The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by joobjoob_ii, 2022-05-04 22:21:55

โครงสร้างและแผนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ป.2 เทอม 1 ปีการศึกษา 2565

วิชาคณิตศาสตร์ ป.2เทอม 1
นางศิริพัฒน์ ณ นคร

ขน้ั ท่ี 2 คณู ในหลักสบิ 4

32 0

ดงั นนั้ 4 × 80 = 320

3. ครแู บง่ นักเรยี นเป็นกลุม่ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั แสดงวธิ ีหาผลคูณโดยการต้งั คูณตามตวั อย่างในหนงั สือเรียน หนา้

275 จากน้นั ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้องครูเน้นย้าวา่ การหาผลคณู โดยการต้งั คณู ใหค้ ูณในหลกั หน่วยก่อน

แลว้ จงึ คณู ในหลกั สบิ จากน้ันให้นกั เรยี นช่วยกันหาผลคณู ข้อท่ี 1 − 8 โดยการตัง้ คณู ลงในสมุด

ขน้ั อธิบายความรู้

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยให้นักเรยี นแสดงวธิ หี าผลคูณโดยการตง้ั คณู ตามหนังสือเรยี นหน้า 276 และ

ใชข้ ้อสรปุ วา่ ใหค้ ูณในหลกั หนว่ ยก่อนแล้วจึงคูณในหลักสิบ จากนนั้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ

สงิ่ ที่ไดเ้ รยี นรู้ ถ้ามีนกั เรียนเขียนแสดงวิธีหาผลคณู โดยการตัง้ คณู ไม่ถูกต้องครูควรให้นักเรียนมาฝึกเพ่ิมเติมกบั ครูเป็นรายบุคคล

ขั้นสรุป

ข้นั ขยายความเข้าใจ

• การหาผลคณู ของจานวนหน่ึงหลกั กบั จานวนสองหลักโดยการตั้งคูณต้องคูณในหลกั หน่วยก่อน แล้วคูณในหลกั สบิ

ข้นั ตรวจสอบผล

- ให้นกั เรียนทาแบบฝกึ หดั หน้า 176 - 177

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วิธกี ารวดั ผล เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
- คาถามกระตุน้ ความคดิ 70% ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน
ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ
แบบฝกึ หดั 70% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผา่ น
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานรว่ มกับกลุม่ 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมิน
-การใหเ้ หตผุ ล

-การสรุปความรูก้ ารปฏบิ ัติ

คณุ ลักษณะนสิ ยั (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ

ทางานร่วมกบั กลมุ่

7. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้

1. แผ่นตารางสบิ แผ่นตารางหน่วย

7.2 แหล่งการเรียนรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครผู ู้สอน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 18

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/…….……... ช่อื ผูส้ อน …………………………….…….......................

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 2 คาบ

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 การคณู เร่ือง การคูณจานวนหน่ึงหลักกบั จานวนสองหลกั โดยการ

ตงั้ คูณ(2)


1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วดั

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลท่เี กดิ ข้ึนจาก

การดาเนินการ สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชวี้ ดั ที่ ป.2/5 หาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคูณ ของจานวน 1 หลกั ตบั จานวนไม่เกิน 2 หลัก

ป.2/8 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ข้ันตอนของจานวนนบั ไม่เกิน1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

• การหาผลคูณของจานวน 1 หลักกบั จานวน2 หลักโดยการตง้ั คูณ ตอ้ งคูณในหลักหน่วยก่อน แลว้ คณู ในหลกั สบิ ถา้

ผลคณู ในหลักใดครบสิบ หรือมากกว่าสิบ ใหท้ ดจานวนที่ครบสบิ ไปหลักถดั ไปทางซา้ ย

• ความรู้สกึ เชิงจานวนเกี่ยวกับการคณู เป็นการบอกวา่ ผลคูณของจานวนสองจานวนใดมีคา่ มากกวา่ กัน นอ้ ยกวา่ กนั

หรอื เท่ากันโดยไม่ต้องหาผลคูณของสองจานวนนน้ั

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

หาผลคูณจานวนหนึง่ หลักกบั จานวนสองหลัก โดยการต้ังคูณ

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ิธกี ารทีเ่ หมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคณุ ลกั ษณะ(A)

มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมั่นใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ

การคูณจานวนหนึ่งหลักกับจานวนสองหลักโดยการ พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

ตั้งคูณ

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1-2
ขั้นนา

ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ

3. ครทู บทวนการหาผลคูณโดยการตง้ั คูณท่ีไม่มีทดโดยใชแ้ บบฝกึ หัดจากช่ัวโมงท่แี ล้วมาเฉลยในหอ้ งเรยี นจากนน้ั ครู

สนทนากับนักเรยี นเกย่ี วกับสถานการณ์ในหนงั สือเรยี นหน้า 277 ตน้ กลา้ ซือ้ ไก่สะเต๊ะ 3 ถุง ถงุ ละ 15 ไม้ ต้นกลา้ ซ้ือ

ไกส่ ะเตะ๊ ทงั้ หมดก่ไี ม้

ข4น้ั .สอน

ข้ันสารวจคน้ หา

1. ครทู บทวนการหาผลคูณโดยการตงั้ คูณที่ไม่มีทดโดยใชแ้ บบฝกึ หัดจากชวั่ โมงทีแ่ ลว้ มาเฉลยในหอ้ งเรียนจากนนั้ ครสู นทนากับ

นกั เรยี นเกย่ี วกบั สถานการณใ์ นหนังสอื เรียนหนา้ 277 ต้นกลา้ ซอ้ื ไกส่ ะเต๊ะ 3 ถุง ถงุ ละ 15 ไม้ ต้นกลา้ ซื้อไก่สะเต๊ะทั้งหมดก่ีไม้

ครูถามนักเรยี นว่า จากสถานการณเ์ ขียนประโยคสญั ลักษณ์ได้อย่างไร

นักเรียนตอบวา่ เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ได้ 3 × 15 = 

ครถู ามนักเรยี นว่า จะหาผลคูณโดยการต้ังคูณได้อย่างไร ครูอธบิ ายการหาผลคณู โดยการตั้งคูณท่ีมีทด ดงั น้ี

ข้ันท่ี 1 คณู ในหลักหนว่ ย 3 คณู 5 หนว่ ยได้ 15 หน่วยหรือ 1 สิบกับ 5 หนว่ ย เขียน 5 ในหลกั หนว่ ย

และทด 1 สบิ ไปหลกั สิบ

ขน้ั ท่ี 2 คูณในหลกั สิบ 3 คณู 1 สิบ ได้ 3 สบิ รวมกบั ท่ีทดมาอกี 1 สบิ เป็น 4 สบิ เขยี น 4 ในหลกั สบิ

เขียนแสดงการคณู ไดด้ ังนี้

หลกั สิบ หลักหน่วย
11 5×

3

45

ดงั น้ัน ตน้ กล้าซื้อไก่สะเต๊ะท้งั หมด 45 ไม้

2. ครยู กตัวอย่างการหาผลคูณโดยการต้ังคูณตามหนังสอื เรียนหนา้ 278 8 × 47 =  ซง่ึ ในตัวอยา่ งนีผ้ ลคูณจะเปน็

จานวนสามหลกั ครูอธบิ ายข้ันตอนการต้ังคูณ ดังนี้

ขน้ั ท่ี 1 คณู ในหลกั หนว่ ย 8 คณู 7 หนว่ ยได้ 56 หน่วย หรือ 5 สิบกับ 6หนว่ ย เขียน 6 ในหลักหนว่ ย และทด5 สิบ

ไปหลกั สบิ

ขัน้ ท่ี 2 คณู ในหลักสบิ 8 คูณ 4 สบิ ได้ 32 สิบ รวมกบั ท่ที ดมาอีก 5 สบิ เป็น 37 สิบ หรอื 3 ร้อย กับ 7 สิบเขยี น 7

ในหลกั สบิ และ 3 ในหลกั รอ้ ย เขียนแสดงการคูณไดด้ งั น้ี

หลักรอ้ ย หลกั สบิ หลกั หนว่ ย

4 7×

8

376

ดังน้ัน 8 × 47 = 376

ครแู นะนาว่า ในการหาผลคูณโดยการต้งั คูณไมจ่ าเปน็ ตอ้ งเขียน หลกั หน่วย หลกั สบิ หลกั รอ้ ย จากนนั้ ครูช่วยกันแสดงวธิ ีหา

ผลคณู ของ 39 × 6 =  และ 9 × 27 =  ในกรอบทา้ ยหน้า 278 ครแู ละนักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง

3. ครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกันแสดงวิธหี าผลคณู ของจานวนหนึ่งหลกั กับจานวนสองหลกั โดยการตั้งคูณ

ทม่ี ีทด ตามหนังสือเรยี น หนา้ 279 จากนัน้ ครสู มุ่ นักเรียนออกมาเขียนแสดงวิธีหาผลคณู ของ 34 × 7 =  ครแู ละนักเรยี น

รว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง แลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกันหาผลคณู ข้อท่ี 1 − 8 โดยการต้ังคูณลงในสมุด

ขั้นอธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยให้นักเรยี นแสดงวธิ หี าผลคูณโดยการตง้ั คณู ตามหนังสอื เรียน หนา้ 280และ
ใช้ข้อสรุปวา่ ใหค้ ูณในหลกั หนว่ ยกอ่ นแล้วจงึ คูณในหลกั สิบ หากผลคูณในหลกั หนว่ ยครบสิบหรือมากกว่าสิบใหท้ ดจานวนที่
ครบสิบไปหลักสิบหากผลคณู ในหลักสบิ ครบสิบหรอื มากกวา่ สบิ ให้ทดจานวนทค่ี รบสิบไปหลกั ร้อย จากนัน้ ครูและนักเรียน
รว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปส่งิ ที่ได้เรยี นรู้ ถา้ มนี ักเรียนเขยี นแสดงวธิ หี าผลคูณโดยการตั้งคณู ไม่ถกู ต้อง ครูควรให้
นักเรียนมาฝึกเพ่ิมเติมกับครูเป็นรายบุคคล

ข้นั ขยายความเข้าใจ

• การหาผลคณู ของจานวนหนึ่งหลักกับจานวนสองหลักโดยการตั้งคูณ ต้องคณู ในหลักหนว่ ยก่อนแล้วคูณในหลกั สิบ ถ้า
ผลคณู ในหลกั ใดครบสบิ หรือมากกว่าสบิ ใหท้ ดจานวนท่คี รบสบิ ไปหลกั ถดั ไป

ทางซา้ ยข้นั ตรวจสอบผล

- ให้นักเรียนทาแบบฝกึ หัดหนา้ 178- 180

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมินผลจุดประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมินผล
- คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่าน
ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ
แบบฝกึ หัด 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่าน
-การสงั เกต เกณฑ์การประเมิน
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานร่วมกับกลมุ่ 70% ข้ึนไป ถือว่าผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
-การใหเ้ หตผุ ล

-การสรุปความรู้การปฏิบตั ิ

คณุ ลกั ษณะนิสยั (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ

ทางานรว่ มกบั กลุม่

7. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้

7.1 สอ่ื การเรยี นรู้

1. แผ่นตารางสบิ แผ่นตารางหนว่ ย

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครูผู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่อื ................................................... ผ้บู ริหาร

(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 18

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/…………... ชอ่ื ผ้สู อน …………………………….…….......................
กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การคณู ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 จานวน 1 คาบ

เร่อื ง การพัฒนาความรสู้ กึ เชิงจานวนเกีย่ วกับการคูณ

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้วี ดั

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กิดขึน้ จาก

การดาเนินการ สมบตั ขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตวั ชี้วัดที่ ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลกั ตับจานวนไม่เกนิ 2 หลกั

ป.2/8 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขนั้ ตอนของจานวนนบั ไม่เกิน1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

• การหาผลคูณของจานวน 1 หลกั กบั จานวน2 หลักโดยการตง้ั คูณ ตอ้ งคูณในหลกั หน่วยก่อน แล้วคณู ในหลักสิบ ถา้

ผลคูณในหลักใดครบสิบ หรอื มากกว่าสบิ ใหท้ ดจานวนที่ครบสบิ ไปหลักถัดไปทางซา้ ย

• ความรู้สึกเชิงจานวนเกยี่ วกับการคูณเปน็ การบอกวา่ ผลคูณของจานวนสองจานวนใดมีคา่ มากกว่ากัน น้อยกวา่ กัน

หรอื เทา่ กันโดยไมต่ ้องหาผลคูณของสองจานวนน้ัน

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

พฒั นาความร้สู ึกเชงิ จานวนเกี่ยวกับการคูณ

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธกี ารทเี่ หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ด้านคุณลักษณะ(A)

มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมั่นใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่ิน

การพัฒนาความรู้สึกเชงิ จานวนเกยี่ วกับการคณู พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1
ขนั้ นา

ข้นั กระตุ้นความสนใจ

1. ครบู ทวนการหาผลคูณของจานวนหนึง่ หลกั กับจานวนหน่ึงหลัก โดยสมุ่ นักเรียนหาผลคูณของ 5 × 8 , 5 × 9 และ
5 × 10 ครูเขียน 5 × 8 = 40 5 × 9 = 45 และ 5 × 10 = 50 บนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนสงั เกตผลคูณท่ีไดว้ า่ เพม่ิ ขึ้นหรือ
ลดลง (40 45 และ 50 เปน็ จานวนท่ีเพ่มิ ขนึ้ )

ครูให้นักเรยี นสงั เกตจานวนท่ีมาคณู กบั 5 ว่า เพิ่มขึน้ หรือลดลง (8 9 และ 10 เปน็ จานวนท่ีเพิ่มข้ึน) ครใู ช้คาถามวา่ ถ้าหา
5 × 12 จะไดผ้ ลคูณมากกว่าหรือน้อยกว่า 5 × 10

ข5้นั .สอน

ข้ันสารวจคน้ หา

1. ครบู ทวนการหาผลคณู ของจานวนหนึ่งหลักกับจานวนหน่ึงหลัก โดยสุ่มนักเรียนหาผลคูณของ 5 × 8 , 5 × 9 และ 5 × 10
ครเู ขยี น 5 × 8 = 40 5 × 9 = 45 และ 5 × 10 = 50 บนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนสังเกตผลคูณที่ได้ว่าเพ่ิมขึ้นหรือลดลง (40
45 และ 50 เปน็ จานวนทเ่ี พมิ่ ขน้ึ ) ครูใหน้ ักเรยี นสังเกตจานวนที่มาคูณกับ 5 ว่า เพิ่มข้ึนหรือลดลง (8 9 และ 10 เป็นจานวนท่ี
เพ่ิมข้ึน) ครูใช้คาถามว่า ถ้าหา 5 × 12 จะได้ผลคูณมากกว่าหรือน้อยกว่า 5 × 10 นักเรียนตอบว่า มากกว่าเพราะ 12
มากกว่า 10 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า จานวนสองจานวนเมื่อนาแต่ละจานวนมาคูณกับ 5 จานวนใดมากกว่าผลคูณของ
จานวนน้ันกับ 5 จะมากกว่า จากน้ันครูให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนในลักษณะเดียวกันนี้ เช่น4 × 6 และ 4 × 13 ครูถาม
ว่า 4 × 6 กับ 4 × 13 ผลคูณของจานวนใดมากกว่า นักเรียนตอบว่า 4 × 13 ครูถามว่า รู้ได้อย่างไร นักเรียนตอบว่า เพราะ
13 มากกว่า 6 ดังนั้น 4 × 13 มากกว่า 4 × 6ครูติดบัตรโจทย์การคูณ 7 × 6 และ 7 × 9 และถามว่า 7 × 6 กับ 7 × 9 ผล
คูณใดมากกวา่ ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายและสรปุ วา่ ผลคณู ของ 7 × 9 มากกวา่ 7 × 6 เพราะ 9 มากกว่า 6
ครูติดบัตรโจทย์การคูณ 12 × 5 และ 8 × 12 และถามว่า 12 × 5 กับ 8 × 12 ผลคูณใดน้อยกว่า ครูและนักเรียนร่วมกัน
อภปิ รายและสรุปคาตอบว่า ผลคณู ของ 12 × 5 น้อยกว่า 8 × 12 เพราะ 5 น้อยกว่า 8 ครูและนักเรียนช่วยกันเรียงลาดับผล
คูณจากมากไปน้อยในกรอบท้ายหน้า 281 โดยให้สังเกตว่า จานวนสองจานวนที่นามาคูณกันน้ันมีจานวนใดที่เหมือนกัน แล้ว
ให้พิจารณาจานวนอกี จานวนหนึ่งว่า น้อยกวา่ กนั หรอื มากกวา่ กัน โดยไม่จาเปน็ ต้องหาผลคูณของสองจานวนน้ัน

2. ครใู หน้ ักเรยี นหาผลคูณของ 1 × 3 และ 2 × 4 แล้วถามนกั เรียนว่า ผลคูณใดมากกวา่ นักเรยี นตอบวา่ 2 × 4 = 8
มผี ลคูณมากกวา่ 1 × 3 = 3 ครูใหน้ กั เรียนหาผลคูณของ 2 × 3 และ 4 × 5 แลว้ ถามนกั เรียนวา่ ผลคณู ใดมากกว่า นักเรียน
ตอบวา่ 4 × 5 = 20 มผี ลคูณมากกวา่ 2 × 3 = 6 จากนน้ั ครูถามนักเรียนว่า 2 × 5 และ 4 × 6 ผลคูณใดมากกวา่ โดยไมต่ ้อง
หาผลคณู นักเรียนอาจจะยังตอบไมไ่ ด้ ครูใหน้ ักเรยี นสงั เกตวา่ 4 มากกว่า 2 และ 6 มากกวา่ 5 ดังนน้ั 4 × 6 มากกวา่ 2 × 5
ครูติดบัตรโจทย์การคูณ 11 × 3 และ 12 × 5 ผลคณู ใดมากกวา่ โดยไม่ตอ้ งหาผลคูณนกั เรยี นอาจยงั ตอบไม่ได้ ครอู าจให้
นกั เรยี นหาผลคณู ก่อน ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 282 จากนน้ั ให้นักเรยี นสงั เกต ดงั นี้ 11 × 3 กบั 12 × 5 ผลคณู ใดมากกวา่
สังเกต 11 กับ 12 จานวนใดมากกวา่ (12 มากกว่า 11) 3 กับ 5 จานวนใดมากกวา่ (5 มากกวา่ 3) ดังน้นั 12 × 5 มีผลคณู
มากกว่า 11 × 3 จากนนั้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ขอ้ สงั เกตท่ีได้ คอื 12 มากกวา่ 11 และ 5 มากกวา่ 3 จงึ ไดว้ า่ 12 × 5 มี
ผลคณู มากกวา่ 11 × 3 ครตู ิดบัตรโจทย์การคูณ 78 × 9 กับ 56 × 7 และถามวา่ ผลคณู ใดน้อยกวา่ เพราะเหตใุ ด
โดยไมต่ อ้ งหาผลคณู ครูใหน้ ักเรียนสงั เกตจานวนสองจานวนทีน่ ามาคูณกันแล้วใชข้ ้อสรปุ ท่ีได้จากข้างต้นเพ่ือหาคาตอบวา่ ผล
คณู ของสองจานวนใดน้อยกว่า ดังนี้ 56 นอ้ ยกว่า 78 และ 7 นอ้ ยกวา่ 9 ดงั นั้น 56 × 7 มีผลคณู น้อยกวา่ 78 × 9 ครูให้
นกั เรียนชว่ ยกันตอบคาถามในกรอบท้ายหน้า 282 ครูและนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง

3. ครูใหน้ ักเรียนช่วยกนั เติมเครอื่ งหมาย > < หรือ = ใน โดยครูอาจใช้คาถามนาเพื่อให้นักเรียนนาข้อสรปุ ขา้ งต้นมา
ใชใ้ นการเปรยี บเทียบผลคูณ เช่น 6 × 53 กับ 7 × 53 จานวนทีเ่ หมอื นกนั คอื 53 จานวนทน่ี ามาคูณกับ 53 คือ 6 กบั 7
ครูถามว่า จานวนใดนอ้ ยกวา่ นักเรยี นตอบว่า 6 นอ้ ยกว่า 7 ครถู ามต่อไปวา่ 6 × 53 กบั 7 × 53 ผลคณู ใดนอ้ ยกวา่
นักเรียนควรตอบได้วา่ 6 × 53 มีผลคณู น้อยกว่า 7 × 53 ข้ออนื่ ๆ ครใู ห้นกั เรียนช่วยกันทา สาหรับข้อที่ให้เตมิ ตวั เลขแสดง
จานวนนนั้ อาจมคี าตอบหลายคาตอบ ครคู วรใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบมาเติมเพียงจานวนเดยี ว ซง่ึ คาตอบของนักเรียนแต่ละคน
อาจไมเ่ หมอื นกัน หากมีนกั เรียนคนใดตอบไม่ถกู ตอ้ ง ครูอาจอธิบายเพิ่มเติม เช่น 19 × 3 < 19 × ครูถามวา่ เติมตัวเลขแสดง
จานวนใดในช่องว่าง ครใู หน้ กั เรียนหาตวั เลขแสดงจานวนท่ีเติมในชอ่ งว่าง โดยใช้คาถาม เชน่

- จานวนทเี่ ตมิ ในช่องว่างมากกวา่ หรือน้อยกวา่ 3 (มากกว่า 3)

- จานวนทเ่ี ตมิ ในช่องวา่ งเปน็ จานวนใดได้บา้ ง (คาตอบมีมากกว่า 1 คาตอบ เชน่ 4 5 6 หรอื 7) สาหรบั คาถาม

ขอ้ 1 − 4 ในกรอบทา้ ยหน้า 283 บางขอ้ จะมคี าตอบหลายคาตอบ ครคู วรใหน้ กั เรียนตอบมาให้ครบทุกคาตอบจากน้นั ครแู ละ

นกั เรยี นรว่ มกันเฉลยและตรวจสอบความถูกต้อง ถ้ามนี ักเรียนตอบคาถามไม่ถกู ต้องครูอาจถามเพม่ิ เติมวา่ จานวนนับสอง

จานวนท่คี ูณกันได้ 8 มีจานวนใดบา้ ง (1 × 8 และ 4 × 2) ครใู ห้ยกตัวอย่างจานวนนบั สองจานวนใดบา้ งที่คูณกันไดม้ ากกวา่ 8

เชน่ 2 × 9 5 × 3

ขัน้ อธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยใหน้ ักเรยี นเติมเครื่องหมาย > < และ = ลงในชอ่ งวา่ งเปน็ รายบุคคล จากนน้ั

ครูและนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้

ขน้ั ขยายความเข้าใจ

• เราสามารถบอกไดว้ า่ ผลคูณของจานวนสองจานวนใดมคี ่ามากกว่ากนั นอ้ ยกว่ากนั หรือเทา่ กัน โดยไม่ตอ้ งหาผลคูณของสอง

จานวนน้ัน

ข้นั ตรวจสอบผล

- ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหดั หน้า 181- 182

6. การวดั และประเมินผล

การวัดและประเมินผลจดุ ประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เครอ่ื งมอื วดั เกณฑ์การประเมินผล

ความรู้ความเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระต้นุ ความคดิ 70% ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น

-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หดั 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ น

-การให้เหตผุ ล เกณฑ์การประเมนิ

-การสรุปความรู้การปฏิบตั ิ

คุณลกั ษณะนิสยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ น

ทางานร่วมกับกล่มุ ขณะ ทางานรว่ มกับกลุม่ เกณฑ์การประเมนิ

7. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้

1. บัตรโจทยก์ ารคูณ

7.2 แหล่งการเรียนรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ้สู อน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ี่ 19

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/…………... ชื่อผู้สอน …………………………….…….......................
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การคณู ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จานวน 2 คาบ

เรือ่ ง การหาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์

การคณู

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วดั

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กดิ ขึน้ จาก

การดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตวั ชีว้ ดั ท่ี ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลกั ตับจานวนไม่เกนิ 2 หลัก

ป.2/8 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอนของจานวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

• การหาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณก์ ารคณู อาจใชส้ ูตรคูณ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์การคณู

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ใชว้ ิธกี ารทีเ่ หมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลักษณะ(A)

มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความม่นั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ

การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์การ พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา

คูณ

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1-2
ขั้นนา

ขัน้ กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครูสนทนากับนักเรยี นเกย่ี วกับการหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์การคูณ เชน่ 2 × = 6 ครถู าม
นกั เรยี นว่า 2 คูณจานวนใดได้ 6 ครใู หน้ กั เรยี นท่องสูตรคูณแม่ 2 พรอ้ มกนั นักเรยี นควรตอบไดว้ า่ 2 × 3 = 6 ดังน้ัน จานวน
ท่ีคูณกับ 2 ได้ 6 คอื 3 จากน้ัน ครูติดบตั รโจทยก์ ารคูณ 6 ×  = 24 แล้วถามนกั เรยี นว่า 6 คณู กับจานวนใดได้ 24 ครใู ห้

นักเรยี นทอ่ งสูตรคูณแม่ 6 พรอ้ มกัน นักเรยี นควรตอบไดว้ ่า6 × 4 = 24 ดังนั้น จานวนที่คูณกบั 6 ได้ 24คอื 4 ตามหนังสือ
เรียนหนา้ 285

ขั้นสอน

ขน้ั สารวจค้นหา

ครูตดิ บัตรโจทย์การคูณ × 8 = 56 ครถู ามนักเรียนวา่ จานวนใดคณู กบั 8 ได้ 56ครูให้นกั เรยี นทอ่ งสูตรคูณแม่ 8 พรอ้ มกนั
นกั เรียนควรตอบได้วา่ 8 × 7 = 56 ดังน้ัน จานวนท่คี ณู กับ 8 ได้ 56 คือ 7 ครใู หน้ ักเรียนสังเกตวา่ การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบ
หาได้จากการท่องสตู รคูณใหไ้ ด้ผลคณู เทา่ กบั ทโ่ี จทย์กาหนด จากนน้ั ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั เติมตัวเลขแสดงจานวนในกรอบท้าย
หน้า 285 โดยการท่องสตู รคูณ ครูและนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง

2. ครตู ดิ บตั รโจทย์การคูณ 3 × = 36 ครูถามนักเรียนว่า 3 คูณจานวนใดได้ 36 นกั เรียนทอ่ งสูตรคูณแม่ 3 ถึง 3 คูณ
9 ได้ 27 พบว่า ผลคณู เพิ่มขึน้ ทลี ะ 3 ดังนนั้ 3 คูณ 10 ได้จาก 27 บวก 3 เท่ากบั 30 3 คูณ 11 ไดจ้ าก 30 บวก 3 เท่ากับ
33 3 คณู 12 ได้จาก 33 บวก 3 เท่ากับ 36นักเรียนควรตอบไดว้ า่ จานวนทีค่ ณู กับ 3 ได้ 36 คือ 12 ครูติดบตั รโจทยก์ ารคูณ
× 5 = 70 แลว้ ถามนักเรยี นว่า จานวนใดคูณ 5 ได้ 70 ครใู ห้นกั เรยี นทอ่ งสูตรคณู แม่ 5 จนถึง 5 คูณ 9 ได้ 45 พบวา่ ผลคณู
เพิ่มขึ้นทลี ะ 5 ดงั นน้ั

5 คณู 10 ไดจ้ าก 45 บวก 5 เท่ากับ 50
5 คูณ 11 ได้จาก 50 บวก 5 เทา่ กับ 55
5 คณู 12 ได้จาก 55 บวก 5 เทา่ กบั 60
5 คูณ 13 ไดจ้ าก 60 บวก 5 เท่ากบั 65
5 คณู 14 ไดจ้ าก 65 บวก 5 เท่ากบั 70
นักเรยี นควรตอบได้ว่า จานวนท่ีคูณกับ 5 ได้ 70 คอื 14ครูแบง่ กลุม่ นักเรียนออกเป็น 3 กลมุ่ และให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมา
จบั สลากทีค่ รเู ตรียมไวม้ โี จทย์ข้อ 1 2 และ 3 ทีอ่ ยู่ในกรอบท้ายหนา้ 286 กลุม่ ละ 1 ขอ้ จากน้ันใหน้ ักเรยี นออกไปนาเสนอ
วิธีการหาคาตอบของแตล่ ะกลุ่ม โดยครูและนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูทบทวนเกยี่ วกับการคูณจานวนหนึ่งหลักกับ 10 20 … 90 โดยการยกตวั อย่าง เช่น ครูเขยี น
2 × 3 = (6) และ 2 × 30 = (60)
5 × 9 = (45) และ 5 × 90 = (450)
ครใู ห้นักเรียนช่วยกันหาผลคูณ และสงั เกตคาตอบที่ได้ครยู กตวั อยา่ งเพิ่มเติม 1 - 2 ตัวอย่าง จากนนั้ ครแู ละนกั เรียนร่วมกัน
สรุปวา่ จานวนหนงึ่ หลักคณู กับ10 20 … 90 หาผลคูณไดโ้ ดยนาจานวนหนง่ึ หลกั นั้นคูณกับ 1 2 … 9 ตามลาดบั แล้วเตมิ 0
ตอ่ ทา้ ยครตู ิดบัตรโจทย์การคูณ 7 × = 140 ครถู ามนักเรยี นวา่ 7 คูณจานวนใดได้ 140 นักเรยี นอาจจะยังหาคาตอบไมไ่ ด้ ครู
อาจใชค้ าถามนา เชน่ 7 คูณจานวนใดได้ 14 (2) 7 คณู จานวนใดได้ 140 (20) ดงั น้นั จานวนทค่ี ณู กบั 7 ได้ 140 คอื 20ครูติด
บัตรโจทย์การคณู × 4 = 320 และถามนักเรียนวา่ จานวนใดคณู 4 ได้ 320 หาจานวนนั้นได้อยา่ งไร นักเรียนควรตอบได้ว่า
หาจานวนทีค่ ูณกับ 4 แลว้ ได้ 32 แล้วเติม 0 ตอ่ ทา้ ยจานวนนั้น ถา้ มีนกั เรียนไม่เขา้ ใจ ครอู าจอธบิ ายดังนี้
จาก 8 คณู 4 ได้ 32 จะไดว้ ่า 80 คณู 4 ได้ 320
ดงั นั้น จานวนที่คูณกับ 4 แล้วได้ 320 คอื 80
ครอู าจยกตัวอยา่ งเพม่ิ เติมเพื่อให้นักเรียนฝึกการนาขอ้ สรปุ ขา้ งต้นไปใชใ้ นการหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ เช่น  × 8 = 160
นักเรียนตอ้ งหาจานวนมาคูณกบั 8 ได้ 16 แล้วเติม 0 ตอ่ ท้ายจานวนนน้ั จะได้ 20 × 8 = 160 ครใู ห้นกั เรยี นช่วยกันเติมตวั เลข
แสดงจานวนในกรอบทา้ ยหน้า 287 ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง

ข้ันอธิบายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยใหน้ ักเรียนแต่ละคนเติมตวั เลขแสดงจานวนในช่องวา่ ตามหนังสอื เรียนหนา้

288 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปส่งิ ท่ไี ดเ้ รียนรู้ ถ้ามนี กั เรียนคนใดเติมตวั เลขแสดงจานวนไมถ่ ูกต้อง

ครอู าจทบทวนสูตรคณู แม่ 2 ถึงแม่ 9 และให้นักเรยี นฝกึ การหาผลคูณของจานวนหนงึ่ หลักกบั 10 20 30 40 50 60 70 80

90 ใหค้ ล่อง แล้วให้ตรวจสอบความเขา้ ใจอกี ครั้ง แต่ถ้ายงั ทาไม่ได้ให้มาฝึกเป็นรายบุคคลกับครู

ขน้ั ขยายความเข้าใจ

• การหาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณก์ ารคณู อาจใชส้ ูตรคูณ

ขั้นตรวจสอบผล

- ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัดหน้า 183- 184

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมินผลจุดประสงค์ วธิ กี ารวัดผล เครื่องมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ ผล

ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคิด 70% ข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ น

-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หดั 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่าน

-การใหเ้ หตผุ ล เกณฑ์การประเมิน

-การสรปุ ความรู้การปฏิบตั ิ

คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน

ทางานรว่ มกบั กลุ่ม ขณะ ทางานร่วมกับกลุ่ม เกณฑ์การประเมนิ

7. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้

7.1 ส่ือการเรยี นรู้

1. บัตรโจทยก์ ารคณู

2. ตารางสูตรคูณแม่ 2 ถึง แม่ 9

7.2 แหล่งการเรียนรู้

-

8. กิจกรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครูผ้สู อน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 19

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/…………... ช่อื ผู้สอน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 การคณู ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ

เร่ือง โจทยป์ ัญหาการคูณ (1)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกดิ ขน้ึ จาก

การดาเนินการ สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชว้ี ัดท่ี ป.2/5 หาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคูณ ของจานวน 1 หลกั ตับจานวนไมเ่ กนิ 2 หลกั

ป.2/8 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขนั้ ตอนของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การแกโ้ จทย์ปัญหาทาได้โดยอา่ นทาความเข้าใจปญั หา วางแผนแก้ปญั หาหาคาตอบ และตรวจสอบ

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการคูณ

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธีการที่เหมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ(A)

มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมนั่ ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น

โจทย์ปัญหาการคูณ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1
ขั้นนา

ขัน้ กระตุ้นความสนใจ

1. ครูสนทนากับนักเรียนเก่ยี วกับโจทย์ปญั หาการคูณทกี่ าหนดตามหนงั สอื เรียนหน้า 289 ครใู ช้คาถามกระตุ้นให้

นกั เรียนวิเคราะหโ์ จทย์ปญั หา เชน่ โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร

ข้ันสอน

ขนั้ สารวจค้นหา

1. ครสู นทนากับนกั เรียนเก่ยี วกับโจทย์ปญั หาการคณู ท่ีกาหนดตามหนงั สือเรยี นหนา้ 289 ครูใช้คาถามกระตุ้นให้นกั เรียน
วิเคราะหโ์ จทย์ปญั หา เช่น โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร นกั เรยี นควรตอบไดว้ ่า

โจทยถ์ าม คอื ยายลซี ื้อกลว้ ยปิ้งทง้ั หมดกี่ผล
โจทยบ์ อก คือ ยายลีซ้อื กลว้ ยป้งิ 4 ไม้แตล่ ะไมม้ ีกล้วย 5 ผล
ครูถามนักเรยี นต่อไปวา่ หาคาตอบได้อยา่ งไร นักเรียนอาจหาคาตอบไดด้ ้วยการบวกทีละ 5 เชน่ 5 + 5 + 5 + 5 = 20 ผล
ดังนนั้ ยายลีซ้ือกล้วยปง้ิ ท้ังหมด 20 ผล หรือนกั เรียนอาจหาคาตอบด้วยการคูณ ซึ่งพิจารณาจากกล้วยปิ้ง 4 ไม้ แตล่ ะไม้มี
กลว้ ย 5 ผล จะได้ 4 × 5 = 20 ผล ดงั นัน้ ยายลีซอ้ื กล้วยปง้ิ ทง้ั หมด 20 ผล ถ้านกั เรยี นไม่สามารถหาคาตอบได้ ครอู าจใชบ้ ัตร
ภาพประกอบการอธบิ ายวา่ กล้วยปง้ิ 4 ไม้ ไม้ละ 5 ผล แลว้ ให้นกั เรยี นนับจานวนกลว้ ยปง้ิ ทั้งหมดหรือบวกทีละ 5 หรอื ให้
เขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณ์การคณู ได้ 4 × 5= และใช้สูตรคูณแม่ 4 หรือแม่ 5 หาผลคูณ เม่ือนกั เรียนได้คาตอบแล้วครู
ควรเน้นย้าเรื่องการตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ เช่น 4 × 5 = 20 อาจตรวจสอบดว้ ยการนับทลี ะ 5 ไป 4 ครงั้ จะ
ได้ 20 ดังน้นั 20เป็นคาตอบท่ีถกู ต้อง ครยู กตัวอย่างโจทยป์ ัญหาถัดไป ใหน้ กั เรยี นวิเคราะหโ์ จทย์วา่ โจทย์ถามอะไรโจทยบ์ อก
อะไร และหาคาตอบได้อย่างไร ครูอาจใชข้ วดมาเรียงเป็นแถว 3 แถว แถวละ 6 ขวด ครูถามนกั เรยี นวา่ การจัดขวดเป็นแถว 3
แถว แถวละ 6 ขวด ไดท้ ้ังหมดกข่ี วด เขยี นเป็นประโยคสัญลกั ษณ์การคูณได้อย่างไร
นกั เรยี นควรตอบได้ว่า 3 × 6 = 
ครูถามวา่ หาคาตอบอย่างไร
นักเรยี นอาจตอบว่าใชก้ ารบวกเพ่มิ ทีละเทา่ ๆ กัน (6 + 6 + 6) หรือใชส้ ูตรคณู แม่ 3 หรอื แม่ 6
เมอ่ื นักเรยี นได้คาตอบ 18 ขวด ครูควรให้นักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบตามหนังสือเรียนหน้า 289
2. ครูตดิ บตั รโจทยป์ ัญหาตามหนงั สอื เรียนหนา้ 290 ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั วิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาว่า โจทย์ถามอะไร โจทย์
บอกอะไร และจะหาคาตอบได้อย่างไร โดยใช้การถาม−ตอบ เชน่ การนาตู้มาวางเรยี งต่อกนั ความยาวท้งั หมดจะเพม่ิ ขึ้นหรอื
ลดลง (เพ่ิมขึ้น) หาคาตอบด้วยวิธใี ด (นาความยาวมาบวกกัน) ครถู ามเพ่ิมเติมว่า ถา้ ความยาวตแู้ ตล่ ะตู้เทา่ กนั ทัง้ 3 ตูอ้ าจหา
คาตอบดว้ ยวธิ ีใดได้อีก (หาคาตอบดว้ ยการคณู ) ครูให้นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์การคณู แลว้ หาคาตอบ ตามหนังสือเรียน
หน้า 290 ครอู าจแนะนาการตรวจสอบความสมเหตุสมผลว่า ถ้าตแู้ ตล่ ะต้ยู าว 50 เซนตเิ มตร เรียงตอ่ กัน 3 ตคู้ วามยาวทัง้ หมด
3 × 50 = 150 เซนติเมตรแต่ความยาวตู้ในโจทย์ 45 เซนติเมตรซงึ่ มีคา่ นอ้ ยกวา่ 50 คาตอบท่ีไดค้ วรนอ้ ยกว่า 150 เซนตเิ มตร
ซึ่งคาตอบที่ไดค้ ือ 135 เซนติเมตรเปน็ คาตอบที่สมเหตสุ มผล
3. ครยู กตัวอยา่ งโจทย์ปัญหาในหนังสอื เรยี นหนา้ 291 แล้วให้นกั เรยี นช่วยกันวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาและหาคาตอบ
จากนัน้ ครูแบ่งกลุ่มนักเรยี นเป็น 5 กลุ่ม แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มชว่ ยกนั เขยี นประโยคสญั ลักษณ์และหาคาตอบกล่มุ ละ 1 ขอ้ เมอื่
เสร็จแล้วใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ออกมานาเสนอวธิ ีหาคาตอบหนา้ ชัน้ เรียน จากนน้ั ครูและนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง และ
ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ ครูควรเน้นย้านกั เรียนทุกคร้ังว่า เมอ่ื แกโ้ จทยป์ ัญหาจนได้คาตอบแล้วตอ้ งอย่าลืม
ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบทกุ ครงั้

ขั้นอธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนโดยให้นกั เรียนแต่ละคนเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์และหาคาตอบตามหนังสือเรียน
หนา้ 292 ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรุปสง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้ ถา้ มนี กั เรียนคนใดเขียนประโยคสญั ลักษณ์และ
หาคาตอบไม่ถูกต้องครูอาจให้นักเรยี นฝกึ การหาผลคูณของจานวนหน่งึ หลักกับจานวนสองหลกั ให้คล่อง หรือถ้านักเรยี นเขียน

ประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณผิด ครอู าจทบทวนเร่ืองความหมายของการคูณทีจ่ ัดส่ิงของเป็นกล่มุ กลุม่ ละเทา่ ๆ กนั หรอื จดั ส่ิงของ

เป็นแถว แถวละเท่า ๆ กันแล้วให้ตรวจสอบความเข้าใจอกี คร้งั แตถ่ า้ ยงั ทาไมไ่ ด้ใหม้ าฝึกเปน็ รายบุคคลกับครู

ขนั้ ขยายความเข้าใจ

- การแก้โจทยป์ ัญหาทาไดโ้ ดยอา่ นทาความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบและตรวจสอบความสมเหตุสมผล

ของคาตอบ

ข้ันตรวจสอบผล

- ให้นักเรยี นทาแบบฝกึ หัดหน้า 185- 186

6. การวดั และประเมินผล

การวัดและประเมินผลจดุ ประสงค์ วิธีการวัดผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมินผล

ความรู้ความเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระต้นุ ความคดิ 70% ข้ึนไป ถอื ว่าผ่าน

-การสงั เกต เกณฑ์การประเมนิ

ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หัด 70% ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น

-การให้เหตุผล เกณฑ์การประเมิน

-การสรุปความรูก้ ารปฏิบัติ

คุณลักษณะนสิ ัย (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ขึน้ ไป ถอื วา่ ผ่าน

ทางานรว่ มกับกล่มุ ขณะ ทางานรว่ มกับกลุม่ เกณฑ์การประเมิน

7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้

1. บตั รภาพ
2. บตั รโจทย์ปัญหา
3. สือ่ ของจรงิ เช่น ขวด

7.2 แหล่งการเรียนรู้

-

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครผู สู้ อน ลงชือ่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

q สัปดาหท์ ี่ 19

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/…………... ชอื่ ผ้สู อน …………………………….…….......................
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การคณู ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ

เรือ่ ง โจทย์ปญั หาการคูณ (2)

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชวี้ ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกิดข้ึนจาก

การดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวชีว้ ัดที่ ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลกั ตับจานวนไม่เกนิ 2 หลกั

ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขั้นตอนของจานวนนบั ไม่เกิน1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การแกโ้ จทย์ปญั หาทาไดโ้ ดยอา่ นทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหาหาคาตอบ และตรวจสอบ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K)

แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการคูณ

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธกี ารทเ่ี หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคณุ ลักษณะ(A)

มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมนั่ ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิน่

โจทย์ปญั หาการคณู พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1
ขั้นนา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ

1. โจทยป์ ญั หาการคูณในชั่วโมงนเี้ ปน็ โจทยป์ ัญหาการคูณในลักษณะการหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่า ครยู กตวั อย่างโจทย์

ปญั หาการคูณตามหนงั สือเรียนหนา้ 293

ขั้นสอน

ขัน้ สารวจคน้ หา

1. โจทย์ปัญหาการคูณในช่ัวโมงนี้เป็นโจทย์ปัญหาการคูณในลักษณะการหาค่าของตัวไม่ทราบค่า ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหา
การคณู ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 293 โดยติดบตั รโจทย์ปญั หาบนกระดานแล้วใหน้ ักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ว่าโจทย์ถามอะไรโจทย์
บอกอะไร และนักเรียนจะหาคาตอบได้อย่างไร ครูใช้คาถามกระตุ้นให้นักเรียนคิดว่า ซาลาเปา 3 ลูก ราคาลูกละเท่ากัน
จ่ายเงินไป 15 บาท หมายความว่า 3 คูณจานวนใด ได้ผลคูณเท่ากับ 15 เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ 3 × = 15 ซึ่งนักเรียน
อาจใช้วธิ กี ารทอ่ งสตู รคูณแม่ 3 จะได้ว่า 3 × 5 = 15 ดังนั้น ซาลาเปาราคาลูกละ 5 บาท หลังจากท่ีนักเรียนได้คาตอบแล้วครู
ควรให้นักเรียนตรวจสอบคา ตอบโดยการนาคาตอบท่ีได้คูณกับ 3 แล้วได้ผลคูณเท่ากับ 15 หรือไม่ ถ้าได้เท่ากับ 15 แสดงว่า
เป็นคาตอบที่ถูกต้อง เมอ่ื นักเรียนได้แนวคิดในการวิเคราะห์และหาคาตอบโจทย์ปัญหาการคูณที่มีลักษณะเป็นโจทย์การหาค่า
ของตัวไม่ทราบคา่ แลว้ ครูยกตัวอย่างโจทยป์ ัญหาการคูณจากตวั อย่างโจทย์ปญั หาในหนา้ ถัดไป

2. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการคูณที่มีตัวไม่ทราบค่าตามหนังสือเรียนหน้า 294 แล้วให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์
โจทย์ปัญหาวา่ โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร และจะหาคาตอบได้อย่างไร

ครูใช้คาถามกระต้นุ ให้นักเรยี นคิดว่า ครูจัดโต๊ะ 5 แถว แถวละเทา่ ๆ กนั ต้องจดั โต๊ะแถวละกี่ตวั ถ้าจัดโต๊ะท้ังหมด
100 ตวั หมายความวา่ 5 คูณจานวนใดได้ผลคณู เท่ากบั 100

เขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณ์ 5 ×  = 100 ซงึ่ นักเรียนอาจใช้การคูณกับจานวน 10 20 30 … จะไดว้ า่ 5 × 20 =
100 ดังนั้น จดั โต๊ะแถวละ 20 ตวั

ครูให้นักเรยี นตรวจสอบคาตอบโดยนาคาตอบท่ไี ด้ไปคูณกับ 5 ถา้ ได้ผลคณู เทา่ กับ 100 แสดงวา่ เปน็ คาตอบทีถ่ ูกต้อง
ครูอาจยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการคูณท้ายหน้า 294 เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกการวิเคราะห์และหาคาตอบของโจทย์
ปัญหาในลักษณะหาตัวไมท่ ราบค่าท่ีเปน็ จานวนสมาชิกในกลุ่ม ซึ่งจะได้ประโยคสัญลักษณ์คือ 4 ×  = 48 ในการหาคาตอบ
น้ีนกั เรียนอาจใช้สตู รคณู แม่ 4 ดังนน้ั 4 × 9 = 36 และ 4 × 10 = 40 4 × 11 = 44 4 × 12 = 48 เม่อื ได้คาตอบแล้ว
ครูให้นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ จากนั้นครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการคูณท่ีมีตัวไม่ทราบค่าเป็น
จานวนกลุ่ม เช่น ครูจัดดอกบัว 12 ดอกเป็นกา กาละ 6 ดอก ครูจัดดอกบัวได้กี่กา หมายความว่า จานวนใดคูณกับ 6 ได้ผล
คณู เทา่ กบั 12
เขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณ์ × 6 = 12 นักเรยี นอาจหาคา ตอบโดยใช้สูตรคูณแม่ 6 จะได้ 6 × 2 = 12 ดังนัน้ ครู
จดั ดอกบัวได้ 2 กา ครใู หน้ ักเรยี นตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบทานองเดยี วกบั ข้างต้น
3. เมื่อนกั เรียนเข้าใจและสามารถวิเคราะห์โจทย์ปัญหาการคูณในลักษณะการหาค่าของตัวไม่ทราบค่าได้แล้ว ครูแบ่ง
นกั เรยี นเปน็ 4 กลุ่มให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันวิเคราะห์โจทย์ปัญหาการคูณในหนังสือเรียนหน้า 295 กลุ่มละ 1 ข้อ โดยให้
นักเรียนช่วยกันเขียนประโยคสัญลักษณ์และหาคาตอบ และครูเน้นย้าให้นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ ครูอาจ
แนะนานักเรียนกลุ่มท่ีแก้โจทย์ปัญหาข้อ 1 และ 2 ซ่ึงมีตัวไม่ทราบค่าเป็นจานวนแถวและจานวนกลุ่มตามลาดับ ประโยค
สัญลักษณ์ที่เขียนได้ดังนี้ × 4 = 24 และ × 6 = 48 จากนั้นครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอประโยคสัญลักษณ์
และวธิ ีหาคาตอบของแตล่ ะข้อ
ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง

ขั้นอธบิ ายความรู้

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยนักเรียนแต่ละคนเขียนประโยคสัญลักษณ์และหาคาตอบตามหนังสือเรียน
หน้า 296 ครแู ละนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ถ้ามีนักเรียนคนใดเขียนประโยคสัญลักษณ์และ
หาคาตอบไม่ถูกต้อง ครูอาจให้นักเรียนฝึกการหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์การคูณให้คล่อง หรือถ้านักเรียน

เขียนประโยคสัญลักษณ์การคูณผิดครูอาจทบทวนเร่ืองความหมายของการคูณที่เน้นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่มและจานวน

กลุ่มหรือจานวนสมาชิกในแต่ละแถวและจานวนแถว แล้วให้ตรวจสอบความเข้าใจอีกคร้ังแต่ถ้ายังทาไม่ได้ให้มาฝึกเป็น

รายบคุ คลกับครู

ข้นั ขยายความเข้าใจ

การแก้โจทย์ปัญหาทาได้โดยอา่ นทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หาคาตอบและตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของ

คาตอบ

ขน้ั ตรวจสอบผล

- ให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดหน้า 187- 188

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมินผลจดุ ประสงค์ วิธีการวดั ผล เครื่องมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ ผล

ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคดิ 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่าน

-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ

ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หัด 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่าน

-การให้เหตผุ ล เกณฑ์การประเมนิ

-การสรปุ ความรู้การปฏบิ ัติ

คณุ ลักษณะนิสัย (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น

ทางานรว่ มกบั กลุ่ม ขณะ ทางานรว่ มกับกล่มุ เกณฑ์การประเมนิ

7. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สอื่ การเรยี นรู้

1. บัตรภาพ
2. บัตรโจทยป์ ญั หา
3. สอ่ื ของจรงิ เช่น ขวด

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครูผสู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 19

โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/…………... ชื่อผสู้ อน …………………………….…….......................
กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 การคูณ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 จานวน 1 คาบ

เรือ่ ง การสรา้ งโจทย์ปัญหาการคูณจากภาพ

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กิดขึ้นจาก

การดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชวี้ ดั ท่ี ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลักตับจานวนไม่เกิน 2 หลัก

ป.2/8 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอนของจานวนนับไมเ่ กิน1,000 และ 0

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การสรา้ งโจทยป์ ัญหาต้องมีทง้ั ส่วนท่โี จทย์บอกและสว่ นที่โจทย์ถาม นอกจากนโี้ จทยป์ ัญหาท่ีสรา้ งต้องมคี วามเป็นไปได้

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้ (K)

สรา้ งโจทยป์ ญั หาการคูณ

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธีการท่เี หมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลักษณะ(A)

มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมน่ั ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ

การสร้างโจทยป์ ญั หาการคูณ พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา

. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1
ขน้ั นา

ข้นั กระต้นุ ความสนใจ

1. การสรา้ งโจทย์ปญั หาการคูณจากภาพควรเร่มิ จากการให้นกั เรยี นพจิ ารณาภาพ โดยใชค้ าถามนาเช่น จากภาพในหนังสอื
เรยี นหน้า 297 นกั เรียนเห็นอะไรบ้าง (มีสม้ 3 จาน แตล่ ะจานมีส้ม 2 ผล) มสี ม้ ทง้ั หมดก่ีผล ( 6 ผล)

ข้ันสอน

ขน้ั สารวจคน้ หา

1. การสรา้ งโจทยป์ ัญหาการคูณจากภาพควรเร่ิมจากการให้นักเรยี นพิจารณาภาพ โดยใช้คาถามนาเช่น จากภาพในหนังสือ
เรียนหนา้ 297 นักเรยี นเห็นอะไรบ้าง (มีส้ม 3 จาน แตล่ ะจานมีส้ม 2 ผล) มีสม้ ท้ังหมดก่ีผล ( 6 ผล)

ถ้าจะสร้างโจทย์ปญั หาการคูณ สว่ นที่โจทย์ถามคืออะไร (มีส้มท้งั หมดกผ่ี ล)
ส่วนท่โี จทยบ์ อกคืออะไร (มีสม้ 3 จานจานละ 2 ผล)
ดงั น้ัน เขียนเปน็ โจทย์ปญั หาการคณู จากภาพน้ีได้ว่า มสี ้ม 3 จาน จานละ 2 ผล มีส้มทั้งหมดกผ่ี ลหรอื มสี ม้ จานละ 2 ผล อยู่ 3
จาน มีสม้ ทงั้ หมด กผ่ี ลเขียนเป็นประโยคสัญลกั ษณไ์ ด้วา่ 3 × 2 =  ครูเนน้ ยา้ ว่า โจทย์ปัญหาท่สี ร้างต้องมคี วามเป็นไปได้
2. ครูตดิ บัตรภาพตามหนังสอื เรยี นหนา้ 298 จากภาพในหนังสอื เรียนนักเรยี นเห็นอะไรบ้าง (ปลกู กะหลา่ ปลี 3 แถว
แต่ละแถวมีกะหล่าปลี 10 ตน้ )
ปลกู กะหลา่ ปลีทัง้ หมดกีต่ ้น (30 ตน้ )
ถ้าจะสรา้ งโจทยป์ ัญหาการคูณ สว่ นที่โจทย์ถามคืออะไร (ปลูกกะหล่าปลีทง้ั หมดกตี่ น้ )
ส่วนที่โจทยบ์ อกคืออะไร (ปลูกกะหลา่ ปลี 3 แถว แตล่ ะแถวมีกะหล่าปลี 10 ตน้ )
ดังน้นั เขียนเป็นโจทย์ปัญหาการคณู จากภาพนไี้ ดว้ า่ ปลูกกะหลา่ ปลี 3 แถวแต่ละแถวมีกะหลา่ ปลี 10 ตน้ ปลกู กะหล่าปลี
ทัง้ หมดก่ีตน้ หรอื ปลกู กะหล่าปลแี ถวละ 10 ตน้ ปลกู 3 แถว ปลกู กะหล่าปลีทัง้ หมดกี่ต้น เขยี นเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์ได้ว่า 3 ×
10 =  ครเู นน้ ยา้ วา่ โจทย์ปญั หาทีส่ รา้ งต้องมีความเปน็ ไปได้ จากนนั้ ครตู ิดบตั รภาพปลกู ผักกาดตามหนงั สอื เรียนท้ายหนา้
298 แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั สรา้ งโจทย์ปัญหาการคูณ และชว่ ยกันพจิ ารณาความเป็นไปได้ของโจทยป์ ญั หาท่ีสรา้ งขึน้
3. ครแู บง่ นกั เรยี นออกเปน็ กลุ่ม 3 กลุ่มแลว้ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั สร้างโจทย์ปัญหาการคณู จากภาพพร้อมท้งั
เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์กลมุ่ ละ 2 ข้อ ตามหนงั สอื เรียนหน้า 299 เม่อื สร้างโจทย์ปญั หาการคณู เสรจ็ แล้วให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่
ออกมานาเสนอโจทยป์ ญั หาท่ีสร้างไดน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ อาจสร้างโจทย์ปัญหาการคูณได้แตกต่างกนั ครแู ละนักเรียนช่วยกัน
พิจารณาความถูกตอ้ งและความเป็นไปได้ของโจทย์ปญั หา
ท่สี ร้าง

ขัน้ อธิบายความรู้

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยให้นักเรยี นแตล่ ะคนสร้างโจทยป์ ญั หาการคณู และเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์
จากภาพตามหนังสือเรยี นหน้า 300 ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้องและความเปน็ ไปได้หลงั จากน้นั ครูและ
นกั เรียนร่วมกนั สรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ ถา้ มีนกั เรียนคนใดสร้างโจทยป์ ัญหาการคูณและเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์จากภาพไม่ถกู ต้อง
ครอู าจใหน้ ักเรยี นฝกึ พิจารณาโจทย์ปัญหาการคูณว่าประกอบดว้ ยส่วนท่โี จทย์บอกและส่วนทโ่ี จทยถ์ ามให้คล่องแลว้ ให้
ตรวจสอบความเข้าใจอีกครง้ั แตถ่ า้ ยังทาไม่ได้ให้มาฝึกเป็นรายบุคคลกบั ครู

ขนั้ ขยายความเข้าใจ

- การสรา้ งโจทยป์ ัญหาตอ้ งมีทง้ั ส่วนทีโ่ จทยบ์ อกและสว่ นทโ่ี จทย์ถาม นอกจากน้โี จทย์ปัญหาทสี่ รา้ งต้องมีความเปน็ ไปได้

ขน้ั ตรวจสอบผล

- ให้นักเรยี นทาแบบฝกึ หัดหนา้ 189- 190

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผลจุดประสงค์ วธิ กี ารวดั ผล เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ ผล
- คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผ่าน
ความรูค้ วามเข้าใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมิน
แบบฝกึ หดั 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผ่าน
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน
- แบบประเมินพฤติกรรม
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานรว่ มกับกลุม่ 70% ข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
-การให้เหตุผล

-การสรปุ ความร้กู ารปฏิบตั ิ

คณุ ลกั ษณะนิสยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ

ทางานร่วมกับกลมุ่

7.

7. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สือ่ การเรยี นรู้

1. บัตรภาพ

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

-

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ้สู อน ลงชือ่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 19

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/…………... ชอื่ ผ้สู อน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 การคูณ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ

เรือ่ ง การสรา้ งโจทย์ปญั หาการคูณจากประโยคสัญลักษณ์

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทีเ่ กิดขน้ึ จาก

การดาเนินการ สมบตั ขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ช้วี ัดที่ ป.2/5 หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลักตบั จานวนไมเ่ กิน 2 หลัก

ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอนของจานวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การสร้างโจทย์ปัญหาต้องมีท้ังส่วนที่โจทยบ์ อกและส่วนที่โจทยถ์ าม นอกจากนโ้ี จทยป์ ัญหาท่สี ร้างต้องมีความเป็นไปได้

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K)

สร้างโจทยป์ ญั หาการคูณจากประโยคสญั ลักษณ์

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

ใช้วิธีการที่เหมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้

ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)

มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมัน่ ใจ

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิน่

การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการคูณ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1
ขั้นนา

ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครตู ดิ บัตรภาพและบตั รประโยคสัญลกั ษณ์ 3 × 2 =  แล้วใชค้ าถามนาเพือ่ ให้นักเรียนสร้าง
โจทย์ปัญหาการคูณจากประโยคสัญลกั ษณ์ท่กี าหนดโดยนาข้อมลู จากภาพมาเปน็ แนวทางในการสรา้ งโจทย์ปัญหาการคูณ

ขนั้ สอน

ขนั้ สารวจค้นหา

1. ครูตดิ บัตรภาพและบัตรประโยคสัญลกั ษณ์ 3 × 2 =  แล้วใช้คาถามนาเพื่อใหน้ กั เรียนสรา้ งโจทยป์ ญั หาการคูณจาก
ประโยคสญั ลกั ษณ์ท่ีกาหนดโดยนาขอ้ มลู จากภาพมาเปน็ แนวทางในการสรา้ งโจทยป์ ญั หาการคูณ เช่น จากประโยคสัญลกั ษณ์
3 × 2 =  ครูอาจให้นักเรียนบอกความหมายของการคูณวา่ 3 × 2 =  คอื มี 3 กล่มุ แตล่ ะกลุ่มมีสมาชิก 2 หรือ มี 3
แถวแตล่ ะแถวมีสมาชกิ 2 แลว้ ให้นกั เรยี นใชข้ อ้ มลู จากภาพท่ีกาหนดให้ สร้างเปน็ โจทย์ปัญหาการคูณได้ว่า เรอื จกั รยานนา้ 3
ลา แตล่ ะลา มคี นนง่ั 2 คน มีคนน่ังเรอื จักรยานน้าทง้ั หมดก่คี น หรือนักเรียนอาจสรา้ งโจทยป์ ัญหาการคูณแบบอ่นื ไดว้ ่า มีคน
ยนื รอซือ้ ตว๋ั ลงเรือ 3 แถว แถวละ 2 คน มคี นยืนรอซอ้ื ตวั๋ ลงเรือทั้งหมดกี่คน แลว้ ให้นกั เรียนระบสุ ่วนท่โี จทยบ์ อก และส่วนท่ี
โจทยถ์ าม จากน้ันครูและนักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความเป็นไปได้ของโจทย์ปัญหาทีส่ ร้างขึน้

2. หลังจากทีน่ กั เรียนเข้าใจและสามารถสร้างโจทย์ปัญหาจากประโยคสัญลักษณ์โดยมีภาพประกอบได้ครูจึงกาหนด
ประโยคสัญลกั ษณก์ ารคูณ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันสร้างโจทยป์ ัญหา ดงั น้ี

กาหนดประโยคสญั ลักษณ์ 5 × 2 =  แล้วใหน้ กั เรยี นสรา้ งโจทย์ปัญหาการคูณ โดยระบุสว่ นทโ่ี จทย์บอกและสว่ นท่ี
โจทย์ถาม ครูควรเน้นย้าและตรวจสอบวา่ โจทย์ปญั หาทนี่ ักเรยี นแต่ละคนชว่ ยกันสร้างขน้ึ มีความเป็นไปไดห้ รือไม่ จากนั้นให้
นกั เรยี นชว่ ยกันหาคาตอบของโจทย์ปญั หานั้น โจทย์ปญั หาทนี่ ักเรยี นสร้างอาจมคี วามแตกตา่ งกนั ครูและนักเรียนชว่ ยกนั
ตรวจสอบความถูกต้องจากน้ันครูกาหนดประโยคสญั ลักษณ์ 4 × 6 =  แลว้ จัดกจิ กรรม ทานองเดียวกบั ข้างต้น

3. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่มแล้วใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ สร้างโจทย์ปญั หาการคณู จากประโยคสญั ลกั ษณ์ตามหนงั สือ
เรียนหน้า 303 โดยให้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ไดฝ้ ึกการสรา้ งโจทยป์ ัญหาการคูณจากประโยคสญั ลกั ษณท์ ้ัง 2 ข้อ เม่ือแตล่ ะกลุ่ม
สรา้ งโจทยป์ ญั หาเสร็จแลว้ ใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ นาเสนอเกี่ยวกับโจทย์ปญั หาที่สร้าง ระบุสว่ นทโี่ จทยบ์ อก สว่ นทีโ่ จทยถ์ าม
และหาคาตอบโดยครูและนักเรยี นช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและความเป็นไปได้ของโจทย์ปญั หาที่สร้าง

ขัน้ อธิบายความรู้

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนสรา้ งโจทย์ปญั หาการคณู จากประโยคสัญลักษณ์ ตาม
หนังสอื เรียนหน้า 304 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้องและความเปน็ ไปไดข้ องโจทยป์ ญั หาท่ีสร้างหลังจากนั้นครู
และนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปส่งิ ท่ีได้เรียนรู้ ถา้ มนี กั เรยี นคนใดสร้างโจทยป์ ัญหาการคูณจากประโยคสัญลกั ษณ์ไม่ถูกต้องครอู าจให้
นกั เรยี นฝึกบอกความหมายการคูณตามประโยคสัญลกั ษณ์และบอกส่วนประกอบของโจทย์ปัญหาว่าประกอบดว้ ยสว่ นท่โี จทย์
บอกและส่วนที่โจทย์ถามใหค้ ล่อง แล้วใหต้ รวจสอบความเข้าใจอีกครง้ั แตถ่ ้ายงั ทาไม่ได้ให้มาฝึกเปน็ รายบุคคลกับครู

ขน้ั ขยายความเข้าใจ

- การสรา้ งโจทย์ปญั หาต้องมที ั้งส่วนทีโ่ จทย์บอกและส่วนทโ่ี จทย์ถาม นอกจากนโ้ี จทย์ปญั หาทส่ี รา้ งต้องมีความเป็นไปได้

ขน้ั ตรวจสอบผล

- ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั หน้า 191- 198

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วธิ ีการวัดผล เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ ผล
- คาถามกระตนุ้ ความคดิ 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น
ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมิน
แบบฝกึ หัด 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ น
-การสงั เกต เกณฑ์การประเมนิ
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานรว่ มกับกลุม่ 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมิน
-การให้เหตผุ ล

-การสรปุ ความร้กู ารปฏิบัติ

คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ

ทางานรว่ มกับกล่มุ

7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สือ่ การเรียนรู้

1. บัตรภาพ
2. บตั รประโยคสัญลกั ษณก์ ารคณู

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

-

8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครผู ูส้ อน ลงชือ่ ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)


Click to View FlipBook Version