คำอธบิ ายรายวิชา
ว 21103 เทคโนโลยี 1 กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ
..........................................................................................................................................................................
ศึกษาวิธีการนำแนวคิดเชิงนามธรรมมาใช้วิเคราะห์โจทย์ปัญหาและถ่ายทอดแนวคิด วิเคราะห์
รายละเอยี ดทจี่ ำเปน็ ของปัญหาออกจากรายละเอยี ดท่ีไมจ่ ำเป็นและอธบิ ายรายละเอยี ดที่ไมค่ รบถว้ น ออกแบบ
วิธีการแก้ปัญหาโดยใช้แนวคดิ เชิงนามธรรม อธบิ ายขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา กรณศี ึกษา การแกไ้ ขปัญหาปัจจัยใน
การทำนาของชาวลาวเวียง การวางแผนการแก้ปัญหาโดยใช้รหสั ลำลองและผังงาน แก้ปัญหาตามขั้นตอนการ
แกป้ ญั หา ออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีมีการใช้งานตวั แปร การทำงานแบบมีทางเลือก การทำงานแบบวนซ้ำ
และเขียนโปรแกรมเพ่ือแกป้ ญั หาทางคณติ ศาสตรห์ รอื วทิ ยาศาสตร์
โดยใชค้ วามรูแ้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ แนวคิดเชงิ คำนวณ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพื่อ
แก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วย
กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรูก้ ารทำงาน และ
การแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และ
สิ่งแวดล้อม
พร้อมเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม
จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิต ภายใต้
การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
รหสั ตวั ช้วี ดั ม.1/1, ม.1/2
มาตรฐาน ว 4.2
รวมทั้งหมด 2 ตัวช้ีวัด
196
โครงสรา้ งรายวิชา
ว 21103 เทคโนโลยี 1 กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ
ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ เนื้อหา เวลา นำ้ หนกั
ตวั ชว้ี ดั (ช่วั โมง) คะแนน
1. แนวคดิ เชิง ว 4.2 - แนวคดิ เชงิ นามธรรม 4 10
นามธรรม (บรู ณาการ ม.1/1 - การคัดเลือกคณุ ลักษณะทจ่ี ำเป็นตอ่ การแกป้ ญั หา
หลกั สูตรท้องถิน่ เรือ่ ง - การถ่ายทอดรายละเอียดของปญั หาและการแก้ปัญหา
กรณศี ึกษา การแก้ไข - กรณีศึกษา การแกไ้ ขปัญหาปจั จยั ในการทำนาของ
ปญั หาปัจจยั ในการทำ ชาวลาวเวยี ง
นาของชาวลาวเวียง)
2. การแกป้ ญั หา ว 4.2 - ข้ันตอนการแก้ปัญหา 4 10
ม.1/1-2 - การเขียนรหสั ลำลองและผงั งาน
- การกำหนดค่าใหต้ วั แปร
- ภาษาโปรแกรม
3. การโปรแกรมดว้ ย ว 4.2 - รจู้ ักไพทอน 15 25
ภาษาไพทอน ม.1/1-2 - ตัวแปร
- ชนดิ ข้อมูลพืน้ ฐาน
- การแปลงชนิดข้อมลู
- การเขียนโปรแกรมไพทอนในโหมดสคริปต์
- ฝกึ เขยี นโปรแกรมกบั เต่าไพทอน
- การทำงานแบบวนซำ้ การทำงานแบบมีทางเลือก
4. การโปรแกรมด้วย ว 4.2 - รู้จกั โปรแกรม Scratch 15 25
Scratch ม.1/1-2 - การทำงานแบบวนซำ้ ,
- ตวั แปร
- การทำงานแบบมที างเลือก
- คำสง่ั วนซำ้ แบบมเี งื่อนไข
คะแนนระหวา่ งเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ 38 70
สอบระหวา่ งภาค 1 15
คะแนนปลายภาค สอบปลายภาค 1 15
รวมทงั้ สน้ิ ตลอดภาคเรียน 40 100
หมายเหตุ อัตราสว่ นคะแนนระหวา่ งเรยี นกับการสอบปลายภาค 70/30
197
คำอธบิ ายรายวิชา
ว 21104 เทคโนโลยี 2 กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ
..........................................................................................................................................................................
ศึกษา วเิ คราะห์ เลือกข้อมูลและออกแบบวธิ ีการรวบรวมข้อมูล รวบรวมข้อมลู จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
ประมวลผลขอ้ มูล ออกแบบทางเลือกและประเมินทางเลือกในการแก้ปัญหาหรือตดั สินใจ ใช่ซอฟต์แวร์ในการ
จัดการกับข้อมูลและนำเสนอข้อมลู ได้อย่างเหมาะสม อธิบายวิธีการปกปอ้ งข้อมูลสว่ นตัว วิเคราะห์ผลกระทบ
จากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อภปิ รายวิธีการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั นำสื่อหรอื แหลง่ ข้อมูล
ไปใช้ให้ถูกต้องตามข้อตกลงการใช้งาน ความหมายและประโยชนข์ องเทคโนโลยี วิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยที่
ส่งผลต่อการเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี วเิ คราะห์ระบบทางเทคโนโลยขี องชนิ้ งานหรือวธิ กี ารในชีวิตประจำวัน
ประยุกต์ใช้แนวคิดระบบทางเทคโนโลยีเพื่อการดูแลรักษาเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม วิเคราะห์สมบัติของ
วัสดุและเครื่องมือช่างที่ใช้ในการสรา้ งชิ้นงาน กรณีศึกษาเครื่องมือที่ใช้ในการทำนาของชาวลาวเวียง เลือกใช้
วัสดุและเครื่องมือช่างในการสร้างชิ้นงานได้อย่างเหมาะสมกับลักษณะของงานและคำนึงถึงความ ปลอดภัย
ออกแบบชิ้นงานโดยประยุกต์ใช้ความรูเ้ ร่ืองกลไกหรือวงจรไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์เบ้ืองต้น วิเคราะห์ขั้นตอน
การทำงานตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนางานตาม
กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม
โดยใชค้ วามรแู้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ แนวคิดเชงิ คำนวณ และศาสตรอ์ ่ืน ๆ เพื่อ
แก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วย
กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และ
การแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และ
สงิ่ แวดล้อม
พร้อมเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม
จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิต ภายใต้
การแพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
รหัสตัวชว้ี ัด ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
มาตรฐาน ว 4.1 ม.1/3, ม.1/4
มาตรฐาน ว 4.2
รวมทั้งหมด 7 ตวั ช้ีวดั
198
โครงสร้างรายวชิ า
ว 21104 เทคโนโลยี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ เนือ้ หา เวลา นำ้ หนัก
ตวั ช้ีวัด (ชว่ั โมง) คะแนน
1. ขอ้ มลู และการ ว 4.2 ม.1/3 ข้อมลู , การรวบรวมขอ้ มลู การประมวลผลข้อมูล 8 15
ประมวลผล การสรา้ งทางเลอื กเพื่อตัดสินใจ ซอฟตแ์ วร์จดั การ
ข้อมูล
2. การใชเ้ ทคโนโลยี ว 4.2 ม.1/4 ภยั คุกคามจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการ 6 10
สารสนเทศอย่าง ป้องกัน การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ
ปลอดภยั
3. เทคโนโลยรี อบตวั ว 4.1 ม.1/1 ความหมายและประโยชนข์ องเทคโนโลยี 6 15
เทคโนโลยีในงานอาชีพ การเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยี
การวเิ คราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี
ระบบ และระบบทางเทคโนโลยี การวเิ คราะห์
ระบบทางเทคโนโลยี
4. วัสดแุ ละอุปกรณ์ ว 4.1 ม.1/5 วสั ดุในชีวติ ประจำวนั เคร่ืองมือช่างพนื้ ฐาน 8 15
นา่ รู้ (บรู ณาการ กรณีศึกษา เครอื่ งมือที่ใช้ในการทำนาของชาวลาว
หลกั สตู รท้องถน่ิ เรือ่ ง เวยี ง กลไก ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เบ้อื งตน้
กรณศี ึกษา เครื่องมือ
ท่ใี ชใ้ นการทำนาของ
ชาวลาวเวยี ง)
5. การแกป้ ญั หาตาม ว 4.1 ม.1/2-4 กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมและกรณศี กึ ษา 10 15
กระบวนการ
ออกแบบเชงิ
วศิ วกรรม
คะแนน หนว่ ยการเรียนรู้ 38 70
ระหวา่ งเรียน สอบระหวา่ งภาค 1 15
คะแนนปลายภาค สอบปลายภาค 1 15
รวมท้งั สิ้นตลอดภาคเรียน 40 100
หมายเหตุ อตั ราสว่ นคะแนนระหวา่ งเรียนกับการสอบปลายภาค 70/30
199
คำอธบิ ายรายวชิ าและโครงสร้างรายวิชา สาระการเรยี นรู้เพิ่มเติม
ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1
200
คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
ว 21203 การออกแบบแอนิเมชัน กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 1
เวลา 20 ชั่วโม จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ศกึ ษาการสรา้ งงานแอนิเมช่นั ดว้ ยโปรแกรมหรอื แอพลิเคชัน ศกึ ษาการวาดรปู และการลงสี การจดั การ
วัตถุ การใช้สี การสร้างข้อความ การนำเข้าภาพกราฟิกจากภายนอก เข้าใจพื้นฐานการสร้างงานแอนิเมชัน
การสร้างงานแอนิเมชัน การทำงานกับไฟล์เสียง เทคนิคการตกแต่งวัตถุ กำหนดให้ชิ้นงานโต้ตอบกับผู้ใช้ได้
และการเผยแพรช่ นิ้ งานทส่ี รา้ งสรรค์ การนำเสนอภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ลาวเวียงผา่ นส่ือแอนิเมชนั
โดยใช้กระบวนการการคิดวิเคราะห์ การวางแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน การคิดแก้ปัญหา การ
ใช้จินตนาการอย่างสร้างสรรค์ โดยอาศัยความรู้เกี่ยวกับหลักการทำงานของโปรแกรม ความรู้เกี่ยวกับ
เครื่องมือและความรู้เกี่ยวกบั คำสั่งพืน้ ฐานตา่ ง ๆ ของโปรแกรมและการนำเทคโนโลยเี ขา้ มาประยุกตใ์ ช้ในการ
ชว่ ยสรา้ งชน้ิ งาน การนำเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์
เพื่อให้เกิดความตระหนัก ความรับผิดชอบ เห็นความสำคัญ มีทักษะทางเทคโนโลยีและทักษะการ
ออกแบบ ตลอดจนปลูกฝังนิสัยรักการทำงานและการปฏิบัติงานด้วยตนเอง มีความขยัน อดทน ซื่อสัตย์ ตรง
ต่อเวลาและมีระเบียบวินัยต่อการเรียนและการทำงาน มีคุณธรรม จริยธรรมและยึดหลกั เศรษฐกิจพอเพียงใน
การเรียนและการทำงาน ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิต ภายใต้การแพร่
ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
ผลการเรียนรู้
1. อธิบายความหมายและมีความเขา้ ใจเกย่ี วกบั แอนิเมชันได้
2. อธบิ ายประโยชน์และส่วนประกอบของโปรแกรมหรือแอพลเิ คชนั ได้
3. อธิบายหลกั การใชเ้ คร่อื งมอื ในการวาด การสรา้ งข้อความ ลงสแี ละปรบั แตง่ รูปภาพได้
4. สามารถใช้เครื่องมือในการวาด การสร้างข้อความ ลงสีและปรับแต่งรปู ภาพได้
5. อธิบายหลักการสร้างวตั ถุ/ชน้ิ งานแบบต่างๆได้
6. อธิบายหลักการใชเ้ ครอ่ื งมือในการสรา้ งภาพเคล่ือนไหวได้
7. สามารถใช้เครื่องมือในการสร้างภาพเคลื่อนไหวได้
8. อธิบายการนำรปู ภาพ และเสียงเข้ามาใชป้ ระกอบชิ้นงานได้
9. สร้างแอนิเมชนั และเผยแพร่ชิ้นงานได้ในรูปแบบตา่ งๆได้อยา่ งสรา้ งสรรค์
รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้
201
โครงสรา้ งรายวชิ าเพิ่มเติม
ว 21203 การออกแบบแอนิเมชัน กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต
ลำดบั ชอ่ื หน่วย ผลการ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
ท่ี การเรียนรู้ เรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
1 ความรู้เบ้ืองตน้ เกีย่ วกับ ขอ้ ท่ี 1 แอนิเมชันคือการนำภาพนิ่งมาสร้าง 3 10
แอนิเมชนั่ ใหเ้ กิดการเคล่ือนไหว มรี ูปแบบที่
แตกต่างออกไปมีสองประเภท สอง
มติ แิ ละสามมิติ
2 ความรเู้ บอ้ื งต้นเกี่ยวกบั ข้อท่ี 1,2,3 ความรูค้ วามเขา้ ใจในการเร่ิมตน้ 4 20
โปรแกรมและแอพลิ การใชง้ านโปรแกรม Flash ในการ
เคชน่ั สรา้ งงานเคลอ่ื นไหว
3 การสร้าง ขอ้ ที่ เขา้ ใจหลักการในการสรา้ ง 6 25
ภาพเคล่อื นไหวดว้ ย 5,6,7,8 แอนเิ มชนั หรอื ภาพเคล่ือนไหว การ
โปรแกรมหรือแอพลิ วาด การลงสี การใส่การเคลื่อนไหว
เคชน่ั ให้กับตัวละคร
4 การสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ขอ้ ที่ 9 การนำองค์ความรมู้ าสรา้ งสรรค์ 5 25
(บรู ณาการหลักสูตร ผลงานที่สวยงามและนำเสนอ
ท้องถิน่ เรื่องการ ผลงานอย่างสรา้ งสรรค์ การนำเสนอ
นำเสนอภูมิปัญญา ภูมิปญั ญาท้องถนิ่ ลาวเวยี งผ่านส่อื
ท้องถิ่นลาวเวยี งผ่านสื่อ แอนเิ มชนั
แอนเิ มชนั )
คะแนนระหวา่ งเรียน คะแนนหนว่ ยการเรยี นรู้ 18 80
สอบระหวา่ งภาค 1 10
คะแนนปลายภาค สอบปลายภาค 1 10
รวมท้ังสิน้ ตลอดภาคเรียน 20 100
หมายเหตุ อัตราสว่ นคะแนนระหว่างเรยี นกับการสอบปลายภาค 80/20
202
คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ว 21204 การออกแบบสิง่ ของเคร่ืองใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ศกึ ษาพน้ื ฐานออกแบบสิ่งของเคร่ืองใช้ หลักการทำงานและความสามารถของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ที่ใช้ในการออกแบบ ศึกษาส่วนประกอบ เครื่องมือและคำสั่งพื้นฐานต่าง ๆ ที่ใช้ในการออกแบบรวมทั้งการ
ออกแบบโครงสร้างสิ่งของเครื่องใช้ และการสร้างชิ้นงานแบบ 3 มิติขั้นพื้นฐาน นำความรู้ในเชิงออกแบบมา
ประยุกต์ใช้เพอื่ นำเสนอช้นิ งาน การออกแบบเคร่ืองใช้ท้องถิน่ ลาวเวยี ง
โดยใช้กระบวนการการคิดวิเคราะห์ การวางแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน การคิดแก้ปัญหา การ
ใช้จินตนาการอย่างสร้างสรรค์ โดยอาศัยความรู้เกี่ยวกับหลักการทำงานของโปรแกรม ความรู้เกี่ยวกับ
เครื่องมือและความรู้เกี่ยวกบั คำสั่งพืน้ ฐานต่าง ๆ ของโปรแกรมและการนำเทคโนโลยเี ขา้ มาประยุกต์ใช้ในการ
ช่วยสรา้ งชน้ิ งาน การนำเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์
เพื่อให้เกิดความตระหนัก ความรับผิดชอบ เห็นความสำคัญ มีทักษะทางเทคโนโลยีและทักษะการ
ออกแบบ ตลอดจนปลูกฝังนิสัยรักการทำงานและการปฏิบัติงานด้วยตนเอง มีความขยัน อดทน ซื่อสัตย์ ตรง
ต่อเวลาและมีระเบียบวินัยตอ่ การเรียนและการทำงาน มีคุณธรรม จริยธรรมและยึดหลกั เศรษฐกจิ พอเพียงใน
การเรียนและการทำงาน ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิต ภายใต้การแพร่
ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ายหลกั การของการออกแบบสงิ่ ของเคร่ืองใชไ้ ด้
2. อธิบายหลักการทำงาน ส่วนประกอบ เครือ่ งมือ และความสามารถของโปรแกรมได้
3. ออกแบบและสรา้ งชิน้ งานดว้ ยความคดิ สรา้ งสรรค์และนำเสนอผลงานได้
4. วเิ คราะห์ปัญหาของการออกแบบสง่ิ ของเครื่องใชก้ ่อนและหลังลงมือปฏบิ ตั ไิ ด้
5. ตระหนักเหน็ ความสำคัญของการออกแบบสิง่ ของเครื่องใช้ได้
6. มีทกั ษะทางเทคโนโลยีและทักษะการออกแบบสิง่ ของเครื่องใช้
7. ประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมในการสรา้ งผลงานท่ีสอดคลอ้ งกบั หลกั คณุ ธรรม จริยธรรม และความพอเพยี ง
8. สรา้ งเสริมลักษณะนสิ ยั พื้นฐานในการทำงานและมีเจตคตีท่ีดแี ละการทำงานเปน็ กล่มุ
รวมท้ังหมด 8 ผลการเรียนรู้
203
โครงสรา้ งรายวชิ าเพ่ิมเติม
ว 21204 การออกแบบสิ่งของเครอื่ งใช้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ
ลำดบั ช่อื หน่วย ผลการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
ที่ การเรยี นรู้ เรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
1 พนื้ ฐานการออกแบบ ข้อท่ี 1,5,8 - การออกแบบเปน็ สง่ิ ที่มสี ำคญั ในปจั จุบนั เปน็ อย่างยง่ิ สง่ิ ของ 2 10
สิ่งของเคร่ืองใช้ รอบ ๆ ตัวเราจะมกี ารออกแบบท่ีแตกต่างกนั พร้อมความ
สวยงามทีต่ ามมา
2 โปรแกรมประยกุ ต์ ขอ้ ที่ 2,7,5 - ปจั จบุ นั จะมโี ปรแกรมประยกุ ตถ์ ูกพัฒนาออกมาอย่าง 2 15
สำหรบั การออกแบบ แพร่หลายทเ่ี หมาะสำหรบั การออกแบบสงิ่ ของเครื่องใช้ เรา
สิง่ ของเครือ่ งใช้ จะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับชน้ิ งาน
3 การออกแบบส่ิงของ ข้อท่ี 2,7,8 - การนำความรู้ในเชงิ ออกแบบมาประยุกต์ใช้เพอ่ื นำเสนอ 5 15
เคร่ืองใช้พ้นื ฐาน ช้นิ งานเปน็ สง่ิ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคปจั จบุ นั ในรปู แบบ
(บรู ณาการหลักสูตร ของเครื่องใชพ้ น้ื ฐาน เชน่ เก้าอ้ี โต๊ะ ตู้ จาน ชัน้ วางของ การ
ท้องถนิ่ เรอ่ื งการ ออกแบบเครื่องใช้ท้องถิ่นลาวเวียง เปน็ ตน้
ออกแบบเคร่อื งใช้
ท้องถิ่นลาวเวยี ง)
4 การออกแบบสงิ่ ของ ขอ้ ท่ี 2,7,8 - การนำความรใู้ นเชงิ ออกแบบมาประยกุ ตใ์ ชเ้ พื่อนำเสนอ 5 20
เครื่องใช้ขน้ั สูง ชนิ้ งานเปน็ สิง่ ทม่ี ีความสำคัญอยา่ งยง่ิ ในยุคปจั จบุ นั ในรปู แบบ
ของเครื่องใชข้ ัน้ สูง เชน่ แกว้ นำ้ แจกัน ขวดน้ำ โต๊ะ
รบั ประทานอาหาร หอ้ งนอน บา้ น และอาคารสถานที่ เปน็
ตน้
5 การออกแบบสง่ิ ของ ข้อท่ี - การออกแบบสง่ิ ของเคร่ืองใช้อย่างสร้างสรรค์ มีความ 4 20
เคร่ืองใช้อย่าง 3,4,6,7,8 รับผิดชอบ มที กั ษะทางเทคโนโลยแี ละทักษะการออกแบบ
สรา้ งสรรค์ ตลอดจนปลูกฝงั นิสัยรักการทำงานและการปฏิบตั ิงานดว้ ย
ตนเอง มชี ้ินงานเชงิ ประจักษท์ ี่สามารถตอ่ ยอดสูก่ ารนำไปใช้
ในชวี ติ ประจำวนั ดา้ นวชิ าการและทักษะอาชีพ
คะแนนระหว่างเรียน คะแนนหนว่ ยการเรียนรู้ 18 80
สอบระหวา่ งภาค 1 10
คะแนนปลายภาค สอบปลายภาค 1 10
รวมท้ังสน้ิ ตลอดภาคเรยี น 20 100
หมายเหตุ อตั ราสว่ นคะแนนระหวา่ งเรยี นกับการสอบปลายภาค 80/20
204
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2
ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลางและสาระการเรยี นรู้ท้องถิน่
สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสิง่ ไมม่ ชี ีวิตกับสิง่ มชี ีวติ และ
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งส่ิงมีชวี ิตกบั ส่ิงมีชีวิตตา่ ง ๆ ในระบบนเิ วศ การถา่ ยทอดพลงั งาน
การเปลย่ี นแปลงแทนทใ่ี นระบบนเิ วศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบท่ีมี
ต่อทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและ
การแก้ไขปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม รวมทัง้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ
ม.2 - - -
สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสงิ่ มีชีวิต หนว่ ยพน้ื ฐานของสง่ิ มชี วี ิต การลำเลียงสารเขา้ และออกจาก
เซลล์ ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้างและหน้าทขี่ องระบบต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละมนษุ ยท์ ท่ี ำงาน
สมั พันธก์ ัน ความสมั พนั ธ์ของโครงสรา้ งและหนา้ ที่ของอวัยวะตา่ ง ๆ ของพืชที่ทำงาน
สมั พนั ธ์กัน รวมทง้ั นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
ชนั้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้
ท้องถน่ิ
ม.2 ว 1.2 ม.2/1 - ระบบหายใจมอี วยั วะตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ ง
ระบอุ วัยวะและบรรยาย ได้แก่ จมูก ท่อลม ปอด กะบังลม และกระดกู
หน้าทขี่ องอวัยวะทเ่ี กย่ี วข้อง ซโี่ ครง
ในระบบหายใจ - มนุษย์หายใจเขา้ เพอื่ นำแก๊สออกซิเจนเขา้ สู่
ว 1.2 ม.2/2 รา่ งกายเพอื่ นำไปใช้ในเซลล์ และหายใจออก
อธิบายกลไกการหายใจเข้า เพอื่ กำจัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกจาก
และออก โดยใช้แบบจำลอง ร่างกาย
รวมทง้ั อธบิ ายกระบวนการ - อากาศเคลื่อนทเี่ ข้าและออกจากปอดได้
แลกเปล่ยี นแก๊ส เนอ่ื งจากการเปล่ียนแปลงปริมาตรและความดัน
ของอากาศภายในชอ่ งอกซ่งึ เกยี่ วข้องกับการ
ทำงานของกะบงั ลม และกระดูกซ่ีโครง
205
ชั้น ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถน่ิ
ม.2 ว 1.2 ม.2/3 - การแลกเปลีย่ นแก๊สออกซิเจนกบั แกส๊
ตระหนกั ถึงความสำคญั ของ คาร์บอนไดออกไซด์ในรา่ งกาย เกิดขน้ึ บริเวณถุง
ระบบหายใจ โดยการบอก ลมในปอดกับหลอดเลือดฝอยที่ถงุ ลม และ
แนวทางในการดูแลรักษา ระหวา่ งหลอดเลอื ดฝอยกับเนื้อเย่อื
อวยั วะในระบบหายใจให้ - การสบู บุหร่ี การสูดอากาศทม่ี ีสารปนเปอ้ื น
ทำงานเปน็ ปกติ และการเปน็ โรคเกย่ี วกับระบบหายใจบางโรค
อาจทำใหเ้ กิดโรคถุงลมโปง่ พอง ซึ่งมีผลใหค้ วาม
จอุ ากาศของปอดลดลง ดงั นัน้ จึงควรดแู ลรักษา
ระบบหายใจ ให้ทำหน้าทีเ่ ปน็ ปกติ
ว 1.2 ม.2/4 - ระบบขับถา่ ยมอี วัยวะท่เี กีย่ วขอ้ ง คือ ไต ท่อ
ระบุอวัยวะและบรรยาย ไต กระเพาะปัสสาวะ และทอ่ ปสั สาวะ โดยมไี ต
หน้าท่ีของอวัยวะ ในระบบ ทำหนา้ ท่ีกำจัดของเสีย เชน่ ยูเรีย แอมโมเนีย
ขบั ถ่ายในการกำจัดของเสีย กรดยรู ิก รวมทัง้ สารท่รี ่างกายไมต่ ้องการออก
ทางไต จากเลือด และควบคุมสารท่มี ีมากหรือน้อย
ว 1.2 ม.2/5 เกินไป เชน่ นำ้ โดยขับออกมาในรปู ของ
ตระหนกั ถึงความสำคญั ของ ปสั สาวะ
ระบบขบั ถ่าย ในการกำจดั - การเลือกรบั ประทานอาหารทเี่ หมาะสม เชน่
ของเสยี ทางไต โดยการบอก รับประทานอาหารที่ไมม่ ีรสเค็มจัด การด่มื นำ้
แนวทางในการปฏบิ ัติตนที่ สะอาดใหเ้ พียงพอ เปน็ แนวทางหนงึ่ ท่ีชว่ ยให้
ชว่ ยให้ระบบขับถา่ ยทำหน้าท่ี ระบบขบั ถ่ายทำหนา้ ที่ได้อยา่ งปกติ
ได้อย่างปกติ
ว 1.2 ม.2/6 -ระบบหมุนเวยี นเลอื ดประกอบด้วย หัวใจ
บรรยายโครงสร้างและหน้าท่ี หลอดเลือด และเลือด
ของหัวใจ หลอดเลือด และ - หวั ใจของมนุษย์แบ่งเป็น 4 หอ้ ง ไดแ้ ก่ หัวใจ
เลอื ด ห้องบน 2 ห้อง และหอ้ งลา่ ง 2 หอ้ ง ระหวา่ ง
หัวใจหอ้ งบนและหัวใจห้องลา่ งมีลิน้ หวั ใจกัน้
- หลอดเลือด แบง่ เปน็ หลอดเลือดอาร์เตอรี
หลอดเลอื ดเวน หลอดเลือดฝอย ซึ่งมีโครงสรา้ ง
ตา่ งกัน
206
ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถ่ิน
ม.2 ว 1.2 ม.2/7 - เลือด ประกอบดว้ ย เซลล์เม็ดเลอื ด เพลตเลต
อธิบายการทำงานของระบบ และพลาสมา
หมุนเวยี นเลอื ด โดยใช้ - การบีบและคลายตัวของหัวใจทำให้เลือด
แบบจำลอง หมุนเวียนและลำเลียงสารอาหารแก๊ส ของเสีย
และสารอื่น ๆ ไปยังอวัยวะและเซลล์ต่าง ๆ ทั่ว
ร่างกาย
- เลือดทมี่ ีปริมาณแกส๊ ออกซเิ จนสงู จะออกจาก
หัวใจไปยงั เซลล์ตา่ ง ๆ ทวั่ ร่างกายขณะเดยี วกนั
แก๊สคาร์บอนไดออกไซดจ์ ากเซลลจ์ ะแพร่เขา้ สู่
เลอื ดและลำเลียงกลับเขา้ ส่หู ัวใจและถูกสง่ ไป
แลกเปลย่ี นแก๊สท่ีปอด
ว 1.2 ม 2/8 - ชีพจรบอกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจ ซึ่ง
ออกแบบการทดลองและ อัตราการเต้นของหัวใจในขณะปกติและ
ทดลอง ในการเปรยี บเทยี บ หลังจากทำกิจกรรมต่าง ๆ จะแตกต่างกัน ส่วน
อัตราการเต้นของหวั ใจ ขณะ ความดันเลือด ระบบหมุนเวียนเลือดเกิดจาก
ปกติและหลงั ทำกจิ กรรม การทำงานของหัวใจและหลอดเลอื ด
ว 1.2 ม.2/9 - อตั ราการเตน้ ของหวั ใจมีความแตกต่างกนั ใน
ตระหนกั ถึงความสำคัญของ แตล่ ะบคุ คล คนท่เี ปน็ โรคหัวใจและหลอดเลือด
ระบบหมุนเวียนเลอื ด โดย จะส่งผลทำใหห้ ัวใจสบู ฉีดเลือดไม่เปน็ ปกติ
การบอกแนวทางในการดูแล - การออกกำลังกาย การเลือกรับประทาน
รกั ษาอวัยวะในระบบ อาหาร การพกั ผ่อน และการรกั ษาภาวะอารมณ์
หมุนเวยี นเลอื ดใหท้ ำงานเปน็ ให้เป็นปกติ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแล
ปกติ รกั ษาระบบหมนุ เวียนเลือดให้เปน็ ปกติ
ว 1.2 ม.2/10 - ระบบประสาทสว่ นกลาง ประกอบดว้ ยสมอง
ระบอุ วยั วะและบรรยาย และไขสันหลงั จะทำหนา้ ท่ีรว่ มกบั เส้นประสาท
หน้าทขี่ องอวยั วะในระบบ ซ่ึงเปน็ ระบบประสาทรอบนอก ในการควบคมุ
ประสาทส่วนกลางในการ การทำงานของอวยั วะตา่ ง ๆ รวมถงึ การแสดง
ควบคุม การทำงานตา่ ง ๆ พฤติกรรม เพ่ือการตอบสนองต่อสิง่ เร้า
ของร่างกาย
207
ชั้น ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถนิ่
ม.2 ว 1.2 ม.2/11 - เมื่อมีส่ิงเร้ามากระต้นุ หนว่ ยรบั ความรู้สึก จะ
ตระหนักถึงความสำคัญของ เกิดกระแสประสาทส่งไปตามเซลล์ประสาทรบั
ระบบประสาท โดยการบอก ความร้สู ึก ไปยงั ระบบประสาทสว่ นกลาง แล้ว
แนวทางในการดแู ลรักษา ส่งกระแสประสาทมาตามเซลลป์ ระสาทสงั่ การ
รวมถึงการป้องกันการ ไปยังหนว่ ยปฏิบัติงาน เชน่ กล้ามเน้อื
กระทบกระเทือนและ - ระบบประสาทเป็นระบบท่ีมีความซับซ้อนและ
อนั ตรายต่อสมองและไขสัน มีความสัมพนั ธก์ ับทุกระบบในร่างกาย ดังน้ัน
หลงั จึงควรป้องกันการเกดิ อุบัติเหตทุ ี่
กระทบกระเทอื นตอ่ สมอง หลีกเลี่ยงการใช้สาร
เสพติด หลกี เลยี่ งภาวะเครยี ด และรบั ประทาน
อาหารท่มี ีประโยชนเ์ พื่อดูแลรักษาระบบ
ประสาทให้ทำงานเปน็ ปกติ
ว 1.2 ม.2/12 - มนุษย์มีระบบสืบพันธุ์ที่ประกอบด้วยอวัยวะ
ระบอุ วัยวะและบรรยาย ต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่เฉพาะ โดยรังไข่ในเพศหญิง
หน้าท่ขี องอวัยวะในระบบ จะทำหน้าที่ผลิตเซลล์ไข่ ส่วนอัณฑะในเพศชาย
สบื พันธุ์ของเพศชายและเพศ จะทำหนา้ ท่ีสร้างเซลล์อสจุ ิ
หญงิ โดยใช้แบบจำลอง - ฮอร์โมนเพศทำหน้าที่ควบคุมการแสดงออก
ว 1.2 ม.2/13 ของลักษณะทางเพศที่แตกต่างกัน เมื่อเข้าสู่วัย
อธิบายผลของฮอรโ์ มนเพศ หนุ่มสาว จะมีการสร้างเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิ
ชายและเพศหญงิ ที่ควบคมุ การตกไข่ การมีรอบเดือน และถ้ามีการปฏิสนธิ
การเปลี่ยนแปลงของรา่ งกาย ของเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิจะทำให้เกิดการ
เมอ่ื เข้าสู่วยั หน่มุ สาว ตง้ั ครรภ์
ว 1.2 ม.2/14
ตระหนักถึงการเปลยี่ นแปลง
ของรา่ งกายเม่ือเข้าสวู่ ยั หนมุ่
สาว โดยการดูแลรกั ษา
รา่ งกายและจติ ใจของตนเอง
ในชว่ งทีม่ กี ารเปล่ยี นแปลง
208
ช้นั ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้
ท้องถิ่น
ม.2 ว 1.2 ม.2/15 - การมีประจำเดือน มีความสมั พนั ธ์กบั การตก
อธิบายการตกไข่ การมี ไข่ โดยเปน็ ผลจากการเปลยี่ นแปลงของระดบั
ประจำเดอื น การปฏสิ นธิ ฮอรโ์ มนเพศหญิง
และการพฒั นาของไซโกต - เมื่อเพศหญิงมีการตกไข่และเซลล์ไขไ่ ด้รบั การ
จนคลอดเป็นทารก ปฏิสนธกิ ับเซลล์อสจุ ิจะทำให้ได้ไซโกต ไซโก
ว 1.2 ม.2/16 ตจะเจริญเปน็ เอม็ บรโิ อและฟีตัส จนกระทั่ง
เลือกวิธีการคุมกำเนิดท่ี คลอดเปน็ ทารก แต่ถา้ ไม่มีการปฏสิ นธิ เซลล์ไข่
เหมาะสมกบั สถานการณท์ ี่ จะสลายตัว ผนังดา้ นในมดลูกรวมท้ังหลอด
กำหนด เลอื ดจะสลายตัวและหลุดลอกออก เรยี กวา่
ว 1.2 ม.2/17 ประจำเดอื น
ตระหนักถึงผลกระทบของ - การคมุ กำเนิดเป็นวธิ ีปอ้ งกันไมใ่ ห้เกดิ การ
การตง้ั ครรภ์ ก่อนวัยอนั ควร ตงั้ ครรภ์ โดยป้องกันไม่ให้เกดิ การปฏสิ นธิหรือ
โดยการประพฤตติ นให้ ไมใ่ หม้ ีการฝงั ตวั ของเอ็มบริโอ ซึ่งมหี ลายวิธี เช่น
เหมาะสม การใช้ถงุ ยางอนามยั การกินยาคมุ กำเนดิ
สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมสาร
พนั ธกุ รรม การเปล่ยี นแปลงทางพันธกุ รรมท่มี ผี ลต่อสงิ่ มีชวี ิต ความหลากหลายทาง
ชีวภาพและวฒั นาการของสง่ิ มชี ีวติ รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ชัน้ ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิน่
ม.2 - - -
209
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบตั ขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธ์ระหวา่ งสมบตั ิของสสารกับ
โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาตขิ องการเปล่ียนแปลง
สถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี
ชนั้ ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถิ่น
ม.2 ว 2.1 ม.2/1 - ตัวละลายและตัวทำละลายที่เป็นของเหลวที่มีจุดเดือด -
อธิบายการแยกสารผสม ต่างกันมาก วิธีนี้จะแยกของเหลวบริสุทธิ์ออกจาก
โดยการระเหยแห้ง การ สารละลายโดยให้ความร้อนกับสารละลาย ของเหลวจะ
ตกผลึก การกลน่ั อยา่ ง เดือดและกลายเป็นไอแยกจากสารละลายแล้วควบแน่น
งา่ ย โครมาโทกราฟีแบบ กลับเป็นของเหลวอีกครั้ง ขณะที่ของเหลวเดือด อุณหภูมิ
กระดาษ การสกัดด้วย ของไอจะคงท่ี โครมาโทกราฟีแบบกระดาษเป็นวิธีการ
ตวั ทำละลาย โดยใช้ แยกสารผสมทีม่ ีปริมาณนอ้ ยโดยใชแ้ ยกสารที่มีสมบัติการ
หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ละลายในตัวทำละลายและการถูกดูดซับด้วยตัวดูดซับ
ว 2.1 ม.2/2 แตกต่างกัน ทำให้สารแต่ละชนิดเคลื่อนที่ไปบนตัวดูดซับ
แยกสารโดยการระเหย ได้ต่างกัน สารจึงแยกออกจากกันได้ อัตราส่วนระหว่าง
แหง้ การตกผลกึ การ ระยะทางที่สารองค์ประกอบแต่ละชนิดเคลื่อนที่ได้บนตัว
กล่นั อย่างง่าย โคร ดูดซับ กับระยะทางที่ตัวทำละลายเคลื่อนที่ได้ เป็นค่า
มาโทกราฟแี บบกระดาษ เฉพาะตัวของสารแต่ละชนิดในตัวทำละลายและตวั ดูดซบั
การสกดั ดว้ ยตวั ทำ หนึ่ง ๆ การสกัดดว้ ยตวั ทำละลาย เป็นวธิ ีการแยกสารผสม
ละลาย ที่มีสมบัติการละลายใน ตัวทำละลายที่ต่างกันโดยชนิด
ของตัวทำละลายมีผลต่อชนิดและปริมาณของสารที่สกัด
ได้ การสกัดโดยการกลั่นด้วยไอนำ้ ใชแ้ ยกสารท่รี ะเหยงา่ ย
ไม่ละลายน้ำ และไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำออกจากสารท่ี
ระเหยยาก โดยใช้ไอน้ำเป็นตัวพา
210
ชั้น ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้
ท้องถน่ิ
ม.2 ว 2.1 ม.2/3 ความร้ดู า้ นวิทยาศาสตรเ์ ก่ยี วกับการแยกสาร บูรณาการ -
นำวธิ ีการแยกสารไปใช้ กบั คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี โดยใชก้ ระบวนการทาง
แก้ปญั หาใน วศิ วกรรม สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวติ ประจำวันหรือ
ชวี ติ ประจำวันโดยบรู ณา ปัญหาทพ่ี บในชุมชนหรอื สรา้ งนวตั กรรม โดยมขี ั้นตอน
การวิทยาศาสตร์ ดงั น้ี
คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยี - ระบุปัญหาในชีวิตประจำวันที่เก่ียวกับการแยกสารโดย
และวิศวกรรมศาสตร์ ใชส้ มบตั ทิ างกายภาพ หรอื นวัตกรรมท่ีต้องการพฒั นา
โดยใช้หลักการดงั กล่าว
- รวบรวมขอ้ มลู และแนวคิดเก่ยี วกับการแยกสาร โดยใช้
สมบัตทิ างกายภาพทสี่ อดคล้องกับปัญหาท่ีระบุ หรอื
นำไปสกู่ ารพัฒนานวตั กรรมน้ัน
- ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา หรือพัฒนานวัตกรรมที่
เก่ียวกับการแยกสารในสารผสม โดยใชส้ มบตั ทิ าง
กายภาพ โดยเชอ่ื มโยงความรู้ดา้ นวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม
รวมท้ังกำหนดและควบคุมตวั แปรอย่างเหมาะสม
ครอบคลุม
- วางแผนและดำเนนิ การแกป้ ัญหา หรือพัฒนานวตั กรรม
รวบรวมข้อมลู จัดกระทำข้อมูลและเลอื กวิธกี ารส่ือ
ความหมายทเ่ี หมาะสมในการนำเสนอผล
- ทดสอบ ประเมนิ ผล ปรบั ปรงุ วิธีการแก้ปัญหา หรือ
นวัตกรรมทพ่ี ฒั นาข้นึ โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ที่
รวบรวมได้
- นำเสนอวิธีการแกป้ ญั หา หรือผลของนวตั กรรมที่
พัฒนาขน้ึ และผลทีไ่ ด้ โดยใช้วิธีการส่อื สารทเี่ หมาะสม
และน่าสนใจ
211
ชั้น ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถ่ิน
ม.2 ว 2.1 ม.2/4 - สารละลายอาจมสี ถานะเปน็ ของแข็ง ของเหลว และ - การ
ออกแบบการทดลอง แกส๊ สารละลายประกอบด้วยตัวทำละลาย และตวั ละลาย รักษาพยาบาล
และทดลองในการ กรณีสารละลายเกดิ จากสารที่มีสถานะเดยี วกัน สารที่มี ของชาวลาวเวยี ง
อธิบายผลของชนดิ ตัว ปริมาณมากท่สี ุดจดั เป็นตวั ทำละลาย กรณีสารละลายเกิด
ละลาย ชนดิ ตวั ทำ จากสารทม่ี สี ถานะตา่ งกัน สารทีม่ สี ถานะเดยี วกนั กับ
ละลาย อณุ หภมู ทิ ี่มีต่อ สารละลายจดั เป็นตัวทำละลาย
สภาพละลายได้ของสาร - สารละลายทีต่ ัวละลายไมส่ ามารถละลายในตวั ทำ
รวมทง้ั อธบิ ายผลของ ละลายได้อีกที่อณุ หภมู ิหนึ่ง ๆ เรยี กวา่ สารละลายอม่ิ ตวั
ความดนั ทมี่ ีต่อสภาพ - สภาพละลายไดข้ องสารในตวั ทำละลาย เป็นค่าที่บอก
ละลายไดข้ องสาร โดย ปรมิ าณของสารที่ละลายได้ในตัวทำละลาย 100 กรัม จน
ใชส้ ารสนเทศ ได้สารละลายอ่ิมตวั ณ อุณหภมู แิ ละความดันหน่ึง ๆ
สภาพละลายได้ของสารบ่งบอกความสามารถในการ
ละลายไดข้ องตัวละลาย ในตวั ทำละลาย ซึง่ ความสามารถ
ในการละลายของสารขนึ้ อยู่กับชนดิ ของตวั ทำละลายและ
ตัวละลาย อณุ หภูมิ และความดัน
- สารชนิดหนึ่ง ๆ มสี ภาพละลายไดแ้ ตกตา่ งกันในตวั ทำ
ละลายที่แตกต่างกัน และสารต่างชนิดกัน มสี ภาพละลาย
ได้ในตวั ทำละลายหนึง่ ๆ ไม่เท่ากนั
- เมอ่ื อุณหภูมสิ ูงข้นึ สารส่วนมาก สภาพละลายได้ของ
สารจะเพิม่ ขึ้น ยกเว้นแกส๊ เมือ่ อณุ หภมู สิ งู ขน้ึ สภาพการ
ละลายได้จะลดลง ส่วนความดันมผี ลต่อแกส๊ โดยเม่ือ
ความดนั เพ่ิมขึ้น สภาพละลายได้จะสูงข้นึ
- ความรเู้ ก่ยี วกบั สภาพละลายไดข้ องสาร เมื่อ
เปลยี่ นแปลงชนิดตัวละลาย ตัวทำละลาย และอุณหภูมิ
สามารถนำไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน เชน่ การทำ
นำ้ เชอ่ื มเข้มข้น การสกัดสารออกจากสมนุ ไพรให้ได้
ปริมาณมากทีส่ ุด
212
ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถิ่น
ม.2 ว 2.1 ม.2/5 - ความเข้มข้นของสารละลาย เป็นการระบุปริมาณ ตัว -
ระบปุ รมิ าณตัวละลายใน ละลายในสารละลาย หน่วยความเข้มข้นมีหลายหน่วย ท่ี
สารละลาย ในหน่วย นิยมระบุเป็นหน่วยเป็นร้อยละ ปริมาตรต่อปริมาตร มวล
ความเขม้ ขน้ เป็นรอ้ ยละ ต่อมวล และมวลตอ่ ปริมาตร
ปริมาตรต่อปริมาตร - ร้อยละโดยปริมาตรต่อปริมาตร เป็นการระบุปริมาตร
มวลต่อมวล และมวลต่อ ตัวละลายในสารละลาย 100 หน่วยปริมาตรเดยี วกัน นยิ ม
ปรมิ าตร ใช้กับสารละลายทเ่ี ป็นของเหลวหรอื แก๊ส
- ร้อยละโดยมวลต่อมวล เป็นการระบุมวลตัวละลายใน
ว 2.1 ม.2/6 สารละลาย 100 หน่วยมวลเดียวกนั นยิ มใช้กับสารละลาย
ตระหนักถึงความสำคญั ทม่ี ีสถานะเปน็ ของแข็ง
ของการนำความรู้เร่ือง - รอ้ ยละโดยมวลต่อปรมิ าตร เป็นการระบุมวล ตวั ละลาย
ความเข้มขน้ ของสารไป ในสารละลาย 100 หน่วยปริมาตร นิยมใช้กับสารละลาย
ใช้ โดยยกตัวอยา่ งการ ทม่ี ีตัวละลายเป็นของแขง็ ในตัวทำละลายท่เี ป็นของเหลว
ใช้สารละลายใน - การใช้สารละลาย ในชีวิตประจำวัน ควรพิจารณาจาก
ชีวิตประจำวันอย่าง ความเข้มข้นของสารละลาย ขน้ึ อยกู่ บั จุดประสงค์ของการ
ถูกต้องและปลอดภัย ใชง้ าน และผลกระทบตอ่ สิง่ ชีวิตและสงิ่ แวดล้อม
สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชีวติ ประจำวนั ผลของแรงที่กระทำต่อวตั ถุ ลกั ษณะการ
เคลื่อนทแี่ บบต่าง ๆ ของวตั ถุ รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ช้ัน ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถิ่น
ม.2 ว 2.2 ม.2/1 - แรงเปน็ ปริมาณเวกเตอร์ เมอื่ มแี รง
พยากรณ์การเคลอื่ นที่ของวตั ถุ หลาย ๆ แรงกระทำต่อวตั ถุ แล้วแรงลพั ธ์
ทเ่ี ป็นผลของแรงลัพธ์ท่เี กิดจาก ท่ีกระทำต่อวัตถุมีคา่ เปน็ ศนู ย์
แรงหลายแรงที่กระทำต่อวัตถุ วตั ถุจะไม่เปล่ียนแปลงการเคล่ือนที่
ในแนวเดยี วกนั จากหลกั ฐานเชิง แตถ่ า้ แรงลพั ธ์ทก่ี ระทำต่อวตั ถุ
ประจกั ษ์ มีค่าไม่เป็นศูนย์ วัตถจุ ะเปลี่ยนแปลง
การเคล่อื นท่ี
213
ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถ่นิ
ม.2 ว 2.2 ม.2/2 แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์ เมือ่ มีแรง
เขียนแผนภาพแสดงแรงและแรง หลาย ๆ แรงกระทำตอ่ วตั ถุ แล้วแรงลพั ธ์
ลพั ธท์ เ่ี กิดจากแรงหลายแรงท่ี ทกี่ ระทำตอ่ วตั ถมุ ีค่าเป็นศูนย์
กระทำตอ่ วตั ถุในแนวเดียวกนั วัตถุจะไมเ่ ปลี่ยนแปลงการเคลื่อนท่ี
แต่ถา้ แรงลัพธ์ท่กี ระทำตอ่ วตั ถุ
มีค่าไม่เปน็ ศูนย์ วัตถจุ ะเปลี่ยนแปลง
การเคล่ือนท่ี
ว 2.2 ม.2/3 - เม่อื วัตถุอยู่ในของเหลวจะมีแรงที่ของเหลว
ออกแบบการทดลองและทดลอง กระทำตอ่ วตั ถุในทุกทศิ ทาง โดยแรงที่
ดว้ ยวธิ ี ทเี่ หมาะสมในการอธิบาย ของเหลวกระทำตั้งฉากกับผิววตั ถตุ อ่ หนง่ึ
ปจั จัยที่มผี ลต่อความดันของ หน่วยพื้นที่ เรียกว่าความดนั ของของเหลว
ของเหลว - ความดันของของเหลวมีความสมั พนั ธก์ บั
ความลึกจากระดบั ผวิ หน้าของของเหลว โดย
บรเิ วณท่ีลกึ ลงไปจากระดับผิวหน้าของ
ของเหลวมากขน้ึ ความดันของของเหลวจะ
เพม่ิ ข้นึ เนื่องจากของเหลวทีอ่ ย่ลู ึกกว่า จะมี
นำ้ หนักของของเหลวด้านบนกระทำมากกว่า
ว 2.2 ม.2/4 - เมือ่ วตั ถุอยู่ในของเหลว จะมีแรงพยุง
วเิ คราะห์แรงพยงุ และการจม การ เนอื่ งจากของเหลวกระทำตอ่ วัตถุ โดยมีทิศข้นึ
ลอยของวัตถใุ นของเหลวจาก ในแนวดงิ่ การจมหรือการลอยของวัตถุขนึ้ กับ
หลักฐานเชิงประจักษ์ น้ำหนักของวัตถุ แรงพยงุ ถ้าน้ำหนกั ของวตั ถุ
ว 2.2 ม.2/5 เขียนแผนภาพแสดง และแรงพยุงของของเหลวมีค่าเทา่ กนั วตั ถจุ ะ
แรงท่ีกระทำต่อวตั ถุ ในของเหลว ลอยน่งิ อยู่ในของเหลว แตถ่ า้ น้ำหนกั ของวัตถุมี
ค่ามากกวา่ แรงพยุงของของเหลววตั ถจุ ะจม
214
ชั้น ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้
ท้องถิ่น
ม.2 ว 2.2 ม.2/6 - แรงเสยี ดทานเป็นแรงทเ่ี กิดขึ้นระหวา่ ง
อธบิ ายแรงเสยี ดทานสถติ และแรง ผวิ สมั ผัสของวตั ถุ เพื่อต้านการเคลื่อนที่ของ
เสียดทานจลนจ์ ากหลักฐานเชิง วัตถุนัน้ โดยถา้ ออกแรงกระทำต่อวตั ถุที่อยูน่ ง่ิ
ประจักษ์ บนพ้นื ผิวให้เคล่ือนที่ แรงเสียดทานก็จะต้าน
การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุ แรงเสียดทานท่ีเกิดข้ึน
ในขณะทีว่ ัตถุยงั ไมเ่ คล่ือนทเ่ี รียก แรงเสยี ด
ทานสถิต แตถ่ ้าวัตถุกำลงั เคลื่อนท่ี แรงเสยี ด
ทานก็จะทำให้วตั ถุนน้ั เคลื่อนท่ีช้าลงหรือหยุด
น่งิ เรยี ก แรงเสียดทานจลน์
ว 2.2 ม.2/7 - ขนาดของแรงเสียดทานระหวา่ งผวิ สมั ผัสของ
ออกแบบการทดลองและทดลอง วัตถขุ ้ึนกบั ลกั ษณะผวิ สัมผสั และขนาดของแรง
ดว้ ยวธิ ีทเ่ี หมาะสมในการอธบิ าย ปฏิกิริยาตัง้ ฉากระหวา่ งผิวสัมผสั
ปัจจยั ทม่ี ีผลต่อขนาดของแรงเสยี ด - กจิ กรรมในชีวติ ประจำวนั บางกจิ กรรม
ทาน ต้องการ แรงเสียดทาน เชน่ การเปดิ ฝาเกลยี ว
ว 2.2 ม.2/8 ขวดน้ำ การใชแ้ ผน่ กันลน่ื ในห้องนำ้ บาง
เขยี นแผนภาพแสดงแรงเสยี ดทาน กิจกรรมไม่ต้องการแรงเสียดทาน เชน่ การลาก
และแรงอน่ื ๆ ทก่ี ระทำต่อวตั ถุ วัตถบุ นพน้ื การใชน้ ้ำมันหลอ่ ลน่ื ในเคร่ืองยนต์
ว 2.2 ม.2/9 - ความรเู้ รอ่ื งแรงเสียดทานสามารถนำไปใช้
ตระหนกั ถึงประโยชนข์ องความรู้ ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั ได้
เรอ่ื งแรงเสียดทานโดยวิเคราะห์
สถานการณป์ ัญหาและเสนอแนะ
วธิ กี ารลดหรอื เพม่ิ แรงเสียดทานท่ี
เปน็ ประโยชนต์ ่อการทำกจิ กรรม
ในชวี ติ ประจำวนั
215
ชั้น ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถิน่
ม.2 ว 2.2 ม.2/10 - เมื่อมแี รงท่ีกระทำต่อวัตถุโดยไม่ผา่ น
ออกแบบการทดลองและทดลอง ศูนย์กลางมวลของวัตถุ จะเกิดโมเมนตข์ องแรง
ด้วยวธิ ี ท่เี หมาะสมในการอธิบาย ทำใหว้ ัตถหุ มนุ รอบศูนย์กลางมวลของวัตถนุ ้นั
โมเมนต์ของแรง เม่ือวตั ถุอยู่ใน - โมเมนต์ของแรงเป็นผลคูณของแรงท่ีกระทำ
สภาพสมดลุ ตอ่ การหมนุ และ ต่อวัตถุกบั ระยะทางจากจดุ หมนุ ไปต้งั ฉากกบั
คำนวณโดยใช้สมการ แนวแรง เมือ่ ผลรวมของโมเมนต์ของแรงมีค่า
M = Fl เปน็ ศูนย์ วตั ถจุ ะอย่ใู นสภาพสมดุลต่อการหมนุ
โดยโมเมนตข์ องแรงในทิศทวนเขม็ นาฬิกาจะมี
ขนาดเท่ากับโมเมนต์ของแรงในทศิ ตามเข็ม
นาฬิกา
- ของเลน่ หลายชนดิ ประกอบดว้ ยอุปกรณ์
หลายสว่ นท่ีใช้หลักการโมเมนตข์ องแรง
ความรเู้ รือ่ งโมเมนตข์ องแรงสามารถนำไปใช้
ออกแบบและประดษิ ฐข์ องเล่นได้
ว 2.2 ม.2/11 - วัตถทุ ีม่ มี วลจะมีสนามโนม้ ถ่วงอยู่โดยรอบ
เปรยี บเทยี บแหล่งของ แรงโนม้ ถว่ งท่ีกระทำตอ่ วัตถุท่ีอยู่ในสนามโน้ม
สนามแม่เหล็ก สนามไฟฟ้า และ ถ่วงจะมีทิศพุ่งเข้าหาวตั ถุทีเ่ ป็นแหล่งของสนาม
สนามโนม้ ถว่ ง และทิศทางของแรง โนม้ ถว่ ง
ทกี่ ระทำต่อวัตถุที่อย่ใู นแตล่ ะ - วัตถทุ ี่มปี ระจุไฟฟ้าจะมสี นามไฟฟา้ อยู่
สนามจากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้ โดยรอบ แรงไฟฟ้าท่ีกระทำต่อวัตถทุ ี่มีประจุจะ
ว 2.2 ม.2/12 มที ศิ พงุ่ เขา้ หาหรือออกจากวัตถทุ ม่ี ปี ระจทุ ี่เป็น
เขยี นแผนภาพแสดงแรงแมเ่ หลก็ แหลง่ ของสนามไฟฟ้า
แรงไฟฟ้าและแรงโน้มถว่ งทก่ี ระทำ - วตั ถทุ ่ีเป็นแมเ่ หลก็ จะมสี นามแม่เหลก็ อยู่
ต่อวตั ถุ โดยรอบ แรงแมเ่ หล็กทกี่ ระทำต่อข้วั แมเ่ หล็ก
จะมีทิศพุ่งเข้าหาหรือออกจากขัว้ แมเ่ หลก็ ที่
เป็นแหล่งของสนามแม่เหล็ก
216
ชั้น ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถ่ิน
ม.2 ว 2.2 ม.2/13 - ขนาดของแรงโน้มถว่ ง แรงไฟฟ้า และแรง
วิเคราะหค์ วามสมั พันธร์ ะหว่าง แม่เหลก็ ที่กระทำตอ่ วตั ถุท่ีอยู่ในสนามน้ัน ๆ
ขนาดของแรงแมเ่ หลก็ แรงไฟฟ้า จะมคี ่าลดลง เมอื่ วัตถุอยู่ห่างจากแหล่งของ
และแรงโนม้ ถว่ งท่ีกระทำต่อวัตถุที่ สนามน้นั ๆ มากข้ึน
อยใู่ นสนามนนั้ ๆ กับระยะห่าง
จากแหล่งของสนามถึงวตั ถจุ าก
ข้อมลู ทร่ี วบรวมได้
ว 2.2 ม.2/14 - การเคลือ่ นที่ของวัตถุเป็นการเปล่ียนตำแหน่ง
อธิบายและคำนวณอัตราเรว็ และ ของวตั ถุเทยี บกบั ตำแหนง่ อ้างองิ โดยมปี รมิ าณ
ความเรว็ ของการเคลื่อนท่ีของวตั ถุ ที่เก่ียวข้องกับการเคล่ือนท่ีซึง่ มีทง้ั ปริมาณส
โดยใช้สมการ เกลาร์และปรมิ าณเวกเตอร์ เช่น ระยะทาง
อตั ราเรว็ การกระจัด ความเร็ว ปรมิ าณส
เกลาร์ เป็นปริมาณทม่ี ขี นาด เช่น ระยะทาง
จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ อตั ราเรว็ ปริมาณ เวกเตอรเ์ ป็นปรมิ าณท่ีมีทั้ง
ว 2.2 ม .2/15 ขนาดและทศิ ทาง เชน่ การกระจัด ความเร็ว
เขยี นแผนภาพแสดงการกระจัด - เขียนแผนภาพแทนปริมาณเวกเตอรไ์ ด้ดว้ ย
และความเร็ว ลกู ศร โดยความยาวของลกู ศรแสดงขนาดและ
หัวลูกศรแสดงทศิ ทางของเวกเตอรน์ ั้น ๆ
- ระยะทางเป็นปริมาณสเกลาร์ โดยระยะทาง
เป็นความยาวของเส้นทางทเี่ คลื่อนท่ไี ด้
- การกระจัดเป็นปริมาณเวกเตอร์ โดยการ
ก ร ะ จ ั ด ม ี ท ิ ศ ช ี ้ จ า ก ต ำ แ ห น ่ ง เ ร ิ ่ ม ต ้ น ไ ป ยั ง
ตำแหน่งสุดท้าย และมีขนาดเท่ากับระยะที่สนั้
ท่ีสุดระหว่างสองตำแหนง่ นนั้
- อัตราเร็วเป็นปริมาณสเกลาร์ โดยอัตราเร็ว
เปน็ อตั ราส่วนของระยะทางตอ่ เวลา
- ความเรว็ ปริมาณเวกเตอรม์ ีทศิ เดียวกับทิศ
ของการกระจดั โดยความเร็วเป็นอัตราส่วน
ของการกระจัดต่อเวลา
217
สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลย่ี นแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสมั พันธ์
ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวติ ประจำวัน ธรรมชาติของคลนื่ ปรากฏการณ์ท่ี
เกีย่ วขอ้ งกบั เสียง แสง และคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้ารวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ช้นั ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถน่ิ
ม.2 ว 2.3 ม.2/1 - เมือ่ ออกแรงกระทำต่อวตั ถุ แล้วทำให้
วเิ คราะห์สถานการณ์และคำนวณ วตั ถเุ คล่อื นท่ี โดยแรงอยใู่ นแนวเดียวกบั
เกี่ยวกบั งานและกำลังที่เกดิ จากแรงที่ การเคลอ่ื นที่จะเกดิ งาน งานจะมคี ่ามาก
กระทำตอ่ วตั ถุ โดยใชส้ มการ หรือน้อยข้นึ กับขนาดของแรงและ
= และ = ระยะทางในแนวเดียวกับแรง
- งานท่ที ำในหน่ึงหนว่ ยเวลาเรียกวา่
กำลัง เคร่อื งกลอยา่ งง่าย ไดแ้ ก่ คาน
พื้นเอียง รอกเดี่ยว ลิ่ม สกรู ล้อและ
จากขอ้ มูลทร่ี วบรวมได้ เพลา ซ่ึงนำไปใชป้ ระโยชนด์ า้ นตา่ ง ๆ
ในชีวิตประจำวนั
ว 2.3 ม.2/2
วเิ คราะหห์ ลกั การทำงานของเครอื่ งกล
อย่างงา่ ยจากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้
ว 2.3 ม.2/3
ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของ
เครือ่ งกลอยา่ งง่าย โดยบอกประโยชน์
และการประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวัน
ว 2.3 ม.2/4 - พลังงานจลนเ์ ป็นพลังงานของวัตถทุ ่ี
ออกแบบและทดลองดว้ ยวธิ ที ่ีเหมาะสม เคลื่อนท่ี พลงั งานจลนจ์ ะมีคา่ มากหรือ
ในการอธิบายปัจจัยท่มี ผี ลต่อพลงั งาน นอ้ ยขนึ้ กับมวลและอตั ราเรว็ สว่ น
จลน์ และพลังงานศกั ย์โนม้ ถ่วง พลงั งานศักย์โน้มถว่ งเก่ียวขอ้ งกบั
ตำแหนง่ ของวตั ถุ จะมีค่ามากหรอื น้อย
ข้ึนกบั มวลและตำแหนง่ ของวัตถุ เม่อื
วตั ถอุ ยู่ในสนามโน้มถว่ ง วัตถุจะมี
พลังงานศักยโ์ นม้ ถว่ ง พลังงานจลนแ์ ละ
พลังงานศักย์โนม้ ถว่ งเปน็ พลังงานกล
218
ชั้น ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถ่ิน
ม.2 ว 2.3 ม.2/5 - ผลรวมของพลังงานศักย์โนม้ ถว่ งและ
แปลความหมายข้อมูลและอธิบายการ พลงั งานจลน์เปน็ พลังงานกล พลังงาน
เปลี่ยนพลังงานระหว่างพลังงานศักย์ ศกั ย์โน้มถว่ งและพลงั งานจลนข์ องวตั ถุ
โน้มถ่วงและพลังงานจลน์ของวัตถุโดย หนึง่ ๆ สามารถเปลีย่ นกลับไปมาได้
พลังงานกลของวัตถุ มีค่าคงตัวจาก โดยผลรวมของพลงั งานศักย์โนม้ ถว่ ง
ขอ้ มลู ที่รวบรวมได้ และพลงั งานจลน์มคี า่ คงตวั นัน่ คือ
พลังงานกลของวตั ถมุ ีค่าคงตัว
ว 2.3 ม.2/6 - พลงั งานรวมของระบบมคี ่าคงตวั ซึ่ง
วเิ คราะห์สถานการณแ์ ละอธิบายการ อาจเปล่ยี นจากพลังงานหนง่ึ เปน็ อีก
เปลี่ยนและการถา่ ยโอนพลงั งานโดยใช้ พลังงานหนงึ่ เชน่ พลังงานกล
กฎการอนรุ ักษ์พลังงาน เปลยี่ นเป็นพลงั งานไฟฟา้ พลังงานจลน์
เปลยี่ นเป็นพลงั งานความรอ้ น พลังงาน
เสยี ง พลังงานแสง เนื่องมาจากแรง
เสียดทาน พลังงานเคมีในอาหาร
เปล่ียนเปน็ พลังงานท่ีไปใช้ในการทำงาน
ของสงิ่ มชี ีวิต
- นอกจากน้ีพลังงานยงั สามารถถา่ ย
โอนไปยงั อกี ระบบหน่งึ หรอื ได้รับ
พลังงานจากระบบอนื่ ได้ เชน่ การถ่าย
โอนความรอ้ นระหวา่ งสสาร การถ่าย
โอนพลังงานของการสั่นของ
แหล่งกำเนิดเสียงไปยังผู้ฟัง ท้ังการ
เปลี่ยนพลงั งานและการถา่ ย
โอนพลังงาน พลังงานรวมท้งั หมดมคี ่า
เทา่ เดมิ ตามกฎการอนุรกั ษ์พลังงาน
219
สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาว
ฤกษ์ และระบบสุรยิ ะ รวมทั้งปฏิสัมพันธภ์ ายในระบบสุริยะทสี่ ่งผลตอ่ สงิ่ มชี วี ติ และการ
ประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ
รหสั ตวั ช้ีวดั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
ม.2 - - -
สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพนั ธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก
และบนผวิ โลก ธรณีพบิ ตั ภิ ัย กระบวนการเปล่ยี นแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศ โลก
รวมทั้งผลตอ่ สิ่งมชี ีวติ และส่ิงแวดล้อม
ช้ัน ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถ่นิ
ม.2 ว 3.2 ม.2/1 - เชือ้ เพลงิ ซากดกึ ดำบรรพ์ เกิดจากการ
เปรยี บเทียบกระบวนการ เปลี่ยนแปลงสภาพของซากสง่ิ มชี วี ติ ในอดตี โดย
เกดิ สมบัติ และการใช้ กระบวนการ ทางเคมีและธรณวี ิทยา เช้อื เพลิง
ประโยชน์ รวมทงั้ อธิบาย ซากดกึ ดำบรรพ์ ได้แก่ ถา่ นหิน หนิ นำ้ มัน และ
ผลกระทบจากการใช้ ปโิ ตรเลียม ซ่ึงเกิดจากวัตถุต้นกำเนิด และสภาพ
เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ แวดล้อมการเกดิ ท่ีแตกต่างกนั ทำให้ไดช้ นดิ ของ
จากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้ เชอื้ เพลิงซากดึกดำบรรพ์ทม่ี ีลักษณะ สมบตั ิ และ
การนำไปใช้ประโยชน์แตกตา่ งกนั สำหรับ
ปิโตรเลยี มจะตอ้ งมกี ารผา่ นการกลั่นลำดับส่วน
กอ่ นการใช้งานเพื่อให้ได้ผลติ ภณั ฑ์ที่เหมาะสมต่อ
การใชป้ ระโยชน์ เชอ้ื เพลิงซากดึกดำบรรพเ์ ป็น
ทรัพยากรที่ใชแ้ ล้วหมดไป เน่ืองจากต้องใช้
เวลานานหลายล้านปจี งึ จะเกิดขึ้นใหม่ได้
220
ชั้น ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้
ท้องถิ่น
ม.2 ว 3.2 ม.2/2 - การเผาไหมเ้ ชอ้ื เพลงิ ซากดกึ ดำบรรพใ์ นกิจกรรม
แสดงความตระหนกั ถึงผล ตา่ ง ๆ ของมนุษยจ์ ะทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ
จากการใชเ้ ชือ้ เพลงิ ซากดกึ ซึ่งสง่ ผลกระทบตอ่ ส่งิ มชี ีวติ และสิง่ แวดล้อม
ดำบรรพ์ โดยนำเสนอแนว นอกจากนแ้ี กส๊ บางชนดิ ทเี่ กิดจากการเผาไหม้
ทางการใช้เชื้อเพลงิ ซากดึก เช้อื เพลิงซากดกึ ดำบรรพ์ เชน่ แก๊ส
ดำบรรพ์ คาร์บอนไดออกไซด์ และไนตรัสออกไซด์ ยงั เป็น
แก๊สเรอื นกระจกซงึ่ ส่งผลใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลง
ภมู อิ ากาศของโลกรุนแรงขึ้น ดงั น้ันจงึ ควรใช้
เชื้อเพลงิ ซากดึกดำบรรพ์ โดยคำนงึ ถงึ ผลทเี่ กดิ ขึ้น
ต่อส่ิงมีชีวติ และส่งิ แวดล้อม เชน่ เลอื กใช้พลงั งาน
ทดแทน หรือเลือกใชเ้ ทคโนโลยที ี่ลดการใช้
เชอื้ เพลงิ ซากดกึ ดำบรรพ์
ว 3.2 ม.2/3 - เชอ้ื เพลงิ ซากดกึ ดำบรรพ์เป็นแหล่งพลงั งานที่
เปรียบเทยี บข้อดีและ สำคัญในกิจกรรมตา่ ง ๆ ของมนุษย์ เนือ่ งจาก
ขอ้ จำกดั ของพลงั งาน เชอื้ เพลิงซากดกึ ดำบรรพ์มปี ริมาณจำกัดและมกั
ทดแทนแตล่ ะประเภทจาก เพมิ่ มลภาวะในบรรยากาศมากขนึ้ จงึ มีการใช้
การรวบรวมข้อมลู และ พลังงานทดแทนมากข้นึ เชน่ พลังงานแสงอาทิตย์
นำเสนอแนวทางการใช้ พลงั งานลม พลังงานน้ำ พลังงานชวี มวล พลังงาน
พลังงานทดแทน ที่ คลื่น พลังงานความร้อนใต้พภิ พ พลงั งาน
เหมาะสมในทอ้ งถิ่น ไฮโดรเจน ซึ่งพลงั งานทดแทนแต่ละชนิดจะมีข้อดี
และข้อจำกดั ท่แี ตกต่างกัน
ว 3.2 ม.2/4 - โครงสร้างภายในโลกแบ่งออกเปน็ ชัน้ ตาม
สรา้ งแบบจำลองท่อี ธิบาย องคป์ ระกอบทางเคมี ไดแ้ ก่ เปลือกโลก ซึง่ อยู่
โครงสรา้ งภายในโลกตาม นอกสดุ ประกอบด้วยสารประกอบของซิลกิ อน
องค์ประกอบทางเคมีจาก และอะลูมิเนยี มเปน็ หลัก เนือ้ โลกคือส่วนทอี่ ยู่ใต้
ขอ้ มลู ท่รี วบรวมได้ เปลอื กโลกลงไปจนถงึ แกน่ โลก มอี งค์ประกอบ
หลักเปน็ สารประกอบของซิลิกอน แมกนเี ซียม
และเหลก็ และแกน่ โลกคือส่วนที่อยูใ่ จกลางของ
โลก มอี งคป์ ระกอบหลกั เปน็ เหลก็ และนิกเกลิ ซง่ึ
แต่ละช้ันมีลักษณะแตกต่างกัน
221
ชน้ั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้
ท้องถ่นิ
ม.2 ว 3.2 ม.2/5 - การผพุ ังอยู่กบั ที่ การกร่อน และการสะสมตัว
อธิบายกระบวนการผุพังอยู่ ของตะกอน เป็นกระบวนการเปล่ียนแปลงทาง
กบั ท่ี การกร่อน และการ ธรณีวทิ ยา ท่ที ำใหผ้ วิ โลกเกิดการเปลีย่ นแปลง
สะสมตัวของตะกอนจาก เปน็ ภูมลิ ักษณ์แบบ
แบบจำลอง รวมทัง้ ตา่ ง ๆ โดยมปี จั จยั สำคัญ คือนำ้ ลม
ยกตัวอยา่ งผลของ ธารนำ้ แขง็ แรงโนม้ ถว่ งของโลก สงิ่ มีชีวิต สภาพ
กระบวนการดังกล่าวทท่ี ำให้ อากาศ และปฏกิ ริ ิยาเคมี
ผวิ โลกเกิดการเปลีย่ นแปลง - การผุพงั อยู่กบั ท่ี คือ การท่ีหนิ ผพุ งั ทำลายลง
ดว้ ยกระบวนการตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ลมฟา้
อากาศกบั นำ้ ฝน และรวมทง้ั การกระทำของต้นไม้
กับแบคทเี รยี ตลอดจนการแตกตัวทางกลศาสตร์
ซึง่ มีการเพ่มิ และลดอณุ หภูมิสลบั กนั เปน็ ต้น
- การกร่อน คือ กระบวนการหนึ่งหรอื หลาย
กระบวนการทที่ ำให้สารเปลือกโลกหลดุ ไป
ละลายไปหรอื กรอ่ นไปโดยมตี ัวนำพาธรรมชาติ
คือ ลม น้ำ และธารน้ำแขง็ ร่วมกบั ปัจจัยอ่นื ๆ
ได้แก่ ลมฟา้ อากาศ สารละลาย การครูดถู การ
นำพา ทง้ั นี้ไม่รวมถึงการพงั ทลายเปน็ กลมุ่ ก้อน
เช่น แผน่ ดนิ ถลม่ ภูเขาไฟระเบิด
- การสะสมตวั ของตะกอน คือ การสะสมตวั ของวัตถุ
จากการนำพาของนำ้ ลม หรอื ธารน้ำแข็ง
ว 3.2 ม.2/6 - ชนั้ หน้าตดั ดนิ เปน็ ช้นั ดินท่ีมีลักษณะปรากฏให้เห็น
อธิบายลักษณะของชนั้ หนา้ เรียงลำดบั เปน็ ชน้ั จากชน้ั บนสุดถึงชน้ั ล่างสดุ
ตดั ดินและกระบวนการเกิด - ปจั จัยทท่ี ำใหด้ ินแตล่ ะท้องถ่ินมลี กั ษณะและ
ดนิ จากแบบจำลอง รวมทงั้ สมบตั ิแตกตา่ งกัน ได้แก่ วตั ถุต้นกำเนดิ ดนิ
ระบปุ จั จัยที่ทำใหด้ นิ มี ภูมิอากาศ ส่งิ มีชวี ติ ในดิน สภาพภมู ปิ ระเทศ และ
ลักษณะและสมบตั แิ ตกต่าง ระยะเวลา ในการเกิดดิน
กัน
222
ชั้น ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถน่ิ
ม.2 (ต่อ) อธบิ ายลกั ษณะของชั้น - ดนิ เกิดจากหินที่ผุพังตามธรรมชาตผิ สม
หน้าตดั ดินและกระบวนการ คลกุ เคล้ากบั อนิ ทรียวตั ถทุ ี่ได้จากการเน่าเป่ือย
เกิดดนิ จากแบบจำลอง ของซากพชื ซากสัตวท์ บั ถมเป็นชน้ั ๆ บนผวิ โลก
รวมท้งั ระบุปจั จยั ท่ีทำให้ดนิ ชัน้ ดนิ แบง่ ออกเป็นหลายชนั้ ขนานหรอื เกือบ
มลี ักษณะและสมบัติ ขนานไปกบั ผิวหน้าดิน แต่ละช้นั มลี กั ษณะ
แตกต่างกัน แตกต่างกันเนอ่ื งจากสมบัติทางกายภาพ เคมี
ชวี ภาพ และลกั ษณะอ่ืน ๆ เช่น สี โครงสรา้ ง เน้อื
ดนิ การยดึ ตัว ความเปน็ กรด-เบส สามารถสังเกต
ได้จากการสำรวจภาคสนาม การเรียกชื่อชนั้ ดิน
หลักจะใชอ้ ักษรภาษาอังกฤษตวั ใหญ่ ได้แก่ O, A,
E, B, C, R
ว 3.2 ม.2/7 - สมบตั ิบางประการของดิน เช่น เน้ือดนิ - ที่ตง้ั ของชาวลาว
ตรวจวัดสมบตั ิบางประการ ความชนื้ ดนิ คา่ ความเป็นกรด-เบส ธาตอุ าหารใน เวยี ง
ของดิน โดยใช้เครื่องมือท่ี ดนิ สามารถนำไปใชใ้ นการตัดสนิ ใจถงึ แนว
เหมาะสมและนำเสนอแนว ทางการใชป้ ระโยชน์ท่ดี นิ โดยอาจนำไปใช้
ทางการใชป้ ระโยชนด์ ินจาก ประโยชน์ ทางการเกษตรหรืออื่น ๆ ซงึ่ ดนิ ที่ไม่
ข้อมูลสมบัติของดิน เหมาะสมต่อการทำการเกษตร เชน่ ดนิ จดื ดนิ
เปรี้ยว ดนิ เคม็ และดนิ ดาน อาจเกิดจากสภาพดิน
ตามธรรมชาตหิ รอื การใช้ประโยชนจ์ ะต้อง
ปรับปรงุ ให้มีสภาพเหมาะสม เพือ่ นำไปใช้
ประโยชน์
ว 3.2 ม.2/8 - แหล่งนำ้ ใต้ดนิ เกดิ จากการซึมของน้ำผิวดินลงไป
อธบิ ายปจั จยั และ สะสมตวั ใต้พน้ื โลก ซึ่งแบง่ เป็นนำ้ ในดินและนำ้
กระบวนการเกิดแหล่งน้ำผวิ บาดาล นำ้ ในดินเปน็ น้ำที่อย่รู ่วมกับอากาศตาม
ดนิ และแหล่งน้ำใต้ดนิ จาก ช่องวา่ งระหวา่ งเม็ดดนิ สว่ นน้ำบาดาลเปน็ นำ้ ที่
แบบจำลอง ไหลซมึ ลกึ ลงไปและถูกกักเกบ็ ไว้ในชั้นหินหรือชั้น
ดนิ จนอม่ิ ตัวไปดว้ ยน้ำ
223
ชนั้ ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถ่นิ
ม.2 (ตอ่ ) อธบิ ายปจั จยั และ - แหลง่ น้ำผิวดนิ เกิดจากน้ำฝนที่ตกลงบนพน้ื โลก
กระบวนการเกิดแหลง่ นำ้ ผวิ ไหลจากท่ีสูงลงส่ทู ีต่ ่ำดว้ ยแรงโน้มถว่ ง การไหล
ดินและแหล่งนำ้ ใตด้ นิ จาก ของน้ำทำให้พืน้ โลกเกิดการกัดเซาะเป็นร่องนำ้
แบบจำลอง เชน่ ลำธาร คลอง และแมน่ ้ำ ซ่ึงร่องนำ้ จะมีขนาด
และรปู รา่ งแตกตา่ งกัน ขึน้ อยู่กบั ปริมาณน้ำฝน
ระยะเวลาในการกดั เซาะ ชนิดดนิ และหนิ และ
ลักษณะภูมปิ ระเทศ เชน่ ความลาดชัน ความสูง
ตำ่ ของพ้ืนท่ี เม่อื น้ำไหลไปยงั บรเิ วณที่เปน็ แอ่งจะ
เกิดการสะสมตวั เป็นแหล่งนำ้ เชน่ บึง ทะเลสาบ
ทะเล และมหาสมุทร
ว 3.2 ม.2/9 - แหล่งน้ำผิวดินและแหลง่ น้ำใตด้ ินถูกนำมาใช้ใน
สรา้ งแบบจำลองที่อธิบาย กิจกรรมต่าง ๆ ของมนษุ ย์ ส่งผลตอ่ การจัดการ
การใช้น้ำ และนำเสนอแนว การใชป้ ระโยชน์น้ำและคณุ ภาพของแหลง่ นำ้
ทางการใชน้ ้ำอยา่ งย่งั ยืนใน เนอื่ งจากการเพม่ิ ขึ้นของจำนวนประชากร การใช้
ท้องถิ่นของตนเอง ประโยชน์พนื้ ทใ่ี นดา้ นตา่ ง ๆ เชน่ ภาค
เกษตรกรรม ภาคอตุ สาหกรรม และการ
เปลีย่ นแปลงภมู อิ ากาศ ทำให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงปรมิ าณนำ้ ฝนในพน้ื ท่ีลุ่มน้ำ และ
แหลง่ นำ้ ผวิ ดนิ ไม่เพียงพอสำหรบั กิจกรรมของ
มนษุ ย์ นำ้ จากแหล่งน้ำใตด้ ินจึงถกู นำมาใชม้ ากขึ้น
ส่งผลใหป้ ริมาณน้ำใต้ดินลดลงมาก
จงึ ตอ้ งมีการจัดการใช้น้ำอย่างเหมาะสมและ
ยั่งยนื ซง่ึ อาจทำไดโ้ ดยการจดั หาแหลง่ น้ำเพื่อให้มี
แหล่งนำ้ เพียงพอสำหรับการดำรงชีวติ
การจัดสรรและการใชน้ ำ้ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
การอนุรักษแ์ ละฟื้นฟูแหลง่ นำ้ การปอ้ งกนั และ
แก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ
224
ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้
ท้องถิ่น
ม.2 ว 3.2 ม.2/10 - น้ำท่วม การกดั เซาะชายฝงั่ ดนิ ถล่ม หลุมยุบ
สร้างแบบจำลองทอี่ ธบิ าย แผ่นดินทรุด มีกระบวนการเกิดและผลกระทบ ที่
กระบวนการเกดิ และ แตกต่างกนั ซึ่งอาจสร้างความเสยี หายร้ายแรง
ผลกระทบของน้ำท่วม การ แกช่ ีวติ และทรัพยส์ ิน
กัดเซาะชายฝั่ง ดินถลม่ - นำ้ ท่วม เกิดจากพนื้ ทหี่ นงึ่ ได้รบั ปริมาณน้ำเกิน
หลมุ ยุบ แผ่นดนิ ทรุด กว่าทีจ่ ะกกั เก็บได้ ทำให้แผน่ ดนิ จมอยู่ใต้น้ำ โดย
ขึ้นอยู่กับปรมิ าณน้ำและสภาพทางธรณีวทิ ยาของ
พนื้ ที่
- การกัดเซาะชายฝัง่ เป็นกระบวนการ
เปล่ยี นแปลงของชายฝั่งทะเลทเี่ กิดขึ้นตลอดเวลา
จากการกัดเซาะของคลน่ื หรือลม ทำใหต้ ะกอน
จากทห่ี นงึ่ ไปตกทบั ถมในอีกบรเิ วณหน่งึ แนวของ
ชายฝ่ังเดิมจงึ เปลย่ี นแปลงไป บรเิ วณทม่ี ตี ะกอน
เคลอ่ื นเข้ามาน้อยกว่าปริมาณท่ีตะกอนเคลื่อน
ออกไป ถือว่าเป็นบริเวณทมี่ กี ารกัดเซาะชายฝงั่
- ดนิ ถล่ม เป็นการเคล่ือนทีข่ องมวลดนิ หรือหิน
จำนวนมากลงตามลาดเขา เนื่องจากแรงโน้มถว่ ง
ของโลกเปน็ หลัก ซ่ึงเกดิ จากปจั จยั สำคัญ ไดแ้ ก่
ความลาดชนั ของพ้ืนท่ี สภาพธรณวี ิทยา ปรมิ าณ
นำ้ ฝน พืชปกคลุมดนิ และการใช้ประโยชน์พื้นท่ี
- หลมุ ยบุ คอื แอง่ หรือหลมุ บนแผน่ ดินขนาดตา่ ง
ๆ ท่อี าจเกดิ จากการถลม่ ของโพรงถ้ำหนิ ปนู เกลอื
หนิ ใต้ดิน หรือเกิดจากน้ำพดั พาตะกอนลงไปใน
โพรงถ้ำหรือธารน้ำใต้ดนิ
- แผ่นดินทรดุ เกิดจากการยุบตัวของชั้นดิน หรือ
หินรว่ น เม่อื มวลของแข็งหรือของเหลวปริมาณ
มาก ทรี่ องรบั อยู่ใตช้ ั้นดินบรเิ วณน้ันถกู
เคลือ่ นย้ายออกไปโดยธรรมชาติหรือโดยการ
กระทำของมนุษย์
225
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยีเพ่ือการดำรงชวี ิตในสงั คมท่มี ีการเปลยี่ นแปลงอย่าง
รวดเรว็ ใช้ความรแู้ ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ่นื ๆ เพ่ือ
แกป้ ัญหาหรอื พัฒนางานอย่างมคี วามคิดสร้างสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ
วิศวกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อชวี ิต สังคม และ
ส่ิงแวดลอ้ ม
ชนั้ ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถ่นิ
ม.2 ว 4.1 ม.2/1 - สาเหตหุ รือปจั จยั ตา่ ง ๆ เชน่ ความก้าวหนา้ - กรณศี กึ ษา การ
คาดการณ์แนวโน้ม ของศาสตร์ต่าง ๆ การเปลีย่ นแปลงทางด้าน พัฒนารายการ
เทคโนโลยที จี่ ะเกดิ ขน้ึ โดย เศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม ทำใหเ้ ทคโนโลยีมี โทรทศั น์ออนไลน์
พจิ ารณาจากสาเหตุหรือ การเปลยี่ นแปลงตลอดเวลา การสง่ เสรมิ
ปจั จัยทีส่ ง่ ผลตอ่ การ - เทคโนโลยแี ต่ละประเภทมผี ลกระทบต่อชีวติ วัฒนธรรมขาตพิ นั ธ์ุ
เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สงั คม และสิง่ แวดล้อมที่แตกตา่ งกัน จงึ ต้อง ลาวเวียง
และวเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ วเิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บขอ้ ดี ข้อเสยี และตัดสนิ ใจ
ตดั สนิ ใจเลือกใชเ้ ทคโนโลยี เลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสม
โดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบท่ี
เกดิ ข้ึนต่อชวี ิต สงั คม และ
ส่งิ แวดลอ้ ม
ว 4.1 ม.2/2 - ปญั หาหรอื ความต้องการในชมุ ชนหรือทอ้ งถน่ิ
ระบปุ ญั หาหรอื ความ มีหลายอย่าง ข้ึนกบั บริบทหรือสถานการณท์ ่ี
ต้องการในชุมชนหรอื ประสบ เช่น ด้านพลังงาน สงิ่ แวดลอ้ ม
ท้องถ่นิ สรปุ กรอบของ การเกษตร การอาหาร
ปัญหา รวบรวม วเิ คราะห์ - การระบปุ ญั หาจำเปน็ ต้องมีการวเิ คราะห์
ขอ้ มูลและแนวคิดที่ สถานการณ์ของปญั หาเพอ่ื สรุปกรอบของปัญหา
เกีย่ วขอ้ งกับปัญหา แลว้ ดำเนนิ การสืบค้น รวบรวมขอ้ มูล ความรจู้ าก
ศาสตรต์ า่ ง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง เพื่อนำไปสู่การ
ออกแบบแนวทางการแก้ปญั หา
226
ชั้น ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้
ท้องถิ่น
ม.2 ว 4.1 ม.2/3 - การวิเคราะห์ เปรยี บเทียบ และตดั สินใจเลอื ก -
ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหา ข้อมลู ที่จำเปน็ โดยคำนงึ ถึงเงื่อนไขและ
โดยวิเคราะห์เปรียบเทยี บ ทรพั ยากร เช่น งบประมาณ เวลา ข้อมลู และ
และตัดสินใจเลือกข้อมลู ท่ี สารสนเทศ วสั ดุ เครื่องมือและอปุ กรณ์ ช่วยให้
จำเปน็ ภายใต้เงอื่ นไขและ ไดแ้ นวทางการแกป้ ญั หาท่เี หมาะสม
ทรัพยากรท่ีมีอยู่ นำเสนอ - การออกแบบแนวทางการแก้ปญั หาทำได้
แนวทางการแกป้ ญั หาให้ หลากหลายวธิ ี เช่น การร่างภาพ การเขยี น
ผู้อื่นเข้าใจ วางแผนขน้ั ตอน แผนภาพ การเขยี นผังงาน
การทำงานและดำเนนิ การ - การกำหนดขัน้ ตอนระยะเวลาในการทำงาน
แกป้ ญั หาอยา่ งเปน็ ข้ันตอน กอ่ นดำเนนิ การแกป้ ัญหาจะชว่ ยให้การทำงาน
สำเรจ็ ได้ตามเป้าหมาย และลดขอ้ ผิดพลาด
ของการทำงานที่อาจเกดิ ขึ้น
ว 4.1 ม.2/4 - การทดสอบและประเมนิ ผลเป็นการตรวจสอบ
ทดสอบ ประเมินผล และ ชิ้นงาน หรือวธิ กี ารว่าสามารถแก้ปัญหาไดต้ าม
อธิบายปญั หาหรือ วตั ถปุ ระสงคภ์ ายใต้กรอบของปญั หา เพื่อหา
ข้อบกพร่องท่เี กิดขนึ้ ภายใต้ ข้อบกพร่อง และดำเนนิ การปรบั ปรงุ ใหส้ ามารถ
กรอบเงื่อนไข พร้อมทง้ั หา แกไ้ ขปัญหาได้
แนวทางการปรับปรุงแก้ไข - การนำเสนอผลงานเปน็ การถา่ ยทอดแนวคดิ
และนำเสนอผลการ เพือ่ ใหผ้ ูอ้ ่ืนเขา้ ใจเกยี่ วกบั กระบวนการทำงาน
แกป้ ญั หา และช้ินงานหรอื วิธีการที่ได้ ซ่ึงสามารถทำได้
หลายวธิ ี เชน่ การเขยี นรายงาน การทำแผน่
นำเสนอผลงาน การจดั นทิ รรศการ
ว 4.1 ม.2/5 - วสั ดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกตา่ งกัน เช่น ไม้
ใช้ความรู้ และทักษะ โลหะ พลาสติก จึงต้องมกี ารวเิ คราะหส์ มบัติ เพื่อ
เก่ียวกับวัสดุ อุปกรณ์ เลอื กใชใ้ ห้เหมาะสมกบั ลกั ษณะของงาน
เครื่องมือ กลไก ไฟฟา้ และ - การสรา้ งชน้ิ งานอาจใช้ความรู้ เรอ่ื งกลไก
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เพอื่ ไฟฟ้า อเิ ล็กทรอนิกส์ เชน่ LED มอเตอร์
แกป้ ญั หาหรือพฒั นางานได้ บซั เซอร์ เฟอื ง รอก ลอ้ เพลา
อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม และ
ปลอดภัย
227
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชวี ติ จริงอย่างเปน็ ข้ันตอนและ
เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการ
แกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ รูเ้ ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม
ชน้ั ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถ่นิ
ม.2 ว 4.2 ม.2/1 - แนวคิดเชงิ คำนวณ - กรณีศกึ ษา การ
ออกแบบอลั กอริทึมทใี่ ช้ - การแก้ปัญหาโดยใช้แนวคดิ เชิงคำนวณ แก้ไขปัญหาอย่างเป็น
แนวคิดเชิงคำนวณในการ - ตวั อยา่ งปัญหา เชน่ การเข้าแถวตามลำดบั ข้ันตอนในการทำนา
แก้ปญั หา หรือการทำงาน ความสูงใหเ้ รว็ ทีส่ ดุ จัดเรยี งเส้ือให้หาไดง้ ่ายท่สี ุด ของชาวลาวเวียง
ท่ีพบในชวี ิตจริง
ว 4.2 ม.2/2 - ตวั ดำเนนิ การบูลีน
ออกแบบและเขียน - ฟงั กช์ นั
โปรแกรมทใ่ี ช้ตรรกะและ - การออกแบบและเขยี นโปรแกรมท่ีมกี ารใช้
ฟังก์ชนั ในการแก้ปัญหา ตรรกะ และฟงั กช์ ัน
- การออกแบบอัลกอริทึม เพื่อแกป้ ัญหาอาจใช้
แนวคิดเชิงคำนวณในการออกแบบ เพื่อให้ การ
แกป้ ัญหามีประสิทธภิ าพ
- การแกป้ ญั หาอย่างเปน็ ขั้นตอนจะช่วยให้
แกป้ ัญหาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
- ซอฟตแ์ วร์ท่ีใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น
Scratch, python, java, c
- ตัวอย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมตดั เกรดหา
คำตอบทง้ั หมดของอสมการหลายตวั แปร
ว 4.2 ม.2/3 - องค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบ
อภิปรายองค์ประกอบและ คอมพวิ เตอร์
หลกั การทำงานของระบบ - เทคโนโลยกี ารสื่อสาร
คอมพวิ เตอร์ และ - การประยกุ ต์ใช้งานและการแก้ปัญหาเบื้องตน้
เทคโนโลยกี ารสอ่ื สาร เพื่อ
ประยกุ ตใ์ ชง้ านหรือ
แก้ปญั หาเบื้องต้น
228
ชนั้ ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถิ่น
ม.2 ว 4.2 ม.2/4 - ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย โดย
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เลือกแนวทางปฏบิ ัติเม่ือพบเนื้อหาท่ีไม่เหมาะสม
อยา่ งปลอดภัย มีความ เช่นแจ้งรายงานผูเ้ ก่ยี วข้อง ป้องกันการเขา้ มา
รับผิดชอบ สรา้ งและแสดง ของข้อมูลที่ไมเ่ หมาะสม ไม่ตอบโต้ ไมเ่ ผยแพร่
สิทธใิ นการเผยแพร่ - การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความ
ผลงาน รบั ผดิ ชอบ เช่น ตระหนกั ถงึ ผลกระทบในการ
เผยแพร่ข้อมูล
- การสร้างและแสดงสิทธิ์ความเปน็ เจ้าของ
ผลงาน
- การกำหนดสิทธิการใช้ขอ้ มูล
229
คำอธิบายรายวชิ าและโครงสร้างรายวชิ า
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
230
คำอธิบายรายวิชา
ว 22101 วทิ ยาศาสตร์ 3 กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ
..........................................................................................................................................................................
ศึกษา วิเคราะห์ ออกแบบการทดลองและทดลองในการอธิบายผลของชนิดของตัวละลาย ชนดิ ตวั ทำสะลาย
อุณหภูมิและความดนั ที่มีต่อสภาพละลายได้ของสาร ระบุปริมาณตัวละลายในสารละลาย ในหน่วยความเข้มข้น เป็น
ร้อยละ ปริมาตรต่อปริมาตร มวลต่อมวล และมวลต่อปริมาตร การรักษาพยาบาลของชาวลาวเวียง ระบอวัยวะและ
บรรยายหน้าที่ของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหายใจ ระบบขับถ่าย ระบบประสาทและระบบ
สืบพันธุ์ ตลอดจนออกแบบการทดลองและทดลอง การเปรียบเทียบการเต้นของหัวใจ และการใช้แบบจำลองในการ
อธบิ ายการทำงานของระบบหมนุ เวียนเลือด ระบบสืบพนั ธ์ขุ องมนุษย์ ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของระบบต่าง โดยการ
บอกแนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะในระบบนั้นให้ทำงานเปน็ ปกติ รวมถึงตระหนักถึงการเปลีย่ นแปลงของร่างกาย
เมื่อเขา้ สวู่ ัยหนุ่มสาวโดยการดูแลรักษาร่างกายและจติ ใจของตนเองในชว่ งทมี่ กี ารเปลี่ยนแปลง รวมถึงการเลอื กวิธีการ
คุมกำเนิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ตระหนักถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร และสามารถอธิบายการ
ตกไข่ การมปี ระจำเดือน การปฏิสนธแิ ละการพัฒนาของไซโกต จนคลอดเป็นทารก อธบิ ายการเคลอื่ นทข่ี องวัตถทุ ีเ่ ป็น
ผลของแรงลพั ธท์ ี่เกดิ จากแรงหลายแรงที่กระทำตอ่ วตั ถุในแนวเดียวกัน แรงเสียดทานสถติ และแรงเสียดทานจลน์ และ
การลอยของวัตถุในของเหลวจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสมในการ
อธบิ ายผลต่อความดันของของเหลว ปจั จยั ทมี่ ีผลต่อขนาดของแรงเสยี ดทาน และวิธีการท่เี หมาะสมในโมเมนต์ของแรง
เมื่อวัตถุอยู่ในสภาพสมดุลต่อการหมุน และคำนวณโดยใช้สมการ M = Fl คำนวณอัตราเร็วและความเร็วของการ
เคลื่อนทีข่ องวัตถุ โดยใช้สมการ V = s/t นอกจากนี้สามารถเขยี นแผนภาพแสดงแรงและแรงลัพธ์ที่เกิดจากแรงหลาย
แรงที่กระทำต่อวัตถุในแนว เดียวกันจากหลักฐานเชิงประจักษ์ แผนภาพแสดงแรงที่กระทำต่อวัตถุในของเหลว
แผนภาพแสดงแรงเสียดทานและแรงอ่ืน ๆ ที่กระทำต่อวัตถุ แผนภาพแสดงแรงแม่เหล็ก แรงไฟฟ้าและแรงโน้มถ่วงท่ี
กระทำต่อวัตถุ และแผนภาพแสดงการกระจัดและความเร็ว วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแงแม่เหลีก
แรงฟฟ้า และแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในสนามนั้น ๆ กับระยะห่างจากแหล่งของสนามถึงวัตถุจากข้อมูลท่ี
รวบรวมได้ ตระหนกั ถงึ ประโยชนข์ องความรู้เรือ่ งแรงเสยี ดทานและการนำความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตประจำวนั
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสบื คน้ ข้อมลู บนั ทึก
จัดกล่มุ ข้อมูล อธบิ าย อภิปรายและสรา้ งแบบจำลอง เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสอ่ื สาร
สิ่งท่ีเรียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสนิ โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์ท่ีได้จากการสังเกต การทดลองแบบจำลองและ
ใช้สารสนเทศทีไ่ ด้จากแหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ
พร้อมเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรมจริยธรรม
และค่านิยมท่ีเหมาะสม ปรับตัวให้เข้ากบั สถานการณต์ า่ ง ๆ ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิต ภายใต้การแพร่ระบาดของ
โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
รหัสตวั ชวี้ ัด มาตรฐาน ว 1.2 ม.2/1-17
มาตรฐาน ว 2.1 ม.2/4-6
มาตรฐาน ว 2.2 ม.2/1-15
รวมทั้งหมด 35 ตวั ชวี้ ดั
231
โครงสร้างรายวิชา
ว 22101 วิทยาศาสตร์ 3 กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1
เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ เนอื้ หา เวลา น้ำหนกั
1. สารละลาย (บรู ณา ตัวช้วี ัด (ชั่วโมง) คะแนน
การหลักสตู รทอ้ งถิ่น ว 2.1 ม.2/4-6 - องค์ประกอบของสารละลาย
เรื่องการรกั ษาพยาบาล - สภาพละลายและปัจจยั ท่มี ีผลต่อสภาพ 13 15
ของชาวลาวเวียง) ว 1.2 ม.2/1-17 ละลายได้
2. ร่างกายมนษุ ย์ - ความเขม้ ข้นของสารละลายในหนว่ ยรอ้ ยละ 22 30
ว 2.2 ม.2/1-15 - การรักษาพยาบาลของชาวลาวเวียง
3. การเคลือ่ นที่และ - ระบบหมนุ เวียนเลือด 23 25
แรง - ระบบหายใจ
- ระบบขบั ถา่ ย 58 70
คะแนนระหวา่ งเรยี น - ระบบประสาท 1 15
คะแนนปลายภาค - ระบบสบื พันธุ์ 1 15
- ตำแหนง่ ของวตั ถุ ระยะทาง และการกระจัด 60 100
- อตั ราเร็วและความเรว็
- แรงลัพธ์
- แรงเสยี ดทาน
- แรงและความดนั ของของเหลว
- แรงพยงุ ของของเหลว
- โมเมนตข์ องแรง
- แรงและสนามของแรง
หนว่ ยการเรยี นรู้
สอบระหวา่ งภาค
สอบปลายภาค
รวมทั้งส้ินตลอดภาคเรยี น
หมายเหตุ - อตั ราสว่ นคะแนนระหว่างเรียนกับการสอบปลายภาค 70/30
232
คำอธิบายรายวิชา
ว 22102 วทิ ยาศาสตร์ 4 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชัว่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
............................................................................................................................. .........................................
อธิบายการแยกสารผสมโดยการระเหยแหง้ การตกผลึก การกล่ันอย่างงา่ ย โครมาโทกราฟแี บบกระดาษ การ
สกัดด้วยตวั ทำละลาย โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ กระบวนการผุพังอยู่กับที่ การกร่อน และการสะสมตัวของตะกอน
จากแบบจำลองรวมทัง้ ยกตัวอยา่ งผลของกระบวนการดงั กลา่ วทที่ ำให้ผิวโลกเกดิ การเปลี่ยนแปลง ลักษณะของช้ันหนา้
ตัดดินและกระบวนการเกิดดินจากแบบจำลอง รวมทั้งระบุปัจจัยที่ทำให้ดินมีลักษณะและสมบัติแตกต่างกัน ปัจจัย
และกระบวนการเกิดแหล่งน้ำผวิ ดินและแหลง่ นำ้ ใตด้ ินจากแบบจำลอง ท่ีตง้ั ของชาวลาวเวียง การเปลย่ี นและการถ่าย
โอนพลังงานโดยใช้กฎการอนุรักษ์พลังงาน ผลกระทบจากการใช้เชื้อเพลิง ชากดึกดำบรรพ์จากข้อมูลที่รวบรวมได้
วิเคราะห์สถานการณ์และคำนวณเกี่ยวกับงานและกำลังที่เกิดจากแรงที่กระทำต่อวัตถุ หลักการทำงานของเครื่องกล
อย่างง่ายจากข้อมูลที่รวบรวมได้ สถานการณ์และคำนวณเกี่ยวกับงานและกำลังที่เกิดจากแรงที่กระทำต่อวัตถุ
หลักการทำงานของเครื่องกลอย่างง่ายจากข้อมูลที่รวบรวมได้ สถานการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนและการถ่ายโอน
พลังงานโดยใช้กฎการอนุรักษ์พลังงานเปรียบเทียบกระบวนการเกิด สมบัติ และการใช้ประโยชน์ ข้อดีและข้อจำกัด
ของพลังงานทดแทนแต่ละประเภทจากการรวบรวมข้อมูลและนำเสนอแนวทางการใช้พลังงานทดแทนทีเ่ หมาะสมใน
ท้องถิ่น ออกแบบและทดลองด้วยวธิ ีที่เหมาะสมในการอธิบายปัจจัยที่มีผลต่อพลังงานจลน์และพลังงานศักย์โน้มถว่ ง
แปลความหมายข้อมูลและอธิบายการเปลี่ยนพลังงานระหว่างพลังงานศักย์โน้มถ่วงและพลังงานจลน์ของวัตถุโดย
พลังงานกลของวัตถุมีค่าคงตวั จากข้อมูลที่รวบรวมได้ แยกสารโดยการระเหยแห้ง การตกผลึกการกลั่นอย่างง่าย โคร
มาโทกราฟีแบบกระดาษ การสกัดด้วยตัวทำละลาย ตลอดจนนำวิธีการแยกสารไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน โดย
บูรณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ ตรวจวัดสมบัติบางประการของดินโดยใช้
เครื่องมือที่เหมาะสม และนำเสนอแนวทางการใช้ประโยชน์ดินจากข้อมูล สมบัติของดิน สร้างแบบจำลองในการ
อธิบายโครงสรา้ งภายในโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมีจากข้อมลู ท่รี วบรวมได้ การใช้นำ้ และนำเสนอแนวทางการใช้น้ำ
อย่างยั่งยืนในท้องถิ่นของตนเอง กระบวนการเกิดและผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่งดินถล่ม หลุมยุบ
แผ่นดินทรุดตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของเครื่องกลอย่างง่าย โดยบอกประโยชน์และการประยุกต์ใช้ใน
ชีวติ ประจำวันและผลการใชเ้ ชื้อเพลิงซากดกี ดำบรรพ์โดยนำเสนอแนวทางการใชเ้ ชื้อเพลงิ ซากดกี ดำบรรพ์
โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล บันทึก
จัดกลุ่มข้อมูล อธิบาย อภิปรายและสร้างแบบจำลอง เขียนแผนภาพ ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีที่
เหมาะสม เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสิ น
โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษท์ ไ่ี ด้จากการสงั เกต การทดลองแบบจำลองและใชส้ ารสนเทศที่ได้จากแหล่งขอ้ มลู ต่าง ๆ
พร้อมเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรมจริยธรรม
และค่านยิ มท่ีเหมาะสม ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิต ภายใต้การแพร่ระบาดของ
โรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
รหสั ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ว 2.1 ม.2/1-3
มาตรฐาน ว 2.3 ม.2/1-6
มาตรฐาน ว 3.2 ม.2/1-10 รวมทง้ั หมด 19 ตวั ช้ีวัด
233
โครงสร้างรายวชิ า
ว 22102 วิทยาศาสตร์ 4 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ช่อื หน่วยการ มาตรฐาน/ เนอ้ื หา เวลา น้ำหนัก
เรยี นรู้ ตวั ช้วี ัด (ชัว่ โมง) คะแนน
1. งานและ ว 2.3 ม.2/1-6 - งานและกำลงั 17 15
พลังงาน - เคร่อื งกลอย่างงา่ ย
- พลงั งานศกั ย์โนม้ ถว่ งและพลังงานจลน์
- กฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน
2. การแยกสาร ว 2.1 ม.2/1-3 - วิธีการแยกสาร 10 20
- การนำความร้เู รือ่ งการแยกสารไปใชป้ ระโยชน์
3. โลกและการ ว 3.2 ม.2/4-7 - โครงสร้างภายในโลก 25 20
เปลยี่ นแปลง ว 3.2 ม.2/8-10 - กระบวนการเปล่ยี นแปลงทางธรณวี ทิ ยาบนผวิ
(บูรณาการหลกั สูตร โลก ดนิ ชนั้ ดนิ และชน้ั หน้าตัดดนิ
ทอ้ งถิน่ เรื่องท่ตี ้ัง - ท่ตี ง้ั ของชาวลาวเวยี ง
ของชาวลาวเวียง) - แหลง่ น้ำผิวดนิ และแหล่งน้ำใตด้ ิน
- ภยั ธรรมชาตจิ ากน้ำทว่ ม แผ่นดินถล่ม และ
การกดั เซาะชายฝ่ัง
- ภัยธรรมชาติจากหลมุ ยุบและแผน่ ดินทรดุ
4. ทรัพยากร ว 3.2 ม.2/1-3 - เชื้อเพลงิ ซากดึกดำบรรพ์ 6 15
พลงั งาน - พลงั งานทดแทน
คะแนนระหว่าง หน่วยการเรียนรู้ 58 70
เรยี น สอบระหว่างภาค 1 15
คะแนนปลายภาค สอบปลายภาค 1 15
รวมทั้งสิ้นตลอดภาคเรียน 60 100
หมายเหตุ - อัตราส่วนคะแนนระหวา่ งเรียนกบั การสอบปลายภาค 70/30
234
คำอธบิ ายรายวิชา
ว 22103 เทคโนโลยี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
..........................................................................................................................................................................
ศึกษา วิเคราะห์ อธิบายกระบวนการคิดตามแนวคิดเชิงคำนวณ ซึ่งประกอบไปด้วย การแบ่งปัญหา
ใหญ่เป็นปัญหาย่อย การพิจารณารูปแบบ การคิดเชิงนามธรรม และการออกแบบบอัลกอรึทึมเพื่อการ
แกป้ ญั หาโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ กรณศี ึกษาการแก้ไขปญั หาอย่างเป็นขั้นตอนในการทำนาของชาวลาวเวียง
เขียนโปรแกรมไพทอนที่มีการใช้งานฟังก์ชันที่สร้างขึ้นเองและการใช้ตัวดำเนินการบูลีน เขียนโปรแกรม
Scratch ทม่ี กี ารสรา้ งฟงั กช์ ันและการใชต้ ัวดำเนนิ การบูลีน
โดยใช้ความรแู้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ แนวคิดเชงิ คำนวณ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อ
แก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วย
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และ
การแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และ
ส่ิงแวดลอ้ ม
พร้อมเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม
จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิต ภายใต้
การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
รหัสตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ว 4.2 ม.2/1, ม.2/2
รวมทั้งหมด 2 ตัวช้ีวัด
235
โครงสรา้ งรายวชิ า
ว 22103 เทคโนโลยี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1
เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ เน้อื หา เวลา นำ้ หนกั
ตัวช้ีวัด (ชั่วโมง) คะแนน
- การแบ่งปัญหาใหญเ่ ป็นปัญหาย่อย
1. แนวคดิ เชงิ คำนวณ ว 4.2 ม.2/1 - การพิจารณารปู แบบ 8 10
- การคดิ เชิงนามธรรม
(บรู ณาการหลักสตู ร - การออกแบบอลั กอรึทึมและกรณศี กึ ษา 25
- กรณศี กึ ษา การแก้ไขปญั หาอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนในการ
ท้องถ่นิ เรื่อง ทำนาของชาวลาวเวียง 25
กรณศี ึกษา การแกไ้ ข 70
15
ปัญหาอยา่ งเปน็ 15
100
ขน้ั ตอนในการทำนา
ของชาวลาวเวียง)
2. การแก้ปญั หาดว้ ย ว 4.2 ม.2/1-2 - ตัวอยา่ งระบบคำนวณคา่ โดยสารรถประจำทาง 15
- ตัวดำเนินบูลนี
ภาษาไพทอน - การวนซ้ำด้วยคำสง่ั while 15
- เงอ่ื นไขทางเลอื ก และฟงั ก์ชัน
3. การแก้ปัญหาดว้ ย ว 4.2 ม.2/1-2 - ฟงั กช์ นั 38
Scratch - ตัวดำเนินบลู นี 1
- การรับคา่ และสง่ คา่ ให้ฟังกช์ นั 1
คะแนน 40
ระหว่างเรียน หน่วยการเรียนรู้
คะแนนปลายภาค สอบระหวา่ งภาค
สอบปลายภาค
รวมท้งั สน้ิ ตลอดภาคเรียน
หมายเหตุ - อตั ราสว่ นคะแนนระหวา่ งเรียนกบั การสอบปลายภาค 70/30
236
คำอธิบายรายวิชา
ว 22104 เทคโนโลยี 4 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
..........................................................................................................................................................................
ศึกษา วิเคราะห์ บอกองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์และเข้าใจหน้าที่ของแต่ละองค์ประกอบ
อธิบายหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ยกตัวอย่างการประยุกต์ระบบคอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวัน
รู้จักและใช้งานเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ เลือกใช้บริการบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างถูกต้อง เลือกแนวทางปฏิบัติเมื่อ
พบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ใช้ไอทีได้อย่างมีความรับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผลงาน
ติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายสังคมอย่างปลอดภัย วิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาและสรุปกรอบของปัญหา
รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแนวทางการแก้ปัญหา วิเคราะห์และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็น โดยคำนึงถึง
เงื่อนไขและทรัพยากร เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหา ออกแบบชิ้นงานหรือวิธีการที่สอดคล้องกับแนวทางการ
แก้ปัญหา นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจ วางแผนการทำงานก่อนลงมือสร้างชิ้นงาน เลือกใช้
อุปกรณ์เหมาะสมกับงานและใช้อย่างถูกวิธี ทดสอบ ประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขชิ้นงาน นำเสนอผลการ
ทำงานด้วยรูปแบบที่เหมาะสม เลือกใช้เทคโนโลยีโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อชีวิต สังคมและ
สิ่งแวดล้อม คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีในอนาคต กรณีศึกษาการพัฒนารายการโทรทัศน์ออนไลน์ การ
สง่ เสริมวฒั นธรรมขาตพิ ันธ์ลุ าวเวยี ง
โดยใชค้ วามรแู้ ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ แนวคิดเชิงคำนวณ และศาสตรอ์ ่ืน ๆ เพื่อ
แก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วย
กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนร้กู ารทำงาน และ
การแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และ
สิง่ แวดลอ้ ม
พร้อมเห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ คุณธรรม
จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิต ภายใต้
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
รหัสตัวช้ีวัด ม.2/1, ม.2/2 , ม.2/3, ม.2/5
มาตรฐาน ว 4.1 ม.2/3, ม.2/4
มาตรฐาน ว 4.2
รวมท้ังหมด 7 ตัวช้ีวดั
237
โครงสรา้ งรายวิชา
ว 22104 เทคโนโลยี 4 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 4
เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ
ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ เน้ือหา เวลา น้ำหนกั
การเรยี นรู้ ตวั ช้วี ดั (ชั่วโมง) คะแนน
1. หลักการทำงาน ว 4.2 ม.2/3 - องคป์ ระกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพวิ เตอร์ 6 10
6 10
ของระบบ - ซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ 6 10
คอมพิวเตอร์ 4 10
12 20
2. เทคโนโลยีการ ว 4.2 ม.2/3 - องค์ประกอบของการสอื่ สาร เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์
4 10
สอ่ื สาร - อนิ เทอรเ์ น็ต บริการบนอินเทอรเ์ น็ต คลาวด์คอมพวิ ติง
38 70
3. การใชเ้ ทคโนโลยี ว 4.2 ม.2/4 - แนวทางการปฏิบัตเิ ม่อื พบเนื้อหาท่ไี มเ่ หมาะสม 1 15
1 15
สารสนเทศอย่างมี - ผลกระทบการเผยแพรข่ ้อมลู ทไี่ มเ่ หมาะสม 40 100
ความรับผิดชอบ - แนวทางการพจิ ารณาเน้ือหากอ่ นเผยแพรข่ ้อมลู
- การสรา้ งและแสดงสทิ ธ์คิ วามเปน็ เจา้ ของผลงาน
- มารยาทในการตดิ ตอ่ ส่อื สาร
4. วิเคราะหป์ ญั หา ว 4.1 ม.2/2 เทคโนโลยใี นการจดั การสิง่ แวดลอ้ มการวเิ คราะห์
สถานการณป์ ญั หา การรวบรวมขอ้ มลู เพ่อื แก้ปัญหา
5. ออกแบบและการ ว 4.1 ม.2/3-5 การวเิ คราะห์การแก้ปญั หา การสร้างทางเลือกในการ
สร้าง ออกแบบ แนวทางการแกป้ ญั หา การสร้างแบบจำลอง การ
วางแผน ส่ิงที่ควรรู้กอ่ นลงมือสรา้ งชนิ้ งาน การทดสอบ
ประเมนิ ผล และปรบั ปรุงแกไ้ ข การนำเสนอ
6. เทคโนโลยใี น ว 4.1 ม.2/1 - การเปลย่ี นแปลงและการเลือกใชเ้ ทคโนโลยี
อนาคต (บรู ณาการ - การคาดการณเ์ ทคโนโลยีในอนาคต
หลกั สตู รท้องถนิ่ เรื่อง - กรณีศึกษา การพฒั นารายการโทรทัศนอ์ อนไลน์ การ
กรณศี กึ ษา การ ส่งเสรมิ วัฒนธรรมขาติพนั ธล์ุ าวเวยี ง
พฒั นารายการ
โทรทัศน์ออนไลน์
การส่งเสรมิ
วฒั นธรรมขาตพิ ันธ์ุ
ลาวเวียง)
คะแนน หนว่ ยการเรียนรู้
ระหวา่ งเรียน สอบระหว่างภาค
คะแนนปลายภาค สอบปลายภาค
รวมทง้ั สิน้ ตลอดภาคเรยี น
หมายเหตุ - อตั ราสว่ นคะแนนระหวา่ งเรียนกบั การสอบปลายภาค 70/30
238
คำอธบิ ายรายวชิ าและโครงสร้างรายวิชา สาระการเรยี นรู้เพิ่มเติม
ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2
239
คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม
ว 22203 การสรา้ งงานกราฟิกดว้ ยโปรแกรมออนไลน์ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต
..........................................................................................................................................................................
ศึกษาความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิก หลักการ วิธีการออกแบบกราฟิก ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก
ระบบคอมพวิ เตอร์ สำหรับงานคอมพิวเตอร์กราฟิก การใชง้ านซอฟตแ์ วร์ด้านกราฟิก ใชเ้ ครอ่ื งมือและอุปกรณ์
ต่าง ๆ รวมถึงคำสั่งที่สำคัญในการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิก ในโปรแกรมกราฟิกได้อย่างชำนาญ ฝึก
ปฏิบัติการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกด้วยโปรแกรมกราฟิก ประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์งาน เพื่อให้ผู้เรยี น
นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวัน เชน่ การนำเสนอภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ ลาวเวียง
โดยใช้กระบวนการการคิดวิเคราะห์ การวางแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน การคิดแก้ปัญหา การ
ใช้จินตนาการอย่างสร้างสรรค์ โดยอาศัยความรู้เกี่ยวกับหลักการทำงานของโปรแกรม ความรู้เกี่ยวกับ
เครื่องมือและความรูเ้ กี่ยวกบั คำสัง่ พืน้ ฐานตา่ ง ๆ ของโปรแกรมและการนำเทคโนโลยีเขา้ มาประยุกต์ใช้ในการ
ช่วยสรา้ งช้ินงาน การนำเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์
เพื่อให้เกิดความตระหนัก ความรับผิดชอบ เห็นความสำคัญ มีทักษะทางเทคโนโลยีและทักษะการ
ออกแบบ ตลอดจนปลูกฝังนิสัยรักการทำงานและการปฏิบัติงานด้วยตนเอง มีความขยัน อดทน ซื่อสัตย์ ตรง
ต่อเวลาและมรี ะเบียบวินัยต่อการเรียนและการทำงาน มีจิตสำนกึ ในการใช้พลังงานทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม
โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง สามารถในการใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม มีจริยธรรม คุณธรรม ค่านิยมท่ี
เหมาะสม ปรบั ตัวให้เข้ากับสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทีก่ า้ วเขา้ มามบี ทบาทในชีวิต ภายใต้การแพร่ระบาดของโรคติด
เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
ผลการเรียนรู้
1. อธิบายหลักการเกี่ยวกบั ความหมายของกราฟิกและคอมพวิ เตอร์กราฟิก
2. สามารถใชง้ าน Canva Program ในการนำเสนองานและผลงานต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจเปน็
อยา่ งมืออาชพี
3. สร้าง Infographic และการนำเสนอดว้ ยภาพ จดั ทำการนำเสนอผลงานในรูปแบบ Infographic
หรอื อ่นื ๆ ไดส้ วยงาม เขา้ ใจง่ายและเขา้ ถงึ กลุ่มเป้าหมายอย่างแทจ้ ริง
4. เพิม่ ประสทิ ธภิ าพการสื่อสารภายในองค์กร ทำให้ข้อมลู ขา่ วสารตา่ ง ๆ เขา้ ถงึ นักเรยี นได้อย่าง
ทั่วถงึ เพ่ือการทำงานที่มปี ระสทิ ธิผล เป็นไปตามเป้าหมาย
5. ตระหนักเห็นความสำคญั ของการออกแบบดว้ ยความสร้างสรรค์ได้
6. ประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมในการสร้างผลงานท่ีสอดคล้องกบั หลักคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และความ
พอเพยี ง
7. สร้างเสริมลักษณะนิสัยพ้ืนฐานในการทำงานและมเี จตคตีที่ดีและการทำงานเป็นกลมุ่
รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้
240
โครงสร้างรายวชิ าเพมิ่ เติม
ว 22203 การสรา้ งงานกราฟกิ ดว้ ยโปรแกรมออนไลน์ กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ลำดับ ชื่อหน่วย ผลการ เนอ้ื หา เวลา นำ้ หนกั
ที่ การเรียนรู้ เรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
1 ความรเู้ กย่ี วกบั
กราฟิก ขอ้ ท่ี 1 - ความหมายของกราฟกิ 3 10
2. เขา้ ใจหลักการ - ประเภทของไฟลภ์ าพ 4 10
ทำงานของ Canva
Program และ - ระบบสใี นงานกราฟกิ 3 15
เครอื่ งมอื ต่างๆ
ข้อที่ 2 - การติดต้งั และการตั้งค่าโปรแกรม 5 15
3. ข้นั ตอนการสรุปย่อ
ขอ้ มลู เพือ่ สรา้ ง - แนะนำการใชง้ านเบื้องต้นและ Template 30
Infographic
- การใชง้ านและตกแต่งโดยภาพรวมทงั้ หมด 80
4. การนำเสนอด้วย 10
Infographic และ - เครือ่ งมอื การใชง้ านและตกแตง่ ภาพและกราฟิก 10
การนำเสนอดว้ ย 100
ภาพ (บูรณาการ ข้อที่ 3 - การตกแต่งกราฟฟกิ กรอบรปู และรูปทรง
หลักสตู รทอ้ งถน่ิ
เร่ืองการนำเสนอ - การตกแตง่ กราฟฟิกแบบไล่เฉดสแี ละเส้นตา่ งๆ
ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ
ลาวเวยี ง) - ออกแบบโปสเตอร์
5. เทคนคิ การ ขอ้ ท่ี 2-7 - ออกแบบภาพ Infographic
ออกแบบและ
ตกแต่งภาพ - การนำเสนอภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ลาวเวียง
คะแนนระหวา่ งเรียน - สรา้ งงานนำเสนอ Template Power Point
คะแนนปลายภาค - ปกรายงานและประวัตสิ ่วนตัว
- ออกแบบภาพเคลอื่ นไหว
- สรา้ งวดิ โี อสั้นแนะนำตัวเอง แนะนำโรงเรยี น
ข้อท่ี 2-7 - การออกแบบตา่ ง ๆ ตาม Template 3
คะแนนหน่วยการเรยี นรู้ 18
สอบระหวา่ งภาค 1
สอบปลายภาค 1
20
รวมทง้ั สนิ้ ตลอดภาคเรียน
หมายเหตุ อัตราส่วนคะแนนระหว่างเรยี นกับการสอบปลายภาค 80/20
241
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ
ว 22204 การสรา้ งงานกราฟิกด้วยโปรแกรม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต
..........................................................................................................................................................................
ศึกษาความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิก หลักการ วิธีการออกแบบกราฟิก ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก ระบบ
คอมพิวเตอร์ สำหรับงานคอมพิวเตอร์กราฟิก การใช้งานซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึง
คำสั่งท่สี ำคญั ในการออกแบบคอมพิวเตอรก์ ราฟิก ในโปรแกรมกราฟิกไดอ้ ย่างชำนาญ ฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารออกแบบคอมพิวเตอร์
กราฟิกด้วยโปรแกรมกราฟิก การศึกษารูปแบบของภาพจากแหล่งภาพต่าง ๆ มาสร้างสรรค์งานกราฟิกให้มีจินตนาการ
ตามความคดิ รเิ ริ่ม ทัง้ ยังศึกษาหลักการออกแบบเทคนคิ การใช้โปรแกรมการออกแบบ คอมพวิ เตอรก์ ราฟิกได้จากเว็บไซต์
ต่าง ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ การออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกด้วยโปรแกรมกราฟิก ประยุกต์ใช้ในการ
สร้างสรรคง์ าน เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นนำความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั เชน่ การนำเสนอภมู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ ลาวเวียง
โดยใช้กระบวนการการคิดวิเคราะห์ การวางแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน การคิดแก้ปัญหา การใช้
จินตนาการอย่างสร้างสรรค์ โดยอาศัยความรู้เกี่ยวกับหลักการทำงานของโปรแกรม ความรู้เกี่ยวกับเคร่ืองมือและความรู้
เกี่ยวกับคำสั่งพื้นฐานต่าง ๆ ของโปรแกรมและการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในการช่วยสร้างชิ้นงาน การนำเสนอ
ผลงานอย่างสรา้ งสรรค์
เพื่อให้เกิดความตระหนัก ความรับผิดชอบ เห็นความสำคัญ มีทักษะทางเทคโนโลยีและทักษะการออกแบบ
ตลอดจนปลูกฝังนสิ ัยรักการทำงานและการปฏบิ ตั ิงานด้วยตนเอง มีความขยัน อดทน ซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลาและมีระเบยี บ
วินัยต่อการเรียนและการทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลังงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
สามารถในการใช้เทคโนโลยไี ด้อย่างเหมาะสม มีจริยธรรม คุณธรรม คา่ นิยมทเี่ หมาะสม ปรบั ตัวใหเ้ ขา้ กบั สถานการณ์ต่าง
ๆ ที่ก้าวเข้ามามบี ทบาทในชีวิต ภายใต้การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายหลักการเกีย่ วกับความหมายของกราฟิกและคอมพิวเตอร์กราฟิก
2. อธบิ ายหลกั การทำงาน หลกั การทำงาน สว่ นประกอบของโปรแกรม Photoshop CS6 ได้
3. ใช้เครื่องมอื ต่าง ๆ ในToolbox Photoshop และประยุกตใ์ ช้ในการสร้างงานได้
4. อธบิ ายหลกั การเกี่ยวกับเลเยอร์ (layer) และสามารถประยกุ ต์ใช้งานได้
5. อธิบายหลักการเก่ียวกบั เครื่องมอื การตดั ตอ่ และปรับแตง่ ภาพพรอ้ มทัง้ สามารถประยกุ ต์ใช้งานได้
6. อธิบายหลกั การเก่ยี วกับเครือ่ งมอื การปรบั ขนาดและรูปทรงพรอ้ มทั้งสามารถประยุกต์ใชง้ านได้
7. อธบิ ายหลักการเกี่ยวกับเครอื่ งมอื การสรา้ งขอ้ ความและสามารถประยกุ ตใ์ ช้งานได้
8. อธบิ ายหลกั การเก่ยี วกบั เคร่ืองมอื การวาดภาพระบายสีภาพและสามารถประยกุ ต์ใช้งานได้
9. อธิบายหลกั การเกย่ี วกบั เครอื่ งมอื การในการรที ัชภาพและสามารถประยกุ ตใ์ ช้งานได้
10. ประยกุ ต์ใช้ Photoshop CS6 ออกแบบ สร้างผลงาน ตามจนิ ตนาการอยา่ งสร้างสรรคไ์ ด้
11. ตระหนักเห็นความสำคญั ของการออกแบบดว้ ยความสร้างสรรคไ์ ด้
12. ประยุกตใ์ ช้โปรแกรมในการสร้างผลงานทสี่ อดคล้องกบั หลกั คณุ ธรรม จริยธรรม และความพอเพียง
13. สร้างเสรมิ ลักษณะนสิ ัยพ้ืนฐานในการทำงานและมเี จตคตีท่ดี ีและการทำงานเปน็ กลมุ่
รวมทั้งหมด 13 ผลการเรียนรู้
242
โครงสรา้ งรายวิชาเพิ่มเติม
ว 22204 การสร้างงานกราฟกิ ดว้ ยโปรแกรม กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ
ลำดับ ชือ่ หน่วย ผลการเรียนรู้ เนื้อหา เวลา น้ำหนกั
ท่ี การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
1 ความรู้เกยี่ วกบั ข้อที่ 1 - ความหมายของกราฟิก ประเภทของไฟลภ์ าพ ระบบสี 2 10
กราฟกิ ในงานกราฟกิ
2 โปรแกรม ขอ้ ที่ 2,4,13 - แนะนำโปรแกรมเบอ้ื งตน้ สว่ นประกอบต่าง ๆ รจู้ ัก 3 10
Photoshop เคร่ืองมอื Toolbox และ Palette การทำงานกบั
CS6 Layers
3 การใช้ ขอ้ ที่ - ชดุ เคร่อื งมือสำหรับเลือกพื้นท่ี ชุดเครอื่ งมือสำหรบั 3 10
เครอ่ื งมือใน 3,11,12,13 การสรา้ งขอ้ ความ ชุดเครื่องมือสำหรบั การวาดภาพ
Toolbox ระบายสี ชดุ เครอ่ื งมือสำหรบั การรที ชั รูปภาพ คยี ์ลดั
ของ Photoshop
4 การปรับแต่ง ข้อที่ - การตดั ภาพพ้นื หลงั อยา่ งงา่ ย การปรับรปู ทรงของภาพ 3 15
และปรบั 5,6,8,9,11,12 ดว้ ย Transform การปรับแต่งและแก้ไขสใี ห้กับภาพ
รูปทรงของ การปรับภาพใหผ้ อม โดยใชค้ ำส่งั Liquify
ภาพ
5 เทคนิคการ ขอ้ ท่ี 1-3, - การใชง้ าน Filter การสรา้ งภาพเคล่ือนไหว 3 15
ตกแตง่ ภาพ 8,9,11,12 Animation Gif การแปลงภาพถา่ ยเปน็ การต์ นู การ
ออกแบบปกแฟม้ สะสมผลงาน
6 ผลงาน ข้อที่ 5-13 - แฟม้ สะสมผลงาน Portfolio ภาพเงาสะทอ้ นบนผวิ น้ำ 4 20
สรา้ งสรรค์ ตดั ต่อตวั ละครใสพ่ ืน้ หลังใหม่ แตง่ หน้าให้สวยด้วยแชง่
ด้วย แตง่ หน้าดจิ ิตอล การสรา้ งภาพสามมิติ การสร้าง
Photoshop ตวั อักษรสามมิติ การสรา้ งอกั ษรไฟ การนำเสนอภมู ิ
(บรู ณาการ ปัญญาทอ้ งถ่ินลาวเวียง
หลกั สตู ร
ทอ้ งถน่ิ เรื่อง
การนำเสนอภูมิ
ปัญญาท้องถิ่น
ลาวเวียง)
คะแนนระหว่างเรียน คะแนนหน่วยการเรยี นรู้ 18 80
สอบระหวา่ งภาค 1 10
คะแนนปลายภาค สอบปลายภาค 1 10
รวมทง้ั ส้นิ ตลอดภาคเรยี น 20 100
หมายเหตุ อัตราส่วนคะแนนระหว่างเรยี นกบั การสอบปลายภาค 80/20
243
ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3
ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลางและสาระการเรยี นร้ทู อ้ งถน่ิ
สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างส่ิงไม่มีชีวติ กบั ส่งิ มีชวี ิต
และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งส่งิ มชี ีวติ กับสงิ่ มีชวี ิตตา่ ง ๆ ในระบบนเิ วศ การถ่ายทอดพลงั งาน
การเปลีย่ นแปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบท่ีมี
ตอ่ ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม แนวทางในการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ
การแก้ไขปญั หาสง่ิ แวดลอ้ ม รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ชน้ั ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถ่ิน
ม.3 ว 1.1 ม.3/1 - ระบบนิเวศประกอบด้วยองค์ประกอบที่มีชีวิต
อธิบายปฏิสัมพันธ์ของ เช่น พืช สัตว์ จุลินทรีย์ และองค์ประกอบที่ไม่มี
องคป์ ระกอบของระบบนิเวศ ชีวิต เช่น แสง น้ำ อุณหภูมิ แร่ธาตุ แก๊ส
ทไ่ี ดจ้ ากการสำรวจ องค์ประกอบเหล่านี้มีปฏิสัมพันธ์กัน เช่น พืช
ตอ้ งการแสง น้ำ และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ใน
การสร้างอาหาร สัตว์ต้องการอาหาร และ
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการดำรงชีวิต เช่น
อุณหภูมิ ความชื้น องค์ประกอบทั้งสองส่วนนี้
จะต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม ระบบ
นิเวศจึงจะสามารถคงอยู่ต่อไปได้
ว 1.1 ม.3/2 - สิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตมีความสัมพันธ์กันใน
อธบิ ายรปู แบบความ สมั พันธ์ รูปแบบต่าง ๆ เชน่ ภาวะพ่ึงพากนั ภาวะองิ อาศัย
ระหว่างส่งิ มีชวี ิตกบั สงิ่ มชี วี ติ ภาวะเหยอ่ื กบั ผลู้ า่ ภาวะปรสิต
รปู แบบตา่ ง ๆ ในแหลง่ ทอี่ ยู่ - สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันที่อาศัยอยู่ร่วมกันในแหล่ง
เดียวกนั ที่ได้จากการสำรวจ ที่อยู่เดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน เรียกว่า
ประชากร
- กลุ่มสิ่งมีชีวิตประกอบด้วยประชากรของ
สงิ่ มีชวี ิตหลาย ๆ ชนิด อาศยั อยู่ร่วมกันในแหล่งท่ี
อยูเ่ ดยี วกัน
244
ชั้น ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถนิ่
ม.3 ว 1.1 ม.3/3 - กล่มุ ส่งิ มชี วี ติ ในระบบนิเวศแบง่ ตามหนา้ ทไ่ี ด้
สรา้ งแบบจำลองในการ เป็น 3 กลมุ่ ได้แก่ ผู้ผลิต ผู้บรโิ ภค และผ้ยู อ่ ย
อธิบายการถ่ายทอดพลังงาน สลายสารอินทรยี ์ สิง่ มชี ีวติ ทัง้ 3 กลุ่มนี้ มี
ในสายใยอาหาร ความสมั พนั ธ์กัน ผูผ้ ลติ เป็นส่ิงมีชวี ิตทีส่ ร้าง
ว 1.1 ม.3/4 อาหารไดเ้ อง โดยกระบวนการสังเคราะหด์ ้วย
อธิบายความสมั พนั ธ์ของ แสง ผบู้ ริโภค เปน็ ส่งิ มีชวี ิตที่ไมส่ ามารถสรา้ ง
ผู้ผลิต ผูบ้ รโิ ภค และผยู้ ่อย อาหารไดเ้ อง และต้องกินผผู้ ลิตหรอื ส่งิ มีชีวติ อืน่
สลายสารอินทรยี ์ในระบบ เปน็ อาหาร เมื่อผูผ้ ลติ และผู้บรโิ ภคตายลง จะถกู
นิเวศ ย่อยโดยผู้ยอ่ ยสลายสารอนิ ทรีย์ซึง่ จะเปลี่ยน
ว 1.1 ม.3/5 สารอนิ ทรยี เ์ ปน็ สารอนนิ ทรีย์กลบั คืนสู่
อธบิ ายการสะสมสารพิษใน สง่ิ แวดลอ้ ม ทำให้เกดิ การหมุนเวยี นสารเปน็ วัฏ
สิ่งมชี ีวติ ในโซอ่ าหาร จักร จำนวนผผู้ ลิต ผู้บรโิ ภค และผูย้ ่อยสลาย
ว 1.1 ม.3/6 สารอนิ ทรีย์ จะต้องมีความเหมาะสม จึงทำให้
ตระหนักถึงความสัมพันธ์ของ กลุ่มส่งิ มชี วี ติ อยู่ได้อย่างสมดุล
สงิ่ มชี ีวิตและสง่ิ แวดล้อมใน - พลังงานถูกถ่ายทอดจากผูผ้ ลติ ไปยังผบู้ รโิ ภค
ระบบนิเวศ โดยไม่ทำลาย ลำดบั ต่าง ๆ รวมทงั้ ผู้ย่อยสลายสารอนิ ทรีย์ ใน
สมดลุ ของระบบนิเวศ รปู แบบสายใยอาหาร ทีป่ ระกอบด้วย โซอ่ าหาร
หลายโซ่ทีส่ มั พันธก์ ัน ในการถ่ายทอดพลงั งานใน
โซอ่ าหาร พลังงานที่ถูกถา่ ยทอดไปจะลดลงเร่อื ย
ๆ ตามลำดบั ของการบรโิ ภค
- การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนิเวศ อาจทำให้
มสี ารพษิ สะสมอยู่ในส่งิ มีชีวติ ได้ จนอาจก่อให้เกิด
อันตรายต่อสงิ่ มีชวี ิต และทำลายสมดลุ ในระบบ
นิเวศ ดงั นน้ั การดแู ลรักษาระบบนเิ วศให้เกดิ
ความสมดลุ และคงอย่ตู ลอดไปจงึ เป็นสง่ิ สำคัญ
245