The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิทยานิพนธ์ หลักสูตรศิลปดุษฎีบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สาขาวิชานาฏศิลป์ เรื่อง ละครร้อง เรื่อง เครือณรงค์ พิมพิกา มหามาตย์ 2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ละครร้อง เรื่อง เครือณรงค์ พิมพิกา มหามาตย์ 2566

วิทยานิพนธ์ หลักสูตรศิลปดุษฎีบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สาขาวิชานาฏศิลป์ เรื่อง ละครร้อง เรื่อง เครือณรงค์ พิมพิกา มหามาตย์ 2566

136 ตารางที่23 ผู้แสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ล าดับ ตัวละคร ภาพผู้แสดง ข้อมูลพื้นฐานผู้แสดง 7. สาวเครือฟ้า นางสาวอาภัสรา นกออก ต าแหน่งนาฏศิลปินช านาญการ ส านักการสังคีต กรมศิลปากร 8. นายสิงห์ นายอนุชา สีฟัก ต าแหน่งครู ภาควิชานาฏศิลป์ไทย วิทยาลัยนาฏศิลป 9. ดาบฉ่อง นายศิริชัย นาคพุฒิ ต าแหน่งครู ภาควิชานาฏศิลป์ไทย วิทยาลัยนาฏศิลป 10. นางฉิว นางสาวอันนา มามาก นักศึกษาปริญญาตรีปีที่ 1 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชา นาฏศิลป์ไทยศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป 11. เพื่อนเจ้าบ่าว นายศุภกร อบจันทร์ฉาย นักศึกษาปริญญาตรีปีที่ 4 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชา นาฏศิลป์ไทยศึกษา คณะศิลปศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์


137 ตารางที่23 ผู้แสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ล าดับ ตัวละคร ภาพผู้แสดง ข้อมูลพื้นฐานผู้แสดง นายธนินธร บุญจุ้ย นักศึกษาปริญญาตรีปีที่ 4 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ไทยศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป นายฉัตรดนัย วาระสิทธิ์ นักศึกษาปริญญาตรีปีที่ 1 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ไทยศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป 12 เพื่อนเจ้าสาว นางสาวเนตรอัปสร อินทร์พรับ นักศึกษาปริญญาตรีปีที่ 2 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ไทยศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป นางสาวภานรินทร์ สุขาบูรณ์ นักศึกษาปริญญาตรีปีที่ 1 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ไทยศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป นางสาวปฐมาวดี ธิมาทาน นักศึกษาปริญญาตรีปีที่ 1 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ไทยศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป ที่มา: ผู้วิจัย


138 จากตาราง มีผู้แสดงทั้งสิ้น 16 คน สังกัดวิทยาลัยนาฏศิลป จ านวน 12 คน คณะศิลปนาฏดุริยางค์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จ านวน 1 คน คณะศิลปศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จ านวน 1 คน ส านักการสังคีต จ านวน 1 คน และเป็นศิษย์เก่าของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จ านวน 1 คน ซึ่งนักแสดงทุกคนมีศักยภาพในตนเองทั้งทักษะด้านการร้องเพลง และทักษะด้านการแสดงครบถ้วน เมื่อได้ผู้แสดงตามคุณสมบัติพื้นฐานที่ผู้วิจัยก าหนดทั้งหมด ผู้วิจัยด าเนินการซ้อมตาม กระบวนการซ้อมที่กล่าวไว้ในบทที่ 3 ซึ่งในกระบวนการซ้อมในแต่ละครั้ง ผู้วิจัยได้ท าการบันทึกผล การซ้อมและการปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไป ตลอดระยะเวลาการซ้อมการแสดงทั้งหมด ผู้วิจัยพบ ปัญหาและอุปสรรคทางด้านผู้แสดง สรุปการพัฒนา ปรับปรุงแก้ไขแบ่งรายละเอียดตามตัวละครดังนี้ ตารางที่24 การพัฒนา ปรับปรุงแก้ไข ผู้แสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ล าดับ ตัวละคร ปัญหา อุปสรรคที่พบ ข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิ แนวทางการปรับปรุงแก้ไข 1 เครือณรงค์ 1. ผู้แสดงมักค้อมตัวลง เพื่อ พูดคุยกับตัวละครอื่น ส่งผลให้ บุคลิกภาพไม่สง่าผ่าเผย ปรับวิธีการเดิน การจัดระเบียบร่างกาย หน้ากระจก และ ฝึกทรงตัวในการเดิน ฝึกการแกว่งแขนเพื่อบุคลิกภาพที่สง่า งามเหมาะสมกับบทบาทพระเอก 2. ดวงตาของผู้แสดงมีขนาด เล็ก สื่ออารมณ์ผ่านสีหน้าและ ดวงตาไม่ชัดเจน ผู้วิจัยฝึกการใช้อารมณ์ผ่านสีหน้าและ ดวงตาของผู้แสดง เมื่อพบว่าดวงตาไม่ สามารถสื่ออารมณ์ได้ชัดเจน ผู้วิจัยจึงใช้คิ้ว เป็นส่วนช่วยในการแสดงอารมณ์ ซึ่งใน ระยะไกล คิ้วจะส่งอารมณ์ถึงผู้ชมได้ดี อีกทั้งมีการปรับการลงสีของอายชาโดว์ บนเปลือกตาให้เข้มและชัดเจน 2 พวงแก้ว 1. การออกเสียงในการร้อง เพลง มีแก้วเสียงและหางเสียง คล้ายออกเสียงในเพลงลูกทุ่ง ผู้วิจัยให้ผู้แสดงฝึกออกเสียงและลากหาง เสียงให้เป็นการร้องเพลงแบบไทยเดิม โดยใช้ครูคีตศิลป์ไทยและคีตศิลป์สากล มาช่วยฝึกการออกเสียง โดยมีการฝึกการ ออกเสียงผ่านลิ้นในรูปแบบต่าง ๆ การฝึก ออกเสียงจากช่องท้องสู่ช่องปาก และ ฝึกหายใจผ่านจมูกเท่านั้น


139 ตารางที่24 การพัฒนา ปรับปรุงแก้ไข ผู้แสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ล าดับ ตัวละคร ปัญหา อุปสรรคที่พบ ข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิ แนวทางการปรับปรุงแก้ไข 2.ผู้แสดงจ าบทละคร คลาดเคลื่อน และจัดระเบียบ ร่างกายในการออกท่าทางได้ไม่ งดงาม ผู้วิจัยให้ผู้แสดงซ้อมท่องบท ซ้อมร้อง เพลง และซ้อมต่อบทกับผู้แสดงอื่นทุกวัน แต่ละวันใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนซ้อมการแสดงตามตารางที่ก าหนด ด้วยผู้แสดงเป็นบุคลากรของวิทยาลัย นาฏศิลป ซึ่งเป็นที่เดียวกับผู้วิจัย ผู้วิจัย จึงขอให้ผู้แสดงได้ฝึกซ้อมต่อบทละคร ในช่วงพักกลางวันของทุกวัน ในส่วนของ การจัดระเบียบร่างกายนั้น ผู้วิจัย ออกแบบท่าทางให้เหมาะสมกับตัวละคร คัดเลือกท่าทางที่ผู้แสดงสามารถท า ออกมาได้สวยงาม 3 จ ารักษ์ 1. พลังในการออกเสียง การสื่ออารมณ์ ไม่สมดุลกับตัว ละครอื่น ผู้วิจัยใช้กระบวนการแอคติ้ง โคช (Acting coach) เข้ามาช่วยในการปรับ สมดุลของตัวละครจ ารักษ์และคุณหญิง จ าปา เนื่องจากประสบการณ์ด้านการ แสดงละครของผู้แสดงมีมาก ในบางครั้ง การตีความและแสดงบทบาทของตัว ละครไม่เป็นไปตามที่ผู้วิจัยต้องการ ผู้วิจัยจึงปรับความเข้าใจเกี่ยวกับภาพที่ ต้องการสื่อสาร พร้อมทั้งแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกับตัวละครอื่น ๆ เพื่อปรับ ให้พลังของทุกคนสมดุลกัน 2. เมื่อต้องการสื่ออารมณ์ ร้องไห้ ใบหน้าของผู้แสดง คล้ายการยิ้มหัวเราะ เนื่องจาก รูปปากและดวงตาสื่ออารมณ์ ไม่ชัดเจน ผู้วิจัยฝึกการใช้อารมณ์ผ่านสีหน้าของ ผู้แสดง ปรับรูปปากของผู้แสดงให้สื่อถึง ความโศกเศร้าเสียใจ และฝึกการควบคุม ดวงตาไม่ให้หรี่เล็กลง และเพิ่มการร้องไห้ จริงให้น้ าตาไหลออกมา เพื่อเพิ่มระดับ ความเศร้าเมื่อดวงตาไม่สามารถสื่อ อารมณ์ได้ชัดเจน


140 ตารางที่24 การพัฒนา ปรับปรุงแก้ไข ผู้แสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ล าดับ ตัวละคร ปัญหา อุปสรรคที่พบ ข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิ แนวทางการปรับปรุงแก้ไข 3. มีการด้นสดแทรกตลอดใน บทปะทะอารมณ์ จึงส่งผลให้ ฟังบทร้องของตัวละครอื่นไม่รู้ เรื่อง ด้วยความสามารถของผู้แสดง จึงพรั่งพรู อารมณ์ออกมาอย่างไม่มีขีดจ ากัด ซึ่งใน การแสดงละครร้อง เป็นการแสดงที่ จ าเป็นต้องฟังเสียงเพลงและเสียงร้องเป็น ส าคัญ การด้นสดในบางบทอาจเป็น การเฉลยให้ผู้ชมรู้เรื่องราวของละคร ก่อนที่เหตุการณ์นั้น ๆ จะเกิดขึ้น ผู้วิจัยจึงปรับลดการพูดเจรจาด้นสด นอกเหนือจากบทละครออก เพื่อคงความ สุนทรียะของบทละครและเพลงร้อง ตลอดจนให้ผู้ชมดูละครรู้เรื่อง 4 คุณหญิง จ าปา 1. ตัวละครมีเหตุการณ์ปะทะ อารมณ์เป็นส่วนใหญ่ บางครั้ง ในการร้องไห้ ส่งผลต่อระดับ เสียงในการร้องเพลง ผู้วิจัยฝึกการร้องเพลงให้ตัวละครมีความ แม่นย าในระดับเสียงและจังหวะ และ จึงฝึกการใช้อารมณ์ร่วมในการแสดง ละคร ในบทละครที่ไม่สามารถออกเสียง ให้ตรงกับระดับเสียงได้ ผู้วิจัยเลือกใช้ การพูดแทนการร้องเพลง แต่ต้องพูดให้ ตรงจังหวะและความหมายที่ต้อง การสื่อสาร 2. ในบทบาทของคุณหญิง จ าปานั้น มีการใช้อารมณ์มาก เมื่อผู้แสดงซ้อมมากกว่า 2 ครั้ง ท าให้ผู้แสดงหมดแรงในการ ร้องเพลงและการแสดง ผู้วิจัยแบ่งการฝึกซ้อมออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ การซ้อมร้องเพลง และ การซ้อมออกท่าทางพร้อมการร้องเพลง ซึ่งก่อนการซ้อมผู้วิจัยให้ผู้แสดงอบอุ่น ร่างกาย ฝึกการออมเสียง ฝึกการโปรเจค เสียงเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกาย ในการแสดงทุกครั้ง ซึ่งในการซ้อมครั้ง หลัง ๆ ผู้แสดงมีพลังในการแสดงที่ดีขึ้น


141 ตารางที่24 การพัฒนา ปรับปรุงแก้ไข ผู้แสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ล าดับ ตัวละคร ปัญหา อุปสรรคที่พบ ข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิ แนวทางการปรับปรุงแก้ไข 5 ผีเครือฟ้า 1. บุคลิกภาพของผู้แสดงมี ความเป็นนางเอกมากไป ยังไม่ สื่ออารมณ์ความน่ากลัวถึง ผู้แสดง ผู้วิจัยปรับความเข้าใจกับผู้แสดงให้เข้าใจ ในบุคลิกภาพและสิ่งที่ต้องการจะสื่อสาร ให้ผู้ชมได้รับรู้ ซึ่งผู้แสดงมีประสบการณ์ ในด้านการแสดงเป็นสาวเครือฟ้าอยู่แล้ว เมื่อได้ปรับความเข้าใจให้ตรงกันระหว่าง ผู้วิจัยและผู้แสดง ว่า ในละครร้องเรื่อง เครือณรงค์นี้ ผีเครือฟ้า เป็นตัวละคร แม่ที่เป็นผี ผู้วิจัยยกตัวอย่าง ตัวละคร แม่วันทอง ในละครเรื่องขุนช้างขุนแผน และลองให้ผู้แสดงนึกตาม เพื่อท าความ เข้าใจในบทบาทการแสดง 2. การสื่อความรักต่อลูก เครือณรงค์ ยังไม่ชัดเจน ผู้วิจัยปรับให้ผู้แสดง แทรกค าพูดเพื่อสื่อ อารมณ์ความรักที่แม่มีต่อลูกในช่วง ท านองเพลงลาวครวญ เพื่อเพิ่มรสใน การสื่ออารมณ์ให้ผู้แสดงเข้าใจ บทละครมากยิ่งขึ้น 6 เพื่อน เจ้าสาว ผู้แสดงไม่กล้าแสดงออก และมี ความเป็นนักแสดงนาฏศิลป์ ไทยมาก สื่ออารมณ์ได้ไม่ ชัดเจน ผู้วิจัย ใช้กระบวนการแอคติ้ง โคช (Acting Coach) เข้ามาช่วยในการ ละลายพฤติกรรมของผู้แสดง และจัดระเบียบความเข้าใจในตัวละคร ทุกตัว เพิ่มการระบุชื่อตัวละครที่ชัดเจน เพิ่มบุคลิกภาพของตัวละคร โดยตั้ง ค าถามกับนักแสดงว่า ในละครเรื่องนี้ -คุณก าลังเป็นใคร -คุณมีบุคลิกลักษณะเป็นอย่างไร -คุณก าลังท าอะไรกับใคร -คุณท าที่ไหน -ท าไมคุณต้องท าเช่นนั้น ที่มา: ผู้วิจัย


142 1.2.3 เพลง ดนตรีประกอบการแสดง ผู้วิจัยออกแบบเพลงที่ใช้ประกอบละคร โดยให้ความส าคัญกับเพลงเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก ละครร้องด าเนินเรื่องราวด้วยการร้องเพลงผสมผสานการเจรจา การด าเนินเรื่องส่วนใหญ่อยู่ที่การร้องเพลง เพลงจึงเป็นหัวใจหลักส าคัญของละคร เพลงประกอบด้วยท่วงท านอง จังหวะ อารมณ์ สามารถสื่อ ความหมายและเสริมบรรยากาศในละครให้เกิดความรื่นรมย์สมบูรณ์ ส าหรับแนวทางการการออกแบบ เพลงที่ใช้ประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ผู้วิจัยก าหนดใช้เพลงท านองเดิมที่มีอยู่ในละครร้อง มาเรียบ เรียง ผสมผสาน ประยุกต์ใช้ใหม่ ผ่านวงดนตรีไทยผสมผสาน ให้เพลงมีความไพเราะเข้ากับยุคสมัย โดยแนวทางการเลือกใช้เพลงไทยเดิมที่มีจังหวะปานกลาง ท านองคุ้นหู มาใช้ในละคร ส่วนเครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบละคร ใช้วงดนตรีไทยคอนเทมโพรารี่ (Contemporary) ซึ่งเป็นวงดนตรีที่ผสมผสานระหว่างเสียงเครื่องดนตรีไทย เสียงเครื่องดนตรีพื้นบ้าน เสียงเครื่องดนตรีสากล และเสียงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมในปัจจุบันเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดความร่วมสมัยในดนตรีผสาน กลมกลืนกันเกิดความเป็นเอกภาพ โดยผู้วิจัยใช้เสียงดนตรีของวงดนตรีไทยเป็นเสียงหลักในการ ด าเนินท านอง และใช้ดนตรีสากลพร้อมด้วยดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เสียงพิเศษเข้ามาท าให้เกิดความ ไพเราะสมจริงยิ่งขึ้น ส าหรับขั้นตอนในการสร้างสรรค์ดนตรีประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ผู้วิจัยก าหนดไว้ดังนี้ 1) บรรจุเพลงโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านดุริยางคศิลป์ และคีตศิลป์ โดยให้ความส าคัญ ต่อสุนทรียภาพและให้มีท่วงท านองที่สามารถสร้างบรรยากาศตรงตามบรรยากาศ อารมณ์ ตลอดจน บุคลิกภาพของตัวละครและสถาณการณ์ในละคร 2) พิจารณาความเชื่อมโยง ของหน้าทับและระดับเสียงในแต่ละเพลง ให้มีความ สอดคล้องกันตลอดทั้งเรื่อง 3) บันทึกเสียงดนตรีไทย เพื่อพิจารณาความสอดคล้องของเพลง ตลอดจนใช้เป็นเสียง ต้นแบบในการฝึกขับร้องเพลงของนักแสดง 4) น าเสียงบันทึกมาสร้างสรรค์เส้นเสียงที่เหมาะสมกับเครื่องดนตรีสากล โดยเลือก เครื่องดนตรีสากลให้ตรงกับอารมณ์และลักษณะของเพลง 5) เรียบเรียงเสียงประสานเครื่องดนตรีไทย เสียงสังเคราะห์ของเครื่องดนตรีสากล ตลอดจนเสียงสังเคราะห์พิเศษ ผ่านโปรแกรมการาจแบนด์ (Garage Band) เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับรู้ ทางโสต โดยให้ความส าคัญที่การด าเนินท านองหลักด้วยเครื่องดนตรีไทย 6) ก าหนดรูปแบบการร้องให้สอดคล้องกับท านองดนตรี อารมณ์ และบรรยากาศในเรื่อง ซึ่งก าหนดจากความยากง่ายในการเอื้อนของเพลงแต่ละเพลง และความเหมาะสมของความสามารถนักแสดง 7) บันทึกเสียงลูกคู่ สอดประสานเข้ากับท านองดนตรี โดยใช้ลูกคู่ทั้งชายและหญิง เพื่อให้เกิดความไพเราะสมจริงในการแสดง 8) น าเสียงบันทึกที่ได้มาให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านคีตศิลป์ไทยและคีตศิลป์สากลพิจารณา หาเส้นเสียง ผสมผสานให้เกิดความกลมกล่อม และน ามาให้ผู้แสดงฝึกร้องเพลง 9) ปรับแก้ไข เพิ่มมิติของเสียงสังเคราะห์เทคนิคพิเศษ เพื่อความสมจริงในสถานการณ์ ของละคร


143 จากกระบวนการสร้างสรรค์เพลงและดนตรีประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ประกอบกับรูปแบบการแสดงที่ก าหนดไว้ว่า “เล่น ร้อง ท านองไทย” ละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ปรากฏใช้เพลงไทยเดิมทั้งหมด ในแต่ละเพลงได้ท าการบรรจุเพลงตามความเหมาะสมของอารมณ์ใน ตอนนั้น ๆ และค านึงถึงความสอดคล้องต่อเนื่องของช่วงเสียงของเพลง บ ารุง พาทยกุล (2565, 3 พฤศจิกายน, สัมภาษณ์) ได้อธิบายเกี่ยวกับการบรรจุเพลงในบทละครไว้ว่า วิธีการบรรจุเพลงในละคร ผู้บรรจุเพลงจะต้องศึกษาบทละครอย่างละเอียด ถี่ถ้วน ต้องมีความเข้าใจในค ากลอนหรือหลักภาษาที่ผู้ประพันธ์บทละครเลือกใช้ และควรบรรจุเพลงให้ตรงตามอารมณ์ของตัวละคร ซึ่งเพลงทุกเพลงจะมีอารมณ์ หรือหน้าที่ของเพลงก ากับอยู่” (บ ารุง พาทยกุล, 2565, 3 พฤศจิกายน, สัมภาษณ์) แนวคิดนี้สอดคล้องกับทัศนีย์ ขุนทอง ที่กล่าวว่า “เพลงในละครร้องจะไม่ยากมากนัก เน้นเพลง ติดหู เอื้อนไม่ยาว ผู้บรรจุเพลงต้องค านึงถึงบทบาท เนื้อหา และอารมณ์ของตัวละครตามที่บทละครก ากับ ไว้ การเลือกเพลงจึงจะมีความเหมาะสม” (ทัศนีย์ ขุนทอง, 2566, 15 มกราคม, สัมภาษณ์) และจากการสัมภาษณ์ นพคุณ สุดประเสริฐ (2566, 2 มกราคม, สัมภาษณ์) ได้ให้แนวคิด เกี่ยวกับเพลงในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ไว้ว่า “การบรรจุเพลงในละครร้อง จ าเป็นต้องศึกษาข้อมูลของเพลงแต่ละเพลง ก่อนว่า เป็นเพลงประเภทใด หน้าทับใด ด้วยการแสดงครั้งนี้เป็นละครร้อง ผู้บรรจุ จึงเลือกใช้เพลงมีรายชื่อเคยปรากฏเป็นเพลงประกอบละครร้องของพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และละครร้องของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิป ประพันธ์พงศ์ มาใช้ มีความไพเราะ คุ้นหู และไม่ยากส าหรับตัวละครที่ต้องร้องเอง จากประสบการณ์ไม่ควรบรรจุเพลงซ้ ากัน ทั้งนี้เพื่อแสดงถึงศักยภาพของผู้บรรจุเพลง” (นพคุณ สุดประเสริฐ, 2566, 2 มกราคม, สัมภาษณ์) จากแนวคิดผู้ทรงคุณวุฒิข้างต้น ผู้วิจัยได้ร่วมกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพคุณ สุดประเสริฐ บรรจุเพลงในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ซึ่งในการบรรจุเพลงในครั้งที่ 1 นั้น ประกอบด้วยเพลงดังนี้ ตารางที่25 การบรรจุเพลงในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ครั้งที่ 1 องก์ที่ เพลง เนื้อหา อารมณ์ ของบทละคร 3 แต่งงาน คลื่นกระทบฝั่ง เปิดเรื่องราว สื่อถึงภาพบรรยายกาศงานแต่งงาน นางนาค พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาวร่วมแสดงความ ยินดีกับงานแต่งงานของจ ารักษ์และพวงแก้ว บรรยากาศชื่นมื่น เพลงต้นบรเทศ เพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว หยอกล้อจีบกัน บรรยากาศรื่นเริง สนุกสนาน


144 ตารางที่25 การบรรจุเพลงในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ครั้งที่ 1 (ต่อ) องก์ที่ เพลง เนื้อหา อารมณ์ ของบทละคร 4 แกล้ง พาหนี เขมรปากท่อ บรรยากาศยามเช้า หลังการเข้าห้องหอของคู่บ่าวสาว พวงแก้ว โศกเศร้าเพราะไม่ได้อยากแต่งงาน เพลงอัปสรส าอางค์ กล่าวถึงความในใจของพวงแก้วที่ไม่อยากแต่งงานกับจ ารักษ์ และ ความในใจของจ ารักษ์ที่ยอมท าใจทั้งที่รู้ว่าพวงแก้วไม่ได้รักตนเอง เพลงแขกถอน สายบัว เป็นบทตัดพ้อที่พวงแก้วกล่าวถึงเครือณรงค์ และความรักครั้ง ก่อนของตนและเครือณรงค์ เพลงจีนขวัญอ่อน สื่อถึงอารมณ์ฉุนเฉียวของเครือณรงค์ โมโหคุณหญิงจ าปาที่ใส่ ความผิดให้ และพยายามอธิบายเหตุผลให้พวงแก้วฟัง เพลงทยอยญวณ บทละครสื่อความอ้อนวอน เพื่อชักชวนให้พวงแก้วหนีตามไป อยู่ด้วยกัน และหากพวงแก้วไม่ยอมไปจะฆ่าตัวตาย เพลงบังใบ สื่อถึงอารมณ์เศร้าของพวงแก้ว ก าลังจะตัดสินใจกระท าในสิ่งไม่ควร 5 ผีเครือฟ้า เพลงโอ้ลาวครวญ สื่อถึงภูมิล าเนาเดิมของแม่เครือฟ้าที่เป็นสาวชาวเหนือ ที่ปรากฏตัวในฝันเพื่อมาเตือนเครือณรงค์ไม่ให้กระท าผิด เพลงลาวครวญ สื่อถึงภูมิล าเนาเดิมของแม่เครือฟ้าเป็นสาวชาวเหนือ ที่ปรากฏ ตัวในฝันเพื่อมาเตือนเครือณรงค์ไม่ให้กระท าผิด เพลงสามไม้นอก สื่อถึงสถานการณ์กึ่งหลับกึ่งตื่นของเครือณรงค์ บรรยากาศ น่ากลัวและเสียใจที่รู้ว่าตนท าผิด เพลงสามไม้ใน สื่อถึงสถานการณ์กึ่งหลับกึ่งตื่นของเครือณรงค์ บรรยากาศ น่ากลัวและเสียใจที่รู้ว่าตนท าผิด เพลงเขนง สื่อถึงสถานการณ์ที่ก าลังตัดสินใจ เพลงไส้พระจันทร์ อารมณ์โศกเศร้าของตัวละคร ที่ต้องพลัดพรากจากคนที่รักไป 6 กรรม มาเยือน เพลงสร้อยเพลง สื่ออารมณ์โกรธและผิดหวังของจ ารักษ์ ที่รู้ความจริงทุกอย่าง จากจดหมาย และรู้ว่าคนบงการทุกอย่างคือแม่ตนเอง เพลงทองย่อนตัด เป็นบทแก้ตัวและปะทะอารมณ์ของจ ารักษ์และคุณหญิงจ าปา เพลงปราสาททอง สื่อถึงอารมณ์เกรี้ยวกราดของคุณหญิงจ าปาที่บงการชีวิตของจ า รักษ์มาโดยตลอด เพลงธรณีร้องไห้ สื่ออารมณ์ความโศกเศร้า เสียใจขั้นสุด ผิดหวังในตัวเอง สูญเสีย ทุกอย่างในชีวิตไปจนไม่อยากมีชีวิตต่อ ร้องรัวมอญ สื่อถึงอารมณ์ความแน่วแน่ในความคิดที่ก าลังจะตัดสินใจ กระท าการฆ่าตัวตาย บรรยากาศเร้าให้โศกเศร้า เพลงอาถรรพ์ เป็นบทสอนในคติธรรมถึงเนื้อหาของเรื่องราวในละครทั้งหมด ที่มา: ผู้วิจัย


145 จากตารางการบรรจุเพลงในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ครั้งที่ 1 พบว่าใช้เพลงทั้งหมด 21 เพลง ซึ่งประกอบด้วยเพลงที่สื่ออารมณ์ต่าง ๆ ที่มีความหลากหลาย โดยผู้บรรจุเพลงค านึงถึงความ เหมาะสมของเพลง และอารมณ์ตัวละคร ตลอดจนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในละคร จากนั้นมีการพัฒนา ปรับเปลี่ยนบทละคร ซึ่งบทละครกับเพลงที่ใช้มีส่วนสัมพันธ์กันอย่างขาดไม่ได้ เมื่อบทละครถูก ปรับเปลี่ยน เพลงที่ใช้ก็ต้องปรับเปลี่ยนเช่นเดียวกัน อีกทั้งผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านดนตรีไทยรวมถึงด้าน การละครได้ให้ข้อเสนอแนะในการบรรจุเพลง ผู้วิจัยจึงพัฒนาปรับปรุงการบรรจุเพลงในครั้งที่ 2 รายละเอียดดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่26 การปรับปรุงพัฒนาการบรรจุเพลงในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ องก์ที่ เพลง ปัญหา อุปสรรคที่พบ ข้อเสนอแนะจาก ผู้ทรงคุณวุฒิ แนวทางการปรับปรุงแก้ไข 3 แต่งงาน เพลง คลื่นกระทบฝั่ง ระยะเวลาที่ใช้เพื่อสื่อถึง บรรยากาศงานแต่งงาน นานเกินไป ตัดเพลงคลื่นกระทบฝั่งออก ใช้เพลงนางนาคน า 2 เที่ยว ก่อนเข้าร้องเพื่อให้เกิดความ กระชับ เพลงนางนาค - - เพลงต้นบรเทศ - - 4 แกล้ง พาหนี เพลงเขมรปากท่อ ระยะเวลาที่ใช้นานเกินไป ตัดเพลงเขมรปากท่อออก เพลงอัปสรส าอาง เพลงอัปสรส าอางเป็นเพลงที่ สื่อถึงความรัก มีความสุข แต่ ในอารมณ์ของบทละครแม้จะ เป็นช่วงเวลาเช้าหลังเข้าห้อง หอ ตัวละครก าลังร าพึงร าพัน ถึงคนรักเก่า ฉนั้นเพลงควรมี ความโศกเศร้าปนอยู่ ปรับเป็นเพลงกาเรียนทอง เพลงแขกถอน สายบัว - - เพลงจีนขวัญอ่อน ในอารมณ์โกรธ ควรมีจังหวะ เพลงที่กระชับ ดุดัน ปรับจังหวะเพลงให้มีความ กระชับ เพิ่มเติมเสียงเครื่อง กระทบจังหวะให้โดดเด่น เพลงทยอยญวณ ในบทละครเพลงทยอยญวณ มีการกล่าวซ้ าความ อีกทั้งใน เพลงมีท านองเพลงที่ติดหูและ ส่งอารมณ์ให้ไม่รู้สึกเศร้าโศก ตัดเพลงทยอยญวณออก เพลงบังใบ - -


146 ตารางที่26 การปรับปรุงพัฒนาการบรรจุเพลงในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ (ต่อ) องก์ที่ เพลง ปัญหา อุปสรรคที่พบ ข้อเสนอแนะจาก ผู้ทรงคุณวุฒิ แนวทางการปรับปรุงแก้ไข 5 ผีเครือฟ้า เพลงโอ้ลาวครวญ - - เพลงลาวครวญ - - เพลงสามไม้นอก - - เพลงสามไม้ใน - - เพลงเขนง ในบทละครเพลงเขนงเป็นการ กล่าวซ้ าความ ตัดเพลงเขนงออก เพลงไส้พระจันทร์ เพลงไส้พระจันทร์ โศกเศร้าไม่ เพียงพอ ปรับเป็นเพลงโศกตัด 6 กรรม มาเยือน เพลงสร้อยเพลง ในช่วงน าก่อนร้อง หากใช้ทาง เปลี่ยนของเพลงสร้อยเพลงจะ เกิดความแตกต่าง จะท าให้ เพลงในละครสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ช่วงน าก่อนเข้าร้อง ปรับใช้เป็น เพลงสร้อยเพลงทางเปลี่ยน เพลงทองย่อนตัด - - เพลงปราสาททอง - - เพลงธรณีร้องไห้ - - เพลงรัวมอญ เพลงรัวมอญ เป็นเพลงที่ ค่อนข้างร้องยากส าหรับ นักแสดง ปรับเป็นเพลงตะนาวมอญ และใช้ลูกคู่เอื้อนช่วย เพลงอาถรรพ์ - - ที่มา: ผู้วิจัย จากตาราง มีการปรับเปลี่ยนการเพลงในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ทั้งหมด 9 เพลง ประกอบด้วย 1) การตัดเพลงออก จ านวน 4 เพลง ได้แก่ เพลงคลื่นกระทบฝั่ง เพลงเขมรปากท่อ เพลงทยอยญวณ และเพลงเขนง 2) การปรับเปลี่ยนใช้เพลงอื่นแทนเพลงเดิมจ านวน 3 เพลง ได้แก่ เพลงอัปสรส าอางค์ ปรับเป็น เพลงกาเรียนทอง เพลงไส้พระจันทร์ ปรับเป็น เพลงโศกตัด และ เพลงรัวมอญ ปรับเป็น เพลงตะนาวมอญ 3) การปรับรูปแบบการบรรเลงเป็นทางเปลี่ยนจ านวน 1 เพลง ได้แก่ เพลงสร้อยเพลง และ 4) การปรับจังหวะให้กระชับขึ้น 1 เพลง ได้แก่เพลงจีนขวัญอ่อน


147 สรุปได้ว่า ละครร้องเรื่องเครือณรงค์ มีเพลงประกอบการแสดงทั้งสิ้น 17 เพลง ดังนี้ 1) เพลงนางนาค 2) เพลงต้นบรเทศ 3) เพลงกาเรียนทอง 4) เพลงแขกถอนสายบัว 5) เพลงจีนขวัญอ่อน 6) เพลงบังใบ 7) เพลงโอ้ลาวครวญ 8) เพลงลาวครวญ 9) เพลงสามไม้นอก 10) เพลงสามไม้ใน 11) เพลงโศกตัด 12) เพลงสร้อยเพลง 13) เพลงทองย่อนตัด 14) เพลงปราสาททอง 15) เพลงธรณีร้องไห้ 16) เพลงตะนาวมอญ 17) เพลงอาถรรพ์ จากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานของเพลง พบว่า ทุกเพลงเป็นเพลงอัตราจังหวะ 2 ชั้น มีหน้าทับ ปรบไก่ หน้าทับสองไม้ หน้าทับลาว และหน้าทับทยอยแตกต่างกันไป เมื่อได้เพลงส าหรับประกอบ ละครร้องเรื่องเครือณรงค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้วิจัยเลือกใช้บันไดเสียงไมเนอร์ (Minor) เป็นหลักใน การสร้างท านองหลักให้ทุกเพลงเรียงร้อยต่อกันเป็นระดับเสียงเดียวกันตลอดทั้งเรื่อง ทั้งนี้เพื่อเอื้อต่อ การร้องเพลงของตัวละครทั้งผู้ชายและผู้หญิง ตลอดจนความลื่นไหลของแนวเสียงตลอดทั้งเรื่อง ในส่วนของการออกแบบการใช้เครื่องดนตรีเพื่อบรรเลงประกอบเพลงนั้น ผู้วิจัยก าหนดให้ใช้ เครื่องดนตรีไทยบรรเลงเป็นท านองหลัก และใช้เสียงสังเคราะห์ของเครื่องดนตรีสากลผสมผสานให้ เกิดความร่วมสมัย ซึ่งในแต่ละเพลงก็มีรายละเอียดการเลือกใช้เครื่องดนตรีที่แตกต่างกัน ทั้งนี้เพื่อให้ สอดรับกับบทละคร บทบาท และอารมณ์ของเพลง เพราะเครื่องดนตรีมีส่วนช่วยให้ผู้แสดงและละคร มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จากการสัมภาษณ์ปรัชญา เข็มนาค (2566, 5 มกราคม, สัมภาษณ์) ได้เสนอ ทรรศนะเกี่ยวกับการเลือกใช้เครื่องดนตรีสากลกับเพลงไทยเดิมเพื่อใช้ประกอบละคร ว่า “กลุ่มเครื่องดนตรี ในวงออเครสตร้า ประกอบไปด้วย 4 กลุ่มเครื่องดนตรี คือ เครื่องสาย เครื่องเป่าลมไม้เครื่องเป่าลมทองเหลือง และเครื่องกระทบ การเลือกใช้เครื่องดนตรีประกอบการแสดงจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับเพลงและ อารมณ์ของตัวละคร โดยรวมแล้วเครื่องดนตรีแต่ละกลุ่มจะมีเนื้อเสียงที่ให้อารมณ์ แตกต่างกัน เช่น กลุ่มเครื่องเป่าลมทองเหลือง เสียงจะสื่อถึงความแข็งแรง เข้มแข็ง ฮึกเหิม กลุ่มเครื่องเป่าลมไม้ จะมีความนุ่มนวล อ่อนหวาน สื่อความรู้สึก เกี่ยวกับความรักได้เป็นอย่างดีในทางกลับกับก็สามารถสื่ออารมณ์ความโดดเดี่ยว โศกเศร้าได้เหมือนกัน กลุ่มเครื่องสายจะสามารถสื่ออารมณ์ได้หลากหลายขึ้นอยู่ กับผู้ประพันธ์และกลวิธีการบรรเลงของนักดนตรี ส่วนกลุ่มเครื่องกระทบจะช่วย ให้อารมณ์รู้สึกตื่นเต้น เป็นต้น” (ปรัชญา เข็มนาค, 2566, 5 มกราคม, สัมภาษณ์) จากข้อมูลข้างต้น ผู้วิจัยร่วมกับผู้ท าเพลง เลือกสรรเครื่องดนตรีมาประกอบการบรรเลงเพลง ในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ จากความก้าวหน้าและความทันสมัยของเทคโนโลยีด้านเสียง การประกอบสร้างเสียงดนตรีผ่านโปรแกรมจะมีความสะดวก สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ผู้วิจัยจึง เลือกใช้โปรแกรมการาจแบนด์ (Garage Band) มาเป็นตัวช่วยในการสร้างท านองเพลง และเรียบเรียง เสียงดนตรีผ่านโปรแกรมซิบิเลียส (Sibelius) ผู้วิจัยสามารถอธิบายรายละเอียดการใช้เครื่องดนตรีได้ ดังตารางต่อไปนี้


148 ตารางที่27 การเลือกใช้เครื่องดนตรีเพื่อบรรเลงประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์ องก์ที่ เพลง เครื่องดนตรีไทยที่ใช้ เสียงสังเคราะห์ ดนตรีสากลที่ใช้ 3 แต่งงาน เพลงนางนาค - ระนาดเอก - ระนาดทุ้ม - ซออู้ - ขลุ่ย - ฆ้องวงใหญ่ - ฆ้องหุ่ย - ฉาบเล็ก - กลองแขก - ฉิ่ง - กลองใหญ่ - ฉาบฝรั่ง - ระฆังราว - แฉ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad เพลงต้นบรเทศ - ระนาดเอก - ระนาดทุ้ม - ซอด้วง - ฆ้องวงใหญ่ - ฆ้องหุ่ย - ฉาบเล็ก - กลองแขก - ฉิ่ง - กลองใหญ่ - สแนร์ - ทิมพานี - ฉาบฝรั่ง - ระฆังราว - แฉ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - เฟรนซ์ฮอร์น - ทูบาร์ - ทรอมโบน - ทรัมเป็ต - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad 4 แกล้ง พาหนี เพลงกาเรียนทอง - ฆ้องวงใหญ่ - ฉาบเล็ก - กลองแขก - ฉิ่ง - ฉาบฝรั่ง - ฮาร์พ - แฉ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - คาริเน็ต - ฟลุท


149 ตารางที่27 การเลือกใช้เครื่องดนตรีเพื่อบรรเลงประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) องก์ที่ เพลง เครื่องดนตรีไทยที่ใช้ เสียงสังเคราะห์ ดนตรีสากลที่ใช้ - สามเหลี่ยม - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad เพลงแขกถอนสายบัว - ระนาดเอก - ฆ้องวงใหญ่ - ฆ้องหุ่ย - กลองแขก - ฉิ่ง - เปียโน - ทิมพานี - กลองใหญ่ - สแนร์ - แฉ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - ฟลูต - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad เพลงจีนขวัญอ่อน - ระนาดเอก - ซออู้ - กลองแขก - ฉิ่ง - กลองใหญ่ - สแนร์ - ทิมพานี - ฉาบฝรั่ง - ระฆังราว - แฉ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - เฟรนซ์ฮอร์น - โอโบ - ทูบาร์ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad เพลงบังใบ - ระนาดเอก - ระนาดทุ้ม - ซออู้ - ขลุ่ย - ฆ้องวงใหญ่ - ฆ้องหุ่ย - เปียโน - ฮาร์พ - กลองใหญ่ - สแนร์ - ทิมพานี - ฉาบฝรั่ง


150 ตารางที่27 การเลือกใช้เครื่องดนตรีเพื่อบรรเลงประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) องก์ที่ เพลง เครื่องดนตรีไทยที่ใช้ เสียงสังเคราะห์ ดนตรีสากลที่ใช้ - ฉาบเล็ก - กลองแขก - ฉิ่ง - ระฆังราว - แฉ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - เฟรนซ์ฮอร์น - โอโบ - คาริเนต - ฟลูต - ทูบาร์ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad 5 ผีเครือฟ้า เพลงโอ้ลาวครวญ - สะล้อ - ซึง - โหม่ง - ฉาบใหญ่ - กลองเมือง (กลองโป่งโป๊ง) - ทิมพานี - Taiko Drums - ระฆังราว - แฉ - เชลโล่ - เฟรนซ์ฮอร์น - โอโบ - คาริเนต - ฟลูต - ทูบาร์ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad, Sun Glitters Pad, Classical Female Ensemble, Dreamy Dulcet Bells, Ocean Waves Modular, Cymbal Swell เพลงลาวครวญ - ซออู้ - ฆ้องหุ่ย - กลองแขก - ฉิ่ง - ทิมพานี - กลองใหญ่ - ฉาบฝรั่ง - ระฆังราว - ไวโอลิน


151 ตารางที่27 การเลือกใช้เครื่องดนตรีเพื่อบรรเลงประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) องก์ที่ เพลง เครื่องดนตรีไทยที่ใช้ เสียงสังเคราะห์ ดนตรีสากลที่ใช้ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - คาริเนต - ทูบาร์ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad เพลงสามไม้นอก - ระนาดเอก - ซออู้ - ขลุ่ย - ฆ้องหุ่ย - กลองแขก - ฉิ่ง - ทิมพานี - กลองใหญ่ - ฉาบฝรั่ง - ระฆังราว - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - คาริเนต - ฟลูต - โอโบ - ทูบาร์ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad เพลงสามไม้ใน - ระนาดเอก - ฆ้องวงใหญ่ - ซออู้ - ขลุ่ย - กลองแขก - ฉิ่ง - ทิมพานี - กลองใหญ่ - ฉาบฝรั่ง - ระฆังราว - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - คาริเนต - ฟลูต - โอโบ - ทูบาร์ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad


152 ตารางที่27 การเลือกใช้เครื่องดนตรีเพื่อบรรเลงประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) องก์ที่ เพลง เครื่องดนตรีไทยที่ใช้ เสียงสังเคราะห์ ดนตรีสากลที่ใช้ เพลงโศกตัด - ระนาดเอก - ฆ้องวงใหญ่ - ซออู้ - ขลุ่ย - ฆ้องหุ่ย - กลองแขก - ฉิ่ง - ฮาร์พ - ทิมพานี - กลองใหญ่ - ฉาบฝรั่ง - ระฆังราว - เชลโล่ - ฟลูต - ทูบาร์ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad 6 กรรม มาเยือน เพลงสร้อยเพลง - ระนาดเอก - ฆ้องวงใหญ่ - ซออู้ - ฆ้องหุ่ย - กลองแขก - เปิงมาง - ฉิ่ง - ทิมพานี - กลองใหญ่ - ฉาบฝรั่ง - แฉ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - คาริเนต - ฟลูต - โอโบ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad เพลงทองย่อนตัด - ระนาดเอก - ซออู้ - กลองแขก - ฉิ่ง - ทิมพานี - กลองใหญ่ - ฉาบฝรั่ง - แฉ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - คาริเนต - ฟลูต - โอโบ - ทูบาร์ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad


153 ตารางที่27 การเลือกใช้เครื่องดนตรีเพื่อบรรเลงประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์ องก์ที่ เพลง เครื่องดนตรีไทยที่ใช้ เสียงสังเคราะห์ ดนตรีสากลที่ใช้ เพลงปราสาททอง - ซออู้ - ฆ้องหุ่ย - ตะโพน - ฉิ่ง - ฮาร์พ - ทิมพานี - คาริเนต - ฟลูต - โอโบ - ทูบาร์ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad เพลงธรณีร้องไห้ - ระนาดเอก - ซออู้ - ขลุ่ย - กลองแขก - ฉิ่ง - ฮาร์พ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - คาริเนต - โอโบ - ทูบาร์ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad ตะนาวมอญ - ระนาดเอก - ซออู้ - ขลุ่ย - กลองแขก - ฉิ่ง - ฮาร์พ - คาริเนต - โอโบ - ทูบาร์ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad เพลงอาถรรพ์ - ระนาดเอก - ฆ้องวงใหญ่ - ซออู้ - กลองแขก - ฉิ่ง - ทิมพานี - กลองใหญ่ - สแนร์ - ฉาบฝรั่ง - แฉ - ไวโอลิน - วิโอล่า - เชลโล่ - โอโบ - ทูบาร์ - คีย์บอร์ด เสียง Warm Synth Pad, Classical Male Ensemble+ ที่มา: ผู้วิจัย


154 จากตารางที่ 27 เห็นได้ว่า การเลือกใช้เครื่องดนตรีเพื่อบรรเลงประกอบละครร้องเรื่อง เครือณรงค์มีความหลากหลาย ทุกเพลงจะประกอบด้วยเสียงของเครื่องดนตรีไทยและดนตรีสากล ในส่วนของเครื่องดนตรีไทยนั้น ใช้เครื่องดนตรีทั้งหมด 14 ชิ้น ประกอบด้วย ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ฆ้องวงใหญ่ ซอด้วง ซออู้ขลุ่ย ฆ้องหุ่ย โหม่ง ฉาบใหญ่ ฉาบเล็ก ตะโพน กลองแขก เปิงมาง ฉิ่ง เครื่องดนตรี พื้นบ้านภาคเหนือ 3 ชิ้น ได้แก่ สะล้อ ซึง และกลองเมือง (กลองโป่งโป๊ง) เครื่องดนตรีสากลใช้ทั้งหมด 21 ชิ้น ได้แก่ กลองใหญ่ ฉาบฝรั่ง สแนร์ ทิมพานี ระฆังราว แฉ กลองไทโกะ ไวโอลิน วิโอล่า เชลโล่ เฟรนซ์ฮอร์น โอโบ ทูบาร์ ทรอมโบน ทรัมเป็ต คาริเน็ต ฟลูต สามเหลี่ยม ฮาร์พ เปียโน คีย์บอร์ด รวมเครื่องดนตรีทั้งสิ้น 38 ชิ้น นอกจากนี้ในทุกเพลงมีการใช้เสียงสังเคราะห์เอฟเฟ็คต่าง ๆ เพื่อเสริม ให้เพลงมีความสมจริงและไพเราะมากยิ่งขึ้น 1.2.4 ลีลาท่าทางประกอบการแสดง การสร้างสรรค์ลีลาท่าทางประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ผู้วิจัยมีแนวคิด การออกแบบท่าทางประกอบการแสดง โดยใช้ท่าแสดงกิริยาธรรมชาติ ท่าทางก าแบ และท่านาฏศิลป์ไทย ซึ่งจากการศึกษาข้อมูล พบว่า ละครร้องแบบเดิมมีแบบแผนการออกลีลาท่าทางแบบก าแบ ซึ่งท่าก าแบ นี้ถือเป็นลักษณะเฉพาะส าคัญของละครร้องที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมของตะวันตก ส่วนท่าทาง กิริยาธรรมชาตินั้น เป็นท่าทางที่ผู้วิจัยได้รับแนวคิดมาจากการแสดงละครเวทีและละครมิวสิคัล ของตะวันตก ท่าทางนาฏศิลป์ไทยที่ผู้วิจัยน ามาใช้คือการใช้ นาฏศัพท์ การจีบ การตั้งวง การก้าวเท้า การซอยเท้า และการตั้งท่าในลักษณะต่าง ๆ เช่น ท่านภาพร ท่าเรียงหมอน ท่ารัก เป็นต้น ภาพที่ 12 โครงสร้างลีลาท่าทางที่ใช้ในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ที่มา: ผู้วิจัย จากแผนภูมิผู้วิจัยออกแบบลีล่าท่าทางโดยใช้แนวทางการออกแบบตามหลักของ นาฏศิลป์ไทย ซึ่งหากบทละครหรือบทพูดกล่าวถึงที่สูง การใช้มือก็จะต้องออกแบบให้สูงตามหลักการ ออกท่าทาง สรีระของนักแสดงทุกส่วนตั้งแต่ศีรษะ ล าตัว แขน สะโพก ขา และเท้า จะมีสัดส่วนและ การใช้กล้ามเนื้อที่สอดประสานกันอย่างลงตัว อวัยวะแต่ละส่วนจะท าหน้าที่ควบคู่กันไป เพื่อน าเสนอ ส่วนย่อยของท่าทางให้เห็นเป็นภาพรวมของท่าทางทั้งหมดที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวและสมดุล นอกจากนี้การใส่รายละเอียดทางด้านอารมณ์ก็เป็นส่วนส าคัญที่ส่งผลให้ลีลาท่าทางที่สร้างสรรค์ มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแนวคิดการประดิษฐ์ท่าละคร ของคุณครูเฉลย ศุขะวณิช ที่กล่าวไว้ว่า ลีลาท่าทางที่ใช้ในละครร้อง เรื่องเครือณรงค์ ท่าทางก าแบ ท่าทางแสดงกิริยาธรรมชาติ ท่าทางนาฏศิลป์ไทย ไทยไทย


155 “ในการประดิษฐ์ท่าละคร เป็นท่าที่ก าหนดให้มีความหมายเฉพาะแบ่งได้ 3 ประเภท คือ 1) ท่าแสดงอารมณ์ เช่น รักเศร้า โกรธ 2) ท่าแสดงกริยา เช่น ท่าเดิน ไปมา ท่ายิงธนู และ 3) ท่าแสดงปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น ท่าลมพัด ท่าดอกไม้ บาน ท่าฝนตก ทั้งนี้อาจเรียกว่าการตีบท ซึ่งควรใส่อารมณ์เข้าไปด้วย” (ไพโรจน์ ทองค าสุก, 2544, น. 221) นอกจากนี้ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิดในการสร้างสรรค์ท่าทางลีลาประกอบละครร้อง จากการ สัมภาษณ์จุลชาติ อรัณยะนาค (2565, 23 กุมภาพันธ์, สัมภาษณ์) ซึ่งได้เสนอทรรศนะว่า “ส่วนใหญ่ท่าทางประกอบละครร้องเป็นท่าทางที่เรียกว่าท่าทางธรรมชาติ แต่ธรรมชาติในที่นี้จะถูกปรับแต่งเพิ่มเติมให้สวยงาม ผ่านกระบวนการออกแบบทาง นาฏศิลป์ ฉะนั้นท่าทางก าแบหรือท่าทางธรรมชาติในละครร้อง ควรที่จะค านึงถึง ความสุนทรีย์ ความเหมาะสมของระดับ ต าแหน่ง องศา และบริบทอื่น ๆ โดยรอบ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องสอดคล้องเหมาะสมกับการร้องเพลง” (จุลชาติ อรัณยะนาค, 2565, 23 กุมภาพันธ์, สัมภาษณ์) เมื่อผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงน ามาใช้เป็นแนวทางในการออกแบบ โครงสร้างลีลาท่าทางประกอบการแสดง โดยท่าทางในละครจ าเป็นต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ ออกแบบสร้างเพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการออกท่า ด้วยละครร้องใช้การด าเนินเรื่องราวด้วย การร้องเป็นส าคัญ ลีลาท่าทางในการจะเป็นส่วนที่ช่วยเสริมให้การแสดงละครและการร้องมี ความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผู้วิจัยได้วางแนวทางในการออกแบบสร้างสรรค์ลีลาท่าทาง ดังนี้ 1) ออกแบบสร้างสรรค์ลีลาท่าทาง บูรณาการท่าทางกิริยาธรรมชาติ ท่าทางก าแบ และท่าทางนาฏศิลป์ไทยเข้าด้วยกัน โดยค านึงความสุนทรียะของละคร 2) ออกแบบลีลาให้เหมาะสมต่อการร้องเพลง เนื่องจากผู้แสดงต้องใช้พลังงานใน การร้องเพลงมากอยู่แล้ว การออกท่าทางประกอบการแสดงจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการร้องเพลง 3) ในการออกแบบลีลาท่าทางจะต้องสื่อความหมายของอารมณ์ที่ต้องการสื่อได้ อย่างชัดเจน ไม่ขัดต่อความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ 4) มีการฝึกใช้ประสาทสัมผัสทางตาเพื่อการมองและสื่อความหมาย และประสาท สัมผัสทางหู เพื่อรับฟังเพลงให้เกิดความสัมพันธ์กัน 5) ออกแบบลีลาท่าทางให้งดงามเหมาะสมกับพื้นที่แสดง จากแนวคิดการออกแบบลีลาท่าทางประกอบการแสดง และแนวทางออกแบบที่ผู้วิจัย ก าหนด สู่การออกแบบลีลาท่าทางด้วยโครงสร้างท่าทางทั้ง 3 รูปแบบ ปรากฏเป็นลีลาท่าทาง ประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ซึ่งในการออกแบบลีลาท่าทางประกอบการแสดง ผู้วิจัย ได้ออกแบบประกอบสร้างโดยปรึกษากับผู้ช่วยศาสตราจารย์ฤดีชนก คชเสนี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จุลชาติ อรัณยะนาค นางนันทา น้อยนิตย์ และนายเอกลักษณ์ หนูเงิน เพื่อค้นหาลีลาท่าทางและ ต าแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งในการสร้างสรรค์ลีลาท่าทางประกอบการแสดง ผู้วิจัยได้พบปัญหาในการ ออกแบบสร้างสรรค์ในหลายประเด็น ผู้วิจัยได้ด าเนินการปรับปรุงพัฒนาแก้ไขภายใต้การสนับสนุน


156 ของรองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์ (ศิลปินแห่งชาติ) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ฤดีชนก คชเสนี และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จุลชาติ อรัณยะนาค ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านนาฏศิลป์ไทยและ ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการละคร อาทิ นายประดิษฐ ปราสาททอง ศิลปินศิลปาธร ดร.ธรรมจักร พรมพ้วย รองคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามค าแหง ซึ่งสามารถอธิบายรายละเอียด การปรับปรุงพัฒนาได้ดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่28 การปรับปรุงพัฒนาออกแบบลีลาท่าทางประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ล าดับ องก์ที่ ปัญหา อุปสรรคที่พบ ข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิ แนวทางการปรับปรุงแก้ไข 1 3 แต่งงาน 1. เพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว มีท่าร าดึงดูดสายตาผู้ชมมาก เกินไป ส่งผลให้ตัวละครหลัก ด้านหลังไม่โดดเด่น ลดการใช้ท่าทางนาฏศิลป์ลง เสริมท่าทางกิริยาธรรมชาติ และ ปรับใช้รูปแบบแถวที่สมดุล โดยไม่บังตัวละครด้านหลัง เนื่องด้วยจ านวนคนของตัวละคร เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวมีจ านวนมาก เมื่อถึงบทร้องของตัวละครอื่น ผู้วิจัยจึงเลือกใช้การหยุด (Pause) เคลื่อนไหวประกอบ 2. ตัวละครทุกตัวในฉาก มีการ ออกท่าทางแบบตั้งใจปฏิบัติ มากจนเกิดความไม่สมจริง ในละคร ผู้วิจัยปรับแก้ด้วยการสร้างความ เข้าใจกับผู้แสดง โดยใช้แอคติ้งโค้ช (Acting Coach) ช่วยอธิบาย บทบาทของตัวละครแต่ละตัว โดยตั้งค าถามกับนักแสดงว่า ในละครเรื่องนี้ - คุณก าลังเป็นใคร - คุณมีบุคลิกลักษณะเป็นอย่างไร - คุณก าลังท าอะไรกับใคร - คุณท าที่ไหน - ท าไมคุณต้องท าเช่นนั้น และเมื่อผู้แสดงเข้าใจบทบาทของ ตัวละครก็สามารถปรับกิริยาอาการ ให้เป็นธรรมชาติได้ดี


157 ตารางที่28 การปรับปรุงพัฒนาออกแบบลีลาท่าทางประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ล าดับ องก์ที่ ปัญหา อุปสรรคที่พบ ข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิ แนวทางการปรับปรุงแก้ไข 2 4 แกล้งพาหนี 1. ตัวละครเครือณรงค์ มีการ แสดงท่าทางไม่เป็นธรรมชาติ อาจด้วยผู้แสดงมีบุคลิกเป็น นักแสดงโขน การก้าวเดิน รวมถึงบุคลิกภาพยังไม่ เหมาะสมกับการแสดงละคร ผู้วิจัยท าความเข้าใจกับตัวละคร ถึงรูปแบบของละครร้อง ที่ใช้ท่าทาง ก าแบและท่าทางกิริยาธรรมชาติเป็น หลัก จากนั้นให้ผู้แสดงได้ท าความ เข้าใจตัวละครกับผู้เขียนบทละคร ให้ผู้แสดงฝึกการใช้ท่าทางตาม ชีวิตประจ าวันผ่านกระจก และปรับ ให้งดงามขึ้น 2. ตัวละครพวงแก้วและจ ารักษ์ มีท่าทางและการก าหนด ต าแหน่งในการเคลื่อนไหวไม่ หลากหลาย ปรับการใช้ต าแหน่งให้มีความ หลากหลาย เลือกใช้การเคลื่อนที่ที่ เหมาะสมกับการสื่อสารบทละคร เช่น การเคลื่อนที่เข้าหาผู้ชม การถอยออกจากผู้ชม เป็นต้น ตลอดจนก าหนดให้ตัวละครใช้ อุปกรณ์ประกอบฉากให้เกิด ประโยชน์ชัดเจน 3 5 ผีเครือฟ้า 1. ตัวละครผีเครือฟ้า มี บุคลิกภาพความเป็นนักแสดง นาฏศิลป์ไทยมากไป ส่งผลให้ มีความขัดแย้งกับการแสดง ละคร ปรับใช้ท่าทางก าแบ และกิริยา ธรรมชาติให้มีการเคลื่อนไหวแบบช้า เนื่องจากตัวละครเป็นผี การเคลื่อนไหว ร่างกายอย่างช้า ๆ ทุกส่วนต้องสัมพันธ์ กันตัดท่าทางนาฏศิลป์ออก 2. ตัวละครเครือณรงค์ใช้ ระยะเวลาในการกลัวมากไป ท าให้มีความเก้อเขิน ปรับเป็นการหยุดเคลื่อนไหว (Pause) ในท่าทางที่เหมาะสม เพื่อให้ไม่เกิดความเก้อเขิน 4 6 กรรมมาเยือน 1. ตัวละครจ ารักษ์และคุณหญิง จ าปา มีท่าทาง อารมณ์และ น้ าเสียงในระดับที่ไม่สมดุลกัน ปรับลดพลังตัวละครจ ารักษ์ และเพิ่ม ระดับอารมณ์ของตัวละครคุณหญิง จ าปาให้มีความสมดุลกัน ปรับใช้ ท่าทางก าแบและกิริยาท่าทางธรรมชาติ เพื่อให้เกิดความสมจริงในการปะทะ อารมณ์ของตัวละคร และก าหนด ต าแหน่งทิศทางในการแสดงให้ชัดเจน ที่มา: ผู้วิจัย


158 เมื่อปรับปรุงแก้ไขพัฒนาตามข้อเสนอแนะ และอุปสรรคที่พบแล้ว จึงได้เป็นลีลาท่าทาง ประกอบการแสดงละครร้องที่สมบูรณ์ ผู้วิจัยขอยกตัวอย่างลีลาท่าทางประกอบการแสดงที่ปรากฏ ชัดเจนตามโครงสร้างของลีลาท่าทางประกอบการแสดง ดังรายละเอียดต่อไปนี้ ตารางที่29 การออกแบบลีลาท่าทางประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ท่าทาง ภาพท่าทาง ค าอธิบาย ท่า ธรรมชาติ การใช้ท่าไหว้ ที่เป็นกิริยาท่าทาง ธรรมชาติของมนุษย์ในการกล่าวค า ทักทาย ท่า ธรรมชาติ การใช้ท่าทางกิริยาธรรมชาติของ มนุษย์ ในการประกอบพิธีรดน้ าสังข์ ท่า ธรรมชาติ การใช้ท่าทางหวีและจัดแต่งทรงผม ซึ่งเป็นท่าทางกิริยาธรรมชาติของ มนุษย์ ซึ่งการปรับให้จัวหวะการหวี ผมมีความช้าและชัดเจน เพื่อสื่อ อารมณ์ให้ผู้ชมได้เห็นว่าตัวละคร ก าลังท าอะไร ท่า ธรรมชาติ การยื้อแย่งปืน เป็นกิริยาธรรมชาติ ของมนุษย์ที่จะป้องกันตัวและลด การก่อเหตุร้าย


159 ตารางที่29 การออกแบบลีลาท่าทางประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ท่าทาง ภาพท่าทาง ค าอธิบาย ท่า ธรรมชาติ การกล่อมลูก เป็นกิริยาท่าทาง ธรรมชาติของผู้เป็นแม่ที่จะกระท า ต่อลูกอันเป็นที่รักด้วยความห่วงใย ท่า ธรรมชาติ การใช้ท่าทางกิริยาธรรมชาติ แสดง ถึงการเป็นลมล้มพับ เมื่อเกิด เหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ท่า ธรรมชาติ กิริยาความตกใจ เมื่อทราบความ จริงจากจดหมาย เป็นกิริยา ธรรมชาติของมนุษย์เมื่อเกิด เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น ท่า ธรรมชาติ กิริยาการยิงตัวตายให้ร่างกาย กระเด็นตามวิถีของกระสุนปืน เป็นการออกแบบท่าทางให้ เหมาะสมกับแรงโน้มถ่วงของโลก


160 ตารางที่29 การออกแบบลีลาท่าทางประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ท่าทาง ภาพท่าทาง ค าอธิบาย ท่าก าแบ ตัวละครพวงแก้วใช้ท่าทางก าแบ ในบทละครที่กล่าวถึงเครือณรงค์ โดยมีลักษณะแบมือแบบผ่อนคลาย และตั้งข้อมือขึ้นคล้ายการไว้มือ เป็นการสื่อถึงบุคคลที่ 3 ที่มีสถานะ หรืออายุที่สูงกว่า ท่าก าแบ ตัวละครผีเครือฟ้า ใช้ท่าทางก าแบ ในบทละคร ค าว่า จะน าพาลงนรก ตกอบาย โดยมือซ้ายแบมือขึ้นและ ผายออกพร้อมลดระดับมือลงจาก อกลงไปที่หน้าขา เอียงศีรษะมองที่ มือเล็กน้อย ท่าก าแบ ตัวละครพวงแก้วใช้ท่าทางก าแบ ในบทละครที่กล่าวถึงการตัดสินใจ ผิดพลาดของตนเองที่หนีตาม เครือณรงค์มา โดยมือขวาก ามือ หลวมไว้ที่อก สื่อถึงความผิดหวัง ในตัวเองและต้องกล้ ากลืนไว้ ท่าก าแบ ตัวละครพวงแก้วใช้ท่าทางก าแบ ในบทละครที่กล่าวถึงความรักที่แตก สลาย โดยมือทั้งสองแบมือแนบอก ไขว้กันในลักษณะท่ารัก และคลาย มือออกพร้อม ๆ กัน โดยเลื่อนมือ ทั้งสองออกข้างล าตัว


161 ตารางที่29 การออกแบบลีลาท่าทางประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ท่าทาง ภาพท่าทาง ค าอธิบาย ท่าก าแบ ตัวละครจ ารักษ์ใช้ท่าทางก าแบใน บทละครที่กล่าวถึง แม่เครือฟ้าและ เครือณรงค์ โดยแบมือยกสูงระดับ ศีรษะในบทที่กล่าวถึงแม่เครือฟ้า และลดระดับมือลงที่อกในบทที่ กล่าวถึงเครือณรงค์ เป็นการกล่าวถึงบุคคลที่ 3 ที่มีสถานะสูงกว่า ท่านาฏศิลป์ ตัวละครเพื่อนเจ้าสาว ใช้ภาษาท่า นาฏศิลป์ไทย “ท่ารัก” เพื่อประกอบบทร้อง ค าว่า งานออก เรือนรัก โดยมือทั้งสองตั้งวงผสาน ไขว้กันที่อก ก้าวเท้าขวาเอียงขวา ท่านาฏศิลป์ ตัวละครเพื่อนเจ้าสาว ใช้มือแบบ นาฏศิลป์ไทย ประกอบท่าทางในบท ละครว่า งามละไม สื่อถึงความ งดงามของเจ้าสาวพวงแก้ว ท่านาฏศิลป์ ตัวละครเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว ใช้ท่าทางนาฏศิลป์ไทย “ท่าเรียง หมอน” ในบทว่า เสริมส่งวันส าราญ งานมงคล โดยผู้แสดงที่อยู่ด้านขวา ของเวทีมือซ้ายตั้งวงสูงขอแขน มือขวาตั้งวงแขนตึงระดับไหล่ ส่วนแสดงที่อยู่ด้านซ้ายของเวทีมือ ขวาตั้งวงสูงขอแขน มือซ้ายตั้งวง แขนตึงระดับไหล่


162 ตารางที่29 การออกแบบลีลาท่าทางประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ท่าทาง ภาพท่าทาง ค าอธิบาย ท่านาฏศิลป์ ตัวละครเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว ใช้ท่าทางนาฏศิลป์ไทย “ท่าน ภาพร” ในบทว่า วันนี้ศรีสวัสดิ์ มือ ซ้ายตั้งวงแบมือ มือขวาตั้งวงแขนตึง ระดับไหล่ ก้าวหน้าเท้าขวา ที่มา: ผู้วิจัย จากตาราง 29 ที่ผู้วิจัยได้ยกตัวอย่างลีลาท่าทางประกอบการแสดงจากการออกแบบลีลา ท่าทางทั้งหมดตลอดเรื่อง พบการใช้ท่าทางในแต่ละรูปแบบในสัดส่วนที่แตกต่างกัน ท่าทางธรรมชาติ ปรากฏใช้มากที่สุด รองลงมาคือท่าทางก าแบ และน้อยที่สุดในท่าทางทางนาฏศิลป์ไทย ทั้งนี้เนื่องด้วย ละครร้องเรื่องเครือณรงค์ เป็นละครร้องที่มีแนวคิดการสร้างเพื่อให้สอดรับกับพลวัตความ เปลี่ยนแปลงไปในทางเร่งรีบของคนในยุคปัจจุบัน การก าหนดท่าทางให้มีความเป็นธรรมชาติตามปกติ ในมนุษย์มากที่สุดจะเป็นส่วนส าคัญที่จะดึงดูดให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมกับละครไปตามจินตนาการ เพราะละครส่วนใหญ่ก็สร้างมาจากเหตุการณ์เรื่องราวความเป็นจริง ในกระบวนการออกแบบลีลา ท่าทางนั้นมีการปรับแก้ไขและพัฒนาหลายครั้งกว่าจะส าเร็จ ผู้วิจัยสามารถสรุปสัดส่วนของลีลา ท่าทางที่ใช้เป็นแผนภูมิได้ดังนี้ ภาพที่ 13 สัดส่วนของลีลาท่าทางที่ใช้ในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ที่มา: ผู้วิจัย 1.2.5 เครื่องแต่งกาย ผู้วิจัยได้ออกแบบเครื่องแต่งกายส าหรับผู้แสดงให้มีความเหมาะสมกับยุคสมัย จากการศึกษาข้อมูล ละครร้องสามารถเป็นเครื่องมือสะท้อนสภาพสังคมสมัยนั้น ๆ ได้ทั้งในด้าน วัฒนธรรมการภาษา บริบทของสภาพบ้านเมือง รวมถึงวัฒนธรรมการแต่งกาย โดยละครเรื่องเครือ ณรงค์นี้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงพระนิพนธ์เมื่อ ร.ศ. 131 ประมาณปี พุทธศักราช 2455 ตรงกับปีคริสตศักราช 1912 เป็นช่วงต้นสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว


163 รัชกาลที่ 6 ผู้วิจัยมีแนวคิดที่จะสร้างสรรค์เครื่องแต่งกาย ให้เป็นไปตามสมัยนิยมในรัชกาลที่ 6 โดยปรุงแต่งให้เกิดความสวยงามเหมาะสมกับการแสดงละครเวทีมากขึ้น และใช้หลักทฤษฎีของสีมา เป็นส่วนช่วยก าหนดสีเครื่องแต่งกายของตัวละคร ในกระบวนการออกแบบ ผู้วิจัยก าหนดรูปทรง (Shape) และรายละเอียด (Detail) ให้เป็นไปตามแฟชั่นในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่ได้รับอิทธิพลการแต่ง กายจากตะวันตก โดยผู้วิจัยได้แรงบันดาลใจส าคัญจากเครื่องแต่งกายของเจ้านายบุรุษและสตรีในสมัย รัชกาลที่ 6 ซึ่งลักษณะส าคัญได้แก่ 1) การไว้ผมสั้นระดับติ่งหูล่าง หรือเรียกว่าทรงผมบ๊อบ มีทั้งดัดลอนและไม่ดัด 2) สวมเสื้ออย่างฝรั่ง ทรงหลวมตัวยาว แขนยาวประมาณศอก ไม่รวบปลาย ตัดเย็บ จากผ้าแพร หรือผ้าโปร่งลูกไม้ ประดับด้วยลูกปัดหรือมุก บางครั้งใส่ชุดกระโปรงแขนกุดหรือแขนเดี่ยว อย่างฝรั่ง 3) ในช่วงต้นรัชกาลนิยมนุ่งโจงกระเบน ภายหลังปรับเป็นนุ่งซิ่นแทนผ้าโจงกระเบน โดยนิยมใช้ซิ่นไหม หรือซิ่นที่ทอเชิงด้วยดิ้นเงิน และดิ้นทอง 4) ฟอกฟันขาว 5) คาดหรือประดับเครื่องประดับศีรษะ เช่น สร้อย ผ้า ขนนก หมวก ดอกไม้ หรือ เครื่องประดับอื่น ๆ โดยการใส่เครื่องประดับสร้อยคอและสร้อยข้อมือจะสวมครั้งละหลายเส้น สวมใส่ นาฬิกาเส้นเล็ก ๆ บางครั้งมีเข็มขัดคาดทับเสื้อประดับด้วยพู่ห้อยสวยงาม 6) สวมถุงเท้า ถุงน่อง และรองเท้า แบบเรียบไม่เน้นลวดลาย จากลักษณะส าคัญของการแต่งกายตามสมัยรัชกาลที่ 6 ผู้วิจัยได้สืบค้นภาพต่าง ๆ เพื่อเป็น หลักฐานอ้างอิงและใช้เป็นต้นแบบในการออกแบบสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายประกอบละครร้อง เรื่องเครือณรงค์ ภาพที่14 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉายพระรูปร่วมกับคุณเปรื่อง สุจริตกุล ในวันราชาภิเษกสมรส ทรงฉลองพระองค์ตามแบบพระราชนิยมอย่างฝรั่ง ที่มา: เตชิต เฉยพ่วง, (2553, น. 18)


164 ภาพที่ 15 สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี และพระสุจริตสุดา (เปรื่อง สุจริตกุล) ทรงฉลองพระองค์ตามแบบพระราชนิยม ที่มา: เตชิต เฉยพ่วง, (2553, น. 17) ภาพที่ 16 พระยาสุรินทรเสวีและเจ้าสาวถ่ายภาพก่อนแต่งงานในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่มา: มติชนออนไลน์ (19 กุมภาพันธ์ 2566)


165 ภาพที่ 17 สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 ที่มา: ลุพธ์ อุตมะ. (19 กุมภาพันธ์ 2566) ส าหรับขั้นตอนในการสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ผู้วิจัยก าหนดไว้ดังนี้ 1) ศึกษาวิเคราะห์ตัวบทละครเดิม เพื่อวางแนวทางและแนวคิดในการสร้างสรรค์เครื่องแต่งกาย 2) ก าหนดแบบร่างและสีของเครื่องแต่งกาย 3) ด าเนินการสร้างสรรค์ จัดหา เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ 4) ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านเครื่องแต่งกาย 5) ปรับแก้ไข พัฒนาเครื่องแต่งกาย จากขั้นตอนข้างต้น ผู้วิจัยได้ท าการวิเคราะห์ตัวละคร จากบทละครเดิม เรื่องพ่อเครือณรงค์ และขุนโรมปรปักษ์ พระนิพนธ์ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ และได้ออกแบบ ร่างเครื่องแต่งกายในครั้งที่ 1 ให้กับตัวละครหลัก และได้น าเสนอต่อผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการแต่งกาย และอาจารย์ที่ปรึกษา มีรายละเอียดการออกแบบร่าง ดังนี้ (1) (2) (3) (4) (5) (6) ภาพที่ 18 แบบร่างเครื่องแต่งกายตัวละครหลักในครั้งที่ 1 (1) ภาพร่างเครื่องแต่งกายเครือณรงค์ (2) ภาพร่างเครื่องแต่งกายพวงแก้ว 1 (3) ภาพร่างเครื่องแต่งกายพวงแก้ว 2 (4) ภาพร่างเครื่องแต่งกายจ ารักษ์ (5) ภาพร่างเครื่องแต่งกายคุณหญิงจ าปา (6) ภาพร่างเครื่องแต่งกายคุณหญิงบัวค า ที่มา: ผู้วิจัย


166 หลังจากน าแบบร่างของเครื่องแต่งกายครั้งที่ 1 ให้ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านเครื่องแต่งกาย พิจารณา พบว่า การออกแบบร่างในตัวละครบางตัวยังไม่เหมาะสม ซึ่งในกระบวนการสร้างสรรค์ เครื่องแต่งกายจ าเป็นต้องศึกษารายละเอียด ภูมิหลัง อาชีพ ลักษณะนิสัยของตัวละครจากบทละครให้ ละเอียดครบถ้วน พหลยุทธ กนิษฐบุตร (2565, 30 พฤศจิกายน, สัมภาษณ์) ได้ให้แนวทางใน การพัฒนาปรับปรุงแบบร่างเครื่องแต่งกายในครั้งที่ 1 ว่า “การออกแบบเครื่องแต่งกายในละคร จ าเป็นต้องค านึงถึงภูมิหลัง การ กระท า ความรู้สึกนึกคิดของตัวละครให้ชัดเจน หากบทละครก าหนดให้ข้ามวัน ข้ามคืน ชุดของตัวละครก็จ าเป็นต้องเปลี่ยนตามวิถีของมนุษย์ทั่วไป ในละครเรื่อง เครือณรงค์ เป็นเรื่องราวต่อเนื่องมาจากละครเรื่องสาวเครือฟ้า ฉนั้นการแต่งกาย ต้องมีความเลื่อนไหลของช่วงเวลาตามล าดับความสัมพันธ์ชั้นแม่และลูก ถ้าจะให้ สมบูรณ์ยิ่งขึ้นการใช้ทฤษฎีสีมาช่วยก าหนดสีของเครื่องแต่งกาย เพื่อบ่งบอกถึง ลักษณะนิสัยและบุคลิกภาพของตัวละคร จะส่งผลให้การออกแบบสร้างสรรค์ มีความชัดเจนยิ่งขึ้น” (พหลยุทธ กนิษฐบุตร, 2565, 30 พฤศจิกายน, สัมภาษณ์) จากข้อมูล ผู้วิจัยได้พัฒนาแบบร่างเครื่องแต่งกายของผู้แสดง โดยน าทฤษฎีสีมาประยุกต์ใช้ เพื่อแสดงออกถึงบทบาท บุคลิกภาพ และเป็นส่วนช่วยสื่ออารมณ์ให้กับตัวละคร จากการศึกษาข้อมูล พบว่าสีมีผลต่อจิตวิทยา สามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกได้ ดังนี้ สีแดง ให้ความรู้สึกเร่าร้อน รุนแรง อันตราย สีเหลือง ให้ความรู้สึกสว่าง อบอุ่น แจ่มแจ้ง ร่าเริง ศรัทธา มั่งคั่ง หนักแน่น สีเขียว ให้ความรู้สึกสดใส สดชื่น เย็น ปลอดภัย สบายตา มุ่งหวัง สีฟ้า ให้ความรู้สึก ปลอดโปร่ง แจ่มใส กว้าง ปราดเปรื่อง สีม่วง ให้ความรู้สึก เศร้า หม่นหมอง ลึกลับ สีด า ให้ความรู้สึกมืดมิด เศร้า น่ากลัว หนักแน่น สีขาว ให้ความรู้สึก บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ว่างเปล่า จืดชืด สีส้ม ให้ความรู้สึก สดใส ร้อนแรง เจิดจ้า มีพลัง อ านาจ สีเทา ให้ความรู้สึก เศร้า เงียบขรึม สงบ แก่ชรา สีน้ าเงิน ให้ความรู้สึกเงียบขรึม สงบสุข จริงจัง มีสมาธิ สีน้ าตาล ให้ความรู้สึกแห้งแล้ง ไม่สดชื่น น่าเบื่อ สีชมพู ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน เป็นผู้หญิง ประณีต ร่าเริง (สมภพ จงจิตต์โพธา, 2562, น. 38) การก าหนดสีของเครื่องแต่งกายตัวละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ผู้วิจัยได้น าแนวคิดเรื่องสีที่มีผล ต่อจิตวิทยามาใช้ก าหนดสีของเครื่องแต่งกายตัวละครหลักบางตัวที่ไม่มีเครื่องแต่งกายของอาชีพมา เป็นตัวก าหนด ซึ่งตรงกับความเป็นจริง ว่า การแต่งกายสามารถสวมใส่เสื้อผ้าแบบใดและสีใดก็ได้ ขึ้นอยู่ความชื่นชอบส่วนบุคคล ดังอธิบายได้ดังตารางต่อไปนี้


167 ตารางที่30 การก าหนดสีของเครื่องแต่งกาย ล าดับ ตัวละคร สีที่ใช้ วิเคราะห์การใช้สี 1 พวงแก้ว สีชมพู และสีฟ้า ลักษณะนิสัยของตัวละครพวงแก้วเป็น ผู้หญิงเรียบร้อย และเป็นตัวละครนางเอก จึงก าหนดให้ใช้เครื่องแต่งกายสีชมพู เพื่อแสดงออกถึงความเป็นผู้หญิง อ่อนหวาน และสีฟ้า เพื่อแสดงออกถึง ความร่าเริงแจ่มใส มีความเชื่อมั่นในตนเอง 2 จ ารักษ์ สีเหลืองทอง และสีแดง ลักษณะนิสัยของตัวละครจ ารักษ์ เป็นชาย หนุ่มร่าเริงแจ่มใส แต่แฝงด้วยอารมณ์เก็บกด ภายใน จึงก าหนดให้ใช้ผ้าโจงกระเบนเป็นสี เหลืองทอง เพื่อสื่อถึงความอบอุ่นแจ่มใสของ ตัวละคร และก าหนดใช้สีแดงเข้มเพื่อ แสดงออกถึงความเร่าร้อน รุนแรง อันตราย 3 คุณหญิงจ าปา สีเหลือง สีทอง สีม่วงอมแดง ลักษณะนิสัยของตัวละครคุณหญิงจ าปา มีความเป็นผู้ใหญ่ ชอบการจัดการ แม้ไม่ใช่ เรื่องของตนเอง มีความคิดเป็นของตนเอง จึงก าหนดใช้สีเหลืองทอง เพื่อแสดงถึง ความน่าศรัทธาต่อบ่าวไพร่ และลูก และ ก าหนดใช้สีม่วงอมแดงในชุดที่ 2 เพื่อแสดง ถึงความรุนแรงที่ก่อให้เกิดความเศร้าหมอง สลดในภายหลัง 4 คุณหญิงบัวค า สีเหลืองทอง และสีเขียว ลักษณะนิสัยของตัวละครคุณหญิงบัวค ามี ความเป็นผู้ใหญ่ แจ่มใส จึงก าหนดใช้สีเหลือง เพื่อแสดงถึงความอบอุ่นน่าเลื่อมใส และ ก าหนดใช้สีเขียวในชุดที่ 2 เพื่อแสดงถึง ความร่มเย็นในลักษณะนิสัยของตัวละคร และมีความมุ่งหวังให้ลูกได้รับแต่สิ่งดีงาม 5 พระยาณรงค์รักษ์ สีน้ าเงินเข้ม ก าหนดใช้สีน้ าเงินเข้ม เพื่อแสดงออกถึง บุคลิกเงียบขรึม ที่มีความหนักแน่นมั่นคง ในความรักที่มีต่อสาวเครือฟ้า 6 พระยารามพลพ่าย สีม่วง ก าหนดใช้สีม่วง เพื่อแสดงออกถึงความ หม่นหมองในใจตลอดเวลา ที่ตัวละครรู้ ความลับมาโดยตลอด ที่มา: ผู้วิจัย


168 จากตารางที่ 30 พบว่า มีการก าหนดสีของเครื่องแต่งกายตามลักษณะนิสัยของตัวละคร ซึ่งใช้สี ทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีชมพู สีฟ้า สีเหลือง สีทอง สีน้ าเงิน สีเขียว สีม่วง และสีแดง โดยผู้วิจัยก าหนดระดับ ความอ่อนและเข้มของสีเพื่อให้โทนของเครื่องแต่งกายกลมกลืนไปกับอารมณ์ของตัวละคร เมื่อผู้วิจัยด าเนินการตามขั้นตอนในการสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายแล้ว ผู้วิจัยได้พบปัญหาใน การออกแบบสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายต่าง ๆ ในหลายประเด็น ซึ่งได้ด าเนินการปรับปรุงพัฒนาแก้ไข ดังรายละเอียดต่อไปนี้ ตารางที่31 การปรับปรุงพัฒนาการออกแบบสร้างสรรค์เครื่องแต่งกาย ล าดับ ชุด ปัญหา อุปสรรคที่พบ ข้อเสนอแนะจาก ผู้ทรงคุณวุฒิ แนวทางการปรับปรุงแก้ไข 1 เครือณรงค์ การเลือกใช้สีของ กางเกงในการทดลองครั้ง แรก เป็นกางเกงสีกากี ซึ่ง ไม่ตรงกับแบบร่างและ อาชีพของตัวละคร เครือณรงค์ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับบทละคร และบุคลิกภาพ จึงปรับให้สวมกางเกง สีกากีแกมเขียว และปรับเนื้อผ้าของเสื้อให้ มีความภูมิฐานเหมาะสมกับบุคลิก นายทหาร 2 พวงแก้ว เครื่องประดับศีรษะในชุด แต่งงานแข็งกระด้าง ขาด ความพลิ้วไหว ปรับเนื้อผ้าในส่วนเครื่องประดับศีรษะ ให้มีความโปร่ง พริ้วไหวและทิ้งตัว และ ติดดอกไม้ช่อเล็กไว้ข้างใบหู เพื่อให้เกิด ความสวยงามมากยิ่งขึ้น 3 คุณหญิงจ าปา เครื่องประดับมีขนาดเล็ก ตกแต่งเพชรพลอยน้อย ไม่สมฐานะของตัวละคร ปรับแก้โดยเน้นให้ใส่เครื่องประดับเพชรที่ มีขนาดใหญ่มากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความ เรียบหรู สมฐานะตัวละคร ที่มา: ผู้วิจัย จากการปรับปรุงพัฒนาเครื่องแต่งกายตามตารางข้างต้นแล้ว ผู้วิจัยได้ตรวจสอบความ เหมาะสมถูกต้องอีกครั้ง โดยน าแบบร่างที่ก าหนดไว้มาเปรียบเทียบและน าเสนอให้ผู้สร้างสรรค์เครื่อง แต่งกายได้ก าหนดรายละเอียดต่าง ๆ ตาม โดยผู้วิจัยขอน าเสนอภาพร่างเครื่องแต่งกายในครั้งที่ 2 และภาพการแต่งกายของตัวละครในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ดังตารางต่อไปนี้


169 ตารางที่ 32 เครื่องแต่งกายในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ล าดับ ตัว ละคร ภาพร่างเครื่อง แต่งกายครั้งที่ 2 ภาพเครื่องแต่งกาย ค าอธิบาย 1. เครือ ณรงค์ ชุดพลเรือน สวมเสื้อผ้า ไหมเวียดนามสีขาว และ กางเกงทหารสีกากีแกม เขียว สวมรองเท้าบูท ทหารสีด าขัดเงา 2. พวงแก้ว ชุดแต่งงาน สวมเสื้อ ลูกไม้แขนระบายยาวถึง ศอกสีชมพู สื่อถึงความ อ่อนหวาน งดงามของตัว ละคร นุ่งผ้าซิ่นด้านใน ยาวกรอมเท้า คาดเข็ม ขัดทับ ประดับด้วย เครื่องประดับพลอยและ มุก มีผ้าลูกไม้บาง ประดับศีรษะยาวถึงพื้น สวมเสื้อทรงหลวม ลายดอกไม้ เย็บปลาย แขนเสื้อด้วยระบาย ผ้าลูกไม้สีขาว และ นุ่งผ้าซิ่นยาวกรอมเท้า สวมสร้อยทองประดับ จี้พระขนาดเล็ก สวมรองเท้าสีขาว


170 ตารางที่ 32 เครื่องแต่งกายในละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ล าดับ ตัว ละคร ภาพร่างเครื่อง แต่งกายครั้งที่ 2 ภาพเครื่องแต่งกาย ค าอธิบาย 3. จ ารักษ์ เสื้อทรงราชปะแตน ใช้ผ้ามีลวดลายขนาดเล็ก นุ่งโจงกระเบนสีเหลือง ส้ม สวมถุงเท้ายาวสีด า สวมรองเท้าหนังสีด า ขัดเงา เสื้อทรงราชปะแตน นุ่งกางเกงผ้าแพรสีแดง เลือดหมู คุณหญิง จ าปา เสื้อลูกไม้แขนหมูแฮม ตามสมัยนิยมรัชกาลที่ 5 พาดสไบแพรลูกไม้ นุ่งโจงกระเบนสีเหลือง ทองสวมถุงน่อง และ รองเท้าสีขาว สวมเสื้อคอตั้งลายดอกไม้ สีม่วง นุ่งโจงกระเบนสี เหลืองทองสวมถุงน่อง และรองเท้าสีขาว


171 ตารางที่ 32 เครื่องแต่งกายในละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ล าดับ ตัว ละคร ภาพร่างเครื่อง แต่งกายครั้งที่ 2 ภาพเครื่องแต่งกาย ค าอธิบาย พระยา ณรงค์ รักษ์ สวมเสื้อราชประแตนสีขาว นุ่งผ้าโจงกระเบน สีน้ าเงิน สวมถุงเท้ายาวสีด า สวมรองเท้าหนังสีด า ขัดเงา คุณหญิง บัวค า สวมเสื้อลูกไม้โปร่ง มีสาบหน้าเย็บด้วยระบาย ลูกไม้สีขาว และใช้ ผ้าลูกไม้มีชายห้อย พาดสะพายเฉียงบ่าซ้าย ผูกเป็นปีกแมลงปอ สวมผ้าซิ่นยาวกรอมเท้า ใส่เครื่องประดับพลอย สวมเสื้อผ้าลินินแขนยาว เย็บลูกไม้ช่วงต้นคอ และ บริเวณสาบหน้า สวมผ้าซิ่นยาวกรอมเท้า ใส่เครื่องประดับเล็กน้อย สวมถุงน่องสีขาว และ สวมรองเท้าสีครีม พระยา ราม พลพ่าย สวมเสื้อราชประแตนสี ขาว นุ่งผ้าม่วงสีน้ าเงิน ประดับเข็มขัดห้อยสายไว้ ที่บริเวณกระเป๋าเสื้อ สวมถุงเท้ายาวสีด า สวมรองเท้าหนังสีด า ขัดเงา


172 ตารางที่ 32 เครื่องแต่งกายในละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ล าดับ ตัว ละคร ภาพร่างเครื่อง แต่งกายครั้งที่ 2 ภาพเครื่องแต่งกาย ค าอธิบาย ผีสาว เครือฟ้า เสื้อลูกไม้แขนระบายสี เขียว นุ่งผ้าถุงซิ่นสีเขียว ห่มสไบแพรสีชมพู ใส่เครื่องประดับงดงาม ให้เหมาะกับชุด ซึ่งเป็น ชุดที่สาวเครือฟ้าใส่ตอน ฆ่าตัวตาย ดาบ ฉ่อง สวมเสื้อยืด และกางเกง ทหารสีกากีแกมเขียว นาย สิงห์ เสื้อกุยเฮงสีขาวคอกลม ปล่อยชายเสื้อ นุ่งโจง กระเบนสีน้ าเงิน เพื่อน เจ้าบ่าว สวมเสื้อราชประแตนสี ขาว นุ่งโจงกระเบนด้วย ผ้าเขียวปีกแมลงทับ สวมถุงเท้ายาวสีขาว และสวมร้องเท้าสีด า ขัดเงา


173 ตารางที่ 32 เครื่องแต่งกายในละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ล าดับ ตัว ละคร ภาพร่างเครื่อง แต่งกายครั้งที่ 2 ภาพเครื่องแต่งกาย ค าอธิบาย เพื่อน เจ้าสาว สวมเสื้อลูกไม้โปร่งสีขาว มีผ้าลูกไม้มีชายห้อยพาด สะพายเฉียงบ่าซ้าย ผูกเป็นปีกแมลงปอ นุ่งโจงกระเบนด้วยผ้าสี แดงชมพู สวมเครื่องประดับมุก และเพชร สวมถุงน่องสี ขาวและรองเท้าสีด าและ ขาวคละกัน ที่มา: ผู้วิจัย จากตารางที่ 32 พบว่า เครื่องแต่งกายของผู้แสดงในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ มีความ สอดคล้องกับแบบร่างเครื่องแต่งกายที่ผู้วิจัยก าหนดไว้ตั้งแต่ตอนต้น โดยผู้วิจัยได้น าทฤษฎีสี มาช่วย ก าหนดสีของเครื่องแต่งกาย เพื่อเป็นส่วนช่วยให้เครื่องแต่งกายมีความสมบูรณ์ด้วยรายละเอียด รูปแบบ และสื่ออารมณ์ตลอดจนบุคลิกภาพของตัวละครต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนั้น ผู้วิจัยได้ก าหนดรูปแบบการแต่งหน้าและท าผมให้เหมาะสมกับบุคลิกของตัวละคร โดยศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งหน้าในงานนาฏกรรมของพหลยุทธ กนิษฐบุตร (2564, น. 102-103) ที่กล่าวว่า “การเขียนหน้าและการแต่งหน้าในนาฏกรรมไทย เป็นส่วนส าคัญที่ เชื่อมโยงสัมพันธ์กับงานนาฏกรรมและการแสดงหลายรูปแบบ เพราะมีบทบาท ส าคัญที่ท าให้นาฏกรรมมีความสมบูรณ์แบบ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมให้เกิดภาพจ า ในลักษณะเด่นของตัวละครแต่ละตัว และท าให้ผู้ชมเข้าถึงบทบาทการแสดงได้ดี ยิ่งขึ้น ซึ่งใบหน้าของตัวละครเป็นหัวใจส าคัญ ในการตีความลักษณะของตัวละคร และการแสดง” (พหลยุทธ กนิษฐบุตร, 2564, น. 102-103) จากข้อมูล ผู้วิจัยได้ก าหนดรูปแบบการแต่งหน้า โดยใช้การแต่งหน้าเพื่อการแก้ไขจุดบกพร่องใน ใบหน้าของผู้แสดง และใช้การแต่งหน้าตามบุคลิกภาพของตัวละคร ซึ่งในละครร้อง เรื่อง เครือณรงค์ผู้วิจัย ก าหนดรูปแบบการแต่งหน้า ให้สอดคล้องกับการแต่งกาย เพื่อบ่งบอกถึงลักษณะของตัวละครอายุให้มี ความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และสามารถเป็นส่วนช่วยในการสื่อสารบุคลิกต่าง ๆ ให้ผู้ชมได้รับรู้มากยิ่งขึ้นด้วย ในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ประกอบด้วยตัวละครหลักที่ต้องแต่งหน้า สื่อบุคลิกภาพทั้งหมด 8 คน สามารถอธิบายรายละเอียด ได้ดังต่อไปนี้


174 ตารางที่ 33 การแต่งหน้าตัวละครหลักในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ล าดับ ตัวละคร ภาพการแต่งหน้า ค าอธิบาย 1 เครือณรงค์ ก าหนดแต่งหน้าแบบธรรมชาติ การแก้ไข: ดวงตา โดยใช้สีน้ าตาลด า เพิ่มที่เปลือกตา ให้มีดวงตาที่กลมโตขึ้น และริมฝีปาก โดยวาดให้มีความใหญ่ กว่าริมฝีปากจริง เพื่อให้ดูชัดเจนมาก ยิ่งขึ้น การแต่งเสริมตามบุคลิกภาพ : ด้วยตัว ละครมีอาชีพทหาร ต้องท างาน กลางแจ้ง จึงแต่งสีผิวให้มีความคล้ า สมภูมิความเป็นพระเอกละครไทย 2 พวงแก้ว ก าหนดแต่งหน้าแบบธรรมชาติ การแก้ไข: ปรับดวงตา ให้มีลักษณะ 2 ชั้นที่เท่ากัน และลบความกว้างของปีก จมูก รวมถึงสร้างกรอบหน้าให้ ได้รูป การแต่งเสริมตามบุคลิกภาพ: ใช้สีโทนน้ าตาลอมชมพูระเรื่อระบาย เปลือกตาให้มีความสดใสสมวัย ปัดแก้ม และทาลิปสติกสีชมพู 3 จ ารักษ์ ก าหนดแต่งหน้าแบบธรรมชาติ การแก้ไข: ดวงตา โดยใช้สีน้ าตาลด า เพิ่มที่เปลือกตา ให้มีดวงตาที่กลมโต การแต่งเสริมตามบุคลิกภาพ: ใช้สีโทนน้ าตาลระบายเปลือกตาให้มี ความสดใสสมวัย ปัดแก้มและทา ลิปสติกสีเนื้ออมส้ม 4 คุณหญิงจ าปา ก าหนดแต่งหน้าแบบธรรมชาติ การแก้ไข: รูปหน้าให้มีความสมส่วน การแต่งเสริมตามบุคลิกภาพ: ใช้สีโทนน้ าตาลด าระบายเปลือกตาให้มี กลมโต ปัดแก้มด้วยสีส้ม เนื่องจากเป็น ตัวละครที่มีบุคลิกภาพเป็นผู้ใหญ่ และ ทาลิปสติกด้วยสีสด คือ ชมพูบานเย็น เพื่อสื่อถึงบุคลิกภาพเป็นตัวละครร้าย


175 ตารางที่ 33 การแต่งหน้าตัวละครหลักในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ (ต่อ) ล าดับ ตัวละคร ภาพการแต่งหน้า ค าอธิบาย 5 พระยาณรงค์ รักษ์ ก าหนดแต่งหน้าแบบธรรมชาติ การแก้ไข: ปรับปลายหางตาไม่ให้ตก และลบความกว้างของปีกจมูก และรูป หน้า การแต่งเสริมตามบุคลิกภาพ: ปรับแต่ง ให้มีริ้วรอย เพื่อสื่อถึงความมีอายุของตัว ละคร 6 คุณหญิงบัวค า ก าหนดแต่งหน้าแบบธรรมชาติ การแก้ไข: ปรับดวงตา ให้มีลักษณะ 2 ชั้นที่เท่ากัน การแต่งเสริมตามบุคลิกภาพ: ปรับแต่ง ให้มีริ้วรอย เพื่อสื่อถึงความมีอายุของตัว ละคร ปัดแก้มและทาลิปสติกสีส้มอิฐ 7 พระยารามพล พ่าย ก าหนดแต่งหน้าแบบธรรมชาติ การแก้ไข: ปรับความเรียบเนียนของ สีผิว และปรับรูปหน้าให้ได้รูปทรง การแต่งเสริมตามบุคลิกภาพ: ปรับแต่งให้มีริ้วรอย เพื่อสื่อถึงความมี อายุของตัวละคร 8 ผีเครือฟ้า ก าหนดแต่งหน้าตามบุคลิกภาพ การแก้ไข: ปรับความสมดุลของดวงตา และแก้มให้เท่ากัน การแต่งเสริมตามบุคลิกภาพ: ปรับแต่งให้มีริ้วรอย เพื่อสื่อถึงความมี อายุของตัวละคร เพิ่มเติมลักษณะพิเศษ การแต่งรอยแผลที่บริเวณคอ ให้มีรอย เลือด เหวอะหวะ เพื่อสื่อถึงการฆ่าตัว ตายของสาวเครือฟ้า และเพิ่มการแรเงา อายแชโดวสีน้ าตาลด าเพื่อให้กระบอก ตานั้นดูลึกโบ๋ สื่อถึงความเป็นวิญญาณ ที่มา: ผู้วิจัย


176 จากตารางที่ 33 พบว่าละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ใช้การแต่งหน้าแบบธรรมชาติ โดยมีเทคนิค การปรับแก้ไขใบหน้าให้ตัวละคร และเทคนิคการแต่งตามบุคลิกภาพของตัวละคร ซึ่งการแต่งหน้านี้ จะเป็นส่วนเสริมให้เครื่องแต่งกาย และการแสดง สามารถสื่ออารมณ์และเหตุการณ์ในละครได้อย่าง สมจริง ซึ่งปรากฏตัวละครผีเครือฟ้าที่มีการแต่งหน้าที่เพิ่มเทคนิคพิเศษ คือ แต่งรอยแผลที่คอ เป็นลักษณะการแต่งเอฟเฟคในเกิดความสมจริงมากขึ้น 1.2.6 ฉากและอุปกรณ์ประกอบการแสดง ในการสร้างสรรค์ฉากและอุปกรณ์ประกอบละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ผู้วิจัยได้ก าหนด กระบวนการการสร้างและพัฒนา ดังนี้ 1) วิเคราะห์เนื้อเรื่อง และพิจารณาความเหมาะสมในการก าหนดฉากและอุปกรณ์ ประกอบฉาก 2) พิจารณาก าหนด รูปแบบ (Form) ของฉากและอุปกรณ์ประกอบการแสดง 3) ก าหนดวางโครงสร้างการติดตั้งจอ LED 4) ก าหนดแบบร่างของฉาก และต าแหน่งของการวางอุปกรณ์ประกอบฉาก 5) ด าเนินการสร้างฉาก และจัดหาอุปกรณ์ประกอบการแสดง 6) ปรับปรุงแก้ไข พัฒนาตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิและปัญหา อุปสรรคที่พบ จากขั้นตอนข้างต้น ผู้วิจัยได้ออกแบบฉากให้อยู่ในช่วงสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว โดยฉากในแต่ละฉากผู้วิจัยเลือกใช้รูปแบบเป็นฉากภายใน (Interior setting) เนื่องจาก เหตุการณ์ในละครเกิดขึ้นในสถานที่ภายในอาคาร หรืออยู่ในห้อง สื่อถึงเรื่องราวในชีวิตประจ าวันของคนที่ อาศัยอยู่ในบ้าน ดังที่ กฤษรา วริศราภูริชา (2551, น. 87)กล่าวถึง ฉากภายในว่า “คือ ฉากที่แสดงว่าเป็น สถานที่ภายในของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ประกอบด้วยก าแพงอย่างน้อย 1 ด้าน หรือ มีเครื่องประกอบฉากการ แสดงและเวทีเป็นสื่อความหมาย” จากแนวคิดดังกล่าว ผู้วิจัยจึงออกแบบร่างฉากประกอบการแสดงให้ เป็นก าแพงบ้าน เพื่อสื่อความหมายถึงสถานที่ในบ้านหรือในอาคารที่ตัวละครอาศัยอยู่ จากการศึกษา ข้อมูลในประเด็นหน้าที่ของฉาก พบว่า “ฉากมีหน้าที่ 4 ประการ คือ ก าหนดสถานที่ บ่งชี้ยุคสมัย ให้บรรยากาศ และสนับสนุนกิจกรรมการแสดง” (สุรพล วิรุฬห์รักษ์, 2547, น. 194) จากแนวความคิดของ ทั้ง 2 ท่านข้างต้น ผู้วิจัยได้ก าหนดแบบร่างของฉาก โดยน าเสนอดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 34 แบบร่างฉากประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ล า ดับ ชื่อฉาก ภาพร่างออกแบบฉากและอุปกรณ์ ประกอบฉาก ข้อมูลประกอบ 1. ฉากแต่งงานที่ บ้านพระยาราม พลพ่าย ฉากหลังเป็นภาพ บรรยากาศ แบ่งส่วน ของเวทีให้มีลักษณะ คล้ายกับห้องรับแขก มีดอกไม้และโต๊ะประดับ ตกแต่งสวยงาม


177 ตารางที่ 34 แบบร่างฉากประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ล า ดับ ชื่อฉาก ภาพร่างออกแบบฉากและอุปกรณ์ ประกอบฉาก ข้อมูลประกอบ 2. ฉากห้องหอ ฉากหลังเป็นฉาก ห้องนอนในบ้านของ เจ้าพระยา ในสมัย รัชกาลที่ 6 มี เฟอร์นิเจอร์ตู้ เตียง โต๊ะ เครื่องแป้งเป็นอุปกรณ์ ประกอบฉาก 5. ฉากข้างตึกเช่า ของเครือณรงค์ ฉากหลังเป็นฉากบ้าน ซอมซ่อของเครือณรงค์ มีที่นอนเก่า ๆ และข้าว ของเครื่องใช้เป็น อุปกรณ์ประกอบฉาก 6 ฉากห้องหอ ฉากหลังเป็นฉาก ห้องนอนในบ้านของ เจ้าพระยา ในสมัย รัชกาลที่ 6 มี เฟอร์นิเจอร์ตู้ เตียง โต๊ะเครื่องแป้งเป็น อุปกรณ์ประกอบฉาก ที่มา: ผู้วิจัย จากตารางที่ 34ผู้วิจัยได้ออกแบบร่างฉาก แบ่งออกเป็น 3ฉาก ได้แก่ ฉากแต่งงานที่บ้านพระยา รามพลพ่าย ฉากห้องหอ ฉากข้างตึกเช่าของเครือณรงค์โดยในการแสดงละครร้อง เรื่องเครือณรงค์ครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ก าหนดแนวคิดด้านความทันสมัยในการสอดแทรกสื่อเทคโนโลยีเข้ามาอยู่ในละครเพื่อให้สอด รับกับพลวัตความเปลี่ยนแปลงของยุคปัจจุบัน ผู้วิจัยจึงเลือกใช้การฉายภาพฉากผ่านจอภาพที่ แสดงผลด้วยระบบหลอดไฟขนาดเล็ก ซึ่งแสดงผลจากการผสม 3 สี ได้แก่ สีแดง สีน้ าเงิน และสีเขียว หรือที่เรียกว่าจอ LED (Light-emitting-diode) พิทวัล สุวภาพ (2566, 23 มกราคม, สัมภาษณ์) ได้เสนอทรรศนะเกี่ยวกับการฉายภาพฉากลงในจอ LED ไว้ว่า


178 “ปัจจุบันจอ LED ได้รับความนิยมมากในการแสดงภาพฉากหลังต่าง ๆ การออกแบบฉากละครที่จะฉายผ่านจอ LED ถือเป็นมิติใหม่ในการออกแบบฉาก ผู้เขียน แบบจ าเป็นต้องรู้ขนาดและโครงสร้างของการวางจอ ตลอดจนรู้เรื่องราวอันละเอียด ลึกซึ้งของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยุคสมัย เวลา และข้อจ ากัดต่าง ๆ ในละคร เพื่อให้ได้งาน ที่ออกมามีคุณภาพและเหมาะสมกับสถานที่ ซึ่งเมื่อทราบแล้วว่าเหตุการณ์ในฉากนั้น ๆ เกิดขึ้นที่ใด ก็ควรให้ผู้มีความรู้โดยตรงด้านนั้น ๆ เป็นผู้วางโครงสร้างการออกแบบฉาก เช่น ฉากในบ้าน ในห้องนอน หรือภายในอาคาร ควรให้สถาปนิกด้านออกแบบภายใน (Interior) เป็นผู้วาดโครงสร้าง ภาพจึงจะสื่อออกมาได้อย่างสมบูรณ์” (พิทวัล สุวภาพ, 2566, 23 มกราคม, สัมภาษณ์) จากข้อมูลการสัมภาษณ์ข้างต้น ผู้วิจัยน าแนวทางในการสร้างสรรค์ฉากละครมาปรับใช้ ผู้วิจัยด าเนินการก าหนดขนาดของจอ LED และการวางจอให้เป็นในลักษณะฉากหลังและหลืบของ โรงละคร เนื่องด้วยโรงละครขนาดเล็กชั้น 7 มีข้อจ ากัดคือ ไม่มีผ้าม่าน ผู้วิจัยจึงใช้คุณสมบัติของของจอที่ สามารถเคลื่อนย้ายที่ได้ มาตั้งเป็นหลืบส าหรับก าบังนักแสดงรวมทั้งเพื่อให้เกิดมิติความสมจริงในฉาก ประกอบการแสดง ภาพที่ 19 การวัดและก าหนดขนาดในการติดตั้งจอ LED ที่มา: ผู้วิจัย ภาพที่ 20 การก าหนดความละเอียดของจอ LED เพื่อเตรียมการออกแบบฉาก ที่มา: ผู้วิจัย


179 เมื่อก าหนดขนาดและความละเอียดของจอ LED แล้ว ผู้วิจัยจึงได้ส่งต่อให้ผู้เขียนฉาก ได้ออกแบบ ฉากตามรายละเอียดที่ก าหนด ซึ่งในละครร้องเรื่องเครือณรงค์ มีฉากประกอบการแสดงที่ฉายผ่านจอ LED จ านวน 3 ฉาก ดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 35 ฉากประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ล าดับ ชื่อฉาก ฉากประกอบละคร ข้อมูลประกอบ 1. ฉาก แต่งงาน ฉากแต่งงาน ก าหนดให้เป็น สถานที่ ที่มีความโอ่โถง งดงาม ตามรูปแบบบ้านเจ้าพระยาใน สมัยราชกาลที่ 6 ประดับ ตกแต่งด้วยโคมไฟแก้วระย้า (Chandelier) เพิ่มรายละเอียด การประดับดอกไม้ตกแต่งให้ สวยงาม ตามจัดต่าง ๆ 2. ฉาก ห้องหอ ฉากห้องหอ เป็นฉากในบ้าน ของพระยาณรงค์รักษ์ ซึ่งเป็น ข้าราชการผู้ใหญ่ ก าหนดใช้ โทนสีเขียวโศก เพื่อให้สอดรับ กับความโศกเศร้าในฉาก สุดท้าย ประดับตกแต่งด้วย โคมไฟ ผ้าม่าน ลิ้นชักหัวเตียง เพื่อลดรายละเอียดอุปกรณ์ ประกอบฉาก โดยฉากนี้ใช้ ประกอบการแสดงละคร ในฉากที่ 2 แกล้งพาหนี และ ฉากที่ 4 กรรมมาเยือน 3. ฉากบ้าน เช่า ซอมซ่อ ของเครือ ณรงค์ ฉากบ้านเช่า ก าหนดให้เป็นบ้าน ไม้เก่า ๆ เนื่องด้วยเครือณรงค์ แยกตัวออกจากบ้านพระยาณรงค์ รักษ์มาเลี้ยงตนเอง แต่ด้วยความ มีระเบียบวินัยของทหาร ในบ้าน จึงต้องมีการจัดระเบียบข้าวของ อย่างเรียบร้อย และมีรูปในหลวง ประดับตกแต่งบ้าน ที่มา: ผู้วิจัย


180 จากตารางที่ 35 พบว่า ละครร้องเรื่องเครือณรงค์ มีฉากประกอบการแสดงผลผ่านจอ LED ทั้งหมด 3 ฉาก ได้แก่ ฉากแต่งงาน ฉากห้องหอ และฉากบ้านซอมซ่อ ซึ่งในรายละเอียดของฉากห้องหอนั้น ปรากฏใช้ในฉากที่ 2 แกล้งพาหนี และฉาก 4 กรรมมาเยือน โดยการออกแบบฉากประกอบการแสดงทั้ง 3 ฉากนี้ ผู้วิจัยก าหนดรายละเอียดให้เป็นไปตามสถาปัตยกรรมการตกแต่งภายใน (Interior) ของบ้านเรือน และวังเจ้านายในสมัยรัชกาลที่ 6 ส่วนประกอบอันส าคัญที่ประกอบให้ฉากมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น ได้แก่ อุปกรณ์ประกอบฉาก และอุปกรณ์ประกอบการแสดง อุปกรณ์เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการด าเนินเรื่องราว ตามบทละคร ซึ่งมีความหมายและความส าคัญมากต่อตัวละครและเนื้อเรื่อง อีกทั้งยังสามารถช่วยให้ นักแสดงจ าล าดับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าได้อีกด้วย ผู้วิจัยก าหนดแบบร่างในการตั้งอุปกรณ์ ประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ รายละเอียดดังตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 36 แบบร่างอุปกรณ์ประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ล า ดับ ชื่อฉาก ภาพร่างออกแบบฉากและอุปกรณ์ ประกอบฉาก ข้อมูลประกอบ 1. ฉากแต่งงาน ในฉากแต่งงาน ก าหนดให้มีอุปกรณ์ ประกอบฉาก ดังนี้ - เตียงส าหรับนั่งรดน้ า - ดอกไม้รองข้อมือ - โต๊ะข้างส าหรับวาง อุปกรณ์ - ดอกไม้ส าหรับตกแต่ง 2. ฉากห้องหอ ในฉากห้องหอ ก าหนดให้มีอุปกรณ์ ประกอบฉาก ดังนี้ - เตียงนอน - โต๊ะและเก้าอี้ท างาน - โต๊ะเครื่องแป้ง - ตู้เสื้อผ้า


181 ตารางที่ 36 แบบร่างอุปกรณ์ประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์(ต่อ) ล า ดับ ชื่อฉาก ภาพร่างออกแบบฉากและอุปกรณ์ ประกอบฉาก ข้อมูลประกอบ 3. ฉากตึกเช่าซอมซ่อ ของเครือณรงค์ ในฉากตึกเช่าซอมซ่อ ก าหนดให้มีอุปกรณ์ ประกอบฉาก ดังนี้ - ที่นอน - โต๊ะและเก้าอี้ท างาน - โต๊ะเครื่องแป้ง - หีบเก็บของ 4. ฉากห้องหอ ในฉากห้องหอ ผู้วิจัย ก าหนดให้มีอุปกรณ์ ประกอบฉาก ดังนี้ - เตียงนอน - โต๊ะและเก้าอี้ท างาน - โต๊ะเครื่องแป้ง - ตู้เสื้อผ้า ที่มา: ผู้วิจัย จากตารางที่ 36 แบบร่างอุปกรณ์ประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ผู้วิจัยก าหนดร่าง อุปกรณ์ประกอบฉากให้มีความสมจริง โดยเน้นการเลือกใช้อุปกรณ์ที่ท าจากวัสดุไม้มาประกอบฉากใน การก าหนดอุปกรณ์ประกอบฉากนั้นผู้วิจัยออกแบบภาพร่างและปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ ส่งผลให้มี การปรับปรุงพัฒนาจากแบบร่างสู่การใช้จริง ซึ่งอุปกรณ์บางชิ้นที่ก าหนดไว้ได้ถูกตัดออก เนื่องจากไม่ จ าเป็นต่อการด าเนินเรื่องและความกระชับรวดเร็วในการเปลี่ยนฉาก โดยอุปกรณ์ประกอบฉากละครร้อง เรื่องเครือณรงค์ แบ่งหมวดหมู่ออกเป็น 1) อุปกรณ์ประกอบฉาก ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่ไม่มี การเคลื่อนย้ายไปที่อื่น และ 2) อุปกรณ์ประกอบการแสดง ได้แก่ วัสดุหรือสิ่งของที่ถูกเคลื่อนย้ายด้วยตัว นักแสดง ส่งผลให้เกิดความสมจริงในเนื้อเรื่องเพิ่มมากขึ้น โดยสามารถอธิบายรายละเอียดของอุปกรณ์ แบ่งออกเป็นฉากการแสดงดังนี้


182 ฉากที่ 1 ฉากแต่งงาน ภาพที่21อุปกรณ์ประกอบฉากที่ 1 แต่งงาน ที่มา:ผู้วิจัย ในฉากนี้มีอุปกรณ์ประกอบฉาก 8 ชิ้น รายละเอียดตามตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 37 อุปกรณ์ประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ฉากที่ 1 แต่งงาน ล าดับ อุปกรณ์ ประกอบการแสดง ค าอธิบาย 1 เตียงไม้สีเหลืองทอง ใช้เป็นที่นั่งของคู่เจ้าบ่าวเจ้าสาว เพื่อประกอบพิธีรดน้ าสังข์ ตั้งอยู่กึ่งกลางเวที 2 โต๊ะไม้ข้างเตียง ใช้ส าหรับรองภาชนะและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการประกอบพิธีรดน้ าสังข์ โดยตั้งอยู่ชิดฝั่งขวาของเตียงไม้ 3 ภาชนะใส่แป้งกระแจะ พร้อมพานรอง เพื่อใช้ในการเจิมในพิธี แต่งงาน ตั้งอยู่บนโต๊ะไม้ข้างเตียง 4 สายสินธุ์ และพานรอง ใช้ส าหรับท ามงคลครอบศีรษะของ เจ้าบ่าวเจ้าสาว ตั้งอยู่บนโต๊ะไม้ข้างเตียง


183 ตารางที่ 37 อุปกรณ์ประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ฉากที่ 1 แต่งงาน (ต่อ) ล าดับ อุปกรณ์ ประกอบการแสดง ค าอธิบาย 5 ขันรองน้ า และขันตักน้ า ใช้ส าหรับประกอบพิธีรดน้ า ตั้งอยู่บนโต๊ะไม้ข้างเตียง 6 หมอนรองข้อมือ ใช้ส าหรับรองข้อมือเจ้าบ่าวเจ้าสาว วางอยู่บนเตียงไม้ 7 พานดอกไม้ ใช้ส าหรับรองน้ าจากข้อมือเจ้าบ่าวเจ้าสาว ตั้งอยู่กึ่งกลางหน้าเตียงไม้ ที่มา: ผู้วิจัย ฉากที่ 2 และ 4 ฉากห้องหอ ภาพที่22 อุปกรณ์ประกอบฉากที่ 2 และ 4 ฉากห้องหอ ที่มา:ผู้วิจัย ในฉากนี้ เป็นฉากที่ซ้ ากับฉากที่ 4 ซึ่งมีอุปกรณ์ประกอบฉาก 9 ชิ้น แบ่งเป็น อุปกรณ์ประกอบ ฉาก จ านวน 5 ชิ้น และอุปกรณ์ประกอบการแสดง จ านวน 4 ชิ้น รายละเอียดตามตารางต่อไปนี้


184 ตารางที่ 38 อุปกรณ์ประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ฉากที่ 2, 4 ห้องหอ ล าดับ อุปกรณ์ประกอบ ฉากและการแสดง ค าอธิบาย 1 เตียงไม้ มีที่นอนและผ้าคลุมเตียงสีขาวลายลูกไม้ ใช้ประกอบฉากห้องนอน วางอยู่กึ่งกลางเวที 2 โต๊ะเครื่องแป้งมีกระจกส าหรับส่อง มีลิ้นชักและชั้นส าหรับวาง ของ วางอยู่ด้านขวาของเวที เฉียง 45 องศาออกหน้าเวที 3 เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง วางต่อจากโต๊ะเครื่องแป้ง ส าหรับตัวละครใช้นั่ง 4 แจกันดอกไม้ พร้อมฐานรอง เพื่อประดับตกแต่งฉากให้งดงาม มากยิ่งขึ้น วางอยู่ข้างโต๊ะเครื่องแป้ง 5 เก้าอี้ส าหรับวางของใช้ส่วนตัว วางอยู่ด้านซ้ายของเวที เฉียง 45 องศาออกหน้าเวที


185 ตารางที่ 38 อุปกรณ์ประกอบการแสดงละครร้องเรื่องเครือณรงค์ ฉากที่ 2, 4 ห้องหอ (ต่อ) ล าดับ อุปกรณ์ประกอบ ฉากและการแสดง ค าอธิบาย 6 เครื่องส าอาง หวี น้ าหอม เป็นอุปกรณ์ใช้ประกอบการแสดง ของตัวละคร ซึ่งตัวละครใช้เพื่อการแสดงในฉาก ใส่อยู่ใน ลิ้นชักของโต๊ะเครื่องแป้ง ใช้ในเหตุการณ์ที่ตัวละครก าลัง แต่งกาย แต่งหน้า และจัดแต่งทรงผม 7 กระเป๋าส าหรับใส่สัมภาระ เป็นอุปกรณ์ใช้ประกอบการแสดง ของตัวละคร วางอยู่บริเวณใต้เตียง ใช้ในเหตุการณ์เก็บ สัมภาระหนีออกจากบ้าน 8 กระดาษ และดินสอ เป็นอุปกรณ์ใช้ประกอบการแสดงของตัว ละคร ในฉาก 2 ใช้ส าหรับให้พวงแก้วเขียนจดหมายเล่าความ จริงให้จ ารักษ์ฟัง และในฉาก 4 ใช้ส าหรับจ ารักษ์ที่ได้อ่าน จดหมายของพวงแก้ว 9 ปืน เป็นอุปกรณ์ใช้ประกอบการแสดงของตัวละคร ในฉาก 2 ตัวละครเครือณรงค์พกเข้ามาเพื่อจะมาขู่ฆ่าคนในงานแต่งงาน และในฉากที่ 4 อยู่ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งส าหรับตัวละครจ า รักษ์ฆ่าตัวตาย ที่มา: ผู้วิจัย


Click to View FlipBook Version