The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) Healthy CMU ปีที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Healthy University, 2023-01-11 23:49:20

รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) Healthy CMU ปีที่ 1

รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) Healthy CMU ปีที่ 1

Keywords: Healthy,CMU

ตัวชว้ี ัดผลผลิต เป้าหมาย ผลการดำเนนิ งาน หนว่ ยนับ
%
กิจกรรมท่ี 1 : กจิ กรรมการสร้างแกนนำสุขภาพมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่

ตวั ชี้วัดเชิงปริมาณ

2. ความรู้และพฤติกรรมสุขภาพของบุคลากรแกน 60-100 80-90

นำสขุ ภาพดขี น้ึ

กิจกรรมที่ 6: การสร้างเสรมิ พลังงานอำนาจ (Empowerment) “Health Talk”ปีที่ 1

ตัวชีว้ ัดผลผลติ เป้าหมาย ผลการดำเนินงาน หนว่ ยนับ

กิจกรรมที่ 1 : การสร้างเสริมพลงั งานอำนาจ (Empowerment) “Health Talk”ปีที่ 1 คลิปVDO/
เรอื่ ง
ตวั ช้ีวัดเชิงปริมาณ
คลปิ VDO/
1. ผลิตสื่อบุคคลต้นแบบโดยใช้เกณฑ์มาตรฐาน 6 4 เรือ่ ง

ของสอื่ วดิ ีทศั น์ออนไลนท์ ง้ั หมด 6 เรอ่ื ง โครงการ

2. ผลิตสื่อบุคคลต้นแบบโดยใช้เกณฑ์มาตรฐาน 6 4 %

Teaser จำนวน 6 เรอื่ ง %
%
3.มีโครงการวิจัยการสร้างเสริมพลังงานอำนาจ 0 1

(Empowerment)

ตวั ชว้ี ดั เชิงคณุ ภาพ

1. ร้อยละของบุคคลเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจ 80 80

เกี่ยวกับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ และสามารถ

นำไปปฏบิ ัติในชวี ติ ประจำวันได้

2. ร้อยละของระดับผลทางห้องปฏิบัติการของ 80 80

บุคคลเป้าหมายอยใู่ นเกณฑ์ปกติ

3. ร้อยละระดับความพึงพอใจของบุคคลเป้าหมาย 80 80

ทีไ่ ด้เข้ารว่ มโครงการ

กิจกรรมท่ี 7: กจิ กรรมที่ 7: กจิ กรรมรณรงคด์ ้านการสรา้ งเสริมสุขภาพใจสำหรับบุคลากร- การหยดุ

ความเครียดในที่ทำงาน “Stop Staff Stress

ตวั ชว้ี ัดผลผลติ เป้าหมาย ผลการดำเนินงาน หนว่ ยนบั

กิจกรรมที่ 1: กิจกรรมรณรงค์ด้านการสร้างเสริมสุขภาพใจสำหรับบุคลากร การหยุดความเครียดในท่ี

ทำงาน “Stop Staff Stress”

ตวั ชว้ี ัดเชิงปริมาณ

1. แบบสำรวจความเครยี ด 1 1 แบบ

ใน Website, Line official ของโครงการใหญ่ สำรวจ

ตัวชีว้ ดั เชิงคุณภาพ

60


ตวั ชีว้ ัดผลผลติ เป้าหมาย ผลการดำเนินงาน หน่วยนบั
47.74 %
1. บุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีระดับค่า 60-100

คะแนนเครยี ดของอยใู่ นระดบั ปลานกลาง-น้อย

กจิ กรรมท่ี 8 :การจดั ต้งั คลนิ กิ จดั การความเครยี ด(Stress Management Clinic)

ตัวช้วี ดั ผลผลติ เป้าหมาย ผลการดำเนนิ งาน หน่วยนบั

กจิ กรรมที่ 1 : การพัฒนาศักยภาพการสง่ เสริมสุขภาพดา้ นการบริหารจดั การความเครียดของบุคลากร

มหาวิทยาลัยเชยี งใหมส่ ำหรับการขบั เคล่ือนสมู่ หาวิทยาลยั สุขภาพ

ตัวชวี้ ัดเชิงปริมาณ

1. การสำรวจความเครียด 2 1 ครั้ง

2. การให้ความรู้เรื่องความเครียดและการผ่อน 5 2 คร้งั

คลายความเครยี ด

3. การฝึกการให้การปรึกษา (Training for the 80-100% 80-100% ของผทู้ ี่มา %

trainer) ของผู้ท่ีมาขอ ขอคำปรกึ ษา

คำปรกึ ษา

4. จัดทำห้องเพอ่ื ผ่อนคลายความเครยี ด 1 - ห้อง

5. จัดทำห้องบริการให้การปรึกษา 1 - ห้อง

6. โครงการวิจัยการพัฒนาศักยภาพการส่งเสริม 0 1 โครงการ

สุขภาพด้านการบริหารจัดการความเครียดของ

บุคลากรมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่

ตัวชวี้ ัดเชิงคุณภาพ

1. บุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีระดับค่า 60-100 47.74 %

คะแนนเครียดของอยู่ในระดบั ปลานกลาง-น้อย

2.บุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สามารถจัดการ 80-100 - %

กับเครียดของตนเองได้ไม่มีการทำร้ายตัวเอง หรือ

ผอู้ ่นื จากความเครยี ดในการทำงาน

2.4 ผลการดำเนินงานตามผลลัพธ์ของโครงการ (Outcomes)

(เปน็ ไปตามผลลัพธข์ องโครงการหรือไม่ อย่างไร อธิบาย)
เปน็ ไปตามผลลัพธข์ องโครงการทีไ่ ด้วางไว้

ผลการดำเนนิ งานเกนิ จากผลลพั ธ์ของโครงการ (Extra-Outcomes)

1. ดา้ นผลผลิต
- โครงการวจิ ัยทไี่ ด้รับการอนมุ ตั ิใหด้ ำเนนิ การวิจัยในมนษุ ย์ 7 โครงการวจิ ัย
- การเขา้ ร่วมนำเสนอโครงการและร่วมออกบธู ในงาน CMU-KM Day

61


- การเข้าร่วมประชุมและนำเสนอผลการดำเนินโครงการฯ ในการประชุมนานาชาติ the 6th International

Advisory Committee meeting will arranged on tomorrow, Thursday 5 November 2 0 2 0 .

(Online and On-site meeting)
- การตอ้ นรับและนำเสนอการขอศกึ ษาดงู านจากศูนย์บริการสุขภาพแหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- การจัดทำรายงานความสอดคล้องการดำเนินโครงการฯต่อ SDGs 2 ฉบับคือของโครงการ 1ฉบับและ ของ

ศูนย์สือ่ สารองคก์ ร 1 ฉบับ
- การประชมุ และร่วมพิจารณาข้อตกลงในการร่วมมือ (MOU) กับมหาวิทยาลยั มหดิ ลในการขบั เคล่อื น Happy

and Healthy University
- การเขียนบทความตพี มิ พ์ในวารสารทองกวาว 3 ฉบบั และ วารสาร Nursing Research Wisdom 1 ฉบบั
- การประสานท้งั ชมุ ชนในมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ไดแ้ ก่ สภาพนกั งาน และนอกมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่

2. สทิ ธิ์ทางปญั ญา (การจดลขิ สิทธผ์ ลงานโครงการ)
- ระบบ CMU i-Health
- หลักสตู รอบรมแกนนำสุขภาพบคุ ลากร มช. ทางด้านสุขภาพกายไดแ้ ก่ คมู่ ือ ส่อื VDO/MOOC เป็นต้น
- หลักสตู รอบรมแกนนำสขุ ภาพบุคลากร มช. ทางด้านสขุ ภาพใจไดแ้ ก่ คมู่ อื ส่ือ VDO/MOOC เปน็ ตน้
- Application การเฝา้ ระวงั พฤตกิ รรมเส่ียงการตดิ เชอ้ื COVID-19 สำหรับบุคลากรและนกั ศึกษา มช
- แบบประเมนิ พฤติกรรมสรา้ งเสริมสุขภาพ Health promotion Life Style Profile (II) เป็น Health

promotion Life Style Profile: Healthy CMU’s version
- Healthy CMU: Health Promotion Model ไดแ้ ก่ กรอบแนวคดิ กระบวนการ ส่อื โลโก้ และทุกอย่างท่ี

เกย่ี วข้องกับผลผลิตจากโครงการ เปน็ ต้น

3. นวตั กรรม
- Processing/Social innovation: Healthy CMU Telehealth Package

2.5 ผลการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการ ณ วันที่ ............18....มกราคม...2564.........

1) งบประมาณทีไ่ ด้รบั .......5,000,000......................... บาท

2) กอ่ หนผ้ี กู พนั แล้ว ................................................. บาท

3) เบกิ จา่ ยแลว้ ........ 4,501,428.55....................... บาท

4) คงเหลือ (1 – 2 – 3) ......... 498,571.45..................... บาท

62


2.6 ผลการดำเนนิ งานตามความเส่ียงของโครงการ

กจิ กรรม/ ความเส่ยี งทคี่ าดวา่ การ วิธีการปิดความเส่ียง วิธกี ารปิดความเส่ียงท่ี
วธิ ดี ำเนินการ จะเกิดขึน้ ประเมนิ ทีค่ าดวา่ จะ ดำเนินการจรงิ
ความเส่ียง ดำเนินการ
1. ด้านการเงิน*
1. ก า ร บ ร ิ ห า ร ✓ เกดิ - ป ร ะ ช ุ ม ต ิด ตาม  ยงั ไม่ไดด้ ำเนนิ การ

งบประมาณโครงการ  ไมเ่ กดิ แผน-ผลการดำเนิน  อยรู่ ะหว่าง

ได้ไม่เป็นไปตามแผนท่ี โครงการ รายเดอื น ดำเนนิ การ

วางไว้ - ป ร ะ ช ุ ม ช ี ้ แ จ ง ✓ ดำเนนิ การแล้ว

ร า ย ง า น ป ั ญ ห า แ ก่

ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง

แ ล ะ ร ั บ ฟั ง

ข้อเสนอแน ะ เ พ่ื อ

นำมาแก้ไขปญั หา

2. ห ล ั ก ฐ า น ก า ร ✓ เกดิ - จัดเตรยี มแฟ้มเก็บ  ยังไมไ่ ด้ดำเนนิ การ
เบิกจ่ายสญู หาย  ไม่เกดิ
หลกั ฐานการเบิกจ่าย  อย่รู ะหว่าง
2 . ด ้ า น ก า ร การดำเนินโครงการไม่ ✓เกิด
ป ฏ ิ บ ั ต ิ ง า น ต า ม บรรลุตามตัวช ี้วั ด ไมเ่ กิด เฉพาะของโครงการ ดำเนนิ การ
เป้าหมายโครงการ* โครงการทวี่ างไว้
- จัดเก็บเอกสารการ ✓ ดำเนนิ การแล้ว

เบิกจ่ายสำรองใน

รูปแบบไฟล์

อเิ ล็กทรอนกิ ส์

จดั ทำแผนการ  ยงั ไม่ได้ดำเนนิ การ

ดำเนนิ งานโครงการ  อยู่ระหว่าง

อย่างชดั เจน (Action ดำเนนิ การ

Plan) ✓ ดำเนินการแล้ว

- ปฏิบตั ติ ามแผนการ

ดำเนนิ งานทวี่ างไว้

อย่างเคร่งครดั

- การประชมุ

พจิ ารณาปรับเปลยี่ น

บางกจิ กรรมและ

เสนอต่อเหตผุ ลช้แี จง

ทปี่ ระชุมถึงความ

จำเป็นในการ

ปรับเปลีย่ น

63


กจิ กรรม/ ความเสยี่ งทค่ี าดว่า การ วิธกี ารปิดความเส่ียง วิธกี ารปิดความเสี่ยงท่ี
วิธดี ำเนินการ จะเกดิ ขน้ึ ประเมนิ ทคี่ าดวา่ จะ ดำเนนิ การจรงิ
ความเสี่ยง ดำเนินการ

- ประชมุ ติดตาม

แผน-ผลการดำเนิน

โครงการ รายเดอื น

และราย 1- 2

สัปดาห์ในใน

โครงการที่ไม่สามารถ

ดำเนินกิจกรรมได้

ตามแผนการดำเนนิ

โครงการได้แก่

โครงการที่ 3 :

นวัตกรรมการคัด

กรองและเสรมิ

พฤติกรรมการดูแล

สุขภาพของบุคลากร

ด้วยตนเอง

ผ่านอุปกรณ์

อเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ บบ

สวมใส่ (Smart

Wearable) ทใ่ี ช้

หมายเหตุ: “*” หมายถึง ประเภทความเสยี่ งท่ีคณะอนกุ รรมการขบั เคลอื่ นยุทธศาสตร์ที่ 2 เชิงรุกฯ กำหนด

64


บทที่ 3: สรุปผลการดำเนินโครงการ

3.1 สรุปผลการดำเนนิ งานตามตวั ชี้วดั โครงการ

ผลผลิต (Output) ตัวช้ีวัดผลผลติ /ค่าเป้าหมาย

12.1 มคี ณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการ 12.1. มชี ดุ คณะกรรมการสหวชิ าชพี บริหารและดำเนนิ งาน
สหวิชาชพี ดำเนินงานสรา้ งเสรมิ สุขภาพ สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพโครงการ Healthy CMU Projectของ
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่

12.2 มรี ะบบฐานข้อมูลสุขภาพ (Developing of 12.2. มรี ะบบฐานข้อมูลสขุ ภาพ (Developing of the
the Data Health Risk Assessment System) Data Health Risk Assessment System) สำหรบั
สำหรบั บุคลากรมหาวิทยาลยั เชยี งใหมใ่ นการ บุคลากรมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ในการประเมินความเส่ยี ง
ประเมินความเส่ยี งทางสุขภาพ การประมวลผล ทางสุขภาพ การประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมลู อย่างเปน็
และวเิ คราะห์ขอ้ มูลอย่างเป็นระบบทง้ั ในระดบั ใม ระบบทง้ั ในระดับใมหาวิทยาลัย ระดบั คณะหรอื หน่วยงาน
หาวิทยาลัย ระดบั คณะหรอื หนว่ ยงาน และระดบั และระดับบุคคล
บุคคล https://cmu-hms.web.app/

https://cmsdm.net/HealthyU/
มีFacebook : https://bit.ly/healthycmu
12.3 มีระบบฐานขอ้ มลู CMU I-Health สำหรับ 12.3. มรี ะบบฐานข้อมูล CMU I-Health สำหรับการรวม
การรวมรวม ขอ้ มูลสขุ ภาพ ซ่ึงจะสามารถนำไป รวม ขอ้ มลู สุขภาพ ซง่ึ จะสามารถนำไปประมวลผลให้เหน็
ประมวลผลให้เหน็ ภาพรวมของภาวะด้านสุขภาพ ภาพรวมของภาวะดา้ นสขุ ภาพของบคุ ลากร
ของบุคลากรมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ และ เว็บไซต์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ สำหรบั การพฒั นาระบบท่ีมี กราฟกิ
FB ของโครงการมหาวิทยาลัยสขุ ภาพ ซึ่งเปน็ และสว่ นประสานผใู้ ช้งานระบบรองรับการใช้งานงา่ ยและ
เครื่องมือในการสือ่ สารให้ความรูท้ างสุขภาพ ใชง้ านเพื่อประเมนิ ความเส่ยี งด้านสุขภาพไดถ้ กู ตอ้ งมี
มาตรฐานและกำลังดำเนินการเชื่อมตอ่ กับระบบ CMU-
Mobile

12.4 มนี วตั กรรมการคดั กรอง และฝา้ ระวังภาวะ 12.4. มีต้นแบบ (Prototype) นวัตกรรมการคดั กรอง และ
สขุ ภาพเบอ้ื งต้นดว้ ยตนเอง (Self-Monitoring ฝ้าระวงั ภาวะสขุ ภาพเบ้ืองต้นด้วยตนเอง (Self-
Innovation) เพ่อื ลดระยะเวลาในการรอตรวจ Monitoring Innovation) เพ่ือลดระยะเวลาในการรอ
สุขภาพ และเป็นเตรียมบคุ ลากรให้มคี วามพร้อม ตรวจสขุ ภาพ และเป็นเตรียมบคุ ลากรใหม้ ีความพรอ้ มใน
ในการเฝ้าระวงั ปัญหาสขุ ภาพดว้ ยตนเองเบ้ืองต้น การเฝ้าระวงั ปญั หาสุขภาพด้วยตนเองเบื้องตน้

12.5 มีการจดั กิจกรรมรณรงคด์ า้ นการสร้างเสริม 12.5 มกี ารจดั กจิ กรรมรณรงค์ดา้ นการสรา้ งเสริมสุขภาพ

สขุ ภาพกาย สำหรบั บคุ ลากรอยา่ งต่อเน่ืองจัด กาย สำหรบั บุคลากรอยา่ งต่อเนอื่ งจัดกจิ กรรมรณรงคใ์ นวง
กิจกรรมรณรงคใ์ นวงกวา้ ง (Mass
กว้าง (Mass Communication) และการสรา้ งความ
Communication) และการสร้างความตระหนัก ตระหนัก (Public Awareness) เร่ือง “ลดเพม่ิ เติมผกั
(Public Awareness) เรื่อง “ลดเพิ่ม เตมิ ผัก รกั รกั ใจ” สอดแทรกในการจดั กิจกรรม “ 3 อ.: อาหาร ออก

65


ผลผลิต (Output) ตวั ชว้ี ัดผลผลิต/คา่ เปา้ หมาย
กำลังกาย อารมณ์”การให้ความร้ชู อ่ งทางต่างของโครงการ
ใจ” และการจดั กจิ กรรม “ 3 อ.: อาหาร ออก เช่น FB, Line @, Website, Youtube, Infographic
กำลังกาย อารมณ์” และบทความวิชาการในวารสารทองกวาว

จดั กจิ กรรม 3 อ (อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์) จำนวน
6 กจิ กรรม ไดแ้ ก่ (1) อบรมให้ความรู้เร่ืองอาหาร
และสมดุลทางโภชนาการ พร้อมทั้งสาธติ การทำอาหารเพ่อื
สขุ ภาพอยา่ งง่าย (2)กจิ กรรม “ปรบั พฤติกรรมชีวิต Fit &
Firm” (3) อบรมใหค้ วามร้เู ร่ืองการออกกำลงั กายทีถ่ กู ตอ้ ง
และการสร้างแรงจูงใจในการปรับเปลยี่ นพฤติกรรมการ
ออกกำลังกาย และทดสอบสมรรถภาพทางกาย แปลผล
และให้คำแนะนำเกย่ี วกับการดแู ลสุขภาพ (4)กจิ กรรม
“เดิน-วง่ื ล่าแต้ม CMU Walk Together (5)การบรรยาย
ใหค้ วามรเู้ กี่ยวกับการพัฒนาอารมณ์ไปสู่การมสี ุขภาพใจที่
ดี (6)กิจกรรม Healthy@CMU : พุธหรรษา รว่ มทำ
กิจกรรมนนั ทนาการท่หี ลากหลาย 2. เริ่มกจิ กรรม เดือน
กรกฎาคม 2563 มผี ้สู มัครเข้าร่วมโครงการ รวมทง้ั 2
กจิ กรรม จำนวน 560 คน แยกเปน็ กจิ กรรมที่ (1) 129คน
(2) 124คน (3) 64คน (4) 110คน (5) 58คน และ(6) 75
คน

12.6 มี แกนนำสุขภาพ และคณะทำงานการสรา้ ง 12.6 มีหลกั สตู ร และคู่มอื แกนนำสขุ ภาพบุคลากร
เสริมสขุ ภาพให้เกิดข้ึนในทกุ คณะ หรอื หน่วยงาน มหาวิทยาลยั เชียงใหม่
ในมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่เพื่อดำเนนิ การสร้างเสริม - พฒั นาสอ่ื การแกนนำสุขภาพบคุ ลากร
สุขภาพสำหรบั บุคลากรอยา่ งตอ่ เนือ่ ง มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่เรื่องโรคไม่ติดตอ่ เร้ือรงั ท่ีพบบ่อยใน

บคุ ลากรมหาวทิ ยาลยั /คนวัยทำงาน จำนวนทัง้ หมด 6เรื่อง

โดยผ่านทาง MOOC

- จดั Webinar 3 ครง้ั ในการอบรมแกนนำสุขาพบคุ ลากร

มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่

- จดั กิจกรรมเปิดการอบรมแกนนำสขุ ภาพบุคลากร

มหาวิทยาลยั เชียงใหม่

- จดั กิจกรรมปดิ การอบรมแกนนำสุขภาพบุคลากร

มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่

- มแี กนนำสุขภาพบคุ ลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จำนวน

137 คน จาก 39 หนว่ ยงาน

- มกี ารพัฒนาโครงการสร้างเสริมสขุ ภาพบุคลากร มช จาก

15 หน่วยงาน/15 โครงการ

66


ผลผลิต (Output) ตัวช้ีวัดผลผลิต/ค่าเป้าหมาย
12.7 มกี ารจัดกจิ กรรมรณรงคด์ า้ นการสร้างเสริม - มีกลุม่ แกนนำแกนนำสุขภาพบคุ ลากร
สุขภาพกาย สำหรบั บุคลากรอย่างต่อเนอ่ื งจดั มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ และ Line group
กจิ กรรมรณรงคใ์ นวงกวา้ ง (Mass 12.7 จดั ทำหนงั สอื เชญิ และส่ือประชาสมั พันธท์ ุกหน่วยงาน
Communication) และการสรา้ งความตระหนัก ในมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหมเ่ ขา้ ร่วมกจิ กรรม ผ่านระบบสาร
(Public Awareness) เร่ือง กิจกรรมรณรงค์การ บรรณอิเล็กทรอนิกส์ ( CMU e-Document) และ
หยุดความเครียดในทีท่ ำงาน “Stop Staff ประชาสมั พนั ธก์ จิ กรรมผ่านช่องทางต่างๆ ท้งั
Stress” เว็ปไซต์ HealthyCMU.com

12.8 มกี ารตง้ั คลินกิ จดั การความเครยี ด (Stress Facebook : HealthyCMU
Management Clinic) เพ่อื ให้บรกิ ารในด้าน Line official :@ HealthyCMU
คำแนะนำ และการประเมนิ ความเส่ยี งรวมถงึ การ - ดำเนนิ งานแถลงขา่ วเปดิ ตวั โครงการวนั ท่ี 26 มิถนุ ายน
สง่ ตอ่ เม่ือพบความผดิ ปกติ 2563 ณ ห้องประชุมช้นั 2 ITSC
- กจิ กรรมประชาสมั พนั ธโ์ ครงการเชิงรกุ ทุกช่องทางของ
โครงการHealthyCMU
- กิจกรรมประชาสมั พนั ธ์ในโครงการ 3 อ.
- กิจกรรมประชาสมั พนั ธ์ในโครงการ CMU Health
Volunteer
-กิจกรรมในโครงการ CMU Health Talk
-กิจกรรมประชาสมั พนั ธ์ในโครงการ CMU i-Health
- กิจกรรมประชาสัมพันธ์ในโครงการ Stop Staff Stress
- กิจกรรมประชาสมั พนั ธใ์ นโครงการ CMU Health
MOOC
- Open House for Stop Staff Stress
- Show and Share การดำเนนิ โครงการ Healthy CMU
วนั ท่ี 21 ธันวาคม 2563 ณ ห้องประชุมช้นั 2 ITSC
- ดำเนนิ การจดั กจิ กรรมการแลกเปล่ยี นเรียนรกู้ ารดำเนิน
โครงการการพัฒนาศักยภาพการสร้างเสรมิ สุขภาพของ
บุคลากรมหาวิทยาลยั เชยี งใหมส่ ำหรับการขับเคล่ือนสู่
มหาวิทยาลยั สุขภาพ ปีท1่ี วันจันทร์ท่ี 21 ธันวาคม 2563

12.8 มกี ารต้ังคลินกิ จัดการความเครียด (Stress
Management Clinic) Online เพือ่ ใหบ้ ริการในด้าน
คำแนะนำ และการประเมินความเส่ยี งรวมถึงการสง่ ต่อเมื่อ
พบความผดิ ปกติ
- มีคลนิ ิกจัดการความเครยี ด (Stress Management
Clinic) และเปดิ ให้ดำเนินการตั้งแต่วนั ท่ี 1 กรกฎาคม
2563 ผ่านทางเวป็ ไซด์ HealthyCMU

https://healthycmu.com/clinic/
- จัดกจิ กรรม Open House เปิดบ้านจัดกาความเครียด

67


ผลผลิต (Output) ตวั ชีว้ ัดผลผลิต/คา่ เป้าหมาย
- จัดกิจกรรมพฒั นาอบรมแกนนำสขุ ภาพใจสำหรับ
12.9 มีการสอ่ื สารใหค้ วามรู้ทางสุขภาพ Online บคุ ลากร มช โดยมี มีแกนนำทั้งหมด 30 คน จาก 16
เผยแพรใ่ น website Healthy University, FB หนว่ ยงาน
- พัฒนาคูม่ ือแกนนำสขุ ภาพใจ เร่ืองการให้คำปรกึ ษา และ
คมู่ อื ความเครียดและวิธผี ่อนคลายความเครยี ด
- มีแบบสอบถามประเมินความเครยี ดบุคลากร
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่

12.9 มีการสอ่ื สารใหค้ วามรู้ทางสุขภาพ Online เผยแพร่
ใน website Healthy University, FB, Line Official,
YouTube, Podcast, Infographic, E-mail, บทความใน
วารสารทองกวาว, วารสาร Nursing Research Wisdom
และ ในหนังสือ่ พมิ พ์มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่, หนงั สือพมิ พ์
เชยี งใหม่นิวส์, FM 100, เว็ปไซด์มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่,
และ ศนู ยส์ ื่อสารองค์กร
- มPี odcast 9 ชนิ้
Podcast EP.1 ตอน What is Healthy CMU
Podcast EP.2 ตอน โครงการ 3 อ. (อาหาร ออกกำลัง
กาย อารมณ์
Podcast EP.3 ตอน การเฝา้ ระวงั พฤตกิ รรมเสยี่ งต่อการ
ได้รับเชอ้ื COVID-19)
Podcast EP.4 ตอน CMU i-Health
Podcast EP.5 ตอน Stop-Staff-Stress
Podcast EP.5 ตอน Stop-Staff-Stress
Podcast EP.6 ตอน Health MOOC
Podcast EP.7 ตอน Health Talk
Podcast EP.8 ตอน CMU Staff's Health Volunteer
Podcast EP.9 ตอน CMU Smart Self-Monitoring
Podcast พิเศษ จากรองศาสตราจารย์ นายแพทย์ รณภพ
เอื้อพนั ธเศรษฐอน CMU i-Health
- มีสอื่ Infographic จำนวน 16 หวั ขอ้
- มีการเผยแพรข่ ่าวสารจำนวน 60 ชิน้
- มกี ารแชร์โพสตข์ ่าวจำนวนสารจำนวน 50 ชน้ิ

- จัด Campaign Webinar คลนิ กิ Health CMU (MOR)

: Let’s Talk with (MOR) จำนวน 4 ครง้ั

- มีช่องทางประชาสมั พนั ธ์โครงการออนไลน์ จำนวน 4
ช่องทาง ไดแ้ ก่

Facebook Page : Healthy CMU
จำนวนผตู้ ดิ ตามเพจทัง้ หมด: 5,332 คน

68


ผลผลิต (Output) ตวั ชีว้ ัดผลผลติ /ค่าเปา้ หมาย

Line Official Account : Healthy CMU
จำนวนเพอื่ น 611 คน
YouTube Channel : Healthy CMU
Website : Healthy CMU

12.10 มีการจัดกิจกรรมการสรา้ งเสรมิ พลังงาน 12.10 ทำการคัดเลือกบุคคลต้นแบบ โดยการประชุมกลุ่ม
อำนาจ (Empowerment) สำหรับการสรา้ งเสรมิ คณะผู้จัดโครงการ โดยมีเกณฑ์คัดเลือกบุคคลที่มีปัญหา
สขุ ภาพของบคุ ลากรมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ ไดแ้ ก่ เก่ยี วกบั สขุ ภาพ และสามารถปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมกลับมา
กิจกรรม “Health Talk” สภู่ าวะสขุ ภาพทด่ี ี เป็นแบบอย่างต่อบคุ คลใหป้ ฏบิ ตั ติ าม
- ดำเนินการผลิตสื่อบุคคลต้นแบบโดยใช้เกณฑ์มาตรฐาน
ของสื่อวิดีทัศน์ออนไลน์ทั้งหมด 4 เรื่องและ Teaser
จำนวน 4 เร่ืองเสรจ็ ส้ิน
- กำลังดำเนินการเตรียมเผยแพร่บุคคลต้นแบบโดยใช้
เกณฑ์มาตรฐานของสือ่ วิดีทัศน์ออนไลน์และ Teaser เรื่อง
ท่ี 5 และ6

12.11มกี ารพฒั นาหลกั สตู รการสรา้ งเสริมสุขภาพสำหรบั
การป้องกนั โรคไมต่ ิดต่อเร้ือรงั ในคนวัยทำงาน ช่ือ CMU
Health MOOC

12.12 มีร่างนโยบายมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิททยาลัย
สขุ ภาพ

12.13 มี Model ตน้ แบบการขบั เคลื่อนมหาวทิ ยาลยั
สุขภาพ (Healthy CMU; Health Promotion Model)
และได้ดำเนนิ การพรอ้ มนำไปเผยแพรห่ รือประยุกต์ใช้ใน
ชุมชนใกลเ้ คียงหรือ องค์กร มหาวทิ ยาลัยอ่ืนได้

12.14 มีนวัตกรรมด้านสุขภาพเชิงกระบวนการ/สงั คม
(Processing/social innovation: Telehealth
Package) ที่พรอ้ มขยายผลเพ่ือใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ เมอื ง
เชียงใหม่ และ หน่วยงานทสี่ นใจได้

69


3.2 ปัญหาและอปุ สรรคท่เี กิดข้ึน
3.2.1 ปัญหาและอุปสรรคทเ่ี กดิ ขึ้น : รายงานความก้าวหนา้ รอบ 6 เดอื น (เดือนมกราคม - มถิ นุ ายน 2563)

ชอ่ื โครงการ ปัญหาและอุปสรรคท่เี กดิ ขน้ึ

กจิ กรรมท่ี 1:การวิเคราะห์ และระดมความคิดเห็นเพื่อ 1. การมสี ถานการณแ์ พร่ระบาดของโรค COVID-

จดั ทำแผน และการดำเนนิ โครงการ 19 โดยเฉพาะในชว่ งเดือน มีนาคม 2563-

พฤษภาคม 2563 ทำให้การดำเนนิ การประชมุ

คณะกรรมารโครงการมีการเปล่ยี นเป็นจัดประชมุ

ในรปู แบบ ZOOM meeting แทน อาจมีปัญหา

สญั ญาณ Internet ท่ไี ม่เสถยี ร

กจิ กรรมที่ 2: การพฒั นาระบบฐานข้อมลู สขุ ภาพ 1. การปรบั ปรุงเปลย่ี นแปลงข้อบ่งช้ีฟังกช์ นั ให้

(Developing of the Data Health Risk เป็นไปเพ่ือการใชง้ านท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพส่งผลต่อ

Assessment System)ของบุคลากร การแก้ไขเชิงโครงสร้างทใี่ ชร้ ะยะเวลาการแกไ้ ข

มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ นานกว่าปกติ

2. การยา้ ย Server มายงั สำนักบรกิ ารเทคโนโลยี

สารสนเทศ พบปัญหาทางเทคนคิ ความเขา้ กนั

ไม่ไดข้ องเวอร์ชนั ที่ให้บริการเครอื ขา่ ย พบว่ามี

ลกั ษณะข้อบ่งชี้ทางเทคนิคต่ำกวา่ ของระบบซึ่งไม่

สามารถใชง้ านได้ จึงจำเปน็ ต้องรอ้ งขอเพ่ือให้

ดำเนนิ การในลกั ษณะการปรับแตง่ แบบปกติ

อย่างไรกต็ ามในการดำเนินงานในข้ันปลาย ได้

ดำเนินการย้ายและร้องขอการใช้ Server มายงั

วทิ ยาลัย ศิลปะ ส่อื และเทคโนโลยี เน่อื งจากมี

ขอ้ กำหนดและลักษณะทางเทคนิคท่รี องรบั การใช้

งาน และมีความปลอดภยั เปน็ ไปตามมาตรฐาน

กจิ กรรมที่ 3: การพัฒนานวัตกรรมการคดั กรอง และ 1. ความไม่ชัดเจนในการปฏบิ ัตงิ านใหส้ อดคล้อง

ฝา้ ระวังภาวะสขุ ภาพเบ้ืองต้นดว้ ยตนเอง (Self- ตามแผนการดำเนนิ โครงการ และตวั ชี้วัด ของ

Monitoring Innovation) สถาบนั วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดยทไ่ี ม่

สามารถพัฒนาระบบ Smart Self Monitoring ได้

ตามแผนการดำเนินโครงการเดิม เกดิ เป็นปญั หาท่ี

ทางโครงการใหญ่ต้องมาช่วยวางแผนโดยเริ่มตั้งแต่

เดือนมนี าคม 2563 ทำให้ต้องมีการประชุม

แผนการทำงานหลายครั้ง และการวางแผนในการ

ปรับกิจกรรมการพัฒนาระบบ Smart Self

Monitoring ใหม้ ีการจา้ งเหมาหน่วยงานภายนอก

มาพัฒนาระบบแทน

2. ความไม่ชดั เจนในการบรหิ ารโครงการของ

สถาบนั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีซ่งึ มัก

ดำเนินการนอกเหนือจากแผนท่ีวางไว้โดยไม่ได้รับ

การอนมุ ัติใหด้ ำเนนิ การ และมักจะไม่ปฏิบตั ติ าม

70


ช่ือโครงการ ปัญหาและอุปสรรคท่เี กิดข้ึน

มติท่ีประชมุ ในการประชุมประจำเดือน รวมถงึ การ

ประชุมกลมุ่ ที่เกยี่ วข้องในการช่วยแกป้ ัญหาของ

โครงการนวัตกรรมการคัดกรองและเสรมิ

พฤติกรรมการดูแลสขุ ภาพของบุคลากรด้วยตนเอง

ผ่านอปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์แบบสวมใส่ (Smart

Wearable)ที่ใชร้ ว่ มกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ

สมัยใหม่

3. ความต้องการปรับลดงบประมาณด้านครุภัณฑ์

ของโครงการของสถาบนั วทิ ยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี และความต้องการปรบั เพิม่ งบประมาณ

ดำเนินการทำให้เกดิ ความซำ้ ซ้อนในกิจกรรมกบั

โครงการอน่ื เกิดความลา่ ชา้ กระทบภาพรวมของ

โครงการใหญ่ และไมส่ ามารถดำเนนิ การตาม

แผนการดำเนนิ โครงการและงบประมารเดิมท่ี

ไดร้ ับอนุมัติ

กจิ กรรมที่ 4: การจัดกจิ กรรมรณรงค์ด้านการสรา้ ง 1. ปญั หารการจดั กจิ กรรมรณรงคด์ า้ นการสร้าง

เสรมิ สขุ ภาพกาย สำหรับบุคลากรอย่างต่อเนื่องจดั ความตระหนัก สำหรบั บคุ ลากรอยา่ งต่อเน่ืองใน

กจิ กรรมรณรงคใ์ นวงกวา้ ง (Mass Communication) การจดั กิจกรรมรณรงคใ์ นวงกว้าง (Mass

Communication) การมสี ถานการณแ์ พร่ระบาด

ของโรค COVID-19

2. ศักยภาพการพัฒนาส่ือประชาสัมพนั ธ์ในแตล่ ะ

โครงการยอ่ ย ขอจำกัดดา้ นประสบการณ์ เวลา

และสถานการณโื ควิด-19 ทำใหไ้ มส่ ามารถผลิตสือ่

ประชาสมั พนั ธอ์ อกมาได้ตามกำหนดเวลาในเดอื น

ท่ี 1-2

กิจกรรมที่ 5: การดำเนนิ กิจกรรมการสร้างแกนนำ 1. การมสี ถานการณ์แพรร่ ะบาดของโรค COVID-

สขุ ภาพ เป็นการดำเนนิ การจัดกิจกรรมการสรา้ งแกน 19 โดยเฉพาะในช่วงเดอื น มีนาคม 2563-

นำ และคณะทำงานการสรา้ งเสริมสขุ ภาพให้เกิดขึ้นใน พฤษภาคม 2563 ทำให้การดำเนินการวางแผนใน

ทกุ คณะ หรือหนว่ ยงานในมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ การจดั อบรมตอ้ งเปล่ียนจากรูปแบบจัดในหอ้ ง

ประชุม

กิจกรรมท่ี 6: กิจกรรมการสรา้ งเสรมิ พลังงานอำนาจ 1. ปัญหาการระบาดของเชื้อโควิค -19 ทำให้

(Empowerment) ระยะเวลาทเี่ หลือไม่สามารถทำการถ่ายทำวิดีทัศน์

บุคคลต้นแบบได้ตามกำหนดเวลาที่วางแผนไว้ใน

การจัดทำสื่อวิดีทัศน์บุคคลต้นแบบทั้งหมดจึงมี 2

เร่ืองและ Teaser จำนวน 2 เรอ่ื ง

กจิ กรรมที่ 7: กจิ กรรมรณรงค์ดา้ นการสร้างเสรมิ 1. การดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ

สุขภาพใจสำหรับบคุ ลากร โครงการ แตม่ บี างงานทล่ี ่าช้ากว่ากำหนดเวลาที่ได้

- การหยุดความเครียดในทที่ ำงาน “Stop Staff วางแผนไว้เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19

Stress”

71


ชอ่ื โครงการ ปญั หาและอปุ สรรคทเี่ กิดข้ึน

กจิ กรรมท่ี 8: คลินิกจัดการความเครยี ด(Stress 1. การดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ
Management Clinic) โครงการ แตม่ ีบางงานท่ีล่าช้ากว่ากำหนดเวลาท่ีได้
วางแผนไว้เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19

3.2.2 ปญั หาและอุปสรรคทเี่ กิดข้ึน : รายงานความก้าวหน้า รอบ 6 เดือน (เดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2563)

ช่ือโครงการ ปัญหาและอปุ สรรคทเ่ี กดิ ขึ้น

กิจกรรมท่ี 1:การวเิ คราะห์ และระดมความคิดเห็นเพื่อ 1. ทางโครงการฯต้องปรบั แผนการดำเนนิ โครงการ

จดั ทำแผน และการดำเนนิ โครงการ ประชาสัมพนั ธ์เชงิ รุกเพ่ือการเข้าถงึ การใช้งานใน

ระบบ CMU i-Health และกิจกรรมต่างๆของ

โครงการโดยการได้ขอความร่วมมือกบั ทางคณะ

สอ่ื สารมวลชล, ITSC และสภาพนักงาน

2. ทางโครงการฯต้องพยายามตอบความต้องการ

ของผ้ใู ห้ทนุ ในการปรับตัวช้ีวัด และโจทยใ์ นการ

ดำเนนิ โครงการทีเ่ ปลีย่ นจากการสร้างเสรมิ

ศกั ยภาพบุคลากร มช มาเปน็ การสร้างนวัตกรรม

สุขภาพ

กจิ กรรมที่ 2: การพฒั นาระบบฐานขอ้ มลู สขุ ภาพ 1.การปรับปรงุ เปลี่ยนแปลงข้อบ่งชฟี้ ังกช์ นั ให้

(Developing of the Data Health Risk เป็นไปเพ่ือการใชง้ านท่ีมีประสิทธภิ าพสง่ ผลตอ่

Assessment System)ของบุคลากร การแก้ไขเชงิ โครงสรา้ งท่ีใชร้ ะยะเวลาการแก้ไข

มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ นานกวา่ ปกติ แตไ่ ดป้ รบั แก้ไขแล้วท้งั นีก้ เ็ พราะเพื่อ

การได้ระบบที่มปี ระสิทธิภาพและเกดิ ประโยชน์

สงู สดุ เพอ่ื ให้เปน็ ไปตามงบประมาณทีไ่ ดร้ บั การ

จัดสรร

2. การย้าย Server มายังสำนักบริการเทคโนโลยี

สารสนเทศ พบปญั หาทางเทคนิคความเข้ากนั ไม่ได้

ของเวอร์ชันที่ให้บริการเครือข่าย พบว่ามีลักษณะ

ข้อบ่งชี้ทางเทคนิคต่ำกว่าของระบบซึ่งไม่สามารถ

ใช้งานได้ จงึ จำเป็นต้องรอ้ งขอเพื่อใหด้ ำเนินการใน

ลักษณะการปรับแต่งแบบปกติ อย่างไรก็ตามใน

การดำเนินงานในขั้นปลาย ได้ดำเนินการย้ายและ

ร้องขอการใช้ Server มายังวิทยาลัย ศิลปะ ส่ือ

และเทคโนโลยี เนื่องจากมีข้อกำหนดและลักษณะ

ทางเทคนิคที่รองรับการใช้งาน และมีความ

ปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐาน โดยขณะนี้ได้ปรับ

และดำเนินการเป็นที่เรียบรอ้ ยแลว้

3. จำนวนผู้ใช้งานระบบมีจำนวนน้อยไม่เป็นไป

ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่

ไม่เข้าใจว่าระบบนำข้อมูลของตนเองไปทำอะไร

72


ชอื่ โครงการ ปญั หาและอปุ สรรคท่ีเกิดขน้ึ

กจิ กรรมท่ี 3: การพัฒนานวัตกรรมการคัดกรอง และ และเกิดความกังวลด้านการให้ข้อมูลสุขภาพ ขาด
ฝา้ ระวงั ภาวะสขุ ภาพเบ้ืองต้นด้วยตนเอง (Self- การทำความเข้าใจและการส่งเสริมในระยะเริ่มต้น
Monitoring Innovation) ในระยะแรกของการดำเนินการ ทางชุดโครงการ
ใหญ่จึงได้ดำเนินการให้ความเข้าใจผ่านแกนนำ
สุขภาพที่มีตัวแทนจากคณะต่างๆ เข้าร่วม
หลังจากนั้นจึงได้จำนวนของผู้ใช้งานระบบเพิ่มขึน้
ตั้งแต่เดือน กค. มีผู้ใช้งานประมาณ 50-70 คน
และมีการใช้งานต่อเนื่องจนถึงเดือน ธค. มี
ผู้มใช้งานมากกว่า 500 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 3
เท่า จากการชี้แจงทำความเข้าใจผ่านเครือข่าย
คณะต่าง ๆ และผ่านสภาพนักงาน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการ
ดำเนินการยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายในปีแรกที่มงุ่
ให้มีผู้ใช้งานมากกว่า 80% ดังนั้นในปีที่ 1 นี้ผล
การดำเนินการที่สามารถสร้างผลกระทบเบื้องต้น
ได้คือ การมีระบบการประเมินความเสี่ยงด้าน
สุขภาพที่มีความพร้อม ทั้งในรูปแบบระบบ การ
ประมวลผล การสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน
ระบบมมี าตรฐานความปลอดภยั และมีความเสถียร
เป็นไปตามที่ได้วางแผนไว้ ต้องสร้างความมั่นใจใน
การรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลและชี้แจงผ่าน
สื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ของช่องทา งท่ี
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ใช้สำหรับสื่อสารกับ
ประชาคม
4. ปญั หาด้านการเชอื่ มต่อกบั ฐานขอ้ มูลอน่ื ๆ ของ
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่เนื่องจากระบบและข้อ
รายละเอยี ดทางดา้ นเทคนคิ รวมถึงนโยบายยังไม่
เอือ้ ให้มีการนำข้อมลู มาใชง้ านได้ในขณะนี้ ซึ่งอาจ
ต้องปรับปรุงหากมีการผนวกระบบประเมินความ
เส่ียงเขา้ กับระบบ CMU MIS ทีไ่ มใ่ ชล่ กั ษณะการ
ใช้งานแค่ web portal เทา่ น้ัน

1. การดำเนนิ กจิ กรรมโครงการตา่ งๆมีความลา่ ช้า
ทัง้ ในการตัดสินใจ บริหารจดั การ ทำใหเ้ กดิ ความ
ผดิ พลาด ขอ้ ขัดแย้งและปัญหาบอ่ ยคร้ังกับ
หนว่ ยงานทดี่ ำเนินการรว่ ม
2. ไม่ค่อยให้ความร่วมมอื ในการดำเนินโครงการ
ร่วมกบั โครงการใหญ่
3. เกิดความผิดพลาดบอ่ ยครง้ั ในการดำเนินงาน
เชน่ การพฒั นาระบบCMU Self-Monitoring,

73


ชื่อโครงการ ปญั หาและอปุ สรรคท่ีเกดิ ขึน้

การเก็บข้อมูลแบบสอบถาม, การดำเนิน

โครงการวิจยั เพ่ือของจริยธรรมในมนุษย์, การ

ดำเนินวิจัยทไ่ี ม่ถูกต้องตามระเบียบวจิ ัย, การออก

หนงั สอื ราชการท่ีไม่เปน็ ไปตามระเบยี บราชการ,

และการจดั ซ้ือจัดจา้ งทีไ่ มส่ อดคล้องกับมตทิ ี่

ประชมุ และ ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างสำหรับ

งานวจิ ยั ปี 2562

4. ขาดคณะทำงานที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องที่

สถาบันวิจัยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยรี ับผดิ ชอบ

ทำใหไ้ ม่สามารถดำเนินการโครงการได้ตามแผน

กจิ กรรมท่ี 4: การจัดกิจกรรมรณรงค์ดา้ นการสรา้ ง 1. อุปสรรคด้านสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของ

เสรมิ สขุ ภาพกาย สำหรับบุคลากรอย่างต่อเนื่องจดั โรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้

กจิ กรรมรณรงค์ในวงกวา้ ง (Mass Communication) ต้องเลือ่ นกำหนดการจดั กิจกรรมทม่ี ผี เู้ ข้ารว่ ม

จำนวนมากและตอ้ งดำเนินการจัดกิจกรรม โดย

กำหนดมาตรการเพื่อป้องกนั การแพร่ระบาดของ

โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 และขอความ

รว่ มมือผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมดำเนินการอยา่ งเคร่งครดั

2. อุปสรรคด้านการกำหนดวัน เวลา และสถานท่ี

จดั กิจกรรมไมเ่ หมาะสม ทำใหม้ ีผเู้ ข้าร่วมกิจกรรม

จำนวนนอ้ ย ไมเ่ ป็นไปตามเป้าหมายท่ีกำหนด

3. อปุ สรรคด้านการประชาสัมพนั ธ์ บางกจิ กรรมมี

ระยะเวลาการประชาสมั พันธ์กิจกรรมน้อยเกินไป

ทำใหม้ ผี เู้ ข้ารว่ มกิจกรรมจำนวนนอ้ ย ไม่เป็นไป

ตามเป้าหมายท่กี ำหนด

4. เกดิ ความลา่ ชา้ ในการพัฒนาหลกั สูตร CMU

Health MOOC

กจิ กรรมที่ 5: การดำเนินกจิ กรรมการสรา้ งแกนนำ 1. ขาดงบประมาณในการดำเนินกจิ กรรมเพอ่ื

สุขภาพ เป็นการดำเนินการจัดกิจกรรมการสร้างแกน สนับสนนุ การพัฒนาโครงการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ

นำ และคณะทำงานการสร้างเสริมสขุ ภาพให้เกิดขึน้ ใน ของหน่วยงานตา่ งๆ 15 หนว่ ยงาน/ 15 โครงการ

ทุกคณะ หรอื หนว่ ยงานในมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่

กิจกรรมท่ี 6: กิจกรรมการสร้างเสรมิ พลังงานอำนาจ 1. อุปสรรคดานสถานการณการแพรระบาดของ

(Empowerment) โรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID19) ทําใหต

องเลื่อนกําหนดการถ่ายทำวิดีทัศน์บุคคลต้นแบบ

ได้ตามกำหนดเวลาที่วางแผนไว้จาก 6 เรื่อง ซ่ึง

ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 5 เรื่องเหลือการ

ดำเนินการเรื่องที่ 6 และการเผยแพร่ แต่สามารถ

ดำเนินการได้ครบตามแผนแม้จะเผยแพร่เรื่องที่ 5

และ 6 เลยไปช่วงไตรมาสที่ 1/2564

74


ชือ่ โครงการ ปญั หาและอุปสรรคท่เี กิดข้ึน
กจิ กรรมท่ี 7: กิจกรรมรณรงค์ดา้ นการสรา้ งเสริม
สุขภาพใจสำหรบั บุคลากร 1. โครงการฯในกิจกรรมที่ 1 ซง่ึ ต้องใหบ้ คุ ลากรทำ
- การหยดุ ความเครียดในทท่ี ำงาน “Stop Staff แบบสำรวจความเครียด เป็น QR code นั้นได้
Stress” จำนวนเพียง 924 คน ซึ่งยังไม่ถึงร้อยละ 50 ของ
บุคลากรทั้งหมดของมหาวิทยาลัย เนื่องจากการ
กิจกรรมที่ 8: คลินิกจัดการความเครียด(Stress เข้าถึงประชากรทัง้ หมดยังไมส่ ามารถทำได้เต็มท่ี
Management Clinic)
1. โครงการฯในกิจกรรมที่ 4-5 ไม่สามารถ
ดำเนินการได้เนื่องจากทางมหาวิทยาลัย ยังไม่มี
สถานที่ ที่จะให้จัดตั้งคลินิคคลายเครียดและห้อง
การให้การปรึกษา ทำให้กิจกรรมนี้ไม่สามารถ
ดำเนินการได้ โดยปัจจุบันได้จัดเป็นคลีนิคคลินิก
จดั การความเครยี ด(Stress Management Clinic)
Online

3.3 ข้อเสนอแนะต่อโครงการ

ช่อื โครงการ ข้อเสนอแนะตอ่ โครงการ

กจิ กรรมท่ี 1:การวเิ คราะห์ และระดมความคิดเห็นเพ่ือ 1. ควรพจิ ารณาการดำเนินโครงการตอ่ เน่ือง

จัดทำแผน และการดำเนินโครงการ ในปที ่ี 2/2564 เนื่องจากหากไดร้ บั อนุมัติให้

ดำเนินการในปีที่ 2/2564 ทางโครงการคาดวา่ จะ

สามารถต่อยอดจากผลผลิตทท่ี ำสำเร็จในปที ี่

1/2563 ให้เกิดเป็นนวตั กรรมและสร้างผลกระทบ

ในด้านสุขภาพเชิงสงั คม เศรษฐกจิ ได้แน่นอน และ

สอดคล้องต่อ SDG 3,9, 11, 17

2. ทางโครงการคิดเห็นวา่ มหาวิทยาลยั ควรให้

โอกาสทางโครงการ HealthyCMU ขยายผล

การดำเนนิ โครงการท้งั ใน และนอก

มหาวทิ ยาลัย จะทำให้เหน็ ผลผลติ

(Innovation Outputs) ในเชงิ นวตั กรรม

และผลกระทบทางสังคม (Social Impacts)

ที่ชดั เจนมากขึ้น

3. ควรผลักดนั รา่ งนโยบาย

มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลยั สุขภาพ

เป็นนโยบาบสุขภาพของ

มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ในการขับเคลอื่ นสู่

มหาวิทยาลัยสขุ ภาพ และประสิทธิภาพใน

การดำเนนิ โครงการ/กิจกรรมตา่ งๆด้านการ

สร้างเสรมิ สขุ ภาพ และความร่วมมมือในทุก

ระดับมากย่ิงขื้น

75


ชอื่ โครงการ ขอ้ เสนอแนะต่อโครงการ

กิจกรรมท่ี 2: การพฒั นาระบบฐานข้อมูลสขุ ภาพ 4. การมพี ้นื ท่ดี ำเนินการในส่วนของคลินิก
(Developing of the Data Health Risk) จัดการความเครียด/แผนกสร้างเสรมิ สุขภาพ
Assessment System)ของบุคลากร สำหรบั บคุ ลากรและนักศึกษา มช. ในส่วน
มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ ของอาคารไผล่ ้อมทก่ี ำลงั Remodel ใน
อนาคตเพื่อความย่ังยืนในการดำเนินการ
ขับเคล่ือนสูม่ หาวทิ ยาลัยสขุ ภาพ

1. เนอื่ งจากระบบอาจสรา้ งความดงึ ดูดของ
ผูใ้ ช้งานไดไ้ ม่มากเทา่ ท่ีควร การทำให้ระบบ
นา่ สนใจมากขนึ้ โดยการพฒั นาฟงั ก์ชันอน่ื ๆ ที่
รองรับเพ่ือมปี ฏิสัมพนั ธก์ ับผใู้ ช้งานมากขึน้ อย่างไร
กต็ ามในปีที่ 1 นี้โครงการวิจัยไดด้ ำเนนิ การพัฒนา
SMS และ Line เพอ่ื รายงานผลสุขภาพ
2.ควรผลกั ดนั รา่ งนโยบายมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
มหาวทิ ยาลัยสขุ ภาพเพ่ือการมีนโยบายสขุ ภาพที่
ชัดเจนจากมหาวิทยาลัย ในการนำไปใช้ และการ
ขอความร่วมมอื หรือขอความอนุเคราะห์พิจารณา
ใชง้ าน จะชว่ ยใหม้ จี ำนวนการใชง้ านและให้ความ
สนใจอาจมกี ารใช้งานระบบมากขน้ึ เพอื่ ข้อมลู
ภาพรวมของมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ดา้ นสุขภาพจะ
สามารถนำไปกำหนด เปน็ นโยบายหรอื กจิ กรรม
ตา่ ง ๆ ท่จี ะนำไปสู่การสร้างเสรมิ สุขภาพของชาว
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหมไ่ ด้ต่อไปในอนาคต และเพื่อ
เปน็ การต่อยอดสูก่ ารเปน็ สมาชิกภายใตก้ รอบ
AUN-HPN ตอ่ ไป
2. การประชาสัมพันธ์ในภาพรวมของโครงการแม้
จะทำไปจำนวนมาก แตอ่ าจเนอื่ งจากความสนใจ
และความร่วมมือของบุคลากรต่างๆ ในแต่ละคณะ
ยังมนี อ้ ย รวมถึงไมม่ นี โยบายกำกบั ชัดเจน ควร
เน้นการใช้โฆษณา และสื่อประชาสัมพันธท์ ุก
รูปแบบโดยเฉพาะ และการมีงบประมาณในสว่ นน้ี
ใหเ้ พยี งพอ เพื่อใหเ้ กดิ ความถี่ในการมองเหน็ มาก
ขึน้ จะเป็นประโยชน์ต่อโครงการในภาพรวมได้
เพราะปัจจุบันยังมีผ้เู ข้ารว่ มและรบั ทราบว่า
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่มีโครงการ Healthy CMU
คอ่ นข้างน้อย ในอนาคตหากมกี ารเข้าถึงข้อมลู
ดังกล่าวอาจจะช่วยให้สามารถสรา้ งผลกระทบเชิง
สังคม ของประชาคมชาวมหาวิทยาลัยเชียงใหมใ่ น
การให้ความสำคัญดา้ นสุขภาพ และเข้าสสู่ งั คมนัก
ปฏิบตั ิดา้ นการสง่ เสรมิ สุขภาพต่อไป

76


ชอื่ โครงการ ขอ้ เสนอแนะต่อโครงการ

กิจกรรมท่ี 3: การพฒั นานวัตกรรมการคัดกรอง และ 3.ควรขยายผลการดำเนนิ โครงการการพฒั นา
ฝา้ ระวังภาวะสขุ ภาพเบ้ืองตน้ ดว้ ยตนเอง (Self- ระบบฐานข้อมูลสุขภาพ (Developing of the
Monitoring Innovation) Data Health Risk) ในปีที่ 2/2564 เพอ่ื จะได้
ข้อมลู ท่ีครอบคลุม และนำไปสู่การขยายผลในการ
กิจกรรมที่ 4: การจัดกิจกรรมรณรงคด์ ้านการสรา้ ง ประเมนิ ความเสี่ยงสุขภาพทงั้ มหาวิทยาลัย และ
เสริมสุขภาพกาย สำหรบั บุคลากรอย่างต่อเน่ืองจดั การชว่ ยเหลอื ชมุ ชนรอบนอกใหเ้ กิดเปน็ นวัตกรรม
กิจกรรมรณรงค์ในวงกวา้ ง (Mass Communication) และสร้างผลกระทบในด้านสุขภาพเชงิ สงั คม
เศรษฐกจิ ได้แน่นอน และสอดคล้องต่อ SDG 3,9,
11, 17

1. มีความไม่ชัดเจนในด้านแผนการดำเนิน
โครงการ ขาดความเชี่ยวชาญ องค์ความรู้ และ
การบรหิ ารจดั การท่ีดีพอ มคี วามเสีย่ งและไม่คุ้มค่า
ต่อการลงทุนในการขยายผลในปีท่ี 2/2564
2. หากจะดำเนินโครงการต่อเนื่องในปีที่ 2/2564
ค ว ร ใ ห ้ ห น ่ ว ย ง า น ท ี ่ ม ี ค ว า ม เ ช่ี ย ว ช า ญ ท า ง ด ้ า น
สุขภาพ และวิศวะกรรมศาสตร์ มารับผิดชอบ
โดยตรง เพื่อแดำเนินการ Testing Prototype
ของระบบ CMU Self-Monitoring ในกิจกรรมที่
2 รวมถึงภายหลังการ การทดสอบระบบ และการ
จะนำระบบ CMU Self-Monitoring จะนำไปใช้
กับบุคลากร มช เพื่อความปลอดภัย ถูกต้อง และ
คุ้มคา่ และการขยายผลเชิงพาณิชย์

1. การสือ่ สารและการรณรงค์ด้านสุขภาพ ควร
ไดร้ ับการสง่ เสริมอย่างต่อเน่ือง แมว้ ่าโครงการปี
ท่ี 1 จะสมั ฤทธิผลในระดบั หน่ึงแล้วก็ตาม
เน่อื งจากการสื่อสารโดยทว่ั ไปจะส่งผลเพียง
กอ่ ให้เกิดการตระหนักรใู้ นโครงการในลำดับแรก
การตอกย้ำสารจะนำมาซึ่งความสนใจแสวงหาและ
รับข้อมูลที่จำเปน็ ต่อการตัดสินใจ และการส่ือสาร
ทตี่ ่อเน่ืองและสอดคลอ้ งกันโดยเครือ่ งมือการ
ส่ือสารท่ีหลากหลายจะนำมาสู่การตดั สนิ ใจ
เปลีย่ นแปลงพฤติกรรมอนั เป็นเปา้ หมายสงู สดุ
2. การวางแผนการส่อื สารเพื่อขับเคลอ่ื นสู่
มหาวิทยาลยั สขุ ภาพ (Healthy CMU) ควรมี
การศกึ ษากลุ่มเปา้ หมายท่ปี ระกอบด้วยคณาจารย์
เจ้าหนา้ ทบ่ี คุ ลากร นักศึกษา ในด้านลักษณะทาง
จติ วิทยา ลกั ษณะเด่นทางประชากรศาสตร์ วิถี
ชีวิต เพื่อนำมาเป็นขอ้ มลู ในการออกแบบกลยุทธ์
การสอื่ สารให้กับโครงการย่อยทุกโครงการ ซึง่ จะ

77


ชือ่ โครงการ ขอ้ เสนอแนะต่อโครงการ

กิจกรรมท่ี 5: การดำเนนิ กิจกรรมการสรา้ งแกนนำ นำมาซ่งึ ภาพรวมในการส่ือสารทีเ่ หมาะสมกับกลุ่ม
สุขภาพ เป็นการดำเนินการจัดกจิ กรรมการสรา้ งแกน เปา้ หมาย่อยของทุกโครงการ
นำ และคณะทำงานการสร้างเสริมสุขภาพใหเ้ กิดขึ้นใน 3. ควรมกี ารตดิ ตามผลวา่ คณะ, หนว่ ยงาน/ศนู ย์/
ทุกคณะ หรือหน่วยงานในมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ องค์กร/สถาบัน วา่ มกี ารนำผลลพั ธ์ของโครงการฯ
ไปสร้างเสรมิ สขุ ภาพสำหรบั บุคลากร
กิจกรรมท่ี 6: กิจกรรมการสรา้ งเสริมพลังงานอำนาจ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ไปต่อยอดในองค์กรตวั เอง
(Empowerment) อยา่ งไร
5. กจิ กรรม 3 อ. อาจใหแ้ กนนำสขุ ภาพบุคลากร
กจิ กรรมท่ี 7: กจิ กรรมรณรงค์ดา้ นการสรา้ งเสรมิ มช ของแตล่ ะคณะ/หน่วยงานเป็นผูด้ ำเนินการ
สขุ ภาพใจสำหรับบคุ ลากร ตอ่ เน่อื งแทนในปีที่ 2/2564

1. ควรสนับสนนุ การทำงานของแกนนำสขุ ภาพ
บคุ ลากร มช ให้สามารถทำงานอยา่ งมีความสุข
2. ควรสรา้ งกลไกการรักษากลมุ่ แกนนำสขุ ภาพ
บุคลากร มช. ใหค้ งอยู่มีการพัฒนา และได้โอกาส
ในการช่วยเหลอื มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานใน
การดำเนนิ งานสรา้ งเสริมสุขภาพอย่างตอ่ เน่ือง
3. ควรสนบั สนุนทัง้ ด้านโอกาส เวลา และ
งบประมาณในการใหแ้ กนนำพัฒนากจิ กรรม/
โครงการสร้างเสรมิ สุขภาพในหนว่ ยงาน/คณะของ
คนเอง/ในมหาวทิ ยาลยั อยา่ งต่อเน่อื ง
4. ควรมีหนว่ ยงานรับผดิ ชอบดแู ลกลุ่มแกนนำ
สุขภาพบคุ ลากรมหาวิทยาลยั เชียงใหมใ่ นการ
ดำเนนิ กิจกรรม/โครงการตา่ งๆท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่
มหาวทิ ยาลัย
5. ควรพจิ ารณาการดำเนินโครงการต่อเน่ืองในปีที่
2/2564 จะสามารถต่อยอดจากผลผลติ ทที่ ำสำเร็จ
ในปีที่ 1/2563 ใหเ้ กิดเปน็ นวัตกรรมและสร้าง
ผลกระทบในด้านสขุ ภาพเชิงสังคม ความย่งั ยนื
และสอดคล้องต่อ SDG 3,11, 17

1. ปัญหาการระบาดของเชื้อโควิค -19 ทำให้ไม่
สามารถทำการถ่ายทำวิดีทัศน์บุคคลต้นแบบได้
ตามกำหนดเวลาที่วางแผนไว้ แก้ไขโดยพยายาม
เร่งการถ่ายทำใหเ้ ร็วขน้ึ
2. ในการดำเนินโครงการปีที่ 2 อาจเปลี่ยนกลุ่ม
คนต้นแบบเป็นคนในสาย/สาขาต่างๆ และกลุ่มวัย
นักศกึ ษา/ วยั ทำงานตอนตน้

1.เพมิ่ ระยะเวลาการอบรม และเน้นการปฏิบัติ
เชน่ ควรจัดการอบรมแบบ intensive course
ระยะเวลา 2 วัน ใหแ้ กนนำสุขภาพใจ

78


ชอื่ โครงการ ข้อเสนอแนะต่อโครงการ
- การหยดุ ความเครียดในทท่ี ำงาน “Stop Staff
Stress” 2. แกไ้ ขปัญหาสุขภาพใจของบคุ ลากร มช และ
ควรเพ่มิ ในกลุ่มนักศึกษาดว้ ยเพราะเป็นประเดน็
กจิ กรรมที่ 8: คลินิกจดั การความเครียด(Stress สุขภาพท่ีสำคัญและยงั ไม่มกี ลไก หรอื กระบวนการ
Management Clinic) ที่ชัดเจนในปจั จบุ ัน
3. ควรพจิ ารณาการดำเนินโครงการต่อเนื่องในปีท่ี
2/2564 จะสามารถตอ่ ยอดจากผลผลิตท่ีทำสำเร็จ
ในปีที่ 1/2563 ให้เกิดเปน็ นวัตกรรมและสร้าง
ผลกระทบในด้านสุขภาพเชิงสังคม ความยั่งยนื
และสอดคล้องต่อ SDG 3,11, 17
4. การดำเนินโครงการต่อเน่ืองในปีท่ี 2/2563
ควรเนน้ ให้มกี ารพัฒนาระบบการประเมนิ และ
ระบบการสง่ ต่อทีด่ ีพอในการแกป้ ญั หาทางสขุ ภาพ
ใจหรบั บคุ ลากรและนักศกึ ษา

1. ประชมุ ปรึกษาในกรรมการโครงการและแก้ไข
ปัญหาเรื่องสถานที่ดำเนนิ การ เชน่ การมีพืน้ ท่ี
ดำเนนิ การในสว่ นของคลนี คิ จัดการความเครยี ด/
แผนกสร้างเสรมิ สุขภาพสำหรับบคุ ลากรและ
นักศึกษา มช. ในส่วนของอาคารไผ่ล้อมที่กำลัง
Remodel
2. การพฒั นาแผนการดำเนินโครงการในปีที่
2/2564 ที่ควรเนน้ ทั้งในบุคลากรและนักศึกษา
3. การมีระบบการประเมนิ การส่งต่อที่ดีพอในการ
แก้ปัญหาทางสขุ ภาพใจสำหรับบคุ ลากรและ
นักศึกษา

79


3.4 แผนการดำเนนิ โครงการในปที ี่ 2/2564

แบบฟอร์มการจดั ทำโครงการ/กิจกรรม

เพ่ือของบประมาณการขบั เคล่ือนยทุ ธศาสตร์ที่ 2 เชงิ รุก : นวัตกรรมดา้ นอาหารและสุขภาพ และการดูแลผสู้ งู อายุ

จากงบประมาณเงนิ รายได้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564

ช่ือโครงการ/รายการ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่มหาวทิ ยาลยั สขุ ภาพอย่างอจั ฉรยิ ะและยงั่ ยนื

(Smart and Sustainable Healthy Chiang Mai University)

1.1 ส่วนงานทีร่ บั ผิดชอบหรือคณะทำงานขับเคลอ่ื นยุทธศาสตร์ฯ

หัวหน้าโครงการ รศ. ดร .วณิชา พ่ึงชมภู

ตำแหน่ง หวั หน้าโครงการ

โทรศัพท์ 053-949052 โทรสาร 053-217145

โทรศพั ท์เคล่ือนท่ี 094-8307089 E-mail [email protected]

ผปู้ ระสานงาน ผศ. ดร. พชั รนิ ทร์ ไชยสุรนิ ทร์

ตำแหน่ง ผู้ประสานงาน

โทรศัพท์ 053-945017 โทรสาร 053-217145

โทรศัพท์เคลอ่ื นท่ี 080-5426692 E-mail [email protected]

1.2 หนว่ ยงานภายในทร่ี ่วมรับผดิ ชอบโครงการ

1.2.1 นักวจิ ยั รว่ ม:

รศ ดร. นงเยาว์ เกษตรภิบาล

ผศ. ดร. วันเพญ็ ทรงคำ

ผศ. ดร. วราวรรณ อุดมความสขุ

ผศ. ดร. ชาลณิ ี สวุ รรณยศ

ผศ. ดร. ณัฐธยาน์ สวุ รรณคฤหาสน์

ผศ. ดร. พัชรินทร์ ไชยสรุ นิ ทร์

1.2.2 หนว่ ยงานท่ีรบั ผิดชอบรว่ ม:

- คณะเภสชั ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่

ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. กรรณกิ า เทยี รฆนิธิกูล และกล่มุ วจิ ัย

ภาควิชาบริบาลเภสชั กรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่

- คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่

รองศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์ บญุ เชยี งและกล่มุ วจิ ยั

- คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่

ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ทพญ. ดร. ปยิ ะนารถ จาตเิ กตุและกลุ่มวจิ ัย

- วทิ ยาลยั ศลิ ปะ ส่อื และเทคโนโลยี

ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. จิรพฒั น์ วาณิชวัฒนะโกศล และกลุ่มวจิ ยั

ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. อรวชิ ย์ ถนิ่ นุกลู และกลมุ่ วจิ ัย และกลุ่มวจิ ัย

ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. นพพล ชศู รีและกลุ่มวจิ ยั

อาจารย์ ดร. ปรดี ิ์ เท่ียงบูรณธรรม

80


- คณะส่ือสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่
รองศาสตราจารย์ ธีรภทั ร วรรณกลุ
อาจารย์ ดร. ศวิ พร สุกฤตานนท์

1.3 หน่วยงานภายนอกทร่ี ว่ มรบั ผดิ ชอบโครงการ
…-…………………………………..

2. ความสอดคลอ้ งกับตัวช้ีวัดผลการดำเนินงานหลกั ของยุทธศาสตร์ที่ 2 เชิงรุก :

⚫ ตัวชว้ี ดั ท่ี 1 : คุณคา่ ทางเศรษฐกิจ สงั คมและสิง่ แวดล้อมทีเ่ กดิ จากนวัตกรรมด้านอาหารและสขุ ภาพและ
การดูแลผ้สู ูงอายุ

 ตัวชีว้ ัดท่ี 2 : รายไดท้ เี่ พ่ิมขึ้นหรือคา่ ใชจ้ า่ ยทล่ี ดลงของมหาวทิ ยาลยั จากนวตั กรรมและการบริหารจดั การ
ด้านอาหารและสขุ ภาพและการดแู ลผูส้ งู อายุ

 ตวั ชีว้ ดั ท่ี 3 : จำนวนธุรกจิ เกดิ ใหม่ (Spin off / Start up)

 ตวั ช้ีวัดที่ 4 : จำนวนนวัตกรรมดา้ นอาหารและสุขภาพ และการดูแลผสู้ งู อายุ

 ตัวชว้ี ัดที่ 5 : สาขาวิชาด้านอาหารและสุขภาพ และการดูแลผสู้ ูงอายไุ ดร้ ับการจดั อนั ดับ World QS
Ranking by Subject ทีด่ ีขน้ึ

3. ระยะเวลาดำเนินโครงการ/กจิ กรรม  1 ปี  ผกู พัน เร่ิมตน้ ปี .................. ส้นิ สดุ ปี .................

4. ความสำคัญของโครงการ/หลกั การและเหตุผล:

แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (2555 – 2559) และ
ยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และตัวชี้วัด กระทรวงสาธารณสุขประจําปี พ.ศ. 2558 ต่างให้ความสําคัญกับการสร้างเสริม
สุขภาพและการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อการนําสู่สุขภาวะที่พึงประสงค์ ทั้งนี้ทั้งสองแผนได้เล็งเห็นถึงสภาพ
สังคมไทยในอนาคตที่จะะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ นอกจากนี้แผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545 – 2564) ได้
กล่าวถึงมาตรการการให้การศึกษาและการเรยี นรูต้ ลอดชวี ิต มาตรการสง่ เสรมิ ความรู้ในดา้ นการส่งเสรมิ สุขภาพ ป้องกัน
ดูแลตนเองเบ้อื งตน้ และมาตรการสนับสนนุ ผ้สู ูงอายุท่มี ีศักยภาพไว้ด้วย แสดงใหเ้ ห็นวา่ การสร้างเสริมสุขภาพ การมีส่วน
ร่วมของชุมชนมีความสําคัญอย่าง ยิ่งต่อประเทศไทยในอนาคต โดยในปัจจุบันนี้ประเทศไทยกําลังก้าวเข้าสู่สังคม
ผสู้ ูงอายุซ่งึ สอดคล้องกบั สถานการณ์ทีเ่ กดิ ขนึ้ ทัว่ โลก การเปล่ยี นแปลงโครงสร้างประชากรที่เกิดจากจํานวนประชากรท่ี
มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปเพิ่มจํานวนมากขึ้น คาดการณ์ว่าถึงร้อยละ 23 ในปี ค.ศ. 2025 และ ในปี ค.ศ. 2050 จะมีผู้สงู
อายุ 2 พันล้านคน ซึ่งร้อยละ 80 อาศัยอยู่ในประเทศกําลงั พัฒนา (Nantsupawat, 2009) สําหรับประเทศไทยน้นั ในปี
พ.ศ. 2553 มีผู้ที่อายุ 60 ปี มีจํานวนร้อยละ11 ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น เป็นร้อยละ 20 ในช่วง
ระหว่างปี พ.ศ. 2568 - 2573 (Institute for Population and Social Research, 2010; Bureau of Policy and
Strategy, Ministry of Public Health, 2014) เมื่อบุคคลเข้าสู่วัยสูงอายุจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทั้งทางร่างกาย
และจิตใจ การเปลยี่ นแปลง ของร่างกายท่ีเกิดขนึ้ ทาํ ใหค้ วามสามารถในการดแู ลตนเองลดลง และต้องพึง่ พงิ การดแู ลจาก
ครอบครัวเพิ่มขึ้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการประกอบกิจวัตรประจำวัน Strategy and Planning Division
(2014) รายงานว่าผู้สูงอายุร้อยละ 47 มี ค่าดัชนีมวลกายสูงกว่าเกณฑ์ปกติ ปัญหาสุขภาพที่พบมากคือ โรคเรื้อรังเช่น

81


ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคของกล้ามเนื้อและข้อเข่าเสื่อม และปัญหาสุขภาพฟัน และพบว่าผู้สูงอายุเพียงร้อยละ
26 ที่มีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ ผลการคัดกรองความเสี่ยงโรคเรื้อรัง พบว่าผู้สูงอายุ กว่าร้อยละ 40 ไม่ทราบว่า
ตนเองมีโอกาสเป็นเบาหวาน และ/หรือ ความดันโลหิตสูง (Bureau of Policy and Strategy, Ministry of Public
Health, 2014)

แผนพัฒนาผู้สูงอายุฉบับที่ 2 (2545 - 2564) และแผนบูรณาการพัฒนาสุขภาพกลุ่มวัยผู้สูงอายุ 2557 –2566
ล้วนให้ความสําคัญกับการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ การพัฒนาการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการส่งเสริมสุขภาพ สะท้อน
ให้เห็นว่าทิศทางการดูแลสุขภาพคนในวัยทำงานที่ควรให้ความสําคัญกับการพัฒนาคนกลุ่มวัยทำงานให้มีพฤติกรรม
ส่งเสริมสุขภาพโดยใช้การมีส่วนร่วมในการสร้างพลังขับเคลื่อน โดยเน้นกิจกรรมการดูแลที่สอดคล้องกับภาวะสุขภาพ
การส่งเสริมสุขภาพ และการเฝ้าระวังความเสี่ยงต่อความรุนแรง หรือภาวะแทรกซ้อนของโรคเรื้องรังที่อาจเกิดในวัย
ทำงานและวัยใกล้สูงอายุได้ Kumsuchat et al. (2004) การมีส่วนร่วมของบุคลากรจึงเป็นเหมือนกุญแจสำคัญที่จะ
ส่งผลให้เกิดความสําเร็จของการส่งเสริมสุขภาพในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การมีส่วนร่วมจะเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าท่ี
บุคลากรได้มีส่วนร่วมในทกุ ขัน้ ตอน ทั่งในการแก้ไขปัญหาและปอ้ งกันปัญหาโดย มีส่วนร่วมในการคิดริเริ่ม ร่วมกําหนด
นโยบาย ร่วมวางแผน ตดั สนิ ใจและปฏิบัตติ ามแผน ร่วมตรวจสอบ ร่วมติดตามประเมนิ ผลและรบั ผิดชอบในเร่ืองต่าง ๆ
อันมีผลกระทบต่อภาวะสุขภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกรูปแบบ พบว่าด้านการดําเนินงานส่งเสริม
สุขภาพโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนสามารถส่งผลให้ทักษะในการดูแลตนเองดีขึ้น (Kamsuchat et al., 2004) ดังน้ัน
การมีส่วนร่วมในการดูแลด้านสุขภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงเป็นสิ่งสําคัญในการขับเคลื่อน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สู่มหาวิทยาลัยที่มีสุขภาวะที่ดี ( Healthy University) เพื่อมุ่งเน้นให้บุคคลใน
มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่มีศักยภาพในการดแู ลตนเองและสามารถปฏบิ ัติงานได้อยา่ งสมบรูณ์มีประสิทฺธภิ าพ

แผนพัฒนาการศึกษามหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ระยะที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) ที่สอดคล้องตามยุทธศาสตรท์ ี่ 2
เชงิ รุกในด้านของนวัตกรรมอาหาร สุขภาพ และการดูแลผสู้ งู อายุ นำไปส่ศู กั ยภาพของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการการ
ผลิตบัณฑิตที่มคี ุณธรรม คุณภาพและทักษะการเป็นพลเมืองโลก (Global Citizen Skills) และผลิตงานวิจัยที่ตอบสอง
ต่อสถานการณ์ประเทศในการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และการที่ประเทศไทยมุ่งสู่ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย การพัฒนา
ประเทศสู่ Thailand 4.0 ตลอดจนการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพตรง
ตามความต้องการของประเทศ เพื่อยกระดับให้ประเทศไทยพ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ( Middle Income
Trap) ไปสู่ประเทศที่มีรายได้ขั้นสูง (High Income Country) และเพื่อให้สอดรับยุทธศาสตรต์ ามแผนพัฒนาเศรษฐกจิ
และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) และกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) โดย
โครงการพัฒนาศักยภาพการส่งเสริมสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สำหรับการขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัย
สุขภาพมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้มีความสามารถในการดูแลสุขภาพตนเอง ป้องกัน
และควบคมุ โรคไม่ติดตอ่ เรื้อรังได้แกโ่ รคความดันโลหติ สูง โรคเบาหวาน โรคไขมนั ในเลอื ดสูง โรคไต และโรคกระดูกพรุน
นำไปสกู่ ารขับเคล่ือนความเข้มแขง็ ของมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ในการเป็นมหาวทิ ยาลยั สขุ ภาพและการเตรียมความพร้อม
บุคลากรมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ในการรองรับการเข้าสู่สังคมผสู้ ูงอายุต่อไป

82


รปู ที่ 1 แผนการพัฒนาการศึกษามหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ ระยะท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2564)

การพัฒนาศักยภาพการสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำหรับการขับเคลื่อนสู่
มหาวิทยาลัยสุขภาพ (Healthy CMU) โดยพัฒนากิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพและศักยภาพของบุคลากรใน
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ ทง้ั บคุ ลากรสายวิชาการและสายสนับสนุนใหส้ ามารถดูแลตนเองเพ่ือป้องกนั การเกิดโรคไม่ติดต่อ
เรื้อรังที่พบบ่อยในวัยทำงาน ลดอุบัติการณ์ของการเกิดปัญหาสุขภาพ ภาวะทุพพลพลภาพเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เพื่อ
นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเตรียมความพร้อม
รองรับเข้าส่วู ยั เกษียณอย่างมีคณุ ภาพในอนาคต

จากการสืบคน้ ขอ้ มลู ด้านสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่น้ัน พบวา่ ยงั ไม่มีการจัดทำระบบฐานข้อมูล
สุขภาพที่ชัดเจน รวมถึงมีการสำรวจข้อมูลสุขภาพของบุคคลากรในบางคณะฯ และ ข้อมูลกระจัดกระจายไม่เป็นไปใน
ทศิ ทางเดยี วกนั และยงั พบวา่ เป็นการยากทหี่ นว่ ยงานหรือคณะฯ จะให้ข้อมูลสุขภาพของบุคคลากรตนเองเนื่องจากเป็น
ขอ้ มูลที่ค่อนขา้ งบอบบางและมผี ลต่อความเป็นส่วนตวั ของเจ้าของข้อมลู ทางผูบ้ รหิ ารมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ โครงการน้ี
จึงเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพ และการสื่อสารประชาสัมพันธ์ระบบฐานข้อมูล รวมถึง
ข่าวสารความรู้กิจกรรมเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีแก่บุคลากรมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพของ
บุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง
เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หัวใจ และความเครียด ที่มีปัจจัยเกีย่ วข้องกับการปฏิบัติงาน โดยมีจุดมุ่งหมายให้เกิดการมี
ส่วนร่วม เล็งเห็นความสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อบุคคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกคนจะมีสุขภาพที่ดี
ปลอดภัยจากอันตรายและลดภาวะแทรกซ้อนของโรคไม่ติดต่อเร้ือรัง ภายใตก้ ารเคารพสิทธสิ ว่ นตวั ในการไมน่ ำข้อมูลมา
เผยแพร่ในที่สาธารณะ การขออนุญาตที่จะดำเนินการรวบรวมข้อมูลและนำเสนอในภาพรวมทั้งมหาวิทยาลัยเพื่อ
นำไปใช้ในเชิงนโยบาย และการจัดกิจกรรมสุขภาพที่มีประโยชน์แก่บุคลากร ทั้งนี้กระบวนการจะดำเนินการโดยผ่าน
กระบวนการสร้างความตระหนัก และการจดั กจิ กรรมการสร้างเสรมิ สุขภาพ นอกจากนเ้ี ปน็ อีกบทบาทของมหาวิทยาลัย
ในการสง่ เสริมสุขภาพของบคุ ลากรรวมถงึ ชมุ ชนใกลเ้ คียงจากการดำเนินโครงการสรา้ งเสริมพฒั นาศักยภาพของบุคลากร
ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยสุขภาพดี ลดอุบัติการณ์ของการเกิดปัญหา
สุขภาพ ภาวะทุพพลพลภาพของบุคลากรเม่ือเข้าสวู่ ัยสูงอายุ นำไปสู่การเพม่ิ ศักยภาพและประสิทธภิ าพของบุคลากรใน

83


มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการทำงาน และสามารถเตรียมตัวรองรับเข้าสู่วัยเกษียณได้อย่างเหมาะสม และเนื่องจาก
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในฐานะเป็นเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน ASEAN University Network (AUN) และ AUN-
Health Promotion Network (AUN-HPN) มีนโยบายเพื่อเสริมสร้างความสามารถของมหาวิทยาลัยและขับเคลื่อนสู่
การเป็น "มหาวิทยาลัยสุขภาพ" ภายใต้กรอบมหาวิทยาลัยสุขภาพ หรือ Health University Framework ซึ่งเป็นทิศ
ทางการขับเคลื่อนไปสู่ความเปน็ มหาวิทยาลยั สุขภาพ การพัฒนามหาวทิ ยาลัยเพือ่ เป็นมหาวทิ ยาลยั สร้างเสรมิ สุขภาพ มี
เป้าหมายเพื่อให้บุคลากรและนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง จากการเข้าร่วมโครงการ/
กิจกรรมกีฬา และการออกกำลังกายที่มหาวิทยาลัยจัดขึ้น แนวคิดของการพัฒนาสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสริม
สุขภาพ ซึ่งจะต้องเกิดจากการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ตั้งแต่ผู้กำหนดนโยบาย คือ ผู้บริหาร บุคลากรและนิสิต
นักศึกษาของมหาวิทยาลัย ที่จะกำหนดแนวทางวิธีการและเป้าหมายในการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญใน
การส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การมีคุณภาพชวี ติ ที่ดี

ดังนั้นโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สู่การขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยสุขภาพจะทำให้
เกิดต้นแบบการสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรในสถาบันการศึกษาและสามารถถ่ายทอดให้สถาบันต่าง ๆ หรือพื้นที่
ใกล้เคียง ทั้งในระดับภูมิภาค และประเทศ โดยกุญแจสำคัญคือการดึงศักยภาพของบุคคล การมสี ว่ นร่วนร่วม การสร้าง
ความรู้ความเข้าใจนำไปสู่ความรอบรู้ทางสุขภาพ และความสามารถในการดูแลสุขภาพตนเองและคนรอบข้าง ภายใต้
หลักฐานเชิงประจักษ์จากงานวิจัยและ นวัตกรรม เพื่อการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สู่มหาวิทยาลัยสุขภาพที่มี
ประสิทธิภาพ ประสทิ ธิผล และสามารถพฒั นาต่อยอดไดใ้ นปตี ่อไป

มหาวิทยาลัยสุขภาพ (Healthy University)

จากการเพิ่มขึ้นของสถิติของโรคกลุ่มไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และเป็นสาเหตุของการเสียชวี ติ ของคนไทยกว่า
2 ใน 3 หรือกว่าร้อยละ 70 โดยสำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ความหมายของโรคกลุ่ม ไม่ติดต่อ
เรื้อรัง หรือ Non-Communicable Diseases (NCDs) ว่า เกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย ส่วนใหญ่เป็นผลจากการใช้
ชีวิตที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอย่าง เหล้า บุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย รับประทานอาหารหวานมันเค็มจัด และมี
ความเครียด ขณะที่องค์การอนามัยโลกทำนายวา่ ในปี พ.ศ.2573 ประชากรโลกจำนวน 23 ล้านคน จะเสียชีวิตจากโรค
หลอดเลือดสมองและหัวใจ โดยร้อยละ 85 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนาเนื่องจากชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้น ดังนั้นการ
สร้างความเข้าใจแก่ชุมชน สังคม และประเทศ โดยใช้มหาวทิ ยาลัยเป็นจุดศูนย์กลาง จึงกลายเป็นทางออกที่จะกระจาย
องค์ความรู้ได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนที่สุด เพื่อให้เกิด "การเปลี่ยนพฤติกรรม"การเสริมสร้างความสามารถและสร้าง
เครือข่าย มหาวิทยาลัยสุขภาพตามกรอบ Health University Framework เน้นไปในทิ%ศทางของการป้องกันโรค
NCDs จงึ ควรเร่มิ ตน้ จากมหาวิทยาลยั เพราะมหาวิทยาลัยเปน็ กลไกถาวร การสร้างเสริมสุขภาพจถูกปลูกฝังองค์ความรู้
ผ่านนโยบายและการอบรมให้แก่นิสติ นักศึกษาที่ผลดั เปลยี่ นหมุนเวยี นเขา้ มาศึกษาในทกุ ๆ ปี ก่อใหเ้ กิดกลไกท่ีต่อเน่ือง
และยั่งยืน จึงได้มีการเดินหน้านำกรอบมหาวิทยาลัยสุขภาพ ซึ่งเริ่มมีการดำเนินการมาประมาณ 20 ปี ในกลุ่ม
มหาวิทยาลยั ประเทศยุโรป และ อเมรกิ า และตอ่ มาได้มกี ารจัดต้งั เครือขา่ ยมหาวิทยาลัยสขุ ภาพขนึ้ ในมหาวิทยาลัยกลุ่ม
ประเทศอาเซียน ASEAN University Network (AUN) (Network, 2012)โดยมีการพัฒนาประเมินผลการดำเนินงาน
ด้านการสร้างเสริมสุขภาพของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มี ระบบติดตามและประเมินผลที่เรียกว่า ASEAN Rating On
Health University (ARSU) มุ่งมั่นขยายเครือข่ายและแนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพไปสู่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ อย่าง
ตอ่ เนื่อง เพอื่ ขบั เคล่อื นงานสรา้ งเสรมิ สุขภาพ มุ่งสกู่ ารลดปจั จยั เสยี่ งของโรคกลมุ่ ไม่ตดิ ต่อเรื้อรังนำไปสกู่ ารมีสุขภาพท่ีดี
ของประชาชนต่อไป มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะเลขาธิการเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน ASEAN University
Network (AUN) ด้าน AUN Human Rights Education Network (AUN-HRE) และ AUN-Health Promotion

84


Network (AUN-HPN) ร่วมกับ สสส. ได้ลงนามความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความสามารถของมหาวิทยาลัยสมาชิกที่มี
กว่า 30 สถาบันใน 10 ประเทศอาเซียน มุ่งสู่การเป็น "มหาวิทยาลัยสุขภาพ" มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อาทิ การ
จัดทำกรอบมหาวิทยาลัยสุขภาพ หรือ Health University Framework ซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ
พัฒนาไปสูค่ วามเป็นมหาวทิ ยาลัยสุขภาพได้ โดยอาศัยมาตรการในการดำเนินงานสง่ เสริมสขุ ภาพ 22 ประการ

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาศักยภาพมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนา
ผู้นำด้านสร้างเสริมสุขภาพ ร่วมมือพัฒนาโครงการวิจัยด้านสร้างเสริมสุขภาพระหว่างมหาวิทยาลัยสมาชิกเครือข่าย
พร้อมขยายเครือข่ายและแนวคิดในการดำเนินงานมหาวิทยาลัยสุขภาพไปยังมหาวทิ ยาลัยอื่น ๆ ทั่วภูมิภาคในประเทศ
ไทย ผ่านมหาวิทยาลัยแกนนำทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรร์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา
มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัจจุบันมีสมาชิกสมทบเพิ่มขึ้นอีก 4 มหาวิทยาลัย ได้แก่
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และ
มหาวิทยาลัยวลยั ลักษณ์ การติดตามและประเมินผลมหาวทิ ยาลัยสุขภาพ ผ่านกรอบมหาวิทยาลัยสุขภาพมีท้ังหมด 22
ประการ ครอบคลุมทั้ง ระบบและโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ นโยบายอาคารปลอดภัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความเสมอ
ภาคของผู้พิการ หลักสูตร งานวิจัย อาสาสมัคร และงบประมาณที่สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ กิจกรรมที่ควร
ดำเนินการ สู่การ ลดละเลิก เช่น ควบคุมการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ สารเสพติด การพนัน ความรุนแรง ความ
ปลอดภัยบนท้องถนนใน สถานศึกษา รวมถึง การส่งเสริมสุขภาพอาทิ ให้ความรู้ด้านสุขภาพกายและสุขภาวะทางจิต
การปฏสิ มั พันธท์ างสังคม ดา้ นโภชนาการ พฤติกรรมทางเพศท่ปี ลอดภยั และความสมดลุ ของชีวติ สำหรบั กระบวนการช้ี
วดั ในระยะแรกจะมีคะแนนกรอบทัง้ 22 ประการ ทง้ั หมด 1,000 คะแนน โดยใหท้ างมหาวิทยาลัยประเมินตนเองแต่ละ
ข้อผ่านระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมประมวลผลและสะท้อนออกมาเป็นภาพรวม วิเคราะห์ศักยภาพในแต่ละด้าน และ
เทียบกับค่าคะแนนมาตรฐานเพื่อคำนวณออกมาในระดับ 1-5 ดังนั้นในช่วงแรกจะเป็นการผสมผสานระหว่างการ
ประเมินวิเคราะห์และ ส่งหลักฐานเชิงประจักษ์ต่าง ๆ มาท่ีสำนักงานเลขาธิการเครือข่ายเพื่อพิจารณาและยืนยันกับ
คะแนนที่วิเคราะห์ได้ ขณะที่มหาวิทยาลัยที่ได้ 5 ดาว จะมีผู้ทรงคุณวุฒิในเครือข่ายร่วมกันไปประเมิน ติดตามผล ด้วย
จุดมุ่งหมายสำคัญคือให้มหาวิทยาลัยที่มุง่ เน้นสู่การสง่ เสริมสุขภาพที่ดี ได้เห็นถึงพัฒนาการและแข่งขันกับตัวเองในการ
ยกระดับความต่อเนื่อง หลังจากนั้นจะมีการนำมหาวิทยาลัยที่ได้อันดับสูง ๆ ร่วมแลกเปลี่ยนให้มหาวิทยาลัยอื่น ๆ
รวมถึงพัฒนาสงู่ านวิจยั เพือ่ เผยแพร่สู่ประชาชนตอ่ ไป

มหาวิทยาลยั เลง็ เหน็ ความสำคญั ของงานสรา้ งเสริมสุขภาพของเครอื ขา่ ยมหาวทิ ยาลยั อาเซียน (AUN-HPN)
ซง่ึ ถอื เป็นงานทสี่ ำคญั อย่างย่งิ ของมหาวิทยาลยั และภาคี ในการร่วมมอื ส่งเสริมใหป้ ระชาชนมสี ุขภาพทดี่ ี ปลอดภัยจาก
อันตรายของโรคไม่ตดิ ต่อเร้อื รังตา่ ง ๆ ด้วยการกระตนุ้ และสรา้ งความตระหนักถึงบทบาทของมหาวิทยาลยั ในการ
สง่ เสริมสุขภาพของบุคลากรและนกั ศึกษา(Rogers et al., 2017) รวมถงึ ชมุ ชนใกล้เคียง ขณะที่การพฒั นาระบบตดิ ตาม
ประเมินผล ARSU จะสามารถเปน็ เคร่ืองมือชว่ ยตดิ ตามและประเมินผลการดำเนนิ งานของมหาวทิ ยาลยั ตา่ ง ๆ ตาม
กรอบแนวคิด ซึ่งข้อมูลท่ีได้จะเป็นข้อมลู ย้อนกลับเพื่อพัฒนาการสง่ เสรมิ สุขภาพในระดับมหาวิทยาลยั ตอ่ ไปในอนาคต

การขับเคลือ่ นมหาวิทยาลยั เชียงใหม่สู่มหาวิทยาลัยสุขภาพ

การพัฒนาศักยภาพการสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำหรับการขับเคลื่อนสู่
มหาวิทยาลัยสุขภาพ (Healthy CMU) โดยพัฒนากิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพและศักยภาพของบุคลากรใน
มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ ทัง้ บุคลากรสายวชิ าการและสายสนับสนุนใหส้ ามารถดูแลตนเองเพ่ือป้องกนั การเกิดโรคไม่ติดต่อ
เรื้อรังที่พบบ่อยในวัยทำงาน ลดอุบัติการณ์ของการเกิดปัญหาสุขภาพ ภาวะทุพพลพลภาพเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เพ่ือ

85


นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเตรียมความพร้อม
รองรับเข้าสูว่ ยั เกษียณอย่างมีคณุ ภาพในอนาคต

จากการสบื คน้ ขอ้ มลู ด้านสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลยั เชียงใหม่นน้ั พบว่ายงั ไมม่ กี ารจดั ทำระบบฐานข้อมูล
สุขภาพที่ชัดเจน รวมถึงมีการสำรวจข้อมูลสุขภาพของบุคคลากรในบางคณะฯ และ ข้อมูลกระจัดกระจายไม่เป็นไปใน
ทศิ ทางเดียวกัน และยงั พบว่าเป็นการยากทีห่ นว่ ยงานหรือคณะฯ จะให้ข้อมลู สุขภาพของบุคคลากรตนเองเนื่องจากเป็น
ขอ้ มูลที่คอ่ นขา้ งบอบบางและมผี ลต่อความเป็นสว่ นตัวของเจ้าของข้อมลู ทางผูบ้ รหิ ารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โครงการนี้
จึงเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพ และการสื่อสารประชาสัมพันธ์ระบบฐานข้อมูล รวมถึง
ข่าวสารความรู้กิจกรรมเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีแก่บคุ ลากรมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพของ
บุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง
เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หัวใจ และความเครียด ท่ีมีปัจจัยเกี่ยวข้องกับการปฏบิ ัติงาน โดยมีจุดมุ่งหมายให้เกิดการมี
ส่วนร่วม เล็งเห็นความสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อบุคคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกคนจะมีสุขภาพที่ดี
ปลอดภัยจากอนั ตรายและลดภาวะแทรกซ้อนของโรคไม่ตดิ ต่อเร้ือรัง ภายใตก้ ารเคารพสทิ ธสิ ว่ นตวั ในการไม่นำข้อมูลมา
เผยแพร่ในที่สาธารณะ การขออนุญาตที่จะดำเนินการรวบรวมข้อมูลและนำเสนอในภาพรวมทั้งมหาวิทยาลัยเพื่อ
นำไปใช้ในเชิงนโยบาย และการจัดกิจกรรมสุขภาพที่มีประโยชน์แก่บุคลากร ทั้งนี้กระบวนการจะดำเนินการโดยผ่าน
กระบวนการสร้างความตระหนัก และการจดั กจิ กรรมการสร้างเสรมิ สุขภาพ นอกจากนเ้ี ปน็ อีกบทบาทของมหาวิทยาลัย
ในการส่งเสริมสุขภาพของบุคลากรรวมถึงชมุ ชนใกลเ้ คียงจากการดำเนินโครงการสร้างเสรมิ พฒั นาศักยภาพของบุคลากร
ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยสุขภาพดี ลดอุบัติการณ์ของการเกิดปัญหา
สุขภาพ ภาวะทพุ พลพลภาพของบุคลากรเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพและประสิทธภิ าพของบุคลากรใน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการทำงาน และสามารถเตรียมตัวรองรับเข้าสู่วัยเกษียณได้อย่างเหมาะสม และเนื่องจาก
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในฐานะเป็นเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน ASEAN University Network (AUN) และ AUN-
Health Promotion Network (AUN-HPN) มีนโยบายเพื่อเสริมสร้างความสามารถของมหาวิทยาลัยและขับเคลื่อนสู่
การเป็น "มหาวิทยาลัยสุขภาพ" ภายใต้กรอบมหาวิทยาลัยสุขภาพ หรือ Health University Framework ซึ่งเป็นทิศ
ทางการขบั เคลื่อนไปส่คู วามเป็นมหาวิทยาลยั สุขภาพ การพัฒนามหาวทิ ยาลัยเพอ่ื เป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสรมิ สุขภาพ มี
เป้าหมายเพื่อให้บุคลากรและนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง จากการเข้าร่วมโครงการ/
กิจกรรมกีฬา และการออกกำลังกายที่มหาวิทยาลัยจัดขึ้น แนวคิดของการพัฒนาสู่การเป็น มหาวิทยาลัยสร้างเสริม
สุขภาพ ซึ่งจะต้องเกิดจากการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ตั้งแต่ผู้กำหนดนโยบาย คือ ผู้บริหาร บุคลากรและนิสิต
นักศึกษาของมหาวิทยาลัย ที่จะกำหนดแนวทางวิธีการและเป้าหมายในการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญใน
การส่งเสริมและสนับสนนุ การมีคณุ ภาพชวี ิตท่ดี ี

โครงการเสรมิ สรา้ งศักยภาพดา้ นการส่งเสริมสุขภาพเพื่อให้บุคลากรของมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ก้าวไปสู่การเป็น
มหาวิทยาลัยสุขภาพ หรือที่เรียกว่าโครงการ CMU-Healthy University Project (CMU-HU) มีวัตถุประสงค์เพื่อ
พัฒนาศักยภาพการสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียง ใหม่ในการรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพท่ี
พบบ่อยของคนวัยทำงานที่มาจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และความเครียด โดยคณาจารย์และบุคลากรของ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้เนื่องจากโครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ
และความตระหนัก ในด้านสุขภาพโดยเน้นการประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นด้วยตนเองเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเช่น
โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไขมันในเลือดผิดปกติ และปัญหาทางด้านจิตใจ ที่อาจส่งผลกระทบต่อ
การปฏิบัติงาน และเพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรมีความรู้ความเข้าใจสามารถดูแลสุขภาพของตนเองเบื้องต้นได้

86


ภายใต้ปัจจยั สง่ เสรมิ สุขภาพที่สำคญั 3 ประการ ไดแ้ ก่ ออกกำลังกาย อาหาร และอารมณ์

วตั ถปุ ระสงค์: โครงการบรู ณาการระยะเวลา 2 ปี แบง่ ออกเปน็ 2 ระยะ

ระยะท่ี 1 ปี 2563 เปน็ การเปดิ ตัวของ PHASE 1 ซ่ึงมีเปา้ หมายเพ่ือพฒั นาระบบฐานข้อมลู สขุ ภาพและสร้าง
ความ ตระหนกั ในระดบั มหาวิทยาลัย คณะ และระดบั บคุ คล โครงการนี้ได้ดำเนนิ การท่ีมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่โดยรวมไป
ถึงคณะ สถาบัน และหนว่ ยงานต่างๆในมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่โดยคาดคะเนวา่ มผี ้เู ขา้ ร่วมประมาณ 12,246 คน

ระยะที่ 2 ในปีที่ 2 (2564) มีวัตถุประสงคใ์ นการดำเนนิ การด้านสร้างเสริมสุขภาพ การฝึกอบรมใหค้ วามรู้ เพื่อ
สร้างความเข้าใจและสรา้ งความตระหนัก เพ่ือสง่ เสริมสขุ ภาพของพนกั งาน และเพ่อื ลดความเส่ยี ง
ต่อสุขภาพท่เี กดิ จากการสบู บุหรีแ่ ละการด่ืมแอลกอฮอล์ สำหรับบคุ ลากร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ผา่ นการเรียนรู้และแบ่งปนั ดำเนนิ โครงการ Healthy University รว่ มกับพนั ธมติ ร AUN-HPN และอ่ืน ๆ

เปา้ หมาย: โครงการวจิ ัยเชงิ ปฏบิ ัติการแบบมสี ่วนร่วม (PAR) มเี ป้าหมายดงั น้ี

- เสริมสร้างความรว่ มมอื ระหวา่ งคณะวิทยาศาสตร์สขุ ภาพและคณะอ่ืน ๆ ภายใน
มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่

- อำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมเสรมิ สรา้ งศักยภาพด้านการสง่ เสริมสขุ ภาพเพื่อลดชอ่ งวา่ ง
ระหว่างองค์กรภายในมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
- สง่ เสรมิ การแลกเปลยี่ นความร้จู ากประสบการณ์และการทำงานร่วมกนั ในการวิจัยในประเด็นทีเ่ กี่ยวข้อง
กบั การสง่ เสริมสขุ ภาพระหว่าง คณาจารย์ และเจา้ หน้าท่ี ของมหาวิทยาลยั เชียงใหม่
- สง่ เสรมิ การทำงานร่วมกนั เพอ่ื เสริมสรา้ งขีดความสามารถของมหาวทิ ยาลัยตามภายใต้การมสี ุขภาพที่ดี
ของบคุ ลากรมหาวิทยาลยั เชียงใหม่
- สนบั สนนุ ใหเ้ กิดนโยบายดา้ นสุขภาพท่ีทงั้ ในระดับคณะและมหาวิทยาลยั
- สนับสนนุ กิจกรรมการสรา้ งเครอื ขา่ ยสุขภาพ เพ่อื ความย่งั ยืน และการเตรยี มความพรอ้ มสำหรบั การเข้าสวู่ ยั
สงู อายุของบุคลากร มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่อยา่ งมีคุณภาพ

กจิ กรรมในปีท่ี 1 : กิจกรรมของโครงการอยภู่ ายใต้กรอบแนวคิดโครงการมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมม่ หาวทิ ยาลัย
สขุ ภาพทเ่ี น้นการการป้องกนั โรคระดบั ปฐมภูมิ โดยจดั ใหม้ ีกิจกรรมทงั้ หมด 9 กจิ กรรมหลักทเี่ กย่ี วข้องกบั หลกั การสร้าง
เสรมิ สุขภาพใน 6 ประการ ไดแ้ ก่ การประเมินความเสีย่ งด้านสุขภาพ การเฝา้ ระวงั การเสรมิ สร้างพลงั อำนาจ การมี
สว่ นร่วม/การตระหนักรขู้ องบุคลากร มช. การใหค้ วามรเู้ ร่ืองสขุ ภาพ และการสร้างความรอบรทู้ างสุขภาพ ดงั กิจกรรม
ต่าง ๆ และแสดงในรูปท่ี 2 ต้นแบบการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพสำหรับมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมม่ หาวทิ ยาลันสุขภาพ ดงั น้ี

กิจกรรมท่ี 1 : จัดตั้งคณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการดำเนนิ งาน การวางแผนและการประชาสมั พันธ์
โครงการ

กจิ กรรมท่ี 2 : การพัฒนาระบบฐานข้อมลู สุขภาพ (Developing of the Data Health Risk Assessment
System) ของบคุ ลากรมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่

กจิ กรรมท่ี 3 : การพฒั นานวัตกรรมการคัดกรอง และฝา้ ระวังภาวะสุขภาพเบื้องต้นดว้ ยตนเอง
(Self-Monitoring Innovation)

กจิ กรรมท่ี 4 : การจัดกจิ กรรมรณรงค์ดา้ นการสรา้ งเสรมิ สุขภาพกาย สำหรับบุคลากรอยา่ งต่อเน่ืองจดั กิจกรรม

87


รณรงคใ์ นวงกวา้ ง (Mass Communication)
กิจกรรมที่ 5 : การจดั กจิ กรรมส่งเสรมิ สขุ ภาพเกย่ี วกบั อาหาร การออกกำลงั กายและอารมณ์ (3 อ.)
กจิ กรรมที่ 6 : การให้คำปรึกษาและบริการโดยการพฒั นาโปรแกรมการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพทัง้ รายบุคคล

และรายกลุม่ (Counselling and Providing Health Promotion Services for NCD’s
Management Programs) (Individual or Group)
กิจกรรมที่ 7 : การดำเนินกจิ กรรมการสรา้ งแกนนำสุขภาพ เป็นการดำเนินการจดั กิจกรรมการพัฒนาศักยภาพ
และการอบรมแกนนำสขุ ภาพมหาวทิ ยาลัยเชียงใหมแ่ ละคณะทำงานการสร้างเสริมสขุ ภาพใหเ้ กิดขึ้นใน
ทุกคณะ หรอื หน่วยงานในมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ (CMU Health Volunteers
กิจกรรมที่ 8 : การรจดั กจิ กรรมการสร้างเสรมิ พลังงานอำนาจ (Empowerment) สำหรับการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ
ของบุคลากรมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ ได้แก่ กจิ กรรม “Health Talk”
กิจกรรมท่ี 9 : การพัฒนากิจกรรม“ Stop Staff Stress” และการจดั ตัง้ คลนิ ิกจดั การความเครียด
(Stress Management Clinic)

รปู ท่ี 2: ตน้ แบบการสร้างเสรมิ สขุ ภาพสำหรับมหาวิทยาลยั เชยี งใหมม่ หาวิทยาลันสุขภาพ
(Healthy CMU: Health Promotion Model)

88


สรุปผลการดำเนินงานตามตัวชว้ี ัดการดำเนนิ โครงการ Healthy CMU ในปี 2563

ผลผลติ (Output) ตัวชวี้ ัดผลผลติ /ค่าเปา้ หมาย

12.1 มีคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการ 12.1. มชี ดุ คณะกรรมการสหวิชาชพี บริหารและดำเนนิ งาน

สหวิชาชพี ดำเนินงานสร้างเสริมสขุ ภาพ สร้างเสรมิ สุขภาพโครงการ Healthy CMU Projectของ

มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่

12.2 มรี ะบบฐานขอ้ มูลสุขภาพ (Developing of 12.2. มีระบบฐานข้อมลู สุขภาพ (Developing of the

the Data Health Risk Assessment System) Data Health Risk Assessment System) สำหรบั

สำหรับบคุ ลากรมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหมใ่ นการ บคุ ลากรมหาวิทยาลยั เชยี งใหมใ่ นการประเมินความเสย่ี ง

ประเมนิ ความเสย่ี งทางสุขภาพ การประมวลผล ทางสุขภาพ การประมวลผลและวเิ คราะห์ข้อมูลอย่างเป็น

และวเิ คราะห์ขอ้ มลู อยา่ งเปน็ ระบบท้ังในระดับใม ระบบทง้ั ในระดบั ใมหาวทิ ยาลัย ระดบั คณะหรอื หนว่ ยงาน

หาวิทยาลยั ระดับคณะหรอื หน่วยงาน และระดับ และระดับบุคคล
บคุ คล https://cmu-hms.web.app/

https://cmsdm.net/HealthyU/
มFี acebook : https://bit.ly/healthycmu

12.3. มรี ะบบฐานข้อมูล CMU I-Health สำหรบั การรวม
12.3 มีระบบฐานขอ้ มูล CMU I-Health สำหรบั รวม ขอ้ มูลสุขภาพ ซึ่งจะสามารถนำไปประมวลผลใหเ้ ห็น
การรวมรวม ขอ้ มูลสุขภาพ ซึ่งจะสามารถนำไป ภาพรวมของภาวะดา้ นสขุ ภาพของบุคลากร
ประมวลผลให้เห็น ภาพรวมของภาวะดา้ นสุขภาพ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ สำหรับการพฒั นาระบบที่มี กราฟกิ
ของบุคลากรมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ และ เวบ็ ไซต์ และส่วนประสานผู้ใช้งานระบบรองรับการใชง้ านง่ายและ
FB ของโครงการมหาวทิ ยาลยั สขุ ภาพ ซึ่งเปน็ ใช้งานเพ่ือประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพได้ถูกตอ้ งมี
เครอ่ื งมอื ในการสอื่ สารใหค้ วามรู้ทางสขุ ภาพ มาตรฐานและกำลังดำเนินการเชอ่ื มตอ่ กบั ระบบ CMU-

Mobile

12.4 มนี วตั กรรมการคดั กรอง และฝา้ ระวงั ภาวะ 12.4. มีต้นแบบ (Prototype) นวตั กรรมการคดั กรอง และ
สุขภาพเบือ้ งตน้ ดว้ ยตนเอง (Self-Monitoring ฝา้ ระวงั ภาวะสขุ ภาพเบ้ืองตน้ ด้วยตนเอง (Self-
Innovation) เพอ่ื ลดระยะเวลาในการรอตรวจ Monitoring Innovation) เพ่ือลดระยะเวลาในการรอ
สขุ ภาพ และเป็นเตรยี มบคุ ลากรให้มีความพร้อม ตรวจสขุ ภาพ และเป็นเตรียมบคุ ลากรให้มีความพร้อมใน
ในการเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพด้วยตนเองเบ้ืองต้น การเฝ้าระวงั ปญั หาสุขภาพด้วยตนเองเบื้องต้น

12.5 มีการจดั กิจกรรมรณรงค์ด้านการสร้างเสรมิ สุขภาพ
กาย สำหรับบุคลากรอยา่ งต่อเนื่องจัดกิจกรรมรณรงคใ์ นวง

89


ผลผลติ (Output) ตัวช้ีวัดผลผลิต/คา่ เปา้ หมาย

12.5 มกี ารจดั กิจกรรมรณรงค์ดา้ นการสร้างเสรมิ กว้าง (Mass Communication) และการสรา้ งความ

สุขภาพกาย สำหรับบคุ ลากรอยา่ งต่อเนอื่ งจดั ตระหนกั (Public Awareness) เร่อื ง “ลดเพ่ิม เติมผกั

กิจกรรมรณรงค์ในวงกวา้ ง (Mass รักใจ” สอดแทรกในการจดั กิจกรรม “ 3 อ.: อาหาร ออก

Communication) และการสรา้ งความตระหนัก กำลงั กาย อารมณ์”การใหค้ วามรชู้ อ่ งทางต่างของโครงการ

(Public Awareness) เรือ่ ง “ลดเพม่ิ เตมิ ผัก รัก เชน่ FB, Line @, Website, Youtube, Infographic

ใจ” และการจดั กิจกรรม “ 3 อ.: อาหาร ออก และบทความวิชาการในวารสารทองกวาว

กำลังกาย อารมณ์” จัดกจิ กรรม 3 อ (อาหาร ออกกำลงั กาย อารมณ์) จำนวน

6 กิจกรรม ได้แก่ (1) อบรมใหค้ วามร้เู รื่องอาหาร

และสมดลุ ทางโภชนาการ พร้อมทัง้ สาธติ การทำอาหารเพื่อ

สุขภาพอยา่ งงา่ ย (2)กิจกรรม “ปรับพฤตกิ รรมชีวิต Fit &

Firm” (3) อบรมใหค้ วามรู้เรื่องการออกกำลังกายที่ถูกตอ้ ง

และการสรา้ งแรงจูงใจในการปรบั เปลย่ี นพฤติกรรมการ

ออกกำลังกาย และทดสอบสมรรถภาพทางกาย แปลผล

และใหค้ ำแนะนำเก่ียวกบั การดแู ลสุขภาพ (4)กจิ กรรม

“เดิน-ว่งื ลา่ แตม้ CMU Walk Together (5)การบรรยาย

ใหค้ วามร้เู กยี่ วกบั การพฒั นาอารมณไ์ ปสู่การมีสขุ ภาพใจที่

ดี (6)กิจกรรม Healthy@CMU : พธุ หรรษา รว่ มทำ

กิจกรรมนนั ทนาการท่หี ลากหลาย 2. เริม่ กจิ กรรม เดอื น

กรกฎาคม 2563 มผี ู้สมัครเข้ารว่ มโครงการ รวมท้ัง 2

กิจกรรม จำนวน 560 คน แยกเปน็ กจิ กรรมท่ี (1) 129คน

(2) 124คน (3) 64คน (4) 110คน (5) 58คน และ(6) 75

คน

12.6 มหี ลักสตู ร และคู่มอื แกนนำสุขภาพบุคลากร
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

- พฒั นาส่ือการแกนนำสุขภาพบุคลากร
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เร่ืองโรคไมต่ ิดต่อเร้ือรังท่ีพบบ่อยใน
บคุ ลากรมหาวิทยาลัย/คนวัยทำงาน จำนวนทั้งหมด 6เรื่อง
โดยผ่านทาง MOOC

- จดั Webinar 3 ครงั้ ในการอบรมแกนนำสขุ าพบุคลากร
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่

- จดั กิจกรรมเปดิ การอบรมแกนนำสุขภาพบุคลากร
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

90


ผลผลิต (Output) ตัวช้ีวัดผลผลิต/ค่าเปา้ หมาย

12.6 มี แกนนำสุขภาพ และคณะทำงานการสร้าง - จดั กจิ กรรมปิดการอบรมแกนนำสุขภาพบุคลากร

เสรมิ สุขภาพให้เกิดข้ึนในทุกคณะ หรอื หนว่ ยงาน มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่

ในมหาวทิ ยาลยั เชียงใหมเ่ พื่อดำเนินการสรา้ งเสริม - มแี กนนำสุขภาพบุคลากรมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่จำนวน
สุขภาพสำหรบั บคุ ลากรอย่างตอ่ เนอ่ื ง 137 คน จาก 39 หน่วยงาน

- มกี ารพัฒนาโครงการสรา้ งเสริมสุขภาพบคุ ลากร มช จาก
15 หนว่ ยงาน/15 โครงการ

- มกี ลุ่มแกนนำแกนนำสุขภาพบคุ ลากร
มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ และ Line group

12.7 จัดทำหนงั สือเชิญและสือ่ ประชาสมั พนั ธท์ ุกหน่วยงาน
ในมหาวิทยาลยั เชียงใหมเ่ ขา้ รว่ มกิจกรรม ผ่านระบบสาร
บรรณอิเล็กทรอนิกส์ ( CMU e-Document) และ
ประชาสมั พนั ธ์กจิ กรรมผ่านชอ่ งทางต่างๆ ทงั้

เวป็ ไซต์ HealthyCMU.com

Facebook : HealthyCMU

Line official :@ HealthyCMU

- ดำเนินงานแถลงขา่ วเปดิ ตัวโครงการวันที่ 26 มิถนุ ายน
2563 ณ ห้องประชุมชน้ั 2 ITSC

- กิจกรรมประชาสัมพนั ธโ์ ครงการเชิงรุกทุกชอ่ งทางของ
โครงการHealthyCMU

12.7 มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ดา้ นการสร้างเสริม - กจิ กรรมประชาสมั พนั ธ์ในโครงการ 3 อ.
สขุ ภาพกาย สำหรับบุคลากรอยา่ งต่อเน่ืองจดั
กิจกรรมรณรงคใ์ นวงกวา้ ง (Mass - กิจกรรมประชาสัมพนั ธ์ในโครงการ CMU Health
Communication) และการสรา้ งความตระหนัก Volunteer
(Public Awareness) เรือ่ ง กิจกรรมรณรงค์การ
หยดุ ความเครยี ดในทท่ี ำงาน “Stop Staff -กิจกรรมในโครงการ CMU Health Talk
Stress”
-กิจกรรมประชาสมั พันธ์ในโครงการ CMU i-Health

- กิจกรรมประชาสัมพันธ์ในโครงการ Stop Staff Stress

- กจิ กรรมประชาสมั พันธใ์ นโครงการ CMU Health
MOOC

- Open House for Stop Staff Stress

91


ผลผลติ (Output) ตัวชวี้ ัดผลผลิต/คา่ เป้าหมาย

- Show and Share การดำเนนิ โครงการ Healthy CMU

วันท่ี 21 ธันวาคม 2563 ณ ห้องประชุมช้ัน 2 ITSC

- ดำเนนิ การจัดกจิ กรรมการแลกเปล่ยี นเรียนรู้การดำเนนิ
โครงการการพัฒนาศักยภาพการสรา้ งเสริมสขุ ภาพของ
บคุ ลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สำหรับการขับเคลือ่ นสู่
มหาวิทยาลัยสขุ ภาพ ปีที่1 วันจนั ทรท์ ่ี 21 ธนั วาคม 2563

12.8 มกี ารตัง้ คลินิกจดั การความเครียด (Stress
Management Clinic) Online เพ่อื ให้บริการในด้าน
คำแนะนำ และการประเมนิ ความเส่ยี งรวมถงึ การสง่ ต่อเม่ือ
พบความผดิ ปกติ

- มคี ลนิ กิ จดั การความเครียด (Stress Management
Clinic) และเปิดให้ดำเนินการตง้ั แตว่ ันท่ี 1 กรกฎาคม
2563 ผา่ นทางเวป็ ไซด์ HealthyCMU

https://healthycmu.com/clinic/
- จดั กจิ กรรม Open House เปิดบ้านจัดกาความเครียด

- จดั กิจกรรมพัฒนาอบรมแกนนำสุขภาพใจสำหรับ
บคุ ลากร มช โดยมี มแี กนนำท้งั หมด 30 คน จาก 16
หน่วยงาน

12.8 มีการตงั้ คลินกิ จัดการความเครยี ด (Stress - พฒั นาคมู่ ือแกนนำสขุ ภาพใจ เรอ่ื งการให้คำปรึกษา และ
Management Clinic) เพอื่ ให้บริการในดา้ น คู่มอื ความเครยี ดและวิธีผอ่ นคลายความเครยี ด
คำแนะนำ และการประเมนิ ความเสย่ี งรวมถึงการ
ส่งตอ่ เมื่อพบความผดิ ปกติ - มีแบบสอบถามประเมินความเครยี ดบุคลากร
มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่

12.9 มกี ารสื่อสารให้ความรทู้ างสุขภาพ Online เผยแพร่
ใน website Healthy University, FB, Line Official,
YouTube, Podcast, Infographic, E-mail, บทความใน
วารสารทองกวาว, วารสาร Nursing Research Wisdom
และ ในหนังส่ือพิมพ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, หนงั สือพมิ พ์
เชยี งใหม่นวิ ส์, FM 100, เว็ปไซด์มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่,
และ ศนู ย์ส่ือสารองค์กร

92


ผลผลิต (Output) ตัวชวี้ ัดผลผลติ /คา่ เปา้ หมาย

12.9 มีการสอ่ื สารให้ความรู้ทางสขุ ภาพ Online - มPี odcast 9 ช้ิน
เผยแพรใ่ น website Healthy University, FB
Podcast EP.1 ตอน What is Healthy CMU

Podcast EP.2 ตอน โครงการ 3 อ. (อาหาร ออกกำลัง
กาย อารมณ์

Podcast EP.3 ตอน การเฝ้าระวังพฤติกรรมเสย่ี งต่อการ
ได้รับเชอ้ื COVID-19)

Podcast EP.4 ตอน CMU i-Health

Podcast EP.5 ตอน Stop-Staff-Stress

Podcast EP.5 ตอน Stop-Staff-Stress

Podcast EP.6 ตอน Health MOOC

Podcast EP.7 ตอน Health Talk

Podcast EP.8 ตอน CMU Staff's Health Volunteer

Podcast EP.9 ตอน CMU Smart Self-Monitoring

Podcast พิเศษ จากรองศาสตราจารย์ นายแพทย์ รณภพ
เอ้อื พนั ธเศรษฐอน CMU i-Health

- มีสือ่ Infographic จำนวน 16 หวั ข้อ

- มีการเผยแพร่ข่าวสารจำนวน 60 ช้นิ

- มกี ารแชร์โพสตข์ า่ วจำนวนสารจำนวน 50 ชิน้

- จัด Campaign Webinar คลินิก Health CMU (MOR)
: Let’s Talk with (MOR) จำนวน 4 ครัง้
- มีชอ่ งทางประชาสมั พันธ์โครงการออนไลน์ จำนวน 4
ชอ่ งทาง ไดแ้ ก่

Facebook Page : Healthy CMU

จำนวนผูต้ ดิ ตามเพจทั้งหมด: 5,332 คน

Line Official Account : Healthy CMU

จำนวนเพ่ือน 611 คน

YouTube Channel : Healthy CMU

93


ผลผลิต (Output) ตวั ชวี้ ดั ผลผลิต/คา่ เป้าหมาย
Website : Healthy CMU

12.10 ทำการคัดเลือกบุคคลต้นแบบ โดยการประชุมกลุ่ม
คณะผู้จัดโครงการ โดยมีเกณฑ์คัดเลือกบุคคลที่มีปัญหา
เกี่ยวกับสุขภาพ และสามารถปรบั เปล่ยี นพฤติกรรมกลับมา
สูภ่ าวะสุขภาพท่ดี ี เปน็ แบบอยา่ งต่อบุคคลให้ปฏบิ ตั ติ าม

- ดำเนินการผลิตสื่อบุคคลต้นแบบโดยใช้เกณฑ์มาตรฐาน
ของสื่อวิดีทัศน์ออนไลน์ทั้งหมด 4 เรื่องและ Teaser
จำนวน 4 เรื่องเสร็จส้ิน

- กำลังดำเนินการเตรียมเผยแพร่บุคคลต้นแบบโดยใช้
เกณฑ์มาตรฐานของสือ่ วิดที ัศน์ออนไลน์และ Teaser เรื่อง
ท่ี 5 และ6

12.11มกี ารพัฒนาหลกั สูตรการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพสำหรบั
การป้องกันโรคไมต่ ิดต่อเรือ้ รงั ในคนวยั ทำงาน ชื่อ CMU
Health MOOC

12.12 มรี ่างนโยบายมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ มหาวิททยาลยั
สขุ ภาพ

12.10 มีการจดั กจิ กรรมการสรา้ งเสรมิ พลงั งาน 12.13 มี Model ตน้ แบบการขบั เคล่อื นมหาวทิ ยาลยั
อำนาจ (Empowerment) สำหรบั การสรา้ งเสริม สขุ ภาพ (Healthy CMU; Health Promotion Model)
สุขภาพของบคุ ลากรมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ ไดแ้ ก่ และได้ดำเนนิ การพร้อมนำไปเผยแพร่หรอื ประยุกต์ใช้ใน
กจิ กรรม “Health Talk” ชมุ ชนใกลเ้ คยี งหรอื องค์กร มหาวิทยาลยั อนื่ ได้

12.14 มนี วตั กรรมด้านสุขภาพเชิงกระบวนการ/สงั คม
(Processing/social innovation: Telehealth
Package) ท่ีพรอ้ มขยายผลเพื่อให้เกดิ ประโยชน์ต่อเมือง
เชยี งใหม่ และ หน่วยงานท่ีสนใจได้

94


ผลผลติ (Output) ตวั ช้วี ัดผลผลิต/คา่ เปา้ หมาย

สรปุ ประเด็นสุขภาพภายใต้บริบทของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากการดำเนนิ โครงการ Healthy CMU ในปี 2563

จากการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพของบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในช่วงเดือนกรกฎาคม ถึง
ตุลาคม 2563 พบวา่ บุคลากรภายในมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหมม่ พี ฤตกิ รรมการบริโภคอาหารทไ่ี ม่เอ้ือตอ่ สุขภาพ ร้อยละ 34
มีค่าดัชนีมวลกายเกินมาตรฐาน ร้อยละ 19 ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ ร้อยละ 15 และออกกำลังกาย ร้อยละ 15 ซึ่งจะ
เห็นว่าบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีภาวะน้ำหนักเกินและพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานและ
สุขภาพได้

ภาวะน้ำหนกั เกินและอ้วนเป็นปญั หาสขุ ภาพท่ีพบได้ในประชากรทัว่ โลก ซง่ึ เปน็ สาเหตุความเจ็บป่วยและ
กอ่ ใหเ้ กดิ โรคเรอ้ื รัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสงู โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น ซ่ึงเมื่อ
เป็นโรคต่างๆ เหลา่ นีแ้ ลว้ จะส่งผลการดำเนนิ ชวี ติ ค่าใช้จ่ายในการรกั ษาพยาบาล และสุขภาพทางจิตได้ การป้องกัน
ไม่ให้เกิดโรคโดยการจดั การกับนำ้ หนักตวั ท่ีเกินและอว้ นจะช่วยลดความเสย่ี งในการเกิดการโรคได้

จากการสำรวจประชากรวัยผู้ใหญ่ขององค์การอนามัยโรค ในปี พ.ศ. 2559 จำนวนมากกว่า 1.9 พันล้านคน
พบว่า มีจำนวนประชากรวัยผู้ใหญ่ที่มีภาวะอ้วนและน้ำหนักตัวเกินมากกว่า 650 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 39.00 และ
เมื่อเปรียบเทียบกับความชุกของการเกิดภาวะอ้วนและน้ำหนักเกินตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 ถึง พ.ศ. 2559 พบว่า มีอัตรา
เพ่มิ ขึน้ เปน็ 3 เทา่ (WHO,2020).

ภาวะอ้วน หมายถึง ภาวะที่บุคคลมีการสะสมของไขมันมากเกินหรือผิดปกติ และส่งผลทำให้สุขภาพแย่ลง
(WHO) โดยองคก์ ารอนามัยโลกไดใ้ ห้นิยามของบุคคลที่มีภาวะอ้วนคือ บุคคลท่ีมีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30.0 กก./ม.2
สำหรับประชากรเอเชียของ The National Institute of Health (NIH) (2015) ได้กำหนดเกณฑ์ของผู้ที่มีน้ำเกินคือ
บุคคลที่มีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 25.0 กก./ม.2 ภาวะอ้วนกลายเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขเนื่องจากภาวะอ้วนส่ง
ผลกระทบทางลบต่อสุขภาพกายและจิต ด้านสุขภาพกายส่งผลใหเ้ กิดอาการปวดขอ้ ปวดเข่า ปวดหลัง ข้อเสื่อม ภาวะ
เมตาบอลิกซินโดรม ความดันโลหิตสูง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง
โรคเบาหวาน และโรคไต เปน็ ต้น ด้านจติ ใจ ผู้ที่มภี าวะอว้ นอาจถูกเลือกปฏิบัติเนื่องจากเห็นว่าอ้วน เช้ืองช้า บุคลิกไม่ดี
ขาดความมั่นใจในตนเอง ทำให้ไม่ไดร้ บั มอบหมายงานทส่ี ำคัญ ในบางรายอาจถูกตีตราการรักษาภาวะอ้วนประกอบด้วย
การปรับเปล่ยี นวิถีชวี ติ โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่เอ้ือต่อสุขภาพ และการเพ่ิมกิจกรรมทางกาย และการรักษา
ทางยา (NIH, 2015) การปรับเปลี่ยนวถิ ชี วี ิต ไดแ้ ก่ การกำหนดแผนการรับประทานอาหาร การประเมินสัดส่วนปริมาณ
อาหารท่รี ับประทาน การทำกจิ กรรมทางกาย และการลดระยะเวลาท่ีอยนู่ ่ิง จากงานวิจยั แสดงให้เห็นว่า การลดน้ำหนัก
ลงประมาณ 5-10% ของน้ำหนักตัวเดมิ จะช่วยให้ภาวะสุขภาพดขี ึน้

95


การจัดการภาวะอว้ นด้วยตนเองเป็นการกระทำตา่ ง ๆ ของบคุ คลทมี่ ภี าวะอ้วน เพอ่ื ควบคุมหรอื ลดความเส่ียงที่
จะเกิดผลกระทบจากภาวะอ้วน โดยบุคคลต้องรับผิดชอบจัดการด้านอาหารและการออกกำลังกายด้วยตนเอง
ประกอบด้วย การกำหนดแผนการรับประทานอาหาร การประเมินสัดสว่ นปริมาณอาหารท่ีรบั ประทาน การทำกิจกรรม
ทางกาย และการลดระยะเวลาที่อยู่นิ่ง ซึ่งการดำเนินโครงการจะดำเนินตามกรอบการจัดการตนเอง 5 ขั้นตอนของ
Glasgow ที่คณะกรรมการพัฒนาแนวปฏิบัติทางคลินิกของประเทศแคนนาดาที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับเป็นแนวปฏิบัติใน
การจัดการตนเองของผู้ที่มีภาวะอ้วนในผู้ใหญ่ (Wharton et al., 2020) และดัดแปลงมาจากโปรแกรมการจัดการ
ตนเองของผ้ทู ภ่ี าวะเมตาบอลิกซินโดรมของ Nattaya Suwankruhasn, Linchong Pothiban, Sirirat Panuthai, and
Pikul Boonchuang (2013). ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอน 5 A ได้แก่ 1) สอบถามความยินยอม (Ask permission) โดย
สร้างความตระหนักว่าโรคอ้วนเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการทำงาน และยอมรับที่จะรับคำแนะนำ
และความช่วยเหลือในการจัดการตนเอง 2) ประเมิน (Assess) เกี่ยวกับภาวะอ้วน 3) แนะนำการจัดการ (Advise on
management) ประกอบด้วย การจัดการด้านอาหารและการออกกำลังกายด้วยตนเอง และทักษะการจัดการตนเอง
(ทักษะการแก้ไขปัญหา ทักษะการตั้งเป้าหมาย ทักษะการวางแผนปฏิบัติ ทักษะการเฝ้าติดตามตนเอง ทักษะการสร้าง
ความเชื่อมั่นในตนเอง เทคนิคต่างๆ ที่เสริมการจัดการตนเอง การบันทึกการรับประทานอาหาร และการบันทึกทำ
กิจกรรมทางกาย) 4) การทำข้อตกลง (Agree on goals) เพื่อกำหนดเป้าหมายและวางแผนการดำเนินชีวิต 5) การ
ช่วยเหลือ (Assist with drivers and barriers) การรับการช่วยเหลือเพื่อให้พฤติกรรมดำเนนิ ต่อไปและลดอุปสรรค ถ้า
บุคคลมที กั ษะในการจดั การภาวะอว้ นด้วยตนเอง จะช่วยลดความเสีย่ งในการที่ทำให้โรคอ้วนเพิ่มระดบั ความรุนแรงมาก
ขึ้น และช่วยลดการเกิดโรคอื่นๆ เช่น ข้อเข่าเสื่อม ปวดหลัง โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น ดังนั้นจึงได้จัด
โครงการนขี้ ึน้ เพื่อใหบ้ ุคลากรมหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ท่ีมีภาวะอ้วน มที ักษะในการจดั การภาวะอว้ นด้วยตนเอง ซ่ึงจะช่วย
สง่ เสรมิ ให้บคุ ลากรมหาวทิ ยาลัยเชียงใหมม่ ีสุขภาพและคณุ ภาพชวี ิตทดี่ ี

นวัตกรรมและความพรอ้ มของเทคโนโลยีสอู่ ตุ สาหกรรมระดับ 7 ในปี2564

การประเมินความเสย่ี งดา้ นสุขภาพสำหรบั บคุ ลากรวยั ทำงาน

จากผลการศึกษาในปีแรกในปี 2563 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้อนุมัติให้ดำเนินการวิจัย ด้านการพัฒนาระบบ
สารสนเทศสุขภาพมหาวทิ ยาลยั เชียงใหมภ่ ายใตน้ โยบายการขบั เคล่อื นยุทธศาสตร์ท่ี 2 เชงิ รุก ด้านนวัตกรรมด้านอาหาร
และสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุ มุ่งเน้นการให้ความสำคัญด้านสุขภาพของบุคลากรของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อ
กำกับดูแลติดตามและสร้างนโยบายและแผนที่สำคัญเพื่อดูแลบุคลากร ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ( Health
Informatics) และเพื่อเชื่อมโยงกับแผนการพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้เป็น มหาวิทยาลัยที่ส่งเสริมสุขภาพ ได้
ข้อมูลด้านความเสี่ยงสุขภาพทำให้ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยได้รับทราบข้อมูลด้านสุขภาพของบุคลากร ที่มีรูปแบบภายใต้
การวดั ผ่านเครอื่ งมือท่ีมมี าตรฐานและเชื่อถือได้ ผลลัพธน์ ี้ชว่ ยนำไปสูก่ ารดูแล กำกับดูแลชว่ ยเหลอื และส่งเสริมกิจกรรม
ด้านสุขภาพและโครงการอื่น ๆ ภายใต้โครงการ Healthy CMU ที่ได้ผลลัพธ์เชิงประจักษ์ทั้งยังสร้างผลกระทบ
(Impact) ในวงกว้างของประชาคมชาวมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่

ระบบสารสนเทศที่พัฒนาขึ้นนั้น เป็นระบบสารสนเทศสุขภาพที่มีตัวชี้วัด นำไปสู่ผลกระทบเชิงบวกภายใต้
ตัวชี้วัด 3 ที่เกี่ยวข้องกับการประเมินสุขภาพประกอบด้วย 1) การประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ (Health risk
assessment) 2) การประเมินคุณภาพชีวิต (Health related quality of life (WHOQOL-BREF-Thai) 3) การ
ประเมินพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ (Health promoting behaviors) โดยแบบประเมิน 3 รูปแบบเป็นแบบ
ประเมินที่เป็นเครื่องมือที่ได้รับอนุญาตจากผู้พัฒนาและผ่านการตรวจสอบความถูกต้อง ผ่านการรับรองจริยธรรมวิจัย

96


คณะพยาบาลศาสตร์และได้นำไปใช้งานกับบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผ่านแกนนำสุขภาพ เพื่อให้ข้อมูลสุขภาพ
ย้อนกลับ ทั้งส่วนบุคคล ภาพรวมเพื่อนำเสนอ เฝ้าระวังติดตาม ข้อมูลในภาพรวมจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการ
ประมวลผลสขุ ภาพ ทสี่ ามารถประเมินความเสยี่ งการเกดิ โรค ทางกายและทางจติ ใจของบคุ ลากรต่อไป

ผลลัพธ์โดยรวมในปีที่ 1 พบว่ามีผู้เข้าใช้งานระบบผ่านเครือข่ายผู้นำสุขภาพของแต่ละคณะ มีผู้เข้าร่วมใช้งาน
ผ่านระบบประมาณกวา่ 500 คนกระจายไปในทุกคณะ หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งพบข้อมูลด้านความ
เสี่ยงด้านสุขภาพอย่างมนี ัยสำคญั สามอันดับแรกประกอบด้วย พบว่าบุคลากรมีความเสี่ยงด้าน การบริโภคอาหาร มาก
ที่สุดคดิ เป็น 65.46 % ในขณะที่ ความเส่ยี งด้านภาวะอ้วนดชั นีมวลกาย (BMI) คดิ เป็นร้อยละ 40.30 % และความเสี่ยง
ด้านกิจกรรมทางกายร้อยละ 30.70 % นอกจากนี้ยังพบข้อมูลภาพรวมด้านคุณภาพชีวิตและด้านพฤติกรรมสร้างเสรมิ
สุขภาพ โดยมรี ะดบั ดี และปานกลางตามลำดับ จากข้อมูลเชิงสังเขปทีได้จากระบบ ชว่ ยแสดงให้เห็นถึงภาวะความเส่ียง
และแนวโน้มดา้ นสุขภาพโดยรวมของประชาคมชาวมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ได้

ในปีที่ 2 นี้ มหาวิทยาลัยไดน้ ำแผนการพัฒนาการศึกษา มช. ฉบับที่ 12 สนับสนุนการขับเคลือ่ นเปา้ หมายการ
พัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ประเทศและ
การบริการวิชาการที่เกิดประโยชน์แก่สังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับท้องถิ่นภาคเหนอื โดยมี SDGs 2.ด้านนวัตกรรมด้าน
อาหารและสขุ ภาพและการดแู ลผู้สงู อายุ และ SDGs 3. ด้านลา้ นนาสรา้ งสรรค์ ซง่ึ เป็นภาพการนำนวตั กรรมไปช่วยเหลือ
และส่งเสริมสังคมโดยเฉพาะอย่างอย่างท้องถิ่นภาคเหนือ ซึ่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีนโยบายที่เด่นชัดที่จะสนับสนุน
นวัตกรรมสู่ชุมชนและสังคม ใหม้ ีปัจจัยพลวัตรท่ีเอ้ือต่อการสร้างเสริมสุขภาพ มีชวี อนามยั ท่ีดีให้ประชาคมชาวเชียงใหม่
มีความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น และส่งผลต่อภาพรวมคุณภาพชีวิตและดัชนีชี้วัดด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อการประเมินด้าน
เศรษฐกจิ ดีขน้ึ ในทางอ้อม

ดังนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการขับเคลื่อนนวัตกรรมสู่ชุมชนและสังคมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
โครงการวิจัยการพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรมระบบสารสนเทศเพื่อประเมินความเสี่ยงด้า นสุขภาพ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สู่ระดับความพร้อมของเทคโนโลยีสู่อุตสาหกรรมระดับ 7 -8 และเพื่อพัฒนานวัตกรรมสู่ชุมชน
และสังคมเชิงประจักษ์ ภายใต้การขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สู่มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพปีที่ 2 นี้โดย
โครงการวจิ ัยนจ้ี ะมุ่งนำระบบสารสนเทศทม่ี ีอยู่เดิมซ่งึ มคี วามพร้อมระดับ TRL 6 ไปพฒั นาตอ่ ยอดสู่นวตั กรรมเทคโนโลยี
ดา้ นสุขภาพทผี่ สมผสานความรู้ทางด้านวทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ และเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ ใหไ้ ด้ระบบนำไปสู่การใช้งาน
ระดับพื้นที่และตอ่ ยอดสู่นวัตกรรมสุขภาพท้ังมมี ูลค่าและเชงิ สงั คมตอ่ ไป โดยจะมีเป้าหมายปรับปรุงระบบเพือ่ ให้พร้อม
ต่อการแข่งขันโดยจะเพิ่มเติมฟังก์ชันและความสามารถในการประเมินสุขภาพผู้ใช้งาน และเน้นการแจ้งเตือนที่มี
ประสทิ ธิภาพมากย่ิงข้ันต่อไป ซ่ึงจะสอดคล้องและบรรลเุ ป้าหมาย SDG ของมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ต่อไป

การพัฒนาระบบสง่ ตอ่ ในการบรหิ ารจัดการความเครียด

ปัจจุบันนี้ในประเทศไทยพบว่าประชาชนเกิดความเครียดกันมาก ซึ่งความเครียดเป็นปัญหาด้านสุขภาพจิต
ชนิดหนึ่งและเกิดขึ้นได้ทุกคนและทุกคนย่อมต้องเคยผ่านความเครียดมาไม่มากก็น้อย ซึ่งความเครียดเป็นภาวะของ
อารมณ์หรือความรู้สึกที่เกิดข้ึนเมื่อบุคคลต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ และทำให้รู้สึกถูกกดดัน ไม่สบายใจ วุ่นวายใจ กลวั
วิตกกังวล ตลอดจนถูกบบี ค้ัน เมื่อบุคคลรบั รู้หรือประเมนิ ว่าปัญหาเหล่านั้นเป็นส่ิงที่คุกคามจติ ใจ หรืออาจจะก่อให้เกดิ
อันตรายแก่ร่างกาย จะส่งผลให้สภาวะสมดุลของร่างกายและจิตใจเสียไป หากความเครียดอยู่ในเกณฑ์ระดั บน้อยถึง
ระดับปานกลางจะส่งผลดีให้กับบุคคลกระทำสิ่งต่างๆ อย่างกระตือรือร้นมีความมุ่งมั่น อวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้มี

97


โอกาสรับมอื ความเครยี ดทเี่ กิดข้นึ รู้สึกเชื่อมั่นและภาคภูมิใจในตนเองเมื่อทำงานทท่ี ำประสบผลสำเรจ็ ในทางตรงกันข้าม
ถ้าหากความเครียดอยู่ในระดับมากจะส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ โดยอาจแสดงออกในรูปของการเปลี่ยนแปลงใน
ด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย ด้านจิตใจและอารมณ์ รวมทั้งด้านพฤติกรรม แต่เมื่อเวลาผ่านไป และความเครียด
เหล่านั้นคลายลง ร่างกายจะกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลอีกครั้งหนึ่ง แต่บางครั้งความเครียดอาจจะไม่สามารถทราบได้วา่ มี
อาการอยา่ งไร และถ้าไมส่ ามารถกำจัดความเครยี ดไดโ้ ดยเรว็ หรือไมส่ ามารถแกป้ ัญหาได้อาจนำไปสู่การเจ็บป่วยทางจิต
ท่ีรนุ แรงตามมาได้

บคุ ลากรในมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ สว่ นใหญ่อยใู่ นชว่ งวยั ทำงาน และมีบางสว่ นกำลงั เข้าสชู่ ่วงวยั สูงอายุ ซ่งึ วัย
นี้จะเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของร่างกายไปในทางที่เสื่อมสภาพทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคโดยเฉพาะโรค
เร้ือรังเปน็ ปัญหาทางสุขภาพทสี่ ำคัญของผู้สูงอายุ เพอ่ื ใหผ้ ้สู งู อายุเข้าสกู่ ารสูงวยั อย่างมีคุณภาพ รัฐได้กำหนดยุทธศาสตร์
ด้านการส่งเสริมและการคุ้มครองทางสังคมสำหรับผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุอยู่ร่วมกับครอบครัวอย่างมีคุณภาพ
ต่อเนื่องจนวาระสุดท้ายของชีวิต ทั้งนี้เพราะมีหลักฐานเชิงประจักษ์ระบุว่าการได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวมี
ความสัมพันธ์ในระดับสูงตอ่ คุณภาพชีวิตหรือความพึงพอใจของผู้สูงอายุ ดังนั้นผู้สูงอายุจึงเปน็ กลุ่มทีต่ ้องให้ความสนใจ
เป็นพิเศษเนื่องจากอยู่ในภาวะเสื่อมถอยจากสูงวัยไม่มีสมาชิกในครอบครัวให้การช่วยเหลือและสนับสนุนในการดูแล
สุขภาพผู้สูงอายุที่อาศัยเพียงลำพังที่ต้องเผชิญกับปัญหาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และเศรษฐกิจในด้านร่างกาย
ความสามารถในการทำหน้าที่ของร่างกายจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ด้านจิตใจถึงแม้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดแต่
พบว่าบางรายมีปญั หาด้านจิตใจ ดังนั้น การเข้าใจในปัญหา การค้นหาสาเหตุท่ีทำให้เกดิ ความเครยี ดและหาแนวทางใน
การจัดการกับภาวะความเครียดย่อมจะเป็น การสง่ เสริมสขุ ภาพจิตผ้สู ูงอายุทดี่ ีตอ่ ไป

จากแผนพัฒนาผู้สูงอายุฉบับที่ 2 (2545 - 2564) และแผนบูรณาการพัฒนาสุขภาพกลุ่มวัยผู้สูงอายุ 2557 –
2566 ล้วนให้ความสําคัญกับการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ การพัฒนาการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการส่งเสริมสุขภาพ
สะท้อนให้เห็นว่าทิศทางการดูแลสุขภาพคนในวัยทำงานที่ควรให้ความสําคัญกับการพัฒนาคนกลุ่มวัยทำงานให้มี
พฤติกรรมสง่ เสรมิ สขุ ภาพโดยใช้การมสี ว่ นรว่ มในการสร้างพลงั ขับเคลื่อน โดยเน้นกิจกรรมการดูแลที่สอดคลอ้ งกับภาวะ
สุขภาพ ซึ่งการมีส่วนร่วมของบุคลากรจึงเป็นเหมือนกุญแจสำคัญที่จะส่งผลให้เกิดความสาํ เร็จของการส่งเสริมสุขภาพ
ในมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ดงั นน้ั การเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่บุคลากรได้มีส่วนรว่ มในการแก้ไขปัญหาและป้องกันปัญหา
โดยการจดั กจิ กรรมเพื่อป้องกัน และแก้ไขหรอื จดั การกบั ความเครยี ดในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะเปน็ การทำให้บุคคล
ในมหาวิทยาลยั เชียงใหม่มศี กั ยภาพในการดูแลตนเองและสามารถปฏบิ ัติงานได้อยา่ งสมบรณู ์มปี ระสทิ ธฺ ภิ าพ

จากในปีที่ผ่านมา ได้มีโครงการพัฒนาศักยภาพการส่งเสริมสุขภาพด้านการบริหารจัดการความเครียดของ
บุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สำหรับการขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยสุขภาพขึ้น โดยมีกิจกรรมต่างๆคือ การสำรวจ
ความเครียด การให้ความรู้เรื่องความเครียดและการผ่อนคลายความเครียด และการฝึกการให้การปรกึ ษา (Training
for the trainer) ให้แกบ่ คุ ลกรทีเ่ ป็นแกนำสขุ ภาพใจ และการจดั ตง้ั คลนิ กิ การจดั การความเครียดขึ้นแบบ Online และ
รบั บรกิ ารปรกึ ษาปญั หาทางด้านจิตใจทางโทรศัพท์ ซงึ่ ทงั้ นพ้ี บวา่ มีผู้สนใจและต้องการมาใช้บริการจำนวนมากมากและ
มีผู้ติดต่อมาขอรับบริการอยู่จำนวนหนึ่ง พบปัญหาว่าแบบวัดประเมินความเครียด ไม่เป็นที่น่าสนใจและเข้าถึง ยาก
และผู้ใช้บริการเพื่อต้องการติดต่อขอใช้บริการ พบว่ามีช่องทางที่ยังไม่ชัดเจนและติดต่อยาก อีกทั้งหลังจากให้บริการ
ปรึกษาแล้วขาดระบบการส่งต่อไปให้ผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพจิตและจิตเวช เช่นจิตแพทย์ ดังนั้นในปีที่ 2 นี้ จึงได้เห็น
ความสำคัญในการขอจัดตั้งโครงการพัฒนาระบบส่งต่อในการบริหารจัดการความเครียดเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของ
บุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สำหรับการขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยสุขภาพขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับปัญหาที่เกิดข้ึน
ตอ่ ไป

98


พลงั แหง่ การสือ่ สารเพ่ือขับเคลอื่ นสุขภาวะ

ในปี 2563 มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ได้ดำเนินโครงการการพัฒนาศกั ยภาพการสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากร
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่สำหรบั การขบั เคล่ือนสู่มหาวทิ ยาลัยสุขภาพ (Healthy CMU) ข้นึ โดยมคี ณะพยาบาลศาสตร์
เป็นผรู้ ับผิดชอบหลกั และมี 11 หนว่ ยงานรว่ มดำเนินงาน ซึ่งโครงการฯ ได้มีการสำรวจข้อมลู สขุ ภาพของบุคลากร
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ในระบบสารสนเทศโครงการฯ อาทิ ระบบประเมินความเสี่ยงสุขภาพ (CMU i-Health) และแบบ
ประเมินความเครยี ด (Stop Staff Stress) พบว่าบคุ ลากรมหาวิทยาลยั เชยี งใหมม่ คี วามเส่ยี งสุขภาพระดับสูง 3 อนั ดับ
แรก ไดแ้ ก่ ด้านการบริโภคอาหาร ด้านดัชนมี วลกาย (BMI) และกิจกรรมทางกาย รวมถงึ มรี ะดบั ความเครยี ดระดับสูง
จากการทำงาน โดยเฉพาะความกลัวจะทำได้ไมถ่ ึงเปา้ หมาย นอกจากนี้ ด้านการประชาสัมพนั ธ์โครงการฯ กลุ่มบุคลากร
เป้าหมายเกิดการรับรแู้ ละมที ัศนคติที่ดีเกีย่ วกับโครงการฯ แตย่ งั ไม่ไดร้ บั ความสนใจเข้ามามีสว่ นร่วม (Engagement)
เทา่ ทค่ี วรในกจิ กรรมต่าง ๆ อาทิ การทำแบบประเมินสขุ ภาพขา้ งต้น เม่อื เทยี บกบั จำนวนบุคลากรมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่
ท้งั หมดจำนวน 12,300

นอกจากนน้ั กิจกรรมการสื่อสารในปที ีผ่ า่ นมา รูปแบบการสื่อสาร เร่ืองราวต่าง ๆ ดา้ นสุขภาพทเี่ ผยแพร่ใน
ชอ่ งทาง Facebook Fan page, Line, YouTube, Website ยงั นำเสนอในรปู แบบท่เี ป็นทางการ เนน้ การให้ความรเู้ ชงิ
วชิ าการ ซ่งึ อาจไมส่ ามารถตอบสนองลักษณะเฉพาะในการเปดิ รับและใชส้ ่ือ รวมถึงรสนยิ มและความต้องการข่าวสาร
สุขภาพของบคุ ลากรมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมซ่ ึง่ เป็นกลุ่มเปา้ หมายใหญ่ของโครงการขบั เคล่ือนสมู่ หาวิทยาลัยสขุ ภาพ
(Healthy CMU)

หากพิจารณาในด้านลักษณะเฉพาะของกลุ่มเปา้ หมายอันได้แก่บุคลากรมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ซ่ึงมีจำนวนรวม
12,300 คนในปี พ.ศ. 2563 จะพบวา่ มีความหลากหลายสูง ในดา้ นสถานภาพอนั ประกอบดว้ ยบุคลากรข้าราชการ 868
คน พนักงานมหาวิทยาลัยประจำ 5,808 คน พนักงานมหาวิทยาลัยชั่วคราว 5,308 คน และลูกจ้างประจำ 316 คน
(ข้อมูลจากระบบ CMU MIS ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563) ในด้านอายุแบ่งแยกได้ 3 ช่วงวัย บุคลากรมีสัดส่วนช่วง
อายุอยู่ใน Gen Y (อายุ 23-39 ปี) มากที่สุด รองลงมาคือ Gen X (อายุ 40-54 ปี) Baby Boomer (อายุ 55 ปีขึ้นไป)
และ Gen Z (อายุ 10-22 ป)ี ตามลำดับ ด้านการกระจายตวั ของบุคลากรเม่ือจำแนกตามคณะและหน่วยงานที่สังกัดจะ
พบว่าคณะแพทยศาสตร์มีบุคลากรในสังกัดสูงที่สุด (6,447 คน) รองลงมาคือหน่วยงานอื่น ๆ (4,099 คน) และคณะ
ขนาดใหญ่ภายในมหาวิทยาลยั ด้านตำแหนง่ งานจะพบว่า บุคลากรสายวชิ าการมีจำนวน 2,274 คน และสายสนับสนนุ
มีถึง 11,810 คน การสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักรู้รวมถึงการมีส่วนร่วมในโครงการ Healthy CMU ปี 2 ต้องการ
รูปแบบการสื่อสายที่หลากหลายเช่นกันเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกกลุ่ม ศูนย์นวัตกรรมการสื่อสารฯ คณะการ
สอื่ สารมวลชนจงึ จะออกแบบกระบวนการสื่อสารที่คำนึงถงึ ความแตกต่าง รสนิยมเฉพาะของแต่ละกลมุ่ เป้าหมาย ซ่ึงแต่
ละช่วงวยั มีพฤตกิ รรมการเลอื กเปิดรับขอ้ มลู ข่าวสารและการใช้สื่อท่ีแตกต่างกัน

นอกเหนือจากการส่งเสรมิ ให้ดำเนนิ การสื่อสาร/ประชาสัมพนั ธ์อย่างต่อเนื่อง เพ่ือนำไปสู่การปรับเปล่ียน
พฤติกรรมซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาและการสอ่ื สารทส่ี ม่ำเสมอแล้ว การรณรงค์ทมี่ เี ปา้ หมายส่กู ารเปลย่ี นแปลงพฤติกรรม
จำเป็นต้องศกึ ษาและวเิ คราะหข์ ้อมลู เชิงลกึ เกี่ยวกับองคป์ ระกอบการส่ือสาร โดยเฉาพะในสว่ นของผรู้ ับสาร ทง้ั ดา้ น
พฤติกรรมการเปิดรบั สอ่ื รูปแบบส่ือที่ต้องการ และข้อมูลดา้ นสขุ ภาพท่สี นใจ เพ่ือนำมาวางแผน/กลยุทธ์และพฒั นา
รูปแบบการนำเสนอขา่ วสาร สาระความรู้ กจิ กรรมสื่อสารเพอื่ สง่ เสริมสุขภาพ (Health Promotion) ให้ตรงใจ
กลุ่มเป้าหมายอย่างมปี ระสิทธิภาพ ซ่งึ จะส่งผลใหเ้ กดิ ความรว่ มมือ และเขา้ มามสี ว่ นร่วมกบั โครงการฯ เพมิ่ มากขน้ึ ใน
กลมุ่ เปา้ หมาย

99


การพัฒนาระบบสารสนเทศเพ่อื ประเมินแนวทางการดแู ลเบ้อื งตน้
นโยบายสำคัญในการปฏิรปู ระบบสขุ ภาพคือการมุ่งพัฒนาบรกิ ารสาธารณสขุ ในระดับปฐมภมู ิให้เข้มแขง็ เพ่ือให้

ประชาชนสามารถได้รบั บริการพื้นฐานให้ทว่ั ถงึ และเทา่ เทียม บริการพนื้ ฐานทีต่ ้องจดั ให้ ได้แก่ การสร้างเสริมศักยภาพ
ของบุคคล ครอบครัว และชุมชน ใหส้ ามารถดแู ลตนเองให้มีสขุ ภาพดี ปอ้ งกนั ตนเองจากความเจ็บป่วย และการเกิดโรค
ดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วยได้ สามารถตัดสินใจแสวงหาความชว่ ยเหลือในการรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสภาพ เมื่อเกิน
ความสามารถของตนเอง สภาการพยาบาล พ.ศ. 2540 ไดป้ รับปรงุ พระราชบัญญัติการพยาบาล และการผดุงครรภ์ โดย
กำหนดให้การประกอบวิชาชีพการพยาบาล ครอบคลุมการรักษาโรคเบือ้ งต้น และการให้ภูมิคุ้มกันโรคตามที่ปรากฏใน
มาตรา 4(3) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2540 เกี่ยวกับขอบเขตการประกอบ
วิชาชีพการพยาบาล และการผดงุ ครรภ์ ไว้ดงั น้ี “การประกอบวิชาชีพการพยาบาล” หมายความวา่ การปฏิบัตหิ น้าที่การ
พยาบาลต่อบุคคล ครอบครัว และชุมชน โดยกระทำดังต่อไปนี้ 1) การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษา และการ
แก้ปัญหาเกีย่ วกับสุขภาพอนามยั 2) การกระทำต่อร่างกาย และจติ ใจของบคุ คล รวมทั้งการจัดสภาพแวดล้อม เพื่อการ
แก้ปัญหาความเจ็บป่วย การบรรเทาอาการของโรค การลุกลามของโรค และการฟื้นฟูสภาพ 3) การกระทำตามวิธีที่
กำหนดไวใ้ นการรักษาโรคเบ้อื งตน้ และการใหภ้ มู ิคุ้มกันโรค 4) ช่วยเหลอื แพทย์กระทำการรักษาโรค (วราภรณ์ บุญเชียง
, 2561)

การรักษาโรคเบื้องต้น และการดูแลผู้ป่วย พยาบาลจะได้พบผู้ป่วยที่มีอาการหลากหลาย การจำแนกผู้ป่วย
เพื่อให้การดูแลที่เหมาะสมเบื้องต้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อประเมินแนวทางการ
รักษาพยาบาลโรคเบื้องต้นตามนโยบายการขับเคล่ือนยทุ ธศาสตรท์ ่ี 2 เชิงรกุ ดา้ นนวตั กรรมด้านอาหารและสุขภาพและ
การดูแลผู้สูงอายุ เพื่อแนะนำหรือให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับอาการป่วยว่าควรมีแนวทางอย่างไร เฝ้าระวังดีไหม ไปหา
หมอ หรือซื้อยาทางเองได้ ซึ่งในการ Pre-screening สามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลัก ๆ นั่นคือ 1. ส่วนแบบสอบถาม
ส่วนนี้อาจอยู่ในรูปแบบของ chat-bot ที่ทำหน้าที่ถามตอบข้อมูลโรคหรืออาการเบื้องต้นของผู้ใช้งาน (extract จาก
KM ของพยาบาล) แต่หากว่าคำตอบของแชทบอท ยังไม่สามารถตอบผู้ป่วยได้ ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะคุยกับอีก
รูปแบบการใช้งานได้ 2. ส่วน online-chat โดยจะเป็นส่วนที่มีบุคลากรด้านการพยาบาลที่ได้รับการอบรมแล้ว หรือ
พยาบาลวิชาชีพ ใหข้ อ้ มูลตอบคำถามของผใู้ ชง้ าน ท้ังน้ี Users ทเ่ี กี่ยวข้องภายในระบบสามารถแบ่งได้เปน็

1. Admin: ผดู้ แู ลระบบทั่วไป รับเรื่องร้องทกุ ข์ แจ้งแบน เชค็ สถานะของแอพ ฯลฯ

2. Patient users: ผู้ใช้งาน (ถือเป็นลูกค้า) ที่ต้องการคำตอบเบื้องต้นเกี่ยวกับสุขภาพตนเอง โดย
จดุ ประสงคห์ ลักคอื ไมอ่ ยากเสียเวลาไปโรงพยาบาลซง่ึ ใช้เวลานาน โดยผู้ใช้ส่วนนี้สามารถ

• เลอื กเข้าไปตอบแบบสอบถาม (Pre-screening หัวขอ้ ที่ 1) หรอื ปรกึ ษาผ่านออนไลนแ์ ชท
• ใหเ้ รทติ้งผทู้ ำการตอบแชท (รวี วิ )
3. Advisor users: ส่วนของผู้ให้บริการคำแนะนำ (Pre-screening หัวข้อที่ 2) ทำหน้าที่ถามตอบแก่
ผู้ใช้งานตามตารางเวลาที่ได้รับมอบหมาย

100


การสร้างเสรมิ ศักยภาพชุมชนเมอื่ งเชียงใหม่ให้เปน็ เมืองแหง่ สขุ ภาวะอยา่ งอจั ฉรยิ ะและยง่ั ยนื
การเปลี่ยนแปลงทางประชากรที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาทำให้ประเทศไทยก้าวสู่

สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ผลจากการสำรวจสัดส่วนของประชากรอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าร้อย
ละ 10 อายุ 65 ปีข้นึ ไป มากกว่ารอ้ ยละ 7 ของประชากรท้ังประเทศและคาดวา่ จะมีสดั สว่ นเพิ่มขึ้นในอีก 20 ปีข้างหน้า
จากร้อยละ 11.9 ในปี 2553 เป็น ร้อยละ 25 ในปี พ.ศ. 2573 หรือมากกว่า 2 เท่าตัวซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่
สำคัญอันจะนำไปสู่ความท้าทายในหลายๆด้าน โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพอนามัยโรคไม่ติดต่อ (Non-communicable
disease) เป็นปัญหาสำคัญที่พบมากขึ้นในประชากรไทย ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ( World Health
Organization) ในปี พ.ศ. 2557 โรคไมต่ ดิ ต่อเปน็ สาเหตุ ของการเสยี ชวี ติ ของประชากรไทยสงู ถงึ ร้อยละ 71 โดยสาเหตุ
หลัก ได้แก่ โรคทางระบบหัวใจและหลอดเลอื ด (รอ้ ยละ 29) โรคมะเรง็ (รอ้ ยละ 17) โรคเรอ้ื รงั ของระบบทางเดนิ หายใจ
(ร้อยละ 9) โรคเบาหวาน (ร้อยละ 4) และโรคไม่ติดต่ออื่น ๆ (ร้อยละ 12) (WHO, 2014) จากข้อมูลของกรมกิจการ
ผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในปี พ.ศ. 2559 ประชากรไทย 65 ล้านคน มีผู้ที่อายุ
มากกว่า 60 ปี จำนวน 9.9 ลา้ นคนหรือคิดเปน็ รอ้ ยละ 15.1 โดยเฉพาะในภาคเหนือมสี ดั สว่ นของประชากรผสู้ งู อายุมาก
ที่สุด คิดเป็นร้อยละ 16.6 ซึ่งโรคไม่ติดต่อเป็นปัญหาที่พบมากขึ้นตามลำดับ หลายประเทศทั่วโลกกำลังก้าวสู่การเปน็
สังคมผู้สงู อายุ ไมเ่ ว้นแม้แตป่ ระเทศไทย ดงั นั้นการเตรียมความพร้อมประชากรในวยั ทำงานเพ่ือให้มีศักยภาพในการดูแล
ตนเองและช่วยชุมชนในการรองรับสถานการณ์สังคมสูงวัย และการที่คนในชุมชนจะสามารถเข้าสู่วัยสูง อายุได้อย่างมี
คุณภาพจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนากำลังคนของประเทศไทยภายใต้การพัฒนานวัตกรรมที่
เกย่ี วขอ้ งกบั ระบบสุขภาพในการประเมนิ ความเสย่ี ง และการเฝา้ ระวังสุขภาพของคนในชมุ ชนท้องถ่ินนำไปสู่การมีความ
พร้อม มีศักยภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และพัฒนาเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาวะที่ดีต่อไป ทั้งยังช่วยลดความเลื่อมล้ำในการ
เขา้ ถึงบรกิ ารสุขภาพ ลดค่าใช้จา่ ยของหน่วยงานรฐั บาล และคา่ ใช้จ่ายของครอบครวั ในการรกั ษาพยาบาล ตลอดจนเกิด
การสร้างรายได้ และการสร้างเสริมศักยภาพสังคมและชุมชนให้เข็มแข็งเนื่องจากคนในสังคมมีสุขภาพที่ดี มีส่วนร่วม
และมีศักยภาพในการดูแลสุขภาพตนเอง มีระบบฐานข้อมูลความสุขภาพ มีการประเมินความเสี่ยและการเฝ้าระวัง
สุขภาพของชุมชนทั้งในระดับบุคคล ครอบครัวและชุมชน อย่างเป็นระบบ ซึ่งนำไปสู่การมีประสิทธิภาพในการทำงาน
สำหรับประชากรวัยทำงาน และ การดำรงชีวิตในสังคมที่ชว่ ยเหลือเกื้อกูลซ่ึงกันและกัน โดยการให้องค์กรปกครองสว่ น
ทอ้ งถิน่ มีสว่ นร่วมในการดแู ลคนในชุมชนโดยเชื่อมโยงกับระบบหนุ้ ส่วนการดแู ล การสร้างความตระหนักและความรอบรู้
ทางสุขภาพแก่ชุมชน และมีแนวทางการดำเนินการจัดทำเป็นแผนระยะสั้น และระยะยาว เพื่อนำไปสู่การผลักดันด้าน
นโยบายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ภายใต้สถานการณ์การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยและทั่วโลก
คณะผู้วิจัยจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญและจำเป็นในการสรา้ งเสริมศักยภาพชมุ ชนเมื่องเชียงใหม่ให้เป็นเมืองแห่งสขุ ภาวะ
อยา่ งอัจฉรยิ ะและยงั่ ยืน

รูปแบบโครงการ : โครงการจะเป็นการดำเนินโครงการบริการวิชาการร่วมกับโครงการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed-
methods Multiphase designs)

กลยทุ ธแ์ ละกระบวนการวางแผนโครงการ Healthy CMU ในปี 2564

กลยุทธท์ ่นี ำมาใชเ้ พอ่ื ความสำเรจ็ ของโครงการคือ "แนวคดิ การขับเคลื่อนทงั้ มหาวทิ ยาลยั " ซงึ่ ครอบคลุม
5 มิติ ไดแ้ ก่ 1) หลกั การเสริมฐานราก 2) เปน็ ตน้ แบบมหาวทิ ยาลัยสขุ ภาพ 3) เปน็ ผ้นู ำด้านการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ 4)
แนวคดิ การพฒั นาทัง้ มหาวิทยาลัย และ 5) การสร้างผลกระทบด้านสขุ ภาพแก่สังคม มีกระบวนการวางแผน
ประกอบดว้ ย 8 ขน้ั ตอน ไดแ้ ก่ 1) จัดต้ังคณะกรรมการและ ทำการวางแผน 2) การสรา้ งเครือข่ายคณะทำงาน 3) การทำ

101


แผนและประเมนิ ความต้องการของผู้ที่มสี ่วนไดส้ ่วนเสีย 4) การทำงานรว่ มกัน 5) การวางแผนปฏบิ ตั ิการ 6) การส่งมอบ
บริการ 7) การติดตามและประเมนิ ผล และ8) ให้ข้อเสนอแนะและการเผยแพรผ่ ลงาน
กรอบแนวคิดโครงการ Healthy CMU

โครงการเน้นการป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และโรคที่พบบ่อยในวัยทำงาน สร้างเสริมสขุ ภาพ
และยกระดับคุณภาพชีวิต รวมถึงการเตรียมความพร้อมบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเข้าสู่วัยสูงอายุอย่างมี
คุณภาพ กรอบแนวคิดโครงการได้พัฒนามาจากกรอบแนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพของมหาวิทยาลัยสุขภาพเครือข่าย
ประเทศในกลุ่มอาเซียน ภายใต้ 12 หลักการของการขับเคล่ือนมหาวิทยาลัยสุขภาพ และการดำเนนิ โครงและกิจกรรมที่
สอดคล้องกับประเด็นสุขภาพทก่ี ำหนดตามกรอบแนวคิดมหาวทิ ยาลยั สุขภาพของเครือขา่ ยมหาวิทยาลัยในกลุม่ ประเทศ
อาเซียน ตลอดจนการนำกลไกที่ใช้ในการประเมิน และตรวจสอบ ประสิทธิผลของการดำเนินโครงการมหาวิทยาลัย
สุขภาพมาประยุกต์ใช้ โดยกรอบแนวคิดของโครงการน้ีมีการบรู ณาการ แนวคิดหลักท่สี ำคัญ 3 แนวคิด ได้แก่ 1) กรอบ
แนวคิดมหาวิทยาลัยสุขภาพที่เน้นการมีสุขภาพที่ดีของบุคลากรมหาวิทยาลัย การเสริมสร้างศักยภาพ และการพัฒนา
งานวิจัยการสรา้ งเสริมสุขภาพ 2) แนวคิดข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยเน้นไปในเรือ่ งของระบบข้อมูลสุขภาพ และ
นวัตกรรมดิจิตอลเพื่อสุขภาพ และ 3) แนวคิดการส่งเสริมสุขภาพที่เน้นการป้องกันโรคระดับปฐมภูมิ
มีหลักการในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสุขภาพ 10 ประการ ได้แก่ ความเสมอภาค ความหลากหลาย
การมีสว่ นรวม การสง่ เสริมสุขภาพ พฤตพิ ลงั การเสริมสรา้ งพลงั อำนาจ ความร่วมมอื หลักฐานเชิงประจักษ์ องค์ความรู้
และการแลกเปลีย่ นเรียนรู้

ผลลัพธ์ที่คาดหวังในการพัฒนา Healthy CMU: Conceptual Framework ในปีที่ 2 คือการต่อยอดในการ
สร้างนวัตกรรม และเกิดผลกระทบทางสังคม ผลิตนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ปรับปรุงคุณภาพชีวิตและผลลัพธ์ด้าน
สุขภาพที่ดีขึ้น ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรได้อย่างเฉลียวฉลาดและคุ้มค่า และเพิ่มระดับผลสัมฤทธิ์ ประสิทธิภาพและ
ประสิทธิผลของงาน และการเพ่มิ ความเป็นอยูท่ ดี่ ขี นึ้ ของบุคลากร มช. เน้นการช่วยเหลือ และการทำงานร่วมกนั การทำ
วจิ ยั เพื่อนำไปสู่การเสริมสรา้ งขีดความสามารถระหว่างคณะ สถาบัน และองคก์ รต่าง ๆ (ดงั รูปที่ 3)

102


รูปที่ 3 : กรอบแนวคดิ ของโครงการมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่มหาวิทยาลัยสขุ ภาพ (Healthy CMU: Conceptual
Framework)

อ้างอิง (References)

หนึ่งฤทัย ขอผลกลาง และ กิตติ กันภยั (2553). งานวจิ ยั ด้านการส่อื สารสุขภาพ: กลไกการพัฒนาสังคม (The
Research of Health Communication: The Social Development Devices). Suranaree J. Soc. Sci.
4(1), 65-77.

ลดาวัลย์ ประทปี ชียกรู พัชรยี า ไชยลังกา และ ปิยะนุช จิตตนูนท.์ (2551). ภาวะสุขภาพและพฤตกิ รรมสรา้ งเสริม
สุขภาพ ของบคุ ลากร: กรณีศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์. สงขลานครินทร์เวชสาร
26(2), 151-162.

สมใจ ศริ ะกมล (2555). การสรา้ งเสริมสุขภาพในสถาบันอุดมศกึ ษา. (Health Promotion in Higher Education: A
Diversity of Meaning and Perspectives). พยาบาลสาร 39(4), 161-179.

(สวุ รรณ)

นพดล นม่ิ สุวรรณ. (2559). ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นามหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์สกู่ ารเป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสรมิ
สขุ ภาพด้านการส่งเสริมการออกกำลังกาย (Doctoral dissertation, มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขต
ปตั ตานี). ค้นเม่ือ 1 มถิ ุนายน 2562, จาก http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/11000

มหาวิทยาลัยรงั สิต. (2560). โครงการมหาวิทยาลัยรังสติ นวัตกรรมการเรียนรู้ สู่สขุ ภาพท่ีย่งั ยนื : RSU Healthy
Campus. รายงานผลการดำเนนิ โครงการ.

103


Charter, O. (2015). Okanagan charter: An international charter for health promoting universities and
colleges. In: Kelowna, British Columbia, available at: http ….

Dooris, M. (2013). Expert voices for change: Bridging the silos—towards healthy and sustainable
settings for the 21st century. Health & place, 20, 39-50.

Dooris, M., Doherty, S., Cawood, J., & Powell, S. (2012). The Healthy Universities approach: Adding
value to the higher education sector. Health promotion settings: Principles and practice, 153-
169.

Dooris, M., Farrier, A., Doherty, S., Holt, M., Monk, R., & Powell, S. (2016). The UK Healthy Universities
Self-Review Tool: Whole System Impact. Health Promotion International, 33(3), 448-457.
doi:10.1093/heapro/daw099

Dooris, M. T., Cawood, J., Doherty, S., & Powell, S. (2010). Healthy Universities: Concept, model and
framework for applying the healthy settings approach within higher education in England.

Emine, S. and Marco, S. (2009). Mobile health access for diabetics in rural Areas of Turkey - results of
a survey. Lecture Notes of the Institute for Computer Sciences, Social Informatics and
Telecommunications Engineering, 27:13-20

Mohammad MosaA.S., Yoo, I. and Sheet, L. (2012). A systematic review of healthcare applications for
smartphones.BMC Medical Informatics and Decision Making, 12(67): 1-31.

Murdaugh, C. L., Parsons, M. A., & Pender, N. J. (2018). Health promotion in nursing practice: Pearson
Education Canada.

Network, A. U. (2012). Annual Report (Asean University Network): Asean University Network.
Newton, J., Dooris, M., & Wills, J. (2016). Healthy universities: an example of a whole-system health-

promoting setting. Global health promotion, 23(1_suppl), 57-65.
Nora, A., Mohamed, K., Ashraf, M., and Mowafa, H. 2018. The prevalence and usage of mobile health

applications among mental health patients in Saudi Arabia. Computer Methods and Programs in
Biomedicine. 156(2018), 163-168.

Pender, N. J., Murdaugh, C., & Parsons, M. (2002). The health promotion model. Health promotion in
nursing practice, 4, 59-79.

Rogers, R., Krallman, R., Jackson, E. A., DuRussel-Weston, J., Palma-Davis, L., de Visser, R., . . . Kline-
Rogers, E. (2017). Top 10 Lessons Learned from Project Healthy Schools. The American journal
of medicine, 130(8), 990. e991-990. e997.

Thinnukool, O., Khuwuthyakorn, P., Wientong, P., and Panityakul, T. (2017). Non-prescription
medicine mobile healthcare application: Smartphone-based software design and development
review. International Journal of Interactive Mobile Technologies. 11(5), 130-146.

Yun Ahn, Jeahurn Bae, Hee-Seon Kim. (2016). The development of a mobile u-Health program and
evaluation for self-diet management for diabetic patients. Nutrition Research and Practice. Vol.
10(3):342-351.

104


5. วตั ถุประสงคข์ องโครงการ Healthy CMU ในปี 2564

วตั ถปุ ระสงคห์ ลกั

1.เพอื่ พัฒนาและต่อยอดนวตั กรรมระบบสารสนเทศเพื่อประเมนิ ความเสยี่ งด้านสขุ ภาพมหาวิทยาลยั เชียงใหม่สู่
ระดับความพรอ้ มของเทคโนโลยีสอู่ ุตสาหกรรมระดับ 7-8

2. เพอ่ื นำเทคโนโลยีไปใชง้ านและสนับสนนุ สู่ภาคสงั คมท้องถนิ่ ภาคเหนอื และตอ่ ยอดเชิงพาณชิ ย์

วัตถุประสงค์รอง

1 เพื่อพฒั นารปู แบบมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมม่ หาวทิ ยาลยั สขุ ภาพภายใตน้ วตั กรรมการประเมนิ ความเส่ยี งทาง
สุขภาพ การคดั กรองความเสี่ยง การเฝ้าระวงั และการสร้างความตระหนักดา้ นสขุ ภาพในมหาวิทยาลยั และเทศบาล
เมอื งเชียงใหม่

2. เพ่ือพัฒนารูปแบบเชียงใหมเ่ มืองสขุ ภาวะภายใต้นวตั กรรมการประเมินความเส่ียงทางสขุ ภาพ การคัดกรอง
ความเส่ียง การเฝ้าระวัง และการสร้างความตระหนักด้านสุขภาพเทศบาลเมืองเชยี งใหม่

3. เพือ่ พัฒนาสร้างความรู้ความเข้าใจ และความตระหนักในการสรา้ งเสริมสขุ ภาพกายและใจโดยเนน้ การ
พัฒนาโปรแกรมการสร้างเสริมสุขภาพทงั้ รายบุคคล และรายกล่มุ ในการการสร้างเสริมสุขภาพและการปอ้ งกันความ
เสยี่ งด้านสขุ ภาพในโรคเร้ือรัง ไดแ้ ก่ โรคอว้ น และการจดั การความเครียด

4. เพื่อพฒั นาต้นแบบการลดความเสีย่ งการสบู บุหร่ี การดื่มสุราสำหรับบุคลากรมหาวิทยาลยั เชียงใหม่

5. เพือ่ ในการเฝา้ ระวัง และส่งตอ่ สขุ ภาพสำหรับชุมชน เพ่ือลดความรนุ แรงและความเจ็บปว่ ยของคนในชมุ ชน

6. เพอ่ื ยกระดบั มหาวทิ ยาลยั สุขภาวะส่เู มืองเชยี งใหม่เมืองสุขภาวะ

6. เปา้ หมาย/ความสำเรจ็ ของโครงการ Healthy CMU ในปี 2564

1. โครงการสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคล่อื นยุทธศาสตร์ที่ 2 เชิงรกุ ด้านนวัตกรรมดา้ นอาหารและ
สขุ ภาพและการดูแลผู้สงู อายุของมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่

2. โครงการสนบั สนนุ ใหม้ กี ารขบั เคล่ือนเป้าหมายการพัฒนาท่ียั่งยืน (Sustainable Development Goals-
SDGs) มุ่งเนน้ การวจิ ัยและนวัตกรรมทตี่ อบโจทยป์ ระเทศและการบริการวิชาการที่เกิดประโยชนแ์ ก่สงั คม โดยสามารถ
ตอบ SDGs 3, 9, 11, 17

3. โครงการเป็นปัจจัยพลวัตรที่เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพ ชีวอนามัยให้ประชาคมชาวเชียงใหม่มีความ
เป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น และส่งผลต่อภาพรวมคุณภาพชีวิตและดัชนีชี้วัดด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อการประเมินด้านเศรษฐกิจดี
ขนึ้ ในทางออ้ มของภาคประชาชนท้องถนิ่ ภาคเหนือ

4. โครงการสามารถสร้างนวัตกรรมสู่ชุมชนและสังคมเชิงประจักษ์ ที่มีผลกระทบ และสามารถนำความรู้จาก
มหาวิทยาลยั สกู่ ารขบั เคลอื่ นล้านนาสรา้ งสรรค์และภาคภี าคสงั คม หน่วยงาน ตา่ ง ๆ ภายนอกมหาวิทยาลยั เชียงใหมไ่ ด้

105


5. โครงการสามารถตอบโจทย์การจัดลำดับของมหาวิทยาลัยด้าน SDG 3: GOOD HEALTH AND WELL-
BEING ของ Times Higher Education ตามเกณฑ์การพัฒนาความยัง่ ยนื ขององค์กรเพื่อสังคมของสหประชาชาติ และ
EdPEx

6. ภายใต้ตวั ชีว้ ดั รว่ มการสรา้ งเสริมสขุ ภาพไดแ้ ก่
6.1 ความเส่ียงด้านสุขภาพ (Health risk assessment
6.2. ความสุข (Happynometor)
6.3 ดัชนีชวี้ ดั ภาวะสขุ ภาพและคณุ ภาพชีวิตคนไทย (WHOQOL-BREF-Thai)
6.4. พฤตกิ รรมสร้างเสรมิ สุขภาพ (Health Promoting Lifestyle Profile II)
โดยภายหลังการดำเนินการส่งเสริมสุขภาพและศักยภาพ ดีขึ้นกว่าก่อนการดำเนินกิจกรรมการสร้างเสริม
สขุ ภาพสำหรับบคุ ลากรในมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ และในเขตเทศบาลเมอื งเชียงใหม่ดงั แสดงในรูปที่ 4

รูปท่ี 4 : เป้าหมาย/ความสำเร็จของโครงการ (The Success of Healthy CMU Project)

106


7. พื้นท่ีดำเนนิ การ

1. ทกุ คณะในมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ โดยรวมบคุ ลากรท้ัง 2 กลุ่มได้แก่ กลุม่ บุคลากรสายวชิ าการ (ขา้ ราชการ
สาย ก. และพนกั งานมหาวิทยาลยั ) และบุคลากรสายสนบั สนนุ (ขา้ ราชการสาย ข. ค. พนกั งานมหาวิทยาลัยสาย
สนบั สนนุ และลูกจา้ ง)

2. เทศบาลนครเชียงใหม่

8. รายละเอียดวธิ กี ารดำเนินโครงการ

ขอบเขตของโครงการโครงการ Healthy CMU ในปี 2564

โครงการจะเป็นการดำเนินโครงการบริการวิชาการร่วมกับโครงการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed-methods
Multiphase designs) (Creswell &Plano Clark 2011, pp 114) โดยการศึกษาจะแบ่งเป็น 3 ระยะ เพื่อการศึกษา
ภาวะสุขภาพ และพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของบุคลากรทั้ง 2 กลุ่มได้แก่กลุ่มบุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุน
เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพและศักยภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้
สามารถดูแลตนเองเพื่อป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่พบบ่อยในวัยทำงาน และเพื่อลดอุบัติการณ์ของการเกิด
ปัญหาสุขภาพ ภาวะทุพพลพลภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพ
และประสิทธิภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการทำงาน และสามารถเตรียมตัวรองรับเข้าสู่วัยเกษียณได้
อย่างเหมาะสม

การดำเนินกจิ กรรมการเสรมิ สร้างสขุ ภาพสำหรบั บุคลากรมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ในปี 2564

การดำเนนิ กิจกรรมในภาพรวมใหเ้ ป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ในระยะเวลา 2 ปี มกี การขับเคลื่อนกระบวนการ
ผ่านตัวแทนบุคลากรในแต่ละคณะ หรือหน่วยงานต่างๆ ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานสร้าง
เสริมสุขภาพอย่าง เป็นรูปธรรม พัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพของบุคลากรเพื่อให้เกิดการนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์
สูงสุดในการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ และการวิเคราะห์แนวทางการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมทั้งในระดับ
มหาวิทยาลัย คณะ และบุคคล จัดกิจกรรมด้านการพัฒนาที่เน้นการสร้างเสริมสุขภาพของ บุคลากรอย่างต่อเนื่อง จัด
กิจกรรมรณรงค์ในวงกว้าง (Mass Communication) เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจการสร้างเสริมสุขภาพท้ัง
มหาวิทยาลัยโดยการจดั กิจกรรม สร้างความตระหนัก (Public Awareness) เพื่อนำไปสู่ความตืน่ ตวั การรักสุขภาพกาย
และใจของบุคลากรในใมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยแนวทางการดำเนินกิจกรรมการสร้างเสริมสุขภาพใน
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหมส่ ามารถแบ่งระยะการดำเนินการ 2 ปดี ังนี้

กจิ กรรม รายละเอียด

ปีที่ 2: การดำเนินการปที ี่ 1 แบง่ 9 กจิ กรรมย่อย

กจิ กรรมที่ 1: การวเิ คราะห์ และระดม การจัดต้ังคณะทำงาน การวิเคราะห์ และระดมความคิดเห็นเพอื่ จัดทำแผน

ความคดิ เห็นเพ่ือจัดทำแผน และการ และการดำเนินโครงการเชยี งใหมเ่ มอื งแหง่ สุขภาวะอยา่ งอจั ฉริยะและยั่งยืน

ดำเนินโครงการพฒั นาศักยภาพการ (Smart and Sustainable Healthy Chiang Mai City)

สร้างเสริมสุขภาพของบุคลากร

มหาวิทยาลยั เชียงใหม่

107


กจิ กรรม รายละเอยี ด
ดำเนินการหลักโดยคณะพยาบาล
ศาสตร์ การสร้างผู้แทนการดแู ลสขุ ภาพเพ่ือนำมาพดู คยุ ถึงวธิ กี ารสร้างเสรมิ สขุ ภาพ
และป้องกนั ความเสย่ี งดา้ นสขุ ภาพในบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่โดย
กจิ กรรมท่ี 2 : การพฒั นาทักษะการ การพดู เพื่อเปน็ กำลงั ใจและช่วยจุดประกาย(Inspiration) ความอยากใน
จดั การภาวะอว้ นด้วยตนเองในผู้ทมี่ ี การสรา้ งเสริมสขุ ภาพทกุ 1-3 เดอื น
ภาวะอว้ นดำเนินการหลักโดยคณะ
พยาบาลศาสตร์

กิจกรรมที่ 3 : การรจัดกจิ กรรมการสรา้ ง โดยการสร้างผแู้ ทนการดูแลสุขภาพเพ่ือนำมาพดู คุยถึงวธิ กี ารสรา้ งเสริมสขุ ภาพ
เสรมิ พลงั งานอำนาจ (Empowerment) และป้องกันความเสย่ี งดา้ นสุขภาพในบคุ ลากรมหาวิทยาลัยเชยี งใหมโ่ ดยการพดู
สำหรบั การสรา้ งเสรมิ สุขภาพของ เพ่อื เปน็ กำลงั ใจและชว่ ยจดุ ประกาย(Inspiration) ความอยากในการสร้างเสรมิ
บุคลากรมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ไดแ้ ก่ สขุ ภาพทุก 1-3 เดอื น
กจิ กรรม “Health Talk”
ดำเนินการหลกั โดยคณะพยาบาล เพอื่ พัฒนา Application ในการประเมินความเครยี ดและระบบสง่ ต่อในการ
ศาสตร์ บรหิ ารจดั การความเครียดเพื่อให้เกดิ ความยัง่ ยืนบุคลากร
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ท้ัง 2 กลุ่มได้แก่ กลุม่ บุคลากรสายวชิ าการ (ขา้ ราช
กิจกรรมที่ 4 : การพฒั นาระบบส่งต่อ สาย ก. และพนกั งานมหาวิทยาลัย) และบุคลากรสายสนบั สนนุ (ข้าราชสาย
ในการบริหารจดั การความเครียด ข. ค. พนักงานมหาวทิ ยาลัยสายสนับสนนุ และลกู จ้าง) ให้สามารถใช้บริการ
เพ่ือใหเ้ กดิ ความย่งั ยนื ของบุคลากร และได้ใชร้ ะบบสง่ ต่อพบผู้เชย่ี วชาญเพอ่ื จัดการกบั ปญั หาทางสุขภาพจิต
มหาวิทยาลยั เชยี งใหมส่ ำหรับการ และความเครยี ดได้
ขบั เคลอื่ นสมู่ หาวทิ ยาลัยสุขภาพ
ดำเนินการหลกั โดยคณะพยาบาล
ศาสตร์

กิจกรรมที่ 5: การจัดกิจกรรมการสรา้ ง การจดั กิจกรรมการสรา้ งเสรมิ สุขภาพปอด โดยการจัดกจิ กรรมรณรงค์ และ

เสรมิ สุขภาพปอด โดยการจัดกิจกรรม การจัดใหม้ ีพ้ืนที่ปลอดบุหรี่ (Smoke Free Area ) และการจดั ต้ังคลินิก

รณรงค์ และการจดั ให้มพี ้นื ที่ปลอด ปลอดบหุ ร่ดี ำเนินการให้บริการคำปรึกษาและอบรมในการเลิกบุหรส่ี ำหรับ

บหุ ร่ี (Smoke Free Area ) บุคลากร รวมถงึ การตรวจสรรถนะปอดเปน็ ประจำทกุ ปสี ำหรบั บุคลากร

- การจดั กจิ กรรมการสร้างเสริม กลุม่ เส่ียง

สขุ ภาพปอด และการจดั ใหม้ ีพ้นื ที่

ปลอดบุหรี่ (Smoke Free Area )

- การจดั ต้ังคลนิ กิ ปลอดบุหร่ี

ดำเนินการหลักโดยคณะพยาบาล

ศาสตร์

กิจกรรมที่ 6: การจัดกจิ กรรมการสร้าง การจดั กจิ กรรมสุขภาพตับ โดยดำเนนิ การจัดกิจกรรมรณรงคม์ หาวิทยาลยั
เสริมสขุ ภาพตับ ปลอดเหล้า (Uni. Zero% Alcohol) การดำเนินการใหบ้ ริการคำปรึกษา
- กจิ กรรมรณรงค์มหาวิทยาลยั ปลอด และอบรมในการเลกิ เหล้า สำหรบั บคุ ลากรรวมถงึ การตรวจการทำงานของ
เหล้า (Uni. Zero% Alcohol) ตบั เป็นประจำทุกปีสำหรับบคุ ลากรกลมุ่ เสี่ยง

108


กจิ กรรม รายละเอียด

- การจดั ต้งั คลนิ กิ การดำเนินการ

ใหบ้ ริการคำปรึกษาและอบรมในการ

เลกิ เหล้า

ดำเนินการหลกั โดยคณะพยาบาล

ศาสตร์

การสง่ เสริมให้ดำเนนิ การสือ่ สาร/ประชาสัมพนั ธ์อย่างต่อเนื่อง เพ่ือนำไปสู่

การปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรม การรณรงคท์ ่ีมีเป้าหมายสู่การเปลี่ยนแปลง

กจิ กรรมท่ี 7: สื่อสารสร้างเสริมสุขภาพ พฤติกรรมและวเิ คราะห์ขอ้ มลู เชงิ ลกึ เกย่ี วกบั องคป์ ระกอบการส่ือสาร โดย

กายและใจ Healthy CMU เพอื่ เฉาพะในสว่ นของผรู้ บั สาร ท้ังดา้ นพฤติกรรมการเปิดรับสื่อ รูปแบบสอื่ ท่ี

ขับเคล่อื นสูม่ หาวิทยาลยั สุขภาพ ต้องการ และข้อมูลดา้ นสุขภาพที่สนใจ เพ่ือนำมาวางแผน/กลยุทธแ์ ละ

ดำเนินการหลักโดยคณะการ พัฒนารปู แบบการนำเสนอข่าวสาร สาระความรู้ กิจกรรมส่ือสารเพื่อ

สอื่ สารมวลชน สง่ เสริมสขุ ภาพ (Health Promotion) ให้ตรงใจกลุ่มเปา้ หมายอยา่ งมี

ประสทิ ธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความร่วมมือ และเขา้ มามีสว่ นร่วมกับ

โครงการฯ เพ่ิมมากข้ึนในกลุ่มเปา้ หมาย

กจิ กรรมท่ี 8: การพฒั นาและต่อยอด การดูแลและรักษาระบบฐานข้อมูลสุขภาพ (Developing of the Data

นวัตกรรมระบบสารสนเทศเพื่อ Health Risk Assessment System) และพัฒนานวัตกรรมสู่ชุมชนและ

ประเมนิ ความเสีย่ งด้านสขุ ภาพ สังคมเชิงประจักษ์ ภายใต้การขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สู่

มหาวิทยาลัยเชียงใหมส่ รู่ ะดบั ความ มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพปีที่ 2 นี้โดยโครงการวิจัยนี้จะมุ่งนำระบบ

พรอ้ มของเทคโนโลยสี ู่อตุ สาหกรรม สารสนเทศที่มีอยู่เดิมซึ่งมีความพร้อมระดับ TRL 6 ไปพัฒนาต่อยอดสู่

ระดบั 7 นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านสุขภาพที่ผสมผสานความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์

ดำเนินการหลักโดยวทิ ยาลยั ศลิ ปะ สุขภาพ และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้ได้ระบบนำไปสู่การใช้งานระดับ

สอ่ื และเทคโนโลยี พ้นื ทีแ่ ละตอ่ ยอดสนู่ วตั กรรมสขุ ภาพทงั้ มีมลู ค่าและเชิงสังคมต่อไป โดยจะมี

เป้าหมายปรับปรุงระบบเพื่อให้พร้อมต่อการแข่งขันโดยจะเพิ่มเติมฟังก์ชนั

และความสามารถในการประเมินสุขภาพผู้ใชง้ าน และเน้นการแจง้ เตือนที่มี

ประสิทธิภาพมากยิ่งขั้นต่อไป ซึ่งจะสอดคล้องและบรรลุเป้าหมาย SDG

ของมหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ตอ่ ไป

กจิ กรรมท่ี 9: การพฒั นาระบบ การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อประเมินแนวทางการดูแลสุขภาพเบื้องต้น
สารสนเทศเพ่ือประเมินแนวทางการ แนะนำหรือให้ข้อมูลเบื้องต้น และเพื่อนำไปใช้เป็นฐานในการต่อยอดการ
ดูแลสขุ ภาพเบื้องต้น วเิ คราะห์ขอ้ มลู (Data Analytic) ด้านสุขภาพเบอ้ื งต้น
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
หลักโดยวิทยาลัยศิลปะ สือ่ และ การพัฒนา AI และระบบ Text analytic, ECG และEye Movement ใน
เทคโนโลยี การทำนายเพอ่ื แก้ไขปัญหา Stress Induced Suicide ในบคุ ลากร
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่
กิจกรรมท่ี 10: การพฒั นา AI และ
ระบบ Text analytic, ECG และEye 109
Movement ในการทำนายเพ่อื แกไ้ ข
ปัญหา Stress Induced Suicide ใน
บุคลากร มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่
ดำเนินการหลักโดยคณะพยาบาล
ศาสตร์


Click to View FlipBook Version