The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนการอ่านจับใจความสำคัญ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นูรียะห์ ยาโงะ, 2023-12-30 23:00:39

แผนการสอนการอ่านจับใจความสำคัญ

แผนการสอนการอ่านจับใจความสำคัญ

144 เลขที่ ชื่อ – สกุล แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๒ แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๓ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน ๑๐ ๑๐ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ รวม รวมเฉลี่ย - นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ต้องได้คะแนนทดสอบ ๖ คะแนนขึ้นไป ผลการประเมิน นักเรียนทั้งหมด………………คน ผ่าน จำนวน………………คน คิดเป็นร้อยละ ………………………… ไม่ผ่าน จำนวน………………คน คิดเป็นร้อยละ ………………………… ลงชื่อ …………………………………………………ครูผู้สอน ( ) ตำแหน่ง ครู……………………………………………


145 แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ชื่อ………………………………………… นามสกุล………………………..…………….ชั้น…………เลขที่……………. คำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนและทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับคะแนน ความสามารถ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) ความสามารถ ด้านการสื่อสาร ๑.๑ มีความสามารถในการรับ – ส่งสาร ๑.๒ มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจของตนเองโดยใช้ภาษาอย่าง เหมาะสม ๑.๓ ใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสม มี ประสิทธิภาพ ๑.๔ วิเคราะห์แสดงความคิดเห็นอย่างมี ประสิทธิผล ๑.๕ เลือกรับและไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วย เหตุผลและถูกต้อง สรุปผลการประเมิน ความสามารถ ด้านการ วิเคราะห์ ๒.๑ มีความสามารถในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ๒.๒ มีทักษะในการคิดนอกรอบอย่าง สร้างสรรค์ ๒.๓ สามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ ๒.๔ มีความสามารถคิดอย่างมีระบบ ๒.๕ ตัดสินใจแก้ปัญหาเกี่ยวกับตัวเองได้ อย่างเหมาะสม สรุปผลการประเมิน


146 แบบประเมินทักษะ เลขที่ ชื่อ – สกุล กระบวนการ เฉลี่ย ผลการประเมิน การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การเชื่อมโยง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑


147 แบบประเมินทักษะ เลขที่ ชื่อ – สกุล กระบวนการ เฉลี่ย ผลการประเมิน การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสา ร การเชื่อมโยง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่าน ไม่ผ่าน ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๒๘ ๒๙ ๓๐ เกณฑ์การประเมินทักษะกระบวนการ ระดับคุณภาพ ๓ (๒.๕๑ -๓.๐๐ คะแนน) ระดับดีมาก ระดับคุณภาพ ๒ (๒.๐๑ -๒.๕๐ คะแนน) ระดับดี (ผ่าน) ระดับคุณภาพ ๑ (๑.๕๑ -๒.๐๐ คะแนน) ระดับ พอใช้ ระดับคุณภาพ ๐ (๐.๐๐-๑.๕๐ คะแนน) ระดับควรปรับปรุง ลงชื่อ…………………………………………………ผู้สอน ( )


148 ภาคผนวก แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘


149 คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านข่าวที่กำหนดให้ต่อไปนี้แล้วพิจารณาและจำแนกว่าจัดอยู่ในข่าว ประเภทใด แล้วตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ( ๑๐ คะแนน ) แบบฝึกทักษะที่ ๒ ข่าวกีฬา ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวต่างประเทศ ข่าวอาชญากรรม กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุวันนี้ว่า กลุ่มวากเนอร์จะส่งมอบอาวุธยุโธปกรณ์หนัก ให้กับหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพรัสเซีย พร้อมระบุว่า "ขณะนี้กำลังเตรียมการโอนย้ายอาวุธยุโธ ปกรณ์หนักของกลุ่มวากเนอร์ให้กับหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพรัสเซีย" นายเยฟเกนี ปริโกซิน ผู้นำของกลุ่มวากเนอร์ประกาศเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ว่า กลุ่มวาก เนอร์จะออกจากฐานที่มั่นในวันที่ 30 มิ.ย. และจะส่งมอบยุโธปกรณ์ให้กับเขตพื้นที่ทหารทาง ตอนใต้ของเมืองรอสตอฟของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม นายปริโกซินได้กล่าวว่า กองทัพรัสเซียได้ ทำการโจมตีกลุ่มวากเนอร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 มิ.ย.) ซึ่งเป็นระยะเวลาหลายวันก่อนที่การ ประกาศส่งมอบยุโธปกรณ์ครั้งนี้จะมีขึ้น ที่มา : https://www.ryt9.com/world/20230627T164243 วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ ๑. ข่าว……………………………………………………………………….


150 การเสนอชื่อ พลเอก ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีความพร้อมหรือไม่ พลเอก ประวิตร กล่าวว่า ขอยังไม่พูดถึงตอนนั้น ควรรอไปก่อน ขณะที่การประชุมกรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐวันนี้ ก็เป็นการประชุมเรื่องทั่วไป ของ ส.ส.ใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ โดย ยึดหลักให้ปฏิบัติตามข้อบังคับของสภาผู้แทนราษฎร และจะมีการหารือเรื่องการโหวต ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยเพราะต้องเป็นมติพรรค ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230627154938651 วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๖ ๒. ข่าว………………………………………………………………………. วอลเลย์บอลหญิงไทย ยังมีโปรแกรมลงทำการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง หลังจบ ศึกเนชั่นส์ ลีก 2023 รอบแรกการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2023 รอบแรก รวม 3 สัปดาห์ สรุปผลงานทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย แข่ง 12 นัด ชนะ 2 แพ้ 10 มี 8 คะแนน จบอันดับ 14 ของตาราง ไม่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายหรือรอบ Finals ที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 12 ก.ค.-16 ก.ค.2566 ส่วนอันดับโลกรั้ง อันดับที่ 15 ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ๓. ข่าว……………………………………………………………………….


151 น้ำมัน : สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือน กรกฏาคม เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือ ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ที่มา : https://aec10news.com/contents/news/national/217177/ วันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ๔. ข่าว………………………………………………………………………. เรือข้ามฟากชนกระแทกเรือลากจูง นักเรียนล้มระเนระนาด ผอ.เจ้าท่านนท์ สั่งพัก ใบอนุญาตคนขับ เวลา 07.00 น. เกิดเหตุเรือข้ามฟาก ระหว่างท่าน้ำานนท์-ท่าน้ำบางศรีเมือง เฉี่ยวชนกับเรือลากจูงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสาร เป็นซึ่งเป็นเด็กนักเรียนและประชาชนที่เดินทางไปทำงานโดยสารอยู่บนเรือกว่า 50 คน จนทำ ให้ผู้โดยสารบนเรือล้มกลิ้งระเนระนาดไปกับพื้นเรื่อ บางคนถูกน้ำาที่กระเด็นเข้าใส่จนเสื้อผ้า เปียกหลายราย โชคดีที่ไม่มีใครพลัดตกลงไปในแม่น้ำ จนทำให้ผู้โดยส4ที่อยู่ในเหตุ การณ์ระ ที่กดังกล่าวน่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาโพสต์ลงในเพจข่าวของจังหวัดนนทบุรี เพื่อถามหาความ ปลอดภัยจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ที่มา : https://today.line.me/th/v2/article/yzPyDWB วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ๕. ข่าว……………………………………………………………………….


152 คำชี้แจง : จงอ่านบทความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามให้ถูกต้อง ( ๑๐ คะแนน ) ๑. ข่าวนี้เป็นข่าวลักษณะใด ก. ข่าวบันเทิง ข. ข่าวการเมือง ค. ข่าวเศรษฐกิจและสังคม ง. ข่าวประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ๒. ผู้รายงานข่าวคือใคร ก. เอ เอฟ พี ข. รัฐบาลฮ่องกง ค. นายเคน ชอร์ตทริคจ์ ง. หนังสือพิมพ์เซาธ์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต แบบฝึกทักษะที่ ๓ “ไข้หวัดนกระบาด” ฮ่องกง เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน เอเอฟพี รายงานว่า นายเคน ชอร์ตทริดจ์ ผู้เชี่ยวชาญโรค ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งได้รับการเรียกตัวจากรัฐบาลฮ่องกง เพื่อให้ตรวจสอบ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ไข้หวัดนก H๕N๑ ในฮ่องกง เปิดเผยต่อหนังสือพิมพ์ เซาธ์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ถึงการศึกษาวิจัย โรคไข้หวัดนกที่เกิดกับไก่และนกว่า ก่อนที่รัฐบาลจะตัดสินใจฆ่าไก่และสัตว์ปีกอื่น ๆ ราว ๑.๓ ล้านตัว เมื่อปีที่ผ่านมา ไก่ ในตลาดฮ่องกงที่ติดเชื้อไข้หวัดนกมีถึงร้อยละ ๑๙.๕ หรือ ๑ ใน ๕ ตัว ทั้งนี้ จากการ ระบาดของไข้หวัดนก ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อ ๑๘ ราย เสียชีวิตอีก ๖ คน


153 ๓. มีผู้เสียชีวิตเพราะไข้หวัดนกไปแล้วกี่คน ก. ๑.๓ ล้านคน ข. ร้อยละ ๑๙.๕ ค. ๑๘ ราย ง. ๖ คน ๔. ใจความสำคัญของข่าว คือ ก. นายเคน ชอร์ตทริดจ์ ได้รับการเรียกตัวจากรัฐบาลฮ่องกง ข. ไข้หวัดนกเกิดจากเชื้อไวรัส H๕N๑ ค. การระบาดของไข้หวัดนกในไก่ที่ฮ่องกง ง. การระบาดของไข้หวัดนกส่งผลให้คนติดเชื้อไข้หวัดนกและเสียชีวิตไปแล้ว ๕. ใจความรองของข่าวนี้ คือ ก. นายเคน ชอร์ตทริดจ์ ได้รับการเรียกตัวจากรัฐบาลฮ่องกง ข. ไข้หวัดนกเกิดจากเชื้อไวรัส H๕N๑ ค. การระบาดของไข้หวัดนกในไก่ที่ฮ่องกง ง. การระบาดของไข้หวัดนกส่งผลให้คนติดเชื้อไข้หวัดนกและเสียชีวิตไปแล้ว


154 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ หน่วยการเรียนรู้ เรื่องฉันรักการอ่าน จำนวน ๑๕ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ เรื่องการอ่านจับใจความจากข่าว จำนวน ๑ ชั่วโมง สอนวันที่.................เดือน.............................................พ.ศ. ............... ๑. มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๒. ตัวชี้วัดชั้นปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ท ๑.๑ ป.๕/๓ อธิบายความหมายโดยนัยจากเรื่องที่อ่านอย่างหลากหลาย ท ๑.๑ ป.๕/๔ แยกข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริงจากเรื่องที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๕/๕ วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน เพื่อนําไปใช้ในการดําเนินชีวิต ท ๑.๑ ป.๕/๘ มีมารยาทในการอ่าน ๓. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ข่าวเป็นการรายงานเรื่องราวหรือหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยรายละเอียด ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดจนความคิดเห็นของบุคคลสำคัญซึ่งเป็นเรื่องราวที่ทำให้เกิด ความสำคัญและสนใจในขณะนั้นก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และมีการนำเสนออย่างกว้างขวางรวมทั้ง มี ผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมากจึงต้องอาศัยทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ เพราะผู้เขียนจะเขียนข้อคิดเห็น และข้อเท็จจริง ไว้ในเนื้อหาของ ข่าว ดังนั้นเมื่อผู้อ่านมีทักษะในการอ่านจับใจความสำคัญจะสามารถเข้าใจ เนื้อหาของข่าวได้ดียิ่งขึ้น ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. ด้านความรู้ (k) นักเรียน ๑. นักเรียนบอกความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับข่าวและหลักการอ่านจับใจความ ข่าวได้ ๒. นักเรียนอ่านจับใจความ ตีความ วิเคราะห์และประเมินค่าข่าวที่ กําหนดให้อ่านได้ ๓. นักเรียนสรุปข้อคิดอันเป็นประโยชน์ที่ได้รับจากการอ่านข่าวได้ ๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา


155 ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ปลูกฝังให้นักเรียนมีพฤติกรรม ดังนี้ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน ๕. สาระการเรียนรู้ การอ่านจับใจความจากข่าว ๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้(กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ Collaborative learning group) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการอ่านจับใจความจากข่าว ๒. ครูถามนักเรียนโดยใช้คำถามดังนี้ - นอกจากเนื้อหาของข่าว อะไรที่แสดงใจความสำคัญของข่าว - การพาดหัวข่าวสามารถอธิบายอะไรเกี่ยวกับข่าวได้บ้าง ๓. นักเรียนช่วยกันตอบคำถาม ขั้นทำกิจกรรมการเรียนรู้ ๔. นักเรียนรวมกลุ่มๆละ ๔-๖ คน โดยคละตามความสามารถตามผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน เก่ง-อ่อน ปานกลาง แต่ละกลุ่มดำเนินการเลือกหัวหน้า เลขานุการ ที่เหลือเป็นสมาชิก ๕. ครูอธิบายหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่ม พร้อมตั้งกติกาการทำงานร่วมกัน ดังนี้ ๕.๑ นักเรียนต้องทำงานร่วมกัน ๕.๒ นักเรียนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ๖. หัวหน้ากลุ่มแต่ละกลุ่มรับแบบฝึกทักษะชุดที่ ๓ เรื่องการอ่านจับใจความจากข่าว ตามจำนวนสมาชิกในกลุ่มโดยปฏิบัติกิจกรรมดังนี้ ๖.๑ อ่านคำชี้แจงแล้วปฏิบัติตามคู่มือการใช้แบบฝึกทักษะ อย่างเป็นขั้นตอน ๖.๒ ศึกษาใบความรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากข่าว ในแบบฝึกทักษะหน้าที่ ๑๑ ในหัวข้อหลักการอ่านข่าวและพิจารณาข่าว เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาด้วยตนเอง โดยมีครูและผู้คอย แนะนำ ชี้แนะ ๖.๓ ตอบคำถามในประเด็นที่ไม่เข้าใจ และครูคอยอธิบาย วิธีการคิด โดยยกตัวอย่าง จาก ใบความรู้ ๖.๔ ครูตั้งคำถามเพื่อทดสอบความรู้ของนักเรียนจากการศึกษาใบความรู้ ก่อนที่จะทำ แบบฝึกทักษะ ๖.๕ นักเรียนตอบคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจจากการศึกษาใบความรู้


156 ขั้นฝึกฝนผู้เรียน ๗. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปราย สรุปความรู้เรื่องหลักการจับใจความสำคัญและการแยก ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากข่าว ขั้นสรุปความรู้ ๘. นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้รับจากใบความรู้หน้าที่ ๑๑ ขั้นนำไปใช้ ๙. นักเรียนทำแบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๓ แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๔ -๕ ๑๐.นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ๑๐ ข้อ ๗. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความจากข่าว ๒. ใบความรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากข่าว ๓. แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติงานกลุ่ม ๔. แบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๓ เรื่องการอ่านจับใจความจากข่าว ๘. วิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ ประเด็นการประเมิน วิธีการวัดผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน ๑. ด้านความรู้ - ตรวจแบบทดสอบ - ตรวจแบบฝึกทักษะ รายบุคคล - แบบทดสอบ - ตรวจแบบฝึกทักษะ ที่ ๔ - ตรวจแบบฝึกทักษะ ที่ ๕ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒. ทักษะกระบวนการ - สังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน - แบบประเมินด้านทักษะ กระบวนการ - ผ่านเกณฑ์ระดับ ๒ ขึ้นไป ๓. คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ - สังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ผ่านเกณฑ์ระดับ ๒ ขึ้นไป ๙. บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ ๑. ผลการจัดการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน นักเรียน ชั้น ป...../.......ทั้งหมดจำนวน........คน เข้าเรียนจำนวน.............คน ๑.๑ ด้านความรู้ (K) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนผ่าน จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ………………..


157 นักเรียนที่ไม่ผ่าน จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๑.๒ ทักษะกระบวนการ (P) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนที่ได้ระดับดี จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับพอใช้ จำนวน ……….. คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับปรับปรุง จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๑.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนที่ได้ระดับดี จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับพอใช้ จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับปรับปรุง จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๒. ปัญหา/อุปสรรค์ที่เกิดขึ้น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………..……………….. (นางสาวนูรียะห์ ยาโงะ) ครูผู้สอน วันที่……เดือน……………………พ.ศ.๒๕๖๖ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มชั้น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………….. (นางสาวพัชรีย์ ศรีทองฉิม) ครูชำนาญการพิเศษ


158 ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้าฝ่ายวิชาการระดับประถมศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….. (นางสาวนูรียะห์ ยาโงะ) หัวหน้าฝ่ายวิชาการ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการสถานศึกษาฝ่ายบริหารงานวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………..……………………….. (นายเถลิงศักดิ์ ราชชำรอง) รองผู้อำนวยการสถานศึกษาเชี่ยวชาญ ผู้รับรองผลการจัดการเรียนรู้ ลงชื่อ…………………………….. (นางศิวพร ยืนชนม์) ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า)


159 แบบบันทึกผลการประเมินการเรียนรู้ ด้านการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๓ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙ เลขที่ ชื่อ – สกุล แ บบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๔ แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๕ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน ๑๐ ๑๐ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖


160 เลขที่ ชื่อ – สกุล แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๙ แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๑ ๐ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน ๑๐ ๑๐ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ รวมเฉลี่ย - นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ต้องได้คะแนนทดสอบ ๖ คะแนนขึ้นไป ผลการประเมิน นักเรียนทั้งหมด………………คน ผ่าน จำนวน………………คน คิดเป็นร้อยละ ………………………… ไม่ผ่าน จำนวน………………คน คิดเป็นร้อยละ ………………………… ลงชื่อ …………………………………………………ครูผู้สอน ( ) ตำแหน่ง ครู……………………………………………….………


161 แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ชื่อ………………………………………… นามสกุล………………………..…………….ชั้น…………เลขที่……………. คำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนและทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับคะแนน ความสามารถ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) ความสามารถ ด้านการสื่อสาร ๑.๑ มีความสามารถในการรับ – ส่งสาร ๑.๒ มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจของตนเองโดยใช้ภาษาอย่าง เหมาะสม ๑.๓ ใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสม มี ประสิทธิภาพ ๑.๔ วิเคราะห์แสดงความคิดเห็นอย่างมี ประสิทธิผล ๑.๕ เลือกรับและไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วย เหตุผลและถูกต้อง สรุปผลการประเมิน ความสามารถ ด้านการ วิเคราะห์ ๒.๑ มีความสามารถในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ๒.๒ มีทักษะในการคิดนอกรอบอย่าง สร้างสรรค์ ๒.๓ สามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ ๒.๔ มีความสามารถคิดอย่างมีระบบ ๒.๕ ตัดสินใจแก้ปัญหาเกี่ยวกับตัวเองได้ อย่างเหมาะสม สรุปผลการประเมิน


162 แบบประเมินทักษะ เลขที่ ชื่อ – สกุล กระบวนการ เฉลี่ย ผลการประเมิน การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การเชื่อมโยง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑


163 แบบประเมินทักษะ เลขที่ ชื่อ – สกุล กระบวนการ เฉลี่ย ผลการประเมิน การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การเชื่อมโยง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่าน ไม่ผ่าน ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๒๘ ๒๙ ๓๐ เกณฑ์การประเมินทักษะกระบวนการ ระดับคุณภาพ ๓ (๒.๕๑ -๓.๐๐ คะแนน) ระดับดีมาก ระดับคุณภาพ ๒ (๒.๐๑ -๒.๕๐ คะแนน) ระดับดี (ผ่าน) ระดับคุณภาพ ๑ (๑.๕๑ -๒.๐๐ คะแนน) ระดับ พอใช้ ระดับคุณภาพ ๐ (๐.๐๐-๑.๕๐ คะแนน) ระดับควรปรับปรุง ลงชื่อ…………………………………………………ผู้สอน ( )


164 ภาคผนวก แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙


165 คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านข่าวต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม ทั้งปรนัยและอัตนัยตามที่กำหนด ( ๑๐ คะแนน ) แบบฝึกทักษะที่ ๔ กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข เผยแนวโน้มผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้น ย้ำ สถานประกอบการและประชาชนยังคงต้อง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด 19 เพื่อลดเสี่ยงโรคโควิด 19 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูลรายงานสถานการณ์โรคโควิด 19 ของกระทรวงสาธารณสุข ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ระหว่างวันที่ 7 – 13 พฤษภาคม 2566 พบว่า ประเทศไทยมี ผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่ จำนวน 2,352 คน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 14 – 20 พฤษภาคม 2566 จำนวน 2,632 คน และวันที่ 21 -27 พฤษภาคม 2566 มีจำนวน 2,970 คน ส่งผลให้ขณะนี้ ผู้ป่วยสะสม จำนวน 18,039 ราย และผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ปอดอักเสบ 425 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 253 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 7 – 27 พฤษภาคม 2566 จำนวน 128 ราย กระจายในไปหลายจังหวัดของประเทศไทย โดยการติดเชื้อส่วนมากพบใน พื้นที่เรือนจำ โรงเรียน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สถานที่ทำงาน และชุมชน ทั้งนี้ กรมอนามัยจึงขอเน้นย้ำให้สถานประกอบการ และประชาชนยังคงเฝ้าระวัง และป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด 19 โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดความเสี่ยง การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสถานประกอบการ หรือสถานที่ที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการ จำนวนมาก นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยได้มอบหมายให้ทีมปฏิบัติการด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัย สิ่งแวดล้อมของศูนย์อนามัยทุกแห่งประสานการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาคการสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อสื่อสาร สร้างการรับรู้ และประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สำหรับสถานประกอบการสถาน บริการ และประชาชน โดยสถานประกอบการต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด ยึดหลัก จัดการด้านสุขอนามัย สุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ดี คือ 1) ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ดูแล รักษา และหมั่นทำ ความสะอาดจุดสัมผัสร่วม รวมทั้งห้องน้ำห้องส้วม ที่เปิดให้บริการแก่ประชาชนผู้รับบริการอย่างสม่ำเสมอ กรณีสถาน ประกอบการเป็นระบบปรับอากาศ ต้องจัดระบบระบายอากาศภายในที่ดี จัดให้มีจุดล้างมือพร้อมมีอุปกรณ์ล้างอย่าง เพียงพอ 2) ด้านพนักงาน และผู้ปฏิบัติงาน มีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี เข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ ป่วยควร หยุดปฏิบัติงาน พนักงานที่สัมผัสอาหารให้สวมหน้ากากขณะให้บริการ “สำหรับประชาชน แนะนำสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่ออยู่ในพื้นที่คนหนาแน่น หรือพื้นที่ปิดที่อากาศ ไม่ถ่ายเท หากมีอาการไม่สบายหรือเป็นไข้ควรสวมหน้ากากเมื่อออกไปนอกบ้าน หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ เมื่อสัมผัสจุดสัมผัสร่วม และควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ครบตามเกณฑ์หรือ กรณีที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง กลุ่ม 608 และผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว ที่มา : กรมอนามัย https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/060666/ วันที่ 6 มิถุนายน 2566


166 คำสั่ง : ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย × ทับหน้าข้อที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว ๑ . การกระจายของโรคโควิด 19 โดยการติดเชื้อส่วนมากพบที่ใด ก. โรงเรียน ร้านอาหาร สถานที่ทำงาน และชุมชน ข. พื้นที่เรือนจำ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และชุมชน ค. สถานบันเทิง ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สถานที่ทำงาน และชุมชน ง. พื้นที่เรือนจำ โรงเรียน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สถานที่ทำงาน และชุมชน ๒. ข่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อใด ก. ๕ มิถุนายน 2566 ข. ๖ มิถุนายน 2566 ค. ๗ มิถุนายน 2566 ง. ๘ มิถุนายน 2566 ๓. ใครเป็นผู้แถลงข่าวนี้ ก. กรมอนามัย ข. กระทรวงสาธารณสุข ค. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ๔. ข้อไม่ใช่การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด ก. ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม รวมทั้งห้องน้ำห้องส้วม ข. หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ ค. แนะนำสวมหน้ากากเมื่อไม่สบาย ง. พนักงาน และผู้ปฏิบัติงาน เข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์


167 คำชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านข่าวต่อไปนี้แล้วตอบคำให้ถูกต้อง (๑๐ คะแนน) ๑. ข้อใดคือจุดเด่นของอำเภอเบตง ก. ห้างใหญ่ใจกลางเมือง ข. ธรรมชาติสวยงาม อาหารอร่อย ค. สัตว์ป่าน่าชม ง. เมืองโบราณ แบบฝึกทักษะที่ ๕ เบตงสุดสัปดาห์คึกคัก! นักท่องเที่ยวแห่เข้ามาท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียต่างเดินทางเข้า อ.เบตง จ.ยะลา ช่วงวันหยุด สุดสัปดาห์ เพื่อมาขึ้นสกายวอล์ก ชมความงามทะเลหมอกอัยเยอร์เวง และเดิน ท่องเที่ยวในย่านใจกลางเมืองเบตงท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ วันนี้ (16 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ตลอดทั้งวันย่านใจกลางเมืองเบตง จ. ยะลา คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และชาวไทยที่เดินทางมาด้วยรถบัสและ รถยนต์ส่วนตัว อีกทั้งยังมีกลุ่มรถจักรยานยนต์ของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียจอดเรียง รายตลอดริมถนน หลังจากที่รถบัสได้ส่งนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียลง เพื่อให้เดิน ท่องเที่ยวในย่านใจกลางเมืองเบตง ร้านค้าร้านอาหารขายดี โดยมีเจ้าหน้าที่ อส.เมืองเบ ตง คอยอำนวยความสะดวก ที่มา : ข่าวภาคใต้ https://mgronline.com/south/detail/966000006436 วันที่ ๑๖ ก.ค. ๒๕๖๖


168 ๒. ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองเบตงส่วนใหญคือชาติใด ก. มาเลเซีย ข. จีน ค. เกาหลี ง. สิงคโปร์ ๓. ข้อใดเป็นข้อเท็จจริง ก. ร้านค้าร้านอาหารขายดี ข. ชมความงามทะเลหมอกอัยเยอร์เวงที่สวยที่สุด ค. ชาวไทยและชาวมาเลเซียที่เดินทางมาด้วยรถบัสและรถยนต์ส่วนตัว ง. ย่านใจกลางเมืองเบตงคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมาก ๔. อำเภอเบตงอยู่ในจังหวัดใด ก. สงขลา ข. ปัตตานี ค. นราธิวาส ง. ยะลา ๕. นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียแห่ชมความงามที่ใด ก. ทะเลหมอกอัยเวง ข. น้ำตกธารโต ค. บ่อน้ำร้อน ง. ป่าบาลาฮาลา × ๓๗


169 คำชี้แจง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย × บนตัวอักษร ก ข ค และ ง ที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อ เดียวลงในกระดาษคำตอบ ๑. องค์ประกอบใดของข่าวส่วนใดที่สามารถทำให้เราอ่านข่าวแล้วรู้เรื่องได้โดย ตลอด ก. พาดหัวข่าว ข. ความนำ ค. เนื้อข่าว ง. ส่วนเชื่อม ๒. ข่าวในข้อใดจัดเป็นข่าวหนัก ก. ผลวิจัยพบ วงการสีกากี มีส่งส่วยนาย ซื้อตำแหน่งจริง ข. แข้งแซมบ้าซวย น้องหมางับขา ศึกบอลลีกบราซิล ค. แม่สอน “กานดา” มิสทีนไทยแลนด์ อย่างสร้างความเดือดร้อน ง. คนดังแต่งองค์ประชันโฉมชมแฟชั่นโชว์ ๓. ถ้าผู้อ่านมีเวลาน้อย ควรอ่านข่าวในหัวข้อใด จึงจะสามารถทราบเนื้อหาของ ข่าวได้ ก. พาดหัวข่าว ข. เนื้อข่าว ค. ส่วนเชื่อม ง. ความนำ แบบทดสอบหลังเรียน แบบฝึกทักษะชุดที่ ๓


170 ๔. เมื่อนักเรียนอ่านข่าว ข่าวเดียวกันจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับ มักพบว่าส่วนใด ของข่าวที่มีความแตกต่างกัน ก. พาดหัวข่าว ข. เนื้อข่าว ค. ส่วนเชื่อม ง. ความนำ ๕. สำนวนภาษาไทยในการเขียนข่าวที่มักพบว่ามีข้อผิดพลาด เกิดจากสาเหตุใด ก. การขาดความรับผิดชอบในการใช้ภาษา ข. การขาดความรู้ของนักข่าว ค. ขาดการตรวจทานต้นฉบับ ง. ความเร่งรีบในเรื่องของเวลา ๖. ส่วนใดของข่าวที่เราไม่จำเป็นต้องอ่านก็สามารถรู้เรื่องของข่าวนั้นได้โดยตลอด ก. พาดหัวข่าว ข. ส่วนเชื่อม ค. เนื้อข่าว ง. ความนำ ๗. การใช้ภาษาของข่าวในข้อใดเป็นการเรียกร้องความสนใจของผู้อ่านข่าว ก. การใช้คำสแลง คำเฉพาะสมัย หรือคำที่สร้างภาพลักษณ์เกินจริง ข. การใช้ฉายาหรือชื่อเล่มของบุคคล ค. การตัดคำหรือกร่อนคำ ง. การละประธานของประโยค


171 ๘. ข้อใดเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนสนใจข่าวไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในปี ๒๕๕๙ มากที่สุด ก. ความสดใหม่ ข. ความใกล้ชิด ค. ผลกระทบกระเทือน ง. ความขัดแย้ง ๙. ๑. พาดหัวข่าวหรือหัวเรื่อง (Headline) ๒. ส่วนความนำ (Lead) ๓. ส่วนเชื่อม (Neck) ๔. ส่วนเนื้อหา (Body) ข้อใดเรียงลำดับความสำคัญ ของการนำเสนอข่าวได้ถูกต้อง ก. ๑-๒-๓-๔ ข. ๑-๓-๒-๔ ค. ๒-๑-๓-๔ ง. ๒-๑-๔-๓ ๑๐. โครงสร้างของข่าวในข้อใดที่ขาดหายไปแล้วไม่ทำให้ข่าวนั้นขาดความชัดเจน ก. พาดหัวข่าวหรือหัวเรื่อง (Headline) ข. ส่วนความนำ (Lead) ค. ส่วนเชื่อม (Neck) ง. ส่วนเนื้อหา (Body)


172 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๐ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ หน่วยการเรียนรู้ เรื่องฉันรักการอ่าน จำนวน ๑๕ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๐ เรื่องการอ่านจับใจความบทความ จำนวน ๑ ชั่วโมง สอนวันที่.................เดือน.............................................พ.ศ. ............... ๑. มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๒. ตัวชี้วัดชั้นปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ท ๑.๑ ป.๕/๓ อธิบายความหมายโดยนัยจากเรื่องที่อ่านอย่างหลากหลาย ท ๑.๑ ป.๕/๔ แยกข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริงจากเรื่องที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๕/๕ วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน เพื่อนําไปใช้ในการดําเนินชีวิต ท ๑.๑ ป.๕/๘ มีมารยาทในการอ่าน ๓. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด บทความ เป็นข้อเขียนความเรียงที่มีจุดประสงค์เพื่อแสดงความรู้เสนอข้อเท็จจริงความ คิดเห็น ตั้งข้อสังเกต วิเคราะห์วิจารณ์ โดยมีหลักฐาน มีเหตุผลน่าเชื่อถือ หากมีข้อเสนอแนะใด ๆ ต้องเป็นในทางสร้างสรรค์ดังนั้น การคิดวิเคราะห์จากบทความ ผู้อ่านจะต้องอ่านอย่างมีวจารณญาณ คิดไตร่ตรองอย่างมีเหตุผล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อบทความนั้นได้อย่างตรงประเด็น ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. ด้านความรู้ (k) นักเรียน ๑. เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจหลักการอ่านคิดวิเคราะห์ ๒. เพื่อให้นักเรียนสามารถแยกแยะข้อมูล วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล จากบทความที่อ่านได้ ๓. นักเรียนสามารถศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองและใช้กระบวนการอ่านคิดวิเคราะห์ บทความที่อ่านได้ ๔. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต ๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา


173 ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ปลูกฝังให้นักเรียนมีพฤติกรรม ดังนี้ ๑. มีวินัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทำงาน ๕. สาระการเรียนรู้ การอ่านจับใจความจากบทความ ๖. กระบวนการจัดการเรียนรู้ (กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ Collaborative learning group) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องการอ่านจับใจความจากบทความ จำนวน ๑๐ ข้อ ๒. ครูซักถามนักเรียนเพื่อทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับบทความ โดยใช้คำถามดังต่อไปนี้ - บทความ คืออะไร แนวคำคอบบทความ เป็นข้อเขียนความเรียงที่มีจุดประสงค์เพื่อแสดงความรู้ เสนอข้อเท็จจริงความคิดเห็น ตั้งข้อสังเกต วิเคราะห์วิจารณ์ โดยมีหลักฐาน มีเหตุผลน่าเชื่อถือ หากมีข้อเสนอแนะใด ๆ ต้องเป็นในทางสร้างสรรค์ดังนั้น การคิดวิเคราะห์จากบทความ ผู้อ่านจะต้องอ่านอย่างมีวจารณญาณ คิด ไตร่ตรองอย่างมีเหตุผล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อบทความนั้นได้อย่างตรง ประเด็น ๓. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการอ่านจับใจความจากบทความ จุดมุ่งหมายของ การอ่านหลักการอ่านจับใจความจากบทความ การสังเกตข้อความที่เป็น ใจความ สำคัญและพลความ และตำแหน่งของใจความสำคัญ ขั้นทำกิจกรรมการเรียนรู้ ๔. นักเรียนรวมกลุ่ม ๆ ละ ๔-๖ คน โดยคละตามความสามารถตามผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน เก่ง-อ่อน ปานกลาง แต่ละกลุ่มดำเนินการเลือกหัวหน้า เลขานุการ ที่เหลือเป็นสมาชิก ๕. ครูอธิบายหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่ม พร้อมตั้งกติกาการทำงานร่วมกัน ดังนี้ ๕.๑ นักเรียนต้องทำงานร่วมกัน ๕.๒ นักเรียนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ๖. หัวหน้ากลุ่มแต่ละกลุ่มรับแบบฝึกทักษะชุดที่ ๔ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทความ ตามจำนวนสมาชิกในกลุ่มโดยปฏิบัติกิจกรรมดังนี้


174 ๖.๑ อ่านคำชี้แจงแล้วปฏิบัติตามคู่มือการใช้แบบฝึกทักษะ อย่างเป็นขั้นตอน ๖.๒ ศึกษาใบความรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทความ ในแบบฝึกทักษะหน้าที่ ๙-๑๑ เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาด้วยตนเอง โดยมีครูและผู้คอยแนะนำ ชี้แนะ ๖.๓ ตอบคำถามในประเด็นที่ไม่เข้าใจ และครูคอยอธิบาย วิธีการคิด โดยยกตัวอย่าง จาก ใบความรู้ ๖.๔ ครูตั้งคำถามเพื่อทดสอบความรู้ของนักเรียนจากการศึกษาใบความรู้ ก่อนที่จะทำ แบบฝึกทักษะ ๖.๕ นักเรียนตอบคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจจากการศึกษาใบความรู้ ขั้นฝึกฝนผู้เรียน ๗. ครูยกตัวอย่างบทความสั้น ๆ .ให้นักเรียนฝึกอ่านจับใจความ ๘. นักเรียนทุกคนฝึกอ่านจับใจความจากบทความที่ครูยกตัวอย่าง ขั้นสรุปความรู้ ๙. นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้รับจากใบความรู้หน้าที่ ๙-๑๑ ขั้นนำไปใช้ ๑๐. นักเรียนทำแบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๔ แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๑ ๗. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทความ ๒. ใบความรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทความ ๓. แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติงานกลุ่ม ๔. แบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๔ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทความ


175 ๘. วิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ ประเด็นการประเมิน วิธีการวัดผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน ๑. ด้านความรู้ - ตรวจแบบทดสอบ - ตรวจแบบฝึกทักษะ รายบุคคล - แบบทดสอบ - ตรวจแบบฝึกทักษะ ที่ ๑ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๒. ทักษะกระบวนการ - สังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน - แบบประเมินด้านทักษะ กระบวนการ - ผ่านเกณฑ์ระดับ ๒ ขึ้นไป ๓. คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ - สังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ผ่านเกณฑ์ระดับ ๒ ขึ้นไป ๙. บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ ๑. ผลการจัดการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน นักเรียน ชั้น ป...../.......ทั้งหมดจำนวน........คน เข้าเรียนจำนวน.............คน ๑.๑ ด้านความรู้ (K) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนผ่าน จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ไม่ผ่าน จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๑.๒ ทักษะกระบวนการ (P) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนที่ได้ระดับดี จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับพอใช้ จำนวน ……….. คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับปรับปรุง จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๑.๓ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) จำนวนนักเรียนทั้งหมด …………………………….คน นักเรียนที่ได้ระดับดี จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับพอใช้ จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. นักเรียนที่ได้ระดับปรับปรุง จำนวน ………… คน คิดเป็นร้อยละ ……………….. ๒. ปัญหา/อุปสรรค์ที่เกิดขึ้น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………


176 ๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………..……………….. (นางสาวนูรียะห์ ยาโงะ) ครูผู้สอน วันที่……เดือน……………………พ.ศ.๒๕๖๖ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มชั้น ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………….. (นางสาวพัชรีย์ ศรีทองฉิม) ครูชำนาญการพิเศษ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหน้าฝ่ายวิชาการระดับประถมศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….. (นางสาวนูรียะห์ ยาโงะ) หัวหน้าฝ่ายวิชาการ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการสถานศึกษาฝ่ายบริหารงานวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………


177 ลงชื่อ…………..……………………….. (นายเถลิงศักดิ์ ราชชำรอง) รองผู้อำนวยการสถานศึกษาเชี่ยวชาญ ผู้รับรองผลการจัดการเรียนรู้ ลงชื่อ…………………………….. (นางศิวพร ยืนชนม์) ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๕ (บ้านตลาดเก่า)


178 แบบบันทึกผลการประเมินการเรียนรู้ ด้านการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ ชุดที่ ๑๐ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๐ เลขที่ ชื่อ – สกุล แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๑ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน ๑๐ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖


179 เลขที่ ชื่อ – สกุล แบบฝึกทักษะรายบุคคลที่ ๑ คะแนนที่ได้ ร้อยละ ผลการประเมิน ๑๐ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ รวม รวมเฉลี่ย - นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ต้องได้คะแนนทดสอบ ๖ คะแนนขึ้นไป ผลการประเมิน นักเรียนทั้งหมด………………คน ผ่าน จำนวน………………คน คิดเป็นร้อยละ ………………………… ไม่ผ่าน จำนวน………………คน คิดเป็นร้อยละ ………………………… ลงชื่อ …………………………………………………ครูผู้สอน ( ) ตำแหน่ง ครู……………………………………………….……


180 แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ชื่อ………………………………………… นามสกุล………………………..…………….ชั้น…………เลขที่……………. คำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนและทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับคะแนน ความสามารถ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) ความสามารถ ด้านการสื่อสาร ๑.๑ มีความสามารถในการรับ – ส่งสาร ๑.๒ มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจของตนเองโดยใช้ภาษาอย่าง เหมาะสม ๑.๓ ใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสม มี ประสิทธิภาพ ๑.๔ วิเคราะห์แสดงความคิดเห็นอย่างมี ประสิทธิผล ๑.๕ เลือกรับและไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วย เหตุผลและถูกต้อง สรุปผลการประเมิน ความสามารถ ด้านการ วิเคราะห์ ๒.๑ มีความสามารถในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ๒.๒ มีทักษะในการคิดนอกรอบอย่าง สร้างสรรค์ ๒.๓ สามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ ๒.๔ มีความสามารถคิดอย่างมีระบบ ๒.๕ ตัดสินใจแก้ปัญหาเกี่ยวกับตัวเองได้ อย่างเหมาะสม สรุปผลการประเมิน


181 แบบประเมินทักษะ เลขที่ ชื่อ – สกุล กระบวนการ เฉลี่ย ผลการประเมิน การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การเชื่อมโยง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑


182 แบบประเมินทักษะ เลขที่ ชื่อ – สกุล กระบวนการ เฉลี่ย ผลการประเมิน การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การเชื่อมโยง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผ่าน ไม่ผ่าน ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๒๘ ๒๙ ๓๐ เกณฑ์การประเมินทักษะกระบวนการ ระดับคุณภาพ ๓ (๒.๕๑ -๓.๐๐ คะแนน) ระดับดีมาก ระดับคุณภาพ ๒ (๒.๐๑ -๒.๕๐ คะแนน) ระดับดี (ผ่าน) ระดับคุณภาพ ๑ (๑.๕๑ -๒.๐๐ คะแนน) ระดับ พอใช้ ระดับคุณภาพ ๐ (๐.๐๐-๑.๕๐ คะแนน) ระดับควรปรับปรุง ลงชื่อ…………………………………………………ผู้สอน ( )


183 ภาคผนวก แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๐


184 คำชี้แจง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย × บนตัวอักษร ก ข ค และ ง ที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อ เดียวลงในกระดาษคำตอบ ๑. การอ่านคิดวิเคราะห์ หมายถึงข้อใด ก. การอ่านอย่างถูกต้องสามารถจับใจความสำคัญได้ ข. การอ่านอย่างเพลิดเพลินสามารถเข้าใจเรื่องได้อย่างรวดเร็ว ค. การอ่านอย่างใคร่ครวญสามารถแยกแยะสรุปเรื่องอย่างมีเหตุผล ง. การอ่านอย่างเป็นระบบทั้งอ่านในใจอ่านออกเสียงถูกต้องตามอักขรวิธี ๒. ข้อใดเป็นลักษณะของบทความ ก. งานเขียนความเรียงที่มีจุดประสงค์เพื่อแสดงความรู้และจินตนาการของ ผู้เขียนอย่างสร้างสรรค์ ข. งานเขียนร้อยกรองที่มีจุดประสงค์เพื่อแสดงความรู้ความคิดเห็นต่อสิ่งต่าง ๆ อย่างมีสาระ สร้างสรรค์ และมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือ ค. งานเขียนร้อยแก้วหรือร้อยกรองที่มีจุดประสงค์เพื่อเสนอความคิดเห็นของ ผู้เขียนในรูปแบบต่าง ๆอย่างมีประโยชน์ ง. งานเขียนความเรียงที่มีจุดประสงค์เพื่อแสดงความรู้เสนอข้อเท็จจริง ความ คิดเห็นโดยมีหลักฐานและเหตุผลที่น่าเชื่อถือ แบบทดสอบก่อนเรียน แบบฝึกทักษะชุดที่ ๔


185 ๓. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับลักษณะของการอ่านคิดวิเคราะห์ ก. มะลิอ่านนิทานแล้วเล่าเรื่องย่อให้เพื่อนฟังได้ ข. ราตรีอ่านเรื่องสามัคคีเสวกแล้วบอกข้อคิดที่ได้รับจากเรื่องได้ ค. กุหลาบอ่านโคลงสุภาษิตแล้วจับใจความสำคัญได้ ง. พิกุลอ่านและท่องบทอาขยานได้ถูกต้องและไพเราะมาก อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๔-๕ ๔. ผู้ปกครองควรปฏิบัติต่อเด็กอย่างไรที่เป็นวิธีดีที่สุด เพื่อไม่ให้เด็กติดยาเสพติด ก. ให้ความรักความอบอุ่นและ ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ข. สอดส่องติดตามทุกฝีก้าวเมื่อเด็กนัดรวมกลุ่มกันและแจ้งครู ค. สอนให้ลูกรู้จักเลือกคบเพื่อนที่ดีมีฐานะ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาพึ่งพายาเสพ ติด ง. เสนอกฎเกณฑ์ในการเรียนและความประพฤติอย่างเข้มงวดทั้งที่บ้านและ โรงเรียน “ปัจจุบันมีผู้ติดยาเสพติดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนจะติดยาเสพติด มากกว่ากลุ่มคนกลุ่มอื่น และที่น่าเป็นห่วงกำลังแพร่ระบาดสู่เด็กนักเรียนวัย ๙-๑๐ ปี สาเหตุอาจเป็นเพราะถูกเพื่อนชักจูงให้ลองเสพ อยากรู้ อยากลอง ถูกล่อลวง และสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การขาดความอบอุ่นในครอบครัว ปัญหาพ่อแม่หย่าร้างกัน ผู้ใหญ่ไม่ได้สนใจดูแลหรือเป็นที่พึ่งของเด็กได้ เด็กเกิดความว้าเหว่ไม่รู้จะปรึกษาใครเลยหันไปหายาเสพติด”


186 ๕. จุดมุ่งหมายของผู้เขียนบทความนี้คือข้อใด ก. บอกวัตถุประสงค์ในการใช้ยาเสพติดในวัยรุ่น ข. เพื่อให้รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้วัยรุ่นติดยาเสพติด ค. เพื่อให้รู้ถึงโทษของยาเสพติด ง. เพื่อแจ้งจำนวนกลุ่มผู้ติดยาเสพติด อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๖ ๖. คุณธรรมข้อใดสอดคล้องกับความหมายของข้อความนี้มากที่สุด ก. ความโอบอ้อมอารี ข. ความเมตตากรุณา ค. ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ง. ความวิริยะอุตสาหะ อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๗-๘ “คุณครูคะ วันนี้ตอนเดินมาโรงเรียนหนูเห็นคนตาบอดเดินถือไม้เท้าคลำทาง มาตรงทางม้าลายกำลังจะข้ามถนน เขาเดินเซไปเซมาเหมือนจะล้มลงค่ะ หนูจึง เข้าไปประคองแล้วจูงมือเขา ช่วยพาเดินข้ามถนน เขาชมและขอบใจหนูด้วยค่ะ” “แฝกเป็นหญ้าชนิดหนึ่ง ขึ้นเป็นกอ ใบแบนยาว ใช้มุงหลังคาและใช้ทำยา เป็นพืชที่มี ระบบรากลึก เมื่อปลูกแล้วจะช่วยรักษาหน้าดิน พระองค์จึงทรงแนะนำให้นำหญ้า ชนิดนี้ไปปลูกเป็นขั้นบันได เพื่อเป็นการป้องกันการพังทลายของหน้าดิน เพราะเมื่อฝน ตกลงมาหญ้าแฝกจะช่วยดูดซึมน้ำไว้ ไม่ทำให้ดินและน้ำไหลไปสู่ที่อื่น ทำให้เขตพื้นที่ ในแถบนั้นมีความชุ่มชื้น”


187 ๗. พระองค์ ในที่นี้หมายถึงใคร ก. พระสงฆ์ ข. พระพุทธรูป ค´ นายกรัฐมนตรี ง. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๘. ข้อความใดไม่ใช่จุดประสงค์ของการปลูกหญ้าแฝก ก. ลดความแห้งแล้ง ข. ช่วยดูดซับน้ำในดิน ค. ช่วยเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกร ง. ลดการพังทลายของหน้าดิน อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ ๙-๑๐ “ฝนพรำตั้งแต่เมื่อวานเย็นจนกระทั่งเช้าก็ยังไม่หยุด ใครจะบ่นอย่างไรก็หาฟังไม่ มันคงตกเรื่อยไป หน้านี้ฤดูฝน มันทำหน้าที่ของมันแล้วโดยชอบ หากฤดูฝน ฝนไม่ตกสิ น่าประหลาด มันอยู่ห่างดินแต่มีทีท่ารักดิน รักน้ำ รักพฤกษาลดาวัลย์เสียเหลือเกิน อาจเป็นเพราะมันขึ้นไปจากน้ำกระมั่ง ทำนองเดียวกับมนุษย์ย่อมมีหน้าที่อย่างใด อย่างหนึ่ง จึงควรทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ที่สุดตามกำลังความสามารถ มนุษย์ที่ทำ หน้าที่ ใครเล่าจะตำหนิหากถูกตำหนิก็ฟังเฉยเสียเหมือนฝน”


188 ๙. ผู้เขียนแนะนำให้ผู้อ่านทำตัวเช่นเดียวกับฝนในเรื่องใด ก. มีความรับผิดชอบ ข. มีความซื่อสัตย์ ค. มีความเสียสละ ง. มีความเมตตา ๑๐. สาระสำคัญของข้อความนี้คืออะไร ก. ฝนควรภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์ ข. มนุษย์ควรทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ที่สุดตามความสามารถ ค. ฝนตกต้องตามฤดูกาล มันคงทำหน้าที่อย่างครบถ้วน โดยไม่หวังอามิส สินจ้างใด ๆ ง. คนที่คิดว่าตนได้กระทำความดีแล้วหากถูกตำหนิก็ไม่ควรหวั่นไหวหรือ โกรธเคือง


189 ใบความรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความจากบทความ ความหมายและลักษณะของบทความ บทความ หมายถึง ข้อเขียนซึ่งอาจจะเป็นรายงานหรือการแสดงความคิดเห็นมักตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ วารสาร สารานุกรม เป็นต้นบทความจึงเป็นความเรียงประเภทหนึ่งซึ่งมีจุดประสงค์ หลายลักษณะ เช่น เพื่อแสดงความรู้ เสนอข้อเท็จจริง ความคิดเห็น ตั้งข้อสังเกต วิเคราะห์วิจารณ์ ฯลฯ โดยต้องเขียนอย่างมีหลักฐาน มีเหตุผล น่าเชื่อถือ หากมีข้อเสนอแนะใด ๆ ต้องเป็นในทางที่ สร้างสรรค์ ประเภทของบทความ ประเภทของบทความแบ่งตามเนื้อหาบทความได้เป็น ๑๑ ประเภท ได้แก่ ๑. บทบรรณาธิการ เป็นบทความแสดงความคิดเห็นลักษณะหนึ่งที่เขียนขึ้น เพื่อ แสดงแนวคิดหลักของหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ ต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ๒. บทความสัมภาษณ์เป็นบทความที่เขียนขึ้นจากการสัมภาษณ์บุคคลเกี่ยวกับ ความคิดเห็นต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือหลายเรื่อง หรือเกี่ยวกับชีวิตของบุคคลนั้นหรือจาก การสัมภาษณ์บุคคลหลายคนในหัวข้อเดียวกัน ๓. บทความแสดงความคิดเห็นทั่ว ๆ ไป มีเนื้อหาหลายลักษณะ เช่น หยิบยก ปัญหาเหตุการณ์หรือเรื่องที่ประชาชนสนใจมาแสดงความคิดเห็น หรือผู้เขียนเสนอ ความคิดเห็นสนับสนุน หรือคัดค้าน หรือทั้งสนับสนุนและคัดค้านความคิดเห็นในเรื่อง เดียวกันของคนอื่น ๆ เป็นต้น


190 ๔. บทความวิจารณ์เขียนเพื่อแสดงความคิดเห็นในเชิงวิจารณ์เรื่องราวที่ต้องการ วิจารณ์ด้วยเหตุผลและหลักวิชาเป็นสำคัญ ๕. บทความวิเคราะห์เป็นบทความแสดงความคิดเห็นอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนจะ พิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เผยแพร่มาแล้วอย่างละเอียด โดยแยกแยะให้เห็นส่วนต่าง ๆ ของเรื่องนั้น ผู้เขียนเสนอความคิดและวิเคราะห์เหตุการณ์เรื่องราวนั้นอย่างละเอียด แสดง ข้อเท็จจริงเหตุผลเพื่อให้ผู้อ่านได้ความรู้ ความคิดเห็นเพิ่มเติม เกิดความคิดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น แบ่งเป็นบทความวิเคราะห์ข่าวและบทความวิเคราะห์ปัญหา ๖. บทความสารคดีท่องเที่ยว มีเนื้อหาแนวบรรยายเล่าเรื่องเกี่ยวกับสถานที่ ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่มีทัศนียภาพสวยงามหรือมีความสำคัญในด้านต่าง ๆ เพื่อแนะนำให้ ผู้อ่านรู้จักสถานที่ท่องเที่ยว ชักชวนให้สนใจไปพบเห็นสถานที่นั้น ๆ ๗. บทความกึ่งชีวประวัติเป็นการเขียนบางส่วนของชีวิตบุคคลเพื่อให้ผู้อ่านทราบ โดยเฉพาะคุณสมบัติหรือผลงานเด่นที่ทำให้บุคคลนั้นมีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จในชีวิต เพื่อชื่นชม ยกย่องเจ้าของประวัติและชี้ให้ผู้อ่านได้แง่คิดเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ๘. บทความรอบปีเป็นบทความที่มีเนื้อหาแนวบรรยาย เล่าเรื่องเกี่ยวกับเรื่องราว เหตุการณ์พิธีการในเทศกาลหรือวันสำคัญ เช่น วันสำคัญทางศาสนา ทางประวัติศาสตร์ ทางวัฒนธรรม เกี่ยวกับบุคคลสำคัญ เป็นต้น ๙. บทความให้ความรู้ทั่วไป ผู้เขียนจะอธิบายให้ความรู้และคำแนะนำในเรื่อง ทั่ว ๆ ไปที่ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น มารยาทการเข้าสังคม การแต่งกายให้ เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคลิกภาพ เคล็ดลับการครองชีวิตคู่ เป็นต้น ๑๐. บทความเชิงธรรมะ จะอธิบายข้อธรรมะให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย หรือให้คติ ในแนวทางการดำเนินชีวิตตามแนวพระพุทธศาสนา เสนอหาทางแก้ปัญหาตามแนวพุทธ ปรัชญา ๑๑. บทความวิชาการ มีเนื้อหาแสดงข้อเท็จจริง ข้อความรู้ทางวิชาการเรื่องใด เรื่องหนึ่ง ในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่งโดยเฉพาะ


191 ลักษณะของบทความที่ดี ลักษณะของบทความที่ดี ควรมีลักษณะ ๔ ประการ ดังนี้ ๑. เอกภาพ กล่าวคือ เนื้อหาของบทความมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีทิศทาง ของเนื้อหาไปในทางเดียวกัน เพื่อมุ่งสู่ประเด็นหลักที่ต้องการนำเสนอ ๒. สารัตถภาพ กล่าวคือ ผู้เขียนต้องเน้นย้ำประเด็นสำคัญให้ชัดเจนว่า ต้องการ นำเสนอแนวคิดสำคัญอะไร ประโยคใจความสำคัญหรือสาระสำคัญที่โดดเด่นคืออะไร ๓. สัมพันธภาพ กล่าวคือ มีความสัมพันธ์กันโดยตลอด ทั้งในด้านการเรียบเรียง ถ้อยคำ ข้อความ และการจัดลำดับเรื่องทุกประโยคในแต่ละย่อหน้า และย่อหน้าในแต่ละ เรื่องต้องเชื่อมโยงเข้าด้วยกันด้วยการใช้คำเชื่อมข้อความ ๔. ความสมบูรณ์กล่าวคือ มีความสมบูรณ์ในด้านเนื้อหา มีเนื้อความชัดเจน กระจ่างแจ้ง อธิบายได้ครอบคลุมความคิดหลักที่ต้องการนำเสนอ ข้อมูลที่นำเสนอเป็น ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง หากเป็นความคิดเห็นต้องมีความสมเหตุสมผล องค์ประกอบของบทความ การเขียนบทความ ควรมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้ ๑. ชื่อเรื่อง ต้องสื่อความหมายอย่างชัดเจนว่าผู้เขียนต้องการนำเสนอเรื่องอะไร ๒. ส่วนเกริ่นนำ หรือ คำนำ เป็นการนำผู้อ่านเข้าสู่เรื่อง ๓. ส่วนเนื้อเรื่อง เป็นส่วนของการดำเนินเรื่องทั้งหมด ๔. ส่วนสรุป เป็นส่วนสรุปจุดยืนของผู้เขียนที่มีต่อเรื่องและวัตถุประสงค์ในการเขียน


192 คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้องได้ใจความ ( ๑๐ คะแนน ) ๑. บทความ คืออะไร ( ๒ คะแนน ) ตอบ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ๒. บทความมีกี่ประเภท อะไรบ้าง (๓ คะแนน ) ตอบ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ๓. ลักษณะของบทความที่ดีเป็นอย่างไร ( ๓ คะแนน ) ตอบ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ๔. องค์กอบของบทความมีอะไรบ้าง ( ๒ คะแนน ) ตอบ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... แบบฝึกทักษะที่ ๑


193 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ หน่วยการเรียนรู้ เรื่องฉันรักการอ่าน จำนวน ๑๕ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ เรื่องการอ่านจับใจความจากบทความ จำนวน ๑ ชั่วโมง สอนวันที่.................เดือน.............................................พ.ศ. ............... ๑. มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา และสร้างวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ๒. ตัวชี้วัดชั้นปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ท ๑.๑ ป.๕/๓ อธิบายความหมายโดยนัยจากเรื่องที่อ่านอย่างหลากหลาย ท ๑.๑ ป.๕/๔ แยกข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริงจากเรื่องที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๕/๕ วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน เพื่อนําไปใช้ในการดําเนินชีวิต ท ๑.๑ ป.๕/๘ มีมารยาทในการอ่าน ๓. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด บทความ เป็นข้อเขียนความเรียงที่มีจุดประสงค์เพื่อแสดงความรู้เสนอข้อเท็จจริงความ คิดเห็น ตั้งข้อสังเกต วิเคราะห์วิจารณ์ โดยมีหลักฐาน มีเหตุผลน่าเชื่อถือ หากมีข้อเสนอแนะใด ๆ ต้องเป็นในทางสร้างสรรค์ดังนั้น การคิดวิเคราะห์จากบทความ ผู้อ่านจะต้องอ่านอย่างมีวจารณญาณ คิดไตร่ตรองอย่างมีเหตุผล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อบทความนั้นได้อย่างตรงประเด็น ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. ด้านความรู้ (k) นักเรียน ๑. เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจหลักการอ่านคิดวิเคราะห์ ๒. เพื่อให้นักเรียนสามารถแยกแยะข้อมูล วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล จากบทความที่อ่านได้ ๓. นักเรียนสามารถศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองและใช้กระบวนการอ่านคิดวิเคราะห์ บทความที่อ่านได้ ๔. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต ๒. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา


Click to View FlipBook Version