สัปดาหท์ ่ี 13
โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจัดการเรยี นรู้
ภาคเรียนท่ี ……1…/…………... ชอ่ื ผสู้ อน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 การวดั น้าหนกั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2 จานวน 1 คาบ
เรอื่ ง การเปรียบเทียบน้าหนัก (2)
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้นื ฐานเกีย่ วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทต่ี ้องการวัดและไปใช้
ตวั ชีว้ ดั ป.2/4 วัดและเปรยี บเทยี บนา้ หนกั เป็นกิโลกรัม และกรมั กิโลกรัมและขีด
ป.2/5 แสดงหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา การบวก การลบเกยี่ วกับน้าหนกั หน่วยเป็นกโิ ลกรมั และกรมั กิโลกรัม
และขีด
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรัมหรือกิโลกรัมและขีด สิ่งท่ีมีน้าหนักกิโลกรัมมากกว่าจะหนักกว่า ถ้า
น้าหนกั เปน็ กิโลกรัมเทา่ กัน ส่ิงท่มี ีน้าหนักเป็นกรัมหรือเป็นขีดมากกว่าจะมีน้าหนักมากกว่า การเปรียบเทียบน้าหนักท่ีมีหน่วย
ตา่ งกันตอ้ งเปล่ยี นหน่วยให้เป็นหนว่ ยเดยี วกัน
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
เปรยี บเทยี บน้าหนักของส่ิงตา่ ง ๆ
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
ใช้วิธีการท่เี หมาะสมในการแก้ปญั หา และคานวณหาคาตอบได้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะ(A)
มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความม่ันใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถน่ิ
การเปรียบเทยี บนา้ หนัก พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 1
ขน้ั นา
ข้นั กระตุน้ ความสนใจ
11. ครูติดบัตรภาพแสดงน้าหนักของพริกแห้ง 200 กรัม และหอมแดง 5 ขีด ครูถามว่าอะไรหนักกว่า โดย
ให้นักเรียนใช้ความสัมพันธ์ของหน่วยน้าหนัก 100 กรัม เท่ากับ 1 ขีด การเปล่ียนหน่วยน้าหนักอาจเปล่ียนหน่วยน้าหนักกรัม
ให้เป็นขดี หรอื เปลีย่ นหน่วยนา้ หนกั ขดี ใหเ้ ป็นกรมั ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 217 ครูอาจยกตวั อย่างเพ่มิ เติม เชน่ ทุเรียนหนัก 35
ขีด กบั ฝร่ังหนัก 220 กรัม สิ่งใดหนักกวา่ (ทเุ รยี นหนักกว่า) ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปว่าในการเปรียบเทียบน้าหนักที่
มีหน่วยต่างกันต้องเปล่ียนหน่วยน้าหนักให้เป็นหน่วยเดียวกันก่อนแล้วจึงนามาเปรียบเทียบกัน จากน้ันให้นักเรียนช่วยกัน
เปรียบเทียบนา้ หนักในกรอบท้ายหน้า 217
ข้นั สอน
ขน้ั สารวจค้นหา
2. ครูติดบัตรภาพแสดงน้าหนักของปูหนัก 2 กิโลกรัม 3 ขีด และกุ้งหนักหนัก 13 ขีด ครูถามว่าอะไรเบากว่า โดยให้
นักเรียนใช้ความสัมพันธ์ของหน่วยน้าหนัก 1 กิโลกรัม เท่ากับ 10 ขีด การเปลี่ยนหน่วยน้า หนักอาจเปล่ียนหน่วยน้าหนัก
กิโลกรัมและขีดให้เป็นขีด หรือเปลี่ยนหน่วยน้าหนักขีดให้เป็นกิโลกรัมและขีดตามหนังสือเรียนหน้า 218 ครูอาจยกตัวอย่าง
เพม่ิ เติม เชน่ ปลาหนัก 42 ขดี กบั ไก่หนกั 3 กโิ ลกรมั 8 ขีด สิ่งใดหนักกว่า (ปลาหนักกว่า) ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปว่าในการ
เปรยี บเทยี บน้าหนกั ที่มหี น่วยต่างกันต้องเปล่ยี นหน่วยนา้ หนกั ให้เปน็ หน่วยเดียวกนั ก่อนแลว้ จึงนามาเปรียบเทียบกันจากนั้นให้
นกั เรียนช่วยกนั เปรียบเทียบน้าหนักในกรอบท้ายหน้า 218
3. ครูติดบัตรภาพแสดงน้าหนักของปลาหนัก 3 กิโลกรัม 200 กรัม และหมึกหนัก 25 ขีด ครูถามว่าอะไรหนักกว่า
โดยให้นักเรียนใช้ความสัมพันธ์ของหน่วยน้าหนัก 100 กรัม เท่ากับ 1 ขีด การเปลี่ยนหน่วยน้าหนักอาจเปล่ียนหน่วยน้าหนัก
กิโลกรัมและกรัมให้เป็นขีดหรือเปลี่ยนหน่วยน้าหนักขีดให้เป็นกิโลกรัมและกรัม หรือเปล่ียนหน่วยน้าหนักขีดให้เป็นกิโลกรัม
และขดี ตามหนงั สอื เรียนหน้า 218 ครูอาจยกตัวอย่างเพ่ิมเติม เช่น ฟักทองหนัก 670 กรัม กับฟักเขียวหนัก 1 กิโลกรัม 2 ขีด
สิ่งใดเบากว่า (ฟักทองเบากว่า)ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปว่าในการเปรียบเทียบน้าหนักที่มีหน่วยต่างกันต้องเปลี่ยนหน่วย
นา้ หนกั ใหเ้ ปน็ หน่วยเดียวกันก่อนแลว้ จึงนามาเปรียบเทยี บกนั จากนั้นใหน้ กั เรยี นช่วยกนั เปรยี บเทยี บนา้ หนกั ในกรอบท้ายหน้า
219
ข้นั อธิบายความรู้
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนเปรียบเทียบสิ่งของว่าส่ิงใดหนักกว่าและส่ิงใดเบากว่า เป็น
รายบุคคล ตามหนังสือเรียนหน้า 220 จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ หากมี
นกั เรียนตอบคาถามไม่ได้ครูควรแก้ไขโดยการให้นกั เรยี นฝกึ เปรียบเทยี บน้าหนัก
ของสงิ่ ตา่ ง ๆ กบั ครูเปน็ รายบุคคล
ขนั้ สรุป
ขัน้ ขยายความเข้าใจ
- การเปรยี บเทยี บน้าหนกั ท่มี ีหน่วยตา่ งกนั ตอ้ งเปล่ียนหน่วยใหเ้ ป็นหน่วยเดยี วกนั กอ่ นแล้วนามาเปรียบเทียบกัน
ขนั้ ตรวจสอบผล
- ใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ หัดหน้า 139 - 140
6. การวดั และประเมินผล
การวัดและประเมินผลจดุ ประสงค์ วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การประเมินผล
- คาถามกระตุน้ ความคดิ 70% ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น
ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ
แบบฝึกหดั 70% ขึน้ ไป ถือว่าผ่าน
-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานร่วมกับกลมุ่ 70% ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น
เกณฑ์การประเมิน
-การใหเ้ หตผุ ล
-การสรปุ ความรูก้ ารปฏบิ ตั ิ
คุณลักษณะนสิ ยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ
ทางานร่วมกบั กลุ่ม
7. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่ือการเรยี นรู้
1. บัตรภาพแสดงนา้ หนกั ของสิ่งต่าง ๆ
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
-
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ครูผสู้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)
สัปดาห์ที่ 13
โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรยี นที่ ……1…/…………... ช่อื ผสู้ อน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การวดั นา้ หนัก ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 2 คาบ
เร่ือง การบวกและการลบเก่ียวกับนา้ หนัก (1)
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐานเกย่ี วกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสง่ิ ทต่ี ้องการวัดและไปใช้
ตัวชวี้ ัด ป.2/4 วดั และเปรยี บเทยี บนา้ หนกั เปน็ กิโลกรมั และกรัม กโิ ลกรัมและขดี
ป.2/5 แสดงหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา การบวก การลบเก่ียวกบั น้าหนักหนว่ ยเป็นกิโลกรมั และกรมั กโิ ลกรัม
และขดี
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การหาผลบวกหรอื ผลลบเก่ยี วกับน้าหนักเป็นกโิ ลกรัมและขีด หรอื กิโลกรมั และกรัม ทาไดโ้ ดยนาน้าหนกั ที่เปน็ หน่วย
เดยี วกนั มาบวกหรือลบกนั
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
บวกและลบเกี่ยวกับนา้ หนกั
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
ใชว้ ิธกี ารทเ่ี หมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้
ด้านคุณลกั ษณะ(A)
มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความม่ันใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น
การบวกและลบเกี่ยวกบั น้าหนกั พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 1-2
ขั้นนา
ขนั้ กระตุน้ ความสนใจ
1. ครูติดบัตรโจทย์ มะม่วงหนัก 1 กิโลกรัม 5 ขีด มะละกอหนัก 1 กิโลกรัม 2 ขีด แล้วถามว่า มะม่วงกับ
มะละกอหนักรวมกันเป็นกี่กิโลกรัม กี่ขีด ครูให้นักเรียนนาน้าหนักท่ีเป็นหน่วยเดียวกันมาบวกกัน จะได้ 1 กิโลกรัม รวมกับ 1
กิโลกรัม ได้ 2 กิโลกรัม และ 5 ขีด รวมกับ 2 ขีด ได้ 7 ขีด ดังนั้น มะม่วงกับมะละกอหนักรวมกันเป็น 2 กิโลกรัม 7 ขีด
จากนน้ั ครแู นะนาการเขยี นแสดงวธิ หี าคาตอบ โดยเขยี นหนว่ ยน้าหนักไว้ก่อน แล้วเขียนตัวเลขแสดงจานวนน้าหนักของมะม่วง
และมะละกอให้ตรงกับหน่วยน้าหนักแต่ละหน่วย แล้วจึงนาจานวนในหน่วยน้าหนักเดียวกันมาบวกกันจากนั้นครูให้นักเรียน
ช่วยกันเขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบ ขอ้ 1 และ 2 ในกรอบทา้ ยหน้า 221
ข้นั สอน
ขั้นสารวจคน้ หา
2. ครูตดิ บตั รโจทย์ 7 กโิ ลกรมั 8 ขดี รวมกบั 2 กโิ ลกรัม 4 ขีด เทา่ กับเท่าไร ครสู ุ่มนักเรียนออกมาเขยี นแสดงวธิ หี า
คาตอบทห่ี นา้ ชั้นเรยี นโดยมคี รูและเพ่ือนในห้องเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง
กโิ ลกรัม ขดี
7 8+
24
9 12
หรอื 10 2
ครูให้นักเรียนสังเกตวา่ ผลบวกทไ่ี ด้ในหน่วยขีดมากกว่า 10 ตอ้ งทด 1 สบิ หรือ 1 กิโลกรัม ไปรวมกับผลบวกในหน่วยกิโลกรัม
เพราะ 10 ขีด เท่ากับ 1 กิโลกรัมตามหนังสือเรียนหน้า 222 ครูยกตัวอย่างเพิ่มเติมเก่ียวกับการบวกน้าหนักท่ีมีหน่วยต่างกัน
ตอ้ งเปลย่ี นหน่วยให้เป็นหน่วยเดียวกันก่อนแล้วจึงนามาบวกกัน เช่น2 กิโลกรัม 3 ขีด รวมกับ 18 ขีด เท่ากับเท่าไรครูแนะนา
วา่ อาจเปลยี่ น 18 ขีด เป็น 1 กโิ ลกรัม 8 ขดี ก่อนแลว้ จงึ นามาบวกกันจงึ นามาบวกกัน ดงั น้ี
กโิ ลกรมั ขีด
2 3+
18
3 11
หรือ 4 1
หรือ อาจไมเ่ ปลย่ี น 18 ขีด เป็น 1 กิโลกรัม 8 ขีด กไ็ ดด้ งั นี้
กิโลกรัม ขดี
2 3+
18
2 21
หรือ 4 1
ซ่ึงผลบวกท่ีได้ในหน่วยขีดมากกว่า 10 ต้องทด 2 สิบ หรือ 2 กิโลกรัม ไปรวมกับผลบวกในหน่วยกิโลกรัม เพราะ 20 ขีด
เท่ากบั 2 กิโลกรมั จากนั้นครูให้นักเรยี นช่วยกนั เขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบ ขอ้ 1 และ 2 ในกรอบท้ายหนา้ 222
3. ครูติดบัตรโจทย์ 1 กิโลกรัม 6 ขีด น้อยกว่า 2 กิโลกรัม 4 ขีด อยู่เท่าไร ครูแนะนาการเขียนแสดงวิธีทาครูให้
นักเรียนสังเกตว่า ในหน่วยขีดตัวต้ังน้อยกว่าตัวลบ ต้องกระจายจาก 2 กิโลกรัม มา 1 กิโลกรัมหรือ 10 ขีด ไปรวมกับ 4 ขีด
ได้ 14 ขดี แลว้ จึงนามาลบกับ 6 ขดี เป็น 8 ขดี 2 กิโลกรัมเม่อื กระจายไปแล้ว1 กิโลกรัม เหลือ 1 กิโลกรัม ลบด้วย 1 กิโลกรัม
เป็น 0 กิโลกรมั ดงั น้ัน 1 กิโลกรัม 6 ขดี นอ้ ยกว่า 2 กิโลกรมั 4 ขดี อยู่ 8 ขีด ครูยกตัวอย่างเพ่มิ เตมิ เกีย่ วกับการลบน้าหนักที่มี
หน่วยต่างกันตามตัวอย่างกรอบท่ีสองในหนังสือเรียนหน้า 223 จากน้ันครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนแสดงวิธีหาคาตอบข้อ 1
และ 2 ในกรอบทา้ ยหนา้ 223
ข้นั อธบิ ายความรู้
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยใหน้ ักเรียนเขียนแสดงวธิ หี าคาตอบเป็นรายบุคคลตามหนังสือเรียนหน้า 224
จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้หากมีนักเรียนเขียนแสดงวิธีหาคาตอบไม่ได้ ครู
ควรแกไ้ ขโดยการให้นักเรียนฝึกเขียนแสดงวิธหี าคาตอบกบั ครู
เปน็ รายบุคคล
ขัน้ สรปุ
ข้ันขยายความเข้าใจ
- การหาผลบวกหรอื ผลลบเกยี่ วกับน้าหนักเป็นกโิ ลกรัมและขีดทาไดโ้ ดยนานา้ หนักท่เี ปน็ หนว่ ยเดียวกนั มาบวกหรอื ลบกัน
ข้นั ตรวจสอบผล
- ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั หนา้ 141 - 143
6. การวัดและประเมินผล
การวัดและประเมินผลจุดประสงค์ วิธกี ารวัดผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การประเมินผล
ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคิด 70% ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น
-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ
ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝึกหดั 70% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่าน
-การให้เหตุผล เกณฑ์การประเมิน
-การสรปุ ความรกู้ ารปฏบิ ัติ
คณุ ลกั ษณะนิสัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม 70% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผ่าน
ทางานร่วมกับกลุม่ ขณะ ทางานร่วมกับกลมุ่ เกณฑ์การประเมนิ
7. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้
1. บัตรโจทย์
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
-
8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ครผู ้สู อน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)
สปั ดาห์ที่ 14
โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา
แผนการจัดการเรยี นรู้
ภาคเรยี นท่ี ……1…/…………... ชอ่ื ผ้สู อน …………………………….…….......................
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 การวัดน้าหนกั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 จานวน 2 คาบ
เร่ือง การบวกและการลบเก่ียวกบั น้าหนัก (2)
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพืน้ ฐานเกีย่ วกบั การวดั วัดและคาดคะเนขนาดของส่งิ ทตี่ ้องการวดั และไปใช้
ตวั ชว้ี ัด ป.2/4 วดั และเปรยี บเทียบนา้ หนักเป็นกิโลกรัม และกรมั กโิ ลกรมั และขดี
ป.2/5 แสดงหาคาตอบของโจทย์ปัญหา การบวก การลบเก่ยี วกับนา้ หนักหนว่ ยเปน็ กโิ ลกรมั และกรมั กิโลกรัม
และขีด
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การหาผลบวกหรอื ผลลบเก่ียวกับน้าหนักเป็นกิโลกรัมและขดี หรือกิโลกรัมและกรมั ทาไดโ้ ดยนานา้ หนกั ที่เปน็ หน่วย
เดยี วกนั มาบวกหรือลบกัน
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
บวกและลบเกี่ยวกับนา้ หนกั
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
ใช้วิธกี ารท่ีเหมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้
ดา้ นคณุ ลักษณะ(A)
มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความม่ันใจ
4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถน่ิ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
การบวกและลบเก่ียวกบั น้าหนัก
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 1-2
ข้นั นา
ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ
1. ครตู ดิ บตั รโจทย์ ปูหนกั 3 กิโลกรัม 200 กรมั และหมึกหนัก 650 กรัม แล้วถามนักเรียนว่า ปกู บั หมกึ หนกั
รวมกนั เป็นกี่กิโลกรัม ก่ีกรัม ครูใหน้ กั เรียนนาน้าหนักทเ่ี ป็นหน่วยเดียวกันมาบวกกัน จะได้ 200 กรมั รวมกบั 650 กรมั เป็น
850 กรมั ดงั นั้น ปูกบั หมึกหนักรวมกันเปน็ 3 กโิ ลกรมั 850 กรมั จากน้นั ครูแนะนาการเขียนแสดงวธิ หี าคาตอบ โดยเขียน
หนว่ ยนา้ หนกั ไว้ก่อน แลว้ เขียนตวั เลขแสดงน้าหนกั ของปูและหมกึ ให้ตรงกบั หน่วยนา้ หนักแต่ละหนว่ ย แล้วจงึ นาจานวนใน
หนว่ ยนา้ หนักเดียวกันมาบวกกนั ครูแนะนาการเขยี นแสดงวิธหี าคาตอบ ดงั นี้
กิโลกรมั กรมั
ปูหนกั 3 200 +
หมกึ หนัก 650
หนักรวมกนั 3 850
ข้นั สอน
ขัน้ สารวจค้นหา
2. ครูยกตวั อย่างการบวกเกยี่ วกับนา้ หนักทเ่ี ป็นหน่วยกิโลกรัมและกรมั ตามหนังสือเรียนหน้า 226 ครูควรเน้นย้าเร่ือง
การบวกที่ผลบวกในหน่วยกรัมเป็น 1,000 ต้องทด 1,000 กรัม หรือ 1 กิโลกรัมไปรวมกับผลบวกในหน่วยกิโลกรัม ครูให้
นกั เรียนช่วยกนั เขียนแสดงวิธหี าคาตอบในกรอบทา้ ยหน้า 225 – 226
3. ครูตดิ บัตรโจทย์ 2 กิโลกรมั 500 กรมั น้อยกว่า 4 กิโลกรมั 750 กรัม อยเู่ ท่าไร ครูให้นกั เรยี นนาน้าหนกั ทเี่ ป็น
หน่วยเดยี วกนั มาลบกัน ครูแนะนาการเขียนแสดงวิธที าดงั น้ี
ครตู ิดบตั รโจทย์ 3 กโิ ลกรมั มากกว่า 600 กรัมอยเู่ ท่าไร
ครูให้นักเรียนสังเกตว่า 3 กิโลกรัม เม่ือเขียนแสดงวิธีทาเราจะเขียน 3 ในหน่วยกิโลกรัม และเขียน 0 ใน
หนว่ ยกรมั ดว้ ย ในการลบต้องกระจาย 3 กิโลกรมั มา 1 กิโลกรัม หรอื 1,000 กรมั แล้วนามาลบกับ 600 กรัม เหลือ 400 กรัม
สาหรับ 3 กิโลกรัมเม่ือกระจายไปแล้ว 1 กิโลกรัม เหลือ 2 กิโลกรัม ลบด้วย 0 กิโลกรัม เหลือ 2 กิโลกรัม ดังนั้น 3 กิโลกรัม
มากกวา่ 600 กรมั อยู่ 2 กิโลกรัม 400 กรมั เขยี นแสดงวิธี
หาคาตอบ ตามตัวอย่างกรอบทีส่ องในหนงั สือเรยี นหน้า 227 จากนน้ั ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันเขียนแสดงวธิ ีหาคา ตอบในกรอบ
ทา้ ยหน้า 227
ขั้นอธบิ ายความรู้
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนเขียนแสดงวิธีหาคาตอบเป็นรายบุคคล ตามหนังสือเรียนหน้า
228 จากน้นั ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ หากมีนักเรียนเขียนแสดงวิธีหาคาตอบไม่ได้
ครูควรแกไ้ ขโดยการให้นกั เรียนฝึกเขยี นแสดงวิธหี าคาตอบกับครเู ป็นรายบคุ คล
ข้นั สรุป
ขั้นขยายความเข้าใจ
- การหาผลบวกหรือผลลบเกี่ยวกบั น้าหนกั เปน็ กิโลกรัมและกรัม ทาได้โดยนานา้ หนักที่เปน็ หน่วยเดียวกนั มาบวกหรอื ลบ
กัน
ขน้ั ตรวจสอบผล
- ให้นักเรยี นทาแบบฝึกหัดหน้า 144 - 146
6. การวัดและประเมนิ ผล
การวัดและประเมินผลจุดประสงค์ วิธกี ารวดั ผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
- คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่าน
ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ
แบบฝกึ หดั 70% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น
-การสงั เกต เกณฑ์การประเมนิ
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานรว่ มกับกล่มุ 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
-การใหเ้ หตุผล
-การสรปุ ความรู้การปฏบิ ัติ
คณุ ลักษณะนสิ ัย (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ
ทางานรว่ มกับกลุ่ม
7. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรยี นรู้
1. บัตรโจทย์
7.2 แหล่งการเรยี นรู้
-
8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชือ่ ............................................ครูผสู้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชอ่ื ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)
สัปดาหท์ ่ี 14
โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรียนรู้
ภาคเรียนที่ ……1…/…………... ชือ่ ผสู้ อน …………………………….…….......................
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 การวดั น้าหนกั ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 จานวน 2 คาบ
เร่ือง โจทย์ปญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ(1)
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพ้นื ฐานเกี่ยวกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทต่ี อ้ งการวัดและไปใช้
ตัวชีว้ ัด ป.2/4 วัดและเปรียบเทียบนา้ หนกั เปน็ กโิ ลกรมั และกรัม กโิ ลกรมั และขีด
ป.2/5 แสดงหาคาตอบของโจทย์ปัญหา การบวก การลบเกีย่ วกับน้าหนักหนว่ ยเปน็ กโิ ลกรัมและกรมั กิโลกรัม
และขดี
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
• การหาผลบวกหรือผลลบเกี่ยวกบั น้าหนกั เป็นกิโลกรัมและขีด หรือกโิ ลกรมั และกรมั ทาได้โดยนานา้ หนักที่เปน็ หนว่ ย
เดียวกันมาบวกหรือลบกัน
• การแก้โจทยป์ ัญหาทาไดโ้ ดย อ่านทาความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา หาคาตอบและตรวจสอบความ
สมเหตุสมผล
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบเกี่ยวกับนา้ หนัก
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
ใช้วิธกี ารท่เี หมาะสมในการแก้ปญั หา และคานวณหาคาตอบได้
ด้านคุณลกั ษณะ(A)
มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมั่นใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ
โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
5. กิจกรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 1-2
ขนั้ นา
ข้ันกระตนุ้ ความสนใจ
1. ครูติดบัตรโจทย์ปัญหา ใบบัวมีมะเขือ 5 กิโลกรัม 5 ขีด เกบ็ จากสวนได้อกี 1 กโิ ลกรมั 4 ขีด ใบบัวมี
มะเขือ ทงั้ หมดก่ีกโิ ลกรมั ก่ขี ีด ครใู ห้นักเรียนช่วยกันวิเคราะหโ์ จทย์วา่ โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียนควรบอกไดว้ า่
สิง่ ทีโ่ จทย์ถามคือ ใบบัวมมี ะเขือท้ังหมดกี่กโิ ลกรัม กีข่ ดี สง่ิ ทโี่ จทย์บอกคอื ใบบวั มีมะเขือ 5 กโิ ลกรมั 5 ขีด เกบ็ จากสวนได้อีก 1
กโิ ลกรัม 4 ขีด ครูถามว่าหาคาตอบได้อยา่ งไร
ขั้นสอน
ขนั้ สารวจคน้ หา
1. ครตู ิดบัตรโจทย์ปัญหา ใบบวั มมี ะเขอื 5 กิโลกรัม 5 ขดี เก็บจากสวนไดอ้ ีก 1 กโิ ลกรมั 4 ขดี ใบบัวมีมะเขือ ทั้งหมด
ก่ีกิโลกรมั กี่ขดี ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกันวเิ คราะหโ์ จทย์วา่ โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียนควรบอกได้ว่า สิ่งท่ีโจทย์ถาม
คือ ใบบัวมีมะเขือทั้งหมดก่ีกิโลกรัม ก่ีขีด สิ่งที่โจทย์บอกคือใบบัวมีมะเขือ 5 กิโลกรัม 5 ขีด เก็บจากสวนได้อีก 1 กิโลกรัม 4
ขดี ครูถามว่าหาคาตอบไดอ้ ยา่ งไร นักเรยี นควรตอบได้วา่ นาน้าหนักมาบวกกนั ครแู นะนาการเขยี นแสดงวธิ หี าคาตอบ ดังนี้
กโิ ลกรัม ขดี
ใบบวั มีมะเขือหนัก 5 5+
เก็บจากสวนได้อกี 1 4
ใบบวั มีมะเขอื ท้งั หมด 6 9
ดังนัน้ ใบบัวมีมะเขือท้ังหมด 6 กโิ ลกรัม 9 ขดี
ครเู น้นย้าการตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบว่า 5 กิโลกรมั 5 ขีดมากกวา่ 5 กิโลกรัม เมือ่ รวมกบั 1 กิโลกรมั
ผลบวกจะมากกวา่ 6 กโิ ลกรัม ครูอาจยกตัวอย่างเพิม่ เติม ดังนี้
ในถงุ มสี ้ม 2 กิโลกรัม 6 ขีด ขุนหยิบสม้ ใสถ่ ุงเพิ่มอีก 8 ขดี มีส้มในถงุ กีก่ โิ ลกรัม กีข่ ีด
วธิ ที า กโิ ลกรัม ขีด
ในถุงมีสม้ 2 6+
หยิบส้มใส่ถงุ เพิ่มอีก 8
มสี ้มในถงุ 2 14
หรือ 3 4
ครูแนะนาเพ่ิมเติมว่า ผลบวกท่ีได้ในหน่วยขีดมากกว่า 10 ต้องทด 1 สิบ หรือ 1 กิโลกรัม ไปรวมกับผลบวกในหน่วยกิโลกรัม
เพราะ 10 ขดี เทา่ กับ 1 กโิ ลกรัม
2. ครูติดบตั รโจทย์ปญั หา แม่ค้ามผี ักกาด 14 กโิ ลกรัม 7 ขีด ขายไป 5 กิโลกรัม 9 ขีด แม่ค้าเหลือผักกาดกี่กิโลกรัม กี่
ขีด ครูให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์โจทย์ว่า โจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียนควรบอกได้ว่า สิ่งที่โจทย์ถามคือ แม่ค้า
เหลือผักกาดก่ีกิโลกรัม กี่ขีดส่ิงท่ีโจทย์บอกคือ แม่ค้ามีผักกาด 14 กิโลกรัม 7 ขีด ขายไป 5 กิโลกรัม 9 ขีด ครูถามว่า หา
คาตอบได้อย่างไร นักเรียนควรตอบได้ว่า นาน้าหนักมาลบกันครูแนะนาการเขียนแสดงวิธีหาคาตอบ ครูให้นักเรียนสังเกตว่า
ในหนว่ ยนา้ หนกั ท่เี ป็นขีด ตวั ต้งั น้อยกวา่ ตวั ลบ ตอ้ งกระจายจาก 14 กิโลกรัม มา 1 กิโลกรัม หรือ 10 ขีด ไปรวมกับ 7 ขีด ได้
17 ขีด แล้วจึงนามาลบกับ 9 ขีด สาหรับ 14 กิโลกรัม กระจายไปแล้ว 1 กิโลกรัมเหลือ 13 กิโลกรัม แล้วจึงนามาลบกับ 5
กิโลกรมั ครูใหน้ กั เรียนตรวจสอบคาตอบโดยการนา 8 กโิ ลกรมั 8 ขีด บวกกบั 5 กโิ ลกรมั 9 ขีด แล้วไดผ้ ลบวกเป็น 14 กิโลกรัม
7 ขีด แสดงว่า 8 กิโลกรัม 8 ขีด เป็นคาตอบท่ีถูกต้อง จากนั้นครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนแสดงวิธีหาคาตอบ ข้อ 1 และ 2 ใน
กรอบทา้ ยหนา้ 230
3. ครูติดบัตรโจทย์ปัญหา แม่ค้าชั่งมะละกอผลใหญ่กับผลเล็กรวมกันหนัก 3 กิโลกรัม 8 ขีด ถ้ามะละกอผลเล็กหนัก
1 กโิ ลกรมั 3 ขดี มะละกอผลใหญ่หนักเท่าไร ครูให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์โจทย์ว่าโจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียน
ควรบอกได้วา่ สิง่ ทีโ่ จทย์ถามคอื มะละกอผลใหญห่ นักเทา่ ไร
สิ่งท่ีโจทย์บอกคือ แม่ค้าชั่งมะละกอผลใหญ่กับผลเล็กรวมกันหนัก 3 กิโลกรัม 8 ขีด ครูถามว่าหาคาตอบได้อย่างไร นักเรียน
อาจจะยังตอบไม่ได้ทันที ครูอธิบายเพิ่มเติมโดยใช้ Bar Model แล้วครูถามนักเรียนว่า จากภาพน้าหนักของมะละกอผลใหญ่
หาได้อย่างไร นักเรยี นควรตอบได้ว่า นาน้าหนักมะละกอผลใหญ่กับมะละกอผลเล็กลบด้วยน้าหนักมะละกอผลเล็กจากน้ัน ครู
และนักเรียนชว่ ยกันเขยี นแสดงวธิ ีหาคาตอบตามหนังสอื เรียนหนา้ 231 ครูใหน้ ักเรียนตรวจสอบคาตอบโดยนาคาตอบท่ีได้รวม
กับน้าหนักมะละกอผลเล็กจะได้เท่ากับน้าหนักของมะละกอผลเล็กกับผลใหญ่รวมกันจากนั้นครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนแสดง
วธิ หี าคาตอบในกรอบทา้ ยหนา้ 231
ข้ันอธบิ ายความรู้
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนโดยใหน้ ักเรียนเขียนแสดงวธิ หี าคาตอบเปน็ รายบุคคลตามหนังสือเรียนหน้า 232
จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ หากมีนักเรียนวิเคราะห์โจทย์ปัญหาหรือเขียน
แสดงวิธีหาคาตอบไม่ได้ ครูควรแก้ไขโดยการให้นักเรียนฝึกวิเคราะห์โจทย์ปัญหาและเขียนแสดงวิธีหาคาตอบกับครูเป็น
รายบุคคล
ขัน้ สรปุ
ขัน้ ขยายความเข้าใจ
- การแกโ้ จทยป์ ัญหาทาได้โดย อ่านทาความเข้าใจปญั หาวางแผนแกป้ ัญหา หาคาตอบและตรวจสอบความสมเหตุสมผล
ของคาตอบ
ขั้นตรวจสอบผล
- ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ หัดหน้า 147 - 149
6. การวดั และประเมนิ ผล
การวัดและประเมนิ ผลจุดประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ ผล
ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคดิ 70% ข้ึนไป ถือว่าผา่ น
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝึกหดั 70% ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ น
-การใหเ้ หตุผล เกณฑ์การประเมนิ
-การสรุปความรกู้ ารปฏบิ ตั ิ
คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม 70% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่าน
ทางานร่วมกับกลุม่ ขณะ ทางานรว่ มกับกลุ่ม เกณฑ์การประเมิน
7. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1. บตั รโจทยป์ ัญหาการบวกและบัตรโจทยป์ ญั หาการลบ
7.2 แหล่งการเรยี นรู้
-
8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ครูผ้สู อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชอื่ ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)
สปั ดาหท์ ่ี 14
โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรียนรู้
ภาคเรียนที่ ……1…/…………... ช่อื ผู้สอน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 การวัดน้าหนกั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 2 คาบ
เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ(2)
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพื้นฐานเก่ยี วกบั การวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสง่ิ ที่ต้องการวดั และไปใช้
ตวั ชวี้ ดั ป.2/4 วดั และเปรียบเทยี บน้าหนักเป็นกิโลกรัม และกรัม กโิ ลกรัมและขดี
ป.2/5 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา การบวก การลบเกย่ี วกบั น้าหนักหนว่ ยเป็นกโิ ลกรัมและกรัม
กิโลกรมั และขีด
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
• การหาผลบวกหรือผลลบเกี่ยวกับนา้ หนักเปน็ กิโลกรัมและขดี หรอื กโิ ลกรัมและกรัม ทาได้โดยนาน้าหนักที่เป็นหน่วย
เดียวกนั มาบวกหรือลบกัน
• การแก้โจทย์ปัญหาทาไดโ้ ดย อา่ นทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หาคาตอบและตรวจสอบความ
สมเหตสุ มผล
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบเกยี่ วกับนา้ หนัก
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
ใชว้ ิธีการท่เี หมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้
ด้านคุณลักษณะ(A)
มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่ันใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น
โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 1-2
ขน้ั นา
ข้ันกระตนุ้ ความสนใจ
1. ครูตดิ บตั รโจทยป์ ัญหา ครูซื้อมันฝรง่ั 1 กิโลกรมั 250 กรมั และหอมหัวใหญ่ 750 กรัม ครซู อ้ื มันฝรง่ั และ
หอมหวั ใหญก่ ่ีกโิ ลกรัม กกี่ รัม ครูให้นกั เรียนช่วยกนั วิเคราะห์โจทย์วา่ โจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร นกั เรียนควรบอกได้ว่า
สง่ิ ท่โี จทยถ์ ามคือ ครซู ื้อมนั ฝรั่งและหอมหวั ใหญก่ ี่กิโลกรมั กกี่ รมั
สงิ่ ที่โจทยบ์ อกคอื ครูซ้ือมนั ฝร่งั 1 กิโลกรัม 250 กรัม และหอมหัวใหญ่ 750 กรัม ครถู ามว่า หาคาตอบได้อยา่ งไร
นักเรียนควรตอบได้ว่า นานา้ หนักมาบวกกัน
ข้นั สอน
ขั้นสารวจค้นหา
1. ครูติดบัตรโจทย์ปัญหา ครูซ้ือมันฝรั่ง 1 กิโลกรัม 250 กรัม และหอมหัวใหญ่ 750 กรัม ครูซ้ือมันฝร่ังและ
หอมหัวใหญ่กี่กิโลกรัม กี่กรัม ครูให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์โจทย์ว่า โจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียนควรบอกได้ว่า
สงิ่ ทโ่ี จทยถ์ ามคอื ครซู ือ้ มนั ฝรงั่ และหอมหัวใหญ่ก่ีกิโลกรัม กี่กรมั
สิ่งทโ่ี จทยบ์ อกคือ ครซู อื้ มนั ฝร่ัง 1 กโิ ลกรัม 250 กรมั และหอมหวั ใหญ่ 750 กรมั ครูถามวา่ หาคาตอบได้อยา่ งไร
นกั เรียนควรตอบไดว้ ่า นาน้าหนกั มาบวกกัน
ครูแนะ นาการเขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบ ดงั น้ี
กโิ ลกรัม กรัม
มันฝร่งั หนัก 1 250 +
หอมหวั ใหญ่หนกั 750
น้าหนักรวม 1 1000
หรอื 2 0
ดังนัน้ ครูซ้อื มันฝรั่งและหอมหวั ใหญ่ 2 กโิ ลกรัม
ครูเน้นย้าการตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบว่า 1 กิโลกรัม 250 กรัม มากกว่า 1 กิโลกรัม เม่ือรวมกับ 750 กรัม
ผลบวกจะมากกว่า 1 กิโลกรัม ครูแนะนาเพิ่มเติมว่า ผลบวกท่ีได้ในหน่วยกรัมเท่ากับ 1,000 ต้องทด 1,000 กรัม หรือ 1
กโิ ลกรัม ไปรวมกับผลบวกในหนว่ ยกโิ ลกรมั เพราะ 1,000 กรมั เทา่ กับ 1 กิโลกรมั
2. ครูตดิ บตั รโจทยป์ ญั หา แม่มนี ้าตาลทราย 2 กิโลกรัม ใชท้ าขนม 450 กรมั แม่เหลอื น้าตาลทราย
กี่กิโลกรัม กก่ี รัม ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกันวิเคราะหโ์ จทยว์ า่ โจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียนควรบอกได้ว่า สิ่งท่ีโจทย์ถาม
คือ แม่เหลือน้าตาลทรายก่ีกิโลกรัม ก่ีกรัมสิ่งที่โจทย์บอกคือ แม่มีน้าตาลทราย 2 กิโลกรัม ใช้ทาขนม 450 กรัม ครูถามว่า หา
คาตอบได้อย่างไรนักเรยี นควรตอบได้วา่ นาน้าหนักมาลบกนั ครแู นะนาการเขยี นแสดงวิธีหาคาตอบครูให้นักเรียนสังเกตว่า ใน
หนว่ ยน้าหนักท่เี ปน็ กรัมตัวตั้งน้อยกว่าตัวลบ ต้องกระจายจาก 2 กิโลกรัมมา 1 กิโลกรัม หรือ 1,000 กรัม แล้วจึงนามาลบกับ
450 กรัม สาหรับ 2 กิโลกรัม กระจายไปแล้ว 1 กิโลกรัมเหลือ 1 กิโลกรัมครูให้นักเรียนตรวจสอบคาตอบโดยการนาคาตอบที่
ได้บวกกับ 450 กรัม แล้วได้ผลบวกเท่ากับ 2 กิโลกรัมแสดงว่าคาตอบที่ได้เป็นคาตอบที่ถูกต้อง จากน้ันครูให้นักเรียนช่วยกัน
เขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบ ขอ้ 1 และ 2 ในกรอบทา้ ยหน้า 234
3. ครตู ิดบัตรโจทย์ปัญหา แม่มแี ป้งสาลี 750 กรัม ต้องซอื้ มาเพม่ิ อกี ก่กี ิโลกรมั กก่ี รัม แม่จึงจะมแี ป้งสาลี 2 กิโลกรัม
ครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะห์โจทยว์ ่า โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรยี นควรบอกไดว้ า่ ส่งิ ท่ีโจทย์ถามคือ ตอ้ งซ้อื มา
เพ่มิ อกี กีก่ ิโลกรมั กี่กรมั ส่ิงท่โี จทย์บอกคือ แมม่ ีแป้งสาลี 750 กรมั ต้องการมีแป้งสาลี 2 กโิ ลกรัม ครถู ามว่า หาคาตอบได้
อยา่ งไร นกั เรียนอาจจะยังตอบไม่ได้ทนั ที ครอู ธิบายเพ่มิ เติมโดยใช้ Bar Modelแล้วครถู ามนกั เรียนว่า จากภาพน้าหนักของ
แป้งสาลที ่แี มต่ ้องซ้ือมาเพ่มิ อีก หาได้อย่างไรนักเรยี นควรตอบไดว้ า่ นานา้ หนกั ของแปง้ สาลีทแี่ ม่ต้องต้องการลบด้วยน้าหนกั
ของแป้งสาลีที่แม่มีอยู่จากน้นั ครูและนกั เรียนช่วยกันเขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบ ตามหนังสือเรียนหนา้ 235 ครูใหน้ ักเรียน
ตรวจสอบคาตอบโดยนาคาตอบท่ีไดร้ วมกบั นา้ หนักของแป้งสาลีทีแ่ ม่มีอยู่ จะได้เท่ากบั น้าหนกั ของแป้งสาลีที่แมต่ ้องการ
จากน้นั ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันเขยี นแสดงวธิ ีหาคาตอบในกรอบท้ายหนา้ 235
ขนั้ อธบิ ายความรู้
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยให้นักเรยี นเขียนแสดงวิธีหาคาตอบเปน็ รายบุคคลตามหนังสือเรียนหน้า 236
จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้หากมีนักเรียนวิเคราะห์โจท ย์ปัญหาหรือเขียน
แสดงวิธีหาคาตอบไม่ได้ ครูควรแก้ไขโดยการให้นักเรียนฝึกวิเคราะห์โจทย์ปัญหาและเขียนแสดงวิธีหาคาตอบกับครูเป็น
รายบุคคล
ขนั้ สรปุ
ขน้ั ขยายความเข้าใจ
- การแก้โจทย์ปญั หาทาได้โดย อ่านทาความเข้าใจปญั หา วางแผนแกป้ ญั หา หาคาตอบและตรวจสอบความ
สมเหตสุ มผลของคาตอบ
ขนั้ ตรวจสอบผล
- ให้นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หนา้ 150 - 153
6. การวัดและประเมินผล
การวดั และประเมนิ ผลจุดประสงค์ วิธกี ารวัดผล เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน
-การสงั เกต เกณฑ์การประเมิน
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หัด 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น
-การใหเ้ หตผุ ล เกณฑ์การประเมิน
-การสรปุ ความรกู้ ารปฏบิ ตั ิ
คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผ่าน
ทางานรว่ มกบั กลมุ่ ขณะ ทางานรว่ มกับกลุ่ม เกณฑ์การประเมิน
7. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1. บตั รโจทย์ปญั หาการบวกและบัตรโจทยป์ ัญหาการลบ
7.2 แหล่งการเรยี นรู้
-
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ครผู ้สู อน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)
สัปดาหท์ ี่ 15
โรงเรียนขจรเกียรตพิ ัฒนา
แผนการจดั การเรียนรู้
ภาคเรียนที่ ……1…/…………... ชอื่ ผูส้ อน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การคณู ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 จานวน 2 คาบ
เรอ่ื ง ความหมายของการคูณ (1)
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่เี กดิ ขน้ึ จาก
การดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวช้ีวดั ท่ี ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลกั ตบั จานวนไมเ่ กนิ 2 หลกั
ป.2/8 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขั้นตอนของจานวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 0
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ส่งิ ตา่ ง ๆ ท่จี ัดเป็นกลมุ่ หรือเป็นแถวท่แี ต่ละกลุม่ หรือแตล่ ะแถวมีจานวนสมาชิกเท่ากันสามารถเขียนในรูปการคูณของ
จานวนสองจานวน คือ จานวนกลุ่มหรือจานวนแถวคูณกับจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่มหรือจานวนสมาชิกในแต่ละแถว ผลคูณ
ของจานวนสองจานวนนน้ั คอื จานวนสมาชกิ ทงั้ หมด
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
เขยี นประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคูณจากสถานการณ์ทก่ี าหนด
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
ใชว้ ธิ กี ารที่เหมาะสมในการแกป้ ัญหา และคานวณหาคาตอบได้
ด้านคณุ ลักษณะ(A)
มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความม่นั ใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น
ความหมายของการคูณ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 1-2
ขนั้ นา
ขน้ั กระตุ้นความสนใจ
1. ครูชูบัตรภาพส้ม 4 จาน จานละ 5 ผล ตามหนังสือเรียนหน้า 241 ให้นักเรียนดูแล้วถามนักเรียนว่าในภาพมี
อะไรบ้าง นักเรียนตอบ มีส้ม 4 จาน จานละ 5 ผล ครูถามว่า มีส้มท้ังหมดกี่ผล นักเรียนตอบ มีส้มท้ังหมด 20 ผล ครูถามว่า
หาคาตอบได้อย่างไร นักเรียนอาจใช้การนับ หรือการบวกโดยนาจานวนส้มมาบวกกัน เช่น มีส้ม 5 + 5 + 5 + 5 = 20 ผล
จากน้ันครูแนะนาว่าจากสถานการณ์ดังกล่าว สามารถเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้ 4 × 5 = 20 ครูแนะนา
เคร่ืองหมายคูณ และผลคูณ พร้อมทั้งแนะนาว่า เม่ือเขียน 4 × 5 = 20 น้ัน 4 เป็นจานวนกลุ่ม 5 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละ
กลุ่ม และ 20 คอื ผลคูณ ในทีน่ ้ีคอื สม้ 4 จาน จานละ 5 ผล มสี ้มทงั้ หมด 20 ผล
ขัน้ สอน
ข้ันสารวจคน้ หา
2. ครใู หน้ กั เรยี นเขยี นประโยคสญั ลักษณ์การคูณจากสถานการณ์ที่กาหนดให้จากหนังสือเรียนหน้า 242 ภาพแรก ครู
ถามนักเรียนว่าเห็นอะไรในภาพบ้างนักเรียนตอบ มีขนมถ้วย 3 จาน จานละ 4 ถ้วย ครูถามต่อว่ามีขนมถ้วยท้ังหมดก่ีถ้วย
นักเรียนตอบ 12 ถ้วย ครูแนะนาเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การบวกได้ 4 + 4 + 4 = 12 เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การ
คูณได้ 3 × 4 = 12 และใช้คาถามว่า จาก 3 × 4 = 12 น้ัน 3 ในที่น้ีหมายถึงอะไร 4 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร และ 12 ในท่ีน้ี
หมายถึงอะไรนักเรียนตอบว่า 3 เป็นจานวนกลุ่ม 4 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 12 เป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด
จากน้ันครสู อนในทานองเดียวกนั นีโ้ ดยใช้ภาพคกุ กี้ และภาพโดนทั ตามหนงั สือเรยี นหน้า 242
3. ครนู าคุกกี้มาจดั เปน็ ถงุ 8 ถุง ถุงละ 3 ช้ิน แลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์การบวก และประโยคสัญลักษณ์
การคณู แสดงจานวนคกุ ก้ีทง้ั หมดจะได้ 3 + 3 + 3 + 3 + 3 + 3 + 3 + 3 = 24 และ 8 × 3 = 24 ครูถามนักเรียนเพื่อเน้นย้า
ความเข้าใจว่าจาก 8 × 3 = 24 นั้น 8 ในที่น้ีหมายถึงอะไร 3 ในที่น้ีหมายถึงอะไร และ 24 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ
ว่า 8 เป็นจานวนกลุ่ม 3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 24 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด จากนั้นครูจัดกลุ่มคุกก้ีใหม่เป็น
3 ถุง ถุงละ 8 ช้ิน แล้วถามนักเรียนว่า มีคุกก้ีท้ังหมดกี่ช้ิน และจัดเป็นก่ีถุง ถุงละกี่ชิ้นนักเรียนตอบว่า มีคุกกี้ท้ังหมด 24 ช้ิน
จดั เปน็ 3 ถุง ถงุ ละ 8 ช้นิ ครูถามนักเรียนว่าเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนเขียนได้เป็น 3 × 8 = 24
ครชู ้ีไปท่ีประโยคสัญลักษณก์ ารคูณ 8 × 3 = 24 อีกครงั้ แลว้ ให้นกั เรยี นพดู ว่า จดั คุกก้ี 8 ถุง ถุงละ 3 ช้ิน มีคุกก้ีท้ังหมด 24 ชิ้น
และครูช้ีไปที่ประโยคสัญลักษณ์การคูณ 3 × 8 = 24 แล้วให้นักเรียนพูดว่า จัดคุกก้ี 3 ถุง ถุงละ 8 ชิ้น มีคุกก้ีทั้งหมด 24 ช้ิน
ครูใหน้ ักเรยี นสังเกตวา่ 3 × 8 = 24 และ 8 × 3 = 24 ถึงแมว้ า่ จะมี จานวนคุ๊กกี้ 24 ชน้ิ เทา่ กัน แต่ลักษณะของการจัดคุ๊กก้ีใส่
ถุงแตกต่างกัน จากน้ันครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนประโยคสัญลักษณ์การคูณจากสถานการณ์ข้อ 1− 4 ที่กาหนดในกรอบท้าย
หน้า 243 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
ขั้นอธิบายความรู้
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์การคูณจากประโยคสัญลักษณ์การบวก
และจากสถานการณ์ที่กาหนดให้ โดยให้บอกด้วยว่าจานวนกลุ่มคือจานวนใด จานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่มคือจานวนใด และ
จานวนสมาชิกท้ังหมดคือจานวนใด เพื่อให้นักเรียนได้เน้นย้าความเข้าใจว่าจากประโยคสัญลักษณ์การคูณ จานวนที่อยู่หน้า
เคร่ืองหมายคณู เปน็ จานวนกลมุ่ จานวนทีอ่ ยูห่ ลงั เคร่ืองหมายคณู เปน็ จานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และจานวนหลังเครื่องหมาย
เทา่ กบั เป็นจานวนสมาชกิ ทัง้ หมด จากนน้ั ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ สง่ิ ท่ไี ด้เรยี นรู้
ขัน้ สรุป
ขน้ั ขยายความเข้าใจ
- ส่ิงต่าง ๆ ที่จัดเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีจานวนสมาชิกเท่ากัน สามารถเขียนในรูปการคูณของจานวนสองจานวน คือ
จานวนกล่มุ คณู กับจานวนสมาชิกในแต่ละกลมุ่ ผลคูณของจานวนสองจานวนนนั้ คือ จานวนสมาชิกทง้ั หมด
ข้นั ตรวจสอบผล
- ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั หนา้ 154 - 156
6. การวดั และประเมินผล
การวดั และประเมนิ ผลจดุ ประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การประเมนิ ผล
- คาถามกระตุน้ ความคิด 70% ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น
ความรู้ความเข้าใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมิน
แบบฝึกหดั 70% ขน้ึ ไป ถือว่าผ่าน
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน
- แบบประเมินพฤติกรรม
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานรว่ มกับกลุม่ 70% ข้นึ ไป ถือว่าผ่าน
เกณฑ์การประเมนิ
-การใหเ้ หตุผล
-การสรุปความร้กู ารปฏิบตั ิ
คณุ ลักษณะนสิ ัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ
ทางานรว่ มกบั กลมุ่
7. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรยี นรู้
1. บัตรภาพ
2. ส่อื ของจรงิ เช่น ตัวนบั ปากกา ดินสอ
7.2 แหลง่ การเรียนรู้
-
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ครูผสู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชอื่ ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)
สัปดาห์ที่ 15
โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา
แผนการจดั การเรียนรู้
ภาคเรียนท่ี ……1…/…………... ชื่อผ้สู อน …………………………….…….......................
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 การคูณ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 จานวน 2 คาบ
เร่ือง ความหมายของการคูณ (2)
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชว้ี ดั
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทเี่ กิดข้ึนจาก
การดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตวั ชว้ี ัดที่ ป.2/5 หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าใน ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลกั ตับจานวนไมเ่ กนิ 2 หลัก
ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขัน้ ตอนของจานวนนบั ไมเ่ กิน1,000 และ 0
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
สิง่ ต่าง ๆ ทีจ่ ัดเป็นกลุ่มหรือเป็นแถวที่แตล่ ะกลมุ่ หรือแต่ละแถวมจี านวนสมาชิกเท่ากันสามารถเขียนในรูปการคูณของ
จานวนสองจานวน คอื จานวนกลมุ่ หรอื จานวนแถวคูณกับจานวนสมาชิกในแตล่ ะกลมุ่ หรอื จานวนสมาชิกในแตล่ ะแถว ผลคูณ
ของจานวนสองจานวนนั้น คอื จานวนสมาชกิ ทงั้ หมด
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
เขียนประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการคณู จากสถานการณ์ทก่ี าหนด
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
ใช้วิธกี ารทีเ่ หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้
ดา้ นคณุ ลักษณะ(A)
มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่ันใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่นิ
ความหมายของการคูณ พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
5. กิจกรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 1-2
ขนั้ นา
ข้นั กระต้นุ ความสนใจ
1. ครูชูบัตรภาพเดก็ ที่นั่งเป็นแถว 3 แถวตามแนวนอนในภาพแรกตามหนงั สือเรยี นหน้า 245
ขั้นสอน
ข้ันสารวจค้นหา
1. ครูชบู ัตรภาพเดก็ ทน่ี ง่ั เป็นแถว 3 แถวตามแนวนอนในภาพแรกตามหนังสือเรยี นหน้า 245
ครูถามนักเรียนว่าในแนวนอนมีเด็กน่ังอยู่ก่ีแถว นักเรียนตอบ 3 แถว ครูถามแถวละก่ีคน นักเรียนตอบ แถว
ละ 4 คน ครถู าม มเี ด็กท้ังหมดก่ีคน นกั เรยี นตอบ 12 คน ครถู าม 12 คนหาไดโ้ ดยวิธใี ด นกั เรียนตอบ 4 + 4 + 4 = 12ครูถาม
ว่าเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 3 × 4 = 12 ครูถามนักเรียน 3 ในที่น้ีหมายถึงอะไร 4 ในท่ีนี้
หมายถึงอะไร และ12 ในทนี่ ห้ี มายถงึ อะไร นักเรียนตอบว่า .3 เป็นจานวนแถว 4 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละแถว และ 12
เป็นจานวนสมาชกิ ท้ังหมด จากนั้นครูให้นักเรียนดูภาพเด็กน่ังเป็นแถวตามแนวตั้ง แล้วถามนักเรียนว่า ในแถวแนวต้ังมีเด็กนั่ง
อยูก่ ่แี ถวแถวละกค่ี นและมีจานวนเด็กทั้งหมดก่ีคน นักเรียนตอบ มีเด็กนั่งอยู่ 4 แถว แถวละ 3 คน มีเด็กน่ังอยู่ท้ังหมด 12 คน
ครูถามว่า 12 คนหาได้โดยวิธีใด นักเรียนตอบ 3 + 3 + 3 + 3 = 12ครูถามว่าเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร
นักเรียนตอบ 4 × 3 = 12 ครูถามนักเรียน 4 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร 3 ในที่น้ีหมายถึงอะไร และ 12 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร
นักเรียนตอบ 4 หมายถงึ จานวนแถว 3 หมายถึงจานวนสมาชกิ ในแตล่ ะแถว และ 12 หมายถึงจานวนสมาชิกทง้ั หมด
ครูช้ีไปท่ีประโยคสัญลักษณ์การคูณ 3 × 4 = 12 อีกคร้ัง แล้วให้นักเรียนพูดพร้อมกันว่า 3 เป็นจานวนแถว 4 เป็นจานวน
สมาชิกในแต่ละแถว และ 12 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมดและครูชี้มาท่ีประโยคสัญลักษณ์การคูณ 4 × 3 = 12 อีกคร้ัง แล้วให้
นักเรียนพูดพร้อมกันว่า 4 เป็นจานวนแถว 3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละแถว และ 12 เป็นจานวนสมาชิกท้ังหมดครูให้
นักเรียนสังเกตว่า 3 × 4 = 4 × 3 ถ้าพบว่ามีนักเรียนท่ียังไม่เข้าใจเร่ืองแถวแนวต้ังและแถวแนวนอน ให้ครูใช้ส่ือประกอบที่
เป็น QR Code ในหนังสือเรียนหน้า 245 ซ่ึงเม่ือแสกนQR Code แล้วจะเป็นวีดีทัศน์แสดงให้นักเรียนเห็นได้ง่ายข้ึนว่า แถว
แนวนอนกับแถวแนวต้งั น้ันต่างกันอย่างไรและให้สงั เกตอย่างไร โดยครูอาจจะอธบิ ายเพม่ิ เติมประกอบวดี ีทศั นด์ ้วยก็ได้
2. ครูให้นักเรียนดูภาพต้นตะบองเพชรในหนังสือเรียนหน้า 246 แล้วถามนักเรียนว่าต้นตะบองเพชรมีก่ีแถวแถวละก่ี
ต้น มีท้ังหมดก่ีต้น นักเรียนอาจตอบว่า มี 2 แถวแถวละ 3 ต้น มีทั้งหมด 6 ต้น หรือมี 3 แถว แถวละ 2 ต้นมีทั้งหมด 6 ต้น
จากนั้นครูให้นักเรียนเขียนเป็น ประโยคสัญลักษณ์การคูณ จะได้ว่า 2 × 3 = 6 หรือ 3 × 2 = 6 ครูชี้ไปท่ีประโยคสัญลักษณ์
การคูณ 2 × 3 = 6 แล้วถาม นักเรียนว่า 2 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร 3 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร และ 6 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร นักเรียน
ตอบ 2 เป็นจานวนแถว 3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละแถว และ 6 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด จากน้ันครูช้ีไปท่ีประโยค
สัญลักษณ์การคูณ 3 × 2 = 6 แล้วถามนักเรียนว่า 3 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร 2 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร และ 6 ในที่น้ีหมายถึงอะไร
นักเรยี นตอบ 3 เปน็ จานวนแถว 2 เป็นจานวนสมาชกิ ในแต่ละแถวและ 6 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมดครูให้นักเรียนสังเกต 2 ×
3 = 3 × 2 จากน้นั ครูใหน้ ักเรียนพจิ ารณาภาพขวดในลังว่ามีก่ีแถวแต่ละแถวมีก่ีขวด และมีขวดทั้งหมดเท่าไร แล้วทากิจกรรม
เช่นเดียวกันกับข้างต้นโดยครูควรเน้นย้าเรื่องการเขียนประโยคสัญลักษณ์การคูณและการบอกความหมายให้ตรงกับประโยค
สัญลักษณก์ ารคณู เพอ่ื ใหน้ กั เรียนบอกความหมายไดค้ ล่องและจาได้แมน่
3. ครแู บง่ นกั เรยี นเป็นกลุม่ แล้วแจกกระดาษจดุ ท่ีทาเปน็ แถวตามหนังสือเรียนหนา้ 247 แล้วใหน้ ักเรยี นเขยี นประโยค
สัญลกั ษณ์การคณู แสดงจานวนจดุ ท้งั หมดลงไปในกระดาษทแ่ี จกให้ เมื่อนกั เรียนเขียนเสรจ็ ทุกกลุ่มแล้วครูใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม
นาเสนอประโยคสัญลักษณ์การคณู และอธบิ ายความหมาย กล่มุ ละ 1 ข้อ จากนั้นครูและเพ่ือนในห้องรว่ มกนั ตรวจสอบความ
ถูกต้อง
ข้นั อธบิ ายความรู้
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์การคูณจากสถานการณ์ที่กาหนดให้และ
ให้บอกว่าจานวนแถวคือจานวนใด จานวนสมาชิกในแต่ละแถวคือจานวนใด และจานวนสมาชิกทั้งหมดคือจานวนใด เพื่อให้
นักเรียนได้เข้าใจว่าจากประโยคสัญลักษณ์การคูณ จานวนที่อยู่หน้าเครื่องหมายคูณเป็นจานวนแถว จานวนที่อยู่หลัง
เคร่ืองหมายคูณเป็นจานวนสมาชิกในแตล่ ะแถว และจานวนท่อี ยู่หลังเครื่องหมายเท่ากับเป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด จากน้ันครู
และนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรปุ ส่ิงที่ได้เรยี นรู้
ขนั้ สรปุ
ข้นั ขยายความเข้าใจ
- สิ่งต่าง ๆ ที่จัดเป็นแถว แต่ละแถวมีจานวนสมาชิกเท่ากันสามารถเขียนในรูปการคูณของจานวนสองจานวน คือ จานวน
แถวกบั จานวนสมาชกิ ในแตล่ ะแถว ผลคณู ของจานวนสองจานวนนัน้ คอื จานวนสมาชกิ ทง้ั หมด
- จานวนสองจานวนคูณกัน เม่ือสลับที่กันผลคูณยงั คงเทา่ เดิม
ขั้นตรวจสอบผล
- ให้นักเรียนทาแบบฝกึ หดั หนา้ 157 - 158
6. การวดั และประเมนิ ผล
การวดั และประเมินผลจดุ ประสงค์ วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์การประเมินผล
ความร้คู วามเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคดิ 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผ่าน
-การสงั เกต เกณฑ์การประเมนิ
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝึกหดั 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่าน
เกณฑ์การประเมิน
-การให้เหตุผล
-การสรปุ ความรกู้ ารปฏิบตั ิ
คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผ่าน
ทางานรว่ มกับกลมุ่ ขณะ ทางานร่วมกับกลุม่ เกณฑ์การประเมนิ
7. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้
1. บตั รภาพ
2. สื่อของจรงิ เชน่ ตวั นับ ปากกา ดนิ สอ
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
-
8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงช่ือ............................................ครผู ู้สอน ลงช่ือ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชอ่ื ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)
สัปดาห์ท่ี 15
โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา
แผนการจดั การเรียนรู้
ภาคเรียนที่ ……1…/…………... ชอ่ื ผู้สอน …………………………….…….......................
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 การคณู ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 2 จานวน 2 คาบ
เรื่อง หนงึ่ และศนู ย์กับการคูณ
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ จาก
การดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตวั ชี้วดั ป.2/5 หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคูณ ของจานวน 1 หลกั ตับจานวนไม่เกนิ 2 หลกั
ป.2/8 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขั้นตอนของจานวนนบั ไมเ่ กิน1,000 และ 0
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
• จานวนใดคูณกับ 1 ผลคูณเทา่ กับจานวนนน้ั และจานวนใดคณู กับ 0 ผลคูณเท่ากับ 0
• การคณู จานวน 1 หลกั กบั จานวน 1 หลกั หาผลคณู โดยใช้สตู รคูณแม่ 2 แม่ 3 แม่ 4 แม่ 5 แม่ 6 แม่ 7 แม่ 8 หรือ
แม่ 9
• จานวน 1 หลัก คูณกับ 10 20 30 40 50 60 70 80 90 หาผลคณู โดยนาจานวน 1 หลักนั้นคูณกับ 1 2 3 4 5 6
7 8 9 ตามลาดับ แลว้ เตมิ 0 ต่อทา้ ย
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
หาผลคณู ของจานวนหนงึ่ หลักกับ 0 และหาผลคูณของจานวนหนงึ่ หลักกบั 1
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
ใชว้ ธิ ีการทเ่ี หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้
ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)
มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่ันใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถ่นิ
หนึง่ และศนู ย์กบั การคณู พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 1-2
ขน้ั นา
ข้นั กระตุ้นความสนใจ
1. ครูติดบตั รภาพขนมคุกกี้ 3 ถุง ถงุ ละ 1 ชนิ้ ตามหนังสือเรียนหนา้ 249 แล้วถามนกั เรียนว่า มคี กุ กี้ก่ถี ุงถุงละกี่ชิ้น
มคี กุ กีท้ ้งั หมดกชี่ ้นิ
ขั้นสอ2น.
ขัน้ สารวจคน้ หา
1. ครูติดบัตรภาพขนมคุกก้ี 3 ถุง ถุงละ 1 ช้ิน ตามหนังสือเรียนหน้า 249 แล้วถามนักเรียนว่า มีคุกกี้ก่ีถุงถุงละก่ีช้ิน มีคุกก้ี
ทง้ั หมดก่ชี ิ้น นกั เรยี นตอบวา่ มคี ุกกี้ 3 ถุง ถงุ ละ 1 ชิน้ มคี ุกก้ีท้ังหมด 3 ชิ้น ครูถามว่า เขียนเป็น ประโยคสัญลักษณ์การคูณได้
อย่างไร นักเรียนตอบ 3 × 1 = 3 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 3 × 1 = 3 นั้น 3 ตัวหน้าในท่ีน้ีหมายถึง
อะไร 1 ในที่นี้ หมายถึงอะไร และ 3 ตัวหลังในท่ีน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 3 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ1 เป็นจานวน
สมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 3 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพคุกก้ี 1 ถุง ถุงละ 3 ช้ิน ครูถามนักเรียนว่า มี
คุกกี้กี่ถุง ถุงละกี่ชิ้น มีคุกก้ีทั้งหมดก่ีชิ้น นักเรียนตอบว่า มีคุกก้ี 1 ถุง ถุงละ 3 ชิ้น มีคุกก้ีท้ังหมด 3 ช้ิน ครูถามว่า เขียนเป็น
ประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 1 × 3 = 3 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 1 × 3 = 3
น้นั 1 ในท่ีนห้ี มายถงึ อะไร 3 ตัวหน้าในท่ีน้หี มายถงึ อะไร และ 3 ตัวหลังในท่ีนี้หมายถึงอะไร นกั เรียนตอบ 1 เปน็ จานวนกล่มุ
3 ตวั หน้าเปน็ จานวนสมาชิกในแต่ละกลมุ่ และ 3 ตวั หลงั เปน็ จานวนสมาชกิ ทั้งหมด ครใู หน้ ักเรียนสังเกตว่า 3 × 1 = 3 และ 1
× 3 = 3 จากน้นั ครูติดบัตรภาพส้ม 4 จาน จานละ 1 ผล ตามหนังสือเรียนหน้า 249 แล้วถามนักเรียนว่า มีส้มก่ีจาน จานละกี่
ผล มสี ม้ ท้ังหมดก่ีผล นักเรียนตอบว่า มสี ้ม 4 จาน จานละ 1 ผล มีส้มทัง้ หมด 4 ผลครูถามว่า เขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ์การ
คูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 4 × 1 = 4 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 4 × 1 = 4 นั้น 4 ตัวหน้าในท่ีนี้
หมายถึงอะไร 1 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร และ 4 ตัวหลังน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 4 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ 1 เป็น
จานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 4 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด ครูติดบัตรภาพส้ม 1 จาน จานละ 4 ผล แล้วถาม
นักเรียนว่า มีส้มกี่จาน จานละกี่ผล มีส้มท้ังหมดก่ีผล นักเรียนตอบว่า มีส้ม 1 จาน จานละ 4 ผล มีส้มทั้งหมด 4 ผล ครูถาม
ว่าเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 1 × 4 = 4 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ
1 × 4 = 4 นั้น 1 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร 4 ตัวหน้าในท่ีน้ีหมายถึงอะไร และ 4 ตัวหลังในที่นี้หมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 1 เป็น
จานวนกลุม่ และ 4 เป็นจานวนสมาชกิ ในแตล่ ะกล่มุ และ 4 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด ครูยกตัวอย่างอื่นเพ่ิมเติมจนได้
ขอ้ สรุปร่วมกับนักเรยี นวา่ จานวนใดคูณกบั 1 ผลคณู เท่ากบั จานวนนั้น
2. ครูสนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกบั ภาพตามหนงั สือเรียนหน้า 250 ว่าเป็นเร่ืองราวท่ีมีขนมอยู่ในจานแล้วขุนกับต้นกล้า
กินขนมทอี่ ยใู่ นจานหมดแล้ว จากน้นั ครูติดบตั รภาพจานขนม 3 จาน จานละ 0 ช้ิน แล้วถามนักเรียนว่า มีขนมกี่จาน จานละก่ี
ช้ิน มีขนมท้ังหมดก่ีชิ้น นักเรียนตอบว่า มีขนม 3 จาน จานละ 0 ช้ิน มีขนมท้ังหมด 0 ชิ้น ครูถามว่า เขียนเป็นประโยค
สัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 3 × 0 = 0ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 3 × 0 = 0 นั้น 3 ใน
ที่นห้ี มายถึงอะไร 0 ตัวหน้าในที่นี้หมายถึงอะไร และ 0 ตัวหลัง ในที่นี้หมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 3 เป็น จานวนกลุ่ม และ 0
ตัวหน้าเป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 0 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด ครูแนะนาว่า เน่ืองจากการคูณจานวนสอง
จานวนเมื่อสลับที่กันผลคูณยังคงเท่าเดิมครูถามนักเรียนว่า เน่ืองจาก 3 × 0 = 0 แล้ว 0 × 3 เท่ากับเท่าไร นักเรียนตอบ
0 × 3 = 0จากนั้นครูยกตัวอย่างเพิ่มเติม เช่น 1 × 0 เท่ากับเท่าไร 2 × 0 เท่ากับเท่าไร0 × 1 เท่ากับเท่าไร 0 × 2 เท่ากับ
เท่าไรจนนักเรียนเข้าใจและได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจานวนใดคูณกับ 0 ผลคูณเท่ากับ 0 ครูให้นักเรียนช่วยกับหาผลคูณของ
จานวนใด ๆ กับ 0 ในกรอบท้ายหน้า 250 เม่ือนักเรียนช่วยกันหาคาตอบเสร็จแล้ว ครูอาจให้นักเรียนนาเสนอเป็นรายบุคคล
เพื่อตรวจสอบว่ามใี ครไม่เข้าใจบ้างโดยครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
3. เม่ือนักเรียนเข้าใจการคูณจานวนใด ๆ กับ 1 และการคูณจานวนใด ๆ กับ 0 แล้ว ครูให้นักเรียนฝึกหาผลคูณ โดย
ให้ช่วยกันหาผลคูณตามหนังสือเรียนหน้า 251 อาจจะแบ่งกลุ่มแล้วให้นักเรียนช่วยกันทาเป็นกลุ่ม และนาเสนอ หรืออาจให้
ตอบเป็นรายบุคคลเพ่ือให้นักเรียนทุกคนได้มีส่วนร่วมในการเรียนจากน้ันครูและนักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องถ้ามี
นกั เรยี นบางคนตอบไมไ่ ด้ ครคู วรสอนโดยใช้สื่ออกี คร้ังเพื่อใหน้ ักเรียนเข้าใจยิง่ ข้ึน
ข้นั อธิบายความรู้
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนใด ๆ กับ 0 และหาผลคูณของจานวนใด ๆ
กบั 1 ตามหนังสือเรียนหน้า 252 แต่จะพบว่าข้อ 7−10 เป็นการให้เติมตัวเลขแสดงจานวนให้ได้ผลคูณเท่ากับ 1 หรือให้ได้ผล
คูณเท่ากับ 0 เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะในการคิดให้คล่อง ซ่ึงเป็นการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ จากนั้นครูและนักเรียน
ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรปุ ส่งิ ท่ีไดเ้ รียนรู้
ขน้ั สรุป
ข้นั ขยายความเข้าใจ
ครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิง่ ท่ไี ดเ้ รียนรู้
• จานวนใดคณู กบั 1 ผลคูณเท่ากบั จานวนน้ัน
• จานวนใดคูณกับ 0 ผลคณู เทา่ กับ 0
ขน้ั ตรวจสอบผล
- ให้นักเรียนทาแบบฝกึ หัดหน้า 159 - 160
6. การวดั และประเมนิ ผล
การวัดและประเมนิ ผลจุดประสงค์ วิธกี ารวัดผล เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ ผล
- คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่าน
ความรูค้ วามเข้าใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ
แบบฝกึ หดั 70% ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ น
-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานร่วมกับกลมุ่ 70% ขึ้นไป ถือว่าผ่าน
เกณฑ์การประเมิน
-การให้เหตุผล
-การสรปุ ความรูก้ ารปฏบิ ตั ิ
คณุ ลักษณะนิสัย (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ
ทางานร่วมกับกล่มุ
7. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้
1. บตั รภาพ
2. สื่อของจรงิ เช่น ตวั นบั ปากกา ดินสอ
7.2 แหลง่ การเรียนรู้
-
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ครผู ้สู อน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)
สปั ดาหท์ ่ี 16
โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรยี นท่ี ……1…/…………... ชอื่ ผสู้ อน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 การคูณ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 2 คาบ
เร่อื ง การคณู จานวนหน่งึ หลักกบั จานวนหนงึ่ หลัก(1)
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลท่เี กิดข้นึ จาก
การดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวชี้วดั ที่ ป.2/5 หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าใน ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลกั ตบั จานวนไมเ่ กนิ 2 หลัก
ป.2/8 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปญั หา 2 ข้ันตอนของจานวนนับไมเ่ กิน1,000 และ 0
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
• การหาผลคณู ของจานวน 1 หลักกบั จานวน2 หลกั โดยการต้งั คณู ต้องคูณในหลกั หน่วยก่อน แล้วคูณในหลักสบิ ถ้า
ผลคณู ในหลกั ใดครบสบิ หรอื มากกวา่ สิบ ใหท้ ดจานวนท่คี รบสิบไปหลกั ถดั ไปทางซ้าย
• ความรสู้ ึกเชิงจานวนเก่ียวกับการคูณเป็นการบอกว่าผลคูณของจานวนสองจานวนใดมีค่า มากกว่ากัน นอ้ ยกว่ากนั
หรือเทา่ กันโดยไมต่ ้องหาผลคูณของสองจานวนนนั้
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
หาผลคูณของจานวนหนง่ึ หลักกับ 2 และหาผลคูณของจานวนหนงึ่ หลกั กับ 3
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
ใชว้ ิธกี ารทเี่ หมาะสมในการแก้ปญั หา และคานวณหาคาตอบได้
ดา้ นคุณลักษณะ(A)
มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความม่ันใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่
การคณู จานวนหน่ึงหลกั กับจานวนหนงึ่ หลัก พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 1-2
ขนั้ นา
ข้ันกระตุ้นความสนใจ
1. ครตู ิดบตั รภาพมะนาว 2 จาน จานละ 1 ผล แล้วถามนักเรียนวา่ มีมะนาวกจ่ี าน จานละก่ผี ล มีมะนาวทง้ั หมดก่ีผล
ขั้นสอน
ขั้นสารวจคน้ หา
1. ครูติดบตั รภาพมะนาว 2 จาน จานละ 1 ผล แล้วถามนกั เรยี นว่า มมี ะนาวกี่จาน จานละก่ีผล มีมะนาวท้งั หมดก่ผี ล
นักเรียนตอบว่า มีมะนาว 2 จาน จานละ 1 ผล มีมะนาวท้ังหมด 2 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้
อย่างไร นักเรียนตอบ 2 × 1 = 2 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 2 × 1 = 2 น้ัน 2 ตัวหน้าในท่ีน้ีหมายถึง
อะไร 1 ในที่นี้หมายถึงอะไร และ 2 ตัวหลังในท่ีนี้หมายถึงอะไรนักเรียนตอบ 2 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่มและ 1 เป็นจานวน
สมาชิกในแต่ละกลุ่มและ 2 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกท้ังหมดครูติดบัตรภาพมะนาว 2 จาน จานละ 2 ผลแล้วถามนักเรียนว่า
มีมะนาวกจ่ี าน จานละกีผ่ ล มมี ะนาวทง้ั หมดก่ผี ล นกั เรียนตอบว่า มีมะนาว 2 จาน จานละ 2 ผล มีมะนาวทั้งหมด 4 ผล
ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 2 × 2 = 4 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์
การคณู 2 × 2 = 4 นัน้ 2 ตัวหน้าในที่นี้หมายถงึ อะไร 2 ตัวหลงั ในที่นี้หมายถึงอะไร และ 4 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ
2 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ 2 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่มและ 4 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพ
มะนาว 2 จาน จานละ 3 ผล แล้วถามนักเรียนว่า มีมะนาวกี่จาน จานละกี่ผล มีมะนาวทั้งหมดก่ีผล นักเรียนตอบว่า มีมะนาว
2 จาน จานละ 3 ผล มมี ะนาวทงั้ หมด 6 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลกั ษณ์การคูณไดอ้ ยา่ งไร นกั เรียนตอบ2 × 3 = 6
ครถู ามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 2 × 3 = 6 นั้น 2 ในที่น้ีหมายถึงอะไร 3 ในที่นี้หมายถึงอะไร และ 6 ในที่น้ี
หมายถงึ อะไร นักเรยี นตอบ 2 เปน็ จานวนกลุ่ม และ 3 เปน็ จานวนสมาชิกในแต่ละกลุม่ และ 6 เปน็ จานวนสมาชกิ ทง้ั หมด
ครูติดบัตรภาพมะนาว 2 จาน จานละ 4 ผล แล้วถามนักเรียนว่า มีมะนาวกี่จาน จานละก่ีผล มีมะนาวท้ังหมดกี่ผล นักเรียน
ตอบว่า มีมะนาว 2 จาน จานละ 4 ผล มีมะนาวท้ังหมด 8 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร
นักเรียนตอบ 2 × 4 = 8 ครูติดบัตรภาพมะนาว 2 จาน จานละ 5 ผล แล้วถามนักเรียนว่า มีมะนาวก่ีจาน จานละก่ีผล มี
มะนาวทั้งหมดกี่ผลนักเรียนตอบว่า มีมะนาว 2 จาน จานละ 5 ผล มีมะนาวท้ังหมด 10 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยค
สัญลกั ษณก์ ารคูณไดอ้ ย่างไร นกั เรียนตอบ 2 × 5 = 10 ครูแนะนาว่า การจัดสิ่งต่าง ๆ เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน เป็นการ
นา2 ไปคณู กับจานวนของสิง่ ตา่ ง ๆ อาจเขียนเปน็ 2 × 1 = 2 2 × 2 = 4 2 × 3 = 6 2 × 4 = 8 2 × 5 = 10
ซึ่งเรียกวา่ สตู รคณู แม่ 2 ครใู ห้นกั เรียนสังเกตผลคูณ จะเห็นวา่ สูตรคณู แม่ 2 มีผลคูณเพม่ิ ขน้ึ ทีละ 2 จากนนั้ ครถู ามนกั เรยี น
ว่า 2 × 6เทา่ กับเท่าไร 2 × 7 เท่ากับเทา่ ไร 2 × 8 เทา่ กบั เทา่ ไร 2 × 9 เทา่ กับเท่าไร โดยสงั เกตจากผลคูณจากนัน้ ครเู ขยี น
สตู รคณู แม่ 2 ใหค้ รบแล้วใหน้ ักเรยี นอา่ นพรอ้ มกนั
2. ครูตดิ บัตรภาพขนมถว้ ย 3 จาน จานละ 1 ถว้ ย แล้วถามนกั เรียนว่า มีขนมถ้วยก่ีจาน จานละก่ถี ว้ ย มีขนมถ้วย
ท้งั หมดก่ีถ้วยนกั เรยี นตอบว่า มขี นมถ้วย 3 จาน จานละ 1 ถว้ ย มีขนมถ้วยทั้งหมด 3 ถว้ ย ครถู ามวา่ เขยี นเป็นประโยค
สัญลักษณ์การคณู ได้อยา่ งไรนักเรยี นตอบ 3 × 1 = 3 ครถู ามนกั เรียนว่าจากประโยคสญั ลักษณ์การคูณ 3 × 1 = 3 นน้ั 3 ตวั
หน้าในที่น้หี มายถงึ อะไร 1 ในที่น้ี หมายถงึ อะไร และ 3 ตวั หลังในทน่ี ี้หมายถึงอะไรนักเรียนตอบ 3 ตวั หน้าเป็นจานวนกลุ่ม
และ 1 เปน็ จานวนสมาชิกในแตล่ ะกลุ่มและ 3 ตัวหลงั เป็นจานวนสมาชิกทงั้ หมดครูตดิ บัตรภาพขนมถ้วย 3 จาน จานละ 2
ถว้ ยแลว้ ถามนกั เรียนว่า มีขนมก่จี าน จานละก่ีถ้วย มขี นมถ้วยทั้งหมดก่ีถว้ ย นกั เรียนตอบวา่ มีขนมถว้ ย 3 จาน จานละ 2 ถ้วย
มีขนมถว้ ยท้ังหมด 6 ถว้ ยครถู ามวา่ เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์การคูณได้อย่างไร นกั เรยี นตอบ 3 × 2 = 6 ครถู ามนักเรยี นวา่
จากประโยคสญั ลักษณ์การคูณ 3 × 2 = 6 นัน้ 3 ในท่ีนห้ี มายถงึ อะไร 2 ในทนี่ หี้ มายถงึ อะไร และ 6 ในทน่ี หี้ มายถึงอะไร
นักเรียนตอบ 3 เป็นจานวนกล่มุ และ 2 เป็นจานวนสมาชกิ ในแตล่ ะกลุ่มและ 6 เปน็ จานวนสมาชิกทั้งหมด ครตู ิดบตั รภาพ
ขนมถ้วย 3 จาน จานละ 3 ถ้วย แล้วถามนักเรียนวา่ มขี นมถ้วยก่จี าน จานละกีถ่ ้วย มขี นมถ้วยท้ังหมดก่ถี ้วย นกั เรียนตอบว่า
มีขนมถ้วย 3 จาน จานละ 3 ถว้ ย มขี นมถว้ ยทั้งหมด 9 ถ้วย ครูถามว่า เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณไดอ้ ยา่ งไร
นักเรียนตอบ 3 × 3 = 9 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 3 × 3 = 9 นั้น 3 ตัวหน้าในท่ีนี้หมายถึงอะไร 3
ตัวหลังในที่น้ีหมายถึงอะไร และ 9 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 3 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ 3 ตัวหลังเป็นจานวน
สมาชกิ ในแต่ละกลุ่มและ 9 เป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด ครูติดบัตรภาพขนมถ้วย 3 จาน จานละ 4 ถ้วย แล้วถามนักเรียนว่า มี
ขนมถ้วยกี่จาน จานละกี่ถ้วย มีขนมถ้วยทั้งหมดก่ีถ้วย นักเรียนตอบว่า มีขนมถ้วย 3 จาน จานละ 4 ถ้วย มีขนมถ้วยทั้งหมด
12 ถ้วย ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 3 × 4 = 12 ครูติดบัตรภาพขนมถ้วย 3 จาน
จานละ 5 ถ้วย แล้วถามนักเรียนว่า มีขนมถ้วยกี่จาน จานละกี่ถ้วย มีขนมถ้วยทั้งหมดก่ีถ้วย นักเรียนตอบว่า มีขนมถ้วย 3
จาน จานละ 5 ถว้ ย มีขนมถ้วยทั้งหมด 15 ถ้วย ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 3 × 5
= 15 ครูแนะนาว่า การจดั สง่ิ ต่าง ๆ เป็น 3 กลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆ กันเป็นการนา 3 ไปคูณกับจานวนของสิ่งต่าง ๆ อาจเขียนเป็น
3 × 1 = 3 3 × 2 = 6 3 × 3 = 9 3 × 4 = 12 3 × 5 = 15 ซ่งึ เรียกวา่ สูตรคูณแม่ 3
ครูให้นักเรียนสงั เกตผลคูณ จะเห็นวา่ สตู รคณู แม่ 3 มี ผลคณู เพ่ิมขึน้ ทลี ะ 3 จากนัน้ ครถู ามนกั เรยี นว่า 3 × 6 เท่ากบั เทา่ ไร 3
× 7 เท่ากับเทา่ ไร 3 × 8 เทา่ กับเทา่ ไร 3 × 9 เท่ากบั เท่าไร โดยสังเกตจากผลคณู จากน้ันครเู ขียนสตู รคูณแม่ 3 ใหค้ รบแล้วให้
นักเรียนอ่านพรอ้ มกัน
3. ครูให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนหน่ึงหลักกับ 2 โดยใช้การถาม−ตอบ เช่น 4 × 2 เท่ากับเท่าไร ซึ่งนักเรียนอาจ
หาผลคูณ โดยนา 2 มาบวกกัน 4 จานวน (2 + 2 + 2 + 2) ครูแนะนาว่า เน่ืองจากการคูณจานวนสองจานวน เม่ือสลับท่ีกัน
ผลคูณยังคงเท่าเดิมจะได้ 4 × 2 = 2 × 4 ดังน้ัน สามารถหาผลคูณของ 4 × 2 ได้จาก 2 × 4 ซึ่งเท่ากับ 8 จากน้ัน ครูให้
นักเรียนช่วยกันหาผลคูณของจานวนหน่ึงหลักกับ 2 และหาผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 3 ตามหนังสือเรียนหน้า 255 โดย
ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ขั้นอธิบายความรู้
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 2 และหาผลคูณของจานวน
หนึ่งหลักกับ 3 ตามหนังสือเรียนหน้า 256 และจะพบว่าข้อ 2 ข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 6 เป็นการใช้การสลับที่การคูณเพื่อหา
คาตอบ ซึ่งนักเรียนเรียนรู้มาแล้วในหน้า 252 เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการคิดให้คล่อง ซ่ึงเป็นการส่งเสริมความคิด
สรา้ งสรรค์จากนัน้ ครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้องและสรปุ ส่งิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้
ข้ันสรุป
ขน้ั ขยายความเข้าใจ
ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรุปส่งิ ทไี่ ดเ้ รียนรู้
• 2 คูณกับจานวนหน่ึงหลัก หาผลคูณได้โดยใชส้ ูตรคูณแม่ 2
• 3 คณู กับจานวนหนงึ่ หลกั หาผลคูณได้โดยใช้สตู รคูณแม่ 3
ข้ันตรวจสอบผล
- ให้นักเรยี นทาแบบฝกึ หัดหน้า 161 - 163
6. การวัดและประเมนิ ผล
การวัดและประเมินผลจดุ ประสงค์ วธิ ีการวัดผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมินผล
- คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน
ความรูค้ วามเขา้ ใจ (K) -ทดสอบ เกณฑ์การประเมนิ
แบบฝึกหัด 70% ขึ้นไป ถือวา่ ผ่าน
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน
- แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก ขณะ ทางานร่วมกับกล่มุ 70% ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
-การให้เหตุผล
-การสรปุ ความรกู้ ารปฏบิ ตั ิ
คุณลักษณะนสิ ัย (A) - สังเกตพฤติกรรมขณะ
ทางานรว่ มกบั กลุม่
7. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้
1. บตั รภาพ
2. สอื่ ของจรงิ เช่น ตัวนับ ปากกา ดินสอ
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
-
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงช่อื ............................................ครผู ูส้ อน ลงชือ่ ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชอ่ื ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)
สัปดาห์ท่ี 16
โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา
แผนการจดั การเรียนรู้
ภาคเรยี นที่ ……1…/…………... ช่ือผู้สอน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 จานวน 2 คาบ
เรอื่ ง การคณู จานวนหนงึ่ หลักกับจานวนหนงึ่ หลกั (2)
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกดิ ขึ้นจาก
การดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวช้วี ดั ที่ ป.2/5 หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคูณ ของจานวน 1 หลกั ตบั จานวนไมเ่ กิน 2 หลัก
ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขั้นตอนของจานวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
• การหาผลคูณของจานวน 1 หลกั กับจานวน2 หลักโดยการต้ังคูณ ต้องคูณในหลกั หนว่ ยก่อน แลว้ คูณในหลักสิบ ถ้า
ผลคณู ในหลักใดครบสิบ หรือมากกวา่ สบิ ใหท้ ดจานวนทีค่ รบสบิ ไปหลักถัดไปทางซา้ ย
• ความรสู้ ึกเชงิ จานวนเกี่ยวกับการคูณเปน็ การบอกว่าผลคูณของจานวนสองจานวนใดมีค่า มากกวา่ กัน นอ้ ยกวา่ กัน
หรอื เท่ากนั โดยไม่ต้องหาผลคูณของสองจานวนน้ัน
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
หาผลคูณของจานวนหนง่ึ หลกั กับ 2 และหาผลคณู ของจานวนหนงึ่ หลกั กบั 3
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
ใชว้ ธิ ีการทีเ่ หมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้
ด้านคุณลกั ษณะ(A)
มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่นั ใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่
การคณู จานวนหนึง่ หลกั กับจานวนหนึ่งหลกั พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 1-2
ขน้ั นา
ขน้ั กระตุน้ ความสนใจ
1. ครูติดบตั รภาพคุกกี้ 4 ถงุ ถงุ ละ 1 ช้ิน แลว้ ถามนกั เรียนว่า มีคุกก้ีกถ่ี ุง ถุงละกี่ชน้ิ มคี ุกกี้ทง้ั หมดกี่ช้นิ
ขั้นสอน
ข้ันสารวจค้นหา
1. ครูตดิ บัตรภาพคุกก้ี 4 ถุง ถงุ ละ 1 ช้ิน แล้วถามนักเรียนว่า มีคุกก้ีกี่ถุง ถุงละก่ีช้ิน มีคุกกี้ท้ังหมดก่ีช้ินนักเรียนตอบว่า มีคุกก้ี
4 ถุง ถุงละ 1 ช้ิน มีคุกก้ีท้ังหมด 4 ช้ินครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 4 × 1 = 4 ครู
ถามนกั เรยี นวา่ จากประโยคสญั ลกั ษณ์การคณู 4 × 1 = 4 นั้น 4 ตัวหน้าในท่ีน้ีหมายถึงอะไร 1 ในที่นี้หมายถึงอะไร และ 4 ตัว
หลังในท่ีน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 4 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ 1 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 4 ตัวหลังเป็น
จานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพคุกกี้ 4 ถุง ถุงละ 2 ชิ้น แล้วถามนักเรียนว่า มีคุกก้ีกี่ถุง ถุงละก่ีชิ้น มีคุกก้ีทั้งหมดกี่ช้ิน
นักเรียนตอบว่า มีคุกกี้ 4 ถุง ถุงละ 2 ชิ้น มีคุกกี้ท้ังหมด 8 ช้ิน ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร
นักเรียนตอบ 4 × 2 = 8ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 4 × 2 = 8 นั้น 4 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร 2 ในที่น้ี
หมายถึงอะไร และ 8 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 4 เป็นจานวนกลุ่ม และ 2 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 8
เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพคุกกี้ 4 ถุง ถุงละ 3 ชิ้น แล้วถามนักเรียนว่า มีคุกก้ีกี่ถุง ถุงละกี่ช้ิน มีคุกกี้ท้ังหมดกี่
ชิน้ นักเรยี นตอบว่า มคี ุกก้ี 4 ถุง ถงุ ละ 3 ช้นิ มคี กุ กี้ท้ังหมด 12 ชิ้น ครถู ามว่า เขียนเป็นประโยคสญั ลกั ษณ์การคณู ไดอ้ ย่างไร
นักเรียนตอบ 4 × 3 = 12 ครถู ามนักเรียนวา่ จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 4 × 3 = 12 นั้น 4 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร 3 ในที่นี้
หมายถึงอะไร และ 12 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 4 เป็นจานวนกลุ่ม และ3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 12
เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพคุกก้ี 4 ถุง ถุงละ 4 ชิ้น แล้วถามนักเรียนว่า มีคุกกี้กี่ถุง ถุงละกี่ชิ้น มีคุกกี้ทั้งหมดก่ี
ชิ้น นักเรียนตอบวา่ มีคุกกี้ 4 ถงุ ถุงละ 4 ชิน้ มคี ุกกี้ทัง้ หมด 16 ช้นิ ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลกั ษณ์การคณู ได้อย่างไร
นักเรียนตอบ 4 × 4 = 16 ครตู ิดบตั รภาพคุกกี้ 4 ถุง ถุงละ 5 ช้ิน แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ มีคุกก้กี ี่ถุง ถุงละกชี่ ิ้น มีคกุ กี้ท้งั หมดกช่ี ิน้
นักเรยี นตอบว่า มีคุกก้ี 4 ถุง ถงุ ละ 5 ชนิ้ มีคุกกี้ทง้ั หมด 20 ชิ้น ครถู ามว่า เขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อยา่ งไร
นักเรยี นตอบ 4 × 5 = 20ครูแนะนาวา่ การจัดส่ิงตา่ ง ๆ เป็น 4 กล่มุ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั เปน็ การนา4 ไปคณู กบั จานวนของสิง่
ต่าง ๆ อาจเขียนเป็น 4 × 1 = 4 4 × 2 = 8 4 × 3 = 12 4 × 4 = 16 4 × 5 = 20 ซึ่งเรียกว่าสูตรคูณแม่ 4 ครูให้นักเรียน
สังเกตผลคูณจะเห็นว่า สูตรคูณแม่ 4 มีผลคูณเพิ่มข้ึนทีละ 4 จากน้ันครูถามนักเรียนว่า 4 × 6 เท่ากับเท่าไร 4 × 7 เท่ากับ
เท่าไร 4 × 8 เท่ากับเท่าไร 4 × 9 เท่ากับเท่าไร โดยสังเกตจากผลคูณ จากน้ันครูเขียนสูตรคูณแม่ 4 ให้ครบ แล้วให้นักเรียน
อา่ นพร้อมกัน
2. ครตู ดิ บตั รภาพขนมตาล 5 จาน จานละ 1 ช้ิน แลว้ ถามนักเรียนวา่ มขี นมตาลกี่จาน จานละกี่ช้ินมีขนมตาลทั้งหมด
กี่ช้ิน นักเรียนตอบว่า มีขนมตาล 5 จาน จานละ 1 ช้ิน มีขนมตาลท้ังหมด 5 ชิ้น ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การ
คูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 5 × 1 = 5 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 5 × 1 = 5 น้ัน 5 ตัวหน้าในท่ีนี้
หมายถึงอะไร 1 ในที่น้ีหมายถึงอะไร และ 5 ตัวหลังในท่ีน้ีหมายถึงอะไรนักเรียนตอบ 5 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ 1 เป็น
จานวนสมาชกิ ในแต่ละกลุ่ม และ 5 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกทั้งหมดครูติดบัตรภาพขนมตาล 5 จาน จานละ 2 ชิ้น แล้วถาม
นักเรียนว่า มีขนมตาลก่ีจาน จานละกี่ชิ้น มีขนมท้ังหมดก่ีช้ิน นักเรียนตอบว่า มีขนมตาล 5 จาน จานละ 2 ชิ้น มีขนมตาล
ท้ังหมด 10 ช้ิน ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 5 × 2 = 10 ครูถามนักเรียนว่า จาก
ประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณ 5 × 2 = 10 นั้น 5 ในทน่ี ีห้ มายถงึ อะไร 2 ในทน่ี ้ีหมายถงึ อะไร และ 10 ในทน่ี ห้ี มายถงึ อะไร
นักเรียนตอบ 5 เป็นจานวนกลุ่ม และ 2 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 10 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมดครูติดบัตรภาพ
ขนมตาล 5 จาน จานละ 3 ชิ้น แล้วถามนักเรียนว่า มีขนมตาลก่ีจาน จานละกี่ช้ิน มีขนมตาลท้ังหมดกี่ชิ้น นักเรียนตอบว่ามี
ขนมตาล 5 จาน จานละ 3 ช้ิน มีขนมตาลทัง้ หมด 15 ช้ินครถู ามว่า เขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร
นกั เรยี นตอบ 5 × 3 = 15 ครถู ามนกั เรียนวา่ จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 5 × 3 = 15 นั้น 5 ในที่นี้หมายถึงอะไร 3 ในที่น้ี
หมายถึงอะไร และ 15 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 5 เป็นจานวนกลุ่ม และ 3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่มและ 15
เป็นจานวนสมาชิกทงั้ หมด ครตู ดิ บตั รภาพขนมตาล 5 จาน จานละ 4 ชิ้น แล้วถามว่ามีขนมตาลกี่จาน จานละกี่ชิ้น มีขนมตาล
ท้ังหมดกี่ช้ิน นักเรียนตอบว่า มีขนมตาล 5 จาน จานละ 4 ชิ้น มีขนมตาลท้ังหมด 20 ช้ิน ครูถามว่า เขียนเป็นประโยค
สัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 5 × 4 = 20 ครูติดบัตรภาพขนมตาล 5 จาน จานละ 5 ชิ้น แล้วถามนักเรียนว่า มี
ขนมตาล ก่ีจาน จานละก่ชี นิ้ มีขนมตาลทง้ั หมดกช่ี ้นิ นักเรยี นตอบวา่ มีขนมตาล 5 จาน จานละ 5 ชนิ้ มีขนมตาล
ท้ังหมด 25 ช้ิน ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 5 × 5 = 25ครูแนะนาว่า การจัดส่ิง
ตา่ ง ๆ เป็น 5 กลุ่ม กลุม่ ละเทา่ ๆ กัน เป็นการนา 5 ไปคูณกับจานวนของส่ิงต่าง ๆอาจเขียนเป็น 5 × 1 = 5 5 × 2 = 10 5 ×
3 = 15 5 × 4 = 20 5 × 5 = 25 ซึ่งเรียกว่า สูตรคูณแม่ 5ครูให้นักเรียนสังเกตผลคูณจะเห็นว่า สูตรคูณแม่ 5 มีผลคูณ
เพิม่ ข้นึ ทีละ 5 จากนั้นครถู ามว่า 5 × 6 เทา่ กบั เท่าไร 5 × 7 เท่ากบั เท่าไร 5 × 8 เท่ากบั เท่าไร 5 × 9 เท่ากับเท่าไร โดยสังเกต
จากผลคณู จากนั้นครเู ขียนสูตรคณู แม่ 5 ใหค้ รบ แล้วให้นักเรียนอ่านพรอ้ มกัน
3. ครูให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 4 โดยใช้การถาม-ตอบ เช่น 6 × 4 เท่ากับเท่าไร ซึ่งนักเรียนอาจ
หาผลคูณโดยนา4 มาบวกกัน 6 จานวน (4 + 4 + 4+ 4 + 4 + 4) ครูแนะนาว่า เน่ืองจากการคูณจานวนสองจานวนเม่ือสลับ
ท่ีกันผลคณู ยงั คงเท่าเดิม จะได้ 6 × 4 = 4 × 6 ดังน้ัน สามารถหาผลคูณของ 6 × 4 ได้จาก 4 × 6 ซึ่งเท่ากับ 24 จากนนั้นครู
ให้นักเรียนช่วยกันหาผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 4 และผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 5 ตามหนังสือเรียนหน้า 259 โดย
ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
ขน้ั อธบิ ายความรู้
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนหน่ึงหลัก กับ 4 และหาผลคูณของจานวน
หน่ึงหลัก กับ 5 ตามหนังสือเรียนหน้า 260 แต่จะพบว่าข้อ 3 และข้อ 4 เป็นการใช้การสลับท่ีการคูณเพ่ือหาคาตอบ ซึ่ง
นักเรียนเรียนรู้มาแล้วในหน้า 259 เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการคิดให้คล่อง ซ่ึงเป็นการส่งเสริมของความคิดสร้างสรรค์
จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิง่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้
ข้ันสรปุ
ข้ันขยายความเข้าใจ
ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ ส่งิ ที่ได้เรียนรู้
• 4 คณู กบั จานวนหนึ่งหลัก หาผลคูณไดโ้ ดยใช้สตู รคูณแม่ 4
• 5 คูณกบั จานวนหน่ึงหลัก หาผลคูณได้โดยใชส้ ตู รคูณแม่ 5
ขน้ั ตรวจสอบผล
- ใหน้ ักเรียนทาแบบฝึกหัดหนา้ 164 - 166
6. การวัดและประเมินผล
การวดั และประเมนิ ผลจุดประสงค์ วิธกี ารวัดผล เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
70% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ น
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตุ้นความคดิ เกณฑ์การประเมิน
70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ น
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน
ทักษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หดั 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
-การให้เหตผุ ล
-การสรปุ ความรู้การปฏิบตั ิ
คุณลกั ษณะนสิ ัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมินพฤติกรรม
ทางานรว่ มกับกลมุ่ ขณะ ทางานรว่ มกับกลมุ่
7. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้
1. บตั รภาพ
2. สือ่ ของจริง เช่น ตวั นับ ปากกา ดนิ สอ
7.2 แหล่งการเรียนรู้
-
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงช่อื ............................................ครผู ูส้ อน ลงชือ่ ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชอ่ื ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)
สัปดาห์ท่ี 16
โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา
แผนการจัดการเรยี นรู้
ภาคเรียนที่ ……1…/…………... ช่อื ผ้สู อน …………………………….…….......................
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 การคณู ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 2 คาบ
เร่ือง การคูณจานวนหน่งึ หลักกับจานวนหนึ่งหลัก(3)
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกดิ ขึ้นจาก
การดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนินการ และนาไปใช้
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ป.2/5 หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลกั ตบั จานวนไม่เกนิ 2 หลกั
ป.2/8 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขั้นตอนของจานวนนับไมเ่ กิน1,000 และ 0
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
• การหาผลคูณของจานวน 1 หลักกับจานวน2 หลักโดยการต้งั คูณ ต้องคูณในหลักหนว่ ยก่อน แล้วคณู ในหลักสิบ ถา้
ผลคูณในหลกั ใดครบสบิ หรือมากกวา่ สิบ ใหท้ ดจานวนท่คี รบสิบไปหลกั ถดั ไปทางซ้าย
• ความรู้สึกเชิงจานวนเกย่ี วกับการคณู เป็นการบอกวา่ ผลคูณของจานวนสองจานวนใดมีค่า มากกว่ากนั น้อยกวา่ กนั
หรือเท่ากนั โดยไมต่ ้องหาผลคูณของสองจานวนนน้ั
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
หาผลคณู ของจานวนหนง่ึ หลกั กับ 2 และหาผลคณู ของจานวนหน่งึ หลักกับ 3
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
ใชว้ ิธีการที่เหมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้
ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)
มวี จิ ารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความมัน่ ใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ
การคูณจานวนหนง่ึ หลักกบั จานวนหนงึ่ หลกั พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 1-2
ขน้ั นา
ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ
1. ครูตดิ บัตรภาพแอปเปลิ 6 แพก็ แพ็กละ 1 ผล แลว้ ถามนักเรยี นว่า มีแอปเปลิ กี่แพ็ค แพ็คละก่ีผลมีแอปเปิลท้ังหมด
ก่ีผล นักเรียนตอบว่า มีแอปเปิล 6 แพ็ค แพ็คละ 1 ผล มีแอปเปิลท้ังหมด 6 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การ
คณู ไดอ้ ย่างไร
ขั้นสอ3น.
ข้ันสารวจค้นหา
1. ครูติดบัตรภาพแอปเปิล 6 แพ็ก แพ็กละ 1 ผล แล้วถามนักเรียนว่า มีแอปเปิลกี่แพ็ค แพ็คละกี่ผลมีแอปเปิลท้ังหมดกี่ผล
นักเรียนตอบว่า มีแอปเปิล 6 แพ็ค แพ็คละ 1 ผล มีแอปเปิลท้ังหมด 6 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้
อย่างไร นักเรียนตอบ 6 × 1 = 6 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 6 × 1 = 6 น้ัน 6 ตัวหน้าในที่นี้หมายถึง
อะไร 1 ในที่นี้หมายถึงอะไร และ 6 ตัวหลังในที่นี้หมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 6 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ 1 เป็นจานวน
สมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 6 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพแอปเปิล 6 แพ็ก แพ็กละ 2 ผล แล้วถาม
นกั เรียนว่า มีแอปเปิลกี่แพ็ก แพ็กละกี่ผล มีแอปเปิลทั้งหมดกี่ผลนักเรียนตอบว่า มีแอปเปิล 6 แพ็ก แพ็กละ 2 ผล มีแอปเปิล
ท้ังหมด 12 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 6 × 2 = 12 ครูถามนักเรียนว่า จาก
ประโยคสัญลักษณ์การคูณ 6 × 2 = 12 น้ัน 6 ในที่นี้หมายถึงอะไร 2 ในที่น้ีหมายถึงอะไร และ 12 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร
นักเรียนตอบ 6 เป็นจานวนกลุ่ม และ 2 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 12 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมดครูติดบัตรภาพ
แอปเปิล 6 แพ็ก แพ็กละ 3 ผล แล้วถามนักเรียนว่า มีแอปเปิลกี่แพ็ก แพ็กละก่ีผล มีแอปเปิลท้ังหมดก่ีผล นักเรียนตอบว่า มี
แอปเปิล 6 แพ็ก แพ็กละ 3 ผล มีแอปเปิลทั้งหมด 18 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียน
ตอบ 6 × 3 = 18ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 6 × 3 = 18 นั้น 6 ในท่ีนี้หมายถึงอะไ3 ในที่นี้หมายถึง
อะไร และ 18 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 6 เป็นจานวนกลุ่ม และ 3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 18 เป็น
จานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพแอปเปิล 6 แพ็ก แพ็กละ 4 ผล แล้วถามนักเรียนว่า มีแอปเปิลก่ีแพ็ก แพ็กละกี่ผล มี
แอปเปลิ ท้ังหมดกผี่ ลนกั เรียนตอบว่า มีแอปเปิล 6 แพก็ แพ็กละ 4 ผล มแี อปเปิลทงั้ หมด 24 ผล ครูถามว่า เขยี นเปน็
ประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณได้อย่างไร นักเรยี นตอบ 6 × 4 = 24 ครูติดบตั รภาพแอปเปลิ 6 แพ็ก แพ็กละ 5 ผล แลว้ ถาม
นักเรยี นวา่ มแี อปเปิลก่แี พ็ก แพก็ ละก่ผี ล มีแอปเปลิ ทั้งหมดก่ีผลนักเรียนตอบว่ามีแอปเปลิ 6 แพก็ แพ็กละ 5 ผล มีแอปเปิล
ทั้งหมด 30 ผล ครูถามนักเรียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 6 × 5 = 30 ครูแนะนาวา่ การจดั ส่ิง
ต่างๆเป็น 6 กลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆ กนั เป็นการนา 6 ไปคูณกับจานวนของสิ่งต่าง ๆ อาจเขียนเป็น 6 × 1 = 6 6 × 2 = 12 6 ×
3 = 18 6 × 4 = 24 6 × 5 = 30 ซง่ึ เรียกวา่ สูตรคณู แม่ 6 ครูใหน้ ักเรียนสงั เกตผลคูณจะเห็นสูตรคณู แม่ 6 มีผลคูณเพมิ่ ทลี ะ
6 จากนั้นครถู ามนกั เรยี นวา่ 6 × 6เท่ากบั เทา่ ไร 6 × 7 เทา่ กับเทา่ ไร 6 × 8 เทา่ กบั เทา่ ไร 6 × 9 เทา่ กบั เทา่ ไร โดยสังเกตจาก
ผลคูณจากน้ันครูเขยี นสูตรคูณแม่ 6 ให้ครบแล้วใหน้ กั เรยี นอา่ นพร้อมกัน
2. ครูติดบัตรภาพขนมกล้วย 7 จาน จานละ 1 ช้ิน แล้วถามนักเรียนว่า มีขนมกล้วยกี่จาน จานละก่ีช้ินมีขนมกล้วย
ท้ังหมดกี่ช้ิน นักเรียนตอบว่า มีขนมกล้วย 7 จาน จานละ 1 ช้ิน มีขนมกล้วยท้ังหมด 7 ช้ิน ครูถามว่า เขียนเป็นประโยค
สญั ลกั ษณก์ ารคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 7 × 1 = 7ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 7 × 1 = 7 นั้น 7 ตัว
หน้าในท่ีน้ีหมายถึงอะไร 1 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร และ 7 ตัวหลังในที่น้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 7 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม
และ 1 เป็นจานวนสมาชกิ ในแต่ละกลุม่ และ 7 ตวั หลังเป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพขนมกล้วย 7 จาน จานละ 2
ชน้ิ แล้วถามนักเรยี นว่า มขี นมกล้วยก่ีจาน จานละก่ีชิ้น มีขนมกล้วยท้ังหมดกี่ชิ้น นักเรียนตอบว่า มีขนมกล้วย 7 จาน จานละ
2 ชิ้น มีขนมกล้วยท้ังหมด 14 ช้ินครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 7 × 2 = 14 ครูถาม
นักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 7 × 2 = 14 นั้น 7 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร 2 ในที่น้ีหมายถึงอะไร และ 14 ในที่น้ี
หมายถึงอะไร นกั เรยี นตอบ 7 เปน็ จานวนกลุม่ และ 2 เป็นจานวนสมาชกิ ในแต่ละกล่มุ และ 14 เปน็ จานวนสมาชิกทง้ั หมด
ครตู ดิ บตั รภาพขนมกลว้ ย 7 จาน จานละ 3 ชิ้น แล้วถามนักเรยี นว่า มีขนมกลว้ ยกจี่ าน จานละกช่ี ้ิน มีขนมกล้วยทง้ั หมดก่ีช้ิน
นักเรียนตอบวา่ มีขนมกลว้ ย 7 จาน จานละ 3 ช้ิน มขี นมกล้วยท้ังหมด 21 ช้ิน ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณ
ได้อย่างไร นักเรียนตอบ 7 × 3 = 21 ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 7 × 3 = 21 น้ัน 7 ในท่ีน้ีหมายถึง
อะไร 3 ในทน่ี ้ีหมายถงึ อะไร และ 21 ในที่นี้หมายถึงอะไรนักเรียนตอบ 7 เป็นจานวนกลุ่ม และ 3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละ
กลุ่ม และ 21 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพขนมกล้วย 7 จาน จานละ 4 ชิ้น แล้วถามนักเรียนว่า มีขนมกล้วยก่ี
จาน จานละกี่ชิ้นมีขนมกล้วยท้ังหมดก่ีช้ิน นักเรียนตอบว่า มีขนมกล้วย 7 จาน จานละ 4 ช้ิน มีขนมกล้วยทั้งหมด 28 ชิ้นครู
ถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 7 × 4 = 28 ครูติดบัตรภาพขนมกล้วย 7 จาน จานละ 5
ชิน้ แล้วถามนกั เรียนวา่ มขี นมกลว้ ยก่ีจาน จานละก่ชี ิ้น มีขนมกลว้ ยทั้งหมดกี่ชิ้นนักเรียนตอบว่า มีขนมกล้วย 7 จาน จานละ 5
ชนิ้ มีขนมกล้วยท้ังหมด 35 ชิน้ ครูถามวา่ เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคณู ไดอ้ ย่างไร นักเรียนตอบ 7 × 5 = 35
ครูแนะนาว่า การจัดสิ่งต่าง ๆ เป็น 7 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน เป็นการนา 7 ไปคูณกับจานวนของสิ่งต่าง ๆ อาจเขียนเป็น
7 × 1 = 7 7 × 2 = 14 7 × 3 = 21 7 × 4 = 28 7 × 5 = 35 ซ่ึงเรียกว่า สูตรคูณแม่ 7 ครูให้นักเรียนสังเกตผลคูณ จะ
เห็นวา่ สูตรคูณแม่ 7 มผี ลคณู เพม่ิ ขึน้ ทีละ 7 จากนน้ั ครถู ามนักเรียนว่า 7 × 6 เทา่ กบั เทา่ ไร 7 × 7 เท่ากบั เท่าไร 7 × 8 เท่ากับ
เท่าไร 7 × 9 เท่ากบั เทา่ ไร โดยสังเกตจากผลคูณ จากนั้นครเู ขยี นสตู รคูณแม่ 7 ให้ครบแล้วให้นกั เรียนอ่านพรอ้ มกนั
3. ครูให้นักเรยี นหาผลคูณของจานวนหน่ึงหลักกับ 6 โดยใช้การถาม-ตอบ เช่น 6 × 3 เท่ากับเท่าไร แล้วถามนักเรียน
ว่า 3 × 6 เท่ากับเทา่ ไร นักเรียนควรจะตอบได้ว่า 3 × 6 = 6 × 3 เพราะนักเรียนทราบมาแล้วว่า การคูณจานวนสองจานวน
เม่ือสลับที่กันผลคูณยังคงเท่าเดิม ครูให้นักเรียนสังเกตว่า สามารถหาคาตอบโดยใช้สูตรคูณแม่ 3 หรือสูตรคูณแม่ 6 ก็ได้
จากนั้นครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกนั หาผลคูณของจานวนหนึ่งหลกั กบั 6 และ ผลคูณของจานวนหน่ึงหลักกับ 7 ตามหนังสือเรียนหน้า
263 โดยครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ข้ันอธบิ ายความรู้
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนในชั่วโมงนี้โดยให้นักเรียนหาผลคูณของ
จานวนหน่งึ หลัก กับ 6 และหาผลคูณของจานวนหน่ึงหลัก กับ 7 ตามหนังสือเรียนหน้า 264 แต่จะพบว่าข้อ 2 ข้อ 3 และข้อ
5 เป็นการใชก้ ารสลบั ทก่ี ารคณู เพ่อื หาคาตอบ ซึ่งนกั เรียนทามาแล้วในหนา้ 263 เพอื่ ให้นกั เรียนได้ฝึกทักษะการคิดให้คล่อง ซ่ึง
เป็นจดุ เร่มิ ต้นของความคดิ สร้างสรรค์ จากนนั้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรุปสิง่ ที่ได้เรยี นรู้
ข้ันสรุป
ขั้นขยายความเข้าใจ
ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรปุ สงิ่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้
• 6 คูณกับจานวนหน่ึงหลัก หาผลคูณได้โดยใชส้ ูตรคูณแม่ 6
• 7 คณู กับจานวนหน่ึงหลกั หาผลคณู ไดโ้ ดยใช้สตู รคูณแม่ 7
ขั้นตรวจสอบผล
- ให้นกั เรยี นทาแบบฝึกหัดหน้า 167 - 169
6. การวัดและประเมินผล
การวัดและประเมินผลจุดประสงค์ วธิ ีการวัดผล เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ ผล
70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ น
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคิด เกณฑ์การประเมิน
70% ขน้ึ ไป ถือว่าผา่ น
-การสงั เกต เกณฑ์การประเมิน
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝึกหัด 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่าผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
-การให้เหตุผล
-การสรปุ ความร้กู ารปฏบิ ัติ
คณุ ลักษณะนสิ ัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทางานรว่ มกบั กลุ่ม ขณะ ทางานร่วมกับกล่มุ
7. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้
1. บัตรภาพ
2. สื่อของจรงิ เช่น ตวั นับ ปากกา ดินสอ
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
-
8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ............................................ครผู สู้ อน ลงชือ่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชอื่ ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)
สปั ดาห์ที่ 17
โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรียนท่ี ……1…/…………... ชื่อผสู้ อน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 5 การคณู ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 จานวน 3 คาบ
เร่ือง การคูณจานวนหน่งึ หลักกบั จานวนหนง่ึ หลัก(4)
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน ผลทีเ่ กิดข้นึ จาก
การดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตวั ชว้ี ัดท่ี ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลกั ตบั จานวนไม่เกิน 2 หลัก
ป.2/8 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขนั้ ตอนของจานวนนบั ไมเ่ กิน1,000 และ 0
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
• การหาผลคูณของจานวน 1 หลกั กบั จานวน2 หลกั โดยการต้งั คูณ ต้องคูณในหลกั หนว่ ยก่อน แล้วคณู ในหลกั สิบ ถา้
ผลคูณในหลักใดครบสิบ หรอื มากกวา่ สบิ ใหท้ ดจานวนทีค่ รบสิบไปหลักถัดไปทางซ้าย
• ความรู้สกึ เชิงจานวนเก่ียวกับการคณู เปน็ การบอกวา่ ผลคูณของจานวนสองจานวนใดมีคา่ มากกวา่ กนั นอ้ ยกว่ากนั
หรอื เท่ากันโดยไม่ต้องหาผลคูณของสองจานวนน้ัน
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
หาผลคณู ของจานวนหน่ึงหลกั กบั 2 และหาผลคณู ของจานวนหนง่ึ หลกั กบั 3
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
ใชว้ ธิ ีการท่เี หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้
ดา้ นคุณลกั ษณะ(A)
มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมน่ั ใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน
การคณู จานวนหนึง่ หลกั กบั จานวนหนง่ึ หลกั พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 1-3
ข้ันนา
ขน้ั กระตุน้ ความสนใจ
1. ครตู ิดบัตรภาพสาลี่ 8 แพ็ก แพ็กละ 1 ผล แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ มีสาลี่ก่ีแพ็ก แพ็กละกีผ่ ล มสี าลีท่ ้ังหมดกผ่ี ล
ขัน้ สอน
ข้นั สารวจค้นหา
1. ครูตดิ บัตรภาพสาลี่ 8 แพก็ แพก็ ละ 1 ผล แล้วถามนักเรียนว่า มีสาล่ีกี่แพ็ก แพ็กละก่ีผล มีสาลี่ท้ังหมดกี่ผลนักเรียนตอบว่า
มีสาลี่ 8 แพ็ก แพ็กละ 1 ผล มีสาลี่ท้ังหมด 8 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 8 ×
1 = 8 ครถู ามนกั เรยี นวา่ จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 8 × 1 = 8 นั้น 8 ตัวหน้าในท่ีน้ีหมายถึงอะไร 1 ในที่นี้หมายถึงอะไร
และ 8 ตวั หลงั ในท่นี ีห้ มายถึงอะไร นักเรียนตอบ 8 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม และ 1 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละกลุ่มและ 8 ตัว
หลงั เปน็ จานวนสมาชกิ ทงั้ หมด ครูติดบัตรภาพสาล่ี 8 แพ็ก แพก็ ละ 2 ผล แลว้ ถามนักเรียนว่า มีสาลี่กี่แพ็ก แพ็กละกี่ผล มีสาล่ี
ทั้งหมดก่ีผล นักเรียนตอบว่า มีสาลี 8 แพ็ก แพ็กละ 2 ผล มีสาล่ีท้ังหมด 16 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การ
คูณไดอ้ ยา่ งไร นักเรียนตอบ 8 × 2 = 16ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 8 × 2 = 16 นั้น 8 ในที่นี้หมายถึง
อะไร 2 ในทน่ี ้หี มายถงึ อะไร และ 16 ในท่ีนี้หมายถึงอะไร นักเรยี นตอบ 8 เป็นจานวนกลุ่ม และ 2 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละ
กลุ่ม และ 16 เปน็ จานวนท้งั หมด ครตู ดิ บตั รภาพสาลี่ 8 แพ็ก แพก็ ละ 3 ผล แล้วถามนกั เรยี นว่า มีสาล่ีกี่แพ็ก แพ็กละกี่ผล มี
สาล่ีทั้งหมดก่ีผล นักเรียนตอบว่า มีสาลี่ 8 แพ็ก แพ็กละ 3 ผล มีสาลี่ทั้งหมด 24 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์
การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 8 × 3 = 24ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 8 × 3 = 24 น้ัน 8 ในที่น้ี
หมายถงึ อะไร 3 ในท่นี ้ีหมายถงึ อะไร และ 24 ในทนี่ ้ีหมายถงึ อะไร นักเรียนตอบ 8 เป็นจานวนกลุ่ม และ 3 เป็นจานวนสมาชิก
ในแต่ละกลุม่ และ 24 เป็นจานวนสมาชิกท้ังหมด ครูติดบัตรภาพสาล่ี 8 แพ็ก แพ็กละ 4 ผล แล้วถามนักเรียนว่า มีสาลี่ก่ีแพ็ก
แพ็กละก่ีผล มีสาล่ีทั้งหมดกี่ผล นักเรียนตอบว่า มีสาลี่ 8 แพ็ก แพ็กละ 4 ผล มีสาลี่ทั้งหมด 32 ผล ครูถามว่า เขียนเป็น
ประโยคสญั ลักษณก์ ารคณู ได้อยา่ งไร นกั เรียนตอบ 8 × 4 = 32ครูติดบัตรภาพสาล่ี 8 แพ็ก แพ็กละ 5 ผล แล้วถามนักเรียนว่า
มีสาลี่กี่แพ็ก แพ็กละกี่ผล มีสาลี่ท้ังหมดกี่ผลนักเรียนตอบว่า มีสาล่ี 8 แพ็ก แพ็กละ 5 ผล มีสาล่ีท้ังหมด 40 ผล ครูถามว่า
เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อยา่ งไร นักเรียนตอบ 8 × 5 = 40 ครูแนะนาวา่ การจัดส่งิ ต่าง ๆ เป็น 8 กล่มุ
กลุ่มละเท่า ๆ กัน เปน็ การนา 8 ไปคูณกบั จานวนของส่งิ ตา่ ง ๆ อาจเขียนเป็น 8 × 1 = 8 8 × 2 = 16
8 × 3 = 24 8 × 4 = 32 8 × 5 = 40 ซ่ึงเรียกว่า สูตรคูณแม่ 8 ครูให้นักเรียนสังเกตผลคูณจะเห็นว่า สูตรคูณแม่ 8 มีผลคูณ
เพ่ิมขึ้นทีละ 8 จากน้ันครูถามนักเรียนว่า 8 × 6 เท่ากับเท่าไร 8 × 7 เท่ากับเท่าไร 8 × 8 เท่ากับเท่าไร 8 × 9 เท่ากับเท่าไร
โดยสังเกตจากผลคูณ จากนนั้ ครูเขียนสตู รคูณแม่ 8 ใหค้ รบแลว้ ใหน้ กั เรยี นอา่ นพร้อมกนั
2. ครูติดบัตรภาพขนมถ้วยฟู 9 จาน จานละ 1 ช้ิน แล้วถามนักเรียนว่า มีขนมถ้วยฟูก่ีจาน จานละก่ีชิ้น มีขนมถ้วยฟู
ท้ังหมดกี่ช้ิน นักเรียนตอบว่า มีขนมถ้วยฟู 9 จาน จานละ 1 ช้ิน มีขนมถ้วยฟู ท้ังหมด 9 ชิ้น ครูถามว่า เขียนเป็นประโยค
สัญลักษณก์ ารคูณได้อยา่ งไร นักเรยี นตอบ 9 × 1 = 9 ครถู ามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 9 × 1 = 9 น้ัน 9 ตัว
หน้าในท่ีน้ีหมายถึงอะไร 1 ในท่ีน้ีหมายถึงอะไร และ 9 ตัวหลังในท่ีนี้หมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 9 ตัวหน้าเป็นจานวนกลุ่ม
และ 1 เปน็ จานวนสมาชิกในแตล่ ะกลมุ่ และ 9 ตัวหลังเป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพขนมถ้วยฟู 9 จาน จานละ 2
ชิ้น แล้วถามนักเรียนว่า มีขนมถว้ ยฟกู จ่ี าน จานละกชี่ ้ิน มขี นมถว้ ยฟทู ้ังหมดกี่ชิ้น นักเรียนตอบว่า มีขนมถ้วยฟู 9 จาน จานละ
2 ชน้ิ มี ขนมถว้ ยฟูทั้งหมด 18 ชิ้น ครูถามว่า เขยี นเป็นประโยคสัญลักษณก์ ารคณู ไดอ้ ย่างไร นักเรียนตอบ 9 × 2 = 18
ครถู ามนักเรียนวา่ จากประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณ 9 × 2 = 18 นั้น 9 ในทน่ี ี้หมายถงึ อะไร 2 ในที่นี้หมายถึงอะไร และ 18 ใน
ทน่ี ้ีหมายถึงอะไร นกั เรยี นตอบ 9 เปน็ จานวนกลมุ่ และ 2 เป็นจานวนสมาชกิ ในแตล่ ะกลุ่ม และ 18 เปน็ จานวนสมาชกิ ทั้งหมด
ครูตดิ บัตรภาพขนมถว้ ยฟู 9 จาน จานละ 3 ชนิ้ แล้วถามนักเรยี นว่า มีขนมถว้ ยฟกู จี่ าน จานละก่ชี ้ิน มขี นมถ้วยฟูทั้งหมดก่ีช้ิน
นักเรียนตอบว่า มีขนมถ้วยฟู 9 จาน จานละ 3 ช้ิน มีขนมถ้วยฟูท้ังหมด 27 ชิ้น ครูถามว่า เขียนเป็น ประโยคสัญลักษณ์การ
คณู ไดอ้ ยา่ งไร นักเรียนตอบ 9 × 3 = 27ครูถามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 9 × 3 = 27 นั้น 9 ในท่ีน้ีหมายถึง
อะไร 3 ในทีน่ ีห้ มายถึงอะไร และ 27 ในท่นี ี้หมายถึงอะไร นักเรยี นตอบ 9 เปน็ จานวนกลุ่ม และ 3 เป็นจานวนสมาชิกในแต่ละ
กลุ่ม และ 27 เป็นจานวนสมาชิกทั้งหมด ครูติดบัตรภาพขนมถ้วยฟู 9 จาน จานละ 4 ช้ินแล้วถามนักเรียนว่า มีขนมถ้วยฟูกี่
จาน จานละกชี่ ้ิน มขี นมถ้วยฟูท้ังหมดกชี่ ิ้น นกั เรยี นตอบว่า มีขนมถ้วยฟู 9 จาน จานละ 4 ช้ิน มขี นมถว้ ยฟทู ั้งหมด 36 ชนิ้
ครูถามว่า เขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 9 × 4 = 36 ครตู ดิ บตั รภาพขนมถว้ ยฟู 9 จาน จานละ
5 ชน้ิ แล้วถามว่า มีขนมถว้ ยฟกู ่ีจาน จานละก่ชี ้นิ มขี นมถ้วยฟทู ั้งหมดกีช่ ิน้ นกั เรียนตอบวา่ มขี นมถว้ ยฟู 9 จาน จานละ 5 ชิน้
มขี นมถว้ ยฟทู ง้ั หมด 45 ช้ิน ครถู ามวา่ เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์การคูณได้อยา่ งไร นักเรยี นตอบ 9 × 5 = 45
ครูแนะนาว่า การจัดสิง่ ต่าง ๆ เป็น 9 กลมุ่ กล่มุ ละเท่า ๆ กัน เปน็ การนา 9 ไปคูณกบั จานวนของส่ิงตา่ ง ๆ อาจเขียนเป็น 9 × 1
= 9 9 × 2 = 18 9 × 3 = 27 9 × 4 = 36 9 × 5 = 45 ซึ่งเรยี กวา่ สตู รคูณแม่ 9 ครูให้นักเรียนสังเกตผลคูณ จะเห็นว่า สูตร
คูณแม่ 9 มีผลคูณเพิม่ ขึ้นทลี ะ 9 จากนั้นครูถามนักเรียนว่า 9 × 6 เท่ากับเท่าไร 9 × 7 เท่ากับเท่าไร 9 × 8 เท่ากับเท่าไร 9 ×
9 เท่ากบั เท่าไรโดยสังเกตจากผลคณู จากน้ันครูเขยี นสูตรคณู แม่ 9 ใหค้ รบแลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านพร้อมกนั
3. ครูให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 9 โดยใช้การถาม-ตอบ เช่น 9 × 5 เท่ากับเท่าไรนักเรียนตอบว่า
45 แล้วครูถามนักเรียนว่า 5 × 9 เท่ากับเท่าไร นักเรียนตอบว่า 45 ครูให้นักเรียนสังเกตว่า สามารถหาคาตอบโดยใช้สูตรคูณ
แม่ 5 หรอื สตู รคณู แม่ 9 ก็ได้ เพราะการคูณจานวนสองจานวนเมื่อสลับท่ีกันผลคูณยังคงเท่าเดิม จากน้ันครูให้นักเรียนช่วยกัน
หาผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 8 และผลคูณของจานวนหน่ึงหลักกับ 9 ตามหนังสือเรียนหน้า 267 โดยครูและนักเรียน
รว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
ขั้นอธบิ ายความรู้
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 8 และหาผลคูณของจานวน
หนึง่ หลักกบั 9 ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 268 นกั เรยี นอาจหาผลคณู โดยใชก้ ารสลบั ทก่ี ารคูณเพ่ือหาคาตอบก็ได้ ซ่ึงนักเรียนเรียนรู้
มาแล้วในหนา้ 267 เพื่อให้นกั เรยี นไดฝ้ กึ การคิดใหค้ ล่อง ซ่งึ เป็นการ
ขน้ั สรุป
ขน้ั ขยายความเข้าใจ
ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปสงิ่ ที่ไดเ้ รยี นรู้
• 8 คูณกบั จานวนหนึ่งหลัก หาผลคูณไดโ้ ดยใช้สูตรคูณแม่ 8
• 9 คูณกบั จานวนหน่ึงหลกั หาผลคณู ได้โดยใช้สูตรคูณแม่ 9
ขน้ั ตรวจสอบผล
- ให้นักเรยี นทาแบบฝึกหัดหน้า 170 - 172
6. การวดั และประเมินผล
การวัดและประเมนิ ผลจุดประสงค์ วิธีการวัดผล เครอื่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
70% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผ่าน
ความรู้ความเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระต้นุ ความคิด เกณฑ์การประเมนิ
70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ น
-การสังเกต เกณฑ์การประเมิน
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หดั 70% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผา่ น
เกณฑ์การประเมิน
-การใหเ้ หตุผล
-การสรปุ ความร้กู ารปฏิบตั ิ
คุณลกั ษณะนิสยั (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทางานร่วมกับกลุ่ม ขณะ ทางานร่วมกับกลุ่ม
7. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
7.1 ส่ือการเรยี นรู้
1. บัตรภาพ
2. สอื่ ของจรงิ เชน่ ตวั นับ ปากกา ดนิ สอ
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
-
8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ............................................ครผู ู้สอน ลงชื่อ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชือ่ ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)
สปั ดาหท์ ่ี 17
โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรียนที่ ……1…/…………... ช่ือผูส้ อน …………………………….…….......................
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 การคณู ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 3 คาบ
เรื่อง การคูณจานวนหนึ่งหลักกับกบั 10 20 30 ... 90
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่เี กิดขึ้นจาก
การดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวชว้ี ดั ท่ี ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลกั ตบั จานวนไมเ่ กิน 2 หลกั
ป.2/8 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอนของจานวนนบั ไม่เกนิ 1,000 และ 0
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
• การหาผลคณู ของจานวน 1 หลกั กับจานวน2 หลกั โดยการตั้งคูณ ต้องคูณในหลกั หนว่ ยก่อน แล้วคูณในหลักสบิ ถา้
ผลคณู ในหลักใดครบสบิ หรอื มากกวา่ สิบ ใหท้ ดจานวนทค่ี รบสิบไปหลกั ถดั ไปทางซ้าย
• ความรสู้ กึ เชงิ จานวนเกีย่ วกับการคณู เป็นการบอกวา่ ผลคูณของจานวนสองจานวนใดมีค่า มากกวา่ กัน น้อยกวา่ กนั
หรอื เท่ากันโดยไม่ต้องหาผลคูณของสองจานวนน้นั
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
หาผลคณู ของจานวนหนงึ่ หลักกบั 10 20 30 ... 90
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
ใช้วิธกี ารที่เหมาะสมในการแก้ปัญหา และคานวณหาคาตอบได้
ด้านคุณลกั ษณะ(A)
มวี ิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามดว้ ยความม่นั ใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น
การคูณจานวนหนึง่ หลกั กับ 10 20 30 ... 90 พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
5. กิจกรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 1-3
ข้นั นา
ขน้ั กระตุ้นความสนใจ
1. ครตู ดิ บัตรภาพดาวความดี 2 แถว แถวละ 10 ดวงครูถามนักเรียนว่า มีดาวความดกี แ่ี ถว แถวละกี่ดวง มีดาว
ความดีทงั้ หมดก่ดี วง
ขนั้ สอน
ขัน้ สารวจค้นหา
1. ครตู ิดบัตรภาพดาวความดี 2 แถว แถวละ 10 ดวงครูถามนักเรียนว่า มีดาวความดีก่ีแถว แถวละก่ีดวง มีดาวความ
ดีทั้งหมดกี่ดวง นักเรียนตอบว่า มีดาวความดี 2 แถวแถวละ 10 ดวง มีดาวความดีท้ังหมด 20 ดวง ครูให้นักเรียนเขียนเป็น
ประโยคสัญลักษณ์การคูณ นักเรียนเขียนได้เป็น 2 × 10 = 20 ครูนาดาวความดีไปติดเพ่ิมอีก 1 แถว แถวละ 10 ดวง ครูถาม
นักเรียนว่า เมื่อติดดาวความดีเพ่ิมมาอีก 1 แถว ตอนน้ีครูมีดาวความดีก่ีแถว แถวละกี่ดวง ครูมีดาวความดีทั้งหมดกี่ดวง
นักเรียนตอบว่า ครูมีดาวความดี 3 แถว แถวละ 10 ดวง ครูมีดาวความดีทั้งหมด 30 ดวง ครูให้นักเรียนเขียนเป็นประโยค
สัญลักษณ์การคูณ นักเรียนเขียนได้เป็น 3 × 10 = 30 ครูนาดาวความดีไปติดเพ่ิมอีก 1 แถว แถวละ 10 ดวง ครูถามนักเรียน
ว่า เมื่อติดดาวความดีเพ่ิมอีก 1 แถว ตอนนี้ครูมีดาวความดีกี่แถว แถวละกี่ดวง ครูมีดาวความดีทั้งหมดกี่ดวง นักเรียนตอบว่า
ครูมีดาวความดี 4 แถว แถวละ10 ดวง ครูมีดาวความดีทั้งหมด 40 ดวง ครูให้นักเรียนเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณ
นกั เรียนเขยี นได้เป็น 4 × 10 = 40 ครนู าดาวความดไี ปตดิ เพมิ่ อกี 1 แถว แถวละ 10 ดวง ครูถามนักเรียนว่า เม่ือติดดาวความ
ดีเพิม่ มาอีก 1 แถว ตอนน้ีครูมดี าวความดีกี่แถว แถวละกี่ดวง ครูมีดาวความดีทั้งหมดกี่ดวงนักเรียนตอบว่า ครูมีดาวความดี 5
แถว แถวละ 10 ดวง ครูมีดาวความดีทั้งหมด 50 ดวงครูให้นักเรียนเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณ นักเรียนเขียนได้เป็น
5 × 10 = 50 ครถู ามนักเรียนวา่ ถา้ ครูติดดาวความดีเพิ่มอีก 1 แถว เป็น 6 แถว นักเรียนเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณ
ได้อย่างไร นักเรียนตอบ 6 × 10 = 60 ครูถามนักเรียนว่า ถ้าครูติดดาวความดีเพ่ิมทีละ 1 แถว เป็น 7 แถว 8 แถว และ 9
แถวนักเรียนเขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้อย่างไรนักเรียนตอบ 7 × 10 = 70 8 × 10 = 80 และ 9 × 10 = 90
ตามลาดับ ครูเขียน 1 × 10 = 10 2 × 10 = 20 3 × 10 = 30 4 × 10 = 40 5 × 10 = 50 6 × 10 = 60 7 × 10 = 70 8
× 10 = 80 และ 9 × 10 = 90 บนกระดานในแนวตั้ง แล้วให้นักเรียนสังเกตผลคูณ โดยครูใช้การถาม-ตอบเพื่อให้นักเรียน
ร่วมกันสรุปว่า จานวนใดคูณกับ 10 จะได้ผลคูณเป็น 1 คูณกับจานวนนั้นแล้วเติม 0 ต่อท้าย 1 ตัว เช่น 9 × 10 หาผลคูณได้
จาก 9 × 1 = 9 แลว้ เตมิ 0 ต่อทา้ ยทีผ่ ลคณู จะได้ 9 × 10 = 90
2. ครูถามนักเรียนว่า ถ้ามีดินสอ 2 กล่อง กล่องละ 30 แท่ง จะมีดินสอท้ังหมด 30 + 30 = 60 แท่ง เขียนเป็น
ประโยคสัญลกั ษณก์ ารคณู ได้อยา่ งไร นกั เรยี นตอบวา่ 2 × 30 = 60 ครูถามนกั เรียนว่า ถ้านาข้อสรุปข้างต้นมาใช้ในการหาผล
คูณจะทาไดอ้ ยา่ งไร นักเรียนตอบว่าหา 2 × 3 ก่อน ไดเ้ ทา่ กบั 6 แลว้ จึงเติม 0 ต่อทา้ ย ครูยกตัวอยา่ งอ่ืนจากหนังสือเรียนท้าย
หนา้ 269 เช่น 3 × 30 และ 2 × 40 ซ่งึ นกั เรยี นควรจะตอบไดว้ า่ 3 × 30 หาจาก 3 × 3 ก่อนแล้วเติม 0 และ 2 × 40 หาจาก
2 × 4 ก่อนแล้วเติม 0 ซึ่งจะได้คาตอบเป็น 3 × 30 = 90 และ 2 × 40 = 80 ตามลาดับถ้ามีนักเรียนที่ยังไม่เข้าใจครูอาจใช้
ส่ือแผ่นตารางสิบมาใช้ประกอบการสอนตามตัวอย่างในหนังสือเรียนหน้า 270 และครูควรเน้นย้าเร่ืองการหาผลคูณที่ใช้การ
สลับทีก่ ารคณู เพื่อให้นักเรียนเกิดความชานาญในการหาผลคูณมากขึ้นจากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า จานวนหน่ึงหลัก
คูณกับ 10 20 30 40 50 60 70 80 90 หาผลคูณได้โดยนาจานวนหนึ่งหลักนั้นคูณกับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ตามลาดับ แล้ว
เติม 0 ตอ่ ทา้ ย
3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มและให้แต่ละกลุ่มช่วยกันหาผลคูณของจานวนหนึ่งหลักกับ 10 20 30 40 50 60 70 80
90 ตามหนังสือเรียนหน้า 271 เช่น ตามตัวอย่าง 60 × 4 เท่ากับเท่าไร ครูให้นักเรียนหา6 × 4 ก่อนว่าได้เท่าไร แล้วก็จะได้
คาตอบโดยเติม 0 ต่อท้าย อาจสุ่มนักเรียนในกลุ่มแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอวิธีหาคาตอบหน้าชั้นเรียน ครูและเพื่อนในห้อง
ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง ถ้ามีกลุ่มใดหาคาตอบผิดครูให้เพ่ือนในกลุ่มนั้นช่วยกันหาคาตอบใหม่จนกว่าจะได้คาตอบที่
ถูกต้อง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า จานวนหน่ึงหลักคูณกับ 10 20 30 40 50 60 70 80 90 หาผลคูณได้โดยนา
จานวนหน่ึงหลกั นนั้ คณู กบั 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ตามลาดบั แลว้ เตมิ 0 ต่อทา้ ย
ข้นั อธิบายความรู้
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนหาผลคูณของจานวนหน่ึงหลักกับ10 20 30 40 50 60 70 80
90 เปน็ รายบุคคลตามหนงั สือเรยี นหน้า 272 โดยใชข้ ้อสรปุ ทีค่ รแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปก่อนหน้านี้ว่า จานวนหน่ึงหลักคูณกับ
10 20 30 40 50 60 70 80 90 หาผลคูณได้โดยนาจานวนหน่ึงหลักน้ันคูณกับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ตามลาดับแล้วเติม 0
ตอ่ ทา้ ย จากน้ันครูและนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปส่งิ ท่ีไดเ้ รียนรู้
ขนั้ สรุป
ขนั้ ขยายความเข้าใจ
• จานวนหนึง่ หลกั คูณกบั 10 20 30 40 50 60 70 80 90 หาผลคูณโดยนาจานวนหนึ่งหลักน้ันคูณกับ 1 2 3 4 5 6 7
8 9 ตามลาดบั แลว้ เติม 0 ตอ่ ทา้ ย9
ขนั้ ตรวจสอบผล
- ให้นักเรยี นทาแบบฝึกหดั หนา้ 173 - 175
6. การวดั และประเมนิ ผล
การวัดและประเมินผลจุดประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมินผล
ความรูค้ วามเข้าใจ (K) -ทดสอบ - คาถามกระตนุ้ ความคดิ 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่าน
-การสังเกต เกณฑ์การประเมนิ
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) -การจาแนก แบบฝกึ หัด 70% ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น
-การให้เหตุผล เกณฑ์การประเมนิ
-การสรปุ ความร้กู ารปฏิบัติ
คุณลกั ษณะนิสัย (A) - สงั เกตพฤติกรรมขณะ - แบบประเมนิ พฤติกรรม 70% ขึ้นไป ถือว่าผา่ น
ทางานรว่ มกบั กลมุ่ ขณะ ทางานรว่ มกับกลุม่ เกณฑ์การประเมนิ
7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1. บตั รภาพ
2. ส่ือของจริง เชน่ ตัวนบั ปากกา ดนิ สอ
7.2 แหล่งการเรียนรู้
-
8. กิจกรรมเสนอแนะ
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ครผู ้สู อน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)
สปั ดาห์ท่ี 18
โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจัดการเรยี นรู้
ภาคเรยี นท่ี ……1…/…………... ช่ือผูส้ อน …………………………….…….......................
กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 จานวน 2 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 การคณู เร่อื ง การคณู จานวนหนึง่ หลักกับจานวนสองหลกั โดยการ
ต้งั คูณ(1)
ก
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลที่เกดิ ขึ้นจาก
การดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวช้ีวัดที่ ป.2/5 หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู ของจานวน 1 หลกั ตับจานวนไม่เกนิ 2 หลัก
ป.2/8 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอนของจานวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
• การหาผลคณู ของจานวน 1 หลักกับจานวน2 หลกั โดยการตง้ั คณู ต้องคูณในหลักหน่วยก่อน แล้วคณู ในหลกั สบิ ถา้
ผลคูณในหลักใดครบสบิ หรอื มากกว่าสบิ ให้ทดจานวนทคี่ รบสบิ ไปหลกั ถดั ไปทางซา้ ย
• ความรสู้ ึกเชิงจานวนเก่ียวกับการคูณเปน็ การบอกวา่ ผลคูณของจานวนสองจานวนใดมีค่า มากกวา่ กัน น้อยกว่ากัน
หรือเท่ากนั โดยไมต่ ้องหาผลคูณของสองจานวนนน้ั
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
หาผลคูณจานวนหนึ่งหลักกบั จานวนสองหลกั โดยการตงั้ คูณ
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
ใชว้ ิธกี ารทีเ่ หมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้
ด้านคุณลักษณะ(A)
มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมั่นใจ
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่ิน
การคูณจานวนหนึ่งหลักกับจานวนสองหลักโดยการ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา
ตั้งคณู
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 1-2
ขั้นนา
ขน้ั กระตุน้ ความสนใจ
1. ครูให้นักเรียนพิจารณาสถานการณใ์ นหนงั สือเรียนหน้า 273 แม่บรจิ าคหนงั สือ 2 กอง กองละ 24 เล่ม แมบ่ รจิ าค
หนงั สือทง้ั หมดก่เี ล่ม เขียนประโยคสัญลักษณไ์ ด้ 2 × 24
ข2ัน้ .สอน
ขนั้ สารวจคน้ หา
1. ครูใหน้ กั เรียนพิจารณาสถานการณ์ในหนังสือเรียนหนา้ 273 แมบ่ รจิ าคหนังสือ 2 กอง กองละ 24 เลม่ แม่บริจาคหนังสอื
ทงั้ หมดก่ีเล่ม เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ได้ 2 × 24 = ครูใช้แผ่นตารางสบิ แผ่นตารางหนว่ ยชว่ ยอธบิ ายขน้ั ตอนการคณู โดยใช้
ความหมายการคูณมาชว่ ยอธบิ ายว่า 2 × 24 หมายถึง จัดแผน่ ตารางสบิ และตารางหนว่ ยเปน็ 2 กลุ่ม กลุ่มละ 24 จะได้ แผน่
ตารางสิบ กล่มุ ละ 2 แผน่ และแผน่ ตารางหน่วยกลุ่มละ 4 แผน่ จะได้ แผน่ ตารางสบิ ท้ังหมด 4 แผ่น เทา่ กับ 4 สบิ และ แผน่
ตารางหนว่ ยทั้งหมด 8 แผน่ เทา่ กบั 8 หน่วย รวมเป็น 48 ดงั นนั้ 2 × 24 = 48 ซง่ึ ในการหาผลคณู โดยใชแ้ ผน่ ตารางสิบและ
แผน่ ตารางหนว่ ย ครอู าจชใ้ี ห้นักเรียนเหน็ ว่า การจัดแผ่นตารางสิบ เป็น 2 กลมุ่ กลุ่มละ 2 แผน่ น้นั คือ 2 × 20 และการจัด
แผ่นตารางหนว่ ยเป็น 2 กลุ่ม กลุม่ ละ 4 แผ่น นัน้ คอื 2 × 4 ดงั น้ัน 2 × 24 = 48 มาจาก 2 × 20 = 40 กับ 2 × 4 = 8 ท้ังนี้
เพอ่ื ให้นักเรยี นเชื่อมโยงไปสู่การคูณโดยการต้ังคูณท่ตี ้องคูณในหลักหนว่ ยและหลักสิบ จากนนั้ ครูแนะนา ขั้นตอนการต้ังคณู
ดังน้ี
ขน้ั ที่ 1 คูณในหลักหนว่ ย 2 คณู 4 หนว่ ย ได้ 8 หนว่ ย เขียน 8 ในหลักหนว่ ย
ขั้นท่ี 2 คณู ในหลกั สบิ 2 คณู 2 สบิ ได้ 4 สบิ เขียน 4 ในหลักสิบ
เขยี นการตง้ั คณู ไดต้ ามหนังสือเรียนหน้า 273
หลักสิบ หลกั หน่วย
2 4×
2
48
ดงั น้นั แมบ่ รจิ าคหนงั สือทั้งหมด 48 เล่ม
2. ครูยกตัวอยา่ งการหาผลคูณของจานวนหน่ึงหลกั กบั จานวนสองหลกั โดยการตง้ั คูณ เชน่
13 × 3 = ครใู ช้การถาม-ตอบ เพ่อื ใหน้ ักเรียนหาผลคูณตามข้ันตอนการตั้งคูณตามหนงั สือเรยี นหน้า 274 โดยใหค้ ูณใน
หลกั หน่วยกอ่ น แลว้ จงึ คูณในหลักสิบ ดังน้ี
ขน้ั ที่ 1 คูณในหลักหน่วย 3 คณู 3 หน่วยได้ 9 หนว่ ย เขียน 9 ในหลกั หนว่ ย
ข้นั ท่ี 2 คูณในหลักสิบ 3 คณู 1 สบิ ได้ 3 สบิ เขียน 3 ในหลกั สบิ
เขยี นการต้งั คูณได้ตามหนังสือเรยี นหน้า 274
หลกั สบิ หลักหนว่ ย
1 3×
3
39
ดงั น้ัน 13 × 3 = 39
ครแู นะนาวา่ ในการหาผลคูณโดยการตัง้ คูณไมจ่ าเป็นต้องเขียนคาวา่ หลักหนว่ ย หลกั สิบ
ครูยกตัวอยา่ ง การหาผลคณู โดยการตงั้ คูณของ 4 × 80 = ครูเน้นยา้ วา่ ในการตั้งคูณจะเขยี นจานวนใดขึน้ ก่อนก็ได้ เช่น 4
× 80 = เพ่ือความสะดวกจะเขียน 80 ขึ้นกอ่ นตามหนงั สอื เรยี นหน้า 274
ข้นั ท่ี 1 คณู ในหลกั หนว่ ย 8 0