194 ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ปลูกฝังให้นักเรียนมีพฤติกรรม ดังนี้ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน ๕. สาระการเรียนรู้ การอ่านจับใจความจากบทความ ๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้(กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ Collaborative learning group) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. ครูให้ช่วยอธิบายความหมายของบทความและแหล่งที่มาของบทความ ส่วนใหญ่จะ พบบทในในสื่อประเภทใดบ้าง ๒. นักเรียนทุกคนช่วยกันตอบคำถาม ๓. ครูคอยอธิบายเพิ่มเติม ๔. ครูนำนักเรียนเข้าสู่บทเรียน ขั้นทำกิจกรรมการเรียนรู้ ๕. นักเรียนรวมกลุ่มๆละ ๔-๖ คน โดยคละตามความสามารถตามผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน เก่ง-อ่อน ปานกลาง แต่ละกลุ่มดำเนินการเลือกหัวหน้า เลขานุการ ที่เหลือเป็นสมาชิก ๖. ครูอธิบายหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่ม พร้อมตั้งกติกาการทำงานร่วมกัน ดังนี้ ๖.๑ นักเรียนต้องทำงานร่วมกัน ๖.๒ นักเรียนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ๗. หัวหน้ากลุ่มแต่ละกลุ่มรับแบบฝึกทักษะชุดที่ ๔ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทความ ตามจำนวนสมาชิกในกลุ่มโดยปฏิบัติกิจกรรมดังนี้ ๗.๑ อ่านคำชี้แจงแล้วปฏิบัติตามคู่มือการใช้แบบฝึกทักษะ อย่างเป็นขั้นตอน ๗.๒ ศึกษาใบความรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทความ ในแบบฝึกทักษะหน้าที่ ๙-๑๑ เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาด้วยตนเอง อีกครั้ง โดยมีครูและผู้คอยแนะนำ ชี้แนะเพิ่มเติม ๗.๓ ตอบคำถามในประเด็นที่ไม่เข้าใจ และครูคอยอธิบาย วิธีการคิด โดยยกตัวอย่าง จาก ใบความรู้ ๗.๔ ครูตั้งคำถามเพื่อทดสอบความรู้ของนักเรียนจากการศึกษาใบความรู้ ก่อนที่จะทำ แบบฝึกทักษะ ๗.๕ นักเรียนตอบคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจจากการศึกษาใบความรู้
195 ขั้นฝึกฝนผู้เรียน ๘. นำนักเรียนเข้าห้องสมุด ๙. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันสืบค้นตัวอย่างบทความจากสื่อประเภทต่าง ๆ ในห้องสมุด ๑๐. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอบทความของกลุ่มตัวอย่าง ๑๑. ครูให้นักเรียนที่เป็นผู้ฟังแต่ละกลุ่ม ตั้งคำถามถามกลุ่มที่ออกมานำเสนอบทความ ๑๒. นักเรียนกลุ่มที่นำเสนอบทความช่วยกันตอบคำถามของเพื่อนแต่ละกลุ่ม ขั้นสรุปความรู้ ๑๓. ครูอธิบายสรุปเกี่ยวกับบทความเพิ่มเติม ขั้นนำไปใช้ ๑๔. นักเรียนทำแบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๔ แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๒ ๗. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑. ใบความรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทความ ๒. แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติงานกลุ่ม ๓. แบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๔ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทความ ๔. ห้องสมุด ๘. วิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ ประเด็นการประเมิน วิธีการวัดผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน ๑. ด้านความรู้ - ตรวจแบบฝึกทักษะ รายบุคคล - ตรวจแบบฝึกทักษะ ที่ ๒ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒. ทักษะกระบวนการ - สังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน - แบบประเมินด้านทักษะ กระบวนการ - ผ่านเกณฑ์ระดับ ๒ ขึ้นไป ๓. คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ - สังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ผ่านเกณฑ์ระดับ ๒ ขึ้นไป ๙. บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ ๑. ผลการจัดการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน นักเรียน ชั้น ป...../.......ทั้งหมดจำนวน........คน เข้าเรียนจำนวน.............คน ๑.๑ ด้านความรู้ (K) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนผ่าน จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ………………..
196 นักเรียนที่ไม่ผ่าน จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๑.๒ ทักษะกระบวนการ (P) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนที่ได้ระดับดี จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับพอใช้ จำนวน ……….. คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับปรับปรุง จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๑.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนที่ได้ระดับดี จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับพอใช้ จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับปรับปรุง จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๒. ปัญหา/อุปสรรค์ที่เกิดขึ้น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………..……………….. (นางสาวนูรียะห์ ยาโงะ) ครูผู้สอน วันที่……เดือน……………………พ.ศ.๒๕๖๖ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มชั้น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………….. (นางสาวพัชรีย์ ศรีทองฉิม) ครูชำนาญการพิเศษ
197 ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้าฝ่ายวิชาการระดับประถมศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….. (นางสาวนูรียะห์ ยาโงะ) หัวหน้าฝ่ายวิชาการ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการสถานศึกษาฝ่ายบริหารงานวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………..……………………….. (นายเถลิงศักดิ์ ราชชำรอง) รองผู้อำนวยการสถานศึกษาเชี่ยวชาญ ผู้รับรองผลการจัดการเรียนรู้ ลงชื่อ…………………………….. (นางศิวพร ยืนชนม์) ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า)
198 แบบบันทึกผลการประเมินการเรียนรู้ ด้านการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๑๑ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ เลขที่ ชื่อ – สกุล แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๒ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน ๑๐ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖
199 เลขที่ ชื่อ – สกุล แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๒ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน ๑๐ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ รวม รวมเฉลี่ย - นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ต้องได้คะแนนทดสอบ ๖ คะแนนขึ้นไป ผลการประเมิน นักเรียนทั้งหมด………………คน ผ่าน จำนวน………………คน คิดเป็นร้อยละ ………………………… ไม่ผ่าน จำนวน………………คน คิดเป็นร้อยละ ………………………… ลงชื่อ …………………………………………………ครูผู้สอน ( ) ตำแหน่ง ครู……………………………………………….……
200 แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ชื่อ………………………………………… นามสกุล………………………..…………….ชั้น…………เลขที่……………. คำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนและทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับคะแนน ความสามารถ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) ความสามารถ ด้านการสื่อสาร ๑.๑ มีความสามารถในการรับ – ส่งสาร ๑.๒ มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจของตนเองโดยใช้ภาษาอย่าง เหมาะสม ๑.๓ ใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสม มี ประสิทธิภาพ ๑.๔ วิเคราะห์แสดงความคิดเห็นอย่างมี ประสิทธิผล ๑.๕ เลือกรับและไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วย เหตุผลและถูกต้อง สรุปผลการประเมิน ความสามารถ ด้านการ วิเคราะห์ ๒.๑ มีความสามารถในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ๒.๒ มีทักษะในการคิดนอกรอบอย่าง สร้างสรรค์ ๒.๓ สามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ ๒.๔ มีความสามารถคิดอย่างมีระบบ ๒.๕ ตัดสินใจแก้ปัญหาเกี่ยวกับตัวเองได้ อย่างเหมาะสม สรุปผลการประเมิน
201 แบบประเมินทักษะ เลขที่ ชื่อ – สกุล กระบวนการ เฉลี่ย ผลการประเมิน การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การเชื่อมโยง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑
202 แบบประเมินทักษะ เลขที่ ชื่อ – สกุล กระบวนการ เฉลี่ย ผลการประเมิน การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การเชื่อมโยง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่าน ไม่ผ่าน ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๒๘ ๒๙ ๓๐ เกณฑ์การประเมินทักษะกระบวนการ ระดับคุณภาพ ๓ (๒.๕๑ -๓.๐๐ คะแนน) ระดับดีมาก ระดับคุณภาพ ๒ (๒.๐๑ -๒.๕๐ คะแนน) ระดับดี (ผ่าน) ระดับคุณภาพ ๑ (๑.๕๑ -๒.๐๐ คะแนน) ระดับ พอใช้ ระดับคุณภาพ ๐ (๐.๐๐-๑.๕๐ คะแนน) ระดับควรปรับปรุง ลงชื่อ…………………………………………………ผู้สอน ( )
203 ภาคผนวก แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑
204 คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านบทความที่กำหนดให้ แล้วตอบคำถามลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ชัดเจน โดยเขียนตัวหนังสือให้อ่านง่าย สะอาดเรียบร้อย ( ๑๐ คะแนน ) แบบฝึกทักษะที่ ๒ เรื่องเจ็บป่วยเป็นเรื่องปกติธรรมดาของทุกคน น้อยคนนักที่ไม่เคยเจ็บป่วยเลย ก็นับว่า เป็นความโชคดีดังพระพุทธองค์ตรัสว่า “อโรคยา ปรมา ลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภ อันประเสริฐ” คำกล่าวนี้คงไม่มีใครซาบซึ้งใจในคำนี้เท่ากับตัวของผู้ป่วยเอง เมื่อมีความเจ็บป่วยแล้วจะทำอย่างไรกับ ตัวเองชีวิตของคนเราประกอบด้วยกายและจิต กายกับจิต ผูกพันกันอยู่ตลอดเวลา เมื่อกายป่วย จิตใจ ก็จะแปรปรวนเจ็บป่วยไปด้วย จิตใจจะนึกคิดมากมาย สร้างจินตนาการต่าง ๆ นานา วิตกกังวล เกี่ยวกับโรค ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน หน้าที่การงานและอื่น ๆ มากมาย หากหยุดยั้งไม่ได้ก็จะทำให้ อาการเจ็บป่วยเป็นมากขึ้น “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” คำกล่าวนี้บ่งบอกให้รู้ว่า จิตเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถควบคุม ร่างกายได้ แม้ร่างกายเจ็บป่วย ขอให้ป่วยเฉพาะร่างกาย จิตใจไม่ป่วยไปด้วย มีสติรับรู้ความเจ็บปวด ของร่างกายอยู่ตลอดเวลา ไม่ฟุ้งซ่านแปรปรวนไปตามสภาพ ของร่างกาย เมื่อจิตใจมีสติมั่นคง ร่างกาย ก็จะค่อย ๆ ลดความเจ็บปวดลง จากประสบการณ์ของผู้เขียน เมื่อป่วยหนัก ทำให้ได้ประสบการณ์พิเศษ ถือเป็น บททดสอบชีวิตที่สำคัญ ทำให้ได้ข้อคิดสำคัญนำมาสอนใจตนเองได้เป็นอย่างดีว่า เมื่อความเจ็บป่วยมา เยือน ผู้ป่วยต้องยอมรับความเป็นจริงของความเจ็บปวดร่างกายอยู่ตลอดเวลา เจ็บก็รู้ว่าเจ็บ ให้มีสติ กำกับอยู่เสมอ ตามดูความรู้สึกของตนเองด้วยความอดทน อดกลั้น หากรู้สึกเจ็บปวดมาก ใช้จิตสัมผัส กับส่วนของร่างกายที่รู้สึกเจ็บ อาจจะช่วยคลายเจ็บปวดได้บ้างชั่วขณะหนึ่ง บทความเรื่อง การรักษากายและใจยามเจ็บป่วยด้วยกำลังใจของตนเอง
205 สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ผู้ป่วยต้องการกำลังใจ “กำลังใจจากใครหนอ ขอเป็นทานให้ ฝันให้ใฝ่ ให้ชีวิตได้มีแรงใจ ให้ดวงใจลุกโชนความหวัง...” กำลังใจซึ่งหลายคนมักจะคิดว่ากำลังใจจาก ญาติพี่น้อง คนใกล้ชิด จากมิตรผู้หวังดี จะเป็นสิ่งสำคัญช่วยผลักดันให้ผู้ป่วยมีพลังในการต่อสู้ชีวิต ต่อไป กำลังใจที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจของตนเองที่จะเติมเต็มให้เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ให้ต่อสู้ชีวิต ต่อไปอย่างมีความหวัง กำลังใจที่ประกอบด้วยความอดทน อดกลั้น ความพยายามต่อสู้กับความ เจ็บปวดอย่างมีสติ รู้เท่าทันจิตใจของตนเองอยู่ตลอดเวลา เจ็บก็รู้ว่าเจ็บ วุ่นวายก็รู้ว่าวุ่นวาย โกรธก็รู้ ว่าโกรธ ฯลฯ จิตจะมีสติที่มั่นคง สั่งการให้ร่างกายปรับเปลี่ยนอิริยาบถเพื่อผ่อนคลายความเจ็บปวด เปลี่ยนจากการนอนเป็นการเดิน พินิจพิจารณารับรู้ถึงความเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา อาการเจ็บป่วย หายไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อรู้สึกเจ็บปวดอีกก็เดินอีกเหมือนเดินจงกรม วันหนึ่ง ๆ เดินหลาย ๆ รอบ เมื่อรู้สึกปวดก็เดิน เมื่อหายก็กลับไปนอน สลับกันครั้งแล้วครั้งเล่า จนจิตใจไม่ทุกข์ไปกับร่างกาย จิตใจพร้อมที่จะรักษาร่างกายให้หายป่วยด้วยการรับประทานอาหารและยาได้ดีส่งผลให้ร่างกาย แข็งแรง มีกำลัง และกลับไปอยู่ในสภาพที่ปกติเหมือนไม่เคยเจ็บป่วยมาก่อน ความทรงจำที่เกิดจากการให้กำลังใจตนเอง มีผลทำให้จิตใจเข้มแข็ง ทำให้มีความหวัง ที่จะต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคในการดำรงชีวิตอยู่ มีผลต่อความเชื่อมั่น ต่อการตัดสินปัญหาต่าง ๆให้ผ่าน พ้นไปได้ด้วยดีด้วยกำลังใจของตนเอง และเรื่องราวเหล่านี้ได้เรียนรู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ตัวของ ตนเองทั้งหมด มิตรที่ดีที่สุดก็คือตนเอง ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดก็คือตนเอง ผู้ที่ปลอบใจตนเองได้ดีที่สุดก็ คือตนเอง ฯลฯ ประสบการณ์นี้ได้นำไปบอกเล่าให้ทุกคนที่รู้จักอยู่เสมอในยามที่ร่างกายเจ็บป่วยหรือ ท้อแท้ สิ้นหวัง วุ่นวายใจ ฯลฯ โดยเฉพาะนักเรียนให้กำลังใจตนเองอยู่เสมอ โดยเริ่มต้นตามดูความคิด ความรู้สึกของตนเอง เช่น ในยามโกรธ ก็รู้ว่าโกรธ อาจจะบอกกับตนเองว่าโกรธแล้วนะ บอกกับใจ ตนเองหลาย ๆ ครั้ง แล้วความโกรธก็จะหายไปเองเมื่อตามดูตามคิดความรู้สึกของตนเองได้ การให้ กำลังตนเองก็สามารถทำได้เช่นกัน (สมสมร จินดาประเสริฐ, ๒๕๖๐)
206 ๑. “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” จากบทความข้างต้นมีความหมายว่าอย่างไร (๒ คะแนน) ตอบ ......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ๒. “กำลังใจจากใครหนอ ขอเป็นทาน ให้ฝั่นให้ใฝ่ ให้ชีวิตได้มีแรงใจ ให้ดวงใจลุกโชน ความหวัง” จากข้อความข้างต้น ผู้เขียนต้องการสื่อถึงอะไร (๒ คะแนน) ตอบ ........................................................................................................................................ .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ๓. จากบทความนี้กำลังใจที่สำคัญที่สุดที่ผู้เขียนกล่าวถึงคือกำลังใจจากใคร (๒ คะแนน) ตอบ .................................................................................................................................. .......................................................................................................................................... ๔. กำลังใจ ในบทความนี้ประกอบด้วยอะไรบ้าง (๒ คะแนน) ตอบ ................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... . .......................................................................................................................................... ๕. จากเรื่องนี้ผู้เขียนต้องการบอกอะไรแก่ผู้อ่าน (๒ คะแนน) ตอบ .................................................................................................................................. ........................................................................................................................................
207
207 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ หน่วยการเรียนรู้ เรื่องฉันรักการอ่าน จำนวน ๑๕ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๒ เรื่อง การอ่านจับใจความบทร้อยกรอง จำนวน ๑ ชั่วโมง สอนวันที่.................เดือน.............................................พ.ศ. ............... ๑. มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๒. ตัวชี้วัดชั้นปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ท ๑.๑ ป.๕/๓ อธิบายความหมายโดยนัยจากเรื่องที่อ่านอย่างหลากหลาย ท ๑.๑ ป.๕/๔ แยกข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริงจากเรื่องที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๕/๕ วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน เพื่อนําไปใช้ในการดําเนินชีวิต ท ๑.๑ ป.๕/๘ มีมารยาทในการอ่าน ๓. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด บทความ เป็นข้อเขียนความเรียงที่มีจุดประสงค์เพื่อแสดงความรู้เสนอข้อเท็จจริงความ คิดเห็น ตั้งข้อสังเกต วิเคราะห์วิจารณ์ โดยมีหลักฐาน มีเหตุผลน่าเชื่อถือ หากมีข้อเสนอแนะใด ๆ ต้องเป็นในทางสร้างสรรค์ดังนั้น การคิดวิเคราะห์จากบทความ ผู้อ่านจะต้องอ่านอย่างมีวจารณญาณ คิดไตร่ตรองอย่างมีเหตุผล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อบทความนั้นได้อย่างตรงประเด็น ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. ด้านความรู้ (k) นักเรียน ๑. เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจหลักการอ่านคิดวิเคราะห์ ๒. เพื่อให้นักเรียนสามารถแยกแยะข้อมูล วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล จากบทความที่อ่านได้ ๓. นักเรียนสามารถศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองและใช้กระบวนการอ่านคิดวิเคราะห์ บทความที่อ่านได้ ๔. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต ๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
208 ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ปลูกฝังให้นักเรียนมีพฤติกรรม ดังนี้ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน ๕. สาระการเรียนรู้ การอ่านจับใจความจากบทความ ๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. ครูนำบทความให้นักเรียนอ่านและให้นักเรียนสรุปใจความสำคัญ ๒. ครูสุ่มถามนักเรียน ๓. ครูอธิบายสรุปเกี่ยวบทความที่ครูให้อ่าน ขั้นทำกิจกรรมการเรียนรู้(กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ Collaborative learning group) ๔. นักเรียนรวมกลุ่มๆละ ๔-๖ คน โดยคละตามความสามารถตามผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน เก่ง-อ่อน ปานกลาง แต่ละกลุ่มดำเนินการเลือกหัวหน้า เลขานุการ ที่เหลือเป็นสมาชิก ๕. ครูอธิบายหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่ม พร้อมตั้งกติกาการทำงานร่วมกัน ดังนี้ ๕.๑ นักเรียนต้องทำงานร่วมกัน ๕.๒ นักเรียนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ๖. หัวหน้ากลุ่มแต่ละกลุ่มรับแบบฝึกทักษะชุดที่ ๔ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทความ ตามจำนวนสมาชิกในกลุ่มโดยปฏิบัติกิจกรรมดังนี้ ๖.๑ อ่านคำชี้แจงแล้วปฏิบัติตามคู่มือการใช้แบบฝึกทักษะ อย่างเป็นขั้นตอน ๖.๒ ศึกษาใบความรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทความ โดยครูเพิ่มเติมเนื้อหา นอกเหนือจากในแบบฝึกทักษะ โ ๖.๓ ตอบคำถามในประเด็นที่ไม่เข้าใจ และครูคอยอธิบาย วิธีการคิด โดยยกตัวอย่าง จาก ใบความรู้ ๖.๔ ครูตั้งคำถามเพื่อทดสอบความรู้ของนักเรียนจากการศึกษาใบความรู้ ก่อนที่จะทำ แบบฝึกทักษะ ๖.๕ นักเรียนตอบคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจจากการศึกษาใบความรู้ ขั้นฝึกฝนผู้เรียน ๗. ครูแจกกระดาษเปล่าให้นักเรียน ๘. ให้นักเรียนฝึกเขียนบทความสั้น ๆ ลงในสมุด ๙. ให้นักเรียนสลับกับเพื่อนในกลุ่ม เพื่ออ่านจับใจความสำคัญและเขียนสรุปลงในสมุด
209 ขั้นสรุปความรู้ ๑๐. ครูสรุป เรื่องการอ่านจับใจความจากบทความ ๑๑. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามข้อสงสัยและครูอธิบายเพิ่มเติม ๑๒. ครูกล่าวชมเชยการทำงานกลุ่มของนักเรียนและการตั้งใจร่วมกิจกรรมของนักเรียน ขั้นนำไปใช้ ๑๓. นักเรียนทำแบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๔ แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๓ ๑๔. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ๑๐ ข้อ ๗. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทความ ๒. ใบความรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทความ ๓. แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติงานกลุ่ม ๔. แบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๔ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทความ ๘. วิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ ประเด็นการประเมิน วิธีการวัดผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน ๑. ด้านความรู้ - ตรวจแบบทดสอบ - ตรวจแบบฝึกทักษะ รายบุคคล - แบบทดสอบ - ตรวจแบบฝึกทักษะ ที่ ๓ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒. ทักษะกระบวนการ - สังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน - แบบประเมินด้านทักษะ กระบวนการ - ผ่านเกณฑ์ระดับ ๒ ขึ้นไป ๓. คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ - สังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ผ่านเกณฑ์ระดับ ๒ ขึ้นไป ๙. บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ ๑. ผลการจัดการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน นักเรียน ชั้น ป...../.......ทั้งหมดจำนวน........คน เข้าเรียนจำนวน.............คน ๑.๑ ด้านความรู้ (K) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนผ่าน จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ไม่ผ่าน จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ………………..
210 ๑.๒ ทักษะกระบวนการ (P) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนที่ได้ระดับดี จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับพอใช้ จำนวน ……….. คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับปรับปรุง จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๑.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนที่ได้ระดับดี จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับพอใช้ จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับปรับปรุง จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๒. ปัญหา/อุปสรรค์ที่เกิดขึ้น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………..……………….. (นางสาวนูรียะห์ ยาโงะ) ครูผู้สอน วันที่……เดือน……………………พ.ศ.๒๕๖๖ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มชั้น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………….. (นางสาวพัชรีย์ ศรีทองฉิม) ครูชำนาญการพิเศษ
211 ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้าฝ่ายวิชาการระดับประถมศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….. (นางสาวนูรียะห์ ยาโงะ) หัวหน้าฝ่ายวิชาการ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการสถานศึกษาฝ่ายบริหารงานวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………..……………………….. (นายเถลิงศักดิ์ ราชชำรอง) รองผู้อำนวยการสถานศึกษาเชี่ยวชาญ ผู้รับรองผลการจัดการเรียนรู้ ลงชื่อ…………………………….. (นางศิวพร ยืนชนม์) ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า)
212 แบบบันทึกผลการประเมินการเรียนรู้ ด้านการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๑๒ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๒ เลขที่ ชื่อ – สกุล แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๓ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน ๑๐ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖
213 เลขที่ ชื่อ – สกุล แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๓ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน ๑๐ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ รวม รวมเฉลี่ย - นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ต้องได้คะแนนทดสอบ ๖ คะแนนขึ้นไป ผลการประเมิน นักเรียนทั้งหมด………………คน ผ่าน จำนวน………………คน คิดเป็นร้อยละ ………………………… ไม่ผ่าน จำนวน………………คน คิดเป็นร้อยละ ………………………… ลงชื่อ …………………………………………………ครูผู้สอน ( ) ตำแหน่ง ครู……………………………………………….………
214 แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ชื่อ………………………………………… นามสกุล………………………..…………….ชั้น…………เลขที่……………. คำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนและทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับคะแนน ความสามารถ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) ความสามารถ ด้านการสื่อสาร ๑.๑ มีความสามารถในการรับ – ส่งสาร ๑.๒ มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจของตนเองโดยใช้ภาษาอย่าง เหมาะสม ๑.๓ ใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสม มี ประสิทธิภาพ ๑.๔ วิเคราะห์แสดงความคิดเห็นอย่างมี ประสิทธิผล ๑.๕ เลือกรับและไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วย เหตุผลและถูกต้อง สรุปผลการประเมิน ความสามารถ ด้านการ วิเคราะห์ ๒.๑ มีความสามารถในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ๒.๒ มีทักษะในการคิดนอกรอบอย่าง สร้างสรรค์ ๒.๓ สามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ ๒.๔ มีความสามารถคิดอย่างมีระบบ ๒.๕ ตัดสินใจแก้ปัญหาเกี่ยวกับตัวเองได้ อย่างเหมาะสม สรุปผลการประเมิน
215 แบบประเมินทักษะ เลขที่ ชื่อ – สกุล กระบวนการ เฉลี่ย ผลการประเมิน การแก้ปัญหา การให้เหตุผ ล การสื่อสาร การเชื่อมโยง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑
216 แบบประเมินทักษะ เลขที่ ชื่อ – สกุล กระบวนการ เฉลี่ย ผลการประเมิน การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การเชื่อมโยง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่าน ไม่ผ่าน ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๒๘ ๒๙ ๓๐ เกณฑ์การประเมินทักษะกระบวนการ ระดับคุณภาพ ๓ (๒.๕๑ -๓.๐๐ คะแนน) ระดับดีมาก ระดับคุณภาพ ๒ (๒.๐๑ -๒.๕๐ คะแนน) ระดับดี (ผ่าน) ระดับคุณภาพ ๑ (๑.๕๑ -๒.๐๐ คะแนน) ระดับ พอใช้ ระดับคุณภาพ ๐ (๐.๐๐-๑.๕๐ คะแนน) ระดับควรปรับปรุง ลงชื่อ…………………………………………………ผู้สอน ( )
217 ภาคผนวก แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๒
218 คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านบทความที่กำหนดให้ แล้วตอบคำถามลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ชัดเจน โดยเขียนตัวหนังสือให้อ่านง่าย สะอาดเรียบร้อย (๑๐ คะแนน) อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๑-๒ มีโรงงานผลิตรองเท้าแห่งหนึ่ง ขายรองเท้าดีมาก วันหนึ่งฝ่ายบริหารตกลงกันว่า จะเปิดตลาด ใหม่ในทวีปแอฟริกา จึงส่งพนักงานขายคนแรก ไปยังแอฟริกา เพื่อทำการศึกษาตลาดว่ามีศักยภาพ เพียงใด พอไปถึง พนังงานขายสังเกตเห็นว่าชาวแอฟริกันส่วนมากไม่ใส่รองเท้า เขาก้อเลยส่งข่าว กลับไปที่โรงงานว่า “ข่าวร้าย ที่นี่ไม่มี ใครใส่รองเท้าเลย” และก็ส่งรายงานตามไปอีกว่า ไม่มีตลาด รองเท้าในทวีปแอฟริกานี้ ฝ่ายบริหารก็พิจารณาว่า ควรจะหาข้อมูลเป็นครั้งที่ สอง เพื่อให้แน่ใจ จึง ตัดสินใจที่จะส่งพนักงานขายอีกคนหนึ่งไปเพื่อประเมินตลาดแห่งนี้ พนักงานขายคนที่สอง เมื่อไปถึง แอฟริกา เขาดีใจมากที่เห็นคนไม่ใส่รองเท้า และส่งข่าวกลับมาทันทีด้วยข้อความว่า “ข่าวดี !! ไม่มีใคร ที่นี่ใส่รองเท้าเลย” เขารีบเดินทางกลับและรายงานแก่ฝ่ายบริหารว่า “ท่านทั้งหลาย เรากำลังจะรวย แล้ว เพราะที่นั่นมีตลาดใหญ่มากในแอฟริกา และที่สำคัญที่เราต้องทำคือ ให้ความรู้แก่ ชาวแอฟริกัน ถึงประโยชน์และความสำคัญของการใส่รองเท้าคืออะไร” ที่มา : https://steemit.com/thai/@wisarn/5n2tnm วันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๖ บทความเรื่อง ทัศนะของพนักงานขายรองเท้า แบบฝึกทักษะที่ ๓
219 ๑. ทำไมพนักงานคนที่ ๑ จึงบอกว่า ข่าวร้าย (๒ คะแนน) ตอบ ................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ๒. ทำไมพนักงานคนที่ ๒ จึงบอกว่า ข่าวดี(๒ คะแนน) ตอบ ..................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ๓. จากการอ่านเรื่อง “ข่าวร้าย-ข่าวดี ที่นี่ไม่มีใครสวมรองเท้าเลย” (๓ คะแนน) ตอบ ข้อเท็จจริง คือ ......................................................................................................................................... ข้อคิดเห็น คือ ........................................................................................................................................ ๔. นักเรียนเห็นด้วยกับคำพูดของพนักงานคนที่ ๑ หรือ คนที่ ๒ เพราะเหตุใด คนที่ ๑ “ข่าว ร้ายที่นี่ไม่มีใครสวมรองเท้าเลย”คนที่ ๒ “ข่าวดีไม่มีใครที่นี่สวมรองเท้าเลย”(๓ คะแนน) ตอบ .................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................
220 คำชี้แจง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย × บนตัวอักษร ก ข ค และ ง ที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อ เดียวลงในกระดาษคำตอบ ๑. การอ่านคิดวิเคราะห์ หมายถึงข้อใด ก. การอ่านอย่างถูกต้องสามารถจับใจความสำคัญได้ ข. การอ่านอย่างเพลิดเพลินสามารถเข้าใจเรื่องได้อย่างรวดเร็ว ค. การอ่านอย่างใคร่ครวญสามารถแยกแยะสรุปเรื่องอย่างมีเหตุผล ง. การอ่านอย่างเป็นระบบทั้งอ่านในใจอ่านออกเสียงถูกต้องตามอักขรวิธี ๒. ข้อใดเป็นลักษณะของบทความ ก. งานเขียนความเรียงที่มีจุดประสงค์เพื่อแสดงความรู้และจินตนาการของ ผู้เขียนอย่างสร้างสรรค์ ข. งานเขียนร้อยกรองที่มีจุดประสงค์เพื่อแสดงความรู้ความคิดเห็นต่อสิ่งต่าง ๆ อย่างมีสาระ สร้างสรรค์ และมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือ ค. งานเขียนร้อยแก้วหรือร้อยกรองที่มีจุดประสงค์เพื่อเสนอความคิดเห็นของ ผู้เขียนในรูปแบบต่าง ๆอย่างมีประโยชน์ ง. งานเขียนความเรียงที่มีจุดประสงค์เพื่อแสดงความรู้เสนอข้อเท็จจริง ความ คิดเห็นโดยมีหลักฐานและเหตุผลที่น่าเชื่อถือ แบบทดสอบหลังเรียน แบบฝึกทักษะชุดที่ ๔
221 ๓. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับลักษณะของการอ่านคิดวิเคราะห์ ก. มะลิอ่านนิทานแล้วเล่าเรื่องย่อให้เพื่อนฟังได้ ข. ราตรีอ่านเรื่องสามัคคีเสวกแล้วบอกข้อคิดที่ได้รับจากเรื่องได้ ค. กุหลาบอ่านโคลงสุภาษิตแล้วจับใจความสำคัญได้ ง. พิกุลอ่านและท่องบทอาขยานได้ถูกต้องและไพเราะมาก อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๔-๕ ๔. ผู้ปกครองควรปฏิบัติต่อเด็กอย่างไรที่เป็นวิธีดีที่สุด เพื่อไม่ให้เด็กติดยาเสพติด ก. ให้ความรักความอบอุ่นและ ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ข. สอดส่องติดตามทุกฝีก้าวเมื่อเด็กนัดรวมกลุ่มกันและแจ้งครู ค. สอนให้ลูกรู้จักเลือกคบเพื่อนที่ดีมีฐานะ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาพึ่งพายาเสพ ติด ง. เสนอกฎเกณฑ์ในการเรียนและความประพฤติอย่างเข้มงวดทั้งที่บ้านและ โรงเรียน “ปัจจุบันมีผู้ติดยาเสพติดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนจะติดยาเสพติด มากกว่ากลุ่มคนกลุ่มอื่น และที่น่าเป็นห่วงกำลังแพร่ระบาดสู่เด็กนักเรียนวัย ๙-๑๐ ปี สาเหตุอาจเป็นเพราะถูกเพื่อนชักจูงให้ลองเสพ อยากรู้ อยากลอง ถูกล่อลวง และสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การขาดความอบอุ่นในครอบครัว ปัญหาพ่อแม่หย่าร้างกัน ผู้ใหญ่ไม่ได้สนใจดูแลหรือเป็นที่พึ่งของเด็กได้ เด็กเกิดความว้าเหว่ไม่รู้จะปรึกษาใครเลยหันไปหายาเสพติด”
222 ๕. จุดมุ่งหมายของผู้เขียนบทความนี้คือข้อใด ก. บอกวัตถุประสงค์ในการใช้ยาเสพติดในวัยรุ่น ข. เพื่อให้รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้วัยรุ่นติดยาเสพติด ค. เพื่อให้รู้ถึงโทษของยาเสพติด ง. เพื่อแจ้งจำนวนกลุ่มผู้ติดยาเสพติด อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๖ ๖. คุณธรรมข้อใดสอดคล้องกับความหมายของข้อความนี้มากที่สุด ก. ความโอบอ้อมอารี ข. ความเมตตากรุณา ค. ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ง. ความวิริยะอุตสาหะ อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๗-๘ “คุณครูคะ วันนี้ตอนเดินมาโรงเรียนหนูเห็นคนตาบอดเดินถือไม้เท้าคลำทาง มาตรงทางม้าลายกำลังจะข้ามถนน เขาเดินเซไปเซมาเหมือนจะล้มลงค่ะ หนูจึง เข้าไปประคองแล้วจูงมือเขา ช่วยพาเดินข้ามถนน เขาชมและขอบใจหนูด้วยค่ะ” “แฝกเป็นหญ้าชนิดหนึ่ง ขึ้นเป็นกอ ใบแบนยาว ใช้มุงหลังคาและใช้ทำยา เป็นพืชที่มี ระบบรากลึก เมื่อปลูกแล้วจะช่วยรักษาหน้าดิน พระองค์จึงทรงแนะนำให้นำหญ้า ชนิดนี้ไปปลูกเป็นขั้นบันได เพื่อเป็นการป้องกันการพังทลายของหน้าดิน เพราะเมื่อฝน ตกลงมาหญ้าแฝกจะช่วยดูดซึมน้ำไว้ ไม่ทำให้ดินและน้ำไหลไปสู่ที่อื่น ทำให้เขตพื้นที่ ในแถบนั้นมีความชุ่มชื้น”
223 ๗. พระองค์ ในที่นี้หมายถึงใคร ก. พระสงฆ์ ข. พระพุทธรูป ค´ นายกรัฐมนตรี ง. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๘. ข้อความใดไม่ใช่จุดประสงค์ของการปลูกหญ้าแฝก ก. ลดความแห้งแล้ง ข. ช่วยดูดซับน้ำในดิน ค. ช่วยเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกร ง. ลดการพังทลายของหน้าดิน อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๙-๑๐ “ฝนพรำตั้งแต่เมื่อวานเย็นจนกระทั่งเช้าก็ยังไม่หยุด ใครจะบ่นอย่างไรก็หาฟังไม่ มันคงตกเรื่อยไป หน้านี้ฤดูฝน มันทำหน้าที่ของมันแล้วโดยชอบ หากฤดูฝน ฝนไม่ตกสิ น่าประหลาด มันอยู่ห่างดินแต่มีทีท่ารักดิน รักน้ำ รักพฤกษาลดาวัลย์เสียเหลือเกิน อาจเป็นเพราะมันขึ้นไปจากน้ำกระมั่ง ทำนองเดียวกับมนุษย์ย่อมมีหน้าที่อย่างใด อย่างหนึ่ง จึงควรทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ที่สุดตามกำลังความสามารถ มนุษย์ที่ทำ หน้าที่ ใครเล่าจะตำหนิหากถูกตำหนิก็ฟังเฉยเสียเหมือนฝน”
224 ๙. ผู้เขียนแนะนำให้ผู้อ่านทำตัวเช่นเดียวกับฝนในเรื่องใด ก. มีความรับผิดชอบ ข. มีความซื่อสัตย์ ค. มีความเสียสละ ง. มีความเมตตา ๑๐. สาระสำคัญของข้อความนี้คืออะไร ก. ฝนควรภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์ ข. มนุษย์ควรทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ที่สุดตามความสามารถ ค. ฝนตกต้องตามฤดูกาล มันคงทำหน้าที่อย่างครบถ้วน โดยไม่หวังอามิส สินจ้างใด ๆ ง. คนที่คิดว่าตนได้กระทำความดีแล้วหากถูกตำหนิก็ไม่ควรหวั่นไหวหรือ โกรธเคือง
225 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ หน่วยการเรียนรู้ เรื่องฉันรักการอ่าน จำนวน ๑๕ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๓ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทร้อยกรอง จำนวน ๑ ชั่วโมง สอนวันที่.................เดือน.............................................พ.ศ. ............... ๑. มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๒. ตัวชี้วัดชั้นปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ท ๑.๑ ป.๕/๓ อธิบายความหมายโดยนัยจากเรื่องที่อ่านอย่างหลากหลาย ท ๑.๑ ป.๕/๔ แยกข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริงจากเรื่องที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๕/๕ วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน เพื่อนําไปใช้ในการดําเนินชีวิต ท ๑.๑ ป.๕/๘ มีมารยาทในการอ่าน ๓. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านจับใจความสำคัญจากบทร้อยกรอง เรื่อง ธรรมชาตินี้มีคุณจะต้องอ่านทำความ เข้าใจและแปลความเป็นร้อยแก้วก่อน จากนั้นให้สรุปใจความสำคัญโดยค้นหาสาระสำคัญของเรื่องการ ตอบคำถามจากการอ่าน สรุปความรู้จากการอ่านและนำความรู้ที่ได้จากการอ่านไปปรับใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. ด้านความรู้ (k) นักเรียน ๑. นักเรียนบอกความหมายของบทร้อยกรองได้ ๒. นักเรียนอธิบายความหมายของคำในบทร้อยกรองที่อ่านได้ ๓. นักเรียนจับใจความสำคัญและบอกแนวคิดจากบทร้อยกรองที่อ่านได้ ๔. นักเรียนตีความและประเมินค่าจากการอ่านบทร้อยกรองได้ ๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
226 ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ปลูกฝังให้นักเรียนมีพฤติกรรม ดังนี้ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน ๕. สาระการเรียนรู้ การอ่านจับใจความจากบทร้อยกรอง ๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้(กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ Collaborative learning group) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความบทร้อยกรอง จำนวน ๑๐ ข้อ ๒. ให้นักเรียนดูภาพของผู้หญิงประเภทสอง หรือผู้หญิงที.มีลักษณะของทอมบอย หรือกระ เทย เช่น ภาพของครูลิลลี่ นางแบบสาวอรนภา กฤษฎี นักร้อง หรือนักแสดง ๓ – ๔ ภาพ จากนั้นครู พูดบทประพันธ์ข้างล่างให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนวิเคราะห์วิจารณ์ ตามหัวข้อที่กำหนดให้ ดังนี้ ๓. สรุปใจความสําคัญของบทประพันธ์นี้ ๔. จุดประสงค์ของผู้แต่ง ๕. นักเรียนเห็นวาบทประพันธ์นี้ยังมีความทันสมัย หรือ เข้ากับสภาพการณ์ในสังคมยุค ปัจจุบันอยูหรือไม่ ๖. ในความคิดของนักเรียนแล้ว ยอมรับกระเทย หรือ ทอมบอย ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด ขั้นทำกิจกรรมการเรียนรู้ ๗. นักเรียนรวมกลุ่มๆละ ๔-๖ คน โดยคละตามความสามารถตามผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน เก่ง-อ่อน ปานกลาง แต่ละกลุ่มดำเนินการเลือกหัวหน้า เลขานุการ ที่เหลือเป็นสมาชิก ๘. ครูอธิบายหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่ม พร้อมตั้งกติกาการทำงานร่วมกัน ดังนี้ ๘.๑ นักเรียนต้องทำงานร่วมกัน ๘.๒ นักเรียนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เกิดเป็นหญิงให้เห็นว่าเป็นหญิง อย่าทอดทิ้งกริยาอัชฌาศัย เป็นหญิงครึ่งชายครึ่งไม่พึงใจ ใครเขาไม่สรรเสริญเมินอารมณ์ (สวัสดิรักษา สุนทรภู่ ประพันธ์)
227 ๙. หัวหน้ากลุ่มแต่ละกลุ่มรับแบบฝึกทักษะชุดที่ ๕ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทร้อย กรอง ตามจำนวนสมาชิกในกลุ่มโดยปฏิบัติกิจกรรมดังนี้ ๙.๑ อ่านคำชี้แจงแล้วปฏิบัติตามคู่มือการใช้แบบฝึกทักษะ อย่างเป็นขั้นตอน ๙.๒ ศึกษาใบความรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทร้อยกรอง ในแบบฝึกทักษะ หน้าที่ ๘-๙ ในหัวข้อความหมายของร้อยกรอง และความรู้พื้นฐานการอ่านจับใจความกวีนิพนธ์หรือ บทร้อยกรอง เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาด้วยตนเอง โดยมีครูและผู้คอยแนะนำ ชี้แนะ ๙.๓ ตอบคำถามในประเด็นที่ไม่เข้าใจ และครูคอยอธิบาย วิธีการคิด โดยยกตัวอย่าง จาก ใบความรู้ ๙.๔ ครูตั้งคำถามเพื่อทดสอบความรู้ของนักเรียนจากการศึกษาใบความรู้ ก่อนที่จะทำ แบบฝึกทักษะ ๙.๕ นักเรียนตอบคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจจากการศึกษาใบความรู้ ขั้นฝึกฝนผู้เรียน ๑๐. ครูให้นักเรียนฝึกอ่านบทร้อยกรอง เรื่องอย่าเกียจคร้านการเรียน ๑๑. ครูให้นักเรียนบอกใจความสำคัญของบทร้อยกรอง เรื่องอย่าเกียจคร้านการเรียน อย่าเกียจคร้านการเรียน อย่าเกียจคร้านการเรียนเร่งอุตส่าห์ มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน จะตกถิ่นฐานใดคงไม่แคลน ถึงคับแค้นก็พอยังประทังตน อันความรู้รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล อาจจะชักเชิดชูฟูสกนธ์ ถึงคนจนพงศ์ไพร่คงได้ดี เกิดเป็นชายชาวสยามตามวิสัย หนังสือไทยก็ไม่รู้ดูบัดสี ต้องอับอายขายหน้าทั้งตาปี ถึงผู้ดีก็คงด้อยถอยตระกูล จะต่ำเตี้ยเสียชื่อว่าโฉดช้า จะชักพายศลาภให้สาบสูญ ทั้งขายหน้าญาติวงศ์พงศ์ประยูร จะเพิ่มพูนติฉินคำนินทา หนึ่งหนังสือหรือตำรับฉบับบท เป็นของล้วนควรจดจำศึกษา บิดาปู่สู้เสาะสะสมมา หวังให้บุตรนัดดาได้ร่ำเรียน จะได้ทราบบาปบุญทั้งคุณโทษ ปะบุตรโฉดต่ำช้าก็พาเหียร ไม่สมหวังดังบิดาปู่ตาเพียร เนิ่นจำเนียรแพลงพลัดกระจัดกระจาย
228 ๑๒. ครูให้นักเรียนบอกจุดประสงค์ของการแต่ง บทร้อยกรอง เรื่องอย่าเกียจคร้านการเรียน ขั้นสรุปความรู้ ๑๓.นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้รับจากใบความรู้หน้าที่ ๘-๙ ขั้นนำไปใช้ ๑๒. นักเรียนทำแบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๕ แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๑ ๗. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทร้อยกรอง ๒. ใบความรู้ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทร้อยกรอง ๓. แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติงานกลุ่ม ๔. แบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๕ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทร้อยกรอง ๘. วิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ ประเด็นการประเมิน วิธีการวัดผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน ๑. ด้านความรู้ - ตรวจแบบทดสอบ - ตรวจแบบฝึกทักษะ รายบุคคล - แบบทดสอบ - ตรวจแบบฝึกทักษะ ที่ ๑ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒. ทักษะกระบวนการ - สังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน - แบบประเมินด้านทักษะ กระบวนการ - ผ่านเกณฑ์ระดับ ๒ ขึ้นไป ๓. คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ - สังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ผ่านเกณฑ์ระดับ ๒ ขึ้นไป ๙. บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ ๑. ผลการจัดการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน นักเรียน ชั้น ป...../.......ทั้งหมดจำนวน........คน เข้าเรียนจำนวน.............คน ๑.๑ ด้านความรู้ (K) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนผ่าน จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ไม่ผ่าน จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๑.๒ ทักษะกระบวนการ (P) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนที่ได้ระดับดี จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับพอใช้ จำนวน ……….. คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับปรับปรุง จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ………………..
229 ๑.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนที่ได้ระดับดี จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับพอใช้ จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับปรับปรุง จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๒. ปัญหา/อุปสรรค์ที่เกิดขึ้น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………..……………….. (นางสาวนูรียะห์ ยาโงะ) ครูผู้สอน วันที่……เดือน……………………พ.ศ.๒๕๖๖ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มชั้น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………….. (นางสาวพัชรีย์ ศรีทองฉิม) ครูชำนาญการพิเศษ
230 ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้าฝ่ายวิชาการระดับประถมศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….. (นางสาวนูรียะห์ ยาโงะ) หัวหน้าฝ่ายวิชาการ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการสถานศึกษาฝ่ายบริหารงานวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………..……………………….. (นายเถลิงศักดิ์ ราชชำรอง) รองผู้อำนวยการสถานศึกษาเชี่ยวชาญ ผู้รับรองผลการจัดการเรียนรู้ ลงชื่อ…………………………….. (นางศิวพร ยืนชนม์) ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า)
231 แบบบันทึกผลการประเมินการเรียนรู้ ด้านการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๕ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๓ เลขที่ ชื่อ – สกุล แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๑ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน ๑๐ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖
232 เลขที่ ชื่อ – สกุล แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๑ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน ๑๐ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ รวม รวมเฉลี่ย - นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ต้องได้คะแนนทดสอบ ๖ คะแนนขึ้นไป ผลการประเมิน นักเรียนทั้งหมด………………คน ผ่าน จำนวน………………คน คิดเป็นร้อยละ ………………………… ไม่ผ่าน จำนวน………………คน คิดเป็นร้อยละ ………………………… ลงชื่อ …………………………………………………ครูผู้สอน ( ) ตำแหน่ง ครู……………………………………………….………
233 แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ชื่อ………………………………………… นามสกุล………………………..…………….ชั้น…………เลขที่……………. คำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนและทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับคะแนน ความสามารถ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) ความสามารถ ด้านการสื่อสาร ๑.๑ มีความสามารถในการรับ – ส่งสาร ๑.๒ มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจของตนเองโดยใช้ภาษาอย่าง เหมาะสม ๑.๓ ใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสม มี ประสิทธิภาพ ๑.๔ วิเคราะห์แสดงความคิดเห็นอย่างมี ประสิทธิผล ๑.๕ เลือกรับและไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วย เหตุผลและถูกต้อง สรุปผลการประเมิน ความสามารถ ด้านการ วิเคราะห์ ๒.๑ มีความสามารถในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ๒.๒ มีทักษะในการคิดนอกรอบอย่าง สร้างสรรค์ ๒.๓ สามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ ๒.๔ มีความสามารถคิดอย่างมีระบบ ๒.๕ ตัดสินใจแก้ปัญหาเกี่ยวกับตัวเองได้ อย่างเหมาะสม สรุปผลการประเมิน
234 แบบประเมินทักษะ เลขที่ ชื่อ – สกุล กระบวนการ เฉลี่ย ผลการประเมิน การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การเชื่อมโยง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑
235 แบบประเมินทักษะ เลขที่ ชื่อ – สกุล กระบวนการ เฉลี่ย ผลการประเมิน การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การเชื่อมโยง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่าน ไม่ผ่าน ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๒๘ ๒๙ ๓๐ เกณฑ์การประเมินทักษะกระบวนการ ระดับคุณภาพ ๓ (๒.๕๑ -๓.๐๐ คะแนน) ระดับดีมาก ระดับคุณภาพ ๒ (๒.๐๑ -๒.๕๐ คะแนน) ระดับดี (ผ่าน) ระดับคุณภาพ ๑ (๑.๕๑ -๒.๐๐ คะแนน) ระดับ พอใช้ ระดับคุณภาพ ๐ (๐.๐๐-๑.๕๐ คะแนน) ระดับควรปรับปรุง ลงชื่อ…………………………………………………ผู้สอน ( )
236 ภาคผนวก แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๓
237 คำชี้แจง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย × บนตัวอักษร ก ข ค และ ง ที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียวลงใน กระดาษคำตอบ ๑. ข้อใดอธิบายความหมายของคำว่า “ร้อยกรอง”ได้ถูกต้องที่สุด ก. คำประพันธ์ประเภทกลอนสุภาพ ข. งานเขียนที่มีสัมผัสใน มีการเล่นคำ ค. งานเขียนที่เรียบเรียงขึ้นโดยมีลักษณะบังคับจำกัดจำนวนคำ ง. ถ้อยคำที่เรียบเรียงให้เป็นระเบียบตามบัญญัติแห่งฉันทลักษณ์ ๒. ข้อใดไม่จัดเป็นชนิดของบทร้อยกรอง ก. ลิลิต ข. กลอน ค. กาพย์ ง. โคลง ๓. จากคำประพันธ์ผู้แต่งต้องการบอกอะไรแก่ผู้อ่านมากที่สุด ก. คำพูดเหลวไหลมีค่ากว่าคำพูดที่เป็นความจริง ข. ให้เชื่อฟังคำพูดของผู้อื่นนำมาซึ่งความสบายใจ ค. ให้พูดที่เป็นความจริงมีค่ายิ่งนำมาซึ่งความสุขใจ ง. ให้เลิกเชื่อเรื่องต่าง ๆ เพราะจะทำให้อารมณ์ขุ่นมัว แบบทดสอบก่อนเรียน แบบฝึกทักษะชุดที่ ๕ อ่านประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๓ – ๔ คำเหลวไหลหมื่นแสนคำไร้ค่ายิ่ง สู้คำจริงเพียงคำเดียวย่อมไม่ได้ เพราะฟังแล้วสงบล้านคำสุขใจ หยุดหลงใหลคลายขุ่นข้องเลิกหมองมัว
238 ๔. จากคำประพันธ์ข้อใดเป็นเจตนาของผู้เขียน ก. ชี้แจง ข. แนะนำ ค. ขอร้อง ง. เชิญชวน อ่านคำต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม ข้อ ๕ – ๗ ๕. คำประพันธ์ข้างต้นนี้สื่อความตรงกับสำนวนไทยข้อใดมากที่สุด ก. ตัวเป็นเกลียว ข. หว่านพืชหวังผล ค. ลูกไก่อยู่ในกำมือ ง. ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ๖. จากคำประพันธ์คำว่า “สาคร” มีความหมายเหมือนคำในข้อใดทั้งสองคำ ก. บรรพต ไพร ข. โพยม สินธุ ค. นาคา สินธพ ง. วารี อรรณพ ก้าวน้อยน้อย ก้าวน้อยน้อยค่อยก้าวคราวละขั้น อาถึงชั้นสูงเท่านกเขาเหิน ขีดละขั้นครั้งนำทีเข็มชี้เดิน ประกอบเกินกัปกัลป์พุทธันดร เรียงอิฐติดแน่นแผ่นละครั้ง ยังเป็นวังใหญ่เยี่ยมเทียมสิงขร หยาดละหยดวารินรดดินดอน เป็นสาครใหญ่กว้างเวิ้งว้างเอย ฐะปะนีย์ นาครทรรพ : ๒๕๕๓ (หน้า ๑๘๘)
239 ๗. คำประพันธ์วรรคใดสื่อความถึงการประสบความสำเร็จ ก. เรียงอิฐติดแน่นแผ่นละครั้ง ข. หยาดละหยดวารินรดดินดอน ค. ยังเป็นวังใหญ่เยี่ยมเทียมสิงขร ง. ก้าวน้อยน้อยค่อยก้าวคราวละขั้น ๘. คำในข้อใดมีความหมายโดยนัย ก. อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูมิรู้หาย ข. แหวกเมฆใหญ่น้อยที่ลอยขวางหน้า หอบเธอขึ้นฟ้าเป็นดาวเลิศเลอ ค. ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน ง. โบราณว่าถ้าเหลือกำลังลาก ให้ออกปากบอกแขกมาช่วยหาม ๙. ข้อใดเรียงลำดับความบทร้อยกรองต่อไปนี้ได้ถูกต้อง ๑. หอมแต่ตามลมฤๅ กลับย้อน ๒. หอมสุดหอมสะท้อน ทั่วใกล้ไกลถึง ๓. หอมกลิ่นดอกไม้ที่ นับถือ ๔. หอมแห่งกลิ่นกล่าวคือ ศีลสัตย์ นี้นา ก. ๑ ๓ ๒ ๔ ข. ๔ ๓ ๒ ๑ ค. ๓ ๑ ๔ ๒ ง. ๒ ๑ ๔ ๓ ๑๐. คำประพันธ์ข้อใดมีการใช้อุปมาเปรียบเทียบ ก. ใจนี่หนอหนาวเหน็บเจ็บและปวด ข. รอยร้าวรวดรุมรุมเหมือนสุมขอน ค. ยังเย่อหยิ่งเย้ยหยามความอาวรณ์ ง. ทำแสนงอนซ่อนเงื่อนเกลื่อนพิรุธ
240 คำชี้แจง : นักเรียนนำตัวอักษรด้านขวามือมาเติมช่องว่างหน้าคำให้ตรงความหมายมี ทั้งหมด ๑๐ ข้อ ( ๑๐ คะแนน ) แบบฝึกทักษะที่ ๑ ..............๑. แคล้ว ...............๒. โศภิต ..............๓. ธรณี ..............๔. ไพศาล ..............๕. สกุณ ..............๖. จรรโลง ..............๗. สมมาด ...............๘. อาจิณ ...............๙. มาลิน ..............๑๐. สราญรมย์ ก. ผู้แต่งด้วยดวงดอกไม้ ข. กับที่มุ่งหมายไว้ ค. เป็นปรกติ ,ติดเป็นนิสัย,เสมอ ๆ,เนือง ๆ ง. สุขสบาย,น่าบันเทิงใจ จ. งาม,ดี ฉ. แผ่นดิน ช. รอดไป,พ้นไป ซ. นก ฌ. กว้างใหญ่ ญ.ไว้ไม่ให้เซหรือล้มลง,ผดุง,ค้ำชู
241 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ หน่วยการเรียนรู้ เรื่องฉันรักการอ่าน จำนวน ๑๕ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๔ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทร้อยกรอง จำนวน ๑ ชั่วโมง สอนวันที่.................เดือน.............................................พ.ศ. ............... ๑. มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๒. ตัวชี้วัดชั้นปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ท ๑.๑ ป.๕/๓ อธิบายความหมายโดยนัยจากเรื่องที่อ่านอย่างหลากหลาย ท ๑.๑ ป.๕/๔ แยกข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริงจากเรื่องที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๕/๕ วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน เพื่อนําไปใช้ในการดําเนินชีวิต ท ๑.๑ ป.๕/๘ มีมารยาทในการอ่าน ๓. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านจับใจความสำคัญจากบทร้อยกรอง เรื่อง ธรรมชาตินี้มีคุณจะต้องอ่านทำความ เข้าใจและแปลความเป็นร้อยแก้วก่อน จากนั้นให้สรุปใจความสำคัญโดยค้นหาสาระสำคัญของเรื่องการ ตอบคำถามจากการอ่าน สรุปความรู้จากการอ่านและนำความรู้ที่ได้จากการอ่านไปปรับใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. ด้านความรู้ (k) นักเรียน ๑. นักเรียนบอกความหมายของบทร้อยกรองได้ ๒. นักเรียนอธิบายความหมายของคำในบทร้อยกรองที่อ่านได้ ๓. นักเรียนจับใจความสำคัญและบอกแนวคิดจากบทร้อยกรองที่อ่านได้ ๔. นักเรียนตีความและประเมินค่าจากการอ่านบทร้อยกรองได้ ๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
242 ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ปลูกฝังให้นักเรียนมีพฤติกรรม ดังนี้ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน ๕. สาระการเรียนรู้ การอ่านจับใจความจากบทร้อยกรอง ๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้(กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ Collaborative learning group) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. สนทนาและซักถามนักเรียนวา นักเรียนได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองบ้างหรือไม่ ขณะนี้ คนไทยกำลังเกิดความแตกแยกกันทางความคิดอย่างรุนแรง เกิดการก่อม็อบแบ่งสีเสื้อ สุ่มถาม นักเรียนเป็นรายบุคคล ๒ – ๓ คน ว่านักเรียนเห็นด้วยหรือไม่กับม็อบเสื้อสีต่าง ๆ นักเรียนอยากให้ ประเทศของเราเป็นอย่างไรในอนาคต จากนั้นแจ้งให้นักเรียนทราบวา เราจะศึกษาบทร้อยกรองอีก ่ บทหนึ่งซึ่งครูเห็นว่าเหมาะมากสําหรับสถานการณ์ในประเทศของเราในปัจจุบัน ่ จากนั้นโยงเข้าสู่ บทเรียน ขั้นทำกิจกรรมการเรียนรู้ ๒. นักเรียนรวมกลุ่มๆละ ๔-๖ คน โดยคละตามความสามารถตามผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน เก่ง-อ่อน ปานกลาง แต่ละกลุ่มดำเนินการเลือกหัวหน้า เลขานุการ ที่เหลือเป็นสมาชิก ๓. ครูอธิบายหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่ม พร้อมตั้งกติกาการทำงานร่วมกัน ดังนี้ ๓.๑ นักเรียนต้องทำงานร่วมกัน ๓.๒ นักเรียนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ๔. หัวหน้ากลุ่มแต่ละกลุ่มรับแบบฝึกทักษะชุดที่ ๕ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทร้อย กรอง ตามจำนวนสมาชิกในกลุ่มโดยปฏิบัติกิจกรรมดังนี้ ๔.๑ อ่านคำชี้แจงแล้วปฏิบัติตามคู่มือการใช้แบบฝึกทักษะ อย่างเป็นขั้นตอน ๔.๒ ศึกษาใบความรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทร้อยกรอง ในแบบฝึกทักษะ หน้าที่ ๑๐-๑๓ และความรู้พื้นฐานการอ่านจับใจความกวีนิพนธ์หรือบทร้อยกรอง เพื่อทำความเข้าใจ เนื้อหาด้วยตนเอง โดยมีครูและผู้คอยแนะนำ ชี้แนะ ๔.๓ ตอบคำถามในประเด็นที่ไม่เข้าใจ และครูคอยอธิบาย วิธีการคิด โดยยกตัวอย่าง จาก ใบความรู้ ๔.๔ ครูตั้งคำถามเพื่อทดสอบความรู้ของนักเรียนจากการศึกษาใบความรู้ ก่อนที่จะทำ แบบฝึกทักษะ ๔.๕ นักเรียนตอบคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจจากการศึกษาใบความรู้