-256-
้
์
เกณฑการใหคะแนน
ี่
ึ
ุ
• ชดฝกท 27
-คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ิ
ิ
-การปฏบัตการปลูกพืช 3 คะแนน
ี่
-ผลงาน (ได้พืชทสมบูรณ สวยงาม) 5 คะแนน
์
-การเขยนตอบค าถาม 2 คะแนน
ี
์
ิ
(เตมค าตอบได้ถูกต้องสมบูรณให้ข้อละ 1 คะแนน)
-257-
ใบควำมรูที่ 16
้
ิ่
้
การตอบสนองของพืชตอสงแวดลอม
่
่
ี
็
ี
ี
ั
ี
พืชและสตว์ต่างเปนส่งมชวิตทมการตอบสนองต่อการเปลยนแปลงของ
่
ิ
ี
สภาพแวดล้อมได้แตกต่างกัน แต่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า พืชไม่มพฤตกรรม
ิ
ี
็
ึ
ึ
่
ี
ี
่
ี
การตอบสนองทแสดงให้เหนว่ามการเปลยนแปลงเกิดข้น แต่ถ้าพิจารณาถง
่
ี
ี
พฤตกรรมต่าง ๆ ทพืชแสดงออกแล้ว จะพบว่าพืชมการตอบสนองต่อสภาพ
ิ
็
ิ
แวดล้อมเช่นกัน แต่จะเปนไปอย่างช้า ๆ และเหนไม่ชัดเจนเท่ากับพฤตกรรม
็
ในสัตว์
พืชจะมการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้ จะต้องมี สิ่งเร้า หรือ ตัวกระตุ้น
ี
ี
่
ิ
่
มากระต้นให้เกิดการเปลยนแปลง ส่งเราทท าให้เกิดพฤตกรรมการตอบสนอง
้
ุ
ิ
ี
ของพืชแบ่งเปน 2 ชนดคอ
ิ
็
ื
1. สงเราภายนอก ได้แก่ แสงสว่าง อณหภม น ้า แรงโน้มถ่วงของโลก ฯลฯ
ู
ุ
ิ
ิ่
้
ิ่
ิ
้
ิ
ี
2. สงเราภายใน ได้แก่ ระยะการเจรญเตบโต การเปลยนแปลงแรงดันเต่ง
่
็
ภายในเซลล์ เปนต้น
-258-
้
ิ่
พฤติกรรมการตอบสนองที่เกิดจากสงเราภายนอก
ุ
พฤตกรรมน้จะเกิดข้นช้า ๆ มองเหนไม่ชัดเจน เช่น การหบและการบานของ
ิ
ี
ึ
็
่
ุ
ั
็
ึ
ดอกไม้ ซงเกิดจากการกระต้นของแสง เราจะสงเกตเหนได้ทั่ว ๆ ไป เช่น ดอก
่
ื
ุ
ี
ื
บัวจะหบในตอนกลางคน และจะบานในตอนกลางวัน การเคลอนไหวแบบน้จะ
ิ
ิ
ื
ึ
ไม่ข้นกับทศทางของแสงไม่ว่าแสงจะมาในทศทางใดก็ท าให้ดอกบานได้เหมอน ๆ
ุ
ึ
ุ
่
กัน หรอการหบบานของดอกไม้ ซงเกิดจากการกระต้นของอณหภมทเปลยนไป
ี
ี
่
ิ
ื
ู
ุ
่
ู
ุ
เช่น ดอกราตร ดอกสายหยุด จะอาศัยอณหภมเปนตัวกระต้นให้เกิดการหบและ
ุ
ิ
ี
ุ
็
ู
ุ
ื
่
ุ
ิ
ึ
ุ
่
ื
ิ
ู
่
ู
บานของดอกโดยดอกจะบานเมออณหภมสงข้น และจะหบเมออณหภมต าลง
ี
ี
่
ิ
้
ี
ื
เรยกการเคลอนไหวแบบน้ว่า การเคลอนไหวของพืชทตอบสนองต่อส่งเราโดย
่
ื
่
ิ
้
่
ี
ิ
์
ี
ั
มทศทางทไม่สมพันธกับทศทางของส่งเรา (Nastic Movement)
ิ
่
ี
นอกจากน้ พืชยังมการเคลอนไหวทตอบสนองต่อการเจรญเตบโตโดยส่วน
ื
ี
่
ี
ิ
ิ
ื
ิ
ิ
้
่
ี
ของพืชจะเคลอนไหวเข้าหาส่งเรา และหนในทศทางตรงกันข้ามกับส่งเรา เรยก
้
ี
ิ
ี
่
ื
่
ิ
ื
่
ี
้
ิ
การเคลอนไหวแบบน้ว่า การเคลอนไหวของพืชทตอบสนองต่อส่งเราโดยมทศ
ี
ี
ื
ทางสมพันธกับทศทางของส่งเรา (Tropic Movement) การเคลอนไหวแบบน้
่
ิ
้
์
ั
ิ
ิ
มหลายแบบตามลักษณะของส่งเรา เช่น การเจรญของรากเข้าหาแรงโน้มถ่วง
ี
ิ
้
ของโลก และการเจรญของยอดหนแรงโน้มถ่วงของโลก เปนการตอบสนองทเกิด
ี
ี
ิ
็
่
ึ
่
้
็
ิ
จากแรงโน้มถ่วงของโลก เปนส่งเรา หรอการเอนเข้าหาแสงสว่างของพืช ซงเปน
็
ื
็
การตอบสนองทเกิดจากแสงเปนส่งเรา เปนต้น
่
ี
ิ
้
็
-259-
ี
ั
แผนการจดการเรยนรู
้
ี
ี
ี่
่
ุ
ู
้
์
ี
ึ
ี
กล่มสาระการเรยนร วิทยาศาสตร ชั้นมัธยมศกษาปท 1 ภาคเรยนท 1
หน่วยการเรยนรท 1 เรอง หน่วยของชวิตและชวิตพืช เวลา 30 ชั่วโมง
ี
่
้
ี
ี
ู
ื่
ี
้
ี่
ื่
ี
ู
้
้
้
แผนการจัดการเรยนรท 19 เรอง สบคนเขานาไปใช เวลา 1 ชั่วโมง
ื
ื
ื่
้
สอนวันท ……. เดอน ………………..… พ.ศ. ............... ชอผู้สอน นายยรรยง ปกปอง
ี่
1. สาระสาคัญ
ี
ี
ี
็
1.1 เทคโนโลยีชวภาพ เปนการใช้ความรเกียวกับส่งมชวิตและผลตผลทได้ ให้เปนประโยชนกับมนษย์
ิ
็
่
้
ุ
์
่
ิ
ี
ู
ิ
และส่งแวดล้อม
่
ี
ี
1.2 เทคโนโลยีชวภาพทใช้ ในการตัดต่อยีนเพือดัดแปลงพันธกรรมของพืชและสัตว์ต่างๆ เรยกว่า
่
ี
ุ
ี
เทคโนโลยีชวภาพทางพันธวิศวกรรม
ุ
ี
์
ี
1.3 เทคโนโลยีชวภาพ มประโยชนในด้านต่างๆ มากมาย ทั้งการเกษตร อตสาหกรรม การแพทย์ และ
ุ
ิ
ส่งแวดล้อม
ี
้
2. มาตรฐานการเรยนรู ว 1.2 : เข้าใจกระบวนการและความสัมพันธของการถ่ายทอดลักษณะทาง
์
ี
ี
ี
ี
่
ุ
ี
ี
ิ
พันธกรรม วิวัฒนาการของส่งมชวิต ความหลากหลายทางชวภาพ การใช้เทคโนโลยีชวภาพ ทมผลต่อ
ี
ื
์
ู
ิ
้
ิ
ู
ี
มนษย์และส่งแวดล้อม มกระบวนการสบเสาะหาความร และจตวิทยาศาสตร สอสารส่งทเรยนรและน า
้
ี
ุ
่
่
ิ
ื
ู
้
ความรไปใช้ประโยชน์
ี
3. ตัวชวัด
้
3.12 สบค้นข้อมูล และอธบายเกียวกับเทคโนโลยีชวภาพทใช้ในการขยายพันธ ปรบปรงพันธ เพิ่มผล
ิ
ื
ุ
์
่
ุ
ุ
์
ั
ี
่
ี
ิ
ผลตของพืชในท้องถ่น
ิ
้
ิ
4. ภาระงาน / ชนงาน
ี
4.1 ผลงานทผู้เรยนท าในชดฝกท 26 (ใช้ความรเรองพืชกับภาษาอังกฤษ)
ึ
่
ื
้
ู
ี่
ี่
ุ
4.2 คะแนนการทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ี
ี
ิ
์
ี
ึ
ิ
4.3 บันทกเจตคตและจตวิทยาศาสตรของผู้เรยน
ุ
5. จุดประสงคการเรยนรู (จดประสงค์น าทาง)
์
ี
้
ี
5.1 บอกความหมายของเทคโนโลยีชวภาพได้
-260-
5.2 จ าแนกประเภทของเทคโนโลยีชวภาพได้
ี
5.3 ยกตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีชีวภาพของพืชในท้องถิ่นได้
ี
ุ
์
ุ
ี
์
ั
ี่
ุ
5.4 บอกผลดผลเสยของเทคโนโลยีชวภาพทใช้ในการขยายพันธ และปรบปรงพันธได้
ี
่
์
5.5 ใช้ภาษาอังกฤษในการท าความเข้าใจเกียวกับเซลล์และกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงได้
้
ู
็
์
ิ
ื
ุ
5.6 ใช้ห้องสมดและอนเทอรเนตในการสบค้นความรเรองกระบวนการสังเคราะหด้วยแสง
์
ื่
ิ
ิ
ิ
ยูคารโอตคเซลล์ และโปรคารโอตคเซลล์ได้
ิ
์
5.7 มความรอบคอบ อดทน มเหตมผลในการท ากิจกรรมทางวิทยาศาสตร
ี
ุ
ี
ี
ู
้
ุ
ี
ี
็
5.8 ร่วมกิจกรรมด้วยความสนใจ เหนความส าคัญ และเรยนรอย่างมความสข
ี
้
6. สาระการเรยนรู
ี
6.1 เทคโนโลยีชวภาพ
์
6.2 กระบวนการสังเคราะหด้วยแสง (บูรณาการกับภาษาอังกฤษ)
ิ
ิ
ิ
ิ
6.3 ยูคารโอตคเซลล์ และโปรคารโอตคเซลล์ (บูรณาการกับภาษาอังกฤษ)
ั
ี
7. กระบวนการจดการเรยนรู ้
้
7.1 ขั้นสรางความสนใจ (engagement)
่
ี
้
ี
1. ผู้เรยนท าแบบทดสอบก่อนเรยน เพือตรวจสอบและทบทวนความรพื้นฐาน (แบบถูกผิด 10 ข้อ)
ู
ี
่
่
2. ผู้เรยนดภาพโครงสรางของพืช (Structure Of A Plant) จากแผ่นใสทครฉายโดยใช้เครองฉาย
ู
้
ี
ู
ื
้
ึ
ี
ภาพข้ามศรษะ พรอมกับฝกอ่านออกเสยงส่วนต่างๆ ของพืช ได้แก่ stem leaf flower fruit seed root
ี
์
ึ
่
ี
3. ฝกอ่านออกเสยงค าศัพท์ (ภาษาอังกฤษ) เกียวกับกระบวนการสังเคราะหด้วยแสง ได้แก่ sugar
light carbondioxide water oxygen product synthesis Photosynthesis
่
ึ
ี
ิ
ิ
ิ
ิ
4. ฝกอ่านออกเสยงค าศัพท์ (ภาษาอังกฤษ) เกียวกับยูคารรโอตคเซลล์และโปรคารโอตคเซลล์ ได้แก่
์
Prokaryotic Eukaryotic protozoa higher plants higher animals
้
ู
5. ซักถามเกียวกับความรความเข้าใจเรองการสังเคราะหด้วยแสง เปนภาษาอังกฤษ เช่น
่
์
็
่
ื
-What is the Phototropic? (Higher plants)
-261-
-Where is the photosynthesis? (Chloroplast)
-What are the products of photosynthesis?
(water , oxygen and sugar)
7.2 ขั้นส ารวจและค้นหา (exploration)
ู
ึ
ี
่
6. ผู้เรยนแต่ละคนศกษาใบความรท 8 (Plant, Animal and Bacteria Cell Models) ร่วมกันฝก
ึ
ี
้
อ่านค าศัพท์ และค้นคว้าความหมายของค าศัพท์ แล้วฝึกเขียนสรุปสาระส าคัญเป็นภาษาไทย
ึ
ี
ี
่
ื
ื
่
ู
้
7. ผู้เรยนฝกตั้งประโยคค าถามและหาค าตอบจากเน้อเรองในใบความรท 8 เช่น
What is the Eucaryotic? ( Higher plants and animals.)
What is the Procaryotic? ( bacteria )
ุ
ึ
้
์
ึ
ู
ุ
่
8. ผู้เรยนแต่ละคนท าชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกที่ 26 (ใช้ความรเรองพืชกับ
ื
ี
ภาษาอังกฤษ) โดยการอ่านจับใจความส าคัญ และเขียนตอบค าถาม
ึ
9. ผู้เรยนแต่ละกล่มศกษาค้นคว้าความรเรอง ประเภทของเทคโนโลยีชวภาพ ตัวอย่างการใช้
่
ื
้
ี
ู
ุ
ี
ื
ี
ิ
ี
ื
ี
เทคโนโลยีชวภาพ ผลของเทคโนโลยีชวภาพต่อส่งแวดล้อม จากหนังสอเรยนและสบค้นข้อมูลจาก
์
็
ิ
อนเทอรเนต
ิ
7.3 ขั้นอธบายและลงข้อสรป (explanation)
ุ
ู
10. ส่มตัวแทนกล่มออกมาน าเสนอผลการค้นคว้าความรเรองเทคโนโลยีชวภาพ โดยใช้วัสด ุ
่
ุ
้
ี
ุ
ื
์
ู
ี
่
ื
อปกรณในการช่วยน าเสนอ เช่น แผ่นภาพ แผ่นใสและเครองฉายภาพข้ามศรษะ (ครประเมนทักษะ
ุ
ิ
การพูดของผู้เรยน)
ี
ื
ุ
ึ
ู
ี
11. ผู้เรยนและครร่วมกันสรปโดยการฝกอ่านค าศัพท์และอธบายความหมายจากบัตรค า หรอ
ิ
็
สรปความรในสไลด์โปรแกรม Power Point เพือเราความสนใจ ให้เกิดความชัดเจนและรวดเรวข้น
้
ู
ุ
่
้
ึ
7.4 ขั้นขยายความร (elaboration)
้
ู
่
ั
ี
ู
12. ครแนะน าการน าเสนอข้อมูล การพูดรายงานของผู้เรยน เพือการปรบปรงในคราวต่อไป
ุ
-262-
ิ
7.5 ขั้นประเมน (evaluation)
ี
ี
13. ผู้เรยนท าแบบทดสอบหลังเรยน เพื่อตรวจสอบพัฒนาการของตนเอง (แบบถูกผิด 10 ข้อ)
ึ
ิ
ุ
14. ประเมนผลงานการท าชดฝกทักษะของผู้เรยน
ี
ี
ิ
ิ
์
ื
ี
่
15. ประเมนผลพฤตกรรมด้านอนๆ โดยการสังเกต สัมภาษณทั้งในห้องเรยน และนอกห้องเรยน
8. สอและแหลงเรยนรู
่
้
ี
่
ื
ึ
8.1 บัตรค ายากหรอค าส าคัญ เพือใช้ฝกอ่านและสรุปบทเรียน ได้แก่ค าว่า sugar light carbondioxide
่
ื
ี
water oxygen product synthesis Photosynthesis เทคโนโลยีชวภาพ
่
ี
ื
8.2 แผ่นใสและเครองฉายภาพข้ามศรษะ (Over Head)
8.3 แผ่นใสแสดงโครงสรางของพืช (Structure Of A Plant)
้
ึ
8.4 ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร (ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและความสามารถในการคดวิเคราะห)
์
์
ิ
์
ุ
ี
ี
ื
เล่ม 1 เรอง หน่วยของชวิตและชวิตพืช ชั้นมัธยมศกษาปท 1
่
่
ี
ี
ึ
8.5 ห้องสมด และห้องคอมพิวเตอร เพื่อใช้ในการสบค้นข้อมูลจากอนเทอรเนต
์
ิ
์
ื
ุ
็
9. การวัดและประเมินผล
ี
่
ิ
9.1 ส่งทต้องการวัด
ื่
ิ
์
-ความรความเข้าใจ เรองการสังเคราะหด้วยแสง ยูคารโอตคและโปรคารโอตคเซลล์ เทคโนโลยีชวภาพ
ิ
้
ิ
ู
ี
ิ
ื่
ุ
-ทักษะการพูดสรปเรองและพูดรายงาน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ์
็
ี
ี
ี
-เจตคตทดต่อการเรยน ได้แก่ ความสนใจ ความตั้งใจ และเหนความส าคัญ
ิ
่
ี
่
-จตวิทยาศาสตร ได้แก่ ความใฝรใฝเรยน ความรอบคอบ มเหตมผล ความอดทน
ี
ิ
ุ
ี
ู
้
่
์
9.2 วิธการวัด ใช้การซักถาม การท าชดฝกทักษะ และการสังเกตพฤตกรรม
ิ
ุ
ึ
ี
ื่
9.3 เครองมอวัด
ื
-แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ี
ี
้
ื
ุ
-ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 26 (ใช้ความรเรองพืชกับภาษาอังกฤษ)
่
ุ
ี่
ึ
ู
ึ
์
-แบบประเมนเจตคตและจตวิทยาศาสตร
ิ
์
ิ
ิ
9.4 เกณฑ์การประเมน
ิ
-ตอบถูกให้ 1 คะแนน และตอบผิดให้ 0 คะแนน
-ข้นอยู่กับลักษณะและรปแบบของชดฝกทักษะ (เฉลยและเกณฑ์อยู่ในภาคผนวกแต่ละแผน)
ู
ึ
ึ
ุ
ิ
ุ
-ให้คะแนนเปนระดับคณภาพ (แบบประเมนและเกณฑ์อยู่ภาคผนวกท้ายแผน)
็
-263-
10. กิจกรรมเสนอแนะ
้
10.1 แหล่งเรยนรควรยืดหยุ่นตามความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อมทางธรรมชาต ิ
ี
ู
็
เวลา งบประมาณ และความพรอมของผู้เรยน เปนต้น
ี
้
ี
่
้
ี
10.2 ผู้เรยนควรมความพรอมในด้านการพูดและการอ่านเพือจับใจความส าคัญ
ุ
11.3 ทักษะการเขยนเพือบันทกสรปสาระส าคัญ ควรฝกให้เกิดข้นในตัวผู้เรยนพรอมๆ กับการสราง
ี
ึ
ึ
้
่
้
ึ
ี
นสัยรกการอ่านและการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ
ิ
ั
ื่
(ลงชอ)
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ………
ิ
็
11. ความเหนและขอเสนอแนะของผูบรหารสถานศกษา
้
้
ึ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………...
ื่
(ลงชอ)
( ………………………………….)
ี
ผู้อ านวยการ โรงเรยนบ้านดงเจรญ
ิ
….. / ……….. / ……..
12. บันทึกหลังสอน
12.1 ผลการสอน
-ด้านพุทธพิสัย …………………………………………………………………………….…
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-264-
-ด้านทักษะพิสัย ……………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-ด้านจตพิสัย …………………………………………………………………………………
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
ุ
ั
12.2 ปญหาอปสรรค ………………………………………………………………………………
12.3 แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
ื่
(ลงชอ)
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ……..
-265-
ภาคผนวก
ี
ี
• แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
• เฉลย / เกณฑ์การให้คะแนนชดฝกท 26
ุ
ี่
ึ
ื
่
( ใช้ความรเรองพืชกับภาษาอังกฤษ )
ู
้
• ใบความรท 8 (Plant , Animal and Bacteria Cell Model)
ู
ี่
้
-266-
ี
แบบทดสอบก่อนเรยน – หลังเรยน
ี
ี่
แผนท 19
สบค้นเข้าน าไปใช้
ื
ื่
ี่
ื่
ี่
จงท าเครองหมาย / หน้าข้อทถูก และท าเครองหมาย X หน้าข้อทผิด
ู
ี
่
......... 1. Eucaryotic cells หมายถง เซลล์ของพืชและสตว์ชั้นสงทม ี
ึ
ั
ุ
ิ
เยื่อห้มนวเคลยส
ี
ี
ึ
……. 2. Procaryotic cells หมายถง เซลล์ของแบคทเรยและสาหร่าย
ี
่
ี
ี
ิ
ี
ุ
ี
่
สน ้าเงนแกมเขยว ทไม่มเยือห้มนวเคลยส
ี
ิ
้
ึ
ี
……. 3. Photosynthesis เกิดข้นทโครงสรางของ Mitochondria ภายใน
่
ิ
เซลล์ของส่งมชวิต
ี
ี
……. 4. Product of photosynthesis are light and sugar.
……. 5. Product of photosynthesis are sugar , oxygen and water.
……. 6. The photosynthesis does not happen in algae.
ี
้
ู
ี
ิ
ี
่
็
……. 7. เทคโนโลยีชวภาพ เปนการใช้ความรเกียวกับส่งมชวิต
่
ุ
และผลตผลของส่งมชวิต เพือให้เกิดประโยชน์ต่อมนษย์
ี
ิ
ิ
ี
ิ
ี
ี
ี
……. 8. จเอ็มโอ หมายถงส่งมชวิตใหม่ทเกิดจากการย้ายยีนจาก
ี
่
ึ
ิ
ี
ี
ื
ส่งมชวิตอน
่
่
……. 9. การเพาะเล้ยงเน้อเยือ เปนการสบพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ
ื
ี
็
ื
ชนดหนง
่
ิ
ึ
ี
็
่
……. 10. การโคลน เปนการเพาะเซลล์พืช ด้วยการเพาะเล้ยงเน้อเยือ
ื
-267-
ุ
ชดฝกท 26
ี่
ึ
ใช้ควำมรูเรองพืชกับภำษำอังกฤษ
้
ื่
กิจกรรม
่
ฝกอ่าน ท าความเข้าใจข้อความตอไปนี แล้วตอบค าถาม
ึ
้
Photosynthesis ( photo=light, synthesis=putting together ), generally,
is the synthesis of sugar from light, carbondioxide and water, with oxygen
as a waste product. It is arguably the most important biochemical pathway
known; nearly all life depends on it. It is an extremely complex process,
comprised of many coordinated biochemical reactions. It occurs in higher
plants, algae, some bacteria, and some protists, organisms collectively
referred to as photoautotrophs.
เกณฑ์การให้คะแนน (คะแนนเต็ม 5 คะแนน)
• ตอบถูกต้องสมบูรณ ให้ข้อละ 1 คะแนน
์
water , carbondioxide
1) What are the factors of photosynthesis ? …………………..……………
……………………………………………………………………………...
water ( sugar or oxygen)
2) What is this product ? ……………………………………………………
chloroplast
3) Where is this happen ? ………………………………………………….
No, they can’t.
4) Can animals synthesis ? ………………………………………………......
Yes,
they can.
5) Can higher plants synthesis ? …………………………………………….
-268-
ใบควำมรูที่ 8
้
Plant, Animal and Bacteria Cell Models
Living cells are divided into two types - procaryotic and eucaryotic
(sometimes spelled prokaryotic and eukaryotic). This division is based
on internal complexity. The following pages can provide graphic roadmaps
to the organization of both of these cell types.
Eukaryotic: The cells of protozoa, higher plants and animals are
highly structured. These cells tend to be larger than the cells of bacteria,
and have developed specialized packaging and transport mechanisms
that may be necessary to support their larger size. Use the Interactive
animation of plant and animal cells to learn about their respective organelles.
Prokaryotic: These cells are simple in structure, with no recognizable
organelles. They have an outer cell wall that gives them shape. Just under
the rigid cell wall is the more fluid cell membrane. The cytoplasm enclosed
within the cell membrane does not exhibit much structure when viewed by
electron microscopy.
-269-
้
ภาพโครงสรางของพืช
(ใช้ฉายโดยเครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ เพือฝกถาม-ตอบผู้เรียน)
ึ
่
-270-
ี
ั
แผนการจดการเรยนรู
้
ุ
ี
กล่มสาระการเรยนร วิทยาศาสตร ชั้นมัธยมศกษาปท 1 ภาคเรยนท 1
่
ู
ี่
้
์
ี
ี
ี
ึ
่
ี
ู
้
ี
หน่วยการเรยนรท 1 เรอง หน่วยของชวิตและชวิตพืช เวลา 30 ชั่วโมง
ื่
ี
ี
้
ู
ื่
ี
ี่
แผนการจัดการเรยนรท 20 เรอง อภปรายไดพรอมเหตุผล เวลา 2 ชั่วโมง
ิ
้
้
สอนวันท ……. เดอน ………………..… พ.ศ. ............... ชอผู้สอน นายยรรยง ปกปอง
ื่
้
ื
ี่
1. สาระสาคัญ
ี
ู
ิ
1.1 เทคโนโลยีชวภาพ เปนการใช้ความรเกียวกับส่งมชวิตและผลตผลทได้ ให้เปนประโยชนกับมนษย์
็
ี
้
ี
์
่
ุ
ิ
ี
็
่
และส่งแวดล้อม
ิ
่
่
ี
ี
ี
ุ
1.2 เทคโนโลยีชวภาพทใช้ ในการตัดต่อยีน เพือดัดแปลงพันธกรรมของพืชและสัตว์ต่างๆ เรยกว่า
ี
เทคโนโลยีชวภาพทางพันธวิศวกรรม
ุ
ี
์
1.3 เทคโนโลยีชวภาพ มประโยชนในด้านต่างๆ มากมาย ทั้งการเกษตร อตสาหกรรม การแพทย์ และ
ี
ุ
ิ
ส่งแวดล้อม
้
ี
2. มาตรฐานการเรยนรู ว 1.2 : เข้าใจกระบวนการและความสัมพันธของการถ่ายทอดลักษณะทาง
์
ี
ี
พันธกรรม วิวัฒนาการของส่งมชวิต ความหลากหลายทางชวภาพ การใช้เทคโนโลยีชวภาพ ทมผลต่อ
ี
ี
ิ
่
ี
ี
ุ
ิ
ุ
ี
้
ู
มนษย์และส่งแวดล้อม มกระบวนการสบเสาะหาความร และจตวิทยาศาสตร สอสารส่งทเรยนรและน า
ู
ิ
้
ื
ี
ิ
ื
ี
่
่
์
้
ความรไปใช้ประโยชน์
ู
ี
้
3. ตัวชวัด
ื
็
ิ
ี
ิ
่
3.13 สบค้นข้อมูล อภปราย และแสดงความคดเหนเกียวกับผลของการใช้เทคโนโลยีชวภาพ ในด้าน
การเกษตรกรรม อตสาหกรรม อาหาร และการแพทย์
ุ
ิ
้
4. ภาระงาน / ชนงาน
ู
ุ
ึ
ี่
4.1 ผลงานทผู้เรยนท าในชดฝกท 22 (จ าแนกพืชเปนกล่มๆ) ชดฝกท 23 (การงอกของละอองเรณ)
ี่
ี
ี่
็
ุ
ึ
ุ
4.2 คะแนนการทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ี
ี
ิ
์
ึ
ี
ิ
4.3 บันทกเจตคตและจตวิทยาศาสตรของผู้เรยน
5. จุดประสงคการเรยนรู (จดประสงค์น าทาง)
้
ุ
ี
์
ี
5.1 ยกตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีชวภาพในด้านเกษตรกรรมได้
-271-
ุ
5.2 ยกตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีชวภาพในด้านอตสาหกรรมได้
ี
ี
5.3 ยกตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีชวภาพในด้านอาหารและการแพทย์ได้
่
ิ
5.4 วิเคราะหและอภปรายเกียวกับการใช้เทคโนโลยีชวภาพในด้านต่างๆ ได้
์
ี
ุ
็
ิ
์
ู
5.5 ใช้ห้องสมดและอนเทอรเนตในการสบค้นความรเรองการใช้เทคโนโลยีชวภาพในด้านต่างๆ ได้
ื
ี
่
ื
้
ี
ุ
ี
5.6 มความรอบคอบ อดทน มเหตมผลในการท ากิจกรรมทางวิทยาศาสตร์
ี
ู
้
ุ
ี
5.7 ร่วมกิจกรรมด้วยความสนใจ เหนความส าคัญ และเรยนรอย่างมความสข
็
ี
้
6. สาระการเรยนรู
ี
ี
6.1 เทคโนโลยีชวภาพและความส าคัญของเทคโนโลยีชวภาพ
ี
6.2 การงอกของละอองเรณ
ู
6.3 ทักษะการจ าแนกประเภท และทักษะการพูด
ี
ั
7. กระบวนการจดการเรยนรู ้
7.1 ขั้นสรางความสนใจ (engagement)
้
่
1. ผู้เรยนท าแบบทดสอบก่อนเรยน เพือตรวจสอบและทบทวนความรพื้นฐาน (แบบถูกผิด 10 ข้อ)
ี
้
ี
ู
็
ิ
ี
ุ
2. ฝกทักษะการจ าแนกประเภท โดยผู้เรยนทกคนเดนเปนวงกลม รองเพลง “ทักษะกระบวนการ
้
ึ
ี่
ุ
ทางวิทยาศาสตร” ปรบมอท าจังหวะให้สนกสนาน ในขณะทครแจกบัตรชอพืชให้คนละ 1 บัตร ( 1 ชอ )
์
ื่
ื
ู
ื่
ื
ุ
ิ
่
ุ
ี
่
็
เมอได้ยินสัญญาณให้แต่ละคนรบจับกล่มกับเพือนๆ ออกเปน 4 กล่ม คอ ล าตันใต้ดน ล าต้น ราก ใบ
ื
่
ดังตัวอยาง
้
ล าตนใตดิน ล าตน
้
้
ขม้น แง่งขง แง่งข่า กิ่งพู่ระหง กิ่งผกากรอง
ิ
ิ
กิ่งมะม่วง
ราก ใบ
็
มันเทศ มันส าปะหลัง หัวผักกาด กุหลาบหน ต้นตายใบเปน
ิ
กระชาย โคมญปน
ี่
่
ุ
-272-
7.2 ขั้นส ารวจและค้นหา (exploration)
ื
่
3. ทบทวนโดยการซักถาม และอภปรายเกียวกับ การสบพันธแบบอาศัยเพศ และการสบพันธแบบ
ิ
์
ุ
ื
์
ุ
ไม่อาศัยเพศ เช่น
ื
์
ื
-การผสมระหว่างเซลล์สบพันธเพศผู้กับเซลล์สบพันธเพศเมย เปนการสบพันธแบบใด
็
ุ
ี
ุ
ุ
์
์
ื
(การสบพันธแบบอาศัยเพศ)
์
ุ
ื
็
ื
-การขยายพันธจากส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ล าต้น ใบ ราก หน่อ เปนการสบพันธแบบใด
ุ
ุ
์
์
ื
์
(การสบพันธแบบไม่อาศัยเพศ)
ุ
์
ุ
ุ
็
์
ื
์
ุ
-ให้ผลเรว ไม่กลายพันธ เปนข้อดของการสบพันธแบบใด (การสบพันธแบบไม่อาศัยเพศ)
ี
ื
็
์
ึ
ี่
ุ
ี
4. ผู้เรยนแต่ละคนท าชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 22 (จ าแนกพืชเปนกล่มๆ)
็
ุ
ึ
ุ
ุ
ู
ึ
ี
่
ี
ั
ุ
ุ
ึ
5. ผู้เรยนแต่ละกล่มศกษากิจกรรมในชดฝกท 23 (การงอกของละอองเรณ) รบวัสดอปกรณ ์
ุ
วางแผนและปฏบัตการทดลองตามขั้นตอน สังเกตและบันทกผล
ิ
ึ
ิ
ึ
ี
6. ผู้เรยนแต่ละคนศกษาความรเกียวกับเทคโนโลยีชวภาพ ในชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1
ุ
์
ู
้
่
ี
ึ
้
ู
(ใบความรท 18 - 20)
ี่
7.3 ขั้นอธบายและลงข้อสรป (explanation)
ิ
ุ
ู
์
ุ
7. ส่มตัวแทนกล่มออกมาน าเสนอผลการทดลองการงอกของละอองเรณ โดยใช้วัสดอปกรณช่วย
ุ
ุ
ุ
ในการน าเสนอ ได้แก่ แผ่นภาพ แผ่นใสและเครองฉายภาพข้ามศรษะ (ครประเมนทักษะการพูด)
ู
ิ
ี
ื
่
ึ
ี
8. ผู้เรยนและครร่วมกันสรปโดยการฝกอ่านค าศัพท์และอธบายความหมายจากบัตรค า หรอสรป
ื
ิ
ุ
ู
ุ
่
็
้
ความรจากสไลด์ในโปรแกรม Power Point เพือความน่าสนใจ ให้มความชัดเจนและรวดเรวข้น
ี
ึ
ู
7.4 ขั้นขยายความร (elaboration)
้
ู
ุ
ี
ู
9. ครแนะน าการน าเสนอข้อมูล การพูดรายงานของผู้เรยน เพือการปรบปรงในคราวต่อไป
่
ั
10. ครให้ความรเพิ่มเตม เรอง การสบพันธแบบอาศัยเพศ การสบพันธแบบไม่อาศัยเพศ และ
้
ู
ู
์
ื
ุ
์
ุ
่
ิ
ื
ื
ู
ุ
้
เทคโนโลยีชวภาพ และเสนอแนะให้ผู้เรยนไปศกษาความรดังกล่าว โดยการสบค้นข้อมูลจากห้องสมด
ื
ี
ึ
ี
และอนเทอรเนต
็
ิ
์
-273-
ิ
7.5 ขั้นประเมน (evaluation)
11. ผู้เรยนท าแบบทดสอบหลังเรยน เพื่อตรวจสอบพัฒนาการของตนเอง (แบบถกผิด 10 ข้อ)
ี
ี
ู
ุ
ึ
ิ
12. ประเมนผลงานการท าชดฝกทักษะของผู้เรยน
ี
ิ
์
ี
ี
ิ
่
ื
13. ประเมนผลพฤตกรรมด้านอนๆ โดยการสังเกต สัมภาษณทั้งในห้องเรยน และนอกห้องเรยน
่
้
ี
ื
่
8. สอและแหลงเรยนรู
ุ
ื
ึ
่
ื
ุ
์
ี
8.1 บัตรค ายากหรอค าส าคัญ เพือใช้ฝกอ่านและสรปบทเรยน ได้แก่ค าว่า การสบพันธแบบอาศัยเพศ
์
ุ
ี
การสบพันธแบบไม่อาศัยเพศ เทคโนโลยีชวภาพ
ื
ื
่
ี
8.2 แผ่นใสและเครองฉายภาพข้ามศรษะ (Over Head)
์
ุ
8.3 วัสดอปกรณตามกิจกรรมในชุดฝึกที 23 ได้แก่ สารละลายน ้าตาล กระจกสไลด์ ดอกแพงพวย
่
ุ
ิ
์
์
์
8.4 ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร (ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและความสามารถในการคดวิเคราะห)
ุ
ึ
ี
่
เล่ม 1 เรอง หน่วยของชวิตและชวิตพืช ชั้นมัธยมศกษาปท 1
ึ
ี
ื
่
ี
ี
็
์
์
ื
ิ
8.5 ห้องสมด และห้องคอมพิวเตอร เพื่อใช้ในการสบค้นข้อมูลจากอนเทอรเนต
ุ
9. การวัดและประเมินผล
่
ี
9.1 ส่งทต้องการวัด
ิ
้
-ความรความเข้าใจ เรอง การสบพันธแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ เทคโนโลยีชวภาพ
ี
ื
ู
ุ
ื
่
์
ุ
-ทักษะการพูดสรปเรองและพูดรายงาน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ์
ื่
ิ
ี
่
ี
็
ี
-เจตคตทดต่อการเรยน ได้แก่ ความสนใจ ความตั้งใจ และเหนความส าคัญ
ี
ิ
่
ี
ุ
์
-จตวิทยาศาสตร ได้แก่ ความใฝรใฝเรยน ความรอบคอบ มเหตมผล ความอดทน
้
ู
ี
่
ิ
9.2 วิธการวัด ใช้การซักถาม การท าชดฝกทักษะ และการสังเกตพฤตกรรม
ึ
ี
ุ
9.3 เครองมอวัด
ื
ื่
ี
-แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ี
ึ
ี่
์
-ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 22 และชดฝกท 23
ึ
ุ
ึ
ี่
ุ
ุ
ิ
ิ
์
ิ
-แบบประเมนเจตคตและจตวิทยาศาสตร
9.4 เกณฑ์การประเมน
ิ
-ตอบถูกให้ 1 คะแนน และตอบผิดให้ 0 คะแนน
-ข้นอยู่กับลักษณะและรปแบบของชดฝกทักษะ (เฉลยและเกณฑ์อยู่ในภาคผนวกแต่ละแผน)
ึ
ึ
ุ
ู
ุ
-ให้คะแนนเปนระดับคณภาพ (แบบประเมนและเกณฑ์อยู่ภาคผนวกท้ายแผน)
็
ิ
-274-
10. กิจกรรมเสนอแนะ
้
10.1 แหล่งเรยนรควรยืดหยุ่นตามความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อมทางธรรมชาต ิ
ี
ู
็
เวลา งบประมาณ และความพรอมของผู้เรยน เปนต้น
ี
้
ี
่
้
ี
10.2 ผู้เรยนควรมความพรอมในด้านการพูดและการอ่านเพือจับใจความส าคัญ
ุ
11.3 ทักษะการเขยนเพือบันทกสรปสาระส าคัญ ควรฝกให้เกิดข้นในตัวผู้เรยนพรอมๆ กับการสราง
ี
ึ
ึ
้
่
้
ึ
ี
นสัยรกการอ่านและการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ
ิ
ั
ื่
(ลงชอ)
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ……..
ึ
็
11. ความเหนและขอเสนอแนะของผูบรหารสถานศกษา
้
้
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………...
ื่
(ลงชอ)
( ………………………………….)
ี
ผู้อ านวยการ โรงเรยนบ้านดงเจรญ
ิ
….. / ……….. / ……..
12. บันทึกหลังสอน
12.1 ผลการสอน
-ด้านพุทธพิสัย …………………………………………………………………………….…
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-275-
-ด้านทักษะพิสัย ……………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-ด้านจตพิสัย …………………………………………………………………………………
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
ุ
ั
12.2 ปญหาอปสรรค ………………………………………………………………………………
12.3 แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
ื่
(ลงชอ)
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ……..
-276-
ภาคผนวก
ี
• แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ี
ุ
็
ุ
ึ
ี่
• เฉลย / เกณฑ์การให้คะแนนชดฝกท 22 ( จ าแนกพืชเปนกล่มๆ )
ุ
ึ
ี่
• เฉลย / เกณฑ์การให้คะแนนชดฝกท 23 ( การงอกของละอองเรณ )
ู
้
ี
ี่
• ใบความรท 18 (เทคโนโลยีชวภาพ)
ู
ุ
• ใบความรท 19 (เทคโนโลยีชวภาพกับการขยายพันธ์พืช)
ู
้
ี่
ี
ุ
ุ
ี่
ู
้
ั
• ใบความรท 20 (เทคโนโลยีชวภาพเพื่อการปรบปรงพันธ์พืช)
ี
-277-
ี
ี
แบบทดสอบก่อนเรยน – หลังเรยน
แผนท 20
ี่
อภิปรายได้พร้อมเหตผล
ุ
ื่
ี่
ี่
ื่
จงท าเครองหมาย / หน้าข้อทถูก และท าเครองหมาย X หน้าข้อทผิด
......... 1. เทคโนโลยีชวภาพในยุคแรกๆ คอเทคโนโลยีเกียวกับการหมัก
ื
่
ี
ี
่
ี
ี
ื
ุ
่
ี
……. 2. เทคโนโลยีชวภาพทสมัยใหม่ทสด คอเทคโนโลยีชวภาพ
่
ุ
เกียวกับการตัดแต่งพันธกรรม
ู
่
่
็
้
ื
ี
……. 3. เทคโนโลยีชวภาพ เปนการใช้ความรเกียวกับเครองยนต์กลไก
็
ุ
ให้เปนประโยชน์ต่อมนษย์
่
ุ
……. 4. การเพาะเล้ยงเน้อเยือ เปนการสบพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ เพือ
่
ื
ี
ื
็
ต้องการขยายพันธให้ได้จ านวนมาก ในเวลาอันส้นและไม่ให้
ุ
ั
์
์
เกิดการกลายพันธ
ุ
่
ิ
ั
็
ิ
ื
……. 5. เมอไข่ได้รบการผสมแล้ว จะเจรญไปเปนเอมบรโอก่อน แล้ว
็
ึ
จงกลายไปเปนไซโกต
่
……. 6. การเพาะเซลล์พืชด้วยกระบวนการเพาะเล้ยงเน้อเยือและด าเนน
ี
ิ
ื
การให้อยู่ในสภาพปลอดเชื้อ เรียกว่า การโคลน
……. 7. การขยายพันธพืชแบบไม่อาศัยเพศ คอการน าเมล็ดไปปลก
ู
ุ
์
ื
……. 8. การใช้ส่วนต่างๆ ของพืช ได้แก่ ตา กิ่ง ยอด ใบ ไปขยายพันธ์ ุ
์
ุ
ี
เรยกว่า การขยายพันธพืชแบบไม่ใช้เพศ
ื่
……. 9. สับปะรด ลูกยอ มะเดอ เปนผลไม้ ชนดผลรวม
ิ
็
ุ
ุ
ิ
ี
็
ุ
……. 10. อง่น ทเรยน เปนผลไม้ ชนดผลกล่ม
-278-
ึ
ี่
ุ
ชดฝกท 22.
เกณฑ์การให้คะแนน
• คะแนนเต็ม 5 คะแนน
็
ื
่
จ ำแนกพชเปนกลุมๆ
ุ
• แบ่งกล่มได้ถกต้องสมบูรณ ์
ู
ุ
กิจกรรม ให้กล่มละ 1 คะแนน
่
็
่
นาชื่อพืชและดอกทีก าหนดให้ในกรอบ จัดเปนกลุ่มๆ ตามเกณฑ์ทีก าหนดให้
1) มะม่วง , ตะไคร , ตะไคร่น ้า , มอส , เฟรน , สาหร่าย
ิ
์
้
พืชดอก พืชไร้ดอก
มะม่วง
ตะไคร่น ้า
............................ ............................
้
ตะไคร
มอส
................................... ...................................
เฟรน
ิ
์
สาหร่าย
............................. .............................
ุ
2) กุหลาบ , สับปะรด , น้อยหน่า , ขนน , มะยม , ทเรยน
ี
ุ
่
ผลเดียว ผลกลุ่ม ผลรวม
กุหลาบ
น้อยหน่า
สับปะรด
................... ................... ...................
มะยม
ขนน
ุ
ทเรยน
ุ
ี
................... ................... ...................
................... ................... ...................
-279-
ุ
ชดฝกท 23.
ี่
ึ
กำรงอกของละอองเรณู
กิจกรรม
้
1. หยดสารละลายนาตาล 5 เปอร์เซ็นต์ ลงบนกระจกสไลด์ 2 หยด
้
ู
่
2. ใช้เข็มเขียอับเรณของดอกแพงพวย ให้ตกลงในหยดสารละลายนาตาล
แล้วใช้แท่งแก้วขยีให้อับเรณแตกออก ปดด้วยกระจกปดสไลด์ แล้วส่อง
้
ู
ิ
ิ
์
่
ู
ด้วยกล้องจุลทรรศน ก าลังขยาย 100 เท่า วาดรูปละอองเรณตามทีเห็น
จากกล้อง
้
่
ิ
3. คอยหยดสารละลายนาตาลข้างๆ กระจกปดสไลด์อยูเสมอเพื่อไม่ให้แห้ง
4. สังเกตการเปลียนแปลงของละอองเรณทุกๆ 15 นาที เปนเวลา 1 ชั่วโมง
่
็
ู
วาดรูปละอองเรณตามทีเห็นจากกล้อง เกณฑ์การให้คะแนน
่
ู
• คะแนนเต็ม 10 คะแนน
• ปฏบัตการทดลอง 5 คะแนน
ิ
ิ
ึ
ตารางบันทกกิจกรรม • บันทกผลการทดลอง 5 คะแนน
ึ
ผลการสังเกต
่
นาทีทีสังเกต
ลักษณะของละอองเรณ การเปลียนแปลงของละอองเรณ ู
่
ู
้
่
้
กอนหยดสารละลายนาตาล หลังหยดสารละลายนาตาล
่
ี่
ี
ยังไมมการเปลยนแปลง
เริ่มทดลอง ......................................................................................................
่
ุ
่
็
ี
ิ่
เรมมสวนงอกออกเปนปมเล็กๆ
15 ......................................................................................................
ปมเล็กๆ ทงอกเรมยดออก
ื
ิ่
ี่
่
ุ
30 ......................................................................................................
ี่
่
ื่
ุ
ปมทงอกออก เรมยาวเรอยๆ
ิ่
45 ......................................................................................................
ี
ี
่
สวนทงอกมลักษณะยาวเรยว
ี่
60 ......................................................................................................
-280-
ใบควำมรูที่ 18
้
เทคโนโลยีชวภาพ
ี
ี
้
เทคโนโลยีชวภาพ (Biotechnology) ในความหมายโดยกว้าง คอการศกษาและน าความรในสาขา
ึ
ู
ื
่
ุ
ี
ุ
ี
ิ
ุ
์
ี
ู
ิ
ี
ี
ิ
ชววิทยา จลชววิทยา เคม อณพันธศาสตรทเกียวกับส่งมชวิตชนดต่าง ๆ เช่น จลนทรย์ พืช และสัตว์
ี
่
ี
์
ิ
มาใช้ประโยชน เทคโนโลยีชวภาพทเก่าแก่ทสดในประวัตศาสตรของมนษยชาตก็คอ เทคโนโลยี
ื
ุ
ี
ุ
์
่
ี
ี
ิ
่
ี
ุ
ื
การหมัก และ เทคโนโลยีชวภาพสมัยใหม่ คอวิทยาการตัดแต่งพันธกรรม
ี
ประเภทของเทคโนโลยีชวภาพ
ื
ประเภทของเทคโนโลยีชวภาพ แบ่งออกได้ 5 สาขา คอ
ี
ิ
1.เทคโนโลยีชวภาพการหมัก เปนเทคโนโลยีทใช้จลนทรย์ ไปเปลยนแปลงวัตถดบ (substrate)
ุ
ี่
ุ
็
ี
ี่
ี
ิ
ิ
์
ุ
ี
ี
ิ
ให้ได้ผลตภัณฑ์ทต้องการ เช่นการผลตเบยร สรา ยาปฎชวนะ เปนต้น
ิ
ี
็
่
ู
ิ
่
2. วิศวกรรมเอนไซน เปนเทคโนโลยีทเกียวข้องกับการพัฒนาเอนไซม์ ให้ม ประสทธภาพสง
็
ี
์
่
ี
ิ
ึ
ช่วยในการผลต เช่น การตรงเอนไซม์ในการผลตแอลกอฮอล์จากแปง หรอน ้าตาล
ื
ิ
้
ิ
่
ี
่
ี
็
่
ี
ี
3. เทคโนโลยีเกียวกับของเสย เปนเทคโนโลยีชวภาพทเกียวกับการจัดการของเสยต่างๆ เช่น การ
ท าลายของเสยต่างๆ หรอการน าของเสยออกมาใช้อก ตัวอย่าง เช่น การน าน ้าท้งจากโรงงานแปงมาใช้
ี
้
ี
ี
ื
ิ
เล้ยงสาหร่าย
ี
ั
ิ
ิ
็
4. เทคโนโลยีชวภาพส่งแวดล้อม เปนเทคโนโลยีชวภาพทม่งแก้ปญหาส่งแวดล้อม เช่น การ
ี
ี
่
ุ
ี
ี
ี่
็
ควบคมและแยกของเสยทเปนพิษ
ุ
ุ
ี
5. เทคโนโลยีชวภาพการสรางแหล่งวัตถดบใหม่ เปนเทคโนโลยีชวภาพทม่งพัฒนาแหล่งวัตถ ุ
ุ
ิ
ี
็
่
ี
้
ิ
่
ิ
ดบใหม่ๆ เพือใช้ทดแทน หรอใช้เพือผลผลตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น การน ามูลสัตว์มาใช้ในการผลตแก๊ส
่
ิ
ื
ชวภาพ
ี
-281-
ใบควำมรูที่ 19
้
เทคโนโลยีชวภาพกับการขยายพันธุพืช
ี
์
ุ
็
เปนการขยายพันธพืชด้วยวิธเพาะเล้ยงเนื้อเยือ เพือเป็นการคัดเลือกลักษณะพันธุ์พืชทีมี
์
่
ี
่
ี
่
ี
ุ
่
ี
ื
ื
ี
่
ี
ี
คณภาพด โดยจะคัดเลอกพ่อแม่ทมคณภาพดเมอน ามาผสมพันธ์กันจะท าให้มโอกาสได้พันธ์ ุ
ุ
ุ
ุ
ี
ี
ึ
ี
ทดมากยิ่งข้น เทคโนโลยีชวภาพกับการขยายพันธ์จะมประโยชน์กับพืชต่อไปน้ ี
ี
่
ี
ื
ี
่
ี
1. พืชทเมล็ดงอกน้อยหรองอกช้า ได้แก่ พวกทเมล็ดไม่มอาหารสะสมเพียงพอ ท าให้การ
่
ิ
งอกและการเจรญจะเกิดข้นต่อเมอเมล็ดไปตกในทมสภาพแวดล้อมเหมาะสมจรง ๆ เท่านั้น
ี
ิ
ี
่
ึ
่
ื
ื
ึ
ี่
ู
ิ
ี
ึ
ี
เมล็ดบางชนดมระยะพักตัวนานจนถงฤดทมสภาพเหมาะสมจงจะงอก หรอใช้ระยะเวลานาน
่
กว่าจะออกดอกซึ่งสามารถใช้วิธีการเลี้ยงเนื้อเยือเร่งกระบวนการเหล่านี้ได้ อันเป็นประโยชน์
ิ
์
็
ต่อการคัดเลอกและผสมพันธเปนอันมาก เช่น เมล็ดกล้วยไม้ในธรรมชาตมโอกาสงอกเปนต้น
ุ
ี
ื
็
ี
่
ื
่
ได้ไม่ถงรอยละ 0.1 เนองจากเมล็ดกล้วยไม้ทแก่แล้วไม่มอาหารสะสมไว้ในเมล็ดเพือเล้ยงต้น
ี
ี
ึ
้
่
่
ื
ี
ึ
ี
ิ
็
อ่อน แต่การทต้นอ่อนบางต้นเจรญได้เพราะอาศัยอยู่กับเช้อราบางประเภท เปนต้น จงได้มการ
ี
่
ี
ื
น าวิธเพาะเล้ยงเน้อเยือมาใช้
์
ุ
ุ
ี
ี
่
่
2. พืชทขยายพันธโดยไม่อาศัยเพศช้า ได้แก่ พืชบางจ าพวกทขยายพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ
ื
ได้ช้ามาก หรอไม่ได้เลย อาจเนองมาจากการเจรญช้า หรอยังไม่มอวัยวะพิเศษ เช่น ไหล ล าต้น
ี
ื
่
ื
ิ
ื
์
่
ุ
หรอรากพิเศษ เพือการขยายพันธแบบไม่อาศัยเพศ ถ้าพืชพวกน้ไม่ตอบสนองต่อการขยายพันธ์ ุ
ี
ี
ั
ื
ิ
ิ
่
ทมนษย์คดข้น เช่น การปกช า การตอน และการตดตาหรอหากเพาะเมล็ดแล้วมความผันแปร
ี
ึ
ุ
ั
ุ
ุ
่
ี
ี
ุ
์
ี
ุ
มาก ก็ไม่สามารถขยายพันธดทมอยู่จ านวนมากได้ จงเปนอปสรรคในการปรบปรงพันธ์พืชมาก
็
ึ
่
ื
เพราะเมอปรบปรงแล้วไม่สามารถเผยแพร่ได้เรวตามต้องการ หรอไม่สามารถขยายพันธ์พ่อแม่
ุ
ุ
็
ื
ั
ทมคณภาพดได้มากพอ
ี
ี
ุ
ี่
-282-
ื
ุ
้
่
ี
ิ
้
่
์
ี
3. พืชทสรางอวัยวะสบพันธยาก ได้แก่พวกทใช้เวลานานในธรรมชาตกว่าจะสรางอวัยวะ
ี
่
ี
่
ี
ิ
ื
ุ
ื
ื
์
ุ
้
สบพันธ หรอพวกทต้องการส่งแวดล้อมพิเศษเพือสรางอวัยวะสบพันธ์ ทั้งน้เพราะน ามาเล้ยง
ั
่
ุ
ี
ื
ิ
ี
นอกบรเวณทเกิดในธรรมชาต ปจจบันการเพาะเล้ยงเน้อเยือของพืชบางชนด เช่น พวกถั่ว
ิ
ิ
่
ื
ั
ิ
ั
่
เมอปรบอาหารให้เหมาะสมโดยการใส่สารเคมบางชนด หรอปรบสภาพแวดล้อมทางกายภาพ
ื
ี
ี
์
่
้
ี่
สามารถชักน าการสรางดอกทสมบูรณได้ ซงในอนาคตอาจมประโยชน์ในการศึกษาการออก
ึ
ิ
ดอกของพวกไผ่ ปาล์มบางชนิด แม้แต่พวกตะไคร่น ้า เพือการผสมพันธุ์ทีมีผลผลตเปนท ี่
็
่
่
็
ึ
ต้องการได้เรวข้น
-283-
ใบควำมรูที่ 20
้
ี
เทคโนโลยีชวภาพเพือการปรบปรุงพันธุพืช
์
ั
่
ั
็
ุ
ิ
ุ
การปรบปรงพันธพืชให้เข้ากับส่งแวดล้อมเปนการลงทนทน้อยกว่าการปรบปรง
ั
ี
ุ
ุ
่
์
ุ
ุ
ุ
ี
ั
่
ส่งแวดล้อมให้เข้ากับพืช การปรบปรงพันธ์พืชท าโดยการหาพืชทมคณลักษณะพิเศษ
ี
ิ
่
ี
ิ
ู
ดแลรกษาง่าย ให้ผลผลตภายใต้ส่งแวดล้อมทจ ากัด เช่น ในสภาพทแห้งแล้ง ไม่มการ
ิ
ั
ี
ี
่
ิ
ชลประทาน ซงมพืชน้อยชนดทสามารถปลกได้ หรอปลกได้แต่ให้ผลผลตต า ดังนั้น
่
ิ
ี
ู
ู
ี
ื
ึ
่
่
ี
ุ
การปรบปรงหรอหาพันธททนสภาพเหล่าน้ได้แล้วน ามาขยายพันธ์จะท าให้ได้ผลผลต
่
ี
์
ุ
ิ
ั
ื
ุ
ึ
ั
ทสงข้น นอกจากน้การปรบปรงพันธพืชยังสามารถท าให้พืชทนต่อแมลง โรค และศัตร ู
ุ
ุ
์
่
ี
ี
ู
ื่
ิ
พืชอน ๆ ในธรรมชาตได้
่
การเกษตรสมัยใหม่มักประสบปัญหาเรืองการลงทุน และรายได้สุทธิต่อไร่ ก็ไม่
ุ
ั
เพิ่มตามสดส่วนของทนทเพิ่มข้น ถ้ามการปรบปรงพันธ์พืชบางชนดให้ต้นเล็กลง และ
ิ
ั
ี
ุ
ุ
ี
่
ึ
๋
่
ิ
็
ู
ั
ี
ิ
ใช้เวลาในการปลกส้น โดยทยังเก็บผลผลตได้เท่าเดมจะช่วยประหยัดน ้า และปยเปน
ุ
อันมาก นอกจากน้ยังลดโอกาสเสยงต่อศัตรพืชอกด้วย หรอปรบปรงพืชให้ตอบสนอง
ี
ี
ุ
ู
ี
ั
ื
่
๋
ุ
ี
ี
่
ี
ิ
ต่อปยทมความเข้มข้นในดนต าได้ด ส่งเหล่าน้ลดค่าใช้จ่ายของเกษตรกรทั้งส้น
่
ิ
ิ
ี
ึ
ื
่
ื
ี
ี
่
ี
พืชบางชนดทให้เช้อราหรอแบคทเรยทสามารถตรงไนโตรเจนจากอากาศได้ และ
ี
ิ
ี
พืชได้อาศัยประโยชน์จากไนโตรเจนทละลายน ้าซงตรงจากจลนทรย์เพิ่มข้น หากมการ
ุ
ิ
ี
ึ
ี
่
ึ
่
ึ
ึ
ุ
๋
ี
ิ
ี
่
ุ
ื
คัดเลอกทั้งพันธพืชและจลนทรย์ทอยู่รวมกันให้มความสามารถเพิ่มข้น จะประหยัดปย
ุ
์
ี
ี
ิ
ี
่
้
่
ลงไปอก ยิ่งกว่านั้นหากสรางความสามรถของพืชอนทมได้อยู่ในตระกูลถั่ว เช่น ข้าว
ื
ี
หรอข้าวโพด ให้มรากทเหมาะสมกับเช้อราหรอแบคทเรยเหล่าน้ได้ ก็จะช่วยลดการน า
ื
ี
ี
ี
ื
ื
ี
่
็
ุ
๋
เข้าของปยไนโตรเจนเปนอันมาก
บรรณานุกรม
์
ิ
ิ
ุ
คม เทเลอร. เปดโลกวิทยาศาสตรแสง. กรงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานชจ ากัด, 2540.
์
ิ
่
่
้
ี
ิ
์
้
ิ
จ านง พรายแย้มแข. เทคนคการสอนกลุมสรางเสรมประสบการณชวิต เพือใหเกิด
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร. กรงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานช, 2534.
ุ
ิ
์
ื
ี
ประดับ นาคแก้ว และคณะ. หนงสอเรยน สาระการเรยนรู้พื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตร
ั
ี
การศกษาขนพื้นฐาน พุทธศกราช 2544. กรงเทพฯ : ส านักพิมพ์แม็ค จ ากัด, 2547.
ุ
้
ึ
ั
ั
ี
์
ิ
ประมวล ศรผันแก้ว และคณะ. พจนานุกรมวิทยาศาสตรฉบับภาพประกอบ ชววิทยา.
ิ
ี
ิ
ุ
กรงเทพฯ : บรษัทโปรดัคทฟ บ๊ค จ ากัด, 2541.
ุ
ี
ั
ื
้
ี
้
่
ยุภา วรยศ และคณะ. หนงสอเรยน สาระการเรยนรูพื้นฐาน กลุมสาระการเรยนรูวิทยาศาสตร ์
ี
ุ
วิทยาศาสตร ม.1. กรงเทพฯ : อักษรเจรญทัศนจ ากัด, 2546.
์
ิ
์
ิ
ิ
วรรณทพา รอดแรงค้า และจต นวนแก้ว. กิจกรรมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ์
ุ
สาหรบนกเรยน. กรงเทพฯ : สถาบันพัฒนาคณภาพวิชาการ, 2532.
ั
ุ
ี
ั
วิชาการ, กอง. ส านักงานคณะกรรมการการประถมศกษาแห่งชาต. การวัดและประเมินผล
ิ
ึ
้
ั
ี
่
์
ี
ในชนเรยนกลุมสรางเสรมประสบการณชวิต ตามหลักสูตรประถมศกษา พุทธศกราช
ั
ิ
ึ
้
ั
้
2521 (ฉบับปรบปรุง พ.ศ.2533). กรงเทพฯ :โรงพิมพ์ครสภาลาดพราว, 2539.
ุ
ุ
ุ
ุ
ึ
ศกษาธการ, กระทรวง. หลักสูตรแกนกลางการศกษาขนพื้นฐาน พุทธศกราช 2551. กรงเทพฯ
ิ
ึ
ั
ั
้
ุ
โรงพิมพ์ชมชนสหกรณการเกษตรแห่งประเทศไทย, 2551.
์
สมทบ ปานดวงแก้ว. MINIBOOK ชววิทยา. กรงเทพฯ : ส านักพิมพ์ พี เอส พี, 2544.
ุ
ี
ุ
ิ
ิ
สมพงศ์ จันทรโพธ์ศร. วิทยาศาสตร 1 ชวงชนที่ 3 (มัธยมศกษาปที่ 1-3). กรงเทพฯ : บรษัท
์
้
ี
ึ
ั
่
ี
์
ิ
ไฮเอ็ดพับลชช่ง จ ากัด, 2537.
ิ
-285-
ภาคผนวก
ี
ี
• เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ิ
ิ
์
ิ
• แบบประเมนเจตคตและจตวิทยาศาสตร
ิ
• แบบประเมนทักษะการทดลอง
• แบบประเมนการพูดน าเสนอผลงาน
ิ
• ทปรกษาและผู้เชยวชาญ
ี่
ี่
ึ
ิ
• ประวัตย่อของผู้จัดท า
-286-
่
เฉลยแบบทดสอบกอนเรยน-หลังเรยน
ี
ี
ข้อ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
แผนท ี่
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
-287-
ิ
ิ
ิ
แบบประเมนเจตคตและจตวิทยาศาสตร ์
ี
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที 1
่
่
แผนที ....... เรื่อง หนวยของชวิตและชวิตพืช ภาคเรียนที 1 ครั้งที ........
ี
ี
่
่
่
้
แนวการใหคะแนน ให้ 1 คะแนนถ้าผู้เรียนมีคุณลักษณะนั้นๆ และให้ 0 ในกรณีทีผู้เรียน
่
ไม่มีคุณลักษณะนั้นๆ
1. ร่วมมือท ากิจกรรม 2. สนใจเรียน 3. ท างานเสร็จตามก าหนด 4. มีความสุขในการเรียน 5. มีเหตุมีผล รอบคอบ 9. แก้ปัญหาด้วยตนเองได้ รวม ระดับคุณภาพ
ื่
ี่
ท ชอ-สกุล 6. มีความอยากรู้อยากเห็น 7. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 8. บันทึกข้อมูลเป็นระบบ
1. ……………………………………………………………………………………..………
2. ……………………………………………………………………………………..………
3. ……………………………………………………………………………………..………
4. ……………………………………………………………………………………..………
5. ……………………………………………………………………………………..………
6. ……………………………………………………………………………………..………
7. ……………………………………………………………………………………..………
8. ……………………………………………………………………………………..………
9. ……………………………………………………………………………………..………
10. ……………………………………………………………………………………..………
เกณฑ์การประเมิน (เจตคติ : ข้อ 1-4 และจิตวิทยาศาสตร์ : ข้อ 5-9)
ระดับ 3 (ดี) เมือผู้เรียนมีคะแนนในคุณลักษณะรวมทุกด้านได้ 7-9 คะแนน
่
่
ระดับ 2 (พอใช้) เมือผู้เรียนมีคะแนนในคุณลักษณะรวมทุกด้านได้ 4-6 คะแนน
ระดับ 1 (ปรับปรุง) เมือผู้เรียนมีคะแนนในคุณลักษณะรวมทกด้านได้ 0-3 คะแนน
ุ
่
-288-
ิ
แบบประเมนทักษะการทดลอง
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที 1
ี
่
่
ี
ี
แผนที ....... เรื่อง หนวยของชวิตและชวิตพืช ภาคเรียนที 1 ครั้งที ........
่
่
่
ี
่
กล่มท ……. วัน …………….….. ท …… เดอน ……………………… พ.ศ. …………
ื
ุ
ี่
ี่
ื่
ชอเรอง (ททดลอง) ……………………………..……………………………………………
ื่
ิ
ท ชอ – สกุล การวางแผน / ออกแบบ การปฏบัต การบันทกผล รวม
ิ
ึ
ื่
ี่
การทดลอง และแปลผล
1. การตั้งชือเรือง ่ ่ 2. การตั้งสมมติฐาน 3. การก าหนดตัวแปร 4. การก าหนดวัสดุอุปกรณ์ 5. การก าหนดขั้นตอน 6. การทดลอง/ใช้อุปกรณ์ 7. การเก็บรักษาอุปกรณ์ การจัดกระท าข้อมูล 9. ความถูกต้องของข้อมูล 10. แปลความหมาย/สรุปผล
8.
4 4 4 4 4 4 4 4 4 4 40
1. …………………………………………………………………………………………………...
2. …………………………………………………………………………………………………...
3. …………………………………………………………………………………………………...
4. …………………………………………………………………………………………………...
5. …………………………………………………………………………………………………...
6. …………………………………………………………………………………………………...
7. …………………………………………………………………………………………………...
-289-
เกณฑ์การให้คะแนน
ิ
: แบบประเมนทักษะการทดลอง
1) การวางแผนและการออกแบบการทดลอง
ื
ื
1.1 การตั้งชอเรอง
่
่
่
ื
ั
่
ื
่
ื
ให้ระดับ 4 เมอตั้งชอเรองได้สอดคล้องกับปญหา และชัดเจน
่
่
่
ื
ให้ระดับ 3 เมอตั้งชือเรืองได้สอดคล้องกับปัญหา แต่ไม่ชัดเจน
่
ื
ื
ให้ระดับ 2 เมอตั้งชอเรองได้ไม่สอดคล้องกับปญหา แต่มความชัดเจน
ี
่
ื
่
ั
่
ื
ให้ระดับ 1 เมอตั้งชอเรองได้ไม่สอดคล้องกับปญหา และไม่ชัดเจน
ั
ื
่
ื
่
ิ
1.2 การตั้งสมมตฐาน
ิ
ื
่
ให้ระดับ 4 เมอตั้งสมมตฐานได้สอดคล้องกับปญหา และชัดเจน
ั
ั
ิ
ให้ระดับ 3 เมอตั้งสมมตฐานได้สอดคล้องกับปญหา แต่ไม่ชัดเจน
ื
่
ให้ระดับ 2 เมอตั้งสมมตฐานได้ไม่สอดคล้องกับปญหา แต่มความชัดเจน
ั
ื
่
ิ
ี
ิ
ั
่
ื
ให้ระดับ 1 เมอตั้งสมมตฐานได้ไม่สอดคล้องกับปญหา และไม่ชัดเจน
ุ
1.3 การก าหนดตัวแปร (ประกอบด้วยตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคม)
ื
่
ุ
ู
ี
ให้ระดับ 4 เมอมตัวแปรต่างๆ ถกต้องทกตัวแปร
ให้ระดับ 3 เมอมตัวแปรต่างๆ ถกต้อง 2 ตัวแปร
ี
ู
่
ื
ู
ี
่
ื
ให้ระดับ 2 เมอมตัวแปรต่างๆ ถกต้อง 1 ตัวแปร
ู
่
ื
ให้ระดับ 1 เมอมตัวแปรต่างๆ แต่ไม่ถกต้อง
ี
1.4 การก าหนดวัสดุอุปกรณ์
่
ให้ระดับ 4 เมอก าหนดวัสดอปกรณการทดลองครบถ้วน เหมาะสม
์
ุ
ุ
ื
ให้ระดับ 3 เมอก าหนดวัสดอปกรณการทดลองครบถ้วน ไม่ค่อยเหมาะสม
ื
ุ
ุ
่
์
ุ
่
ี
ให้ระดับ 2 เมอก าหนดวัสดอปกรณการทดลองไม่ครบถ้วน ขาดอปกรณทไม่ส าคัญ
ื
่
์
์
ุ
ุ
่
ให้ระดับ 1 เมอก าหนดอปกรณการทดลองขาดมาก ไม่เหมาะสม
ื
์
ุ
-290-
1.5 การก าหนดขั้นตอนการทดลอง
ี
ู
่
ื
ให้ระดับ 4 เมอมขั้นตอนครบถ้วนและถกต้อง
ี
ี
ื
ให้ระดับ 3 เมอมขั้นตอนครบถ้วนและมบางขั้นตอนสลับกันบ้าง
่
ี
ื
่
์
ให้ระดับ 2 เมอมขั้นตอนครบถ้วน ไม่สมบูรณ
่
ื
ให้ระดับ 1 เมอขั้นตอนการทดลองไม่เหมาะสม
2) การปฏิบัติการทดลอง
2.1 การทดลองและการใช้อปกรณ ์
ุ
์
ุ
ุ
ิ
ู
ื
่
ี
ให้ระดับ 4 เมอด าเนนการทดลองตามแผนทกขั้นตอน และใช้อปกรณถกวิธ
่
ื
์
ิ
ุ
ุ
ให้ระดับ 3 เมอด าเนนการทดลองตามแผนทกขั้นตอน และใช้อปกรณผิดบ้างเล็กน้อย
ั
ี
ี
ุ
ให้ระดับ 2 เมอมการปรบแผนการทดลองบ้าง และใช้อปกรณไม่ค่อยถกวิธ
ู
์
ื
่
์
ู
ึ
ให้ระดับ 1 เมอด าเนนการทดลองโดยไม่ค านงถงแผนเลย หรอใช้อปกรณไม่ถกวิธ ี
่
ื
ิ
ุ
ื
ึ
็
เปนส่วนใหญ่
ุ
ั
2.2 การเก็บรกษาอปกรณ ์
์
็
ี
ุ
็
่
ั
ให้ระดับ 4 เมอท าความสะอาดอปกรณ เชดให้แห้ง เก็บรกษาเปนระเบยบ
ื
ุ
์
อปกรณอยู่ในสภาพด ี
ให้ระดับ 3 เมอท าความสะอาดอปกรณ เก็บรักษาไม่เป็นระเบียบ อุปกรณ์อยู่ในสภาพด
์
ุ
ี
่
ื
ี
์
ื
ั
้
ุ
ู
่
ให้ระดับ 2 เมอเก็บรกษาโดยไม่ได้ดแลความเรยบรอยของอปกรณ
ื
่
ุ
์
ื
ุ
ให้ระดับ 1 เมอต้องเตอนให้เก็บรกษาอปกรณ หรอท าอปกรณช ารดโดยประมาท
ั
ื
์
ุ
3) การบันทึกผลและการแปลผล
3.1 การจัดกระท าข้อมูล
่
ี
ี
่
ื
ให้ระดับ 4 เมอน าเสนอข้อมูลโดยใช้ตารางหรออนๆ ทเหมาะสม มขั้นตอนเข้าใจง่าย
ื
ื
่
ื
่
ให้ระดับ 3 เมอน าเสนอข้อมูลโดยใช้ตารางหรออนๆ ทไม่ค่อยชัดเจน
ี
่
ื
ื
่
ให้ระดับ 2 เมอน าเสนอข้อมูลทไม่เปนระบบ เข้าใจยาก
่
่
ื
็
ี
ี
ให้ระดับ 1 เมอน าเสนอข้อมูลทไม่ครบถ้วน
่
ื
่
-291-
3.2 ความถูกต้องของข้อมูล
ู
ื่
ึ
ให้ระดับ 4 เมอบันทกข้อมูลครบถ้วน และถกต้อง
ึ
ื่
ให้ระดับ 3 เมอบันทกข้อมูลครบถ้วน มผิดพลาดเล็กน้อย
ี
่
ึ
ื
ี
ให้ระดับ 2 เมอบันทกข้อมูลไม่ครบถ้วน และมผิดพลาด
ึ
ให้ระดับ 1 เมอบันทกข้อมูลผิดพลาดมาก ต้องคอยบอกให้แก้ไข
ื
่
ุ
3.3 การแปลความหมายและการสรปผล
ุ
ุ
ู
่
ให้ระดับ 4 เมอสรปผลการทดลองสอดคล้องกับจดประสงค์ครบถ้วน แปลความหมายถกต้อง
ื
ให้ระดับ 3 เมอสรปผลการทดลองสอดคล้องกับจดประสงค์ครบถ้วน แปลความหมายไม่ถกต้อง
ู
ื
ุ
ุ
่
ุ
ื
ื
่
ให้ระดับ 2 เมอสรปผลการทดลองสอดคล้องกับจดประสงค์บ้าง หรอแปลความหมายผิด
ุ
ให้ระดับ 1 เมอสรปผลการทดลองไม่สอดคล้องกับจดประสงค์
ื
ุ
ุ
่
-292-
แบบประเมนการพูดน าเสนอผลงาน
ิ
กล่มสาระการเรยนรวิทยาศาสตร ชั้นมัธยมศกษาปท 1
ุ
ี
้
ู
ี
ี
ึ
์
ื่
ี่
ี
่
ี
ั
ี่
แผนท ....... เรอง หนวยของชวิตและชวิตพืช ภาคเรยนท 1 คร้งท ........
ี
่
ี
ี
้
ค าช้แจง 1. เขียนระดับคะแนนลงในช่องทีต้องการประเมิน ตามเกณฑ์การประเมินต่อไปน
ี
่
4 หมายถึง ผลการปฏิบัติอยู่ในระดับดีมาก
3 หมายถึง ผลการปฏิบัติอยู่ในระดับดี
2 หมายถึง ผลการปฏิบัติอยู่ในระดับพอใช้
่
1 หมายถึง ผลการปฏิบัติอยู่ในระดับทีต้องปรับปรุง
่
2. กรุณาเขียนเครื่องหมาย / ในช่อง เพือแสดงฐานะของผู้ประเมิน
ตนเอง ผู้สอน ผู้ปกครอง เพือน
่
ชื่อผู้ถูกประเมิน ..............................................................เลขที .........
่
ระดับความสามารถ
รายการประเมิน
ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
1. ออกเสียงค าควบกล ้า ร ล ว ชัดเจน .....................................................................
2. บุคลิกภาพ ท่าทาง ................................................................................................
้
ื
3. ความครอบคลุมของเนอหา .....................................................................................
4. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ .........................................................................................
่
5. การนาเสนอผลงานให้นาสนใจ ..............................................................................
คะแนนรวม .......... คะแนน ลงชื่อ ..................................... ผู้ประเมิน
(.................................................)
การสรุปผลการประเมิน .......................
....... / ................../ ............
่
16-20 คะแนน หมายถึง ผลการปฏิบัติอยูในระดับดีมาก
14-15 คะแนน หมายถึง ผลการปฏิบัติอยูในระดับดี
่
่
12-13 คะแนน หมายถึง ผลการปฏิบัติอยูในระดับพอใช้
่
่
5-11 คะแนน หมายถึง ผลการปฏิบัติอยูในระดับทีต้องปรับปรุง
-293-
ทีปรกษาและผูเชยวชาญ
่
ึ
้
่
ี
ี่ ึ
ิ
้
้
ู
ี
ทปรกษา : นำยสมเพศ คำมใส ผอ ำนวยกำรโรงเรยนบำนดงเจรญ
้
อ ำเภอค ำเขือนแกว
่
ส ำนกงำนเขตพนที่กำรศกษำประถมศกษำยโสธร เขต 1
้
ื
ึ
ึ
ั
ผู้เชยวชาญทพิจารณาความเทยงตรงของนวัตกรรม
ี่
ี่
ี่
1. นำยมงคล รุงเรอง ศึกษำนิเทศก์ช ำนำญกำรพเศษ
ื
ิ
่
ส ำนกงำนเขตพนที่กำรศกษำประถมศกษำยโสธร เขต 1
ื
ั
ึ
้
ึ
ั
ั
2. นำยพูลชย ปองวชย ศึกษำนิเทศก์ช ำนำญกำรพเศษ
ิ
้
ิ
ึ
ส ำนกงำนเขตพนที่กำรศกษำประถมศกษำยโสธร เขต 1
ึ
ั
้
ื
ิ
ี
ี
3. นำงสำวเพยงใจ เครอชำล ครูช ำนำญกำรพเศษ
ื
โรงเรยนบำนส ำโรง อ ำเภอค ำเขือนแกว
่
ี
้
้
ื
้
ึ
ั
ส ำนกงำนเขตพนที่กำรศกษำประถมศกษำยโสธร เขต 1
ึ
4. นำงวิลำสินี รุงเรอง ครูช ำนำญกำรพเศษ
ื
่
ิ
้
ี
โรงเรยนบำนน ้ำค ำนอย อ ำเภอเมืองยโสธร
้
ึ
ึ
ส ำนกงำนเขตพนที่กำรศกษำประถมศกษำยโสธร เขต 1
ั
้
ื
ิ
์
ู
5. นำยสุวทย เสงี่ยมศักด์ ครช ำนำญกำรพเศษ
ิ
ิ
้
่
โรงเรยนบำนดงเจรญ อ ำเภอค ำเขือนแกว
ิ
ี
้
ั
ึ
้
ส ำนกงำนเขตพนที่กำรศกษำประถมศกษำยโสธร เขต 1
ึ
ื
-294-
้
ประวัติของผูจัดท า
่
ชอ-สกล : นำยยรรยง ปกปอง
ื
ุ
้
ี
ั
วนเดือนปเกิด : 20 มกรำคม 2506
กำรรบรำชกำร :
ั
ู
-1 กรกฎำคม 2526 ครู 2 โรงเรยนบำนโสกขุมปน
ี
้
อ ำเภอกดชม จังหวดยโสธร
ุ
ุ
ั
้
ิ
ั
ิ
ุ
-ปจจบัน ครูช ำนำญกำรพเศษ โรงเรยนบำนดงเจรญ
ี
่
้
ั
อ ำเภอค ำเขือนแกว จังหวดยโสธร
ี
่
้
้
ู
ั
กำรศึกษำ : -พ.ศ. 2524 จบชน ม.3 โรงเรยนค ำเขือนแกวชนปถัมภ ์
ั
อ ำเภอค ำเขือนแกว จังหวดยโสธร
้
่
์
ิ
-พ.ศ. 2526 ป.กศ. สูง (เอกวทยำศำสตรทั่วไป)
ิ
ั
ั
วทยำลยครูอุบลรำชธำนี จังหวดอุบลรำชธำนี
์
-พ.ศ. 2528 ศษ.บ. (คณิตศำสตร)
ั
ี
ุ
มหำวิทยำลยสุโขทัยธรรมำธิรำช จังหวดนนทบร
ั
-พ.ศ. 2534 กศ.ม. (กำรวดผลกำรศึกษำ)
ั
ิ
ิ
ี
มหำวิทยำลยศรนครนทรวโรฒ ประสำนมิตร กรุงเทพฯ
ั
่
ผลงำนดีเดน : -พ.ศ. 2538 ครูคณิตศำสตรดีเดน ระดับจังหวด
ั
่
์
่
ั
-พ.ศ. 2543 ครูสอนโครงงำนคณิตศำสตรดีเดน ระดับจังหวด
์
ี
่
ั
-พ.ศ. 2544 ครูดีเดนระดับเหรยญทอง (ระดับจังหวด)
ั
-พ.ศ. 2550 ครูผสอนดีเดน (งำนวนครู ป 2550)
่
ี
้
ู