ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 143
การดำเนินงานสุขาภบิ าลอาหารและน้ำ
บทนำ
แผนยุทธศาสตร์ชาติด้านสาธารณสุขระยะ 20 ปี กำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินงานอาหารปลอดภัย
ได้แก่ ด้านการพัฒนากฎหมาย/มาตรฐาน ให้ทดั เทียมในระดับสากลด้านความเขม้ แข็งในการกำกบั ดูแลให้อาหาร
ปลอดภัยอย่างครบวงจร ตั้งแต่การควบคุมการนำเข้าการผลิต การจำหน่ายและการขนส่ง ด้านการพัฒนา
ศกั ยภาพผบู้ ริโภค ด้านการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการค้าอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารในตลาดและภาคี
เครือขา่ ยให้เข้ามามสี ่วนร่วมในการตรวจประเมินมาตรฐานรา้ นอาหาร แผงลอยจำหน่ายอาหาร ทำให้ร้านอาหาร
แผงลอยจำหนา่ ยอาหาร และตลาดปลอดภัยมากขึน้
จังหวัดราชบุรี ในปี 2562 พบว่าร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารได้มาตรฐานอาหารสะอาด
รสชาติอร่อย ร้อยละ 80.90 ตลาดสด น่าซื้อ ร้อยละ 90 และตลาดนัด น่าซื้อ 23.76 ร้านอาหารและแผงลอย
จำหน่ายอาหารยังมีการใช้โฟมบรรจุอาหาร ในส่วนสุขภาพของประชาชนพบว่า อัตราป่วยจากโรคที่เกิดจาก
อาหารและน้ำเป็นสือ่ อันดับ 1 ได้แก่ โรคอุจาระร่วง อัตราป่วย 676.52 คนแสนประชากร และอันดับที่ 6 โรค
อาหารเป็นพิษอัตราป่วย 46.97 คน ต่อแสนประชากร เนื่องมาจากการมีพฤติกรรมของผู้ประกอบการและ
ผู้บรโิ ภคทีไ่ ม่ถูกตอ้ ง ประกอบกับในชว่ งเดอื นกุมภาพนั ธ์ถงึ เดือนมนี าคม 2563 มกี ารระบาดของโรคติดเช้ือไวรัส
โคโรนา 2019 (COVID-19) ชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารและผู้ประกอบการค้าอาหารทั้งหลาย ได้ให้ความ
รว่ มมอื และมมี าตรการป้องกันโรค (COVID-19) ในการจำหน่ายอาหารแบบ New Normal
วตั ถปุ ระสงคใ์ นการดำเนนิ งาน
1. เพอื่ สง่ เสริมการพฒั นาสถานประกอบการดา้ นอาหารให้ได้มาตรฐาน
2. เพื่อพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายอาหารปลอดภัย ให้สามารถตรวจสอบและเฝ้าระวังความปลอดภัย
ของอาหารในร้านอาหาร/ตลาดได้
3. เพือ่ รณรงค์/ส่งเสริมผูป้ ระกอบการค้าอาหารและประชาชนเลิกใช้โฟมบรรจอุ าหาร
4. เพอื่ ส่งเสรมิ การท่องเทยี่ ว และปอ้ งกนั โรคทเี่ กิดจากอาหารและนำ้ เปน็ สอื่
เป้าหมายในการดำเนนิ งาน
1. ประชมุ พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่/ภาคเี ครือขา่ ย จำนวน 100 คน
2. รา้ นอาหารและแผงลอยจำหนา่ ยอาหารได้มาตรฐานอาหารสะอาด รสชาติอร่อย รอ้ ยละ 81
3. ตลาดสด ผ่านเกณฑ์ตลาดสด นา่ ซอื้ ร้อยละ 90 ตลาดนัดผา่ นเกณฑ์ตลาดนัด นา่ ซ้ือ รอ้ ยละ 30
4. ตรวจเฝา้ ระวงั ความสะอาดทางแบคทเี รยี ปลอดภัยจากการปนเป้ือน รอ้ ยละ 80
5. อาหารริมบาทวถิ ี (Street Food Good Health) ต้นแบบ จำนวน 1 แห่ง
วิธกี ารดำเนนิ งาน
1. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจัดประชุมพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่สาธารณสุข /องค์กรปกครองส่วน
ท้องถน่ิ /ภาคเี ครือขา่ ยอาหารปลอดภัย
2. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสนับสนุนเอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่
ปลอดภัยให้แก่ผู้รับผิดชอบงานสุขาภิบาลอาหารในสำนักงานสาธารณสขุ อำเภอ โรงพยาบาล ท้องถิ่น และชมรม
ผ้ปู ระกอบการคา้ อาหารในจงั หวดั ราชบรุ ี
3. จดั กิจกรรมรณรงค์สัญลกั ษณ์อาหารปลอดภยั และ No Foam แกผ่ ปู้ ระกอบการคา้ อาหาร ประชาชน
และนกั ทอ่ งเทยี่ ว
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนอนำมัยส่ิ งแวดล้อมและอำชีวอนำมัย
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 144
4. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร่วมกับหน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่ตรวจเฝ้าระวังความสะอาด
ทางแบคทีเรีย ด้วยน้ำยาตรวจสอบความสะอาดทางแบคทีเรีย SI-2 ในร้านอาหาร แผงลอยจำหน่ายอาหาร
และในตลาด
5. รณรงค์ล้างตลาดสดและตลาดนัดเพือ่ ฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
6. ตรวจประเมินรา้ นอาหาร/แผงลอยจำหน่ายอาหารตามเกณฑ์มาตรฐานอาหารสะอาด รสชาติอร่อย
พรอ้ มมอบป้ายรับรองมาตรฐานอาหารสะอาด รสชาตอิ ร่อย (Clean Food Good Taste)
7. การขับเคลื่อนการจัดบริการอาหารริมบาทวิถี (Street Food Good Health) ต้นแบบ จำนวน 1
แห่งส่งกรมอนามัยเพอื่ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์
ผลการดำเนนิ งาน
1. ร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารตามเกณฑ์มาตรฐานอาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean
Food Good Taste) รอ้ ยละ 81.56
2. ตลาดสด น่าซอ้ื ร้อยละ 90 และตลาดนัด น่าซอ้ื ร้อยละ 29.7
3. การเฝา้ ระวังความสะอาดทางแบคทเี รยี ปลอดภัยจากการปนเป้ือน รอ้ ยละ 89.62
4. อาหารริมบาทวิถี (Street Food Good Health) ต้นแบบ จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ กาดวิถีชุมชนคูบวั
ตำบลคูบัว อำเภอเมือง จงั หวัดราชบุรี
5. การประชุมพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายอาหารปลอดภัย ไม่ได้จัดประชุม เนื่องจากสถานการณ์
การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ปญั หาอปุ สรรค/ขอ้ เสนอแนะ/แกไ้ ข
การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารขาดความมั่นใจ
ในการพัฒนาร้านบางรายหันไปจำหน่ายโดยใชจ้ ัดส่งแบบ Delivery เจ้าหน้าที่ต้องมีการปรับรูปแบบการควบคุม
มาตรฐานและความปลอดภยั ของอาหารให้เขา้ กับสถานการณ์ท่ีเกดิ ขึ้น
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนอนำมัยส่ิ งแวดล้อมและอำชีวอนำมัย
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 145
การดูแล เฝา้ ระวังป้องกนั ควบคุมโรคและภัย
สขุ ภาพจากมลพิษส่ิงแวดล้อม
ประเดน็ ท่ี 1 การเฝา้ ระวงั สขุ ภาพประชาชนที่ไดร้ ับการปนเปื้อน
โลหะหนักในส่งิ แวดลอ้ ม
บทนำ
จังหวัดราชบุรีได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรีดำเนินการตรวจหาโลหะหนัก
ในร่างกายของประชาชน หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำพุ อำเภอเมืองราชบรุ ี กรณีได้รับผลกระทบทางสขุ ภาพ เนื่องจากมี
การปนเปื้อนสารเคมีในแหล่งน้ำสาธารณะและแหล่งน้ำบาดาลของประชาชนจากการป ระกอบกิจการโรงงาน
ของบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ดังนั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี จึงร่วมกับ
สำนักงานปอ้ งกนั ควบคุมโรคท่ี 5 จงั หวดั ราชบุรี โรงพยาบาลราชบรุ ี สำนกั งานสาธารณสุขอำเภอเมืองราชบุรี
โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตำบลน้ำพุ และองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำพุ ดำเนินการสำรวจสภาวะสิ่งแวดลอ้ ม
และสุขภาพของประชาชน หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำพุทั้งหมด จำนวน 1,001 คน และคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยง
โดยดูร่วมกับผลการตรวจวิเคราะห์คณุ ภาพน้ำของกรมควบคุมมลพิษ ที่เก็บตัวอย่างน้ำในแหลง่ สาธารณะและ
บ่อบาดาลของประชาชนพบมีการปนเปื้อนโลหะหนัก 4 ชนิด ได้แก่ ตะกั่ว แมงกานีส นิกเกิล และสารหนู
ซึ่งจากการตรวจคัดกรองประชาชนในปี 2562 พบว่ามีประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ต้องตรวจหาโลหะหนัก จำนวน
ทง้ั สิ้น 100 คน
วัตถปุ ระสงคใ์ นการดำเนนิ งาน
เพ่อื ใหป้ ระชาชนกลุ่มเสยี่ งทต่ี รวจพบโลหะหนัก ไดร้ ับการดูแลและเฝา้ ระวังสุขภาพอย่างต่อเนอื่ ง
เปา้ หมายในการดำเนนิ งาน
ประชาชนกล่มุ เสีย่ งท่ีตรวจพบโลหะหนัก จำนวน 100 คน
วธิ กี ารดำเนนิ งาน
1. ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนติดตาม เฝ้าระวัง สภาวะสุขภาพประชาชน กรณีได้รับผลกระทบ
จากการประกอบกิจการโรงงานของบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด เพื่อกำหนดแนวทางการ
ตรวจโลหะหนกั ประชาชนกลมุ่ เสีย่ ง
2. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องตรวจหาโลหะหนัก
ในร่างกายของประชาชนกลุ่มเสี่ยง หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำพุ อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ส่งวิเคราะห์ศูนย์
อา้ งอิงทางห้องปฏิบัติการและพษิ วิทยา กองโรคจากการประกอบอาชีพและสง่ิ แวดลอ้ ม กรมควบคุมโรค
3. ออกหน่วยเคลื่อนที่ โดยแพทย์จากโรงพยาบาลราชบุรีแจ้งผลการตรวจโลหะพร้อมให้คำแนะนำ
ในการดแู ลสขุ ภาพของประชาชน
4. มอบให้ รพ.สต.น้ำพุ ดูแลเฝ้าระวังด้านสุขภาพของประชาชนหมู่ที่ 1 ตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง
ราชบุรี เบื้องต้นอย่างต่อเนื่อง หากมีอาการสงสัยว่าอาจเกิดจากโรคจากสารเคมีให้ส่งต่อไปยังคลินิกโรคจาก
การประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลราชบุรีพร้อมมอบป้ายรับรองมาตรฐานอาหารสะอาด รสชาติ
อร่อย (Clean Food Good Taste)
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนอนำมัยส่ิ งแวดล้อมและอำชีวอนำมัย
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 146
ผลการดำเนินงาน
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรรี ่วมกับหนว่ ยงานสาธารณสุขที่เกีย่ วข้อง ได้แก่ สำนักงานป้องกัน
ควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี โรงพยาบาลราชบุรี สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองราชบุรี และโรงพยาบาล
สง่ เสริมสขุ ภาพตำบลน้ำพุ ดำเนินการตรวจเฝา้ ระวังสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยงมาอย่างต่อเนื่อง โดยตรวจหา
โลหะหนัก ในรา่ งกายของประชาชนกลุ่มเส่ยี ง หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำพุ อำเภอเมอื ง จำนวน 100 คน ต้งั แต่ ปี 2562
ผลดังน้ี
ปี 2562 ประชาชนกลมุ่ เส่ยี ง 99 คน พบว่า
- ตะกว่ั มีคา่ ไม่เกินค่าอ้างองิ จำนวน 99 คน (คา่ อา้ งองิ ในเลอื ด 25 µg/dL)
- แมงกานีสมีคา่ เกินเกณฑ์อา้ งอิง จำนวน 26 คน (ค่าอา้ งองิ ในเลือด 4 – 15 µg/L)
- นิกเกิลมีค่าเกินเกณฑ์อ้างอิง จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 5 (ค่าอ้างอิงในปัสสาวะ น้อย
กว่า 2 µg/g creatinine)
- สารหนูอนินทรีย์มีค่าเกินเกณฑ์อ้างอิง จำนวน 90 คน (ค่าอ้างอิงในปัสสาวะ น้อยกว่า 10
µg/g creatinine)
ปี 2563 กำหนดเจาะเลือดในเดือนมกราคม 2564 แต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติด
เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จงึ ไมไ่ ดด้ ำเนินการตรวจหาโลหะหนักในรา่ งกายของประชาชนกลมุ่ เสยี่ ง
จากผลการดำเนินงานตรวจสุขภาพและเจาะเลือดในประชาชนกลุ่มเสยี่ งที่ผา่ น ๆ พบว่าตะกั่วมีค่าไม่
เกินค่าอ้างอิงทุกคน และได้แบ่งระดับความเสี่ยงของประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยดูจากผลการตรวจโลหะหนัก
ควบคกู่ บั ผลการตรวจสขุ ภาพโดยแบ่งเปน็ 3 กลุ่ม ดงั น้ี
กลุ่มสีแดง คือ ประชาชนที่มีค่าแมงกานีส เกินค่าอ้างอิง (ค่าอ้างอิงในเลือด 4 – 15 µg/L) และค่า
นิกเกิลเกินค่าอ้างอิง (ค่าอ้างอิงในปัสสาวะ น้อยกว่า 2 µg/g creatinine ) และค่าสารหนูอนินทรีย์เกินค่า
อ้างอิง (มากกว่า 20 µg/g )
กลมุ่ สีสม้ คอื ประชาชนท่มี ีคา่ สารหนูอนนิ ทรยี ์เกินค่าอ้างองิ แต่ไมเ่ กิน 20 µg/g
กล่มุ สเี หลอื ง คือ ประชาชนที่มีคา่ โลหะหนักไม่เกนิ ค่าอ้างอิง
ดังนั้นในปี 2564 คงเหลือตรวจเฝ้าระวังโลหะหนักในประชาชนกลุ่มเสี่ยงเพียง จำนวน 3 ตัว ได้แก่
แมงกานสี นกิ เกลิ และสารหนู
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนอนำมัยสิ่ งแวดล้อมและอำชีวอนำมัย
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 147
การดแู ล เฝา้ ระวังปอ้ งกนั ควบคุมโรคและภยั
สุขภาพจากมลพิษสิ่งแวดล้อม
ประเด็นท่ี 2 การเฝ้าระวงั สุขภาพจากฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
บทนำ
สถานการณ์ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเลก็ (PM2.5) ที่เพิ่มขึ้นในหลาย ๆ พื้นที่ของประเทศไทย โดยมี
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเพิ่มสูงขึ้น คือ อุณหภูมิหรือความดันบรรยากาศที่แตกต่างกัน
ตามระดับความสูงเหนือพื้นดิน คืออากาศเวลากลางวันร้อนและจะลอยตัวสูงขึ้น แต่เมื่อเกิดการผกผันอากาศ
จะไม่สามารถลอยตัวขึ้นสูงได้ตามปกติ ทำให้ปรมิ าณฝนุ่ เกิดการสะสมในระดบั พ้นื ดิน โดยตรวจพบว่ามปี ริมาณ
ฝุ่นละอองขนาด(PM2.5) ซ่งึ มกั จะเกดิ ขึน้ ในชว่ งอากาศเย็นราวเดือนธนั วาคมถึงมกราคมของทุกปี
ในปี 2563 จังหวัดราชบุรีพบปัญหาปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินมาตรฐานที่กำหนด
ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เนื่องจากประเทศไทยได้รับอิทธิพลความกดอากาศ
สูงที่แผ่จากประเทศจีน ทำให้ลมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกที่พัดจากอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น มี
อากาศหนาวเย็น และหมอกปกคลุม ประกอบกับเป็นช่วงฤดกู ารเก็บเกี่ยวผลิตผลทางการเกษตร ได้แก่ ข้าว
และอ้อย ร่วมกับมีการทำถนนในบริเวณอำเภอเมืองราชบุรีและอำเภอปากท่อ จึงส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละออง
ขนาดเล็ก (PM2.5) เกนิ มาตรฐานท่กี ำหนด โดยเฉพาะในชว่ งเดือนมากราคม 2563 คุณภาพอากาศยู่ในระดับสสี ้ม ท่ี
เรม่ิ สง่ ผลกระทบต่อสขุ ภาพ คือ 83 ไมโครกรัม/ลกู บาศก์เมตร (คา่ มาตรฐาน 50 ไมโครกรมั /ลูกบาศก์เมตร) หาก
ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินมาตรฐานที่กำหนด จะส่งผลถึงสุขภาพประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรค
จากมลพิษทางอากาศ ได้แก่ โรคผิวหนังอักเสบ รองลงมาโรคคออักเสบ โรคตาอักเสบ โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง
โรคหลอดเลอื ดสมอง โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดอักเสบ โรคจมูกอักเสบเรื้อรงั โรคตดิ เชือ้ ของระบบทางเดินหายใจ
เฉียบพลนั โรคหอบหดื และโรคหวั ใจขาดเลอื ด เป็นตน้
วัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน
เพ่ือดูแลสุขภาพประชาชน และปอ้ งกนั การเกิดโรคทเ่ี กิดจากมลพิษทางอากาศ
เปา้ หมายในการดำเนนิ งาน
1. ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก 0-5 ปี ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ผู้มีโรค
ประจำตัว เชน่ โรคหลอดเลือดหวั ใจ โรคความดันโลหติ สงู โรคไต โรคเบาหวาน เป็นต้น
2. ประชาชนท่วั ไป
วิธกี ารดำเนินงาน
1. ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ในพื้นที่จังหวัดราชบุรีอย่างต่อเนื่องผ่าน
App.Air4Thai และเตรียมความพร้อมเปิด EOC สสจ.ราชบุรี หากค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) มากกว่า
75 มคก./ลบ.ม. ตดิ ต่อกนั 3 วัน ขึ้นไป
2. ร่วมประชุมคณะกรรมการการป้องกันและแกไ้ ขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
ระดบั จังหวดั เพ่อื หาแนวทางในการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5 ซึ่งมีดงั นี้
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนอนำมัยส่ิ งแวดล้อมและอำชีวอนำมัย
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 148
- โรงโอง่ ใหค้ วามรว่ มมือในการลดการเผาไหม้ โดยใช้วธิ สี ลบั การเผาโอง่ คนละช่วงสปั ดาห์
- หน่วยงานท้องถิ่นกำชับบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดในการเผาในที่โล่งแจ้ง หากฝ่าฝืนจะถูก
ดำเนนิ คดตี าม พ.ร.บ.สาธารณสุข
- ตำรวจรว่ มกบั ขนสง่ กวนขันจราจรในการจบั รถควันดำ ทเี่ กนิ ค่ามาตรฐาน
- หน่วยงานท้องถิ่นจดั กจิ กรรมรณรงคฉ์ ดี น้ำ ล้างพ้ืนผิวจราจร เพอื่ ไม่ใหฝ้ ่นุ ฟุง้ กระจาย
- ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมในการปลอ่ ยควนั ให้อยใู่ นเกณฑ์ตามมาตรฐาน
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี สนับสนุนหน้ากากอนามัย และแผ่นประชาสัมพันธ์ฝุ่น
ละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ให้กบั หน่วยงาน
3. แจ้งให้โรงพยาบาล และส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง ให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องการป้องกันต้น
เองจากฝุ่นละออง
4. แจ้งโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป จัดตั้งคลินิกมลพิษ หรือช่องทางให้คำปรึกษาและ
ตรวจสขุ ภาพประชาชนท่ีมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ
5. โรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลรายงานข้อมูลผู้ป่วยเป็นรายสัปดาห์ทางระบบ
HDC
6. สำนกั งานสาธารณสุขจังหวดั ราชบุรีวเิ คราะห์ข้อมูลผูป้ ่วยด้วยโรคจากมลพิษสิ่งแวดล้อม จาก HDC
จังหวัดราชบุรี และสรปุ นำเสนอในท่ปี ระชุมคณะกรรมการระดบั จังหวัด
ผลการดำเนินงาน
จากความร่วมมือของหนว่ ยงานและเอกชนที่เกี่ยวขอ้ ง ร่วมดำเนินการจึงทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก
(PM2.5) เรม่ิ ลดลงในชว่ งปลายเดือนกมุ ภาพนั ธ์ 2463 ทำใหค้ ุณภาพอากาศลงมาอยูใ่ นระดับดีจนถงึ ดีมาก
ข้อมูลด้านสุขภาพผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ จากรายงาน HDC จังหวัดราชบุรี
ต้ังแต่เดอื น มกราคม 2563 ถงึ เดอื นธนั วาคม 2563 จากจำนวนประชากร 684,366 คน มีดงั น้ี
- โรคผิวหนังอกั เสบ ผู้ปว่ ยทง้ั หมด 46,763 คน เท่ากบั 6,849 ตอ่ ประชากรแสนคน
- โรคคออักเสบ ผปู้ ว่ ยท้ังหมด 25,908 คน เท่ากับ 3,788 ต่อประชากรแสนคน
- โรคตาอักเสบ ผู้ปว่ ยท้ังหมด 22,584 คน เทา่ กับ 3,300 ต่อประชากรแสนคน
- โรคหลอดลมอุดกน้ั เร้ือรงั ผู้ปว่ ยท้ังหมด 14,854 คน เท่ากับ 2,174 ตอ่ ประชากรแสนคน
- โรคหลอดเลอื ดสมอง ผปู้ ่วยทงั้ หมด 13,188 คน เท่ากบั 1,923 ต่อประชากรแสนคน
- โรคหลอดลมอักเสบ ผู้ป่วยท้งั หมด 7,696 คน เท่ากับ 1,124 ต่อประชากรแสนคน
- โรคปอดอักเสบ ผ้ปู ว่ ยท้งั หมด 3,946 คน เท่ากับ 578 ต่อประชากรแสนคน
- โรคจมกู อกั เสบเรอ้ื รัง ผูป้ ่วยทงั้ หมด 2,282 คน เท่ากบั 334 ตอ่ ประชากรแสนคน
- โรคติดเช้ือของระบบทาง
เดนิ หายใจเฉยี บพลนั ผ้ปู ว่ ยทงั้ หมด 2,175 คน เท่ากับ 318 ตอ่ ประชากรแสนคน
- โรคหอบหดื ผู้ปว่ ยทง้ั หมด 424 คน เทา่ กบั 61 ต่อประชากรแสนคน
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนอนำมัยสิ่ งแวดล้อมและอำชีวอนำมัย
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 149
การดำเนินงานมาตรฐานการจดั บริการ
อาชีวอนามยั และเวชกรรมส่งิ แวดลอ้ ม
ในสถานบรกิ ารสาธารณสุข
บทนำ
การจัดบริการอาชีวอนามัยและเวชกรรมสิ่งแวดล้อมในสถานบริการสาธารณสุข เป็นการบริการ
ทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยมีประชากรกลุ่มผู้ประกอบ
อาชีพเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ประชาการกลุ่มวยั แรงงาน ได้แก่ กลุ่มแรงงานในระบบ กลุม่ แรงงานนอกระบบ
กลุม่ ผูใ้ หบ้ รกิ ารทางสุขภาพ รวมถงึ ประชาชนทีอ่ าจไดร้ บั ผลกระทบจากมลพิษสง่ิ แวดล้อมทั้งการให้บริการเชิง
รุกและเชงิ รบั และมกี ารดำเนนิ งานในหนว่ ยบรกิ ารสาธารณสุขทุกระดบั ตามความพร้อม และสภาพของพ้ืนท่ี
ที่เสียงกับปัจจัยสภาพแวดล้อมจากการทำงานในการปฏิบัติงานที่อาจจะไม่ปลอดภัยได้ จึงต้องมีการ
ดำเนินงานตามมาตรฐานการจัดบริการอาชีวอนามัยและเวชกรรมสิ่งแวดล้อมในสถานบริการสาธารณสุข
ที่กำหนดอ้างอิงหลักการของงานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย รวมถึงการจัดบริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อม
ได้ตามมาตรฐาน
วัตถุประสงค์ในการดำเนนิ งาน
1. เพ่ือเป็นเคร่อื งมอื ในการพัฒนาจดั บรกิ ารอาชวี อนามยั และเวชกรรมสิ่งแวดล้อมของหนว่ ยบริการ
สาธารณสุขใหม้ ีคณุ ภาพ
2. เพื่อพัฒนางานนำไปสู่การบริการที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับกฎหมาย และมาตรฐานต่างๆท่ี
เกย่ี วข้อง และเปน็ ไปในทศิ ทางเดยี วกันทงั้ หนว่ ยบรกิ ารภาครัฐและเอกชน
เป้าหมายในการดำเนินงาน
1. โรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป มกี ารจดั บรกิ ารอาชวี อนามยั และเวชกรรมส่ิงแวดล้อมตาม
มาตรฐาน ระดับเรม่ิ ตน้ พฒั นาขนึ้ ไป รอ้ ยละ 90
2. โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตำบล มีการประเมินตนเองในการจัดบริการอาชวี อนามัยและเวชกรรม
สิง่ แวดล้อมตามมาตรฐาน ระดบั เริม่ ต้นพฒั นาข้ึนไป ร้อยละ 40 (การประเมนิ ตนเองผา่ นระบบออนไลน์)
วิธีการดำเนินงาน
1. ประชมุ ชี้แจงการดำเนินงานมาตรฐานการจัดบริการอาชวี อนามัยและเวชกรรมสิง่ แวดล้อมในสถาน
บริการสาธารณสุข ให้แก่ PM.สิ่งแวดล้อมระดับอำเภอ และผู้รับผิดชอบงานอาชีวอนามัยทุกระดับ ชี้แจงทำ
ความเขา้ ใจขั้นตอนการดำเนินงาน
2. ทำหนังสือแจ้งให้โรงพยาบาลทุกแหง่ ประเมินตนเองตามแบบประเมินการจัดบริการอาชีวอนามยั
และเวชกรรมส่ิงแวดล้อม
3. โรงพยาบาลที่มีผลการประเมินระดับเริ่มต้นพัฒนาขึ้นไป ส่งแบบประเมินตนเองมาที่สำนักงาน
สาธารณสขุ จงั หวดั ราชบุรเี พ่อื ลงพ้ืนทีเ่ พอ่ื ดเู อกสาร
4. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรีแจ้งให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 ราชบุรี ลงประเมิน
รบั รอง และมอบใบประกาศเกียรตคิ ุณ
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนอนำมัยสิ่ งแวดล้อมและอำชีวอนำมัย
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 150
5. ทำหนังสือแจ้งสำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอ แจ้งให้โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตำบลทกุ
แห่ง ให้มีการประเมินตนเองตามแบบประเมินการจัดบริการอาชีวอนามัยและเวชกรรมสิ่งแวดล้อม (ประเมิน
ตนเองผ่านระบบออนไลน์)
6. พิจารณาเลือกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่ีผา่ นมาตรฐาน ระดบั เรมิ่ ต้นพัฒนาขึ้นไป เพ่ือทำ
การประเมนิ รับรองต่อไป
ผลการดำเนินงาน
จังหวัดราชบุรี มีโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 11 แห่ง แบ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์
และโรงพยาบาลทั่วไป จำนวน 4 แห่ง และโรงพยาบาลชุมชน จำนวน 7 แห่ง ซึ่งโรงพยาบาลศูนย์และ
โรงพยาบาลทว่ั ไป มีการจัดบรกิ ารอาชวี อนามัยและเวชกรรมสงิ่ แวดล้อมตามมาตรฐาน ผา่ นเกณฑ์ระดบั เรม่ิ ต้น
พัฒนาขึ้นไป จำนวน 2 แห่ง (รอ้ ยละ 50) ไดแ้ ก่ โรงพยาบาลราชบุรี และโรงพยาบาลโพธาราม
สำหรับโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตำบล จำนวน 158 แห่ง มีการประเมินตนเองผ่านระบบออนไลน์
ในการจัดบริการอาชีวอนามัยและเวชกรรมสิ่งแวดล้อม จำนวน 80 แห่ง ผ่านเกณฑ์ระดับเร่ิมต้นพัฒนาข้นึ ไป
จำนวน 59 แหง่ (ร้อยละ 73.75)
ปัญหาอุปสรรค/ข้อเสนอแนะ/แก้ไข
มาตรฐานการจัดบริการอาชวี อนามยั และเวชกรรมส่ิงแวดล้อมในสถานบริการสาธารณสุขทุกระดับ
มหี ลายข้อ เกณฑบ์ างขอ้ ค่อนข้างยากต่อการปฏบิ ัติ
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนอนำมัยส่ิ งแวดล้อมและอำชีวอนำมัย
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 151
กล่มุ งานการแพทย์แผนไทย
และการแพทยท์ างเลอื ก
- งานคมุ้ ครองภมู ปิ ัญญาแพทยแ์ ผนไทย
- งานพฒั นาและสง่ เสริมบรกิ ารการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก
- งานพัฒนาและระบบขอ้ มลู และเทคโนโลยีทางการแพทยแ์ ผนไทย
- งานกญั ชาทางการแพทย์แผนไทย
- งานคลนิ ิกแพทยแ์ ผนไทย
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 152
งานคมุ้ ครองภมู ิปญั ญาแพทย์แผนไทย
1. สำรวจหมอพ้ืนบา้ น
บทนำ
หมอพื้นบ้าน คือ บุคคลซึ่งมีความรู้ความสามารถในการส่งเสริมและดูแลสุขภาพของประชาชน ใน
ท้องถิ่นด้วยภูมปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทย ตามวัฒนธรรมของชุมชนทม่ี กี ารสบื ทอดกนั มานาน
เปา้ หมายในการดำเนินงาน
ประชาสัมพันธ์ให้ เทศบาล อบต. กรรมการหมู่บ้าน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทราบถึง
ขั้นตอนการขอรับรองการเปน็ หมอพ้ืนบา้ น ครบทกุ อำเภอในจงั หวัดราชบุรี
วธิ กี ารดำเนนิ งาน
1. จัดทำหนังสือแจ้งเวยี นระเบยี บ และขัน้ ตอนการขอรบั รองเปน็ หมอพนื้ บ้าน
2. สุ่มลงพื้นท่ีชีแ้ จงระเบียบ และข้นั ตอนการขอรับรองเปน็ หมอพื้นบ้าน
ผลการดำเนนิ งาน
มหี มอพน้ื บา้ น ส่งแบบคำขอรบั รองการเป็นหมอพื้นบา้ น จำนวน 2 ราย
ปัญหาอุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะ/แก้ไข
1. การสนบั สนุนการสร้างเครอื ข่ายหมอพ้ืนบ้าน
2. เชื่อมโยงเครือข่ายหมอพื้นบ้านในการส่งเสริมและดูแลสุขภาพของประชาชนในท้องถิ่นด้วยภูมิ
ปญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย และการสง่ เสรมิ การใช้สมุนไพรและศาสตร์การแพทยแ์ ผนไทยในชมุ ชน
2. การขน้ึ ทะเบยี นภมู ิปัญญา/รับรองหมอพน้ื บา้ น
บทนำ
พระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง ให้รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงสาธารณสุขมีอำนาจออกระเบียบใด ๆ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ และ มาตรา 31 วรรค
หนึ่ง (7) กำหนดให้หมอพื้นบ้านซึ่งมีความรู้ความสามารถในการส่งเสริม และดูแลสุขภาพของประชาชนใน
ท้องถนิ่ ด้วยภมู ิปัญญาการแพทยแ์ ผนไทย ตามวฒั นธรรมของชมุ ชนท่ีสืบทอดกนั มานาน ไม่นอ้ ยกวา่ สบิ ปี เป็น
ที่นิยมยกย่องจากชุมชน โดยมีคณะกรรมการหมู่บ้านหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอให้หน่วยงานที่
กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยมีคณะกรรมการหมอพื้นบ้านจังหวัด เป็นผู้พิจารณาให้การรับรอง การออก
หนังสือรับรอง และต่ออายุหนังสือรับรอง ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน
พ.ศ. 2562 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา และมผี ลบังคบั ใชต้ ามกฎหมาย ต้งั แต่วนั ท่ี 11 มถิ นุ ายน 2562
เปน็ ตน้ ไป
วตั ถุประสงค์ในการดำเนินงาน
คณะกรรมการหมอพื้นบ้านจังหวัด เป็นผู้พิจารณาให้การรับรอง การออกหนังสือรับรอง และต่ออายุ
หนงั สอื รับรอง ตามระเบยี บกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรบั รองหมอพ้ืนบา้ น พ.ศ. 2562
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 153
เปา้ หมายในการดำเนินงาน
หมอพื้นบา้ น ทเี่ สนอแบบคำขอรบั รองหมอพื้นบ้าน ไดร้ บั การพิจารณา ครบทกุ คำขอ
วธิ กี ารดำเนนิ งาน
1. รับและ ตรวจสอบ แบบคำขอรับรองหมอพ้นื บ้าน
2. จัดประชุมคณะกรรมการหมอพืน้ บา้ นจังหวดั ราชบรุ ี
3. ออกหนังสอื รบั รองหมอพืน้ บ้าน
ผลการดำเนินงาน
ปีงบประมาณ 2563 มีหมอพื้นบ้าน เสนอแบบคำขอรับรองหมอพ้ืนบ้าน จำนวน 1 คำขอ และผ่าน
การรบั รอง จำนวน 1 ทา่ น
ปัญหาอุปสรรค/ข้อเสนอแนะ/แก้ไข
การสร้างความเข้าใจในการดำเนินงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่า
ดว้ ยการรับรองหมอพ้ืนบ้าน พ.ศ. 2562
ภาพกจิ กรรม
จดั ประชุมคณะกรรมการหมอพืน้ บา้ นจังหวดั ราชบรุ ี
ในวนั ท่ี 23 เมษายน 2563
ณ ห้องประชมุ ช้นั 6 สำนักงานสาธารณสุขจงั หวดั ราชบรุ ี
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 154
3. สำรวจ รวบรวม และบันทกึ ขอ้ มลู ตำรบั -ตำรา
ทางการแพทยแ์ ผนไทย
บทนำ
“ภมู ิปญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย” หมายความว่า พน้ื ความรคู้ วามสามารถเก่ยี วกับการแพทย์แผนไทย
“การ แพทย์แผนไทย” หมายความว่า กระบวนการทางการแพทย์เกี่ยวกับการตรวจ วินิจฉัย บำบัด
รกั ษา หรอื ปอ้ งกันโรค หรอื การสง่ เสริมและฟน้ื ฟูสขุ ภาพของมนุษย์หรือสัตว์ การผดงุ ครรภ์ การนวดไทย และ
ให้หมายความรวมถึงการเตรียมการผลิตยาแผนไทย และการประดิษฐ์อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์
ท้งั นี้ โดยอาศยั ความรูห้ รอื ตำราทไี่ ดถ้ า่ ยทอดและพฒั นาสบื ต่อกันมา
“ตำรา การแพทย์แผนไทย” หมายความว่า หลักวิชาการต่างๆ เกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย ทั้งที่ได้
บันทึกไว้ในสมุดไทย ใบลาน ศิลาจารึก หรือวัสดุอื่นใดหรือที่มิได้มีการบันทึกกันไว้แต่เป็นการเรียนรู้หรือถ่าย
ทอดสืบตอ่ กันมาไม่วา่ ด้วยวธิ ีใด
“ยา แผนไทย” หมายความว่า ยาทีไ่ ดจ้ ากสมนุ ไพรโดยตรงหรือท่ีได้จากการผสม ปรุง หรือแปรสภาพ
สมุนไพร และให้หมายความรวมถงึ ยาแผนโบราณตามกฎหมายว่าด้วยยา
“ตำรับ ยาแผนไทย” หมายความว่า สูตรซึ่งระบุกรรมวิธีการผลิตและส่วนประกอบสิ่งปรุงที่มียาแผน
ไทยรวมอยู่ด้วย ไมว่ า่ สงิ่ ปรุงนัน้ จะมีรูปลกั ษณะใด
“สมุนไพร” หมาย ความว่า พืช สัตว์ จุลชีพ ธาตุวัตถุ สารสกัดดั้งเดิมจากพืช หรือสัตว์ที่ใช้หรือแปร
สภาพหรือผสมหรือปรุงเป็นยาหรืออาหารเพื่อการตรวจ วินิจฉัย บำบัด รักษา หรือป้องกันโรค หรือส่งเสริม
สขุ ภาพร่างกายของมนุษย์หรือสตั ว์ และให้หมายความรวมถงึ ถ่นิ กำเนดิ หรอื ถิ่นท่ีอยขู่ องสิง่ ดงั กลา่ วดว้ ย
วัตถุประสงคใ์ นการดำเนินงาน
รวมรวม ข้อมูลเข้าระบบ สำนักนายทำเบียนกลาง เพื่อเป็นข้อมูลของบุคลาการทางการแพทย์แผน
ไทย
เป้าหมายในการดำเนินงาน
มีการสำรวจ รวบรวม และบันทึกข้อมูลตำรับ-ตำราทางการแพทย์แผนไทย ลงในระบบสำนักนาย
ทะเบียนกลางเพม่ิ ข้ึนทุกปี
วิธีการดำเนินงาน
1. สำรวจขอ้ มูลตำรับ-ตำราทางการแพทยแ์ ผนไทย ลงแบบ ภ.ท.1/1
2. บันทกึ ข้อมลู ตำรับ-ตำราทางการแพทย์แผนไทย ลงในระบบสำนกั นายทะเบียนกลาง
ผลการดำเนนิ งาน
1. ตำราทางการแพทยแ์ ผนไทย จำนวน 2 ตำรา
2. ตำรับยาแผนไทย จำนวน 84 ตำรบั
ปญั หาอุปสรรค/ข้อเสนอแนะ/แก้ไข
การสบื ค้น รวมรวมตำราทางการแพทย์แผนไทยและตำรบั ยาแผนไทย เป็นไปด้วยความยากลำบาก
ต้องอาศยั เครือข่ายความรว่ มมือในระดบั พื้นท่ี
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 155
แสดงฐานข้อมูลตำรับ-ตำราทางการแพทยแ์ ผนไทย
ลงในระบบสำนกั นายทะเบียนกลาง
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 156
4. สง่ เสริมการใชส้ มนุ ไพรและศาสตร์การแพทยแ์ ผนไทย
โครงการมหกรรมประชาสัมพันธ์การดำเนนิ งานดา้ นการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์
ทางเลือก จังหวัดราชบรุ ี ระดบั ภาคกลางและภาคตะวนั ออก ปีงบประมาณ 2563
บทนำ
กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัดทำโครงการ
มหกรรมการแพทยแ์ ผนไทยแห่งชาติ ปี 2563 โดยม่งุ เน้นพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเสรมิ สร้างกลไกการร่วมมือ
ระดับภาคและพื้นที่เครือข่ายต่างๆ และประชาชนให้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ คุ้มครอง ส่งเสริม และ
พฒั นาการใชป้ ระโยชนจ์ ากภูมิปญั ญาการแพทย์แผนไทยในท้องถ่นิ มาเผยแพร่ใหป้ ระชาชนทุกกลุ่มวัย ไดศ้ ึกษา
เรียนรู้ เพ่ือเชื่อมโยงระบบสขุ ภาพการแพทยแ์ ผนไทย การแพทยพ์ ้ืนบา้ นไทย มาใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน การแพทย์
แผนไทยในปัจจุบันได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลให้เป็นการแพทย์ทางเลือกอย่างหนึ่งแก่ผู้รับบริการ กิจกรรม
การแพทย์แผนไทย ได้แก่ การนวด อบ ประคบสมุนไพร การแปรรูปสมุนไพรมาเป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพ
การปลูกสมุนไพร เพื่อนำมาใช้บรรเทาหรือรักษาอาการป่วย การนวดชนิดต่างๆ สามารถบำบัดอาการปวด
เมื่อย ผ่อนคลายความเครียด ปวดหลัง ปวดเอว ฯลฯ การอบสมุนไพร ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียน ให้ดีขึ้น
บำบัดโรคภูมิแพ้ ปวดเมื่อยฯลฯ และการประคบสมุนไพรช่วยลดการอักเสบฟกช้ำของกล้ามเนื้อและข้อได้
นอกจากนี้ การแปรรูปสมุนไพรมาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพช่วยให้ชุมชนนำสมุนไพรที่มีมากมาใช้ให้เกิด
ประโยชน์ เช่น การทำลกู ประคบสมนุ ไพร การทำนำ้ มนั หอมระเหย เป็นตน้
นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ประชาชนยังมีความสนใจและยังมีความเชื่อในการรักษาของหมอ
พ้นื บ้านดังนัน้ เพ่ือเป็นการส่งเสริมการแพทย์แผนไทย อนรุ ักษ์ภูมปิ ัญญา การนำภูมปิ ญั ญาพื้นบ้านมาใช้ให้เกิด
ประโยชน์สูงสุดอย่างปลอดภัย ทั้งทางด้านส่งเสริมสุขภาพ การรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสมรรถภาพของ
ผรู้ บั บริการ
จากเหตุผลดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการให้บริการ
ด้านการแพทย์แผนไทยให้ตรงความต้องการของประชาชน และต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรม แพทย์แผนไทย
ของจังหวัดราชบุรี ตามโครงการมหกรรมประชาสัมพันธ์การดำเนินงานด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์
ทางเลอื ก จงั หวดั ราชบุรี ระดบั ภาคกลางและภาคตะวันออก ปีงบประมาณ 2563 ขึ้น
วัตถปุ ระสงคใ์ นการดำเนินงาน
1. เพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานด้านการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ระดับภาคกลาง
และภาคตะวนั ออก
2. เพอ่ื เผยแพรภ่ ูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และการแพทยพ์ ้ืนบ้าน ที่สอดคลอ้ งกับการดำรงชีวิตในระดับ
ภมู ภิ าค
3. เพื่อให้ประชาชนได้ทราบการดำเนินงานด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ของจังหวัด
ราชบรุ ี
4. เพื่อสร้างกระแสประชาสัมพันธ์ต่อสังคมให้เกิดความตื่นตัวในการดูแลสุขภาพด้าน การแพทย์แผนไทย
การแพทยท์ างเลอื ก และการใช้สมนุ ไพร
เปา้ หมายในการดำเนินงาน
1. แพทยแ์ ผนไทย และเจา้ หน้าทจี่ ากหนว่ ยงานสังกดั สำนักงานสาธารณสขุ ในจังหวดั ราชบรุ ี จำนวน 6 คน
2. ประชาชนผรู้ ่วมงานไม่ตำ่ กวา่ 5,000 คน
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 157
วิธีการดำเนินงาน
1. จดั ทำโครงการเพ่อื ขออนุมตั สิ นับสนุนงบประมาณ
2. จัดบูธนำเสนอผลงาน จำนวน 2 บูธ ในงานมหกรรมแพทย์แผนไทยระดับภาคกลาง และภาคตะวันออก
วนั ที่ 14 – 16 กมุ ภาพนั ธ์ 2563 ณ องค์การสง่ เสริมกจิ การโคนมแหง่ ประเทศไทย จังหวัดสระบุรี
ผลการดำเนินงาน
1. ประชาชนได้ทราบการดำเนนิ งานด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก ของจงั หวัดราชบรุ ี
2. ประชาชนนำองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ไปใช้ประโยชน์ ในการดูแล
สขุ ภาพ
ปัญหาอปุ สรรค/ขอ้ เสนอแนะ/แกไ้ ข
1. ควรมีการจัดงานภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้าน ที่สอดคล้องกับการ
ดำรงชีวิตของระดับเขต และขยายผลอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการสนับสนุนงบประมาณจากส่วนกลางอย่าง
ต่อเนื่อง
2. ควรมีการสรุปบทเรียนการดำเนินงานด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกของระดับ
ภาคกลาง และภาคตะวันออก
ภาพกิจกรรม
มหกรรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยพ์ ้ืนบา้ นไทย
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 158
งานพัฒนาและส่งเสรมิ บริการการแพทยแ์ ผน
ไทยและการแพทย์ทางเลือก
1. การประเมินมาตรฐานโรงพยาบาลส่งเสริมและสนับสนุน
การแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน
บทนำ
กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้จัดทำมาตรฐานงาน
บริการการแพทย์แผนไทยในสถานบริการสาธารณสุข ในระดับโรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ตำบล เพื่อให้การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสถานบริการสาธารณสุขของรัฐ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และให้
สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ ใช้เกณฑ์มาตรฐานโรงพยาบาลส่งเสริมและสนับสนุนการแพทย์แผนไทยและ
การแพทย์ผสมผสาน เป็นแนวทางในการจัดบริการการแพทย์แผนไทยที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะทำให้ประชาชน
ได้รบั บรกิ ารการแพทย์แผนไทยทมี่ ีคณุ ภาพ มีความปลอดภัย
วัตถุประสงคใ์ นการดำเนินงาน
1. เพื่อให้สถานบรกิ ารสาธารณสุขของรัฐ มีการดำเนินงานการจัดบริการด้านการแพทยแ์ ผนไทยและ
การแพทย์ทางเลอื ก ทไี่ ด้มาตรฐานอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
2. เพ่อื ใหเ้ จา้ หน้าทสี่ าธารณสุขทม่ี หี นา้ ทีจ่ ัดบริการการแพทย์แผนไทย ใชเ้ ป็นแนวทางในการปฏิบัติได้
อยา่ งถูกต้อง
3. เพ่ือให้ประชาชนที่มารับบรกิ าร ได้รบั บรกิ ารการแพทย์แผนไทยทม่ี ีคุณภาพ มคี วามปลอดภัย
เปา้ หมายในการดำเนินงาน
สถานบรกิ ารสาธารณสขุ ของรฐั ในจงั หวัดราชบรุ ี
วิธกี ารดำเนนิ งาน
1. จัดทำหนังสือแจ้งส่งเกณฑ์มาตรฐานโรงพยาบาลส่งเสริมและสนับสนุนการแพทย์แผนไทยและ
การแพทยผ์ สมผสาน ให้สถานบรกิ ารสาธารณสขุ ของรัฐ
2. สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ ประเมินมาตรฐานโรงพยาบาลส่งเสริมและสนับสนุนการแพทย์
แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน ส่งมาที่สำนกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั ราชบุรี
3. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ประเมินมาตรฐานโรงพยาบาลส่งเสริมและสนับสนุน
การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสานของสถานบริการสาธารณสุข และสรุป รวบรวมรายงานส่งให้
กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก
4. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สรุปรายงานการประเมินมาตรฐานโรงพยาบาล
ส่งเสริมและสนับสนุนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสานของสถานบริการทุกจังหวัด แจ้งมาท่ี
สำนักงานสาธารณสขุ จงั หวัด
5. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี จัดทำหนังสือรับรองมาตรฐานของสถานบริการสาธารณสุข
ของรัฐ มอบให้สถานบรกิ ารสาธารณสขุ
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 159
ผลการดำเนินงาน
1. สถานบรกิ ารสาธารณสขุ ของรัฐท่ใี หบ้ ริการการแพทยแ์ ผนไทย มคี ุณภาพ ได้มาตรฐาน
2. ประชาชนทีม่ ารับบริการด้านการแพทยแ์ ผนไทย มีความปลอดภัย
เกณฑ์การประเมนิ มาตรฐาน
ร้อยละของคะแนนที่ได้ในภาพรวมท้ัง 5 ด้าน
รอ้ ยละของคะแนนที่ไดใ้ นแตล่ ะดา้ น ไดม้ าตรฐาน ดังน้ี
ระดบั ดีเยยี่ ม 90 – 100 % คะแนนไม่น้อยกวา่ 60 %
ระดบั ดมี าก 80 – 89.99 % คะแนนไมน่ อ้ ยกวา่ 60 %
ระดับดี 70 – 79.99 % คะแนนไมน่ อ้ ยกวา่ 60 %
ผา่ นเกณฑม์ าตรฐานระดับ พ้ืนฐาน 60 – ๖๙.๙๙ % คะแนนไมน่ อ้ ยกว่า 60 %
ไม่ไดม้ าตรฐาน คะแนนน้อยกว่า 60% คะแนนน้อยกวา่ 60 %
ผลการประเมินมาตรฐาน ดงั นี้
ระดับโรงพยาบาล
ระดับดเี ย่ยี ม 6 แห่ง รอ้ ยละ 55
ระดบั ดมี าก 3 แหง่ รอ้ ยละ 27
ระดบั ดี 2 แห่ง ร้อยละ 18
ระดบั โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตำบล
ระดบั ดเี ยี่ยม 39 แห่ง ร้อยละ 70
ระดับดีมาก 15 แห่ง รอ้ ยละ 27
ระดับดี 2 แหง่ ร้อยละ 3
ปญั หาอุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะ/แกไ้ ข
การพัฒนาระบบบริการแพทย์แผนไทยในสถานบริการสาธารณสุขภาครัฐ ควรส่งเสริมสนับสนุนใน
การพัฒนางานวิชาการ งานวิจัยและนวัตกรรมการให้บริการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก เพื่อใน
หน่วยบริการได้มีการพัฒนายกระดับตามมาตรฐานสถานประกอบการภาครัฐ ตามมาตรฐานโรงพยาบาล
ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน (มาตรฐาน รพ.สส.พท.)
ภาพตวั อยา่ ง หนังสือรบั รองมาตรฐาน (รพ.สส.พท.)
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 160
งานพัฒนาระบบขอ้ มูลและเทคโนโลยี
ทางการแพทย์แผนไทย
บทนำ
ตามท่กี ระทรวงสาธารณสุข ไดก้ ำหนดประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ เร่ืองการบริหารเป็นเลิศด้วยธรรมาภิบาล
Governance Excellence เข้าถึงบริการด้านสุขภาพของประชาชนชาวไทย โดยมุ่งเน้น ที่ระบบการ
บริหารจัดการด้านสุขภาพ เป้าหมายหลัก คือ ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน
กลยุทธ์ที่สำคัญในการพัฒนาระบบบริหารจัดการ คือ การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยี
สารสนเทศ เพื่อการบริหารจัดการด้านสุขภาพที่รวดเร็วและทันสมัย ประกอบกับยุทธศาสตร์ของสำนักงาน
สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี คือ การพัฒนาเทคโนโลยีและสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ สำนักงานสาธารณสุข
จังหวัดราชบุรี ได้ดำเนินการพัฒนาระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (Data Center) ระดับจังหวัด
โดยดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลด้านการแพทย์และสาธารณสุข ตามโครงสร้างมาตรฐานข้อมูล 43 แฟ้ม
จากหนว่ ยบรกิ ารภายในจังหวัด ไปยงั คลงั ขอ้ มูลระดับจังหวดั เพื่อใหร้ ะบบข้อมลู มีความพรอ้ มในการใช้งานโดยเร็ว
และลดภาระการจัดส่งข้อมูล 2 ระบบ มีข้อมูลในการกำกับติดตามประเมินผลการดำเนินงานตาม
ยุทธศาสตร์กระทรวงให้ทันต่อความต้องการและ การใช้ประโยชน์ร่วมกันในทุกระดับเป็นONE
DATABASE เน้นจัดเก็บข้อมูลที่จำเป็น และลดภาระของผู้ปฏิบัติงานในหน่วยบริการ โดยให้ส่งข้อมูลออก
จากโปรแกรมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ JHCIS , HOSxP และ HOSxP for PCU การพัฒนารูปแบบการ
จัดการคุณภาพข้อมูลตามมาตรฐานโครงสร้าง 43 แฟ้ม ซึ่งมีปัจจัยแห่งความสำเร็จ คือ การวางแผน
แบบมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องการทำงานเป็นทีมเครือข่าย โดยการมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมการ
ติดตามนิเทศงาน ในระหวา่ งการดำเนินงาน มีการจดั อบรมเชิงปฏิบตั กิ าร ในระดบั เครือข่ายอยา่ งต่อเนื่องเพื่อ
พัฒนาศักยภาพบุคลากร มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เกิดความตระหนัก ในการปฏิบัติและการมี
ช่องทางในการการสะท้อนกลับข้อมูลที่ง่ายและสะดวก จึงทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันหน่วยบริการสาธารณสุข ได้นำระบบโปรแกรมฐานข้อมูล JHCIS, HOSxP และ HOSxP
for PCU มาใช้ในการบันทึกข้อมูลการให้บริการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
รวมถึงการรวบรวมผลงาน ซึ่งได้มีการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องตลอดมา
วตั ถปุ ระสงค์ในการดำเนนิ งาน
1. เพื่อให้ผู้รับผิดชอบงาน จากโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน สำนักงาน
สาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต) มีความเข้าใจแนวทางการพัฒนาข้อมูล
การบรกิ ารดา้ นการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สถานบรกิ ารสาธารณสุขของรัฐ ประเมินมาตรฐาน
โรงพยาบาลสง่ เสริมและสนบั สนนุ การแพทยแ์ ผน
2. เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลการให้บริการของสถานพยาบาล โปรแกรม JHCIS, HOSxP และ
HOSxP for PCU ใหส้ ามารถใช้งานได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ สามารถสง่ ออกขอ้ มูลได้
เปา้ หมายในการดำเนินงาน
1. หน่วยบริการซึ่งใช้โปรแกรม JHCIS
2. หน่วยบรกิ ารซ่งึ ใชโ้ ปรแกรม HOSxP และ HOSxP for PCU
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 161
วิธกี ารดำเนนิ งาน
1. กำหนดให้ผ้บู ันทึกขอ้ มลู เจา้ หนา้ ทสี่ าธารณสขุ จะต้องเป็นผรู้ บั ผดิ ชอบการบันทึกข้อมลู ให้ครบถ้วน
ถกู ตอ้ งและเปน็ ปจั จบุ ัน
2. ส่งเสริมการรวมกลุม่ เครอื ขา่ ยกลุ่มผู้ใชง้ านโปรแกรม JHCIS, HOSxP และ HOSxP กลุม่ ผูใ้ ชง้ านใน
รพ.สต.ที่สามารถตอบปัญหา แก้ไขปัญหาการใช้งาน การออกรายงาน เป็นต้นและส่งเสริมผู้ที่ความสารถให้
เปน็ วิทยากรระดับจังหวัดตอบปญั หาการใช้งาน
3. รวบรวมขอ้ มลู บคุ ลากรแพทย์แผนไทย
4. การชี้แจงแนวทางในการบริหารจัดการและการส่งข้อมูลบริการด้านการแพทย์แผนไทยในระบบ
หลกั ประกนั สุขภาพ
ผลการดำเนนิ งาน
1. การพัฒนาระบบการติดตามการบันทึกข้อมูลรายงาน
- มีการประชุมชี้แจงแนวทางในการบริหารจัดการและการส่งข้อมูลบริการด้านการแพทย์แผนไทยใน
ระบบหลักประกนั สขุ ภาพ
- หน่วยบริการซึ่งใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูล JHCIS และหน่วยบริการซ่ึงใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูล
HOSxP และ HOSxP for PCU สามารถบันทึกข้อมูลการบริการด้านการแพทย์แผนไทยและ
การแพทย์ทางเลือกได้ถูกต้อง และสามารถส่งออกข้อมลู มายังจังหวดั ไดส้ มบรู ณ์ ครบถว้ น ตรงตามมาตรฐาน
สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบผลการดำเนินงาน การวางแผนด้านการแพทย์แผนไทย
และเตรียมความพร้อมในการให้บรกิ ารด้านการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ของจังหวดั ราชบรุ ไี ด้
2. จดั ทำฐานข้อมลู
- มีฐานข้อมูลกำลงั คน แพทยแ์ ผนไทย 91 คน
3. รวบรวมข้อมูลตามตัวช้วี ดั รายอำเภอจาก HDC
- ผลงานตามตัวช้วี ัด ร้อยละ 20
4. จดั ทำระบบการคืนข้อมูลให้กับพื้นที่ ส่งคืนข้อมูลในที่ประชุมคณะกรรมการ Service Plan
ปญั หาอุปสรรค/ข้อเสนอแนะ/แกไ้ ข
การพัฒนาการใช้ประโยชน์ข้อมูลร่วมกัน ควรใช้ของเครือข่ายกลุ่ม เช่น ในจังหวัดจะมีเครือข่ายของ
ผู้ใช้งานโปรแกรม JHCIS, HOSxP และ HOSxP เป็นกลไกในการแก้ปัญหาในระดับหน่วยบริการ ส่วนการ
จัดทำรายงานเพื่อตอบสนองตัวชี้วัดของกระทรวง จากฐานข้อมูล Health Data Center จำเป็นต้องอาศัย
ความรว่ มมือของเครือขา่ ย IT เขตบริการสขุ ภาพ
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 162
งานกัญชาทางการแพทยแ์ ผนไทย
1.การจัดบริการคลินกิ กัญชาทางการแพทย์แผนไทย
- โครงการพัฒนาศักยภาพแพทย์แผนไทยและบคุ ลากรสาธารณสุขใน
การดำเนนิ งานจดั บริการคลนิ กิ กัญชาทางการแพทย์แผนไทย
บทนำ
ด้วยกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดให้มีการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ สาขาการใช้กัญชาทาง
การแพทย์ (Medical Cannabis Service Plan) เพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษาโรคให้กับประชาชนที่เจ็บป่วย
ทรมาน จากกลุ่มโรคร้ายแรง เรื้อรังและไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั้งแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์แผนไทย
เท่าใดนัก จนทำให้ปัจจบุ ันมีผู้ปว่ ยดังกล่าวทีเ่ พิ่มจำนวนมากขึ้นและครอบครวั ไดร้ ับความทุกข์ทรมาน และรอ
รับบรกิ ารในสถานพยาบาล ดว้ ยความหวงั เช่ือม่ันในการแพทย์ของประเทศไทย ดังนัน้ สารสกัดจากกัญชาทาง
การแพทย์ จึงเป็นหนึ่งในนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยทรมานแก่ผู้ป่วยได้
โดยกรมวิชาการ กระทรวงสาธารณสุข มหาวิทยาลัย และแพทย์พื้นบ้านหรือแพทย์แผนไทยได้ร่วมกันพัฒนา
ทำการวิจัยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและองค์ความรู้แพทย์แผนไทยร่วมกันอย่างต่อเนื่องให้ได้ผลิตภัณฑ์ และ
แนวทางการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ เพื่อเป็นการเสริมการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบัน หรือแพทย์
แผนไทยท่ีมีอยู่ ซง่ึ จกั สามารถลดความแออัดการรอคอยการรับบริการในโรงพยาบาลและสามารถเพ่ิมคุณภาพ
ชีวติ แกผ่ ้ปู ่วยได้
กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการเตรียมความพร้อมการให้บริการ โดยมอบหมายให้กรมวิชาการร่วมกัน
วิจัย พัฒนาการรักษาโรคต่างๆ ด้วยสารสกัดจากกัญชา กรมการแพทย์และกรมการแพทย์แผนไทยและ
การแพทย์ทางเลือก จัดทำหลักสูตรอบรมบุคลากรทางการแพทย์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ สำนักงาน
คณะกรรมการอาหารและยา จัดทำทะเบียนสถานบริการและพัฒนาฐานข้อมูลรายงานการใช้ยา SAS
(Special Access Scheme) และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับองค์การเภสัชกรรมดำเนินการกระจาย
ผลิตภัณฑ์กัญชาไปให้สถานบรกิ ารนำร่อง รอบแรก ในวันที่ 19 สิงหาคม 2562 ครอบคลุมทั้ง 12 เขตสุขภาพ
ซึ่งมีโรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มให้บริการไปบ้างแล้ว กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวง
สาธารณสุข จึงบูรณาการองค์ความรู้จากทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำคู่มือแนวทาง การดำเนินการและ
พัฒนาโปรแกรม C-MOPH ซึ่งเป็นโปรแกรมอิเลคทรอนิคส์ ออนไลน์ ใช้ในการลงทะเบียน คัดกรอง ตรวจ
วินิจฉัย สั่งจ่าย และติดตาม การรักษาซึ่งสามารถบันทึกควบคู่กับโปรแกรม อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ ร่วมกัน ไม่
ซ้ำซ้อน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถให้บริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และสามารถนำข้อมูลมาประเมิน
ผลการรักษา เฝา้ ระวงั ความเสย่ี ง และพฒั นาวิจยั การรักษาโรคหรอื ภาวะอน่ื ๆ ดว้ ยสารสกดั จากกัญชาตอ่ ไป
วัตถุประสงคใ์ นการดำเนินงาน
เพื่อให้บุคลากรสาธารณสุข มีองค์ความรู้ สามารถดำเนินงานและพัฒนางานในการจัดบริการคลินิก
กญั ชาทางการแพทย์แผนไทย ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 163
เป้าหมายในการดำเนินงาน
1. ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตำบลทุกแห่ง หรอื ผู้แทน
2. เจา้ หน้าที่ผู้รบั ผิดชอบงานดา้ นการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือกของโรงพยาบาลทุกแห่ง
3. เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกของสำนักงาน
สาธารณสขุ อำเภอทกุ แหง่
4. แพทย์แผนไทยจากโรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตำบล
วธิ ีการดำเนนิ งาน
1. จดั ทำโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ
2. ประสานวทิ ยากร
3. จัดประชุม เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุขในการดำเนินงานจัดบริการคลินิกกัญชาทาง
การแพทย์
4. สรุปผลการดำเนินงานโครงการ
ผลการดำเนนิ งาน
1. มรี พ.สต.รว่ มกับวสิ าหกิจชมุ ชน ปลกู กัญชา จำนวน 2 แห่ง ได้แก่
- สถานีอนามัยเฉลมิ พระเกียรติสถานีอนามยั เฉลิมพระเกยี รติ 60 พรรษา นวมนิ ทราชินี ตำบลคบู ัว
อำเภอเมอื ง รว่ มกบั วิสาหกจิ ชุมชน ตลาดศรเี มอื งเพื่อการผลติ ผกั ผลไม้ สมุนไพร และการตลาด
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพหัก อำเภอบางแพ ร่วมกับวิสาหกิจชุมชน เกษตรกรโพหัก
เข้มแขง็
2. มโี รงพยาบาลเปดิ ใหบ้ ริการคลนิ ิกกัญชาทางการแพทย์ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลราชบุรี
โรงพยาบาลโพธาราม โรงพยาบาลบา้ นโปง่ โรงพยาบาลสวนผงึ้
ปัญหาอปุ สรรค/ขอ้ เสนอแนะ/แกไ้ ข
โรงพยาบาลบางแห่งยงั ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนอื่ งจากยงั ไม่มีแพทยผ์ ่านการอบรมหลักสูตรการ
ใชก้ ัญชาทางการแพทย์
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 164
2.การจัดบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน
และแผนไทย
บทนำ
เนอ่ื งด้วยกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดใหม้ ีการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ สาขาการใชก้ ญั ชา ทาง
การแพทย์ (Medical Cannabis Service Plan) เพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษาโรคให้กับประชาชนที่เจ็บป่วย
ทรมาน จากกลุ่มโรคร้ายแรง เรื้อรังและไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั้งแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์แผนไทย
เท่าใดนักจนทำให้ ปัจจุบันมีผู้ปว่ ยดังกล่าวที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น และครอบครัวได้รับความทกุ ข์ทรมานและรอ
รับบรกิ ารในสถานพยาบาล ดว้ ยความหวังเช่อื มั่นในการแพทย์ของประเทศไทย ดังนัน้ สารสกัดจากกัญชาทาง
การแพทย์ จึงเป็นหนึ่งในนวัตกรรม ทางการแพทย์ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยทรมานแก่ผู้ป่วยได้
โดยกรมวิชาการ กระทรวงสาธารณสุข มหาวิทยาลัยและแพทย์พื้นบ้านหรือแพทย์แผนไทยได้ร่วมกัน
พัฒนาการวิจัยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและองค์ความรู้ แพทย์แผนไทยร่วมกันอย่างต่อเนื่องให้ได้ผลิตภัณฑ์
และแนวทางการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ เพื่อเป็น การเสริมการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบันหรือ
แพทย์แผนไทยที่มีอยู่ สามารถลดความแออัดการรอคอย การรับบริการในโรงพยาบาลและสามารถเพ่ิม
คุณภาพชีวิตแก่ผู้ป่วยได้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกุล
มอบนโยบายเร่งดว่ น เพอื่ ให้มกี ารบริการการรักษาดว้ ยสารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์แก่ประชาชนได้อย่าง
ปลอดภัยรวดเร็วและครอบคลุม กระทรวงสาธารณสุข จึงให้มีการเปิดบริการ คลินิกกัญชาทางการแพทย์
(Medical Cannabis Clinic) แบบผสมผสานแพทย์ปัจจุบันและแพทย์แผนไทยในสถานพยาบาลสังกัด
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็น มาตรการเร่งด่วนโดยโรงพยาบาลนำร่อง สังกัดกระทรวง
สาธารณสุข 26 แห่งทั่วประเทศ ภายในปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 ซึ่งแบง่ เป็น 2 กลุ่ม คือ กลมุ่ ท่ีให้บรกิ ารแบบ
แพทย์แผนปัจจุบัน 13 แห่ง และการแพทย์ทางเลือกและแผนไทย 13 แห่ง กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการ
เตรียมความพร้อมการให้บริการ โดยมอบหมายให้กรมวิชาการร่วมกันวิจัย พัฒนาการรักษาโรคต่างๆด้วยสาร
สกัดจากกัญชา กรมการแพทย์และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัดทำหลักสูตรอบรม
บุคลากรทางการแพทย์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จัดทำทะเบี ยน
สถานบริการและพัฒนาฐานข้อมูลรายงานการใช้ยา SAS (Special Access Scheme) และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ร่วมกบั องค์การเภสชั กรรมดำเนนิ การกระจายผลิตภัณฑ์กญั ชา ไปให้สถานบริการนำร่อง รอบแรก ในวันท่ี 19
สงิ หาคม 2562 ครอบคลมุ ทงั้ 12 เขตสขุ ภาพ ซ่งึ มีโรงพยาบาลหลายแหง่ เร่มิ ใหบ้ ริการไปบา้ งแลว้ กองบริหาร
การสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงได้บูรณาการองค์ความรู้จากทุกหน่วยทีเ่ กย่ี วข้อง
ในการจัดทำคู่มือ แนวทางการดำเนินการและพัฒนาโปรแกรม C-MOPH ซึ่งเป็นโปรแกรมอิเลคทรอนิคส์
ออนไลน์ ใช้ในการลงทะเบียน คัดกรอง ตรวจวินิจฉัย สั่งจ่ายและติดตามการรกั ษาซึ่งสามารถบันทกึ ควบคู่กบั
โปรแกรม อื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกัน ไม่ซ้ำซ้อน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถให้บริการได้อย่างสะดวก
รวดเรว็ และสามารถนำข้อมูลมาประเมนิ ผลการรักษา เฝ้าระวงั ความเสี่ยง และพฒั นาวจิ ยั การรักษาโรคหรือ
ภาวะอ่ืนๆด้วยสารสกดั จากกญั ชาต่อไป
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 165
วตั ถปุ ระสงคใ์ นการดำเนินงาน
1. เพ่ิมการเขา้ ถึงบรกิ ารคลินกิ กญั ชาทางการแพทย์แบบบรู ณาการ
2. เพ่ือเสริมสร้างความรู้ ความเขา้ ใจ เรือ่ งการใช้ยาท่ีมีกัญชาปรุงผสมอยา่ งปลอดภัยให้กับประชาชน
และบคุ ลากรสาธารณสุข
3. เพ่อื เพ่มิ ศักยภาพหน่วยบรกิ ารสาธารณสขุ ในการใช้กญั ชาทางการแพทย์
เป้าหมายในการดำเนนิ งาน
โรงพยาบาลศนู ย์ โรงพยาบาลทาวไป และโรงพยาบาลชมุ ชนทกุ แห่งในจงั หวดั ราชบรุ ี
วธิ ีการดำเนนิ งาน
1. ทำหนังสือสำรวจความพรอ้ มเปดิ บริการคลนิ กิ กัญชาทางการแพทย์
2. แจ้งแนวทางการจัดตั้งคลินกิ กัญชาทางการแพทย์
3. ทำหนงั สอื แจ้งขอ้ ส่ังการการดำเนนิ งานด้านการใชก้ ัญชาทางการแพทย์ในสถานบริการสขุ ภาพ
4. แจ้งให้หน่วยบริการรายงานข้อมูลในโปรแกรม C-MOPH
5. สรุปรายงานการให้บริการคลนิ กิ กัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้ที่ประชุมคณะกรรมการประสานงาน
สาธารณสุขระดับจังหวัด รับทราบทุกเดือน
ผลการดำเนินงาน
มีโรงพยาบาลเปิดให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลราชบุรี
โรงพยาบาลโพธาราม โรงพยาบาลบา้ นโปง่ และโรงพยาบาลสวนผึง้
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 166
ตาราง แสดงจำนวนบุคลากรผผู้ า่ นการอบรมหลกั สูตรการใช้กญั ชาทางการแพทย์
ลำดั จำนวน (คน) หมา
บ ยเหตุ
หน่วยงาน แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล แพทย์ อ่ืนๆ
แผนปจั จุบัน แผนไทย
1. รพ.ราชบุรี 8 - 8-8
2. รพ.บา้ นโป่ง
3. รพ.โพธาราม 2 1 2-2
4. รพ.ดำเนนิ
3 - 222
สะดวก
5. รพ.ปากท่อ - - 1-1
6. รพ.บางแพ
7. รพ.เจ็ดเสมียน 1 - 1-1
8. รพ.วัดเพลง 1 - 2-1
9. รพร.จอมบงึ - - 1-1
10. รพ.สวนผ้ึง 1 - 1-2
11. รพ.บ้านคา 2 - 2-2
1 - 151
รวม - - 1--
19 1 21 7 21
ปญั หาอุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะ/แกไ้ ข
1. โรงพยาบาลบางแหง่ ยังไม่สามารถเปิดใหบ้ รกิ ารได้ เนื่องจากยังไม่มีแพทย์ผ่านการอบรมหลกั สูตร
การใชก้ ัญชาทางการแพทย์ รวมทงั้ ความพรอ้ มของสถานท่แี ละระบบการส่ังใช้ยา ระบบการรายงาน เป็นตน้
2. ความเพียงพอของบุคลากรด้านการแพทย์แผนไทยที่จะรองรับต่อการจัดบริการที่เพิ่มขึ้น ทั้งน้ี
ควรเพิ่มศักยภาพบุคลากรให้มคี วามเชยี่ วชาญมกี ารเพม่ิ พูนความรู้และความเช่ือม่นั และในการใชย้ ากัญชา
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 167
คลินิกแพทยแ์ ผนไทย
1.ตรวจรกั ษาตามมาตรฐานวชิ าชพี การแพทย์แผนไทย
- การดำเนนิ งานคลินิกการแพทย์แผนไทย ชยราชาสปา ปีงบประมาณ 2563
บทนำ
กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายขับเคลื่อนการพัฒนาระบบสุขภาพให้ก้าวทันและสอดรับกับการ
เปลี่ยนแปลงของบริบททางสังคม นโยบาย และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูปประเทศ จึงทำให้เกิด
แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้านสาธารณสุข ที่มีเป้าหมายเพื่อประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบ
สุขภาพย่ังยืน ทั้งนี้ การส่งเสริมการแพทย์แผนไทย รวมถึงสมุนไพรไทยอยู่ในแผนงานพัฒนาระบบบริการ
สุขภาพ (Service Excellence) โดยมีเปา้ หมายใหม้ ผี ู้ป่วยนอก ได้รบั บรกิ ารตรวจ วนิ ิจฉยั รักษาโรค และฟ้ืนฟู
สุขภาพ ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และมูลค่าการใช้
สมุนไพรของหนว่ ยบรกิ ารรฐั เพ่ิมขึน้
ดังนั้น เพื่อสนับสนุนแผนดังกล่าว ทางกลุ่มงานแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำนักงาน
สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี จึงได้จัดทำโครงการพัฒนารูปแบบการจัดบริการคลินิกการแพทย์แผนไทย
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ปีงบประมาณ ๒๕๖๓ เพื่อพัฒนาเป็นต้นแบบการจัดบริการคลินิกการแพทย์
แผนไทย สร้างความเชื่อมั่นด้านบริการการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย รวมถึง การให้บริการคลินิก
การแพทยแ์ ผนไทยแกป่ ระชาชนในจังหวดั ราชบรุ ี ใหส้ ามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารท่สี ะดวกย่ิงขน้ึ
วัตถปุ ระสงคใ์ นการดำเนนิ งาน
1. เพื่อพัฒนาเป็นต้นแบบจัดบริการคลินิกการแพทย์แผนไทย สร้างความเชื่อมั่นด้านบริการ
การแพทยแ์ ผนไทยและสมนุ ไพรไทย
2. เพือ่ สร้างความเช่ือม่ันดา้ นการบรกิ ารการแพทยแ์ ผนไทยและยาสมนุ ไพรไทย
3. เพื่อให้บริการคลินิกการแพทย์แผนไทยแก่ประชาชนในจังหวัดราชบุรีให้สามารถเข้าถึงบริการได้
สะดวกยงิ่ ขึ้น
4. เพ่อื สรา้ งกระแสต่อสังคมใหเ้ กิดความตืน่ ตวั ในการดูแลสขุ ภาพด้าน การแพทย์แผนไทย การแพทย์
ทางเลอื ก และการใชส้ มุนไพร
5. เพื่อเผยแพร่ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้าน ที่สอดคล้องกับการดำรงชีวิต
ในระดบั ภมู ภิ าค
เปา้ หมายในการดำเนนิ งาน
1. ประชาชนเขา้ รับบรกิ ารทางการแพทยแ์ ผนไทยและใชย้ าสมนุ ไพรเพ่ิมมากขนึ้
2. ประชาชนมคี วามรู้ด้านยาสมนุ ไพรมากยงิ่ ขึ้น
3. ประชาชนสามารถดูแลตนเองด้วยสมุนไพรพ้นื ฐานไดย้ ามเจบ็ ปว่ ย
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 168
วธิ กี ารดำเนนิ งาน
1. จัดทำแผนการจดั บรกิ ารคลินิกการแพทยแ์ ผนไทย
2. เตรียมความพร้อมสำหรับการจดั บรกิ ารและเปดิ บรกิ ารคลนิ ิกการแพทย์แผนไทย
3. ดำเนนิ การตาแผนงานคลินิกการแพทย์แผนไทย
4. สรุปผลการดำเนินงานของคลินกิ การแพทย์แผนไทย
ผลการดำเนินงาน
1. ประชาชนสามารถเขา้ ถงึ การบริการการแพทย์แผนไทยได้มากขน้ึ
2. ประชาชนมาใชบ้ รกิ ารแพทยแ์ ผนไทยและใชย้ าสมนุ ไพรเพมิ่ มากขึ้น
3. ประชาชนสามารถนำองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ไปใช้ประโยชน์
ในการดแู ลสขุ ภาพ
ปญั หาอุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะ/แก้ไข
1. บุคลากรแพทยแ์ ผนไทย ไม่เพียงพอตอ่ การปฏบิ ตั ิงาน
2. สถานที่ให้บริการไม่ได้รับการซ่อมแซมหรือปรับปรุง ส่งผลให้เกิดอุปสรรคต่อการให้บริการและ
ความเสียหายกบั อุปกรณ์
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 169
ภาพกิจกรรมการจัดทำสอ่ื การใหค้ วามรู้ทางการแพทย์แผนไทย
ผา่ นชอ่ งทางต่างๆ/Health Literacy medicine
การดำเนนิ งานในคลินิกการแพทย์แผนไทย ชยราชา สปา
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 170
เปน็ ด่านหน้าในการคดั กรอง วัดอุณหภูมิ
บคุ ลากรในสำนกั งานและผ้มู าตดิ ต่อทส่ี ำนกั งานสาธารณสุขจงั หวัดราชบุรี
รวมถงึ ในงานพิธีตา่ งๆ ทจ่ี ดั ข้นึ ในจงั หวดั ราชบุรี
ร่วมจัดทำส่ือประชาสมั พันธ์ “How to กกั ตวั เอง” ในชว่ งโรคระบาดโควดิ -19
ร่วมกับบุคลากรฝา่ ยอ่ืน ๆ โดยได้รับมอบหมายหนา้ ทเี่ ป็นพธิ กี ร
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 171
ภาพกจิ กรรมนอกสถานท่ี
เข้าร่วมงานมหกรรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พืน้ บ้านไทย
ในวันท่ี 14-16 กุมภาพันธ์ 2563
เขา้ ร่วมแขง่ ขนั ตอบปญั หาทกั ษะวชิ าการ รางวัลชนะเลศิ อนั ดบั 2
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 172
เน่อื งในวโรกาสถวายสดุดแี ดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั รชั กาลที่ 10
เข้ารว่ มกิจกรรมออกบธู ใหค้ วามรู้ นวดรักษาและหัตถการเผายา แก่ประชาชนผ้เู ข้ารว่ มงาน
ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 ณ โรงยมิ เนเซียม จงั หวดั ราชบุรี
กจิ กรรมด้านการประชาสมั พันธ์/ความรู้
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี ก ลุ่ ม ง ำ น ก ำ ร แ พ ท ย์แ ผ น ไ ท ย แ ล ะ ก ำ ร แ พ ท ย์ท ำ ง เ ลื อ ก
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 173
กลมุ่ งานพัฒนาระบบบรกิ าร
และการแพทยฉ์ กุ เฉนิ
- งานระบบบริการการแพทยฉ์ กุ เฉิน
- การปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หาอบุ ตั ิเหตุทางถนน
- ระบบรับ/ส่งต่อผ้ปู ว่ ย
- การพฒั นาระบบบรกิ าร (Service Plan)
- งานบริหารจดั การภยั พิบตั ิ
- งานเฝ้าระวังปอ้ งกันเด็กจมน้ำ
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 174
งานระบบบริการการแพทยฉ์ ุกเฉนิ
บทนำ
ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน เป็นงานนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการให้ประชาชน
เม่อื เจ็บปว่ ยฉุกเฉินได้มีการเข้าถึงบริการ โดยมีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นสำนกั ระบบบริการการแพทย์
ฉุกเฉินประจำจังหวัด มีหน้าที่บริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานที่กระทรวง
สาธารณสุขและสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติกำหนด โดยดำเนินการขยายเครือข่ายหน่วยกู้ชีพให้
ครอบคลมุ ทุกพ้นื ที่ พัฒนาบคุ ลากรทปี่ ฏบิ ัติงานทุกระดับให้มีความรู้ ความพร้อมให้การชว่ ยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน
ตลอด 24 ช่วั โมง จดั หา ครภุ ัณฑ์ วัสดุ อปุ กรณ์การแพทย์เพ่ือสนับสนุนใหห้ น่วยกู้ชีพทุกแห่ง ให้ความรู้กับ
ประชาชนเรือ่ งการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยฟ้ืนคืนชีพ การใช้เครื่อง AED จัดสรรงบประมาณใหห้ น่วย
บริการ ขึ้นทะเบียนคน รถกู้ชีพ นิเทศ ติดตาม สรุปวิเคราะห์ประเมินผลการปฏบิ ัติงานเพื่อพัฒนาคุณภาพ
งานการแพทยฉ์ ุกเฉนิ ใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ ไดม้ าตรฐาน
วตั ถุประสงคใ์ นการดำเนนิ งาน
1. เพอื่ เพ่ิมการเขา้ ถึงบริการใหป้ ระชาชนเม่ือเจบ็ ปว่ ยฉุกเฉิน
2. เพื่อพฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากรที่ปฏิบตั งิ านในระบบการแพทยฉ์ ุกเฉินทุกระดบั ใหไ้ ด้มาตรฐาน
3. เพื่อพัฒนาหน่วยบริการให้มีความพร้อมในการให้การช่วยเหลือประชาชน ณ จุดเกิดเหตุและใน
โรงพยาบาล
4. เพื่อให้ประชาชนสามารถทราบหมายเลขแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อน
ทีมกู้ชพี มาถงึ
เป้าหมายในการดำเนนิ งาน
เพ่อื เพ่ิมการเข้าถึงบริการใหก้ ับประชาชนกรณีเจ็บปว่ ยฉุกเฉินตลอด 24 ชวั่ โมงลดการบาดเจ็บ พิการ
และเสียชีวิต โดยไม่สมควรตัวชี้วัดที่กระทรวงสาธารณสุขและสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาตกิ ำหนด ได้แก่
ผ้ปู ่วยวิกฤติ (สีแดง) ได้รบั การชว่ ยเหลือดว้ ยระบบบริการการแพทย์ฉกุ เฉนิ ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 24
วธิ ีการดำเนนิ งาน
1. ขยายเครือข่ายหน่วยกู้ชีพให้ครอบคลุมทุกตำบล โดยประสานหน่วยงานองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น มลู นธิ ิ โรงพยาบาลภาครฐั และเอกชน
2. พัฒนาศักยภาพบุคลากรทุกระดับให้มีความรู้ ความพร้อม ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินทุก
สถานการณ์ ไดแ้ กก่ ารจดั อบรมหลกั สตู รตา่ งๆใหก้ ับบุคลากรทุกระดับ
3. บรหิ ารจดั การระบบการแพทย์ฉกุ เฉินในฐานะสำนักงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉนิ ระดบั จังหวัด
ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานทกี่ ระทรวงสาธารณสขุ และสถาบันการแพทย์ฉกุ เฉนิ แหง่ ชาติ กำหนด
4. จัดหา เครื่องมือแพทย์ วัสดุอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน ของหน่วยกู้ชีพทุกแห่ง และใน
โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตำบลทกุ แห่ง
5. ประชาสัมพันธ์หมายเลข1669 เพื่อให้ประชาชนทราบและแจ้งหนว่ ยกู้ชพี เมื่อเจ็บป่วยฉุกเฉิน โดย
ผา่ นสื่อต่างๆ ปา้ ยประชาสัมพันธ์
6. จัดอบรมให้ความรู้ กับประชาชน นักเรียน อสม. ผู้นำชุมชน บุคลากรในสังกัดหน่วยงาน
สาธารณสขุ ให้ทราบหมายเลข 1669 การช่วยฟืน้ คนื ชพี การใช้เครอื่ งกระตกุ หัวใจไฟฟ้าอัตโนมตั ิ (AED)
7. สรปุ วิเคราะห์ ผลการดำเนนิ งาน เพ่ือพฒั นาคณุ ภาพบริการ
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 175
ผลการดำเนินงาน
1. จังหวัดราชบุรีมีหน่วยกู้ชีพ จำนวน 55 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
11 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหม 1 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 2 แห่ง มูลนิธิ 4 แห่ง หน่วยงาน
องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน 33 แห่ง ขยายเครอื ขา่ ยหนว่ ยกชู้ ีพระดบั ท้องถ่ิน 2 แหง่ ได้แก่ หน่วยก้ชู พี เทศบาล
ตำบลหลักเมือง หน่วยกูช้ พี องค์การบรหิ ารส่วนตำบลบางป่า
2. ประสาน จัดหาเครื่อง AED จำนวน 169 เครื่อง ให้หน่วยกู้ชพี โรงพยาบาลทุกแห่ง โรงพยาบาล
ส่งเสรมิ สุขภาพตำบลครบทุกแห่ง มลู นิธิ 4 แห่ง สนามกฬี า ศาลากลาง ประสาน จัดหาเครอื่ งปมั๊ หวั ใจอัตโนมัติ
ให้กับโรงพยาบาลชุมชน จำนวน 5 เครอื่ ง
3. พัฒนาศักยภาพบุคลากรที่ปฏิบัติงานในระบบการแพทย์ฉุกเฉินผ่านกิจกรรม EMS RALLY พัฒนา
ศักยภาพบคุ ลากรในระบบการแพทยฉ์ กุ เฉนิ ในการช่วยเหลือผู้ปว่ ยโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา (COVID -19)
จดั ระบบบริการการแพทยฉ์ ุกเฉินในการจัดการแข่งขัน เดิน วิง่ ปน่ั ของจังหวดั ราชบุรีใหม้ ีมาตรฐาน
ตารางสรปุ ผลการดำเนินงานตามตัวช้วี ดั ปี 2563
โรงพยาบาล คา่ ผลงาน ผลการดำเนนิ งาน ปี 2563
เป้าหมาย ปี 2562 (ตุลาคม - กนั ยายน 2563)
ผป.มาER มาดว้ ยEMS ร้อยละ
โรงพยาบาลราชบุรี > 24 % 23.88 1399 1106 79.06
โรงพยาบาลบ้านโปง่ 52.72 1415 767 54.20
โรงพยาบาลโพธาราม 36.97 638 258 40.44
โรงพยาบาลดำเนินสะดวก 25.43 484 75 15.50
โรงพยาบาลสมเดจ็ พระยุพราช 34.32 443 140 31.60
โรงพยาบาลปากท่อ 32.81 73 29 39.73
โรงพยาบาลบางแพ 27.16 103 45 43.69
โรงพยาบาลสวนผงึ้ 26.00 235 68 28.94
โรงพยาบาลวัดเพลง 42.86 39 16 41.03
โรงพยาบาลเจ็ดเสมียน 34.85 68 38 55.88
โรงพยาบาลบา้ นคา 60.25 45 30 66.67
รวม 44.56 4942 2572 52.04
ปญั หาอปุ สรรค/ข้อเสนอแนะ/แก้ไข
1. หน่วยกู้ชีพยังไม่ครอบคลุมทุกตำบล เนื่องจาก หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังไม่พร้อม
ต้งั หนว่ ยก้ชู ีพ ตำบลที่ไมม่ หี นว่ ยงานองค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ ตั้งหนว่ ยก้ชู ีพ จะใหห้ น่วยก้ชู พี จากมลู นธิ ิ ดูแล
ประชาชนแทน
2. ประชาชนบางสว่ นยงั ไมท่ ราบหมายเลข 1669 ตอ้ งประชาสมั พนั ธ์เพิ่ม
3. งบประมาณในการจัดหา ระบบ Telemedicine และอุปกรณ์กู้ชีพบางอย่างที่มีราคาสูง ต้องรอ
งบประมาณในการจัดซอ้ื
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 176
ภาพกิจกรรมการพฒั นาระบบบรกิ ารการแพทยฉ์ ุกเฉนิ ปี 2563
กิจกรรมตรวจรบั และมอบเคร่อื ง Auto CPR
กจิ กรรมแขง่ ขนั ทักษะการช่วยเหลือ ผู้ป่วยฉกุ เฉิน ณ จดุ เกดิ เหตุ (EMS Rally)
กิจกรรมการรับมอบเครอ่ื งAED จดั อบรม CPR และการใช้เคร่อื ง AED ใหก้ ับบคุ ลากรสาธารณสุข
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 177
การป้องกันและแก้ไขปญั หาอุบตั ิเหตทุ างถนน
บทนำ
จากสถิติที่ผ่านมาอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยยังสูงเป็นอันดับต้นๆของ
โลกและของทวีปเอเชีย จงั หวดั ราชบุรยี ังมสี ถติ ผิ ูบ้ าดเจ็บและเสียชวี ิตจากอบุ ตั เิ หตทุ างถนนจำนวนมากดังนี้
ปี 2559 ผู้บาดเจ็บจำนวน 19,125 ราย เสียชวี ิตจำนวน 254 ราย คดิ เปน็ อตั รา 33.56 ต่อแสนประชากร
ปี 2560 ผ้บู าดเจบ็ จำนวน 18,790 ราย เสียชวี ิตจำนวน 271 ราย คดิ เปน็ อตั รา 31.22 ต่อแสนประชากร
ปี 2561 ผู้บาดเจบ็ จำนวน 16,479 ราย เสยี ชีวติ จำนวน 237 ราย คดิ เปน็ อตั รา 28.01 ต่อแสนประชากร
ปี 2562 ผ้บู าดเจบ็ จำนวน 15,652 ราย เสียชีวิตจำนวน 247 ราย คดิ เปน็ อตั รา 29.19 ตอ่ แสนประชากร
ผลจากการเกดิ อบุ ัตเิ หตุจราจรทางถนนก่อให้เกดิ ความเสียหายดา้ นเศรษฐกิจและสงั คม ผูป้ ่วยบางราย
กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง พิการ ไม่สามารถดูแลตัวเองและครอบครัวได้ ที่ผ่านมารัฐบาลและหน่วยงานที่
เกี่ยวข้องได้พยายามช่วยกันแก้ไขปัญหา แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เริ่มมี
การบูรณาการร่วมกัน เช่น การนำข้อมูล 3 ฐานมาวิเคราะห์ สาธารณสุขมีการจัดเก็บรวบรวม และวิเคราะห์
ข้อมูลผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร โดยผ่านทางคณะทำงานTEA unit เพื่อนำเสนอในเวทีการประชุมต่างๆ
เช่น การประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนและคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ
เปน็ ตน้ อกี ทั้งยังมกี ารคืนขอ้ มูลใหผ้ ทู้ ่ีเกี่ยวข้องนำไปดำเนนิ การแกไ้ ข เชน่ จดุ เส่ยี งอันตรายตา่ งๆ ทางแขวงการ
ทางหรือเทศบาล/อปท.ได้มีการปรับปรุงและแก้ไขวิศวกรรมจราจรให้ดีขึ้น เช่น การทำอุโมงค์ทางลอดในเขต
อำเภอเมือง การติดตั้งสัญญาณไฟแดงในพื้นที่จุดเสี่ยง ส่งผลทำให้ไม่มียอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรทาง
ถนนในจุดนั้น ผู้ใช้รถใช้ถนนมีความปลอดภัยในการสัญจร ด้านการเข้าถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉินของ
ผบู้ าดเจ็บจราจรทางถนน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรีได้เล็งเห็นถงึ ความสำคัญของการขยายเครือข่าย
กู้ชีพสู่ตำบลหรือท้องถิ่น โดยมีเทศบาลและ อปท.เข้าร่วมเป็นเครือข่ายเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาแนวทางการรับ
ผู้ป่วยบาดเจ็บจากจราจร มีการประชุม TRAUMA สัญจรในทุกเดือน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงระบบบริการให้
รวดเร็ว ปลอดภัย การจัดอบรมให้ความรู้และเพิ่มพูนทักษะการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บแก่เจ้าหน้าที่ในระบบ
การแพทย์ฉุกเฉินและจัดให้มีนักปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉนิ ประจำทีมกู้ชีพ เริ่มมีการใช้ระบบสื่อสารทางไกล
เพอ่ื รบั การรักษาที่รวดเร็ว ทนั ทว่ งทจี ากแพทย์ทอ่ี ยูใ่ นโรงพยาบาลปลายทาง
วัตถปุ ระสงค์ในการดำเนนิ งาน
1. เพื่อลดอตั ราการบาดเจบ็ และเสยี ชวี ติ จากอุบตั ิเหตุจราจรทางถนน
2. เพื่อใหเ้ กิดการบูรณาการระหวา่ งหนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้อง
3. เพือ่ การพัฒนาคุณภาพการรักษาพยาบาล
4. มกี ารแก้ไข ปรบั ปรงุ วิศวกรรมจราจรในจุดเสีย่ ง
5. อตั ราการสวมหมวกนริ ภยั เพิ่มมากขนึ้
6. ประชาชนมีความตระหนกั และร่วมมอื กันในการลดการเกิดอุบัตเิ หตุ
เป้าหมายในการดำเนินงาน
1. เกิดทีมขับเคลื่อนแกนนำระดับอำเภอ และระดับตำบล
2. เกิดโครงการหรือกิจกรรมในการปอ้ งกนั และลดอบุ ตั ิเหตจุ ราจรทางถนน
3. มอี ำเภอผ่านเกณฑ์ DRTI-plus ระดับดีและระดับยอดเยีย่ ม
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 178
วิธกี ารดำเนินงาน
1.ด้านการรกั ษาพยาบาล
กลยุทธ/์ มาตรการ โครงการ/กิจกรรมหลกั งบประมาณ
พัฒนาระบบบริการ โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ปฏิบัติงานในระบบการแพทย์ สพฉ.
แพทย์ฉุกเฉินและ ฉุกเฉินและประชาสัมพันธ์ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน 614,600 บาท
พฒั นางานERคุณภาพ จังหวัดราชบุรี ปี 2563
โครงการเตรียมความพร้อมรองรับลดอุบัติเหตุและเฝ้าระวัง สพฉ.
การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 97,300 บาท
และสงกรานต์ปี 2563จังหวัดราชบรุ ี
ประชมุ TRAUMA สญั จรทกุ เดอื นๆละ 1 ครัง้ สพฉ
50,400 บาท
โครงการพัฒนากลไกการป้องกันอบุ ตั ิเหตุทางถนนจงั หวดั สสส
ราชบรุ ี 120,000 บาท
โครงการประชาสัมพันธห์ มายเลขแจ้งเหตเุ จ็บป่วยฉุกเฉิน สป.
1669 80,000 บาท
2.ด้านการปอ้ งกนั และลดอบุ ตั ิเหตุจราจรทางถนน
2.1 โครงการพัฒนากลไกการประสานความรว่ มมือภาคเี ครือข่ายในการขับเคลือ่ นการปอ้ งกันและลด
อบุ ัติเหตุทางถนน จ.ราชบรุ ี โดยรับเงนิ สนับสนนุ จากสอจร.จำนวน 100,000 บาท(ตำรวจภธู รภาค 7 เป็นผู้รับ
งบประมาณ)ในพื้นที่ 3 อำเภอ 3 ตำบล ของจงั หวดั ราชบรุ ี ได้แก่ อ.บา้ นโปง่ อ.จอมบงึ อ.โพธาราม โดยมงุ่ ไปที่
การสร้างจิตสำนึกของเด็กและผู้ปกครอง ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในตำบล มีผู้บริหารและคุณครูเป็นทีม
ขบั เคล่ือนงานระดับพืน้ ท่ี ทีมแกนนำระดับอำเภอเปน็ พ่ีเลี้ยงในการดูแลและขับเคลื่อนงาน และมีพี่เล้ียงสอจร.
จงั หวัดราชบรุ เี ปน็ ผ้กู ำกับ ประสานงานและติดตามการดำเนนิ งานของโครงการใหส้ ำเรจ็ ลุล่วงตามวตั ถุประสงค์
ทต่ี ง้ั ไว้
2.2 การประชุมคณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายจังหวัดราชบุรีประจำทุกเดือน มีการ
วิเคราะห์สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุและคืนข้อมูลผู้เสียชีวิตให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ
พร้อมปรึกษาหาแนวทางการแก้ไขจากสหสาขาวชิ าชีพ และมีการตดิ ตามการดำเนนิ งานอยา่ งต่อเนื่อง
2.3 กรณีมีการเสียชีวิตจากอุบัตเิ หตจุ ราจรหมู่หรือกรณีสำคัญ จะมกี ารลงพื้นทีส่ อบสวนหาสาเหตุการ
เสียชีวิตและปัจจัยเสี่ยงทุกรายจากสหสาขาวิชาชีพ เพื่อวางแผนในการแก้ไขปัญหา และรายงานให้ผู้บรหิ ารท่ี
เกี่ยวข้องรบั ทราบเพื่อสง่ั การ
2.4 มีการบูรณาการข้อมูล 3 ฐาน ร่วมกันโดยมีสาธารณสุข ตำรวจ บริษัทกลางและปภ.จังหวัด เป็น
ประจำทกุ เดือน ทำให้ได้ขอ้ มูลทค่ี รบถว้ น ถูกต้อง มคี วามนา่ เชอื่ ถอื
2.5 การอบรมให้ความรู้เรื่องการขับขี่อย่างปลอดภัยแก่นักเรียน นักศึกษา โดยมีวิทยากรจากขนส่ง
จงั หวดั และสถานตี ำรวจภธู รจังหวัดราชบรุ ี
2.6 การตง้ั จดุ ตรวจ จุดสกดั ในพื้นทเ่ี สี่ยงโดยบูรณาการร่วมกนั กบั มหาดไทย สถานีตำรวจภูธรจงั หวดั
ราชบุรี สาธารณสุข ในเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 179
2.7 มีการจัดตั้งคณะทำงานศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนระดับอำเภอ ระดับท้องถิ่น เพ่ือ
ร่วมกันขบั เคลื่อนงานให้เป็นรูปธรรม มกี ารจัดประชุมเพ่อื ติดตามการดำเนินงานทุกเดอื น
2.8 มีการสร้างมาตรการองค์กรปลอดภัยในสถานศึกษาและสถานประกอบการ โรงงานบางแห่ง
กำหนดคุณสมบตั ขิ องผสู้ มัครเข้าทำงานใหม่ ตอ้ งมใี บอนุญาตขับขรี่ ถ และมีการสำรวจค้นหาผู้ท่ีไม่มีใบอนุญาต
ขับขี่ ให้ไปดำเนินการใหถ้ ูกต้องตามกฎหมาย
3.ดา้ นการแก้ไขจดุ เส่ียง/วิศวกรรมจราจร
3.1 มีการสำรวจจุดเสี่ยงอันตรายในพื้นที่ร่วมกัน พร้อมมีการปรับปรุงแก้ไข เช่น การตัดต้นไม้ที่บัง
วิสัยทัศน์ การติดตั้งป้าย/สัญญาณไฟจราจร การติดตั้งไฟส่องสว่างตามแยกหรือจุดตดั การทำอุโมงค์ทางลอด
การขยายไหล่ทาง ตลอดจนการตีเส้นจราจร เป็นต้น
3.2 หนว่ ยงานสาธารณสุขมกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู สถิติการบาดเจบ็ และเสยี ชีวติ จุดเสีย่ งตา่ งๆ พร้อม
วเิ คราะหแ์ ละคืนข้อมูลในเวทีการประชุมศปถ.ระดับอำเภอ ให้พืน้ ท่ีไดร้ ับทราบ เพอื่ นำไปวางแผนในการแก้ไข
และปรบั ปรุงจุดเส่ียงนัน้ ๆ
3.3 ติดตามผลการแก้ปัญหาจุดเสี่ยง ว่าหลังแก้ปัญหาแล้วยังมีการบาดเจ็บและเสยี ชวี ิตจากอุบัติเหตุ
อีกหรอื ไม่ เพื่อหาแนวทางพัฒนาแก้ไขปัญหาตอ่ ไป
ผลการดำเนนิ งาน
❖ ผลงานด้านการรกั ษาพยาบาล
1.ตัวชี้วัดหลัก : อัตราการเสียชีวิตของผู้เจ็บป่วยวิกฤติฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง ใน
โรงพยาบาลระดบั F2 ข้นึ ไป (ทัง้ ที่ ER และAdmit) ไมเ่ กินร้อยละ 12
โรงพยาบาล Trauma Non Trauma Trauma+
Non Trauma
AB % A B%A B %
ราชบรุ ี 22 315 6.98 285 2014 14.15 307 2329 13.18
บ้านโปง่ 14 200 7.00 139 1215 11.44 153 1415 10.81
โพธาราม 12 77 15.58 38 568 6.69 50 645 7.75
ดำเนนิ สะดวก 3 60 5.00 45 416 10.82 48 476 10.08
จอมบึง 1 39 2.56 3 415 0.72 4 454 0.88
ปากท่อ 2 14 14.29 6 55 10.91 8 69 11.59
บางแพ 0 27 0.00 15 76 19.74 15 103 14.56
สวนผงึ้ 1 26 3.85 13 235 5.53 14 261 5.36
เจ็ดเสมยี น 0 0 0 1 6 0.00 1 6 0.00
วัดเพลง 1 7 0 1 34 2.94 2 41 4.88
บ้านคา 2 14 14.29 6 41 14.63 8 55 14.55
รวม 58 779 7.45 552 5075 10.88 610 5854 10.42
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 180
โรงพยาบาล Trauma Non Trauma Trauma+
AB % AB % Non Trauma
ราชบรุ ี
บา้ นโป่ง A B%
โพธาราม
ดำเนนิ สะดวก 22 315 6.98 285 2014 14.15 307 2329 13.18
รวม 14 200 7.00 139 1215 11.44 153 1415 10.81
12 77 15.58 38 568 6.69 50 645 7.75
3 60 5.00 45 416 10.82 48 476 10.08
51 652 7.82 507 4213 12.03 558 4865 11.4
7
ตัวชี้วัดรอง1.1 อัตราของผู้ป่วย Trauma Triage Level 1 และมีข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดในโรงพยาบาลระดบั A,
S, M1 สามารถเขา้ ห้องผา่ ตดั ได้ภายใน 60 นาที (ตุลาคม – ธันวาคม 2563) เปา้ หมาย ร้อยละ 80
ผลการดำเนนิ งาน ปี 2563
คา่ (ตลุ าคม –กันยายน 2563) ผา่ น/
โรงพยาบาล เปา้ หมาย จำนวน ผป.ที่ต้อง เข้าห้องผา่ ตดั อตั รา ไม่ผา่ น
โรงพยาบาลราชบรุ ี เข้าหอ้ งผ่าตัด ภายใน60นาที
โรงพยาบาลบา้ นโปง่ ทงั้ หมด
โรงพยาบาลโพธาราม
โรงพยาบาลดำเนิน >80% 75 64 85.33 ผ่าน
สะดวก
12 5 41.67 ไม่ผา่ น
รวม
0 00
5 3 60.00 ไมผ่ า่ น
92 72 78.26 ไมผ่ า่ น
ตัวชี้วัดรอง1.2 อัตราของผู้ป่วย Triage Level 1 และ 2 อยู่ในห้องฉุกเฉิน < 2 ชั่วโมง ในโรงพยาบาลระดับ A, S,
M1 (ตุลาคม - กนั ยายน 2563)
โรงพยาบาล เปา้ หมาย ผู้ป่วยทั้งหมด ผูป้ ่วยฉกุ เฉิน อยู่ ผลการดำเนนิ งาน
>60% ที่อยู่ในห้องฉกุ เฉนิ ในห้องฉุกเฉนิ < 2 ปี 2563
โรงพยาบาลราชบรุ ี
โรงพยาบาลบา้ นโป่ง 12245 ช่วั โมง 86.37
โรงพยาบาลโพธาราม 8714 10576 96.91
โรงพยาบาลดำเนนิ สะดวก 3204 8445 78.46
7635 2514 84.23
รวม 31798 6431 87.95
27966
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 181
ตัวชี้วัดรอง1.3 อัตราตายผู้ป่วยบาดเจ็บรุนแรงต่อสมอง (Mortality Rate of Severe Traumatic Brain
Injury) (GCS ≤ 8) (ตุลาคม – กันยายน 2563)
โรงพยาบาล คา่ เป้าหมาย ผลการดำเนนิ งาน ปี 2563 ผา่ น/
ไม่ผ่าน
(ตุลาคม – กันยายน 2563)
เป้าหมาย ผลงาน อตั รา
โรงพยาบาลราชบุรี < 45 % 39 137 28.47 ผ่าน
โรงพยาบาลบา้ นโปง่ 32 222 14.41 ผ่าน
โรงพยาบาลโพธาราม 12 32 37.50 ผ่าน
โรงพยาบาลดำเนินสะดวก 5 15 33.33 ผ่าน
รวม 88 406 21.67 ผ่าน
ตวั ช้วี ดั รอง1.4 อัตราของ TEA Unit ในโรงพยาบาลระดบั A, S, M1 ทีผ่ ่านเกณฑป์ ระเมินคณุ ภาพ
ปี 2564 (ตุลาคม-กันยายน 2563)
ตวั ช้ีวัด/ข้อมูล ผลการดำเนินงาน ผ่าน/
คา่ เปา้ หมาย (ตุลาคม – กันยายน 2563) ไมผ่ ่าน
เป้าหมาย ผลงาน
อตั ราของ TEA Unit ในโรงพยาบาลราชบุรี > 20 คะแนน > 20 คะแนน 23 ไมผ่ า่ น
อตั ราของ TEA Unit ในโรงพยาบาลบ้านโปง่ 28 ผ่าน
อตั ราของ TEA Unit ในโรงพยาบาลดำเนิน 20 ไม่ผา่ น
อัตราของ TEA Unit ในโรงพยาบาลโพ 22 ไม่ผ่าน
ธาราม
ตัวชว้ี ดั รอง 1.5 อตั ราขอโรงพยาบาลระดับ F2 ข้ึนไปทผี่ ่านเกณฑป์ ระเมิน ECS คุณภาพ เป้าหมายไมต่ ำ่ กวา่ ร้อยละ 50
รพ. ผลการประเมนิ ECS รอบ 6 เดอื น
ราชบุรี 68.98
บ้านโป่ง 57.30
โพธาราม 67.80
ดำเนนิ สะดวก 53.40
จอมบึง 56.31
ปากท่อ 54.60
บางแพ 57.30
สวนผงึ้ 65.90
เจด็ เสมยี น 52.80
วัดเพลง 51.20
บ้านคา 53.70
เฉล่ยี 58.05
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 182
ตวั ช้ีวดั : 48. ร้อยละของโรงพยาบาลศนู ย์ผา่ นเกณฑ์ ER คณุ ภาพ
กจิ กรรมการพฒั นา ผลการดำเนินงาน
1. พฒั นาระบบบริการท่มี ีมาตรฐาน 1. จัดบริการห้องฉุกเฉินตามเกณฑ์ ER Service
Delivery
2. ผปู้ ่วยทีม่ ขี อ้ บ่งชี้ในการAdmit อยู่ในหอ้ งฉุกเฉนิ ไมเ่ กนิ
2 ชม ไม่ตำ่ กว่าร้อยละ 60 ผลงานได้ รอ้ ยละ 85.42
3. จัดบริการ OPD นอกเวลาราชการ
2. พัฒนาระบบสนับสนุนท่ีมีมาตรฐาน 1. จัดทำประตู Double door with access control
2.1 พัฒนาอาคารสถานท่ี 2. จดั สถานทร่ี อตรวจให้เหมาะสม
3. จัดใหม้ หี อ้ งแยกโรค
2.2.พัฒนาระบบสารสนเทศ 1.) จดั ระบบควิ เพือ่ ลดความแออัด
2.) มีระบบ GPS เพอื่ ตดิ ตามรถ และมีระบบ
ประสานงานทางโทรศพั ท์ ทางไลนร์ ะหว่างนำส่ง
3.) จดั เกบ็ ข้อมูลในรายงาน43 แฟ้มและโปรแกรม I.S
3. การพฒั นาและธำรงรักษากำลงั คน 1. มแี พทย์ EP 5 คน
2. พยาบาลENP จำนวน 9 คน
3. นักปฏิบตั ิการฉุกเฉินทางการแพทย์(Paramedic )
จำนวน 5 คน
4. การประเมนิ ER คุณภาพ การประเมนิ ER คุณภาพ 12 องคป์ ระกอบผา่ นเกณฑ์
ผลงานร้อยละ 72.96
ตวั ชีว้ ัด : 49. จำนวนผปู้ ว่ ยท่ไี ม่ฉกุ เฉนิ ในห้องฉุกเฉนิ ระดบั 4 และ 5 (Non trauma) เป้าหมาย ลดลงรอ้ ยละ 5
โรงพยาบาล คา่ เปา้ หมาย ผลงาน ผลการดำเนินงาน ปี 2563 ผ่าน/
โรงพยาบาลราชบรุ ี ปี 2562 (ตุลาคม – กนั ยายน 2563) ไมผ่ า่ น
ลดลง
ร้อยละ 5 4024 เป้าหมาย ผลงาน อตั รา ผา่ น
ระดับ 4
(3971) ลดลง 1380x100 34.29
ระดับ 5 (53) รอ้ ยละ 5 4024 (1380)ราย
ข้อมูลปี 2563 -จำนวนผู้ป่วยที่ไม่ฉุกเฉินในห้องฉุกเฉินระดับ 4 (2595 ราย) และระดับ 5 (49ราย)
(Non trauma) (ตุลาคม – กันยายน 2563) จำนวน 2644 ราย
จำนวนผู้ป่วยที่ไม่ฉุกเฉินในห้องฉุกเฉินระดับ 4 และ 5 (Non trauma) ลดลง = (4024 – 2644) = 1380
ราย คดิ เป็นร้อยละ 34.29
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 183
ตารางแสดงจำนวนผูบ้ าดเจ็บและผูเ้ สียชวี ติ จาการกบาดเจ็บทางถนน จงั หวดั ราชบุรี ปีงบประมาณ
2563
ตัง้ แต่ 1 ตุลาคม 2562- 30 กันยายน 2563
ปงี บประมาณ 2563
อำเภอ จำนวน จำนวน อัตราตายต่อแสน ท่ีเกิดเหตุ ER Ward
ผบู้ าดเจบ็ ผูเ้ สยี ชวี ิต ประชากร
ราชบรุ ี 4,135 51 25.37 34 12 5
บ้านโป่ง 2,093 45 26.30 30 13 2
โพธาราม 2,991 46 33.92 32 5 9
ดำเนนิ สะดวก 1,520 21 22.72 13 2 6
บางแพ 725 9 20.27 8 1 0
ปากท่อ 1,324 20 29.94 17 2 1
จอมบงึ 1,216 19 29.83 15 2 2
วดั เพลง 307 6 49.24 5 0 1
สวนผง้ึ 840 8 22.01 4 0 4
บ้านคา 167 5 20.81 1 1 3
รวม 15,318 230 27.13 159 38 33
ขอ้ มูลจากสำนกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั ราชบรุ ี
❖ ผลการดำเนินงานดา้ นการปอ้ งกนั และลดอบุ ตั ิเหตจุ ราจร
1. จำนวนผูบ้ าดเจบ็ จากอบุ ัตเิ หตจุ ราจรทางถนนลดลง 355 ราย คดิ เปน็ ร้อยละ 2.26
2. อัตราตายต่อแสนประชากรในอุบัติเหตุทางถนนลดลง 2.76
3. อัตราการสวมหมวกนริ ภยั ของประชาชนในพ้นื ท่ีจังหวดั ราชบุรี คดิ เปน็ ร้อยละ 45
4. เกดิ ทีมแกนนำขบั เคลอ่ื นงานลดอบุ ตั เิ หตทุ างถนนระดับอำเภอ 10 ทมี ในจังหวดั ราชบรุ ี
5. จุดเสี่ยงได้รับการแก้ไข ปรับปรุง มกี ารทำอุโมงคท์ างลอด การตดิ ตง้ั สัญญาณไฟจราจร มีการติดตั้ง
ไฟส่องสว่างตามจุดตัด ทางแยก ทางร่วม รวมทั้งมีการปรับปรุง ตัดแต่งต้นไม้ริมถนนเพื่อมิให้บดบังทัศนวิสัย
ในการมองเหน็
6. เกดิ กจิ กรรมสรา้ งจิตสำนกึ ในศูนยพ์ ัฒนาเด็กเลก็ ระดับท้องถนิ่ ใน 3 อำเภอ 3 ตำบล
7. เกิดกิจกรรมจิตอาสาจราจรในระดับพื้นที่ ซึ่งสามารถช่วยอำนวยความสะดวกเส้นทางจราจร
การสกัดกลมุ่ ทม่ี ีพฤติกรรมเสีย่ ง เชน่ ไมส่ วมหมวกนริ ภยั เมาสรุ า ขบั รถดว้ ยความเร็ว เปน็ ตน้
8. เกิดโครงการนักเรียนรุ่นใหมม่ ีใบขับขี่ โดยขนสง่ จงั หวัดราชบรุ แี ละขนสง่ อำเภอบา้ นโป่ง
9. มีการรณรงคก์ ารขับข่ีอย่างปลอดภัย ในชว่ งเทศกาลทีผ่ า่ นมาทั้งปีใหม่และสงกรานต์
10. ประชาชนมีส่วนรว่ มในการทำกิจกรรมเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การตีเสน้ จราจร การตัด
ตน้ ไมท้ บี่ ดบังวิสยั ทัศน์ การรณรงคส์ วมหมวกนริ ภัย การชี้เป้าจดุ เสี่ยงในระดบั ตำบลหรือพื้นทีต่ ่างๆ
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 184
ปญั หาอปุ สรรค/ข้อเสนอแนะ/แกไ้ ข
1. เนื่องจากมีสถานการณ์การระบาดของไวรัสCOVID-19ทำให้การจัดกิจกรรมต่างๆหรือการประชุม
ไมส่ ามารถดำเนนิ การได้ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
2. ประชาชนขาดความตระหนักถงึ การป้องกนั อบุ ตั ิเหตุทางถนน ใส่หน้ากากอนามัย แตไ่ มส่ วมหมวกนิรภยั
3. งานป้องกนั และลดอบุ ัตเิ หตุจราจรทางถนน ตอ้ งบรู ณาการร่วมกันถงึ จะสำเร็จ ไม่ใชง่ านของฝา่ ยใดฝา่ ยหนึง่
4. ท้องถิ่น/เทศบาลควรเข้ามามีบทบาทในการดำเนินงานมากขึ้นทั่วทั้งจังหวัดราชบุรี การป้องกันและการ
รณรงคค์ วรเร่มิ จากครอบครวั สูช่ ุมชน สู่ทอ้ งถ่นิ
5. การบงั คับใช้กฎหมายควรเครง่ ครดั และเข้มงวด การตั้งดา่ นควรเป็นดา่ นเคล่ือนที่ และสมำ่ เสมอตลอดทั้งปี
6. การสร้างจติ สำนึกเปน็ เรือ่ งสำคญั ควรเรม่ิ ตั้งแตเ่ ด็ก ครอบครัว ผูป้ กครอง
7. กระทรวงศึกษาควรให้ความสำคัญในเร่ืองการขบั ข่ีอย่างปลอดภยั ควรมหี ลกั สตู รหรือการอบรมครู
เฉพาะทาง เพื่อจะได้มีเครื่องมือในการให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนในสถานศึกษา ควรมีการบรรจุหลักสูตรไว้ใน
การเรียนการสอน และคณุ ครูเองควรเปน็ แมพ่ มิ พ์หรือแบบอยา่ งท่ดี ีใหแ้ ก่นักเรยี น
8. สถานประกอบการหรือโรงงานทุกแห่ง ควรมีมาตรการเรื่องการขับขี่อย่างปลอดภัย มีบทลงโทษ
และมกี ารชมเชยใหร้ างวลั หรอื โบนสั กับผู้ท่ปี ฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ีในโรงงาน
9. นักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับงานอุบัติเหตุจราจรทางถนน ควรค้นคิดพัฒนาหลักสูตรการขับขี่อย่าง
ปลอดภยั ให้กับกระทรวงศึกษา เพอ่ื เปน็ เคร่อื งมือใหก้ ับคุณครไู ด้นำไปใช้
10. การเข้าถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉินของบางอำเภอไม่เป็นไปตามเป้าหมายตัวชี้วัด เนื่องจากการ
ขาดแคลน บุคลากร ต้องใช้หน่วยกู้ชีพระดับ BLS ออกรับผู้ป่วย อีกทั้งการขยายเครือข่ายระบบการแพทย์
ฉกุ เฉินเป็นไปได้ ยาก บางท้องถ่ินมกี ารปรบั เปลีย่ นผ้บู ริหาร ผู้บริหารไมไ่ ด้ให้ความสำคญั จงึ ตอ้ งอาศยั ผู้บรหิ าร
ระดับสูง ถ้าเป็นไป ได้อยากให้มีการทำ MOU ระหว่างกระทรวง หรือเป็นนโยบายของกระทวงมหาดไทย 1
กู้ชีพ 1 ตำบล ที่ค่อนข้างชัดเจน หรือเป็นตัวชี้วัด เพราะการผลักดันให้เกิดหน่วยกู้ชีพ ต้องอาศัยงบประมาณ
คน เครอื่ งมอื อุปกรณแ์ ละยานพาหนะท่ใี ช้รบั สง่ ผปู้ ่วย
11. การพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน จำเป็นต้องมีนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์อยู่ในทีม
โดยเฉพาะใน โรงพยาบาลที่ไม่มีแพทย์เวชปฏิบัติ เพื่อการช่วยเหลือผู้ป่วย/ผู้บาดเจ็บได้ทันท่วงที ปลอดภัย
จากภาวะคุกคามชีวิต ในจังหวัดราชบุรี เริ่มมีนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ในโรงพยาบาลทั้งหมด 4 แห่ง
ยังไม่ครอบคลุม ทั้งจังหวดั และอยากใหม้ ีการบรรจตุ ำแหน่งของนักปฏบิ ัติการฉุกเฉินการแพทย์ (Paramedic)
อยใู่ นกรอบของ ก.พ.
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 185
ภาพกจิ กรรมและผลงานท่ีผ่านมาในเรื่องการป้องกันและลดอบุ ตั ิเหตุทางถนนปีงบประมาณ 2563
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 186
องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั ราชบุรี
สนับสนุนการแก้ปญั หาอุบัตเิ หตุทางถนน
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 187
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 188
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 189
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 190
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 191
ระบบรบั /ส่งต่อผ้ปู ว่ ย
บทนำ
จากปัญหาสุขภาพของประชาชนที่เข้าถึงบริการเพิ่มมากขึ้นทั้งภาวะการเจ็บป่วยฉุกเฉิน และเรื้อรัง
การจัดระบบบริการรักษาพยาบาล ซึ่งระบบรับ/ส่งต่อผู้ปว่ ยจึงมีความสำคัญในการเชื่อมโยงการบริการ ทำให้
การดูแลรักษาเป็นไปอย่างเหมาะสมกับศักยภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วย ตั้งแต่ ระดับปฐมภูมิ จนถึงตติยภูมิ
ตาม ตามแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพและservice design เพื่อให้เกิดการบริหารทรัพยากรอย่างมี
ประสิทธิภาพ และให้เกิดคุณภาพในการดูผู้ป่วยอย่างทั่วถึง และเหมาะสม ทันเวลา และเป็นไปในทิศทาง
เดยี วกนั สามารถเช่อื มตอ่ การบรกิ ารได้ และการดูแลผปู้ ว่ ยต้องมีความปลอดภัยท้ังผปู้ ่วยและเจ้าหนา้ ที่
จังหวัดราชบุรีพบว่าสถานการณ์การรับส่งต่อผู้ป่วยยังเป็นปัญหาสำคัญทั้งในระบบ เครือข่ายจังหวัด
และนอกเครือข่าย เนื่องจากการยกระดับบริการ(service plan) ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและจำนวน
ผู้ป่วยทมี่ ารับบริการมีมากขึน้ ในแต่ละสาขา ทำให้การรบั ส่งต่อผู้ปว่ ยของโรงพยาบาลปลายทางมีขีดจำกัดใน
การรับผู้ป่วย ภาระงานมากขึ้น และทรัพยากรทางการแพทย์ไม่พอเพียงกับปริมาณผู้ป่วยที่มารับบริการ เช่น
เตียงเต็ม เครื่องมือแพทย์มีจำนวนจำกัดและขาดแคลนแพทย์เฉพาะทางบางสาขา จึงจำเป็นจะต้องมีการ
พฒั นาระบบสง่ ต่อภายใตท้ รัพยากรท่มี ีอยา่ งจำกัดใหส้ ามารถเช่ือมตอ่ การบรกิ ารอย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงคใ์ นการดำเนินงาน
1. เพอื่ ใหผ้ ู้ปว่ ยได้รับบรกิ ารทางการแพทย์ทมี่ ีคุณภาพเหมาะกับโรคของผู้ป่วย
2. เพ่ือบรหิ ารทรพั ยากรที่มอี ย่างจำกัด ให้มีประสิทธิภาพ
3. การสง่ ต่อผปู้ ว่ ยมีความปลอดภยั ทง้ั ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่
เป้าหมายในการดำเนนิ งาน
1. ลดการส่งตอ่ ผู้ปว่ ยออกนอกเขต
2. ลดความแออัดเพิม่ การเขา้ ถงึ บริการ
วธิ ีการดำเนินงาน
1. พัฒนาศูนย์รับส่งต่อผู้ป่วยระดับจังหวัด มีบทบาทหน้าที่ในการประสานงานรับส่งต่อผู้ป่วยตาม
แนวทางพัฒนาระบบสง่ ตอ่ ระดับจังหวดั ราชบรุ ี
2. มกี ารใช้ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสง่ ตอ่ ผูป้ ว่ ย และจดั ทำระบบข้อมูลการสง่ ต่อผู้ป่วยสาขา
ท่เี ปน็ ปัญหา
3. มีการประชุมและจัดทำเครือขา่ ยผูเ้ ช่ยี วชาญ เพือ่ แก้ไขปญั หาการสง่ ตอ่ รายสาขา
4. มกี ารติดตามผลและวเิ คราะห์ผลการดำเนินงานการส่งต่อผ้ปู ่วยระดบั จังหวัด
5. สรุปและรายงานผลการส่งต่อผู้ป่วยระดับจังหวัดและสะท้อนข้อมูลกลับให้หน่วยบริการเพ่ือ
แก้ปญั หาและพัฒนา
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน
ร ำ ย ง ำ น ป ร ะ จำ ปี 2 5 6 3 ห น้ ำ | 192
ผลการดำเนนิ งาน
ตารางที่ 1 การส่งต่อผปู้ ว่ ย 4 สาขาออกนอกเขตสขุ ภาพลดลงเมื่อเทยี บกับปที ผ่ี ่านมาปีงบประมาณ 2563
(ต.ค.62 – ก.ย.63)
จำนวนผูป้ ่วยทส่ี ่งต่อออก จำนวนผปู้ ่วยท่สี ง่ ตอ่ ออกนอก ผลการดำเนนิ งาน
โรงพยาบาล นอกเขตสุขภาพ เขตสขุ ภาพ (ต.ค.-ก.ย. 2563)
(A) (B) (A-B)/A*100
A : ราชบุรี 376 148 60.64
S : บา้ นโปง่ 590 398 32.54
M1 : ดำเนินสะดวก 191 131 31.41
M1 :โพธาราม 150 22 85.33
F1 : จอมบึง 8 3 62.5
F2 : สวนผ้งึ 40 35 12.5
F2 : บางแพ 21 10 52.38
F2 : เจด็ เสมยี น 39 24 38.46
F2 : ปากท่อ 84 56 33.33
F2 : วัดเพลง 10 3 70
F3 : บา้ นคา 5 2 60
รวม 1,514 832 45.04
จากตารางที่1 พบว่าสถานการณ์การส่งต่อผู้ป่วยออกนอกเขต(Refer out) 4 สาขา ของโรงพยาบาล
ในจังหวัดราชบุรี ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึง กันยายน ปีงบประมาณ2562 เปรียบเทียบกับปีงบประมาณ 2563
ในชว่ งเวลาเดยี วกัน พบวา่ การสง่ ต่อผปู้ ่วยออกนอกเขตมีแนวโน้มลดลง คดิ เป็นร้อยละ 54.04
ตารางท่ี 2 โรคทมี่ กี ารส่งต่อออกนอกเขต (Refer out)ใน 4 สาขา (ต.ค.62 – ก.ย.63)
โรคสง่ ต่อ จำนวน โรคท่มี กี ารส่งต่อมาก
(ราย)
สาขาโรคมะเรง็ 1,004 C509 Breast malignant neoplasm, unspecified
สาขาโรคหัวใจ 213 I214 Acute sub endocardial myocardial infarction
สาขาการบาดเจ็บและฉุกเฉนิ 15 Injury of brachial plexus
สาขาทารกแรกเกดิ 6 Transient neonatal neutropenia
จากตารางที่ 2 พบว่าการส่งต่อผู้ป่วยออกนอกเขต(4 สาขา) สาขาที่มีการส่งออกนอกเขต
เรียงตามลำดับมากที่สุด ได้แก่สาขาโรคมะเร็ง สาขาโรคหัวใจ สาขาการบาดเจ็บและฉุกเฉิน และสาขาทารก
แรกเกดิ
สำนักงำนสำธำรณสุ ขจังหวัดรำชบุรี กลุ่มงำนพัฒนำระบบบริ กำรและกำรแพทย์ฉุกเฉิน