The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนหนองบัวพิทยาคาร-1.65

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by art, 2022-09-06 01:56:10

แผนการสอนหนองบัวพิทยาคาร-1.65

แผนการสอนหนองบัวพิทยาคาร-1.65

194

บนั ทึกหลงั สอน

1.ความสาเร็จในการจัดการเรียน
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.ปญั หา / อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

3.แนวทางการแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ……………………………………………….
(นาย อนริ จุ พลอนิ ทร์)
ผู้สอน

วันท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ขอ้ เสนอแนะของครูพีเ่ ล้ยี ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ……………………………………………….
(นางสาวพรไพลิน สินไชย)
ครูพีเ่ ลี้ยง

วนั ท่ี……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

195

ขอ้ เสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
มีองคป์ ระกอบของแผนครบถ้วน สมบูรณ์ และถกู ตอ้ งตามหลกั วิชาการ
มีกิจกรรมการเรียนรเู้ น้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ใช้สอื่ และแหลง่ เรยี นรู้ทห่ี ลากหลาย เหมาะสม
มีการวดั และประเมินผลสอดคลอ้ งกับจุดประสงค์และกระบวนการจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้วธิ ีท่ี

หลากหลาย
แผนการจดั การเรยี นรูน้ าไปสู่การปฏิบัติได้ สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตร บริบท สภาพของผู้เรียนและ

ชมุ ชน

ลงชื่อ……………………………………………….
(นายประพันธ์ นาชัยเงนิ )

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ
วนั ที่……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของหวั หน้างานวดั ผลและประเมินผลการศกึ ษา
มีองค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถกู ตอ้ งตามหลักวชิ าการ
มีกจิ กรรมการเรยี นรู้เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั
ใชส้ ่ือและแหลง่ เรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย เหมาะสม
มีการวดั และประเมินผลครอบคลมุ พฤติกรรมพุทธพิ สิ ยั จติ พสิ ัย ทกั ษะพสิ ยั

ลงชื่อ……………………………………………….
(นางสาวจนั ทิรา แวงวงษ์)

หวั หนา้ งานวัดผลและประเมินผลการศกึ ษา
วนั ท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา
ใช้จัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้
ขอใหน้ เิ ทศ ติดตาม ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้เพ่อื นาไปพฒั นางานต่อไป

ลงช่ือ……………………………………………….
(นายพฤทธพ์ิ ล ชารี)

รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ
วันท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12 196

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ รายวชิ า ทศั นศลิ ป์ ศ33101
ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี1 ปกี ารศึกษา 2565
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง กระบวนการสรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลป์
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 12 เรือ่ ง การสรา้ งสรรค์งานภาพพมิ พ์ เวลา 4 ช่วั โมง
สอนวันที่ เดือน พ.ศ เวลา 1 ชว่ั โมง
ผู้สอน:นายอนิรจุ พลอินทร์

1. มาตรฐานการเรียนเรียนรู้
ศ 1.1 สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ปต์ ามจติ นาการและความคิดสรา้ งสรรคว์ เิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์

คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ช่ืนชมและประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจาวัน

2. ตัวชี้วัด
ม.6/3 วิเคราะห์การเลือกใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์ และเทคนคิ ของศลิ ปนิ ในการแสดงออกทางทศั นศิลป์
ม.6/4 มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุอุปกรณ์ และกระบวนการที่สูงขึ้น ในการสร้างงาน

ทัศนศิลป์
ม.6/7 วิเคราะห์และอธิบายจุดมุ่งหมายของศิลปินในการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิคและ

เน้อื หา เพื่อสร้างสรรค์งานทศั นศลิ ป์

3. สาระสาคัญ

งานภาพพมิ พเ์ กดิ จากการสรา้ งสรรคข์ องนกั เรยี นและของศลิ ปินแตล่ ะคน ที่มีจดุ มุง่ หมายตา่ งกัน
ทาให้เกดิ ความหลากหลายในการเลือกใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเทคนิค การเรียนรวู้ ิธสี ร้างสรรคง์ านภาพ
พิมพ์แต่ละประเภท ก็เพื่อนาไปปรับใช้ในงานของตนเองให้พัฒนาดีมากขึ้น โดย สร้างสรรค์งานภาพ
พิมพ์ตามจิตนาการพร้อมกับเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการทางานพร้อมนาแรงบันดาลใจ
จากการที่ได้ศึกษาความหมายของงานภาพพิมพแ์ ละอปุ กรณก์ ารทางานอีกทั้งการศึกษางานทัศนศิลป์
ประเภทภาพพมิ พข์ องศลิ ปนิ ทเ่ี ราสามารถนามาประยกุ ตใ์ ช้ในการทางานของเราได้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. นกั เรียนสามารถอธิบายกระบวนการทางานภาพพมิ พแ์ ละการเลอื กใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์ได้ (K)
2. นกั เรียนสามารถสร้างสรรค์งานภาพพิมพ์ตามจติ นาการได้ (P)
3. นักเรยี นเห็นความสาคญั ตอ่ การเรยี นรูเ้ กย่ี วกบั งานภาพพมิ พ์ (A)

197

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
- ความสามารถในดา้ นความคิด สามารถคดิ อย่างสร้างสรรคแ์ ละทาใหเ้ กิดการจนิ ตนาการนาไปยัง

การทาผลงานได้
- ความสามารถในการสื่อสาร หมายถึง ใชภ้ าษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเขา้ ใจ ความรู้สึก

และทัศนะของตนเอง เพ่ือเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นา
ตนเองและสงั คม

- ความสามารถในการแก้ปัญหา หมายถงึ เขา้ ใจความสมั พนั ธ์และการเปลีย่ นแปลงของเหตุการณ์
ต่าง ๆ ในสังคมแสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้ในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาได้อย่างถกู ต้อง
5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

- ชอื่ สตั ย์สจุ ริต
-. ใฝ่เรยี นรู้
- มงุ่ มัน่ ในการทางาน
- มีวินัย
สาระการเรยี นรู้
องคค์ วามรู้ (K)
1. ภาพพิมพ์
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. ทกั ษะการฟัง
2. ทกั ษะการอา่ น
3. ทักษะการเขยี น
ดา้ นเจตคติ (A)
1.นักเรียนเหน็ ความสาคัญต่อการเรยี นรูเ้ ก่ยี วกับงานภาพพมิ พ์ (A)

6. กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้
ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1.ครสู นทนากบั นักเรยี นเก่ียวกบั เร่อื ง การสรา้ งสรรคง์ านภาพพมิ พ์
2.ครูสุ่มถามนักเรียนว่านักเรยี นรู้จกั งานภาพพิมพม์ าก่อนหรือไม่และนกั เรียนเคยทางานภาพ

พิมพ์หรือไม่
3.ครใู หน้ ักเรยี นยกตวั อยา่ งงานภาพพิมพท์ ีน่ ักเรยี นเหน็ ไดต้ ามชีวิตประจาวัน
ข้ันสอน/ข้นั กิจกรรม
1. ครูอธิบายเนื้อหาเกี่ยวกับความหมายของงานภาพพิมพ์ พร้อมกับปรพเภทของงานภาพ

พิมพ์ต่าง ๆ เช่น ภาพพพิมพ์แกะไม้ ภาะพิมพ์โลหะ ภาพพิมพ์ธรรมชาติ ภาพพิมพ์วัสดุ ภาพพิมพ์
ตะแกรงไหม พร้อมกบั ยกตวั อย่างผลงานประกอบเน้ือหา โดยอธิบายผ่านสื่อ PowerPoint

2. เมอ่ื ครอู ธิบายเน้ือหาเสรจ็ ครูนาตัวอยา่ งภาพงานประติมากรรมท้ัง 5 ลักษณะของรูปแบบ
ประเภทของงานภาพพมิ พ์มาใหน้ ักเรียนดู และอธบิ ายประกอบภาพ

198

3. ครูให้นักเรียนสืบค้นหาตัวอย่างผลงานภาพพิมพ์พร้อมกับวิเคราะห์งานภาพพิมพ์ว่าเป็น
การสร้างงานภาพพิมพ์ประเภทอะไรและลักษณะงานแต่ละประเภทควรใช้วัสดุอุปกรณ์แบบใดจึงจะ
เหมาะสมกับงานประเภทน้ัน ๆ เพ่ือทจ่ี ะนามาประยุกต์ใชใ้ นการทางานของเราได้

4. ครแู จกอุปกรณ์การทางานให้กับนกั เรียนพร้อมกับมอบหมายใหน้ ักเรียนสร้างสรรค์ผลงาน
ภาพพมิ พ์ตามจิตนการของนกั เรียนโดยให้นกั เรียนเลอื กทางานประเภทไหนกไ็ ดโ้ ดยเลอื กใช้อุปกรณ์ให้
ถูกต้องและเหมาะสมกับงานท่ีนักเรียนเลือกทาหรือนักเรียนสามารถนาแรงบันดาลใจงานท่ีครู
ยกตัวอย่างใหด้ หู รอื แรงบันดาลใจจากขอ้ มลู ทนี่ กั เรียนได้สบื ค้นจากคาบแรกกไ็ ด้

5.เม่ือนักเรยี นทกุ คนทางานเสร็จใหน้ กั เรียนเตรียมตัวนาเสนอผลงานของตวั เองหน้าชัน้ เรียน
ขนั้ สรปุ
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนออกมานาเสนอผลงานของตัวเองหน้าชั้นเรียนพร้อมบอกเนือ้ หา
และแรงบันดาลใจของผลงานพร้อมกับบอกว่าเป็นภาพพิมพ์ประเภทอะไรและได้ใช้อุปกรณ์ในการ
ทางานอะไรบ้างพรอ้ มกบั แลกเปลย่ี นความรกู้ ับเพอ่ื นในหอ้ งเรยี นและครูผสู้ อน
2. ครูให้นักเรียนแต่ละคนลุกขึ้นสรุปจากการเรียนในคาบน้ีว่าได้อะไรบ้างจากการเรียนใน
คร้งั นแ้ี ละสามารถนาไปประยุกต์ใช้กบั ตัวนกั เรยี นได้อย่างไร
3. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปอีกคร้ังดังนี้ ภาพพิมพ์เป็นงานที่ต้องอาศัยแม่พิมพ์เป็นหลัก
และภาพพิมพ์ตามธรรมชาติหรือภาพพิมพ์ท่ีอยูร่ อยตวั เราก็มีมากมายอีกทั้งนักเรียนสามารถนาไปปรับ
ใช้ในดา้ นตา่ ง ๆได้

7. ส่ือการสอน
1. สื่อ PowerPoint
2. ตัวอยา่ งผลงานภาพพิมพ์
3. หนงั สือทศั นศลิ ป์
4. อปุ กรณใ์ นการทางาน เช่น อปุ กรณใ์ นการแกะภาพพมิ พ์

199

8. การวัดและประเมนิ ผล
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

เปา้ หมายการเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั เครอื่ งมอื ท่ใี ชใ้ นการวัด เกณฑก์ ารวัด
แบบประเมินการตอบ 70 %
1นักเรยี นสามารถ การสังเกตการณต์ อบ คาถามและการนาเสนอ
งาน 70 %
อธบิ ายกระบวนการ คาถามและการนาเสนอ
แบบประเมนิ ช้ินงาน
ทางานภาพพมิ พแ์ ละ งาน

การเลือกใช้วัสดุอปุ กรณ์

ได้ (K)

2.นกั เรียนสามารถ

สรา้ งสรรคง์ านภาพพมิ พ์ ตรวจชนิ้ งาน

ตามจิตนาการได้ (P)

3. นกั เรียนเห็น สงั เกตจากความ แบบประเมนิ พฤตกิ รรม 70 %
ความสาคัญต่อการ รับผิดชอบตอ่ หน้าทแี่ ละ
งานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
เรยี นรูเ้ กย่ี วกบั งานภาพ
พิมพ์ (A)

200

แบบประเมนิ การตอบคาถามและนาเสนองาน

เรอ่ื ง การสร้างสรรคง์ านภาพพมิ พ์

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/…….

การประเมนิ /คะแนน

ความสนใจ ตอบได้ถกู ตอ้ ง การตอบ การนาเสนอ

ท่ี ชือ่ -สกลุ ต้งั ใจฟงั ตรงถาม คาถามอยา่ ง งานอย่าง
คาถาม ประเด็น สมา่ เสมอ คล่องแคล่ว รวม

และตรง

ประเด็น

1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25

201

การประเมนิ /คะแนน

ความสนใจ ตอบได้ถกู ตอ้ ง การตอบ การนาเสนอ

ท่ี ชื่อ-สกุล ตัง้ ใจฟงั ตรงถาม คาถามอย่าง งานอยา่ ง
คาถาม ประเด็น สมา่ เสมอ คลอ่ งแคลว่ รวม

และตรง

ประเด็น

26 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

นกั เรยี นทีไ่ ด้ 8.5 คะแนนขน้ึ ไป หรอื รอ้ ยละ 70 ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ ผลงาน

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
เกณฑ์การประเมนิ
8-12 คะแนน ดมี าก
5-7 คะแนน ดี
1-4 คะแนน พอใช้
ต่ากว่า 0 คะแนน ปรับปรงุ

202

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑ์การวดั ประเมินการตอบคาถาม

ประเดน็ การประเมิน ระดบั คะแนน

321

1.ความสนใจต้ังใจฟัง สนใจฟงั ไม่หลับ ไม่ สนใจฟงั ไม่หลบั ไม่ ไม่สนใจฟัง พดู คุยในชนั้

คาถาม พดู คยุ ในชัน้ เรยี น ตอบ พูดคยุ ในชนั้ เรียน แต่ เรยี น ตอบคาถามไม่ได้

คาถามได้ทนั ที ตอบคาถามไมไ่ ด้ในทนั ที ทันที

2.ตอบไดถ้ กู ตอ้ งตรง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง
ถามประเดน็
และตรงประเด็นและ และตรงประเด็นและ บางส่วน
3.การตอบคาถามอย่าง
สม่าเสมอ อธบิ ายคาถามชดั เจน อธิบายคาถามไม่ค่อย

ชดั เจน

มีส่วนร่วมในการตอบ มีส่วนร่วมในการตอบ มีส่วนร่วมในการตอบ

คาถามอย่างสม่าเสมอ คาถามบอ่ ยครงั้ คาถามน้อยครงั้

4.การนาเสนองานอยา่ ง การนาเสนอไม่ติดขัด การนาเสนอติดขัดนิด การนาเสนอติดขัดและ

คล่องแคลว่ และตรง และเนื้อหาตรงประเด็น หน่อยและเน้ือหาผิด เนอื้ หาผิดประเด็นในการ

ประเดน็ ทกุ ขอ้ ประเด็นเลก็ นอ้ ย นาเสนอ

ลงชื่อ……………………………………………….ผสู้ อน
(นาย อนิรุจ พลอนิ ทร์)

วนั ท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

203

แบบประเมนิ ชิ้นงาน และการนาเสนองาน
เรอ่ื ง การสร้างสรรค์งานภาพพมิ พ์
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6/……..

ความ ความคดิ การใช้ การนาเสนอ

สวยงาม สร้างสรรค์ องค์ประกอบ และการ รวม

ของ ของ ศิลป์ใน ช่วยกัน คะแนน

ท่ี ชือ่ -สกลุ ชน้ิ งาน ชิ้นงาน ผลงาน ทางาน (12)

ภายในกลมุ่

33 3 3

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

24

25

204

ความ ความคิด การใช้ การ

สวยงาม สร้างสรรค์ องค์ประกอบ นาเสนอ รวม

ของ ของ ศิลปใ์ น และการ คะแนน

ท่ี ชอื่ -สกุล ช้นิ งาน ชน้ิ งาน ผลงาน ช่วยกัน (12)

ทางาน

ภายในกลุ่ม

33 3 3

26

27

28

29

30

31

31

33

34

35

36

37

38

39

40

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
นักเรียนท่ไี ด้ 8.5 คะแนนขน้ึ ไป หรือ ร้อยละ 70 ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

เกณฑก์ ารประเมนิ
8-12 คะแนน ดีมาก
5-7 คะแนน ดี
1-4 คะแนน พอใช้
ตา่ กว่า 0 คะแนน ปรับปรงุ

205

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑ์การวดั ประเมนิ ชนิ้ งาน

ประเด็นการประเมิน ระดบั คะแนน

321

(ดมี าก) (พอใช)้ (ปรับปรงุ )

1.ความสวยงามของ ผลงานมีความสวยงาม ผลงานค่อนข้างมีความ ผลงานไม่มีความ

ช้นิ งาน ความละเอียดและ สวยงาม ความละเอยี ด สวยงาม ความละเอียด

ประณตี และประณตี และประณตี

2.ความคดิ สร้างสรรค์ รปู แบบผลงานมีความ รปู แบบผลงานมีความ ผลงานเลยี นแบบ
ของชนิ้ งาน แปลงใหม่บางส่วน
แปลกใหมไ่ มซ่ ้ากบั ธรรมชาตหิ รือใน
ผลงานทว่ั ไป อนิ เตอรเ์ นต็

3.การใช้องคป์ ระกอบ ผลงานมีการจัดวาง ผลงานมกี ารจดั วาง ผลงานมกี ารจัดวาง
ศิลปใ์ นผลงาน ตามองคป์ ระกอบศลิ ป์ ตามองคป์ ระกอบศิลป์ ตามองคป์ ระกอบศิลป์
อย่างถกู ตอ้ งมีการจดั คอ่ นข้างทจี่ ะถกู ต้องมี อยา่ งไมถ่ กู ตอ้ ง
4.การนาเสนอและการ สดั สว่ นภาพและมีความ การจดั สดั ส่วนภาพและ
ช่วยกนั ทางานภายใน สมดุล มีความสมดุล นาเสนองานพอใชแ้ ละ
กลุ่ม ไมค่ ่อยชว่ ยกนั ทางาน
นาเสนองานดแี ละ นาเสนองานค่อนข้างดี ภายในกลุ่ม
ช่วยกันทางานภายใน และช่วยกนั ทางานกลุ่ม
กลุ่มทกุ คน
กนั เปน็ บางคน

การประเมนิ ชน้ิ งาน 3 คะแนน
3 คะแนน
เกณฑ์การให้คะแนน 3 คะแนน
ความสวยงานชองชิ้นงาน
ความคดิ สรา้ งสรรค์ของช้ินงาน 3 คะแนน
การใช้องคป์ ระกอบศลิ ป์ในผลงาน 12 คะแนน
การนาเสนอและการชว่ ยกนั ทางานภายในกลุ่ม
รวม

ลงช่ือ……………………………………………….ผู้สอน
(นาย อนิรจุ พลอนิ ทร์)

วันที่……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

206

แบบประเมนิ พฤติกรรม

นักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6/……

คาชแ้ี จง : ใหค้ รูสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและการทาผลงาน
แล้วเขียนคะแนนลงในช่องวา่ ง

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ใหค้ วาม ถามคาถามตลอด

ตงั้ ใจในการ รว่ มมือใน เมอ่ื ครูถามและ

ทางาน การเรยี น เหน็ ความสาคญั รวม

ท่ี ช่ือ-สกุล ต่อผลงาน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

1
2
3
4
5

6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23

207

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ใหค้ วาม ถามคาถามตลอด

ตัง้ ใจในการ รว่ มมอื ใน เมื่อครูถามและ

ทางาน การเรยี น เห็นความสาคัญ รวม

ท่ี ช่ือ-สกุล ตอ่ ผลงาน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

24
25
26
27
28
29
30
31
31
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
เกณฑ์คุณภาพดีข้นึ ไป

ประเมนิ ผลงาน
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
11 – 15 หมายถงึ ดีมาก
6– 10 หมายถงึ ดี
1 – 5 หมายถึง พอใช้
ตา่ กว่า 0 หมายถงึ ปรบั ปรุง

208

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑก์ ารวัดประเมินพฤติกรรม

ประเด็นการประเมิน ระดบั คะแนน

531

(ดมี าก) (พอใช้) (ปรบั ปรุง)

1.ความสนใจตั้งใจใน มคี วามกระตอื รือร้นใน มีความกระตือรือรน้ ใน ไมต่ ัง้ ใจทางานและไมม่ ี

การทางาน การทางานและตั้งใจ การทางานแต่ไม่ต้งั ใจ ความกระตอื รือรน้

ทางานอยา่ งมงุ่ มั่น ทางานอยา่ งมงุ่ มัน่

2. ให้ความรว่ มมอื ใน ทางานชว่ ยเพอ่ื นในกลุม่ ทางานช่วยเพือ่ นในกลุ่ม ไม่ใหค้ วามร่วมมอื ในการ
การทางานเปน็ กลุ่ม
และให้การรว่ มมอื ในการ แตไ่ ม่กลา้ ออกมานาเนอ ทางานกบั เพื่อนในกลุ่ม

นาเสนอผลงาน ผลงาน

3. ถามคาถามตลอด ตอบคาถามตลอดและท ตอบคาถามตลอดไม่ทนุ ไม่ให้ความร่วมมือกบั

เมอ่ื ครูถามและเห็น นถุ นอมต่อผลงานของ ถนอมตอ่ ผลงานของ ครูผสู้ อน

ความสาคัญตอ่ ผลงาน กลมุ่ ตัวเอง กลมุ่ ตวั เอง

การประเมินพฤตกิ รรม 5 คะแนน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 5 คะแนน
ความสนใจต้งั ใจในการทางาน 5 คะแนน
ให้ความรว่ มมือในการทางานเปน็ กลุ่ม 15 คะแนน
ถามคาถามตลอดเมือ่ ครถู ามและเห็นความสาคญั ตอ่ ผลงาน
รวม

ลงชือ่ ……………………………………………….ผู้สอน
(นาย อนริ ุจ พลอนิ ทร์)

วันที่……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

209

บนั ทึกหลงั สอน

1.ความสาเร็จในการจัดการเรียน
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.ปญั หา / อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

3.แนวทางการแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ……………………………………………….
(นาย อนริ จุ พลอนิ ทร์)
ผู้สอน

วันท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ขอ้ เสนอแนะของครูพีเ่ ล้ยี ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ……………………………………………….
(นางสาวพรไพลิน สินไชย)
ครูพีเ่ ลี้ยง

วนั ท่ี……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

210

ขอ้ เสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
มีองคป์ ระกอบของแผนครบถ้วน สมบูรณ์ และถกู ตอ้ งตามหลกั วิชาการ
มีกิจกรรมการเรียนรเู้ น้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ใช้สอื่ และแหล่งเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย เหมาะสม
มีการวดั และประเมินผลสอดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละกระบวนการจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้วธิ ีท่ี

หลากหลาย
แผนการจดั การเรยี นรูน้ าไปสู่การปฏิบัติได้ สอดคล้องกับหลกั สตู ร บริบท สภาพของผู้เรียนและ

ชมุ ชน

ลงชื่อ……………………………………………….
(นายประพันธ์ นาชัยเงนิ )

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ
วันที่……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของหวั หน้างานวดั ผลและประเมินผลการศกึ ษา
มีองค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ
มีกจิ กรรมการเรยี นรู้เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั
ใชส้ ่ือและแหลง่ เรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย เหมาะสม
มีการวดั และประเมินผลครอบคลมุ พฤติกรรมพุทธิพสิ ัย จติ พสิ ัย ทกั ษะพสิ ยั

ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางสาวจนั ทิรา แวงวงษ์)

หัวหน้างานวัดผลและประเมินผลการศกึ ษา
วนั ที่……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา
ใช้จัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้
ขอใหน้ เิ ทศ ติดตาม ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้เพอื่ นาไปพฒั นางานต่อไป

ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นายพฤทธพ์ิ ล ชารี)

รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ
วันท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

211

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ รายวชิ า ทศั นศิลป์ ศ33101

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่อื ง กระบวนการสร้างสรรคง์ านทัศนศิลป์ เวลา 4 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 เร่ือง ผลงานทศั นศิลป์ของศิลปนิ ไทยและต่างประเทศ เวลา 1 ช่ัวโมง

สอนวันที่ เดอื น พ.ศ ผูส้ อน:นายอนิรจุ พลอินทร์

1. มาตรฐานการเรียนเรียนรู้
ศ 1.1 สร้างสรรคง์ านทศั นศิลปต์ ามจติ นาการและความคดิ สรา้ งสรรค์วเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์

คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชมและประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจาวัน

ศ 1.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างาน
ทัศนศลิ ป์ทีเ่ ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น ภมู ิปัญญาไทย และสากล

2. ตวั ชีว้ ัด
ม.6/10 สร้างสรรค์งานทศั นศิลป์ไทย สากล โดยศกึ ษาจากแนวคดิ และวิธีการสร้างงานของศิลปิน

ที่ตนชื่นชอบ
ม.6/2 ระบุงานทศั นศิลปข์ องศลิ ปินทีม่ ีชอื่ เสยี ง และบรรยายผลตอบรับของสงั คม

3. สาระสาคญั

การศึกษาผลงานทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ ของศิลปินที่มีช่ือเสียง ทั้ง
ศิลปินไทยและสากล เพ่ือเป็นการหาแนวคิดและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์
ใหก้ ับนกั เรยี น รวมถึงความสัมพนั ธ์ของทัศนศลิ ป์กบั สงั คม จะทาใหท้ ราบถงึ แนวคิด วธิ กี ารของศลิ ปิน
และผลตอบรับของสงั คมทมี่ ีต่อผลงาน จติ รกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ เพื่อนาไปปรบั ใช้

จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. นักเรียนสามารถบอกความหมายและความสาคัญในการทางานเกีย่ วกับงานทัศนศิลป์ของศิลปิน
ไทยและสากลได้ (K)

2. นกั เรยี นสามารถสร้างสรรคง์ าน Mnid Mapping เกี่ยวกบั ผลงานของศิลปินไทยและสากลได้ (P)
3. นกั เรียนเห็นความสาคญั ในการเรยี นและทางาน Mnid Mapping เกี่ยวกบั ผลงานของศิลปิน(A)

212

4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในด้านความคิด สามารถคิดอย่างสร้างสรรค์และทาใหเ้ กิดการจนิ ตนาการนาไปยัง

การทาผลงานได้
- ความสามารถในการส่ือสาร หมายถงึ ใชภ้ าษาถา่ ยทอดความคิด ความรู้ ความเขา้ ใจ ความรู้สึก

และทัศนะของตนเอง เพ่ือเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา
ตนเองและสังคม

- ความสามารถในการแกป้ ัญหา หมายถึง เข้าใจความสมั พันธแ์ ละการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณ์
ต่าง ๆ ในสังคมแสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรู้มาใช้ในการป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

- ชือ่ สัตย์สุจรติ
-. ใฝ่เรยี นรู้
- ม่งุ มน่ั ในการทางาน
- มีวินัย
สาระการเรียนรู้
องค์ความรู้ (K)
1. ผลงานทศั นศิลป์ของศิลปินไทยและสากล
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. ทักษะการฟงั
2. ทกั ษะการอ่าน
3. ทักษะการเขยี น
ด้านเจตคติ (A)
1.เห็นความสาคัญและคุณคา่ ในการทางานเกย่ี วกับผลงานทศั นศิลป์ของศิลปินไทยและสากล

6. กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้
ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครพู ูดคุยกับนักเรียนเก่ยี วกบั เรือ่ งทัศนธาตุ พร้อมกบั ถาม-ตอบกบั นักเรียนเก่ียวกับศิลปิน

ที่นักเรยี นร้จู กั เชน่ นกั เรียนรู้จักศลิ ปินไทยและสากลใครบา้ ง (ใหน้ กั เรยี ตอบศลิ ปินท่นี ักเรยี นรจู้ กั )
2. ครูนาภาพศิลปินไทยและสากลมาให้นกั เรียนดูพร้อมถาม-ตอบกบั นักเรียน เช่น นักเรียน

รู้จักศิลปินท่านน้ีหรือไม่ และผลงานที่โดดเด่ของศิลปินคืออะไร โดยผลงานของศิลปินมักทาผลงาน
ทศั นศิลป์แบบใด (นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นตามความเข้าใจ)

ขนั้ สอน/ขัน้ กิจกรรม
1. ครูอธิบายเน้ือหาเกี่ยวกับประวัติของศิลปินและผลงานของศิลป์ไทยและสากล โดยเล่า

ประวัตขิ องศิลปนิ แต่ละท่านพอสังเขป และบอกงานทศั นศิลป์ที่ศิลปนิ ทา เช่น (งานจติ รกรรม) พรอ้ ม
กับผลงานทโี่ ดดเด่น โดยอธบิ ายหรือยกตัวอย่างศิลปินของไทย โดยแบง่ เปน็ ศลิ ปินแขนงจิตรกรรม 3
ท่าน ศิลปินแขนงประติมากรรม 3 ท่าน ศิลปินแขนง ภาพพิมพ์ 3 ท่าน อีกทั้งศิลปินสากล โดย

213

แบ่งเป็น ศิลปินแขนงจิตรกรรม 3 ท่าน ศิลปินแขนงประติมากรรม 3 ท่าน ศิลปินแขนง ภาพพิมพ์ 3
ท่าน พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ โดยอธิบายผ่านสอ่ื PowerPoint

2. เมื่อครูอธิบายเน้ือหาเสร็จครูให้นักเรียนแต่ละคนออกมาจับฉลากตามเลขที่ เลือกช่ือ
ศิลปินไทยและสากลเพื่อเป็นหัวข้อการทางาน (โดยศิลปินท่ีอยู่ในฉลากจะไม่ซ้ากับศิลปินท่ีสอนไป
แลว้ )

3. ครใู ห้นักเรยี นนาอุปกรณ์ท่ีทามาขึ้นมาให้พร้อม แลว้ ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนทุกคนจัดทา
Mnid Mapping ศิลปินที่นักเรียนจับฉลากได้โดยให้นักเรียนค้นหาประวัติของศิลปินพร้อมกับหา
ข้อมูลเก่ียวกับการทางานทัศนศิลป์ของศิลปินว่าศิลป์ทางานประเภทไหนและมีผลงานที่โดดเด่น
อะไรบ้าง โดยให้นาภาพมาปะติเป็น Mnid Mapping พร้อมกับออกแบบและตกแต่งให้สวยงามตาม
จิตนาการของนักเรยี น โดยครคู อยแนะนาในการทางานของนกั เรยี นตลอดเวลา

4. เม่ือนักเรียนทางานเสร็จทุกคนครูสุ่มให้นักเรียนออกมาอธิบายเกี่ยวกับ Mnid Mappin
ศิลปนิ ที่นักเรยี นได้คน้ หามา เพอื่ นามาเสนอให้เพือ่ นๆ ได้เขา้ ใจ เพื่อท่ีเป็นการแชร์เนอ้ื หากนั นกั เรียน
กจ็ ะไดร้ จู้ ักกับศลิ ปนิ ไทยและสากลได้มากขน้ึ จากทคี่ รูยกตวั อย่างมา

ขั้นสรปุ
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนลุกขึ้นสรุปจากการเรียนในคาบนี้ว่าได้อะไรบ้างจากการเรียนใน

ครัง้ นแี้ ละสามารถนาไปประยุกตใ์ ชก้ ับตวั นักเรยี นไดอ้ ย่างไร
2. ครสู รปุ เนือ้ หาทั้งหมดอีกคร้ังวา่ ทาไมถึงเรียนเก่ยี วกับผลงานทัศนศลิ ป์ของศิลปินไทยและ

สากล เพ่ือที่จะให้นักเรียนได้รู้จักศิลปินในแขนงต่าง ๆ เพื่อที่ให้นักเรียนได้เห็นผลงาน จิตรกรรม
ประติมากรรม และภาพพิมพ์ ได้หลากหลายรูปแบบเพ่ือเป็นแรงบันดาลใจและเป็นการเพิม่ ความคิด
สรา้ งสรรคใ์ ห้กับนกั เรียน อีกทง้ั นักเรียนยงั สามารถนาไปปรับใช้ในการทางานทศั นศิลป์ของตวั เอง

7. สอ่ื การสอน
1. สื่อ PowerPoint
2. ตัวอยา่ งผลงานทัศนศลิ ปข์ องศิลปนิ
3. หนงั สือทศั นศิลป์
4. Mnid Mappin
5. อุปกรณใ์ นการทางาน เช่น กระดาษ สี ผลงานทน่ี กั เรยี นปรนิ้ มา

214

8. การวัดและประเมินผล
เกณฑ์การใหค้ ะแนน

เป้าหมายการเรยี นรู้ วธิ ีการวัด เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ในการวดั เกณฑ์การวัด
การสงั เกตการณ์ตอบ แบบประเมินการตอบ 70 %
1. นกั เรียนสามารถบอก คาถามและการนาเสนอ คาถามและการนาเสนอ
ความหมายและความสาคัญใน งาน งาน 70 %
การทางานเกี่ยวกับงาน 70 %
ทัศนศิลปข์ องศลิ ปินไทยและ ตรวจชิ้นงาน แบบประเมนิ ช้นิ งาน
สากลได้ (K)
สงั เกตการใหค้ วาม แบบประเมนิ พฤตกิ รรม
2.นกั เรียนสามารถสร้างสรรค์ ร่วมมือในการทางาน
งาน Mnid Mapping เก่ียวกบั
ผลงานของศิลปินไทยและ
สากลได้ (P)

3. นกั เรยี นเห็นความสาคญั ใน
การเรียนและทางาน Mnid
Mapping เก่ยี วกบั ผลงานของ
ศลิ ปนิ (A)

215

แบบประเมนิ การตอบคาถามและนาเสนองาน

เรื่อง ผลงานทศั นศิลปข์ องศลิ ปินไทยและตา่ งประเทศ

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/…….

การประเมนิ /คะแนน

ความสนใจ ตอบไดถ้ กู ตอ้ ง การตอบ การนาเสนอ

ท่ี ช่อื -สกุล ต้งั ใจฟงั ตรงถาม คาถามอยา่ ง งานอยา่ ง
คาถาม ประเด็น สม่าเสมอ คลอ่ งแคลว่ รวม

และตรง

ประเด็น

1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25

216

การประเมนิ /คะแนน

ความสนใจ ตอบได้ถกู ตอ้ ง การตอบ การนาเสนอ

ท่ี ชื่อ-สกุล ตัง้ ใจฟงั ตรงถาม คาถามอย่าง งานอยา่ ง
คาถาม ประเด็น สมา่ เสมอ คลอ่ งแคลว่ รวม

และตรง

ประเด็น

26 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

นกั เรยี นทีไ่ ด้ 8.5 คะแนนขน้ึ ไป หรอื รอ้ ยละ 70 ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ ผลงาน

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
เกณฑ์การประเมนิ
8-12 คะแนน ดมี าก
5-7 คะแนน ดี
1-4 คะแนน พอใช้
ต่ากว่า 0 คะแนน ปรับปรงุ

217

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑ์การวดั ประเมินการตอบคาถาม

ประเดน็ การประเมิน ระดบั คะแนน

321

1.ความสนใจต้ังใจฟัง สนใจฟงั ไม่หลับ ไม่ สนใจฟงั ไม่หลบั ไม่ ไม่สนใจฟัง พดู คุยในชนั้

คาถาม พดู คยุ ในชัน้ เรยี น ตอบ พูดคยุ ในชนั้ เรียน แต่ เรยี น ตอบคาถามไม่ได้

คาถามได้ทนั ที ตอบคาถามไมไ่ ด้ในทนั ที ทันที

2.ตอบไดถ้ กู ตอ้ งตรง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง
ถามประเดน็
และตรงประเด็นและ และตรงประเด็นและ บางส่วน
3.การตอบคาถามอย่าง
สม่าเสมอ อธบิ ายคาถามชดั เจน อธิบายคาถามไม่ค่อย

ชดั เจน

มีส่วนร่วมในการตอบ มีส่วนร่วมในการตอบ มีส่วนร่วมในการตอบ

คาถามอย่างสม่าเสมอ คาถามบอ่ ยครงั้ คาถามน้อยครงั้

4.การนาเสนองานอยา่ ง การนาเสนอไม่ติดขัด การนาเสนอติดขัดนิด การนาเสนอติดขัดและ

คล่องแคลว่ และตรง และเนื้อหาตรงประเด็น หน่อยและเน้ือหาผิด เนอื้ หาผิดประเด็นในการ

ประเดน็ ทกุ ขอ้ ประเด็นเลก็ นอ้ ย นาเสนอ

ลงชื่อ……………………………………………….ผสู้ อน
(นาย อนิรุจ พลอนิ ทร์)

วนั ท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

218

แบบประเมินชิน้ งานและการนาเสนองาน
เรอื่ ง ผลงานทัศนศิลปข์ องศลิ ปินไทยและต่างประเทศ

ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 6/……..

ความ ความคดิ การใช้ ความ
สวยงาม สร้างสรรค์ องค์ประกอบ ตั้งใจ รวม

ของ ของชน้ิ งาน ศิลป์และ ในการ คะแนน

ท่ี ชือ่ -สกุล ชิน้ งาน หลักการ ทางาน (12)

ออกแบบใน

ผลงาน

33 33

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23
24

25

219

ความ ความคิด การใช้ ความ
สวยงาม สร้างสรรค์ องค์ประกอบ ตั้งใจ รวม

ของ ของชิ้นงาน ศิลปแ์ ละ ในการ คะแนน

ท่ี ชือ่ -สกุล ชิน้ งาน หลกั การ ทางาน (12)

ออกแบบใน

ผลงาน

33 33

26

27

28

29

30

31

31

33

34

35

36

37

38

39

40

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
นักเรียนทีไ่ ด้ 8.5 คะแนนข้นึ ไป หรือ รอ้ ยละ 70 ถือว่าผ่านเกณฑ์

เกณฑ์การประเมิน
8-12 คะแนน ดีมาก
5-7 คะแนน ดี
1-4 คะแนน พอใช้
ตา่ กว่า 0 คะแนน ปรับปรงุ

220

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑก์ ารวดั ประเมินช้นิ งาน

ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คะแนน

32 1

(ดีมาก) (พอใช)้ (ปรับปรุง)

1.ความสวยงาม ผลงานมีความสวยงาม ผลงานคอ่ นขา้ งมคี วาม ผลงานไม่มีความ

ความละเอียดและ สวยงาม ความละเอียด สวยงาม ความละเอียด

ประณีต และประณตี และประณตี

2.ความคิดสร้างสรรค์ รูปแบบผลงานมคี วาม รูปแบบผลงานมคี วาม ผลงานลยี นแบบ
แปลกใหมไ่ ม่ซ้ากับ แปลงใหม่บางส่วน ธรรมชาติหรือใน

ผลงานทัว่ ไป อินเตอร์เน็ต

3.การใช้องค์ประกอบ ผลงานมีการจดั วาง ผลงานมกี ารจัดวาง ผลงานมกี ารจดั วาง
ศิลป์ในผลงาน ตามองค์ประกอบศิลป์ ตามองคป์ ระกอบศิลป์ ตามองคป์ ระกอบศิลป์
อยา่ งถกู ต้องมกี ารจัด คอ่ นขา้ งทจ่ี ะถกู ตอ้ งมี อยา่ งไม่ถูกตอ้ ง
4.ความตั้งใจในการ สดั ส่วนภาพและมี การจดั สัดส่วนภาพและ
ทางาน ความสมดุล มีความสมดุล

ตั้งใจและมงุ่ ม่ันในการ ค่อนขา้ งต้งั ใจทางาน ไมต่ ้งั ใจในการทางาน
ทางานจนเสรจ็ และสง่ งานภายในวันที่ และงานไมเ่ สร็จส่งงาน

เรยี น สัปดาห์ตอ่ ไป

การประเมนิ ช้ินงาน 3 คะแนน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 คะแนน
ความสวยงาม 3 คะแนน
ความคดิ สร้างสรรค์
การใช้องค์ประกอบศิลป์ในผลงาน 3 คะแนน
ความตั้งใจในการทางาน 12 คะแนน
รวม

ลงชื่อ……………………………………………….ผู้สอน
(นาย อนิรจุ พลอนิ ทร์)

วนั ท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

221

แบบประเมินพฤติกรรม

นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/……

คาชแ้ี จง : ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและการทาผลงาน
แล้วเขียนคะแนนลงในชอ่ งว่าง

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ใหค้ วาม ถามคาถามตลอด

ต้ังใจในการ ร่วมมอื ใน เมอ่ื ครูถามและ

ทางาน การเรียน เหน็ ความสาคญั รวม

ท่ี ชื่อ-สกุล ต่อผลงาน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

1
2
3
4
5

6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23

222

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ใหค้ วาม ถามคาถามตลอด

ตัง้ ใจในการ รว่ มมอื ใน เมื่อครูถามและ

ทางาน การเรยี น เห็นความสาคัญ รวม

ท่ี ช่ือ-สกุล ตอ่ ผลงาน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

24
25
26
27
28
29
30
31
31
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
เกณฑ์คุณภาพดีข้นึ ไป

ประเมนิ ผลงาน
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
11 – 15 หมายถงึ ดีมาก
6– 10 หมายถงึ ดี
1 – 5 หมายถึง พอใช้
ตา่ กว่า 0 หมายถงึ ปรบั ปรุง

223

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑก์ ารวัดประเมินพฤติกรรม

ประเด็นการประเมิน ระดบั คะแนน

531

(ดมี าก) (พอใช้) (ปรบั ปรุง)

1.ความสนใจตั้งใจใน มคี วามกระตอื รือร้นใน มีความกระตือรือรน้ ใน ไมต่ ัง้ ใจทางานและไมม่ ี

การทางาน การทางานและตั้งใจ การทางานแต่ไม่ต้งั ใจ ความกระตอื รือรน้

ทางานอยา่ งมงุ่ มั่น ทางานอยา่ งมงุ่ มัน่

2. ให้ความรว่ มมอื ใน ทางานชว่ ยเพอ่ื นในกลุม่ ทางานช่วยเพือ่ นในกลุ่ม ไม่ใหค้ วามร่วมมอื ในการ
การทางานเปน็ กลุ่ม
และให้การรว่ มมอื ในการ แตไ่ ม่กลา้ ออกมานาเนอ ทางานกบั เพื่อนในกลุ่ม

นาเสนอผลงาน ผลงาน

3. ถามคาถามตลอด ตอบคาถามตลอดและท ตอบคาถามตลอดไม่ทนุ ไม่ให้ความร่วมมือกบั

เมอ่ื ครูถามและเห็น นถุ นอมต่อผลงานของ ถนอมตอ่ ผลงานของ ครูผสู้ อน

ความสาคัญตอ่ ผลงาน กลมุ่ ตัวเอง กลมุ่ ตวั เอง

การประเมินพฤตกิ รรม 5 คะแนน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 5 คะแนน
ความสนใจต้งั ใจในการทางาน 5 คะแนน
ให้ความรว่ มมือในการทางานเปน็ กลุ่ม 15 คะแนน
ถามคาถามตลอดเมือ่ ครถู ามและเห็นความสาคญั ตอ่ ผลงาน
รวม

ลงชือ่ ……………………………………………….ผู้สอน
(นาย อนริ ุจ พลอนิ ทร์)

วันที่……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

224

บนั ทึกหลงั สอน

1.ความสาเร็จในการจัดการเรียน
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.ปญั หา / อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

3.แนวทางการแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ……………………………………………….
(นาย อนริ จุ พลอนิ ทร์)
ผู้สอน

วันท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ขอ้ เสนอแนะของครูพีเ่ ล้ยี ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ……………………………………………….
(นางสาวพรไพลิน สินไชย)
ครูพีเ่ ลี้ยง

วนั ท่ี……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

225

ขอ้ เสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
มีองคป์ ระกอบของแผนครบถ้วน สมบูรณ์ และถกู ตอ้ งตามหลกั วิชาการ
มีกิจกรรมการเรียนรเู้ น้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ใช้สอื่ และแหล่งเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย เหมาะสม
มีการวดั และประเมินผลสอดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละกระบวนการจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้วธิ ีท่ี

หลากหลาย
แผนการจดั การเรยี นรูน้ าไปสู่การปฏิบัติได้ สอดคล้องกับหลกั สตู ร บริบท สภาพของผู้เรียนและ

ชมุ ชน

ลงชื่อ……………………………………………….
(นายประพันธ์ นาชัยเงนิ )

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ
วันที่……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของหวั หน้างานวดั ผลและประเมินผลการศกึ ษา
มีองค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ
มีกจิ กรรมการเรยี นรู้เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั
ใชส้ ่ือและแหลง่ เรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย เหมาะสม
มีการวดั และประเมินผลครอบคลมุ พฤติกรรมพุทธิพสิ ัย จติ พสิ ัย ทกั ษะพสิ ยั

ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางสาวจนั ทิรา แวงวงษ์)

หัวหน้างานวัดผลและประเมินผลการศกึ ษา
วนั ที่……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา
ใช้จัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้
ขอใหน้ เิ ทศ ติดตาม ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้เพอื่ นาไปพฒั นางานต่อไป

ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นายพฤทธพ์ิ ล ชารี)

รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ
วันท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

225

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4

เนอื หางานจติ รกรรมสีนา้

ลงมอื ท้างานจิตรกรรม การสรา้ งสรรคง์ าน ฝกึ งานจิตรกรรมสนี า้
สีนา้ กนั จติ รกรรมสนี ้า เบอื งต้น
Watercolour

226

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 14

กลุม่ สาระการเรียนรู้ ศิลปะ รายวชิ า ทัศนศลิ ป์ ศ33101

ชันมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่1 ปีการศึกษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 เรอ่ื ง การสรา้ งสรรค์งานจิตรกรรมสีน้า Watercolour เวลา 4 ช่ัวโมง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 14 เรอื่ ง เนือหางานจติ รกรรมสนี ้า เวลา 1 ชว่ั โมง

สอนวนั ที่ เดือน พ.ศ ผ้สู อน:นายอนริ ุจ พลอินทร์

1. มาตรฐานการเรียนเรียนรู้
ศ 1.1 สร้างสรรคง์ านทศั นศลิ ปต์ ามจติ นาการและความคิดสรา้ งสรรคว์ เิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์

คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ช่ืนชมและประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจาวนั

2. ตัวชวี ดั
ม.6/3 วิเคราะห์การเลือกใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ และเทคนคิ ของศลิ ปนิ ในการแสดงออกทางทศั นศิลป์
ม.6/4 มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุอุปกรณ์ และกระบวนการที่สูงข้ึน ในการสร้างงาน

ทศั นศิลป์

3. สาระส้าคญั

งานจติ รกรรมสนี ้าเกดิ จากการสร้างสรรค์งานของนักเรียนแต่ละคน ทีม่ ีจุดมงุ่ หมายตา่ งกัน ทาให้
เกิดความหลากหลายในการเลือกใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเทคนคิ การเรียนรู้วิธสี ร้างสรรค์งานจิตรกรรมสี
น้าแต่ละประเภท โดยเริ่มจากการเรียนทฤษฎขี องสีน้า ก็คือ สชี นดิ หน่ึงที่มกี ารใชน้ ้าเป็นตวั ทาละลาย
นั่นเอง โดยจะมีเนื้อสีผสมกับ gum arabic ท่ีเป็นตัวยึดเนื้อสีเข้าด้วยกัน สีน้าจะให้เอฟเฟคที่ใส และ
โดยปกติจะไม่นิยมผสมสขี าว ตา่ งจากสนี ้ามันท่ีสามารถระบายทับหลายๆชนั้ ไดเ้ รื่อย ๆ และมกี ารผสม
สีขาวเพ่ือให้สีอ่อนลง สีน้าจะใช้การเว้นขาวแทนการผสมขาว และสีน้าถ้าระบายจางๆอาจจะ
กลายเปน็ สอี นื่ ได้

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. นักเรียนสามารถบอกความหมายของงานจิตรกรรมสีน้า และบอกอุกรณ์ในการทางาน
จติ รกรรมสนี ้าได้ (K)

2. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายข้นั ตอนและอปุ กรณ์ในการทางานจติ รกรรมสนี ้าได้ (P)
3. นักเรยี นเห็นความสาคัญในการเรยี นในเรื่องจติ รกรรมสนี ้า (A)

227

4. สมรรถนะสา้ คัญของผเู้ รยี น
- ความสามารถในด้านความคิด สามารถคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์และทาให้เกิดการจนิ ตนาการนาไปยัง

การทาผลงานได้
- ความสามารถในการสื่อสาร หมายถึง ใช้ภาษาถา่ ยทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก

และทัศนะของตนเอง เพื่อเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนา
ตนเองและสงั คม

- ความสามารถในการแกป้ ญั หา หมายถึง เข้าใจความสัมพนั ธแ์ ละการเปล่ยี นแปลงของเหตุการณ์
ต่าง ๆ ในสงั คมแสวงหาความรู้ ประยุกต์ความร้มู าใชใ้ นการป้องกัน และแกไ้ ขปัญหาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

- ชื่อสัตย์สุจรติ
-. ใฝ่เรียนรู้
- มงุ่ ม่ันในการทางาน
- มวี ินยั
สาระการเรียนรู้
องคค์ วามรู้ (K)
1. จิตรกรรมสีนา้
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
1. ทักษะการฟัง
2. ทกั ษะการอา่ น
3. ทกั ษะการเขียน
ด้านเจตคติ (A)
1.เห็นความสาคญั และคุณค่าของงานจิตรกรรมสีนา้ Watercolour

6. กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้
ขันน้าเข้าส่บู ทเรียน
1. ครูใชค้ าถามทักทายเพ่ือใหน้ ักเรียนแสดงความคดิ เห็น ดงั นี้
ถา้ นักเรยี นจะสร้างงานจิตรกรรมสีนา้ นักเรยี นจะสรา้ งเปน็ เรือ่ งราวอะไร

2. ให้นักเรยี นรว่ มกันสนทนาแสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คาถาม ดงั น้ี
นักเรียนเคยเห็นงานจิตกรรมสีน้ามีที่ไหนบ้างรอบตัวนักเรียน (นักเรียนตอบตาม

ประสบการณ)์
นักเรียนคิดว่าจิตรกรรมสีน้ากับจิตกรรมสีน้ามันแตกต่างกันอย่างไร (นักเรียนตอบ

ตามความเขา้ ใจ)
3. ครูนาภาพจิตกรรมสีน้า ภาพวิวทิวทัศน์มาให้นักเรียนดู และร่วมกันสนทนาแสดงความ

คิดเห็น ดงั น้ี

228

นักเรียนคดิ ว่าภาพนใ้ี ห้ความรู้สึกอยา่ งไร

ภาพนี้เปน็ งานจิตรกรรมสนี ้าโดยใช้เทคนคิ และอุปกรณอ์ ะไรบ้าง

นักเรียนคิดว่าอุปกรณ์การทางานจิตรกรรมสีน้ากับอุปกรณ์การทางานจิตรกรรมสี

น้ามนั อยา่ งไร
ขนั สอน/ขนั กิจกรรม
1. ครูอธิบายเนอ้ื หาเกีย่ วกับความหมายของงานจิตรกรรมสีน้า พร้อมกับอธิบายคุณลักษณะ

ของงานจิตรกรรมสีนา้ และความแตกต่างกนั กบั งานจิตรกรรมอ่นื ๆ พร้อมกับอธิบายเครื่องมือ วัสดุ
อุปกรณ์ ในการสร้างสรรค์จิตรกรรมสีน้า ประกอบด้วย กระดาษสีน้า ดินสอ สีน้ายี่ห้อต่าง ๆ จานสี
พู่กัน ฟองน้า ภาชนะใส่น้า กระดานรอง โดยอธิบายความหมายและคุณสมบัตรของอุปกรณ์ต่าง ๆ
พรอ้ มกบั ยกภาพประกอบ อีกทงั้ ยังอธิบายการรา่ งภาพก่อนทีล่ งสีในการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมสี
นา้ โดยอธบิ ายผา่ นส่อื PowerPoint

2. เมื่อครูอธิบายเน้อื หาเสร็จครใู ห้นักเรียนค้นหาภาพจิตรกรรมสีนา้ ในอินเตอร์ เช่น ภาพวิว
ทวิ ทศั น์ ภาพคนเหมอื น ภาพจติ นาการ และภาพเรื่องราวอน่ื ๆ

3. เมือ่ นกั เรียนทกุ คนหาภาพไดแ้ ล้วครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นศึกษาผลงานท่นี กั เรียนหามา วา่
ภาพนี้ใช้เทคนิคการวาดแบบไหน และใช้อปุ กรณอ์ ะไรบ้าง

4. เมือ่ นกั เรียนศกึ ษาผลงานแลว้ ทุกคนครูให้แต่ละคนออกมาเล่าใหเ้ พ่อื น ๆ ฟงั วา่ ผลงานชิ้น
นี้ใชเ้ ทคนิคไหนในการทางาน และใช้อปุ กรณ์อะไรบ้าง เพอื่ เป็นการแลกประสบการณก์ ัน

ขนั สรปุ
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนลุกข้ึนสรุปจากการเรียนในคาบนี้ว่าได้อะไรบ้างจากการเรียนใน

ครงั้ น้แี ละสามารถนาไปประยุกต์ใช้กับตวั นักเรยี นได้อย่างไร
2. ครูสรุปเนื้อหาทั้งหมดอีกครั้งวา่ ทาไมถึงเรียนเก่ียวกับงานจิตรกรรมสีน้า เพื่อเป็นการฝกึ

สมาธิและเพ่มิ ความสนุกในการทางาน เพ่อื ให้นักเรยี นไดเ้ ข้าใจในงานจติ รกรรมสนี า้ เพ่มิ มากข้ึน

7. สอื่ การสอน
1. สื่อ PowerPoint
2. ตวั อยา่ งผลงานจติ รกรรมสีน้า
3. หนังสือทศั นศลิ ป์
4. รปู ภาพทน่ี ักเรยี นคน้ หา

229

8. การวัดและประเมนิ ผล
เกณฑก์ ารให้คะแนน

เป้าหมายการเรียนรู้ วิธกี ารวัด เครื่องมอื ทใ่ี ชใ้ นการวดั เกณฑก์ ารวัด
แบบประเมนิ การตอบ 70 %
1. นกั เรยี นสามารถบอก การสงั เกตการณต์ อบ คาถามและการนาเสนอ
งาน 70 %
ความหมายของงานจติ รกรรมสี คาถามและการนาเสนอ
แบบประเมนิ การตอบ 70 %
น้า และบอกอุกรณใ์ นการ งาน คาถามและการนาเสนอ

ทางานจิตรกรรมสนี ้าได้ (K) งาน

2.นักเรียนสามารถอธิบาย การสังเกตการณ์ตอบ แบบประเมนิ พฤติกรรม

ข้ันตอนและอุปกรณใ์ นการ คาถามและการนาเสนอ

ทางานจิตรกรรมสีน้าได้ (P) งาน

3. นักเรียนเหน็ ความสาคัญใน สงั เกตการให้ความ
การเรยี นในเรื่องจติ รกรรมสีน้า รว่ มมือในการทางาน

(A)

230

แบบประเมนิ การตอบคา้ ถามและนา้ เสนองาน

เร่อื ง เนือหางานจิตรกรรมสนี า้

ชนั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/…….

การประเมนิ /คะแนน

ความสนใจ ตอบไดถ้ ูกต้อง การตอบ การนา้ เสนอ

ท่ี ช่ือ-สกุล ตังใจฟัง ตรงถาม ค้าถามอยา่ ง งานอยา่ ง
ค้าถาม ประเด็น สม้่าเสมอ คลอ่ งแคล่ว รวม

และตรง

ประเดน็

1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25

231

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ตอบไดถ้ กู ต้อง การตอบ การน้าเสนอ

ท่ี ช่ือ-สกุล ตงั ใจฟงั ตรงถาม คา้ ถามอย่าง งานอย่าง
ค้าถาม ประเด็น สม่า้ เสมอ คลอ่ งแคล่ว รวม

และตรง

ประเดน็

26 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ

นักเรียนทไ่ี ด้ 8.5 คะแนนขึ้นไป หรือ รอ้ ยละ 70 ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์

ประเมินผลงาน

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
เกณฑก์ ารประเมิน
8-12 คะแนน ดีมาก
5-7 คะแนน ดี
1-4 คะแนน พอใช้
ต่ากวา่ 0 คะแนน ปรับปรุง

232

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑก์ ารวดั ประเมินการตอบคา้ ถาม

ประเด็นการประเมนิ ระดบั คะแนน

1.ความสนใจตังใจฟัง 3 21
ค้าถาม
สนใจฟัง ไม่หลบั ไม่ สนใจฟัง ไมห่ ลบั ไม่ ไม่สนใจฟงั พูดคุยในชนั้
พูดคุยในช้นั เรียน ตอบ พดู คุยในชนั้ เรียน แต่ เรียน ตอบคาถามไมไ่ ด้
คาถามไดท้ ันที ตอบคาถามไม่ไดใ้ นทันที ทนั ที

2.ตอบได้ถูกต้องตรง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง
ถามประเดน็
และตรงประเด็นและ และตรงประเด็นและ บางส่วน
3.การตอบค้าถามอยา่ ง
สม้า่ เสมอ อธิบายคาถามชดั เจน อธิบายคาถามไม่ค่อย

ชดั เจน

มีส่วนร่วมในการตอบ มีส่วนร่วมในการตอบ มีส่วนร่วมในการตอบ

คาถามอย่างสม่าเสมอ คาถามบอ่ ยครงั้ คาถามน้อยคร้งั

4.การน้าเสนองานอย่าง การนาเสนอไม่ติดขัด การนาเสนอติดขัดนิด การนาเสนอติดขัดและ

คลอ่ งแคลว่ และตรง และเน้ือหาตรงประเด็น หน่อยและเนื้อหาผิด เนือ้ หาผดิ ประเด็นในการ

ประเด็น ทกุ ขอ้ ประเดน็ เล็กนอ้ ย นาเสนอ

ลงชอ่ื ……………………………………………….ผ้สู อน
(นาย อนิรุจ พลอินทร์)

วันท่ี……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

233

แบบประเมินพฤตกิ รรม

นกั เรียนชันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6/……

ค้าชีแจง : ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและการทาผลงาน
แล้วเขยี นคะแนนลงในชอ่ งว่าง

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ให้ความ ถามค้าถามตลอด

ตงั ใจในการ ร่วมมือใน เม่อื ครูถามและ

ทา้ งาน การเรยี น เหน็ ความส้าคัญ รวม

ท่ี ช่ือ-สกลุ ตอ่ ผลงาน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

1
2
3
4
5

6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23

234

การประเมนิ /คะแนน

ความสนใจ ให้ความ ถามค้าถามตลอด

ตงั ใจในการ ร่วมมอื ใน เมือ่ ครถู ามและ

ท้างาน การเรียน เห็นความสา้ คญั รวม

ท่ี ชอื่ -สกุล ตอ่ ผลงาน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

24
25
26
27
28
29
30
31
31
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
เกณฑค์ ุณภาพดีขึน้ ไป

ประเมนิ ผลงาน
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
11 – 15 หมายถงึ ดมี าก
6– 10 หมายถงึ ดี
1 – 5 หมายถึง พอใช้
ต่ากว่า 0 หมายถึง ปรับปรุง

235

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑก์ ารวัดประเมินพฤติกรรม

ประเด็นการประเมนิ ระดบั คะแนน

531

(ดมี าก) (พอใช้) (ปรบั ปรุง)

1.ความสนใจตังใจใน มคี วามกระตอื รือรน้ ใน มีความกระตอื รอื ร้นใน ไมต่ ัง้ ใจทางานและไมม่ ี

การท้างาน การทางานและตงั้ ใจ การทางานแต่ไม่ตัง้ ใจ ความกระตือรือรน้

ทางานอย่างมุ่งมั่น ทางานอย่างมงุ่ ม่นั

2. ให้ความรว่ มมือใน ทางานช่วยเพื่อนในกลุ่ม ทางานช่วยเพอ่ื นในกลุ่ม ไมใ่ ห้ความรว่ มมอื ในการ
การทา้ งานเปน็ กลุ่ม
และให้การร่วมมือในการ แตไ่ มก่ ล้าออกมานาเนอ ทางานกบั เพอ่ื นในกลุ่ม

นาเสนอผลงาน ผลงาน

3. ถามคา้ ถามตลอด ตอบคาถามตลอดและท ตอบคาถามตลอดไม่ทนุ ไม่ให้ความรว่ มมือกบั

เมือ่ ครถู ามและเหน็ นถุ นอมต่อผลงานของ ถนอมต่อผลงานของ ครผู ู้สอน

ความส้าคัญตอ่ ผลงาน กลุม่ ตัวเอง กล่มุ ตวั เอง

การประเมนิ พฤติกรรม 5 คะแนน
เกณฑ์การให้คะแนน 5 คะแนน
ความสนใจตงั้ ใจในการทางาน 5 คะแนน
ใหค้ วามร่วมมือในการทางานเป็นกลุ่ม 15 คะแนน
ถามคาถามตลอดเมอื่ ครถู ามและเหน็ ความสาคัญต่อผลงาน
รวม

ลงช่อื ……………………………………………….ผู้สอน
(นาย อนิรจุ พลอนิ ทร์)

วันท่ี……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

236

บนั ทกึ หลังสอน

1.ความส้าเรจ็ ในการจัดการเรียน
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.ปัญหา / อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

3.แนวทางการแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ……………………………………………….
(นาย อนริ จุ พลอินทร)์
ผู้สอน

วนั ที่……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ขอ้ เสนอแนะของครูพี่เลียง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางสาวพรไพลนิ สนิ ไชย)
ครูพ่ีเลย้ี ง

วันท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

237

ขอ้ เสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้
มีองคป์ ระกอบของแผนครบถ้วน สมบูรณ์ และถูกตอ้ งตามหลกั วชิ าการ
มีกิจกรรมการเรียนรเู้ น้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ใช้ส่อื และแหล่งเรียนรทู้ หี่ ลากหลาย เหมาะสม
มีการวดั และประเมินผลสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคแ์ ละกระบวนการจดั การเรียนรโู้ ดยใชว้ ิธที ่ี

หลากหลาย
แผนการจดั การเรยี นรูน้ าไปสู่การปฏิบัตไิ ด้ สอดคลอ้ งกับหลักสูตร บรบิ ท สภาพของผูเ้ รียนและ

ชมุ ชน

ลงชอื่ ……………………………………………….
(นายประพนั ธ์ นาชัยเงิน)

หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ิลปะ
วนั ท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของหวั หน้างานวดั ผลและประเมินผลการศกึ ษา
มีองค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบูรณ์ และถกู ต้องตามหลกั วชิ าการ
มีกจิ กรรมการเรยี นรู้เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญ
ใชส้ ่ือและแหลง่ เรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย เหมาะสม
มีการวดั และประเมินผลครอบคลมุ พฤติกรรมพทุ ธิพิสัย จติ พสิ ยั ทกั ษะพสิ ยั

ลงชือ่ ……………………………………………….
(นางสาวจนั ทิรา แวงวงษ)์

หวั หนา้ งานวดั ผลและประเมินผลการศึกษา
วนั ท่ี……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา
ใช้จัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้
ขอใหน้ เิ ทศ ติดตาม ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรเู้ พือ่ นาไปพฒั นางานต่อไป

ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นายพฤทธ์ิพล ชารี)

รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ
วันที่……….เดือน……………………..พ.ศ……………

238

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 15

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ รายวิชา ทัศนศิลป์ ศ33101

ชนั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่1 ปกี ารศึกษา 2565

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เรือ่ ง การสร้างสรรค์งานจิตรกรรมสีน้า Watercolour เวลา 4 ชัว่ โมง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 15 เรอ่ื ง ฝกึ งานจิตรกรรมสนี ้าเบืองต้น เวลา 1 ชั่วโมง

สอนวันท่ี เดือน พ.ศ ผู้สอน:นายอนิรจุ พลอนิ ทร์

1. มาตรฐานการเรียนเรียนรู้
ศ 1.1 สรา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ป์ตามจิตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์

คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชมและประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจาวัน

2. ตัวชีวดั
ม.6/3 วิเคราะหก์ ารเลือกใชว้ สั ดุอปุ กรณ์ และเทคนิคของศลิ ปินในการแสดงออกทางทัศนศิลป์
ม.6/4 มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุอุปกรณ์ และกระบวนการท่ีสูงขึ้น ในการสร้างงาน

ทศั นศลิ ป์

3. สาระส้าคัญ

การฝึกงานจิตรกรรมสีน้าเบ้ืองต้น ถือเป็นสิ่งสาคัญในการเร่ิมต้นของการทางานทัศนศิลป์เพ่ือ
เป็นการสร้างพ้ืนฐานหรือการสร้างแรงผลักดันในการทางาน โดยฝึกนักเรียนในการลงสีนา้ ในเทคนิค
ต่าง ๆ เช่น การลงสีแบบเปียกบนเปียก แบบเปียกบนแห้ง แบบแห้งบนเปียก แบบแห้งบนแห้ง เพื่อ
เป็นการรู้เทคนคิ ในการทางานเพ่อื จะนาไปตอ่ ยอดในการสร้างสรรคเ์ ป็นรูปภาพต่าง ๆ และพืน้ ฐานใน
การใช้อุปกรณ์ในงานจิตรกรรมสีน้า เม่ือนักเรียนได้เรียนรู้กับอุปกรณ์ในการทางานแล้ว นักเรียนตอ้ ง
ได้ฝึกจับในอุปกรณ์โดยลงมือด้วยตัวของนักเรียนเอง เพ่ือการทางานในคร้ังต่อไปจะได้เป็นไปอย่าง
ราบร่นื

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของเทคนคิ ตา่ ง ๆ ในการทางานจิตรกรรมสีน้าได้ (K)
2. นกั เรยี นสามารถฝกึ ทาจิตรกรรมสีน้าเบอ้ื งต้นและรู้จกั ใช้อุปกรณ์ได้ (P)
3. นกั เรียนเห็นความสาคัญในการทางานฝึกจติ รกรรมสนี า้ เบอ้ื งต้น(A)

239

4. สมรรถนะส้าคัญของผู้เรยี น
- ความสามารถในด้านความคิด สามารถคิดอย่างสร้างสรรค์และทาใหเ้ กิดการจนิ ตนาการนาไปยัง

การทาผลงานได้
- ความสามารถในการส่อื สาร หมายถงึ ใช้ภาษาถา่ ยทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก

และทัศนะของตนเอง เพ่ือเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา
ตนเองและสังคม

- ความสามารถในการแก้ปญั หา หมายถึง เข้าใจความสัมพันธแ์ ละการเปลีย่ นแปลงของเหตุการณ์
ต่าง ๆ ในสงั คมแสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรมู้ าใชใ้ นการป้องกนั และแก้ไขปัญหาได้อย่างถกู ต้อง

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

- ชอ่ื สัตย์สจุ ริต
-. ใฝ่เรียนรู้
- มงุ่ ม่ันในการทางาน
- มวั นิ ัย
สาระการเรียนรู้
องคค์ วามรู้ (K)
1. การฝกึ จติ รกรรมสนี า้ เบอื้ งตน้
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. ทักษะการฟัง
2. ทักษะการอา่ น
3. ทักษะการเขยี น
ด้านเจตคติ (A)
1.เห็นความสาคัญและคุณคา่ ของการฝกึ งานจิตรกรรมสนี า้ เบื้องต้น

6. กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้
ขนั น้าเขา้ สู่บทเรียน
1. ครูพดู คุยกบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั เรอื่ งพ้นื ฐานในวาดภาพสีน้าของนักเรยี น
2. ครูสุ่มถาม-ตอบกับนักเรียนเกี่ยวกับการพ้ืนฐานของนักเรียน เช่น นักเรียนคนไหนมีใคร

เคยทาจิตรกรรมสีน้าหรือไม่ หรือว่าเป็นการทางานจิตรกรรมสีน้าด้านอ่ืน ๆ เพ่ือเป็นการสารวจ
พน้ื ฐานของนักเรียน

ขนั สอน/ขนั กจิ กรรม
1. ครูอธิบายเนื้อหาเก่ียวกับเทคนิคการทางานจิตรกรรมสีน้าเบ้ืองต้นคือ เทคนิคเปียกบน

เปียก เปียกบนแห้ง แห้งบนเปียก แห้งบนแห้ง พร้อมกับเทคนิคอ่ืน ๆ เช่นการใช้สเปย์น้าฉีด การใช้
เกลอื โรย เพื่อใหน้ ักเรียนรเู้ ทคนิคตา่ ง ๆ เพิ่มมากขึน้ โดยอธบิ ายผา่ นสื่อ PowerPoint

2. เม่ือครูอธิบายเนื้อหาเสร็จครูยกตัวอย่างผลงานจิตรกรรมสีน้าท่ีใช้เทคนิคต่าง ๆ ท่ีครู
อธบิ ายไป มาใชใ้ นผลงานจะมีลักษณะเป็นแบบใด เพ่ือใหน้ กั เรยี นเหน็ ภาพ

240

3. ครูสาธิตการฝึกงานสีน้า เทคนิคเปียกบนเปียก เปียกบนแห้ง แห้งบนเปียก แห้งบนแห้ง
โดยสาธติ ไปทีละขัน้ ตอน อกี ทง้ั สาธิตการใช้เทคนิคทีใ่ ช้เกลอื โรย และการใช่สเปยน์ ้าฉดี

4. เม่ือครูสาธิตการทาเทคนิคต่าง ๆ ให้นักเรียนได้ดูแล้ว ครูมอบหมายให้นักเรียนเตรียม
อุปกรณ์ในการทางานฝึกสีน้า แล้วครูให้นักเรียนทาการฝึกเทคนิคต่าง ๆ ตามท่ีครูได้สาธิตไป โดยให้
นกั เรยี นฝกึ ใส่กระดาษ 100 ปอนด์ ไปเรอ่ื ย ๆ อีกทั้งการฝึกไลน่ าหนักของสีโทนร้อนและสโี ทนเย็น อกี
ทง้ั การฝึกหัดวาดตน้ ไม้ ผลไม้ หรือภาพตา่ ง ๆ ท่ีเปน็ พ้นื ฐานง่าย ๆ เพอื่ เป็นการฝกึ หัดทางานเพอื่ นาไป
ต่อยอดในการทางาน

5. เมือ่ นกั เรียนทางานฝกึ เสร็จแล้วทุกคนครูให้นักเรียนมอบหมายให้นักเรยี นรวบรวมงานฝึก
สนี า้ เบอื้ งตน้ ทงั้ หมดนามาสง่ ทา้ ยคาบ

ขนั สรปุ
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนลุกข้ึนสรุปจากการเรียนในคาบน้ีว่าได้อะไรบ้างจากการเรยี นใน

คร้งั นี้และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ ับตัวนกั เรยี นได้อย่างไร
2. ครูสรุปอีกครั้งให้นักเรียนฟังอีกรอบ คือ การเรียนในคร้ังนี้เป็นการฝึกสีน้าเบ้ืองต้น

เพ่ือท่ีจะให้นักเรียนได้พ้ืนฐานในการนาไปต่อยอดในการทางานในคาบต่อไปอีกทั้งนักเรียนจะได้รู้
เทคนคิ ในการทางานทใ่ี หม่ ๆ

7. สอื่ การสอน
1. สื่อ PowerPoint
2. ตวั อยา่ งผลงานทีใ่ ชเ้ ทคนิคตา่ ง ๆ
3. อุปกรณใ์ นการทางาน เช่น กระดาษรอ้ ยปอนด์ ดินสอ สนี ้า พกู่ ัน
4. ขาตั้งกระดานวาดภาพ

8. การวดั และประเมินผล
เกณฑ์การให้คะแนน

เปา้ หมายการเรยี นรู้ วธิ ีการวดั เครอื่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการวดั เกณฑ์การวัด
70 %
1. นกั เรยี นสามารถบอก การสังเกตการณต์ อบ แบบประเมนิ การตอบ
70 %
ความหมายของเทคนิคตา่ ง ๆ คาถาม และการ คาถาม และการแสดง

ในการทางานจิตรกรรมสนี า้ ได้ แลกเปลีย่ นความคดิ เห็น ความคดิ เห็น

(K)

2.นกั เรียนสามารถฝกึ ทา

จิตรกรรมสนี ้าเบ้อื งต้นและร้จู ัก ตรวจชิ้นงาน แบบประเมินชิน้ งาน

ใชอ้ ปุ กรณไ์ ด้ (P)

3. นักเรยี นเห็นความสาคัญใน สังเกตการใหค้ วาม แบบประเมินพฤติกรรม 70 %
การทางานฝกึ จิตรกรรมสนี า้ ร่วมมอื ในการทางาน
เบือ้ งตน้ (A)

241

แบบประเมินการตอบคา้ ถามและการแสดงความคิดเห็น

เรื่อง ฝึกงานจิตรกรรมสีน้าเบืองตน้

ชนั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/…….

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ตอบได้ การตอบ ตอบค้าถาม

ท่ี ช่อื -สกลุ ตังใจฟงั ถกู ตอ้ งตรง ค้าถามอย่าง อยา่ ง
คา้ ถาม ถาม สม้่าเสมอ คลอ่ งแคลว่ รวม

ประเด็น และตรง

ประเดน็

1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24

242

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ตอบได้ การตอบ ตอบคา้ ถาม

ท่ี ชือ่ -สกุล ตงั ใจฟัง ถกู ตอ้ งตรง คา้ ถามอยา่ ง อยา่ ง
ค้าถาม ถาม สม่้าเสมอ คล่องแคล่ว รวม

ประเด็น และตรง

ประเด็น

25 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

นักเรียนทไ่ี ด้ 8.5 คะแนนข้นึ ไป หรอื ร้อยละ 70 ถือว่าผา่ นเกณฑ์

ประเมนิ ผลงาน

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
เกณฑก์ ารประเมิน
8-12 คะแนน ดีมาก
5-7 คะแนน ดี
1-4 คะแนน พอใช้
ต่ากว่า 0 คะแนน ปรับปรุง


Click to View FlipBook Version