รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Final Report)
ภายใต้การดำเนนิ งานโครงการขับเคลอ่ื นยทุ ธศาสตร์ที่ 2 เชงิ รุกฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563
โครงการ การพัฒนาศกั ยภาพการสร้างเสรมิ สุขภาพของบคุ ลากรมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
สำหรบั การขบั เคลือ่ นสมู่ หาวทิ ยาลัยสขุ ภาพ
(Capacity Building on Health Promotion of Chiang Mai University’s
Staff for Moving to Healthy University)
คณะดำเนนิ การโครงการ
รองศาสตราจารย์ ดร.วณชิ า พึง่ ชมภู รองศาสตราจารย์ ธีรภัทร วรรณกลุ
รองศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์ บุญเชยี ง อาจารย์ ดร. ศิวพร สุกฤตานนท์
ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร. วราวรรณ อุดมความสุข ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อรวิชย์ ถนิ่ นกุ ลู
ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ทพญ. ดร. ปิยะนารถ จาติเกตุ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ชาลินี สุวรรณยศ
ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร. ธนยี า เจตยิ านุกรกุล ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. กรรณิกา เทยี รฆนิธกิ ลู
ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. พัชรนิ ทร์ ไชยสุรินทร์ นางสาวรติยา วรี ะคำ
ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. วนั เพญ็ ทรงคำ
ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. ร.ต.อ.หญงิ ฐิติมา สุขเลิศตระกูล
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สัตวแพทยห์ ญิง ดร.กรรณิการ์ ณ ลำปาง
รองศาสตราจารย์ ดร.นงเยาว์ เกษตรภบิ าล
20 มกราคม 2564
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่
บทสรปุ ผ้บู ริหาร
การพัฒนาศักยภาพการสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำหรับการขับเคลื่อนสู่
มหาวิทยาลัยสุขภาพ (Healthy CMU) โดยพัฒนากิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพและศักยภาพของบุคลากรใน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งบุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุนให้สามารถดูแลตนเองเพือ่ ป้องกันการเกิดโรคไม่
ติดต่อเรื้อรังที่พบบ่อยในวัยทำงาน ลดอุบัติการณ์ของการเกิดปัญหาสุขภาพ ภาวะทุพพลพลภาพเมื่อเข้าสู่วัย
สูงอายุ เพื่อนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ
เตรยี มความพรอ้ มรองรบั เข้าสู่วัยเกษียณอยา่ งมคี ุณภาพในอนาคต
จากการสืบค้นข้อมูลด้านสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้น พบว่ายังไม่มีการจัดทำระบบ
ฐานข้อมูลสุขภาพท่ีชัดเจน รวมถึงมีการสำรวจข้อมูลสุขภาพของบุคคลากรในบางคณะฯ และ ข้อมูลกระจัด
กระจายไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และยังพบว่าเป็นการยากที่หน่วยงานหรือคณะฯ จะให้ข้อมูลสุขภาพของ
บุคคลากรตนเองเนื่องจากเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างบอบบางและมีผลต่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล ทาง
ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการนี้จึงเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพ และการ
ส่ือสารประชาสมั พนั ธร์ ะบบฐานขอ้ มลู รวมถึงขา่ วสารความรู้กิจกรรมเก่ียวกับการสร้างเสรมิ สุขภาพทด่ี ีแก่บุคลากร
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อเป็นการปอ้ งกันความเสี่ยงท่ี
จะเกิดจากโรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอ้ื รัง ไดแ้ ก่ ความดนั โลหิตสูง เบาหวาน ไขมนั ในเลอื ดสงู หวั ใจ และความเครียด ทม่ี ปี จั จัย
เกย่ี วขอ้ งกบั การปฏบิ ตั ิงาน โดยมจี ุดม่งุ หมายให้เกดิ การมีส่วนรว่ ม เลง็ เห็นความสำคญั ในการสร้างเสรมิ สขุ ภาพเพ่ือ
บุคคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกคนจะมีสุขภาพที่ดี ปลอดภัยจากอันตรายและลดภาวะแทรกซ้อนของโรคไม่
ติดต่อเรื้อรัง ภายใต้การเคารพสิทธิส่วนตัวในการไม่นำข้อมูลมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ การขออนุญาตที่จะ
ดำเนินการรวบรวมข้อมูลและนำเสนอในภาพรวมทั้งมหาวทิ ยาลัยเพือ่ นำไปใช้ในเชิงนโยบาย และการจัดกิจกรรม
สขุ ภาพทีม่ ปี ระโยชนแ์ กบ่ คุ ลากร ท้ังน้ีกระบวนการจะดำเนินการโดยผ่านกระบวนการสรา้ งความตระหนัก และการ
จัดกิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ นอกจากนี้เป็นอีกบทบาทของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมสุขภาพของบุคลากร
รวมถงึ ชมุ ชนใกล้เคยี งจากการดำเนินโครงการสร้างเสริมพัฒนาศกั ยภาพของบุคลากรในมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ การ
มีส่วนร่วมในการพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยสุขภาพดี ลดอุบัติการณ์ของการเกิดปัญหาสุขภาพ ภาวะทุพพลพลภาพ
ของบุคลากรเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชีย งใหม่
ในการทำงาน และสามารถเตรียมตัวรองรับเขา้ สูว่ ยั เกษยี ณได้อยา่ งเหมาะสม และเนื่องจากมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่
ในฐานะเปน็ เครอื ข่ายมหาวิทยาลัยอาเซยี น ASEAN University Network (AUN) และ AUN-Health Promotion
Network (AUN-HPN) มีนโยบายเพื่อเสริมสร้างความสามารถของมหาวิทยาลัยและขับเคลื่อนสู่การเป็น
"มหาวิทยาลัยสุขภาพ" ภายใต้กรอบมหาวิทยาลัยสุขภาพ หรือ Health University Framework ซึ่งเป็นทิศ
ทางการขับเคลื่อนไปสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยสุขภาพ การพัฒนามหาวิทยาลัยเพื่อเป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสริม
สุขภาพ มีเป้าหมายเพือ่ ให้บุคลากรและนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลยั มสี ุขภาพท่ีสมบูรณ์แข็งแรง จากการเข้าร่วม
โครงการ/กิจกรรมกีฬา และการออกกำลังกายที่มหาวทิ ยาลยั จดั ขน้ึ แนวคิดของการพัฒนาสกู่ ารเป็นมหาวิทยาลัย
สร้างเสริมสขุ ภาพ ซ่งึ จะต้องเกิดจากการรว่ มมือกันของทุกภาคส่วน ต้ังแตผ่ กู้ ำหนดนโยบาย คอื ผ้บู ริหาร บุคลากร
ก
และนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัย ที่จะกำหนดแนวทางวิธีการและเป้าหมายในการสรา้ งเสริมสุขภาพ ซึ่งจะเป็น
สว่ นสำคัญในการส่งเสรมิ และสนับสนุนการมีคณุ ภาพชวี ติ ทีด่ ี
ดังนั้นโครงการพัฒนาศกั ยภาพบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สูก่ ารขับเคลื่อนสมู่ หาวิทยาลยั สุขภาพจะทำ
ให้เกิดต้นแบบการสร้างเสริมสขุ ภาพของบุคลากรในสถาบันการศึกษาและสามารถถ่ายทอดให้สถาบนั ต่าง ๆ หรือ
พน้ื ทีใ่ กล้เคียง ท้ังในระดบั ภมู ิภาค และประเทศ โดยกุญแจสำคญั คือการดงึ ศักยภาพของบุคคล การมีส่วนร่วนร่วม
การสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจนำไปสู่ความรอบรู้ทางสุขภาพ และความสามารถในการดูแลสุขภาพตนเองและคนรอบ
ข้าง ภายใต้หลักฐานเชิงประจักษ์จากงานวิจัยและ นวัตกรรม เพื่อการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สู่
มหาวิทยาลัยสุขภาพทม่ี ปี ระสิทธิภาพ ประสทิ ธิผล และสามารถพฒั นาตอ่ ยอดไดใ้ นปตี อ่ ไป
รองศาตราจารย์ ดร. วณชิ า พงึ่ ชมภู
มกราคม 2564
ข
รายงานแผน-ผลการดำเนินโครงการภายใต้การขับเคลอื่ นยุทธศาสตร
ตามแผนพฒั นาการศกึ ษามหาวิทยาลยั เชียงใหม่ ระยะ
สว่ นงาน: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่
โครงการ: การพฒั นาศักยภาพการสรา้ งเสริมสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาล
Building on Health Promotion of Chiang Mai University’s Staff fo
เป้าหมายผลผลิต งบประ ห
มาณ
ตวั ชว้ี ดั เปา้ หมายผลผลติ
กิจกรรมที่ 1 : การวิเคราะห์ และระดมความคิดเห็น 234,000
เพ่อื จัดทำแผน และการดำเนนิ โครงการ 18,000
216,000
- จัดประชมุ วางแผนประเดือน มกราคม 2563- 18,000 รา
รา
ธนั วาคม 2563 จำนวน 12 ครง้ั แผน 216,000
- จ้างผู้ประสานงานโครงการประเดือน มกราคม 2563-
ธนั วาคม 2563 จำนวน 1 คน แผน
- จัดประชุมวางแผนประเดือน มกราคม 2563-
ธนั วาคม 2563 จำนวน 12 ครง้ั ประชมุ กลมุ่ ย่อย
จำนวน 2 ครงั้ ผล
- จ้างผู้ประสานงานโครงการประเดือน มกราคม 2563
- ธันวาคม 2563 จำนวน 1 คน ผล
ค
ร์ที่ 2 เชิงรกุ : นวัตกรรมด้านอาหารและสุขภาพ และการดูแลผู้สงู อายุ
ะท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2564) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
ลัยเชยี งใหม่สำหรับการขบั เคลือ่ นสู่มหาวิทยาลัยสุขภาพ (Capacity
or Moving to Healthy University)
หน่วยนบั เป้าหมายผลผลติ
ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 2 ไตรมาส ไตรมาส รวม
1 ที่ 3 ท่ี 4
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
บาท
ายงานการ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ 12
ประชุม 1
คน
ายงานการ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 14
ประชมุ
คน
1
ค
เปา้ หมายผลผลิต งบประ ห
มาณ
ตวั ชวี้ ัดเป้าหมายผลผลิต
กิจกรรมท่ี 2: การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพ
(Developing of the Data Health Risk
Assessment System)
พฒั นาระบบสารสนเทศสขุ ภาพสำหรับบุคลากร 724,100
มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ในการขับเคลือ่ นสู่มหาวทิ ยาลัย
สุขภาพ 100,000
100,000
- กจิ กรรมที่ 1 : การวิเคราะห์ และระดมความคิดเห็น 47,000
47,000
เพือ่ หาขอ้ กำหนดการพฒั นาระบบสารสนเทศสุขภาพ
มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ แผน
- กจิ กรรมที่ 1 : การวเิ คราะห์ และระดมความคิดเห็น
เพ่ือหาข้อกำหนดการพัฒนาระบบสารสนเทศสุขภาพ
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ผล
- กจิ กรรมที่ 2 : การจดั ทำแผนการพฒั นาระบบ ฟ
ฟ
สารสนเทศสขุ ภาพมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ แผน
- กจิ กรรมท่ี 2 : การจดั ทำแผนการพัฒนาระบบ
สารสนเทศสขุ ภาพมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ผล
ง
หนว่ ยนับ เปา้ หมายผลผลิต
ไตรมาสท่ี ไตรมาสที่ 2 ไตรมาส ไตรมาส รวม
1 ที่ 3 ที่ 4
1 23 4 5 6 7 8 9 10 11 12
ฟงั ก์ชัน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 5
ฟังก์ชัน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 4
ฟงั กช์ นั / ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ 1
รูปแบบ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ 1
ฟังกช์ นั /
รูปแบบ
ง
เป้าหมายผลผลิต งบประ ห
มาณ
ตวั ชี้วดั เปา้ หมายผลผลติ
- กิจกรรมท่ี 3 :พัฒนาระบบสารสนเทศสขุ ภาพ 1 302,100 ร
ระบบ / เว็บไซต์ 1 ระบบ (ปรับปรงุ 3 ครัง้ ) แผน 302,100
10,000
- กจิ กรรมท่ี 3 :พัฒนาระบบสารสนเทศสขุ ภาพ 1
ระบบ / เว็บไซต์ 1 ระบบ (ปรับปรุง 3 ครง้ั ) ผล
- กจิ กรรมท่ี 4 : การทดสอบและการใช้งานระบบ แผน
- กิจกรรมที่ 4 : การทดสอบและการใชง้ านระบบ ผล 10,000 ร
- กจิ กรรมท่ี 5 : การดูแลรักษาระบบ และการส่งออก 130,000 ร
130,000 ร
ข้อมูล (12 เดือน) แผน 55,000 ร
55,000 ร
- กจิ กรรมท่ี 5 : การดแู ลรักษาระบบ และการสง่ ออก
จ
ขอ้ มลู (12 เดอื น) ผล
- กิจกรรมที่ 6 : การสรปุ ผลข้อมูลสุขภาพรายเดอื นและ
การถา่ ยทอดเทคโนโลยี ใหก้ องบริหารงานบคุ คล แผน
- กจิ กรรมที่ 6 : การสรุปผลข้อมลู สุขภาพรายเดือนและ
การถ่ายทอดเทคโนโลยี ใหก้ องบรหิ ารงานบุคคล ผล
หนว่ ยนบั เปา้ หมายผลผลติ
ระบบ
ไตรมาสท่ี ไตรมาสท่ี 2 ไตรมาส ไตรมาส รวม
1 ที่ 3 ที่ 4
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ 1
ระบบ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1
รปู แบบ/ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1/
รอ้ ยละ
ร้อยละ
รปู แบบ/ 5
รอ้ ยละ
รายการ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1/ร้อย
ละ 1.1
✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ 2
รายการ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 2
รายงาน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1
รายงาน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1
จ
เป้าหมายผลผลติ งบประ ห
มาณ
ตัวชวี้ ัดเป้าหมายผลผลิต
- กจิ กรรมที่ 7 : ค่าทำโฆษณาประชาสมั พนั ธก์ ารใช้งาน 80,000 ร
ระบบ แผน ร
- กจิ กรรมที่ 7 : คา่ ทำโฆษณาประชาสัมพันธก์ ารใช้งาน 49,999.73
ระบบ ผล
กจิ กรรมที่ 3: การพฒั นานวัตกรรมการคดั กรอง และ 1,743,200
เฝา้ ระวงั ภาวะสุขภาพเบือ้ งต้นด้วยตนเอง (Self-
Monitoring Innovation)
- กิจกรรมที่ 1: จดั ทำแบบสอบถามและการพัฒนาระบบ 1,379,000
แผน
- การจัดทำแบบสอบถามเพื่อสำรวจข้อมูลสขุ ภาพ 25,000
25,000
เบือ้ งต้นทวั่ ไปฯ แผน
- การจดั ทำแบบสอบถามเพื่อสำรวจข้อมลู สขุ ภาพ
เบอื้ งต้นท่วั ไปฯ ผล
- ระบบดจิ ิทัลแพลตฟอร์มฯ แผน 450,000.00
- ระบบดจิ ิทลั แพลตฟอรม์ ฯ ผล 450,000.00
- ตน้ ฉบบั คมู่ ือการใชอ้ ปุ กรณ์อจั ฉริยะฯ แผน 250,000.00
ฉ
หนว่ ยนับ เปา้ หมายผลผลติ
รายงาน
ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 2 ไตรมาส ไตรมาส รวม
1 ท่ี 3 ที่ 4
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ 1
รายงาน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1
ครง้ั ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1
ครั้ง x x x x ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1
ระบบ x x x x x x ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1
ระบบ x x x x x x x x x x x ✓ 1*
ระบบ x x x x x 1 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1
ฉ
เป้าหมายผลผลติ งบประ ห
มาณ
ตวั ชว้ี ดั เปา้ หมายผลผลติ
- ตน้ ฉบบั ค่มู อื การใชอ้ ปุ กรณอ์ จั ฉรยิ ะฯ ผล 250,000.00
- เครอ่ื งวัดอตั ราการเตน้ ของหัวใจ แผน 597,600.00
ผล 597,600.00
- เครื่องวดั อตั ราการเตน้ ของหวั ใจ
- ค่าจา้ งเหมาเก็บข้อมลู สุขภาพฯ แผน 24,000
- คา่ จา้ งเหมาเก็บข้อมูลสุขภาพฯ ผล 5,000
- กิจกรรมท่ี 2: ใหค้ วามรู้และสร้างความเข้าใจ แผน 364,200
- กจิ กรรมที่ 2: ให้ความร้แู ละสร้างความเข้าใจ ผล 139,689.82
กจิ กรรมที่ 4: กิจกรรมรณรงคด์ า้ นการสร้างเสริม
สุขภาพกาย สำหรบั บุคลากรอย่างต่อเน่อื งจัดกจิ กรรม
รณรงค์ในวงกว้าง (Mass Communication)
กิจกรรมท่ี 1: การจดั กิจกรรมเปิดโครงการและ 200,000 ช้นิ
ประชาสมั พันธโ์ ครงการ 100,000
- ผลิตสือ่ และวางแผนการประชาสมั พนั ธ์ 8 ช้นิ งาน
- จดั กิจกรรมรณรงค์เพื่อสรา้ งการรบั รูแ้ ละกระตนุ้ การมี
ส่วนร่วม 7 ครงั้
ช
หน่วยนับ เป้าหมายผลผลิต รวม
ระบบ ไตรมาสที่ ไตรมาสท่ี 2 ไตรมาส ไตรมาส
1 ท่ี 3 ท่ี 4
ชุด
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
ชดุ x x x x x x x x x x x ✓ 1*
ครง้ั x x x x x x ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 400
คร้งั x x x x x x x x x x x ✓ 400*
ครั้ง
คร้ัง x x x x ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ 1
x x x x ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ 1
✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ 4
x x x x ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ 4
บาท
นงาน/คร้ัง ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 8/7
ช
เปา้ หมายผลผลิต งบประ ห
มาณ
ตวั ชวี้ ดั เปา้ หมายผลผลิต
แผน
- ผลิตสือ่ และวางแผนการประชาสมั พนั ธ์ 9 ชิ้นงาน 100,000 ชิ้น
- จดั กจิ กรรมรณรงคเ์ พื่อสร้างการรับรูแ้ ละกระตุ้นการมี 57,000
44,500
ส่วนร่วม 7 ครงั้ ผล
12,500
กจิ กรรมที่ 2.1 3 อ.: อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์” 44,500
: อาหาร
- กจิ กรรม อบรมใหค้ วามรเู้ ร่ืองอาหารและสมดลุ ทาง
โภชนาการ พรอ้ มทัง้ สาธิตการทำอาหารเพ่ือสุขภาพ
อยา่ งง่าย ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรม 100 คน
- กิจกรรม “ปรับพฤติกรรมชีวติ Fit & Firm”
ผ้เู ขา้ รว่ มกิจกรรม 100 คน
แผน
- กจิ กรรม อบรมใหค้ วามรเู้ ร่ืองอาหารและสมดุลทาง
โภชนาการ พร้อมทั้งสาธติ การทำอาหารเพอ่ื สุขภาพ
อยา่ งง่าย ผูเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรม 124 คน
12,469
ซ
หนว่ ยนบั เป้าหมายผลผลิต
ไตรมาสที่ ไตรมาสท่ี 2 ไตรมาส ไตรมาส รวม
1 ท่ี 3 ท่ี 4
1 23 4 5 6 7 8 9 10 11 12
นงาน/คร้งั ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 9/7
บาท
คน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 100
100
คน x x x x x x ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 124
129
ซ
เปา้ หมายผลผลิต งบประ ห
มาณ
ตวั ช้วี ัดเปา้ หมายผลผลติ
- กิจกรรม “ปรับพฤติกรรมชีวิต Fit & Firm”
ผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรม 129 คน
ผล
กจิ กรรมท่ี 2.2 3 อ.: อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์” 98,000
: ออกกำลังกาย 24,000
- กิจกรรม อบรมใหค้ วามรู้เร่ืองการออกกำลังกายท่ี 26,000
38,000
ถูกต้อง และการสรา้ งแรงจงู ใจในการปรับเปลี่ยน 17,100
พฤติกรรมการออกกำลังกาย และทดสอบสมรรถภาพ
ทางกาย แปลผล และให้คำแนะนำเกีย่ วกับการดแู ล
สุขภาพ ผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรม 100 คน แผน
- กิจกรรม กจิ กรรม“เดนิ -ว่งิ ล่าแต้ม CMU Walk
Together” ผ้เู ข้าร่วมกิจกรรม 100 คน แผน
- กจิ กรรม ออกให้ถูกทา่ สวยไดต้ ามวัย ผูเ้ ขา้ รว่ ม
กจิ กรรม 100 คน แผน
- กจิ กรรม อบรมให้ความรเู้ รื่องการออกกำลงั กายท่ี
ถกู ต้อง และการสรา้ งแรงจูงใจในการปรบั เปลยี่ น
พฤติกรรมการออกกำลังกาย และทดสอบสมรรถภาพ
ฌ
หนว่ ยนบั เปา้ หมายผลผลิต
ไตรมาสท่ี ไตรมาสที่ 2 ไตรมาส ไตรมาส รวม
1 ท่ี 3 ที่ 4
1 23 4 5 6 7 8 9 10 11 12
บาท
คน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 100
คน 100
คน 100
คน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 64
ฌ
เป้าหมายผลผลติ งบประ ห
มาณ
ตวั ช้ีวดั เป้าหมายผลผลติ
ทางกาย แปลผล และให้คำแนะนำเกยี่ วกับการดูแล
สุขภาพ ผ้เู ขา้ รว่ มกจิ กรรม 64 คน ผล 21,061
30,100
- กจิ กรรม กิจกรรม“เดนิ -วง่ิ ล่าแตม้ CMU Walk
45,000
Together” ผ้เู ขา้ ร่วม 110 คน ผล 15,000
- กิจกรรม ออกให้ถกู ทา่ สวยไดต้ ามวัย ผู้เข้าร่วม 30,000
15,000
กิจกรรม 114 คน ผล 30,000
กจิ กรรมท่ี 2.3 3 อ.: อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ”์
: อารมณ์
- กจิ กรรม การบรรยายให้ความรู้เกยี่ วกับการพฒั นา
อารมณ์ไปสกู่ ารมีสขุ ภาพใจท่ีดี ผู้เขา้ รว่ มกิจกรรม
100 คน แผน
- กิจกรรม Healthy@CMU : พธุ หรรษา ผ้เู ข้ารว่ ม
กจิ กรรม 30 คน แผน
- กจิ กรรม การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการพฒั นา
อารมณ์ไปสกู่ ารมีสขุ ภาพใจท่ีดี ผูเ้ ข้ารว่ มกิจกรรม
58 คน ผล
ญ
หน่วยนับ เปา้ หมายผลผลิต
ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 2 ไตรมาส ไตรมาส รวม
1 ที่ 3 ที่ 4
1 23 4 5 6 7 8 9 10 11 12
คน 110
คน 114
บาท
คน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 100
คน 30
คน x x x x x x ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 58
คน 75
ญ
เป้าหมายผลผลติ งบประ ห
มาณ
ตวั ชี้วดั เปา้ หมายผลผลติ
- กจิ กรรม Healthy@CMU : พธุ หรรษา ผู้เขา้ ร่วม
กจิ กรรม 75 คน ผล
กิจกรรมท่ี 2.4 : การพัฒนา MOOC ลดความเสีย่ ง 353,000
สำหรบั โรคความดนั โลหิตสงู โรคเบาหวาน และโรค 353,000
ไขมนั ในเลอื ดสงู 353,000
- การพฒั นาหลักสูตร MOOC ลดความเสย่ี ง สำหรับโรค ห
หน
ความดนั โลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคไขมนั ในเลอื ด
ห
สงู 5 หนว่ ยเรียนรู้ แผน หน
- การพัฒนาหลักสูตร MOOC ลดความเสย่ี ง สำหรบั โรค
ความดนั โลหติ สูง โรคเบาหวาน และโรคไขมันในเลือด
สูง 5 หนว่ ยเรียนรู้
-ส่อื การเรยี นการสอนออนไลนส์ าหรบั มหาชน
(MOOC) เรอ่ื ง รอบรูด้ า้ นสขุ ภาพ: โรคไม่ติดตอ่ เรือ้ รงั
(NCDs) เพ่ือการสง่ เสรมิ สขุ ภาพสาหรบั บคุ ลากร
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ผล
ฎ
หนว่ ยนับ เป้าหมายผลผลิต
ไตรมาสที่ ไตรมาสท่ี 2 ไตรมาส ไตรมาส รวม
1 ท่ี 3 ที่ 4
1 23 4 5 6 7 8 9 10 11 12
บาท
หลกั สูตร/ x x x x x x ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1/5
น่วยเรียนรู้
หลกั สูตร/ x x x x x x ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1/5
น่วยเรยี นรู้
ฎ
เปา้ หมายผลผลิต งบประ ห
มาณ
ตวั ช้วี ัดเป้าหมายผลผลิต
กิจกรรมท่ี 5: กจิ กรรมการสรา้ งแกนนำสุขภาพ 779,000 ห
มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ ค
454,000 w
- การพัฒนาหลักสูตรอบรมแกนนำสขุ ภาพ
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ 1 50,000 ห
225,000 ค
- การพัฒนาคู่มอื แกนนำสุขภาพมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ 50,000 w
- การจัดอบรมการสรา้ งแกนนำสุขภาพ 454,000
มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่
50,000
- จัดทำเวป็ ไซด์ การเชื่อมต่อ VDO 225,000
- การพัฒนาหลกั สูตรอบรมแกนนำสุขภาพ 50,000
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
- การพัฒนาคู่มือแกนนำสุขภาพมหาวิทยาลยั เชียงใหม่
- การจดั อบรมการสร้างแกนนำสุขภาพ
มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่
- จดั ทำเว็ปไซด์ การเช่ือมต่อ VDO ผล
ฏ
หน่วยนับ ไตรมาสท่ี เปา้ หมายผลผลิต
บาท 1
ไตรมาสท่ี 2 ไตรมาส ไตรมาส รวม
1 23 ที่ 3 ที่ 4
4 5 6 7 8 9 10 11 12
หลักสูตร ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1
คู่มือ/เล่ม ✓ ✓x 1/150
2/4
อบรม/ 1
webinar
x ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 1/1
เว็ปไซด์
1/150
หลกั สูตร/ 2/4
MOOC
1
ค่มู ือ/เล่ม
อบรม/
webinar
เวป็ ไซด์
ฏ
เปา้ หมายผลผลิต งบประ ห
มาณ
ตัวช้วี ดั เปา้ หมายผลผลิต
กิจกรรมท่ี 6 : กิจกรรมการสรา้ งเสรมิ พลงั งานอำนาจ 288,000 ค
(Empowerment) “Health Talk”ปีท่ี 1 288,000 ค
288,500
- การพัฒนาส่ือ Health Talk 6 คลปิ วดี ีโอ 200,000
แผน 200,000
- การพัฒนาสอื่ Health Talk 4 คลปิ วีดโี อ 136,360
ผล
กิจกรรมที่ 7: กิจกรรมรณรงค์ดา้ นการสรา้ งเสรมิ
สุขภาพใจสำหรบั บคุ ลากร - การหยดุ ความเครียดในที่
ทำงาน “Stop Staff Stress”
-กจิ กรรมรณรงคด์ ้านการสร้างเสริมสุขภาพใจสำหรบั
บุคลากร การหยดุ ความเครียดในทีท่ ำงาน “Stop Staff
Stress” การจัดอบรม การพัฒนาส่อื ประชาสัมพันธ์
แบบสำรวจความเครยี ด กจิ กรรมสำรวจความเครียด 5
ชน้ิ งาน แผน
-กจิ กรรมรณรงค์ดา้ นการสร้างเสรมิ สขุ ภาพใจสำหรับ
บคุ ลากร การหยดุ ความเครียดในทท่ี ำงาน “Stop Staff
Stress” การพัฒนาส่ือประชาสมั พันธ์ แบบสำรวจ
ฐ
หน่วยนับ ไตรมาสที่ เป้าหมายผลผลติ
บาท 1
ไตรมาสที่ 2 ไตรมาส ไตรมาส รวม
1 23 ท่ี 3 ที่ 4
4 5 6 7 8 9 10 11 12
คลปิ วีดีโอ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 6
คลปิ วดี ีโอ ✓ ✓ x x ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 6
บาท
ช้นิ งาน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 5
ชิน้ งาน ✓ ✓ x x ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 5
ฐ
เป้าหมายผลผลติ งบประ ห
มาณ
ตัวชี้วัดเป้าหมายผลผลิต
ความเครยี ด กจิ กรรมสำรวจความเครียด 3 ช้นิ งาน 284,700
ผล 284,700
กิจกรรมท่ี 8: คลินิกจัดการความเครยี ด(Stress 169,449
Management Clinic)
- การใหค้ วามรเู้ ร่อื งความเครียดและการผ่อนคลาย
ความเครียด การฝึกการใหก้ ารปรึกษา (Training for
the trainer) จดั ทำห้องเพื่อผ่อนคลายความเครียด
จดั ทำหอ้ งบริการให้การปรกึ ษา 5 ช้นิ งาน
แผน
- การให้ความร้เู รอื่ งความเครียดและการผ่อนคลาย
ความเครยี ด การฝึกการใหก้ ารปรกึ ษา (Training for
the trainer) จดั ทำห้องเพื่อผอ่ นคลายความเครียด
จดั ทำหอ้ งบริการให้การปรึกษา 5 ช้ินงาน
ผล
ฑ
หน่วยนบั เป้าหมายผลผลติ
ไตรมาสที่ ไตรมาสท่ี 2 ไตรมาส ไตรมาส รวม
1 ท่ี 3 ที่ 4
1 23 4 5 6 7 8 9 10 11 12
บาท
ชน้ิ งาน ✓ ✓ x x x ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 5
ชนิ้ งาน ✓ ✓ x x x ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 5
ลงชื่อ.................................................................................หวั หนา้ โครงการ
(รองศาตราจารย์ ดร. วณิชา พึ่งชมภ)ู
วนั ท่ี 20 มกราคม 2564
ฑ
สรปุ ผลการเบกิ จา่ ยงบประมาณโครงการภายใตก้ ารขบั เคลอ่ื นยุทธศาสต
ตามแผนพฒั นาการศกึ ษามหาวิทยาลยั เชียงใหม่ ระยะ
สว่ นงาน: คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
โครงการ: การพฒั นาศกั ยภาพการสรา้ งเสรมิ สุขภาพของบคุ ลากรมหาวิทยาล
Building on Health Promotion of Chiang Mai University’s Staff fo
รายการ งบประมา
(บาท)
แผน
กจิ กรรมท่ี 1 : การวิเคราะห์ และระดมความคดิ เหน็ เพอ่ื จัดทำแผน และการดำ
งบดำเนินงาน 234,000 2
1. คา่ ใช้สอย 216,000 2
2. ค่าตอบแทน -
3. ค่าวสั ดุ 18,000
กิจกรรมท่ี 2 :การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพ (Developing of the Dat
โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศสุขภาพสำหรับบคุ ลากรมหาวิทยาลัยเชยี งใหม
งบดำเนนิ งาน 724,100 69
1. ค่าใช้สอย 312,000 3
2. คา่ ตอบแทน 324,000 3
3. คา่ สาธารณปู โภค 53,100 4
4. คา่ วัสดุ 35,000
กจิ กรรมที่ 3: การจดั ทำแบบสอบถามและตดิ ตามการใช้อุปกรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส
(Personal health care) (ปีท่ี 1)
งบดำเนนิ งาน 1,743,200 1,4
1. ค่าใชส้ อย 1,053,200 8
2. ค่าตอบแทน -
ฒ
ตร์ท่ี 2 เชงิ รุก: นวัตกรรมด้านอาหารและสุขภาพ และการดูแลผู้สูงอายุ
ะที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562
ลัยเชยี งใหม่สำหรับการขบั เคลอื่ นสู่มหาวทิ ยาลยั สุขภาพ (Capacity
or Moving to Healthy University)
าณ ผลการเบกิ จ่าย
) ไตรมาสท่ี 1 ไตรมาสท่ี 2 ไตรมาสที่ 3 ไตรมาสที่ 4
ผล 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
ำเนินโครงการ
234,000
216,000 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
-
18,000 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
ta Health Risk Assessment System)
ม่ในการขับเคลอื่ นสมู่ หาวิทยาลัยสุขภาพ
94,099.73
312,000 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
324,000 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
44,43.73 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
13,666 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
สแ์ บบสวมใส่ (Wearable Technology) ในการรกั ษาสขุ ภาพส่วนบคุ คล
467,289.82
841,610 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
-
ฒ
รายการ งบประมา
(บาท)
แผน
3. ค่าวสั ดุ 72,400 2
4. คา่ สาธารณูปโภค 20,000
4. ค่าครุภัณฑ์ 597,600 5
กิจกรรมท่ี 4: กจิ กรรมรณรงค์ด้านการสร้างเสรมิ สขุ ภาพกาย สำหรับบุคลากรอ
กิจกรรมที่ 4.1 การจัดกจิ กรรมเปดิ โครงการและประชาสัมพันธโ์ ครงการ
งบดำเนนิ งาน 200,000 2
1. คา่ ใช้สอย 74,000
2. ค่าตอบแทน 56,000
3. คา่ สาธารณปู โภค -
4. ค่าวัสดุ 70,000
กิจกรรมท่ี 4.2 กิจกรรม “กิจกรรม 3อ. อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ”์
งบดำเนินงาน 200,000 1
1.ค่าใชส้ อย 74,000
2. ค่าตอบแทน 56,000
3. ค่าสาธารณปู โภค -
4. ค่าวัสดุ 70,000
กิจกรรมที่ 4.3 การพัฒนา MOOC ลดความเส่ียง สำหรับโรคความดันโลหติ สูง
งบดำเนนิ งาน 353,000 3
1. ค่าใชส้ อย 268,000 2
2. คา่ ตอบแทน 45,000
3. ค่าสาธารณูปโภค -
4. คา่ วสั ดุ 40,000
ณ
าณ ผลการเบิกจ่าย
) ไตรมาสท่ี 1 ไตรมาสท่ี 2 ไตรมาสท่ี 3 ไตรมาสท่ี 4
ผล 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
28,079.82 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
-
597,600 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
อย่างต่อเนื่องจดั กิจกรรมรณรงค์ในวงกวา้ ง (Mass Communication)
200,000 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
74,000 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
56,000
✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
-
70,000
180,230 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
60,662 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
61,000 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
-
58,568 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
ง โรคเบาหวาน และโรคไขมนั ในเลอื ดสูง
353,000 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
268,000 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
45,000 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
-
40,000 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
ณ
รายการ งบประมา
(บาท)
แผน
กิจกรรมที่ 5: กิจกรรมการสร้างแกนนำสขุ ภาพมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
งบดำเนินงาน 779,000 7
1. คา่ ใชส้ อย 619,000 6
2. ค่าตอบแทน 120,000 1
3. ค่าสาธารณปู โภค -
4. ค่าวสั ดุ 40,000
กจิ กรรมที่ 6 : กิจกรรมการสรา้ งเสรมิ พลังงานอำนาจ
(Empowerment) “Health Talk”ปีท่ี 1
งบดำเนนิ งาน 288,000 2
1. คา่ ใชส้ อย 258,000 2
2. คา่ ตอบแทน 18,000
3. คา่ สาธารณูปโภค -
4. คา่ วัสดุ 12,000
กจิ กรรมท่ี 7: กิจกรรมรณรงค์ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
ใจสำหรบั บคุ ลากร - การหยุดความเครียดในท่ีทำงาน
“Stop Staff Stress”
งบดำเนนิ งาน 200,000 1
1. ค่าใช้สอย 74,000
2. คา่ ตอบแทน 56,000
3. คา่ สาธารณูปโภค -
4. ค่าวัสดุ 70,000
ด
าณ ผลการเบิกจ่าย
) ไตรมาสท่ี 1 ไตรมาสท่ี 2 ไตรมาสที่ 3 ไตรมาสท่ี 4
ผล 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
779,000 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
619,000 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
120,000 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
- ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
40,000
288,000 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
258,000 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
18,000
✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
-
12,000
136,360 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
74,000 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
43,259
19,101
ด
รายการ งบประมา
(บาท)
กจิ กรรมท่ี 8: คลินกิ จัดการความเครยี ด(Stress
Management Clinic) แผน
งบดำเนินงาน
1. คา่ ใช้สอย 284,700 1
2. คา่ ตอบแทน 38,000
3. ค่าสาธารณปู โภค 41,600
4. ค่าวัสดุ
5. ครภุ ัณฑ์ -
74,400
130,700
ต
าณ ผลการเบิกจา่ ย
) ไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 2 ไตรมาสท่ี 3 ไตรมาสที่ 4
ผล 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
169,449 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
38,000 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
41,600 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
- ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
56,405 ✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓
33,444
ลงชือ่ .................................................................................หวั หนา้ โครงการ
(รองศาตราจารย์ ดร. วณิชา พง่ึ ชมภ)ู
20 มกราคม 2564
ต
คำนำ
การสร้างเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้มพี ฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์เป็นส่งิ
สําคัญอีกประการหนึ่งในการขับเคลื่อนการเป็นมหาวิทยาลัยที่มีสุขภาวะที่ดี หรือมหาวิทยาลัยสุขภาพ (Healthy
University) จากความสำคัญและความจำเป็นของปญั หาด้านสุขภาพของบคุ ลากรวยั ทำงานใมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่
คณะทำงานจงึ เล็งเห็นความสำคัญในการสร้างเสริมพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้มีส่วน
ร่วมในการพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้เป็นมหาวิทยาลัยสุขภาวะที่ดี โดยการศึกษาภาวะสุขภาพ และ
พฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรทั้ง 2 กลุ่มได้แก่กลุ่มบุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุน เพื่อเป็น
ข้อมูลเบื้องต้นในการพัฒนากิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพและศักยภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้
สามารถดูแลตนเองเพือ่ ปอ้ งกนั การเกิดโรคไมต่ ดิ ต่อเรื้อรังท่พี บบ่อยในวัยทำงาน และเพ่อื ลดอบุ ัตกิ ารณข์ องการเกิด
ปัญหาสุขภาพ ภาวะทุพพลพลภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ นำไปสู่การเพ่ิม
ศักยภาพและประสิทธภิ าพของบุคลากรในมหาวทิ ยาลัยเชียงใหมใ่ นการทำงาน และสามารถเตรียมตัวรองรับเข้าสู่
วัยเกษยี ณได้อยา่ งเหมาะสม
การดำเนินกิจกรรมในภาพรวมให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ในระยะเวลา 2 ปี มีกการขับเคลื่อน
กระบวนการผา่ นตวั แทนบคุ ลากรในแต่ละคณะ หรือหนว่ ยงานต่างๆ ในมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ให้มสี ว่ นรว่ มในการ
ดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพอย่าง เป็นรูปธรรม พัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพของบุคลากรเพื่อให้เกิดการนำ
ข้อมูลมาใช้ประโยชน์สูงสุดในการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ และการวิเคราะห์แนวทางการดูแลสุขภาพท่ี
เหมาะสมทั้งในระดับมหาวิทยาลัย คณะ และบุคคล จัดกิจกรรมด้านการพัฒนาที่เน้นการสร้างเสริมสุขภาพของ
บุคลากรอย่างตอ่ เนอ่ื ง จดั กจิ กรรมรณรงค์ในวงกวา้ ง (Mass Communication) เพ่อื สร้างความรู้ ความเข้าใจการ
สร้างเสริมสุขภาพทั้งมหาวิทยาลัยโดยการจัดกิจกรรม สร้างความตระหนัก (Public Awareness) เพื่อนำไปสู่
ความตน่ื ตวั การรกั สขุ ภาพกาย และใจของบคุ ลากรในใมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่
คณะผู้จัดทำขอขอบพระคุณ หน่วยงานต่าง ๆที่ได้เข้ามาเป็นส่วนร่วมในการทำโครงการ และ
ขอขอบพระคุณทุนอุดหนุนการวิจัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แผนงานบูรณาการวิจัยและนวัตกรรม (งบประมาณ
แผ่นดิน) ประจำปีงบประมาณ 2563 ที่สนับสนุนงบประมาณ และงานโครงการในครั้งนี้ซึ่งจะเป็นก้าวเริ่มต้นท่ี
สำคญั แก่ บคุ ลากร อาจารย์ และนักศึกษาของมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่
คณะผจู้ ดั ทำ
มกราคม 2564
ถ
สารบญั หนา้
ก
บทสรุปผู้บริหาร ค
รายงานแผน-ผลการดำเนนิ โครงการฯ ฒ
รายงานแผน-ผลการใช้จา่ ยโครงการฯ ถ
คำนำ ท
สารบัญ น
สารบัญรปู ภาพ
บทท่ี 1 บทนำ 1
2
1.1 ขอ้ มูลท่ัวไปของโครงการ
1.2 เนอ้ื หาโครงการ 24
บทที่ 2 ผลการดำเนนิ โครงการ 48
2.1 ผลการดำเนินงานตามวตั ถปุ ระสงค์โครงการ (รายกจิ กรรม) 51
2.2 ผลการดำเนินงานตามระยะเวลาการดำเนินโครงการ 61
2.3 ผลการดำเนนิ งานตามตวั ช้วี ดั ผลผลติ ของโครงการ (Output) 62
2.4 ผลการดำเนินงานตามผลลพั ธข์ องโครงการ (Outcome) 63
2.5 ผลการเบิกจา่ ยงบประมาณโครงการ
2.6 ผลการดำเนนิ งานตามความเสีย่ งของโครงการ 65
บทที่ 3 สรุปผลการดำเนินโครงการ 70
3.1 สรุปผลการดำเนินงานตามตวั ช้วี ัดโครงการ 75
3.2 ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึน้ 80
3.3 ขอ้ เสนอแนะต่อโครงการ
3.4 แผนการดำเนนิ โครงการในปที ี่ 2 (2564)
ท
สารบญั (ต่อ) หน้า
119
เอกสารอ้างอิง
ภาคผนวก 122
4.1 เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัย 142
4.2 รา่ งนโยบายมหาวทิ ยาลัยเชียงใหมม่ หาวิทยาลัยสุขภาพ 145
4.3 ภาพประกอบการดำเนนิ กจิ กรรมโครงการ 195
4.4 ใบรายชือ่ พร้อมลายมือช่ือของผ้เู ขา้ รว่ มประชุม/อบรม/สัมมนา 208
4.5 รายงานการประชมุ ประจำเดอื นของโครงการ 297
4.6 บนั ทึกข้อความโครงการการพฒั นานวตั กรรมการคัดกรอง
และเฝา้ ระวังภาวะสขุ ภาพเบ้ืองตน้ ด้วยตนเอง 318
4.7 ประวตั ผิ ู้วจิ ัย
ธ
สารบัญรปู ภาพ
หน้า
รปู ที่ 1 แผนการพัฒนาการศึกษามหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ระยะที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) 4
รปู ที่ 2 Healthy University Model 14
รปู ที่ 3 Operation Process 14
รปู ที่ 4 Healthy CMU: Health Promotion Model 23
รปู ท่ี 5 คณะบคุ ลคากรศนู ยบ์ รกิ ารสุขภาพแหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ศกึ ษาแลกเปล่ียนเรยี นรโู้ ครงการฯ 196
รปู ที่ 6 กระเป๋าผ้าโครงการ Healthy CMU 147
รปู ท่ี 7 แก้วน้ำเก็บความเย็นโครงการ Healthy CMU 147
รูปท่ี 8 เข็มกลดั โครงการ Healthy CMU 148
รูปที่ 9 เล่ม SDG 148
รูปที่ 10 ผู้ใช้งาน (User) ใช้ CMU Account Login 149
รูปที่ 11 แบบประเมินความเสยี่ งดา้ นสุขภาพ 149
รปู ที่ 12 การทำแบบประเมนิ ความเส่ียงด้านสขุ ภาพ 150
รปู ที่ 13 การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซตโ์ ครงการไปยงั Line official / SMS 150
รปู ที่ 14 ผลการประเมินความเสยี่ งสขุ ภาพ 151
รปู ที่ 15 การใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ 151
รปู ที่ 16 การประมวลผลข้อมูลภาพรวมสุขภาพ จำแนกตามคณะ 152
รูปท่ี 17 การประมวลผลข้อมูลภาพรวมสขุ ภาพ จำแนกตามเพศและประเภทพนักงาน 152
รูปท่ี 18 การประมวลผลขอ้ มูลสขุ ภาพส่วนบคุ คล โดยมีการประมวลผลข้อมลู เชิงเปรยี บเทยี บ 153
รูปที่ 19 การใชง้ านฟังก์ชนั SMS เพื่อการแจง้ ข้าวสารโดยการจดั กล่มุ ผู้ทม่ี ีความเส่ยี งด้านต่าง ๆ 153
รูปท่ี 20 แบบประเมนิ คุณภาพชีวติ ขององค์การอนามัยโลกแบบยอ่ (WHOQOL-BREF) 154
รูปท่ี 21 ผลการประเมินคณุ ภาพชวี ติ ขององคก์ ารอนามัยโลกแบบย่อ (WHOQOL-BREF) 154
รปู ที่ 22 แบบประเมินพฤติกรรมสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (Health Promoting Lifestyle Profile II) 155
รปู ท่ี 23 ผลการประเมินพฤติกรรมสร้างเสริมสขุ ภาพ (Health Promoting Lifestyle Profile II) 155
รปู ที่ 24 ผลการประเมนิ ความเสีย่ งทัง้ 3 แบบประเมิน 156
รปู ที่ 25 การแสดงผล ข้อความส้ัน SMS ข้อมูลโครงการและการมีปฏิสมั พนั ธก์ ับผู้ใชง้ านระบบ 156
รูปท่ี 26 การแสดงผลข้อความผา่ น Line official สำหรบั การรายงานผลการประเมนิ สขุ ภาพของผใู้ ช้งาน 157
รปู ท่ี 27 แผ่นป้ายการโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ 158
รปู ท่ี 28 วิดีทศั นป์ ระชาสัมพันธ์ 159
รปู ท่ี 29 การเชื่อมต่อ CMU I Health กับเว็บไซตโ์ ครงการ Healthy CMU 160
รูปที่ 30 ภาพรวมของระบบแพลตฟอรม์ การดูแลสุขภาพด้วยตนเอง (CMU Smart Self-monitoring) 161
น
สารบัญรูปภาพ (ต่อ)
หน้า
รปู ที่ 31 การดาวน์โหลดแอปพลิเคชนั ผ่านทาง Google Play (ซา้ ย) และ App Store (ขวา) 161
รปู ท่ี 32 ตัวอยา่ งการแสดงผลบนแอปพลเิ คชนั บนมือถือ 162
รปู ที่ 33 ตวั อยา่ งหนา้ จอการแสดงผลในระบบจดั การฐานข้อมลู (Web Management) 162
รูปท่ี 34 Facebook Page: Healthy CMU 163
รูปที่ 35 Line Official Account: @healthycmu 164
รูปที่ 36 YouTube: Healthy CMU 164
รปู ที่ 37 คลังวีดิทัศน์ในช่อง YouTube: Healthy CMU 165
รปู ที่ 38 หน้า Website Healthy CMU 165
รูปท่ี 39 โลโก้โครงการ Healthy CMU 166
รูปที่ 40 Podcast EP.1 ตอน What is Healthy CMU 167
รูปท่ี 41 Podcast EP.2 ตอน โครงการ 3 อ. (อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์) 167
รปู ท่ี 42 Podcast EP.3 ตอน การเฝา้ ระวังพฤติกรรมเสี่ยงต่อการไดร้ ับเชือ้ COVID-19 168
รปู ที่ 43 Podcast EP.4 ตอน CMU i-Health 168
รปู ที่ 44 Podcast EP.5 ตอน Stop-Staff-Stress | Healthy CMU 169
รปู ที่ 45 Podcast EP.7 ตอน Health Talk | Healthy CMU 169
รปู ที่ 46 Podcast EP.8 ตอน CMU Staff's Health Volunteer โครงการแกนนำสขุ ภาพ | Healthy CMU 170
รูปท่ี 47 Podcast EP.9 ตอน CMU Smart Self-Monitoring | Healthy CMU 170
รูปท่ี 48 Health CMU (MOR): Let’s Talk with (MOR) เร่อื ง คณุ ภาพชวี ิตวยั ทำงาน 171
รปู ท่ี 49 Health CMU (MOR): Let’s Talk with (MOR) เร่ือง ความเส่ียงของโรคไม่ติดตอ่ เร้อื งรัง (NCDs) 171
รปู ที่ 50 Health CMU (MOR): Let’s Talk with (MOR) เรอ่ื ง ดูแลตวั เองอยา่ งไรให้ FIT & FIRM 172
รูปท่ี 51 งานแถลงขา่ วเปดิ ตัวโครงการ Healthy CMU 173
รูปท่ี 52 กจิ กรรม Show & Share สรปุ ผลการดำเนนิ งานโครงการ 174
รูปที่ 53 ตัวอยา่ งอนิ โฟกราฟฟกิ ท่ีจัดทำข้ึนเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ 175
รปู ที่ 54 สรุปขอ้ มูลเพจ Facebook ณ วันท่ี 5 มกราคม 2564 176
รูปที่ 55 การเข้าถงึ ของสื่อบนเพจ Facebook 177
รูปที่ 56 การอบรมให้ความรูเ้ รือ่ งอาหารและสมดลุ ทางโภชนาการฯ ครงั้ ที่ 1 178
รูปที่ 57 การอบรมให้ความรู้เรอื่ งอาหารและสมดลุ ทางโภชนาการฯ ครั้งท่ี 2 179
บ
สารบัญรูปภาพ (ต่อ) หน้า
รปู ท่ี 58 การจดั กิจกรรม “ปรับพฤติกรรมชีวิต Fit & Firm” 180
รปู ท่ี 59 การจดั กจิ กรรมปิดโครงการ “ปรบั พฤติกรรมชีวติ Fit & Firm” 181
รปู ที่ 60 การอบรมให้ความร้เู ร่อื งการออกกำลังกายทีถ่ ูกตอ้ งฯ 182
รูปท่ี 61 กจิ กรรม เตน้ แอโรบิค ณ ศาลาอ่างแก้ว 183
รูปท่ี 62 กิจกรรมเต้น Cardio Dance ณ ศาลาอ่างแก้ว 183
รูปท่ี 65 กจิ กรรม โยคะ ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้น 3 อาคารพลศึกษา มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ 185
รปู ท่ี 63 การบรรยายเร่ือง การเสรมิ สร้างพลงั สขุ ภาพจติ เพื่อสร้างสรรคก์ ารดำเนนิ ชวี ิตท่สี มดุล 184
รูปที่ 64 กิจกรรม "Cup Bag รกั ษ์โลก" 184
รูปที่ 65 กิจกรรม"เชือกหรรษา" 185
รูปที่ 66 โปสเตอรป์ ระชาสัมพนั ธ์กจิ กรรม 3อ. 185
รปู ที่ 67 ขน้ั ตอนกระบวนการผลิตส่อื วิดีทศั น์ MOOC ในสตดู โิ อ ITSC 186
รปู ที่ 68 การจัดกจิ กรรม โครงการอบรมแกนนำสขุ ภาพฯ 187
รปู ที่ 69 การจัดกจิ กรรม โครงการปิดอบรมแกนนำสุขภาพฯ 188
รปู ที่ 70 เล่มคู่มืออบรมแกนนำสขุ ภาพ 189
รปู ที่ 71 การเรียนออนไลน์ผ่าน CMU MOOC 189
รปู ที่ 72 ใบประกาศนียบตั รสำหรบั แกนนำสุขภาพทผี่ ่านการอบรม 190
รูปท่ี 73 วิดีทศั น์ เรื่องที่ 1 อยากวิ่งกว็ งิ่ เลย โดย ผศ. นนั ทสิทธ์ิ กิติวรากุล 191
รูปที่ 74 เรอ่ื งท่ี 2 ชีวติ ตดิ ระเบดิ เวลา โดย ผศ. นพ. กฤษณ์ ขวัญเงนิ 192
รูปที่ 75 เรอ่ื งท่ี 3 ความเส่ยี งท่ีเล่ยี งได้ โดย รศ.นพ.ณฐั พงศ์ โฆษชุณหนันท์ 192
รูปท่ี 76 เร่อื งที่ 4 เกษียณเป็นสขุ โดย ศาสตราจารย์เกียรติคณุ นพ. อาวธุ ศรสี ุกรี 192
รูปท่ี 77 แผ่นประชาสมั พันธแ์ บบวัดความเครยี ด 193
รูปที่ 78 กิจกรรมเปดิ บ้านจัดการความเครยี ด 193
รูปที่ 79 กิจกรรมพฒั นาแกนนำดา้ นสขุ ภาพใจ 194
รปู ที่ 80 ใบประกาศนียบัตรแกนนำด้านสุขภาพใจ 194
ป
สว่ นที่ 2 บทนำ ผลการดำเนินงาน สรปุ ผลการดำเนนิ งาน
บทที่ 1: บทนำ
1.1 ขอ้ มลู ทว่ั ไปของโครงการ
1) ชื่อโครงการ การพัฒนาศักยภาพการสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สำหรับการ
ขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยสุขภาพ (Capacity Building on Health Promotion of
Chiang Mai University’s Staff for Moving to Healthy University)
2) ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการ
2.1) หวั หน้าโครงการ
หัวหนา้ โครงการ รศ. ดร .วณชิ า พ่ึงชมภู
ตำแหนง่ หวั หนา้ โครงการ
โทรศัพท์ 053-949052 โทรสาร 053-217145
โทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ี 094-8307089 E-mail [email protected]
2.2) ผูป้ ระสานงานโครงการ
ผู้ประสานงาน ผศ. ดร. พชั รินทร์ ไชยสรุ ินทร์
ตำแหนง่ ผ้ปู ระสานงาน
โทรศัพท์ 053-945017 โทรสาร 053-217145
โทรศัพท์เคล่อื นท่ี 080-5426692 E-mail [email protected]
2.3) หน่วยงานร่วม
- คณะเภสชั ศาสตร์มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่
ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. กรรณิกา เทียรฆนิธิกูล และกลุ่มวิจัย
ภาควิชาบรบิ าลเภสชั กรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่
- คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่
รองศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์ บุญเชียงและกลุ่มวจิ ยั
- คณะทนั ตแพทย์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่
ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ทพญ. ดร. ปิยะนารถ จาติเกตุ และกลมุ่ วิจยั
- วทิ ยาลยั ศิลปะ ส่ือและเทคโนโลยี
ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อรวิชย์ ถ่ินนุกูล และกลุ่มวจิ ยั
- สถาบนั วิจยั วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ธนยี า เจตยิ านุกรกุล และกลุม่ วิจยั
- คณะสอ่ื สารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รองศาสตราจารย์ ธรี ภัทร วรรณกุล
อาจารย์ ดร. ศิวพร สกุ ฤตานนท์
- คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สัตวแพทยห์ ญงิ ดร.กรรณิการ์ ณ ลำปาง
1
- ผูแ้ ทนจากสำนกั หอสมุด
นางสาวรตยิ า วรี ะคำ
3) ระยะเวลาดำเนนิ การเร่มิ ต้น – สน้ิ สดุ โครงการ 1 มกราคม 2563 – 31 ธนั วาคม 2564
4) รอบการรายงาน รอบ 6 เดอื น ✓ รอบ 12 เดอื น
1.2 เนอื้ หาโครงการ
1) หลกั การและเหตุผล
โรคไม่ติดต่อ (Non-communicable disease) เป็นปัญหาที่พบมากขึ้นในประชากรไทยตามข้อมูล
ขององคก์ ารอนามัยโลก (World Health Organization) ในปี พ.ศ. 2557 โรคไมต่ ดิ ตอ่ เปน็ สาเหตุสูงถงึ ร้อยละ 71
ของการเสียชีวิตของประชากรไทย โดยสาเหตุหลัก ได้แก่ โรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด (ร้อยละ 29)
โรคมะเรง็ (ร้อยละ 17) โรคเรอ้ื รงั ของระบบทางเดินหายใจ (รอ้ ยละ 9) โรคเบาหวาน (รอ้ ยละ 4) และโรคไม่ติดต่อ
อน่ื ๆ (รอ้ ยละ 12) (WHO, 2014) ทงั้ นี้เน่อื งจากสุขอนามัยและการรักษาโรคติดเช้ือท่ีดีข้ึน รว่ มกับการท่ีประชากร
ไทยมีอายุขัยที่ยืนยาวขึ้น จากข้อมูลสถิติจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2559 โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ได้รายงานว่า จากประชากรไทย 65 ล้านคน มีผู้ที่อายุ
มากกว่า 60 ปี จำนวน 9.9 ล้านคนหรือคิดเป็นร้อยละ 15.1 และภาคเหนือเป็นภาคที่มีสัดส่วนของประชากร
ผู้สูงอายุมากที่สุดคือ ร้อยละ 16.6 จึงทำให้โรคไม่ติดต่อเป็นปัญหาที่พบมากขึ้นและมีความสำคัญ โรคไม่ติดต่อที่
กล่าวมาส่งผลต่อปัญหาสุขภาพ ก่อให้เกิดภาวะเจ็บป่วยเรื้อรังตามมา และเป็นสาเหตุการตายในระดับต้น ๆ ของ
ประชากรไทยในระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมา (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2553) นอกจากนี้ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิต เป็น
ภาระของผู้ดูแล และเพมิ่ ภาระดา้ นคา่ ใช้จา่ ยทง้ั ของภาครัฐ และครอบครัว
แผนพฒั นาสขุ ภาพแห่งชาตใิ นช่วงแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 11 (2555 – 2559)
และยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และตัวชีว้ ัด กระทรวงสาธารณสุขประจําปี พ.ศ. 2558 ต่างให้ความสําคัญกบั การสรา้ ง
เสริมสุขภาพและการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อการนําสู่สุขภาวะที่พึงประสงค์ ทั้งนี้ทั้งสองแผนได้เล็งเห็นถึง
สภาพสังคมไทยในอนาคตที่จะะก้าวเข้าสูส่ ังคมผู้สูงอายุ นอกจากนี้แผนผู้สูงอายุแหง่ ชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545 –
2564) ไดก้ ลา่ วถึงมาตรการการให้การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต มาตรการส่งเสริมความรใู้ นด้านการส่งเสริม
สุขภาพ ป้องกัน ดูแลตนเองเบื้องต้นและมาตรการสนับสนุนผู้สูงอายุที่มีศักยภาพไว้ด้วย แสดงให้เห็นว่าการสร้าง
เสริมสุขภาพ การมีส่วนร่วมของชุมชนมีความสําคัญอย่าง ยิ่งต่อประเทศไทยในอนาคต โดยในปัจจุบันนี้ประเทศ
ไทยกําลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งสอดคล้องกับ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
ประชากรที่เกิดจากจํานวนประชากรที่มอี ายุต้ังแต่ 60 ปีขึ้นไปเพิ่มจาํ นวนมากข้ึน คาดการณ์ว่าถึงรอ้ ยละ 23 ในปี
ค.ศ. 2025 และ ในปี ค.ศ. 2050 จะมีผู้สูง อายุ 2 พันล้านคน ซึ่งร้อยละ 80 อาศัยอยู่ในประเทศกําลังพัฒนา
(Nantsupawat, 2009) สาํ หรบั ประเทศไทยน้นั ในปี พ.ศ. 2553 มผี ูท้ ี่อายุ 60 ปี มจี าํ นวนรอ้ ยละ11 ของประชากร
ทั้งหมด และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น เป็นร้อยละ 20 ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2568 - 2573 (Institute for Population
and Social Research, 2010; Bureau of Policy and Strategy, Ministry of Public Health, 2014) เ มื่ อ
บุคคลเข้าสู่วยั สูงอายุจะมีการเปลีย่ นแปลงเกิดขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ การเปลี่ยนแปลง ของร่างกายที่เกดิ ข้ึน
ทําให้ความสามารถในการดูแลตนเองลดลง และต้องพึ่งพิงการดูแลจากครอบครัวเพิ่มขึ้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ
สังคม และการประกอบกิจวัตรประจำวัน Strategy and Planning Division (2014) รายงานว่าผู้สูงอายุร้อยละ
2
47 มี ค่าดัชนีมวลกายสูงกว่าเกณฑ์ปกติ ปัญหาสุขภาพที่พบมากคือ โรคเรื้อรังเช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
โรคของกล้ามเนือ้ และข้อเขา่ เสื่อม และปัญหาสขุ ภาพฟนั และพบว่าผูส้ งู อายเุ พยี งรอ้ ยละ 26 ที่มีพฤติกรรมสุขภาพ
ที่พึงประสงค์ ผลการคัดกรองความเสี่ยงโรคเรื้อรัง พบว่าผู้สูงอายุ กว่าร้อยละ 40 ไม่ทราบว่าตนเองมีโอกาสเป็น
เบาหวาน และ/หรอื ความดนั โลหิตสงู (Bureau of Policy and Strategy, Ministry of Public Health, 2014)
แผนพฒั นาผสู้ งู อายฉุ บบั ที่ 2 (2545 - 2564) และแผนบูรณาการพฒั นาสุขภาพกลุม่ วัยผสู้ งู อายุ 2557
–2566 ล้วนให้ความสําคัญกับการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ การพัฒนาการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการส่งเสริม
สุขภาพ สะท้อนให้เห็นว่าทิศทางการดูแลสุขภาพคนในวัยทำงานที่ควรให้ความสําคัญกับการพัฒนาคนกลุ่มวัย
ทำงานให้มีพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพโดยใช้การมีส่วนร่วมในการสร้างพลังขับเคลื่อน โดยเน้นกิจกรรมการดูแลที่
สอดคล้องกับภาวะสุขภาพ การส่งเสริมสุขภาพ และการเฝ้าระวังความเสี่ยงต่อความรนุ แรง หรือภาวะแทรกซ้อน
ของโรคเร้ืองรงั ที่อาจเกิดในวัยทำงานและวัยใกล้สงู อายไุ ด้ Kumsuchat et al. (2004) การมสี ่วนรว่ มของบุคลากร
จงึ เป็นเหมอื นกญุ แจสำคญั ทีจ่ ะส่งผลให้เกิดความสําเร็จของการสง่ เสรมิ สุขภาพในมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ การมีส่วน
ร่วมจะเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่บุคลากรได้มีส่วนรว่ มในทุกขั้นตอน ทั่งในการแก้ไขปัญหาและป้องกันปัญหาโดย มี
ส่วนรว่ มในการคิดริเรมิ่ รว่ มกําหนดนโยบาย ร่วมวางแผน ตัดสินใจและปฏบิ ตั ติ ามแผน ร่วมตรวจสอบ ร่วมตดิ ตาม
ประเมินผลและรับผดิ ชอบในเรื่องต่าง ๆ อันมผี ลกระทบต่อภาวะสุขภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุก
รูปแบบ พบว่าด้านการดําเนินงานส่งเสริมสุขภาพโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนสามารถส่งผลให้ทักษะในการดูแล
ตนเองดีขึ้น (Kamsuchat et al., 2004) ดังนั้นการมีส่วนร่วมในการดูแลด้านสุขภาพของบุคลากรใน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงเป็นสิ่งสําคัญในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สู่มหาวิทยาลัยที่มีสุขภาวะที่ดี
(Healthy University) เพื่อมุ่งเน้นให้บุคคลในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีศักยภาพในการดูแลตนเองและสามารถ
ปฏบิ ตั งิ านได้อย่างสมบูรณ์มปี ระสิทธฺ ภิ าพ
แผนพัฒนาการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระยะที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) ที่สอดคล้องตาม
ยุทธศาสตร์ที่ 2 เชิงรุกในด้านของนวัตกรรมอาหาร สุขภาพ และการดูแลผู้สูงอายุ นำไปสู่ศักยภาพของ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการการผลิตบัณฑิตที่มีคุณธรรม คุณภาพและทักษะการเป็นพลเมืองโลก ( Global
Citizen Skills) และผลิตงานวิจัยที่ตอบสองต่อสถานการณ์ประเทศในการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และการที่ประเทศ
ไทยมุ่งสู่ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย การพัฒนาประเทศสู่ Thailand 4.0 ตลอดจนการสร้างความสามารถในการ
แข่งขันของประเทศ การผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของประเทศ เพื่อยกระดับให้ประเทศไทย
พ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) ไปสู่ประเทศที่มีรายได้ขั้นสูง (High Income
Country) และเพื่อให้สอดรับยุทธศาสตร์ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 -
2564) และกรอบยทุ ธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) โดยโครงการพฒั นาศกั ยภาพการส่งเสริมสุขภาพ
ของบุคลากรมหาวิทยาลยั เชียงใหม่สำหรับการขบั เคลื่อนสูม่ หาวิทยาลัยสุขภาพมุ่งเนน้ พัฒนาศกั ยภาพบคุ ลากรใน
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ให้มีความสามารถในการดแู ลสุขภาพตนเอง ป้องกนั และควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้แก่โรค
ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคไต และโรคกระดูกพรุน นำไปสู่การขับเคลื่อนความ
เข้มแข็งของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการเป็นมหาวิทยาลัยสุขภาพและการเตรียมความพร้อมบุคลากร
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ในการรองรับการเขา้ สูส่ งั คมผสู้ งู อายตุ ่อไป
3
รูปที่ 1 แผนการพัฒนาการศึกษามหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ ระยะที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)
การปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั่นค่อนข้างหนักและเหนื่อยจึงอาจส่งผลให้เกิดความ
ยากลำบากในการจัดสรรเวลาให้เหมาะสมในการปฏิบัติบทบาทหนา้ ท่ีทุกดา้ นให้สำเรจ็ ลุล่วงไปดว้ ยดีตามเป้าหมาย
ที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ ในขณะเดียวกันก็อาจก่อให้เกิดความเครียด วิตกกังวล ซึ่งถ้าภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นเป็น
ระยะเวลาติดตอ่ กันอาจส่งผลกระทบทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจ นอกจากนน้ั ดว้ ยเวลาที่จำกัดในแต่ละวนั รว่ มกับ
ความเหน็ดเหนื่อยในภาระกิจการงาน ทำให้ไม่มีเวลาในการดูแลสุขภาพและปฏิบัติกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ
ตนเอง เชน่ การออกกำลังกาย การพักผอ่ นหย่อนใจเพ่ือคลายความตงึ เครียด จึงนำไปสู่หรือก่อใหเ้ กิดความรุนแรง
ของโรคเรื้อรัง เช่น โรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด (โรคความดันโรคหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคไต
โรคหัวใจ) และปัญหาด้านสุขภาพของบุคลากรวัยทำงานใมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ เช่นโรคกระดูกพรุน ข้อเข่าเสื่อม
เป็นต้น
จากการศึกษาวิจัยที่ผ่านมาภาวะสุขภาพและพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของบุคลกรสายสนับสนุน
คณะวิทยาศาตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่พบว่าภาวะสุขภาพทั่วไปกับพฤติกรรมสร้างเสริมสุ ขภาพมี
ความสัมพันธ์ทางลบอย่างมีนัยสำคัญ (r = -0.308**, p = 0.000) และความเครียดกับพฤติกรรมสร้างเสริม
สุขภาพมีความสัมพันธ์ทางลบอย่างมีนัยสำคัญ (r = -0.281**, p = 0.000) ภาวะสุขภาพทั่วไปและความเครียด
อาจมีผลต่อการปฏิบัติพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้บริหาร
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ควรกระตุ้นให้บุคลากรมีกิจกรรมทางกายและการรับประทานอาหารท่ีเหมาะสมเพื่อจะเป็น
การสรา้ งเสรมิ สุขภาพและความผาสกุ ของบคุ ลากรตอ่ ไป (รตั ตนาวดี ชอนตะวนั และคณะ, 2548)
สอดคล้องกับการศึกษาภาวะสุขภาพ พฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรคณะพยาบาลศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะสุขภาพกาย ภาวะสุขภาพจิตกับพฤติกรรม
4
สร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรคณะพยาบาลศาสตร์ จำนวน 146 คน ผลการประเมินพบว่า สมรรถภาพทางกาย
พฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ อยู่ในระดับปานกลาง และภาวะสุขภาพจิตมีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติ (r = 0.493, p < .01)โดยมีข้อเสนอแนะว่าควรมีการส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรคณะพยาบาล
ศาสตร์มีการปฏิบัติพฤติกรรม สรางเสริม สุขภาพให้เหมาะสมเช่นการออกกำลังกาย การจัดการความเครียดและ
การมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ สุขขภาพ (ลดาวัลย์ ประทีปชัยกรู ละคณะ, 2551)
และในการศึกษาภาวะสุขภาพและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
(ปรมวดี คฤหเดช และคณะ ,2557 ) โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ร้อยละ 69.1 มีอายุเฉลี่ย
33.68 ปี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 19,675.96 บาท มีสถานภาพสมรสโสดมากที่สุดร้อยละ59.6 การศึกษาสูงสุด
ปริญญาตรีหรือเทียบเท่าร้อยละ57.8 ลักษณะงานที่ทำเป็นบุคคลากรสายสนับสนุนมากที่สุด ร้อยละ 72.1 มี
พฤติกรรมการออกกำลังกายเหมาะสมร้อยละ 11.7 ไม่เคยออกกำลังกายร้อยละ 16.6 และออกกำลังกายเป็น
ประจำ(2-3ครั้ง/สัปดาห์)ร้อยละ 7.6 ส่วนใหญ่มีการรับรู้ภาวะสุขภาพตนเองว่าปกติร้อยละ 83.5 มีภาวะสุขภาพ
จากผลการประเมินเพื่อคัดกรองสุขภาพตรวจคัดกรองโรคโดยรวมไม่ปกติสูงถึงร้อยละ 70.2 ผลการศึกษา
พบวา่ รายไดม้ คี วามสมั พันธอ์ ย่างมนี ัยสำคัญทางสถติ ิกบั ภาวะสุขภาพโดยรวม (p-value<0.05) เพศ และ อายุ มี
ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับระดับความดันโลหิต (p-value<0.05) รายได้มีความสัมพันธ์อย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติกับระดับน้ำตาลในเลือด (p-value<0.05)เพศ มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติกับ
ระดับคอเรสเตอรอลรวม (p-value<0.05) เพศและพฤติกรรมการออกกำลังกายมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติกับ ระดับไตรกลีเซอไรด์ (p-value<0.05) การส่งเสรมิ ภาวะสขุ ภาพของบุคคลากรเช่นการจัดประชุมเชิง
ปฎิบัติการ เกยี่ วกับการดแู ลสุขภาพ และ ส่งเสรมิ ใหม้ พี ฤตกิ รรมการออกกำลงั กายท่เี หมาะสมจึงมีความจำเป็น
อย่างไรก็ตามจากการสืบค้นข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั่นพบว่ามีการ
จดั ทำในบางคณะฯ และ กระจัดกระจายไมเ่ ป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเปน็ การยากทห่ี น่วยงานหรือคณะฯจะให้
ข้อมลู สขุ ภาพของบุคคลากรตนเอง ทางผบู้ รหิ ารมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่และคณะวิจยั จงึ เล็งเห็นความสำคญั ของการ
พัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพ และการสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่เพื่อเป็นการป้องกนั
ความเสี่ยงที่จะเกิดจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หัวใจและ
ความเครียดที่มีปัจจัยเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน โดยมีจุดมุ่งหมายให้เกิดการมีส่วนร่วม เล็งเห็นความสำคัญ ใน
การสร้างเสริมสุขภาพเพื่อบุคคลากรมาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกคนจะมีสุขภาพที่ดี ปลอดภัยจากอันตรายและลด
ภาวะแทรกซ้อนของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยผ่านกระบวนการสร้างความตระหนัก และการจัดกิจกรรมการสร้าง
เสริมสขุ ภาพ นอกจากนเ้ี ป็นอีกบทบาทของมหาวิทยาลัยในการสง่ เสรมิ สุขภาพของบุคลากรรวมถึงชุมชนใกล้เคียง
จากการดำเนินโครงการสร้างเสริมพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การมีส่วนร่วมในการ
พัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยสุขภาพดี ลดอุบัติการณ์ของการเกิดปัญหาสุขภาพ ภาวะทุพพลพลภาพของบุคลากรเม่ือ
เขา้ สวู่ ัยสูงอายุ นำไปสกู่ ารเพ่ิมศกั ยภาพและประสิทธภิ าพของบคุ ลากรในมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ในการทำงาน และ
สามารถเตรียมตัวรองรับเข้าสู่วัยเกษียณได้อย่างเหมาะสม และเนื่องจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในฐานะเป็น
เครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน ASEAN University Network (AUN) และ AUN-Health Promotion Network
(AUN-HPN) มีนโยบายเพื่อเสริมสร้างความสามารถของมหาวิทยาลัยและขับเคลื่อนสู่การเป็น "มหาวิทยาลัย
สุขภาพ" ภายใต้กรอบมหาวิทยาลัยสุขภาพ หรือ Health University Framework ซึ่งเป็นทิศทางการขับเคลื่อน
ไปส่คู วามเปน็ มหาวทิ ยาลยั สขุ ภาพ
5
จึงเกิดการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพการสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เพ่อื มุ่งสรา้ งเสริมสุขภาพของบุคลากร 2 กลุ่มไดแ้ ก่ 1) บคุ ลากรสายวชิ าการ และ 2) บคุ ลากรสายสนับสนุนภายใต้
การประยกุ ตก์ รอบแนวคิดมหาวทิ ยาลัยสขุ ภาวะ (Healthy University Model) (M. T. Dooris et al., 2010) ซง่ึ
แนวคิดในการดำเนนิ โครงการการพัฒนาศักยภาพการสร้างเสรมิ สุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สู่การ
เป็นมหาวิทยาลัยสุขภาพมุ่งเน้นยุทธศาสตร์การมีส่วนร่วมบุคลากร ภายใต้หลักการในการขับเคลื่อน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ส่มู หาวิทยาลยั สุขภาพโดยรวม (Whole University Approach) (Charter, 2015; Newton
et al., 2016) ซึ่งครอบคลุมกรอบแนวคิดมหาวิทยาลัยสุขภาวะโดยเน้น 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1) การมีส่วนร่วม
(Participation), 2)การสร้างเสริมสุขภาพ (Health promotion), 3)การเสริมกำลัง (Empowerment), 4)พฤติ
พลงั (Healthy aging) และ ,4) นวตั กรรม และ การมหี ลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ (Innovation and Evidence based)
และนำไปสู่การพัฒนาโครงการที่สอดคลอ้ งกันอันได้แก่ 1.)การประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพ การคัดกรอง และ
สร้างเสริมพฤติกรรมการดูแลสุขภาพเบื้องต้นสำหรับบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการขับเคลื่อนสู่
มหาวิทยาลัยสขุ ภาพ 2.) เพื่อสร้างความตระหนัก และพัฒนาแกนนำสุขภาพสำหรับการสร้างเสริมสุขภาพสำหรบั
บุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยสุขภาพ และ 3.) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับการป้องกันเร่ืองโรคไม่ติดต่อเร้ือรัง การจัดการความเครียด สำหรับการสร้างเสริมสุขภาพสำหรับบุคลากร
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยสุขภาพ เพื่อนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีของบุคลากรใน
มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ตอ่ ไป
การส่งเสริมสขุ ภาพในสถานท่ที ำงาน
เป็นกระบวนการต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตการทำงาน สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของ
ประชากร คนงานทั้งมวล โดยการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ สังคมจิตวิทยา องค์กร และเศรษฐกิจ การ
เสริมสร้างพลังอำนาจแก่ปัจเจกบุคคล และความเจริญเติบโตแก่บุคคลเหล่านั้น (WHO 1998) การเปลี่ยนแปลง
ของประเทศ จากเกษตรกรรมสู่ภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น ทำให้มีจำนวนผู้ทำงานในสถานประกอบการมากขึ้น ท้ัง
ในภาคการผลิต และภาคบริการ ส่งผลให้ปัญหาด้านสุขภาพของประชาชน ในวัยแรงงานในสภาพการณ์ปัจจุบัน
พบว่า ปัญหาสุขภาพมีสาเหตุมาจากพฤติกรรม และสิ่งแวดล้อม เช่น โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคมีสาเหตุมา
จากการสูบบหุ ร่ี โรคมะเร็ง และโรคท่ีเกิดจากการทำงาน เป็นตน้
สุขภาพของประชากรมีอิทธิพลต่อนาคตของชาติฉันใด สุขภาพของบุคลากรในองค์กรก็มีอิทธิพลต่อ
อนาคตของสถานประกอบการฉันนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า ช่วงที่เรามีสุขภาพดี มีความสุขกายสบายใจ ย่อม
ปฏบิ ตั งิ านได้ดีกวา่ ชว่ งท่ีเจ็บป่วย มคี วามทุกขก์ าย ทุกข์ใจ การปฏิบตั งิ านในหนา้ ท่ไี ดเ้ ต็มกำลังความสามารถ ไมล่ า
ป่วยเป็นนิจ องค์กรสามารถรักษาคนมีความรู้ ความสามารถให้อยู่กับองค์กรได้ ไม่ลาออกไปแสวงหางานใหม่
องค์กรเข้าสู่วงจรแห่งสุขภาวะ ทำให้ความเจริญรุ่งเรืองตกแก่เจ้าของกิจการ และพนักงาน ทับถมทวีคูณอย่าง
ต่อเนื่อง และยั่งยืน อยู่ในวัฏจักรแห่งความเจริญ ในทางกลับกันถ้าองคก์ รใดเต็มไปด้วยบุคลากร หรือพนักงานท่มี ี
ความทุกข์กายทุกข์ใจ ปราศจากความสุข ลาป่วยเป็นนิจ ลากิจเป็นประจำ งบค่ารักษาพยาบาล ค่าบริหารจัดการ
ในการให้ผู้อื่น มาทำงานแทนก็จะสูงขึ้น บรรยากาศในการทำงานในองค์กร และผลิตผลย่อมเป็นไปในทางเสื่อม
องค์กรขาดความก้าวหน้าเติบโต ผลประกอบการตกต่ำ ค่าตอบแทน และสวัสดิการต่าง ๆ ย่อมไม่ได้ทัดเทียม กับ
องค์กรที่มีคุณภาพ ขาดงบประมาณที่จะมาปรับปรุงองค์กร ขวัญกำลังใจของผู้คนในบริษัทตกต่ำ คนที่มีความรู้
6
ความสามารถ ซงึ่ เปน็ กำลังผลิตสำคัญหนีออกจากบริษัท สง่ ผลต่อเนอื่ งเป็นลูกโซ่หมุนเวยี น เปน็ วงจรแห่งทุขภาวะ
อยู่ในวัฏจักรแห่งความเสื่อม ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น การธำรงรักษา และการส่งเสริมสุขภาพของคนในสถาน
ประกอบการ จึงมีความสำคัญต่อความสำเร็จ ความเจริญเติบโตก้าวหน้าของทั้งองค์กร รวมถึงคนในองค์กร และ
ผลประโยชน์ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น งบค่ารักษาพยาบาลของกองทุนทดแทน กองทุนประกันสังคม และของบริษัท
ประกันสุขภาพย่อมลดลงด้วยเช่นกัน ประเทศชาติได้ประชากร และองค์กรที่มีคุณภาพ ลดภาวะในการพึ่งพารั ฐ
อกี ท้ังยงั สร้างรายได้แก่รฐั ในรปู ภาษีอากรทีม่ ากขึน้ เพอ่ื ไปใชใ้ นการบำรุงประเทศไทยส่วนรวม
ประโยชน์ของการสรา้ งเสรมิ สุขภาพในสถานประกอบการ
องคก์ ร :
o ผลผลิตสงู ขน้ึ คุณภาพสนิ ค้าและบรกิ ารดขี น้ึ
o ภาพลกั ษณท์ ีด่ ขี ององคก์ ร
o ลดการลาป่วย ลดผลกระทบจากการลาป่วย
o ลดค่ารกั ษาพยาบาล
o ความสมั พันธ์ของคนในองค์กรดีขึน้
o พนกั งานมคี วามภกั ดตี อ่ องค์กรมากขึ้น
พนกั งาน :
o มคี วามสขุ กาย สบายใจ
o มีผลงานดี มคี วามม่นั คงในอาชพี
o ไดร้ ับคา่ ตอบแทน และสวัสดกิ ารท่ีดี
o มีความสมั พนั ธ์ และได้รับการยอมรับจากเพ่อื นรว่ มงาน
o มีความรูใ้ นการสร้างเสริมสขุ ภาพท่ีไดจ้ ากทีท่ ำงาน สามารถนำไปเผยแพร่ต่อบคุ คล ในครอบครัว
และชมุ ชนได้
สังคม ประเทศชาติ :
o ได้องคก์ รท่มี คี ุณภาพ เปน็ แบบอยา่ งได้
o องคก์ รเตบิ โต สรา้ งงาน สร้างรายไดใ้ หร้ ฐั
o ลดภาระของภาครัฐในการจัดสวสั ดิการรักษาโรคเร้ือรัง และโรคที่ป้องกันได้ เช่น โรคจากการสูบ
บหุ รี่ โรคหวั ใจและหลอดเลือด โรคมะเรง็ โรคเอดส์ การบาดเจ็บจากอบุ ัติเหตุ เป็นต้น
o ประเทศชาติมีความมั่นคงทางเศรษฐกจิ
ในปี พ.ศ.2540 องคก์ ารอนามัยโลก (World Health Organization) ไดจ้ ดั ทำเอกสารคำแนะนำแนวทาง
สู่งานสุขภาพ โดยกำหนดกลยุทธข์ องการพัฒนา แนวทางการสรา้ งเสริมสุขภาพของประชาชนวยั แรงงาน ว่าจะต้อง
นำแนวทางปฏบิ ัติ ของกฎบัตรออตตาวา ใชป้ ระสานเขา้ กับงานอาชีวอนามัย และความปลอดภัยแบบดงั้ เดิม อกี ท้ัง
เน้นให้เห็นความสำคัญ ของการจัดการทรัพยากรบุคคล และการพัฒนาองค์กรต่อการสร้างเสริมสุขภาพ
ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงาน แบบแผนการจ้างงาน วิธีทำงาน การจัดรูปองค์กร และ
วัฒนธรรมองค์กร การทำงานเป็นทีม การพัฒนาบุคลากร รวมถึงการบริหารจัดการ ล้วนส่งผลถึงสุขภาพของ
พนกั งาน สรุปได้ว่า การดูแลสุขภาพของคนทำงาน จะไมห่ ยดุ อยู่ทีโ่ รค และการบาดเจบ็ จากการทำงาน หรืองานอา
7
ชีวอนามัยแบบดั้งเดิมเท่าน้ัน แต่จะมงุ่ ให้ประชากรวยั แรงงาน สามารถทำงานได้ดี ปลอดภัย มคี วามสุขกาย สบาย
ใจในการทำงาน มีร่างกายที่แข็งแรง จิตใจท่ีแจ่มใส ซึ่งต้องขยายวงออกไปส่กู ารดูแลสขุ ภาพ ท่กี ว้างขวางกว่าเดิม
แนวทางปฏิบัติ 5 ประการ ในกฎบัตรออตตาวา สามารถประยุกต์ใช้ได้กับงานอาชีวอนามัย แบบดั้งเดิม และการ
สร้างเสริมสุขภาพแนวใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างนโยบาย กฎระเบียบ การสร้าง และปรับปรุงสิ่งแวดล้อม
การสรา้ งกจิ กรรมชุมชนใหเ้ ข้มแข็ง การพัฒนาทักษะส่วนบุคคล และการปรบั เปลีย่ นบริการสขุ ภาพ โดยกลยุทธ์ท้ัง
5 ประการ ควรดำเนินการไปดว้ ยกนั จึงจะมีประสิทธภิ าพเสริมกนั กอ่ ใหเ้ กิดความสำเรจ็ ได้ดีกวา่ การแยกกันใช้กล
ยุทธ์ หรือเพียงบางกลยุทธ์การสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการส่งเสริมสุขภาพ แก่ผู้คนในชุมชนอย่างกว้างขวาง
จะก่อใหเ้ กิดการสนับสนุน การมีส่วนรว่ ม จากชุมชน ซง่ึ เป็นพื้นฐานของความย่ังยืนในการส่งเสรมิ สุขภาพ
กลยุทธ์การสง่ เสรมิ สุขภาพในกฎบตั รออตตาวา
- สร้างนโยบายสาธารณะเพอื่ สขุ ภาพ (Build Healthy Public Policy)
- สรา้ งสรรค์สงิ่ แวดล้อมทเ่ี อ้อื ต่อสขุ ภาพ (Create Supportive Environments)
- เสริมสรา้ งกจิ กรรมชุมชนทีเ่ ข้มแขง็ (Strengthen Community Action)
- พฒั นาทักษะส่วนบุคคล (Develop Personal Skills)
- ปรับเปลี่ยนบริการสขุ ภาพ (Reorient Health Services)
การดแู ลสุขภาพของคนงาน
การดูแลสุขภาพของผู้ใช้แรงงาน มีมาตรฐานและความก้าวหน้าที่แตกต่างกัน ในแต่ละประเทศ ทั้งน้ี
ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น กฎหมาย ความก้าวหน้าทางวิชาการ และระดับความก้าวหน้า ของการพัฒนา
ทางสังคมและเศรษฐกิจ ประเทศใดมีความก้าวหน้าในสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น การดูแลสุขภาพของคนในสังคม และ
ผู้ใชแ้ รงงานกม็ ักจะดตี ามไปดว้ ย ในระดบั สถานประกอบการดเ็ ชน่ กนั ถ้าองค์กรใดมีความกา้ วหนา้ มคี วามพร้อมใน
เรื่องนโยบาย กฎ ระเบียบ มีความรู้ความเข้าใจในปัญหา และแนวทางแก้ไข มีการจัดการองค์กรที่มีประสิทธภิ าพ
มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีงาม และมีฐานะทางการเงินมั่นคง ก็ย่อมจะสามารถจัดการเรื่อง การดูแลสุขภาพของ
พนักงานได้ดีตามไปด้วย การดูแลสุขภาพในรูปแบบต่าง ๆ ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ สามารถบ่งบอกถึงความก้าวหนา้
ขององค์กรวา่ อยู่ในระดบั ใด
การดูแลขั้นต้น : การปฐมพยาบาลและการรักษาโรค สถานประกอบการส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นดูแล
สุขภาพของพนักงาน ด้วยการจัดการให้มีการปฐมพยาบาล และรักษาโรคเบื้องต้น ซึ่งเป็นการตั้งรับแก้ปัญหา
เฉพาะหน้า เหน็ ผลไดช้ ดั เจน สอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของผู้ไดร้ ับบาดเจบ็ และผู้ป่วย
การดูแลขน้ั ที่ 2 : การป้องกันอบุ ตั ิเหตุ และการบาดเจบ็ จากงาน เม่อื มกี ารบาดเจบ็ จากการทำงานเกิดข้ึน
บอ่ ย และเป็นสงิ่ ทีเ่ ห็นได้งา่ ย จึงไดร้ บั ความสนใจ และดำเนินการในเรื่องการป้องกนั ตามความรู้ความสามารถของ
นายจา้ ง ลูกจ้าง มีคณะกรรมการผู้รบั ผิดชอบดำเนนิ การกัน ค่อนขา้ งแพรห่ ลาย
การดูแลขั้นที่ 3 : การป้องกันโรคจากการทำงาน โรคจากการทำงานส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นอย่าง ช้า ๆ
สังเกตรู้ได้ยาก การพสิ ูจน์ยืนยันต้องใช้ความรู้ เทคนคิ วิธกี ารท่ีซับซ้อน การดำเนนิ การด้านการป้องกันโรคจากการ
ทำงาน จึงมีน้อยกว่าการป้องกันในด้านอุบัติเหตุ ในประเทศไทย การรายงานโรคจากการทำงาน มีน้อยกว่าความ
เป็นจริง
8
การดูแลขั้นที่ 4 : การจัดงานให้เหมาะสมกับคน การจัดการด้านการยะศาสตร์ (Ergonomics) เพื่อจัด
งาน จัดสภาพการทำงานให้เหมาะสมกับคนทำงาน เพื่อให้สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมี
ความสุขสบายในการทำงาน เป็นเรือ่ งท่ีตอ้ งมีความรู้ความเข้าใจ ตั้งใจ และทุ่มเทอย่างจริงจงั อีกทั้งปัญหาในเร่อื ง
การยะศาสตร์มกั จะไมเ่ ด่นชดั และดเู หมือนว่าจะไมร่ นุ แรง องคก์ รท่ยี งั ไม่ก้าวหนา้ จึงยงั ไม่คิด หรือให้ความสนใจใน
เรื่องนี้ ส่วนในประเทศ หรือองค์กรที่ก้าวหน้า ซึ่งทำการดูแลในขั้นตอนที่ 1, 2 และ 3 ได้ดีอยู่แล้ว ก็จะให้ความ
สนใจดำเนนิ การ ในเรอ่ื งนี้กนั มากขน้ึ
การดูแลขั้นที่ 5 : การดูแลสุขภาพแบบเบ็ดเสร็จ จากมุมมองที่เห็นว่า สุขภาพโดยรวมของพนักงาน มี
ความสำคญั ตอ่ องค์กร ไม่วา่ สุขภาพของพนักงานจะดีหรือเส่ือม ดว้ ยปัจจยั จากการทำงานโดยตรง หรอื ปัจจัยอ่ืนท่ี
ไม่เกี่ยวข้องกับงานก็ตาม ก็ส่งผลกระทบถึงองค์กรด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยสาเหตุนี้ สถานประกอบการที่มีความคิด
กา้ วหนา้ จงึ ให้การดูแลสุขภาพของพนักงาน ในลักษณะเบ็ดเสรจ็ โดยจะดแู ลสุขภาพแบบครบถว้ น ท้งั ในส่วนท่ีเรา
เรียกว่า อาชีวอนามัย และความปลอดภัยแบบดั้งเดิม โดยที่การดูแลในขั้นตอนที่ 1, 2, 3 และ 4 รวมทั้งได้ขยาย
การดูแลสุขภาพ ไปสู่การป้องกันอุบัติเหตุ และโรคที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานด้วย นอกจากนี้ยังรวมไปถึง การ
ปรับปรงุ พฒั นาสุขภาพของพนักงาน ให้สมบรู ณแ์ ขง็ แรง ด้วยมาตรการต่าง ๆ ตามแนวทางสง่ เสริมสุขภาพ ตามกฎ
บัตรออตตาวา การดูแลสุขภาพแบบเบด็ เสร็จ จงึ น่าจะเป็นจุดเร่ิมตน้ ของการดูแลสุขภาพทส่ี มบูรณ์
มหาวิทยาลัยสุขภาพ (Healthy University)
มหาวิทยาลัยสุขภาพ/สุขภาวะ (Healthy University) คือการสร้างเสริมและสนับสนุนให้บุคลากร
มหาวิทยาลัยมีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ หรือการการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพโดยการมีส่วนร่วม
ของบุคลากรในมหาวิทยาลัย ซึ่งส่วนหนึ่งของการเตรียมการด้านการดูแลสุขภาพเพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่สังคม
ผู้สูงอายุในอนาคตของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อแสดงกระบวนทัศน์ใหม่ของการดูแลสุขภาพที่ให้
ความสําคัญกับความรับผิดชอบของบุคคลผู้เป็นเจ้าของสุขภาพ มุ่งตอบสนองให้บุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เติบโตอย่างมีสุขภาวะที่ดี และเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังมีศักยภาพ (Active aging/ Healthy aging) ต่อไปโดยการ
ส่งเสริมให้บุคลากรในมหาวิทยาลัยมีวิถีชีวิต มีพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพที่เหมาะสม และดูแลตนเองด้าน
สุขภาพได้อย่างสมบูรณ์ อาศัยการดำเนินการในรูปแบบของการมีส่วนร่วมของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เพื่อทีจ่ ะสามารถดําเนนิ การตอ่ เนือ่ งได้อยา่ งย่ังยืน
จากการเพิ่มขึ้นของสถิติของโรคกลุ่มไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคนไทย
กว่า 2 ใน 3 หรอื กวา่ ร้อยละ 70 โดยสำนกั งานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ความหมายของโรคกลุ่มไม่
ติดต่อเรื้อรัง หรือ Non-Communicable Diseases (NCDs) ว่า เกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย ส่วนใหญ่เป็นผล
จากการใชช้ วี ติ ท่มี พี ฤตกิ รรมเสี่ยงอยา่ ง เหลา้ บุหร่ี ขาดการออกกำลังกาย รับประทานอาหารหวานมนั เคม็ จดั และ
มีความเครียด ขณะที่องค์การอนามัยโลกทำนายว่าในปี พ.ศ.2573 ประชากรโลกจำนวน 23 ล้านคน จะเสียชีวิต
จากโรคหลอดเลือดสมองและหวั ใจ โดยร้อยละ 85 อยใู่ นประเทศกำลังพฒั นาเน่ืองจากชวี ิตที่สะดวกสบายมากขึ้น
ดังนั้นการสร้างความเข้าใจแก่ชุมชน สังคม และประเทศ โดยใช้มหาวิทยาลัยเป็นจุดศูนย์กลาง จึงกลายเป็น
ทางออกที่จะกระจายองคค์ วามรู้ได้อย่างตอ่ เนื่องและยั่งยืนท่ีสุด เพื่อให้เกิด "การเปล่ียนพฤตกิ รรม"การเสริมสรา้ ง
ความสามารถและสร้างเครือข่าย มหาวิทยาลัยสุขภาพตามกรอบ Health University Framework เน้นไปใน
ทิศทางของการป้องกันโรค NCDs จึงควรเริ่มต้นจากมหาวิทยาลัย เพราะมหาวิทยาลัยเป็นกลไกถาวร การสร้าง
9