แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย แผนที่ ๓๑-๖๑ (เล่มที่ ๒)

๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอกลักษณะของ ตัวการันต์ได้ (K) การถาม – ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนเขียนสะกดคำที่มี ตัวการันต์ได้ (P) ทดสอบเขียน ตามคำบอก คำที่มีตัวการันต์ ทดสอบเขียนตาม คำบอก คำที่มีตัวการันต์ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ๗ ข้อ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การเขียน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการเขียน ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ควรปรับปรุง) ๑. การเขียนสะกด เขียนได้ ถูกต้อง มากกว่าร้อย ละ ๙๐ เขียนผิดหรือ ตกหล่นไม่เกิน ๒๐% เขียนผิดหรือตก หล่นไม่เกิน ๓๐% เขียนผิดหรือตก หล่นมากกว่า ๔๐% ๒. ลายมือสวยงาม ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟ พอเหมาะ ตลอด ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะ ๑-๒ แห่ง ตัวหนังตรงไม่ ค่อยเป็นระเบียบ ช่องไฟไม่เหมาะ ๓-๔ แห่ง เขียนตัวหนังสือไม่ ตรง ไม่เป็น ระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะสม ๓. ความสะอาด มีความสะอาด เรียบร้อยดี มาก และไม่มี ร่องรอยของ การลบ มีความสะอาด เรียบร้อยดี และมีร่องรอย ของการลบไม่ เกิน ๕ ตำแหน่ง มีความสะอาด เรียบร้อย ค่อนข้างดี และมี ร่องรอยของการ ลบไม่เกิน ๑๐ ตำแหน่ง ไม่มีความสะอาด เรียบร้อยไม่ดี และ มีร่องรอยของการ ลบเกิน ๑๐ ตำแหน่ง ๔.เขียนได้ ครอบคลุม/ครบถ้วน เขียนได้ ครบถ้วน ครอบคลุม ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ ครอบคลุมแต่ ไม่ค่อย ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ไม่ ครอบคลุมแต่มี ความต่อเนื่อง เล็กน้อย เขียนไม่ครบถ้วน และไม่ต่อเนื่อง ๕. ใช้ภาษาสื่อสารได้ ดี ใช้ภาษา สื่อสารในการ เขียนได้ดี ทำ ให้เข้าใจสิ่งที่ สื่อสารอย่าง ชัดเจน ใช้ภาษา สื่อสารได้ดี แต่ บกพร่องใน บางประเด็น ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ แต่บกพร่อง ในหลายประเด็น ใช้ภาษาสื่อสารได้ ไม่ชดเจน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๖-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๕ ดี ๘-๑๒ พอใช้ ๕-๗ ควรปรับปรุง

ตัวอย่างประกอบแผน คําที่มีตัวการันต์แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔๑ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖

ใบความรู้ เรื่อง คำ ที่มีตัวการันต์ ตัวการันต์ คือ พยัญชนะที่มีไม้ทัณฑฆาต (อ่านว่า ทัน - ทะ - คาด ) กำ กับอยู่ข้างบน เวลาอ่านจะไม่ออกเสียงพยัญชนะตัวนั้น ซึ่งตัวการันต์อาจอยู่กลางคำ หรือท้ายคำ ก็ได้ เหตุที่ต้องมี ตัวการันต์ในภาษาไทยนั้น เพื่อต้องการรักษารูปศัพท์เดิมของคำ ที่มาจากภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาบาลี และภาษาสันสกฤต เนื่องจากคำ เหล่านี้ ออกเสียงยาก เมื่อเติมตัวการันต์ จะทำ ให้ออกเสียงได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างคำ ที่มีตัวการันต์ มนุษย์ อ่านว่า มะ - นุด สัตว์ อ่านว่า สัด กาญจน์ อ่านว่า กาน ลักษณ์ อ่านว่า ลัก ภาพยนตร์ อ่านว่า พาบ - พะ - ยน คณิตศาสตร์ อ่านว่า คะ - นิด - ตะ - สาด ชอล์ก อ่านว่า ช็อก สาส์น อ่านว่า สาน แคร์รอต อ่านว่า แค - หร็อด คอนเสิร์ต อ่านว่า คอน - เสิด มหาหิงคุ์ อ่านว่า มะ - หา - หิง เผ่าพันธุ์ อ่านว่า เผ่า – พัน อิทธิฤทธิ์ อ่านว่า อิด - ทิ- ริด

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๓ เรื่อง หนึ่งในประชาคม เวลา ๙ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง คำศัพท์น่ารู้ คู่ความหมาย เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนําไปตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธิบายความหมายของคำ ประโยคและข้อความที่เป็นโวหาร ท ๑.๑ ป.๖/๓ มีมารยาทในการอ่าน ๒. สาระสำคัญ การเรียนรู้คำศัพท์เป็นพื้นฐานเบื้องต้นที่ผู้เรียนจำเป็นที่จะต้องรู้จักจากนั้นนำไปสู่ความหมาย ของคำศัพท์นั้น ๆ จะทำให้นักเรียนเข้าใจความหมายของคำและสามารถนำคำศัพท์เหล่านั้นไปใช้ ในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเรื่องของการสื่อสาร การแต่งประโยค หรือข้อความได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์ได้ (K) ๓.๒ นักเรียนสามารถนำคำศัพท์ไปแต่งประโยคได้ (P) ๓.๓ นักเรียนมีส่วนร่วมในการทำงาน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ คำศัพท์บทที่ ๑๓ หนึ่งในประชาคม ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด

๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ (กระบวนการเรียนความรู้ความเข้าใจ) ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (ขั้นการสังเกต) ๗.๑.๑ นักเรียนสังเกตรูปภาพที่ครูนำมาให้ดูมีทั้งหมด ๓ รูปภาพ ดังนี้ รูปภาพที่ ๑ ครุฑ, รูปภาพที่ ๒ พาสปอร์ต และรูปภาพที่ ๓ บุหลัน (ขั้นการตั้งคำถาม) ๗.๑.๒ นักเรียนตอบคำถามครูโดยมีทั้งหมด ๓ ข้อ ดังนี้ ๑. นักเรียนคิดว่ารูปภาพที่ ๑ เป็นรูปภาพอะไร แนวคำตอบนักเรียน รูปนก รูปเหยี่ยว และรูปครุฑ ๒. นักเรียนคิดว่ารูปภาพที่ ๓ เป็นรูปภาพอะไร แนวคำตอบนักเรียน หนังสือเดินทาง พาสปอร์ต ๓. นักเรียนคิดว่ารูปภาพที่ ๔ เป็นรูปภาพอะไร แนวคำตอบนักเรียน ดวงจันทร์ ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ (ขั้นวางแผนปฏิบัติและขั้นลงมือปฏิบัติ) ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาข้อมูลคำศัพท์ท้ายบทเรียนจากหนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ บทที่ ๑๐ เรื่อง หนึ่งในประชาคม ในเวลาที่ครูกำหนดให้ ๑๐ นาที (ขั้นพัฒนาความรู้) ๗.๒.๑ นักเรียนทำกิจกรรมความหมายนี้คือคำศัพท์ไหน กติกามีดังนี้ ๑. นักเรียนดูคำถามจากครู ซึ่งครูจะเปิดบัตรป้ายความหมายของคำศัพท์ หลังจาก นั้นนักเรียนทายว่าความหมายของคำศัพท์ตรงกับคำศัพท์ไหน โดยความหมายของคำศัพท์ครูนำมา จากหนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีทั้งหมด ๑๐ ข้อ ข้อละ ๑ นาที และนักเรียน แต่ละคนเลือกตอบคำศัพท์ในตัวเลือกที่ครูให้มาเขียนลงในสมุดของตนเอง ๒. นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง และช่วยกันแก้คำศัพท์ที่นักเรียน ตอบผิดให้ถูกต้อง ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน (ขั้นสรุป) ๗.๓.๑ นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์จากหนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ พร้อมทั้งบอกความหมายของคำศัพท์เหล่านั้น อย่างพร้อมเพียงกัน ๗.๓.๒ นักเรียนเขียนตามคำบอกคำศัพท์ที่เรียนรู้จากหนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เป็นรายบุคคลลงในสมุดของนักเรียน โดยเขียนไว้ที่ด้านหลังของสมุดเรียน มีจำนวน ๑๐ ข้อ ๗.๓.๓ นักเรียนเขียนตามคำบอกเสร็จแล้วให้นักเรียนเปลี่ยนสมุดกับเพื่อน จากนั้นครู จะเฉลยคำศัพท์เพื่อให้นักเรียนตรวจคำตอบตามและลงคะแนนให้เพื่อน ๗.๓.๔ นักเรียนนำคำศัพท์จากที่เขียนตามคำบอก ไปแต่งประโยคลงในสมุด เป็นการบ้าน

๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๘.๒ รูปภาพครุฑ พาสปอร์ต และบุหลัน ๘.๓ บัตรป้ายความหมายคำศัพท์ ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ การแต่งประโยคจากคำศัพท์ ๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑.นักเรียนบอกความหมาย ของคำศัพท์ได้ (K) การถาม – ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒.นักเรียนสามารถนำคำศัพท์ ไปแต่งประโยคได้ (P) ตรวจการแต่ง ประโยคจาก คำศัพท์ การแต่ง ประโยคจาก คำศัพท์ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ๗ ข้อ ขึ้นไป ๓.นักเรียนมีส่วนร่วมใน การทำงาน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

เกณฑ์การประเมินการตอบคำถามเกี่ยวกับความหมายของคำศัพท์(rubrics) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ๑. การอ่าน คำศัพท์ นักเรียนอ่านคำศัพท์ เสียงดังชัดเจนและ อ่านถูกต้องดีมาก นักเรียนอ่านคำศัพท์ เสียงดังชัดเจนและอ่าน ถูกต้องดี นักเรียนอ่านคำศัพท์ไม่ เสียงดังชัดเจนและอ่าน ติดขัดถูกต้อง นักเรียนไม่สามารถอ่าน คำศัพท์ได้ ๒. ความหมาย ของคำศัพท์ นักเรียนบอก ความหมายของ คำศัพท์ได้และมี การตอบที่เสียงดัง ชัดเจนชัดเจนดีมาก นักเรียนบอก ความหมายของคำศัพท์ ได้และมีการตอบที่เสียง ดังชัดเจนชัดเจนดี นักเรียนบอก ความหมายของคำศัพท์ ได้แต่ไม่ถูกต้องตาม ความหมายของคำศัพท์ และมีการตอบที่เสียง ดัง นักเรียนไม่มสามารถ บอกความหมายของ คำศัพท์ได้ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ : เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีเยี่ยม ขึ้นไป ช่วงชั้นคะแนน ระดับคุณภาพ ๗-๘ ระดับคุณภาพดีเยี่ยม ๕-๖ ระดับคุณภาพดี ๓-๔ ระดับคุณภาพปานกลาง ๑-๒ ระดับคุณภาพปรับปรุง

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสังเกตพฤติกรรม (rubrics) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๓ ๒ ๑ ๑. สนใจกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ ผู้เรียนมีความสนใจ ตั้งใจฟังกฎระเบียบ และคำสั่งเป็นอย่างดี ถามเมื่อเกิดข้อสงสัย เกี่ยวกับงาน สนใจงานแต่ไม่ สามารถปฏิบัติตาม คำชี้แจงได้ครบถ้วน ทำได้เพียง บางข้อหรือมักจะ ถามคำถามซ้ำ ๆ ไม่สนใจ เหม่อลอย และไม่สามารถปฏิบัติ ตามคำสั่งได้ เหม่อลอย ไม่ทำตาม สนใจสิ่ง นอกห้องเรียน ๒. มีมารยาท การฟังและการ พูด ผู้เรียนตั้งใจฟัง และเกิดคำถาม เมื่อครูชี้แจงเสร็จ แล้ว พูดมีหางเสียง ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจฟังคำชี้แจง ไม่เคาะโต๊ะเสียงดัง และพูดในประเด็น เรื่องที่สอนไม่นอก เรื่องจนเกินไป พูดและเล่านอกเรื่อง ชักสีหน้าเมื่อครูพูดอยู่ พูดคำหยาบ เคาะโต๊ะ เกิดเสียงดังรบกวน ๓. มีสมาธิใน การฟัง ไม่ก่อกวน ขณะครูสอน ผู้เรียนตั้งใจฟัง เงียบฟัง มองตาครู ไม่วอกแวก มองหน้าครู ฟัง อย่างตั้งใจ สายตา วอกแวก ออกนอกห้อง เหม่อลอย สายตา วอกแวก คุยกับเพื่อน เสียงดัง ๔. ตอบคำถาม และปฏิบัติตามได้ ถูกต้อง ให้ความร่วมมือ ใน การตอบคำถาม เสียงดังฟังชัด มี ความมั่นใจและ ปฏิบัติ ได้ถูกต้อง ตอบบางคำถาม ตอบเสียงค่อย ไม่ ค่อยอ้าปากตอบ และปฏิบัติตามได้ เพียงบางข้อ ไม่ตอบคำถาม ไม่อ้า ปากท่องตามเพื่อน ปฏิบัติตามคำสั่งไม่ได้ เลย ๕. กระตือรือร้น ในการทำ กิจกรรม มีความกระตือรือร้น อยากทำกิจกรรม ตั้งหน้าตั้งตาทำ ไม่แสดงความรู้สึก ดีใจ แต่ปฏิบัติ ตามทุกอย่าง แสดงสีหน้าหรืออาการ ทางลบ ไม่พอใจ เบื่อหน่าย

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสังเกตพฤติกรรม (rubrics) (ต่อ) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๒ ๑ ๐ ๖. ให้ความ ร่วมมือ ในการเรียน ให้ความร่วมมือ ในทุกขั้นตอน แสดงสีหน้าที่พอใจ ให้ความร่วมมือใน การทำกิจกรรม เบื่อหน่าย ในบางครั้ง ไม่ให้ความร่วมมือ เฉยชาและแสดงสีหน้า ไม่พอใจ ๗. อยู่ใน กฎระเบียบ มีความเรียบร้อย ไม่วิ่งรอบห้องขณะที่ สอน ไม่รบกวนผู้อื่น นั่งอยู่กับที่อย่าง เรียบร้อย นั่งอยู่กับที่ของ ตนเอง เสียงดัง รบกวนในบางครั้ง เคลื่อนไหวรอบห้อง ขณะที่ครูสอน ทำกิริยา ที่เสียงดังรบกวนผู้อื่น เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก = ๒ พอใช้ = ๑ ปรับปรุง = ๐ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีมาก ขึ้นไป ช่วงชั้นคะแนน ระดับคุณภาพ สรุป ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๑ – ๑๔ ดีมาก ๗ – ๑๐ พอใช้ ๐ – ๖ ปรับปรุง

ตัวอย่างประกอบแผน คำศัพท์น่ารู้ คู่ความหมาย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔๒ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ตัวอย่าง รูปภาพ - รูปครุฑ

- รูปพาสปอร์ต - รูปบุหลัน

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๓ เรื่อง หนึ่งในประชาคม เวลา ๙ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง บทอ่าน หนึ่งในประชาคม เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนําไปตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนำความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต ท ๑.๑ ป.๖/๙ มีมารยาทในการอ่าน ๒. สาระสำคัญ การอ่านในใจให้เกิดความเข้าใจชัดเจนลึกซึ้งจะต้องอ่านแล้วสามารถตั้งคำถาม ตอบคำถาม อภิปรายแสดงความคิดเห็นเนื้อเรื่อง ลำดับเหตุการณ์ และสรุปใจความสำคัญของเรื่องได้ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนสรุปใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่านได้ (K) ๓.๒ นักเรียนสามารถตอบคำถามจากเรื่องที่อ่านได้ (P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการอ่าน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ บทอ่าน หนึ่งในประชาคม ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา

๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนเล่นเกม “ทนายการอ่าน” ๗.๑.๒ นักเรียนดูรูปภาพจากบทเรียน แล้วครูสนทนากับนักเรียนเรื่อง “หนึ่งในประชาคม” ๗.๑.๓ นักเรียนร่วมกันตอบคำถามแล้วอภิปรายแสดงความคิดเห็น เรื่อง “หนึ่งในประชาคม” ดังต่อไปนี้ - โครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนกับประเทศต่างๆ มีประโยชน์อย่างไร - “โลกไม่มีพรมแดน” นักเรียนมีความเข้าใจว่าอย่างไร - “ยิ่งเราเก่งภาษามากเท่าไร เราก็มีโอกาสเลือกอาชีพ เลือกอนาคตได้มากกว่าคน อื่น” นักเรียนมีความคิดเห็นว่าอย่างไร - เหตุใดภาษาไทยจึงรับคำบางคำจากอินโดนีเซีย และอินโดนีเซียรับคำบางคำจาก ภาษาไทย - นักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนควรจะปฏิบัติตนกับครอบครัวเจ้าภาพอย่างไร ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาข้อมูลจากหนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ บทที่ ๑๓ เรื่อง หนึ่งในประชาคม ๗.๒.๒ นักเรียนทำกิจกรรม โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มออกเป็น ๒ กลุ่ม ร่วมกันอภิปราย เพื่อแบ่งเนื้อหาของบทเรียนออกเป็นตอน ๆ โดยส่งตัวแทนจับฉลากเพื่อเลือกเนื้อหาของบทเรียน กลุ่มละ ๑ ตอน แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านในใจตอนที่รับผิดชอบร่วมกันอภิปรายเพื่อลำดับ เหตุการณ์สำคัญของเรื่อง สรุปใจความสำคัญของเรื่อง และผลัดกันตั้งคำถาม ตอบคำถามจากเรื่องที่ อ่าน ๗.๒.๓ นักเรียนส่งตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงาน โดยครูและเพื่อนช่วยกันเพิ่มเติมในส่วนที่ขาด หายไป ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุปบทเรียน เรื่อง แนวปฏิบัติในการอ่านในใจที่ถูกต้อง แล้วร่วมกันสรุปลำดับเหตุการณ์สำคัญและสรุปใจความสำคัญของเรื่องจากนั้นนักเรียนบันทึกลงสมุด ๗.๓.๒ นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง หนึ่งในประชาคม ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ แบบฝึกหัด เรื่อง หนึ่งในประชาคม

๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนสรุปใจความสำคัญ จากเรื่องที่อ่านได้ (K) ตรวจการบันทึก ลงในสมุด การบันทึก ลงในสมุด นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถตอบคำถาม จากเรื่องที่อ่านได้ (P) ตรวจแบบฝึกหัด เรื่อง หนึ่งใน ประชาคม แบบฝึกหัด เรื่อง หนึ่งใน ประชาคม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การอ่าน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสังเกตพฤติกรรม (rubrics) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๓ ๒ ๑ ๑. สนใจกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ ผู้เรียนมีความสนใจ ตั้งใจฟังกฎระเบียบ และคำสั่งเป็นอย่างดี ถามเมื่อเกิดข้อสงสัย เกี่ยวกับงาน สนใจงานแต่ไม่ สามารถปฏิบัติตาม คำชี้แจงได้ครบถ้วน ทำได้เพียง บางข้อหรือมักจะถาม คำถามซ้ำ ๆ ไม่สนใจ เหม่อลอย และไม่สามารถปฏิบัติ ตามคำสั่งได้ เหม่อลอย ไม่ทำตาม สนใจสิ่งนอก ห้องเรียน ๒. มีมารยาท การฟังและ การพูด ผู้เรียนตั้งใจฟัง และเกิดคำถาม เมื่อครูชี้แจงเสร็จแล้ว พูดมีหางเสียง ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจฟังคำชี้แจง ไม่เคาะโต๊ะเสียงดัง และพูดในประเด็น เรื่องที่สอนไม่นอก เรื่องจนเกินไป พูดและเล่านอกเรื่อง ชักสีหน้าเมื่อครูพูดอยู่ พูดคำหยาบ เคาะโต๊ะ เกิดเสียงดังรบกวน ๓. มีสมาธิใน การฟัง ไม่ก่อกวน ขณะครูสอน ผู้เรียนตั้งใจฟัง เงียบฟัง มองตาครู ไม่วอกแวก มองหน้าครู ฟังอย่าง ตั้งใจ สายตาวอกแวก ออกนอกห้อง เหม่อลอย สายตา วอกแวก คุยกับเพื่อน เสียงดัง ๔. ตอบคำถาม และปฏิบัติตามได้ ถูกต้อง ให้ความร่วมมือ ใน การตอบคำถาม เสียงดังฟังชัด มีความ มั่นใจและปฏิบัติ ได้ถูกต้อง ตอบบางคำถาม ตอบ เสียงค่อย ไม่ค่อยอ้า ปากตอบ และปฏิบัติ ตามได้เพียงบางข้อ ไม่ตอบคำถาม ไม่อ้า ปากท่องตามเพื่อน ปฏิบัติตามคำสั่งไม่ได้ เลย ๕. กระตือรือร้น ในการทำกิจกรรม มีความกระตือรือร้น อยากทำกิจกรรม ตั้งหน้าตั้งตาทำ ไม่แสดงความรู้สึก ดีใจ แต่ปฏิบัติ ตามทุกอย่าง แสดงสีหน้าหรืออาการ ทางลบ ไม่พอใจ เบื่อหน่าย

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสังเกตพฤติกรรม (rubrics) (ต่อ) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๒ ๑ ๐ ๖. ให้ความ ร่วมมือ ในการเรียน ให้ความร่วมมือ ในทุกขั้นตอน แสดงสีหน้าที่พอใจ ให้ความร่วมมือใน การทำกิจกรรม เบื่อหน่าย ในบางครั้ง ไม่ให้ความร่วมมือ เฉยชาและแสดงสีหน้า ไม่พอใจ ๗. อยู่ใน กฎระเบียบ มีความเรียบร้อย ไม่วิ่งรอบห้องขณะที่ สอน ไม่รบกวนผู้อื่น นั่งอยู่กับที่อย่าง เรียบร้อย นั่งอยู่กับที่ของตนเอง เสียงดังรบกวนใน บางครั้ง เคลื่อนไหวรอบห้อง ขณะที่ครูสอน ทำกิริยา ที่เสียงดังรบกวนผู้อื่น เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก = ๒ พอใช้ = ๑ ปรับปรุง = ๐ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีมาก ขึ้นไป ช่วงชั้นคะแนน ระดับคุณภาพ สรุป ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๑ – ๑๔ ดีมาก ๗ – ๑๐ พอใช้ ๐ – ๖ ปรับปรุง

ตัวอย่างประกอบแผน บทอ่าน หนึ่งในประชาคม แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔๓ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ แบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๓ เรื่อง หนึ่งในประชาคม เวลา ๙ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง บทอ่านเสริม ประชาคมอาเซียน เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนําไปตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท ๑.๑ ป.๖/๙ มีมารยาทในการอ่าน ๒. สาระสำคัญ อาเซียนหรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อตั้งขึ้นโดยปฏิญาณกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๑๐ มีสมาชิกก่อตั้ง ๕ ประเทศ โดยคำขวัญอาเซียนคือ หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งอัตลักษณ์ หนึ่งประชาคม แสดงให้เห็นถึงการรวมกันเป็นหนึ่งของประชาคมอาเซียน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนอธิบายเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนได้ (K) ๓.๒ นักเรียนสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนได้ (P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการอ่าน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ บทอ่านเสริม ประชาคมอาเซียน ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา

๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนสังเกตรูปภาพที่ครูนำมาให้ดู โดยเป็นรูปรวงข้าวสีเหลือง ๑๐ รวงมัดรวมกัน ๗.๑.๒ นักเรียนตอบคำถามครู ดังนี้ ๑) รูปที่นักเรียนสังเกตเห็นคือรูปอะไร แนวคำตอบนักเรียน รูปรวงข้าวสีเหลือง ๑๐ รวงมัดรวมกัน ๒) รูปรวงข้าวสีเหลือง ๑๐ รวงมัดรวมกัน หมายถึงอะไร แนวคำตอบนักเรียน ประเทศสมาชิกรวมกันเพื่อมิตรภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจ เดียวกัน ๓) วงกลม หมายถึงอะไร แนวคำตอบนักเรียน ความเป็นเอกภาพของอาเซียน/การรวมตัวกันของประเทศ เพื่อนบ้าน ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาข้อมูลจากหนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ บทที่ ๑๓ บทอ่านเสริม ประชาคมอาเซียน หน้าที่ ๒๐๓ ในเวลาที่ครูกำหนดให้ ๑๐ นาที ๗.๒.๒ นักเรียนทำกิจกรรม ตอบคำถาม จากประชาคมอาเซียน โดยมีกติกา ดังนี้ ๑) นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๒ กลุ่ม ๒) นักเรียนส่งตัวแทนมารับกระดานกับครู เพื่อเขียนคำตอบลง ๓) ครูจะสุ่มจับคำถามขึ้นมาถาม จากนั้นให้นักเรียนเขียนตอบลงไปในกระดานที่ครู แจกให้ กลุ่มไหนเขียนคำตอบเสร็จแล้วให้ชูป้ายคำตอบของกลุ่มตัวเองขึ้น ๔) นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยคำตอบของคำถามทีละข้อ คำถามมีทั้งหมด ๑๐ ข้อ ๕) นักเรียนกลุ่มใดได้คะแนนเยอะสุด จะได้รับรางวัลพิเศษ ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเนื้อหาเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน ๗.๓.๒ นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง ประชาคมอาเซียน ส่งภายในชั่วโมงเรียน ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๘.๒ รูปรวงข้าวมัดรวมกัน ๑๐ รวง ๘.๓ สลากสุ่มคำถาม

๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ แบบฝึกหัด เรื่อง ประชาคมอาเซียน ๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนอธิบายเกี่ยวกับ ประชาคมอาเซียนได้ (K) การถาม-ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถตอบ คำถามเกี่ยวกับประชาคม อาเซียนได้ (P) ตรวจแบบฝึกหัด เรื่อง ประชาคม อาเซียน แบบฝึกหัด เรื่อง ประชาคม อาเซียน นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การอ่าน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

รายละเอียดแบบประเมินการอ่าน รายละเอียด ๔ ๓ ๒ ๑ ความถูกต้องใน การอ่าน สามารถอ่านได้ ถูกต้องทั้งหมด สามารถอ่านได้ เกือบถูกต้อง ทั้งหมด ผิดไม่ เกิน ๓ คำ สามารถอ่านได้ ผิดไม่เกิน ๑๐ คำ พยายามอ่านได้ บ้าง ผิดมากกว่า ๑๐ คำ น้ำเสียง การเว้นวรรค ตอนในการอ่าน สามารถอ่านได้ ชัดเจน สื่อ ความรู้สึกของ เรื่องที่อ่านได้ดี สามารถอ่านได้ ชัดเจน สื่อ ความรู้สึกของ เรื่องที่อ่านได้ พอใช้ สามารถอ่านได้ ค่อนข้างชัดเจน แต่ค่อนข้างช้า ยังสื่อความรู้สึก ของเรื่องได้ไม่ ชัดเจน พยายามอ่านได้ บ้าง น้ำเสียงเบา ไม่ชัดเจน ไม่ สามารถสื่อ ความรู้สึกของ เรื่องได้ชัดเจน มีความมั่นใน การใช้ภาษา มีความมั่นใจใน การอ่านดี มีการเตรียมตัว มา อย่างดี มั่นใจ ตนเอง มีความมั่นใจใน การอ่านพอใช้ เตรียมตัวมาอย่าง ดี ยังประหม่า ยังไม่ค่อยมีความ มั่นใจเท่าที่ควร มีการเตรียมตัว มาพอใช้ ขาดความมั่นใจ ในตนเอง เตรียม ตัวมาบ้างแต่ไม่ มากนัก เกณฑ์การผ่าน ๑๖ - ๑๓ คะแนน หมายถึง ดีมาก ๑๒ - ๙ คะแนน หมายถึง ดี ๘ - ๕ คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับ ดีมาก ขึ้นไป

ตัวอย่างประกอบแผน บทอ่านเสริม ประชาคมอาเซียน แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔๔ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ตัวอย่าง รูปรวงข้าวมัดรวมกัน ๑๐ รวง

ตัวอย่าง สลากสุ่มคำถาม อัตลักษณ์ของประชาคมอาเซียน คืออะไร วันก่อตั้งประชาคมอาเซียนคือ วันที่เท่าไร เดือนอะไร พ.ศ. อะไร ๕ ประเทศแรกที่ร่วมก่อตั้ง ประชาคมอาเซียน มีประเทศอะไรบ้าง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๓ เรื่อง หนึ่งในประชาคม เวลา ๙ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง ข้อเท็จจริงข้อคิดเห็น เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนําไปตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป .๖/๔ แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน ๒. สาระสำคัญ การอ่านเพื่อแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นเป็นการอ่านอย่างไตร่ตรองพิจารณาเหตุผลแล้ว ตีความหมายของข้อความหรือเรื่องเพื่อแยกให้ได้ว่าส่วนใดเป็นข้อเท็จจริงหรือข้อคิดเห็น เพื่อให้ การรับสื่อนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเลือกข้อมูลจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ถูกต้อง ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนอธิบายข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นได้ (K) ๓.๒ นักเรียนสามารถจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นได้ (P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการเขียน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา

๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนอ่านแถบข้อความ และสังเกต โดยข้อความ คือ ๗.๑.๒ นักเรียนตอบคำถามครู ดังนี้ ๑) ข้อความใดเป็นข้อเท็จจริง แนวคำตอบนักเรียน ก่อนเดินทางไปอินเดีย ผมได้รู้เรื่องอินเดียมาบ้าง ๒) ข้อความใดเป็นข้อคิดเห็น แนวคำตอบนักเรียน เพราะมีผู้คนกล่าวถึงอินเดียในแง่มุมต่าง ๆ กันเช่น เป็นประเทศที่มีคนรวยที่สุดและจนที่สุดบ้าง เป็นประเทศที่มีประชากรมากมายมหาศาลบ้าง เป็นประเทศที่มีอิทธิพลด้านศิลปวัฒนธรรมต่อประเทศเพื่อนบ้านรอบข้างบ้าง เหล่านี้เป็นต้น) ๓) การจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นมีความสำคัญอย่างไรบ้าง แนวคำตอบนักเรียน ช่วยให้รอบคอบ ไม่หลงเชื่ออะไรโดยง่าย เกิดประโยชน์แก่ ตนเองและผู้อื่น ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาข้อมูลจากใบความรู้ เรื่อง ข้อเท็จจริงข้อคิดเห็น ในเวลาที่ครูกำหนดให้ ๑๐ นาที ๗.๒.๒ นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่อง ข้อเท็จจริงข้อคิดเห็น ๗.๒.๓ นักเรียนทำกิจกรรม แยกข้อเท็จจริงข้อคิดเห็นจากข่าว โดยมีกติกา ดังนี้ ๑) นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๓ กลุ่ม เลือกประธานกลุ่ม รองประธานกลุ่ม และ เลขานุการกลุ่ม ๒) ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมารับข้อความที่เกี่ยวกับข่าว และกระดาษ A๔ กลุ่มละ ๑ แผ่น ๓) นักเรียนเลือกอ่านข่าว กลุ่มละ ๑ ข่าว และสรุปใจความสำคัญของข่าว ๔) นักเรียนแยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น พร้อมบอกข้อคิดที่ได้รับและสามารถนำไปใช้ ในชีวิตจริงได้อย่างไรบ้าง ๕) ตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอผลงาน ๖) นักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องส่วนใดที่ผิดให้แก้ไขให้เรียบร้อย ก่อนเดินทางไปอินเดีย ผมได้รู้เรื่องอินเดียมาบ้าง เพราะมีผู้คนกล่าวถึงอินเดีย ในแง่มุมต่าง ๆ กัน เช่น เป็นประเทศที่มีคนรวยที่สุดและจนที่สุดบ้าง เป็นประเทศที่มี ประชากรมากมายมหาศาลบ้าง เป็นประเทศที่มีอิทธิพลด้านศิลปวัฒนธรรมต่อประเทศ เพื่อนบ้านรอบข้างบ้าง เหล่านี้เป็นต้น

๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น จากที่เรียนมา และจากการทำกิจกรรม ๗.๓.๒ นักเรียนทำใบงาน เรื่อง จำแนกข้อเท็จจริงข้อคิดเห็น เป็นการบ้านส่งในชั่วโมงถัดไป ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ ใบความรู้ เรื่อง ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ๘.๒ ข่าว ๘.๓ กระดาษ A๔ ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ ใบงาน เรื่อง จำแนกข้อเท็จจริงข้อคิดเห็น ๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนอธิบายข้อเท็จจริง และข้อคิดเห็นได้ (K) การถาม-ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถแยก ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นได้ (P) ตรวจใบงาน เรื่อง จำแนก ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ใบงาน เรื่อง จำแนกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การเขียน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการเขียน ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ควรปรับปรุง) ๑. การเขียนสะกด เขียนได้ ถูกต้อง มากกว่าร้อย ละ ๙๐ เขียนผิดหรือ ตกหล่นไม่เกิน ๒๐% เขียนผิดหรือตก หล่นไม่เกิน ๓๐% เขียนผิดหรือตก หล่นมากกว่า ๔๐% ๒. ลายมือสวยงาม ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟ พอเหมาะ ตลอด ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะ ๑-๒ แห่ง ตัวหนังตรงไม่ ค่อยเป็นระเบียบ ช่องไฟไม่เหมาะ ๓-๔ แห่ง เขียนตัวหนังสือไม่ ตรง ไม่เป็น ระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะสม ๓. ความสะอาด มีความสะอาด เรียบร้อยดี มาก และไม่มี ร่องรอยของ การลบ มีความสะอาด เรียบร้อยดี และมีร่องรอย ของการลบไม่ เกิน ๕ ตำแหน่ง มีความสะอาด เรียบร้อย ค่อนข้างดี และมี ร่องรอยของการ ลบไม่เกิน ๑๐ ตำแหน่ง ไม่มีความสะอาด เรียบร้อยไม่ดี และ มีร่องรอยของการ ลบเกิน ๑๐ ตำแหน่ง ๔.เขียนได้ ครอบคลุม/ครบถ้วน เขียนได้ ครบถ้วน ครอบคลุม ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ ครอบคลุมแต่ ไม่ค่อย ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ไม่ ครอบคลุมแต่มี ความต่อเนื่อง เล็กน้อย เขียนไม่ครบถ้วน และไม่ต่อเนื่อง ๕. ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ดี ใช้ภาษา สื่อสารในการ เขียนได้ดี ทำ ให้เข้าใจสิ่งที่ สื่อสารอย่าง ชัดเจน ใช้ภาษา สื่อสารได้ดี แต่ บกพร่องใน บางประเด็น ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ แต่บกพร่อง ในหลายประเด็น ใช้ภาษาสื่อสารได้ ไม่ชดเจน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๖-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๕ ดี ๘-๑๒ พอใช้ ๕-๗ ควรปรับปรุง

ชุดแดนไทยเผย “เสี่ยแป้ง” หนีโดยใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว ไม่ใส่รองเท้า! เข้าสู่วันที่ 6 หลังเสี่ยแป้งยิงปะทะเจ้าหน้าที่ก่อนหลบหนีเข้าป่าไป โดยมีข้อมูลว่าเสี่ยแป้ง อาจจะหนีไปแบบใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียงว ไม่ใส่รองเท้า มีปืนติดตัว ตำรวจชุดแดนไทย 54 ที่ขึ้นเขาเข้าไปป่าลึก ถึงจุดที่ตำรวจยิงปะทะกับเสี่ยแป้ง ได้สับเปลี่ยนกำลังเดิน ลงมาพื้นราบ เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องอยู่ กลางป่ามาแล้ว 3 วันได้เดินทางลงมาที่อ่างเก็บน้ำเขา หัวช้าง จำนวน 12 นาย และทางเจ้าหน้าที่ได้นำสุนัข ที่ชื่อ หมี สุนัขพันธุ์ไทย ที่พักอยู่กับเสี่ยแป้ง ในวันที่มีการยิงปะทะกับตำรวจ เดินทางกลับลงมาด้วย เป็นสุนัขสีน้ำตาลดำและมีลักษณะขาหลัง พิการ ขาด้วนตรงข้อเท้าข้างขวา สำหรับสุนัขตัวนี้ เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เป็นสุนัขที่เห่าตอนที่เจ้าหน้าที่ เข้าประชิดที่พักของเสี่ยแป้ง ทำให้เสี่ยแป้งรู้ตัวและเหลบหนีไปได้ หลังจากที่เสี่ยแป้งหนีไปแล้ว สุนัขก็เข้ามาสนิทและอยู่กับตำรวจตั้งแต่นั้น หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ก็จะรับ เจ้าหมีมาดูแลชั่วคราว ปัจจุบัน เจ้าหมี ได้เลื่อนฐานะเป็น “หมานาย” เรียบร้อยแล้ว หลายคนหยอกล้อด้วยความเอ็นดูว่า ความจริงแล้ว เจ้าหมี อาจรู้เห็นเป็น ใจให้ "เสี่ยแป้ง หลบหนีไปได้ และน่าจะต้องมีความผิดด้วยเช่นกัน แต่จะแจ้งข้อหาอะไรนั้นอยู่ระหว่าง การตัดสินใจ หนึ่งในชุดเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษแดนไทย 54 เปิดเผยว่า หลังการปะทะกันกับ เสี่ยแป้ง พบว่าเสี่ยแป้งหลบหนีไปแบบกะทันหัน ไม่ได้เอาข้าวของส่วนตัวไปมากนัก อาจไม่ได้ใส่เสื้อ ใส่เพียงกางเกงขาสั้น ไม่ได้ใส่รองเท้า และมีอาวุธปืนติดตัวไป เจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่า เสี่ยแป้งหลบหนีไปเพียงคนเดียว โดยไม่มีใครติดตามไปด้วย ขณะที่วันนี้ เข้าสู่คืนที่ 6 เจ้าหน้าที่ตำรวจ หลายชุดยังตรึงกำลัง อยู่บนเทือกเขาบรรทัดทั้งฝั่ง จ.พัทลุง และฝั่ง จ.ตรัง รวมถึงล้อมรอบเขาบรรทัด โดยเฉพาะจุดที่เป็น น้ำตกและลำธารทั้งนี้อุปสรรคสำคัญปฏิบัติ การไล่ล่าเสี่ยแป้งของเจ้าหน้าที่ในขณะนี้ ก็คือสภาพพื้นที่และสภาพอากาศ วันสองวันมานี้เจ้าหน้าที่ เข้าไปปฏิบัติภารกิจ ต่างได้รับบาดเจ็บออกมา ทั้งต่อต่อย ทากกัดหรือลื่นล้มบ้าง วันนี้เราจำลองให้ เห็นในสตูดิโอเลยว่า สภาพพื้นที่ของป่าเทือกเขาบรรทัดเป็นอย่างไร เดินป่าปกติว่ายากลำบากแล้ว เดินป่าดิบชื้นในช่วงฤดูฝนก็ถือเป็นภารกิจสุดโหด

ใบความรูที่ ๑ เรื่อง ขอเท็จจริงและขอคิดเห็น ความหมายของขอเท็จจริง ขอเท็จจริง คือ ขอความหรือเหตุการณที่มีความเปนไปได มีความสมจริง มีหลักฐานเชื่อถือได มีความ สมเหตุสมผล เชน วันขึ้น 15 ค่ำ จะมองเห็นพระจันทรเต็มดวง ขอความนี้เปนขอเท็จจริง เพราะมีความสมจริง เปนไปได พิสูจนได ลักษณะของขอเท็จจริง 1. มีความเปนไปไดเสมอ 2. มีความเปนจริง 3. มีหลักฐานอางอิงพิสูจนได 4. มีความสมเหตุสมผล ความหมายของขอคิดเห็น ขอคิดเห็น เปนขอความที่แสดงความรูสึก แสดงความคาดคะเน หรือขอความที่แสดงทัศนะของผูพูดที่ สอดแทรกเขาไปในขอความที่พูด เพื่อแสดงความคิดเห็นสวนตัว เชน ชายชราคนนั้นนาสงสารมากเขาตอง ทำงานเหนื่อยตลอด ทั้งขอความนี้เปนขอคิดเห็น เพราะเปนความรูสึกหรือความคิดเห็นสวนตัว ลักษณะของขอคิดเห็น 1. เปนการแสดงความรูสึก 2. แสดงการคาดคะเน 3. เปนขอเสนอแนะ 4. เปนการแสดงความคิดเห็น 5. เปนความเชื่อที่ไมสมเหตุสมผล

ความแตกตางระหวางขอเท็จจริงและขอคิดเห็น ขอเท็จจริง ขอคิดเห็น 1. มีความเปนไปไดเสมอ 1. แสดงความรูสึก 2. มีความเปนจริง 2. แสดงการคาดคะเน 3. มีหลักฐานอางอิงพิสูจนได 3. เปนขอเสนอแนะ 4. มีความสมเหตุสมผล 4. เปนการแสดงความคิดเห็น 5. เปนความเชื่อที่ไมสมเหตุสมผล การอานเพื่อแยกขอเท็จจริงและขอคิดเห็น การอานเพื่อแยกขอเท็จจริงและขอคิดเห็นเปนการอานอยางไตรตรองพิจารณาเหตุผลแลว ตีความหมายของขอความหรือเรื่องเพื่อแยกใหไดวาสวนใดเปนขอเท็จจริง สวนใดเปนขอคิดเห็น อะไรถูก อะไรผิด ถาผิดตองทราบวาผิดอยางไร การอานเพื่อแยกขอเท็จจริงและขอคิดเห็น หมายถึง การอานอยางละเอียดทุกตัวอักษร และเมื่ออาน จบแลว ตองแยกแยะไดวาอะไรคือขอเท็จจริง อะไรคือขอคิดเห็น อะไรถูก อะไรผิด ถาผิดก็ตองทราบวาผิด อยางไร ตัวอยาง การแยกขอเท็จจริงและขอคิดเห็น พอแมหลายคนอยากใหลูกเปนเด็กเกง มีอัจฉริยภาพ ความสามารถเฉพาะดาน บางก็ใหเรียนพิเศษ เสริมความรูความสามารถตางๆ ขณะที่เจาลูกนอยไมมีความสนใจในสิ่งนี้ สรางความปวดหัวใหกับพอแม กระนั้นก็ยังไมวายตองการใหลูกเปนที่หนึ่ง เปนเด็กอัจฉริยะ สรางชื่อเสียงใหกับทางโรงเรียนเปนที่ยอมรับของ สังคม เมื่อลูกไมมีความสามารถ ขาดอัจฉริยภาพ พอแมบางคนรับไมได พยายามยัดเยียดใหลูกเปนในสิ่งที่ตน ตองการ สิ่งเหลานี้ถูกตองแลวหรือ ขอเท็จจริง : พอแมหลายคนอยากใหลูกเปนเด็กเกง มีอัจฉริยภาพ ความสามารถเฉพาะดาน ขอคิดเห็น : เมื่อลูกไมมีความสามารถ ขาดอัจฉริยภาพ พอแมบางคนรับไมได พยายามยัดเยียดใหลูกเปน ในสิ่งที่ตนตองการ สิ่งเหลานี้ถูกตองแลวหรือ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๓ เรื่อง หนึ่งในประชาคม เวลา ๙ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง การสืบค้นข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนําไปตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป .๖/๕ อธิบายการนำความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต ๒. สาระสำคัญ ปัจจุบันเป็นโลกของยุคข่าวสารข้อมูลความเจริญทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นไปอย่าง รวดเร็ว ทำให้สามารถสืบค้นข้อมูลสารสนเทศได้จากทั่วโลก การใช้เทคโนโลยีควรใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสมจึงจะเกิดกับผู้เรียน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกหลักการสืบค้นข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้(K) ๓.๒ นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้(P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการเขียน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ การสืบค้นข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา

๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนดูบัตรภาพคอมพิวเตอร์ ครูสนทนาซักถามว่า ๗.๑.๒ นักเรียนตอบคำถามครู ดังนี้ ๑) นักเรียนรู้จักคอมพิวเตอร์ไหม แนวคำตอบนักเรียน รู้จักค่ะ/ครับ ๒) นักเรียนรู้จักอินเทอร์เน็ตหรือไม่ แนวคำตอบนักเรียน รู้จักค่ะ/ครับ ๓) นักเรียนรู้จักซีดีรอมหรือไม่ แนวคำตอบนักเรียน ไม่รู้จัก/รู้จัก ๔) นักเรียนเคยใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตหรือเปล่า แนวคำตอบนักเรียน เคยใช้ค่ะ/ครับ ๕) นักเรียนจะหาความรู้อะไรได้บ้างจากคอมพิวเตอร์ แนวคำตอบนักเรียน ได้หมดทุกอย่างที่อยากรู้ อ่านหนังสือ ดูการ์ตูน ฟังเพลง เล่นเกม ทำการบ้าน ได้หมดทุกอย่างเลย ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาข้อมูลจากหนังสือเรียนภาษาพาที เรื่อง การสืบค้นข้อมูลจากสื่อ อิเล็กทรอนิกส์หน้าที่ ๒๐๖ ในเวลาที่ครูกำหนด ๑๐ นาที ๗.๒.๒ นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เรื่อง การสืบค้นข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ๗.๒.๓ นักเรียนทำกิจกรรม แข่งกันตอบคำถาม โดยมีกติกา ดังนี้ ๑) นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๒ กลุ่ม ๒) ตัวแทนกลุ่มออกมารับธงสำหรับการยกตอบ ๓) นักเรียนกลุ่มใดยกธงขึ้นเร็วที่สุดจะได้ตอบคำถาม ๔) นักเรียนกลุ่มใดได้คะแนนสูงสุด จะได้รับรางวัลจากครู ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับหลักการสืบค้นข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และนักเรียนร่วมกันบอกประโยชน์จากการสืบค้นข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ๗.๓.๒ นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง การสืบค้นข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ หนังสือเรียนรายวิชาภาษาไทย ภาษาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๘.๒ รูปภาพคอมพิวเตอร์

๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ แบบฝึกหัด เรื่อง การสืบค้นข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอกหลัก การสืบค้นข้อมูลจากสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ได้ (K) การถาม-ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถสืบค้น ข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ได้ (P) ตรวจแบบฝึกหัด เรื่อง การสืบค้น ข้อมูลจากสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ แบบฝึกหัด เรื่อง การสืบค้น ข้อมูลจากสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การเขียน (A) การสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป

รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการเขียน ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ควรปรับปรุง) ๑. การเขียนสะกด เขียนได้ ถูกต้อง มากกว่าร้อย ละ ๙๐ เขียนผิดหรือ ตกหล่นไม่เกิน ๒๐% เขียนผิดหรือตก หล่นไม่เกิน ๓๐% เขียนผิดหรือตก หล่นมากกว่า ๔๐% ๒. ลายมือสวยงาม ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟ พอเหมาะ ตลอด ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะ ๑-๒ แห่ง ตัวหนังตรงไม่ ค่อยเป็นระเบียบ ช่องไฟไม่เหมาะ ๓-๔ แห่ง เขียนตัวหนังสือไม่ ตรง ไม่เป็น ระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะสม ๓. ความสะอาด มีความสะอาด เรียบร้อยดี มาก และไม่มี ร่องรอยของ การลบ มีความสะอาด เรียบร้อยดี และมีร่องรอย ของการลบไม่ เกิน ๕ ตำแหน่ง มีความสะอาด เรียบร้อย ค่อนข้างดี และมี ร่องรอยของการ ลบไม่เกิน ๑๐ ตำแหน่ง ไม่มีความสะอาด เรียบร้อยไม่ดี และ มีร่องรอยของการ ลบเกิน ๑๐ ตำแหน่ง ๔.เขียนได้ ครอบคลุม/ครบถ้วน เขียนได้ ครบถ้วน ครอบคลุม ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ ครอบคลุมแต่ ไม่ค่อย ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ไม่ ครอบคลุมแต่มี ความต่อเนื่อง เล็กน้อย เขียนไม่ครบถ้วน และไม่ต่อเนื่อง ๕. ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ดี ใช้ภาษา สื่อสารในการ เขียนได้ดี ทำ ให้เข้าใจสิ่งที่ สื่อสารอย่าง ชัดเจน ใช้ภาษา สื่อสารได้ดี แต่ บกพร่องใน บางประเด็น ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ แต่บกพร่อง ในหลายประเด็น ใช้ภาษาสื่อสารได้ ไม่ชดเจน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๖-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๕ ดี ๘-๑๒ พอใช้ ๕-๗ ควรปรับปรุง

ตัวอย่างประกอบแผน การสืบค้นข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔๖ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ แบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖

ตัวอย่าง รูปภาพคอมพิวเตอร์

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔๗ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๓ เรื่อง หนึ่งในประชาคม เวลา ๙ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง การเขียนจดหมายกิจธุระ เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวใน รูปแบบต่างๆเขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ป.๖/๒ เขียนสื่อสารโดยใช้คาได้ถูกต้องชัดเจน และเหมาะสม ท ๒.๑ ป.๖/๖ การเขียนจดหมายส่วนตัว ๒. สาระสำคัญ การเขียนจดหมาย เป็นการเขียนรูปแบบหนึ่ง เขียนเพื่อสื่อสาร บอกเล่าเรื่อง แจ้งความ ต้องการ หรือแสดงความคิดเห็นให้ผู้อ่านได้รับทราบ หรือปฏิบัติตามต้องการ ในการเขียนจดหมาย ควรคานึงถึงรูปแบบ เพื่อให้ถูกต้องตามหลักการเขียนจดหมาย ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกหลักการเขียนจดหมายกิจธุระได้(K) ๓.๒ นักเรียนสามารถเขียนจดหมายกิจธุระได้(P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการเขียน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ การเขียนจดหมายกิจธุระ ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา