The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บูรณาการร่วมกับหลักสูตรท้องถิ่นลาวเวียง โรงเรียนวัดหนองอ้อ(ธรรมธรใยประชาสามัคคี) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นายนาคนครา เหลนปก, 2022-08-21 12:25:53

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำปีการศึกษา 2565

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บูรณาการร่วมกับหลักสูตรท้องถิ่นลาวเวียง โรงเรียนวัดหนองอ้อ(ธรรมธรใยประชาสามัคคี) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2

96

97

สาระ มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชี้วดั ช้นั ปี

98

ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1
ตัวช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลางและสาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่

สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสง่ิ ไม่มีชวี ติ กบั สิง่ มชี ีวติ และ

ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ
เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการ
แก้ไขปัญหาสิง่ แวดล้อมรวมทง้ั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ชั้น ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถนิ่

ป.1 ว 1.1 ป 1/1 - บริเวณตา่ ง ๆ ในทอ้ งถน่ิ เชน่ - พืชและสตั ว์ที่อาศยั อยู่

ระบุช่อื พืชและสัตว์ทอี่ าศยั อยู่ สนามหญ้า ใตต้ น้ ไม้ สวนหย่อม บริเวณต่าง ๆ ในท้องถ่นิ

บรเิ วณตา่ ง ๆ จากข้อมูลท่ี แหลง่ นำ้ อาจพบพืชและสัตว์ ของตน เชน่ สนามหญ้า

รวบรวมได้ หลายชนดิ อาศยั อยู่ ใต้ตน้ ไมส้ วนหย่อม

-บรเิ วณที่แตกต่างกนั อาจพบพชื แหล่งนำ้ ฯลฯ

ว 1.1 ป 1/2 และสตั วแ์ ตกตา่ งกัน เพราะ - สภาพแวดลอ้ มใน

บอกสภาพแวดล้อมที่ สภาพแวดล้อมของแตล่ ะบริเวณ ทอ้ งถ่ิน เชน่

เหมาะสมกับการดำรงชวี ิต จะมี ความเหมาะสมตอ่ การ (บรเิ วณใกล้ ๆ โรงเรียน

ของสัตวใ์ นบริเวณทอ่ี าศัยอยู่ ดำรงชวี ิตของพชื และสตั ว์ ที่ ในชมุ ชน หรือภายใน

อาศยั อย่ใู นแตล่ ะบรเิ วณ เช่น จงั หวดั )

สระนำ้ มนี ้ำเป็นที่อยู่ อาศัยของ

หอย ปลา สาหร่าย เปน็ ทีห่ ลบภัย

และมี แหล่งอาหารของหอยและ

ปลา บรเิ วณตน้ มะม่วงมี ต้น

มะมว่ งเป็นแหลง่ ที่อยู่ และมี

อาหารสำหรับกระรอกและมด

- ถ้าสภาพแวดล้อมในบริเวณที่

พืชและสัตวอ์ าศยั อยู่มีการ

เปลยี่ นแปลง จะมีผลตอ่ การ

ดำรงชวี ติ ของพืชและสัตว์

99

สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบตั ิของส่ิงมีชวี ติ หนว่ ยพ้ืนฐานของสิง่ มีชีวิต การลำเลยี งสารผา่ นเซลล์ความสมั พนั ธ์

ของโครงสร้าง และหนา้ ที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตวแ์ ละมนุษยท์ ท่ี างานสมั พันธก์ ัน
ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง และหน้าทขี่ องอวัยวะตา่ ง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กนั รวมท้งั
นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ช้นั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถิ่น

ป.1 ว 1.2 ป 1/1 - มนุษย์มีสว่ นต่าง ๆ ทม่ี ีลักษณะและ - ส่วนประกอบ และ

ระบุช่ือ บรรยายลกั ษณะ หน้าท่ีแตกต่างกนั เพ่อื ให้เหมาะสมในการ หน้าที่ของอวยั วะ

และบอกหนา้ ที่ของสว่ น ดำรงชวี ติ เชน่ ตามีหน้าที่ ไวม้ องดู โดยมี ภายนอกของสตั วแ์ ละ

ต่าง ๆ ของร่างกายมนษุ ย์ หนงั ตาและขนตาเพ่ือป้องกันอันตราย พืช ทพี่ บบริเวณต่าง ๆ

สตั ว์ และพืช รวมทง้ั ให้กับตา หมู หี นา้ ที่รับฟงั เสียง โดยมใี บหู

บรรยายการทำหน้าที่ และรูหู เพื่อเปน็ ทางผา่ นของเสียง ปากมี

ร่วมกัน ของส่วนตา่ ง ๆ หนา้ ทีพ่ ดู กนิ อาหาร มชี ่องปาและมรี มิ

ของร่างกายมนุษย์ในการ ฝีปากบนลา่ ง แขนและมือมีหนา้ ท่ียก หยิบ

ทำกจิ กรรมต่าง ๆ จาก จับ มที อ่ นแขนและน้ิวมือที่ขยับได้ สมอง

ข้อมลู ท่รี วบรวมได้ มีหนา้ ทค่ี วบคุมการทำงานของสว่ นตา่ ง ๆ

ของร่างกาย เปน็ กอ้ นอยู่ในกะโหลกศรี ษะ

โดยส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายจะทำหน้าที่

ร่วมกนั ในการทำกจิ กรรม ใน

ชวี ิตประจำวัน

- สัตว์มีหลายชนิด แต่ละชนิดมีส่วนตา่ ง ๆ

ที่มลี กั ษณะและหนา้ ที่แตกต่างกัน เพ่ือให้

เหมาะสม ในการดำรงชวี ิต เช่น ปลามี

ครีบเปน็ แผน่ สว่ นกบ เตา่ แมว มีขา 4 ขา

และมเี ท้า สำหรบั ใช้ในการเคลื่อนที่

- พชื มสี ว่ นต่าง ๆ ท่ีมลี กั ษณะและหน้าที่

แตกต่างกนั เพ่ือให้เหมาะสมในการ

ดำรงชวี ติ โดยทว่ั ไป รากมลี ักษณะเรียว

ยาว และแตกแขนงเปน็ รากเล็ก ๆ ทำ

หนา้ ท่ีดดู นำ้ ลำตน้ มีลักษณะเป็น

ทรงกระบอกต้งั ตรงและมีกิ่งก้าน ทำ

หน้าที่ชกู ิ่งกา้ น ใบ และดอก ใบมลี กั ษณะ

100

ชั้น ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่

เป็นแผ่นแบน ทำหน้าที่สรา้ งอาหาร

นอกจากนพี้ ืชหลายชนดิ อาจมีดอกทม่ี ีสี

รูปรา่ งต่าง ๆ ทำหน้าท่สี ืบพันธุ์ รวมทั้งมี

ผลที่มเี ปลอื ก มเี นอ้ื ห่อหมุ้ เมล็ด และมี

เมล็ดซงึ่ สามารถงอกเปน็ ตน้ ใหม่ได้

ว 1.2 ป1/2 - มนษุ ย์ใช้สว่ นต่าง ๆ ของร่างกายในการ -

ตระหนกั ถึงความสำคญั ทำกิจกรรมตา่ ง ๆ เพือ่ การดำรงชวี ิต

ของส่วนตา่ ง ๆ ของ มนุษย์จึงควรใชส้ ว่ นตา่ ง ๆของร่างกาย

ร่างกายตนเอง โดยการ อย่างถูกต้อง ปลอดภยั และรักษา ความ

ดแู ลส่วนต่าง ๆ สะอาดอยู่เสมอ เชน่ ใชต้ ามองตวั หนงั สือ

อย่างถูกต้อง ใหป้ ลอดภยั ในท่ี ๆ มแี สงสวา่ งเพียงพอ ดูแลตาให้

และรกั ษา ความสะอาดอยู่ ปลอดภยั จากอันตราย และรักษาความ

เสมอ สะอาดตาอยูเ่ สมอ

สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคัญของการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธกุ รรม

การเปล่ยี นแปลงทางพนั ธกุ รรมท่มี ีผลตอ่ สง่ิ มีชีวติ ความหลากหลายทางชวี ภาพและ

ววิ ฒั นาการของสงิ่ มชี วี ติ รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ชั้น ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ

-- - -

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัตขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพันธร์ ะหว่างสมบัตขิ องสสารกบั

โครงสร้างและแรงยึดเหนีย่ วระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาตขิ องการเปลี่ยนแปลงสถานะ

ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี

ชั้น ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถิ่น

ป.1 ว 2.1 ป 1/1 -วัสดทุ ี่ใช้ทำวัตถทุ ่ีเป็นของเล่น ของใช้ มี - วัสดทุ ่ใี ชท้ ำอุปกรณ์และ

อธิบายสมบัติทีส่ ังเกตได้ หลายชนิด เช่น ผา้ แก้ว พลาสตกิ ยาง ไม้ เครื่องมือท่ีใช้ใน

ของวัสดุทีใ่ ช้ทำวตั ถุซ่ึงทำ อฐิ หนิ กระดาษ โลหะ วสั ดแุ ต่ละชนดิ มี ชีวิตประจำวัน หรืออาชีพ

จากวสั ดชุ นิดเดียว หรือ สมบัติทีส่ ังเกตได้ต่าง ๆ เชน่ สี นุม่ แข็ง ตา่ ง ๆ

หลายชนิดประกอบกันโดย ขรุขระ เรียบ ใส ขุ่น ยดื หดได้ บดิ งอได้

ใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์

101

ว 2.1 ป 1/2 - สมบตั ทิ สี่ งั เกตได้ของวัสดแุ ตช่ นิดอาจ -วัสดุธรรมชาตทิ ชี่ าวลาว

ระบุชนดิ ของวสั ดแุ ละจดั เหมอื นกนั ซึ่งสามารถนำมาใช้เปน็ เกณฑใ์ น เวยี งมาสรา้ งทอี่ ยู่อาศัย

กลุม่ วัสดุตามสมบตั ิท่ี การจดั กลุ่มวัสดุได้ วัสดบุ างอย่างสามารถ

สงั เกตได้ นำมาประกอบกันเพือ่ ทำเป็นวตั ถตุ ่าง ๆ

เชน่ ผา้ และกระดุม ใชท้ ำเสอื้ ไม้และโลหะ

ใช้ทำกระทะ

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวติ ประจำวนั ผลของแรงที่กระทำต่อวตั ถุ ลักษณะการเคลอื่ นท่ี

แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ชน้ั ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น

-- --

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพนั ธ์

ระหว่างสสารและพลงั งาน พลงั งานในชวี ติ ประจาวนั ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ท่ี

เก่ียวขอ้ งกับเสียง แสง และคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า รวมทัง้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถนิ่

ป.1 ว 2.3 ป 1/1 - เสยี งเกิดจากการส่นั ของวัตถุ วัตถุ

บรรยายการเกิดเสยี งและ ท่ีทำใหเ้ กิดเสยี งเปน็ แหลง่ กำเนิด

ทศิ ทาง การเคลื่อนทข่ี องเสียง เสียงซ่งึ มที ั้งแหลง่ กำเนดิ เสียงตาม

จากหลักฐานเชิงประจักษ์ ธรรมชาตแิ ละแหลง่ กำเนิดเสยี งที่

มนุษย์สรา้ งขึ้น เสยี งเคลอ่ื นที่ออก

จากแหล่งกำเนิดเสยี งทกุ ทิศทาง

สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาว

ฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและการ

ประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศ

ช้ัน ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน

ป.1 ว 3.1 ป 1/1 - บนท้องฟ้ามดี วงอาทติ ย์ ดวงจนั ทร์ - ระบบดวงดาวจากหลกั ฐาน

ระบุดาวทป่ี รากฏบนทอ้ งฟ้า และดาว ซง่ึ ในเวลากลางวันจะ เชงิ ประจักษ์ในท้องถ่นิ และ

ในเวลากลางวัน และกลางคืน มองเห็นดวงอาทิตย์และอาจมองเหน็ ชุมชนของตนหรือจากแหล่ง

จากข้อมูลทรี่ วบรวมได้ เรยี นรูท้ มี่ ใี นท้องถิน่ /จังหวดั

102

ว 3.1 ป 1/2 ดวงจันทรบ์ างเวลาในบางวนั แตไ่ ม่ -

อธบิ ายสาเหตุท่ีมองไม่เห็น สามารถมองเหน็ ดาว

ดาวส่วนใหญ่ ในเวลากลางวนั - ในเวลากลางวันมองไมเ่ ห็นดาวส่วน

จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ใหญเ่ น่ืองจากแสงอาทติ ย์สวา่ งกว่าจึง

กลบแสงของดาว สว่ นในเวลากลางคืน

จะมองเห็นดาวและมองเห็นดวงจันทร์

เกอื บทกุ คืน

สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพนั ธข์ องระบบโลก กระบวนการเปล่ยี นแปลงภายในโลก

และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก

รวมทั้งผลตอ่ ส่ิงมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม

ชน้ั ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถนิ่

ป.1 ว 3.2 ป 1/1 - หนิ ที่อยใู่ นธรรมชำตมิ ลี ักษณะ -ลกั ษณะของหินท่ีพบ

อธบิ ายลกั ษณะภายนอกของ ภายนอกเฉพาตวั ที่สงั เกตได้ เช่น สี บริเวณโรงเรยี น ในชุมชน

หิน จากลกั ษณะเฉพาะตวั ท่ี ลวดลาย น้ำหนัก ความแข็ง และเน้ือ และแหล่งตา่ ง ๆ ในท้องถิ่น

สังเกตได้ หิน /จงั หวดั

สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวติ ในสงั คมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเรว็

ใช้ความรู้และทักษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตรอ์ ่ืน ๆ เพ่อื แกป้ ัญหา หรือ
พัฒนางานอย่างมีความคิดสรา้ งสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้
เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อชีวิต สังคม และส่งิ แวดล้อม

ชั้น ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่นิ
-- - -

สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาท่พี บในชีวติ จรงิ อยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนและ

เปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้ การทางาน และ
การแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจริยธรรม

103

ช้ัน ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถิ่น

ป.1 ว 4.2 ป 1/1 - การแกป้ ัญหาให้ประสบความสำเรจ็ ทำได้ -

แก้ปัญหาอย่างงา่ ยโดยใช้การลอง โดยใชข้ น้ั ตอนการแก้ปัญหา

ผดิ ลองถูก การเปรียบเทียบ - ปัญหาอย่างงา่ ย เชน่ เกมเขาวงกต เกมหา

จุดแตกต่างของภาพการจดั หนังสือใสก่ ระเป๋า

ว 4.2 ป 1/2 - การแสดงขั้นตอนการแก้ปญั หาทำได้โดย -

แสดงลำดบั ขน้ั ตอนการทำงาน การเขยี น บอกเลา่ วาดภาพ หรือใช้

หรือ การแก้ปญั หาอย่างงา่ ยโดย สัญลักษณ์

ใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ - ปญั หาอย่างงา่ ย เชน่ เกมเขาวงกต เกมหา

จดุ แตกต่างของภาพ การจดั หนงั สอื ใส่กระเปา๋

ว 4.2 ป 1/3 - การเขยี นโปรแกรมเปน็ การสร้างลำดบั ของ -

เขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ คำสง่ั ให้คอมพิวเตอร์ทำงาน

ซอฟตแ์ วรห์ รอื สื่อ - ตัวอยา่ งโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมสง่ั

ให้ ตวั ละครยา้ ยตำแหนง่ ย่อขยายขนาด

เปล่ียนรูปรา่ ง

- ซอฟต์แวร์ หรอื สื่อทีใ่ ชใ้ นการเขียน

โปรแกรม เชน่ ใชบ้ ัตรคำสั่งแสดงการเขยี น

โปรแกรม, Code.org

ป.1 ว 4.2 ป 1/4 - การใช้งานอปุ กรณ์เทคโนโลยีเบอ้ื งตน้ เช่น -

ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัด เกบ็ การใช้เมาส์ คยี ์บอรด์ จอสมั ผัส การเปดิ -ปิด

เรียกใชข้ อ้ มลู ตามวัตถุประสงค์ อปุ กรณ์เทคโนโลยี

- การใช้งานซอฟตแ์ วรเ์ บื้องต้น เช่น การเข้า

และออกจากโปรแกรม การสรา้ งไฟล์ การ

จัดเกบ็ การเรยี กใช้ไฟล์ ทำได้ในโปรแกรม

เชน่ โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก

โปรแกรมนำเสนอ

- การสรา้ งและจดั เกบ็ ไฟลอ์ ย่างเป็นระบบจะ

ทำให้เรียกใช้ ค้นหำขอ้ มลู ได้ง่ายและรวดเร็ว

ว 4.2 ป 1/5 - การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั -

ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง เช่น รจู้ ักขอ้ มูลส่วนตัว อนั ตรายจากการ

ปลอดภยั ปฏิบตั ิตามข้อตกลงใน เผยแพรข่ ้อมลู ส่วนตวั และไม่บอกขอ้ มลู

การใชค้ อมพวิ เตอร์ร่วมกนั ดูแล สว่ นตัวกับบคุ คลอื่นยกเว้นผู้ปกครอง หรอื ครู

104

ชนั้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถน่ิ
รักษาอุปกรณ์เบือ้ งตน้ ใช้งาน แจง้ ผเู้ ก่ยี วข้องเมื่อต้องการ ความชว่ ยเหลอื
อย่างเหมาะสม เกีย่ วกบั การใช้งาน
- ข้อปฏบิ ตั ิในการใชง้ านและการดแู ลรกั ษา
อปุ กรณ์ เชน่ ไม่ขีดเขียนบนอุปกรณ์ ทำความ
สะอาด ใช้อปุ กรณอ์ ย่างถูกวธิ ี
- การใช้งานอยา่ งเหมาะสม เชน่ จดั ท่านั่งให้
ถกู ต้อง การพักสายตาเมอ่ื ใช้อปุ กรณ์เป็น
เวลานาน ระมัดระวังอบุ ตั ิเหตุจากการใชง้ าน

105

คำอธิบายรายวิชา

ว 11101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 80 ชว่ั โมง

............................................................................................................................. .................................................

ศึกษา วิเคราะห์ พืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่บริเวณต่างๆ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต
ของสัตว์ในบริเวณที่อาศัยอยู่ ระบุลักษณะและหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์และพืช รวมทั้ง
การทำหนา้ ท่ีร่วมกันของสว่ นต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ อธบิ ายสมบัติทสี่ ังเกตได้ของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุซ่ึงทำจาก
วัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิดประกอบกัน ชนิดของวัสดุและจัดกลุ่มวัสดุตามสมบัติที่สังเกต วัสดุธรรมชาติท่ี
ชาวลาวเวียงนำมาสร้างที่อยู่อาศัย การเกิดเสียงและทิศทางการเคลื่อนที่ของเสียง ดาวที่ปรากฏบนท้องฟ้าใน
เวลากลางวันและกลางคนื และสาเหตทุ ม่ี องไมเ่ ห็นดาวส่วนใหญใ่ นเวลากลางวนั ลักษณะภายนอกของหินจาก
ลักษณะเฉพาะตัวที่สังเกต โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ
การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์ การอธิบาย อภิปราย และการสร้าง
แบบจำลอง เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารสง่ิ ที่เรยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ
ค่านิยมที่เหมาะสม ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิต ภายใต้การแพร่ระบาด
ของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)

แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ
การเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ การใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา
จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูล การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั และดูแลรักษาอุปกรณ์เบื้องต้น ใช้งานงาน
อย่างเหมาะสม

รหสั ตวั ช้วี ัด ป.1/1 , ป.1/2
มาตรฐาน ว 1.1 ป.1/1 , ป.1/2
มาตรฐาน ว 1.2 ป.1/1 , ป.1/2
มาตรฐาน ว 2.1 ป.1/1
มาตรฐาน ว 2.3 ป.1/1 , ป.1/2
มาตรฐาน ว 3.1 ป.1/1
มาตรฐาน ว 3.2 ป.1/1 , ป.1/2 , ป.1/3 , ป.1/4 , ป.1/5
มาตรฐาน ว 4.2

รวม 15 ตวั ชี้วัด

106

โครงสร้างรายวิชา

รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1
รหัสวิชา ว11101 เวลา 80 ชัว่ โมง/ปี

ช่ือหน่วยการ มาตรฐาน/ เนอ้ื หา จำนวน นำ้ หนกั
เรยี นรู้ ตวั ชีว้ ัด (ชัว่ โมง) คะแนน
การสืบเสาะหาความรู้ การสงั เกต การลงความเห็นจากข้อมลู
1. เรียนรูแ้ บบ ว 1.1 ป1/1 จำแนกประเภท การพยากรณ์ 10 10
นกั วทิ ยาศาสตร์ ว 1.1 ป1/2 พืชและสัตว์ทอ่ี าศัยอยู่บริเวณตา่ ง ๆ สภาพแวดลอ้ มท่ีเหมาะสมกบั 20 15
2. รา่ งกายของเรา ว 1.2 ป1/1 การดำรงชีวิตของสตั วใ์ นบริเวณทอี่ าศัยอยู่
ว 1.2 ป1/2 ลกั ษณะและหน้าท่ขี องส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายมนุษย์ สตั ว์และพืช 10 10
การทำหน้าท่รี ว่ มกันของสว่ นตา่ ง ๆของรา่ งกายมนษุ ยใ์ นการทำ
4. วิทยาการ ว 4.2 ป1/1 กิจกรรมต่าง ๆ ความสำคัญของสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกายตนเอง และ 14 15
คำนวณ ว 4.2 ป1/2 การดแู ลส่วนตา่ ง ๆ อยา่ งถูกตอ้ งให้ปลอดภัย
การแก้ปญั หาอยา่ งงา่ ยโดยใชก้ ารลองผดิ ลองถกู การเปรียบเทยี บ 10
5. สิ่งตา่ งๆรอบตวั ว 2.1 ป1/1 ขัน้ ตอนการทำงานหรือการแก้ปญั หาอยา่ งงา่ ยโดยใช้ภาพ
สญั ลกั ษณ์ หรอื ขอ้ ความ 10
เรา (บรู ณาการ ว 2.1 ป1/2 สมบัติทส่ี งั เกตไดข้ องวสั ดุท่ีใช้ทำวัตถุ ซึง่ ทำจากวัสดชุ นดิ เดยี วหรอื
หลายชนิดประกอบกนั ชนดิ ของวัสดุและจัดกลมุ่ วสั ดตุ ามสมบตั ิท่ี 70
หลกั สูตรทอ้ งถิน่ ว 2.3 ป1/1 สงั เกตได้ วัสดุธรรมชาตทิ ช่ี าวลาวเวียงนำมาสร้างทอี่ ยูอ่ าศัย 15
การเกิดเสียงและทศิ ทางการเคล่อื นทขี่ องเสยี ง 15
เรอื่ งวัสดใุ นการ 100

สร้างบา้ นของชาว

ลาวเวยี ง)

6. โลกและท้องฟา้ ว 3.1 ป1/1 ดาวทป่ี รากฏบนท้องฟ้าในเวลากลางวันและกลางคืน สาเหตทุ มี่ อง 14
ไม่เห็นดาวส่วนใหญใ่ นเวลากลางวนั ลกั ษณะภายนอกของหนิ
ของเรา ว 3.1 ป1/2

ว 3.2 ป1/1

7. วิทยาการ ว 4.2 ป1/3 การเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รือส่ือ การใช้ 10
เทคโนโลยใี นการสรา้ ง จดั เกบ็ เรียกใช้ข้อมูล การใช้เทคโนโลยี
คำนวณ ว 4.2 ป1/4 สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย และการดูแลรักษาอุปกรณ์เบอ้ื งต้น 78
1
ว 4.2 ป1/5 คะแนนระหว่างเรียน 1
คะแนนสอบกลางปี 80
คะแนนระหว่างเรยี น คะแนนสอบปลายปี
รวมทั้งสิน้ ตลอดทง้ั ปี
คะแนนปลายภาค

107

ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2
ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลางและสาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน

สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสมั พันธร์ ะหว่างส่งิ ไม่มชี ีวิตกับสง่ิ มชี วี ติ และ

ความสัมพนั ธ์ระหว่างสิ่งมชี วี ิตกบั สง่ิ มีชวี ิตตา่ ง ๆ ในระบบนิเวศ การถา่ ยทอดพลงั งาน การ
เปลีย่ นแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มตี ่อ
ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม แนวทางในการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการ
แกไ้ ขปญั หาสง่ิ แวดล้อมรวมทั้งนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ชน้ั ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น

-- - -

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 ขา้ ใจสมบัติของส่งิ มชี วี ิต หน่วยพ้นื ฐานของสิ่งมีชีวติ การลำเลยี งสารผ่านเซลลค์ วามสัมพนั ธ์

ของโครงสร้าง และหนา้ ท่ีของระบบตา่ ง ๆ ของสัตว์และมนุษยท์ ท่ี ำงานสัมพันธ์กนั
ความสัมพนั ธข์ องโครงสรา้ ง และหน้าที่ของอวยั วะตา่ ง ๆ ของพืชท่ีทำงานสัมพันธก์ ันรวมทั้ง
นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ช้นั ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการ

เรยี นรทู้ ้องถน่ิ

ป.2 ว 1.2 ป 2/1 - พืชต้องการน้ำ แสง เพื่อการเจรญิ เตบิ โต - พชื จากแหลง่

ระบุว่าพืชต้องการแสง ต่าง ๆ ใน

และน้ำเพ่ือการเจริญ ทอ้ งถน่ิ

เติบโต โดยใช้ข้อมลู จาก

หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์

ว 1.2 ป 2/2

ตระหนักถึงความจำเป็น

ท่ีพืชตอ้ งไดร้ บั น้ำและ

แสงเพื่อการเจรญิ เติบโต

โดยดแู ลพืชใหไ้ ด้ รบั สิ่ง

ดงั กล่าวอยา่ งเหมาะสม

ว 1.2 ป 2/3 - พชื ดอกเม่ือเจริญเติบโตและมีดอก ดอกจะมี การสืบพันธุ์

เปล่ียนแปลงไปเปน็ ผล ภายในผลมีเมลด็ เมอ่ื เมล็ดงอก ต้นอ่อน

ทีอ่ ย่ภู ายในเมลด็ จะเจริญ เติบโตเปน็ พืชตน้ ใหม่ พชื ต้นใหม่จะ

108

ช้นั ตัวชี้วดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการ
เรยี นรู้ท้องถน่ิ

สรา้ งแบบจำลองที่ เจรญิ เติบโต ออกดอกเพ่อื สบื พนั ธมุ์ ผี ลตอ่ ไปได้อกี หมุนเวียน
บรรยายวฏั จักรชวี ิตของ ต่อเนอื่ งเปน็ วฏั จักรชีวติ ของพืชดอก
พืชดอก

สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคญั ของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม สารพันธุกรรม

การเปล่ียนแปลงทางพนั ธุกรรมที่มีผลต่อสิง่ มชี ีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพและ
วิวฒั นาการของสงิ่ มีชวี ติ รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ชั้น ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถิ่น

ป.2 ว 1.3 ป 2/1 - ส่งิ ทีอ่ ย่รู อบตวั เรามีทง้ั ที่เป็นสง่ิ มชี วี ิตและ - สิง่ มีชีวติ และ

เปรยี บเทียบลักษณะของ ส่ิงไมม่ ีชวี ิต ส่งิ มีชวี ติ ตอ้ งการอาหาร มกี าร สิ่งไมม่ ีชีวติ ในท้องถ่นิ

ส่งิ มีชวี ติ และส่งิ ไม่มชี วี ิต จาก หายใจ เจรญิ เตบิ โต ขับถา่ ย เคลื่อนไหว บรเิ วณต่าง ๆ

ข้อมูลที่รวบรวมได้ ตอบสนองต่อสง่ิ เรา้ และสบื พันธ์ุไดล้ ูกทม่ี ี

ลกั ษณะคล้ายคลงึ กบั พอ่ แม่ สว่ นส่งิ ไม่มชี ีวิต

จะไม่มลี กั ษณะดงั กลา่ ว

สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบตั ิของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสมบตั ขิ องสสารกบั

โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาตขิ องการเปลีย่ นแปลงสถานะ
ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี

ชน้ั ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถ่ิน

ป.2 ว 2.1 ป 2/1 - วสั ดุแต่ละชนิดมีสมบัติการดูดซบั น้ำ -

เปรียบเทยี บสมบัติการดูดซบั น้ำ แตกต่างกนั จึงนำไปทำวตั ถุเพ่ือใช้

ของวสั ดุโดยใช้หลักฐานเชงิ ประโยชน์ได้แตกตา่ งกนั เชน่ ใชผ้ ้าท่ดี ูด

ประจักษ์ และระบกุ ารนำสมบัติ ซับน้ำได้มากทำผ้าเช็ดตวั ใชพ้ ลาสติก ซ่ึง

การดดู ซบั น้ำของวสั ดุไป ไม่ดดู ซบั น้ำทำร่ม

ประยุกต์ใช้ ในการทำวัตถุใน

ชวี ติ ประจำวนั

109

ช้ัน ตัวช้วี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถ่ิน

ว 2.1 ป 2/2 - วัสดุบางอยา่ งสามาถนำมาผสมกนั ซึง่ ทำ -

อธบิ ายสมบตั ิทสี่ งั เกตได้ของ ให้ไดส้ มบัติท่เี หมาะสมเพื่อนำไปใช้

วสั ดุทีเ่ กิดจากการนำวัสดมุ า ประโยชนต์ ามตอ้ งการ เช่น แป้งผสม

ผสมกนั โดยใชห้ ลักฐานเชิง น้ำตาลและน้ำกะทิ ใชท้ ำขนมไทย ปูน

ประจกั ษ์ ปลาสเตอรผ์ สมเยอ่ื กระดาษใช้ทำกระปุก

ออมสนิ ปูนผสมหิน ทราย และนำ้ ใชท้ ำ

คอนกรีต

ว 2.1 ป 2/3 - การนำวัสดมุ าทำเปน็ วตั ถุในการใช้งาน -

เปรยี บเทยี บสมบตั ทิ ส่ี ังเกตได้ ตามวัตถุประสงคข์ ึน้ อย่กู ับสมบตั ขิ องวสั ดุ

ของวัสดุ เพื่อนำมาทำเป็นวตั ถุ วสั ดุที่ใช้แล้วอาจนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น

ในการใช้งานตามวัตถปุ ระสงค์ กระดาษใชแ้ ลว้ อาจนำมาทำเป็นจรวด

และอธิบายการนำวสั ดุที่ใชแ้ ล้ว กระดาษ ดอกไม้ประดิษฐ์ ถงุ ใสข่ อง เป็น

กลับมาใชใ้ หมโ่ ดยใช้หลักฐาน ต้น

เชิงประจักษ์

ป.2 ว 2.1 ป 2/4 - - วัสดุในทอ้ งถน่ิ ท่ี

ตระหนกั ถึงประโยชน์ของการ สามารถนำมาใช้

นำวสั ดทุ ่ีใชแ้ ลว้ กลบั มาใช้ใหม่ ประโยชนไ์ ด้

โดยการนำวัสดทุ ใี่ ช้แลว้ กลบั มา

ใช้ใหม่

สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชวี ิตประจาวนั ผลของแรงทก่ี ระทำต่อวัตถุ ลักษณะการเคลอ่ื นท่ี

แบบต่าง ๆ ของวตั ถุ รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ชนั้ ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถิ่น

ป.2 ว 2.2 ป 2/1 - แมเ่ หลก็ มีแรงดึงดูดหรือผลักระหวา่ ง -

ทดลองและอธิบายแรงทเ่ี กิดจาก แท่งแม่เหล็ก รอบแท่งแม่เหล็กมี

แม่เหล็ก สนามแม่เหล็กและสามารถดึงดดู วัตถุท่ี

ทำดว้ ยสารแม่เหลก็

110

ว 2.2 ป 2/2 - แมเ่ หล็กมปี ระโยชนใ์ นการทำของ -
อธิบายการนำแมเ่ หลก็ มาใช้ เลน่ ของใช้ และนำไปแยกสาร -
ประโยชน์ แมเ่ หลก็ ออกจากวัตถุอื่นได้
ว 2.2 ป 2/3 - เม่ือถูวัตถุบางชนดิ แลว้ นำเข้าใกลก้ นั
ทดลองและอธิบายแรงไฟฟ้าที่ จะดึงดดู หรือผลกั กันได้ แรงท่ีเกิดขึ้นน้ี
เกิดจากการถวู ัตถบุ างชนิด เรียกว่าแรงไฟฟ้า และวัตถนุ ัน้ จะดึงดดู
วตั ถเุ บา ๆ ได้

สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปลยี่ นแปลงและการถา่ ยโอนพลังงาน ปฏิสมั พันธ์

ระหวา่ งสสารและพลงั งาน พลงั งานในชวี ิตประจำวนั ธรรมชาตขิ องคลนื่ ปรากฏการณ์ท่ี

เกยี่ วขอ้ งกบั เสยี ง แสง และคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทั้งนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์

ช้นั ตัวชี้วดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถิน่

ป.2 ว 2.3 ป 2/1 - แสงเคลื่อนทีจ่ ากแหลง่ กำเนิดแสงทกุ ทศิ ทาง -

บรรยายแนวการ เปน็ แนวตรง เม่อื มแี สงจากวัตถมุ าเข้าตาจะทำให้

เคลอื่ นท่ีของแสงจาก มองเหน็ วัตถุนนั้ การมองเห็นวัตถุทเี่ ปน็

แหลง่ กำเนดิ แสง และ แหล่งกำเนดิ แสง แสงจากวัตถุนั้นจะเข้าสู่ตา

อธิบายการมองเห็นวตั ถุ โดยตรงสว่ นการมองเห็นวตั ถุทไ่ี มใ่ ชแ่ หล่งกำเนดิ

จากหลักฐานเชิง แสงตอ้ งมแี สงจากแหล่งกำเนิดแสงไป

ประจกั ษ์

ว 2.3 ป 2/2 - กระทบวัตถแุ ลว้ สะทอ้ นเขา้ ตา ถา้ มีแสงทีส่ ว่าง -

ตระหนกั ในคณุ คา่ ของ มาก ๆ เขา้ สู่ตาอาจเกิดอันตรายต่อตาได้ จึงตอ้ ง

ความรู้ของการมองเห็น หลกี เลี่ยงการมองหรอื ใชแ้ ผ่นกรองแสงท่ีมี

โดยเสนอแนะแนว คณุ ภาพเม่อื จำเป็น และต้องจัดความสวา่ งให้

ทางการป้องกันอนั ตราย เหมาะสมกบั การทำกิจกรรมตา่ ง ๆ เช่น การ

จากการมองวตั ถุทอ่ี ยู่ใน อ่านหนังสอื การดจู อโทรทัศน์ การใชโ้ ทรศพั ท์

บรเิ วณท่ีมแี สงสว่าง ไม่ เคลื่อนทแี่ ละแทบ็ เลต

เหมาะสม

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ฒั นาการของเอกภพ กาแลก็ ซีดาวฤกษ์

และระบบสุริยะ รวมท้ังปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสรุ ยิ ะที่ส่งผลต่อส่ิงมีชีวติ และการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยอี วกาศ

111

ชัน้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถน่ิ

-- - -

สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจองค์ประกอบ และความสัมพนั ธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก

และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก
รวมท้ังผลต่อสง่ิ มีชวี ติ และสง่ิ แวดล้อม

ชนั้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถนิ่

ป.2 ว 2.3 ป 2/1 - ดนิ ประกอบด้วยเศษหิน ซากพชื - ลักษณะของดนิ จากแหล่ง

ระบุสว่ นประกอบของดนิ และ ซากสตั ว์ผสมอยูใ่ นเน้ือดิน มีอากาศ ตา่ ง ๆ

จำแนกชนดิ ของดินโดยใช้ และนำ้ แทรกอยู่ตามช่องว่าง ในเน้อื - ดนิ ในทอ้ งถนิ่ และการ

ลกั ษณะเน้อื ดินและการจบั ตวั ดนิ ดนิ จำแนกเปน็ ดนิ ร่วน ดิน นำไปใช้ประโยชน์

เป็นเกณฑ์ เหนยี ว และ ดนิ ทราย ตามลักษณะ - ชนดิ ของดินที่ใช้ในการ

ว 2.3 ป 2/2 เนือ้ ดินและการจับตวั ของดินซง่ึ มีผล เพาะปลูกพืชของชาวลาวเวยี ง

อธิบายการใชป้ ระโยชน์จากดิน ตอ่ การอุ้มนำ้ ทแี่ ตกตา่ งกัน

จากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ - ดนิ แตล่ ะชนดิ นำไปใชป้ ระโยชน์ได้

แตกตา่ งกนั ตามลักษณะและสมบตั ิ

ของดนิ

สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพอ่ื การดำรงชีวติ ในสงั คมทม่ี ีการเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว

ใชค้ วามร้แู ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อนื่ ๆ เพอ่ื แกป้ ญั หา หรือ
พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้
เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ สังคม และสง่ิ แวดล้อม

ชนั้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ

-- - -

สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจรงิ อยา่ งเปน็ ข้ันตอนและเปน็

ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้
อย่างมีประสทิ ธิภาพ ร้เู ทา่ ทัน และมจี ริยธรรม

112

ชนั้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถิ่น

ป.2 ว 4.2 ป 2/1 - การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหาทำไดโ้ ดยการ -

แสดงลำดบั ข้นั ตอนการทำงาน เขยี น บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์

หรือ การแกป้ ญั หาอย่างง่ายโดย - ปัญหาอยา่ งงา่ ย เช่น เกมตวั ต่อ

ใชภ้ าพ สญั ลกั ษณ์ หรือข้อความ 6-12 ช้ิน การแตง่ ตัวมาโรงเรียน

ว 4.2 ป 2/2 - ตวั อยา่ งโปรแกรม เช่น เขยี นโปรแกรมส่ังให้ -

เขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ ตัวละครทำงานตามทีต่ ้องการ และตรวจสอบ

ซอฟตแ์ วรห์ รอื สือ่ และตรวจหา ขอ้ ผิดพลาด ปรบั แก้ไขให้ไดผ้ ลลพั ธ์ตามท่ี

ขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม กำหนด

- การตรวจหาข้อผดิ พลาดทำไดโ้ ดยตรวจสอบ

คำสัง่ ท่แี จ้งขอ้ ผดิ พลาด หรอื หากผลลพั ธไ์ ม่

เปน็ ไปตามท่ตี ้องการให้ตรวจสอบการทำงานที

ละคำสงั่

ซอฟต์แวร์ หรือสือ่ ท่ีใช้ในการเขียนโปรแกรม

เช่น ใชบ้ ัตรคำสัง่ แสดงการเขียนโปรแกรม,

Code.org

ว 4.2 ป 2/3 - การใชง้ านซอฟตแ์ วร์เบอื้ งต้น เชน่ การเข้า -

ใช้เทคโนโลยใี นการสรา้ ง จัด และออกจากโปรแกรม การสร้างไฟล์ การ

หมวดหมู่ ค้นหา จดั เก็บ เรียกใช้ จดั เกบ็ การเรียกใช้ไฟล์ กรแกไ้ ขตกแต่งเอกสาร

ข้อมูลตามวตั ถปุ ระสงค์ ทำได้ ในโปรแกรม เช่น โปรแกรมประมวลคำ

โปรแกรมกราฟกิ โปรแกรมนำเสนอ

- การสร้าง คดั ลอก ยา้ ย ลบ เปลยี่ นชอ่ื จัด

หมวดหม่ไู ฟล์และโฟลเดอรอ์ ยา่ งเป็นระบบจะ

ทำให้เรียกใช้ ค้นหำข้อมลู ได้ง่ายและรวดเรว็

ป.2 ว 4.2 ป 2/4 - การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย -

ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ ง เชน่ รู้จกั ขอ้ มูลสว่ นตวั อันตรายจากการ

ปลอดภัย ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงใน เผยแพรข่ ้อมูลสว่ นตัว และไม่บอกข้อมูลสว่ นตัว

การใชค้ อมพวิ เตอรร์ ว่ มกัน ดูแล กับบคุ คลอ่ืนยกเว้นผู้ปกครอง หรอื ครู แจ้ง

รักษาอุปกรณเ์ บื้องต้น ใชง้ าน ผูเ้ กีย่ วข้องเมอ่ื ต้องการ ความช่วยเหลอื เก่ียวกบั

อย่างเหมาะสม การใชง้ าน

113

ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถิ่น

- ข้อปฏบิ ตั ิในการใชง้ านและการดูแลรักษา

อปุ กรณ์ เช่น ไม่ขีดเขยี นบนอุปกรณ์ ทำความ

สะอาด ใช้อปุ กรณ์อย่างถูกวิธี

- การใชง้ านอยา่ งเหมาะสม เชน่ จัดทา่ นั่งให้

ถูกต้อง การพักสายตาเมอ่ื ใช้อุปกรณ์เป็น

เวลานาน ระมดั ระวงั อบุ ตั ิเหตุจากการใชง้ าน

114

คำอธิบายรายวิชา

ว 12101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 80 ชั่วโมง

............................................................................................................................. .................................................

ศึกษา วิเคราะห์ ความต้องการแสงและน้ำเพื่อการเจริญเติบโตของพืช วัฏจักรชีวิตของพืชดอก
ลักษณะของส่ิงมีชีวติ และสิง่ ไม่มชี วี ิต สมบตั ิของวสั ดุ สมบัติที่สงั เกตได้ของวสั ดุที่เกดิ จากการนำวัสดุมาผสมกัน
และการนำสมบัติของวัสดุไปประยุกต์ใช้ในการทำวัตถุในชีวิตประจำวัน ประโยชน์ของการนำวัสดุที่ใช้แล้ว
กลับมาใช้ใหม่ การเคลื่อนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิดแสง การมองเห็นวัตถุ อันตรายจากการมองวัตถุที่อยู่ใน
บริเวณที่มีแสงสว่างไม่เหมาะสม โดยเสนอแนะแนวทางการป้องกันอนั ตราย สว่ นประกอบของดิน ชนิดของดิน
โดยใช้ลักษณะเน้ือดินและการจับตัวเปน็ เกณฑ์ การใช้ประโยชน์จากดินและชนิดของดินท่ีใช้ในการเพาะปลูก
พืชของชาวลาวเวียง โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจ ตรวจสอบ การ
สืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์ การอธิบาย อภิปราย และการสร้าง
แบบจำลอง เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสง่ิ ท่ีเรียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ
เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ
ค่านิยมที่เหมาะสม ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิต ภายใต้การแพร่ระบาด
ของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ
การเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ การใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา
จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูล การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั และดูแลรักษาอุปกรณ์เบื้องต้น ใช้งานงาน
อย่างเหมาะสม

รหสั ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ว 1.2 ป.2/1, ป.2/2 , ป.2/3
มาตรฐาน ว 1.3 ป.2/1
มาตรฐาน ว 2.1 ป.2/1, ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4
มาตรฐาน ว 2.3 ป.2/1 , ป.2/2
มาตรฐาน ว 3.2 ป.2/1 , ป.2/2
มาตรฐาน ว 4.2 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4

รวม 16 ตัวชว้ี ัด

115

โครงสรา้ งรายวชิ า

รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2
รหสั วชิ า ว12101 เวลา 80 ชว่ั โมง/ปี

ชอ่ื หนว่ ยการ มาตรฐาน/ เนื้อหา จำนวน นำ้ หนกั
เรียนรู้ ตัวชีว้ ดั (ช่ัวโมง) คะแนน
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ,การสืบเสาะหาความรทู้ าง
1. การเรียนรูส้ ง่ิ วทิ ยาศาสตร์ 15 10
ตา่ งๆ รอบตัว สมบตั ิการดดู ซับนำ้ ของวสั ดุ และการนำสมบตั กิ ารดูดซับน้ำของวสั ดุ 15 20
2. วัสดุและการ ว 2.1 ป2/1 ไปประยกุ ต์ใช้ในการทำวตั ถใุ นชวี ติ ประจำวนั สมบัติที่สงั เกตไดข้ อง
ใชป้ ระโยชน์ ว 2.1 ป2/2 วัสดทุ ี่เกดิ จากการนำวัสดุมาผสมกัน สมบัติทีส่ งั เกตได้ของวสั ดเุ พอ่ื 10 10
นำมาทำเปน็ วัตถใุ นการใชง้ าน และการนำวสั ดุทีใ่ ช้แลว้ กลับมาใช้ใหม่ 15 10
ว 2.1 ป2/3 ประโยชน์ของการนำวสั ดทุ ่ใี ชแ้ ล้วกลับมาใช้ใหม่
ว 2.1 ป2/4 ขน้ั ตอนการทำงานหรือการแกป้ ญั หาอย่างงา่ ยโดยใช้ภาพ สัญลกั ษณ์ 13 10
หรือข้อความ การเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวร์ หรอื ส่ือ
3. วทิ ยาการ ว 4.2 ป2/1 พชื ต้องการแสงและน้ำเพอ่ื การเจริญเตบิ โต ความจำเปน็ ที่พืชตอ้ ง 10 10
คำนวณ ว 4.2 ป2/2 ได้รบั นำ้ และแสงเพอ่ื การเจริญเตบิ โต วัฏจักรชวี ติ ของพืชดอก 78 70
4. แสงและ ลกั ษณะของส่งิ มีชีวติ และส่ิงไม่มชี วี ติ แสงและการเคลอื่ นทีข่ องแสง 1 15
สง่ิ มชี ีวิต ว 1.2 จากแหล่งกำเนดิ แสง การมองเหน็ วัตถแุ ละอนั ตรายจากการมองวตั ถุ 1 15
ป2/1 - ป2/3 ท่ีอย่ใู นบริเวณทมี่ ีแสงสว่างไม่เหมาะสม 80 100
5. ดินรอบตัว ว 1.3 ป2/1 สว่ นประกอบของดนิ และจำแนกชนดิ ของดินโดยใช้ลักษณะเนอื้ ดิน
เรา (บูรณาการ และการจบั ตวั เปน็ เกณฑ์ การใชป้ ระโยชนจ์ ากดนิ และชนดิ ของดินที่
หลกั สตู ร ว 2.3 ใช้ในการเพาะปลูกพืชของชาวลาวเวยี ง
ทอ้ งถ่นิ เรอ่ื ง ป2/1-ป2/2
ชนิดของดนิ ที่ ว 3.2 ป2/1 การใชเ้ ทคโนโลยีในการสร้าง จัดหมวดหมู่ คน้ หา จัดเกบ็ และเรียกใช้
ใช้ในการ ว 3.2 ป2/2 ขอ้ มูล การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั และดแู ลรกั ษา
เพาะปลูกพชื อุปกรณเ์ บือ้ งตน้
ของชาวลาว ว 4.2 ป2/3
เวียง) ว 4.2 ป/4 คะแนนระหว่างเรยี น
6. วิทยาการ คะแนนสอบกลางปี
คำนวณ คะแนนสอบปลายปี
รวมทงั้ ส้นิ ตลอดท้ังปี
คะแนนระหวา่ งเรยี น

คะแนนปลายภาค

116

ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 3
ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลางและสาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสิ่งไม่มีชวี ิตกับส่ิงมีชวี ติ และ

ความสมั พนั ธ์ระหว่างส่งิ มชี ีวติ กบั ส่ิงมีชีวิตตา่ ง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลงั งาน การ

เปล่ียนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีตอ่

ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม แนวทางในการอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการ

แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมรวมทั้งนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ชั้น ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น

-- --

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติของสิ่งมีชวี ติ หนว่ ยพ้นื ฐานของส่ิงมีชวี ิต การลำเลยี งสารผา่ นเซลล์ความสัมพันธ์

ของโครงสร้าง และหน้าท่ขี องระบบตา่ ง ๆ ของสัตวแ์ ละมนษุ ยท์ ที่ ำงานสมั พันธ์กัน ความสัมพันธข์ องโครงสร้าง

และหนา้ ทขี่ องอวัยวะตา่ ง ๆ ของพืชท่ีทางานสมั พันธ์กันรวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ชน้ั ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ

ป.3 ว 1.2 ป 3/1 - มนุษย์และสัตวต์ ้องการอาหาร นำ้ - การดำรงชีวติ และการ

บรรยายสงิ่ ท่ีจำเปน็ ต่อการ และอากาศ เพื่อการดำรงชีวิตและ เจริญเติบโตของส่งิ มชี ีวติ

ดำรงชวี ิต และการเจริญเตบิ โต การเจริญเตบิ โต ในทอ้ งถ่นิ

ของมนษุ ยแ์ ละสตั ว์ โดยใช้ขอ้ มูล

ท่รี วบรวมได้

ว 1.2 ป 3/2 - อาหารชว่ ยใหร้ ่างกายแข็งแรงและ - โภชนาการอาหารของ

ตระหนักถึงประโยชนข์ องอาหาร เจรญิ เติบโต น้ำชว่ ยใหร้ า่ งกาย ชาวลาวเวียง

น้ำ และอากาศ โดยการดูแล ทำงานได้อยา่ งปกติ อากาศใช้ ใน

ตนเองและสัตว์ให้ไดร้ ับ สง่ิ เหลา่ น้ี การหายใจ

อย่างเหมาะสม

ว 1.2 ป 3/3 - สตั วเ์ ม่อื เป็นตวั เตม็ วยั จะสืบพนั ธมุ์ ี -

สรา้ งแบบจำลองท่ีบรรยายวัฏ ลูก เมอื่ ลูกเจริญเตบิ โตเป็นตวั เตม็ วัย

จกั รชีวติ ของสัตว์ และ ก็สืบพันธม์ุ ลี กู ต่อไปได้อีกหมนุ เวียน

เปรียบเทียบวฏั จกั รชีวิตของสัตว์ ต่อเน่ืองเปน็ วฏั จกั รชวี ติ ของสัตว์ ซงึ่

บางชนิด สัตว์ แต่ละชนดิ เช่น ผเี สื้อ กบ ไก่

117

ช้นั ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ

ว 1.2 ป 3/4 ตระหนักถึงคุณค่า มนุษย์จะมีวัฏจักรชวี ติ ท่เี ฉพาะ และ -

ของชีวติ สัตว์ โดยไมท่ ำใหว้ ฏั จกั ร แตกตา่ งกัน

ชวี ติ ของสัตว์เปล่ยี นแปลง

สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม สารพันธุกรรม

การเปล่ียนแปลงทางพันธกุ รรมท่มี ีผลต่อส่ิงมีชวี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและ

ววิ ฒั นาการของสง่ิ มชี วี ติ รวมทัง้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ชัน้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถนิ่

-- --

สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสมบัติของสสารกบั

โครงสรา้ งและแรงยึดเหน่ยี วระหวา่ งอนภุ าค หลกั และธรรมชาตขิ องการเปลี่ยนแปลงสถานะ

ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี

ชน้ั ตัวชี้วดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการ
เรยี นรูท้ ้องถน่ิ

ป.3 ว 2.1 ป 3/1 - วตั ถอุ าจทำจากช้นิ สว่ นย่อย ๆ -

อธิบายว่าวัตถปุ ระกอบขนึ้ จากชนิ้ ซง่ึ แตล่ ะชน้ิ มลี กั ษณะเหมือนกนั มาประกอบเขา้

สว่ นยอ่ ย ๆ ซง่ึ สามารถแยกออก ด้วยกนั เมือ่ แยกชนิ้ ส่วนย่อย ๆ แต่ละชนิ้ ของ

จากกนั ไดแ้ ละประกอบกนั เป็นวตั ถุ วตั ถอุ อกจากกัน สามารถนำชน้ิ ส่วนเหลา่ น้นั มา

ชิน้ ใหม่ได้ โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประกอบเปน็ วตั ถุชิ้นใหม่ได้ เชน่ กำแพงบ้านมี

ประจกั ษ์ ก้อนอฐิ หลาย ๆ กอ้ น ประกอบเข้าดว้ ยกัน และ

สามารถนำก้อนอิฐจากำแพงบ้านมาประกอบเป็น

พื้นทางเดนิ ได้

ว 2.1 ป 3/2 - เม่ือให้ความร้อนหรือทำให้วัสดรุ อ้ นขึน้ และเมอื่ -

อธิบายการเปล่ยี นแปลงของวสั ดุ ลดความรอ้ นหรือทำให้วสั ดเุ ย็นลง วัสดจุ ะเกิด

เม่อื ทำให้รอ้ นขนึ้ หรือทำใหเ้ ย็นลง การเปลีย่ นแปลงได้ เช่น สเี ปล่ียน รูปรา่ งเปลย่ี น

โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์

ว 2.2 ป 3/1 - การดงึ หรอื การผลัก เปน็ การออกแรงกระทำ

ตอ่ วตั ถุ แรงมผี ลต่อการเคล่อื นทข่ี องวตั ถุ แรง

อาจทำใหว้ ัตถเุ กิดการเคลื่อนทโ่ี ดยเปลยี่ น

118

ระบุผลของแรงที่มีตอ่ การ ตำแหน่งจากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนง่ึ - - การ

เปล่ยี นแปลง การเคลื่อนท่ีของวตั ถุ เปล่ยี นแปลงการเคล่ือนท่ีของวัตถุ ไดแ้ ก่ วัตถุท่ี

จากหลักฐานเชิงประจักษ์ อยูน่ ่ิงเปลย่ี นเป็นเคล่ือนท่ี วตั ถทุ กี่ ำลังเคลอ่ื นที่

เปล่ยี นเป็นเคลื่อนทเ่ี ร็วขน้ึ หรือชำ้ ลงหรือหยดุ นิ่ง

หรอื เปล่ยี นทิศทางการเคลือ่ นท่ี

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทาต่อวัตถุ ลักษณะการเคลื่อนท่ี

แบบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมทัง้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ช้ัน ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการ
เรียนร้ทู ้องถน่ิ

ป.3 ว 2.2 ป 3/1 - การดงึ หรอื การผลกั เปน็ การออกแรงกระทำต่อวตั ถุ -

ระบุผลของแรงที่มีต่อการ แรงมผี ลต่อการเคล่ือนท่ขี องวัตถุ แรงอาจทำให้วตั ถุเกดิ

เปลยี่ นแปลง การเคลื่อนที่ การเคลอ่ื นทโี่ ดยเปลีย่ นตำแหนง่ จากทห่ี นึ่ง ไปยงั อีกที่

ของวัตถจุ ากหลกั ฐานเชงิ หน่ึง - - การเปลีย่ นแปลงการเคลื่อนที่ของวตั ถุ ไดแ้ ก่

ประจกั ษ์ วตั ถุที่อย่นู งิ่ เปลย่ี นเป็นเคลือ่ นที่ วัตถทุ ีก่ ำลงั เคลื่อนท่ี

เปลีย่ นเป็นเคล่ือนท่ีเรว็ ขึ้นหรือชำ้ ลงหรอื หยุดน่งิ หรือ

เปลีย่ นทศิ ทางการเคลื่อนท่ี

ว 2.2 ป 3/2 การดึงหรือการผลกั เปน็ การออกแรงที่เกิดจากวตั ถหุ น่ึง

เปรยี บเทียบและยกตวั อยา่ ง กระทำกับอีกวัตถหุ น่งึ โดยวัตถุทัง้ สองอาจสัมผสั หรือไม่

แรงสัมผสั และแรงไมส่ มั ผัสท่ี ต้องสมั ผัสกนั เช่น การออกแรงโดยใช้มือดึงหรือการ

มผี ลต่อการเคลือ่ นที่ของวตั ถุ ผลกั โตะ๊ ใหเ้ คลอ่ื นท่เี ปน็ การออกแรงที่วตั ถุต้องสัมผสั กนั

โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ แรงนี้จงึ เปน็ แรงสมั ผัส สว่ นการที่แมเ่ หล็กดึงดดู หรือ

ผลักระหวา่ งแม่เหล็กเป็นแรงที่เกดิ ข้นึ โดยแม่เหล็กไม่

จำเปน็ ต้องสัมผัสกัน แรงแมเ่ หลก็ นีจ้ งึ เป็นแรงไม่สัมผสั

ว 2.2 ป 3/3 - แมเ่ หล็กสามารถดึงดูดสารแมเ่ หล็กได้ -

จำแนกวตั ถุโดยใช้การดึงดูด - แรงแม่เหลก็ เป็นแรงที่เกิดขึ้นระหวา่ งแม่เหลก็ กับสาร

กบั แม่เหลก็ เป็นเกณฑ์จาก แม่เหล็ก หรือแมเ่ หล็กกบั แม่เหลก็ แมเ่ หลก็ มี 2 ขว้ั คือ

หลักฐานเชิงประจักษ์ ขัว้ เหนือและขัว้ ใต้ ข้ัวแมเ่ หล็กชนดิ เดยี วกันจะผลกั กัน

ว 2.2 ป 3/4 ตา่ งชนดิ กันจะดึงดดู กัน

ระบขุ ้ัวแม่เหล็กและ

พยากรณผ์ ลท่ีเกดิ ข้นึ ระหวา่ ง

ขว้ั แมเ่ หลก็ เม่ือนำมาเข้าใกล้

กนั จากหลักฐานเชิงประจักษ์

119

สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลงั งาน การเปล่ยี นแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏสิ มั พนั ธ์

ระหว่างสสารและพลังงาน พลงั งานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาตขิ องคล่นื ปรากฏการณ์ท่ี

เกีย่ วขอ้ งกับเสยี ง แสง และคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมท้งั นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์

ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถ่นิ

ป.3 ว 2.3 ป 3/1 - พลงั งานเป็นปรมิ าณท่แี สดงถงึ ความสามารถ ใน -

ยกตวั อย่างการเปลีย่ น การทำงาน พลังงานมีหลายแบบ เช่น พลงั งานกล

พลงั งานหนึ่งไปเป็นอีก พลังงานไฟฟา้ พลังงานแสง พลังงานเสยี ง และ

พลงั งานหน่ึงจากหลกั ฐาน พลงั งานความร้อน โดยพลังงานสามารถเปล่ยี น

เชงิ ประจักษ์ จากพลังงานหนึ่งไปเปน็ อกี พลังงานหนึง่ ได้ เชน่

การถูมือจนรูส้ ึกร้อน เป็นการเปล่ียนพลงั งานกล

เปน็ พลังงานความรอ้ น แผงเซลล์สุริยะเปล่ยี น

พลังงานแสง เปน็ พลังงานไฟฟา้ หรอื เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้า

เปลยี่ นพลงั งานไฟฟ้าเปน็ พลังงานอ่ืน

ว 2.3 ป 3/2 - ไฟฟา้ ผลิตจากเครื่องกำเนดิ ไฟฟ้าซ่งึ ใช้พลังงาน -

บรรยายการทำงานของ จากแหลง่ พลังงานธรรมชาติหลายแหล่ง เช่น

เครื่องกำเนิดไฟฟา้ และระบุ พลังงานจากลม พลังงานจากน้ำ พลงั งานจากแก๊ส

แหลง่ พลังงานในการผลติ ธรรมชำติ

ไฟฟา้ จากข้อมลู ที่รวบรวม

ได้

ว 2.3 ป 3/3 - พลงั งานไฟฟ้ามีความสำคัญต่อชวี ิตประจำวนั -

ตระหนกั ในประโยชนแ์ ละ การใชไ้ ฟฟ้านอกจากต้องใช้อย่างถกู วิธี ประหยัด

โทษของไฟฟ้า โดยนำเสนอ และคมุ้ คา่ แลว้ ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภยั ด้วย

วธิ กี ารใช้ไฟฟ้าอยา่ ง

ประหยัด และปลอดภัย

120

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแลก็ ซีดาวฤกษ์

และระบบสรุ ยิ ะ รวมทงั้ ปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสรุ ยิ ะท่สี ง่ ผลต่อส่ิงมีชีวติ และการ

ประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ

ชนั้ ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถิ่น

ป.3 ว 3.1 ป 3/1 - คนบนโลกมองเหน็ ดวงอาทิตย์ -

อธบิ ายแบบรูปเส้นทางการข้ึนและ ปรากฏข้นึ ทางด้านหน่งึ และตกทางอกี -
ตก ของดวงอาทติ ยโ์ ดยใชห้ ลกั ฐาน ดา้ นหนึ่งทุกวัน หมนุ เวียนเป็นแบบรูป

เชิงประจกั ษ์ ซ้ำ ๆ

- โลกกลมและหมนุ รอบตวั เองขณะ

ว 3.1 ป 3/2 โคจรรอบดวงอาทติ ย์ ทำให้บรเิ วณของ -
อธิบายสาเหตุการเกดิ ปรากฏการณ์ โลกได้รบั แสงอาทติ ย์ไม่พร้อมกนั โลก
การขึ้นและตกของดวงอาทติ ย์ การ ดา้ นที่ไดร้ ับแสงจากดวงอาทิตยจ์ ะเป็น
เกดิ กลางวนั กลางคนื และการ กลางวนั สว่ นดา้ นตรงข้ามที่ไม่ได้รับ
กำหนดทศิ โดยใชแ้ บบจำลอง แสงจะเป็นกลางคนื นอกจากนี้คนบน
ว 3.1 ป 3/3 โลกจะมองเหน็ ดวงอาทติ ยป์ รากฏขึ้น
ตระหนกั ถึงความสำคญั ของดวง ทางดา้ นหน่ึงซงึ่ กำหนดให้เปน็ ทิศ
อาทติ ย์ โดยบรรยายประโยชนข์ อง ตะวันออก และมองเหน็ ดวงอาทิตยต์ ก
ดวงอาทติ ย์ต่อสง่ิ มชี ีวติ ทางอีกด้านหนงึ่ ซึ่งกำหนดให้เป็นทิศ
ตะวันตก และเม่ือใหด้ ้านขวามืออยู่

ทางทิศตะวันออก ดา้ นซา้ ยมืออยู่ทาง

ทิศตะวันตก ด้านหนา้ จะเป็นทศิ เหนือ

และดา้ นหลังจะเปน็ ทศิ ใต้

- ในเวลากลางวนั โลกจะได้รบั พลังงาน

แสงและพลังงานความร้อนจากดวง

อาทติ ย์ ทำใหส้ ง่ิ มชี ีวิตดำรงชีวิตอยไู่ ด้

121

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ และความสมั พันธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลก

และบนผิวโลก ธรณีพิบตั ิภยั กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟา้ อากาศและภูมอิ ากาศโลก

รวมทัง้ ผลตอ่ ส่งิ มีชวี ิตและส่งิ แวดล้อม

ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถ่ิน

ป.3 ว 3.2 ป 3/1 - อากาศโดยทว่ั ไปไม่มีสี ไม่มีกล่นิ

ระบุส่วนประกอบของอากาศ ประกอบดว้ ย แก๊สไนโตรเจน แกส๊ - ข้อมลู ปัญหามลพษิ

บรรยายความสำคญั ของอากาศ ออกซิเจน แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ทางอากาศในชมุ ชน

และผลกระทบของมลพษิ ทาง แกส๊ อน่ื ๆ รวมท้งั ไอนำ้ และ ฝุ่น และแนวทาง

อากาศต่อส่ิงมีชวี ติ จากข้อมลู ที่ ละออง อากาศมคี วามสำคัญต่อ แก้ปัญหา

รวบรวมได้ สงิ่ มชี ีวติ หากสว่ นประกอบของ

ว 3.2 ป 3/2 อากาศไม่เหมาะสม เน่ืองจากมแี กส๊

ตระหนักถึงความสำคญั ของ บางชนิดหรือฝนุ่ ละอองในปริมาณ

อากาศ โดยนำเสนอแนวทางการ มาก อาจเป็นอนั ตรายตอ่ ส่ิงมีชวี ิต

ปฏิบตั ติ นในการลด การเกดิ ชนดิ ต่าง ๆ จัดเป็นมลพิษ ทาง

มลพษิ ทางอากาศ อากาศ

- แนวทางการปฏิบัติตนเพื่อลดการ

ปลอ่ ยมลพิษทางอากาศ เช่น ใช้

พาหนะร่วมกนั หรือเลอื กใช้

เทคโนโลยที ี่ลดมลพษิ ทางอากาศ

ว 3.2 ป 3/3 - ลม คืออากาศท่เี คล่ือนท่ี เกิดจาก - ทิศทางลมในเวลา

อธบิ ายการเกิดลมจากหลักฐาน ความแตกต่างกนั ของอุณหภูมิอากาศ ต่าง ๆ (เชา้ กลางวนั

เชงิ ประจักษ์ บรเิ วณท่ีอยู่ใกลก้ ัน โดยอากาศ ก่อนเลิกเรียน ใน

บริเวณที่มอี ุณหภูมิสูงจะลอยตัว บริเวณต่าง ๆ

สูงขึ้น และอากาศบริเวณที่มีอุณหภูมิ

ตำ่ กวา่ จะเคลือ่ นเข้าไปแทนท่ี

ว 3.2 ป 3/4 -ลมสามารถนำมาใชเ้ ปน็ แหล่ง -

บรรยายประโยชน์และโทษของ พลังงานทดแทน ในการผลติ ไฟฟ้า

ลม จากข้อมูลทีร่ วบรวมได้ และนำไปใชป้ ระโยชน์

122

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยเี พื่อการดารงชวี ิตในสังคมท่มี ีการเปลีย่ นแปลงอยา่ ง

รวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพ่ือ

แก้ปัญหา หรือพฒั นางานอย่างมคี วามคดิ สร้างสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม

เลอื กใชเ้ ทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อชีวติ สังคม และสิง่ แวดลอ้ ม

ช้ัน ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถน่ิ

-- - -

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาทพ่ี บในชีวติ จริงอยา่ งเป็นข้นั ตอนและเป็น

ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้

อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รเู้ ท่าทัน และมีจรยิ ธรรม

ช้นั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการ
เรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ

ป.3 ว 4.2 ป 3/1 - อัลกอรทิ ึมเป็นขน้ั ตอนที่ใชใ้ นการแกป้ ัญหา -

แสดงอัลกอรทิ มึ ในการ - การแสดงอัลกอริทึมทำได้โดยการเขยี น บอกเลา่ วาด

ทำงาน หรือ การ ภาพ หรือใชส้ ัญลักษณ์

แกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ยโดย - ตวั อยา่ งปญั หา เชน่ เกมเศรษฐี เกมบันไดงู เกม Tetris

ใช้ภาพ สัญลกั ษณ์ เกม OX การเดินไปโรงอาหาร การทำความสะอาด

หรือขอ้ ความ ห้องเรียน

ว 4.2 ป 3/2 - การเขียนโปรแกรมเปน็ การสร้างลำดบั ของคำสง่ั ให้ -

เขียนโปรแกรมอย่าง คอมพิวเตอร์ทำงาน

งา่ ย โดยใชซ้ อฟต์แวร์ - ตวั อยา่ งโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมทสี่ ่งั ให้ ตัวละคร

หรือสอ่ื และตรวจหา ทำงานซำ้ ไมส่ ิน้ สดุ

ข้อผิดพลาดของ - การตรวจหาข้อผดิ พลาดทำไดโ้ ดยตรวจสอบคำส่ังที่แจ้ง

โปรแกรม ขอ้ ผิดพลาด หรอื หากผลลพั ธ์ไมเ่ ป็นไปตามที่ตอ้ งการให้

ตรวจสอบการทำงำนทลี ะคำสั่ง

- ซอฟตแ์ วร์หรือสื่อท่ีใชใ้ นการเขียนโปรแกรม เชน่ ใช้

บัตรคำสัง่ แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org

ว 4.2 ป 3/3 ใช้ - อินเทอรเ์ นต็ เป็นเครือข่ายขนาดใหญช่ ว่ ยให้ การ -

อนิ เทอร์เน็ตค้นหา ตดิ ต่อส่ือสารทำไดส้ ะดวกและรวดเร็ว และ เปน็

ความรู้ แหลง่ ข้อมลู ความรู้ทช่ี ่วยในการเรยี น และการดำเนนิ ชีวิต

123

ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการ
เรยี นรู้ท้องถน่ิ

- เวบ็ เบราว์เซอร์เป็นโปรแกรมสำหรับอ่านเอกสารบน

เวบ็ เพจ

- การสบื คน้ ขอ้ มลู บนอินเทอร์เน็ตทำไดโ้ ดยใชเ้ วบ็ ไซต์

สำหรบั สืบคน้ และตอ้ งกำหนด

ป.3 ว 4.2 ป 3/4รวบรวม คำค้นท่ีเหมาะสมจงึ จะได้ข้อมูลตามต้องการ

ประมวลผล และ – ขอ้ มลู ความรู้ เช่น วธิ ีทำอาหาร วิธพี ับกระดาษ เปน็ รูป

นำเสนอข้อมลู โดยใช้ ต่าง ๆ ข้อมูลประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทย (อาจเปน็ ความรใู้ น

ซอฟต์แวร์ตาม วิชาอื่น ๆ หรือเรือ่ งทีเ่ ป็นประเด็นท่ีสนใจ ในชว่ งเวลา

วตั ถปุ ระสงค์ น้นั )

- การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั ควรอยู่ในการดแู ล

ของครู หรอื ผปู้ กครอง

- การรวบรวมข้อมลู ทำไดโ้ ดยกำหนดหัวข้อท่ตี ้องการ

เตรยี มอุปกรณ์ในการจดบนั ทึก

- การประมวลผลอยา่ งง่าย เช่น เปรียบเทยี บ จดั กลมุ่

เรยี งลำดับ

- การนำเสนอข้อมูลทำไดห้ ลายลกั ษณะตาม ความ

เหมาะสม เช่น การบอกเลา่ การทำเอกสารรายงาน การ

จดั ทำปา้ ยประกาศ

- การใชซ้ อฟต์แวร์ทำงานตามวตั ถุประสงค์ เชน่ ใช้

ซอฟต์แวรน์ ำเสนอหรือซอฟต์แวร์กรำฟกิ สรา้ งแผนภูมิ

รูปภาพ ใช้ซอฟตแ์ วรป์ ระมวลคำ ทำปา้ ยประกาศ หรือ

เอกสารรายงาน ใช้ซอฟตแ์ วร์ตารางทำงานในการ

ประมวลผลข้อมลู

ว 4.2 ป 3/5 - การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย เชน่

ใช้เทคโนโลยี ปกป้องขอ้ มูลส่วนตัว

สารสนเทศอย่าง - ขอความช่วยเหลอื จากครู หรอื ผ้ปู กครองเม่ือเกดิ ปญั หา

ปลอดภัย ปฏิบัติตาม จากการใชง้ าน เมื่อพบข้อมลู หรอื บุคคลท่ีทำให้ไมส่ บาย

ข้อตกลงในการใช้ ใจ

อนิ เทอร์เน็ต - การปฏิบัติตามข้อตกลงในการใชอ้ นิ เทอร์เน็ต จะทำให้

ไมเ่ กิดความเสยี หายต่อตนเองและผู้อืน่ เช่น ไม่ใช้คำ

หยาบ ล้อเลียน ด่ำทอ ทำใหผ้ ู้อ่ืนเสยี หาย หรือเสียใจ

124

คำอธิบายรายวิชา

ว 13101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3 กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 80 ชั่วโมง

............................................................................................................................. .................................................

ศึกษา วิเคราะห์ สิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การเจริญเติบโตของมนุษย์และสัตว์ ประโยชน์ของ
อาหาร น้ำ และอากาศ ตลอดจนโภชนาการอาหารของชาวลาวเวียง การดูแลตนเองและสัตว์อย่างเหมาะสม
วฏั จักรชีวิตของสตั ว์และคณุ คา่ ของสัตว์ สว่ นประกอบของวัตถุ การเปลี่ยนแปลงของวัสดุเมื่อทำให้ร้อนข้ึนหรือ
ทำให้เย็นลง แรงที่มีตอ่ การเปล่ียนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ แรงสมั ผัสและแรงไม่สัมผัส แรงกับการเคล่ือนท่ี
ของวัตถุ การดึงดูดระหว่างแม่เหล็กกับวัตถุ ขั้วแม่เหล็ก การเปลี่ยนพลังงาน การทำงานของเครื่องกำเนิด
ไฟฟ้า และแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้า ประโยชน์และโทษของไฟฟ้า วิธีการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและ
ปลอดภัย เส้นทางการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ การเกิดกลางวันกลางคืน การกำหนดทิศ ความสำคัญของ
ดวงอาทติ ยต์ อ่ สิ่งมชี วี ิต สว่ นประกอบของอากาศ ความสำคัญของอากาศ ผลกระทบของมลพษิ ทางอากาศต่อ
สิ่งมชี ีวิต การปฏบิ ตั ิตนในการลดมลพษิ ทางอากาศ การเกดิ ลม ประโยชนแ์ ละโทษของลม โดยใช้กระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจาก
หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ การอธิบาย อภิปราย และการสร้างแบบจำลอง เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ
สามารถสอื่ สารสิ่งทเ่ี รยี นรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ นำความร้ไู ปใช้ ในชีวติ ประจำวัน มีจิตวทิ ยาศาสตร์
จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม ปรับตัวใหเ้ ขา้ กับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชวี ติ
ภายใต้การแพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)

ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา แสดงอัลกอริทึมในการทำงาน แกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ย โดยใชภ้ าพ
สัญลักษณ์หรือข้อความ เขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสื่อ ตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข
ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตคน้ หาความรู้ รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ

รหัสตัวชี้วดั ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4
มาตรฐาน ว 1.2 ป.3/1 , ป.3/2
มาตรฐาน ว 2.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3, ป.3/4
มาตรฐาน ว 2.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3
มาตรฐาน ว 2.3 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3
มาตรฐาน ว 3.1 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3 , ป.3/4
มาตรฐาน ว 3.2 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3 , ป.3/4, ป3/5
มาตรฐาน ว 4.2

รวม 25 ตัวชี้วัด

125

โครงสร้างรายวชิ า

รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3
รหัสวิชา ว13101 เวลา 80 ชั่วโมง/ปี

ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ เนอ้ื หา จำนวน นำ้ หนกั
ตัวชวี้ ัด (ชั่วโมง) คะแนน
1. การเรยี นร้สู ง่ิ ต่าง ๆ ทักษะการจัดกระทำและส่ือความ ทกั ษะการ
รอบตวั หาความสัมพนั ธร์ ะหว่างสเปซกบั สเปซ 6 5
และสเปซกับเวลา และทกั ษะการสรา้ ง
2. อากาศและชีวิตของ ว 3.2 ป3/1-4 แบบจำลอง หลกั ฐานการกบั การสื่อสาร 15 10
สัตว์ (บูรณาการ ว 1.2 ป.3/1 วทิ ยาศาสตร์
หลกั สูตรทอ้ งถนิ่ เรอื่ ง ว 1.2 ป.3/2 ส่วนประกอบและความสำคัญของอากาศ 8 5
โภชนาการอาหารของ ว 1.2 ป.3/3 ผลกระทบของมลพษิ การเกิดลม ประโยชน์ 10 10
ชาวลาวเวียง) ว 1.2 ป.3/4 และโทษของลม ส่ิงท่ีจำเป็นต่อการดำรงชวี ติ 9 10
และการเจรญิ เตบิ โตของมนษุ ย์และสัตว์ 10 10
3. วัสดุรอบตวั ว 2.1 ป3/1 ประโยชนข์ องน้ำและอาหาร โภชนาการ
4. วิทยาการคำนวณ ว 2.1 ป3/2 อาหารของชาวลาวเวียง วฏั จกั รชวี ิตสัตว์ 10 10
ว 4.2 ป3/1-3 คุณค่าของสตั ว์ 10 10
สว่ นประกอบของวตั ถุ การเปล่ียนแปลงของ 78 70
5. ธรรมชาตขิ องแรง ว 2.2 ป3/1-4 วัสดุ 1 15
แสดงอัลกอริทึมในการทำงานแก้ปัญหา การ 1 15
6. พลงั งานและไฟฟา้ ว 2.3 ป3/1-3 เขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย การใช้อนิ เทอรเ์ น็ต 80 100
แรงที่มีตอ่ การเปลยี่ นแปลง การเคลอื่ นที่ของ
7. ปรากฏการณ์ ว 3.1 ป3/1-3 วัตถุ การดึงดูดกับแม่เหลก็ ขว้ั แม่เหล็ก
การเปลยี่ นแปลงพลังงาน เครอื่ งกำเนิดไฟฟา้
ธรรมชาติ แหล่งพลงั งานไฟฟา้ ประโยชน์และโทษของ
ไฟฟา้ วธิ กี ารใชไ้ ฟฟา้ อยา่ งประหยัด
8. วทิ ยาการคำนวณ ว 4.2 ป3/4 การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ การเกดิ กลา
วันกลางคนื การกำหนดทศิ
ว 4.2 ป3/5 -การใช้ซอฟตแ์ วร์นำเสนอข้อมูล
-การใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภัย
คะแนนระหว่างเรยี น
คะแนนระหวา่ งเรียน
คะแนนปลายภาค คะแนนสอบกลางปี
คะแนนสอบปลายปี
รวมทง้ั สนิ้ ตลอดปี

126

ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4
ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลางและสาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ

สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสิ่งไม่มีชีวติ กับสิ่งมชี ีวิตและ

ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ
เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการ
แก้ไขปัญหาสิ่งแวดลอ้ มรวมทั้งนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
ชน้ั ตัวชี้วดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่
-- - -

สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบตั ขิ องสง่ิ มีชวี ิต หน่วยพ้ืนฐานของส่งิ มชี ีวติ การลำเลยี งสารผ่านเซลล์ความสมั พนั ธ์

ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละมนุษย์ที่ทำงานสมั พนั ธ์กัน
ความสมั พันธข์ องโครงสร้าง และหนา้ ที่ของอวัยวะตา่ ง ๆ ของพืชท่ีทำงานสมั พันธ์กันรวมท้ัง
นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ช้ัน ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น

ป.4 ว 1.2 ป 4/1 - สว่ นต่าง ๆ ของพืชดอกทำหน้าท่ี - พืชทพ่ี บในบรเิ วณต่าง

บรรยายหนา้ ทีข่ องราก ลำตน้ ใบ แตกตา่ งกนั ๆ เช่น ใกลโ้ รงเรียน รมิ

และดอกของพืชดอกโดยใชข้ ้อมลู - รากทำหนา้ ที่ดูดน้ำและแรธ่ าตุขึ้น ทะเล ฯลฯ ไดแ้ ก่

ทรี่ วบรวมได้ ไปยังลำต้น - พชื ท่ีพบในชุมชนหรือ

- ลำต้นทำหน้าท่ลี ำเลยี งน้ำต่อไปยงั หมูบ่ า้ นของลาวเวียง

ส่วนตา่ ง ๆ ของพืช

- ใบทำหนา้ ที่สรา้ งอาหาร อาหารที่

พืชสรา้ งขึ้นคือน้ำตาลซงึ่ จะ

เปล่ยี นเปน็ แปง้

- ดอกทำหนา้ ทส่ี ืบพันธ์ปุ ระกอบดว้ ย

ส่วนประกอบต่าง ๆ ไดแ้ ก่ กลีบเล้ยี ง

กลบี ดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศ

เมีย ซง่ึ สว่ นประกอบแตล่ ะส่วนของ

ดอก ทำหน้าทแี่ ตกต่างกัน

127

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคัญของการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม สารพนั ธกุ รรม

การเปล่ยี นแปลงทางพนั ธกุ รรมทม่ี ผี ลตอ่ สง่ิ มชี วี ติ ความหลากหลายทางชวี ภาพและ

วิวัฒนาการของสิง่ มีชีวติ รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ชน้ั ตัวช้วี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถ่นิ

ป.4 ว 1.3 ป 4/1 - สิง่ มีชีวติ มหี ลายชนดิ สามารถ - สงิ่ มชี วี ิตทพี่ บ

จำแนกสิง่ มชี ีวิตโดยใช้ความเหมอื น จัดกลมุ่ ได้โดยใช้ ความเหมอื น บริเวณโรงเรียน

และ ความแตกตา่ งของลักษณะของ และความแตกตา่ งของลกั ษณะ ชุมชนโดยรอบ

สงิ่ มชี วี ิตออกเปน็ กลุ่มพืช กลุ่มสตั ว์ ตา่ ง ๆ เช่น กล่มุ พืชสรา้ งอาหาร และอื่น ๆ

และกลุม่ ท่ีไม่ใชพ่ ชื และสตั ว์ เองได้ และเคล่ือนทด่ี ว้ ยตนเอง - ส่ิงมีชีวิตที่พบใน

ไม่ได้ กลุม่ สตั วก์ ินสิ่งมชี วี ติ อนื่ เป็น ชุมชนหรอื

อาหารและเคลอ่ื นทไ่ี ด้ กล่มุ ที่ หมูบ่ ้านของลาว

ไมใ่ ชพ่ ืชและสัตว์ เช่น เห็ด รา เวยี ง

จุลนิ ทรยี ์

ว 1.3 ป 4/2 - การจำแนกพืช สามารถใช้การ - ขอ้ มูลพชื และ

จำแนกพชื ออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มี มีดอกเปน็ เกณฑ์ ในการจำแนก สตั ว์ ทพ่ี บใน

ดอก โดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดย ไดเ้ ป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอก บรเิ วณโรงเรยี น

ใช้ข้อมูล ท่ีรวบรวมได้ ชมุ ชนโดยรอบ

ว 1.3 ป 4/3 -การจำแนกสัตว์ สามารถใชก้ ารมี และอน่ื ๆ

จำแนกสัตว์ออกเปน็ สัตวม์ ีกระดกู สัน กระดูกสนั หลงั เป็นเกณฑ์ในการ - ขอ้ มูลพืชและ

หลงั และสตั ว์ไมม่ ีกระดูกสนั หลงั โดยใช้ จำแนก ได้เป็นสตั วม์ ีกระดกู สัน สัตว์ที่พบใน

การมีกระดกู สันหลังเป็นเกณฑ์ โดยใช้ หลงั และสัตวไ์ ม่มีกระดูกสันหลัง ชุมชนหรือ

ขอ้ มูลท่ีรวบรวมได้ - สตั ว์มกี ระดูกสันหลงั มีหลาย หม่บู ้านของลาว

ว 1.3 ป 4/4 กลุม่ ไดแ้ ก่ กลุ่มปลา กลุม่ สตั ว์ เวียง

บรรยายลักษณะเฉพาะทสี่ งั เกตไดข้ อง สะเทนิ นำ้ สะเทินบก กลุ่ม

สตั วม์ ีกระดูกสันหลงั ในกลุ่มปลา กลมุ่ สัตวเ์ ลื้อยคลาน กล่มุ นก และ

สตั วส์ ะเทนิ นำ้ สะเทินบก กลุม่ กลมุ่ สัตว์เลยี้ งลกู ดว้ ยน้ำนม ซึ่งแต่

สตั วเ์ ลอ้ื ยคลาน กลมุ่ นก และกลุ่มสตั ว์ ละกลมุ่ จะมลี กั ษณะเฉพาะที่

เลีย้ งลูกดว้ ยน้ำนม และยกตัวอย่าง สงั เกตได้

สิ่งมชี วี ิตในแตล่ ะกลุ่ม

128

สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบตั ิของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสมบตั ขิ องสสารกบั

โครงสร้างและแรงยึดเหนีย่ วระหว่างอนภุ าค หลกั และธรรมชาติของการเปลยี่ นแปลงสถานะ

ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี

ช้นั ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถน่ิ

ป.4 ว 2.1 ป 4/1 - วสั ดุแตล่ ะชนดิ มีสมบตั ทิ าง - วัสดุ/อปุ กรณ์

เปรียบเทยี บสมบัติทางกายภาพด้าน กายภาพแตกต่างกนั วสั ดุท่มี ีความ ต่าง ๆ

ความแขง็ สภาพยืดหย่นุ การนำความ แขง็ จะทนตอ่ แรงขูดขีด วัสดุท่ีมี

รอ้ น และการนำไฟฟ้าของวสั ดุโดยใช้ สภาพยืดหยนุ่ จะเปลีย่ นแปลง

หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษจ์ ากการทดลอง รูปร่างเมอ่ื มีแรงมากระทำและกลบั

และระบุการนำสมบัตเิ ร่ืองความแขง็ สภาพเดิมได้ วัสดทุ น่ี ำความร้อนจะ

สภาพยดื หยนุ่ การนำความร้อน และ ร้อนไดเ้ รว็ เม่ือไดร้ ับความร้อน และ

การนำไฟฟ้าของวัสดุไปใช้ใน วสั ดุทีน่ ำไฟฟ้าได้ จะให้

ชีวติ ประจำวัน ผ่านกระบวนกำรออก กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ ดังนั้นจึง

แบบช้นิ งาน อาจนำสมบัติตา่ ง ๆ มาพจิ ารณา

ว 2.1 ป 4/2 เพอื่ ใชใ้ นกระบวนการออกแบบ

แลกเปลย่ี นความคิดกับผู้อ่ืนโดยการ ชิน้ งานเพ่อื ใช้ประโยชน์ใน

อภปิ รายเกี่ยวกบั สมบัตทิ างกายภาพ ชีวิตประจำวนั

ของวสั ดอุ ย่างมีเหตุผลจากการทดลอง

ว 2.1 ป 4/3 - วัสดเุ ป็นสสารเพราะมมี วลและ -

เปรียบเทยี บสมบตั ิของสสารทงั้ 3 ตอ้ งการทอ่ี ยู่ สสารมสี ถานะเป็น

สถานะ จากขอ้ มูลท่ไี ด้จากการสังเกต ของแขง็ ของเหลว หรือแก๊ส

มวล การตอ้ งการที่อยู่ รูปรา่ งและ ของแขง็ มปี ริมาตรและรปู ร่างคงท่ี

ปรมิ าตรของสสาร ของเหลวมีปรมิ าตรคงที่ แตม่ ี

ว 2.1 ป 4/4 รปู รา่ งเปลยี่ นไปตามภาชนะเฉพาะ การวัดปรมิ าณ

ใช้เครือ่ งมือเพอื่ วดั มวล และปริมาตร ส่วนทบ่ี รรจขุ องเหลว ส่วนแกส๊ มี ของสารต่างๆ ที่

ของสสารทั้ง 3 สถานะ ปรมิ าตรและรูปร่างเปลีย่ นไปตาม ในชีวติ ประจำวนั

ภาชนะทบ่ี รรจุ

129

สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ติ ประจำวนั ผลของแรงทก่ี ระทำต่อวัตถุ ลักษณะการเคลอื่ นท่ี

แบบต่าง ๆ ของวตั ถุ รวมท้ังนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ชน้ั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถน่ิ

ป.4 ว 2.2 ป 4/1 - แรงโน้มถว่ งของโลกเปน็ แรงดงึ ดดู ที่ -

ระบผุ ลของแรงโน้มถว่ งท่ีมี โลกกระทำต่อวตั ถุ มีทิศทางเข้าสู่

ตอ่ วตั ถจุ ากหลักฐานเชิง ศนู ยก์ ลางโลก และเปน็ แรงไม่สมั ผสั แรง

ประจกั ษ์ ดงึ ดดู ท่โี ลกกระทำกบั วัตถุหน่ึง ๆ ทำให้

ว 2.2 ป 4/2 วัตถุตกลงสพู่ ้ืนโลก และทำให้วัตถุมี

ใช้เครอ่ื งช่ังสปริงในการวดั น้ำหนัก วดั นำ้ หนักของวัตถุไดจ้ ากเครื่อง

นำ้ หนกั ของวตั ถุ ชงั่ สปริง นำ้ หนกั ของวตั ถขุ ้ึนกับมวลของ

วตั ถุ โดยวตั ถุทม่ี ีมวลมากจะมีนำ้ หนัก

มาก วัตถทุ ี่มมี วลน้อยจะมนี ำ้ หนักนอ้ ย

ว 2.2 ป 4/3 - มวล คอื ปรมิ าณเน้ือของสารท้ังหมดที่ -

บรรยายมวลของวัตถุท่ีมี ประกอบกันเป็นวตั ถุ ซง่ึ มผี ลตอ่ ความ

ผลต่อการเปลี่ยนแปลง ยากง่ายในการเปลี่ยนแปลง

การเคลอ่ื นท่ขี องวตั ถจุ าก การเคล่อื นทขี่ องวัตถุ วัตถุทมี่ ีมวลมาก

หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ จะเปล่ียนแปลงการเคล่ือนท่ไี ดย้ ากกวา่

วัตถทุ มี่ ีมวลน้อย ดงั นน้ั มวลของวตั ถุ

นอกจากจะหมายถึงเนื้อทงั้ หมดของวตั ถุ

นน้ั แลว้ ยงั หมายถึงการต้านการ

เปล่ียนแปลง การเคลื่อนทขี่ องวัตถุนน้ั

ดว้ ย

130

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลยี่ นแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏสิ มั พันธ์

ระหว่างสสารและพลงั งาน พลังงานในชวี ิตประจำวัน ธรรมชาตขิ องคลน่ื ปรากฏการณ์
ทเ่ี กี่ยวข้องกบั เสียง แสง และคล่นื แมเ่ หล็กไฟฟา้ รวมทงั้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ชัน้ ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถิน่

ป.4 ว 2.3 ป 4/1 - เมอ่ื มองส่งิ ตา่ ง ๆ โดยมีวัตถุต่างชนดิ กันมา -

จำแนกวัตถเุ ปน็ ตัวกลาง กัน้ แสง จะทำให้ลกั ษณะการมองเหน็ สง่ิ น้ัน ๆ

โปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง ชัดเจนตา่ งกัน จึงจำแนกวัตถุท่ีมาก้ันออกเปน็

และวัตถุทึบแสง จากลกั ษณะ ตัวกลางโปร่งใส ซ่ึงทำให้มองเหน็ ส่งิ ตา่ ง ๆ ได้

การมองเหน็ สง่ิ ต่าง ๆ ผ่าน ชดั เจน ตวั กลางโปรง่ แสงทำให้มองเหน็ สิ่ง

วัตถนุ ัน้ เปน็ เกณฑ์โดยใช้ ต่าง ๆ ไดไ้ มช่ ดั เจน และ วัตถุทบึ แสงทำให้

หลักฐานเชงิ ประจักษ์ มองไมเ่ หน็ สงิ่ ตา่ ง ๆ น้ัน

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ
กาแลก็ ซดี าวฤกษ์และระบบสุริยะ รวมท้งั ปฏสิ มั พันธภ์ ายในระบบสุริยะที่ส่งผล
ตอ่ ส่ิงมชี ีวิตและการประยุกตใ์ ช้
เทคโนโลยอี วกาศ

ชัน้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถิน่

ป.4 ว 3.1 ป 4/1 - ดวงจันทรเ์ ป็นบริวารของโลก โดยดวงจนั ทร์ การสังเกตการขึ้น

อธบิ ายแบบรูปเส้นทางการขึ้น หมนุ รอบตัวเอง ตกของดวงจนั ทร์

และตก ของดวงจันทร์ โดยใช้ ขณะโคจรรอบโลก ขณะท่ีโลกกห็ มุน รอบตวั และการ

หลักฐานเชิงประจักษ์ เองดว้ ยเช่นกัน เปลยี่ นแปลง

การหมนุ รอบตัวเองของโลกจากทศิ ตะวันตก รปู รา่ งของดวง

ไปทิศตะวันออกใน จันทรใ์ นแต่ละวนั

ทิศทางทวนเข็มนาฬิกาเมื่อมองจากขว้ั โลก

เหนือ ทำให้มองเหน็

ดวงจนั ทรป์ รากฏขน้ึ ทางดา้ นทศิ ตะวันออก

และตกทางด้าน

ทิศตะวนั ตกหมุนเวียนเปน็ แบบรปู ซำ้ ๆ

131

ชัน้ ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถิน่

ว 3.1 ป 4/2 - ดวงจนั ทรเ์ ป็นวัตถทุ ่ีเปน็ ทรงกลม แต่รูปรา่ ง -

สร้างแบบจำลองทอ่ี ธิบาย ของดวงจนั ทร์ที่

แบบรปู การเปลีย่ นแปลง มองเห็นหรือรูปร่างปรากฏของดวงจนั ทร์บน

รูปรา่ งปรากฏของดวงจันทร์ ท้องฟา้ แตกตา่ งกันไป

และพยากรณร์ ปู รา่ งปรากฏ ในแต่ละวัน โดยในแต่ละวนั ดวงจันทร์จะมี

ของดวงจันทร์ รูปรา่ งปรากฏเปน็ เส้ยี ว

ท่ีมีขนาดเพิม่ ขึน้ อย่างต่อเนือ่ งจนเตม็ ดวง

จากน้นั รปู ร่างปรากฏ

ของดวงจนั ทรจ์ ะแหวง่ และมขี นาดลดลง

อยา่ งต่อเนอ่ื งจนมอง

ไมเ่ หน็ ดวงจนั ทร์ จากนนั้ รปู ร่างปรากฏของ

ดวงจันทรจ์ ะเป็น

เส้ยี วใหญข่ ้นึ จนเตม็ ดวงอีกคร้ัง การ

เปลี่ยนแปลงเชน่ นีเ้ ปน็ แบบรูปซ้ำกัน

ทุกเดือน

ว 3.1 ป 4/3 - ระบบสุริยะเปน็ ระบบทม่ี ดี วงอาทติ ย์เป็น -

สร้างแบบจำลองแสดง ศูนย์กลางและมีบริวารประกอบด้วย ดาว

องคป์ ระกอบของระบบสรุ ยิ ะ เคราะหแ์ ปดดวงและบริวาร ซ่ึงดาวเคราะห์

และอธบิ ายเปรียบเทยี บคาบ แตล่ ะดวงมีขนาดและระยะห่างจากดวง

การโคจรของดาวเคราะห์ต่าง อาทติ ยแ์ ตกต่างกัน และยงั ประกอบดว้ ย ดาว

ๆ จากแบบจำลอง เคราะหแ์ คระ ดาวเคราะหน์ ้อย ดาวหาง และ

วตั ถุขนาดเล็กอ่ืน ๆ โคจรอยู่รอบดวงอาทติ ย์

วัตถขุ นาดเล็กอ่ืน ๆ เม่ือเข้ามาในช้นั

บรรยากาศเน่ืองจากแรงโนม้ ถ่วงของโลก ทำ

ใหเ้ กิดเป็นดาวตกหรอื ผพี ุ่งไต้และอุกกาบาต

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสมั พนั ธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก

และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก

รวมท้ังผลต่อส่ิงมีชวี ติ และสิ่งแวดล้อม

ชัน้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น

-- --

132

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยเี พอื่ การดำรงชวี ิตในสังคมทม่ี ีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็ว

ใชค้ วามรู้และทักษะทางด้านวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อนื่ ๆ เพ่อื แก้ปญั หา หรือ
พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้
เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชวี ิต สงั คม และสิ่งแวดล้อม

ชัน้ ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น
-- - -

สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาท่พี บในชีวติ จรงิ อยา่ งเป็นขัน้ ตอนและเป็น

ระบบใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้
อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รู้เท่าทนั และมีจริยธรรม

ชัน้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถน่ิ

ป.4 ว 4.2 ป 4/1 - การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเปน็ การนำกฎเกณฑ์ หรือ -

ใช้เหตุผลเชิงตรรกะใน เงอ่ื นไขท่ีครอบคลมุ ทุกกรณีมาใชพ้ ิจารณาในการ

การแก้ปัญหา การ แกป้ ัญหา การอธิบายการทำงาน หรอื การ

อธิบายการทำงาน การ คาดการณ์ผลลพั ธ์

คาดการณผ์ ลลพั ธ์ จาก - สถานะเรมิ่ ต้นของการทำงานทแ่ี ตกตา่ งกนั จะให้

ปญั หาอย่างง่าย ผลลัพธท์ แี่ ตกต่างกัน

- ตวั อย่างปัญหา เช่น เกม OX, โปรแกรมท่ีมี การ

คำนวณ, โปรแกรมท่มี ตี ัวละครหลายตวั และ มีการ

ส่งั งานท่ีแตกตา่ ง หรือมกี ารส่ือสารระหว่างกัน,

การเดินทางไปโรงเรยี นโดยวิธกี ารตา่ ง ๆ

ป.4 ว 4.2 ป 4/2 - การออกแบบโปรแกรมอย่างงา่ ย เชน่ การ -

ออกแบบ และเขยี น ออกแบบโดยใช้ storyboard หรือการออกแบบ

โปรแกรมอย่างงา่ ย อัลกอริทมึ

โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรอื - การเขียนโปรแกรมเปน็ การสรา้ งลำดบั ของคำส่งั

ส่อื และตรวจหา ใหค้ อมพวิ เตอรท์ ำงาน เพ่อื ให้ไดผ้ ลลพั ธต์ าม ความ

ข้อผิดพลาดและแก้ไข ต้องการ หากมีขอ้ ผิดพลาดให้ตรวจสอบ การ

ทำงานทลี ะคำส่งั เม่ือพบจดุ ที่ทำใหผ้ ลลพั ธ์ ไม่

133

ชั้น ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถ่ิน

ถูกต้อง ใหท้ ำการแก้ไขจนกว่าจะไดผ้ ลลพั ธท์ ี่

ถกู ต้อง

- ตวั อยา่ งโปรแกรมที่มีเรอื่ งราว เช่น นทิ านทมี่ ี

การตอบโต้กับผ้ใู ช้ การ์ตนู สน้ั เล่ากิจวัตรประจำวนั

ภาพเคลื่อนไหว การฝึกตรวจหาขอ้ ผิดพลาดจาก

โปรแกรมของผอู้ ่นื จะช่วยพัฒนาทักษะการหาสำ

เหตขุ องปัญหาได้ดียงิ่ ขน้ึ

-ซอฟต์แวรท์ ใี่ ชใ้ นการเขียนโปรแกรม เช่น

Scratch, logo

ว 4.2 ป 4/3 - การใชค้ ำคน้ ทต่ี รงประเดน็ กระชับ จะทำให้ได้

ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ คน้ หา ผลลพั ธ์ทรี่ วดเร็วและตรงตามความต้องการ

ความรู้ และประเมนิ - การประเมินความนา่ เช่อื ถือของขอ้ มลู เชน่

ความนา่ เชอ่ื ถือของ พจิ ารณาประเภทของเว็บไซต์ ผเู้ ขยี น วันที่

ข้อมลู เผยแพรข่ ้อมลู การอ้างอิง

- เมอื่ ได้ข้อมูลท่ีต้องการจากเว็บไซตต์ ่าง ๆ จะตอ้ ง

นำเนอ้ื หามาพิจารณา เปรยี บเทยี บ แลว้ เลอื ก

ข้อมลู ท่ีมีความสอดคล้องและสัมพนั ธก์ นั

- การทำรายงานหรือการนำเสนอข้อมูลจะต้อง นำ

ขอ้ มูลมาเรียบเรียง สรปุ เป็นภาษาของตนเอง ที่

เหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมายและวิธกี ารนำเสนอ

(บูรณาการกับวชิ าภาษไทย)

ป.4 ว 4.2 ป 4/4 - การรวบรวมข้อมลู ทำได้โดยกำหนดหวั ขอ้ ท่ี

รวบรวม ประเมนิ ตอ้ งการ เตรียมอปุ กรณ์ในการจดบนั ทึก

นำเสนอข้อมูลและ - การประมวลผลอย่างง่าย เชน่ เปรยี บเทยี บ จดั

สารสนเทศ โดยใช้ กลมุ่ เรยี งลำดบั การหาผลรวม

ซอฟตแ์ วรท์ ่ี - วเิ คราะหผ์ ลและสร้างทางเลือกท่เี ปน็ ไปได้

หลากหลาย เพอ่ื ประเมนิ ทางเลอื ก (เปรยี บเทียบ ตัดสนิ )

แกป้ ญั หาใน - การนำเสนอข้อมูลทำได้หลายลกั ษณะตาม ความ

ชีวิตประจำวนั เหมาะสม เช่น การบอกเล่า เอกสารรายงาน

โปสเตอร์ โปรแกรมนำเสนอ

134

ชั้น ตัวชี้วดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้
ท้องถิ่น

- การใช้ซอฟต์แวร์เพ่ือแก้ปญั หาในชีวิตประจำวนั

เชน่ การสำรวจเมนอู าหารกลางวันโดยใช้

ซอฟต์แวร์สร้างแบบสอบถามและเกบ็ ข้อมูล ใช้

ซอฟตแ์ วรต์ ารางทำงานเพื่อประมวลผลขอ้ มลู

รวบรวมข้อมลู เก่ยี วกับคณุ คา่ ทางโภชนาการและ

สร้างรายการอาหารสำหรบั 5 วนั ใช้ซอฟตแ์ วร์

นำเสนอผลการสำรวจ รายการอาหารท่ีเป็น

ทางเลอื ก และข้อมลู ด้านโภชนาการ

ว 4.2 ป 4/5 - การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย เข้าใจ

ใชเ้ ทคโนโลยี สทิ ธแิ ละหนา้ ที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อืน่ เช่น

สารสนเทศอยา่ ง ไม่สร้างข้อความเท็จและส่งให้ผู้อืน่ ไมส่ รา้ ง ความ

ปลอดภัย เขา้ ใจสิทธิ เดือดร้อนตอ่ ผู้อืน่ โดยการส่งแสปม ขอ้ ความลูกโซ่

และหน้าทข่ี องตน ส่งตอ่ โพสตท์ ่ีมีข้อมลู สว่ นตัวของผ้อู ่ืน ส่งคำเชญิ

เคารพในสิทธขิ องผู้อน่ื เลน่ เกม ไมเ่ ข้าถึงข้อมูลส่วนตัวหรอื การบ้านของ

แจ้งผเู้ กยี่ วข้องเม่ือพบ บคุ คลอื่นโดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต ไม่ใชเ้ คร่ือง

ขอ้ มลู หรือบุคคลท่ีไม่ คอมพวิ เตอร/์ ช่ือบญั ชขี องผ้อู ่ืน

เหมาะสม - การสอ่ื สารอย่างมีมารยาทและรกู้ าลเทศะ

- การปกป้องข้อมลู สว่ นตัว เชน่ การออกจากระบบ

เมือ่ เลิกใชง้ าน ไม่บอกรหสั ผ่าน ไมบ่ อกเลข

ประจำตวั ประชำชน

135

คำอธบิ ายรายวิชา

ว 14101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 80 ชว่ั โมง

............................................................................................................................. ...............................................

ศึกษา วิเคราะห์ หน้าที่ของราก ลำต้น ใบ และดอกของพืชดอก ส่วนประกอบของพืชดอก ความ

แตกต่างชองลักษณะสิ่งมีชีวิตกลุ่มพืช กลุ่มสัตว์ และกลุ่มที่ไม่ใช่พืชและสัตว์ จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มี

ดอก จำแนกสัตว์ออกเปน็ สัตวม์ ีกระดูกสนั หลงั และสัตว์ไม่มีกระดูกสนั หลัง ลกั ษณะเฉพาะของสตั ว์มีกระดูกสันหลังใน

กล่มุ ปลา กลุ่มสัตวส์ ะเทนิ นำ้ สะเทนิ บก กลุ่มสัตวเ์ ลอ้ื ยคลาน กลมุ่ นก และกลมุ่ สตั วเ์ ลย้ี งลูกดว้ ยนม ตัวอย่างของสัตว์

ในแตล่ ะกล่มุ ข้อมลู ของพืชและสตั ว์ทพี่ บในชมุ ชนหรือหมู่บา้ นของลาวเวยี ง สมบัติทางกายภาพของวัสดุ การนำสมบตั ิ

ของวัสดุไปใช้ในชีวิตประจำวันสมบัติทางกายภาพของวัสดุ ด้านความแข็ง ความยืดหยุ่น การนำความร้อน การนำ

ไฟฟา้ สมบตั ิของสสาร มวล และปริมาตรของสสาร เครอ่ื งมือท่ีใชว้ ดั มวลและปริมาตรของสสาร ผลของแรงโน้มถ่วงที่

มีต่อวัตถุ การใช้เครื่องชั่งสปริง มวลของวัตถุกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ วัตถุที่เป็นตัวกลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง

วัตถุทึบแสง และลกั ษณะการมองเหน็ ผา่ นวัตถุ แบบรูปเส้นทางการข้นึ และตกของดวงจนั ทร์ การเปล่ยี นแปลงและการ

พยากรณ์รูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ องค์ประกอบของระบบสุริยะ และการโคจรของดาวเคราะห์ต่าง ๆ โดยใช้

กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล เปรียบเทียบข้อมูล

จากหลักฐานเชิงประจักษ์ การอธิบาย อภิปราย และการสร้างแบบจำลอง เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ

สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ มี

จรยิ ธรรม คุณธรรมและค่านิยมท่เี หมาะสม ปรบั ตัวให้เขา้ กบั สถานการณ์ตา่ ง ๆ ทีก่ า้ วเข้ามามบี ทบาทในชีวิต ภายใต้

การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)

ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหา การทำงาน การคาดการณผ์ ลลพั ธจ์ ากปญั หาอย่างงา่ ย การออกแบบ

การอธบิ าย และเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวร์ หรือสอ่ื และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดและแก้ไขใชอ้ นิ เทอร์เน็ต

ค้นหาความรู้ รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาใน

ชวี ิตประจำวัน ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสทิ ธขิ องผู้อ่นื

รหัสตัวชวี้ ดั ป.4/1
มาตรฐาน ว 1.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4
มาตรฐาน ว 1.3 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4
มาตรฐาน ว 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
มาตรฐาน ว 2.2 ป.4/1
มาตรฐาน ว 2.3 ป.4/1 , ป.4/2, ป.4/3
มาตรฐาน ว 3.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5
มาตรฐาน ว 4.2

รวม 21 ตัวชี้วดั

136

โครงสรา้ งรายวชิ า

รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4
รหัสวชิ า ว14101 เวลา 80 ช่วั โมง/ปี

ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ เนอื้ หา จำนวน นำ้ หนกั
ตวั ชี้วดั (ชวั่ โมง) คะแนน
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
1. การเรียนรู้สง่ิ ต่างๆ 10 5
-หน้าทข่ี องราก ลำตน้ ใบ และดอกของพชื ดอก 15 10
รอบตวั ความเหมือนและความตา่ งของส่ิงมีชีวติ พชื ดอก
พชื ไมม่ ดี อก สัตวม์ กี ระดูก สัตวไ์ ม่มกี ระดูก สตั วม์ ี 15 10
2. ส่งิ มีชวี ติ (บรู ณา ว.1.2 ป.4/1 กระดกู สนั หลัง ขอ้ มูลของพชื และสัตว์ทพ่ี บใน
ชุมชนหรอื หมู่บา้ นของลาวเวียง 5 5
การหลักสูตรท้องถ่ิน ว.1.3 ป.4/1-4
แรงโนม้ ถว่ ง เครื่องช่ังสปริง ผลการเปล่ยี นแปลง 19 20
เรื่องขอ้ มลู ของพชื การเคลือ่ นทขี่ องวตั ถุ
-ตัวกลางโปรง่ ใส ตัวกลางโปรง่ แสง วัตถทุ บึ แสง 9 15
และสัตวท์ พ่ี บใน -ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย
-การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หาและการ 5 5
ชุมชนหรอื หมบู่ ้าน ทำงาน ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด
สมบัติทางกายภาพของวสั ดุ การนำวสั ดไุ ปใช้ใน 78 70
ของลาวเวยี ง) ชีวิตประจำวนั สถานะของสาร การใชเ้ ครือ่ งมือวดั 1 15
มวล ปริมาตร 1 15
3. แรงและพลงั งาน ว.2.2 ป.4/1-3 การข้ึนและการตกของดวงจันทร์ การเปล่ยี นแปลง 80 100
รปู ร่างของดวงจนั ทร์ พยากรณร์ ูปร่างปรากฏของ
ว.2.3 ป.4/1 ดวงจนั ทร์ ระบบสรุ ิยะ
4. วทิ ยาการคำนวณ ว 4.2 ป4/1, การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ในการหาข้อมลู นำเสนอขอ้ มูล
โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ ใชเ้ ทคโนโลยีอย่างปลอดภัย สิทธิ
ว 4.2 ป4/2, หนา้ ทข่ี องตน และผู้อื่น

4. วัสดแุ ละสาร ว.2.1 ป.4/1-4 คะแนนระหว่างเรยี น
คะแนนสอบกลางปี
6. โลกและอวกาศ ว 3.1 ป4/1-3 คะแนนสอบปลายปี
รวมทงั้ สิ้นตลอดท้งั ปี
7. วิทยาการคำนวณ ว 4.2 ป4/3-5

คะแนนระหว่างเรยี น
คะแนนปลายภาค

137

ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5
ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลางและสาระการเรียนรูท้ ้องถนิ่

สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่ิงไม่มชี วี ิตกบั ส่งิ มีชวี ิตและ

ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ
เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการ
แกไ้ ขปญั หาสิ่งแวดล้อมรวมทง้ั นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์

ชน้ั ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถ่ิน

ป.5 ว 1.1 ป 5/1 - สง่ิ มชี วี ติ ทัง้ พืชและสัตวม์ โี ครงสรา้ ง -

บรรยายโครงสร้างและลกั ษณะ และลกั ษณะ ท่ีเหมาะสมในแต่ละ

ของสงิ่ มีชีวิตท่เี หมาะสมกบั การ แหลง่ ทอ่ี ยู่ ซึ่งเป็นผลมาจาก การ

ดำรงชวี ติ ซงึ่ เปน็ ผลมาจากการ ปรบั ตัวของส่ิงมีชวี ติ เพื่อใหด้ ำรงชีวติ

ปรับตวั ของสิ่งมีชีวิตในแต่ละ และอยู่รอดไดใ้ นแต่ละแหล่งทอี่ ยู่ เช่น

แหล่งทอี่ ยู่ ผักตบชวามชี ่องอากาศในก้านใบ ชว่ ย

ใหล้ อยนำ้ ได้ ต้นโกงกางทีข่ น้ึ อย่ใู น ปา่

ชายเลนมีรากค้ำจนุ ทำให้ลำต้นไม่ลม้

ปลามคี รีบชว่ ยในการเคลื่อนท่ีในน้ำ

ว 1.1 ป 5/2 - ในแหล่งทอ่ี ยู่หน่งึ ๆ สง่ิ มีชีวิตจะมี - สิง่ มีชวี ติ ที่พบใน

อธิบายความสัมพันธร์ ะหวา่ ง ความสมั พนั ธ์ ซึง่ กันและกันและ โรงเรยี น และ

สงิ่ มชี วี ิตกบั สง่ิ มชี ีวิต และ สมั พันธก์ ับสงิ่ ไม่มชี ีวติ เพ่ือประโยชน์ บรเิ วณต่าง ๆ เช่น

ความสมั พันธร์ ะหว่างสิง่ มีชีวิตกับ ตอ่ การดำรงชวี ิต เช่น ความสมั พนั ธ์กัน ป่าชายเลน เป็นตน้

ว 1.1 ป 5/3 ด้านการกินกนั เป็นอาหาร เป็นแหล่งท่ี

เขียนโซอ่ าหารและระบบุ ทบาท อยู่อาศัย หลบภัยและเล้ียงดลู ูกอ่อน

หนา้ ทข่ี องสง่ิ มีชวี ิตทเ่ี ปน็ ผูผ้ ลติ ใช้อากาศในการหายใจ

และผบู้ รโิ ภคในโซ่อาหาร - สง่ิ มีชีวติ มีการกนิ กนั เปน็ อาหารโดย

ว 1.1 ป 5/4 กนิ ต่อกัน เป็นทอด ๆ ในรปู แบบของ

ตระหนักในคุณค่าของสิ่งแวดลอ้ ม โซอ่ าหารทำให้สามารถระบบุ ทบาท

ท่ีมตี อ่ การดำรงชวี ติ ของสิง่ มีชีวิต หนา้ ทขี่ องสิ่งมชี วี ิตเปน็ ผผู้ ลติ และ

โดยมีส่วนร่วม ในการดูแลรักษา ผู้บริโภค

สงิ่ แวดล้อม

138

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัตขิ องส่งิ มชี ีวิต หน่วยพน้ื ฐานของสิ่งมชี ีวติ การลำเลียงสารผ่านเซลล์

ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบตา่ ง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ทีท่ ำงาน

สมั พันธ์กนั ความสมั พันธข์ องโครงสรา้ ง และหน้าทีข่ องอวัยวะต่าง ๆ ของพืชทท่ี ำงาน

สัมพันธ์กนั รวมท้งั นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

ชัน้ ตวั ชี้วดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถ่นิ

-- --

สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพนั ธุกรรม

การเปลีย่ นแปลงทางพนั ธกุ รรมท่มี ีผลตอ่ สิง่ มีชีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพและ
วิวฒั นาการของสิง่ มชี วี ิต รวมท้งั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ชนั้ ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้
ท้องถนิ่

ป.5 ว 1.2 ป 5/1 - ส่ิงมีชวี ิตทัง้ พชื สัตว์ และมนษุ ย์ เม่ือโตเตม็ ท่ีจะมี ศึกษาลักษณะ

อธบิ ายลักษณะทาง การสบื พนั ธุเ์ พื่อเพ่มิ จำนวนและดำรงพันธุ์ โดยลูกที่ การถา่ ยทอด

พันธกุ รรมท่ีมกี าร เกดิ มาจะได้รบั การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม ทางพันธุกรรม

ถา่ ยทอดจากพ่อแมส่ ูล่ กู จากพ่อแม่ทำใหม้ ลี ักษณะทางพันธกุ รรมท่ีเฉพาะ ของตนเองและ

ของพชื สัตว์ และมนุษย์ แตกตา่ งจากสิ่งมชี วี ติ ชนิดอ่นื ครอบครัว

ว 1.2 ป 5/2 - พชื มกี ารถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม เชน่

แสดงความอยากรู้อยาก ลกั ษณะของใบ สีดอก

เหน็ โดยการถามคำถาม - สตั วม์ กี ารถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม เช่น สี

เก่ยี วกับลักษณะที่ ขน ลักษณะของขน ลักษณะของหู

คลา้ ยคลึงกนั ของตนเอง - มนษุ ย์มีการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม เช่น

กบั พ่อแม่ เชงิ ผมท่ีหนา้ ผาก ลักยิม้ ลักษณะหนังตำ การห่อ

ลิ้น ลกั ษณะของตง่ิ หู

139

สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัตขิ องสสารกบั

โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาตขิ องการเปลี่ยนแปลงสถานะ

ของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี

ช้ัน ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถนิ่

ป.5 ว 2.1 ป 5/1 - การเปล่ียนสถานะของสสารเป็นการ -

อธิบายการเปล่ยี นสถานะของ เปล่ียนแปลงทางกายภาพ เมื่อเพ่ิมความร้อน

สสาร เมือ่ ทำให้สสารรอ้ นข้นึ ให้กับสสารถึงระดับหนึง่ จะทำใหส้ สารทเี่ ป็น

หรือเยน็ ลง โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ของแขง็ เปลีย่ นสถานะเปน็ ของเหลว เรียกว่า

ประจักษ์ การหลอมเหลว และเมื่อเพ่มิ ความร้อนต่อไป

จนถงึ อีกระดับหน่ึงของเหลวจะเปล่ยี นเป็นแก๊ส

เรียกวา่ การกลายเป็นไอ แตเ่ มอื่ ลดความร้อนลง

ถึงระดับหนง่ึ แก๊สจะเปลย่ี นสถานะเปน็ ของเหลว

เรียกวา่ การควบแนน่ และถ้าลดความรอ้ นต่อไป

อกี จนถึงระดับหนึ่งของเหลวจะเปลย่ี นสถานะ

เปน็ ของแขง็ เรียกว่า การแข็งตัว สสารบางชนดิ

สามารถเปลย่ี นสถานะจากของแข็งเปน็ แก๊สโดย

ไม่ผ่านการเปน็ ของเหลว เรียกวา่ การระเหิด

สว่ นแกส๊ บางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะเป็น

ของแข็งโดยไม่ผา่ น การเปน็ ของเหลว เรียกว่า

การะเหดิ กลบั

ป.5 ว 2.1 ป 5/2 - เมอ่ื ใสส่ ารลงในนำ้ แล้วสารนั้นรวมเป็นเน้อื -

อธบิ ายการละลายของสารในนำ้ เดยี วกันกับนำ้ ทัว่ ทุกส่วน แสดงวา่ สารเกดิ การ

โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ละลาย เรียกสารผสมทไ่ี ดว้ า่ สารละลาย

ว 2.1 ป 5/3 - เม่อื ผสมสาร 2 ชนิดขน้ึ ไปแลว้ มสี ารใหม่เกดิ ขึ้น

วเิ คราะหก์ ารเปลี่ยนแปลงของ ซ่งึ มสี มบัติจากสารเดิม หรอื เมื่อสารชนิดเดยี ว

เมือ่ เกดิ การเปลีย่ นแปลงทาง เกิดการเปลีย่ นแปลงแล้วมสี ารใหม่เกดิ ขึน้ การ

เคมี โดยใช้หลกั ฐานเชิง เปลี่ยนแปลงนเ้ี รยี กวา่ การเปลยี่ นแปลงทางเคมี

ประจักษ์ ซึง่ สังเกตได้จากมสี ี หรอื กลิ่นตา่ งจากสารเดิม

หรอื มีฟองแกส๊ หรอื มีตะกอนเกิดข้นึ หรือมกี าร

เพ่มิ ข้ึนหรือลดลงของอณุ หภูมิ

140

ชั้น ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถิ่น

ว 2.1 ป 5/4 เมือ่ สารเกิดการเปลีย่ นแปลงแล้ว สามารถเปล่ยี น

วิเคราะห์และระบุการ กลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงท่ีผัน

เปล่ยี นแปลงทผ่ี ันกลบั ได้และ กลบั ได้ เชน่ การหลอมเหลว การกลายเปน็ ไอ

การเปล่ยี นแปลงทผ่ี นั กลับไม่ได้ การละลาย แต่สารบางอย่างเกิดการเปลีย่ นแปลง

แล้วไมส่ ามารถเปลย่ี นกลบั เป็นสารเดมิ ได้ เปน็

การเปลย่ี นแปลงท่ผี นั กลบั ไม่ได้ เช่น การเผาไหม้

การเกิดสนิม

สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวิตประจำวนั ผลของแรงทก่ี ระทำต่อวตั ถุ ลกั ษณะการเคลื่อนท่ี

แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ชนั้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่

ป.5 ว 2.2 ป 5/1 - แรงลัพธ์เป็นผลรวมของแรงท่กี ระทำ

อธบิ ายวิธกี ารหาแรงลพั ธข์ อง ต่อวตั ถุ โดยแรงลพั ธ์ของแรง 2 แรงท่ี

แรงหลายแรงในแนวเดยี วกนั ที่ กระทำต่อวัตถุเดียวกันจะมีขนาดเทา่ กบั

กระทำต่อวัตถุในกรณีทีว่ ตั ถุอยู่ ผลรวมของแรงทงั้ สองเมอ่ื แรงทง้ั สอง อยู่

นง่ิ จากหลักฐานเชิงประจักษ์ ในแนวเดยี วกันและมที ศิ ทางเดียวกนั แต่

ว 2.2 ป 5/2 จะมขี นาดเทา่ กบั ผลต่างของแรงทงั้ สอง

เขียนแผนภาพแสดงแรงที่ เมอ่ื แรงทั้งสอง อยใู่ นแนวเดยี วกันแตม่ ี

กระทำตอ่ วัตถุท่ีอยู่ในแนว ทศิ ทางตรงขา้ มกนั สำหรบั วัตถทุ ีอ่ ยนู่ ่ิง

เดียวกนั และแรงลัพธท์ กี่ ระทำ แรงลพั ธ์ท่ีกระทำต่อวตั ถุมคี า่ เป็นศนู ย์

ตอ่ วัตถุ - การเขยี นแผนภาพของแรงท่ีกระทำต่อ

ว 2.2 ป 5/3 วตั ถสุ ามารถเขยี นได้โดยใช้ลูกศร โดยหวั

ใชเ้ คร่ืองช่งั สปรงิ ในการวดั แรงที่ ลกู ศรแสดงทิศทางของแรง และความ

กระทำตอ่ วตั ถุ ยาวของลกู ศรแสดงขนาดของแรงท่ี

กระทำต่อวัตถุ

ว 2.2 ป 5/4 - แรงเสยี ดทานเป็นแรงท่ีเกิดขึ้นระหวา่ ง

ระบผุ ลของแรงเสียดทานท่มี ีต่อ ผวิ สัมผัสของวตั ถุ เพ่ือต้านการเคล่อื นที่

การเปล่ียนแปลงการเคลอื่ นท่ี ของวตั ถุน้ัน โดยถ้าออกแรงกระทำต่อ

141

ของวตั ถจุ ากหลักฐานเชิง วตั ถทุ ีอ่ ยู่น่ิงบนพน้ื ผวิ หนึ่งให้เคลอื่ นที่
ประจกั ษ์ แรงเสียดทานจากพืน้ ผิวนน้ั ก็จะตา้ นการ
เคล่ือนท่ีของวตั ถุ แต่ถ้าวัตถุกำลงั
ว 2.2 ป 5/5 เคลอ่ื นที่ แรงเสียดทานกจ็ ะทำให้วัตถนุ ้ัน
เขยี นแผนภาพแสดงแรงเสยี ด เคลือ่ นทช่ี า้ ลง หรอื หยดุ น่ิง
ทานและแรง ท่ีอยู่ในแนว
เดียวกนั ท่ีกระทำต่อวตั ถุ

สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลีย่ นแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏสิ ัมพนั ธ์

ระหวา่ งสสารและพลงั งาน พลงั งานในชีวติ ประจำวนั ธรรมชาตขิ องคลนื่ ปรากฏการณ์ท่ี
เกย่ี วข้องกบั เสียง แสง และคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทั้งนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์

ช้นั ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้
ทอ้ งถิ่น

ป.5 ว 2.3 ป 5/1 - การไดย้ นิ เสยี งนนั้ ต้องอาศัยตัวกลาง -

อธิบายการได้ยินเสียงผ่านตัวกลาง โดยอาจเปน็ ของแข็ง ของเหลว หรอื

จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ อากาศ เสยี งจะส่งผ่านตวั กลางมายงั หู

ว 2.3 ป 5/2 - เสียงทีไ่ ด้ยนิ มีระดับสูงตำ่ ของเสียง -

ระบุตัวแปร ทดลองและอธบิ าย ต่างกนั ขึน้ กบั ความถ่ีของการสน่ั ของ

ลักษณะและการเกิดเสยี งสงู เสียงต่ำ แหลง่ กำเนดิ เสียง โดยเมื่อแหลง่ กำเนดิ

ว 2.3 ป 5/3 เสยี งสั่นด้วยความถี่ต่ำจะเกิดเสยี งตำ่ แต่

ออกแบบกำรทดลองและอธิบาย ถา้ สน่ั ดว้ ยความถ่สี ูงจะเกดิ เสียงสูง สว่ น

ลกั ษณะและการเกิดเสยี งดงั เสยี ง เสียงดงั ค่อยที่ไดย้ ินข้นึ กบั พลังงานการ

คอ่ ย สนั่ ของแหลง่ กำเนิดเสียง โดยเม่อื

ว 2.3 ป 5/4 แหล่งกำเนดิ เสยี งสัน่ พลังงานมากจะเกิด

วดั ระดบั เสียงโดยใชเ้ คร่อื งมอื วดั เสยี งดงั แต่ถา้ แหลง่ กำเนดิ เสียงสั่นดว้ ย

ระดบั เสียง พลังงานน้อยจะเกิดเสยี งค่อย

ว 2.3 ป 5/5 - เสียงดงั มาก ๆ เปน็ อันตรายต่อการได้

ตระหนกั ในคุณค่าของความร้เู ร่ือง ยนิ และเสยี งท่ีกอ่ ให้เกิดความรำคาญเป็น

ระดับเสียงโดยเสนอแนะแนวทางใน มลพษิ ทางเสยี ง เดซเิ บลเป็นหนว่ ยท่ี

การหลีกเลีย่ งและลดมลพิษทางเสยี ง บอกถงึ ความดังของเสียง

142

ว 3.2 ป 5/2 - นำ้ จดื ท่ีมนุษย์นำมาใชไ้ ดม้ ีปรมิ าณน้อย แหลง่ นำ้ ในชมุ ชน
ตระหนักถึงคุณคา่ ของนำ้ โดย มาก จึงควรใช้น้ำอย่างประหยดั และ
นำเสนอแนวทาง การใชน้ ้ำอย่าง ร่วมกันอนุรักษ์น้ำ
ประหยัดและการอนรุ ักษ์น้ำ
ว 3.2 ป 5/3 - วฏั จกั รน้ำ เป็นการหมุนเวียนของน้ำท่ี
สร้างแบบจำลองทอ่ี ธบิ ายการ มแี บบรูป ซำ้ เดมิ และต่อเนือ่ งระหว่าง
หมนุ เวยี นของน้ำในวัฏจักรนำ้ น้ำในบรรยากาศ น้ำผวิ ดนิ และน้ำใตด้ ิน
โดยพฤตกิ รรมการดำรงชีวิตของพชื และ
สัตว์ส่งผลต่อวฏั จกั รน้ำ

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์

และระบบสรุ ิยะ รวมทัง้ ปฏิสมั พันธภ์ ายในระบบสรุ ิยะทส่ี ่งผลตอ่ สิ่งมชี ีวติ และการประยุกตใ์ ช้
เทคโนโลยีอวกาศ

ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถิ่น

ป.5 ว 3.1 ป 5/1 - ดาวท่ีมองเหน็ บนท้องฟา้ อยู่ในอวกาศซง่ึ -

เปรียบเทียบความแตกต่าง เปน็ บรเิ วณท่ีอยนู่ อกบรรยากาศของโลกมี

ของดาวเคราะหแ์ ละดาว ทง้ั ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์ ดาวฤกษเ์ ปน็

ฤกษ์จากแบบจำลอง แหล่งกำเนิดแสงจึงสามารถมองเห็นได้ สว่ น

ดาวเคราะห์ ไมใ่ ช่แหลง่ กำเนิดแสง แต่

สามารถมองเหน็ ไดเ้ น่อื งจากแสงจากดวง

อาทิตย์ตกกระทบดาวเคราะห์แล้วสะทอ้ น

เขา้ สู่ตา

ว 3.1 ป 5/2 - การมองเห็นกลมุ่ ดาวฤกษม์ ีรปู รา่ งต่าง ๆ -

ใชแ้ ผนท่ีดาวระบุตำแหน่ง เกิดจากจนิ ตนาการของผสู้ งั เกต กลมุ่ ดาว

และเสน้ ทาง การขน้ึ และ ฤกษ์ต่าง ๆ ท่ีปรากฏในท้องฟ้าแต่ละกลุ่มมี

ตกของกลุ่มดาวฤกษ์บน ดาวฤกษแ์ ต่ละดวงเรียงกนั ท่ตี ำแหน่งคงท่ี

ทอ้ งฟา้ และอธิบายแบบ และมีเส้นทางการขึ้นและตกตามเส้นทาง

รูปเส้นทางการขึ้นและตก เดมิ ทกุ คนื ซ่ึงจะปรากฏตำแหน่งเดมิ การ

สังเกตตำแหนง่ และการข้นึ และตกของดาว

143

ชน้ั ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้
ท้องถิ่น
ของกลุ่มดาวฤกษ์บน ฤกษ์และกลุ่มดาวฤกษ์สามารถทำไดโ้ ดยใช้
ทอ้ งฟา้ ในรอบปี แผนท่ดี าว ซึง่ ระบุมมุ ทิศและมุมเงยที่กลมุ่
ดาวนั้นปรากฏ ผสู้ งั เกตสามารถใชม้ อื ในการ
ประมาณคา่ ของมมุ เงยเม่ือสงั เกตดาวใน
ท้องฟ้า

สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจองค์ประกอบ และความสมั พนั ธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก

และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก

รวมทั้งผลตอ่ สิ่งมชี วี ิตและสงิ่ แวดลอ้ ม

ชั้น ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้
ทอ้ งถน่ิ

ป.5 ว 3.2 ป 5/1 - โลกมีท้ังน้ำจดื และน้ำเค็มซ่ึงอยูใ่ น - แหล่งน้ำต่าง ๆ ใน

เปรียบเทียบปรมิ าณนำ้ ในแต่ละ แหลง่ นำ้ ตา่ ง ๆ ทมี่ ีทง้ั แหลง่ น้ำผวิ ทอ้ งถ่ิน/จังหวดั

แหลง่ และระบุปริมาณน้ำทมี่ นุษย์ ดิน เชน่ ทะเล มหาสมุทร บึง แม่นำ้ - ขอ้ มูลแหล่งนำ้ ใน

สามารถนำมาใชป้ ระโยชน์ได้ จาก และแหลง่ นำ้ ใต้ดนิ เช่น น้ำในดิน ท้องถ่นิ ในจังหวดั

ข้อมูลท่รี วบรวมได้ และนำ้ บาดาล น้ำทั้งหมดของโลก และจงั หวัดใกลเ้ คยี ง

แบ่งเปน็ นำ้ เค็มประมาณ - ข้อมูลแหล่งน้ำใน

ร้อยละ 97.5 ซ่งึ อยใู่ นมหาสมุทร ชุมชนของชาวลาว

และแหล่งน้ำอน่ื ๆ และที่เหลืออีก เวยี ง

ประมาณร้อยละ 2.5 เปน็ น้ำจืด ถำ้

เรยี งลำดบั ปริมาณน้ำจดื จากมากไป

นอ้ ยจะอยู่ท่ี ธารนำ้ แข็งและพืด

น้ำแข็ง น้ำใต้ดิน ชั้นดินเยือกแขง็ คง

ตัวและนำ้ แข็งใต้ดนิ ทะเลสาบ

ความชน้ื ในดนิ ความช้นื ใน

บรรยากาศ บงึ แม่นำ้ และนำ้ ใน

สิ่งมชี ีวติ

144

ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้
ท้องถ่นิ

ป.5 ว 3.2 ป 5/2 - น้ำจืดท่มี นษุ ยน์ ำมาใช้ได้มีปรมิ าณ แนวทางการอนรุ กั ษ์

ตระหนกั ถึงคณุ คา่ ของนำ้ โดย นอ้ ยมาก จงึ ควรใชน้ ้ำอยา่ งประหยดั ทดี่ ำเนนิ ใน

นำเสนอแนวทาง การใช้น้ำอย่าง และร่วมกันอนุรักษน์ ำ้ ชวี ิตประจำวนั

ประหยัดและการอนุรกั ษ์น้ำ

ว 3.2 ป 5/3 - วฏั จกั รนำ้ เป็นการหมุนเวยี นของ

สรา้ งแบบจำลองท่ีอธบิ ายการ น้ำท่มี แี บบรปู ซำ้ เดมิ และตอ่ เนือ่ ง

หมนุ เวยี น ของน้ำในวัฏจักรน้ำ ระหว่างนำ้ ในบรรยากาศ นำ้ ผิวดนิ

และน้ำใต้ดิน โดยพฤติกรรมการ

ดำรงชวี ติ ของพืชและสัตวส์ ง่ ผล

ต่อวัฏจกั รน้ำ

ว 3.2 ป 5/4 - ไอนำ้ ในอากาศจะควบแนน่ เปน็ เปรยี บเทียบการเกดิ

เปรยี บเทยี บกระบวนการเกิดเมฆ ละอองนำ้ เล็ก ๆ โดยมลี ะอองลอย เมฆ หมอก น้ำค้าง ที่

หมอก นำ้ ค้าง และน้ำค้างแขง็ เชน่ เกลอื ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ เกิดขึ้นใน

จากแบบจำลอง เปน็ อนภุ าคแกนกลาง เมือ่ ละอองน้ำ ชวี ิตประจำวัน

จำนวนมากเกาะกลุ่มรวมกันลอยอยู่

สงู จากพืน้ ดนิ มาก เรยี กว่า เมฆ แต่

ละอองน้ำท่ีเกาะกล่มุ รวมกนั อยู่ใกล้

พนื้ ดนิ เรยี กว่า หมอก สว่ นไอนำ้ ที่

ควบแน่นเปน็ ละอองน้ำเกาะอยบู่ น

พืน้ ผิววตั ถุใกล้พ้นื ดนิ เรียกว่า

นำ้ คา้ ง ถ้ำอณุ หภมู ิ ใกล้พืน้ ดินต่ำ

กว่าจดุ เยอื กแขง็ นำ้ คา้ งก็จะ

กลายเป็นนำ้ ค้างแขง็

ว 3.2 ป 5/5 เปรยี บเทียบ - ฝน หิมะ ลกู เห็บ เปน็ หยาดนำ้ ฟ้า

กระบวนการเกดิ ฝน หิมะ และ ซงึ่ เป็นนำ้ ทีม่ สี ถานะต่าง ๆ ที่ตกจาก

ลกู เหบ็ จากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้ ฟา้ ถงึ พืน้ ดิน ฝน เกิดจากละอองน้ำ

ในเมฆท่รี วมตัวกันจนอากาศไม่

สามารถ

145


Click to View FlipBook Version