99 ใบงานที่ 3.1 เฉลย เรื่อง วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยมีความสำคัญอย่างไร 1) ประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต ตอบสนองความต้องการ ช่วยอำนวยความสะดวก 2) หล่อหลอมบุคลิกภาพให้กับสมาชิกของสังคม 3) สร้างความเป็นปึกแผ่นมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 4) เป็นองค์ความรู้ที่มีคุณค่าในการสร้างสิ่งที่มีประโยชน์และคุณค่าต่อสังคมไทย 2. วัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นบ้าน หมายความว่าอย่างไร ยกตัวอย่างประกอบ วัฒนธรรมของประชาชนตามท้องถิ่นและภูมิภาคต่างๆ ซึ่งแต่ละกลุ่มได้สร้างขึ้นและใช้เป็นแนวทางประพฤติปฏิบัติ ในกลุ่มของตน ตัวอย่างเช่น วัฒนธรรมล้านนา วัฒนธรรมอีสาน วัฒนธรรมภาคใต้ วัฒนธรรมภาคกลาง และวัฒนธรรมภาคใต้ตอนล่าง 3. วัฒนธรรมประจำชาติ หมายความว่าอย่างไร วัฒนธรรมที่รัฐบาลกำหนดและประกาศให้คนไทยทั้งชาติประพฤติปฏิบัติ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ได้รับจากการสร้างสรรค์ จากบรรพบุรุษทั้งทางตรงและทางอ้อม มีการพัฒนาต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 4. วัฒนธรรมของชาติ ซึ่งมีลักษณะสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติ ได้แก่อะไรบ้าง 1) มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2) มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ 3) มีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ 4) ประกอบอาชีพเกษตรกรรม 5) มีวิถีการดำเนินชีวิตและบุคลิกภาพที่มีความอ่อนน้อม ยิ้มแย้ม เคารพผู้อาวุโส เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ 6) มีอาหารไทยและสมุนไพร 7) มีวันสำคัญและเทศกาลของชาติที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ วันนักขัตฤกษ์ และประเพณีวันสำคัญ เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา
100 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 วัฒนธรรมสากล 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 ตัวชี้วัด ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดีมีค่านิยมที่ดีงาม และธำรง รักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลก อย่างสันติสุข ม.3/3 อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและเลือกรับวัฒนธรรมสากลที่เหมาะสม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. วิเคราะห์อิทธิพลของวัฒนธรรมสากลที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตในสังคมไทยได้ (K) 2. เสนอแนวทางการเลือกรับวัฒนธรรมสากลอย่างเหมาะสมได้(P) 3. เห็นความสำคัญของการศึกษาและเลือกรับวัฒนธรรมสากลเพิ่มมากขึ้น (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น สาระการเรียนรู้จากสื่อ 1) ความสำคัญของวัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาไทย และวัฒนธรรม สากล 2) การอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและ ภูมิปัญญาไทยที่เหมาะสม 3) การเลือกรับวัฒนธรรมสากล ที่เหมาะสม (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) - วัฒนธรรมสากล • ความสำคัญของวัฒนธรรม สากล • วัฒนธรรมสากลที่สำคัญใน ยุคปัจจุบัน • อิทธิพลของวัฒนธรรมสากล ที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตใน สังคมไทย • แนวทางการเลือกรับ วัฒนธรรมสากลอย่าง เหมาะสม 4. มโนทัศน์สำคัญ (Key Concept) - วัฒนธรรมสากลเป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อการดำรงชีวิตของชาวไทย โดยการเลือกรับวัฒนธรรมสากลอย่าง เหมาะสมนั้นจะส่งผลดีต่อการพัฒนาสภาพการดำรงชีวิตของชาวไทยให้เจริญก้าวหน้าเพิ่มมากขึ้น 5. คำถามหลัก (Big Question) - วิธีการในการเลือกรับวัฒนธรรมสากลที่เหมาะสมสามารถทำได้อย่างไร หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล เวลา 1 ชั่วโมง
101 ขั้นสอน ขั้นนำ 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการคิด - ทักษะการวิเคราะห์ 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. รักความเป็นไทย 7. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบถึงวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชื่อเรื่องที่ จะเรียนรู้จุดประสงค์การเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ 2. ครูให้นักเรียนดูภาพเกี่ยวกับวัฒนธรรมสากล แล้วให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ภาพว่า ภาพต่าง ๆ มีผลต่อการดำรงชีวิตของคนในปัจุบันอย่างไรบ้าง 3. ครูถามคำถามเพื่อกระตุ้นความสนใจ เช่น 1) วัฒนธรรมตะวันตกที่มีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิของชาวไทย ได้แก่อะไรบ้าง (แนวตอบ เช่น ที่อยู่อาศัย การแต่งกาย อาหาร ภาษา เทคโนโลยี องค์ความรู้) 2) เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่า วัฒนธรรมตะวันตกมีความสำคัญต่อชาวโลก (แนวตอบ วัฒนธรรมตะวันตกส่งผลต่อการพัฒนาความเจริญของปรัเท อันเนื่องมาจากการคิดค้น เทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ) 4. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงความหมายและความสำคัญของวัฒนธรรมสากล ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับวัฒนธรรมสากล จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 หรือจากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เช่น หนังสือในห้องสมุด เว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต ในประเด็นต่อไปนี้ • วัฒนธรรมสากลที่สำคัญในยุคปัจจุบัน • อิทธิพลของวัฒนธรรมสากลที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตในสังคมไทย 2. ครูแนะนำแหล่งข้อมูลสารสนเทศที่น่าเชื่อถือให้กับนักเรียนเพิ่มเติม ขั้นที่3 อธิบายความรู้ (Explain) 1. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนำข้อมูลที่ตนได้จากการรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน 2. จากนั้นสมาชิกในกลุ่มช่วยกันคัดเลือกข้อมูลที่นำเสนอเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง
102 ขั้นสรุป ขั้นประเมิน ประเมินท้ายหน่วย 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรียนตามประเด็นที่ศึกษา อภิปราย และตอบ คำถามร่วมกัน 4. ครูให้นักเรียนดูภาพเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรรมของชาวตะวันตกที่มีการกระทำที่เหมาะสมและ ไม่เหมาะสมกับสังคมไทย เช่น ภาพชาวตะวันตกชมการแสดงดนตรี ภาพการแต่งกายของชาวตะวันตก จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และแสดงเหตุผลว่า ภาพใดเป็นภาพที่เหมาะสมที่จะนำมาประยุกต์ ปฏิบัติในสังคมไทย 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันกำหนดแนวทางการปฏิบัติตนเกี่ยวกับการเลือกรับวัฒนธรรมสากล เพื่อนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต โดยครูแนะนำเพิ่มเติม 6. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเกี่ยวกับวัฒนธรรมสากล ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 3.2 เรื่อง วัฒนธรรมสากล โดยครูแนะนำเพิ่มเติม 2. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 เกี่ยวกับเรื่อง วัฒนธรรมสากล เพื่อเป็น การบ้านส่งครูในชั่วโมงถัดไป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบผลจากการตอบคำถาม การทำใบงาน และการทำแบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 2. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) รายงานการปฏิบัติตนในการอนุรักษ์ วัฒนธรรมไทยและเลือกรับวัฒนธรรมสากล 3. ให้นักเรียนทำแบบวัดฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 เรื่อง วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล เพื่อทดสอบความรู้ที่ได้ศึกษามา การประเมินผลท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล 1. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล 2. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคำถาม การร่วมกันทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน 3. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงาน แบบฝึกฯ และแบบวัดฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
103 8. การวัดและประเมินผล 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 2) แบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 3) แบบวัดฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 4) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม (1) ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. 2542. สังคมและวัฒนธรรมไทย. กรุงเทพมหานคร : เรือนแก้วการพิมพ์. (2) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. 2544. แนวทางการสืบค้นวัฒนธรรมท้องถิ่นไทย. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ องค์การค้าของ สกสค. รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 8.1 การวัดและประเมินผล ระหว่างการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) วิเคราะห์อิทธิพลของ วัฒนธรรมสากลที่มีผลต่อ การดำเนินชีวิตใน สังคมไทย และเสนอ แนวทางการเลือกรับ วัฒนธรรมสากลอย่าง เหมาะสมได้ - ตรวจใบงานที่ 3.2 - ใบงานที่ 3.2 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน - แบบประเมินการนำเสนอ ผลงาน - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายกลุ่ม - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นใน การทำงาน - แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8.2 การวัดและประเมินผล หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง วัฒนธรรมไทยและ วัฒนธรรมสากล - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
104 5) ใบงานที่ 3.2 เรื่อง วัฒนรรมสากล 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - https://www.m-cuture.go.th - https://www.kasetsomboon.org - https://www.thairath.co.th - https://www.royin.go.th
105 ใบงานที่ 3.2 เรื่อง วัฒนธรรมสากล คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. วัฒนธรรมสากลหรือวัฒนธรรม นานาชาติหมายความว่าอย่างไร 2. วัฒนธรรมสากลส่วนใหญ่ มีถิ่นกำเนิดในบริเวณใด 3. วัฒนธรรมสากลที่นำมาใช้ใน การปฏิรูปประเทศในสมัยรัชกาล ที่ 4 และ 5 ได้แก่อะไรบ้าง 4. อิทธิพลของวัฒนธรรมสากลมีผล ต่อการดำเนินชีวิตในสังคมไทย ด้านใดบ้าง 5. นักเรียนมีวิธีการเลือกรับ วัฒนธรรมสากลอย่างเหมาะสม อย่างไร
106 เฉลย ใบงานที่ 3.2 เรื่อง วัฒนธรรมสากล คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. วัฒนธรรมสากลหรือวัฒนธรรม วัฒนธรรมที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปอย่างกว้างขวาง นานาชาติหมายความว่าอย่างไร หรือเป็นอารยธรรมที่ได้รับการปฏิบัติตามกันทั่วโลก 2. วัฒนธรรมสากลส่วนใหญ่ แถบโลกตะวันตก คือ ยุโรปและอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่ง มีถิ่นกำเนิดในบริเวณใด ที่มีการพัฒนาวิทยาการและเทคโนโลยีมานาน 3. วัฒนธรรมสากลที่นำมาใช้ใน 1) การผลิตเงินตราเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า การปฏิรูปประเทศในสมัยรัชกาล 2) การคมนาคมขนส่งมีการสร้างรางรถไฟ รถยนต์ ที่ 4 และ 5 ได้แก่อะไรบ้าง โทรเลข โทรศัพท์ ไฟฟ้า การประปา 3) การแพทย์และการสาธารณสุขสมัยใหม่ 4) การสร้างโรงเรียนหลวง 4. อิทธิพลของวัฒนธรรมสากลมีผล 1) ที่อยู่อาศัย 2) การแต่งกาย 3) อาหาร 4) ภาษา ต่อการดำเนินชีวิตในสังคมไทย 5) แนวคิด 6) องค์ความรู้ ด้านใดบ้าง 5. นักเรียนมีวิธีการเลือกรับ 1) เลือกรับวัฒนธรรมสากลที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต วัฒนธรรมสากลอย่างเหมาะสม 2) การศึกษาข้อดีและข้อเสียของสิ่งประดิษฐ์และ อย่างไร นวัตกรรม เพื่อการเลือกใช้อย่างเหมาะสม และรู้วิธีการแก้ปัญหา 3) ร่วมมือกันศึกษาค้นคว้าภูมิปัญญาไทยและภูมิปัญญา ท้องถิ่น เพื่อเผยแพร่และพัฒนาให้สังคมโลกรู้จัก 4) พัฒนาและผสมผสานวัฒนธรรมไทยให้เหมาะสม เพื่อส่งผลให้กลายเป็นภูมิปัญญาสากล
107 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่3 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. กิจกรรมในข้อใดสามารถช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ได้มากที่สุด ก. การเที่ยวเมืองไทย ข. การรับประทานอาหารไทย ค. การเข้าร่วมกิจกรรมแห่เทียนพรรษา ง. การจัดนิทรรศการวัฒนธรรมไทย 4 ภาค 2. ข้อใดกล่าวถึงวัฒนธรรมไทยได้ถูกต้อง ก. วัฒนธรรมไทยเป็นสิ่งที่ล้าสมัย ข. วัฒนธรรมไทยไม่มีความน่าสนใจ ค. วัฒนธรรมไทยไม่เหมาะกับสังคมปัจจุบัน ง. วัฒนธรรมไทยเป็นมรดกของชาติที่ต้องรักษาไว้ 3. “กานดาไปศึกษาภาษาอังกฤษและภาษาจีนเพิ่มเติม เพื่อนำมาเป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ แต่เธอก็พูดภาษาไทยได้ชัดเจน” ข้อความดังกล่าว แสดงถึงการเลือกรับวัฒนธรรมสากลในข้อใด ก. ด้านการศึกษาและความรู้ ข. ด้านองค์ความรู้และด้านภาษา ค. ด้านแนวคิด ทฤษฎี ความรู้ และหลักการ ง. ด้านการประกอบอาชีพ และด้านความสัมพันธ์ 4. วัฒนธรรมสากลมีความสำคัญอย่างไร ก. ช่วยพัฒนาสังคมให้ก้าวหน้า ข. ช่วยทำให้ความยากจนหมดไป ค. ช่วยให้มนุษย์มีความเป็นอยู่อย่างหรูหรา ง. ช่วยสร้างความเป็นเอกลักษณ์และความเป็น ปึกแผ่นของชาติ 5. วัฒนธรรมสากลใดต่อไปนี้ที่เราควรเลือกรับมาปรับ ใช้ในชีวิตประจำวันมากที่สุด ก. ภาษาอังกฤษ ข. แฟชั่นเสื้อผ้า ค. สินค้าแบรนด์เนม ง. เครื่องสำอางชื่อดัง 6. ข้อใดถือเป็นวัฒนธรรมประจำชาติ ก. พิธีบายศรีสู่ขวัญ ข. ประเพณีผีตาโขน ค. ตักบาตรดอกไม้ ง. พระราชพิธีฉัตรมงคล 7. วัฒนธรรมไทยมีความสำคัญอย่างไร ก. ช่วยให้คนไทยมีฐานะดี ข. เป็นสิ่งที่ช่วยกำหนดชนชั้นทางสังคม ค. ช่วยเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นของชาติ ง. ช่วยให้สังคมไทยปราศจากความขัดแย้ง 8. “การใช้เครื่องทอผ้าในการทอผ้าไหมของชาวไทยใน ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มี ผลิตภัณฑ์สินค้าจากผ้าไหมไปจำหน่ายทั้งในประเทศ และนอกประเทศ” ข้อความดังกล่าวสอดคล้องกับ ความสำคัญของวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ในข้อใดมากที่สุด ก. แสดงจุดเด่นของอาชีพทอผ้าไหม ข. สะท้อนวิถีการดำรงชีพ และสร้างรายได้ ค. ความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับอาชีพ ง. ภูมิปัญญาไทยเป็นพื้นฐานสำคัญของการค้าขาย 9. วันสำคัญในข้อใด ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ก. วันจักรี วันฉัตรมงคล ข. วันจักรี วันสงกรานต์ ค. วันสงกรานต์ วันพืชมงคล ง. วันวิสาขบูชา วันครอบครัว 10. ผู้ใดปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมประจำชาติไทย ก. แพรวและชาวบ้านไปทำพิธีแห่นางแมวขอฝน ข. กลุ่มแม่บ้านร่วมมือกันทำกระทงไปลอยในแม่น้ำ ค. ประชาชนทั่วประเทศพากันไปชมประเพณี ไหลเรือไฟ ง. กล้าและเพื่อนพากันไปร่วมพิธีเวียนเทียนใน วันวิสาขบูชา 11. ข้อใดจัดเป็นการพัฒนาวัฒนธรรมไทยผสมผสานกับ วัฒนธรรมสากลได้อย่างเหมาะสม ก. พระบรมมหาราชวัง ข. พระที่นั่งอนันตสมาคม ค. วัดยานนาวา ง. วัดระฆังโฆษิตาราม 12. การดำเนินชีวิตตามวัฒนธรรมไทยส่งผลดีมากที่สุด ในข้อใด
108 ก. เป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพ ข. การพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ค. สมาชิกในสังคมมีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง ง. คนในสังคมไทยมีลักษณะคล้ายคลึงกัน มีความ ผูกพันกัน 13. หากเราไม่ช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิ่งใดจะเกิดขึ้น ก. สังคมไทยมีความเจริญ ข. สังคมไทยถูกต่างชาติครอบงำ ค. สังคมไทยมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ง. สังคมไทยสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง 14. นักเรียนจะอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอย่างเหมาะสม ได้หลายประการ ยกเว้น ข้อใด ก. ใช้แก้วน้ำลายไทย ข. ยกย่องปราชญ์ท้องถิ่น ค. ใช้ภาชนะเครื่องปั้นดินเผาใส่อาหาร ง. ร้องเพลงไทยผสมกับเพลงตะวันตก 15. บุคคลในข้อใด ที่มีการกระทำที่แสดงถึงการอนุรักษ์ วัฒนธรรมไทยระดับชาติ ก. เดือนชอบรำมโนราห์ ข. ฝนรำเซิ้งได้สวยกว่าเพื่อน ค. เก๋แต่งผ้าไหมมัดหมี่ของชาวอีสาน ง. ดาวพูดคำควบกล้ำในภาษาไทยชัดเจน 16. ข้อความใดแสดงถึงความสำคัญของภูมิปัญญาของคนไทย ก. อาหารไทยมีมากมาย ข. อาหารไทยมีรสจัด ค. อาหารไทยมีสมุนไพร ง. อาหารไทยมีโปรตีน 17. กิจกรรมใดต่อไปนี้ช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์ วัฒนธรรมไทย ก. การแข่งขันฟุตบอล ข. การร้องเพลงสากล ค. การอ่านทำนองเสนาะ ง. การเลือกตั้ง เฉลย 18. “ปัจจุบันคนทั่วโลกสามารถติดต่อกันได้ด้วยระบบ ข้อมูลสารสนเทศ” จากข้อความดังกล่าวเป็นการ เลือกรับวัฒนธรรมสากลอย่างไร ก. การเลือกรับวัฒนธรรมสากลที่จำเป็นต่อการดำเนิน ชีวิต ข. การเลือกรับส่วนที่แสดงถึงการพัฒนาวัฒนธรรม ของยุโรป ค. การเลือกรับในด้านการศึกษาแนวคิดที่สำคัญและ ระบบเทคโนโลยี ง. การเลือกรับวัฒนธรรมสากลในส่วนที่แสดงถึงการ ร่วมมือกันของมนุษย์ 19. ผู้ใดปฏิบัติ ไม่ถูกต้อง ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ก. มุกหัดเล่นระนาดเอก ข. หญิงสอนเด็กละแวกบ้านให้รำไทย ค. ฝ้ายไปเที่ยวโบราณสถานแล้วนำวัตถุโบราณ กลับมา ง. จุกชักชวนชาวต่างชาติให้ฝึกพูด อ่าน เขียน ภาษาไทย 20. นักเรียนสามารถช่วยอนุรักษ์วัฒนธรรมประจำชาติได้อย่างไร ก. เรียนรู้ภูมิปัญญาไทย ข. ศึกษาวัฒนธรรมล้านนา ค. เรียนรู้การทำอุตสาหกรรม ง. พูด อ่าน เขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง 1. ง 2. ง 3. ข 4. ก 5. ก 6. ง 7. ค 8. ง 9. ก 10. ง 11. ข 12. ง 13. ข 14. ง 15. ง 16. ค 17. ค 18. ก 19. ค 20. ง
109 ชิ้นงาน/ภาระงานรวบยอด กิจกรรม รายงานการปฏิบัติตนในการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและเลือกรับวัฒนธรรมสากล คำชี้แจง : ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำรายงานการปฏิบัติตนในการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและเลือกรับ วัฒนธรรมสากล แล้วนำส่งครู โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่กำหนด แบบประเมินรายงานการปฏิบัติตนในการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและเลือกรับวัฒนธรรมสากล รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การอนุรักษ์ วัฒนธรรมและ ภูมิปัญญาไทย มีพฤติกรรมที่แสดงถึง การอนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาไทยพร้อม แสดงหลักฐานประกอบ 4 พฤติกรรม ขึ้นไป มีพฤติกรรมที่แสดงถึง การอนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาไทย พร้อมแสดงหลักฐาน ประกอบ 3 พฤติกรรม มีพฤติกรรมที่แสดงถึง การอนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาไทยพร้อม แสดงหลักฐานประกอบ 2 พฤติกรรม มีพฤติกรรมที่แสดงถึงการ อนุรักษ์วัฒนธรรม และ ภูมิปัญญาไทยพร้อม แสดงหลักฐานประกอบ 1 พฤติกรรม 2. การเลือกรับ วัฒนธรรมสากล มีพฤติกรรมที่แสดงถึง การเลือกรับวัฒนธรรม สากลอย่างเหมาะสม 4 พฤติกรรมขึ้นไป มีพฤติกรรมที่แสดงถึง การเลือกรับวัฒนธรรม สากลอย่างเหมาะสม 3 พฤติกรรม มีพฤติกรรมที่แสดงถึง การเลือกรับวัฒนธรรม สากลอย่างเหมาะสม 2 พฤติกรรม มีพฤติกรรมที่แสดงถึง การเลือกรับวัฒนธรรม สากลอย่างเหมาะสม 1 พฤติกรรม เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน 8 6 - 7 4 - 5 ต่ำกว่า 4 ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง
110 แบบประเมินการนำเสนอผลงาน คำชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนำเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การลำดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการนำเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม
111 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../.............. เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 ความมีน้ำใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม
112 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การทำงาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ำใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
113 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ 3.2 มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 ศึกษาค้นคว้าความรู้จากสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสม่ำเสมอ 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของตนเองและส่วนรวมอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม 8.2 เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน
114 10. ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ................................. ( ................................ ) ตำแหน่ง ....... 11. บันทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางภูมิศาสตร์ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข
115 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 สังคมไทย 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงามและธำรงรักษาประเพณีและ วัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข ม. 3/4 วิเคราะห์ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในประเทศ และเสนอแนวคิดในการลดความขัดแย้ง ม. 3/5 เสนอแนวคิดในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุขในประเทศและสังคมโลก 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง เช่น การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ความเชื่อ 2) สาเหตุปัญหาทางสังคม เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหายาเสพติด ปัญหาการทุจริต ปัญหา อาชญากรรม 3) แนวทางความร่วมมือในการลดความขัดแย้งและการสร้างความสมานฉันท์ 4) ปัจจัยที่ส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มีความสุข เช่น การอยู่ร่วมกันอย่างมีขันติธรรม หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง เห็นคุณค่าในตนเอง รู้จักมองโลกในแง่ดี สร้างทักษะทางอารมณ์ รู้จักบริโภค ด้วยปัญญา เลือกรับ-ปฏิเสธข่าวและวัตถุต่าง ๆ ปรับปรุงตนเองและสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ 2.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น (พิจารณาเพิ่มเติมตามหลักสูตรสถานศึกษา) 3. มโนทัศน์สำคัญ (Key Concept) การขัดแย้งในประเทศส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและการพัฒนาประเทศ ซึ่งทุกคนควรให้ความร่วมมือกัน หาแนวทางเพื่อลดความขัดแย้ง 4. คำถามหลัก (Big Question) ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมไทยเกิดจากปัจจัยใดบ้าง และมีแนวทางในการลดความขัดแย้งได้อย่างไร 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการคิด - ทักษะการเปรียบเทียบ 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน เวลา 4 ชั่วโมง
116 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผ่นพับ เรื่อง สังคมไทยยุคปัจจุบัน 7. การวัดและการประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการทำแผ่นพับ เรื่อง สังคมไทยยุค ปัจจุบัน - แบบประเมินการทำ แผ่นพับ เรื่อง สังคมไทย ยุคปัจจุบัน - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 7.2 การวัดและประเมินผล ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สังคมไทย - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 7.3 การวัดและประเมินผล ระหว่างการจัดกิจกรรม 1) ลักษณะของสังคมไทย และปัจจัยที่ก่อให้เกิด ความขัดแย้งจนเกิด เป็นปัญหาสังคมและ แนวทางแก้ไข - ตรวจใบงานที่ 4.1 - ใบงานที่ 4.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) แนวทางความร่วมมือ และปัจจัยส่งเสริมการ ดำรงชีวิตให้มีความสุข - ตรวจใบงานที่ 4.2 - ใบงานที่ 4.2 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน - แบบประเมิน ผลการนำเสนอผลงาน - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 5) พฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 6) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 7.4 การวัดและประเมินผล หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สังคมไทย - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
117 8. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สังคมไทย 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 2) แบบฝึกสมรรถนะและการคิด หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ม.3 3) แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ม.3 4) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม (1) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2550. หนทางสร้างสุขของคนในสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (2) เฉลียว ฤกษ์รุจิพิมล. 2543. การจัดระเบียบสังคม”ในสังคมวิทยา. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 5) ตัวอย่างข่าว 6) บัตรภาพ 7) ใบงานที่ 4.1 เรื่อง ความขัดแย้งในสังคมไทย 8) ใบงานที่ 4.2 เรื่อง สังคมไทยกับการพัฒนา 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - https://kanchanapisek.or.th - https://www.nacc.go.th - https://www.pcd.go.th - https://www.thairath.co.th - https://www.khaosod.co.th
118 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. สังคมไทยมีลักษณะสำคัญหลายประการ ยกเว้น ข้อใด ก. เป็นสังคมเกษตร ข. รักในถิ่นฐานบ้านเกิดของตน ค. มีความหลากหลายในเชื้อชาติ ง. รักอิสระและมีเสรีภาพส่วนบุคคล 2. เพราะเหตุใด ประเพณีและวัฒนธรรมในภูมิภาคต่างๆ ของไทยจึงมีความแตกต่างกัน ก. มีการรับวัฒนธรรมสากลเข้ามาใช้ ข. มีอาณาเขตติดต่อกันหลายประเทศ ค. ประชากรไทยพูดภาษาถิ่นแตกต่างกัน ง. มีชนหลายเผ่าพันธุ์ สภาพนิเวศและสิ่งแวดล้อมต่างกัน 3. สถาบันในข้อใดมีความผูกพันกันมากที่สุด ก. สถาบันศาสนา สถาบันการศึกษา ข. สถาบันศาสนา สถาบันนันทนาการ ค. สถาบันศาสนา สถาบันทางเศรษฐกิจ ง. สถาบันนันทนาการ สถาบันการเมืองการปกครอง 4. ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองใน สังคมไทย คืออะไร ก. ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ข. ความแตกต่างกันทางด้านการศึกษา ค. ระบบเศรษฐกิจแบบนายทุนมีอำนาจมาก ง. สภาพความเป็นอยู่ของคนไทยในสังคมไทย ไม่เท่าเทียมกัน 5. ปัญหาใดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของ ประชากร ก. ปัญหาสังคม ข. ปัญหาการเมือง ค. ปัญหาเศรษฐกิจ ง. ปัญหายาเสพติด 6. การที่ประชากรเพิ่มจำนวนมากขึ้นมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไร ก. ประชาชนนำทรัพยากรมาใช้ในการดำเนินชีวิตมากขึ้น ข. ที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอ อยู่กันอย่างแออัด มีการตัดไม้ ทำลายป่า ทำให้เกิดน้ำท่วม ค. ประชาชนมีจำนวนมากต้องไปอาศัยอยู่ในป่า ต้องตัดไม้ มาสร้างบ้าน ง. มีการสร้างโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อเป็นที่หารายได้ของ ประชาชน 7. การกระทำในข้อใดแสดงว่าเป็นผู้ที่สามารถสร้างทักษะทาง อารมณ์ได้ ก. มีสติกับความคิด เข้าใจความคิดของตนเอง ข. มีความเชื่อมั่นในการกระทำของตนเองว่าถูกต้อง ค. ยอมเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตไปตามสภาพแวดล้อม ง. สามารถเปรียบเทียบการกระทำของตนเองกับผู้อื่นได้ 8. การกระทำในข้อใดจัดว่าเป็นการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ที่เหมาะสม ก. การเจรจาต่อรอง การไกล่เกลี่ย ข. ผู้มีอำนาจของคู่กรณีดำเนินการตัดสิน ค. การอภิปรายหรือการโต้วาทีระหว่างกลุ่ม ง. การแจ้งความต่อตำรวจให้ดำเนินคดีต่อคู่กรณี 9. การดำเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอดคล้องกับข้อใด ก. การมีคุณภาพทางการศึกษา ข. การมีฐานะทางเศรษฐกิจมั่นคง ค. การยึดถือคุณธรรมและหลักธรรม ง. การดำรงชีวิตบนพื้นฐานทางสายกลาง 10. นักเรียนมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง ได้อย่างไร
119 ก. หามาตรการลงโทษผู้กระทำความผิด ข. ประกาศให้คนทั่วไปรู้ถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่คดโกงประชาชน ค. แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อสงสัยการกระทำของ ผู้ที่ขาดความซื่อสัตย์ ง. ร่วมกันสร้างค่านิยมและปลูกจิตสำนึกในการปฏิบัติตน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต 11. ข้อใดเป็นลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของสังคมไทย ก. เป็นสังคมอุตสาหกรรม ข. ไม่ยึดถือประเพณีและพิธีกรรม ค. มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาหลัก ง. มีความสันโดษ รักความเป็นส่วนตัว 12. สถานการณ์ใดต่อไปนี้อาจนำไปสู่ความขัดแย้งด้านเศรษฐกิจ ก. การเพิ่มกำลังการผลิต ข. การผูกขาดทางการค้า ค. การกระจายอำนาจ ง. การให้ทุนด้านการวิจัย 13. สถาบันทางสังคมใดต่อไปนี้มีบทบาทสำคัญในการป้องกัน ปัญหายาเสพติด ก. สถาบันครอบครัว ข. สถาบันการเมือง ค. สถาบันเศรษฐกิจ ง. สถาบันสื่อสารมวลชน 14. ข้อใดเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง ก. การพึ่งพาตนเอง ข. ระบบทุนนิยม ค. ระบบอุปถัมภ์ ง. ความยึดมั่นในศาสนา 15. หากประเทศมีการทุจริตคอร์รัปชั่นสูงจะส่งผลเสียอย่างไร ก. เกิดความล้าหลังทางวัฒนธรรม ข. ประชาชนไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ค. ค่าเงินของประเทศแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ง. ขาดความน่าเชื่อถือจากนานาประเทศ เฉลย 16. สิ่งใดต่อไปนี้ มิอาจแก้ไขความขัดแย้งในสังคมได้ ก. ความมีอคติ ข. ความสามัคคี ค. ความมั่นใจในตนเอง ง. ความพอเพียงและมีเหตุผล 17. แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายอาจก่อให้เกิดปัญหาใดตามมา ก. ปัญหาเด็กเร่ร่อน ข. ปัญหาการหย่าร้าง ค. ปัญหาการแพร่โรคระบาด ง. ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 18. หากต้องการให้การทุจริตคอร์รัปชั่นหมดไปจากสังคมไทยต้อง เร่งปลูกฝังแนวคิดใดแก่คนในประเทศ ก. การพึ่งพาผู้อื่น ข. ความซื่อสัตย์สุจริต ค. ความเป็นวัตถุนิยม ง. ความเป็นทุนนิยมเสรี 19. หากนักเรียนมีความคิดเห็นไม่ตรงกับเพื่อน นักเรียนควร ปฏิบัติตนอย่างไร ก. ไม่แสดงความคิดเห็น ข. ต่อว่าเพื่อนด้วยถ้อยคำรุนแรง ค. รับฟังความคิดเห็นและใช้เหตุผลพูดคุยกัน ง. หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนคนนั้น 20. เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นภายในสังคม เราควรแก้ไขความ ขัดแย้งโดยยึดหลักใด ก. การใช้เหตุผล ข. การใช้ความรุนแรง ค. การใช้อำนาจบารมี ง. การใช้เงินแก้ไขปัญหา 1. ค 2. ง 3. ก 4. ก 5. ง 6. ข 7. ก 8. ก 9. ง 10. ง 11. ค 12. ข 13. ก 14. ค 15. ง 16. ก 17. ค 18. ข 19. ค 20. ก
120 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ลักษณะของสังคมไทยและปัจจัยที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งจนเกิดเป็นปัญหาสังคมและแนวทางแก้ไข 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 ตัวชี้วัด ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดีมีค่านิยมที่ดีงาม และธำรง รักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลก อย่างสันติสุข ม. 3/4 วิเคราะห์ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในประเทศ และเสนอแนวคิดในการ ลดความขัดแย้ง ม. 3/5 เสนอแนวคิดในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุขในประเทศและสังคมโลก 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายบทบาทหน้าที่ของสถาบันในสังคมไทยซึ่งมีส่วนร่วมมือกันในการแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ (K) 2. วิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในประเทศ ผลกระทบ และแนวทางแก้ไขได้ (K) 3. จำแนกบทบาทหน้าที่ของสถาบันในสังคมไทยซึ่งมีส่วนร่วมมือกันในการแก้ปัญหาความขัดแย้งได้(P) 4. เห็นคุณค่าของศึกษาลักษณะของสังคมไทย สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา และแนวทางแก้ไขเพิ่มมากขึ้น (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น สาระการเรียนรู้จากสื่อ 1) ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง เช่น การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ความเชื่อ 2) สาเหตุปัญหาทางสังคม เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหา ยาเสพติด ปัญหาการทุจริต ปัญหาอาชญากรรม 3) แนวทางความร่วมมือในการลด ความขัดแย้งและการสร้าง ความสมานฉันท์ (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) - ลักษณะของสังคมไทย - ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ในสังคมไทย - ปัญหาสังคมและแนวทางแก้ไข 4. มโนทัศน์สำคัญ (Key Concept) - สถาบันทางสังคมไทยมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการขัดเกลาสมาชิกในสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข ลดความ ขัดแย้งระหว่างกัน อันเกิดจากปัจจัยสำคัญหลายประการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทย ดังนั้น ทุกคนจึงต้องร่วมมือกันลดปัญหาความขัดแย้งและสร้างสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคม หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 สังคมไทย เวลา 3 ชั่วโมง
121 ขั้นนำ 5. คำถามหลัก (Big Question) 1. สถาบันทางสังคมของไทยมีลักษณะอย่างไร 2. ปัญหาสังคมไทยในปัจจุบันได้แก่ปัญหาใด และมีแนวทางแก้ไขอย่างไร 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการคิด - ทักษะการวิเคราะห์ 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบถึงวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชื่อเรื่องที่ จะเรียนรู้จุดประสงค์การเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ 2. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สังคมไทย 3. ครูเกริ่นนำเกี่ยวกับลักษณะสำคัญทางสังคมไทย แล้วถามคำถาม เช่น 1) เมื่อนักเรียนคิดถึงสังคมไทย นักเรียนคิดถึงลักษณะเด่นอะไรบ้าง (แนวตอบ การมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การไหว้ การยิ้ม การทำเกษตรกรรม) 2) เหตุใดประเทศไทยจึงมีความโดดเด่นในด้านการเป็นประเทศเกษตรกรรม (แนวตอบ เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในบริเวณที่มีลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศเหมาะสมกับ การเพาะปลูก ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรที่ได้มีปริมาณมาก มีคุณภาพดี และเป็นที่ต้องการ ของทั่วโลก) 3) การที่คนในสังคมไทยให้ความเคารพเทิดทูนพระมหากษัตริย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มาจากสาเหตุใด (แนวตอบ เนื่องจากสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ให้ความช่วยเหลือและคู่เคียงข้างประชาชนมาโดยตลอด ประชาชนชาวไทยจึงให้ความเคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดมา) 4. ครูเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียน เกี่ยวกับลักษณะสำคัญทางสังคมไทยและสถาบันทางสังคมที่สำคัญของไทย โดยครูซักถาม และอธิบายขยายความจากสิ่งที่นักเรียนตอบ จากนั้นอภิปรายความรู้ร่วมกัน ชั่วโมงที่ 1
122 ขั้นสอน 5. ครูนำข่าวจากหนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต วิทยุ โทรทัศน์ ที่เป็นประเด็นเกี่ยวกับปัญหาสังคม แล้วให้ นักเรียนร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นเชื่อมโยงถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมไทย ทั้งในด้านการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม จากข่าวดังกล่าว โดยครูแนะนำเพิ่มเติม ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปัญหาสังคมและแนวทางแก้ไข จากหนังสือเรียน สังคมศึกษาฯ ม.3 หรือจากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เช่น หนังสือในห้องสมุด เว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต โดยครอบคลุมประเด็นปัญหา ดังนี้ • ปัญหาสิ่งแวดล้อม • ปัญหายาเสพติด • ปัญหาอาชญากรรม • ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน 2. ครูแนะนำแหล่งข้อมูลสารสนเทศที่น่าเชื่อถือให้กับนักเรียนเพิ่มเติม ขั้นที่3 อธิบายความรู้ (Explain) 1. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนำข้อมูลที่ตนได้จากการรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน 2. จากนั้นสมาชิกในกลุ่มช่วยกันคัดเลือกข้อมูลที่นำเสนอเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรียนตามประเด็นที่ศึกษา อภิปราย และตอบ คำถามร่วมกัน 4. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเกี่ยวกับปัญหาสังคมและแนวทางแก้ไข และสุ่มตัวแทนนักเรียน เพื่อตอบคำถาม เช่น 1) ความขัดแย้งของกลุ่มคนในสังคมไทย ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างไร (แนวตอบ เช่น ด้านเศรษฐกิจ โดยความขัดแย้งของกลุ่มคนด้านแรงงานกับนายจ้างทำให้การ ประกอบการชะงัก ไปจนกว่าจะตกลงกันได้ หรือเมื่อคนในชาติขาดความสามัคคีไม่ให้ความร่วมมือกัน ทุกด้าน ก็จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศโดยรวม) 2) วิธีการลดความขัดแย้งในสังคมไทย สามารถทำได้อย่างไร (แนวตอบ 1. รณรงค์ให้ประชาชนทุกคนตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากความขัดแย้ง 2. จัดโครงการในการทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อไปสู่เป้าหมายสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ 3. ผู้นำระดับสูง ระดับประเทศ ระดับท้องถิ่น องค์กรต่าง ๆ ร่วมมือกันช่วยหาวิธีการ ลดปัญหาความขัดแย้งตั้งแต่ต้น ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามมากขึ้น 4. สถาบันทางสังคมทุกสถาบันร่วมมือกันปลูกฝังคุณธรรมให้แก่ประชาชนทุกคน ทุกระดับ) 5. ครูซักถามข้อสงสัยของนักเรียนเพิ่มเติม ชั่วโมงที่ 2
123 ขั้นสรุป ขั้นประเมิน ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 4.1 เรื่อง ความขัดแย้งในสังคมไทย โดยครูแนะนำเพิ่มเติม 2. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 เกี่ยวกับเรื่อง ลักษณะของสังคมไทยและ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งจนเกิดเป็นปัญหาสังคมและแนวทางแก้ไข เพื่อเป็นการบ้านส่งครูใน ชั่วโมงถัดไป ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบผลจากการตอบคำถาม การทำใบงาน และการทำแบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 2. ครูประเมินผลจากการตอบคำถาม การร่วมกันทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน 3. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงาน และแบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 8. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 8.1 การวัดและประเมินผล ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สังคมไทย - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 8.2 การวัดและประเมินผล ระหว่างการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) อธิบายและจำแนกบทบาท หน้าที่ของสถาบันใน สังคมไทยซึ่งมีส่วน ร่วมมือกันในการแก้ปัญหา ความขัดแย้ง รวมถึง วิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้เกิด ปัญหาความขัดแย้งใน ประเทศ ผลกระทบ และ แนวทางแก้ไขได้ - ตรวจใบงานที่ 4.1 - ใบงานที่ 4.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการนำเสนอ - ระดับคุณภาพ 2 ชั่วโมงที่ 3
124 ผลงาน ผลงาน ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายกลุ่ม - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 2) แบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 3) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม (1)คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2550. หนทางสร้างสุขของคนในสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (2) เฉลียว ฤกษ์รุจิพิมล. 2543. การจัดระเบียบสังคม”ในสังคมวิทยา. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 4) ใบงานที่ 4.1 เรื่อง ความขัดแย้งในสังคมไทย 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - https://kanchanapisek.or.th - https://www.nacc.go.th - https://www.pcd.go.th - https://www.thairath.co.th - https://www.khaosod.co.th
125 ใบงานที่ 4.1 เรื่อง ความขัดแย้งในสังคมไทย คำชี้แจง : ให้นักเรียนนำข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งในสังคมไทยมาวิเคราะห์ แล้วตอบคำถาม ชื่อข่าว (สาระสำคัญของข่าว) ที่มา 1. ปัญหาสำคัญในเรื่องนี้ ได้แก่อะไรบ้าง 2. ข่าวนี้แสดงถึงความขัดแย้งในเรื่องใด สาเหตุมาจากอะไร 3. นักเรียนคิดว่า มีแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้อย่างไรบ้าง จงอธิบายเหตุผล
126 ใบงานที่ 4.1 เฉลย เรื่อง ความขัดแย้งในสังคมไทย คำชี้แจง : ให้นักเรียนนำข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งในสังคมไทยมาวิเคราะห์ แล้วตอบคำถาม ชื่อข่าว (สาระสำคัญของข่าว) ที่มา 1. ปัญหาสำคัญในเรื่องนี้ ได้แก่อะไรบ้าง 2. ข่าวนี้แสดงถึงความขัดแย้งในเรื่องใด สาเหตุมาจากอะไร 3. นักเรียนคิดว่า มีแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้อย่างไรบ้าง จงอธิบายเหตุผล (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)
127 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 แนวทางความร่วมมือและปัจจัยส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มีความสุข 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 ตัวชี้วัด ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดีมีค่านิยมที่ดีงาม และธำรง รักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลก อย่างสันติสุข ม. 3/4 วิเคราะห์ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในประเทศ และเสนอแนวคิด ในการลดความขัดแย้ง ม. 3/5 เสนอแนวคิดในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุขในประเทศและสังคมโลก 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. วิเคราะห์แนวทางความร่วมมือในการลดความขัดแย้งและการสร้างความสมานฉันท์ได้ (K) 2. วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มีความสุขและได้ (K) 3. เสนอแนวทางความร่วมมือในการลดความขัดแย้งและปัจจัยที่ส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มีความสุขได้(P) 4. เห็นคุณค่าของศึกษาแนวทางความร่วมมือและปัจจัยที่ส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มีความสุขเพิ่มมากขึ้น (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น สาระการเรียนรู้จากสื่อ 1) แนวทางความร่วมมือในการลด ความขัดแย้งและการสร้างความ สมานฉันท์ 2) ปัจจัยที่ส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มี ความสุข เช่น การอยู่ร่วมกัน อย่างมีขันติธรรม หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง เห็นคุณค่าใน ตนเอง รู้จักมองโลกในแง่ดี สร้าง ทักษะทางอารมณ์ รู้จักบริโภค ด้วยปัญญา เลือกรับ-ปฏิเสธข่าวและ วัตถุต่าง ๆ ปรับปรุงตนเองและ สิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) - แนวทางความร่วมมือในการ ลดความขัดแย้งและสร้างความ สมานฉันท์ - ปัจจัยส่งเสริมการดำรงชีวิต ให้มีความสุข 4. มโนทัศน์สำคัญ (Key Concept) - ปัญหาสังคมไทยในปัจจุบันมีหลายประการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทย ซึ่งทุกคนควร ร่วมมือกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา และส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มีความสุข เวลา 1 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 สังคมไทย
128 ขั้นนำ ขั้นสอน 5. คำถามหลัก (Big Question) - แนวทางความร่วมมือและปัจจัยที่ส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มีความสุขสามารถทำได้อย่างไร 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการคิด - ทักษะการวิเคราะห์ - ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคคู่คิดสี่สหาย 1. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบถึงวิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคคู่คิดสี่สหาย ชื่อเรื่องที่จะเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ 2. ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เดิมเกี่ยวกับปัญหาสังคมไทยที่สำคัญ สาเหตุ และแนวทางป้องกันแก้ไข 3. ครูถามคำถามเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน และให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายข้อคำถามดังกล่าว เช่น 1) นักเรียนคิดว่า วิธีการลดความขัดแย้งอย่างไรที่ได้ผลดีที่สุด (แนวตอบ การร่วมมือของบุคลากรทุกระดับที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนั้น) 2) การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งวิธีใดที่ส่งผลให้คู่กรณีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน (แนวตอบ การไกล่เกลี่ย การเจรจาต่อรอง) 4. ครูนำข่าวหรือเหตุการณ์ที่สะท้อนถึงปัจจัยที่ส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มีความสุข เช่น เกษตรกรที่นำแนวทาง ของเกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้ หรือบุคคลที่ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแล้วเกิดความสุข ในชีวิต 5. ครูตั้งประเด็นเพื่อให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า นักเรียนคิดว่าปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การ ดำรงชีวิตของนักเรียนมีความสุข มีอะไรบ้าง 6. ครูสรุปการแสดงความคิดเห็นของนักเรียน โดยเชื่อมโยงให้เข้ากับเนื้อหาเพื่อนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน และอ่อน โดยให้สมาชิกแต่ละคนเลือกหมายเลขประจำตัว ตั้งแต่หมายเลข 1-4 2. สมาชิกแต่ละหมายเลขแยกย้ายไปรวมกลุ่มใหม่ และร่วมกันศึกษาความรู้ในใบความรู้ เรื่อง การลดความ ขัดแย้งและการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข ประกอบการใช้หนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 หรือจากแหล่งการ เรียนรู้อื่น ๆ เช่น หนังสือในห้องสมุด เว็บไซต์ทางอินเทอร์เน็ต หมายเลขละ 1 เรื่อง ดังนี้
129 ขั้นประเมิน ขั้นสรุป • หมายเลข 1 แนวทางในการลดความขัดแย้ง • หมายเลข 2 แนวทางในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง • หมายเลข 3 การสร้างความสมานฉันท์ในชุมชน • หมายเลข 4 ปัจจัยส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มีความสุข 3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการศึกษา และอภิปรายความรู้ร่วมกัน โดยครูแนะนำเพิ่มเติม 4. ครูให้นักเรียนแต่ละหมายเลขกลับไปที่กลุ่มเดิมและร่วมกันทำใบงานที่ 4.2 เรื่อง สังคมไทยกับการพัฒนา 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของใบงาน 6. ครูให้อาสาสมัครนักเรียน 2-3 กลุ่ม นำเสนอผลงานในใบงานหน้าชั้นเรียน และให้กลุ่มอื่นที่มีผลงานที่ แตกต่างกันได้นำเสนอเพิ่มเติม 7. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือและปัจจัยส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มีความสุข ในแบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 เพื่อเป็นการบ้านส่งครูในชั่วโมงถัดไป 8. ครูมอบหมายให้นักเรียนทำชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผ่นพับ เรื่อง สังคมไทยยุคปัจจุบัน 9. ให้นักเรียนทำแบบวัดฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 เรื่อง สังคมไทย เพื่อทดสอบความรู้ที่ได้ศึกษามา - ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือและปัจจัยส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มีความสุข หรือใช้ PPT สรุปสาระสำคัญของเนื้อหา ตลอดจนความสำคัญของแนวทางความร่วมมือและปัจจัยส่งเสริมการดำรงชีวิต ให้มีความสุขต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน 1. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สังคมไทย 2. ครูประเมินผลโดยสังเกตจากการตอบคำถาม การร่วมกันทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน 3. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงาน แบบฝึกฯ และแบบวัดฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3
130 8. การวัดและประเมินผล 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.3 2) แบบฝึกสมรรถนะฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 3) แบบวัดฯ หน้าที่พลเมืองฯ ม.3 รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 8.1 การวัดและประเมินผล ระหว่างการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) วิเคราะห์แนวทางความ ร่วมมือในการลดความ ขัดแย้งและการสร้าง ความสมานฉันท์และ ปัจจัยที่ส่งเสริมการ ดำรงชีวิตให้มีความสุข ตลอดจนแนวทางความ ร่วมมือในการลดความ ขัดแย้งและปัจจัยที่ ส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มี ความสุขได้ - ตรวจใบงานที่ 4.2 - ใบงานที่ 4.2 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน - แบบประเมินการนำเสนอ ผลงาน - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายกลุ่ม - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นใน การทำงาน - แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8.2 การวัดและประเมินผล หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง สังคมไทย - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
131 4) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม (1) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2550. หนทางสร้างสุขของคนในสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (2) เฉลียว ฤกษ์รุจิพิมล. 2543. การจัดระเบียบสังคม”ในสังคมวิทยา. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 5) ใบงานที่ 4.2 เรื่อง สังคมไทยกับการพัฒนา 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - https://kanchanapisek.or.th - https://www.nacc.go.th - https://www.pcd.go.th - https://www.thairath.co.th - https://www.khaosod.co.th
132 การลดความขัดแย้งและการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข แนวทางในการลดความขัดแย้ง สมาชิกในสังคมสามารถลดความขัดแย้งในสังคมได้ โดยมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้ 1. ฟื้นฟูความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างกลุ่มหรือฝ่ายต่างๆ ในสังคม 2. ลดเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความรู้สึกอคติหรือความเกลียดชัง ด้วยการให้ความสำคัญและยอมรับระบบคุณค่าที่มองเห็น ความหลากหลายและความแตกต่างทางวัฒนธรรม 3. ส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรจัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธี โดยให้มีการศึกษาและฝึกอบรมเพื่อส่งเสริม ความเข้าใจสันติวิธี 4. สร้างความร่วมมือระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่สถานการณ์ความขัดแย้งมีความรุนแรง 5. ดำเนินการจัดหาแนวทางหรือวิธีการในการขับเคลื่อนให้สมาชิกในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมหรือเป็นหุ้นส่วนใหญ่ ในการปกป้อง ควบคุม ลด และเยียวยาปัญหาความขัดแย้ง แนวทางในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง หากสังคมไม่เกิดความขัดแย้งคงเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นแล้วมีแนวทางในการแก้ไขปัญหา ความขัดแย้ง ดังนี้ 1. การเจรจาต่อรอง เป็นกระบวนการพูดคุย เจรจาต่อรองให้แก่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลทั้งสองฝ่าย เพื่อจัดการแก้ไข ปัญหา โดยกระทำด้วยความสมัครใจไม่มีการบังคับและไม่มีรูปแบบของการเจรจา วิธีการนี้เป็นวิธีการที่สะดวก และรวดเร็ว 2. การไกล่เกลี่ย เป็นกระบวนการที่มีบุคคลที่สามเป็นคนกลางเข้าให้คำแนะนำ และช่วยเหลือคู่กรณีในการเจรจาต่อรอง 3. อนุญาโตตุลาการ เป็นกระบวนการที่คู่กรณีตกลงให้บุคคลที่สามเข้ามาเป็นผู้ชี้ขาดข้อพิพาท โดยต้องปฏิบัติตาม ระเบียบกฎหมาย และวิธีการที่กำหนด 4. ฟ้องคดีต่อศาล เป็นกระบวนการตามกฎหมายที่คู่กรณีนำคดีขึ้นฟ้องร้องต่อศาลข้อพิพาทจะระงับโดยคำพิพากษา ของศาล การสร้างความสมานฉันท์ในชุมชน การสร้างความสมานฉันท์ คือการที่คนในชุมชนมีความสามัคคี มีค่านิยมร่วมที่จะไม่เอารัดเอาเปรียบ รู้จักยอมรับเหตุผล และยอมรับความแตกต่างด้านชาติพันธุ์ ศาสนา ภาษา และความคิดเห็นทางด้านการเมืองการปกครองรวมถึงประเด็นอื่นๆ โดยไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา นั่นหมายถึง ความร่วมมือ ลดความขัดแย้งในความคิด ไม่ยึดติดหรือมีอคติ และใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ใบความรู้
133 วิธีการสร้างความสมานฉันท์ในชุมชน ได้แก่ 1. ตั้งองค์กรที่ประกอบด้วยภาครัฐและภาคประชาสังคม เพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมสันติวิธี 2. ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาเป็นศูนย์กลางในการสร้างความสามัคคีในชุมชน 3. ให้ประชาชนเข้าร่วมทำกิจกรรม เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยน รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นระหว่างกัน อันจะช่วยลดช่องว่าง ความขัดแย้งให้แคบลงและเกิดความสามัคคีของคนในชุมชน ปัจจัยส่งเสริมการดำรงชีวิตให้มีความสุข ในการดำรงชีวิตของคนเรานั้น ทุกคนต่างใฝ่ฝันที่จะให้เกิดความสุขทั้งทางกายและใจ สามารถอยู่ร่วมกับญาติมิตร เพื่อนพ้องและคนอื่นได้อย่างสันติ มีความรักสมัครสมานสามัคคีและมีชีวิตที่มั่นคงในด้านความสุขทางกายนั้น ได้แก่ การมีร่างกายแข็งแรง ไร้โรคภัยไข้เจ็บ มีความสุขจากการทำงาน แสวงหาทรัพย์สินและความเจริญก้าวหน้ามาสู่ตน และครอบครัว โดยให้อยู่ในระดับที่ไม่เดือดร้อนหรือขัดสนจนเกินไป ส่วนในด้านความสุขทางใจ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเราสามารถแสวงหาความสุขทางใจได้โดยการคิดดี มีอารมณ์สดชื่น ร่าเริง ไม่ทำให้จิตใจเกิดความกังวลและความเครียด ไม่หลงมัวเมาไปกับอบายมุขทั้งหลาย ไม่อิจฉาริษยา หรือมุ่งร้ายต่อผู้อื่น มีจิตใจเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อแก่คนรอบข้าง มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น อีกทั้งประพฤติปฏิบัติตนให้เป็น ประโยชน์ต่อสังคม การดำรงชีวิตให้มีความสุขอย่างแท้จริงจะต้องเกิดความสุขทั้งกายและจิตใจ คนทุกคนย่อมปรารถนาที่จะทำให้ชีวิต ของตนมีความสุข ซึ่งการจะดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขนั้นมักประกอบด้วยปัจจัย ดังนี้ 1. การอยู่ร่วมกันอย่างมีขันติธรรม ขันติธรรม คือ การมีความอดทน อดกลั้น ต่อสิ่งที่ตนไม่ชอบ ไม่เห็นด้วย โดยการยอมรับความแตกต่าง เช่น ค่านิยม ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ ระบบการเมืองการปกครอง และทัศนคติ เป็นต้น การศึกษาหาความรู้อย่างกว้างขวางและลึกซึ้งจะทำให้เรารอบรู้ เพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองโลก อีกทั้งการรู้จัก เจรจาพูดคุยอันเป็นการติดต่อสื่อสารที่ดีกับผู้อื่นและคนต่างกลุ่มก่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีต่อกัน นอกจากนี้ควรรู้จัก การประนีประนอมมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รู้จักสามัคคี การเอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้บาปบุญคุณโทษ ทำให้สามารถอยู่ ร่วมกับคนอื่นอย่างมีความสุข 2. การใช้ชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยการดำรงชีวิตที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางสายกลาง ความพอประมาณ ความมีเหตุมีผลอันเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน ที่ดีในตัวตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรมประกอบกับการวางแผนการตัดสินใจและการทำกิจกรรม ต่างๆ ซึ่งหลักสำคัญของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจระดับของความพอเพียงจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยคิดคำนึงถึงผล ที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ อย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมที่จะรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงของ สถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต การดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การใช้จ่ายสมกับฐานะไม่ฟุ่มเฟือย รู้จักอดออม ไม่อยากได้ในสิ่งของที่เกินตัวหรือไม่มีความจำเป็น และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด
134 การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยความรู้หรือวิชาการที่ เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านรวมถึงคุณธรรม ซึ่งได้แก่ ความซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน สติปัญญา ทั้งนี้เพื่อให้การ ดำเนินชีวิตเกิดการสมดุล มั่นคง และยั่งยืน 3. การเห็นคุณค่าในตนเอง คนเราทุกคนที่เกิดมาย่อมมีคุณค่าอยู่ในตนเอง สิ่งที่สำคัญ คือ เราสามารถที่จะปฏิบัติตนให้มีคุณค่าทั้งต่อ ตนเองและคนในสังคมได้อย่างไร ซึ่งถ้าหากคนทุกคนในสังคมรู้จักคุณค่าของตนเอง และนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ก็จะก่อให้เกิดผลดีต่อสังคมโดยรวม การที่เราจะมองเห็นคุณค่าในตนเองได้นั้น เราไม่ควรประเมินค่าของตนเอง ให้ต่ำต้อย โดยเปรียบเทียบกับคนอื่นที่ดีกว่า เด่นกว่า และนำมาเป็นเรื่องที่ทำให้ตนเองกลัดกลุ้ม หรือย้ำคิดว่า ภูมิหลังของตนอยู่ในระดับต่ำทำให้ไม่อาจแข่งขันกับคนอื่นที่มีภูมิหลังที่ดีกว่าได้ เราควรตระหนักว่าทุกคนมีความ แตกต่างกันและแต่ละคนมีคุณค่าในตัวสามารถเจริญก้าวหน้าได้หากศึกษาเล่าเรียนและขยันขันแข็ง เอาจริงเอาจัง ในการทำงานรู้จักอดออมมัธยัสถ์ 4. การมองโลกในแง่ดี สร้างทักษะทางอารมณ์ การมองเห็นคุณค่าของตนเอง มีความคิดในเชิงบวก พยายามดึงศักยภาพของตนเองมาใช้ในทางสร้างสรรค์ ให้กำลังใจตนเอง รวมทั้งปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ในขณะเดียวกันก็มองผู้อื่นในด้านดี หวังดี ไม่คิดหาผลประโยชน์จากผู้อื่น ให้อภัย มีเมตตา ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นตามกำลังความสามารถของตน รู้จัก เสียสละ เพื่อส่วนรวมไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มีสติ รู้จักรับฟังความคิดเห็นของคนรอบข้าง รู้จักใช้เหตุผลใน การแก้ปัญหาหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ รวมทั้งยอมรับเหตุการณ์ทั้งที่เปลี่ยนแปลงและไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงได้ และพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยใช้เหตุผล นอกจากนี้ควรสร้างทักษะทางอารมณ์ด้วย การฝึกสมาธิ มีสติกับความคิดรู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่มีความเข้าใจความคิดของตนเอง รู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็น ประโยชน์ เช่น ออกกำลังกายสม่ำเสมอฟังเพลง ทำกิจกรรมด้านศิลปะ เพื่อผ่อนคลายความเคร่งเครียดจาก การเรียนและการทำงาน เป็นต้น 5. การรู้จักบริโภคด้วยปัญญา ในยุคปัจจุบันมีความเจริญทางด้านวัตถุอย่างมาก มีการประดิษฐ์คิดค้นอุปกรณ์สิ่งของต่างๆ ที่สามารถอำนวย ความสะดวกให้แก่มนุษย์ ด้วยสภาพดังกล่าว ทำให้มนุษย์ยึดติดในความเจริญทางด้านวัตถุเป็นหลัก เป็นลักษณะ ของบริโภคนิยม ซึ่งการที่เราจะดำรงชีวิตให้มีความสุขได้อย่างแท้จริงนั้น เราควรบริโภคสิ่งต่างๆ อย่างพอประมาณ ตามความจำเป็นของร่างกายและเหมาะสมกับฐานะของตนเอง รู้จักเลือกสิ่งของที่เป็นประโยชน์ ไม่ฟุ่มเฟือย ควรจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายของตนเองและครอบครัวด้วย
135 ใบงานที่ 4.2 เรื่อง สังคมไทยกับการพัฒนา คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษาแล้วตอบคำถาม กรณีศึกษาที่ 1 ชาวบ้านป่าหวายไม่พอใจที่บริษัทดีโก้จะสร้างโรงงานทอผ้า เพื่อผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปไปขายยังต่างประเทศ กำชัย ซึ่งเป็นแกนนำหมู่บ้านพาชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินขบวนประท้วงและปิดล้อมบริเวณที่กำลังจะก่อสร้างโรงงาน สมาชิกผู้เดินขบวน ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ชาวบ้านทุกคนรู้ว่า การสร้างโรงงานจะก่อให้เกิดมลภาวะเป็นพิษ อากาศเสีย และน้ำในคูคลอง ของหมู่บ้านจะได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำเสียจากโรงงาน นายอาลักษณ์ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทจึงขอให้กำนันโพธิ์ช่วยนัด เจรจากับตัวแทนชาวบ้านซึ่งเป็นแกนนำ เพื่อหาทางยุติการต่อต้านสร้างโรงงาน กำนันโพธิ์ผู้เป็นคนกลางพยายามเจรจาต่อรองให้ ทั้งสองฝ่ายพยายามลดเงื่อนไขและหาทางออกที่ดีที่สุดทั้งสองฝ่าย ในที่สุดก็สามารถเจรจากันได้สำเร็จ บริษัทดีโก้ ให้สัญญาว่าจะทำเครื่องกรองอากาศ เครื่องบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยน้ำเสียลงคลอง จัดทำระบบป้องกันเสียงดัง ของเครื่องจักร และจะรับคนงานฝ่ายต่างๆ จากชาวบ้านจำนวน 30 % ของคนงานทั้งหมด ชาวบ้านทุกคน มีความพึงพอใจ เมื่อโรงงานสร้างเสร็จดำเนินกิจการ ทั้งฝ่ายโรงงานและชาวบ้านต่างก็มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน • ปัญหาความขัดแย้งระหว่างบริษัทดีโก้กับชาวบ้านป่าหวายสามารถยุติได้นั้น ใช้วิธีการแก้ไขปัญหา อย่างไรบ้าง
136 กรณีศึกษาที่ 2 หมู่บ้านอ่างทองเป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมทำนา ทำสวนผักและผลไม้ และมีรายได้พิเศษจากการเป็นแหล่งท่องเที่ยว เมื่อว่างจากอาชีพการทำนา ทำสวน พวกเขาจะ ผลัดหมุนเวียนกันนำเรือพายพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวในถ้ำซึ่งสวยงามตามธรรมชาติ มีหินงอกหินย้อยเป็นรูปสัตว์ต่างๆ บางคนมีหน้าที่ฉายไฟส่องทาง บางคนทำหน้าที่พายเรือ บางคนทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยว พวกเขาทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่หลอกลวงนักท่องเที่ยว บางครั้งนักท่องเที่ยวลืมของมีค่าไว้ก็นำส่งคืน แม่บ้าน บางคนหารายได้พิเศษโดยทำของที่ระลึกจากวัสดุธรรมชาติ ถึงแม้ว่าพวกชาวบ้านจะมีรายได้จากอาชีพทำนา ทำสวนไม่มากนัก แต่ก็พอมีรายได้พิเศษกันทุกคน พวกเขา ช่วยกันอนุรักษ์สภาพความงามของธรรมชาติซึ่งเป็นภูเขา ถ้ำ ป่าไม้ เพราะพวกเขารู้ว่าจะส่งผลต่ออาชีพและสภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี และความมั่นคงต่อลูกหลานต่อไป • ทำไมชาวบ้านอ่างทองจึงมีวิถีการดำเนินชีวิตในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
137 กรณีศึกษาที่ 3 น้อยเป็นนักเรียนที่เรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 น้อยเป็นคนเรียนไม่เก่ง อยู่ในครอบครัวที่ฐานะไม่ค่อยดี แต่น้อยก็มีความพยายามตั้งใจเรียนเอาใจใส่ในการเรียน น้อยเป็นคนที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อและชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ ดังนั้น เวลาครูมอบหมายงานใดให้นักเรียนทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อนคนอื่นจะพยายามชวนน้อยให้อยู่กลุ่มเดียวกัน น้อยมีความภูมิใจที่เป็นที่รักของเพื่อน น้อยสมัครเข้าอยู่ชมรมดนตรีไทย เพราะน้อยคิดว่า ดนตรีไทยมีความไพเราะ และเป็นเอกลักษณ์ของชาติ มีเพื่อนบางคนพูดจาเหน็บแนมว่าน้อยไม่ทันสมัย ไม่ยอมรับดนตรีสากล ซึ่งเป็นวัฒนธรรม หนึ่งที่คนส่วนใหญ่ชื่นชม เพื่อนของน้อยบางคนชอบไปเดินซื้ออุปกรณ์การเรียนตามห้างสรรพสินค้าและคุยอวดน้อยว่า สิ่งของ เครื่องใช้ที่ซื้อจากห้างมีคุณภาพดีกว่าซื้อจากตลาดในหมู่บ้าน แต่น้อยก็พูดให้เหตุผลกับเพื่อนเหล่านั้นว่า ถ้ารู้จักเลือกซื้อก็ สามารถได้สิ่งของที่มีคุณภาพดีราคาถูก น้อยมีความเชื่อมั่นในการกระทำที่มีเหตุผลของตนเอง ไม่รู้สึกว่าตนมีปมด้อยที่เรียนไม่เก่ง ครอบครัวฐานะไม่ดี ชีวิตของน้อยก็มีความสุขและไม่เดือดร้อน • ทำไมน้อยจึงมีชีวิตที่มีความสุข จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
138 เฉลย ใบงานที่ 4.2 สังคมไทยกับการพัฒนา คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษาแล้วตอบคำถาม กรณีศึกษาที่ 1 ชาวบ้านป่าหวายไม่พอใจที่บริษัทดีโก้จะสร้างโรงงานทอผ้า เพื่อผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปไปขายยังต่างประเทศ กำชัย ซึ่งเป็นแกนนำหมู่บ้านพาชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินขบวนประท้วงและปิดล้อมบริเวณที่กำลังจะก่อสร้างโรงงาน สมาชิกผู้เดินขบวน ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ชาวบ้านทุกคนรู้ว่า การสร้างโรงงานจะก่อให้เกิดมลภาวะเป็นพิษ อากาศเสีย และน้ำในคูคลอง ของหมู่บ้านจะได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำเสียจากโรงงาน นายอาลักษณ์ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทจึงขอให้กำนันโพธิ์ช่วยนัด เจรจากับตัวแทนชาวบ้านซึ่งเป็นแกนนำ เพื่อหาทางยุติการต่อต้านสร้างโรงงาน กำนันโพธิ์ผู้เป็นคนกลางพยายามเจรจาต่อรองให้ ทั้งสองฝ่ายพยายามลดเงื่อนไขและหาทางออกที่ดีที่สุดทั้งสองฝ่าย ในที่สุดก็สามารถเจรจากันได้สำเร็จ บริษัทดีโก้ ให้สัญญาว่าจะทำเครื่องกรองอากาศ เครื่องบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยน้ำเสียลงคลอง จัดทำระบบป้องกันเสียงดัง ของเครื่องจักร และจะรับคนงานฝ่ายต่างๆ จากชาวบ้านจำนวน 30 % ของคนงานทั้งหมด ชาวบ้านทุกคน มีความพึงพอใจ เมื่อโรงงานสร้างเสร็จดำเนินกิจการ ทั้งฝ่ายโรงงานและชาวบ้านต่างก็มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน • ปัญหาความขัดแย้งระหว่างบริษัทดีโก้กับชาวบ้านป่าหวายสามารถยุติได้นั้น ใช้วิธีการแก้ไขปัญหา อย่างไรบ้าง 1. ใช้การเจรจาต่อรอง มีการพูดคุยกันเพื่อจัดการแก้ไขปัญหาร่วมกันทั้งสองฝ่าย โดยใช้วิธีการแก้ปัญหาที่สาเหตุ เช่น เมื่อคาดว่าจะเกิดอากาศเป็นพิษ ก็ให้บริษัททำเครื่องกรองอากาศที่มีคุณภาพหรือเมื่อคาดว่าน้ำในคลอง อาจจะเน่าเสียก็ให้นำเครื่องบำบัดน้ำเสียมาช่วยบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยออกจากโรงงาน 2. ใช้วิธีการไกล่เกลี่ย โดยมีกำนันโพธิ์เป็นบุคคลที่ 3 ในการเจรจา กำนันโพธิ์วางตนเป็นคนกลางอย่างเหมาะสม 3. ใช้หลักคุณธรรมเข้ามาเป็นแนวทางการเจรจา เช่น การรับคนงานจากชาวบ้าน 30% ของคนงาน แสดงถึงบริษัท มีนโนบายในด้านการเอื้อเฟื้อ ความมีน้ำใจ
139 กรณีศึกษาที่ 2 หมู่บ้านอ่างทองเป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมทำนา ทำสวนผักและผลไม้ และมีรายได้พิเศษจากการเป็นแหล่งท่องเที่ยว เมื่อว่างจากอาชีพการทำนา ทำสวน พวกเขาจะ ผลัดหมุนเวียนกันนำเรือพายพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวในถ้ำซึ่งสวยงามตามธรรมชาติ มีหินงอกหินย้อยเป็นรูปสัตว์ต่างๆ บางคนมีหน้าที่ฉายไฟส่องทาง บางคนทำหน้าที่พายเรือ บางคนทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยว พวกเขาทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่หลอกลวงนักท่องเที่ยว บางครั้งนักท่องเที่ยวลืมของมีค่าไว้ก็นำส่งคืน แม่บ้าน บางคนหารายได้พิเศษโดยทำของที่ระลึกจากวัสดุธรรมชาติ ถึงแม้ว่าพวกชาวบ้านจะมีรายได้จากอาชีพทำนา ทำสวนไม่มากนัก แต่ก็พอมีรายได้พิเศษกันทุกคน พวกเขา ช่วยกันอนุรักษ์สภาพความงามของธรรมชาติซึ่งเป็นภูเขา ถ้ำ ป่าไม้ เพราะพวกเขารู้ว่าจะส่งผลต่ออาชีพและสภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี และความมั่นคงต่อลูกหลานต่อไป • ทำไมชาวบ้านอ่างทองจึงมีวิถีการดำเนินชีวิตในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข 1. เพราะใช้หลักธรรมในการอยู่ร่วมกัน เช่น มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปัน เมื่อมีหนทางหารายได้พิเศษจากการ พานักท่องเที่ยวเที่ยวชมธรรมชาติ ก็ผลัดหมุนเวียนกันในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและมีการแบ่งหน้าที่กัน มีความซื่อสัตย์ คือ พวกเขาจะไม่หลอกลวงหรือไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว ทำให้คนทั่วไปชื่นชมในความซื่อสัตย์ 2. เพราะชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่พอเพียง สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีความพอประมาณ ในการประกอบอาชีพ มีเหตุผลในการประกอบอาชีพหลายอาชีพหมุนเวียนกันไป และสามารถเตรียมรับ สถานการณ์เตรียมตัวให้พร้อม (การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว) เมื่อประกอบอาชีพเพียงอย่างเดียวย่อมไม่พอกับ การดำรงชีวิตจึงต้องมีอาชีพที่เหมาะสมรองรับ เพื่อรองรับเหตุการณ์ในอนาคตและร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อประโยชน์ที่ยั่งยืน
140 กรณีศึกษาที่ 3 น้อยเป็นนักเรียนที่เรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 น้อยเป็นคนเรียนไม่เก่ง อยู่ในครอบครัวที่ฐานะไม่ค่อยดี แต่น้อยก็มีความ พยายามตั้งใจเรียนเอาใจใส่ในการเรียน น้อยเป็นคนที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อและชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ ดังนั้นเวลาครูมอบหมายงาน ใดให้นักเรียนทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อนคนอื่นจะพยายามชวนน้อยให้อยู่กลุ่มเดียวกันน้อยมีความภูมิใจที่เป็นที่รักของเพื่อน น้อย สมัครเข้าอยู่ชมรมดนตรีไทย เพราะน้อยคิดว่า ดนตรีไทยมีความไพเราะและเป็นเอกลักษณ์ของชาติ มีเพื่อนบางคนพูดจาเหน็บแนม ว่าน้อยไม่ทันสมัย ไม่ยอมรับดนตรีสากล ซึ่งเป็นวัฒนธรรหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ชื่นชม เพื่อนของน้อยบางคนชอบไปเดินซื้ออุปกรณ์การ เรียนตามห้างสรรพสินค้าและคุยอวดน้อยว่า สิ่งของเครื่องใช้ที่ซื้อจากห้างมีคุณภาพดีกว่าซื้อจากตลาดในหมู่บ้าน แต่น้อยก็พูดให้ เหตุผลกับเพื่อนเหล่านั้นว่า ถ้ารู้จักเลือกซื้อก็สามารถได้สิ่งของที่มีคุณภาพดีราคาถูก น้อยมีความเชื่อมั่นในการกระทำที่มีเหตุผลของ ตนเอง ไม่รู้สึกว่าตนมีปมด้อยที่เรียนไม่เก่ง ครอบครัวฐานะไม่ดี ชีวิตของน้อยก็มีความสุขและไม่เดือดร้อน • ทำไมน้อยจึงมีชีวิตที่มีความสุข จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง 1. มีความภูมิใจที่เป็นที่รักของเพื่อน น้อยเห็นคุณค่าของตนเอง ชอบช่วยเหลือผู้อื่นจึงไม่มีปมด้อยที่เรียนไม่เก่ง ฐานะของครอบครัวไม่ดี 2. น้อยมีความคิดหรือมองโลกในแง่ดีและมีความภูมิใจในเอกลักษณ์ของชาติ ไม่มีความรู้สึกที่ต่ำต้อยที่เข้าชมรม ดนตรีไทย และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กับการเล่นดนตรี 3. น้อยรู้จักบริโภคด้วยปัญญา ไม่ฟุ้งเฟ้อที่จะต้องซื้ออุปกรณ์การเรียนในราคาสูงจากห้างสรรพสินค้า เขาสามารถ เลือกสินค้าที่มีคุณภาพดีราคาถูกได้
141 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่4 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดเป็นลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของสังคมไทย ก. เป็นสังคมอุตสาหกรรม ข. ไม่ยึดถือประเพณีและพิธีกรรม ค. มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาหลัก ง. มีความสันโดษ รักความเป็นส่วนตัว 2. ปัญหาใดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของ ประชากร ก. ปัญหาสังคม ข. ปัญหาการเมือง ค. ปัญหาเศรษฐกิจ ง. ปัญหายาเสพติด 3. นักเรียนมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตฉ้อราษฎร์ บังหลวงได้อย่างไร ก. หามาตรการลงโทษผู้กระทำความผิด ข. ประกาศให้คนทั่วไปรู้ถึงการกระทำของ เจ้าหน้าที่รัฐที่คดโกงประชาชน ค. แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อสงสัยการ กระทำของผู้ที่ขาดความซื่อสัตย์ ง. ร่วมกันสร้างค่านิยมและปลูกจิตสำนึกในการ ปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต 4. หากนักเรียนมีความคิดเห็นไม่ตรงกับเพื่อน นักเรียน ควรปฏิบัติตนอย่างไร ก. ไม่แสดงความคิดเห็น ข. ต่อว่าเพื่อนด้วยถ้อยคำรุนแรง ค. รับฟังความคิดเห็นและใช้เหตุผลพูดคุยกัน ง. หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนคนนั้น 5. การดำเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอดคล้องกับข้อใด ก. การมีคุณภาพทางการศึกษา ข. การมีฐานะทางเศรษฐกิจมั่นคง ค. การยึดถือคุณธรรมและหลักธรรม ง. การดำรงชีวิตบนพื้นฐานทางสายกลาง 6. สถาบันทางสังคมใดต่อไปนี้มีบทบาทสำคัญในการ ป้องกันปัญหายาเสพติด ก. สถาบันครอบครัว ข. สถาบันการเมือง ค. สถาบันเศรษฐกิจ ง. สถาบันสื่อสารมวลชน 7. สังคมไทยมีลักษณะสำคัญหลายประการ ยกเว้น ข้อใด ก. เป็นสังคมเกษตร ข. รักในถิ่นฐานบ้านเกิดของตน ค. มีความหลากหลายในเชื้อชาติ ง. รักอิสระและมีเสรีภาพส่วนบุคคล 8. หากต้องการให้การทุจริตคอร์รัปชั่นหมดไปจาก สังคมไทยต้องเร่งปลูกฝังแนวคิดใดแก่คนในประเทศ ก. การพึ่งพาผู้อื่น ข. ความซื่อสัตย์สุจริต ค. ความเป็นวัตถุนิยม ง. ความเป็นทุนนิยมเสรี 9. การที่ประชากรเพิ่มจำนวนมากขึ้นมีผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมอย่างไร ก. ประชาชนนำทรัพยากรมาใช้ในการดำเนินชีวิตมากขึ้น ข. ที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอ อยู่กันอย่างแออัด มีการตัดไม้ ทำให้เกิดน้ำท่วม ค. ประชาชนมีจำนวนมากต้องไปอาศัยอยู่ในป่า ต้อง ตัดไม้มาสร้างบ้าน ง. มีการสร้างโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อเป็นที่หารายได้ ให้เพียงพอกับประชาชน 10. ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองใน สังคมไทย คืออะไร ก. ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ข. ความแตกต่างกันทางด้านการศึกษา ค. ระบบเศรษฐกิจแบบนายทุนมีอำนาจมาก ง. สภาพความเป็นอยู่ของคนไทยในสังคมไทย ไม่เท่าเทียมกัน
142 11. เพราะเหตุใด ประเพณีและวัฒนธรรมในภูมิภาค ต่างๆ ของไทยจึงมีความแตกต่างกัน ก. มีการรับวัฒนธรรมสากลเข้ามาใช้ ข. มีอาณาเขตติดต่อกันหลายประเทศ ค. ประชากรไทยพูดภาษาถิ่นแตกต่างกัน ง. มีชนหลายเผ่าพันธุ์ สภาพนิเวศและสิ่งแวดล้อม ต่างกัน 12. การกระทำในข้อใดแสดงว่าเป็นผู้ที่สามารถสร้างทักษะ ทางอารมณ์ได้ ก. มีสติกับความคิด เข้าใจความคิดของตนเอง ข. มีความเชื่อมั่นในการกระทำของตนเองว่าถูกต้อง ค. ยอมเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตตามสภาพแวดล้อม ง. สามารถเปรียบเทียบการกระทำของตนกับผู้อื่นได้ 13. สถาบันในข้อใดมีความผูกพันกันมากที่สุด ก. สถาบันศาสนา สถาบันการศึกษา ข. สถาบันศาสนา สถาบันนันทนาการ ค. สถาบันศาสนา สถาบันทางเศรษฐกิจ ง. สถาบันนันทนาการ สถาบันการปกครอง 14. แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายอาจก่อให้เกิดปัญหาใด ตามมา ก. ปัญหาเด็กเร่ร่อน ข. ปัญหาการหย่าร้าง ค. ปัญหาการแพร่โรคระบาด ง. ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 15. เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นภายในสังคม เราควรแก้ไข ความขัดแย้งโดยยึดหลักใด ก. การใช้เหตุผล ข. การใช้ความรุนแรง ค. การใช้อำนาจบารมี ง. การใช้เงินแก้ไขปัญหา เฉลย 16. การกระทำในข้อใดจัดว่าเป็นการแก้ไขปัญหาความ ขัดแย้งที่เหมาะสม ก. การเจรจาต่อรอง การไกล่เกลี่ย ข. ผู้มีอำนาจของคู่กรณีดำเนินการตัดสิน ค. การอภิปรายหรือการโต้วาทีระหว่างกลุ่ม ง. การแจ้งความต่อตำรวจให้ดำเนินคดีต่อคู่กรณี 17. สถานการณ์ใดต่อไปนี้อาจนำไปสู่ความขัดแย้งด้าน เศรษฐกิจ ก. การเพิ่มกำลังการผลิต ข. การผูกขาดทางการค้า ค. การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ง. การให้ทุนสนับสนุนด้านการวิจัย 18. สิ่งใดต่อไปนี้ มิอาจแก้ไขความขัดแย้งในสังคมได้ ก. ความมีอคติ ข. ความสามัคคี ค. ความมั่นใจในตนเอง ง. ความพอเพียงและมีเหตุผล 19. หากประเทศมีการทุจริตคอร์รัปชั่นสูงจะส่งผลเสีย อย่างไร ก. เกิดความล้าหลังทางวัฒนธรรม ข. ประชาชนไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ค. ค่าเงินของประเทศแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ง. ขาดความน่าเชื่อถือจากนานาประเทศ 20. ข้อใดเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดการทุจริตฉ้อราษฎร์ บังหลวง ก. การพึ่งพาตนเอง ข. ระบบทุนนิยม ค. ระบบอุปถัมภ์ ง. ความยึดมั่นในศาสนา 1. ค 2. ง 3. ง 4. ค 5. ง 6. ก 7. ค 8. ข 9. ข 10. ก 11. ง 12. ก 13. ก 14. ค 15. ก 16. ก 17. ข 18. ก 19. ง 20. ค
143 ชิ้นงาน/ภาระงานรวบยอด กิจกรรม แผ่นพับ เรื่อง สังคมไทยยุคปัจจุบัน คำชี้แจง : ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำแผ่นพับ เรื่อง สังคมไทยยุคปัจจุบัน แล้วนำส่งครู โดยให้ครอบคลุม ประเด็นตามที่กำหนด แบบประเมินแผ่นพับ เรื่อง สังคมไทยยุคปัจจุบัน รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การวิเคราะห์ ปัจจัยที่ก่อให้ เกิดปัญหาความ ขัดแย้งใน ประเทศ วิเคราะห์ปัจจัยที่ก่อให้ เกิดปัญหาความขัดแย้ง ในประเทศ ได้ถูกต้อง สมบูรณ์ 4 ปัญหาขึ้นไป วิเคราะห์ปัจจัยที่ก่อให้ เกิดปัญหาความขัดแย้ง ในประเทศ ได้ถูกต้อง สมบูรณ์3 ปัญหา วิเคราะห์ปัจจัยที่ก่อให้ เกิดปัญหาความขัดแย้ง ในประเทศ ได้ถูกต้อง สมบูรณ์ 2 ปัญหา วิเคราะห์ปัจจัยที่ก่อให้ เกิดปัญหาความขัดแย้ง ในประเทศ ได้ถูกต้อง สมบูรณ์ 1 ปัญหา 2. การเสนอแนวคิด ในการลด ความขัดแย้งใน สังคมไทย เสนอแนวคิดในการลด ความขัดแย้งใน สังคมไทยอย่างมีเหตุผล เหมาะสม 4 ประเด็น ขึ้นไป เสนอแนวคิดในการลด ความขัดแย้งใน สังคมไทยอย่างมีเหตุผล เหมาะสม 3 ประเด็น เสนอแนวคิดในการลด ความขัดแย้งใน สังคมไทยอย่างมีเหตุผล เหมาะสม 2 ประเด็น เสนอแนวคิดในการลด ความขัดแย้งใน สังคมไทยอย่างมีเหตุผล เหมาะสม 1 ประเด็น 3. การวิเคราะห์ ปัญหาสังคมไทย พร้อมเสนอ แนวทางแก้ไข วิเคราะห์ปัญหา สังคมไทย พร้อมเสนอ แนวทางแก้ไขปัญหาได้ อย่างมีเหตุผลเหมาะสม 4 เรื่อง วิเคราะห์ปัญหา สังคมไทย พร้อมเสนอ แนวทางแก้ไขปัญหาได้ อย่างมีเหตุผลเหมาะสม 3 เรื่อง วิเคราะห์ปัญหา สังคมไทย พร้อมเสนอ แนวทางแก้ไขปัญหาได้ อย่างมีเหตุผลเหมาะสม 2 เรื่อง วิเคราะห์ปัญหา สังคมไทย พร้อมเสนอ แนวทางแก้ไขปัญหาได้ อย่างมีเหตุผลเหมาะสม 1 เรื่อง 4. การเสนอแนะ แนวทางการ ดำรงชีวิตอย่างมี ความสุขใน สังคมไทยและ สังคมโลก เสนอแนวทางการ ดำรงชีวิตอย่างมี ความสุขในสังคมไทย และสังคมโลกได้อย่างมี เหตุผลเหมาะสม 4 ประเด็นขึ้นไป เสนอแนวทางการ ดำรงชีวิตอย่างมี ความสุขในสังคมไทย และสังคมโลกได้อย่างมี เหตุผลเหมาะสม 3 ประเด็น เสนอแนวทางการ ดำรงชีวิตอย่างมี ความสุขในสังคมไทย และสังคมโลกได้อย่างมี เหตุผลเหมาะสม 2 ประเด็น เสนอแนวทางการ ดำรงชีวิตอย่างมี ความสุขในสังคมไทย และสังคมโลกได้อย่าง มีเหตุผลเหมาะสม 1 ประเด็น เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ำกว่า 8 ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง
144 แบบประเมินการนำเสนอผลงาน คำชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนำเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 การลำดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการนำเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอ 5 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม รวม
145 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../.............. เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 ความมีน้ำใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม
146 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การทำงาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ำใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
147 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ 3.2 มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 ศึกษาค้นคว้าความรู้จากสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสม่ำเสมอ 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของตนเองและส่วนรวมอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม 8.2 เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน
148 10. ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ................................. ( ................................ ) ตำแหน่ง ....... 11. บันทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางภูมิศาสตร์ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข