แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย แผนที่ ๓๑-๖๑ (เล่มที่ ๒)

แผนการจัด จั การเรีย รี นรู้ นางสาว วิภ วิ าดา จัน จั ทร์อ ร์ ร่า ร่ ม วิชวิา ภาษาไทย ภาคเรียรีนที่ ๒ ปีกปีารศึกศึษา ๒๕๖๖ โรงเรียรีนบ้าบ้นทองอินอิทร์สร์วนมอญ คณะครุศรุาสตร์ มหาวิทวิยาลัยลัราชภัฏภัอุดอุรธานี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๑-๖๑

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๑ – ๖๑ วิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านทองอินทร์สวนมอญ นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม รหัสประจำตัวนักศึกษา ๖๒๑๐๐๑๐๑๑๐๖ สาขาวิชาภาษาไทย การฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ๒ รหัสวิชา ED๑๘๕๐๒ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖

ตารางสอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม ภาคเรียวัน เวลา ๐๘.๐๐-๐๘.๒๐ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐ ๐๙.๓๐-๑๐.๓๐ ๑๐.๓๐จันทร์ กิจกรรม หน้าเสาธง /บูรณาการ อนุบาล ๒ อนุบาล ๒ ภาษาไอังคาร กิจกรรม หน้าเสาธง /บูรณาการ ภาษาไทย ป.๕ พุธ กิจกรรม หน้าเสาธง /บูรณาการ อนุบาล ๓ ภาษาไทย ป.๖ พฤหัสบดี กิจกรรม หน้าเสาธง /บูรณาการ กิจกรรมลูกเสือ ภาษาไทย ป.๕ ศุกร์ กิจกรรม หน้าเสาธง /บูรณาการ ภาษาไ

ยนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ รวม ๑๒ คาบ/สัปดาห์ ๐-๑๑.๓๐ ๑๑.๓๐-๑๒.๓๐ ๑๒.๓๐-๑๓.๓๐ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐ ๑๔.๓๐-๑๕.๓๐ ทย ป.๖ พักกลางวัน ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้/PLC ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้/PLC กิจกรรม Farm school ภาษาไทย ป.๕ ภาษาไทย ป.๖ ทย ป.๖ ภาษาไทย ป.๕ ธรรมะ /สาธารณะ

กำหนดการสอนรายวิชชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลาเรียน ๘๐ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ โรงเรียนบ้าชื่อผู้สอน วิแผนที่ หน่วยการเรียนรู้ วัน/เดือน/ปี เวลาที่สอน ๓๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๒ สี่ศิษย์พระดาบส (สมุดมิตรภาพ) ๒๗/๑๒/๖๖ ๐๙.๓๐-๑๐.๓๐ ๓๒ ๒๘/๑๒/๖๖ ๑๔.๓๐-๑๕.๓๐ ๓๓ ๒๙/๑๒/๖๖ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐ ๓๔ ๐๓/๐๑/๖๗ ๐๙.๓๐-๑๐.๓๐ ๓๕ ๐๔/๐๑/๖๗ ๑๔.๓๐-๑๕.๓๐

ชาภาษาไทยพื้นฐาน ท ๑๖๑๐๑ ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน ๘ หน่วยการเรียนรู้ นทองอินทร์สวนมอญ อำเภอกุมภวาปีจังหวัดอุดรธานี วิภาดา จันทร์อร่าม ชั้น/ห้อง สาระการเรียนรู้ เวลา/ ชั่วโมง หมายเหตุ ป.๖ คำศัพท์น่ารู้ คู่ความหมาย ๑ ป.๖ บทอ่าน สี่ศิษย์พระดาบส ๑ ป.๖ การเขียนโฆษณา ๑ ป.๖ การเขียนคำขวัญ ๑ ป.๖ การพูดรายงาน ๑

แผนที่ หน่วยการเรียนรู้ วัน/เดือน/ปี เวลาที่สอน ๓๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๒ สี่ศิษย์พระดาบส (สมุดมิตรภาพ) ๐๕/๐๑/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐ ๓๗ ๐๘/๐๑/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐ ๓๘ ๑๐/๐๑/๖๗ ๐๙.๓๐-๑๐.๓๐ ๓๙ ๑๑/๐๑/๖๗ ๑๔.๓๐-๑๕.๓๐ ๔๐ ๑๒/๐๑/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐ ๔๑ ๑๕/๐๑/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐ ๔๒ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๓ หนึ่งในประชาคม ๑๗/๐๑/๖๗ ๐๙.๓๐-๑๐.๓๐ ๔๓ ๑๘/๐๑/๖๗ ๑๔.๓๐-๑๕.๓๐ ๔๔ ๑๙/๐๑/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐

ชั้น/ห้อง สาระการเรียนรู้ เวลา/ ชั่วโมง หมายเหตุ ป.๖ การเขียนเรียงความ ๑ ป.๖ การพูดโต้วาที ๑ ป.๖ การพูดโต้วาที ๑ ป.๖ สมุดมิตรภาพ ๑ ป.๖ สมุดมิตรภาพ ๑ ป.๖ คําที่มีตัวการันต์ ๑ ป.๖ คำศัพท์น่ารู้ คู่ความหมาย ๑ ป.๖ บทอ่าน หนึ่งในประชาคม ๑ ป.๖ บทอ่านเสริม ประชาคมอาเซียน ๑

แผนที่ หน่วยการเรียนรู้ วัน/เดือน/ปี เวลาที่สอน ๔๕ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๓ หนึ่งในประชาคม ๒๒/๐๑/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐๔๖ ๒๔/๐๑/๖๗ ๐๙.๓๐-๑๐.๓๐๔๗ ๒๕/๐๑/๖๗ ๑๔.๓๐-๑๕.๓๐๔๘ ๒๖/๐๑/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐๔๙ ๒๙/๐๑/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐๕๐ ๓๑/๐๑/๖๗ ๐๙.๓๐-๑๐.๓๐๕๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เสียแล้วไม่กลับคืน ๐๑/๐๒/๖๗ ๑๔.๓๐-๑๕.๓๐๕๒ ๐๒/๐๒/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐๕๓ ๐๕/๐๒/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐

ชั้น/ห้อง สาระการเรียนรู้ เวลา/ ชั่วโมง หมาย เหตุ ๐ ป.๖ ข้อเท็จจริงข้อคิดเห็น ๑ ๐ ป.๖ การสืบค้นข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ๑ ๐ ป.๖ การเขียนจดหมายกิจธุระ ๑ ๐ ป.๖ การเขียนจดหมายกิจธุระ ๑ ๐ ป.๖ คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ ๑ ๐ ป.๖ คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ ๑ ๐ ป.๖ คำศัพท์น่ารู้ คู่ความหมาย ๑ ๐ ป.๖ บทอ่าน เสียแล้วไม่กลับคืน ๑ ๐ ป.๖ การดู การฟัง และการอ่านข่าว ๑

แผนที่ หน่วยการเรียนรู้ วัน/เดือน/ปี เวลาที่สอน ๕๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เสียแล้วไม่กลับคืน ๐๗/๐๒/๖๗ ๐๙.๓๐-๑๐.๓๐ ๕๕ ๐๘/๐๒/๖๗ ๑๔.๓๐-๑๕.๓๐ ๕๖ ๐๙/๐๒/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐ ๕๗ ๑๒/๐๒/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐ ๕๘ ๑๔/๐๒/๖๗ ๐๙.๓๐-๑๐.๓๐ ๕๙ ๑๕/๐๒/๖๗ ๑๔.๓๐-๑๕.๓๐ ๖๐ ๑๖/๐๒/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐ ๖๑ ๑๙/๐๒/๖๗ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐

ชั้น/ห้อง สาระการเรียนรู้ เวลา/ ชั่วโมง หมายเหตุ ป.๖ การดู การฟัง และการอ่านข่าว ๑ ป.๖ การเขียนแผนภาพความคิด ๑ ป.๖ การสนทนาและการพูดโทรศัพท์ ๑ ป.๖ การสนทนาและการพูดโทรศัพท์ ๑ ป.๖ การอ่านกราฟและแผนภูมิ ๑ ป.๖ การเขียนเล่าเรื่องเหตุการณ์ ๑ ป.๖ อักษรนำ ๑ ป.๖ คำที่มีความหมายตรงกันข้าม ๑

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๒ เรื่อง สี่ศิษย์พระดาบส (สมุดมิตรภาพ) เวลา ๑๐ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย คำศัพท์น่ารู้ คู่ความหมาย เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนําไปตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธิบายความหมายของคำ ประโยคและข้อความที่เป็นโวหาร ท ๑.๑ ป.๖/๙ มีมารยาทในการอ่าน ๒. สาระสำคัญ การเรียนรู้คำศัพท์เป็นพื้นฐานเบื้องต้นที่ผู้เรียนจำเป็นที่จะต้องรู้จักจากนั้นนำไปสู่ความหมาย ของคำศัพท์นั้น ๆ จะทำให้นักเรียนเข้าใจความหมายของคำและสามารถนำคำศัพท์เหล่านั้นไปใช้ ในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเรื่องของการสื่อสาร การแต่งประโยค หรือข้อความได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์ได้ (K) ๓.๒ นักเรียนสามารถจับคู่คำศัพท์กับความหมายได้ (P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการอ่าน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ คำศัพท์บทที่ ๑๒ สี่ศิษย์พระดาบส ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด

๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนสังเกตรูปภาพและคำศัพท์ หลังจากนั้นให้นักเรียนจับคู่คำศัพท์ให้ตรงกับ รูปภาพ โดยมีรูปภาพอิสตรีรูปภาพดาบส รูปภาพมุนีและคำศัพท์อิสตรีดาบส มุนีจากนั้นให้ นักเรียนจับคู่ภาพกับคำศัพท์ให้ถูกต้อง ดังนี้ - รูปอิสตรีคู่กับคำศัพท์อิสตรี - รูปภาพดาบสคู่กับคำศัพท์ดาบส - รูปภาพมุนีคู่กับคำศัพท์มุนี ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาข้อมูลเรื่อง คำศัพท์ จากหนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๖ บทที่ ๑๒ สี่ศิษย์พระดาบส หน้าที่ ๑๘๙ ๗.๒.๒ นักเรียนทำกิจกรรมจับคู่คำศัพท์กับความหมาย จากบัตรคำ โดยมีกติกา ดังนี้ ๑) นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๓ กลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน ๒) นักเรียนส่งตัวแทนออกมารับกระดาน เพื่อเขียนคำตอบลงไป ๓) ครูจะมีคำศัพท์มาให้ หลังจากนั้นให้นักเรียนช่วยกันโยงว่าคำศัพท์นี้มี ความหมายว่าอย่างไร ๔) กลุ่มใดได้คะแนนเยอะที่สุดจะได้รับรางวัลพิเศษ ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์และบอกความหมายจากหนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ บทที่ ๑๒ สี่ศิษย์พระดาบส อย่างพร้อมเพียงกัน ๗.๓.๒ นักเรียนทำแบบฝึกหัดจับคู่คำศัพท์กับความหมาย และแต่งเนื้อเรื่องจากคำศัพท์ เป็นการบ้าน ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๘.๒ บัตรคำศัพท์ ๘.๓ รูปภาพ ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ แบบฝึกหัดจับคู่คำศัพท์กับความหมาย ๙.๒ การแต่งเนื้อเรื่องจากคำศัพท์

๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอกความหมาย ของคำศัพท์ได้ (K) การถาม – ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถจับคู่ คำศัพท์กับความหมายได้ (P) ตรวจ แบบฝึกหัดจับคู่ คำศัพท์กับ ความหมาย แบบฝึกหัด จับคู่คำศัพท์ กับความหมาย นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การอ่าน (A) การสังเกต พฤติกรรม การอ่าน แบบสังเกต พฤติกรรม การอ่าน นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

รายละเอียดแบบประเมินการอ่าน รายละเอียด ๔ ๓ ๒ ๑ ความถูกต้องใน การอ่าน สามารถอ่านได้ ถูกต้องทั้งหมด สามารถอ่านได้ เกือบถูกต้อง ทั้งหมด ผิดไม่ เกิน ๓ คำ สามารถอ่านได้ ผิดไม่เกิน ๑๐ คำ พยายามอ่านได้ บ้าง ผิดมากกว่า ๑๐ คำ น้ำเสียง การเว้นวรรค ตอนในการอ่าน สามารถอ่านได้ ชัดเจน สื่อ ความรู้สึกของ เรื่องที่อ่านได้ดี สามารถอ่านได้ ชัดเจน สื่อ ความรู้สึกของ เรื่องที่อ่านได้ พอใช้ สามารถอ่านได้ ค่อนข้างชัดเจน แต่ค่อนข้างช้า ยังสื่อความรู้สึก ของเรื่องได้ไม่ ชัดเจน พยายามอ่านได้ บ้าง น้ำเสียงเบา ไม่ชัดเจน ไม่ สามารถสื่อ ความรู้สึกของ เรื่องได้ชัดเจน มีความมั่นใน การใช้ภาษา มีความมั่นใจใน การอ่านดี มีการเตรียมตัว มา อย่างดี มั่นใจ ตนเอง มีความมั่นใจใน การอ่านพอใช้ เตรียมตัวมาอย่าง ดี ยังประหม่า ยังไม่ค่อยมีความ มั่นใจเท่าที่ควร มีการเตรียมตัว มาพอใช้ ขาดความมั่นใจ ในตนเอง เตรียม ตัวมาบ้างแต่ไม่ มากนัก เกณฑ์การผ่าน ๑๖ - ๑๓ คะแนน หมายถึง ดีมาก ๑๒ - ๙ คะแนน หมายถึง ดี ๘ - ๕ คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับ ดีมาก ขึ้นไป

ตัวอย่างประกอบแผน คำศัพท์น่ารู้ คู่ความหมาย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๑ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ตัวอย่าง บัตรภาพ -อิสตรี

-ดาบส และมุนี ตัวอย่าง บัตรคำศัพท์ ดาบส อิสตรี

ใบงาน กิจกรรม"โยงคำ ศัพท์ คู่ความหมาย" ปาฏิหาริย์ ดาบส มุนี โอสถ นักสิทธิ์ อิสตรี สาธยาย รำ ไร นักปราชญ์, ฤาษี, พระสงฆ์ ยาแก้โรค, ยารักษาโรค ฤาษี ผู้ประพฤติตามลัทธิความเชื่อ เช่น จำ ศีล หญิง คำ ชี้แจง : ให้นักเรียนโยงเส้นคำ ศัพท์กับความหมายให้ถูกต้อง การท่อง, การสวด สิ่งที่น่าอัศจรรย์ ฤาษี ผู้สำ เร็จ เล็กน้อย เช่น แสงสว่างรำ ไร ชื่อ.........................................สกุล.....................................ชั้น.......เลขที่..............

ใบงาน แต่งเรื่องจากคำ ศัพท์ ชื่อ..................................สกุล.............................เลขที่..... คำ ชี้แจง : ให้นักเรียนแต่งเรื่องจากคำ ศัพท์ในหนังสือเรียน พร้อมตั้งชื่อเรื่อง ชื่อเรื่อง................................................

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๒ เรื่อง สี่ศิษย์พระดาบส (สมุดมิตรภาพ) เวลา ๑๐ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย บทอ่าน สี่ศิษย์พระดาบส เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนําไปตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนำความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต ท ๑.๑ ป.๖/๙ มีมารยาทในการอ่าน ๒. สาระสำคัญ การอ่านเพื่อจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสำคัญหลักของข้อความ หรือเรื่องที่อ่าน เป็นข้อความที่คลุมข้อความอื่นๆ ในย่อหน้าหนึ่งๆ ไว้ทั้งหมด เป็นการอ่านเพื่อให้ทราบถึงใจ ความสำคัญของเรื่องที่อ่าน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนจับใจความสำคัญของเรื่องได้ (K) ๓.๒ นักเรียนสามารถตอบคำถามจากเนื้อเรื่องได้ (P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการอ่าน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ บทอ่าน สี่ศิษย์พระดาบส ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา

๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนตอบคำถามครูจากการดูรูปภาพในหนังสือภาษาพาที หน้าที่ ๑๘๗ ดังนี้ ๑) จากคำที่ว่า รูปภาพและข้อความที่ว่าสี่ศิษย์พระดาบส นักเรียนมีความคิดเห็น อย่างไร แนวคำตอบนักเรียน เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับผู้ชาย ๔ คน ที่มีเวทมนตร์และมีการแย่งชิง อยากเป็นที่หนึ่งแต่สุดท้ายเกิดความสามัคคีกัน และมีเนื้อหาเกี่ยวกับการพูดโฆษณา การเจรจา การโต้วาที ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑. นักเรียนอ่านในใจบทเรียน เรื่อง สี่ศิษย์พระดาบส ในเวลาที่ครูกำหนดให้ครูสังเกต พฤติกรรมการอ่านในใจของนักเรียน ๗.๒.๒ นักเรียนเมื่ออ่านในใจบทเรียน สี่ศิษย์พระดาบส ครูจะพาทำกิจกรรม สุ่มคำถาม แลกคำตอบ โดยกติกามีดังนี้ ๑) นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน พร้อมตั้งชื่อกลุ่มของตนเอง ๒) นักเรียนแต่ละกลุ่มนำกระดาษขึ้นมา ๑ แผ่น พร้อมเขียนชื่อกลุ่มของตนเอง ๓) เมื่อได้คำตอบให้นักเรียนชูกระดาษชื่อกลุ่มตนเองขึ้น ๔) หากตอบถูกจะได้รับคะแนนสะสมไป ๕) ครูจะมีคำถาม โดยหยิบสุ่มจากกล่องสุ่มปริศนา มีทั้งหมด ๑๐ ข้อ ๖) กลุ่มใดได้คะแนนสะสมเยอะที่สุดจะได้รับคะแนน คนละ ๒ คะแนน ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุปใจความสำคัญของเรื่อง ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ผลสุดท้ายเป็นอย่างไร และข้อคิดที่ได้จากเรื่องคืออะไร ๗.๓.๒ นักเรียนทำแบบฝึกหัด หน้าที่ ๑๐๖-๑๐๗ ในหนังสือแบบฝึกหัดรายวิชาภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ๖ เป็นการบ้าน ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๘.๒ กล่องสุ่มปริศนา ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ แบบฝึกหัดที่ หน้าที่ ๑๐๖-๑๐๗

๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนจับใจความ สำคัญของเรื่องได้ (K) การถาม – ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถตอบ คำถามจากเนื้อเรื่องได้ (P) ตรวจแบบฝึกหัด หน้าที่ ๑๐๖-๑๐๗ แบบฝึกหัด หน้าที่ ๑๐๖-๑๐๗ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การอ่าน (A) การสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

รายละเอียดแบบประเมินการอ่าน รายละเอียด ๔ ๓ ๒ ๑ ความถูกต้องใน การอ่าน สามารถอ่านได้ ถูกต้องทั้งหมด สามารถอ่านได้ เกือบถูกต้อง ทั้งหมด ผิดไม่ เกิน ๓ คำ สามารถอ่านได้ ผิดไม่เกิน ๑๐ คำ พยายามอ่านได้ บ้าง ผิดมากกว่า ๑๐ คำ น้ำเสียง การเว้นวรรค ตอนในการอ่าน สามารถอ่านได้ ชัดเจน สื่อ ความรู้สึกของ เรื่องที่อ่านได้ดี สามารถอ่านได้ ชัดเจน สื่อ ความรู้สึกของ เรื่องที่อ่านได้ พอใช้ สามารถอ่านได้ ค่อนข้างชัดเจน แต่ค่อนข้างช้า ยังสื่อความรู้สึก ของเรื่องได้ไม่ ชัดเจน พยายามอ่านได้ บ้าง น้ำเสียงเบา ไม่ชัดเจน ไม่ สามารถสื่อ ความรู้สึกของ เรื่องได้ชัดเจน มีความมั่นใน การใช้ภาษา มีความมั่นใจใน การอ่านดี มีการเตรียมตัว มา อย่างดี มั่นใจ ตนเอง มีความมั่นใจใน การอ่านพอใช้ เตรียมตัวมาอย่าง ดี ยังประหม่า ยังไม่ค่อยมีความ มั่นใจเท่าที่ควร มีการเตรียมตัว มาพอใช้ ขาดความมั่นใจ ในตนเอง เตรียม ตัวมาบ้างแต่ไม่ มากนัก เกณฑ์การผ่าน ๑๖ - ๑๓ คะแนน หมายถึง ดีมาก ๑๒ - ๙ คะแนน หมายถึง ดี ๘ - ๕ คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับ ดีมาก ขึ้นไป

ตัวอย่างประกอบแผน บทอ่าน สี่ศิษย์พระดาบส แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๒ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ตัวอย่าง กล่องสุ่มคำถาม

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๒ เรื่อง สี่ศิษย์พระดาบส (สมุดมิตรภาพ) เวลา ๑๐ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย การเขียนโฆษณา เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เรื่องราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี ประสิทธิภาพ ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ป.๖/๒ เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้องชัดเจน และเหมาะสม ท ๒.๑ ป.๖/๙ มีมารยาทในการเขียน ๒. สาระสำคัญ การเขียนสื่อสารในรูปแบบของการเขียนโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ถ้อยคำได้ถูกต้อง ตามระดับภาษา การเขียนข้อความโฆษณาเป็นการสร้างสรรค์รูปแบบเนื้อหา แนวคิด หรือการใช้ ภาษาเพื่อโน้มน้าวใจผู้บริโภคให้เห็นคล้อยตามสิ่งที่ผู้ส่งสารต้องการนำเสนอ และประโยชน์ทางการค้า หรือเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า หรือหน่วยงาน ดังนั้น ผู้เขียนข้อความโฆษณาควรมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับหลักการเขียนโฆษณาอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดการสื่อสารที่มีประสิทธิผล ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนสามารถอธิบายหลักการโฆษณาได้ (K) ๓.๒ นักเรียนสามารถเขียนโฆษณาได้ (P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการเขียน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ การเขียนโฆษณา ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน

๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๒ กลุ่มเท่า ๆ กัน จากนั้นให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเพื่อตอบ คำถาม โดยครูเปิดสโลแกนโฆษณาสินค้าให้นักเรียนฟัง จากนั้นให้นักเรียนตอบว่าเป็นสโลแกนโฆษณา สินค้าชนิดใด ฝ่ายใดตอบได้ให้ไปกดกระดิ่งเพื่อตอบคำถาม กติกาการเล่น ๑. ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทน ๑ คนออกมาหน้าชั้นเรียน แล้วฟังสโลแกนโฆษณาจากครู เมื่อได้คำตอบให้ฟังสัญญาณนกหวีดก่อนจึงจะสามารถวิ่งไปกดกระดิ่งเพื่อตอบคำถามได้ ๒. กลุ่มไหนตอบถูกต้องได้รับคะแนน ข้อละ ๑ คะแนน มีจำนวน ๔ ข้อคำถาม ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑. นักเรียนร่วมกันศึกษาใบความรู้ เรื่อง การเขียนโฆษณา ในเวลาที่ครูกำหนดให้ ๑๐ นาที ๗.๒.๒ นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าโฆษณามีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้าและ บริการอย่างไร ๗.๒.๓ นักเรียนกับคุณครูร่วมกันอภิปรายเรื่องจุดประสงค์ของการเขียนโฆษณา ส่วนประกอบของโฆษณา ประโยชน์ของการโฆษณา โทษของการโฆษณา อิทธิพลของโฆษณา และกลวิธีในการเขียนโฆษณา ๗.๒.๔ นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๕ กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน โดยคละชาย-หญิง ๗.๒.๕ นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนโฆษณา ๑ เรื่อง ให้มีองค์ประกอบครบถ้วนถูกต้องตาม รูปแบบและออกแบบให้น่าสนใจ แล้วออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและคุณครูร่วมกันสรุปความรู้ เรื่อง การโฆษณา ๗.๓.๒ นักเรียนทำใบงานเรื่อง องค์ประกอบของการเขียนโฆษณา และออกแบบโฆษณา สินค้าที่ตนเองสนใจ คนละ ๑ รายการ จากนั้นนำมาส่งคุณครูเพื่อรับคะแนน ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ หนังสือเรียนรายวิชาภาษาไทย ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๘.๒ ใบความรู้ การเขียนโฆษณา ๘.๓ คลิปเสียงสโลแกนโฆษณาสินค้า ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ ใบงาน การออกแบบโฆษณาสินค้า

๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนสามารถ อธิบายหลักการโฆษณา ได้ (K) การถาม – ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถ เขียนโฆษณาได้ (P) ตรวจใบงานการออกแบบ โฆษณาสินค้า ใบงาน การออกแบบโฆษณา สินค้า นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การเขียน (A) การสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการเขียน ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ควรปรับปรุง) ๑. การเขียนสะกด เขียนได้ ถูกต้อง มากกว่าร้อย ละ ๙๐ เขียนผิดหรือ ตกหล่นไม่เกิน ๒๐% เขียนผิดหรือตก หล่นไม่เกิน ๓๐% เขียนผิดหรือตก หล่นมากกว่า ๔๐% ๒. ลายมือสวยงาม ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟ พอเหมาะ ตลอด ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะ ๑-๒ แห่ง ตัวหนังตรงไม่ ค่อยเป็นระเบียบ ช่องไฟไม่เหมาะ ๓-๔ แห่ง เขียนตัวหนังสือไม่ ตรง ไม่เป็น ระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะสม ๓. ความสะอาด มีความสะอาด เรียบร้อยดี มาก และไม่มี ร่องรอยของ การลบ มีความสะอาด เรียบร้อยดี และมีร่องรอย ของการลบไม่ เกิน ๕ ตำแหน่ง มีความสะอาด เรียบร้อย ค่อนข้างดี และมี ร่องรอยของการ ลบไม่เกิน ๑๐ ตำแหน่ง ไม่มีความสะอาด เรียบร้อยไม่ดี และ มีร่องรอยของการ ลบเกิน ๑๐ ตำแหน่ง ๔.เขียนได้ ครอบคลุม/ครบถ้วน เขียนได้ ครบถ้วน ครอบคลุม ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ ครอบคลุมแต่ ไม่ค่อย ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ไม่ ครอบคลุมแต่มี ความต่อเนื่อง เล็กน้อย เขียนไม่ครบถ้วน และไม่ต่อเนื่อง ๕. ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ดี ใช้ภาษา สื่อสารในการ เขียนได้ดี ทำ ให้เข้าใจสิ่งที่ สื่อสารอย่าง ชัดเจน ใช้ภาษา สื่อสารได้ดี แต่ บกพร่องใน บางประเด็น ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ แต่บกพร่อง ในหลายประเด็น ใช้ภาษาสื่อสารได้ ไม่ชดเจน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๖-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๕ ดี ๘-๑๒ พอใช้ ๕-๗ ควรปรับปรุง

ตัวอย่างประกอบแผน การเขียนโฆษณา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๓ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ตัวอย่าง คลิปเสียงสโลแกนโฆษณาสินค้า

ใบความรู้ เรื่อง การโฆษณา การเขียนหรือการพูดโฆษณา คือ การจูงใจให้กระทำ ตามความต้องการของผู้โฆษณา ด้วยวธิีการเลือกใช้ ถ้อยคำ เร้าความสนใจการใช้ภาพ รูปแบบการนำ เสนอแบบใหม่พยายามให้ผู้อ่าน ผู้ดูหรือผู้ฟังเห็นประโยชน์ ของสิ่งที่ โฆษณาถ้าหากปฏิบัติตามการโฆษณา ส่วนใหญ่ใช้ในการขายสินค้า พบได้จากสิ่งพิมพ์โทรทัศน์วิทยุ ซึ่งมักให้ข้อมูลด้าน คุณภาพของสินค้าเกินความเป็นจริง วัตถุประสงค์การโฆษณาสินค้า 1.แนะนำ สินค้าใหม่ให้ผู้บริโภครู้จักและเป็นที่ต้องการของประชาชน 2. เพื่อเชิญชวนให้ผู้บริโภคใช้บริการกิจกรรมหรือสินค้าที่เสนอ หลักการเขียนโฆษณา 1. บอกเหตุผลของการใช้สินค้าหรือบริการ 2. บอกรายละเอยีดสินค้าในด้านของคุณภาพ ราคา ความสะดวกสบาย 3. เขียนโน้มน้าวใจผู้บริโภคให้มีความต้องการใช้สินค้าหรือบริการ 4. มีการจูงใจ เช่น ลดราคา มีของแถม บริการทั้งเงินสดและผ่อน การใช้ภาษาเพื่อการเขียนโฆษณา 1. ใช้สำ นวนที่น่าสนใจ จดจำ ง่าย 2. ใช้ข้อความที่กระทัดรัด เพื่อให้สื่อเรื่องได้ตรงตามวตัถุประสงค์และเข้าใจง่าย 3. เขียนอักษรให้อ่านง่ายเขียนสะกดการันต์ให้ถูกต้อง 4. ใช้ภาษาที่บ่งบอกให้รู้ว่าสินค้าที่นำ เสนอนั้นคืออะไรใช้ประโยชน์อะไร 5. ไม่เขียนข้อความเกินความจริง และไม่ให้ร้ายสินค้าชนิดอื่นๆ ตัวอย่าง คัดเลือกศิษย์เอกของสำ นัก คนเดียวเท่านั้นที่จะได้รับการถ่ายทอดวิชา สนใจสมัครได้ที่สำ นักบรรณสิทธ์ฤาษี วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๐๐ น.

ใบงาน การออกแบบโฆษณาสินค้า คำ ชี้แจง : ให้นักเรียนออกแบบโฆษณาสินค้าของตนเอง ๑ โฆษณา ชื่อ-นามสกุล.....................................................................ชั้น...........เลขที่............

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๒ เรื่อง สี่ศิษย์พระดาบส (สมุดมิตรภาพ) เวลา ๑๐ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย การเขียนคำขวัญ เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เรื่องราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี ประสิทธิภาพ ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ป๖/๒ เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้องชัดเจน และเหมาะสม ๒. สาระสำคัญ คำขวัญ คือ ถ้อยคำที่แต่งขึ้นเพื่อเตือนใจ เพื่อชักจูงใจ มักเป็นคำปลอบขวัญ หรือปลุกใจให้ เชื่อมั่น ให้เห็นคุณค่าและเห็นความสำคัญของสิ่งที่กล่าวถึง มักเป็นถ้อยคำที่สัมผัสคล้องจอง เขียนแบบสั้นๆ แต่ได้ใจความที่สำคัญ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกหลักการเขียนคำขวัญได้(K) ๓.๒ นักเรียนสามารถเขียนคำขวัญตามหัวข้อที่กำหนดได้(P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการเขียน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ การเขียนคำขวัญ ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา

๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนทำกิจกรรมจับคู่บัตรคำ โดยนักเรียนรับบัตรคำที่ครูนำมาให้ โดยเป็นรูป ครึ่งหัวใจ จากนั้นให้นักเรียนนำบัตรคำ ไปหาอีกครึ่งหัวใจของตนเอง เช่น บัตรคำยิ้มแย้มจับคู่กับ แจ่มใส บัตรคำเจ็บไข้จับคู่กับได้ป่วย ๗.๑.๒ นักเรียนตอบคำถามครูหลังจากที่ทำกิจกกรมจับคู่บัตรคำ ดังนี้ ๑) บัตรคำที่จับคู่ นักเรียนสังเกตเห็นอะไร แนวคำตอบนักเรียน คือคำคล้องจอง ๒) คำคล้องจองอยู่ที่ใดบ้างที่นักเรียนรู้จัก แนวคำตอบนักเรียน กลอนแปด/กาพย์ยานี ๑๑ ๗.๑.๓ ครูเชื่อมโยงไปเรื่องของคำขวัญว่าใช้คำคล้องจองเหมือนกัน ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑. นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง การเขียนคำขวัญ ๗.๒.๒ นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติม เรื่องการเขียนคำขัวญ ๗.๒.๓ นักเรียนทำกิจกรรม คำคล้องจองนี้ต้องสัมผัสอะไร โดยมีกติกา ดังนี้ ๑) นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆ กัน ๒) นักเรียนจะได้กระดานกลุ่มละ ๑ แผ่น เพื่อเขียนคำตอบลงในกระดาน ๓) ครูจะมีขึ้นแถบข้อความมาให้ จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันแต่งให้ คล้องจองกับข้อความที่ครูนำมา ๔) นักเรียนยกขึ้นแล้วนำเสนอข้อความของกลุ่มตัวเอง ๕) นักเรียนและครูช่วยกันตรวจสอบ หากกลุ่มใดสัมผัสผิดถือว่าตกรอบ และกลุ่ม ที่ตอบถูกจะให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันโหวตว่าชอบกลุ่มใดสุด กลุ่มนั้นจะได้คะแนน ๖) รอบโบนัส ได้คะแนนคูณสอง คือให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแต่งคำขัวญ หากสัมผัส ถูกจะได้คะแนน ๒ คะแนน และหากนักเรียนแต่ละกลุ่มโหวตแล้วได้ลำดับหนึ่งจะได้ ๔ คะแนน ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุปหลักการเขียนคำขวัญ ๗.๒.๒ นักเรียนแต่งคำขวัญจากหัวข้อที่ครูกำหนดให้ คือ วันเด็กแห่งชาติ ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ บัตรคำ คำคล้องจอง ๘.๒ ใบความรู้ เรื่อง การเขียนคำขวัญ ๘.๓ แถบข้อความ ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ ใบงานการแต่งคำขวัญ วันเด็กแห่งชาติ

๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอก หลักการเขียนคำขวัญได้ (K) การถาม – ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถ เขียนคำขวัญตามหัวข้อ ที่กำหนดได้ (P) ตรวจใบงาน การแต่งคำขวัญ หัวข้อ วันเด็กแห่งชาติ ใบงานการแต่งคำขวัญ หัวข้อ วันเด็กแห่งชาติ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การเขียน (A) การสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการเขียน ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ควรปรับปรุง) ๑. การเขียนสะกด เขียนได้ ถูกต้อง มากกว่าร้อย ละ ๙๐ เขียนผิดหรือ ตกหล่นไม่เกิน ๒๐% เขียนผิดหรือตก หล่นไม่เกิน ๓๐% เขียนผิดหรือตก หล่นมากกว่า ๔๐% ๒. ลายมือสวยงาม ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟ พอเหมาะ ตลอด ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะ ๑-๒ แห่ง ตัวหนังตรงไม่ ค่อยเป็นระเบียบ ช่องไฟไม่เหมาะ ๓-๔ แห่ง เขียนตัวหนังสือไม่ ตรง ไม่เป็น ระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะสม ๓. ความสะอาด มีความสะอาด เรียบร้อยดี มาก และไม่มี ร่องรอยของ การลบ มีความสะอาด เรียบร้อยดี และมีร่องรอย ของการลบไม่ เกิน ๕ ตำแหน่ง มีความสะอาด เรียบร้อย ค่อนข้างดี และมี ร่องรอยของการ ลบไม่เกิน ๑๐ ตำแหน่ง ไม่มีความสะอาด เรียบร้อยไม่ดี และ มีร่องรอยของการ ลบเกิน ๑๐ ตำแหน่ง ๔.เขียนได้ ครอบคลุม/ครบถ้วน เขียนได้ ครบถ้วน ครอบคลุม ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ ครอบคลุมแต่ ไม่ค่อย ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ไม่ ครอบคลุมแต่มี ความต่อเนื่อง เล็กน้อย เขียนไม่ครบถ้วน และไม่ต่อเนื่อง ๕. ใช้ภาษาสื่อสารได้ ดี ใช้ภาษา สื่อสารในการ เขียนได้ดี ทำ ให้เข้าใจสิ่งที่ สื่อสารอย่าง ชัดเจน ใช้ภาษา สื่อสารได้ดี แต่ บกพร่องใน บางประเด็น ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ แต่บกพร่อง ในหลายประเด็น ใช้ภาษาสื่อสารได้ ไม่ชดเจน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๖-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๕ ดี ๘-๑๒ พอใช้ ๕-๗ ควรปรับปรุง

ตัวอย่างประกอบแผน การเขียนคำขวัญ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๔ ตัวอย่าง บัตรคำคล้องจอง ตัวอย่าง แถบข้อความ สบายกาย สบายใจ วันเด็กแห่งชาติ

ใบความรู “การเขียนคําขวัญ” คําขวัญ หมายถึง ถอยคําที่แตงขึ้นเตือนใจ หรือเพื่อเปนสิริมงคลแกชีวิต มีลักษณะเปนการเชิญชวนหรือขอรองใหผูอาน ผูฟง ยึดเปนแนวทางในการปฏิบัติมักมีถอยคําสั้น กระชับ สวนใหญมีคําสัมผัสคลองจองกัน เพื่อใหเกิดความไพเราะและงายตอการจดจํานําไปใช คําขวัญมีประโยชนหลายประการดังนี้ 1. เพื่อใหขอคิดเตือนสติ 2. เพื่อรณรงคเชิญชวนใหทํากิจรรมตาง ๆ หรือเพื่อกระตุนใหผูคนไดตระหนักถึงกิจกรรมนั้น ๆ 3. ชวยสงเสริมภาพลักษณของหนวยงานหรือกิจการตางๆ คําขวัญที่ดีจะประกอบไปดวยสิ่งที่เกื้อหนุนใหคําขวัญโดดเดน ดังนี้ 1. ตรงตามจุดมุงหมายของเรื่องราว 2. เนื้อความมีความโดดเดนสะทอนมุมมองแงคิด และเปนประโยชนตอหนวยงานหรือกิจกรรมหรือตอสาธารณชน 3. มีความกระชับ สั้นไดใจความ หรือใชถอยคําไดสละสลวย 4. ชวยกระตุนความรูสึกไดดี 5. สรางจิตสํานึกที่ดีตอสังคม องคประกอบของคําขวัญประกอบไปดวยองคประกอบที่สําคัญ ๆ ดังนี้ 1. จุดมุงหมายของการแตง เนื่องจากคําขวัญของแตละหนวยงานหรือกิจกรรมจะมุงหมายที่แตกตางกัน เชน คําขวัญวันเด็ก ตองการสงเสริมใหเด็กมีพฤติกรรมที่ดีตาง ๆ ดังจะเปนไดจากคําขวัญวันเด็กของนายกแตละทาน ตัวอยาง “เด็กดีเปรศรีแกชาติเด็กฉาดชาติเจริญ” “รูหนาที่ขยัน ซื่อสัตยประหยัด มีวินัยและคุณธรรม”

คําขวัญประชาสัมพันธการทองเที่ยว ตองการสงเสริมการทองเที่ยวของแตละจังหวัด ตัวอยาง คําขวัญ จังหวัดเชียงใหม "ดอยสุเทพเปนศรีประเพณีเปนสงา บุปผาชาติลวนงามตา งามล้ําคานครพิงค" คําขวัญ จังหวัดตาก "ธรรมชาตินายล ภูมิพลเขื่อนใหญ พระเจาตากเกรียงไกร เมืองไมและปางาม" คําขวัญประชาสัมพันธหนวยงาน ตองการสงเสริมภาพลักษณของหนวยงานใหเปนที่ยอมรับหรือสะทอนมุมมองของหนวยงานที่มีตอสังคม ตัวอยาง สํานักงานสลากกินแบงรัฐบาล "ชวยราษฎรเสริมรัฐ ยืนหยัด ยุติธรรม" คําขวัญโรงเรียน “มีวินัย ใฝเรียนรูเชิดชูคุณธรรม” คําขวัญการรณรงคตาง ๆ ตองการรณรงคใหผูคนในสังคมตระหนักถึงเรื่องราวนั้น ๆ ตัวอยาง รณรงคการงดสูบบุหรี่ “ตายผอนสงดวยบุหรี่สิ้นศักดิ์ศรีสตรีไทย” รณรงคใหประหยัดน้ํา “ขาดน้ํา ขาดชีวิต ชวยกันคิด ชวยกันประหยัด” 2. ขอมูลในการแตง เปนสวนสําคัญอยางมาก เนื่องจากการจะแตงคําขวัญใหตรงกับจุดมุงหมายแลว ขอมูลและขอบขายของเรื่องราวที่เกี่ยวของกับหัวขอที่จะตองสะทอนเนื้อความที่ตองการสื่อสารไดดี มีคําที่แสดงถึงเรื่องที่ตองการนําเสนอไดชัดเจน ยกตัวอยาง “ยาเสพติดเปนพิษตอชาติเปนภัยตอสังคม”

ขยายขอมูลออกมาโดยขยายความ เชน ยาเสพติดเปนพิษตอชาติ เนื่องจากประเทศที่มีปญหาเรื่องยาเสพติด การคายาเสพติด ในสายตาของชาวโลกและนานาประเทศ บางครั้งอาจถูกกีดกันดวยการตั้งกําแพงภาษีหรือการลดบทบาทความชวยเหลือจากมิตรประเทศ เปนภัยตอสังคม เนื่องจากภัยที่เกิดจากยาเสพติดทํารายผูที่เกี่ยวของ และกอใหภัยรายตอสังคม การจี้ปลน อาการคลุมคลั่งของผูที่ติดยา เปนตน ดังนั้นขอมูลในการนํามาแตงคําขวัญจึงตองสะทอนเนื้อหาไดดี จดจําไดงาย 3. วิธีการเรียบเรียงถอยความ องคประกอบในสวนสุดทายคือ การนําขอมูลที่ไดมาจับประเด็น ชี้จุดสําคัญดวยการใชถอยคําสั้น ๆ หรือการใชคําคลองจองที่สะทอนตอเรื่องราวนั้น ๆ เปนสวนสุดทายที่จะกอเกิดคําขวัญ ฉะนั้นในสวนนี้จึงจะตองอาศัยการคิดวิเคราะหแยกแยะคําที่คิดวาสําคัญ ๆ มาจับประเด็นแลวแตง ตัวอยางการแตงคําขวัญตาง ๆ คําขวัญการสงเสริมการทําดี ชีวีตจะสุขีถาทุกคนรวมกันทําดีกันทั่วหนา ความดีไมมีขาย แตสรางดวยคนมือคน คําขวัญคติเตือนใจ ขับรถระวังชน ซุกซนระวังเอดส เอดสปองกันไดดวยการใชถุงยางอยางถูกวิธี อนาคตจะมืดมน หลีกใหพนยาเสพติด คําขวัญวันเด็ก เด็กดีเปนศรีแกชาติเด็กฉลาดชาติเจริญ ขยัน ประหยัด ซื่อสัตยมีวินัย รักชาติศาสนกษัตริยใจสัตยซื่อ ถือคุณธรรม คําขวัญความสามัคคี สามัคคีคือพลัง รวมมือรวมใจ สรางชาติสามัคคี คําขวัญการเลือกตั้ง รักเกียรติรักศักดิ์ศรีเลือกคนดีเขาสภา คนดีไมขายเสีย คําขวัญการรักษาสิ่งแวดลอม คิดเพื่อโลก ทําเพื่อโลก ทุกที่ ทุกวัน ทุกเวลา กินอยูรูคิด เปนมิตรกับสิ่งแวดลอม ที่มาของขอมูล 1.หนังสือเรียนหลักภาษาและการใชภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปที่ 6 สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. http://www.knowledge.newnaew.net

ใบงาน การเขีขี ขี ยขี ยนคำคำคำคำขวัวั วั ญวั ญ ชื่อ: ชั้นเรียน : เลขที่ : วันที่ : วัวั วั น วั นเด็ด็ ด็ กด็ กแห่ห่ ห่ ง ห่ งชาติติ ติติ