The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการพิจารณาศึกษา แนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทย ด้วยการวิจัยและนวัตกรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by เอกสาร, 2022-10-09 01:50:35

รายงานการพิจารณาศึกษา แนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทย ด้วยการวิจัยและนวัตกรรม

รายงานการพิจารณาศึกษา แนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทย ด้วยการวิจัยและนวัตกรรม

๓๑

การดาเนินงาน ไทย จีน มาเ
- คณะเภสชั ศาสตรข์ อง
3. วทิ ยาศาสตร์ วิจัย นามาประยกุ ต์ใช้ท้งั ใน -จัดต้งั CLIN
มหาวิทยาลยั การแพทย์ RESEARCH
และนวัตกรรม แพทยแ์ ผนโบราณและ แผนจนี จะมกี ารเรียนการ MALAYSIA
สอนเหมือนเหมือนคณะ ชว่ ยเหลอื ทา
แพทย์แผนปัจจบุ นั ด้วย เภสัชศาสตรข์ องแผน การจดั ตัง้ ระ
ปัจจบุ ัน registries ใ
ความก้าวหนา้ ทาง - รัฐบาลจีนสนบั สนนุ คลนิ ิกต่าง ๆ
การแพทยแ์ ผนจีนอย่าง เคร่อื งมอื แล
วทิ ยาศาสตรแ์ ละ จริงจงั และต่อเนือ่ ง ทาให้ ท่ีทนั สมยั เป
ทกุ มหาวทิ ยาลยั มกี าร ผ้จู ดั การงาน
เทคโนโลยีท่ที ันสมยั มาก สร้างองคค์ วามรเู้ พือ่ เชีย่ วชาญ, น
สนับสนุนใหเ้ กดิ การ วิทยา, นกั ส
ข้ึน การนาสมุนไพรที่พบ พัฒนา ผเู้ ชยี่ วชาญ
- การสร้างความสามารถ informatic
ในท้องถ่ินมาพัฒนาตอ่ ในการแข่งขัน จึงให้ เจา้ หนา้ ทส่ี น
ความสาคญั กบั นวตั กรรม วิจยั คลนิ กิ ท
ยอด โดยการวิจยั พฒั นา และการลดต้นทนุ เร่ือง clinica
และ registr
ออกแบบ และวิศวกรรม - มีการจัดท
และพฒั นาผ
เพ่อื ค้นควา้ สรา้ งสรรค์ ศกึ ษาพิษวิท
คลินกิ และค
และพัฒนาเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ เทคโนโลยีก
สมนุ ไพร
นวัตกรรม - ตั้ง Cente
Excellence
วจิ ัยเพ่อื พัฒ

๑๗

เลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ๒๘๗
NICAL
H CENTRE - มีการศกึ ษาวจิ ัยทงั้ ใน - สถาบันพฒั นา - มฐี านขอ้ มลู รวบรวม
ให้ความ สตั ว์ทดลองและศกึ ษา การแพทยแ์ ผนเกาหลี ความร้พู ชื สมุนไพรท่ใี ช้
างวิชาการใน ในมนุษย์ เชน่ (The National ในการแพทย์ระบบ
ะบบ patient การศกึ ษากลไกการออก Development ตา่ งๆ ของอนิ เดยี ท้งั
ในหน่วยวจิ ัย ฤทธจ์ิ ากผลิตภณั ฑจ์ าก Institute of Korean การแพทย์พ้ืนบ้าน
ๆ มสี ถานที่ ธรรมชาติ การคดิ ค้นหา Medicine; NIKOM) และการแพทยใ์ นระบบ
ละเทคโนโลยี สารใหม่ทไี่ ดจ้ ากพืชใน ก่อต้งั ในปี 2016 ทา Codified System
ปน็ แหล่งรวม การตา้ นเซลล์มะเรง็ หน้าทส่ี ง่ เสรมิ ของอินเดีย และ
นวจิ ัยที่ เปน็ ตน้ ซง่ึ การวจิ ัย อุตสาหกรรมยาแผน เชือ่ มโยงกนั ด้วยชือ่
นกั ระบาด ลักษณะนเ้ี ปน็ เรอ่ื งท่มี ี เกาหลี วทิ ยาศาสตรข์ องพืชใน
สถติ ,ิ ความซบั ซ้อนสูง ตอ้ งใช้ - มสี ถาบันวจิ ยั ทุกหมวด
IT, medical ความเช่ียวชาญและ การแพทยแ์ ผน - การบนั ทกึ และการ
cs และ เคร่อื งมอื ท่ีมีความ ตะวนั ออก (Korea เก็บรักษาขอ้ มลู ท่ี
นับสนนุ การ ทนั สมัย เพื่อนามา Institute of Oriental เกี่ยวข้องกบั พชื
ท่เี ช่ียวชาญ สนบั สนนุ การใช้และ Medicine; KIOM) สมนุ ไพร (การทา
al database ยนื ยันในประสิทธิภาพ ภายใตส้ ภาวจิ ยั Herbarium) I-AIM มี
ry operation สาหรบั การรกั ษาทาง วทิ ยาศาสตรแ์ ละ การจัดทา Herbarium
ทามาตรฐาน การแพทย์ เทคโนโลยีแหง่ ชาติ เพอื่ การพสิ ูจนแ์ ละ
ผลิตภัณฑ์ - การวิจัยและพฒั นายา รบั ผิดชอบหลักในการ จาแนกชนดิ ของพืช
ทยา วจิ ัยพรี การควบคมุ คณุ ภาพของ วจิ ยั และพัฒนา สมุนไพร เปน็ หลักฐาน
คลนิ กิ และ ตารับยา การเกบ็ รกั ษา - การกาหนดแนวทางใน อา้ งองิ การมอี ยู่ของพชื
การแปรรปู วตั ถุดิบ รวมท้งั ด้านการ การกากับดแู ลการวิจยั สมุนไพรในประเทศ
ผลิต ใชเ้ ครอ่ื งมือและ ทางคลินกิ ของยาจาก อินเดยี
ers of เทคโนโลยีระดบั สงู ใช้ สมุนไพร โดยแบ่งยา - แนวคดิ และ
e เพ่อื ทาการ คนนอ้ ยแตไ่ ดป้ รมิ าณ จากสมุนไพรทีต่ อ้ งการ โครงสร้างฐานข้อมูล
ฒนาผลติ ภณั ฑ์ ผลติ ภณั ฑม์ าก การกากบั ดแู ลท่ี ภูมิปัญญาด้าน
แตกตา่ งกนั เปน็ 4 การแพทยอ์ นิ เดีย

การดาเนนิ งาน ไทย ๓๑

จีน มาเ
- จดั ทา Prio
Research F
(PRFA) เพื่อ
ชอ่ งวา่ งของ
พฒั นาสมนุ ไ
- กระทรวงเ
การจดั ต้ัง R
รับผิดชอบง
crop produ
agronomy,
มาตรฐานแล
ผลิตภณั ฑ์ ศ
วิจยั ทางพรีค
คลนิ ิก และเ
แปรรูปสมุน

๑๘

เลเซีย ญี่ปุน่ เกาหลี อนิ เดยี ๒๘๘

ority มนี ักวิทยาศาสตร์ ประเภท คือ 1) ยาจาก อ้างอิงจากข้อมูลของ
Focus Area ผู้เช่ยี วชาญทีค่ อย สมุนไพรทไี่ ดร้ ับการ การแพทยอ์ ายรุ เวท มี
อเติมเตม็ ควบคมุ คดิ ค้น และ รับรองแล้ว ต้องการ ขอ้ มลู พืชที่รวบรวมไว้
งงานวิจยั และ ศกึ ษาวจิ ยั ทาให้ ศกึ ษาในขอ้ บง่ ใชท้ ไี่ ด้รบั ทัง้ สิน้ ๑,๕๕๐ ชนิด
ไพร คุณภาพของผลิตภณั ฑ์ อนมุ ัตแิ ลว้ ในบางเรือ่ ง จาแนกเป็นหมวดได้แก่
เกษตรดูแล เปน็ ท่ีเชอ่ื มั่นของทกุ คน เชน่ ต้องการศึกษาเภสัช การเรยี กช่อื ทง้ั ชอ่ื
R&D cluster จลนศาสตรห์ รอื เภสัช วิทยาศาสตรแ์ ละชอื่
งานคน้ คว้า พลศาสตร์ของยาน้ัน 2) ภาษาถนิ่ การระบุ
uction & ยาจากสมนุ ไพรทไี่ ดร้ บั เอกลกั ษณพ์ ืช ฤทธ์ิทาง
, การจดั ทา การรบั รองแล้ว ตอ้ งการ เภสชั จลนศาสตรท์ ี่
ละพัฒนา ศึกษาในข้อบง่ ใชท้ ่ียงั จาแนกยอ่ ยได้ ๒
ศกึ ษาพษิ วทิ ยา ไมไ่ ดร้ ับอนมุ ตั ิ 3) ยา หมวด ได้แก่ คณุ สมบัติ
คลินิกและ จากสมุนไพรทย่ี ังไมไ่ ด้ ของพืชตามหลัก
เทคโนโลยีการ รับการรบั รอง แตม่ ี อายรุ เวทและตารบั ยา
นไพร ประสบการณก์ ารใช้ใน ระบุข้อมลู เภสัชวทิ ยา
โรงพยาบาลไม่นอ้ ยกว่า ของพชื การควบคุม
3 ปี ในผ้ปู ว่ ยไมน่ ้อย คณุ ภาพตามหลกั
กวา่ 200 ราย 4) ยา อายรุ เวทและการใช้
จากสมนุ ไพรตารับใหม่ รกั ษาทางคลนิ ิก

- Botanical
Medicinal Plants
Database เป็น
ฐานข้อมลู รวบรวม
ความรพู้ ืชสมนุ ไพรท่ีใช้
ในการแพทย์ระบบ
ต่างๆ ของอินเดียทง้ั
การแพทยพ์ ื้นบา้ น

การดาเนนิ งาน ไทย ๓๑

จนี มาเ

4. มาตรฐานอาหาร - ดแู ลการขึ้นทะเบียน ศนู ยต์ รวจสอบคณุ ภาพยา ตามระเบยี บ
และยา และจดแจง้ ผลติ ภณั ฑ์ ของจนี ในตลาดกลางยา รักษาโรค ป
สมนุ ไพร โดยกอง สมนุ ไพรเปน็ ความรว่ มมือ กาหนดให้ยา
ผลิตภณั ฑ์สมนุ ไพร ระหวา่ งองคก์ ารควบคมุ จาหนา่ ยในม
สานกั งานคณะกรรมการ คณุ ภาพยาของรัฐบาลจีน จะเป็นยารกั
อาหารและยา ภายใต้ และมหาวิทยาลยั รักษาสัตวเ์ ล
พรบ.ผลติ ภณั ฑส์ มนุ ไพร การแพทย์จีนเฉิงตู ทา ทะเบยี นตาร
พ.ศ.2562 หน้าท่ใี ห้บรกิ ารตรวจสอบ ภายใตก้ ารค
คณุ ภาพวตั ถดุ บิ เครอ่ื งยา Drug Cont
สัตวว์ ตั ถแุ ละผลิตภณั ฑ์ Authority
สมนุ ไพร มาเลเซยี
ยาและผลติ ภ
จาเป็นต้องข
ตารบั ยา ไดแ้
1. Pharma
products c

๑๙

เลเซยี ญป่ี ุ่น เกาหลี อินเดยี ๒๘๙

บการนาเข้ายา Pharmaceuticals - หน่วยควบคุมกากับ และการแพทย์ในระบบ
ปี ค.ศ. 1984 and Medical Devices ผลิตภณั ฑ์ตามกฎหมาย Codified System
าทกุ ชนิดท่ี Agency (PMDA) ยาอย่ภู ายใตก้ ระทรวง ของอินเดยี มีบันทึกอยู่
มาเลเซยี ไมว่ า่ - มบี ทบาทในการให้ ความปลอดภัยของ ทัง้ หมด 8,361
กษาคนหรือยา คาปรกึ ษา ทบทวน อาหารและยา รายการ เปิดให้เขา้ ถงึ
ลี้ยงจะต้องข้นึ ประเมนิ การปฏบิ ตั ิตาม ได้ผา่ น website
รับยาและอยู่ กฎเกณฑ์ ตรวจสอบ http://envis.frlht.org
ควบคุมของ และเฝา้ ระวงั ผลติ ภณั ฑ์ ซึง่ ประกอบด้วยเนอ้ื หา
trol หลงั ไดร้ ับการอนญุ าต 8 หวั ข้อ และเช่ือมโยง
- รวบรวมและจัดทา กนั ด้วยช่อื วิทยาศาสตร์
(DCA) ของ ขอ้ มลู อาการไมพ่ งึ ของพืชในทุกหมวด
ประสงคต์ ่าง ๆ และมี
ภณั ฑท์ ่ี งานด้านการบรรเทา - กระทรวงสมุนไพร
ขึน้ ทะเบยี น อาการไม่พึงประสงคท์ ี่ และอายรุ เวชของ
แก่ เกดิ ขึน้ จากการใช้ อนิ เดยี
aceutical ผลติ ภณั ฑ์ - หน่วยงาน Bureau
containing of Indian Standard
(BIS) เปน็ หนว่ นงาน
หลกั ของอนิ เดยี ท่ี
หน้าท่ตี รวจสอบรับรอง
มาตรฐานสินคา้
อุตสาหกรรมคลา้ ยกับ
สานักงานมาตรฐาน
ผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม
(สมอ.) ของไทย โดยใช้
แนวทางตาม
มาตรฐานสากล เชน่
ISO, HACCP ทั้งสนิ ค้า

การดาเนนิ งาน ไทย ๓๒

จนี มาเ
schedule p
ยาตน้ แบบ (
Drug) และย
(Generic D
2. Pharma
products c
non-sched
poisons(OT
แชมพูยาขจ
ระงับกล่ินป
(Antiseptic
3. Traditio
products
เสรมิ เช่น B
Royal Jell
of chicken
4. Veterina
ได้แก่ ยาท่ใี ช
สัตวเ์ ลย้ี ง เป

5. การนาไปใช้ - การใชย้ าสมุนไพรในการ - มคี วามหลากหลาย ท้ัง - นิยมใช้ผล
ประโยชน์ (สขุ ภาพ รกั ษาภายในโรงพยาบาล ในรปู แบบการบริการ (มี อาหารจากส
บาบดั รกั ษา นั้นกรมการแพทย์แผน ทง้ั คลนิ ิกขนาดเลก็ ใหญ่ มากกว่าการ
บรรเทา) ไทยและการแพทย์ และรพ) และการ รักษาโรค
ทางเลอื ก ไดม้ กี ารจดั ทา ผสมผสานในคลนิ ิกขนาด
“ฐานข้อมูลมลู การใช้ ใหญบ่ างแหง่ ยังมกี ารให้

๒๐

เลเซีย ญ่ีปนุ่ เกาหลี อนิ เดีย

poisons อาทิ - พัฒนาร่างระเบยี บ ในประเทศ และสินคา้ ๒๙๐
(Original ข้อกาหนด แนวทางและ นาเขา้
ยาสามญั มาตรฐานทเ่ี กี่ยวข้อง - หนว่ ยงาน Food
Drug) เปน็ ตน้ รวมถึง Japanese Safety and
aceutical Pharmacopoeia Standards authority
containing of India (FSSAI),
dule Ministry of Health &
TC) อาทิ Family Welfare
จัดรงั แค ยา รัฐบาลอินเดยี ซึ่งได้
ปาก จัดตั้งข้ึนตามกฎหมาย
c) ฯลฯ Food Safety and
onal Standard Act ค.ศ.
อาทิ อาหาร 2006 มหี นา้ ทีใ่ นการ
Bee Pollen, กาหนดมาตรฐาน
ly, Extract สาหรับสินคา้ อาหาร
n ฯลฯ และกาหนดกฎระเบยี บ
ary products ข้อบงั คับในเรอ่ื ง
ช้สาหรับรกั ษา ขน้ั ตอนการผลติ การ
ปน็ ต้น แปรรูป การกระจาย
การคา้ ขาย และการ
ลติ ภณั ฑเ์ สริม - ยาสมนุ ไพรในประเทศ - ใช้ในการดแู ลสขุ ภาพ นาเข้าสินคา้ อาหาร
สมนุ ไพร ญปี่ นุ่ จะเรยี กว่า พบวา่ รอ้ ยละ 69 ของ
รใชย้ าสมุนไพร Kampo จากหลกั ฐาน ประชากรมี - ใหค้ วามสาคัญใน
พบวา่ มกี ารใชม้ า ประสบการณ์ในการใช้ เรือ่ งของสุขภาพและ
มากกวา่ 1,400 ปี การแพทย์เกาหลี การบาบดั และจากจดุ
แบบแผนการรักษาท่มี า เกาหลีใหค้ วามสาคญั แข็งของอนิ เดียทม่ี ี
ช่อื เสยี งในเร่ืองของการ
บาบดั แบบธรรมชาติ

การดาเนินงาน ไทย จีน ๓๒

สมนุ ไพรในโรงพยาบาลใน การบริการด้วยการแพทย์ มาเ
สังกัดกระทรวง แผนจนี แบบดงั้ เดิม
สาธารณสุข” ภายใต้ชอื่
“HDC TTM Service”

๒๑

เลเซยี ญี่ป่นุ เกาหลี อนิ เดยี

จากประเทศจนี แต่ได้มี กบั การควบคุมกากบั หรือ Ayurvada ซึ่ง

การพัฒนาจนมี เครอ่ื งยาสมุนไพร กับ สามารถนามาเชอ่ื มโยง

เอกลักษณเ์ ฉพาะใน การผลติ แพทย์แผน กบั การทาโยคะและ

แบบของญ่ปี นุ่ เอง จงึ เกาหลี คอื จดุ คานงัดใน การนวดซึ่งสอดคลอ้ ง

เปน็ ทีม่ าวา่ ตารบั ยา การขบั เคลอื่ นแพทย์ กับวฒั นธรรมของ

Kampo แผนเกาหลี เน่อื งจาก ประเทศอนิ เดยี ทาให้

คนเกาหลมี ักซือ้ เคร่ือง เปน็ โอกาสท่ีดีของ

ยาสมนุ ไพรไปใชเ้ อง มี อนิ เดยี ทจ่ี ะสามารถ

ตลาดเครือ่ งยากเ็ ป็น ขยายธุรกจิ บรกิ าร

จดุ เด่น ดังกลา่ วและดึงดูด

- ใช้ในผูป้ ่วยกวา่ 20% นักท่องเทย่ี วได้อกี เป็น

ทีเ่ ป็นโควดิ ได้รบั การ จานวนมาก

รกั ษาดว้ ยการแพทย์ ผลิตภณั ฑส์ ปาหลักๆ ๒๙๑

แผนเกาหลีผ่านระบบ ประกอบด้วย นา้ มัน

การแพทย์ทางไกล และ หอมระเหย และ

ได้รับผลดีในการรักษา สมุนไพรชนิดต่างๆ

และยงั ให้ความสาคญั รวมทัง้ อุปกรณ์ที่ใช้ใน

กบั กลมุ่ ผปู้ ว่ ยที่ การนวดและการบาบัด

การแพทย์แผนปจั จบุ ัน - ในระยะหลงั มีการ

ไม่มเี วลาดูแล เชน่ ผลกั ดนั การผลติ สนิ คา้

หลังจากรักษาหายจาก ประเภทท่ี

โรงพยาบาล ภายหลงั ประกอบด้วยวตั ถุดบิ

การแพทยแ์ ผนปัจจบุ นั จากธรรมชาตแิ ละ

เรียกการเจ็บป่วยกลุ่มน้ี สมนุ ไพรออกมาเป็น

วา่ long covid จานวนมากเพ่อื

ตอบสนองตอ่ ความ

ต้องการของผูบ้ รโิ ภคใน

การดาเนินงาน ไทย ๓๒

จนี มาเ

6. การตลาด - กรมสง่ เสริมการคา้ - มีการวางแผนและหา - มกี ารศึกษ
ระหว่างประเทศ ในฐานะ มาตรการทีท่ าให้ถงึ ต้องการและ
หนว่ ยงานซึง่ รับผดิ ชอบ เปา้ หมายทว่ี างไว้ ตลาดทสี่ าคญ
ด้านการสง่ เสริมการขยาย - มีตลาดกลางสมนุ ไพร สหรฐั อเมรกิ
ตลาดในตา่ งประเทศ (Chinese Herbal ตน้ ใช้นโยบ
- โครงการการศกึ ษา Medicine Market) Down Poli
โอกาสทางการตลาดสาร กาหนดทิศท
สกดั สมนุ ไพรไทย สมุนไพร
เป้าหมาย” ซง่ึ มี - เนน้ ตลาด
วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ ศกึ ษา Suppleme
สถานภาพ และแนวโน้ม ตลาดยาสมนุ
การใช้สารสกัดหลักใน - เน้นการปร
สมนุ ไพรเป้าหมาย 4 โดยการทาส
ชนดิ ได้แก่ บัวบก ภาษาองั กฤษ
ขมนิ้ ชนั ไพล และ ทว่ั โลก
กระชายดา - บริษทั ท่เี ร
company
ผ่านการคดั เ
แต่งต้งั โดยก
เกษตร สาห
และการสรา้
(branding)
nutraceuti
จากสมนุ ไพร

๒๒

เลเซีย ญป่ี ่นุ เกาหลี อินเดีย

อนิ เดียด้วยคา่ นิยมเร่ือง

ความปลอดภัย

ษาความ - สมนุ ไพรสด (fresh - เนน้ ในด้านผลติ ภณั ฑ์ สนิ คา้ เพ่อื สขุ ภาพและ

ะเงอื่ นไขของ herb) ได้รับความนิยม อาหารเพื่อสุขภาพท่ีมี ความงามซง่ึ ในอดีตที่

คญั เช่น สูงขนึ้ นิยมการปลูก ยอดขายสงู ทสี่ ดุ ใน ผ่านมาถูกมองว่าเปน็

กา ญปี่ ุ่น เปน็ พชื ผกั สวนครัว เกาหลีใตค้ ือ ผลติ ภณั ฑ์ เรอ่ื งฟุ่มเฟอื ยและไม่

บายแบบ Top- - aroma therapy จาพวกโสมแดง จาเป็น กลายเปน็ สนิ คา้

icy ในการ ความใส่ใจในสุขภาพ อา - ผลติ ภณั ฑอ์ าหารเพอื่ ท่ีได้รับความนยิ มสูงขึ้น

ทางการพฒั นา หารสโลว์ฟู้ด การใช้ชีวติ สุขภาพสามารถพบได้ และตลาดมีแนวโน้มที่

อยา่ งธรรมชาติ และวิถี ท่วั ไปตามร้านขายยา จะขยายตัวไดใ้ นอัตรา

ด Health การดาเนนิ ชีวิต และผลติ ภณั ฑเ์ สรมิ ท่สี งู ข้นึ เรื่อยๆ โดย

ent มากกวา่ แบบสโลวไ์ ลฟ ความงาม โดยมรี ูปแบบ สินคา้ หลกั ในกล่มุ น้ี

นไพร - สมุนไพรสดทไ่ี ด้รับ ผลิตภณั ฑห์ ลายหลาย ประกอบด้วย

ระชาสมั พันธ์ ความนยิ มสงู สุด ได้แก่ ไดแ้ ก่ แคปซลู เครอื่ งดม่ื ผลติ ภณั ฑ์เพอ่ื ๒๙๒

ส่ือ โหระพา (Basil) และขนม ผลิตภณั ฑท์ ี่ สุขอนามยั ของร่างกาย

ษท่ีเผยแพรไ่ ป วางขายจะเน้นการ ต่างๆ ผลิตภณั ฑด์ แู ล

รับประทานท่งี า่ ย โดย เสน้ ผม ผลิตภณั ฑด์ ูแล

ยี กวา่ anchor มุ่งเนน้ ผู้บรโิ ภควยั รุ่น ผวิ พรรณ เครอื่ งสาอาง

๘ บริษัท ซงึ่ และวยั ทางานซง่ึ ชนิดต่างๆ และอาหาร

เลือกและ ตอ้ งการผลติ ภณั ฑท์ ่ี เสรมิ สขุ ภาพ เปน็ ต้น

กระทรวง สามารถบริโภคไดท้ นั ที

หรบั ทาตลาด - การซอื้ ขายออนไลน์

างตราสินค้า หรืออินเตอรเ์ นต็ ช็อปปิ้ง

ทง้ั ทเี่ ปน็ เป็นทน่ี ิยมเปน็ อย่างมาก

icals และยา สามารถทาการซ้ือขาย

รทีม่ ีหลักฐาน สนิ ค้าหลายหลาย ชนดิ

รวมไปถึงสินค้าจาพวก

การดาเนนิ งาน ไทย ๓๒

จีน มาเ
ทางวทิ ยาศา
สนับสนุนสร

7. ยุทธศาสตรก์ าร - แผนแมบ่ ทแห่งชาตวิ า่ - Standardization การ - การดาเนนิ

พฒั นาการแพทยแ์ ละ ด้วยการพฒั นาสมนุ ไพร สรา้ งมาตรฐาน รัฐบาลจีน ตน้ น้า เพอื่ ผ

สมนุ ไพร ไทย มพี นั ธกิจเพ่อื เน้นย้าถงึ ความจาเป็นของ สมนุ ไพร มี

พฒั นาสมนุ ไพรไทยให้เป็น การสร้างมาตรฐาน เพอ่ื ให้ Economic

ทีย่ อมรบั สามารถนาไปใช้ เกดิ การยกระดบั Developm

ประโยชนไ์ ด้อยา่ งเตม็ การแพทย์แผนจีนให้ รบั ผดิ ชอบใน

ศกั ยภาพ และมี ทัดเทยี มการแพทย์แผน โดยให้มีการ

ประสทิ ธภิ าพ ปัจจุบัน ทาใหภ้ าครัฐ เพ่ือผลิตวตั ถ

เป้าหมายเพือ่ ใหป้ ระเทศ สามารถควบคมุ กากับได้ ท่วั ประเทศแ

ไทยจะเปน็ ประเทศที่ การสร้างมาตรฐานมตี ้ังแต่ Herbal Cul

สง่ ออกวตั ถดุ บิ สมุนไพร มาตรฐานการปลูก การ Parks

คณุ ภาพและผลติ ภณั ฑ์ แปรรูปเบ้อื งต้นและการ - การพฒั นา

สมุนไพรช้นั นาของ แปรรปู เปน็ เครื่องยา ทม่ี ี จากสมนุ ไพร

ภมู ิภาค ASEAN และ การศกึ ษาอยา่ งจรงิ จงั ให้ เป็นสว่ นหน

มูลคา่ ของวตั ถดุ บิ สมนุ ไพร เหมาะสมกบั พชื แตล่ ะชนิด โปรแกรมกา

และผลติ ภัณฑส์ มนุ ไพร การลา้ งหัน่ ตากที่ เศรษฐกจิ ขอ

ภายในประเทศเพิ่มข้ึน เหมาะสม เพ่อื คงไว้ซงึ่ [Economic

อยา่ งนอ้ ย สารสาคัญ รวมทง้ั การ Transform

1 เทา่ ตัว สกดั ด้วย ดว้ ยสาเหตุที่ Programm

๒๓

เลเซีย ญ่ปี ุ่น เกาหลี อนิ เดีย ๒๙๓
าสตร์
รรพคุณ การวจิ ัยตารับยาโบราณ อาหาร การส่ังซอื้ - ศึกษาการบนั ทกึ
เพือ่ ยนื ยันประสทิ ธภิ าพ ผลิตภณั ฑ์อาหารเพ่ือ ข้อมูลภูมิปญั ญา
นการส่วนของ และประสทิ ธผิ ลของ สุขภาพผ่านอินเตอรเ์ นต็ ทอ้ งถนิ่ ของ I-AIM ทีม่ ี
ผลติ วตั ถดุ ิบ ตารับยาโบราณ ต้งั แต่ นยิ มสง่ั ซอ้ื ในจานวนมาก แนวทางดาเนนิ งาน
East Coast ระดบั ห้องปฏิบตั ิการ รวมไปถงึ การซื้อชุด ฝกึ อบรมคนท้องถน่ิ ให้
Region จนถงึ ระดับคลนิ กิ ใน ผลติ ภณั ฑข์ องขวญั โดยจะ เป็นผู้สารวจขอ้ มลู ภูมิ
ment Council มนษุ ย์ สร้างความ มสี ่วนลดหรือสทิ ธิพเิ ศษ ปัญญาท้องถ่ิน และทา
นการจดั การ เช่ือม่นั ในผู้บริโภค และ ขน้ึ อยกู่ บั แตล่ ะเว็บไซต์ ในนามของ I-AIM เมอ่ื
รปลกู สมนุ ไพร ผลักดนั เพ่อื ขึ้นทะเบียน เก็บข้อมูลไดค้ รบถว้ น
ถุดิบสมุนไพร ยาในต่างประเทศได้ - ส่งเสริมการ ก็จะมีการนาไปขน้ึ
และสร้าง สาธารณสขุ ผา่ น ทะเบียนกับหนว่ ยงาน
ltivation การแพทย์แผนเกาหลี ของรัฐเพื่อแสดงความ
และสร้างขีด เป็นเจ้าของภูมิปญั ญา
าผลติ ภณั ฑ์ ความสามารถของชาติ ของชุมชนโดยการจะ
รของมาเลเซีย ใหเ้ ข้มแขง็ สาหรับสรา้ ง นาภูมิปญั ญาดงั กลา่ ว
น่ึงของ ความร่วมมอื ระหว่าง ไปใชต้ อ้ งผา่ นการ
ารแปลง ประเทศ เห็นชอบของชุมชน
องประเทศ - มกี ฎหมายและแผน หรอื เจ้าของภมู ปิ ญั ญา
c ยุทธศาสตรใ์ นการ เสยี ก่อน โดยมีแนว
mation ส่งเสรมิ การแพทย์แผน
me (ETP)] โดย เกาหลแี ละผลติ ภณั ฑ์
สมนุ ไพรทตี่ ่อเน่อื ง โดย
มีโครงสรา้ งตาม
กฎหมายเพือ่
ประสานงานระหว่าง
กระทรวงทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
ได้แก่ กระทรวง
สาธารณสุขและ

๓๒

การดาเนนิ งาน ไทย จนี มาเ

รฐั บาลจนี สนับสนุน แผน ETP น

การแพทยแ์ ผนจนี อยา่ ง National K

จรงิ จังและต่อเนอ่ื ง ทาให้ Economic

ทุกมหาวทิ ยาลัยมกี าร (NKEAs) 6

สร้างองคค์ วามรเู้ พื่อ ของด้านการ

สนับสนุนใหเ้ กิดการพฒั นา กาหนด EPP

ส่วนรฐั บาลเองนั้นก็มหี น้าที่ ประเภทผลติ

ในการสร้างระบบการ High-value

เช่ือมต่อและทาให้ทุกภาค Products เ

ส่วนเห็นและแลกเปลย่ี น เปน็ การดาเน

ขอ้ มูลของกันและกัน ของตน้ นา้ แล

- Modernization การทา ซงึ่ EPP1 H

ให้บริการทางการแพทย์ Herbal Pro

และผลติ ภณั ฑส์ มุนไพรมี หมายเพอื่ พ

ความทันสมัย รัฐบาลจนี ของผลติ ภณั

มองว่าการทาให้บรกิ าร จากสมุนไพร

และผลิตภัณฑ์ขายได้ พฒั นาการต

ตอ้ งทาใหท้ นั สมยั จึงมี ตอบสนองต

การวางมาตรการหลาย มีความต้องก

อย่าง ท้ังการศกึ ษาที่ คณุ ภาพกลุ่ม

กาหนดใหท้ ้ังแพทย์จีนและ - ในสว่ นของ

แพทย์แผนปจั จุบนั ต่าง การส่งเสรมิ

เรียนรศู้ าสตร์ของกนั และ เขา้ มาดาเนิน

กัน การพฒั นาแพทยแ์ ผน เอกชนลงทนุ

บูรณาการท่รี ทู้ ง้ั สองแผน ทางรฐั บาลจ

ทาให้เหน็ ภาพการ ภายหลัง มีก

ผสมผสานระหว่าง รูปแบบเครือ

๒๔

เลเซยี ญีป่ ่นุ เกาหลี อินเดยี

น้ี มีการตงั้ สวัสดกิ ารสงั คม ทางการทางานหลกั ๒

Key กระทรวงศึกษาธิการ สว่ น ได้แก่

Areas กระทรวงวิทยาศาสตร์ ๑) Data

6 ด้าน ในสว่ น และเทคโนโลยี และ Documentation มี

รเกษตร กระทรวงความ ขัน้ ตอนการเก็บขอ้ มลู

P ไว้ ๑๖ ปลอดภัยของอาหาร โดยจะเกบ็ ในข้อมลู

ตภณั ฑ์ โดยมี และยา โดยมสี านกั เร่อื งการใชร้ กั ษาโรค

e Herbal การแพทยแ์ ผนเกาหลีที่ การใชส้ มนุ ไพร

เป็น EPP #1 เปน็ หน่วยงานใน ความคิด ความเช่อื

นินการสว่ น กระทรวงสาธารณสุข ประเพณีและ

ละปลายนา้ และสวสั ดิการสงั คมเปน็ วัฒนธรรมท่เี กยี่ วขอ้ ง

High-value หนว่ ยบริหาร กับการใช้ยานนั้ ๒๙๔

oducts มงุ่ ยทุ ธศาสตร์ มี NIKOM ๒) Data Processing

พัฒนาคณุ ภาพ ในกากับของกระทรวง ขน้ั ตอนการ

ณฑเ์ สรมิ อาหาร สาธารณสุขรบั ผดิ ชอบ ประมวลผลขอ้ มลู มี

ร และ ในการสง่ เสริม การพัฒนา Software

ตลาด เพอ่ื อุตสาหกรรมยาจาก เพอ่ื การเกบ็ รวบรวม

ตอ่ ตลาดโลกที่ สมุนไพร ขอ้ มูลอยา่ งเป็นระบบ

การผลติ ภณั ฑ์ จากนั้นนาขอ้ มูลท่ไี ดม้ า

มนี้ ผา่ นกระบวนการ

งปลายน้ามี ตรวจสอบความถูกต้อง

มใหภ้ าคเอกชน กับแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ

นการโดยให้ หรอื ระบบการแพทย์

นไปก่อนแล้ว อื่น ๆ

จะจา่ ยคืนใน

การจัดการใน

อบรษิ ัท โดยมี

การดาเนนิ งาน ๓๒

ไทย จีน มาเ
การแพทยแ์ ผนจีนและ Anchor Co
การแพทย์แผนปัจจบุ นั บริษทั แม่
อย่างชดั เจน เช่น ในหอ้ ง
ฉกุ เฉินมีการให้บรกิ ารการ
ช่วยเหลือชวี ติ ข้ันตน้ ด้วย
การแพทยแ์ ผนปัจจบุ ัน
แตก่ ม็ ยี าฉดี แผนจีนไว้
ช่วยเหลือชวี ติ ด้วย ใน
ขณะเดยี วกันได้มกี ารพัฒนา
ผลิตภัณฑใ์ ห้เป็นสารสกดั มี
การพัฒนายาสมนุ ไพร ไปสู่
รูปแบบยาที่เป็นยาแผน
ปัจจบุ นั เช่น ยาฉดี เข้าเส้น
เลอื ด โดยมีการทาการวิจัย
อยา่ งต่อเนื่อง
- Internationalization
การมุ่งสู่สากล หลังจากการ
สรา้ งมาตรฐาน การพฒั นา
ผลติ ภัณฑแ์ ละบรกิ ารให้
ทนั สมัย มีมาตรฐาน ทา
ให้บรกิ ารและผลติ ภัณฑ์
ของจนี สามารถสง่ ออกไป
ขายในตา่ งประเทศได้ อีก
ทงั้ ทาใหม้ าตรฐานได้รบั
การยอมรบั จนบางครัง้ ถูก
นาไปเปน็ มาตรฐานระดับ
โลกและภมู ภิ าค

๒๕ ญ่ีปุ่น เกาหลี อินเดยี

เลเซีย
ompany เป็น

๒๙๕

๓๒

๒๖

- ๒๙๗ -

บทท่ี ๕
บทสรุปและขอ้ เสนอแนะ

๕.๑ บทสรปุ

จากการศึกษา วิเคราะห์ สงั เคราะห์ข้อมลู ของคณะกรรมาธิการวสิ ามัญศึกษาแนวทางการพลกิ โฉม
พืชสมุนไพรไทยด้วยการวิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา คณะอนุกรรมาธิการด้านการผลิตพืชสมุนไพร
วิจัยและนวัตกรรม และการนาไปใช้ประโยชน์ คณะอนุกรรมาธิการด้านกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ
ข้อบังคับ มาตรฐานอาหารและยา สิทธิบัตร/สิทธิประโยชน์ การคุ้มครองผู้บริโภค การตลาด
และการประชาสัมพันธ์ และคณะทางานประสานงานด้านธุรการและแผนดาเนินการร่วมของ
กรรมาธิการและอนุกรรมาธิการ เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์สมุนไพรไทยและปัญหาอุปสรรคในมิติท่ี
เช่ือมโยงในด้านการผลิตพืชสมุนไพร วิจัยและนวัตกรรม และการนาไปใช้ประโยชน์ ด้านกฎหมาย
ระเบียบ และข้อบังคับ ตามลาดับ ข้อมูลจากการสัมมนา เร่ือง แนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทย
ด้วยการวิจัยและนวัตกรรม รวมทั้งข้อมูลจากการสัมภาษณ์ออนไลน์ และจาก การศึกษาดูงาน
พบว่า พืชสมุนไพรมีความสาคัญทั้งในด้านสุขภาพ สังคมและวัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติ
ความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพ ตลอดจนด้านเศรษฐกิจของประเทศ เป็นต้น อีกทั้งปัจจุบันตลาด
ต่างประเทศยังคงมีความต้องการสูง ท่ีผ่านมาหน่วยงานภาครัฐมีความพยายามในการผลักดันแล ะ
ยกระดับสมุนไพรไทยและผลิตภัณฑ์ โดยใช้มาตรการในการขับเคล่ือนผ่านกลไกท้ัง ๓ ด้าน ได้แก่
มาตรการด้านแผน นโยบาย ด้านมาตรฐาน และด้านกฎหมาย อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย
ยงั ไมเ่ ป็นทย่ี อมรับมากนกั ท้งั ภายในและตา่ งประเทศ

เน่ืองจากพืชสมุนไพรไทยมีจานวนกว่าพันชนิด/รายการ ประกอบกับขีดจากัดด้านเวลาการ
พิจารณาศึกษาคณะกรรมาธิการจึงได้พิจารณาลาดับความสาคัญและความจาเป็นเร่งด่วนในการศึกษา
โดยแบง่ กลุม่ พชื สมนุ ไพร เป้าหมายเปน็ ๓ กลมุ่ (รายละเอียดตามบทท่ี ๒) ดงั น้ี

๑) พืชสมุนไพรต้นแบบ )Product champion) ประกอบด้วย ฟ้าทะลายโจร ขม้ินชัน
กระชายขาว กระชายดา ไพล มะขามป้อม บัวบก กวาวเครอื ขาว พรกิ กระเจยี๊ บแดง หญา้ หวาน ว่านหางจระเข้

๒) พืชสมุนไพรที่มีศักยภาพ ประกอบด้วย พลูคาว มะนาว ขิง ข่า มะลิ อัญชัน กระเทียม
หอมแดง ฟกั ทอง มะกรูด งาขาว งาดา สะเดา ตะไคร้ มะระขน้ี ก

๓) พชื สมนุ ไพรทม่ี ีความสนใจในปัจจุบนั ประกอบด้วย กญั ชา กญั ชง กระท่อม

๒๙๘

ภาพที่ ๑๑๖ ศึกษารายละเอยี ดพชื สมนุ ไพรไทย

ศกึ ษารายละเอียดพืชสมนุ ไพรไทย
ได้จากเอกสารประกอบเล่ม ๑/๑๑
หรอื จาก QR Code

ประเด็นการพลิกโฉมมุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกอย่างมีนัยยะสาคัญ ดังน้ัน
เป้าประสงค์และดัชนีการช้ีวัดจึงต้องกาหนดให้มีความชัดเจนและมีความท้าทายควบคู่กับโอกาส
ความสาเรจ็ อาทิ เชน่

- การสรา้ งการรับรู้/ตระหนักรู้ และการประชาสมั พันธ์ด้านคณุ ประโยชน์ ผลดี/ผลกระทบของ
พืชสมุนไพรไทยอย่างกว้างขวาง

- การพัฒนามาตรฐาน คุณภาพ และสรรพคุณ ท้ังในมิติของภูมิปัญญาไทย และมิติทาง
วิทยาศาสตร์ รวมถึง ผลงานด้านวจิ ยั และนวตั กรรม

- การสร้างความเช่ือม่ันและความพึงพอใจให้กับผู้นาไปใช้ประโยชน์ จนมีจานวนการเพ่ิม
ปรมิ าณการใช้ในอตั ราท่สี งู ขน้ึ อย่างต่อเนื่อง

- มีการสนับสนุนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่การผลิตให้กับเกษตรกร
ผ้ปู ระกอบการ หนว่ ยงานในระบบวชิ าการและสาธารณสุข อยา่ งเหมาะสมและเพยี งพอ

- ผ้ปู ระกอบการสามารถเข้าถงึ กฎ ระเบียบ ข้อบังคบั ของฝา่ ยบรหิ ารไดอ้ ยา่ งเท่าเทียม รวดเร็ว
และไม่เป็นภาระจนเกินสมควร โดยเฉพาะด้านมาตรฐานอุตสาหกรรม มาตรฐานด้านอาหารและยา
การจดลิขสิทธ์ิ อนุสิทธบิ ัตร และการขออนมุ ัติ ขออนุญาตในประเด็นท่ีเกี่ยวข้อง

- การเพ่ิมมูลค่า ผลิตภัณฑ์สมุนไพร รายได้ของผู้ประกอบการ การเติบโตทางเศรษฐกิจของ
ชุมชน และประเทศ โดยลดการนาเข้าผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากต่างประเทศควบคู่กับการเพิ่มส่วนแบ่ง
ตลาดในประเทศและต่างประเทศอยา่ งมีนัยยะสาคญั

๒๙๙

- ประเด็นอื่น ๆ ที่มีผลกระทบท้ังทางตรงและทางอ้อม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อาทิเช่น
ความตอ่ เนื่องของนโยบาย-ยทุ ธศาสตร์-แผนแม่บท-แผนดาเนินงาน-แผนงานโครงการและงบประมาณ
เปน็ ตน้

ด้านปญั หาและอุปสรรค
คณะกรรมาธิการพบว่าประเด็นปัญหาสาคัญของสมุนไพรไทย คือ ประเทศไทย
แม้จะมีการพัฒนาระบบและกลไกที่สนับสนุนให้เกิดการนาพืชสมุนไพรมาใช้ประโยชน์ แต่ยังพบว่า
เกษตรกร ผู้ประกอบการและนักวิจัยยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้และใช้ประโยชน์ได้ สาเหตุ
สาคัญอาจเน่ืองมาจากระเบยี บ ข้อกาหนด หน่วยงานท่ที างานเพอื่ พัฒนาสมุนไพรทั้งต้นทาง กลางทาง
และปลายทางมจี านวนมาก ขาดการบรู ณาการทางาน และมผี ลิตภัณฑแ์ ละบรกิ ารเปา้ หมายท่แี ตกตา่ ง
กัน ทั้งน้ี เพื่อให้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมสมุนไพรมีการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันที่
สูงขึ้นตลอดห่วงโซ่คุณค่าของพืชสมนุ ไพรและผลติ ภัณฑอ์ ย่างมปี ระสิทธภิ าพและย่ังยืน โดยเฉพาะในประเดน็
ท่ีเกี่ยวข้องกับกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับมาตรฐานอาหารและยา สิทธิบัตร/สิทธิประโยชน์
การคุ้มครองผู้บริโภค การตลาดและการประชาสัมพันธ์ หน่วยงานภาครัฐท้ังในระดับนโยบาย
จงึ ควรมีแนวทางในการวางแผนหรือกาหนดนโยบาย นอกจากนี้ ด้านการตลาดและบุคลากรทางการแพทย์
รวมถึงผู้บริโภคยังไม่ให้การยอมรับและขาดความเช่ือถือ ซ่ึงเป็นปัญหาท่ีเก่ียวเน่ืองกัน
จากหลายปจั จยั ท่สี ่งผลกระทบดงั กล่าว โดยสามารถแบง่ ปญั หาอปุ สรรคทเ่ี ก่ียวข้องดงั นี้
๕.๑.๑ ปัญหาอุปสรรคการเตรียมความพร้อมในการพลิกโฉม ประกอบด้วยปัจจัยสาคัญ ๙ ด้าน
ได้แก่

๕.๑.๑.๑ ด้านแหล่งวัตถุดิบ พบว่าแหล่งกาเนิดสมุนไพรและจานวนสมุนไพร
ตามธรรมชาติลดลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุสาคัญเกิดจากการสูญเสียพ้ืนที่ป่าอันเป็นแหล่งกาเนิด
ของสมุนไพร นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากการลักลอบเก็บสมุนไพรเพ่ือส่งออกไปยังต่างประเทศ
ห รื อ อ ยู่ ใ น ภ า ว ะ ใ ก ล้ สู ญ พั น ธ์ุ ก า ร ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ส มุ น ไ พ ร จ า ก แ ห ล่ ง ก า เ นิ ด ใ น วิ ถี ท า ง ท่ี ไ ม่ ย่ั ง ยื น
ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพท้องถ่ิน และลดทอนศักยภาพ
การพัฒนาพชื สมนุ ไพร

๕.๑.๑.๒ ด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ มาตรฐาน และการรับรอง อันเน่ืองมาจากผลผลิต
และวัตถุดิบสมุนไพรมีคุณภาพไม่สม่าเสมอ และ/หรือมีการปนเป้ือน รวมท้ังสถานประกอบการผลิต
ยาสมุนไพรแผนโบราณท่ีได้มาตรฐานยังมนี ้อย

๕.๑.๑.๓ ด้านความพร้อมของเกษตรกร/ผู้ประกอบการ และความสามารถ
ในการแข่งขัน พบว่าเกษตรผู้ปลูกสมุนไพรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อยท่ียังขาดองค์ความรู้
และทักษะที่เหมาะสมในการผลิตสมุนไพรให้ได้ประสิทธิภาพ ขณะที่ผู้ประกอบการในธุรกิจ
ผลิตภัณฑ์สมุนไพรขาดความพร้อมและความเข้าใจเก่ียวกับกฎระเบียบการขออนุญาต และไม่เห็นถึง
ความสาคัญของการควบคุมคุณภาพ รวมทั้งผู้ประกอบการรายย่อยหรือวิสาหกิจชุมชนส่วนใหญ่
ยังไมส่ ามารถผลติ สมุนไพรและผลติ ภัณฑ์ตามมาตรฐานทีต่ รงตามข้อกาหนดของกฎหมาย นอกจากนน้ั ตน้ ทุน
การผลิตสารสกัดจากสมุนไพรของไทยยังสูงจึงต้องพ่ึงพาการนาเข้าจากต่างประเทศเป็นจานวนมาก

๓๐๐

และยังขาดกลไกในการเชื่อมโยงระบบการผลิต ตั้งแต่การผลิตวัตถุดิบสมุนไพร จนถึงการแปรรูปไปเป็น
สารสกดั และผลติ ภัณฑส์ มนุ ไพร

๕.๑.๑.๔ ด้านการวิจัยพัฒนานวัตกรรม ในส่วนของนักวิจัยจานวนมากพบว่ายังขาด
ความเข้าใจเกี่ยวกับ กฎ ระเบียบ ในการขออนุญาตผลิตภัณฑ์สมุนไพร ทาให้การต่อยอดไปสู่
ระดับอุตสาหกรรมจึงเป็นไปได้ยาก สาหรับทุนวิจัยยังขาดความต่อเนื่องในการสนับสนุนงานวิจัย
ด้านสมุนไพร โดยเฉพาะงานวิจัยด้านคลินิก อย่างไรก็ตามข้อมูลงานวิจัยและพัฒนาพืชสมุนไพร
และผลิตภัณฑ์มีอยู่เป็นจานวนมาก แต่ไม่ค่อยมีการเผยแพร่ให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย
ขณะที่ผู้ประกอบการสมุนไพรรายย่อย มีเงินทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่เพียงพอ
โดยในส่วนของภาครฐั ยงั ขาดการกาหนดนโยบายเพ่ือสนบั สนนุ การสรา้ งนวัตกรรมท่ชี ัดเจน เป็นตน้

๕.๑.๑.๕ ด้านห้องปฏิบัติการและข้อกาหนดมาตรฐาน โดยพบว่าข้อมูลทางยา
(Monograph) ของผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีไม่เพียงพอกับความต้องการและไม่สามารถตอบสนอง
ต่อความต้องการได้ทันท่วงที ซึ่งส่วนหน่ึงเกิดจากบุคลากรผู้เช่ียวชาญและมีศักยภาพในการจัดทา
Monograph ยังมีจากัด ห้องปฏิบัติการทั้งในภาครัฐและเอกชนท่ีได้การรับรองมาตรฐานสาหรับ
การตรวจวิเคราะหผ์ ลติ ภัณฑ์สมุนไพรตามขอ้ กาหนดตา่ ง ๆ ทางกฎหมายมไี มเ่ พียงพอและมีค่าใชจ้ ่ายสูง
การผลิตวัสดุอ้างอิงรับรองและโปรแกรมการเปรียบเทียบผลการวัดท่ีเกี่ยวข้องกับการทดสอบวัตถุดิบ
และสารสกัดสมุนไพรยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ รวมทั้งขาดการกาหนดมาตรฐานที่ชัดเจน
และครอบคลมุ ผลิตภัณฑท์ ม่ี ใี นตลาด

๕.๑.๑.๖ ด้านบุคลากรทางการแพทย์ พบว่าบุคลากรทางการแพทย์ส่วนมากยังไม่ให้
การยอมรับและขาดความเช่ือมั่นในผลิตภัณฑ์สมุนไพรและการรักษาทางการแพทย์แผนไทย
รวมถึงยังขาดการเชื่อมโยงกับมาตรฐานการรักษากับการแพทย์แผนปัจจุบัน ส่งผลให้การเข้าถึง
และการใช้บรกิ ารการแพทย์แผนไทยยังมีนอ้ ย กอปรกบั บุคลากรทางการแพทย์แผนไทยมีจากัด

๕.๑.๑.๗ ด้านการตลาดและส่งเสริมการขาย การประชาสมั พันธ์และโฆษณาสรรพคุณ
ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่สามารถทาได้หรือทาได้อย่างจากัด หรือบางส่วนมีการโฆษณาสรรพคุณเกินจริง
หรือเป็นผลิตภัณฑ์ปลอม รวมท้ังการนายาแผนไทยและยาจากสมุนไพรเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ
ยังทาได้น้อยและการส่งเสริมการเข้าถึงยา/ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไปยังผู้บริโภคยังไม่ทั่วถึง อีกท้ังผู้บริโภคยังมี
ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับเครื่องหมายท่ีได้รับการรับรองคุณภาพและมาตรฐานสาหรับสมุนไพร
และผลติ ภณั ฑอ์ ยา่ งจากัด

๕.๑.๑.๘ ด้านการส่งออก ผู้ประกอบการต้องใช้เวลานานในการศึกษาข้อกฎหมาย/
ระเบียบ เพ่ือการส่งออกผลิตภัณฑ์สมุนไพร และใบรับรองผลการวิเคราะห์คุณภาพสินค้า (Certificate
of Analysis, COA) ของสารสกดั สมุนไพรมคี า่ ใช้จา่ ยสูงและใชเ้ วลานาน

๕.๑.๑.๙ ด้านการกากับดูแล กระบวนการขออนุญาต การดาเนินการต่าง ๆ
ของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรและผลิตภัณฑ์ รวมถึงการพัฒนากฎหมายลาดับรองที่จะแก้ปัญหา
ให้แก่ผู้ประกอบการมีความล่าช้า รวมท้ังการขึ้นทะเบียนอาหารและยาของผลิตภัณฑ์สมุนไพร
ในอดตี มกั จะใช้เวลานาน

๓๐๑

๕.๑.๒ ปญั หาแยกตามหว่ งโซก่ ารพฒั นาสมุนไพร
๕.๑.๒.๑ ปัญหาตน้ ทาง
๑) การผลิตวัตถุดิบพืชสมุนไพรยังขาดการจัดการท่ีดีพอ ตั้งแต่การพัฒนา

สายพันธทุ์ ่ีดี การเลอื กสายพันธ์ุทใ่ี ช้ปลกู วิธกี ารปลกู วิธีการดแู ลรกั ษา และการเกบ็ เก่ียว รวมท้งั การวิจยั เพอ่ื พฒั นา
๒) ผลผลิตวัตถดุ บิ พืชสมุนไพรไม่ได้มาตรฐานทัง้ ดา้ นคณุ ภาพและความปลอดภัย

คือ การปราศจากยาฆ่าแมลง โลหะหนัก และเชื้อโรคทาให้ไม่สามารถใช้ในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
สมุนไพร ยา ผลติ ภณั ฑ์เสริมอาหารหรอื เครื่องสาอางได้

๓) เกษตรกรยังเข้าไม่ถึงองค์ความรู้และงบประมาณในการจัดการ แม้ว่าจะ
ได้มีการจัดทามาตรฐานการปลูกให้เป็นไปตามระบบ การปฏิบัติที่ดีทางการเกษตร (GAP)
แต่ยังมีอุปสรรคสาคัญในการปฏิบัติสาหรับเกษตรกรนอกจากนี้ใน การแปรรูปในข้ันต้น
โดยกลุ่มเกษตรกรรายย่อยหรือผู้ประกอบการขนาดเล็ก ยังขาดการส่งเสริมด้านเงินทุนในการปลูก
และการตรวจวิเคราะห์มาตรฐาน

ภาพที่ ๑๑๗ ศึกษารายละเอยี ดการปลกู พชื สมนุ ไพรดว้ ยการปฏิบัติทางการเกษตรทดี่ ี
ในการผลติ พชื สมนุ ไพร

ศกึ ษารายละเอียดการปลูกพืชสมุนไพรดว้ ย
การปฏิบตั ทิ างการเกษตรท่ดี ใี นการผลติ
พืชสมุนไพร ไดจ้ ากเอกสารประกอบเล่มที่
๒/๑๑ หรอื จาก QR Code

๕.๑.๒.๒ ปญั หากลางทาง
๑) วัตถุดิบ การขาดวัตถุดิบสมุนไพรในประเทศที่ได้มาตรฐาน เพื่อเข้าสู่

กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้ผู้ผลิตจึงต้องนาเข้าวัตถุดิบสมุนไพรจากต่างประเทศ ที่มีราคาสูง
กวา่

๓๐๒

๒) การแปรรปู ยังขาดความหลากหลายของผลติ ภัณฑ์
๓) การวิจัย ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีน้อย และเป็นการวิจัย
ในห้องปฏิบัติการและการวิจัยในสัตว์แต่ขาดการต่อยอดสู่การวิจัยในมนุษย์และมักจะวิจัยซ้า ๆ
กับสมุนไพรชนิดเดิมงานวิจัยบางเรื่องมีความซับซ้อนและใช้เทคโนโลยีข้ันสูงเกินกว่าจะนามาต่อยอด
เพ่อื ผลติ ในระดับอุตสาหกรรม
๔) การข้ึนทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผู้ประกอบการขาดทักษะในการข้ึน
ทะเบียนผลติ ภัณฑ์สมุนไพร
๕) การขาดความเชอ่ื มโยงระหวา่ งเกษตรกรและผปู้ ระกอบการ ทาให้การปลูก
สมุนไพรของเกษตรกรไม่ตรงตามความตอ้ งการของผูผ้ ลติ

๕.๑.๒.๓ ปัญหาปลายทาง
๑) นโยบายดา้ นสมนุ ไพรของภาครฐั ยงั ขาดความตอ่ เนอื่ ง และผู้เก่ียวข้องไดร้ ับร้นู ้อย
๒) มาตรฐานเก่ียวกับสมุนไพร มีหลายมาตรฐานจากหลายหน่วยงาน ทาให้

สับสนในการใช้
๓) ภาพลักษณ์ของสมุนไพรไทยยังคงขาดความน่าเช่ือถือเพียงพอ การแปรรูป

เป็นผลิตภัณฑ์และการโฆษณาสรรพคุณต่าง ๆ ยังขาดหลักฐานท่ีชัดเจน และบางส่วนเป็นการโฆษณา
เกินจริง

๔) การจัดการข้อมลู ภูมิปัญญา ประสบการณ์ วิชาการ และการวจิ ยั ยงั ขาด
การบูรณาการ ส่งเสริม และสนับสนุนให้มีคุณภาพ เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ซึ่งจะนาไปสู่แนวทาง
การใช้อย่างเหมาะสม รวมท้ังการให้ความรู้ความเข้าใจในวงกว้าง และการประเมินปริมาณการใช้
ในประเทศและการสง่ ออก

๕) การส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างเหมาะสมยังน้อย ท้ังในกลุ่ม
ประชาชนทว่ั ไป การใชใ้ นโรงพยาบาลและคลินิกแพทยแ์ ผนไทย และมีผเู้ ขา้ ถึงหรือทราบข้อมลู น้อย

๕.๑.๓ ปัญหาแยกตามเสาหลักของการพัฒนาสมุนไพรและนวัตกรรม
๕.๑.๓.๑ เสาหลักท่ี ๑ คือ ภูมปิ ัญญาไทย ท่ีมีสะสมมายาวนานภูมิปญั ญาด้านสมุนไพร

จานวนมากมีหลักฐานการใช้ที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นตารายาสมุนไพร หรือตารายาแพทย์แผนไทย
ซ่ึงภูมิปัญญาในการใช้สมุนไพรหลายชนิดมีมายาวนาน มีข้อมูลด้านความปลอดภัยและผลการใช้
แต่ปัจจุบันยังขาดการจัดการข้อมูลที่ดี ขาดการส่งเสริมเพื่อมุ่งสู่การเป็นนวัตกรรมสมุนไพร
ขาดการประยุกต์นาความรู้ด้านภูมิปัญญาสมุนไพรท่ีเป็นของแท้มาต่อยอด และยังมีข้อจากัดในการใช้
เทคโนโลยเี พ่อื การพฒั นาสมุนไพรอยา่ งเหมาะสม

๕.๑.๓.๒ เสาหลักที่ ๒ คือ เทคโนโลยีสมุนไพร ซ่ึงยังขาดการพัฒนา แม้ว่างานวิจัย

ดา้ นสมนุ ไพรจะมีมากแต่ยังขาดการต่อยอดจนกลายเป็นนวัตกรรมสมนุ ไพรท่ีมุ่งสกู่ ารพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์
ทสี่ ามารถวางจาหนา่ ยได้

๓๐๓

๕.๑.๓.๓ เสาหลักท่ี ๓ คือ การตลาดสมุนไพร ประเทศไทยยังขาดความชัดเจน

ในการส่งเสริมพืชสมุนไพร การแปรรูป การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน และยังต้องพ่ึงพาการนาเข้า
วัตถุดิบสมุนไพรจากต่างประเทศ เพ่ือใช้ในการผลิต จึงขาดความมั่นคงด้านสมุนไพรและส่งผลต่อการพัฒนา
การตลาดเป็นอย่างมาก

ขอ้ สังเกต :
“คณุ ภาพวตั ถดุ บิ และผลิตภัณฑ์ การวิจัยและการจัดการข้อมูล” เป็นจุดคานงัดทส่ี าคัญในการ

พลกิ โฉมผลติ ภัณฑส์ มุนไพร
“ประเทศไทยอยู่ในภาวะพึ่งพาวัตถุดิบสมุนไพรจากต่างประเทศ จากการที่วัตถุดิบในประเทศ

ดอ้ ยคณุ ภาพ”
“ประเทศไทยยงั ขาดการกาหนดผลิตภณั ฑ์และบริการเปา้ หมายของประเทศ ยงั ขาดการพัฒนา

นวตั กรรมจากองค์ความรู้ ภูมิปญั ญา และการนาไปใช้อย่างสมเหตผุ ลและมีประสิทธิภาพ”

๕.๒ ขอ้ เสนอแนะ
จากขอ้ มลู ข้อพิจารณาข้างตน้ คณะกรรมาธกิ ารได้วเิ คราะหแ์ ละเลง็ เห็นว่าผู้เก่ียวขอ้ งทุกระดับ

และทุกภาคส่วนควรเร่งการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงข้ึนตลอดห่วงโซ่
คุณคา่ ของพชื สมุนไพร และผลิตภณั ฑ์อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและย่ังยนื โดยเฉพาะในประเด็นท่ีเก่ยี วขอ้ งกับ
การผลิตและแปรรปู พืชสมุนไพร การวิจยั และนวัตกรรม และการนาไปใชป้ ระโยชน์ รวมท้ังกฎหมาย ระเบยี บ
ประกาศ ข้อบังคับ มาตรฐานอาหารและยา สิทธิบัตร/สิทธิประโยชน์ การคุ้มครองผู้บริโภค การตลาด
และการประชาสัมพันธ์ ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ จึงควรเร่ง
ดาเนินการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกโฉม โดยคณะกรรมาธิการมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
และการขบั เคล่อื นเชิงบูรณาการ ดังนี้

๕.๒.๑ ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบาย
พิจารณาดาเนินการโดยรัฐบาล คณะกรรมการระดับชาติและหน่วยงานท่ีได้รับ

มอบหมายตามกฎหมาย
๕.๒.๑.๑ ประกาศกาหนดให้การพัฒนาสมุนไพรไทยเป็นวาระแห่งชาติ เพ่ือให้ทุกภาคส่วน

ร่วมมือการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับเช่ือถือของผู้บริโภค
ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยกาหนดเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ให้ประเทศไทย ก้าวข้ึนเป็นศูนย์กลาง
สมนุ ไพร ภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๕

๕.๒.๑.๒ ส่งเสริมให้พัฒนาความรู้ สมรรถนะและทักษะด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
การวิจัยและนวัตกรรม รวมถึงด้านภูมิปัญญาไทย เพื่อมาใช้เป็นเครื่องมือสาคัญในการพัฒนางาน
และกระบวนการผลิต ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยพิจารณาปรับปรุงกิจการ
และยกระดบั หนว่ ยงานหรือองค์กรท่ีมีศกั ยภาพขึ้นมารองรบั ภารกิจในการพลิกโฉมสมุนไพรไทยด้วยการวจิ ัย
และนวัตกรรม เพ่อื บรรลเุ ป้าหมายตามข้อ ๕.๒.๑.๑ ได้ตามระยะเวลาท่ีกาหนด อาทเิ ชน่

๓๐๔

๑) สถาบนั นวัตกรรมสมุนไพรไทย
เพื่อเป็นสถาบันกลางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและ

นวัตกรรม รวมถงึ ด้านภูมปิ ญั ญาไทยที่อยูใ่ นรูปแบบขององคก์ รลกั ษณะพิเศษ ท้งั นีเ้ พอ่ื ให้เกดิ ความคมุ้ คา่
ในการลงทุนระบบ-อุปกรณ์ และสะดวกในการเข้าถึงของทุกภาคส่วนเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่าง
เสมอภาค หรือมีค่าบริการในอัตราต่า รวมท้ังเป็นศูนย์กลางบูรณาการเครือข่ายที่มีผลงาน หลักฐาน
อ้างองิ จากสถาบนั ที่เกย่ี วข้องทงั้ ในประเทศและต่างประเทศ

๒) ศนู ย์ข้อมูลสมนุ ไพร
เพื่อเป็นศูนย์กลางการเก็บรวบรวม วิเคราะห์ และเชื่อมโยงข้อมูล

ในรูปแบบของ Digital Platform ระดับ Data Center ไปจนถึงระดับ Big Data Center รวมถึงเป็น
แหล่งเรยี นรู้ให้กบั ทุกภาคสว่ นไดใ้ ช้ประโยชนอ์ ย่างหลากหลายมติ ิอย่างถูกต้องและทนั สมัย

๓) การพัฒนาหลักสูตรด้านการแพทย์แผนไทยและแพทยท์ างเลือก
เพ่ือให้บุคลากรด้านการแพทย์ พยาบาลในทุกสาขาได้เรียนรู้และแลกเปล่ียน

องค์ความรู้ระหว่างแพทย์แผนปัจจุบัน สากล ตะวันตกกับการแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก
ตะวันออก ได้ต้ังแต่ในระดับนักเรียนแพทย์-พยาบาล แพทย์-พยาบาลปฏิบัติการ และระดับผู้บริหาร
ของหน่วยงานในระบบสาธารณสุข ท้ังน้ีเพ่ือเพิ่มโอกาสและความมั่นใจในการสั่งใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพร
ทั้งทผี่ ลติ ในประเทศไทยและการนาเขา้ จากตา่ งประเทศ

๕.๒.๑.๓ กาหนดนโยบายแห่งรัฐในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ให้สามารถ
นาไปใช้ประโยชนไ์ ดม้ ากข้ึน ภายใต้การส่งเสริม และควบคุมคุณภาพ-มาตรฐานทสี่ มดลุ และสอดคล้อง
กับสถานการณ์ ทั้งน้ีจะทยอยส่งผลให้ลดการนาเข้าผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากต่างประเทศ และยาบาง
ประเภท อนั จะสง่ ผลดีตอ่ สังคมและเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมัน่ คงและย่ังยืน อาทิเช่น

๑) ผลิตภัณฑ์ท่ีเป็น Product Champion เพื่อรองรับมาตรการป้องกัน
บาบัด รักษาและฟื้นฟูอาการจากโรคติดเชื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ท้ังในรูปแบบ
สมนุ ไพรเดี่ยว และสมนุ ไพรผสมหลายชนิดตามตารับยา

๒) ผลิตภณั ฑ์ทีเ่ ป็นอาหาร เสริมอาหาร เคร่อื งดมื่ ยาและเวชสาอางบางชนิด
โดยนาสมุนไพรในกลุ่ม “พืชสมุนไพรต้นแบบ (Product Champion) และกลุ่ม “พืชสมุนไพรที่มี
ศกั ยภาพ” มากาหนดมาตรการสง่ เสรมิ ตามลาดบั ความสาคัญและจาเปน็ เรง่ ดว่ น

๕.๒.๑.๔ จัดตง้ั คณะกรรมการปฏริ ปู กิจการสมุนไพรไทย
เพื่อให้เกิดการเปล่ียนแปลง และเห็นผลสัมฤทธ์ิภายในระยะเวลาท่ีกาหนด

คณะกรรมการมีบทบาท หน้าที่ในการพิจารณา เสนอแนะ การยกระดับหน่วยงานหรือองค์กรท่ีมี
ศักยภาพให้มโี ครงสรา้ ง การจัดระบบ-อุปกรณ์ ทรพั ยากรดา้ นบคุ ลากร งบประมาณ และการบริหารจดั การ
ท่ีเหมาะสมและมีความทันสมัยต่อการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทยให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามวาระแห่งชาติ
และนโยบายแหง่ รฐั ไดอ้ ยา่ งเปน็ รปู ธรรมมีความตอ่ เนือ่ งและย่ังยนื อาทเิ ช่น

๑) กรมการแพทย์แผนไทยและแพทยท์ างเลอื ก
๑.๑) ในระยะเริ่มต้น (๑-๓ ปีนับจากปีพ.ศ. ๒๕๖๕) พิจารณายกระดับ

ภารกิจ โครงสรา้ งการจัดและอตั รากาลังคน อปุ กรณ์ เพื่อรองรบั เปา้ หมายการพลิกโฉมสมนุ ไพรไทยด้วย

๓๐๕

การวิจัยและนวัตกรรมและมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสมุนไพรในภูมิภาคอาเซียน โดยมีกิจเฉพาะในการ
สง่ เสรมิ ผลิตภัณฑส์ มุนไพร กลมุ่ “พชื สมุนไพรตน้ แบบ Product Champion)” และกลุ่ม “พืชสมุนไพร
ท่ีมีศักยภาพ” ตามข้อ ๕.๒.๑.๓ สาหรับพืชสมุนไพรกลุ่ม “พืชสมุนไพรท่ีมีความสนใจในปัจจุบัน”
สามารถดาเนนิ การควบคู่กนั ไปตามความพรอ้ มของหนว่ ยภายใต้กรอบประโยชน์เพอ่ื การวิจยั และพัฒนา
และด้านสาธารณสขุ

๑.๒) ในระยะท่ัวไป (๓-๕ ปี นับจากปี พ.ศ. ๒๕๖๕ หรือช่วง ปี พ.ศ.
๒๕๖๘-๒๕๗๐) พิจารณายกระดับหน่วยงานให้เทียบเท่าสานักงานปลัดกระทรวง และองค์กรมหาชน
ตามลาดับ ท้ังนี้ เพื่อให้เกิดเอกภาพและศักยภาพ ในการเสนอนโยบาย การกากับดูแล การจัดวาง
งบประมาณ การติดตามประเมินผล และอน่ื ๆ ตามท่ีกฎหมายกาหนด

๒) สานกั งานส่งเสรมิ อุตสาหกรรมผลติ ภณั ฑส์ มุนไพรไทย
เพื่อให้มีหน่วยงานเจ้าภาพในการติดตาม ประสานงานให้คาปรึกษา

และช่วยเหลอื ผูป้ ระกอบการทกุ กล่มุ ตามห่วงโซ่การผลติ และบริการผลิตภณั ฑ์สมนุ ไพรไทย โดยจะตอ้ งมี
ความรู้ ความเข้าใจกิจกรรมในสาขาตา่ ง ๆ และสามารถถา่ ยทอดหรือสื่อสารใหก้ ับผู้มีสว่ นได้สว่ นเสียได้
จนบรรลภุ ารกิจของแต่ละฝ่าย

นอกเหนือจากกระบวนการผลิต แปรรปู และการนาผลติ ภณั ฑส์ มนุ ไพรไทย
ไปใช้ประโยชนแ์ ล้ว ส่ิงท่ีจะส่งผลใหก้ ารสง่ เสรมิ อตุ สาหกรรมผลติ ภัณฑส์ มนุ ไพรไทยประสบความสาเรจ็ ไดแ้ ก่

- กระบวนการดา้ นมาตรฐานอตุ สาหกรรม
- กระบวนการด้านมาตรฐานอาหารและยา
- กระบวนการด้านการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค
- กระบวนการดา้ นสทิ ธิทางปัญญา การจดสทิ ธบิ ัตร อนุสทิ ธบิ ตั ร
- การสรา้ งการตระหนกั รู้ การโฆษณา ประชาสัมพนั ธ์ และ
- การตลาดท้ังในระดับชุมชน ประเทศ และต่างประเทศ
ท้ังน้ี หน่วยงานรับผิดชอบในแต่ละกิจการ กระบวนการจะมีกฎระเบียบ
ข้อบังคับ และมาตรการต่าง ๆ เป็นแนวปฏิบัติให้สามารถดาเนินการได้อย่างถูกต้องอยู่แล้ว แต่จาก
บทเรียนท่ีผ่านมาผู้ประกอบการมคี วามต้องการหน่วยงานทสี่ ่งเสรมิ อตุ สาหกรรมผลติ ภัณฑ์สมุนไพรไทย
ที่มีลักษณะเป็น One Stop Service เพ่ือให้การดาเนินการของผู้ประกอบการสะดวก รวดเร็ว และไม่
เปน็ ภาระดา้ นธรุ การและคา่ ใช้จา่ ยจนเกินไป การตัง้ หน่วยงานนีจ้ งึ มคี วามจาเปน็ ยิ่ง
๕.๒.๑.๕ การปรับปรุงยุทธศาสตร์ด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้สอดคล้องกับวาระ
แห่งชาติและนโยบายแห่งรัฐ ตลอดจนการขับเคล่ือนเชิงบูรณาการในประเด็นต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องอย่างสอด
ประสานและประเมินผลสัมฤทธิ์ไดอ้ ย่างชัดเจน ตั้งแต่ประเดน็ ยุทธศาสตร์ไปส่แู ผนแม่บท และแผนดาเนินการ
ท้ังในระยะส้ันและระยะยาว โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการ
ดาเนินการข้างต้น
๕.๒.๑.๖ จัดตั้งคณะกรรมการปฏริ ูปกฎหมายหลักและกฎหมายรองด้านสมุนไพรไทย
และผลติ ภณั ฑ์สมนุ ไพรไทย ทั้งทมี่ ผี ลกระทบโดยตรงและโดยออ้ ม ในมิตขิ องการส่งเสรมิ และการควบคมุ
ให้เกิดความสมดุล ท้ังนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกระดับโดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน

๓๐๖

กลุ่มสหกรณ์การเกษตร แพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้านและสถานบริการสปา นวดแผนไทย ได้มีโอกาส
เข้าถงึ และมีส่วนรว่ มในการพลิกโฉมสมุนไพรไทยและก้าวสูก่ ารเป็นศูนย์กลางสมุนไพรตามท่ีประเทศชาติมุ่งหวงั

ภาพที่ ๑๑๘ กลุ่มกฎหมาย ๕ กลุ่ม

กลมุ่ งานกฎหมาย ๕ กล่มุ ดงั นี้
ㆍด้านการอนุรักษแ์ ละเข้าถึงวัตถดุ บิ สมุนไพรจากธรรมชาติ ศกึ ษารายละเอียด ไดจ้ ากเอกสาร

ประกอบเล่มที่ ๗ และ ๘/๑๑ หรอื จาก QR Code
ㆍด้านมาตรฐานกระบวนการ วตั ถดุ บิ ผลิตภณั ฑ์ ศกึ ษารายละเอียด ได้จากเอกสารประกอบ

เลม่ ที่ ๑๐/๑๑ หรือจาก QR Code
ㆍดา้ นบุคลากร/การแพทยผ์ ู้สั่งใชผ้ ลติ ภัณฑส์ มนุ ไพร ศกึ ษารายละเอียด ได้จากเอกสาร

ประกอบเล่มที่ ๑๐/๑๑ หรอื จาก QR Code
ㆍด้านส่งเสรมิ การวิจยั /พัฒนาผลติ ภัณฑ์ คมุ้ ครองทรัพยส์ นิ ทางปัญญา ศึกษารายละเอยี ดได้

จากเอกสารประกอบเลม่ ท่ี ๑๑/๑๑ หรือจาก QR Code
ㆍ ดา้ นสง่ เสริมการประกอบการ และ ปัจจยั การผลิต ศึกษารายละเอียด ไดจ้ ากเอกสาร

ประกอบเลม่ ที่ ๑๑/๑๑ หรือจาก QR Code
ㆍ ดา้ นการกากับดูแล การปลูก แปรรูป ผลิต จาหน่าย และการคมุ้ ครองผูบ้ ริโภค ศึกษา

รายละเอยี ด ได้จากเอกสารประกอบเลม่ ที่ ๑๑/๑๑ หรอื จาก QR Code

๓๐๗

๕.๒.๒ ขอ้ เสนอแนะการขบั เคลอ่ื นเชิงบูรณาการ
ตามปจั จยั ทเี่ ก่ียวข้อง ดงั นี้
๕.๒.๒.๑ ด้านการจดั การวตั ถุดิบและผลิตภัณฑ์สมนุ ไพร
เพื่อให้ ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการผลิตวัตถุดิบสมุนไพร/ผลิตภัณฑ์

สมุนไพรซึ่งนาไปสู่ประโยชน์และความปลอดภัยต่อสุขภาพและเศรษฐกิจของประชาชนไทย อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ และส่งเสริมความม่ันคงด้านยาของประเทศ มขี ้อเสนอแนะดังนี้

๑) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการอุดมศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์
วิจัยและนวตั กรรม (โดยสถาบันการอุดมศกึ ษาและหน่วยงานวิจยั และนวตั กรรม)

๑.๑) ร่วมกันพัฒนาสายพันธุ์พืชสมุนไพรและปัจจัยท่ีเกี่ยวข้องกับการปลูก
การเก็บเกย่ี วและการเตรียมวตั ถดุ ิบกอ่ นนาสง่ เขา้ กระบวนการแปรรปู

๑.๒) ร่วมกันพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและ
นวัตกรรมให้กับผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมให้วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีคุณภาพ มาตรฐาน และ
สรรพคุณที่ดี

๑.๓) สร้างขีดความสามารถและความพร้อมด้านการตรวจคุณภาพ-
มาตรฐาน ให้กบั ผ้ปู ระกอบการสมุนไพรได้อย่างท่ัวถึง และมีภาระด้านธุรการและค่าใชจ้ ่ายทต่ี า่ หรือไม่มี
คา่ ใช้จา่ ย ท้ังในลักษณะเชิงรกุ และเชิงรับ

๓๐๘

๒) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒.๑) ส่งเสริมการผลิตสมุนไพรที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ เช่น

การจัดการในรูปแบบเกษตรพันธะสัญญาโดยจับคู่ธุรกิจระหว่างเกษตรกรที่ มีความพร้อมในการผลิต
กับผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามความต้องการในปริมาณ
และระยะเวลาท่ีกาหนด ท้ังยังเป็นการจูงใจและแก้ปัญหาราคาจาหน่ายสมุนไพรให้แก่เกษตรกรอย่าง
เป็นธรรม รวมท้ังให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกาหนดราคาซื้อขายสมุนไพรอย่างเป็นธรรมตามเกณฑ์
มาตรฐาน ประกอบด้วย ผู้แทนเกษตรกร ผู้แทนผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เก่ียวข้องร่วมเป็น
กรรมการ เพื่อให้เกิดการยอมรับ พัฒนากระบวนการผลิต และกาหนดราคาซื้อขายสมุนไพรอย่างเป็น
ธรรมตามเกณฑ์ทก่ี าหนด

๒.๒) ประสานส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา ด้านเกษตรและอาหาร/
พชื สมุนไพรและภาคเอกชนรว่ มสนบั สนุนในการดาเนนิ การ

๒.๒.๑) จัดทาฐานข้อมูลด้านการปลูก ความต้องการวัตถุดิบของผู้ซ้ือ/
ผู้ประกอบการ และด้านการตลาดสมุนไพร เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกาหนดนโยบายในการสนับสนุน/
ดูแลจากภาครัฐ และเช่ือมโยงการผลิตใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของตลาด

๒.๒.๒) ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้สมุนไพรพันธุ์ดีท่ีผ่านการพัฒนา/
วิจัยปรับปรุงสายพันธุ์ให้มีสารสาคัญสูง พร้อมทั้งจัดทาแหล่งรวบรวม อนุรักษ์ และขยายพันธ์ุ
พืชสมุนไพรที่สาคัญ เพ่ือให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงง่าย และเป็นแหล่งเรียนรู้การผลิตสมุนไพรที่มี
คณุ ภาพตามความตอ้ งการของตลาด

๒.๒.๓) ส่งเสรมิ ใหเ้ กษตรกรยกระดบั มาตรฐานการปลูกและการเก็บ
เก่ียวผลผลิตให้ได้มาตรฐาน GAP หรือมาตรฐานอ่ืน ๆ เพื่อการผลิตสมุนไพรส่งออกเพิ่มข้ึน พร้อมท้ัง
สร้างความตระหนกั รใู้ หเ้ ห็นถงึ ความสาคญั ในการจดั ทามาตรฐาน

๒.๒.๔) สง่ เสริมใหเ้ กษตรกรผลติ วตั ถดุ ิบแบบเกษตรอินทรยี ห์ รอื การ
เข้าสู่ระบบรับรองการผลิตอ่ืน ๆ (GAP GACP PGS) เพ่ือให้ได้มาซึ่งวัตถุดิบท่ีมีคุณภาพ ปลอดภัยมี
สารสาคญั ในปรมิ าณทภี่ าคอตุ สาหกรรมตอ้ งการ และไดร้ บั การรับรองมาตรฐานที่คู่ค้ากาหนด

๒.๒.๕) ส่งเสริมการรวมกลุ่มผลิตพืชสมนุ ไพรที่สาคัญทางเศรษฐกิจ
เพ่อื ใหไ้ ด้สมุนไพรทม่ี ีทั้งปริมาณและคณุ ภาพ สามารถสรา้ งอานาจต่อรอง และเชอ่ื มโยงตลาดได้

๓) กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และ
นวตั กรรม เปน็ แกนหลักในการสนบั สนนุ ส่งเสรมิ และดาเนนิ การ “การจัดการข้อมลู การสง่ เสริมการใช้
สมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างสมเหตุผลและข้อมูลการวิจัยท่ีเกี่ยวข้องกับสมุนไพร” โดยบูรณาการ
กับภาคสว่ นท่เี กีย่ วขอ้ ง เพื่อดาเนินการ ดังนี้

๓๐๙

๓.๑) การจัดระบบข้อมูลพืชสมุนไพร/ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ท่ีมีการใช้ใน
ประเทศไทย พร้อมกับข้อมูลภมู ิปัญญาและ/หรือหลักฐานทางวิชาการ ตามความเหมาะสม เพอ่ื นาไปสู่
แนวทางการใช้อย่างสมเหตุผล การวิจัย การให้ข้อมูล/โฆษณา/ประชาสัมพันธ์ และการแก้ไขปัญหา
โดยมีการจัดการอย่างเป็นระบบตอ่ เนอ่ื งและมีคณุ ภาพโดยการมีส่วนรว่ มจากภาคส่วนท่ีเกีย่ วขอ้ ง

๓.๒) การส่งเสริมการใช้สมุนไพร/ผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างสมเหตุผล
สนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศแทนผลิตภัณฑ์ที่นาเข้าจากต่างประเทศ โดยเปรียบเทียบความคุ้มค่า
อย่างรอบดา้ น

๓.๓) การประมวลและติดตามข้อมูลการใช้สมุนไพร/ผลิตภัณฑ์สมุนไพร
รวมทั้งประเมินสถานการณท์ ีค่ วรจะใช้สมุนไพร/ผลิตภณั ฑ์สมุนไพร เพ่อื นาไปสกู่ ารวางนโยบายการผลิตท่ี
เหมาะสมและเพยี งพอ

๓.๔) การวิจยั ทง้ั ในสว่ นการวิจัยพืน้ ฐานในหอ้ งปฏิบตั กิ าร การวิจยั ในสัตว์
และการวิจัยในคน เพ่ือนาไปสู่การพัฒนาสมุนไพร/ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และการนาไปใช้อย่างสมเหตุผล
โดยการต้ังคาถามการวิจัยที่มีคุณค่าที่จะนาไปสู่งานวิจัยท่ีจะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนารวมท้ังมี
การบรู ณาการเพ่อื ใหเ้ กิดการนาไปใช้ประโยชน์ต่อไป

๓.๕) การข้ึนทะเบียนผู้ประกอบการผลิตยา อาหารเสริม เครื่องสาอาง ฯลฯ
ท่ีใชพ้ ืชสมนุ ไพรเป็นส่วนประกอบเพอ่ื ตดิ ตามสถานการณ์การผลิตยา ปริมาณสมุนไพรท่ใี ช้ แหล่งรบั ซ้ือ
วตั ถุดบิ สมุนไพร และราคารับซ้อื รวมถึงเกณฑ์คณุ ภาพของวัตถดุ ิบที่ใชใ้ นการผลิตด้วย

๓.๖) การบูรณาการบุคลากรทางสุขภาพ ในด้านข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น
แนวทางปฏิบัติ ให้สอดคล้องกันและเกิดการนาไปใช้อย่างสมเหตุผลรวมท้ังพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ
เกี่ยวกบั การวจิ ัยทางคลินกิ และการวเิ คราะหข์ ้อมูลวิจัยโดยการใช้วิจารณญาณอย่างเหมาะสม และการตัดสินใจ
การนาไปใช้โดยการพิจารณาอย่างรอบด้าน

๔) ส่วนราชการ คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการท่ีเก่ียวข้องเปิดโอกาส
ให้ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม (ชมรมและมูลนิธิแพทย์ชนบท มูลนิธิหมอชาวบ้าน กลุ่มศึกษา
ปัญหายา กลุ่มหมอยาพนื้ บ้าน หมอยาสมนุ ไพรแผนโบราณ เป็นตน้ ) ที่เกี่ยวข้องเข้ามามีสว่ นร่วมในการ
พัฒนาสมุนไพร/ผลิตภณั ฑส์ มุนไพร เพอื่ ใหส้ ามารถพฒั นาผลิตภัณฑ์ได้ตรงความต้องการของตลาด

๕.๒.๒.๒ ดา้ นการวจิ ยั และการจดั การข้อมูลการใช้สมนุ ไพรในคน
ปัจจุบัน ประเทศไทยมี “แผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ ๒

พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐” (https://www.dtam.moph.go.th/images/PR/pr1463-ditDTAM_plan_66-
70.pdf) ซึ่งได้ระบถุ ึงปญั หาพร้อมแนวทางการแกป้ ัญหาเกอื บทุกดา้ น รวมทงั้ มคี ณะกรรมการและหน่วยงาน
ท่ีเกี่ยวข้องกับการการวิจัยและการจัดการข้อมูลการใช้สมุนไพรในคนมากมาย แต่ยังมีปัญหา
ด้านคุณภาพของการดาเนินงานให้เกิดผลตามเป้าหมาย และการบูรณาการการทางานร่วมกัน
การเข้าถึงเพอ่ื รบั การเกอื้ หนนุ การวิจัยและการจัดการข้อมูลการใชส้ มุนไพรในคน

๓๑๐

หน่วยงานและคณะกรรมการที่เก่ียวข้องมีมากมาย แต่ยังขาดการบูรณาการ
อยา่ งเพยี งพอ เชน่

(๑) คณะกรรมการนโยบายสมนุ ไพรแหง่ ชาติ (รองนายกรฐั มนตรแี ละรฐั มนตรีวา่ การ
กระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน) และคณะอนุกรรมการวิจัยและนวัตกรรม (ปลัดกระทรวง
การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรมเป็นประธาน)

(๒) กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
(๓) สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้แก่
คณะกรรมการบญั ชียาหลักแหง่ ชาตดิ า้ นสมนุ ไพร คณะกรรมการผลิตภณั ฑ์สมุนไพร
(๔) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้แก่ สานักงาน
คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
สานักงานด้านการวิจัยในคน สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมวิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม (สกสว.)
และหนว่ ยงานที่เกี่ยวขอ้ งในมหาวทิ ยาลัย
(๕) องค์กรของรัฐที่มิใช่ส่วนราชการ ได้แก่ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
สานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แหง่ ชาติ (สวทช.)
เพ่ือให้ ประเทศไทยมีระบบงานวิจัยท่ีมีคุณภาพและประสิทธิภาพ เพื่อพัฒนา
และส่งเสริมการพลิกโฉมสมุนไพร/ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย เพ่ือการนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ
และเศรษฐกจิ มีขอ้ เสนอแนะดังน้ี
๑) รัฐบาลพิจารณาสนับสนนุ เชิงนโยบายและเชงิ ขับเคลอื่ นเพื่อให้เกิดผลสมั ฤทธิ์
ที่แท้จรงิ ตามเป้าหมาย โดย
๑.๑) การแต่งต้ังคณะกรรมการวิชาการและวิจัยสมุนไพร ที่มีโครงสร้างท่ีดี
เพ่ือการบูรณาการ โดยประกอบด้วยผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจากภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้อง ท่ีจะนาไปสู่
เป้าหมายอย่างแทจ้ ริง และทาหน้าทเี่ กอ้ื หนุนใหเ้ กดิ

(๑) การรวบรวมและทบทวนประเด็นปัญหาสาคัญและนาไปสู่แก้ไขปัญหา
โดย “การต้ังคาถามการวิจัยที่ดี” การรวบรวมข้อมูลที่มีอยู่ และพัฒนาอย่างเป็นระบบ เช่ือมโยง
บรู ณาการและประเมนิ ผลอยา่ งต่อเนือ่ งรวมท้งั การจดั หางบประมาณการวิจยั

(๒) การสง่ เสริมและแก้ไขปัญหาและอปุ สรรคในการวิจัยทางคลินิก โดยเน้น
สมนุ ไพรไทยทม่ี โี อกาสพฒั นาเปน็ ผลิตภัณฑ์สาคัญ

๑.๒) การสนับสนุนด้านงบประมาณและสิ่งเกื้อหนุนการวิจัยอย่างเพียงพอ
และเหมาะสม

๒) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ กระทรวง
สาธารณสุข จัดกระบวนการเผยแพร่ ให้ความรู้ ความเข้าใจ การตัดสินใจ การเลือกใช้สมุนไพร/
ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและกระบวนการวิจัยในมนุษย์อย่างเข้าใจและปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม
เพยี งพอทจี่ ะตัดสินใจเลอื กใชห้ รือดาเนนิ การวจิ ัยในมนษุ ย์อยา่ งเหมาะสมกบั สถานการณ์

๓๑๑

๓) กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย
และนวัตกรรม เป็นแกนหลักในการสนับสนุน ส่งเสริม และดาเนินการ “การจัดการข้อมูล การส่งเสริม
การใช้สมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างสมเหตุผล และการวิจัยเพื่อตอบปัญหาทสี่ าคัญ” โดยบูรณาการ
กับภาคสว่ นท่ีเกย่ี วข้อง เพื่อดาเนินการดังนี้

๓.๑) การจัดระบบข้อมูล สมุนไพร/ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ท่ีมีการใช้ในประเทศไทย
พร้อมกับข้อมูลภูมิปัญญาและ/หรือหลักฐานทางวิชาการ ตามความเหมาะสม เพื่อนาไปสู่แนวทางการใช้
อย่างสมเหตุผล การวิจัย การให้ข้อมูล/โฆษณา/ประชาสัมพันธ์และการแก้ไขปัญหาโดยมีการจัดการ
อยา่ งเปน็ ระบบตอ่ เนื่อง และมคี ุณภาพโดยการมสี ่วนรว่ มจากภาคส่วนท่เี กีย่ วข้อง

๓.๒) การส่งเสริมการใช้ สมุนไพร/ผลิตภัณฑ์สมุนไพร อย่างสมเหตุผล สนับสนุนการใช้
วัตถุดิบสมุนไพร/ผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศ แทนผลิตภัณฑ์หรือยาที่นาเข้าจากต่างประเทศ
โดยพจิ ารณาความคุ้มคา่ อยา่ งรอบดา้ น

๓.๓) การประมวลและติดตามข้อมูล การใช้สมุนไพร/ผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมท้ัง
ประเมินสถานการณ์ที่ควรจะใช้สมุนไพร/ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพื่อนาไปสู่การวางนโยบายการผลิต
ทเ่ี หมาะสมทงั้ ชนิดและปริมาณ

๓.๔) การวิจัย ทั้งในส่วนการวิจัยพื้นฐานในห้องปฏิบัติการ การวิจัยในสัตว์
และการวิจัยในคน เพ่ือนาไปสู่การพัฒนาสมุนไพร/ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และการนาไปใช้อย่างสมเหตุผล
โดยการตัง้ คาถามการวจิ ัยทมี่ คี ุณคา่ ท่ีจะนาไปสงู่ านวจิ ัยท่จี ะเกดิ ประโยชนต์ อ่ การพฒั นารวมทง้ั มกี ารบรู ณาการ
เพ่อื ให้เกดิ การนาไปใช้ประโยชน์ต่อไป

๓.๕) การข้ึนทะเบียน ผู้ประกอบการผลิตยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เคร่ืองสาอาง ฯลฯ
ท่ีใช้พืชสมุนไพร เป็นส่วนประกอบ เพ่ือติดตามสถานการณ์การผลิตยา ปริมาณสมุนไพรท่ีใช้
แหล่งรบั ซือ้ วตั ถดุ ิบสมุนไพร และราคารับซอ้ื รวมถึงเกณฑค์ ุณภาพของวตั ถดุ บิ ท่ีใชใ้ นการผลติ ดว้ ย

๓.๖) การบูรณาการและพัฒนาบุคลากรทางสุขภาพ ในด้านความรู้ ความคิดเห็น
การวิจัย แนวทางปฏิบัติท่ีเกี่ยวข้องกับสมุนไพร /ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ให้สอดคล้องกัน
และเกิดการนาไปใช้อย่างสมเหตุผล รวมท้ังพัฒนาความเข้าใจเก่ียวกับการวิจัยทางคลินิก การวิเคราะห์
ขอ้ มลู วจิ ัยโดยการใหว้ ิจารณญาณอย่างเหมาะสม และการตดั สินใจการนาไปใช้โดยการพจิ ารณาอยา่ งรอบด้าน

๕.๒.๒.๓ ระเบยี บวิธีวิจยั ในคนทเี่ ก่ยี วข้องกบั การใชส้ มุนไพร
ในด้านวชิ าการและวิจัยสมุนไพร การแพทย์แผนตะวันตกซึ่งเป็นการแพทยแ์ ผนหลัก

ของประเทศไทยในปัจจุบัน มคี วามแตกตา่ งกบั การแพทย์แผนไทย คอื
(๑) ประเทศในพื้นที่ตะวันตกอยู่ในเขตอบอุ่นและเขตหนาว จึงมีศักยภาพต่าในการ

ผลิตพืชสมุนไพร รวมทั้งไม่มีความหลากหลายของพืชสมุนไพร จึงต้องใช้กระบวนการผลิตยา
โดยการสงั เคราะห์ (Synthetic products) เช่น กระบวนการสงั เคราะห์ทางเคมี เนือ่ งจากเปน็ ผลิตภัณฑ์
ทมี่ นุษย์สังเคราะห์ขนึ้ และเกิดขึ้นใหม่ จึงจาเป็นต้องใช้กระบวนการวิจัยทางคลินกิ เชิงทดลอง (Clinical trial
หรือ Interventional study) เป็นหลัก อีกท้ังประเทศในพื้นที่ตะวันตกจะไม่สนใจงานวิจัยสมุนไพร
เพราะไมเ่ ปน็ ผ้ผู ลิตและไม่มีให้ใช้

๓๑๒

ในขณะที่ประเทศในเขตร้อนชื้น เช่น ไทย จีน อินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย
มีสมุนไพรที่มีอยู่ในธรรมชาติ (Natural products, Natural herbal products) หลากหลายชนิด
และสามารถผลิตมาใช้ได้มาก เป็นสิ่งที่อยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายรวมทั้งมนุษย์ในพ้ืนที่น้ีมาตลอด
มีการใช้ทางด้านสุขภาพมานานนับร้อยหรือพันปี ซึ่งการรวบรวมข้อมูลท่ีสะสมมายาวนาน
พร้อมกับการจัดการเหตุผลอย่างดี (Observational study หรือ Historical review) ก็มักจะเพียงพอ
ในการพิจารณาการใช้ที่ปลอดภัยและนาไปสู่การเกิดประโยชน์คุ้มค่า หากจาเป็นจึงจะพิจารณา
การวิจยั ทางคลนิ ิกเชิงทดลอง

(๒) ประเทศในเขตตะวันตกมีวิทยาการในการบันทึกและจัดการข้อมูลอย่างดีเป็น
ระบบ สามารถส่ือสารและถ่ายถอดได้อย่างเป็นรูปธรรม (explicit) ในขณะที่วัฒนธรรมของไทยและ
ตะวันออกมักจะเป็นการสง่ ต่อความรู้สึกและประสบการณ์อย่างเป็นนามธรรม (intuition) ซง่ึ ทาให้เข้าใจได้
ยากกว่า

เพ่ือให้ ประเทศไทยมีข้อมูล/หลักฐานเชิงวิชาการ ท่ีจะนาไปสู่การจัดการข้อมูล
และส่งเสริมการใช้สมุนไพร/ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ให้ปลอดภัยและสมเหตุผล ด้วยระเบียบวิธีวิจัย
และการจัดการข้อมูลท่ีเหมาะสมไม่ยึดติดกับการวิจัยเชิงทดลองที่ใช้กับยาหรือวิธีการป้องกัน/
รักษาที่เกิดข้ึนใหม่ ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอด้านภูมิปัญญา ความปลอดภัย และผลจากการใช้มานาน
เพียงพอสถานการณ์ปัจจุบัน : แพทย์ในประเทศไทยจานวนมากรวมท้ังผู้กาหนดแนวทาง
การใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีความเข้าใจและยึดถือผิด ๆ ว่าการวิจัยเชิงทดลองที่มีกลุ่มเปรียบเทียบ
(Randomized controlled clinical trial, RCT) แ ล ะ ผ ล ง า น วิ จั ย ที่ ช า ว ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ส น ใ จ
และมีการตีพิมพ์ในวารสารชาวต่างประเทศเท่านั้นที่เป็นข้อมูลท่ีน่าเช่ือถือ ส่งผลให้เกิดการด้อยค่า
สมนุ ไพร/ผลติ ภณั ฑ์สมุนไพร มีขอ้ เสนอแนะดังน้ี

คณะกรรมการวชิ าการและวิจยั สมนุ ไพร (ทคี่ วรจะมีการต้ังข้นึ ) ร่วมกบั หน่วยงาน
และคณะกรรมการที่เกย่ี วขอ้ งกบั วชิ าการและการวิจัยสมนุ ไพร/ผลิตภณั ฑ์สมนุ ไพร

๑) ดาเนินการให้เกิดการบูรณาการและความเข้าใจท่ีสอดคล้องกัน ระหว่าง
การแพทย์แผนตะวันออกและตะวันตก โดยให้เข้าใจหลักการการวิจัย การจัดการข้อมูล และการ
ตดั สินใจนามาใชอ้ ย่างเหมาะสมในสถานการณ์ท่ตี า่ งกัน เช่น ประเทศในเขตตะวนั ตกขาดแคลนสมุนไพร
ในขณะท่ีประเทศในเขตตะวันออกมีใช้อย่างมากมายมายาวนาน ไม่ด้อยค่าสมุนไพรเพียงประเทศ
ทางตะวันตกไม่ใหค้ วามสาคญั

๒) มีการจัดข้อมูลให้เป็นระบบ และนาสู่หลักสูตรการเรียนรู้ของแพทย์และ
บคุ ลากรด้านสขุ ภาพตามความเหมาะสม

๕.๒.๒.๔ ด้านกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ มาตรฐานอาหารและยา สิทธิบัตร/
สิทธิประโยชน์ การคุ้มครองผู้บริโภค การตลาดและการประชาสมั พนั ธ์

๕.๒.๒.๔.๑ ด้านแหลง่ วัตถดุ ิบจากธรรมชาติ และการเพาะปลกู
๑) พระราชบญั ญัตคิ มุ้ ครองและส่งเสริมภมู ปิ ัญญาการแพทย์แผนไทย

พ.ศ. ๒๕๔๒ )มาตรา ๕๗ – ๖๕): จดั ทาแผนจดั การคมุ้ ครองสมุนไพรในพน้ื ที่เขตอนุรักษ์ต่าง ๆ เพ่ิมเตมิ

๓๑๓

พรอ้ มท้ังเชื่อมโยงกับการพัฒนาองคค์ วามรู้เพือ่ การเพาะปลูกเชงิ พาณิชยส์ าหรบั สมุนไพรที่เป็นเครื่องยา
หายากและราคาสูง นอกจากนี้ยังควรมีการศึกษาเพ่ิมเติมเพื่อกาหนด “เขตพ้ืนที่คุ้มครองสมุนไพร”
ให้มากขึ้น เพ่ือประโยชน์ในการร่วมมือและประสานงานให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการบริหารพื้นที่
คุ้มครองสมุนไพร หรอื ใชป้ ระโยชน์จากสมุนไพรในพื้นทนี่ อกเขตอนรุ กั ษ์

๒) พระราชบัญญัติคุ้มครองพันธ์ุพืช พ.ศ. ๒๕๔๒ )หมวดที่ ๔):
ควรมีการประเมนิ ผลสมั ฤทธ์ิของกฎหมายทีบ่ ญั ญัติไว้ พร้อมท้ังพิจารณาอปุ สรรค ความยุ่งยาก ขน้ั ตอน
ในการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยต้องทบทวนกระบวนการให้ง่ายต่อการดาเนินการ อานวยความสะดวก
ในการดาเนินการมากขึ้น นอกจากนั้นจาเป็นต้องพิจารณาความซ้าซ้อนของกฎหมายทั้ง ๒ ฉบับ
ไดแ้ ก่ พระราชบัญญตั ิคุ้มครองพันธพ์ุ ืช พ.ศ. ๒๕๔๒ และพระราชบัญญตั ิคุม้ ครองและสง่ เสริมภมู ิปัญญา
การแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒ ในแง่ของเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพ่ือกาหนดบทบัญญัติ
ให้ส่งเสริมซ่ึงกันและกัน ลดความซ้าซ้อน เพื่อป้องกันความสับสนและการมีข้ันตอนในการปฏิบัติ
เกนิ ความจาเปน็

๓) พระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑: ควรเพิ่มหมวด
การส่งเสริมผู้ประกอบการและยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร รวมทั้งเพ่ิมการกาหนดมาตรฐาน
การปลูกพืชสมุนไพรและมาตรฐานวัตถุดิบที่มีการกล่าวถึงปริมาณสารสาคัญ ท้ังในด้านการปลูก
และวัตถุดิบสมุนไพร โดยเฉพาะสาหรับวัตถุดิบที่เก่ียวเนื่องกับอุตสาหกรรมยาจากสมุนไพร
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นตน้

๕.๒.๒.๔.๒ ด้านมาตรฐานกระบวนการ ผลิตภัณฑ์ และหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร
๑) สมุดปกขาว “การปฏิรูปการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานทางคุณภาพ

ของประเทศ”: สนับสนุนและผลักดันร่างพระราชบัญญัติโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศ
ใหเ้ ปน็ กฎหมายหลัก

๒) พระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑: จัดระบบ
การรับรองมาตรฐานหรือส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามาให้การรับรอง รวมทั้งการฝึกอบรมพัฒนา
สนับสนุนส่ิงอานวยความสะดวก เพื่อให้เกษตรกรเกิดแรงจูงใจและลดอุปสรรคในการปรับเปล่ียนพฤติ
กรรมเป็นสิ่งท่ีต้องดาเนินการ ภายใต้แผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔
ท่ีครอบคลุมการพัฒนาสมุนไพรไทยต้ังแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เพื่อเพ่ิมขีดความสามารถ
ในการแข่งขันของสมุนไพรไทยอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบการสร้างความเชื่อมั่นการตรวจสอบ
และรับรองกระบนการผลติ ทุกขึน้ ตอนจะนามาสคู่ วามม่นั ใจของผบู้ ริโภคในตลาดท้งั ในและต่างประเทศ

๓) พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๑๑
และท่ีแกไ้ ขเพ่ิมเติม และพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑: เพิม่ การกาหนดความ
รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมให้เกษตรกรและผู้ประกอบการให้สามารถปฏิบัติได้ตามกฎหมาย
อนั ได้แก่หนว่ ยงานทรี่ กั ษากฎหมายของแต่ละฉบับ ในบทบญั ญตั วิ ่าดว้ ยหมวดการส่งเสรมิ ผ้ปู ระกอบการ

๔) การกาหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ควรประยุกต์ให้
ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ บ ริ บ ท ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ร่ ว ม กั บ ม า ต ร ฐ า น น า น า ช า ติ ( โ ด ย เ ฉ พ า ะ ก ร ณี
ยาสมุนไพร) แบ่งเป็น ๒ ระดับ แลว้ แต่กรณดี ังน้ี

๓๑๔

(๑) มาตรฐานตารับยาสมุนไพรจากภูมิปัญญาไทยท่ีองค์การอนามัยโลก
(WHO) รบั รอง

(๒) มาตรฐานตารับยาสมุนไพรจากภูมิปัญญาไทย ท่ียังไม่ได้รับรอง
โดย WHO หรือมาตรฐานนานาชาติควรอนุญาตให้ผลิตภัณฑ์ที่มีผลงานวิจัยทางคลินิกสามารถ
ขึน้ ทะเบียนและโฆษณาได้

ท้งั นี้ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความชดั เจนในการปฏบิ ตั ิ มขี ้อควรดาเนินการ ดงั น้ี
๔.๑) รัฐบาล
- ควรมีการกาหนดนโยบายเก่ียวกับมาตรการส่งเสริม

ภาคเอกชนในการพัฒนาห้องปฏิบัติการสาหรับการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่น การลด
อตั ราภาษี

- ควรดาเนินการจัดตั้งห้องปฏิบัติการสมุนไพรแห่งชาติ
เพื่อเป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิงในการทดสอบ (Testing) การรับรอง (Certification) และการตรวจ
วเิ คราะห์ (Inspection) ทมี่ คี วามนา่ เช่ือถอื และเปน็ ทีย่ อมรับ

๔.๒) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- ควรมีการกาหนดมาตรฐานท่ีเก่ียวข้องกับปริมาณสาระสาคัญ

ในผลผลติ และผลิตภณั ฑ์แปรรูปอย่างงา่ ย โดยหากมกี ารกาหนดมาตรฐานสารสาคญั ไว้ต้งั แต่ต้นจะทาให้
เกษตรกร/ผู้ผลิตสามารถจาหน่ายผลผลติ ตามปริมาณสารสาคัญที่มีอยู่ในพืชสมุนไพรนั้น ๆ ซ่ึงจะได้ในราคา
ท่ีสมเหตุสมผล และในด้านผู้ประกอบการหรือโรงงานก็จะได้วัตถุดิบท่ีมีคุณภาพ เพื่อนาไปผลิต
เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรประเภทต่าง ๆ อย่างไรก็ตามควรกาหนดมาตรฐานให้ชัดเจนว่าเพ่ือนาไปใช้
ในอุตสาหกรรมยา อาหาร หรือเคร่ืองสาอาง นอกจากนค้ี วรมกี ารพิจารณามาตรฐานสารสาคัญสมนุ ไพร
ของต่างประเทศประกอบด้วย เน่อื งจากในบางกรณีอาจจะมีการส่งออกไปจาหน่ายยงั ประเทศเหลา่ นัน้

๔.๓) กระทรวงสาธารณสขุ
๔.๓.๑) ควรมีการกาหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์สมุนไพร (เช่น

ผลิตภัณฑ์เสรมิ อาหาร เครอ่ื งสาอาง เปน็ ต้น ยกเว้นยาสมุนไพร) ท่ีแตกต่างกนั สาหรับผลติ ภณั ฑเ์ พื่อการ
บริโภคภายในประเทศและผลิตภัณฑ์เพ่ือส่งออกต่างประเทศ เพ่ือให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถ
เข้าถงึ มาตรฐานไดม้ ากขึน้

๔.๓.๒) ควรเพ่ิมจานวนการทาข้อกาหนดคุณลักษณะ
(Specification) รวมท้ังสร้างมาตรฐานสมุนไพรแต่ละชนิดในรูป Monograph ท่ีใช้ตามเกณฑ์
มาตรฐานสากล เชน่ European Pharmacopoeia เพือ่ ให้เป็นมาตรฐานแห่งชาติ (National standard)
ในการกาหนดและควบคุมคุณภาพวัตถุดบิ และผลิตภณั ฑส์ มุนไพร ท่ีไดร้ ับการยอมรบั ร่วมกัน ตอบสนอง
ใหค้ รอบคลุมกับผลติ ภัณฑส์ มุนไพรท่มี ีในตลาด

๔.๓.๓) ควรส่งเสริมการพัฒนาห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์
ผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล (ISO/IEC 17025, OECD GLP, GCP)
ทั้งการทดสอบในหลอดทดลอง การทดสอบก่อนคลินิก และการทดสอบทางคลินิก พร้อมท้ังสนับสนุน
ใหม้ หี อ้ งปฏบิ ตั ิการเพมิ่ ขน้ึ และพัฒนาบุคลากรในหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารตรวจวเิ คราะห์

๓๑๕

๔.๓.๔) ควรสนับสนุนให้มีระบบ Fast track ในแต่ละขั้นตอน
ที่เกี่ยวข้องกับการรับรองมาตรฐานสมนุ ไพรตง้ั แตต่ น้ ทาง กลางทาง และปลายทาง

๔.๔) กระทรวงการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม
- ควรสารวจความต้องการและจัดทาระบบฐานขอ้ มูล การผลิต

วัสดุอ้างอิงรับรอง (Certified Reference Material: CRM) ของสมุนไพร ตามแผนการยกระดับ
ห้องปฏิบัติการ ให้ครอบคลุมการวิจัยพัฒนาต้ังแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เพื่อสนับสนุนการ
วจิ ัยพฒั นาในระดับอตุ สาหกรรม

๔.๕) กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตรว์ จิ ยั และนวตั กรรม ควรมกี ารดาเนนิ การบรู ณาการรว่ มกนั ดังนี้

๔.๕.๑) ควรเพ่ิมมาตรการส่งเสริมการเพิ่มจานวน
ห้องปฏบิ ตั ิการทไ่ี ด้มาตรฐานตามท่ี อย. ยอมรบั เชน่ ISO/IEC17025 WHO

๔.๕.๒) ควรมีหน่วยงานสนับสนุน ให้คาปรึกษา และบริการ
ให้แก่ห้องปฏิบัติการที่ยังไม่ได้รับการรับรอง ISO 17025 เพ่ือเป็นการผลักดันให้ห้องปฏิบัติการต่าง ๆ
ในประเทศสามารถขึน้ ทะเบยี นรบั รองมาตรฐานต่อไป

๔.๖) กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และกระทรวงการอุดมศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม ควรมกี ารดาเนินการบูรณาการร่วมกัน ดังน้ี

- ควรเพิม่ จานวนบุคลากรทมี่ คี วามเช่ยี วชาญด้าน Regulation
ด้านการตรวจวเิ คราะห์ ดา้ นมาตรฐานผลติ ภัณฑ์ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ตลอดหว่ งโซ่การผลิตผลติ ภัณฑส์ มุนไพร

๕.๒.๒.๔.๓ ด้านความพร้อมของเกษตรกร/ผูป้ ระกอบการและความสามารถในการ
แข่งขนั

๑) พระราชบญั ญตั ิผลิตภัณฑ์สมนุ ไพร พ.ศ. ๒๕๖๒
พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. ๒๕๖๒ มีสาระสาคัญของ

บทบัญญัติกฎหมายที่ตราข้ึนเป็นกฎหมายท่ีใช้ในการควบคุมและกากับดูแลผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยมี
คณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติทาหน้าท่ีกาหนดนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ด้านผลิตภัณฑ์
สมุนไพรแห่งชาติ และมีคณะกรรมการผลิตภัณฑ์สมุนไพรทาหน้าท่ีให้คาแนะนาแก่รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงสาธารณสุขในการกาหนดหลกั เกณฑเ์ พื่อควบคุมและกากับดูแลผลิตภัณฑ์สมนุ ไพรด้วยระบบ
การอนุญาต การข้ึนทะเบียน การแจ้งรายละเอียด และการจดแจ้ง ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ตลอดจนมีบทบัญญัติเก่ียวกับการส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างเป็นระบบและครบวงจร
ซึ่งจะทาใหผ้ ลติ ภัณฑ์สมุนไพรไทยมีความปลอดภัย มีคณุ ภาพและมาตรฐานเปน็ ทย่ี อมรับในระดับสากล
รวมท้งั เพิม่ มูลคา่ ในการสง่ ออกไปยังต่างประเทศให้มากยิ่งขน้ึ ซง่ึ ในด้านความพรอ้ มของผปู้ ระกอบการ/
ความสามารถในการแขง่ ขนั อันส่งผลต่อคณุ ภาพผลิตภณั ฑ์และความเช่อื ม่ัน

คณะกรรมการนโยบายสมนุ ไนพรแห่งชาติไดม้ ีการออกประกาศเกย่ี วกบั
เรอื่ ง การกาหนดประเภทผปู้ ระกอบการ การกาหนดหลกั เกณฑ์ วิธกี าร และเง่ือนไขการแจ้งและการส่งเสริม
ผู้ประกอบการของหน่วยงาน: กาหนดหน้าท่ีรับผิดชอบของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐเพิ่มเติม เพื่อให้

๓๑๖

สามารถตอบสนองสิทธิของผู้ประกอบการอย่างเปน็ รูปธรรม รวมท้ังการรับฟังความเหน็ เพื่อเสนอสิทธิ
และประโยชน์อ่นื เพ่ิมเตมิ ตามท่ีบัญญัตไิ ด้ประกาศไว้ ดังรายละเอียดตอ่ ไปน้ี

ตารางท่ี ๑๑ กรอบการสง่ เสรมิ ผปู้ ระกอบการ หนว่ ยงานที่รับผดิ ชอบ

กรอบการสง่ เสริมผู้ประกอบการ หน่วยงานทีร่ บั ผดิ ชอบ

๑ การส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือให้ความช่วยเหลือ สานกั งานคณะกรรมการ

ในการศกึ ษาวจิ ัย สง่ เสรมิ วิทยาศาสตร์

- ด้านการส่งเสริมการเพาะปลกู การเพาะเลี้ยง วจิ ยั และนวตั กรรม
- ดา้ นการส่งเสริมคุณภาพ การผลติ การจดั การ กรมวชิ าการเกษตร

- ดา้ นการตลาด ฯลฯ

๒ ส่งเสริมการรวมตวั หรอื ความรว่ มมือกนั ระหวา่ งผปู้ ระกอบการ กรมการแพทย์แผนไทย

กบั ภาคธุรกิจหรืออตุ สาหกรรมอนื่ และการแพทยท์ างเลอื ก

๓ ลดหรอื ยกเว้นคา่ ธรรมเนียม กรมการแพทย์แผนไทย

และการแพทย์ทางเลอื ก

สานกั งานคณะกรรมการ

อาหารและยา

๔ ให้คาปรกึ ษาในการปฏิบัติตามหลกั เกณฑ์ มาตรฐาน สานกั งานคณะกรรมการ

หรือการเตรียมเอกสารทางวชิ าการ อาหารและยา

๕ อบรมพฒั นาศักยภาพในการประกอบการ กรมการแพทยแ์ ผนไทย

และการแพทย์ทางเลือก

๖ เอกสารคาแนะนา คู่มอื หนงั สือวิชาการ หรอื เอกสารอนื่ ใดท่ี สานักงานคณะกรรมการ

ส่วนราชการจดั ทาขน้ึ เพือ่ เผยแพร่ความรู้ อาหารและยา

๒) ภายใต้พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. ๒๕๖๒
พระราชบญั ญตั อิ าหาร พ.ศ. ๒๕๒๒ และพระราชบญั ญัตเิ ครอ่ื งสาอาง พ.ศ. ๒๕๕๘: ควรกาหนดใหม้ ี
บทบัญญตั วิ ่าดว้ ยการอนญุ าตใหใ้ ชส้ ถานท่ีรว่ มกนั ดังกล่าวไวใ้ นกฎหมายท้งั ๓ ฉบับ

๓) พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. ๒๕๖๒ )มาตรา ๒๔)
และพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗: ควรมีการติดตามแผน
การพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฉบับใหม่ พร้อมทั้งจัดให้มีข้อมูลสถิติเกี่ยวกับวิสาหกิจชุมชน
รวมทง้ั วิเคราะหป์ ัญหาและอุปสรรค และจัดให้มีการอบรมให้ความรู้แกว่ สิ าหกจิ ชุมชนอยา่ งต่อเนือ่ ง

๔) พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
พ.ศ. ๒๕๔๓ )ร่างแผนการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ฉบับที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๖๐-
๒๕๖๗): ควรเสนอให้มีการจัดทาแผนงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรายสาขาข้ึน
เป็นการเฉพาะสาหรบั สาขาที่เก่ยี วกับอตุ สาหกรรมด้านผลติ ภัณฑจ์ ากสมุนไพร

๓๑๗

๕) ร่างประกาศกรมสรรพสามิต เร่ือง ให้สิทธิเสียภาษีในอัตราศูนย์
สาหรับสุราสามทับที่นาไปใช้ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร: เม่ือการประกาศ ฉบับนี้มีผลบังคับ
ใชจ้ าเป็นต้องมกี ารประชาสัมพันธ์และประเมินผลสมั ฤทธข์ิ องการออกกฎระเบยี บ

๖) กาหนดหนว่ ยงานเจ้าภาพและหน่วยงานสนบั สนนุ ในการดาเนินการ
(๑) สง่ เสริม/สนับสนุนการจัดอบรมใหก้ ับผู้ประกอบการและจัดทาส่ือ

เพื่อส่ือสารให้ผู้ประกอบการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์สมุนไพร
เ พิ่ ม ม า ก ขึ้ น พั ฒ น า ศั ก ย ภ า พ แ ล ะ เ พิ่ ม ขี ด ค ว า ม ส า ม า ร ถ ข อ ง เ ก ษ ต ร ก ร / วิ ส า ห กิ จ ชุ ม ช น ผู้ ผ ลิ ต
ผลิตภัณฑ์สมนุ ไพร เพื่อเชอ่ื มโยงตลาดใหม่ เชน่ รา้ นสขุ ภาพ ร้านแนว Modern trade ตลาดออนไลน์ เป็นตน้

(๒) ส่งเสริมการเชื่อมโยงการทางานของหน่วยงานภาคการวิจัย/
สถาบันการศกึ ษา และภาคการผลิต (ภาคเอกชน/ภาคอุตสาหกรรม) เพื่อขยายสเกลการผลิตจากระดับ
ห้องปฏบิ ตั กิ าร (Lab scale) ขนึ้ เป็นระดบั โรงงานตน้ แบบ (Pilot scale) ใหส้ ามารถเช่ือมตอ่ กับการผลติ
ในระดับอุตสาหกรรม (Industrial scale) โดยมีการศึกษาข้อกาหนด กฎหมาย ระเบียบต่าง ๆ
ตามประกาศของสานักงานคณะกรรมการอาหารและยาในด้านการควบคุมคุณภาพ ประสิทธิภาพ
และความปลอดภัยในการใช้งาน

๕.๒.๒.๔.๔ ดา้ นการวิจัยพัฒนานวัตกรรมและทรัพยส์ ินทางปญั ญา
๑) พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย

พ.ศ. ๒๕๔๒ )มาตรา ๗๖): ควรมกี ารทบทวนและปรับปรงุ ระเบียบคณะกรรมการคมุ้ ครองและสง่ เสริม
ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (มีอานาจหน้าที่ตามมาตรา ๖ (๒)) ว่าด้วยการบริหารการใช้จ่าย
เงินกองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง เพื่อให้เกิด
ความคล่องตัวและเอื้อให้เกิดการนาไปใช้ในการวิจัยพัฒนาอย่างสมประโยชน์จากเจตนารมณ์
ของกฎหมายตอ่ ไป ซึ่งจะเปน็ การเพิ่มแหล่งทุนในการศึกษาวิจยั อนั นาไปส่กู ารพลกิ โฉมสมุนไพรไทย

๒) พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม
พ.ศ. ๒๕๖๔: พัฒนา ระเบียบ ข้อบังคับ และเงื่อนไขของแหล่งทุน กากับดูแลใหเ้ ป็นหนา้ ท่ีของนักวิจัย
หรือผู้รับทุนในการนาเข้าข้อมูลผลการวิจัยและนวัตกรรมให้รวดเร็ว ครบถ้วน และมีสาระสาคัญตามที่
กาหนด เช่น บทคัดย่องานวิจยั รายงานฉบับสมบรู ณ์ ผลงานทไี่ ดต้ ีพิมพ์ในวารสารวิชาการ เอกสารสรุป
การวิจัย (Research brief) เป็นต้น พร้อมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงสิทธิ ตลอดจนติดตาม
ประเมินผลสัมฤทธ์ิของกฎหมายและมาตรการต่าง ๆ แล ะควรมีการประสานความร่วมมือ
กับหน่วยงานอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือให้เกิดการผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การยกระดับ
กระบวนการต่าง ๆ ในอตุ สาหกรรมสมุนไพรตอ่ ไป

๓) พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. ๒๕๒๐: เร่งประชาสัมพันธ์ให้
ทราบถึงสิทธิและประโยชน์แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพิ่มเติมในวงกว้าง เพ่ือกระตุ้นและสร้างศักยภาพ
ให้กับธุรกิจในอุตสาหกรรมสมุนไพร โดยเฉพาะในส่วนของประกาศฯ เง่ือนไขการสนับสนุนเพ่ิมเติม
ท่ีเกี่ยวข้องกับสิทธิและประโยชน์สาหรับอุตสาหกรรมสมุนไพร รวมท้ังมาตรา ๑๖ วรรค ๒ นอกจากนี้
ยังควรมีการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของมาตรการท่ีมีการพัฒนาเพิ่มเติม และการปรับปรุง

๓๑๘

อย่างต่อเน่ืองต่อไป อีกท้ังควรมีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เก่ียวข้อง เพ่ือให้ผู้ขอรับ
การสนบั สนุนสามารถปฏบิ ัตติ ามเงือ่ นไขที่กาหนดได้

๔) พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. ๒๕๒๒: ระบุให้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบ
หน้าที่ส่งเสริมศักยภาพในการเขียนสิทธิบัตรของผู้ผลิตนวัตกรรม รวมทั้งทาความเข้าใจเรื่องสิทธิและ
กระบวนการขอใช้สิทธทิ ่ีชัดเจน รวมทง้ั กาหนดให้มีการจดั ต้งั งบประมาณข้ึนมาเฉพาะ เพื่อใหเ้ กิดความ
ค ล่ อ ง ตั ว ในการดาเนินกิจกรรมเชิงส่งเสริมพัฒนาให้เกิดความตระหนักและพัฒนาศักยภาพ
ในการเขียนหรือยื่นคาขอสิทธิบัตร ซึ่งต้องกาหนดขึ้นเป็น หมวด ... การส่งเสริมกระบวนการขอรับสิทธิบัตร
ในพระราชบัญญตั ใิ หเ้ กิดความชัดเจนในโอกาสต่อไป

๕) หนว่ ยงานเจ้าภาพกาหนดมาตรการในการดาเนนิ การ
๕.๑) ส่งเสริมการเผยแพร่ระบบการให้คาปรึกษาและระบบ Rolling

submission ให้ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบอย่างทั่วถึง เพ่ือให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพร
จากการวิจัยและพัฒนา สามารถต่อยอดไปไดใ้ นเชิงพาณิชย์

๕.๒) จัดทาฐานข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาที่เก่ียวกับสมุนไพร
โดยแยกประเภทของสิทธิบัตรของแต่ละสมุนไพร เพื่อให้ผู้ท่ีสนใจสามารถเข้าถึงทรัพย์สินทางปัญญาได้ง่าย
และเกดิ การนาไปใชป้ ระโยชนเ์ ชิงพาณชิ ยม์ ากขึ้น

๕.๓) ให้การสนับสนุนแผนและงบประมาณวิจัยด้านสมุนไพร
อยา่ งตอ่ เน่อื งและเป็นระบบ โดยเฉพาะงานวจิ ัยทางดา้ นคลินกิ

๕.๔) ส่งเสริม/สนับสนุนงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องกับการผลิตพืชสมุนไพร
เพื่อให้ได้สารสาคญั สงู ตามความตอ้ งการของตลาด ครอบคลมุ ตง้ั แตก่ ารคดั เลอื กพันธุ์ การปลูก การดแู ลรกั ษา
การเก็บเกี่ยว และการจัดการหลังหารเก็บเกี่ยวในพืชสมุนไพรแต่ละชนิด พร้อมทั้งสนับสนุนงานวิจัย
และพัฒนาสมุนไพรให้สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงในทุกมิติ โดยใช้ตลาดนาการผลิต
เพ่ือกระตุ้นให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดาเนินการวิจัย ตั้งแต่การกาหนดโจทย์วิจัย
ท่ีตรงตามความต้องการของตลาด

๕.๕) สนบั สนุน/สง่ เสรมิ การวิจัยและพฒั นานวัตกรรมดา้ นการแปรรูปพืช
สมุนไพรให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน และมีศักยภาพในการแข่งขันทางการค้า
ตรงตามความต้องการของตลาด เพ่ือยกระดับมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้สูงข้ึน โดยมุ่งเน้นการสร้าง
ความรแู้ ละทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา

๕.๖) เพิม่ มาตรการสง่ เสริม/สนับสนนุ ใหม้ กี ารจดสทิ ธบิ ตั รมากขึ้น
๕.๗) จดั ให้มกี ารประชุม/อบรมให้นักวิจัยและผู้ที่เกีย่ วข้องมีความเข้าใจท่ี
สอดคล้องตรงกัน และเข้าใจในกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับท่ีเก่ียวข้องกับผลิตภัณฑ์สมุนไพร
อยา่ งเพียงพอ
๕.๘) สนับสนุนทุนวิจัยในรูปแบบบูรณาการสหสาขาวิชา เพ่ือให้
นักวิจัยรุ่นใหม่ได้เห็นภาพการวิจัยและการพัฒนาสมุนไพรตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต อีกทั้งเพื่อให้เกิด
การแลกเปล่ียนเรยี นรทู้ ่ีหลากหลายสาขาวชิ า

๓๑๙

๕.๙) ส่งเสริม/สนับสนุนมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ท่ีมีความพร้อม
และขีดความสามารถสูงให้บูรณาการความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยข นาดเล็กท่ีขาดความพร้อม
เพือ่ พัฒนาการทางานใหเ้ กิดประสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ลมากย่งิ ขึ้น

๕.๑๐) ส่งเสริมให้บุคลากรท่ีมีส่วนได้ส่วนเสยี ในห่วงโซ่คุณค่าพืชสมุนไพร
และผลิตภัณฑ์มีความรู้ความเข้าใจ เห็นประโยชน์ และมีศักยภาพในการขอจดสิทธิบัตร ที่นอกจากจะ
คุ้มครองป้องกันมิให้คนอ่ืนมาใช้ทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ยังสามารถใช้ทรัพย์สินทางปัญญา
เพือ่ สรา้ งเงินไดอ้ กี ดว้ ย

๕.๒.๒.๔.๕ ดา้ นบคุ ลากรการทางการแพทย์ผู้สัง่ ใช้
๑) พระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๕๖

พระราชบัญญตั วิ ิชาชพี เวชกรรม พ.ศ. ๒๕๒๕ และพระราชบญั ญตั วิ ชิ าชพี เภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๓๗:
ส่งเสริม/สนับสนุนให้มีการการฝึกอบรมและขอ้ บังคบั เรื่องระบบการศึกษาต่อเนื่อง รวมทั้งให้มวี ิทยาลัย
สร้างความชานาญเฉพาะ ภายใต้กลไกสภาวิชาชีพ เพ่ือเพ่ิมความมั่นใจในการส่ังใช้ยา
จากสมุนไพรมากขึ้น มีการศึกษาวิจัยพัฒนานวัตกรรมยาจากสมุนไพรทางคลินิกมากข้ึน อีกท้ังยัง
สามารถออกแบบการพัฒนาสมรรถนะให้เชื่อมโยงการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนปัจจุบัน
เข้าหากนั ไดอ้ ีกดว้ ย ตลอดจนเพ่ิมหรือกาหนดให้มวี ชิ าบงั คบั ในหลักสตู รแพทยศาสตรบณั ฑติ

๒) ควรมีนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมให้บุคลากรด้านการแพทย์แผนไทยมี
การใช้หรือส่ังจ่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรท่ีมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับทงั้ ในด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ
และความปลอดภยั เพอ่ื ใหเ้ กดิ Demand และ Supply การใชป้ ระโยชน์จากพชื สมุนไพร

๓) เร่งผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านการแพทย์แผนไทยให้มีจานวนและ
คุณภาพมากขนึ้

๔) ผลักดันให้มีการเรียนการสอนวิชาชีพการแพทย์แผนไทยเป็นการทั่วไป
ของหลกั สตู รแพทยศาสตร์ในโรงเรียนแพทย์ต่าง ๆ

๕.๒.๒.๔.๖ ดา้ นการตลาด การประชาสมั พนั ธ์ การส่งเสรมิ การขาย และการส่งออก
๑) พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. ๒๕๖๒: เสนอให้แก้ไข

มาตรา ๑๒๑ โดยปรับแก้ไขเป็น “กาหนดให้บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ที่มีโทษ
ปรับสถานเดียวหรือเป็นความผิดท่ีมีโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี ให้เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
หรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมายมีอานาจเปรียบเทียบได้” ทั้งน้ีตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
ที่คณะกรรมการประกาศกาหนด เพื่อให้สานักงานคณะกรรมการอาหารและยามีอานาจเปรียบเทียบ
ปรบั ในกรณขี องการโฆษณาผลติ ภณั ฑ์สมนุ ไพรทไ่ี ม่ไดร้ บั อนญุ าตซงึ่ ฝ่าฝนื มาตรา ๗๐ หรือมาตรา ๗๔ ได้
ซึ่งจะทาให้สานักงานคณะกรรมการอาหารและยาสามารถดาเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทาผิด
ได้รวดเร็วย่ิงขึ้น หรือกล่าวคือ ควรมีการแก้บทเรื่องโทษอาญาของการโฆษณา การเปรียบเทียบปรับ
โดยใหส้ านักงานคณะกรรมการอาหารและยามีอานาจเปรียบเทียบปรับได้เช่นเดียวกับกฎหมายฉบับอ่ืน
ท่ีอยใู่ นความรบั ผดิ ชอบของสานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา

๓๒๐

๒) ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาระบบ
ยาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑: ควรมีการติดตามและประเมินผลสัมฤทธ์ขิ องการปรบั ปรุงระบบการคัดเลือก
ยาจากสมุนไพรและกฎระเบียบที่เก่ียวข้อง หลังจากที่มีการแยกคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลัก
แห่งชาติด้านสมุนไพร ออกจากคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติของยาแผนปัจจุบัน
(ปรบั ปรงุ ณ วนั ท่ี ๖ เมษายน ๒๕๖๔)

๓ ) ป ร ะ ก า ศ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ห ลั ก ป ร ะ กั น สุ ข ภ า พ แ ห่ ง ช า ติ
เรื่อง หลักเกณฑ์การดาเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
และหลักเกณฑ์วิธีเง่ือนไขการรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ :
ควรมกี ารประเมินผลของหลักเกณฑ์การบริหารจดั การเงินของกองทุนหลักประกันสขุ ภาพอยา่ งต่อเนื่อง
เพื่อให้เกิดการจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสม ซ่ึงเชื่อว่าจะส่งผลต่อการสั่งใช้ยาจากสมุนไพร
เป็นไปตามมาตรฐานการรักษามากข้ึน และส่งเสริมให้เกิดความนิยมและเช่ือม่ันยาจากสมุนไพร
ในหม่ขู องประชาชนมากยง่ิ ข้นึ ตามลาดับ

๔) หน่วยงานเจ้าภาพกาหนดมาตรการสนบั สนุนในการดาเนินการ
๔.๑) รวบรวมตารายาสมุนไพรไทยให้เป็นตารายาอ้างอิงแห่งชาติ

เพ่ือการสื่อสารหรือสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจ โดยใช้หลักฐานทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์
เพื่อสนับสนุนการบาบัดรักษาให้เกิดการยอมรับ ตลอดจนสร้างความเชื่อม่ันให้แก่บุคลากรทางการแพทย์
และผู้บรโิ ภค

๔.๒) ควรดาเนินการเพ่ิมรายการยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ
ควบคู่กับการพัฒนามาตรการส่งเสริม/สนับสนุน และประชาสัมพันธ์ให้เกิดความเชื่อม่ันแก่บุคลากร
ทางการแพทย์ และประชาชนในการสง่ั จา่ ยและใชย้ า

๔.๓) เพ่ิมการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกบั ตรารับรองมาตรฐานสนิ ค้าเกษตร
ใหแ้ กป่ ระชาชนและผบู้ ริโภค

๔.๔) ผลักดัน Soft power ด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรและการแพทย์แผน
ไทย ผา่ นกระทรวงวฒั นธรรมและกรมประชาสัมพนั ธ์

๔.๕) สร้างส่ือหรือกิจกรรม เพ่ือให้เกิดการรับรู้และตระหนักรู้ถึง
ประโยชน์และคุณค่าของผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยอันนาไปสู่ความเข้าใจและความเชื่อมั่นแก่ประชาชน
และผู้บรโิ ภค

๔.๖) ควรมีหนังสือคู่มือเกี่ยวกับอาหารไทยที่นาพืชสมุนไพรมา
ประยุกต์ใช้ในการประกอบอาหารไทย และเครื่องดื่ม ทั้งอาหารตะวันตกและอาหารตะวันออก เป็นทั้ง
ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เพอ่ื เผยแพร่ เพื่อสร้างตลาดในต่างประเทศ สร้างการรบั รู้ในเร่ืองของสรรพคุณ
ของพืชสมุนไพรด้วย

๔.๗) ควรมีการมอบรางวัลยกย่องแก่บุคคลหรือองค์กร ที่ได้พัฒนา
เร่อื งของสมนุ ไพรให้แพร่หลาย โดยต้องดาเนินการอย่างเหมาะสมและตอ่ เน่อื ง

๓๒๑

๕.๒.๒.๔.๗ ดา้ นการกากับดแู ล การคุ้มครองผู้บรโิ ภค และอภบิ าลระบบ
๑) ร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติ

กญั ชา กญั ชง พ.ศ. ....
๑.๑) ควรเปิดให้มีรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง เพ่ือกาหนด

มาตรการในการควบคุม กากับดูแล ให้เหมาะสม สมดุลระหว่างการเปิดโอกาสให้นามาใช้ประโยชน์
สรา้ งเศรษฐกจิ และทางเลือกดา้ นสุขภาพ กบั ความเส่ียงในการลักลอบไปใช้ในทางท่ีไม่เหมาะสม รวมท้ัง
ความไมป่ ลอดภยั จากการบริโภคทีไ่ ม่ถกู ตอ้ ง

๑.๒) ควรมกี ารประเมนิ ผมสมั ฤทธิ์ของกฎหมายอย่างใกล้ชดิ
๑.๓) ควรพิจารณาการนาแนวคิดเร่ือง Regulatory Sandbox มาใช้
เพ่ือผ่อนปรนการใช้ประโยชน์ภายใต้การกากับดูแลวิธีการใหม่ ๆ มาบัญญัติไว้ในกฎหมาย เพ่ือส่งเสริม
นวตั กรรมในการกากบั ดูแลที่เหมาะสมกับความเสีย่ ง โดยมใิ หค้ วามเสยี หายเกดิ ขึ้นในวงกวา้ ง
๒) พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน )ฉบับที่ ๗)
พ.ศ. ๒๕๕๐ )มาตรา ๔๐/๑): ควรจัดตั้งหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ (SDU) ภายใต้กากับ
เพ่ือรับผิดชอบ เป็นผู้ดาเนินงานให้บริการ (Service provider) อันจะช่วยทาให้เกิดความคล่องตัว
และเพ่ิมประสิทธภิ าพมากขน้ึ ได้
๓) พระราชบญั ญตั สิ ุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐:

๓.๑) สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ: ควรกาหนดประเด็นสมัชชาข้ึนมา
เป็นการเฉพาะกบั เรือ่ ง เพอื่ การพลกิ โฉมสมนุ ไพรดว้ ยนวตั กรรมและการวจิ ยั

๓.๒) ธรรมนูญสุขภาพแห่งชาติ ฉบับท่ี ๓: ควรมีการกาหนด
“พิมพ์เขียว” (เช่น กรอบ/แนวทางในการกาหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพของประเทศ)
ดา้ นภาพอนาคตของการวิจัย/นวัตกรรมและการใชส้ มนุ ไพรไทยในระบบสุขภาพที่พงึ ประสงค์รวมกัน

๓.๓) การอภิบาลระบบสมุนไพร: ควรมีการจัดต้ังคณะอนุกรรมการ
กากับดูแลกฎหมายขึ้นมาเป็นคณะอนุกรรมการอีกชุด เพ่ือให้เกิดความต่อเนื่องและเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการขับเคลือ่ นนโยบาย

๔) หน่วยงานเจ้าภาพกาหนดแผนงานและมาตรการตา่ ง ๆ เพ่ือรองรับ
การดาเนินงาน

๔.๑) นโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนงานของรฐั
๔.๑.๑) ควรมีการกาหนดผลิตภัณฑห์ รอื ชนดิ สมนุ ไพรเปา้ หมาย

ท่ีประเทศจะมุ่งเป้าพัฒนาให้ชัดเจน เพ่ือเป็นทิศทางให้การกาหนดสัดส่วนงบประมาณวิจัย รวมถึงการ
พฒั นาตลอดทง้ั หว่ งโซก่ ารผลติ ที่ทกุ หนว่ ยงานทีเ่ กีย่ วขอ้ งตอ้ งร่วมกัน

๔.๑.๒) ควรมีการกาหนดเป้าหมายหรือนโยบายการวิจัย
ในพืชสมุนไพรเด่ียว และตารับยาแผนไทย ๑๒ ชนิด เพ่ือเป็นโมเดลการวิจัยตลอดท้ังห่วงโซ่แบบครบวงจร
จนนาไปสู่การยอมรับและการใช้ประโยชน์จริงอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ยาสาหรับใช้ภายนอก (ยาทา ยาพ่น
และกล่มุ สปา เป็นต้น)

๓๒๒

๔.๒) ฐานข้อมูลกลาง
๔.๒.๑) จัดการเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านสมุนไพรของแต่ละ

หน่วยงานอย่างเป็นระบบเพื่อให้เห็นภาพรวมของการดาเนินงาน เช่น ฐานข้อมูลของคณะเภสัชศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล ฐานข้อมูลสาธารณสุขมูลฐาน ฐานข้อมูลสรรพคุณของสานักงานคณะกรรมการ
อาหารและยา เปน็ ต้น

๔.๒.๒) ควรมีศูนย์ข้อมูลด้านพืชสมุนไพรและผลิตภัณฑ์จาก
สมุนไพร เช่น ศูนย์ข้อมูลในมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (Oxford University) ซ่ึงจะมีข้อมูลการวิจัย
ข้อมูลสมุนไพรแต่ละชนิด ข้อมูลตารับยา โดยศูนย์จะวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นนโยบายสาคัญทางสุขภาพ
ของประเทศเมื่อรัฐบาลจะขับเคล่ือนเร่ืองใดก็จะส่งมาให้ศูนย์รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์เชื่อมโยงกับ
ภาคส่วนต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ ประกอบดว้ ย ๒ ระดบั ได้แก่

๔.๒.๒.๑) ระดับนโยบาย ไดแ้ ก่ การจดั ตั้งองคก์ รหรือ
หน่วยงานระดับชาติท่ีมีพันธกิจในการบูรณาการ (ทั้งในแนวราบและแนวตั้ง) และเช่ือมโยงข้อมูลจาก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสมุนไพรตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางอย่าง
เปน็ ระบบพร้อมท้งั มหี น้าที่ในการวเิ คราะห์ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสนับสนนุ และพัฒนานโยบายตามทภ่ี าครัฐ
กาหนด

๔.๒.๒.๒) ระดับการขับเคล่ือน ได้แก่ การจัดต้ัง
คณะทางาน/คณะกรรมการในการขับเคลือ่ น ติดตามและประเมินผลการดาเนนิ การของศูนยร์ วมถงึ การ
ใช้ประโยชน์

๓๒๓

บทสง่ ท้าย

 ด้านการผลติ การแปรรปู และการนาไปใช้ประโยชน์มีการสร้างองค์ความรู้ ประสบการณ์ เทคโนโลยี
วิจัยและนวัตกรรมอย่างครบถ้วน แต่ยังจาเป็นต้องใช้การส่งเสริม เพิ่มเติมในด้านคุณภาพ
มาตรฐาน การใช้งานวิจัยและนวัตกรรมมาขับเคล่ือนเพื่อสร้างความเชื่อม่ันต่อผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย
ในรูปแบบต่าง ๆ จากผู้ประกอบการในทุกระดับและทุกกลุ่ม โดยคานึงถึงภูมิปัญญาไทยที่สะสม
มายาวนานเป็นข้อมูลสาคัญประกอบการพิจารณาและมุ่งเป้าสู่การสร้างประเทศไทยให้เป็น
ศนู ย์กลางสมุนไพรแหง่ อาเซยี น ท้ังในด้านความรู้ สายวิทยาการ และผลิตภณั ฑ์สมุนไพรในทุกรูปแบบ
 มกี ฎหมายท่ีเกยี่ วขอ้ งกับการพลิกโฉมพชื สมนุ ไทยจานวนมากกวา่ ๓๐ ฉบบั โดยมบี ทบัญญตั ิท่ี
ครอบคลุมในเรื่องดังกล่าวครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวิจัย มาตรฐาน สิทธิบัตร/
สิทธิประโยชน์ การคุ้มครองผู้บริโภค การตลาด/การประชาสัมพันธ์ การดูแลอนุรักษ์บุคลากร
ทางการแพทย์ รวมทั้งการส่งเสริมผู้ประกอบการหรือเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นต้นทาง กลางทาง
และปลายทาง อย่างเพยี งพอแลว้ ทั้งน้ี มีบางประเดน็ ที่ควรปรบั ปรุงแกไ้ ข
 ประเด็นสาคัญที่ควรตระหนักก็คือจะต้องให้ความสาคัญกับการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่

อย่างมีประสิทธิภาพ มีการสร้างการรับรู้ การประชาสัมพันธ์ และการสื่อสารสองทางกับ
ประชาชนให้มากทส่ี ดุ
 หลกั สาคญั ในการขบั เคลอ่ื นเชิงบรู ณาการ
๑. กระทรวง/กรม/หน่วยงานราชการ บูรณาการแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการในระยะเร่งด่วน
ระยะกลาง ระยะยาว
๒. ให้มีการบูรณาการ เจ้าภาพหลัก/รอง และหน่วยงานสนับสนุนอย่างชัดเจนทั้งแผนงาน/
โครงการและงบประมาณ (รวมถึงการจัดระบบนเิ วศ (Ecosystem))
๓. เพ่ิมหน่วยวิชาการ/ปฏิบัติการสาหรับต้นทาง (มาตรฐานและคุณภาพ) ในสถาบันการศึกษา
หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ประจาในแต่ละภูมิภาค
๔. การประชาสมั พันธ์ การมอบรางวัลภูมิปญั ญาไทยด้านผลติ ภัณฑ์สมุนไพร
๕. ปรับปรุงกฎ กติกา เงื่อนไขในสว่ นท่เี ปน็ มาตรฐานสาหรับผลิตภัณฑส์ มนุ ไพร
ในมิติของภูมปิ ัญญาไทยเปน็ กรณีเฉพาะ
 การต่อยอดการศึกษาเพื่อเสนอแนะในเรอ่ื งน้ี
ด้วยข้อจากัดของเวลา จึงไม่สามารถศึกษาให้ครบถ้วนทุกมิติ ดังน้ัน ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
และแนวทางการขับเคลื่อนและบูรณาการจึงอาจไม่เชื่อมโยงทุกประเด็นของนโยบาย ยุทธศาสตร์
แผนระดับชาติท่ีเกี่ยวข้อง จึงควรมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนทาการศึกษา วิจัยเพื่อต่อยอด
การพลกิ โฉมใหป้ ระเทศไทยสามารถเป็นศนู ย์กลางของสมนุ ไพรไดต้ ามเจตนารมณ์ท่ีมุง่ หมาย

๓๒๔

การต่อยอดการวจิ ัยและนวัตกรรมสมนุ ไพรเป้าหมายที่มีลาดบั ความสาคัญและจาเป็น
เร่งด่วน อาทิเชน่ ฟา้ ทะลายโจร ขม้นิ ชนั กระชายขาว ไพล พลูคาว และบวั บก เปน็ ต้น

หน่วยงาน/บุคลากรที่มีความรู้ ประสบการณ์ และความพร้อมในการเข้าร่วม
ดาเนินการ อาทเิ ชน่

- เกษตรกร วสิ าหกิจชุมชน ชุมชน (กลุ่มการเกษตร – อาหาร – สมนุ ไพร)
- กรมวิชาการเกษตร กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
- กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลอื ก
- สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สานักงาน
การวิจัยแห่งชาติ (วช.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพ่ิมความสามารถในการแข่งขันของ
ประเทศ (บพข.) และสถาบนั วจิ ัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
- โรงพยาบาลเจา้ พระยาอภยั ภูเบศร โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตาบล อาทิ โรงพยาบาล
หนองเสอื โรงพยาบาลดอนตูม เปน็ ตน้
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธ นบุรี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลว ง
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ มหาวิทยาลยั เกษตร มหาวทิ ยาลัยแมโ่ จ้ ศูนย์การศึกษาจงั หวัดสมุทรสงคราม
(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา) มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
มหาวทิ ยาลยั นเรศวร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอีสาน เป็นตน้
- ภาคเอกชน บริษัท/โรงงานท่จี ดทะเบยี นเป็นผปู้ ระกอบการผลติ ภณั ฑส์ มนุ ไพร
- นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยและนวัตกรรมที่มีผลงานทางวิชาการและ
ประสบการณใ์ นการปฏิบตั จิ ริง
โดยมกี ารสนบั สนุนทตี่ อ่ เนื่องและพอเพยี งในดา้ นต่าง ๆ ไดแ้ ก่
- นโยบาย การกากับดแู ล กฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ
- ระบบนเิ วศ (Eco System) บริษัทหอ้ งปฏิบตั กิ ารกลาง (Central Lab)
- ข้อมลู กลาง (Data Center) และหนว่ ยบรกิ ารแบบ One Stop Service
- แผนงาน โครงการ งบประมาณ
- การติดตามประเมินผล
- และอื่น ๆ
ท้งั นี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์อยา่ งแท้จรงิ ตอ่ ประชาชน สังคมและประเทศชาติ

บรรณานกุ รม

กระทรวงสาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์. (๒๕๖๐). กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สร้างความเชื่อมั่น
ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย โดยการพัฒนาวิธีตรวจสอบเอกลักษณ์สารสาคัญในเครื่องสาอาง.
[ขอ้ มูลอเิ ล็กทรอนกิ ส]์ . สบื ค้นเมอ่ื ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕. สืบคน้ จาก
https://www3.dmsc.moph.go.th/post-view/204

กระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก. (๒๕๖๔). คมู่ อื การใช้ยาแผนไทย
ในสถานการณ์โรคติดต่อเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19). [ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์].
สืบค้นเมื่อ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕. สืบค้นจาก https://nph.dtam.moph.go.th/images/
ค่มู ือการใช้ยาแผนไทยโควิด.pdf

กระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. (๒๕๕๘). คลังความรู้ TTDKL.
[ ข้ อ มู ล อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ ] . สื บ ค้ น เ ม่ื อ ๕ พ ฤ ษ ภ า ค ม ๒ ๕ ๖ ๕ . สื บ ค้ น จ า ก
http://ttdkl.dtam.moph.go.th/frmc_about_it.aspx

กระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. (๒๕๕๕). HDC TTM Service.
[ ข้ อ มู ล อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ ] . สื บ ค้ น เ ม่ื อ ๕ พ ฤ ษ ภ า ค ม ๒ ๕ ๖ ๕ . สื บ ค้ น จ า ก
http://hs.dtam.moph.go.th/

กระทรวงสาธารณสขุ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. (๒๕๖๐). นามานุกรมผลิตภณั ฑ์
สมุนไพรไทย (Thai Herbal Products Directory : Thai-D). [ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์]. สืบค้น
เม่ือ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕, จาก https://nph.dtam.moph.go.th/index.php/news-
nph/download-document-nph/116-thai-d

กระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. (๒๕๖๐). คู่มือการตลาด
สมุนไพรในต่างประเทศ โดย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ. [ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์].
สบื ค้นเมอ่ื ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕, จาก https://nph.dtam.moph.go.th/index.php/news-
nph/download-document-nph/118-2017-09-17-08-33-21

กระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก. (๒๕๖๔). ประชมุ เชิงปฏิบตั ิการ
กัญชาในอตุ สาหกรรมสุขภาพและการจบั คเู่ จรจาธุรกิจสว่ นของกญั ชาทีไ่ มใ่ ช่ยาเสพติดระหว่าง
วสิ าหกจิ ชมุ ชนและโรงงานผูผ้ ลติ ยาและผลติ ภัณฑส์ มนุ ไพร. [ข้อมลู อิเล็กทรอนิกส]์ . สืบคน้ เมื่อ
๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕, จาก https://nph.dtam.moph.go.th/index.php/news-
nph/activity-nph/308-2021-03-25

กรกมล โสตะจินดา, การคุมครองภูมปิ ญญาทองถิ่นในการนามาปรบั ใชกับสมุนไพรไทย, วารสารนติ ิ
ศาสตรมหาวทิ ยาลัยอสั สัมชัญ, ปท่ี ๙ ฉบบั ท่ี ๑ (มกราคม – มิถนุ ายน ๒๕๖๑): หน้า ๑๐๓-๑๒๓
คณะกรรมการ TKDI. (๒๕๕๔, กรกฎาคม). การเรียนรู้การจัดทาระบบฐานข้อมูลภูมิปัญญา
และสมุนไพรของอายุรเวท ณ Institute of Ayurveda and Integrative Medicine (I-AIM).
[รายงาน]. ม.ป.ท.

๓๒๖

กลุ่มปฏิบัติการที่ ๘ หลักสูตรนักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ระดับสูง รุ่นที่ ๖๖
ภายใต้การดูแลของ สุรวิช วรรณไกรโรจน์. (๒๕๕๙). การเพ่ิมมูลค่าสมุนไพรไทย
บนความหลากหลายทางชีวภาพ. กรุงเทพฯ: คณะเกษตร มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์. สืบค้น
เม่อื ๒๓ มกราคม ๒๕๖๕, จาก https://www.arda.or.th/datas/file/1471236486.pdf

ฐานข้อมูลสมนุ ไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอบุ ลราชธานี. พลคู าว. สืบคน้ เมือ่ ๑๗ ตลุ าคม
๒๕๖๔, จาก http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=244.

ฐานขอ้ มลู เครอื่ งยา คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี. ฟา้ ทะลายโจร [อนิ เตอรเ์ นต]
[เข้าถึงเม่ือ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๑]. เข้าถงึ ไดจ้ าก http://www.thaicrudedrug.com/
main.php?action=viewpage&pid=97

ณรงค์ แดงเปยี่ ม, เสงยี่ ม แจ่มจารูญ, วสรรญ ผอ่ งสมบรู ณ์, ปัญญา ธยามานนท,์ สธุ น สวุ รรณบตุ ร,
นรนิ ทร์ พลู เพ่ิม,... กุศล ถมมา. (๒๕๖๓). มะนาวพนั ธุพ์ จิ ติ ร ๑. สบื ค้นเม่ือ ๑ มนี าคม ๒๕๖๕
จาก https://www.doa.go.th/research/showthread.php?tid=519.

ณัฐนันท์ วิริยะวิทย์. (๒๕๕๙). การพัฒนาบรรจุภัณฑ์และส่ือประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์เครื่องสาอาง
สมุนไพร กรณีศึกษา: วิสาหกิจชุมชนปาริชาต เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร. กรุงเทพฯ:
คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร. สืบค้นเม่ือ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๕,
จาก http://www.thai-explore.net/search_detail/result/9779

นาตยา สีทบั ทมิ . มาตรฐานสารสกดั สมุนไพร. สบื คน้ เมอื่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕ จาก
https://waa.inter.nstda.or.th/stks/pub/nac/2021/slide/ss36-lec02.pdf.

บุญสม ลชี ยากติ ตกิ ร,. (๒๕๕๘). นวตั กรรมการตลาดสาหรับผลติ ภณั ฑ์สมนุ ไพร. วทิ ยานิพนธ์
หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารเทคโนโลยี วิทยาลัยนวัตกรรม.
กรุงเทพฯ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. สืบค้นเม่ือวันท่ี ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕.
จาก http://ethesisarchive. library.tu.ac.th/thesis/2015/TU_2015_5723030044_
3423_2120.pdf

ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์. (๒๕๖๑). เร่ือง กาหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร การปฏิบัติ
ทางการเกษตรท่ีดีสาหรับพืชสมุนไพร ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร
พ.ศ. ๒๕๕๑. ราชกจิ จานเุ บกษา. ๑๗ เมษายน ๒๕๖๑. เลม่ ที่ ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๘๗ ง. หนา้ ๑-๑๑.

ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์. เร่อื ง มาตรฐานสนิ คา้ เกษตร พชื สมนุ ไพรแห้ง เลม่ ๒: ใบ สว่ นเหนือดนิ
และทงั้ ตน้ ตามพระราชบญั ญตั ิมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑. ราชกิจจานเุ บกษา.
๑๖ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔.เล่มท่ี ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๓๖ ง. หนา้ ๒๖.

ประกาศคณะกรรมการสงิ่ แวดลอ้ มแห่งชาติ. เรือ่ ง กาหนดมาตรฐานคณุ ภาพดนิ . ราชกจิ จานเุ บกษา.
๑๑ มนี าคม ๒๕๖๔. เล่มท่ี ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๕๔ ง. หนา้ ๒๐-๒๔.


Click to View FlipBook Version