The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรโรงเรียนวัดหน้าเมือง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by p.yasmee, 2022-05-03 07:43:30

หลักสูตรโรงเรียนวัดหน้าเมือง

หลักสูตรโรงเรียนวัดหน้าเมือง

141

การนำไปใชใ้ นชีวิตจรงิ
ผู้สอนควรจัดให้ผู้เรียนได้ทำงานร่วมกันในการสืบเสาะหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ ผ่านการตั้งคำถาม
การสังเกต การทดลอง การใช้เคร่ืองมือต่าง ๆ การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ จำแนกหลักฐานและข้อมูลต่าง ๆ
การใช้ภาษาเชิงวิทยาศาสตร์อย่างเหมาะสมในการแสดงความเห็น อธิบาย ลงข้อสรุป การอ่าน และทำความเข้าใจ
ข้อมูลท่ีนำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ การรู้จักรับฟังและยอมรับความคิดเห็นท่ีแตกต่างจากตนเอง การเช่ือมั่น
ในความคิดเห็นท่ีมีหลักฐานท่ีน่าเช่ือถือ สนุกกับการแก้ปัญหา การทำงานอย่างมุ่งม่ัน ไม่ย่อท้อ เป็นสมาชิก
ของทมี ท่ีเคารพกฎ กติกา เคารพในความแตกต่างหลากหลายของสมาชกิ ในทมี เหล่านีล้ ้วนพฒั นาผู้เรียนให้เกิด
สมรรถนะเฉพาะและสมรรถนะหลกั ตามเป้าหมายของหลักสตู รในชว่ งชัน้ ที่ 2
การบรู ณาการกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้ต่าง ๆ

ภาษาไทย/ ภาษาอังกฤษ สามารถจัดสถานการณ์ ให้นักเรียนได้เรียนรู้และใช้คำศัพท์
ทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับภาษาของตนเองในการสื่อสารด้วยการพูดหรือเขียน เพื่อนำมาใช้ในการบันทึกผล
การสืบเสาะ สื่อสารความคิด และนำเสนอเร่ืองราว และฝึกการสรุปสาระสำคัญของสารที่อ่านแล้วส่ือสาร
ด้วยภาษาอยา่ งมีกลยุทธ์และเขา้ ใจง่าย

สังคมศึกษา สามารถจัดสถานการณ์การเรียนรู้ในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม
ในการติดตาม ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนในสังคม เพ่ือร่วมกันหาแนวทาง
ในการแก้ไขปัญหาในสังคม ไม่ปฏบิ ัตติ นเปน็ สว่ นหน่งึ ของปัญหาสงั คมและสงิ่ แวดล้อม

คณิตศาสตร์ นำความรู้ทางคณิตศาสตร์มาใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ เช่น การวัดความยาว
หรือความสูง การวัดปริมาตร นอกจากน้ีใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์เพื่อจัดการข้อมูล และเลือกรูปแบบ
การนำเสนอข้อมลู ท่ีเหมาะสมตรงตามวัตถปุ ระสงค์

สุขศึกษา บูรณาการผลลัพธ์การเรียนรู้เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารร่วมกับผลลัพธ์การเรียนรู้
เกย่ี วกับการรับประทานอาหารที่เหมาะสมเพอ่ื ใหร้ า่ งกายมสี ขุ ภาพแข็งแรง

เทคโนโลยีดิจทิ ัล บูรณาการผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ของกล่มุ สาระการเรยี นรู้เทคโนโลยีดิจิทัลเกี่ยวกับ
การใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อรวบรวมข้อมูล ออกแบบการบันทกึ ข้อมูลจัดเก็บ จัดเตรียม ประมวลผล วิเคราะห์
และการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาร่วมกับผลลัพธ์การเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
และระบบธรรมชาติ

142

 ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสมรรถนะหลักและสมรรถนะเฉพาะ

สมรรถนะเฉพาะ สมรรถนะหลกั

1. อธิบายปรากฏการณ์อยา่ งเปน็ วิทยาศาสตร์ 2. การคิดขั้นสงู
3. การสอื่ สาร
1.1 สร้างคำอธบิ ายสาเหตุและกระบวนการของปรากฏการณ์ โดยใช้ 6. การอยูร่ ่วมกบั ธรรมชาติและ
ข้อมลู หรือหลักฐานท่รี วบรวมไดจ้ ากการสงั เกตหรือทดลอง
วิทยาการอย่างยัง่ ยืน
1.2 ยอมรับและเชือ่ ถอื คำอธบิ ายทม่ี ีขอ้ มูลและหลกั ฐานทีน่ า่ เชอ่ื ถอื
เพยี งพอ

1.3 เชื่อมโยงสาเหตุและผลของปรากฏการณ์กบั การดำรงชีวติ ของมนุษย์
และส่งิ แวดล้อม

1.4 คาดการณ์ปรากฏการณอ์ ย่างสมเหตุสมผลโดยอาศัยความรู้
เชิงวิทยาศาสตร์และข้อมลู ที่ไดจ้ ากการสังเกตหรอื การทดลอง

2. ประเมนิ และออกแบบการสืบเสาะเชงิ วิทยาศาสตร์

2.1 สงั เกต ตงั้ คำถาม ต้ังสมมติฐาน และทดสอบสมมติฐานเกย่ี วกบั 1. การจดั การตนเอง

ปรากฏการณ์ 2. การคิดขน้ั สูง

2.2 ประเมินและเลือกวธิ กี ารเกบ็ รวมรวมหลักฐานโดยการสงั เกตหรอื การ 6. การอยู่รว่ มกับธรรมชาติและ

ทดลอง และออกแบบการบนั ทกึ ข้อมูลเพื่อตอบคำถามหรือ วทิ ยาการอยา่ งย่งั ยนื

สมมติฐานเกยี่ วกบั ความน่าเชื่อถือและความสมเหตสุ มผลของข้อมลู

และหลักฐาน และลงขอ้ สรปุ

2.3 ใส่ใจ พยายาม กระตือรอื รน้ ในการสบื เสาะเพอื่ เก็บรวบรวมหลกั ฐาน

ในการอธิบายปรากฏการณ์

3. ตีความหมายขอ้ มูลและหลักฐานทางวทิ ยาศาสตร์

3.1 จดั การข้อมูลท่ไี ด้จากการสังเกตหรือทดลองใหอ้ ยู่ในรูปแบบที่เหมาะสม 2. การคิดขนั้ สงู
เชน่ รปู ภาพ สญั ลกั ษณ์ แผนภาพ แผนภูมิ ตาราง หรือกราฟ 3. การสอ่ื สาร

3.2 แปลความหมายข้อมูลท่ีอย่ใู นรปู แบบต่าง ๆ เชน่ แผนภาพ แผนภูมิ 6. การอยูร่ ว่ มกบั ธรรมชาตแิ ละ
ตาราง หรือกราฟ วิทยาการอย่างยั่งยนื

3.3 ลงขอ้ สรุปโดยอาศยั ข้อมูลและหลกั ฐานท่ไี ด้มาจากการสังเกตหรือ
การทดลอง และไมด่ ่วนตดั สินใจเมื่อยงั ไม่มหี ลกั ฐานทีน่ ่าเชื่อถือ
เพยี งพอ

4. แก้ปัญหา สร้างนวัตกรรม และการอยรู่ ่วมกัน

4.1 แก้ปญั หาหรือสรา้ งเครื่องมือเครอ่ื งใชเ้ พอื่ ตอบสนองความตอ้ งการ ใน 2. การคดิ ขัน้ สงู

ชีวิตโดยใช้ความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์และการทำงานร่วมกบั ผู้อนื่ 4. การรวมพลงั ทำงานเป็นทีม

4.2 ประยกุ ต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์หรอื ศาสตร์อื่น ๆ ในการปฏิบัติตน 5. การเป็นพลเมืองทเี่ ขม้ แขง็

ในชวี ิตประจำวนั โดยคำนงึ ถึงสว่ นรวมและการอย่รู ่วมกับธรรมชาติ 6. การอยรู่ ว่ มกบั ธรรมชาตแิ ละ
วทิ ยาการอยา่ งย่ังยืน
ไดอ้ ย่างเหมาะสม

143

สมรรถนะเฉพาะ สมรรถนะหลัก
2. การคิดขั้นสูง
5. ใชแ้ ละเข้าใจภาษาเชิงวิทยาศาสตร์ 3. การสอ่ื สาร

5.1 ทำความเข้าใจ จับประเด็นสำคัญจากการฟงั หรืออา่ นขอ้ มูลทีม่ ีภาพ 3. การส่ือสาร
แผนภาพ แผนภมู ิ ตาราง กราฟ ภาษาสญั ลักษณ์ และคำศพั ท์ 6. การอย่รู ว่ มกบั ธรรมชาตแิ ละ
ทางวทิ ยาศาสตร์
วิทยาการอย่างยงั่ ยนื
5.2 แลกเปล่ยี นความคิดเห็น อธิบาย คาดการณ์ ให้เหตผุ ล
เชงิ วทิ ยาศาสตร์ สรปุ ผลการทำกิจกรรมอย่างตรงไปตรงมา
ตรงตามจดุ ประสงค์ ด้วยคำศัพท์ทางวทิ ยาศาสตร์ ส่อื หรือวิธกี าร
ท่ีเหมาะสม

6. ใชเ้ คร่อื งมอื ในการเรยี นรู้

6.1 เลือกและใช้เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ เครือ่ งมอื ดิจิทลั
ในการเก็บรวบรวมข้อมลู และหลกั ฐานทสี่ งั เกตหรือทดลองไดอ้ ยา่ ง
ถูกต้องและเหมาะสม

6.2 ใชค้ ณติ ศาสตร์หรือเคร่ืองมือดิจิทลั เพือ่ จัดการและนำเสนอข้อมลู

 ผลลัพธก์ ารเรียนรูเ้ มอ่ื จบชว่ งชน้ั ที่ 2

1. วิเคราะห์และระบุลักษณะท่ีมีการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ลักษณะของสารละลายที่พบในชีวิตประจำวัน
อธบิ ายการทำงานของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร และความสมั พนั ธ์ระหว่างกระบวนการย่อยอาหารกับ
การเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เกิดข้ึนในร่างกายจากหลักฐานที่รวบรวมได้อย่างกระตือรือร้น และทำงาน
รว่ มกันโดยแบ่งบทบาทหน้าที่ กำหนดเป้าหมาย จัดลำดับขน้ั ตอนการทำงาน และปฏบิ ัตงิ านจนสำเร็จ

2. สังเกต ทดลอง และอธิบายการเกิดเสียง การเคล่อื นที่ของเสียง เสียงสูง เสยี งต่ำ เสียงดัง เสียงคอ่ ย และ
วิเค ราะ ห์ ส าเห ตุ ท่ี ท ำ ให้ เกิ ด ม ล พิ ษ ท าง เสี ย ง โด ย ป ร ะเมิ น ค วาม น่ าเชื่ อ ถื อ แล ะ ค วาม สม เห ตุ ส ม ผ ล
ของหลักฐาน ไม่ประพฤติตนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมลพิษทางเสียง และนำเสนอแนวทางการปฏิบัติตน
ให้ปลอดภัยจากมลพิษทางเสียงเพ่ือให้มีสุขภาพกายและจิตที่ดีด้วยวิธีการที่เหมาะสม เพื่อให้เกิด
ประโยชน์ตอ่ ตนเองและผูอ้ ่นื

3. ร่วมกันทำงานเป็นทีมในการรับฟัง แลกเปล่ียนความคิดเห็น และทำงานอย่างเป็นข้ันตอนในการสร้าง
แบบจำลองเพื่ออธิบายกระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง น้ำค้างแข็ง ฝน หิมะ และลูกเห็บ
โดยอาศัยความรู้เกย่ี วกบั สถานะและการเปลีย่ นสถานะของสสารและจากขอ้ มลู ท่ีรวบรวมได้

4. วเิ คราะห์แบบจำลองวัฏจักรน้ำร่วมกับข้อมูลปริมาณน้ำบนโลก เพื่อเปรียบเทียบปรมิ าณน้ำจืดที่มนุษย์
นำมาใช้ได้เทียบกับปริมาณน้ำท้ังหมดบนโลก ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์และเครื่องมือดิจิทั ล
ในการจัดการและนำเสนอข้อมูลอย่างเหมาะสม และนำเสนอแนวทางการปรับเปล่ียนพฤติกรรม
การใช้น้ำของคนในบ้านหรือในโรงเรียน วิเคราะห์ จัดลำดับสาเหตุของปัญหา และร่วมกัน
หาแนวทางการแก้ไขปัญหา หรือนำเสนอแนวทางการอนุรักษ์น้ำในชุมชน เพ่ือเป็นส่วนหน่ึงท่ีช่วยให้
ชมุ ชนมีน้ำใชอ้ ย่างไมข่ าดแคลน

5. สร้างคำอธิบายและแลกเปลย่ี นข้อมูลเก่ียวกับความสัมพนั ธ์ระหว่างสิ่งมชี วี ติ กับสิง่ แวดลอ้ ม
ในแหลง่ ทีอ่ ยู่ในเรื่องการปรับตวั ดา้ นโครงสร้างและลักษณะของสิ่งมชี วี ิตที่เหมาะสมกบั การดำรงชวี ติ
ความสัมพันธร์ ะหว่างสงิ่ มชี วี ติ กับส่ิงมีชีวิตในการถา่ ยทอดพลงั งานและการเปน็ ทอ่ี ย่อู าศยั โดยแบ่ง

144

บทบาทหนา้ ท่ีในการเลอื กวธิ กี ารรวบรวมข้อมลู ที่เหมาะสม จดั การข้อมลู และเลือกรูปแบบ
การนำเสนอขอ้ มลู ให้ผ้อู ื่นเขา้ ใจไดง้ า่ ย และสอดคล้องกับจุดประสงค์ รบั รู้ความสำคัญของความสมั พันธ์
ของส่ิงมีชีวิตกบั ส่งิ แวดล้อมโดยบอกแนวทางการดูแลสง่ิ แวดล้อมอย่างมีเหตุผลและปฏบิ ัติตนเพื่อให้การ
ถ่ายทอดพลังงาน การดำรงชีวิต และความหลากหลายของสง่ิ มีชวี ติ เป็นไป
ตามธรรมชาติ
6. อธิบายการมองเห็นส่ิงต่าง ๆ รอบตัวและการเกิดเงา คาดการณ์การมองเห็นปรากฏการณ์
การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของดวงจันทร์บนท้องฟ้า พยายามหาสาเหตุและอธิบายการเกิดปรากฏการณ์
อุปราคาได้อย่างสมเหตุสมผล โดยอาศัยความรู้เรื่องแสงกับการมองเห็น การเกิดเงา ร่วมกับการสงั เกต
และการสร้างแบบจำลอง ส่ือสารความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบนพ้ื นฐานของความเข้าใจ
อยา่ งมเี หตุผลและตระหนักถงึ ความแตกต่างในดา้ นความเช่ือและวฒั นธรรมของคนในสงั คม นำเสนอโดย
เลอื กใช้สอ่ื และวิธกี ารทเี่ หมาะสม
7. วเิ คราะห์ความสมเหตุสมผลของดาวต่าง ๆ ในระบบสุรยิ ะกับการดำรงชีวิตของส่ิงมีชีวติ จากการสังเกต
แบบจำลองระบบสุริยะและรวบรวมขอ้ มูล และนำเสนอโดยใช้แบบจำลองหรือในรปู แบบทนี่ ่าสนใจ เพ่ือ
นำไปสู่ความตระหนักวา่ โลกเป็นดาวดวงเดียวในระบบสุรยิ ะท่เี หมาะสมกบั การดำรงชีวติ
8. สร้างคำอธิบายการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยอาศัยหลักฐานและการเช่ือมโยงความรู้
จากการสังเกต จากแบบจำลอง และจากข้อมูลที่รวบรวมได้ และนำเสนอประโยชน์และผลกระทบของ
ปรากฏการณเ์ รือนกระจกตอ่ สงิ่ มชี ีวิตและส่งิ แวดลอ้ ม
9. วิเคราะห์พ ฤติกรรมหรือกิจกรรมต่าง ๆ ของตนเองและสมาชิกในครอบครัวที่ก่อให้เกิด
แก๊สเรือนกระจกด้วยเหตุและผล แสดงความคิดเห็นของตนเองและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
ใน ก าร เสน อ แ น ว ท าง ใน ก าร ลด กิ จก ร ร ม ท่ี ก่ อ ให้ เกิ ดแ ก๊ สเรื อ น ก ระ จก แ ละ น ำเส น อ ห รื อ ส่ื อ ส าร
ผ่านช่องทางต่าง ๆ ท่ีน่าสนใจและเหมาะสม และมุ่งมั่นในการลงมือปฏิบัติเพื่อเป็นส่วนหนึ่งท่ีช่วยลด
ผลกระทบทจี่ ะเกดิ ขน้ึ ต่อส่ิงมชี ีวิตและสงิ่ แวดลอ้ ม
10. ตงั้ คำถามและสมมติฐานเพ่ือนำไปสู่การทดลองและอธิบายผลของแรงเสียดทานที่มีต่อวัตถุ สังเกตและ
อธิบายเกี่ยวกับผลของแรงโน้มถ่วงท่ีมีต่อวัตถุ ความสัมพันธ์ระหว่างแรงโน้มถ่วง มวล และน้ำหนักของ
วตั ถุ และการวัดน้ำหนักของวัตถุด้วยเครอ่ื งช่ังสปริง ประยกุ ต์ใช้ความรเู้ รื่องแรงเสียดทาน แรงโน้มถ่วง
มวล และน้ำหนัก ในการแก้ปัญหาหรอื อธิบายสถานการณ์หรือกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง และนำเสนอ
ผ่านส่ือหรอื วธิ ีการท่เี หมาะสม
11. ร่วมกันทำงานเป็นทีมอย่างกระตือรือร้นในการสร้างเครื่องมือหรือเคร่ืองใช้อย่างสร้างสรรค์
เพ่ือแก้ปัญหาหรือตอบสนองต่อความต้องการ โดยเลือกใช้ความรู้เกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย
การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม การต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน สมบัติการนำไฟฟ้า
สมบัติการนำความร้อน และสมบัติด้านความแข็งของวัสดุ ประเมิน ตนเองในด้านผลงานและ
การทำงานในบทบาทการเป็นสมาชกิ ของทีม

 ผลลัพธ์การเรียนรู้รายช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4

1.สงั เกตการเปล่ยี นแปลงของสารทมี่ ีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอภิปรายและลงข้อสรุปเกี่ยวกับการ
เปล่ยี นแปลงทางกายภาพไดอ้ ย่างกระตอื รือร้น และ ทำงานรว่ มกนั โดยแบ่งบทบาทหนา้ ที่ หนดเป้าหมาย
จัดลำดบั ข้ันตอนการทำงาน และปฏบิ ตั ิงาน

145

2.สังเกต อภิปราย และอธิบายการ เกดิ เสยี ง ทศิ ทางการเคลือ่ นท่ีของ เสียง และการเคลอื่ นทขี่ องเสียง ผ่าน
ตัวกลางของเสยี ง ทดลองและอธบิ ายการเกิดและ การได้ยนิ เสียงดงั เสยี งค่อย ตลอดจน ทดลองและอธิบาย
การเกิดเสียง สูง เสียงตำ่ และสามารถอธิบายลกั ษณะเสียงต่างๆในสถานการณร์ อบตัวตลอดจนและไม่ประพฤติ
ตนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกดิ มลพิษทางเสียง
3.รว่ มกนั ทำงานเปน็ ทีมในการรับฟัง แลกเปลี่ยนความคดิ เห็น และทำงานอย่างเปน็ ขัน้ ตอนในการสำรวจแหลง่
นำ้ ผวิ ดนิ ท่ีพบในชมุ ชนและรว่ มกันต้ังคำถาม เกี่ยวกับสมบัติของนำ้ ในสถานะของแข็ง ของเหลว และแกส๊ ลง
ขอ้ สรุปเก่ียวกับสมบัตขิ องนำ้ ในแตล่ ะสถานะได้อยา่ งถูกตอ้ ง
4.วเิ คราะห์แบบจำลองวฏั จักรนา้ รว่ มกบั ข้อมลู ปริมาณน้ำ บนโลก เพ่อื เปรยี บเทยี บปริมาณน้าจืดที่มนุษย์
นำมาใช้ได้เทยี บกับปริมาณนา้ ทงั้ หมด
5.สืบเสาะ โดยการสำรวจการใชเ้ ครอื่ งมือในการจดั ทำขอ้ มูลเพอ่ื อธบิ ายโครงสรา้ งและลกั ษณะของสิง่ มชี วี ติ
และการปรับตวั ของส่งิ มชี ีวติ โดยบอกแนวทางการดแู ลส่ิงแวดล้อมอย่างมีเหตุผลและปฏิบัติตนเพ่อื ให้ พลังงาน
การดำรงชวี ติ การถา่ ยทอดและความหลากหลายของส่ิงมชี วี ติ เปน็ ไปตามธรรมชาติ
6.ตั้งคำถาม สงั เกต ระบุ แหล่งกำเนดิ แสง เขียนแผนภาพรงั สีของแสงในการเดนิ ทางของแสงทดลองตัวกลางใน
การเดินทางของแสงสือ่ สารความรู้และแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นบนพื้นฐานของความเขา้ ใจอย่าง มเี หตผุ ลและ
ตระหนักถึงความแตกตา่ งในดา้ นความเชื่อและวัฒนธรรมของคนในสงั คม
7.จบั ประเด็นสำคญั จากการ รวบรวมข้อมูลและวเิ คราะห์ ความสมเหตุสมผลทดี่ าวตา่ ง ๆ ในระบบสุรยิ ะ
สามารถมี สงิ่ มีชวี ติ อาศยั อยู่จากแบบจำลองและข้อมูลทร่ี วบรวม
8.อธิบายการเกดิ ปรากฏการณ์ เรือนกระจกที่เกิดข้ึนตาม ธรรมชาติและ เช่อื มโยงความร้จู ากการสังเกต จาก
แบบจำลอง และจากข้อมูล ท่รี วบรวมได้นำเสนอประโยชน์และผลกระทบของ ปรากฏการณเ์ รอื นกระจกต่อ
ส่ิงมีชวี ิตและสิ่งแวดล้อม
9.ระบุแหลง่ ที่มาท่กี อ่ ให้เกิด แก๊สเรือนกระจกชนดิ ตา่ ง ๆ จากข้อมูลทรี่ วบรวมได้ วเิ คราะห์พฤติกรรมหรอื
กจิ กรรมตา่ ง ๆ ของตนเองและ สมาชิกในครอบครวั ท่ีกอ่ ใหเ้ กิด แก๊สเรอื นกระจกโดยใช้เหตุ และผล รว่ มกัน
แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั แนวทางในการลด กิจกรรมท่ีกอ่ ใหเ้ กิดแก๊สเรอื น มุ่งมั่น ตั้งใจ ในการลงมอื ปฏบิ ัติ
เพื่อชว่ ยลด ผลกระทบที่จะเกิดขนึ้ ตอ่ สิ่งมชี ีวติ และส่งิ แวดลอ้ ม
10.สังเกตและอธิบายผลของ แรงโนม้ ถ่วงทม่ี ีต่อวตั ถตุ า่ ง ๆ บนโลก อธิบายวธิ กี ารและใช้เครือ่ งชงั่ สปริง และ
ระบหุ นว่ ยในการชัง่ นา้ หนักของวัตถุ และอธิบาย สมั พนั ธร์ ะหว่างแรงโน้มถว่ ง มวล และนา้ หนกั ของวตั ถุจาก
หลกั ฐาน ทีร่ วบรวม
11.ประเมนิ และเลอื กวธิ ีการทดลอง เพื่ออธิบายสมบัตดิ า้ นความแขง็ ของวสั ดทุ ี่ พบในชีวติ ประจำวัน อธิบาย
สถานการณ์ทพ่ี บใน ชวี ติ ประจำวนั โดยใชค้ วามรู้ สมบตั ิด้านความแข็งใน สถานการณ์ตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวข้องกบั
สมบัตดิ ้าน ความแขง็ ของ ตง้ั คำถามเพอื่ นำไปสกู่ ารทดลองเก่ยี วกบั สมบตั ิดา้ นความแขง็ ของวสั ดุต่าง ๆ รว่ มกนั
ตัง้ สมมตฐิ าน อภปิ รายเก่ยี วกบั ตวั แปรที่เกย่ี วข้องในการ ทดลอง ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง

 ผลลพั ธ์การเรียนรู้รายช้ันประถมศึกษาปีที่ 5

1.สังเกตการเปล่ยี นแปลงของสารทีม่ ีการเปล่ยี นแปลงทางเคมีอภิปรายและลงข้อสรุปเก่ียวกับการเปลยี่ นแปลง
ทางทางเคมีได้อยา่ งกระตือรือรน้ และทำงานร่วมกนั โดยแบง่ บทบาทหนา้ ที่ กำหนดเป้าหมาย จัดลำ ดับข้ันตอน
การทำงาน และปฏบิ ัติงาน จนสำเร็จ
2.สังเกต อภิปราย และอธบิ ายการ เกิดเสยี ง ทิศทางการเคลอ่ื นที่ของ เสยี ง และการเคล่อื นทีข่ องเสียง ผา่ น
ตัวกลางของเสียง ทดลองและอธิบายการเกิดและ การไดย้ นิ เสยี งดัง เสยี งคอ่ ย เกิดเสียง สงู เสียงต่ำ ตัวกลาง

146

ของเสียงชนดิ ต่างๆและสามารถอธิบายเสียงในสถานการณ์ตา่ งๆรอบตวั ตลอดจนไมป่ ระพฤตติ นท่ีเป็นสาเหตทุ ำ
ใหเ้ กดิ มลพษิ ทางเสียง
3.รว่ มกนั ทำงานเปน็ ทีมในการรับฟงั แลกเปลยี่ นความคดิ เห็น และทำงานอย่างเป็นขน้ั ตอนในการสำรวจแหล่ง
นำ้ ผวิ ดนิ ทีพ่ บในชมุ ชนและรว่ มกนั ตงั้ ค าถาม เก่ียวกบั สมบัตขิ องนำ้ ในสถานะของแข็ง ของเหลว และแก๊ส
ลงข้อสรปุ เกย่ี วกบั สมบัตขิ องน้ำในแต่ละสถานะ และสืบค้นข้อมูลรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเกิด เมฆ
หมอก นำ้ คา้ ง น้ำค้างแขง็ ฝน หิมะ ลูกเหบ็ ได้อย่างถูกต้อง
4.ใช้ความร้ทู างคณิตศาสตร์และเครอื่ งมือดิจิทลั ในการ จดั การและนำเสนอขอ้ มลู อย่างเหมาะสม และนำเสนอ
แนวทางการปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมการใช้นา้ ของคนในบ้านหรอื ในโรงเรียน วิเคราะห์ จัดลำดบั สาเหตขุ อง
ปัญหา และร่วมกันหาแนวทางการแกไ้ ขปญั หา หรอื นำเสนอแนวทางการอนรุ ักษน์ ้าในชมุ ชน เพ่ือเปน็ สว่ นหนึ่ง
ทช่ี ่วยให้ชุมชนมนี ้าใช้อยา่ ง ไมข่ าดแคลน
5.ร่วมกนั จัดการขอ้ มลู เลือก รูปแบบการนำเสนอเพอ่ื อธบิ าย โครงสรา้ งและลักษณะของ ส่งิ มีชีวิตท่ีเหมาะสม
กับการ ดำรงชวี ติ ตามบทบาทหน้าท่ีที่ ไดร้ บั มอบหมาย สรา้ งคำอธิบายเชอื่ มโยง เก่ยี วกับโครงสรา้ งและ
ลักษณะ ของสิง่ มีชีวิตท่ีเหมาะสมกบั การ ดำรงชวี ิตและการปรับตวั ของ สง่ิ มชี ีวิต โดยบอกแนวทางการดูแล
สงิ่ แวดล้อมอยา่ งมีเหตุผลและปฏิบัติตนเพื่อให้ พลงั งาน การด ารงชวี ิต การถ่ายทอดและความหลากหลายของ
สิ่งมชี ีวติ เป็นไปตามธรรมชาติ
6.ตัง้ คำถาม สงั เกต ระบุ แหล่งกำเนิดแสงเขียนแผนภาพรังสีของแสงในการเดนิ ทางของแสง
ทดลองตัวกลางในการเดินทางของแสงสอ่ื สารความรู้และแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ บนพน้ื ฐานของความเขา้ ใจ
อยา่ ง มีเหตุผลและตระหนักถงึ ความแตกตา่ งในด้านความเชอื่ และวัฒนธรรมของคนในสงั คม
7.ตั้งคำถาม สบื ค้น อ่าน และจบั ประเด็นสำคัญเก่ียวกับความ แตกต่างของดวงอาทิตย์ โลก ดวงจันทร์ ดาว
เคราะห์ และวตั ถุ ทอ้ งฟา้ อืน่ ๆ ในระบบสรุ ิยะ และการเคลอ่ื นท่ีทสี่ มั พนั ธก์ นั อยา่ ง เปน็ ระบบของดาวและวตั ถุ
ทอ้ งฟา้ อน่ื ๆ วเิ คราะห์ความเป็นไปได้ของข่าวหรือสถานการณ์ท่ีเก่ยี วข้องกับการย้ายถ่ินฐานของมนุษย์

8.นำเสนอประโยชน์และ ผลกระทบของปรากฏการณ์ เรอื นกระจกท่มี ีต่อสิ่งมชี วี ติ และสิ่งแวดล้อม จากข้อมลู
ที่รวบรวมได้สังเกตภาพโลกทม่ี ีช้นั บรรยากาศปกคลุม ต้งั คำถามเกยี่ วกับ อุณหภมู ิอากาศเม่ือมีสสารบางชนดิ ใน
ชน้ั บรรยากาศปกคลุมโลก
9.ระบุแหลง่ ที่มาที่กอ่ ใหเ้ กิด แกส๊ เรอื นกระจกชนดิ ต่าง ๆ จากข้อมลู ท่รี วบรวมได้ วิเคราะหพ์ ฤติกรรมหรือ
กจิ กรรมต่าง ๆ ของตนเองและ สมาชกิ ในครอบครวั ท่กี อ่ ใหเ้ กิด แก๊สเรอื นกระจกโดยใชเ้ หตุ และผล รว่ มกนั
แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับแนวทางในการลด กิจกรรมที่ก่อให้เกดิ แกส๊ เรอื น มงุ่ มัน่ ตั้งใจ ในการลงมือปฏิบัติ
เพ่ือช่วยลด ผลกระทบท่ีจะเกิดข้ึนต่อ ส่งิ มชี ีวติ และสิง่ แวดล้อม
10.ตง้ั คำถามและสมมตฐิ านเพือ่ ทดลองเก่ียวกบั ผลของแรง เสียดทานท่มี ีต่อวัตถุบนพ้ืนผวิ ตา่ ง ๆนำเสนอการ
ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้เร่ืองแรงเสียดทานในการ แก้ปัญหา วเิ คราะหห์ รืออธิบาย สถานการณ์หรือกิจกรรมต่าง
11.รว่ มกนั ทำงานเปน็ ทีมอย่างกระตือรอื ร้นในการสรา้ งเครือ่ งมอื หรือเครือ่ งใชอ้ ย่างสรา้ งสรรคเ์ พื่อ แก้ปญั หา
หรือตอบสนองต่อความตอ้ งการ เลือกใชค้ วามรู้เกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย การต่อ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม
การตอ่ อปุ กรณไ์ ฟฟ้าแบบอนกุ รมและแบบขนาน ประเมนิ ตนเองในดา้ นผลงานและการทำงานใน บทบาทการ
เปน็ สมาชกิ ของทีม

147

 ผลลัพธ์การเรยี นรู้รายชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6

1. สังเกตการเปล่ียนแปลงของสารทมี่ ีการเปลี่ยนแปลงทางเคมีอภิปรายและลงขอ้ สรุปเกี่ยวกับการเปลยี่ นแปลง
ทางทางเคมีอธบิ ายการทำงานของระบบย่อยอาหารและความสมั พันธ์ระหว่างกระบวนการยอ่ ยอาหารกบั การ
เปลี่ยนแปลงทางเคมีได้อย่างกระตือรือรน้ และทำงานร่วมกนั โดยแบง่ บทบาทหนา้ ที กำหนดเป้าหมายจัดลำดับ
ขั้นตอนการทำงานและปฏิบัติงาน
2. สงั เกต อภปิ ราย และอธิบายการ เกดิ เสยี ง ทิศทางการเคลอ่ื นที่ของ เสยี ง และการเคล่ือนท่ีของเสยี ง ผ่าน
ตวั กลางของเสยี ง การเกดิ และ การได้ยินเสียงดัง เสยี งค่อย การเกิดเสยี ง สูง เสียงต่ำวเิ คราะหส์ าเหตุที่ทำให้
เกดิ มลพษิ ทางเสียงในสถานการณ์ตา่ ง ๆ โดยประเมนิ ความน่าเชื่อถอื และ ความสมเหตสุ มผลของหลกั ฐานที่
รวบรวมได้ และไมป่ ระพฤติตนเปน็ สาเหตุทที่ ำให้ เกดิ มลพษิ ทางเสียง พรอ้ มทง้ั นำเสนอ แนวทางการปฏบิ ัตติ น
ให้ ปลอดภยั จากมลพิษทางเสยี งดว้ ย วิธกี ารทเี่ หมาะสมเพอื่ ให้เกิด ประโยชนต์ ่อตนเองและผู้อน่ื
3. รว่ มกันทำงานเป็นทมี ในการรับฟงั แลกเปลย่ี นความคิดเห็น และทำงานอยา่ งเปน็ ขั้นตอนในการสรา้ ง
แบบจำลองเพื่ออธบิ ายกระบวนการเกิดเมฆ หมอก นำ้ คา้ ง น้ำคา้ งแข็ง ฝน หิมะ และลกู เหบ็ โดยอาศยั ความรู้
เก่ยี วกับสถานะและการเปลยี่ นสถานะของสสารและจากข้อมลู ท่รี วบรวมได้
4. ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตรแ์ ละเคร่อื งมือดิจทิ ัลในการ จดั การและนำเสนอข้อมลู อย่างเหมาะสม และนำเสนอ
แนวทางการปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรมการใชน้ ้า ของคนในบา้ นหรือในโรงเรียน วเิ คราะห์ จัดลำดบั สาเหตุของ
ปญั หา และรว่ มกนั หาแนวทางการแกไ้ ขปญั หา หรือนำเสนอแนวทางการอนุรกั ษน์ ้าในชมุ ชน เพ่ือเปน็ ส่วนหนงึ่
ท่ีชว่ ยให้ชมุ ชนมนี า้ ใชอ้ ย่าง ไม่ขาดแคลน
5. รว่ มกันจดั การขอ้ มลู เลอื ก รปู แบบการนำเสนอเพื่ออธบิ าย โครงสร้างและลักษณะของ ส่งิ มชี ีวติ ท่เี หมาะสม
กับการ ดำรงชวี ิตตามบทบาทหน้าท่ีที่ ไดร้ บั มอบหมาย สร้างคำอธิบายเชอื่ มโยง เกี่ยวกบั โครงสร้างและ
ลกั ษณะ ของสงิ่ มีชวี ติ ท่ีเหมาะสมกับการ ดำรงชวี ติ และการปรับตวั ของ สงิ่ มชี วี ิต โดยบอกแนวทางการดแู ล
สิ่งแวดล้อมอยา่ งมเี หตุผลและปฏิบตั ติ นเพื่อให้ พลงั งาน การดำรงชีวติ การถ่ายทอดพลังงานและความ
หลากหลายของส่ิงมีชวี ติ เป็นไปตามธรรมชาติ
6. สังเกตและอธบิ ายแบบรูปการ เปล่ยี นแปลงรูปร่างของดวงจันทร์บนทอ้ งฟา้ และ คาดการณร์ ปู ร่างของดวง
จันทร์ บนทอ้ งฟ้า อธบิ ายสาเหตกุ ารมองเห็นการ เปล่ียนแปลงรปู รา่ งของ ดวงจันทร์ โดยใช้แบบจำลอง
สังเกตและอธบิ ายการเกดิ เงา ลักษณะของเงาท่ปี รากฏบนฉาก ลกั ษณะและการเกดิ เงามืดและ เงามวั จาก
หลกั ฐานท่รี วบรวมได้ ประยกุ ต์ใช้ความรู้เรอื่ งการ เกดิ เงาในการแกป้ ัญหาและอธิบาย สถานการณ์ต่าง ๆ ใน
ชวี ิตประจำวันสือ่ สารความรแู้ ละแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นบนพน้ื ฐานของความเขา้ ใจอย่าง มเี หตผุ ลและ
ตระหนกั ถึงความแตกตา่ งในด้านความเช่ือและวฒั นธรรมของคนในสงั คม นำเสนอ
7.ตัง้ คำถาม สืบคน้ อา่ น และจบั ประเดน็ สำคัญเกี่ยวกับความ แตกต่างของดวงอาทิตย์ โลก ดวงจันทร์ ดาว
เคราะห์ และวัตถุ ท้องฟ้าอื่น ๆ ในระบบสรุ ยิ ะ และการเคลือ่ นท่ีทสี่ ัมพนั ธก์ ันอย่าง เปน็ ระบบของดาวและวตั ถุ
ทอ้ งฟา้ อืน่ ๆ วเิ คราะห์ความเปน็ ไปได้ของข่าวหรือสถานการณ์ท่ีเกี่ยวข้องกับการย้ายถิ่นฐานของมนษุ ย์
8.เช่อื มโยงความรเู้ กย่ี วกบั อณุ หภูมิอากาศเพ่ือนำไปสูก่ ารอธบิ ายการเกิดนำเสนอการเกิดและประโยชนข์ อง
ปรากฏการณ์เรือนกระจกใน รปู แบบต่าง ๆต้ังคำถามเกี่ยวกับอณุ หภูมอิ ากาศ ใชร้ ปู กราฟแสดงข้อมลู
ปรมิ าณแกส๊ เรือนกระจก หรือสถานการณ์ขา่ วต่าง ๆ และลงขอ้ สรปุ โดยอาศยั ขอ้ มลู หรือ หลกั ฐานที่รวบรวมได้
9.ระบุแหลง่ ทมี่ าท่กี อ่ ใหเ้ กิด แก๊สเรือนกระจกชนดิ ต่าง ๆ จากขอ้ มูลที่รวบรวมได้ วิเคราะห์พฤติกรรมหรอื
กิจกรรมต่าง ๆ ของตนเองและ สมาชกิ ในครอบครวั ท่กี ่อให้เกิด แก๊สเรอื นกระจกโดยใชเ้ หตุ และผล รว่ มกัน

148

แสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับแนวทางในการลด กจิ กรรมท่กี ่อใหเ้ กดิ แกส๊ เรือน มุ่งม่ัน ต้งั ใจ ในการลงมือปฏบิ ตั ิ
เพอ่ื ช่วยลด ผลกระทบท่ีจะเกดิ ขนึ้ ตอ่ ส่ิงมชี ีวิตและสง่ิ แวดลอ้ ม
10.นำเสนอการประยุกตใ์ ช้ความรู้ เรื่องแรงโนม้ ถ่วง มวล และ นา้ หนกั ในการแก้ปัญหาหรอื อธิบาย
สถานการณต์ ่าง ๆ ที่ เก่ยี วขอ้ งและผ่านสอ่ื หรอื วธิ ีการที่ เหมาะสมโดยตั้งคำถามและสมมตฐิ านเพื่อ ทดลอง
เก่ยี วกบั ผลของแรง เสียดทานที่มตี อ่ วตั ถบุ นพนื้ ผิว ต่าง ๆนำเสนอการประยกุ ต์ใช้ความรเู้ รอ่ื งแรงเสียดทานใน
การ แกป้ ัญหา วเิ คราะหห์ รอื อธิบาย สถานการณ์หรือกิจกรรมตา่ งๆ
11.ร่วมกนั ทำงานเปน็ ทมี อย่างกระตอื รอื ร้นในการสร้างเครอื่ งมือหรอื เครื่องใชอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์เพือ่ แก้ปัญหา
หรอื ตอบสนองต่อความตอ้ งการ เลอื กใช้ความรเู้ กี่ยวกับวงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบอนกุ รม
การตอ่ อปุ กรณ์ไฟฟา้ แบบอนกุ รมและแบบขนาน ประเมนิ ตนเองในด้านผลงานและการทำงานใน บทบาทการ
เป็นสมาชกิ ของทมี

149

กล่มุ สาระการเรียนรู้เทคโนโลยดี ิจทิ ลั

 สาระสำคัญของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้

ความสำคัญของกลุ่มสาระการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัล
การเรียนรู้เพื่อใชป้ ระโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลมีความจำเป็นต่อคนทุกช่วงวัย สำหรับในช่วงชนั้ ที่ 2
เป็นวัยที่พร้อมต่อการเรียนรู้ และให้ความสนใจกับเรื่องราวใหม่ ๆ เพ่ือเปิดมุมมองรอบตัวหรือในบริบท
ท่แี ตกต่างออกไป เทคโนโลยีดิจทิ ัลจะเปน็ เครอื่ งมอื หน่งึ ทีช่ ่วยให้นักเรียนไดฝ้ ึกกระบวนการคดิ อย่างเปน็ ระบบ
และยังช่วยให้สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่ตอบสนองต่อความสนใจเหล่านั้นได้ การจัดประสบการณ์
เรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในช่วงชั้นน้ีเพ่ือให้นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจ และสร้างพื้นฐานกระบวนการคิด
วิเคราะห์และแก้ปัญหา ใช้เหตุผลและมีตรรกะ มีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนางาน ส่งเสริมการคิด
เชิงวิพากษ์ สามารถค้นหา รวบรวม ประมวลผลข้อมูลเพื่อนำไปใช้แก้ปัญหา เข้าใจถึงข้อจำกัดของข้อมูล
และอันตรายจากการใชเ้ ทคโนโลยี เพื่อการใชง้ านอย่างปลอดภยั และรู้เท่าทัน
ลักษณะเฉพาะ/ ธรรมชาติของกลุ่มสาระการเรียนรู้
เทคโนโลยีดิจิทัลถูกพัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน การติดต่อส่ือสาร หรือเพ่ือ
แก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีดิจิทัลเก่ียวข้องกับเครื่องมือ ระบบ และ
ทรัพยากรต่าง ๆ ทใ่ี ชใ้ นการสรา้ ง รวบรวม ประมวลผล จัดเกบ็ แสดงข้อมูล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกตอ้ ง แม่นยำ
รวดเร็ว การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลจะรวมถึงการใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาทั้งปัญหา
ทางคอมพิวเตอร์และปัญหาอ่ืน ๆ ในชีวิตประจำวัน มีทักษะในการติดต่อส่ือสาร การเข้าถึงแหล่งข้อมูล
และใช้งานเทคโนโลยีดิจทิ ัลไดอ้ ย่างปลอดภยั สำหรับนักเรยี นในช่วงช้ันที่ 2 จะไดเ้ พ่ิมพูนความร้เู ก่ียวกับการใช้
เทคโนโลยีดิจิทัล ประกอบด้วย การแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ อัลกอริทึม การออกแบบและเขียน
โปรแกรม การรวบรวม ประมวลผล และนำเสนอข้อมูล การสร้างทางเลือก การประเมินความน่าเช่ือถือ
ของข้อมูล การใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมและปลอดภัย ซ่ึงเป็นความรู้ในระดับพ้ืนฐานที่เป็นประโยชน์
ต่อการเรียนรู้ การดำเนินชีวิตประจำวัน พัฒนาทักษะ กระบวนการคิดท่ีจำเป็นในการแก้ปัญหา ให้สามารถ
ดำรงชีวติ อย่รู ว่ มกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลได้อย่างยั่งยืน
จดุ เนน้ การพัฒนา
การจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัล
ในชว่ งชน้ั ที่ 2 ผู้เรยี นจะไดเ้ รยี นรู้และได้รับการพฒั นาผา่ นหวั ข้อต่อไปน้ี
• การแกป้ ัญหาและการเขยี นโปรแกรม
เป็นการจัดประสบการณ์เกี่ยวกับการคิดแก้ปัญหาอย่างมีตรรกะ การออกแบบวิธีการแก้ปัญหา
และปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องได้ตามเง่ือนไข แสดงวิธีการแก้ปัญหาโดยใช้อัลกอริทึมที่ชัดเจนเข้าใจง่าย
เขยี นโปรแกรมเพอ่ื แก้ปญั หาและปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาด มคี วามพยายามและม่งุ มัน่ ในการแกป้ ัญหา
• การจัดการและใช้เทคโนโลยีดิจิทลั
เป็นการจัดประสบการณ์เก่ียวกับเก่ียวกับข้อมูล การรวบรวม จัดเก็บ จัดเตรียม และนำข้อมูล
ไปประมวลผลด้วยวิธีการต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ วิเคราะห์ข้อมูล สรุปผล นำเสนอข้อมูลในรูปแบบตาราง
แผนภูมิ กราฟ สร้างทางเลือกจากข้อมูลและเง่ือนไขที่กำหนดและตัดสินใจเลือกทางเลือกอย่างมีเหตุผล
มีมารยาทในการให้และการใชข้ ้อมูล เขา้ ใจถงึ คุณค่าและตระหนกั ถงึ ความเอนเอียงของขอ้ มลู

150

• การใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ทิ ลั อย่างปลอดภัยและเหมาะสม
เปน็ การจัดประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้โปรแกรมค้นหา ระบุคำค้นท่ีกระชบั ตรงประเดน็ ใชเ้ ทคนิค
การค้นหาข้อมูลแบบต่าง ๆ ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลและแหล่งข้อมูล แยกแยะข้อเท็จจริง
และข้อคิดเห็นจากข้อมูลที่พบในเว็บไซต์และส่ือสังคมออนไลน์ก่อนนำข้อมูลไปใช้งาน ติดต่อสื่อสาร
ผ่านช่องทางต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตอย่างมีมารยาทและเข้าใจถึงผลกระทบจากการใช้งาน ปกป้องตนเอง
จากการระรานทางไซเบอร์ รักษาอตั ลักษณ์และร่องรอยทางดจิ ิทัลไดอ้ ย่างเหมาะสม
• การสร้างและใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งคมุ้ ค่า
เป็นการจัดประสบการณ์เก่ียวกับการสร้างของเล่น ชิ้นงาน หรือส่ิงของเคร่ืองใช้เพื่อตอบสนอง
ความต้องการหรอื แกป้ ัญหา เลอื กใช้เทคโนโลยีไดต้ ามหน้าทใี่ ช้สอยและใชอ้ ย่างคุ้มค่า
การนำไปใชใ้ นชวี ติ จริง
เม่ือนักเรียนได้เรยี นรแู้ ละฝึกฝนกลุ่มสาระการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัลในช่วงชน้ั ท่ี 2 จะทำให้นักเรียน
มีพ้ืนฐานกระบวนคิดแก้ปญั หาต่าง ๆ อย่างมีเหตผุ ล มตี รรกะ แก้ปญั หาอย่างเป็นลำดับขั้นตอนและเป็นระบบ
สามารถออกแบบลำดับขั้นตอนในการแก้ปัญหาที่มีความชัดเจนและยืดหยุ่น ค้นหาจุดหรือข้ันตอน
ของการทำงานที่ทำให้ผลลัพธ์ผิดพลาดไม่เป็นไปตามความต้องการ มีความพยายามในการแก้ปัญหา สามารถ
ทำงานร่วมกันเป็นทีม รับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นท่ีแตกต่างเพื่อให้ได้แนวทางในการแก้ปัญหา
ทหี่ ลากหลาย
นักเรียนนำทักษะการรวบรวม ประมวลผล นำเสนอข้อมูล ไปใช้ในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์เพื่อหาคำตอบหรือข้อสรุปของปัญหา สร้างทางเลือกในการทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยพิจารณาขอ้ มูล
และเง่ือนไขท่มี ี พิจารณาถงึ ผลกระทบและมีมารยาทในการใหข้ อ้ มูลหรอื การนำข้อมูลของผอู้ ่ืนมาใชง้ าน
นั ก เรี ย น น ำ วิ ธี ก า ร ค้ น ห า ข้ อ มู ล อ ย่ า ง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ไ ป ใช้ ใน ก าร ค้ น ห าข้ อ มู ล ห รื อ ห าค ำ ต อ บ
เพื่อประโยชน์ในการเรียนและการดำเนินชีวิต ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลและแหล่งข้อมูล แยกแยะ
ข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็ ก่อนนำข้อมลู ไปใชง้ านหรอื เผยแพร่ต่อ ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตในการตดิ ต่อสื่อสารและทำงาน
รว่ มกบั ผ้อู น่ื อย่างมีมารยาท เคารพในความคดิ เหน็ ของผู้อื่น สามารถรับมอื และจัดการปญั หาหากพบการระราน
ทางไซเบอร์ สรา้ งอัตลักษณแ์ ละร่องรอยทางดิจทิ ัลของตนเองอย่างเหมาะสมเพ่อื การเปน็ พลเมอื งท่ีเข้มแขง็
การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ

ภาษาไทย สามารถจัดให้นักเรียนได้ฝึกการส่ือสารจากการอธิบายอัลกอริทึมด้วยภาษาที่มี
ความชัดเจน ไม่กำกวม เรียบเรียงประโยคให้ผู้อื่นเข้าใจข้ันตอนการทำงานและเหตุผลของคำสั่งได้ การเขียน
อเี มลตามหลักการเขียนจดหมายท่ีมีองค์ประกอบครบสมบูรณ์ การเรียบเรียงและสรุปประเด็นจากการค้นหา
ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตด้วยภาษาของตนเอง การเขียนอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล การใช้ภาษา
ในการติดต่อส่ือสารอย่างมีมารยาทผ่านช่องทางติดต่อส่ือสารต่าง ๆ การนำเสนอข้อมูลด้วยการพูด เขียน
หรือสรา้ งงานนำเสนอเพอ่ื สอ่ื สารเรอื่ งราวให้น่าสนใจ

ภาษาอังกฤษ สามารถจัดให้นกั เรียนรูจ้ ักคำศัพท์ต่าง ๆ โดยใช้เมนูหรือคำส่ังต่าง ๆ ในโปรแกรม
เป็นภาษาอังกฤษและเชือ่ มโยงกับโปรแกรมอื่น ๆ ในกรณีที่มีการใชค้ ำที่ใกล้เคียงหรือแตกต่างกัน เพ่ือพัฒนา
เป็นคลังคำศัพท์ที่เก่ียวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล ฝึกทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยการแปลภาษา
ด้วยเครื่องมือการค้นหาขั้นสูง ออกแบบบทสนทนาระหว่างตัวละคร ในการเขียนโปรแกรมที่มีเร่ืองราวและ
การโต้ตอบ

151

ศิลปะ นำศิลปะมาใช้ในการออกแบบและสร้างงานนำเสนอ หรือใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสร้างงาน
ศิลปะในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ช้ินงานมีความสวยงามและส่ือสารความคิดให้น่าสนใจ เขียนโปรแกรม
สร้างงานศิลปะ เช่น ภาพวาด ภาพเคล่ือนไหว (animation) เร่ืองราว และเกม ฝึกทักษะการเขียนโปรแกรม
ผ่านกิจกรรมศิลปะ เช่น โปรแกรมวาดภาพ pixel art โปรแกรมผสมสีน้ำ โปรแกรมวนซ้ำวาดลวดลายหรือ
สร้างลายเส้นให้เป็นภาพต่าง ๆ เผยแพร่ผลงานศิลปะของตนโดยแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของ ปกป้องงาน
ลขิ สทิ ธขิ์ องตนเอง ไมล่ ะเมิดสิทธิของผอู้ ื่น

สุขศึกษาและพลศกึ ษา สามารถบูรณาการการเรยี นรเู้ กี่ยวกับการบอกขัน้ ตอนทีช่ ัดเจนในการทำ
กิจกรรม กำหนดกติกา หรือวิธีการเล่นกีฬา ด้วยการเขียนเป็นข้อความหรอื ผังงาน ใช้ซอฟต์แวรบ์ ันทึกข้อมูล
นำ้ หนัก ส่วนสงู และขอ้ มลู อน่ื ๆ เพือ่ วเิ คราะหก์ ารเจริญเติบโตของรา่ งกาย

สังคมศึกษา สามารถจัดการเรียนรู้ในเรื่องการเป็นพลเมืองที่รู้จักปกป้องสิทธิและเสรีภาพของ
ตนเอง ยอมรบั ความแตกต่าง ไม่กล่นั แกล้งผู้อื่น การปกปอ้ งตนเองจากการระรานทางไซเบอร์ และความเขา้ ใจ
เก่ียวกบั อตั ลกั ษณ์เพอ่ื ให้สามารถจดั การอัตลกั ษณ์ของตนเองผ่านการใชง้ านเทคโนโลยีดิจทิ ัลได้อยา่ งเหมาะสม
ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์กับผู้อ่ืน ช่วยเหลือผู้อื่น และเพ่ือส่งเสริมความมีส่วนร่วมของสมาชิกชุมชน
เช่น การสำรวจความคิดเห็น การทำโพล (poll) การสร้างตารางคำนวณค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมร่วมกัน
ค้นหาข้อมูลทางประวัติศาสตร์จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เปรียบเทียบแนวคิดท่ีแตกต่างกัน แยกแยะ
ขอ้ เทจ็ จริงจากข้อคิดเห็น เคารพความคิดเห็นท่ีแตกต่าง การแสดงความคิดเห็นที่สร้างสรรค์และสมเหตุสมผล
ตอ่ ประเด็นทางสังคมและชุมชน

การจัดการในครัวเรือนและการประกอบการ สามารถบูรณาการความรู้ในการวางแผนการ
ทำงาน และจัดการงานต่าง ๆ อย่างเป็นลำดับข้ันตอนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามท่ีต้องการและใช้เวลาได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีอย่างรู้คุณค่าและพอเพียง ใช้ซอฟต์แวร์ในการคำนวณต้นทุน ทำบัญชี
รายรับ-รายจ่าย และประมวลผลข้อมูลเพื่อวเิ คราะห์ความเป็นไปได้ในการขายสนิ ค้าและบริการโดยไม่ขาดทุน
ใช้เทคโนโลยดี จิ ทิ ัลในการทำโฆษณา โบรชัวร์ ปา้ ยโฆษณาสนิ คา้

คณิตศาสตร์/ วิทยาศาสตร์และระบบธรรมชาติ สามารถใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการประมวลผล
ข้อมูล นำเสนอข้อมูล นำความรู้ด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์มาสร้างของเล่น สิ่งของเครื่องใช้ที่มีการใช้
แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ หรือกลไกตา่ ง ๆ ตามความสนใจหรือเพอ่ื แก้ปัญหาจากสถานการณท์ ่ีพบ เขยี นโปรแกรมจำลอง
ปรากฏการณ์ธรรมชาติให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม เช่น วัฏจักรน้ำ การโคจรของดาวเคราะห์ การเกิด
กลางวัน-กลางคืน สุริยุปราคา จันทรุปราคา ใช้โปรแกรมตารางทำงานในการคำนวณและสร้างกราฟ
แสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์ สร้างความคุ้นเคยกับพิกัด มุม และมุมภายใน
ของรูปหลายเหล่ียมด้วยการเขยี นโปรแกรมให้ตัวละครเคลื่อนที่และวาดภาพเรขาคณิต จำลองการเคลื่อนท่ีใน
แนวเสน้ ตรงด้วยการเขียนโปรแกรมภาพเคล่ือนไหว เขียนโปรแกรมคำนวณอย่างงา่ ยโดยรับข้อมูลนำเขา้ และ
ใชส้ ตู รคำนวณต่าง ๆ เช่น การทอนเงนิ การลดราคาสนิ คา้ ดอกเบยี้ ทบตน้ ปริมาตร และมวล

บรู ณาการเทคโนโลยีดิจทิ ัลกบั ทกุ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สามารถนำแนวคิดในการวเิ คราะห์ วางแผน
ออกแบบอัลกอริทึมหรือขั้นตอนการแก้ปัญหา และการค้นหาวิธีการต่าง ๆ ไปใช้ในการแก้ปัญหาอย่าง
มปี ระสิทธิภาพ ใช้ความรู้และเทคนคิ เก่ียวกับการค้นหาข้อมูลในการหาคำตอบที่สงสัยหรอื เขา้ ถึงแหลง่ เรียนรู้
ทต่ี ้องการ ประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูลและแหลง่ ข้อมลู อ้างอิงแหล่งข้อมูลที่นำมาใช้งาน ใชเ้ ทคโนโลยี
ดิจิทัลเปน็ เคร่ืองมอื ในการสรา้ งกระบวนการคดิ เพอ่ื แก้ปญั หาหรอื สร้างชิน้ งานตามวตั ถุประสงค์ ใชซ้ อฟต์แวร์
ในการจัดการงานหรือทำงานรว่ มกบั ผูอ้ นื่

152

 ความสมั พันธ์ระหวา่ งสมรรถนะหลกั และสมรรถนะเฉพาะ

สมรรถนะเฉพาะ สมรรถนะหลกั
1. แก้ปัญหาและเขยี นโปรแกรม
1.1 แกป้ ัญหาโดยใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะ 1. การจัดการตนเอง
1.2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา ตรวจหาข้อผิดพลาดของ 2. การคดิ ขนั้ สงู
4. การรวมพลงั ทำงานเปน็ ทมี
โปรแกรม 6. การอยูร่ ว่ มกับธรรมชาติ

2. จดั การข้อมลู และใช้เทคโนโลยีดิจทิ ัล และวิทยาการอย่างยง่ั ยนื
2.1 ใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ิทลั ในการรวบรวมขอ้ มูล จดั เก็บ จดั เตรียม
2. การคิดข้นั สงู
ประมวลผล นำเสนอขอ้ มูล เพอื่ การแกป้ ญั หาหรอื ตัดสนิ ใจ 3. การส่อื สาร
4. การรวมพลงั ทำงานเปน็ ทมี
3. รูเ้ ท่าทันดิจทิ ัล 6. การอยูร่ ว่ มกบั ธรรมชาติ
3.1 เข้าถึงแหลง่ ขอ้ มูล ประเมินความนา่ เชือ่ ถือของแหล่งขอ้ มลู
3.2 ใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทลั อย่างเหมาะสม ปลอดภัย และวทิ ยาการอย่างย่งั ยนื

4. ใชแ้ ละสรา้ งเทคโนโลยี 1. การจัดการตนเอง
4.1 เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างคุม้ คา่ และสร้างสง่ิ ของเคร่ืองใช้เพ่ือแกป้ ญั หา 2. การคิดขน้ั สูง
3. การสือ่ สาร
4. การรวมพลังทำงานเป็นทีม
5. การเปน็ พลเมืองท่เี ขม้ แข็ง
6. การอยูร่ ว่ มกับธรรมชาติ

และวทิ ยาการอย่างยัง่ ยืน

1. การจัดการตนเอง
2. การคดิ ข้นั สูง
4. การรวมพลังทำงานเป็นทมี
5. การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแขง็
6. การอยรู่ ่วมกับธรรมชาติ

และวทิ ยาการอย่างย่งั ยนื

153

 ผลลัพธ์การเรยี นรเู้ มอ่ื จบช่วงช้ันที่ ๒

1. ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันหรือสถานการณ์จำลอง หาวิธีการแก้ปัญหา
ท่ีหลากหลายท่ีเป็นไปได้ แสดงวิธีการแก้ปัญหาโดยวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเหตุและผลด้วยข้อความ
หรือแผนภาพ อธิบายเหตุผลของการตัดสินใจหรือการลงข้อสรุป มีความพยายามและกระตือรือร้น
ในการแกป้ ญั หาอยา่ งอย่างมงุ่ ม่นั ไม่ย่อท้อ

2. วิเคราะห์ปัจจัยในสถานการณ์ วางแผน ออกแบบและเขียนโปรแกรมเพ่ือแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
ตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม เรียนรู้จากความผิดพลาด สะท้อนการทำงานของตนเอง ร่วมกัน
ทำงานเปน็ ทีมเพอ่ื ปรับปรงุ แกไ้ ขผลลพั ธใ์ หด้ ขี ึ้น

3. ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการออกแบบการบันทึกข้อมูล รวบรวมข้อมูลท่ีสอดคล้องกับวิธีการ จัดเก็บ
จัดเตรียม ประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูลและลงข้อสรุป เพ่ือการแก้ปัญหาหรือตัดสินใจ นำเสนอข้อมูล
โดยเลือกใช้วธิ กี ารสอ่ื สารท่เี หมาะสม ตระหนกั ถึงคณุ ค่าและขอ้ จำกัดของขอ้ มลู

4. ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการค้นหาข้อมูล ติดต่อสื่อสาร เพื่อทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ รับฟัง
อ่านเรื่อง หรือดูภาพท่ีเกี่ยวข้องในสถานการณ์อย่างมีสติ จับประเด็นสำคัญทั้งเชิงบวกและลบ ไม่ตัดสิน
ผู้อ่ืนโดยใช้อคติ ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลและแหล่งข้อมูล เคารพในความคิดเห็น
ท่ีหลากหลาย มีมารยาทและจริยธรรมในการสื่อสาร และปกป้องตนเองจากการระรานทางไซเบอร์
รกั ษาอตั ลักษณแ์ ละร่องรอยทางดิจทิ ลั อย่างเหมาะสมและปลอดภยั

5. พัฒนาช้ินงานเพื่อแก้ปัญหาอย่างสรา้ งสรรค์และนำไปใช้จริง โดยร่วมกันทำงานเป็นทีมในการวิเคราะห์
และรวบรวมปัจจัยที่เก่ียวข้องกับสถานการณ์ ระบุปัญหา วางแผนแก้ปัญหา เลือกใช้เทคโนโลยี
โดยตอบสนองความต้องการหรือสภาพปัญหาในบริบทได้อย่างคุ้มค่า ตรวจสอบผลและปรับปรุงแก้ไข
สะท้อนผลทม่ี ตี อ่ ตนเองและผอู้ ืน่ หรือผลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้น

 ผลลัพธ์การเรียนรู้รายช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4

1. ใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หาในชวี ิตประจำวนั หาวธิ กี ารแก้ปัญหาท่ีเปน็ ไปได้ แสดงวธิ ีการแก้ปญั หา
โดยวเิ คราะห์ความสัมพันธ์ของเหตแุ ละผลด้วยข้อความหรือแผนภาพ อธบิ ายเหตุผลของการตัดสนิ ใจ มีความ
พยายามและกระตือรือร้นในการแกป้ ญั หาอย่างมุ่งมนั่ ไม่ยอ่ ทอ้
2. วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบ เขียนแกป้ ญั หา ตรวจหาข้อผิดพลาด สะทอ้ นทำงาน ปรับปรุงแก้ไขปจั จัย
สถานการณ์โปรแกรม เกย่ี วกับอัลกอรทิ มึ (ขั้นตอนการแกป้ ัญหา) ลกั ษณะ ของอลั กอริทึมท่ีดี อัลกอรทิ ึมทีพ่ บ
ในชีวิตประจำวนั อลั กอรทิ ึมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน ของนกั เรยี น ขั้นตอนการแกป้ ญั หากับ
เพอ่ื น ค้นหาวิธีการ ท่ีทำให้ได้ผลลัพธ์ตามเง่อื นไขของการตัดสินใจในการกำหนดลำดบั ขั้นตอน ต่าง ๆการ
ปรบั ปรุงวิธีการให้ดยี ิ่งขน้ึ การออกแบบอัลกอรทิ ึมในการแกป้ ัญหา อย่างสร้างสรรค์
3. ใช้ ออกแบบ บนั ทกึ รวบรวม จัดเกบ็ จดั เตรยี ม ประมวลผล วเิ คราะห์ สรุปแกป้ ัญหา นำเสนอ เลือก
เทคโนโลยีดิจทิ ัลขอ้ มลู วิธีการ แก้ปญั หาจากโจทย์สถานการณ์ท่กี ำหนดให้ จากงานหรือสถานการณจ์ ำลอง ที่มี
หลายเงอ่ื นไข การใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หาด้วยความตระหนักและเหน็ คุณค่า
4.ใช้ ค้นหา ตดิ ตอ่ สื่อสาร รบั ฟงั อ่าน ดู จับประเด็น มสี ติ ตัดสิน ประเมนิ ส่อื สาร ปกปอ้ งรักษา เกีย่ วกับ
เทคโนโลยีดิจทิ ัลข้อมูล สถานการณแ์ หล่งขอ้ มูลมารยาท จริยธรรมไซเบอรเ์ ก่ียวกับ การสืบค้นขอ้ มูล
วตั ถปุ ระสงค์ของการค้นหาข้อมูล วิธีการใช้โปรแกรมคน้ หา (search engine) คน้ หาข้อมูลตามคำค้นทก่ี ำหนด

154

ความหมายของทอ่ี ยูเ่ วบ็ ไซต์(Universal Resource Locator: URL) ความน่าเชือ่ ถอื ของ ข้อมูลและ
แหลง่ ขอ้ มลู โดยพิจารณาจาก URL, ชือ่ หน่วยงาน ชือ่ ผู้เขยี น วันเดอื นปีที่เผยแพร่ข้อมูล แหล่งขอ้ มูลอ้างอิง
อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
5.พฒั นา แกป้ ญั หาใช้ วิเคราะห์ รวบรวม ระบุปัญหา เลือกวางแผน ตรวจสอบ ปรบั ปรงุ แก้ไขปัจจัย
สถานการณ์เทคโนโลยี บรบิ ทผลกระทบ เกยี่ วกับการ สืบค้นขอ้ มูลเก่ยี วกบั การใช้เทคโนโลยอี ย่างคุ้มคา่ ดว้ ย
การ นำกลบั มาใช้ซำ้ (reuse) ลดการใช้(reduce) หรือแปรรูปแล้ว นำกลบั มาใช้ใหม่ (recycle) ความต้องการ
ในการสรา้ งส่งิ ของ เครอื่ งใชโ้ ดยเชือ่ มโยงกบั ความสนใจของตนเองหรือสถานการณ์ ทพี่ บในโรงเรยี นหรอื ชมุ ชน
การใชง้ านเทคโนโลยีอย่างคมุ้ คา่ โดยการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วมาเปน็ ส่วนประกอบในการสรา้ งของใช้ การ
ปรับปรุงซ่อมแซมสิง่ ของเคร่ืองใช้ใหส้ ามารถใช้งานได้เหมอื นเดิมอย่างสรา้ งสรรค์

 ผลลัพธ์การเรยี นรู้รายช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5

1. ใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหาในชวี ิตประจำวัน หาวธิ ีการแก้ปญั หาที่หลากหลายทีเ่ ป็นไปได้แสดง
วิธกี ารแกป้ ญั หาโดยวิเคราะห์ความสัมพนั ธ์ของเหตุและผลด้วยข้อความหรอื แผนภาพ อธิบายเหตุผลของการ
ตดั สนิ ใจ มีความพยายามและกระตือรือร้นในการแกป้ ญั หาอย่างมุ่งมั่นไม่ยอ่ ท้อ
2. วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบ เขยี นแกป้ ัญหา ตรวจหาข้อผิดพลาด สะทอ้ นทำงาน ปรับปรุงแกไ้ ขปัจจัย
สถานะการณ์โปรแกรมปัจจัย สถานการณ์โปรแกรม เก่ยี วกบั อัลกอรทิ ึม (ขั้นตอนการแกป้ ญั หา) ลักษณะ ของ
อัลกอรทิ ึมทด่ี ี อัลกอริทมึ ทพ่ี บในชีวติ ประจำวัน อัลกอริทึมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชวี ิตประจำวัน ของ
นักเรียน ข้ันตอนการแกป้ ญั หากับเพอ่ื น คน้ หาวธิ กี าร ท่ีทำใหไ้ ด้ผลลัพธต์ ามเงอื่ นไขของการตัดสินใจในการ
กำหนดลำดบั ขั้นตอน ต่าง ๆการปรับปรงุ วิธกี ารให้ดีย่ิงขน้ึ การออกแบบอัลกอรทิ ึมในการแกป้ ญั หา อัลกอรทิ มึ
ในการแก้ปญั หาด้วยรหัสลำลอง(pseudocode) และผงั งาน (flow chart) อย่างสร้างสรรค์

3. ใช้ ออกแบบ บันทกึ รวบรวม จัดเกบ็ จัดเตรยี ม ประมวลผล วเิ คราะห์ สรุปแกป้ ัญหา นำเสนอ เลือก

เทคโนโลยดี ิจิทัลข้อมูล วิธกี าร แก้ปญั หาจากโจทย์สถานการณ์ท่ีกำหนดให้ จากงานหรือสถานการณ์จำลอง ท่มี ี
หลายเง่ือนไข การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการแกป้ ัญหา การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ดว้ ยความตระหนัก
และเห็นคณุ คา่
4. ใช้ คน้ หา ติดตอ่ ส่อื สาร รบั ฟัง อา่ น ดู จบั ประเดน็ มีสติ ตดั สนิ ประเมิน ส่อื สาร ปกป้องรกั ษาเทคโนโลยี
ดจิ ิทัลข้อมลู สถานการณ์แหล่งข้อมูลมารยาท จริยธรรมไซเบอร์เกยี่ วกับ การสืบคน้ ข้อมูล วตั ถปุ ระสงคข์ องการ
คน้ หาขอ้ มลู วธิ กี ารใช้โปรแกรมค้นหา (search engine) ค้นหาข้อมูลตามคำค้นท่กี ำหนด ความหมายของท่ี
อยู่เว็บไซต์(Universal Resource Locator: URL) ความน่าเช่ือถือของ ข้อมูลและแหลง่ ข้อมูล โดยพิจารณา
จาก URL, ชอ่ื หนว่ ยงาน ชือ่ ผู้เขียน วันเดอื นปที เ่ี ผยแพร่ขอ้ มูล แหลง่ ขอ้ มูลอา้ งอิง ประเภทของข้อมูล (ภาพ
วิดีโอ ข่าว แผนท่ี) ชนดิ ของไฟล์ ช่วงเวลา ประเภทของเวบ็ ไซต์ค้นหาด้วยเสียง คน้ หาด้วยภาพ ค้นหาคำศพั ท์
หรือความหมายของคำในภาษาต่าง ๆ แปลงคา่ หนว่ ย วดั แปลงคา่ เงิน ขอ้ มูลพยากรณอ์ ากาศ วิธีการทีใ่ ช้ใน
การค้นหาและผลลพั ธท์ ไี่ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
5. พฒั นา แก้ปญั หาใช้ วิเคราะห์ รวบรวม ระบปุ ัญหา เลือกวางแผน ตรวจสอบ ปรบั ปรุงแก้ไขปัจจัย
สถานการณ์เทคโนโลยี บรบิ ทผลกระทบ เกยี่ วกับการ สืบค้นขอ้ มูลเกีย่ วกับการใช้เทคโนโลยีอย่างคุ้มคา่ ด้วยการ
นำกลับมาใช้ซ้ำ (reuse) ลดการใช้(reduce) หรอื แปรรูปแล้ว นำกลับมาใช้ใหม่ (recycle) ความต้องการในการ
สร้างส่งิ ของ เครอื่ งใช้โดยเช่ือมโยงกับความสนใจของตนเองหรือสถานการณ์ ทีพ่ บในโรงเรยี นหรือชุมชน การใช้
งานเทคโนโลยีอย่างคุ้มค่า โดยการนำวสั ดทุ ไี่ ม่ใช้แล้วมาเป็นสว่ นประกอบในการสร้างของใช้ การปรับปรงุ

155

ซ่อมแซมสิง่ ของเครื่องใช้ให้สามารถใชง้ านได้เหมือนเดิม วิธกี ารจากแหล่งข้อมูลในอินเทอร์เน็ตหรอื จากแหลง่
เรียนรอู้ ่นื ๆ สร้างสง่ิ ของเครื่องใช้หรือออกแบบ วิธีการแกป้ ัญหา ปัจจยั ทเี่ กี่ยวข้องกบั สถานการณ์ ปัญหา หรอื
วิธีการอย่างสรา้ งสรรค์

 ผลลัพธก์ ารเรยี นรู้รายชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6

1. ใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หาในชีวิตประจำวัน หรือสถานการณ์จำลองหาวธิ ีการแก้ปญั หาที่
หลากหลายที่เปน็ ไปได้แสดงวธิ กี ารแก้ปัญหาโดยวเิ คราะห์ความสัมพนั ธ์ของเหตุและผลด้วยข้อความหรอื
แผนภาพอธิบายเหตุผลของการตัดสนิ ใจหรอื การลงข้อสรปุ มีความพยายามและกระตอื รือรน้ ในการแกป้ ญั หา
อย่างมงุ่ มน่ั ไมย่ ่อท้อ
2. วเิ คราะห์ วางแผน ออกแบบ เขยี นแก้ปัญหา ตรวจหาข้อผิดพลาด สะท้อนทำงาน ปรับปรุงแก้ไขปจั จัย
สถานะการณ์โปรแกรมปัจจัย สถานการณโ์ ปรแกรม เกย่ี วกับอัลกอริทึม (ขั้นตอนการแกป้ ัญหา) ลกั ษณะ ของ
อลั กอรทิ มึ ท่ดี ี อัลกอริทมึ ท่พี บในชวี ติ ประจำวัน อัลกอริทึมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ของ
นักเรียน ข้ันตอนการแกป้ ัญหากับเพือ่ น ค้นหาวธิ กี าร ที่ทำให้ได้ผลลพั ธ์ตามเงื่อนไขของการตัดสนิ ใจในการ
กำหนดลำดับข้นั ตอน ต่าง ๆการปรับปรุงวิธกี ารให้ดียิง่ ขนึ้ การออกแบบอัลกอรทิ ึมในการแก้ปัญหา อัลกอริทมึ
ในการแก้ปัญหาด้วยรหัสลำลอง(pseudocode) และผังงาน (flow chart) การนำรหัสลำลองและผังงานไปใช้ใน
การแสดงขนั้ ตอนการทำกจิ กรรมต่าง ๆในชวี ิตประจำวนั อย่างสรา้ งสรรค์
3. ใช้ ออกแบบ บันทกึ รวบรวม จัดเกบ็ จัดเตรียม ประมวลผล วิเคราะห์ สรุปแก้ปญั หา นำเสนอ เลือก
เทคโนโลยีดิจทิ ัลขอ้ มูล วธิ ีการ แก้ปญั หาจากโจทย์สถานการณ์ที่กำหนดให้ จากงานหรอื สถานการณ์จำลอง ทีม่ ี
หลายเงอ่ื นไข การใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ การค้นแนวทางการ
แกป้ ญั หา ข้อสรปุ หรอื แนวทางในการแกป้ ญั หาให้สำเรจ็ โดยอาจใชค้ ำถาม ดว้ ยความตระหนักและเห็นคุณค่า
4. เทคโนโลยีดิจทิ ัลขอ้ มลู สถานการณ์แหล่งขอ้ มูลมารยาท จริยธรรมไซเบอร์เกีย่ วกับ การสบื คน้ ข้อมูล
วตั ถุประสงค์ของการคน้ หาขอ้ มูล วธิ กี ารใช้โปรแกรมคน้ หา (search engine) คน้ หาขอ้ มูลตามคำค้นที่กำหนด
ความหมายของท่อี ยเู่ ว็บไซต(์ Universal Resource Locator: URL) ความน่าเช่อื ถอื ของ ขอ้ มลู และ
แหล่งขอ้ มลู โดยพิจารณาจาก URL, ชอ่ื หนว่ ยงาน ชื่อผู้เขียน วนั เดอื นปีทีเ่ ผยแพร่ขอ้ มูล แหล่งขอ้ มูลอ้างองิ
ประเภทของข้อมูล (ภาพ วดิ โี อ ขา่ ว แผนท)ี่ ชนดิ ของไฟล์ ช่วงเวลา ประเภทของเวบ็ ไซตค์ ้นหาดว้ ยเสียง ค้นหา
ด้วยภาพ คน้ หาคำศพั ทห์ รอื ความหมายของคำในภาษาตา่ ง ๆ แปลงคา่ หน่วย วัด แปลงค่าเงนิ ขอ้ มูลพยากรณ์
อากาศ วธิ กี ารทใ่ี ช้ในการคน้ หาและผลลพั ธ์ท่ีได้ ความแตกต่างของขอ้ เท็จจริงและข้อคดิ เห็นจากข้อมูล ตา่ ง ๆ
ท่ีพบบนเวบ็ ไซตห์ รือสอื่ สังคมออนไลน์ ลกั ษณะของขา่ วลวง และวัตถปุ ระสงค์ในการเผยแพร่อยา่ งมี
ประสิทธภิ าพ
5. ปัจจยั สถานการณ์เทคโนโลยี บรบิ ทผลกระทบ เกีย่ วกบั การ สืบค้นขอ้ มลู เกยี่ วกับการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ ง
คุ้มค่าด้วยการ นำกลับมาใชซ้ ำ้ (reuse) ลดการใช้(reduce) หรอื แปรรปู แล้ว นำกลับมาใช้ใหม่ (recycle)
ความตอ้ งการในการสรา้ งสง่ิ ของ เคร่ืองใช้โดยเช่ือมโยงกบั ความสนใจของตนเองหรอื สถานการณ์ ท่ีพบใน
โรงเรยี นหรอื ชุมชน การใชง้ านเทคโนโลยอี ยา่ งคุ้มค่า โดยการนำวัสดุทไี่ ม่ใชแ้ ลว้ มาเปน็ ส่วนประกอบในการ
สร้างของใช้ การปรับปรุงซอ่ มแซมสง่ิ ของเครื่องใช้ให้สามารถใชง้ านไดเ้ หมอื นเดิม วิธีการจากแหลง่ ข้อมูลใน

156

อินเทอรเ์ นต็ หรือจากแหล่ง เรียนรูอ้ ื่น ๆ สรา้ งส่ิงของเครื่องใช้หรือออกแบบ วธิ กี ารแก้ปัญหา ปัจจัย ที่เกี่ยวขอ้ ง
กบั สถานการณ์ ปัญหา หรือ วิธีการ วสั ดุอุปกรณเ์ พ่ือสร้างชิ้นงาน โดยเลอื กใช้วสั ดทุ มี่ อี ยู่ ในบ้านเรอื นหรือใน
ชุมชนท่ีไม่ใชแ้ ล้วเป็นสว่ นประกอบของชน้ิ งานอยา่ งสร้างสรรค์

9. โครงสรา้ งเวลาเรียน

หลกั สูตรโรงเรยี นวัดหน้าเมอื ง พทุ ธศกั ราช 2565 ตาม(ร่าง)กรอบหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน
พทุ ธศกั ราช.... ระดับประถมศกึ ษา กำหนดโครงสรา้ งเวลาเพื่อพัฒนาสมรรถนะของผู้เรยี นในชว่ งชัน้ ที่ ๑ (ชนั้
ประถมศึกษาปีท่ี ๑ - ๓) ตามจุดเน้นการจดั การศึกษา “เพือ่ เปน็ ฐานเครอ่ื งมอื การเรยี นรูแ้ ละสรา้ งสุขภาวะของ
ผเู้ รยี น” ดงั นี้

โครงสร้างเวลาเรียนหลกั สูตรสมรรถนะการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ช่วงช้นั ที่ 1

เวลาเรียน 800 ชวั่ โมง/ปี

โรงเรียนวดั หนา้ เมอื ง

สาระการเรยี นรู้/กจิ กรรม เวลาเรียนรายสาระการเรียนรู้ เวลาเรียนบูรณาการข้ามสาระ เวลาเรียนรวม หมายเหตุ
55%
ภาษาไทย เปอร์เซ็นต์ ชม./ปี ชม./สปั ดาห์ เปอร์เซ็นต์ ชม./ปี ชม./สปั ดาห์ เปอร์เซ็นต์ ชม./ปี ชม./สปั ดาห์ 35%
คณิตศาสตร์
ภาษาองั กฤษ 20 160 4 20 160 4 10%
ศิลปะ
สุขศึกษาและพลศึกษา 20 160 4 20 160 4
สงั คมศึกษา ประวตั ิศาสตร์
วิทยาศาสตร์และระบบธรรมชาติ 15 120 3 15 120 3
กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน
ลูกเสือ 5 40 1 5 40 1
ชุมนมุ /แนะแนว
5 40 1 5 40 1

15 120 3 15 120 3

10 80 2 10 80 2

5 40 1 5 40 1
5 40 1 5 40 1

รวม 75 600 15 25 200 5 100 800 20 100

157

และกำหนดโครงสร้างเวลาเพื่อพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนในช่วงชั้นท่ี 2 (ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 - 6)
ตามจุดเน้นการจัดการศึกษา “เพ่ือเป็นขยายโลกทัศน์ ของตนเองออกสู่ชุมชนและสังคม สิ่งแวดล้อม
และพฒั นาทางการคิดจากการเรยี นร้สู ่ิงทีเ่ ป็นรปู ธรรมสนู่ ามธรรม” ดังนี้

โครงสร้างเวลาเรียนหลกั สูตรสมรรถนะการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ช่วงช้นั ท่ี 2

เวลาเรียน 900 ชวั่ โมง/ปี

โรงเรียนวดั หนา้ เมอื ง

สาระการเรยี นรู้/กจิ กรรม เวลาเรียนรายสาระการเรียนรู้ เวลาเรียนบูรณาการข้ามสาระ เวลาเรยี นรวม หมายเหตุ
44%
เปอร์เซ็นต์ ชม./ปี ชม./สปั ดาห์ เปอร์เซ็นต์ ชม./ปี ชม./สปั ดาห์ เปอร์เซ็นต์ ชม./ปี ชม./สปั ดาห์
44%
ภาษาไทย 12 108 3 12 108 3
12%
คณิตศาสตร์ 16 144 4 16 144 4 100

ภาษาองั กฤษ 16 144 4 16 144 4

ศิลปะ 8 72 2 8 72 2

สุขศึกษาและพลศึกษา 4 36 1 4 36 1 8 72 2

สงั คมศึกษา ประวตั ิศาสตร์ 4 36 1 8 72 2 12 108 3

วิทยาศาสตร์และระบบธรรมชาติ 8 72 2 8 72 2

การจดั การในครัวเรือนและการประกอบการ 4 36 1 4 36 1

เทคโนโลยดี ิจิทลั 4 36 1 4 36 1

กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน

ลูกเสือ 4 36 1 4 36 1

ชุมนุม 4 36 1 4 36 1

แนะแนว 4 36 1 4 36 1

กิจกรรมตามจุดเนน้

รวม 76 684 19 24 216 6 100 900 25

158

คำอธบิ ายรายวิชา

ท 11101 ภาษาไทย 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลา 120 ชวั่ โมง / ปี

รายวิชาภาษาไทย (ท 11101) ช้ันประถมศึกษาปีที่1 เป็นรายวิชาท่ีมุ่งให้ผ้เู รียน ฟังและปฏิบัติตาม

คำแนะนำ คำสั่งง่าย ๆ สามารถจับใจความและพูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเรื่องท่ีฟังและดู ได้

อย่างเหมาะสมทั้งท่ีเป็นความรู้และความบันเทงิ พร้อมท้ังมีมารยาทในการฟังและดู พูดเล่าเร่ือง ความรู้สึก

จากเรื่องที่ฟังและดู ท้ังท่ีเป็นความรู้และความบันเทิง พูดสื่อสารในชีวิตประจำวัน และมีมารยาทในการพูด
การอ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำ คำคล้องจอง และข้อความที่ประกอบดว้ ย คำพ้ืนฐาน การอ่าน
เคร่ืองหมายหรือสัญลักษณ์ และมีมารยาทในการอ่าน อ่านจับใจความจากส่ือต่าง ๆ เช่น นิทานเรื่องสั้น ๆ

บทรอ้ งเล่นและบทเพลง เร่ืองราวจากบทเรียนในกล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทยและกลุ่มสาระการเรยี นร้อู น่ื ได้
อย่างมสี มาธิ การคัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัดตามรปู แบบการเขยี นตัวอักษรไทยและเขยี นคำได้ชดั เจนและ

ถกู ตอ้ ง และสามารถเขยี นเพ่ือสื่อสารในชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างชัดเจนและมีมารยาท การเขียนส่ือสาร คำทีใ่ ช้
ในชีวิตประจำวันคำพื้นฐานในบทเรียน คำคล้องจอง ประโยคง่ายๆ และเขียนแสดงความคิดเห็นและ
ความรู้สึกเกี่ยวกับงานเขียนของตนได้ เหมาะสมเป็นกลางโดยไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อ่ืน รู้จักคำ นำเรื่อง การ

เขียนสะกดคำ คัดลายมือ ใชค้ ำในการแต่งประโยค สามารถ เขียนสะกดคำ คัดลายมือ แต่งประโยค โดยการ
เขยี นอยางงายได้ ใช้ภาษาพูดและภาษาเขยี นได้ถกู ต้อง เหมาะสม มเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อการใช้ภาษาไทยอยา่ งถูกตอ้ ง

โดยใช้การฟังหรือดูอย่างตั้งใจแล้วปฏิบัติตามคำสั่ง คำชี้แจง และคำแนะนำได้ถูกต้อง

เหมาะสม ฟังหรือดสู ื่อต่าง ๆ อย่างต้ังใจแล้วพดู เล่าเรอ่ื ง บอกรายละเอียด และสาระสำคญั รวมท้ัง

แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกอย่างสร้างสรรค ใช้ภาษาพูดและภาษาเขียนได้ถูกต้อง เหมาะสมกับ

บุคคลและกาลเทศะ อ่านออกเสียงคำในบทอ่านและส่ือประเภทต่าง ๆ ที่กำหนดให้ อย่างต้ังใจและถูกต้อง
รวมท้ังเข้าใจความหมายของคำ แล้วสามารถอ่านออกเสียงตลอดจนทำความเข้าใจบทอ่านและส่ือท่ีพบ อ่าน
บทอ่านและสื่อประเภทต่าง ๆ แล้วลำดับเหตุการณ์ ต้ังคำถาม และตอบคำถามเพื่อสรุปเรื่องและบอกข้อคิด

ตลอดจนคาดคะเนเหตุการณ์จากเร่ืองทีอ่ า่ นอยา่ งมีเหตผุ ล แล้วนำความรู้และข้อคดิ ไปปรับใช้ใหเ้ ปน็ ประโยชน์
ต่อตนเองและผู้อืน่ อ่านบทอ่านตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและนำเสนอเรื่องที่อ่านได้อย่างสร้างสรรค์ คัด

ลายมอื และเขยี นคำอย่างตง้ั ใจและถกู ตอ้ ง แล้วสามารถนำไปใช้ ในการเขยี นส่ือสารในชีวติ ประจำวนั ได้ถูกตอ้ ง
ชัดเจน และเหมาะสม เขียนสื่อสารได้ตรงตามวัตถุประสงค์และรูปแบบการเขียน โดยไม่ละเมิดสิทธ์ิของผู้อ่ืน
เขียนเร่ืองตามจนิ ตนาการอย่างสรา้ งสรรค์ เขียนแสดงความคดิ เห็นและความรู้สึกเก่ียวกับงานเขียนของตนได้

อย่างเป็นกลางใช้ภาษาไทยมาตรฐานได้ถูกต้อง เหมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะ เรียนรภู้ าษาถิ่นเพื่อให้เกิด
ความเข้าใจในความหลากหลาย การเข้าใจธรรมชาติของภาษาและการใช้ภาษาไทย

เพอื่ ให้เกิดทกั ษะและสมรรถนะทางภาษาไทยท้ัง 6 ด้าน ได้แก่ การจดั การตัวเอง การคดิ ขนั้ สูง การ
สือ่ สาร การรวมพลงั ทำงานเปน็ ทมี การเป็นพลเมืองท่เี ขม้ แขง็ การอย่รู ่วมกับระบบธรรมชาติ และวิทยาการ
อย่างยงั่ ยืน โดยใช้กลวธิ ีในการสอ่ื สาร ใชค้ วามคิดท่ีแปลกใหมท่ ี่ไมซ่ ำ้ ใครหรือพฒั นาต่อยอดจากของเดิมได้

อยา่ งเหมาะสม

159

คำอธบิ ายรายวชิ า

ท 12101 ภาษาไทย 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 120 ชวั่ โมง / ปี

รายวิชาภาษาไทย (ท 12101) ช้ันประถมศึกษาปีที่2 เป็นรายวิชาท่ีมุ่งให้ผู้เรียน ฟังและปฏิบัติตาม

คำแนะนำ คำสง่ั ทซี่ ับซ้อนสามารถจับใจความและพูดแสดงความคิดเหน็ และ ความรสู้ ึกจากเรอื่ งท่ีฟงั และดู ได้

อย่างเหมาะสมท้ังที่เป็นความรู้และความบันเทิงพร้อมทั้งมีมารยาทในฟังและดู พูดเล่าเรื่องและพูดแสดง

ความคิดเห็น ความรู้สึกจากเรื่องที่ฟังและดู ทั้งท่ีเป็นความรู้และความบันเทิง พูดสื่อสารในชีวิตประจำวัน
และมมี ารยาทในการพูด การอ่านออกเสียงและการบอกวามหมายของคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อย

กรองง่ายๆ ท่ีประกอบด้วยคำพ้ืนฐานเพิ่มจาก ป. 1 การอ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏบิ ัติตามคำส่ังหรือข้อ
แนะ นำ และมีมารยาทในการอ่าน อ่านจับใจความจากสือ่ ต่าง ๆ เช่น นิทาน เร่ืองเล่าสั้น ๆ บทเพลง ข่าว

และเหตุการณ์ประจำวัน อ่านหนังสือตามความสนใจ หนังสือที่ครูและนักเรียนกำหนดร่วมกัน และบทร้อย
กรองง่ายๆ เรื่องราวจากบทเรยี นในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยและกลุ่มสาระการเรียนรอู้ น่ื ได้อยา่ งมีสมาธิ
และสามารถวิเคราะห์สิ่งท่ีอ่านและนำข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน การคัดลายมือตัว

บรรจงเต็มบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทยและเขียนคำ ได้ถูกต้องชัดเจน มีมารยาทในการเขียน
และสามารถเขียนเพ่ือส่ือสารในชีวิตประจำวันได้อย่างชัดเจนและเหมาะสม การเขียนเร่ืองส้ัน ๆ เก่ียวกับ

ประสบการณ์ และเขยี นแสดงความคิดเห็นและความร้สู ึกเก่ียวกับงานเขยี นของตนได้ เหมาะสมเป็นกลางโดย
ไม่ละเมิดสิทธ์ิของผู้อ่ืน รู้จักการแต่งประโยค แผนภาพโครงเรื่อง บันทึกเหตุการณ์ประจำวัน เขียนแผนภาพ

โครงเร่ือง บันทึกเหตุการณ์ประจำวันโดยเขียน อยางงายได และสามารถนำไปใชจริงในชีวิตประจำวัน ใช้

ภาษาพูดและภาษาเขียนได้ถูกต้อง เหมาะสมกับบุคคล มีเจตคติท่ีดีต่อการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องและ

เหมาะสม

โดยใช้การฟังหรือดูอย่างตั้งใจแล้วปฏิบัติตามคำส่ัง คำชี้แจง และคำแนะนำได้ถูกต้อง
เหมาะสม ฟังหรือดูสื่อต่าง ๆ อย่างต้งั ใจแลว้ พูดเลา่ เรื่อง บอกรายละเอียดและสาระสำคัญ รวมทั้ง
แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกอย่างสร้างสรรค ใช้ภาษาพูดและภาษาเขียนได้ถูกต้อง เหมาะสมกับ

บุคคลและกาลเทศะ อ่านออกเสียงคำในบทอ่านและสื่อประเภทต่าง ๆ ที่กำหนดให้ อย่างตั้งใจและถูกต้อง

รวมท้ังเข้าใจความหมายของคำ แล้วสามารถอ่านออกเสียงตลอดจนทำความเข้าใจบทอ่านและสื่อที่พบ อ่าน
บทอ่านและสื่อประเภทต่างๆ แล้วลำดับเหตุการณ์ ตั้งคำถาม และตอบคำถามเพื่อสรุปเรื่องและบอกข้อคิด
ตลอดจนคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องท่ีอ่านอย่างมีเหตุผล อ่านบทอ่านและส่ือประเภทต่างๆ แล้วนำความรู้

และขอ้ คิดไปปรบั ใชใ้ ห้เป็ประโยชน์ ตอ่ ตนเองและผู้อ่ืน อ่านบทอา่ นตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและนำเสนอ
เรอ่ื งท่ีอ่านได้อย่างสร้างสรรค์ คัดลายมอื และเขยี นคำอย่างตง้ั ใจและถูกตอ้ ง แล้วสามารถนำไปใช้ ในการเขียน

สื่อสารในชีวติ ประจำวนั ได้ถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม เขียนส่อื สารได้ตรงตามวตั ถุประสงค์และรูปแบบการ
เขียน โดยไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อ่ืนเขียนเร่ืองตามจินตนาการอย่างสร้างสรรค์ เขียนแสดงความคิดเห็นและ
ความรู้สึกเกี่ยวกบั งานเขียนของตนได้ อย่างเป็นกลางใช้ภาษาไทยมาตรฐานไดถ้ ูกต้อง เหมาะสมกับบุคคลและ

กาลเทศะ เรียนร้ภู าษาถ่ินเพื่อให้เกิดความเข้าใจในความหลากหลายการเข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและการใช้
ภาษาไทย

160

เพ่อื ให้เกิดทกั ษะและสมรรถนะทางภาษาไทยท้งั 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ การจัดการตวั เอง การคดิ ข้ันสงู การ
สื่อสาร การรวมพลังทำงานเปน็ ทีม การเปน็ พลเมอื งทเี่ ขม้ แขง็ การอยูร่ ว่ มกับระบบธรรมชาติ และวทิ ยาการ
อยา่ งย่งั ยืน โดยใชก้ ลวิธีในการสอ่ื สาร ใช้ความคิดที่แปลกใหม่ทไ่ี มซ่ ้ำใครหรอื พัฒนาต่อยอดจากของเดมิ ได้
อยา่ งเหมาะสม

161

คำอธิบายรายวชิ า

ท 13101 ภาษาไทย 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 120 ช่ัวโมง / ปี

รายวิชาภาษาไทย (ท 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่3 เป็นรายวิชาท่มี ุ่งให้ผู้เรียน จับใจความและพูด

แสดงความคิดเห็นและ ความรู้สึกจากเรื่องที่ฟังและดู ได้อย่างเหมาะสมทั้งท่ีเป็นความรู้และความบันเทิง

พร้อมทั้งมีมารยาทในการฟังและการดูด้วย จบั ใจความและพูดแสดงความคิดเหน็ และ ความรูส้ ึกจากเร่อื งที่ฟัง

และดู ได้อย่างเหมาะสมทั้งที่เป็นความรู้และความบันเทิงพร้อมท้ังมีมารยาทในการฟังและการดูด้วย จับ
ใจความและพูดแสดงความคิดเห็นและ ความรู้สึกจากเรอ่ื งท่ีฟังและดู ได้อยา่ งเหมาะสมท้ังท่ีเป็นความรู้และ

ความบันเทิงพร้อมทั้งมีมารยาทในการฟังและการดูด้วย อ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ เช่น นิทานหรือเรื่อง
เกี่ยวกับท้องถิ่น เร่ืองเล่าสั้นๆ บทเพลงและบทร้อยกรอง บทเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ข่าวและ
เหตุการณ์ในชีวิตประจำ วันในท้องถิ่นและชุมชนได้อย่างมีสมาธิสามารถวิเคราะห์สิ่งท่ีอ่านและนำข้อคิดจาก
การอ่านไปประยกุ ต์ ใชใ้ นชีวิตประจำวันได้อย่างสรา้ งสรรค์ การคัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัดตามรูปแบบการ

เขียน ตัวอักษรไทย และเขียนคำได้ถูกต้อง แล้วสามารถนำไปใช้ในการเขียนเพื่อส่ือสารในชีวิตประจำวันได้

ชัดเจนและเหมาะสมกับกาล เทศะ การเขียนบรรยายเก่ียวกับลักษณะของ คน สัตว์ ส่ิงของ สถานที่ การ

เขียนบันทึกประจำวัน การเขียนจดหมายลาครู และเขียนแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกเก่ียวกับงานเขียน
ของตนได้ เหมาะสมเป็นกลาง โดยไม่ละเมดิ สทิ ธิ์ของผอู้ ่ืน รู้จักการคดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามรูปแบบ
การเขียนอักษรไทย เขียนบรรยายเก่ียวกับลักษณะ คน สัตว์ สิ่งของ สถานท่ี การเขียนเรื่องตามจินตนาการ
จากคำ หัวข้อและภาพที่กำหนด คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามรูปแบบการเขียน เขียนบรรยาย เขียน

เรือ่ งตามจินตนาการจากคำ หัวขอ้ และภาพ เขยี นอย่างสร้างสรรค์และสามารถนำไปใชจรงิ ในชีวิตประจำวัน ใช้

ภาษาพูดและภาษาเขียนได้ถูกต้อง เหมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะ มีเจตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาไทยอย่าง

ถกู ต้องเหมาะสมกบั บุคคลและกาลเทศะ
โดยใช้การฟังหรือดูอย่างตั้งใจแล้วปฏิบัติตามคำส่ัง คำช้ีแจง และคำแนะนำได้ถูกต้อง

เหมาะสม ฟังหรือดูส่อื ต่าง ๆ อยา่ งตั้งใจแล้วพูดเล่าเรือ่ ง บอกรายละเอียดและสาระสำคัญ รวมท้ัง
แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกอย่างสร้างสรรค ใช้ภาษาพูดและภาษาเขียนได้ถูกต้อง เหมาะสมกับ

บุคคลและกาลเทศะ อ่านออกเสียงคำในบทอ่านและส่ือประเภทต่าง ๆ ที่กำหนดให้ อย่างต้ังใจและถูกต้อง
รวมทั้งเข้าใจความหมายของคำ แล้วสามารถอ่านออกเสียงตลอดจนทำความเข้าใจบทอ่านและสื่อที่พบ อ่าน
บทอ่านและส่ือประเภทต่าง ๆ แล้วลำดับเหตุการณ์ ต้ังคำถาม และตอบคำถามเพ่ือสรุปเรื่องและบอกข้อคิด
ตลอดจนคาดคะเนเหตุการณ์จากเร่ืองที่อ่านอย่างมีเหตุผล อ่านบทอ่านและส่ือประเภทต่างๆ แล้วนำความรู้
และข้อคิดไปปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อ่ืน อ่านบทอ่านตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและ
นำเสนอเรื่องท่ีอ่าน ได้อย่างสร้างสรรค์คัดลายมือและเขียนคำอย่างตั้งใจและถูกต้อง แล้วสามารถนำไปใช้ ใน

การเขียนสื่อสารในชีวิต ประจำวันได้ถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม เขียนส่ือสารได้ตรงตามวัตถุประสงค์และ
รูปแบบการเขียน โดยไม่ละเมิดสิทธ์ิของผู้อื่นเขียนเร่ืองตามจินตนาการอย่างสร้างสรรค์ เขียนแสดงความ
คิดเห็นและความรู้สึกเก่ียวกับงานเขียนของตน ได้อย่างเป็นกลางใช้ภาษาพูดและภาษาเขียนได้ถูกต้อง

162

เหมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะ ใช้ภาษาไทยมาตรฐานได้ถูกต้อง เหมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะ เรียนรู้
ภาษาถ่ินเพือ่ ใหเ้ กิดความเขา้ ใจในความหลากหลาย การเข้าใจธรรมชาติของภาษาและการใชภ้ าษาไทย

เพอื่ ให้เกิดทกั ษะและสมรรถนะทางภาษาไทยทั้ง 6 ดา้ น ได้แก่ การจดั การตวั เอง การคิดข้นั สงู การ
สื่อสาร การรวมพลังทำงานเป็นทมี การเป็นพลเมืองท่ีเขม้ แขง็ การอยูร่ ว่ มกับระบบธรรมชาติ และวทิ ยาการ
อย่างยง่ั ยนื โดยใชก้ ลวธิ ใี นการส่อื สาร ใชค้ วามคิดทีแ่ ปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใครหรือพัฒนาต่อยอดจากของเดมิ ได้
อยา่ งเหมาะสม

163

คำอธิบายรายวชิ า

ท 14101 ภาษาไทย 4 กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 120 ชวั่ โมง / ปี

รายวชิ าภาษาไทย (ท 14101) ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เป็นรายวิชาท่ีมงุ่ ให้ผูเ้ รียนฟังและดเู ร่ืองสัน้
เร่อื งเลา่ หรอื ประสบการณ์เก่ียวข้องกบั สถานการณใ์ กล้ตวั แล้วพูดเพ่อื แสดงถึงความรูเ้ ก่ยี วกบั เรื่องเหล่าน้นั

อยา่ งมมี ารยาท เหมาะสมดว้ ยความมนั่ ใจจำแนกขอ้ เท็จจริงและข้อคดิ เห็นจากเร่ืองท่ีฟงั และดูสอ่ื ต่างๆ ในวิตป
ระจำวัน สามารถจับใจความจำแนกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ และพดู แสดงความรู้ความคิดเปน็ กลางและ

สร้างสรรคใ์ นเรื่องที่ฟงั และดู ดว้ ยความม่นั ใจและถกู ตอ้ งเหมาะสมกับบคุ คล และกาลเทศะอา่ นออกเสยี งบท

ร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองและอธิบายบอกความหมายของคำ ประโยคและสำนวน ท้งั นสี้ ามารถอ่านเรื่องสนั้ ๆ
ตามเวลาท่ีกำหนด แยกขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเหน็ คาดคะแนนเรอ่ื งทอ่ี า่ นโดยระบุเหตผุ ลประกอบ สรุป

ความรูแ้ ละขอ้ คิดจากเรือ่ งที่อ่านเพื่อนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั และรูว้ ิธีการเข้าถึงสอื่ ท่หี ลากหลาย อา่ นเร่อื ง

สัน้ ๆสรุปความเข้าใจของตนและตอบคำถามจากเรอื่ งท่อี ่านวิเคราะห์ตีความเพอ่ื ประเมินความเหมาะสมของ
ขอ้ มูล สามารถแยกขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเหน็ อยา่ งมเี หตุผลเก่ียวกบั เรือ่ งท่อี ่าน โดยระบุหลักฐาน สนับสนนุ
ความคิดไดอ้ ย่างน้อยหน่ึงแหลง่ ขอ้ มลู คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรือ่ งทอี่ า่ นโดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้

และข้อคิดจากเรอ่ื งทอ่ี า่ นเพ่อื นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน อา่ นเรอ่ื งส้นั ตามเวลาท่ีกำหนดและตอบคำถามจาก
เรื่องที่อ่านสามารถคาดคะเนเรอ่ื งที่อา่ นโดยระบุเหตผุ ลประกอบ สรุปความรู้และขอ้ คิดจากเร่ืองท่ีอ่านเพ่ือ

นำไปใช้ในชีวิตประจำวนั อ่านหนังสอื ทมี่ ีคุณค่าตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
เรื่องท่ีอ่าน มนี ิสัยรกั การอา่ น คดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครง่ึ บรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัว
อักษรไทยไดอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม และสามารถเขยี นสือ่ สาร เชน่ เขียนจดหมายถงึ เพอื่ นและบดิ ามารดา

เขียนบนั ทึกและเขยี นรายงานจากการศกึ ษาคน้ คว้า เขยี นเร่ืองตามจินตนาการ เขียนถกู ต้องตามรูปแบบการ
เขียน เขียนสอ่ื สารบอกเล่าจนิ ตนาการหรอื ความคิดของตนเองทีแ่ ปลกใหม่ไปจากส่งิ รอบตวั ของตนเองและ

บรบิ ทโดยการใช้คำไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม เขียนยอ่ ความจากเรื่องส้ัน เขียนจดหมายถงึ เพอ่ื นและบดิ ามารดา
เขยี นบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า เขียนเร่ืองตามจนิ ตนาการ โดยมีการพัฒนาผลงานที่เปน็
ชนิ้ งานทกุ ประเภทให้ถกู ตอ้ งตามรูปแบบการเขียนและมีมารยาทในการเขียนและสามารถนำไปใช้จริงใน

ชีวติ ประจำวนั
เขยี นแผนภาพ โครงเรอ่ื ง และแผนภาพความคิดไปพฒั นางานเขยี น เขียนจดหมายถงึ เพ่อื นและบดิ ามารดา

เขยี นเรื่องตามจินตนาการ งานเขียนทุกประเภทจำเปน็ จะตอ้ ง เขียนใหถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสม มมี ารยาทในการ

เขยี นแสดงความคิด ในเร่อื งต่าง ๆ และสามารถนำไปใชจรงิ ในชีวิตประจำวนั ใช้พจนานุกรมค้นหา

ความหมายของคำและบอกความหมายของสำนวนที่เป็นคำพงั เพยและสุภาษติ นำไปเปรยี บเทียบภาษาไทย
มาตรฐานกบั ภาษาถ่ินไดถ้ ูกตอ้ ง และเหมาะสม สะกดคำและบอกความหมายของคำในบรบิ ทต่างๆ นำคำมา
แตง่ ประโยคและสามารถระบชุ นดิ และหนา้ ท่ีของคำในประโยคได้ นอกจากน้ยี ังใชพ้ จนานกุ รมคน้ หา

ความหมายของคำ และสำนวนท่ีเปน็ คำพงั เพยและสุภาษิต นำความรูท้ ีไ่ ดม้ าเปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐาน

กับภาษาถิ่น มีเจตคติท่ีดีต่อการใชภ้ าษาอยา่ งถูกต้องและเหมาะสมกบั บุคคล และกาลเทศะ สะกดคำและ

บอกความหมายของคำในบรบิ ทต่างๆได้ถูกตอ้ งและสามารถนำคำมาแตง่ บทรอ้ ยกรองและคำขวัญไดด้ ว้ ย
ความคิดสร้างสรรค์ มีเจตคตทิ ่ดี ีต่อการใช้ภาษาอยา่ งถูกต้อง ระบุขอ้ คิดจากนิทานพน้ื บา้ นหรอื นทิ านคติธรรม

และสามารถอธิบายขอ้ คดิ จากการอ่านเพ่อื นำไปใชใ้ นชีวติ จริง นอกจากนีส้ ามารถขับร้องเพลงพืน้ บา้ น ทอ่ งจำ

164

บทอาขยานตามท่กี ำหนด และบทรอ้ ยกรองที่มคี ุณค่าตามความสนใจและมเี จตคติที่ดตี ่อการใช้ภาษาไทยอย่าง
ถูกต้อง

โดยใชก้ ารฟงั และ/ หรอื ดสู อื่ ต่าง ๆ วเิ คราะห์ความนา่ เชื่อถือ พูดแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล เพ่ือให้
สามารถเลือกฟงั และดสู อื่ ด้วยตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม พูดโน้มนา้ ว พูดปฏิเสธ และพูดโต้ตอบอย่างถกู ต้อง
สุภาพ ถูกกาลเทศะ และม่ันใจ ท้งั ในโลกจรงิ หรอื โลกเสมอื นจริง ดว้ ยความเข้าใจ และเคารพในความแตกต่าง
เพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชน์แกต่ นเองและผอู้ นื่ อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง เพอื่ ถา่ ยทอดความหมาย
และ/ หรืออารมณ์ความรู้สึกได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และไพเราะ อ่านสัญลักษณ์ แผนผัง แผนท่ี แผนภูมิ
ตาราง กราฟ และอนิ โฟกราฟิก จากส่ือต่าง ๆ วเิ คราะห์ความหมายของข้อมลู แล้วนำไปปรับใชใ้ หเ้ ป็นประโยชน์
ตอ่ ตนเองและผอู้ ื่น อ่านวรรณคดแี ละวรรณกรรม แลว้ วิเคราะห์ ตีความ ประเมินค่าและแสดงความคิดเหน็ เพื่อ
นำไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจริง เขียนสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม ด้วย
ลายมือที่สวยงามและเป็นระเบียบ เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นด้วยตัวอักษรหรอื สัญลักษณ์ผ่านสื่อ
ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสมกบั บคุ คล โอกาส และกาลเทศะ โดยไมล่ ะเมดิ สิทธข์ิ องผู้อ่นื เขียนโครงเรื่องและแผนภาพ
ความคดิ แล้วนำไปใช้ในการเขยี นเร่อื งตามจินตนาการ และเขียนเรยี งความอย่างถูกต้องเหมาะสม ใช้ภาษาไทย
มาตรฐานได้ถูกต้อง เหมาะสมกับบุคคล โอกาสและกาลเทศะ เรียนรู้ภาษาถ่ินเพื่อให้เกิดความเข้าใจในความ
หลากหลาย ตลอดจนเห็นคุณค่าของภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่น เขา้ ใจความหมายและการใชค้ ำ สำนวน
คำราชาศัพท์ คำยืมท่ีมาจากภาษาต่างประเทศท่ถี ูกต้องเพ่ือนำไปใชใ้ นการรบั รขู้ ้อมูลอย่างเข้าใจและใช้ไดอ้ ยา่ ง
ถูกต้องเหมาะสมกับบุคคล โอกาส และกาลเทศะ แต่งบทร้อยกรองได้ถูกต้องและมีวรรณศิลป์เพ่ือนำไป
ประกอบการพูด การนำเสนอ หรือการเขียนให้มีความน่าสนใจ ใช้ภาษาพดู และภาษาเขียนในสถานการณ์ต่าง

ๆ ท้งั โลกจริงและโลกเสมือนจริงไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เหมาะสมกบั บุคคล โอกาส และกาลเทศะ ใช้ประโยคถูกตอ้ ง
ตามหลักภาษา เพื่อน าไปใช้ในการสือ่ สารไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม

เพ่อื ใหเ้ กดิ ทกั ษะและสมรรถนะทางภาษาไทยทั้ง 6 ดา้ น ได้แก่ การจัดการตวั เอง การคิดขน้ั สูง การ
ส่ือสาร การรวมพลงั ทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมอื งที่เข้มแข็ง การอยู่รว่ มกบั ระบบธรรมชาติ และวทิ ยาการ
อยา่ งยั่งยืน โดยใชก้ ลวธิ ใี นการส่ือสาร ใช้ความคิดท่แี ปลกใหม่ทไ่ี มซ่ ำ้ ใครหรือพฒั นาตอ่ ยอดจากของเดมิ ได้
อย่างเหมาะสม

165

คำอธบิ ายรายวชิ า

ท 15101 ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 120 ชวั่ โมง / ปี

รายวิชาภาษาไทย (ท 15101) ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 เป็นรายวิชาทมี่ ่งุ ให้ผ้เู รียนฟงั และดบู ทโฆษณา
ขา่ ว และเหตุการณป์ ระจำวัน วิเคราะหค์ วามนา่ เชือ่ ถอื แลว้ การพูดเพื่อแสดงความรู้สกึ ความคิดเห็นอยา่ งมี

เหตผุ ลและสรา้ งสรรคอ์ ย่างมีมารยาท เหมาะสมด้วยความมั่นใจ จบั ใจความ และพดู แสดงความร้คู วามคดิ ใน
เรอ่ื งทีฟ่ งั และดู จากส่อื ต่างๆ เช่น เรือ่ งเล่า บทความ ขา่ วและเหตุการณ์ประจำวนั โฆษณา สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์
และสามารถวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของสือ่ ได้อย่างถูกต้อง มีความมนั่ ใจในการพดู พดู ได้อย่างสร้างสรรค์และ

เปน็ กลาง คำนึงถึงความแตกต่างระหวา่ งบุคคล อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถกู ตอ้ ง และ
ไพเราะ สามารถถา่ ยทอดอารมณ์ ความรสู้ ึก อกี ท้ังอธบิ ายความหมายของคำ ประโยคและขอ้ ความทเ่ี ป็นการ

บรรยายและการพรรณนา อธบิ ายความหมายโดยนัยจากเรื่องทอ่ี า่ นอย่างหลากหลายให้ผ้ฟู งั เขา้ ใจชัดเจนอา่ น
หนงั สอื ท่ีมคี ุณค่าตามความสนใจอย่างสมำ่ เสมอและแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั เร่อื งทอ่ี า่ น มีมารยาทในการ

อ่านสื่อสารแบบง่าย ๆ อา่ นจับใจความจากสอื่ ต่าง ๆ ทหี่ ลากหลาย อ่านงานเขยี นเชงิ อธบิ าย คำสั่ง

ขอ้ แนะนำและขอ้ ปฏิบตั ิ อยา่ งมีมารยาทในการอา่ น วิเคราะห์ตีความเพอ่ื ประเมินความเหมาะสมของข้อมลู
แยกข้อเท็จจริงและขอ้ คิดเห็น วิเคราะหแ์ สดงความคิดเห็นอยา่ งมเี หตุผลเกีย่ วกับเรอ่ื งทีอ่ ่าน เพือ่ นำไปใชใ้ นการ

ดำเนินชวี ติ อา่ นจบั ใจความจากส่ือตา่ ง ๆวเิ คราะห์ และแยกแยะข้อเท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ ทั้งนผ้ี ู้เรียนต้องอา่ น
งานเขยี นเชิงอธิบาย คำสัง่ ข้อแนะนำและข้อปฏิบัตติ ามให้ถูกตอ้ ง และนำไปใช้ให้เหมาะสมและผู้เรียนมี

มารยาทในการอ่านและมนี สิ ยั รักการอ่าน คดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั และคร่ึงบรรทดั ตามรปู แบบการเขยี น
ตวั อักษรไทยไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม มีมารยาทในการเขยี น และสามารถเขียนเรือ่ งตามจนิ ตนาการ เขยี น
สอื่ สาร เช่น คำอวยพร คำแนะนำและคำอธบิ ายแสดงข้นั ตอนเขยี นจดหมายถึงผ้ปู กครองและญาติเขยี นแสดง

ความร้สู ึกและความคิดเหน็ รวมไปถึงกรอกแบบรายการตา่ ง ๆได้ เขยี นสือ่ สารโดยการใช้คำได้ถกู ตอ้ ง ชัดเจน
และเหมาะสม มีการเขยี นเรยี งตามข้ันตอนเชน่ การยอ่ ความจากส่ือต่าง ๆ เชน่ นทิ าน ความเรยี งประเภทตา่ ง

ๆ ประกาศ แจ้งความ แถลงการณ์ จดหมาย คำสอน โอวาท คำปราศรยั การเขยี นจดหมายถึงผู้ปกครองและ
ญาติการกรอกแบบรายการต่าง ๆการเขยี นเรอ่ื งตามจนิ ตนาการโดยมกี ารพฒั นาผลงานที่เป็นชิ้นงานทกุ
ประเภทใหถ้ กู ตอ้ งตามรูปแบบการเขียนและมมี ารยาทในการเขียนและสามารถนำไปใช้จรงิ ในชวี ิตประจำวนั

โดยตอบสนองความต้องการจำเป็นหรือสภาพปัญหาในบริบท เขยี นแผนภาพ โครงเรื่อง และแผนภาพความคิด
ไปพัฒนางานเขยี นการเขียนจดหมายถึงผปู้ กครองและญาติ เขยี นแสดงความรู้สกึ และความคิดเห็น เขยี นเรื่อง

ตามจนิ ตนาการ ก็มีรูปแบบในการเขียนเชน่ เดยี วกัน เพราะฉะนนั้ งานเขียนทุกประเภทจำเปน็ จะต้องเขยี นให้

ถูกต้องเหมาะสม แสดงความคดิ ในเรอื่ งตาง ๆ บอกเลาความคิดจินตนาการหรอื ความคิดของตนเอง
ที่แปลกใหมไปจากส่ิงรอบตัวของตนเองและบริบทและต่อยอดความคิดของตนเองใหแตกตางไปจากเดมิ

เปรยี บเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถน่ิ และนำไปใชค้ ำได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล และสามารถ

รวบรวมและบอกความหมายของคำภาษาตา่ งประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย วิเคราะหช์ นดิ และหนา้ ท่ขี องคำ ใน
ประโยค บอกความหมายคำท่มี าจากภาษาตา่ งประเทศ เปรียบเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถ่ินการใช้

คำราชาศพั ท์ การใช้สำนวนสุภาษติ การใชค้ ำให้ถูกตอ้ งเหมาะสมกับกาลเทศะ เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐาน
กับภาษาถน่ิ และนำคำมาแตง่ บทร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ให้มีความไพเราะ ถูกต้อง และมคี วาม
นา่ สนใจ มกี ารใช้ความคิดท่ีสรา้ งสรรคใ์ นบทประพนั ธ์ ผ้เู รยี นมีเจตคติทดี่ ีต่อการใชภ้ าษาอย่างถูกต้อง สรุปเรอ่ื ง

166

จากวรรณคดีหรอื วรรณกรรมที่อา่ นและระบุความรขู้ ้อคดิ อธิบายคุณค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรมจากการ
อ่านนำไปใช้ในชีวิตจรงิ อยางมสี ติ สามารถท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อยกรองทมี่ ีคุณค่าตาม

ความสนใจ มีเจตคติทด่ี ตี ่อการใชภ้ าษาไทยอย่างถูกต้องเหมาะสมกาลเทศะ ใช้ประโยคถกู ต้องตามหลกั
ภาษา เพอื่ นำไปใช้ในการสือ่ สารไดถ้ ูกต้องเหมาะสม

โดยใช้การฟังและ/ หรือดูสือ่ ต่าง ๆ วิเคราะห์ความนา่ เชื่อถือ พูดแสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล เพ่ือให้
สามารถเลือกฟังและดสู ื่อด้วยตนเองได้อยา่ งเหมาะสม พูดโน้มนา้ ว พดู ปฏเิ สธ และพูดโต้ตอบอยา่ งถกู ต้อง
สุภาพ ถกู กาลเทศะ และม่นั ใจ ทงั้ ในโลกจรงิ หรอื โลกเสมือนจริง ดว้ ยความเข้าใจ และเคารพในความแตกต่าง
เพ่ือใหเ้ กดิ ประโยชน์แกต่ นเองและผ้อู ืน่ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง เพอื่ ถา่ ยทอดความหมาย
และ/ หรอื อารมณค์ วามรูส้ กึ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม และไพเราะ อ่านสญั ลักษณ์ แผนผงั แผนท่ี แผนภูมิ
ตาราง กราฟ และอินโฟกราฟกิ จากสือ่ ตา่ ง ๆ วิเคราะห์ความหมายของข้อมูลแลว้ นำไปปรับใช้ใหเ้ ปน็ ประโยชน์
ตอ่ ตนเองและผ้อู ่นื อา่ นวรรณคดแี ละวรรณกรรม แลว้ วเิ คราะห์ ตีความ ประเมนิ ค่าและแสดงความคดิ เหน็ เพอ่ื
นำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ จรงิ เขยี นสื่อสารในสถานการณต์ า่ ง ๆ โดยใช้คำไดถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจน และเหมาะสม ด้วย
ลายมือท่ีสวยงามและเปน็ ระเบยี บ เขียนแสดงความรู้สกึ และความคิดเห็นดว้ ยตัวอกั ษรหรอื สัญลักษณผ์ ่านสื่อ
ตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสมกบั บุคคล โอกาส และกาลเทศะ โดยไม่ละเมดิ สิทธขิ์ องผู้อืน่ เขยี นโครงเรอ่ื งและแผนภาพ
ความคดิ แลว้ นำไปใช้ในการเขียนเรอ่ื งตามจินตนาการ และเขียนเรียงความอย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ใชภ้ าษาไทย
มาตรฐานไดถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสมกบั บคุ คล โอกาสและกาลเทศะ เรยี นรภู้ าษาถิ่นเพอื่ ให้เกดิ ความเขา้ ใจในความ
หลากหลาย ตลอดจนเหน็ คุณค่าของภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถนิ่ เข้าใจความหมายและการใช้คำ สำนวน
คำราชาศัพท์ คำยมื ทมี่ าจากภาษาต่างประเทศทีถ่ ูกตอ้ งเพอื่ นำไปใชใ้ นการรบั รขู้ อ้ มลู อย่างเขา้ ใจและใช้ได้อยา่ ง
ถูกต้องเหมาะสมกับบคุ คล โอกาส และกาลเทศะ แตง่ บทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ งและมวี รรณศลิ ป์เพือ่ นำไป
ประกอบการพูด การนำเสนอ หรอื การเขยี นให้มีความนา่ สนใจ ใช้ภาษาพดู และภาษาเขียนในสถานการณต์ ่าง
ๆ ทัง้ โลกจริงและโลกเสมอื นจรงิ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง เหมาะสมกบั บุคคล โอกาส และกาลเทศะ

เพื่อใหเ้ กดิ ทกั ษะและสมรรถนะทางภาษาไทยทัง้ 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ การจดั การตัวเอง การคิดข้ันสูง การ
สอื่ สาร การรวมพลงั ทำงานเปน็ ทีม การเปน็ พลเมืองท่เี ข้มแข็ง การอยรู่ ว่ มกับระบบธรรมชาติ และวทิ ยาการ
อยา่ งยงั่ ยนื โดยใชก้ ลวิธีในการสอื่ สาร ใช้ความคดิ ที่แปลกใหมท่ ไ่ี มซ่ ้ำใครหรอื พัฒนาตอ่ ยอดจากของเดมิ ได้
อย่างเหมาะสม

167

คำอธิบายรายวิชา

ท 16101 ภาษาไทย 6 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 120 ชั่วโมง / ปี

รายวิชาภาษาไทย (ท 16101) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เป็นรายวิชาท่มี ุ่งให้ผู้เรยี น ฟงั และดูสารคดีและ
บนั เทิงคดีวิเคราะหค์ วามน่าเชื่อถือแลว้ การพดู เพ่ือแสดงความรู้สกึ ความคดิ เหน็ อยา่ งมีเหตผุ ลและสร้างสรรค์

อยา่ งมีมารยาท เหมาะสมดว้ ยความม่ันใจ วเิ คราะหค์ วามนา่ เช่ือถอื จากการฟงั และดูสือ่ โฆษณาพูดโนม้ นา้ วใน
สถานการณ์ต่างๆ เชน่ การเลือกตัง้ กรรมการนกั เรยี นการรณรงคด์ า้ นต่างๆการโตว้ าทวี เิ คราะหค์ วามน่าเชอ่ื ถือ
และพูดโน้มน้าวให้ผอู้ ่ืนคลอ้ ยตาม มีความมั่นใจในการพดู และพดู ได้ถกู ตอ้ งเหมาะสม เป็นผ้ฟู ังท่ีดี รับฟงั ความ

คิดเหน็ ของผอู้ น่ื มีใจเปน็ กลางและสร้างสรรค์ อ่านออกเสียงและบอกความหมายของบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อย
กรองเปน็ ทำนองเสนาะไดถ้ ูกต้องเหมาะสม ไพเราะและสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรสู้ ึกจากการอ่านหนังสือ

ตามความสนใจ เลอื กใชหนังสอื อยางระมดั ระวงั เพอ่ื ไมใหเกดิ ผลกระทบตอตนเองอยา่ งมมี ารยาทในการอา่ น
อ่านเร่อื งสัน้ ๆอย่างหลากหลายโดยจับเวลา อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คำสง่ั ข้อแนะนำและขอ้ ปฏิบัตอิ ่านข้อมูล
จากแผนผงั แผนท่ี แผนภมู ิ และกราฟอย่างมีมารยาทในการอ่านและนำไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อตนเองและ

ผอู้ นื่ อ่านเร่ืองสั้นๆอยา่ งหลากหลายโดยจับเวลาแลว้ ถามเก่ยี วกับเรอ่ื งท่ีอ่านสามารถแยกข้อเท็จจริงและ
ข้อคิดเหน็ ได้ และสามารถอธบิ ายความรู้และความคดิ จากเรื่องทีอ่ ่านนำไปตดั สินใจแกป้ ญั หาในการดำเนนิ ชวี ิต

การอา่ นงานเขยี นเชิงอธิบาย คำสั่ง ขอ้ แนะนำและข้อปฏิบตั ติ าม อธิบายความหมายของข้อมลู จากแผนผัง แผน
ท่ี แผนภมู ิและกราฟ อ่านหนังสือตามความสนใจและอธบิ ายคุณค่าทไี่ ดร้ บั อย่างมีเหตุผลมีมารยาทในการอ่าน
และมีนสิ ัยรักการอา่ น คดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั และครึง่ บรรทัดตามรปู แบบการเขยี นตัวอกั ษรไทย

นำไปสกู่ ารเขยี น เขียนเรยี งความ การเขยี นเรื่องตามจินตนาการและสร้างสรรคเ์ ขยี นจดหมายสว่ นตัว
จดหมายขอโทษ จดหมายแสดงความขอบคุณ จดหมายแสดงความเหน็ ใจจดหมายแสดงความยนิ ดี และการ

กรอกแบบรายการต่างๆตอ้ งเขียนให้ถูกตอ้ งตามรูปแบบการเขียน มมี ารยาทในการเขียน เขียนสอื่ สารโดยการ
ใช้คำได้ถูกต้องตามรูปแบบ ชัดเจนและเหมาะสม เช่น เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความจากสอ่ื ตา่ ง ๆ เขียนจดหมาย
สว่ นตวั เขียนกรอกแบบรายการเขียนเรอ่ื งตามจินตนาการและสรา้ งสรรค์ มีมารยาทในการเขยี นสามารถแสดง

ความคิดในเรอื่ งตา่ ง ๆ บอกเล่าความคิดจินตนาการหรอื ความคิดของตนเองท่ีแปลกใหมไ่ ปจากสิง่ รอบตัวของ
ตนเองและบริบท และตอ่ ยอดความคิดของตนเองใหแ้ ตกตา่ งไปจากเดิมพฒั นาผลงานทเี่ ป็นชน้ิ งาน เขยี น

แผนภาพ โครงเรือ่ ง และแผนภาพความคิดไปพฒั นางานเขียน การเขียนเรียงความ เขยี นจดหมายสว่ นตัว
จดหมายขอโทษ จดหมายแสดงความขอบคณุ จดหมายแสดงความเห็นใจ จดหมายแสดงความยินดี เขียนเร่ือง
ตามจินตนาการและสรา้ งสรรค์ เขยี นใหถ้ ูกต้องและเหมาะสมตามรปู แบบมีมารยาทในการเขียนสามารถแสดง

ความคิด ในเรื่องตา่ ง ๆ บอกเล่าความคดิ จนิ ตนาการหรอื ความคดิ ของตนเองทแี่ ปลกใหม่ไปจากสิ่งรอบตวั ของ
ตนเองและบรบิ ท และต่อยอดความคิดของตนเองใหแ้ ตกต่างไปจากเดิม และพฒั นาผลงานทีเ่ ปน็ ชิ้นงานหรือ

วิธกี ารที่มกี ารคดิ แจกแจงรายละเอียดโดยการผสมผสานจากหลายความคิดและดัดแปลงจากความคดิ เดมิ ส่ิงที่
มอี ยู่ หรือนำสง่ิ อน่ื มาทดแทนสิ่งทข่ี าด ได้อยา่ งหลากหลายและรวดเร็วในเวลาทีก่ ำหนด และสามารถนำไปใช้
จรงิ ในชวี ติ ประจำวันโดยตอบสนองความต้องการจำเปน็ หรอื สภาพปญั หาในบรบิ ท ใช้คำได้เหมาะสมกับ

กาลเทศะและบคุ คลรวบรวมและบอกความหมายของคำภาษาต่างประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทย สามารถวเิ คราะห์
และเปรียบเทียบสำนวนทีเ่ ป็นคำพงั เพย และสภุ าษติ ไดถ้ กู ต้อง เหมาะสม รวบรวมคำและบอกความหมายของ

คำจากภาษาต่างประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย ระบุลักษณะของประโยควเิ คราะห์ชนดิ และหน้าทขี่ องคำในประโยค

168

และนำคำไปใช้ใหเ้ หมาะสมกับกาลเทศะและบคุ คลเคารพในความแตกต่าง และมเี จตคติที่ดตี ่อการใชภ้ าษา
อย่างถกู ต้องและ เหมาะสม มีความคิดสรา้ งสรรค์ สามารถแตง่ บทร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพ ได้น่าสนใจ
และถกู ตอ้ งตามฉนั ทลักษณ์ เข้าใจและเหน็ คุณคา่ วรรณคดแี ละวรรณกรรม และสามารถทอ่ งจำบทอา่ นขยาน
ตามท่กี ำหนดได้ มเี จตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาอยา่ งถูกต้องแสดงความคิดในเรือ่ งต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายและ
รวดเรว็ ในเวลาทีก่ ำหนด และสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้จรงิ ในชีวิตประจำวนั ได้ เล่านทิ านพน้ื บ้านท้องถน่ิ ตนเอง
และนทิ านพน้ื บ้านของทอ้ งถิ่นอนื่ อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่านและนำไปประยกุ ต์ใช้ใน
ชีวติ จริงและแสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมทอ่ี า่ นไดส้ ามารถทอ่ งจำบทอาขยานตามทก่ี ำหนด
และบทรอ้ ยกรองท่มี ีคุณค่าตามความสนใจ มีเจตคติท่ีดีตอ่ การใช้ภาษาไทยอยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมกับบุคคล
โอกาส และกาลเทศะ

โดยใชก้ ารฟังและ/ หรอื ดสู ื่อต่าง ๆ วิเคราะห์ความนา่ เชื่อถือ พูดแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตผุ ล เพ่อื ให้
สามารถเลือกฟังและดูส่ือด้วยตนเองได้อย่างเหมาะสม พูดโน้มน้าว พูดปฏิเสธ และพูดโต้ตอบอย่างถูกต้อง
สภุ าพ ถูกกาลเทศะ และม่ันใจ ทั้งในโลกจริงหรือโลกเสมือนจริง ด้วยความเข้าใจ และเคารพในความแตกต่าง
เพือ่ ให้เกิดประโยชนแ์ ก่ตนเองและผอู้ นื่ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง เพอ่ื ถ่ายทอดความหมาย
และ/ หรืออารมณ์ความรู้สึกได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และไพเราะ อ่านสัญลักษณ์ แผนผัง แผนท่ี แผนภูมิ
ตาราง กราฟ และอินโฟกราฟิก จากสอ่ื ต่าง ๆ วิเคราะห์ความหมายของข้อมลู แล้วนำไปปรับใชใ้ หเ้ ป็นประโยชน์
ต่อตนเองและผู้อื่น อ่านวรรณคดีและวรรณกรรม แล้ววิเคราะห์ ตีความ ประเมนิ ค่าและแสดงความคิดเห็นเพ่ือ
นำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจริง เขียนสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม ด้วย
ลายมือท่ีสวยงามและเป็นระเบียบ เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นด้วยตัวอักษรหรอื สัญลักษณ์ผ่านสื่อ
ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสมกบั บุคคล โอกาส และกาลเทศะ โดยไม่ละเมิดสิทธิข์ องผอู้ ื่น เขยี นโครงเรอื่ งและแผนภาพ
ความคิด แล้วนำไปใชใ้ นการเขียนเร่ืองตามจินตนาการ และเขียนเรียงความอยา่ งถูกต้องเหมาะสม ใชภ้ าษาไทย
มาตรฐานได้ถูกต้อง เหมาะสมกับบุคคล โอกาสและกาลเทศะ เรียนรู้ภาษาถ่ินเพื่อให้เกิดความเข้าใจในความ
หลากหลาย ตลอดจนเห็นคุณค่าของภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ินเข้าใจความหมายและการใช้คำ สำนวน
คำราชาศัพท์ คำยืมท่ีมาจากภาษาต่างประเทศทถ่ี ูกตอ้ ง เพอ่ื นำไปใชใ้ นการรบั รูข้ อ้ มลู อย่างเขา้ ใจและใช้ไดอ้ ยา่ ง
ถูกต้องเหมาะสมกับบุคคล โอกาส และกาลเทศะ แต่งบทร้อยกรองได้ถูกต้องและมีวรรณศิลป์เพ่ือนำไป
ประกอบการพูดการนำเสนอ หรือการเขยี นใหม้ ีความน่าสนใจใชภ้ าษาพูดและภาษาเขียนในสถานการณ์ต่าง ๆ
ทง้ั โลกจริงและโลกเสมอื นจรงิ ได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสมกบั บคุ คล โอกาส และกาลเทศะ

เพ่ือให้เกิดทกั ษะและสมรรถนะทางภาษาไทยทัง้ 6 ดา้ น ได้แก่ การจัดการตวั เอง การคดิ ขั้นสงู การ
ส่อื สาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเปน็ พลเมอื งทเี่ ข้มแขง็ การอยู่รว่ มกบั ระบบธรรมชาติ และวิทยาการ
อย่างย่ังยนื โดยใช้กลวิธใี นการสือ่ สาร ใช้ความคดิ ทีแ่ ปลกใหม่ทไ่ี ม่ซ้ำใครหรือพฒั นาตอ่ ยอดจากของเดิมได้
อยา่ งเหมาะสม

169

คำอธิบายรายวิชา

วิชาคณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลา 160 ชวั่ โมง / ปี

รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค11101) ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 เป็นรายวิชาที่มุ่งให้ผู้เรียนนับ และบอก
จำนวน อ่านและการเขียนตวั เลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย และตัวหนังสือ สามารถแสดงจำนวนนับ 1 ถึง 100

อย่างมีความหมาย แสดงจำนวนนับไม่เกิน 100 ในรูปความสัมพันธ์ของจำนวนแบบส่วนย่อยและส่วนรวม
เปรียบเทียบ และเรียงลำดับจำนวน การบอกอันดับที่ เขยี นให้เหตุผลโต้แย้งหรือสนับสนุน แสดงความสมั พันธ์
ของแบบรูปที่มีรูปร่าง สีขนาด สัมพันธ์กัน สร้างข้อสรุป และขยายแนวคิดเพื่อสร้างแบบรูปและร่วมกัน

แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ สามารถบอกความหมาย พร้อมทั้งหาผลบวก ผลลบ โดยเช่ือมโยง
ความสัมพันธ์และสมบตั ิตา่ ง ๆ ของการดำเนนิ การได้อย่างยืดหยนุ่ และ คล่องแคลว่ และแปลความหมายภาษา

และสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์เป็นสถานการณ์ในชีวิตจรงิ แก้ปญั หาเกี่ยวกับจำนวนนบั และสร้างโจทย์ปัญหา
ด้วยแนวคิดที่หลากหลาย พร้อมท้ังแลกเปล่ียนแนวคิดร่วมกับผู้อื่น สามารถอธิบายสถานการณ์ในชีวิตจริงที่
เกยี่ วกับการวัดความยาวเป็นเซนตเิ มตร เป็นเมตร น้ำหนักเป็นกิโลกรัม เป็นขีด และปริมาตร เลือกใช้หนว่ ยการ

วัด และเครื่องวัดเพื่อวัดและบอกความยาว น้ำหนัก และปริมาตร อ่านเวลาเป็นนาฬิกาจากหน้าปัดนาฬิกา
พร้อมบอกกิจกรรมที่ทำในแต่ละช่วงเวลา โดยเชื่อมโยงกับสถานการณ์ในชีวิต บอกและแสดงจำนวนเงินจาก

เงินเหรียญและธนบัตรชนิดต่าง ๆ อ่าน และเขียนเกี่ยวกับจำนวนเงิน เปรียบเทียบจำนวนเงิน แก้ปัญหาการ
บวกและการลบเก่ียวกับน้ำหนักท่ีมีหนว่ ยเป็นกิโลกรัม เป็นขีด ด้วยแนวคิด ที่หลากหลาย พร้อมทั้งแลกเปล่ียน
แนวคิดร่วมกับผู้อื่น อธิบายลักษณะรูปเรขาคณิต วาดรูปตามขอบของสิ่งของและตามแบบของรูป สำรวจ

สังเกต ลักษณะ จำแนกตามเกณฑ์ของตนเอง เช่น ด้าน มมุ ขอบ อภิปรายสรุปลักษณะ พร้อมด้วยบอกช่ือรูป
เรขาคณิตสองมิติ โดยเชื่อมโยงสู่ลักษณะของรูปเรขาคณิตสองมิติ รูปเรขาคณิตสามมิติ จำแนกรูปเรขาคณิต

วาดรูปตามขอบของสิ่งของและตามแบบของรูป สำรวจ สังเกต ลักษณะ จำแนกตามเกณฑ์ของตนเอง เช่น
ด้าน มุม ขอบ อภิปรายสรุปลักษณะ พร้อมด้วยบอกช่ือรูป เรขาคณิตสองมิติ โดยเชื่อมโยงสู่ลักษณะของรูป
เรขาคณิตสองมิติ รูปเรขาคณิตสามมิติ เก็บข้อมูลอย่างง่าย โดยบันทึกข้อมูลด้วยรอยขีด นำเสนอข้อมูลด้วย

แผนภูมิรปู ภาพ สัญลักษณแ์ ผนภาพ แผนภูมิอย่างงา่ ยด้วยตนเอง รว่ มกนั แก้ปญั หาทางสถิติในสถานการณ์ใกล้
ตวั โดยการจำแนก การเก็บ การบันทึกข้อมูลอย่างง่าย แสดงความคิดเห็น ส่ือสาร แปลความหมายข้อมูล

ด้วยภาษาตนเองใชข้ ้อมลู เพอื่ ตดั สินใจหรือแกป้ ญั หาในสถานการณต์ ่าง ๆ อย่างมมุ านะ
โดยใช้การดำเนินการทางคณิตศาสตร์ด้วยการ มีความอยากรู้อยากเห็น สามารถมองเห็นปัญหาทาง

คณิตศาสตร์ ในชวี ิตจริงดว้ ยมุมมองของตนเอง (thinking mathematically) แก้ปัญหาในชีวิตจรงิ ผ่านการลง

มือแกป้ ัญหาในสถานการณต์ า่ ง ๆ และเรยี นรู้คณิตศาสตร์ผ่านการสะทอ้ นความคิด (reflect) จากประสบการณ์
มีความมุมานะในการทำความเข้าใจและแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตระหนักและเห็นคุณค่าของการใช้

คณิตศาสตร์ในการแก้ปญั หา ส่ือสารแนวคิดทางคณิตศาสตร์ของตนเองด้วยวิธีการทีห่ ลากหลาย โดยใช้สือ่ ของ
จรงิ รปู ภาพ แผนภาพ ภาษา หรือสัญลกั ษณ์
รบั ฟัง เขา้ ใจความหมาย และเหน็ คณุ ค่าแนวคิดของผู้อนื่ นำเสนอข้อมูลทางคณติ ศาสตรไ์ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม

ให้เหตุผลสนับสนุนแนวคิดของตนเองได้อย่างสมเหตุสมผล โดยมีข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตร์รองรับ รับฟัง
พิจารณาแนวคิดของผู้อ่ืนหรือข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบการตัดสินใจเพื่อสนับสนุนหรือโต้แย้งอย่าง

เหมาะสม ตระหนกั ถึงความจำเป็นและความสำคัญในการให้เหตผุ ล สร้างข้อสรุปทั่วไป (generalization) โดย
สังเกต ค้นหาลักษณะร่วม ที่เกิดข้ึนซ้ำ ๆ (pattern) จากมุมมองทางคณิตศาสตร์ ท้ังด้านความรู้ และวิธีการ

170

เรยี นรู้ (how to learn) ขยายแนวคิด (extension) จากข้อสรุปทั่วไป โดยนำไปใช้แก้ปัญหา ในสถานการณ์ต่าง
ๆ คิดไดอ้ ย่างหลากหลาย แตกต่างจากเดิม คิดริเริ่ม ประยุกต์ และนำไปใช้ไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว ยืดหยุ่นในการ
แก้ปญั หา ต่อยอดแนวคดิ หรือแนวทางแก้ปัญหา เพือ่ สร้างแนวคดิ ใหม่ หรอื แกป้ ัญหาในสถานการณ์อืน่ ในชวี ิต
จริง ใช้ส่อื การเรียนรู้ต่าง ๆ (manipulatives) เพ่ือสร้างความเขา้ ใจ และแนวคิดของตนเอง สบื ค้น ตรวจสอบ
แหล่งที่มา (origin) ของข้อมูลจากแหล่งเรยี นรู้ ต่าง ๆ และเลือกใช้ประกอบการเรียนรู้และแกป้ ัญหาในชีวติ จริง
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั สถานการณ์

เพอื่ ให้เกิดทักษะและสมรรถนะทางคณิตศาสตรท์ ั้ง 6 ด้าน ไดแ้ ก่ การจดั การตนเอง การคดิ ขั้นสงู การ
ส่ือสาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่าง
ย่งั ยนื

171

คำอธิบายรายวิชา

วชิ าคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้

ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2 เวลา 160 ชว่ั โมง / ปี

รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค12101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เป็นรายวิชาท่ีมุ่งให้ผู้เรียนอ่านและเขียน

ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 พร้อมบอกจำนวนคู่

จำนวนคี่ นบั ทีละ 2 ทีละ 5 ทีละ 10 และทีละ 100บอกจำนวนคู่ จำนวนคี่ และหลัก คา่ ของเลขโดดในแต่ละ

หลัก เขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจายนับไม่เกิน 1,000 และเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวน

สามารถเขียนให้เหตุผลโต้แย้งหรอื สนบั สนนุ แสดงความสัมพันธข์ องแบบรูปของจำนวนทีเ่ พิ่มขึ้นหรือลดลงทีละ

2 ทีละ 5 ทีละ 100 และแบบรูปซ้ำ สร้างข้อสรุป และขยายแนวคิดเพ่ือสร้างแบบรูปและร่วมกันแก้ปัญหา

เลอื กใช้วิธหี าผลบวก ผลลบ ผลคูณ ผลหาร โดยเชอ่ื มโยงความสมั พันธ์และสมบัติต่าง ๆ ของการดำเนินการได้

อย่างยืดหยุ่นและ คล่องแคล่ว และแปลความหมายภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์เป็นสถานการณ์ใน

ชวี ิตจริง แก้โจทย์ปัญหาที่เกี่ยวกับการบวก การลบ การคูณ หรือการหาร แก้ปัญหาเกี่ยวกับจำนวนนับ พร้อม

ทั้งแลกเปล่ียนแนวคิดร่วมกับผูอ้ ่ืนโดยตระหนกั ถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล อธิบายสถานการณ์ในชีวติ จริง

ของตนท่ีเก่ียวกับการวัดความยาว เซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร น้ำหนัก กิโลกรัมและกรัม

กโิ ลกรัมและขดี และปริมาตร ปริมาตรและความจุเป็นลิตรและมลิ ลลิ ิตร เลอื กใชห้ น่วยการวัด และเครอ่ื งวัดเพ่ือ

วัดและบอกความยาว นำ้ หนัก และปรมิ าตร บอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที จากนาฬิกาแบบดิจิทัล และนาฬกิ า

แบบใชเ้ ข็ม รับรู้เกี่ยวกบั ระยะเวลา บอกระยะเวลาเป็นชั่วโมง เป็นนาที สำรวจปฏิทิน บอกช่ือ วัน วันท่ี เดือน

ปี (พ.ศ. และ ค.ศ.) ของวันสำคัญต่าง ๆ จากปฏิทิน บอกและเขียนจำนวนเงินจากเงนิ เหรียญและธนบัตรชนิด

ตา่ ง ๆ โดยบอกเป็นบาท เป็นสตางค์ หรือเป็นบาทและสตางค์ แลกเงนิ เหรียญและธนบัตร อา่ นและเขียนแสดง

จำนวนเงินแบบใช้จุด เปรียบเทียบจำนวนเงิน แก้ปัญหาเก่ียวกับความยาวที่มีหน่วยเป็นเมตรและเซนติเมตร

นำ้ หนกั ปริมาตรและความจุท่ีมหี น่วยเป็นช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวง ลิตร และเวลา ด้วยแนวคิดท่ีหลากหลาย

พรอ้ มท้ังแลกเปลีย่ นแนวคดิ รว่ มกับ อธบิ ายลักษณะรูปเรขาคณิตสองมิติเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติ สร้างชน้ิ งาน

โดยใช้แบบของรูป กระดาษจุด หรือโปรแกรมสำเร็จรูปอย่างง่าย เชอ่ื มโยงสู่ลักษณะของรูปเรขาคณิตสองมิติ

รูปเรขาคณิตสามมิติ จำแนกรูปเรขาคณิตสองมิติเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติ สร้างช้ินงานโดยใช้แบบของรูป

กระดาษจุด หรือโปรแกรมสำเร็จรูปอย่างง่าย เชือ่ มโยงสู่ลักษณะของรูปเรขาคณิตสองมิติ รูปเรขาคณติ สามมิติ

บอกเลาความคดิ ของ ตนเองหรือจินตนาการ ทแี่ ปลกใหม ไปจากส่งิ รอบตัว เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครือ่ งมือ

อย่างง่าย และบันทึกข้อมลู โดยการอ่านและเขียนแผนภูมิรปู ภาพ แผนภูมิแท่ง สัญลักษณ์ แผนภาพ แผนภูมิ

อย่างง่ายและใช้ข้อมูลเพ่ืออธิบายเหตุการณ์ ตัดสินใจ หรือแก้ปัญหา จากคำถามของครูหรือด้วย วิธีการของ

ตนเอง ร่วมกันแก้ปัญหาทางสถิติในสถานการณ์ใกล้ตัว โดยการจำแนก การเก็บรวบรวมข้อมูล การบันทึก

ข้อมูล การนำเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิ ให้เหตุผล สื่อสาร แปลความหมายข้อมูล ใช้ข้อมูลเพ่ือตัดสินใจหรือ

แกป้ ญั หาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งมุมานะ และสรา้ งสรรค์

โดยใช้การดำเนินการทางคณิตศาสตร์ด้วยการ มีความอยากรู้อยากเห็น สามารถมองเห็นปัญหาทาง

คณิตศาสตร์ ในชีวิตจรงิ ดว้ ยมุมมองของตนเอง (thinking mathematically) แก้ปัญหาในชีวิตจริงผา่ นการลง

มอื แก้ปัญหาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ และเรียนรู้คณติ ศาสตรผ์ า่ นการสะทอ้ นความคดิ (reflect) จากประสบการณ์

มีความมุมานะในการทำความเข้าใจและแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตระหนักและเห็นคุณค่าของการใช้

172

คณิตศาสตร์ในการแก้ปญั หา ส่ือสารแนวคิดทางคณิตศาสตร์ของตนเองด้วยวิธีการที่หลากหลาย โดยใช้ส่ือของ
จริง รปู ภาพ แผนภาพ ภาษา หรอื สญั ลักษณ์
รบั ฟัง เขา้ ใจความหมาย และเห็นคณุ ค่าแนวคดิ ของผ้อู ื่น นำเสนอข้อมูลทางคณิตศาสตร์ไดอ้ ย่างเหมาะสม
ให้เหตุผลสนับสนุนแนวคิดของตนเองได้อย่างสมเหตุสมผล โดยมีข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตร์รองรับ รับฟัง
พิจารณาแนวคิดของผู้อ่ืนหรือข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบการตัดสินใจเพ่ือสนับสนุนหรือโต้แย้งอย่าง
เหมาะสม ตระหนักถึงความจำเป็นและความสำคัญในการให้เหตุผล สร้างข้อสรุปทั่วไป (generalization) โดย
สังเกต ค้นหาลักษณะร่วม ที่เกิดข้ึนซ้ำ ๆ (pattern) จากมุมมองทางคณิตศาสตร์ ท้ังด้านความรู้ และวิธีการ
เรยี นรู้ (how to learn) ขยายแนวคิด (extension) จากข้อสรุปทัว่ ไป โดยนำไปใช้แก้ปัญหา ในสถานการณ์ต่าง
ๆ คดิ ไดอ้ ย่างหลากหลาย แตกต่างจากเดิม คิดริเร่ิม ประยุกต์ และนำไปใช้ไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว ยืดหยุ่นในการ
แกป้ ญั หา ต่อยอดแนวคดิ หรือแนวทางแกป้ ญั หา เพอ่ื สรา้ งแนวคิดใหม่ หรอื แก้ปญั หาในสถานการณอ์ ่นื ในชีวิต
จริง ใช้ส่อื การเรียนรู้ต่าง ๆ (manipulatives) เพื่อสร้างความเข้าใจ และแนวคิดของตนเอง สบื ค้น ตรวจสอบ
แหลง่ ทม่ี า (origin) ของข้อมูลจากแหลง่ เรยี นรู้ ต่าง ๆ และเลอื กใช้ประกอบการเรียนรู้และแกป้ ญั หาในชีวติ จริง
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั สถานการณ์

เพอ่ื ให้เกดิ ทักษะและสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ท้ัง 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ การจดั การตนเอง การคดิ ขนั้ สงู การ
ส่ือสาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่าง
ยงั่ ยนื

173

คำอธิบายรายวิชา

วชิ าคณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้

ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 160 ชั่วโมง / ปี

รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค13101) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 เป็นรายวิชาท่ีมุ่งให้ผู้เรียน อธิบาย

สถานการณ์ในบรบิ ทต่าง ๆ ในชวี ิตประจำวันท่ีเก่ียวกับ จำนวนนับไม่เกนิ 100,000 และ 0 โดยนบั และบอก

จำนวน ของส่ิงต่าง ๆ ในเชิงปริมาณ หรือ เชิงอันดับที่และแสดงส่ิงต่าง ๆ ตามจำนวนที่กำหนด เขียนตัวเลข

แสดงจำนวนในรูปกระจายจำนวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 เปรียบเทียบและเรียงลำดบั จำนวน เขียนให้

เหตุผลโต้แย้งหรือสนับสนุน แสดงความสัมพันธ์ของแบบรปู ของจำนวนที่เพิ่มข้ึนหรือลดลงทีละเทา่ ๆกัน แบบ

รปู เรขาคณิตและรูปอื่นๆ สร้างข้อสรุปและขยายแนวคิด เพื่อสร้างแบบรปู และแก้ปัญหา อธิบายสถานการณ์

ในชีวิตจริงที่จะนำการบวก การลบ การคูณ และการหาร สร้างตัวแบบเชิงคณิตศาสตร์ในการดำเนินการ

คำนวณและเลือกใช้เครื่องมือในการบวก การลบ การคูณ และการหาร โดยเช่ือมโยงกับความสัมพันธ์และ

สมบัติตา่ ง ๆ ของการดำเนนิ การ และแปลความหมายภาษาและสญั ลักษณ์ทางคณิตศาสตรเ์ ปน็ สถานการณ์ใน

ชีวิตจริงแก้โจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอน ของจำนวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 สร้างโจทย์ปัญหาการแก้ปญั หา

เกี่ยวกับจำนวนนับ พร้อมท้ังแลกเปลี่ยนแนวคิดร่วมกับผู้อ่ืนโดยตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล

อธิบายสถานการณ์ในชีวิตจริงของตนเองและผู้อ่นื ท่ีเก่ียวกับการวัดความยาว เซนตเิ มตรและมิลลิเมตร เมตร

และเซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร น้ำหนัก เป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัม และขีด เมตริกตันและกิโลกรัม

ปริมาตร และความจเุ ปน็ ลิตรและมลิ ลติ ร และช้อนชา ช้อนโตะ๊ ถ้วยตวง เลอื กใชห้ น่วยการวัด และเครือ่ งวดั เพ่ือ

วดั และบอกความยาว น้ำหนัก และปริมาตร พร้อมดว้ ยสรุปความเขา้ ใจ ของตน และแสดง ความคิดเห็นอย่าง

มีเหตุผลเก่ียวกบั เรื่องนนั้ บอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทีจากนาฬิกา อ่านและเขียนแสดงเวลาโดยใช้มหัพภาค

หรือใชท้ วิภาคในสถานการณ์ ต่าง ๆ สามารถหาระยะเวลาเป็นช่ัวโมงและนาทีและเปรยี บเทียบระยะเวลาโดย

ใช้ความสัมพันธ์ระหว่างช่วั โมงกับนาที อา่ นและเขียนบันทึกกจิ กรรมท่ีระบุเวลาได้ บอกและเขียนแสดงจำนวน

เงินจากเงินเหรียญและธนบัตรชนิดต่าง ๆ โดยบอกเป็นบาท เป็นสตางค์ หรือเป็นบาทและสตางค์ แลกเงิน

เหรียญและธนบตั ร อ่านและเขียนแสดงจำนวนเงนิ แบบใช้จดุ เปรียบเทยี บจำนวน แก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกับการ

วัดความยาวเป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร น้ำหนักเป็นกิโลกรมั และ

กรัม กิโลกรัม และขีด เมตริกตันและกิโลกรัม และปริมาตรและความจุเป็นลิตรและมิลลิตร และช้อนชา ช้อน

โต๊ะ ถ้วยตวง เวลาเป็นนาฬิกาและนาที และเงิน พรอ้ มทั้งแลกเปลี่ยนแนวคิดร่วมกับผู้อื่น รูวิธีการเขาถึงส่ือท่ี

หลากหลาย รับรแู้ ละอธิบายลกั ษณะของรูปร่างรูปสามเหลย่ี ม รปู ส่ีเหลี่ยม รูปหลายเหลี่ยม วงกลม วงรีต่าง ๆ

จากสิ่งของ สงิ่ แวดลอ้ มรอบตัว ผ่านการสังเกตและการสร้างรูปร่าง เชอื่ มโยงสู่ลักษณะของรูปเรขาคณติ สองมติ ิ

รูปเรขาคณิตสามมิติ ใช้รูปเรขาคณิตในการสร้างสรรค์ ช้ินงาน จำแนกรูปเรขาคณิตสองมิติ รูปหลายเหล่ียม

รูปทม่ี ีแกนสมมาตรและรูปท่ไี มม่ แี กนสมมาตร ใชร้ ูปเรขาคณติ ในการสรา้ งสรรค์ ช้นิ งาน เชอื่ มโยงสลู่ ักษณะของ

รูปเรขาคณิตสองมิติ รูปเรขาคณิตสามมิติ บอกเล่าความคิดของตนเองหรือจินตนาการท่ีแปลกใหม่ไปจากส่ิง

รอบตัว ทำผลงานท่ีเป็น ช้ินงานหรือวิธีการที่มีรายละเอียด โดยใช้การ ดัดแปลงจากความคิดเดิม ส่ิงท่ีมีอยู่

หรือนำสงิ่ อ่ืนมาทดแทนสิ่งท่ขี าดได้ในเวลาทก่ี ำหนดและสามารถนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวนั การเกบ็ รวบรวม

ข้อมูลและจำแนกข้อมูล จัดการข้อมูล และนำเสนอข้อมูลโดยใช้แผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิแท่ง หรือตารางทาง

เดียว ส่ือสาร แปลความหมายของข้อมูล และใช้ข้อมูลเพ่ืออธิบายเหตุการณ์อยางง่ายที่เก่ียวของกัน ตัดสินใจ

หรอื แก้ปญั หา ร่วมกันแกป้ ญั หาทางสถิติในสถานการณ์ใกล้ตัว การจำแนก การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การบนั ทึก

ข้อมลู การนำเสนอข้อมลู ทีเ่ หมาะสม ใช้เครื่องมือพ้ืนฐาน หรือเคร่อื งมือดิจทิ ัลนำเสนอข้อมูลดว้ ย แผนภูมแิ ท่ง

174

หรอื ตารางทางเดียว สื่อสาร แปลความหมายข้อมูล ใช้ข้อมูลเพื่อตัดสินใจ หรือแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ
อยา่ งมุมานะ และสรา้ งสรรค์

โดยใช้การดำเนินการทางคณิตศาสตร์ด้วยการ มีความอยากรู้อยากเห็น สามารถมองเห็นปัญหาทาง
คณิตศาสตร์ ในชีวิตจริงด้วยมุมมองของตนเอง (thinking mathematically) แก้ปัญหาในชีวิตจรงิ ผ่านการลง
มอื แก้ปัญหาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ และเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ผ่านการสะทอ้ นความคิด (reflect) จากประสบการณ์
มีความมุมานะในการทำความเข้าใจและแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ตระหนักและเห็นคุณค่าของการใช้
คณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหา ส่ือสารแนวคิดทางคณิตศาสตร์ของตนเองด้วยวิธีการที่หลากหลาย โดยใช้สอ่ื ของ
จริง รปู ภาพ แผนภาพ ภาษา หรอื สัญลักษณ์
รับฟัง เข้าใจความหมาย และเห็นคณุ คา่ แนวคดิ ของผอู้ ืน่ นำเสนอขอ้ มูลทางคณติ ศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม
ให้เหตุผลสนับสนุนแนวคิดของตนเองได้อย่างสมเหตุสมผล โดยมีข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตร์รองรับ รับฟัง
พิจารณาแนวคิดของผู้อ่ืนหรือข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบการตัดสินใจเพื่อสนับสนุนหรือโต้แย้งอย่าง
เหมาะสม ตระหนักถึงความจำเป็นและความสำคัญในการให้เหตผุ ล สรา้ งขอ้ สรุปท่ัวไป (generalization) โดย
สังเกต ค้นหาลักษณะร่วม ท่ีเกิดข้ึนซ้ำ ๆ (pattern) จากมุมมองทางคณิตศาสตร์ ทั้งด้านความรู้ และวิธีการ
เรียนรู้ (how to learn) ขยายแนวคิด (extension) จากข้อสรุปทัว่ ไป โดยนำไปใชแ้ ก้ปัญหา ในสถานการณ์ต่าง
ๆ คิดไดอ้ ย่างหลากหลาย แตกต่างจากเดิม คิดริเริ่ม ประยุกต์ และนำไปใช้ไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว ยืดหยุ่นในการ
แกป้ ัญหา ต่อยอดแนวคดิ หรือแนวทางแก้ปัญหา เพ่ือสรา้ งแนวคิดใหม่ หรอื แก้ปัญหาในสถานการณอ์ ่นื ในชีวิต
จริง ใช้สื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ (manipulatives) เพ่ือสร้างความเขา้ ใจ และแนวคิดของตนเอง สบื ค้น ตรวจสอบ
แหล่งทมี่ า (origin) ของข้อมูลจากแหล่งเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ และเลือกใชป้ ระกอบการเรยี นรู้และแกป้ ญั หาในชวี ติ จริง
ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั สถานการณ์

เพื่อให้เกดิ ทกั ษะและสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ท้งั 6 ดา้ น ได้แก่ การจดั การตนเอง การคิดขั้นสูง การ
ส่ือสาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่าง
ย่ังยนื

175

คำอธิบายรายวิชา

วชิ าคณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้

ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 144 ช่ัวโมง / ปี

รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค14101) ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นรายวชิ าที่มุ่งให้ผ้เู รยี นเขียนจำนวนนับท่ี

มากกว่า 100,000 และแสดงจำนวนโดยใช้สัญลักษณ์แสดงจำนวน มีความเข้าใจเกี่ยวกับเศษส่วน และ

ทศนิยม บอก อ่าน และเขียนเศษส่วน แสดงปริมาณของสิ่งต่าง ๆ และแสดงเศษส่วน และทศนิยมที่กำหนด

ดว้ ยวิธีหรือเคร่ืองมือท่หี ลากหลาย เขยี นแสดงการเปรยี บเทียบและเรียงลำดับเศษส่วนและจำนวนคละ อธบิ าย

หลัก ค่าประจำหลัก และค่าของเลขโดด ให้เหตุผล อธิบายแบบรูป สร้างข้อคาดการณ์ความสัมพันธ์ อธิบาย

และหาผลลัพธก์ ารบวกและการลบจำนวนสองจำนวน การหาผลลัพธ์การคูณจำนวนที่มหี น่ึงหลักกับจำนวนที่

มากกว่าสี่หลัก การคูณจำนวนที่มีหลายหลัก การหารท่ีตัวหารมีหน่ึงหลัก สองหลัก และสามหลัก การบวก

และการลบเศษส่วน จำนวนคละท่ีตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของตัวส่วนอีกตัวหนึ่ง การบวก และการลบ

เศษส่วน จำนวนคละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเปน็ พหุคูณของตวั สว่ นอกี ตัวหนง่ึ แก้โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ

และการหารจำนวนนับ แก้โจทย์โจทยป์ ัญหาการบวก และการลบเศษส่วน แก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ

ทศนิยมไมเ่ กินสามตำแหน่ง บอกระยะเวลาเป็นวินาที นาที ช่ัวโมง วัน สัปดาห์ เดือน และปี แก้โจทย์ปัญหา

เก่ียวกับเวลา อธิบายเกี่ยวกับ ระนาบ จุด เส้นตรง รังสี ส่วนของเส้นตรง และสัญลักษณ์ สามารถวัดมุมและ

การสร้างมุม ใหเ้ หตผุ ลเก่ียวกบั ชนิดและสมบัติของรูปส่ีเหลี่ยมมุมฉาก หาความยาวรอบรูปของรูปส่ีเหลี่ยมมุม

ฉาก หาพื้นท่ีของรูปสี่เหลี่ยมมมุ ฉาก อธิบายแบบจำลอง (model) ที่เป็นทรงกลม ทรงกระบอก ปริซึม กรวย

และพีระมิด หายาวรอบรปู ของรูปส่ีเหล่ียมมุมฉาก หาพ้ืนท่ีของรูปส่ีเหลี่ยมมุมฉาก มมุ านะ และกระตือรือร้น

พรอ้ มท้ังแลกเปล่ียนแนวคิดร่วมกบั ผอู้ ่ืน อ่านแผนภูมิแทง่ และแผนภูมิแทง่ เปรยี บเทียบ เขยี นแผนภูมิแท่งและ

แผนภูมแิ ท่งเปรียบเทียบ ตัดสนิ ใจอย่างรู้เท่าทนั ร่วมกันวางแผนตั้งคำถามหรือข้อสงสัยจากประเด็นปัญหาที่

สนใจ มมุ านะ กระตือรือรน้ และสร้างสรรค์

โดยใช้การดำเนินการทางคณิตศาสตร์ด้วยการแก้ปัญหาในชีวิตจริงด้วยแนวคิดของตนเองใน

สถานการณ์ต่าง ๆ และเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ผา่ นการสะท้อนความคิด (reflect) จากประสบการณข์ องตนเองหรือ

แลกเปล่ียนกับผู้อ่ืน มีความกระตอื รือร้นและมุมานะในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สามารถส่ือสารแนวคิด

ทางคณิตศาสตร์ของตนเองอย่างมั่นใจโดยใช้การแสดงแทนทางคณิตศาสตร์ท่ีหลากหลาย ด้วยส่ือของจริง

รปู ภาพ งานศลิ ปะ แผนภาพ ภาษา หรือ

สัญลักษณ์ รบั ฟงั เข้าใจความหมาย เคารพในความแตกตา่ งระหว่างตนเองกบั ผูอ้ ื่นเหน็ คุณค่าแนวคดิ ของผอู้ นื่

แสดงวิธคี ิด หลักฐาน หรือข้อมูลประกอบการแก้ปัญหา เพื่อนำเสนอ แนวคิดหรือวิธีการของตนเองอย่างเป็น

ระบบ ให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์สนับสนุนแนวคิดหรือข้อคาดการณ์ของตนเองได้อย่างสมเหตุสมผล ให้เหตุผล

เชงิ ตรรกะโดยใช้ข้อเท็จจริงสมบตั ิต่างๆ หรอื ข้อสรปุ ทวั่ ไปทางคณิตศาสตร์ รับฟัง พจิ ารณาแนวคิดของผอู้ ่ืนหรือ

ข้อมูลในรูปแบบตา่ ง ๆ ประกอบการตัดสินใจเพ่ือสนบั สนนุ หรือโต้แย้งอย่างเหมาะสม สรา้ งขอ้ คาดการณ์ ผ่าน

การสังเกต ค้นหาลักษณะร่วมที่เกิดข้ึนจากกรณีเฉพาะ โดยใช้มุมมองทางคณิตศาสตร์ ท้ังด้านความรู้และ

วิธีการเรียนรู้ (how to learn) เพื่อสร้างข้อสรุปทั่วไป (generalization) สามารถคิดได้อย่างหลากหลาย

ละเอยี ดละออ แตกตา่ งจากเดิม คิดริเร่มิ และประยกุ ตแ์ ละนำไปใช้ได้อย่างคลอ่ งแคล่ว ยืดหยนุ่ ในการแก้ปัญหา

ในสถานการณ์ต่าง ๆ ใช้ และแบ่งปันสื่อการเรียนรู้และเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อแสดงแนวคิด สร้างความเข้าใจ

หรือแก้ปัญหา และสืบค้น ตรวจสอบแหล่งที่มา (origin) ของข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และเลือกใช้

ประกอบการเรียนรู้และแกป้ ญั หาในชีวิตจริงได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ และรูเ้ ทา่ ทัน

176

เพ่ือให้เกดิ ทกั ษะและสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ การจดั การตนเอง การคดิ ข้นั สงู การ
ส่ือสาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่าง
ยง่ั ยนื

177

คำอธิบายรายวชิ า

วิชาคณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้

ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 144 ชั่วโมง / ปี

รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค15101) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 เป็นรายวิชาท่ีมุ่งให้ผู้เรียนมีความเข้าใจ

เกี่ยวกับเศษส่วน และทศนิยม บอก อ่าน และเขียนเศษส่วน ทศนิยม และร้อยละแสดงปริมาณของส่ิงต่าง ๆ

และแสดงเศษส่วน ทศนิยมและร้อยละที่กำหนดด้วยวิธีหรือเครื่องมือท่ีหลากหลาย บอกค่าประมาณของ

จำนวนนับ ทศนยิ ม อธิบาย และเขียนความสัมพันธ์ระหว่างเศษส่วนและทศนยิ ม ให้เหตุผล สรา้ งข้อคาดการณ์

ความสัมพันธ์ของแบบรูป อธิบาย และหาผลลัพธ์การบวกและการลบทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง การคูณ

และการหารทศนิยม แก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหารเศษส่วน แก้โจทย์ปัญหาการคูณ

และการหารทศนิยม แก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับร้อยละ แก้ปัญหาเกี่ยวกับเวลา อธิบายเกี่ยวกับเส้นขนานและ

สัญลักษณ์แสดงการขนาน สามารถสรา้ งเสน้ ขนาน สรปุ ชนดิ และสมบตั ิของรปู สเ่ี หลี่ยม สร้างรูปส่เี หล่ียม บอก

ลักษณะและส่วนต่าง ๆ ของปริซึมความายาวรอบรูปของรูปส่ีเหล่ียม หาพนื้ ท่ีของรปู สี่เหล่ียมดา้ นขนานและรูป

สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน อธิบายลักษณะและส่วนต่าง ๆ ของปริซึม หาปริมาตรของทรงส่ีเหล่ียมมุมฉากและ

ความจขุ องภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก หาความยาวรอบรูปของรูปส่เี หลี่ยม หาพื้นท่ีของรปู สีเ่ หลี่ยมดา้ นขนาน

และรูปสี่เหล่ียมขนมเปียกปนู หาปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุของภาชนะทรงส่ีเหล่ยี มมุมฉาก

มมุ านะ และกระตือรอื ร้นพรอ้ มทง้ั แลกเปล่ียนแนวคิดร่วมกับผู้อื่น นำเสนอข้อมลู กราฟเส้น ตัดสนิ ใจอย่างรเู้ ท่า

ทัน ฟงเสียง อานเรือ่ ง และดภู าพท่เี ก่ียวของ กบั สถานการณท่ใี กลตัว แลวสามารถจับประเด็นสำคัญ หรือวัตถุ

ประสงคของผูสงสารแบบงา่ ยๆ ร่วมกนั วางแผนต้งั คำถามจากประเด็นปญั หา สิง่ แวดลอ้ มในโรงเรยี นหรอื ชมุ ชน

อย่างมุมานะ กระตือรือร้น และสร้างสรรค์

โดยใช้การดำเนินการทางคณิตศาสตร์ด้วยการแก้ปัญหาในชีวิตจริงด้วยแนวคิดของตนเองใน

สถานการณ์ต่าง ๆ และเรยี นรูค้ ณิตศาสตรผ์ ่านการสะท้อนความคิด (reflect) จากประสบการณข์ องตนเองหรือ

แลกเปลี่ยนกับผู้อ่ืน มีความกระตอื รือร้นและมุมานะในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สามารถส่ือสารแนวคิด

ทางคณิตศาสตร์ของตนเองอย่างมั่นใจโดยใช้การแสดงแทนทางคณิตศาสตร์ที่หลากหลาย ด้วยส่ือของจริง

รปู ภาพ งานศิลปะ แผนภาพ ภาษา หรือสัญลักษณ์ รับฟัง เข้าใจความหมาย เคารพในความแตกต่างระหว่าง

ตนเองกับผอู้ ่นื เหน็ คุณค่าแนวคิดของผ้อู ืน่ แสดงวธิ ีคิด หลักฐาน หรือข้อมูลประกอบการแก้ปัญหา เพ่อื นำเสนอ

แนวคิดหรือวิธกี ารของตนเองอย่างเป็นระบบ ให้เหตุผลทางคณิตศาสตรส์ นับสนุนแนวคิดหรอื ข้อคาดการณ์ของ

ตนเองได้อย่างสมเหตุสมผล ให้เหตุผลเชิงตรรกะโดยใช้ข้อเท็จจริงสมบัติต่างๆ หรอื ข้อสรุปทั่วไปทางคณิตศาสตร์

รับฟัง พิจารณาแนวคิดของผู้อ่ืนหรือข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบการตัดสินใจเพ่ือสนับสนุนหรือโต้แย้ง

อย่างเหมาะสม สร้างข้อคาดการณ์ ผา่ นการสังเกต ค้นหาลักษณะร่วมท่ีเกิดข้ึนจากกรณีเฉพาะ โดยใช้มุมมอง

ทางคณิตศาสตร์ ทงั้ ด้านความรู้และวิธีการเรียนรู้ (how to learn) เพ่ือสร้างข้อสรุปท่ัวไป (generalization)

สามารถคิดได้อย่างหลากหลาย ละเอียดละออ แตกต่างจากเดิม คิดริเร่ิม และประยุกต์และนำไปใช้ได้อย่าง

คล่องแคล่ว ยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ใช้ และแบ่งปันสื่อการเรียนรู้และเทคโนโลยีต่าง ๆ

เพื่อแสดงแนวคิด สร้างความเข้าใจ หรือแก้ปัญหา และสืบค้น ตรวจสอบแหล่งท่ีมา (origin) ของข้อมูลจาก

แหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ และเลือกใช้ประกอบการเรียนรู้และแก้ปัญหาในชีวิตจริงได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์

และร้เู ทา่ ทัน

178

เพ่ือให้เกดิ ทกั ษะและสมรรถนะทางคณิตศาสตร์ทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ การจดั การตนเอง การคดิ ข้นั สงู การ
ส่ือสาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่าง
ยง่ั ยนื

179

คำอธิบายรายวิชา

วิชาคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้

ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เวลา 144 ชัว่ โมง / ปี

รายวิชาคณิตศาสตร์ (ค16101) ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นรายวิชาที่มุ่งให้ผู้เรียนมีความเข้าใจ

เกย่ี วกับอัตราส่วนและรอ้ ยละแสดงปรมิ าณของสิง่ ต่าง ๆ และแสดงอัตราส่วนและรอ้ ยละที่กำหนดด้วยวธิ ีหรือ

เครื่องมือท่ีหลากหลาย พร้อมท้ังอธิบายสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตจริงท่ีเกี่ยวกับอัตราส่วน อ่านและเขียน

อัตราสว่ นแสดงปริมาณของส่ิงต่าง ๆ 2 ปรมิ าณ อธบิ าย และเขียนการเรยี งลำดบั เศษส่วนและจำนวนคละ ให้

เหตุผล ในการเปรียบเทียบ การแก้ปัญหาเก่ียวกับแบบรูป อธิบาย และหาผลลัพธ์การบวก และการลบเศษส่วน

จำนวนคละ อธิบาย และหาผลลพั ธ์การหารทศนยิ ม ใสใจและพยายามหาสาเหตุของ ปรากฏการณตาง ๆ หรือ

แกปญหา แก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกับทศนิยม เปรียบเทียบและหาผลต่างของระยะเวลา สร้างเส้นขนานตาม

เงอื่ นไขที่กำหนด หามุมภายในของรูปหลายเหล่ียม หาความยาวรอบรูปและพื้นท่ีของรูปหลายเหลี่ยมหาความ

ยาวของเส้นรอบวงของวงกลมหาพน้ื ท่ีของวงกลม สร้างข้อสรุปของทรงกลม ทรงกระบอก กรวย และพีระมิด

หาปรมิ าตรของรูปเรขาคณติ สามมิติท่ีประกอบดว้ ยทรงสเ่ี หลี่ยมมุมฉาก หาปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิตทิ ่ี

ประกอบด้วยทรงสเี่ หล่ยี มมุมฉาก แก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปรมิ าตรของรปู เรขาคณิตสามมิติท่ีประกอบด้วยทรง

สี่เหลี่ยมมุมฉาก มุมานะ และกระตือรือร้นพร้อมท้ังแลกเปล่ียนแนวคิดร่วมกับผู้อ่ืน อ่านแผนภูมิรูปวงกลม

นำเสนอข้อมูลแผนภูมริ ูปวงกลมแสดงข้อมูลเปน็ ร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ ตัดสินใจอย่างรู้เทา่ ทัน นำเสนอข้อมูล

ดว้ ยรปู แบบทเี่ หมาะสมอย่างมมุ านะ กระตอื รอื รน้ และสร้างสรรค์

โดยใช้การดำเนินการทางคณิตศาสตร์ด้วยการแก้ปัญหาในชีวิตจริงด้วยแนวคิดของตนเองใน

สถานการณ์ตา่ ง ๆ และเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ผ่านการสะท้อนความคดิ (reflect) จากประสบการณข์ องตนเองหรือ

แลกเปล่ียนกับผู้อ่ืน มีความกระตอื รือร้นและมุมานะในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สามารถสื่อสารแนวคิด

ทางคณิตศาสตร์ของตนเองอย่างม่ันใจโดยใช้การแสดงแทนทางคณิตศาสตร์ท่ีหลากหลาย ด้วยส่ือของจริง

รูปภาพ งานศิลปะ แผนภาพ ภาษา หรอื

สญั ลักษณ์ รับฟงั เข้าใจความหมาย เคารพในความแตกตา่ งระหวา่ งตนเองกับผูอ้ น่ื เหน็ คุณคา่ แนวคดิ ของผอู้ ่ืน

แสดงวิธีคิด หลักฐาน หรือข้อมูลประกอบการแก้ปัญหา เพื่อนำเสนอ แนวคิดหรือวิธีการของตนเองอย่างเป็น

ระบบ ให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์สนับสนุนแนวคิดหรือข้อคาดการณ์ของตนเองได้อย่างสมเหตุสมผล ให้เหตุผล

เชิงตรรกะโดยใช้ขอ้ เท็จจรงิ สมบตั ิต่างๆ หรือข้อสรุปทั่วไปทางคณิตศาสตร์ รับฟัง พจิ ารณาแนวคดิ ของผ้อู ่ืนหรือ

ขอ้ มูลในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบการตัดสินใจเพื่อสนับสนนุ หรือโต้แย้งอย่างเหมาะสม สรา้ งข้อคาดการณ์ ผา่ น

การสังเกต ค้นหาลักษณะร่วมท่ีเกิดขึ้นจากกรณีเฉพาะ โดยใช้มุมมองทางคณิตศาสตร์ ทั้งด้านความรู้และ

วิธีการเรียนรู้ (how to learn) เพื่อสร้างข้อสรุปท่ัวไป (generalization) สามารถคิดได้อย่างหลากหลาย

ละเอยี ดละออ แตกตา่ งจากเดมิ คิดริเรมิ่ และประยุกตแ์ ละนำไปใชไ้ ด้อย่างคลอ่ งแคล่ว ยดื หย่นุ ในการแกป้ ญั หา

ในสถานการณ์ต่าง ๆ ใช้ และแบ่งปันสื่อการเรียนรู้และเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อแสดงแนวคิด สร้างความเข้าใจ

หรือแก้ปัญหา และสืบค้น ตรวจสอบแหล่งท่ีมา (origin) ของข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และเลือกใช้

ประกอบการเรยี นร้แู ละแก้ปัญหาในชวี ิตจรงิ ไดอ้ ย่างเหมาะสมกบั สถานการณ์ และรูเ้ ทา่ ทนั

เพ่ือให้เกดิ ทักษะและสมรรถนะทางคณิตศาสตรท์ ้งั 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ การจัดการตนเอง การคิดข้ันสูง การ

สื่อสาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่าง

ยง่ั ยืน

180

อ 1๑101 ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 4 คำอธิบายรายวิชา
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
เวลา 120 ชั่วโมง / ปี

รายวิชาภาษาองั กฤษพื้นฐาน (อ 1101) ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 เปน็ รายวชิ าทม่ี ุ่งให้ผูเ้ รียน ฟัง พดู บอก
ออกเสียง รู้จักคำศัพท์ ความหมาย วลีภาษาอังกฤษอย่างง่าย เกี่ยวกับตนเอง ครอบครัวและโรงเรียน บอกความ

ต้องการของตนเอง โดยการค้นคว้าข้อมูลด้วยคำส้ัน ๆ และงา่ ย ๆ เกี่ยวกับตัวเลข เรื่องราวของตนเอง สมาชิกใน
ครอบครัว เพื่อน และเหตกุ ารณ์ในสถานการณ์ใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน รวมท้ังทำกิจวัตรประจำวัน ทัง้ การเรียน
เล่น กิน ช่วยทำงาน พักผ่อน ใช้เงิน อย่างพอดี ภายใต้ คำแนะนำของผู้อ่ืน ฟัง พูดเกี่ยวกับเน้ือหาท่ีสนใจจาก

ศึกษาค้นคว้าความรู้จาก นิทาน เหตุการณ์และเร่ืองราวต่างๆ ของ โรงเรียน ชุมชน ท้องถิ่น เช่น ประวัติความ
เป็นมาและ ที่ต้ัง โดยบอกความชอบ ความสนใจ และเพศสภาพของตนเองได้ อ่านประโยคคำส่ัง คำแนะนำ

อย่างง่ายเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น บทสนทนา ในห้องเรียนโรงเรียนและนำไปปฏิบัติตาม อ่านนิทาน
การ์ตูนเก่ียวกับแหล่งเรียนรู้ในห้องเรียน โรงเรียน ชุมชนและท้องถน่ิ พร้อมบอก เขียนประโยคอย่างง่ายเกี่ยวกับ
ตนเอง บุคคลรอบข้าง เช่น เพื่อน หรือส่ิงต่าง ๆ รอบตัวได้อย่างถูกต้อง ตามกาลเทศะใช้ทักษะการเขียนคำ วลี

หรือประโยคเก่ียวกับการทักทาย การกล่าวลา การเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันที่เกิดข้ึน ของตนเอง โรงเรียนและ
แสดงความคิดหรือสะท้อนความรู้สึก สนทนา สื่อสาร ใช้วลี ประโยคอย่างง่ายเก่ียวกับอาชีพ ของบุคคลใกล้ตัว

เช่น สมาชิกในครอบครอบครัว พร้อมทั้งแลกเปล่ียนความคิดร่วมกับผู้อื่นอย่างเหมาะสมและใช้ประสาทสัมผัส
ในการรับสารท่ีอยู่ใกล้ตัว เลือกใช้สื่อภาษาท่ีสะท้อนการเรียนรู้เก่ียวกับการแนะนำตนเอง แนะนำผู้อื่น ส่ิงท่ี
ชอบ/ไม่ชอบ ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานตามความถนัดและความสนใจของตนเองอย่างเหมาะสมและใช้

คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือ เทคโนโลยีดจิ ิทัลอน่ื ๆ ในชีวติ ประจำวันได้ถูกต้องตาม คำแนะนำ และปฏิบัติตาม
ขอ้ ตกลง

โดยใช้การฟัง พูด คำศัพท์ง่าย ๆ สะกดคำ ความหมายของคำ วลีที่เก่ียวข้อง เรื่องราวเก่ียวกับตนเอง
ครอบครัว บุคคล หรือสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สำนวนในชีวิตประจำวันโดยเน้นการออกเสียงภาษาอังกฤษอย่าง
ถูกต้อง อ่านบทความสั้นๆ ง่ายๆ เพื่อเรียนรู้ เข้าใจ และบอกความรู้สึกของตนเอง เก่ียวกับเน้ือหาที่สนใจจาก

สื่อและแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เขียนคำศัพท์ วลี และประโยคส้ัน ๆ ท่ีตนเองสนใจ จากสื่อ และแหล่ง
เรียนรู้ที่หลากหลาย สนทนา ส่ือสารความต้องการของตนเอง และแลกเปล่ียนความคิดโดยใช้ วลี ประโยค

ง่ายๆ ร่วมกับผู้อ่ืน ในสถานการณ์ที่หลากหลายในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสมเลือกใช้สื่อภาษาท่ีสะท้อน
การเรียนรู้เก่ียวกับการแนะนำตนเอง แนะนำผู้อ่ืน ส่ิงท่ีชอบ/ไม่ชอบ ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานตามความถนัด
และความสนใจของตนเองอย่างเหมาะสมและใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือ เทคโนโลยีดิจิทัลอ่ืน ๆ ใน

ชวี ติ ประจำวนั ไดถ้ กู ต้องตาม คำแนะนำ และปฏิบัติตามข้อตกลง ในการใชง้ าน การแบ่งเวลา
เพื่อให้เกิดทักษะและสมรรถนะทางภาษาอังกฤษท้ัง 6 ด้าน ได้แก่ การจดั การตวั เอง การคิดข้ันสูง การ

สอื่ สาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง การอยู่ร่วมกับระบบธรรมชาติ และวิทยาการ
อย่างยั่งยืน โดยใช้กลวิธีในการส่ือสาร ใช้ความคิดท่ีแปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใครหรือพัฒนาต่อยอดจากของเดิมได้
อยา่ งเหมาะสม

181

อ 1๒101 ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน ๒ คำอธิบายรายวชิ า
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
เวลา 120 ชั่วโมง / ปี

รายวิชาภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน (อ 12101) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 เป็นรายวิชาทีม่ งุ่ ให้ผู้เรียนฟงั พูด
บอกออกเสียง รคำศัพท์และ ความหมายหรือวลีภาษาองั กฤษอยา่ งง่ายเกย่ี วกับตนเอง ครอบครวั ห้องเรียน

และโรงเรยี น รวมทั้งฟงั เสยี ง อ่านเรื่อง และดูภาพ เหตุการณ์ ในสถานการณใ์ กล้ตัว แล้วตอบคำถาม อย่าง
ตรงไปตรงมา ฟงั พูด บอกความตอ้ งการของตนเอง แลกเปล่ียนโดยการคน้ ควา้ ข้อมูลด้วยคำสนั้ ๆ และงา่ ย ๆ
เกี่ยวกับตัวเลข วนั เดือน เร่อื งราวของตนเอง สมาชกิ ในครอบครวั เพอ่ื น โรงเรียน และเหตุการณ์ใน

สถานการณ์ใกลต้ ัวในชีวิตประจำวันไดอ้ ย่างเหมาะสมและม่ันใจ รวมทงั้ สามารถควบคุมตนเอง ในการปฏบิ ัติ
กจิ วตั ร ประจำวัน ภายใต้การดูแล ของผู้อน่ื ฟัง พูดเก่ียวกับเนื้อหาท่ีสนใจ เลือกใช้คำทไี่ ด้จากการค้นควา้

ความรจู้ ากสอื่ วดี ิทัศนน์ ทิ าน เร่อื งสัน้ เหตุการณ์และเร่ืองราวต่างๆของ โรงเรียน ชุมชน ท้องถ่ิน เช่น ประวิติ
ความเป็นมา ท่ตี ้งั แหลง่ เรียนรู้ รวมทง้ั บอกส่ิงท่ีตนและเพื่อนทำได้ดี อ่านรู้จกั ประโยคคำส่งั คำแนะนำอย่าง
ง่ายเก่ียวกับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น บทสนทนา ป้ายเตือนต่างๆรวมถึงวัฒนธรรม ในหอ้ งเรียน โรงเรียน

และนำไปปฏิบัตติ ามไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม รวมทั้งฟังเสยี ง อ่านเร่ือง และดภู าพ เหตุการณ์ ในสถานการณ์
ใกล้ตัว แล้วตอบคำถาม อย่างตรงไปตรงมา นทิ าน เรอ่ื งส้ัน การต์ ูนเก่ียวกับแหล่งเรยี นรู้ในห้องเรียน โรงเรยี น

ชุมชนและทอ้ งถิ่นงานอดิเรก ส่งิ ที่ชอบในชุมชน หรือส่ิงต่าง ๆ รอบตวั พร้อมบอกความรู้สึกได้ ตนเอง บุคคล
รอบข้าง เชน่ เพือ่ น ครู งานอดิเรก ส่งิ ท่ีชอบในชุมชน หรือสงิ่ ตา่ ง ๆ รอบตัวไดอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสมกบั
บคุ คลตามกาลเทศะ เลือกใช้สื่อภาษาท่ีสะทอ้ นการเรยี นรู้เกยี่ วกับการแนะนำตนเอง แนะนำผูอ้ น่ื สิง่ ทชี่ อบ/ไม่

ชอบ ในชมุ ชนและท้องถ่นิ ดว้ ยการสรา้ งสรรค์ผลงานตามความถนัดและความสนใจของตนเองอย่างเหมาะสม
และใช้เทคโนโลยีดจิ ิทลั โดยคำนึงถึง สุขภาพของตนเอง จดั เวลาและ สร้างปฏิสัมพนั ธก์ ับคนในโลกดิจทิ ัล

และชวี ิตจรงิ ให้เหมาะสม
โดยใช้การฟัง พูด คำศัพท์ง่าย ๆ สะกดคำ ความหมายของคำ วลีที่เกี่ยวข้อง เร่ืองราวเกี่ยวกับตนเอง

ครอบครัว บุคคล หรือส่ิงต่าง ๆ รอบตัว สำนวนในชีวิตประจำวันโดยเน้นการออกเสียงภาษาอังกฤษอย่าง

ถูกต้อง อ่านบทความส้ันๆ ง่ายๆ เพื่อเรียนรู้ เข้าใจ และบอกความรู้สึกของตนเอง เกี่ยวกับเนื้อหาท่ีสนใจจาก
ส่ือและแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เขียนคำศัพท์ วลี และประโยคส้ัน ๆ ท่ีตนเองสนใจ จากสื่อ และแหล่ง

เรียนรู้ที่หลากหลาย สนทนา ส่ือสารความต้องการของตนเอง และแลกเปลี่ยนความคิดโดยใช้ วลี ประโยค
ง่ายๆ ร่วมกับผู้อ่ืน ในสถานการณ์ที่หลากหลายในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสมเลือกใช้ส่ือภาษาที่สะท้อน
การเรียนรู้เก่ียวกับการแนะนำตนเอง แนะนำผู้อ่ืน สิ่งที่ชอบ/ไม่ชอบ ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานตามความถนัด

และความสนใจของตนเองอย่างเหมาะสมและใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือ เทคโนโลยีดิจิทัลอ่ืน ๆ ใน
ชวี ติ ประจำวันได้ถูกตอ้ งตาม คำแนะนำ และปฏบิ ัติตามข้อตกลง ในการใชง้ าน การแบ่งเวลา

เพื่อให้เกิดทักษะและสมรรถนะทางภาษาอังกฤษท้ัง 6 ด้าน ได้แก่ การจัดการตัวเอง การคิดขั้นสูง การ
สอ่ื สาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง การอยู่รว่ มกับระบบธรรมชาติ และวิทยาการ
อย่างย่ังยืน โดยใช้กลวิธีในการส่ือสาร ใช้ความคิดที่แปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใครหรือพัฒนาต่อยอดจากของเดิมได้

อย่างเหมาะสม

182

อ 1๓101 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน ๓ คำอธบิ ายรายวชิ า
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
เวลา 120 ช่ัวโมง / ปี

รายวิชาภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน (อ 13101) ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 เป็นรายวชิ าที่มุ่งให้ผู้เรียนฟัง พูด
บอกออกเสียง รคำศัพท์และ ความหมายหรอื วลีภาษาองั กฤษอยา่ งง่ายเกยี่ วกับตนเอง ครอบครัว หอ้ งเรียน

และโรงเรยี น รวมทั้งฟังเสียง อ่านเรอ่ื ง และดภู าพ เหตกุ ารณ์ ในสถานการณ์ใกลต้ วั แลว้ ตอบคำถาม อย่าง
ตรงไปตรงมา ฟงั พูด บอกความตอ้ งการของตนเอง แลกเปลี่ยนโดยการค้นควา้ ข้อมูลด้วยคำสน้ั ๆ และงา่ ย ๆ
เก่ยี วกับตัวเลข วันเดือน เรือ่ งราวของตนเอง สมาชิกในครอบครวั เพอ่ื น โรงเรยี น และเหตุการณ์ใน

สถานการณ์ใกล้ตัวในชีวิตประจำวนั ได้อย่างเหมาะสมและม่นั ใจ รวมทั้งสามารถควบคุมตนเอง ในการปฏิบตั ิ
กจิ วตั ร ประจำวัน ภายใต้การดแู ล ของผอู้ ่ืนฟงั พูดเกี่ยวกับเน้ือหาที่สนใจ เลือกใช้คำทไี่ ด้จากการค้นคว้า

ความร้จู ากสื่อวีดิทัศนน์ ทิ าน เรอ่ื งสัน้ เหตุการณ์และเร่อื งราวตา่ งๆของ โรงเรยี น ชุมชน ทอ้ งถิ่น เช่น ประวติ ิ
ความเป็นมา ทีต่ ง้ั แหล่งเรยี นรู้ รวมท้ังบอกสงิ่ ท่ีตนและเพื่อนทำได้ดี อ่านรจู้ ักประโยคคำสั่ง คำแนะนำอย่าง
ง่ายเก่ียวกับการใช้ชวี ิตประจำวนั เช่น บทสนทนา ป้ายเตือนตา่ งๆรวมถึงวฒั นธรรม ในหอ้ งเรียน โรงเรยี น

และนำไปปฏิบัตติ ามไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม รวมทั้งฟงั เสียง อา่ นเรอ่ื ง และดูภาพ เหตุการณ์ ในสถานการณ์
ใกลต้ วั แลว้ ตอบคำถาม อย่างตรงไปตรงมา นทิ าน เรือ่ งส้ัน การต์ นู เกี่ยวกับแหลง่ เรยี นรู้ในห้องเรียน โรงเรยี น

ชมุ ชนและทอ้ งถน่ิ งานอดิเรก สงิ่ ท่ีชอบในชุมชน หรือส่ิงต่าง ๆ รอบตวั พร้อมบอกความรู้สึกได้ ตนเอง บุคคล
รอบข้าง เช่น เพอื่ น ครู งานอดเิ รก สิง่ ท่ีชอบในชุมชน หรอื สง่ิ ต่าง ๆ รอบตัวได้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสมกับ
บคุ คลตามกาลเทศะ เลือกใช้สอื่ ภาษาที่สะท้อนการเรยี นรู้เกีย่ วกับการแนะนำตนเอง แนะนำผู้อื่น สิง่ ทช่ี อบ/ไม่

ชอบ ในชุมชนและท้องถิน่ ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานตามความถนัดและความสนใจของตนเองอย่างเหมาะสม
และใช้เทคโนโลยดี ิจิทัลโดยคำนงึ ถงึ สขุ ภาพของตนเอง จดั เวลาและ สรา้ งปฏิสมั พนั ธก์ บั คนในโลกดิจทิ ัล

และชีวติ จรงิ ใหเ้ หมาะสม พร้อมทั้งระบคุ วามสามารถของตนเอง และเพอ่ื นได้ ผ่านการบรรยายกจิ กรรม/
งาน ท่ตี นเองและเพ่อื น อาจต้องการความชว่ ยเหลอื เพ่ือทำให้สำเร็จ

โดยใช้การฟัง พูด คำศัพท์ง่าย ๆ สะกดคำ ความหมายของคำ วลีท่ีเกี่ยวข้อง เร่ืองราวเกี่ยวกับตนเอง

ครอบครัว บุคคล หรือสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สำนวนในชีวิตประจำวันโดยเน้นการออกเสียงภาษาอังกฤษอย่าง
ถูกต้อง อ่านบทความสั้นๆ ง่ายๆ เพื่อเรียนรู้ เข้าใจ และบอกความรู้สึกของตนเอง เก่ียวกับเนื้อหาที่สนใจจาก

สื่อและแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เขียนคำศัพท์ วลี และประโยคสั้น ๆ ท่ีตนเองสนใจ จากสื่อ และแหล่ง
เรียนรู้ที่หลากหลาย สนทนา ส่ือสารความต้องการของตนเอง และแลกเปล่ียนความคิดโดยใช้ วลี ประโยค
ง่ายๆ ร่วมกับผู้อ่ืน ในสถานการณ์ท่ีหลากหลายในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสมเลือกใช้สื่อภาษาท่ีสะท้อน

การเรียนรู้เกี่ยวกับการแนะนำตนเอง แนะนำผู้อ่ืน สิ่งท่ีชอบ/ไม่ชอบ ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานตามความถนัด
และความสนใจของตนเองอย่างเหมาะสมและใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือ เทคโนโลยีดิจิทัลอื่น ๆ ใน

ชวี ติ ประจำวันได้ถูกตอ้ งตาม คำแนะนำ และปฏิบตั ติ ามข้อตกลง ในการใชง้ าน การแบ่งเวลา
เพ่ือให้เกิดทักษะและสมรรถนะทางภาษาอังกฤษทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ การจัดการตวั เอง การคิดข้ันสูง การ

สือ่ สาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง การอยู่ร่วมกับระบบธรรมชาติ และวทิ ยาการ

อย่างยั่งยืน โดยใช้กลวิธีในการสื่อสาร ใช้ความคิดที่แปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใครหรือพัฒนาต่อยอดจากของเดิมได้
อยา่ งเหมาะสม

183

อ 15101 ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน 5 คำอธิบายรายวชิ า
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ
เวลา 120 ชวั่ โมง / ปี

รายวิชาภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน (อ 15101) ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เปน็ รายวิชาท่มี ุ่งใหผ้ ู้เรียนสนทนา
ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน สนทนาโต้ตอบ แลกเปล่ียนข้อมูล ท่ีเก่ียวข้องกับชีวิตประจำ ของตนเอง

ครอบครัว บุคคล โรงเรียน และสงิ่ ตา่ ง ๆ รอบตัว เชน่ ช่วงเวลากล่าวคำทกั ทาย และถามความเป็นอยูท่ ่วั ไป การ
ตอบคำถามในกรณีท่ีรู้สึกสบายดีและไม่สบาย การกล่าวทางการการกล่าวลาและการกล่าวขอบคุณ การถาม
ทาง การซื้อของ การจองที่พัก สัญลกั ษณ์ ป้ายเตือน ป้ายบอกทาง ปา้ ยคำสง่ั แสดงความคิดเห็น และความรู้สึก

ของตนเองเกี่ยวกับเร่ืองใกล้ตัวและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การอธิบายส่ิงของ อธิบายลักษณะภายนอกของคน
รอบตวั ห้องเรียน โรงเรยี น แล้วสามารถจับประเดน็ สำคัญ หรอื วัตถุประสงค์ ของผู้ส่งสารแบบงา่ ย ๆ ได้ หรือ

การรับสารที่มีความซับซ้อนมากขึ้นใช้ภาษาเพื่อสืบค้นข้อมูลจากแหล่งความรู้ต่าง ๆเช่น ห้องเรียน ห้องสมุด
อินเตอร์เน็ต ห้องสมุดชุมชน เกี่ยวกับประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม ความรู้สึกทางบวก ทางลบ ประโยค
ให้กำลังใจ ประโยคชมเชย ประโยคยกย่อง ผ่านการสร้าง นำเสนอผลงานทางภาษา ข้อมูลเก่ียวกับเหตุการณ์

และสถานการณ์รอบตัว เช่น ข่าวสารจากวิทยุ โทรทศั น์ อินเตอร์เน็ต ยูทูป แหล่งเรยี นรู้ในหอ้ งเรียน โรงเรียน
ได้อย่างถูกต้อง ยอมรับภาษาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ เช่น เทศกาล วัฒนธรรมประเพณี ของไทย ของต่างชาติ

ท้องถิ่นตนเอง ได้อย่างเหมาะสมและติดตามข่าวสารเหตุการณ์ สถานการณ์ ปัญหาท่ีเก่ียวข้อง กับตัวเอง
โรงเรียน ชมุ ชน รวมถงึ เขา้ ร่วมกิจกรรมและรว่ มเป็นอาสาสมัครในกิจกรรม สาธารณะประโยชน์

โดยใช้ คำศัพท์พื้นฐาน วลีประโยค ข้อความท่ีเก่ียวข้องกับ ชีวิตประจำวันโดยเน้นการออกเสียง

ภาษาอังกฤษท่ีถกู ต้องเกีย่ วกับตนเอง ครอบครวั บุคคล โรงเรยี น และสิง่ ตา่ ง ๆ รอบตัว อา่ นและตอบคำถาม
เก่ียวกับข้อมลู ต่างๆ บอกใจความสำคัญ บอกรายละเอียด จากบทสนทนา นิทาน เรอ่ื งราว และบทความส้ัน ๆ

ที่เหมาะสมกับชว่ งวยั ได้ เขยี นเพอื่ แสดงความต้องการ ขอความชว่ ยเหลือ แสดงความรู้สกึ
ความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเร่ืองใกล้ตัวและกิจกรรมต่าง ๆ ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ส่ิงต่างๆ รอบตัว ข่าว
เหตุการณ์ปัจจุบันประเด็นต่างๆ ที่สนใจ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม สนทนา โต้ตอบ แลกเปล่ียนความคิดเห็น

ข้อมูล ส่อื ความหมาย ความรู้สึก อารมณ์ ได้อย่างเหมาะสมและม่ันใจ ใชภ้ าษาเพอื่ สืบคน้ ข้อมูลเก่ียวกับสิ่งต่าง
ๆ รอบตัว สถานการณ์ ข่าว เหตุการณ์หรือประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม จากแหล่งความรู้ต่างๆ

แลกเปล่ียน ยอมรับ และเข้าใจวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่หลากหลาย ปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันกับผู้อื่นได้อย่าง
เหมาะสม มีเหตผุ ล และสรา้ งชิ้นงานทางภาษาอย่างสรา้ งสรรค์จากการฟัง ดู หรอื อ่าน และสามารถนำเสนอ
ในรูปแบบและวธิ ีการทหี่ ลากหลายไดอ้ ย่างเหมาะสม

เพ่ือให้เกิดทักษะและสมรรถนะทางภาษาอังกฤษท้ัง 6 ด้าน ได้แก่ การจดั การตวั เอง การคิดขั้นสูง การ
สื่อสาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง การอยู่รว่ มกับระบบธรรมชาติ และวทิ ยาการ

อย่างยั่งยืน โดยใช้กลวิธีในการสื่อสาร ใช้ความคิดที่แปลกใหม่ท่ีไม่ซ้ำใครหรือพัฒนาต่อยอดจากของเดิมได้
อยา่ งเหมาะสม

184

อ 16101 ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน 6 คำอธิบายรายวิชา
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
เวลา 120 ชวั่ โมง / ปี

รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (อ 16101) ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นรายวิชาที่มุ่งให้ผู้เรียนสนทนา
ภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน สนทนาโต้ตอบ แลกเปล่ียนข้อมูล เกี่ยวกับการกล่าวคำทักทาย ถามความ

เป็นอย่ทู ่วั ไป การตอบคำถามในกรณที ่ีรู้สึกสบายดแี ละไมส่ บาย การกล่าวแนะนำตัวเองแบบเป็นทางการและไม่
เปน็ ทางการการกล่าวลาและการกล่าวขอบคณุ บทสนทนาในชวี ิตประจำวนั เช่นการทกั ทาย การถามทาง การ
ซื้อของ การจองท่ีพัก การสั่งอาหารและเครื่องดื่มเพ่ือความรู้สึก อารมณ์อ่านและตอบคำถามข้อมูลต่าง ๆเช่น

ป้ายเตือน ป้องบอกทาง ป้ายคำสั่ง คำแนะนำ ในห้องเรียน โรงเรียน รวมท้ังฟังเสียง อ่านเรื่อง และดูภาพที่
เก่ยี วข้อง กับสถานการณ์ในชุมชน สังคม อย่างมสี ติ แล้วสามารถจับประเด็นสำคัญ ข้อคิดท้ังเชงิ บวกและลบท่ี

ไดร้ ับ ตามวัตถุประสงค์หลักของผู้ส่งสาร พร้อมท้ังประโยชน์ท่ีได้รับจากการรับสาร ดงั กลา่ วแบบตรงไปตรงมา
อ่านเพื่อบอกใจความสำคัญ และรายละเอียด อ่านวิเคราะห์ความหมายของการตีความหมาย ท่ีเหมาะสมกับ
ชว่ งวัย เขียนเพื่อแสดงความคิดเห็น และความรู้สกึ ของตนเองเก่ียวกบั เรื่องใกล้ตัวและกิจกรรมต่าง ๆ เชน่ การ

อธิบายส่ิงของ อธิบายลักษณะภายนอกของคน ลกั ษณะนิสัยของบุคคลรอบตัว ห้องเรียน โรงเรียน ชุมชุน วัน
สำคัญต่างๆ วันเกิด เทศกาล วัฒนธรรมประเพณี ของไทย ของต่างชาติ ท้องถ่ินตนเอง ท้องถ่ินอ่ืนข่าวสาร

บ้านเมอื งรอบๆตัว จากแหล่งเรียนรู้ในห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน การแนะนำตัว แนะนำครอบครัว เพ่ือน สิ่งที่
ชอบ/ไม่ชอบ กิจกรรมยามว่าง เร่ืองทถ่ี นัดหรอื สนใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และแสดงความอดทนในการรับสารและ
แลกเปล่ียนประสบการณ์และส่ือสาร กับบุคคลใกล้ตัวเก่ียวกับสถานการณ์ ใกล้ตัวที่ต่างจากตนเอง ใช้

แลกเปลี่ยนภาษาเพ่ือสบื ค้นข้อมูลจากแหล่งความรู้ต่าง ๆเช่น ห้องเรียน ห้องสมุด อินเตอร์เน็ต ห้องสมุดชุมชน
เกี่ยวกับประเด็นท่ีอยู่ในความสนใจของสังคม ความรู้สึกทางบวก ทางลบ ประโยคให้กำลังใจ ประโยคชมเชย

ประโยคยกย่อง ในทำงานร่วมกับผูอ้ ่ืน และร่วมวางแผนข้ันตอนในการทำงานไปสู่ เป้าหมาย แบง่ บทบาทหน้าที่
และการตัดสินใจร่วมกันในทีมได้ ผ่านการแสวงหา สร้าง นำเสนอผลงานทางภาษา ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์
และสถานการณ์รอบตัว เช่น ข่าวสารจากวิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต ยูทูป แหล่งเรยี นรู้ในหอ้ งเรียน โรงเรียน

ชุมชนได้อย่างถูกต้อง และมีสติ แล้วสามารถจับประเด็นสำคัญ ข้อคิดท้ังเชิงบวกและลบท่ีได้รับ ตาม
วตั ถุประสงค์หลกั ของผสู้ ่งสาร พร้อมทัง้ ประโยชน์ท่ีไดร้ ับจากการรับสาร ดงั กล่าวแบบตรงไปตรงมาทเี่ หมาะสม

ตามวัย
โดยใช้คำศัพท์พื้นฐาน วลี ประโยค ข้อความที่เกี่ยวข้องกับชีวติ ประจำวัน ของตนเอง ครอบครัว

บุคคล โรงเรียน และส่ิงต่าง ๆ โดยเน้นการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง สนทนา โต้ตอบ แลกเปล่ียน

ความคิดเห็น ข้อมูล ส่ือความหมาย ความรู้สึก อารมณ์ อ่านและตอบคำถาม อ่านเพ่ือบอกใจความสำคัญ
บอกรายละเอียด จากบทสนทนา นิทาน เรื่องราว และบทความส้ัน ๆ เขียนเพ่ือแสดงความต้องการ ขอความ

ช่วยเหลือ แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัวและกิจกรรมต่าง ๆ สร้างช้ินงาน
เก่ียวกับภาษาอยา่ งสร้างสรรค์จากการฟัง ดูหรอื อ่านข้อมูล เหตุการณ์และสถานการณ์รอบตัว และสามารถ
นำเสนอในรูปแบบ และวิธีการที่หลากหลาย ได้อย่างเหมาะสม ใช้ภาษาเพื่อสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับส่ิงต่าง ๆ

รอบตัว สถานการณ์ ขา่ ว เหตกุ ารณ์หรือประเด็นทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม จากแหล่งความรู้ ต่างๆ พร้อม
ทง้ั แลกเปลย่ี นความรรู้ ่วมกบั ผ้อู นื่ และสามารถนำเสนอในรปู แบบและวธิ กี ารท่หี ลากหลายไดเ้ หมาะสมกับวัย

185

เพื่อให้เกิดทักษะและสมรรถนะทางภาษาอังกฤษท้ัง 6 ด้าน ได้แก่ การจัดการตัวเอง การคิดขั้นสูง การ
สื่อสาร การรวมพลังทำงานเป็นทีม การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง การอยู่ร่วมกับระบบธรรมชาติ และวิทยาการ
อย่างย่ังยืน โดยใช้กลวิธีในการส่ือสาร ใช้ความคิดท่ีแปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใครหรือพัฒนาต่อยอดจากของเดิมได้
อย่างเหมาะสม

186

คำอธบิ ายรายวิชาบรู ณาการ รอบรวั้ วทิ ยาศาสตร์
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลาเรียน...........80..........ชวั่ โมง

รายวิชารอบรั้ววิทยาศาสตร์เปน็ วชิ าที่มุง่ เนน้ ใหผ้ ุ้เรยี นศกึ ษาความรู้เกยี่ วกบั เรื่อง
ส่วนประกอบของดนิ ในทอ้ งถิน่ จำแนกชนิดของดินและอธิบายการใชป้ ระโยชนจ์ ากดนิ ในทอ้ งถน่ิ วิเคราะห์
พฤติกรรมการใช้ดนิ ของตนเองและครอบครัวร่วมกนั อภิปรายและนำเสนอการดแู ลรกั ษาดินและการปฏิบัติตน
ในการใช้ประโยชนจ์ ากดนิ ในท้องถิ่นในการทำกจิ วัตรต่าง ๆ ได้อยา่ งง่ายเหมาะสมและมีเหตุผล ต้งั คำถาม ฟงั
การอ่านจากครเู พอื่ รับรู้เกีย่ วกับการใช้ประโยชน์ของดนิ และนำ้ จากชวี ิตประจำวันของตนเองหรือจากกิจกรรม
หรอื สิง่ ตา่ ง ๆ รอบตวั หรือทพี่ บในชมุ ชน รว่ มกนั อภิปรายและ นำเสนอประโยชน์ดนิ และนำ้ โดยใช้คำพดู ของ
ตัวเอง หรือเลอื กใช้เครอ่ื งมอื อยา่ งง่ายและลงขอ้ สรุปเกีย่ วกับสง่ิ ทีจ่ ำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวติ
ของพชื และสัตวแ์ ละวฏั จักรชีวิตของพืชดอกและสัตว์ในทอ้ งถิ่นสังเกตรว่ มกันค้นหาส่ิงเจือปนท่ีพบในอากาศ
นำ้ และดิน และใช้เครอื่ งมอื อยา่ งง่าย และร่วมกัน แสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตุผลเพอ่ื ระบุสาเหตุท่ีทำให้
อากาศ น้ำ และดิน เกดิ การปนเปอ้ื นและ ผลกระทบทีอ่ าจเกิดขน้ึ ตอ่ ตนเอง สง่ิ มชี วี ติ และส่ิงแวดล้อมจาก
หลกั ฐานทรี่ วบรวมได้ โดยการสงั เกต ต้งั คำถามเก่ียวกับปรากฏการณ์กลางวนั - กลางคืน การขึน้ -ตกของดวง
อาทติ ย์ และรวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกับการเกดิ กลางวนั -กลางคนื และการข้นึ และตกของดวง อาทิตย์และการ
กำหนดทศิ โดยมีความมุ่งมนั่ ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลและมีจิตวิทยาศาสตร์และมที ักษะกระบวนการกลมุ่ ในการ
ทำงานโดยการสังเกต ต้ังคำถาม เกี่ยวกบั กิจกรรมท่เี กี่ยวข้องกับการเกดิ ลมและ ผลกระทบทีม่ ตี อ่ สง่ิ มชี ีวติ และ
สงิ่ แวดล้อม ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการปฏิบัติตนประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั และอยู่
ร่วมกนั กบั ธรรมชาติไดอ้ ย่างเหมาะสมอธบิ ายลกั ษณะและผลกระทบ จากวาตภัยและอทุ กภยั จากข้อมูลท่ี
สังเกตและรวบรวมได้สงั เกตการทำของเล่นของใช้ในห้องเรียนทดลองการเกิดแรงดงึ แรงผลัก และการ
เปล่ยี นแปลงการเคลอ่ื นท่ีของวตั ถใุ นลกั ษณะต่างๆ เชน่ การบีบ บิด ทุบ ดัด ดงึ รว่ มกนั ทำงานเปน็ ทีมอย่างมี
เหตุผล และมีส่วนร่วมใน การทำงานกับผู้อน่ื และรับผิดชอบตามหน้าที่ทไ่ี ด้รบั มอบหมายในการประยกุ ตใ์ ช้
แกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ยในชวี ติ ประจำวนั อยา่ งมที ีน่ ำไปสคู่ ำตอบ มคี วามมุ่งมัน่ ในการแก้ปญั หาให้สำเร็จได้จาก
กิจกรรมทที่ ำไดอ้ ยา่ งถูกต้องสรปุ ความเข้าใจ ของตน เกยี่ วกับ เร่อื งนน้ั ได้ จากการตง้ั คำถาม การฟัง/ อ่าน
ขอ้ มูลเร่อื งราว อธิบายเหตุผล ในการตดั สนิ ใจ ในเรื่องต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวนั ของตนใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ิทัลหรือ
แหลง่ เรียนร้ใู นการสืบคน้ ขอ้ มลู สรปุ ความเขา้ ใจจากข้อมลู และ ติดตอ่ สอื่ สารในชีวิตประจำวันได้อย่าง
เหมาะสมและปลอดภยั สรา้ งของเลน่ หรอื ของใชเ้ พ่อื แก้ปัญหาตามความสนใจโดยร่วมกันทำงานเป็นทีม เลอื ก
และใช้ สิ่งของเครอ่ื งใชใ้ นชีวิตประจำวันตามหน้าทใี่ ช้สอยได้อยา่ งปลอดภัย

โดยใช้สมรรถนะเฉพาะทางวิทยาศาสตรใ์ นการสรา้ งคำอธิบายปรากฏการณ์ท่ีคนุ้ เคย ไม่ซบั ซ้อน
โดยใช้หลกั ฐาน ทส่ี งั เกต หรอื ทดลองได้ เลอื กคำอธิบายทางวทิ ยาศาสตร์ทสี่ อดคล้องกบั หลักฐานท่ีมี สงั เกต
ตง้ั คำถาม ต้งั สมมติฐานและพยากรณ์ผล ทดสอบสมมตฐิ านและการพยากรณ์ ลงข้อสรุป เก่ยี วกบั ปรากฏการณ์
ที่คุ้นเคย ไมซ่ ับซ้อน รวบรวมหลักฐานโดยการสังเกตหรอื การทดลองอย่างง่าย ท่ปี ระกอบด้วยตัวแปรต้นต้น ตวั
แปรตาม และตัวแปรควบคุม มงุ่ มัน่ ในการเก็บรวบรวมหลกั ฐานเพือ่ ใชอ้ ธบิ ายปรากฏการณ์ ใช้ความรู้ทาง
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการปฏบิ ัติตน ประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวัน และอยูร่ ่วมกนั กบั ธรรมชาติได้อย่าง
เหมาะสม

เพอ่ื ให้เกิดสมรรถนะหลัก 6 ด้าน ได้แก่ ได้แก่ การจัดการตนเอง การคิดขั้นสูง การส่ือสาร
การทำงานเปน็ ทมี การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแขง็ และการอยรู่ ว่ มกนั กับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยงั่ ยืน
ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้รอบร้ัววทิ ยาศาสตร์
LO1 LO2 LO3 LO4 LO5 LO6 LO7 LO8 LO9 LO10 LO11

187

คำอธบิ ายรายวชิ าบูรณาการ รอบร้วั วิทยาศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2

เวลาเรียน...........80..........ชั่วโมง
รายวชิ ารอบร้ัววทิ ยาศาสตร์ เปน็ วชิ าทมี่ ุ่งเน้นให้ผู้เรยี นเกิดทักษะ การสังเกต การทดลอง ต้ังคำถามเรอื่ ง
สว่ นประกอบของดนิ ในท้องถ่นิ จำแนกชนิดของดนิ และอธบิ ายการใชป้ ระโยชนจ์ ากดนิ ในท้องถิ่น วเิ คราะห์
พฤติกรรมการใช้ดินของตนเองและครอบครวั รว่ มกนั อภปิ รายและนำเสนอการดแู ลรกั ษาดนิ และการปฏบิ ตั ติ น
ในการใชป้ ระโยชน์จากดนิ ในท้องถิ่นในการทำกิจวัตรตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งงา่ ยเหมาะสมและมีเหตุผลต้ังคำถาม การ
สังเกตโดยใช้ประสาทสัมผัสท่ีเหมาะสมร่วมกบั การใช้อปุ กรณ์อยา่ งง่าย เชน่ แวน่ ขยาย เพื่อสืบเสาะ คน้ หา
สว่ นประกอบของดิน ลกั ษณะและสมบัติของดนิ ฝกึ การจำแนก โดยให้ จำแนกและระบุชนดิ ของดนิ ในชุมชน
และการใช้ประโยชน์ดินในชมุ ชน สืบเสาะ เก่ียวกับลักษณะและสมบัติ ของนำ้ ทนี่ ำมาใช้ในการอปุ โภคและ
บรโิ ภค แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั แนวการปฏบิ ตั ิตนในการใช้ ประโยชนจ์ ากดนิ และนำ้ ได้อย่างเหมาะสม
รว่ มกันนำเสนอการดูแลรักษาดินและน้ำโดยเลือกใช้ส่ือในการนำเสนอให้เหมาะสมเลอื กใชเ้ คร่อื งมืออย่างง่าย
และลงข้อสรปุ เกีย่ วกบั สงิ่ ท่ีจำเป็นตอ่ การเจรญิ เติบโตและการดำรงชีวติ ของพืช และสตั ว์และวัฏจักรชีวิตของพชื
ดอกและสัตว์ในทอ้ งถ่นิ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลเกยี่ วกบั ความเหมาะสมของสภาพแวดลอ้ มกับการ
ดำรงชีวติ ของพชื และสัตวจ์ ากหลกั ฐานท่รี วบรวมได้ เลอื ก รปู แบบการนำเสนอท่ีเหมาะสมกบั ข้อมลู หรือให้
น่าสนใจและนำเสนอด้วยภาษาทเี่ หมาะสมกบั วัยรวมทง้ั ตระหนกั ถึงสิง่ ทจี่ ำเปน็ ตอ่ การดำรงชีวติ ของพืชและ
สัตว์สังเกตรว่ มกันค้นหาสงิ่ เจือปนทพี่ บในอากาศ นำ้ และดนิ และใช้เครือ่ งมืออย่างงา่ ย และร่วมกัน แสดง
ความคดิ เห็นอยา่ งมเี หตุผลเพ่ือระบสุ าเหตุท่ที ำให้อากาศ น้ำ และดิน เกดิ การปนเปอ้ื นและ ผลกระทบทอ่ี าจ
เกดิ ขนึ้ ตอ่ ตนเอง สงิ่ มีชวี ิต และสิง่ แวดล้อมจากหลักฐานท่ีรวบรวมสร้างคำอธบิ ายสาเหตุการเกิด กลางวนั
กลางคนื โดยวิเคราะห์ ขอ้ มูลและใชห้ ลกั ฐานท่ีรวบรวม ได้จากแบบจำลอง ตัง้ คำถามและรวบรวมขอ้ มลู
เกี่ยวกบั การขน้ึ และตกของดวง อาทิตยแ์ ละการกำหนดทิศ สรา้ งคำอธิบายสาเหตกุ ารเกิด ปรากฏการณก์ ารขึน้
และตก ของดวงอาทติ ยแ์ ละการ กำหนดทศิ โดยวิเคราะหแ์ ละ ใช้หลกั ฐานทรี่ วบรวมได้จาก แบบจำลองโดยมี
ความมงุ่ มนั่ ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และมจี ิตวิทยาศาสตรแ์ ละมที กั ษะกระบวนการกลมุ่ ในการทำงานโดยได้
รับผดิ ชอบตาม หนา้ ทที่ ่ไี ดร้ ับมอบหมายในการรวบรวมข้อมูลเพอ่ื หาวิธกี ารลดขยะและสง่ิ เจือปน สังเกต ต้งั
คำถาม เกย่ี วกับกจิ กรรมทีเ่ ก่ยี วข้องกับการเกดิ ลมและ ผลกระทบทม่ี ีตอ่ สิง่ มชี ีวิตและส่งิ แวดลอ้ มใช้ความรทู้ าง
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการปฏบิ ัติตน ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั และอย่รู ว่ มกันกบั ธรรมชาติได้อย่าง
เหมาะสมอธิบายลกั ษณะและผลกระทบ จากวาตภยั และอุทกภัย จาก ข้อมลู ทส่ี ังเกตและรวบรวมได้สังเกตการ
ทำงานของแรงแม่เหล็กท่มี ตี ่อของเลน่ ของใช้ส่ือสารความเข้าใจเก่ยี วกบั แรงและผลของแรงท่ีมีผลตอ่ วัตถตุ ่างๆ
รว่ มกันอภิปรายการทำงานของแรงแม่เหล็ก แรงกระทำระหว่างแรงแม่เหล็ก สมบัติของแม่เหล็กอย่างมีเหตุผล
และมสี ่วนร่วมใน การทำงานกับผ้อู ื่นและรบั ผิดชอบตามหน้าท่ีทไี่ ด้รบั มอบหมายในการประยุกต์ใช้ความรู้
แกป้ ัญหาอย่างง่ายหรือทำกจิ กรรมในชีวติ ประจำวันอย่างมีขน้ั ตอน แสดงวิธกี ารหาคำตอบหรอื วธิ ี แก้ปญั หาได้
อยา่ งถูกตอ้ ง จากกจิ กรรมท่ีทำ สรปุ ความเข้าใจ ของตน และแสดง ความคิดเหน็ เกีย่ วกับเรอ่ื งนนั้ ได้ จากการ
ต้งั คำถาม การฟัง/ อ่าน ข้อมูลเรื่องราว อธิบายเหตุผล ในการตัดสนิ ใจ ในเรอื่ งต่าง ๆ ในชวี ิตประจำวนั ของ
ตนใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ิทลั หรอื แหล่งเรียนรู้ในการสืบคน้ ขอ้ มลู สร้างของเลน่ หรือของใช้เพื่อแกป้ ัญหาตามความ
สนใจโดยร่วมกันทำงานเปน็ ทมี เลือกและใช้ ส่ิงของเครือ่ งใช้ในชวี ิตประจำวันตามหนา้ ที่ใชส้ อยไดอ้ ย่าง

188

ปลอดภัยสรา้ งของเลน่ หรอื ของใชเ้ พอื่ แกป้ ัญหาตามความสนใจโดยรว่ มกันทำงานเปน็ ทมี เลอื กและใช้ สง่ิ ของ
เครื่องใชใ้ นชีวติ ประจำวันตามหน้าทีใ่ ช้สอยได้อย่างปลอดภยั

โดยใช้สมรรถนะเฉพาะทางวิทยาศาสตร์ในการสร้างคำอธิบายปรากฏการณ์ท่คี ้นุ เคย ไม่
ซับซอ้ น โดยใช้หลกั ฐาน ที่สงั เกต หรือทดลองได้ เลือกคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ทสี่ อดคลอ้ งกับหลักฐานท่มี ี
สังเกต ตัง้ คำถาม ตงั้ สมมติฐานและพยากรณผ์ ล ทดสอบสมมติฐานและการพยากรณ์ ลงขอ้ สรุป เกี่ยวกบั
ปรากฏการณ์ท่ีคุ้นเคย ไมซ่ ับซ้อน รวบรวมหลกั ฐานโดยการสังเกตหรอื การทดลองอยา่ งง่าย ท่ีประกอบด้วยตัว
แปรตน้ ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคมุ ใชค้ วามรทู้ างวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการปฏบิ ัตติ น ประยกุ ตใ์ ช้
ในชวี ติ ประจำวัน และอยู่ร่วมกันกับธรรมชาตไิ ด้อยา่ งเหมาะสม

เพ่อื ให้เกิดสมรรถนะหลัก ท้งั 6 ดา้ นได้แก่ การจัดการตนเอง การคิดข้ันสูง การสอ่ื สาร
การทำงานเปน็ ทีม การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง และการอยรู่ ว่ มกนั กับธรรมชาติและวิทยาการอย่างย่งั ยืน
ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้
LO1 LO2 LO3 LO4 LO5 LO6 Lo 7 LO8 Lo9 Lo10 Lo11

189

คำอธิบายรายวิชาบูรณาการ รอบรั้ววทิ ยาศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรช์ น้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3

เวลาเรียน...........80..........ชั่วโมง

รายวชิ ารอบรัว้ วิทยาศาสตรเ์ ป็นวชิ าทีม่ ุ่งเม้นให้ผู้เรียนเกดิ ทักษะ การสงั เกต ตัง้ คำถาม
สมบัติทางกายภาพของน้ำในทอ้ งถน่ิ สำรวจและอธิบายสมบตั ิทางกายภาพของนำ้ จากแหลง่ นำ้ ในทอ้ งถ่นิ และ
นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์วเิ คราะห์พฤติกรรมการใชน้ ำ้ จากแหลง่ น้ำในทอ้ งถ่นิ รว่ มกันอภปิ รายและนำเสนอการ
ดูแลรกั ษาน้ำการปฏิบัติตนในการใชป้ ระโยชน์จากนำ้ ในการทำกิจวัตรตา่ ง ๆ ได้อย่างง่ายอยา่ งเหมาะสมและมี
เหตุผล การสังเกต การรบั สารทีเ่ ป็นข้อมูลจากการฟังจากครู หรือผปู้ กครอง สืบค้น อ่านข้อมูลบนอินเทอร์เนต็
จากเวบ็ ไซตท์ นี่ า่ เชอื่ ถือเก่ียวกับทรัพยากรธรรมชาติท่นี ำมาใชท้ ำวัสดใุ กลต้ ัว วิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมการใช้
เทคโนโลยตี ่าง ๆ ของตนเองต่อการใช้ทรพั ยากรธรรมชาติอย่างมเี หตุผล แสดงความตระหนกั โดยมีส่วนรว่ มใน
การตัดสนิ ใจหาแนวทางในการลดการใชเ้ ทคโนโลยีต่าง ๆ และทรัพยากรธรรมชาตโิ ดยเขียนลำดบั ขน้ั ตอน
เขยี นโค้ดอยา่ งงา่ ยดว้ ยการใชบ้ ัตรคำสัง่ และปฏิบัติตนตามแนวทางท่รี ว่ มตดั สินใจด้วยการเลอื กใช้เครือ่ งมอื
อยา่ งง่ายและลงขอ้ สรุปเกย่ี วกบั สิง่ ทจี่ ำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชวี ิตของพืช และสตั ว์ และวฏั จักร
ชีวติ ของพชื ดอกและสัตว์ในทอ้ งถิ่น และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตุผลเก่ียวกับ ความเหมาะสมของ
สภาพแวดลอ้ มกบั การดำรงชีวติ ของพืชและสัตว์จากหลกั ฐานท่ีรวบรวมได้ เลอื กรูปแบบการนำเสนอท่ี
เหมาะสมกบั ขอ้ มูลหรือให้น่าสนใจและนำเสนอด้วยภาษาที่เหมาะสมกับวยั รวมท้ัง ตระหนกั ถงึ สิ่งท่จี ำเป็นตอ่
การดำรงชวี ิตของพืชและสัตวโ์ ดยบอกแนวทางการดแู ลพชื และสัตว์ให้ เจรญิ เตบิ เตบิ โตและดำรงชีวิตอยใู่ น
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเลอื กใช้เคร่ืองมอื อย่างงา่ ยและลงข้อสรุปเกีย่ วกบั สังเกตร่วมกนั คน้ หาสง่ิ เจือปนท่ีพบ
ในอากาศ นำ้ และดิน จากการสงั เกตและใช้เครอ่ื งมอื อย่างง่าย และรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นอย่างมเี หตผุ ล
เพ่ือระบสุ าเหตุที่ทำให้อากาศ น้ำ และดิน เกิดการปนเป้อื นและ ผลกระทบท่ีอาจเกดิ ข้ึนตอ่ ตนเอง สง่ิ มีชีวติ
และสิ่งแวดล้อมจากหลักฐานท่ีรวบรวมได้รับผิดชอบตาม หน้าที่ที่ได้รบั มอบหมายในการรวบรวมข้อมูลเพ่อื หา
วิธกี ารลดขยะและส่ิงเจอื ปน แสดงความตระหนัก โดยนำเสนอแนวทางการลดปัญหาขยะและส่ิงเจอื ปนท่พี บใน
ดนิ นำ้ และอากาศท่สี ง่ ผลกระทบต่อตนเอง สง่ิ มีชีวิต และสงิ่ แวดลอ้ มสรา้ งคำอธบิ ายสาเหตกุ ารเกิด กลางวัน
กลางคนื โดยวิเคราะห์ ขอ้ มูลและใชห้ ลกั ฐานทร่ี วบรวม ไดจ้ ากแบบจำลองร่วมกนั ระดมความคิดเก่ียวกับเกิด
ปรากฏการณ์นโ้ี ดยวเิ คราะห์ ข้อมูลลักษณะของโลก การหมนุ รอบตวั เองของโลก รว่ มกนั วิเคราะห์ขอ้ มลู และ
แลกเปลยี่ นความคิดเห็นถงึ แบบจำลอง อธิบายสาเหตุการเกดิ กลางวัน กลางคืน โดยใช้แผนภาพหรอื อุปกรณ์
อย่างงา่ ยอยา่ งกระตอื รอื ร้นโดยความมุ่งมน่ั ในการเก็บรวบรวมข้อมลู และมีจิตวทิ ยาศาสตรแ์ ละมที ักษะ
กระบวนการกลุ่มในการทำงานสังเกต ตง้ั คำถามอธิบายการเกดิ ลมจากหลักฐานท่ี ไดจ้ ากแบบจำลอง หรอื จาก
ส่อื ต่าง ๆ โดยมคี วามรับผดิ ชอบตาม หนา้ ทท่ี ไ่ี ด้รับมอบหมายในการ รวบรวมหลักฐานตา่ ง ๆ นำเสนอ
เก่ียวกับผลของลมต่อ สิ่งมีชวี ติ และสิ่งแวดล้อม โดย เลือกส่ือท่ใี ชใ้ นการสอื่ สารให้ เหมาะสมกับบุคคล ระบุ
ความสามารถของตนเอง และเพื่อนได้บรรยายกจิ กรรม/งาน ทต่ี นเองและเพื่อน อาจต้องการความ
ช่วยเหลอื เพอื่ ทำใหส้ ำเรจ็ แสดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตุผลในการวางแผนการปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภยั จาก
วาตภัยและอทุ กภัย และสือ่ สารความเขา้ ใจเกีย่ วกบั แรงผลของแรงท่มี ีต่อวัตถตุ ่างๆทดลองเปรยี บเทียบสมบัติ
การดดู ซบั บำ้ ของวสั ดุชนดิ ต่างๆในชวี ติ ประจำวนั การเลือกใช้วัสดใุ นชวี ิตประจำวนั อย่างมีเหตุผล และมสี ว่ น
ร่วมใน การทำงานกับผู้อืน่ และรับผิดชอบตามหน้าทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมายในการประยกุ ต์ใช้ความรู้ แกป้ ญั หาอยา่ ง
ง่ายหรอื ทำกจิ กรรมในชีวิตประจำวนั อยา่ งมีขน้ั ตอน แสดงวิธีการหาคำตอบหรอื วธิ ี แก้ปัญหา ระบเุ หตผุ ลท่ี
นำไปสู่คำตอบ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องจากกจิ กรรมทท่ี ำ สรปุ ความเข้าใจ ของตน และแสดง ความคิดเห็นอยา่ ง มี

190

เหตผุ ลเกย่ี วกบั เรอ่ื งนั้นได้ จากการตง้ั คำถาม การฟงั / อ่าน ข้อมูลเร่ืองราว อธบิ ายเหตุผล และความเหมาะสม
ในการตัดสนิ ใจ ในเรอื่ งต่างๆ ในชวี ิตประจำวันของตนใชเ้ ทคโนโลยีดิจทิ ัลหรือแหลง่ เรียนรู้ในการสบื คน้ ขอ้ มลู
สรุปความเข้าใจจากข้อมูล สรา้ งของเลน่ หรือของใช้เพอื่ แก้ปญั หาตามความสนใจโดยรว่ มกันทำงานเปน็ ทีม
เลือกและใช้ สิ่งของเครือ่ งใช้ในชีวติ ประจำวนั ตามหนา้ ท่ีใช้สอยได้อยา่ งปลอดภยั โดย

โดยใช้สมมรรถนะหลักทางวทิ ยาศาสตรก์ ารสร้างคำอธบิ ายปรากฏการณ์ท่ีค้นุ เคย ไม่ซบั ซ้อน
โดยใช้หลักฐาน ทส่ี ังเกต หรอื ทดลองได้ เลอื กคำอธบิ ายทางวิทยาศาสตร์ท่ีสอดคล้องกบั หลักฐานที่มี สังเกต
ตั้งคำถาม ต้งั สมมติฐานและพยากรณ์ผล ทดสอบสมมติฐานและการพยากรณ์ ลงข้อสรุป เกย่ี วกับปรากฏการณ์
ทีค่ นุ้ เคย ไม่ซบั ซ้อน รวบรวมหลกั ฐานโดยการสงั เกตหรอื การทดลองอยา่ งง่าย ท่ปี ระกอบดว้ ยตวั แปรตน้ ตัว
แปรตาม และตัวแปรควบคมุ ม่งุ ม่นั ในการเกบ็ รวบรวมหลักฐานเพ่ือใช้อธิบายปรากฏการณ์ใชค้ วามรทู้ าง
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยใี นการปฏบิ ัตติ น ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวนั และอยูร่ ่วมกนั กบั ธรรมชาตไิ ด้อยา่ ง
เหมาะสม

เพือ่ ใหเ้ กดิ สมรรถนะหลกั ทั้ง 6 ด้านไดแ้ ก่ การจดั การตนเอง การคิดขั้นสงู การสอื่ สาร การ
ทำงานเปน็ ทีม การเปน็ พลเมืองที่เข้มแข็ง และการอยรู่ ่วมกันกับธรรมชาติและวทิ ยาการอย่างย่งั ยืน
ผลลัพธ์การเรียนรู้
LO1 LO2 LO3 LO4 LO5 LO6 Lo 7 LO8 Lo9 Lo10 Lo11


Click to View FlipBook Version