The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนหนองบัวพิทยาคาร-1.65

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by art, 2022-09-06 01:56:10

แผนการสอนหนองบัวพิทยาคาร-1.65

แผนการสอนหนองบัวพิทยาคาร-1.65

144

แบบประเมินพฤติกรรม

นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/……

คาชแ้ี จง : ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและการทาผลงาน
แล้วเขียนคะแนนลงในชอ่ งว่าง

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ใหค้ วาม ถามคาถามตลอด

ต้ังใจในการ ร่วมมอื ใน เมอ่ื ครูถามและ

ทางาน การเรียน เหน็ ความสาคญั รวม

ท่ี ชื่อ-สกุล ต่อผลงาน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

1
2
3
4
5

6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23

145

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ใหค้ วาม ถามคาถามตลอด

ตัง้ ใจในการ รว่ มมอื ใน เมื่อครูถามและ

ทางาน การเรยี น เห็นความสาคัญ รวม

ท่ี ช่ือ-สกุล ตอ่ ผลงาน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

24
25
26
27
28
29
30
31
31
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
เกณฑ์คุณภาพดีข้นึ ไป

ประเมนิ ผลงาน
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
11 – 15 หมายถงึ ดีมาก
6– 10 หมายถงึ ดี
1 – 5 หมายถึง พอใช้
ตา่ กว่า 0 หมายถงึ ปรบั ปรุง

146

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑก์ ารวัดประเมินพฤติกรรม

ประเด็นการประเมิน ระดบั คะแนน

531

(ดมี าก) (พอใช้) (ปรบั ปรุง)

1.ความสนใจตั้งใจใน มคี วามกระตอื รือร้นใน มีความกระตือรือรน้ ใน ไมต่ ัง้ ใจทางานและไมม่ ี

การทางาน การทางานและตั้งใจ การทางานแต่ไม่ต้งั ใจ ความกระตอื รือรน้

ทางานอยา่ งมงุ่ มั่น ทางานอยา่ งมงุ่ มัน่

2. ให้ความรว่ มมอื ใน ทางานชว่ ยเพอ่ื นในกลุม่ ทางานช่วยเพือ่ นในกลุ่ม ไม่ใหค้ วามร่วมมือในการ
การทางานเปน็ กลุ่ม
และให้การรว่ มมอื ในการ แตไ่ ม่กลา้ ออกมานาเนอ ทางานกบั เพื่อนในกลุ่ม

นาเสนอผลงาน ผลงาน

3. ถามคาถามตลอด ตอบคาถามตลอดและท ตอบคาถามตลอดไม่ทนุ ไม่ให้ความร่วมมือกบั

เมอ่ื ครูถามและเห็น นถุ นอมต่อผลงานของ ถนอมตอ่ ผลงานของ ครูผสู้ อน

ความสาคัญตอ่ ผลงาน กลมุ่ ตัวเอง กลมุ่ ตวั เอง

การประเมินพฤตกิ รรม 5 คะแนน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 5 คะแนน
ความสนใจต้งั ใจในการทางาน 5 คะแนน
ให้ความรว่ มมือในการทางานเปน็ กลุ่ม 15 คะแนน
ถามคาถามตลอดเมือ่ ครถู ามและเห็นความสาคญั ตอ่ ผลงาน
รวม

ลงชือ่ ……………………………………………….ผู้สอน
(นาย อนริ ุจ พลอนิ ทร์)

วันที่……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

147

บนั ทกึ หลังสอน

1.ความสาเร็จในการจดั การเรยี น
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.ปัญหา / อปุ สรรคในการจัดการเรยี นรู้
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

3.แนวทางการแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื ……………………………………………….
(นาย อนริ ุจ พลอินทร)์
ผู้สอน

วันที่……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ขอ้ เสนอแนะของครูพ่ีเลยี้ ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ……………………………………………….
(นางสาวพรไพลิน สินไชย)
ครูพเ่ี ล้ียง

วนั ที่……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

148

ขอ้ เสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้
มีองคป์ ระกอบของแผนครบถ้วน สมบูรณ์ และถกู ต้องตามหลกั วิชาการ
มีกิจกรรมการเรยี นรู้เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั ใชส้ ือ่ และแหล่งเรียนรูท้ หี่ ลากหลาย เหมาะสม
มีการวัดและประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์และกระบวนการจดั การเรยี นรู้โดยใชว้ ิธีที่

หลากหลาย
แผนการจดั การเรียนรู้นาไปสกู่ ารปฏบิ ัติได้ สอดคล้องกับหลกั สูตร บรบิ ท สภาพของผูเ้ รียนและ

ชมุ ชน

ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นายประพันธ์ นาชยั เงนิ )

หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ
วันท่ี……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของหวั หน้างานวัดผลและประเมนิ ผลการศึกษา
มีองค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ
มีกจิ กรรมการเรยี นรู้เน้นผู้เรียนเป็นสาคญั
ใชส้ ื่อและแหลง่ เรียนรู้ทีห่ ลากหลาย เหมาะสม
มีการวัดและประเมนิ ผลครอบคลุมพฤติกรรมพุทธพิ สิ ัย จติ พิสยั ทกั ษะพิสัย

ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางสาวจนั ทริ า แวงวงษ)์

หัวหนา้ งานวัดผลและประเมนิ ผลการศึกษา
วนั ท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา
ใช้จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนได้
ขอใหน้ เิ ทศ ติดตาม ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นร้เู พอื่ นาไปพัฒนางานต่อไป

ลงช่ือ……………………………………………….
(นายพฤทธิพ์ ล ชารี)

รองผูอ้ านวยการกลุ่มบริหารวิชาการ
วันที่……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

149

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 9

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ รายวชิ า ทัศนศลิ ป์ ศ33101

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ือง ประเภทของศิลปะและศัพทท์ างทศั นศิลป์ เวลา 4 ชัว่ โมง

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 9 เรอื่ ง บรรยายผลงานทัศนศลิ ปโ์ ดยใช้ศัพท์ทางทศั นศลิ ป์ เวลา 1 ชัว่ โมง

สอนวนั ที่ เดือน พ.ศ ผู้สอน:นายอนริ ุจ พลอนิ ทร์

1. มาตรฐานการเรียนเรียนรู้
ศ 1.1 สร้างสรรคง์ านทศั นศิลปต์ ามจติ นาการและความคดิ สร้างสรรคว์ เิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์

คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชมและประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวนั

2. ตวั ชี้วัด
ม.6/2 บรรยายจุดประสงคแ์ ละเนือ้ หาของงานทัศนศลิ ป์ โดยใช้ศพั ทท์ างทัศนศิลป์
ม.6/8 ประเมินและวิจารณง์ านทัศนศิลป์ โดยใช้ทฤษฎกี ารวจิ ารณศ์ ลิ ปะ

3. สาระสาคญั

คุณค่าของงานทัศนศิลป์ท่ีแท้จริง จะต้องประกอบไปด้วยคุณค่าทางความงามของรูปทรง และ
คุณค่าทางเนื้อหาสาระ การบรรยายผลงานทัศนศิลป์จึงควรให้ความสาคัญของความสัมพันธ์ทั้งด้าน
คุณค่าทางความงาม คุณค่าทางสาระ และคุณค่าทางอารมณ์ ความรู้สึก หากมีการใช้ศัพท์ทาง
ทัศนศิลป์เข้ามาประกอบการบรรยาย ก็จะทาให้การบรรยายน่าสนใจ และผู้ที่รับฟังก็จะได้รบั ความรู้
เพม่ิ เตมิ มากขนึ้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. นักเรียนสามารถเขยี นบรรยายงานทัศนศิลป์โดยใช้ศัพทท์ างทศั นศลิ ป์ได้ (K)
2. นักเรียนสามารถทาใบงานการเขยี นบรรยายงานทัศนศลิ ป์ได้ (P)
3. นักเรียนเห็นความสาคัญในการเรียนและการทางานเก่ียวกับการบรรยายงานทัศนศิลป์โดยใช้
ศพั ทท์ างทัศนศลิ ป์ (A)

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
- ความสามารถในดา้ นความคิด สามารถคิดอย่างสร้างสรรค์และทาใหเ้ กดิ การจินตนาการนาไปยัง

การทาผลงานได้

150

- ความสามารถในการสื่อสาร หมายถงึ ใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก
และทัศนะของตนเอง เพื่อเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนา
ตนเองและสังคม

- ความสามารถในการแก้ปญั หา หมายถึง เขา้ ใจความสมั พันธ์และการเปลยี่ นแปลงของเหตุการณ์
ตา่ ง ๆ ในสงั คมแสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามร้มู าใชใ้ นการป้องกัน และแก้ไขปัญหาได้อยา่ งถูกต้อง
5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

- ชือ่ สตั ย์สุจรติ
-. ใฝเ่ รยี นรู้
- มุ่งม่นั ในการทางาน
- มีวินัย
สาระการเรียนรู้
องคค์ วามรู้ (K)
1. การเขียนบรรยายงานทัศนศิลป์
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. ทักษะการฟัง
2. ทักษะการอา่ น
3. ทักษะการเขยี น
ดา้ นเจตคติ (A)
1.เหน็ ความสาคัญในการเรยี นการเขยี นบรรยายงานทัศนศลิ ป์

6. กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้
ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครูพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับเร่ืองการเขียนบรรยายต่าง ๆ ในงานวิชาอื่น ๆ ว่านักเรียน

เคยเขยี นบรรยายหรือไม่
2. ครเู กรินให้นกั เรียนรวู้ ่าคาบน้เี ราจะเรยี นเกี่ยวกับเขียนบรรยายงานทศั นศิลปห์ รือการเขียน

วจิ ารณง์ านทัศนศลิ ปแ์ ตเ่ ราจะนาศพั ท์ทางทัศนศิลป์เขา้ มาเขยี นบรรยายด้วย
3. ครนู าภาพวาด 1 ภาพ มาแสดงใหน้ ักเรยี นดหู น้าชน้ั เรยี น จากนัน้ ใหน้ กั เรียนสนทนาแสดง

ความคิดเหน็ ดงั น้ี

นักเรียนว่าภาพนี้สวยหรือไม่ ใครว่าสวยให้ยกมือขึ้น (นักเรียนตอบตาม

ความรูส้ กึ )

คนทวี่ ่าภาพนีไ้ ม่สวย เพราะอะไร (นกั เรยี นตอบตามความรู้สกึ )

คนทว่ี า่ ภาพนสี้ วย เพราะอะไร (นักเรยี นตอบตามความรู้สึก)

4. ครรู ่วมสนทนากบั นักเรยี นและอธบิ ายเพิม่ เติมให้ฟงั ว่า การประเมนิ ผลงานทัศนศลิ ป์
ผูป้ ระเมินแตล่ ะคนยอ่ มมีความชอบ ทศั นคติ รสนยิ ม ความคิดเห็นที่ไม่เหมอื นกนั ทาใหก้ ารประเมินผล
งานอาจไม่ยุติธรรมสาหรับผู้สร้างผลงาน ดังนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวผู้ประเมินและเกิดความ

151

ยุติธรรมสาหรับเจ้าของผลงาน จึงต้องมีการกาหนดหลักเกณฑ์ในการประเมิน โดยคานึงถึง
วัตถปุ ระสงคใ์ นการสร้างผลงานน้ันเป็นหลกั

ขัน้ สอน/ข้ันกจิ กรรม
1. ครูถามนักเรยี นเก่ยี วกับศัพทท์ างทัศนศิลป์ วา่ นกั เรียนยงั จาได้หรอื ไม่ พร้อมอธิบายเนื้อหา

เก่ียวกับการเขียนบรรยายหรือการเขียนวิจารณ์งานทัศนศิลป์หมายถึงอะไร และมีการเขียนลักษณะ
แบบไหน โดยการนาศัพท์ทางทศั นศิลปม์ าใส่แบบไหน โดยครอู ธบิ ายและยกตวั อยา่ งให้นักเรยี นเข้าใจ
โดยอธบิ ายผ่านส่ือ PowerPoint

2. เม่ือครูอธิบายเนื้อหาเสร็จครูยกตัวอย่างผลงานของศิลปินมาให้นักเรียนดู แล้วบอก
รายละเอียดของภาพ เช่น ช่ือผลงาน ขนาด เทคนิค และช่ือศิลปิน พร้อมกับยกตัวอย่างการบรรยาย
ภาพงานทัศนศลิ ป์โดยใช้ศพั ท์ทางทัศนศลิ ป์มาบรรยาย

3. จากนัน้ ครแู จกกระดาษ A4 ใหก้ ับนกั เรยี นทุกคนแลว้ ให้นักเรียนนาภาพผลงานของศิลปิน
หรือผลงานอื่น ๆ ท่ีเตรียมมา ให้นามาตัดและเขียนลายละเอียดผลงาน พร้อมกับเขียนบรรยายงาน
ทศั นศลิ ปโ์ ดยใหน้ าศัพท์ทางทัศนศิลป์มาบรรยาย พรอ้ มกบั ตกแต่งใบงานใหเ้ กดิ ความสวยงามเพ่ิมเติม
ตามจิตนาการของนักเรยี น โดยใหเ้ วลาทางาน 10 นาที

4. เมือ่ นกั เรียนทางานเสร็จทุกคนครสู ่มุ ตวั แทนนกั เรยี นออกมานาเสนอการเขียนบรรยายงาน
ทัศนศลิ ป์ให้กบั เพอ่ื น ๆ ฟัง เพ่ือเปน็ ตวั อยา่ ง

ขนั้ สรปุ
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนลุกข้ึนสรุปจากการเรียนในคาบนี้ว่าได้อะไรบ้างจากการเรียนใน

ครง้ั นี้และสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้กบั ตวั นกั เรียนไดอ้ ย่างไร
2. ครูสรุปเนอ้ื หาทงั้ หมดอีกครง้ั ว่าทาไมถงึ เรยี นเกี่ยวกับการเขียนบรรยายงานทัศนศิลป์โดย

ใช้ศัพท์ทางทัศนศิลป์เข้ามาบรรยาย คือ การฝึกให้เรารู้จักบรรยายหรือวิจารณ์งานทัศนศิลป์ให้มี
หลกั การและรูจ้ ักนาศพั ทท์ างทัศนศลิ ป์มาใช้

7. ส่ือการสอน
1. สือ่ PowerPoint
2. ตัวอยา่ งผลงาน ของงานทัศนศลิ ปข์ องศลิ ปนิ และผลงานทศั นศิลป์อนื่ ๆ
3. ใบงาน เรื่อง บรรยายผลงานทัศนศลิ ปโ์ ดยใช้ศพั ท์ทางทัศนศลิ ป์

152

8. การวัดและประเมนิ ผล
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

เปา้ หมายการเรียนรู้ วิธีการวดั เคร่ืองมอื ที่ใชใ้ นการวดั เกณฑก์ ารวัด
70 %
1. นกั เรียนสามารถเขยี น การสงั เกตการณต์ อบ แบบประเมินการตอบ
บรรยายงานทัศนศลิ ป์โดยใช้ คาถามและการนาเสนอ คาถามและการนาเสนอ
ศัพท์ทางทัศนศิลป์ได้ (K) งาน งาน

2.นักเรียนสามารถทาใบงาน ตรวจช้นิ งาน แบบประเมินชน้ิ งาน 70 %
การเขยี นบรรยายงาน
ทศั นศลิ ป์ได้ (P)

3. นกั เรียนเห็นความสาคัญใน สังเกตการให้ความ แบบประเมินพฤติกรรม 70 %
รว่ มมือในการทางาน
การเรยี นและการทางาน
เก่ียวกบั การบรรยายงาน
ทศั นศลิ ป์โดยใชศ้ พั ท์ทาง
ทัศนศลิ ป์ (A)

153

154

แบบประเมนิ การตอบคาถามและนาเสนองาน

เรอื่ ง บรรยายผลงานทัศนศลิ ป์โดยใช้ศัพท์ทางทัศนศิลป์

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6/…….

การประเมนิ /คะแนน

ความสนใจ ตอบไดถ้ กู ตอ้ ง การตอบ การนาเสนอ

ท่ี ช่ือ-สกุล ต้ังใจฟงั ตรงถาม คาถามอยา่ ง งานอย่าง
คาถาม ประเด็น สม่าเสมอ คลอ่ งแคล่ว รวม

และตรง

ประเดน็

1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25

155

การประเมนิ /คะแนน

ความสนใจ ตอบได้ถกู ตอ้ ง การตอบ การนาเสนอ

ท่ี ชื่อ-สกุล ตัง้ ใจฟงั ตรงถาม คาถามอย่าง งานอยา่ ง
คาถาม ประเด็น สมา่ เสมอ คลอ่ งแคลว่ รวม

และตรง

ประเด็น

26 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

นกั เรยี นทีไ่ ด้ 8.5 คะแนนขน้ึ ไป หรอื รอ้ ยละ 70 ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ ผลงาน

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
เกณฑ์การประเมนิ
8-12 คะแนน ดมี าก
5-7 คะแนน ดี
1-4 คะแนน พอใช้
ต่ากว่า 0 คะแนน ปรับปรงุ

156

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑ์การวดั ประเมนิ การตอบคาถาม

ประเด็นการประเมิน ระดบั คะแนน

321

1.ความสนใจตัง้ ใจฟัง สนใจฟัง ไม่หลบั ไม่ สนใจฟงั ไม่หลบั ไม่ ไม่สนใจฟัง พดู คุยในชั้น

คาถาม พูดคยุ ในช้ันเรยี น ตอบ พดู คยุ ในช้นั เรียน แต่ เรียน ตอบคาถามไมไ่ ด้

คาถามได้ทันที ตอบคาถามไมไ่ ด้ในทนั ที ทนั ที

2.ตอบไดถ้ กู ต้องตรง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง
ถามประเด็น
และตรงประเด็นและ และตรงประเด็นและ บางสว่ น
3.การตอบคาถามอย่าง
สม่าเสมอ อธบิ ายคาถามชดั เจน อธิบายคาถามไม่ค่อย

ชดั เจน

มีส่วนร่วมในการตอบ มีส่วนร่วมในการตอบ มีส่วนร่วมในการตอบ

คาถามอย่างสมา่ เสมอ คาถามบอ่ ยครงั้ คาถามนอ้ ยคร้ัง

4.การนาเสนองานอย่าง การนาเสนอไม่ติดขัด การนาเสนอติดขัดนิด การนาเสนอติดขัดและ

คล่องแคล่วและตรง และเน้ือหาตรงประเด็น หน่อยและเนื้อหาผิด เน้ือหาผิดประเด็นในการ

ประเดน็ ทกุ ข้อ ประเด็นเลก็ น้อย นาเสนอ

ลงช่อื ……………………………………………….ผสู้ อน
(นาย อนริ จุ พลอินทร์)

วนั ที่……….เดือน……………………..พ.ศ……………

157

แบบประเมนิ ชนิ้ งาน
เรือ่ ง บรรยายผลงานทศั นศลิ ปโ์ ดยใช้ศัพทท์ างทศั นศิลป์

ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/……..

ความ ความคดิ เขียน ตัวหนังสอื

สวยงาม สร้างสรรค์ บรรยายได้ อ่านได้ รวม

ของใบ ของใบงาน ตรงประเดน็ ชดั เจน คะแนน

ท่ี ช่ือ-สกลุ งานงาน (12)

33 3 3

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

24

25

158

ความ ความคดิ เขียน ตัวหนงั สือ

สวยงาม สร้างสรรค์ บรรยายได้ อา่ นได้ รวม

ของใบ ของใบงาน ตรงประเดน็ ชัดเจน คะแนน

ท่ี ช่อื -สกุล งาน (12)

33 3 3

26

27

28

29

30

31

31

33

34

35

36

37

38

39

40

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
นักเรียนที่ได้ 8.5 คะแนนข้นึ ไป หรือ รอ้ ยละ 70 ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

เกณฑก์ ารประเมิน
8-12 คะแนน ดมี าก
5-7 คะแนน ดี
1-4 คะแนน พอใช้
ตา่ กวา่ 0 คะแนน ปรบั ปรงุ

159

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑก์ ารวัดประเมินช้ินงาน

ประเดน็ การประเมนิ ระดับคะแนน

32 1

(ดีมาก) (พอใช)้ (ปรับปรงุ )

1.ความสวยงามของใบ ใบงานมคี วามสวยงาม ใบงานคอ่ นข้างมคี วาม ใบงานไมม่ คี วาม

งาน ความละเอยี ดและ สวยงาม ความละเอยี ด สวยงาม ความละเอียด

มงุ่ ม่ันตัง้ ใจทา และมุง่ มน่ั ตั้งใจทา และมุ่งมน่ั ตงั้ ใจทา

2.ความคดิ สร้างสรรค์ รปู แบบใบงานมีความ รปู แบบใบงานมคี วาม ใบงานเลียนแบบใน
ของใบงาน แปลกใหม่ไมซ่ า้ กบั แปลงใหมบ่ างส่วน อนิ เตอรเ์ น็ต

ผลงานท่ัวไป

3.เขียนบรรยายไดต้ รง เขยี นบรรยายได้ตรง เขียนบรรยายคอ่ นข้าง เขยี นบรรยายไม่ตรง
ประเด็น ประเด็นรปู ภาพและ ตรงประเดน็ รูปภาพ ประเด็นรปู ภาพและ
ชดั เจนเข้าใจงา่ ย และค่อนขา้ งชดั เจน ค่อนขา้ งไมช่ ดั เจนและ
4.ตัวหนังสอื อ่านได้ เข้าใจงา่ ย ไมเ่ ขา้ ใจ
ชัดเจน รายมอื อ่านงา่ ยและมี
ความสวยงามตวั อักษร รายมอื คอ่ นข้างอา่ น รายมอื อา่ นไม่ได้และไม่
ชัดเจนทกุ ตัว ง่ายและมีความ มคี วามสวยงาม
สวยงามตัวอักษร ตวั อกั ษรไมค่ ่อยชดั เจน
ชดั เจนทุกตวั ทกุ ตัว

การประเมินชิน้ งาน 3 คะแนน
เกณฑ์การให้คะแนน 3 คะแนน
ความสวยงามของใบงาน 3 คะแนน
ความคดิ สรา้ งสรรค์ของใบงาน 3 คะแนน
เขียนบรรยายไดต้ รงประเด็น
ตวั หนังสืออ่านได้ชดั เจน 12 คะแนน

รวม

ลงชือ่ ……………………………………………….ผูส้ อน
(นาย อนิรจุ พลอนิ ทร์)

วันท่ี……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

160

แบบประเมินพฤติกรรม

นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/……

คาชแ้ี จง : ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและการทาผลงาน
แล้วเขียนคะแนนลงในชอ่ งว่าง

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ใหค้ วาม ถามคาถามตลอด

ต้ังใจในการ ร่วมมอื ใน เมอ่ื ครูถามและ

ทางาน การเรียน เหน็ ความสาคญั รวม

ท่ี ชื่อ-สกุล ต่อผลงาน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

1
2
3
4
5

6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23

161

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ใหค้ วาม ถามคาถามตลอด

ตัง้ ใจในการ รว่ มมอื ใน เมื่อครูถามและ

ทางาน การเรยี น เห็นความสาคัญ รวม

ท่ี ช่ือ-สกุล ตอ่ ผลงาน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

24
25
26
27
28
29
30
31
31
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
เกณฑ์คุณภาพดีข้นึ ไป

ประเมนิ ผลงาน
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
11 – 15 หมายถงึ ดีมาก
6– 10 หมายถงึ ดี
1 – 5 หมายถึง พอใช้
ตา่ กว่า 0 หมายถงึ ปรบั ปรุง

162

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑก์ ารวัดประเมินพฤติกรรม

ประเด็นการประเมิน ระดบั คะแนน

531

(ดมี าก) (พอใช้) (ปรบั ปรุง)

1.ความสนใจตั้งใจใน มคี วามกระตอื รือร้นใน มีความกระตือรือรน้ ใน ไมต่ ัง้ ใจทางานและไมม่ ี

การทางาน การทางานและตั้งใจ การทางานแต่ไม่ต้งั ใจ ความกระตอื รือรน้

ทางานอยา่ งมงุ่ มั่น ทางานอยา่ งมงุ่ มัน่

2. ให้ความรว่ มมอื ใน ทางานชว่ ยเพอ่ื นในกลุม่ ทางานช่วยเพือ่ นในกลุ่ม ไม่ใหค้ วามร่วมมือในการ
การทางานเปน็ กลุ่ม
และให้การรว่ มมอื ในการ แตไ่ ม่กลา้ ออกมานาเนอ ทางานกบั เพื่อนในกลุ่ม

นาเสนอผลงาน ผลงาน

3. ถามคาถามตลอด ตอบคาถามตลอดและท ตอบคาถามตลอดไม่ทนุ ไม่ให้ความร่วมมือกบั

เมอ่ื ครูถามและเห็น นถุ นอมต่อผลงานของ ถนอมตอ่ ผลงานของ ครูผสู้ อน

ความสาคัญตอ่ ผลงาน กลมุ่ ตัวเอง กลมุ่ ตวั เอง

การประเมินพฤตกิ รรม 5 คะแนน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 5 คะแนน
ความสนใจต้งั ใจในการทางาน 5 คะแนน
ให้ความรว่ มมือในการทางานเปน็ กลุ่ม 15 คะแนน
ถามคาถามตลอดเมือ่ ครถู ามและเห็นความสาคญั ตอ่ ผลงาน
รวม

ลงชือ่ ……………………………………………….ผู้สอน
(นาย อนริ ุจ พลอนิ ทร์)

วันที่……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

163

บันทกึ หลงั สอน

1.ความสาเร็จในการจัดการเรียน
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.ปญั หา / อุปสรรคในการจดั การเรยี นรู้
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

3.แนวทางการแกไ้ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ……………………………………………….
(นาย อนริ ุจ พลอินทร์)
ผู้สอน

วนั ท่ี……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

ขอ้ เสนอแนะของครูพีเ่ ล้ยี ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื ……………………………………………….
(นางสาวพรไพลิน สนิ ไชย)
ครพู เี่ ลยี้ ง

วนั ที่……….เดือน……………………..พ.ศ……………

164

ขอ้ เสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้
มีองคป์ ระกอบของแผนครบถว้ น สมบูรณ์ และถูกตอ้ งตามหลักวชิ าการ
มีกิจกรรมการเรยี นรู้เนน้ ผู้เรยี นเป็นสาคญั ใช้ส่ือและแหลง่ เรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย เหมาะสม
มีการวดั และประเมินผลสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคแ์ ละกระบวนการจดั การเรียนรโู้ ดยใชว้ ิธีท่ี

หลากหลาย
แผนการจดั การเรียนรู้นาไปสู่การปฏิบัติได้ สอดคลอ้ งกบั หลักสตู ร บริบท สภาพของผเู้ รียนและ

ชมุ ชน

ลงชื่อ……………………………………………….
(นายประพนั ธ์ นาชัยเงนิ )

หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ
วันท่ี……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของหวั หน้างานวดั ผลและประเมนิ ผลการศกึ ษา
มีองค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบูรณ์ และถกู ต้องตามหลักวชิ าการ
มีกจิ กรรมการเรยี นรู้เน้นผู้เรียนเป็นสาคญั
ใชส้ ื่อและแหลง่ เรียนร้ทู ่ีหลากหลาย เหมาะสม
มีการวัดและประเมินผลครอบคลุมพฤตกิ รรมพุทธิพิสยั จติ พสิ ัย ทักษะพิสยั

ลงชื่อ……………………………………………….
(นางสาวจันทริ า แวงวงษ์)

หัวหน้างานวดั ผลและประเมินผลการศึกษา
วนั ที่……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศึกษา
ใช้จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนได้
ขอใหน้ เิ ทศ ติดตาม ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้เพ่ือนาไปพฒั นางานตอ่ ไป

ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นายพฤทธิ์พล ชารี)

รองผู้อานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ
วนั ที่……….เดอื น……………………..พ.ศ…………

165

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3

การสรา้ งสรรคง์ านจิตรกรรม

ผลงานทัศนศลิ ปข์ อง กระบวนการ การสรา้ งสรรคง์ าน
ศิลปนิ ไทยและ สรา้ งสรรคง์ าน ประตมิ ากรรม
ตา่ งประเทศ
ทศั นศิลป์

การสรา้ งสรรคง์ าน
ภาพพิมพ์

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 166

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ศิลปะ รายวิชา ทศั นศิลป์ ศ33101
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่1 ปกี ารศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง กระบวนการสรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 10 เรอ่ื ง การสร้างสรรค์งานจติ รกรรม เวลา 4 ชวั่ โมง
สอนวันที่ เดือน พ.ศ เวลา 1 ชวั่ โมง
ผู้สอน:นายอนิรจุ พลอนิ ทร์

1. มาตรฐานการเรยี นเรียนรู้
ศ 1.1 สรา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ปต์ ามจติ นาการและความคิดสร้างสรรค์วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์

คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชมและประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจาวนั

2. ตัวช้วี ดั
ม.6/3 วเิ คราะห์การเลอื กใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ และเทคนิคของศลิ ปนิ ในการแสดงออกทางทศั นศิลป์
ม.6/4 มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุอุปกรณ์ และกระบวนการที่สูงขึ้น ในการสร้างงาน

ทศั นศิลป์
ม.6/7 วิเคราะห์และอธิบายจุดมุ่งหมายของศิลปินในการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิคและ

เนอ้ื หา เพือ่ สรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์

3. สาระสาคญั

งานจิตรกรรมเกิดจากการสร้างสรรค์ของนักเรียนและของศิลปินแต่ละคน ท่ีมีจุดมุ่งหมาย
ต่างกัน ทาให้เกิดความหลากหลายในการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเทคนิค การเรียนรู้วธิ ีสร้างสรรค์
งานจิตรกรรมแตล่ ะประเภท ก็เพอ่ื นาไปปรับใช้ในงานของตนเองให้พฒั นาดมี ากขนึ้ โดยจิตกรรม เป็น
ผลงานทัศนศิลป์แขนงหน่ึง ที่เก่ียวข้องสัมพันธ์กับการวาดเขียนและระบายสี มีลักษณะท่ัวไป เป็น
ผลงานบนแผ่นพน้ื 2 มิติ แต่ใช้กระบวนการเพือ่ สร้างภาพลวงตาให้เกิดเปน็ 3 มิติ โดยใชส้ ีชนดิ ต่าง ๆ
เชน่ สีนา้ สนี า้ มนั สฝี ุน่ เปน็ สือ่ กลางในการแสดงออกถึงเจตนาในการสรา้ งสรรค์

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของจิตรกรรมได้ (K)
2. นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั ิงานจิตรกรรมตามจินตนาการได้ (P)
3. นกั เรียนเห็นความสาคญั ในการเรยี นในเร่ืองจติ รกรรม (A)

167

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
- ความสามารถในด้านความคดิ สามารถคดิ อย่างสร้างสรรค์และทาใหเ้ กิดการจินตนาการนาไปยัง

การทาผลงานได้
- ความสามารถในการสื่อสาร หมายถึง ใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเขา้ ใจ ความรู้สึก

และทัศนะของตนเอง เพ่ือเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพฒั นา
ตนเองและสังคม

- ความสามารถในการแกป้ ญั หา หมายถึง เข้าใจความสมั พันธแ์ ละการเปลยี่ นแปลงของเหตุการณ์
ต่าง ๆ ในสงั คมแสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรมู้ าใชใ้ นการป้องกัน และแก้ไขปญั หาได้อยา่ งถกู ต้อง
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

- ชื่อสตั ย์สุจริต
-. ใฝเ่ รยี นรู้
- มงุ่ มน่ั ในการทางาน
- มวี นิ ัย
สาระการเรยี นรู้
องคค์ วามรู้ (K)
1. จิตรกรรม
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. ทักษะการฟงั
2. ทักษะการอ่าน
3. ทักษะการเขยี น
ดา้ นเจตคติ (A)
1.เหน็ ความสาคญั และคุณค่าของงานจติ รกรรม

6. กิจกรรมการจดั การเรียนรู้
ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครใู ชค้ าถามทักทายเพื่อให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น ดงั นี้
ถ้านักเรียนจะสร้างงานจิตรกรรม นักเรยี นจะสรา้ งเปน็ เร่อื งราวอะไร

2. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันสนทนาแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ าถาม ดังน้ี
ท่ีบ้านของนกั เรยี นมีสง่ิ ใดบ้างทีเ่ ปน็ งานจิตรกรรม (นกั เรยี นตอบตามประสบการณ)์

นกั เรียนใช้ประโยชนจ์ ากงานน้ันอยา่ งไร (นกั เรียนตอบตามประสบการณ์)

3. ครูนาภาพจิตกรรมสีน้ามัน โมนาลิซ่า มาให้นักเรียนดู และร่วมกันสนทนาแสดงความ
คิดเหน็ ดังน้ี

ภาพน้ีเป็นมีขอื่ ผลงานวา่ อะไร (โมนาลซิ า่ )

ภาพนีเ้ ปน็ งานจติ รกรรมที่ใชเ้ ทคนิคสีอะไรแบบใด (สีน้ามนั )

168

ถ้านักเรียนจะวาดรูปบุคคล นักเรียนจะวาดรูปใคร เพราะอะไร (นักเรียนตอบตาม

ความรูส้ ึก)
นักเรียนคิดว่างานจิตรกรรมหรือการวาดภาพแตกต่างจากการป้ัน อย่างไร

(นักเรียนตอบตามความคิด)
ข้ันสอน/ขั้นกิจกรรม
1. ครูอธิบายเนือ้ หาเกีย่ วกับความหมายของงานจติ รกรรม พร้อมกับประเภทของจิตรกรรม ที

ประกอบด้วย ภาพวาด คือการสร้างสรรค์งานด้วยดินสอ หรือเนการรา่ งภาพด้วยดนิ สอหรือสีที่เป็นสี
เดียวไว้ และภาพเขียน คือภาพท่ีเขียนด้วยสีหรือการลงสีภาพต่าง ๆ พร้อมเขียนด้วยสีต่าง ๆ ก็จะ
เรียกภาพเขียนท่ีแตกต่างกัน เช่น ภาพเขียนสีน้ามัน ภาพเขียนสีน้า ภาพเขียนวิวทิวทัศน์ ภาพเขียน
คนเหมอื น ภาพเขยี นฝาผนงั เป็นตน้ โดยอธบิ ายผ่านสื่อ PowerPoint

2. เมื่อครูอธิบายเนื้อหาเสร็จครูยกตัวอย่างงงานภาพวาดและ ภาพเขียน ให้นักเรียนดู เพื่อ
ถามคาถามเช็คความเข้าใจกับนักเรยี น เช่น ภาพเขียนภาพน้เี ปน็ ภาพเขยี นอะไร (ภาพเขยี นทวิ ทศั น)์

3. จากนั้นครูให้นักเรียนจัดเตรียมอุปกรณ์ในการทางานที่เตรียมมา พร้อมกับมอบหมายให้
นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมคือการสร้างภาพเขียนหรือการร่างภาพ ในหัวข้อ ไอดอลของ
นักเรียน ให้นักเรียนสามารถสร้างสรรค์ออกมาเป็นรูปแบบคนเหมือน หรือเป็นกาตูนก็ได้ โดบใช้
ปากกาตัดเส้นแทนการลงสี และใหน้ กั เรียนสร้างสรรคต์ ามจนิ ตนาการของนกั เรยี น

4. เม่ือนักเรียนทางานเสร็จทุกคนครูสุ่มให้นักเรียนออกมานาเสนอผลงานการวาดภาพของ
นักเรียนแต่ละคน โดยให้นาเสนอว่าทาไมถึงเลือกบุคคลน้ีเป็นไอดอล และเขาเป็นแรงบันดาลใจใน
ดา้ นไหนบา้ ง

ขั้นสรุป
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนลุกข้ึนสรุปจากการเรียนในคาบนี้ว่าได้อะไรบ้างจากการเรียนใน

ครง้ั น้ีและสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้กบั ตวั นักเรยี นไดอ้ ย่างไร
2. ครูสรุปเนื้อหาทั้งหมดอีกครั้งว่าทาไมถึงเรียนเกี่ยวกับงานจิตรกรรม เพื่อให้นักเรียนรู้

รายละเอียดของงานจิตรกรรม ว่ามีหลากหลายรูปแบบ และยังสามารถทางานจิตรกรรมตามจิตนา
การได้โดยนักเรียนสามารถนางานจิตรกรรมปต่อยอดในชีวิตประจาวันของนกั เรยี นได้ในหลากหลาย
รปู แบบ เช่น การหารายไดเ้ สรมิ การนาไปตอ่ ยอดในรายวิชาอ่นื ๆ เปน็ ตน้

7. สือ่ การสอน
1. สือ่ PowerPoint
2. ตวั อย่างผลงานจติ รกรรม
3. หนังสือทศั นศิลป์
4. อุปกรณ์ในการทางาน เช่น กระดาษร้อยปอนด์ ดนิ สอ ยางลบ ปากกาตัดเส้น

169

8. การวัดและประเมนิ ผล
เกณฑก์ ารให้คะแนน

เปา้ หมายการเรียนรู้ วธิ กี ารวัด เคร่อื งมอื ท่ใี ชใ้ นการวัด เกณฑก์ ารวัด
70 %
1. นกั เรียนสามารถบอก การสงั เกตการณต์ อบ แบบประเมินการตอบ
ความหมายของจติ รกรรมได้ คาถามและการนาเสนอ คาถามและการนาเสนอ
(K) งาน งาน

2.นกั เรยี นสามารถปฏิบตั งิ าน ตรวจชิ้นงาน แบบประเมนิ ช้ินงาน 70 %
จิตรกรรมตามจนิ ตนาการได้
(P)

3. นกั เรยี นเห็นความสาคัญใน สงั เกตการใหค้ วาม แบบประเมนิ พฤตกิ รรม 70 %
การเรยี นในเรือ่ งจติ รกรรม (A) ร่วมมือในการทางาน

170

แบบประเมินการตอบคาถามและนาเสนองาน

เรอื่ ง การสรา้ งสรรค์งานจติ รกรรม

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6/…….

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ตอบได้ถกู ตอ้ ง การตอบ การนาเสนอ

ท่ี ชือ่ -สกลุ ต้งั ใจฟัง ตรงถาม คาถามอยา่ ง งานอย่าง
คาถาม ประเดน็ สม่าเสมอ คล่องแคล่ว รวม

และตรง

ประเด็น

1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25

171

การประเมนิ /คะแนน

ความสนใจ ตอบได้ถกู ตอ้ ง การตอบ การนาเสนอ

ท่ี ชื่อ-สกุล ตัง้ ใจฟงั ตรงถาม คาถามอย่าง งานอยา่ ง
คาถาม ประเด็น สมา่ เสมอ คลอ่ งแคลว่ รวม

และตรง

ประเด็น

26 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

นกั เรยี นทีไ่ ด้ 8.5 คะแนนขน้ึ ไป หรอื รอ้ ยละ 70 ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ ผลงาน

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
เกณฑ์การประเมนิ
8-12 คะแนน ดมี าก
5-7 คะแนน ดี
1-4 คะแนน พอใช้
ต่ากว่า 0 คะแนน ปรับปรงุ

172

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑ์การวดั ประเมินการตอบคาถาม

ประเดน็ การประเมิน ระดบั คะแนน

321

1.ความสนใจต้ังใจฟัง สนใจฟงั ไม่หลับ ไม่ สนใจฟงั ไม่หลบั ไม่ ไม่สนใจฟัง พดู คุยในชนั้

คาถาม พดู คยุ ในชัน้ เรยี น ตอบ พูดคยุ ในชนั้ เรียน แต่ เรยี น ตอบคาถามไมไ่ ด้

คาถามได้ทนั ที ตอบคาถามไมไ่ ด้ในทนั ที ทันที

2.ตอบไดถ้ กู ตอ้ งตรง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง
ถามประเดน็
และตรงประเด็นและ และตรงประเด็นและ บางส่วน
3.การตอบคาถามอย่าง
สม่าเสมอ อธบิ ายคาถามชดั เจน อธิบายคาถามไม่ค่อย

ชดั เจน

มีส่วนร่วมในการตอบ มีส่วนร่วมในการตอบ มีส่วนร่วมในการตอบ

คาถามอย่างสม่าเสมอ คาถามบอ่ ยครงั้ คาถามน้อยครงั้

4.การนาเสนองานอยา่ ง การนาเสนอไม่ติดขัด การนาเสนอติดขัดนิด การนาเสนอติดขัดและ

คล่องแคลว่ และตรง และเนื้อหาตรงประเด็น หน่อยและเน้ือหาผิด เนอื้ หาผิดประเด็นในการ

ประเดน็ ทกุ ขอ้ ประเด็นเลก็ นอ้ ย นาเสนอ

ลงชื่อ……………………………………………….ผู้สอน
(นาย อนิรุจ พลอนิ ทร์)

วนั ท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

173

แบบประเมินชนิ้ งาน
เรื่อง การสรา้ งสรรค์งานจิตรกรรม

ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6/……..

ความ ความคิด การใช้ ความ
สวยงาม สร้างสรรค์ องคป์ ระกอบ ตง้ั ใจ รวม

ของ ของชิ้นงาน ศลิ ปแ์ ละ ในการ คะแนน

ท่ี ช่อื -สกลุ ชน้ิ งาน หลกั การ ทางาน (12)

ออกแบบใน

ผลงาน

33 33

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23
24

25

174

ความ ความคิด การใช้ ความ
สวยงาม สร้างสรรค์ องค์ประกอบ ตั้งใจ รวม

ของ ของชิ้นงาน ศิลปแ์ ละ ในการ คะแนน

ท่ี ชือ่ -สกุล ชิน้ งาน หลกั การ ทางาน (12)

ออกแบบใน

ผลงาน

33 33

26

27

28

29

30

31

31

33

34

35

36

37

38

39

40

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
นักเรียนทีไ่ ด้ 8.5 คะแนนข้นึ ไป หรือ รอ้ ยละ 70 ถือว่าผ่านเกณฑ์

เกณฑ์การประเมิน
8-12 คะแนน ดีมาก
5-7 คะแนน ดี
1-4 คะแนน พอใช้
ตา่ กว่า 0 คะแนน ปรับปรงุ

175

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑก์ ารวดั ประเมินช้ินงาน

ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คะแนน

32 1

(ดีมาก) (พอใช)้ (ปรับปรุง)

1.ความสวยงาม ผลงานมีความสวยงาม ผลงานค่อนขา้ งมีความ ผลงานไม่มคี วาม

ความละเอียดและ สวยงาม ความละเอยี ด สวยงาม ความละเอียด

ประณีต และประณีต และประณตี

2.ความคิดสร้างสรรค์ รูปแบบผลงานมคี วาม รปู แบบผลงานมีความ ผลงานเลียนแบบ
แปลกใหมไ่ ม่ซ้ากบั แปลงใหม่บางส่วน ธรรมชาติหรือใน

ผลงานทัว่ ไป อนิ เตอร์เน็ต

3.การใช้องค์ประกอบ ผลงานมีการจดั วาง ผลงานมีการจัดวาง ผลงานมกี ารจัดวาง
ศิลป์ในผลงาน ตามองค์ประกอบศลิ ป์ ตามองค์ประกอบศลิ ป์ ตามองคป์ ระกอบศิลป์
อยา่ งถกู ต้องมกี ารจัด ค่อนข้างที่จะถกู ตอ้ งมี อยา่ งไม่ถกู ตอ้ ง
4.ความตั้งใจในการ สดั ส่วนภาพและมี การจัดสดั สว่ นภาพและ
ทางาน ความสมดุล มีความสมดุล

ตั้งใจและมงุ่ ม่ันในการ ค่อนข้างต้งั ใจทางาน ไม่ต้ังใจในการทางาน
ทางานจนเสรจ็ และสง่ งานภายในวนั ที่ และงานไมเ่ สร็จสง่ งาน

เรียน สปั ดาห์ต่อไป

การประเมนิ ช้ินงาน 3 คะแนน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 คะแนน
ความสวยงาม 3 คะแนน
ความคดิ สร้างสรรค์
การใช้องค์ประกอบศิลป์ในผลงาน 3 คะแนน
ความตั้งใจในการทางาน 12 คะแนน
รวม

ลงชื่อ……………………………………………….ผู้สอน
(นาย อนิรุจ พลอินทร์)

วนั ที่……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

176

แบบประเมนิ พฤติกรรม

นักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6/……

คาชแ้ี จง : ใหค้ รูสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและการทาผลงาน
แล้วเขียนคะแนนลงในช่องวา่ ง

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ใหค้ วาม ถามคาถามตลอด

ตงั้ ใจในการ รว่ มมือใน เมอ่ื ครูถามและ

ทางาน การเรยี น เหน็ ความสาคญั รวม

ท่ี ช่ือ-สกุล ต่อผลงาน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

1
2
3
4
5

6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23

177

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ใหค้ วาม ถามคาถามตลอด

ตัง้ ใจในการ รว่ มมอื ใน เมื่อครูถามและ

ทางาน การเรยี น เห็นความสาคัญ รวม

ท่ี ช่ือ-สกุล ตอ่ ผลงาน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

24
25
26
27
28
29
30
31
31
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
เกณฑ์คุณภาพดีข้นึ ไป

ประเมนิ ผลงาน
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
11 – 15 หมายถงึ ดีมาก
6– 10 หมายถงึ ดี
1 – 5 หมายถึง พอใช้
ตา่ กว่า 0 หมายถงึ ปรบั ปรุง

178

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑก์ ารวัดประเมินพฤติกรรม

ประเด็นการประเมิน ระดบั คะแนน

531

(ดมี าก) (พอใช้) (ปรบั ปรุง)

1.ความสนใจตั้งใจใน มคี วามกระตอื รือร้นใน มีความกระตือรือรน้ ใน ไมต่ ัง้ ใจทางานและไมม่ ี

การทางาน การทางานและตั้งใจ การทางานแต่ไม่ต้งั ใจ ความกระตอื รือรน้

ทางานอยา่ งมงุ่ มั่น ทางานอยา่ งมงุ่ มัน่

2. ให้ความรว่ มมอื ใน ทางานชว่ ยเพอ่ื นในกลุม่ ทางานช่วยเพือ่ นในกลุ่ม ไม่ใหค้ วามร่วมมอื ในการ
การทางานเปน็ กลุ่ม
และให้การรว่ มมอื ในการ แตไ่ ม่กลา้ ออกมานาเนอ ทางานกบั เพื่อนในกลุ่ม

นาเสนอผลงาน ผลงาน

3. ถามคาถามตลอด ตอบคาถามตลอดและท ตอบคาถามตลอดไม่ทนุ ไม่ให้ความร่วมมือกบั

เมอ่ื ครูถามและเห็น นถุ นอมต่อผลงานของ ถนอมตอ่ ผลงานของ ครูผสู้ อน

ความสาคัญตอ่ ผลงาน กลมุ่ ตัวเอง กลมุ่ ตวั เอง

การประเมินพฤตกิ รรม 5 คะแนน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 5 คะแนน
ความสนใจต้งั ใจในการทางาน 5 คะแนน
ให้ความรว่ มมือในการทางานเปน็ กลุ่ม 15 คะแนน
ถามคาถามตลอดเมือ่ ครถู ามและเห็นความสาคญั ตอ่ ผลงาน
รวม

ลงชือ่ ……………………………………………….ผู้สอน
(นาย อนริ ุจ พลอนิ ทร์)

วันที่……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

179

บนั ทึกหลงั สอน

1.ความสาเร็จในการจัดการเรียน
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.ปญั หา / อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้
................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

3.แนวทางการแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ……………………………………………….
(นาย อนริ จุ พลอนิ ทร์)
ผู้สอน

วันท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ขอ้ เสนอแนะของครูพีเ่ ล้ยี ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ……………………………………………….
(นางสาวพรไพลิน สินไชย)
ครูพีเ่ ลี้ยง

วนั ท่ี……….เดอื น……………………..พ.ศ……………

180

ขอ้ เสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้
มีองคป์ ระกอบของแผนครบถ้วน สมบูรณ์ และถกู ตอ้ งตามหลกั วิชาการ
มีกิจกรรมการเรียนรเู้ น้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ใช้สอื่ และแหล่งเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย เหมาะสม
มีการวดั และประเมินผลสอดคลอ้ งกับจุดประสงคแ์ ละกระบวนการจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้วธิ ีท่ี

หลากหลาย
แผนการจดั การเรยี นรูน้ าไปสู่การปฏิบัติได้ สอดคล้องกับหลกั สตู ร บริบท สภาพของผู้เรียนและ

ชมุ ชน

ลงชื่อ……………………………………………….
(นายประพันธ์ นาชัยเงนิ )

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ
วันที่……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของหวั หน้างานวดั ผลและประเมินผลการศกึ ษา
มีองค์ประกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ
มีกจิ กรรมการเรยี นรู้เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั
ใชส้ ่ือและแหลง่ เรยี นรู้ทหี่ ลากหลาย เหมาะสม
มีการวดั และประเมินผลครอบคลมุ พฤติกรรมพุทธิพสิ ัย จติ พสิ ัย ทกั ษะพสิ ยั

ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางสาวจนั ทิรา แวงวงษ์)

หัวหน้างานวัดผลและประเมินผลการศกึ ษา
วนั ที่……….เดือน……………………..พ.ศ……………

ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา
ใช้จัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้
ขอใหน้ เิ ทศ ติดตาม ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้เพอื่ นาไปพฒั นางานต่อไป

ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นายพฤทธพ์ิ ล ชารี)

รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ
วันท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11 181

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ รายวิชา ทศั นศลิ ป์ ศ33101
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนท่ี1 ปกี ารศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เรอื่ ง กระบวนการสรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลป์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 11 เรอ่ื ง การสร้างสรรค์งานประตมิ ากรรม เวลา 4 ชว่ั โมง
สอนวันที่ เดือน พ.ศ เวลา 1 ช่ัวโมง
ผู้สอน:นายอนริ จุ พลอนิ ทร์

1. มาตรฐานการเรียนเรียนรู้
ศ 1.1 สร้างสรรคง์ านทศั นศิลปต์ ามจิตนาการและความคิดสร้างสรรค์วเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์

คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ช่ืนชมและประยุกต์ใช้ใน
ชีวติ ประจาวนั

2. ตัวชี้วดั
ม.6/3 วเิ คราะหก์ ารเลอื กใช้วสั ดุอุปกรณ์ และเทคนคิ ของศลิ ปนิ ในการแสดงออกทางทัศนศิลป์
ม.6/4 มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุอุปกรณ์ และกระบวนการท่ีสูงขึ้น ในการสร้างงาน

ทัศนศลิ ป์
ม.6/7 วิเคราะห์และอธิบายจุดมุ่งหมายของศิลปินในการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิคและ

เนื้อหา เพอ่ื สร้างสรรคง์ านทัศนศลิ ป์

3. สาระสาคญั

งานประติมากรรมเกิดจากการสร้างสรรค์ของนักเรียนและของศิลปินแต่ละคน ท่ีมีจุดมุ่งหมาย
ต่างกัน ทาให้เกิดความหลากหลายในการเลือกใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเทคนิค การเรียนรู้วิธีสรา้ งสรรค์
งานประติมากรรมแต่ละประเภท ก็เพื่อนาไปปรับใช้ในงานของตนเองให้พัฒนาดีมากข้ึน โดย
ประติมากรรม คือ งานศิลปะท่ีมีรูปทรง 3 มิติ มีความกว้าง ความยาว ความหนา โดยการปั้น
แกะสลัก หล่อ หรือนาส่วนประกอบย่อยมาประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งมีท้ังประติมากรรมแบบไทย
ดัง้ เดิม และประตมิ ากรรมแบบไทยรว่ มสมยั

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. นักเรียนสามารถบอกความหมายของงานประติมากรรมและอธิบายลักษณะของงาน
ประตมิ ากรรมได้ (K)

2. นักเรยี นสามารถสร้าง Power point และนาเสนองานหน้าช้นั เรยี นได้ (P)
3. เห็นคุณค่าและความสาคัญของงานประติมากรรมลักษณะต่าง ๆ และความสาคัญของการ
ทางานเปน็ กลุ่ม (A)

182

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
- ความสามารถในดา้ นความคดิ สามารถคดิ อยา่ งสร้างสรรคแ์ ละทาใหเ้ กิดการจินตนาการนาไปยัง

การทาผลงานได้
- ความสามารถในการสื่อสาร หมายถึง ใช้ภาษาถา่ ยทอดความคิด ความรู้ ความเขา้ ใจ ความรู้สึก

และทัศนะของตนเอง เพื่อเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นา
ตนเองและสงั คม

- ความสามารถในการแกป้ ญั หา หมายถึง เขา้ ใจความสัมพันธ์และการเปลีย่ นแปลงของเหตุการณ์
ต่าง ๆ ในสังคมแสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามร้มู าใช้ในการปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หาไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

- ช่ือสตั ย์สจุ รติ
-. ใฝเ่ รียนรู้
- มงุ่ มนั่ ในการทางาน
- มีวินัย
สาระการเรียนรู้
องค์ความรู้ (K)
1. ประติมากรรม
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. ทักษะการฟัง
2. ทกั ษะการอ่าน
3. ทกั ษะการเขยี น
ดา้ นเจตคติ (A)
1.เห็นคุณคา่ และความสาคญั ของงานประตมิ ากรรมลักษณะต่าง ๆ

6. กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาแสดงความคิดเหน็ โดยครูใชค้ าถามท้าทาย ดังน้ี
ถ้าให้เลือกผลงานประตมิ ากรรมไปเปน็ ของขวัญวนั เกดิ ใหเ้ พื่อนนักเรียนจะเลือกส่ิงใด
2. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สนทนาแสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คาถาม ดังนี้
ในชุมชนของเรามีผลงานประตมิ ากรรมอะไรบา้ ง (นกั เรยี นตอบตามความเปน็ จรงิ )

นกั เรยี นชอบผลงานประตมิ ากรรมชนิ้ ใด เพราะอะไร (นกั เรยี นตอบตามความรู้สึก)

ผลงานประติมากรรมท่ีนักเรียนชอบเป็นประติมากรรมประเภท (นักเรียนตอบตาม

ประสบการณ)์
นักเรยี นเคยสร้างผลงานประติมากรรมอะไรบา้ ง (นักเรยี นตอบตามประสบการณ์)

183

3. ให้ตัวแทนนักเรียนที่เคยสร้างผลงานประติมากรรมออกมาเล่าประสบการณ์การสร้าง
ผลงานประติมากรรมให้เพอ่ื นฟัง

ขัน้ สอน/ขั้นกจิ กรรม
1. ครูอธิบายเนื้อหาเก่ียวกับความหมายของงานประติมากรรม พร้อมกับรูปแบบของงาน
ประติมากรรม ท่ีมีท้ังหมด 3 รูปแบบ คือประติมากรรมแบบนูนต่า ประติมากรรมแบบนูนสูง
ประติมากรรมแบบลอยตัว พร้อมกับ ประเภทของงานประติมากรรม ว่า งานประติมากรรมแต่ละ
ประเภทจะมีลักษณะแตกต่างกันตามวัสดุและกระบวนการทา ได้แก่ การปั้น การแกะสลัก การหล่อ
การเชอื่ ม และการสร้างสรรคแ์ บบสอ่ื ผสมเปน็ ต้น โดยอธิบายผ่านสอ่ื PowerPoint
2. เมื่อครูอธบิ ายเนื้อหาเสร็จครูนาตัวอยา่ งภาพงานประติมากรรมทง้ั 5 ลกั ษณะของรูปแบบ
ประเภทของงานประตมิ ากรรมมาใหน้ ักเรียนดู และอธบิ ายประกอบภาพ
3. จากนั้นครูให้นักเรียนให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน ส่งตัวแทน
ออกมาจับสลากเลือกหัวข้อ เพ่ือนาไปศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม และอภิปรายร่วมกันในกลุ่ม และ
รว่ มกนั ออกแบบงานประติมากรรมตามหัวขอ้ ทีไ่ ด้รับ ดงั น้ี

กลุ่มที่ 1 การปนั้
กลมุ่ ที่ 2 งานแกะสลัก
กลุ่มที่ 3 งานหล่อ
กลมุ่ ที่ 4 งานเชอ่ื ม
กลุ่มท่ี 5 การสร้างสรรคแ์ บบส่ือผสม
4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอ Power point เนื้อหาที่นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้า
เพ่ิมเติมและผลงานตัวอย่างที่นักเรียนได้ค้นหา โดยครูคอยช่วยเสนอแนะและสรุปข้อมูลท่ีถูกต้อง
ชัดเจนให้ทกุ กล่มุ
ขัน้ สรุป
1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนลุกข้ึนสรุปจากการเรียนในคาบน้ีว่าได้อะไรบ้างจากการเรียนใน
ครงั้ นแี้ ละสามารถนาไปประยกุ ต์ใช้กับตวั นกั เรยี นไดอ้ ยา่ งไร
2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั นี้ งานประตมิ ากรรมมีหลายลักษณะได้แก่ การป้ัน
การแกะสลัก การหล่อ การเชื่อม และการสร้างสรรค์แบบสื่อผสม ซึ่งแต่ละลักษณะก็จะมีวิธีการทา
แตกต่างกนั ทาใหไ้ ด้ผลงานทม่ี ลี กั ษณะเฉพาะตามวตั ถปุ ระสงค์ของการนาไปใช้

7. สื่อการสอน
1. สื่อ PowerPoint
2. ตวั อย่างผลงานจติ รกรรม
3. หนังสอื ทัศนศลิ ป์
4. รูปภาพตัวอยา่ งลกั ษณะงานประตมิ ากรรม

184

8. การวดั และประเมินผล
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

เปา้ หมายการเรียนรู้ วธิ กี ารวัด เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการวัด เกณฑก์ ารวัด
แบบประเมนิ การตอบ 70 %
1. นักเรียนสามารถบอก การสังเกตการณต์ อบ คาถามและการนาเสนอ
งาน 70 %
ความหมายของงาน คาถามและการนาเสนอ
แบบประเมินช้ินงาน
ประติมากรรมและอธิบาย งาน และการนาเสนองาน

ลกั ษณะของงานประติมากรรม

ได้ (K)

2.นักเรียนสามารถสร้าง

Power point และนาเสนอ ตรวจชิน้ งานการจดั ทา

งานหนา้ ชน้ั เรยี นได้ (P) PowerPoint และการ

นาเสนองาน

3. เหน็ คุณค่าและความสาคัญ

ของงานประตมิ ากรรมลกั ษณะ สงั เกตการใหค้ วาม แบบประเมนิ พฤตกิ รรม 70 %

ต่าง ๆ และความสาคัญของ ร่วมมอื ในการทางาน

การทางานเป็นกลุม่ (A) และการทางานเปน็ กลุม่

185

แบบประเมินการตอบคาถามและนาเสนองาน

เรือ่ ง การสร้างสรรค์งานประติมากรรม

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6/…….

การประเมนิ /คะแนน

ความสนใจ ตอบไดถ้ กู ต้อง การตอบ การนาเสนอ

ท่ี ชอ่ื -สกุล ตง้ั ใจฟงั ตรงถาม คาถามอยา่ ง งานอยา่ ง
คาถาม ประเด็น สม่าเสมอ คลอ่ งแคล่ว รวม

และตรง

ประเด็น

1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25

186

การประเมนิ /คะแนน

ความสนใจ ตอบได้ถกู ตอ้ ง การตอบ การนาเสนอ

ท่ี ชื่อ-สกุล ตัง้ ใจฟงั ตรงถาม คาถามอย่าง งานอยา่ ง
คาถาม ประเด็น สมา่ เสมอ คลอ่ งแคลว่ รวม

และตรง

ประเด็น

26 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

นกั เรยี นทีไ่ ด้ 8.5 คะแนนขน้ึ ไป หรอื รอ้ ยละ 70 ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ ผลงาน

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
เกณฑ์การประเมนิ
8-12 คะแนน ดมี าก
5-7 คะแนน ดี
1-4 คะแนน พอใช้
ต่ากว่า 0 คะแนน ปรับปรงุ

187

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑ์การวดั ประเมินการตอบคาถาม

ประเดน็ การประเมิน ระดบั คะแนน

321

1.ความสนใจต้ังใจฟัง สนใจฟงั ไม่หลับ ไม่ สนใจฟงั ไม่หลบั ไม่ ไม่สนใจฟัง พดู คุยในชนั้

คาถาม พดู คยุ ในชัน้ เรยี น ตอบ พูดคยุ ในชนั้ เรียน แต่ เรยี น ตอบคาถามไม่ได้

คาถามได้ทนั ที ตอบคาถามไมไ่ ด้ในทนั ที ทันที

2.ตอบไดถ้ กู ตอ้ งตรง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง
ถามประเดน็
และตรงประเด็นและ และตรงประเด็นและ บางส่วน
3.การตอบคาถามอย่าง
สม่าเสมอ อธบิ ายคาถามชดั เจน อธิบายคาถามไม่ค่อย

ชดั เจน

มีส่วนร่วมในการตอบ มีส่วนร่วมในการตอบ มีส่วนร่วมในการตอบ

คาถามอย่างสม่าเสมอ คาถามบอ่ ยครงั้ คาถามน้อยครงั้

4.การนาเสนองานอยา่ ง การนาเสนอไม่ติดขัด การนาเสนอติดขัดนิด การนาเสนอติดขัดและ

คล่องแคลว่ และตรง และเนื้อหาตรงประเด็น หน่อยและเน้ือหาผิด เนอื้ หาผิดประเด็นในการ

ประเดน็ ทกุ ขอ้ ประเด็นเลก็ นอ้ ย นาเสนอ

ลงชื่อ……………………………………………….ผสู้ อน
(นาย อนิรุจ พลอนิ ทร์)

วนั ท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

188

แบบประเมินชิ้นงาน PowerPoint และการนาเสนองาน
เรอ่ื ง การสร้างสรรคง์ านประติมากรรม
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/……..

ความ ความคิด การพดู การ

สวยงามของ สร้างสรรค์ และ นาเสนอ รวม

PowerPoint ของ น้าเสียงใน งานเปน็ คะแนน

ท่ี ช่ือ-สกุล PowerPoint การ กล่มุ (12)

นาเสนอ

3 3 33

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

24

25

189

ความความ ความคดิ การพดู การ
สวยงามของ สรา้ งสรรค์ และ นาเสนอ รวม

PowerPoint ของ น้าเสยี ง งานเปน็ คะแนน

ท่ี ชอื่ -สกุล PowerPoint ในการ กลมุ่ (12)

นาเสนอ

3 3 33

26

27

28

29

30

31

31

33

34

35

36

37

38

39

40

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
นกั เรียนท่ไี ด้ 8.5 คะแนนขนึ้ ไป หรอื รอ้ ยละ 70 ถือว่าผ่านเกณฑ์

เกณฑ์การประเมนิ
8-12 คะแนน ดีมาก
5-7 คะแนน ดี
1-4 คะแนน พอใช้
ตา่ กว่า 0 คะแนน ปรับปรุง

190

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑ์การวัดประเมนิ ชิน้ งาน

ประเด็นการประเมนิ ระดับคะแนน

32 1

(ดีมาก) (พอใช)้ (ปรับปรงุ )

1.ความความสวยงาม PowerPoint มีความ PowerPoint คอ่ นข้าง PowerPoint ไม่มคี วาม

ของ PowerPoint สวยงาม ความละเอยี ด มคี วามสวยงาม ความ สวยงาม ความละเอยี ด

และประณตี ละเอียดและประณีต และประณีต

2.ความคิดสร้างสรรค์ รปู แบบ PowerPoint รูปแบบ PowerPoint PowerPoint
เลยี นแบบธรรมชาติ
ของ PowerPoint มีความแปลกใหมไ่ ม่ซา้ มคี วามแปลงใหม่ หรือในอนิ เตอร์เน็ต

กับผลงานทว่ั ไป บางสว่ น

3.การพดู และนา้ เสียง นาเสนอดว้ ยนา้ เสยี งที่ นาเสนอดว้ ยนา้ เสียงที่ นาเสนอด้วยนา้ เสยี งท่ี
ในการนาเสนอ น่าฟังและการพดู คอ่ นข้างนา่ ฟงั และการ ค่อนขา้ งน่าฟังและการ
ชดั เจนฟังเขา้ ใจง่าย ไม่ พดู ค่อนข้างชดั เจนฟัง พดู ค่อนขา้ งชัดเจนฟัง
4.การนาเสนองานเปน็ อา่ นจอจนเกินไป พอเขา้ ใจ และอ่านจอ พอเขา้ ใจ และอ่านจอ
กลมุ่ บางครัง้ ตลอดเวลานาเสนอ
ตง้ั ใจและมุง่ มนั่ ในการ
ทางานจนเสร็จและ ต้งั ใจและมุง่ มั่นในการ ตั้งใจและมงุ่ มนั่ ในการ
ช่วยกนั นาเสนอกันทกุ ทางานจนเสรจ็ แตส่ ง่ ทางานจนเสรจ็ แตส่ ่ง
คน ตัวแทนนาเสนอแค่ 2 ตวั แทนนาเสนอแค่ 1
คนในการนาเสนอ คนในการนาเสนอ

การประเมินชิ้นงาน 3 คะแนน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 คะแนน
ความความสวยงามของ PowerPoint 3 คะแนน
ความคิดสรา้ งสรรคข์ อง PowerPoint 3 คะแนน
การพดู และนา้ เสยี งในการนาเสนอ
การนาเสนองานเป็นกลมุ่ 12 คะแนน
รวม

ลงชื่อ……………………………………………….ผู้สอน
(นาย อนิรจุ พลอนิ ทร์)

วนั ท่ี……….เดือน……………………..พ.ศ……………

191

แบบประเมนิ พฤตกิ รรม

นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6/……

คาชแี้ จง : ใหค้ รูสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและการทาผลงาน
แลว้ เขยี นคะแนนลงในชอ่ งวา่ ง

การประเมนิ /คะแนน

ความสนใจ ใหค้ วาม ชว่ ยกนั ทางาน

ตั้งใจในการ ร่วมมือใน กนั เปน็ กลุ่ม

ทางาน การเรียน ช่วยเหลือกันและ รวม

ท่ี ชือ่ -สกุล กัน

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

1
2
3
4
5

6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23

192

การประเมิน/คะแนน

ความสนใจ ใหค้ วาม ช่วยกนั ทางาน

ต้ังใจในการ รว่ มมือใน กนั เปน็ กลุ่ม

ทางาน การเรียน ชว่ ยเหลอื กนั และ รวม

ท่ี ชอื่ -สกุล กนั

5 3 1 5 3 1 5 3 1 15

24
25
26
27
28
29
30
31
31
33
34
35
36
37
38
39
40

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
เกณฑค์ ุณภาพดขี ึ้นไป

ประเมนิ ผลงาน
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
11 – 15 หมายถงึ ดีมาก
6– 10 หมายถึง ดี
1 – 5 หมายถึง พอใช้
ต่ากว่า 0 หมายถึง ปรบั ปรุง

193

ตาราง (Rubic score) แสดงเกณฑ์การวัดประเมินพฤตกิ รรม

ประเด็นการประเมนิ ระดบั คะแนน

531

(ดมี าก) (พอใช)้ (ปรบั ปรุง)

1.ความสนใจตั้งใจใน มคี วามกระตอื รอื ร้นใน มีความกระตอื รอื ร้นใน ไมต่ ั้งใจทางานและไม่มี

การทางาน การทางานและตง้ั ใจ การทางานแต่ไม่ตัง้ ใจ ความกระตอื รือรน้

ทางานอย่างมงุ่ มนั่ ทางานอยา่ งมุ่งมนั่

2. ให้ความร่วมมือใน ทางานช่วยเพอื่ นในกลมุ่ ทางานชว่ ยเพอ่ื นในกลุ่ม ไม่ให้ความรว่ มมอื ในการ
การทางานเป็นกลุ่ม
และให้การร่วมมือในการ แตไ่ มก่ ล้าออกมานาเนอ ทางานกับเพ่ือนในกลุ่ม

นาเสนอผลงาน ผลงาน

3. ชว่ ยกนั ทางานกนั ช่วยกนั ทางานทุกคน ไมค่ ่อยช่วยกันทางานทกุ ไมช่ ่วยกนั ทางานทกุ คน
เปน็ กลุม่ ช่วยเหลือกนั
และกัน สามัคคชี ว่ ยเหลือกนั คน และไมค่ ่อยมีความ และไม่มคี วามสามคั คกี ัน

ภายในกล่มุ สามัคคกี ันภายในกลมุ่ ภายในกลมุ่

การประเมนิ พฤติกรรม 5 คะแนน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน 5 คะแนน
ความสนใจตั้งใจในการทางาน 5 คะแนน
ให้ความร่วมมอื ในการทางานเปน็ กลุม่ 15 คะแนน
ชว่ ยกันทางานกนั เป็นกลมุ่ ช่วยเหลือกนั และกัน
รวม

ลงชื่อ……………………………………………….ผสู้ อน
(นาย อนริ จุ พลอินทร์)

วนั ท่ี……….เดอื น……………………..พ.ศ……………


Click to View FlipBook Version