ปรสติ การตดิ ตอ่ -ตัวเต็มวยั จะมีรปู ร่างคลา้ ยใบไ
พยาธิใบไม้ตับ -กอ่ โรค ไปมาในสว่ นกลางลา้ ตวั อณั ฑะ
Opisthorchiasis -ในการตรวจวินจิ ฉัย จะตรวจห
Opisthorchis -สมั พนั ธ์กบั การเกิด × 11-12 ไมโครเมตร รูปร่างค
viverrini Cholangiocarcino (shoulder) และมีตุม่ เล็กๆ อย่ดู
ma
-ไดร้ ับตัวอ่อนระยะ
ตดิ ตอ่
(Metacercaria) จาก
เนอ้ื ปลาน้าจืดดบิ
เชน่ ปลาตะเพียน
ปลาขาว ปลาแก้มชา้
ปรสิตวทิ ยาทางการแพทย์ 140
การวินิจฉยั อื่นๆ
ไม้ สว่ นท้ายมนกว่าสว่ นหวั รังไขเ่ ปน็ แขนงมดลูกยาวขด
ะมี 2 อนั ลักษณะเปน็ ก้อน (lobe) อยสู่ ่วนท้ายของล้าตัว
หาไข่พยาธิในอุจจาระ ซึ่งไข่จะมีขนาดเล็ก ขนาด 22-32
คล้ายหลอดไฟ มีสีน้าตาลอมเหลือง มีฝาปิด มีไหล่
ดา้ นตรงข้ามฝา
ปรสิต การตดิ ตอ่ การวินิจฉัยจะเป็นการตรวจหา
พยาธใิ บไมล้ ้าไส้ -ได้รับ ลักษณะรูปไข่ ขนาด 130-140
Metacercaria ซึ่ง ปลายขา้ งหน่งึ มฝี าปดิ เลก็ ๆ ภาย
Fasciolopsis buski เปน็ ระยะติดต่อ ผา่ น
การกนิ พืชน้า ได้แก่
แหว้ กระจบั สายบวั
ผักบุ้ง ผักตบชวา
Strongyloides -เปน็ Facultative http://res.publicdomain
stercoralis parasite (พยาธทิ ี่ -พยาธิตวั อ่อนระยะ Rhabditif
สามารถเจรญิ เปน็ แหลมตรง ช่องปาก (buccal c
พยาธติ วั เตม็ วัยได้ทัง้ ขนาดใหญ่มองเหน็ ชดั เจน
ในและนอกรา่ งกาย
ของโฮสต์) http://res.publicdomain
-ติดตอ่ เกิดจากการ
ได้รับตัวออ่ นระยะท่ี
3 (Filariform larva)
ผ่านทางการไชผ่าน
ปรสติ วิทยาทางการแพทย์ 141
การวินิจฉัย อื่นๆ
าไข่พยาธิในอุจจาระ โดยไข่ Fasciolopsis buski จะมี
× 80-85 ไมโครเมตร เปลือกบาง มีสีเหลืองปนน้าตาล
ยในมพี ยาธิตวั อ่อนยงั ไม่เจรญิ เปน็ miracidium
nfiles.com/pdf_view/59/13533802221343.jpg
form larva จะมีลา้ ตัวเป็นทรงกลม เรียวยาว ปลายหาง
cavity) สน้ั ใกลก้ งึ่ กลางลา้ ตัวจะมี Genital primodium
nfiles.com/pdf_view/60/13539968416061.jpg
ปรสติ การติดต่อ
ผวิ หนัง -ตัวอ่อนระยะ Filariform larva
หางเรียวมแี ฉกเว้าเข้าไปเล็กน้อ
คือเปลอื กบางใส มีตวั อ่อนอยู่ภ
http://res.publicdomain
-ส้าหรับการวนิ จิ ฉยั ทางหอ้ งปฏ
larva โดยทั่วไปจะใชก้ ารตรวจด
จ ะ ท้ า ก า ร ต ร ว จ แ บ บ เ ข้ ม ข้ น
method) จะใหผ้ ลดีกว่า
ปรสติ วิทยาทางการแพทย์ 142
การวนิ จิ ฉัย อื่นๆ
a จะมีรูปรา่ งผอมเรยี วเลก็ หลอดอาหารเรยี วเลก็ ปลาย
อย (notched tail) ลักษณะไข่จะคลา้ ยกับพยาธิปากขอ
ภายใน
nfiles.com/pdf_view/45/13521806414129.jpg
ฏิบตั กิ าร จะเปน็ การตรวจอจุ จาระเพ่อื หา Rhabditiform
ด้วยวธิ ี Direct smear แตใ่ นกรณที ่ีพยาธิมีปรมิ าณน้อย
นหรือการเพาะเล้ียง เชื้อ (Harada-Mori’s culture
ปรสติ การตดิ ต่อ Necator americanus และ A
พยาธปิ ากขอ -ติดต่อสูค่ นผา่ นการ กนั (Hookworm egg) คอื มเี ป
ไชเข้าทางผิวหนัง 4-6 เซลล์ จงึ ต้องแยกกนั ที่ระยะ
(Hookworm) โดยเฉพาะเกษตรกร
-พบอาการทาง
- Necator ผวิ หนังบรเิ วณท่พี ยาธิ
americanus ไชเข้าผิวหนงั อาการ
- Ancylostoma ในปอด และอาการใน
duodenale ระบบทางเดนิ อาหาร
Enterobius -มีการตดิ โรคใน การวินิจฉัยจะใช้การตรวจหาไข
vermicularis ลกั ษณะของ Group เทปกาวใสด้านเหนียวแตะบริเว
(พยาธเิ ขม็ หมดุ ) infection พยาธิจะม้าน ventral แบนราบ
-ได้รบั ไข่พยาธเิ ขา้ สู่ “D” เปลือกไข่หนา เรยี บ ใส ไม
รา่ งกายผ่านทางปาก
จมูก และทวารหนัก
-โรค Enterobiasis
หรือ Oxyuriasis ซึ่ง
ปรสติ วิทยาทางการแพทย์ 143
การวนิ จิ ฉยั อื่นๆ
Ancylostoma duodenale จะมีลกั ษณะไข่คลา้ ยคลึง - ทา้ ให้เกิดการฉีกขาด
ปลือกบางใส รูปไขห่ วั ท้ายมน ภายในมีเซลลไ์ ขท่ แ่ี บง่ ตวั ของเยือ่ บุผนงั ลา้ ไส้ จึง
กอ่ ให้เกดิ ภาวะโลหติ จาง
ะตวั เต็มวัย ได้ (Iron deficiency
anemia)
ข่พยาธิโดยวิธี Scotch tape technique ซึ่งเป็นการใช้ การป้องกันการติดเช้ือ
วณรอบทวารหนักเพ่ือน้ามาหาไข่พยาธิ ลักษณะของไข่ พยาธิจึงท้าได้โดยรักษา
บ ในขณะท่ีด้าน dorsal โค้งนูน ดูคล้ายกับอักษรรปู ตัว สุขอนามัย รับประทาน
มม่ ีสี อาหารโดยใช้ช้อน ล้าง
มื อ ก่ อ น รั บ ป ร ะ ท า น
อาหาร ซักล้างเส้ือผ้า
เป็นตน้
ปรสิต การตดิ ต่อ
จะพบอาการคัน
บรเิ วณทวารหนักใน
เวลากลางคืน
https://upload.wikimedia.o
Capillaria -มีระยะติดตอ่ อยูใ่ น -การตรวจอุจจาระจะพบไข่พยา
philippinensis ล้าไสข้ องปลา ติดตอ่ น้าตาลอ่อน เปลอื กหนา มลี ายข
จากการรับประทาน ข้าง (Bipolar flattened plug
ปลาน้าจืดทปี่ รงุ ไม่สกุ
เชน่ ปลาไน ปลา
ตะเพยี นขาว
Gnathostoma -มี cyclops เปน็ -การวินิจฉัยจะดูจากลักษณะข
spinigerum First intermediate แถว มีรอยคอดท่ีส่วนหัวจึงเห็น
การวนิ ิจฉยั ปรสิตวทิ ยาทางการแพทย์ 144
อื่นๆ
org/wikipedia/commons/9/9d/Evermicularis_egg -อ า ก า ร ท่ี ส้ า คั ญ คื อ
_HBa.jpg อาการท้องโครกคราก
อุจจาระเป็นน้า ไม่มีมูก
าธทิ มี่ ีลักษณะคลา้ ยถั่วลสิ ง (Peanut shape) ไข่สี เลือด
ขีดขวาง (Pitted egg shell) และมจี กุ แบนใสทีข่ ัว้ ทั้ง 2
g)
ของพยาธิท่ีน้าออกมาจากผิวหนัง พบหัวมีหนาม 8-11 -อาการท่สี ้าคญั คือการ
นเป็นกระเปาะ ล้าตัวอ้วน ส้ัน สีแดงเรื่อ ล้าตัวค่อนข้าง ปวดบวมเคลื่อนที่
ปรสิต การติดตอ่
host ใส ในคนพบการรายงานของพ
-คนสามารถรับพยาธิ host จึงไมม่ ีการตรวจอุจจาระเ
จากการกินสตั วท์ เ่ี ปน็
ตวั กลางสุกๆดิบๆ
ไดแ้ ก่ ปลาน้าจดื กบ
งู เป็ด นก หนู ไก่
เปน็ ตน้
Wuchereria กอ่ ใหเ้ กิดโรคเทา้ ชา้ ง -ตัวอ่อนระยะ L3 จะมีขนาด 23
bancrofti (Lymphatic -อัตราส่วนความกวา้ งตอ่ ความย
filariasis) โดยมยี ุง -ลา้ ตัวเรยี งตัวพบั ไปพับมาไม่เป
เป็นพาหะ -Nucleus รูปร่างกลมหรอื รี แย
-ไมพ่ บ Nucleus 2 อนั บริเวณป
ปรสิตวิทยาทางการแพทย์ 145
การวินิจฉัย อื่นๆ
พยาธิตัวจ๊ีดเพียงชนิดเดียวคือ ซ่ึงคนเป็น accidental (Intermittent
เพ่อื การวินิจฉยั เนอ่ื งจากไม่สามารถพบไข่ในอุจจาระ migratory swelling)
เกดิ การอกั เสบ บวม
แดง เจบ็ จ๊ีดๆ คนั ตาม
ตา้ แหน่งที่พยาธิ
เคลอ่ื นทีไ่ ป อาการนเ้ี ปน็
ลักษณะเฉพาะของ
พยาธิ Gnathostoma
30-296 × 8-10 ไมโครเมตร
ยาวของช่องว่างบริเวณสว่ นหัว (Cephalic space) 1:1
ปน็ โคง้ สวยงาม
ยกหา่ งกันเห็นชัดเจน แตเ่ รียงไมถ่ งึ ปลายหาง
ปลายหาง (Terminal nuclei)
ปรสิต การติดต่อ
Brugia malayi https://upload.wikimedia.org/wik
-ตวั ออ่ นระยะ L3 จะมีขนาด 20
-อตั ราส่วนความกว้างตอ่ ความย
-ตวั พยาธมิ รี ปู โคง้ เป็นวงคอ่ นขา้
- Nucleus รปู รา่ งไม่แนน่ อน ข
-พบ Nucleus 2 อนั บริเวณปล
https://www.cdc.gov/pa
การวินิจฉัย ปรสติ วิทยาทางการแพทย์ 146
อื่นๆ
kipedia/commons/a/a9/Wuchereria_bancrofti_1_DPDX.JPG
00-275 × 5-6 ไมโครเมตร
ยาวของชอ่ งวา่ งบริเวณส่วนหัว (Cephalic space) 1:2
างกวา้ ง
ขนาดเล็ก กระจายซ้อนทับกนั
ลายหาง (Terminal nuclei)
arasites/images/lymphaticfilariasis/bmalayi.jpg
ปรสิต การตดิ ต่อ การวินจิ ฉัยจะเป็นการตรวจอุจจ
-Trophozoites ของเช้ือจะมี
Protozoa -เปน็ Pathogenic ลักษณะเป็นแบบลอ้ เกวียน (ca
amoeba โครมาตินขนาดเล็กเรียงตัวอย่า
Entamoeba -ก่อให้เกดิ โรค กนิ เข้าไปอยูใ่ น cytoplasm
histolytica Amoebic
(เช้ือบิดมตี วั ) dysentery
https://c1.staticflic
-Cysts จะมีรูปร่างกลมหรือรี ข
กรณีท่ีเป็น cysts ท่ีเพิ่งสร้าง อ
ลักษณะเปน็ แทง่ ใส ปลายทั้งสอ
https://upload.wikimedia.or
ปรสิตวิทยาทางการแพทย์ 147
การวินิจฉยั อื่นๆ
จาระเพอื่ หา Cyst หรอื Trophozoite -ผู้ป่วยถ่ายอุจาระเป็น
รูปร่างไม่แน่นอน ประกอบด้วยนิวเคลียส 1 อัน มี มกู เลอื ดและมีกล่ินเหม็น
art–wheel type) มี karyosome ขนาดเลก็ และมีก้อน เน่า
างสม้่าเสมอที่ขอบด้านใน อาจพบเม็ดเลือดแดงท่ีพยาธิ -อาจท้าให้เกิดฝีบิดที่
อวัยวะนอกล้าไส้ เช่น
ตบั ปอด และสมอง เป็น
ต้น
ckr.com/9/8263/8662296776_7cc31302fa.jpg
ขนาด 10-20 ไมโครเมตร มี 1-4 นิวเคลียส ผนังบางใส
อาจพบก้อนไกลโคเจน และ chromatoidal bar ซ่ึงมี
องข้างมนอยู่ภายใน
rg/wikipedia/commons/f/fa/Ehistdisp_cyst_wtmt.jpg
ปรสิต การติดต่อ -ระยะ Trophozoite จะมีนิวเ
Entamoeba coli -เปน็ ศูนย์กลาง (eccentric karyos
ของเยื่อหุ้มนิวเคลียสไม่สม้่าเส
Nonpathogenic จ้านวนมาก
amoeba
http://res.publicdomain
-ระยะ Cyst มี 1-8 นิวเคลียส
(mature cyst) และเป็นระยะ
karyosome อยู่ค่อนไปด้านใด
ซิสต์ท่ีอ่อนอยู่อาจพบ glycoge
ที่เกบ็ สะสมอาหาร มีลกั ษณะเป
https://upload.wikimedia.org/
ปรสติ วิทยาทางการแพทย์ 148
การวนิ จิ ฉัย อื่นๆ
เคลียสขนาดใหญ่ 1 นิวเคลียส มี karyosome อยู่เย้ือง
some) และมีการเรียงตัวของเม็ดโครมาตินตามขอบใน
สมอ (uneven) พบ vacuole อยู่ใน cytoplasm เป็น
nfiles.com/pdf_view/48/13523762418607.jpg
สข้ึนอยู่กับอายุของซิสต์ โดยระยะท่ีซิสต์เจริญเต็มที่
ะติดต่อของอะมีบาจะมี 8 นิวเคลียส นิวเคลียสจะมี
ดดา้ นหน่ึง การเรียงตัวของเม็ดโครมาตนิ ไม่สม้่าเสมอ ใน
en mass ขนาดใหญ่ และพบ chromatoid bar ซ่ึงเปน็
ป็นแทง่ สีดา้ ยาว เรียว ปลายแหลมเป็น
/wikipedia/commons/d/d8/Entamoeba_coli_cysts.jpg
ปรสิต การตดิ ต่อ ตรวจอุจจาระพบระยะ tropho
Giardia lamblia กนิ ระยะ cyst ท่มี ี 4 จะเห็นการเคลอ่ื นไหวของ tro
-ระยะ trophozoite เม่ือย้อม
นวิ เคลยี ส ซงึ่ เป็น ด้านหางเรียวแหลม นิวเคลียส
มีหนวด (flagella) 4 คู่ มี med
ระยะตดิ ตอ่
https://farm8.staticflic
-ระยะ cyst เมื่อย้อมด้วย iod
อุจจาระใหม่ๆ จะมีนิวเคลียส
เห็นนิวเคลียสไม่ชัด เห็น axone
https://encryptedtbn0.gstat
mOwL8sqDJ
ปรสติ วิทยาทางการแพทย์ 149
การวนิ ิจฉยั อื่นๆ
ozoite หรอื ระยะ cyst ถ้าดสู ดๆ โดยใช้นา้ เกลือนอร์มัล
ophozoite แบบใบไมร้ ่วง (Falling leaf movement)
ด้วยสี Giemsa จะพบลักษณะปลายด้านหน้ากลมมน
2 อัน karyosome ใหญ่ ไม่มี peripheral chromatin
dian body(parabasal body) เป็นแทง่ โคง้ 2 อนั
ckr.com/7204/6912948227_6ac50f3d8b.jpg
dine เห็นสีเหลืองหรือสีน้าตาลอ่อน เม่ือออกมากับ
2 อัน ถ้าcyst ท่ีเจริญเต็มท่ีจะมีนิวเคลียส 4 อัน ในรูป
eme ผ่านตามยาว
atic.com/images?q=tbn:ANd9GcQv1mB3NIofArK0_
Joq9RMV_9dlOn1J9c7EUXS6WdF8
ปรสติ การตดิ ตอ่ การวินิจฉยั จะเปน็ การตรวจพบ
-ก่อโรค ปสั สาวะ มลี กั ษณะ
Trichomonas Trichomoniasis กลม มี undulating membra
vaginalis -ตดิ ต่อโดยการมี เส้นชัดเจนอยู่ดา้ นหัว มนี วิ เคล
เพศสัมพันธ์หรือใช้ ตดิ สเี ขม้ ปลายแหลมย่ืนเลยส่ว
ของร่วมกนั เชน่ แบบกระตกุ (jerking moveme
ผา้ ขนหนู ผา้ เชด็ ตัว
เปน็ ต้น
ปรสิตวทิ ยาทางการแพทย์ 150
การวนิ จิ ฉยั อื่นๆ
บระยะ trophozoite จาก vaginal swab หรือจาก -ผู้ติดเช้ือจะมีอาการคัน
ท่ี ช่ อ ง ค ล อ ด อ า จ มี
ane เปน็ แผน่ บางยาวประมาณคร่งึ ตวั มหี นวดเห็นเปน็ อาการปัสสาวะแสบขัด
ลยี สรูปร่างกลมใหญ่ติดสมี ่วง 1 อัน เหน็ axostyle ชัด ห รื อ มี ต ก ข า ว ผิ ด ป ก ติ
วนทา้ ยออกไป โดย trophozoite จะมีการเคล่อื นไหว เช่น ตกขาวสีเหลือง
ent) หรือสีเขียว หรือมีกล่ิน
เหมน็ เปน็ ต้น
ปรสติ วิทยาทางการแพทย์ 151
เอกสารอา้ งอิง
1. Eric S. Loker, Bruce V. Hofkin. Parasitology: A Conceptual Approach. 1 st edition.
Garland Science, 2015.
2. Larry S. Roberts, John Janovy and Steve Nadler. Foundations of Parasitology.
McGraw Hill. USA. 2013.
3. ชโลบล วงศส์ วัสดิ์. ปรสติ วทิ ยา. ธนภณการพิมพ.์ กรุงเทพฯ. 2555
4. ชูเกียรติ ศิริวิชยกุล, ศรชัย หลูอารีย์สุวรรณ, ประยงค์ ระดมยศ ต้าราปรสิตวิทยาทางการแพทย์
พมิ พ์คร้ังท่ี 2. กรงุ เทพฯ: เมดิคลั มีเดยี , 2549.
5. ประยงค์ ระดมยศ และคณะ . Atlas of Medical Parasitology. พมิ พค์ รง้ั ที่ 7. กรุงเทพฯ: ที.
พี.พร้ินท์, 2549.
6. สุภัทร สุจริต. กีฏวิทยาทางการแพทย์. ภาควิชากีฏวิทยาทางการแพทย์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน
มหาวทิ ยาลัยมหิดล : พศิ ษิ ฐการพิมพ์, 2531.
7. รศ.ดร.นพ.คม สุคนธสรรพ์ คณะแพทยศาสตร์ ภาควิชาปรสิตวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. โรค
บิดมีตัว. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.med.cmu.ac.th/dept/parasite/public
/amoebiasis.htm.
8. ภาควชิ าปรสติ วิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. โรคหดิ (Scabies). [ออนไลน]์ .
เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://parasitology.md.chula.ac.th/th/index.php/80-2013-03-29-04-37-
53/93-scabies.
เคมีคลนิ ิก เคมีคลินกิ 152
สยมภู สงวนสทิ ธิอนันต์
ประมวลความร้ทู างเคมคี ลินิก
1. น้าสารละลาย 100 µl มาเจือจางดว้ ย NSS 500 µl จากนั้นน้าสารละลายทเ่ี จือจางแล้วปริมาตร
50 µl มาเจอื จางอีกคร้ังดว้ ย NSS 50 µl dilution factor สุดท้าย ของสารละลายนค้ี อื เทา่ ใด
ก. 1:10 ข. 1:12 ค. 1:20 ง. 1:110 จ. 1:120
ตอบ ข. 1:12
dilution factor หาได้จาก ปริมาตรของสารต้งั ต้นต่อปรมิ าตรสารท้ังหมดที่เจอื จางแลว้
▪ สารละลาย 100 µl ถูกเจือจางดว้ ย NSS 500 µl
- มี dilution factor คอื 100:(500+100) = 100:600 = 1:6
▪ เจอื จางอกี คร้ังโดยน้าสารละลายทเี่ จอื จางแล้ว 50 µl มาเจือจางดว้ ย NSS 50 µl
- มี dilution factor คอื 50:(50+50) = 50:100 = 1:2
*dilution factor ครง้ั แรกคือ 1:6 dilution factor ครั้งท่ีสองคอื 1:2
ดงั นน้ั dilution factor สดุ ท้าย (รวม) คือ 1x1:6x2 = 1:12
2. ต้องการเตรียม 2.5 M CuSO4 (mw = 160) ปริมาตร 500 ml ตอ้ งชั่ง (CuSO4,5H2O) (mw =
250) กกี่ รัม
ก. 256 ข. 420 ค. 312.5 ง. 625 จ. 128
ตอบ ค. 312.5
เตรียม 2.5 M CuSO4 ปรมิ าตร 0.5 l ตอ้ งใช้ CuSO4 2.5mol/l x 0.5l = 1.25 mol
ตอ้ งช่ัง (CuSO4,5H2O) 1.25 mol (MW 250 คือ 1mol หนกั 250g) = 250g/mol x 1.25mol
= 312.5g
3. เจือจาง Creatinine 1:20 วัดการดดู กลืนแสงของปสั สาวะได้ 0.25 โดยความเข้มข้นมาตรฐานได้
2 mg/dl และค่าการดดู กลืนแสง 0.2 จงหาความเขม้ ขน้ ของปัสสาวะ
ก. 0.025 mg/dl ข. 30 mg/dl ค. 50 mg/dl ง. 100 mg/dl จ. 150 mg/dl
ตอบ ค. 50 mg/dl 2×0.25
0.2
CU = × = = 2.5 mg/dl
ถูกเจอื จาง 1:20 ดังนน้ั ความเขม้ ขน้ เดมิ = 2.5 x 20 = 50 mg/dl
4. NaOH ความเขม้ ขน้ 20 mg/dl จะมคี วามเขม้ ขน้ เทา่ ไหรในหน่วย mmol/l ( MW NaOH = 40)
ก. 0.05 ข. 0.5 ค. 5 ง. 500 จ. 50
ตอบ ค. 5
เคมีคลินิก 153
NaOH 20 mg/dl = 20 mg/0.1l = 200mg/l
NaOH 200 mg คดิ เป็น = 200/40 mmol = 5 mmol (น้าหนกั g/MW)
ดงั นัน้ NaOH 20 mg/dl = 5 mmol/l
5. ละลาย Na2SO4 142 กรมั ในตวั ท้าละลาย 1 ลติ ร จงหา Molarity & Normality ของ
สารละลาย Na2SO4 (MW : Na = 23, S = 32, O = 16)
ก. 1 M 1 N ข. 1 M 2 N ค. 2 M 2 N ง. 2 mM 2 N จ. 1 mM 1 N
ตอบ ข. 1 M 2 N
โมล (mole) เทา่ กบั มวลของสาร (หน่วยเปน็ กรัม) ทีม่ คี ่าเท่ากับมวลโมเลกุล (MW) ของสาร
Na2SO4 มี MW = (23x2) + 32 + (16x4) = 142 ดังน้นั Na2SO4 1 โมล หนัก 142 g
Molarity, Molar concentration. Molar, M, mol/l, mol/dm3 คอื จ้านวนโมลของตวั ถูก
ละลายทม่ี ใี นสารละลาย 1 ลูกบาศกเ์ ดซิเมตร (ลติ ร)
ดงั นัน้ Na2SO4 142 กรัม ในตัวทา้ ละลาย 1 ลติ ร เทา่ กับ 1 โมลในตัวทา้ ละลาย 1 ลติ ร = 1 mol/l
ดังน้นั Na2SO4 142 กรมั ในตวั ทา้ ละลาย 1 ลิตร จงึ มี Molarity = 1 mol/l หรือ 1M
Normality (N, Eq/l) = Molarity(M) x number of equivalents(n)
ในกรด n = จา้ นวน H+ ทีแ่ ตกตัว
ในเบส n = จา้ นวน OH- ท่ที ่ีแตกตัว
ในเกลือ n = จา้ นวนประจบุ วกรวม หรอื ประจลุ บรวม
จา้ นวนประจบุ วก 1(+) x 2 (Na มี 2 โมเลกุล) หรือประจลุ บ 2(-) ดังนนั้ n = 2
Normality ของ Na2SO4 142 กรมั = 1M x 2 =2N
6. สารละลายชนิดหนึ่ง มีความเข้มข้นของแมกนีเซียม 2.1 mg/dl จงหาความเข้มข้นของ
แมกนีเซยี มในหนว่ ย mEq/l
ก. 0.173 ข. 0.8 ค. 1.73 ง. 3.46 จ. 4.2
ตอบ ค. 1.73 2.1 (MW = 24.305, 1 dl = 0.1 l)
Mg2+ 2.1 mg/dl = 24.305×0.1mmol/l
≈ 0.864 mmol/l
mN (mEq/l) = mM (mmol/l) x number of equivalents(n)
(ประจุ 2+ number of equivalents = 2)
≈ 0.864 mmol/l x 2 ≈ 1.728 ≈ 1.73 mEq/l
เคมคี ลนิ กิ 154
7. สารละลาย HCl ปริมาตร 2.5 L, Mw 36.5, Specific gravity = 1.20, %assay = 36.5%
ต้องการเจือจางสารละลาย 1M HCl ปริมาตร 100 ml ตอ้ งใช้สารละลาย HCl ปรมิ าตรเทา่ ใด
ก. 83.33 ข. 33.33 ค. 11.11 ง. 8.33 จ. 3.33
ตอบ ง. 8.33
Specific gravity 1.20 หมายความวา่ สารละลาย HCl ปรมิ าตร 1 ml หนกั 1.20 g
% assay คือ ความบรสิ ทุ ธ์ิของสารนนั้ คดิ ต่อปริมาตร กล่าวคอื สารละลาย HCl มี % assay =
36.5 % แปลวา่ ในสารละลาย 100 ml มี HCl อยู่ 36.5 ml
คา้ นวณหาความเขม้ ข้นกอ่ น โดย
สารละลาย HCl 1 ml มมี วล = 1.201×0036.5g
สารละลาย HCl 1 l (หรือ 1000 ml) มีมวล = 1.20×3160.05×1000g
ความเขม้ ข้น (Molarity, M) = จ้านวน mole/l = มวล/MW ในปริมาตร 1 l
ดงั นัน้ ความเขม้ ขน้ ของสารละลาย HCl ตง้ั ต้น =1.2100×0×36 .5 × 1 000M
=1.201×003×6.53×6.51000M
= 12 M
ดงั น้ัน สตู รท่ีใชค้ ้านวณ Molarity คือ % × . .×10
จากน้ันจึงหาความเขม้ ข้นและปริมาตรในการเตรยี มสารละลายโดยใชส้ ูตร C1V1 = C2V2
*ต้องการเตรยี มสารละลาย HCl ความเข้มข้น 1 M (C2) ปริมาตร 100 ml (V2)
จากสารตง้ั ต้น HCl ตั้งตน้ ความเขม้ ขน้ 12 M (C1) ต้องใชป้ ริมาตร (V1) เทา่ ใด
12 M x V1 = 1 M x 100 ml
V1 = 1 ×100 = 8.33 ml
12
8. ขอ้ ใด คอื ขอ้ ดีของ Bichromatic spectrophotometry
ก. วัดได้ 2 การทดสอบ ข. เพม่ิ sensitivity ค. ลดปญั หาการรบกวนจาก Hemoglobin
ง. ใชเ้ วลาส้นั ลง จ. ลดปญั หาไฟฟ้าไมค่ งท่ี
ตอบ ค. ลดปัญหาการรบกวนจาก Hemoglobin
ระบบการวดั 2 ความยาวคลน่ื (bichromatic measurement system) ใช้ความยาวคลื่นอัน
แรกส้าหรับวัดค่าการดูดกลืนแสงสูงสุดของสารที่ตองการวิเคราะห และใชความยาวคลื่นอันท่ีสอง
เคมคี ลนิ กิ 155
ส้าหรับวัดการดูดกลืนแสงของสารรบกวนท่ีปนอยูในสารตัวอยางที่ท้าการวิเคราะห์ หลังจากนั้นจึง
น้าคาการดูดกลืนแสงของสารรบกวนมาลบออกจากคาการดูดกลืนแสงของสารตัวอยาง ซึ่งจะท้าให
ไดคาการดดู กลนื แสงเฉพาะทเี่ กดิ จากสารทต่ี องการวิเคราะห์
9. ข้อใด คือวัตถุประสงค์ของการใช้ reagent blank ในการวิเคราะห์ spectrophotometric
analysis
ก. correct สี reagent ข. correct การรบกวนจาก lipimic ค. correct สีของสารรบกวน
ง. correct การรบกวนจาก protein จ. ปรบั ค่า %0 transmittance
ตอบ ก. correct สี reagent
เพื่อตัดค่าการดูดกลืนแสงของสีอ่ืนๆ ในน้ายาที่อาจรบกวนในช่วงความยาวคล่ืนที่ท้าการตรวจ
วิเคราะห์
10. หากต้องการตรวจวดั ผลผลติ ของปฏกิ ิรยิ าทีไ่ ดเ้ ป็น NADH ต้องตรวจวดั ค่าดูดกลนื แสงทค่ี วาม
ยาวคล่ืนเท่าใด
ก. 260 ข. 340 ค. 405 ง. 500 จ. 650
ตอบ ข. 340
ปฏิกิริยาที่ไดผ้ ลผลิตเป็น NADH เกิดจากปฏิกิริยาที่ NAD+ → NADH ซ่ึง NADH มีการ
ดูดกลนื แสงท่ีความยาวคลน่ื 260 nm และ 340 nm ในขณะที่ NAD+ มีการดดู กลนื แสงทคี่ วามยาว
คลื่น 260 nm แตไ่ มม่ ีการดูดกลนื แสงท่ี 340 nm การตรวจวัดท่ี 340 nm จงึ เป็นการตรวจวัดการ
ดดู กลืนแสงของ NADH โดยไม่ถูกรบกวนจาก NAD+
https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/74/MichaelisMenten_plot_uncompetitive_inhi
bition.svg/1280px-MichaelisMenten_plot_uncompetitive_inhibition.svg.png
11. ช่วงความยาวคลน่ื ใด เป็นความยาวคลน่ื ของแสงทส่ี ามารถมองเห็นไดด้ ้วยตาเปล่า
ก. 200- 700 nm ข. 340- 850 nm ค. 400- 800 nm
ง. 500- 900 nm จ. 600- 900 nm
เคมีคลินิก 156
ตอบ ค. 400- 800 nm
แสงที่สามารถมองเห็นได้ หรอื Visible light คือช่วงแสงทอี่ ย่รู ะหว่างแสง Ultraviolet และ แสง
Infrared โดยแสง Ultraviolet จะมีความยาวคลนื่ อยู่ในช่วง 10 - 400 nm (หรือ 380 nm แลว้ แต่
ต้ารา) และแสง Infrared จะมีความยาวคลื่นอย่ใู นช่วง 800 - 1000 nm (หรือเริ่มที่ 700/750 nm
แลว้ แตต่ ้ารา) ดงั น้ัน Visible light จงึ เป็นแสงทีม่ คี วามยาวคลื่นอยรู่ ะหว่าง 400- 800 nm
12. เคร่ืองวเิ คราะห์อัตโนมัติ มกี ารตรวจการทดสอบเชน่ glucose BUN creatinin ใชเ้ วลาในการ
ทดสอบ 12 วนิ าที ต่อ 1 การทดสอบ ให้คา้ นวณ total test ที่สามารถทดสอบไดภ้ ายใน 1 ชม.
ก. 50 ข. 120 ค. 250 ง. 300 จ 350
ตอบ ง. 300
ปรมิ าณงานที่ทา้ ในช่วงเวลาหนึ่ง (Throughput) ที่ไดใ้ น 1 ชม. หรอื 3600 วินาที
ดงั น้ัน Throughput = 1/12 test/s x 3600 s = 300 tests
13. ขอ้ ใด คือสาเหตุท่ีท้าให้ control chart มลี ักษณะ shift
ก. เปล่ยี นนา้ ยาที่ใชใ้ นการทดสอบ ข. Calibrate เส่ือมสภาพ ค. มกี ารระเหยของน้ายา
ง. หลอดไฟของ photometer เสื่อม จ. นา้ ยาทใี่ ชใ้ นการทดสอบเสื่อมสภาพ
ตอบ ก. เปล่ยี นน้ายาที่ใช้ในการทดสอบ
การเปล่ียนแปลงของ control chart แบบ shift มีลักษณะ การเปลี่ยนแปลงค่าของสาร
ควบคุมเพ่ิมขึ้นหรือลดลงอย่างเห็นได้ชัดในทันทแี ละคงความเปลีย่ นแปลงเช่นน้นั ติดต่อกัน เกิดจาก
การเปล่ียนแปลงในกระบวนการตรวจวิเคราะห์ในทันที เช่น การเปล่ียนน้ายาท่ีใช้ทดสอบ การ
เปลยี่ น lot ของสารควบคุมคณุ ภาพ การเปล่ยี นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจวเิ คราะห์
การเปลี่ยนแปลงของ control chart แบบ trend การเปลี่ยนแปลงค่าของสารควบคุมจะ
ค่อยๆเพิ่มข้ึนหรือลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในทศิ ทางเดยี วกันติดต่อกัน เกิดจากความเส่ือมของส่ิง
ต่างๆในกระบวนการตรวจวเิ คราะหท์ า้ ใหค้ า่ ทไี่ ด้ค่อยๆเปล่ียนแปลงไป เชน่ การเส่อื มของนา้ ยาต่างๆ
ไมว่ า่ จะเปน็ น้ายาตรวจวเิ คราะห์ สารควบคมุ คุณภาพ calibration reagent การระเหยของน้ายาที่
ท้าให้ความเข้มข้นคอ่ ยๆเปลีย่ นแปลงไป การคอ่ ยๆเสอื่ มสภาพของอปุ กรณ์ตา่ งๆ
การเปลี่ยนแปลงของ control chart แบบ (A) shift และ (B) trend
เคมคี ลินกิ 157
14. Pre-analytic ข้อใด ไม่ ทา้ ให้ค่า K+ สงู
ก. ปน่ั เลือดแรงเกินไป ข. มีการ hemolysis ของ RBC
ค. ใช้ K2oxalate เป็นสารกันเลอื ดแขง็ ง. แช่เลอื ดไว้ในตเู้ ยน็ นานเกนิ ไปก่อนปน่ั แยก
จ. ใช้ standard หรอื calibrator ท่มี คี วามเขม้ ขน้ สงู
ตอบ จ. ใช้ standard หรือ calibrator ทมี่ คี วามเข้มข้นสงู
K+ เป็น major intracellular cation มีมากในเซลล์ ดังนั้นเมื่อมีการท้าลายของเซลล์ เช่น
hemolysis จะท้าให้ค่า K+ สูงข้ึน การปั่นเลือดแรงเกินไปหรือเก็บไว้ในตู้เย็นนานเกินไปก็ทา้ ให้เกิด
hemolysis ได้
สารกันเลือดแข็งชนิดท่ีมี K ผสมอยู่ เช่น K2oxalate, K2EDTA ก็ท้าให้ค่า K+ สูงขึ้นจากการ
ปนเป้อื นของ K+ ในสารกันเลอื ดแขง็
การใช้ standard หรอื calibrator ที่มคี วามเขม้ ขน้ สงู ไมเ่ กี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของค่าสาร
ที่ตรวจวัด เน่ืองจากความเข้มข้นสูงขึ้นค่าดูดกลืนแสงของ standard ก็สูงขึ้นตามเช่นกัน หรือหาก
standard มีความเข้มข้นมากข้ึนโดยเราไม่ทราบ เช่น มีการระเหย ฯลฯ ท้าให้เราค้านวณโดยใช้ค่า
ความเข้มข้นเท่าเดิมแต่ได้คา่ ดูดกลืนแสงสูงข้ึน ก็ไม่ท้าให้ได้ค่าของ unknown เพ่ิมข้ึน แต่จะลดลง
เช่น เดิม Std. เข้มข้น 5 mg/dl วัด A ได้ 0.500 ส่วน Unk. วัด A ได้ 0.300 Unk. จะเข้มข้น 3
mg/dl หาก Std. เข้มข้นข้ึนแต่เราเข้าใจว่ามันเป็น 5 mg/dl ดังเดิม จะวัด A ได้สูงข้ึน เช่น 0.750
เมอื่ ค้านวณ Unk. จะเขม้ ขน้ 2 mg/dl ซึ่งลดลง
15. ผลการวิเคราะห์ control ในข้อใดถอื เปน็ out of control
ก. มคี า่ control 3 คา่ ติดกนั อยใู่ นชว่ ง mean+1SD
ข. มีคา่ control 4 ค่าค่อยๆเพิ่มขึ้นในช่วง mean+1SD
ค. มีค่า control 1 คา่ เกนิ mean±2SD แต่ไม่เกิน mean ±3SD
ง. มีค่า control 2 ค่าติดกันมากกว่า mean+2SD หรอื น้อยกวา่ mean-2SD
จ. มคี ่า control 1 คา่ เกิน mean+1SD และ control 1 คา่ เกิน mean-1SD
ตอบ ง. มคี า่ control 2 ค่าตดิ กันมากกวา่ mean+2SD หรือนอ้ ยกวา่ mean-2SD
Westgard Multirule: 1-2S เปน็ warning, out of control เมือ่ เป็น 1-3S, 2-2S, R-4S,
4-1S, 10X
ก. เป็น 1-2S ถอื เป็น warning
ค. ง. และ จ. อยู่ในชว่ ง +1SD ไม่ตอ้ ง reject นอกจากอยูฝ่ ่งั หนึง่ ของ mean ติดกนั 10 ค่า (10X)
ง. เป็น 2-2S ถอื เป็น out of control
เคมคี ลนิ ิก 158
16. ผลการประเมนิ Diagnostic reference โดยใชเ้ อนไซม์ CK-MB ในการวนิ ิจฉยั โรค Myocardial
infraction มี sensitivity เทา่ กับขอ้ ใด
เป็นโรค ไมเ่ ป็นโรค รวม
CK-MB > 25 U/L 48 47 95
CK-MB ≤ 25 U/L 2 903 905
รวม 50 950 1,000
ก. 50.5% ข. 49.5% ค. 95.1% ง. 96.0% จ. 99.8%
ตอบ ง. 96.0%
ผูท้ ่ีปว่ ยเปน็ โรคทงั้ หมด 50 ราย ประกอบด้วย
▪ True Positive ผลบวกจรงิ = 48 ราย, False Negative ผลลบปลอม = 2 ราย
ผทู้ ปี่ กตไิ มเ่ ป็นโรคท้งั หมด 960 ราย ประกอบด้วย
▪ True Negative ผลลบจรงิ = 903 ราย, False Positive ผลบวกปลอม = 47 ราย
ความไว (sensitivity) หรือ อัตราผลบวกจริง (true positive rate) คอื สัดส่วนของผลบวกจริงในคน
ทป่ี ่วยเป็นโรค = × 100= 48 × 100 = 96%
+ 48+2
สว่ นค่าสถติ ิอน่ื ๆ ที่ใชป้ ระเมินประสิทธภิ าพของการทดสอบ คอื
ความจา้ เพาะ (specificity) หรือ อตั ราผลลบจรงิ (true negative rate) คือสัดสว่ นของผลลบจริง
ในคนท่ีปกติไม่เป็นโรค = × 100
+
= 903 × 100 = 95.1%
903+47
คา่ ทา้ นายผลบวก (positive predictive value, PPV) ซึง่ เป็นอตั ราส่วนของผลบวกจริงต่อค่ารวม
ของผลบวกจรงิ กับผลบวกปลอม คือเป็นสัดส่วนของผลบวกจริงต่อประชากรทแ่ี สดงผลบวก
× 100= × 100 = 48 = 50.5%
+ 48+47
คา่ ท้านายผลลบ (negative predictive value, NPV) ซ่ึงเป็นอตั ราสว่ นของผลลบจริงต่อค่ารวม
ของผลลบจริงกับผลลบปลอม คือเป็นสัดสว่ นของผลลบจรงิ ตอ่ ประชากรท่แี สดงผลลบ
= × 100 = 903 × 100 = 99.8%
+ 903+2
เคมีคลินิก 159
17. จากกราฟ QC cholesteral ถา้ ใชก้ ฏ Multirule จะตอ้ ง Reject ก่วี ัน ที่ 2-2S
https://www.westgard.com/images/stories/mrf4.gif
ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 จ. 5
ตอบ ข. 2
กฎ 2-2S มคี า่ control 2 ค่าตดิ กนั มากกวา่ mean+2SD หรอื น้อยกว่า mean-2SD สามารถ
ใช้ได้กับ "within a material and across runs" หรือก็คือ ใช้กับค่าของสารควบคุมคุณภาพตัว
เดียวกนั สองค่าติดกัน หรอื ใช้กบั คา่ ของสารควบคมุ คุณภาพคนละตวั กันที่วดั คา่ ตดิ กัน เชน่
- ในการวดั ค่า QC ครงั้ ท่ี 3 ท้ัง QC คา่ สูงและคา่ ตา้่ ไดค้ า่ มากกว่า mean+2SD ท้ังคู่ จึง reject
การรนั ครง้ั นี้
- ในการวัดค่า QC ครัง้ ท่ี 10 ทัง้ QC คา่ สูงไดค้ า่ นอ้ ยกว่า mean+2SD เปน็ ครัง้ ท่ีสองติดกนั จึง
reject การรันคร้ังนี้
รวมทงั้ หมดจงึ มีการ reject เพราะ 2-2S จา้ นวน 2 คร้ัง
เคมคี ลนิ กิ 160
18. ในการตรวจวดั Creatinine ในคนสขุ ภาพดี 300 ราย พบว่า
Mean =1, SD = 0.2, Min 0.1, P2.5 = 0.7, P97.5 = 1.4
การกระจายข้อมลู เป็นแบบ Non normal distribution จงหาคา่ อา้ งองิ ของการตรวจวดั น้ี
ก. 0.2-1.6 ข. 0.6-1.4 ค. 0.7-1.4 ง. 0.8-1.2 จ. 0.9-1.2
ตอบ ค. 0.7-1.4
การก้าหนดคา่ reference range
- ถ้าขอ้ มูลกระจายตวั ไมป่ กติ 2.5 Percentile – 97.5 Percentile
- ถ้ากระจายปกตจิ ะใช้ Mean ± 2SD
19. %CV จะมีค่าเท่าใด เมื่อวัดค่า glucose 20 คร้ัง ได้ค่าเฉลี่ย 200 mg/dl และส่วนเบ่ียงเบน
มาตรฐาน 8 mg/dl
ก. 8 ข. 6 ค. 4 ง. 0.04 จ. 0.4
ตอบ ค. 4 8
200
%CV = . . × 100 = × 100 = 4%
20. shewhart chart ถ้ามี mean = 100 mg/dl ของ glucose ค่า SD = 5 แต่มองผดิ plot เป็น
mean = 150 mg/dl แล้วท้าวนั ตอ่ ไปกราฟจะมลี กั ษณะอยา่ งไร
ก. Downward shift ข. Downward trend ค. Downward shift and trend
ง. Upward trend จ. Upward shift
ตอบ ก. Downward shift
เคมีคลินิก 161
เมื่อวันแรก plot ผดิ เป็นค่า mean = 150 mg/dl แลว้ วันต่อมาเมื่อทา้ หากถกู ต้องจะได้ค่า
ใกลเ้ คยี งกบั คา่ mean จริงๆคอื 100 mg/dl ท้าใหใ้ นกราฟค่าตกลงมากว่าเดมิ อย่างรวดเรว็ เปน็
การเกดิ กราฟในลักษณะ Downward shift
21. คนไข้ ICU ตรวจ glucose BUN Creatinine electrolyte ตอ้ งการตรวจแบบ stat (เรง่ ดว่ น)
ส่งิ สง่ ตรวจใดเหมาะสม
ก. Lithium heparin ข. Clotted blood ค. 3.2 % sodium citrate ง. NaF จ. EDTA
ตอบ ก. Lithium heparin
- sodium citrate, NaF, EDTA ไม่สามารถใช้ตรวจ electrolyte ได้ เนื่องจากมีส่วนผสมของ
Na หรอื K อยู่
- Lithium heparin, Clotted blood สามารถใช้ได้กับทุกรายการตรวจที่กล่าวมา แต่หลอด
Lithium heparin สามารถนา้ มาตรวจได้เลยโดยไม่ต้องรอ clotting time ดงั นั้นสิ่งสง่ ตรวจที่
เหมาะสมกบั การตรวจแบบเร่งด่วนมากท่ีสุด คอื Lithium heparin
22. ข้อใดกล่าว ถกู ตอ้ ง ในการตรวจวัด activity ของ enzyme kinetic
ก. วดั เม่ือ substrate สมดุลกบั enzyme ข. วัดทจ่ี ุดส้นิ สุดปฏิกิรยิ า
ค. ขน้ึ กบั ความเขม้ ขน้ ของ substrate ในสารละลาย ง. วัดท่ี zero order
จ. ไม่ข้ึนกบั ปรมิ าณ coenzyme ในปฏิกิริยา
ตอบ ง. วดั ท่ี zero order
การตรวจวัด activity ของ enzyme kinetic เป็นการตรวจวัดการท้างานของเอนไซม์ขณะ
เกิดปฏิกิริยา จึงท้าการวัดขณะท่ีปฏิกิริยาก้าลังด้าเนินไป ซ่ึงจะต้องมี substrate และ coenzyme
ที่มากเกินพอ ท่ีจะท้าให้เอนไซม์เกิดอัตราเร็วสูงสุด (Vmax) คืออยู่ในช่วง zero order kinetic
การตรวจวัดจะตรวจวัดปรมิ าณของ substrate หรือ coenzyme ทีล่ ดลง หรอื ตรวจวัดปรมิ าณของ
product ทีเ่ พิม่ ข้นึ
23. หา enzyme activity ที่ 37 องศาเซลเซียส โดยวัดการดูดกลืนแสงที่ 340 nm ทุก 1 นาที ได้
คา่ A1 = 0.640 A2 = 0.620 A3 = 0.600 ก้าหนด sample volume 100 µl , reagent volume
1 ml, light path length 1 cm. กา้ หนด molar absorptivity ของ NADH 6.22 x 103 L/mol.cm
ก. 3.2 U/L ข. 35 U/L ค. 3.5 U/L ง. 32 U/L จ. 325 U/L
ตอบ ข. 35 U/L
A/min × Vt × 106
Enzyme activity = × × Vs
Vt = Total volume Ε = Molar absorption of colored complex
L = Length path (cuvette) Vs = Sample volume
เคมีคลินิก 162
106 สา้ หรับการเปล่ียน mol/L เป็น U/L
0.040/2 × 1100 × 106
Enzyme activity = 6.22 × 103 × 1 × 100
= 35.4 ≈ 35 U/L
24. ในการตรวจวัดระดับไตรกลีเซอไรด์ ด้วยวิธี Enzymatic End point assay มีข้อมูลดังน้ี
Wavelength 500 nm, Incubation time 5 min, Linearity 800 mg/dL, control accept run
ถ้าตรวจวดั ในตวั อยา่ งได้คา่ 1600 mg/dL นกั เทคนคิ การแพทย์ควรทา้ อยา่ งไร
ก. รายงานผลได้เลย
ข. ตรวจสอบดูวา่ ส่งิ สง่ ตรวจเหมาะสมหรอื ไม่
ค. ตรวจซ้าอีกครง้ั หากได้คา่ ปกติ สามารถรายงานผลได้
ง. ใชป้ รมิ าตรตวั อยา่ งลดลงคร่ึงหนง่ึ แลว้ ท้าการตรวจวัด
จ. เจือจางตัวอยา่ งด้วย NSS 5 เทา่ แลว้ ตรวจวัด รายงานผลด้วยการคณู dilution factor
ตอบ จ. เจือจางตวั อยา่ งดว้ ย NSS 5 เทา่ แล้วตรวจวดั รายงานผลดว้ ยการคณู dilution factor
control accept run แสดงวา่ การตรวจในวันนัน้ ไม่นา่ จะมีปญั หาอะไร
คา่ ทไ่ี ด้ 1600 mg/dL ซง่ึ มากกวา่ คา่ สงู สุดท่ีสามารถตรวจวดั ได้แล้วนา่ เชือ่ ถือ คือ Linearity 800
mg/dL ซ่ึงการตรวจสารทม่ี รี ะดบั มากกว่า Linearity อาจมีค่าผิดพลาดได้ จงึ ควรเจอื จางสิง่ ตวั อย่าง
ใหน้ ้อยกว่า Linearity แลว้ ทา้ การตรวจวัดใหม่ จากนนั้ จึงน้าผลทีไ่ ด้มาคณู dilution factor เพือ่ หา
ความเขม้ ข้นต้ังต้น
25. Fasting whole blood glucose จะมีค่าอยา่ งไรเม่อื เปรยี บเทียบกบั plasma หรอื serum
ก. มากกว่าใน plasma หรือ serum ข. ค่าไม่คงที่ ค. เทา่ กบั plasma หรือ serum
ง. นอ้ ยกวา่ ใน plasma หรือ serum จ. คา่ มกี ารเปลีย่ นแปลงไปตามวิธีการตรวจ
ตอบ ง. น้อยกวา่ ใน plasma หรือ serum
ในเม็ดเลือดแดงนั้นมีความเข้มข้นของโปรตีน เช่น ฮีโมโกลบิน ในระดับที่สูงมากกว่าในซีรัม
ในขณะท่ีซีรัมนั้นประกอบด้วยน้ามากกว่าซ่ึงท้าให้กลูโคสจะละลายได้ในซีรัมม ากกว่าในเลือดครบ
ส่วน ท้าให้กลูโคสในซีรัมหรือพลาสมามีความเข้มข้นมากกว่า 10-12% ดังนั้น กลูโคสในเลือดครบ
ส่วนจึงมีความเข้มข้น น้อยกว่าใน plasma หรือ serum ในการเปล่ียนค่าระดับกลูโคสในเลือด
ครบส่วนเป็นระดับกลูโคสในซีรัมหรือพลาสมาให้คูณด้วย 1.1 หน่วยเป็น mg/dl (อ้างอิงจาก
“แนวทางเวชปฏบิ ตั ิส้าหรับโรคเบาหวาน 2560”)
26. หากระดับ plasma glucose เทา่ กับ 100 mg/dl ระดับ glucose ใน CSF จะมีค่าโดยประมาณ
เท่ากบั ขอ้ ใด
ก. 30 mg/dl ข. 50 mg/dl ค. 60 mg/dl ง. 90 mg/dl จ. 100 mg/dl
เคมคี ลนิ กิ 163
ตอบ ค. 60 mg/dl
CSF/Blood glucose ratio ปกตอิ ยู่ที่ 0.6
ดังน้นั หาก Blood glucose = 100 mg/dl, CSF glucose = 60 mg/dl
27. ระดับน้าตาลในเลอื ดขอ้ ใดตอ่ ไปนแ้ี สดงว่าผปู้ ว่ ยอาจพบภาวะ glycosuria
ก. 60 mg/dl ข. 100 mg/dl ค. 110 mg/dl ง. 150 mg/dl จ. 200 mg/dl
ตอบ จ. 200 mg/dl
เม่ือมีระดับน้าตาลในเลือดสูงเกินความสามารถของไตท่ีจะดูดกลับได้หมด (หรือเกินกว่าค่า
renal threshold ส้าหรับน้าตาลกลูโคส) จะท้าให้มีน้าตาลกลูโคสออกมาในปัสสาวะ หรือภาวะ
glycosuria ซ่งึ คา่ renal threshold สา้ หรบั น้าตาลกลูโคส อยู่ท่ี 180 mg/dl หรอื 10 mmol/l
28. ผู้ป่วยน่าจะอยู่ในภาวะใด เม่ือผปู้ ่วยมีอาการไข้ คล่ืนไส้ เวียนหัว มีอาการกระหายน้า ปัสสาวะ
บ่อย พบค่า glucose 780 mg/dL, pH 7.28, Na สูง, K สูง, HCO3- ต่้า, AST ปกติ, ALT ปกติ,
Ketone 4+
ก. Hypoglycemia ข. Hemolysis ค. Hepatoma
ง. Diabetes with ketone acidosis จ. Diabetes without ketone acidosis
ตอบ ง. Diabetes with ketone acidosis
ผู้ป่วยมีภาวะ Hyperglycemia และอาการของโรคเบาหวาน ค่า pH ของเลือดเป็นกรด
(Acidosis) และพบ Ketone แสดงว่าผู้ป่วยน่าจะอยู่ในภาวะ Diabetes with ketone acidosis
ภาวะ Hemolysis จะพบ K และ AST สูง แต่ผู้ป่วย AST ปกติ แต่ภาวะ Hepatoma จะพบ AST
และ ALT สูง แตผ่ ้ปู ว่ ยปกติ
29. Urine microalbumin ใช้ดูภาวะใด
ก. ไตวายเรอื้ รัง ข. ไตวายเฉยี บพลนั ค. Renal tubular acidosis
ง. Diabetes nephropathy ระยะแรก จ. Renal ischemia
ตอบ ง. Diabetes nephropathy ระยะแรก
โรคไตผิดปกติจากเบาหวาน หรือ Diabetes nephropathy ในระยะแรกๆ จะพบอัลบูมิ
นร่ัวออกมาในปัสสาวะซึ่งในระยะแรกมี ปริมาณเล็กน้อย (microalbuminuria) ซ่ึงจะตรวจพบได้
ด้วย microalbuminuria dipstick หรือวัดปริมาณอัลบูมินในปัสสาวะได้ 20–200 µg/min. หรือ
30–300 mg/day หรอื ตรวจวดั อัลบมู ินในปัสสาวะ/creatinine ในปัสสาวะ (albumin/creatinine
ratio) 30–300 mg/g อยา่ งน้อย 2 ใน 3 ครง้ั ภายในระยะเวลา 6 เดือน โดย ไมม่ ีสาเหตุอนื่
30. ผลการทดสอบในขอ้ ใดยนื ยันวา่ ผปู้ ่วยเป็นโรคเบาหวาน
ก. Fasting plasma glucose = 123 mg/dl ข. Random urine glucose = 190 mg/dl
ค. HbA1C = 7.5 % ง. 2h-OGTT = 199 mg/dl
จ. postprandial plasma glucose = 160 mg/dl
เคมีคลินิก 164
ตอบ ค. HbA1C = 7.5 %
เกณฑ์การวินจิ ฉยั โรคเบาหวาน
1) ผูท้ ่มี ีอาการของโรคเบาหวานชดั เจน Random plasma glucose ≥ 200 mg/dl
2) Fasting plasma glucose ≥ 126 mg/dl
3) 2h-OGTT, 75g glucose ≥ 200 mg/dl
4) HbA1C ≥ 6.5%
ส้าหรับผู้ท่ีไม่มีอาการของโรคเบาหวานชัดเจน ควรตรวจเลือดซ้าโดยวิธีเดิมอีกคร้ังหนึ่ง ต่างวัน
กนั เพอ่ื ยืนยนั และป้องกนั ความผดิ พลาด
31. การทดสอบท่ีใชต้ ดิ ตามควบคมุ น้าตาลในเลือดในระยะเวลา 2-3 สปั ดาห์คือขอ้ ใด
ก. Fasting plasma blood sugar ข. Fructosamine ค. Glycated Hb
ง. 2 hr postload glucose จ. urine glucose
ตอบ ข. Fructosamine
การทดสอบท่ีใช้ติดตามควบคุมน้าตาลในเลือดในระยะเวลาหน่ึงที่ผ่านมา มีการตรวจ
Glycated Hb หรือ Hemoglobin A1C ติดตามในช่วงระยะเวลา 3 เดือน และการตรวจ
Fructosamine ติดตามในชว่ งระยะเวลา 2-3 สัปดาห์
32. ข้อใด ไม่ใช่ ลักษณะของ DM type 1
ก. ขาด insulin ข. บางรายมี Ab ค. เกิด DKA ง. มักเกิดในคนอายุน้อย จ. ดือ้ ตอ่ insulin
ตอบ จ. มีภาวะดอ้ื ตอ่ insulin
DM type 1 เกดิ จากภาวะพรอ่ งหรอื ขาด insulin ซง่ึ อาจเกิดจากการมี Antibody ตอ่ อินซลู นิ หรือ
เบต้าเซลล์ท่ีผลิตอินซูลิน โดยเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรม สามารถพบได้ในผู้ท่ีมีอายุน้อย และ
อาจเกดิ ภาวะ Diabetic ketoacidosis (DKA) สว่ นภาวะด้ือตอ่ insulin เกิดข้นึ ใน DM type2
33. ขอ้ ต่อไปนมี้ ีความเสย่ี งตอ่ Metabolic disorder ยกเว้นข้อใด
ก. รอบเอวมากกว่า 35 นวิ้ ข. Triglyceride มากกว่า 150 mg/dl
ค. HDL มากกวา่ 40 mg/dl ง. Fasting plasma glucose มากกวา่ หรอื เทา่ กับ 110 mg/dl
จ. ความดนั โลหติ มากกว่าหรือเท่ากับ 130/85 mmHg
ตอบ ค. HDL มากกวา่ 40 mg/dl
Metabolic disorder หรอื Metabolic syndrome criteria ประกอบดว้ ยอย่างน้อย 3 ใน 5 ของ
เกณฑ์ดังน้ี
-รอบเอว (waist circumference) ในผหู้ ญงิ ≥ 80 cm, ในผู้ชาย ≥ 90 cm
-ระดบั นา้ ตาลในเลอื ด ≥ 100 mg/dl
-ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ≥ 150 mg/dl
-ระดับไขมนั HDL ≤ 50 mg/dl ในผู้หญิง และ ≤ 40 mg/dl ในผู้ชาย
เคมคี ลินิก 165
-ระดับความดนั โลหติ > 130/85 mmHg
34. Total cholesterol 254 mg/dl, HDL 60 mg/dl, Triglyceride 320 mg/dl จงหาค่า LDL
ก. 55 mg/dl ข. 100 mg/dl ค. 130 mg/dl ง. 180 mg/dl จ. 210 mg/dl
ตอบ ค. 130 mg/dl
การหาค่า LDL โดยค้านวณด้วย Friedewald formula ซึ่งมีข้อก้าหนดว่า Triglyceride ไม่เกิน
400 mg/dl ค้านวณโดย
LDL = Total cholesterol - HDL – Triglyceride/5 = 254 – 60 – 320/5 = 130 mg/dl
35. ผลการตรวจทางห้องปฏิบตั ิการ เปน็ ดงั น้ี
FBS 96 mg/dl, TC 216 mg/dl, TG 624 mg/dl, HDL-C 42 mg/dl
ถ้าต้องการทราบผล LDL-C ควรท้าอย่างไร
ก. คา้ นวณจาก Friedewald formula ข. แนะนา้ ให้เจาะเลือดใหม่ โดยอดอาหาร 12 ช่ัวโมง
ค. ทา้ การตรวจดว้ ยวิธี direct LDL-C ง. ท้า lipoprotein electrophoresis
จ. เจือจางตัวอยา่ งแล้วท้าการตรวจวดั ใหม่กอ่ นค้านวณ
ตอบ ค. ทาการตรวจดว้ ยวธิ ี direct LDL-C
FBS 96 mg/dl แปลวา่ ผปู้ ว่ ยน่าจะท้าการอดอาหารมาก่อนแลว้ จึงไม่จ้าเปน็ ตอ้ งไปอดอาหาร
เพือ่ เจาะใหมอ่ ีก
Triglyceride 624 mg/dl ไมส่ ามารถค้านวณด้วย Friedewald formula ได้ เมื่อ TG >400
mg/dl และการเจือจางก็ไมไ่ ดท้ ้าใหผ้ ลของ TG เปลีย่ นแปลงไป ดงั นน้ั หากตอ้ งการทราบผลของ
LDL-C ควรทาการตรวจดว้ ยวธิ ี direct LDL-C
36. Postprandial plasma ทีท่ าให้ serum เกดิ lipemic
ก. cholesterol ข. Triglyceride ค. Chylomicrons ง. LDL จ. fatty acid
ตอบ ค. Chylomicrons
Postprandial plasma หรอื พลาสมาทีเ่ จาะเกบ็ หลงั การทานอาหาร จะมี Chylomicrons ท่ี
สร้างทล่ี า้ ไสเ้ ล็ก ขนสง่ ไขมันทไ่ี ดจ้ ากการทานอาหารไปสูต่ บั อยู่มาก
37. สารในขอ้ ใดใชใ้ นการสร้าง bile acid
ก. HDL ข. LDL ค. Cholesterol ง. Chylomycon จ. VLDL
ตอบ ค. Cholesterol
Cholesterol ใช้เป็นสารตั้งต้นในการสร้างสารต่าง ๆ เช่น bile acid, Vitamin D, Steroid
hormone หรือ sex hormone
38. serum 100 ul เจือจางด้วย NSS 0.9 ml ใช้ serum ที่เจือจางแล้วใช้ตรวจวัด BUN ได้เท่ากบั
5 mg/dl ใหห้ าค่า BUN ดั้งเดมิ ในหน่วย mmol/l (MW ของ N = 14)
ก. 1.8 ข.3.6 ค. 8.9 ง. 17.9 จ. 35.7
เคมคี ลินกิ 166
ตอบ ง. 17.9
SI unit ของ BUN เปน็ mmol/L การเปลยี่ นหนว่ ยทา้ ได้โดย
BUN [mmol/l] = BUN [mg/dl] x 10 [dl/l] / (14x2) [mg N/mmol Urea], ใน urea 1
โมเลกุล มี N 2 อะตอม
BUN [mmol/l] = BUN [mg/dl] x 0.3571 = 5 x 0.3571 = 1.7855 ≈ 1.79 mmol/L
แตม่ กี ารเจอื จางตวั อย่าง 1:10 ดงั นัน้ ความเข้มขน้ ของ BUN ในตัวอยา่ งรายน้คี ือ 17.9 mmol/L
แตห่ ากเปล่ยี น Urea เปน็ BUN ในหน่วย ให้ใช้
Urea [mg/dl]= BUN [mg/dl] x 2.14, . =146×02 = 2.14
.
39. Creatinine มาจากสารตั้งต้นชนดิ ใด
ก. Creatine ข. Urea ค. Purine ง. Protein จ. Uric acid
ตอบ ก. Creatine
Creatinine เป็นสารท่ีเกิดจากการสลายตัวของ Creatine ซึ่งจะถูกขับออกจากร่างกายผ่าน
ทางปสั สาวะ
40. สารใดตอ่ ไปนี้ถกู ขบั ออกทางปัสสาวะและไมม่ ีการดดู กลับ
ก. Creatinine ข. Glucose ค. Na+ ง. Cl- จ. K+
ตอบ ก. Creatinine
โดยปกติ Creatinine จะถูกขับออกโดยไตผ่านทางโกลเมอรูลัสเกือบทั้งหมดอย่างคงท่ีและ
สม่้าเสมอ โดยไม่มีการดูดซึมกลับ แต่หากระดับ Creatinine ในเลือดสูง จะมีการขับออกทางทิวบูล
ร่วมด้วยบ้าง
41. ข้อใดบอกถึง GFR ได้ดที สี่ ดุ
ก. BUN ข. Creatinine clearance ค. Inulin clearance
ง. urea clearance จ. PAH clearance
ตอบ ค. Inulin clearance
Inulin และ Creatinine สามารถกรองผา่ นทางโกลเมอรลู ัสเกอื บทงั้ หมดอย่างคงท่ีและสม่้าเสมอ
โดยไม่มีการดูดซึมกลับ แต่ Creatinine อาจมี tubular secretion ท้าให้ Creatinine clearance
> GFR ไดเ้ ล็กน้อย ในขณะที่ Inulin ไมม่ ี ทา้ ให้ Inulin clearance บอกถงึ GFR ไดด้ ที ี่สดุ
42. Anticoagulant ชนดิ ใดไม่เหมาะกับการตรวจ BUN ดว้ ยวธิ ี urease method
ก. Ammonium heparin ข. Lithium heparin ค. Potassium EDTA
ง. Potassium oxalate จ. Sodium citrate
ตอบ ก. Ammonium heparin
เคมคี ลินิก 167
เน่ืองจาก Ammonium เป็นสารผลิตผลที่ไดจ้ ากการทียเู รียถูกไฮโดรไลส์โดยเอนไซม์ urease
และ Ammonium จะเกิดปฏิกิริยาต่อกับ NADH ที่ใช้ในการตรวจวัดการดูดกลืนแสง ดังนั้น
Ammonium ในสารกนั เลอื ดแข็งจะทา้ ให้การเกดิ ปฏกิ ิรยิ ามีมากขน้ึ กวา่ ท่คี วรจะเปน็ ได้
43. ในการประเมินสภาวะของไต ตรวจ BUN 32 mg/dl, Creatinine 2.2 mg/dl ผู้ป่วยมีสภาวะ
อยา่ งไร
ก. Renal azotemia
ข. Prerenal azotemia
ค. Postrenal azotemia
ง. Prerenal azotemia และ Postrenal azotemiau
จ. Prerenalazotemia, Renal azotemia และ Postrenal azotemia
ตอบ ค. Postrenal azotemia
อตั ราสว่ น BUN:reatinine ratio
▪ >20:1 = Prerenal
▪ 10–20:1 = Postrenal
▪ <10:1 = Renal (Intrarenal)
ดังนั้น ผู้ป่วยมีค่า BUN 32 mg/dl, Creatinine 2.2 mg/dl BUN:reatinine ratio = 15 เป็น
Postrenal azotemia
44. ข้อใด ไม่ใช่ โปรตีนทถี่ กู สร้างท่ตี บั
ก. Albumin ข. Ceruloplasmin ค. Fibrinogen ง. Transferrin จ. Immunoglobulin
ตอบ จ. Immunoglobulin
Immunoglobulin เป็นโปรตีนท่ีเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันท้าหน้าที่เป็นแอนติบอดีต่อสิ่ง
แปลกปลอม ถกู สรา้ งโดย plasma cell
45. Maple syrup Urine disease มคี วามผิดปกติของเมตาบอลซิ มึ ของกรดอะมิโนใด
ก. Isoleucine Glycine Alanine ข. Valine Leucine Isoleucine
ค. Glycine Alanine Methionine ง. Cystein Methionine Alanine
จ. Leucine Alanine Tryptophan
ตอบ ข. Valine Leucine Isoleucine
Maple syrup Urine disease เกิดจากการพร่อง Branched-chain alpha-keto acid
เคมีคลนิ ิก 168
dehydrogenase (BCKD) complex ท้าให้ไม่สามารถสลายกรดอะมิโน 3 ชนิด คือ leucine,
isoleucine และ valine เกิดการคั่งคา้ งของ ketoacids ในกระแสเลอื ดและออกมาสู่ปสั สาวะ
46. ในการหาปริมาณโปรตนี โดยวิธี Biuret method ส่วนใดท่ที ้าปฏกิ ริ ิยากับ CuSO4
ก. Aromatic bond ข. Peptide bond ค. Sulfide bond
ง. C-terminal จ. Phospate bond
ตอบ ข. Peptide bond
CuSO4 จะท้าปฏิกริ ิยากับ Peptide bond ของสายโปรตนี ได้เปน็ สารประกอบเชิงซ้อนสีน้าเงินม่วง
https://encryptedtbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQ0QcVierA0l17TtPNJnZRXl
9zdxckWZip6tTSQ7COo3IKwTVnh
47. การตรวจใดใช้ในการดู hepatic synthesis
ก. Albumin ข. AST ค. ALT ง. ALP จ. serum ammonium
ตอบ ก. Albumin
hepatic synthesis เปน็ การดูสมรรถภาพในการท้าหน้าทีส่ งั เคราะห์ของตับ ซ่งึ ดไู ด้จากโปรตีน
ท่ถี ูกสร้างทต่ี บั คือ Albumin
48. การทดสอบใดจ้าเพาะกบั ภาวะ hepatocellular damage
ก. ALP ข. Plasma ammonia ค. Serum bilirubin ง. AST จ. ALT
ตอบ จ. ALT
การประเมิน hepatocellular damage อาศัยการตรวจหลักสองชนิด คือ AST และ ALT แต่
เคมีคลินกิ 169
เอนไซม์ AST นอกจากจะพบสงู ขึ้นในภาวะ hepatocellular damage แลว้ ยังสามารถพบในภาวะ
อนื่ ๆ ได้ เชน่ hemolysis, MI หรือ muscular damage จงึ ไม่จา้ เพาะเทา่ กับเอนไซม์ ALT
49. ผ้ปู ว่ ยชายไทยมาด้วยอาการตัวเหลืองตาเหลอื ง ผลการตรวจทางหอ้ งปฏิบัติการเป็นดงั น้ี
ค่าปกติ ค่าท่ตี รวจได้
Albumin 3.5 – 5.0 mg/dL 4.2 mg/dL
Total protein 6.8 – 8.0 mg/dL 6.9 mg/dL
Direct bilirubin 0.1 – 0.3 mg/dL 20 mg/dL
Total bilirubin 2.0 – 12.0 mg/dL 25 mg/dL
AST 20 – 50 IU/L 90 IU/L
ALT 10 – 40 IU/L 90 IU/L
ALP 30 – 120 IU/L 200 IU/L
GGT 0 – 51 IU/L 200 IU/L
Urine bilirubin: positive ผู้ป่วยมีภาวะใด
ก. Cirrhosis ข. Bile disease ค. Acute hepatitis
ง. Chronic hepatitis จ. Obstructive jaundice
ตอบ จ. Obstructive jaundice
ผู้ป่วยมี Total bilirubin สูงกว่าปกติ ซ่ึงตัวท่ีสูงเป็นหลักคือ Direct bilirubin แสดงให้เห็นว่า
ผู้ป่วยไม่สามารถส่ง Direct bilirubin ออกสู่ทางเดินอาหารได้ ท้าให้ Direct bilirubin ค่ังสูงอยู่ใน
กระแสเลือดและมีส่วนที่ออกไปกับปัสสาวะ เนื่องจาก Direct bilirubin สามารถละลายน้าได้ บวก
กับค่า ALP และ GGT ท่ีสูงข้ึนมาก ซ่ึงส่ิงเหล่าน้ีช้ีให้เห็นถึงการอุดตันของทางเดินน้าดี หรือภาวะ
Obstructive jaundice พบค่า AST และ ALT สูงขึ้นได้บ้างจากการท่ีเซลล์ตับบางสว่ นถูกท้าลาย
จากการคั่งของน้าดี
50. เกี่ยวกบั hemolytic jaundice ข้อใดถกู ต้อง
ก. urinary bilirubin สูง ข. urinary urobilinogen ต้่า
ค. fecal urobilin ต่้า ง. serum unconjugated bilirubin สงู
จ. total bilirubin ไม่เปล่ยี นแปลง
ตอบ ง. serum unconjugated bilirubin สงู
Hemolytic jaundice เกิดจากการแตกของเม็ดเลือดแดง ท้าให้เกิดการสลาย Heme จ้านวน
มาก กลายเป็น unconjugated bilirubin ท้าให้มี serum unconjugated bilirubin สูง ซ่ึงจะ
สง่ ผลให้ total bilirubin สงู ขึน้ ตามไปด้วย แต่เน่ืองจากการส่งออก conjugated bilirubin ทีต่ ับทา้
ไดต้ ามปกติ ท้าใหไ้ มเ่ กิดการคงั่ ของ conjugated bilirubin ซึง่ ละลายน้าได้ จงึ ไมส่ ูงขน้ึ ในเลือดหรือ
เคมคี ลนิ กิ 170
ในปัสสาวะ conjugated bilirubin จ้านวนมากที่ถูกส่งออกไปที่ทางเดินอาหารจะถูกเปล่ียนเป็น
urobilinogen จ้านวนมากเช่นกัน ส่วนหนึ่งถูกดูดกลับและขับ ออกทางปัสสาวะ ท้าให้
urobilinogen ในปสั สาวะสงู urobilinogen อกี สว่ นเปลย่ี นเปน็ urobilin ขบั ออกมาพร้อมอุจจาระ
ท้าให้ fecal urobilin สงู
51. ขอ้ ใด ถูกต้อง เกย่ี วกบั hemolytic jaundice
ก. พบ Serum unconjugated billirubin สูงขน้ึ และพบ Urobilinogen ในปสั สาวะสงู ขึ้น
ข. พบ Serum conjugated billirubin สูงขึ้น และพบ Urobilinogen ในปัสสาวะสงู ขึน้
ค. พบ Serum unconjugated billirubin สงู ขน้ึ และไม่พบ Urobilinogen
ง. พบ Serum conjugated billirubin สงู ขึน้ และและไมพ่ บ Urobilinogen
จ. พบ Serum unconjugated billirubin ตา่้ ลง และไม่พบ Urobilinogen
ตอบ ก. พบ Serum unconjugated billirubin และพบ Urobilinogen ในปสั สาวะสงู ขึน้
จากค้าอธิบายเกี่ยวกับ hemolytic jaundice ในข้อก่อนหน้านี้ Serum unconjugated
billirubin และ Urobilinogen ในปสั สาวะ จะพบสูงขึน้
52. ข้อใด ถกู ต้อง เก่ียบกับ complete biliary obstruction
ก. Urine bilirubinเพ่ิมขึน้ urine urobilinogenเพมิ่ ขน้ึ fecal urobilinogenเพิม่
ข. Urine bilirubinเพิ่มขนึ้ urine urobilinogenลดลง fecal urobilinogenลดลง
ค. Urine bilirubinปกติ urine urobilinogenลดลง fecal urobilinogenลดลง
ง. Urine bilirubinเพม่ิ ขนึ้ urine urobilinogenปกติ fecal urobilinogenลดลง
จ. Urine bilirubinลดลง urine urobilinogenลดลง fecal urobilinogenลดลง
ตอบ ข. Urine bilirubinเพิม่ ข้ึน urine urobilinogenลดลง fecal urobilinogenลดลง
Complete biliary obstruction ท้าให้การส่งออก conjugated bilirubin ที่ตับผิดปกติ ท้าให้
เกิดการคั่งของ conjugated bilirubin ซ่ึงละลายน้าได้ จึงสูงขึ้นในเลอื ดและปัสสาวะ ท้าให้ Urine
bilirubin เพิม่ ขนึ้ และการที่ conjugated bilirubin ไม่ถูกส่งออกไปท่ีทางเดนิ อาหารและไม่มีการ
เปลี่ยนเป็น urobilinogen ท้าให้ fecal urobilinogen ลดลง urobilinogen ที่ถูกดูดซึมกลับสู่
กระแสเลอื ดไปทไ่ี ตก็ลดลงเชน่ กัน จงึ ท้าให้ urine urobilinogen ลดลง
53. ข้อใดแสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งโรคกบั ภาวะดซี ่านได้ถกู ตอ้ ง
ก. HDN : Hepatic jaundice ข. Thalassemia : Hepatic jaundice
ค. HCV : Pre-hepatic jaundice ง. Gall stones : Hepatic jaundice
จ. Cholangiocharcinoma : Post-hepatic jaundice
ตอบ จ. Cholangiocarcinoma : Post-hepatic jaundice
Hemolytic disease of the newborn (HDN) และ Thalassemia เปน็ ภาวะทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ การ
เคมีคลินกิ 171
แตกของเม็ดเลือดแดงได้ง่ายซ่ึงดีซ่านที่เกิดจากการแตกของเม็ดเลือดแดง หรือ Hemolytic
jaundice จดั เป็น Pre-hepatic jaundice
การติดเชื้อ Hepatitis C virus (HCV) หรือความเสียหายท่ีเกิดกับตับท้าให้เกิดภาวะดีซ่าน
จัดเป็น Hepatocellular jaundice หรือ Hepatic jaundice
นิ่ว (Gall stones) หรือ มะเร็งท่อน้าดี (Cholangiocharcinoma) ก่อให้เกิดการอุดตันของ
ทางเดินนา้ ดีทา้ ให้เกดิ ภาวะดีซ่าน หรอื Obstructive jaundice จดั เป็น Post-hepatic jaundice
54. เอนไซม์ข้อใดตอ่ ไปน้ีสามารถใช้ในการวนิ ิจฉยั และพยากรณ์ Alcoholic Cirrhosis ไดด้ ีท่ีสุด
ก. AST ข. ALT ค. ALP ง. GGT จ. Amylase
ตอบ ง. GGT
Gamma-Glutamyl Transferase (GGT) จะพบสูงข้ึนใน biliary disease และ alcohol
consumption
55. Tumor marker ชนดิ ใดท่ีใชช้ ่วยในการวนิ จิ ฉัย hepatocellular carcinoma
ก. CA 15-3 ข. CA 125ค. AFP ง. CA 19-9 จ. CA72-4
ตอบ ค. AFP
Alpha-fetoprotein (AFP) เปน็ โปรตีนทสี่ ร้างในตับของทารกในครรภ์และค่อยๆลดลงเม่ือเติบโต
ข้ึน ในผใู้ หญป่ กตจิ ะมกี ารสร้างโปรตนี ชนดิ น้ปี ริมาณนอ้ ย แต่จะมีระดบั ทม่ี ากขน้ึ ในผทู้ ีเ่ ป็นมะเร็งตบั
56. ผลการตรวจทางห้องปฏบิ ัตกิ ารเปน็ ดงั นี้
ALT 65 U/L (5-35 U/L) AST 60 U/L (0-35 U/L)
Glucose 95 mg/dl (70-99 mg/dl) LDH 300 U/L (88-230 U/L)
Na 142 mmol/L (136-146 mmol/L) K 5.8 mmol/L (3.5-5.0 mmol/L)
Ca 8.4 mmol/L (3.5-5.1 mmol/L) PO42- 7.2 mmol/L (0.8-1.5 mmol/L)
สง่ิ ทีน่ ักเทคนคิ การแพทย์ตอ้ งทา้ เป็นอนั ดับแรก คือขอ้ ใด
ก. ดู hemolysis ข. ขอเจาะเลอื ดใหม่ ค. รายงานผลตรวจไดเ้ ลย
ง. ทา้ control คา่ LDH ใหม่ จ. ทดสอบซา้ อกี ครง้ั ตอบ
ตอบ ก. ดู hemolysis
AST, ALT, K และ LDH เปน็ สารและเอนไซมท์ ี่พบไดม้ ากในเม็ดเลือดแดง ดังน้นั หากคา่ เหล่าน้ี
สูงข้ึนทงั้ หมด มคี วามเปน็ ไปได้วา่ ตัวอยา่ งดังกล่าวอาจเกิดการ hemolysis
57. Marker ใดท่พี บในโรคกระดกู
ก. ALT ข. ALP ค. Amylase ง. CK จ. AST
ตอบ ข. ALP
Alkaline phosphatase เป็นเอนไซมท์ ่จี ะสงู ขึ้นเมอ่ื มกี ารอดุ ตันของน้าดแี ละมกี ารสลายของกระดูก
เคมคี ลนิ ิก 172
58. enzyme ใดท่ีใช้วนิ ิจฉัยโรค skeleton muscle disease
ก. ACP ข. ALP ค. CK ง. Amylase จ. Lipase
ตอบ ค. CK
เอนไซม์ CK โดยเฉพาะ isoform MM พบมากในกล้ามเนื้อลายและจะมปี ริมาณในเลือดสูงขึ้นใน
ผปู้ ่วยท่เี ปน็ โรคเกี่ยวกบั กล้ามเน้ือ (skeleton muscle disease)
Acid phosphatase (ACP) เป็นเอนไซม์จากต่อมลูกหมากใช้ในการวินิจฉัยโรคที่เก่ียวข้องกับ
ต่อมลูกหมาก
Alkaline phosphatase (ALP) เป็นเอนไซม์ที่จะสูงข้ึนเม่ือมีการอุดตันของน้าดีและมีการสลาย
ของกระดกู
Amylase และ Lipase เป็นเอนไซม์จากตบั ออ่ น ซึง่ จะพบคา่ สูงขึน้ ในผทู้ ่เี ปน็ pancreatitis หรือ
โรคเก่ียวกับตบั ออ่ น นอกจากน้ัน Amylase ยังพบในตอ่ มนา้ ลายทา้ ให้มคี า่ สงู ขึ้นในผู้ที่มกี ารอักเสบ
ของตอ่ มนา้ ลายเช่น โรคคางทูม
59. ข้อใดคอื early cardiac marker ของ myocardial infarction
ก. Myoglobin ข. CK-MB ค. NT-ProBNP ง. Troponin T จ. Troponin I
ตอบ ก. Myoglobin
Myoglobin เปน็ marker ที่สามารถตรวจพบได้เรว็ ที่สดุ หลังมีอาการ มีระดับสูงสุดภายใน 2 ชม.
แตม่ คี วามจา้ เพาะต้่า สามารถพบไดใ้ นผ้ทู ี่มีความเสียหายจากกล้ามเนือ้ ท่วั ไปได้ด้วยเช่นกนั
60. ข้อใด ไมใ่ ช่ เกณฑว์ นิ จิ ฉัย AMI ตาม WHO
ก. มี myolytic damage ข. CK-MB สงู ค. เจบ็ หนา้ อก 20 นาที
ง. EKG abnormal จ. มี sign & symptom เกีย่ วกบั โรคหวั ใจ
ตอบ ก. มี myolytic damage
เกณฑ์การวนิ ิจฉัยภาวะ AMI ของ WHO criteria ซง่ึ จะตอ้ งมีอยา่ งน้อย 2 ใน 3 ข้อ ดงั ตอ่ ไปน้ี คอื
(1) ผปู้ ่วยมีอาการเจบ็ แน่นหนา้ อก (chest pain)
(2) มกี ารเปลีย่ นแปลงของคลน่ื ไฟฟ้าหัวใจ (ECG)
(3) มีการเปลย่ี นแปลงของระดบั cardiac biomarkers ในกระแสเลอื ด
ซงึ่ การมี myolytic damage ไม่ไดเ้ ปน็ อาการท่ีจา้ เพาะตอ่ AMI
61. เม่ือเกดิ ภาวะ myocardial infarction เอนไซม์หรอื สารใดจะตรวจพบได้นานทีส่ ดุ
ก. Myoglobin ข. CK-MB ค. NT-ProBNP ง. Total CK จ. Troponin
ตอบ จ. Troponin
Troponin เป็น cardiac marker ที่ตรวจพบได้นานท่ีสุดหลังจากมีอาการแล้วสามารถตรวจ
พบไดน้ านถึง 7 วัน
เคมีคลินิก 173
https://www.researchgate.net/profile/Jagannadha_Peela/publication/258512827/figure/fi
g1/AS:297548028891136@1447952386942/Wide-diagnostic-window-of-troponin-9.png
62. การทดสอบที่ไมใ่ ช้ในการประเมินภาวะ Acute Myocerdial Infaction
ก. Serum Troponin I ข. Serum CK-MB ค. Serum Myoglobin
ง. Serum Troponon T จ. ALP Isoenzyme
ตอบ จ. ALP Isoenzyme
ALP ใชใ้ นการประเมนิ การอดุ ตันของนา้ ดแี ละการสลายของกระดกู
63. ผู้ป่วยชายอายุ 45 ปี มาพบแพทย์ด้วยอาการเจ็บแน่นหน้าอก ใจส่ัน หลังจากการวิ่งมาราธอน
สอบถามประวัติ พบว่ามีอาการนอนไม่หลับ อ่อนเพลียมา 2-3 วันก่อนหน้านี้ แพทย์เลยส่ังตรวจ
เลอื ด พบวา่
cTnI ปกติ CK-MB ปกติ LDH สงู AST สูง
Electrolyts ปกติ Total CK สงู EKG ปกติ
จากผลการตรวจคิดว่าเก่ียวข้องกบั โรคใด
ก. Acute myocardial infarction ข. มีความเส่ียงเปน็ Coronary heart disease
ค. Acute muscle injury ง. Alkalosis จ. Dehydration
ตอบ ค. Acute muscle injury
เนื่องจาก Cardiac marker ที่มีความจ้าเพาะต่อ AMI คือ cTnI และ CK-MB มีค่าปกติ และ
EKG ปกติ แม้ว่าจะผ่านมา 2-3 วันหลังมีอาการ แต่ค่า cardiac troponin เม่ือสูงขึ้นสามารถตรวจ
ไดน้ าน 7 วนั แสดงว่าผปู้ ว่ ยไม่ได้เป็น AMI หรอื มคี วามเส่ียงตอ่ โรคหัวใจ แต่การตรวจทใี่ ห้ค่าสูงกว่า
ปกติคือ LDH, AST, และ Total CK สามารถสูงขึ้นได้เมื่อมีการบาดเจ็บของกล้ามเน้ือ ดังนั้นผู้ป่วย
น่าจะเป็น Acute muscle injury
64. Specimen ใดท่ีเหมาะสมสา้ หรบั การตรวจ acid-based status
ก. venous blood ข. capillary blood ค. urine
ง. arterial blood จ. serum
ตอบ ง. arterial blood
เคมีคลินิก 174
acid-based status ตรวจได้โดยการตรวจวิเคราะห์ arterial blood gas (ABG) ซ่ึงใช้ส่ิงส่ง
ตรวจเป็นเลอื ดแดง (arterial blood)
65. ส่ิงส่งตรวจที่น้าส่งตรวจ blood gas ต้ังท้ิงไว้ท่ีอุณหภูมิห้อง 2 ชม. จะมีค่าใดเปลี่ยนแปลงไป
อยา่ งไร
ก. pO2 เพ่ิมขน้ึ pCO2 เพ่มิ ขนึ้ pH เพิ่มขึน้ ข. pO2 ลดลง pCO2 ลดลง pH ลดลง
ค. pO2 ลดลง pCO2 เพมิ่ ขน้ึ pH ลดลง ง. pO2 เพ่ิมขน้ึ pCO2 เพิ่มขนึ้ pH ลดลง
จ. pO2 ลดลง pCO2 ลดลง pH เพ่ิมข้ึน
ตอบ ค. pO2 ลดลง pCO2 เพม่ิ ขึน้ pH ลดลง
O2 จะถูกใช้ไปท้าให้ลดลง ในขณะที่ CO2 เพิม่ ขน้ึ และทา้ ให้ความเป็นกรดมากขึ้น ค่า pH จงึ ลดลง
66. ผลการตรวจ blood gas มีดงั น้ี pH = 7.25 (7.35-7.45), pCO2 = 48 (35-45), และ HCO3 =
25 (22-28) คนไข้อยใู่ นภาวะใด
ก. Metobolic alkalosis partially compensated
ข. Respiratory acidosis uncompensated
ค. Metabolic acidosis และ Respiratory acidosis
ง. Respiratory alkalosis partially compensated
จ. Respiratory acidosis partially compensated
ตอบ ข. Respiratory acidosis uncompensated
ค่า pH ต้่ากว่าปกติ แสดงถึงภาวะ acidosis เม่ือดูค่า pCO2 ที่มากกว่าปกติ แสดงถึง
Respiratory acidosis ซ่ึงตรงกับภาวะจากค่า pH แต่ HCO3 ปกติ แสดงว่าคนไข้อยู่ในภาวะ
Respiratory acidosis และไม่มี compensation จาก HCO3 สรุปคนไข้อยู่ในภาวะ Respiratory
acidosis uncompensated
- หากคา่ HCO3 สงู กวา่ ปกตจิ ะเป็น Respiratory acidosis partially compensated
- หากค่า HCO3 ต่า้ กว่าปกตจิ ะเป็น Metabolic acidosis และ Respiratory acidosis รว่ มกัน
67. ในการรกั ษาสมดลุ ประจุของเมด็ เลอื ดแดงจะมีการแลกเปล่ียนประจุระหวา่ ง Bicarbonate กบั
อะไร
ก. Sodium ข. Potassium ค. Magnesium ง. Phosphate จ. Chloride
ตอบ จ. Chloride
เพ่ือรักษาสมดุลประจุเม็ดเลือดแดงจะมีการแลกเปล่ียนประจุระหว่าง Bicarbonate ซ่ึงเป็น
Anion (ประจุลบ) กบั Anion ตวั อน่ื คือ Chloride
68. Respiratory alkalosis มีภาวะใด
ก. Total CO2 ตา้่ ข. Bicarbonate ต้า่ ค. Dissolved CO2 สูง
ง. Bicarbonate สงู จ. Dissolved CO2 ต้า่
เคมีคลนิ กิ 175
ตอบ จ. Dissolved CO2 ต่า
ความผิดปกติของกรดเบสท่ีมีสาเหตุจากระบบหายใจ (Respiratory) สังเกตุจาก pCO2 หรือ
Dissolved CO2 โดยในภาวะ Respiratory acidosis สังเกตุได้จาก Dissolved CO2 สูงกว่าปกติ
และในภาวะ Respiratory alkalosis สังเกตไุ ดจ้ าก Dissolved CO2 ต่ากวา่ ปกติ
ส่วนความผิดปกติของกรดเบสท่ีมีสาเหตุจากระบบ Metabolism สังเกตุได้จาก Bicarbonate
โดยในภาวะ Metabolic acidosis สังเกตุได้จาก Bicarbonate ต่้ากว่าปกติ และในภาวะ
Metabolic alkalosis สังเกตไุ ด้จาก Bicarbonate สงู กวา่ ปกติ
69. ระบบบฟั เฟอรท์ ่สี า้ คัญที่สุดในร่างกายคอื ข้อใด
ก. H2CO3/HCO3- ข. Protein/Protein ค. Hb/HbO2
ง. PO43-/H3PO4 จ. Lactate/Lactic acid
ตอบ ก. H2CO3/HCO3-
70. การรักษา pH = 7.4 ของร่างกาย ทา้ ไดโ้ ดยขอ้ ใด
ก. Bicarbonate : Carbonic acid = 1 : 10 ข. Carbonic acid : dissolve CO2 = 1 : 20
ค. Bicarbonate : Carbonic acid = 1 : 20 ง. Carbonic acid : bicarbonate = 20 : 1
จ. Bicarbonate : Carbonic acid = 20 : 1
ตอบ จ. Bicarbonate : carbonic acid = 20 : 1
จากสมการ Henderson Hasselbalch equation ซึ่งใช้ pCO2 ในการค้านวณแทน Carbonic
acid (H2CO3)
pK : Carbonic acid dissociation constant = 6.1
pCO2 (Partial pressure of CO2) = 40 mmHg
arterial blood HCO3- = 24 mEq/L
0.0307 = factor to convert mmHg to mmol/L
เคมีคลนิ กิ 176
pH = pK + log 20
pH = 6.1 + 1.3
pH =7.4
อตั ราส่วนระหวา่ ง Bicarbonate : carbonic acid ทท่ี า้ ให้ pH = 7.4 คอื 20:1
71. ผลขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั Diabetes mellitus ketoacidosis
ก. Na 135 mmol/L, Cl 100 mmol/L, HCO3- 25 mmol/L
ข. Na 140 mmol/L, Cl 105 mmol/L, HCO3- 25 mmol/L
ค. Na 144 mmol/L, Cl 114 mmol/L, HCO3- 25 mmol/L
ง. Na 145 mmol/L, Cl 100 mmol/L, HCO3- 25 mmol/L
จ. Na 135 mmol/L, Cl 122 mmol/L, HCO3- 25 mmol/L
ตอบ ง. Na 145 mmol/L, Cl 100 mmol/L, HCO3- 25 mmol/L
DKA เป็น Metabolic acidosis ชนิดหนง่ึ ดังน้นั จะท้าใหค้ ่า Anion gap สงู ขึน้ กวา่ ปกติ
Anion gap = Na – ([Cl] + [HCO3-]) ; ระดับปกติ (normal anion gap) = 8-16
Anion gap ของแตล่ ะขอ้ เป็นดงั น้ี
ก = 10, ข = 10, ค = 5, ง = 20, จ = -7
ผลการตรวจของขอ้ ง. จึงสอดคล้องกบั ภาวะ DKA ที่เป็น Metabolic acidosis
72. Na = 118 mmol/L (136-145 mmol/L), K = 5.6 (3.5-5.0 mmol/L), Cl = 91 (98-107
mmol/L), HCO3 = 20 (23-29 mmol/L), BUN = 45 (8-23 mg/dl), Creatinine = 1.6 (0.9-
1.5 mg/dl) จากผลตรวจนี้คาดว่าผปู้ ว่ ยมีภาวะอะไร
ก. Severe vomiting ข. เบาหวาน ค. Aldosterone deficiency
ง. Severe diarrhea จ. เบาจืด
ตอบ ค. Aldosterone deficiency
Na ต้่า K สูง Cl ต่้า HCO3 ต้่า แสดงถึง metabolic acidosis เล็กน้อย BUN สูง Creatinine
สูงเล็กน้อย อาจแสดงถึงปริมาณน้าในร่างกายมีน้อยกว่าปกติท้าให้ความเข้มข้นของ BUN มากขึ้น
คนไข้น่าจะมีภาวะ Aldosterone deficiency ซ่ึงปกติ Aldosterone ช่วยในการดูดกลับ Na
แลกเปล่ียนกับ K ซ่ึงจะมี Cl และน้าตามมากับ Na ด้วย เม่ือ ขาดฮอร์โมน Aldosterone จึงท้าให้
Na ต้า่ K สงู Cl ต้า่ และมีอาการขาดนา้
73. Anion gap ค้านวนได้จาก
ก. ( Na + Ca ) - ( Cl + HCO3 ) ข. ( Na ) - ( Cl + HCO3 ) ค. ( Na + Ca ) - ( Cl )
ง. ( Na + K ) - ( Cl - HCO3 ) จ. ( Na + K ) - ( HCO3 )
ตอบ ( Na ) - ( Cl + HCO3 )
เคมคี ลินิก 177
Anion gap ค้านวนได้จาก ([Na+] + [K+]) − ([Cl−] + [HCO−3]) หรือ [Na+] − ([Cl−] + [HCO−3])
74. จงหา anion gap Na 140 mmol/dl K 6 Cl 106 HCO 15 pH 7.35
ก. 40 ข. 17 ค. 16.3 ง. 21.7 จ. 19
ตอบ จ. 19
([Na+] + [K+]) − ([Cl−] + [HCO−3]) = (140+6)-(106+15) = 146-121 = 25 ไมม่ ีให้เลือก
[Na+] − ([Cl−] + [HCO−3]) = 140-(106+15) = 140-121 = 19
75. ผลการตรวจ electrolyte ผปู้ า่ ยรายหนึ่ง พบวา่ Na+ 130 mEq/L, K+ 5.0 mEq/L, Cl- 115
mEq/L, HCO- 22 mEq/L จงหาความเปน็ ไปได้ของการตรวจน้ี
ก. เป็นไปได้ เพราะค่า Na+ สอดคลอ้ งกับ Cl-
ข. เป็นไปไมไ่ ดเ้ พราะค่า anion ตอ้ งสูงกวา่ น้ี
ค. เปน็ ไปไม่ได้ เพราะคา่ anion gap ตดิ ลบ
ง. เป็นไปได้ รายงานผลได้
จ. ไม่สามารถสรุปผลได้
ตอบ ค.เปน็ ไปไม่ได้ เพราะคา่ anion ตดิ ลบ
anion gap ([Na+] + [K+]) − ([Cl−] + [HCO−3]) = (130+5)-(115+22) = -2
76. ข้อใดต่อไปนร้ี ายงานผล Na (mmol/L),K (mmol/L),Cl (mmol/L), HCO3 (mmol/L) ไม่
ถูกตอ้ ง ข. 142/4.2/100/27 ค. 132/3.2/110/26
ก. 148/4.0/107/33
ง. 126/5.7/90/21 จ. 134/5.0/109/26
ตอบ ค. 132/3.2/110/26
anion gap ของแต่ละข้อเปน็ ดงั น้ี ก = 12, ข = 19.2, ค = -0.8, ง = 20.7, จ = 4
anion gap ของขอ้ ค. ติดลบ จงึ งไมน่ ่าใช่ผลที่ถกู ต้อง
77. electrolyte ทีม่ คี วามสมั พันธ์กับ plasma osmolarity ท่ีสุด
ก. Sodium ข. Potassium ค. Chloride ง. Phosphorus จ .Calcium
ตอบ ก. Sodium
plasma osmolarity ค้านวณโดย
2×Na(mmol/L) + BUN (mg/dL)/2.8 + glucose (mg/dL)/18
electrolyte ท่มี คี วามสมั พันธ์กับ plasma osmolarity ท่ีสดุ คอื Sodium
78. คา่ การตรวจวัด Na+ 130 mEq/L , K+ 4.0 mEq/L , Cl- 96 mEq/L เป็นตามใบรายงานผล
ดังนั้น Na+, K+ , Cl- จะมีค่าเทา่ ใดในหน่วย mmol/L (Mw Na=23, K=39, Cl=36)
ก. 130, 4.0, 96 ข. 131, 4.1, 97 ค. 13, 0.4, 9.6 ง. 5.56, 0.1, 2.67 จ. ไม่มขี ้อถูก
ตอบ ก. 130, 4.0, 96
เคมคี ลนิ กิ 178
Normality (N, Eq/l) = Molarity (mol/L) x number of equivalents (n)
number of equivalents ดูได้จากจ้านวนประจุของ electrolyte น้ัน ดังน้ันความเข้มข้นของ
Na+, K+ และ Cl- ในหนว่ ยของ mEq/L จึงเทา่ กบั ความเข้มข้นในหน่วย mmol/L
79. ภาวะ Primary hyperaldostonism จะมีคา่ Na+ และ K+ เปน็ อย่างไร
ก. Na+ ปกติ K+ ต้า่ ข. Na+ ต้่า K+ ต้า่ ค. Na+ ต่้า K+ สงู
ง. Na+ สูง K+ ปกติ จ. Na+ สงู K+ ตา่้
ตอบ จ. Na+ สงู K+ ต่า
Aldosterone ชว่ ยในการดูดกลับ Na แลกเปล่ยี นกบั K ภาวะ Primary hyperaldostonism
ทา้ ให้ Aldosterone ท้างานมากข้ึน ส่งผลให้ Na+ สูง และ K+ ตา่
80. ฮอร์โมนใดไม่ไดห้ ลัง่ จากตอ่ มใต้สมอง
ก. ADH ข. Cortisol ค. LH ง. FSH จ. GH
ตอบ ข. Cortisol
ฮอรโ์ มน Cortisol หลัง่ จากต่อมหมวกไต Adrenal gland
81. ข้อใดเป็น steroid hormone
ก. Epinephrine ข. Glucagon ค. Thyroxine ง. Testosterone จ. growth hormone
ตอบ ง. Testosterone
steroid hormone มีสารตง้ั ตน้ คอื Cholesterol ประกอบด้วยฮอร์โมนกลุ่ม corticosteroids
เช่น Glucocorticoid, Mineralocorticoid และกลุม่ sex steroids เช่น Estrogen, Progestogen,
Testosterone
82. ฮอร์โมนใดทลี่ ดลง เม่ือตอ่ มไทรอยด์ท้างานหนกั
ก. FSH ข. TSH ค. T4 ง. Free T4 จ. T3
ตอบ ข. TSH
เม่ือต่อมไทรอยด์ท้างานมาก ผลิต Thyroid hormone T3, T4 ขึ้นมามาก จะเกิด Negative
feedback ลดการหลั่งของฮอร์โมนท่กี ระตนุ้ การท้างานของตอ่ มไทรอยด์ หรือก็คือ TSH (Thyroid-
stimulating hormone)
83. สารใดเปน็ ส่วนประกอบของ Thyroxine
ก. Iodine ข. Zinc ค. Cobalt ง. Iron จ. Magnisium
ตอบ ก. Iodine
Thyroxine หรือ Thyroid hormone T4 เปน็ ฮอร์โมนท่ีมสี ว่ นประกอบส้าคญั คือ Iodine
https://upload.wikimedia.org/wikipedia/comm
ons/thumb/5/5f/Levothyroxine2DCSD.svg/245
px-Levothyroxine2DCSD.svg.png