ข้อสอบ สวช2563-2564 รวม

การแข่งขันสอบวดั ทักษะวิชาการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564
(รอบคดั เลอื กตวั แทนจงั หวัด)

National Academic Test Program

เฉลยแบบทดสอบ วิชาวทิ ยาศาสตร์
ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาตอนต้น
รหสั ชุดข้อสอบ 302004

ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย

1. 4 11. 1 21. 4 31. 3

2. 4 12. 1 22. 2 32. 5

3. 4 13. 3 23. 3 33. 4

4. 2 14. 2 24. 4 34. 5

5. 2 15. 5 25. 5 35. 4

6. 3 16. 2 26. 3 36. 1C,2A,2B,3C

7. 5 17. 3 27. 3 37. 1A,1C,4B,4C

8. 3 18. 2 28. 3 38. 2C,3B,4A,5A

9. 4 19. 4 29 4 39. 2A,2B,4C,5B

10. 4 20. 5 30 1 40. 2A,4B,5A,5C

การแขง่ ขนั สอบวัดทกั ษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564
(รอบสดุ ยอดอจั ฉรยิ ภาพระดบั ประเทศ)

วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาตอนต้น

รหสั วชิ า ว302 วิทยาศาสตร์

รหัสชดุ ขอ้ สอบ 302005

ชอ่ื .............................................นามสกุล.............................................รหัสวิชา...............
ระดับชัน้ ................ห้องสอบ........................วันท่ีสอบ................สถานทสี่ อบ...................

คำชแ้ี จงการสอบแบบ Take-Home Examination

รายละเอียดขอ้ สอบ ข้อสอบฉบับน้มี ี 9 หน้า จำนวน 40 ข้อ ระยะเวลา 90 นาที
วิธีการตอบ
ใหใ้ ช้ดนิ สอ 2B ระบายในวงกลมที่เปน็ คำตอบในกระดาษคำตอบ หรือ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
(คะแนนเต็ม 60 คะแนน) นำโทรศพั ท์มือถอื มาสแกน QR Code เพ่ือกรอกและยนื ยันคำตอบในระบบ

ส่วนเน้อื หาบทเรยี นตามหลักสตู ร ข้อ 1-35 ข้อละ 1.3 คะแนน

ส่วนเน้อื หาประยุกต์ ข้อ 36-40 ขอ้ ละ 2.9 คะแนน

ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการสอบ
1. ใหผ้ เู้ ข้าสอบปฏบิ ตั ิตามระเบียบสำนักงานโครงการสอบวัดทกั ษะวชิ าการระดบั ชาติ (สวช.) ภาคเี ครือข่าย
โรงเรยี นท่ัวประเทศ และสถาบันอีซ่ีลชิ ประเทศไทย วา่ ด้วยแนวทางปฏบิ ัติเก่ียวกบั การดำเนนิ การทดสอบ
พ.ศ. 2560 อย่างเครง่ ครดั
2. ใหผ้ เู้ ข้าสอบระบายคำตอบลงในกระดาษคำตอบดว้ ยดินสอ 2B อยา่ งถกู ต้องและชัดเจน (สำหรับโรงเรียน)
3. เมอื่ ผเู้ ขา้ สอบทำข้อสอบเสร็จ ใหเ้ ปิดกล้อง ZOOM ยืนยนั ตัวตนไวจ้ นกว่าจะยืนยันกระดาษคำตอบเสรจ็
4. ใหน้ ำโทรศัพทม์ ือถอื มาสแกน QR Code เพือ่ เข้าสู่ขั้นตอนการยนื ยันคำตอบ
โดยกรอกคำตอบลงส่รู ะบบ (สำหรบั ผู้เข้าร่วมสอบออนไลน)์

หากผู้เข้าสอบฝ่าฝืนข้อปฏิบตั ิโครงการ สวช. หรือมีการทุจรติ จะมีการดำเนนิ การ ดงั นี้
1. ไมป่ ระกาศผลการสอบจากการทดสอบดงั กล่าว
2. แจง้ ไปยังโรงเรยี นต้นสังกัดของนักเรยี น ผู้ดูแลของผ้สู อบเพ่อื ดำเนินการตกั เตือนและกลา่ วโทษ
3. แจง้ ไปยงั ผู้บรหิ ารสถานศึกษาทเี่ ป็นภาคีเครือขา่ ย สวช. เพือ่ พิจารณารบั เขา้ ศึกษา

เอกสารนเี้ ป็นลขิ สิทธข์ิ องสำนักงานโครงการสอบวัดทักษะวิชาการระดับชาติ (สวช.) และสถาบันอซี ่ีลิชประเทศไทย

บรษิ ัท อีซ่ลี ชิ อินเตอร์-เอ็ดดูเคช่ัน (ประเทศไทย) จำกัด
การทำซ้ำหรือดดั แปลงหรือเผยแพรเ่ อกสารฉบบั นจ้ี ะถกู ดำเนินคดตี ามกฎหมาย

การแข'งขันสอบวัดทักษะวิชาการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวิชาวิชาวทิ ยาศาสตร/

ภาคีเครอื ขา+ ยโรงเรยี นทวั่ ประเทศ และสถาบันอีซ่ีลชิ ประเทศไทย รหัสชุดข"อสอบ 302005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

สว# นท่ี 1: ข,อสอบวดั ทักษะตามเน้อื หาบทเรียนในหลกั สตู ร (ข,อ 1 - 35)

1. จากปฏิกิริยาเคมี KOH + HCl -----> KCl + H2O สารใดเป;นสารตัง้ ตAนของปฏกิ ริ ิยา และคือปฏิกิรยิ าใด

1. KOH , ปฏกิ ิรยิ ารดี อกซJ 2. HCl , ปฏิกริ ิยาสะเทนิ

3. KCl และ KOH , ปฏกิ ิริยาสะเทิน 4. KOH และ HCl , ปฏกิ ิริยาสะเทิน

5. KOH และ HCl , ปฏกิ ริ ยิ ารดี อกซJ

2. ขAอใดกลPาวถูกตอ, งเก่ียวกับปจT จยั ท่มี ผี ลตPอการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี
1. อุณหภมู ิตำ่ จะเกิดปฏิกิริยาเคมไี ดAเร็ว
2. การลดพื้นทผี่ วิ ของสาร จะชPวยใหAปฏิกิริยาเคมเี กดิ เร็วข้ึน
3. สารต้ังตAนทมี่ คี วามเขAมขนA มาก จะทำใหเA กิดปฏิกริ ิยาเคมไี ดAชAาลง
4. สมบตั ิของสารต้งั ตAนที่เปน; สารไวไฟ ไมPเกี่ยวขอA งกับปฏกิ ริ ิยาเคมเี กดิ ไดเA รว็ ข้ึน
5. การเติมสารจำพวกอนิ ฮิบิเตอรJจะทำใหปA ฏิกิริยาเคมเี กิดขึ้นไดAเรว็ ขึน้

3. ขAอใดคือผลตา# งของคPาพลังงานความรอA นทใี่ ชใA นการเปลี่ยนน้ำมวล 12 กรัม อณุ หภมู ิ 20 °c เป;นไอน้ำ

ท้ังหมด กบั คPาพลังงานความรAอนที่ใชAในการเปล่ยี นนำ้ แข็งมวล 50 กรัม อุณหภมู ิ 0 °c เปน; น้ำอุณหภมู ิ 50 °c

1. 370 2. 540 3. 940 4. 1,920 5. 2,060

4. สายลบั 4 คนแฝงตัวเขาA ไปสอดแนมหาขอA มูลเกีย่ วกบั การประดษิ ฐJอาวธุ ลบั ของ 4 ประเทศ ในระหวPางการ
ประชุมคืนหนึง่ สายลบั ท้งั 4 คนแจAงขอA มลู เก่ยี วกับอุณหภูมิในการเกบ็ อาวธุ ไวAดังน้ี
ประเทศ A วดั อณุ หภูมิไดA -54 องศาเซลเซยี ส ประเทศ B วัดอณุ หภมู ิไดA 5 องศาฟาเรนไฮตJ

ประเทศ C วดั อณุ หภมู ิไดA -24 องศาโรเมอรJ ประเทศ D วัดอุณหภมู ไิ ดA 286 องศาเคลวนิ
ขAอใดเรยี งลำดับอุณหภูมใิ นการเกบ็ อาวธุ ของทั้ง 4 ประเทศจากอณุ หภูมสิ งู สดุ ไปตำ่ สดุ ไดAถกู ต,อง
1. A > B > C > D 2. D > C > B > A 3. B > D > C > A

4. D > B > C > A 5. A > C > D > B

5. กระติกน้ำรAอนเครื่องหน่ึงสามารถตAมน้ำมวล 50 กรัม ใหAอุณหภูมิเพิ่มข้ึนจาก 25 °c เป;น 90 °c ไดAใน

เวลา 4 นาที กระติกน้ำรAอนเคร่ืองนี้มีกำลังในการทำงานหนPวยจูลตPอวินาทีหรือวัตตJเป;นเทPาไหรP
1. 56.875 W. 2. 3,250 W. 3. 13,650 W.
4. 6,825 W. 5. 27,300 W.

6. ขอA ใดเป;นภาพแสดงการหักเหของแสงทีเ่ ดนิ ทางจากแทงP พลาสตกิ ไปยงั อากาศ
1. 2. 3.

4. 5. ไมมP ขี อA ถูก

2

การแข'งขนั สอบวดั ทกั ษะวชิ าการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ขอ" สอบวิชาวิชาวิทยาศาสตร/

ภาคเี ครอื ขา+ ยโรงเรียนทัว่ ประเทศ และสถาบนั อีซล่ี ชิ ประเทศไทย รหสั ชดุ ขอ" สอบ 302005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

7. ลซิ Pานำขวดนำ้ วางไวหA นาA กระจกเวาA หPางจากกระจกเป;นระยะทาง 25 เซนติเมตร หากกระจกน้ีมจี ุดศนู ยกJ ลาง
ความโคงA เป;น 40 เซนติเมตร และขวดน้ำมีขนาด 50 เซนติเมตร จงหาระยะภาพ, ขนาดภาพ, ชนิดภาพ

และกำลังขยายของภาพทีเ่ กดิ ข้นึ

ขอ, ระยะภาพ ขนาดภาพ ชนดิ ภาพ กำลงั ขยายของภาพ

1. 120 250 ภาพจริง 5

2. 100 200 ภาพจริง 4

3. 80 175 ภาพจรงิ 3.5

4. 100 250 ภาพเสมอื น 5

5. 120 200 ภาพเสมอื น 4
R2
จากวงจรไฟฟWาดงั รูปใช,ตอบคำถามข,อ 8 - 9

R1
R3

R4

15 v

8. จงหาคPากระแสไฟฟาt รวมของวงจรน้ี เมอ่ื ใหAความตAานทานของ R1 , R2 , R3 และ R4 เปน; 6 โอหJม ,

12 โอหมJ , 36 โอหมJ และ 10 โอหมJ ตามลำดบั

1. 1.00 แอมแปรJ 2. 1.67 แอมแปรJ 3. 2.33 แอมแปรJ
4. 2.50 แอมแปรJ 5. 3.00 แอมแปรJ

9. จงหาความตาP งศักยไJ ฟฟtาที่ตกครอP มตัวตาA นทาน R2 เมอ่ื ใหคA วามตAานทานของ R1 , R2 , R3 และ R4 เป;น

6 โอหมJ , 12 โอหมJ , 36 โอหJม และ 10 โอหมJ ตามลำดับ

1. 1.50 โวลตJ 2. 3.00 โวลตJ 3. 6.00 โวลตJ

4. 7.25 โวลตJ 5. 9.00 โวลตJ

10. โรคฮีโมฟvเลยี (Hemophilia) หรอื โรคเลือดออกงPาย เปน; โรคท่เี กดิ จากความผดิ ปกตทิ างพนั ธกุ รรมซงึ่
ถPายทอดผPานยีนดAอยบนโครโมโซม X จากพงศาวลีของครอบครัวน้ี จโี นไทปข• องแมคP วรเป;นแบบใด
กำหนดใหแA อลลีลการเป;นโรคฮโี มฟvเลยี คือ H และแอลลลี การไมเP ป;นโรคฮีโมฟเv ลียคอื h
? เพศชาย
เพศหญงิ

เปนC โรค
พาหะของโรค

1. XHXH 2. XHXh 3. XHYh

4. Hh 5. Hh

3

การแขง' ขนั สอบวัดทกั ษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวชิ าวิชาวิทยาศาสตร/

ภาคเี ครือขา+ ยโรงเรียนท่วั ประเทศ และสถาบนั อีซ่ลี ชิ ประเทศไทย รหัสชดุ ข"อสอบ 302005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

11. กลPุมอาการเทอรเJ นอรJ หรือเทอรเJ นอรซJ ินโดรมเกดิ จากความผิดปกตขิ องจำนวนโครโซมเพศซ่งึ พบไดAใน
เพศหญงิ มโี ครโมโซมเพศขาดไป1โครโมโซม สงP ผลใหAมีภาวะเป;นหมัน ไมมP เี ตAานม ตัวเตีย้ และมีลกั ษณะเฉพาะ

คือคอเป;นแผง หากเด็กหญิงน้ำองิ เป;นคนปกติ และเด็กหญิงนำ้ ฟtามีภาวะเทอรเJ นอรซJ นิ โดรม จำนวนโครโมโซม
ของทั้งสองควรเปน; แบบใดตามลำดับ
1. 42 + XX และ 42 + XO 2. 44 + XX และ 44 + XO 3. 42 + XY และ 42 + XO

4. 44 + XY และ 44 + XO 5. 46 + XY และ 46 + XO
12. โรคธาลัสซเี มยี เป;นโรคทางพันธกุ รรมท่ถี กู ควบคุมดAวยยีนดอA ยบนออโตโซม (Autosomal recessive )
เกิดจากความผดิ ปกตขิ องยีนท่ีควบคุมการสราA งฮีโมโกลบนิ ในเม็ดเลือดแดง จากการศกึ ษาการถาP ยทอด

ลกั ษณะโรคธาลสั ซีเมยี ในครอบครวั หนึง่ ท่ปี ระกอบดวA ย พPอ แมP ลกู สาว 2 คน และลกู ชาย 1 คน พบวPามี
ลักษณะดงั นี้

พ"อ แม" ลูกคนที่ 1 ลกู คนที่ 2 ลูกคนที่ 3

ไมเ# ป&นโรค ไม#เปน& โรค ไม#เป&นโรค ไมเ# ปน& โรค เป&นโรค

ขAอใดสรุปเกยี่ วกบั ลักษณะของยีนและการถาP ยทอดโรคธาลสั ซีเมยี ของครอบครัวนี้ไดAถูกตอ, ง

1. พPอหรอื แมจP ะตAองมคี นทม่ี ีคPูยีนทปี่ กตอิ ยPางนอA ย 1 คน
2. ลกู คนที่ 1 และ 2 จะเปน; พาหะท้งั คPู

3. ลกู ทุกคนจะตอA งไดรA บั ยนี ควบคมุ โรคธาลสั ซีเมยี จากทั้งพอP และแมP
4. ลูกคนที่ 3 อาจจะไดAรบั ยีนท่เี ปน; โรคมาจาก ปู‹ ยPา ตา ยาย คนใดคนหนึง่
5. หากมีลกู คนที่ 4 จะมโี อกาสเป;นโรค 12.5 % หรอื โอกาส 1 ใน 8

13. ขAาว ----> หนู ----> นกเคาA แมว ----> งู ----> คน หากผูบA รโิ ภคลำดบั สดุ ทAายไดAรับพลังงานจากการ
ถาP ยทอดพลงั งานมา 80 KJ ผบAู รโิ ภคลำดับแรกไดรA บั พลังงานตPางกบั ผบAู ริโภคลำดับที่ 2 เทPาใด
1. ผูAบรโิ ภคลำดับแรกมากกวPาอยPู 72,000 KJ 2. ผAูบริโภคลำดับแรกมากกวาP อยูP 36,000 KJ

3. ผูAบรโิ ภคลำดับแรกมากกวาP อยูP 18,000 KJ 4. ผAบู รโิ ภคลำดบั 2 มากกวPาอยูP 72,000 KJ
5. ผบAู ริโภคลำดบั 2 มากกวPาอยPู 36,000 KJ
14. ขAอใดเปน; กลมPุ ส่งิ มีชีวิต (community) ทง้ั หมด

A กบบนใบบวั B ไลเคน C เหด็ บนฟางขาA ว D แบคทีเรยี ในดนิ
1. A และ B 2. B และ C 3. C และ D
4. A และ C 5. B และ D

15.จากภาพสายใยอาหาร ขอA ใดกลPาวไมถ# กู ต,อง
1. สง่ิ มีชีวติ A สามารถสรAางอาหารไดAเองจากการสงั เคราะหดJ วA ยแสง
2. หากสงิ่ มีชีวติ E มีจำนวนลดลง ประชากรของสงิ่ มชี ีวติ G จะเพ่มิ ขึ้น

3. ผบAู รโิ ภคลำดับท่ี 2 ในสายใยอาหารนี้ ไดแA กP ส่งิ มชี ีวิต B, E, F และ G
4. หากมกี ารปนเป”“อนของสารเคมี สง่ิ มีชวี ติ G จะไดAรับสารพิษสะสมมากทสี่ ุด
5. ในสายใยอาหารนี้ประกอบดวA ย 5 หวP งโซอP าหาร

4

การแขง' ขนั สอบวัดทกั ษะวิชาการระดบั ชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ขอ" สอบวชิ าวชิ าวทิ ยาศาสตร/

ภาคีเครือข+ายโรงเรยี นท่ัวประเทศ และสถาบันอีซี่ลชิ ประเทศไทย รหัสชดุ ขอ" สอบ 302005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

16. รถเมลคJ ันหน่งึ เคล่ือนทีด่ Aวยความเร็วคงที่ 36 เมตร/วินาที ขณะอยPูหาP งจากจุดหยดุ รถเพือ่ รบั ผูโA ดยสาร

180 เมตร คนขบั เหยยี บเบรกเพ่ือชะลอรถภายในเวลา 2 วนิ าที เมือ่ รถชะลอตัวจะตอA งลดความเรว็ ลงใน

อัตราเทาP ใดจงึ จะหยุดพอดีที่จุดหยุดรถ

1. 3 เมตร/วินาที 2. 6 เมตร/วินาที 3. 18 เมตร/วินาที

4. 3 เมตร/วนิ าที2 5. 6 เมตร/วินาที2

17. พอP ขบั รถไปตาP งจงั หวดั ดวA ยอตั ราเร็วเฉล่ยี 84 กโิ ลเมตรตPอชวั่ โมง โดยเร่มิ ออกเดินทางเวลา 18.00 น.
และถงึ ที่หมายเวลา 19.15 น. หากแมPออกเดินทางเวลา 20.16 น. เพือ่ ขับไปยงั สถานท่เี ดยี วกันในเสAนทาง
เดียวกนั และสภาพการจราจรท่ีไมตP าP งกัน ดวA ยอตั ราเรว็ เฉลี่ย 75 กโิ ลเมตรตอP ชว่ั โมง แมจP ะถงึ ทีห่ มายเวลาใด

1. 21.00 น. 2. 21.26 น. 3. 21.40 น.
4. 22.26 น. 5. 22.40 น.
18. ยายสำโรงตAองการหาบผลไมAไปขายท่ีตลาดโดยคานหาบน้ันฝ–Tงหนึง่ จะหาบตะกรAาสAมและอีกฝ–งT จะหาบ

ตะกราA แกวA มังกร หากคานหาบยาว 3 เมตร และตะกรAาสมA หนกั 4 Kg วางอยPปู ลายคานหาบ ตะกรAาแกวA

มงั กรหนกั 2 Kg วางถัดเขAามาจากปลายคานหาบอกี ดAาน 30 cm ยายสำโรงควรหาบคาน ณ ตำแหนงP ใด

จงึ จะทำใหคA านหาบสมดลุ

1. ระยะจากปลายคานหาบฝTง– สAม 180 cm 2. ระยะจากปลายคานหาบฝง–T แกAวมังกร 180 cm

3. ระยะจากปลายคานหาบฝง–T สAม 90 cm 4. ระยะจากจดุ แขวนตะกรAาแกวA มงั กร 90 cm

5. ระยะจากจดุ แขวนตะกรAาแกAวมังกร 180 cm

19. กานดาทำการทดลองวิทยาศาสตรJเพื่อศกึ ษาพลงั งานทเี่ กิดจากการชนกนั ของวตั ถุ 2 ช้นิ ซ่ึงมมี วลตPางกัน
โดยวัตถุ A มนี ้ำหนกั 180,000 นวิ ตนั เคลือ่ นทด่ี วA ยความเรว็ 54 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในขณะทีว่ ัตถุ B มมี วล
15 กิโลกรมั เคล่ือนทีด่ วA ยความเร็ว 75.6 กิโลเมตร/ช่ัวโมง ถามวาP วัตถุทงั้ 2 ชนิ้ น้มี ีพลังงานจลนJแตกตPางกัน

เทาP ใด (กำหนดใหคA Pา g = 10 m/s2) 2. 1,282.5 J. 3. 3,307.5 J.
1. 2,025 J. 5. 4,050 J.
4. 5,332.5 J.

20. กราฟท่ีกำหนดใหแA สดงความสมั พนั ธรJ ะหวPางแรงท่ีกระทำตPอวตั ถุกบั การกระจดั ทีว่ ตั ถเุ คลอื่ นทไ่ี ดA จงหา
งานและกำลังท่เี กิดขึน้ ในการเคล่ือนทข่ี องวตั ถใุ หมA ีระยะการกระจดั 60 เมตร โดยใชAเวลา 0.5 นาที
1. 15 w

2. 20 w

3. 25 w

4. 30 w

5. 35 w

5

การแขง' ขันสอบวดั ทักษะวิชาการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวชิ าวชิ าวทิ ยาศาสตร/

ภาคเี ครือข+ายโรงเรียนท่วั ประเทศ และสถาบันอซี ่ลี ชิ ประเทศไทย รหสั ชดุ ข"อสอบ 302005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

21. ภาพที่กำหนดใหแA สดงลักษณะและองคJประกอบของหวั ใจมนุษยJ ขAอใดสามารถจับคชูP ื่อเสAนเลือดและ

ตวั อกั ษรภาษาองั กฤษไดAถูกตอ, ง

ขAอ A B C D E

1. Superior Inferior Aorta Pulmonary Pulmonary
venacava venacava artery vein

2. Aorta Superior Inferior Pulmonary Pulmonary
venacava venacava artery vein

3. Inferior Pulmonary Superior Aorta Pulmonary
venacava vein venacava artery

4. Superior Pulmonary Aorta Pulmonary Inferior
venacava artery vein venacava

5. Inferior Pulmonary Aorta Superior Pulmonary
venacava vein venacava artery

22. สมองสPวนใดของมนษุ ยหJ ากถูกทำลายจะทำใหAสูญเสียความสามารถในการเรยี นรูA ทกั ษะการคิด การคำนวณ
รวมถงึ ความสามารถในการพูดและการรบั รAูประสาทสมั ผสั ตPาง ๆ

1. Medulla oblongata 2. Thalamus 3. Hypothalamus
4. Cerebrum 5. Cerebellum
23. ขAอใดเรยี งลำดับชน้ั บรรยากาศของโลกจากช้นั ลPางสดุ ซึ่งอยูตP ดิ กับพืน้ ที่ไปยงั ชัน้ บนสุดซง่ึ อยตPู ดิ กับอวกาศ

ภายนอกไดAถกู ตอ, ง
1. Exosphere > Mesosphere > Stratosphere > Ionosphere > Thermosphere
2. Mesosphere > Stratosphere > Thermosphere > Troposphere > Exosphere

3. Thermosphere > Troposphere > Mesosphere > Stratosphere > Ozonosphere
4. Troposphere > Stratosphere > Mesosphere > Thermosphere > Exosphere
5. Stratosphere > Mesosphere > Thermosphere > Troposphere > Exosphere

24. กายและพิมพใJ จไปเทย่ี วภเู ขากับครอบครวั ในวนั หยดุ แตPทงั้ สองพกั คAางแรมคนละยอดเขา หากยอดเขาท่กี ายอยPู
มีความดนั บรรยากาศ 312 มลิ ลเิ มตรปรอทสPวนยอดเขาทพ่ี ิมพใJ จอยมPู ีความดัน 387 มลิ ลิเมตรปรอท
ยอดเขาท้ังสองมคี วามสงู ต#างกนั กเ่ี มตร

1. 825 เมตร 2. 872 เมตร 3. 945 เมตร
4. 1,025 เมตร 5. 1,120 เมตร
25. ดาวเรอื งชวP ยคุณครูเตรียมสารละลายดาP งทับทิม (KMnO4) โดยใชดA าP งทบั ทมิ หนัก 45 กรัมละลายลงในนำ้

900 ลูกบาศกเJ ซนตเิ มตรแตPในระหวPางน้นั ดาวเรอื งเผลอทำดาP งทบั ทิมหกลงไปในสารละลายเพิ่มอกี 36 กรัม

ถามวาP คุณครจู ะตAองใสนP ำ้ เพม่ิ ลงไปในสารละลายดงั กลPาวกล่ี กู บาศกJเซนติเมตรเพื่อใหAไดคA วามเขAมขนA เทาP เดิม

1. 900 cm3 2. 840 cm3 3. 795 cm3
4. 735 cm3 5. 720 cm3

6

การแข'งขันสอบวัดทกั ษะวิชาการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ขอ" สอบวิชาวชิ าวิทยาศาสตร/

ภาคีเครือขา+ ยโรงเรยี นทั่วประเทศ และสถาบนั อีซ่ลี ิชประเทศไทย รหสั ชดุ ข"อสอบ 302005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

26. กติ ติศักดิต์ อA งการเตรียมสารละลายเกลอื แกงซึ่งมคี วามเขมA ขAนรAอยละ 25 โดยมวลตPอปริมาตรจำนวน
1,250 cm3 โดยใชสA ารละลายเขAมขAนรอA ยละ 80 โดยมวลตอP ปริมาตร จงหาวPาเขาจะตอA งแบPงสารละลาย

เขมA ขนA มากี่ cm3 และตอA งใสนP ำ้ เพ่มิ อกี กี่ cm3
1. ใชสA ารละลายเขมA ขนA 267.625 cm3 และเตมิ น้ำลงไปอีก 982.375 cm3
2. ใชสA ารละลายเขAมขAน 390.625 cm3 และเติมน้ำลงไปอีก 859.375 cm3

3. ใชAสารละลายเขAมขนA 450.25 cm3 และเติมนำ้ ลงไปอกี 799.25 cm3
4. ใชสA ารละลายเขAมขAน 582.225 cm3 และเติมน้ำลงไปอกี 667.775 cm3
5. ใชAสารละลายเขAมขAน 613.752 cm3 และเติมนำ้ ลงไปอกี 636.248 cm3
27. น้ำสมA เขมA ขAน 1 ขวด มีปรมิ าตร 2,000 cm3ซ่ึงมีนำ้ ตาลอยPรู อA ยละ 40 โดยมวลตอP ปรมิ าตร นำมาเตรยี ม

ตามขัน้ ตอนดังนี้
ขัน้ ท่ี 1 ผสมน้ำสAมเขมA ขนA 1 ขวด กบั น้ำปริมาตร 2,000 cm3
ขน้ั ที่ 2 แบงP น้ำสมA จากขัน้ ท่ี 1 มาปริมาตร 800 cm3 แลAวเตมิ นำ้ จนไดนA ้ำสมA ปริมาตร 1,000 cm3

จากขอA มลู นำ้ สมA ท่เี ตรียมไดใA นขั้นที่ 2 มีปรมิ าณน้ำตาลอยPรู อA ยละเทาP ใด
1. รอA ยละ 12 โดยมวลตPอปรมิ าตร 2. รอA ยละ 14 โดยมวลตPอปรมิ าตร

3. รAอยละ 16 โดยมวลตอP ปริมาตร 4. รอA ยละ 18 โดยมวลตอP ปรมิ าตร
5. รAอยละ 20 โดยมวลตPอปริมาตร
28. สารตPาง ๆ ในชีวติ ประจำวันสามารถแบงP หมวดหมูPไดAหลายชนิดตามคุณลกั ษณะหรือองคปJ ระกอบ หนงึ่ ใน

วิธีทีน่ ยิ มใชAในการจดั หมวดหมูP คือ ลักษณะเน้ือสาร โดยจะสามารถแบงP สารออกเป;น 2 ชนดิ ไดแA กสP ารเนอ้ื เดยี ว
และสารเนอื้ ผสม หากแผงผังทโ่ี จทยJกำหนดใหAแทนการจดั หมวดหมขูP องสารโดยการใชAลักษณะเนื้อสารเป;นเกณฑJ
ขAอใดสามารถยกตวั อยPางสารในกลอP ง A, B, C, D และ E ไดAถูกต,อง

ขอ" สารในกลอ, ง A สารในกล,อง B สารในกลอ, ง C สารในกลอ, ง D สารในกลอ, ง E

1. น้ำเกลือ สารสม2 เหลก็ อะลูมเิ นียม กว; ยเต๋ียว

2. น้ำเชอื่ ม เงิน กำมะถัน นอี อน เจล

3. ทองเหลือง น้ำเปลาG ปรอท คลอรีน นม

4. นำ้ ทะเล ดาG งทับทิม ทองคำ ทองแดง ฟวM สN

5. ทองคำ นำ้ เชือ่ ม นำ้ เปลGา อากาศ นำ้ หวาน

29.ขอA ใดกล#าวผิด

1. ธาตบุ างชนิดสามารถนำไฟฟาt 2. ธาตแุ บงP ออกเปน; 2 ชนิด ไดAแกP โลหะ และ อโลหะ
3. สารประกอบเป;นสารบรสิ ุทธ์ิ 4. ไมสP ามารถทำใหธA าตแุ ตกตัวเปน; สารอ่นื ไดA
5. โซเดียมคลอไรดJและโพแทสเซยี มออกไซดเJ ป;นสารประกอบ

30. สารท่เี หมาะสมจะนำมาแยกโดยการกลัน่ แบบไอนำ้ ไมค# วร มสี มบตั ติ ามขอA ใด

1. ละลายน้ำ 2. ไมลP ะลายน้ำ 3. ระเหยงาP ย
4. จุดเดือดตำ่ 5. มีสี

7

การแข'งขนั สอบวัดทักษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ขอ" สอบวิชาวิชาวิทยาศาสตร/

ภาคีเครือข+ายโรงเรียนทัว่ ประเทศ และสถาบันอีซ่ีลิชประเทศไทย รหัสชุดข"อสอบ 302005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

31. การแยกสารบรสิ ุทธ์ดิ Aวยวธิ โี ครมาโทกราฟอv าศยั หลกั การดังตอP ไปนี้ยกเว,นขอA ใด
1. ความแตกตาP งของสารท่ีใชเA ปน; ตวั ทำละลาย 2. ความสามารถของสารในการละลาย

3. ความแตกตPางของสารในการละลายและการถกู ดดู ซับ 4. ความสามารถของสารในการถกู ดดู ซับ
5. ผดิ ทกุ ขAอ
32. การสืบพันธุJของพืชดอกจากกระบวนการถาP ยละอองเรณู (Pollination) และการปฏสิ นธิซอA น

(Double fertilization) อาศยั โครงสรAางสวP นใดของดอก

ข]อ การถ+ายละอองเรณู (Pollination) การปฏสิ นธิซอ] น (Double fertilization)

1. A และ B D

2. C และ D F และ E

3. B และ C A และ B

4. A และ B C และ D

5. A และ D A และ D

33. ขAอใดเรยี งลำดบั กระบวนการการสบื พนั ธุแJ บบอาศัยเพศของพชื ดอกไดถA กู ตอ, ง

1. การปฏิสนธิ ---> การถาP ยละอองเรณู ---> การสราA งหลอดละอองเรณู ---> การเจรญิ เติบโตของเอมบริโอ

2. การถาP ยละอองเรณู ----> การปฏสิ นธิ ----> การสราA งหลอดละอองเรณู ----> การเจรญิ เตบิ โตของเอมบริโอ

3. การเจริญเติบโตของเอมบริโอ ----> การถPายละอองเรณู ----> การสรAางหลอดละอองเรณู ----> การปฏิสนธิ

4. การถาP ยละอองเรณู ----> การสราA งหลอดละอองเรณู ----> การเจรญิ เติบโตของเอมบริโอ ----> การปฏสิ นธิ

5. การถPายละอองเรณู ----> การสรAางหลอดละอองเรณู ----> การปฏสิ นธิ ----> การเจริญเติบโตของเอมบรโิ อ

34. จากภาพทกี่ ำหนดใหอA อรแJ กเนลลJใดของเซลลJทีพ่ บกระบวนดังตPอไปน้ี

กระบวนการท่ี 1 : การสรา0 งสารพลงั งานสงู เพ่อื ใชเ0 ปน& แหลง# พลงั งานภายในเซลล@

กระบวนการที่ 2 : ดัดแปลง แตง# เตมิ สารให0มคี วามเหมาะสมกอ# นส#งออกนอกเซลล@

กระบวนการท่ี 3 : เป&นที่อยข#ู องสารพันธกุ รรม

กระบวนการท่ี 4 : กระบวนการสงั เคราะห@ดว0 ยแสงของพืช

กระบวนการที่ 5 : ควบคุมสารผ#านเขา0 ออกเซลล@

ขอA กระบวนการท่ี 1 กระบวนการท่ี 2 กระบวนการที่ 3 กระบวนการที่ 4 กระบวนการที่ 5

1. F E A G C

2. A I G F H

3. G A E H C

4. G A F F D

5. G I A F D

35. การทแ่ี กนหมนุ ของโลกเอยี ง 23.5 องศาสงP ผลใหใA นชวP งเดือนธนั วาคมเกดิ เหตกุ ารณJใด
1. ฤดูรอA นของประเทศไทย 2. ฤดรู Aอนของประเทศแคนาดา
3. ฤดูรอA นของประเทศนิวซแี ลนดJ 4. ฤดหู นาวของประเทศออสเตรเลยี

5. ฤดูหนาวของประเทศแอฟริกาใตA

8

การแข'งขันสอบวดั ทกั ษะวิชาการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ขอ" สอบวชิ าวิชาวทิ ยาศาสตร/

ภาคเี ครอื ขา+ ยโรงเรียนท่วั ประเทศ และสถาบนั อซี ี่ลชิ ประเทศไทย รหสั ชดุ ข"อสอบ 302005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

ส#วนที่ 2 : ขอ, สอบวดั ทกั ษะประยกุ ตส\ ง# เสรมิ กระบวนการคดิ ทางวทิ ยาศาสตร\ (ขอ, 36 – 40)

36. ธาตุในหมPูโลหะทรานซชิ นั

1A สตรอนเซียม 1B ไอรJออน 1C แมงกานีส
2A บสิ มทั 2B ไอโอดีน 2C โพแทสเซยี ม
3A ซิลเวอรJ 3B ครปิ ตอน 3C อะลูมเิ นียม

4A แอนติโมนี 4B แฟรนเซียม 4C แอสทาทนี
5A ซลั เฟอรJ 5B นกิ เกิล 5C เรเดียม
37. ธาตทุ ่มี เี วเลนซJอิเลก็ ตรอนมากกวาP ธาตกุ ลุPมอลั คาไลนJเอิรทJ 2 อเิ ลก็ ตรอน

1A Ge 1B Fr 1C Rn
2A Ar 2B Pb 2C Mn

3A Ca 3B As 3C Sn
4A Cd 4B In 4C Si
5A Rb 5B Tl 5C Zn

38. กรณีใดบาA งที่เกดิ ภาพจรงิ หัวกลบั หากใหA X แทนวตั ถุ , Y แทนเลนสนJ ูน , Z แทนเลนสJเวAา , J แทน
กระจกเวาA และ K แทนกระจกจูน
1A วาง X ที่จุด c หนAา J 1B วาง X หลังจุด f หนAา J 1C วาง X ท่จี ุด f หนาA J

2A วาง X ระหวาP งจดุ c,f หนAา J 2B วาง X ดAานหนAา K 2C วาง X ชดิ ตดิ กบั K

3A วาง X ทจ่ี ดุ f หนAา Y 3B วาง X ดAานหนAา Z 3C วาง X ระยะอนนั ตหJ นAา K

4A วาง X หลงั จดุ f หนาA Y 4B วาง X หลังจุด f หนAา Z 4C วาง X ท่จี ุด c หนาA Y

5A วาง X ระยะอนันตJหนาA Z 5B วาง X ระยะอนันตหJ นาA Y 5C วาง X ท่ีจดุ f หนAา Z

39. ลักษณะท่ีถาP ยทอดผPานยนี บนโครโมโซมเพศ

1A โรคทAาวแสนปม 1B โรคฮโี มฟ©เลีย 1C ภาวะนวิ้ เกนิ
2A ผิวเผือก 2B ตาบอดสี 2C ลักย้มิ
3A G-6-PD 3B ความสงู 3C โรคธาลสั ซีเมีย

4A โรคโลหติ จางแบบซิกเกลิ เซลลJ 4B ลกั ยมิ้ 4C โรคเบาหวาน
5A กลมPุ อาการมารแJ ฟน 5B ลักษณะของเสAนผม 5C โรคทารกดกั แดA
40. เคร่ืองมือทใ่ี ชAหลักการของคานอนั ดบั สาม

1A กรรไกร 1B คAอนงัดตะปู 1C ที่เป©ดขวด
2A คีมคบี น้ำแขง็ 2B รถขนดิน 2C ยอยกปลา
3A ไมAกระดก 3B แหนบถอนขน 3C ปากกา

4A ชะแลง 4B ท่เี ย็บกระดาษ 4C บานพับประตู
5A ตะเกยี บ 5B ที่ทับกลวA ยป©”ง 5C ครกกระเด่ือง

9

การแขง่ ขนั สอบวดั ทกั ษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจาํ ปี พ.ศ. 2564
National Academic Test Program

เฉลยแบบทดสอบ วิชาวิทยาศาสตร์
ระดบั ชนั6 มธั ยมศึกษาตอนต้น
รหสั ชดุ ข้อสอบ 302005

ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย
1. 4 11. 2 21. 1 31. 1

2. 4 12. 3 22. 4 32. 4

3. 3 13. 1 23. 4 33. 5

4. 4 14. 1 24. 1 34. 5

5. 1 15. 2 25. 5 35. 3

6. 1 16. 5 26. 2 36. 1B, 1C, 3A, 5B

7. 2 17. 3 27. 3 37. 1A, 2B, 3C, 4C

8. 4 18. 3 28. 3 38. 1A, 2A, 4C, 5B

9. 5 19. 2 29 2 39. 1B, 2B, 3A, 5C

10. 2 20. 3 30 1 40. 2A, 3B, 3C, 5A

การแขง่ ขันสอบวัดทักษะวชิ าการระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564
(รอบคดั เลือกตัวแทนระดับจังหวดั )

วชิ าภาษาองั กฤษ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

รหัสวชิ า อ405 ภาษาองั กฤษ

รหัสชดุ ข้อสอบ 405004

ช่อื .............................................นามสกุล.............................................รหสั วชิ า...............

ระดบั ช้นั ................ห้องสอบ........................วนั ทีส่ อบ................สถานที่สอบ...................

คำช้ีแจงการสอบแบบ Take-Home Examination

รายละเอียดข้อสอบ ข้อสอบฉบับนี้มี 10 หนา้ จำนวน 50 ข้อ ระยะเวลา 90 นาที

วธิ ีการตอบ ให้ใชด้ นิ สอ 2B ระบายในวงกลมท่เี ป็นคำตอบในกระดาษคำตอบ

เกณฑก์ ารให้คะแนน สว่ น Expression ข้อ 1-10 ข้อละ 1.6 คะแนน

(คะแนนเตม็ 100 คะแนน) ส่วน Reading Comprehension ข้อ 11-25 ขอ้ ละ 2.4 คะแนน

ส่วน Structure ข้อ 26-40 ขอ้ ละ 2.2 คะแนน

ส่วน Vocabulary ข้อ 41-50 ขอ้ ละ 1.5 คะแนน

ขอ้ ปฏิบัติในการสอบ

1. ใหผ้ ูเ้ ขา้ สอบปฏิบัติตามระเบยี บสำนักงานโครงการสอบวัดทกั ษะวิชาการระดับชาติ (สวช.) ภาคีเครือข่ายโรงเรียน

ทว่ั ประเทศ และสถาบันอซี ่ลี ิชประเทศไทย ว่าดว้ ยแนวทางปฏิบัติเกยี่ วกับการดำเนินการทดสอบ พ.ศ. 2560

อยา่ งเครง่ ครดั

2. ให้ผู้เขา้ สอบระบายคำตอบลงในกระดาษคำตอบดว้ ยดินสอ 2B อย่างถกู ต้องและชดั เจน

3. เมือ่ ผูเ้ ข้าสอบทำข้อสอบเสร็จ ใหเ้ ปดิ กลอ้ ง ZOOM ยนื ยันตวั ตนไว้จนกว่าจะยนื ยันกระดาษคำตอบเสร็จ

4. ใหน้ ำโทรศพั ท์มอื ถือมาแสกน QR Code เพอ่ื เขา้ สู่ขั้นตอนการยนื ยันคำตอบ

โดยกรอกคำตอบจากกระดาษคำตอบลงสู่ระบบอีกคร้งั

และถา่ ยรปู กระดาษคำตอบที่ตงั้ ขา้ งบตั รประจำตัวผู้สอบ

เพอื่ เป็นหลักฐานก่อนกดสง่ ยืนยนั คำตอบและปิดกล้อง

หากผู้เขา้ สอบฝา่ ฝนื ขอ้ ปฏบิ ัติโครงการ สวช. หรือมกี ารทุจริต จะมีการดำเนินการ ดงั นี้
1. ไมป่ ระกาศผลการสอบจากการทดสอบดงั กลา่ ว
2. แจ้งไปยังโรงเรียนตน้ สงั กดั ของนกั เรยี น ผูด้ ูแลของผู้สอบเพือ่ ดำเนินการตักเตือนและกลา่ วโทษ
3. แจ้งไปยงั ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาที่เปน็ ภาคเี ครือข่าย สวช. เพอ่ื พิจารณารับเขา้ ศกึ ษา

เอกสารนเ้ี ป็นลขิ สทิ ธิ์ของสำนักงานโครงการสอบวดั ทกั ษะวชิ าการระดับชาติ (สวช.) และสถาบนั อซี ลี่ ชิ ประเทศไทย
บริษทั อซี ีล่ ชิ อนิ เตอร-์ เอด็ ดเู คช่นั (ประเทศไทย) จำกดั

การทำซ้ำหรือดดั แปลงหรือเผยแพร่เอกสารฉบบั นจ้ี ะถูกดำเนนิ คดตี ามกฎหมาย

การแข่งขันสอบวดั ทกั ษะวชิ าการระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ข้อสอบวชิ าภาษาองั กฤษ

ภาคเี ครอื ขา่ ยโรงเรียนทว่ั ประเทศ และสถาบันอีซ่ีลชิ ประเทศไทย รหัสชุดข้อสอบ 405004

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

Part I: Expression (Items 1 – 10)
Choose the best answer.

Situation: Baron and Siri feel concerned about Grace (Items 1 – 6)
Baron: Hi, Siri, I ran_____(1)______Grace yesterday. She didn’t look so well.
Siri: I guess so, she has been feeling down recently.
Baron: Same usual problem? Her boyfriend? She should have overcome it.
Siri: No, calm down. She already_____(2)______.
Baron: Perhaps, _____(3)______at work?
Siri: That’s what I’m talking about. She’s not getting along well with her colleagues.
They have issues almost every day.
Baron: _____(4)______because both of them are equally self-centered. Advise her not to
_____(5)______.
Siri: I hope so! I’m fed up with listening to her complain.
Baron: _____(6)______up, Siri. Bear in mind that every cloud has a silver lining.
Siri: Thanks so much for your advice.

1. 1. across 2. over
3. towards 4. into
5. against
2. put it away
2. 1. given it up 4. brought it up
3. brought it off
5. taken it on 2. what were there
4. how she is
3. 1. how is it
3. when was she 2. Understandable
5. who are they 4. Impossible

4. 1. Unusual 2. be so easy going
3. Incredible 4. work herself to death
5. Weirdo
2. Give
5. 1. let things upset her 4. Cheer
3. keep so quiet about it
5. hard on herself

6. 1. Wake
3. Take
5. Speak

2

การแขง่ ขันสอบวัดทกั ษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ

ภาคีเครือขา่ ยโรงเรยี นท่ัวประเทศ และสถาบนั อซี ่ลี ิชประเทศไทย รหสั ชดุ ขอ้ สอบ 405004

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

7. Situation: At school

Willy : I wish Charlie would talk to me.

Dolly : I see. ___________. All these problems are from a little misunderstanding.

Willy : Maybe he will give me a ring soon.

1. It’s a shame. 2. It’s incredible.

3. It’s unkind. 4. It’s questionable.

5. It’s hard to remember.

8. Situation: At restaurant

Waiter : Would you like to have pork or chicken?
Customer : _____________. I’m a veggie right now.
Waiter : That’s alright, sir.

1. Chicken is fine. 2. Either, thanks.

3. Neither, thanks. 4. Pork will do.

5. Anything will do.

9. Situation: Two friends are making decision for their dinner.

A: What restaurant shall we go for dinner tonight?

B: _____________.

A: So, let’s go to the Italian restaurant, then.

1. Whatever I want 2. What is the best?

3. Ask for what 4. What is your option?

5. Whatever you say.

10. Situation:

A: This is such a big meal and also a huge bill. How shall we make a payment?
B: _____________.
A: Good! that’s fair enough for everyone.

1. It’s on me. 2. Let’s go Dutch.

3. Let’s go to the cashier. 4. Let’s go French

5. Once and for all.

3

การแขง่ ขนั สอบวดั ทกั ษะวชิ าการระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ

ภาคเี ครอื ข่ายโรงเรยี นทวั่ ประเทศ และสถาบนั อีซ่ีลชิ ประเทศไทย รหัสชดุ ขอ้ สอบ 405004

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

Part II: Reading Comprehension (Items 11 – 25)

Particularly fast setting PVA glue for quick adhesive jobs. Apply thinly and uniformly with
brush, or other spreaders. Press parts immediately together after application. Do not add
water or other dilutants and avoid contact of it with metals.

Non-toxic, non-flammable. Store in a cool, dry place. Avoid temperature over 40 degrees.

(cited from Tanu Teawrattanakul)

11. The message above is likely to be a______.

1. chemical qualification 2. warning

3. suggestion for use 4. job description

5. maintenance guide

12. The message above implies that______.

1. It is possible for the glue to cause fire 2. It is better to keep the glue in the freezer.

3. Children’s handling of the glue is prohibited 4. Children are allowed to use the adhesive glue.

5. It is suitable with outdoor boiling machine.

By the time Debbie Clark took Adam, her autistic three-year-old son, to a music therapist,
he could barely speak. At the music therapy clinic at California State University in
Northridge, therapists encouraged the autistic child to express himself by playing
instruments and beating out rhythms on drums. They put conversations to song in order to
get Adam talking.

“In three months, the change was phenomenal,” says Clark. “Before, Adam would never
look at a stranger in the eyes, let alone speak. Now, after his music therapy session, he waves
to the therapists and says, ‘Bye, Jim. Bye, Ron. See you next week.’ Believe me, that’s music
to my ears.”

Researchers around the world are discovering music can help healing in a variety of ways.
For example, burn victims are encouraged to sing while having their dressing changed
experience less pain. Cancer patients who listen to music and practice improvising on
instruments, for example, see their levels of stress hormones drop and their immune systems
get stronger.

Part of music’s power comes from its ability to relieve anxiety, which can suppress immune
defenses as well as intensify the experience of pain. Music, especially singing, takes a
person’s mind off the suffering and soothes tension. “By helping patients relax. Music eases
pain and may even speed recovery,” says Richard Fratianne, Professor of Surgery at Case
Western Reserve University.

(cited from Tanu Teawrattanakul)

13. What would be the best title for this article? 2. A Beautiful Song
1. The Problems of Autistic Children 4. The Healing Power of Music
3. The Ability of Music To Heal
5. The Music That A Child Loves 2. Getting along well with other people

14. Which of the following describes Adam?
1. Feeling depressed and sad most of the time

3. Feeling shy to look in others’ eyes 4. Having difficulties with speaking

5. Enjoy talking alone

4

การแขง่ ขันสอบวดั ทักษะวชิ าการระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ข้อสอบวิชาภาษาองั กฤษ

ภาคเี ครือข่ายโรงเรยี นทัว่ ประเทศ และสถาบันอซี ีล่ ชิ ประเทศไทย รหสั ชุดข้อสอบ 405004

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

15. What is the effect of music-therapy on cancer patients?

1. Better hormones 2. Fewer cancer cells

3. Longer recovery period 4. Maintain stress level

5. Stronger immune system

16. What technique was used to help Adam speak?

1. Mixing music with conversation for him 2. Playing with him

3. Allowing him to self-study 4. Encouraging him to join in activities

5. Letting him play the instruments

17. How did the author feel when he said, “Believe me, that’s music to my ears.”

1. sensitive 2. indifferent

3. sad 4. happy

5. angry

18. According to Richard Fratianne, how can music help people in pain?

1. It affects people’s way of life. 2. It affects people’s mind

3. It affects people’s appearance. 4. It affects people’s physical conditions.

5. It affects people’s attitude.

19. Which of the following helps patients with anxiety the most?

1. Playing instruments 2. Beating out rhythms on drums

3. Singing 4. Humming songs

5. Looking at strangers in the eyes

20. Which of the following can be concluded from the passage?

1. Music therapy is the most effective treatment.

2. Music can keep you in good health.

3. It is necessary for doctors to study music therapy.

4. Music can be used as an alternative treatment

5. Music is the best treatment for autistic children.

The Bread Lesson

My dad has watermelon-size biceps, a neck like an inner tube, and enormous, muscular hands
that make him seem like he’s always wearing baseball mitts. He doesn’t seem like the kind
of guy who would bake great bread, but he is and he does. Every Saturday he puts on his
chef’s apron, rolls up his sleeves, breaks out a bag of flour, and produces two loaves of
homemade bread. When he’s done, the whole house smells delicious, and I can’t wait for a
hot slice smothered with yellow, melting butter.

The rest of the week, Dad is a car mechanic, which involves lots of heavy lifting, tightening,
unscrewing, shoving, shaking, yanking, and banging. People tend to think of their cars as
metallic members of the family, so there’s lots of pressure on Dad to make sure pumps pump,
steering steers, and brakes brake. The shop where Dad works is understaffed, so he’s under
a lot of stress. Sometimes I worry he’s going to overheat and blow a gasket or something,
like some old car. I think Dad began baking bread to help him relax. I see him in the kitchen,
working on a spongy hunk of dough—punching and pounding it into submission.

(cited from Nebraska Department of Education 2009)

5

การแขง่ ขนั สอบวัดทักษะวชิ าการระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ

ภาคเี ครอื ขา่ ยโรงเรยี นทัว่ ประเทศ และสถาบนั อซี ีล่ ชิ ประเทศไทย รหัสชดุ ขอ้ สอบ 405004

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

The Bread Lesson (Cont.)

I’ve been feeling kind of stressed out myself since I found out I didn’t qualify for the swim
team. Now I’ll have to wait a whole year to try out again; that might as well be a million
years. Plus, I’m taking some tough classes this year, and my best friend moved away.

I think Dad knew I was feeling pressure. He sat next to me on the sofa last Saturday and
asked me how things were going. I said OK, even though I didn’t feel OK at all. He looked
at me for a moment, then he said it was time for me to help. He got up from the sofa and
headed to the kitchen.

I couldn’t imagine what help I could offer. Still, I followed right behind him. Once we were
standing by the counter, Dad gave me one of his old aprons. He slipped it on over my head
and tied it in the back with such obvious pride that you’d think I was being knighted, which
felt kind of silly but also kind of nice. I was being initiated as a bread-baker.

Next, Dad got out his enormous stainless-steel mixing bowl, handed me a large wooden
spoon, and told me to stir while he added the ingredients. He threw in a large handful of flour
from a sack. A haze of flour dust began to hover in the air like fog. He then sprinkled salt
into the bowl. Dad isn’t big on measuring. He instinctively knows exactly how much of each
ingredient to use, and the bread always turns out great. The entire operation was
accomplished as if we were part of a NASA space launch. Flour? Check. Yeast? Check.
Milk? Check. Sugar, shortening, and salt? Check, check, check.

When I had stirred the flour and milk mixture into a thick, gooey lump, Dad had me turn it
over onto the countertop, which had been dusted with flour. Then he showed me how to
knead the dough—repeatedly pushing away at the rubbery glob, stretching it out, pounding
it, and folding it in on itself. As I kneaded it, I felt the dough come to life beneath my hands.
It took ten minutes and a surprising amount of energy to corral the unruly blob into a neat,
round mass.

Next came the most difficult and surprising part – doing nothing. We put the dough back
into the metal bowl. Then we waited for more than an hour for the dough to slowly swell up
and double in size. Next, we deflated the risen dough by punching it down. We divided it in
two and waited for it to rise again. Afterward, we put the dough into pans and waited another
hour for the dough to rise and double one last time. Dad said the waiting is always the hardest
part because of the sharp, sweet smell coming from the yeast. “It’s hard to resist putting the
dough directly into the oven, but if you do, the loaves will be small, and the bread will be
tough. The most important lesson of all is learning to be patient,” Dad explained.

While we waited, we sat and talked. Silence is a blank space that begs to be filled. It’s like
the dough—it swells up and fills a room with emptiness unless you punch it down with
words. It felt good to be still and listen to each other. It felt good to open up and share our
thoughts. As the flour dust in the kitchen quietly settled, time seemed to slow down. The
dough was going to rise at its own pace. We could do nothing to make it rise faster. As I
accepted that, I stopped watching the clock and drumming my fingers on the tabletop. I
started enjoying the quiet time with Dad. My father taught me how to bake bread, but I think
I learned something more. I learned to appreciate the slowly ticking rhythm of time. I learned
to relax and let the bread rise.

(cited from Nebraska Department of Education 2009)

6

การแขง่ ขนั สอบวดั ทกั ษะวิชาการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ขอ้ สอบวชิ าภาษาอังกฤษ

ภาคีเครือข่ายโรงเรียนท่ัวประเทศ และสถาบันอซี ่ีลิชประเทศไทย รหัสชดุ ขอ้ สอบ 405004

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

21. Why is the narrator feeling stressed?

1. The narrator failed other people 2. The narrator does not want to move away.

3. The narrator has never made bread. 4. The narrator does not make the swim team.

5. The narrator dislikes baking bread with father.

22. What is the meaning of the phrase, “you’d think I was being knighted” in paragraph 5?
1. It was an opportunity to improve my bread-baking skills.
2. It was a chance to do something with Dad after work.
3. It was a pleasure to share something to other people.
4. It was exciting to use the new stainless steel mixing bowl
5. It was an honor to be included in my father’s baking activities

23. What does the author suggest would fill the emptiness of blank space?

1. drumming 2. cooking

3. working 4. talking

5. baking

24. What is the theme of the story? 2. It is important to find ways to relax.
1. It is necessary to talk to each other. 4. It is difficult to relax in times of stress.
3. It is important to know how to bake bread.
5. It is difficult to enjoy time with family.

25. The word deflated is used in paragraph 8. Which word is the antonym of deflated?

1. expanded 2. contracted

3. swerved 4. defamed

5. collapsed

Part III: Structure and Writing (Items 26 – 40)

26. The deal was hailed as an important step______keeping the goal of limiting global warming

to 1.5 degree Celsius.

1. up 2. towards

3. into 4. forward

5. aside

27. It led to a host of countries______expressing their disappointment on the floor of the summit at

what was described as a “bitter pill”.

1. publicly 2. public

3. publicity 4. publically

5. publicizing

28. It is significant that you______ people by their covers or before you meet them.

1. don’t judge 2. didn’t judge

3. were not judged 4. are not judging

5. not judge

29. ______ such horror circumstances by these creepy creatures.

1. Have we never experienced 2. We never have experienced

3. Never have we experienced 4. Have we experienced never

5. Do we have never experience

7

การแขง่ ขันสอบวัดทักษะวิชาการระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ขอ้ สอบวชิ าภาษาองั กฤษ

ภาคเี ครอื ข่ายโรงเรยี นทวั่ ประเทศ และสถาบนั อซี ี่ลิชประเทศไทย รหัสชดุ ข้อสอบ 405004

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

30. The more Thais learn about freedom of expression, ______with their opinion sharing.

1. fascinating the more are Thais 2. Thais are more fascinating

3. Thais are more fascinated 4. the more fascinated Thais are

5. the more are Thais fascinated

31. ______is a modern and ultimate technology created uniquely by Steve Jobs.

1. What Apple Computer is satisfaction to customers

2. Customers are satisfied with Apple Computer by what

3. Apple Computer satisfies customers is what

4. What does Apple Computer satisfy customer

5. What satisfies customers to Apple Computer

32. Natural disasters caused by dramatically changing weather______throughout the country.

1. destroying hundreds of houses 2. which have destroyed hundreds of houses

3. have destroyed hundreds of houses 4. that have destroyed hundreds of houses

5. and hundreds of houses were destroyed

33. Political unrest and economic recession______some 25 percent of Thailand’s unemployment.

1. are accounted for 2. accounting for

3. account for 4. are accounting for

5. accounted for

34. By December 2022, Christmas Eve______as the biggest winter event in the World.

1. is going to be held 2. will be held

3. will have been holding 4. will have been held

5. will have held

35. My friend, ______, works from home and has been promoted as a manager eventually.

1. however 2. even though

3. for example 4. despite

5. all in all

Directions: Choose the answer which is grammatically incorrect.
36. (1) Rather being a neutral party to transactions, (2) like a stock exchange, a crypto

platform can trade (3) against customers, creating a situation (4) where, for one side (5) to win,
the other must lose.
37. This (1) multi-faceted role has raised (2) concerns that (3) platforms may not always be
(3) serving the best (5) interesting of the customer.
38. It was a (1) much-needed warning for the (2) thousand of families at (3) the four-day Hindu
festival of Chhath, which ended on Thursday, a celebration of the sun deity Surya
that involves (4) fasting and making (5) offerings while standing in water
39. (1) As European governments threatened Belarus with (2) deeper sanctions for fomenting the
migration crisis on the (3) Belarus-Polish border, its (4) bombastic leader countered
with (5) what sounded like a trump card.

8

การแขง่ ขนั สอบวดั ทกั ษะวิชาการระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ขอ้ สอบวิชาภาษาอังกฤษ

ภาคเี ครอื ขา่ ยโรงเรียนทว่ั ประเทศ และสถาบนั อีซลี่ ิชประเทศไทย รหัสชุดขอ้ สอบ 405004

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

40. (1) What pushes a teenager into bullying (2) and defames people? Society may blame the
parents, (3) officials may blame the media, but the real truth (4) lies with the country’s
(5) youth.

Part IV: Vocabulary (Items 41 – 50)

Complete the sentence with the appropriate vocabulary

41. In spite of his______dress, he was an ordinary and lovely man at heart.

1. casual 2. informal

3. sophisticated 4. shoddy

5. personable

42. Hoping the win the first prize for the most outstanding costume, John dressed______with

colorful pants and a big hat. 2. eminently
1. virtuously

3. conspicuously 4. obscurely
5. monotonous

43. The directions to the new shopping complex were______, and I had no trouble finding it in

time for class.

1. arduous 2. explicit

3. embodied 4. provident

5. embedded

44. Understanding the world economic recession, the recent graduates expressed______about

Job prospects for the future.

1. luxuriously 2. warily

3. sincerely 4. narrowly

5. coyly

45. The project seemed both______and beneficial, and the board of directors totally supported it.

1. irreparable 2. benevolent

3. implacable 4. feasible

5. savory

Choose the choice which provides the same meaning as the underlined word in the given
sentence.

46. European people have one unique and well-known character which is punctuality.
1. In Japan, teenagers admire cosplaying themselves as a cartoon character called Naruto.
2. Many European people are fascinated with a Thai character and try to learn it.
3. One of my colleagues is beloved by all of our peers because sincerity is his main character.
4. A European character is believed to originate from Greeks and Latin.
5. The plot of this soap opera clearly expresses the traits of the main character.

9

การแข่งขนั สอบวัดทักษะวิชาการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ข้อสอบวิชาภาษาองั กฤษ

ภาคีเครอื ข่ายโรงเรยี นทั่วประเทศ และสถาบันอซี ่ลี ิชประเทศไทย รหสั ชดุ ข้อสอบ 405004

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

47. Those with positive thinking always dismiss the negative one. This will lead to happiness.
1. It is quite strange that this lecturer is always dismissed by the audience during the lecture.
2. Once and for all, our principal has dismissed the student from the school.
3. The jury makes the last decision to request the judge to dismiss the case.
4. The pupils are surprised as the teacher has dismissed the class earlier than usual.
5. The chairman is dismissing the meeting as the committee doesn’t behave well in the meeting.

48. I have heard that my boss has a new golf club which is so stunning. I would like to see it myself.
1. My dad always joins his friends playing golf at the club.
2. I wish I would afford those expensive clubs. It would be nice to use them in the tournament.
3. We often spend our free time working out at the sports club.
4. The burglar was hit with a big club by the police.
5. The police have arrested those underage teenagers who join the party in the club.

49. The MOU Signing Ceremony implies complete agreement between two parties.
1. The renovation of this house will have been completed by January 2022.
2. Lalisa Manoban or Lisa Blackpink creates a complete phenomenon to the music industry.
3. Mercedes-Benz, which comes complete with a two-year warranty, costs cheaper in total.
4. This manual is a complete guide to the way of using the machine effectively.
5. It is necessary to complete the assignment before leaving for the concert.

50. All Muslims in the world observe their religious path by pilgrimaging to the Kaaba.
1. All parents have to observe their children regarding to the attitude and behavior.
2. A cardinal is observed while praying in the Catholic Church by the Pope.
3. I believe all drivers on the road ought to observe traffic regulations while driving.
4. It is known that all drivers should observe traffic congestion before selecting the route.
5. The company initiates the plan to observe the employees’ religious belief.

10

การแข่งขันสอบวดั ทักษะวิชาการระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564
(รอบคดั เลอื กตวั แทนจังหวัด)

National Academic Test Program

เฉลยแบบทดสอบ วชิ าภาษาอังกฤษ
ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
รหัสชดุ ข้อสอบ 405004

ขอ้ เฉลย ขอ้ เฉลย ข้อ เฉลย ขอ้ เฉลย ขอ้ เฉลย
1. 1 หรือ 4 11. 3 21. 4 31. 5 41. 3
2. 1 12. 4 22. 5 32. 3 42. 3
3. 1 13. 4 23. 4 33. 1 43. 2
4. 2 14. 4 24. 2 34. 4 44. 3
5. 1 15. 5 25. 1 35. 1 45. 4
6. 4 16. 1 26. 2 36. 5 46. 3
7. 1 17. 4 27. 1 37. 5 47. 1
8. 3 18. 2 28. 5 38. 2 48. 2
9. 5 19. 3 29 3 39. 3 49. 4
10. 2 20. 4 30 4 40. 2 50. 3

หมายเหตุ: ขอ้ 1. เนือ่ งจากคำตอบท่ีถกู ต้องมีมากกวา่ 1 ข้อ ดังนน้ั คำตอบจงึ สามารถเป็นไดท้ ง้ั ตวั เลือก 1 และ 4

การแข&งขันสอบวดั ทักษะวิชาการระดบั ชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564
(รอบสดุ ยอดอัจฉริยภาพระดับประเทศ)

วชิ าภาษาอังกฤษ ระดับช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

รหัสวชิ า อ405 ภาษาองั กฤษ

รหสั ชุดขอ้ สอบ 405005

ช่อื .............................................นามสกลุ .............................................รหัสวชิ า...............

ระดับช้ัน................หอ7 งสอบ........................วนั ท่สี อบ................สถานทส่ี อบ...................

คำชแี้ จงการสอบแบบ Take-Home Examination

รายละเอียดข+อสอบ ขอ" สอบฉบับนี้มี 10 หนา" จำนวน 50 ข"อ ระยะเวลา 90 นาที

วิธีการตอบ ให"ใช"ดนิ สอ 2B ระบายในวงกลมที่เปFนคำตอบในกระดาษคำตอบ หรอื

นำโทรศัพทNมอื ถือมาสแกน QR Code เพอ่ื กรอกและยนื ยันคำตอบในระบบ

เกณฑ6การใหค+ ะแนน สWวน Expression ข"อ 1-10 ข"อละ 1.6 คะแนน

(คะแนนเตม็ 100 คะแนน) สวW น Reading Comprehension ข"อ 11-25 ขอ" ละ 2.4 คะแนน

สวW น Structure ข"อ 26-40 ข"อละ 2.2 คะแนน

สWวน Vocabulary ขอ" 41-50 ข"อละ 1.5 คะแนน

ขอ" ปฏิบัตใิ นการสอบ

1. ให%ผ%ูเขา% สอบปฏบิ ัติตามระเบยี บสำนกั งานโครงการสอบวดั ทกั ษะวิชาการระดับชาติ (สวช.) ภาคีเครือขาH ยโรงเรียน
ท่วั ประเทศ และสถาบนั อีซี่ลชิ ประเทศไทย วHาด%วยแนวทางปฏบิ ัติเกย่ี วกับการดำเนินการทดสอบ พ.ศ. 2560

อยาH งเครHงครดั

2. ให%ผเ%ู ข%าสอบระบายคำตอบลงในกระดาษคำตอบดว% ยดนิ สอ 2B อยาH งถูกต%องและชดั เจน (สำหรบั โรงเรยี น)

3. เมอ่ื ผู%เขา% สอบทำขอ% สอบเสรจ็ ใหเ% ปดY กล%อง ZOOM ยนื ยันตัวตนไว%จนกวHาจะยนื ยันกระดาษคำตอบเสรจ็

4. ใหน% ำโทรศพั ท^มือถือมาแสกน QR Code เพื่อเขา% สHขู ้นั ตอนการยนื ยันคำตอบ

โดยกรอกคำตอบลงสHูระบบ (สำหรับผูเ% ขา% รวH มสอบออนไลน)^

หากผ"เู ข"าสอบฝ6าฝ7นข"อปฏิบตั ิโครงการ สวช. หรอื มกี ารทุจริต จะมกี ารดำเนนิ การ ดงั น้ี
1. ไมHประกาศผลการสอบจากการทดสอบดงั กลHาว
2. แจ%งไปยงั โรงเรียนตน% สงั กัดของนกั เรียน ผด%ู แู ลของผ%สู อบเพอ่ื ดำเนนิ การตกั เตอื นและกลHาวโทษ
3. แจ%งไปยังผูบ% รหิ ารสถานศกึ ษาท่ีเปgนภาคีเครือขาH ย สวช. เพื่อพิจารณารับเขา% ศึกษา

เอกสารนเี้ ป>นลิขสทิ ธ์ิของสำนักงานโครงการสอบวัดทักษะวชิ าการระดบั ชาติ (สวช.) และสถาบนั อซี ่ีลชิ ประเทศไทย
บริษทั อซี ่ลี ชิ อินเตอร6-เอ็ดดูเคช่นั (ประเทศไทย) จำกัด

การทำซำ้ หรือดดั แปลงหรือเผยแพรWเอกสารฉบับนี้จะถูกดำเนนิ คดีตามกฎหมาย

การแข'งขนั สอบวัดทกั ษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวิชาภาษาอังกฤษ

ภาคเี ครอื ข+ายโรงเรียนท่วั ประเทศ และสถาบนั อีซล่ี ิชประเทศไทย รหัสชุดขอ" สอบ 405005

________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

Part I: Expression (Items 1 – 10)
Choose the best answer.

Situation: At the wedding

Angelina: Doesn’t the bride look beautiful in that wedding dress?

May: Yes. She looks amazing. And the groom is so romantic. I just heard the story of

_____(1)_____! He proposed to her during a candlelight dinner in London. Did you

know that was where they went to school?

Angelina: Oh? Wonderful. And the honeymoon! What a great idea! Most people just go to

the beach for a week after they tie the knot. But they plan on heading to California

and cruising the coast on their motorcycle.

May: Really! What a fantastic idea. This is _____(2)_____ the best wedding I’ve ever been to.

1. 1. when they got engaged 2. how they got engaged

3. how did they engage 4. where they got engaged

5. where they get engaged

2. 1. too far 2. far of

3. by far 4. such a far

5. such far

Situation: At the pet store

Taylor: Oh! _____(3)_____. What do you think?

Ryan: I think I’d rather get a dog. Dogs are more loyal than cats.

Taylor: Yes, but they’re so much work! Would you be willing to walk it every single day?

And clean up after it?

Ryan: Hmm. _____(4)_____. What about a bird? Or a fish?

Taylor: We’d have to invest a lot of money in a cage or a fish tank.

And I don’t really know how to take care of a bird or a fish!

Ryan: Well, we’re obviously not ready to get a pet yet.

Taylor: Yeah, you’re right. Let’s go grab some coffee and talk about it.

3. 1. What a beautiful cat 2. What a beautiful dog

3. Such beautiful cat 4. How beautiful the dog is

5. Such beautiful dog

4. 1. Whatever you say 2. Let me guess

3. Good point 4. I don’t buy it

5. So far so good

Situation: At the movies

Eric: Would you mind moving over one, so my friend and I can sit together?

Woman: _____(5)_____.

Eric: Thanks a lot!

5. 1. No, not at all 2. Go for it

3. You bet 4. Why not

5. Yes, you would

2

การแขง' ขนั สอบวดั ทกั ษะวชิ าการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ขอ" สอบวชิ าภาษาอังกฤษ

ภาคเี ครือขา+ ยโรงเรยี นทว่ั ประเทศ และสถาบนั อีซล่ี ิชประเทศไทย รหสั ชดุ ข"อสอบ 405005

________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

Situation: Fizer and Mario discusses about their study. (Items 6 - 10)

Fizer: Hi there, Mario. How are you going with your American studies tutorial paper?
Mario: Oh good. I’ve finished it actually.
Fizer: Lucky you. _____(6)_____. I’m still trying to find an interesting topic.
Mario: Well…_____(7)_____, I decided to look at the history of banana growing

in the US.
Fizer: Banana growing! Fascinating, I’m sure!
Mario: Well…it’s not as boring as you’d think. And I wanted to tie it in to the work I’ve been

doing on primary industries and the economy.
Fizer: I suppose you are going to tell me the whole history of banana growing now, aren’t you?
Mario: Well, it’d be a good practice run for my tutorial next week. I’ll do the same for you

_____(8)_____.
Fizer: OK. _____(9)_____. So, where were these bananas first domesticated?
Mario: According to my research, the Cavendish banana, which is a type of banana and the

first type to be cultivated here, actually originated in China but they had a fairly
roundabout route before they got to the US.
Fizer: _____(10)_____they didn’t go straight from China to the US.?
Mario: No, they didn’t. It seems that in 1826, bananas were taken from South China to England.
Fizer: Well, this seems to be a knowledgeable conversation. Thank you for sharing.
Mario: With all pleasure.

6. 1. How did you do it on? 2. What did you do it on?
3. What did you do? 4. How did you do it?
5. How do you like it?
2. after I consider
7. 1. after some consideration 4. after I am considered
3. my consideration is
5. I consider it after 2. sometimes
4. some times
8. 1. some time
3. other times 2. Fire it
5. other time 4. Fire down

9. 1. Fire on 2. What does it mean
3. Fire up 4. You mean
5. Fire away

10. 1. How you do mean
3. What is the meaning
5.What the meaning of

3

การแขง' ขนั สอบวัดทักษะวชิ าการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวชิ าภาษาองั กฤษ

ภาคเี ครือข+ายโรงเรยี นท่วั ประเทศ และสถาบนั อซี ่ีลชิ ประเทศไทย รหัสชดุ ข"อสอบ 405005

________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

Part II: Reading Comprehension (Items 11 – 25)

Skyscraper

The most necessary invention to make a tall building, or a skyscraper, was the elevator
shaft. In the mid 1800s, the first passenger elevator was installed in a New York department
store. At the time, it was very difficult to conveniently move thousands of people up and
down a building that was over 20 stories tall. Without elevators, tall buildings might never
have been built.

The first step to constructing a skyscraper is digging a big foundation hole. When the
Petronas Twin Towers were built in Kuala Lumpur, Malaysia, engineers had to shove
massive concrete pillars 60~120 meters into the Earth’ s bedrock layer. The second step to
building a skyscraper is making its steel skeleton. This is just like the frame of a car. Strong
iron or metal beams are welded to create long vertical columns. At each floor level, these
vertical columns are connected to horizontal beams.

The third step also involves building the steel skeleton. This steel frame has outer walls
(or curtain walls) that support almost all the weight of the building. The weight from all the
floors gets transferred directly to the vertical columns. This sends forces through the steel
skeleton down into the building’ s base. In modern skyscrapers, these exterior curtain walls
are made almost entirely of glass which gives more floor space for tenants to live or work.
Once the skeleton has been built, the fourth step is much easier. The floors are then added to
a new skyscraper, often one to two a day. A fifth and final step is stabilizing the skyscraper.
Some buildings have huge weights controlled by computers. The weights glide back and
forth in the opposite direction than that which the building moves during an earthquake or
high winds.

(Cited from Brady Fotheringham)

11. What happens during the second step of building a skyscraper?
1. Elevator shaft frames are installed on every floor.

2. The building’s base is constructed.

3. The exterior of the steel skeleton is built.

4. The floors are added to the building.

5. The horizontal beams are created first.

12. According to the passage, what was the breakthrough needed to build a skyscraper?

1. Elevators shaft 2. Concrete pillars

3. Modern construction engineers 4. Lightweight glass panels

5. Computer control

13. What benefit occurs from using exterior curtain walls?
1. The building design is more attractive.

2. Curtain walls support a lot of the weight.

3. Using curtain walls decreases the cost of building.

4. Curtain walls support electrical cables.

5. Curtain walls make the building look more beautiful.

4

การแขง' ขันสอบวัดทกั ษะวิชาการระดบั ชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ขอ" สอบวิชาภาษาองั กฤษ

ภาคเี ครอื ข+ายโรงเรยี นทัว่ ประเทศ และสถาบนั อีซีล่ ชิ ประเทศไทย รหัสชุดข"อสอบ 405005

________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

Learning

One of the major processes that takes place in schools, of course, is that students learn. When they
graduate from high school, many can use a computer, write essays with three-part theses, and
differentiate equations. In addition to learning specific skills, they learn to think critically, to weigh
evidence and to develop independent judgment. The extent to which this development takes place is
related to both school and home environments. Teachers who are more open to new ideas and less
authoritarian produce students who have greater intellectual flexibility and higher achievement test
scores. Studies show that teachers are most demanding when they are of the same social class as their
students. The greater the difference between their own social class and that of their pupils, the more
rigidly they structure their classrooms and the fewer demands they place on their students.

(Cited from Grammarbank)

14. It is clear from the passage that teachers who are more open to new ideas ___________.
1. produce more successful students in terms of test scores and intellectual flexibility
2. often come from a lower social class than their students
3. are more authoritarian towards students
4. discourage intellectual flexibility in schools
5. give students more homework

15. We learn from the passage that when students graduate from high school ___________.
1. none of them are able to think critically
2. they can take the overall responsibility of anything
3. all of them have a good knowledge of computer usage
4. many of them have gained specific skills like writing essays and differentiating equations
5. most of them lack knowledge because of unavailability of ideal learning conditions

16. According to the text, it is true that ___________.
1. teachers who are from a higher social class than their students should be hired
2. both the school and home environments greatly influence a student's achievement in school
3. it is not so difficult to constitute ideal learning conditions
4. every student can get high test scores under close supervision
5. students learn best in a rigid classroom environment

“From the sublime to the ridiculous is only a step” d

17. What does this sentence mean?

1. Nothing is certain 2. A step can make life ridiculous

3. Sublime is possible by a step 4. Don’t make yourself ridiculous

5. Nothing can be sublime and ridiculous

18. What is the purpose of this saying?

1. to teach 2. to command 3. to threaten 4. to advertise 5. to persuade

19. Where would we most likely see this saying?

1. in a religious text 2. on a job poster

3. in a university brochure 4. in an advertisement

5. on the variety show

5

การแขง' ขันสอบวัดทักษะวชิ าการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ขอ" สอบวิชาภาษาองั กฤษ

ภาคเี ครอื ข+ายโรงเรยี นทั่วประเทศ และสถาบันอีซล่ี ชิ ประเทศไทย รหัสชดุ ขอ" สอบ 405005

________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

Dream Jobs by Giovanni Marks

During our teens, all the pupils at my school had to have a meeting with a ‘careers advisor’
who only seemed to know about jobs at the local ship- building works. That was fine for
some, but many of us would have liked to hear about a wider range of opportunities at that
time. If only she had known about the jobs I’ve been researching for this article! It seems
there are positions out there that are almost too good to be true.

Take, for example, the job with the title ‘ Ice cream flavour advisor’ for ice cream
manufacturer Frederick’ s. Imagine making and tasting ice cream for a living! From the
Fredrick’s website I learned that the people who do this job are all chefs and food scientists,
and often go on what they call ‘taste hunts’ where they travel to other countries, trying new
foods to get inspiration for new products. The website’ s home page also states that ‘ every
ingredient deserves consideration’ , meaning anything from peanuts to potatoes could make
it into the next flavour advisor’ s invention. I guess the one downside of this job could be
tasting failed creations.

For those worried about the health implications of eating so much ice cream, then how
about something more active? The perfect job for water sports lovers was advertised in 2015
by holiday company Travel Now. They needed a water slide tester! This involved getting
into swimming gear and speeding down slides at various holiday centres around the world
to check for any issues. The company was seeking applicants with strong written and verbal
skills, experience in social media and a willingness to travel.

Another job that seems impossibly wonderful is one for those who dream of living on a
remote island. As the caretaker of a private island in the Maldives, Simon Grainger gets to
enjoy fabulous weather, fishing and boating as part of his job. However, he says that while
it may sound more like an extended holiday than work, the responsibilities of the job can be
very demanding. These include maintaining and repairing the island owners’ property and
cleaning up after storms. On top of that, being by yourself on an island means that your
social life suffers. Seeing friends involves an hour’ s boat ride, which is never easy and
sometimes impossible. Grainger warns anyone considering a job like his to be realistic about
it. He explains you’ve got be very practical with good physical fitness, and happy in your
own company. If you are this type of person, you’ll do the job well and never want to go
back to life on the mainland.

A fortune cookie is a moon-shaped biscuit given away in Chinese restaurants that contains
a little piece of paper with a message on it. Millions of these are read every day, but few
realise that people actually get paid to write the words of wisdom you find when you crack
your cookie open. Daisy Cheng, president of New Asian Food in Los Angeles, used to be
one such person. It wasn’t exactly her chosen career path, it was more of a role she fell into.
When the company expanded and realised they needed to update their cookie messages, she
was asked to do it because her English language skills were stronger than other employees’.
She found it difficult to start with, but soon she was finding inspiration everywhere, from
subway signs to newspapers.

As a writer myself, I would love to create messages for fortune cookies, but I would be
delighted to do any one of these amazing jobs. Listen up careers advisors!

(Cited from Cambridge Exam Booster for First and First for Schools (2017)

6

การแข'งขนั สอบวัดทกั ษะวชิ าการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวิชาภาษาอังกฤษ

ภาคีเครอื ขา+ ยโรงเรยี นทวั่ ประเทศ และสถาบนั อีซล่ี ิชประเทศไทย รหสั ชดุ ข"อสอบ 405005

________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

20. How does the writer feel about the careers advisor he met when he was younger?

1. He regrets that she was unable to help any of the teenagers.

2. He found her guidance quite useful at the time.

3. He thought it was unnecessary to see her.

4. He wishes she had been aware of a greater variety of job options.

5. He thought she had great experiences on researching.

21. It is claimed on the website for Frederick’s ice cream that __________.

1. there is no food type that they will refuse to experiment with

2. they are able to make most ingredients taste good in ice cream

3. they trial every new flavour creation internationally before it goes on sale

4. no other ice cream producer has greater expertise

5. chefs and food scientists are managing the website

22. Applicants for the job of water slide tester were required by Travel Now to __________.

1. be good at communicating with people 2. have plenty of travel experience

3. have good IT qualifications 4. be very physically fit

5. have their own swimming gear

23. Grainger says about his role as caretaker on a private island that ____________.

1. he is considering giving it up so he can move back to the mainland

2. it might not be the right job for everyone

3. the holiday lifestyle involved is not always enjoyable

4. the only thing that is hard about it is being alone on the island
5. the role as caretaker is always easy for him

24. What does the fifth paragraph say about Daisy Cheng getting her job as fortune cookie

writer?

1. She got the job because none of her colleagues spoke any English.

2. She applied for it when the company grew and needed more people to do the job.

3. She tried to avoid doing the job at first.

4. She used her English skills to apply for the job.

5. She did not deliberately choose to do the job.

25. The phrase ‘one such person’, in the fifth paragraph, refers to _____________

1. someone who is a company vice president

2. someone who is from New York

3. someone who didn’t know fortune cookie message writers existed

4. someone who writes the messages in fortune cookies

5. someone who is the owner of the Chinese restaurant

7

การแข'งขันสอบวัดทกั ษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวิชาภาษาอังกฤษ

ภาคีเครือขา+ ยโรงเรียนทัว่ ประเทศ และสถาบันอซี ่ลี ชิ ประเทศไทย รหัสชุดขอ" สอบ 405005

________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

Part III: Structure and Writing (Items 26 – 40)

26. Chen Nianxi has published two__________books. He tours the country promoting his writing.

1. critically acclamation 2. acclaimedly critical

3. critically acclaimed 4. critical acclamation

5. critical acclaimed

27. It was a__________warning for the thousands of families at the four-day Hindu festival.

1. so needed 2. much-needed

3. needed-much 4. needed very much

5. indeed

28. It__________the village where we spent our holidays last summer.

1. reminds me of 2. remembers me of
3. reminds me to 4. remembers me to

5. reminds me that

29. She’s going to the photographer’s__________.

1. to take her photograph 2. to have taken her photograph

3. to have her photograph 4. that he takes her photograph

5. that taken her photograph

30. Some of the protesters applauded. Others booed their disapproval and stamped their feet.

__________to make their escape.

1.Others still knew how 2. Some others were uncertain

3. The others sat down 4. Yet others headed for the doors

5. Others had passed

31. __________require further information, do not hesitate to contact the secretary.

1. You should 2. When you need

3. Do you 4. If I want

5. Should you

32.. I’d rather your boss__________calling you in the middle of the night. It’s not proper.

1. to stop 2. stopping

3. stopped 4. stop

5. stops

33. The weather forecast reported as though it__________very hard yesterday.

1. was raining 2. rained

3. was rained 4. had rained

5. had been raining

34. __________the activities with my friends, I would have enjoyed my school year.

1. If I participated 2. I had participated

3. Had I participated 4. If I was participating

5. I had been participating

35. __________, I will love you until my dying day.

1. Come what may 2. It may come

3. It may come what 4. What may come

5. May it come

8

การแขง' ขนั สอบวัดทักษะวชิ าการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวิชาภาษาองั กฤษ

ภาคีเครอื ขา+ ยโรงเรียนทั่วประเทศ และสถาบนั อซี ลี่ ชิ ประเทศไทย รหัสชดุ ขอ" สอบ 405005

________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

Directions: Choose the answer which is grammatically incorrect.
36. A judge in (1) the 1990 opposed (2) putting nuclear waste on Prairie Island because of the

government’s history of failing (3) to find a permanent storage facility and (4) its record of
broken promises (5) to tribal communities.
37. Aladdin, an (1) Oscar-winning (2) animated movie that Disney released in 1992, (3) featured
a (4) main white voice cast and an opening song with lyrics about a (5) faraway place.
38. (1) As the book progresses, and Smith’s celebrity becomes (2) more (3) stratospherically and
(4) snow-globe-like, the air grows thinner; he starts to gasp for (5) breath and turns inward.
39. China (1) has just set a record for (2) creating the highest heat (3) ever recording when the
scientists created temperatures of (4) up to 70,000,000ºC in an "(5) artificial sun".
40. No sooner (1) we had arrived home (2) than the police (3) rang the doorbell. I (4) didn’t know
(5) what happened.

Part IV: Vocabulary (Items 41 – 50)

Complete the sentence with the appropriate vocabulary

41. A New York school teacher with no formal medical __________ has been arrested

for _________ giving a COVID vaccine to a student.

1. certificate, creatively 2. specification, surprisingly

3. prescription, technically 4. professional, unexpectedly

5. qualification, allegedly

42. The______advice offered by his fiancé saved him from making a grave mistake.

1. insensitive 2. judicious

3. metaphorical 4. unorthodox

5. recalcitrant

43. Tony Stark, a meticulous kind guy, always watered his neighbor’s plants______when

they went away on holiday.

1. terminally 2. perpendicularly

3. assiduously 4. sagaciously

5. meditatively

44. Even if the tollway system continues to flourish, it usually cannot keep pace with

a______population.

1. beckoning 2. burgeoning

3. capitulating 4. exasperating

5. surging

45. Visiting all the nightclubs in the downtown, they were on a/an______to find the perfect recipe

of cocktail.

1. surge 2. quest
3. ultimatum 4. cadence
5. expressive

9

การแข'งขันสอบวัดทักษะวิชาการระดบั ชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวชิ าภาษาอังกฤษ

ภาคเี ครือขา+ ยโรงเรยี นทวั่ ประเทศ และสถาบันอีซลี่ ิชประเทศไทย รหัสชดุ ข"อสอบ 405005

________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

Choose the choice which provides the same meaning as the underlined word in the given
sentence.

46. The researcher's job is to gather information about people.

1. The train pulled away slowly, then gathered speed.
2. I have gathered from what I heard that your business has been doing well.
3. I spent a week gathering the courage to say no.
4. The encyclopedia sits on my shelf at home, gathering dust.
5. Townspeople gathered in the town hall to talk about the new school.
47. The pilot avoided a collision by altering course.
1. My doctor has put me on a course of antibiotics.
2. My sister has been offered a place on the nursing course.
3. Changing the course of the river would cause serious environmental damage.
4. The horse race was cancelled because the course was waterlogged.
5. I assume Mr. and Mrs. Johns plan to have children in the course of time.
48. They make pledges, take blood oaths, and form compacts to resist the landlords.
1. The two companies made a compact not to reveal any details.
2. What a compact office! How did you fit so much into so little space?
3. Compacts are easier to park than full-size cars and save on gas.
4. Refillable makeup compact for powderฃ,ฃeyeshadows or blush can help reduce wastes.
5. The morning traffic had compacted the snow until it was a sheet of ice.

Complete the sentence with the appropriate vocabulary

49. One summer, while visiting in the little village among the Green Mountains where her

ancestors had dwelt for________, my Aunt Georgiana kindled the callow fancy of

my uncle, Howard Car- penter, then an idle, shiftless boy of twenty-one.

1. days 2. seasons

3. infinity 4. generations

5. contortion

50. When we were learning to read, most of us learned to sound out words by syllables in
order to pro- nounce them. Syllables are parts of words that carry separate sounds, though
those sounds may be com- prised of several letters. Every syllable must have a vowel
sound. That vowel sound may be made up of more than one vowel letter. For instance, in
the word arraignment, the a and i together make the long a sound. The g is silent.

Breaking words into syllables is one of the best ________ to divide and con- quer longer words.

1. excluded 2. composed

3. engaged 4. fashioned

5. produces

10

การแขง่ ขันสอบวัดทกั ษะวิชาการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564
(รอบสดุ ยอดอจั ฉรยิ ภาพระดับประเทศ)
National Academic Test Program

เฉลยวิชาภาษาอังกฤษ
ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

รหัสชดุ ข้อสอบ 405005

ขอ้ เฉลย ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย
1. 2 11. 4 21. 1 31. 5 41. 5
2. 3 12. 1 22. 1 32. 4 42. 2
3. 1 13. 2 23. 2 33. 4 43. 3
4. 3 14. 1 24. 5 34. 3 44. 1
5. 1 15. 4 25. 4 35. 1 45. 2
6. 1 16. 2 26. 3 36. 1 46. 2
7. 1 17. 1 27. 2 37. 4 47. 4
8. 5 18. 1 28. 1 38. 3 48. 1

9. 5 19. 1 29 3 39. 3 49. 4
10. 4 20. 4 30 2 40. 1 50. 2

การแขง่ ขนั สอบวัดทกั ษะวชิ าการระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564
(รอบคัดเลอื กตัวแทนระดบั จงั หวดั )

วิชาวทิ ยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

รหสั วิชา ว402 วทิ ยาศาสตร์

02004

ชื่อ.............................................นามสกลุ .............................................รหัสวชิ า...............
ระดับชั้น................ห้องสอบ........................วนั ทส่ี อบ................สถานที่สอบ...................

Take-Home Examination
0 90

2B
1-35

0 36-40

1. 2B

2560 ZOOM
2. QR Code
3.
4.

1.
2.
3.

-

การแขง่ ขนั สอบวดั ทักษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ขอ้ สอบวิชาวชิ าวทิ ยาศาสตร์

ภาคเี ครือข่ายโรงเรยี นทว่ั ประเทศ และสถาบนั อซี ่ลี ิชประเทศไทย รหสั ชุดขอ้ สอบ 402004

_____________________________________________________________________________________________________________________________ _______________________________________________________________

ส่วนท่ี 1: ขอ้ สอบวดั ทกั ษะตามเน้ือหาบทเรยี นในหลักสตู ร (ขอ้ 1 – 35)

1. นายต้นสนเรียนวิชาฟิสิกส์เรื่องไฟฟ้ากระแสตรง ได้ทำการทดลองเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าไดโอด โดยนายต้นสนได้นำ

แบตเตอรี่ 10 โวลต์ ไดโอด 2 ตัว และตัวต้านทาน 2 ตัว มาต่อกันเป็นวงจรตามรูป A จะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน

แบตเตอรี่ 3 แอมแปร์แต่เมื่อสลับขั้วของไดโอด D1 เป็นวงจรแสดงดังรูป B ปรากฏว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน

แบตเตอร่ี 1.5 แอมแปร์ จงหาความตา้ นทาน R1 มีคา่ กโ่ี อห์ม

1. 1 โอห์ม 2. 2 โอหม์

3. 3.33 โอหม์ 4. 5.33 โอหม์

5. 7.33 โอหม์

2. ถา้ นำแท่งแม่เหล็กแทง่ หน่งึ วางดังรปู โดยวางในบรเิ วณทมี่ สี นามแมเ่ หล็กโลกมคี า่ สมำ่ เสมอ อยากทราบวา่

จุดใดบ้างที่สนามแม่เหล็กจะมีคา่ เทา่ กบั ศนู ย์

1. A และ E 2. C และ G 3. B และ H 4. D และ F 5. A และ C

3. ระบบที่มปี ระจุ – 2Q +3Q และ – Q เรียงตวั ในแนวเสน้ ตรงโดยมรี ะยะระหว่างกนั เทา่ กับ R

จงหาพลังงานศกั ยไ์ ฟฟา้ ของระบบ

1. 16kq2 2. - 16kq2 3. 16kq2 4. - 16kq2 5. 8kq2
R R R2 R2 R

4. นำวตั ถมุ วล m ผูกตดิ กบั เชือกแกว่ง เคลอื่ นท่ตี ามแนววงกลมจดุ ศูนย์กลาง O และรศั มี R ดว้ ยความถี่ f

จงหาวา่ แรงตึงเชือกจะมคี ่าเทา่ ใดเพือ่ ร้ังวัตถใุ ห้เคลื่อนทแ่ี บบวงกลม

1. m [2fπ] R 2. m [2fπ2 ] 1 3. m[4πf]2 1
R R
5. m [2fπ]2 R
4. m[2πf]2R

5. ในการทดลองเพื่อหาประจุต่อมวลของอนุภาค X โดยใช้เทคนิคเดียวกันกับที่ JJ Thomson ทดลองกับรังสีแคโทด

โดยใช้เครื่องยิงอนุภาค X ผ่านลำอนุภาคดังกล่าวเข้าไปในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของ

อนุภาคขนาด 50 T พบว่าอนุภาคจะเคลื่อนที่เป็นวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 เซนติเมตรดังภาพที่ 1 และเมื่อยงิ

อนุภาค X ด้วยเครื่องยิงแบบเดิมเข้าไปบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของอนุภาคขนาด 5 mT

และมีแผ่นโลหะคู่ขนานที่ต่อกับความต่างศักย์ 12 kV วางอยู่ห่างกัน 50 เซนติเมตร อนุภาคนี้จะเคลื่อนที่เป็น

เสน้ ตรง อยากทราบว่าอนุภาคดงั กลา่ วมีประจุตอ่ มวลขนาดเท่าใด

ภาพที่ 1 ภาพที่ 2

1. 1.2 x 106 C/Kg 2. 2.4 x 106 C/Kg 3. 4.8 x 106 C/Kg

4. 2.4 x 107 C/Kg 5. 4.8 x 107 C/Kg

6. มวล m ขนาด 5 กิโลกรัม วางชิดกบั สปริงทม่ี คี ่านจิ สปริง 20,000 N/m หากอัดมวลนีเ้ ข้ากับสปรงิ ให้สปริงหดเข้าไป

เปน็ ระยะ 10 เซนติเมตร แล้วปล่อยให้สปริงดดี มวลน้ีไถลบนพนื้ ล่นื ไปชนกบั กำแพงอีกฝง่ั หากหน่งึ ในส่ีของพลังงาน

จลนเ์ ปลีย่ นเปน็ พลังงานของเสยี งในหนง่ึ ส่วนสิบวินาที ผูส้ ังเกตทีอ่ ยูห่ ่างออกไป 10 เมตรจะได้ยินเสียงดังระดับความ

เขม้ เสยี งเปน็ เทา่ ใด (กำหนดให้ 4π ≈ 12.5 , I0 = 10-12W/m2, log 2 = 0.3, log 3 = 0.5, log 5 = 0.7)

1. 0.2 W/m2 2. 33 W/m2 3. 33 dβ 4. 110 dβ 5. 250 dβ

2

การแข่งขันสอบวดั ทักษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ข้อสอบวิชาวชิ าวทิ ยาศาสตร์

ภาคเี ครอื ขา่ ยโรงเรียนท่วั ประเทศ และสถาบนั อีซ่ลี ชิ ประเทศไทย รหัสชุดข้อสอบ 402004

_____________________________________________________________________________________________________________________________ _______________________________________________________________

7. ถ้าต้องการสร้างบ้านใกล้สนามบิน อยากทราบว่าจะต้องสร้างให้ห่างจากสนามบินเท่าใด จึงจะทำให้ได้ยินเสียง

เคร่อื งบินไมเ่ กิน 60 เดซิเบล โดยขณะทเี่ ครอื่ งบินกำลังบนิ จะสง่ เสียงดัง 120 เดซเิ บล ขณะหา่ งจากจดุ ไดย้ ินเสยี ง 50

เมตร

1. 50 km 2. 60 km 3. 70 km 4. 80 km 5. 90 km

8. ในการทดลองสลติ เด่ยี ว หากผา่ นด้วยแสงความยาวคลน่ื 400 นาโนเมตรผา่ นชอ่ งแคบเดี่ยว จะพบวา่ แถบสวา่ งกลาง

จะปรากฏบนฉากที่อยู่ห่างออกไป 1.5 เมตร กว้าง 2 เซนติเมตร หากนักเรียนคนหนึ่งนำสลิตนี้ไปทดลองหาความ

ยาวคลื่นโดยใช้แสงความยาวคล่ืน 650 นาโนเมตร แลว้ ต้องการให้เกดิ แถบสว่างกลางกวา้ งเทา่ กัน จะตอ้ งให้สลิตกับ

ฉากอยหู่ า่ งกนั เท่าใด

1. 0.85 m 2. 0.92 m 3. 1.02 m 4. 1.22 m 5. 1.33 m

9. แสงเลเซอร์มีลำแสงความยาวคลื่น 450 นาโนเมตร ตกกระทบตั้งฉากกับพื้นผิวหนึ่งซึ่งสามารถดูดกลนื แสงได้อย่าง

สมบรู ณ์ แสงเลเซอร์กระทำตอ่ ผิวด้วยแรง 10-10 นิวตัน ถา้ กำหนดให้โฟตอนตกกระทบพ้นื ผวิ อยากทราบวา่ โฟตอน

จะตกกระทบพน้ื ผิวจำนวนก่ีอนภุ าคต่อวนิ าที

1. 50.18×1015 2. 60.18×1015 3. 58.18×1015 4. 68.18×1015 5. 78.18×1015

10. ลฟิ ต์ส่งของตัวหนึ่งมีมวลรวมสัมภาระ 1.50 ตนั โดยมอเตอร์ เมอ่ื ลิฟตก์ ำลังเคล่ือนท่ีขึน้ ด้วยความเร่งสูงสุด ลิฟต์จะ

เริม่ เคลือ่ นทีจ่ ากหยดุ น่งิ จนมีอัตราเร็ว 10.0 m/s ในเวลา 4.00 วนิ าที อยากทราบวา่ สายเคเบลิ ของลิฟตต์ ัวน้ีจะต้อง

ทนแรงตึงอยา่ งน้อยเทา่ ใดจึงจะไม่ขาด

1. 12.5 kN 2. 14.4 kN

3. 15.8 kN 4. 18.8 kN

5. 20.0 kN

11. มีมวล 10 kg กำลังวิ่งไปทางขวามือด้วยความเร็ว 5 m/s ในแนวแกน x เมื่อเคลื่อนที่ผ่านจุด A เกิดกระจายตัว

ออกเป็นสองส่วน มวลชิ้นที่หนึ่งมีขนาด 4 kg วิ่งย้อนกลับด้วยความเรว็ 2.5 m/s มวลชิ้นทีส่ องวิ่งเขา้ หากำแพงดังรูป

จงหาระยะ T จากแนวแกน x ทีม่ วลชิ้นที่สองวงิ่ ชนกำแพง

1. 2.62 m 2. 3.62 m

3. 4.62 m 4. 5.62 m

5. 6.62 m

12. ในการเปลยี่ นพลงั งานนิวเคลียร์เป็นพลังงานกลของเรือดำน้ำลำหนึง่ พบวา่ มปี ระสิทธภิ าพอยู่ท่ี 20% หากเรือดำน้ำ

ลำนี้ใช้ยูเรเนียม -235 เป็นแหล่งกำเนิดพลังงาน ซึ่งหากยูเรเนียม 1 อะตอมแตกตัวจะเป็นไปตามสมการนิวเคลียร์

23952U → 14561Ba + 3926Kr + 2X หากเรือดำน้ำนี้มีมวล 12000 ตัน เริ่มเคลื่อนที่จากหยุดนิ่งจนเคลื่อนที่ด้วย
ความเร็วสูงสุด 36 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในช่วงเวลา 30 วินาที จะมีอัตราการสลายตัวเฉลี่ยของยูเรเนียม -235

สลายตัวไปกก่ี รัมตอ่ วินาที และ X คืออนภุ าคหรอื รังสีชนิดใด

กำหนดมวลอะตอม 23952U = 238.00 amu 14516Ba = 140.00 amu
9362Kr = 92.00 amu α = 4.00 amu
กำหนดให้ β = 0.00 amu p+ = 1.00 amu
1. 1.23 ×10-5 e- = 0.00 amu
n = 1.00 amu NA = 6.02×1023 mol-1
1 amu = 900 MeV/c2
4. 1.23 ×10-8 5. 1.23 ×10-9
e = 1.6×10-19 C
2. 1.23 ×10-6 3. 1.23 ×10-7

3

การแขง่ ขนั สอบวดั ทักษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ขอ้ สอบวชิ าวชิ าวทิ ยาศาสตร์

ภาคเี ครอื ข่ายโรงเรียนท่ัวประเทศ และสถาบันอซี ่ีลชิ ประเทศไทย รหัสชดุ ข้อสอบ 402004

_____________________________________________________________________________________________________________________________ _______________________________________________________________

13. อนภุ าคเคล่ือนท่ีจากหยดุ นงิ่ ดว้ ยความเร่ง 1.5 m/s2 เป็นเวลา 10 s หลงั จากนนั้ เคลื่อนที่ด้วยความเรว็ สมำ่ เสมอเปน็

เวลา 20 s กล็ ดความเรว็ ลงดว้ ยอัตราหน่วง 2 m/s2 จนหยดุ นิ่งอยากทราบว่าอนภุ าคเคลอื่ นทไ่ี ดร้ ะยะการกระจดั รวมเทา่ ใด

1. 40 m 2. 420.25 m 3. 431.25 m 4. 451.25 m 5. 56.75 m

14. พจิ ารณาข้อมลู ของธาตุ X, Y และ Z ท่ีอยู่คาบเดียวกัน ดงั ต่อไปน้ี สมบัตขิ องธาตุ X, Y และ Z ในขอ้ ใดถูกตอ้ ง

- ไอออน X2+ มีการจดั เรยี งอเิ ล็กตรอนเหมอื น Ar

- ธาตุ Y มีการจดั อเิ ลก็ ตรอนโดยอิเลก็ ตรอนตัวสดุ ทา้ ยถกู บรรจใุ นช้ัน d ออบิทลั

- Z2 สามารถออกซไิ ดซ์ I- ใน CCl4 ไดส้ ารละลายสชี มพูแกมม่วงในชน้ั CCl4

1. ธาตุ X รวมตัวกับธาตุ Y ไดส้ ารประกอบไอออนิก 2. ธาตุ Y ไม่สามารถนำไฟฟา้ ได้

3. Z2 สามารถออกซไิ ดซ์ F- ได้ 4. ขนาดอะตอมของ X เล็กกวา่ Z

5. เม่ือสารประกอบคลอไรด์ของธาตุ X กบั Na2CO3 จะมตี ะกอนเกดิ ขึน้

15. พิจารณาข้อมลู ท่ีกำหนดใหต้ ่อไปน้ี ตวั เลือกในขอ้ ใดสัมพันธ์กับข้อความทีก่ ำหนดให้ในข้อ ก. ข. ค. และ ง. ตามลำดับ

ก. เป็นโมเลกุลโคเวเลนตท์ ไี่ มม่ ขี วั้ ข. เปน็ สารประกอบโคเวเลนตป์ ระเภทโครงผลึกรา่ งตาขา่ ย

ค. มีรปู ร่างโมเลกลุ เปน็ เสน้ ตรง (Linear) ง. มมี มุ พันธะ 120 องศา

1. H2O, NaCl, CCl4, BF3 2. CO2, เพชร, H2O, CCl4 3. CCl4, SiO2, CO2, BF3

4. NaCl, H2O, CO2, CCl4 5. NH3, MgO, CCl4, BF3

16. พจิ ารณาข้อความเกย่ี วข้องกบั trans–2–butene ข้อใดกลา่ วถูกต้อง

1. มพี ันธะคู่ 2 ตำแหนง่ ในโมเลกลุ

2. คารบ์ อนทุกอะตอมในโมเลกลุ มรี ปู ร่างเปน็ ทรงสีห่ นา้ (Tetrahedral)

3. เปน็ ไอโซเมอร์โครงสรา้ ง (Structural isomer) กบั cis-2-butene

4. เม่ือเกิดปฏกิ ริ ยิ าฟอกจางสโี บรมนี จะได้ 2,3–dibromobutane เป็นผลติ ภณั ฑ์

5. เป็นไอโซเมอร์โครงสรา้ ง (Structural isomer) กับ 3–methylcyclobutene

17. จากขอ้ มูลตอ่ ไปนี้ สารประกอบทีเ่ กดิ ขึน้ จากการรวมตวั ของครปิ ตอนได้ดีกบั ธาตใุ นตารางมสี ตู รอย่างไร

ธาตุ อิเลก็ โทรเนกาตวิ ิตี, EN พลงั งานไอออไนเซช่ัน, IE ศกั ย์ไฟฟา้ ครึง่ เซลล์มาตรฐาน (โวลต)์

Na 0.93 496 - 2.71
K 0.82 425 - 2.92
Rb 0.82 409 - 2.92
F 3.98 1,687 2.87
Cl 3.16 1,257 1.40
Br 2.96 1,146 1.09

1. KrF2 2. KrCl2 3. KrBr 4. RbKr 5. NaKr

18. ลิเทียมทำปฏิกิริยากบั ฟลูออรนี เกดิ เป็นลเิ ทียมฟลูออไรด์ ดังสมการ

Li + F2 → LiF (สมการยังไมด่ ลุ ) ถ้าใช้ลเิ ทียม 15 กรมั ทำปฏิกิริยากับฟลูออรนี 15 กรัม
หลังปฏิกริ ยิ าเกิดข้ึนสมบรู ณจ์ ะพบสารใดบา้ ง (กำหนดให้มวลอะตอมของ Li = 7 และ F = 19)

1. เกิดลิเทียมฟลูออไรด์ 1.26 โมล เทา่ นั้น และสารตัง้ ต้นใช้หมด

2. เกิดลิเทยี มฟลูออไรด์ 0.79 โมล เท่านนั้ และสารตง้ั ต้นใชห้ มด

3. เกดิ ลเิ ทียมฟลูออไรด์ 1.26 โมล และฟลอู อรนี เหลอื 0.475 โมล

4. เกดิ ลเิ ทียมฟลอู อไรด์ 0.79 โมล และลเิ ทยี มเหลือ 1.35 โมล

5. เกดิ ลิเทยี มฟลอู อไรด์ 2.16 โมล และฟลอู อรนี เหลอื 1.35 โมล

4

การแข่งขันสอบวดั ทักษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ข้อสอบวิชาวชิ าวิทยาศาสตร์

ภาคีเครือข่ายโรงเรียนทว่ั ประเทศ และสถาบันอีซ่ีลชิ ประเทศไทย รหัสชุดขอ้ สอบ 402004

_____________________________________________________________________________________________________________________________ _______________________________________________________________

19. ถ้าเติมกรดไฮโดรคลอริกเข้มข้น 20% โดยมวล ความหนาแน่น 1.1 g/cm3 จำนวน 10 cm3 ลงในน้ำ แล้วปรับ
ปริมาตรเปน็ 500 cm3 จะไดส้ ารละลายกรดไฮโดรคลอริกทม่ี ีความเข้มขน้ กี่โมลาร์ (M)

และพิจารณาภาพการปรบั ปรมิ าตรดว้ ยนำ้ ในภาพ ก. และ ข. ภาพใดถูกต้อง

ขอ้ ความเขม้ ขน้ หลงั เตมิ น้ำของ ภาพการปรบั ปรมิ าตรด้วยนำ้
สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ (M) ท่ถี กู ตอ้ ง คอื

1. 6.02 ก.

2. 6.02 ข.

3. 0.12 ก.

4. 0.12 ข.

5. 1.21 ก.

20. ไฮโดรเจนซัลเฟตไอออนหรือไบซลั เฟตไอออน (HSO4–) เป็นสารแอมโฟเทอริก (Amphoteric) สามารถทำหนา้ ท่ไี ด้

ทั้งกรดและเบสตามทฤษฎีกรด - เบส ของเบรินสเตด-ลาวรีพิจารณาปฏิกิริยาต่อไปนี้ ข้อใดที่ไฮโดรเจนซัลเฟตไอออน

ทำหน้าท่เี ปน็ กรด

1. HSO4– + H2O → H2SO4 + OH– 2. HSO4– + H3O+ → SO3 + 2H2O

3. HSO4– + OH– → H2SO4 + O2– 4. HSO4– + H2O → SO42– + H3O+

5. ไม่มีข้อถูก

21. ข้อใดเป็นมอนอเมอร์ท่ีใชใ้ นการเตรยี มพอลเิ มอร์ทีม่ โี ครงสร้างตอ่ ไปนี้

ก. HOCH2CH2OH ข. HOOCCH2CH2COOH ค. HOCH2CH2COOH

ง. HOCH=CHOH จ. HOOCCH=CHCOOH

1. เฉพาะ ข. เทา่ นน้ั 2. เฉพาะ ค. เท่าน้นั 3. ก. และ ข.

4. ข. และ ค. 5. ง. และ จ.
22. ในการสลายตัวของ 24944 Pu ประกอบดว้ ยขั้นตอนต่าง ๆ 10 ขั้นตอน แต่ละขนั้ ตอนให้อนุภาคตา่ งๆตามลำดบั ดงั น้ี
α , α , α , α , β , β , α , n , n และ ɣ อยากทราบวา่ ผลผลติ ทไี่ ด้ในขั้นตอนท่ี 10 คือขอ้ ใด

1. 20894 Po 2. 22826 Rn 3. 23920 Th 4. 23982 U 5. 266 Sg
106
23. พิจารณาแผนภาพเซลล์ไฟฟา้ ทก่ี ำหนดให้ตอ่ ไปน้ี ข้อใดกล่าวถกู ตอ้ ง

ก. X(s)│X2+(aq) ║ Y2+(aq)│Y(s) E0 = +a V , ข. Y(s)│Y2+(aq) ║ Z2+(aq)│Z(s) E0 = +b V

1. ความสามารถในการเป็นตัวรีดวิ ซข์ อง Z > Y > X

2. แผนภาพเซลลใ์ นขอ้ ก. อิเลก็ ตรอนจะไหลจากฝง่ั Y ไปยงั ฝงั่ X

3. แผนภาพเซลลใ์ นขอ้ ข. คร่ึงเซลล์ X2+(aq)│X(s) เป็นแคโทด

4. แผนภาพเซลล์ในข้อ ก. ครงึ่ เซลล์ X เกดิ ปฏกิ ิรยิ ารดี ักชัน

5. เม่ือตอ่ เซลล์ Z(s)│Z2+(aq) ║ X2+(aq)│X(s) ศกั ยไ์ ฟฟา้ ของเซลลจ์ ะมคี า่ –(a+b) V

24. พจิ ารณาข้อมลู ของการเกดิ ปฏิกริ ยิ า X + 2Y → Z ดงั ตารางตอ่ ไปน้ี

การทดลองที่ [X]0 [Y]0 อัตราการเกดิ Z

1 0.150 M 0.150 M 8.00 x 10–3 mol/L·s
2 0.150 M 0.300 M 1.60 x 10–2 mol/L·s
3 0.300 M 0.150 M 3.20 x 10–2 mol/L·s

ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถกู ต้อง

1. กฎอัตราของปฏกิ ิริยาน้ี คอื R = k [X]2 [Y]

2. คา่ คงที่อัตราของปฏกิ ิริยา (k) ของปฏิกริ ยิ าน้มี คี า่ ประมาณ 2.37

3. เมอ่ื พิจารณาการทดลองที่ 1 อัตราการหายไปของสาร Y มคี ่าเปน็ 1.6 x 10–2 mol/L·s

4. เมอื่ พจิ ารณาการทดลองท่ี 1 อัตราการหายไปของสาร X มคี า่ เปน็ 8.0 x 10–3 mol/L·s

5. ถา้ เปล่ยี นความเข้มข้น X และ Y เปน็ 0.200 M และ 0.500 M อัตราการเกดิ Z จะมคี ่า 4.74 x 10–3 mol/L·s

5

การแข่งขนั สอบวดั ทกั ษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ขอ้ สอบวชิ าวชิ าวทิ ยาศาสตร์

ภาคีเครือขา่ ยโรงเรยี นทว่ั ประเทศ และสถาบันอซี ลี่ ชิ ประเทศไทย รหสั ชุดข้อสอบ 402004

_____________________________________________________________________________________________________________________________ _______________________________________________________________

25. ขอ้ ใดกล่าวไมถ่ ูกตอ้ งเก่ยี วกับ DNA

1. เปน็ กรดนิวคลอี กิ ชนดิ หนง่ึ 2. มปี ลาย 2 ปลาย คือ 5' กบั 3'

3. โครงสรา้ งเป็นโพลเิ มอร์ (Polymer) 4. วงแหวน Purine ไดแ้ ก่ Guanine และ Thymine

5. นิวคลโี อไทด์ ประกอบดว้ ย น้ำตาลเพนโตส , N – Base และหมู่ฟอสเฟต

26. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งเกีย่ วกับเยอื่ หุ้มเซลล์ของออรแ์ กเนลตา่ ง ๆ แบบไม่มเี ยือ่ ห้มุ เซลล์, มีเยือ่ หุ้มเซลล์ 1 ช้ัน และมเี ยื่อหุ้ม

เซลล์ 2 ช้นั ตามลำดับ

1. Centriole, Mitochondria, Golgi body 2. Golgi body, Vacuole, Chloroplast

3. Ribosome, Lysosome, Mitochondria 4. Vacuole, Ribosome, Centriole

5. Mitochondria, Endoplasmic reticulum, Chloroplast

27. Polymerase Chain Reaction (PCR) คอื กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ท่ีใชเ้ พิม่ จำนวนตวั อยา่ ง DNA ให้มากขนึ้

โดยอาศัยหลักการของ DNA replication ขอ้ ใดกลา่ วเกยี่ วกับข้ันตอนหรือหลกั การของ PCR ไม่ถูกต้อง

1. การแยก DNA เกลียวคอู่ อกจากกนั ทำได้โดยอาศัยอุณหภมู ทิ สี่ ูงมากประมาณ 95 C̊

2. กระบวนการท่ีสำคัญในการทำ PCR ประกอบด้วย Denaturation คอื การแยกสาย DNA เกลียวคอู่ อกจากกนั ,

Annealing คือ การจบั ของ RNA primer ทบ่ี รเิ วณ complementary base, Extension คอื การต่อสาย

polynucleotide ใหม้ ีความยาวมากขนึ้

3. การทำ PCR ใช้ DNA polymerase ตัวเดียวกนั กบั ที่เกิดภายในเซลล์ของมนุษยท์ ำใหส้ ามารถเพ่ิมจำนวน DNA

ได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ

4. องค์ประกอบที่สำคัญในการทำ PCR ประกอบด้วย DNA template, nucleotide, DNA polymerase, DNA

primer, buffer และอณุ หภมู ทิ ่ีเหมาะสมสำหรบั แต่ละขัน้ ตอน

5. การเพมิ่ จำนวน DNA ด้วย PCR ยังคงเปน็ การสรา้ งสาย DNA แบบ semiconservative replication ทีม่ ีจำนวน

เพม่ิ ข้ึนเทา่ กับ 2n เมอื่ n คอื จำนวนรอบในการเกดิ ปฏิกริ ิยา และสายใหมจ่ ะถูกสร้างจาก 5' ไป 3'

28. Gene therapy หมายถงึ วธิ ีการรกั ษาโรคหรอื ความผดิ ปกติทางพันธุกรรม โดยการแกไ้ ขยนี น้นั ๆ ใหส้ ามารถทำงาน

ได้อย่างปกติ เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะช่วยป้องกันการต่อต้านจากภูมิคุ้มกันของ

ร่างกายผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง ข้อใดเรียงลำดับกระบวนการ

หรือขั้นตอนในการรักษาโรคที่เกดิ จากความผิดปกติของยนี เช่น ธาลัสซเี มยี ดว้ ยกระบวนการ Gene therapy ได้ถกู ต้อง

A. Stem cell ท่ไี ดจ้ ะกลายเปน็ เซลลท์ ่ีมีลำดบั เบสในการสรา้ งเมด็ เลอื ดท่ีถูกต้อง

B. ไวรสั จะขนสง่ DNA ท่ีถกู ต้องเขา้ ไปใน stem cell

C. ร่างกายของผู้ป่วยสามารถสรา้ งโปรตนี ทีถ่ ูกตอ้ ง

D. นกั วทิ ยาศาสตรส์ ังเคราะห์ DNA ซ่ึงมีลำดบั ยนี ทถี่ กู ต้องใสไ่ ว้ใน virus vector

E. ขนส่งเซลล์ทีบ่ รรจลุ ำดบั เบสทถี่ กู ต้องกลบั เข้าไปในร่างกายของผู้ปว่ ย

F. การนำ Stem cell ท่ีจะพฒั นาไปเป็นเม็ดเลือดชนิดตา่ งๆ ออกมาจากร่างกายของผู้ป่วย

1. F > D > B > A > E > C

2. B > F > D > E > A > C

3. D > E > F > B > A > C

4. A > B > C > D > E > F

5. F > E > D > C > B > A

6

การแข่งขนั สอบวดั ทักษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ข้อสอบวิชาวชิ าวิทยาศาสตร์

ภาคเี ครอื ข่ายโรงเรยี นท่วั ประเทศ และสถาบนั อีซ่ลี ชิ ประเทศไทย รหสั ชุดข้อสอบ 402004

_____________________________________________________________________________________________________________________________ _______________________________________________________________

29. ขอ้ ใดบอกหนา้ ทีก่ ารทำงานของออรแ์ กเนลล์ในสัญลักษณต์ ่อไปนไี้ ด้ถูกต้อง

ขอ้ สญั ลักษณ์ E สญั ลักษณ์ J สญั ลกั ษณ์ I สัญลกั ษณ์ B สัญลกั ษณ์ C
1. สังเคราะหแ์ สง ตดิ ต่อสอ่ื สารระหวา่ งเซลล์ สงั เคราะห์ สังเคราะห์ไขมนั
2. สร้างพลงั งาน สร้างพลงั งาน คดั เลือกสารเข้า-ออกเซลล์ โปรตีน
3. สังเคราะหแ์ สง กกั เก็บสาร
4. สรา้ งพลังงาน สังเคราะห์ ให้ความแขง็ แรง สงั เคราะหไ์ ขมนั ควบคุมการ
แสง ให้ความแขง็ แรง ทำงานของเซลล์
สงั เคราะห์ สังเคราะหโ์ ปรตีน
สร้างพลงั งาน โปรตีน

สังเคราะห์ สงั เคราะห์ไขมนั
แสง

5. สงั เคราะหแ์ สง สร้างพลังงาน คดั เลอื กสารเขา้ -ออกเซลล์ สงั เคราะหไ์ ขมนั สงั เคราะหโ์ ปรตนี

30. ขอ้ ใดบอกลักษณะของการถ่ายทอดอเิ ล็กตรอนแบบเปน็ วฏั จกั รและไมเ่ ป็นวฏั จกั รของกระบวนการสังเคราะหด์ ้วย
แสงได้ถกู ตอ้ ง

ข้อ Cyclic electron transfer Non-cyclic electron transfer

1. ใช้ทั้ง Photosystem I และ II ใช้เฉพาะ Photosystem I เทา่ นั้น

2. ไม่เกดิ การแตกตวั ของนำ้ ดว้ ยการกระตนุ้ ของแสง (Photolysis) เกดิ การแตกตวั ของน้ำด้วยการกระตุ้นของแสง (Photolysis)

3. ผลติ ภณั ฑ์ทีส่ ามารถสร้างได้ คอื ATP และ NADPH สามารถสรา้ งได้เฉพาะ NADPH เท่านั้น

4. ตัวรับอิเล็กตรอนตัวสุดท้าย คอื NADP+ ตวั รับอเิ ลก็ ตรอนตัวสุดทา้ ย คอื ferredoxin

5. มีการปลดปลอ่ ย oxygen ออกมาในกระบวนการ ไม่มกี ารปลดปล่อย oxygen ออกมาในกระบวนการ

31. ข้อใดไม่ใช่ใจความสำคัญของการคัดเลือกโดยธรรมชาตทิ ่ถี ูกเสนอโดย Charles Darwin

1. ส่งิ มีชวี ติ ทแี่ ขง็ แกร่งท่สี ุดและฉลาดที่สดุ เทา่ น้ันท่ีจะถูกคดั เลอื กใหอ้ ยตู่ อ่ ไปในธรรมชาติ

2. ประชากรเพ่ิมแบบทวีคูณ (1, 2, 4, 8, 16, 32, 64 …) ในขณะทอี่ าหารเพม่ิ แบบเลขคณิต (1, 2, 3, 4, 5, …)

3. สงิ่ มชี วี ติ ในแตล่ ะรุ่นจะไม่เหมือนกัน 100% จะมคี วามแตกต่างกนั เลก็ นอ้ ย ส่ิงมชี ีวิตตัวใดทเี่ หมาะสมกับ

สภาพแวดล้อมจะถกู คัดเลือกให้คงอย่ตู ่อไป

4. สง่ิ มชี วี ติ ทสี่ ามารถปรบั ตวั เข้ากบั สภาพแวดลอ้ มไดด้ ีทสี่ ุด จะเป็นส่งิ มชี วี ิตทอี่ ยรู่ อดไดม้ ากทสี่ ดุ

5. การคดั เลอื กโดยธรรมชาตเิ ป็นแรงผลกั ดนั ทสี่ ำคญั ในการทำใหเ้ กดิ การววิ ฒั นาการของสง่ิ มีชีวติ

32. ข้อใดจบั คคู่ วามสมั พันธ์ไม่ถูกต้องเกี่ยวกบั ระบบต่อมไรท้ อ่

1. LH กระตนุ้ การตกไข่ 2. ADH ดดู กลบั นำ้ ท่ที อ่ หน่วยไต

3. Insulin ควบคุมระดบั น้ำตาลในเลือดที่มากเกนิ ไป 4. Glucagon ควบคมุ ระดับน้ำตาลในเลอื ดหากมีนอ้ ยเกนิ ไป

5. Thyroxin กระตนุ้ ประสาทซมิ พาเทติก

33. ข้อใดอธบิ ายกลไกการหายใจเข้าได้ถูกตอ้ ง

ขอ้ กล้ามเน้ือยึดซโี่ ครงแถบนอก กล้ามเนือ้ กะบงั ลม ปรมิ าตรในชอ่ งอก ความดนั ในชอ่ งอก

1. หดตวั เคล่ือนทีข่ ึ้น หดตัวเคล่ือนทข่ี ้ึน เพ่ิมขึน้ ลดลง

2. คลายตัวเคลอ่ื นทล่ี ง คลายตัวเคลือ่ นที่ขน้ึ ลดลง เพ่มิ ขึ้น

3. หดตวั เคลื่อนทข่ี ึ้น หดตัวเคลือ่ นทล่ี ง เพ่ิมขนึ้ ลดลง

4. คลายตวั เคลอื่ นที่ขึน้ คลายตัวเคลอื่ นทล่ี ง เพิ่มขึน้ เพ่ิมข้นึ

5. หดตัวเคลอื่ นท่ขี ้นึ หดตวั เคลอื่ นทีล่ ง ลดลง เพิ่มขนึ้

34. การท่ีผึง้ งานคอยหาอาหารให้สมาชิกในรัง จัดเป็นพฤติกรรมแบบใด

1. altruistic behavior 2. Kinesis 3. Reflex 4. Imprinting behavior 5. Trial and Error

35. สงิ่ มีชีวติ ท่มี ลี กั ษณะดงั นี้ “วงชวี ติ ประกอบด้วยรปู รา่ ง 2 แบบ คือ polyp และ medusa มีทางเดินอาหารไมส่ มบรู ณ์

คือมีปากแต่ไม่มีทวารหนัก มีระบบประสาทแบบตาข่าย (nerve net) และมีเอกลักษณ์คือการมีเข็มพิษ

(nematocyst)” เป็นลกั ษณะของสิ่งมชี ีวติ ในไฟลัมใด

1. P. Platyhelminthes 2. P. Mollusca 3. P. Annelida 4. P. Cnidaria 5. P. Porifera

7

การแขง่ ขันสอบวดั ทักษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 ขอ้ สอบวิชาวชิ าวิทยาศาสตร์

ภาคีเครอื ข่ายโรงเรียนทัว่ ประเทศ และสถาบันอซี ีล่ ิชประเทศไทย รหสั ชดุ ข้อสอบ 402004

_____________________________________________________________________________________________________________________________ _______________________________________________________________

ส่วนท่ี 2 : ขอ้ สอบวดั ทักษะประยกุ ตส์ ง่ เสริมกระบวนการคิดทางวทิ ยาศาสตร์ (ข้อ 36 - 40)
36. นายเอหนัก 60 กิโลกรัม ปริมาตร 55 ลิตร อยู่ในน้ำที่กำลงั ท่วม นายเอต้องทำเส้ือชูชีพโดยใช้ขวดน้ำมวล 25 กรัม
ปริมาตร 1.2 ลิตร ต้องการให้ลอยพ้นจากน้ำ 25 เปอร์เซ็นต์โดยต้องการให้ขวดน้ำจมพอดี อยากทราบว่านายเอ
จะต้องใชข้ วดน้ำก่ีขวด (โดยไม่คดิ มวลของขวดนำ้ )

37. รถคันหนงึ่ มีกำลังว่ิงดว้ ยความเร่ง มเี ชือกสองเส้นกำลังผกู กบั วตั ถดุ ังรปู โดยเชอื กทางซ้ายมคี วามตงึ เปน็ 5 เทา่ ของ
เชือกทางขวา จงหาว่ารถจะตอ้ งว่ิงดว้ ยความเรว็ เท่าใด

38. ปฏิกิริยาระหว่างไฮโดรเจนเปอรอ์ อกไซด์ กับเมทานอล เกิดดงั สมการต่อไปน้ี

H2O2 + CH3OH → H2CO + 2H2O จงคำนวณหาคา่ พลงั งานของปฏิกริ ยิ า (∆H)

กำหนดคา่ พลังงานพันธะดังตอ่ ไปน้ี (ฝนคำตอบในรูปค่าสัมบรู ณ์)

C–C 347 kJ/mol C–H 413 kJ/mol

C=C 614 kJ/mol O–H 463 kJ/mol

C–O 358 kJ/mol O–O 146 kJ/mol

C=O 799 kJ/mol

39. บรรจุไฮโดรเจน (H2) 1.5 โมล และไอโอดนี (I2) 1.5 โมล ลงในภาชนะปดิ ปรมิ าตร 1 ลิตร ปฏิกริ ยิ าเกดิ ข้ึนดังสมการ
H2 + I2 ⇌ 2HI ปฏิกิริยาเกิดขึ้นภายใต้อุณหภูมิคงท่ี พบว่าที่ภาวะสมดุลมีไฮโดรเจนไอโอไดด์ (HI) เกิดขึ้น 2.4
โมล อยากทราบว่าคา่ คงทสี่ มดลุ ของปฏกิ ิริยาน้เี ปน็ เทา่ ใด (กำหนดมวลอะตอมของ H = 1 และ I = 127)

40. สามภี รรยาคหู่ นง่ึ มผี วิ ปกตแิ ตม่ ยี ีนผิวเผือกแฝงอยทู่ งั้ คู่ หากสามภี รรยาค่นู ีต้ ัดสินใจมลี ูก จงหาความนา่ จะเปน็ ในการ
ใหก้ ำเนิดลูกสาวทม่ี ีอาการผิวเผอื ก (ฝนคำตอบเป็นตวั เลข3ตวั หลงั จุดทศนิยม)

8

การแขง่ ขันสอบวดั ทักษะวชิ าการระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564
(รอบคดั เลือกตัวแทนจงั หวัด)

National Academic Test Program

เฉลยแบบทดสอบ วิชาวิทยาศาสตร์
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
รหสั ชดุ ข้อสอบ 402004

ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย ขอ้ เฉลย ขอ้ เฉลย
1. 3 11. 3 21. 3 31. 1
2. 2 12. 5 22. 2 32. 5
3. 2 13. 3 23. 5 33. 3
4. 4 14. 5 24. 5 34. 1
5. 3 15. 3 25. 4 35. 4
6. 3 16. 4 26. 3 36. 9
7. 1 17. 1 27. 3 37. 5
8. 2 18. 4 28. 1 38. 345
9. 4 19. 3 29 5 39. 64
10. 4 20. 4 30 2 40. 125

การแข่งขนั สอบวัดทักษะวชิ าการระดับชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564
(รอบสุดยอดอัจฉริยภาพระดบั ประเทศ)

วชิ าวิทยาศาสตร์ ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาตอนปลาย

รหสั วชิ า ว402 วิทยาศาสตร์

รหสั ชุดข้อสอบ 402005

ช่ือ.............................................นามสกลุ .............................................รหัสวชิ า...............
ระดบั ชนั้ ................ห้องสอบ........................วนั ท่ีสอบ................สถานที่สอบ...................

คำชแี้ จงการสอบแบบ Take-Home Examination

รายละเอยี ดข้อสอบ ขอ้ สอบฉบบั น้ีมี 10 หนา้ จำนวน 40 ข้อ ระยะเวลา 90 นาที
วธิ ีการตอบ
ให้ใชด้ ินสอ 2B ระบายในวงกลมที่เปน็ คำตอบในกระดาษคำตอบ หรือ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
(คะแนนเต็ม 60 คะแนน) นำโทรศัพท์มือถือมาสแกน QR Code เพอ่ื กรอกและยืนยนั คำตอบในระบบ

ข้อสอบปรนัย ข้อ 1-35 ข้อละ 1.25 คะแนน

ข้อสอบอตั นัยระบายคำตอบ ขอ้ 36-40 ขอ้ ละ 3.25 คะแนน

ข้อปฏบิ ตั ใิ นการสอบ
1. ให้ผ้เู ขา้ สอบปฏบิ ัตติ ามระเบยี บสำนักงานโครงการสอบวดั ทักษะวชิ าการระดับชาติ (สวช.) ภาคเี ครือขา่ ย
โรงเรยี นท่ัวประเทศ และสถาบนั อซี ่ีลชิ ประเทศไทย วา่ ดว้ ยแนวทางปฏิบัตเิ กี่ยวกับการดำเนินการทดสอบ
พ.ศ. 2560 อย่างเคร่งครัด
2. ให้ผเู้ ขา้ สอบระบายคำตอบลงในกระดาษคำตอบดว้ ยดินสอ 2B อยา่ งถูกตอ้ งและชดั เจน (สำหรบั โรงเรยี น)
3. เมื่อผู้เข้าสอบทำข้อสอบเสรจ็ ใหเ้ ปดิ กลอ้ ง ZOOM ยนื ยันตัวตนไวจ้ นกว่าจะยืนยันกระดาษคำตอบเสร็จ
4. ให้นำโทรศัพท์มอื ถอื มาสแกน QR Code เพ่ือเขา้ สู่ข้ันตอนการยืนยนั คำตอบ
โดยกรอกคำตอบลงสูร่ ะบบ (สำหรับผเู้ ข้าร่วมสอบออนไลน)์

หากผเู้ ข้าสอบฝ่าฝนื ข้อปฏบิ ตั โิ ครงการ สวช. หรอื มกี ารทจุ รติ จะมีการดำเนนิ การ ดงั นี้
1. ไม่ประกาศผลการสอบจากการทดสอบดงั กล่าว
2. แจ้งไปยงั โรงเรียนต้นสงั กดั ของนกั เรียน ผดู้ แู ลของผสู้ อบเพ่ือดำเนินการตกั เตือนและกล่าวโทษ
3. แจ้งไปยังผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาท่ีเปน็ ภาคเี ครือขา่ ย สวช. เพอ่ื พจิ ารณารบั เขา้ ศกึ ษา

เอกสารนเี้ ปน็ ลิขสทิ ธขิ์ องสำนกั งานโครงการสอบวดั ทักษะวชิ าการระดบั ชาติ (สวช.) และสถาบันอีซล่ี ชิ ประเทศไทย
บรษิ ทั อีซล่ี ิช อินเตอร์-เอด็ ดเู คชน่ั (ประเทศไทย) จำกดั

การทำซำ้ หรือดดั แปลงหรอื เผยแพรเ่ อกสารฉบบั นี้จะถกู ดำเนนิ คดตี ามกฎหมาย

การแขง' ขันสอบวดั ทกั ษะวิชาการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ขอ" สอบวชิ าวิชาวทิ ยาศาสตร/

ภาคเี ครือขา+ ยโรงเรียนทั่วประเทศ และสถาบนั อซี ่ลี ชิ ประเทศไทย รหัสชุดข"อสอบ 402005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

สว# นที่ 1: ข,อสอบวัดทกั ษะตามเน้อื หาบทเรยี นในหลกั สตู ร (ข,อ1 – 35)

ใช,ตารางตอ# ไปนีต้ อบคำถามข,อ 1-2

ธาตุ A B C D E F G H

รัศมอี ะตอม(pm) 152 112 88 77 77 66 64 112

IE1 (kJ/mol) 526 906 807 1093 1407 1687 1687 2087

กำหนดให, ธาตุ A B C D E F G เปนW ธาตตุ ามตารางธาตุทอี่ ย#ูในคาบเดยี วกนั

1. จากตารางท่ีกำหนดใหขS อS ใดมคี วามเปYนไปไดS

ก. F เปนY ธาตุทีม่ ีเลขอะตอมเท]ากบั 8 เมื่อเกิดสารประกอบกับธาตุ A จะมคี ณุ สมบตั ิท่ีเปนY เบสและมีสูตร A2F

ข. A และ B สามารถเกดิ ปฏิกิริยากบั นำ้ ไดS และ B เกดิ ปฏิกิรยิ าไดSว]องไวมากกวา]

ค. E เปนY ธาตทุ ่สี ามารถเกดิ สารประกอบกับ F ไดหS ลายสูตร เช]น EF, EF2 , E2F5

ง. เรียงลำดบั จดุ หลอมเหลวและจุดเดอื ด สามารถเรยี งไดS ดังนี้ A > B > C > D > E > F > G

1. ก , ข ,ค 2. ก, ค, ง 3. ก, ค

4. ค, ง 5. ถกู ทกุ ขอS
2. ขอS ใดเขยี นสารประกอบกับออกไซดm(O2-) กับคลอไรดm (Cl-) ท่เี ปนY ไปไดแS ละบอกคุณสมบตั ขิ องสารประกอบไดถS ูกตอ, ง

1. A2O, BO เปYนสารประกอบท่ีเปนY กรด 2. ACl, BCl2 เปYนสารประกอบทีเ่ ปนY เบส

3. BO เปนY สารประกอบที่เปนY ไดทS ั้งกรดและเบส 4. C2O3 เปYนสารประกอบท่ีเปนY ไดทS ้งั กรดและเบส

5. DO2 , DO, DCl4 เปYนสารประกอบท่ีเปนY กรด

3. แกสo ใดต]อไปน้ี มีการเคล่ือนทด่ี วS ยอตั ราเร็วเฉลีย่ สงู สดุ (กำหนดใหมS วลอะตอม C=12, O=16, S=32, H=1)]

1.คารmบอนไดออกไซดm 2. มเี ทน 3. ซัลเฟอรไm ดออกไซดm

4. ไฮโดรเจนซลั ไฟดm 5. เอทิลนี

4. สูตรโมเลกุลของสารเคมีชนดิ หนึง่ คอื Na2CrO4.nH2O มีโครเมยี มเปนY องคmประกอบอยู] 15.2% โดยมวล จงหาว]าค]าของ

n จะเปYนเทา] ใด (กำหนดใหSมวลอะตอม Na=23, O=16, Cr=52, H=1)

1. n = 10 2. n = 5 3. n = 7

4. n = 9 5. n = 8

5. ชนิดของพนั ธะของสารในขอS ใดแตกตา# งจากขSออน่ื

1. ดีเกลอื 2. น้ำแข็งแหSง 3. เพชร

4. อะซโิ ตน 5. เตตระคลอโรมีเทน

6. จากตารางคา] คงที่สมดุลของปฏิกิรยิ า 2A(g) 3B(g) + ∆E

อณุ หภมู ิ ค#าคงทีส่ มดุล

T1 1.2×10 -6

T2 9.8×10-5

T3 4.2×10 -7

T4 5.4×10 -5

จากปฏกิ ริ ยิ าทีก่ ำหนดใหSเปYนปฏิกิรยิ าแบบคายความรSอน ขSอใดเรยี งลำดบั อณุ หภูมไิ ดถS กู ต,อง

1. T4 < T2 < T1 < T3 2. T1 = T2 = T3 = T4 3. T1 > T2 > T3 > T4

4. T1 = T2 > T3 = T4 5. T1 = T2 < T3 = T4

2

การแข'งขันสอบวัดทักษะวชิ าการระดบั ชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวชิ าวิชาวทิ ยาศาสตร/

ภาคเี ครอื ข+ายโรงเรยี นทว่ั ประเทศ และสถาบนั อซี ี่ลิชประเทศไทย รหสั ชดุ ขอ" สอบ 402005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

7. จากปฏิกิรยิ าต]อไปนี้ ขSอใดเปนY ปฏิกริ ยิ ารดี อกซm

a. Zn2[Fe(CN)6] + NaOH ® Na2ZnO2 + Na4[Fe(CN)6] + H2O. b. Co(NO3)2 + KCN ® K4[Co(CN)6] + KNO3

c. Ag(NH3)2Cl + HNO3 ® AgCl + NH4NO3 d. K2Cr2O7 + H2SO4 + H2S ® K2SO4 + Cr2(SO4)3 + S + H2O

e. CCl4 + K2CrO4 ® COCl2 + CrO2Cl2 + KCl f. Zn + NaNO3 + NaOH n ® NH3 + Na2ZnO2 + H2O

g. NO2 + H2O ® HNO3 + HNO2 2. d, f, g, h h. Na2SnO2 + KClO3 ® KCl + Na2SnO3

1. b, c, e, f 3. a, e, f, g, h

4. เปYนปฏกิ ริ ิยารดี อกซทm ุกขอS 5. ไมเ] ปYนปฏกิ ิรยิ ารดี อกซmทุกขอS

8. จงหาคา] ของ a b c d จากการดลุ สมการรีดอกซm
aFe2+(aq) + bCr2O72-(aq) + xH+(aq) cFe3+(aq) + dCr3+(aq) + yH2O(l)

1. 3, 1, 3, 2 2. 1, 1, 1, 2 3. 3, 2, 3, 4

4., 1, 6, 2,6 5. 6, 1, 6, 2

9. ขอS ใดอา] นชือ่ สารตามหลัก IUPAC ไดถS ูกตอ, ง

1. 2,4,4-trimethyl-6-heptanol 2. 4,4,6-trimethyl-2-heptanol

3. 4,4,6-trimethylhextan-2-ol 4. 2,4,6-trimethyl-6-heptanol

5. 4,4,6-trimethyl-2-heptanal
10. สารละลาย HNO3 เขSมขนS 0.1 mol/dm3 ปริมาตร 100 cm3 มี pH = 1 หากตอS งการปรบั ใหSมี pH = 7 และนำ
สารละลายกรด HNO3 มา 10 cm3 จะตSองเติม KOH ลงไปก่โี มล

1. 0.002 โมล 2. 0.003 โมล 3. 0.0001 โมล

4. 0.01 โมล 5. 0.001 โมล

11. ในการผลิตไฟฟา• ตSองใชSถา] นหนิ ซ่งึ มี S เปนY องคmประกอบ เมอ่ื ทำปฏิกิรยิ ากบั ออกซิเจนจะไดเS ปนY แกสo ซลั เฟอรmไดออกไซดm (SO2)

ในการทำลายแกoส SO2 โดยออกซิไดซเm ปYน SO3 จากน้นั นำไปละลายน้ำ พบว]าไดSกรดซลั ฟว– ริก H2SO4 ทีม่ เี น้ือกรดหนกั

3.92 กโิ ลกรมั ในการทำครัง้ น้ีตSองใชอS อกซิเจนปริมาตรอย]างต่ำท่ีสุดกล่ี ูกบาศกเm ดซเิ มตร ท่ี STP

1. 348 dm3 2. 448 dm3 3. 548 dm3

4. 634 dm3 5. 734 dm3

12. ขSอใดอธบิ ายเกยี่ วกับระบบการหายใจของมนษุ ยไm ม#ถูกตอ, ง

A. การหายใจระดบั เซลลm หมายถงึ การลำเลยี งแกสo O2 จากอากาศภายนอกเขSาสรู] า] งกายและการลำเลยี งแกสo CO2 จาก

ในรา] งกายออกส]ูส่ิงแวดลอS ม

B. สิ่งมชี วี ติ ไดSรบั พลงั งานในการดำเนินชวี ิตจากกระบวนการหายใจระดับเซลลm

C. โครงสราS งท่ใี ชใS นการแลกเปลย่ี นแกoสของส่ิงมีชีวิตแตล] ะชนดิ จะแตกต]างกนั เช]น นกใชSปอด, แมงมมุ ใชS book lung,

แมงดาใชS book gill, ปลิงทะเลใชS respiratory tree, ดาวทะเลใชS tube feet

D. อวัยวะท่เี ปYนทางผ]านของระบบการแลกเปลี่ยนแกoสหรอื การหายใจภายนอก (External respiration) ของมนุษยมm ีดงั นี้

รูจมูก > หลอดลม > ขว้ั ปอด > ถงุ ลมในปอด

E. หากมนษุ ยหm ายใจออกจนสุดจะไมม] ีอากาศหลงเหลืออย]ูภายในปอดดงั นน้ั เราจึงไมส] ามารถกลั้นหายใจนาน ๆ ไดS

1. A, D และ E 2. A, B และ C 3. B, C และ E

4. B, D และ E 5. A

3

การแขง' ขันสอบวัดทกั ษะวชิ าการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ขอ" สอบวชิ าวชิ าวทิ ยาศาสตร/

ภาคเี ครอื ข+ายโรงเรยี นทั่วประเทศ และสถาบันอซี ล่ี ิชประเทศไทย รหัสชดุ ขอ" สอบ 402005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

13. ศกึ ษาการเปล่ยี นแปลงลักษณะและรูปรา] งของเซลลmเมด็ เลือดแดงเม่อื อยู]ในสารละลายที่มคี วามเขมS ขนS ตา] งกนั พบวา] เมอ่ื นำ
เม็ดเลือดแดงใส]ลงในสารละลาย A, B และ C ใหSผลการทดลองดงั ภาพ ขอS ใดสามารถบอกชนดิ ของสารละลายน้ัน ๆ ไดSถูกตอ, ง

ขอA สารละลาย A ช่ือเรยี กของสารละลาย สารละลาย C
สารละลาย B

1. Hypertonic solution Isotonic solution Hypotonic solution
2. Isotonic solution Hypotonic solution Hypertonic solution

3. Hypertonic solution Hypertonic solution Isotonic solution

4. Hypotonic solution Isotonic solution Hypertonic solution

5. Hypotonic solution Hypertonic solution Isotonic solution

14. ภาพทโี่ จทยmกำหนดแสดงลกั ษณะและโครงสราS ง

อย]างงา] ยของเยอ่ื หุมS เซลลm ซ่งึ ประกอบดSวยสารชวี โมเลกลุ

หลายชนิดมารวมตวั กนั แบบ fluid mosaic model

ขSอใดตอ] ไปนจ้ี บั คูต] ัวอกั ษรภาษาองั กฤษกับชอ่ื เรยี กหรอื สาร

ทเี่ ปนY องคmประกอบของเย่ือหSมุ เซลลสm ]วนน้นั ๆ ไดถS กู ต,อง

ขอA A B C D E
1. Carbohydrate Hydrophobic Hydrophilic Protein Nucleic acid

2. Carbohydrate Hydrophilic Hydrophobic Protein Cholesterol

3. Protein Hydrophilic Hydrophobic Carbohydrate Nucleic acid

4. Carbohydrate Hydrophobic Hydrophilic Nucleic acid Protein

5. Lipid Hydrophilic Hydrophobic Protein Cholesterol

15. การแพร]ระบาดของโรค Covid-19 ถอื เปYนเรื่องทีท่ ัว่ โลกใหSความสนใจ เพราะเปนY โรคระบาดใหมท] ีไ่ ม]เคยพบมาก]อนและมี

ผSเู สียชวี ติ เปYนจำนวนมาก หนงึ่ ในวธิ กี ารลดความรุนแรงของโรคนี้คอื คัดกรองผปูS ว• ยดSวยการตรวจหาเชอื้ ไดSอย]างถูกตSอง รวดเรว็

และแมน] ยำ แตอ] ย]างไรก็ตามการตดิ เชื้อในชว] งแรกอาจมีปริมาณเช้ือโรคในร]างกายนSอยมากทำใหยS ากต]อการตรวจพบ

ดังน้นั เทคโนโลยีดเี อ็นเอที่เขาS มามีบทบาทและชว] ยแกปS žญหานีไ้ ดเS ปYนอย]างดี คือ การเพิ่มจำนวน DNA ดวS ยวิธี RT-PCR ซึ่ง

ประกอบดวS ย 2 ขน้ั ตอนใหญ] ๆ และ 3RNขAน้ั ตอนชยเ่อืออ] ปนยฏไซิกคมริ อื 'ิย(าA)(B) DNA

ข้ันที่ 1 เปลยี่ น RNA เปjน DNA ;

ขน้ั ท่ี 2 เพิ่มจำนวน DNA ท่สี นใจใหsมากขนึ้ จาก specific primer;

ข้นั 2.1 ...........(step C)...............

ขน้ั 2.2 ...........(step D)...............

ขั้น 2.3 ...........(step E)...............

ขอS ใดอธบิ ายช่ือเอนไซมแm ละกระบวนการซึ่งแทนดวS ยตวั อกั ษรภาษาองั กฤษไดSถกู ตอ, งท้งั หมด

ขAอ A B C D E
1. Reverse transcriptase Reverse transcription Step of denaturation Step of annealing Step of extension

2. Reverse transcription Reverse transcriptase Step of annealing Step of extension Step of denaturation

3. Reverse transcriptase Reverse transcription Step of extension Step of denaturation Step of annealing

4. Reverse transcriptase Reverse transcription Step of extension Step of annealing Step of denaturation

5. Reverse transcription Reverse transcriptase Step of denaturation Step of extension Step of annealing

4

การแข'งขันสอบวดั ทกั ษะวิชาการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวชิ าวชิ าวทิ ยาศาสตร/

ภาคีเครือขา+ ยโรงเรียนทว่ั ประเทศ และสถาบันอซี ี่ลชิ ประเทศไทย รหัสชดุ ขอ" สอบ 402005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

16. ครอบครวั หนึ่งมีสมาชกิ ทงั้ หมด 4 คน คือ พอ] แม] หนูนา (พสี่ าว) และหนนู ิด (นอS งสาว) วนั หน่งึ ท้ังหมดชวนกนั ไปตรวจร]างกาย

พบว]าแม]เปYนโรคธาลัสซีเมียเช]นเดียวกับหนูนา แต]พ]อและหนูนิดไม]เปYนโรค ต]อมาหนูนิดแต]งงานกับชุมพลที่เปYนพาหะของ

โรคธาลัสซีเมยี จงหาเปอเซนตmความนา] จะเปนY ในการใหกS ำเนิดลกู สาวเปYนโรคธาลัสซเี มยี ของหนนู ดิ และชมุ พล

1. 5.75% 2. 12.5% 3. 22.5%

4. 25.275% 5. 27.25%

17. PCR หรอื polymerase chain reaction เปYนกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรทm ี่ถูกนำมาใชSในการเพม่ิ จำนวน DNA ท่ีเราสนใจใหมS ี

ปริมาณมากขึ้นเพื่อประโยชนmในดSานต]าง ๆ กระบวนการเพิ่มจำนวน DNA ดSวยเทคนิคการทำ PCR นี้เปYนการเลียนแบบ

การเพิ่มจำนวน DNA ภายในเซลลmของสิ่งมีชีวิต แต]สิ่งท่ีแตกต]างกันคือ การเพิ่มจำนวน DNA ดSวยกระบวนการ DNA

replication จะอาศัยการทำงานของเอนไซมmหลายชนิด แต]การทำ PCR จะอาศัยการเพิ่มลด – อุณหภูมิ ขSอใดต]อไปน้ี

สามารถระบุสารหรือขั้นตอนรวมถงึ ชื่อเอนไซมใm นการทำ PCR และ DNA replication ในตารางไดSถกู ต,อง

กระบวนการ PCR ชือ่ เอนไซมU

1. แยกสาร DNA เกลยี วคู+ออกจากกัน AB

2. สรsาง primer ซ่ึงเปjนจดุ เรม่ิ ตนs ของการตอ+ สาย DNA ใหsยาวขึ้น ใชs specific primer สายส้นั ๆ C

3. เอนไซมท• ี่นำ deoxynucleotide มาต+อกันเปjนสายยาว D E

ข"อ A B CD E

1. ใช&อุณหภมู ิปานกลางประมาณ 65 °c Ligase Primase Taq DNA polymerase DNA polymerase

2. ใชอ& ุณหภูมิต่ำประมาณ 35 °c Helicase Single stand binding Ligase Taq DNA polymerase
protein

3. ใช&อณุ หภูมิสงู ประมาณ 95 °c Single stand binding protein Helicase DNA polymerase Taq DNA polymerase

4. ใชอ& ุณหภูมปิ านกลางประมาณ °c Single stand binding protein Primase Telomerase DNA polymerase

5. ใช&อณุ หภูมิสงู ประมาณ 95 °c Helicase Primase Taq DNA polymerase DNA polymerase

ใช,กราฟแสดงความสัมพนั ธรp ะหว#างปรมิ าณนำ้ ตาลในเลอื ดกับช#วงเวลาตา# ง ๆ ใน 1 วันของนารีรัตนpในการตอบคำถามขอ, 18-19

18. การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและภายในเซลลmใหSเหมาะสมเปYนเรื่องที่

มีความสำคัญต]อสิ่งมีชีวิตเปYนอย]างมาก จากกราฟที่กำหนดใหSหากนารีรัตนm

รับประทานอาหารเชSา, กลางวันและเย็นเวลา 8.00, 12.00 และ 17.00 น.

ตามลำดับ ฮอรmโมนชนดิ ใดทำหนาS ทลี่ ดระดับนำ้ ตาลในเลือดหลังรบั ประทาน

อาหารและฮอรโm มนน้ันสามารถลดระดบั น้ำตาลในเลอื ดไดSอย]างไร

1. Antidiuretic hormone ทำหนาS ท่กี ระตSนุ การนำนำ้ ตาลเขSาเซลลmและกระตุนS กระบวนการหายใจระดับเซลลm ทำใหS
ระดบั นำ้ ตาล ในเซลลลm ดลงอยา] งรวดเร็วจึงสามารถลำเลียงกลโู คสเขาS เซลลmไดSอย]างตอ] เนือ่ ง

2. Insulin ทำหนาS ท่ีกระตุนS การนำนำ้ ตาลเขาS เซลลโm ดยเฉพาะเซลลmตับและเซลลกm ลาS มเนอื้ เพอื่ เกบ็ สะสมนำ้ ตาลไวใS นรปู ของ
ไกลโคเจน

3. Insulin ทำหนาS ทเี่ ปล่ยี นรปู น้ำตาลกลูโคสเปYนสารชีวโมเลกลุ ชนิดอื่น น่ันคอื ไขมันทำใหSระดับนำ้ ตาลในเลือดลดลง
อยา] งรวดเรว็ เพราะเปลยี่ นเปนY ไขมันเก็บสะสมแทน

4. Glucagon ทำหนาS ทก่ี ระตSนุ การนำนำ้ ตาลเขSาเซลลmโดยเฉพาะเซลลตm ับและเซลลmกลSามเน้อื เพือ่ เกบ็ สะสมนำ้ ตาลไวSในรูป
ของอะไมโลเพคติน

5. Glucagon ทำหนSาทีเ่ ปล่ียนรูปน้ำตาลกลโู คสเปYนสารชวี โมเลกลุ ชนิดอนื่ นนั่ คอื ไขมันทำใหรS ะดบั น้ำตาลในเลอื ดลดลง
อยา] งรวดเร็วเพราะเปลี่ยนเปนY ไขมนั เก็บสะสมแทน

5

การแข'งขันสอบวดั ทักษะวิชาการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวิชาวชิ าวิทยาศาสตร/

ภาคีเครอื ขา+ ยโรงเรียนทัว่ ประเทศ และสถาบนั อซี ี่ลิชประเทศไทย รหสั ชุดขอ" สอบ 402005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

19. หากนารีรัตนรm บั ประทานอาหารเฉพาะเวลา 8.00 น., 12.00 น. และ 17.00 น. เทา] นน้ั โดยไมไ] ดรS บั ประทานสิง่ ใดอีก แลวS

เพราะสาเหตใุ ดระดบั น้ำตาลในเลอื ดระหว]างม้ืออาหารจงึ เพ่ิมขึน้

1. การเพิม่ ระดบั นำ้ ตาลในระหวา] งมื้ออาหารเปYนผลจากการทำงานของ growth hormone ซึ่งทำหนSาทล่ี ำเลยี งกลูโคสที่

เก็บสะสมไวSภายในเซลลตm า] ง ๆ เช]น เซลลไm ต เซลลmหัวใจ เซลลmสมอง ออกสูก] ระแสเลือดเพอ่ื ปอ• งกันไมใ] หSระดับน้ำตาลลด

ตำ่ ลงจนเกิดความเสียหายต]อรา] งกาย

2. การเพิม่ ระดับนำ้ ตาลในระหว]างมื้ออาหารเปYนผลจากการทำงานของ insulin ซ่ึงทำหนาS ท่สี ลาย glycogen ทเี่ กบ็ สะสม

ไวใS นเซลลกm ลSามเนื้อและเซลลตm ับออกมาเปนY กลูโคสเพื่อใหSพลังงานกับรา] งกาย บทบาทของ insulin นอกจากจะ

สามารถลดระดับนำ้ ตาลในเลอื ดแลSวยังสามารถเพ่ิมนำ้ ตาลในเลือดไดSอกี ดSวย

3. การเพ่มิ ระดบั นำ้ ตาลในระหวา] งมือ้ อาหารเปนY ผลจากการทำงานของ glucocorticoids ซึง่ ทำหนSาท่เี ปลย่ี นสารชวี

โมเลกลุ ชนิดอ่นื ๆ เช]น โปรตีน กรดไขมัน เปนY กลูโคสทำใหรS ะดับน้ำตาลกลโู คสเพิ่มขึ้น

4. การเพมิ่ ระดับนำ้ ตาลในระหว]างม้ืออาหารเปนY ผลจากการทำงานของ mineralocorticoids ซึง่ ทำหนาS ทีส่ ลาย

glycogen ทเ่ี ก็บสะสมไวใS นเซลลmกลSามเนื้อและเซลลตm บั ออกมาเปYนกลโู คสเพอื่ ใหSพลังงานกับรา] งกาย

5. การเพิม่ ระดับนำ้ ตาลในระหวา] งมอ้ื อาหารเปYนผลจากการทำงานของ glucagon ซง่ึ ทำหนาS ท่สี ลาย glycogen ทเี่ กบ็

สะสมไวใS นเซลลmกลาS มเนือ้ และเซลลตm บั ออกมาเปYนกลูโคสเพอ่ื ใหพS ลังงานกับรา] งกาย

20. คณุ ครูสงั่ การบาS นใหเS ดก็ นักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท£ ่ี 6 จำนวน 3 คนสำรวจและเกบ็ ตวั อยา] งพืชมาคนละ 1 ชนิดพรอS ม

อธบิ ายลกั ษณะและองคmประกอบของพชื นั้น ๆ มาโดยละเอียด ซง่ึ คำอธบิ ายเปนY ดังต]อไปนี้
คนท่ี 1: พืชไม]มที อ] ลำเลียง ไม]มีราก ลำตSนและใบท่ีแทSจริง มีขนาดเลก็ มสี ีเขยี ว มองเห็นคลSายพรมอย]ูตามแหลง] นำ้ ท่ีมีความชืน้

คนที่ 2: พชื มีท]อลำเลยี ง มีเมล็ดแต]ไมม] ดี อก มีราก ใบ ลำตนS ทีแ่ ทจS รงิ โดยใบมีสีเขียวและมลี กั ษณะคลSายพัด
ลำตนS สูงใหญ] เมลด็ มสี เี หลอื ง นิยมนำมารบั ประทาน

คนที่ 3: พืชมที อ] ลำเลยี ง ใบอ]อนมSวนเปนY รูปลานนา¥ิกาจากปลายใบเขาS หาโคนใบ ดาS นหลงั ใบมกี ลุ]มของสปอรm

อดั ตวั กันแน]นเรยี กวา] ซอรัส (sorus)
ขSอใดสามารถบอกชอื่ พชื ทเี่ ดก็ นกั เรยี นท้งั 3 คนเก็บมาเปนY ตวั อยา] งไดถS กู ต,อง

ขAอ นกั เรียนคนท่ี 1 นักเรยี นคนท่ี 2 นกั เรียนคนท่ี 3

1. Liverwort Selaginella Cycad

2. Liverwort Isoetes Gnetum

3. Moss Ginkgo Fern

4. Hornwort Psilotum Merkus pine

5. Moss Equisetum Ginkgo

21. ขอS ใดอธบิ ายเก่ยี วกบั กลไกหลักในการลำเลยี ง O2 และ CO2 ระหวา] งถุงลมและเซลลmของอวัยวะต]าง ๆ ไดถS กู ตอ, ง

1. การลำเลยี ง O2 อาศัยการละลายไปกบั น้ำเลอื ด ส]วนการลำเลียง CO2 จะจบั กับโปรตนี บนผวิ เมด็ เลือดแดงท่ีมชี ื่อวา]

hemoglobin กลายเปYน carboxyhemoglobin

2. ทั้งการลำเลียง O2 และ CO2 จะจบั กบั โปรตีนบนผวิ เมด็ เลือดแดงท่มี ีชอื่ ว]า hepcidin

3. ทง้ั การลำเลยี ง O2 และ CO2 จะจับกบั โปรตนี บนผิวเมด็ เลือดแดงที่มชี ื่อว]า hemoglobin

4. การลำเลียง O2 จะจบั กบั โปรตีนในเมด็ เลอื ดแดงท่ชี ่อื ว]า hemoglobin กลายเปYน oxyhemoglobin สว] นการลำเลียง

CO2 จะละลายกับนำ้ เมด็ เลอื ดแดงและนำ้ ในเลอื ดกลายเปนY กรดคารmบอนิก

5. การลำเลียง O2 จะจับกบั โปรตีนในเมด็ เลือดแดงท่ีมีชอื่ วา] receptor กลายเปนY holoreceptor สว] นการลำเลียง CO2

จะจับกบั receptor บนเมด็ เลือดแดงเชน] กนั แต]เปนY คนละตำแหนง] กลายเปนY Aporeceptor

6

การแขง' ขนั สอบวดั ทักษะวชิ าการระดับชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ข"อสอบวชิ าวิชาวทิ ยาศาสตร/

ภาคเี ครือขา+ ยโรงเรยี นทั่วประเทศ และสถาบันอซี ่ลี ิชประเทศไทย รหสั ชดุ ขอ" สอบ 402005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

22. ส่ิงมีชวี ิตในอาณาจกั ร (Kingdom) ใดสามารถแบง] ออกเปYน 2 โดเมน (Domain) และขอS ใดสามารถยกตัวอย]างสง่ิ มีชีวิตใน

แต]ละโดเมนไดถS ูกตอ, ง

1. Kingdom Plantae แบ]งเปนY 2 domain คอื non-vascular เช]น Moss, Liverwort, Hornwort และ vascular

domain เชน] ปรง สน กลวS ย มะพราS ว มะมว] ง

2. Kingdom Monera แบง] เปนY 2 domain คอื Archaea bacteria เชน] แบคทเี รยี โบราณ และ Eubacteria เช]น

สาหร]ายสีเขยี วแกมน้ำเงนิ

3. Kingdom Animalia แบง] เปนY 2 domain คอื invertebrate (สัตวไm มม] กี ระดูกสนั หลงั ) และ vertebrate (สัตวมm กี ระดกู สนั หลงั )

4. Kingdom fungi แบ]งเปนY 2 domain คอื mushroom like (กลุ]มคลาS ยเหด็ ) เชน] เห็ดพิษ และ Mold (กลม]ุ คลSายรา) เช]น ราดำ

5. Kingdom Protista แบ]งเปนY 2 domain คือ animal like (โพรติสคลาS ยสัตว)m เชน] ยูกลนี า พารามีเซียม และ algae

like (โพรตสิ คลาS ยสาหร]าย) เชน] อะมบี า

23. กระบวนการ Photorespiration เกิดจากการทำงานของเอนไซมmชนดิ ใด สามารถพบไดSในสภาพอากาศอยา] งไรและ
ส]งผลอย]างไรต]อเซลลm

ขอA เอนไซมUทท่ี ำใหAเกดิ สภาพอากาศท่ีกระตAนุ Photorespiration ผลลพั ธUตอ' เซลลU

Photorespiration

1. Rubisco สภาพอากาศที่รsอนจัดทำใหs Rubisco สามารถจับกับ ไดsผลิตภัณฑ•เปjนสารที่มีคาร•บอน 5 อะตอมทำใหsสูญเสีย

O2 ไดดs ีกว+า CO2 พลังงานในการสังเคราะห•แสงและสรsางน้ำตาลไดนs อs ยลง

2. PEP carboxylase ปริมาณความชื้นในอากาศมากทำใหsปากใบของพืชป‹ด ไดsผลิตภัณฑ•เปjนสารที่มีคาร•บอน 4 อะตอมทำใหsสูญเสีย

จึงมปี ริมาณ CO2 ไม+เพียงพอ พลังงานในการสงั เคราะห•แสงและสราs งนำ้ ตาลไดนs อs ยลง

3. Rubisco ปริมาณความชื้นในอากาศมากทำใหsปากใบของพืชป‹ด หยุดกระบวนการสังเคราะห•ดsวยแสง หากเกิดเหตุการณ•น้ี

จึงมีปรมิ าณ CO2 ไม+เพยี งพอ ต+อเนอ่ื งเปนj เวลานานจะทำใหพs ืชขาดสารอาหารและตายไดs

4. RuBP สภาพอากาศที่รsอนจัดทำใหs RuBP สามารถจับกับ พืชสามารถสรsางสารพลังงานสูง ทั้ง ATP, NADPH และน้ำตาล

CO2 ไดมs ากขึ้น ไดมs ากขึ้นเนอื่ งจากกระบวนการสังเคราะหด• sวยแสงเกิดไดดs ขี ้นึ

5. PEP carboxylase สภาพอากาศที่หนาวจัดทำใหsปริมาณไอน้ำในอากาศ ไดsผลิตภัณฑ•เปjนสารที่มีคาร•บอน 5 อะตอมทำใหsสูญเสีย

ลดลง จึงมีไอนำ้ ไม+เพียงพอต+อการสังเคราะห•แสง พลังงานในการสังเคราะหแ• สงและสราs งน้ำตาลไดนs อs ยลง

24. ภาพที่กำหนดใหSคอื การถ]ายทอดอิเล็กตรอนแบบไม]เปYนวฏั จกั ร (Non-cyclic electron transfer) ขอS ใดจับค]ตู วั รบั อิเล็กตรอน

และชื่อกระบวนการกบั ตัวอักษรภาษาอังกฤษในรปู ภาพไดSถูกตอ, ง

ขAอ A B C D E
1. Plastoquinone Cytochrome Plastocyanin Ferredoxin Hill’s reaction

complex
2. Plastoquinone Cytochrome Ferredoxin Plastocyanin Carboxylation

complex
3. Plastocyanin Plastoquinone Cytochrome Ferredoxin Photolysis

complex
4. Ferredoxin Plastocyanin Cytochrome Plastoquinone Hill’s reaction

complex
5. Cytochrome Plastocyanin Plastoquinone Ferredoxin Photolysis

complex

7

การแขง' ขนั สอบวดั ทักษะวิชาการระดบั ชาติ ประจำป9 พ.ศ. 2564 ขอ" สอบวชิ าวิชาวทิ ยาศาสตร/

ภาคเี ครือข+ายโรงเรยี นท่ัวประเทศ และสถาบนั อซี ่ีลิชประเทศไทย รหสั ชุดข"อสอบ 402005

____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

25. ขSอใดคอื กระบวนการหรอื ขน้ั ตอนในการสรSางเซลลสm ืบพนั ธmุของเพศเมียที่เกิดขน้ึ ภายในรงั ไข]
ขนั้ ตอน A: Megaspore มกี ารแบ+งตัวแบบ mitosis จำนวน 3 คร้งั ไดอs อกมาเปนj 7 cell 8 nucleus

ขัน้ ตอน B: Microspore mother cell ภายใน microsporangium แบ+งตวั แบบ meiosis ไดเs ปjน microspore
ขน้ั ตอน C: Pollen grain แบ+งตัวแบบ mitosis ไดs 2 nucleus คือ tube nucleus and generative nucleus

ขั้นตอน D: Pollen grain ตกลงบนยอดเกสรตัวเมยี น้ำหวานดsานบนกระตุนs ใหเs กดิ การงอกทอ+ ลงไปภายในรงั ไข+
ขน้ั ตอน E: Megaspore mother cell ภายใน ovule แบ+งตัวแบบ meiosis ไดเs ปนj megaspore

ขัน้ ตอน F: Sporophyte แบ+งตวั แบบ mitosis จำนวน 3 ครง้ั ไดอs อกมาเปนj gametophyte ทีม่ ี 7 cell 8 nucleus
1. B C D 2. E F 3. B F

4. A E 5. A C E
26. ตอS งการโยนวัตถุข้นึ ไปยอดตนS ไมSโดยขณะขึ้นไประยะหน่งึ วตั ถมุ ีความเร็ว 30 เมตร/วินาทีและวัตถุเคลอ่ื นที่ขน้ึ ไปยอด

ตSนไมเS ปนY จดุ สงู สุดพอดีอยากทราบว]าความเรว็ เร่มิ ตนS มคี า] เท]าใดขณะเร่มิ โยนวัตถุถSาระยะทางจากจดุ โยนถงึ ยอดตSนไมS 65 เมตร
(กำหนดใหS g=10 m/s2)

1. 8√10 m/s 2, 8√13 m/s 3. 10√10 m/s

4. 10√13 m/s 5. 10√15 m/s

27. วงจรไฟฟา• ตอนเปด– สวติ ชจm งจรไฟฟา• มกี ระแสไฟฟา• ของวงจรมคี ]า 2 แอมแปรm ถSาสับสวิตชmลงอยากทราบว]ากระแสไฟฟา•

ของวงจรจะมีคา] เท]าใด

1. 2.45 A 2. 3.45 A

3. 4.45 A 4. 5.45 A

5. 6.45 A

28. นายดเี จมีมวล 50 กิโลกรัม เดินเลน] บนไมS กระดานไมSสม่ำเสมอ ยาว 10 เมตร หนัก 20 กิโลกรมั มไี มSหมอน A และ B

ห]างกนั 3 เมตรดงั รูป จงหาว]าถาS นายดีเจเร่ิมเดนิ จากจดุ ไมหS มอน A ไปไดSไกลท่สี ุดจากจุด A เทา] ใดคานเริม่ กระดก

1. 0.2 m 2. 1.2 m

3. 3.2 m 4. 4.2 m

5. 5.2 m

29. มเี ชอื กและรอกดังรูปถาS เราดึงปลายเชอื กที่จุด X ดังรูปดSวยความเร็วมขี นาด 20 m/s มีมวลหนกั 15 กโิ ลกรัม

มวลกSอนนีจ้ ะเลือ่ นขนึ้ ดวS ยความเร็วเท]าใด

1. 10 m/s 2. 15 m/s

3. 20 m/s 4. 25 m/s

5. 30 m/s

30. แกวง] เชอื กเบาเสนS หนง่ึ ยาว 100 เซนตเิ มตร ผกู กับมวล 2 กโิ ลกรมั ดังรปู จบั ปลายเชอื กอีกขSางหนึง่ แกวง] ใหมS วลเคลื่อนที่

เปนY วงกลมในระนาบดิ่งดวS ยอัตราเร็วคงตัว 5 เมตรตอ] วนิ าที จุด A ทำมมุ กับแนวดิ่ง 37 องศาดงั รูป
แรงตงึ เชอื ก ณ จดุ A จะมีคา] เทา] ใด ( g = 10 m/s2)

1. 14 N 2. 24 N

3. 34 N 4. 44 N

5. 54 N

31. มแี กสo ไนโตรเจนอุณหภูมิ 7 ºC ความดัน 1 บรรยากาศ จงหาค]ารากทส่ี องของอตั ราเรว็ กำลังสองเฉลย่ี ประมาณก่ีเมตรต]อ

วนิ าที กำหนดใหS มวลโมเลกุลของแกสo ไนโตรเจน 28 กรัม/โมล (กำหนดใหS R =8.31 J/ mol∙ K)

1. 500 2. 10√5 3. 10 √7
4. 400 5. 250

8