4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการเปรียบเทียบ 2) ทักษะการตีความ 3) ทักษะการวิเคราะห์ 4) ทักษะการเชื่อมโยง 5) ทักษะการสังเคราะห์ 6) ทักษะการสร้างความรู้ 7) ทักษะการประเมิน 8) ทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 9) ทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. รักความเป็นไทย 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1. การท่องบทอาขยาน เรื่อง กาพย์เห่เรือ (ชิ้นงานที่ 1) 2. รายงานการศึกษาค้นคว้า เรื่อง กาพย์เห่เรือ (ชิ้นงานที่ 2) 7. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง กาพย์เห่เรือ 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 2.1 สรรพสารน่ารู้จากเรื่อง กาพย์เห่เรือ 2) ตรวจใบงานที่ 3.1 รู้คำถอดความจากเรื่อง กาพย์เห่เรือ 3) ตรวจใบงานที่ 4.1 คุณค่าภาษาศิลป์จากเรื่อง กาพย์เห่เรือ 4) ตรวจใบงานที่ 5.1 คุณค่าและข้อคิดจากเรื่อง กาพย์เห่เรือ 5) ประเมินการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง 6) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน 7) ประเมินการนำเสนอผลงาน 8) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล 9) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 10) สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 7.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง กาพย์เห่เรือ 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) สังเกตการท่องบทอาขยาน เรื่อง กาพย์เห่เรือ 2) ตรวจรายงานการศึกษาค้นคว้า เรื่อง กาพย์เห่เรือ
8. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง กาพย์เห่เรือ เรื่องที่ 1 การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง เวลา 1 ชั่วโมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู้ 1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทบทวนความรู้ เกี่ยวกับหลักการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ตามที่เคยได้เรียนมา 2. ครูสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คน ออกมาอ่านทำนองเสนาะเรื่อง กาพย์เห่เรือ ให้เพื่อนฟังที่หน้าชั้นเรียน แล้วครูให้ นักเรียนฟังซีดีการอ่านทำนองเสนาะ จากนั้นร่วมกันสังเกตและวิเคราะห์ว่า เพื่อนอ่านได้ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร ขั้นที่ 2 ทำตามแบบ 1. ครูให้นักเรียนฟังซีดีการอ่านทำนองเสนาะ พร้อมอธิบายประกอบเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้นและปฏิบัติได้ อย่างถูกต้อง 2. นักเรียนแต่ละคนฝึกอ่านเรื่อง กาพย์เห่เรือ ตามแบบที่ได้ฟังจากซีดีการอ่านทำนองเสนาะ โดยเพื่อนในกลุ่มช่วยกัน ตรวจสอบความถูกต้อง และให้ข้อเสนอแนะ ขั้นที่ 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ 1. นักเรียนจับสลากเลือกบทอ่านเรื่อง กาพย์เห่เรือ คนละ 2 บท แล้วให้นักเรียนแต่ละคนฝึกอ่านด้วยตนเอง 2. นักเรียนแต่ละคนจับคู่กับเพื่อนในกลุ่ม ผลัดกันอ่านบทร้อยกรองให้เพื่อนฟัง และผลัดกันวิจารณ์แสดงความคิดเห็น ให้ คำแนะนำแก้ไขในกรณีที่ยังอ่านไม่ถูกต้อง ขั้นที่ 4 ฝึกทำให้ชำนาญ 1. นักเรียนแต่ละคู่ฝึกอ่านออกเสียงเรื่อง กาพย์เห่เรือ จนเกิดความชำนาญ แล้วครูนัดหมายการอ่านออกเสียง เป็นรายบุคคล (นอกเวลาเรียน) 2. ครูประเมินการอ่านของนักเรียนแต่ละคน พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงในกรณีที่ยังมีข้อบกพร่อง ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มฝึกท่องบทอาขยานเรื่อง กาพย์เห่เรือ แล้วมาประเมินผล นอกเวลาเรียนเป็นรายบุคคล โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่กำหนด
เรื่องที่ 2 ความเป็นมาและประวัติผู้แต่ง เวลา 1 ชั่วโมง วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) ครูให้นักเรียนดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค หรือภาพริ้วกระบวนเรือพระนั่ง แล้วครูถามคำถามเพื่อ กระตุ้นความสนใจของนักเรียน ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากเรื่องที่ 1) จับคู่กันเป็น 2 คู่ ให้แต่ละคู่ร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง กาพย์เห่เรือ จากหนังสือเรียน ในหัวข้อที่กำหนดให้ ดังนี้ - คู่ที่ 1 ศึกษาความรู้เรื่อง ความเป็นมา - คู่ที่ 2 ศึกษาความรู้เรื่อง ประวัติผู้แต่ง ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) นักเรียนแต่ละคู่นำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาอธิบายให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งฟัง ผลัดกันซักถามหากมีข้อสงสัย และร่วมกันอธิบาย จนทุกคนมีความเข้าใจชัดเจนตรงกัน จากนั้นร่วมกันสรุปความรู้เป็นองค์ความรู้ของกลุ่ม ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) นักเรียนแต่ละคนทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง สรรพสารน่ารู้จากเรื่อง กาพย์เห่เรือ เมื่อทำเสร็จแล้วผลัดกันอภิปรายคำตอบในใบ งานแล้วร่วมกันสรุปเป็นคำตอบของกลุ่ม ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานในใบงานที่ 2.1 หน้าชั้นเรียน โดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นร่วมกันแสดงความ คิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะ
เรื่องที่ 3 สรุปเนื้อหาและคำศัพท์ เวลา 1-2 ชั่วโมง วิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ ขั้นที่ 1 นำเข้าสู่บทเรียน ครูนำแถบบันทึกเสียงกาพย์เห่เรือของครูแจ้ง คล้ายสีทอง หรือของอาจารย์วัฒนะ บุญจับ มาเปิดให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนตอบคำถาม ขั้นที่ 2 จัดการเรียนรู้ 1. ครูติดแผนภูมิตัวอย่างคำประพันธ์เรื่อง กาพย์เห่เรือ ให้นักเรียนดูบนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันถอดความบท ประพันธ์ดังกล่าว ตามความเข้าใจของนักเรียน 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านเรื่อง กาพย์เห่เรือ จากหนังสือเรียน และถอดความบทประพันธ์ตามความเข้าใจของ นักเรียน พร้อมทั้งศึกษาความหมายของคำศัพท์ที่ปรากฏอยู่ จากหนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมูล สารสนเทศ 3. ครูสุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาถอดความบทประพันธ์ พร้อมบอกความหมายของคำศัพท์ในบทที่กำหนด โดยครูและ เพื่อนกลุ่มอื่นช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง 4. นักเรียนแต่ละคนทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง รู้คำถอดความจากเรื่อง กาพย์เห่เรือ เมื่อทำเสร็จแล้วให้นักเรียนผลัดกันอธิบาย คำตอบในใบงานให้เพื่อนในกลุ่มฟัง ผลัดกันซักถามข้อสงสัยและสรุปเป็นคำตอบของกลุ่ม ขั้นที่ 3 สรุปและนำหลักการไปประยุกต์ใช้ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปเนื้อหา และความหมายของคำศัพท์ในเรื่อง กาพย์เห่เรือ เป็นองค์ความรู้ของกลุ่ม 2. ครูแนะนำให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาความรู้เรื่อง กาพย์เห่เรือ ในด้านต่างๆ ต่อไป ขั้นที่ 4 วัดและประเมินผล นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานในใบงานที่ 3.1 หน้าชั้นเรียน โดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นช่วยกันตรวจสอบ ความถูกต้องและให้ข้อเสนอแนะ
เรื่องที่ 4 คุณค่าด้านวรรณศิลป์ เวลา 1-2 ชั่วโมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม ขั้นที่ 1 มีผู้นำและมีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากเรื่องที่ 1) เลือกผู้นำกลุ่ม และเลขานุการกลุ่ม ครูเน้นย้ำให้สมาชิกทุกคน ในกลุ่มร่วมมือกันในการทำกิจกรรม 2. ครูติดแผนภูมิตัวอย่างคำประพันธ์เรื่อง กาพย์เห่เรือ ให้นักเรียนดูบนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ว่า บทประพันธ์ดังกล่าวใช้ภาษาอย่างไร มีความไพเราะหรือไม่ พร้อมยกตัวอย่างประกอบ ขั้นที่ 2 วางแผน ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันวางแผนและกำหนดขอบเขตในการศึกษาความรู้เรื่อง ลักษณะคำประพันธ์ และคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของเรื่อง กาพย์เห่เรือ จากหนังสือเรียน และหนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ขั้นที่ 3 ปฏิบัติตามแผน 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง ลักษณะคำประพันธ์ และคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของเรื่อง กาพย์เห่เรือ จาก หนังสือเรียน และหนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ตามแผนที่ได้วางไว้ 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการศึกษาที่หน้าชั้นเรียน โดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นร่วมกันแสดงความ คิดเห็น เพิ่มเติม แล้วให้นักเรียนร่วมกันสรุปผลการศึกษา 3. นักเรียนแต่ละคนนำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาเป็นพื้นฐานในการทำใบงานที่ 4.1 เรื่อง คุณค่าภาษาศิลป์ จากเรื่อง กาพย์เห่เรือ เมื่อทำเสร็จแล้วให้นักเรียนแต่ละคนผลัดกันอภิปรายความรู้ที่ได้จากการทำใบงานให้เพื่อนใน กลุ่มฟัง ผลัดกันซักถามข้อสงสัย และร่วมกันสรุปเป็นคำตอบของกลุ่ม ขั้นที่4 ประเมินผลการปฏิบัติงาน นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานในใบงานที่ 4.1 หน้าชั้นเรียน โดยครูและเพื่อนนักเรียนช่วยกันตรวจสอบ ความถูกต้องและให้ข้อเสนอแนะ ขั้นที่ 5 ปรับปรุงและพัฒนา นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันปรับปรุงและพัฒนาผลงานในใบงานที่ 4.1 ให้ถูกต้องสมบูรณ์
เรื่องที่ 5 คุณค่าและข้อคิด เวลา 1-2 ชั่วโมง วิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ ขั้นที่ 1 นำเข้าสู่บทเรียน ครูถามคำถามเกี่ยวกับเรื่อง กาพย์เห่เรือ ให้นักเรียนช่วยกันตอบ แล้วครูให้นักเรียนช่วยกันบอกหลักในการวิเคราะห์คุณค่า วรรณคดีตามที่เคยได้เรียนมา โดยครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เพื่อทบทวนความรู้เดิมของ นักเรียน ขั้นที่ 2 จัดการเรียนรู้ 1. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม (จากเรื่องที่ 1) แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาเรื่อง คุณค่าและข้อคิดของเรื่อง กาพย์เห่เรือ จากหนังสือเรียน แล้วร่วมกันสรุปสาระสำคัญ 2. นักเรียนแต่ละคนทำใบงานที่ 5.1 เรื่อง คุณค่าและข้อคิดจากเรื่อง กาพย์เห่เรือ เมื่อทำเสร็จแล้วผลัดกัน อภิปรายคำตอบในใบงานให้เพื่อนในกลุ่มฟัง ผลัดกันซักถามข้อสงสัยและร่วมกันสรุปเป็นคำตอบของกลุ่ม ขั้นที่ 3 สรุปและนำหลักการไปประยุกต์ใช้ นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง คุณค่าและข้อคิดจากเรื่อง กาพย์เห่เรือ ขั้นที่ 4 วัดและประเมินผล นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานที่ 5.1 โดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง และให้ ข้อเสนอแนะ ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาค้นคว้า เรื่อง กาพย์เห่เรือ แล้วจัดทำเป็นรายงาน โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่กำหนด นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง กาพย์เห่เรือ 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.6 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 3) วีดิทัศน์เกี่ยวกับกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค 4) ซีดีการอ่านทำนองเสนาะ 5) แผนภูมิตัวอย่างคำประพันธ์เรื่อง กาพย์เห่เรือ 6) แถบบันทึกเสียงกาพย์เห่เรือ 7) สลาก 8) บัตรภาพ
9) ใบงานที่ 2.1 สรรพ์สารน่ารู้จากเรื่อง กาพย์เห่เรือ 10) ใบงานที่ 3.1 รู้คำถอดความจากเรื่อง กาพย์เห่เรือ 11) ใบงานที่ 4.1 คุณค่าภาษาศิลป์จากเรื่อง กาพย์เห่เรือ 12) ใบงานที่ 5.1 คุณค่าและข้อคิดจากเรื่อง กาพย์เห่เรือ 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://guru.sanook.com/encyclopedia/กระบวนพยุหยาตราชลมารค - http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK21/chapter1/chap1.htm - http://www.thaigoodview.com/node/18113 - http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/...4/.../sec05p01.html
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการท่องบทอาขยาน เรื่อง กาพย์เห่เรือ รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การอ่านออก เสียง อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง ตามอักขรวิธีทุกประการ อ่านออกเสียงไม่ถูกต้อง ตามอักขรวิธี 1-2 ที่ อ่านออกเสียงไม่ ถูกต้องตามอักขรวิธี 3- 4 ที่ อ่านออกเสียงไม่ถูกต้อง ตามอักขรวิธี 5-6 ที่ 2. การใช้ น้ำเสียง ใช้น้ำเสียงได้สอดคล้อง และสัมพันธ์กับเรื่องที่ อ่านทั้งเรื่อง ใช้น้ำเสียงไม่สอดคล้อง และไม่สัมพันธ์กับเรื่อง ที่อ่าน 1-2 ที่ ใช้น้ำเสียงไม่ สอดคล้องและไม่ สัมพันธ์กับเรื่องที่อ่าน 3-4 ที่ ใช้น้ำเสียงไม่ สอดคล้องและไม่ สัมพันธ์กับเรื่องที่อ่าน 5-6 ที่ 3. การเว้น วรรค/จังหวะในการ อ่าน เว้นวรรค/จังหวะใน การอ่านได้ถูกต้อง เว้นวรรค/จังหวะใน การอ่านไม่ถูกต้อง 1-2 ที่ เว้นวรรค/จังหวะใน การอ่านไม่ถูกต้อง 3- 4 ที่ เว้นวรรค/จังหวะใน การอ่านไม่ถูกต้อง 5- 6 ที่ 4. ท่วงทำนองการ อ่าน ใช้ท่วงทำนองการอ่าน เหมาะสมกับลักษณะ คำประพันธ์และเรื่องที่ อ่านทั้งเรื่อง ใช้ท่วงทำนองการอ่าน ไม่เหมาะสมกับ ลักษณะคำประพันธ์ และเรื่องที่อ่าน1-2 ที่ ใช้ท่วงทำนองการอ่าน ไม่เหมาะสมกับ ลักษณะคำประพันธ์ และเรื่องที่อ่าน 3-4 ที่ ใช้ท่วงทำนองการอ่าน ไม่เหมาะสมกับ ลักษณะคำประพันธ์ และเรื่องที่อ่าน 5-6 ที่ 5. ความถูกต้องของ บทอาขยาน ท่องจำบทอาขยานได้ ถูกต้องครบถ้วนตลอด ทั้งบท ท่องจำบทอาขยานไม่ ถูกต้อง มีที่ผิด 1-2 ที่ ท่องจำบทอาขยานไม่ ถูกต้อง มีที่ผิด 3-4 ที่ ท่องจำบทอาขยานไม่ ถูกต้อง มีที่ผิด 5-6 ที่ 6.การบอกประโยชน์ ของการท่องบท อาขยาน บอกประโยชน์ของ การท่องบทอาขยาน ถูกต้อง ชัดเจน ครบ ทุกประเด็นพร้อมบอก เหตุผล บอกประโยชน์ของ การท่องบทอาขยาน ถูกต้อง ชัดเจน เกือบ ทุกประเด็นพร้อมบอก เหตุผล บอกประโยชน์ของ การท่องบทอาขยาน ถูกต้อง แต่มี ข้อบกพร่องเล็กน้อย ไม่บอกเหตุผล บอกประโยชน์ของ การท่องบทอาขยาน ถูกต้อง แต่มี ข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ไม่บอกเหตุผล เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 21 - 24 ดีมาก 17 - 20 ดี 12 - 16 พอใช้ ต่ำกว่า 12 ปรับปรุง
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินรายงานการศึกษาค้นคว้า เรื่อง กาพย์เห่เรือ รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การบอก ประวัติความเป็นมา และประวัติผู้แต่ง บอกประวัติความเป็นมา และประวัติผู้แต่งเรื่อง กาพย์เห่เรือได้ถูกต้อง ละเอียด ชัดเจน บอกประวัติความ เป็นมาและประวัติผู้ แต่งเรื่อง กาพย์เห่เรือ ได้ถูกต้องชัดเจนเป็น ส่วนใหญ่ บอกประวัติความ เป็นมาและประวัติผู้ แต่งเรื่อง กาพย์เห่เรือ ได้ถูกต้องชัดเจนเพียง ส่วนน้อย บอกประวัติความ เป็นมาและประวัติผู้ แต่งเรื่อง กาพย์เห่เรือ ได้ถูกต้องเพียงส่วน น้อย และไม่ชัดเจน 2. การวิเคราะห์ คุณค่าด้านต่างๆ ของ เรื่อง กาพย์เห่ เรือ วิเคราะห์คุณค่าของ เรื่องกาพย์เห่เรือ ได้ ถูกต้อง ละเอียด ชัดเจน ครบทั้ง 3 ด้าน วิเคราะห์คุณค่าของ เรื่อง กาพย์เห่เรือ ได้ ถูกต้อง ชัดเจน 2 ด้าน วิเคราะห์คุณค่าของ เรื่อง กาพย์เห่เรือ ได้ ถูกต้อง ชัดเจน 1 ด้าน วิเคราะห์คุณค่าของ เรื่อง กาพย์เห่เรือ ได้ถูกต้อง 1 ด้าน แต่ไม่ชัดเจน 3. การนำคุณค่า หรือข้อคิดที่ได้จาก เรื่อง กาพย์เห่เรือมา ประยุกต์ ใช้ใน ชีวิตประจำวัน นำคุณค่าหรือข้อคิดที่ ได้จากเรื่อง กาพย์เห่ เรือ มาประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ถูกต้อง เหมาะสม นำคุณค่าหรือข้อคิดที่ ได้จากเรื่อง กาพย์เห่ เรือ มาประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ถูกต้อง เหมาะสมเป็น ส่วนใหญ่ นำคุณค่าหรือข้อคิดที่ ได้จากเรื่อง กาพย์เห่ เรือมาประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ถูกต้อง เหมาะสม เพียงส่วนน้อย นำคุณค่าหรือข้อคิดที่ ได้จากเรื่อง กาพย์เห่ เรือมาประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ถูกต้องเพียงส่วนน้อย และ ไม่เหมาะสม 4. การเขียนรายงาน เขียนรายงานถูกต้อง ครบถ้วนตามรูปแบบ มีส่วนประกอบของ รายงาน ครบทั้ง 3 ส่วน เขียนรายงานถูกต้อง ครบถ้วนตามรูปแบบ มีส่วนประกอบของ รายงาน ครบทั้ง 3 ส่วน แต่ขาดประเด็น ย่อยบางประเด็น เขียนรายงานถูกต้อง ครบถ้วนตามรูปแบบ มีส่วนประกอบของ รายงาน ครบทั้ง 3 ส่วน แต่ขาดประเด็น ย่อยหลายประเด็น เขียนรายงานไม่ ถูกต้องตามรูปแบบ ขาดส่วนประกอบของ รายงานบางส่วน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14 - 16 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับกวีผู้แต่งเรื่องกาพย์เห่เรือ ก. เป็นกวีสมัยอยุธยาตอนปลาย ข. เคยรับหน้าที่ซ่อมสร้างวิหารวัดมงคลบพิตร ค. ได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าฟ้ากรมขุนสุเรนทรพิทักษ์ ง. ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระมหาอุปราช ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ 2. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับวรรณคดีเรื่องกาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ก. กวีทรงพระนิพนธ์วรรณคดีเรื่องนี้ระหว่างเสด็จไปอยุธยาโดยทางเรือ ข. ลักษณะคำประพันธ์ประกอบด้วย โคลงสี่สุภาพ กาพย์ยานี 11 และร่ายยาว ค. เนื้อหาประกอบด้วยบทพรรณนาชมเรือและชมธรรมชาติ โดยไม่มีการรำพึงรำพันถึงนางอันเป็นที่รัก ง. กวีทรงพระนิพนธ์เพื่อใช้เห่เรือพระที่นั่งของพระองค์เอง แต่ในยุคต่อมา วรรณคดีเรื่องนี้ใช้ในการเห่เรือหลวง 3. ข้อใดไม่ปรากฏชื่อเรือ ก. สรมุขมุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร ข. สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม ค. สมรรถชัยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร เรียบเรียงเคียงคู่จร ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน ง. กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมี 4. ข้อใดไม่มีการเล่นคำพ้องเสียง ก. เรือชายชมมิ่งไม้ ริมท่าไสวหลากหลายพรรณ เพล็ดดอกออกแกมกัน ส่งกลิ่นเกลี้ยงเพียงกลิ่นสมร ข. น้ำเงินคือเงินยวง ขาวพรายช่วงสีสำอาง ไม่เทียบเปรียบโฉมนาง งามเรืองเรื่อเนื้อสองสี ค. แก้มช้ำช้ำใครต้อง อันแก้มน้องช้ำเพราะชม ปลาทุกทุกข์อกกรม เหมือนทุกข์พี่ที่จากนาง ง. ชมดวงพวงนางแย้ม บานแสล้มแย้มเกสร คิดความยามบังอร แย้มโอษฐ์ยิ้มพริ้มพรายงาม
5. เรียมทนทุกข์แต่เช้า ถึงเย็น มาสู่สุขคืนเข็ญ หม่นไหม้ ชายใดจากสมรเป็น ทุกข์เท่า เรียมเลย จากคู่วันเดียวได้ ทุกข์ปิ้มปานปี บทประพันธ์ข้างต้นใช้ภาพพจน์ชนิดใด ก. อุปมา ข. อติพจน์ ค. อุปลักษณ์ ง. บุคลาธิษฐาน 6. ข้อใดไม่ได้ใช้ภาพพจน์อุปมา ก. สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม ข. น้ำเงินคือเงินยวง ขาวพรายช่วงสีสำอาง ไม่เทียบเปรียบโฉมนาง งามเรืองเรื่อเนื้อสองสี ค. งามทรงวงดั่งวาด งามมารยาทนาดกรกราย งามพริ้มยิ้มแย้มพราย งามคำหวานลานใจถวิล ง. ดุเหว่าเจ่าจับร้อง สนั่นก้องซ้องเสียงหวาน ไพเราะเพราะกังวาน ปานเสียงน้องร้องสั่งชาย 7. ข้อใดไม่มีคำที่หมายถึง “ผู้หญิง” ก. ชะแวงแฝงฝั่งแนบ ชะวาดแอบแปบปนปลอม เหมือนพี่แอบแนบถนอม จอมสวาทนาฏบังอร ข. หางไก่ว่ายแหวกว่าย หางไก่คล้ายไม่มีหงอน คิดอนงค์องค์เอวอร ผมประบ่าอ่าเอี่ยมไร ค. เพรางายวายเสพรส แสนกำสรดอดโอชา อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล ง. ประยงค์ทรงพวงห้อย ระย้าย้อยห้อยพวงกรอง เหมือนอุบะนวลละออง เจ้าแขวนไว้ให้เรียมชม 8. ข้อใดกล่าวถึงชื่อพรรณไม้มากที่สุด ก. สาวหยุดพุทธชาด บานเกลื่อนกลาดดาษดาไป นึกน้องกรองมาลัย วางให้พี่ข้างที่นอน ข. เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบุษบงส่งกลิ่นอาย หอมอยู่ไม่รู้หาย คล้ายกลิ่นผาเจ้าตาตรู ค. พิกุลบุนนาคบาน กลิ่นหอมหวานซ่านขจร แม้นนุชสุดสายสมร เห็นจะวอนอ้อนพี่ชาย ง. พุดจีบกลีบแสล้ม พิกุลแกมแซมสุกรม หอมชวยรวยตามลม เหมือนกลิ่นน้องต้องติดใจ
9. ข้อใดมีการใช้คำเลียนเสียงธรรมชาติ ก. เรือครุฑยุดนาคหิ้ว ลิ่วลอยมาพาผันผยอง พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา ข. เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปทั้งหมู่ ตัวเดียวมาพลัดคู่ เหมือนพี่อยู่ผู้เดียวดาย ค. ดุเหว่าเจ่าจับร้อง สนั่นก้องซ้องเสียงหวาน ไพเราะเพราะกังวาน ปานเสียงน้องร้องสั่งชาย ง. ยามสองฆ้องยามย่ำ ทุกคืนค่ำย่ำอกเอง เสียงปี่มี่ครวญเครง เหมือนเรียมร่ำคร่ำครวญนาน 10. ข้อใดโดดเด่นด้านการใช้คำบรรยายให้เกิดภาพเคลื่อนไหว ก. แมลงภู่คู่เคียงว่าย เห็นคล้ายคล้ายน่าเชยชม คิดความยามเมื่อสม สนิทเคล้าเจ้าเอวบาง ข. เรือสิงห์วิ่งเผ่นโผน โจนตามคลื่นฝืนฝ่าฟอง ดูยิ่งสิงห์ลำพอง เป็นแถวท่องล่องตามกัน ค. นกแก้วแจ้วแจ่มเสียง จับไม้เรียงเคียงคู่สอง เหมือนพี่นี้ประคอง รับขวัญน้องต้องมือเบา ง. หางไก่ว่ายแหวกว่าย หางไก่คล้ายไม่มีหงอน คิดอนงค์องค์เอวอร ผมประบ่าอ่าเอี่ยมไร 11. ข้อใดสะท้อนภาพการแต่งกายของสตรีไทยในอดีตอย่างชัดเจน ก. เต็งแต้วแก้วกาหลง บานบุษบงส่งกลิ่นอาย หอมอยู่ไม่รู้หาย คล้ายกลิ่นผาเจ้าตาตรู ข. งามทรงวงดั่งวาด งามมารยาทนาดกรกราย งามพริ้มยิ้มแย้มพราย งามคำหวานลานใจถวิล ค. เพียนทองงามดั่งทอง ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย กระแหแหห่างชาย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม ง. ปลาสร้อยลอยล่องชล ว่ายเวียนวนปนกันไป เหมือนสร้อยทรงทรามวัย ไม่เห็นเจ้าเศร้าบ่วาย 12. ข้อใดไม่ได้กล่าวถึงงานฝีมือของสตรีในราชสำนัก ก. ลำดวนหวนหอมตรลบ กลิ่นอายอบสบนาสา นึกถวิลกลิ่นบุหงา รำไปเจ้าเศร้าถึงนาง ข. ประยงค์ทรงพวงห้อย ระย้าย้อยห้อยพวงกรอง เหมือนอุบะนวลละออง เจ้าแขวนไว้ให้เรียมชม ค. สาวหยุดพุทธชาด บานเกลื่อนกลาดดาษดาไป นึกน้องกรองมาลัย วางให้พี่ข้างที่นอน
ง. ปลาสร้อยลอยล่องชล ว่ายเวียนวนปนกันไป เหมือนสร้อยทรงทรามวัย ไม่เห็นเจ้าเศร้าบ่วาย 13. ข้อใดไม่มีการพรรณนาแบบนิราศ ก. เรื่อยเรื่อยมารอนรอน ทิพากรจะตกต่ำ สนธยาจะใกล้ค่ำ คำนึงหน้าเจ้าตาตรู ข. ปลายกรายว่ายเคียงคู่ เคล้ากันอยู่ดูงามดี แต่นางห่างเหินพี่ เห็นปลาเคล้าเศร้าใจจร ค. มะลิวัลย์พันจิกจวง ดอกเป็นพวงร่วงเรณู หอมมาน่าเอ็นดู ชูชื่นจิตคิดวนิดา ง. กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมี 14. ข้อใดกล่าวถึงการให้จังหวะประกอบการพายเรืออย่างชัดเจน ก. เรือชัยไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม เสียงเส้าเร้าระดม ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน ข. คชสีห์ทีผาดเผ่น ดูดังเป็นเห็นขบขัน ราชสีห์ที่ยืนยัน คั่นสองคู่ดูยิ่งยง ค. ยามสองฆ้องยามย่ำ ทุกคืนค่ำย่ำอกเอง เสียงปี่มี่ครวญเครง เหมือนเรียมคร่ำร่ำครวญนาน ง. เลียงผาง่าเท้าโผน เพียงโจนไปในวารี นาวาหน้าอินทรี มีปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม 15. ข้อใดกล่าวถึงเวลาเช้า ก. เพรางายวายเสพรส แสนกำสรดอดโอชา อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล ข. รอนรอนสุริยโอ้ อัสดง เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง ค่ำแล้ว ค. ยามสองฆ้องยามย่ำ ทุกคืนค่ำย่ำอกเอง เสียงปี่มี่ครวญเครง เหมือนเรียมคร่ำร่ำครวญนาน ง. เรื่อยเรื่อยมารอนรอน ทิพากรจะตกต่ำ สนธยาจะใกล้ค่ำ คำนึงหน้าเจ้าตาตรู
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 วิชา ท 33102 ภาษาไทย6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่2 กาพย์เห่เรือ เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ผู้สอน นางสาวจิลันดา รักไร่ 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านออกเสียงเรื่อง กาพย์เห่เรือ ต้องอ่านออกเสียงให้ถูกต้องไพเราะและเหมาะสม นอกจากนั้นยังต้องสามารถท่องบทอาขยาน ตามที่กำหนด เห็นคุณค่า และนำไปใช้อ้างอิงได้ 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.4-6/6 ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยานตามที่กำหนด และบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจและ นำไปใช้อ้างอิง 2.2จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อ่านออกเสียงบทร้อยกรองเรื่อง กาพย์เห่เรือ ได้ 2) ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยาน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) การอ่านออกเสียง ประกอบด้วย บทร้อยกรอง เช่น โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน 2) บทอาขยานและบทร้อยกรองที่มีคุณค่า - บทอาขยานตามที่กำหนด - บทร้อยกรองตามความสนใจ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการเปรียบเทียบ 2) ทักษะการวิเคราะห์ 3) ทักษะการสร้างความรู้ 4) ทักษะการประเมิน 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. รักความเป็นไทย
6. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง กาพย์เห่เรือ ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู้ 1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตาม ความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้าง อ่อน และอ่อน แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทบทวนความรู้ เกี่ยวกับหลักการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ตามที่เคยได้เรียน มา 2. ครูสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คน ออกมาอ่านทำนองเสนาะเรื่อง กาพย์เห่เรือ ให้เพื่อนฟังที่หน้าชั้นเรียน แล้วครูให้นักเรียนฟังซีดี การอ่าน ทำนองเสนาะ จากนั้นร่วมกันสังเกตและวิเคราะห์ว่า เพื่อนอ่านได้ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร 3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า การอ่านทำนอง เสนาะมีความจำเป็นอย่างไรบ้างต่อการ เรียนวรรณคดีไทย อธิบายเหตุผล (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 2 ทำตามแบบ 1. ครูให้นักเรียนฟังซีดีการอ่านทำนองเสนาะ พร้อมอธิบายประกอบ เพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น และปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง 2. นักเรียนแต่ละคนฝึกอ่านเรื่อง กาพย์เห่เรือ ตามแบบที่ได้ฟัง จาก ซีดีการอ่านทำนองเสนาะ โดยเพื่อนในกลุ่มช่วยกัน ตรวจสอบความถูกต้อง และให้ข้อเสนอแนะ ขั้นที่ 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ 1. นักเรียนจับสลากเลือกบทอ่านเรื่อง กาพย์เห่เรือ คนละ 2 บท แล้วให้นักเรียนแต่ละคนฝึกอ่านด้วยตนเอง 2. นักเรียนแต่ละคนจับคู่กับเพื่อนในกลุ่ม ผลัดกันอ่านบทร้อยกรอง ให้เพื่อนฟัง และผลัดกันวิจารณ์แสดงความคิดเห็น ให้คำแนะนำ แก้ไขในกรณีที่ยังอ่านไม่ถูกต้อง ขั้นที่ 4 ฝึกทำให้ชำนาญ คำถามกระตุ้นความคิด ถ้านักเรียนมีข้อบกพร่องในการอ่าน ทำนองเสนาะ นักเรียนจะปรับปรุง อย่างไร (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้ อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) 1. นักเรียนแต่ละคู่ฝึกอ่านออกเสียงเรื่อง กาพย์เห่เรือ จนเกิดความ ชำนาญ แล้วครูนัดหมายการอ่านออกเสียงเป็นรายบุคคล (นอกเวลาเรียน)
2. ครูประเมินการอ่านของนักเรียนแต่ละคน พร้อมทั้งให้ ข้อเสนอแนะ ในการปรับปรุงในกรณีที่ยังมีข้อบกพร่อง 3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มฝึกท่องบทอาขยานเรื่อง กาพย์เห่เรือ แล้วมาประเมินผลนอกเวลาเรียน เป็นรายบุคคล โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่กำหนด ดังนี้ 1) การอ่านออกเสียง 2) การใช้น้ำเสียง 3) การเว้นวรรค/จังหวะในการอ่าน 4) ท่วงทำนองการอ่าน 5) ความถูกต้องของบทอาขยาน 6) การบอกประโยชน์ของการท่องบทอาขยาน 7. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการ เรียนรู้ที่ 2 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 (ประเมินตามสภาพจริง) ประเมินการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง แบบประเมินการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน และรักความเป็นไทย แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจการท่องบทอาขยานเรื่อง กาพย์เห่เรือ แบบประเมินการท่องบทอาขยานเรื่อง กาพย์เห่เรือ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.6 2) ซีดีการอ่านทำนองเสนาะ 3) สลาก 8.2 แหล่งการเรียนรู้ ––
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการท่องบทอาขยานเรื่อง กาพย์เห่เรือ ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 การอ่านออกเสียง 2 การใช้น้ำเสียง 3 การเว้นวรรค/จังหวะในการอ่าน 4 ท่วงทำนองการอ่าน 5 ความถูกต้องของบทอาขยาน 6 การบอกประโยชน์ของการท่องบทอาขยาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก = 4 ดี = 3 พอใช้ = 2 ปรับปรุง = 1 เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 21 – 24 ดีมาก 17 – 20 ดี 12 – 16 พอใช้ ต่ำกว่า 12 ปรับปรุง
แบบประเมินการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองของนักเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ถูกต้องตาม ลักษณะคำ ประพันธ์ การแบ่ง วรรคตอน ออกเสียง ชัดเจน การใช้ น้ำเสียง รวม 16 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติได้ถูกต้อง ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องปานกลาง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14 - 16 ดีมาก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 ความมีน้ำใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ความร่วมมือ กันทำ กิจกรรม การแสดง ความคิดเห็น การรับฟัง ความคิดเห็น การตั้งใจ ทำงาน การแก้ไข ปัญหา/หรือ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 20 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมาย ของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนและชักชวนผู้อื่นปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง 1.3 ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทำกิจกรรมกับสมาชิกในโรงเรียน ชุมชน และสังคม 1.4 เป็นผู้นำหรือเป็นแบบอย่างในการจัดกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ชื่นชม ปกป้อง ความเป็นชาติไทย 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเป็นตัวอย่างที่ดีของศาสนิกชน 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน พระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชื่นชมในพระราชกรณียกิจ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวที่จะกระทำความผิด ทำตาม สัญญาที่ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็นแบบอย่าง ที่ดีด้านความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนด้านความซื่อสัตย์ 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบในการทำงาน ปฏิบัติ เป็นปกติวิสัยและเป็นแบบอย่างที่ดี 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมื่อผู้อื่น กระทำผิดพลาด
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ต่อ) คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันบนพื้นฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ และปรับตัว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 6.2 ตั้งใจและรับผิดชอบในการทำงานให้สำเร็จ 6.3 ปรับปรุงและพัฒนาการทำงานอย่างรอบคอบ 6.4 ทุ่มเท ทำงาน อดทน ไม่ท้อต่อปัญหาและอุปสรรค 6.5 พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคในการทำงานให้สำเร็จ 6.6 ชื่นชมผลงานความสำเร็จด้วยความภาคภูมิใจ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ แบ่งปันสิ่งของ ทรัพย์สิน และอื่นๆ พร้อมช่วยแก้ปัญหา 8.3 ดูแล รักษาทรัพย์สินของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ชุมชน เพื่อแก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสิ่งที่ดีงามตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
บันทึกหลังแผนการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ( ) ตำแหน่ง..................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 วิชา ท 33102 ภาษาไทย6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่2 กาพย์เห่เรือ เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง ความเป็นมาและประวัติผู้แต่ง ผู้สอน นางสาวจิลันดา รักไร่ 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านและศึกษาวรรณคดีเรื่อง กาพย์เห่เรือ ต้องวิเคราะห์วิจารณ์ตามหลักการเบื้องต้น และยังต้องรู้จักความเป็นมา และ ประวัติผู้แต่ง 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น 2.2จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายความเป็นมาของเรื่อง กาพย์เห่เรือได้ 2) บอกประวัติผู้แต่งเรื่อง กาพย์เห่เรือได้ 3) วิเคราะห์จุดมุ่งหมายในการแต่งเรื่อง กาพย์เห่เรือได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง หลักการวิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมเบื้องต้น - จุดมุ่งหมายการแต่งวรรณคดีและวรรณกรรม 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - ความเป็นมาและประวัติผู้แต่งเรื่อง กาพย์เห่เรือ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการตีความ 2) ทักษะการวิเคราะห์ 3) ทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. รักความเป็นไทย
6. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ 1. ครูให้นักเรียนดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับกระบวนพยุหยาตราทาง ชลมารค หรือภาพริ้วกระบวนเรือพระนั่ง แล้วครูถามคำถาม เพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน เช่น - กระบวนพยุหยาตราทางชลมารคมีความเป็นมาอย่างไร - กระบวนเรือพระที่นั่ง มีความสำคัญอย่างไร - ในการเห่เรือสามารถใช้บทร้อยกรองบทอื่นได้หรือไม่ เพราะเหตุ ใด - หากกล่าวถึงบทเห่เรือ นักเรียนจะนึกถึงใคร เพราะเหตุใด โดยครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดง ความคิดเห็น 2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระตุ้นความคิด เมื่อคิดถึงกระบวนพยุหยาตราทาง ชลมารคนักเรียนจะคิดถึงเหตุการณ์ใด อธิบายเหตุผล (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้ อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) จับคู่กัน เป็น 2 คู่ ให้แต่ละคู่ร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง กาพย์เห่เรือ จากหนังสือ เรียน หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ใน หัวข้อที่กำหนดให้ ดังนี้ - คู่ที่ 1 ศึกษาความรู้เรื่อง ความเป็นมา - คู่ที่ 2 ศึกษาความรู้เรื่อง ประวัติผู้แต่ง แล้วบันทึกความรู้ที่ได้จากการศึกษาลงในแบบบันทึกการอ่าน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ 1. นักเรียนแต่ละคู่นำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาอธิบายให้เพื่อน อีกคู่หนึ่งฟัง ผลัดกันซักถามหากมีข้อสงสัย และร่วมกันอธิบายจน ทุกคนมีความเข้าใจชัดเจนตรงกัน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เป็นองค์ความรู้ของกลุ่ม 3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า กระบวนพยุหยาตรา ทางชลมารค มีการใช้บทเห่เช่นเดียวกับ กระบวนพยุหยาตราทางชลมารคหรือไม่ เพราะเหตุใด (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้ อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)
ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ นักเรียนแต่ละคนทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง สรรพสารน่ารู้จากเรื่อง กาพย์เห่เรือ เมื่อทำเสร็จแล้วผลัดกันอภิปรายคำตอบในใบงาน แล้วร่วมกันสรุปเป็นคำตอบของกลุ่ม ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานในใบงานที่ 2.1 หน้าชั้นเรียน โดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นร่วมกันแสดงความ คิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะ 2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระตุ้นความคิด กระบวนพยุหยาตราทางชลมารค และการ เห่เรือในปัจจุบันมีความเหมือนหรือแตกต่าง จากในสมัยโบราณอย่างไรบ้าง (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) 7. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบันทึกการอ่าน แบบบันทึกการอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน และรักความเป็นไทย แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.6 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 3) วีดิทัศน์เกี่ยวกับกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค 4) บัตรภาพ ริ้วกระบวนเรือพระนั่ง 5) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง สรรพสารน่ารู้ จากเรื่องกาพย์เห่เรือ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ
บัตรภาพ ริ้วกระบวนเรือพระที่นั่ง ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 ภาพที่ 5 ภาพที่ 6
ใบงานที่ 2.1 เรื่อง สรรพสารน่ารู้จากเรื่อง กาพย์เห่เรือ คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. กวีผู้ทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือฉบับที่นำมาให้นักเรียนศึกษานี้คือใคร 2. วรรณคดีเรื่อง กาพย์เห่เรือ เป็นวรรณคดีในสมัยใด 3. พระอิสริยยศสูงสุดของกวีผู้ทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือฉบับนี้ คือพระอิสริยยศใด 4. กวีผู้ทรงพระนิพนธ์เรื่องกาพย์เห่เรือนี้ ทรงบูรณะซ่อมสร้างวิหารของวัดใด 5. วรรณคดีเรื่องกาพย์เห่เรือนี้ กวีทรงพระนิพนธ์ขึ้นเพื่อจุดประสงค์ใด และแต่งขึ้นเพื่อใช้ในการเดินทางไปที่ใด 6. วรรณคดีเรื่องกาพย์เห่เรือนี้ ได้เป็นต้นแบบให้กวีรุ่นหลังแต่งกาพย์เห่อีกหลายสำนวน ได้แก่กาพย์เห่เรื่องอะไรบ้าง 7. เนื้อหาของกาพย์เห่เรือฉบับนี้มีกี่ตอน แต่ละตอนประกอบด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง 8. กาพย์เห่เรือ เป็นวรรณคดีร้อยกรองประเภทใด และแต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทใดบ้าง
ใบงานที่ 2.1 เรื่อง สรรพสารน่ารู้จากเรื่อง กาพย์เห่เรือ เฉลย คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. กวีผู้ทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือฉบับที่นำมาให้นักเรียนศึกษานี้คือใคร เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ หรือ เจ้าฟ้ากุ้ง 2. วรรณคดีเรื่อง กาพย์เห่เรือ เป็นวรรณคดีในสมัยใด สมัยอยุธยาตอนปลาย ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ 3. พระอิสริยยศสูงสุดของกวีผู้ทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือฉบับนี้ คือพระอิสริยยศใด เจ้าฟ้ากรมขุนเสนาพิทักษ์ พระมหาอุปราชเสวยบวรราชสมบัติ ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ 4. กวีผู้ทรงพระนิพนธ์เรื่องกาพย์เห่เรือนี้ ทรงบูรณะซ่อมสร้างวิหารของวัดใด วัดมงคลบพิตร ซึ่งถูกฟ้าผ่าตรงยอดมณฑป 5. วรรณคดีเรื่องกาพย์เห่เรือนี้ กวีทรงพระนิพนธ์ขึ้นเพื่อจุดประสงค์ใด และแต่งขึ้นเพื่อใช้ในการเดินทางไปที่ใด เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือนี้ขึ้น เพื่อใช้เห่เรือเล่นในคราวที่พระองค์ตามเสด็จพระราชบิดา (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) ทางชลมารคไปนมัสการพระพุทธบาท ที่จังหวัดสระบุรี 6. วรรณคดีเรื่องกาพย์เห่เรือนี้ ได้เป็นต้นแบบให้กวีรุ่นหลังแต่งกาพย์เห่อีกหลายสำนวน ได้แก่กาพย์เห่เรื่องอะไรบ้าง กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 บทเห่พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 5 และกาพย์เห่เรือ พระราช นิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 7. เนื้อหาของกาพย์เห่เรือฉบับนี้มีกี่ตอน แต่ละตอนประกอบด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง กาพย์เห่เรือพระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร มี 2 ตอน ดังนี้ - ตอนที่ 1 กล่าวชมกระบวนเรือ ชมปลา ชมไม้ ชมนก และบทครวญถึงนางอันเป็นที่รัก - ตอนที่ 2 ประกอบด้วย บทเห่กากี และบทเห่สังวาส (เนื้อหาที่ตัดมาให้เรียนในแบบเรียนมีเฉพาะตอนแรก) 8. กาพย์เห่เรือ เป็นวรรณคดีร้อยกรองประเภทใด และแต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทใดบ้าง กาพย์เห่เรือ เป็นวรรณคดีประเภทกาพย์เห่แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ กับ กาพย์ยานี 11 เนื้อหาแต่ ละตอนจะขึ้นต้นด้วยโคลงสี่สุภาพ 1 บท ตามด้วยกาพย์ยานี 11 ไม่จำกัดจำนวน โดยกาพย์ยานีบทแรกจะมีเนื้อความ ตรงกับเนื้อความในโคลงสี่สุภาพ
แบบบันทึกการอ่าน ชื่อหนังสือ ชื่อผู้แต่ง นามปากกา สำนักพิมพ์ สถานที่พิมพ์ ปีที่พิมพ์ จำนวนหน้า ราคา บาท อ่านวันที่ เดือน พ.ศ. เวลา 1. สาระสำคัญของเรื่อง 2. วิเคราะห์ข้อคิด/ประโยชน์ที่ได้จากเรื่องที่อ่าน 3. สิ่งที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 4. ข้อเสนอแนะของครู ลงชื่อ นักเรียน ลงชื่อ ผู้ปกครอง ( ) ( ) ลงชื่อ ครูผู้สอน ( ) เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานมีความสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 นำเสนอเนื้อหาในผลงานได้ถูกต้อง 2 การลำดับขั้นตอนของเนื้อเรื่อง 3 การนำเสนอมีความน่าสนใจ 4 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ความตั้งใจ ในการ ทำงาน ความ รับผิดชอบ การตรงต่อ เวลา ความสะอาด เรียบร้อย ผลสำเร็จ ของงาน รวม 20 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ความร่วมมือ กันทำ กิจกรรม การแสดง ความคิดเห็น การรับฟัง ความคิดเห็น การตั้งใจ ทำงาน การแก้ไข ปัญหา/หรือ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 20 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมาย ของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนและชักชวนผู้อื่นปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง 1.3 ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทำกิจกรรมกับสมาชิกในโรงเรียน ชุมชน และสังคม 1.4 เป็นผู้นำหรือเป็นแบบอย่างในการจัดกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ชื่นชม ปกป้อง ความเป็นชาติไทย 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเป็นตัวอย่างที่ดีของศาสนิกชน 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน พระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชื่นชมในพระราชกรณียกิจ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวที่จะกระทำความผิด ทำตาม สัญญาที่ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็นแบบอย่าง ที่ดีด้านความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนด้านความซื่อสัตย์ 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบในการทำงาน ปฏิบัติ เป็นปกติวิสัยและเป็นแบบอย่างที่ดี 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมื่อผู้อื่น กระทำผิดพลาด
แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ต่อ) คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันบนพื้นฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ และปรับตัว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 6.2 ตั้งใจและรับผิดชอบในการทำงานให้สำเร็จ 6.3 ปรับปรุงและพัฒนาการทำงานอย่างรอบคอบ 6.4 ทุ่มเท ทำงาน อดทน ไม่ท้อต่อปัญหาและอุปสรรค 6.5 พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคในการทำงานให้สำเร็จ 6.6 ชื่นชมผลงานความสำเร็จด้วยความภาคภูมิใจ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ แบ่งปันสิ่งของ ทรัพย์สิน และอื่นๆ พร้อมช่วยแก้ปัญหา 8.3 ดูแล รักษาทรัพย์สินของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ชุมชน เพื่อแก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสิ่งที่ดีงามตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
บันทึกหลังแผนการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ( ) ตำแหน่ง..................................
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 วิชา ท 33102 ภาษาไทย6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่2 กาพย์เห่เรือ เวลา 1-2 ชั่วโมง เรื่อง สรุปเนื้อหาและคำศัพท์ ผู้สอน นางสาวจิลันดา รักไร่ 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด กาพย์เห่เรือ เป็นบทประพันธ์ที่มีคุณค่าทั้งด้านเนื้อหา ด้านวรรณศิลป์ และด้านสังคม การที่จะเข้าใจเนื้อหาของเรื่อง ได้นั้น จำเป็นต้องรู้คำศัพท์ต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง เพื่อจะได้เข้าใจเนื้อหาของเรื่องได้อย่างถูกต้อง 2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.4-6/1วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น 2.2จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) สรุปเนื้อหาเรื่อง กาพย์เห่เรือได้ 2) อธิบายความหมายของคำศัพท์ในวรรณคดีเรื่อง กาพย์เห่เรือได้ 3) วิเคราะห์คุณค่าด้านเนื้อหาของเรื่อง กาพย์เห่เรือได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง หลักการวิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมเบื้องต้น - การพิจารณาเนื้อหาและกลวิธีในวรรณคดีและวรรณกรรม 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - เนื้อหา และคำศัพท์จากเรื่อง กาพย์เห่เรือ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการตีความ 2) ทักษะการวิเคราะห์ 3) ทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. รักความเป็นไทย
6. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 นำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด 2. ครูนำแถบบันทึกเสียงกาพย์เห่เรือของครูแจ้ง คล้ายสีทอง หรือ ของอาจารย์วัฒนะ บุญจับ มาเปิดให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนตอบ คำถามต่อไปนี้ - กาพย์เห่เรือ ในปัจจุบันเหมือน หรือแตกต่างจากกาพย์เห่ เรือ ในอดีตอย่างไร อธิบายเหตุผล - กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร เป็นต้นแบบในการแต่ง กาพย์เห่เรือของกวีในยุคต่อมาหรือไม่ อธิบายเหตุผล คำถามกระตุ้นความคิด นักเรียนคิดว่า กาพย์เห่เรือมีลักษณะ เหมือนหรือแตกต่างจากกาพย์ชนิดอื่นๆ อย่างไร (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้ อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 2 จัดการเรียนรู้ 1. ครูติดแผนภูมิตัวอย่างคำประพันธ์เรื่อง กาพย์แห่เรือ ให้นักเรียนดู บนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันถอดความบทประพันธ์ ดังกล่าว ตามความเข้าใจของนักเรียน 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านเรื่อง กาพย์เห่เรือ จากหนังสือเรียน และถอดความบทประพันธ์ตามความเข้าใจของนักเรียน พร้อมทั้ง ศึกษา ความหมายของคำศัพท์ที่ปรากฏอยู่ จากหนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ 3. ครูสุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาถอดความบทประพันธ์ พร้อมบอก ความหมายของคำศัพท์ในบทที่กำหนด โดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่น ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง 4. นักเรียนแต่ละคนทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง รู้คำถอดความจากเรื่อง กาพย์เห่เรือ เมื่อทำเสร็จแล้วให้นักเรียนผลัดกันอธิบายคำตอบใน ใบงานให้เพื่อนในกลุ่มฟัง ผลัดกันซักถามข้อสงสัยและสรุปเป็น คำตอบของกลุ่ม 5. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระตุ้นความคิด เพราะเหตุใด กวีจึงนำกิริยาอาการของ สัตว์ที่ใช้เป็นรูปเรือมาใช้บรรยายการ เคลื่อนไหวของเรือนั้น พร้อมอธิบาย ประกอบ (เพื่อทำให้ภาพการแล่นของเรือดูมีชีวิตชีวา มากยิ่งขึ้น ดังบทประพันธ์ตอนหนึ่งที่ว่า คชสีห์ทีผาดเผ่น ดูดังเป็นเห็นขบขัน ราชสีห์ที่ยืนยัน คั่นสองคู่ดูยิ่งยง เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง เพียงม้าอาชาทรง องค์พระพายผายผันผยอง)
ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 3 สรุปและนำหลักการไปประยุกต์ใช้ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปเนื้อหา และความหมายของ คำศัพท์ในเรื่อง กาพย์เห่เรือ เป็นองค์ความรู้ของกลุ่ม แล้วบันทึก ความรู้ที่ได้ลงในแบบบันทึกการอ่าน เพื่อไว้ใช้ทบทวนความรู้ 2. ครูแนะนำให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาไปประยุกต์ใช้ ในการศึกษาความรู้เรื่อง กาพย์เห่เรือ ในด้านต่างๆ ต่อไป 3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระตุ้นความคิด เนื้อหาในแต่ละตอนของเรื่อง กาพย์ เห่เรือ มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร บ้าง (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดย ให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 4 วัดและประเมินผล 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานในใบงานที่ 3.1 หน้าชั้นเรียน โดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นช่วยกันตรวจสอบ ความถูกต้องและให้ข้อเสนอแนะ 2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระตุ้นความคิด นักเรียนชื่นชอบเนื้อหาของเรื่อง กาพย์เห่เรือ ตอนใดมากที่สุด อธิบาย เหตุผล (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้ อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) 7. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 3.1 ใบงานที่ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบันทึกการอ่าน แบบบันทึกการอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน และรักความเป็นไทย แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.6 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 3) แถบบันทึกเสียงกาพย์เห่เรือ 4) แผนภูมิตัวอย่างคำประพันธ์เรื่อง กาพย์เห่เรือ 5) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง รู้คำถอดความจากเรื่อง กาพย์เห่เรือ
8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://www.thaigoodview.com/library/.../2549/m6.../sec03p01.html
เอกสารประกอบการสอน แผนภูมิตัวอย่างคำประพันธ์ เรื่อง กาพย์เห่เรือ โคลง ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่ เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพายทอง กาพย์ พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง เรือครุฑยุดนาคหิ้ว ลิ่วลอยมาพาผันผยอง พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา สรมุขมุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร สมรรถชัยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร เรียบเรียงเคียงคู่จร ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม เรือชัยไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม เสียงเส้าเร้าระดม ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน คชสีห์ทีผาดเผ่น ดูดังเป็นเห็นขบขัน ราชสีห์ที่ยืนยัน คั่นสองคู่ดูยิ่งยง เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง เพียงม้าอาชาทรง องค์พระพายผายผันผยอง เรือสิงห์วิ่งเผ่นโผน โจนตามคลื่นฝืนฝ่าฟอง ดูยิ่งสิงห์ลำพอง เป็นแถวท่องล่องตามกัน นาคาหน้าดังเป็น ดูเขม้นเห็นขบขัน มังกรถอนพายพัน ทันแข่งหน้าวาสุกรี เสียงผาง่าเท้าโผน เพียงโจนไปในวารี นาวาหน้าอินทรี มีปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม ดนตรีมี่อึงอล ก้องกาหลพลแห่โหม โห่ฮึกคึกครื้นโครม โสมนัสชื่นรื่นเริงพล กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมี
ใบงานที่ 3.1 เรื่อง รู้คำถอดความจากเรื่อง กาพย์เห่เรือ คำชี้แจง ให้นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์ที่กำหนด และสรุปสาระสำคัญของบทประพันธ์ให้ถูกต้อง 1. กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมี นาเวศ หมายถึง สาชล หมายถึง หื่น หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์ 2. ปักษีมีหลายพรรณ บ้างชมกันขันเพรียกไพร ยิ่งฟังวังเวงใจ ล้วนหลายหลากมากภาษา ปักษี หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์ 3. เพรางายวายเสพรส แสนกำสรดอดโอชา อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล เพรางาย หมายถึง กำสรด หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์ 4. สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม สินธุ์ หมายถึง พรหมินทร์ หมายถึง ลินลาศ หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์
5. รอนรอนสุริยโอ้ อัสดง เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง ค่ำแล้ว รอนรอนจิตจำนง นุชพี่ เพียงแม่ เรื่อยเรื่อยเรียมคอยแก้ว คลับคล้ายเรียมเหลียว อัสดง หมายถึง เมรุ (อ่านว่า “เมน”) หมายถึง เรียม หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์ 6. พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์ มัตสยายังรู้ชม สมสาใจไม่พามา มัตสยา หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์ 7. โนรีสีปานชาด เหมือนช่างฉลาดวาดแต้มลาย ไม่เท่าเจ้าโฉมฉาย ห่มตาดพรายกรายกรมา ชาด หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์ 8. นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง นาวา หมายถึง สาคร หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์
ใบงานที่ 3.1 เรื่อง รู้คำถอดความจากเรื่อง กาพย์เห่เรือ เฉลย คำชี้แจง ให้นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์ที่กำหนด และสรุปสาระสำคัญของบทประพันธ์ให้ถูกต้อง 1. กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมี นาเวศ หมายถึง เรือ สาชล หมายถึง สายชล สายน้ำ แม่น้ำ หื่น หมายถึง ทะยานใจ เหิมใจ มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า สาระสำคัญของบทประพันธ์ กระบวนเรือได้แล่นออกจากพระนครโดยทางน้ำ (กวี) รู้สึกยินดีและชื่นใจเป็นอย่างยิ่ง พลางชื่นชมหมู่ปลาที่แหวกว่ายในลำน้ำ 2. ปักษีมีหลายพรรณ บ้างชมกันขันเพรียกไพร ยิ่งฟังวังเวงใจ ล้วนหลายหลากมากภาษา ปักษี หมายถึง นก สาระสำคัญของบทประพันธ์ นก (ที่กวีเห็น) มีหลากหลายชนิด นกเหล่านี้ต่างพากันขันและส่งเสียงร้องไปทั่วทั้งป่า ฟังเสียงนกแล้ว (กวี) รู้สึกวังเวงใจ 3. เพรางายวายเสพรส แสนกำสรดอดโอชา อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล เพรางาย หมายถึง เวลาเช้า มื้อเช้า กำสรด หมายถึง โศกเศร้า คร่ำครวญ ร้องไห้ สาระสำคัญของบทประพันธ์ ในเวลาเช้า (หรือมื้อเช้า) กวีไม่อาจเสวยอาหารได้ เพราะกวีอิ่มจากความทุกข์ อิ่มจากน้ำตา และอิ่มจากความโศกเศร้า 4. สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม สินธุ์ หมายถึง ลำน้ำ สายน้ำ พรหมินทร์ หมายถึง พระพรหม ลินลาศ หมายถึง การเยื้องกราย ท่าทางอันสง่า สาระสำคัญของบทประพันธ์ เรือสุพรรณหงส์ที่แล่นมาอย่างช้าๆ มีความงดงามมาก ประดุจหงส์ของพระพรหม ความสง่างามของเรือสุพรรณหงส์นี้ตรึงตาอย่างยิ่ง
5. รอนรอนสุริยโอ้ อัสดง เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง ค่ำแล้ว รอนรอนจิตจำนง นุชพี่ เพียงแม่ เรื่อยเรื่อยเรียมคอยแก้ว คลับคล้ายเรียมเหลียว อัสดง หมายถึง ตกไป (ใช้กับพระอาทิตย์) เมรุ (อ่านว่า “เมน”) หมายถึง ภูเขา เรียม หมายถึง คำใช้แทนตัวผู้พูด เป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 ใช้สำหรับผู้ชายพูดกับผู้หญิงที่รัก สาระสำคัญของบทประพันธ์ เมื่อพระอาทิตย์ตกลับเหลี่ยมเขา เข้าสู่เวลาค่ำ พี่ (หมายถึงตัวกวี) ก็เฝ้าคะนึงหาแต่นาง อันเป็นที่รัก เมื่อเห็นใครที่คลับคล้ายว่าจะเป็นนาง ก็รีบเหลียวหันมองไปทันที 6. พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์ มัตสยายังรู้ชม สมสาใจไม่พามา มัตสยา หมายถึง ปลา สาระสำคัญของบทประพันธ์ (กวี) มองดูฝูงปลาแหวกว่ายในน้ำ ก็รู้สึกคิดถึงนางอันเป็นที่รัก หมู่ปลายังรู้จักแหวกว่าย คลอเคลียกัน แต่ตัวกวีกลับไม่มีนางอยู่เคียงข้าง 7. โนรีสีปานชาด เหมือนช่างฉลาดวาดแต้มลาย ไม่เท่าเจ้าโฉมฉาย ห่มตาดพรายกรายกรมา ชาด หมายถึง วัตถุสีแดงสดชนิดหนึ่ง เป็นผงก็มี ใช้ทำยาไทยหรือประสมกับน้ำมันสำหรับประทับตราหรือทาสิ่งของ มัก เรียกสีที่แดงสดว่า สีแดงชาด สาระสำคัญของบทประพันธ์ นกโนรีมีแดงสดเหมือนสีชาด สวยงามราวกับมีจิตรกรมาวาดแต้มสีไว้ แต่ถึงกระนั้น นกโนรี ก็ยังงดงามไม่เท่ากับนางอันเป็นที่รัก (ของกวี) ที่ห่มตาดพรายเดินอย่างแช่มช้อย 8. นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง นาวา หมายถึง เรือ สาคร หมายถึง ลำน้ำ สายน้ำ สาระสำคัญของบทประพันธ์ เรือในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคนี้มีมากจนแน่นเต็มลำน้ำ ทั้งเรือรูปสัตว์ต่างๆ และ บรรดาเรือริ้วซึ่งมีทิวธงสะบัด เรือเหล่านี้แล่นเรียงกัน ทำให้น้ำในลำน้ำกระฉอกเป็นฟองตามการแล่นของเรือ
แบบบันทึกการอ่าน ชื่อหนังสือ ชื่อผู้แต่ง นามปากกา สำนักพิมพ์ สถานที่พิมพ์ ปีที่พิมพ์ จำนวนหน้า ราคา บาท อ่านวันที่ เดือน พ.ศ. เวลา 1. สาระสำคัญของเรื่อง 2. วิเคราะห์ข้อคิด/ประโยชน์ที่ได้จากเรื่องที่อ่าน 3. สิ่งที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 4. ข้อเสนอแนะของครู ลงชื่อ นักเรียน ลงชื่อ ผู้ปกครอง ( ) ( ) ลงชื่อ ครูผู้สอน ( ) เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานมีความสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 นำเสนอเนื้อหาในผลงานได้ถูกต้อง 2 การลำดับขั้นตอนของเนื้อเรื่อง 3 การนำเสนอมีความน่าสนใจ 4 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ-สกุล ของผู้รับการ ประเมิน ความร่วมมือ กันทำ กิจกรรม การแสดง ความคิดเห็น การรับฟัง ความคิดเห็น การตั้งใจ ทำงาน การแก้ไข ปัญหา/หรือ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 20 คะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมาย ของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนและชักชวนผู้อื่นปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง 1.3 ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทำกิจกรรมกับสมาชิกในโรงเรียน ชุมชน และสังคม 1.4 เป็นผู้นำหรือเป็นแบบอย่างในการจัดกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม ชื่นชม ปกป้อง ความเป็นชาติไทย 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา และเป็นตัวอย่างที่ดีของศาสนิกชน 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน พระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชื่นชมในพระราชกรณียกิจ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวที่จะกระทำความผิด ทำตาม สัญญาที่ตนให้ไว้กับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็นแบบอย่าง ที่ดีด้านความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนด้านความซื่อสัตย์ 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบในการทำงาน ปฏิบัติ เป็นปกติวิสัยและเป็นแบบอย่างที่ดี 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเอง เช่น สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเมื่อผู้อื่น กระทำผิดพลาด
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ต่อ) คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันบนพื้นฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ และปรับตัว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 6.2 ตั้งใจและรับผิดชอบในการทำงานให้สำเร็จ 6.3 ปรับปรุงและพัฒนาการทำงานอย่างรอบคอบ 6.4 ทุ่มเท ทำงาน อดทน ไม่ท้อต่อปัญหาและอุปสรรค 6.5 พยายามแก้ปัญหาและอุปสรรคในการทำงานให้สำเร็จ 6.6 ชื่นชมผลงานความสำเร็จด้วยความภาคภูมิใจ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ แบ่งปันสิ่งของ ทรัพย์สิน และอื่นๆ พร้อมช่วยแก้ปัญหา 8.3 ดูแล รักษาทรัพย์สินของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ชุมชน เพื่อแก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสิ่งที่ดีงามตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน