปใช้
5. ลักษณะถอ้ ยคา ภาษาถ่นิ การแต่ง
รอ้ ยกรอง
6. ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา
สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้เกย่ี วกบั ทอ้ งถ่นิ ๒๙
สาระท่ี 4 หลกั การใชภ้ าษา รายละเอียดสาระการเรยี นร้ทู อ้ งถนิ่
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและ 1. ภาษาถนิ่ ลักษณะ ถ้อยคา การแตง่ รอ้ ย
หลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษาภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทย กรอง
ไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ 2. ภมู ิปัญญาทางภาษา
3. บทเพลงพืน้ บา้ น
สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม 4. เพลงกล่อมเด็ก
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น 1. บทรอ้ ยกรอง เชน่ นริ าศพระประธม
วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น 2. นิทาน
คุณค่าและนามาประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จริง 3. ตานาน
4. สารคดี
5. ภาษิต คาพงั เพย สานวน
6. บทกล่อมเด็ก
7. บทเพลงพนื้ บา้ น
8. ปริศนาคาทาย
9. ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา
10.บทพระราชนพิ นธใ์ น ร.6
๓๐
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายละเอยี ดสาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ
ศกึ ษาและเรยี นรู้เกยี่ วกับจานวนจริง และนาสมบตั ิ
สาระ/มาตรฐานการเรยี นรู้เกยี่ วกบั ท้องถน่ิ เกีย่ วกบั จานวนจรงิ ไปใชด้ ังน้ี
สาระที่ 1 จานวนพชี คณติ ๑.การซ้อื ขาย ได้แก่ การคานวณราคาสินคา้ การ
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของ ตอ่ รองราคา ตน้ ทนุ กาไร-ขาดทนุ บัญชีรายรบั -
การแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การ จ่าย ในครัวเรือน และชุมชน
ของจานวนผลทเ่ี กิดข้นึ จากการดาเนนิ การ สมบัติ ๒.การเลี้ยงสัตวใ์ นท้องถ่นิ (สกุ ร, เปด็ ) ในจังหวัด
ของการดาเนนิ การ และนาไปใช้ นครปฐม ได้แก่ จานวนการเลยี้ งสตั ว์ จานวน
อาหาร นา้ หนัก ราคา
สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณติ ศึกษาและเรียนรเู้ กีย่ วกับการวดั ระยะทาง หาพ้ืนท่ี
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพนื้ ฐานเกยี่ วกับการวดั หาปริมาตร และคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการ
วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงทตี่ ้อการวัด และ วัด ดังนี้
นาไปใช้ ๑. องค์พระปฐมเจดีย์ ห้องเรียน แปลงเกษตร ฯลฯ
๒. แผนผัง มาตราสว่ นของโรงเรียน หมู่บ้าน
มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ูป ตาบล อาเภอ จงั หวดั
เรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ ศกึ ษาและเรียนรู้เก่ยี วกับลกั ษณะและสมบตั ิของรปู
ระหว่างรปู เรขาคณติ และทฤษฏบี ททางเรขาคณิต เรขาคณิตสองมิติและสามมติ ิ ดงั น้ี
และนาไปใช้ ๑. องค์พระปฐมเจดยี ์
๒. พระราชวงั สนามจันทร์
สาระท่ี 3 สถิติและความนา่ จะเป็น ๓. กระบอกขา้ วหลาม
มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ
และใชค้ วามรทู้ างสถติ ิแก้ปัญหา ศกึ ษาและเรียนรู้เกี่ยวกบั การสารวจ วเิ คราะห์
ข้อมูลและนาเสนอขอ้ มูลเกยี่ วกับการประกอบ
อาชีพในทอ้ งถน่ิ และการท่องเทีย่ ว
๑. สถิตกิ ารเล้ยี งสกุ ร
๒. สถติ ขิ องผลผลิตสม้ โอ
๓. สถิติการขายขา้ วหลาม
๔. สถติ ิของพนั ธสุ์ กุ รทนี่ ิยมเล้ียง
๕. สถติ ขิ องพนั ธุส์ ม้ โอ (ขาวน้าผงึ้ , ทองด,ี )
๓๑
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้เกย่ี วกบั ทอ้ งถนิ่ รายละเอียดสาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ
สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ 1. ทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ มและระบบนเิ วศ
มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของ ในทอ้ งถน่ิ
ระบบนเิ วศ ความสมั พนั ธ์ระหว่างสงิ่ ไม่มชี ีวิตกับ
สง่ิ มีชวี ิต และความสัมพันธ์ระหวา่ งส่งิ มชี ีวิตกบั ดิน - ลักษณะของดิน
ส่งิ มชี ีวติ ในระบบนิเวศ การถา่ ยทอดพลงั งาน การ - ระบบนิเวศในดนิ
เปล่ยี นแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของ - ผลกระทบและแนวทางแก้ไข
ประชากร ปัญหาละผลกระทบทมี่ ตี อ่
ทรพั ยากรธรรมชาติและการแกไ้ ขปัญหาส่งิ แวดลอ้ ม น้า - แหลง่ นา้ ในท้องถิ่น
รวมทั้งนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ - ระบบนเิ วศในน้า
- ผลกระทบและแนวทางแก้ไข
อากาศ - สภาพอากาศ
- มลภาวะของอากาศ
- ผลกระทบและแนวทางแก้ไข
พลังงานในท้องถ่นิ
- แหลง่ พลงั งาน
- การนาพลงั งานไปใช้
- ผลกระทบจากการใช้พลังงาน
- วิธกี ารอนุรกั ษ์พลังงาน
สภาพปัญหาและแนวการแก้ไขปัญหา
สง่ิ แวดลอ้ มในท้องถ่ิน
มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบตั ิของสง่ิ มชี วี ติ หน่วย ๑. สง่ิ มชี ีวิตในทอ้ งถน่ิ
พื้นฐานของส่ิงมีชีวติ การลาเลียงสารเขา้ และออก พชื ในทอ้ งถน่ิ - ชนดิ ลักษณะ ประโยชน์
จากเซลล์ ความสมั พันธข์ องโครงสรา้ งและหนา้ ที่ การอนรุ ักษ์พันธ์ุพชื
ของอวัยวะตา่ งๆของสัตว์และมนษุ ย์ท่ีทางานสมั พนั ธ์ สัตวใ์ นท้องถิน่ - ชนดิ ลักษณะ ประโยชน์
กัน ความสัมพันธ์ของโครงสรา้ งและหน้าท่ีของ การอนุรักษ์
อวัยวะต่างๆของพชื ท่ีทางานสัมพันธ์กันรวมท้ังนา กล่มุ คนในท้องถิ่น - ลักษณะทางพันธกุ รรม
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
๓๒
กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
สาระ/มาตรฐานการเรียนรูเ้ กย่ี วกบั ท้องถิ่น รายละเอียดสาระการเรยี นร้ทู อ้ งถิน่
สาระท่ี 2 หนา้ ทพ่ี ลเมือง วัฒนธรรม และการ 1. บุคคลสาคัญทเี่ ป็นแบบอย่างทดี่ ใี นท้องถ่ินทงั้
ดาเนินชีวติ ในสังคม อดตี และปจั จบุ ัน เชน่ ผ้นู าทางศาสนา ภมู ปิ ัญญา
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจและปฏิบัตติ นตามหน้าที่ ทอ้ งถน่ิ ผ้เู สียสละ
ของการเป็นพลเมืองดี มีคา่ นิยมที่ดีงาม และธารง 2. วัฒนธรรม ประเพณี การละเล่น และความเช่ือ
รักษาประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยู่ ของคนในท้องถน่ิ เชน่
ร่วมกันในสงั คมไทย และ สังคมโลกอย่างสันติสุข
- ประเพณีวนั สงกรานต์
- ประเพณลี อยกระทง
- ประเพณที าบุญกลางบา้ น
- ประเพณีลงแขกเกยี่ วข้าว
3. สภาพเศรษฐกจิ สงั คม และวถิ ีการดารงชวี ติ
รว่ มกันของคนในทอ้ งถนิ่ เชน่
- กลุ่มสหกรณ์
- กลุม่ เกษตรกร ฯลฯ
4. การปกครองส่วนท้องถิน่ อบจ. อบต. เทศบาล
สาระท่ี 4 ประวัตศิ าสตร์ ๑. ประวัติความเป็นมาของท้องถ่ินนครปฐม ความ
มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย เป็นมาของดนิ แดนสุวรรณภมู ิ อาณาจกั รทวารวดี
๒. คาขวญั และสญั ลักษณ์ของจังหวัดนครปฐม
วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย ๓. เกียรตยิ ศและความภาคภมู ใิ จของกลุ่มคนใน
มีความรกั ความภมู ิใจและ ธารง ท้องถนิ่
ความเปน็ ไทย
สาระท่ี 5 ภูมิศาสตร์ ๑.สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ทรัพยากร
มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสัมพนั ธ์ระหวา่ ง ส่งิ แวดลอ้ ม สถานทสี่ าคัญในอดตี ปัจจบุ นั และ
มนษุ ย์กับสง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพท่กี ่อใหเ้ กิดการ โบราณสถาน โบราณวัตถุ
สรา้ งสรรคว์ ิถกี ารดาเนินชวี ิต มจี ิตสานึกในการ ๒.การสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมและเหตกุ ารณ์สาคญั ท่ี
จัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเพื่อการพฒั นาที่ เกิดขน้ึ ทั้งในอดตี และปจั จุบัน
ยั่งยนื ๓.สภาพปญั หาทางกายภาพและสังคมในทอ้ งถิ่น
๔.แนวทางการแกป้ ัญหาและพฒั นาที่ย่ังยืน
๓๓
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษา และพลศกึ ษา
สาระ/มาตรฐานการเรียนรเู้ กยี่ วกับทอ้ งถิ่น รายละเอยี ดสาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน
สาระท่ี 1 การเจรญิ เตบิ โต และพัฒนาการ ๑. สมุนไพรท่ีเหมาะสมกบั วยั
ของมนษุ ย์ - สมุนไพรในจังหวัดนครปฐม
- ประโยชน์และการเลือกใช้
๒. สมนุ ไพรกับการดารงชีวติ
- อาหาร
สาระที่ 2 ชีวิตและครอบครัว 1. ทกั ษะการสรา้ งความภาคภมู ิใจในตนเอง
มาตรฐาน พ 2.1 เขา้ ใจและเห็นคณุ คา่ ของชวี ติ - ข้อดี – ขอ้ เสียของชาวนครปฐม
ครอบครวั เพศศึกษาและมีทักษะในการดาเนนิ ชวี ิต - การเสริมสรา้ งและพฒั นา
พฤติกรรมเชงิ บวก
- การเสรมิ สร้างเอกลกั ษณะความ
เป็นชาย-หญิงของชาวนครปฐม
สาระท่ี 3 การเคลื่อนไหว การออกาลงั กาย ๑. เกมกีฬาพื้นบ้าน
การเลน่ เกม กฬี าไทยและกีฬาสากล - สะบา้ ลอ้ , ตะกรอ้ , ลงิ ชงิ หลัก, ไม้
มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลังกาย การเลน่
เกม และการเลน่ กีฬา ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ประจาอย่าง ห่ึง, ตจ่ี บั , หมากเก็บ ซ่อนหา,
สม่าเสมอ มีวินัยเคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ้าใจ เตย (ไลจ่ ับ) ฯลฯ
นักกฬี า มีจติ วญิ ญาณในการแข่งขนั และชน่ื ชมใน ๒. กฬี าในท้องถ่ิน ฟุตบอล
สนุ ทรยี ภาพของการกีฬา ๓. กจิ กรรมเข้าจังหวะ
- เพลงมาร์ช นครปฐม
สาระท่ี 4 การเสรมิ สร้างสุขภาพ สมรรถภาพ - การใชท้ า่ มวยไทยออกกาลงั กาย
และการป้องกนั โรค แบบแอโรบคิ
มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการ - การเข้ารว่ มกิจกรรมพัฒนาการใน
สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การดารงสุขภาพการป้องกันโรค ชุมชน
และการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ
1. งานนโยบาย (นครปฐม)
- 6 อ. (อาหาร, ออกกาลงั กาย,
อารมณ,์ อโรคยา, อนามยั
ส่ิงแวดลอ้ ม, อบายมุข)
- ไขเ้ ลือดออก
- ไขส้ มองอักเสบ
- งานตามวาระแห่งชาติ
2. แหล่งบรกิ ารสมุนไพรพ้ืนบ้าน
3. แพทยแ์ ผนไทย (สมนุ ไพร,ประคบ,อบ,นวด)
4. แอโรบคิ
๓๔
คาอธิบายรายวิชา
ท 11101 ภาษาไทย
รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 200 ชวั่ โมง
อ่านออกเสียงคา คาคล้องจองและข้อความสั้นๆ ท่ีประกอบด้วยคาพ้ืนฐานไม่นอ้ ยกว่า 600 คา
รวมท้ังคาที่ใช้ในสาระอื่นๆ บอกความหมายของคาและข้อความท่ีอ่าน คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน
อ่านหนังสือตามความสนใจ อย่างสม่าเสมอและนาเร่ืองที่อ่าน บอกความหมายของคาและข้อความท่ีอ่าน มี
มรรยาทในการอ่านบอกพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ตัวเลขไทย ความหมายของคา คาคล้องจองและ
ข้อความ คาที่มีรปู วรรณยุกต์ ไม่มวี รรณยกุ ต์คาที่มีตัวสะกดตรงมาตราและไมต่ รงตามมาตราตัวสะกดคาที่มี
พยญั ชนะควบกล้า คาที่มีอักษรนา เครือ่ งหมายสญั ลกั ษณ์ตา่ งๆ ทีพ่ บเหน็ ในชวี ิตประจาวนั สรปุ ขอ้ คดิ ที่ได้
จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมร้อยแก้ว และร้อยกรองสาหรับเด็ก นิทาน เรื่องสั้นง่ายๆปริศนาคาทาย
บทร้องเล่น บทอาขยานในบทเรียนตอบคาถามเก่ียวกับเรื่องท่ีอ่าน เล่าเรื่องย่ออ่านหนังสือตามความสนใจ
และนาเสนอเร่ืองที่อ่าน มีทักษะในการคัดลายมือ ตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย
เขียนพยัญชนะ สระวรรณยุกต์ ตัวเลขไทย เขียนสะกดคา เรียบเรียงคาเป็นประโยคสื่อสารด้วยคาและ
ประโยคง่ายๆ เขียนคาที่ใช้ในชีวิตประจาวัน คาพื้นฐานในบทเรียน คาคล้องจอง ฟังคาแนะนา คาสั่ง และ
ปฏิบัติตามคาส่ังง่ายๆ พูดแสดงความคิดเห็น และความรู้สึกจากเรื่องท่ีฟังและดู ส่ือสารได้ตามวัตถุประสงค์
พูดและแนะนาตนเอง ขอความช่วยเหลอื กล่าวคาขอบคุณ ขอโทษ ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนด และ
บทรอ้ ยกรองตามความสนใจเพื่อนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั บอกข้อคิดที่ได้จากการอา่ น หรือการฟงั วรรณกรรม
ร้อยแก้ว และร้อยกรองสาหรับเด็ก ท่องจาบทอาขยานตามท่ีกาหนด ท่องคาขวัญจังหวัดนครปฐม และบท
รอ้ ยกรอง บทกล่อมเดก็ ตามความสนใจ
ฝึกการอ่านคา คาคล้องจอง ข้อความสั้นๆ บทร้อยกรอง ศึกษาความหมายของคา และ
ข้อความ ฝึกการตอบคาถาม ตั้งคาถาม การคาดคะเนเหตุการณ์ ฝึกให้ปฏิบัติตามคาสั่ง ฝึกการคัดลายมือ
ฝึกการพูดสื่อสาร การเล่าเร่ือง ฝึกการพูดแนะนาตัว ศึกษาและการแต่งประโยต แต่งคาคล้องจอง ฝึกการมี
มารยาทในการอ่านการเขียน การฟงั การดู การพดู
มมี ารยาทในการอ่าน การเขยี น การฟงั การดู การพูด มนี สิ ัยรักการอา่ น มที ักษะทางภาษา
เปน็ เครอื่ งมอื ในการเขยี น ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน ซื่อสตั ย์ สจุ รติ มีวนิ ยั รกั ความเปน็ ไทย
มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั
ท 1.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4, ป.1/5, ป.1/6, ป.1/7, ป.1/8
ท 2.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3
ท 3.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4, ป.1/5
ท 4.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4
ท 5.1 ป.1/1, ป.1/2
รวมทั้งหมด 22 ตัวชว้ี ัด
๓๕
คาอธิบายรายวิชา
ท 12101 ภาษาไทย
รายวชิ าพ้นื ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 200 ชั่วโมง
อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่าย ๆ ได้ถูกต้อง อธิบาย
ความหมายของคา และข้อความที่อ่าน ตั้งคาถามและตอบคาถามเกี่ยวกับเร่ืองที่อ่าน จับใจความสาคัญ
แสดงความคิดเห็นจากเรื่องท่ีอ่าน อ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอ มีทักษะในการคัดลายมือตัว
บรรจงเต็มบรรทัด เขยี นเรือ่ งส้ันเก่ยี วกับประสบการณ์ เขยี นเรือ่ งส้ันตามจินตนาการ ฟงั คาแนะนา คาส่ังท่ี
ซบั ซอ้ นและปฏบิ ตั ิตาม เลา่ เรอื่ งที่ฟังและดู ทงั้ ท่เี ป็นความรู้และความบันเทิง บอกสาระสาคญั ของเร่ืองท่ี
ฟังและดู ต้ังคาถามและตอบคาถาม พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเร่ืองท่ีฟังและดู พูดสื่อสาร
ได้ชัดเจนตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ บอกและเขยี นพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขยี นสะกดคาและ
บอกความหมายของคา เรียบเรยี งคาเป็นประโยคได้ตรงตามเจตนาของการส่ือสาร บอกลกั ษณะคาคล้องจอง
และเลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ นาข้อคิดเห็นที่ไดจ้ ากการอ่าน การ
ฟังวรรณกรรมสาหรับเด็กเพื่อนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน ร้องบทร้องเล่นสาหรับเด็กในท้องถ่ิน และท่องจา
บทอาขยาน และคาขวัญจงั หวัดนครปฐมตามที่กาหนดได้
ฝึกการอ่านคา คาคล้องจอง ข้อความสั้นๆ บทร้อยกรอง ศึกษาความหมายของคา และ
ข้อความ ฝึกการตอบคาถาม ต้ังคาถาม การคาดคะเนเหตุการณ์ ฝึกให้ปฏิบัติตามคาส่ัง ฝึกการคัดลายมือ
ฝึกการพูดสื่อสาร การเล่าเรื่อง ศึกษาและการแต่งประโยต แต่งคาคล้องจอง ฝึกการมีมารยาทในการอ่าน
การเขยี น การฟังการดู การพดู ฝึกร้องบทร้องเลน่ เพลงกลอ่ มเดก็ ฝกึ ท่องจาอาขยาน
มีนิสัยรักการอ่าน มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด มีความ
ซอ่ื สัตย์ สุจรติ มวี ิ นยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มัน่ ในการทางาน และรักความเป็นไทย
มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/7, ป.2/8
ท 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4
ท 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/7
ท 3.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5
ท 4.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3
ท 5.1
รวมท้ังหมด 27 ตวั ช้ีวัด
๓๖
คาอธิบายรายวิชา
ท 13101 ภาษาไทย
รายวชิ าพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 200 ชัว่ โมง
อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง ข้อความ เรื่องสั้น ๆ และบทร้อยกรองได้ถูกต้องคล่องแคล่ว
อธบิ ายความหมายของคา และขอ้ ความท่ีอ่าน ต้ังคาถาม – ตอบคาถามเชงิ เหตุผล ลาดับเหตุการณ์ คาดคะเน
เหตุการณจ์ ากเรื่องที่อ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากเร่ืองที่อ่าน ปฏิบตั ติ ามคาส่งั คาอธิบายจากเร่ืองท่ีอ่านได้
เข้าใจความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่และแผนภูมิ เขียน คัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด
เขียนบรรยายบันทึกประจาวัน เขียนจดหมายลาครู เขียนเร่ืองเกี่ยวกับประสบการณ์ เขียนเร่ืองตาม
จินตนาการ เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องท่ีฟัง และดู ทั้งท่ีเป็นความรู้และความบันเทิง บอกสาระการฟัง
และการดู ตั้งคาถามและตอบคาถามเก่ียวกับเร่ืองที่ฟังและดู พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเรื่องที่
ฟังและดู พูดส่ือสารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา ระบุชนิดและ
หน้าท่ีของคาในประโยค มีทักษะการใช้พจนานุกรม แต่งประโยคง่ายๆ แต่งคาคล้องจองและคาขวัญ เลือกใช้
ภาษามาตรฐาน และภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ เข้าใจและสรุปข้อคิดจากการเล่าวรรณคดี และ
วรรณกรรมเพื่อนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน แสดงความคิดเห็นเร่ืองท่ีอ่าน รจู้ กั เพลงพ้ืนบ้าน เพลงกลอ่ มเด็ก ซง่ึ
เป็นวฒั นธรรมของท้องถ่ิน ร้องบทรอ้ งเล่นสาหรับเด็กในท้องถิ่น ท่องอาขยานและบทร้อยกรองท่ีมคี ุณค่าตาม
ความสนใจได้
ศึกษาความหมายของคา ฝึกอ่านและเขียนคาพ้ืนฐาน ตั้งคาถาม ตอบคาถาม เรียงลาดับ
เหตุการณ์ คาดคะเน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่าน อธิบายความหมายของข้อมูล คัดลายมือ เขียน
บรรยาย เขียนบันทึก เขียนจดหมาย เขียนเร่ืองตามจินตนาการ พูดแสดงความคิดเห็น พูดสื่อสาร ใช้
พจนานกุ รม แตง่ ประโยค แตง่ คาคล้องจองและคาขวัญ ทอ่ งจาบทอาขยาน และบทรอ้ ยกรอง
มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง ดู พูด มีนิสัยรักการอ่าน มีทักษะทางภาษาเป็น
เคร่อื งมือในการเขยี น ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มั่นในการทางาน ซ่อื สัตย์ สจุ ริต มวี นิ ยั รักความเปน็ ไทย
มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8,
ท 1.1 ป.3/9
ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6
ท 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6
ท 3.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7
ท 4.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4
ท 5.1
รวมทั้งหมด 32 ตวั ชว้ี ัด
๓๗
คาอธบิ ายรายวชิ า
ท 14101 ภาษาไทย
รายวชิ าพ้ืนฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 160 ชว่ั โมง
อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและร้องกรองเป็นทานองเสนาะได้ถูกต้อง อา่ นเรอ่ื งสั้น ๆ ตามเวลาที่
กาหนด อ่านหนังสือที่มีคุณค่าตามความสนใจ อธิบายความหมายของคา ประโยค และสานวนจากเรื่องที่
อ่าน คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน โดยระบุเหตุผลประกอบ จาแนกข้อเท็จจริง และข้อคิดเห็นจาก
เรื่องท่ีฟัง และดู คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยคาชัดเจนและ
เหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเร่ือง และแผนภาพความคิด เพื่อพัฒนางานเขียน เขียนย่อความ จากเร่ืองส้ัน
ๆ จดหมายถึงเพื่อนและบิดามารดาเขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการค้นคว้า เขียนเรื่องตามจินตนาการ
พูดแสดงความคิดเห็นความรู้สึกสรุป ใช้พจนานุกรมในการค้นคว้าหาความหมายของคา แต่งประโยค
ได้ถกู ตอ้ งตามหลักภาษา แตง่ บทร้อยกรองและคาขวญั ร้องเพลงหาความหมายของคา แต่งประโยคได้ถูกต้อง
ตามหลักภาษา แต่งบทร้อยกรองและคาขวัญ ร้องเพลงพ้ืนบ้าน ท่องจาบทอาขยานและบทร้องกรองที่มี
คุณค่าตามความสนใจ แยกแยะข้อเท็จจริง และข้อคิดเห็นจากเร่ืองท่ีอ่าน สรุปความรู้ และข้อคิดจากเรื่องที่
อ่าน ต้ังคาถาม ตอบคาถามจากเรื่องท่ีฟังและดู รายงานประเด็นศึกษา ค้นคว้าจากการฟัง ดู และสนทนา
สะกดคา บอกความหมายของคาในบริบทต่าง ๆ ระบุชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค บอกความหมายทาง
สานวน เปรยี บเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถ่ิน ระบขุ อ้ คดิ จากนิทานพืน้ บ้านหรอื นิทานคติธรรม อธิบาย
ขอ้ คดิ จากการอ่านเพอื่ นาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน
ศึกษาความหมายของคา ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง ต้ังคาถาม ตอบ
คาถามจากเร่ืองท่อี า่ นและฟัง แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นจากการอ่านและการฟัง คาดคะเนรายงาน สรปุ
ความรู้และข้อคิดท่ีได้จากการอ่าน การฟังและการสนทนา คัดลายมือ เขียนสะกดคา เขียนส่ือสาร เขียน
แผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิด เขียนย่อความ เขียนจดหมาย เขียนบันทึกและเขียนรายงาน
เขียนเรื่องตามจินตนาการ พูดแสดงความคิดเห็น พูดสื่อสาร พูดรายงานใช้พจนานุกรม แต่งประโยค แต่งคา
คล้องจองและคาขวัญ ร้องเพลงพื้นบ้าน อธิบายขอ้ คดิ ท่องจาบทอาขยาน และบทรอ้ ยกรอง
มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง ดู และสนทนา เห็นคุณค่าของเพลงพื้นบ้าน
บทอาขยาน บทร้อยแก้ว และบทร้อยกรอง มีนิสัยรักการอ่าน มีทักษะทางภาษาเป็นเคร่ืองมือในการเขียน
ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน ซื่อสัตย์ สุจริต มีวนิ ยั รกั ความเป็นไทย
มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8
ท 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8
ท 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6
ท 3.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7
ท 4.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4
ท 5.1
รวมทั้งหมด 33 ตวั ชีว้ ัด
๓๘
คาอธบิ ายรายวชิ า
ท 15101 ภาษาไทย
รายวชิ าพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 เวลา 160 ชั่วโมง
การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง การอธิบายความหมายของคา ประโยคและ
ข้อความที่เป็นการบรรยายและการพรรณนา อธิบายความหมายโดยนัยจากเร่ืองท่ีอ่าน การแยกข้อเท็จจริง
และข้อคิดเห็นจากเร่ืองท่ีอ่าน การวิเคราะห์และ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ืองท่ีอ่าน เพ่ือนาไปใช้ในการ
ดาเนินชวี ติ การอา่ นงานเขียนเชิงอธิบาย คาสัง่ ข้อแนะนาและปฏิบตั ิตามอ่านหนังสือที่มีคุณคา่ ตามความ
สนใจอย่างสม่าเสมอและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเรื่องที่อ่าน การมีมารยาทในการอ่าน การคัดลายมือตัว
บรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด การเขียนสื่อสารโดยใช้คาได้ถูกต้อง ชัดเจนและเหมาะสม การเขียน
แผนภาพโครงเรื่อง แผนภาพความคิดเพ่ือใช้พัฒนางานเขียน การเขียนยอ่ ความจากเร่ืองท่ีอ่าน การเขียนจด
หมายถึงผู้ปกครองและญาติ การเขียนแสดงความรู้สึกแลความคิดเห็นได้ตรงตามเจตนา การกรอกแบบ
รายการต่าง ๆ การเขียนเร่ืองตามจินตนาการ การมีมารยาทในการเขียน การพูดแสดงความรู้ ความ
คิดเห็น ความรู้สึกจากเรื่องท่ีฟังและดู การต้ังคาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเร่ืองที่ฟังและดู การ
วเิ คราะห์ความน่าเชือ่ ถอื จากการฟังและดู การพูดรายงานเรือ่ งหรอื ประเดน็ ท่ศี ึกษาคน้ ควา้ จากการฟัง การดู
และการสนทนา มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด การระบุชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค การ
จาแนกส่วนประกอบของประโยค การเปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถิ่น การใช้คาราชาศัพท์
การบอกคาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย การแต่งบทร้อยกรอง การใช้สานวนส่ือความได้ถูกต้อง การ
สรปุ เรือ่ งจากวรรณคดหี รอื วรรณกรรมท่อี ่าน การระบคุ วามรู้และขอ้ คดิ จากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรม
ท่ีสามารถนาไปใช้ในชีวิตจริง การอธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม การท่องจาบทอาขยานตามที่
กาหนดและบทรอ้ ยกรองที่มคี ณุ ค่าตามความสนใจ
ฝึกทักษะอ่านร้อยแก้วและร้อยกรอง ใช้คาให้ตรงตามความหมายของคา รวมถึง คาท่ีมี
ความหมายโดยนัย จาแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น วิเคราะห์ แสดงความคิดเห็นจากเร่ืองท่ีอ่านจาก
ข้อความ คัดลายมือ เขียนสื่อสาร เขียนแผนภาพโครงเรื่องและการเขียนแผนภาพความคิด ย่อความและ
เขียนจดหมาย เขียนเรื่องตามจินตนาการ พูดแสดงความรู้ ความคิด ความเข้าใจ และความรู้สึกจากการ
อ่าน การฟังและการดู ต้ังคาถามตอบคาถามเชิงเหตุผล พูดรายงาน ใช้คาราชาศัพท์ ศึกษาและเข้าใจ
ในเร่ืองชนิดและหน้าท่ีของคาในประโยคคาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ฝึกจาแนกส่วนประกอบของ
ประโยค ฝึกเปรียบเทียบภาษาไทยกับภาษาถิ่น แต่งบทร้อยกรอง การใช้สานวน การสรุปข้อคิดจากเร่ืองท่ี
อา่ นและนาไปใชใ้ นชวี ติ จริง ร้องเพลงพนื้ บ้าน ทอ่ งจาบทอาขยาน
มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด มีนิสัยรักการอ่าน รักการเขียน
รักการฟังและรักการดู เห็นคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม รักการศึกษาค้นคว้ามีวิจารณญาณในการ
อ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด ภูมิใจในภาษาไทยและรักภาษาไทย ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้
มุ่งม่ันในการทางาน รักความเปน็ ไทย และมจี ิตสาธารณะ
๓๙
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7, ป.5/8
ท 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7, ป.5/8, ป.5/9
ท 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5
ท 3.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7
ท 4.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4
ท 5.1
รวมท้ังหมด 33 ตวั ช้ีวัด
๔๐
คาอธบิ ายรายวิชา
ท 16101 ภาษาไทย
รายวิชาพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 160 ช่วั โมง
การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคาประโยคและโวหาร
ต่างๆ อ่านเร่ืองสั้นๆอย่างหลากหลาย การแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องท่ีอ่าน การอธิบาย การนา
ความรู้และความคิดจากเร่ืองที่อ่านไปตัดสินแก้ปัญหาในการดาเนินชีวิต อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คาสั่ง
คาแนะนาและปฏิบัติตาม การอธิบายความหมายของข้อมูลจากแผนผัง แผนท่ี แผนภูมิและกราฟ การสร้าง
นสิ ัยรักการอ่านโดยเลือกอ่านหนังสือตามความสนใจและอธบิ ายคุณคา่ ที่ไดร้ ับ การมีมารยาทในการอ่าน การ
คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัดการเขียนสื่อสารโดยใช้คาได้ถูกต้องชัดเจนและเหมาะสมการ
เขียนแผนภาพโครงเรื่อง แผนภาพความคิดเพ่ือใช้พัฒนางานเขียน เขียนเรียงความ เขียนย่อความ เขียน
จดหมายส่วนตัว การกรอกแบบรายการต่างๆ การเขียนเร่ืองตามจินตนาการอย่างสร้างสรรค์ การมีมารยาท
ในการเขยี น การพูดแสดงความรู้ ความเข้าใจในจดุ ประสงค์ของเรอ่ื งที่ฟังและดู การตงั้ คาถามและตอบคาถาม
เชิงเหตุผลจากเร่ืองท่ีฟังและดู การวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากการฟังและดูสื่อโฆษณาอย่างมีเหตุผล พูด
รายงานเร่ืองหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดูและการสนทนา พูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผลและ
น่าเชื่อถือ การมีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค ใช้คาได้
เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคลรวมรวม และบอกความหมายของคาภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย
การระบลุ ักษณะของประโยค การแตง่ บทร้อยกรอง การวิเคราะห์และเปรียบเทียบสานวนที่เป็นคาพังเพยและ
สุภาษิตการแสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน การเล่านิทานพ้ืนบ้านท้องถ่ินของตนเอง
และนิทานพ้ืนบ้านของท้องถิ่นอื่นอธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านและนาไปประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตจริง การท่องจาบทอาขยานตามทีก่ าหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณคา่ ตามความสนใจ
ฝึกทักษะการอ่านร้อยแก้วและร้อยกรอง สรุปใจความสาคัญ นาข้อคดิ ไปใช้แก้ปัญหาในชวี ิตจริง
การคัดลายมอื ทกั ษะงานเขยี นตา่ ง ๆการเขียนรายงานจากการศึกษาคน้ คว้าการเขยี นแผนภาพโครงเร่ืองและ
การเขียนแผนภาพความคิดการพูดแสดงความรู้ความคิดความเข้าใจประเมินความน่าเชื่อถือจากการอ่าน การ
ฟังและการดู จากคาโฆษณาอย่างมีเหตุและผล พูดรายงาน ศึกษาและเข้าใจในหลักภาษาไทย สานวนโวหาร
ตา่ ง ๆนาไปใช้ได้ ศึกษาเพลงพนื้ บ้าน นิทานพ้ืนบา้ น วรรณคดีและวรรณกรรม ทอ่ งจาบทอาขยาน
มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด มีนิสัยรักการอ่าน การเขียน เห็น
คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม รักการศึกษาค้นคว้ามีวิจารณญาณในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู
และการพูด ภูมิใจในความเป็นชาติท่ีมีภาษาไทยเป็นภาษาประจาชาติ เห็นความงดงามของภาษาและรัก
ภาษาไทย ซือ่ สัตย์สจุ รติ มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ม่งุ มน่ั ในการทางาน รักความเปน็ ไทย และมีจติ สาธารณะ
๔๑
มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9
ท 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9
ท 2.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6
ท 3.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6
ท 4.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4
ท 5.1
รวมทั้งหมด 34 ตวั ช้ีวัด
๔๒
คาอธิบายรายวิชา
ค 11101 คณติ ศาสตร์
รายวิชาพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลา 200 ชว่ั โมง
บอกจานวนของส่ิงต่างๆ แสดงส่ิงต่างๆตามจานวนที่กาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก
ตัวเลขไทยแสดงจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ เปรียบเทียบจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ โดยใช้
เคร่ืองหมาย = > < เรียงลาดับจานวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ตงั้ แต่ ๓ ถงึ ๕ จานวน หาค่าของตัว ไม่
ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวก และประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบของจานวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐และ ๐
แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบของจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ระบุ
จานวนท่ีหายไปในแบบรูปของจานวนที่เพ่ิมขึ้นหรือลดลงทีละ ๑ และทีละ ๑๐ และระบุรูปที่หายไปในแบบรูป
ซ้าของรูปเรขาคณิตและรูปอื่น ๆ ที่สมาชิกในแต่ละชุดที่ซ้ามี ๒รูป วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร
เป็นเมตร วัดและเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัมเป็นขีด จาแนกรูปสามเหล่ียม รูปส่ีเหล่ียม วงกลม วงรี ทรง
ส่ีเหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา
เมื่อกาหนดรปู ๑ รปู แทน ๑ หนว่ ย
มีความสามารถในการใช้กระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการคิดวิเคราะห์ วางแผน
แกป้ ญั หา และเลอื กใช้วิธกี ารท่ีเหมาะสม โดยคานึงถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบพร้อมทงั้ ตรวจสอบความ
ถูกต้อง มีความสามารถในการใช้รูป ภาษา และสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร สื่อความหมาย
สรุปผล และนาเสนอได้ อย่างถกู ต้องชัดเจน มคี วามสามารถในการใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือใน
การเรียนรู้คณิตศาสตร์เน้ือหาต่าง ๆ หรือศาสตร์อื่น ๆ และนาไปใช้ในชีวิตจริง มีความสามารถในการให้
เหตผุ ล รบั ฟังและให้เหตผุ ลสนบั สนนุ หรอื โต้แยง้ เพื่อนาไปสกู่ ารสรปุ โดยมขี ้อเทจ็ จรงิ ทางคณิตศาสตรร์ องรับ
มคี วามสามารถในการขยายแนวคดิ ที่มีอยเู่ ดมิ หรอื สรา้ งแนวคิดใหมเ่ พ่อื ปรับปรงุ พัฒนาองค์ความรู้
เพื่อให้เห็นคุณค่า และมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบ มีระเบียบ
รอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ มีความคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรคแ์ ละมคี วามเชื่อม่ันในตนเอง
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3,ป.1/4, ป.1/5
ค. 1.1 ป.1/1
ค. 1.2 ป.1/1, ป.1/2
ค. 2.1 ป.1/1
ค. 2.2 ป.1/1
ค. 3.1
รวม 10 ตัวชวี้ ดั
๔๓
คาอธบิ ายรายวิชา
ค 12101 คณิตศาสตร์
รายวิชาพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 200 ชว่ั โมง
ศึกษาการเขียนและอ่านตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทยและตัวหนังสือแสดงปริมาณของสิ่งของ
หรือจานวนนับท่ีไม่เกินหน่ึงพันและศูนย์ การนับเพิ่มทีละ 5 ทีละ 10 ทีละ 100 และการนับลดทีละ 2
ทีละ 10 และทีละ 100 จานวนคู่ จานวนค่ี หลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลักและการใช้ 0 เพ่ือยึด
ตาแหน่งของหลัก การเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจานวนและการใช้
เครื่องหมาย = < > การเรียงลาดับจานวนไม่เกินห้าจานวน การบวก ลบ คูณ หารและบวก ลบ
คูณ หารระคนของจานวนนบั ไมเ่ กินหน่ึงพนั และศนู ย์ การวเิ คราะหแ์ ละหาคาตอบของโจทย์ปัญหาและโจทย์
ปัญหาระคนของจานวนนับไม่เกินหนึ่งพันและศูนย์ การวัดความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตรและ
เปรยี บเทียบความยาวในหนว่ ยเดียวกัน การชง่ั นา้ หนักเป็นกโิ ลกรัมและขีดและเปรยี บเทียบน้าหนักในหน่วย
เดียวกัน การตวงเป็นลิตร การเปรียบเทียบปริมาตรและความจุเป็นลิตร ชนิดและค่าของเงินเหรียญและ
ธนบัตร การเปรียบเทียบค่าของเงินเหรียญและธนบัตร การบอกจานวนเงินท้ังหมดเป็นบาท สตางค์ การ
บอกเวลาเป็นนาฬิกากับนาที การอ่านปฏิทิน เดือน และอันดับที่ของเดือน การแก้ปัญหาเกี่ยวกับการวัด
ความยาว การชงั่ การตวง และเงนิ ชนดิ ของรปู เรขาคณิตสองมิติ รูปสามเหลี่ยม รูปส่เี หลีย่ ม รปู วงกลม
และรปู วงรี ชนดิ ของรปู เรขาคณติ สามมิติ รปู ทรงสเ่ี หล่ียมมมุ ฉาก ทรงกลม หรือทรงกระบอก การจาแนก
รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากกับทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก และรูปวงกลมกับทรงกลม การเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติโดยใช้
แบบของรูปเรขาคณิต การบอกรูปและความสัมพันธ์ในแบบรูปของรูปที่มีรูปร่าง ขนาดหรือสีท่ีสัมพันธ์กัน
อย่างใดอยา่ งหนง่ึ
ใช้วิธีการที่หลากหลายในการแก้ปัญหา ใช้ความรู้ ทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการ
แก้ปัญหา ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจและสรุปผลได้อย่างเหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทาง
คณิตศาสตร์ในการส่ือสาร สื่อความหมาย และการนาเสนอเช่ือมโยงความรู้ต่างๆในคณิตศาสตร์และ
เช่อื มโยงคณิตศาสตรก์ บั ศาสตรอ์ นื่ ๆ
ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบ มีความคิดสร้างสรรค์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย
ใฝเ่ รียนรู้ และมีความมุง่ มั่นในการทางาน
มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ดั ป.2/1, ป.2/2,ป.2/3, ป.2/4,ป.2/5,ป.2/6,ป.2/7,ป.2/8
ค 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4,ป.2/5,ป.2/6
ค 2.1 ป.2/1
ค 2.2 ป.2/1
ค 3.1
รวมท้งั หมด 16 ตัวช้ีวัด