-156-
่
5.2 ออกแบบการทดลองเกียวกับการแพร่ได้
5.3 ใช้ทักษะการตั้งสมมตฐานจากสถานการณการทดลองได้
์
ิ
5.4 ใช้ทักษะการก าหนดและควบคมตัวแปรจากสถานการณการทดลองได้
์
ุ
์
ี
ี
ี
ุ
5.5 มความรอบคอบ อดทน มเหตมผลในการท ากิจกรรมทางวิทยาศาสตร
ี
้
็
ี
ู
5.6 ร่วมกิจกรรมด้วยความสนใจ เหนความส าคัญ และเรยนรอย่างมความสข
ุ
ี
6. สาระการเรยนรู
้
6.1 การออกแบบการทดลองเกียวกับการแพร่
่
ิ
6.2 ทักษะการลงความคดเหนจากข้อมูล และทักษะการตั้งสมมตฐาน
็
ิ
6.3 ทักษะการก าหนดและควบคมตัวแปร
ุ
ี
7. กระบวนการจดการเรยนรู ้
ั
้
7.1 ขั้นสรางความสนใจ (engagement)
่
ี
้
1. ผู้เรยนท าแบบทดสอบก่อนเรยน เพือตรวจสอบและทบทวนความรพื้นฐาน (แบบถูกผิด 10 ข้อ)
ู
ี
์
ี
ึ
2. ครเตรยมสารละลายน ้าหมกทมความเข้มข้นต่างกัน ชนดละ 20 ซซ ในบกเกอร และเตรยมแก้ว
ี
ี
ิ
่
ี
ี
ี
ู
ี
่
ื
ี
ุ
น ้าเกือบเต็มแก้ว จ านวน 2 ใบ ฝกให้ผู้เรยนตั้งชอการทดลอง และจดประสงค์การทดลอง โดยสังเกตจาก
ึ
่
วัสดอปกรณทครเตรยม ซงผู้เรยนอาจตั้งชอการทดลองน้ว่า
ู
ี
ุ
์
ี
ุ
่
ึ
ี
ี
่
ื
ึ
-การแพร่ของสารละลายน ้าหมก
-การเปรยบเทยบการแพร่ของสารละลายน ้าหมึก
ี
ี
ี
3. ผู้เรยนฝกทักษะการตั้งสมมตฐานจากการเตรยมการทดลองน้ โดยครแนะน าว่า ทักษะการตั้ง
ู
ี
ึ
ี
ิ
สมมตฐาน เปนการคดหาค าตอบล่วงหน้าอย่างมกฎเกณฑ์หรอมเหตผล โดยเขยนในลักษณะความสัมพันธ ์
ี
ิ
ี
ี
ื
็
ุ
ิ
็
ึ
ี
ระหว่างตัวแปรต้น กับตัวแปรตามในการทดลอง เสรจแล้วให้ผู้เรยนแต่ละกล่มฝกเขยนสมมตฐาน เช่น
ุ
ี
ิ
- ปริมาณของแสงส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช
- ความเข้มข้นของสารละลายส่งผลต่อการแพร่ของสาร
- มวลของสารมาก ท าให้ความหนาแนนของสารมาก
่
้
- ความเย็นท าให้ผักมีสีเขียวมากขึน
-157-
7.2 ขั้นส ารวจและค้นหา (exploration)
4. ผู้เรยนฝกทักษะการก าหนดและควบคมตัวแปรจากสถานการณ ทก าหนดให้ ประมาณ 3-4
ึ
ุ
ี
่
์
ี
์
สถานการณ โดยให้บอกตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคม เช่น
ุ
ั
์
สถานการณปญหา : แสงมีผลต่อการเจริญเติบของพืชหรือไม่
ตัวแปรต้น คือ แสง
ตัวแปรตาม คือ การเจริญเติบโต
๋
้
ตัวแปรควบคุม คือ พันธุ์พืช ดิน ปุย นา
ี
ุ
ี
่
5. แต่ละกล่มวางแผนเกียวกับการปฏบัตการทดลอง เรอง การแพร่ของสารละลายทมความ
่
ื
่
ิ
ิ
ิ
์
ุ
ุ
ุ
เข้มข้นแตกต่างกัน โดยให้ออกแบบ และก าหนดวัสดอปกรณเอง ตั้งสมมตฐาน และระบตัวแปร
ในการทดลอง
ุ
7.3 ขั้นอธบายและลงข้อสรป (explanation)
ิ
ิ
ุ
ู
ุ
ิ
6. ส่มตัวแทนกล่มออกมาน าเสนอผลการวางแผนการปฏบัตการทดลอง โดยครแนะน าให้ใช้
่
่
ื
ุ
ุ
ี
์
วัสดอปกรณช่วยในการน าเสนอ เช่น แผ่นใส เครองฉายภาพข้ามศรษะ และเพือนๆ แต่ละกล่มอภปราย
ิ
ุ
่
ซักถามเกียวกับตัวแปรในการทดลอง การควบคมตัวแปร และการตั้งสมมตฐาน
ิ
ุ
7. ผู้เรยนและครร่วมกันสรปโดยการฝกอ่านค าศัพท์และอธบายความหมายจากบัตรค า หรอ
ื
ิ
ึ
ู
ุ
ี
ุ
็
ุ
้
ู
สรปความรจากสไลด์ในโปรแกรม Power Point เพือเราความสนใจ ให้การสรปรวดเรวและชัดเจนยิ่งขึ้น
่
้
7.4 ขั้นขยายความร (elaboration)
้
ู
ิ
8. ผู้เรยนแต่ละคนทบทวนทักษะการลงความคดจากข้อมูล โดยท าชดฝกทักษะวิทยาศาสตร ์
ี
ึ
ุ
ึ
ี่
เล่ม 1 ชดฝกท 24 (ท านายอะไรเอ่ย)
ุ
่
ู
ุ
ี
9. ครแนะน าการน าเสนอข้อมูล การพูดรายงานของผู้เรยน เพือการปรบปรงในคราวต่อไป
ั
ิ
ิ
ื
้
ู
่
็
ู
10. ครให้ความรเพิ่มเตม เรอง ทักษะการลงความคดเหนจากข้อมูล ทักษะการตั้งสมมตฐาน
ิ
ิ
ี
ึ
ื
ุ
ทักษะการก าหนดและควบคมตัวแปร และแนะน าให้ผู้เรยนไปศกษาค้นคว้าและสบค้นข้อมูลเพิ่มเตม
จากห้องสมด หรออนเทอรเนต
ุ
์
็
ื
ิ
-158-
ิ
7.5 ขั้นประเมน (evaluation)
ี
ี
11. ผู้เรยนท าแบบทดสอบหลังเรยน เพื่อตรวจสอบพัฒนาการของตนเอง (แบบถูกผิด 10 ข้อ)
ึ
ุ
ี
12. ประเมนผลงานการท าชดฝกทักษะของผู้เรยน
ิ
13. ประเมนผลพฤตกรรมด้านอนๆ โดยการสังเกต สัมภาษณทั้งในห้องเรยน และนอกห้องเรยน
ี
ิ
่
ิ
ี
ื
์
้
ี
่
8. สอและแหลงเรยนรู
่
ื
ี
ื
่
8.1 บัตรค ายากหรอค าส าคัญ เพือใช้ฝกอ่านและสรปบทเรยน ได้แก่ค าว่า การแพร่ ทักษะการลงความ
ึ
ุ
คดเหนจากข้อมูล ทักษะการตั้งสมมตฐาน ทักษะการก าหนดและควบคมตัวแปร ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม
ิ
ิ
ุ
็
ุ
ตัวแปรควบคม
ื
ี
่
8.2 แผ่นใสและเครองฉายภาพข้ามศรษะ (Over Head)
ี
์
์
่
ึ
ุ
่
ี
ุ
8.3 วัสดอปกรณ ทใช้ในการทดสอบเกียวกับการแพร่ของสาร ได้แก่ บกเกอร สารละลายน ้าหมก
ี
หรอสารละลายน ้าหวานทมความเข้มข้นแตกต่างกัน แก้วน ้า
ื
ี
่
์
ิ
์
8.4 ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร (ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและความสามารถในการคดวิเคราะห)
์
ุ
ึ
่
่
เล่ม 1 เรอง หน่วยของชีวิตและชีวิตพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที 1
ื
ิ
ุ
8.5 ห้องสมด และห้องคอมพิวเตอร เพื่อใช้ในการสบค้นข้อมูลจากอนเทอรเนต
์
ื
์
็
9. การวัดและประเมินผล
9.1 ส่งทต้องการวัด
่
ิ
ี
็
ู
ิ
-ความรความเข้าใจ เรอง การแพร่ ทักษะการลงความคดเหนจากข้อมูล ทักษะการตั้งสมมตฐาน
้
ิ
ื
่
ุ
ทักษะการก าหนดและควบคมตัวแปร
ื่
ุ
-ทักษะการพูดสรปเรองและพูดรายงาน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ์
็
ี
ี
-เจตคตทดต่อการเรยน ได้แก่ ความสนใจ ความตั้งใจ และเหนความส าคัญ
่
ิ
ี
-จตวิทยาศาสตร ได้แก่ ความใฝรใฝเรยน ความรอบคอบ มเหตมผล ความอดทน
ี
ุ
์
ิ
ี
ี
่
้
่
ู
ึ
ี
ุ
ิ
9.2 วิธการวัด ใช้การซักถาม การท าชดฝกทักษะ และการสังเกตพฤตกรรม
9.3 เครองมอวัด
ื
ื่
ี
ี
-แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ุ
ึ
-ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 24 (ท านายอะไรเอ่ย)
ึ
ุ
ี่
์
-แบบประเมนเจตคตและจตวิทยาศาสตร ์
ิ
ิ
ิ
-159-
ิ
9.4 เกณฑ์การประเมน
-ตอบถูกให้ 1 คะแนน และตอบผิดให้ 0 คะแนน
ู
ุ
-ข้นอยู่กับลักษณะและรปแบบของชดฝกทักษะ (เฉลยและเกณฑ์อยู่ในภาคผนวกแต่ละแผน)
ึ
ึ
ิ
็
-ให้คะแนนเปนระดับคณภาพ (แบบประเมนและเกณฑ์อยู่ภาคผนวกท้ายแผน)
ุ
10. กิจกรรมเสนอแนะ
้
ู
ี
10.1 แหล่งเรยนรควรยืดหยุ่นตามความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อมทางธรรมชาต ิ
ี
็
้
เวลา งบประมาณ และความพรอมของผู้เรยน เปนต้น
10.2 ผู้เรยนควรมความพรอมในด้านการพูดและการอ่านเพือจับใจความส าคัญ
้
่
ี
ี
ึ
้
้
11.3 ทักษะการเขยนเพือบันทกสรปสาระส าคัญ ควรฝกให้เกิดข้นในตัวผู้เรยนพรอมๆ กับการสราง
ุ
ึ
ึ
ี
ี
่
้
ิ
ี
ู
นสัยรกการอ่านและการสบค้นข้อมูลจากแหล่งเรยนรต่างๆ
ื
ั
(ลงชอ)
ื่
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ………
ึ
้
้
็
ิ
11. ความเหนและขอเสนอแนะของผูบรหารสถานศกษา
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………...
(ลงชอ)
ื่
( ………………………………….)
ผู้อ านวยการ โรงเรยนบ้านดงเจรญ
ิ
ี
….. / ……….. / ……..
-160-
12. บันทึกหลังสอน
12.1 ผลการสอน
-ด้านพุทธพิสัย …………………………………………………………………………….…
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-ด้านทักษะพิสัย ……………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-ด้านจตพิสัย …………………………………………………………………………………
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
ุ
12.2 ปญหาอปสรรค ………………………………………………………………………………
ั
12.3 แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………….……………..
ื่
(ลงชอ)
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ……..
-161-
ภาคผนวก
ี
ี
• แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ึ
ี่
ุ
• เฉลย / เกณฑ์การให้คะแนนชดฝกท 24
(ท านายอะไรเอ่ย)
-162-
แบบทดสอบก่อนเรยน – หลังเรยน
ี
ี
แผนท 10
ี่
ท านายกันลงความเห็น
จงท าเครองหมาย / หน้าข้อทถูก และท าเครองหมาย X หน้าข้อทผิด
ื่
ื่
ี่
ี่
่
่
......... 1. การแพร่ เปนการเคลอนทของโมเลกุลสารจากบรเวณทม ี
ื
ิ
่
ี
็
ี
่
ความเข้มข้นน้อยกว่า ไปสู่บริเวณทีมีความเข้มข้นมากกว่า
่
ี
็
……. 2. ตัวแปรทเปนผลจากการทดลอง เรยกว่าตัวแปรต้น
ี
ุ
็
ี
……. 3. ตัวแปรทเปนสาเหตของการเกิดผลการทดลองนั้น ๆ เรยกว่า
่
ี
ตัวแปรต้น
ิ
……. 4. “ต้นไม้น้เปนพืชในเขตรอน” เปนการใช้ทักษะการลงความคดเหน
็
็
ี
็
้
จากข้อมูล
็
ี
ี
ี
……. 5. “อก 5 ปข้างหน้าพืชน้จะต้องตาย” เปนการใช้ทักษะการสังเกต
็
ึ
ู
……. 6. “แสงท าให้ล าต้นพืชสงข้น” เปนการใช้ทักษะการตั้งสมมตฐาน
ิ
้
ี
……. 7. “อากาศรอนท าให้พืชคายน ้าได้ด” เปนการใช้ทักษะการพยากรณ ์
็
็
ี
ื
……. 8. “ผลมเปลอกแข็งหนาเปนช่อๆ” เปนการใช้ทักษะการสังเกต
็
็
ิ
ึ
่
……. 9. สมมตฐาน เปนค าตอบทคดไว้ล่วงหน้า ซงมักจะเขยนเปนความ
ี
ิ
ี
็
่
์
ั
สมพันธของตัวแปรต้นกับตัวแปรตามในการทดลองนั้นๆ
้
ู
ุ
……. 10. การสรปส่งของหรอเหตการณทเกิดข้นมาแล้วโดยใช้ความรเดม
ิ
่
ื
ุ
ี
ิ
์
ึ
์
ิ
ื
ี
ิ
็
หรอประสบการณเดมของตน เรยกว่า “ การลงความคดเหนจาก
ข้อมูล ”
-163-
่
ึ
ชุดฝกที 24.
ท ำนำยอะไรเอ่ย
กิจกรรม
ใช้ทักษะการลงความคิดเห็นจากข้อมูล เพื่อสรุปว่าสิ่งทีกล่าวถึงในแต่ละข้อตอไปนี คืออะไร
่
้
่
็
1) เซลล์ของพืชสัตว์นั้นมี เปนแหล่งทีสร้างโปรตีน
่
ไรโบโซม
( ................................................................... )
่
2) โครโมโซมอยูภายใน เปนแหล่งถ่ายพันธุกรรม
็
นวเคลยส
ี
ิ
( .................................................................... )
3) ยอมให้สารบางอย่างผ่าน ถัดจากชั้นผนังเซลล์
เยื่อห้มเซลล์ หรอเซลล์เมมเบรน
ื
ุ
( .................................................................... )
เกณฑการใหคะแนน
้
์
4) สังเคราะห์ด้วยแสงใช้กัน พืชสัตว์นั้นหายใจออก • คะแนนเต็ม 10 คะแนน
์
คารบอนไดออกไซด์
( .................................................................... )
์
• เติมค าตอบได้ถูกต้องสมบูรณ
่
5) เปนแหล่งทีสร้างอาหาร เซลล์พืชนั้นถึงจะมี
็
คลอโรพลาสต์
( .................................................................... ) ให้ข้อละ 1 คะแนน
้
่
6) การเคลื่อนตัวท าละลาย โดยเข้าไปเยือเลือกผ่าน เข้มข้นนั้นมากไปนอย
ิ
ออสโมซส
( ...................................................................... )
่
ึ
7. ทักษะวิทย์ใช้เครืองมือ ต้องฝกปรือในการหา ระบุค่าจากการชั่ง
ทักษะการวัด
( ...................................................................... )
ทักษะการจ าแนกประเภท
8. ทักษะวิทย์บอกถูกต้อง เกณฑ์แบ่งของเปนกลุ่มๆ ( ....................................................... )
็
ดอกไม่ครบส่วน
่
่
้
9. ประเภทดอกชนิดหนึง ขาดเพียงซึงแค่กลีบเลียง ( ....................................................... )
รงไข่
ั
่
10. มีโอวูลอยูภายใน อีกต่อไปกลายเปนผล ( ........................................................ )
็
-164-
ั
ี
แผนการจดการเรยนรู
้
กล่มสาระการเรยนร วิทยาศาสตร ชั้นมัธยมศกษาปท 1 ภาคเรยนท 1
ี่
ี
ุ
้
ู
ี
ี
ึ
์
่
ี
ู
ี
้
ื่
ี
ี
่
ี
หน่วยการเรยนรท 1 เรอง หน่วยของชวิตและชวิตพืช เวลา 30 ชั่วโมง
้
ื่
ี
ี่
ู
็
้
แผนการจัดการเรยนรท 11 เรอง สรุปเปนพรอมตีความ เวลา 2 ชั่วโมง
ื่
ี่
สอนวันท ……. เดอน ………………..… พ.ศ. ............... ชอผู้สอน นายยรรยง ปกปอง
้
ื
1. สาระสาคัญ
ุ
ิ
1.1 การออกแบบก่อนท าการทดลองโดยการใช้ ทักษะการตั้งสมมตฐาน การก าหนดและควบคมตัวแปร
ิ
ี
ู
ี
ุ
จะช่วยท าให้การด าเนนการทดลอง มความเทยงตรงสง และสอดคล้องกับวัตถประสงค์ของการทดลอง
่
์
1.2 การใช้ทักษะการวัด การคดค านวณ การพยากรณ การจัดกระท าและสอความหมายข้อมูล การต ี
ิ
ื่
ิ
ี
ิ
ุ
ิ
ความหมายข้อมูลและลงข้อสรป ในขณะปฏบัตการทดลองก็ยิ่งช่วยส่งเสรมให้การทดลองมความสมบูรณ ์
ึ
มากข้น
1.3 การพูดรายงานผลการทดลอง เปนการฝกทักษะการสอความหมายข้อมูล ทผู้เรยนควรฝกฝนอย่าง
่
ี
ึ
ื
็
ี
่
ึ
ุ
ู
้
สม าเสมอ รจักแนะน าตัวก่อนพูด ออกเสยงถกต้องและสรปสาระส าคัญของเรอง ควรรจักใช้ ข้อมูลทมอยู่
ี
่
ู
้
่
ู
ี
ื
่
ี
ื
สอและเครองมอประกอบการพูด ก็จะช่วยให้การพูดน่าฟงมากข้น
ื
่
ั
ึ
ื
่
้
ี
2. มาตรฐานการเรยนรู ว 1.1 : เข้าใจหน่วยพื้นฐานของส่งมชวิต ความสัมพันธของโครงสรางและหน้าท ่ ี
์
้
ี
ิ
ี
ู
้
ื
ี
ิ
ี
่
ี
ี
่
ี
ู
้
ี
ของระบบต่าง ๆ ของส่งมชวิต ทท างานสัมพันธกัน มกระบวนการสบเสาะหาความร สอสารส่งทเรยนร
์
่
ื
ิ
ิ
ี
ู
น าความรไปใช้ในการด ารงชวิตของตนเองและดแลส่งมีชีวิต
้
ู
ี
้
3. ตัวชวัด
ื
ิ
่
่
ี
่
3.5 ออกแบบ และท าการทดลองเกียวกับการแพร่ และออสโมซสของเซลล์ เมออยู่ในสารละลายทม ี
ความเข้มข้นต่างกัน
4. ภาระงาน / ชนงาน
้
ิ
ุ
ึ
4.1 ผลงานทผู้เรยนท าในชดฝกท 16 (การคายน ้าของพืช)
ี่
ี
ี่
4.2 คะแนนการทดสอบก่อนเรียน-หลังเรยน
ี
4.3 บันทกเจตคตและจตวิทยาศาสตรของผู้เรยน
ี
ึ
ิ
ิ
์
ุ
5. จุดประสงคการเรยนรู (จดประสงค์น าทาง)
ี
้
์
่
5.1 ออกแบบและท าการทดลองเกียวกับการแพร่ได้
-165-
์
่
ิ
5.2 ใช้ทักษะการพยากรณในการทดลองเกียวกับการแพร่และออสโมซสได้
่
่
ื
5.3 ใช้ทักษะการจัดกระท าและสอความหมายข้อมูลในการทดลองเกียวกับการคายน ้าได้
่
5.4 ใช้ทักษะการตความหมายข้อมูลและลงข้อสรปในการทดลองเกียวกับการคายน ้าได้
ุ
ี
ี
ี
ี
5.5 มความรอบคอบ อดทน มเหตมผลในการท ากิจกรรมทางวิทยาศาสตร
์
ุ
็
ี
ุ
5.6 ร่วมกิจกรรมด้วยความสนใจ เหนความส าคัญ และเรยนรอย่างมความสข
้
ี
ู
้
ี
6. สาระการเรยนรู
ิ
6.1 การแพร่และออสโมซส
์
6.2 ทักษะการทดลอง และทักษะการพยากรณ
ื่
6.3 ทักษะการจัดกระท าและสอความหมายข้อมูล
6.4 ทักษะการตความหมายข้อมูลและลงข้อสรป
ุ
ี
ี
7. กระบวนการจดการเรยนรู ้
ั
้
7.1 ขั้นสรางความสนใจ (engagement)
่
ี
1. ผู้เรยนท าแบบทดสอบก่อนเรยน เพือตรวจสอบและทบทวนความรพื้นฐาน (แบบถูกผิด 10 ข้อ)
้
ู
ี
่
ี
ึ
์
่
ี
2. ฝกการใช้ทักษะการตั้งสมมตฐาน และการพยากรณเกียวกับการแพร่ของสารละลายทมความเข้มข้น
ิ
่
ู
์
ี
ึ
ี
ต่างกัน ซงครวางแผนและออกแบบการแพร่โดยหยดสารละลายสโปสเตอรทมความเข้มข้นต่างกัน ลงในน ้า
่
ี
ี
ึ
ให้ผู้เรยนฝกพูดการใช้ทักษะทั้งสอง เช่น
้
• ถ้าหยดสารละลายปริมาณมากจะแพร่ได้เร็วกว่าหยดสารละลายปริมาณนอย
(ทักษะการพยากรณ) ์
่
• ถ้าหยดสารละลายในระดับสูง จะแพร่ได้เร็วกว่าหยดสารละลายในระดับต า
(ทักษะการพยากรณ) ์
• ปริมาณของสารละลายส่งผลตออัตราการแพร่ของสารละลาย (ทักษะการตั้งสมมติฐาน)
่
่
• ระดับความสูงของการหยดส่งผลตออัตราการแพร่ของสารละลาย (ทักษะการตั้งสมมติฐาน)
้
• ปริมาณของนาไม่ส่งผลต่ออัตราการแพร่ของสารละลาย (ทักษะการตั้งสมมติฐาน)
• สารละลายทีเข้มข้นมาก จะแพร่ได้เร็วกว่าสารละลายทีเข้มข้นนอย (ทักษะการพยากรณ) ์
่
้
่
-166-
7.2 ขั้นส ารวจและค้นหา (exploration)
ี
3. ซักถามเกียวกับการเคลอนทของน ้าภายในเซลล์ของพืช ทั้งโดยการแพร่ ออสโมซส หรอ
่
่
่
ื
ื
ิ
ี
ี
แอกทฟทรานสปอรต ครใช้ค าถามว่า น ้าในเซลล์ของพืชมการเคลอนทออกจากพืชโดยวิธใด
ู
์
ี
ื
่
่
ี
ุ
ุ
ี
ึ
ุ
ึ
ี่
ึ
์
4. ผู้เรยนแต่ละกล่มศกษาชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 16 (การคายน ้าของพืช)
ิ
ิ
ิ
ิ
แล้วฝกปฏบัตโดยการออกแบบการทดลอง และปฏบัตการทดลองตามขั้นตอนของกิจกรรมในชดฝก
ึ
ุ
ึ
สังเกต บันทกผลการทดลอง ตอบค าถาม และสรปผลการทดลอง
ุ
ึ
ู
่
5. ครแนะน าเกียวกับการใช้ทักษะการจัดกระท าและสอความหมายข้อมูลว่า ผู้เรยนอาจใช้การ
ื
่
ี
ี
่
ู
้
ู
ี
น าเสนอในรปแบบต่างๆ แล้วให้ผู้เรยนศกษาใบความรท 15 (การคายน ้า)
ึ
7.3 ขั้นอธบายและลงข้อสรป (explanation)
ุ
ิ
ุ
6. ส่มตัวแทนกล่มออกมาน าเสนอผลการปฏบัตการทดลอง โดยครแนะน าการใช้วัสดอปกรณ ์
ิ
ุ
ุ
ู
ุ
ิ
ื
่
ิ
ช่วยในการน าเสนอ ได้แก่ แผ่นใส และเครองฉายภาพข้ามศรษะ (ครประเมนทักษะการพูด)
ี
ู
7. อภปรายซักถาม เกียวกับการทดลอง เพือน าไปส่การใช้ทักษะการตความหมายข้อมูลและ
ู
ี
่
ิ
่
ลงข้อสรป ดังน้
ี
ุ
• การทดลองนมีอะไรเปนตัวแปรต้น (ใบพืช)
ี
้
็
ี
• การทดลองนมีอะไรเปนตัวแปรตาม (หยดนา)
็
้
้
็
ึ
่
ึ
• ท าไมกิ่งหนงจึงเด็ดใบออก กิ่งหนงจึงไม่เด็ดใบออก (จะท าให้เปนตัวแปรต้น
่
่
ในการทดลอง ซึงต้องต่างกัน)
ิ
• การทดลองน ได้ควบคุมตัวแปรอย่างไร (พืชชนดเดียวกัน ให้กิ่งได้รับแสง
ี
้
เหมือนกัน)
ี
ิ
ึ
ุ
ู
ื
8. ผู้เรยนและครร่วมกันสรปโดยการฝกอ่านค าศัพท์และอธบายความหมาย หรอสรปความร ู ้
ุ
่
็
ุ
จากสไลด์โดยใช้โปรแกรม Power Point เพือเราความสนใจ ท าให้การสรปรวดเรวและชัดเจนข้น
ึ
้
ู
้
7.4 ขั้นขยายความร (elaboration)
ี
9. ครแนะน าการน าเสนอข้อมูล การพูดรายงานของผู้เรยน เพือการปรบปรงในคราวต่อไป
ู
่
ุ
ั
ิ
ิ
ื
ี
10. ครให้ความรเพิ่มเตม เรอง การแพร่ ออสโมซส แอกทฟทรานสปอรต และการคายน ้า
ู
่
์
้
ู
ื
ิ
ื
ี
ึ
์
็
ิ
ุ
และแนะน าให้ผู้เรยนไปศกษาหรอสบค้นข้อมูลเพิ่มเตมจากห้องสมดและอนเทอรเนต
-167-
ิ
7.5 ขั้นประเมน (evaluation)
ู
11. ผู้เรยนท าแบบทดสอบหลังเรยน เพื่อตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรยน (แบบถกผิด 10 ข้อ)
ี
ี
ี
ุ
12. ประเมนผลงานการท าชดฝกทักษะของผู้เรยน
ิ
ึ
ี
ี
ี
ิ
่
ื
ิ
์
13. ประเมนผลพฤตกรรมด้านอนๆ โดยการสังเกต สัมภาษณทั้งในห้องเรยน และนอกห้องเรยน
้
ื
ี
่
่
8. สอและแหลงเรยนรู
ุ
ี
8.1 บัตรค ายากหรอค าส าคัญ เพือใช้ฝกอ่านและสรปบทเรยน ได้แก่ค าว่า การแพร่ ออสโมซส การคายน ้า
ึ
ิ
่
ื
์
แอกทฟทรานสปอรต ทักษะการพยากรณ ทักษะการทดลอง ทักษะการจัดกระท าและสอความหมายข้อมูล
์
ื่
ี
8.2 แผ่นใสและเครองฉายภาพข้ามศรษะ (Over Head)
ี
่
ื
่
ึ
่
ุ
ุ
ุ
8.3 วัสดอปกรณเพือใช้ทดลองเกียวกับการแพร่ และการคายน ้าตามกิจกรรมในชดฝกท 16
ี
่
์
8.4 ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร (ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและความสามารถในการคดวิเคราะห)
ิ
์
ุ
์
์
ึ
่
ี
เล่ม 1 เรอง หน่วยของชวิตและชวิตพืช ชั้นมัธยมศกษาปท 1
ึ
ี
ี
ี
ื
่
ิ
ุ
8.5 ห้องสมด และห้องคอมพิวเตอร เพื่อใช้ในการสบค้นข้อมูลจากอนเทอรเนต
์
็
์
ื
9. การวัดและประเมินผล
ี
9.1 ส่งทต้องการวัด
ิ
่
์
ี
ิ
-ความรความเข้าใจ เรอง การแพร่ ออสโมซส แอกทฟทรานสปอรต การคายน ้า ทักษะการพยากรณ ์
่
ู
้
ื
ื่
ทักษะการทดลอง ทักษะการจัดกระท าและสอความหมายข้อมูล
ุ
ื่
-ทักษะการพูดสรปเรองและพูดรายงาน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ์
็
ี
ี
-เจตคตทดต่อการเรยน ได้แก่ ความสนใจ ความตั้งใจ และเหนความส าคัญ
ิ
ี
่
-จตวิทยาศาสตร ได้แก่ ความใฝรใฝเรยน ความรอบคอบ มเหตมผล ความอดทน
ุ
ี
์
ี
ิ
่
ี
่
้
ู
ุ
ิ
ี
ึ
9.2 วิธการวัด ใช้การซักถาม การท าชดฝกทักษะ และการสังเกตพฤตกรรม
ื
9.3 เครองมอวัด
ื่
ี
-แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ี
-ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 16 (การคายน ้าของพืช)
ุ
ุ
์
ี่
ึ
ึ
ิ
์
ิ
-แบบประเมนเจตคตและจตวิทยาศาสตร
ิ
-168-
9.4 เกณฑ์การประเมน
ิ
-ตอบถูกให้ 1 คะแนน และตอบผิดให้ 0 คะแนน
ุ
ู
ึ
-ข้นอยู่กับลักษณะและรปแบบของชดฝกทักษะ (เฉลยและเกณฑ์อยู่ในภาคผนวกแต่ละแผน)
ึ
ิ
็
-ให้คะแนนเปนระดับคณภาพ (แบบประเมนและเกณฑ์อยู่ภาคผนวกท้ายแผน)
ุ
10. กิจกรรมเสนอแนะ
้
ู
ี
10.1 แหล่งเรยนรควรยืดหยุ่นตามความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อมทางธรรมชาต ิ
ี
้
็
เวลา งบประมาณ และความพรอมของผู้เรยน เปนต้น
้
่
10.2 ผู้เรยนควรมความพรอมในด้านการพูดและการอ่านเพือจับใจความส าคัญ
ี
ี
ึ
ุ
ี
้
้
11.3 ทักษะการเขยนเพือบันทกสรปสาระส าคัญ ควรฝกให้เกิดข้นในตัวผู้เรยนพรอมๆ กับการสราง
ึ
่
ึ
ี
ู
นสัยรกการอ่านและการสบค้นข้อมูลจากแหล่งเรยนรต่างๆ
ั
ิ
้
ี
ื
ื่
(ลงชอ)
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ………
ึ
็
้
้
11. ความเหนและขอเสนอแนะของผูบรหารสถานศกษา
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………...
ื่
(ลงชอ)
( ………………………………….)
ผู้อ านวยการ โรงเรยนบ้านดงเจรญ
ี
ิ
….. / ……….. / ……..
-169-
12. บันทึกหลังสอน
12.1 ผลการสอน
-ด้านพุทธพิสัย …………………………………………………………………………….…
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-ด้านทักษะพิสัย ……………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-ด้านจตพิสัย …………………………………………………………………………………
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
ุ
ั
12.2 ปญหาอปสรรค …………………………………………………………………………...
12.3 แนวทางแก้ไข…………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………..
ื่
(ลงชอ)
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ……...
-170-
ภาคผนวก
ี
ี
• แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ุ
ึ
ี่
• เฉลย / เกณฑ์การให้คะแนนชดฝกท 16 (การคายน ้าของพืช)
ู
• ใบความรท 15 (การคายน ้า)
ี่
้
-171-
ี
แบบทดสอบก่อนเรยน – หลังเรยน
ี
ี่
แผนท 11
็
สรุปเปนพร้อมตีความ
ี่
จงท าเครองหมาย / หน้าข้อทถูก และท าเครองหมาย X หน้าข้อทผิด
ื่
ื่
ี่
......... 1. การคายน ้าของพืชในรปไอน ้าจะเกิดข้นทปากใบ หรอรใบ
ี
ึ
ู
ื
ู
่
ู
ึ
่
ี
ิ
……. 2. การคายน ้าในรปของหยดน ้า จะเกิดข้นทต่อมบรเวณขอบใบ
็
่
……. 3. การคายน ้า เปนกระบวนแพร่ของน ้าชนดหนง
ึ
ิ
ิ
……. 4. รใบหรอปากใบ จะพบมากบรเวณผิวใบด้านบน
ื
ู
ี
ื
์
ึ
่
ี
ุ
ิ
……. 5. การท านายผลส่งของหรอเหตการณทเกิดข้นแล้ว เรยกว่า
การลงความคดเหนจากข้อมูล
็
ิ
ึ
่
ี
์
ื
……. 6. การท านายผลส่งของหรอเหตการณทยังไม่เกิดข้น เรยกว่า
ิ
ี
ุ
์
การพยากรณ
ิ
……. 7. “อณหภมมผลต่อการคายน ้าของพืช” เปนการใช้ทักษะ
ุ
็
ู
ี
การพยากรณ
์
……. 8. “ถ้าน าพืชน้ไปไว้ในน ้าพืชน้จะตาย” เปนการใช้ทักษะ
ี
็
ี
์
การพยากรณ
ุ
……. 9. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ทักษะสดท้ายหลังการ
์
ิ
ทดลอง คอทักษะการลงความคดเหนจากข้อมูล
ื
็
……. 10. ทักษะการทดลอง ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คอการออกแบบ
ื
ิ
ิ
ึ
การทดลอง การปฏบัตการทดลอง และการบันทกผลการ
ทดลอง
-172-
ึ
ชุดฝกที 16.
่
ื
กำรคำยน ้ำของพช
กิจกรรม
1. ตัดกิ่งชบา หรือพู่ระหงมา 2 กิ่ง
ั
นามาปกแช่น ้าไว้ในขวด
2. นาถงพลาสติกใบหนึงมาหุ้มกิ่งที 1
่
่
ุ
่
่
อีกใบหนึงมาหุ้มกิ่งที 2 ซึงเด็ดใบ
่
ุ
ออกหมด ใช้เชือกผูกรวบถงตรงโคน
่
่
ให้แนน นาไป ตั้งไว้ในทีซึงถูกแสงแดด
่
ประมาณ 10-15 นาที สังเกตการ
เปลียนแปลง และบันทึกผล
่
ตอบค าถาม
้
เกณฑการใหคะแนน 1. นักเรียนสังเกตเห็นอะไรเกิดขึนในถงพลาสติก และเกิดขึน
์
ุ
้
้
• คะแนนเต็ม 10 คะแนน ทั้ง 2 ถงหรือไม่ นักเรียนคิดว่า สิ่งนั้นเกิดขึนได้อย่างไร
ุ
้
ี
ุ
่
่
ี
ี
ี
หยดน ้า เกิดในถงท 1 (มกิ่งชบาทมใบ)
• ปฏิบัติการทดลอง 5 คะแนน .......................................................................................
เกิดจากการคายน ้าออกทางใบ
• เขียนตอบค าถาม 5 คะแนน .......................................................................................
2. เหตุใดจึงต้องมีกิ่งทีต้องเด็ดใบออกหมดอยูในการทดลองนี ้
่
่
ี
ี
็
เพอเปรยบเทยบ และให้เปนตัวแปรต้นในการทดลอง
ื่
.......................................................................................
้
3. นักเรียนจะสรุปผลการทดลองนีได้อย่างไร
ื
ื
่
ึ
ู
พชจะคายน ้าออกทางใบ ซงมรใบหรอปากใบ และการคายน ้า
ี
.......................................................................................
ื
ของพชส่วนใหญ่จะเกิดในเวลากลางวันเพราะมีแสง
.......................................................................................
-173-
ใบควำมรูที่ 15.
้
การคายน ้า (Transpiration)
ู
็
เปนกระบวนการแพร่ของน ้าในรปไอน ้าออกทางปากใบ (Stoma) ซงจะเกิด
ึ
่
ี
่
ื
่
่
มากในเวลากลางวัน และเมอเวลาทลมพัดแรง อากาศมความช้นต า
ี
ื
ปจจัยที่มีอิทธิพลตอการคายน้าของพืช ได้แก่
่
ั
ิ
1. ลม 4. อณหภูมของอากาศ
ุ
ื
2. แสงสว่าง 5. ความช้นของอากาศ
ิ
ุ
3. ชนดของพืช 6. ความอดมสมบรณของน ้าในดน
์
ิ
ู
การคายน้าของพืชมี 2 แบบ คอ
ื
1. การคายน ้าในรปของไอน ้า เกิดข้นทปากใบหรอรใบ
ึ
ู
่
ี
ู
ื
ี
่
ึ
ิ
2. การคายน ้าในรปของหยดน ้า เกิดข้นทต่อมบรเวณขอบของใบ
ู
่
ู
ี
็
พืชจะคายน ้าทางใบเปนส่วนใหญ่ โดยจะขับออกทางรเล็ก ๆ จ านวนมากทอยู่ทาง
ู
่
ี
ึ
ุ
ื
ด้านท้องใบเรยกว่ารใบหรอปากใบ ซงอยู่ระหว่างเซลล์คม 2 เซลล์
์
ประโยชนของการคายน้าของพืช
ุ
ี
1. ช่วยให้ใบของพืชมความช่มช้น
ื
ู
ุ
2. ช่วยลดอณหภมภายในล าต้น และทใบของพืช
ิ
ี
่
3. ช่วยในการล าเลยงน ้าโดยท าให้เกิดแรงดงน ้าจากส่วนล่างข้นมาส่วนบน
ึ
ี
ึ
-174-
ี
้
แผนการจดการเรยนรู
ั
ุ
้
ี่
ี
์
ู
กล่มสาระการเรยนร วิทยาศาสตร ชั้นมัธยมศกษาปท 1 ภาคเรยนท 1
ี
่
ี
ี
ึ
ื่
ี
่
ู
หน่วยการเรยนรท 1 เรอง หน่วยของชวิตและชวิตพืช เวลา 30 ชั่วโมง
ี
้
ี
ี
้
ี
ู
ื่
ี่
แผนการจัดการเรยนรท 12 เรอง สารวจท าสมมติฐาน เวลา 2 ชั่วโมง
้
ื่
สอนวันท ……. เดอน ………………..… พ.ศ. ............... ชอผู้สอน นายยรรยง ปกปอง
ื
ี่
1. สาระสาคัญ
ั
้
์
ู
ื
1.1 พืชชั้นสงสามารถสรางอาหารเองได้ ด้วยกระบวนการสังเคราะหด้วยแสง โดยใช้ปจจัยต่างๆ คอ น ้า
และแก๊สคารบอนไดออกไซด์
์
้
่
ี
์
ึ
1.2 กระบวนการสังเคราะหด้วยแสง เกิดข้นทเม็ดคลอโรพลาสต์ ซงเปนโครงสรางภายในของเซลล์พืช
ึ
็
่
ี
โดยมตัวเร่งปฏิกิริยาคือแสงและคลอโรฟิลด์ และได้ผลิตผลจากกระบวนการนี้คือแก๊สออกซิเจนและกลูโคส
ี
้
2. มาตรฐานการเรยนรู ว 1.1 : เข้าใจหน่วยพื้นฐานของส่งมชวิต ความสัมพันธของโครงสรางและหน้าท ่ ี
ี
์
้
ี
ิ
้
ู
ี
์
ื
ี
่
ิ
ของระบบต่าง ๆ ของส่งมชวิต ทท างานสัมพันธกัน มกระบวนการสบเสาะหาความร สอสารส่งทเรยนร
ู
ี
่
ี
ื
ิ
้
ี
ี
่
ิ
ี
ี
ี
ู
ู
น าความรไปใช้ในการด ารงชวิตของตนเองและดแลส่งมชวิต
้
3. ตัวชวัด
ี
้
่
็
ี
ั
3.6 ทดลอง สบค้นข้อมูล และอธบายปจจัยบางประการ ทจ าเปนในการสังเคราะห ด้วยแสง ได้แก่ แสง
ิ
์
ื
์
ิ
คลอโรฟลด์ คารบอนไดออกไซด์ และผลทได้จากการสังเคราะหด้วยแสง
ี่
์
ิ
้
4. ภาระงาน / ชนงาน
ี่
ึ
ุ
ุ
ึ
็
ี
ี่
้
4.1 ผลงานทผู้เรยนท าในชดฝกท 10 (พืชสรางอาหารได้อย่างไร) และชดฝกท 19 (ลงความคดเหนและ
ี่
ิ
ท านายผล)
ี
ี
4.2 คะแนนการทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ิ
ิ
4.3 บันทกเจตคตและจตวิทยาศาสตรของผู้เรยน
ึ
์
ี
5. จุดประสงคการเรยนรู (จดประสงค์น าทาง)
้
ี
ุ
์
์
5.1 บอกความหมายของกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงของพืชได้
-175-
5.2 อธบายปจจัยบางประการทจ าเปนในกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงได้
ั
ี่
ิ
็
์
ุ
์
ิ
5.3 บอกวัตถดบและผลตผลของกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงได้
ิ
์
ี
5.4 เขยนสมการของกระบวนการสังเคราะห ด้วยแสงได้
่
5.5 ออกแบบและท าการทดลองเกียวกับกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงได้
์
่
์
ุ
5.6 สรปผลการทดลองเกียวกับกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงได้
ี
5.7 มความรอบคอบ อดทน มเหตมผลในการท ากิจกรรมทางวิทยาศาสตร
์
ี
ุ
ี
5.8 ร่วมกิจกรรมด้วยความสนใจ เห็นความส าคัญ และเรียนรู้อย่างมีความสุข
้
6. สาระการเรยนรู
ี
6.1 การสังเคราะหด้วยแสง
์
6.2 ทักษะการทดลอง
6.3 ทักษะการลงความคดเหนจากข้อมูลและทักษะการพยากรณ
็
ิ
์
ั
ี
7. กระบวนการจดการเรยนรู ้
้
7.1 ขั้นสรางความสนใจ (engagement)
่
1. ผู้เรยนท าแบบทดสอบก่อนเรยน เพือตรวจสอบและทบทวนความรพื้นฐาน (แบบถูกผิด 10 ข้อ)
ู
ี
้
ี
ี
ู
2. ผู้เรยนดภาพเม็ดคลอโรพลาสต์ จากสไลด์ในโปรแกรม Power Point ทครน าเสนอให้ดจาก
ู
ี่
ู
่
ี่
้
์
์
้
่
คอมพิวเตอรและโทรทัศน เพือเราความน่าสนใจ สนทนาและซักถามเกียวกับโครงสรางและหน้าทของ
้
ู
่
ื
คลอโรพลาสต์ และออรแกเนลอนๆ เพือทบทวนความรพื้นฐานเดม เช่น
ิ
่
์
• คลอโรพลาสต์ มีอยู่ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตกลุ่มใด (พืช)
่
• คลอโรพลาสต์เกียวข้องกับกระบวนการใดของพืช
(การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช)
่
• โครงสร้างใดของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ทีแตกต่างกัน
(ผนังเซลล์ และคลอโรพลาสต์)
-176-
7.2 ขั้นส ารวจและค้นหา (exploration)
์
3. ผู้เรยนแต่ละกล่มศกษาขั้นตอนการทดลองในกิจกรรมของชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1
ึ
ุ
ุ
ี
ึ
ึ
ี่
ุ
้
ชดฝกท 10 (พืชสรางอาหารได้อย่างไร)
ุ
ึ
ิ
4. ฝกทบทวนการใช้ทักษะการตั้งสมมตฐาน ทักษะการก าหนดและควบคมตัวแปร โดยใช้การ
ี
้
ู
ซักถามความรความเข้าใจ ดังน้
้
้
็
่
-แปงท าให้สารละลายไอโอดีนเปลียนเปนสีนาเงิน (การตั้งสมมติฐาน)
่
้
-ใบชบาด่างท าให้สารละลายไอโอดีนเปลียนเปนสีนาเงิน (การตั้งสมมติฐาน)
็
้
็
-แปงเปนสารอาหารประเภทใด (คาร์โบไฮเดรต) (ถามความเข้าใจ)
-นาตาลกลูโคส เปนสารอาหารประเภทใด (คาร์โบไฮเดรต) (ถามความเข้าใจ)
็
้
้
ี
้
็
-นักเรียนคิดว่าอะไรเปนตัวแปรต้นในการทดลองน (แปง ใบชบาด่าง)
่
-อะไรเปนตัวแปรตามในการทดลองน (การเปลียนสีของสารละลายไอโอดีน)
้
ี
็
์
ิ
ุ
ุ
ุ
ิ
ั
5. แต่ละกล่มรบวัสดอปกรณ ออกแบบและวางแผนการทดลอง ปฏบัตการทดลองตามขั้นตอน
ใช้ทักษะการสังเกต บันทกผลและตอบค าถาม ในชดฝกทักษะท 10
ึ
ุ
ี่
ึ
ิ
7.3 ขั้นอธบายและลงข้อสรป (explanation)
ุ
ุ
ิ
ุ
ุ
6. ส่มตัวแทนกล่มออกมาน าเสนอผลการปฏบัตการทดลอง สรปให้ได้เกียวกับวัตถดบและผลตผล
ิ
ิ
่
ิ
ุ
ี
ี
ึ
ื
่
์
่
ี
ของกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงทพบในการทดลองน้ (ผู้เรยนฝกการใช้แผ่นใสและเครองฉายภาพ
ข้ามศรษะ)
ี
ู
ื
ิ
7. ผู้เรยนและครร่วมกันสรปโดยการฝกอ่านค าศัพท์และอธบายความหมายจากบัตรค า หรอสรป
ุ
ี
ุ
ึ
่
ู
ึ
้
ุ
ความรจามสไลด์ในโปรแกรม Power Point เพือสรางความน่าสนใจ ท าให้การสรปรวดเรวและชัดเจนข้น
็
้
7.4 ขั้นขยายความร (elaboration)
ู
้
ั
ี
ู
8. ครแนะน าการน าเสนอข้อมูล การพูดรายงานของผู้เรยน เพือการปรบปรงในคราวต่อไป
ุ
่
ิ
้
ิ
่
9. ครให้ความรเพิ่มเตม เรองกระบวนการสังเคราะหด้วยแสง ทักษะการตั้งสมมตฐาน ทักษะการ
ู
ู
ื
์
ุ
ุ
ก าหนดและควบคมตัวแปร และแนะน าให้ผู้เรยนสบค้นข้อมูลเพิ่มเตมจากห้องสมดและอนเทอรเนต
ิ
็
ื
ิ
ี
์
-177-
ึ
ุ
ุ
็
ี่
ี
ิ
10. ผู้เรยนแต่ละคนท าชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 19 (ลงความคดเหนและท านายผล)
์
ึ
ู
โดยศกษาตัวอย่าง แล้วเขยนตอบค าถาม ครคอยแนะน าและให้ค าอธบายเกียวกับทักษะทั้งสอง
ึ
ิ
ี
่
7.5 ขั้นประเมน (evaluation)
ิ
ี
ี
11. ผู้เรยนท าแบบทดสอบหลังเรยน เพื่อตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรยน (แบบถูกผิด 10 ข้อ)
ี
ึ
ุ
ิ
ี
12. ประเมนผลงานการท าชดฝกทักษะของผู้เรยน
13. ประเมนผลพฤตกรรมด้านอนๆ โดยการสังเกต สัมภาษณทั้งในห้องเรยน และนอกห้องเรยน
ื
่
ิ
ี
์
ิ
ี
ื
่
8. สอและแหลงเรยนรู
้
ี
่
่
ี
ื
ุ
8.1 บัตรค ายากหรอค าส าคัญ เพือใช้ฝกอ่านและสรปบทเรยน ได้แก่ค าว่า คลอโรพลาสต์ การสังเคราะห ์
ึ
ิ
ุ
ด้วยแสง ทักษะการตั้งสมมตฐาน ทักษะการก าหนดและควบคมตัวแปร
ื
8.2 แผ่นใสและเครองฉายภาพข้ามศรษะ (Over Head)
่
ี
์
ึ
8.3 วัสดอปกรณในการทดลองตามกิจกรรมในชดฝกท 10 ได้แก่ สารละลายไอโอดน ใบชบาด่าง
ุ
ุ
ุ
ี
ี
่
์
หลอดทดลอง บกเกอร ถ้วยกระเบ้อง แอลกอฮอล์
ื
ี
8.4 ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร (ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและความสามารถในการคดวิเคราะห)
์
์
์
ุ
ึ
ิ
ี
ี
่
ึ
ี
เล่ม 1 เรอง หน่วยของชวิตและชวิตพืช ชั้นมัธยมศกษาปท 1
ี
่
ื
์
ุ
็
ิ
ื
8.5 ห้องสมด และห้องคอมพิวเตอร เพื่อใช้ในการสบค้นข้อมูลจากอนเทอรเนต
์
9. การวัดและประเมินผล
่
ิ
9.1 ส่งทต้องการวัด
ี
ื
่
้
ู
์
-ความรความเข้าใจ เรอง การสังเคราะหด้วยแสง ทักษะการตั้งสมมตฐาน ทักษะการก าหนดและ
ิ
์
ควบคมตัวแปร ทักษะการลงความคดเหนข้อมูล และทักษะการพยากรณ
ิ
ุ
็
ุ
-ทักษะการพูดสรปเรองและพูดรายงาน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ์
ื่
็
่
ิ
ี
ี
ี
-เจตคตทดต่อการเรยน ได้แก่ ความสนใจ ความตั้งใจ และเหนความส าคัญ
-จตวิทยาศาสตร ได้แก่ ความใฝรใฝเรยน ความรอบคอบ มเหตมผล ความอดทน
์
ี
ุ
ี
ิ
้
ู
ี
่
่
ิ
ึ
9.2 วิธการวัด ใช้การซักถาม การท าชดฝกทักษะ และการสังเกตพฤตกรรม
ี
ุ
ื่
ื
9.3 เครองมอวัด
-แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ี
ี
ึ
ี่
-ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 10 (พืชสรางอาหารได้อย่างไร)
ึ
ุ
์
้
ุ
ิ
-แบบประเมนเจตคตและจตวิทยาศาสตร
ิ
์
ิ
-178-
ิ
9.4 เกณฑ์การประเมน
-ตอบถูกให้ 1 คะแนน และตอบผิดให้ 0 คะแนน
-ข้นอยู่กับลักษณะและรปแบบของชดฝกทักษะ (เฉลยและเกณฑ์อยู่ในภาคผนวกแต่ละแผน)
ึ
ู
ุ
ึ
-ให้คะแนนเปนระดับคณภาพ (แบบประเมนและเกณฑ์อยู่ในภาคผนวกท้ายแผน)
ุ
็
ิ
10. กิจกรรมเสนอแนะ
10.1 แหล่งเรียนรู้ควรยืดหยุ่นตามความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
เวลา งบประมาณ และความพรอมของผู้เรยน เปนต้น
ี
็
้
้
ี
่
ี
10.2 ผู้เรยนควรมความพรอมในด้านการพูดและการอ่านเพือจับใจความส าคัญ
ึ
ึ
ี
้
ุ
้
ึ
11.3 ทักษะการเขยนเพือบันทกสรปสาระส าคัญ ควรฝกให้เกิดข้นในตัวผู้เรยนพรอมๆ กับการสราง
ี
่
้
ี
ั
ู
ื
นสัยรกการอ่านและการสบค้นข้อมูลจากแหล่งเรยนรต่างๆ
ิ
(ลงชอ)
ื่
( นายยรรยง ปกปอง )
้
..... / ……… / ……...
้
ึ
ิ
11. ความเหนและขอเสนอแนะของผูบรหารสถานศกษา
็
้
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………...
ื่
(ลงชอ)
( ………………………………….)
ผู้อ านวยการ โรงเรยนบ้านดงเจรญ
ี
ิ
….. / ……….. / ……..
-179-
12. บันทึกหลังสอน
12.1 ผลการสอน
-ด้านพุทธพิสัย …………………………………………………………………………….…
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-ด้านทักษะพิสัย ……………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-ด้านจตพิสัย …………………………………………………………………………………
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
ุ
12.2 ปญหาอปสรรค ………………………………………………………………………………
ั
12.3 แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
ื่
(ลงชอ)
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ……...
-180-
ภาคผนวก
ี
ี
• แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ึ
ี่
• เฉลย / เกณฑ์การให้คะแนนชดฝกท 10
ุ
ี่
• เฉลย / เกณฑ์การให้คะแนนชดฝกท 19
ุ
ึ
-181-
แบบทดสอบก่อนเรยน – หลังเรยน
ี
ี
ี่
แผนท 12
ส ารวจท าสมมติฐาน
ื่
ื่
ี่
จงท าเครองหมาย / หน้าข้อทถูก และท าเครองหมาย X หน้าข้อทผิด
ี่
ื
้
ี่
......... 1. สารทใช้ทดสอบแปง คอสารละลายแอลกอฮอล์
ี
ิ
่
็
ี
้
……. 2. สารละลายไอโอดนจะท าให้แปงเปลยนเปนสน ้าเงนเข้ม
ี
็
ุ
……. 3. แสง เปนวัตถดบทใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
ี่
ิ
็
ิ
้
……. 4. แปง เปนผลตผลทได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
ี่
ี
……. 5. โครงสรางของเซลล์ ทเปนแหล่งสรางอาหารของพืชหรอ
่
ื
้
้
็
ั
ื
เกิดกระบวนการสงเคราะหด้วยแสง คอนวเคลยส
์
ี
ิ
่
……. 6. ส่งทเปนทั้งวัตถดบและผลตผลจากกระบวนการสงเคราะห ์
ี
็
ิ
ุ
ิ
ั
ิ
ด้วยแสงของพืช คอน ้า
ื
ี
่
ื
์
ั
……. 7. แก๊สทได้จากกระบวนการสงเคราะหด้วยแสงของพืช คอ
ออกซเจน
ิ
์
็
ี่
……. 8. คารบอนไดออกไซด์ เปนผลตผลทได้จากกระบวนการ
ิ
สังเคราะห์ด้วยแสง
……. 9. แสง และคลอโรฟลด์ เปนตัวเร่งปฏกิรยาในกระบวนการ
ิ
็
ิ
ิ
สังเคราะห์ด้วยแสง
……. 10. แปงจะให้ผลการทดสอบด้วยสารละลายไอโอดนเหมอนกัน
้
ี
ื
กับเผือก มันและข้าว
-182-
ึ
ชุดฝกที 10.
่
พืชสร้ำงอำหำรได้อย่ำงไร
กิจกรรม
่
1. เด็ดใบชบาด่างทีถูกแสงมาแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง มา 1 ใบ
ี
็
้
่
2. วาดรูปใบไม้นเพื่อแสดงส่วนทีเปนสีขาวและสีเขียว
้
ิ
3. สกัดคลอโรฟลล์ในใบชบาด่างโดยต้มนา 40 cm ในบีกเกอร์
3
่
่
จนเดือด ใส่ใบชบาด่างทีเด็ดตามข้อ 1 ลงไป ต้มตอไปอีก
1 นาที แล้วคีบใบชบาด่างจากบีกเกอร์ ใส่ลงในหลอดทดลอง
3
ขนาดใหญ่ เติมแอลกอฮอล์ลงไป 15 cm (หรือพอท่วมใบ)
่
่
แช่หลอดทดลองในบีกเกอร์ทียังต้มอยู ต้มตอไปอีกประมาณ
่
1-2 นาที จนกระทั่งใบมีสีซีด คีบใบชบาด่างจากหลอดทดลอง
้
จุ่มลงในนาเย็น
้
้
้
4. นาใบชบาด่างขึนจากนาวางในถ้วยกระเบือง หยดสารละลาย
่
้
้
ไอโอดีน 2-3 หยด ลงบนชบาด่าง ทิงไว้ครึงนาที จึงล้างนา
่
้
สังเกตการเปลียนแปลงทีเกิดขึน บันทึกผล
่
้
้
5. รินนาแปง 5 cm ลงในหลอดทดลองขนาดเล็ก หยดสารละลาย
3
้
้
่
ไอโอดีน 2-3 หยด ลงในนาแปง สังเกตการเปลียนแปลง และ
บันทึกผล
้
6. เปรียบเทียบผลทีได้ในข้อ 4 กับสีของนาแปงหลังจากใส่สาร
่
้
ละลายไอโอดีน
-183-
ึ
ตารางบันทกกิจกรรม
่
สิ่งทีนามาทดสอบ ผลการทดสอบด้วยสารละลายไอโอดีน
ี
ี
มสน ้าเงนปนม่วง
ิ
ส่วนสีเขียวของใบชบาด่าง ...........................................................................
่
ี
ไม่เปลยนแปลง
ส่วนสีขาวของใบชบาด่าง ...........................................................................
้
ิ
มสน ้าเงนปนม่วง
ี
ี
นาแปง ...........................................................................
้
• เกณฑ์การให้คะแนน (คะแนนเต็ม 10 คะแนน)
ิ
ิ
-การปฏบัตการทดลอง 5 คะแนน
ี
ึ
ตอบค าถาม -การบันทกผลและเขยนตอบ 5 คะแนน
ื
สเหลองแกมน ้าตาล
ี
1. สารละลายไอโอดีนมีสีอะไร ...........................................................................
สน ้าเงนปนม่วง
ิ
ี
้
้
2. นาแปงทีทดสอบด้วยสารละลายไอโอดีนให้สีอะไร ............................................
่
่
็
3. การทดสอบใบชบาด่างด้วยสารละลายไอโอดีน ตรงบริเวณทีเคยเปนสีเขียว
่
และเคยเปนสีขาวให้ผลเหมือนกันหรือไม่ อย่างไร เหมือนกันหรือตางกัน
็
้
กับการทดสอบแปงอย่างไร
ี
ื
ี
็
ี
ิ
่
ี
ื
ิ
ต่างกัน คอบรเวณทเคยเปนสเขยว จะเปนสน ้าเงนม่วงเหมอนกับการ
็
.......................................................................................................................
่
็
ี
้
่
ทดสอบด้วยแปง ส่วนบรเวณทเคยเปนสขาวจะไม่เปลยนแปลง
ี
ิ
ี
.......................................................................................................................
4. ผลการทดลองสรุปได้ว่าอย่างไร
ี
1. พืชจะสรางอาหารทใบบรเวณทมสเขยว
ี่
ี่
ิ
ี
้
ี
..............................................................................
้
2. แสงเปนตัวช่วยเร่งการสรางอาหาร
็
..............................................................................
ของพื
ช
..............................................................................
3. ผลทได้จากการสรางอาหารของพืช
ี่
้
..............................................................................
้
คอสารอาหารพวกแปง
ื
..............................................................................
-184-
ึ
่
ชุดฝกที 19.
ลงควำมคดเหนและท ำนำยผล
็
ิ
กิจกรรม
้
ก. สังเกตภาพต้นไม้ข้างล่างนี ใช้ทักษะการลงความคิดเห็นข้อมูลมาให้มากทีสุด
่
็
ตัวอยาง เปนต้นไม้ในฤดูแล้ง
่
้
ต้นไม้นีขาดนา
้
อากาศบรเวณน้รอนมาก
ี
้
ิ
1) …………………………………………………
ต้นไม้ถูกไฟไหม้
2) ………………………………………………….
คนบกรกท าลายปา
่
ุ
ุ
3) ………………………………………………….
รากแก้วของต้นไม้ถูกท าลาย
4) ………………………………………………….
่
ี
เปนต้นไม้ทถูกน ้าท่วมมานาน
็
5) ………………………………………………….
เกณฑ์การให้คะแนน
• คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ข. จากภาพนี ใช้ทักษะการพยากรณ ในการท านายผลมาให้มากทีสุด
่
้
์
• ตอบถูกต้องสมบูรณ
์
่
้
ตัวอยาง จะเกิดนาท่วมบริเวณนี ตั้งแต่ 2 ข้อข้นไป
้
ึ
สิ่งมีชีวิตบริเวณนีจะตาย ให้ทักษะละ 5 คะแนน
้
พ้นดินบริเวณนี้จะแตกระแหง
ื
1) ………………………………………………………………………………..
้
ิ
ี
ผู้คนบรเวณน้จะแรนแค้น
2) ………………………………………………………………………………..
ี
ผืนดนบรเวณน้จะท านาไม่ได้
ิ
ิ
3) ………………………………………………………………………………..
ทดนบรเวณน้จะขายไม่ได้
ิ
ิ
่
ี
ี
4) ………………………………………………………………………………..
ิ
ี
ระบบนเวศบรเวณน้จะถูกท าลาย
ิ
5) ………………………………………………………………………………..
-185-
แผนการจดการเรยนรู
ี
้
ั
้
่
ู
ี
ี
ี่
ุ
ี
ี
์
กล่มสาระการเรยนร วิทยาศาสตร ชั้นมัธยมศกษาปท 1 ภาคเรยนท 1
ึ
ี
ี
ี
ี
ื่
่
ู
้
หน่วยการเรยนรท 1 เรอง หน่วยของชวิตและชวิตพืช เวลา 30 ชั่วโมง
ื่
ี่
ี
ู
้
แผนการจัดการเรยนรท 13 เรอง ปจจัยนนมีมากมาย เวลา 1 ชั่วโมง
้
ั
ั
ื่
้
ื
สอนวันท ……. เดอน ………………..… พ.ศ. ............... ชอผู้สอน นายยรรยง ปกปอง
ี่
1. สาระสาคัญ
1.1 พืชชั้นสงสามารถสรางอาหารเองได้ ด้วยกระบวนการสังเคราะหด้วยแสง โดยใช้ปจจัยต่างๆ คอ น ้า
ื
้
ู
์
ั
์
และแก๊สคารบอนไดออกไซด์
ึ
่
ึ
่
์
ี
1.2 กระบวนการสังเคราะหด้วยแสง เกิดข้นทเม็ดคลอโรพลาสต์ ซงเปนโครงสรางภายในของเซลล์พืช
็
้
ู
ี
ิ
โดยมตัวเร่งปฏกิรยาคอแสงและคลอโรฟลด์ และได้ผลตผลจากกระบวนการน้คอแก๊สออกซเจนและกลโคส
ิ
ิ
ี
ิ
ื
ิ
ื
้
ี
2. มาตรฐานการเรยนรู ว 1.1 : เข้าใจหน่วยพื้นฐานของส่งมชวิต ความสัมพันธของโครงสรางและหน้าท ่ ี
้
ิ
์
ี
ี
่
์
ื
้
ู
ื
่
ี
ี
้
ู
ิ
ี
ี
ี
่
ของระบบต่าง ๆ ของส่งมชวิต ทท างานสัมพันธกัน มกระบวนการสบเสาะหาความร สอสารส่งทเรยนร
ิ
ี
้
ี
ี
ี
ู
ิ
น าความรไปใช้ในการด ารงชวิตของตนเองและดแลส่งมชวิต
ู
้
ี
3. ตัวชวัด
็
์
ิ
ั
ื
่
ี
3.6 ทดลอง สบค้นข้อมูล และอธบายปจจัยบางประการ ทจ าเปนในการสังเคราะห ด้วยแสง ได้แก่ แสง
์
ี่
์
คลอโรฟลด์ คารบอนไดออกไซด์ และผลทได้จากการสังเคราะหด้วยแสง
ิ
4. ภาระงาน / ชนงาน
้
ิ
ี่
4.1 ผลงานทผู้เรยนท าในชดฝกท 12 (ความเข้าใจเกียวกับการสังเคราะหด้วยแสง)
ึ
ุ
่
ี่
์
ี
ี
ี
4.2 คะแนนการทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ิ
4.3 บันทกเจตคตและจตวิทยาศาสตรของผู้เรยน
ึ
ี
์
ิ
5. จุดประสงคการเรยนรู (จดประสงค์น าทาง)
์
้
ี
ุ
์
ิ
5.1 อธบายกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงของพืชได้
-186-
์
ั
ี่
็
ิ
5.2 อธบายปจจัยบางประการทจ าเปนในกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงได้
ิ
ิ
์
ุ
5.3 บอกวัตถดบและผลตผลของกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงได้
ี
5.4 เขยนสมการของกระบวนการสังเคราะห ด้วยแสงได้
์
์
ี
ี
ุ
ี
5.5 มความรอบคอบ อดทน มเหตมผลในการท ากิจกรรมทางวิทยาศาสตร
ู
ี
5.6 ร่วมกิจกรรมด้วยความสนใจ เหนความส าคัญ และเรยนรอย่างมความสข
ี
ุ
้
็
ี
6. สาระการเรยนรู ้
์
6.1 กระบวนการสังเคราะหด้วยแสงของพืช
ื่
ุ
6.2 ทักษะการพูดสรปเรอง
ื่
6.3 ทักษะการจัดกระท าและสอความหมายข้อมูล
6.4 ทักษะการสบค้นข้อมูล
ื
ี
7. กระบวนการจดการเรยนรู ้
ั
้
7.1 ขั้นสรางความสนใจ (engagement)
้
ี
ู
่
ี
1. ผู้เรยนท าแบบทดสอบก่อนเรยน เพือตรวจสอบและทบทวนความรพื้นฐาน (แบบถูกผิด 10 ข้อ)
้
ู
์
ื
ึ
ี
ุ
2. ผู้เรยนและครร่วมกันรองเพลง “กระบวนการสังเคราะหด้วยแสง” จากเน้อเพลงในชดฝกทักษะ
์
วิทยาศาสตร ชดฝกท 12 (ความเข้าใจเกียวกับการสังเคราะหด้วยแสง) โดยรองเพลงปรบมอเปนจังหวะ
ุ
ื
่
็
์
ี่
ึ
้
ิ
็
ุ
ี
่
เดนเปนวงกลม และเมอได้ยินสัญญาณ ให้ผู้เรยนรบจับกล่มกับเพือนๆ ตามจ านวนทครบอก
ู
ี
่
ี
่
ื
ู
้
ึ
์
ื
ิ
3. ฝกคดวิเคราะหจากเน้อเพลง โดยใช้การซักถามความรความเข้าใจ เช่น
ึ
ั
้
่
• การสงเคราะหด้วยแสงเกิดข้นทโครงสรางใดภายในเซลล์ (คลอโรพลาสต์)
์
ี
์
ั
่
่
ี
ึ
ื
ี
• เพลงน้กล่าวถงเรองใดบ้าง นอกจากแหล่งทเกิดกระบวนการสงเคราะหด้วยแสง
์
ิ
ั
ุ
(วัตถดบ ผลตผล และตัวเร่งปฏกิรยาในกระบวนการสงเคราะหด้วยแสง)
ิ
ิ
ิ
ี
่
• อะไรบ้างทเปนวัตถดบในกระบวนการน้ (น ้า และคารบอนไดออกไซด์)
ุ
ิ
ี
็
์
ื
ี
• ตัวเร่งปฏกิรยาของกระบวนการน้คออะไร (แสง และคลอโรฟลด์)
ิ
ิ
ิ
• ผลตผลของกระบวนการน้ คออะไรบ้าง (น ้า กลโคส และออกซเจน)
ู
ี
ิ
ิ
ื
-187-
7.2 ขั้นส ารวจและค้นหา (exploration)
่
ี่
ึ
4. ผู้เรยนแต่ละคนท าชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 12 (ความเข้าใจเกียวกับ
ุ
ุ
ึ
์
ี
์
การสังเคราะหด้วยแสง)
ู
ึ
่
ื
ี
้
5. ผู้เรยนแต่ละคนศกษาเน้อหา ในใบความรท 14 (กระบวนการสังเคราะหด้วยแสง) แล้วซักถาม
ี
์
ิ
ี
ื
อภปรายและตอบค าถามจากเรองทศกษา ดังน้
ึ
ี
่
่
้
่
ื
่
-กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง จะเกิดขึนทีใบเนองจากมีโครงสร้างใด
ของเซลล์มาก (คลอโรพลาสต์)
่
-แสงสีใดทีพืชดูดนาไปใช้ในกระบวนการนได้ดีทีสุด (แสงสีนาเงิน)
่
้
้
ี
้
-นามีสูตรทางเคมีอย่างไร (H O)
2
ุ
-สารใดทีเปนทั้งวัตถดิบและผลิตผลของกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (นา)
่
็
้
้
่
็
-กลูโคสเปนผลิตผลทีได้ครั้งแรก และจะถูกเปลียนไปเปนอะไร (แปง)
่
็
่
6. อภปรายซักถามเกียวกับทักษะการจัดกระท าและสอความหมายข้อมูล และสรปเกียวกับรปแบบ
ื
่
่
ิ
ุ
ู
ในการน าเสนอข้อมูล เช่น ท าเป็นตาราง แผนภูมิ กราฟ และสมการ
7. ครเขยนสมการของกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงบนกระดานด า ซักถามเกียวกับสตรเคม ี
่
ี
์
ู
ู
ี
ี
ุ
ิ
่
ต่างๆ ผลตผล และวัตถดบทใช้ในกระบวนการน้
ิ
7.3 ขั้นอธบายและลงข้อสรป (explanation)
ิ
ุ
ุ
ี
ึ
ิ
ุ
8. ผู้เรยนและครร่วมกันสรปโดยการฝกอ่านค าศัพท์และอธบายความหมายจากบัตรค า หรอสรป
ู
ื
็
้
่
ึ
ุ
ความรจากสไลด์ในโปรแกรม Power Point เพือเราความสนใจ ท าให้การสรปรวดเรวและชัดเจนมากข้น
้
ู
ู
้
7.4 ขั้นขยายความร (elaboration)
ุ
ั
ี
ู
่
9. ครแนะน าการน าเสนอข้อมูล การพูดรายงานของผู้เรยน เพือการปรบปรงในคราวต่อไป
ึ
ี
้
ิ
ื
10. ครให้ความรเพิ่มเตม เรอง กระบวนการสังเคราะหด้วยแสง และแนะน าให้ผู้เรยนไปศกษาและ
ู
ู
์
่
็
สบค้นข้อมูลเพิ่มเตม จากห้องสมดและอนเทอรเนต
ื
ิ
ุ
ิ
์
-188-
ิ
7.5 ขั้นประเมน (evaluation)
ี
11. ผู้เรยนท าแบบทดสอบหลังเรยน เพื่อตรวจสอบพัฒนาการของตนเอง (แบบถกผิด 10 ข้อ)
ู
ี
ี
12. ประเมนผลงานการท าชดฝกทักษะของผู้เรยน
ึ
ุ
ิ
ื
13. ประเมนผลพฤตกรรมด้านอนๆ โดยการสังเกต สัมภาษณทั้งในห้องเรยน และนอกห้องเรยน
ี
ิ
่
ี
ิ
์
ี
8. สอและแหลงเรยนรู
่
้
ื
่
ื
์
ี
ุ
ึ
่
8.1 บัตรค ายากหรอค าส าคัญ เพือใช้ฝกอ่านและสรปบทเรยน ได้แก่ค าว่า การสังเคราะหด้วยแสง
คลอโรพลาสต์ คลอโรฟลด์ ออกซเจน คารบอนไดออกไซด์
์
ิ
ิ
ุ
ื่
์
้
ู
8.2 สไลด์สรปความร เรองกระบวนการสังเคราะหด้วยแสง ในโปรแกรม Power Point
8.3 แผนภูมสมการกระบวนการสังเคราะหด้วยแสง
ิ
์
ึ
์
์
ิ
8.4 ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร (ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและความสามารถในการคดวิเคราะห)
ุ
์
เล่ม 1 เรอง หน่วยของชวิตและชวิตพืช ชั้นมัธยมศกษาปท 1
ื
่
ี
่
ี
ึ
ี
ี
์
ื
ิ
8.5 ห้องสมด และห้องคอมพิวเตอร เพื่อใช้ในการสบค้นข้อมูลจากอนเทอรเนต
็
์
ุ
9. การวัดและประเมินผล
9.1 ส่งทต้องการวัด
ี
่
ิ
-ความรความเข้าใจ เรอง กระบวนการสังเคราะหด้วยแสง
้
ู
์
ื่
ุ
-ทักษะการพูดสรปเรองและพูดรายงาน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ์
ื่
-เจตคตทดต่อการเรยน ได้แก่ ความสนใจ ความตั้งใจ และเหนความส าคัญ
ี
่
ี
ิ
ี
็
์
่
ี
ิ
ู
ี
ี
ุ
้
-จตวิทยาศาสตร ได้แก่ ความใฝรใฝเรยน ความรอบคอบ มเหตมผล ความอดทน
่
ี
9.2 วิธการวัด ใช้การซักถาม การท าชดฝกทักษะ และการสังเกตพฤตกรรม
ึ
ุ
ิ
9.3 เครองมอวัด
ื่
ื
ี
-แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ี
์
ุ
ี่
-ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 12 (ความเข้าใจเกียวกับการสังเคราะห์ด้วยแสง)
่
ุ
ึ
ึ
ิ
-แบบประเมนเจตคตและจตวิทยาศาสตร
ิ
ิ
์
ิ
9.4 เกณฑ์การประเมน
-ตอบถูกให้ 1 คะแนน และตอบผิดให้ 0 คะแนน
ึ
ุ
ึ
ู
-ข้นอยู่กับลักษณะและรปแบบของชดฝกทักษะ (เฉลยและเกณฑ์อยู่ในภาคผนวกแต่ละแผน)
็
-ให้คะแนนเปนระดับคณภาพ (แบบประเมนและเกณฑ์อยู่ภาคผนวกท้ายแผน)
ุ
ิ
-189-
10. กิจกรรมเสนอแนะ
้
10.1 แหล่งเรยนรควรยืดหยุ่นตามความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อมทางธรรมชาต ิ
ี
ู
็
เวลา งบประมาณ และความพรอมของผู้เรยน เปนต้น
ี
้
ี
่
้
ี
10.2 ผู้เรยนควรมความพรอมในด้านการพูดและการอ่านเพือจับใจความส าคัญ
ุ
11.3 ทักษะการเขยนเพือบันทกสรปสาระส าคัญ ควรฝกให้เกิดข้นในตัวผู้เรยนพรอมๆ กับการสราง
ี
ึ
ึ
้
่
้
ึ
ี
นสัยรกการอ่านและการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ
ิ
ั
ื่
(ลงชอ)
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ………
ึ
็
11. ความเหนและขอเสนอแนะของผูบรหารสถานศกษา
้
้
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………...
ื่
(ลงชอ)
( ………………………………….)
ี
ผู้อ านวยการ โรงเรยนบ้านดงเจรญ
ิ
….. / ……….. / ……..
12. บันทึกหลังสอน
12.1 ผลการสอน
-ด้านพุทธพิสัย …………………………………………………………………………….…
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-190-
-ด้านทักษะพิสัย ……………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-ด้านจตพิสัย …………………………………………………………………………………
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
ุ
ั
12.2 ปญหาอปสรรค ………………………………………………………………………………
12.3 แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
ื่
(ลงชอ)
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ………
-191-
ภาคผนวก
ี
ี
• แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ุ
ี่
• เฉลย / เกณฑ์การให้คะแนนชดฝกท 12
ึ
์
ั
(ความเข้าใจเกียวกับการสงเคราะหด้วยแสง)
่
• ใบความรท 14 (กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง)
ู
ี่
้
-192-
แบบทดสอบก่อนเรยน – หลังเรยน
ี
ี
แผนท 13
ี่
ั
ปจจัยนั้นมีมากมาย
ื่
ี่
ื่
ี่
จงท าเครองหมาย / หน้าข้อทถูก และท าเครองหมาย X หน้าข้อทผิด
ึ
่
ั
์
ี
ี
ิ
......... 1. การสงเคราะหด้วยแสงเกิดข้นทนวเคลยสของเซลล์พืช
……. 2. เวลากลางวันอัตราการสงเคราะหด้วยแสงของพืชจะมากกว่า
์
ั
อัตราการหายใจของพืช
์
ื
……. 3. เวลากลางคน พืชจะคายแก๊สคารบอนไดออกไซด์จาก
กระบวนการหายใจ ออกมาส่ส่งแวดล้อม
ิ
ู
……. 4. การสงเคราะหด้วยแสงจะเกิดข้นในททมแสง แต่การหายใจ
ึ
ั
์
่
ี
ี
ี
่
ึ
จะเกิดข้นตลอดเวลา
ิ
……. 5. น ้าตาลกลโคส เปนวัตถดบทใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง
ี่
็
ู
ุ
ื
์
ี
……. 6. คารบอนไดออกไซด์ มสตรคอ CO 2
ู
ึ
ิ
็
……. 7. H O หมายถงน ้า เปนทั้งวัตถดบและผลตผลของกระบวนการ
ุ
ิ
2
สังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
ึ
……. 8. C H O หมายถง น ้าตาลกลโคส
ู
6 12 6
่
์
……. 9. น ้าและคารบอนไดออกไซด์ทได้จากการสงเคราะหด้วยแสง
์
ั
ี
พืชจะคายออกทางปากใบ
ึ
์
ิ
……. 10. ออกซเจน ทเกิดข้นจากกระบวนการสงเคราะหด้วยแสง
ั
ี
่
ก็จะถกน าไปใช้ในกระบวนการหายใจ
ู
-193-
่
ึ
ชุดฝกที 12.
ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับกำรสังเครำะห์ด้วยแสง
กิจกรรม
ร้องเพลง “ การสังเคราะห์ด้วยแสง ”
การสังเคราะห์ด้วยแสง ของพืชขอแจ้งเกิดทีคลอโรพลาสต์
่
้
จ าไว้ให้ชัดใช้วัตถดิบคือนานั่นหนา อีกคาร์บอนไดออกไซด์
ุ
ิ
ก็ใช้มาสร้างอาหาร มีตัวเร่งปฏิกิริยาคือแสง คลอโรฟลด์
็
ได้ผลผลิตเปนนาทั้งสิน กลูโคส ออกซิเจนเกิดขึนทีใบ ( ซ ้า )
่
้
้
้
ตอบค าถาม
้ คลอโรพลาสต์
่
1. กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชเกิดขึนที ............................ ซึงอยู ่
่
ภายในเซลล์ของพืช
น ้า
2. วัตถดิบทีใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง คือ ...............................
่
ุ
คารบอนไดออกไซด์
์
และ .....................................................
น ้า
่
3. ผลิตผลทีได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง คือ .............................
เกณฑ์การให้คะแนน
ออกซเจน
ิ
กลูโคส
...................................... และ ........................................
• คะแนนเต็ม 5 คะแนน 4. สิ่งทีจัดเปนตัวเร่งปฏิกิริยาในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
็
่
• ตอบถูกต้องสมบูรณ คือ ..................................... และ .....................................
์
คลอโรฟลด์
แสง
ิ
ให้ข้อละ 1 คะแนน 5. เราสามารถอธิบายกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง โดยนามาเขียน
้
ี
็
เปนแผนภาพได้ดังน
แสง
ิ
ออกซเจน
์
นา + คารบอนไดออกไซด์ นา + + กลูโคส
้
้
ิ
คลอโรฟลด์
-194-
ใบควำมรูที่ 14.
้
ั
้
์
กระบวนการสงเคราะหดวยแสง
่
่
ี
พืชทเราพบเหนอยู่ทั่ว ๆ ไป เปนพืชทมสเขยวสามารถสรางอาหารเพือการ
ี
ี
้
็
ี
ี
็
่
ี
ี
ิ
ิ
้
เจรญเตบโตเองได้ การสรางอาหารของพืชน้ เรยกว่า กระบวนการสังเคราะห ์
ิ
ด้วยแสง (Photosynthesis) ส่วนใหญ่เกิดข้นทบรเวณใบของพืช กระบวนการ
ึ
ี
่
สังเคราะหด้วยแสงของพืช จะเกิดข้นได้ต้องอาศัยปจจัยต่าง ๆ ดังน้ ี
์
ั
ึ
ี
็
1. คลอโรฟลล (Phlorophyll) เปนสารสเขยวทอยู่ภายในเม็ดคลอโรพลาสต์
่
ี
ี
ิ
์
ซงเม็ดคลอโรพลาสต์น้จะอยู่ในไซโทพลาสซม คลอโรฟลล์จะท าหน้าทดด
ี
ี
ึ
ึ
่
ี
่
ู
ิ
พลังงานแสงจากดวงอาทตย์มาท าให้น ้า และแก๊สคารบอนไดออกไซด์เกิด
์
ิ
ปฏกิริยาเคมี ได้น ้าตาลกลูโคส น ้า และออกซิเจน
็
ิ
2. แสง (Light) เปนพลังงานทได้จากดวงอาทตย์เปนส่วนใหญ่ ถ้าแสงจาก
็
่
ี
่
ื
ดวงอาทตย์ไม่เพียงพอ พืชอาจใช้แสงจากแหล่งก าเนดแสงอน ๆ เช่น ดวงไฟ
ิ
ิ
ิ
ช่วยในกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงได้ เช่น แสงสแดง แสงสน ้าเงน และ
์
ี
ี
์
ี
ี
ิ
พบว่า แสงสน ้าเงนช่วยในการสังเคราะหด้วยแสงได้ดกว่าแสงสอน ๆ
่
ื
ี
ิ
ื
3. น้า (Water) มสตรทางเคม คอ H O เปนวัตถดบทพืชใช้ในการสราง
้
ุ
็
ี
ี่
ี
ู
2
ี
่
ู
่
อาหาร ส่วนใหญ่อาศัยรากในการดดน ้าข้นมาใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ทเกียว
ึ
ี
ข้องกับการด ารงชวิต
้
4. แกสคารบอนไดออกไซด (CO ) เปนวัตถดบทพืชใช้ในการสรางอาหาร
ุ
ิ
็
ี่
์
์
๊
2
์
แก๊สคารบอนไดออกไซด์อยู่ในอากาศรอบ ๆ ตัวเรา เกิดจากการเผาไหม้ของ
ี
ั
ิ
สารอนทรย์ เช้อเพลงรวมทั้งการหายใจของส่งมชวิต พืชได้รบแก๊ส
ี
ิ
ี
ิ
ื
่
์
คารบอนไดออกไซด์ทางปากใบมากทสด คารบอนไดออกไซด์ เปนแก๊สท ี ่
ี
์
ุ
็
ั
็
ึ
์
ละลายน ้าได้ จงเปนประโยชนส าหรบการสังเคราะหด้วยแสดงของพืชน ้า
์
-195-
์
ปฏิกิรยาเคมีที่เกิดขึ้นในกระบวนการสงเคราะหดวยแสง
ั
้
ิ
์
กระบวนการสงเคราะหด้วยแสงของพืชสามารถเขยนเปนปฏกิริยาทางเคมี
ิ
ั
ี
็
ได้ดังน้ ี
แสง
์
ก๊าซคารบอนไดออกไซด์ + น ้า น ้าตาล + น ้า + ก๊าซออกซเจน
ิ
คลอโรฟลล์
ิ
ี
เมอพิจารณาสมการเคมข้างต้นนักเรยนจะเหนว่า กระบวนการสงเคราะหด้วยแสง
็
่
ี
ื
ั
์
ี
ิ
น้เปนกระบวนการเปลยนรปพลังงานแสงไปเปนพลังงานเคม สะสมอยู่ในผลตภัณฑ์
ี
็
็
ู
่
ี
่
ี่
ึ
ู
ู
ซงได้แก่ น ้าตาลกลโคส น ้า และแก๊สออกซเจน น ้าตาลกลโคส ( C H O ) ท
ิ
6 12 6
ี
ื่
ี
สังเคราะห์ได้จะถูกเปลยนไปเปนแปงทันทและสะสมไว้ทเซลล์สเขยว เมอพืชต้องการ
ี
็
้
ี่
ี่
็
ี
้
ู
ู
ี
ี
่
ู
ี
ั
น าไปใช้ แปงน้จะถกเปลยนไปเปนน ้าตาลกลโคสอกคร้ง เพือล าเลยงไปส่ส่วนต่าง ๆ
่
ของพืช ส่วนน ้าและแก๊สออกซเจนจะถกพืชคายออกมาทางปากใบ
ู
ิ
-196-
แผนการจดการเรยนรู
ั
ี
้
กล่มสาระการเรยนร วิทยาศาสตร ชั้นมัธยมศกษาปท 1 ภาคเรยนท 1
ี
่
ี
์
้
ี่
ึ
ู
ี
ี
ุ
ี
ื่
ี
่
ี
ี
หน่วยการเรยนรท 1 เรอง หน่วยของชวิตและชวิตพืช เวลา 30 ชั่วโมง
ู
้
้
ี
ู
ื่
ี่
แผนการจัดการเรยนรท 14 เรอง ทดลองไดเพื่อตรวจสอบ เวลา 2 ชั่วโมง
้
ื
ื่
สอนวันท ……. เดอน ………………..… พ.ศ. ............... ชอผู้สอน นายยรรยง ปกปอง
ี่
้
1. สาระสาคัญ
ื
ั
์
้
1.1 พืชชั้นสงสามารถสรางอาหารเองได้ ด้วยกระบวนการสังเคราะหด้วยแสง โดยใช้ปจจัยต่างๆ คอ น ้า
ู
์
และแก๊สคารบอนไดออกไซด์
ี
่
ึ
์
ึ
่
้
็
1.2 กระบวนการสังเคราะหด้วยแสง เกิดข้นทเม็ดคลอโรพลาสต์ ซงเปนโครงสรางภายในของเซลล์พืช
ี
โดยมตัวเร่งปฏิกิริยาคือแสงและคลอโรฟิลด์ และได้ผลิตผลจากกระบวนการนี้คือแก๊สออกซิเจนและกลูโคส
้
ี
์
ี
้
ิ
2. มาตรฐานการเรยนรู ว 1.1 : เข้าใจหน่วยพื้นฐานของส่งมชวิต ความสัมพันธของโครงสรางและหน้าท ี ่
ี
้
ู
ื
์
ี
ี
่
ิ
่
ี
้
ู
ี
ี
ี
่
ื
ิ
ของระบบต่าง ๆ ของส่งมชวิต ทท างานสัมพันธกัน มกระบวนการสบเสาะหาความร สอสารส่งทเรยนร
ู
้
ู
ี
น าความรไปใช้ในการด ารงชวิตของตนเองและดแลส่งมชวิต
ิ
ี
ี
้
ี
3. ตัวชวัด
่
ี
็
3.6 ทดลอง สบค้นข้อมูล และอธบายปจจัยบางประการ ทจ าเปนในการสังเคราะห ด้วยแสง ได้แก่ แสง
ิ
์
ื
ั
ี่
ิ
คลอโรฟลด์ คารบอนไดออกไซด์ และผลทได้จากการสังเคราะหด้วยแสง
์
์
ิ
้
4. ภาระงาน / ชนงาน
ี่
ั
์
ี
4.1 ผลงานทผู้เรยนท าในชดฝกท 11 (ปจจัยใดบ้างทใช้ในการสังเคราะหด้วยแสง) และ ชดฝกท 17
ุ
ี่
ี่
ุ
ี่
ึ
ึ
ื่
ิ
(อธบายสอความหมาย)
4.2 คะแนนการทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ี
ี
ิ
์
ึ
ิ
ี
4.3 บันทกเจตคตและจตวิทยาศาสตรของผู้เรยน
ุ
ี
5. จุดประสงคการเรยนรู (จดประสงค์น าทาง)
์
้
่
ี
ั
่
5.1 อธบายปจจัยทเกียวข้องกับการสังเคราะหด้วยแสงของพืชได้
์
ิ
-197-
ุ
5.2 บอกวัตถดบและผลตผลของกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงได้
ิ
ิ
์
ี
์
5.3 เขยนสมการของกระบวนการสังเคราะห ด้วยแสงได้
์
5.4 ออกแบบและท าการทดลองเกียวกับกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงได้
่
ิ
ิ
่
ิ
ิ
์
5.5 ก าหนดนยามเชงปฏบัตการในการทดลองเกียวกับการสังเคราะหด้วยแสงได้
ุ
5.6 สรปผลการทดลองเกียวกับกระบวนการสังเคราะหด้วยแสงได้
่
์
ุ
ี
์
5.7 มความรอบคอบ อดทน มเหตมผลในการท ากิจกรรมทางวิทยาศาสตร
ี
ี
5.8 ร่วมกิจกรรมด้วยความสนใจ เหนความส าคัญ และเรยนรอย่างมความสข
้
ู
ุ
ี
ี
็
6. สาระการเรยนรู ้
ี
์
6.1 กระบวนการสังเคราะหด้วยแสงของพืช
ื่
6.2 ทักษะการจัดกระท าและสอความหมายข้อมูล
6.3 ทักษะการทดลอง และทักษะการก าหนดนยามเชงปฏบัตการ
ิ
ิ
ิ
ิ
ั
ี
7. กระบวนการจดการเรยนรู ้
้
7.1 ขั้นสรางความสนใจ (engagement)
ี
ู
ี
1. ผู้เรยนท าแบบทดสอบก่อนเรยน เพือตรวจสอบและทบทวนความรพื้นฐาน (แบบถูกผิด 10 ข้อ)
่
้
ี่
2. ผู้เรยนดและสังเกตภาพเคลอนไหว (Animation) ซงเปนภาพระบบนเวศ ทครน าเสนอโดยใช้
ู
ื่
ู
็
ี
ึ
ิ
่
่
ึ
์
ู
คอมพิวเตอรและโทรทัศน์ ซักถาม และอภปราย เพือฝกทักษะการสังเกต และน าไปส่ทักษะการก าหนด
ิ
ิ
ี
ิ
ิ
นยามเชงปฏบัตการ ดังน้
ิ
ี
- นักเรยนเหนอะไรในภาพ (นก ต้นไม้ ปลา ฯลฯ)
็
ี
ิ
ี
็
- อะไรบ้างทเปนส่งมชวิต (นก ต้นไม้ ปลา)
่
ี
ี
ี
็
- เราทราบได้อย่างไรว่าเปนส่งมชวิต
ิ
ี
(มการเจรญเตบโต)
ิ
ิ
ิ
็
ิ
ู
ครแนะน าผู้เรยนว่าค าว่า “การเจรญเตบโต” เปนค า
ี
่
ี
็
ทไม่ชัดเจน เปนนามธรรม ในการทดลองเราต้องให้
ิ
ื
ค าอธบายให้ชัดเจน สามารถตรวจสอบหรอวัดได้
ิ
ิ
ิ
ิ
ื
็
ซงถอว่า เปนทักษะการก าหนดนยามเชงปฏบัตการ
่
ึ
-198-
7.2 ขั้นส ารวจและค้นหา (exploration)
ิ
ี
ิ
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
3. ยกตัวอย่างการนยามทั่วๆ ไป กับการนยามเชงปฏบัต แล้วให้ผู้เรยนฝกคดและเขยนนยาม
ิ
ึ
ิ
ิ
ิ
เชงปฏบัตการ ประมาณ 4-5 นยาม เช่น
ิ
นยามทั่วๆ ไป : การเจรญเตบโตของพืช คอความสมบูรณของพืช
ิ
ิ
์
ื
ิ
ิ
ื
ิ
ิ
์
ิ
ิ
ิ
นยามเชงปฏบัตการ : การเจรญเตบโตของพืช คอ ความสมบูรณของพืช
ทวัดได้จากจ านวนใบ ขนาดและความสงของล าต้น
ี่
ู
ิ
ิ
่
ิ
ี
ี
ิ
นยามเชงปฏบัตการ : น ้าสะอาด คอ น ้าทต้มแล้ว ไม่มส ไม่มรส ไม่มกล่น
ื
ิ
ี
ี
ี
ึ
ึ
ุ
ุ
ึ
4. ผู้เรยนแต่ละกล่มศกษากิจกรรมในชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 11 (ปจจัยใดบ้าง
ั
ี่
์
ี
ุ
ิ
์
ี่
ิ
ทใช้ในการสังเคราะหด้วยแสง) ออกแบบและวางแผนการทดลอง ปฏบัตการทดลองตามขั้นตอน
ี
ึ
ุ
บันทกผลและตอบค าถาม เพือเตรยมน าเสนอผลงานกล่มต่อไป
่
7.3 ขั้นอธบายและลงข้อสรป (explanation)
ิ
ุ
ิ
ุ
ุ
5. ส่มตัวแทนกล่มออกมาน าเสนอผลการปฏบัตการทดลอง ตามชดฝกท 11 โดยใช้วัสดอปกรณ ์
ิ
่
ุ
ี
ุ
ึ
ุ
ช่วยในการน าเสนอ เช่น แผ่นใส และเครองฉายภาพข้ามศรษะ
ื
่
ี
ิ
ุ
ู
6. ผู้เรยนและครร่วมกันสรปโดยการฝกอ่านค าศัพท์และอธบายความหมายจากบัตรค า หรอสรป
ุ
ื
ึ
ี
ความรจากสไลด์ในโปรแกรม Power Point เพือเราความสนใจ ท าให้การสรปรวดเรวและชัดเจนข้น
็
้
ู
่
้
ึ
ุ
้
7.4 ขั้นขยายความร (elaboration)
ู
ื
ุ
่
ึ
ื
7. ผู้เรยนแต่ละคนทบทวนความรเรองทักษะการจัดกระท าและสอความหมายข้อมูล โดยท าชดฝก
่
ู
้
ี
ี่
์
ุ
ึ
ิ
ื่
ทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 17 (อธบายสอความหมาย)
ุ
ู
8. ครแนะน าการน าเสนอข้อมูล การพูดรายงานของผู้เรยน เพือการปรบปรงในคราวต่อไป
ั
่
ี
ิ
ิ
9. ครให้ความรเพิ่มเตม เรอง การสังเคราะหด้วยแสง ทักษะการก าหนดนยามเชงปฏบัตการ
ิ
ู
ิ
้
ื
์
่
ู
ิ
ึ
ุ
ี
ทักษะการจัดกระท าและสอความหมายข้อมูล และแนะน าให้ผู้เรยนไปศกษาข้อมูลเพิ่มเตมจากห้องสมด
ื
่
ิ
์
หรออนเทอรเนต
็
ิ
ื
-199-
7.5 ขั้นประเมน (evaluation)
ิ
ี
10. ผู้เรยนท าแบบทดสอบหลังเรยน เพื่อตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรยน (แบบถูกผิด 10 ข้อ)
ี
ี
ิ
11. ประเมนผลงานการท าชดฝกทักษะของผู้เรยน
ี
ึ
ุ
12. ประเมนผลพฤตกรรมด้านอนๆ โดยการสังเกต สัมภาษณทั้งในห้องเรยน และนอกห้องเรยน
ื
ิ
่
์
ี
ี
ิ
้
8. สอและแหลงเรยนรู
ี
ื
่
่
ุ
8.1 บัตรค ายากหรอค าส าคัญ เพือใช้ฝกอ่านและสรปบทเรยน ได้แก่ค าว่า การสังเคราะหด้วยแสง ทักษะ
่
์
ี
ึ
ื
การก าหนดและควบคมตัวแปร ทักษะการจัดกระท าและสอความหมายข้อมูล
ื
่
ุ
ื
8.2 แผ่นใสและเครองฉายภาพข้ามศรษะ (Over Head)
่
ี
ื่
8.3 ภาพเคลอนไหว (Animation) ของระบบนเวศ หรอส่งมชวิต
ื
ี
ี
ิ
ิ
์
์
ึ
ิ
์
8.4 ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร (ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรและความสามารถในการคดวิเคราะห)
ุ
ี
ี
ึ
ี
ี
่
ื
่
เล่ม 1 เรอง หน่วยของชวิตและชวิตพืช ชั้นมัธยมศกษาปท 1
ิ
ุ
8.5 ห้องสมด และห้องคอมพิวเตอร เพื่อใช้ในการสบค้นข้อมูลจากอนเทอรเนต
์
ื
็
์
9. การวัดและประเมินผล
ิ
9.1 ส่งทต้องการวัด
ี
่
ู
์
ิ
ิ
-ความรความเข้าใจ เรอง การสังเคราะหด้วยแสง ทักษะการก าหนดนยามเชงปฏบัตการ ทักษะการ
ิ
ิ
้
่
ื
จัดกระท าและสอความหมายข้อมูล
ื่
ื่
ุ
-ทักษะการพูดสรปเรองและพูดรายงาน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ์
่
ี
-เจตคตทดต่อการเรยน ได้แก่ ความสนใจ ความตั้งใจ และเหนความส าคัญ
็
ิ
ี
ี
-จตวิทยาศาสตร ได้แก่ ความใฝ่รู้ใฝ่เรียน ความรอบคอบ มีเหตุมีผล ความอดทน
ิ
์
9.2 วิธการวัด ใช้การซักถาม การท าชดฝกทักษะ และการสังเกตพฤตกรรม
ุ
ิ
ึ
ี
ื่
ื
9.3 เครองมอวัด
-แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ี
ี
ี่
ึ
ุ
ึ
ี่
ึ
์
ุ
ุ
-ชดฝกทักษะวิทยาศาสตร เล่ม 1 ชดฝกท 11 และชดฝกท 17
-แบบประเมนเจตคตและจตวิทยาศาสตร
ิ
ิ
ิ
์
ิ
9.4 เกณฑ์การประเมน
-ตอบถกให้ 1 คะแนน และตอบผิดให้ 0 คะแนน
ู
ู
-ข้นอยู่กับลักษณะและรปแบบของชดฝกทักษะ (เฉลยและเกณฑ์อยู่ในภาคผนวกแต่ละแผน)
ุ
ึ
ึ
็
-ให้คะแนนเปนระดับคณภาพ (แบบประเมนและเกณฑ์อยู่ภาคผนวกท้ายแผน)
ิ
ุ
-200-
10. กิจกรรมเสนอแนะ
้
10.1 แหล่งเรยนรควรยืดหยุ่นตามความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อมทางธรรมชาต ิ
ี
ู
็
เวลา งบประมาณ และความพรอมของผู้เรยน เปนต้น
ี
้
ี
่
้
ี
10.2 ผู้เรยนควรมความพรอมในด้านการพูดและการอ่านเพือจับใจความส าคัญ
ุ
11.3 ทักษะการเขยนเพือบันทกสรปสาระส าคัญ ควรฝกให้เกิดข้นในตัวผู้เรยนพรอมๆ กับการสราง
ี
ึ
ึ
้
่
้
ึ
ี
นสัยรกการอ่านและการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ
ิ
ั
ื่
(ลงชอ)
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ……..
ึ
็
11. ความเหนและขอเสนอแนะของผูบรหารสถานศกษา
้
้
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………...
(ลงชอ)
ื่
( ………………………………….)
ี
ผู้อ านวยการ โรงเรยนบ้านดงเจรญ
ิ
….. / ……….. / ……..
12. บันทึกหลังสอน
12.1 ผลการสอน
-ด้านพุทธพิสัย …………………………………………………………………………….…
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-201-
-ด้านทักษะพิสัย ……………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
-ด้านจตพิสัย …………………………………………………………………………………
ิ
……………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
ุ
ั
12.2 ปญหาอปสรรค ………………………………………………………………………………
12.3 แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………..
ื่
(ลงชอ)
้
( นายยรรยง ปกปอง )
..... / ……… / ……..
-202-
ภาคผนวก
• แบบทดสอบก่อนเรยน-หลังเรยน
ี
ี
ี่
ึ
ุ
• เฉลย / เกณฑ์การให้คะแนนชดฝกท 11
ั
(ปจจัยใดบ้างทใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง)
ี่
ึ
• เฉลย / เกณฑ์การให้คะแนนชดฝกท 17
ี่
ุ
(อธบายสอความหมาย)
ิ
ื่
-203-
ี
แบบทดสอบก่อนเรยน – หลังเรยน
ี
แผนท 14
ี่
่
ทดลองได้เพือตรวจสอบ
ื่
ื่
ี่
ี่
จงท าเครองหมาย / หน้าข้อทถูก และท าเครองหมาย X หน้าข้อทผิด
ี่
ื
......... 1. สารทใช้ตรวจสอบแปง คอสารลายไอโอดน
้
ี
ี
ี
็
ี
้
่
……. 2. สารละลายไอโอดนจะเปลยนแปงให้เปนสน ้าตาลเข้ม
ั
็
ิ
้
์
่
ื
……. 3. เมอพืชสงเคราะหด้วยแสงแล้ว จะได้แปงเปนผลตผลก่อน
็
ึ
้
ี่
แล้วแปงจงถูกเปลยนไปเปนกลูโคส
ี
ิ
……. 4. การอธบายค าหรอข้อความทใช้ในการทดลอง เพือให้เกิด
่
ื
่
ึ
ิ
็
ื
ความชัดเจนยิ่งข้น ถอว่าเปนการใช้ทักษะการลงความคดเหน
็
จากข้อมูล
ิ
……. 5. การก าหนดนยามเชงปฏบัตการ ควรเขยนให้ชัดเจนและ
ิ
ิ
ี
ิ
ื
สามารถตรวจสอบหรอวัดได้
ื่
็
……. 6. การเขยนบรรยายภาพให้สอความได้ เปนการใช้ทักษะการ
ี
จัดกระท าและสอความหมายข้อมูล
ื่
ึ
็
ี
……. 7. การเขยนตารางบันทกผลการทดลอง เปนการใช้ทักษะการ
จัดกระท าและสอความหมายข้อมูล
ื่
ึ
ิ
่
็
……. 8. คลอโรฟลด์ เปนโปรตนชนดหนงไม่ละลายในน ้า พบมาก
ี
ิ
ทบรเวณใบของพืช
ิ
ี่
……. 9. สเขยวทเราเหนบนใบไม้เปนแสงของดวงอาทตย์ ทสะท้อน
็
็
ิ
ี
ี
ี่
ี่
ออกมา
ู
ั
ี
ิ
……. 10. พืชจะดดแสงสน ้าเงนเข้มไว้ใช้ในกระบวนการสงเคราะห ์
ี
ด้วยแสงได้ดทสด
ี่
ุ
-204-
ึ
ชุดฝกที 11.
่
ั
ปจจัยใดบ้ำงที่ใช้ในกำรสังเครำะห์ด้วยแสง
กิจกรรม
1. นาต้นผักบุ้งซึงเพาะได้สูงประมาณ 5 cm ใส่ลงในกล่องทึบ 1 คืน
่
แล้วเด็กใบมา 1 ใบ เก็บไว้ไม่ให้ถูกแสง
2. ใช้กระดาษด าขนาด 1 cm x 2 cm 2 แผ่น ปดทับใบผักบุ้งบางส่วน
ิ
๋
แล้วนากระปองไปตั้งไว้กลางแดด ประมาณ 3 ชั่วโมง
่
่
3. เด็ดใบผักบุ้งทีแสงมา 1 ใบ และใบทีมีกระดาษด าปดทับแล้วท า
ิ
ิ
่
่
เครืองหมาย วาดรูปใบแสดงบริเวณทีปดทับด้วยกระดาษด า
4. นาใบผักบุ้งทีเก็บไว้ในกล่องทึบ ใบทีถูกแสง และใบทีปดด้วย
่
ิ
่
่
ิ
่
ึ
กระดาษด า มาสกัดคลอโรฟลล์ออกตามการทดลองในชุดฝกที 3
แล้วทดสอบด้วยสารละลายไอโอดีน สังเกต และบันทึกผล
ึ
ตารางบันทกกิจกรรม
่
ใบผักบุ้งทีทดสอบ ผลการทดสอบ
่
ไม่เปลียนสี
ใบผักบุ้งทีเก็บไว้ในกล่องทึบ ..................................................................
่
ิ
เปนสน ้าเงนม่วง
ี
็
ใบผักบุ้งทีถูกแสง ..................................................................
่
่
ไม่เปลยนส
ี
ี
ิ
่
ใบผักบุ้งทีปดด้วยกระดาษด า ..................................................................
-205-
ตอบค าถาม
1. เมือนาใบผักบุ้งทีถูกแสงมาทดสอบด้วยสารละลายไอโอดีนได้ผลอย่างไร
่
่
เหตุใดจึงเปนเช่นนั้น
็
ี
เปลยนเปนสน ้าเงนม่วง เพราะมแปง (สารละลายไอโอดน
ิ
็
ี
่
ี
้
ี
............................................................................................................
็
ี
้
่
ี
ิ
จะท าให้แปงเปลยนเปนสน ้าเงนม่วง)
............................................................................................................
่
2. เมือนาใบผักบุ้งทีเก็บไว้ในกล่องทึบมาทดสอบด้วยสารละลายไอโอดีน
่
็
่
ได้ผลเหมือนหรือตางกับใบทีถูกแสงอย่างไร เหตุใดจึงเปนเช่นนั้น
่
่
ี
ั
้
ุ
้
่
ตางกน เพราะในใบผักบ้งไมมแปง (พืชใช้แสงสรางอาหาร
............................................................................................................
้
ทใบได้แปงออกมา)
ี่
............................................................................................................
่
ิ
3. เมือนาใบผักบุ้งทีปดด้วยกระดาษด าเพียงบางส่วน มาทดสอบเช่นเดิม
่
็
ได้ผลอย่างไร เหตุใดจึงเปนเช่นนั้น
ี่
ี
ไม่เปลยนส เพราะไม่มแปง (พืชใช้แสงสรางอาหารทใบได
้
...........................................................................................................้แป้ง
้
ี
ี
่
ออกมา)
...........................................................................................................
4. นักเรียนคิดว่าพืชทุกชนิดต้องการแสงเพื่อสร้างอาหารในปริมาณมากนอย
้
เท่ากันหรือไม่ เพราะเหตใด
ุ
ื
ิ
ึ
ิ
ไม่เท่ากัน เพราะข้นอยู่กับชนดของพช ปรมาณของ
............................................................................................................
ใบและขนาดของล าต้น
............................................................................................................
เกณฑ์การให้คะแนน ( คะแนนเต็ม 10 คะแนน)
• การปฏบัตการทดลอง 5 คะแนน
ิ
ิ
ึ
• การบันทกผลและตอบค าถาม 5 คะแนน