ผู้แต่ง
ไม่ปรากฏว่าใครเป็ นผู้แต่งในตอนทเ่ี รียนนี้ เท่าทมี่ หี ลกั ฐานอ้างถงึ ได้แก่
- ตอนพลายแกว้ เป็นชูก้ บั นางพมิ ฯ
- ตอนวนั ทองหึงลาวทอง
- ตอนขนุ แผนข้ึนเรือนขนุ ชา้ งและได้
นางแกว้ กริยา
- ตอนขนุ แผนพานางวนั ทองหนี
พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หล้านภาลยั
ผู้แต่ง
- ตอนขนุ ชา้ งขอนางพิมฯ
- ตอนขนุ ชา้ งตามหานางวนั ทอง
พระบาทสมเดจ็
พระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว
ผู้แต่ง
- ตอนกาเนิดพลายงาม
พระสุนทรโวหาร (ภู่)
ผู้แต่ง - กาเนิดกมุ ารทอง
- ขนุ แผนแกพ้ ระทา้ ยน้า
ครูแจ้ง - ขนุ แผน พลายงามจบั พระเจา้
เชียงใหม่
- ขนุ แผน พลายงามยกทพั กลบั
- จระเขเ้ ถรขวาด
สรุปแล้ว เม่ือปี พ.ศ. ๒๔๖๐ สมเดจ็ ฯ กรมพระยาดารง
ราชานุภาพ กบั กรมหมื่นกวพี จน์ สุปรีชา ได้ทรงชาระรวม
ท้งั สิ้น ๔๓ ตอน
เสภาขุนช้าง ขุนแผน มที ้งั หมด ๔๓ ตอน ดงั นี้
๑. กาเนิดขุนแผน
๒. พ่อขุนช้างขุนแผน
๓. พลายแก้วบวชเณร
๔. พลายแก้วเป็ นชู้กับนางพมิ ฯ
๕. ขุนช้างขอนางพมิ
๖. พลายแก้วเข้าห้องนางสายทอง
๗. พลายแก้วแต่งงานกับนางพมิ ฯ
๘. พลายแก้วถูกเกณฑ์ทัพ
๙. พลายแก้วยกทัพ
๑๐. พลายแก้วได้นางลาวทอง
เสภาขุนช้าง ขุนแผน มที ้งั หมด ๔๓ ตอน ดงั นี้
๑๑. นางพมิ ฯ เปลย่ี นชื่อเป็ นวนั ทอง
๑๒. นางศรีประจนั ยกนางวนั ทองให้
ขนุ ช้าง
๑๓. พลายแก้วได้เป็ นขุนแผน ขุนช้าง
ได้นางวนั ทอง
๑๔. ขนุ แผนบอกกล่าว
๑๕. ขุนแผนพรากนางลาวทอง
๑๖. กาเนิดกมุ ารทองบุตรนางบัวคลี่
๑๗. ขุนแผนขนึ้ เรือนขนุ ช้างได้นาง
แก้วกริยา
๑๘. ขนุ แผนพานางวนั ทองหนี
๑๙. ขุนช้างตามนางวนั ทอง
๒๐. ขนุ ช้างฟ้องว่าขนุ แผนเป็ นกบฎ
เสภาขุนช้าง ขุนแผน มที ้งั หมด ๔๓ ตอน ดงั นี้
๒๑. ขุนแผนลแุ ก่โทษ
๒๒. ขนุ แผนชนะความขุนช้าง
๒๓. ขนุ แผนตดิ คุก
๒๔. กาเนิดพลายงาม
๒๕. พระเจ้าล้านช้างถวายนาง
สร้อยทองแด่สมเดจ็ พระพนั วษา
๒๖. พระเจ้าเชียงใหม่ชิงนางสร้อยทอง
๒๗. พลายงามอาสา
๒๘. พลายงามได้นางศรีมาลา
๒๙. ขุนแผนแก้พระท้ายนา้
๓๐. ขนุ แผนและพลายงามจบั พระเจ้า
เชียงใหม่
เสภาขนุ ช้าง ขุนแผน มที ้งั หมด ๔๓ ตอน ดงั นี้
๓๑. ขุนแผนและพลายงามยกทัพกลบั
๓๒. ถวายนางสร้อยฟ้า
๓๓. แต่งงานพระไวย
๓๔. ขุนช้างเป็ นโทษ
๓๕. ขุนช้างถวายฎกี า
๓๖. ฆ่านางวนั ทอง
๓๗. นางสร้อยฟ้าทาเสน่ห์
๓๘. พระไวยถูกเสน่ห์
๓๙. ขุนแผนส่องกระจก
๔๐. พระไวยแตกทัพ
สาเหตุ - เพราะพลายงามเกดิ คดิ ถงึ แม่ อยากอยู่กนั พร้อมหน้า จงึ ลอบขึน้ เรือนขุนช้างพาตวั นางวนั ทองไป
เสภาขุนช้าง ขุนแผน มที ้งั หมด ๔๓ ตอน ดงั นี้
๔๑. พลายชุมพลจับเสน่ห์
๔๒. นางสร้อยฟ้าศรีมาลาลุยไฟ
๔๓. จระเข้เถรขวาด
แผนภูมิเร่ืองขุนชา้ ง - ขุนแผน เทพทอง
ขนุ ไกรพลพา่ ย ทองประศรี พนั ศรโยธา ศรีประจนั ขุนศรีวิชยั
พลายแกว้ พิมพิลาไลย ขุนชา้ ง
พิมพิลาไลย มีบุตร พลายงาม ทาความดีความชอบ จม่ ื นไวยวรนาถ
ภ ไดเ้ ล่ือนยศเป็น
ร สายทอง ภ
ร ร ศรีมาลา มีบุตร พลายเพชร
ย า ลาวทอง ร
ย สรอ้ ยฟ้า มีบุตร พลายยง
บวั คล่ี มีบุตร กุมารทอง า
แกว้ กิริยา มีบุตร พลายชุมพล ทาความดีความชอบ หลวงนายฤทธ์ิ
ไดเ้ ล่ือนยศเป็น
แต่งเป็ นกลอนสุภาพประเภทกลอนเสภา
แต่งเป็ นกลอนสุภาพประเภทกลอนเสภา
๑. คล้ายกลอนสุภาพ แต่ละวรรคใช้คา ๗- ๑๐คา
๒. มีสัมผสั เหมือนกลอนบทละคร คาสุดท้ายของวรรคแรกส่ง
สัมผสั ไปยงั คาใดคาหน่ึงใน ๕ คาแรกของวรรคหลงั
๓. ลกั ษณะพเิ ศษ คือ ในแต่ละตอนจะขนึ้ ต้นด้วย “คราน้ัน”
หรือ “จะกล่าวถงึ ”
จุดประสงค์ในการแต่ง
เพ่ือใช้ในการขับเสภา สร้างความสนุกสนาน
เพลดิ เพลนิ นอกจากนีย้ งั มกี ารถ่ายทอดชีวติ และความเป็ นอยู่
รวมท้งั ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเช่ือ ของคนไทยใน
สมยั ก่อน
ทีม่ าของเร่ือง
กล่าวกนั ว่าเป็ นจริงตามนิทานพืน้ บ้าน เกดิ ขนึ้ ในรัชกาล
สมเด็จพระรามาธิบดีท่ี ๒ ระหว่าง พ.ศ. ๒๐๓๔ -๒๐๗๒ สมเด็จ
พระรามาธิบดีที่ ๒ ถูกสมมุตพิ ระนามในเสภาว่า "พระพนั วษา"
เนื้อเร่ืองเอาเกร็ดประวตั ศิ าสตร์ตอนไทยทาสงครามกบั เชียงใหม่และ
ล้านช้าง
ท่ีมาของเร่ือง
แล้วเอามาผกู เข้ากบั วถิ ชี ีวติ ของชาวเมืองสุพรรณและ
กาญจนบุรี โดยเฉพาะการชิงรักหักสวาทของ ๑ หญงิ ๒ ชาย คือ
นางพมิ พลิ าลยั หรือนางวนั ทอง ขนุ แผนหรือพลายแก้ว และขนุ ช้าง
อรรถรสทางด้านภาษาและเนื้อหา เป็ นวิถชี ีวติ วฒั นธรรมของคนยคุ
สมัยน้ัน จนเป็ นวรรณกรรมอมตะมาจนถงึ ทุกวันนี้
เน้ือเร่ือง (สรุป)
พลายงามแมว้ า่ จะมีความสุข กย็ งั คิดแคน้ ขนุ ชา้ ง และคิดถึงแม่
จึงอยากไปรับแม่กลบั มาอยพู่ ร้อมหนา้ พอ่ แม่ ลูก จึงลอบข้ึนเรือนขนุ
ชา้ ง (หนา้ ๒๓-๒๔)
นางวนั ทองต่ืนข้ึนรู้วา่ ลกู ท้งั ดีใจและตกใจ เกรงวา่ ลูกจะมี
ภยั พลายงามบอกวา่ จะมารับแม่อยดู่ ว้ ยกนั เพราะตอนน้ีตน สุข
สบายกบั ภรรยาสองคน คือ นางศรีมาลา + นางสร้อยฟ้า แม่จะมา
อยกู่ บั คนท่ีไม่คู่ควรอยา่ งขนุ ชา้ งทาไม (๒๕)
เน้ือเร่ือง (สรุป)
นางวนั ทองไม่อยากไปดว้ ย เกรงวา่ จะมีปัญหาตามมาภายหลงั
แต่พลายงามไม่ยอม สุดทา้ ยจึงจายอดไปดว้ ย (๒๗)
ขนุ ชา้ งฝันวา่ ตนเองมีข้ีเร้ือนข้ึนท้งั ตวั ใชย้ าปรอทรักษา ก็
ทาลายตบั ไต ไส้ พงุ จนหมด ฟันหลุดหมดปาก ตกใจต่ืน จึงรู้วา่
วนั ทองหายไป จึงใหบ้ ่าวไพร่ช่วยออกตามหาแต่กไ็ ม่พบ (หนา้
๒๗-๒๘)
เน้ือเร่ือง (สรุป)
พลายงามเม่ือกลบั มาบา้ น กใ็ ชใ้ หห้ มื่นวิเศษผลไปบอกขนุ ชา้ ง
วา่ ตนเองไม่สบายจึงใหไ้ ปรับนางวนั ทองมาตอนท่ีนางวนั ทองลงมา
เขา้ หอ้ งน้าต้งั แต่เมื่อคืน เม่ือหายดีแลว้ จะส่งนางคืนให้ (๒๘-๒๙)
ขนุ ชา้ งไดฟ้ ังกโ็ กรธมาก จึงร่างฎีกาข้ึนเพอ่ื ถวายพระ
พนั วษา ซ่ึงวนั น้นั พระพนั วษาเสดจ็ ประพาสบวั กลบั มาจวนค่า
ขนุ ชา้ งจึงดาน้าลงไปถวายฎีกาที่ขา้ งเรือพระท่ีนง่ั กลางน้า(๓๐)
เน้ือเร่ือง (สรุป)
ขนุ แผนอยบู่ า้ นกบั สองนาง คือ นางลาวทองและนางแกว้ กริยา
แต่กย็ งั คิดถึงนางวนั ทอง จึงมาหานางวนั ทอง (หนา้ ๓๑-๓๒)
นางวนั ทองหลบั และฝันวา่ หลงเขา้ ไปในป่ าและถกู เสือ
ตะครุบ ขนุ แผนไดฟ้ ังจึงรู้วา่ เป็นลางร้าย ไดแ้ ต่ปลอบใจใหน้ าง
วนั ทองหายทุกข(์ หนา้ ๓๓-๓๔)
เน้ือเร่ือง (สรุป)
พระพนั วษาใหจ้ มื่นศรีไปรับตวั ขนุ แผน พลายงาม และวนั ทอง
มาเฝ้าเพอื่ ชาระความ ขนุ แผนเกรงวา่ นางวนั ทอจะมีภยั จึงเสกมนตร์
คาถา และข้ีผ้งึ ทาปากนางวนั ทองเพื่อใหพ้ ระพนั วษาเมตตา(หนา้ ๓๕)
พระพนั วษาเม่ือเห็นนางวนั ทองกต็ รัสถามดว้ ยความปรานี
นางจึงเลา่ ความจริงที่ถูกขนุ ชา้ งฉุดมาเม่ือตอนต้งั ครรภ์ พระพนั
วษากริ้วขนุ ชา้ งมาก และเม่ือทราบวา่ พลายงามลอบข้ึนเรือน ขนุ
ชา้ งเพ่อื ลกั นางวนั ทองมากก็ ริ้วพลายงามและวา่ ขนุ แผนรู้เห็น
เป็นใจ(หนา้ ๓๖-๓๗)
เน้ือเร่ือง (สรุป)
พระพนั วษาทรงคิดวา่ สาเหตุของความวนุ่ วายเกิดจากนางวนั
ทองจึงใหน้ างวนั ทองเลือกวา่ จะอยกู่ บั ใคร ระหวา่ ง ขนุ แผน ขนุ ชา้ ง
หรือ พลายงาม (หนา้ ๓๘)
นางวนั ทองไม่กลา้ ตดั สินใจ จงึ กราบทูลว่านางรักขนุ แผน
แต่ขุนช้างกด็ ูแลนางเป็ นอย่างดี พลายงามกเ็ ป็ นลูกรัก
พระพนั วษากริ้วมาก เห็นว่านางวนั ทองเป็ นคนหลายใจ เป็ น
หญงิ แพศยา จงึ ส่ังให้ประหารนางวนั ทองเพื่อมใิ ห้เป็ นเยย่ี งอย่างแก่
คนอื่นต่อไป (หนา้ ๓๘-๓๙)
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (เฉพาะตอนทน่ี ามาเป็ นบทเรียน)
๑. กระบวนกลอนสามารถสื่อสารอารมณ์สะเทือนใจ
๒. ใช้ภาพพจน์ทาให้สร้างจนิ ตภาพในการอ่านได้ดี
๓. มรี สวรรณคดีทปี่ รากฏอย่างหลากหลาย
๔. มีการเล่าเรื่องแบบย้อนหลงั ให้ผู้อ่านปะตดิ ปะต่อเร่ืองได้
คุณค่าด้านสังคม (เฉพาะตอนทนี่ ามาเป็ นบทเรียน)
๑. สะท้อนให้เห็นความจงรักภกั ดขี องขนุ นางต่อพระมหากษัตริย์
๒. การไม่มกี ฎหมายทาให้การตดั สินคดขี นึ้ อย่กู บั ผู้มีอานาจ
๓. หญิงไทยสมัยโบราณไม่มอี สิ ระในการตัดสินใจ
๔. ความเช่ือเรื่องไสยศาสตร์
ขนุ ชา้ งถวายฎกี า
จะกล่าวถึงโฉมเจ้าพลายงาม เมื่อเป็ นความชนะขนุ ช้างนั่น
กลบั มาอย่บู ้านสาราญครัน เกษมสนต์สองสมภิรมย์ยวน
พร้อมญาตขิ าดอย่แู ต่มารดา นึกนึกตรึกตราละห้อยหวน
โอ้ว่าแม่วนั ทองช่างหมองนวล ไม่สมควรเคียงคู่กบั ขุนช้าง
ถอดคาประพนั ธ์
เมื่อพลายงามชนะความต่อขุนช้างกก็ ลบั มาอย่บู ้านกบั ญาตทิ ่ีมแี ต่
ความสุข แต่กค็ ดิ ถงึ แม่ของตวั เองท่ีอยู่กบั ขุนช้าง
เออน่ีเนื้อเคราะห์กรรมมานาผดิ น่าอายมิตรหมองใจไม่หายหมาง
ฝ่ ายพ่อมบี ุญเป็ นขนุ นาง แต่แม่ไปแนบข้างคนจัญไร
รูปร่างวปิ ริตผดิ กว่าคน ทรพลอปั รีย์ไม่ดีได้
ท้ังใจคอชั่วโฉดโหดไร้ ช่างไปหลงรักใคร่ได้เป็ นดี
ถอดคาประพนั ธ์
แล้วกค็ ดิ ว่าเป็ นกรรมของวนั ทองทที่ าให้น่าอบั อาย บิดาเป็ นถงึ ขุนนาง
แต่กลบั ต้องไปอย่กู บั คนอปั ลกั ษณ์
วันน้ันแพ้กเู มื่อดาน้า กก็ ริ้วซ้าจะฆ่าให้เป็ นผี
แสนแค้นด้วยมารดายงั ปรานี ให้ไปขอชีวขี นุ ช้างไว้
แค้นแม่จาจะแก้ให้หายแค้น ไม่ทดแทนอ้ายขนุ ช้างบ้างไม่ได้
หมายจติ คดิ จะให้มนั บรรลยั ไม่สมใจจาเพาะเคราะห์มันดี
ถอดคาประพนั ธ์
แล้วกท็ ้าวความถึงเร่ืองทขี่ นุ ช้างแพ้คดี จมื่นไวยจะฆ่าแต่มารดาขอชีวติ
ของขุนช้างไว้
อย่าเลยจะรับแม่กลบั มา ให้อยู่ด้วยบิดาเกษมศรี
พรากให้พ้นคนอุบาทว์ชาติอปั รีย์ ยง่ิ คิดกย็ งิ่ มคี วามโกรธา
อดั อดึ ฮึดฮัดด้วยขดั ใจ เม่ือไรตะวนั จะลบั หล้า
เข้าห้องหวนละห้อยคอยเวลา จนสุริยาเลยี้ วลบั เมรุไกร
ถอดคาประพนั ธ์
จงึ คดิ จะนามารดากลบั มาอย่กู บั บิดาของตนให้พ้นจากคนอปั ลกั ษณ์ ยงิ่
คดิ กย็ งิ่ โกรธที่มารดาของตนอยู่กบั ขุนช้าง จงึ เข้าห้องเพื่อรอเวลาให้พระ
อาทิตย์ตกดิน
เงยี บสัตว์จตั ุบททวบิ าท ดาวดาษเดือนสว่างกระจ่างไข
นา้ ค้างตกกระเซ็นเยน็ เยือกใจ สงดั เสียงคนใครไม่พดู จา
ได้ยนิ เสียงฆ้องยา่ ประจาวงั ลอยลมล่องดงั ถงึ เคหา
คะเนนับยามได้สามครา ดูเวลาปลอดห่วงทกั ทนิ
ถอดคาประพนั ธ์
ตกกลางคืนกเ็ งียบแม้แต่เสียงของสัตว์ก็ยงั ไม่ได้ยนิ ดาวส่องสว่างเต็มท้องฟ้า
นา้ ค้างกช็ วนเย็นเยือก เสียงคนพดู คุยกไ็ ม่มี ได้ยินเสียงฆ้องที่ลอยดังมาจากวงั นับ
ได้สามคร้ัง(ตีสาม)ก็รู้ว่าถงึ เวลาแล้ว
ฟ้าขาวดาวเด่นดวงสว่าง จนั ทร์กระจ่างทรงกลดหมดเมฆสิ้น
จึงเซ่นเหล้าข้าวปลาให้พรายกนิ เสกขมนิ้ ว่านยาเข้าทาตวั
ลงยนั ต์ราชะเอาปะอก หยบิ ยกมงคลขึน้ ใส่หัว
เป่ ามนตร์เบือ้ งบนชอ่มุ มวั พรายยว่ั ยวนใจให้ไคลคลา
จบั ดาบเคยปราบณรงค์รบ เสร็จครบบริกรรมพระคาถา
ลงจากเรือนไปมิได้ช้า รีบมาถงึ บ้านขุนช้างพลนั ฯ
ถอดคาประพนั ธ์
ดาวส่องสว่างจนทาให้ฟ้าเป็ นสีขาว พระจนั ทร์กท็ รงกลด ทาให้ไม่เห็นเมฆ
แล้วจงึ นาของมาเซ่นให้พรายกนิ นาขมิน้ กบั ว่านมาทาตัวแล้วลงยันต์ทับอก เอา
มงคลมาใส่หัว แล้วเป่ ามนต์เพ่ือให้พรายหลง นาดาบที่ใช้รบมาท่องคาถา รีบออก
จากบ้านเพ่ือไปบ้านขุนช้าง
เห็นคนนอนล้อมอ้อมเป็ นวง ประตูลน่ั มั่นคงขอบร้ัวก้นั
กองไฟสว่างดงั กลางวนั หมายสาคัญตรงมาหน้าประตู
จงึ ร่ายนมตรามหาสะกด เสื่อมหมดอาถรรพ์ที่ฝังอยู่
ภูตพรายนายขุนช้างวางวิง่ พรู คนผู้ในบ้านกซ็ านเซอะ
ถอดคาประพนั ธ์
เมื่อไปถึงบ้านขนุ ช้างกเ็ ห็นคนนอนกนั เป็ นวง ประตูปิ ดสนิท กองไฟ
สว่าง จงึ เดินไปที่หน้าประตูเพื่อร่ายมนต์มหาสะกดพรายของขนุ ช้าง
แล้วกผ็ ้คู นในบ้านให้หลบั ไป
ท้งั ชายหญงิ ง่วงงมล้มหลบั นอนทบั ควา่ หงายก่ายกนั เปอะ
จปี่ ลาคาไฟมนั ไหลเลอะ โงกเงอะงุยงมไม่สมประดี
ใช้พรายถอดกลอนถอนลม่ิ รอยทมิ่ ถอดหลุดไปจากที่
ย่างเท้าก้าวไปในทันที มไิ ด้มใี ครทกั แต่สักคน
ถอดคาประพนั ธ์
ผู้ชายผ้หู ญิงกล็ ้มหลบั ทับกนั ไม่ได้สติ ปลาที่ปิ้ งคาเอาไว้กม็ นี ้ามันไหล
ออกมา แล้วจึงใช้พรายให้ไปถอดกลอนถอดลม่ิ ประตูให้หลดุ ออกแล้วจึง
เข้าไป
มแี ต่หลบั เพ้อมะเมอฝัน ท้งั ไฟกองป้องกนั ทุกแห่งหน
ผ้คู นเงยี บสาเนียงเสียงแต่กรน มาจนถงึ เรือนเจ้าขุนช้าง
จุดเทยี นสะกดข้าวสารปราย ภูตพรายกระโดดเรือนสะเทือนผาง
สะเดาะดาลบานเปิ ดหน้าต่างกาง ย่างเท้าก้าวขนึ้ ร้านดอกไม้
ถอดคาประพนั ธ์
เจอแต่คนหลบั มแี ต่เสียงคนกรนจนถงึ เรือนขุนช้าง กจ็ ุดเทยี นโปรย
ข้าวสารใส่พรายแล้วจงึ สะเดาะกลอนเปิ ดหน้าต่าง เดินขนึ้ ไป
หอมหวนอวลอบบุปผชาติ เบิกบานก้านกลาดกง่ิ ไสว
เรณูฟูร่อนขจรใจ ย่างเท้าก้าวไปไม่โครมคราม
ข้าไทนอนหลบั ลงทับกนั สะเดาะกลอนถอนลนั่ ถงึ ช้ันสาม
กระจกฉากหลากสลบั วบั แวมวาม อร่ามแสงโคมแก้วแววจับตา
ถอดคาประพนั ธ์
เม่ือก้าวเข้าไปในห้องกไ็ ด้กลนิ่ ดอกไม้ฟุ้งกระจายอยู่ บ่าวรับใช้กห็ ลบั กนั
จึงร่ายมนตร์สะเดาะกลอนประตูท้ังสามช้ัน
ม่านมู่ลมี่ ีฉากประจาก้นั อฒั จนั ทร์เครื่องแก้วกห็ นักหนา
ชมพลางย่างเยือ้ งชาเลืองมา เปิ ดมุ้งเห็นหน้าแม่วันทอง
น่ิงนอนอยู่บนเตยี งเคยี งขนุ ช้าง มันแนบข้างกอดกลมประสมสอง
เจบ็ ใจดงั หัวใจจะพงั พอง ขยบั จ้องดาบง่าอยากฆ่าฟัน
ถอดคาประพนั ธ์
เม่ือก้าวเข้าไปในห้องก้เห็นฉากก้นั ห้อง และม่านมู่ลี่ จม่ืนไวยฯกเ็ ปิ ดมุ้ง
เห็นแม่วันทองนอนอยู่ข้างขุนช้างกเ็ จ็บใจจนอยากจะฆ่าให้ขนุ ช้างตาย
จะใคร่ถบี ขุนช้างทก่ี ลางตวั นึกกลวั จะถูกแม่วนั ทองน่ัน
พลางน่ังลงนอบนบอภิวันท์ สะอืน้ อ้นั อกแค้นนา้ ตาคลอ
โอ้แม่เจ้าประคุณของลูกเอ๋ย ไม่ควรเลยจะพรากจากคุณพ่อ
เวรกรรมนาไปไม่ร้ังรอ มิพอที่จะต้องพรากกจ็ ากมา
ถอดคาประพนั ธ์
พอจะถบี ขุนช้างกก็ ลวั จะถูกนางวนั ทองจึงได้แต่นั่งลงกราบพลาง
ร้องไห้ แล้วคิดในใจว่า นีเ้ ป็ นกรรมของวนั ทองท่ที าให้ต้องมาพรากกบั
ขนุ แผน
มันไปฉุดมารดาเอามาไว้ อ้ายหัวใสข่มเหงไม่เกรงหน้า
ที่ทาแค้นกจู ะแทนให้ทนั ตา ขอษมาแม่แล้วกข็ บั พราย
เป่ าลงด้วยพระเวทวิทยา มารดากฟ็ ื้ นต่ืนโดยง่าย
ดาบใส่ ฝักไว้ไม่เคลื่อนคลาย วนั ทองรู้สึกกายกล็ ืมตา ฯ
ถอดคาประพนั ธ์
คิดจะแก้แค้นขุนช้างทีไ่ ปฉุดนางวนั ทองเอาไว้ คดิ แล้วจึงขอขมาแล้วเป่ า
พระเวทให้นางวันทองต่ืนขนึ้ มา
คราน้ันจึงโฉมเจ้าวนั ทอง ต้องมนตร์มวั หมองเป็ นหนักหนา
ต่ืนพลางชาเลืองนัยน์ตามา เห็นลูกยาน้ันยืนอยู่ริมเตยี ง
สาคญั คดิ ว่าผู้ร้ายให้นึกกลวั กอดผวั ร้องดนิ้ จนสิ้นเสียง
ซวนซบหลบลงมาหมอบเมยี ง พระหม่ืนไวยเข้าเคยี งห้ามมารดา
อะไรแม่แซ่ร้องท้งั ห้องนอน ลูกร้อนราคาญใจจึงมาหา
จะร้องไยใช่โจรผู้ร้ายมา สนทนาด้วยลูกอย่าตกใจ ฯ
ถอดคาประพนั ธ์
นางวนั ทองรู้สึกตวั ต่ืนขนึ้ มาสายตามองเห็นจม่ืนไวยฯ แต่คดิ ว่าเป็ นโจร จึงเข้ากอดขนุ
ช้างด้วยความกลวั จมื่นไวยฯปลอบ บอกนางวนั ทองว่าเป็ นลกู เอง ไม่ใช่โจรผ้รู ้าย อย่าได้
ตกใจไปเลย
คราน้ันวนั ทองผ่องโสภา คร้ันรู้ว่าลูกยาหากลวั ไม่
ลุกออกมาพลนั ด้วยทันใด พระหมื่นไวยเข้ากอดเอาบาทา
วนั ทองประคองสอดกอดลกู รัก ซบพกั ตร์ร้องไห้ไม่เงยหน้า
เจ้ามาไยป่ านนีน้ ี่ลกู อา เขารักษาอย่ทู ุกแห่งตาแหน่งใน
ถอดคาประพนั ธ์
เม่ือวนั ทองรู้ว่าเป็ นลกู กไ็ ม่กลวั แล้วรีบลกุ จากเตียงทนั ที ฝ่ ายจมื่นไวยฯ
กเ็ ข้ากอดแม่ วันทองร้องไห้แล้วถามไถ่ว่ามาได้อย่างไร
ใส่ ดาลบ้ านช่ องกองไฟรอบ พ่อช่างลอบเข้ามากระไรได้
อาจองทะนงตวั ไม่กลวั ภัย นี่พ่อใช้ฤๅว่าเจ้ามาเอง
ขุนช้างต่ืนขนึ้ มเิ ป็ นการ เขาจะรุกรานพาลข่มเหง
จะเกดิ ผดิ แม่คดิ คะนึงเกรง ฉวยสบเพลงพลาดพลา้ มเิ ป็ นการ
มธี ุระสิ่งไรในใจเจ้า พ่อจงเล่าแก่แม่แล้วกลบั บ้าน
มคิ วรทาเจ้าอย่าทาให้ราคาญ อย่าหาญเหมือนพ่อนักคะนองใจ ฯ
ถอดคาประพนั ธ์
การทจ่ี ม่ืนไวยฯบุกเข้ามาคร้ังนีเ้ ป็ นเพราะใช้ให้มาหรือจ้ามาเอง ถ้าขนุ ช้างตื่น
มาพบอาจทะเลาะกนั มเี ร่ืองอะไรกใ็ ห้รีบบอกมา แล้วรีบกลบั บ้านไป
จมื่นไวยสารภาพกราบบาทา ลูกมาผดิ จริงหาเถยี งไม่
รักตัวกลวั ผดิ แต่คดิ ไป กห็ ักใจเพราะรักแม่วันทอง
ทุกวันนีล้ ูกชายสบายยศ พร้อมหมดเมยี ม่ิงกม็ ีสอง
มบี ่าวไพร่ใช้สอยท้ังเงนิ ทอง พนี่ ้องข้างพ่อกบ็ ริบูรณ์
ถอดคาประพนั ธ์
จม่ืนไวยฯกราบเท้านางวนั ทองแล้วเล่าให้ฟังว่ามคี วามสุขสบายดี มีเมยี
สองคน มีบ่าวไพร่คอบรับใช้แต่ทม่ี าเพราะรักแม่วนั ทอง
ยงั ขาดแต่แม่คุณไม่แลเห็น เป็ นอยู่กเ็ หมือนตายไปหายสูญ
ข้อนีท้ ่ที ุกข์ยงั เพม่ิ พูน ถ้าพร้อมมูลแม่ด้วยจะสาราญ
ลูกมาหมายว่าจะมารับ เชิญแม่วันทองกลบั คืนไปบ้าน
แม้นจะบังเกดิ เหตุเภทพาล ประการใดกต็ ามแต่เวรา
ถอดคาประพนั ธ์
ยงั ขาดกแ็ ต่แม่วันทอง ท้ังที่มชี ีวติ แต่กเ็ หมือนตายไปแล้ว ทาให้จมื่นไวย
ฯมแี ต่ความทุกข์จงึ คิดทจี่ ะมารับแม่กลบั ไปอย่ดู ้วยกนั ถ้าจะเกดิ อะไร
ขนึ้ กแ็ ล้วแต่เวรกรรม
มาอย่ไู ยกบั อ้ายหินชาติ แสนอุบาทว์ใจจิตริษยา
ดงั ทองคาทาเลย่ี มปากกะลา หน้าตาดาเหมือนมินหม้อมอม
เหมือนแมลงวันว่อนเคล้าท่เี น่าช่ัว มาเกลือกกล้วั ปทุมมาลย์ท่ีหวานหอม
ดอกมะเดื่อฤๅจะเจือดอกพะยอม ว่านักแม่จะตรอมระกาใจ
ถอดคาประพนั ธ์
แม่วันทองจะมาอยู่ทาไมกบั คนทม่ี จี ติ ใจเลวทรามแบบนี้ ท้ังทแ่ี ม่เป็ นคนดีแต่
ต้องมาอย่กู บั คนตา่ ทราม
แม่เลยี้ งลกู มาถงึ เจ็ดขวบ เคราะห์ประจวบจากแม่หาเห็นไม่
จะคดิ ถึงลูกบ้างฤๅอย่างไร ฤๅหาไม่ใจแม่ไม่คิดเลย
ถ้าคิดเห็นเอน็ ดูว่าลูกเต้า แม่ทูนเกล้าไปเรือนอย่าเชือนเฉย
ให้ลูกคลายอารมณ์ได้ชมเชย เหมือนเม่ือคร้ังแม่เคยเลยี้ งลูกมา ฯ
ถอดคาประพนั ธ์
แม่เลยี้ งลูกมาถงึ เจด็ ปี แต่ด้วยเคราะห์กรรมทาให้ต้องจากกนั ถ้าแม่ยงั คิด
ว่าเป็ นแม่ลูกกนั กข็ อให้กลบั ไปอย่ดู ้วยกนั เหมือนคร้ังก่อน
ถอดคาประพนั ธ์ เรื่อง
ตอน
(๒)คราน้ันจึงโฉมเจ้าวันทอง (หน้า ๒๖) –
ทุดอ้ายไพร่ขคี้ รอกหลอกผ้ดู ี (๒๙)