๙๔
คาอธิบายรายวชิ า
ง 14101 การงานอาชีพ
รายวิชาพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 40 ชว่ั โมง
ศึกษาและอธิบายเหตุผลในการทางานให้บรรลุเป้าหมาย อธิบายความหมายและความสาคัญ
ของอาชีพ
ทางานบรรลุเป้าหมายท่ีวางไว้อย่างเป็นข้ันตอน ด้วยความขยัน อดทน ซ่ือสัตย์ ปฏิบัติตน
อย่างมีมารยาทในการทางาน ใช้พลังงานและทรัพยากรในการทางานอย่างประหยัดและมีมารยาทในการ
ทางาน มีความรับผิดชอบ ขยัน อดทน รับผิดชอบ ซอื่ สัตย์ มคี ุณธรรมในการทางาน มีนิสยั รกั การทางาน
กระตอื รอื รน้ รอบคอบ ประหยัด ปลอดภัย และมจี ิตสานกึ ในการอนุรกั ษ์ พลงั งานและทรัพยากร
เพ่อื ให้ผเู้ รยี นเกิดเจตคติทดี่ ตี อ่ การทางาน ตลอดจนนาความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้
มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4
ง 1.1 ป4/1
ง 2.1
ตัวชี้วดั รวม 5 ตวั ช้วี ัด
๙๕
คาอธบิ ายรายวชิ า
ง 15101 การงานอาชีพ
รายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 40 ช่ัวโมง
ศึกษาและอธิบายเหตุผลในการทางานแต่ละขั้นตอนถูกต้องตามกระบวนการทางาน ใช้ทักษะ
ในการจัดการ การทางานอย่างเปน็ ระบบ มคี วามประณตี มีความคดิ สรา้ งสรรค์
ปฏิบัติตนอย่างมีมารยาทในการทางานกับสมาชิกในครอบครัว สร้างสิ่งของเคร่ืองใช้ตามความ
สนใจอยา่ งปลอดภยั โดยกาหนดปัญหาหรอื ความตอ้ งการ การสร้างส่งิ ของเครอื่ งใช้อย่างเปน็ ขนั้ ตอน ตั้งแต่
กาหนดปัญหา ความต้องการรวบรวมข้อมูลเลือกวิธีการ ลงมือสร้างและประเมินผล และมีการจัดการ
ส่ิงของเครื่องใชด้ ว้ ยการแปรรปู แลว้ นากลับมาใช้ใหม่
มีจิตสานึกการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างประหยดั และคุ้มคา่ มีความรับผิดชอบ ความคิด
สรา้ งสรรคใ์ นการแก้ปญั หา สงั คม เห็นคณุ ค่าของการประกอบอาชีพสุจริต
มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4
ง 1.1 ป.5/1, ป.5/2
ง 2.1
ตัวชี้วดั รวม 6 ตัวช้ีวดั
๙๖
คาอธบิ ายรายวชิ า
ง 16101 การงานอาชพี
รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 40 ชว่ั โมง
อภิปรายแนวทางในการดูแลรักษาสมบัติภายในบ้าน การซ่อมแซมเส้ือผ้าด้วยการปะและการชุน
การจัดอาหารให้สมาชิกในครอบครัว การเตรียมประกอบอาหารและเคร่ืองดื่มให้สมาชิกในครอบครัว การ
เล้ียงปลาสวยงาม การติดตง้ั ประกอบของใชใ้ นบ้าน การสร้างของใชข้ องตกแต่งให้สมาชิกในครอบครัวหรือ
เพอื่ นในโอกาสต่าง ๆ โดยใชแ้ ผนทค่ี วามคิดและทักษะการสรา้ งชิ้นงาน การวางแผนในการเลือกอาชีพ การ
ระบคุ วามรคู้ วามสามารถ และคณุ ธรรมท่ีสมั พันธ์กบั อาชีพท่ีสนใจ
ฝึกปฏิบัติดูแลรักษาสมบัติภายในบ้าน ซ่อมแซมเสื้อผ้าด้วยการปะและการชุน จัดอาห าร
ให้สมาชิกในครอบครัว เตรียมประกอบอาหารและเครื่องด่ืมให้สมาชิกในครอบครัว เลี้ยงปลาสวยงาม
ติดต้ัง ประกอบของใช้ในบ้าน สร้างของใช้ ของตกแต่งให้สมาชิกในครอบครัวหรือเพ่ือน ในโอกาสต่าง ๆ
โดยใช้แผนที่ความคิด และทักษะการสร้างชิ้นงาน โดยใช้ทักษะกระบวนการทางานอย่างเป็นขั้นตอนการ
จัดการ กระบวนการแกป้ ัญหา การทางานรว่ มกันและการแสวงหาความรู้ วางแผนในการเลือกอาชีพ ระบุ
ความรคู้ วามสามารถ และคุณธรรมทสี่ มั พันธก์ ับอาชพี ทีส่ นใจ
เพอื่ ให้ผ้เู รยี นเกิดเจตคตทิ ด่ี ตี ่อการทางาน มีมารยาทในการทางานกับครอบครวั และผู้อื่น มีคณุ ธรรม
ในการประกอบอาชพี ตลอดจนนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้
มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3
ง 1.1 ป.6/1, ป.6/2
ง 2.1
รวมทงั้ หมด 5 ตวั ช้วี ัด
๙๗
คาอธิบายรายวชิ า
อ 11101 ภาษาอังกฤษ
รายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา 120 ช่ัวโมง
ศกึ ษาคาส่งั ง่าย ๆ ท่ีใช้ในห้องเรยี น รู้ความหมายของคา และกลุ่มคาท่ฟี ัง ระบุตัวอักษรและเสียง
อ่านออกเสียงและสะกดคาง่าย ๆ ตอบคาถามจากเร่ืองที่ฟัง พูดโต้ตอบด้วยคาส้ันๆง่ายๆในการส่ือสาร
ระหว่างบุคคลตามแบบท่ีฟัง การทักทาย การกล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ การแนะนาตนเอง คาส่ังที่ใช้ใน
ห้องเรียน คาศัพท์ สานวนภาษา และประโยคที่บอกความต้องการง่าย ๆ ของตนเอง พูดขอและให้ข้อมูลง่าย
ๆ เก่ียวกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว เข้าใจและอ่านคาขวัญจังหวัดนครปฐม ระบุตัวอักษรและเสียงของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย บอกคา บอกคาศัพท์ท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ฟังและพูดใน
สถานการณง์ า่ ย ๆ ในห้องเรยี น และการใชภ้ าษาต่างประเทศ เพอื่ รวบรวมคาศัพทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งใกลต้ วั
ปฏิบัติตามคาส่ังง่าย ๆ ท่ีใช้ในห้องเรียน อ่านออกเสียงและสะกดคาง่าย ๆ เลือกภาพตรงตาม
ความหมายของคาและกลุ่มคาท่ีฟัง ตอบคาถามจากการฟังเร่ืองใกล้ตัว พูดโต้ตอบด้วยคาสั้น ๆ
ง่าย ๆ ในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คล ใช้คาสั่งง่าย ๆ บอกความต้องการง่าย ๆ ตามแบบของตนเอง พูดขอและ
ให้ข้อมูลง่าย ๆ เก่ียวกับตนเองตามแบบท่ีฟัง พูดให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว พูดและทาท่าทาง
ประกอบตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บอกชื่อและคาศัพท์เกี่ยวกับเทศกาลสาคัญของเจ้าของภาษา เข้า
ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะสมกับวยั ระบุตัวอักษรและเสยี งตัวอักษรของภาษาตา่ งประเทศ
และภาษาไทย บอกคาศัพทท์ ีเ่ ก่ียวข้องกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื ใชภ้ าษาในการฟัง/พูดในสถานการณ์งา่ ย ๆ
ที่เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียน ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคาศพั ท์ท่ีเกยี่ วข้องใกล้ตัวจากสื่อตา่ ง ๆ
รักการทางาน เห็นคุณค่า มีทักษะการส่ือสารทางภาษา นาเสนอข้อมูล แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล เข้าใจความสัมพันธ์และยอมรับความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ
เจา้ ของภาษากับภาษาและวฒั นธรรมไทย และมีเจตคตทิ ่ดี ีต่อการใช้ภาษาตา่ งประเทศ
มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4
ต 1.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4
ต 1.2 ป.1/1
ต 1.3 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3
ต 2.1 ป.1/1
ต 2.2 ป.1/1
ต 3.1 ป.1/1
ต 4.1 ป.1/1
ต 4.2
รวมท้งั หมด 16 ตวั ช้วี ัด
๙๘
คาอธิบายรายวิชา
อ 12101 ภาษาองั กฤษ
รายวชิ าพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 120 ชว่ั โมง
ศึกษาคาส่ังและคาขอร้องง่าย ๆ ท่ีฟังที่ใช้ในห้องเรียน ตัวอักษรและเสียง อ่านออกเสียงคา
สะกดคาและอ่านประโยคง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือกภาพตรงตามความหมายของคา กลุ่มคาและ
ประโยคที่ฟังเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ตอบคาถามจากการฟังประโยค บท
สนทนา หรือนิทานง่าย ๆ ท่ีมีภาพประกอบ พูดโต้ตอบด้วยคาส้ัน ๆ ง่าย ๆ ในการส่ือสารระหว่างบุคคลตาม
แบบที่ฟังที่ใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ การแนะนาตนเอง คาสั่งและคาขอร้องง่าย ๆ บอก
ความต้องการ พูดขอและให้ข้อมูล ง่าย ๆ ด้วยคาศัพท์ สานวนภาษา และประโยคท่ีใช้ขอและให้ข้อมูล
เก่ียวกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว พูดและทาท่าประกอบตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ชื่อและคาศัพท์
เก่ียวกับเทศกาลสาคัญของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัย บอก
ความแตกตา่ งของตวั อักษรและเสยี งตัวอักษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย คาศพั ทท์ ี่เกีย่ วข้องกับกลุ่ม
สาระการเรียนรู้อื่น ใช้ภาษาในการฟัง/พูดในสถานการณ์ง่าย ๆ ท่ีเกิดขึ้นในห้องเรียน และการใช้
ภาษาตา่ งประเทศ เพ่อื รวบรวมคาศพั ท์ทีเ่ กย่ี วข้องใกล้ตวั
ปฏิบัติตามคาสั่งและคาขอร้องง่าย ๆ ท่ีฟังท่ีใช้ในห้องเรียน ระบุตัวอักษรและเสียง อ่านออก
เสียงคา สะกดคาและอ่านประโยคง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือกภาพตรงตามความหมายของคา
กลุ่มคาและประโยคท่ีฟังเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ตอบคาถามจากการฟัง
ประโยค บทสนทนา หรอื นิทานงา่ ย ๆ ท่มี ีภาพประกอบ พดู โตต้ อบด้วยคาสนั้ ๆ งา่ ย ๆ ในการสื่อสารระหวา่ ง
บุคคลตามแบบที่ฟังท่ีใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ การแนะนาตนเอง ใช้คาส่ังและคาขอร้อง
ง่าย ๆ บอกความต้องการ พูดขอและให้ข้อมูล ง่าย ๆ ด้วยคาศัพท์ สานวนภาษา และประโยคท่ีใช้ขอและให้
ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว พูดและทาท่าประกอบตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บอกช่ือและ
คาศัพท์เกี่ยวกับเทศกาลสาคัญของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัย
ระบุตัวอักษรและเสียงตัวอักษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย คาศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการ
เรียนรู้อื่น ใช้ภาษาในการฟัง/พูดในสถานการณ์ง่าย ๆ ที่เกิดข้ึนในห้องเรียน และการใช้ภาษาต่างประเทศ
เพ่อื รวบรวมคาศัพทท์ ีเ่ กย่ี วข้องใกล้ตัว
รักการทางาน เห็นคุณค่า มีทักษะการสื่อสารทางภาษา นาเสนอข้อมูล แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล เข้าใจความสัมพันธ์และยอมรับความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ
เจา้ ของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และมีเจตคตทิ ี่ดีต่อการใชภ้ าษาตา่ งประเทศ
๙๙
มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4
ต 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4
ต 1.2 ป.2/1
ต 1.3 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3
ต 2.1 ป.2/1
ต 2.2 ป.2/1
ต 3.1 ป.2/1
ต 4.1 ป.2/1
ต 4.2
รวมท้ังหมด 16 ตวั ชีว้ ัด
๑๐๐
คาอธบิ ายรายวิชา
อ 13101 ภาษาองั กฤษ
รายวิชาพืน้ ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 120 ชัว่ โมง
ศึกษาคาสั่งและคาขอร้องท่ีฟังหรืออ่านที่ใช้ในห้องเรียน อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลุ่มคา
ประโยคและบทพูดเข้าจังหวะง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุภาพหรือสัญลักษณ์ตรงตาม
ความหมายของกลุ่มคาและประโยคท่ีฟังเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล้อมใกล้ตัว ตอบคาถาม
จากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนา หรือนิทานง่าย ๆ ที่มีภาพประกอบ พูดโต้ตอบด้วยคาส้ัน ๆ ง่าย ๆ
ในการส่ือสารระหว่างบุคคลตามแบบที่ฟังท่ีใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/
ข้อความท่ีใช้แนะนาตนเอง คาสั่งและคาขอร้องง่าย ๆ บอกความต้องการ พูดขอและให้ข้อมูลง่าย ๆ ด้วย
คาศัพท์ สานวนภาษา และประโยคที่ใช้ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเพื่อน คาและประโยคท่ีใช้แสดง
ความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับส่ิงต่าง ๆ ใกล้ตัวหรือกิจกรรมต่าง ๆ คาและประโยคท่ีใช้ในการพูดให้ข้อมู ล
เกี่ยวกับตนเอง คา กลุ่มคาท่ีมีความหมายเก่ียวกับบุคคล สัตว์ และสิ่งของ มารยาทสังคม/วัฒนธรรมของ
เจ้าของภาษา ช่ือและคาศัพท์เก่ียวกับเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา
เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเี่ หมาะสมกับวัย ความแตกต่างของเสียงตวั อักษร คา กลุ่มคา และ
ประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย คาศัพทท์ ี่เกยี่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ภาษาในการฟัง/
พดู ในสถานการณง์ า่ ย ๆ ที่เกิดขนึ้ ในหอ้ งเรยี น และการใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศัพท์ที่เกย่ี วข้อง
ใกล้ตวั จากส่ือต่าง ๆ
ปฏิบัติ ตามคาส่ังและคาขอร้องที่ฟังหรืออ่านท่ีใช้ในห้องเรียน อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่าน
กลุ่มคา ประโยคและบทพูดเขา้ จังหวะง่าย ๆ ถกู ต้องตามหลกั การอ่าน เลือก/ระบุภาพหรอื สัญลักษณต์ รงตาม
ความหมายของกลุ่มคาและประโยคที่ฟังเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ตอบคาถาม
จากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนา หรือนิทานง่าย ๆ ท่ีมีภาพประกอบ พูดโต้ตอบด้วยคาส้ัน ๆ ง่าย ๆ
ในการส่ือสารระหว่างบุคคลตามแบบที่ฟังท่ีใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/
ข้อความท่ีใช้แนะนาตนเอง ใช้คาสั่งและคาขอร้องง่าย ๆ บอกความต้องการง่าย ๆ พูดขอและให้ข้อมูลง่าย ๆ
ด้วยคาศัพท์ สานวนภาษา และประโยคที่ใช้ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเพื่อน บอกความรู้สึกของ
ตนเองเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ใกล้ตัวหรือกิจกรรมต่าง ๆ พูดให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว จัดหมวดหมู่
คาตามประเภทของบุคคล สัตว์ และส่ิงของตามที่ฟังหรืออ่าน พูดและทาท่าประกอบตามมารยาท สังคม/
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บอกชื่อและคาศัพท์เก่ียวกับเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่
ของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัย บอกความแตกต่างของเสียง
ตัวอักษร คา กลุ่มคา และประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย บอกคาศัพท์ท่ีเกี่ยวข้องกับกลมุ่ สาระ
การเรียนรู้อ่ืน ฟัง/พูดในสถานการณ์ง่าย ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน ใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อรวบรวมคาศัพท์ที่
เก่ียวข้องใกลต้ ัว
รักการทางาน เห็นคุณค่า มีทักษะการส่ือสารทางภาษา นาเสนอข้อมูล แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล เข้าใจความสัมพันธ์และยอมรับความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ
เจ้าของภาษากับภาษาและวฒั นธรรมไทย และมเี จตคติท่ีดตี อ่ การใช้ภาษาต่างประเทศ
๑๐๑
มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4
ต 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4 , ป.3/5
ต 1.2 ป.3/1, ป.3/2
ต 1.3 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3
ต 2.1 ป.3/1
ต 2.2 ป.3/1
ต 3.1 ป.3/1
ต 4.1 ป.3/1
ต 4.2
รวมทงั้ หมด 18 ตัวชีว้ ดั
๑๐๒
คาอธิบายรายวชิ า
อ 14101 ภาษาองั กฤษ
รายวิชาพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 120 ชว่ั โมง
ปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนาง่ายๆ ที่ฟังหรืออ่าน อ่านออกเสียงคา สะกดคา
อ่านกลุ่มคา ประโยค ข้อความง่าย ๆ และบทพูดเข้าจังหวะถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือกสัญลักษณ์หรือ
ความหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสั้นๆที่ฟังหรืออ่าน ตอบคาถามจากการฟังและ
อ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ พูด/เขียนโต้ตอบในการส่ือสารระหว่างบุคคล ใช้คาขออนุญาต
ง่ายๆ พูด/เขียน แสดงความต้องการของตนเอง และขอความชว่ ยเหลือในสถานการณต์ ่างๆง่ายๆ พูด/เขียน
เพอ่ื ขอ และใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว พูดแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกับเร่ืองต่างๆ
ใกล้ตัว พูดวาดภาพ แสดงความสัมพันธข์ องสิ่งต่างๆใกลต้ ัวตามที่ฟังหรืออ่าน พูดแสดงความคิดเห็นง่ายๆ
เกี่ยวกับเรื่องต่างๆใกล้ตัว พูดและทาท่าทางประกอบอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของ
เจา้ ของภาษาตอบคาถามเก่ยี วกับเทศกาล วันสาคญั งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยงู่ า่ ยๆของเจ้าของภาษา
เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะกับวัย บุคคลสาคัญในท้องถ่ิน แหล่งท่องเท่ียวของจังหวัด
นครปฐม บอกความแตกต่างของเสียง ตัวอักษร คา กลุ่มคา ประโยคและข้อความของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย บอกความเหมือน ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษากับของไทย ค้นคว้า รวบรวมคาศัพท์ท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นและนาเสนอด้วยการพูด
การเขียน ฟัง และพูด อ่านในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษาใช้ภาษาต่างประเทศในการ
สืบคน้ และรวบรวมข้อมูลต่างๆ
อ่านออกเสียง กลุ่มคา ประโยค และบทพดู เข้าจังหวะง่ายๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น การส่ือ
ความ การฝึกปฏิบัติกิจกรรมทางภาษา กระบวนการกลุ่มที่ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง ได้ฝึกภาษาทั้งสถานการณ์
จาลอง และสถานการณ์จริง การพูดโต้ด้วยคาพูดง่ายๆ รูปภาพ สัญลักษณ์เป็นประโยคหรือข้อความสั้นๆ
การค้นคว้าหาความรดู้ ว้ ยตนเองโดยการใชส้ อ่ื เทคโนโลยแี ละแหล่งเรียนรู้
นาความรูไ้ ปใช้หรอื ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั มีจริยธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม
มที ักษะการสอื่ สารทัง้ การฟงั พดู อา่ น เขยี นภาษาองั กฤษกลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสมตามวัฒนธรรมภาษา
ยอมรบั ความแตกตา่ งระหวา่ งวฒั นธรรมเจ้าของภาษา
มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั
ต 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4
ต 1.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5
ต 1.3 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
ต 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
ต 2.2 ป.4/1, ป.4/2
ต 3.1 ป.4/1
ต 4.1 ป.4/1
ต 4.2 ป.4/1
รวมทง้ั หมด 20 ตวั ชวี้ ัด
๑๐๓
รายวชิ าพ้ืนฐาน คาอธบิ ายรายวิชา
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
อ 15101 ภาษาองั กฤษ
กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ
เวลา 120 ช่วั โมง
ปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ภาษาท่าทาง การเล่นเกม วาดภาพ หรือทาอาหารเคร่ืองด่ืม
คาแนะนาในสถานศึกษาและสังคมรอบตัว เข้าใจประโยคและข้อความสั้นๆ อ่านออกเสียง สะกดคา
กลุ่มคา ประโยคข้อความง่ายๆ พูดเข้าจังหวะถูกต้องตามหลักการอ่านออกเสียง ตรงตามความหมายของ
ประโยคและข้อความสั้นๆท่ีฟังหรืออ่าน ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทาน
ง่ายๆ พดู /เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล ใชค้ าถาม มารยาทในโอกาสต่างๆ ใช้คาขออนญุ าตง่ายๆ
พูด/เขียน แสดงความต้องการของตนเอง และขอความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆท่ีพบเห็นใน
ชีวิตประจาวันง่ายๆ พูด เขียน เพ่ือขอ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพ่ือน และครอบครัว พูดแสดง
ความรสู้ ึกของตนเองเก่ยี วกับเรื่องตา่ งๆใกล้ตัว พูดวาดภาพ แสดงความสมั พันธ์ของสิง่ ต่างๆใกลต้ ัวตามที่ฟัง
หรืออ่าน พูดแสดงความคิดเห็นง่ายๆเกี่ยวกับเร่ืองต่างๆใกล้ตัว พูดและทาท่าทางประกอบอย่างสุภาพตาม
มารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาตอบคาถามเกี่ยวกับเทศกาล วันสาคัญ งานฉลอง และชีวิต
ความเป็นอยู่ง่ายๆของเจ้าของภาษาเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะกับวัย บอกความ
แตกต่างของเสียง ตัวอักษร คา กลุ่มคา ประโยคและข้อความของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย บอก
ความเหมือน ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย
ค้นคว้า รวบรวมและนาเสนอด้วยการพูด การเขียน การอ่าน การฟัง และการเขียน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน
ห้องเรียนและแหล่งเรียนรู้อ่ืนๆ ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น และรวบรวมข้อมูลต่างๆ ตลอดจน
ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมในท้องถ่ิน สถานท่ีสาคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดนครปฐม ข่าวสารเหตุการณ์
สาคัญในทอ้ งถ่นิ
อ่านออกเสียง กลุ่มคา ประโยค และบทสนทนาเข้าจังหวะง่ายๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
การสื่อความ การฝึกปฏิบัติโดยใช้ กระบวนการ ฟัง พูด อ่าน และเขียน ตอบคาถาม ใช้คาส่ัง คาขอร้อง
และให้คาแนะนากลุ่มที่ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง ได้ฝึกภาษาท้ังสถานการณ์จาลอง และสถานการณ์จริง การพูด
โตต้ อบด้วยคาพูดง่ายๆและสภุ าพ ค้นคว้ารวบรวมคาศัพท์ พูดประโยคเดย่ี ว ประโยคผสม ข้อความสน้ั ๆ การ
ค้นควา้ หาความรู้ดว้ ยตนเองโดยการใชส้ อ่ื เทคโนโลยีและแหลง่ เรยี นรู้
นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม มีทักษะการ
สื่อสารทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมตามวัฒนธรรมภาษา ยอมรับ
ความแตกต่างระหว่างวฒั นธรรมเจา้ ของภาษา
๑๐๔
มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป5/4
ต 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5
ต 1.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3
ต 1.3 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3
ต 2.1 ป.5/1, ป.5/2
ต 2.2 ป.5/1
ต 3.1 ป.5/1
ต 4.1 ป.5/1
ต 4.2
รวมท้ังหมด 20 ตวั ช้ีวดั
๑๐๕
คาอธิบายรายวิชา
อ 16101 ภาษาองั กฤษ
รายวิชาพ้นื ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 120 ชั่วโมง
ปฏิบตั ิตาม คาส่ัง คาขอรอ้ ง ภาษาท่าทาง คาแนะนาในสถานศึกษาและสงั คมรอบตวั เขา้ ใจ
ประโยคและข้อความส้ันๆ อ่านออกเสียง สะกดคา กลุ่มคา ประโยคข้อความง่ายๆ พูดเข้าจังหวะ
ถูกต้องตามหลักการอ่านออกเสียง ตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสั้นๆที่ฟังหรืออ่าน ตอบ
คาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ พูด/เขียนโต้ตอบในการส่ือสารระหว่าง
บุคคล ใชค้ าขออนญุ าตง่ายๆ พดู /เขียน แสดงความต้องการของตนเอง และขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์
ต่างๆที่พบเห็นในชีวิตประจาวนั ง่ายๆ พูด เขียน เพ่ือขอ และให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง เพื่อน และครอบครวั
พูดแสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกย่ี วกับเรอ่ื งต่างๆใกล้ตวั พูดวาดภาพ แสดงความสัมพนั ธข์ องสง่ิ ต่างๆใกล้ตัว
ตามที่ฟังหรืออ่าน พูดแสดงความคิดเห็นง่ายๆเก่ียวกับเรื่องต่างๆใกล้ตัว พูดและทาท่าทางประกอบอย่าง
สภุ าพตามมารยาทสงั คม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษาตอบคาถามเกี่ยวกับเทศกาล วนั สาคัญ งานฉลอง
และชีวิตความเป็นอยู่ง่ายๆของเจ้าของภาษาเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะกับวัย บอก
ความแตกต่างของเสียง ตัวอักษร คา กลุ่มคา ประโยคและข้อความของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
บอกความเหมือน ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย
ค้นคว้า รวบรวมและนาเสนอด้วยการพูด การอ่าน การฟัง และการเขียน สถานการณ์ที่เกิดข้ึนในห้องเรียน
และแหล่งเรียนรู้อื่นๆ ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น และรวบรวมข้อมูลต่างๆ เสนอข้อมูลโดยการพูด
และการเขียนในเร่ืองเกี่ยวกับท้องถ่ิน เช่น แหล่งท่องเที่ยว พิธีกรรม ความเช่ือ ปัญหาสังคม การดารงชีวิต
ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพียง และข่าวสารเหตุการณต์ ่างๆในท้องถิ่น
อ่านออกเสียง กลุ่มคา ประโยค และบทสนทนางา่ ยๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน การส่อื ความ
การฝึกปฏิบัติโดยใช้ กระบวนการ ฟัง พูด อ่าน และเขียน ตอบคาถาม ใช้คาสั่ง คาขอร้อง และให้
คาแนะนากลุ่มท่ีผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง ได้ฝึกภาษาทั้งสถานการณ์จาลอง และสถานการณ์จริง การพูดโต้ตอบ
ด้วยคาพดู ง่ายๆและสุภาพ คน้ ควา้ รวบรวมคาศัพท์ พดู ประโยคเดย่ี ว ประโยคผสม ขอ้ ความสนั้ ๆ การค้นคว้า
หาความรู้ดว้ ยตนเองโดยการใชส้ ือ่ เทคโนโลยีและแหล่งเรยี นรู้
นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม มีทักษะการ
ส่ือสารท้ังการฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมตามวัฒนธรรมภาษา ยอมรับ
ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมเจา้ ของภาษา
๑๐๖
มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป6/4
ต 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5
ต 1.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3
ต 1.3 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3
ต 2.1 ป.6/1, ป.6/2
ต 2.2 ป.6/1
ต 3.1 ป.6/1
ต 4.1 ป.6/1
ต 4.2
รวมท้ังหมด 20 ตวั ช้ีวดั
๑๐๗
รายวิชาเพิม่ เตมิ (บรู ณาการ) คาอธบิ ายรายวชิ า
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1
ส 11231 หน้าท่ีพลเมอื ง
กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้มีมารยาทไทย ในเรอ่ื งการแสดงความเคารพ การรับประทานอาหาร การทักทายด้วย
วาจาและยิม้ แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทตี ่อพ่อแม่และญาตผิ ู้ใหญ่ เหน็ ความสาคัญของภาษาไทย ปฏบิ ัติตน
เป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหม่ันเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และ
ยอมรับผลที่เกิดจากการกระทาของตนเอง
เข้าร่วมกิจกรรมเก่ียวกับชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท
ในเร่ืองการออมและการประหยัด หลักการทรงงาน ในเรื่องการประหยัด ความเรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด
ความซ่ือสัตย์สุจริตและจริงใจต่อกัน และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้มีวนิ ัยในตนเอง ใน
เร่ืองความซ่ือสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้ังใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรับผลท่ีเกิดจากการ
กระทาของตนเอง
ปฏิบัติตนตามข้อตกลง กติกา และหน้าท่ีท่ีต้องปฏิบัติในห้องเรียน ในเรื่องการรักษาความสะอาด
การรักษาของใช้ร่วมกัน และการส่งงาน ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ในฐานะสมาชิกท่ีดีของครอบครัวและ
ห้องเรียน ในเร่ืองการเช่ือฟังคาส่ังสอนของพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่และครู ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง
ในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรับผลท่ีเกิดจาก
การกระทาของตนเอง
โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ
กระบวนการแกป้ ญั หา
เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนมลี ักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภมู ิใจและรักษาไว้ซึ่งความเปน็ ไทย แสดงออกถึงความรัก
ชาติ ยึดม่ันในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดาเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่าง
สันติ สามารถจัดการความขัดแยง้ ด้วยสันติวธิ ี และมีวินัยในตนเอง
ผลการเรยี นรู้
1. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ มี ารยาทไทย
2. แสดงออกถงึ ความกตญั ญูกตเวทีต่อบุคคลในครอบครัว
3. เหน็ ความสาคัญของภาษาไทย
4. เขา้ ร่วมกจิ กรรมเก่ยี วกบั ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตรยิ ์
5. ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6. ปฏบิ ัตติ นตามขอ้ ตกลง กติกา และหนา้ ที่ทีต่ อ้ งปฏบิ ตั ิในห้องเรียน
7. ปฏิบัตติ นตามบทบาทหน้าทใี่ นฐานะสมาชกิ ท่ีดขี องครอบครวั และหอ้ งเรยี น
8. ยอมรับความเหมือนและความแตกตา่ งของตนเองและผู้อืน่
9. ยกตัวอยา่ งความขดั แยง้ ในหอ้ งเรียนและเสนอวิธกี ารแกป้ ัญหาโดยสันติวิธี
10. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ วี ินยั ในตนเอง
รวม 10 ผลการเรียนรู้
หมายเหตุ วชิ าหนา้ ทีพ่ ลเมือง บูรณาการกบั วชิ าสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
๑๐๘
คาอธิบายรายวชิ า
ส 12232 หนา้ ที่พลเมอื ง
รายวิชาเพ่มิ เติม (บูรณาการ) กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2
ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทย ในเรื่องการพูดด้วยถ้อยคาไพเราะและการมีกิริยาสุภาพอ่อนน้อม
แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบุคคลในโรงเรียน เห็นประโยชน์ของการแต่งกายด้วยผ้าไทย ปฏิบัติตน
เป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้ังใจปฏิบัติหน้าที่ และ
ยอมรบั ผลทเี่ กิดจากการกระทาของตนเอง
เข้าร่วมกิจกรรมเก่ียวกับชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท
ในเรื่องความขยันและความอดทน หลกั การทรงงาน ในเรอื่ งการพ่งึ ตนเองและรู้ รกั สามคั คี และหลกั ปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน
ใฝห่ าความรู้ ตั้งใจปฏิบตั ิหนา้ ท่ี และยอมรับผลทเ่ี กดิ จากการกระทาของตนเอง
ปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบ และหน้าท่ีท่ีต้องปฏิบัติในโรงเรียน ในเร่ืองการแต่งกาย การเข้าแถว การ
ดูแลพ้ืนท่ีท่ีได้รับมอบหมาย ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าท่ีในฐานะสมาชิกท่ีดีของห้องเรียนและโรงเรียน ใน
เร่ืองการเป็นผู้นาและการเป็นสมาชิกที่ดี หน้าท่ีและความรับผิดชอบ ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเร่ือง
ความซ่ือสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ี และยอมรับผลท่ีเกิดจากการ
กระทาของตนเอง
เพ่อื ใหผ้ ้เู รียนมีลักษณะที่ดขี องคนไทย ภาคภมู ใิ จและรกั ษาไว้ซ่ึงความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรัก
ชาติ ยึดม่ันในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดาเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่าง
สันติ สามารถจัดการความขดั แยง้ ดว้ ยสันตวิ ิธี และมวี ินัยในตนเอง
ผลการเรียนรู้
1. ปฏบิ ัติตนเป็นผูม้ ีมารยาทไทย
2. แสดงออกถงึ ความกตัญญูกตเวทตี ่อบคุ คลในโรงเรยี น
3. เหน็ ประโยชนข์ องการแตง่ กายดว้ ยผา้ ไทย
4. เข้าร่วมกจิ กรรมเกยี่ วกบั ชาติ ศาสนา และสถาบนั พระมหากษัตริย์
5. ปฏิบตั ิตนตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6. ปฏบิ ัติตนตามกฎ ระเบยี บ และหน้าทที่ ต่ี ้องปฏิบัตใิ นโรงเรียน
7. ปฏิบัตติ นตามบทบาทหนา้ ท่ีในฐานะสมาชิกทด่ี ีของห้องเรียนและโรงเรียน
8. ยอมรับความเหมอื นและความแตกต่างของตนเองและผู้อ่ืน
9. ยกตวั อยา่ งความขดั แยง้ ในโรงเรียนและเสนอวธิ ีการแกป้ ญั หาโดยสันติวธิ ี
10. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ ีวนิ ัยในตนเอง
รวม 10 ผลการเรยี นรู้
หมายเหตุ วิชาหน้าท่พี ลเมือง บรู ณาการกบั วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
๑๐๙
รายวชิ าเพมิ่ เติม (บรู ณาการ) คาอธิบายรายวิชา
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3
ส 13233 หนา้ ที่พลเมือง
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทย ในเร่ืองการต้อนรับผู้มาเยือน และการปฏิบัติตนตามกาลเทศะ
แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบุคคลในชมุ ชน เห็นคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นในเรื่องต่าง ๆ ปฏิบัติตน
เป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน และยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทา
ของตนเอง
เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท
ในเร่ืองความซ่ือสัตย์และความเสียสละ หลักการทรงงาน ในเรื่องการมีส่วนร่วมและความเพียร และหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเร่ืองความซ่ือสัตย์สุจริต ขยันหม่ันเพียร
อดทน ใฝห่ าความรู้ ต้งั ใจปฏบิ ัตหิ น้าท่ี และยอมรับผลท่เี กิดจากการกระทาของตนเอง
ปฏิบตั ิตนตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหนา้ ทที่ ต่ี ้องปฏบิ ัตใิ นห้องเรียนและโรงเรียน ในเร่ือง
การใช้และการดูแลรักษาส่ิงของ เคร่ืองใช้และสถานที่ของส่วนรวม ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าท่ีในฐานะ
สมาชิกท่ีดีของห้องเรียนและโรงเรียน ในเร่ืองการใช้สิทธิและหน้าท่ี และการใช้เสรีภาพอย่างรับผิดชอบ มี
ส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของห้องเรียนและโรงเรียน ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์
สุจริต ขยันหม่ันเพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ต้งั ใจปฏิบัตหิ น้าที่ และยอมรบั ผลทีเ่ กดิ จากการกระทาของตนเอง
เพ่ือให้ผู้เรียนมลี ักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภมู ใิ จและรกั ษาไว้ซ่ึงความเปน็ ไทย แสดงออกถงึ ความรัก
ชาติ ยึดม่ันในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดาเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่าง
สันติ สามารถจัดการความขดั แย้งด้วยสันติวิธี และมวี ินัยในตนเอง
ผลการเรียนรู้
1. ปฏบิ ัติตนเป็นผูม้ ีมารยาทไทย
2. แสดงออกถงึ ความกตัญญูกตเวทตี ่อบุคคลในชุมชน
3. เหน็ คณุ ค่าของภูมิปัญญาท้องถน่ิ
4. เข้าร่วมกจิ กรรมเกย่ี วกับชาติ ศาสนา และสถาบนั พระมหากษัตริย์
5. ปฏบิ ัตติ นตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6. ปฏบิ ัตติ นตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหน้าทท่ี ่ตี ้องปฏบิ ัตใิ นห้องเรียนและโรงเรียน
7. ปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหน้าทแี่ ละมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของห้องเรยี นและโรงเรียน
8. ยอมรับและอยูร่ ่วมกบั ผู้อ่ืนอยา่ งสนั ติ
9. ยกตวั อย่างความขัดแยง้ ในชุมชนและเสนอวธิ กี ารแก้ปญั หาโดยสันติวธิ ี
10. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้มีวินัยในตนเอง
รวม 10 ผลการเรยี นรู้
หมายเหตุ วิชาหน้าท่พี ลเมือง บรู ณาการกบั วชิ าสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
๑๑๐
คาอธิบายรายวชิ า
ส 14234 หน้าที่พลเมือง
รายวชิ าเพิม่ เตมิ (บรู ณาการ) กลุม่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทยในพิธีการต่าง ๆ ในเร่ืองการกล่าวคาต้อนรับ การ
แนะนาตัวเองและแนะนาสถานท่ี แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ทาประโยชน์ในสังคม มีส่วนร่วมใน
ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยในท้องถ่ิน ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต อดทน
และยอมรบั ผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง
เห็นความสาคัญและแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์
ในเรื่องการใชส้ ินค้าไทย ดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุและสาธารณสมบัติ ปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนท่ดี ี
ปฏิบัติตนตามพระราชจริยวัตรและพระจริยวัตร ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องการมีวินัยและการ
ข่มใจ หลักการทรงงาน ในเร่ืองประโยชน์ส่วนรวมและพออยู่พอกิน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหม่ันเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติ
หนา้ ท่ี และยอมรับผลท่ีเกดิ จากการกระทาของตนเอง
มีส่วนร่วมในการสร้างและปฏิบัติตามข้อตกลง กติกาของห้องเรียน ในเร่ืองการรักษาความสะอาด การ
รักษาของใช้ร่วมกันและการส่งงาน โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการสร้างข้อตกลง กติกาด้วยหลักเหตุผลและ
ยึดถือประโยชน์ส่วนรวม ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าท่ีของการเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและห้องเรียน ในเร่ือง
การเป็นผู้นาและการเป็นสมาชิกที่ดี การมีเหตุผล ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และการปฏิบัติตามเสียงข้าง
มากและยอมรับเสียงข้างน้อย มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของครอบครัวและห้องเรียน
ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริต ขยันหม่ันเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติ
หน้าที่ และยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง
เพือ่ ใหผ้ ้เู รียนมลี ักษณะที่ดขี องคนไทย ภาคภมู ิใจและรักษาไว้ซึ่งความเปน็ ไทย แสดงออกถึงความรัก
ชาติ ยึดม่ันในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดาเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่าง
สนั ติ สามารถจัดการความขัดแย้งด้วยสันตวิ ิธี และมีวินยั ในตนเอง
ผลการเรยี นรู้
1. เหน็ คณุ คา่ และปฏิบัตติ นเปน็ ผมู้ มี ารยาทไทย
2. แสดงออกถึงความกตัญญกู ตเวทตี ่อผู้ทาประโยชน์ในสังคม
3. มีส่วนรว่ มในขนบธรรมเนยี มประเพณีไทย
4. เห็นความสาคัญและแสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดมนั่ ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั
พระมหากษัตริย์
5. ปฏิบัตติ นตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
6. มีส่วนร่วมในการสร้างและปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กติกาของหอ้ งเรียน
7. ปฏบิ ตั ิตนตามบทบาทหน้าที่ มีส่วนร่วมและรบั ผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจในกิจกรรมของ
ครอบครวั และห้องเรยี น
8. ยอมรับและอยู่ร่วมกบั ผอู้ น่ื อย่างสนั ติ และพง่ึ พาซึ่งกนั และกัน
9. วิเคราะหป์ ญั หาความขัดแยง้ ในทอ้ งถ่ินและเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาโดยสันติวิธี
10. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผ้มู ีวินัยในตนเอง
รวม 10 ผลการเรียนรู้
หมายเหตุ วิชาหนา้ ท่ีพลเมือง บรู ณาการกบั วิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
๑๑๑
คาอธบิ ายรายวิชา
ส 15201 หน้าทีพ่ ลเมอื ง
รายวิชาเพมิ่ เตมิ (บรู ณาการ) กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทยในการสนทนา การปฏิบัติตนตามกาลเทศะ และการต้อนรับ
ผู้มาเยือน รู้คุณค่า ใช้อย่างประหยัด คุ้มค่าและบารุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม มีส่วนร่วมใน
ศิลปวฒั นธรรมไทยปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้มีวินยั ในตนเอง ในเรอ่ื งความซื่อสัตย์สุจริต ตัง้ ใจปฏิบัติหน้าท่ี และยอมรับผล
ท่ีเกดิ จากการกระทาของตนเอง
เห็นคุณค่าและแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วย
การใช้สินค้าไทย ดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุและสาธารณสมบัติ ปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนท่ีดี ปฏิบัติ
ตนตามพระราชจริยวัตร ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องความเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่และความสามัคคี
หลักการทรงงาน ในเร่ืองการทาตามลาดับขั้นและทางานอย่างมีความสุข และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มวี นิ ยั ในตนเอง ในเร่ืองความซ่ือสัตย์สุจริต ขยันหม่นั เพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจ
ปฏิบตั หิ น้าท่ี และยอมรับผลทเี่ กดิ จากการกระทาของตนเอง
มีส่วนร่วมในการสร้างและปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบของโรงเรียน ในการรักษาความสะอาด การ
รักษาของใช้ร่วมกันและการดูแลพื้นท่ีท่ีได้รับมอบหมาย โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการสร้างกฎ
ระเบยี บดว้ ยหลักเหตุผลและยึดถอื ประโยชน์สว่ นรวม ปฏบิ ตั ิตนตามบทบาทหนา้ ที่ของการเปน็ สมาชกิ ท่ีดีของ
ห้องเรียนและโรงเรียน ในเรื่องการยึดถือหลักความจริง ความดีงาม ความถูกต้องและหลักเหตุผล การยึดถือ
ประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสาคัญ การยึดหลักความเสมอภาคและความยุติธรรม มีส่วนร่วมและรับผิดชอบใน
การตัดสนิ ใจในกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียน ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง ในเรอ่ื งความซอ่ื สัตย์สุจริต
ขยนั หม่ันเพยี ร อดทน ใฝห่ าความรู้ ตง้ั ใจปฏบิ ัตหิ น้าที่ และยอมรับผลท่เี กิดจากการกระทาของตนเอง
ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในท้องถ่ิน ในเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนาและ
สิ่งแวดล้อม อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสันติและพ่ึงพากัน ด้วยการเคารพซ่ึงกันและกัน ไม่แสดงกิริยา วาจาดูหมิน่
ผู้อ่ืน ช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน และแบ่งปัน วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคของตนเอง ในเรื่องการ
จัดการทรัพยากร และการขัดแย้งทางความคิด และเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยสนั ติวิธี ปฏิบัติตนเปน็ ผูม้ ี
วินัยในตนเอง ในเร่ืองความซ่อื สัตยส์ ุจริต ความอดทน และยอมรับผลท่ีเกดิ จากการกระทาของตนเอง
โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ
กระบวนการแกป้ ญั หา
เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมีลักษณะท่ีดีของคนไทย ภาคภมู ใิ จและรักษาไว้ซ่ึงความเปน็ ไทย แสดงออกถึงความรัก
ชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดาเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่าง
สนั ติ สามารถจัดการความขัดแย้งดว้ ยสนั ติวธิ ี และมวี ินยั ในตนเอง
ผลการเรยี นรู้
1. เหน็ คณุ คา่ และปฏิบัตติ นเป็นผูม้ มี ารยาทไทย
2. รคู้ ณุ ค่าและบารุงรักษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม
3. มสี ว่ นร่วมในศิลปวัฒนธรรมไทย
4. เหน็ คุณคา่ และแสดงออกถึงความรกั ชาติ ยดึ มั่นในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์
5. ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
6. มีส่วนร่วมในการสรา้ งและปฏิบตั ติ ามกฎ ระเบยี บของโรงเรยี น
7. ปฏบิ ัติตนตามบทบาทหน้าที่ มสี ว่ นรว่ มและรบั ผิดชอบในการตัดสนิ ใจในกิจกรรมของห้องเรียนและ
โรงเรียน
๑๑๒
8. ยอมรับความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในท้องถิ่น และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ และ
พึ่งพาซึ่งกนั และกนั
9. วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในภมู ิภาคของตนเองและเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาโดยสันติวิธี
10. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผูม้ ีวินัยในตนเอง
รวม 10 ผลการเรียนรู้
หมายเหตุ วิชาหน้าท่ีพลเมือง บรู ณาการกับวชิ าสงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
๑๑๓
คาอธิบายรายวิชา
ส 16201 หนา้ ที่พลเมือง
รายวชิ าเพ่ิมเติม (บรู ณาการ) กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 6
ปฏิบัติตนและชักชวนผู้อ่ืนให้มีมารยาทไทย ในเร่ืองการแสดงความเคารพ การสนทนา การปฏิบัติตน
ตามกาลเทศะ และการต้อนรับผู้มาเยือน มีส่วนร่วมและชักชวนผู้อ่ืนให้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม มีส่วนร่วมในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาไทย ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินยั ใน
ตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตยส์ ุจริต ต้ังใจปฏิบตั หิ น้าท่ี และยอมรับผลทีเ่ กิดจากการกระทาของตนเอง
เห็นคุณค่าและแนะนาผู้อ่ืนให้แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบัน
พระมหากษัตริย์ ด้วยการใช้สินค้าไทย ดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุและสาธารณสมบัติ ปฏิบัติตน เป็นศา
สนิกชนที่ดี ปฏิบัติตนตามพระราชจริยวัตรและพระจริยวัตร ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องความใฝ่รู้
ความกตัญญู หลักการทรงงาน ในเร่ืององค์รวมและทาให้ง่าย และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตน
เป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริต ขยันหม่ันเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ี และ
ยอมรับผลท่เี กดิ จากการกระทาของตนเอง
ปฏิบัติตนและแนะนาผู้อื่นให้ปฏิบัติตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบของห้องเรียนและโรงเรียน ใน
การใช้และดูแลรักษาส่ิงของ เครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ และสถานท่ีของส่วนรวม เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตาม
บทบาทหนา้ ที่ของการเป็นสมาชกิ ท่ดี ีของห้องเรียนและโรงเรียน ด้วยการเป็นผ้นู าและการเปน็ สมาชิกที่ดี การ
ยดึ ถือประโยชน์ของส่วนรวมเปน็ สาคัญ การใชส้ ิทธแิ ละหน้าที่ การใช้เสรีภาพอยา่ งรับผิดชอบ มีส่วนร่วมและ
รบั ผดิ ชอบในการตัดสนิ ใจในกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียน ปฏิบัตติ นเป็นผ้มู วี นิ ยั ในตนเอง ในเร่อื งความ
ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ขยนั หมั่นเพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ตั้งใจปฏิบตั ิหน้าที่ และยอมรบั ผลท่ีเกิดจากการกระทาของ
ตนเอง
ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในประเทศไทย ในเร่ืองวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนาและ
สิ่งแวดล้อม อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติและพ่ึงพากัน ในเรื่องการเคารพซึ่งกันและกัน ไม่แสดงกิริยา วาจาดู
หมิ่นผู้อ่ืน ช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน และแบ่งปัน วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในประเทศไทย ในเร่ืองการการ
ละเมดิ สทิ ธิ การรักษาสิ่งแวดล้อม และเสนอแนวทางการแก้ปญั หาโดยสันตวิ ธิ ี ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้มีวินยั ในตนเอง
ในเรือ่ งความซือ่ สตั ย์สุจริต อดทน และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทาของตนเอง
โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และ
กระบวนการแกป้ ัญหา
เพอื่ ให้ผู้เรียนมลี ักษณะท่ีดีของคนไทย ภาคภูมใิ จและรกั ษาไวซ้ ึ่งความเปน็ ไทย แสดงออกถึงความรัก
ชาติ ยดึ มั่นในศาสนา เทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ดาเนนิ ชวี ิตตามวิถีประชาธปิ ไตย อย่รู ว่ มกบั ผู้อื่นอย่าง
สันติ สามารถจดั การความขดั แยง้ ด้วยสนั ติวิธี และมวี ินัยในตนเอง
ผลการเรียนรู้
1. ปฏิบตั ิตนและชกั ชวนผ้อู น่ื ให้มมี ารยาทไทย
2. มสี ่วนร่วมและชกั ชวนผู้อ่นื ใหอ้ นรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม
3. มสี ว่ นร่วมในขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภูมิปญั ญาไทย
4. เห็นคุณค่าและแนะนาผู้อ่ืนให้แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบัน
พระมหากษัตริย์
5. ปฏบิ ัติตนตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
6. ปฏิบัติตนและแนะนาผู้อื่นให้ปฏิบัติตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบของห้องเรียนและ
โรงเรยี น
๑๑๔
7. เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าท่ี มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจใน
กิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรยี น
8. ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในประเทศไทย และอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสันติ
และพึ่งพาซ่ึงกนั และกนั
9. วิเคราะห์ปัญหาความขดั แยง้ ในประเทศไทยและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยสนั ติวธิ ี
10. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ วี ินยั ในตนเอง
รวม 10 ผลการเรยี นรู้
หมายเหตุ วิชาหนา้ ท่ีพลเมอื ง บูรณาการกับวชิ าสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
๑๑๕
คาอธบิ ายรายวิชา
ท 11201 สนุกกับการอ่าน
รายวชิ าเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง
ศึกษาหนังสือที่นักเรียนสนใจ เช่น หนังสือนิทาน เร่ืองส้ัน หรือ บทร้อยกรอง ที่นอกเหนือจาก
หนงั สือเรียนดว้ ยการคน้ คว้าจากหอ้ งสมุดหรือหนังสือท่นี ักเรยี นสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการกลุ่ม การสืบค้นขอ้ มูล กระบวนการส่อื สารและกระบวนการ
แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
เพอื่ ส่งเสรมิ ให้นักเรียนเป็นผู้ใฝร่ ้ใู ฝ่เรียน มีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและ
คา่ นยิ มท่ีเหมาะสม มนี สิ ยั รักการอ่านและมีมารยาทในการอ่าน
ผลการเรียนรู้
1. นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งคา คาคล้องจอง และข้อความส้ันๆได้ถูกต้อง
2. นกั เรยี นตอบคาถามเก่ยี วกับเรอื่ งท่ีอ่านได้
3. นกั เรยี นมีมารยาทในการอ่าน
รวม 3 ผลการเรยี นรู้
๑๑๖
คาอธิบายรายวชิ า
ท 12201 สนกุ กบั การอา่ น
รายวชิ าเพิ่มเตมิ กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง
ศกึ ษาหนังสือทนี่ ักเรยี นสนใจ เช่น หนงั สอื นิทาน เร่ืองสน้ั บทรอ้ ยกรอง หรือข่าวสารตา่ งๆใน
ชวี ิตประจาวนั ที่นอกเหนือจากหนงั สือเรียนดว้ ยการคน้ ควา้ จากหอ้ งสมุดหรือหนังสือท่ีนกั เรียนสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการกลุม่ การสืบค้นขอ้ มูล กระบวนการส่ือสารและกระบวนการ
แลกเปล่ียนเรยี นรู้
เพอื่ ส่งเสรมิ ใหน้ กั เรียนเป็นผู้ใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน มีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและ
ค่านิยมท่ีเหมาะสม มีนิสัยรกั การอ่านและมีมารยาทในการอา่ น
ผลการเรียนรู้
1.นักเรยี นอธิบายความหมายของคาและขอ้ ความที่อา่ นได้
2.นกั เรยี นตอบคาถามจากเรอื่ งทอ่ี ่านได้
3.นกั เรียนบอกใจความสาคญั ของเร่อื งทอ่ี า่ นได้
4. นักเรียนมีมารยาทในการอ่าน
รวม 4 ผลการเรยี นรู้
๑๑๗
คาอธิบายรายวิชา
ท 13201 สนุกกับการอ่าน
รายวิชาเพมิ่ เตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 40 ชว่ั โมง
ศึกษาหนังสือทีน่ ักเรยี นสนใจ เช่น หนังสอื นทิ าน เร่ืองสัน้ บทร้อยกรอง หรือข่าวสารต่างๆใน
ชีวติ ประจาวันทนี่ อกเหนือจากหนงั สือเรยี นดว้ ยการคน้ คว้าจากหอ้ งสมุดหรือหนังสือท่นี ักเรยี นสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการกลุ่ม การสืบค้นข้อมูล กระบวนการส่อื สารและกระบวนการ
แลกเปลีย่ นเรียนรู้
เพ่ือส่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี นเปน็ ผู้ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น มคี ณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรมและ
ค่านยิ มท่เี หมาะสม มีนิสัยรักการอ่านและมีมารยาทในการอ่าน
ผลการเรียนรู้
1.นักเรียนอ่านออกเสยี งคา คาคล้องจอง ข้อความ เร่อื งสัน้ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
2.นกั เรยี นสามารถเรยี งลาดบั เหตกุ ารณเ์ ก่ยี วกบั เรอื่ งทอ่ี ่านได้
3.นักเรยี นสรุปความรู้ข้อคดิ จากเรอื่ งที่อา่ นได้
4.นกั เรียนอา่ นหนังสอื ตามความสนใจอยา่ งสมา่ เสมอและนาเสนอเรอื่ งทอี่ ่านได้
รวม 4 ผลการเรียนรู้
๑๑๘
คาอธิบายรายวิชา
ท 14201 สนกุ กบั การอ่าน
รายวชิ าเพ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 เวลา 40 ชัว่ โมง
ศึกษาหนังสือที่นักเรียนสนใจ เช่น หนังสือนิทาน เร่ืองสั้น บทความ ข่าว สารคดี ที่นอกเหนือจาก
หนงั สือเรียนด้วยการคน้ ควา้ จากห้องสมดุ หรอื หนังสอื ทนี่ กั เรียนสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการกลุ่ม การสืบค้นข้อมูล กระบวนการสอื่ สารและกระบวนการ
แลกเปลี่ยนเรยี นรู้
เพ่อื สง่ เสรมิ ให้นักเรยี นอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ ูกต้อง อธบิ ายความหมายของ
คา ประโยค และสานวนจากเร่ืองท่ีอ่านได้ ตอบคาถามและจับใจความจากเรื่องที่อ่านได้ เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน
มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม มีนิสัยรักการอ่านและมี
มารยาทในการอา่ น
ผลการเรยี นรู้
1.นักเรียนอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง
2.นักเรยี นอธิบายความหมายของคา ประโยค และสานวนจากเรือ่ งที่อ่านได้
3.นกั เรยี นตอบคาถามและจับใจความจากเรอื่ งท่ีอ่านได้
รวม 3 ผลการเรยี นรู้
๑๑๙
คาอธบิ ายรายวิชา
ท 15201 สนกุ กับการอ่าน
รายวชิ าเพ่มิ เติม กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 40 ชัว่ โมง
ศึกษาหนังสือทีน่ ักเรียนสนใจ เช่น หนงั สอื นิทาน เรือ่ งส้ัน บทความ ข่าว สารคดี ท่นี อกเหนอื จาก
หนังสือเรยี นด้วยการค้นคว้าจากห้องสมุดหรอื หนังสือที่นักเรยี นสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการกล่มุ การสืบค้นข้อมูล กระบวนการส่ือสารและกระบวนการ
แลกเปลี่ยนเรยี นรู้
เพอ่ื ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนแยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเห็น สามารถจบั ใจความและระบุข้อคิดเห็น เลอื ก
หนังสือตามความสนใจและมีคุณค่าอย่างสม่าเสมอเป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้าน
คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมทเี่ หมาะสม มีนสิ ยั รกั การอ่านและมีมารยาทในการอ่าน
ผลการเรยี นรู้
1.นกั เรียนแยกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเหน็ เกีย่ วกบั เร่ืองที่อ่านได้
2.นกั เรียนสามารถจบั ใจความและระบขุ อ้ คิดเห็นได้จากเร่ืองที่อ่าน
3.นกั เรยี นเลอื กหนงั สอื ตามความสนใจและมีคณุ คา่ อย่างสมา่ เสมอ
รวม 3 ผลการเรยี นรู้
๑๒๐
คาอธิบายรายวชิ า
ท 16201 สนุกกบั การอ่าน
รายวิชาเพิ่มเติม กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 เวลา 40 ช่ัวโมง
ศึกษาหนังสอื ทน่ี ักเรียนสนใจ เช่น หนงั สือนิทาน เร่อื งสน้ั บทความ ข่าว สารคดี และพระบรม
ราโชวาทหรอื หนงั สือทีน่ อกเหนือจากหนังสือเรยี นดว้ ยการค้นควา้ จากห้องสมดุ หรือหนังสือท่ีนกั เรยี นสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการกลมุ่ การสืบค้นขอ้ มูล กระบวนการสอ่ื สารและกระบวนการ
แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนอธิบายความหมายของคา ประโยค และข้อความ อธิบายความรู้จากเร่ืองที่
อ่านและสามารถนาเสนอเร่ืองท่ีอ่าน เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน เลือกหนังสือตามความสนใจและมีคุณค่า มี
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ มทเี่ หมาะสม มีนสิ ัยรกั การอ่านและมมี ารยาท
ในการอ่าน
ผลการเรียนรู้
1.นักเรยี นอธบิ ายความหมายของคา ประโยค และขอ้ ความทอ่ี ่านได้
2.นกั เรยี นสามารถอ่านเรื่องสนั้ ไดต้ ามเวลาท่กี าหนด
3.นกั เรยี นอธิบายความรู้จากเรื่องทอี่ ่านและสามารถนาเสนอเรื่องที่อา่ นได้
4.นักเรียนเลือกหนงั สอื ตามความสนใจและมคี ณุ ค่าอย่างสม่าเสมอ
รวม ๔ ผลการเรียนรู้
๑๒๑
รายวิชาเสรมิ หลักสตู ร คาอธบิ ายกิจกรรมเสริมหลกั สูตร
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๑
ภาษาองั กฤษ
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
เวลา ๘0 ชว่ั โมง
ศกึ ษาคาศัพท์พ้ืนฐานง่ายๆ ท่ีพบเห็นจากสง่ิ รอบตวั ในชวี ิตประจาวนั รู้จกั ตวั อักษร สระ และการ
ออกเสยี งคา บอกคาศัพท์ การสะกดคา การอ่านคา
สนทนาโต้ตอบจากคาทักทายพนื้ ฐานได้ ปฏบิ ัติตามคาส่งั ใหข้ ้อมลู คาศัพทเ์ กีย่ วกบั ร่างกายของ
ตนเองได้
รักการทางาน เหน็ คณุ คา่ มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษา เขา้ ใจความสมั พนั ธแ์ ละยอมรบั ความ
แตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรมของเจ้าของภาษาและวฒั นธรรมไทย
ผลการเรียนรู้
๑. นักเรียนสามารถเขยี นตวั อักษรภาษาอังกฤษ ตวั พิมพใ์ หญ่ ตวั พิมพ์เลก็ ได้
๒. นกั เรยี นสามารถอ่านคาศพั ท์บอกสี ผลไม้ ได้
๓. นักเรยี นปฏิบตั ติ ามคาส่งั จากประโยคภาษาองั กฤษได้
รวม 3 ผลการเรยี นรู้
๑๒๒
รายวิชาเสรมิ หลกั สูตร คาอธบิ ายกิจกรรมเสรมิ หลกั สูตร
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๒
ภาษาองั กฤษ
กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
เวลา ๘0 ช่วั โมง
ศกึ ษาคาสั่ง คาร้องขอ คาศัพท์พื้นฐานทพี่ บเหน็ จากส่ิงรอบตัวในชีวิตประจาวนั ศกึ ษาคาศัพท์ต่างๆ
และการออกเสยี งคา บอกคาศัพท์ การสะกดคา การอ่านคา
สนทนาโต้ตอบจากคาทักทายพื้นฐานได้ ปฏิบตั ิตามคาสัง่ ใหข้ ้อมลู คาศัพทเ์ ก่ยี วกับร่างกายของ
ตนเองได้ บอกคาศัพทเ์ ก่ียวกับคนในครอบครัว โรงเรียน บอกสถานทต่ี า่ งๆได้
รกั การทางาน เห็นคุณค่า มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษา เขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละยอมรับความ
แตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรมของเจา้ ของภาษาและวัฒนธรรมไทย
ผลการเรียนรู้
๑. นักเรยี นสามารถบอกประโยคความต้องการ คารอ้ งขอได้
๒. นักเรียนสามารถอา่ นและสะกดคาศัพท์พืน้ ฐานได้
๓. นักเรยี นปฏิบัติตามคาสั่งจากประโยคภาษาองั กฤษได้
รวม 3 ผลการเรียนรู้
๑๒๓
รายวชิ าเสรมิ หลักสูตร คาอธบิ ายกิจกรรมเสรมิ หลักสตู ร
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓
ภาษาอังกฤษ
กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ
เวลา ๘0 ชว่ั โมง
ศึกษาคาส่ัง คาร้องขอ คาศัพท์พนื้ ฐานที่พบเห็นจากสิง่ รอบตวั ในชีวติ ประจาวนั ศึกษาคาศัพท์ตา่ งๆ
กลมุ่ คา ประโยคและการออกเสยี งคา บอกคาศัพท์ การสะกดคา การอ่านคา
สนทนาโต้ตอบจากคาทักทายพน้ื ฐานได้ ปฏิบตั ิตามคาส่งั ให้ขอ้ มลู คาศัพทเ์ ก่ยี วกบั ร่างกายของ
ตนเองได้ บอกคาศัพทเ์ กย่ี วกับคนในครอบครวั โรงเรียน แนะนาตนเอง ตอบคาถาม บอกความรู้สึกของ
ตนเองได้ บอกสถานทต่ี ่างๆได้
รักการทางาน เหน็ คุณคา่ มีทักษะการสื่อสารทางภาษา เข้าใจความสมั พันธ์และยอมรับความ
แตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรมของเจา้ ของภาษาและวฒั นธรรมไทย
ผลการเรียนรู้
๑. นักเรียนสามารถบอกประโยคความต้องการ คาร้องขอได้
๒. นกั เรยี นสามารถอา่ น เขียน และสะกดคาศัพทพ์ ื้นฐานเกีย่ วกบั คน สัตว์ ส่ิงของได้
๓. นกั เรยี นปฏิบตั ิตามคาสั่งจากประโยคภาษาองั กฤษได้
๔. นักเรียนแนะนาตนเองได้
๕. นกั เรยี นสามารถบอกอารมณ์แสดงความรสู้ ึกของตนเองได้
รวม ๕ ผลการเรียนรู้
๑๒๔
ส่วนที่ 4
กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
ความหมายและความสาคัญ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมสาคัญท่ีหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านนาสร้าง พุทธศักราช
2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 กาหนดให้จัดทาข้ึนให้ผู้เรียนทุก
คน ทุกระดับช้ัน เพ่ือส่งเสริมพัฒนาความสามารถของตนเองตามความถนัด ความสนใจ ให้เต็มศักยภาพ โดย
มุ่งเน้นการพัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ท้ังด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม สร้างเยาวชนของ
ชาติให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสานึกของการทาประโยชน์เพ่ือสังคมและ
สามารถบริหารการจัดการตนเอง เป็นกิจกรรมที่จะส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถของตนเองตาม
ศักยภาพ เพิ่มเติมจากกิจกรรมการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม การเข้าร่วม และปฏิบัติ
กิจกรรมที่เหมาะสมร่วมกับผู้อ่ืนอย่างมีความสุขกับกิจกรรมท่ีเลือกด้วยตนเองตามความถนัด ความสนใจ
อย่างแท้จริงจะเสริมสร้างและพัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ให้ครบทุกด้านสร้างความเป็นมนุษย์ที่
สมบูรณ์ ปลูกฝงั และสร้างจติ สานึกของการทาประโยชน์เพอ่ื สงั คม
จุดมุง่ หมาย
การจดั ทากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น มจี ดุ ประสงค์สาคญั ดงั นี้
1. เพื่อช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ของผู้เรียน ได้ฝึกฝนทักษะ ได้เรียนรู้ โดยการปฏิบัติจริง
อันเปน็ การสอดคลอ้ งกบั แนวการจัดการเรยี นรทู้ ี่ยึดผเู้ รียนเป็นสาคัญ
2. เพ่ือเสริมสร้างคุณลักษณะดีเด่นของความเป็นประชาธิปไตย ฝึกการเป็นผู้นา ผู้ตาม ฝึกการ
ทางานร่วมกัน ฝกึ การแสดงความคิดเหน็ ฝึกความรับผดิ ชอบ
3. เพ่ือก่อให้เกิดความสามัคคี รักหมู่คณะ เกิดความเข้าใจซ่ึงกันและกัน เพราะการปฏิบัติกิจกรรม
ต้องทางานเป็นกลุ่ม ต้องร่วมกันคิด ร่วมกันทา ได้พบความสุข ความทุกข์ร่วมกัน เกิดความประทับใจซึ่งกัน
และกนั
4. สง่ เสรมิ ความคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรคค์ วามแปลกใหม่ เพราะการทากจิ กรรมร่วมกันต้องร่วมกันศึกษา
ค้นควา้ ค้นหาวธิ กี ารที่ดกี ว่า ทาใหค้ วามคิดแตกฉาน พบเทคนคิ วธิ กี ารทีแ่ ปลกๆใหม่ ๆ ในการพัฒนาผลงาน
5. เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนมีทางเลือก มีโอกาสแสดงออกตามแนวคิด ความสนใจของตนเอง มีโอกาสใน
การเลอื กตามความต้องการ ความถนดั ชว่ ยพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนเปน็ รายบุคคล
6. เพื่อฝึกผู้เรียนให้เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ชุมชน และประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
เพราะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมีลักษณะเป็นสังคมเล็กที่จาลองจากสังคมใหญ่ มีกฎระเบียบ กติกา มีความ
รับผิดชอบท้ังในสิทธิหน้าที่ซึ่งเป็นการปลูกฝังลักษณะนิสัยและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของการอยู่ร่วมกัน
ในสังคมปกติ
7. เพ่ือช่วยให้ผู้สอนรู้จักผู้เรียนแต่ละคนดีข้ึน เพราะผลงานในการทากิจกรรมของผู้เรียนจะช่วยให้
ผูส้ อนเขา้ ใจผเู้ รียนและประเมินคุณค่าคณุ ภาพของนกั เรยี นได้ดี และถกู ต้องมากขึ้น รจู้ ักและเขา้ ใจความสนใจ
ของผู้เรียน ความถนัดของผู้เรียน ช่วยให้ผู้สอนทราบข้อมูลพ้ืนฐานของผู้เรียนท่ีถูกต้อง และสามารถส่งเสริม
สนับสนุน หรือแกไ้ ขขอ้ บกพร่องของผูเ้ รียนได้ถกู แนวทาง
๑๒๕
8. เพ่ือใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงหลักสูตรและการเรียนการสอนของสถานศึกษา เพราะ
พฤติกรรมการแสดงออกของผู้เรียนในการปฏิบัติกิจกรรม เป็นผลท่ีบ่งช้ีถึงความสาเร็จของหลักสูตรและการ
เรียนการสอนของสถานศึกษาว่าบรรลุผลตามจดุ มุ่งหมายหรือไม่ มากน้อยเพียงใด หลักสูตรควรจะต้องมีการ
ปรบั ปรงุ หรือพัฒนาในสว่ นใด
หลักการจดั กิจกรรม
1. มีการกาหนดวัตถุประสงค์ และแนวปฏบิ ตั ิท่ีชัดเจนเป็นรปู ธรรม
2. จัดให้เหมาะสมกับวัย วุฒภิ าวะ ความสนใจ ความถนัด และความสามารถของผู้เรยี น
3. บูรณาการกบั ชีวิตจรงิ ใหผ้ ู้เรียนไดต้ ระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการเรียนรู้ตลอดชีวิต
4. ใช้กระบวนการกลุ่มในการจัดประสบการณ์เรียนรู้ ฝึกให้คิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์ จินตนาการ
ท่ีเปน็ ประโยชน์ และสมั พันธ์กับชวี ิตในแตล่ ะช่วงวยั อย่างต่อเน่ือง
5. จานวนสมาชกิ เหมาะสมกบั ลักษณะของกจิ กรรม
6. มกี ารกาหนดเวลาในการจัดกิจกรรมใหเ้ หมาะสมตามโครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษา
7. ผู้เรียนเป็นผู้ดาเนินการ มีครูเป็นที่ปรึกษา ถือเป็นหน้าที่และงานประจา โดยคานึงถึงความ
ปลอดภัย
8. ยึดหลักการมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กร ท้ังภาครัฐและ
เอกชน มสี ว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรม
9. มีการประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม ด้วยวิธีที่หลากหลาย และสอดคล้องกับกิจกรรมอย่างเป็น
ระบบและตอ่ เนอื่ ง โดยใหถ้ ือว่าเปน็ เกณฑป์ ระเมินผลการผา่ นช่วงชนั้ เรียน
โครงสร้างการจัดเวลาเรียนของกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ระดบั ประถมศกึ ษา
ป. 1 ป. 2 ป. 3 ป. 4 ป. 5 ป. 6
1. กิจกรรมแนะแนว 40 40 40 40 40 40
๒ กิจกรรมนักเรยี น 40 40 40 40 40 40
- ลกู เสอื 30/10 30/10 30/10 30/10 30/10 30/10
– เนตรนารี
๓. กิจกรรมชมรม/ 120 120 120 120 120 120
เพอื่ สังคม และ
สาธารณประโยชน์
เวลาเรยี นรวม
๑๒๖
การดาเนินการจัดกจิ กรรม
โรงเรียนบ้านนาสร้างจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยมุ่งให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง
ได้ฝึกปฏิบัติจริงและค้นพบความถนัดของตนเอง สามารถค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมตามความสนใจจากแหลง่
เรียนรู้ที่หลากหลาย บาเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม มีทักษะในการดาเนินงานส่งเสริมให้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์
สังคม ศีลธรรม จริยธรรม ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง สามารถวางแผนชีวิตและอาชีพได้อย่างเหมาะสม
ซึง่ ประกอบดว้ ย
1. กิจกรรมแนะแนว เปน็ กิจกรรมเพอ่ื ชว่ ยเหลือและพฒั นาผู้เรียน ดังน้ี
1. จัดกิจกรรมเพ่ือให้ครูได้รู้จักและช่วยเหลือผู้เรียนมากขึ้น โดยใช้กระบวนการทาง
จิตวิทยา การจัดบริการสนเทศ โดยจัดให้มีเอกสารเพ่ือใช้สารวจข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เรียน ด้วยการสังเกตการ
สัมภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม การเขียนประวัติ การพบผู้ปกครองก่อนและระหว่างเรียน การเยี่ยมบ้าน
นักเรียน การให้ความช่วยเหลือผู้เรียนในเร่ืองสุขภาพจิต เศรษฐกิจ การจัดทาระเบียนสะสม สมุดรายงาน
ประจาตัวนกั เรยี น และบัตรสุขภาพ
2. จัดกิจกรรมพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ โดยทาแบบทดสอบเพื่อรู้จักและเข้าใจตนเองมี
ทกั ษะในการตดั สินใจ การปรับตวั และการวางแผนเพื่อเลอื กศึกษาต่อ เลือกอาชีพ
3. จัดบริการให้คาปรึกษาแก่ผู้เรียนเป็นรายบุคคล และรายกลุ่ม ในด้านการศึกษา อาชีพ
และส่วนตัว โดยมีผู้ให้คาปรึกษาที่มีคุณวุฒิ และมีความเชี่ยวชาญในเร่ืองการให้คาปรึกษา ตลอดจนมีห้องให้
คาปรึกษาที่เหมาะสม เพื่อประโยชนต์ อ่ ไปนี้
3.1 ชว่ ยเหลอื ผู้เรยี นทป่ี ระสบปัญหาด้านการเงิน โดยการใหท้ ุนการศึกษาแก่ผู้เรียน
3.2 ติดตามเก็บข้อมูลของนักเรยี นทส่ี าเรจ็ การศกึ ษา
๑๒๗
คาอธบิ ายรายวชิ า
กจิ กรรมแนะแนว
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1-3 จานวน 40 ช่วั โมง/ปี
บอกสถานภาพของตนเอง ในครอบครัว โรงเรียน ชุมชนและสังคม บอกความต้องการหรือปัญหา
ของตนเอง บอกจุดเด่น จุดด้อย ความภาคภูมิใจที่อยากทา สิ่งที่ชอบและความสามารถ ความดีของตนเอง
และผูอ้ ื่น ร้จู ักแสวงหาข้อมูลจากสอื่ สถานทีท่ เ่ี ป็นข้อมลู ใกล้ตวั
แสดงความสามารถ บทบาทหน้าที่ตามสถานภาพของตนเองอย่างถูกต้อง สามารถเลือกข้อมูลที่
เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมรู้จักใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจาวันสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของ
สังคมปฏิบัติตามระเบียบของครอบครัว โรงเรียน ชุมชน คาสั่งครู ผู้ปกครองอย่างมีเหตุผล แสดงความรู้สึก
ตอ้ งการของตนเองใหผ้ ู้อื่นรับรู้ แสดงความคดิ ที่มีต่อผูอ้ ่ืนได้อย่างเหมาะสม
ยอมรบั การเปล่ียนแปลงด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและปรับปรุงพัฒนาตนเองให้อยู่ในสงั คมได้อย่าง
มคี วามสุข
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. รูแ้ ละเข้าใจความตอ้ งการและปัญหาของตนเอง
2. รูจ้ ุดเด่น จดุ ด้อยของตนเอง
3. รูแ้ ละเข้าใจความสนใจ ความถนัด ความสามารถ ด้านการเรียน และการงาน
4. ภูมใิ จในตนเองและชืน่ ชมผู้อ่ืน
๑๒๘
คาอธบิ ายรายวชิ า
กจิ กรรมแนะแนว
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-6 จานวน 40 ชว่ั โมง/ปี
อธิบายความตอ้ งการหรือปัญหาของตนเอง บอกเหตุผลในส่ิงท่ีสนใจ ความรู้สึกนึกคิดที่ดีตอ่ ตนเอง
และผู้อื่น ร้จู ักแสวงหาขอ้ มูลจากบุคคล สถานที่ สอ่ื เทคโนโลยสี ารสนเทศที่จาเป็น กาหนดเปา้ หมาย วางแผน
คาดการณแ์ กไ้ ขปัญหาชวี ติ ประจาวันบนพน้ื ฐานคณุ ธรรมจริยธรรม กาหนดเป้าหมาย วางแผนการดาเนนิ ชีวิต
ได้ บอกทางเลือกในการแก้ปัญหาหลากหลาย ประเมินทางเลือกตัดสินใจเลือกโดยใช้เหตุผล เข้าใจ
ความรสู้ กึ ผอู้ นื่
ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย แสดงความสามารถที่เป็นจุดเด่นของตนเอง ความถนัด ความ
สนใจ แสดงความช่ืนชมผู้อื่นอย่างมีเหตุผล เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของข้อมูล เลือกข้อมูลท่ีต้องการได้ตรง
วัตถุประสงค์และสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของสังคม ปฏิบัติตามทางเลือกที่ตัดสินใจเปิดโอกาสให้ผู้อื่นแสดง
ความคิดเห็น มีการแลกเปล่ียนความคิดเห็นและปฏิบัติตามความคิดเห็นของกลุ่ม ใช้วิธีการส่ือสารให้ผู้อื่น
เข้าใจได้เหมาะสมกับสถานการณ์
รู้เท่าทัน ยอมรับการเปล่ียนแปลงด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสามารถควบคุมอารมณ์และ
แสดงออกได้อยา่ งเหมาะสม ใหค้ วามรว่ มมอื ปฏบิ ัตติ ามกฎ ระเบียบของครอบครัว โรงเรยี น ชุมชน
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ร้แู ละเขา้ ใจความต้องการและปัญหาท่ีซับซ้อน
2. พฒั นาจดุ เดน่ ของตนเอง
3. รู้และเขา้ ใจความสนใจ ความถนัดด้านการเรยี นและอาชีพ
4. ภมู ิใจในตนเองและชน่ื ชมผู้อ่ืน
๑๒๙
2. กจิ กรรมนกั เรียน แยกเป็น 2 ลกั ษณะ คือ
2.1 กิจกรรม ลูกเสือ – เนตรนารี ผู้เรียนในระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1-6 ผู้เรียนทุกคนได้ฝึกอบรม
วิชาลูกเสือ – เนตรนารีเพื่อส่งเสริมหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ส่งเสริมความสามัคคี มีวินัย และบาเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม โดยดาเนินการจัดกิจกรรมตามข้อกาหนดของ
คณะกรรมการลูกเสือแหง่ ชาติ
๑๓๐
คาอธบิ ายรายวิชา
กจิ กรรมลูกเสอื สารอง
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 จานวน 40 ชวั่ โมง/ปี
รู้ประวัติการเร่ิมกิจการลูกเสือสารอง การจับมือซ้าย กฎและคาปฏิญาณ นิยายเมาคลีลูกหมาป่า
วิธีการรักษาสุขภาพอนามัย การป้องกันโรค การปฐมพยาบาลบาดแผล การขอความช่วยเหลือเมื่อเกิด
อุบัติเหตุ สถานที่สาคัญในท้องถิ่น เร่ืองสัตว์และพืช การเก็บรักษาความสะอาดเสื้อผ้าเคร่ืองแต่งกาย
ประวัติเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงชาติพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ธงคณะลูกเสือ
โลก
ปฏบิ ตั ิตนในการทาความเคารพหมู่แกรนด์ฮาวล์ และรายบุคคล ระเบียบแถว สญั ญาณมอื สญั ญาณ
นกหวดี การทาความสะอาดอวยั วะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มีทักษะในการขวา้ งลูกบอล รับลกู บอล
การข้ึนต้นไม้ ไต่เชือก สามารถร้องเพลงชาติเพลงสรรเสริญพระบารมีได้ถูกต้องประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุ
การสะกดรอย การแสดงเงียบ การผกู เงอ่ื น การเกบ็ เชือก
มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทางาน
รักความเปน็ ไทย มจี ิตสาธารณะ
๑๓๑
คาอธิบายรายวชิ า
กจิ กรรมลกู เสือสารอง
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 40 ชัว่ โมง/ปี
รูค้ วามสาคญั ของการนอนหลับ การทาความสะอาดรถจักรยาน การหยอดน้ามัน การสบู ยางรถ การ
ขึ้นลงและข่ีจักรยานตามกฎจราจร วิธีการเพาะเมล็ดพืช การให้อาหารสัตว์เลี้ยงในบ้าน การชักธงชาติข้ึน
การชกั ธงชาตลิ ง การใช้เง่อื นและการผูกเงื่อน การโดยสารเรือ
ปฏิบัติการปฐมพยาบาลเมื่อมีเลอื ดออก การกระโดดเชือก การเดินทรงตัวบนขอนไม้ ข้ึนบันไดยก
เคลื่อนท่ีได้ เลี้ยงลูกบอลด้วยเท้า การว่ิง 50 เมตร ขว้างลูกเทนนิส การใช้โทรศัพท์ การส่งข่าวในการขอ
ความช่วยเหลือ การประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุ การก่อกองไฟ การปรุงอาหาร เล่านิทาน ร้องเพลง การเขียน
ธงชาตพิ ม่า ฟิลปิ ปนิ ส์ การปฏบิ ตั ิตนตามกฎ คาปฏิญาณของลกู เสอื สารอง
มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการ
ทางาน รักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ
๑๓๒
คาอธบิ ายรายวิชา
กจิ กรรมลกู เสือสารอง
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 จานวน 40 ช่วั โมง/ปี
รวู้ ิธกี ารปฐมพยาบาลเม่ือถูกแมลงมีพิษสัตว์กัดต่อย ถูกไฟไหม้ น้ารอ้ นลวก การเก็บอปุ กรณป์ ัจจุบัน
พยาบาล ความสาคัญของการขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ การดูเวลา บอกเวลา การ
วางแผนการเดินทางนอกสถานที่ ธงลูกเสือประจาจังหวัด ธงลูกเสือแห่งชาติ ธงชาติอังกฤษ ธงชาติกัมพูชา
ธงชาติสหรัฐอเมริกา ธงชาตเิ วยี ดนาม ทศิ ทงั้ แปดทิศ การใช้เงื่อนและการผกู เงื่อน
การว่ิง 50 เมตร กระโดดไกล ขว้างลูกบอล การกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง การจัดทาสมุดภาพสิ่งที่
สนใจ การปฏิบัติตามกฎจราจร การบริการผู้อื่น การประดิษฐ์เครื่องดนตรีจากวัสดุ การปรุงอาหาร เล่า
นิทาน ร้องเพลง ฟ้อนรา ทาหุ่น เชิดหุ่น ใช้เข็มทิศ แต่งบทละครพูด ประดิษฐ์เครื่องดนตรีประกอบ
จังหวะ แสดงท่าทางได้ ต้มข้าวต้ม หุงข้าวหรือนึ่งข้าว ต้มหรือทอดไข่และจัดที่รับประทานอาหารได้ ทา
ความสะอาดอุปกรณห์ งุ ตม้ ภาชนะถ้วยชาม ซกั รีดผา้ เยบ็ กระดมุ จัดหอ้ ง ปูและเกบ็ ที่นอนได้
มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการ
ทางาน รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ นากฎ คาปฏิญาณของลูกเสอื สารองไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน
๑๓๓
คาอธิบายรายวชิ า
กจิ กรรมลูกเสอื สามญั หลักสูตรลูกเสือตรี
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 40 ชั่วโมง/ปี
รู้ประวัติ ลอร์ด บาเดน เพาเวลล์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กาเนิดกิจการลูกเสือ
โลก ลูกเสือไทย การทาความเคารพ รหัสลูกเสือ การจับมือซ้าย คติพจน์ของลูกเสือ กฎ คาปฏิญาณของ
ลูกเสือสามัญ หลักการอ่านเขียนโน้ตสากลเบ้ืองต้น การใช้เครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ เพลงที่ใช้ในกอง
ลูกเสือ การเคล่ือนไหวประกอบจังหวะดนตรี รู้โทษของยาเสพติด การวางแผนโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติ
ปรับปรุงพฒั นาส่งิ แวดล้อม
ปฏิบัติกิจกรรมกลางแจ้งนอกสถานท่ี ระเบียบแถว สัญญาณมือ สัญญาณนกหวีด บรรเลงเพลง
ร่วมกับวงดนตรีไทย หรือดนตรสี ากล ขบั ร้องเพลงลูกเสือ เคล่อื นไหวท่าทางประกอบ การสร้างสวนดอกไม้
สาหรบั คนตาบอด การอนรุ กั ษ์ธรรมชาตปิ รบั ปรงุ พฒั นาสง่ิ แวดล้อมร่วมกับลกู เสอื สามัญร่นุ ใหญ่
มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการ
ทางาน รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ นากฎ คาปฏญิ าณของลูกเสอื สามัญไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
๑๓๔
คาอธิบายรายวิชา
กจิ กรรมลกู เสอื สามญั หลักสูตรลูกเสอื โท
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 จานวน 40 ชั่วโมง/ปี
รู้จักหน่วยงานสถานท่ีสาคัญในท้องถิ่น กฎจราจร เรื่องราวในประเทศต่าง ๆ ท่ีสนใจ รู้จักวัสดุที่ใช้
ในการจักสาน จักตอก เหลาหวายหรือไม้ไผ่ ดอกไม้ ใบไม้และหญ้ารวมกัน 10 ชนิด เขียนภาพร่างของ
สัตว์จากของจริง 10 ภาพ และสามารถบรรยายเกี่ยวกับการดารงชีวิต การคัดเลือกพันธ์ุ การสร้าง
โรงเรอื น การใหอ้ าหารตามหลกั สุขาภบิ าลเบอ้ื งต้น
มีทักษะในการบรรจุเคร่ืองหลัง การก่อกองไฟ การประกอบอาหาร การกางเต็นท์สาหรับพักแรม
การดูแลตนเองในการเดินทางไกล การอยู่ค่ายพักแรม การใช้เข็มทิศ เครื่องหมายต่าง ๆ ในแผนที่ การปฐม
พยาบาลคนเป็นลม ถูกแมลงมีพิษสัตว์กัดต่อย ไฟไหม้ น้าร้อนลวก การใช้มีด ขวาน การผูกเงื่อน ระเบียบ
แถว ลกั ษณะและสญั ลักษณเ์ กยี่ วกับกาลอากาศ
มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทางาน
รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ
๑๓๕
คาอธิบายรายวิชา
กิจกรรมลกู เสอื สามญั หลักสูตรลกู เสอื เอก
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 จานวน 40 ชัว่ โมง/ปี
รู้วิธีการป้องกันการเจ็บป่วยจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ความปลอดภัยในการผจญภัย
การใช้เครื่องไฟฟ้า การเลือกสถานที่จัดต้ังพักแรมการจัดอาหารสาหรับอยู่ค่ายพักแรม ประวัติ ประโยชน์
ของกฬี ากระบ่ี กระบองของไทย อุปกรณแ์ ละเครอ่ื งดนตรีทใี่ ช้ในการเล่น กระบี่ กระบอง
ปฏิบัติการช่วยเหลือเม่ือเกิดเหตุฉุกเฉินจากไฟไหม้ ไฟช็อต แก๊สร่ัว คนจมน้า การปฐมพยาบาล
ผู้ป่วยช็อกหมดสติ เลือดออกภายนอก การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย การใช้เข็มทิศ อ่านและเขียนแผนที่ การเดิน
ทางไกล ทาโครงการบุกเบิกโดยใช้เง่ือนผูกแน่น เง่ือนบ่วงสายธนู เง่ือนเก้าอี้ วิธีผูกเชือกพันหลักให้แน่นใน
การช่วยเหลือผู้ตกอยู่ในอันตราย การประกอบอาหารชาวป่า สร้างที่พักแรมช่ัวคราว การใช้เล่ือย ขวาน
ในการโค่นตนไม้ สารวจละแวกบ้าน การเดินสวนสนาม การวิ่ง 100 เมตร 1,500 เมตร ว่ิงกระโดดไกล
ทุ่มนา้ หนกั
มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทางาน
รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ ตระหนกั ในความสาคัญของการอนรุ กั ษธ์ รรมชาติ
๑๓๖
2.2 กิจกรรมชุมนุม ผู้เรียนสามารถเลือกเข้าเป็นสมาชิกชมรม วางแผนการดาเนินกิจกรรม
ร่วมกัน โดยมชี มรมท่ีหลากหลาย เหมาะสมกับเพศ วยั และความสนใจของผู้เรียน ประกอบดว้ ยกิจกรรมด้าน
คุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม อนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม ส่งเสริมประชาธิปไตย ส่งเสริมการเรียนรู้ และค่าย
วิชาการ การศึกษาดงู าน การฝึกปฏบิ ัติ การบรรยายพิเศษ ดังตัวอย่างพอสังเขป ต่อไปน้ี
2.2.1 กิจกรรมพฒั นาวุฒิภาวะทางอารมณ์ ศลี ธรรมและจรยิ ธรรม จดั สอนจริยธรรม
ในห้องเรียน จัดให้มีการปฏิบัติกิจกรรมเนื่องในวันสาคัญท้ังทางชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดย
ผู้เรียนมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทั้งในด้านวฒั นธรรม ประเพณี กฬี า และศลิ ปะ
2.2.2 กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสีทุกชั้น โดยผู้เรียนได้ฝึกทักษะ
การทางาน และการแกป้ ญั หาทุกข้นั ตอน
2.2.3 กิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการทางาน จัดกิจกรรมวันวิชาการโดยผู้เรียนมีโอกาสลงมือ
ปฏิบตั จิ รงิ และฝกึ ทักษะการจัดการ
2.2.4 กิจกรรมเพ่ืออนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมและวัฒนธรรม โดยจัดกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรม
ไทย เช่น ประเพณีไหวค้ รู ประเพณีลอยกระทง
2.2.5 กิจกรรมส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย จัดให้มีการเลือกคณะกรรมการ
นักเรียน โดยให้นากระบวนการประชาธิปไตยไปใชใ้ นการรว่ มวางแผนดาเนินงานพฒั นาโรงเรยี น
2.2.6 กิจกรรมคนดีของสังคม จัดให้มีการบรรยายให้ความรู้ เพ่ือป้องกันปัญหาโรคติดต่อ
รา้ ยแรง ปญั หายาเสพตดิ ปัญหาวยั รุ่น ใหค้ วามรู้เพอ่ื ปลกู ฝังใหเ้ ป็นสภุ าพบุรุษ สภุ าพสตรี
2.2.7 กจิ กรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ โดยจดั แหลง่ เรียนรู้ ได้แกห่ อ้ งสมุด หอ้ งปฏบิ ตั ิการทาง
ภาษา หอ้ งปฏิบตั กิ ารวทิ ยาศาสตร์ หอ้ งเทคโนโลยีสารสนเทศ
2.2.8 กิจกรรมส่งเสรมิ สขุ ภาพอนามยั ใหบ้ ริการหอ้ งพยาบาล มบี ริการใหค้ วามรู้แก่
ผู้เรยี น เพอ่ื ป้องกนั โรคระบาดอย่างทันเหตกุ ารณ์
3. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ทาประโยชน์ตาม
ความสามารถ ความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพ่ือแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม
ความเสียสละต่อสังคม มีจิตใจมุ่งทาประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชนและสังคม กิจกรรมสาคัญได้แก่ กิจกรรม
บาเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม กิจกรรมดารงรักษา สืบสานศาสนา ศิลปะและวัฒน ธรรม
กิจกรรมพฒั นานวตั กรรมและเทคโนโลยเี พื่อสังคม
เ ว ล า เ รี ย น ส า ห รั บ กิ จกรรมเพื่ อสั งคมแล ะสาธ าร ณปร ะโย ชน์ ในส่ ว น กิ จ กร ร มเพ่ื อสั งค ม แ ล ะ
สาธารณประโยชน์จัดสรรเวลาใหผ้ เู้ รียนระดับประถมศกึ ษาปที ี่ 1-6 รวม 6 ปี จานวน 60 ช่ัวโมง
(เฉลีย่ ปลี ะ 10 ชวั่ โมง)
๑๓๗
ตัวอย่าง รปู แบบการจดั กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมหรือสาธารณประโยชน์
รูปแบบที่ ๑ บรู ณาการจดั การเรยี นรใู้ นกลุ่มสาระ หรือกิจกรรมแนะแนว ชุมนมุ
ลกู เสอื /เนตรนาร/ี ยุวกาชาด/ผบู้ าเพญ็ ประโยชน์ โดยต้องเป็นกิจกรรม
ทอี่ ย่ใู นลักษณะเพื่อสงั คมหรือสาธารณประโยชน์
รูปแบบที่ ๒ จัดทาโครงการท่ีให้ผ้เู รยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมนอกเหนือจากการเรียนปกติ
ซ่ึงเปน็ กจิ กรรมที่อยู่ในลกั ษณะเพ่ือสงั คมหรอื สาธารณประโยชน์
รูปแบบท่ี ๓ จดั ทาเปน็ กิจกรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณี วฒั นธรรม วนั สาคัญ
ทางราชการ หรอื กจิ กรรมที่นานกั เรยี นออกทาประโยชน์รว่ มกบั ชมุ ชน
หน่วยงานราชการ หรือองค์กรอื่น ๆ
รปู แบบที่ ๔ จัดให้ผู้เรียนทากิจกรรมตามความตอ้ งการโดยมคี รูเป็นทีป่ รึกษากจิ กรรม
เช่น รวมกลมุ่ อนุรักษ์ศลิ ปวัฒนธรรม พัฒนาชุมชน / ท้องถ่ิน เป็นตน้
แผนภูมทิ ่ี 3 รปู แบบการจัดกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมหรือสาธารณประโยชน์
โรงเรียนบ้านนาสร้างได้เลือกจัดกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ตามรูปแบบของความ
พร้อมในแต่ละชน้ั เรียน
๑๓๘
แผนภูมกิ ารประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น
การประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น เป็นเง่ือนไขสาคญั ประการหน่ึงสาหรับการ
เล่ือนชน้ั และการจบระดับการศึกษา ผเู้ รยี นต้องมีเวลาเข้าร่วมและปฏบิ ัติกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ตลอดจน
ผา่ นการประเมินตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด โดยแนวทางการประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนมี
รายละเอยี ด ดังแผนภาพ แนะแนว
เวลาการเขา้ ร่วม กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมนกั เรียน
กิจกรรมกิจกรรม
เกณฑก์ ารประเมิน ลูกเสือ/เนตรนารี/ ชมุ นมุ
การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ผู้บาเพ็ญฯ ชมรม
ผลงาน/ช้นิ งาน
กจิ กรรมเพื่อสังคมฯ
ไม่ตามเกณฑ์ ประเมนิ ตามเกณฑ์
ไมผ่ า่ น ผา่ น
ซอ่ มเสรมิ
แผนภาพ แสดงข้ันผา่ตนอนการประเมินกจิ กรรมพสง่ัฒผนลกาาผรูเ้ปรรยี ะนเมนิ
แนวดาเนนิ การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน
หลกั การประเมนิ
การประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นบ้านนาสรา้ ง พุทธศกั ราช
256๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เป็นกระบวนการประเมนิ จากการ
ปฏิบตั กิ จิ กรรมและผลงาน / ชิน้ งานของผเู้ รียนดว้ ยวธิ กี ารที่หลากหลาย และประเมินตามสภาพจรงิ โดย
- ใหผ้ ูเ้ รียนได้ค้นหาศักยภาพของตนเอง การทางานกลมุ่ ทักษะการอย่รู ว่ มกันและการมีจิตสาธารณะ
- ทกุ ฝ่ายมสี ว่ นรว่ มในการประเมิน เชน่ ครู ผ้ปู กครอง เพอื่ นนกั เรียน
- มกี ารประเมนิ ผลเปน็ ระยะๆ เพอ่ื รวบรวมขอ้ มลู และพัฒนาอย่างตอ่ เน่ือง
๑๓๙
แนวทางการประเมนิ
โรงเรียนบ้านนาสรา้ ง มีแนวทางในการดาเนินการประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นที่ชัดเจน
1. การประเมินกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นรายกจิ กรรม มีแนวปฏบิ ตั ดิ งั น้ี
1.1 ตรวจสอบเวลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมของผู้เรียนใหเ้ ป็นไปตามเกณฑท์ สี่ ถานศึกษากาหนดไว้
1.2 ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียนตาม
เกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากาหนด ดว้ ยวิธีการทห่ี ลากหลาย และใชก้ ารประเมินตามสภาพจริง
1.3 ผู้เรียนที่มีเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ช้ินงานของผู้เรียนตาม
เกณฑ์ท่ีสถานศึกษากาหนด เป็นผู้ผ่านการประเมินรายกิจกรรมและนาผลการประเมินไปบันทึกในระเบียน
แสดงผลการเรยี น
1.4 ผู้เรียนท่ีมีผลการประเมินไม่ผ่านในเกณฑ์เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม หรือเกณฑ์การปฏิบัติ
กิจกรรมและผลงาน/ช้ินงานของผู้เรียนหรือทั้งสองเกณฑ์ ถือว่าไม่ผ่านการประเมินผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ผู้สอนต้องดาเนินการซ่อมเสริมและประเมินจนผ่านท้ังนีค้ วรดาเนินการให้เสร็จส้ิน ในปีการศึกษานั้นยกเวน้ มี
เหตสุ ุดวสิ ัยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของสถานศึกษา
2. การประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียนเพอื่ การตดั สนิ
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นการประเมินการผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค
เพ่ือสรุปผลการผ่านในแต่ละกิจกรรม สรุปผลรวมเพ่ือเลื่อนชั้นและประมวลผลรวมในปีสุดท้ายเพ่ือการจบ แต่
ละระดับการศึกษา โดยการดาเนนิ การดังกลา่ วมีแนวปฏิบัติ ดงั นี้
2.1 กาหนดให้มีผู้รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของ
ผเู้ รยี นทกุ คนตลอดระดับการศกึ ษา
2.2 ผู้รับผิดชอบสรุปและตัดสินผลการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของผู้เรียนเป็นรายบุคคล
ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด เกณฑ์การจบแต่ละระดับการศึกษาที่สถานศึกษากาหนดน้ันผู้เรียนจะต้อง
ผ่านกจิ กรรม 3 กจิ กรรมสาคัญ ดังน้ี
1) กจิ กรรมแนะแนว
2) กิจกรรมนักเรียน ได้แก่ (1) กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บาเพ็ญ
ประโยชน์ และนักศึกษาวชิ าทหาร (2) กจิ กรรมชมุ นมุ ชมรม
3) กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
2.3 นาเสนอผลการประเมินต่อคณะอนุกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
เพือ่ ใหค้ วามเหน็ ชอบ
2.4 เสนอผู้บริหาร พิจารณาอนุมัติผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียนผ่านเกณฑ์การจบ แต่
ละระดับการศกึ ษา
๑๔๐
เกณฑก์ ารตัดสนิ
ผ้เู รยี นจะต้องไดร้ บั การประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนและผ่านเกณฑ์ตามทีส่ ถานศึกษากาหนด โดย
กาหนดเกณฑ์ในการประเมนิ อยา่ งเหมาะสม ดังนี้
1. กาหนดคณุ ภาพหรือเกณฑใ์ นการประเมนิ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐานกาหนดไว้
2 ระดับ คือ ผ่าน และไม่ผ่าน
2. กาหนดประเด็นการประเมนิ ใหส้ อดคลอ้ งตามจดุ ประสงค์ในแต่ละกจิ กรรมและกาหนดเกณฑ์
การผา่ นการประเมนิ ดังน้ี
2.1 เกณฑ์การตัดสินผลการประเมินรายกิจกรรม
ผา่ น หมายถงึ ผเู้ รยี นมีเวลาเข้ารว่ มกจิ กรรมครบตามเกณฑ์และปฏบิ ัติ
กจิ กรรมและผลงานของผู้เรยี นตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากาหนด
ไม่ผ่าน หมายถงึ ผู้เรยี นมเี วลาเข้าร่วมไม่ครบตามเกณฑ์ หรือไม่ผา่ นการปฏิบตั ิ
กจิ กรรมและผลงานของผู้เรียนตามเกณฑท์ ่สี ถานศึกษากาหนด
2.2 เกณฑ์การตัดสนิ ผลการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนรายปี / รายภาค
ผ่าน หมายถงึ ผ้เู รยี นมผี ลการประเมินระดับ “ผ่าน” ในกจิ กรรมสาคญั ทงั้ 3
กิจกรรม คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรยี น กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์
ไมผ่ ่าน หมายถึง ผูเ้ รียนมผี ลการประเมินระดับ “ไม่ผ่าน” ในกจิ กรรมสาคัญ
กิจกรรมใดกิจกรรมหนึง่ จาก 3 กจิ กรรม คือ กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน กิจกรรมเพ่ือสังคมและ
สาธารณประโยชน์
2.3 เกณฑ์การตัดสินผลการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียนเพื่อจบระดับการศกึ ษา
ผ่าน หมายถึง ผ้เู รียนมผี ลการประเมนิ ระดับ “ผ่าน” ทกุ ชนั้ ปใี นระดับการศกึ ษานั้น
ไม่ผ่าน หมายถงึ ผู้เรียนมผี ลการประเมินระดับ “ไมผ่ ่าน”บางชั้นปใี นระดบั การศึกษานั้น
แนวทางการแกไ้ ขนกั เรียนกรณไี ม่ผ่านเกณฑ์
กรณีทผี่ ู้เรียนไมผ่ ่านกิจกรรม ใหเ้ ป็นหน้าท่ีของครูหรือผู้รับผิดชอบกิจกรรมนั้นๆที่จะต้องซ่อมเสริม โดย
ใหผ้ เู้ รยี นดาเนินกจิ กรรมจนครบตามเวลาที่ขาดหรือปฏิบัติกิจกรรมให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของกจิ กรรมน้ันแล้วจึง
ประเมินให้ผ่านกิจกรรม เพ่ือบันทึกในระเบียนแสดงผลการเรียน ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้รายงานผู้บริหาร
สถานศกึ ษาทราบ เพือ่ ดาเนินการช่วยเหลือผู้เรยี นอย่างเหมาะสมเป็นรายกรณีไป
ขอ้ เสนอแนะ
การประเมนิ ผลการเขา้ รว่ มกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี นนน้ั จะต้องคานึงถึงส่งิ ต่อไปน้ี
1. เวลาการเข้าร่วมกิจกรรมของผู้เรียนตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากาหนด สถานศึกษาควรกาหนดเวลาไม่
นอ้ ยกว่าร้อยละ 80ของเวลาเรยี นแต่ละกิจกรรม สาหรบั กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ผู้เรยี นต้อง
ปฏิบัตกิ ิจกรรมครบตามโครงสร้างเวลาเรียน
2. ผลการปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของผู้เรียนให้เป็นไปตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากาหนด
โดยอาจจดั ให้ผูเ้ รยี นแสดงผลงาน แฟ้มสะสมงานหรอื จัดนทิ รรศการ
3. ในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หากสถานศึกษามีบุคลากรไม่เพียงพอ หรือไม่สามารถ
จัดกิจกรรมได้อย่างหลากหลาย สถานศึกษาอาจจัดกจิ กรรมในลักษณะบูรณาการ หรอื สอดแทรก ในกิจกรรม
หรือโครงการตา่ ง ๆ เชน่ กิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมวนั สาคัญ กิจกรรมบาเพญ็ ประโยชน์ เป็นตน้ ซง่ึ สถานศกึ ษา
๑๔๑
สามารถดาเนินการประเมินผลการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวและนามาเป็นส่วนหน่ึงในการประเมินกิจกรรม
พฒั นาผู้เรยี นได้
4. การจดั กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียนควรมีองค์ประกอบในการดาเนนิ การ ดังน้ี
4.1 มีครูที่ปรึกษาและแผนการดาเนนิ กจิ กรรม
4.2 มหี ลกั ฐาน / ภาพถ่าย / แฟม้ สะสมงาน
4.3 มีผรู้ ับรองผลการเข้ารว่ มกจิ กรรม
4.4 มรี ายงานแสดงการเข้ารว่ มกจิ กรรม
๑๔๒
ส่วนท่ี 5
เกณฑ์การจบหลักสูตร
หลักสูตรโรงเรียนบ้านนาสร้าง พุทธศักราช 256๕ จัดทาข้ึนภายใต้กรอบของหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 บริบทของสภาพชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถ่ินของ
สถานศึกษา เพ่ือใช้จัดในการศึกษาของสถานศึกษา เพ่ือพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว
ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และพลโลก จากความมูลเหตุดังกล่าว การวัดและประเมินผลการเรียน จึงต้อง
ปฏิบัตติ ามขอ้ กาหนดการประเมนิ ผล ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 เป็น
หลัก ซง่ึ การดาเนินการในการวัดและประเมินผลการเรยี นร้ขู องหลกั สูตรสถานศึกษาไดก้ าหนดแนวทางในการ
ดาเนินการ ดังต่อไปนี้
1. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพ้ืนฐาน 2 ประการ คือการประเมิน
เพ่ือพัฒนาผู้เรียน และเพ่ือตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบ
ผลสาเร็จน้ัน ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวช้ีวัดเพ่ือให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้
สะท้อนสมรรถนะสาคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซ่ึงเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและ
ประเมนิ ผลการเรยี นรใู้ นทุกระดบั เปน็ กระบวนการพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี นโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและ
สารสนเทศท่ีแสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสาเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็น
ประโยชน์ต่อการสง่ เสริมให้ผเู้ รียนเกดิ การพัฒนาและเรยี นรูอ้ ย่างเต็มตามศักยภาพ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านนาสร้าง พุทธศักราช 256๕
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 แบง่ ออกเป็น 4 ระดบั ได้แก่ ระดับช้ันเรยี น
ระดบั สถานศึกษาระดับเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาและระดับชาติ มีรายละเอยี ด ดังน้ี
1. การประเมนิ ระดบั ชน้ั เรียน เปน็ การวัดและประเมนิ ผลทอี่ ยใู่ นกระบวนการจัดการเรยี นรู้ ผู้สอน
ดาเนินการเป็นปกติและสม่าเสมอในการจัดการเรียนการสอนใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น
การซักถาม การสังเกต การตรวจการบา้ น การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสม
งาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อน
ประเมินเพ่ือน ผปู้ กครองรว่ มประเมนิ ในกรณีทไ่ี มผ่ า่ นตัวชว้ี ัดให้มีการสอนซอ่ มเสรมิ
การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบว่าผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้
อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรอื ไม่และมากน้อยเพียงใดมีส่ิงท่ีจะต้องได้รับการพัฒนา
ปรับปรุงและส่งเสริมในดา้ นใดนอกจากน้ียังเป็นข้อมลู ให้ผ้สู อนใช้ปรบั ปรุงการเรียนการสอนของตนด้วย ทั้งน้ี
โดยสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ช้วี ัด
2. การประเมินระดับสถานศึกษาเป็นการประเมินท่ีสถานศึกษาดาเนินการเพ่ือตัดสินผลการเรียน
ของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์
และกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น นอกจากน้ี เพือ่ ให้ไดข้ ้อมลู เกี่ยวกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ว่าส่งผลต่อ
๑๔๓
การเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมท้ังสามารถนาผลการเรียนของ
ผู้เรียนในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและ
สารสนเทศเพ่ือการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพ่ือการ
จัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการ
รายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษาสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา สานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน ผู้ปกครองและชุมชน
3. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพ้ืนท่ี
การศึกษาตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพ้ืนฐานใน
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดาเนินการโดย
ประเมินคุณภาพผลสัมฤทธ์ิของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดทาและดาเนินการโดยเขตพ้ืนที่การศึกษา
หรือด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด ในการดาเนินการจัดสอบ นอกจากน้ียังได้จากการตรวจสอบ
ทบทวนข้อมูลจากการประเมินระดับสถานศึกษาในเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษา
4. การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน สถานศกึ ษาตอ้ งจัดใหผ้ ู้เรียนทุกคนท่ีเรียนในช้ันประถมศึกษาปี
ที่ 3 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 เข้ารับการประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพ
การศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อนาไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูล
สนบั สนนุ การตดั สนิ ใจในระดบั นโยบายของประเทศ
ข้อมูลการประเมินในระดับต่าง ๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวน
พัฒนาคุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ
ปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่าง
บุคคลที่จาแนกตามสภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนท่ีมีความสามารถ
พิเศษ กลุ่มผเู้ รยี นท่มี ผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนต่า กลมุ่ ผู้เรียนทม่ี ปี ัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กล่มุ ผู้เรยี น
ทปี่ ฏเิ สธโรงเรยี น กลุม่ ผู้เรียนท่มี ีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุม่ พกิ ารทางร่างกายและสติปัญญา เปน็ ตน้
ข้อมลู จากการประเมนิ จึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดาเนนิ การชว่ ยเหลอื ผ้เู รียนไดท้ ันท่วงที เปิดโอกาส
ให้ผูเ้ รียนไดร้ บั การพฒั นาและประสบความสาเร็จในการเรยี น
ดังน้ัน โรงเรียนบ้านนาสร้าง ในฐานะผูร้ ับผิดชอบจัดการศึกษา ได้จัดทาระเบียบว่าด้วยการวัดและ
ประเมนิ ผลการเรยี นของสถานศึกษาซงึ่ สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบตั ิที่เป็นข้อกาหนด
ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน เพ่ือใหบ้ ุคลากรที่เกย่ี วขอ้ งทุกฝา่ ยถือปฏิบัติรว่ มกัน
2. เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลการเรียน
1) การตดั สนิ การให้ระดบั และการรายงานผลการเรยี น
1.1 การตัดสนิ ผลการเรยี น
ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องคานึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนเป็น
หลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่าเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียนรวมท้ังสอนซ่อมเสริม
ผเู้ รยี นให้พัฒนาจนเต็มตามศกั ยภาพ