195
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 28
รายวชิ า ภาษาไทยพืน้ ฐาน รหสั ท31102 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
โรงเรียน โสภณวรคุณวทิ ยา ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2565
หนว่ ยการเรยี นที่ 6 เรอ่ื ง ทกุ ข์ของชาวนาในบทกวี
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 28 ประเมนิ คณุ ค่าและสังเคราะหข์ อ้ คิด เวลา 1 ช่ัวโมง/คาบ
ผสู้ อน นางสาวสนุ สิ า ตุ่นคำ
วนั ทส่ี อน : วัน........................ ท่ี....................... เดอื น .................................พุทธศักราช ...................
1. สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด
การศึกษาเร่ือง ทุกข์ของชาวนาในบทกวี จะต้องวเิ คราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ และ
สงั เคราะหข์ อ้ คดิ จากเร่อื ง เพื่อนำไปประยุกต์ในชีวติ จรงิ
2. ตวั ชี้วัด / จุดประสงค์การเรยี นรู้
ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.4-6/3 วิเคราะห์และประเมินคุณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์ของวรรณคดีและวรรณกรรม
ในฐานะท่เี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรมของชาติ
ม.4-6/4 สังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเพ่ือนำไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวติ จริง
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. วเิ คราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์เร่ือง ทุกข์ของชาวนาในบทกวี ในฐานะ
ที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรมของชาตไิ ด้
2. สงั เคราะหข์ ้อคดิ ทีไ่ ดจ้ ากเร่อื ง ทกุ ข์ของชาวนาในบทกวี เพือ่ นำไปประยุกต์ใช้ในชวี ิต
จรงิ ได้
3. สาระการเรยี นรู้
1. การวเิ คราะห์และประเมนิ คณุ คา่ วรรณกรรม
- ด้านวรรณศลิ ป์ - ด้านสังคมและวฒั นธรรม
2. การสงั เคราะหว์ รรณกรรม
4. กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี 1 นำเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครแู จกเอกสารประกอบการสอนเกย่ี วกับคำคมจากละครเรือ่ ง ธรณีนน่ี ี้ใครครอง บทท่องจำก่อน
รบั ประทานอาหาร และบทกลอนเกีย่ วกับชาวนา ให้นักเรียนแต่ละ ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับข้อคิดที่
ได้จากการดูละคร และนำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวันไดอ้ ยา่ งไร
ขนั้ ท่ี 2 ลงมอื ปฏิบตั ิ
1. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันศึกษาเรอ่ื ง ทุกขข์ องชาวนาในบทกวี จากหนังสือเรียน แล้วบันทึกลง
ในสมดุ ของแตล่ ะคนตามประเด็นทคี่ รูกำหนดดังนี้
1. การวเิ คราะหแ์ ละประเมินคุณคา่ ดา้ นภาษา
196
2. การวเิ คราะห์และประเมนิ คณุ ค่าด้านสงั คม
3. การสงั เคราะห์ข้อคิดและแนวทางในการนำไปใชใ้ นชีวติ จรงิ
2. ครูแจกใบงาน เรื่อง ประเมินคุณค่าและสังเคราะห์ข้อคิดเรื่อง ทุกข์ของชาวนาในบทกวี ให้
นกั เรียนแตล่ ะกลุ่ม กลมุ่ ละ 1 ชดุ แลว้ ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มแบง่ หน้าที่กนั ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ดงั น้ี
- สมาชกิ คนที่ 1 อ่านคำถาม แยกแยะให้ชดั เจน
- สมาชกิ คนที่ 2 ฟงั ขัน้ ตอน รวบรวมขอ้ มลู หาแนวทางเสนอแนะในการตอบคำถาม
- สมาชิกคนท่ี 3 ตอบคำถาม
- สมาชิกคนที่ 4 ตรวจสอบคำตอบ
3. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มหมุนเวียนเปล่ียนหน้าท่ีกันในการตอบคำถามข้อต่อไปจนครบทุกข้อ
เสรจ็ แลว้ นำสง่ ครูตรวจ
ขั้นที่ 3 สรุป
1. นักเรียนร่วมกันสรุปผลการวิเคราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์จากเรื่อง ทุกข์ของ
ชาวนาในบทกวี
2. ครูขออาสาสมัครนักเรยี นออกมาสังเคราะห์ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง ทุกข์ของชาวนาในบทกวี หน้า
ชน้ั เรียน
5. ภาระชน้ิ งาน
- ใบงาน เรอ่ื ง ประเมนิ คุณคา่ และสังเคราะห์ข้อคิดเร่ือง ทกุ ข์ของชาวนาในบทกวี
6. สอ่ื การเรยี นรู้
- หนงั สือเรยี น ภาษาไทย : วรรณคดแี ละวรรณกรรม ม.4
- เอกสารประกอบการสอน
7. การวดั และประเมนิ ผล
วิธกี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์
ตรวจใบงานเรื่อง ประเมินคุณค่า ใบงานเร่ือง ประเมินคุณค่าและ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
และสังเคราะห์ข้อคิดเร่ือง ทุกข์ของ สังเคราะห์ข้อคิดเรื่อง ทุกข์ของ
ชาวนาในบทกวี ชาวนาในบทกวี
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
กล่มุ
สงั เกตความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ มี แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
วินัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง และ ประสงค์
มุ่งม่นั ในการทำงาน
197
เอกสารประกอบการสอน
คำคมจากละครเร่อื ง ธรณนี ี่นี้ใครครอง
ตอนท่ี 1 : “ในหลวงยังไงลูก พูดกันตามภาษาชาวบ้าน ท่านเป็นถึงเจ้าฟา้ เจา้ แผน่ ดิน ท่านยงั ไม่เคยไดอ้ ยูส่ ุข
สบายทั้ง ๆ ที่ทา่ นจะทำอย่างน้ันก็ย่อมได้ ท่านเหน่ือยยากทุกอย่างเพือ่ ทำใหช้ าวไร่ชาวสวนอย่างพวกเราได้อยู่
ดีกินดี พวกเราก็ต้องตอบแทนความรักความเมตตาของท่าน ด้วยการนำสิ่งท่ีท่านสอนท่านให้มาปรับใช้อย่าง
เหมาะสม ด้วยความรักความศรัทธาในผนื ดินทเ่ี ราทำกนิ ” คณุ ยา่ แดง
ตอนที่ 2 : “ธรรมชาติเขาให้สิ่งท่ีสวยสดงดงาม แต่ถ้าเราทิ้งขวาง ไม่ใส่ใจ อย่างทุกวันน้ี ธรรมชาติเขามีวิธี
บำบดั ตวั เขาเอง ด้วยลงโทษพวกเราท่มี ักง่าย” คุณย่าแดง
ตอนท่ี 3 : “เปน็ อะไรไดท้ ้งั นั้นลกู ขอใหง้ านที่ทำสุจรติ และไม่เบยี ดเบียนใคร ต้ังใจมงุ่ มนั่ ทำอย่างรู้แจง้ ในส่ิงที่
เราทำ ทำอยา่ งสุดกำลังดว้ ยความรกั ย่าเชือ่ ว่าทุกคนกจ็ ะเตบิ โตเปน็ กำลงั ของชาติไดอ้ ย่างงดงาม” คุณยา่ แดง
ตอนท่ี 4 : "คนทรี่ กั ศรัทธา และรจู้ ักกตัญญตู ่อแผน่ ดนิ ซง่ึ เปน็ ท่ีซกุ หัวนอน เป็นทีท่ ำกิน ไปอยไู่ หนก็ตกน้ำไม่
ไหลตกไฟไม่ไหม้ ย่าขอให้พ่อเป็นด่ังเมล็ดพันธุ์ของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ว่าจะตกไปอยู่ท่ีใด ก็มีแต่นำพาความอุดม
สมบรู ณ์ ความงดงามไปสู่ทน่ี น่ั นะพอ่ นะ" คณุ ยา่ แดง
ตอนที่ 5 : "ที่ว่าดูแลก็เพราะว่ามันไม่ใช่เงินทองมหาศาล แต่มันเป็นท่ีดิน ที่ทำกิน ซึ่งถ้าทำดี ๆ มันก็จะอยู่
ต่อไปจนชั่วลกู ช่วั หลาน" คุณย่าแดง
ตอนท่ี 6 : "สง่ิ ท่ีจำเปน็ สำหรับผมตอนน้คี ือการลกุ ขนึ้ มาทำงานเพอ่ื พสิ ูจน์ตวั เองอกี ครั้ง ผมอาจจะเคยล้ม แต่
ผมจะลุกขึน้ มายนื ใหมใ่ หเ้ ร็วท่ีสุด.." อาทจิ
ตอนที่ 7 : “ไม่มใี ครที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดในชวี ิตหรอกลกู อย่ทู ี่เราเอาความผิดพลาดน้ันมาปรบั ใชใ้ หเ้ ป็น
บทเรียนกับชีวิตรึเปล่า ทำพลาดคร้ังหน่ึงแล้วต้องพยายามไม่ให้พลาดซ้ำในเร่ืองเดิมเป็นคร้ังท่ีสองเขาถึงจะ
เรียกว่า ผดิ เปน็ ครู” คุณยา่ แดง
ตอนท่ี 8 : คำว่า “พอเพยี ง” ที่ในหลวงท่านตรสั ไม่ไดม้ ีความหมายวา่ ทำแค่พออยู่พอกินไปวนั ๆ เท่านน้ั นีล่ ูก
เราต้องมองไปข้างหน้า และทำเพ่ือพออยู่พอกินในวันขา้ งหน้าอยา่ งยั่งยืนด้วย ทำน้อยไปเรากเ็ ดือดร้อน มาก
เกินไปจนกลายเป็นเอาเปรียบคนอ่นื มันกค็ ือความโลภ ความพอเพียงสำหรับย่ากค็ ือ การเดินสายกลางอย่างท่ี
พระพทุ ธเจ้าท่านตรสั ไว้ อยอู่ ย่างมีสติ ไมป่ ระมาท” คุณย่าแดง
ตอนท่ี 9 : “ที่น่ีสวยมากจริง ๆ ท่ีสวยเพราะมันไม่ใช่ท่ี ที่จะมาน่ังนอนมาวิ่งเล่นอย่างเดียว แต่มันสวยด้วย
ประโยชน์ของสงิ่ ท่ปี ลกู ขนึ้ มาด้วยความใส่ใจ” ดรุณี
ตอนท่ี 10 : “ถึงแม้เด็กสมัยน้ีจะทงิ้ ทอ้ งไร่ท้องนาไปทำงานในเมอื งกนั หมด แต่ยา่ ยังมีหลานของย่า ทีใ่ นที่สุดก็
ตดั สินใจยืนหยัดอยู่กับทอ้ งไร่ ท้องนาแบบน้ี คนทป่ี ลูกข้าวกนิ เปน็ ไม่มวี นั อดตายหรอกนะลกู ”คุณยา่ แดง
ตอนที่ 11 : “คนเรามีหนง่ึ สมองสองมือ ไวท้ ำกิน หากว่าเราขยนั หม่ันเพียรละ่ ก็ ไม่มีวันอดตายหรอก และพ่อ
ก็เชือ่ วา่ ลูกชายคนนข้ี องพอ่ จะสามารถยืนบนลำแขง้ ของตนเองไดอ้ ยา่ งสบาย” พอ่ ของอาทิจ
198
“เมล็ดพันธุ์ขา้ ว จากพระเจ้าอยหู่ ัว ยา่ ได้มาจากท้องสนามหลวงเมื่อสิบกว่าปีท่ีแล้ว ....พ่อเอา
ไปหว่านเพื่อเป็นสริ มิ งคลกับตวั เองกับที่นาของเรานะพอ่ นะ”
ที่มา : http://board.postjung.com/626870.html
บททอ่ งจำก่อนรบั ประทานอาหาร
ขา้ วทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิง้ ขว้าง เปน็ ของมคี ่า
ผู้คนอดอยาก มีมากนกั หนา สงสารบรรดา เด็กตาดำๆ
ขอบคณุ คุณครทู ี่ชว่ ยดแู ล รวมทั้งแม่ครัวท่วั ทุกๆ ท่าน
จดั เตรยี มอาหารใหเ้ รารับประทาน อม่ิ เอมเปรมปรีด์ิ พวกเราขอบคุณ
อย่ากนิ ทิง้ ขว้าง เป็นของมีคา่
ข้าวทกุ จาน อาหารทุกอย่าง สงสารบรรดา คนยากคนจน
พ่อแม่เหน่ือยยาก ลำบากหนกั หนา แสนลำบากอัตคดั และขัดสน
ในโลกใบนี้ ยังมคี นจนยาก สงสารคนจนทไ่ี มม่ อี ะไรกิน
อยา่ กินทิง้ กินขว้างตามใจตน
บทกลอนเก่ยี วกับชาวนา
ขา้ วเอย๋ ขา้ วสกุ มใี ห้กนิ กันทุกบา้ นทุกฐานถิ่น กว่าจะได้ข้าวจากนา มาใหเ้ รากนิ
ชาวนาตอ้ งสน้ิ กำลังแทบทง้ั ปี ต้องทนแดดทนฝน ทนลมหนาว
กวา่ จะไดข้ ้าวจากนา มาถงึ นี่ พวกหนู ๆ ควรจำไว้ใหด้ ี
ชาวนาน้ี มีพระคณุ แก่เรา..มิเบาเอย
ขา้ วหน่ึงเมด็ ได้มาไม่ง่าย
ทานข้าวในจาน นึกถึงทีม่ า
โปรดอย่าเหลือท้ิง เปน็ บาปหนกั หนา
ถางหญา้ กลางแดดจ้า หลงั สฟู้ ้าหน้าสดู้ ิน
เหง่อื ไหลรนิ อาบหนา้ ความทุกข์จากชาวนา
พระอาทิตย์พระจันทรต์ อ้ งส่องแสง หล่อเล้ยี งจากอากาศ
เตบิ โตไดก้ วา่ รอ้ ยวัน จึงเก็บเก่ียวยามสมควร
ทมี่ า : http://jombthep.blogspot.com/2010/04/blog-post_05.html
199
ช่อื ..................................................................................................ช้นั ............เลขท่.ี ..............
ใบงาน เรอ่ื ง ประเมินคณุ คา่ และสังเคราะหข์ อ้ คิดเรอ่ื ง ทกุ ข์ของชาวนาในบทกวี
คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. บทกวขี อง จิตร ภมู ิศักดิ์ ใหข้ ้อคิดอย่างไรแกผ่ ูอ้ ่าน
2. บทกวีของ หลี่เชิน ที่ทรงแปลเป็นภาษาไทยโดยสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ ให้ข้อคิดอย่างไร แก่
ผอู้ ่าน
3. เรอ่ื ง ทกุ ขข์ องชาวนาในบทกวี ใหข้ ้อคดิ อย่างไรแกผ่ อู้ า่ น
4. นกั เรยี นจะนำขอ้ คดิ จากเร่อื ง ทุกขข์ องชาวนาในบทกวี ไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้อยา่ งไร
5. เร่อื ง ทุกขข์ องชาวนาในบทกวี มีคุณค่าดา้ นสังคมอยา่ งไร
200
ชอ่ื ..................................................................................................ชั้น............เลขที่...............
เฉลยใบงาน เรอ่ื ง ประเมนิ คณุ คา่ และสงั เคราะห์ขอ้ คิดเรื่อง ทุกขข์ องชาวนาในบทกวี
คำช้ีแจง ให้นกั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้
1. บทกวขี อง จติ ร ภูมิศักด์ิ ให้ข้อคดิ อยา่ งไรแก่ผ้อู ่าน
ชาวนามีความยากลำบากมาก กว่าท่ชี าวนาจะปลกู ข้าวให้เรารบั ประทานไดน้ ั้น ตอ้ งใช้ความอดทน
ความเหนือ่ ยยาก ความลำบากเปน็ อย่างมาก ดงั นั้นคนไทยจงึ พึงระลกึ ถึงบุญคุณของชาวนา
2. บทกวีของ หล่ีเชนิ ที่ทรงแปลเปน็ ภาษาไทยโดยสมเดจ็ พระเทพพระรตั นราชสดุ าฯ ใหข้ ้อคดิ อย่างไรแกผ่ ู้อา่ น
ชาวนาในประเทศจีนต้องใช้ความพยายาม ความอดทน และความยากลำบากในการทำนา
ปลูกข้าว ต้องทนตรากตรำทั้งวัน ซ่ึงถึงแม้ว่าชาวนาจะปลูกข้าวให้ทุกคนได้รับประทาน แต่ชาวนาก็ยังมีฐานะ
ยากจน ดังนัน้ ข้าวทกุ เม็ดท่ีเรารบั ประทานล้วนมาจากความยากลำบากของชาวนา
3. เรื่อง ทุกข์ของชาวนาในบทกวี ให้ขอ้ คิดอยา่ งไรแก่ผ้อู า่ น
1. ทำให้เขา้ ใจความรสู้ ึกของชาวนาทต่ี ้องประสบปญั หาต่างๆ
2. ทำใหไ้ ด้รู้ถึงความทุกขย์ าก ความลำบากของชาวนาในการปลูกขา้ ว
3. ทำใหไ้ ด้เหน็ ถึงคุณคา่ ของข้าวที่ได้รับประทานเปน็ อาหารหลกั ในการดำรงชวี ติ ของมนุษย์
4. นกั เรียนจะนำขอ้ คิดจากเรื่อง ทกุ ข์ของชาวนาในบทกวี ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันไดอ้ ยา่ งไร
1. ชน่ื ชม ยกย่อง และสำนึกในบุญคณุ ของชาวนา
2. เห็นคุณคา่ ของขา้ วแต่ละเม็ด และรบั ประทานข้าวหมดจานทุกครง้ั
3. ดำรงตนเปน็ ผปู้ ระหยดั และยดึ หลกั เศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั
5. เรื่อง ทุกขข์ องชาวนาในบทกวี มีคณุ ค่าดา้ นสงั คมอย่างไร
(พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)
201
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนำเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการที่กำหนด แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกับระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน
4321
1 นำเสนอเนื้อหาในผลงานได้ถูกต้อง
2 การลำดบั ข้นั ตอนของเนอื้ เรื่อง
3 การนำเสนอมีความนา่ สนใจ
4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่
5 การตรงตอ่ เวลา
รวม
ลงชื่อ .................................................... ผู้ประเมิน
................ /................ /................
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
เกณฑ์การให้คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 4 คะแนน 14 - 17 ดี
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญใ่ ห้ 2 คะแนน ตำ่ กว่า 10 ปรับปรุง
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน
202
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
คำชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงใน
ช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน
การแกไ้ ข
ลำดับ ชื่อ-สกุล ความ การแสดง การรับฟงั ความตั้งใจ ปญั หา/
ท่ี ของผรู้ บั การ รว่ มมือกัน ความ ความ ทำงาน หรอื รวม
คิดเห็น คดิ เห็น ปรบั ปรงุ 20
ประเมนิ ทำ ผลงาน คะแนน
กจิ กรรม
กลมุ่
43214321432143214321
ลงช่ือ .................................................... ผู้ประเมนิ
................ /................ /...............
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครั้ง ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรุง
203
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 29
รายวิชา ภาษาไทยพน้ื ฐาน รหสั ท31102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
โรงเรียน โสภณวรคณุ วทิ ยา ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2565
หน่วยการเรียนที่ 7 เรือ่ ง มงคลสตู รคำฉันท์
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 29 ความเปน็ มาและประวตั ผิ ูแ้ ตง่ เวลา 1 ช่ัวโมง/คาบ
ผู้สอน นางสาวสุนสิ า ตนุ่ คำ
วนั ท่ีสอน : วัน........................ ท่ี....................... เดือน .................................พุทธศกั ราช ...................
1. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด
การศึกษาเร่ือง มงคลสูตรคำฉันท์ จะต้องอ่านจับใจความและตอบคำถามจากเรื่อง รวมถึงการ
วิเคราะหว์ ิจารณ์ตามหลกั การวจิ ารณเ์ บื้องต้นได้ นอกจากนีย้ งั ต้องรู้จักความเปน็ มา และประวัตผิ ้แู ตง่ อกี ด้วย
2. ตวั ชว้ี ดั / จุดประสงค์การเรยี นรู้
ตัวช้วี ัด ท 1.1 ม.4-6/6 ตอบคำถามจากการอ่านงานเขียนประเภทต่างๆ ภายในเวลาท่ีกำหนด
ท 5.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์
เบอื้ งต้น
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. ตอบคำถามจากการอ่านความเปน็ มาและประวัติผู้แต่งเรื่อง มงคลสตู รคำฉันท์ ได้
2. อธิบายความเป็นมาของเรื่อง มงคลสตู รคำฉันท์ ได้
3. บอกประวตั ิผแู้ ต่งเรือ่ ง มงคลสูตรคำฉันท์ ได้
3. สาระการเรียนรู้
1. การอ่านจับใจความจากส่อื ตา่ งๆ เช่น วรรณคดใี นบทเรียน
2. หลักการวเิ คราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดีเบื้องตน้
- จุดมงุ่ หมายการแต่งวรรณคดี - การพิจารณารูปแบบของวรรณคดี
4. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี 1 นำเข้าสูบ่ ทเรยี น
1. ครูสนทนากับนักเรียนเก่ียวกับเร่ือง มงคล แล้วให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นคำว่า มงคล มี
ความหมายอยา่ งไร
2. ครใู หน้ ักเรียนยกตัวอย่างสิ่งที่เป็นมงคลและไม่เปน็ มงคลตามคติความเชื่อของคนในท้องถ่ินของ
นกั เรยี น
3. ครูสรปุ ให้นักเรียนเห็นวา่ ความคิดเห็นท่ีแตกต่างกันเปน็ ที่มาของมงคลสตู รคำฉนั ท์
ข้ันที่ 2 ลงมือปฏิบัติ
1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้าง
เก่ง ปานกลางค่อนข้างออ่ น และออ่ น
204
2. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่า นักเรียนแต่ละกลุ่มจะต้องอ่านและศึกษาเกี่ยวกับความเป็นมาและ
ประวัตผิ ู้แต่ง รวมถึงลักษณะคำประพันธ์เร่ือง มงคลสูตรคำฉนั ท์ จากหนังสือเรยี น แล้วร่วมกันทำใบงาน เร่ือง
ความเป็นมาและประวตั ิผูแ้ ต่งเร่ือง มงคลสตู รคำฉนั ท์ ในเวลาทีก่ ำหนด และเตรยี มนำเสนอหน้าช้นั เรียน
3. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันวางแผนแบง่ หน้าท่ีความรับผิดชอบและปฏบิ ัตงิ านตามทค่ี รูแจ้งให้ทราบ
4. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอคำตอบในใบงาน หนา้ ชน้ั เรียน ครูประเมนิ ผลการ
ทำใบงานและสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการปฏบิ ตั ิงาน
ขั้นท่ี 3 สรุป
นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายสรุปองค์ความรู้เรื่อง ความเป็นมา ประวัติผ้แู ต่ง และลักษณะคำประพันธ์
เรือ่ ง มงคลสตู รคำฉันท์
5. ภาระชนิ้ งาน
- ใบงาน เร่ือง ความเป็นมาและประวัตผิ ูแ้ ตง่ เรอ่ื ง มงคลสูตรคำฉนั ท์
6. สอ่ื การเรยี นรู้
- หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.4
7. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์
ตรวจใบงานเร่อื ง ความเป็นมาและ ใบงานเร่ือง ความเปน็ มาและ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประวตั ผิ แู้ ตง่ เร่อื ง มงคลสูตรคำฉันท์ ประวัติผแู้ ตง่ เร่อื ง มงคลสตู รคำ
ฉนั ท์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
กลุ่ม
สงั เกตความมีวินยั และใฝเ่ รยี นรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประสงค์
205
ชื่อ..................................................................................................ช้ัน............เลขที่...............
ใบงาน เรอ่ื ง มงคลสตู รคำฉันท์
คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้
1. มงคลสูตรคำฉนั ทม์ เี นื้อหาอย่างไร
2. มงคลสตู รคำฉนั ท์ มีทมี่ าอย่างไร
3. มงคล ในทางพระพุทธศาสนาหมายความวา่ อย่างไร
4. ผแู้ ต่งเรอ่ื ง มงคลสูตรคำฉันท์ คอื ใคร มผี ลงานด้านการประพนั ธอ์ ย่างไรบ้าง
5. มงคลสูตรคำฉนั ท์ แตง่ ดว้ ยคำประพนั ธ์ประเภทใด
206
ช่อื ..................................................................................................ชน้ั ............เลขท.ี่ ..............
เฉลยใบงาน เรอ่ื ง มงคลสตู รคำฉันท์
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. มงคลสูตรคำฉนั ท์มเี น้อื หาอยา่ งไร
มีเนอ้ื หาวา่ ด้วยมงคล 38 ซึง่ เปน็ พระสูตรหน่ึงในพระไตรปฎิ ก ขุททกนิกาย หมวดขทุ ทกปาฐะ
2. มงคลสตู รคำฉนั ท์ มีที่มาอย่างไร
ครั้งหนึ่งชาวชมพูทวีปได้มาประชุมกันและเกิดการโต้เถียงกันถึงสิ่งที่เป็นมงคล ต่างฝ่ายต่างก็ให้
เหตุผลตามความเช่ือ ความคิดของตนตกลงกันไม่ได้ ตอบไม่ได้ว่ามงคลคืออะไร เร่ืองก็เป็นที่สงสัยกันทั่วทั้ง
มนุษย์และเทพยดาท้ังหลาย ในที่สดุ ก็ได้ไปถามพระพุทธเจ้า ซง่ึ ขณะน้ันประทับอยู่ท่ีเมืองสาวัตถีพระอินทร์ให้
เทพยดาองคห์ นึ่งทูลถามข้อสงสัยพระพุทธองค์ได้ทรงเทศนาตอบปัญหาเรื่องมงคล 38 ประการ เม่ือทรงเทศนา
จบเทพยดาทงั้ หลายก็บรรลธุ รรม หลงั จากนนั้ พระพุทธองค์ ก็ได้ทรงเทศนาเรื่องมงคล 38 น้ีแก่พระอานนทอ์ ีก
คร้ังหน่ึง เพ่ือให้พระอานนท์นำไปเผยแผแ่ กภ่ กิ ษทุ งั้ หลาย
3. มงคล ในทางพระพุทธศาสนาหมายความว่าอย่างไร
หมายถึง เหตทุ ที่ ำใหช้ วี ติ เป็นสุขและมีความเจริญกา้ วหนา้ ซงึ่ พระพทุ ธองคไ์ ดแ้ สดงไว้ในมงคลสตู ร
เพื่อให้พุทธศาสนกิ ชนประพฤติปฏบิ ตั ติ าม มที ัง้ สนิ้ 38 ประการ
4. ผ้แู ตง่ เร่ือง มงคลสตู รคำฉนั ท์ คอื ใคร มผี ลงานดา้ นการประพันธ์อย่างไรบ้าง
มงคลสตู รคำฉนั ทเ์ ป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยหู่ ัว พระมหากษัตรยิ ์
รัชกาลที่ 6 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พระองคไ์ ด้รับการถวายพระราชสมัญญาวา่ สมเด็จพระมหาธรี ราชเจ้ามี
ความหมายว่า นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ทรงมีผลงานด้านการประพันธ์หลายประเภท เช่น บทละคร บทความ
สารคดี นทิ าน นยิ าย เรือ่ งสน้ั
5. มงคลสูตรคำฉันท์ แตง่ ดว้ ยคำประพนั ธป์ ระเภทใด
บทร้อยกรองท่ีมีสัมผสั คล้องจอง
207
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำช้ีแจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนำเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี ำหนด แล้วขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกับระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321
1 เนอ้ื หาละเอียดชดั เจน
2 ความถกู ต้องของเนอ้ื หา
3 ภาษาท่ีใชเ้ ข้าใจงา่ ย
4 ประโยชนท์ ี่ไดจ้ ากการนำเสนอ
5 วิธีการนำเสนอผลงาน
รวม
ลงช่อื .................................................... ผู้ประเมิน
................ /................ /................
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 4 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 3 คะแนน 14 - 17 ดี
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญใ่ ห้ 2 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน ต่ำกว่า 10 ปรบั ปรุง
208
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
ชือ่ กลุ่ม ชั้น
คำช้แี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในช่อง
ท่ีตรงกบั ระดับคะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
4321
1 การแบง่ หนา้ ท่ีกนั อยา่ งเหมาะสม
2 ความรว่ มมือกันทำงาน ลงชือ่ .................................................... ผูป้ ระเมนิ
3 การแสดงความคิดเหน็ ................ /................ /................
4 การรบั ฟงั ความคิดเห็น
5 ความมนี ้ำใจช่วยเหลอื กนั
รวม
เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครัง้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ตำ่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง
209
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 30
รายวชิ า ภาษาไทยพนื้ ฐาน รหสั ท31102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
โรงเรยี น โสภณวรคณุ วทิ ยา ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2565
หนว่ ยการเรียนท่ี 7 เรื่อง มงคลสูตรคำฉนั ท์
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 30 สรุปเนอ้ื หาและคำศัพท์ เวลา 1 ช่ัวโมง/คาบ
ผสู้ อน นางสาวสนุ ิสา ตุน่ คำ
วนั ท่สี อน : วนั ........................ ท่.ี ...................... เดือน .................................พุทธศกั ราช ...................
1. สาระสำคญั / ความคิดรวบยอด
การศึกษาเรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์ เป็นบทประพันธ์ท่ีมีคุณค่าท้ังด้านเนื้อหา ด้านวรรณศิลป์ และ
ด้านสังคม ซึ่งการท่ีจะเขา้ ใจเนื้อหาของเร่ืองได้นั้น จำเป็นต้องรู้คำศพั ท์ที่ปรากฏอย่ใู นเร่ือง เพ่ือจะเข้าใจเนื้อหา
ของเรอ่ื งได้อย่างถกู ตอ้ ง
2. ตวั ช้ีวดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ตัวช้ีวัด ท 5.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์
เบ้อื งตน้
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
อธิบายความหมายของคำศพั ท์ต่างๆ ในเรอื่ ง มงคลสตู รคำฉันท์ ได้
3. สาระการเรียนรู้
หลกั การวิเคราะหแ์ ละวิจารณ์วรรณคดีเบือ้ งตน้
- การพจิ ารณาเนื้อหาและกลวิธใี นวรรณคดี
4. กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ ท่ี 1 นำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูให้นักเรียนบอกมงคล 38 ประการ ที่นักเรียนได้ยึดถือและปฏิบัติในชีวิตประจำวัน และ
ยกตวั อย่างประกอบ
2. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ ถึงความสำคัญและประโยชน์ของมงคลสูตรคำฉันท์
ขนั้ ที่ 2 ลงมือปฏบิ ตั ิ
1. ครูให้นักเรียนกลุ่มร่วมกนั ศึกษาเน้ือเร่ืองของมงคลสูตรคำฉนั ท์ จากหนังสือเรียน แล้วรวบรวม
คำศัพท์ยากจากเนือ้ หา จากน้ันให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ค้นหาความหมาย จากหนังสือเรยี น พจนานุกรมฯ
หอ้ งสมดุ หรือแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ แล้วบนั ทึกผลลงในสมุดของนักเรยี นแต่ละคน
2. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันทำใบงาน เรื่อง สรุปเนื้อหาและคำศัพท์เรือ่ ง มงคลสูตรคำฉันท์
โดยให้นักเรียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ดงั น้ี
- สมาชกิ คนท่ี 1 เขยี นคำตอบ ข้อ 1 ลงในใบงาน แลว้ ส่งใบงานไปให้สมาชกิ คนท่ี 2
- สมาชิกคนท่ี 2 อ่านคำตอบของสมาชิกคนที่ 1 ถ้าพิจารณา เห็นว่ายังไม่ถูกต้องสมบูรณ์ ก็ให้เขียน
เพิม่ เตมิ จากน้นั กต็ อบคำถาม ข้อ 2 แล้วสง่ ใบงานให้สมาชกิ คนที่ 3
210
- สมาชกิ คนท่ี 3 และคนท่ี 4 ก็ปฏิบตั กิ ิจกรรมเช่นเดียวกับสมาชกิ คนท่ี 2
สมาชิกในแต่ละกลุ่มจะได้มีโอกาสอ่านและเขียนคำตอบหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ จนครบทุกข้อ เสร็จ
แล้วนำใบงาน ส่งครูตรวจ
ขน้ั ท่ี 3 สรปุ
นกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายสรุปเน้ือหาและคำศัพท์เรอ่ื ง มงคลสตู รคำฉนั ท์
5. ภาระชิน้ งาน
- ใบงาน เรอื่ ง สรุปเนื้อหาและคำศัพทเ์ ร่ือง มงคลสตู รคำฉันท์
6. สื่อการเรียนรู้
- หนังสือเรยี น ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.4
7. การวดั และประเมินผล
วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑ์
ตรวจใบงานเรือ่ ง สรปุ เนื้อหาและ ใบงานเรอื่ ง สรปุ เน้อื หาและ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
คำศพั ท์เรือ่ ง มงคลสตู รคำฉันท์ คำศัพท์เรือ่ ง มงคลสูตรคำฉันท์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
กลุ่ม
สังเกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ม่งุ ม่นั ในการทำงาน ประสงค์
211
ช่อื ..................................................................................................ชน้ั ............เลขที่...............
ใบงาน เร่อื ง สรปุ เนื้อหาและคำศัพท์เร่ือง มงคลสตู รคำฉันท์
คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปนี้
1. ขอ้ ความในตอนต้นของมงคลสตู รคำฉันท์ตอนใด ที่มคี วามหมายใกล้เคียงกบั ขอ้ ความต่อไปน้ี
“สิบสองฉนำเหล่า นรอกี สุเทวา
รวมกันและตรหิ า สิรมิ งั คลาใด”
2. ในเรอ่ื ง มงคลสูตรคำฉนั ท์ มคี ำใดบ้างท่หี มายถงึ พระพุทธเจา้
3. นักเรียนคดิ ว่า มงคลสตู รคำฉันท์ ขอ้ ใดสำคัญท่สี ุด เพราะเหตุใด
4. มงคลสตู รคำฉันท์ ขอ้ ใดกล่าวถึงลักษณะของเทวดา
5. “หนึ่งคือบ่คบคนพาล เพราะจะพาประพฤตผิ ดิ
หนงึ่ คบกะบัณฑิต เพราะจะพาประสบผล”
ข้อความนต้ี รงกับสภุ าษติ ไทยวา่ อยา่ งไร นักเรยี นจะนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้อย่างไร
212
ชอ่ื ..................................................................................................ชน้ั ............เลขท.ี่ ..............
เฉลยใบงาน เรอื่ ง สรุปเน้อื หาและคำศพั ทเ์ รอ่ื ง มงคลสตู รคำฉนั ท์
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้
1. ขอ้ ความในตอนตน้ ของมงคลสตู รคำฉันท์ตอนใด ท่มี ีความหมายใกล้เคยี งกบั ข้อความตอ่ ไปน้ี
“สบิ สองฉนำเหลา่ นรอกี สุเทวา
รวมกันและตรหิ า สริ มิ ังคลาใด”
ข้อความทมี่ ีความหมายใกล้เคยี งกัน คอื
“เทวามนุษย์ท่ัว พหภุ พประเทศใน”
หมน่ื จกั รวาลได้ ดำรสิ น้ิ จิรังกาล
แลว้ ยังบร่ ู้มง คละสมมโนมาลย์
ด้วยกาละลว่ งนาน บ่มไิ ดป้ ระสงคส์ ม
2. ในเรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์ มีคำใดบ้างท่ีหมายถงึ พระพุทธเจ้า
คำในเร่ือง มงคลสูตรคำฉันท์ที่หมายถึง พระพุทธเจ้า คือ องค์โลกนาถ พระผู้มี พระภาคชินสีห์
จอมธรรม์องค์พระภัควนั ต์ สมเดจ็ ทศพล องคส์ มเด็จพระชนิ สหี ์
3. นกั เรยี นคดิ ว่า มงคลสตู รคำฉนั ท์ ขอ้ ใดสำคญั ทีส่ ุด เพราะเหตุใด
ขอ้ ท่ีสำคญั ที่สดุ คอื “หนึง่ บค่ บคนพาล เพราะจะพาประพฤตผิ ิด
หนึง่ คบกะบัณฑติ เพราะจะพาประสบผล”
เหตุผลท่ีสำคัญ เพราะสอนให้รู้จักการคบเพื่อน เพ่ือนมีความสำคัญมาก สามารถเปล่ียนแปลง
พฤตกิ รรมและความคดิ ของเราได้ ถ้าคบคนชว่ั เปน็ มิตรกจ็ ะทำความชั่วตามเขาไปด้วย ถา้ คบคนดผี ู้มคี วามรูก้ ็จะ
ทำให้ประสบความสุขความสำเร็จไปด้วย
4. มงคลสูตรคำฉนั ท์ ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ลักษณะของเทวดา
ข้อความท่ีกลา่ วถึงลกั ษณะของเทวดา คือ
“ลว่ งประถมยามราตรี เธอเปลง่ รัศมี
อนั เรอื งระยับจับเนตร
แสงกายเธอปล่ังยงั เขต สวนแหง่ เจ้าเชต
สวา่ งกระจา่ งทว่ั ไป”
213
5. “หน่งึ คือบค่ บคนพาล เพราะจะพาประพฤตผิ ิด
หน่ึงคบกะบณั ฑติ เพราะจะพาประสบผล”
ขอ้ ความน้ีตรงกบั สภุ าษิตไทยวา่ อยา่ งไร นกั เรยี นจะนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้อย่างไร
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินิจของครผู ูส้ อน)
214
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
ชอื่ ...............................................................................................ช้ัน................
คำช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่อง
ทตี่ รงกับระดบั คะแนน
ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321
1 การแบง่ หนา้ ทก่ี ันอย่างเหมาะสม
2 ความร่วมมอื กันทำงาน
3 การแสดงความคิดเห็น
4 การรับฟงั ความคิดเหน็
5 ความมีน้ำใจชว่ ยเหลือกัน
รวม
ลงชอ่ื .................................................... ผูป้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
เกณฑ์การให้คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ตำ่ กว่า 10 ปรับปรุง
215
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 31
รายวชิ า ภาษาไทยพื้นฐาน รหสั ท31102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
โรงเรียน โสภณวรคณุ วิทยา ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรยี นท่ี 7 เรื่อง มงคลสตู รคำฉันท์
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 31 วเิ คราะห์และวจิ ารณ์ เวลา 1 ชัว่ โมง/คาบ
ผู้สอน นางสาวสุนิสา ตุ่นคำ
วันทีส่ อน : วัน........................ ท.ี่ ...................... เดือน .................................พทุ ธศักราช ...................
1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด
การศกึ ษาเรื่อง มงคลสูตรคำฉนั ท์ จะตอ้ งวเิ คราะหแ์ ละวิจารณเ์ รอ่ื งตามหลักการวจิ ารณเ์ บือ้ งตน้
2. ตวั ชว้ี ดั / จุดประสงค์การเรียนรู้
ตัวช้ีวัด ท 5.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์
เบื้องตน้
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์เร่อื ง มงคลสูตรคำฉันท์ ตามหลกั การวิจารณ์เบ้อื งต้นได้
3. สาระการเรยี นรู้
หลักการวเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์วรรณคดีเบอ้ื งตน้
-จุดมุง่ หมายการแตง่ วรรณคดี
-การพจิ ารณารปู แบบของวรรณคดี
- การพจิ ารณาเนือ้ หาและกลวิธใี นวรรณคดี
-การวเิ คราะห์และการวิจารณว์ รรณคดี
4. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี 1 นำเข้าสูบ่ ทเรียน
1. ครเู ล่าถึงความเปน็ มาของเรื่อง มงคลสตู ร จากเอกสารประกอบการสอน ใหน้ ักเรียนฟัง
2. นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นถึงทม่ี าของเรอื่ ง มงคลสูตร
ข้นั ท่ี 2 ลงมือปฏบิ ตั ิ
1. ครูให้นักเรียนรวมกลุ่ม แล้วให้แต่ละกลุ่มอภิปรายความรู้เรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์ จาก
หนังสอื เรียน จนเกดิ ความเข้าใจกระจ่างชัดเจน
2. ครูแจกใบงาน เรื่อง วิเคราะห์วิจารณ์เรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ
1 ชุด แล้วใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ปฏิบัตกิ ิจกรรม ดงั นี้
- สมาชกิ คนท่ี 1 อา่ นคำถาม แยกแยะใหช้ ัดเจน
- สมาชกิ คนท่ี 2 ฟงั ข้ันตอน รวบรวมข้อมูล หาแนวทางเสนอแนะในการตอบคำถาม
- สมาชิกคนท่ี 3 ตอบคำถาม
- สมาชิกคนที่ 4 ตอบคำถาม
216
3. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มหมุนเวียนเปล่ียนหน้าท่ีกันในการตอบคำถามจากใบงานจนครบทุกข้อ
เสร็จแล้วนำสง่ ครูตรวจ
ขั้นท่ี 3 สรุป
1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปผลการวเิ คราะห์และวิจารณ์เรอ่ื ง มงคลสตู รคำฉนั ท์
5. ภาระชิ้นงาน
- ใบงาน เร่ือง วิเคราะหว์ ิจารณ์เรื่อง มงคลสูตรคำฉนั ท์
6. ส่ือการเรียนรู้
- หนงั สือเรยี น ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.4
- เอกสารประกอบการสอน
7. การวัดและประเมินผล
วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานเรอ่ื ง วิเคราะห์วิจารณ์ ใบงานเรือ่ ง วิเคราะหว์ ิจารณ์เรอ่ื ง ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เรือ่ ง มงคลสตู รคำฉนั ท์ มงคลสตู รคำฉนั ท์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
กล่มุ
สงั เกตความซ่อื สตั ย์สุจริต มวี ินยั และ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ใฝเ่ รียนรู้ ประสงค์
217
เอกสารประกอบการสอน
ความเป็นมาของเรอื่ ง มงคลสูตร
มงคลสตู ร มีสาเหตุมาจากการเลา่ นิทาน ชาวอินเดียสมัยโบราณชอบเล่านิทาน เม่อื มาเจอกันตามท่ี
พกั ริมทางระหว่างหยุดพักเหนื่อยจากการเดนิ ทางก็จะเลา่ นิทานกนั เม่ือเล่านิทานแล้ว กม็ ีการถามปัญหาและ
การตอบปัญหา เพื่อเป็นการแสดงภูมิรู้ระหว่างผู้เล่ากับผู้ฟัง มีครง้ั หนึ่งผู้เล่าได้เล่าเรือ่ งสิ่งที่เป็นมงคล เม่ือเล่า
จบก็ถามผฟู้ ังว่า ส่ิงที่เป็นมงคล คืออะไร ไม่มีใครตอบได้ คำถามนี้แพร่กระจายออกไปในวงสนทนาจากปากสู่
ปาก ในท่ีสุดก็มีผู้นำไปถามเทวดา เทวดาตอบไม่ได้ จึงมาเข้าเฝ้าและทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าได้ตรัส
เร่อื ง มงคล 38 ประการ นิทานจึงเป็นทมี่ าของเรอ่ื ง
ท่ีมา : http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content_id=2375
218
ชื่อ..................................................................................................ชนั้ ............เลขท.่ี ..............
ใบงาน เรอื่ ง วิเคราะหว์ ิจารณเ์ ร่ือง มงคลสตู รคำฉันท์
คำชแี้ จง ให้นักเรียนอ่านเรื่อง มงคลสตู รคำฉนั ท์ แล้ววิเคราะหว์ ิจารณ์ตามประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
1. การแตง่ เรื่อง มงคลสตู รคำฉันท์ มีจุดมงุ่ หมายใด
2. เรอ่ื ง มงคลสตู รคำฉันท์ มรี ูปแบบอย่างไร
3. สาระสำคญั ของเร่อื ง มงคลสูตรคำฉนั ท์ เป็นอยา่ งไร
4. มงคลสตู รท่ีมงุ่ การฝึกตนให้เปน็ คนดี มลี ักษณะอยา่ งไร
5. มงคลสูตรที่มุง่ ในการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม มีลกั ษณะอยา่ งไร
6. วเิ คราะหว์ จิ ารณ์เร่ือง มงคลสตู รคำฉนั ท์
219
ช่อื ..................................................................................................ชั้น............เลขท่.ี ..............
เฉลยใบงาน เรอ่ื ง วิเคราะหว์ ิจารณเ์ รื่อง มงคลสูตรคำฉันท์
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอ่านเร่อื ง มงคลสูตรคำฉนั ท์ แลว้ วเิ คราะห์วิจารณ์ตามประเด็นตอ่ ไปนี้
1. การแตง่ เรือ่ ง มงคลสูตรคำฉนั ท์ มีจดุ มุ่งหมายใด
เพอ่ื ใหต้ ระหนักว่า สิริมงคลจะเกดิ แกผ่ ู้ใดก็เพียงผลมาจากการปฏบิ ัตขิ องตนท้ังส้ิน ไมม่ ีผู้ใดหรือสิ่ง
ใดจะทำใหเ้ กิดสริ ิมงคลแกเ่ ราได้ นอกจากตวั เราเอง
2. เร่ือง มงคลสูตรคำฉันท์ มรี ูปแบบอย่างไร
เป็นลักษณะคำประพันธ์ประเภท กาพย์ฉบงั 16 และอินทรวเิ ชียรฉันท์11 แทรกคาถาบาลี และเป็น
วรรณคดีคำสอนท่ีเป็นพระคาถาบาลีจากพระไตรปิฎกตั้งแล้วแปลถอดความเป็นคำประพันธ์ที่ไพเราะ งดงาม
ดา้ นเสียงและความหมาย
3. สาระสำคัญของเรอ่ื ง มงคลสตู รคำฉันท์ เปน็ อย่างไร
ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต เกิดจากการประพฤติปฏิบัติของตนเองท้ังส้ิน หาได้เกิดจากผู้อ่ืน สิ่งอ่ืน
หรือวัตถุโชคลางใด ๆ จากภายนอก มงคล หมายถึง เหตุทง้ั หลายอันจะทำให้บรรลุถงึ ความเจริญแหง่ สมบัติท้ัง
ปวง เหตุแห่งความเจริญหรือทางก้าวหน้า มีท้ังหมด 38 ประการ มงคลสูตรเป็นพระสูตรในขุททกนิกาย
หมวดขุททกปาฐะ
4. มงคลสตู รทม่ี งุ่ การฝกึ ตนใหเ้ ป็นคนดี มลี กั ษณะอยา่ งไร
มงคลท่ี 1 ไม่คบคนพาล
มงคลที่ 2 คบบณั ฑติ
มงคลที่ 3 บชู าบุคคลที่ควรบชู า
5. มงคลสูตรทีม่ งุ่ ในการบำเพ็ญประโยชน์ตอ่ สังคม มลี กั ษณะอยา่ งไร
มงคลท่ี 15 บำเพญ็ ทาน มงคลที่ 16 ประพฤติธรรม
มงคลท่ี 17 สงเคราะห์ญาติ มงคลที่ 18 ทำงานไม่มีโทษ
6. วิเคราะหว์ จิ ารณ์เร่อื ง มงคลสตู รคำฉนั ท์
เป็นวรรณคดีคำสอนผลงานพระราชนพิ นธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงนำ
หลักธรรมที่เป็นคาถาภาษาบาลีจากพระไตรปิฎกมาแปลและเรียบเรียงแต่งเป็นคำประพันธ์ท่ีไพเราะ มีความ
งดงามท้งั ด้านเสียงและความหมายสามารถจดจำไดง้ ่าย มเี นื้อหาท่ีแสดงให้เหน็ และเขา้ ใจได้วา่ สิรมิ งคลจะเกิด
แกต่ ัวเราได้ก็ดว้ ยเป็นผลจากการประพฤตปิ ฏิบตั ิดี หาได้มที ่มี าจากปจั จยั อื่นแต่อยา่ งใด
220
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงใน
ชอ่ งทตี่ รงกับระดับคะแนน
การมี
ลำดบั ช่ือ-สกลุ การแสดง การ การทำงาน ความมี ส่วนรว่ ม
ท่ี ของผู้รบั การ ความ ยอมรบั ตามที่ นำ้ ใจ ในการ รวม
คดิ เหน็ ฟงั คนอน่ื ได้รบั ปรับปรงุ 20
ประเมิน ผลงาน คะแนน
มอบหมาย
กลมุ่
43214321432143214321
ลงชือ่ .................................................... ผูป้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ำกวา่ 10 ปรบั ปรงุ
221
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 32
รายวิชา ภาษาไทยพน้ื ฐาน รหัส ท31102 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
โรงเรยี น โสภณวรคณุ วิทยา ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2565
หน่วยการเรียนท่ี 7 เรอ่ื ง มงคลสตู รคำฉนั ท์
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 32 วเิ คราะห์ลักษณะเด่น เวลา 1 ช่วั โมง/คาบ
ผ้สู อน นางสาวสุนิสา ตนุ่ คำ
วนั ทส่ี อน : วัน........................ ที่....................... เดือน .................................พุทธศักราช ...................
1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด
การศึกษาเร่ือง มงคลสูตรคำฉันท์ จะต้องวิเคราะหล์ กั ษณะเดน่ ของเรื่องเชื่อมโยงกบั การเรียนร้ทู าง
ประวตั ิศาสตรแ์ ละวิถชี ีวิต
2. ตัวชว้ี ดั / จุดประสงค์การเรยี นรู้
ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.4-6/2 วิเคราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดีเช่ือมโยงกับการเรียนรู้ทาง
ประวตั ศิ าสตร์และวิถีชวี ติ ของสังคมในอดีต
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. วิเคราะห์ลักษณะเด่นเรือ่ ง มงคลสูตรคำฉันท์ เช่ือมโยงกับการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์
และวิถชี วี ติ ได้
3. สาระการเรียนรู้
การวเิ คราะห์ลกั ษณะเดน่ ของวรรณคดีเกย่ี วกับเหตกุ ารณ์ประวัติศาสตร์และวิถชี วี ิตของสงั คมในอดีต
4. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ ท่ี 1 นำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูแจกเอกสารประกอบการสอน มงคล 38 ประการ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์
อภิปราย และแสดงความคิดเห็น จากน้ัน ครถู ามนกั เรียนวา่ นักเรียนปฏิบตั ิตามหลักธรรมมงคล 38 ประการ
ขอ้ ใดบ้าง
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาอภิปรายหลกั ธรรมมงคล 38 ประการ ทีน่ ักเรียนปฏิบัตไิ ด้
ข้นั ท่ี 2 ลงมือปฏบิ ัติ
1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาเรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์ จากหนังสือเรียน จากนั้นให้
นักเรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์ลักษณะเด่นของเรอื่ ง มงคลสูตรคำฉนั ท์ เช่อื มโยงกบั การเรยี นรู้ทางวิถชี วี ติ
2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มทำใบงาน เร่อื ง วิเคราะห์ ลักษณะเด่นเร่ือง มงคลสูตรคำฉันท์ โดยครูชีแ้ จง
ให้นักเรียนทราบว่า นักเรียนทุกคนในกลุ่มจะต้องตอบคำถามโดยวิธีการเล่าเรื่องรอบวง ทุกคนจะต้องตอบ
คำถามทกุ ข้อ
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มจะต้องตอบคำถามภายในเวลาท่ีกำหนด ให้สมาชิกตอบคำถาม ข้อ 1 โดย
การเลา่ เรือ่ งทลี ะคน
222
4. สมาชิกทุกคนในกลุ่มช่วยกันสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการฟังเพื่อนทุกคนเล่า แล้วเขียน
คำตอบลงในใบงาน ข้อ 1 แล้วทำข้อต่อไปโดยทุกคนเล่าเรื่องไปทีละข้อและสรุปคำตอบไปทีละข้อจนครบทุก
ขอ้ ขน้ั ท่ี 3 สรปุ
1. ครูตรวจสอบการทำใบงาน ของนักเรยี นแต่ละกลมุ่ และให้ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม
2. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปความรเู้ กี่ยวกับการวเิ คราะหล์ ักษณะเดน่ ของเร่ือง มงคลสูตรคำฉนั ท์
5. ภาระช้ินงาน
- ใบงาน เรื่อง วิเคราะห์ลักษณะเดน่ เร่อื ง มงคลสูตรคำฉันท์
6. ส่อื การเรยี นรู้
- หนงั สอื เรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.4
- เอกสารประกอบการสอน
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานเรอ่ื ง วิเคราะห์ลกั ษณะ ใบงานเรื่อง วิเคราะหล์ ักษณะเดน่ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เดน่ เรอื่ ง มงคลสูตรคำฉนั ท์ เรอ่ื ง มงคลสูตรคำฉนั ท์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
กลมุ่
สงั เกตความมวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ และ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
มุ่งมน่ั ในการทำงาน ประสงค์
223
เอกสารประกอบการสอน
มงคล 38 ประการ
1. การไม่คบคนพาล 2. การคบบณั ฑิต 3. การบูชาบคุ คลทค่ี วรบชู า
4. การอย่ใู นถน่ิ อันสมควร
7. ความเปน็ พหสู ตู 5. เคยทำบุญมาก่อน 6. การตั้งตนชอบ
10. กลา่ ววาจาอนั เปน็ สุภาษติ
13. การสงเคราะหภ์ รรยา 8. การรอบรู้ในศลิ ปะ 9.มวี ินัยท่ีดี
16. การประพฤตธิ รรม
19. ละเว้นจากบาป 11. การบำรุงบดิ ามารดา 12. การสงเคราะห์บุตร
22. มีความเคารพ
25. มคี วามกตญั ญู 14. ทำงานไมใ่ หค้ งั่ ค้าง 15. การใหท้ าน
28. เปน็ ผวู้ า่ ง่าย
31. การบำเพญ็ ตบะ 17. การสงเคราะหญ์ าติ 18. ทำงานทไี่ ม่มีโทษ
34. การทำใหแ้ จง้ ซึง่ พระนิพพาน
37. มจี ิตปราศจากกเิ ลส 20. สำรวมจากการดื่มนำ้ เมา 21. ไมป่ ระมาทในธรรมท้งั หลาย
23. มคี วามถอ่ มตน 24. มีความสันโดษ
26. การฟงั ธรรมตามกาล 27. มคี วามอดทน
29. การได้เหน็ สมณะ 30. การสนทนาธรรมตามกาล
32. การประพฤติพรหมจรรย์ 33. การเห็นอรยิ สัจ
35. มีจิตไม่หวน่ั ไหวในโลกธรรม 36. มจี ติ ไม่เศรา้ โศก
38. มจี ติ เกษม
ท่มี า : http://www.dhammathai.org/treatment/poem/poem00.php
224
ช่ือ..................................................................................................ช้นั ............เลขท่.ี ..............
ใบงาน เร่ือง วิเคราะหล์ กั ษณะเด่นเรอ่ื ง มงคลสูตรคำฉนั ท์
คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนเขียนอธบิ ายตามประเดน็ ทก่ี ำหนดให้
1. ลักษณะเดน่ ด้านเนื้อหาเรือ่ ง มงคลสตู รคำฉนั ท์
2. ลกั ษณะเดน่ ด้านวรรณศลิ ป์เรือ่ ง มงคลสูตรคำฉันท์
3. ลกั ษณะเดน่ ด้านสังคมเรอื่ ง มงคลสตู รคำฉันท์
4. ลกั ษณะเดน่ ด้านเนื้อหาและสังคมเร่ือง มงคลสตู รคำฉันท์ ที่แสดงให้เห็นวิถีชวี ติ ของคนไทย
225
ช่ือ..................................................................................................ชั้น............เลขที่...............
เฉลยใบงาน เรอ่ื ง วเิ คราะหล์ ักษณะเดน่ เร่อื ง มงคลสตู รคำฉันท์
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเขียนอธบิ ายตามประเด็นที่กำหนดให้
1. ลกั ษณะเดน่ ด้านเนื้อหาเรอื่ ง มงคลสูตรคำฉนั ท์
2. ลกั ษณะเด่นดา้ นวรรณศิลป์เร่อื ง มงคลสตู รคำฉันท์
3. ลักษณะเดน่ ด้านสังคมเรือ่ ง มงคลสตู รคำฉันท์
4. ลกั ษณะเด่นด้านเนอื้ หาและสังคมเรอื่ ง มงคลสูตรคำฉนั ท์ ท่ีแสดงใหเ้ ห็นวิถชี ีวิตของคนไทย
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อย่ใู นดุลยพินิจของครูผสู้ อน)
226
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำช้ีแจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนำเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี ำหนด แล้วขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกับระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321
1 เนอ้ื หาละเอียดชดั เจน
2 ความถกู ต้องของเนอ้ื หา
3 ภาษาท่ีใชเ้ ข้าใจงา่ ย
4 ประโยชนท์ ี่ไดจ้ ากการนำเสนอ
5 วิธีการนำเสนอผลงาน
รวม
ลงช่อื .................................................... ผู้ประเมิน
................ /................ /................
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 4 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 3 คะแนน 14 - 17 ดี
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญใ่ ห้ 2 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน ต่ำกว่า 10 ปรบั ปรุง
227
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
ช่ือกลุ่ม.......................................................................................................ชน้ั .................
คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่อง
ท่ีตรงกับระดบั คะแนน
ลำดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
4321
1 การแบ่งหนา้ ทกี่ นั อยา่ งเหมาะสม
2 ความร่วมมือกันทำงาน
3 การแสดงความคิดเห็น
4 การรบั ฟงั ความคดิ เหน็
5 ความมนี ำ้ ใจชว่ ยเหลือกนั
รวม
ลงชอื่ .................................................... ผูป้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดีมาก
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ตำ่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง
228
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 33
รายวิชา ภาษาไทยพน้ื ฐาน รหสั ท31102 กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
โรงเรียน โสภณวรคุณวทิ ยา ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรียนที่ 7 เร่อื ง มงคลสตู รคำฉันท์
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 33 ประเมนิ คุณค่าและสังเคราะหข์ ้อคดิ เวลา 1 ชัว่ โมง/คาบ
ผูส้ อน นางสาวสุนิสา ต่นุ คำ
วนั ทสี่ อน : วนั ........................ ท่ี....................... เดอื น .................................พทุ ธศักราช ...................
1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด
การศึกษาเร่ือง มงคลสูตรคำฉันท์ จะต้องวิเคราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ และ
สังเคราะหข์ อ้ คิดจากเรือ่ ง เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตจริง
2. ตวั ช้วี ดั / จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ตัวช้ีวดั ท 5.1 ม.4-6/3 วิเคราะหแ์ ละประเมินคุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ของวรรณคดีและวรรณกรรม
ในฐานะทเ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
ม.4-6/4 สังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวติ จรงิ
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. วิเคราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศลิ ป์ของเรอ่ื ง มงคลสูตรคำฉันท์ ในฐานะท่ี
เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติได้
2. สังเคราะห์ข้อคิดจากเรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์ เพ่ือนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้3.
สาระการเรยี นรู้
1. การวิเคราะห์และประเมนิ คุณคา่ วรรณคดี
- ด้านวรรณศลิ ป์ - ด้านสงั คมและวัฒนธรรม
2. การสังเคราะหว์ รรณคดี
4. กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ ท่ี 1 นำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูเล่านทิ านเร่อื ง ม้ามงคล ให้นักเรยี นฟัง แลว้ ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อคิดทไ่ี ด้จาก
การฟังนทิ านและนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวันได้อย่างไร
2. ครอู า่ นบทกลอนมงคลชีวติ ให้นกั เรยี นฟัง แล้วให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็
ขัน้ ท่ี 2 ลงมอื ปฏบิ ัติ
1. ครูให้นักเรียนจับกลุ่มร่วมกันศึกษาเรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์ จากหนังสือเรียนแล้วบันทึกลงใน
แบบบนั ทกึ การอา่ น
229
2. ครูแจกใบงาน เรื่อง ประเมินคุณค่าและสังเคราะห์ข้อคิดเร่ือง มงคลสูตรคำฉันท์ ให้นักเรียนแต่
ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 ชุด แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าท่ีกันสืบค้นความรู้ เพ่ือเป็นคำตอบตามหัวข้อท่ีตน
รับผดิ ชอบ โดยใหเ้ พอ่ื นสมาชิกทเ่ี รยี นอ่อนมีสทิ ธเิ์ ลือกก่อน
3. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มสืบค้นความรู้ตามหน้าท่ีที่รับผิดชอบเพื่อเป็นคำตอบตามหัวข้อที่ตน
รับผิดชอบ แล้วนำคำตอบมาอภิปรายร่วมกันในกลุ่ม จนได้คำตอบที่สมบูรณ์ และมีความเข้าใจตรงกันทุกคน
ข้นั ที่ 3 สรปุ
1. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอคำตอบในใบงาน
2. นกั เรียนรว่ มกันสรุปคุณคา่ และข้อคดิ ทไี่ ดจ้ ากเรอ่ื ง มงคลสตู รคำฉนั ท์
5. ภาระชนิ้ งาน
- ใบงาน เรือ่ ง ประเมินคณุ คา่ และสงั เคราะหข์ อ้ คดิ เร่ือง มงคลสตู รคำฉนั ท์
6. ส่ือการเรยี นรู้
- หนังสือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.4
- เอกสารประกอบการสอน
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานเรือ่ ง ประเมนิ คณุ ค่าและ ใบงานเรอื่ ง ประเมินคณุ คา่ และ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเคราะหข์ อ้ คิดเรอ่ื ง มงคลสตู รคำ สังเคราะหข์ ้อคดิ เรือ่ ง มงคลสูตร
ฉนั ท์ คำฉนั ท์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
กลมุ่
สงั เกตความมวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ และ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
มุ่งมัน่ ในการทำงาน ประสงค์
230
เอกสารประกอบการสอน
นทิ านม้ามงคล
ม้าทรงพระราชาพระองค์หนึ่ง มีคนเลี้ยงชื่อ สิริทัต เป็นคนขาเดี้ยง เดินกะโผลกกะเผลก เวลาคน
เล้ยี งม้าจงู มา้ แกก็เดินกะเผลกตามลกั ษณะของคนขาเดี้ยง มา้ เดินตามหลงั เห็นเจ้านายเดินอย่างนั้น จงึ กระทำ
ตามบา้ ง
จนวันหนึ่ง พระราชาทรงสังเกตเห็นม้าเดินผิดปกติ จึงรับสั่งให้ตามสัตวแพทย์มาตรวจว่าม้าป่วย
เป็นโรคอะไรสัตวแพทย์ตรวจเช็คอาการโดยละเอียดก็ไม่พบอะไรผิดปกติ พระราชารับส่ังว่า มันต้องมีสิ
ไม่อย่างนัน้ ม้าข้ามนั จะเดนิ ขาเดี้ยง อยา่ งน้ันได้อยา่ งไร ตรวจดใู หด้ อี กี ครง้ั ซิ สตั วแพทยก์ ต็ รวจโดยละเอียดอีกก็
ไม่พบสาเหตุ มึนอยตู่ ั้งนาน พลันสายตาเหลือบเห็นคนเลย้ี งม้าโขยกเขยกเขา้ มา ก็นึกได้ จงึ กราบทูลพระราชา
ใหล้ องเปล่ียนคนเล้ียงม้าดู ม้าอาจจะอาการดีข้นึ กไ็ ด้
เม่ือเปลี่ยนคนเล้ียงม้าให้เป็นคนขาดีแล้ว สักพักเท่านั้นม้าของพระราชาก็เดินเป็นปกติ ไม่เดิน
ขาเดย้ี งอกี ต่อไป
เล่านิทานเรื่องนี้แล้ว ผู้แต่งคัมภีร์ก็สรปุ ว่า... นี่แหละคืออทิ ธพิ ลของการอยใู่ กลช้ ิดกัน ม้าขาไมเ่ ดย้ี ง
แตค่ นเล้ยี งขาเด้ียง มา้ กเ็ ลยเดินตามคนเล้ียงทขี่ าเดี้ยง นานวันเขา้ ก็เลยกลายเป็นม้าขาเดยี้ งไปดว้ ย
ท่มี า : http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11543
บทกลอนมงคลชวี ติ
อยา่ คบมติ รที่พาลสนั ดานช่วั จะพาตวั เนา่ ดิบจนฉิบหาย
แมค้ วามคิดชัว่ ชา้ อย่ากล้ำกราย เป็นมติ รร้ายภายในทุกข์ใจครนั
จะชว่ ยให้พน้ ทกุ ขส์ บสขุ สนั ต์
ควรคบหาบัณฑิตเปน็ มิตรไว้ ควรคบกนั อยา่ เขวทุกเวลา
ความคดิ ดีเลศิ ลำ้ ย่งิ สำคญั
ทีม่ า : http://www.krubanchang.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538687950&Ntype=1
231
ช่ือ..................................................................................................ชั้น............เลขที่...............
ใบงาน เรอื่ ง ประเมนิ คณุ คา่ และสังเคราะหข์ อ้ คิดเรือ่ ง มงคลสูตรคำฉนั ท์
คำช้แี จง ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้
1. นกั เรียนไดข้ อ้ คดิ อะไรบา้ ง จากการศกึ ษาเร่ือง มงคลสตู รคำฉันท์
2. นกั เรียนนำขอ้ คดิ จากการศึกษาเรอ่ื ง มงคลสตู รคำฉนั ท์ ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั อย่างไร
3. มงคล 38 ประการ ในขอ้ ใดทเ่ี ป็นขอ้ ปฏิบตั ใิ นการสร้างชีวติ
4. มงคล 38 ประการ ในขอ้ ใดท่ีเป็นการฝกึ ใจโดยตรง
5. เร่อื ง มงคลสตู รคำฉันท์ มคี ณุ คา่ ดา้ นวรรณศิลป์อย่างไร จงอธบิ าย
6. จงอธิบายคณุ ค่าด้านสงั คมและวัฒนธรรมเรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์
232
ชอื่ ..................................................................................................ชน้ั ............เลขที่...............
ใบงาน เร่ือง ประเมินคณุ คา่ และสังเคราะหข์ ้อคิดเรือ่ ง มงคลสูตรคำฉันท์
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
1. นักเรียนไดข้ ้อคดิ อะไรบ้าง จากการศกึ ษาเรือ่ ง มงคลสูตรคำฉนั ท์
1. ไดท้ ราบวธิ ีปฏบิ ตั ติ นเพ่อื ความเจรญิ ร่งุ เรืองในชีวติ
2. ทำใหบ้ คุ คลและสังคมเจริญก้าวหน้า
3. ไดศ้ กึ ษาภาษากวนี ิพนธท์ ่ีสละสลวย ไพเราะ ทง้ั ถอ้ ยคำและเนอ้ื ความ
2. นักเรยี นนำขอ้ คิดจากการศกึ ษาเรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์ ไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั อย่างไร
นำหลักธรรมท้ัง 38 ประการ ไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน
3. มงคล 38 ประการ ในขอ้ ใดทีเ่ ป็นขอ้ ปฏบิ ตั ิในการสร้างชวี ิต
ไม่คบคนพาล คบบัณฑิต บชู าบุคคลทคี่ วรบชู า อยู่ในสถานที่อันสมควร เคยทำบุญมากอ่ น ตั้งตนไว้
ชอบความเป็นพหูสูต รอบรู้ในศิลปะ มีวินัยที่ดี กล่าววาจาอันเป็นสุภาษิต บำรุงบิดามารดา สงเคราะห์บุตร
สงเคราะหภ์ รรยาทำงานไม่ใหค้ ัง่ คา้ ง ใหท้ าน ประพฤติธรรม สงเคราะห์ญาติ ประกอบการงานทไ่ี ม่มโี ทษ
4. มงคล 38 ประการ ในข้อใดท่ีเปน็ การฝกึ ใจโดยตรง
งดเว้นจากบาป สำรวมจากการด่ืมน้ำเมา ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย มีความเคารพ มีความนอบ
น้อมถ่อมตนมีความสันโดษ มีความกตัญญู ฟังธรรมตามกาล มีความอดทน เป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย เห็นสมณะ
สนทนาธรรมตามกาลบำเพญ็ ตบะ ประพฤติพรหมจรรย์ เห็นอรยิ สัจ ทำให้แจ้งซงึ่ พระนิพพาน มจี ิตไม่หวั่นไหว
ในโลกธรรม มีจติ ไม่เศร้าโศกมีจติ ปราศจากกิเลส และมีจิตเกษม
5. เร่ือง มงคลสูตรคำฉนั ท์ มคี ณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์อย่างไร จงอธบิ าย
6. จงอธบิ ายคณุ ค่าด้านสงั คมและวฒั นธรรมเร่อื ง มงคลสตู รคำฉันท์
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของครผู ู้สอน)
233
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน ประเมนิ การนำเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการที่กำหนด แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกับระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน
4321
1 นำเสนอเนื้อหาในผลงานได้ถูกต้อง
2 การลำดบั ข้นั ตอนของเนอื้ เรื่อง
3 การนำเสนอมีความนา่ สนใจ
4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่
5 การตรงตอ่ เวลา
รวม
ลงชื่อ .................................................... ผู้ประเมิน
................ /................ /................
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
เกณฑ์การให้คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 4 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน 14 - 17 ดี
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญใ่ ห้ 2 คะแนน 10 - 13 พอใช้
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน ตำ่ กว่า 10 ปรับปรุง
234
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงใน
ชอ่ งทตี่ รงกับระดับคะแนน
การมี
ลำดบั ช่ือ-สกลุ การแสดง การ การทำงาน ความมี ส่วนรว่ ม
ท่ี ของผู้รบั การ ความ ยอมรบั ตามที่ นำ้ ใจ ในการ รวม
คดิ เหน็ ฟงั คนอน่ื ได้รบั ปรับปรงุ 20
ประเมิน ผลงาน คะแนน
มอบหมาย
กลมุ่
43214321432143214321
ลงชือ่ .................................................... ผูป้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ำกวา่ 10 ปรบั ปรงุ
235
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 34
รายวิชา ภาษาไทยพ้ืนฐาน รหสั ท31102 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
โรงเรยี น โสภณวรคณุ วทิ ยา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2565
หนว่ ยการเรียนท่ี 8 เรื่อง มหาชาติหรือมหาเวสสันดรชาดก
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 34 ความเป็นมาและประวตั ิผแู้ ต่ง เวลา 1 ชว่ั โมง/คาบ
ผูส้ อน นางสาวสุนิสา ตุ่นคำ
วันที่สอน : วัน........................ ท่ี....................... เดอื น .................................พทุ ธศักราช ...................
1. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด
การอ่านและศึกษาเรื่อง มหาชาติหรือมหาเวสสันดรชาดก จะต้องอ่านจับใจความและวิเคราะห์
วิจารณเ์ รื่องตามหลกั การวิจารณ์เบ้ืองตน้ ได้ นอกจากนยี้ ังต้องรู้จักความเปน็ มา และประวตั ผิ ู้แต่งอีกดว้ ย
2. ตัวชีว้ ัด / จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ตัวชี้วัด ท 1.1 ม.4-6/7 อ่านเร่ืองต่าง ๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึก ย่อความ
และรายงาน
ท 5.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์
เบอื้ งต้น
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. เขียนบันทึกจากการอา่ นความเป็นมาและประวัตผิ ู้แต่งเร่อื ง มหาชาติหรือมหาเวสสันดร
ชาดก ได้
2. อธบิ ายความเป็นมาของเร่อื ง มหาชาตหิ รือมหาเวสสนั ดรชาดก ได้
3. บอกประวตั ผิ แู้ ตง่ เรือ่ ง มหาชาติหรอื มหาเวสสนั ดรชาดก ได้
3. สาระการเรียนรู้
1. การอ่านจบั ใจความจากส่ือตา่ งๆ เชน่ วรรณกรรมพนื้ บา้ น
2. หลกั การวิเคราะหแ์ ละวิจารณ์วรรณกรรมเบ้ืองต้น
- จดุ ม่งุ หมายการแตง่ วรรณกรรม - การพจิ ารณารูปแบบของวรรณกรรม
4. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ ท่ี 1 นำเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ครูจัดบรรยากาศในห้องเรียนให้รู้สึกสบาย ไม่เคร่งเครียด โดยการเปิดคลิปเสียงการเทศน์
มหาชาติให้นกั เรียนฟัง
2. ครสู นทนากบั นักเรยี นเรอ่ื ง การเทศนม์ หาชาติ ในท้องถน่ิ
3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้าง
เกง่ ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน จากน้ันครูแจ้งใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุม่ ทราบว่า นกั เรยี นจะต้องศกึ ษาความ
เปน็ มาและประวตั ผิ ู้แต่งเรื่อง มหาชาตหิ รอื มหาเวสสนั ดรชาดก ตามข้ันตอนที่กำหนด
236
ข้ันท่ี 2 ลงมือปฏิบัติ
1. Survey (S) ให้นักเรียนอ่านความเป็นมาและประวัติผู้แต่งเรื่อง มหาชาติหรือมหาเวสสันดร-
ชาดก จากหนังสอื เรียน อ่านอยา่ งคร่าว ๆ เพือ่ หาจดุ สำคัญของเรอ่ื ง
2. Question (Q) ในขณะทอ่ี ่านใหน้ ักเรียนตัง้ คำถามให้สมั พันธ์กับเร่ืองราวที่กำลงั อ่าน ว่าใจความ
สำคัญท่ีผู้เขียนกำลังพูด ถึงอยู่นั้น คืออะไร ทำไมจึงสำคัญ สำคัญอย่างไร และเก่ียวข้องกับอะไรหรือใครบ้าง
ตอนไหนและเม่ือไร
3. Read (R) ให้นักเรียนอ่านข้อความในตอนนั้น ๆ ซ้ำอย่างละเอียดและในขณะเดียวกันก็ค้นหา
คำตอบสำหรบั คำถามทไี่ ดต้ ้ังไว้
4. Record (R) ให้นักเรียนจดบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้อา่ นจากขั้นตอนที่ 3 โดยมุง่ จดบันทึกในสว่ น
ทีส่ ำคัญและส่งิ ท่จี ำเป็น โดยใช้ขอ้ ความอยา่ งรัดกุมหรอื ยอ่ ๆ ตามความเขา้ ใจของนักเรยี น
5. Recite (R) ให้นักเรียนเขียนสรุปใจความสำคัญ โดยพยายามใช้ภาษาของตนเอง ถ้ายังไม่แน่ใจ
ในบทใดหรือตอนใดให้กลับไปอา่ นซำ้ ใหม่
6. Reflect (R) ให้นักเรียนวิเคราะห์วิจารณ์ความเป็นมาและประวัติผู้แต่ง ท่ีนักเรียนได้อ่านแล้ว
แสดงความคิดเห็นสอดคล้องหรือความคิดเห็นท่ไี ม่สอดคลอ้ ง
ขัน้ ที่ 3 สรุป
1. นักเรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปองคค์ วามรู้เรื่อง ความเป็นมาและประวัติผูแ้ ต่งเรื่อง มหาชาติหรือ
มหาเวสสนั ดรชาดก
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทำใบงาน เรื่อง ความเป็นมาและประวัติผู้แต่งเรื่อง มหาเวสสันดร
ชาดกเสร็จแล้วนำสง่ ครตู รวจ
3. ครูประเมินความรคู้ วามเข้าใจของนักเรียนจากการทำใบงานเปน็ รายบคุ คล
5. ภาระชิน้ งาน
- ใบงาน เรอ่ื ง ความเปน็ มาและประวตั ิผแู้ ตง่ เรอ่ื ง มหาเวสสันดรชาดก
6. สื่อการเรียนรู้
- หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.4
- คลิปเสยี งการเทศน์มหาชาติ
237
7. การวดั และประเมินผล เกณฑ์
วิธกี าร เครอ่ื งมือ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานเร่อื ง ความเป็นมาและ ใบงานเร่ือง ความเปน็ มาและ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประวตั ผิ ู้แตง่ เรอ่ื ง มหาเวสสันดร ประวัตผิ ู้แตง่ เรื่อง มหาเวสสนั ดร ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ชาดก ชาดก
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน
กลุ่ม
สังเกตความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มี แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึง
วินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ ม่นั ในการทำงาน ประสงค์
238
ชอ่ื ..................................................................................................ชน้ั ............เลขที่...............
ใบงาน เรอ่ื ง มหาเวสสนั ดรชาดก
คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนเขียนสรุปความเป็นมาและประวัติผ้แู ตง่ เรอ่ื ง มหาชาตหิ รอื มหาเวสสนั ดรชาดก
239
ชอ่ื ..................................................................................................ชน้ั ............เลขท่ี...............
เฉลยใบงาน เรอื่ ง มหาเวสสนั ดรชาดก
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเขียนสรปุ ความเปน็ มาและประวัติผู้แตง่ เรื่อง มหาชาติหรอื มหาเวสสนั ดรชาดก
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินิจของครูผสู้ อน)
240
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่
คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงใน
ชอ่ งทตี่ รงกับระดับคะแนน
การมี
ลำดบั ช่ือ-สกลุ การแสดง การ การทำงาน ความมี ส่วนรว่ ม
ท่ี ของผู้รบั การ ความ ยอมรบั ตามที่ นำ้ ใจ ในการ รวม
คดิ เหน็ ฟงั คนอน่ื ได้รบั ปรับปรงุ 20
ประเมิน ผลงาน คะแนน
มอบหมาย
กลมุ่
43214321432143214321
ลงชือ่ .................................................... ผูป้ ระเมนิ
................ /................ /................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ำกวา่ 10 ปรบั ปรงุ
241
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 35
รายวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน รหัส ท31102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
โรงเรียน โสภณวรคุณวทิ ยา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2565
หนว่ ยการเรยี นท่ี 8 เรอ่ื ง มหาชาติหรอื มหาเวสสันดรชาดก
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 35 สรปุ เน้ือหาและคำศพั ท์ เวลา 1 ชว่ั โมง/คาบ
ผูส้ อน นางสาวสนุ สิ า ตุน่ คำ
วันทส่ี อน : วัน........................ ที.่ ...................... เดือน .................................พุทธศักราช ...................
1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด
การศึกษาเรื่อง มหาชาติหรือมหาเวสสันดรชาดก เป็นบทประพันธ์ท่ีมีคุณค่าท้ังด้านเน้ือหา ด้าน
วรรณศิลป์ และด้านสงั คม ซึง่ การที่จะเข้าใจเนือ้ หาของเรอื่ งไดน้ ัน้ จำเป็นตอ้ งรคู้ ำศัพท์ท่ีปรากฏอยูใ่ นเรอื่ ง เพื่อ
จะเขา้ ใจเนื้อหาของเรื่องไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
2. ตวั ชี้วัด / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์
เบอ้ื งตน้
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความหมายของคำศพั ท์ต่างๆ ในเรอื่ ง มหาชาติหรอื มหาเวสสนั ดรชาดก ได้
3. สาระการเรียนรู้
หลกั การวิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์วรรณกรรมเบื้องตน้
- การพิจารณาเนือ้ หาและกลวิธีในวรรณกรรม
4. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั ที่ 1 นำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครตู ิดบตั รคำชอ่ื ตัวละครในเร่ือง มหาชาตหิ รอื มหาเวสสันดรชาดก หน้าชัน้ เรยี น แลว้ ให้นักเรยี น
ชว่ ยกนั พิจารณาบัตรคำว่า ตัวละครดังกลา่ วกลบั ชาติมาเกิดเป็นใครบ้าง
2. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการตอบของนกั เรียน
ข้ันท่ี 2 ลงมือปฏิบตั ิ
1. ครูให้นักเรยี นกลุ่ม ร่วมกันศกึ ษาความร้เู รอื่ ง มหาชาติหรือมหาเวสสันดรชาดก จากหนังสอื เรยี น
พร้อมค้นหาคำศัพท์ยากและความหมายของคำศัพท์ต่าง ๆ ท่ีปรากฏในเร่ือง จากหนังสือเรียน พจนานุกรมฯ
ห้องสมุด และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ
2. นกั เรียนแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันอธบิ ายความรู้ทีไ่ ด้จากการศึกษาใหเ้ พือ่ นในกลุ่มฟงั แล้วซักถาม
ขอ้ สงสยั และอธิบายจนทกุ คนในกลมุ่ มีความเขา้ ใจชดั เจนตรงกัน
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการศึกษา พร้อมทั้งความหมายของคำศัพท์ที่ปรากฏใน
เร่ือง หน้าชั้นเรียน โดยให้นักเรียนกลุ่มอ่ืน ๆ เป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้อง และจดบันทึกความหมายของ
คำศัพท์ต่าง ๆ เพ่อื ไวท้ บทวนความรู้
242
4. ครใู ห้นักเรียนแต่ละกลุ่มจบั คูก่ ันเป็น 2 คู่ จากนั้นครูแจกบัตรคำศัพท์ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคู่ แล้วให้
แต่ละคู่ผลดั กนั อธบิ ายความหมายของคำศพั ทท์ ีไ่ ด้รบั
5. นักเรียนกลับเข้ากลุ่มเดิม (4 คน) แล้วร่วมกันอภิปรายความหมายของคำศัพท์ เพื่อความเข้าใจ
กระจ่างชดั เจนครแู นะนำเพิ่มเติม
ขน้ั ที่ 3 สรปุ
1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอเร่ืองย่อและตัวอย่างคำศัพท์ยากพร้อม
ความหมาย หน้าชนั้ เรยี น โดยครูและเพอื่ นนกั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและใหข้ ้อเสนอแนะ
2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ เน้อื หาและคำศพั ท์ จากเร่ือง มหาชาติหรอื มหาเวสสันดรชาดก
5. ภาระชน้ิ งาน
-
6. สือ่ การเรยี นรู้
- หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : วรรณคดแี ละวรรณกรรม ม.4
- บัตรคำชอ่ื ตวั ละคร บัตรคำศพั ท์
7. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
กลุม่
สงั เกตความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ มี แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
วนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มั่นในการ ประสงค์
ทำงาน
243
บัตรคำชือ่ ตวั ละคร
พระเวสสนั ดร พระเจ้ากรงุ สญชัย
พระนางผุสดี พระนางมทั รี
พระชาลี พระกัณหา
ชชู ก นางอมติ ตดา
พระอจตุ ฤาษี พระเวสสุกรรม
พรานเจตบุตร
244
สุคนธชาติ ทศพร
เฉนยี น กำเลาะ
ดาวดึงส์ บารมี
ทกุ ลู เบญจวคั คีย์
พเนจร สังสารวฏั
ปริโยสาน โบกขรพรรษ