The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย แผนที่ ๓๑-๖๑ (เล่มที่ ๒)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by วิภาดา จันทร์อร่าม, 2024-01-08 01:26:17

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย แผนที่ ๓๑-๖๑ (เล่มที่ ๒)

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย แผนที่ ๓๑-๖๑ (เล่มที่ ๒)

ตัวอย่าง บัตรข้อความ จงรักนวลสงวนงามห้ามใจไว้ อย่าหลงใหลจำคำที่ร่ำสอน อย่ารีบร้อนเร็วนักมักไม่ดี คิดถึงหน้าบิดาแลมารดร


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรื่อง เสียแล้วไม่กลับคืน เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง การดู การฟัง และการอ่านข่าว (๑) เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนําไปตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖ /๔ แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน ๒. สาระสำคัญ การดูการฟังและการอ่านข่าว จากสื่อมวลชนหลายประเภท เช่น โทรทัศน์ วิทยุ อินเทอร์เน็ต เพื่อให้ทราบถึงความเป็นไปของเหตุการณ์รอบตัวและของโลกในปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริโภคข้อมูล ควรรู้จักเลือกที่จะดูฟังอย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งจะได้ทำให้ได้รับข่าวสารที่ถูกต้อง ไม่บิดเบียนจาก ความเป็นจริง ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกความหมายการดู การฟัง และการอ่านข่าวได้ (K) ๓.๒ นักเรียนสามารถเขียนแผนภาพความคิดจากข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นจากการดู การฟัง และการอ่านข่าวได้ (P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการเขียน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ หลักการดู การฟัง และการอ่านข่าว ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา


๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนตอบคำถามครู ดังนี้ ๑) นักเรียนเคยได้ยินคำว่า “ข้อเท็จจริง” หรือไม่ แนวคำตอบนักเรียน เคยได้ยินค่ะ/ครับ ๒) นักเรียนลองยกตัวอย่าง ข้อเท็จจริงมาคนละ ๑ เรื่อง แนวคำตอบนักเรียน วันนี้เป็นวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗, วันนี้อากาศหนาว เป็นพิเศษ, วันนี้แม่ฉันมาส่งโรงเรียน เป็นต้น ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง การดู การฟังและการอ่านข่าว (๑) ๗.๒.๒ นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติม เรื่อง การดู การฟังและการอ่านข่าว ๗.๒.๓ นักเรียนทำกิจกรรม ตอบคำถามข้อเท็จจริงข้อคิดเห็น โดยมีกติกา ดังนี้ ๑) นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๒ กลุ่ม ๒) นักเรียนส่งตัวแทนมารับกระดานเพื่อเขียนคำตอบ ๓) นักเรียนอ่านคำถามที่อยู่บนหน้ากระดาน ๔) นักเรียนแต่ละกลุ่มพิจารณาช่วยกันคำถาม แล้วเลือกตอบข้อ ก ข ค ง ๕) นักเรียนกลุ่มใดได้คะแนนสูงสุด จะได้รับคะแนน ๓ คะแนน ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันบอกความหมายการดู การฟัง และการอ่านข่าว จากการเรียน การสอนและจากการทำกิจกรรม ๗.๓.๒ นักเรียนทำใบงาน แผนภาพความคิด การดู การฟัง และการอ่านข่าว เป็นการบ้าน นำมาส่งในชั่วโมงถัดไป ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ ใบความรู้ เรื่อง การดู การฟังและการอ่านข่าว ๘.๒ หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๘.๓ กิจกรรม ตอบคำถามข้อเท็จจริงข้อคิดเห็น ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ ใบงาน แผนภาพความคิด การดู การฟัง และการอ่านข่าว


๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอกความหมาย การดู การฟัง และการอ่าน ข่าวได้ (K) การถาม-ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถเขียน แ ผน ภ า พ คว า ม คิ ด จ า ก ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นจาก การดู การฟังและการอ่าน ข่าวได้ (P) ตรวจใบงาน แผนภาพ ความคิด การดู การฟัง และการอ่านข่าว แบบประเมิน ใบงาน แผนภาพ ความคิด การดู การฟัง และการอ่านข่าว นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การเขียน(A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป


รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการเขียน ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ควรปรับปรุง) ๑. การเขียนสะกด เขียนได้ ถูกต้อง มากกว่าร้อย ละ ๙๐ เขียนผิดหรือ ตกหล่นไม่เกิน ๒๐% เขียนผิดหรือตก หล่นไม่เกิน ๓๐% เขียนผิดหรือตก หล่นมากกว่า ๔๐% ๒. ลายมือสวยงาม ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟ พอเหมาะ ตลอด ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะ ๑-๒ แห่ง ตัวหนังตรงไม่ ค่อยเป็นระเบียบ ช่องไฟไม่เหมาะ ๓-๔ แห่ง เขียนตัวหนังสือไม่ ตรง ไม่เป็น ระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะสม ๓. ความสะอาด มีความสะอาด เรียบร้อยดี มาก และไม่มี ร่องรอยของ การลบ มีความสะอาด เรียบร้อยดี และมีร่องรอย ของการลบไม่ เกิน ๕ ตำแหน่ง มีความสะอาด เรียบร้อย ค่อนข้างดี และมี ร่องรอยของการ ลบไม่เกิน ๑๐ ตำแหน่ง ไม่มีความสะอาด เรียบร้อยไม่ดี และ มีร่องรอยของการ ลบเกิน ๑๐ ตำแหน่ง ๔.เขียนได้ ครอบคลุม/ครบถ้วน เขียนได้ ครบถ้วน ครอบคลุม ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ ครอบคลุมแต่ ไม่ค่อย ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ไม่ ครอบคลุมแต่มี ความต่อเนื่อง เล็กน้อย เขียนไม่ครบถ้วน และไม่ต่อเนื่อง ๕. ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ดี ใช้ภาษา สื่อสารในการ เขียนได้ดี ทำ ให้เข้าใจสิ่งที่ สื่อสารอย่าง ชัดเจน ใช้ภาษา สื่อสารได้ดี แต่ บกพร่องใน บางประเด็น ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ แต่บกพร่อง ในหลายประเด็น ใช้ภาษาสื่อสารได้ ไม่ชดเจน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๖-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๕ ดี ๘-๑๒ พอใช้ ๕-๗ ควรปรับปรุง


ตัวอย่างประกอบแผน การดู การฟัง และการอ่านข่าว (๑) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๓ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖


ทันโลก... สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบโลก ๓ องค์การอนามัยโลกและโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ระบุว่า สถิติผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ประจำ ปี ๒๕๔๗ มีถึง ๓ ล้านคน ซึ่งมากเป็นประวัติการณ์ ในรอบ ๒๓ ปี โดยมีผู้ติดเชื้อถึง ๔.๙ ล้านคน นอกจากนี้ประเทศแถบเอเชียและยุโรปตะวันออกเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดเร็ว ที่สุด... จากตัวเลขที่มากขึ้น แสดงให้เห็นว่า โรคร้ายนีเป็นโรคที่ใกล้ตัวเรา หากไม่อยากทนทุกข์กับโรคที่ยังรักษา ไม่หาย ก็ควรรู้จักวิธีป้องกันที่ถูกต้องหากมีเพศสัมพันธ์ ใบความรู้ เรื่อง การดู การฟัง และการอ่านข่าว การดู การฟัง และการอ่านข่าว ทำ ให้รู้ทันเหตุการณ์รอบตัวและของโลก ข่าวที่ดีจะต้องเป็นข่าวจริวตามเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นแและเป็นข่าวที่ตรงไปตรงมา ไม่ควรมีความเห็นของผู้เสนอข่าวหรือผู้เขียนข่าวจนทำ ให้บิดเบือนไปจากความเป็น จริง ข่าวที่พบในชีวิตประจำ วันมักจะเสนอข่าวที่ส่งผลกระทบต่อส่วนรวม เช่น ข่าวการเมือง การปกครอง สังคม เศรษฐกิจ อาชญากรรม อุบัติเหตุ ข่าวสุขภาพ ฯลฯ ซึ่งรับรู้ได้จากสื่อมวลชนหลายประเภท เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น การพิจารณาข่าวที่ดู หรือฟัง หรืออ่าน ควรสังเกตและพิจารณาในแง่มุมต่าง ๆ ดังนี้ ๑. ความชัดเจนและความน่าเชื่อถือในการอ้างอิงหลักฐานต่าง ๆ เช่น สถานที่ วัน เวลา หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ๒. ใช้ภาษาที่สุภาพและมีลำ ดับเหตุการณ์โดยไม่แสดงว่าปิดบังข้อเท็จจริง ๓. ความคิดเห็นของผู้อ่านหรือผู้เขียนข่าว มีเหตุผลและมีความเป็นกลาง ตัวอย่าง ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น มีถึง ๓ ล้านคน มากเป็นประวัติการณ์ในรอบ ๒๓ ปี มีผู้ติดเชื้อถึง ๓๙.๔ ล้านคน และคาดว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ สูงถึง ๔.๙ ล้านคน ประเทศแถบเอเชียและยุโรปตะวันออกเป็นพื้นที่ที่มี การแพร่ระบาดเร็วที่สุด องค์การอนามัยโลก และโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ระบุว่า สถิติผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ ประจำ ปี ๒๕๔๗ จากตัวเลขที่มากขึ้น แสดงให้เห็นว่าโรคร้ายนี้เป็นโรคที่ใกล้ ตัวเรา หากไม่อยากทนทุกข์กับโรคที่ยังรักษาไม่หายก็ควร รู้จักวิธีป้องกันที่ถูกต้องหากมีเพศสัมพันธ์


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรื่อง เสียแล้วไม่กลับคืน เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง การดู การฟัง และการอ่านข่าว (๒) เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนําไปตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖ /๔ แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน ๒. สาระสำคัญ การดูการฟังและการอ่านข่าว จากสื่อมวลชนหลายประเภท เช่น โทรทัศน์ วิทยุ อินเทอร์เน็ต เพื่อให้ทราบถึงความเป็นไปของเหตุการณ์รอบตัวและของโลกในปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริโภคข้อมูล ควรรู้จักเลือกที่จะดูฟังอย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งจะได้ทำให้ได้รับข่าวสารที่ถูกต้อง ไม่บิดเบียนจาก ความเป็นจริง ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกหลักการดู การฟัง และการอ่านข่าวได้ (K) ๓.๒ นักเรียนสามารถแยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นจากการดู การฟัง และการอ่านข่าวได้ (P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการดู การฟัง และการอ่าน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ หลักการดู การฟัง และการอ่านข่าว ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา


๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนดูคลิปวิดีโอโฆษณา ปลุกผิวใสให้ประทับใจในเดทแรก จาก Youtube ๑) นักเรียนลองยกตัวอย่าง ข้อเท็จจริงข้อคิดเห็น จากการดูโฆษณา แนวคำตอบนักเรียน ข้อเท็จจริง คือ การประทับใจในเดทแรก ข้อคิดเห็น คือ การปลุกผิวใส เพราะผิวเราจะสว่างกระจ่างใสได้ต้องใช้เวลาในการบำรุงเป็นระยะเวลานาน ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง การดู การฟังและการอ่านข่าว (๒) ๗.๒.๒ นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติม เรื่อง การดู การฟังและการอ่านข่าว ๗.๒.๓ นักเรียนทำกิจกรรม แยกข้อเท็จจริงข้อคิดเห็น โดยมีกติกา ดังนี้ ๑) นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๒ กลุ่ม ๒) นักเรียนส่งตัวแทนมารับป้ายเพื่อชูขึ้น โดยเป็นเครื่องหมายถูกและผิด ๓) นักเรียนอ่านข้อความที่อยู่บนหน้ากระดาน ๔) นักเรียนแต่ละกลุ่มพิจารณาช่วยกัน หากคิดว่าเป็นข้อเท็จจริงให้ชูป้ายข้อเท็จจริง ขึ้น ๕) ครูนำข้อความมาให้จำแนก ซึ่งมีทั้งหมด ๑๐ ข้อ ๖) นักเรียนกลุ่มใดได้คะแนนสูงสุด จะได้รับคะแนน ๓ คะแนน ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันบอกหลักการดู การฟัง และการอ่านข่าว ๗.๓.๒ นักเรียนทำใบงาน แยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นจากการอ่านข่าว เป็นการบ้านนำส่งใน ชั่วโมงเรียนถัดไป ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ ใบความรู้ เรื่อง การดู การฟังและการอ่านข่าว ๘.๒ หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๘.๓ กิจกรรม แยกข้อเท็จจริงข้อคิดเห็น ๘.๔ ป้ายข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ ใบงาน แยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นจากการอ่านข่าว


๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอกหลักการดู การฟัง และการอ่านข่าวได้ (K) การถาม-ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถแยก ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นจาก การดู การฟัง และการอ่าน ข่าวได้ (P) ตรวจใบงาน แยก ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นจาก การอ่านข่าว แบบประเมิน ใบงาน แยก ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นจาก การอ่านข่าว นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การดู การฟัง และการอ่าน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป


รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนการดู การฟัง และการอ่าน (rubrics) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๓ ๒ ๑ ๑. สนใจกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ นักเรียนมีความสนใจ ตั้งใจฟังกฎระเบียบ และคำสั่งเป็นอย่างดี ถามเมื่อเกิดข้อสงสัย เกี่ยวกับงาน สนใจงานแต่ไม่ สามารถปฏิบัติตาม คำชี้แจงได้ครบถ้วน ทำได้เพียง บางข้อหรือมักจะ ถามคำถามซ้ำ ๆ ไม่สนใจ เหม่อลอย และไม่สามารถปฏิบัติ ตามคำสั่งได้ เหม่อลอย ไม่ทำตาม สนใจสิ่ง นอกห้องเรียน ๒. มีมารยาท การฟังและ การพูด นักเรียนตั้งใจฟัง และเกิดคำถาม เมื่อ ครูชี้แจงเสร็จแล้ว พูดมีหางเสียง ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจฟังคำชี้แจง ไม่ เคาะโต๊ะเสียงดัง และพูดในประเด็น เรื่องที่สอนไม่นอก เรื่องจนเกินไป พูดและเล่านอกเรื่อง ชักสีหน้าเมื่อครูพูดอยู่ พูดคำหยาบ เคาะโต๊ะ เรียนเกิดเสียงดัง รบกวน ๓. มีสมาธิใน การฟัง ไม่ก่อกวน ขณะครูสอน นักเรียนตั้งใจฟัง เงียบฟัง มองตาครู ไม่วอกแวก มองหน้าครู ฟัง อย่างตั้งใจ สายตา วอกแวก ออกนอกห้อง เหม่อลอย สายตา วอกแวก คุยกับเพื่อน เสียงดัง ๔. ตอบคำถาม และปฏิบัติตามได้ ถูกต้อง ให้ความร่วมมือ ใน การตอบคำถาม เสียงดังฟังชัด มี ความมั่นใจและ ปฏิบัติ ได้ถูกต้อง ตอบบางคำถาม ตอบเสียงค่อย ไม่ ค่อยอ้าปากตอบ และปฏิบัติตามได้ เพียงบางข้อ ไม่ตอบคำถาม ไม่อ้าปากท่องตาม เพื่อน ปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่ได้เลย ๕. กระตือรือร้น ในการทำ กิจกรรม มีความกระตือรือร้น อยากทำกิจกรรม ตั้งหน้าตั้งตาทำ ไม่แสดงความรู้สึก ดีใจ แต่ปฏิบัติตาม ทุกอย่าง แสดงสีหน้าหรืออาการ ทางลบ ไม่พอใจ เบื่อหน่าย


รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนการดู การฟัง และการอ่าน (rubrics) (ต่อ) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๒ ๑ ๐ ๖. ให้ความ ร่วมมือใน การเรียน ให้ความร่วมมือ ในทุกขั้นตอน แสดงสีหน้าที่พอใจ ให้ความร่วมมือใน การทำกิจกรรม เบื่อ หน่ายในบางครั้ง ไม่ให้ความร่วมมือ เฉยชาและแสดงสีหน้า ไม่พอใจ ๗. อยู่ใน กฎระเบียบ มีความเรียบร้อย ไม่วิ่งรอบห้องขณะที่ สอน ไม่รบกวนผู้อื่น นั่งอยู่กับที่อย่าง เรียบร้อย นั่งอยู่กับที่ของ ตนเอง เสียงดัง รบกวนในบางครั้ง เคลื่อนไหวรอบห้อง ขณะที่ครูสอน ทำกิริยา ที่เสียงดังรบกวนผู้อื่น เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก = ๒ พอใช้ = ๑ ปรับปรุง = ๐ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีมาก ขึ้นไป ช่วงชั้นคะแนน ระดับคุณภาพ สรุป ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๑ – ๑๔ ดีมาก ๗ – ๑๐ พอใช้ ๐ – ๖ ปรับปรุง


ตัวอย่างประกอบแผน การดู การฟัง และการอ่านข่าว (๒) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๔ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖


ทันโลก... สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบโลก ๓ องค์การอนามัยโลกและโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ระบุว่า สถิติผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ประจำ ปี ๒๕๔๗ มีถึง ๓ ล้านคน ซึ่งมากเป็นประวัติการณ์ ในรอบ ๒๓ ปี โดยมีผู้ติดเชื้อถึง ๔.๙ ล้านคน นอกจากนี้ประเทศแถบเอเชียและยุโรปตะวันออกเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดเร็ว ที่สุด... จากตัวเลขที่มากขึ้น แสดงให้เห็นว่า โรคร้ายนีเป็นโรคที่ใกล้ตัวเรา หากไม่อยากทนทุกข์กับโรคที่ยังรักษา ไม่หาย ก็ควรรู้จักวิธีป้องกันที่ถูกต้องหากมีเพศสัมพันธ์ ใบความรู้ เรื่อง การดู การฟัง และการอ่านข่าว การดู การฟัง และการอ่านข่าว ทำ ให้รู้ทันเหตุการณ์รอบตัวและของโลก ข่าวที่ดีจะต้องเป็นข่าวจริวตามเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นแและเป็นข่าวที่ตรงไปตรงมา ไม่ควรมีความเห็นของผู้เสนอข่าวหรือผู้เขียนข่าวจนทำ ให้บิดเบือนไปจากความเป็น จริง ข่าวที่พบในชีวิตประจำ วันมักจะเสนอข่าวที่ส่งผลกระทบต่อส่วนรวม เช่น ข่าวการเมือง การปกครอง สังคม เศรษฐกิจ อาชญากรรม อุบัติเหตุ ข่าวสุขภาพ ฯลฯ ซึ่งรับรู้ได้จากสื่อมวลชนหลายประเภท เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น การพิจารณาข่าวที่ดู หรือฟัง หรืออ่าน ควรสังเกตและพิจารณาในแง่มุมต่าง ๆ ดังนี้ ๑. ความชัดเจนและความน่าเชื่อถือในการอ้างอิงหลักฐานต่าง ๆ เช่น สถานที่ วัน เวลา หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ๒. ใช้ภาษาที่สุภาพและมีลำ ดับเหตุการณ์โดยไม่แสดงว่าปิดบังข้อเท็จจริง ๓. ความคิดเห็นของผู้อ่านหรือผู้เขียนข่าว มีเหตุผลและมีความเป็นกลาง ตัวอย่าง ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น มีถึง ๓ ล้านคน มากเป็นประวัติการณ์ในรอบ ๒๓ ปี มีผู้ติดเชื้อถึง ๓๙.๔ ล้านคน และคาดว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ สูงถึง ๔.๙ ล้านคน ประเทศแถบเอเชียและยุโรปตะวันออกเป็นพื้นที่ที่มี การแพร่ระบาดเร็วที่สุด องค์การอนามัยโลก และโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ระบุว่า สถิติผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ ประจำ ปี ๒๕๔๗ จากตัวเลขที่มากขึ้น แสดงให้เห็นว่าโรคร้ายนี้เป็นโรคที่ใกล้ ตัวเรา หากไม่อยากทนทุกข์กับโรคที่ยังรักษาไม่หายก็ควร รู้จักวิธีป้องกันที่ถูกต้องหากมีเพศสัมพันธ์


ใบงาน การดู การฟัง และการอ่านข่าว ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ชื่อ...........................................................................................ชั้น...............เลขที่..................... คำ ชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณาข่าวต่อไปนี้ แล้วแยกแยะข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากข่าวที่ดู และฟัง ให้ถูกต้อง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรื่อง เสียแล้วไม่กลับคืน เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง การเขียนแผนภาพความคิด เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เรื่องราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี ประสิทธิภาพ ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/๓ เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียน ๒. สาระสำคัญ แผนภาพความคิดเป็นรูปแบบของการจัดการข้อมูล ความรู้ ความคิด ให้เป็นระบบ เพื่อให้ เข้าใจเรื่องทั้งหมดอย่างชัดเจน สามารถนำไปใช้ได้ง่าย แผนภาพความคิดใช้พัฒนางานเขียน ใช้จัดขอบเขตความรู้ ความคิดเพื่อกำหนดทิศทางของ เรื่องที่จะเขียนทำให้งานเขียนมีประเด็นที่ชัดเจน และได้ความครบถ้วนสมบูรณ์ หรือใช้แผนภาพเพื่อ สรุปความรู้ สรุปเรื่องที่อ่าน หากนำเรื่องมาเขียนสรุปเป็นแผนภาพ ก็จะช่วยให้สามารถจับประเด็น สำคัญของเรื่องได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกหลักการเขียนแผนภาพความคิดได้(K) ๓.๒ นักเรียนสามารถเขียนแผนภาพความคิดได้ (P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการเขียน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ หลักการเขียนแผนภาพความคิด ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน


๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนส่งตัวแทนออกมาเล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน ๓ คน ๗.๑.๒ นักเรียนตอบคำถามคุณครูเกี่ยวกับสถานการณ์ชีวิตประจำวันของนักเรียนเพื่อให้ นักเรียนรู้จักสรุปได้ว่าในแต่ละวันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง และเป็นอย่างไร สรุปความได้ว่า อย่างไร เพื่อนำไปสู่การทำแผนภาพความคิด ๗.๑.๓ นักเรียนช่วยกันทำแผนภาพความคิดที่เพื่อนเล่าว่ามีอะไรบ้างที่ตรงกัน เพื่อทำเป็น แผนภาพความคิด ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาใบความรู้แผนภาพความคิด ครูจะแจกใบความรู้ให้นักเรียนศึกษาหา ความรู้ในเวลาที่ครูกำหนด ๑๐ นาที ๗.๒.๒ นักเรียนทำกิจกรรม เนื้อหานี้ทำแผนภาพความคิดได้อย่างไร โดยมีกติกา ดังนี้ ๑. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกมาเป็น ๓ กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน ครูจะแจกกระดานให้ นักเรียนทำแผนภาพความคิด ๒. นักเรียนส่งตัวแทนออกมารับ บทความ เพื่อนำไปทำแผนภาพความคิด พร้อมตกแต่งระบายสีให้สวยงาม ๓. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอแผนภาพความคิดของกลุ่มตนเอง ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุปหลักการเขียนแผนภาพความคิด ๗.๓.๓ นักเรียนทำแผนภาพความคิดชนิดใดก็ได้ โดยให้ทำแผนภาพความคิด หัวข้อ การรัก นวลสงวนตัว จากเนื้อหาเสียแล้วไม่กลับคืน บทที่ ๑๔ เป็นรายบุคคล เป็นการบ้าน ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๘.๒ ใบความรู้แผนภาพความคิด ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ แผนภาพความคิด หัวข้อ การรักนวลสงวนตัว


๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอกหลักการเขียน แผนภาพความคิดได้ (K) ถาม-ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถเขียน แผนภาพความคิดได้ (P) ตรวจแผนภาพ ความคิด หัวข้อ การรัก นวลสงวนตัว แบบประเมิน แผนภาพ ความคิด หัวข้อ การรัก นวลสงวนตัว นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓.นักเรียนมีมารยาทใน การเขียน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป


รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการเขียน ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ควรปรับปรุง) ๑. การเขียนสะกด เขียนได้ ถูกต้อง มากกว่าร้อย ละ ๙๐ เขียนผิดหรือ ตกหล่นไม่เกิน ๒๐% เขียนผิดหรือตก หล่นไม่เกิน ๓๐% เขียนผิดหรือตก หล่นมากกว่า ๔๐% ๒. ลายมือสวยงาม ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟ พอเหมาะ ตลอด ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะ ๑-๒ แห่ง ตัวหนังตรงไม่ ค่อยเป็นระเบียบ ช่องไฟไม่เหมาะ ๓-๔ แห่ง เขียนตัวหนังสือไม่ ตรง ไม่เป็น ระเบียบ ช่องไฟไม่ เหมาะสม ๓. ความสะอาด มีความสะอาด เรียบร้อยดี มาก และไม่มี ร่องรอยของ การลบ มีความสะอาด เรียบร้อยดี และมีร่องรอย ของการลบไม่ เกิน ๕ ตำแหน่ง มีความสะอาด เรียบร้อย ค่อนข้างดี และมี ร่องรอยของการ ลบไม่เกิน ๑๐ ตำแหน่ง ไม่มีความสะอาด เรียบร้อยไม่ดี และ มีร่องรอยของการ ลบเกิน ๑๐ ตำแหน่ง ๔.เขียนได้ ครอบคลุม/ครบถ้วน เขียนได้ ครบถ้วน ครอบคลุม ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ ครอบคลุมแต่ ไม่ค่อย ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ไม่ ครอบคลุมแต่มี ความต่อเนื่อง เล็กน้อย เขียนไม่ครบถ้วน และไม่ต่อเนื่อง ๕. ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ดี ใช้ภาษา สื่อสารในการ เขียนได้ดี ทำ ให้เข้าใจสิ่งที่ สื่อสารอย่าง ชัดเจน ใช้ภาษา สื่อสารได้ดี แต่ บกพร่องใน บางประเด็น ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ แต่บกพร่อง ในหลายประเด็น ใช้ภาษาสื่อสารได้ ไม่ชดเจน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๖-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๕ ดี ๘-๑๒ พอใช้ ๕-๗ ควรปรับปรุง


ตัวอย่างประกอบแผน การเขียนแผนภาพความคิด แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๕ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖


ใบความรู“การเขียนแผนภาพความคิด” แผนภาพความคิด เปนรูปแบบของการจัดขอมูล ความรู ความคิดใหเปนระบบเพื่อใหเขาเรื่องทั้งหมดอยางชัดเจน สามารถนําไปใชไดงาย ประโยชนของแผนภาพความคิด ใชพัฒนางานเขียน ใชจัดขอบเขตความรู ความคิดเพื่อกําหนดทิศทางของเรื่องที่จะเขียน มีประเด็นที่ชัดเจน และไดความครบถวน หรือใชแผนภาพความคิดเพื่อสรุปความรูสรุปเรื่องที่อาน หากนําเรื่องมาเขียนสรุปเปนแผนภาพก็จะชวยใหสามารถจับประเด็นสําคัญของเรื่องไดครบถวนสมบูรณ ขั้นตอนการเขียนแผนภาพความคิด ขั้นตอนการพัฒนางานเขียน 1.ยกรางงานเขียน เปนการนําแผนภาพความคิดที่เขียนไวมาเรียบเรียงตามรูปแบบของงานเขียน โดยคํานึงถึง ผูอาน เลือกใชภาษาใหเหมาะสม เริ่มตนงานเขียนใหนาสนใจ และเรียบเรียงเรื่องราวใหเชื่อมโยงกันตั้งแตตน จนจบ 2. ปรับปรุงงานเขียน เปนการอานทบทวนเรื่องที่เขียนเพื่อเพิ่มความคิดใหสมบูรณแกไขภาษา สํานวนโวหาร โดยอาจนําไปใหผูอื่นอานแลวนําขอเสนอแนะมาปรับปรุงอีกครั้ง 3. การบรรณาธิการกิจ เปนการนํางานเขียนที่ปรับปรุงแลวมาตรวจแกไขขอผิดพลาดในเรื่องการเขียนสะกดคํา การใชภาษา การเวนวรรคตอน 1.กำหนดชื่อเรื่อง หรือความคิดรวบ ยอด  2.รวบรวมสิ่งที่เกี่ยว กับชื่อเรื่องหรือ ความคิดรวบยอด นั้นแลวจดบันทึกไว เปนคำหรือกลุมคำ สั้นๆ  3.นำคำหรือกลุมคำที่ จดบันทึกไวซึ่งมีความ เกี่ยวของสัมพันธกัน มาจัดกลุมตั้งชื่อกลุม เปนหัวขอยอย แลว เรียงลำดับหัวขอตาม ความสำคัญ  4.เลือกรูปแบบแผน ภาพความคิดให เหมาะสมกับการนำ ไปใชประโยชนและ เนื้อหาของเรื่อง 


4. การเขียนใหสมบูรณเปนการนํางานเขียนนั้นมาเขียนใหสมบูรณดวยลายมือที่สวยงามหรือจัดพิมพ วาดภาพประกอบตามความเหมาะสม แลวตรวจสอบอีกครั้งเพื่อเผยแพร รูปแบบแผนภาพความคิด แผนภาพความคิดแบบเปรียบเทียบ ใชในการเปรียบเทียบของ 2 สิ่งขึ้นไปมีทั้งสวนเหมือนและสวนที่แตกตางกัน สิ่งที่ตางกัน สิ่งที่ตางกัน สิ่งที่เหมือนกัน แผนภาพความคิดแบบใยแมงมุม ใชในลักษณะการเชื่อมโยงและขยายแนวคิดที่สัมพันธกันจากแนวคิดหลัก ไปสูความคิดรองและไปสูความคิดยอย


แผนภาพความคิดแบบกางปลา ใชในการวิเคราะหปญหา และสาเหตุที่ทําใหเกิดปญหา ทั้งสาเหตุหลักและสาเหตุยอยที่สัมพันธกัน แผนภาพความคิดแบบขั้นบันได เปนการเรียงลําดับขอมูลที่เรียงไปตามลําดับขั้นตอน ขั้นตอนการสรางแผนภาพความคิด แผนภาพความคิดแบบโครงสราง ใชแบงเนื้อหา ออกเปนสวนตางๆ และมีรายละเอียดยอยๆ ในแตละสวนลดหลั่นกันมาในลักษณะแนวคิดเดียวกับ โครงเรื่องโลกใตน้ำ  บรรยากาศของ ทองทะเล  ชายหาด  ทองทะเลกวาง ใหญ  นักบินโฉบไปมา  การเที่ยวในทอง ทะเล  ปลาสีสันสวยงาม  ปะการังสวยงาม  ซากเรือแตก  มลพิษ และการอ นุรัษทองทะเล  เศษขยะในทะเล  น้ำมันรั่วจากเรือสู ทะเล  ขนท 1 กาหนดชอเรอง หรอความคดรวบยอด ขนท 2 รวบรวมสงทเกยวของกบชอเรอง แลวจดบนทกไว เปนคาหรอกลมคาสนๆ ขนท 3 นาคาหรอกลมคามาจดกลมความสมพนธ ขนท 4 เลอกรปแบบแผนภาพความคดใหเหมาะสมกบการนาไปใชประโยชนและเนอหา


โลกใตน้ํา เมื่อฉันไปเที่ยวทะเล ฉันเดินและสัมผัสพื้นทรายที่แสนละเอียดออนนุม ฉันรูสึกไดถึงความออนโยนของทองทะเล ทองทะเลสีฟาอันกวางไกล นกบินโฉบไปมาชางเปนภาพที่งดงามเหลือเกิน และเมื่อฉันวายลงไปในทองทะเลอันกวางใหญ นกบินโฉบไปมาชางเปนภาพที่งดงามเหลือเกิน และเมื่อฉันวายไปในทองทะเลอันกวางใหญแลวดําลงไปใตน้ํา ฉันไดพบกับภาพอันแสนประทับใจ คือ ฝูงปลาหลากสีสันแหวกวายอยูทั่วทองน้ํา เห็นปะการังสีสวยที่มีความออนชอย ไดเห็นซากเรือแตก ฉันรูสึกตื่นเตนมากจึงรีบวายเขาไปในซากเรือนั้น ซากเรือเปนที่อาศัยของสัตวทะเลนอยใหญมากมายอยางไมนาเชื่อ และเมื่อฉันออกมาจาก ซากเรือก็เห็นเตาทะเลตัวหนึ่งวายอยูรอบๆฉัน ทําทีราวกับจะชักชวนใหฉันไปกับมัน เมื่อเตาทะเลเริ่มวายน้ําฉันก็เริ่มวายตามมันไป จึงไดพบกับเศษขยะอยูเกลื่อนพื้นทะเล ฉันชวยเก็บขยะจนหมด แลวจึงวายน้ําเขาฝง ไมนาเชื่อวาทองทะเลที่สวยงามและเปนที่อยูของสัตวน้ําทั้งหลายจะมีเศษขยะอยูมากมาย อาจเนื่องดวยการคมนาคมสมัยนี้พัฒนาขึ้น ทําใหเกิดมลภาวะสูทองทะเล เชน เหตุการณน้ํามันรั่วออกจากเรือ และมีผูทิ้งขยะลงในทะเล ฉันคิดวาเพื่อใหทะเลอยูคูโลกนี้ไปนานๆ เราควรชวยกันดูแลรักษาความสะอาด ไมทิ้งขยะลงในทะเล และชวยกันอนุรักษสิ่งมีชีวิตในทะเล เชนสัตวน้ําตางๆ หรือปะการัง ใหอยูคูกับทองทะเลตลอดไป ที่มา : หนังภาษาไทย ป.6 (อจท)


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรื่อง เสียแล้วไม่กลับคืน เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง การสนทนาและการพูดโทรศัพท์(๑) เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณและพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๓.๑ ป.๖ /๑ พูดแสดงความรู้ความเข้าใจจุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดู ท ๓.๑ ป.๖ /๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๒. สาระสำคัญ การสนทนากับบุคคลทั่วไป ควรเลือกใช้ถ้อยคาที่สุภาพ เพื่อให้ผู้ฟังมีความรูสึกที่ดี และช่วยให้การสื่อสารประสบความสำเร็จตามจุดประสงค์ การพูดติดต่อทางโทรศัพท์ ควรใช้ภาษาที่ สุภาพ พูดสั้น ๆ ชัดเจน ได้ความครบถ้วนตามที่ต้องการ และไม่ควรพูดโทรศัพท์เกินไป ถ้าเรื่องที่ ติดต่อมีรายละเอียดมาก ควรจดบันทึกย่อ ๆ ไว้เพื่อกันลืม ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกหลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์ได้ (K) ๓.๒ นักเรียนทำแผนภาพความคิดเกี่ยวกับหลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์ได้(P) ๓.๓ นักเรียนส่งงานตรงตามกำหนด (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ หลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์ ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา


๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนชมคลิปวิดีโอ “สอนลุงเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม” จาก YouTube ๗.๑.๒ นักเรียนตอบคำถามครู หลังจากชมคลิปวิดีโอจบ ดังนี้ ๑) โฆษณาสื่อถึงอะไร แนวคำตอบนักเรียน สื่อถึงการสนทนา ๒) นักเรียนสังเกตหรือไม่ การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างคุณลุงสงวนกับพนักงาน Call Center เป็นอย่างไร พูดจาสุภาพหรือไม่ แนวคำตอบนักเรียน คุณลุงสงวนพูดจาสุภาพแต่บางครั้งก็มีโมโหบ้าง แต่ Call Center พูดจาโต้ตอบอย่างสุภาพ และการสนทนาทางโทรศัพท์ทั้งสองคนจะใช้วาจาที่สุภาพ แทนตัวเองว่าผม ส่วนทาง Call Center จะแทนตัวเองว่าดิฉัน ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาใบความรู้หลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์(๑) ในเวลาที่ครู กำหนด ๑๐ นาที ๗.๒.๒ นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์ ๗.๒.๓ นักเรียนทำกิจกรรม หลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์โดยมีกติกา ดังนี้ ๑. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกมาเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน ครูจะแจกกระดานให้ นักเรียนคิดบทเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ ๒. นักเรียนส่งตัวแทนออกมารับกระดาษ เพื่อเขียนคำตอบ ๓. ครูมีคำถามทั้งหมด ๑๐ ข้อ ๔. นักเรียนกลุ่มใดได้คะแนนสูงสุดจะได้รับคะแนนคนละ ๓ คะแนน ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุปหลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์จากการเรียน การสอนและจากการทำกิจกรรม ๗.๓.๒ นักเรียนทำแผนภาพความคิดเกี่ยวกับหลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์ ลงในสมุดรายวิชาภาษาไทยของตนเอง ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๘.๒ ใบความรู้ หลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์(๑) ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ แผนภาพความคิดเกี่ยวกับหลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์


๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอก หลักการสนทนา และการพูดโทรศัพท์ได้ (K) ถาม-ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนทำแผนภาพ ความคิดเกี่ยวกับ หลักการสนทนาและ การพูดโทรศัพท์ได้ (P) ตรวจแผนภาพ ความคิดเกี่ยวกับ หลักการสนทนา และการพูด โทรศัพท์ แบบประเมิน แผนภาพความคิด เกี่ยวกับ หลักการสนทนา และการพูด โทรศัพท์ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนส่งงานตรงตาม กำหนด (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป


รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสังเกตพฤติกรรมการส่งงาน (rubrics) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๓ ๒ ๑ ๑. สนใจกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ นักเรียนมีความสนใจ ตั้งใจฟังกฎระเบียบ และคำสั่งเป็นอย่างดี ถามเมื่อเกิดข้อสงสัย เกี่ยวกับงาน สนใจงานแต่ไม่ สามารถปฏิบัติตาม คำชี้แจงได้ครบถ้วน ทำได้เพียง บางข้อหรือมักจะ ถามคำถามซ้ำ ๆ ไม่สนใจ เหม่อลอย และไม่สามารถปฏิบัติ ตามคำสั่งได้ เหม่อลอย ไม่ทำตาม สนใจสิ่ง นอกห้องเรียน ๒. มีมารยาท การฟังและ การพูด นักเรียนตั้งใจฟัง และเกิดคำถาม เมื่อ ครูชี้แจงเสร็จแล้ว พูดมีหางเสียง ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจฟังคำชี้แจง ไม่ เคาะโต๊ะเสียงดัง และพูดในประเด็น เรื่องที่สอนไม่นอก เรื่องจนเกินไป พูดและเล่านอกเรื่อง ชักสีหน้าเมื่อครูพูดอยู่ พูดคำหยาบ เคาะโต๊ะ เรียนเกิดเสียงดัง รบกวน ๓. มีสมาธิใน การฟัง ไม่ก่อกวน ขณะครูสอน นักเรียนตั้งใจฟัง เงียบฟัง มองตาครู ไม่วอกแวก มองหน้าครู ฟัง อย่างตั้งใจ สายตา วอกแวก ออกนอกห้อง เหม่อลอย สายตา วอกแวก คุยกับเพื่อน เสียงดัง ๔. ตอบคำถาม และปฏิบัติตามได้ ถูกต้อง ให้ความร่วมมือ ใน การตอบคำถาม เสียงดังฟังชัด มีความมั่นใจและ ปฏิบัติ ได้ถูกต้อง ตอบบางคำถาม ตอบเสียงค่อย ไม่ ค่อยอ้าปากตอบ และปฏิบัติตามได้ เพียงบางข้อ ไม่ตอบคำถาม ไม่อ้าปากท่องตาม เพื่อน ปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่ได้เลย ๕. กระตือรือร้น ในการทำ กิจกรรม มีความกระตือรือร้น อยากทำกิจกรรม ตั้งหน้าตั้งตาทำ ไม่แสดงความรู้สึก ดีใจ แต่ปฏิบัติตาม ทุกอย่าง แสดงสีหน้าหรืออาการ ทางลบ ไม่พอใจ เบื่อหน่าย


รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสังเกตพฤติกรรมการส่งงาน (rubrics) (ต่อ) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๒ ๑ ๐ ๖. ให้ความ ร่วมมือใน การเรียน ให้ความร่วมมือ ในทุกขั้นตอน แสดงสีหน้าที่พอใจ ให้ความร่วมมือใน การทำกิจกรรม เบื่อ หน่ายในบางครั้ง ไม่ให้ความร่วมมือ เฉยชาและแสดงสีหน้า ไม่พอใจ ๗. อยู่ใน กฎระเบียบ มีความเรียบร้อย ไม่วิ่งรอบห้องขณะที่ สอน ไม่รบกวนผู้อื่น นั่งอยู่กับที่อย่าง เรียบร้อย นั่งอยู่กับที่ของ ตนเอง เสียงดัง รบกวนในบางครั้ง เคลื่อนไหวรอบห้อง ขณะที่ครูสอน ทำกิริยา ที่เสียงดังรบกวนผู้อื่น เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก = ๒ พอใช้ = ๑ ปรับปรุง = ๐ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีมาก ขึ้นไป ช่วงชั้นคะแนน ระดับคุณภาพ สรุป ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๑ – ๑๔ ดีมาก ๗ – ๑๐ พอใช้ ๐ – ๖ ปรับปรุง


ตัวอย่างประกอบแผน การสนทนาและการพูดโทรศัพท์(๑) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๖ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๗ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรื่อง เสียแล้วไม่กลับคืน เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง การสนทนาและการพูดโทรศัพท์(๒) เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณและพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๓.๑ ป.๖ /๑ พูดแสดงความรู้ความเข้าใจจุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดู ท ๓.๑ ป.๖ /๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๒. สาระสำคัญ การสนทนากับบุคคลทั่วไป ควรเลือกใช้ถ้อยคาที่สุภาพ เพื่อให้ผู้ฟังมีความรูสึกที่ดี และช่วยให้การสื่อสารประสบความสำเร็จตามจุดประสงค์ การพูดติดต่อทางโทรศัพท์ ควรใช้ภาษาที่ สุภาพ พูดสั้น ๆ ชัดเจน ได้ความครบถ้วนตามที่ต้องการ และไม่ควรพูดโทรศัพท์เกินไป ถ้าเรื่องที่ ติดต่อมีรายละเอียดมาก ควรจดบันทึกย่อ ๆ ไว้เพื่อกันลืม ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกหลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์ได้ (K) ๓.๒ นักเรียนสามารถพูดติดต่อ สนทนาทางโทรศัพท์ได้(P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทการฟัง และการพูด (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ หลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์ ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา


๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนทำกิจกรรม ต่อบทสนทนากัน โดยนักเรียนที่นั่งอยู่หัวแถวจะเป็นคนเริ่มต้น บทสนทนา จากนั้นให้เพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ตอบกลับบทสนทนาต่อไป ทำไปเรื่อย ๆ จนถึงคนสุดท้าย ๗.๑.๒ นักเรียนตอบคำถามครู หลังจากทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ดังนี้ ๑) จากกิจกรรมบทสนทนาของนักเรียนมีความสุภาพหรือไม่ แนวคำตอบนักเรียน มีทั้งความสุขภาพและไม่สุภาพค่ะ/ครับ ๒) การสนทนามีประโยชน์อย่างไร แนวคำตอบนักเรียน ได้เข้าใจความต้องการของเพื่อนๆ ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนทบทวนความรู้เดิมจากชั่วโมงที่แล้ว ๗.๒.๒ นักเรียนศึกษาใบความรู้ หลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์(๒) ในเวลาที่ครู กำหนด ๑๐ นาที ๗.๒.๓ นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์ ๗.๒.๔ นักเรียนทำกิจกรรม สนทนากันเถอะ โดยมีกติกา ดังนี้ ๑. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกมาเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน ครูจะแจกกระดานให้ นักเรียนคิดบทเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ ๒. นักเรียนส่งตัวแทนออกมานำเสนอการพูดคุยโทรศัพท์ ๓. ครูมีโทรศัพท์มีสายที่ทำจากกระดาษเพื่อให้นักเรียนสนทนา ๔. นักเรียนและครูร่วมกันให้คำแนะนำเพื่อนที่ออกมานำเสนอ ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุปหลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์จากการเรียน การสอนและการทำกิจกรรม ๗.๓.๒ นักเรียนจับกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ ๕ คน กลุ่มเดิม โดยทำบทบาทสมมติเกี่ยวกับ การคุยโทรศัพท์ โดยอัดคลิปส่งมาทางไลน์ ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๘.๒ ใบความรู้ หลักการสนทนาและการพูดโทรศัพท์ ๘.๓ โทรศัพท์มีสายแบบทำเอง ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ คลิปบทบาทสมมติเกี่ยวกับการคุยโทรศัพท์


๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอก หลักการสนทนา และการพูดโทรศัพท์ได้ (K) ถาม-ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถพูดติดต่อ สนทนาทางโทรศัพท์ได้ (P) ตรวจคลิป บทบาทสมมติ เกี่ยวกับการคุย โทรศัพท์ แบบประเมินคลิป บทบาทสมมติ เกี่ยวกับการคุย โทรศัพท์ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทการฟัง และการพูด (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป


๑๑. บันทึกผลหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑๑.๑ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๒ ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๓ ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………. (นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม) วัน……….เดือน……………..……พ.ศ………….


รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสังเกตพฤติกรรม (rubrics) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๓ ๒ ๑ ๑. สนใจกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ นักเรียนมีความสนใจ ตั้งใจฟังกฎระเบียบ และคำสั่งเป็นอย่างดี ถามเมื่อเกิดข้อสงสัย เกี่ยวกับงาน สนใจงานแต่ไม่ สามารถปฏิบัติตาม คำชี้แจงได้ครบถ้วน ทำได้เพียง บางข้อหรือมักจะ ถามคำถามซ้ำ ๆ ไม่สนใจ เหม่อลอย และไม่สามารถปฏิบัติ ตามคำสั่งได้ เหม่อลอย ไม่ทำตาม สนใจสิ่ง นอกห้องเรียน ๒. มีมารยาท การฟังและ การพูด นักเรียนตั้งใจฟัง และเกิดคำถาม เมื่อ ครูชี้แจงเสร็จแล้ว พูดมีหางเสียง ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจฟังคำชี้แจง ไม่ เคาะโต๊ะเสียงดัง และพูดในประเด็น เรื่องที่สอนไม่นอก เรื่องจนเกินไป พูดและเล่านอกเรื่อง ชักสีหน้าเมื่อครูพูดอยู่ พูดคำหยาบ เคาะโต๊ะ เรียนเกิดเสียงดัง รบกวน ๓. มีสมาธิใน การฟัง ไม่ก่อกวน ขณะครูสอน นักเรียนตั้งใจฟัง เงียบฟัง มองตาครู ไม่วอกแวก มองหน้าครู ฟัง อย่างตั้งใจ สายตา วอกแวก ออกนอกห้อง เหม่อลอย สายตา วอกแวก คุยกับเพื่อน เสียงดัง ๔. ตอบคำถาม และปฏิบัติตามได้ ถูกต้อง ให้ความร่วมมือ ใน การตอบคำถาม เสียงดังฟังชัด มีความมั่นใจและ ปฏิบัติ ได้ถูกต้อง ตอบบางคำถาม ตอบเสียงค่อย ไม่ ค่อยอ้าปากตอบ และปฏิบัติตามได้ เพียงบางข้อ ไม่ตอบคำถาม ไม่อ้าปากท่องตาม เพื่อน ปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่ได้เลย ๕. กระตือรือร้น ในการทำ กิจกรรม มีความกระตือรือร้น อยากทำกิจกรรม ตั้งหน้าตั้งตาทำ ไม่แสดงความรู้สึก ดีใจ แต่ปฏิบัติตาม ทุกอย่าง แสดงสีหน้าหรืออาการ ทางลบ ไม่พอใจ เบื่อหน่าย


รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสังเกตพฤติกรรม (rubrics) (ต่อ) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๒ ๑ ๐ ๖. ให้ความ ร่วมมือใน การเรียน ให้ความร่วมมือ ในทุกขั้นตอน แสดงสีหน้าที่พอใจ ให้ความร่วมมือใน การทำกิจกรรม เบื่อ หน่ายในบางครั้ง ไม่ให้ความร่วมมือ เฉยชาและแสดงสีหน้า ไม่พอใจ ๗. อยู่ใน กฎระเบียบ มีความเรียบร้อย ไม่วิ่งรอบห้องขณะที่ สอน ไม่รบกวนผู้อื่น นั่งอยู่กับที่อย่าง เรียบร้อย นั่งอยู่กับที่ของ ตนเอง เสียงดัง รบกวนในบางครั้ง เคลื่อนไหวรอบห้อง ขณะที่ครูสอน ทำกิริยา ที่เสียงดังรบกวนผู้อื่น เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก = ๒ พอใช้ = ๑ ปรับปรุง = ๐ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีมาก ขึ้นไป ช่วงชั้นคะแนน ระดับคุณภาพ สรุป ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๑ – ๑๔ ดีมาก ๗ – ๑๐ พอใช้ ๐ – ๖ ปรับปรุง


ตัวอย่างประกอบแผน การสนทนาและการพูดโทรศัพท์(๒) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๗ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรื่อง เสียแล้วไม่กลับคืน เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง การอ่านกราฟและแผนภูมิ เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ตัวชี้วัดท ๑.๑ ป.๖/๗ อธิบายความหมายของข้อมูล จากการอ่านแผนผัง แผนที่ แผนภูมิ และกราฟ ๒. สาระสำคัญ กราฟ คือ แผนภาพที่แสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลสองกลุ่มเพื่อให้ทราบถึงความ เปลี่ยนแปลงในข้อมูล หรือเปรียบเทียบข้อมูลที่ให้เห็นได้ชัดเจน การนาเสนอข้อมูลแบบกราฟ จะแสดงในลักษณะแผนภูมิต่าง ๆ เช่น แผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิแท่ง แผนภูมอวงกลม กราฟเส้น เป็นต้น ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกความหมายของกราฟและแผนภูมิได้ (K) ๓.๒ นักเรียนสามารถอ่านกราฟและแผนภูมิได้(P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการอ่าน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ หลักการอ่านกราฟและแผนภูมิ ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา


๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนส่งตัวแทนออกมาทำกิจกรรมถือสมุด ๕ คน โดยให้ถือสมุดขึ้นมา คนที่หนึ่ง ถือสมุดมา ๒ เล่ม คนที่สองถือสมุดมา ๔ เล่ม คนที่สามถือสมุดมา ๕ เล่ม คนที่สี่ถือสมุดมา ๗ เล่ม และคนที่ห้าถือสมุดมา ๑๐ เล่ม ๗.๑.๒ นักเรียนสังเกตจากการวาดกราฟแท่งบนกระดานจากการทำกิจกรรมถือสมุด ๗.๑.๓ นักเรียนตอบคำถามครู หลังจากการสังเกต ดังนี้ ๑) ภาพที่ครูเขียนบนกระดานมีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับเพื่อนทั้งสี่คนที่ถือ สมุดอย่างไร แนวคำตอบนักเรียน มีความสัมพันธ์ทางด้านการอ่ายกราฟและแผนภูมิ ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง กราฟและแผนภูมิ ๗.๒.๒ นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับกราฟและแผนภูมิ ๗.๒.๓ นักเรียนทำกิจกรรม กราฟและแผนภูมินี้อ่านอย่างไร โดยมีกติกา ดังนี้ ๑. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกมาเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆ กัน ๒. นักเรียนส่งตัวแทนออกมารับกระดานเพื่อเขียนคำตอบ ๔. ครูมีรูปกราฟและแผนภูมิ ๒ รูปภาพ มีคำถามทั้งหมด ๑๐ ข้อ ๕. นักเรียนกลุ่มใดได้คะแนนสูงสุด ๓ ลำดับแรก จะได้รับคะแนน ๒ คะแนน ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความหมายของกราฟและแผนภูมิจากการเรียนและ การทำกิจกรรม ๗.๓.๓ นักเรียนทำใบงาน กราฟและแผนภูมิ เป็นการบ้าน ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ หนังสือเรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ๘.๒ ใบความรู้ กราฟและแผนภูมิ ๘.๓ กิจกรรม กราฟและแผนภูมินี้อ่านอย่างไร ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ ใบงาน กราฟและแผนภูมิ


๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอกความหมาย ของกราฟและแผนภูมิได้ (K) ถาม-ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถอ่านกราฟ และแผนภูมิได้ (P) ตรวจใบงาน กราฟและ แผนภูมิ แบบประเมิน ใบงาน กราฟ และแผนภูมิ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การอ่าน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป


๑๑. บันทึกผลหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑๑.๑ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๒ ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๓ ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………. (นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม) วัน……….เดือน……………..……พ.ศ………….


Click to View FlipBook Version