The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย แผนที่ ๓๑-๖๑ (เล่มที่ ๒)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by วิภาดา จันทร์อร่าม, 2024-01-08 01:26:17

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย แผนที่ ๓๑-๖๑ (เล่มที่ ๒)

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย แผนที่ ๓๑-๖๑ (เล่มที่ ๒)

รายละเอียดแบบประเมินการอ่าน รายละเอียด ๔ ๓ ๒ ๑ ความถูกต้องใน การอ่าน สามารถอ่านได้ ถูกต้องทั้งหมด สามารถอ่านได้ เกือบถูกต้อง ทั้งหมด ผิดไม่ เกิน ๓ คำ สามารถอ่านได้ ผิดไม่เกิน ๑๐ คำ พยายามอ่านได้ บ้าง ผิดมากกว่า ๑๐ คำ น้ำเสียง การเว้นวรรค ตอนในการอ่าน สามารถอ่านได้ ชัดเจน สื่อ ความรู้สึกของ เรื่องที่อ่านได้ดี สามารถอ่านได้ ชัดเจน สื่อ ความรู้สึกของ เรื่องที่อ่านได้ พอใช้ สามารถอ่านได้ ค่อนข้างชัดเจน แต่ค่อนข้างช้า ยังสื่อความรู้สึก ของเรื่องได้ไม่ ชัดเจน พยายามอ่านได้ บ้าง น้ำเสียงเบา ไม่ชัดเจน ไม่ สามารถสื่อ ความรู้สึกของ เรื่องได้ชัดเจน มีความมั่นใน การใช้ภาษา มีความมั่นใจใน การอ่านดี มีการเตรียมตัว มา อย่างดี มั่นใจ ตนเอง มีความมั่นใจใน การอ่านพอใช้ เตรียมตัวมาอย่าง ดี ยังประหม่า ยังไม่ค่อยมีความ มั่นใจเท่าที่ควร มีการเตรียมตัว มาพอใช้ ขาดความมั่นใจ ในตนเอง เตรียม ตัวมาบ้างแต่ไม่ มากนัก เกณฑ์การผ่าน ๑๖ - ๑๓ คะแนน หมายถึง ดีมาก ๑๒ - ๙ คะแนน หมายถึง ดี ๘ - ๕ คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับ ดีมาก ขึ้นไป


ตัวอย่างประกอบแผน การอ่านกราฟและแผนภูมิ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๘ หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖


ใบความรู้ เรื่อง การอ่านกราฟและแผนภูมิ กราฟ คือ เส้นหรือภาพที่เขียนบอกจำ นวนเวลา หรือระดับของสิ่งต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลง หรือ เปรียบเทียบให้เห็นอย่างชัดเจน กรามีหลายชนิด เช่น กราฟรูปภาพ กราฟเส้น กราฟแท่ง กราฟวงกลม ฯลฯ ตัวอย่างกราฟแท่ง ตัวอย่างกราฟวงกลม แผนภูมิ คือ สิ่งที่ถ่ายทอดเนื้อหาสาระ เรื่องราวให้เป็นภาพวาดหรือภาพเขียน คำ อธิบาย สัญลักษณ์ สี ฯลฯ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจรายละเอียดได้ชัดเจนเร็วขึ้น และกระตุ้นให้เกิดความเข้าใจ แผนภูมิ มีหลายประเภท อาจเป็นแผนที่ เส้น ตาราง ฯลฯ ตัวอย่าง แผนภูมิแบบตาราง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕๙ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรื่อง เสียแล้วไม่กลับคืน เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง การเขียนเล่าเรื่องเหตุการณ์ เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่างๆเขียนรายงานและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลสารสนเทศ ๑.๒ ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด ท ๒.๑ ป.๖/๘ เขียนเรื่องตามจินตนาการและสร้างสรรค์ ๒. สาระสำคัญ การเขียนถือเป็นทักษะสำคัญในการเรียนภาษาทั้งนี้ เพราะคนที่จะเขียนสื่อสารได้ดีจะต้อง เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และเข้าใจหลักการใช้ภาษาได้ดีพอสมควร การเขียนเล่าเรื่อง เล่าเหตุการณ์ถือว่าเป็นการเขียนเพื่อการสื่อสารชนิดหนึ่งที่ต้องใช้หลักการเขียน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนอธิบายหลักการเขียนเล่าเรื่องเหตุการณ์ได้(K) ๓.๒ นักเรียนสามารถเขียนเล่าเรื่องเล่าเหตุการณ์ได้(P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการเขียน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ หลักการเขียนเล่าเรื่องเหตุการณ์ ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา


๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนร่วมกันทบทวนการเขียนลักษณะต่าง ๆ ที่เคยเรียนและฝึกปฏิบัติมา เช่น การเขียนเรียงความ การเขียนเชิงสร้างสรรค์ การเขียนเรื่องตามจินตนาการ และการเขียนรายงาน เป็นต้น ๗.๒.๒ ครูให้ความรู้และข้อเสนอแนะเพิ่มเติม และนำตัวอย่างผลงานการเขียนเล่าเรื่อง เหตุการณ์มาให้นักเรียนได้ชม ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง การเขียนเล่าเรื่องตามสถานการณ์ ในเวลาที่ครู กำหนดให้ ๑๐ นาที ๗.๒.๒ นักเรียนฟังครูอธิบายความรู้เพิ่มเติมจากครู เรื่อง การเขียนเล่าเรื่องตามสถานการณ์ ๗.๒.๓ นักเรียนทำกิจกรรม ผลัดกันเล่าเรื่องตามสถานการณ์ โดยมีกติกาการทำกิจกรรมดังนี้ ๑) นักเรียนออกมาจับสลากเพื่อรับหัวข้อไปเขียนเล่าเรื่องตามสถานการณ์ ๒) นักเรียนเขียนเรื่องของตนเองลงสมุดของตนเอง ๓) ครูทำวงล้อสุ่มเลขที่ เพื่อให้ออกมาเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่ตนเองเขียนตามหัวข้อ ๔) นักเรียนและครูให้ข้อเสนอแนะกับนักเรียนที่ออกมาเล่าเรื่อง ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุป หลักการเขียนเล่าเรื่องเหตุการณ์ จากการเรียนการสอน และจากการทำกิจกรรม ๗.๓.๒ นักเรียนทำใบงาน เล่าเรื่องเหตุการณ์ตามรูปภาพ เป็นการบ้านนำมาส่งครูในชั่วโมง เรียนต่อไป ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ ใบความรู้ การเขียนเล่าเรื่องตามสถานการณ์ ๘.๒ สลากเลือกหัวข้อ ๘.๓ วงล้อสุ่มเลขที่ ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ ใบงาน เล่าเรื่องเหตุการณ์ตามรูปภาพ


๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนอธิบายหลักการเขียน เล่าเรื่องเหตุการณ์ได้ (K) การถาม-ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนสามารถเขียนเล่า เรื่องเล่าเหตุการณ์ได้ (P) ตรวจใบงาน เล่าเรื่อง เหตุการณ์ตาม รูปภาพ แบบประเมิน ใบงาน เล่าเรื่อง เหตุการณ์ตาม รูปภาพ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การเขียน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป


๑๑. บันทึกผลหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑๑.๑ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๒ ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๓ ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………. (นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม) วัน……….เดือน……………..……พ.ศ………….


รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินการเขียน ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ควรปรับปรุง) ๑. การเขียนสะกด เขียนได้ ถูกต้อง มากกว่าร้อย ละ ๙๐ เขียนผิดหรือ ตกหล่นไม่เกิน ๒๐% เขียนผิดหรือตก หล่นไม่เกิน ๓๐% เขียนผิดหรือตก หล่นมากกว่า ๔๐% ๒. ลายมือสวยงาม ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟ พอเหมาะ ตลอด ตัวหนังสือตรง เป็นระเบียบ ช่องไฟ ไม่เหมาะ ๑-๒ แห่ง ตัวหนังตรงไม่ ค่อยเป็นระเบียบ ช่องไฟไม่เหมาะ ๓-๔ แห่ง เขียนตัวหนังสือ ไม่ตรง ไม่เป็น ระเบียบ ช่องไฟ ไม่เหมาะสม ๓. ความสะอาด มีความสะอาด เรียบร้อยดี มาก และไม่มี ร่องรอยของ การลบ มีความสะอาด เรียบร้อยดี และมีร่องรอย ของการลบไม่ เกิน ๕ ตำแหน่ง มีความสะอาด เรียบร้อย ค่อนข้างดี และมี ร่องรอยของการ ลบไม่เกิน ๑๐ ตำแหน่ง ไม่มีความสะอาด เรียบร้อยไม่ดี และ มีร่องรอยของ การลบเกิน ๑๐ ตำแหน่ง ๔.เขียนได้ ครอบคลุม/ครบถ้วน เขียนได้ ครบถ้วน ครอบคลุม ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ ครอบคลุมแต่ ไม่ค่อย ต่อเนื่องตั้งแต่ ต้นจนจบ เขียนได้ไม่ ครอบคลุมแต่มี ความต่อเนื่อง เล็กน้อย เขียนไม่ครบถ้วน และไม่ต่อเนื่อง ๕. ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ดี ใช้ภาษา สื่อสารใน การเขียนได้ดี ทำให้เข้าใจสิ่ง ที่สื่อสารอย่าง ชัดเจน ใช้ภาษา สื่อสารได้ดี แต่บกพร่องใน บางประเด็น ใช้ภาษาสื่อสาร ได้ แต่บกพร่อง ในหลายประเด็น ใช้ภาษาสื่อสารได้ ไม่ชดเจน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๖-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๕ ดี ๘-๑๒ พอใช้ ๕-๗ ควรปรับปรุง


ใบความรู้ เรื่อง การเขียนเล่าเรื่องเหตุการณ์ การเขียนเล่าเรื่องเหตุการณ์ การเขียนเล่าเรื่อง เล่าเหตุการณ์ หมายถึง การเขียนเล่าเรื่องต่าง ๆ เช่น นิทาน นิยาย ประวัติบุคคล ประวัติสถานที่ หรือเล่าเหตุการณ์ ซึ่งการเขียนเล่าเรื่องผู้เขียนควรเขียนให้ผู้อ่านเข้าใจชัดเจน ด้วยสำ นวน ภาษาที่ถูกต้อง สละสลวย วิธีการเขียนเล่าเรื่อง เล่าเหตุการณ์ ๑. เลือกอ่านเรื่องที่ตนเองสนใจ และเป็นเรื่องที่น่ารู้สำ หรับผู้อ่าน เช่น นิทานที่แสดงความฉลาดของ คนและสัตว์ใน การแก้ปัญหา ประวัติสถานที่ในหมู่บ้าน ประวัติบุคคลในชุมชน ประเพณีในชุมชน ๒. ศึกษาเรื่องที่เขียนว่าเหมาะที่จะเขียนในรูปแบบใด เช่น เขียนเป็นนิทาน มีเหตุการณ์ ตัวละคร แทรกข้อคิด ข้อเตือนใจ เขียนเป็นนิยาย เล่าความเป็นมาของสถานที่ เขียนเป็นสารคดีชีวประวัติบุคคล ประวัติ สถานที่ การปฏิบัติ ตนตามประเพณี ๓. ศึกษาค้นคว้าความรู้และทำ ความเข้าใจเรื่องที่จะเขียน เช่น ศึกษาความรู้เพิ่มเติมจากสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ แหล่งความรู้ต่าง ๆ นำ มารวบรวมให้คำ และสำ นวนภาษาสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง และศึกษา สาระสำ คัญของเรื่อง ๔. เขียนลำ ดับเนื้อความ หรือเหตุการณ์ ซึ่งประกอบด้วยส่วนนำ เข้าสู่เรื่อง รายละเอียดของเรื่อง และบทสรุป ของเรื่อง หรือจะใช้แผนภาพความคิดในการจัดลำ ดับความหรือเหตุการณ์ก็ได้ ข้อควรคำ นึงในการเขียน ๑. เลือกเนื้อเรื่องหรือเหตุการณ์ที่น่าสนใจ และเขียนเล่าเรื่องโดยนำ เสนอแนวคิดสำ คัญที่เชื่อมโยง ความคิดต่อ เนื่องเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่เขียนวกวนซ้ำ ไปซ้ำ มา ๒. เรียงลำ ดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจเริ่มตั้งแต่การนำ เรื่องไปสู่เหตุการณ์ที่น่าประทับใจที่สุด แล้วจบด้วย การสรุปเป็นข้อคิด ข้อเตือนใจ ข้อเสนอแนะหรือทิ้งให้คิด ๓. เลือกใช้สำ นวนภาษาให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง ๔. เขียนสะกดคำ ใช้เครื่องหมายต่าง ๆ ให้ถูกต้อง และระวังเรื่องการเว้นวรรคตอน ๕. เขียนด้วยลายมือที่อ่านง่าย และรักษาความสะอาดของหน้ากระดาษ


ตัวอย่าง การเขียนเล่าเรื่องเหตุการณ์ ยามเช้าแสงอาทิตย์เรื่อเรืองสาดแสงกระจายทาบท้องฟ้าอากาศสดชื่น หมู่นกกาบินถลาร่อนตามลมมาเป็นหมู่ สู่จุดหมายเบื้องหน้าด้วยความหวังว่า วันนี้จะได้อาหารเพื่อปากท้องของตนเองและเป็นของฝากลูกนกตัวน้อย ๆ ที่คอยพ่อและแม่อยู่ที่รวงรัง ไม่มีสิ่งใดจะหยุดยั้งมันได้ต่างมีพลังใจที่จะต่อสู้ชีวิต ชวนให้คิดถึงตัวเราแม้จะ ลำ บากเพียงใดก็ต้องอดทนมุ่งหาวิชาความรู้เพื่อเพิ่มพูนปัญญาพัฒนาตนให้เกิดพลังในการดำ รงชีพสามารถช่วย ตนเองบุคคลใกล้ชิดและร่วมพัฒนาสังคมได้ จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าผู้เขียนเริ่มต้นด้วยการบรรยายธรรมชาติยามเช้าและบรรยายถึงนกบินหา อาหารโดย ไม่ย่อท้อต่อความเหน็ดเหนื่อย จากนั้นก็แทรกข้อคิดเปรียบเทียบกับการพากเพียรศึกษาหาความรู้ ให้บรรลุถึง ความหวังที่ตั้งไว้


ใบงาน การเขียนเล่าเรื่องเหตุการณ์ คำ ชี้แจง : ให้นักเรียนเขียนเล่าเรื่องจากเหตุการณ์ที่ครูกำ หนดใ้ต่อไปนี้ เรื่อง.................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ชื่อ......................................................................................................ชั้น.............เลขที่..................


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖๐ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรื่อง เสียแล้วไม่กลับคืน เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง อักษรนำ เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป. ๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้อย่างถูกต้อง ๒. สาระสำคัญ อักษรนำ คือ พยัญชนะ ๒ ตัวเรียงกัน ประสมสระเดียว พยัญชนะตัวแรกของคำ จะอ่านออก เสียงอะ กึ่งเสียง พยัญชนะตัวหลังจะอ่านออกเสียงตามสระที่ประสม และอ่านออกเสียงวรรณยุกต์ ติดตามพยัญชนะตัวแรก ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกหลักการอ่านอักษรนำได้(K) ๓.๒ นักเรียนอ่านคำอักษรนำได้ถูกต้อง (P) ๓.๓ นักเรียนมีมารยาทในการอ่าน (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ อักษรนำ ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา


๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนสังเกตชาร์จกาพย์ยานี ๑๑ ที่คุณครูนำมาติดที่หน้ากระดาน ระฆังดังหง่างหง่าง ฆ้องใหญ่กว้างครางหึ่งหึ่ง กลองหนังดังตึงตึง ตีกระดึงดังกริ่งกริ่ง นักเลงร้องเพลงพลาง ตรงหน้าต่างไขว่ห้างหยิ่ง เอาหลังนั่งเอียงอิง มือถือฉิ่งตีดังดัง เด็กเด็กอย่าใหลหลง ดูเรื่องกง ก กา บ้าง ดูไปตั้งใจฟัง เบื้องหน้ายังจะว่ากด ๗.๑.๒ นักเรียนฟังคุณครูอ่านออกเสียงบทประพันธ์กาพย์ยานี ๑๑ ที่คุณครูนำมาติดที่ หน้ากระดาน จากนั้นให้นักเรียนอ่านออกเสียงพร้อมกัน ๑ รอบ ๗.๑.๓ นักเรียนสังเกตจากบทประพันธ์กาพย์ยานี ๑๑ ว่ามีคำใดบ้างที่เป็นอักษรนำ ๗.๑.๔ นักเรียนเขียนคำที่ตนเองคิดว่าเป็นอักษรนำลงที่หน้ากระดาษ ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง อักษรนำ ในเวลาที่ครูกำหนดให้ ๑๐ นาที ๗.๒.๒ นักเรียนฟังครูอธิบายความรู้เพิ่มเติมจากครู เรื่อง อักษรนำ ๗.๒.๓ นักเรียนทำกิจกรรม อักษรนำ โดยมีกติกา ดังนี้ ๑) นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น กลุ่มละ ๕ คน ๒) นักเรียนส่งตัวแทนออกมารับกระดานเพื่อนำไปเขียนคำตอบ ๓) นักเรียนกลุ่มใดได้คะแนนสูงสุด จะได้รับคะแนน ๓ คะแนน ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุปหลักการอ่านอักษรนำ จากการเรียนการสอนและ จากการทำกิจกรรม ๗.๓.๒ นักเรียนทำใบงาน อักษรนำ เป็นการบ้านนำมาส่งในชั่วโมงเรียนถัดไป ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ ใบความรู้ อักษรนำ ๘.๒ กิจกรรม อักษรนำ ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ ใบงาน อักษรนำ


๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอกหลักการอ่าน อักษรนำได้ (K) การถาม-ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนอ่านคำอักษรนำได้ ถูกต้อง (P) ตรวจใบงาน อักษรนำ แบบประเมิน ใบงาน อักษรนำ นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนมีมารยาทใน การอ่าน (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป


๑๑. บันทึกผลหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑๑.๑ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๒ ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๓ ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………. (นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม) วัน……….เดือน……………..……พ.ศ………….


รายละเอียดแบบประเมินการอ่าน รายละเอียด ๔ ๓ ๒ ๑ ความถูกต้องใน การอ่าน สามารถอ่านได้ ถูกต้องทั้งหมด สามารถอ่านได้ เกือบถูกต้อง ทั้งหมด ผิดไม่ เกิน ๓ คำ สามารถอ่านได้ ผิดไม่เกิน ๑๐ คำ พยายามอ่านได้ บ้าง ผิดมากกว่า ๑๐ คำ น้ำเสียง การเว้นวรรค ตอนในการอ่าน สามารถอ่านได้ ชัดเจน สื่อ ความรู้สึกของ เรื่องที่อ่านได้ดี สามารถอ่านได้ ชัดเจน สื่อ ความรู้สึกของ เรื่องที่อ่านได้ พอใช้ สามารถอ่านได้ ค่อนข้างชัดเจน แต่ค่อนข้างช้า ยังสื่อความรู้สึก ของเรื่องได้ไม่ ชัดเจน พยายามอ่านได้ บ้าง น้ำเสียงเบา ไม่ชัดเจน ไม่ สามารถสื่อ ความรู้สึกของ เรื่องได้ชัดเจน มีความมั่นใน การใช้ภาษา มีความมั่นใจใน การอ่านดี มีการเตรียมตัว มา อย่างดี มั่นใจ ตนเอง มีความมั่นใจใน การอ่านพอใช้ เตรียมตัวมาอย่าง ดี ยังประหม่า ยังไม่ค่อยมีความ มั่นใจเท่าที่ควร มีการเตรียมตัว มาพอใช้ ขาดความมั่นใจ ในตนเอง เตรียม ตัวมาบ้างแต่ไม่ มากนัก เกณฑ์การผ่าน ๑๖ - ๑๓ คะแนน หมายถึง ดีมาก ๑๒ - ๙ คะแนน หมายถึง ดี ๘ - ๕ คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับ ดีมาก ขึ้นไป


ใบความรู้ เรื่อง อักษรนำ อักษรนำ หมายถึง คำ ที่มีพยัญชนะ ๒ ตัวประสมอยู่ในสระเดียวกัน เวลาอ่านให้อ่านออก เสียงพยางค์หลังตาม เสียงพยัญชนะตัวที่นำ เช่น หญิง อ่านออกเสียงพยัญชนะ ญ คำ ที่มี ห นำ หยุมหยิม หนักหนา หรูหรา หญิงใหญ่ แหงนหงาย หลังไหล่ หวั่นไหว หมักหมม คำ ที่มีพยัญชนะต้นเป็น ห นำ พยัญชนะตัวหลัง คือ ง ญ น ม ย ร ล ว ไม่ออกเสียงตัว ห แต่ออกเสียงพยัญชนะ ตัวหลังให้มีเสียงวรรณยุกต์ตามตัว ห คำ ที่มี อ นำ อย่า อยู่อย่างอยากได้ ของเขา อยู่ อย่างคนตัวเบา สุขล้ำ อย่าง อยากอยู่อย่าเอา แต่ได้ อยาก อยู่อย่างอย่าย้ำ เหล่านี้ อ นำ คำ ที่มีพยัญชนะตัวหน้าเป็น อ นำ ย ไม่ออกเสียง อ แต่เสียงวรรณยุกต์ของพยางค์ออก เสียงตามพยัญชนะ อ มี ๔ คำ ได้แก่ อย่า อยู่ อย่าง อยาก การอ่านคำ ที่มีอักษรสูงนำ เช่น ขณะ ขนบ ขนม ขนาด เฉลียว ฉลาด ไฉน สมอง ฉงน ถลำ ถวาย ถนัด ถลน สนาน สลับ สนอง การอ่านคำ ที่มีอักษรกลางนำ เช่น ตวาด จมูก จริต จรัส ตนุ ตวัด ตลก ตลาด อร่าม อร่อย อเนก อนาถ ตลอด ตวาด จรวด จริต ข้อสังเกตคำ ที่มีอักษรสูงนำ และคำ ที่มีอักษรกลางนำ ๑. คำ ข้างต้น พยางค์ ๑ ออกเสียงพยัญชนะตัวหน้าประสมกับสระอะ (ออกเสียง อะ เพียง ครึ่งเสียง)พยางค์ที่ ๒ ออกเสียงพยัญชนะตัวที่ ๒ ประสมกับสระและพยัญชนะสะกดตามที่ปรากฏ โดยออกเสียงวรรณยุกต์ตามเสียง พยัญชนะตัวหน้า คล้ายมี ห นำ ๒. คำ อักษรนำ ซึ่งพยัญชนะตัวหน้า เป็นอักษรสูง หรือเป็นอักษรกลางนำ พยัญชนะตัวหลัง เป็นอักษรต่ำ เดี่ยว คือ ง ณ น ม ย ร ล ว และออกเสียงพยางค์ที่ ๒ คล้ายที่ ๒ คำ มี ห นำ เช่น ผลิต อ่านว่า ผะ – หลิด ฝรั่ง อ่านว่า ฝะ – หรั่ง เศวต อ่านว่า สะ – เหวด สยาม อ่านว่า สะ – หยาม สวัสดิ์ อ่านว่า สะ – หวัด กนก อ่านว่า กะ – กนก ตวาด อ่านว่า ตะ – หวาด จมูก อ่านว่า จะ – หมูก


ใบงาน เรื่อง อักษรนำ นิทาน เรื่อง น้ำ ใจกระรอก มะปรางกับแม่ปลูกบ้านหลังเล็ก ๆ ไม่หรูหราอยู่ในสวนแถวชานเมือง มะปรางตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อทำ ขนมกล้วยช่วย แม่ด้วยความมุ่งหมายว่าจะนำ ไปส่งแม่ค้าในตลาด ขนมของเธอมีรสชาติ หวานอร่อย พอทำ ขนมเสร็จมะปรางจะจัด ขนมตามจำ นวนที่แม่ค้าแต่ละคนสั่งอย่างครบถ้วน แต่ สองสามวันมานี้ แม่ค้าคนหนึ่งบ่นหยุมหยิมอย่างหงุดหงิด อย่างหนักกับเธอว่ามะปรางส่งขนมไม่ ครบ ขาดไป ๑ ห่อ มะปรางรีบขอโทษรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขนม ขาดจำ นวนอีก พอวัน ต่อมาแม่ค้าก็บอกว่าขนมขาดไป ๑ ห่ออีกแล้ว มะปรางกลุ้มใจหนักมากเพราะเป็นเรื่องใหญ่ หลวง ที่เขาไม่เคยทำ ผิดพลาด แม่ของมะปรางก็กำ ชับหลายรอบว่าอย่าให้ผิดพลาดอีกเพราะไม่อยากมีปัญหา อยู่มาวันหนึ่งพอมะปรางจัดขนมเสร็จ มะปรางก็แอบสังเกตการณ์ที่ประตู เพื่อหาสาเหตุ ของขนมที่หายไป ทันใดนั้นเองมะปรางก็เห็นกระรอกตัวน้อยตัวหนึ่งหางเป็นพวงสวยงามวิ่ง ออกมาลากขนมไป เธอยิ้มออกมาอย่าง ดีใจเพราะเห็นความน่ารักของมัน ต่อมาเธอจึงวางขนม ๑ ห่อสำ หรับกระรอกน้อยทุกวัน ซึ่งกระรอกน้อยก็ออกมากิน ทุกวันเช่นกัน ตั้งแต่นั้นมามะปรางรู้สึกแปลกใจเมื่อเดินเข้าไปในสวนเพื่อเก็บมะพร้าว เธอจะเห็น มะพร้าวแก่ ๆ ตกอยู่ใต้ต้น วันละ ๒-๓ ลูก ทุกวัน ในที่สุดมะปรางก็รู้ว่าเป็นฝีมือของกระรอกน้อย นั่นเอง มะปรางรู้สึกตื้นตันใจกับความมีน้ำ ใจ ของมัน มันตอบแทนความดีของเธอในสิ่งที่มันทำ ได้ ใครจะนึกว่าแม้แต่สัตว์ตัวเล็ก ๆ ยังรู้จักกตัญญูรู้คุณถึงเพียงนี้ คำ ชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านเนื้อเรื่องนิทาน “น้ำ ใจกระรอก” แล้วค้นหาคำ ศัพท์ที่มีอักษร อ นำ และอักษร ห นำ มาเขียนและฝึกอ่าน ห นำ อ นำ ชื่อ............................................................................................ชั้น...........เลขที่........


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรื่อง เสียแล้วไม่กลับคืน เวลา ๑๑ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ย่อย เรื่อง คำที่มีความหมายตรงกันข้าม เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้สอน นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม วันที่สอน ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๗ _____________________________________________________________________ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๑.๒ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้อย่างถูกต้อง ท ๑.๑ ป.๖/๒ อธิบายความหมายของคำ ประโยค และข้อความที่เป็นโวหาร ๒. สาระสำคัญ คำในภาษาไทยมีทั้งความหมายเหมือนกัน คล้ายกัน และคำที่มีความหมายตรงข้ามกัน ซึ่งต้องศึกษาความหมายของคำต่าง ๆ เพื่อใช้ในการพูดและเขียนให้ถูกต้องเหมาะสม ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ นักเรียนบอกความหมายของคำที่มีความหมายตรงกันข้ามได้(K) ๓.๒ นักเรียนจับคู่คำที่มีความหมายตรงกันข้ามได้(P) ๓.๓ นักเรียนทำงานส่งตามเวลาที่กำหนด (A) ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ คำที่มีความหมายตรงกันข้าม ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๕.๑ มีวินัย ๕.๒ ใฝ่เรียนรู้ ๕.๓ มุ่งมั่นในการทำงาน ๖. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๖.๓ ความสามารถในการแก้ปัญหา


๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ๗.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๗.๑.๑ นักเรียนเล่นเกม “กระต่ายกับเต่า” โดยให้นักเรียนนับ ๑, ๒, ๑, ๒...... สลับกันไป จนครบทุกคน และเพื่อแบ่งนักเรียนออกเป็น ๒ กลุ่ม หมายเลข ๑ เป็นกระต่าย หมายเลข ๒ เป็นเต่า แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาหน้าห้อง และฟังครูบอกคำ เช่น “ดัง” กลุ่มใดตอบว่า “เบา” จะได้ไป เก็บภาพผลไม้เป็นคะแนนสะสม ปฏิบัติเช่นนี้จนได้เล่นเกมครบทุกคน ๗.๑.๒ นักเรียนช่วยกันสังเกตและบอกว่าสิ่งของต่าง ๆ ภายในห้องเรียน มีลักษณะอย่างไร บ้างและบอกลักษณะตรงข้ามกันให้ถูกต้อง ๗.๒ ขั้นกิจกรรมการเรียนรู้ ๗.๒.๑ นักเรียนศึกษาข้อมูลจากใบความรู้ คำที่มีความหมายตรงกันข้าม ในเวลาที่ครู กำหนดให้ ๑๐ นาที ๗.๒.๒ นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำที่มีความหมายตรงกันข้าม ๗.๒.๓ นักเรียนทำกิจกรรม มองรอบ ๆ ห้อง หาคำตรงกันข้าม โดยนักเรียนมองหาสิ่งของ ต่าง ๆ ภายในห้องเรียนที่มีลักษณะตรงข้ามกันมานำเสนอครูถ้าสิ่งของใดเคลื่อนที่ไม่ได้ให้นักเรียน เดินไปชี้และอธิบายให้เพื่อน ๆ ฟัง ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าสิ่งของบางอย่างอาจใช้คำบอกลักษณะได้ หลายคำและใช้คำที่มีความหมายตรงข้ามกันได้หลายคำด้วยเช่นกัน ครูและนักเรียนช่วยกันตรวจสอบ ความถูกต้อง ๗.๓ ขั้นสรุปบทเรียน ๗.๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันสรุปทความหมายของคำที่มีความหมายตรงกันข้าม จากการเรียนและจากการทำกิจกรรม ๗.๓.๒ นักเรียนทำใบงาน คำที่มีความหมายตรงกันข้าม เป็นการบ้านและนำมาส่งครูเพื่อรับ คะแนน ๘. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๘.๑ ใบความรู้ คำที่มีความหมายตรงกันข้าม ๙. ชิ้นงานหรือภาระงาน ๙.๑ ใบงาน คำที่มีความหมายตรงกันข้าม


๑๐. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน ๑. นักเรียนบอกความหมายของ คำที่มีความหมายตรงกันข้ามได้ (K) ถาม-ตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๒. นักเรียนจับคู่คำที่มี ความหมายตรงกันข้ามได้ (P) ตรวจใบงาน คำที่มี ความหมาย ตรงกันข้าม ใบงาน คำที่มี ความหมาย ตรงกันข้าม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป ๓. นักเรียนทำงานส่งตามเวลา ที่กำหนด (A) การสังเกต พฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป


๑๑. บันทึกผลหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑๑.๑ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๒ ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๑.๓ ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………. (นางสาววิภาดา จันทร์อร่าม) วัน……….เดือน……………..……พ.ศ………….


รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสังเกตพฤติกรรมการส่งงาน (rubrics) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๓ ๒ ๑ ๑. สนใจกิจกรรม ที่ครูนำมาให้ นักเรียนมีความสนใจ ตั้งใจฟังกฎระเบียบ และคำสั่งเป็นอย่างดี ถามเมื่อเกิดข้อสงสัย เกี่ยวกับงาน สนใจงานแต่ไม่ สามารถปฏิบัติตาม คำชี้แจงได้ครบถ้วน ทำได้เพียง บางข้อหรือมักจะ ถามคำถามซ้ำ ๆ ไม่สนใจ เหม่อลอย และไม่สามารถปฏิบัติ ตามคำสั่งได้ เหม่อลอย ไม่ทำตาม สนใจสิ่ง นอกห้องเรียน ๒. มีมารยาท การฟังและ การพูด นักเรียนตั้งใจฟัง และเกิดคำถาม เมื่อ ครูชี้แจงเสร็จแล้ว พูดมีหางเสียง ไม่พูดคำหยาบ ตั้งใจฟังคำชี้แจง ไม่ เคาะโต๊ะเสียงดัง และพูดในประเด็น เรื่องที่สอนไม่นอก เรื่องจนเกินไป พูดและเล่านอกเรื่อง ชักสีหน้าเมื่อครูพูดอยู่ พูดคำหยาบ เคาะโต๊ะ เรียนเกิดเสียงดัง รบกวน ๓. มีสมาธิใน การฟัง ไม่ก่อกวน ขณะครูสอน นักเรียนตั้งใจฟัง เงียบฟัง มองตาครู ไม่วอกแวก มองหน้าครู ฟัง อย่างตั้งใจ สายตา วอกแวก ออกนอกห้อง เหม่อลอย สายตา วอกแวก คุยกับเพื่อน เสียงดัง ๔. ตอบคำถาม และปฏิบัติตามได้ ถูกต้อง ให้ความร่วมมือ ใน การตอบคำถาม เสียงดังฟังชัด มีความมั่นใจและ ปฏิบัติได้ถูกต้อง ตอบบางคำถาม ตอบเสียงค่อย ไม่ ค่อยอ้าปากตอบ และปฏิบัติตามได้ เพียงบางข้อ ไม่ตอบคำถาม ไม่อ้าปากท่องตาม เพื่อน ปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่ได้เลย ๕. กระตือรือร้น ในการทำ กิจกรรม มีความกระตือรือร้น อยากทำกิจกรรม ตั้งหน้าตั้งตาทำ ไม่แสดงความรู้สึก ดีใจ แต่ปฏิบัติตาม ทุกอย่าง แสดงสีหน้าหรืออาการ ทางลบ ไม่พอใจ เบื่อหน่าย


รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสังเกตพฤติกรรมการส่งงาน (rubrics) (ต่อ) ประเด็น การประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๒ ๑ ๐ ๖. ให้ความ ร่วมมือใน การเรียน ให้ความร่วมมือ ในทุกขั้นตอน แสดงสีหน้าที่พอใจ ให้ความร่วมมือใน การทำกิจกรรม เบื่อ หน่ายในบางครั้ง ไม่ให้ความร่วมมือ เฉยชาและแสดงสีหน้า ไม่พอใจ ๗. อยู่ใน กฎระเบียบ มีความเรียบร้อย ไม่วิ่งรอบห้องขณะที่ สอน ไม่รบกวนผู้อื่น นั่งอยู่กับที่อย่าง เรียบร้อย นั่งอยู่กับที่ของ ตนเอง เสียงดัง รบกวนในบางครั้ง เคลื่อนไหวรอบห้อง ขณะที่ครูสอน ทำกิริยา ที่เสียงดังรบกวนผู้อื่น เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก = ๒ พอใช้ = ๑ ปรับปรุง = ๐ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การผ่านตั้งแต่ระดับ ดีมาก ขึ้นไป ช่วงชั้นคะแนน ระดับคุณภาพ สรุป ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๑ – ๑๔ ดีมาก ๗ – ๑๐ พอใช้ ๐ – ๖ ปรับปรุง


ใบความรู้ เรื่อง คำที่มีความหมายตรงกันข้าม ข้อ คำ ความหมาย คำ ความหมาย 1 ดำ สีอย่างสีเขม่าไฟไปจับก้น หม้อ ขาว สีชนิดหนึ่งเหมือนสำลี 2 สั้น ลักษณะส่วนหนึ่งของสิ่งใด ๆ มีกำหนดระยะยืดหรือยืน เป็นเส้นตรงจากจุดหนึ่งถึง อีกจุดหนึ่งน้อยกว่าอีกสิ่ง หนึ่งเมื่อมีการเปรียบเทียบ กัน ยาว ลักษณะของสิ่งใด ๆ มี กำหนดระยะจากจุดหนึ่ง ถึง อีกจุดหนึ่งที่ขยาย ออกไป ไม่ได้แล้ว 3 แพ้ สู้ไม่ได้, ทนไม่ได้ ชนะ ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ 4 คว่ำ พลิกเอาด้านบนลงล่าง หงาย พลิกเอาด้านหน้าขึ้น 5 ช้า ค่อย ๆ เคลื่อนไป, ไม่เร็ว, ไม่ไว เร็ว ไว 6 แห้ง ไม่มีน้ำ, หมดน้ำ เปียก มีน้ำชุ่มปนผสมอยู่หรือติ ดอย 7 เรียบ ไม่ขรุขระ ขรุขระ เป็นปุ่มเป็นแง่, ไม่เรียบ ราบ 8 หยาบ ไม่ละเอียด ละเอียด ไม่หยาบ 9 หนา ส่วนสูงมากจากผิวพื้น บาง มีส่วนสูงน้อยจากผิวพื้น, ไม่หนา, มีความหนาน้อย 10 ง่าย สะดวก, ไม่ยาก ยาก ความลำบาก 11 ใหญ่ โต เล็ก มีขนาดย่อมกว่าเมื่อเทียบ กัน 12 ขึ้น ไปสู่เบื้องบน เบื้องสูง ลง ไปสู่เบื้องตํ่า 13 สูง มีระยะที่วัดตรงขึ้นไปตาม แนวตั้งฉากกับพื้น ต่ำ ตรงข้ามกับสูง 14 อ้วน มีเนื้อและมันมาก, โตอวบ ผอม ร่างกายมีเนื้อน้อย, ซูบ 15 ขยัน ทำการงานอย่างแข็งขันไม่ ปล่อยปละละเลย ขี้เกียจ มีนิสัยไม่ชอบทำงาน


ใบงาน เรื่อง คำที่มีความหมายตรงกันข้าม คำชี้แจง : ให้นักเรียนโยงเส้นคำที่มีความหมายตรงกันข้ามให้ถูกต้อง สะอาด รสเปรี้ยว ขยัน สามัคคี ดำ สวยงาม ผอม เสื้อคับ ยากจน ร่ำรวย ขี้เหร่ ขาว คดโกง ความสุข ความทุกข์ ซื่อสัตย์ เสื้อหลวม ขี้เกียจ ทะเลาะ สกปรก รสหวาน อ้วน ชื่อ…………………………………………………………………………….…………..ชั้น………….เลขที่……….


Click to View FlipBook Version