The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ข้อมูล ศรร02-อู่ทอง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nalinee010409, 2021-03-22 19:22:56

ข้อมูล ศรร02-อู่ทอง

ข้อมูล ศรร02-อู่ทอง

3) นักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ชุมชน หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มีความสนใจในตัวนวัตกรรมได้มี
การเข้ามาศึกษาและแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการเพาะเห็ดเศรษฐกิจ โดยมีนักเรียนกลุ่มแกนนำเป็นผู้แ นะนำ
ความรู้และขัน้ ตอนวิธีการเพาะเห็ด จากการใช้นวัตกรรม “เห็ดมือถือ” ได้ ทำให้การเพาะเหด็ เป็นเรือ่ งง่ายตอ่
การศึกษาเรยี นรู้และนำไปใชใ้ นครัวเรอื นไดจ้ ริง

4) นักเรียนสามารถนำการเรียนรู้เรื่องเห็ดเศรษฐกิจและการจัดการผลผลิต และการเพาะเห็ดจาก
นวัตกรรม “เห็ดมือถือ”ไปเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชนและผู้สนใจศึกษาด้านการเพาะเห็ดและการจัดการผลผลิต
เหด็ ให้กับโรงเรยี นในถิน่ ทรุ กนั ดารเพ่ือใชใ้ นการศึกษา เปน็ อาหารกลางวันอย่างพอเพียง และใช้ในครัวเรือนที่
มพี นื้ ทจ่ี ำกัดไดด้ ้วย

5) นักเรียนมีเป้าหมายในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่ชัดเจน ตรงตามความถนัดสาขาวิชาและ
อาชีพและตามความสามารถของตนเองที่จะเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาหรือเป็นพื้นฐานใน
การประกอบอาชีพ

5. ปัจจัยความสำคัญ
1. นกั เรียนมคี วามรแู้ ละทักษะการปฏบิ ตั ิงานเร่ืองการเพาะเหด็ เศรษฐกิจและการจัดการผลผลิตอยา่ ง

เป็นข้นั ตอนมากขึ้น
2. นักเรยี นมคี วามรัก และมีเจตคติทด่ี ใี นการทำเกษตรกรรม โดยเฉพาะการเพาะเห็ด
3. นักเรยี นมคี วามสามารถในการสอื่ สาร การเผยแพรแ่ ลกเปล่ียนความร้ดู ้านการเพาะเห็ดมากข้นึ
4. นักเรียนมีการเรียนรู้ พฒั นา และต่อยอดนวตั กรรมเกีย่ วกับการเพาะเหด็ ในอนาคตได้

6. บทเรยี นท่ไี ด้รบั
การเรียนรู้เรื่องเห็ดเศรษฐกิจและการจัดการผลผลิต และนวัตกรรม “เห็ดมือถือ” ช่วยส่งเสริมและ

พัฒนาผู้เรียนให้เรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพและมีความต่อเนื่องในการเรียนรู้ของนักเรียน ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง คือ มีเหตุผล มีความพอประมาณ มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นักเรียนสามารถนำความรู้ขั้นตอน
วธิ กี ารในด้านการเพาะเห็ดตา่ ง ๆ และนวัตกรรมที่ได้เรียนร้ไู ปปฏบิ ตั ิงานในชีวิตประจำวันไดจ้ รงิ แมม้ ีพ้ืนท่ีของ
ครอบครัวตนเองที่จำกัด ทำให้ครอบครัวมีอาหารเพียงพอที่จะรับประทาน สร้างรายได้ให้กับตนเองและ
ครอบครัว ทั้งนี้ นักเรียนยังส่งเสริมให้นักเรียนกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออกในการนำเสนอนวัตกรรมและ
เผยแพร่ความร้สู ้ชู มุ ชนไดจ้ ริง และนำไปพฒั นาตอ่ ยอดการเพาะเห็ดใหส้ ะดวกสบายขนึ้ ในอนาคตตอ่ ไปได้

ภาพท่ี 6 สง่ เสรมิ และพัฒนาผูเ้ รียนใหเ้ รียนรอู้ ยา่ งเตม็ ศักยภาพ

ความสำเรจ็ ในการใชน้ วตั กรรม “เหด็ มือถือ” นอกจากช่วยสง่ เสริมและพัฒนาผู้เรยี นให้เรียนรู้อย่าง
เต็มศักยภาพและมีความต่อเนื่องในการเรียนรู้ นักเรียนในโรงเรียนมีความรู้ความเข้าใจทักษะกระบวนการใน
การเพาะเห็ดตา่ ง ๆ จากการใช้นวัตกรรรมแลว้ ทางโรงเรียนไดเ้ ปิดโอกาสให้ผูท้ ีส่ นใจเข้ามาศึกษาเรยี นรู้ ตั้งแต่
กระบวนการผลติ เช้อื เหด็ ตลอดจนการจัดการผลผลิต และการสาธติ การใชน้ วัตกรรม “เห็ดมือถือ” ภายในศนู ย์
การเรียนรู้ศาสตร์พระราชาของโรงเรียน รวมถึงการจัดแสดงผลงานในนิทรรศการต่าง ๆ เช่น งาน Open
House ของโรงเรียน การประเมินและเยี่ยมชมโรงเรียนจากหน่วยงานภายนอก นอกจากนี้ ยังได้เผยแพร่
ความรู้สู่ชุมชน ได้แก่ การนำนักเรียนแกนนำออกไปเผยแพร่ความรู้และจัดจำหน่ายผลผลิตและนวัตกรรรมที่
ตลาดนัดโดยรอบโรงเรียนเพื่อเป็นการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชนได้ทราบ การบรรยายและ
สาธิตวิธีการผลิตก้อนเชื้อเห็ดและการจัดการผลผลิต การใช้นวัตกรรม “เห็ดมือถือ” ให้กับโรงเรียนต่าง ๆ
รวมถึงโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ทั้งน้ี เพื่อให้นักเรียนในโรงเรียนขนาดเล็กได้มีเห็ดเพียงพอต่ออาหารกลางวัน
ของโรงเรียนดว้ ย

7. การเผยแพร/่ การไดร้ ับการยอมรับ/รางวลั ที่ได้
7.1 การเผยแพร/่ การไดร้ ับการยอมรับ
1) ครูผู้สอนได้นำการจัดการเรียนการสอนในวิชาที่เกี่ยวกับเพาะเห็ด ทั้งในภาคทฤษฎีและฝึก
ปฏิบัติงาน ในรายวิชาต่าง ๆ ดงั น้ี
- รายวชิ า ง20201 การผลิตเชือ้ เหด็ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
- รายวชิ า ง20202 การเพาะเหด็ อยา่ งง่าย ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1
- รายวชิ า ง30271 การผลติ เช้ือเหด็ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
- รายวิชา ง30272 การเพาะเหด็ อยา่ งง่าย ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
2) ครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ(งานอาชีพ) ในภาควิชา เกษตรกรรม

อุตสาหกรรม คหกรรม มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการจดั การเรียนรูแ้ ละนำไปประยุกตใ์ ช้ในการจัดการเรยี น
การสอนของตนเอง

3) ครู นักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนได้มีการนำความรู้นวัตกรรม “ เห็ดมือถือ” ไป
ประยุกต์ใช้ในกจิ กรรมต่าง ๆ

4) ครูผู้สอนและนักเรียนแกนนำได้จัดแสดงผลงานและนำเสนอเรื่องการเพาะเห็ดเศรษฐกิจ
และการจดั การผลผลติ โดยเฉพาะนวัตกรรม “ เหด็ มอื ถือ” ใหก้ ับผ้ทู ีเ่ ข้ามาศกึ ษาเย่ยี มชมศูนย์ศาสตรพ์ ระราชา

5) ครผู ูส้ อนและนกั เรียนแกนนำไดจ้ ัดแสดงผลงานและนำเสนอเรอ่ื งการเพาะเหด็ เศรษฐกจิ
และการจดั การผลผลิต โดยเฉพาะนวตั กรรม “ เห็ดมือถือ” ในงานนิทรรศการต่าง ๆ ท้ังในและนอกโรงเรยี น
เชน่ งาน Open House โรงเรยี นอ่ทู อง การจัดแสดงผลงาน ณ อาคารศลิ ปอาชา โรงเรียนอทู่ อง ในการ
ประเมินงานต่าง ๆ ของโรงเรียน การนำเสนอนวัตกรรม 46 ICT ณ โรงเรียนสงวนหญิง มหกรรมการศกึ ษา
สุพรรณบุรี ครั้งที่ 11 ม.เกษตรศาสตร์ จ.สพุ รรณบุรี งานการแข่งขันศลิ ปหัตถกรรมนักเรียน

6) ครูผู้สอนและนักเรียนแกนนำได้จัดแสดงผลงานและนำเสนอเรื่องการเพาะเห็ดเศรษฐกิจ
และการจัดการผลผลิต โดยเฉพาะนวัตกรรม “ เห็ดมือถือ” ให้กับโรงเรียนต่าง ๆ เช่น โรงเรียนวัดใหม่รัตน
เจดยี ์ ตำบลสวนแตง อำเภอเมอื ง จังหวัดสุพรรณบุรี

7) ครูผูส้ อนและนักเรียนแกนนำได้ออกจำหน่ายสินคา้ ตามตลาดนดั ในชุมชน เช่น ก้อนเหด็
นวัตกรรม “เหด็ มือถือ” โดยมีการเผยแพรค่ วามรู้ จัดแสดงผลงาน เรอ่ื งการเพาะเห็ดเศรษฐกจิ และการจดั การ
ผลผลิต ใหก้ บั ชาวบ้านในชุมชน เช่น ตลาดนดั วัยหวาน ตลาดนดั นาลาว ตลาดนดั ตลาดเขต ตลาดนดั จระเข้
สามพนั ตลาดนัดดอนคา

8) ครูผู้สอนและนักเรียนตลอดจนครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ(งานอาชีพ) ได้มี
การออกค่าย “โครงการค่ายปันฝัน” ตามโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร โดยนำความรู้เรื่องการเพาะเห็ดเศรษฐกิจ
และการจัดการผลผลิต ไปให้ชาวบ้านและนักเรียนในชุมชนนั้นๆได้ศึกษา นำไปประกอบอาชีพ และนำ
นวัตกรรม “เห็ดมือถือ” ไปมอบให้กับนักเรียนไว้ใช้ในการศึกษา ทำให้นักเรียนและชาวบ้านมีอาหารท่ี
พอมีพอกินในโรงเรียนและครัวเรือน เช่น โครงการค่ายปันฝัน โรงเรียนบ้านน้ำพุ (สาขาบ้านเขาเหล็ก) จ.
กาญจนบรุ ี โครงการค่ายปนั ฝนั ศนู ยก์ ารเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบา้ นไกรเกรียง จ.กาญจนบุรี

9) มีการนำเสนอและเผยแพร่ผลงานทาง YouTube โดยสามารถสแกน QR Code เพื่อเข้า
รับชมการทำนวัตกรรม “เห็ดมือถือ” และการเพาะเห็ดมิลกี้ได้ และมีการ Live สด ผ่าน Facebook ของ
ครผู สู้ อน ในเรือ่ งการทำหวั เชอื้ เห็ด (PDA) และการเพาะเห็ดมิลกี้

10) ผลงานที่ได้ออกไปนำเสนอผลงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชุมชน ได้รบั การตีพิมพ์ออกส่ือต่าง ๆ
เชน่ หนังสือพิมพ์ไทยรฐั , โทรทศั น์ ช่อง ๗ รายการ สะเก็ดขา่ ว

ภาพที่ 7 การเผยแพรค่ วามรู้สูช่ มุ ชน

ภาพที่ 8 งาน Open House โรงเรยี นอู่ทอง

ภาพท่ี 9 แสดงผลงาน ณ อาคารศิลปอาชา ในงานตา่ ง ๆ ของโรงเรยี น
ภาพที่ 10 มหกรรมการศกึ ษาสพุ รรณบรุ ี คร้งั ที่ 11 ม.เกษตรศาสตร์ จ.สพุ รรณบรุ ี

ภาพที่ 11 โครงการคา่ ยปนั ฝัน โรงเรยี นบา้ นน้ำพุ (สาขาบ้านเขาเหลก็ ) จ.กาญจนบรุ ี
ภาพที่ 12 โครงการค่ายปันฝัน ศูนยก์ ารเรยี นตำรวจตระเวนชายแดนบ้านไกรเกรียง จ.กาญจนบุรี

ภาพท่ี 13 ผลงานออกสือ่ ตา่ ง ๆ เชน่ หนงั สอื พมิ พ์ไทยรฐั , โทรทศั น์ ชอ่ ง 7 รายการ สะเกด็ ข่าว

7.2 รางวัลท่ีได้

- ปี พ.ศ. 2560 ไดร้ บั รางวัลเหรยี ญทอง รองชนะเลิศอนั ดับที่ 2 การประกวดโครงงานอาชีพ ม.ต้น ใน
การประกวด แข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 67 ปีการศึกษา 2560 ชื่อ
เร่ือง “บรษิ ทั เหด็ พอเพยี ง จำกัด”

- ปี พ.ศ. 2560 ไดร้ บั รางวลั เหรยี ญทอง รองชนะเลศิ อนั ดับท่ี 2 การประกวดโครงงานอาชีพ ม.ตน้ ใน
การประกวด แข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรยี น ระดับภาคกลางและภาคตะวนั ออก ครงั้ ท่ี 67 ปีการศึกษา
2560 ช่อื เรื่อง “บริษัท เหด็ พอเพยี ง จำกดั ”

- ปี พ.ศ. 2560 ไดร้ บั รางวลั เหรียญทอง ระดับชาติ (ลำดบั ที่ 5) การประกวดโครงงานอาชพี ม.ตน้ ใน
การประกวด แข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 67 ปีการศึกษา 2560 ชื่อเรื่อง “บริษัท เห็ดพอเพียง
จำกดั ”

- ปี พ.ศ. 2561 ได้รับรางวัลเหรียญเงิน รองชนะเลิศอันดับที่ 1 การประกวดการนำเสนอนวัตกรรม
และผลผลิตที่เกิดจากการเรียนรู้ในชั้นเรียน ม.1-3 การแข่งขันมหกรรมวิชาการ ระดับชาติ กลุ่มโรงเรียนผู้นำ
46ICT โรงเรียนในฝันและเครือข่าย ณ โรงเรียนสงวนหญิง จ.สุพรรณบุรี ในชื่อเรื่อง “บริษัท เห็ดพอเพียง
จำกดั ”

- ปี พ.ศ. 2562 ได้รับรางวลั เหรียญทองชนะเลิศ การประกวดโครงงานอาชพี ม.ต้น ในการประกวด
แขง่ ขันงานศลิ ปหตั ถกรรมนักเรยี น ระดับเขตพนื้ ท่ีการศึกษา ครง้ั ท่ี 69 ชอื่ เรื่อง “เหด็ ...สานฝนั ปันอาชีพ”

- ปี พ.ศ. 2562 ได้รับรางวลั เหรยี ญทองระดบั ชาติ (ลำดบั ที่ 15) การประกวดโครงงานอาชีพ ม.ต้น ใน
การประกวด แข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 69 ปีการศึกษา 2562 ชื่อเรื่อง “เห็ด...สานฝันปัน
อาชีพ”

- ปี พ.ศ. 2562 ไดร้ บั รางวลั เหรยี ญทองชนะเลิศ การประกวดแปรรปู อาหาร ม.ปลาย ในการประกวด
แขง่ ขันงานศิลปหตั ถกรรมนักเรยี น ระดบั เขตพน้ื ท่ีการศึกษา ครั้งที่ 69

- ปี พ.ศ. 2562 ไดร้ บั รางวลั เหรยี ญเงินระดบั ชาติ การประกวดแปรรปู อาหาร ม.ปลาย ในการประกวด
แข่งขันงานศิลปหตั ถกรรมนักเรยี น ครั้งที่ 69 ปกี ารศกึ ษา 2562

- ปี พ.ศ. 2563 ได้รับรางวัลเหรียญเงิน ผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม ประจำปี 2563 “ระดับ
ภมู ภิ าค” ของคุรสุ ภา เรื่อง “เหด็ มอื ถอื ”

- ปี พ.ศ. 2563 ไดร้ บั รางวลั ชนะเลศิ ผลงาน "เห็ดมือถือ" ประเภทการเรยี นรู้อาชีพในท้องถิ่น ผา่ นสื่อ
Clip video ในการส่งผลงานนวัตกรรมการจดั การศึกษาต่อเนอ่ื งเชอ่ื มโยงการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน
กับอาชวี ศึกษาและอดุ มศึกษา จังหวดั สพุ รรณบุรี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 สำนักงานศกึ ษาธิการ
จงั หวัดสุพรณบรุ ี

- ปี พ.ศ. 2563 ได้รับรางวลั รองชนะเลศิ อันดับ 1 ผลงาน "เหด็ มลิ ล์กี้" ประเภทการเรียนรู้อาชีพใน
ทอ้ งถิน่ ผ่านส่อื Clip video ในการสง่ ผลงานนวัตกรรมการจัดการศกึ ษาต่อเนอื่ งเช่อื มโยงการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน
กับอาชีวศกึ ษาและอดุ มศึกษา จังหวดั สพุ รรณบรุ ี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สำนักงานศึกษาธิการ
จงั หวัดสุพรณบุรี

ภาคผนวก

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 7

รายวชิ า ง20202 ชื่อวชิ า การเพาะเหด็ อย่างงา่ ย กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลย(ี งานอาชีพ)

โรงเรยี นอูท่ อง ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563

หน่วยท่ี 2 เรอ่ื ง การเพาะเหด็ นางฟ้า เวลา 4 คาบ

แผนการสอนเรื่อง การเปดิ ดอกและการจดั การผลผลิต ผสู้ อน นางสาวจารุวรรณ มนูญโย

วันท่ีสอน: ..............................................................................................................................

1. ผลการเรยี นรู้

1) สามารถอธิบายความร้เู บ้อื งต้นเกยี่ วกบั เหด็ ต่าง ๆ

2) สามารถเลอื กและใชว้ ัสดุอุปกรณ์ในการเพาะเห็ดไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3) สามารถปฏิบตั กิ ารนึง่ ฆ่าเชอื้ ในอาหารเห็ด ถา่ ยอาหารและการบ่มเช้ือเหด็ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง

4) สามารถอธิบายความรเู้ บือ้ งต้นเกย่ี วกับการเพาะเหด็ ฟาง ขน้ั ตอนวิธกี ารและจัดการผลผลติ ได้

5) สามารถจัดการผลผลิตของเหด็ ต่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม

2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1) นกั เรียนสามารถอธิบายข้ันตอนการเปิดดอกและการจดั การผลผลิตเหด็ นางฟา้ ได้ถูกต้อง(K)
2) นักเรยี นสามารถปฏิบตั ิการเปิดดอกและการจัดการผลผลิตเห็ดนางฟ้าได้อยา่ งเหมาะสม(P)
3) นกั เรียนมีเจตคตทิ ่ีดตี อ่ การเพาะเห็ดและการทำการเกษตรกรรม(A)

3. สาระการเรียนรู้
- การเปิดดอกและการดูแลรกั ษาก้อนเชื้อเห็ด
- การจดั การผลผลติ เหด็ นางฟ้า

4. สาระสำคัญ
หลงั จากนงึ่ ก้อนเช้อื แลว้ นำเชื้อเห็ดทตี่ ้องการมาใสใ่ นก้อนเชื้อ นำไปบ่มในโรงเรือนที่มีการระบาย

อากาศ ประมาณ 1 เดือน เชอ้ื เหด็ จะเดินเตม็ ก้อนเป็นสขี าวทง้ั ก้อน จึงย้ายเข้าโรงเรอื นเปิดดอก รดน้ำและเกบ็
ผลผลติ เพือ่ จำหน่ายได้ทุกวัน

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสอ่ื สาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการแก้ปญั หา
4) ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
5) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คุณลักษณะท่ีพงึ่ ประสงค์
1) ซ่อื สัตย์สจุ ริต
2) ใฝ่เรียนรู้
3) อยูอ่ ย่างพอเพยี ง
4) มุ่งมัน่ ในการทำงาน

7. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบเรียนท่ี 1 -2
ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรียน
1.ชแี้ จงรายละเอียดของรายวชิ าที่จะสอนและงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย
2.ครูถามความร้เู ดิมเกยี่ วกบั การน่งึ ฆา่ เช้ือในอาหารเหด็ การถา่ ยและการบ่มเชื้อเห็ดทน่ี ักเรยี นได้

เรยี นและกจิ กรรมต่าง ๆ ที่ได้ปฏบิ ตั งิ านในคาบเรยี นกอ่ น เพอื่ ทบทวนและเช่ือมโยงสบู่ ทเรยี น
ขน้ั สอน
1.ครอู ธบิ ายให้ความรู้และสาธิตการเปิดดอกเห็ดนางฟ้า การดูแลรักษาก้อนเช้ือเห็ดในโรงเรอื นเพาะเห็ด
2.ครูอธิบายใหค้ วามรู้และสาธิตการเปดิ ดอกเห็ดและการดแู ลรักษาก้อนเชอ้ื เหด็ โดยใชน้ วัตกรรม

“เหด็ มอื ถือ” แบบท่ี 1 เหด็ นางฟ้า และแบบท่ี 2 เห็ดมลิ ก้ี
3.ครูเชอื่ มโยงความรู้การเปิดดอกเห็ดและการดูแลรกั ษาก้อนเช้ือเหด็ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
4.นกั เรียนแต่ละคนฝึกปฏิบตั ิการการเปดิ ดอกเหด็ นางฟา้ ในโรงเรือนตามขน้ั ตอนที่ครูสาธิต โดยการ

แบง่ กล่มุ กนั ทำกจิ กรรมท่ีได้รับมอบหมายและแบ่งตารางการดูแลเหด็ ในโรงเรอื นเพาะเหด็ แตล่ ะวัน
ขน้ั สรุป
1.ครใู หน้ กั เรียนเก็บวสั ดอุ ุปกรณต์ ่าง ๆ ในการฝึกปฏบิ ตั ิให้เรียบร้อย
2.ทบทวนเนอื้ หาขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ านอกี ครงั้ จากการถามตอบโดยสุม่ นกั เรียนถามเปน็ รายบคุ คล

เพอ่ื ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรปุ บทเรยี นท่ไี ด้เรียนรู้ในคาบเรยี นน้ี
3.เนน้ ย้ำเรื่องความรับผดิ ชอบในการปฏบิ ัตงิ านตามตารางเวรปฏิบัติงานแตล่ ะวนั

คาบเรยี นที่ 3 - 4
ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรียน
1.ช้แี จงรายละเอียดของรายวชิ าทีจ่ ะสอนและงานท่ีได้รับมอบหมาย
2.ครถู ามความรเู้ ดิมเกี่ยวกับ การเปดิ ดอกและการดูแลรกั ษาก้อนเช้ือเหด็ ในโรงเรือน การใช้นวัตกรรม
“เห็ดมอื ถอื ” เนน้ ยำ้ เรอื่ งความรบั ผดิ ชอบในการมาปฏบิ ัติงานตามตารางเวรปฏบิ ัติงานแตล่ ะวัน เพอื่ ทบทวนและ
เชือ่ มโยงส่บู ทเรยี น

ขน้ั สอน
1.ครอู ธิบายใหค้ วามรู้และสาธิตการจัดการผลผลติ ได้แก่ การเกบ็ ดอกเหด็ การตัดแตง่ ดอกก่อนนำไป
จัดจำหน่ายและรบั ประทาน การแปรรปู เห็ด การคัดแยกก้อนเห็ดทีเ่ กิดโรคและแมลงทำลาย การกำจดั โรคและ
แมลงศตั รใู นโรงเรือน เช่อื มโยงตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
2.นกั เรยี นแตล่ ะคนแบง่ หนา้ ท่ีฝึกปฏบิ ตั กิ ารการเก็บดอกเห็ดนางฟ้า การตดั แตง่ ดอกและนำไปจดั
จำหนา่ ยให้กบั ครูและบคุ ลากรในโรงเรียน การคัดแยกก้อนเห็ดท่เี กิดโรคและแมลงทำลายเพอ่ื นำไปทำลายหรือ
นำไปทำปยุ๋ หมักต่อไป เปน็ การใชป้ ระโยชนอ์ ย่างสงู สดุ
ข้นั สรุป
1.ครูให้นกั เรียนเก็บวสั ดุอุปกรณต์ ่าง ๆ ในการฝึกปฏบิ ตั ิให้เรียบรอ้ ย
2.ทบทวนเนื้อหาข้ันตอนการปฏิบัติงานอกี คร้งั จากการถามตอบโดยสมุ่ นกั เรียนถามเป็นรายบุคคล
เพอื่ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันสรปุ บทเรียนทไี่ ดเ้ รียนรู้ในคาบเรยี นนี้
3.เนน้ ยำ้ เรอื่ งความรับผดิ ชอบในการปฏิบัตงิ านตามตารางเวรปฏบิ ัติงานแต่ละวัน จนกวา่ ก้อนเหด็ จะ
เสือ่ มสภาพหรอื หมดภาคการเรยี น

8. การวดั ผลประเมินผล เคร่อื งมอื วดั และประเมินผล เกณฑ์
วิธวี ัดและประเมินผล - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียน - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
ของนักเรยี น คะแนนเต็ม 20 คะแนน
- สังเกตพฤติกรรมการเรยี นของ
นกั เรยี น - แบบประเมินชน้ิ งานของ - ความต้ังใจ (5)
นกั เรียน - ตรงต่อเวลา (5)
- ประเมนิ ช้นิ งานของนกั เรียน - การทำงานรว่ มกับผู้อื่น (5)
- การแสดงความคิดเห็น (5)
- แบบประเมนิ ชนิ้ งานของ
นักเรยี น 20 คะแนน
- ชิน้ งานถูกต้อง (5)
- สง่ งานตามกำหนด (5)
- การดแู ลเอาใจใส่ (5)
- การเจริญเติบโต (5)

9. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
9.1 สื่อการเรียนรู้
1) เอกสารประกอบการเรียนการสอน
2) วัสดุ – อุปกรณ์ เครื่องมือสำหรับปฏบิ ัตกิ ารเพาะเห็ด(ของจรงิ )
3) รูปภาพ
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ศูนยน์ ทิ รรศการการเรยี นรศู้ าสตร์พระราชา
2) แปลงเกษตร
3) โรงเพาะเหด็

เอกสารประกอบการเรยี นการสอน
การเพาะเห็ดเศรษฐกจิ

เห็ด (Mushroom) เปน็ ส่ิงมชี ีวติ ชน้ั ต่ำชนิดหนงึ่ ตระกลู เดียวกันกับเชื้อราชนิดตา่ ง ๆ แต่เป็นเชื้อราที่มี
ขนาดใหญ่ขยายพันธุ์ไดด้ ้วยการแตกสปอรล์ อยไปในอากาศ เม่ือไปตกในทีท่ ่ีมคี วามชื้นและอุณหภูมิเหมาะสมก็
จะเจริญงอกงามกลายเปน็ ดอกเหด็ ต่อไป แต่เดมิ เป็นพืชท่เี กดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาตมิ ีมากมายตามต้นไม้ พน้ื ดิน
ตามกองวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เนื่องจากมีอาหารธรรมชาติอยู่อย่างมากมาย ธรรมชาติเป็นแหล่งกำเนิด
อาหารและเหด็ มากมายหลายชนิดบางชนิดก็ใช้เป็นอหารได้ แถะหลายชนิดก็เป็นเห็ดพิษมีอนั ตรายต่อร่างกาย
เห็ดเป็นอาหารที่เป็นที่นิยมมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงกับมีคำพูดติดปากเสมอ ๆ ว่า""หมู เห็ด เป็ด ไก่" หรือ
แม้แต่ในเนื้อเพลงมนต์รักถูกทุ่งก็มีเนื้อร้องตอนหนึ่งว่า "เห็ดตับเต่า
ขึ้นอยู่ริมเถาหญ้านาง"เราอาจจะพบเห็ดหอมขึ้นอยู่กับไม้ก่อที่ตาย
แล้ว เห็ดหูหนูขึ้นอยู่กับต้นมะม่วง ต้นแค เห็ดโดนขึ้นอยู่บริเวณที่
ปลวกทำรงั อยเู่ ราเรียกวา่ สวนเห็ด ทโ่ี รงเรียนอู่ทองเห็ดตับเต่าข้ึนอยู่
กบั ตน้ หกู วาง เป็นต้น

ปัจจุบันความเจริญครอบคลุมไปอย่างกว้างขวาง ป่าไม้ท่ี
เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของเห็ดก็ลดน้อยลงไป เห็ดตามธรรมชาติจึงลดน้อยลงไม่พียงพอกับความต้องการ
บรโิ ภคของประชากรโลกจึงได้มีการรเิ ร่ิมการเพาะเห็ดเพ่ือเลียนแบบธรรมชาติขนึ้ ปัจจบุ ันเทคโนโลยีการเพาะ
เหด็ ได้เจริญก้าวหน้าขึ้นเป็นอย่างมาก จนสามารถผลิตเหด็ หลาย ๆ ชนิด จากการผลติ เพ่ือบรโิ ภคจนกลายเป็น
การผลิตเพ่ือจำหน่ายและส่งออกเป็นพืชเศรษฐกจิ ท่ีสำคญั ที่สามารถนำรายได้เข้าประเทศได้ปลี ะหลารอ้ ยล้าน
บาท ปจั จุบันในสภาวะเศรษฐกจิ ท่ตี กตำ่ การเพาะเห็ดจึงเป็นอาชีพทท่ี ำรายไดใ้ ห้อยา่ งดีสำหรับผทู้ ตี่ กงานและสู้
ที่พสิ มัยอาชพี การเพาะเห็ดท่วั ไป และยังเปน็ อาชีพเสริมใหก้ บั ประชากรทางภาคเกษตรกรรมใหม้ รี ายได้เพิ่มข้ึน
อีกดว้ ย เนอ่ื งจากวสั ดทุ ี่ใช้ในการเพาะเหด็ ทุกชนดิ ล้วนแล้วแต่ไดม้ าจากวสั ดเุ หลือใชท้ างการเกษตรทง้ั สนิ้

ประเทศที่มีการเพาะเห็ดมาก่อนชาติอ่ืนและเพาะกันอย่างแพรห่ ลายมาถึงปัจุบันน้ีคือ ประเทศจีน ซึ่ง
มีการบันทึกไว้ว่ามีการเพาะเห็ดมาเมื่อประมาณ 5,000 ปีมาแล้ว การเพาะเห็ดในประเทศไทยก็ได้รับอิทธิพล
มาจากชาวจีนที่อพยพมาจากแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่ในสมัยรัชกาที่ 5 โดยเริ่มมีการเพาะเห็ดฟางบนกองขยะนอก
เมอื งบรเิ วณตำบลซังฮี้ ปัจจบุ ันคือเขตสามเสน โดยชาวจีนไดน้ ำถงั ไม้มาครอบบนกองขยะใส่ฟางลงไปแล้วคอย
รดน้ำไม่นานก็จะมีดอกเห็ดให้เก็บจำหน่าย การเพาะเห็ดที่เริ่มทำเป็นอาชีพและมีการเผยแพร่มากขึ้นเม่ือ
ประมาณ 60 ปีที่ผ่านมา โดอาจารย์ก่าน ชลวิจารย์ ได้คิดค้นการผลติ เชือ้ เห็ดฟางบรสิ ทุ ธิ์ข้ึนเมื่อปี พ.ศ. 2480
และได้เผยแพร่การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ยขึ้น เป็นการจุดประกายแหล่งอาชีพใหม่ที่สามารถสร้างรายได้
สรา้ งอาหารให้กับคนไทยได้อย่างมากมาย เราจงึ ยกย่องทา่ นวา่ เป็น "ครูแห่งการเพาะเหด็ "

เห็ด เป็นอาหารอันโอชะที่มนุษย์สรรหามาเป็นอาหารรับประทาน บางชนิดเป็นที่ต้องการอย่างมาก
สำหรับผู้บริโภค เช่น เห็ดโคน เป็นต้น แหล่งที่หาเห็ดโคนได้มากและมีชื่อเสียงรู้จักกันดีที่จังหวัดกาญจนบุรี
และอุทัยธานี ส่วนเห็ดอื่น ๆ เช่น นางรม นางฟ้า นางนวล เห็ดหอม เห็ดหลินจือ ก็ยังคงเป็นที่ต้องการของ
ผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเร่ือย ๆ เนื่องจากสามารถดัดแปลงเป็นอาหารได้หลากหลายชนิด ทั้งคาวหวานและยังแปรรูป

เป็นอาหารแห้งได้หลากหลาย เช่น เห็ดสวรรค์ ข้าว
เกรียบเห็ด เยลลี่เห็ด เป็นต้น นอกจากจะเป็น
อาหารแล้วยังสามารถใช้เป็นยาสมุนไพรได้อีกด้วย
เช่น เห็ดตื่นตุ๊กแก ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวตืดหรือ
พยาธติ ัวแบน เพราะในเหด็ น้มี ีสาร Polypolic acid
ใช้ขับพยาธิได้ ชาวจีนโบราณรู้จักเห็ดหลินจือมา
นานแล้วเรียกว่าเห็ดหมื่นปีใช้เป็นยารักษาโรคได้
มากมายหลายชนิดอย่างตอ่ เน่ืองมาจนถึงปจั จุบัน เมื่อไม่นานมานี้ญ่ีปุ่นได้สกัดสารจากเห็ดหลินจอื ผลิตเปน็ ยา
สามารถยบั ยั้งการเจริญเติบโตของเชือ้ ไวรสั เอดส์ได้ นอกจากนี้ในเห็ดฟางกม็ สี าร Valatoxins ซงึ่ สามารถยบั ย้ัง
เชื้อไวรัสได้หลายชนิดเช่นกัน บางชนิดเมื่ออมหรือเคี้ยวทำให้เกิดจินตนาการคล้ายภาพหลอน เหมือนกับฤทธิ์
ยาเสพติดพวก ยาบ้า กัญชา หรือพวกที่มีส่วนประกอบของสารแอมเฟตามีน รู้จักกันในชื่อเห็ดโอสถลวงจิต
ชาวเมก็ ซิกันจะอมไวใ้ นปากเมื่อทำพิธีกรรมทางศาสนา

แหลง่ เพาะเหด็ ทส่ี ำคญั ในประเทศไทย
อาชีพการเพาะเห็ดในเมืองไทยถึงแม้จะเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรแพร่หลายไปทั่วประเทศ

ฟาร์มเพาะเห็ดขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จส่วนมากกลับ มากอยู่ในภาคกลางเพราะอยู่ใกล้
แหล่งวัสดุอุปกรณ์และเปน็ จุดศูนย์กลางของการจำหนา่ ย แหล่งเพาะเห็ดใหญ่ ๆ เช่น นครปฐม ลพบุรี ราชบุรี
ปทุมธานี อยุธยา สระบุรี อ่างทอง ชัยนาท และจังหวัดในเขตปริมณฑล ส่วนเห็ดเศรฐกิจอื่น ๆ เช่น เห็ดหอม
เห็ดแชมปียอง เห็ดเข็มทอง แหล่งผลิตที่สำคัญอยู่ในภาคเหนือ เช่น เลย เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน
เปน็ ต้น

ส่วนประกอบที่สำคญั ของดอกเหด็
1. หมวกดอก (Cap) เป็นสว่ นทีอ่ ยู่บนสดุ ของดอกเห็ด บาง

ชนดิ มลี กั ษณะเปน็ แผน่ เป็นฝอย บางชนิด มีลกั ษณะเป็นทรงร่ม ส่วนนี้
เป็นส่วนทมี่ คี วามไวต่อการเปลยี่ นแปลงของอณุ หภมู ลิ ะแสงมากกวา่
สว่ นอนื่ อาจมีสีขาว เทา หรือสีอืน่ ๆ ตามแตช่ นดิ ของดอกเหด็

2. กลีบดอก (Gill) หรอื ครบี ดอก อยู่ด้านลา่ งของดอกเหด็ เป็น
ส่วนทีเ่ กบ็ สปอร์ของดอกเหด็ เพื่อการขยายพันธ์ุ เมื่อสปอรข์ องเห็ดแก่
เตม็ ทีก่ จ็ ะแตกออกและลอยไปในอากาศ เม่ือไปตกลงในท่ี ๆ มีความชนื้
อณุ หภูมิ อาหาร อยูใ่ นสภาวะที่เหมาะสมกจ็ ะเจริญเปน็ ดอกเหด็ ตอ่ ไป

3. วงแหวน (Ring) เป็นส่วนท่ยี ึดหมวกดอกให้ติดกับก้านดอกเม่อื
เหด็ ออกมาใหม่ ๆ เห็ดบางชนิดกม็ วี งแหวนเช่น เห็ดฟาง เห็ดโคน แต่
บางชนิดกไ็ มม่ วี งแหวน เชน่ เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เหด็ หูหนู เป็นตนั
4. กา้ นดอก (Stalk) เป็นสว่ นที่ชูหมวกดอกใหส้ งู เพอ่ื ใหส้ ปอร์สามารถกระจายไปไกลมากข้ึน
5. เยื่อห้มุ ดอกเห็ด (Valva) เป็นส่วนทห่ี อ่ หุ้มดอกเมื่อเห็ดเร่ิมงอกออกมาพน้ วสั ดเุ พาะ

ขน้ั ตอนสำคัญในการเพาะเห็ดแบ่งออกเปน็ 4 ขน้ั ตอน คอื
1. การเตรยี มหวั เช้อื บรสิ ทุ ธิ์ (อาหารวุ้น PDA)
2. การเตรยี มหวั เชื้อข้าวฟา่ ง
3. การเตรยี มอาหารเหด็ และการถา่ ยเชื้อ
4. การเปดิ ดอก การดูแล การจัดจำหนา่ ย

1. การเตรียมหัวเช้อื บริสุทธ์ิ
การเตรียมหัวเชื้อบริสุทธ์ิ คือ วิธีการขยายพันธุ์เห็ดให้ได้ปริมาณ

ที่มากในระยะเวลาอนั รวดเร็ว แตเ่ ดมิ การขยายพนั ธุ์เหด็ นิยมการใช้วิธีการ
ดักจบั สปอร์ แต่วธิ ีการนอ้ี าจมสี ิ่งแปลกปลอมหรือเช้ือราอื่น ๆ ที่ทำให้เช้ือ
เห็ดไม่บริสุทธิ์ เมื่อนำไปใช้ที่จะได้ผลผลิตต่ำกว่าที่ควรจะได้ ปัจจุบันจึง
นิยมการแยกเนื้อเยื่อจากดอกเห็ดซึ่งจะลดการปนเปื้อนได้มาก ทำให้ได้
เชื้อเห็ดทีด่ ีและมีคณุ ภาพตามที่ต้องการ กรรมวิธีนี้เรียกว่า การเพาะเลี้ยง
เน้ือเย่ือ (TISSUE CULTURE)

วสั ดอุ ุปกรณ์ทส่ี ำคญั ในการเพาะเลยี้ งเน้อื เยอื่ มดี ังน้ี

1. ตสู้ ำหรบั แยกเนือ้ เยื่อหรอื ตูเ้ ขี่ยเชื้อ ลกั ษณะเปน็ ต้สู เ่ี หลีย่ มอาจทำดว้ ยไม้หรอื กระจกกไ็ ด้แต่ด้านใน
ต้องเป็นกระจกใส เพื่อให้สามารถมองเห็นขณะปฏิบัติงานได้สะดวกขนาดของตู้ประมาณ 60 X 100 X 50
เซนติเมตร ด้านหน้ามีประตูปิดเปิดได้ เพื่อนำขวดเชื้อและอุปกรณ์ใส่ได้สะดวก ด้านหน้ามีช่อง 2 ช่องสำหรับ
สอดแขนเข้าไปทำงานมีถุงผ้ายึดติดกับตัวตู้ด้านในมียางยืดใส่เพื่อให้ยึดติดกับแขน ด้านบนอาจมีมอเตอร์หรือ
พัดลมดูดอากาศและมีแผ่นกรองอากาศด้วย พื้นผิวภายในตู้ควรบุด้วยแผ่นโฟเมก้าสีขาว เพื่อความสะดวกใน
การทำการฆ่าเชื้อและทำความสะอาด ด้านบนมีช่องระบายอากาศ 1-2 ช่องเพื่อระบายอากาศที่เกิดจากการ
เผาไหม้ของตะเกยี งแอลกอฮอลห์ ากไม่มีชอ่ งระบายน้ีเมื่อใช้ตู้ไประยะหนึง่ ออกซเิ จนด้านในกจ็ ะหมดตะเกียงก็
จะดบั ดา้ นในตมู้ ีหลอดนีออน ใหแ้ สงสว่างขนาด 20 W 1 ชดุ และควรตดิ หลอดรังสีอุลตรา้ ไวโอเลต(U.V.) เพื่อ
ใชใ้ นการฆ่าเช้ือจำนวน 1 ชุด เพอื่ ฆา่ เช่ือที่มีในอากาศก่อนท่ีจะทำการเขี่ยเช้ือ

2. หม้อนึ่งความดัน(Autoclave) ลักษณะคล้ายถังน้ำมันแต่ประกอบดัวยเหล็กหนา ก้นถังโค้งลง
เล็กน้อย ฝาหม้อเป็นรูปโค้งทรงกระทะคว่ำ ด้านข้างถังมีแกน
เหล็กยึดกับฝามีที่เหยียบสำหรับปิดเปิดเพื่อเบาแรงในการปิด
เปิด ดา้ นข้างมีนอ็ ตยดึ ฝากบั ตัวถัง 8 ตัว เพื่อป้องกนั การระเบิด
เมื่อมีความดันมากขึ้นส่วนประกอบของหม้อนึ่งความดันอื่นท่ี
ควรร้จู ักคือ

- วาวล์ระบายอากาศ ใช้ในการระบายอากาศเพื่อไล่
อากาศข้างในหม้อนึ่งออกให้หมด เนื่องจากอากาศเป็นตัวนำ
ความร้อนที่เลว หากยังมีอากาศหลงเหลืออยู่ ความร้อนก็จะ
เข้าไมถ่ งึ เชื้ออ่นื ๆ ที่มีในหม้อนึง่
ความดันได้ เมื่ออากาศร้อนก็จะขยายตัวลอยขึ้นตามหลักการ
ทางวิทยาศาสตร์ ก็จะระบายออกทางช่องน้ี เมื่ออากาศระบาย
ออกหมดแล้ว (สังเกตจากการทีมีไอน้ำพุ่งออกมาอย่าง
สม่ำเสมอไม่ขาดตอน) ข้างในหม้อนึ่งก็จะกลายเป็นสุญญากาศพร้อมที่จะเริ่มขับความดันได้ นอกจากนี้วาวล์
ระบายอากาศยงั ใชใ้ นการระบายไอนำ้ ออกเม่ือมีความดันมากเกนิ กว่าท่ีกำหนตอีกด้วย

- เซพตี้วาวล์ เป็นทางระบายอากาศอัตโนมัติมีลิ้นปิดเปิด ทำหน้าที่คอยระบายอากาศเมื่อความดัน
ภายในหมอ้ นึ่งความดันมากเกินกวา่ ท่ตี ั้งไว้ ป้องกนั การระเบิดของหม้อนึง่ ความดัน

- เทอรโ์ มมเิ ตอร์ ใชีว้ ดั อุณหภูมิความรอ้ นชื้นในหมอ้ นึง่ ความดนั

3. เข็มเขี่ยเชื้อ ลักษณะจะต้องมีปลายแหลมและงอตั้งฉากกับตัวเข็ม ทนต่อความร้อนด้วยการลนไฟ
ฆา่ เชื้อกอ่ นการใช้งาน ใชส้ ำหรบั จกิ เน้อื เยื่อของดอกเห็ดและอาหารเลยี้ งเชอื้ เห็ด

4. ตะเกียงแอลกอฮอล์ ทำจากอะลูมิเนียมหรือแก้ว มีฝาครอบเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้แอลกอลฮอล์
ระเหยออกมา ใช้เมทธิลแอลกอฮอล์เป็นเชื้อเพลิงเพราะเชื้อเพลิงชนิดนี้ไม่มีเขม่าควันจับเข็มเขี่ยเชื้อและปวก
ขวด หลงั จากปฏบิ ตั งิ านแต่ละคร้ัง ควรใช้ฝาครอบตะเกียงแอลกอฮอลค์ รอบเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ใหแ้ อลกอฮอล์
สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
ขัน้ ตอนและวธิ กี ารในการเตรียมหัวเชอ้ื บรสิ ุทธ์ิมีดังนี้

สูตรอาหารเลย้ี งเชื้อเห็ด
1. P Potato หรือวา่ มนั ฝร่งั 200-300 กรัม
2. D Dextose หรอื น้ำตาลกลโู คส 15-20 กรมั
3. A Agar หรอื ผงว้นุ ทีใ่ ชท้ ำขนม 15-20 กรัม
4. นำ้ สะอาด 1 ลติ ร

อุปกรณ์
1. มีด
2. กรวย
3. ผ้าขาวบาง
4. ไมพ้ าย
5. กระบวย
6. หมอ้ นงึ ความดัน
7. สำลี
8. ขวดแบน
9. กระดาษ
10. แอลกอฮอล์ฆ่าเช้ือ
11. หมอ้ ตม้
12. ยางรัดของ

ขัน้ ตอนการปฏิบตั ิ
1. ล้างมนั ฝรั่งให้สะอาด ปอกเปลือกแล้วห่นั เปน็ ชิน้ ส่ีเหลี่ยมขนาด 1 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร (ลูกเตา๋ )
2. ตวงนำ้ สะอาด 1 ลิตร ต้มใหเ้ ดอื ด ใส่มนั ฝรั่งลงต้มดว้ ยไฟอ่อนประมาณ 15นาที (ถา้ ใชไ้ ฟแรงมัน
ฝรง่ั จะเปอื่ ยยยุ่ ละลายเนือ้ มนั ฝรงั่ ออกมา ทำให้อาหารวุ้นมีลักษณะขนุ่ ขาวซ่ึงยากต่อการสงั เกตการณ์เดินของ
เส้นใยเหด็ )
3. นำมนั ฝรง่ั ทีต่ ม้ เทใส่ผา้ ขาวบางทม่ี ีภาชนะรองรบั เพือ่ แยกกากมนั ฝรง่ั ออกจากนำ้ ต้มมันฝรั่ง (หากได้
นำ้ ตม้ มนั ฝรั่งไมถ่ ึง 1 ลติ ร ให้ตม้ นำ้ เดอื ดเติมลงไป หรอื อาจจะ ใชน้ ้ำสุกเดมิ ให้ครบจำนวนก็ได้แล้วตม้ ต่อด้วย
ไฟออ่ น)
4. นำนำ้ มันฝรง่ั ทกี่ รองแล้วมาตม้ ดว้ ยไฟปานกลาง เติมผงวนุ้ ลงไปในหม้อต้มประมาณ 15-20 กรมั
และคนตลอดเวลาเพื่อปอ้ งกันไม่ให้อาหารว้นุ ไหม้บริเวณกน้ หม้อ (ก่อนใสผ่ งวุน้ ควรผสมผงวุ้นกบั น้ำเยน็ ขา้ ง
นอกก่อน เพราะถ้าใสผ่ งว้นุ ลงไปในนำ้ มนั ฝร่ังที่รอ้ นจะทำให้อาหารวุ้นจับกนั เปน็ กอ้ น)
5. เติมน้ำตาลเก๊กโตรสหรอื น้ำตาลกลโู คสประมาณ 15-20 กรัม
6. เมื่ออาหารว้นุ ละลายหมดแล้ว ให้นำอาหารวุ้นไปบรรจุลงขวดแบนประมาณ 20-30 ซี.ซ.ี โดยใช้
กรวยกรอก ระวังอย่าใหอ้ าหารวุ้นเปื้อนปากขวด
7. เชด็ ปากขวดใหส้ ะอาดด้วยแอลกอฮอลฆ์ ่าเช้ือ อดุ ดว้ ยจกุ สำลี ห้มุ ด้วยกระดาษ และใช้ยางรดั
8. นำขวดอาหารว้นุ ไปนึ่งฆา่ เชื้อในหม้อน่ึงความดนั โดยใช้ความดนั ท่ี 15 ปอนดต์ ่อตารางน้ิว อุณหภูมิ
121 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที กอ่ นทีอ่ าหารวนุ้ จะเยน็ ตวั ลงหรอื ก่อนท่ีอาหารว้นุ จะแขง็ ตัว ใหน้ ำขวด
อาหารวุ้นไปวางนอนเพื่อเพมิ่ พืน้ ทผี่ ิวของอาหารวนุ้ และเม่ืออาหารวุ้นแข็งตัวดีแล้วก็สามารถนำไปใชเ้ ล้ยี งเชื้อ
เห็ดตา่ ง ๆ ต่อไป

การเข่ยี เชอ้ื เป็นการแยกเนื้อเยอ่ื บรสิ ุทธิ์จากดอกเหด็ มาเลี้ยงบนอาหารวุ้น เปน็ กรรมวธิ ีทน่ี ยิ มกันมาก
ทำไดง้ ่ายวา่ การเพาะเลีย้ งสปอร์ และดอกเห็ดที่ได้จะมลี ักษณธคล้ายพนั ธ์ุเดิมทุกประการ นิยมใช้กับเห็ดหลาย
ชนดิ เช่น เหด็ ฟาง เหด็ นางฟา้ เหด็ นางรม เปน็ ตน้ ต้องทำในห้องท่ีมิดชิดการฆ่าเช้ือต่าง ๆ ในอากาศหมดแล้ว
หรือทำในตเู้ ขีย่ เช้ือท่ีทำความสะอาดไว้ดีแลว้

การเลือกดอกเห็ดทีจ่ ะทำพันธุ์ ควรมลี ักษณะ ดงั นี้
1. ดอกเหด็ มีขนาดใหญ่ น้ำหนกั มาก ช่อดอกดก
2. ดอกเห็ดเปน็ ดอกทสี่ มบรู ณไ์ มม่ ีโรคและแมลงเข้าทำลาย
3. ดอกเหด็ สด ไมอ่ ่อนหรือแกจ่ นเกินไป เกบ็ มาใหม่ ๆ อยูใ่ นระยะพรอ้ มเจริญเตบิ โต
4. ดอกเห็ดต้องไม่โดนน้ำ และห้ามล้างน้ำเป็นอันขาดเพราะน้ำจะดูดซึมเข้าไปในดอกเห็ด ทำให้เกิด
เชอื้ ปนเปนื้ ได้งา่ ย

ขน้ั ตอนการแยกเนื้อเยื่อเพ่ือเลย้ี งเชือ้ เหด็
1. นำอุปกรณ์ที่จะใช้ในการแยกเนื้อเยื่อเพื่อเลี้ยงเชื้อเห็ด ประกอบด้วย ขวดอาหารวุ้น ตะเกียง
แอลกอลฮอล์ เข็มเขี่ยเชื้อ ไฟแช็ค และดอกเห็ดที่ต้องการใส่ในตู้เขี่ยเชื้อ เนื้อเยื่อเห็ดผ่านการทำความสะอาด
และฆ่าเชื้อเรียบร้อย เปิดหลอดรังสีอุลตร้าไวโอเลตไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อฆ่าเชื้อและสิ่งปนเปื้อนในตู้ให้
หมด เมอื่ ครบเวลาแลว้ ท้ิงไว้ 15 นาทีจงึ เริม่ ลงมือทำการแยกเนือ้ เยอื่
2. สอดมอื เขา้ ไปในตูเ้ ขยี่ เชื้อ ทางชอ่ งทอี่ ยู่ด้านขา้ งของตู้ พรอ้ มกับจุดไฟท่ตี ะเกยี งแอลกอลฮอล์
3. ใช้มอื ทีถ่ นดั จบั เข็มเขีย่ เชื้อ คล้ายกบั จบั ดนิ สอหรือปากกาจากน้ันจึงลนไฟฆา่ เชื้อท่ีเข็มเขี่ยเช้ือ แล้ว
ปลอ่ ยใหเ้ ย็นตวั ลงสักครู่หนงึ่
4. ฉีกดอกเห็ดออกเปน็ 2 สว่ น พร้อมกบั ใช้เข็มเข่ยี เช้ือจิกเน้ือเยื่อของดอกเห็ดท่ีอย่ภู ายในให้ติดมาช้ิน
เล็ก ๆ
5. วางดอกเห็ดลงและใช้มือที่วางหยิบขวดอาหารวุ้น ใช้อุ้งมือที่ถือเข็มเขี่ยเชื้อ ดึงจุกสำลีออกอย่าง
ระมัดระวังอย่าให้ชิน้ ส่วนของสำลีท่ีอยู่ด้านในขวดสมั ผสั กบั สิ่งใด(ห้ามกำจุกสำลีเดด็ ขาด) จากนั้นลนไฟฆ่าเชอ้ื
บริเวณปากขวด พร้อมกับนำเนื้อเยื่อเห็ดที่อยู่ปลายเข็มเขี่ยเชื้อเข้าไปวางบริเวณตรงกลางของอาหารวุ้น
จากน้นั จึงนำเขม็ เขีย่ ออกพร้อมกับลนไฟฆา่ เชอ้ื ทบี่ รเิ วณปากขวดอีกครงั้ หนึง่ ก่อนทจ่ี ะปดิ จุดสำลี ประมาณ 15
วนั เส้นฝยเห็ดก็จะเดินเตม็ ผวิ หนา้ อาหารวุ้น
การดูแลขวดอาหารว้นุ
หลังจากการเขย่ี เชอื้ เห็ดแล้ว ควรดแู ลขวดอาหารวุ้นดังนี้
1. ป้องกันมดหรือแมลงชนิดอื่นที่จะมากัดกระดาษที่ปิดจุกขวดและคลานเข้าไปในอาหารวุ้นและกัด
กินเส้นใยเหด็
2. สังเกตขวดอาหารวุ้นว่ามีเชื้ออนื่ ปนเอนหรือไม่ทุกระยะการเจริญเติบโตของเสน้ ใย เพราะถ้าเส้นใย
เดนิ เต็มผิวอาหารวนุ้ แล้วจะสงั เกตเชื้อปนเปอ้ื นได้ยาก
3. ถ้าต้องการให้เส้นใยเห็ดเดินเร็ว ควรเก็บขวดอาหารวุ้นที่ใช้เลี้ยงเชื้อเห็ดไว้ในบริเวณที่มืด ๆ และ
เมอื่ เสน้ ใยเดนิ เต็มผวิ ของอาหารว้นุ แล้ว ควรรบี ขยายลงเพาะเลยี้ งบนเมลด็ ธัญพืชต่อไป

2. การเตรยี มหวั เชื้อขา้ วฟา่ ง
หัวเชื้อข้าวฟา่ ง คอื การเลยี้ งเชื้อเหด็ บนเมล็ดข้าวฟ่างเพื่อเพ่ิมปริมาณเชื้อให้มากข้ึนและสะดวกในการ

ถ่ายเชื้อในขั้นตอนต่อไป การทำหัวเชื้อเห็ดอาจใช้เมล็ดธัญพืชอื่น ๆ ก็ได้ เช่น ข้าวเปลือก ข้าวสาลี ข้าวโพด
เป็นต้น แต่ส่วนมากนิยมใช้ข้าวฟ่างเป็นหลักในการเพาะเห็ดในยุคปัจจุบันเนื่องจากราคาถูกหาได้ง่ายและ
สะดวกในการปฏบิ ัตทิ ุกขน้ั ตอน

วธิ ีการเตรียมหัวเชอื้ ข้าวฟ่าง

1. ล้างข้าวฟ่าง ให้สะอาดคัดเมล็ดที่ลีบออกแช่ข้าวฟ่างในน้ำสะอาดหากมีการหมุนเวียนได้จะทำให้
ข้าวฟา่ งไมบ่ ดู เนา่ โดยแช่ไว้ประมาณ 10- 12 ช่ัวโมง

2. นำเมล็ดข้าวฟ่างห่อด้วยผ้าขาวบางนึ่งแค่พอสกุ อย่าให้สุกมากนักพอบานเล็กน้อย นำไปเทผึ่งในผ้า
ขาวบางหรือกระดง้ เพ่ือให้หมาดเตมิ ยปิ ซมั หรือขี้เล่ือยละเอียดเลก็ น้อยเพอ่ื ให้ร่วนสะดวกในการเข่ยี เชื้อ

3. บรรจุลงขวดแบนประมาณ 2 ใน 3 ของขวด เช็ดปากขวดให้สะอาดด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ อุดจุก
ด้วยสำลี หุ้มด้วยกระดาษรัดยางอีกคร้งั หนึ่ง

4. นำขวดเมล็ดข้าวฟ่างไปนึ่งฆ่าเชื้อในหม้อนึ่งความดัน ที่ความดัน 15 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว อุณหภูมิ
121 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 45 นาที หลังจากครบเวลาแล้วนำออกจากหม้อนึ่งความดันทิ้งให้เย็นเขย่าขวด
ใหข้ ้าวฟ่างกระจายเพอ่ื ไมใ่ หข้ ้าวฟ่างแฉะท่ีกน้ ขวดและเพื่อใหส้ ะดวกนการนำไปเข่ียเชื้อในตู้เขี่ยเชือ้ ต่อไป

การเขีย่ เชื้อเห็ดลงในขวดเมลด็ ขา้ วฟ่าง
1. เลอื กขวดอาหารว้นุ ที่เสน้ ใยเจรญิ เต็มพนื้ ผวิ ใหม่ ๆ เพราะเสน้ ใยจะแขง็ แรงมาก
2. นำอุปกรณเ์ ข่ยี เชื้อตา่ ง ๆ ทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล7์ 0% แล้วใสเ่ ข้าไปในต้เู ขยี่ เชือ้
3. สอดมือทั้งสองเข้าไปในตู้เข่ียเช้ือ มือขวดถือเข็มเขี่ยเชื้อ แล้วลนไฟฆ่าเชื้อทีเ่ ข็มเขี่ยเชือ้ ปล่อยยให้
เข็มเขี่ยเชื้อเย็นลงสักครู่ จึงใช้มือซ้ายหยิบขวดอาหารวุ้นขึ้นมา แล้วใช้อุ้งมือขวาดึงจุกสำลีออก ไม่ควรกำจุก
สำลีไว้
4. ลนไฟฆ่าเชื้อที่ปากขวด พร้อมกับสอดเข็มเขี่ยเช้ือเข้าไปในขวดอาหารวุ้น แล้วตัดเสน้ ใยที่เจรญิ บน
อาหารวนุ้ ขนาด 1 X 1 ตารางเซนตเิ มตร จากน้นั ใช้ปลายเข็มเข่ียเชื้อจิกแผ่นอาหารวุ้นท่ีเส้นใยเจรญิ อยู่ออกมา
แลว้ ลนไฟฆา่ เชือ้ ที่ปากขวดอาหารวุน้ อกี ครง้ั กอ่ นจะปดิ จุกสำลี
5. ใช้มือซ้ายหยบิ ขวดเมล็ดข้าวฟ่างข้ึนมา ใช้อุ้งมอื ขวาดึงจุกสำลีออก ลนไฟฆา่ เช้อื ท่ีปากขวด จากนั้น
สอดแผ่นอาหารวุ้นเข้าไปในขวดเมล็ดขา้ วฟ่าง โดยวางไว้ตรงกลางขวด แล้วดึงเข็มเขีย่ เชื้อออก ลนไฟฆ่าเชื้อที่
ปากขวดก่อนปิดจุกสำลี หุ้มดว้ ยกระดาษรัดยางอีกชน้ั หน่ึง ประมาณ 15 วัน เสน้ ใยเหด็ จากแผ่นอาหารวุ้นก็จะ
เดนิ เต็มเมลด็ ขา้ วฟา่ งภายในขวด พร้อมนำไปใชง้ าน

3. การเตรยี มอาหารเหด็ และการถา่ ยเช้ือ
เห็ด เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำชนิดหนึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้และจะได้รับอาหารหรือ

พลังงานจากการย่อยสลายของสารอนิ ทรีย์ต่าง ๆ วัสดุท่นี ยิ มใชใ้ นการเพาะเห็ดเกือบทุกชนิดส่วนมากเป็นวัสดุ
เหลือใช้จากการเกษตร เช่น ฟางข้าว ผักตบชวา ต้นข้าวโพด ซังข้าวโพด ขี้เลื่อย ขุยมะพร้าว ชานอ้อย
แม้กระท่ังกอ้ นเชอื้ เห็ดทีท่ งิ้ แล้วไมส่ ามารถนำไปเพาะเห็ดได้ ปจั จุบนั นิยมใชว้ ัสดเุ พาะจากขี้เลอ่ื ยไมย้ างพารา
ซึ่งหาได้ไม่ยากนักและสะดวกในขั้นตอนการบรรจุถุง ไม่ต้องนำมาหมักเหมือนกับการใช้วัสดุอื่น ๆ ซึ่งทำให้
ได้ผลผลิตดีและสม่ำเสมอ

สูตรและขัน้ ตอนในการเตรียมอาหารเหด็ มีดงั น้ี

สูตร 1. ข้เี ล้อื ยไมย้ างพารา 100 กิโลกรมั

2. รำละเอียด 5 กโิ ลกรัม

3. ปนู ขาว 2 กโิ ลกรัม

4. ยปิ ซมั 1 กิโลกรมั

5. ภูไมท์ 1 กิโลกรมั

6. ดเี กลอื 2 ขดี

7. ยเู รีย 2 ขีด

8. น้ำสะอาด 40 – 60 เปอร์เซ็นต์

(บางสูตรอาจมกี ารเตมิ ขา้ วโพดป่นอีกประมาณ 1 กโิ ลกรมั )

ข้นั ตอนการผสมอาหารเห็ด
1. ผสมอาหารเห็ดโดยมขี เี้ ลอ่ื ย(ท่ีเลือกหรือร่อนเศษไม้ออกแล้ว) รำละเอียด(ควรเป็นรำใหม่ไม่ควรเก็บ
นานเกินกว่า 2 เดือน) ภไู มท์ ปูนขาวและยิปซัม คลุกเคล้าส่วนผสมใหเ้ ขา้ ด้วยกัน
2. นำยูเรียและดเี กลือละลายน้ำรดลงไปในกองอาหารเหด็ แล้วจึงเติมนำ้ ลงไป การเติมน้ำอย่าให้แฉะ
มาก เพราะจะทำใหก้ ้อนเช้ือเหด็ เนา่ เสยี ไดง้ า่ ย
หมายเหตุ การตรวจสอบว่าอาหารเห็ดสามารถ
นำไปใช้ได้แล้ว ให้ใชม้ ือกำส่วนผสมของอาหารข้ึนมาสังเกต
ดู ถ้ากำมือแล้วแบมือออกมาอาหารจับกันเป็นก้อนก็ใช้ใด้
ถ้ากำมือแลว้ แบมอื ออกมาส่วนผสมของอาหารแตกกระจาย
ไม่จับตัวกันเป็นก้อนก็ให้เติมน้ำอีก แต่ถ้ากำมือแล้วมีน้ำ
ไหลออกมาตามง่ามมือแสดงว่ามีน้ำมากเกินไปให้ผสม
สว่ นผสมเตมิ ลงไปใหพ้ อดี
3. นำอาหารเห็ดไปบรรจุลงในถุงพลาสตกิ ชนดิ ทนร้อนซึ่งปัจจุบันมีการผลิตถุงพลาสตกิ ที่ใช้เพาะเหด็
ออกจำหน่ายโดยเฉพาะ มคี ุณสมบัติ ทนความร้อน ก้นมีจบี ขนาด 6.5 X 12.5 น้วิ ไมแ่ ตกหรือฉีกขาดง่าย

ขั้นตอนในการบรรจุอาหารเหด็ ลงถงุ พลาสตกิ มดี ังนี้
1. กางก้นถงุ พลาสติกใหเ้ ปน็ สเี่ หลี่ยม
2. บรรจอุ าหารเห็ดคร่ึงถุงแลว้ เขย่า
3. บรรจุอาหารเห็ดเต็มถุงแล้วเขย่า (อย่าข้าม
ขั้นตอนนี้เพราะจะทำให้ถุงพลาสติกแตกได้ง่ายเมื่อถึง
ขั้นตอนการทุบ)
4. วางกับพน้ื เรยี บอดั ให้แนน่
5. ทุบด้านบนของถุงพลาสติกที่บรรจุอาหารเห็ด
แล้วให้แน่น (บางฟาร์มอาจใช้เครื่องบรรจุถุงเพื่อความ
รวดเร็วและประหยัดแรงงาน)
6. ใส่คอขวดพลาสติก ดึงปากถุงแล้วพับลงมาให้ตึงกับคอขวดพลาสติก รัดยาง ใส่ก้อนสำสี ปิด
กระดาษรัดยางอกี คร้ัง เพ่ือกนั สำลเี ปียก
7. บรรจุก้อนเห็ดลงตะแกรงพร้อมนำไปใส่ตู้อบฆ่าเชื้อ โดยใช้เวลานึ่งฆ่าเชื้อประมาณ 4-6 ชั่วโมงนับ
จากน้ำเดือด

เม่อื นึง่ ครบเวลาแลว้ นำก้อนเห็ดออกจากตนู้ ่ึงเชอ้ื ปล่อยไว้ให้เย็นในอุณหภมู ิห้อง ถา้ เปน็ หอ้ งที่ไม่มิดชดิ
ควรคลุมก้อนเหด็ ดว้ ยผ้าหรอื พลาสตกิ เพอื่ ป้องกันแมลงแอบเขา้ ไปวางไขซ่ ึ่งจะทำให้เกิดหนอนเขา้ ทำลายก้อน
เช้ือระยะบม่ ก้อนเช้ือทำให้เส้นใยชงกั การเจริญเตบิ โตหรือกอ้ นเชอื้ อาจเนา่ เสียได้

การถ่ายเชอื้ เห็ดจากเมลด็ ข้าวฟา่ งลงกอ้ นเห็ด
ก้อนเห็ดที่นึ่งฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว บรรจุอาหารของเชื้อราอยู่อย่างสมบูรณ์ จุลินทรีย์ เชื้อราที่เป็น
คู่แข่งกับเชื้อเห็ดถูกทำลายลงไปแล้ว การถ่ายเชื้อเห็ดจากเมล็ดข้าวฟ่างลงก้อนเห็ดจะต้องระมัดระวังมิให้เชอ้ื
ราอื่น ๆ ปะปนเข้าไปแย่งอาหารของเห็ดอีกซ่ึงจะทำให้ก้อนเห็ดเสียหายได้ การถ่ายเชื้อที่ดีและถูกต้องจึงต้อง
กระทำในหอ้ งที่สะอาดมิดชดิ ควรมกี ารทำความสะอาดและฆา่ เช้ือทุกครัง้ หลังการถ่ายเชอื้ ดว้ ยน้ำยาคลอรอกซ์
ฟอรม์ าลีนกับด่างทบั ทิมหรอื อาจใช้รังสีอลุ ตรา้ ไวโอเลตด้วยกจ็ ะดขี ึ้นไปอกี นอกจากนัน้ ก่อนการเขีย่ เชื่อลงก้อน
เหด็ ผู้ปฏบิ ตั ิจำเป็นตอ้ งมกี ารทำความสะอาดรา่ งกายก่อนเข้าไปในหอ้ งเขี่ยเชื้อ เน่ืองจากรา่ งกายของคนเราเป็น
แหล่งสะสมของเช้ือราอยแู่ ลว้

การคัดเลอื กหวั เชื้อเห็ดที่ดคี วรดูดงั น้ี
1. เลอื กซอื้ เช้ือจากฟาร์มหรือแหลง่ ผลติ ทีไ่ ดม้ าตรฐานและมีคณุ ภาพ
2. ตอ้ งเปน็ เชอื้ ที่บริสทุ ธ์ไิ ม่มีเชือ้ ราอนื่ ปะปน
3. ตอ้ งเป็นเชื้อเห็ดท่ีไม่ถา่ ยต่อ ๆ กันมาหลายครั้ง
4. ตอ้ งเป็นเชอ้ื ที่ไม่แก่หรืออ่อนเกนิ ไป

5. ใช้วัสดุทำเชอ้ื ท่เี หมาะสมกับชนดิ ของเห็ดและวสั ดเุ พาะ
6. คดั เลอื กพนั ธ์ุและชนิดตามที่ตลาดต้องการ
ข้นั ตอนการถ่ายเช้อื เหด็ จากเมล็ดขา้ วฟา่ งลงกอ้ นเห็ด
1. นำกอ้ นเห็ดทที่ ำการนึง่ ฆ่าเชอ้ื แล้วมาเข้าหอ้ งเข่ียเชื้อ ปล่อยให้เยน็ เก็บกระดาษหรอื ฝาครอบออก
2. นำหัวเชื้อข้าวฟ่างท่จี ะใชเ้ ขีย่ เชอ้ื มาเขย่าขวด เพอ่ื ให้ข้าวฟ่างแตกรว่ นเสยี ก่อนประมาณ 1 - 2 วัน
เพือ่ ใหเ้ ชื้อเห็ดได้พกั ตวั เชอ้ื เห็ดจะย่ิงเดินเส้นใยไดเ้ ร็วข้นึ
3. เช็ดปากขวดหัวเชื้อข้าวฟ่างด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อหรือลนไฟเพื่อฆ่าเชื้อที่อาจติดอยู่ตามปากขวด
ก่อน เทเมล็ดข้าวฟ่างลงในก้อนเห็ดประมาณ 20-30 เมล็ด (หัวเชื้อข้าวฟ่าง 1 ขวด สามารถเทใส่ก้อนเห็ดได้
ประมาณ 25-30 ก้อน) หากหัวเชื้อเกาะกันแน่น เทไม่ออกให้ใช้เหล็กแหลมหรือไขควงขนาดเล็ก ด้ามยาวเช็ด
ด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเช้ือหรอื ลนไฟเข้าไปเขีย่ ให้ข้าวฟ่างแตกจะทำใหเ้ ข่ยี เช้ือได้ง่ายข้ึน
4. เม่ือถ่ายเช้อื เสรจ็ แลว้ อดุ จุกก้อนเหด็ ดว้ ยสำลี ปิดระดาษแลว้ รดั ยาง
5. นำกอ้ นเชื้อเหด็ ท่ีถา่ ยเชื้อเหด็ เรยี บรอ้ ยแล้วเขา้ บ่มในโรงบม่ กอ้ นเชื้อเหด็ ที่เตรียมไว้
หมายเหตุ หัวเชื้อเห็ดจากเมล็ดข้าวฟ่างที่ใช้แล้วต้องใช้ให้หมดขวด หากมีเหลือไม่ควรนำมาใช้ใหม่
เพาะอาจมีเชอ้ื อ่นื ปะปนทำให้ก้อนเชอื้ เหด็ เสียหาย

การบม่ ก้อนเชื้อเหด็
หลงั จากท่เี ขย่ี เชอื้ เสรจ็ แลน้ ำโรงเข้าโรงเรือนบ่มก้อนเช้อื ซึ่งมีขนาดความกวา้ งยาวของโรงเรือนบ่มก้อน
เชื้อนิยมใช้ประมาณ 6 X 12-15 เมตร หรือ 8 X 15-20 เมตร ภายในโรงเรือนที่ชั้นมีเสาทำจากไมัสน ไม้ยูคา
หรือไมไ้ ผ่ มีชน้ั กว้างประมาณ 1.50 เมตร ความยาวแล้วแตข่ นาดของโรงเรอื นความสงู ประมาณ 2.5 X 3 เมตร
แบ่งเป็นชั้นประมาณ 5 ชั้น แต่ละชั้นสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ชั้นแต่ละแถวควรห่างกันประมาณ 1 เมตร
เพื่อใหส้ ะดวกในการเข้าปฏบิ ัตงิ าน ไม้ทใ่ี ชท้ ำชนั้ และโรงเรือนนิยมใช้ไม่ไผ่หรือไม้รวกเน่ืองจากราคาถูกและหา
ได้ไม่ยากนักแต่ก่อนที่จะนำมาใช้ ควรแช่น้ำให้ไม้บูดเน่าเสียกอ่ นเพื่อป้องกนั การเข้าทำลายของมอดกัดไม้ โรง
บม่ กอ้ นเช้ือควรเปน็ ห้องท่ีมีแสงสลัว ๆ อาจมดื เลยกไ็ ด้เพราะระยะเสน้ ใยเห็ดไม่ต้องการแสงในการเจริญเติบโต
อาจฉดี ยากำจดั และป้องกันแมลงไวบ้ นก้อนเห็ดด้วย เชน่ เซฟวนิ หรอื S85 ยาปอ้ งกันไร เช่น เคลเทล กำมะถัน
ผง ยาป้องกันเชื้อรา เซ่น เบนเลทโอดี เดทตอล เป็นต้น การฉีดยาอาจะผสมยาฆ่าแมลงกับยาป้องกันเชื้อรา
ดว้ ยกันกไ็ ด้ แต่ควรฉดี สลับกันเพ่ือไมใ่ ห้แมลงนและเชอ้ื ดือ้ ยาในภายหลัง อุณหภมู ใิ นโรงบม่ ควรอยรู่ ะหวา่ ง 25-
32 องศาเซลเซียส ไม่ควรให้มีลมพัดผ่าน ระยะนี้หากทำให้มีก๊าซคาร์บอนไดออกไชด์สูง ๆ เส้นใยของเห็ดก็จะ
เจริญเรว็ ย่ิงข้ึน วธิ กี ารอาจทำไดโ้ ดยสมุ ไฟให้มคี วนั เขา้ ไปโรงเรือนบม่ กอ้ นเชื้อสกั 2-3 วันตอ่ คร้งั เส้นใยกจ็ ะเดิน
ได้ดีขึ้น นอกจากนั้นยังจะเป็นการช่วยไล่แมลงต่าง ๆ ไม่ให้เข้าไปรบกวนก้อนเชื้อที่กำลังบ่มอีกด้วย ศัตรูอีก
อย่างที่คอยรบกวนก้อนเห็ดที่กำลังบ่ม คือ หนู ซึ่งมักจะคอยคาบสำลีเอาไปทำรังและกินเมล็ดข้าวฟ่างในถุง
ก้อนเชื้อ การป้องกันก็คือจัดการสุขาภิบาลโรงเรือนให้สะอาดไม่รกรุงรังจนเป็นที่อยู่อาศัยของหนู อาจต้องใช้
ยาเบื่อหรือกาวตักในกรณีท่ีมีการระบาดมาก ระยะนี้ไม่ควรให้มีลมโกรกก้อนเชื้อมากนัก อากาศนิ่งมากเสน้ ใย
เห็ดก็จะเจริญไดด้ ี

แต่ถ้าเปน็ การบ่มกอ้ นเช้ือครง้ั ละจำนวนมาก ๆ จำเป็นต้องวางกอ้ นเชือ้ ชิดกนั เพื่อประหยดั พน้ื ที่อาจ
เกิดความร้อนที่เกิดจากการย่อยสลายของจุลินทรีย์บางชนิดอาจทำให้เชื้อเห็ดชะงัก การเจริญเติบโตได้
จำเปน็ ตอ้ งมีการระบายอากาศบ้างหรืออาจใช้พดั ลมเป่าชว่ ยบ้างในวันทีม่ ีอากาศร้อนจดั ก็ได้ ระยะเวลาในการ
บ่มกอ้ นเช้ือควรหมั่นตรวจสอบในโรงเรือนอย่เู สมอ หากพบเช้ือรา พวกราเขียว ราดำ และราเมือกสีเหลือง ให้
นำกอ้ นเชื้อออกทำลายดว้ ยการเผาไฟทันที หรอื นำไปท้งิ ให้ไกลจากโรงเรือนอยา่ งน้อย 5 กิโลเมตร ถ้าเป็นเห็ด
นางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดนางนวล จะใช้เวลาในการบ่มประมาณ 25-30 วัน เส้นใยก็จะเดินจนเต็มก้อนเห็ด ถ้า
เป็นเหด็ หูหนูและเห็ดเปา๋ ฮ้ือ จะใช้เวลาประมาณ 45 วนั เส้นใยจงึ จะเดนิ เตม็ ก้อนเหด็ ในระยะสุดทา้ ยประมาณ
1 สัปดาห์ก่อนที่เส้นใยเห็ดจะเดินเต็มก้อนเห็ด ควรเปิดให้มีการระบายถ่ายเทอากาศและให้มีแสงสว่างเข้าได้
บา้ งเพราะแสงสวา่ งจะไปกระตุ้นใหเ้ ห็ดสร้างดอกไดเ้ ร็วยง่ิ ขน้ึ แล้วจงึ นำเข้าโรงเรอื นเปดิ ดอกตอ่ ไป

โรงเรือนเปิดดอก
โรงเรือนที่ใช้ในการเปิดดอกเห็ดเกือบทุกชนิดส่วนมากมีรูปแบบที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ลักษณะ
โรงเรือนนิยมแบบหน้าจั่วซึ่งจะมีการระบายอากาที่ดีกว่าแบบเพิ่งหมาแหงน ขนาดของโรงเรือนส่วนมากนิยม
ทำขนาด 6 X 8 เมตร หรือ 6 X 12 เมตร หลังคามุงด้วยจากหรือหญ้าคา ข้างฝากรุด้วยจากหรือหญ้าคา
ปัจจุบันอาจใช้แสลนดำชนิดกรองแสง 70 เปอร์เซ็นต์ กรุด้านข้างแทนจากหรือหญ้าคาก็จะสะดวกมากยิ่งข้ึน
ระหว่างฝากับหลังคาให้เว้นชว่ งไว้ประมาณ 1 ศอกเพื่อให้การระบายอากาศดีขึ้น เนื่องจากอากาศร้อนจะลอย
ออกทางด้านบนเสมอ วัสดกุ อ่ สรา้ งนยิ มใชไ้ มไ้ ผ่ ไม้รวก ไมส้ น หรือไม้ยคู า ก่อนการสรา้ งควรแชไ่ ม้ไผ่ ไมร้ วก ไว้
ในน้ำประมาณ 1 เดอื นเพือ่ ใหไ้ มเ้ นา่ ชว่ ยปอ้ งกนั มอดมากดั กนิ ไม้
ลักษณะโรงเรือนเปิดดอกท่ีดี
1. ควรมคี วามสงู พอเหมาะ เพอ่ื ระบายถ่ายเทอากาศไดด้ ี
2. พื้นโรงเรือนเป็นคอนกรีต ทรายอัด หรือหินคลุก เพื่อสะดวกในการทำความสะอาดและช่วยในการ
เก็บรกั ษาความชืน้ ในโรงเรือน
3. ควรสร้างโรงเรอื นตามแนวทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตก เพื่อช่วยลดความร้อนภายในโรงเรือนได้ดี
ในช่วงเช้าและบา่ ย
4.ชั้นวางก้อนเห็ดภายในโรงเรือนคล้ายกับโรงบ่ม ไม่ควรสูงเกิน 2.50 เมตร หากสูงกว่านั้นจะไม่
สะดวกในการเก็บผลผลิต แบ่งเป็น 4 ชั้น แต่ละชั้นห่างกันประมาณ 50 เซนติเมตร ชั้นล่างสูงจากพื้น 30
เซนติเมตร แต่ละแถวหา่ งกัน 1 เมตร

การเปิดดอก
ขัน้ ตอนนีเ้ ปน็ ที่นยิ มของอาชีพการเพาะเห็ดขนาด
เล็กหรือขนาดกลาง ซึ่งไม่พร้อมที่จะทำก้อนเชื้อเอง ไม่มี
โรงบ่ม ก็จะเริ่มเพาะจากขั้นตอนนี้โดยการเตรียมโรงเรือน
เปดิ ดอกไว้แลว้ หาซอ้ื ก้อนเชอื้ ท่ที ำเสร็จแลว้ มาเขา้ โรงเรือน
ของตน ต้นทุนก็ไม่แพงมานัก แล้วแต่การเดินของเส้นใย
และปรมิ าณทีส่ ง่ั ซ้ือ บางคร้ังอาจซ้ือกอ้ นเชอื้ ทเ่ี ข่ียเชื้อเสร็จ
ใหม่ ๆ มาเข้าโรงบ่มไว้ เม่ือเสน้ ใยเดินเต็มก้อนเชือ้ จนกลาง
เป็นสีขาวทั้งก้อนแล้วก็นำก้อนเชื้อเข้าโรงเรือนเปิดดอก หากนำเข้าช้าเกนิ ไปเส้นใยที่เจริญเติบโตเตม็ ที่แลว้ จะ
รวมตัวกนั กลายเป็นดอกเหด็ ดันสำลีและกระดาษออกมา ดอกอาจจะบิดเบยี้ วผิดปกตแิ ละมีน้ำหนักเบาไม่เป็น
ที่ต้องการของผู้บริโภค ควรนำก้อนเชื้อที่ระยะเวลาการเจริญเติบโตใกล้เคียงกับไว้ในโรงเรือนเดียวกันเพ่ือ
สะดวกในการดูแลรักษา

การเปิดดอกเห็ดวิธีตา่ ง ๆ
1. เปิดดอกโดยการดึงกระดาษ สำลี และคอขวดออกให้ปากถุงอยู่ในสภาพเดิม วางก้อนในแนวนอน
สามารถวางซ้อนกันได้หลายก้อนต่อ 1 ชั้น การเปิดดอกวิธีนี้เราสามารถที่จะนำคอขวดกลับไปใช้ได้เลย ดอก
เห็ดที่ได้จะมีขนาดใหญ่หรือดอกเป็นช่อแต่ละช่อมีหลายดอก ผลผลิตคุณภาพดี น้ำหนักดอกดี เป็นที่นิยมขอ
ผู้บริโภค การดแู ลงา่ ย ข้อเสียกค็ อื หากการรดน้ำใช้แบบสายยางฉีดนำ้ ใส่ก้อนเห็ดอาจมนี ้ำขังบริเวณปากถุงทำ
ให้ก้อนเชื้อเกิดการเน่าเสียได้ควรมีการตรวจสอบทุกวัน หากพบว่ามีน้ำขังบริเวณปากถุงให้ใช้มีดคม ๆ หรือ
มีดคัตเตอร์ที่สะอาดเช็ดด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำยาคลอรอกซ์เจาะด้านล่างของปากถุงเพื่อให้น้ำไหลออกได้
เห็ดแต่ละชุดจะใช้เวลาประมาณ 10-15 วันในการออกดอก หากเป็นก้อนเชื้อที่ใช้ถุงขนาดใหญ่หรือแน่นมาก
อาจจะเก็บผลผลิตได้นานถงึ 5 หรือ 6 เดือน ผลผลติ ประมาณกอ้ นละ 300-400 กรมั สว่ นใหญน่ ยิ มใช้วธิ ีการน้ี
ในการเปดิ ดอก
2. การเปิดดอกโดยการตัดถุงพลาสติกบริเวณปากถุงก้อนเชื้อออก วางก้อนเชื้อเห็ดในแนวนอน
สามารถวางซ้อนกันได้หลายก้อน สะดวกในการดูแลรักษาไม่ต้องกลัวน้ำขังปากถุงเหมือนกับวิธีแรก การเปิด
ดอกวิธีนี้จะได้ดอกเห็ดหลายขนาด ดอกจะออกกระจาย เป็นช่อหรือเป็นชุดในรุ่นแรก ดอกเห็ดชุดหลังก็จะ

ออกเป็นดอกเดี่ยว ๆ แต่จะมีจำนวนดอกมาก ดอกไม่ค่อยสวย
นัก ออกดอกเร็ว น้ำหนักเบา แต่ก็เป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภค
เพราะเวลาประกอบอาหารไม่ต้องตัดแต่งมาก ข้อเสียก็คือ
เนื่องจากเห็ดออกดอกเล็กและออกดอกเร็วทำให้อาหารหมด
เร็วไปด้วย อายุก้อนเห็ดจะอยู่ประมาณ 4 เดือน นอกจากน้ัน
หากมีการระบาดของเชื้อรา เช่น ราเขียว เชื้อราจะระบาดเร็ว

มาก เนื่องจากความกว้างของปากถุงมีมากกว่า นิยมใช้วิธีการนี้กับก้อนเชื้อเห็ดที่ออกไปแล้วสัก 3-4 รุ่น เพ่ือ
เพ่ิมพ้นื ที่ใหอ้ อกดอกไดม้ ากข้ึน

3. การเปิดดอกโดยการกรีดข้างถุง วิธีการนี้นิยมใช้กับเห็ดหูหนูที่เพาะในถุงพลาสติก โดยการกรีด
ด้านข้างถุงด้านละ 2 รอย ความยาวประมาณ 1 นิ้ว แล้วผูกแขวนเอาไว้ หากเป็นเห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า การ
เปิดดอกวิธีนี้จะได้ดอกขนาดเล็กลักษณะดอกสวยงาม ดอกคุณภาพดี แต่น้ำหนักต่อช่อหรือต่อชุดน้อย อายุ
ก้อนเชอ้ื ประมาณ 4 เดือน มีขอ้ เสยี มาก เนอ่ื งจากการเปิดดอกวธิ นี ี้ต้องวางก้อนเช้ือในแนวตง้ั ห่างกันอย่างน้อย
1 คบื ทำให้ส้ินเปลอื งพ้ืนที่มาก อกี ทั้งบรเิ วณรอยท่เี ห็ดออกไปแลว้ อาจมีช่องใหน้ ้ำเข้าไปในถุง ทำให้เน่าเสียได้
งา่ ย จงึ ไม่นยิ มเปดิ ดอกแบบน้ี นอกจากเปดิ ดอกเพื่อทดลองสตู รอาหารหรือเพ่ือความสวยงามเทา่ นนั้

การดูแลรักษาระยะเปดิ ดอก
การเปิดก้อนเชื้อทเี่ ดินเต็มแล้วให้ออกดอก เป็นขั้นตอนท่ีสำคัญข้นั ตอนหน่ึงท่ตี ้องอาศัยประสบการณ์
และความชำนาญ รวมทั้งความเข้าใจในความต้องการของเห็ดมาประกอบกันเข้าหลาย ๆ อย่าง จึงจะทำให้
สามารถผลิตดอกเห็ดที่มีคุณภาพและปริมาณเพียงพอที่จะทำรายได้ ชดเชยรายจ่ายที่ต้องเสียไปจากการผลติ
กอ้ นหรือการซื้อกอ้ นเชอ้ื มาเข้าโรงเรือน
ปจั จัยท่ีสำคญั ในการดแู ลระยะเปิดดอก มหี ลายประการ ได้แก่
1. น้ำ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้เส้นใยของเห็ดรวมตัวกันกลายเป็นดอกเห็ดและเจริญเติบโตได้ตาม
ธรรมชาติของเห็ดที่ต้องการความชื้นมากในช่วงออกดอก น้ำที่ใช้ในการรดเห็ดควรเป็นน้ำสะอาดมีฤทธิ์เป็น
กลาง ไม่เป็นกรดหรือด่างมากเกินไป หากเป็นน้ำประปาที่มีสารคลอลีนผสมอยูค่ วรขงั น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน
เพื่อให้คลอลีนสลายตัวไปก่อน หากเป็นน้ำบ่อหรือน้ำคลองก็ต้องระมัดระวังในเรื่องยาฆ่าแมลงและยากำจัด
วัชพืช ซึ่งอาจมีผลกระทบตอ่ การเกดิ ดอกของเหด็ น้ำที่ดีท่ีสุด คือ น้ำฝน เพราะไม่มีสารพิษและแร่ธาตุเจอื ปน
ท้ังนี้ยงั มธี าตไุ นโตรเจนทเ่ี หด็ ต้องการในระยะการออกดอกอีกดว้ ย โดยวิธีการใหน้ ำ้ กบั เหด็ มีดงั น้ี

1.1 การรดน้ำลงบนก้อนเห็ดโดยตรง อาจใช้บัวรดนำ้ รดบนก้อนเห็ดหรืออาจใชส้ ายยางรดก็
ได้ แต่ต้องระวังอย่าให้น้ำเข้าไปในถุงก้อนเชื้อซึ่งอาจทำก้อนเชื้อเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น อาจจะล่อแมลงบางชนิด
เข้ามารบกวนในโรงเรือนได้ พยายามอย่าให้น้ำถูกดอกเห็ดโดยตรงมากนัก การรดน้ำด้วยวิธีน้ีควรรดก่อนเกบ็
ผลผลิตอย่างนอ้ ย 2 ชั่วโมง จะทำให้โรงเรือนมีความช้ืนสงู ดอกเห็ดจะมีคุณภาพดีมีน้ำหนักดี แต่โรงเรอื นอาจ
แฉะมาก พ้นื โรงเรือนควรเปน็ ทรายหรือหนิ อัดจะดีกวา่ พนื้ ดนิ เหนียว

1.2 การรดน้ำโดยการใช้เครื่องพ่นหมอก พ่นฝอย หรือสปริงเกอร์ขนาดเล็ก ซึ่งจะต้องมี
ไฟฟ้าและเครื่องปั๊มน้ำทีม่ ีคุณภาพดี ฉีดพ่นอยู่เหนือกอ้ นเห็ดและดอกเหด็ วิธีการนีต้ ้องลงทุนสูง แต่ก็คุ้มค่าใน
ระยะยาวประหยัดเวลาและไม่เปลืองแรงานมาก ก้อนเชื้อก็จะไม่มีน้ำขัง ลดการน่าเสียได้ ดอกเห็ดก็จะมี
คุณภาพดี ไม่ฉ่ำน้ำ สามารถควบคุมความชื้นในโรงเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้อาจดัดแปลงตัว
สปริงเกอรไ์ ว้บนหลังคาโรงเรือนเพ่ือชว่ ยลดความร้อนในช่วงที่อากาศร้อนจัดได้อีกดว้ ย หากไม่มีไฟฟ้าหรือเพ่ือ
การประหยดั กอ็ าจจะใช้ถงั สำหรับฉีดยาฆา่ แมลงของเกษตรกรมาฉดี พ่นก็ไดผ้ ลไม่แพ้กัน แต่ต้องเปน็ ถังใหม่ท่ียัง
ไมเ่ คยใชฉ้ ดี ยาฆ่าแมลงหรือยาฆา่ วชั พชื มากอ่ น เพราะอาจมีสารพษิ ตกคา้ งมีอันตายตอ่ เห็ดและผู้บริโภคได้

การให้นำ้ เห็ดควรคำนึงถึงความชนื้ สัมพัทธ์ที่มีในอากาศซึ่งควรอยทู่ ี่ประมาณ 80-90เปอร์เซ็นต์ วิธีวัด
อาจใช้เครื่องมือที่เรียกว่า "ไซโครมิเตอร์แบบตุ้มแห้ง - ตุ้มเปียก" ซึ่งมีขายตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์เพาะเห็ด
ท่ัวไป หวั ใจสำคญั ของการให้นำ้ เห็ด คือ "ให้น้อย ๆ แต่บอ่ ยครั้ง"

2. อากาศ ในระยะเวลาช่วงที่เห็ดกำลังออกดอกเห็ดต้องการ ออกซิเจนมากกว่าช่วงที่เป็นเส้นใย ใน
โรงเรือนจึงต้องมีการะบายถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี หากพบว่าดอกเห็ดบิดเบี้ยวหรือยืดยาวเป็นปากแตร
ดอกไมบ่ าน บางครง้ั อาจไม่เปน็ ดอกเห็ดแตจ่ ะเป็นก้อนดอกเห็ดกระจุกอยูบ่ ริเวณปากถุงเกิดจากการที่โรงเรือน
มีการสะสมของก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์มากเกนิ ไปตอ้ งรบี เปิดโรงเรอื นใหม้ กี าระบายอากาศมากข้ึนก็จะ
สามารถแกป้ ัญหาน้ไี ด้

3. อุณหภูมิ ในโรงเรือนเปิดดอกของเห็ดเกือบทุกชนิดควรมีอุณหภูมิประมาณ 22-32 องศาเซลเซียส
หากมอี ณุ หภมู สิ ูงเกินไป เห็ดจะออกดอกน้อยมากหรืออาจชะงักไม่ออกดอกเลยก็ได้ ดอกเห็ดจึงมกั มีราคาสูงได้
ราคาดีในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากมีเห็ดออกมาสู่ท้องตลาดน้อยนั่นเอง ในฤดูร้อนหรือวันที่อากาศร้อนจัดไม่ควร
ให้อากาศร้อนกระทบดอกเห็ดโดยตรง เพราะจะทำให้ดอกเห็ดแห้งและตายได้ ควรมีการดน้ำบนหลังคาใ ห้
บ่อยครง้ั ขึ้น เพอ่ื ใหค้ วามช้นื บนหลังคาคายความร้อนในโรงเรือนออกไป การสร้างโรงเรือนอย่างถูกวิธีอาจช่วย
ได้มากในการลดอุณหภูมิในโรงเรือน โดยการสร้างหลังคาที่สามารถเปิดปิดได้ในบางจุด และมีช่องระหว่างฝา
กับหลังคาควรห่างกันประมาณ 1 ศอก ระหว่างฝากับพื้นดินเว้นช่องว่างไว้ประมาณ 1 ศอกเช่นกัน อาศัย
หลักการอากาศร้อนเบากว่าจะลอยขน้ึ ในขณะท่ีอากาศเย็นมนี ้ำหนักมากกว่าจะลอยเขา้ มาแทนที่ หรืออาจใช้
ตาขา่ ยพรางแสงมาทำเป็นฝาโรงเรือนเลยก็ได้ แตอ่ าจจะมปี ัญหาบ้างในการควบคุมลมท่ีพดั ผ่านเขา้ ในโรงเรือน
บา้ งในบางฤดู

4. แสง เห็ดเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ แสงจึงไม่มีความจำเป็นต่อการออกดอก
ของเห็ดมากนัก แต่แสงจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้เส้นใยของเห็ดรวมตัวกันเป็นดอกเห็ดได้เร็วขึ้น หากมีแสง
เลก็ น้อยดอกเหด็ จะมีสี รสชาติ คณุ ภาพดอกดี แตห่ ากมีแสงเข้ามากเกนิ ไป เห็ดบางชนดิ อาจมีสคี ล้ำลงได้

5. อาหารเสริม เป็นการเพิ่มปริมาณผลผลิต เพิ่มคุณภาพ หรือเร่งให้เส้นใยเห็ดรวมตัวกันเป็นดอกได้
เรว็ ข้ึน การใหอ้ าหารเสริมเหล่าน้ีควรให้ในวนั แรกท่ีนำก้อนเช้ือเขา้ โรงเรือนก่อน 1 ครงั้ หลังจากที่เก็บกระดาษ
และสำลีออกแล้ว โดยฉดี สเปรยอ์ าหารเสริมใหเ้ ขา้ ไปในก้อนเชื้อเลก็ น้อย เพอื่ เป็นการกระตนุ้ หรือทำให้ผลผลิต
รุ่นแรกไม่ฝ่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็ดนางฟ้าภูฐานซึ่งรุ่นแรกมักจะแห้งและฝ่อตายไปก่อนที่จะเจริญเติบโตเป็น
ดอกเห็ด ก่อนสเปรย์อาหารเสริมทุกครั้งควรงดการให้น้ำก่อน เพื่อให้ก้อนเห็ดแห้งจนสามารถดูดขับอาหาร
เสริมให้ไดม้ ากที่สุด จะให้อาหารเสรมิ เพียงครั้งเดยี วเทา่ นั้น จนกระทั่งเห็ดออกดอกไปแล้วสัก 2-3 รุ่น อาหาร
และโปรตีนในกอ้ นเชื้อลดน้อยลงแล้วจึงจะเริ่มให้อาหารเสรมิ อีก คราวนี้อาจใหท้ ุกวันหรือวันเว้นวันกไ็ ด้ ให้ไป
จนกระทั่งเก็บผลผลิตได้จะทำให้ดอกเห็ดมีน้ำหนักและคุณภาพดีขึ้น อาหารเสริมที่ใช้ส่วนมากนิยมใช้อาหาร
เสริมในกลุม่ ไบโอพลัส หากหาไม่ได้สามารถใช้ ยูเรีย หรือ ปุ๋ยสูตร 46-0-0 หรือ ปุ๋ยดับเบิล้ ซุปเปอร์ฟอสเฟต
ทดแทนกนั ก็ได้ แต่ต้องระวังอย่าใช้ในปริมาณท่ีมากเกนิ ไป เพราะอาจทำใหเ้ กดิ ราเขียวรบกวนกอ้ นเชอ้ื ได้งา่ ย

6. การเก็บผลผลิต ควรเก็บผลผลิตเมื่อดอกบานเต็มท่ี
ไม่แก่จนเกินไป เพราะจะทำให้คุณภาพของเห็ดลดต่ำลงได้
วธิ กี ารเกบ็ ใชม้ อื รวบกา้ นดอกเห็ดแล้วบิดเบา ๆ แล้วดงึ ให้ออกมา
ทั้งก้านดอก ให้มีก้านติดคาที่ปากถุงน้อยที่สุดหรือไม่มีเลยยิ่งดี
ควรเก็บให้หมดทุกดอกในก้อนเดียวกัน เพราะเหลือไว้ก็จะแห้ง
ตายไปในทสี่ ดุ

7.การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว ควรตัดแต่งดอกเห็ด
เพอ่ื ไม่ใหเ้ ศษข้เี ลื่อยไปติดตามดอกเห็ด ซ่ึงจะทำให้ดอกเหด็ เสยี คุณภาพได้ นอกจากนสี้ ง่ิ สำคญั อีกอย่างคือ การ
ดูแลก้อนเชื้อเห็ดในโรงเรือนหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตทุกครั้ง เพื่อตัดแต่งเอาเศษก้านดอกที่ติดอยู่ตามปากถุง
ออกให้หมด หากไม่ตัดแต่งเศษก้านดอกเห็ดเหล่านี้ออกจะเกิดการเน่าเสียเป็นแหล่งของเชื้อราและแมลงเข้า
ทำลายก้อนเชื้อเห็ด การตัดแต่งอาจตัดแต่งควรใช้เครื่องมือที่สะอาด เช่น มีดหรือช้อนเช็ดด้วยยาฆ่าเชื้อพวก
นำ้ ยาคลอรอกซห์ รือแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อก็ได้ เศษเห็ดหรอื กอ้ นเช้อื เหด็ ทีต่ ัดแตง่ ควรมีภาชนะรองรับอย่าให้มีการ
หล่นตามพื้นโรงเรือน แล้วรวบรวมเพื่อนำไปเผาทำลายหรอื ไปทิ้งให้ไกลจากโรงเรือนทันทีที่ตัดแต่งเสร็จในแต่
ละวนั

8. การพกั ก้อนเหด็ หลงั จากเหด็ ออกดอกไปแล้วประมาณ 3-4 รนุ่ ควรมีการพักก้อนเห็ดบ้างโดยการ
งดการให้น้ำประมาณ 2-3 วัน เนื่องจากอาหารบริเวณปากถุงถูกใช้ไปหมดแล้ว ควรให้เห็ดได้พักตัวเพื่อดึง
อาหารจากก้นถงุ มาสรา้ งดอกชดุ ใหม่ได้ หากไม่มีการพกั ก้อนเลยเชือ้ เห็ดจะอ่อนเอ ทำให้ออกดอกชา้ เชื้อราอ่ืน
อาจเข้ารบกวนได้

9. เชื้อราและแมลงศัตรู การเพาะเห็ดในระยะแรก ๆ มักไม่คอ่ ยมปี ัญหาเหล่า
นเี้ นอื่ งจากยังไม่มีการสะสมของโรคและแมลงตา่ ง ๆ แตพ่ อเพาะเห็ดไดส้ ักระยะ หากการสขุ าภิบาลและการ
จดั การไม่ดีพอ โรคและแมลงกจ็ ะเริ่มเขา้ รบกวนในโรงเรือนเพาะเห็ด อาจทำให้ผลผลติ ลดลง

เช้อื ราทที่ ่ีเปน็ ปัญหาในการเพาะเหด็ ได้แก่
1. ราเขียว เกดิ จากการติดมากบั หัวเชือ้ หรอื การใชส้ ว่ นผสมอาหารทม่ี ีโปรตนี สงู มากเกินไป สว่ นผสม
เชน่ รำข้าวอาจเปน็ รำใหมท่ ่ีมสี ารเคมีติดมา ความสกปรกในโรงเรอื น เศษดอกเหด็ เศษก้อนเชอื้ เหด็ ท่หี ล่นตาม
พนื้ ตามช้ันวางก้อนเช้ือกเ็ ปน็ สาเหตสุ ำคัญทีท่ ำให้เกิดราเขียวได้ การเลอื กเชอื้ เห็ดและการสขุ าภิบาลทีด่ กี จ็ ะ
สามารถแก้ปัญหาได้ ทางท่ีดีหากพบควรนำไปเผาทำลายในทันที อยา่ ปลอ่ ยไวอ้ ยา่ งเด็ดขาด เพราะเช้ือรา
สามารถแตกสปอร์ไดน้ ับลา้ นสปอรใ์ นเวลาไม่กชี่ ่วั โมงเทา่ น้นั
2. ราดำ เกิดจากส่วนผสมของอาหารเก่าหรอื บดู เน่า เนือ่ งจากทำก้อนแล้วปล่อยขา้ มคืน หรือเกดิ จาก
การน่งึ ไม่สกุ อย่างเพยี งพอ หรอื จากสปอร์ของเช้อื ราเก่าท่ีมตี ามโรงบม่ ก้อนเชอื้ ตกหล่นเขา้ ไปหรือแมลงนำพา
เข้าไปในก้อนเชอื้
3. ราเหลอื งหรือราเมือก มักเกิดกับก้อนเหด็ ระยะออกดอก เกิดจากความไมส่ ะอาดของโรงเรือนและ
มนี ้ำขงั ตามถุงก้อนเชอื้ เนือ่ งจากมีใหน้ ำ้ มากเกนิ ไป ควรงดการให้นำ้ เม่ือมคี วามชน้ื สูงอยู่แล้ว

แมลงและศัตรูทเ่ี ขา้ ทำลายเหด็
ศัตรูที่สำคัญในโรงเรือนเพาะเหด็ ได้แก่ สัตว์รบกวนต่าง ๆ เช่น หนู แมลงสาบ จิ้งจก เข้าทำลายและ
กัดกินผลผลิตเห็ดและเข้าทำลายก้อนเชื้อเห็ดในโรงเรือน แมลงชนิดต่าง ๆ เช่น แมลงหวี่ผลไม้ แมลงหวี่ขาว
แมลงวัน ด้วงเจาะผลไม้ ไร ฯลฯ แมลงและศัตรใู นโรงเรือนเพาะเห็ด เป็นสว่ นหน่ึงของพาหะนำโรคและกัดกิน
ดอกเห็ดระยะดอกอ่อนจนแห้งและตายไป บางคร้ังอาจจะทำให้ผูป้ ฏิบัติงานในโรงเรอื นเกิดการแพไ้ รเป็นผื่นคัน
ตามตวั ได้ ไรบางชนดิ มผี ลกบั เหด็ มาก เชน่ ไรไข่ปลา จะเขา้ ทำลายก้อนและดอกเห็ดหหู นูจนเสยี หายไปท้ังหมด
ฉะนั้นถ้าเพาะเห็ดหูหนูในถุงพลาสติกก่อนนำก้อนเข้าโรงเรือนควรนำก้อนเชื้อที่ก รีดแล้วจุ่มลงในยาฆ่าแมลง
เช่น เซฟวิน หรือยาฆ่าไรโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมี แมลงหว่ี แมลงวันตัวเล็ก ๆ หนอนผีเสื้อ ด้วงปีกแขง็ และ
แมลงอกี หลายชนิด ชอบมาตอมทดี่ อกเห็ดและวางไข่ไวจ้ นไข่กลายเปน็ หนอนเข้าเจาะทำลายก้อนเห็ดและดอก
เห็ด การแก้ไขถ้าระบาดน้อยอาจใช้กระดาษสีเหลืองทากาวเหนียวแขวนไว้ในโรงเรือน แมลงพวกนี้ก็จะมาติด
ตายไปเอง หากมีมากอาจรมโรงเรือนด้วยฟอร์มาลีนและด่างทับทิม หากระบาดมากใช้ยาฆ่าแมลงที่มีฤทธิ์ตก
คงน้อย เซ่น เซฟวินหรือ S-85 ฉีดพ่น แต่จะต้องไม่เก็บผลผลิตจำหน่าย เนื่องจากจะเป็นอันตรายกบั ผู้บริโภค
ได้ ปัจจุบันอาจใช้สารสกัดสะเดาซึ่งไม่มีผลตกค้างให้เป็นอันตรายกับผู้บริโภคมาใช้ในการป้องกันและกำจัด
แมลงเหลา่ นีอ้ ย่างไดผ้ ล

ขั้นตอนการเปิดดอกเห็ด
เหด็ นางรม เห็ดนางฟา้ และเหด็ นางนวล
1. เปดิ กอ้ นเช้ือเห็ดทเี่ ชอื้ เดนิ เตม็ ก้อน มองจากปากถงุ เช้ือจะเดนิ จากปากถุง มาก้นถุง
2. เปิดจุกกระดาษและสำลีออก จะมองเห็นเม็ดขา้ วฟา่ งข้างใน
3. ใชป้ ลายชอ้ นสัน้ แคะเม็ดขา้ วฟา่ งออกให้หมด จนเห็นสีขีเ้ ลอื่ ย
4. รดน้ำเช้า กลางวนั เย็น ทก่ี ้อนเช้ือเห็ดทุกวนั โดยไม่ให้นำ้ เข้าหน้าก้อน เพราะจะทำให้

กอ้ นเน่าเสียไดง้ า่ ย หรอื ตดิ สปริงเกอร์เพอื่ สะดวกในการรดน้ำ
5. การเก็บดอก ใหโ้ ตประมาณก้นขวด การเก็บ โยกซ้ายขวา อยา่ ดงึ ตรง ๆ อาหารจะติด

ออกมาด้วย
6. เม่อื เก็บเห็ดแลว้ จะมเี ศษเห็ดเล็ก ๆ ใหใ้ ชช้ ้อนส้ันขูดทำความสะอาด
7. เห็ดจะมกี ารพกั ก้อน 3-5 วัน เพอ่ื กินอาหาร แล้วก็จะออกมาใหม่รุ่นตอ่ ๆ ไป
8. ก้อนเหด็ มีอายุ 3-6 เดือน ข้นึ อยู่กับการดูแล

เหด็ Milky
การเปิดดอกเห็ดMilky มีขนั้ ตอนทีย่ ่งุ ยากกวา่ เหด็ นางรม นางฟา้ และนางนวล สรุปไดด้ งั นี้
วธิ ีท่ี 1 เปิดกอ้ นเหด็ เด่ียว ๆ
1. ใชก้ อ้ นเห็ดMilky ทีเ่ ชื้อเดินเต็มสมบรู ณ์แล้วถอดคอขวดและสำลีออกพับปากถงุ ลงใหเ้ หลอื
ประมาณ 1 น้วิ

2. ใชก้ าบมะพรา้ วสบั ท่ีแชน่ ้ำไว้ 7 วนั โรยปิดหนา้ ก้อนเห็ดประมาณ 1 เซนตเิ มตร
3. รัดยางปิดปากถุงไว้ประมาณ 10-15 วัน เกบ็ ไว้ในท่ีแสงนอ้ ย-มืด
4. สังเกตเส้นใยสีขาวเดินเต็มก้อนเห็ดแลว้ ใหเ้ ปิดปากถงุ ออกโรยกาบมะพร้าวสบั อีกครั้ง
ประมาณ 1 เซนตเิ มตร
5. ใช้ถงั หรือถงุ พลาสติกครอบไว้ อกี ประมาณ 10 วัน เหด็ Milkyก็จะออกดอก
หมายเหตุ : เหด็ Milkyชอบอากาศร้อนชน้ื อุณหภูมิ 30 – 38 องศาเซลเซียส ความชน้ื
ประมาณ 70 เปอร์เซน็ ต์ เห็ดMilkyไมช่ อบน้ำจงึ ไมต่ ้องรดน้ำลงในก้อนเพราะจะทำให้กอ้ นเนา่ ได้ ควรเกบ็ ดอก
เม่อื อายดุ อกได้ 5 - 7 วนั ถา้ ปล่อยไว้นานกว่าน้ี ดอกเหด็ จะมีรสขม เมอ่ื เกบ็ ดอกแลว้ ให้คยุ้ กาบมะพรา้ วสับ
ออกใหห้ มด แลว้ นำกาบมะพรา้ วสบั เติมลงไปประมาณ 1 เซนติเมตร อีกประมาณ 15 วันเหด็ กจ็ ะออกชุดตอ่ ไป
ก้อนเหด็ 1 กอ้ นสามารถออกดอกได้ 4-5 ครัง้ ผลผลิตก้อนละ 500 – 800 กรัม ระยะการเกิดดอกถา้ ถูกแสง
น้อยจะทำใหด้ อกมีสีขาวสวยงาม

วธิ ีการเพาะเหด็ milky (เปิดกอ้ นเหด็ เดี่ยว ๆ)

วิธีที่ 2 เปิดในกระถางหรือถุงพลาสตกิ
1. นำกาบมะพรา้ วสับที่แช่น้ำไว้ 7 วัน ใส่รองก้นกระถางหรือถงุ ประมาณ 1 นว้ิ
2. นำก้อนเห็ดทีเ่ ชื้อเดนิ เต็มแล้วมาแกะถุงพลาสติกออกให้หมด ใสล่ งในกระถางประมาณ
กระถางละ 5-7 ก้อน
3. เตมิ กาบมะพร้าวลงให้เต็มกระถาง หรอื กลบก้อนเห็ดประมาณ 1 เซนติเมตร
4. ปิดถุงพลาสตกิ ใหแ้ นน่ ถา้ เป็นกระถาง กะละมัง กลอ่ งโฟม หรือภาชนะอ่ืน ๆ ให้ใช้
ถงุ พลาสติกติดปากให้สนิท เก็บไว้ในท่มี ืด 15 - 20 วัน
5. เปดิ ออกดูเสน้ ใยจะเป็นสขี าวกลบดว้ ยกาบมะพรา้ วสบั แชน่ ำ้ 7 วนั อีกครั้ง โดยใหม้ ีความ
หนาประมาณ 1 เซนติเมตร
6. คลมุ ด้วยพลาสตกิ แบบหลวม ๆ ให้ถูกแสงไดแ้ ต่ไม่ควรถูกแดดโดยตรง ใชเ้ วลา 10 - 15
วัน เหด็ จะออกดอก
หมายเหตุ : วิธีการนจี้ ะทำให้ได้ดอกเหด็ ที่มขี นาดใหญ่ และสามารถเก็บไดน้ าน 4 - 5 เดือน
เหด็ Milky ชอบอากาศรอ้ นชื้น อุณหภูมิ 30 – 38 องศา ความชื้นประมาณ 70 เปอร์เซน็ ต์ เหด็ Milkyไม่ชอบ
น้ำจึงไม่ต้องรดนำ้ ลงในวสั ดเุ พาะ เพราะจะทำให้ก้อนเน่าได้ วธิ ีการเก็บ ควรเก็บท้งั กออย่าให้ดอกหัก ถา้ หัก

ต้องเก็บออกให้หมด หลังจากน้ันให้คยุ้ กาบมะพรา้ วสับออกเติมใหม่ อีก ประมาณ 10 - 20 วันกจ็ ะออกชุด
ตอ่ ไป ระยะการเกิดดอกถา้ ถูกแสงน้อยจะทำให้ดอกมสี ีขาวสวยงาม

วิธกี ารเพาะเหด็ milky (เปดิ ในกระถางหรือถงุ พลาสติก)
วธิ ที ี่ 3 การเปิดแบบโรงเรอื น
1.รองพ้ืนโรงเรือนดว้ ยพลาสติกหรือกาบมะพรา้ วสับทแี่ ชน่ ้ำ 7 วนั
2.เรยี งกอ้ นเหด็ ท่ีเต็มแลว้ ให้เตม็ พนื้ ท่ีคลมุ ด้วยกาบมะพรา้ วสบั ท่ีแช่น้ำผสมด้วยดนิ มูลไสเ้ ดือน
หรือดินหมกั ผสมใบจามจุรี
3.รดน้ำแค่พอชมุ่ ๆ คลมุ ดว้ ยพลาสตกิ สีดำ ท้งิ ไว้ประมาณ 20 วนั
4.เปิดพลาสตกิ ออกจะเหน็ เส้นใยฟูเปน็ สขี าว คลมุ ดว้ ยกาบมะพร้าวสับแชน่ ำ้ อีกคร้งั บางแหง่
อาจใช้ดินผสมโรยกลบประมาณ 1 เซนตเิ มตร อกี ประมาณ 15 วนั เหด็ ก็จะออกดอก
หมายเหตุ : วิธนี อี้ าจเกบ็ ดอกได้นานถงึ 6 เดือน โดยโรงเรอื นที่ใช้ควรเป็นโรงเรอื นทส่ี ามารถ
ควบคุมอุณหภูมแิ ละความชนื้ ได้ อาจเป็นห้องท่ีปิดมดิ ชดิ มีแสงสว่างเข้าได้บา้ ง หากเปน็ โรงเรือนควรปดิ กนั ลม
กนั แดดให้มิดชิดและควบคมุ อุณภูมใิ ห้อยปู่ ระมาณ 30- 38 องศา ความชน้ื ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ อาจจะ
ก่อแบบดว้ ยอิฐบลอ็ ก กว้างประมาณ 1 เมตร ความยาวแล้วแต่ขนาดโรงเรือน

วธิ ีการเพาะเหด็ milky (การเปดิ แบบโรงเรือน)

การเพาะเห็ดฟาง
วสั ดทุ ่ีเพาะเห็ดฟางเป็นวัสดทุ ่ีสามารถหาได้งา่ ยในท้องถิ่นสว่ นใหญ่เป็นวัสดุเหลือใชท้ างการเกษตร
เช่น ฟางข้าว เปลือก เปลือกมันสำปะหลัง ต้นข้าวโพดแห้ง ซงั ผกั ตบชวา ต้นกล้วยสับละเอียดตากแห้ง
ทะลายปาล์ม หรือผลปาล์ม กอ้ นเหด็ นางรม นางฟา้ เก่าที่หมดอายุแลว้ แตส่ ่วนใหญจ่ ะนิยมนำกระสอบป่าน
เก่าๆ ผา่ นการแชน่ ้ำมาแล้ว มาใช้เปน็ วัสดไุ ด้เชน่ กัน เรยี กได้วา่ อะไรทม่ี าจากธรรมชาติ และเก็บความช้ืนได้ดี
ก็สามารถนำมาเปน็ วัสดใุ นการเพาะเห็ดฟางได้ทั้งสน้ิ

อยา่ งไรกต็ ามทผี่ ่านมา เกษตรกรมกั จะนยิ มใชฟ้ างขา้ ว เพราะช่ือก็บอกอย่แู ล้วว่า เห็ดฟาง บรรพ
บรุ ุษของเราจะใชฟ้ างข้าวในการเพาะเหด็ หรอื เห็ดจะขนึ้ เองตามกองฟาง แต่ปจั จบุ นั ท่เี ราไม่พบเหน็ เห็ดตาม
กองฟาง เหมือนในอดีต เพราะ ฟางข้าวมสี ารเคมีตกคา้ ง จากการที่เกษตรกรใชส้ ารพิษ ในการฆา่ แมลง และใช้
ปยุ๋ เคมใี นการบำรงุ ข้าว เป็นสาเหตุที่เราไมแ่ นะนำให้ใช้ฟางขา้ ว เพราะนอกจากเหด็ จะไม่เจริญเติบโตเท่าท่ีควร
เพราะสารเคมีแลว้ สารพิษที่ตกคา้ งในฟางขา้ วยงั ซึมผา่ นเส้นใยของเหด็ เมื่อเราบรโิ ภคเห็ดเขา้ ไปก็รับสารพิษ
เข้าไปดว้ ย

ขัน้ ตอนการเพาะเหด็ ฟาง
1) นำวสั ดเุ พาะใส่ลงตะกร้าสูงจากตะกรา้ ประมาณ 2-3 น้ิว กดด้วยไม้ให้พอแนน่ ใหช้ ิดขอบตะกรา้ ให้
มากทส่ี ุด
2) นำอาหารเสรมิ ผักตบชวา โรยบนขีเ้ ลอ่ื ยให้ชิดตะกรา้ กว้าง 2-3 น้วิ สูง 1 นวิ้
3) นำเช้อื เหด็ ฟางฉีกเป็นช้นิ ขนาด 1-2 ซม. คลกุ กบั แปง้ สาลี แบง่ เช้ือเป็น 3 สว่ นเท่าๆ กัน นำสว่ นท่ี

1 วางเป็นจดุ ๆ ห่างกันประมาณ 5-10 ซม. ทำเชน่ นจี้ ำนวน 3 ช้ัน
4) ชัน้ ท่ี 4 วางอาหารเสรมิ ให้เตม็ พืน้ ท่ีของตะกรา้ โรยเชื้อเห็ดให้เต็มพน้ื ที่เชน่ กัน โรยขเ้ี ลอื่ ยให้เตม็

ตะกรา้
5) นำน้ำประมาณ 2 ลิตร ลดลงดา้ นบนใหช้ ุ่ม วางตะกร้าในโรงเรือน หรอื กระโจมท่ีเตรียมไว้
6) วางตะกรา้ ซอ้ นกนั ได้ไมเ่ กิน 4 ใบ นำพลาสติกมาคลุมกระโจม หรอื โครงไม้ไผ่จากบนลงลา่ ง คลมุ ให้

มดิ ดา้ นลา่ งควรใชอ้ ิฐหรือไม้ทับเพ่ือปอ้ งกนั พลาสติกเปิดออก
7) ช่วงวนั ท่ี 1-4 วันแรก อุณหภมู จิ ะอยใู่ นระดบั 37-40 องศาเซลเซียส
8) วันท่ี 4 ใหเ้ ปิดพลาสติกคลุมออก เพื่อให้มกี ารถ่ายเทอากาศ หากวสั ดเุ พาะแหง้ ให้รดน้ำได้ แตเ่ พียง

เล็กนอ้ ย
9) วนั ที่ 5-8 ต้องควบคมุ อณุ หภมู ิใหอ้ ยรู่ ะหว่าง 28-32 องศาเซลเซียส
10) การเก็บเก่ียววนั ท่ี 8-9 เห็ดฟางเรมิ่ ให้ดอกขนาดโตข้ึนจนสามารถเก็บได้ โดยใชน้ ิว้ หัวแมม่ ือกบั

น้ิวชี้จับดอกแล้วหมนุ เลก็ น้อยยกขึ้น ไม่ควรใช้มีดตดั เพาะสว่ นที่เหลือจะเน่าเสยี ลกุ ลามไปยงั ดอกอ่นื เก็บเสร็จ

ใหร้ ีบปดิ พลาสตกิ หรือโรงเรือนตามเดมิ

วิธีการเพาะเหด็ ฟาง

นวตั กรรมใหมก่ ับการเพาะเห็ดในโรงเรอื นเพาะเห็ดเคลอ่ื นท่ีหรอื เห็ดมือถือ
การเพาะเห็ดในปัจจุบันส่วนใหญ่มักพึ่งพาอาศัยฟาร์มเห็ดเป็นแหล่งผลิตอาหารเห็ดสู่ท้องตลาดหลัก
สำคัญคือต้องมีโรงเรือนที่สามารถรักษาอุณหภูมิและความชื้นได้อย่างเหมาะสมเห็ดจึงจ ะออกดอกและให้
ผลผลิตมาสู่ครัวเรือนหรืออาจจะมีการเพาะเลี้ยงเล็กน้อยด้วยการไปซื้อก้อนเห็ดจากฟาร์มมาเลี้ยงเองทำโรง
เหด็ เลก็ ๆ หรือใสใ่ นโอ่งบา้ งซ่ึงไม่สะดวกในการเคลื่อนย้าย อีกทงั้ บางบา้ นอาจไมม่ ีพ้ืนท่ีเพียงพอท่ีจะทำได้เช่น
ตามคอนโด หรือหอพัก ห้องเชา่ ต่าง ๆ บรษิ ัท เห็ดพอเพยี งจำกัดจึงได้คดิ คน้ และพัฒนารูปแบบของบรรจุภัณฑ์
ทสี่ ามารถบรรจุก้อนเห็ด และสามารถเปิดดอกได้ภายในกล่อง ซง่ึ บรรจุกอ้ นเหด็ ไว้ 3 กอ้ น ออกดอกได้ผลผลิต
ไม่แตกต่างจากในโรงเรือน แต่สะดวกในการพกพา เคลื่อนย้าย การเปิดดอกก็สามารถทำได้ทุกที ทั้งห้องนอน
ห้องครัว ห้องนั่งเล่น บนโต๊ะ บนตู้ บนเตียง ใต้โต๊ะ ใต้ตู้ ใต้เตียง ไม่เกะกะ ไม่สกปรก เพราะมีพลาสติกกันชืน้
มีฟองน้ำไว้ดูดซับน้ำเก็บความชื้นให้กับก้อนเห็ด มีวิธีการดูแลเห็ดมือถือไว้ทุกกล่อง เหมาะที่จะเป็นของฝาก
ของขวัญในเทศกาลต่าง ๆ และเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายและเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคไดอ้ ย่างรวดเร็วจงึ
ไดพ้ ฒั นานวตั กรรมตามนโยบาย Thailand 4.0 ดว้ ยการติดต้ังระบบ QR Code ไว้ทกุ กลอ่ ง เพียงใช้สมาร์ท
โฟน เขา้ ไปสแกนก็สามารถเขา้ ถงึ ข้อมลู ได้อย่างรวดเร็ว

QR Code นวัตกรรมเห็ดมือถือ

การจดั การผลผลติ เหด็

ผลติ ภณั ฑอ์ าหารแปรรูปจากเห็ด

1. เห็ดสวรรค์

ส่วนผสม

- เหด็ นางฟา้ 2 กิโลกรมั

- น้ำตาลปบี 1 ถ้วย

- พรกิ ไทยป่น 1 ช้อนโตะ๊

- งาขาวบด 2 ชอ้ นโต๊ะ

- ซีอ๊วิ ขาว 1 ช้อนโตะ๊
- เกลือ
2

1 ช้อนโตะ๊

- น้ำสะอาด 1 ชอ้ นโต๊ะ

- นำ้ มันพืชสำหรบั ทอด

วธิ ีทำ

1. ฉกี เห็ดนางฟ้าให้เสมอกัน ตากแดด แล้วนำมาทอดในน้ำมนั ใชไ้ ฟกลาง (รอ้ นนอ้ ยจะอม

นำ้ มนั ร้อนจดั เห็ดไหม้) ใส่น้ำมันครึ่งกระทะ อยา่ ใส่เห็ดมากใสพ่ อประมาณเรยี งตัวเต็มกระทะชั้นเดยี ว

ประมาณขย้มุ มอื เดียว ใส่แลว้ หา้ มคนทิ้งไว้ให้เหลืองกลบั ทีเดียว เพราะคนแล้วจะทำให้เห็ดหอ่ ตัวหมด แซะ

กลบั ทีเดียวใชไ้ ด้ กะดว้ ยสายตาเวลาเอาข้ึนใช้กระดาษฟางรอง

2. เวลาปรงุ รส ตกั น้ำมนั ขน้ึ จนหมดกระทะ เหลือไว้เจยี วงาบด พริกไทยนดิ หน่อย ใสน่ ำ้ ตาบ

ปีบ ซอี ๊วิ ขาว ใสเ่ กลอื น้ำ ลดไฟให้อ่อน ๆ ลองเอาเห็ดชุบแล้วชิมดู จนรสใชไ้ ด้ จงึ เอาเห็ดใส่ ใชพ้ ายคนโหย่ง ๆ

ใช้ไฟอ่อนทีส่ ดุ ผัดใหน้ านราว 10 นาที ใชพ้ าย 2 อันคนเบา ๆ เพ่อื ไม่ใหเ้ หด็ หักผัดจนจะได้ทีแ่ ล้วจึงเอาพริกไทย

ลงเคลา้

2. เห็ดแดดเดยี ว

สว่ นผสม

- เห็ดนางฟา้ 1 กโิ ลกรมั
- ซีอ๊ิวขาว
2

6 ชอ้ นโตะ๊

- งาขาวคั่ว 1 ถว้ ย

4

- สามเกลอ(รากผกั ชี กระเทยี ม พรกิ ไทย) 2 ช้อนโตะ๊

วิธที ำ

1. ฉีกเห็ดเป็นชน้ิ กว้างประมาณ 1 เซนติเมตรล้างให้สะอาด ใสต่ ะแกรงให้สะเด็ดน้ำ

2. นำเหด็ ใสล่ งั ถงึ นึ่งนานประมาณ 20 นาที (เหด็ จะหดตวั ลง) ยกลงพักไวใ้ ห้เยน็

3. นำเหด็ คลุกกับสามเกลอ ซีอิ๊วขาว งาค่ัวใหเ้ ขา้ กนั ดี เหด็ จะเปียกเล็กนอ้ ย พกั ไวป้ ระมาณ
หนึง่ ชวั่ โมง เห็ดจะมรี สเค็มข้นึ

4. เรยี งเหด็ ใสต่ ะแกรง ตากแดดจัดๆ สักครงึ่ วันจนแห้งหมาดๆ (ระวงั อย่าตากเห็ดไวน้ าน
เกนิ ไป เห็ดจะแหง้ จนกลายเป็นสีดำ ไม่น่ารับประทาน)

5. นำไปทอดในนำ้ มนั จนเป็นสเี หลืองแก่ หรือจนเห็ดกรอบ ตักขน้ึ ซบั นำ้ มันให้แหง้

3. กระยาสารทเห็ด

ส่วนผสม

- หวั กะทิ 1 1 ถ้วยตวง

- แบะแซ 2
- ขา้ วเมา่ คั่ว
1 1 ชอ้ นโต๊ะ

2

3 ถ้วยตวง

- งาขาวคว่ั 1 ถ้วยตวง

2

- ถว่ั ลิสงคั่ว 1 1 ถว้ ยตวง

2

- เหด็ นางฟา้ แหง้ 1 กิโลกรมั

2

- นำ้ ตาลมะพรา้ วหรือน้ำตาลโตนดอย่างดี 1 1 ถ้วยตวง

2

วิธีทำ

1. คัว่ ธัญพชื ท้งั หมดทลี ะอย่างและเหด็ ดว้ ยไฟปานกลางค่อนขา้ งอ่อนใหเ้ ป็นสเี หลืองนวล พกั

ไวใ้ หเ้ ย็น

2. เคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว (หรือนำ้ ตาลโตนดอย่างดี) กับหวั กะทใิ ห้ข้นเปน็ ยางมะตูม

3. ใส่แบะแซแลว้ คนใหเ้ ข้ากัน จากนน้ั ยกลง

4. ผสมของคัว่ ท้ังหมดเขา้ ดว้ ยกนั

5. ใสส่ ว่ นผสมข้อท่ี 4 คั่วลงในในนำ้ ตาลท่เี คีย่ วไว้และยงั ร้อนอยู่ คนให้เข้ากนั ด้วยไฟอ่อน ๆ

6. เทใสถ่ าดหรอื พมิ พ์แล้วเกล่ียหนา้ ใหเ้ สมอกนั

4. แหนมเห็ด 4 ถว้ ย
ส่วนผสม 2 ถ้วย
15 เมด็
- เหด็ นางฟา้ 1 ชอ้ นชา
- ขา้ วเหนียวน่งึ สกุ 2 ชอ้ นโต๊ะ
- พรกิ ขห้ี นู
- เกลอื ป่น
- ซอี ิว๊ ขาว

- นำ้ ตาลทราย 1 ชอ้ นโตะ๊

วธิ ที ำ

1. นำเห็ดนางฟ้าไปนง่ึ ใหส้ ุก แลว้ นำมาฉกี เปน็ ชิ้นเลก็ ๆ

2. ใช้น้ำเปล่าพรมข้าวเหนียวบใ้ี ห้กระจาย

3. นำเหด็ กบั ขา้ วเหนียว มาคลุกเคลา้ ให้เขา้ กนั เตมิ เคร่ืองปรุงทกุ อย่าง

4. ตักใสใ่ บตองสดหอ่ มัดใหแ้ น่น ทง้ิ ไว้ประมาณ 1 วัน เมือ่ แกะใบตองออกแหนมจะมีรส

เปรี้ยวพอดี ถ้าห่อทิ้งไว้หลายวนั กจ็ ะเปร้ยี วมาก

5. น้ำพรกิ เผาเหด็

สว่ นผสม

- เหด็ นางฟา้ สด 4 กิโลกรัม

- หอมแดง 5 ขีด

- กระเทยี ม 5 ขดี

- พรกิ แดงแห้งเม็ดใหญ่ 2 ขีด

- เกลอื งป่นไอโอดนี 1 ช้อนโต๊ะ

- มะขามเปยี ก 2 ขีด

- น้ำตาลป๊บี 3 ขดี

- กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ

วธิ ีทำ

1. นำพริกแดงแห้งไปคั่วใหห้ อมแล้วนำเขา้ เคร่ืองบดหรือโขลกใหล้ ะเอยี ด

2. ปอกเปลือกหวั หอมและกระเทียมนำเขา้ เครอื่ งบดหรอื เครื่องโขลกให้ละเอยี ด

3. นำพรกิ หอม และกระเทียมลงผดั ในกระทะ ใส่น้ำมันนิดหน่อยให้พอขลุกขลกิ ผัดจนเริ่มมี

กลิน่ หอม

4. ใสน่ ้ำมะขามเปยี กทคี่ ้ันเอาแตน่ ำ้

5. เติมนำ้ ตาลปีบ๊ กะปิและเกลอื ตามลงไป

6. ผัดให้สว่ นผสมทุกอย่างเข้ากันดจี นเร่มิ มสี ีคลำ้ ๆ และมีกลนิ่ หอมน้ำพริกเผาโชย

7. เมอื่ ได้ที่แลว้ ก็นำเห็ดท่ีทอดพกั ไวล้ งไปผดั ให้เข้ากนั อีกคร้ังใหห้ อม ชิมรสเปรี้ยวหวาน เค็ม

ตามตอ้ งการในระหวา่ งการผัด

8. เติมนำ้ มนั ให้มากขึน้ ตั้งแต่การผัดครงั้ แรก จะไดน้ ำ้ พริกเผา 2 แบบ คือ นำ้ พรกิ เผาเห็ด

นางฟา้ แบบแห้งกับน้ำพริกเผาเห็ดนางฟ้าแบบเปยี ก

6. นำ้ พรกิ นรกเหด็

ส่วนผสม

- เหด็ นางฟา้ ทอดกรอบโขลกละเอยี ด 10 ดอก

- มะขามเปยี กแกะเมด็ ออกสบั ละเอียด 1 กำ

- ซอี ว้ิ ขาว 1 ช้อนชา

- พรกิ แห้งค่ัว 3 เม็ด

- เกลือป่น 1 ช้อนชา

- นำ้ มันพชื 1 ชอ้ นโตะ๊

วิธที ำ

1. โขลกพริกแหง้ ให้ละเอยี ด ใส่เหด็ หอมและโขลกต่อให้เข้ากัน ใสม่ ะขามเปยี ก และโขลกตอ่

2. ใส่น้ำมนั ลงในกระทะ ตั้งไฟให้รอ้ น ใช้ไฟอ่อน ใสเ่ ครื่องทีโ่ ขลกผัดเข้ากนั

3. ปรุงรสด้วยซีอ้วิ ขาว เกลือ ผัดใหเ้ ข้ากนั ดี ตักใส่ถ้วยรบั ประทานกับผกั สด

7. นำ้ พริกอ่องเห็ด

สว่ นผสม

- เห็ดนางฟา้ 10 ดอก

- พริกน้ำง้ิว 1 ช้อนโตะ๊

- มะเขือเทศ 5 ลกู

- หอมแดง 6 หัว

- หมสู ับ 1 ขดี

- ไขไ่ ก่ 2 ฟอง

- ผักชี 2 ตน้

วิธที ำ

1. ต้งั กระทะ ใสน่ ้ำมนั ให้ร้อน แล้วใสพ่ รกิ นำ้ งว้ิ คนพริกให้แตก

2. ใส่หมสู ับลงไป รวนหมสู ับให้สุกแล้วใสไ่ ข่

3. ใส่มะเขือเทศ หอมแดงท่ีห่ันแล้วลงไป

4. ใสเ่ ห็ดทห่ี ัน่ แลว้ ปรงุ รส

8. ข้าวเกรียบเห็ด

สว่ นผสม

- แป้งมนั 21 ถ้วยตวง

- นำ้ 2
- น้ำตาลทราย
11 ถ้วยตวง

2

2 ชอ้ นโตะ๊

- เห็ดนางฟ้า 2 ขดี

- งาป่น 1 ชอ้ นโต๊ะ

- พรกิ ไทย เกลือ

วธิ ที ำ

1. นำเหด็ มาฉกี เปน็ ชิน้ เลก็ ๆ นำไปรวมกับเคร่อื งปรงุ ผสมให้เขา้ กันแล้วใสเ่ ครื่องปนั่ ให้

ละเอยี ด

2. ใช้อปุ กรณแ์ บบทำข้าวเกรียบปากหม้อ ต้งั นำ้ ใหเ้ ดือดแล้วนำสว่ นผสมทป่ี ั่นละเอยี ดแล้วมา

ละเลงลงบนผา้ ปดิ ฝาพอสุกให้แซะใส่ตะแกรง

3. นำไปตากแดดให้แหง้ แล้วนำมาทอดให้เหลือง

9. ทอดมันเห็ด

สว่ นผสม

- เหด็ นางฟา้ ฉีกเส้น ลา้ งน้ำบีบนำ้ ออก 11 กรมั

2

- น้ำพริกแกงเผด็ 1 ชอ้ นโต๊ะ

- น้ำปลา 2 ชอ้ นชา

- ใบมะกรดู ซอย 1 ช้อนโตะ๊

- แป้งทอดกรอบสำเร็จรปู 3 ถ้วยตวง
ฟอง
4

- ไข่ไก่ 1

- นำ้ มนั พืชสำหรบั ทอด

วธิ ีทำ

1. ผสมน้ำพรกิ แกงเผด็ ไข่ไก่ คนให้เข้ากนั ใสเ่ หด็ นางฟ้า ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใสแ่ ป้งทอด

กรอบ ใบมะกรดู คนให้เข้ากนั อกี ครั้งใหส้ ่วนผสมมลี ักษณะข้น

2. ตงั้ กระทะใสน่ ำ้ มันพืชพอร้อน ตกั สว่ นผสมในข้อที่ 1 ลงทอดจนสกุ เหลือง ตักขน้ึ พักไว้ให้

สะเดด็ นำ้ มนั จดั ใสภ่ าชนะ

10. เม่ียงเหด็

สว่ นผสม

- เหด็ นางฟา้

- กระเทียมสับ

- พรกิ ชี้ฟ้าซอย

- น้ำมนั มะกอก

- ซีอ๊วิ ขาว 2 ชอ้ นโตะ๊

- ซอสปรงุ รส 2 ชอ้ นโต๊ะ

- นำ้ ตาลทราย 2 ช้อนชา

- พริกไทย 1 ช้อนชา

วธิ ที ำ

1. ลา้ งทำความสะอาดเหด็ ห่ันเป็นส่ีเหล่ยี มลกู เต๋า สว่ นเห็ดเขม็ ทองใหซ้ อยใส่จานพักไว้

2. ติดเตา ต้ังกระทะ ใสน่ ้ำมันมะกอกลงไปเลก็ น้อย จากนน้ั ใส่เห็ดทง้ั หมดลงไปผัดจนเกือบ

สกุ ปรุงรสด้วยซีอ๊ิว ซอสปรุงรส นำ้ ตาลทราย และพริกไทย ผดั ให้เขา้ กัน จากนั้นใสพ่ ริกชี้ฟ้าซอยลงไปผัดใหเ้ ขา้

กัน ปดิ ไฟยกลงจากเตา

11. คุกก้ีเห็ด

ส่วนผสม

- เห็ดนางฟ้า 1 กิโลกรมั

- เนย 21 กิโลกรมั
- นำ้ ตาลไอซ่ิง
2

8 ขดี

- เกลอื 1 ช้อนโต๊ะ

- กลิ่นนมเนย 1 ชอ้ นโตะ๊

- ไขไ่ ก่ 8 ฟอง

- กลน่ิ วานลิ ลา 1 ช้อนโตะ๊

- นม 4 ถ้วย

- ผงโซดา 1 ชอ้ นโตะ๊

- แปง้ ขนมปัง 31 กิโลกรัม
วธิ ที ำ
2

1. นำเนยขาวและเนยเหลอื ง มาตีรวมกนั (ใชร้ ะดับ 1 ในการตี) ค่อยๆทยอยใสไ่ ขล่ งไปทลี ะ

ฟองจากน้ันใส่กลน่ิ วานลิ า นม และผงโซดาลงไป ตีรวมกนั อีกครงั้ (ใช้ระดับ 3 ในการตี )

2. ร่อนแปง้ ขนมปัง นำ้ ตาลไอซิง่ ผงกลิน่ นมเนยและเกลือรวมกนั

3. นำแปง้ ทผ่ี สมเสร็จ ใสล่ งไปในส่วนผสมขอ้ 1
4. นำเห็ดอบเนยปั่นหยาบ
5. ใส่เหด็ อบเนยลงไปตีดว้ ยกับสว่ นผสมท้งั หมด ตใี ห้เข้าเน้ือกันดี
6. ตกั ออกมาจัดบนถาดเป็นรูปวงกลม หรอื รูปทรงตามต้องการ
7. นำเขา้ อบดว้ ยความร้อน 430 องศาฟาเรนไฮท์ ประมาณ 30 นาที
8. ทงิ้ ไว้ให้เย็น นำบรรจุในถงุ พลาสติกแก้ว

12. บราวนีเ่ หด็

สว่ นผสม

- แป้งอเนกประสงค์ 100 กรัม

- ผงฟู 1 ชอ้ นชา
- ผงโกโก้
4

40 กรมั

- ดาร์กชอ็ คโกแลต 100 กรมั

- เนยเคม็ 85 กรัม

- ไขไ่ ก่ 2 ฟอง

- นำ้ เหด็ 2 ช้อน

- น้ำตาล 150 กรัม

วิธที ำ

1. ละลายเนย ผงโกโก้ ดารก์ ช็อคให้เข้ากันจนขึน้ เงา

2. ตีไข่ น้ำตาล นำ้ เห็ดใหข้ น้ึ ฟู

3. เทดาร์กชอ็ คทล่ี ะลายกบั เนย คนให้เข้ากัน ร่อนแป้ง ผงฟูลงไปตะล่อมให้เขา้ กนั

4. เทใสถ่ าด เข้าอบ 160 องศาเซลเซยี ส เปน็ เวลา 25-30 นาที

13. นำ้ เหด็
ส่วนผสม

- เหด็ นางฟา้
- ใบเตย
- นำ้ ตาล
วธิ ีทำ
1. ล้างเห็ดใหส้ ะอาด แลว้ หนั่ เห็ดเป็นชิ้นเล็ก ๆ
2. ใส่เหด็ และใบเตยลงในน้ำต้มจนเดือด
3. ตกั เหด็ แยกออกแลว้ นำน้ำที่ได้ไปกรองผ่านผ้าขาวบาง

14. วุ้นเห็ด

ส่วนผสม

- ผงวนุ้ 11 ช้อนโต๊ะ
- นำ้ เห็ด
2

- ดอกเห็ดนางฟ้า

- น้ำตาลทราย 2 ถว้ ยตวง

- น้ำลอยดอกมะลิหรือนำ้ เปล่า 2 ถ้วยตวง

- สีผสมอาหาร

วธิ ีทำ

1. นำน้ำลอยดอกมะลหิ รือน้ำเปล่าเทใส่ลงในหม้อใสน่ ้ำเห็ด เน้อื เห็ดและใสผ่ งว้นุ ลงไปคนให้

ส่วนผสมเข้ากันดี พักไว้ประมาณ3 นาที ยกขึ้นตั้งไฟกลาง ใช้ตะกร้อมอื คนจนผงวนุ้ ละลาย

2. เม่อื ผงวนุ้ ละลายดแี ล้วเช็คโดยการใช้ช้อนจุม่ ลงไปแลว้ ยกข้ึนจะไม่มผี งวุ้นเปน็ เม็ดๆติดช้อน

ขึน้ มาก็ใส่นำ้ ตาลทรายลงไปได้เลยคะ่ คนต่อให้น้ำตาลทรายละลายพอเดือดกป็ ดิ แกส๊ ได้เลย

3. แบง่ วนุ้ ใส่ชามและใส่สลี งไปตามชอบ คนใหส้ ีเขา้ กนั ดีเทใส่พิมพ์สเี่ หลย่ี ม รอจนวนุ้ เซต็ ตัว

แลว้ เทออกจากพิมพ์

4. นำมดี มาหนั่ เป็นชิ้นเลก็ ๆ ให้ไดต้ ามขนาดท่ีต้องการ

15. ทองม้วนเห็ด

สว่ นผสม

- แปง้ สาลอี เนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
ถ้วยตวง
- แป้งมนั 1
ฟอง
- เห็ดนางฟา้ ปัน่ ถ้วยตวง
ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 1 ถว้ ยตวง
ชอ้ นชา
- น้ำตาลป๊ีบ 1

- งาดำ 2
- กะทิ 1

2

1

- เกลือป่น 1
- น้ำตาลทราย 2

- เนย

วธิ ที ำ
1. ผสมแปง้ เอนกประสงค์และแป้งมัน แลว้ รอ่ นแป้งจนเนียน พักไว้
2. ใสน่ ำ้ ตาลทรายลงไปในชามผสม จากน้นั เทแป้งตามขอ้ 1 ทบั ลงไป
3. ผสมแป้งทง้ั สองชนดิ ใหเ้ ขา้ กนั โดยไม่ไปกวนน้ำตาลทรายท่อี ยูก่ น้ ชาม
4. ใสเ่ นยใส่เหด็ ท่ปี น่ั แล้วลงไป ผสมให้เข้ากับแป้งจนไม่เป็นกอ้ น ไมใ่ ห้โดนนำ้ ตาลทราย

เช่นเดิม ผสมทุกอย่างใหเ้ ข้ากันดี
5. นำนำ้ กะทิเทใส่ชามผสมอีกใบหน่งึ ใสไ่ ข่ไก่ นำ้ ตาลปบ๊ี เกลือ ตีให้เข้ากนั จนเนยี น
6. นำส่วนผสมน้ำกะทิตามข้อ 5 เทใส่ชามผสมแปง้ ตามข้อ 4 แล้วนวดใหเ้ ขา้ กัน แป้งจะมี

ลักษณะค่อนข้างเหลว ลองเอาทพั พตี ักดูแลว้ เทออกไม่เหนียวตดิ ทัพพีก็ใชไ้ ด้
7. โรยงาดำลงไป คนใหเ้ ข้ากัน
8. เตรียมพมิ พ์ทองมว้ นไว้ลว่ งหน้า พอร้อนได้ที่ก็ทานำ้ มันพืชให้ท่ัวพิมพ์ ลดไฟลงเหลือไฟ

อ่อน หยอดแป้งขนมใส่พิมพ์ ปิดฝาพิมพ์ ผิงกลับไปกลับมาจนทองมว้ นสกุ เหลือง
9. นำทองมว้ นออกจากพมิ พใ์ นขณะยังร้อนอยู่

การวิเคราะหก์ ารนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

1. ผูส้ อนนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

หลักพอเพียง ความพอประมาณ มีเหตผุ ล มีภูมคิ ้มุ กันในตัวทด่ี ี
ประเดน็

เนอื้ หา สอดคล้องกับมาตรฐาน สอนบรรลุตามมาตรฐาน วิเคราะห์หลักสูตร

และตวั ชวี้ ัด มีลกั ษณะ เนอื้ หา ออกแบบ และ

พึง ประสงคต์ ามที่ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

หลักสตู ร กำหนด ไดค้ รบถ้วนตามสาระ

เวลา ใช้เวลาจัดกจิ กรรมให้ ให้เวลาพอเหมาะกบั การ วางแผนและกำกบั การ

เหมาะสมกบั ระดับและ วางแผนกระบวนการ จดั กจิ กรรมการเรียนรู้

กระบวนการเรยี นรู้ของ ตามลำดับขน้ั ตอนได้ โดยใชเ้ วลาเรียนตรงตาม

นกั เรยี น ถูกต้อง เวลาท่กี ำหนด

วิธีการจดั การเรียนรู้ ใช้กระบวนการปฏบิ ตั ิท่ี เพอื่ ให้ผ้เู รยี นเกดิ วางแผนอย่างรอบคอบ

สอดคล้องกบั มาตรฐาน กระบวนการปฏิบัติ ระมัดระวังในการจดั

ตวั ชี้วัดและวัยของ ส่งเสรมิ การคิดวิเคราะห์ กิจกรรมใหน้ ักเรยี นได้

ผ้เู รียน การคิดสรา้ งสรรค์ เรยี นรู้เตม็ ศกั ยภาพของ

ตนเอง

แหลง่ เรยี นรู้ จดั ให้นักเรยี นใชแ้ หลง่ เพอื่ ให้นกั เรยี นได้ใช้ นกั เรยี นใช้แหลง่ เรยี นรู้

เรยี นรู้ในโรงเรียน ใช้ แหลง่ เรียนรูท้ อี่ ยูใ่ กล้ตวั ให้ เกดิ ประโยชน์ต่อ

ทรพั ยากรในโรงเรยี นให้ หาได้งา่ ย ประหยัด และ ตนเอง ครอบครวั ชุมชน

เกิดประโยชน์ ปลอดภยั

สือ่ อุปกรณ์ ใชว้ ัสดอุ ุปกรณ์ท่ีมอี ยู่ใน เพิม่ มลู คา่ ของวสั ดุ/ - จดั เตรยี มและใช้สอื่

โรงเรยี นและชุมชนใน ผลผลติ ต่างๆ ทมี่ ีอยใู่ น วสั ดุ อปุ กรณ์ท่ีมีอยใู่ น

การจดั กจิ กรรมการ โรงเรียนและวสั ดุเหลือ โรงเรยี นเพยี งพอกบั

เรียนรูอ้ ยา่ งเหมาะสม ใชท้ ส่ี ามารถนำกลบั มา ผู้เรียน

และคมุ้ คา่ ใชใ้ หมไ่ ด้อกี - จดั เอกสาร

ประกอบการเรยี นให้

พรอ้ มก่อนการจัดการ

เรียนรู้

การประเมิน ครูใช้เครอ่ื งมือและ เพ่ือตรวจสอบความรู้ ใช้วิธีการวัดผลตาม

วธิ กี ารวดั ผลที่ถกู ตอ้ ง ความเข้าใจและ สภาพจริงและทุกคนมี

สว่ นรว่ ม ในการวัดผล

เหมาะสม และ พฒั นาการเรยี นรู้ของ สะท้อนผลการเรยี นรู้ที่

สอดคลอ้ งกบั ตวั ชี้วดั นักเรยี นตามตวั ชวี้ ัด กำหนดไว้และนำผลไป

พฒั นาการเรียนรู้ครงั้

ต่อไปได้

ความรู้ท่คี รู - การจดั สรรพน้ื ทส่ี ำหรบั การการเพาะเห็ด
จำเปน็ ตอ้ งมี
- สายพนั ธแ์ุ ละการเพาะเห็ดเศรษฐกิจ
คุณธรรมของคณุ ครู
- ขั้นตอนการเพาะเห็ดและการจดั การผลผลิต

- การใชน้ วตั กรรม “เหด็ มือถือ”

- การสำรวจตลาดและการจัดจำหน่าย

- การประยกุ ต์ใชก้ อ้ นเห็ดที่เสอื่ มสภาพ

- ใชห้ ลกั ความยุติธรรม ความรับผดิ ชอบ การมีวนิ ัยในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้

- มคี วามขยัน ใช้สติปญั ญาในการแก้ไขปญั หาเกยี่ วกับการเรยี นการสอน

- มคี วามรับผดิ ชอบต่อตนเองและสว่ นรวม

2. ผลที่เกดิ ขน้ึ กับผเู้ รยี นสอดคล้องกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงจากการจดั กิจกรรมการเรียนรู้

2.1 ผเู้ รยี นไดเ้ รียนร้หู ลักคิดและฝกึ ปฏิบตั ติ ามหลกั 3 ห่วง 2 เง่อื น ดังน้ี

ความพอประมาณ มเี หตุผล มภี ูมิคุ้มกันในตัวทดี่ ี

- นกั เรียนไดป้ ฏบิ ตั ิงาน - นกั เรียนรจู้ กั การใช้ - ภาคภมู ใิ จในผลงาน

เหมาะสมกบั วยั และ เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ ของตนเอง

ศักยภาพของตนเอง - นักเรยี นเกิดทักษะการ - นกั เรียนเรยี นรูก้ ารวาง

- ใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ ทำงาน แผนการทำงานอย่าง

ภายนอกหอ้ งเรียน - วิเคราะห์ ตัดสนิ ใจ รอบคอบ

หลกั พอเพียง เหมาะสมกับเวลาท่ี เลอื กปฏบิ ตั กิ ิจกรรม - วางแผนการทำงานได้

กำหนด ตามที่ ได้รับมอบหมาย จนงานสำเรจ็

- ใช้สือ่ อปุ กรณ์ได้ ได้สำเร็จ - รู้จักบทบาทหน้าที่มี

เหมาะสมกับกิจกรรม ใช้ ความ เป็นประชาธิปไตย

อยา่ งคุ้มค่าและเกิด - สามารถศกึ ษาค้นคว้า

ประโยชน์สงู สดุ จากสอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้

ด้วยตนเอง

ความรู้ท่ี - ความเปน็ มาของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

จำเป็นตอ้ งมี - หลักการทรงงานและโครงการในพระราชดำรขิ องในหลวง

- รู้เรอื่ งหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

- ร้วู ธิ นี ำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งบรู ณาการกบั ชีวิตประจำวนั

คณุ ธรรมของนกั เรียน มวี ินัย ตรงตอ่ เวลา รับผดิ ชอบ เออื้ เฟอ้ื เผื่อแผ่ ประหยัด ฝารู้ใฝ่เรยี น เสียสละ มี
จิตสาธารณะ

2.2 ผูเ้ รยี นได้เรยี นรูก้ ารใช้ชีวติ ทสี่ มดลุ และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงใน 4 มติ ติ ามหลักปรชั ญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียง ดังน้ี

หลักพอเพียง สมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ยี นแปลงในด้านต่าง ๆ

ประเดน็ วตั ถุ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรม

ความรู้ - หลักการใชว้ สั ดุ - เรียนรู้ - รจู้ กั การใช้ - แลกเปล่ยี น

อุปกรณ์ในการ กระบวนการ ทรัพยากรอย่าง แนวคิด

ปฏบิ ตั ิงานอยา่ ง ทำงานจากเพ่ือน ประหยดั เกดิ ความรู้ตา่ ง ๆ

เหมาะสม และครู ประโยชนแ์ ละคมุ้ -การแสดงความ

- รจู้ กั นำวัสดุ คา่ สูงสุด คดิ เห็นในชน้ั เรียน

อปุ กรณ์มา

ประยกุ ตใ์ ช้อย่าง

เหมาะสม

ทักษะ - มีทักษะในการใช้ - อยู่รว่ มกนั ตาม -เลอื กใช้ทรัพยากร -มีความเปน็

วสั ดุ อปุ กรณ์ บทบาทและหนา้ ที่ อย่างประหยัด ระเบียบเรียบรอ้ ย

ปฏิบัตงิ านได้อย่าง มกี ารแบง่ ปัน คุ้มคา่ เก็บเป็น ในการปฏบิ ัติงาน

เหมาะสม ความรู้ วัสดุ ระเบียบหลงั ใช้

- ใช้วัสดุอย่าง อุปกรณ์ - มีสว่ นรว่ มในการ
ประหยัดและ รกั ษา
ปลอดภัย สภาพแวดลอ้ ม

คา่ นยิ ม - เห็นคณุ คา่ ของ - เหน็ คณุ ค่า เกดิ - เกดิ จติ สำนกึ ใน - เกดิ ความตระหนกั
วัสดอุ ปุ กรณ์ที่ใช้ ความรกั ความ การอนุรักษ์ความ ในการเรยี น
สามัคคี มีความ เป็นไทย
เกษตรกรรม

เอือ้ เฟื้อช่วยเหลือ - ตระหนักถงึ

ซง่ึ กันและกนั คณุ คา่ ของอาชีพ

- เหน็ ความสำคญั เกษตรกรรม

ของหลกั ปรัชญา

เศรษฐกจิ พอเพยี ง

และนำมาใช้ในการ

ดำรงชีวติ

ประจำวนั

เรอ่ื งเลา่ การนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ในการจดั การเรียนรูเ้ พอ่ื เสรมิ สร้างอปุ นิสัยพอเพียง
เรอื่ ง ทกั ษะการเกษตรและการปรับตวั ให้ชวี ติ มีสุข

************************************************************
ผู้เขียน/ผ้เู ลา่ นางสาวจารุวรรณ มนูญโย

ตำแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ(งานอาชีพ)
โรงเรยี นอทู่ อง จังหวัดสุพรรณบุรี

“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช
มหาราช ทรงมีพระราชดำริชี้แนะ แนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด คำว่า เศรษฐกิจ
พอเพียงตั้งอยู่บนพืน้ ฐานของทางสายกลาง คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมคิ ุม้ กันที่ดใี นตวั
มีความรู้คู่คุณธรรม เป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต ปัจจุบันสถานศึกษาต่าง ๆ ได้น้อมนำหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะของความ
พอเพียงที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตกันมาสักพักแล้ว ซึ่งในขณะนี้ได้เห็นแล้วว่า จาก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ส่งผลให้สภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบันกำลัง
ตกต่ำ คนไทยหลายคนตกงาน ไม่มีงานทำ ครอบครัวเกิดความขัดสน เกิดปัญหาความยากจนและปัญหา
ครอบครวั ตา่ ง ๆ ตามมา แต่คนอกี สว่ นหน่งึ กย็ งั คงใชเ้ งินอยา่ งฟุ่มเฟอื ย ไมเ่ กิดความพอดีในตนเองจนก่อให้เกิด
หนส้ี ินโดยไม่รตู้ วั

จากสภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่ข้าพเจ้าได้พบเห็นในปัจจุบันจากครอบครัวของนักเรียนใน
โรงเรียนซ่ึงหลายคนประสบปัญหาที่กล่าวไปข้างต้น การที่ข้าพเจ้าเปน็ ครูสอนในรายวิชาด้านการเกษตรกรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ(งานอาชีพ) ซึ่งเป็นวิชาเกี่ยวกับทักษะการปฏิบัติงานด้านการเกษตรกรรม
ได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปใช้ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ ให้นักเรียนได้ลงมือฝึก
ปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน เหมาะสมกับเวลาที่กำหนด โดยใช้ตนเองเป็นแบบอย่างในการ
ปฏิบัติงานให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ เกิดทักษะ และรักในการทำปฏิบัติงานเกษตร ออกแบบจัดสรร
พื้นที่เกษตรในโรงเรียนให้ใช้ประโยชน์ในการสาธิตการปฏิบัติงานได้หลายหลาย เช่น การเพาะเห็ดเศรษฐกิจ
การเลีย้ งสัตว์เศรษฐกิจ การขยายพันธุพ์ ืช การปลูกพืชผัก สมุนไพร ไม่ดอกไมป้ ระดบั ไม้ผล นำไปส่กู ารแปรรูป
อาหาร การทำบรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลผลิตในแปลงเกษตร การสำรวจตลาดและความ
ตอ้ งการบริโภคเพ่ือจัดจำหน่าย การประยกุ ตใ์ ช้ของเสียจจากการทำเกษตรกรรมท่ีเสื่อมสภาพใหเ้ กิดประโยชน์
สงู สุด เชน่ การทำนำ้ หมักชีวภาพ การทำป๋ยุ หมัก การนำกลับไปใช้ใหม่ในงานเกษตรอ่นื ๆ เป็นตน้ การจัดการ
เรยี นการสอนนี้ทำให้นักเรียนเกดิ ความรู้ ทักษะ ความรบั ผิดชอบ รู้จักการแบง่ ปันซ่ึงกนั และกนั และมีความสุข
ในการปฏิบัติงาน นักเรียนนำหลัก “3 ห่วง 2 เงื่อนไข” ไปใช้ในการเรียนรู้ให้เกิดการตัดสินใจปฏิบัติงานใน
ระดับพอเพียงอยา่ งมีเหตุผล รจู้ กั ความพอดที ีไ่ ม่มากไปน้อยไป ไมเ่ บยี ดเบยี นผู้อนื่ และพร้อมรับผลกระทบและ
การเปลี่ยนแปลงในด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม เพื่อเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิตและ
ประกอบอาชพี สร้างรายไดใ้ นอนาคตของตนเองและครอบครวั ตอ่ ไปได้

นอกจากการจดั การเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรยี นรู้ในห้องเรียนแล้ว ขา้ พเจา้ ยังได้นำนักเรียน
ไปศึกษาดูงานตามบ้านของเกษตรกรโดยตรง และได้ให้นักเรียนเป็นแกนนำและผู้ช่วยวิทยากรเผยแพร่
ประชาสัมพันธ์ความรู้สู่ชุมชน ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ความคิด และเกิดการช่วยเหลือพึ่งพากัน
ระหว่างคนในชุมชน นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการทำงาน กล้าคิดกล้าแสดงออก โดยมีข้าพเจ้า
เป็นผู้คอยเติมเต็มความรู้ด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและไม่ยึดติดความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ทำให้การทำงานร่วมกัน
ระหว่าง ครู นักเรียนมีความสุขมากขึ้น นักเรียนก็สามารถนำการทำงานในส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์ในการจัด
กิจกรรมอื่น ๆ ภายในโรงเรียนต่อไปได้อีก เช่น โครงการโรงเรียนปลอดขยะ โครงการTo be Number One
เป็นต้น

************************************************************

เรอ่ื งเล่าของครู
การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไปประยุกต์ใช้ในกจิ กรรมการเรยี นรู้
ชอ่ื – สกลุ นางสาวพมิ พ์ธรี า อายวุ ฒั น์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรม

แนวคดิ /แรงบันดาลใจในการนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยกุ ต์ใชใ้ นกิจกรรมการเรียนรู้
ต้องการให้ผู้เรียนเกิดความสมดุลพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ในมิติวัตถุ สังคม วัฒนธรรม และ

สิง่ แวดล้อม ดังน้ี
1. ผู้เรียนร้จู กั ใช้วัตถุ / สิง่ ของ / ทรัพยากรอยา่ งพอเพียง
2. ผเู้ รียนอยูร่ ว่ มกบั ผอู้ ื่นอย่างเอือ้ เฟื้อเผ่ือแผ่ รู้จักการแบง่ ปนั ไมเ่ บียดเบียนผูอ้ น่ื
3. ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตน เห็นคุณค่าของวัฒนธรรม ค่านิยม เอกลักษณ์ความ

เป็นไทย
4. ผู้เรียนมีจติ สำนึกรกั ษ์ธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ ม

การนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้ ตามรูปแบบ SMILE Model :
มคี วามรู้ สู่ความเป็นเลิศ กอ่ เกิดคุณธรรม ใชเ้ หตุผลหนุนนำ มีภูมิคุ้มกัน เรียนรู้ สู้การเปล่ียนแปลง สร้างอาชีพ
รู้จกั ใชอ้ ย่างพอประมาณ

1) เงื่อนไข : ความรู้ (S) และคณุ ธรรม (M)
1. จัดกระบวนการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนรู้จักวางแผนในการทำงานโดยใช้ความรู้และเหตุผลในการ

ตดั สนิ ใจ
2. จัดกระบวนการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนแสดงออกถึงความต้ังใจและรับผิดชอบในการทำงาน มี

ความอดทน เพื่อใหง้ านสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย
2) คณุ ลักษณะ : ความพอประมาณ (E) มีเหตผุ ล (I) และภูมคิ มุ้ กนั (L)
จัดกระบวนการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนได้ดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมพอดีตามแนวทางปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียง

ความสำเร็จจากการนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้ (ด้านเศรษฐกิจ
สังคม สิ่งแวดลอ้ มและวัฒนธรรม)

จากการฝึกให้นักเรียนวิเคราะหห์ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงกบั กิจกรรมหรืองานต่างๆ เห็นได้
วา่ จากการท่ีนักเรียนได้เรียนรผู้ ่านประสบการณ์จริงรวมถึงการได้ลงมือปฏบิ ัติ จัดเป็นการมุ่งเน้นให้นกั เรียนได้
ใช้ทรัพยากรท้องถิ่น ซึ่งเป็นฐานสำคัญในการพัฒนาชีวิต เศรษฐกิจและสังคมท้องถิ่น นอกจากน้ียังทำให้
นักเรียนได้ร้จู ักสภาพแวดล้อมทอ้ งถนิ่ ของตนเอง รกั ทอ้ งถ่ิน และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาและพัฒนาท้องถิ่น
ของตนเองอีกดว้ ย

การเป็นแบบอยา่ งและการถา่ ยทอดประสบการณ์ (ภายในและภายนอกสถานศึกษา)
สามารถเป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรและส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนให้เกิดความรักและ

ความภาคภูมิใจในทอ้ งถน่ิ ตลอดจนเป็นพืน้ ฐานการประกอบอาชพี ในอนาคต

รูปภาพประกอบ
การน้อมนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยกุ ต์ใชใ้ นกิจกรรมการเรียนรู้


Click to View FlipBook Version