มนตข์ มงั เวทย์ มวี ชิ ากลา้ แกร่ง
ขอให้ มาผาบแข้ ตนฮา้ ยพา่ ยไป แดถ่ ้อนฯ
โคลง ๒
๏ “แสนคา”20ใจแกรง่ กร้าว อาสาเต็มจิตทา้ ว
ผาบพ่ายดริ ัจฉาน แลนาฯ
๏ การยทุ ธยนื เยน่ิ แท้ แสนคามอิ าจแพ้
จระเขม้ ิคายเคอื ง แลนาฯ
๏ “ขนุ เรอื งอานาจ” กล้า หาญรับคาทท่ี า้
ขบั เคี่ยวพันตู แลนาฯ
๏ ขุนมอิ าจต่อสู้ ดิรัจฉานชาติผู้
หยดั ด้วยมนต์ขลงั แลนาฯ
๏ ยงั มนี างหนงึ่ แท้ ขนั อาสาผาบแข้
ดุร้ายตนมาร แลนาฯ
๏ สงั หารดริ จั ฉานร้าย แมห่ มอมเี วทยค์ ลา้ ย
ขับสูอ้ าจหาญ บารนีฯ
๏ มารมิอาจต่อสู้ “นางยอดหญงิ ” ยงิ่ ผู้
ผาบแพท้ ศทศิ เทยี วเฮยฯ
20เล่ำขำนกนั เป็ นตำนำนวำ่ นำนมำแลว้ ยงั มีพญำจระเขด้ ุร้ำยตนหน่ึง อำศยั อยใู่ นภูมินิเวศลำน้ำ
แห่งน้ี ผคู้ นตำ่ งขยำดหวำดกลวั มิกลำ้ กล้ำกลำยลงในแหล่งน้ำ ท้งั ๆ ที่ก่อนหนำ้ น้นั เคยอำศยั เป็น
ท่ีทำมำหำกิน เก็บหำพชื ผกั พืชน้ำและกงุ้ หอยปปู ลำ ผปู้ กครองบำ้ นเมืองในสมยั น้นั จึงได้
ประกำศหำผกู้ ลำ้ มำปรำบเดรัจฉำนร้ำยตนน้ี ทำ้ วแสนคำเป็นผอู้ ำสำคนแรก แต่ไมส่ ำเร็จ ท่ำนขนุ
เรืองอำนำจอำสำปรำบเป็ นคนท่ีสองและไม่สำเร็จเช่นกนั ร้อนถึงแม่นำงยอดหญิง สตรีผทู้ รง
อิทธิฤทธ์ิ จึงสำมำรถกำจดั อิทธิฤทธ์ิน้นั ได้ นบั แต่น้นั มำแหล่งลุ่มแห่งน้ี จึงขนำนนำมว่ำ “ห้วย
สามหมอ” ตรำบเท่ำทกุ วนั น้ี
68 วงปชี วี ติ สมคดิ สงิ สง 45 ปีคนกบั ควาย 101
โคลง ๔ สภุ าพ
๏ จงึ ลขิ ติ นามแหล่งห้วย สามหมอ นานมา
หมอหน่งึ นกั เลงพอ กลับพา่ ย
หมอสองศตั ราหนอ มีเดช ฤทธ์ิเฮย
ยังระย่อยกสดุ ท้าย ตอ่ ผูด้ ริ ัจฉานฯ
๏ จอมมารมามอดมว้ ย โดยหญงิ แลนา
คือแมน่ างตนจริง แมบ่ า้ น
คอื คนอ่นุ อวยองิ เปน็ แม่ ครัวเฮย
คนทีค่ รองรอบดา้ น หนักแท้เทยี วหนาฯ
๑๐๐ ภมู ผิ าเพถิน่ ท่ี ไทครัว สถติ แฮ
แยกยอ่ ยสาขาตัว ลมุ่ น้า
สามหมอแม่ดงั หัว เปน็ ใหญ่
หลายแหล่งรวมสายซา้ หลอ่ เลย้ี งนคิ มคนฯ
102 68 วงปชี วี ิตสมคิด สงิ สง 45 ปีคนกบั ควาย
๏ บญุ ดลฤๅบาปกลวั้ เกนิ ไฉน ฤๅนอ
มเี หตอุ ันเปน็ ไป หว่างมอื้
คนเขาปว่ ยเจบ็ ใน มสิ ร่าง ซาแฮ
ดง่ั ห่าลงเลียบออ้ื ปลดิ ร่วงชีวีฯ
๏ ฝีดาษลงดาดดา้ ว ภูเพ พ่อเอย
ระบาดระบอื เท ทับร้าย
คนเขาปลดิ ปลงเถ ถมถนื่ ตายแฮ
ฝังร่างลงแลคล้าย ถ่ินห้าวคงแขง็ ฯ
๏ แลงงายฤๅรา่ ไห้ เหอื ดสาย น้าตา
จาจากหนไี กลหาย แหง่ ท่ี
ลูกเลก็ เดก็ แดงตาย ตามตก พอ่ เอย
จาปล่อยทาเลนี้ รกร้างไกลหนีฯ
๏ เสยี ทปี ลูกกล้วยออ้ ย อนั กนิ อย่เู ฮย
ลงรากเสาะทรพั ยส์ นิ ปลกู สรา้ ง
ครกมองกระเดอ่ื งดนิ ต่าต่าว เมลด็ แฮ
จาจากโคกบ้านรา้ ง ขยับย้ายเรือนชานฯ
68 วงปชี วี ติ สมคดิ สิงสง 45 ปคี นกับควาย 103
นิคมคนนามบ้านซับแดง
เล่าขานกนั ว่า นิคมคนทเ่ี รียกขานนามว่า “บา้ นภเู พ” นนั้ มอี นั
ตอ้ งกลายเป็น “โคกบา้ นฮา้ ง” อันเนอื่ งมาจากกาลคร้งั หนงึ่ ไดเ้ กดิ
สถานการณโ์ รคระบาดรา้ ยแรงที่เรยี กว่า “โรคฝดี าษ” ระบาดหนัก
ทาให้ผคู้ นเจบ็ ไข้ได้ป่วย และล้มหายตายจากราวใบไม้ร่วง ทาให้ผ้คู น
ต้องละทงิ้ บา้ นเรอื นอพยพหนตี ายไปอาศัยอย่บู น “โคกซบั แดง” แตก่ ็
พบวา่ ทน่ี ั่น กย็ งั ไมเ่ หมาะทจ่ี ะต้งั บา้ นเรือนอย่ยู ง้ั เปน็ การถาวร เนื่อง
จากเช่อื ว่าภูมสิ ถานแหง่ นนั้ มีลกั ษณะเปน็ “โนนผผี อ่ ” เปน็ ทอี่ ยขู่ อง
ภูตผีปศี าจ จงึ พากันเคลอ่ื นย้ายลงจากโคกซบั แดง ขยับไปทางทศิ
ตะวันตกหนอ่ ยหนึ่ง และเลือกท่นี นั่ เปน็ ทาเลต้งั บา้ นเรือนจนกลาย
เปน็ “บา้ นซบั แดง” จนถึงเวลาน้ี
ดงั บทร้อยกรองของสมคดิ สิงสง ในชดุ “ปฐววี จนะคากรอง”
ตอนหนงึ่ รจนาไวว้ ่า..
โคกซบั แดง
รา่ ย
๏ บ้านภเู พเปน็ บ้านร้าง จงึ เหยาะยา่ งหาทาเล เขาหนั เหข้ึน
โคก เปน็ ตรวยโตรกหินฮาว ตน้ ไมร้ าวลาเทียน คาคบเวียนวาดบงั ฟา้
ภายล่มุ หล้าดวงดอก ผักอีลอกดอกว่านไพร ฝูงไกป่ ่าหาเขีย่ ดิน หาจกิ
กินขุยมดปลวก หลายจาพวกพนาไพร ก้ิงกา่ ใหญเ่ กาะเตง็ รัง ทาน่าชัง
เปล่ยี นสี อาพรางดีโดยแอบ แลบลนิ้ ฉกแมลงบนิ กระรอกกนิ หมากไม้
กระแตไต่เครือเถาวัลย์ ฝงู แยน้ ัน่ ไต่ดนิ เสาะหากินมดแมง หนแหง่ เขา
ปา่ โคก ลมโบยโบกแกรกกราก แย้ลับจากลงรู พวกนกหนทู ารงั
จงอางยั้งยงั โตรกถา้ วางไข่หวงไขค่ า้ แผเ่ บย้ี ชูคอ บารนฯี
โคลง ๔ ดนั้
๏ พอดีมแี หลง่ น้า พุพวยพ่งุ เฮย
ตรงโตรกลานหนิ สวย ร่มไม้
104 68 วงปชี ีวติ สมคดิ สิงสง 45 ปีคนกับควาย
มแี ดง21ใหญอ่ านวย นับโอบ คนเฮย
คนจึง่ ขนานนามให้ “ซับแดง”ฯ
๏ โดยแรงพุพงุ่ น้า คณาคน
กินดม่ื ดับกระหายหน ค่าเช้า
นกการอ่ นลมบน ลงจิบ น้าแฮ
สตั ว์ส่าหนาเนกเร้า รุมลงฯ
๏ พฤกษพ์ งซมึ ซับน้า ลงดนิ แมเ่ อย
รนิ หลง่ั เปน็ กระแสสนิ ธ์ุ ลอดพ้ืน
รวมสายแม่ธาราริน พวยพุ่ง แลนา
มีปา่ ธาราช้นื โดยธรรมฯ
๏ เวรกรรมฤๅบาปบา้ พาเป็น แม่เอย
บนโคกมีประเดน็ ใหมว่ ่า
โนนผผี อ่ พาเขญ็ เขาขลาด กลัวแฮ
จึงเคล่อื นลงหลกั ฟ้า ดนิ ดลฯ
๏ คอื หนบนโคกกวา้ ง ดนิ ดาน
ปนั แบง่ แปลงสถาน ปลกู สรา้ ง
เสาเรือนปักเป็นการ เกดิ กอ่ เฮอื นแฮ
เป็นถน่ิ เปน็ ทปี ขา้ ง คงนานฯ
๏ ขนานนามวา่ หมบู่ ้าน “ซับแดง” แม่เอย
นามแหล่งซบั สถาน บอ่ น้า
นามโคกซงึ่ บันดาล ดลสุข ทวยแฮ
หยดั อยยู่ งยนื ลา้ นิรนั ดร์ฯ
21หมำยถึงตน้ ไมแ้ ดง “แดง” เป็ นตน้ ไมเ้ น้ือแขง็ ลำตน้ สูงใหญ่ เกิดทวั่ ไปตำมป่ ำเบญจพรรณ
68 วงปชี ีวิตสมคดิ สงิ สง 45 ปีคนกบั ควาย 105
106 68 วงปีชวี ติ สมคิด สงิ สง 45 ปีคนกบั ควาย
ปฐมวัยแห่งสมคิด สิงสง
สมคดิ สงิ สง เกดิ เม่ือวนั ท่ี 27 ตุลาคม 2493 ตรงกบั วนั ศกุ ร์
แรม 1 ค่า เดอื น 11 ปขี าล ทบี่ ้านเลขที่ 1 บา้ นซบั แดง ขณะนน้ั อยใู่ น
ท้องท่ีหมู่ 9 ตาบลโพธิไ์ ชย อาเภอมัญจาครี ี จงั หวัดขอนแกน่
ปจั จบุ นั หมู่ 5 ตาบลซับสมบรู ณ์ อาเภอโคกโพธไ์ิ ชย) บดิ าช่ือนาย
ลอด สงิ สง มารดาชอื่ นางเสย่ี น สิงสง
พ่อลอด สิงสง เปน็ ลูกชายแตเ่ พยี งคนเดยี วของปูพ่ ิม ย่าจนั ดา
สิงสง เกิดทีบ่ ้านหนิ ตงั้ ตาบลเดยี วกันกบั บ้านซบั แดง ท่านมีชีวิตอยู่
ระหว่างวนั ท่ี 10 เมษายน 2469 ถึงวันที่ 28 เมษายน 2550 สิริ
รวมอายุ 81 ปี 18 วัน สว่ นแม่เส่ียน สิงสง นน้ั มชี วี ติ อยรู่ ะหวา่ งวนั ท่ี
10 มีนาคม 2476 ถงึ วนั ที่ 2 กรกฎาคม 2561 สริ ริ วมอายุ 85 ปี
3 เดือน 22 วัน เปน็ ลูกสาวแตเ่ พียงผเู้ ดียวของตาสมบรู ณ์ ยายขาว
ชื่นใจ เกดิ และตายทบี่ ้านเลขที่ 1 บา้ นซับแดง หมบู่ า้ นที่คณุ ตา
สมบูรณ์ ชน่ื ใจ เปน็ ผใู้ หญบ่ ้านคนแรกในยุคบกุ เบกิ กอ่ ตงั้ รกรากถนิ่
ฐานที่น่ี
พอ่ ลอด แมเ่ สยี่ น สงิ สง มบี ตุ รธิดารวม 10 คน ตามลาดบั ดังนี้
1. นายสมคดิ สงิ สง 2493
2. นางวานดิ โตโส 2495
3. นายประดิษฐ์ สงิ สง 2497
4. นางช่นื จติ เทยี มเลิศ 2499
5. นางทศนี สะกจิ 2501
6. นางราตรี สงิ สง 2503
7. นางเพ็ญศรี เขียวออ่ น 2506
8. ด.ญ.รศั มี สิงสง 2507
(เสียชวี ติ คาอตู่ ้งั แตเ่ ยาวยั )
9. นายพริ ุณ สงิ สง 2511
10. นายศภุ ชยั สิงสง 2513
68 วงปีชวี ิตสมคดิ สิงสง 45 ปคี นกับควาย 107
พนี่ ้องร่วมทอ้ งแม่เดียวกัน 10 คนนี้ มีชว่ งอายหุ า่ งกันราว 2 ปี
โดยเฉล่ีย สมคิดพช่ี ายคนโตของน้องๆ มอี ายุห่างจากศุภชยั น้องชายคน
เลก็ สุดอยู่ 20 ปี
สมคดิ สงิ สง เกดิ และเตบิ โตในครอบครวั ทมี่ วี สิ ยั ทศั นอ์ นั แตก
ต่างไปจากครอบครัวชาวบา้ นท่วั ๆ ไปในท้องถน่ิ และยคุ สมยั เดียวกนั
คอื โดยท่ัวไปลูกหลานของครอบครัวคนทาไร่ไถนา เมื่อเกิดมาและเติบ
ใหญ่แลว้ ก็จะกลายเปน็ เรี่ยวแรงแขง็ ขนั ของครอบครวั เพ่ือทุ่มเทเร่ยี ว
แรงให้กับงานในไรน่ า ใหบ้ รรลุเป้าหมาย “ขา้ วเตม็ เลา้ ปลาแดกเตม็
ไห งัวควายเต็มคอก..” คือสร้างความมัง่ คั่งมน่ั คงใหแ้ กฐ่ านะเศรษฐกจิ
ครอบครวั
แต่ครอบครวั ของพอ่ ตาสมบรู ณ์ แม่ยายขาว ชืน่ ใจ มไิ ดเ้ ปน็
อยา่ งนน้ั !
ความคิดท่แี ตกตา่ งของพอ่ ตาสมบูรณ์ คอื การส่งเสรมิ โอกาส
ทางการศึกษาใหแ้ ก่ลูกหลาน โดยเฉพาะทเ่ี ปน็ ผ้ชู าย ดงั นน้ั แมเ่ ส่ียน
สงิ สง ซงึ่ เป็นลูกสาวเดียวของแมย่ ายขาวจงึ ได้ครอบครองมลู มรดกสว่ น
108 68 วงปชี ีวิตสมคิด สิงสง 45 ปคี นกับควาย
ใหญท่ ่ีเปน็ ไร่นา ส่วนพๆี่ นอ้ งๆ ที่เปน็ ผชู้ ายจะถูกสง่ ออกจากบา้ น ไป
แสวงหาโอกาสทางการศกึ ษาในเมอื ง เพื่อจะได้ใชฐ้ านะทางการศึกษา
ไตเ่ ตา้ ยกระดับฐานะทางเศรษฐกจิ และสงั คม..
นัน่ กค็ อื .. ลกู หลานที่เปน็ ผชู้ ายจะต้องไปเปน็ เจา้ เปน็ นาย
น่ีคอื วสิ ยั ทัศน์ของพอ่ ตาสมบูรณ์ ชื่นใจ ซึ่งตกทอดมาถึงแมย่ าย
ขาว หลงั จากผู้ใหญ่บา้ นซบั แดงคนแรกได้ลม้ หายตายจากด้วยพษิ ไข้ป่า
เมอื่ คราวคุมกองเกวียนไปคา้ ฝา้ ยเมืองเลย
ทาให้ลูกหลานบา้ นปา่ ขาดง.. ซับแดง มโี อกาสสวมครยุ ปรญิ ญา
“มีหมากลน้ิ ฟา้ พาดบ่า” เรมิ่ จากลูกหลานพ่อตาสมบรู ณ์และแมย่ าย
ขาวในยคุ แรกเริ่มบกุ เบิกตงั้ หมู่บ้าน
คุณครูสนิ ธุ์ วิเชียรเลิศ ครใู หญ่โรงเรยี นประชาบาลสมัยที่สมคดิ
สิงสง เปน็ นกั เรยี นในวัยเดก็ ทา่ นจะคยุ ข่มครูใหญ่ครูนอ้ ยโรงเรยี น
อ่นื ๆ เสมอเม่ือมใี ครเอย่ ตาหนิตเิ ตียนโรงเรียนบ้านปา่ ขาดงอย่าง
โรงเรยี นบ้านซับแดงวา่ เป็นโรงเรยี นคอกไก่ คอกหมเู ล็กๆ กลางป่า
กลางดง
“แถวนี้มีลกู ศิษยผ์ ใู้ ดบ้างมีหมากลิ้นฟา้ พาดบา่ ?”
กเ็ ปน็ ความจริงคณุ ครูท่านวา่ ถ้าไม่ใช่ลกู ท่านหลานเธอ หรอื ลูก
พ่อคา้ ในตัวอาเภอ กไ็ ม่มีลกู หลานบา้ นใดมโี อกาสไดส้ วมครยุ ปรญิ ญา
จฬุ าฯ หรอื ธรรมศาสตร์ อย่างลูกศษิ ยโ์ รงเรียนประชาบาลบ้านซบั
แดง
สมคิด สิงสง เล่าวา่ “เวลาสอบไล่เพ่ือจบช้ัน ป.4 เดก็ บา้ นซบั
แดง และเดก็ โรงเรยี นขนาดเลก็ บ้านต่างๆ ตอ้ งไปสอบรวมกนั ทโ่ี รง-
เรยี นขนาดใหญ่ตา่ งหมู่บ้าน ลงุ (หมายถึงสมคดิ _ผูเ้ รยี บเรียง) มีหน้าท่ี
ทาขอ้ สอบให้แล้วเสร็จก่อนเพ่อื น แล้วสง่ ตอ่ ใหเ้ ดก็ นักเรียนอ่ืนๆ คดั
ลอก โดยมีครใู หญน่ ง่ั คาบมวนยาเส้นกอกใหญ่ พน่ ควันฉุยๆ อยา่ ง
อารมณเ์ ยน็ อยู่หน้าห้องสอบ”
68 วงปชี วี ติ สมคิด สิงสง 45 ปคี นกบั ควาย 109
ในภาพคอื สมจติ (ยทุ ธพล) ช่นื ใจ และสมนกึ ช่นื ใจ น้าชาย
(นอ้ งชายแม่) ของสมคดิ สงิ สง ถา่ ยภาพในชดุ ปกตขิ าว ยนื ขนาบคณุ แม่
ขาว ชน่ื ใจ สมจิตหรือยทุ ธพล
เปน็ บณั ฑิตจากวทิ ยาลยั วชิ าการ
ศึกษาประสานมิตร ผู้ซง่ึ อุปการะ
หลานชาย สมคิด สิงสง ขณะเขา้
กรงุ เรยี นต่อระดบั ทส่ี งู กวา่ โรง-
เรียนประชาบาลท่บี า้ นเกดิ ขณะ
ท่อี าจารย์ยทุ ธพล ชนื่ ใจ รับ
ราชการเป็นครูหนมุ่ ทีโ่ รงเรียน
วัดนอ้ ยใน ตาบลตล่ิงชนั อาเภอ
ตลง่ิ ชนั จังหวดั ธนบรุ ี ต่อมายา้ ย
มารบั ราชการ ท่ีโรงเรยี นขอน-
สมจติ หรอื ยุทธพล ช่นื ใจ แกน่ วทิ ยายน และเกษียณอายุ
110 68 วงปีชีวิตสมคดิ สิงสง 45 ปีคนกบั ควาย
ราชการในตาแหนง่ หวั หนา้ หมวดวชิ าคณิตศาสตร์
ส่วนสมนกึ ชนื่ ใจ (ผ้นู อ้ ง) สังคมสงเคราะห์ศาสตรบ์ ัณฑิต แห่ง
มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ สานกั ท่าพระจนั ทร์ เกษยี ณอายรุ าชการใน
ตาแหน่งประชาสงเคราะห์จังหวัดชยั ภมู ิ กอ่ นหน้านน้ั ดารงตาแหน่ง
ประชาสงเคราะหจ์ ังหวัดสตลู นครพนม ร้อยเอด็ กาฬสนิ ธุ์ ขอนแกน่
มหาสารคาม อดุ รธานี เปน็ ตน้
นาม “สมคดิ ” กเ็ ปน็ ความประสงค์ของคณุ ยายขาว ชน่ื ใจ ท่ีตง้ั
ความหวังใหห้ ลานเจริญรอยตามลุงและนา้ ชาย จึงตงั้ ชื่อให้คลอ้ งจอง
กบั ช่อื ลูกชายของนาง.. สมจติ สมนกึ สมหวงั .. แลว้ ก็ สมคดิ
จากทอ้ งนาป่าเขา : บ้านนอกเข้ากรุง
ฉากชวี ติ สมคดิ สงิ สง ในช่วงปฐมวยั สะทอ้ นเขา้ ไปอยใู่ นนว
นยิ าย “ข้าวเขียว” ผลงานชน้ิ เอกของเขาที่ผา่ นการตีพิมพ์มาหลายครง้ั
ในชว่ งระยะเวลาเกอื บ 40 ปี “..เรือนหลังคาแป้นเกล็ดหลงั นนั้ ถึงจะ
ไม่ใหญ่โตโอ่อ่าอย่างคฤหาสน์ แตก่ เ็ ปน็ เรือนมงุ แปน้ หลงั แรกของบ้าน
นอ้ ยดงมะไฟ คนรนุ่ แก่เฒา่ รู้ดวี า่ มันเปน็ หนงึ่ ในจานวนไม่ถงึ สบิ หลงั คา
เรือน ท่ีเกดิ ขนึ้ พร้อมกบั การตง้ั หมูบ่ ้าน
ตวั เรือนหนั หนา้ ออกทางหลวง ทีป่ ลายชานข้างหน้ามีร้านแอง่ น้า
แอ่งดนิ เผาสามสห่ี นว่ ยตงั้ เรยี งกนั บนนนั้ ฝาปิดแอ่งนา้ ทาด้วยไม้กระ
ดาน กระบวยทาจากกะโปะหมากพร้าว มดี ้ามยาวแค่ศอก ปกตมิ นั จะ
วางควา่ อยู่บนฝาปดิ แอง่ น้าแอง่ ละกระบวย ในแอง่ ใสน่ ้าซบั ไว้เตม็
หลังคารา้ นแอง่ น้ากม็ งุ แปน้ เกลด็ ยามหน้าร้อนน้าในแอง่ เย็นดี
คราวเมอ่ื ทดิ บุญมาไดเ้ ปน็ เขยเรอื นนี้ใหม่ๆ ยงั ไม่มเี รอื นครวั ไฟ
ดว้ ยการเค่ียวเข็ญของยาย พอไอ้บญุ หนกั ลกู คนหวั ปไี ดน้ ้อง ทดิ บญุ มา
กต็ ่อชานน้อยและยกเรือนครวั ไฟได้หลงั หนึ่ง จวบกระท่งั อบี ุญมมี ัน
หยดุ นม พอ่ กป็ ลกู เล้าขึน้ อีกหลงั หนึ่งกับลอ้ มร้ัวหลักจวนไดร้ อบบริ-
เวณหน้าบ้านพอดี ความจรงิ ถงึ ยายจะไมเ่ คี่ยวเขญ็ ทดิ บุญมาก็มี
โครงการไว้ในใจอยูแ่ ล้ว แตด่ ้วยงานหักร้างถางพงขยายท่ไี รท่ นี่ ายงั ติด
68 วงปชี ีวิตสมคิด สงิ สง 45 ปคี นกับควาย 111
พนั อยู่ งานแตง่ บา้ นเรอื นจงึ ไปได้ชา้
“สมกับเปน็ เรอื นเจา้ เรือนนายน้อ…”
จารย์อ่อนหวั แปคนบ้านเดยี วกนั มกั จะหยอกเอนิ ยายดว้ ยหาง
เสียงตดิ ตลก แมน้ จะรู้วา่ นนั่ เปน็ คาสัพยอก แตย่ ายกร็ สู้ ึกหวั ใจพองโต
จนคับอกทุกครง้ั ทีไ่ ด้ยนิ คาหยอกเอนิ ทานองน้ี ยายมกั จะชาเลืองแล
ภาพถ่ายขาวดาที่ใสก่ รอบประดับไวท้ ีฝ่ าเรอื นดว้ ยความพงึ พอใจเสมอ
ก็จะไมใ่ หย้ ายพงึ พอใจได้อยา่ งไร ในเมือ่ ตาบลละแวกบา้ นตีนดง
แถบนน้ี อ้ ยนกั นอ้ ยหนาท่ีจะมีภาพเชน่ นปี้ ระดับฝาเรอื น ทสี่ าคญั กค็ ือ
คนในภาพนน้ั ล้วนแต่เปน็ เลือดเนอ้ื เชือ้ ไขของยายท้งั น้นั จรงิ ๆ แลว้
เครื่องแบบท่ีคนในภาพสวมใสเ่ ปน็ เครอื่ งอะไรบ้างยายไมเ่ ขา้ ใจ ผู้คน
ในหม่บู ้านน้ันก็ไมม่ ใี ครเขา้ ใจ ที่รู้ท่วั ไปก็คอื เครอ่ื ง แบบของเจา้ นาย..”
สายรกของสมคิด สงิ สง ฝงั อยใู่ ตบ้ นั ไดเรอื นหลังน้ี เมือ่ กอ่ นมนั
112 68 วงปชี ีวติ สมคิด สงิ สง 45 ปคี นกบั ควาย
เป็นบนั ไดแบบวางพาด มหี วั บนั ไดโผลพ่ ้นพนื้ ชานแดด สามารถ “เงกิ ”
หรอื ผลกั ออกจากปลายชานในเวลาค่าคนื ปอ้ งกนั หมาขน้ึ ไปกนิ ขา้ ว
ของบนเรอื น ทแี รกสร้างเปน็ เรือนเหย้า หลังคามงุ แปน้ เกลด็ ตอ่ มามี
การรื้อเปล่ยี นเปน็ หลังคาสงั กะสเี มอื่ ไม้แผน่ หรือแป้นเกล็ดผุพังไปตาม
อายุขัยการใชง้ าน ชานแดดเดิมถกู ตอ่ เตมิ และมงุ หลงั คาคลุม กลายเปน็
โถงต่างระดับ และตอ่ เตมิ ชานแดดตา่ งระดบั ต่าลงมาอกี พัก แลว้
เปลย่ี นบนั ไดเปน็ ชนดิ ทีเ่ รียกว่า “บันไดม้า” ชนิดท่ีคงอยตู่ ายตัว “เงกิ ”
ไมไ่ ด้ แต่มหี ลงั คาคลมุ ถงึ บนั ไดดว้ ย
ปจั จุบนั เรอื นบา้ นเลขท่ี 1 หลงั นผ้ี พุ งั และรอ้ื ลงสรา้ งใหม่
แปรเปลยี่ นจากเรอื นใตถ้ นุ สงู ทมี่ ชี านนอ้ ย รา้ นแอง่ นา้ และเรอื น
68 วงปชี วี ิตสมคิด สิงสง 45 ปีคนกบั ควาย 113
ครวั คงี ไฟ กลายเปน็ เรอื นตา่ ชน้ั เดยี ว เพอ่ื ใหพ้ อ่ ลอด - แมเ่ สย่ี น สงิ สง
ขนึ้ ลงเรอื นไดส้ บายในวยั ชราเมอ่ื ครงั้ ยงั มชี วี ติ อยู่
“ไอบ้ ้านนอกเอ้ย.. ทาไมแกไมเ่ อาพูก่ ันเบอร์ศนู ยน์ นั่ ตดั เสน้
วะ…”
เดก็ ชายบญุ หนกั นากลาง สดุ จะเกบ็ งาอารมณค์ วามรสู้ กึ ไว้ได้
คากบ็ า้ นนอก สองคากไ็ อเ้ สย่ี ว ในวนิ าทนี นั้ เขาทะลง่ึ พรวดลกุ ขนึ้ ยนื
มองเหน็ หนา้ เพอื่ นนกั เรยี นคนนเ้ี พยี งเทา่ เมด็ งา อารมณโ์ มโหอยา่ งสดุ
ขดี ทาใหเ้ ขาลมื กฎระเบยี บของโรงเรยี น กาปน้ั ทเ่ี คยปน้ั ขา้ วเหนยี ว
ตง้ั แตน่ อ้ ยจนใหญต่ ะบนั เขา้ ครงึ่ ปากครงึ่ จมกู เกยี รตศิ กั ดผ์ิ งะไปชนโตะ๊
เดก็ ชายอนนั ตเ์ สยี งดงั โครมคราม
“นห่ี ยดุ นะ พวกเธอทาอะไรกัน!”
ครวู าดเขียนตวาดแหวมาจากหนา้ ช้นั บุญหนกั ชะงักมือทกี่ าลงั
กาหมัดเงอ้ื งา่
“ออกมานี่ ท้งั สองคน” ครอู อกคาสงั่ ขณะลุกขน้ึ จากโตะ๊ มมุ ห้อง
เดนิ มาหยุดอยูห่ นา้ กระดานดา
“พวกเธอไม่เคารพระเบียบวินัยของหอ้ งเรียนเลย..”
นีก่ ็เปน็ ฉากชีวติ จรงิ ของสมคดิ ในยุค “บา้ นนอกเขา้ กรงุ ” ท่ี
สะท้อนเขา้ มาในนวนยิ าย “ขา้ วเขียว”
“..ท้องฟ้าท่ีแจม่ กระจ่างมาแต่เช้า เรมิ่ มดื ครมึ้ ลงในตอนบา่ ย
หมเู่ มฆทะมนึ เรย่ี ลงคลุมตีนฟ้า ไมน่ านฝนกเ็ ทลงปานฟ้าร่ัว เดก็ ชาย
บญุ หนกั นากลาง ยนื องิ เสาระเบยี งนอกหอ้ งเรยี น สะอกึ สะอน้ื ใน
หมากหัวใจอยนู่ าน มิใยท่จี ะยกต้นแขนเอาแขนเสอ้ื ซับน้าตาหลายครงั้
แต่มนั ก็ยังไหลพรากปานน้านายามฝายขาด แขนเส้ือเนอื้ ผ้าฝา้ ยลนิ ิน
114 68 วงปชี ีวิตสมคดิ สงิ สง 45 ปคี นกบั ควาย
ลงแปง้ แข็งเป๊กซมึ ซับหยาดน้าตาจนเปียกชุ่มและนมุ่ นม่ิ
มนั ไม่ใชน่ ้าตาของความเจบ็ ปวด จากแรงไมเ้ รยี วของผู้ช่วย
ครูใหญ่หน้ายกั ษ์คนนนั้ แต่เปน็ ความเจ็บปวดที่รา้ วลกึ ลงในจติ
วญิ ญาณของเด็กนอ้ ย ผ้มู งุ่ หมายใฝห่ าความหมายใหมใ่ ห้แก่ชีวติ หลงั
ทง้ิ ทอ้ งทงุ่ นาปา่ เขาไว้เบอ้ื งหลงั
“มาจากบา้ นนอกไมใ่ ชร่ .ึ . เรานะ่ ?” เสียงของผูล้ งทณั ฑ์ผ่านเขา้ หู
ซา้ ยทะลุหูขวา “ทหี ลงั อยา่ เอานสิ ยั ปา่ เถอ่ื นมาใช้ คนมอี ารยธรรมเขาไม่
ใชค้ วามรนุ แรงกนั หรอก.. จาไว้ มปี ญั หาอะไรตอ้ งพดู กนั ดๆี เรามาอยู่
ในสงั คมทเ่ี จรญิ แลว้ ตอ้ งปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั สงั คม ไมใ่ ชเ่ อะอะกล็ งไมล้ ง
มอื กนั ..”
ใช่.. เขาจะต้องจดจามนั ไวแ้ นน่ อน แต่ไม่ใช่จาคาสอนใหย้ อม
ศิโรราบตอ่ การขม่ เหงของคนที่ไดช้ อื่ วา่ มอี ารยธรรม หากเปน็ การเจบ็
จาความเจบ็ ปวดรา้ วลกึ ครง้ั แรกในชวี ติ ทีถ่ ูกกระทาจากสงั คมเมือง
หลวง
68 วงปชี วี ิตสมคดิ สงิ สง 45 ปคี นกับควาย 115
116 68 วงปีชวี ติ สมคิด สงิ สง 45 ปีคนกบั ควาย
ถนนสายใหญ่
จากมหา’ลัย..สู่ชนบท
ไพศาล สังโวลี
ผ้า ขาวมา้ ผนื น้นั นอกจากเปอ้ื นโคลนสาบควายมาบา้ ง แตย่ ัง
เหลอื เนอ้ื ท่ีอีกเกือบทัง้ ผนื ที่จะเติมแตง่ สีสนั กลบกลนื สุด
แท้อยากให้เปน็ จนคราบโคลนสาบควายเลอื นลาง อาจ
เหลือแคค่ วามทรงจา ถ้าน่ันไม่ใชว่ ถิ ขี องเขาคนน้ี
หนมุ่ นอ้ ยผูพ้ กเอาความภาคภมู ใิ จในชาติกาเนดิ ของตัวเองมา
อย่างท่วมทน้ กบั การสชู้ ีวิตในสงั คมเมือง แมจ้ ะเปน็ คนชนบท แม้เกดิ
ในครอบครัวชาวไรช่ าวนา มวี ิถีชีวิตคลกุ คลอี ยกู่ บั ท้องไร่ทอ้ งนา ท่ี
เทยี บไมไ่ ดแ้ ม้แตน่ อ้ ย กับ ผลู้ ากมากดี แต่เขากไ็ มค่ ดิ ทจ่ี ะปนี ปา่ ยถบี หนี
รกรากทีต่ วั เองจากมา
ย่งิ ภาคภมู ิใจในชาติกาเนดิ วิถชี าวไรช่ าวนามากเท่าไร ยงิ่ หลีก
ไม่พน้ ที่ต้องปะทะสังสรรคก์ บั สงั คมเหยยี ดชนช้นั สังคมเหลอ่ื มลา้ ท่มี อง
ค่าของคนอยู่ทร่ี า่ รวยหรอื ยากจน เปน็ คนเมืองหรอื คนชนบท
สิง่ เหลา่ นี้ สะท้อนอย่ใู นสองชว่ งวัย ผา่ นตวั ละคร “บญุ หนัก นา
กลาง” จากนวนิยาย “ขา้ วเขยี ว” ซ่ึง สมคดิ สงิ สง ยนื ยนั วา่ รังสรรค์
68 วงปชี ีวิตสมคดิ สงิ สง 45 ปคี นกบั ควาย 117
ขึ้นมาจากชีวิตจริงของเขาถงึ 70 เปอรเ์ ซน็ ต์
ในวัยเดก็ “บญุ หนกั ” สดุ ทนกบั ถอ้ ยคาหยามหม่ินว่าเป็นไอ้
เสี่ยวไอ้บา้ นนอก ทัง้ ถกู กลน่ั แกล้งตา่ งๆนานา จากลกู นายทหารใหญ่ท่ี
ชอบวางกร้ามในหอ้ ง จนตอ้ งลุกขึ้นตะบนั หน้าเพอ่ื นร่วมห้อง ขณะท่ีครู
กไ็ ม่เขา้ ใจและไม่คดิ ทจ่ี ะสอบสวนทวนความใหค้ วามเปน็ ธรรม กลบั
มองแตว่ า่ การกระทาของเขา เป็นสนั ดานดิบพวกบา้ นนอกป่าเถ่อื น
ชอบใชค้ วามรนุ แรง โดยไมม่ ีใครปกป้องเขาแมแ้ ตน่ อ้ ยว่าถูกกลนั่ แกล้ง
รงั แกอย่างไร จึงต้องตอบโตเ้ มื่อสุดทจ่ี ะทน
...“เดก็ ชายบญุ หนกั ยงั ยนื อยทู่ เี่ ดมิ รา่ งของเขานง่ิ นงิ่ ราวกบั ไม่
มชี วี ติ ทง้ั ๆทค่ี วามจรงิ เขาคอื ชวี ติ หนง่ึ มสี มองทจ่ี ะคดิ เกดิ มามสี องมอื
สองตนี เหมอื นกบั ผคู้ นทงั้ หลาย ในสายตาของเกยี รตศิ กั ด์ิ (ลกู นาย
ทหาร) บญุ หนกั อาจมคี า่ เสมอเพยี งกอ้ นกรวดตามถนนหนทาง เทยี บ
สว่ นไมไ่ ดแ้ มก้ บั ไอแ้ ตม้ หมาพนั ธขุ์ นดกราคาแพงทพ่ี อ่ เขาซอ้ื ใหเ้ ปน็
118 68 วงปีชวี ติ สมคิด สิงสง 45 ปคี นกบั ควาย
ของขวญั วนั เกดิ แตส่ าหรบั ผู้ทร่ี อวนั รอคนื ชน่ื ชมอนาคตลกู ชายอยทู่ ี่
บา้ นนอกอยา่ งทดิ บญุ มา ไอบ้ ญุ หนกั คอื ความหวงั เดยี วและเลอื ดเนอ้ื
เชอ้ื ไขของเขา” จากนวนยิ าย “ขา้ วเขยี ว” ชว่ งวยั เดก็ ตอนหนง่ึ ขณะครู
สงั่ ใหย้ นื รอเพอื่ พจิ ารณาโทษจากครใู หญ่ หลงั บญุ หนกั ไมย่ อมแกต้ วั
วา่ การทเ่ี ขาชกตอ่ ยเพอ่ื นเพราะถกู กลนั่ แกลง้ รงั แกกอ่ น...
และอีกครงั้ เมือ่ คราวไปรว่ มงานสงั สรรค์อนั เนอื่ งมาจากวนั
คล้ายวันสถาปนามหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ทีค่ ลาคลา่ ไปดว้ ยผ้ลู าก
มากดี บญุ หนักถกู เพ่อื นสนทิ พาเข้าไปนง่ั รว่ มโต๊ะหนมุ่ -สาวกล่มุ หนง่ึ
ที่ตา่ งกม็ องการแตง่ ตวั ของเขาหัวจรดเทา้ แสดงท่าทีเหยียดหยามความ
เป็นคนบ้านนอกคอกนาของเขา หวั เราะเยาะหยันวา่ เขาเตน้ ราไม่เปน็
ครั้งนนั้ เขาก็สดุ ท่ีจะทน ตอ้ งลกุ ขน้ึ ประกาศศกั ดศิ์ รีของคนบ้าน
นอกอกี ครัง้ ทาเอาหลายคนตกตะลึงไปตามๆกัน “ผมรตู้ วั เดย๋ี วนเี้ องวา่
ไมส่ มควรมารว่ มโตะ๊ กบั พวกคณุ และผมจะออกไปจากทนี่ เี่ ดย๋ี วน้ี เพอ่ื
พวกคณุ จะไดส้ นกุ สนานกนั เตม็ ท.ี่ ..”
“ผมจะเต้นราเป็นหรอื ไม่เปน็ ไม่ใช่เรอ่ื งท่ใี ครจะหวั เราะเยาะ
ผมขอยนื ยนั อีกครง้ั วา่ ผมไมเ่ คยเตน้ รา และจะไม่เตน้ ราเป็นอนั ขาด”
“สงั คมของผมอาจแตกตา่ งไปจากสงั คมของพวกคณุ กข็ อใหม้ นั
เปน็ ความหลากหลาย อยา่ ให้ขอ้ แตกตา่ งอนั นเี้ ปน็ สง่ิ ทใ่ี ครจะมาหวั -
เราะเยาะ วฒั นธรรมของผมอาจแตกตา่ งไปจากวฒั นธรรมของพวก
คณุ กไ็ มใ่ ชเ่ รอื่ งทใี่ ครจะมาดหู มนิ่ ถน่ิ แคลน... ขอขอบคณุ ในความ
เออ้ื เฟอื้ ของเพอื่ นฝงู ทชี่ วนมารว่ มงานน้ี ขอขอบคณุ เจา้ ภาพโตะ๊ น้ี และ
ขอขอบคณุ ทกุ คนทที่ าใหผ้ มรจู้ กั ตวั เองชดั เจนขนึ้ ”
ความรกั ในศักดศิ์ รแี ละไมย่ อมกม้ หัวใหใ้ ครมาลบหลดู่ หู มน่ิ ใช่
แต่ผ้ลู ากมากดเี ท่านนั้ ทีม่ สี ิทธิ์ มนุษยท์ กุ คนก็ยอ่ มมสี ิทธิ์ไม่ต่างกนั “บุญ
หนกั ” ในนวนิยาย “ข้าวเขียว” ประกาศตน
นค่ี อื แรงผลกั ดนั ทางความคดิ อย่างหนึ่งก็ว่าได้ ทท่ี าให้ สมคดิ
สิงสง เลอื กทีจ่ ะต่อสเู้ พ่ือกลมุ่ คนทีถ่ กู กดข่ีข่มเหง ถูกเอารัดเอาเปรียบ
อยา่ งไม่ไดร้ บั ความเปน็ ธรรม ถกู แบง่ ชนั้ วรรณะ อยา่ งทเ่ี ขาและคน
68 วงปีชวี ติ สมคดิ สิงสง 45 ปีคนกบั ควาย 119
สว่ นใหญข่ องประเทศกาลังตกอยู่ในชะตากรรมเดยี วกนั
..“ความคดิ ของเดก็ หน่มุ ลอ่ งลอยไปไกลสดุ กู่ เริม่ ต้นจาก สภาพ
ความเป็นจรงิ ทีผ่ ่านพบมาตง้ั แตน่ อ้ ยจนใหญ่ นบั แตช่ วี ิตวัยเยาว์ที่
เกลอื กอยู่กบั โคลนตม ท่งุ นาป่าเขาและหลงั ควาย กระทัง่ มีโอกาสเขา้ ไป
ใชช้ วี ติ นกั เรยี นในเมอื งหลวง ได้ซมึ ซับความรสู้ กึ เมอ่ื ยามถกู ดูหมน่ิ ถิน่
แคลนไดเ้ หน็ ความไมช่ อบธรรมท้งั หลายทั้งปวงท่คี นทาไรไ่ ถนาประสบ
อยู่ ตัวเขาเองกับญาตพิ นี่ ้องกเ็ ปน็ สว่ นหนงึ่ ในบรรดาผ้คู นท่ดี ้อยโอกาส
เหลา่ นั้น ทาใหค้ วามคิดจติ สานกึ
การตอ่ สู้ เพ่อื ความเปน็ ธรรมใน
สงั คม เริ่มแตกหนอ่ ออ่ นอยภู่ ายใน
ความรู้สกึ ” บางหว้ งคดิ คานึงของ
บุญหนัก นากลาง ในนวนยิ าย
“ขา้ วเขียว” ทสี่ าคญั เสน้ ทางต่อสู้
กบั “อยตุ ิธรรม” ครงึ่ คอ่ นชวี ิต มนั
คอื เครอื่ งพิสูจน์อย่างไมต่ ้องสงสัย
วา่ เขาแน่วแนแ่ คไ่ หนในอดุ มการณ์
ของตวั เอง
ถนนสายมหา’ลัยสู่ชนบท
เสียงไก่ขนั ขานรับกนั ราวดนตรีประสานเสยี งในละครโรงใหญ่
ปลุกชีวติ วนั ใหม่กอ่ นฟ้าสาง กอ่ นขีต้ ะวันสแี ดงจะฉาบทาปลายฟา้ ทาง
ทิศตะวันออก เสยี งววั ควายลุกจากนอนบดิ ขี้เกยี จเบยี ดตัวถฝู าคอกดัง
ฮืดฮาดๆ เหมือนนาฬิกาปลกุ อย่างดขี องแมเ่ ฒา่ เรียกหาลูกสาว ให้ลุก
นึ่งขา้ วจัดแจงหาอาหาร ฝ่ายพอ่ เฒ่า ลูกเขย ลูกชาย กเ็ รง่ รุดจงู ควาย
ออกจากคอกมุง่ สทู่ ้องไรท่ อ้ งนา พร้อมฝงู นกขยนั บินว่อนโฉบเฉย่ี ว
รอ้ งเจี๊ยวจ๊าวระบาฟ้า...
เยน็ ย่าค่าแลง กวา่ จะโงหัวขึ้นจากงานนา เลน่ เอาตะวันแดงลูก
120 68 วงปชี วี ิตสมคิด สงิ สง 45 ปีคนกบั ควาย
กลมโตจะผลุบลับทวิ ไมเ้ หนอื หัวไร่ปลายนาอยู่แล้ว เชน่ เดียวกบั ฝูงนก
กาตา่ งส่งเสียงเจอ้ื ยแจ้วโผผินบินกลบั รงั ชวี ติ แหง่ หมบู่ ้านชนบทเปน็
อย่างนม้ี าชวั่ นาตาปี
เหลือเชอื่ , วถิ ีอนั เรยี บงา่ ย ไม่เปน็ พษิ เปน็ ภยั ที่ใครๆตา่ งกช็ นื่
ชมว่างดงาม ราวกบั จิตรกรมอื เอกของโลกวาดไว้ กลบั ยังมคี นใจรา้ ยใจ
ดาคิดเอารัดเอาเปรียบ กดขีข่ ม่ เหง เยยี บย่าเหยยี ดหยาม เหมือนไม่ใช่
คน?
คงจรงิ , ทว่ี ่าไมม่ ีใครเขา้ ใจหัวอก “คนชนบท” ดไี ปกว่า
ลูกหลานเลือดเนื้อเชอื้ ไขของเขาฉนั ใด กอ็ ย่าได้หวงั จะมีใครมาต่อสเู้ พอ่ื
“คนชนบท” ชาวนาชาวไร่ ฉันนน้ั แลว้ ถ้ายิง่ ลกู หลานชาวนาชาวไร่ไม่
สนใจไยดี ไม่แมแ้ ต่จะเหลือบแลมองอยา่ งเข้าใจในปัญหา ใครเลา่ จะมา
ชว่ ยปลดแอกทุกขเ์ ขญ็ ให้พวกเขา?
ใครจะคิดว่า ส่งิ ท่ี บญุ หนัก นากลาง ในนวนยิ าย “ขา้ วเขียว”
กล่าวงมึ งาในลาคอ เมอ่ื สนทนากบั เพื่อนเรอ่ื งเรยี นตอ่ ทไี่ หนดี “ผม
ชอบธรรมศาสตร์ เขาวา่ ทีน่ น่ั มเี สรีภาพ” จะสร้าง “นกั ตอ่ สพู้ นั ธข์ุ า้ ว
เหนยี ว” ขนึ้ มาอย่างทระนง สวนทางกับความคาดหวงั ของพ่อแม่และ
ยาย ที่ต้องการเหน็ ลูกหลานไดเ้ ปน็ “เจา้ คนนายคน” เพราะไม่อยากให้
ลกู หลานเหนด็ เหนอ่ื ยถกู เอารัดเอา
เปรยี บเหมอื นพอ่ แมแ่ ละบรรพบรุ ษุ
สมคดิ สิงสง เล่าเร่ืองราวชีวิตตัวเอง
เอาไว้วา่ ชว่ งระหวา่ งปี พ.ศ.2512-
2516 เขาเรียนแผนกอสิ ระวารสาร
ศาสตรแ์ ละสือ่ สารมวลชน ภาคค่า
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โลดแลน่
อยู่กบั การเปน็ นกั กิจกรรม และเขา้
ร่วมขบวนการนิสิตนักศึกษาหวั ก้าว
หนา้ เชน่ ชมรมนกั ศึกษาชาวอสี าน
ธรรมศาสตร์ ขบวนการนสิ ติ นักศกึ ษา
68 วงปีชีวิตสมคดิ สงิ สง 45 ปคี นกบั ควาย 121
อาสาพัฒนาชนบท กล่มุ สภาหน้าโดม กลมุ่ วรรณกรรมพระจนั ทร์เส้ยี ว
เป็นต้น
นอกจากน้ยี งั มกี ารจัดทาหนงั สือวพิ ากษ์วิจารณส์ งั คมจาหนา่ ย
จ่ายแจกในรว้ั มหาวิทยาลยั ในราคาเลม่ ละ 1 บาท
กล่าวไดว้ ่าสังคมไทยในเวลานนั้ การเมืองการปกครองตกอยู่
ในเงือ้ มมอื ของเผด็จการทหารอยา่ งสนิ้ เชงิ ภายใตจ้ กั รวรรดนิ ยิ มขา้ ม
ชาติ ระบบเศรษฐกจิ มีความเหลื่อมลา้ อยา่ งสูงระหวา่ งเมืองกบั ชนบท
เช่นเดียวกับชอ่ งว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ทงั้ ยงั พบวา่ สงั คมไร้
ความเปน็ ธรรมอยูท่ ่ัวทกุ หวั ระแหง ทรัพยากรธรรมชาตถิ ูกทาลายเพ่อื
ผลประโยชน์ของคนส่วนนอ้ ย โดยท่ีไม่มใี ครกลา้ ขัดขวาง
สถานการณ์เชน่ น้ี ทาให้ สมคิด สงิ สง และขบวนการนสิ ติ
นักศกึ ษาหัวก้าวหนา้ แสดงบทบาทนอกหลักสตู ร หรือเคลื่อนไหวนอก
รัว้ มหาวทิ ยาลยั มากขึน้ ดว้ ยรูปแบบและวิธีการต่างๆ ทั้งทางการเมือง
และสงั คม...
แต่ท่ีถือวา่ เปน็ บทบาทสาคญั ในชวี ิตของสมคดิ สงิ สง อยา่ ง
122 68 วงปชี วี ิตสมคดิ สงิ สง 45 ปีคนกบั ควาย
แทจ้ ริง ก็คือ แนวคิดพฒั นาชนบท ทีม่ ีจดุ เรมิ่ จากมหาวิทยาลยั
ฉากหนึง่ ในนวนยิ าย “ข้าวเขยี ว” เมอื่ พูดถึงการพบกนั คร้ัง
แรกของ บุญหนัก นากลาง กับกลุ่มคนทน่ี งั่ อย่บู ันไดตึกศิลปศาสตร์
(สภาหน้าโดม) ไมเ่ พยี งสะท้อนความเปน็ นักต่อสูเ้ พอื่ คนชนบทของ
สมคิด สงิ สง ผา่ นตวั ละครเอกของเรอื่ ง หากแต่ยงั สะทอ้ นถงึ การเคลอื่ น
ไหวของกล่มุ นกั ศึกษาและปญั ญาชนหวั กา้ วหนา้ ในมหาวิทยาลยั ธรรม
ศาสตรส์ มัยนนั้ ได้ดอี กี ด้วย
“...เสยี งคนพูดคยุ กนั ทบ่ี ันไดตึกศิลปศาสตรด์ ึงความสนใจของ
เขาให้มองกลับไปอกี ที และพบว่าวิชยั กบั อนนั ต(์ เพอ่ื นสนทิ ของเขา)ก็
อยู่กบั หมคู่ นจานวนนน้ั “เฮ้ยน่ังกอ่ นสิหนกั ” วิชัยร้องทกั คนท้ังหลาย
หันไปมองหนมุ่ หน้ากลม บางคนขยับทีต่ รงบนั ไดยาวใหน้ ่งั “นบี่ ญุ
หนัก.. อยู่วารสารปสี าม” อนนั ต์บอกกับคนในกลุ่ม “บญุ หนัก นากลาง
ใช่ไหมครับ?” บางคนถามใหแ้ นใ่ จ “ครับ” เขาตอบรบั และย้มิ ใหค้ น
ถาม
“ดที เี ดียว เราอยากรจู้ กั คณุ มานานแล้ว เคยไดอ้ า่ นบทความ
ของคณุ ทพี่ ูดถงึ ปญั หาชนบทในหนงั สอื พมิ พม์ หาวทิ ยาลยั หนงั สอื พิมพ์
“มหาวิทยาลัย” เป็นหนงั สอื พิมพ์ฝกึ งานของนักศกึ ษาวารสารศาสตร์
และส่อื สารมวลชน “คณุ พดู ได้ดมี าก” เสียงของคนตวั เลก็ ผมหยิก ใส่
รองเท้ายางรถยนตพ์ ูดเหมือนคนตดิ อา่ ง
“ในประเด็นไหนครบั ?” บญุ หนัก นากลาง วางแฟ้มลงทบ่ี ันได
ตกึ แลว้ หยอ่ นกน้ ลงนงั่ ขา้ งๆ คนผมหยกิ “ปะ.. ปะ.. ประเดน็ ทวี่ า่ ถนน
สายใหญจ่ ากมหาวทิ ยาลยั ควรมงุ่ สชู่ นบทนนั่ ไง” เขาชีแ้ จงดว้ ยสุ้มเสยี ง
ตดิ อา่ ง หนมุ่ นกั ศึกษาจากบา้ นนอก หันมายิ้มใหเ้ พื่อนใหมอ่ ย่างเต็ม
ภาคภูม.ิ ..
“ผมคิดวา่ มันน่าจะเป็นอยา่ งน้ัน..” บญุ หนกั เปรยข้นึ ดว้ ยสมุ้
เสยี งและทว่ งทานองท่ีระมดั ระวงั เพราะร้สู กึ ตวั ว่าจะอยู่ในหมผู่ ูร้ ู้เสีย
แล้ว
หน่มุ นักศกึ ษาจากบา้ นนอกบอกว่า ปัญหาใหญ่ของบ้านเมอื ง
68 วงปีชีวติ สมคดิ สิงสง 45 ปคี นกบั ควาย 123
อยู่ทีช่ นบท คือปญั หาของชาวไร่ชาวนา พวกเขาขาดแคลนทกุ สง่ิ ทุก
อยา่ ง อยา่ งทีห่ มู่บ้านของเขา ครูคนเดียวรับผดิ ชอบนกั เรยี นท้ัง 4 ชนั้
เปน็ ทงั้ ครใู หญ่ ครูนอ้ ย และภารโรงเสรจ็ สรรพเรยี บรอ้ ย ไม่ต้องพดู
ถงึ หมอ ในตาบลหนง่ึ ๆ ไมม่ ีแพทยแ์ มแ้ ต่คนเดียว ยามเจบ็ ไข้ไดป้ ว่ ย
อาศยั ผีสางเทวดาเปน็ สาคญั “ผมจงึ เหน็ วา่ ถนนสายใหญจ่ ากมหา-
วิทยาลยั จะตอ้ งมงุ่ สชู่ นบทเสยี ท.ี .” เขาวางทา่ เหมอื นศาสตราจารย์ ผู้
กาลังบรรยายอยหู่ นา้ ชั้นเรยี น
ผู้คนทีห่ น้าบันไดตกึ ศิลปศาสตร์
นงิ่ ฟังเขาอย่างตง้ั อกตงั้ ใจ ดูทกุ
คนกระหายท่ีจะรับรเู้ ร่ืองราวใน
ชนบทเสยี จรงิ “ผมไมเ่ ขา้ ใจว่า
ทาไมรฐั บาลจงึ ไม่ให้ความสาคญั
แกป่ ญั หานี้ อยา่ งเพียงพอ ไม่
เขา้ ใจวา่ ทาไมจึงปลอ่ ยปละละเลย
124 68 วงปีชีวติ สมคิด สงิ สง 45 ปีคนกบั ควาย
ภาคชนบทให้ตกอย่ใู นสภาพเช่นน”้ี
บญุ หนัก นากลาง ตง้ั คาถามทิง้
ทา้ ย จากนนั้ หลายคนชงิ กนั ออก
ความเห็น
ฟงั จากการพดู คยุ กนั เขาเพง่ิ
ร้วู ่ามติ รใหมเ่ หลา่ นี้ ความจริงแล้ว
ลว้ นแตเ่ ปน็ ผ้ทู ่ีเขา ร้จู ักช่อื เสยี ง
เรยี งนามมาก่อนแลว้ ทัง้ นน้ั สงิ่ ท่ี
เขาคาดไมถ่ ึงคอื ไม่คดิ วา่ จะพบ
ปัญญาชนเหลา่ น้ี ในสภาพซอมซ่อ
อยา่ งท่เี หน็ บางคนมชี ่อื ตดิ อยใู่ น
คณะบรรณาธกิ ารหนงั สือพมิ พ์หัว
กา้ วหนา้ บางคนเคยมผี ลงาน
ตีพิมพ์ในหนงั สือพิมพ์การเมืองระดับประเทศ
“เรื่องน้ีมนั เก่ียวกับการเมอื ง..” คนผมหยกิ ออกความเหน็ เมอ่ื
บุญหนกั พูดถึงปัญหาของชนบท และนาเสนอโครงการอาสาสมคั ร
พัฒนาชนบทของเขาใหม้ ิตรใหมฟ่ ัง
“รัฐบาลเผดจ็ การหวาดระแวงนักศึกษา หวาดระแวงคนหนมุ่
สาวทมี่ ีแตเ่ จตนาดแี ละหัวใจบริสทุ ธิ์ ไมเ่ พยี งแตป่ ดิ หปู ดิ ตาประชาชน
ไมใ่ ห้มีการเลอื กต้ังมาตง้ั สบิ กวา่ ปแี ลว้ เทา่ น้ัน ยังหา้ มกิจกรรมของ
นกั ศึกษาทุกอย่างท่ีเกี่ยวข้องกบั การเมืองดว้ ย” คนผมหยกิ บอกว่า
กิจกรรมเสริมหลักสตู รการเรียนการสอน ทุกอยา่ งของนกั ศกึ ษาจะ
ต้องระบวุ ัตถปุ ระสงคใ์ หช้ ดั เจนว่า “ไม่ยุ่งเกย่ี วกบั การเมือง” แมแ้ ต่
กิจกรรมของนักศกึ ษาคณะรฐั ศาสตร์ ทงั้ ๆทก่ี ารเมอื งการปกครอง ก็
อยใู่ นหลกั สตู รท่ีจะต้องศกึ ษาเลา่ เรยี น และเกย่ี วข้องกับชวี ิตประจาวนั
ของผคู้ นทุกชนชน้ั ทกุ ลมหายใจเขา้ ออก
“เราจะตอ้ งตอ่ สู้ใหป้ ระเทศมปี ระชาธปิ ไตย ใหม้ รี ัฐธรรมนญู
ใหม้ สี ภาผูแ้ ทนราษฎรทม่ี าจากการเลือกต้ัง ไมใ่ ช่สภาร่างรัฐธรรมนูญ
68 วงปีชวี ติ สมคิด สิงสง 45 ปคี นกับควาย 125
อยา่ งที่เปน็ อย่ทู กุ วนั นี้ ที่รา่ งกันมาเป็นเวลาสิบๆ ปแี ล้วกย็ ังไมแ่ ล้ว
เสรจ็ เราจะปลอ่ ยให้บา้ นเมอื งของเราตกอยใู่ นเงอ้ื มมอื ของเผด็จการ
เหลา่ น้ีไดอ้ ยา่ งไร” ขณะท่ีคนผมหยกิ พดู เพือ่ นของเขาทกุ คนจะน่งิ ฟงั
อยา่ งต้งั อกตง้ั ใจ
“เราจะต้องเรมิ่ กนั จากในรัว้ มหาวทิ ยาลัยนแ่ี หละ นกั ศึกษา
จะต้องเปน็ หัวหอกนาประชาชนลุกข้นึ มาเรียกร้องสทิ ธิอนั ชอบธรรม
ของเขา” คนผมหยกิ ชกู าปนั้ หรา!
โดยทั่วไป ผ้คู นทีเ่ ดนิ ผา่ นไปมาไมค่ ่อยมีใครสนใจกลุ่มคนพวก
นน้ี กั โดยเฉพาะพวกทอี่ ยใู่ นชดุ นกั ศกึ ษา ประดับหวั เขม็ ขัด กลัดกระดมุ
ปมเน็คไทตราสถาบนั ดูราวกบั ว่าการข้องแวะกบั พวก สโมสรหัวบันได
จะทาใหค้ วามมีสง่าราศขี องพวกเขาเสือ่ มคลายลงไปอีกอกั โข นอ้ ยนักที่
จะรู้ว่าคนผมหยิกในชดุ ชาวเลครา่ คร่านั้น แท้แล้วเขาเป็นรัฐศาสตร์
บัณฑิตเกยี รตินิยมมาหลายปีแลว้ และเวลาน้ี เขาเปน็ นกั ศกึ ษาบณั ฑติ
วิทยาลยั กาลงั ทาวิทยานพิ นธร์ ะดับปรญิ ญาโททางรัฐประศาสน-
ศาสตร์อยู่ ในจานวนผคู้ นทเ่ี ดินผา่ นไปมา บางคนเพียงแค่ชาเลอื งหาง
ตาเหลอื บแล... กอ่ นสรปุ เอาง่ายๆว่า เปน็ พวก “หวั รนุ แรง”
ในนวนยิ าย “ขา้ วเขยี ว” สะทอ้ นให้เหน็ แนวคิดของ สมคิด สงิ
สง อย่างชัดเจนในการพฒั นาสังคม ไทยใน
ขณะนั้น นน่ั คอื “ถนนสายใหญ่จากมหาวทิ -
ยาลัยต้องมงุ่ สูช่ นบท”
เอาให้ชดั ลงไปอีก กค็ อื โจทย์ของการ
พฒั นา จะตอ้ งแกป้ ญั หาคนชนบทใหไ้ ดน้ นั่ เอง
ทง้ั นน้ี วนยิ าย “ขา้ วเขียว” แมฉ้ ากและชวี ิตของ
ตัวละครในเรอ่ื ง กระท่ังเน้ือเรอ่ื งท่ที าใหเ้ หน็
เสน้ ทางชวี ติ ของคนคนหน่งึ ผเู้ ชอื่ มน่ั และทมุ่ เท
ให้กบั อดุ มการณพ์ ัฒนาชนบท ดว้ ยการมีสว่ น
ร่วมของชาวบา้ น กบั อาสาพฒั นาชนบทที่
พร้อมเสียสละในการฟนั ฝา่ อปุ สรรคเคยี งบา่
126 68 วงปีชีวิตสมคิด สิงสง 45 ปคี นกับควาย
เคียงไหล่ไปด้วยกนั
และสะทอ้ นการต่อสู้ของชาวนาถูกยึดท่นี า เนื่องจากเป็นหน้ี
“ขา้ วเขยี ว”, “ปอเขยี ว” ซ่ึงในยุคน้ัน ถือว่าเปน็ ปัญหาใหญ่ของชาวนา
ชาวไร่ก็ว่าได้ กบั นายทนุ หน้าเลือด ผมู้ ากบารมีในแวดวงราชการ และ
มอี ิทธพิ ลในตาบล หมบู่ า้ น
อาจมีความเป็น “นวนยิ าย” ทีท่ าให้เรอื่ งราวมีพวก “ผรู้ า้ ย”
และพวก “พระเอก” อยบู่ ้าง แตอ่ ย่างที่ สมคิด สงิ สง บอกเอาเอาไวว้ า่
นวนยิ าย “ข้าวเขียว” มีชวี ิตของเขาอยู่ในนน้ั ถึง 70 เปอรเ์ ซน็ ต์
โดยเฉพาะ ตวั ตนทีย่ ดึ อดุ มการณก์ ารต่อสเู้ พอ่ื คนชนบท เพ่อื
กลมุ่ คนผถู้ ูกกดข่ีเอารัดเอาเปรียบในสงั คม ทีแ่ ฝงอยู่ในนวนยิ ายเรื่องนี้
68 วงปชี ีวติ สมคดิ สิงสง 45 ปีคนกับควาย 127
อย่างฉากท่ี บุญหนัก นากลาง นาความจากทางบ้านกลับมา
ส่ือสารกบั เพอื่ นรว่ มอดุ มการณ์ กอ่ นไปออกค่ายอาสาพฒั นาทบ่ี า้ น
เกดิ
...“เมอ่ื สองวันกอ่ นผมกลับมาจากบ้านนอก คนหนมุ่ สาวกาลัง
จะพากันหลั่งไหลเขา้ มาในเมอื งเพอื่ หางานทา โครงการของเรา(คา่ ย
อาสาพฒั นาชนบท)จะต้องสามารถสกัดกั้นการหลง่ั ไหลลงมาของคน
พวกนนั้ ”...
“เรือ่ งมนั มอี ย่วู า่ ปนี ี้ฝนท้ิงชว่ งอกี ตามเคย ขา้ วกลา้ ในนาแห้ง
เห่ยี วไปหมด เรอื กสวนไร่นาเหน็ จะไม่ไดผ้ ล ซา้ ร้ายไปกว่านั้นบางคนก็
ไมม่ ีทน่ี า เนอ่ื งจากถูกยดึ เอาไปแทนหนส้ี นิ ทค่ี า้ งอยู.่ .”...
“เร่ืองมนั ไมไ่ ด้หยุดอยแู่ คน่ ายเงนิ คนหน่งึ ยึดนาลูกหน้ีทดแทน
หนส้ี นิ ทล่ี กู หนไี้ ม่สามารถชาระคืนเงนิ ก้ไู ดเ้ ท่านนั้ แตม่ นั ส่งผลตอ่ ไปอีก
เป็นลูกโซ่ บางคนหมดไรห่ มดนาก็หนั ไปทางลกั ขโมย เป็นโจรผรู้ ้ายไป
เลย บ้างกห็ ันหนา้ เขา้ เมอื งเปน็ กรรมกร จากปญั หาของชาวนาใน
ชนบท กลายมาเปน็ ปัญหาของความแออดั ในสงั คมเมอื งหลวง และบาง
รายถึงกับขายเน้ือขายตัวเปน็ โสเภณี คิดดกู ็แล้วกนั ว่ามนั เปน็ เรือ่ ง
ทารณุ แคไ่ หน!”
128 68 วงปีชีวติ สมคิด สงิ สง 45 ปคี นกับควาย
“สาหรบั นายเงนิ เขาอาจ
ไมร่ ู้สึกอะไร เพราะเขาเลง็ เหน็ แต่
ผลประโยชนส์ ่วนของเขาเอง
วางแผนดีดลกู คดิ หากาไร ถึง
หน้าแลง้ ตกขา้ วเขียว ปอเขยี ว
ออกเงนิ ใหค้ นกู้ยมื เมอ่ื ถงึ หนา้
เก็บเกยี่ วกต็ กั ตวง เอาแต่ดอกเบย้ี
ค่าเช่า ในรายท่ไี ม่มีให้ดว้ ยประสบ
ภยั ธรรมชาติน้าท่วมหรอื ฝนแล้ง
เขาก็จะยึดเอาไรน่ าบ้านเรือนวัว
ควายไปจากชาวนาอย่างหนา้ ตา
เฉย ชาวนาชาวไรเ่ มื่อไมม่ นี าไม่มี
ไร่ ไมม่ ีววั ควาย ก็เท่ากับไมม่ ีทกุ
สง่ิ ทุกอย่าง”
ทน่ี า่ สนใจ คอื ฉากนกึ ฝนั ของ บญุ หนกั นากลาง เกย่ี วกบั
โครงการพฒั นาชนบทของเขา... มนั คอื รปู ธรรมทเ่ี กดิ ขน้ึ ในภายหลงั
หลงั จากเขาตดั สนิ ใจกลบั มาพฒั นาบา้ นเกดิ
...สมองในเวลานนั้ กลายเปน็ คลังของความคดิ ฝนั เขาฝนั ท่ีจะ
เหน็ สภาพชวี ติ ของผู้คนในชนบท ได้รบั การเปลี่ยนแปลงดว้ ยโครงการ
พฒั นาของเขา... กอ่ นอนื่ จะต้องรวมพลงั ทก่ี ระจดั กระจายอยใู่ นหมูบ่ า้ น
หมบู่ ้านแลว้ หมูบ่ า้ นเลา่ จนทว่ั ทั้งตาบล ทาให้ความคดิ ของคนเหน็ ความ
ร่วมไม้ร่วมมอื กนั พง่ึ พาอาศัยกนั สรา้ งสรรคว์ ตั ถปุ จั จยั ใหม้ ี
หลักประกนั ในสวสั ดกิ ารตามสมควร
ภาพในความคิดฝัน ผุดข้ึนในจินตนาการภาพแล้วภาพเลา่
อาทิ โรงสสี ่วนรวม คอกปศสุ ตั ว์ หอ้ งยาหรือคลนิ กิ ชนบท ห้องสมุด
ชุมชน สถานเล้ยี งเดก็ ...ฯลฯ “เราจะตอ้ งระดมบุคลากรอาสาสมคั รใน
สาขาต่างๆ ทีม่ อี ุดมการณ์อย่างเดียวกนั สามารถปลีกตวั ไปทางานโดย
ไม่เหน็ แก่อามสิ สินจา้ ง สามารถจ้าปลาแดกด้วยข้าวเหนียวเยน็ ชืด
68 วงปีชีวิตสมคิด สงิ สง 45 ปคี นกบั ควาย 129
ร่วมกบั ชาวบ้านไดอ้ ยา่ งสนทิ ใจ..”
ขณะทีอ่ ีกตอน เมอ่ื กลบั ไปเตรยี ม
ความพรอ้ มในหมบู่ า้ น กับชาวบ้าน
เพื่อใหช้ าวบ้าน เข้าใจเจตนารมณ์
ของเขากับเพ่อื นท่ีร่วมโครงการบุญ
หนกั นากลาง มกั หยิบยกเอาปัญหา
ใกลต้ วั มาอธิบาย เรมิ่ จากการแลก
เปลยี่ นความคดิ เหน็ เกี่ยวกับการ
ไปทางานในกรุงเทพฯ วา่ ดีหรอื ไม่
ดีอยา่ งไร
...ลองคดิ ดกู ็แล้วกนั ว่าวนั
หนง่ึ ๆ คนเข้าเมืองไปหาทางานกนั
มากน้อยแคไ่ หน กอ็ ยา่ งทเี่ ราเห็น
กนั คนบา้ นเราใครๆกอ็ ยากไปหา
งานทาในเมอื ง ในเมอ่ื มีคนเรอื น
แสนเรอื นลา้ น เขา้ แถวรอคิวยาว
เหยียดอยากไดง้ านทา เขาจะคัดเลือกเอาคนงานอย่างไรกไ็ ด้ ใครมีปาก
มเี สยี ง หรอื ขอค่าแรงเพมิ่ เขากจ็ ะบอกอยา่ งหนา้ ตาเฉยวา่ .. ไม่พอใจทา
ก็ออกไปเสียสิ คนอ่ืนเขาอยากทามีถมไป.. และความจรงิ กเ็ ปน็ อย่างน้ัน
สภาพชีวิตของคนบ้านนอกคอกนาเรา เม่อื เขา้ เมอื งไปหางาน
ทา มันกเ็ ปน็ อยา่ งน้ี คุณค่าของความเป็นคนถูกริดรอนอย่างน้ี แล้วเรา
ยังอยากจะเขา้ ไปในเมอื งอีกหรือ? ชายหนุม่ ทามือทาไมส้ าธยายยืดยาว
คนฟงั นั่งน่งิ เหมอื นถกู ตรงึ ให้อยูก่ บั ที่ดว้ ยตะปูสนี่ ิ้วกไ็ ม่ปาน “เชอ่ื เถอะ
พวกทเ่ี ข้าไปทางานในเมอื งแลว้ กลบั มาวางท่าอวดเบง่ มนั เปน็ การ
แสดงออกเพอ่ื ชดเชยความตา่ ตอ้ ยน้อยหนา้ เทา่ นนั้ เองเราอยูก่ รุงเทพฯ
มานานหลายปี เราได้รู้ได้เหน็ บอกตรงๆ ว่าเราไม่อยากใหพ้ วกเราไป
ตกอยูส่ ภาพอยา่ งนน้ั สภาพท่ี ผหู้ ญงิ ขายตัว.. ผชู้ ายขายแรง…”
“แลว้ จะใหท้ าอยา่ งไร?” จารย์ออ่ นเอ่ยข้นึ อยา่ งเหนือ่ ยหนา่ ย
130 68 วงปีชีวิตสมคดิ สงิ สง 45 ปีคนกบั ควาย
ท่วงทา่ ตดิ ตลกเรยี กเสียงเฮฮาใหแ้ ก่วงสนทนา อันเปน็ ลักษณะพิเศษ
ของแกเม่ือครง้ั ทยี่ งั อย่ใู นวัยฉกรรจ์ เหลอื ร่องรอยไวใ้ หเ้ หน็ น้อยเตม็ ที
ทุกวนั นเ้ี ฒ่าจารย์อ่อนกลายเป็นคนซึมเศร้าเหงาหงอย ลกั ษณะอาการ
อย่างนเี้ รมิ่ เป็น เมื่อถกู เขายึดนาเอาไป
“ก่อนที่จะถามว่าทาอย่างไร เราควรทาความเข้าใจเสยี กอ่ น
ว่าทาไมมนั จงึ เป็นอย่างน้?ี ความจริงคนยากคนจนอย่างเราเปน็ คน
สร้างคนทาทุกส่งิ ทกุ อย่างใหแ้ กส่ ังคม ออกแรงปลกู สร้างข้าวปลา
อาหาร พริกเขือเกลือปลาร้า ลว้ นแต่เกดิ ข้นึ จากแรงงานของคนจน
อยา่ งเราทงั้ สิน้ แต่ทาไมคนทานาจึงต้องอดขา้ ว กรรมกรกอ่ สรา้ ง ต้อง
อยกู่ ระต๊อบ กรรมกรโรงงานทอผ้าต้องสวมใสเ่ สื้อผา้ ขาดว่ิน คร่า
คร่า...ทาไม?” บุญหนกั ย้าด้วยเสียงหนกั แนน่ เพอื่ นหนมุ่ แหง่ ท้องนา
ของเขา พยกั หน้าเออออเหน็ ด้วย หลายคนพากนั ออกความเหน็ แต่ก็
ลงทา้ ยด้วยคาถามเดียวกันว่า...ทาไม?
“ก็เพราะวา่ เราไมม่ ีอานาจตอ่ รอง!” เขาว่า “เราต้องสร้าง
อานาจต่อรองข้ึนมา คดิ ดกู แ็ ล้วกนั ถ้าเรามแี ตพ่ ากันแหเ่ ข้าไปในเมอื ง
กย็ ิ่งเหมือนไปชว่ ยเสริมสรา้ งอานาจต่อรองใหแ้ ก่คนพวกนั้น เมอื่ มีคน
ต้องการทางานและไมม่ งี านทาเปน็
จานวนมาก พวกเจา้ ของโรงงาน
เขาก็ยงิ่ มอี านาจตอ่ รอง…”
เขาเพียรอธิบายอยา่ งไมร่ ู้
เหนือ่ ยหน่าย “..ดูใกล้ๆ ตัวเราบา้ ง
เราทาไรป่ อ ทานา พอเราทา
ผลติ ผลออกมาเราได้ขายเอามยั้ ? ก็
เปลา่ .. มแี ต่เขามาตงั้ ราคาซ้อื เอา
ตอนตน้ ฤดเู พาะปลกู เขาก็ขนึ้ ราคา
หลอกให้เราปลกู มากๆ แตพ่ อถงึ
หน้าเก็บเกี่ยวมันกล็ งราคา หรือ
เมือ่ เราขนใส่รถไปขายใหเ้ ขา กบ็ อก
68 วงปีชีวิตสมคดิ สิงสง 45 ปคี นกบั ควาย 131
ว่าสินคา้ แน่นฉางแลว้ เขาจะซือ้ ในราคาเท่าน้ี ไม่ขายกข็ นกลบั ไปสิ…”
“มันก็คอื กนั กบั หามผตี กป่าชา้ ไมเ่ ผากฝ็ งั เทา่ น้ันเอง!” จารย์
ออ่ นตอ่ ความ “เราจะตอ้ งผนกึ กาลงั กนั สรา้ งอานาจตอ่ รอง” หนุ่ม
นักศกึ ษา เสนอตอ่ ไป “และเราตอ้ งลงมอื ทาทันที ไม่ใชพ่ ดู กนั เลน่ เฉยๆ
แลว้ ก็แลว้ กันไป เราจะต้องทาได้ พอกนั ทกี ารยอมใหเ้ ขาขูดเน้อื เถือ
หนงั พอกนั ทีการก้มหัวให้กบั อานาจขม่ เหง ถา้ เราไม่ลุกขนึ้ มาก็จะเปน็
ฝ่ายเสยี เปรยี บอยูอ่ ย่างนร้ี ่าไป”...
ความคิดของคนหนุ่ม ท่กี อ่ รปู ขนึ้
จากจินตนาการสรา้ งสรรค์ เปน็ ที่
วพิ ากษว์ จิ ารณอ์ ยา่ งกวา้ งขวาง
พวกคนหนมุ่ ร่นุ ราวคราวเดียวกัน
กับเขาให้ความสนใจอย่างมาก
สว่ นพวกผใู้ หญบ่ างคนยงั มีขอ้
สงสยั “เดก็ เมอื่ วานซืน มนั กด็ แี ต่
พดู ล่ะวะ มนั เรียนมาสงู ก็เลยรอ้ น
วิชา”...
ในท่ีสดุ โครงการอาสาพัฒนา
ชนบทออกค่ายพฒั นาทบี่ า้ นเกดิ
ของบุญหนัก นากลาง กป็ ระสบความสาเร็จอย่างสูง ทว่ากลับมโี รค
แทรกทางสงั คม กลายเป็นความหวงั ดีประสงค์รา้ ยไปเสียอยา่ ง
นั้น เน่ืองจากผลงานทบี่ รรดานกั ศึกษาทากิจกรรมรว่ มกบั ชาวบ้าน
ได้รับความช่ืนชมยนิ ดอี ยา่ งมาก จนสร้างความไม่พอใจให้กบั กลมุ่ ของ
กานนั นาเร่อื งนไ้ี ปรายงานทางราชการวา่ นกั ศกึ ษาเหลา่ นี้มี
พฤติการณไ์ ม่นา่ ไวว้ างใจ อาจเปน็ ภยั ตอ่ ความม่นั คง
บุญหนกั นากลาง ถงึ กบั หมดหวังในชวี ิต อดุ มการณท์ ี่สอู้ ุตส่าห์
ปัน้ ฝันถกั ทอมาจนจะถึงฝัง่ ฝนั อยู่แล้ว ถกู พงั ทลายลงดว้ ยคาวา่ “มี
พฤตกิ ารณไ์ มน่ า่ ไวว้ างใจ อาจเปน็ ภยั ตอ่ ความมนั่ คง” อยา่ งส้ินเชิง
ในยุคนั้น เปน็ ทีท่ ราบกนั ดวี ่า ลองถูกจับตาการเคลอ่ื นไหว
132 68 วงปชี วี ิตสมคดิ สงิ สง 45 ปคี นกับควาย
จากฝา่ ยราชการวา่ อาจเปน็ ภัยต่อความมน่ั คงเมอ่ื ไหร่ ยอ่ มเสี่ยงทจ่ี ะถูก
จับกมุ คมุ ขงั ไดง้ ่าย หรือมากกว่านั้นอาจอันตรายถึงชีวิต จึงแทบไมต่ อ้ ง
พดู ถึงอุดมการณอ์ นั แนว่ แนข่ องเขาท่จี ะนาพาชาวบา้ นพัฒนาท้องถนิ่
ว่าจะทาได้อยา่ งไรตอ่ ไป
“...งานกอ่ สรา้ งฝายชลประทานหบุ อเี ลิง เสร็จส้ินลงไปตาม
โครงการแล้ว เปน็ ผลงานร่วมกนั ของชาวบ้านกับนกั ศกึ ษาท่มี าออก
คา่ ยอาสาพัฒนา ชาวบา้ นพากันชื่นชมและจัดงานบายศรีส่ขู วัญใหก้ ับ
พวกนักศึกษากอ่ นท่พี วกเขาจะกลบั คนื สู่ห้องเรียน พร้อมกนั น้นั ก็เกดิ
ข่าวลอื ขจรขยายไปกบั สายลมต้นฤดูแลง้ ว่าคนบ้านนอ้ ยดงมะไฟ ถกู
นกั ศกึ ษาล้างสมองไปหมดแล้ว!...” ฉากหนึ่งในนวนยิ าย “ขา้ วเขียว”
หันหลังให้ “เจ้าคนนายคน”
ความคิดของคนทจ่ี ะเป็นนกั ต่อสเู้ พอ่ื อดุ มการณ์ บางครงั้ กไ็ ม่
ตอ้ งการความเขา้ ใจจากใครเหมอื นกนั แม้แตพ่ อ่ แมญ่ าติพี่นอ้ งคน
ใกล้ชิด
สง่ิ ทา้ ทายด้วยหวั ใจกล้าแกร่งของ สมคดิ สงิ สง น้อยคนนกั ท่จี ะ
ทาได้ เพราะทางเลอื กทต่ี ้องแลก ไม่เพยี งตอ้ งเดนิ สวนทางกบั ความฝัน
ความหวังของพ่อแมแ่ ละยาย
เทา่ นั้น หากแต่ยงั ไม่รอู้ นาคตด้วย
ซา้ วา่ จะทาได้หรือไม่ จบลงเช่นไร
มีแต่คาวา่ “ตอ้ งทาใหไ้ ด”้ เทา่ นัน้
เปน็ เขม็ ทิศนาทาง
เร่ืองน้ี ในนวนิยาย “ขา้ ว
เขียว” สะทอ้ นใหเ้ ห็น
...บญุ หนกั นากลาง จริง
จังกับการพัฒนาชนบทมาตงั้ แต่
เรียนมหาวิทยาลัยปีแรก เมอื่ มี
โอกาสไดไ้ ปออกค่ายอาสาพฒั นา
68 วงปชี วี ติ สมคดิ สงิ สง 45 ปคี นกบั ควาย 133
กับนักศกึ ษารนุ่ พ่ี จากนั้นเขาได้รวบรวมพรรคพวกท่เี คยเรยี นมธั ยม
มาด้วยกนั และกระจัดกระจายอยูต่ ามสถาบันต่างๆ จัดตัง้ กล่มุ อาสา-
สมคั รพฒั นาชนบทข้ึนมา จดั วางโครงการหาทนุ และไปสร้างโรงเรยี น
ให้แก่หมู่บ้านที่ห่างไกลในชนบทมาแลว้ คร้ังหนงึ่
“เอง็ ควรตง้ั หนา้ ต้งั ตาเรียนให้จบเสยี ก่อน ไดป้ ริญญาแล้วจะ
คิดอา่ นอะไรคอ่ ยคดิ ”
น้าชายกล่าวเตือนครงั้ แล้วครัง้ เลา่ โดยเฉพาะเมอ่ื คราวบญุ
หนกั ขออนุญาตน้าไปรว่ มออกคา่ ยกับรุ่นพีท่ างปกั ษใ์ ต้ “กอ่ นจะคดิ ชว่ ย
คนอน่ื เอง็ ควรชว่ ยตัวเองใหร้ อดเสียกอ่ น...” บญุ หนกั น่งิ เงยี บฟงั คา
นา้ ปว่ ยการทจี่ ะโตแ้ ย้ง ดูเหมือน แนวความคดิ ของนา้ กับหลานจะไป
คนละทางเสยี แล้ว และนับวนั ย่ิงห่างไกลกนั ออกไป
...ความขดั แย้งทางความคดิ ระหวา่ งน้ากบั หลานพฒั นาขนึ้ เปน็
ลาดับ จนวันหน่ึงก็ถึงขนั้ พูดจากนั ตอ่ ไปไม่ได้ “ผมจะไปตามทางของผม
ผมจะดน้ิ รนเอาตวั รอดอย่างที่นา้ บอก...” แลว้ เขาก็ออกไปจากบ้าน
เช่ารมิ คลองอยา่ งท้าทาย เหมือนว่าว สายปา่ นขาด มีแตจ่ ะปลิวว่อนไป
ตามกระแสลมแรง
เขาตัดสินใจประกาศความเปน็ ไทดว้ ยการก้าวออกจาก “การ
อปุ การะ” ของนา้ ชาย ในสมองยงั
เต็มไปดว้ ยคาถามท่ียังไมม่ คี าตอบ
ทีแ่ จ่มชดั น้าสอนใหเ้ อาตัวรอด ครู
อาจารย์กส็ อนใหเ้ อาตวั รอด ถ้า
อยา่ งนน้ั วชิ าความรทู้ ร่ี ่าเรยี นมาก็
เป็นเพยี งเครอ่ื งมอื ให้คนเอาตวั
รอดเทา่ นัน้ หรอื ?
ทาไมจงึ พร่าสอนใหเ้ อาตัวรอด
สมจิต หรอื ยทุ ธพล ชน่ื ใจ นา้ ชายผู้
อุปการะเม่อื เขา้ กรงุ ฯ เรยี นตอ่
134 68 วงปชี ีวิตสมคิด สงิ สง 45 ปคี นกับควาย
แบบตดั ชอ่ งนอ้ ยแตพ่ อตัว ในเมอ่ื ผูค้ นทง้ั แผ่นดนิ กาลงั จะเอาตวั ไม่รอด
จะไม่ลองยืน่ มอื นอ้ ยๆไปฉุดดงึ พวกเขาใหล้ มื ตาอ้าปากบา้ งหรอื ?
ความจรงิ บญุ หนกั เข้าใจในเจตนาดขี องนา้ ทพ่ี รา่ เตือน แต่เขา
ไมอ่ าจเดนิ ตามเส้นทางทนี่ า้ กาหนดจนถงึ ที่สดุ เขาคดิ ว่ายคุ สมยั แหง่
การเอาตัวรอดแบบตดั ชอ่ งนอ้ ยแต่พอตัวน่าจะสน้ิ สดุ ลงแล้ว
สนิ้ สดุ กนั เสยี ที สาหรบั ความคดิ เอาตวั รอดแตเ่ พยี งลาพงั ผู้
เดยี ว นบั แตน่ ไี้ ปเขาจะตอ้ งเปน็ คนหนมุ่ ผกู้ ลา้ คดิ กลา้ ทา กลา้ ตอ่ สกู้ บั
ความไมถ่ กู ตอ้ งเปน็ ธรรมทงั้ หลายทง้ั ปวง และกลา้ เอาตวั เองไปสมั ผสั
กบั ผคู้ นรว่ มแผน่ ดนิ ทย่ี งั ตา่ ตอ้ ยนอ้ ยหนา้ เรอื นแสนเรอื นลา้ น และ
ความจรงิ ..ผคู้ นจานวนนน้ั กค็ อื คนอยา่ งพอ่ แมแ่ ละญาตพิ น่ี อ้ งของเขา
ทอี่ ยทู่ างบา้ นนอกนน่ั เอง
อีกฉาก ทสี่ ะท้อนผ่านนวนิยาย “ข้าวเขยี ว” คือ ช่วงท่ี บญุ หนกั
นากลาง เทียวไปเทยี วมา กรงุ เทพฯกับบ้านเกิด เพอ่ื เตรยี มความ
พรอ้ มทางความคิดกับชาวบา้ นและเดินเร่ืองกับทางอาเภอ ในการออก
68 วงปชี ีวิตสมคดิ สงิ สง 45 ปคี นกับควาย 135
คา่ ยอาสาพฒั นา
“มงึ มวั แตม่ าเล่นมาหวั อยอู่ ยา่ งน้ี เมื่อไหร่มนั จะจบเสียที อย่า
ให้กูตอ้ งอายผู้อายคนเขานะ” ผูเ้ ปน็ พอ่ มกั จะพรา่ บ่นตักเตือนเสมอ
เมอ่ื เขาขน้ึ มาเย่ียมบา้ น ดเู หมือนวา่ หมนู่ เี้ ขาจะข้นึ มาบอ่ ย มาอย่คู ร้ังละ
หา้ หกวันแลว้ ก็กลับไป “ทกุ วันน้ีเขากห็ ยามหยนั อยูพ่ อแรงแลว้ คน
แถวนี้มนั อิจฉาตารอ้ น คอยแตจ่ ะสมน้าหน้ากนั อยา่ งกานนั องอาจ
อยา่ งเฒ่าอ่วมเหน็ ม้ยั ถ้ามงึ เรยี นไมจ่ บ ออกมาเกเรเกตงุ อยู่กับบา้ น กู
จะเอาหน้าไปไว้ไหน ต้ังหน้าต้ังตาเรียนให้จบออกมาทาการทางานเป็น
หลักเปน็ ฐาน อย่าใหค้ นมนั เทย่ี วแตเ่ ยาะเยย้ ถากถาง กขู ี้คร้านได้
ยนิ …”
“ผมไมไ่ ด้มาเลน่ มาหัว
เฉยๆ ดอกนะพ่อ ผมมาทางาน
ตามโครงการ ของพวกผม
โครงการพฒั นาท้องถ่ินของ
พวกเราใหเ้ จรญิ พอ่ ไมต่ ้อง
หว่ งดอก พรุ่งนี้ผมจะไปอาเภอ
ไปเสนอโครงการใหน้ ายอา-
เภอรบั รู้ เสรจ็ แล้วก็จะเลยลง
กรุงเทพฯ”
“มงึ มวั แตข่ นึ้ ลอ่ งอยู่
อยา่ งนี้ เมอื่ ไหรจ่ ะจบออกมา
เปน็ เจา้ เปน็ นายกบั เขา?”
ลูกชายได้ยนิ คานข้ี องพ่อ
กส็ วนกลบั ทนั ที “พอ่ ไมค่ วรจะ
หวงั ใหผ้ มรบั ราชการ เปน็ เจ้า
เปน็ นาย ระบบราชการกบั ผม
มนั ไปกนั ไมไ่ ดด้ อก ถงึ เราจะ
เปน็ คนธรรมดา ไมไ่ ดเ้ ปน็ เจ้า
136 68 วงปชี วี ติ สมคดิ สิงสง 45 ปคี นกับควาย
เปน็ นาย แตถ่ า้ กลา้ พดู กลา้ ทาในสง่ิ
ทถ่ี กู ตอ้ งเปน็ ธรรม คนเขากจ็ ะนบั
หนา้ ถอื ตาเอง ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งแตง่
เครอ่ื งแบบวางทา่ ใหญโ่ ตดอก
เพยี งแตก่ ลา้ คดิ กลา้ ทา ถา้ ถกู ขม่ เหง
กก็ ลา้ ตอ่ ส.ู้ . พอ่ คอยดกู แ็ ลว้ กนั ”
ผเู้ ปน็ พอ่ จาต้องหุบปากเมอื่ ลูกชาย
ชแ้ี จงแสดงเหตุผล เพราะดเู หมือน
ไอเ้ จ้าลูกชายมนั จะร้มู ากกวา่ พอ่
เสยี แลว้ พดู อะไรขนึ้ มามนั จะตอ้ งมี
เหตผุ ลมาหักลา้ งเสมอ สว่ นยายจะ
ไมฟ่ งั อรี ้าคา่ อีรม ทุกครง้ั ทห่ี ลานขึน้ มาบา้ น ยายจะบ่นเปน็ วรรคเปน็
เวร ทุกคร้ังทบี่ น่ ยายจะช้ีให้ดูภาพถา่ ยของลงุ กับนา้ ในเครอื่ งแบบ
ข้าราชการโก้หรทู ่ขี ้างฝาเรอื น และวา่ ลกู หลานเรอื นนจ้ี ะตอ้ งเปน็ เจ้า
เปน็ นายกันทุกคน ถึงยายจะเป็นคนเจ้าอารมณ์แต่พอหลานจะลง
เรอื นจากไป ยายจะตอ้ งให้เงินค่ารถเสมอ...
ทสี่ ดุ สมคดิ สิงสง หรอื บญุ หนัก นากลาง ในนวนิยาย “ข้าว
เขยี ว” กเ็ ลือกเดนิ ตามอดุ มการณข์ องตัวเอง แม้ต้องหันหลงั ให้ “เจ้าคน
นายคน” ก็ตาม มนั ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งงา่ ยท่จี ะตดั สนิ ใจเลย ถ้าไม่เลือกท่ีจะเปน็
นกั ต่อสู้เพอื่ ความเปน็ ธรรมในสังคมอย่างแทจ้ ริง
ลานาชีวิต “คนกับควาย”
“คนกค็ นทานาประสาคน คนกับควายทานาประสาควาย คน
กับควายความหมายมันลกึ ลา้ ลกึ ลา้ ทานามาเน่นิ นาน แข็งขันการงาน
มาเนิ่นนาน สาราญเรอื่ ยมาพอสขุ ใจ...
“ไปเถดิ ไปพวกเราไปเถิดไป ไปเถดิ ไปแบกไถไปทานา ยากจน
หมน่ หมองมานานนกั นานนักน้าตามนั ตกใน ยากแคน้ ลาเค็ญในหัวใจ
รอ้ นรุ่มเพยี งใดไม่หว่ันเกรง
68 วงปีชีวิตสมคดิ สงิ สง 45 ปคี นกบั ควาย 137
“เปน็ บทเพลงเสียงเพลงแหง่ ความตาย ความเป็นคนสลายลง
ไปพลัน กระฎมุ พีกนิ แรงแบง่ ชนชัน้ ชนชน้ั ชาวนาจึงต่าลง เหยียดหยาม
ชาวนาว่าปา่ ดง สาคญั มนั่ คงคอื ความตาย...”
เพลง “คนกบั ควาย” อกี หนง่ึ ตวั ตนของ สมคดิ สงิ สง ท่เี ปน็
ส่วนผสมอย่างลงตัว ระหวา่ งนักวรรณศิลปก์ บั นกั ต่อสู้เพ่อื ความเป็น
ธรรมในสงั คม
ในหนงั สอื “...ตานาน 40 ปี บทเพลงชาวนาเพือ่ ชีวิต คนกบั
ควาย” สมคิด สงิ สง เล่าเอาไว้ว่า เขารู้จกั กับ สรุ ชยั จันทมิ าธร
หรือ หงา คาราวาน เพอื่ นท่ีรว่ มสรา้ งสรรค์ผลงานเพลง “คนกบั
138 68 วงปชี ีวติ สมคิด สงิ สง 45 ปีคนกบั ควาย
ควาย” ในแวดวงนกั เขียน และระหกระเหินอยดู่ ว้ ยกนั ในบางครงั้ บาง
คราว
เม่อื ปี พ.ศ. 2516 ซ่ึงสถานการณบ์ า้ นเมอื งกาลงั เขมง็ เกลยี ว
ก่อนเกดิ เหตุการณ์ 14 ตลุ าคม 2516 ค่าคนื ซึง่ ฝนรนิ พราๆ ณ บา้ น
เช่าแหง่ หนง่ึ กลางทุ่งน้าคราในใจกลางเมอื งหลวง นา่ จะอยู่ในชว่ งก่อน
เดือนตลุ าคม
แสงสว่างจากชานเรอื นบา้ นเช่า สอ่ งใหเ้ หน็ ยอดผักบงุ้ ในบึงน้า
ครา กาลงั ทอดยอดอวบงาม น่าจะผดั ผักบุง้ ไฟแดงเปน็ กบั ขา้ วมื้อเช้า
ภายในห้องเชา่ มเี สยี งเกลากตี ้ารเ์ พลงเก่าซา้ ไปซา้ มา เป็นฝมี ือ
สุรชยั จนั ทิมาธร ท่วงทานองเพลงตอ่ ตา้ นสงครามเวียดนาม ของ
ศิลปนิ เพลงชาวอเมรกิ นั “บอ็ บ ดแี ลน” โดยเฉพาะคอื เพลง “มาสเตอร์
ออฟ วอร”์ (MASTER OF WAR )ลอดผ่านช่องประตู ประสานเสยี ง
หยาดหยดน้าฝนเคาะหลงั คาเรอื นดงั เปาะแปะ
ตอนน้ัน สมคดิ สงิ สง นงั่ ด่ืมอย่ทู ่โี ถงนอกหอ้ ง เขาซึมซบั เอา
ท่วงทานองเพลง กอ่ นจรดปลายปากกาลงบนแผน่ กระดาษ รงั สรรค์
เนื้อรอ้ งใหส้ อดรบั กับทว่ งทานองเพลงท่ดี งั มาจากในห้อง นบั แต่นนั้
จงึ เกิดเป็นบทเพลง “คนกบั ควาย” บทเพลงเพอ่ื ชวี ิตทปี่ ลุกเรา้ การ
ต่อสทู้ างการเมอื งไดอ้ ย่างฮกึ เหมิ และมักใชเ้ ปน็ บทเพลงแห่งการต่อสู้
ทางการเมืองมาจนถงึ ปจั จบุ นั
สมคิด สงิ สง เล่าตอ่ วา่ เพลงท่เี ขียนข้ึนมานนั้ อยใู่ นหว้ ง
อารมณ์ความรสู้ กึ ของลกู ชาวนาปา่ ดงทีท่ ้ิงถน่ิ ฐานบา้ นเกิดเขา้ ไปใชช้ วี ติ
ในเมืองหลวง ยามท่ีหวนคิดถงึ ถิน่ ในคืนฝนพรา บา้ นเราคงจะทาไร่ไถ
นาตามประสา นค่ี อื ที่มาของเนอ้ื หาในความผกู พนั
ขณะที่ สรุ ชัย จนั ทิมาธร เล่าถึง สมคดิ สงสง เอาไวว้ า่ "พบกบั
สมคดิ สิงสง ระยะแรกจาได้แต่เพียงว่า ปะทะคารมกันเลก็ นอ้ ย
เกยี่ วกับโครงการอนั สวยหรขู องเขาในหน้ากระดาษ ผมรสู้ ึกแตเ่ พยี ง
วา่ ทาได้เลยดีกวา่ อยา่ มัวแตร่ ่างโครงการหรอื รอการชว่ ยเหลืออยู่เลย
เพราะโครงการแต่ละอยา่ งของเขา ตอ้ งใช้เงนิ คอ่ นข้างมาก ต้องมบี ุคคล
68 วงปชี วี ิตสมคดิ สงิ สง 45 ปีคนกับควาย 139
ในองค์การรัฐบาลหรือองคก์ ารตา่ งประเทศสนับสนนุ มันจึงจะทาได้
แต่ก็ไม่แน่ว่าจะสาเรจ็ ตอนน้นั เขามีโครงการหม่บู า้ นซบั แดง อนั เปน็
บา้ นเกดิ ของเขา เมอ่ื ไดร้ บั ทราบก็เหน็ ดดี ้วย แต่กแ็ ค้นอตี รงท่มี นั
ใหญโ่ ตเกนิ สองขาสองแขนมนุษยก์ ระจอกอยา่ งเราๆ นนั้ เป็นการพบ
กันคร้ังแรก คอ่ นข้องจะบาดหมางขัดแยง้ กนั เล็กนอ้ ย แตก่ ็ตามประสา
เพือ่ นฝงู ท่ชี อบขดี ๆเขียนๆดว้ ยกัน ไม่ได้ถอื เปน็ อารมณ์.."
"สมคดิ สงิ สง คอื คนหนมุ่ ไฟแรง หอบเปพ้ มิ พด์ ดี ไวโอลนิ เกา่
และปกึ กระดาษ ผมขนานนามเขาวา่ เจ้าแหง่ โครงการ..."
นอกจากน้ี "จาไดว้ ่ารกั กันมาก ติดสอยหอ้ ยตามกนั ไปหลายๆ
วนั แล้วแตใ่ ครจะคิดไดว้ ่านอนกนั ท่ไี หนดี ในยคุ ประชาธปิ ไตยทก่ี าลงั
แตกหน่อ...และในยุคทสี่ งครามเวียดนามกาลังดุเดอื ด จี ไอ เตม็ บา้ น
เต็มเมอื ง"
ในขณะนนั้ สมคิด สิงสง ออกจากมหาวิทยาลยั แลว้ และ
พเนจรไปทวั่ เมอื งไทยเพื่อเกบ็ เก่ยี วประสบการณ์ สว่ น "หงา" ไดก้ ตี าร์
เก่ามาจาก "สุมิตร เหมสกลุ " เพื่อนนักข่าว บางกอกโพสต์
"กตี าร์ตวั นผ้ี มรักมนั มาก ผมยมื เพอื่ นมา ยืมแลว้ ไมค่ นื เพื่อน
มันด่าฉบิ หาย"
หงา เลา่ อีกวา่ สมคิด สิงสง มไี วโอลนิ เก่าๆอย่ตู วั หนงึ่ มาเลน่
ด้วยกัน เพลงทชี่ อบเล่นอยบู่ อ่ ยๆกค็ ือเพลง มาสเตอร์ ออฟ วอร์ ของ
บ็อบ ดีแลน ซึ่งทุกคร้ังทีเ่ ล่นเพลงน้ี สมคิด จะสีไวโอลินเปน็ เสียง
เมโลดีต้ ามไปด้วย เล่นด้วยกันไปมาตอ่ เปน็ เพลง "คนกบั ควาย" ขน้ึ มา
เปน็ เบอื้ งแรก และเมอ่ื "หงา" ไปพบบทกวี "เปิบขา้ ว" ของ จติ ร ภูมิศกั ดิ์
เข้า จงึ ได้ฮมั เปน็ เสียงเพลงออกมา(ข้อมลู จากวกิ ีพีเดีย)
วนั นี้ ลานาชวี ิต “คนกับควาย” ของสมคิด สงิ สง ไมเ่ พียง
สะท้อนความผูกพันในฐานะลูกชาวนาคนหนง่ึ เทา่ นนั้ หากแต่ยงั เปน็
สัญลักษณใ์ นการตอ่ สูเ้ พอื่ ปลดแอกชนชน้ั และการกดขีไ่ ดอ้ ยา่ งแหลม
คมอกี ต่างหาก แล้วกไ็ มแ่ ปลก ท่เี พลง “คนกบั ควาย” ยงั คงมนต์ขลงั อยู่
จนทุกวันนี้ แม้วิถีคนกับควายอาจพูดได้วา่ สมั พนั ธ์ลกึ ซ้งึ นับวนั เสือ่ ม
140 68 วงปชี วี ติ สมคดิ สงิ สง 45 ปคี นกบั ควาย
คลายลงแลว้ กต็ าม
ดอกผลจาก “14 ตุลา”
วนั “มหาวปิ โยค” คอื ความทรงจาอนั ย่งิ ใหญข่ องอนชุ นรนุ่
หลัง ขณะเดียวกนั กเ็ ปน็ ความภาคภมู ใิ จอนั ใหญ่ยงิ่ ของนสิ ติ นักศกึ ษา
ประชาชน ทีร่ ่วมกนั ตอ่ ส้เู ยยี่ งวีรชน
แน่นอน, ดา้ นหนง่ึ ของเหตกุ ารณ์ 14 ตลุ าคม 2516 อาจมี
ความทรงจาอนั ปวดรา้ ว เป็นแผลเก่าทีส่ ะกดิ ทุกครงั้ กเ็ จ็บทกุ ครง้ั ท้งั
ของคนที่อยู่ในเหตุการณแ์ ละคนท่สี บื สานปณิธานเรียกรอ้ ง
ประชาธปิ ไตยทุกยุคทุกสมัย เพราะประชาธิปไตยทไี่ ดม้ า ตอ้ งแลกด้วย
เลือดและชวี ติ ของนสิ ติ นักศึกษา ประชาชน จานวนไมน่ ้อย
แตอ่ กี ดา้ นหนงึ่ การไดม้ าซ่งึ ประชาธิปไตย ท่แี ม้จะยงั ไม่
สมบรู ณแ์ บบ หรอื “เชอ้ื รา้ ยเผดจ็ การไมม่ วี นั ตาย” กต็ าม แตก่ ย็ งั ถอื วา่
เปน็ โอกาสใหก้ ล่มุ คนหัวก้าวหน้าสามารถขยบั ขยายแนวทาง
68 วงปีชวี ิตสมคดิ สงิ สง 45 ปีคนกบั ควาย 141
อุดมการณ์สร้างสรรค์สงั คมไดพ้ อสมควร
ถ้าย้อนให้เหน็ ภาพรวม ซง่ึ สมคดิ สิงสง ก็อยู่ในขบวนตอ่ สนู้ ี้
ดว้ ย ขอ้ มลู จากวิกพิ ีเดยี บนั ทกึ เอาไว้ว่า ชนวนสาคัญที่ทาให้เกดิ
เหตกุ ารณเ์ รมิ่ จากเมือ่ วนั ที่ 6 ตุลาคม 2516 มีคนกลุม่ หนึ่ง
จานวน 100 คน ลงชือ่ เรยี กร้องรัฐธรรมนญู ซงึ่ ประกอบด้วยบคุ คล
หลากหลายอาชีพ หลายวงการ เชน่ นักวิชาการ นกั การเมือง นกั คิด
นักเขยี น นสิ ติ นักศึกษา เปน็ ต้น
จากน้ัน บคุ คลเหล่านร้ี าว 20 คน นาโดย ธรี ยทุ ธ บญุ มี ออก
ตระเวนแจกใบปลวิ เรียกรอ้ งรัฐธรรมนูญตามสถานทีต่ า่ งๆใน
กรุงเทพฯ เช่น ประตนู ้า, สยามสแควร์, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยอา้ ง
ถึงใจความในพระราชหัตถเ์ ลขาของรชั กาลท่ี 7 ทที่ รงสละราชสมบตั ิ
แต่ 11 คนท่ีแจกใบปลวิ ถกู ตารวจสนั ติบาลจบั กมุ และนาไปขังไว้ที่
โรงเรยี นตารวจนครบาลบางเขน กอ่ นนาไปขงั ตอ่ ทเี่ รือนจากลาง
บางเขน
พร้อมตงั้ ขอ้ หาร้ายแรงวา่ มกี ารกระทาอันเป็นคอมมิวนสิ ต์
โดยหา้ มเยีย่ ม ห้ามประกนั เดด็ ขาด จากนั้นตามจับ กอ้ งเกียรติ คงคา
142 68 วงปีชีวิตสมคิด สงิ สง 45 ปคี นกับควาย
นกั ศกึ ษามหาวิทยาลัยรามคาแหง และ ไขแสง สกุ ใส อดีตสมาชกิ สภา
ผูแ้ ทนราษฎร (ส.ส.) จงั หวดั นครพนม รวมทั้งหมด 13 คน
สาหรบั “ไขแสง” ถูกกลา่ วหา เป็นผทู้ ี่อยเู่ บ้ืองหลงั การแจก
ใบปลิวคร้ังนี้ ซ่งึ บคุ คลทง้ั 13 นี้ ได้ถกู เรยี กขานว่าเปน็ "13 ขบถ
รฐั ธรรมนญู "
แนน่ อน, การกระทาดังกล่าวสร้างความไมพ่ อใจให้กับนกั ศึก-
ษาและประชาชนอยา่ งมาก นาไปสูก่ ารชมุ นุมใหญท่ มี่ หาวิทยาลยั ธรรม
ศาสตร์ ซง่ึ ในขณะนนั้ เป็นชว่ งสอบกลางภาคด้วย ทวา่ องคก์ รนกั ศกึ ษา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ขนึ้ ปา้ ยขนาดใหญ่ประกาศ "งดสอบ"
พร้อมยื่นคาขาดให้ทางรัฐบาลปล่อยตัว 13 คนท่ถี กู จบั กอ่ นเท่ยี งวัน
เสาร์ท่ี 13 ตลุ าคม แต่พอถึงกาหนดเวลา รัฐบาลไมย่ อมทาตามขอ้
เรยี กรอ้ ง
จงึ นามาสูก่ ารประทว้ งใหญท่ ่ีมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ เม่ือ
วนั ที่ 13 ตุลาคม แลว้ เคลื่อนออกไปตามถนนราชดาเนนิ สลู่ านพระ
บรมรูปทรงม้า โดยมีนกั ศกึ ษาและประชาชนเขา้ รว่ มจานวนมหาศาล
(คาดกนั วา่ มีราว 500,000 คน) ต่อมาแกนนานกั ศกึ ษาไดเ้ ขา้ เจรจา
กบั รฐั บาล ขณะทบี่ างส่วนได้เขา้ เฝ้าฯ จนได้ข้อยุตเิ พยี งพอทจ่ี ะ
สลายตัว ทว่าด้วยอุปสรรคทางการสื่อสารและมวลชนที่มีอยเู่ ปน็
จานวนมาก ทาใหไ้ ม่อาจควบคุมดแู ลได้ทั่วถึง แล้วเหตกุ ารณ์ไม่คาดฝัน
กเ็ กดิ ข้ึน
โดยเช้าตรขู่ องวนั อาทิตยท์ ี่ 14 ตลุ าคม เกิดการปะทะกัน
ระหวา่ งเจา้ หนา้ ท่ีรฐั และประชาชนทีบ่ รเิ วณหนา้ พระตาหนักจติ รลดา
รโหฐาน ด้านถนนราชวิถตี ดั กบั ถนนพระราม 5 เม่อื กล่มุ ผูช้ มุ นมุ จะ
สลายตัวกลับทางนัน้ แตเ่ จา้ หนา้ ที่ไม่ยอมใหผ้ ่าน จนกลายเปน็ การ
จลาจล และลกุ ลามไปยงั สนามหลวง, มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์และ
ถนนราชดาเนนิ
ย่ิงกว่านน้ั ทม่ี หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ยังพบเฮลิคอปเตอรล์ า
หนง่ึ บนิ วนอยเู่ หนอื เหตกุ ารณ์และยิงปนื ลงมาเพอื่ สลายการชมุ นมุ ด้วย
68 วงปชี ีวติ สมคิด สงิ สง 45 ปคี นกบั ควาย 143
ต่อมาในชว่ งค่า สถานวี ิทยกุ ระจายเสยี งแห่งประเทศไทย
ประกาศวา่ จอมพลถนอม กติ ตขิ จร ลาออกจากตาแหนง่ นายก
รัฐมนตรีแลว้ และมพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯแต่งตงั้ นาย
สญั ญา ธรรมศกั ด์ิ อธกิ ารบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดารงตาแหนง่
นายกรัฐมนตรีแทน
นอกจากนนั้ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั และ สมเด็จพระศรี
นครินทราบรมราชชนนี มพี ระราชดารัสแถลงออกโทรทศั นด์ ้วย
พระองคเ์ อง แต่ทว่าเหตกุ ารณก์ ็ยังไมส่ งบ โดยกล่มุ ทหารได้เปิดฉากยิง
เข้าใส่นกั ศกึ ษาและประชาชนอกี ครง้ั หลังจากมพี ระราชดารสั ทาง
โทรทัศนเ์ พียงหนึง่ ชั่วโมง เม่ือนกั ศกึ ษาพยายามพ่งุ รถบัสท่ีไมม่ ีคนขบั
เข้าใสส่ ถานตี ารวจ เนือ่ งจากผู้ชมุ นมุ นบั พันยงั ไม่วางใจในสถานการณ์
พรอ้ มประกาศท้าทายกฎอัยการศกึ ว่าจะอยทู่ ีอ่ นุสาวรีย์ประชาธปิ ไตย
ทงั้ คนื เพอ่ื ใหแ้ น่ใจว่าไม่ได้ถูกหลอกอกี ครัง้
กระทง่ั ช่วงหัวค่าวนั ท่ี 15 ตุลาคม ไดม้ ปี ระกาศวา่ จอมพล
ถนอม, จอมพลประภาส จารเุ สถยี ร และ พ.อ.ณรงค์ กติ ตขิ จร เดินทาง
ออกนอกประเทศแลว้ เหตกุ ารณ์จึงคอ่ ยสงบลง และวันที่ 16 ตุลาคม ผู้
144 68 วงปีชีวิตสมคดิ สงิ สง 45 ปคี นกับควาย
ชมุ นมุ และประชาชนต่างชว่ ยทาความสะอาดพืน้ ถนนและสถานที่ต่าง ๆ
ที่ไดร้ บั ความเสยี หาย... เหตกุ ารณค์ ร้ังนม้ี ผี เู้ สียชีวิต 77 ราย
บาดเจ็บ 857 ราย และสูญหายอกี จานวนมาก
ในส่วนของ สมคดิ สงิ สง เขาเล่าผ่านรายการ ก(ล)างเมือง ที่
ออกอากาศทางสถานโี ทรทศั น์ไทยพีบีเอส ตอน บนั ทกึ หม่บู า้ นซบั แดง
ว่า ปี2516 เขาเรยี นอยคู่ ณะวารสารศาสตร์และส่อื สารมวลชนช้นั ปี
ท่ี 4 จงึ มีโอกาสเข้าร่วมขบวนการเรียกรอ้ งรฐั ธรรมนญู และตอ่ ต้าน
อานาจรัฐดว้ ย จนกระทัง่ เกดิ เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
การเขา้ ร่วมครัง้ นี้ สมคดิ สงิ สง สอ่ื ความรู้สกึ นกึ คิด ผา่ น บญุ
หนัก นากลาง ตวั ละครเอกในนวนิยาย “ขา้ วเขียว” วา่ ...เพียงแต่
ตอ้ งการให้บา้ นเมอื งเปน็ ประชาธปิ ไตย ประชาชนมสี ิทธแิ ละเสรภี าพท่ี
จะใฝ่หาความเปน็ ธรรม เขาไม่มีเจตนาทจี่ ะลม้ ลา้ งรัฐบาลแต่อยา่ งใด
“ถา้ บา้ นเมอื งเปน็ ประชาธปิ ไตย มนั อาจทาใหค้ นทส่ี ญู เสยี ท่ี
นาไปเพราะเอาเงนิ ขา้ วเขยี วเขามา ไดท้ นี่ ากลบั คนื หากกฎหมายให้
สทิ ธแิ์ กพ่ วกเขาทจ่ี ะเรยี กรอ้ งความเปน็ ธรรม..”
68 วงปชี วี ติ สมคดิ สิงสง 45 ปคี นกบั ควาย 145
หลงั เหตุการณ์ “14 ตลุ า” สมคิด สิงสง ตดั สนิ ใจหยุดการเรยี น
ในมหาวิทยาลัย และตดั สนิ ใจเดินทางกลับบ้าน เพอื่ ทจ่ี ะนาเอาดอกผล
จากเหตกุ ารณ์ “14 ตลุ า” มาขยายผลทางความคดิ ในการต่อสเู้ พ่ือ
ความเป็นธรรมร่วมกบั ชาวบา้ น โดยชกั ชวน ประเสรฐิ จนั ดา เพ่อื น
สนิทมาร่วมด้วย
การเดินทางกลับบา้ นครง้ั นี้ ถือเปน็ ฟ้าสที อง ของ สมคดิ สิงสง
ก็ว่าได้ เพราะเป็นชว่ งที่ประชาธิปไตยเร่ิมผลบิ าน ทาให้เหมาะตอ่ การ
สานตอ่ อดุ มการณ์พฒั นาชนบททว่ี างไว.้ ..
ในนวนยิ าย “ข้าวเขียว” บุญหนัก นากลาง พยายามปลุกเร้า
ชาวบ้านโดยอาศัยเหตกุ ารณ์ “14 ตลุ า” มาเปน็ บทเรยี นใหก้ ลา้ ทจ่ี ะลกุ
ขน้ึ ต่อสูก้ บั อานาจเงนิ ของกานันองอาจ โดยเฉพาะคนจานวนมากที่
เปน็ หน้ี “ข้าวเขยี ว” และคนที่ถูกยดึ ที่นาอย่างไม่เปน็ ธรรม
...“ถา้ ไมต่ อ่ สู้ กจ็ ะไมม่ ชี วี ติ ทนี่ าตอ้ งเปน็ ของคนทานา...”
“แมน่ แท้ เราจะรอช้าอยูท่ าไมเลา่ เห็นไหมแมแ้ ตร่ ฐั บาลกย็ งั
ลม้ ได้ แล้วนับประสาอะไรกบั กานนั องอาจ มันจะตอ้ งลม้ ได้ เหมอื นกัน
สนิ า่ ...” ทดิ อานวยว่า พลางชี้มอื ไปท่ีภาพในหนา้ หนงั สอื พิมพ์ มนั เปน็
ภาพการเดินขบวนครง้ั ยง่ิ ใหญ่ ถนนราชดาเนินในใจกลางเมอื งหลวงที่
กว้างขวาง พลันคบั แคบลงอย่างถนดั ใจ เมอื่ ผคู้ นเรือนแสนเรอื นล้าน
ลน้ หลามจนแออัดยดั เยยี ด คลนื่ มหาประชาชน ถง่ั โถมเปน็ พลงั
ขบั เคลอื่ นอนั มหมึ า ใบหน้าทา่ ทางของผคู้ นในภาพลว้ นแสดงออกถงึ
แรงปรารถนาอนั แขง็ กร้าวทจี่ ะตอ่ สเู้ พื่อใหไ้ ดม้ าซงึ่ สงิ่ ทเี่ ขาเรยี กร้อง
ตอ้ งการ...
“เราจะต้องปา่ วร้องไปท่ัว ให้คนท้ังหลายลุกขน้ึ มาทวงเอานา
กลบั คืน..” “ถกู แลว้ อา้ ยทดิ ขา้ วเขยี วจะตอ้ งพนิ าศ คนทานาจะตอ้ ง
ชนะ!”บญุ หนัก นากลาง ชูกาปั้นหรา เขากลายเปน็ วรี ชน 14 ตลุ า ไปใน
สายตาของเพอื่ นพอ้ งรอบขา้ ง ผู้คนทั้งหลายสง่ เสียงวิพากษ์วจิ ารณ์กนั
เอ็ดองึ ดวงตาของพวกเขาฉายแววกร้าวอย่างไม่เคยเปน็ ใครเลยจะ
คาดคิดว่า ด้วยพลานุภาพของวรี ชน 14 ตลุ าจะพาให้ใบหน้าท่เี คยบ่ง
146 68 วงปีชีวติ สมคดิ สิงสง 45 ปีคนกบั ควาย
บอกอาการขยาดหวาดกลวั และ
หมน่ หมองมาชวั่ นาตาปี มาบัดน้ีได้
ฉายแววแหง่ ความกล้าหาญ และ
เตม็ ไปดว้ ยความหวังอย่างแรงกล้า
หนุ่มผหู้ นั หลงั ใหเ้ มอื งหลวง เริม่
มองเห็นลางเลอื นขน้ึ มาบ้างแล้วว่า
ความหมายของชวี ติ มันอยูท่ น่ี ี่ เพยี ง
เสอ้ื ครยุ และใบปรญิ ญาบตั รนัน้ ยัง
ไมเ่ พยี งพอ ในโลกกว้าง ยังมีสงิ่ ที่
จะตอ้ งเรยี นรอู้ กี มากมายนกั
เมอ่ื กอ่ น เขาอาจมองดคู วามเปน็ ไป
ในชีวิตของผคู้ นอยู่แต่หา่ งๆ เหมือน
คนดมู วยอยู่รอบๆ เวที อยา่ งมากก็
ส่งเสยี งร้องเชียร์ ฝ่ายใดฝา่ ยหนึ่ง
แตน่ านเข้ากเ็ รมิ่ มองเหน็ แลว้ ว่าคูม่ วยทป่ี ระหมดั กนั อยูบ่ นเวทนี นั้ ฝา่ ย
หน่งึ เปน็ ผไู้ ดเ้ ปรียบในทุกทาง อกี ฝ่ายเป็นผเู้ สียเปรียบ มหิ นาซา้
กรรมการยงั ลาเอียงเข้าขา้ งผ้ไู ดเ้ ปรียบ ทาให้อีกฝ่ายหนึ่งถูกกระทาจน
บอบช้า กาลังจะตายลงบนสงั เวียนการตอ่ สู้
เม่ือเปน็ อย่างนี้ ผมู้ จี ติ ใจรักความเป็นธรรมจะนงิ่ เฉยดดู าย อยู่
ไดอ้ ยา่ งไร หากไมย่ ่ืนมือเขา้ ชว่ ยเหลือก็เท่ากับสนับสนนุ ใหค้ นแข็งแรง
ขม่ เหงคนออ่ นแอ และย่งิ กว่านัน้ .. ใครจะร้วู า่ สกั วนั หนงึ่ ตัวเขาเองก็
อาจเปน็ ผ้หู นง่ึ ในจานวนผูค้ นที่ถูกรังแกเหลา่ นนั้
คิดได้อย่างนน้ั เขาตัดสินใจขนึ้ ไปยนื อยู่บนเวทกี ารต่อสู้เปน็ หัว
หอกใหก้ ับชาวบา้ นทันที
...“เราเพียงแตต่ อ้ งการผดั ผอ่ นเวลาชาระหน้สี นิ เท่านัน้ ใหเ้ รา
ไดเ้ กย่ี วข้าวของเราทกุ รวงเสียก่อน เม่ือมเี งนิ ก็จะใชค้ นื ให้ อย่าเพงิ่ เอา
ท่นี าของเราไปได้ไหม?” ตวั แทนของคนถูกยึดนาคนหน่ึง กรอกเสยี ง
ผา่ นไมโครโฟน เครื่องขยายเสยี งท่ีหน้าท่ีว่าการอาเภอ พวกเขามา
68 วงปชี วี ิตสมคดิ สิงสง 45 ปีคนกับควาย 147
ชมุ นมุ กนั ที่น่ี ตง้ั แต่เชา้ มาจากหลายหมู่บ้าน หลายตาบล ข้อเรียกรอ้ ง
มเี พียงให้ทางการช่วยไกล่เกลี่ยกานนั องอาจนายเงนิ เจา้ ทดี่ นิ เพือ่ ขอ
ผัดผอ่ น เวลาการชาระหนีส้ นิ ไวก้ ่อน...
การประทว้ งเรยี กร้องดาเนนิ ไป ทา่ มกลางมวลชนหล่งั ไหลเขา้
ร่วม จนสร้างอานาจต่อรองอยา่ งสงู จากน้นั กม็ ขี ้อเรยี กร้องใหป้ ลด
กานนั องอาจออกจากตาแหน่งเพมิ่ เข้ามาอีก ยงิ่ กวา่ นน้ั การเคล่ือน
ขบวนจากหน้าทวี่ ่าการอาเภอ ไปปดิ ถนนมติ รภาพ เสน้ เลือดใหญก่ าร
คมนาคมสายอีสาน กย็ งิ่ เพิม่ อานาจต่อรองและสรา้ งแรงกดดนั ใหก้ ับ
คนทตี่ ้องรับผดิ ชอบและมีอานาจตดั สินใจ
ทีส่ ดุ “...ผืนแผน่ ดนิ ทเี่ คยลงแรงหกั รา้ งถางพงทามาหากิน
ตง้ั แตค่ ร้งั ปูย่ ่าตายาย ไดค้ ืนกลับมาดว้ ยการยืนหยดั ตอ่ สู้ การผนึก
กาลังกนั อยา่ งเหนยี วแนน่ ของคนทานา ไดพ้ ังทลายความหวังของ
กานนั องอาจ ท่ีจะเกบ็ เกยี่ วหมากผลจากระบบขา้ วเขียวลงไปอยา่ งย่อย
ยบั พรอ้ มกันนั้นช่ือของ บุญหนัก นากลาง ก็เป็นท่กี ลา่ วขวัญกันในหมู่
ชาวนาและชาวบ้านรา้ นตลาดในฐานะวรี ชนของคนยาก...”
ดังทกี่ ล่าวแลว้ วา่ นวนยิ าย “ข้าวเขยี ว” องิ ตานานชีวิต สมคดิ
สงิ สง ถึง 70 เปอรเ์ ซน็ ต์ สว่ นท่เี หลอื 30 เปอรเ์ ซ็นต์ คือ การจัดฉาก
และแตง่ เตมิ ตวั ละครให้มชี ีวติ ชวี าขึน้ มา เพ่อื ใหเ้ หมาะสมและเข้ากบั
ท้องเร่อื ง ซ่ึงอาจไมต่ รงกบั ในชวี ิตจรงิ เสยี ทเี ดียว โดยเฉพาะประเด็น
การตอ่ สเู้ รยี กรอ้ งของพลังมวลชนชาวนา ท่หี นา้ ท่วี ่าการอาเภอ กอ่ น
เคลือ่ นขบวนไป “ปดิ ถนนมติ รภาพ”
ในนวนิยาย “ข้าวเขียว” เปน็ เร่อื งถูกยึดที่นา และตอ่ สูเ้ อาท่ีนา
คนื จากกานันองอาจ รวมทง้ั ให้ปลดกานนั องอาจ
แตใ่ นชวี ิตจรงิ ของสมคดิ สงิ สง การ “ปดิ ถนนมติ รภาพ” ครง้ั
น้นั เปน็ การต่อสเู้ รียกร้องเรือ่ งน้ามนั แพง และมีการกกั ตนุ น้ามัน จน
สร้างความเดือดร้อนให้กบั รถเล็กรถรบั จ้างสองแถวอยา่ งมาก
เรอ่ื งนี้ สมพงษ์ ประทมุ ทอง ประธานมลู นธิ ิน้าและคณุ ภาพ
ชีวิต เล่าผ่านคอลมั น์ “บนถนนมติ รภาพ” ในหนงั สอื “...ตานาน 40 ปี
148 68 วงปีชีวติ สมคดิ สิงสง 45 ปคี นกับควาย
บทเพลงชาวนาเพื่อชวี ิต คนกับควาย” ว่า รจู้ ักและเห็นสมคิด สิงสง อยู่
ห่างๆ เพยี งครงั้ เดยี วท่ีมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ เมื่อราวปี พ.ศ.2514
ดแู กวุ่นอยกู่ ับการเตรยี มอปุ กรณก์ ารออกคา่ ยอาสาพัฒนาอะไร
ประมาณนนั้ ...
“ผมอยู่คา่ ย วศ.ประสานมติ ร(วทิ ยาลัยวชิ าการศกึ ษาประสาน
มิตร ปัจจบุ ันคอื มหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ) ไดเ้ ข้าเปน็ สมาชกิ
และกรรมการค่ายกลุ่มนสิ ติ นักศึกษาบูรณะชนบท โดยการชกั นาของ
คุณสุภา ธีระกนก เพ่ือนสมัยเรียนมธั ยมทบ่ี ้านไผ(่ จ.ขอนแกน่ ) และ
เรยี นรุน่ พ่ีทป่ี ระสานมติ ร”...
หลงั จากนั้น ผมกบั คณุ สมคดิ ก็ห่างเหนิ กนั ไป แตใ่ นช่วงปี
พ.ศ.2515-2516 การเคลอื่ นไหวของนกั ศึกษาด้านสังคม การเมอื ง ก็
มอี ยา่ งตอ่ เน่อื ง มกี ลุม่ สภาหน้าโดม กลมุ่ สภากาแฟ ของ สมบัติ ธารง
ธญั วงศ์ กลมุ่ ของ ธรี ยุทธ บญุ มี เคลอื่ นไหวตอ่ ตา้ นสนิ ค้าญปี่ นุ่ และ
การรณรงค์ให้ใช้สินค้าไทย การต่อตา้ นสงครามเวยี ดนามท่อี เมริกา
เปน็ เปา้ ใหญใ่ นการโจมต.ี ..
ผมไดพ้ บหน้าและพดู คยุ กับคณุ สมคดิ สิงสง คณุ ประเสรฐิ จนั
ดา คณุ ลว้ น เขจรศาสตร์ และคนอน่ื ๆ ก็ทีธ่ รรมศาสตร์นเ้ี อง
ต่อมาคณุ สมคดิ สงิ สง คุณประเสรฐิ จันดา และทีมงาน ไดอ้ อก
สชู่ นบทโดยใชบ้ า้ นเกิดคอื บา้ นซับแดง ตาบลโคกโพธไ์ิ ชย(ปัจจบุ นั เปน็
อาเภอแลว้ ) อาเภอมัญจาครี ี จังหวดั ขอนแก่น เปน็ ฐานทีม่ ่ันในการ
ทางานกับมวลชน หมบู่ า้ นแห่งนตี้ ่อมาถกู เรยี กว่า “ซบั แดง หมบู่ า้ น
เคยี วเกยี่ วดาว”
เม่อื ปี พ.ศ.2517 พวกเรา หมายถึงผมและคณะ พรอ้ มด้วย
กลุ่มของคณุ สมคิด สงิ สง จากบา้ นซับแดง ได้รว่ มงานกัน คือ การจดั
ประทว้ งเรอ่ื งน้ามนั แพง โดยมีผ้ปู ระกอบการรถโดยสาร รถขนส่ง
เป็นฐานรว่ มประท้วง ทหี่ น้าท่วี า่ การอาเภอบ้านไผ่ ประชาชนได้
ปักหลักตงั้ แตเ่ ช้าถงึ บ่าย แลว้ ช่วงเย็นพวกเราไดเ้ คลอ่ื นไปปดิ ถนน
มิตรภาพหนา้ โรงเรยี นยง่ิ ยงอุทศิ สแ่ี ยกไฟแดงบา้ นไผ่-ชนบท รถตดิ
68 วงปีชีวติ สมคิด สงิ สง 45 ปีคนกบั ควาย 149
ยาวเหยยี ดถึงอาเภอโนนศลิ า การ
เจรจาให้เปดิ ถนนก็ว่ากนั ไป การ
ปลุกระดมบนหลังคารถตรึงคนไว้
อย่างเหนยี วแนน่ ยงั คงดาเนนิ
ตอ่ ไป
คณุ สมคดิ สงิ สง นอกจาก
จะมี ผ้าขาวม้าผูกเอว หมวกท่ีสวม
อย่ตู ลอดเวลาแลว้ ยงั มีกระติ๊บขา้ ว
เหนยี วทีส่ ะพายอย่ตู ลอดเวลา ทา
ใหค้ นมองวา่ ภายในกระต๊บิ ข้าวมีปนื ซอ่ นอยู่ แตเ่ รากร็ กู้ ันอยวู่ า่
ภายในนน้ั มเี พยี งข้าวเหนยี วกบั ห่อปลาแดกบองเท่านัน้
จนเวลาราวส่ที ุ่ม การตัดสินใจของพวกเรากย็ ตุ ิลง ดว้ ยการ
เปดิ ถนนมติ รภาพ แล้วเรากแ็ ยกย้ายกนั ไป จาไมไ่ ด้ว่าแยกไปไหนกนั
บา้ ง คณุ สมคดิ สงิ สง ยงั คงเคลอื่ นไหวท่ซี บั แดง มญั จาคีรี บา้ นไผ่
ชนบท เมอื งพล ขอนแกน่ กรงุ เทพฯบางคร้ังคราวอยู่ตลอด ท่ซี บั แดง
เนน้ การรวมกลมุ่ เปน็ สหกรณ์ งานด้านศิลปวฒั นธรรม จนกระทงั่ เกิด
เหตกุ ารณ์ 6 ตุลาคม 2519 ทุกคนกห็ ลบเข้าป่าลกึ คณุ สมคดิ กเ็ ขา้ ปา่
ส่วนผมไมเ่ ข้าและถูกจับไปเขา้ คุก 3 เดอื น...
แน่นอน, แม้ประเดน็ เคล่อื นไหวในนวนิยายกบั ชีวิตจริงจะเป็น
คนละเรื่อง แต่รปู แบบ แนวคิด และแนวทางตอ่ ส้ทู กุ อย่างแทบจะถอด
แบบจากชวี ติ จรงิ มาเลยกว็ ่าได้
“6 ตุลา” ป่าที่พึง่ สุดท้าย
ชีวติ ของแกนนานักศกึ ษา ประชาชนหวั กา้ วหน้า จากยุค
“14 ตุลา” มาจนถงึ กอ่ นและหลงั เหตุการณ์ 6 ตลุ าคม 2519 ถือว่าทกุ
ชวี ิตแขวนอยู่บนเสน้ ดา้ ยกว็ ่าได้ เพราะสิง่ ที่กล่มุ อานาจเกา่ ฝ่ายขวา
เหมารวมกค็ อื คนเหลา่ นีฝ้ กั ใฝค่ อมมวิ นสิ ตน์ น่ั เอง ตอ่ ใหแ้ คต่ อ้ งการ
เรยี กร้องสทิ ธเิ สรีภาพอันชอบธรรมเท่านั้นกต็ าม
150 68 วงปชี ีวติ สมคิด สิงสง 45 ปีคนกับควาย