The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการพิจารณาศึกษา แนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทย ด้วยการวิจัยและนวัตกรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by เอกสาร, 2022-10-09 01:50:35

รายงานการพิจารณาศึกษา แนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทย ด้วยการวิจัยและนวัตกรรม

รายงานการพิจารณาศึกษา แนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทย ด้วยการวิจัยและนวัตกรรม

๑๔๙

๓.๒.๒.๒ หนา้ ทีแ่ ละอานาจ

๑) พิจารณาศึกษาปัญหาอุปสรรค ด้านกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ขอ้ บงั คับ

ในการอนุญาตพืชสมุนไพร การนาเข้าส่งออกพืชสมุนไพรเชิงพาณิชย์ มาตรฐานอาหารและยา

สิทธิบตั ร/ สทิ ธปิ ระโยชน์ การคมุ้ ครองผ้บู ริโภค การตลาดและการประชาสัมพันธ์

๒) พิจารณาศึกษาและวิเคราะห์ เสนอแนะประเด็นทางกฎหมาย ระเบียบ

ประกาศ ขอ้ บงั คับ มาตรฐานอาหารและยา สทิ ธิบตั ร/ สทิ ธปิ ระโยชน์ การคุ้มครองผบู้ ริโภค การตลาด

และการประชาสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์

ชาตแิ ละแผนการปฏริ ปู ประเทศ

๓) ประสานการดาเนินงานกับคณะอนุกรรมาธิการด้านการผลิตพืชสมุนไพร

วิจยั และนวตั กรรม การนาไปใชป้ ระโยชน์ เพือ่ ให้เกดิ การบูรณาการในทกุ มติ ิทเ่ี ปน็ รปู ธรรม

๔) รายงานผลการดาเนินการต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญเพ่ือพิจารณา

ดาเนนิ การในส่วนท่ีเกีย่ วข้องตอ่ ไป

๕) ดาเนินงานอ่ืนใดตามทค่ี ณะกรรมาธกิ ารวิสามญั มอบหมาย

๓.๒.๓ คณะทางาน

คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรด้วยการวิจัย

และนวัตกรรม วุฒิสภา ได้มีคาส่ังต้ังคณะทางานประสานงานด้านธุรการและแผนดาเนินการร่วม

ของกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการ ตามคาส่ังท่ี ๔/๒๕๖๔ วันท่ี ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

โดยมีองค์ประกอบและหน้าท่ีและอานาจ ดงั นี้

๓.๒.๓.๑ องคป์ ระกอบ

๑) พลเอก ประสาท สขุ เกษตร ประธานคณะทางาน

๒) รองศาสตราจารยส์ ุดสวาสด์ิ ดวงศรีไสย์ คณะทางาน

๓) ผู้ช่วยศาสตราจารย์วรวิทย์ วาณชิ ย์สุวรรณ คณะทางาน

๔) นางปยิ มาภรณ์ ทองปุย คณะทางาน

๕) รองศาสตราจารยส์ ายสุนยี ์ พทุ ธาคุณเจรญิ คณะทางาน

๖) นางสาวดารณี อรณุ วรากรณ์ คณะทางาน

๗) นายขจรศักด์ิ จยั วฒั น์ คณะทางาน

๘) นางสาวศุภลักษณ์ แจง้ ใจ คณะทางาน

๙) นายอารีศักดิ์ เสถยี รภาพอยทุ ธ์ คณะทางาน

๑๐) นางสาวศุภัชญา ชนชนะชยั คณะทางาน

๑๑) นางสาวจิณห์จุทา กันตะสุวรรณ คณะทางาน

๑๒) นางสาวมาณรกิ า จันทาโภ คณะทางาน

๑๓) นายสุพฒั น์ โพธิเ์ งนิ คณะทางาน

๑๔) นางธนิสร ยอดอนิ ทร์ คณะทางาน

๑๕) นางสาวณัฐรดา นาโควงค์ คณะทางาน

๑๖) นางสาวปนัดดา โพธิเจริญ คณะทางาน

๑๕๐

๓.๒.๓.๒ หนา้ ทแี่ ละอานาจ
๑) ประสานงานด้านธุรการ (งานเอกสาร การขอใช้ห้อง/อุปกรณ์เก่ียวกับการ

ประชุมการใช้ยานพาหนะเพ่ือประโยชนใ์ นการปฏบิ ัติหน้าท่ี การเข้า-ออกสถานทข่ี องวฒุ สิ ภา และหนว่ ยงาน
ท่ีเกีย่ วข้อง) และแผนดาเนนิ การรว่ มของคณะกรรมาธิการและคณะอนกุ รรมาธกิ าร

๒) จัดทาข้อมูลเพ่ือสนับสนุนภารกิจของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการ
ทราบอยา่ งต่อเนอื่ ง

๓) รายงานผลการดาเนินการต่อประธานคณะกรรมาธิการและคณะอนุ
กรรมาธกิ าร

๔) ดาเนนิ งานอน่ื ใดตามท่คี ณะกรรมาธกิ ารมอบหมาย

๓.๓ แหล่งข้อมูลและการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
๓.๓.๑ การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทย

ด้วยการวจิ ัยและนวัตกรรม วฒุ สิ ภา

คณะกรรมาธิการ อนุกรรมาธกิ าร และคณะทางาน ได้มีการประชมุ โดยเชญิ หนว่ ยงาน
ท่ีเก่ียวขอ้ งมาใหข้ ้อมูลและขอ้ เท็จจริงประกอบการพิจารณา เพื่อนาเสนอข้อมูลและแลกเปลี่ยนความ
คิดเห็นในประเดน็ ตา่ ง ๆ พรอ้ มขอความอนุเคราะหเ์ อกสารและข้อมูลท่เี กย่ี วข้อง สรปุ ไดด้ งั น้ี

๓.๓.๑.๑ คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทย
ด้วยการวิจัยและนวตั กรรม วุฒสิ ภา มีการประชมุ จานวน ๑๕ ครงั้ ดังน้ี

๑) คร้ังท่ี ๑ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๔ ได้กล่าวถึง
วตั ถุประสงค์ในการพิจารณาศึกษาวา่ ตอ้ งการนาเทคโนโลยีการวิจยั และนวัตกรรมมาชว่ ยพัฒนาสมนุ ไพรไทย
ใหเ้ ปน็ ท่ยี อมรับโดยจะมีการศึกษาเชื่อมโยงต้ังแตต่ น้ ทาง กลางทาง และปลายทาง เพ่อื นาไปสกู่ ารปฏิบตั ิไดจ้ ริง
สร้างความเชื่อมั่นในการใช้ยา อาหาร อาหารเสริม และเวชสาอาง ตลอดจนกระบวนการผลิต
การควบคมุ คณุ ภาพรวมทงั้ ศึกษากฎหมาย ทง้ั ในเชิงของการสง่ เสรมิ และเสนอแกไ้ ขกรณที ่ีเป็นอุปสรรค
เพ่ือบูรณาการให้พืชสมุนไพรเป็นหนึ่งในยาท่ีใช้รักษาทางการแพทย์ และสามารถดาเนินการ
เชิงพาณิชย์ โดยต้องมีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเช่ือมั่นในพืชสมุนไพรไทยควบคู่ไปด้วย
ทงั้ น้ี เพ่อื ให้การศึกษาของคณะกรรมาธิการเปน็ ไปดว้ ยความรอบคอบและรวดเรว็ ตามกรอบระยะเวลา ๑๒๐ วัน

๒) คร้ังท่ี ๒ เม่ือวันพฤหัสบดีท่ี ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๕ ได้พิจารณาแนวทาง
การดาเนินงานแล้วเห็นว่าควรต้ังคณะอนุกรรมาธิการ ขึ้น ๒ คณะ คือ คณะอนุกรรมาธิการด้านการ
ผลติ พชื สมนุ ไพร วจิ ัยและนวัตกรรม และการนาไปใชป้ ระโยชน์ และคณะอนุกรรมาธิการดา้ นกฎหมาย
ระเบียบ ประกาศ ข้อบงั คับ มาตรฐานอาหารและยา สิทธิบัตร/ สิทธปิ ระโยชน์ การคุ้มครองผู้บริโภค
การตลาดและการประชาสัมพันธ์ และกาหนดแผนการเดินทางศึกษาดูงาน ณ โรงงานหมอเส็ง
จงั หวดั สระบุรี โรงพยาบาลเจา้ พระยาอภยั ภูเบศร และมหาวิทยาลยั แม่ฟา้ หลวง จงั หวัดเชียงราย

๓) คร้ังท่ี ๓ เม่ือวันพฤหัสบดีท่ี ๖ มกราคม ๒๕๖๕ ได้รับทราบ
ความก้าวหน้าการดาเนินงานของคณะอนุกรรมาธิการ และคณะทางานประสานงานด้านธุรการ
และแผนดาเนินการรว่ มของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการ

๑๕๑

๔) ครงั้ ท่ี ๔ เมอ่ื วนั อังคารท่ี ๑๘ มกราคม ๒๕๖๕ ได้เชิญผแู้ ทนจาก กรม
วชิ าการเกษตร นายอานวย อรรถลังรอง รกั ษาการในตาแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านพืชผัก สถาบันวิจัยพืช
สวน และนายสมคิด ดาน้อย นักวิชาการเกษตรชานาญการพิเศษ นางสิริดา อุปนันท์ ผู้อานวยการ
กลมุ่ สง่ เสรมิ พชื สมุนไพรและเคร่ืองเทศ กรมส่งเสริมการเกษตร และนายพศิ าล พงศาพิชณ์ เลขาธิการ
และเรือโท มนัส ลาภผล ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร สานักงานมาตรฐาน
สินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ มาร่วมประชุม คณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับ
การสนับสนุนองค์ความรู้ การปลูก การวิจัยและพัฒนามาตรฐานวัตถุดิบในการผลิตพืชสมุนไพรให้ได้

คุณภาพมีมาตรฐานและมีความปลอดภัยและการแปรรูปเพ่ือสร้างมูลค่าเพ่ิมเชิงเศรษฐกิจ รวมทั้ง
ปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินการ เพือ่ คณะกรรมาธิการนาข้อมูลมาวิเคราะห์ รวมท้ังเสนอแนวทางแก้ไข
ปญั หาการผลิตโดยการวจิ ัยและนวัตกรรมต่อไป และมีมติเดินทางศึกษาดงู าน ณ มหาวิทยาลัยแมฟ่ ้าหลวง
จังหวดั เชียงราย วันศุกร์ท่ี ๒๑ - วันเสาร์ที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๕

๕) ครั้งที่ ๕ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ได้เชิญ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ อาจารย์ประจาคณะเภสัชศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย CEO และ Co-founder ของ บริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม จากัด มาให้ข้อมูล
เก่ียวกับการวิจัยทางคลินิก เพื่อศึกษารูปแบบการวิจัยเชิงเปรียบเทียบการวิจัยเพ่ือพลิกโฉมสมุนไพรไทย
สานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม นางนาตยา สีทับทิม ผู้เช่ียวชาญด้านกาหนดมาตรฐาน
สานักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดี
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อรับฟังเกณฑ์การกาหนดมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ผลิตภัณฑ์
พืชสมุนไพร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า นางรวีพรรณ ช้างเย็นฉ่า รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

และนางนุชอนงค์ เชดิ สงู เนนิ ผู้อานวยการกองธุรกิจภมู ิภาคและชมุ ชน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
นางปรียากร ศังขวณิช ผู้อานวยการสานักพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ นางวรรณี ม่ิงวานิช
นักวิชาการพาณิชยช์ านาญการพิเศษ และนางสาวทัณฑมิ า รตั นสมบูรณ์ นักวชิ าการพาณิชยช์ านาญการ
เพื่อทราบทศิ ทางการพฒั นาการตลาดของผลิตภัณฑ์สมนุ ไพรไทยทงั้ ในประเทศและต่างประเทศซึ่งเป็น
ประโยชน์ต่อการพิจารณาของคณะกรรมาธกิ าร

๖) คร้งั ท่ี ๖ เมื่อวันพฤหสั บดีท่ี ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ได้ติดตามความคืบหน้า
ของคณะอนุกรรมการยุทธศาสตร์สมุนไพรแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการวิจัยและนวัตกรรมสมุนไพร
โดยเชญิ หน่วยงานทรี่ ับผดิ ชอบมาร่วมประชุม ดงั นี้

คณะอนุกรรมการยทุ ธศาสตร์สมนุ ไพรแหง่ ชาติ ประกอบด้วย
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก
๑. เภสัชกรหญงิ มณฑกา ธีรชัยสกลุ ผอู้ านวยการกองสมุนไพรเพอื่ เศรษฐกจิ
๒. นางสาวพิชญารัตน์ วรรณวฒุ ิกุล เภสชั กรปฏิบัตกิ าร

สานักงานคณะกรรมาการอาหารและยา ผู้ อ า น ว ย ก า ร ก อ ง ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ แ ล ะ
เภสชั กรวราวุธ เสริมสินสิริ แผนงานและรักษาการผู้อานวยการกอง

ผลิตภัณฑส์ มุนไพร

๑๕๒

คณะอนกุ รรมการวิจัยและนวัตกรรมสมุนไพร ประกอบด้วย

สานักงานพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.)

๑. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนากร โอสถจันทร์ รักษาการในตาแหน่งผู้อานวยการศูนย์

นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สวทช.

๒. นายพงศ์สทิ ธิ์ รัตนกรวทิ ย์ ผู้อานวยการฝ่ายบริหารเทคโนโลยีฐานและ

เครือข่ายวิจัย ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ

สวทช.

๓. นางอทุ ัยวรรณ กรุดลอยมา ผ้อู านวยการฝา่ ยอาวุโส

ฝ่ายศึกษานโยบาย และความปลอดภัย

ทางชีวภาพ

๔. ดร.สรุ ยิ ันตร์ ฉะอมุ่ หวั หน้าทมี วจิ ยั นวตั กรรม

ด้านพันธุศาสตร์และสรรี วิทยาพชื

สานักงานพัฒนาการวิจยั การเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.)

๑. นางสาวปยิ ธิดา ถริ ะรณรงค์ ผ้อู านวยการสานักสนบั สนนุ งานวิจัย

๒. นางสาวสุภา แกว้ สรุ วิ งษ์ นักวเิ คราะหป์ ฏิบัตกิ าร ๒

สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมวทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (สวสก.)

๑. นางปรยี ากร ศังขวณชิ ผู้อานวยการสานักพฒั นาและส่งเสรมิ

ธุรกจิ บรกิ าร

๒. นางวรรณี มง่ิ วานิช นักวชิ าการพาณชิ ย์ชานาญการพเิ ศษ

๓. นางสาวทณั ฑมิ า รัตนสมบูรณ์ นกั วิชาการพาณิชยช์ านาญการ

ซึ่งแผนปฏิบตั ิการด้านสมุนไพรแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) จะได้เสนอ

ต่อสานกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ผลักดนั สมนุ ไพรเปน็ พืชเศรษฐกจิ สรา้ งรายได้

ให้ประเทศ รวมท้งั สรา้ งมาตรฐานผลติ ภัณฑส์ มนุ ไพรไทยใหเ้ ปน็ ที่ยอมรบั ระดับสากล

๗) ครั้งท่ี ๗ เมื่อวันพฤหัสบดีท่ี ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ได้เชิญสานักงาน

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ประกอบด้วย นายสุทธิมา เกิดศุข

นิติกรเชี่ยวชาญ นายประกาญจน์ ชอบไพบูลย์ นิติกรชานาญการ และนายพันธุ์เจตน์ วิชาวุฒิพงษ์

นิติกรชานาญการ ให้ข้อมูลเก่ียวกับการควบคุมและการนาไปใช้ประโยชน์ กัญชา กัญชง กระท่อม

ซึ่งประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เร่ือง ระบุช่ือยาเสพตดิ ให้โทษในประเภทที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๖๕ ทาให้กัญชา

กญั ชง ไมเ่ ปน็ ยาเสพตดิ อกี ต่อไปทัง้ นี้ มีผลบงั คบั ใชใ้ นวันท่ี ๙ มถิ นุ ายน ๒๕๖๕ อยา่ งไรก็ตาม ได้มีการเสนอ

ร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. …. กาหนดให้ควบคุมให้กัญชา กัญชง ใช้ประโยชน์ในการ

ศึกษาวิจัยทางการแพทย์ แต่ไม่ให้ใช้ในการสันทนาการ ปัจจุบันได้มีการใช้สารสกัด CBD ในทางยา

การใช้เส้นใยทาเสื้อผ้า แปรรูปเส้นใยผลิตเฟอร์นิเจอร์ วัสดุก่อสร้าง อุตสาหกรรมยานยนต์ ฉนวนกัน

ความรอ้ น และเช้ือเพลิง เป็นต้น

๑๕๓

๘) คร้ังที่ ๘ เม่ือวันพฤหัสบดีที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๕ ได้พิจารณาสรุปผลการเชิญ
หน่วยงานทีเ่ กยี่ วขอ้ งมาใหข้ ้อมูลต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญและคณะอนกุ รรมาธิการ เพือ่ แลกเปลย่ี น
ข้อมูลและพิจารณาร่วมกันว่าควรได้รับข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นใดอีกหรือไม่ เพื่อให้การพิจารณา
วิเคราะห์ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการมีความครอบคลุมครบถ้วน
และสามารถนาไปสู่การปฏิบัติอยา่ งเปน็ รูปธรรม รวมทั้งรับทราบรายงานความคืบหน้าการดาเนินการ
ของคณะอนุกรรมาธิการด้านการผลิตพืชสมุนไพร วิจัยและนวัตกรรม และการนาไปใช้ประโยชน์
และรายงานความคืบหน้าการดาเนินการของคณะอนุกรรมาธิการด้านกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ
ข้อบังคับ มาตรฐานอาหารและยา สิทธิบัตร/สิทธิประโยชน์การคุ้มครองผู้บริโภค การตลาดและ
การประชาสัมพันธ์

๙) คร้ั งที่ ๙ เม่ือวันพฤหัสบดีท่ี ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๕ รับฟังความคืบหน้า
ของคณะอนุกรรมาธิการด้านการผลิตพืชสมุนไพร วิจัยและนวัตกรรมและการนาไปใช้ประโยชน์
โดยคณะอนุกรรมาธิการได้ยกร่างรายงานประกอบการนาเสนอและท่ีประชุมได้เสนอแนะเพ่ิมเติม
เพ่ือความสมบูรณ์ของร่างรายงานและคณะอนุกรรมาธิการด้านกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ
มาตรฐานอาหารและยา สิทธิบัตร/สิทธปิ ระโยชน์ การคมุ้ ครองผ้บู ริโภค การตลาดและการประชาสัมพันธ์
กล่าวถึงประเด็นสาคัญในการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทยในมิติบุคลากรการแพทย์แผนไทยว่าจะต้อง
พัฒนาให้มีศักยภาพและมาตรฐานเป็นที่เช่ือถือศรัทธา คู่ขนานไปกับแพทย์แผนปัจจุบัน
ทั้งด้านวิชาการและความเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพการผลักดันให้นายาแผนไทยเข้าสู่บัญชียาหลัก
ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยกาหนดเป็นนโยบายระดับกระทรวง และท่ีประชุม
คณะกรรมาธกิ ารวสิ ามัญได้มีมติให้จดั สมั มนา ครั้งท่ี ๒

๑๐) ครั้งท่ี ๑๐ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๕ รับทราบสรุปการสัมภาษณ์
เกษตรกร วิสาหกจิ ชุมชน มหาวทิ ยาลยั โรงพยาบาล ท่ไี ด้มกี ารดาเนินการเกี่ยวกับการผลิตการแปรรูป
พืชสมุนไพร และการนาไปใช้ประโยชน์ จานวน ๓๐ คน เพ่ือรับทราบข้อเท็จจริงปัญหาอุปสรรค
และข้อเสนอแนะจากผปู้ ฏบิ ตั จิ รงิ ในภาคสนาม มาประกอบการวิเคราะห์และหาแนวทางแกไ้ ขทตี่ รงจดุ
เพื่อจัดทาเป็นข้อเสนอแนะในการพลิกโฉมพืชสมุนไพรอย่างเป็นรูปธรรม รวมท้ังรับฟังความคืบหน้า
ของคณะอนุกรรมาธิการด้านการผลิตพืชสมุนไพร วิจัยและนวัตกรรม และการนาไปใช้ประโยชน์
และคณะอนุกรรมาธิการด้านกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ มาตรฐานอาหารและยา สิทธิบัตร/
สิทธิประโยชน์การคุ้มครองผู้บริโภค การตลาดและการประชาสัมพันธ์ โดยคณะอนุกรรมาธิการ
ได้ยกร่างรายงานประกอบการนาเสนอซึง่ ท่ีประชมุ ได้เสนอแนะเพมิ่ เตมิ เพ่อื ความสมบูรณข์ องรายงานต่อไป

๑๑) ครั้งที่ ๑๑ เมื่อวันพฤหัสบดีท่ี ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๕ ได้พิจารณาพบว่าแนวทางหนึ่ง
ในการพลิกโฉมพืชสมุนไพร คือ จะต้องมีการพัฒนาสมุนไพรไทยไปสู่การผลิตเป็นยา เพ่ือใช้ในการดูแลรักษา
สุขภาพและรักษาโรค เนื่องจากไทยมีภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย มีตารับยาที่สืบทอดมานับร้อยปี
ซึง่ มีคุณประโยชนม์ ากมาย หากไดม้ ีการศึกษาวิจัยและใช้นวัตกรรมมาพัฒนาจะทาใหเ้ พิม่ มลู ค่าพชื สมนุ ไพร
ในทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน จึงได้พิจารณาเกี่ยวกับการวิจัยทางคลินิก (Clinical Trial) โดยเชิญ
ผู้แทนหน่วยงานที่เก่ียวข้องมาให้ข้อมูลดังน้ี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาล
เจา้ พระยาอภัยภูเบศร สานกั งานการวจิ ัยแหง่ ชาติ สานกั งานหน่วยปฏิบตั ิการวิจัยและพัฒนาวิศวกรรมชวี เคมี
และโรงงานต้นแบบสถาบันพฒั นาและฝกึ อบรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกล้าธนบุรี และสานักงาน

๑๕๔

คณะกรรมการสง่ เสริมวทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรมเพ่อื นามาใช้ในพืชสมุนไพรและตารบั ยาแพทยแ์ ผนไทย
ต่อไป อน่ึง ประธานวุฒิสภา ได้อนุญาตให้ขยายเวลาการพิจารณาศึกษาออกไปอีก ๔๕ วัน นับแต่วันที่ ๓๐
มีนาคม ๒๕๖๕ (ตามขอ้ บงั คบั การประชุม ฯ ๑๐๐ วรรคสอง)

๑๒) คร้ังที่ ๑๒ เมื่อวันพฤหสั บดีท่ี ๑๑ เมษายน ๒๕๖๕ รบั ทราบสรุปการสัมภาษณ์
เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน มหาวิทยาลัย ทไ่ี ดม้ ีการดาเนินการเกี่ยวกับการผลติ การแปรรูปพืชสมุนไพร
และการนาไปใช้ประโยชน์ (คร้ังที่ ๒) จานวน ๒๔ คน เพ่ือรับทราบข้อเท็จจริงปัญหาอุปสรรค
และขอ้ เสนอแนะจากผูป้ ฏิบัตจิ ริงในภาคสนาม มาประกอบการวิเคราะหแ์ ละหาแนวทางแก้ไขทต่ี รงจดุ
เพื่อจัดทาเป็นข้อเสนอแนะในการพลิกโฉมพืชสมุนไพรอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งรับฟังความคืบหน้า
ของคณะอนุกรรมาธิการด้านการผลิตพืชสมุนไพร วิจัยและนวัตกรรม และการนาไปใช้ประโยชน์
และคณะอนกุ รรมาธิการด้านกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ข้อบงั คบั มาตรฐานอาหารและยา สทิ ธบิ ตั ร/
สิทธิประโยชน์ การคุ้มครองผ้บู ริโภค การตลาดและการประชาสมั พนั ธ์

๑๓) คร้ังท่ี ๑๓ เม่ือวันจันทร์ท่ี ๒๑ เมษายน ๒๕๖๕ รับทราบสรุปการสัมภาษณ์
วิสาหกิจชุมชน ผู้แทนมหาวิทยาลัยแม่โจ้และติดตามสรุปความคืบหน้าการประชุมหารือนอกรอบ
เร่ืองการทดสอบทางคลินิกเก่ียวกับพืชสมุนไพร และตารับยาตามภูมิปัญญาด้ังเดิมของไทย รวมทั้ง
พิ จ า ร ณ า ข้ อ ค้ น พ บ จ า ก ก า ร พิ จ า ร ณ า ศึ ก ษ า แ ล ะ แ น ว ท า ง ใ น ก า ร พ ลิ ก โ ฉ ม พื ช ส มุ น ไ พ ร ข อ ง
คณะอนุกรรมาธิการด้านการผลิตพืชสมุนไพร วิจัยและนวัตกรรม และการนาไปใช้ประโยชน์
และคณะอนกุ รรมาธิการดา้ นกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ขอ้ บงั คบั มาตรฐานอาหารและยา สิทธบิ ตั ร/
สิทธิประโยชน์ การคุ้มครองผู้บรโิ ภค การตลาดและการประชาสัมพันธ์ นอกจากน้ี ท่ีประชุมมีมติเดินทาง
ศกึ ษาดูงานการทายาสมุนไพร ณ วดั คีรีวงก์ (วดั น้าตก) ตาบลบางมะพรา้ ว อาเภอหลงั สวน จังหวัดชมุ พร
ในวันพฤหัสบดที ี่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕

๑๔) คร้ังท่ี ๑๔ เม่อื วันพุธท่ี ๒๗ เมษายน ๒๕๖๕ ได้ติดตามการดาเนินการเกีย่ วกับ
การวิจัยทางคลินิกพืชสมุนไพรเพ่ือยกระดับและผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้มีมาตรฐานและสร้างความ
เชื่อมั่นในการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรอันจะส่งผลถึงด้านเศรษฐกิจต่อชุมชน และประเทศชาติได้
เพราะไทยมีภูมิปัญญาดั้งเดิม มีตารับยาท่ีมกี ารใช้รักษาดูแลสขุ ภาพมาอย่างยาวนาน จนเป็นท่ียอมรับ
ดา้ นความปลอดภัยดังนั้น จงึ ได้พจิ ารณาหาแนวทางการศกึ ษาวจิ ัยทางวิทยาศาสตร์ท่เี หมาะสมกับตารับ
ยาสมุนไพรไทยโดยมีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุน เพอื่ ให้เป็นทยี่ อมรับและได้รบั ความเช่ือม่ันในการนา
ยาจากพชื สมนุ ไพรไปใช้ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญจะได้ศกึ ษาแนวทางเสนอเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย
เพ่อื นาไปสู่การพลิกโฉมพชื สมุนไพรไทยด้วยการวจิ ัยและนวัตกรรม อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

๑๕) ครั้งที่ ๑๕ เม่ือวันอังคารที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ได้พิจารณาและเห็นชอบ
รายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญเรื่อง แนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทย
ดว้ ยการวจิ ยั และนวัตกรรม

๓.๓.๑.๒ การประชุมคณะอนุกรรมาธิการด้านการผลิตพืชสมุนไพร วิจัยและ
นวัตกรรม และการนาไปใชป้ ระโยชน์

๑) คร้ังท่ี ๑ วันจนั ทร์ที่ ๒๗ ธนั วาคม ๒๕๖๔ การประชมุ คณะอนุกรรมาธิการ
ด้านการผลิตพืช สมุนไพร วิจัยและนวัตกรรม และการนาไปใช้ประโยชน์จัดขึ้นเพ่ือการหา
ข้อเสนอแนะในการเชิญหน่วยงานและผเู้ ช่ียวชาญในด้านการพฒั นาสมนุ ไพรเขา้ มาให้ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ

๑๕๕

๒) ครัง้ ที่ ๒ วันพุธที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๕ เชญิ ผแู้ ทนจากกรมการแพทย์แผนไทย
และการแพทยท์ างเลือก ดร.เภสัชกรหญงิ มณฑกา ธีรชัยสกลุ ผู้อานวยการกองสมุนไพรเพอื่ เศรษฐกิจ
โดยนาเสนอเร่ือง ข้อมูลเก่ียวกับการวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย การพัฒนาคุณภาพ
มาตรฐานบริการทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และบริการผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย
แต่ละประเภท เพ่ือให้นาไปใช้ในระบบการบริการสุขภาพ อย่างมีคุณภาพและปลอดภัยสาหรับ
ประชาชน และผู้แทนจาก สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา เภสัชกร วราวุธ เสริมสินสิริ
ผู้อานวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน โดยเสนอ เร่ือง ข้อมูลเกี่ยวกับการวิจัยและนวัตกรรม
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาและเวชภัณฑ์และบริการผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพตามหลักมาตรฐานสากล
รวมถึงแผนงานดาเนินการและข้อมูลสถิติเก่ียวกับการผลิต จาหน่าย และบริการสาหรับยาท่ีจาเป็น
ตอ่ สงั คมไทย

๓) คร้ังที่ ๓ วันอังคารที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๕ ผู้แทนจากสานักงานมาตรฐาน
สินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสานักงานมาตรฐานสินค้าเกษตร
และอาหารแห่งชาติ เรือโท มนัส ลาภผล ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร นาเสนอ
เร่ือง ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้าเกษตร กระบวนการและข้ันตอนในการจัดทามาตรฐานสินค้า
เกษตร และผแู้ ทนจากกรมวิชาการเกษตร นายอานวย อรรถลังรอง รักษาการในตาแหน่งผู้เช่ียวชาญ
ด้านพืชผัก สถาบันวิจัยพืชและสวน และนายสมคิด ดาน้อย ผู้อานวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการ
เกษตรที่สูงเชียงราย เสนอเรื่องการดาเนินงานศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการปลูก การเก็บเกี่ยวพืชสมุนไพร
ระบบการปลูกพืชสมุนไพรที่นาไปใช้ในระบบสาธารณสุข และสุดท้ายคือผู้แทนจาก กรมส่งเสริม
การเกษตร นางสิริดา อุปนันท์ ผู้อานวยการส่งเสริมพืชสมุนไพรและเครื่องเทศ เสนอเร่ืองการให้ความรู้
เกษตรกรในการปลูกสมุนไพรตามมาตรฐานทก่ี าหนด

๔) คร้ังท่ี ๔ วันศุกร์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๕ ผู้แทนจากสานักงานคณะกรรมการ
สง่ เสริมวิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม นางสาวสดุ สวาสด์ิ ดวงศรีไสย์ รองผู้อานวยการสานักพฒั นาระบบวจิ ัย
และนวัตกรรม ปฏิบัติงานบริหารด้านการนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ นาเสนอเรื่องข้อมูล
เกยี่ วกบั การวจิ ัยและนวัตกรรมพชื สมนุ ไพร และตัวแทนจาก องค์การเภสัชกรรม ดร.เภสัชกรหญิง นันทกาญจน์
สุวรรณปิฎกกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ องค์การเภสัชกรรม ดร.เภสัชกรหญิง นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล
ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ และ ดร.เภสัชกรหญิง ปิยพร พยัฆพรม รับผิดชอบกลุ่มผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เสนอเรื่อง
มาตรฐานห้องปฏิบัติการและสถานท่ีผลิตขององค์การเภสัชกรรม ขั้นตอนการวิจัยและพัฒนารวมถึงการข้ึน
ทะเบียน ผลิตภัณฑภ์ ายใต้เครอื ข่ายความร่วมมอื ในการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ระหวา่ ง GPO และมหาวทิ ยาลัยต่าง ๆ
และผู้แทนจาก สานักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) นางสาวปิยธิดา ถิระรณรงค์
ผอู้ านวยการสานักสนบั สนุนงานวิจัย

๕) คร้ังท่ี ๕ วันพฤหสั บดีท่ี ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ผู้แทนจากบริษทั ใบยา ไฟโตฟาร์ม
จากัด ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์เภสชั กรหญงิ ดร.สุธีรา เตชคณุ วฒุ ิ คณะเภสชั ศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั CEO
และ Co-founder เสนอกระบวนการผลิต แปรรูปใบยาสบู เพ่ือการผลติ วัคซีน ภายใตก้ ระบวนการวิทยาศาสตร์
วิจยั และนวตั กรรม

๖) คร้ังที่ ๖ วันพุธท่ี ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เสนอโครงร่างรายงานการผลิต
พชื สมนุ ไพร วิจยั และนวัตกรรม และการนาไปใชป้ ระโยชน์

๑๕๖

๗) คร้ังท่ี ๗ วันศุกร์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ผู้แทนจากวิทยาลัยการแพทย์
แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกร สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ เสนอเรื่องข้อมูล
เกี่ยวกับแนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทยด้วยการวิจัยและนวัตกรรม และการนาไปใช้ประโยชน์
ในทางการแพทย์แผนตะวันออกและตัวแทนจากบริษัท ขายยาเพ็ญภาค จากัด นายจิรชัย ไทยชาติ
เสนอข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการทางานของบริษัทขายยา เพ็ญภาค จากัด ที่นาสู่ความสาเร็จ
เป็นผลิตภัณฑ์ออกสตู่ ลาด

๘) คร้ังที่ ๘ วันอังคารท่ี ๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ได้พิจารณาโครงร่างรายงาน
การพิจารณาศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการและรับฟังข้อคิดเห็นเพิ่มเติมในการปรับปรุงโครงร่างรายงาน
ใหส้ มบรู ณ์ โดย ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์วรวทิ ย์ วาณชิ ยส์ วุ รรณ เลขานุการอนุกรรมาธิการ

๙) คร้ังท่ี ๙ วันศุกร์ท่ี ๔ มีนาคม ๒๕๖๕ ผู้แทนจากสานักงานมาตรฐาน
ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม นางนาตยา สีทับทิม ที่ปรึกษาด้านการกาหนด
มาตรฐาน เสนอเรื่องข้อมูลเก่ียวกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและการขับเคลื่อนสมุนไพรไทย
การแปรรูปสมุนไพร และปัญหาและแนวทางแก้ไข ด้านต้นทุนการผลิตสารสกัดสมุนไพร ด้านการยอมรับ
ในตราสนิ คา้ ด้านเทคโนโลยีในการผลติ ด้านมาตรฐานของสารสกัดสมุนไพร ดา้ นการขาดขอ้ มูลเชิงลึก
ในเรื่องของสารสกัดสมุนไพร และผู้แทนจากสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
นายประพนธ์ อางตระกูล เภสัชกรปิ่นพงศ์ อิทรพานิช และเภสัชกรศกั ดิ์กมล เพ็งสกุล ทีป่ รึกษาเสนอ
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการที่ดีในการผลิต ผลิตภัณฑ์สมุนไพร การแปรรูปสมุนไพร และประกาศกระทรวง
สาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเก่ียวกับการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรตาม
พระราชบัญญตั ผิ ลติ ภณั ฑส์ มุนไพร พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. ๒๕๖๔

๑๐) ครั้งที่ ๑๐ วันศุกร์ที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๕ พิจารณาข้อค้นพบของ
คณะอนุกรรมาธิการ เพื่อจัดทา Roll up แสดงนิทรรศการในการจัดประกอบสัมมนา ครั้งที่ ๒
ของคณะอนุกรรมาธิการ รวมท้ังเห็นชอบ (ร่าง) รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการพลิกโฉม
พชื สมุนไพรไทยดว้ ยการวิจัยและนวตั กรรม และการนาไปใชป้ ระโยชน์

๓.๓.๑.๓ การประชมุ คณะอนุกรรมาธิการด้านกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ
มาตรฐานอาหารและยา สิทธิบัตร/ สิทธิประโยชน์ การคุ้มครองผู้บริโภค การตลาดและ
การประชาสัมพันธ์

๑) ครั้งที่ ๑ เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๔ พิจารณากาหนดแนวทาง
การดาเนินงานของคณะอนกุ รรมาธิการ

๒) ครั้งที่ ๒ เม่ือวันศุกร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ได้เชิญ ดร.เภสัชกรหญิง
มณฑกา ธีรชัยสกลุ ผู้อานวยการกองสมนุ ไพรเพื่อเศรษฐกิจ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์
ทางเลือก มาให้ข้อมูล

๓) คร้งั ท่ี ๓ เมื่อวันศุกรท์ ่ี ๑๔ มกราคม ๒๕๖๕ ได้เรียนเชญิ บคุ คลมาให้ขอ้ มลู ดงั น้ี
(๑) นายภเชศ จารุมนต์ อนุกรรมาธิการ ในฐานะผู้แทนจากกรมทรัพย์สิน

ทางปญั ญา กระทรวงพาณชิ ย์
(๒) เภสัชกรวราวุธ เสริมสินสิริ อนุกรรมาธิการ ในฐานะผู้แทนจาก

สานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา

๑๕๗

๔) คร้ังที่ ๔ เมือ่ วันอังคารท่ี ๑๘ มกราคม ๒๕๖๕ ไดเ้ รยี นเชญิ บคุ คลมาให้ข้อมลู ดังน้ี
(๑) นายพิศาล พงศาพิชน์ เลขาธิการสานักงานมาตรฐานสินค้าเกษตร

และอาหารแห่งชาติ
(๒) เรือโท มนัส ลาภผล ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานสินค้าเกษตรและ

อาหาร สานักงานมาตรฐานสินคา้ เกษตรและอาหารแหง่ ชาติ
(๓) นายอานวย อรรถลังรอง รักษาการตาแหน่งผู้เช่ียวชาญด้านพืชผัก

สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร
(๔) นายสมคดิ ดานอ้ ย นกั วิชาการเกษตรชานาญการพเิ ศษ กรมวิชาการเกษตร
(๕) นางสิริดา อุปนันท์ ผู้อานวยการกลุ่มส่งเสริมพืชสมุนไพร

และเคร่ืองเทศ กรมสง่ เสริมการเกษตร
๕) ครัง้ ท่ี ๕ เมือ่ วนั ศุกร์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๕ ได้เรยี นเชิญบุคคลมาให้ขอ้ มลู ดงั นี้
(๑) เภสัชกร วราวุธ เสริมสินสิริ อนุกรรมาธิการ ในฐานะผู้แทนจาก

สานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา
(๒) นายแพทย์พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
๖) คร้ังที่ ๖ เมือ่ วันพฤหสั บดที ่ี ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ได้เชญิ บุคคล มาใหข้ ้อมลู ดงั น้ี
(๑) ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ อาจารย์ประจา

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
(๒) นางนาตยา สีทับทิม ผู้เชี่ยวชาญด้านกาหนดมาตรฐาน สานักงาน

มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์อุตสาหกรรม

(๓) นายภาสกร ชยั รตั น์ รองอธิบดีกรมส่งเสรมิ อุตสาหกรรม กรมสง่ เสริม
อตุ สาหกรรม

(๔) นางรวีพรรณ ช้างเย็นฉ่า รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

(๕) นางปรียากร ศังขวณิช ผู้อานวยการสานักพัฒนาและส่งเสริม
ธรุ กิจบรกิ าร กรมสง่ เสรมิ การค้าระหว่างประเทศ

๗) ครง้ั ท่ี ๗ เม่ือวนั ศุกร์ที่ ๑๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๕ ได้เชญิ บุคคลมาให้ขอ้ มลู ดังน้ี
(๑) นายภเชศ จารุมนต์ อนุกรรมาธิการ ในฐานะตัวแทนจาก

กรมทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา กระทรวงพาณิชย์
(๒) นางอาภาพร สินธุสาร ผู้อานวยการกองเทคโนโลยีชุมชน

กรมวทิ ยาศาสตรบ์ ริการ
(๓) เรือโท มนัส ลาภผล ผู้เช่ียวชาญด้านมาตรฐานสินค้าเกษตร

และอาหาร สานักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแหง่ ชาติ

๑๕๘

๘) ครั้งที่ ๘ เมอื่ วันศุกร์ที่ ๑๘ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๕ ได้เรียนเชญิ บุคคลมาให้ข้อมลู ดังน้ี
(๑) เภสัชกรหญิงอรัญญา เทพพิทักษ์ ผู้อานวยการศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียน

และปราบปรามการกระทาผิดกฎหมายเกีย่ วกบั ผลิตภณั ฑส์ ุขภาพ สานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา
(๒) นายอาคม อ่วมสาอางค์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิชาการสรรพสามิต

กรมสรรพสามิต
(๓) นายวรินทร ชวี ิตโสภณ ผูอ้ านวยการส่วนกฎหมายและระเบยี บ กองกฎหมาย

กรมศุลกากร
๙) ครั้งที่ ๙ เม่อื วนั ศกุ รท์ ี่ ๔ มนี าคม ๒๕๖๕ ได้เชญิ บคุ คลมาให้ข้อมลู ดังน้ี
(๑) พลเรอื เอก ชาญชัย เจริญสวุ รรณ นายกสภาการแพทยแ์ ผนไทย
(๒) นายแพทย์กุลธนิต วนรัตน์ ผู้อานวยการสานักงานวิจัยการแพทย์

แผนไทย กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
(๓) เภสัชกรหญิงมณฑกา ธีรชัยสกุล ผู้อานวยการกองสมุนไพร

เพื่อเศรษฐกิจ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก
(๔) นายวันนี นนท์ศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์

วิจัยและนวัตกรรมและผู้ช่วยเลขานุการในคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา คณะกรรมการมาตรฐาน
การอุดมศกึ ษา

(๕) รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ประวิทย์ อัครเสรีนนท์ หัวหน้าสถาน
การแพทยแ์ ผนไทย คณะแพทยศาสตรศ์ ิริราชพยาบาล

(๖) นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสานักงานหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ
สานกั งานหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ

๑๐) ครัง้ ที่ ๑๐ เมอ่ื วันศุกรท์ ี่ ๑๑ มนี าคม ๒๕๖๕ ได้พจิ ารณาโครงรา่ งรายงาน
การพิจารณาศึกษาของคณะอนกุ รรมาธิการ

๑๑) ครัง้ ที่ ๑๑ เมอ่ื วันศุกรท์ ี่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๕ พิจารณาขอ้ เสนอแนะ ทไี่ ด้รับ
จากการนาเสนอร่างรายงานผลการศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการ
วิสามัญเม่ือวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๕ และพิจารณาทบทวนประเด็นเพิ่มเติมเพื่อความ
สมบรู ณ์ของรายงานผลการศึกษา

๑๒) คร้ังท่ี ๑๒ เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๕ พิจารณามาตรการทาง
วิชาการในการผลักดันและพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทย และพิจารณาผลการศึกษาและวิเคราะห์กฎหมายแต่ละ
ฉบับ ในบทท่ี ๔ และพิจารณารายละเอียดในมาตราท่เี ป็นปัญหาและอปุ สรรคในการขบั เคลื่อนดา้ นสมุนไพร
ของประเทศพร้อมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะเพ่ือใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทาข้อสรุป และ
ขอ้ เสนอแนะในบทท่ี ๕ ทงั้ น้ี เพ่ือความสมบรู ณข์ องรายงานผลการศกึ ษา

๑๓) ครงั้ ที่ ๑๓ เมอ่ื วันศุกรท์ ่ี ๑ เมษายน ๒๕๖๕ ได้เชิญบุคคลมาใหข้ ้อมูล ดงั น้ี
(๑) ดร.เภสัชกรหญิง มณฑกา ธีรชัยสกุล ผู้อานวยการกองสมุนไพร

เพอื่ เศรษฐกจิ กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก
(๒) นายสุทธิเกตติ์ ทัดพิทักษ์กุล ผู้อานวยการกองส่งเสริมการลงทุน

(ผอู้ านวยการระดบั สูง) สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การลงทุน

๑๕๙

๑๔) คร้งั ท่ี ๑๔ เม่อื วันศุกร์ที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๕ ไดเ้ รียนเชญิ บุคคลมาใหข้ ้อมูล ดงั น้ี
(๑) นายสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพ

แหง่ ชาติ สานกั งานคณะกรรมการสุขภาพแหง่ ชาติ
(๒) นายมงคล อธิกุลวงศ์ ผู้อานวยการกลุ่มงานกิจการคณะกรรมการและ

ยทุ ธศาสตร์ส่งเสรมิ วิสาหกจิ ชุมชน กองส่งเสริมวิสาหกจิ ชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร
(๓) นายปวณี นราเมธกุล ผอู้ านวยการฝ่ายกฎหมาย สานักงานสง่ เสรมิ

วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม
(๔) นางสาวปานหทัย ธรรมโชติ หัวหน้าส่วนนโยบายกฎหมายเพ่ือ

SMEs
(๕) นางสาวดวงฤดี ศิริเสถียร หัวหน้าส่วนนโยบายและแผนรายสาขา

และพื้นท่ี
(๖) นายจรัญ ยะฝา ผู้ช่วยผู้อานวยการสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ

สถาบนั มาตรวิทยาแหง่ ชาติ
(๗) นางสาวสิวินีย์ สวัสด์ิอารี หัวหน้าฝ่ายมาตรวิทยาไฟฟ้า สถาบันมาตร

วทิ ยาแห่งชาติ
(๘) นางสาวนงลกั ษณ์ ตงั้ ไพศาลกลุ หวั หนา้ กลุม่ งานวิเคราะห์อนินทรยี ์เคมี

รกั ษาการหัวหนา้ ฝา่ ยมาตรวทิ ยาเคมีและชีวภาพ สถาบนั มาตรวทิ ยาแหง่ ชาติ
๑๕) คร้ังที่ ๑๕ เม่ือวันศุกร์ที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๕ พิจารณาทบทวนร่างรายงาน

การพิจารณาศกึ ษาของคณะอนกุ รรมาธิการและเตรียมข้อมูลสาหรบั การสมั มนา
๓.๓.๑.๔ การประชุมคณะทางานประสานงานด้านธุรการและแผนดาเนนิ การร่วมของกรรมาธิการ

และอนกุ รรมาธกิ าร
คณะทางานได้มกี ารประชมุ จานวน ๔ ครั้ง ได้แก่
๑) ครั้งที่ ๑ เม่ือวันจันทร์ท่ี ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๕ เพ่ือพิจารณาหน้าท่ีและอานาจ

ของคณะทางานและมอบหมายหน้าท่ี รวมท้ังหารือแผนการทางานร่วมกับคณะกรรมาธิการวิสามัญ
และคณะอนุกรรมาธกิ าร

๒) ครั้งที่ ๒ เมื่อวันพุธท่ี ๑๙ มกราคม ๒๕๖๕ เพื่อพิจารณามอบหมายและการประชุม
เตรียมการ/ซักซอ้ มการปฏิบัติสาหรบั การสัมมนา ครัง้ ที่ ๑

๓) ครัง้ ท่ี ๓ เม่ือวันจันทร์ท่ี ๓๑ มกราคม ๒๕๖๕ เพื่อการประชมุ เตรียมการ/ ซกั ซอ้ ม
การปฏิบตั สิ าหรบั การสมั มนา ครง้ั ท่ี ๑

๔) คร้งั ที่ ๔ เม่ือวันจันทร์ที่ ๒๑ มนี าคม ๒๕๖๕ เพื่อการประชุมเตรยี มการ/ซักซ้อม
การปฏบิ ัติสาหรบั การสัมมนา ครง้ั ท่ี ๒

๑๖๐

๓.๓.๒ คณะกรรมาธิการวิสามัญได้ดาเนินการสัมภาษณ์ออนไลน์โดยเชิญผู้แทนกลุ่มชุมชน
เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน/โอทอป โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ผู้แทนภาคเอกชนมาให้ข้อมูล
และขอ้ เท็จจรงิ ประกอบการพิจารณา จานวน ๖๗ ราย ท่ีได้มีการดาเนินการเก่ยี วกบั การผลิต การแปรรูป
พชื สมุนไพร และการนาไปใชป้ ระโยชน์

ภาพท่ี ๑๑๔ ศกึ ษารายละเอียดสัมภาษณ์ออนไลน์

ศกึ ษารายละเอียดสมั ภาษณ์ออนไลน์
ได้จากเอกสารประกอบเลม่ สมั ภาษณอ์ อนไลน์
หรือจาก QR Code

การดาเนินการสัมภาษณ์ออนไลน์โดยเชิญผู้แทนกลุ่มชุมชนเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน/
โอทอป โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ผู้แทนภาคเอกชนดังกล่าว เพ่ือรับทราบขอ้ เท็จจริงปัญหาอปุ สรรค
และขอ้ เสนอแนะจากผู้ปฏิบตั ิจริงในภาคสนาม มาประกอบการวเิ คราะหแ์ ละหาแนวทางแกไ้ ขท่ีตรงจดุ
เพื่อจดั ทาเป็นข้อเสนอแนะในการพลกิ โฉมพืชสมุนไพรอย่างเปน็ รูปธรรม สรุปได้ดงั นี้

๓.๓.๒.๑ ผ้แู ทนกลมุ่ ชุมชน
๑) พระมหาขวัญชัย อัคคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์ วัดคีรีวงก์ (วัดน้าตก)

ตาบลบางมะพรา้ ว อาเภอหลังสวน จังหวดั ชุมพร
ตารับยาสมุนไพร โดยภมู ปิ ญั ญาวัดน้าตก
ปัญหา/อุปสรรค: กระบวนการขอมาตรฐาน อย. มีข้ันตอนมาก และใช้

งบลงทุนมาก ซึง่ ทาใหไ้ มท่ นั ต่อสถานการณป์ ัจจบุ นั
ข้อเสนอแนะ: ควรผลักดันให้ประชาชนใช้ยาสมุนไพรจากสมุนไพร

ในครัวเรือน สวน หรือบ้านมากกว่าใช้ยาแผนปัจจุบัน และรักษาภูมิปัญญาตารับยาแผนโบราณ
ไวใ้ หล้ กู หลาน

๓.๓.๒.๒ ผู้แทนเกษตรกร
๑) ผแู้ ทนเกษตรกรภาคเหนือ
(๑) นางดวงเพ็ญ สุวรรณดี กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์สมุนไพร

พระธาตผุ าเงา ตาบลเวยี ง อาเภอเชยี งแสน จงั หวัดเชยี งราย

๑๖๑

ปัญหา/อุปสรรค: ด้านเครื่องมือในการแปรรูปและสถานท่ีเก็บ
ดา้ นตลาดในการรองรับกลุ่มลกู คา้ และการจาหน่าย และเงนิ ทนุ สนับสนนุ

ข้อเสนอแนะ: หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสนับสนุนเรื่องการผลิตการแปรรูป
และมาตรฐานตา่ ง ๆ

(๒) นายสมศักดิ์ โยอินชัย วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตและแปรรูปสมุนไพร
ตาบลเวยี ง

ผลิตภัณฑ:์ นา้ มนั หอมระเหย (มะแขว่น ไพล ตะไครห้ อม ว่านสาวหลง)
ปัญหา/อุปสรรค: ด้านการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ แหล่งเงินทุน
สนบั สนนุ เคร่ืองมอื แปรรปู สถานทจ่ี ัดเกบ็ และตลาดในการรองรบั กลุ่มลกู ค้าและการจาหนา่ ย
ข้อเสนอแนะ: หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องสนับสนุนการขอรับรอง
มาตรฐาน และแหลง่ เงินทนุ ในการพัฒนา
(๓) นายวิชิต ต๋าคา วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกและผลิตวัตถุดิบสมุนไพร
ตาบลแมเ่ ปา
ผลิตภัณฑ์: ยาดม ยาหม่อง สมุนไพรอบแห้ง (ไพล ขม้ินชัน
ผิวมะกรดู ตะไคร้หอม)
ปัญหา/อุปสรรค: ด้านเครื่องมือการแปรรูป สถานท่ีจัดเก็บ
ดา้ นตลาดในการรบั รองกลุ่มลูกค้าและการจาหน่าย และเงินทนุ สนับสนุน
(๔) นายวราวธุ สุติวงค์ (เกษตรกรรายเดย่ี ว)
ตาบลเวยี ง อาเภอเชยี งแสน จงั หวัดเชยี งราย
ผลิตภณั ฑ์: ปปั เปอรโ์ รเ่ มล่อน ขม้นิ ชนั ฟ้าทะลายโจรแหง้
ปัญหา/อุปสรรค: แหล่งจาหน่ายไม่แน่นอน และไม่สามารถเข้าถึง
แหลง่ เงินทุนสนับสนุน
ข้อเสนอแนะ: ควรสนับสนุนด้านแหล่งจาหน่ายและการส่งเสริม
การปลูกพชื ชนดิ อื่น
(๕) นายสุวฒั น์ ชุมภูงาม (เกษตรกรรายเดยี่ ว)
ตาบลทา่ สดุ อาเภอเมือง จงั หวัดเชียงราย
ผลติ ภัณฑ์: ขมนิ้ ชนั
ปัญหา/อุปสรรค: แหล่งจาหน่ายไม่แน่นอนและไม่สามารถเข้าถึง
แหล่งเงินทนุ เน่อื งจากรายได้ไมแ่ น่นอน
ขอ้ เสนอแนะ: สนบั สนุนจัดหาสถานที่จาหน่าย
(๖) คุณพชั ชาภัทร์ วันชยั
เกษตรกรในพืน้ ท่ีอาเภอเชยี งแสน จงั หวดั เชยี งราย
ปญั หา/อุปสรรค : แรงงานไม่เพียงพอเมื่อถงึ ฤดูกาลเก็บเกย่ี วผลผลิต
แรงงานมจี ากดั
ข้อเสนอแนะ: ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือจะทาให้การพัฒนาด้าน
สมนุ ไพรของไทยเข้มแขง็ อยา่ งแน่นอน

๑๖๒

(๗) คุณธนั ยวัฒน์ ญานะประเสริฐ
เกษตรกรในพื้นที่จงั หวดั เชยี งราย
ผลิตภัณฑ์: ยาหมอ่ ง น้ามนั ไพร ลกู ประคบ สบู่
ปัญหา/อุปสรรค: แหล่งจาหน่ายไม่แน่นอน พ้ืนที่การเก็บรักษา

ผลผลิตสมนุ ไพรไมเ่ พยี งพอ
ข้อเสนอแนะ: ภาครัฐควรสนับสนุนและส่งเสริมองค์ความรู้ด้านมาตรฐาน

ทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั การผลิตสมุนไพร
(๘) นายพยอม วรรณชัย
เกษตรกรในพื้นทตี่ าบลทา่ สุด อาเภอเมอื ง จงั หวดั เชยี งราย
ข้อเสนอแนะ: มหาวทิ ยาลัยต่าง ๆ ควรมีศนู ยน์ วตั กรรมสมุนไพรครบวงจร

และมีโครงการพฒั นารว่ มกับชมุ ชนในพ้นื ท่ี
๒) ผู้แทนเกษตรกรภาคกลาง
(๑) นายธนฤกษ์ ดารงไทย
ภาคีเครือขา่ ยสานักงานพิพิธภณั ฑเ์ กษตรเฉลมิ พระเกยี รติ พระบาทสมเดจ็

พระเจา้ อยู่หวั (องคก์ ารมหาชน) จงั หวดั ปทมุ ธานี
ข้อเสนอแนะ:
๑. สนับสนุนการนาการวิจัยและเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มมาตรฐาน

ผลติ ภัณฑ์สมุนไพร
๒. เปลี่ยนความคิดเรื่องกัญชาเป็นยาเสพติดให้มองว่าเป็นสมุนไพร

และให้ความรูเ้ พ่มิ ความชดั เจนในการนาไปใชป้ ระโยชน์ให้ถูกตอ้ ง
๓. การตรวจรับรองสมุนไพรมีค่าใช้จ่ายสูงภาครัฐควรให้การ

สนบั สนุน
(๒) นางพชั รวัลย์ สวา่ งศิลป์
สวนสมุนไพรภูปางสวรรค์ ตาบลคอกควาย อาเภอบ้านไร่

จังหวัดอุทัยธานี
ปญั หา/อปุ สรรค: มีการรบั ซื้อไม่แน่นอน บางคร้งั ไม่มีใครซ้ือหรือไดร้ าคา

ไมค่ มุ้ ตน้ ทนุ ทป่ี ลกู ทาใหข้ าดทุน การปลกู บางแปลงไมม่ ีไฟฟา้ ไม่มีระบบน้าแบบโซล่าเซล์ โรงอบแห้ง โรงตาก
ข้อเสนอแนะ: หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเข้ามารับซื้อผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ

การขายแบบประกันราคาสมนุ ไพร
(๓) นางสาวพชั รส์ ิรชั ชา อังกิตติ ระกลู
บริษัท วิอัณณา จากัด ซอยจรัญสนิทวงศ์ ๔๖ แขวงบางย่ีขัน

เขตบางพลดั กรุงเทพ
ปัญหา/อุปสรรค: เงินทุนสนับสนุนในส่วนของเคร่ืองจักร ระบบไฟฟ้า

รองรับโรงงาน และผู้มีความรูด้ ้านการตลาด
ข้อเ สนอแนะ : ส่งเสริมสนับสนุนต้ังแต่ต้นทาง กลางทาง

และปลายทางในการผลิตภณั ฑส์ มนุ ไพร

๑๖๓
(๔) นางวงเดอื น ยะปญั ญา

แฮรส์ ปาไทยสมุนไพรไทย ผลิตภัณฑ์ OTOP จังหวดั ราชบุรี
ปัญหา/อุปสรรค: ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด ทาให้การตลาด
ยอดขายน้อยลง เนือ่ งจากตัวแทนขาดศกั ยภาพสภาพคลอ่ งทางการเงิน
การสร้างความเช่ือมั่น: ผลิตภัณฑ์ได้จดทะเบียนขึ้นเป็นสินค้าโอทอป
ของจงั หวดั ราชบรุ ี
(๕) นายศุภกร เลิศมงคล
ประธานกล่มุ เกษตรกรผปู้ ลูกพชื สมนุ ไพรตาบลยางหัก อาเภอปากท่อ
จังหวัดราชบรุ ี
ข้อเสนอแนะ: การปลูกหรือผลิตพืชสมุนไพรชนิดใดควรพิจารณา
กอ่ นว่ามตี ลาดรองรับหรือไม่
๓) ผู้แทนเกษตรกรภาคใต้
(๑) แพทยเ์ วชกรรมไทย พณรญั ชน์ พลภักดี (หมอรญั ชน)์
แพทย์แผนไทย พระพรหมโอสถนครศรธี รรมราช ตาบลนาสาร อาเภอพระพรหม
จงั หวดั นครศรีธรรมราช
ผลิตภณั ฑ์: เปิดคลินิกรกั ษาคนไขภ้ มู ปิ ัญญาแพทย์แผนไทย ปรงุ ยาเอง
รกั ษาเฉพาะราย โดยใช้ยาหอม ยาห้าราก ฟา้ ทะลายโจร ยาจันทลีลา
ข้อเสนอแนะ:
๑. การตรวจวัดสารสาคัญควรตรวจวัดในรูปแบบของตารับยา
มากกว่าตรวจสมนุ ไพรเชงิ เดี่ยว
๒. ควรกาหนดมาตรฐานตารับยาไทยเอง เป็น Thai Pharmacopoeia
เพราะคนไทยมีความคนุ้ เคยและรูจ้ กั คณุ สมบัติของสมุนไพรแต่ละชนดิ ดีกว่าต่างชาติ การใชห้ ลกั เกณฑ์ท่ีไม่สอด
รับกบั ภูมปิ ัญญาจงึ ทาให้ตารับยาสมนุ ไพรของไทยไม่สามารถจดทะเบียน อย. ได้
๓. ควรผลกั ดันและสนับสนนุ การแพทยแ์ ผนไทยอยา่ งจรงิ จงั โดยอาจ
จดั ตั้งเปน็ กระทรวงเพ่อื ขบั เคลอ่ื นอยา่ งเป็นระบบ
(๒) นางหนูเรยี ง จนี จดู
เครือข่ายสานักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยหู่ ัว (องค์การมหาชน) ตาบลตน้ ยวน อาเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ปัญหา/อุปสรรค:
๑. ยาทใี่ ช้มีสรรพคุณเละเหน็ ผลในการรักษาแตย่ ังขาดการวจิ ัยยืนยัน
ว่าตอ้ งใช้ปริมาณเท่าใดจึงจะได้ผล
๒. ยาบางชนิดจาหน่ายไม่ได้เพราะไม่ได้รับ อย. ประชาชนที่ปลูกไม่มีทุน
ในการขอจดทะเบียนมาตรฐาน
(๓) นายศภุ ชั คงคาทวสี ขุ
วิสาหกจิ ชุมชนบา้ นเขาอ้อ ตาบลปนั แต อาเภอควนขนนุ จงั หวดั พทั ลงุ
ปญั หา/อปุ สรรค: ไมม่ ตี ลาดรองรับอยา่ งเพียงพอ

๑๖๔

ข้อเสนอแนะ: หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องควรให้การส่งเสริมสนับสนุนเกี่ยวกับ
พืชสมุนไพร ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ เกษตรกร
ผู้ประกอบการและผู้บริโภคได้ใช้ประโยชน์พืชสมุนไพรที่มีมูลค่าในท้องถิ่น เพื่อ เป็นการอนุรักษ์
พืชสมนุ ไพรและตารับยาให้คงอยไู่ ปถึงร่นุ ตอ่ ไป

๔) ผแู้ ทนเกษตรกรภาคอสี าน
(๑) นางนฤมนต์ คนู ทองคาเจนกจิ (หมอแผนไทย)
คลินกิ คูนทองคาการแพทยแ์ ผนไทยสกลนคร ตาบลพงั โคน อาเภอพังโคน

จงั หวดั สกลนคร
ข้อเสนอแนะ: อยากให้หน่วยงานของรัฐ เช่น โรงพยาบาลจัดซ้ือ

ผลติ ภณั ฑส์ มนุ ไพรและวัตถุดิบ สมนุ ไพรในท้องถิน่
(๒) นายอาไพ เป้งคาภา
ประธานกลุ่มสมุนไพรไทวาริช (ผู้ใหญบ่ ้านฟ้าทะลายโจร) ตาบลวาริชภูมิ

อาเภอวารชิ ภมู ิ จงั หวัดสกลนคร
ปญั หา/อปุ สรรค: ขาดการตลาด สานักงาน อปุ กรณใ์ นการผลติ
ข้อเสนอแนะ: ภาครัฐควรสนับสนุนสถานท่ีและอุปกรณ์ผลิต

ผลติ ภัณฑส์ มุนไพรท่ไี ดม้ าตรฐาน
(๓) นางสาววลั ยณ์ รัตน์ แสนเมือง
ประธานเครอื ข่ายคลัสเตอรส์ มุนไพรจงั หวัดสกลนคร ร้านแสงจนั ทร์เภสัช

ตาบลพังโคน อาเภอพงั โคน จงั หวัดสกลนคร
ข้อเสนอแนะ:
๑. ควรมีการสารวจและใหค้ วามรูเ้ ก่ยี วกับสมนุ ไพรทมี่ ีคณุ ค่าในชมุ ชน

เพ่ือเกดิ การอนรุ กั ษ์และรคู้ ณุ คา่ สมนุ ไพรในท้องถนิ่
๒. หน่วยงานหรือมหาวิทยาลัยควรเป็นหน่วยงานอานวยความ

สะดวกในการตรวจสารสาคญั ท่ีอย่ใู นสมุนไพร
(๔) นางวนั เพ็ญ งอยจันทรศ์ รี
ผูแ้ ทนเกษตรกร ตาบลเต่างอย อาเภอเต่างอย จังหวดั สกลนคร
ปัญหา/อุปสรรค: การปลูก วัตถุดิบ ช่องทางการตลาด และไม่มี

ตน้ ทนุ ในการผลติ
(๕) นายขจรศักดิ์ พรวิจติ ร
เกษตรกร ตาบลศรีวิชัย อาเภอวานรนวิ าส จังหวดั สกลนคร
ปญั หา/อปุ สรรค: การตากในฤดูฝน ไม่มโี รงตาก ไมม่ โี รงเกบ็ ผลผลิต
ข้อเสนอแนะ: ภาครัฐควรมีการจัดให้มีหน่วยงานช่วยแนะนาเป็นพี่

เลีย้ งเกษตรกรในการปลกู พชื สมนุ ไพรให้มคี ณุ ภาพจะสามารถสร้างรายไดเ้ พม่ิ ใหก้ บั เกษตรกร
(๖) นายสุรสิทธ์ิ บบุ ผา (แพทย์แผนไทย)
ตาบลบา้ นฝาง อาเภอบา้ นฝาง จังหวัดขอนแกน่
เครือข่ายสานักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรกรเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ

พระเจา้ อยหู่ ัว (องคก์ ารมหาชน)

๑๖๕
ปญั หา/อุปสรรค: การปลกู วตั ถดุ บิ ชอ่ งทางตลาด
ข้อเสนอแนะ: ควรมีการศึกษาและวิจัยเก่ียวกับพืชสมุนไพรในแต่ละ
พ้ืนที่ เพื่อให้เหมาะสมกับการนามาใช้ประโยชน์ของสมุนไพรนั้น ๆ จัดทาตลาดชุมชน และมีการ
สนับสนุนการเรียนรู้เก่ียวกับศูนย์ผลิต การรักษา การปลูก และวัตถุดิบของหน่วยงานที่เก่ียวข้องใน
พ้นื ที่
(๗) นายประกาศิต อาไพพศิ (หมอใส)
เครือขา่ ยสขุ ภาพวิถีไท ตาบลสะแก อาเภอสตึก จงั หวดั บุรีรัมย์
ข้อเสนอแนะ: ควรมีการสนับสนุนให้ใช้สมุนไพรมากกว่าพึ่งศาสตร์การแพทย์
ตะวันตก เพราะสมุนไพรแต่ละชนิดก็สามารถนามาทาเป็นยาได้และช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการซ้ือยา
จากตา่ งประเทศ
(๘) นายศุภกร ขาวไิ ล
ศูนย์การเรียนรู้ศุภกรแอนด์บอดี้สปา บ้านบ่อน้าทิพย์ ตาบลจันทึก
อาเภอปากช่อง จงั หวัดนครราชสีมา
ปัญหา/อุปสรรค: ช่องทางการจาหน่ายสินคา้ และอุปกรณ์ในการผลิต
หรอื เทคโนโลยที เี่ หมาะสมกบั การผลิต
ข้อเสนอแนะ: อยากให้ส่งเสริมการอบรมหลักสูตรการจัดการ การหาแหล่ง
ทนุ ทีเ่ ราสามารถเข้าถึงได้
๕) เครือขา่ ยพพิ ธิ ภณั ฑเ์ กษตรฯ จงั หวดั สกลนคร
(๑) นางสาวคาปนุ กดุ วงค์แกว้

กลมุ่ หมอพนื้ บ้าน บา้ นบัว เครอื ข่ายอินแปง
บา้ นเลขท่ี ๑๙๔ หมู่ ๖ ตาบลกุดบาก อาเภอกดุ บาก จงั หวัดสกลนคร
ปัญหา/อุปสรรค: การรักษาโดยหมอพ้ืนบ้าน มีตารับยาที่สืบทอด
แต่โบราณนับวนั จะสูญหายเพราะไมส่ ามารถรบั รองตารับยาเพราะการรับรองของ อย. ตอ้ งมีโรงงานที่
มีมาตรฐานซึ่งยากท่ีชาวบา้ นจะสามารถดาเนนิ การได้
ข้อเสนอแนะ: ควรมีการรวบรวมตารับยา เพ่ือแบ่งปันความรู้ และเป็น
การสืบทอดองค์ความรู้ไม่ให้สูญหาย เพราะการดูแลรักษาของหมอพื้นบ้านจะดูแลรักษาสุขภาพ
โดยองค์รวม เช่น กินอาหารเป็นยา กระบวนการออกกาลังกาย โดยใช้ธรรมชาติบาบัดร่วมด้วย เช่น
การเดินตากน้าค้าง เปน็ ต้น
(๒) นายสทิ ธิพล คาปาทู (หมอรวย)
บา้ นเลขท่ี ๗ หมูท่ ่ี ๖ ตาบลนาแสง อาเภอศรีวิไล จงั หวดั บึงกาฬ
ประธานกลุ่มวสิ าหกิจชุมชนกล่มุ สมุนไพรหมอพนื้ บ้านอีสาน
ผู้ทรงคุณวุฒิการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ประจาจังหวัดบงึ กาฬ
ปัญหา/อุปสรรค: ช่วงโควิดระบาดขายตามงานวัดไม่ได้ จึงขาย
เฉพาะทม่ี ีการโทรส่ัง
(๓) นายสะโอด เนียมสะอาด (หมอโอด)
ชมรมหมอพ้นื บา้ น บ้านเลขที่ ๔๖ /๑ หมู่ ๑๑ ตาบลวังเยน็ อาเภอแปลงยาว
จังหวัดฉะเชิงเทรา

๑๖๖

ปญั หา/อุปสรรค: ไมม่ ีทจี่ าหน่าย
ข้อเสนอแนะ: อยากใหจ้ ัดหาตลาดใหม้ แี หล่งจาหนา่ ย แนะนาลกู คา้
(๔) นายสาเนา จันทวาส (สวนลุงเนา)
บา้ นเลขท่ี ๘๙ หมู่ ๒ ตาบลวงั หมี อาเภอวงั น้าเขยี ว จังหวัดนครราชสมี า
ปัญหา/อุปสรรค: สมุนไพรบางอย่างหายาก เพราะพืชสมุนไพรแต่ละชนิด
ใช้ระยะเวลาในการปลกู นาน
ข้อเสนอแนะ: ควรมีการส่งเสริมเรื่องต้นกล้า และการขยายพันธ์ุ
พชื สมุนไพร เมอ่ื มีตวั ยาปลูกเอง มีปา่ สมุนไพร ปลกู สมนุ ไพรในบา้ นตนเอง ก็จะได้ไม่ไปเกบ็ สมนุ ไพรป่า
และเสนอให้ส่งเสรมิ การปลูกสมุนไพรในโรงเรยี นและมหาวทิ ยาลยั เพ่ือจะได้มีสมุนไพรทีเ่ พียงพอ
(๕) นางสาวมติ ใิ หม่ จักรพล (หมอหญงิ ) (แพทย์แผนไทย)
บา้ นเลขท่ี ๙๕ หมู่ ๑๔ ตาบลวังกะทะ อาเภอปากช่อง จงั หวดั นครราชสีมา
ปัญหา/อุปสรรค: ยาหา้ ราก สว่ นประกอบของตัวยา ส่วนใหญ่ใช้ราก
จากสมุนไพร ซึ่งสมุนไพรแต่ละชนิดใช้ระยะเวลาในการเจริญเติบโตและปลูกนาน เช่น ต้นชิงชี่
ใช้ระยะเวลา ๒๐ ปี ข้ึนไป จึงจะสามารถนามาปรุงยาได้ ต้นมะเดื่อชุมพรใช้ระยะเวลา ๕ ปี ข้ึนไป
จึงจะสามารถนามาใช้ปรุงยาได้ ส่วนสมุนไพรที่สามารถนารากมาปรุงยาท่ีใช้ระยะเวลาเติบโตเร็ว คือ
ต้นเท้ายายม่อมกับต้นย่านาง ใช้ระยะเวลา ๒-๓ ปี ซ่ึงสมุนไพรท่ีนามาปรุงยาห้ารากในท้องตลาด
สว่ นใหญจ่ ะเป็นลาต้นเม่ือนาลาต้นมาใชป้ รุงยาจะเหน็ ผลน้อยกว่าการใช้รากตามตารายาห้าราก
กรณียาห้าราก ๑ ต้น ในการผลิตไม่ได้ถอนรากมาทั้งต้น แต่จะตัด
เฉพาะบางส่วนของรากแขนงขา้ ง ๆ มาทายา ทผ่ี า่ นมาหมอยาพืน้ บา้ นสมยั กอ่ นใชย้ าในลกั ษณะการฝน
กินเป็นช้อนซึ่งหมอพ้ืนบ้านในอดีตจะอนุรกั ษ์พันธุ์พืชสมุนไพรไว้ให้คนรุ่นหลังจากการใช้ดว้ ยวิธีการฝน
แม้ป่ามีมากแต่ก็ยังใช้ยาฝนกัน แต่ปัจจุบันมีการนาความสะดวกและเร่งด่วนจึงนายาเหล่าน้ีมาอัด
แคปซูล ซึ่งทาให้ใช้ยาในปริมาณทมี่ ากจึงใช้ในลักษณะการขูดการใช้วิธีการดังกล่าวจึงเป็นการอนุรักษ์
พันธุ์พืชสมุนไพรไว้ ดังนั้น หากต้องการสร้างความยั่งยืนในพืชสมุนไพร ควรมีกา รส่งเสริมให้
นอกจากนาพืชสมุนไพรมาทายาแล้วควรมีการปลูกพืชสมุนไพรด้วย เพราะจะทาให้ไม่ทาลายต้นเก่า
และปลกู ตน้ ใหมม่ าทดแทน
ขอ้ เสนอแนะ: เสนอใหก้ ารจัดตารบั ยาทเี่ ราใชบ้ ่อย ๆ เข้าสู่ระบบการวจิ ัย
เพ่อื มขี ้อมลู สนบั สนุนความน่าเชื่อถอื ในการใชย้ าสมุนไพร
๖) ผู้แทนกลมุ่ หนงึ่ ตาบล หน่ึงผลติ ภณั ฑ์ (One Tambon One Product
(OTOP))
(๑) คณุ ศรีภิญโญ ดอนทว้ ม (เจแ๊ จด๊ )
บ้านโกมินทรส์ มุนไพร ประธานกลุ่มพฒั นาสตรี ตาบลสีค้วิ อาเภอสีคิ้ว
จงั หวัดนครราชสมี า
ปัญหา/อปุ สรรค: สถานท่ีการจาหนา่ ยหรอื ช่องทางการตลาด
ข้อเสนอแนะ: ควรมกี ารสนบั สนนุ การใชส้ มนุ ไพรใหม้ ากขึ้น
(๒) นายคานวณ ณ ศรสี ขุ (หมอคานวณ แพทย์แผนไทย)
ตาบลคลองพน อาเภอคลองท่อม จงั หวดั กระบี่

๑๖๗

ปัญหา/อปุ สรรค: การขอรบั รองมาตรฐาน อย. มีขั้นตอนและใช้ทุนมาก
ข้อเสนอแนะ: ควรมีการปรับหลักเกณฑ์วิธีการท่ีลดขั้นตอนให้
สามารถผลิตและจาหน่ายไดม้ ากขึน้
(๓) นางสาวญาณธชิ า น้าเพชร
วิสาหกิจชมุ ชนสันมหาพนสมนุ ไพรอินทรีย์
ตาบลสนั มหาพน อาเภอแม่แตง จังหวดั เชียงใหม่
ปญั หา/อปุ สรรค: ตลาด (แหล่งจาหนา่ ย) เครอ่ื งจกั รท่ีทนั สมยั เงนิ ทุน
ข้อเสนอแนะ: หน่วยงานหรือองค์กรทเ่ี ก่ียวข้องควรลงพ้ืนทีเ่ พาะปลูก
และผลติ เพอ่ื ให้ทราบถึงสภาพความเปน็ จริงของเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการรายยอ่ ย
(๔) นายปองชยั ป้อมไชยา
บา้ นสมนุ ไพรยม้ิ แป้น
ปัญหา/อปุ สรรค: เครื่องจกั รทที่ ันสมัย เงินทนุ การขอใบอนุญาตจาก อย.
ข้อเสนอแนะ: ควรมีการสนับสนุนขยายตลาดให้แพร่หลายมากข้ึน
กาหนดมาตรฐานของ อย. ใหเ้ หมาะสม และส่งเสริมให้มีการแข่งขันของผปู้ ระกอบการดา้ นสมุนไพรมากขนึ้
๖) ผูแ้ ทนวสิ าหกจิ ชมุ ชน/โอทอป
(๑) นายกฤตภาส จนั ทร์หอม
ผู้ปลกู สมนุ ไพร ฝา่ ยวิจัยและพัฒนาผลติ ภัณฑ์
กลุ่มวสิ าหกจิ ชมุ ชนการทอ่ งเท่ียวเกษตรอนิ ทรียแ์ ละวิถีชมุ ชนคนเจยี งฮาย
ปัญหา/อุปสรรค: ขาดอุปกรณ์ เครื่องมือ และโรงงานตากที่ได้
มาตรฐาน ขาดเงินลงทุนในการสร้างโรงเรือนและอปุ กรณ์ท่ีจาเปน็ เนือ่ งจากยงั อยใู่ นระยะเริม่ ตน้ กล่มุ
ข้อเสนอแนะ: อยากให้ภาครัฐส่งเสริมธุรกิจสมุนไพรตลอดห่วงโซ่
ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสามารถพัฒนารูปแบบผลผลิตสมุนไพร
โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในกระบวนการแปรรูป ให้ได้คุณภาพมาตรฐานตามความต้องการ
ของตลาดทัง้ ในและตา่ งประเทศ
(๒) นางปรดี า ทวีรส
วิสาหกิจชุมชนกล่มุ แมบ่ ้านเกษตรกรเขาตาหนอน
ข้อเสนอแนะ:
๑. อยากให้ร่วมกันมีโรงงานกลางที่ได้มาตรฐาน อย. เพ่ือผลิตและใช้
ประโยชน์รว่ มกัน
๒. การปลูกขมิ้นให้สสี วยต้องเป็นพื้นท่ีเชิงเขา และพันธด์ุ ัง้ เดิม
(๓) นางอดุ มศลิ ป์ ถอื ทอง
วสิ าหกจิ ชมุ ชนกลมุ่ แม่บ้านเกษตรกรบ้านถ้าทองหลาง
ปัญหา/อุปสรรค: ไม่สามารถขอ อย. ได้ เนื่องจากไม่มีโรงงาน
และอปุ กรณ์ท่ไี ดม้ าตรฐาน
ขอ้ เสนอแนะ:
๑. หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องเข้ามาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ
ใหค้ าแนะนา และรว่ มลงทนุ มากขนึ้

๑๖๘
๒. จัดแหล่งจาหน่ายให้กับกลุ่มวิสาหกิจขนาดเล็กสามารถพ่ึงพา
ตนเองได้
(๔) นางสาวอานีรา แวยูโซะ๊
วสิ าหกิจชมุ ชนแปรรูปสมุนไพรบา้ นไอสะเตียร์
ปญั หา/อุปสรรค:
๑. สภาพอากาศไมค่ อ่ ยเป็นใจในเรื่องของการตากสมนุ ไพร
๒. โรงงานยงั ไม่สามารถขอมาตรฐาน อย. ได้
ขอ้ เสนอแนะ: ขอให้ส่งเสริมสนับสนุนให้วิสาหกิจขนาดเล็กสามารถ
พ่งึ พาตนเองได้ เพื่อเป็นการเพมิ่ รายไดใ้ ห้กบั ชมุ ชน
(๕) นางสาวสาเป๊ียะ สามญั
วสิ าหกจิ ชมุ ชนกลุ่มปลกู สมนุ ไพรและแปรรปู สมนุ ไพร
ปัญหา/อุปสรรค: ปัญหาแมลงศัตรูพืชทาให้ผลผลิตเสียหาย
เนอื่ งจากปลูกแบบเกษตรอนิ ทรยี ์
ข้อเสนอแนะ: ควรกาหนดให้มีการประกันราคาสมุนไพรไม่ให้ราคาต่า
จนเกินไป และให้มีการรับรองมาตรฐานของผลิตภัณฑ์แบบวิถีชุมชน การขอมาตรฐาน อย. ต้องใช้ต้นทุนมาก
ในการสร้างโรงเรือนที่ถูกต้องตามมาตาฐาน ซึ่งกลมุ่ วิสาหกิจชมุ ชนไม่สามารถพัฒนาถึงข้ันได้รบั มาตรฐาน อย.
ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ไม่ได้รับความเช่ือถือเท่าท่ีควร ลงพ้ืนที่มาสารวจปัญหาและช่วยกันวิเคราะห์
ความเป็นไปไดข้ องแต่ละชมุ ชนและหาทางชว่ ยเหลอื และแก้ไขปญั หารว่ มกัน
(๖) นายประพล คาพโิ ล
วสิ าหกิจชมุ ชนผู้ปลกู ลาไยแพะประทาน
ปัญหา/อุปสรรค: ใช้เงินลงทุนปลูกกัญชงจานวนมาก และตลาดรองรับ
ไมเ่ พียงพอ
ข้อเสนอแนะ: ควรมีการสนับสนุนการตลาดรองรับพืชสมุนไพรจากหน่วยงาน
ท่เี ก่ยี วข้อง
(๗) นายธนพตั ธรรมสอน
วสิ าหกจิ ชมุ ชนปลูกหญา้ เนเปยี รอ์ าเภอดอกคาใต้
ปญั หา/อุปสรรค:
๑. ระบบน้า และแหล่งน้าบาดาลสารองในการใช้ปลูกกัญชง
๒. ระบบพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ เพื่อการลดใช้พลังงานจากกระแสไฟฟ้า
ในระบบการผลิตกญั ชง
๓. เร่ืองตลาดกระจายสินค้า เนื่องจากกัญชงยังเป็นที่รู้จักน้อยในกลุ่ม
ผู้บริโภค จึงตอ้ งการการยอมรับและแหล่งกระจายสนิ ค้าใหถ้ งึ มือผู้บริโภค
๔. การรบกวนจากแมลงศตั รพู ชื หนอนชอนใบ ไรแดง โรครากเน่า
ข้อเสนอแนะ: ควรมีการสร้างความรู้เรื่องการแปรรูปผลิตภัณฑ์ การเก็บรักษา
ผลผลิต การสร้างแบรนด์ และบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการจาหน่ายสินค้า เพ่ือให้สินค้าคงคุณภาพได้นานจนถึงมือ
ผู้บริโภค
(๘) นายมานะ บุญยมหา
วสิ าหกิจชมุ ชนบ้านทา

๑๖๙

ปัญหา/อุปสรรค: ไม่มีตลาดรบั ซอ้ื ผลผลติ
ข้อเสนอแนะ: เร่งผลักดันให้มีกฎหมายกัญชา กัญชงรองรับ และสร้าง
ความรู้เกีย่ วกบั การบงั คบั ใช้ใหช้ ดั เจนกับประชาชนและตอ้ งการขยายตลาดในการจาหน่าย
(๙) นายอุ่นเรือน คาภโิ ล
วิสาหกจิ ชมุ ชนกลุ่มผลิตลาไยแพะประทาน
ปัญหา/อุปสรรค:
๑. เครือ่ งจกั รการแปรรปู
๒. เทคนิคการแปรรูป
๓. ทาบนั ทกึ ความตกลงกบั บรษิ ทั เอกชน แตต่ ้องรอดโู ควตาการรับซ้อื เปน็ ฤดูกาล
๔. ตลาดยงั แคบ ราคา รับซอ้ื ยังไมแ่ นน่ อน
๕. ผบู้ รโิ ภคยังไม่เขา้ ใจวธิ กี ารนาไปเพม่ิ มูลค่า
๖. ขาดแหล่งเงินทุนหมุนเวียน สาหรับวิสาหกิจชุมชน เพราะไม่เข้าใจ
Business model ของกัญชง
ข้อเสนอแนะ: ตอ้ งการให้กระทรวงมคี วามชดั เจนในเรื่องกฎหมายทเ่ี ก่ียวขอ้ ง
ซึ่งปัจจุบันทยอยออกกฎหมายหลังพบปัญหาทีละอย่างไม่เบ็ดเสร็จทาให้เกษตรไม่สามารถวางแผน
ในการดาเนนิ การได้
(๑๐) นางสาวกรรณกิ าร์ คาภโิ ล
วิสาหกจิ ชุมชนผู้ปลกู ลาไยแพะประทาน
ได้รบั อนญุ าตปลกู กัญชง จาก อย. โดยได้ใบอนญุ าตใน ๒ พืน้ ที่
๑. ปลกู แบบกรนี เฮาส์
๒. ปลูกแบบกลางแจ้ง เลขที่ ชม ๙/๒๕๖๕ ชม ๑๐/๒๕๖๕ อายุใบอนุญาต
๔ มกราคม ๒๕๖๕ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕
(๑๑) นายวชิ ิต ตา๋ คา
วิสาหกิจชุมชนผปู้ ลูกและผลติ วตั ถดุ บิ สมนุ ไพร
ปัญหา/อุปสรรค: ขาดความพร้อมในกลุ่มสมาชิก พ้ืนท่ีท่ีใช้ในการเพาะปลูก
ไม่ได้รับการรับรอง GAP ขาดอุปกรณ์และสถานที่ในการจัดเก็บที่เหมาะสม และได้มาตรฐาน
ด้านการตลาดไมม่ อี อเดอร์ทีแ่ นน่ อน ไม่มีแหลง่ รบั ซ้อื ที่แน่นอน
๗) ผู้แทนโรงพยาบาล
(๑) นายเผด็จ จนั ทรแ์ ดง
โรงพยาบาลกุดชมุ ตาบลกุดชมุ อาเภอกดุ ชุม จังหวดั ยโสธร
ปญั หา/อปุ สรรค:
๑) เกษตรกรในพื้นที่ขาดน้าในการปลูกสมุนไพรทาให้ได้ผลผลิตน้อย
ไมเ่ พยี งพอกบั กาลงั การผลติ ของโรงงาน ตอ้ งซ้อื วตั ถุดิบจากต่างจงั หวัด
๒) ข้ันตอนการแปรรูปเบ้ืองต้น เกษตรกรไม่มีโรงตากแหง้ ทเี่ พยี งพอ
๓) เคร่ืองจักรของโรงพยาบาลมอี ายกุ ารใชง้ านนานเรมิ่ เสื่อมประสิทธิภาพ

๑๗๐

ข้อเสนอแนะ: ๑) สาธารณสุขจังหวัดควรมีนโยบายในการใช้ยาจาก

พืชสมุนไพรมากข้ึนจะทาใหป้ รมิ าณการใช้ยาสมุนไพร และการรับซอื้ วัตถุดิบจากเกษตรกรเพ่ิมขึ้น และลด

การใช้ยาแผนปัจจุบันท่ีมีราคาแพงลงได้ ๒) ควรมกี ารสง่ เสริมจากหมอพื้นบ้านและใหค้ วามร้ตู า่ ง ๆ ให้คน

ปลูกเข้าใจ ๓) ควรจดั สรรงบประมาณในการพัฒนาปรับปรงุ โรงงาน อปุ กรณต์ ่าง ๆ ให้ดขี ึ้น

(๒) นายวรานนท์ อนิ ทรวัฒนา
กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกโรงพยาบาล

พระปกเกลา้
ขอ้ เสนอแนะ:
๑. ควรมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลแนะนาการใช้สมุนไพรที่ถูกต้อง

เพื่อสร้างความเช่อื มัน่ กบั ผ้บู ริโภค
๒. ควรมีการสร้างผลงานทางวิชาการ เปรียบเทียบประสิทธิผลในการ

รักษาร่วมกบั แพทย์แผนปัจจบุ ัน เชน่ การเจาะเลอื ด ทัง้ ก่อนและหลงั เพ่ือเปน็ ขอ้ มูลสนบั สนุนและเปน็
หลกั ฐานเชิงประจักษ์ในการสร้างความเช่ือม่ันการใช้ยาสมุนไพรไทย

๘) ผู้แทนมหาวิทยาลัย
(๑) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
(๑.๑) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ระวิวรรณ์ เจริญทรัพย์ หัวหน้าศูนย์

นวตั กรรมสมนุ ไพรครบวงจร
(๑.๒) ดร.ธรากร มณีรตั น์ อาจารย์ประจาสานกั วิชาวทิ ยาศาสตร์
คณะผู้ดาเนินโครงการพัฒนาเทคโนโลยีการปลูกขมิ้นปลอดโรคและ

สารสาคญั สูงระบบ substrate culture รว่ มกับศนู ย์วจิ ยั พืชสวน จังหวดั เชยี งราย
ขอ้ เสนอแนะ: เกษตรกรควรมกี ารรวมกลมุ่ เพื่อพฒั นาตอ่ ยอดในการแปรรปู

ข้นั ต้นที่เปน็ ไปตามมาตรฐาน อันจะทาให้มูลคา่ สมุนไพร และรายได้ของตนเพิ่มข้นึ ตอ่ ไป
(๒) มหาวิทยาลยั นเรศวร
(๒.๑) รองศาสตราจารย์ ดร.กรกนก องิ คนนิ ันท์ ผู้อานวยการสถาน

วิจัยเพ่อื ความเปน็ เลิศด้านวชิ าการกญั ชาและกัญชง และท่ีปรึกษาอธิการบดี
(๒.๒) รองศาสตราจารย์ ดร.เนติ วาระนุช ผู้อานวยการสถานวิจัย

เคร่ืองสาอางและผลติ ภณั ฑ์ธรรมชาติ
(๒.๓) รองศาสตราจารย์ ดร.กรองกาญจน์ ชูทิพย์ คณบดีบัณฑิต

วิทยาลยั
(๒.๔) ดร.นัตศวดี อภิชาตวัฒนะ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ

และกิจการพเิ ศษ คณะเภสัชศาสตร์
ปัญหา/อปุ สรรค:
๑. การทดลองขนาดเลก็ หรือผู้ผลิตขนาดเลก็ ไมส่ ามารถทาการวิจัยในคนได้
๒. การข้ึนทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพรเป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริม

พฒั นาสมนุ ไพร
๓. การขอขน้ึ ทะเบียนกรณีผลิตภัณฑ์ยาจากสมุนไพรใช้เอกสารเยอะ

๑๗๑

๔. การขาดงบประมาณสนบั สนุนทเี่ พยี งพอ
๕. การกาหนดราคาของสมุนไพรไม่มคี วามแน่นอน
๖. สมุนไพรไม่ไดเ้ ปน็ พชื เศรษฐกิจที่ได้รับการสง่ เสรมิ อยา่ งเป็นรปู ธรรม
ขอ้ เสนอแนะ:
๑. การวจิ ัยสามารถสรา้ งความเชื่อมนั่ ในการใชผ้ ลิตภณั ฑ์สมนุ ไพร
๒. เกษตรกรควรมีการรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาต่อยอดในการแปรรูปให้ได้
มาตรฐาน เพ่ือเพ่ิมมลู คา่ สมนุ ไพร และรายไดข้ องเกษตรกรเพม่ิ ขึน้ ดว้ ย
๓. ภาครัฐควรสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้มาตรฐาน Good
Manufacturing Practice (GMP) เพ่อื สามารถทาการวิจยั ในคนได้ (Clinical Trial)
๔. ควรนาเครือข่ายทม่ี หาวิทยาลัยมมี ายกระดับเพือ่ พฒั นาผลิตภณั ฑ์สมุนไพร
๕. หน่วยงานต่าง ๆ ที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกร ควรร่วมมือ
และบรู ณาการร่วมกันเพอื่ แกไ้ ขปัญหา
๖. อย. ควรกาหนดหรือสร้างเกณฑ์ในการขอจดทะเบียน อย. โดยไม่
ต้องอ้างอิงเกณฑ์ของการพัฒนายา หรือ ASEAN Guidelines เพื่อสะดวก รวดเร็วในการขอขึ้น
ทะเบียนผลติ ภัณฑส์ มุนไพร โดยยงั คานึงถึงคุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัย เพอ่ื สนับสนุน (SME)
(๓) มหาวิทยาลัยแมโ่ จ้
(๓.๑) ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์พาวนิ มะโนชัย รองอธกิ ารบดี

ความรับผิดชอบ: การพัฒนาพืชกัญชง และกัญชา เป็นผู้เร่ิมจัดทา
ฐานการเรยี นรู้การเกษตรใหเ้ ป็นแหลง่ เรียนร้แู ละศกึ ษาดูงานจนเป็นทีย่ อมรับของเกษตรกร นกั วิชาการ
และผูท้ ส่ี นใจทัว่ ไป อกี ทง้ั ยงั รว่ มบุกเบกิ การสรา้ งสานักฟารม์ มหาวทิ ยาลยั แมโ่ จ้

(๓.๒) ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ ดษุ ฎี รองอธิการบดี
ความรับผดิ ชอบ:การพฒั นาหลักสตู รพืชสมนุ ไพรใหเ้ ปน็ แพทย์แผนทางเลอื ก

(๓.๓) อาจารย์ ดร.สุดเขต สกลุ ทอง ผชู้ ่วยอธิการบดี
ความรบั ผดิ ชอบ: การวิจัยและสง่ เสรมิ วิชาการการเกษตร

(๓.๔) รองศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ สวุ รรณรักษ์ ผอู้ านวยการสานกั วิจยั
และสง่ เสริมวิชาการการเกษตร

ความรบั ผิดชอบ: การพฒั นาเครอื ข่ายวิสาหกิจชมุ ชน
ปญั หา/อปุ สรรค:
๑. อุปสรรคทางกฎหมายที่เป็นปัญหาต่อการค้าพืชตระกูลกัญชา กัญชง
ตลอดสายหว่ งโซอ่ ุปทาน สง่ ผลให้ไม่มีพนั ธท์ุ ่ดี เี ทา่ ทคี่ วร
๒. การกาหนดมาตรฐานที่สูงเกินไปสาหรับเกษตรกร ผู้ประกอบการ
วสิ าหกจิ ชุมชน
๓. การให้ความสาคัญกับแพทย์แผนไทย/ แพทย์ทางเลือกน้อยกว่าแพทย์
แผนปัจจุบัน

๑๗๒

ข้อเสนอแนะ:
๑. ควรขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบโดยมีนโยบายคัดเลือกสมุนไพรท่ีจะ
ผลกั ดัน และสร้างองคค์ วามรใู้ หแ้ กเ่ กษตรกร เรอื่ งสารปนเปอ้ื น สารเคมี
๒. ควรนาเรื่องกัญชา กัญชงกาหนดเป็นวาระชาติ เพ่ือระดมความ
คิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เก่ียวข้องเพ่ือบูรณาการร่วมกันในการแก้ไขอุปสรรคทางกฎหมาย
ของพชื ตระกลู กัญชา กญั ชง
๓. ควรมีการสง่ เสรมิ ทงั้ ในระดับผู้ประกอบการ และวสิ าหกจิ ชมุ ชน
๔. ควรเร่งบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ เอกชน
และประชาสังคม เพือ่ สร้างโอกาสและอนาคตใหพ้ ลิกโฉมสมนุ ไพรไทยเกิดขึ้นไดอ้ ย่างแทจ้ รงิ
๕. ให้การรับการสนับสนุน โดยเฉพาะการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี
นวัตกรรม ด้านการเกษตร การผลิตและแปรรูปสมุนไพรมูลค่าสูง การมีกองทุนเงินลงทุนในกิจการ
วสิ าหกจิ ชมุ ชนดอกเบยี้ ต่า พรอ้ มระบบประเมินการลงทนุ
๖. ควรให้ข้อมูลและสนับสนุนให้แปรรูปเป็นสินค้าเกษตรแปรรูป
มูลค่าสูงอย่างแท้จริง พร้อมคาแนะนาทางด้านกฎหมาย ข้อบังคับต่าง ๆ และการสนับสนุน
ทางการตลาดและทุนสารอง
๗ . ค วรมีนโยบายที่เช่ือมต่อกันและผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม
ระหว่างมหาวทิ ยาลัยผลิตคน ผกู้ าหนดนโยบายและมาตรฐานตง้ั แต่ปลูกจนกระทง่ั การสกดั จากโรงงาน
สร้างสารสกัด
๘. ภาครัฐควรสนับสนุนการลงทุนโรงงานสารสกัดตามภูมิภาคต่าง ๆ
โดยหนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วข้องบรู ณาการรว่ มกัน
๙. ควรทาใหส้ ินค้า ผลติ ภัณฑม์ คี วามเช่ือม่นั
(๔) มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์
(๔.๑) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาณุพงศ์ พุทธรักษ์ ผู้ช่วยอธิการบดี
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ ผู้ประสานงานเครือขา่ ยภาคใต้
ข้อเสนอแนะ:
๑. ควรให้ความสาคัญกับการพัฒนาธุรกิจกลางทางให้มีความเข้มแข็ง
โดยสง่ เสรมิ ดา้ นการวจิ ยั และนวัตกรรม
๒. ธุรกิจปลายทาง ควรมีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนว่าสมุนไพรไทยชนิดใด
ท่ีมีการวิจัยที่ครบถ้วนเพื่อให้ได้ข้อมูลสนับสนุนและสร้างความน่าเช่ือถืออันนาไปสู่การยกมาตรฐานให้ถึง
ระดับสากล

๙) ผแู้ ทนภาคเอกชน
(๙.๑) นายสนุ ทร เกยี รตธิ นากร
ประธานคลัสเตอร์ภาคเหนือตอนบน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน

คณะกรรมการกลุม่ วสิ าหกจิ ชุมชนสมุนไพรเชยี งราย ผู้ปลูก แปรรูป และสกดั สมุนไพร

๑๗๓

ปญั หา/อปุ สรรค:
๑. บัญชรี ายชื่อสมนุ ไพรที่ อย. จะให้การรบั รองมีน้อยไมเ่ ปน็ ปัจจุบัน
ขณะที่ภาคเอกชนมีการวิจัยจานวนมากแต่ถ้าไม่มีในบัญชีของ อย. ก็ไม่สามารถขึ้นทะเบียนขอ
รับรองมาตรฐานได้
๒. ระเบียบ ประกาศ ของ อย. ท่ีห้ามทาการโฆษณาสรรพคุณ เช่น
ห้ามใส ห้ามเดง้ เสมือนหน่ึงเป็นการกีดกนั ทางการตลาดของผู้ประกอบการ เพราะการที่ผู้บริโภคจะหา
ข้อมูลจะตอ้ งสบื ค้นผลิตภัณฑ์เคร่ืองสาอางจากคาดังกล่าว เมื่อเป็นคาต้องห้ามก็จะทาให้สืบค้นไม่เจอ
ผลิตภณั ฑ์ของผู้ประกอบการดังกล่าว
ข้อเสนอแนะ:
๑. ควรให้ลดบทบาทของ อย. ในการตรวจรับรองลง โดยให้
ยอมรับกรณที ่ีมหาวิทยาลัยได้มีการวิจัยออกสูตรตารับและมีการกาหนดสรรพคณุ ชัดเจน แล้วให้ อย.
จดแจ้งและอนุญาตให้ผู้ประกอบการสามารถดาเนินการโฆษณาได้ตามสรรพคุณท่ีได้มีการวิจัยแลว้ จะทา
ใหล้ ดปญั หาคอขวดได้
๒. ประเทศไทยควรยกเลิก มอก. เพราะมาตรฐานไทยไม่สามารถ
สง่ จาหน่ายในตา่ งประเทศได้ อยากให้ประเทศไทยใช้มาตรฐานแบบสากล ที่มีการรับรองของต่างชาติ
กับสินค้าที่จะทาการส่งออก ขณะท่ีปัจจุบันผลิตผลทางด้านพืชสมุนไพรไทยยังมีปริมาณน้อย
และปรมิ าณสาระสาคัญไมค่ งที่ การกาหนดมาตรฐานจงึ กลายเปน็ อปุ สรรคมากกว่าการส่งเสรมิ
(๙.๒) นายธนะสรรค์ ศิริวาลย์
เลขที่ ๔๑๗/๑ ซอยพัฒนาการ ถนนสันติธรรม ตาบลธาตุเชิงชุม
อาเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
ปัญหา/อุปสรรค: การนาเข้าวัตถุดิบพืชสมุนไพรจากต่างประเทศ เช่น
จีน เวยี ดนาม ที่มรี าคาต่ากวา่ มากทาให้พชื สมุนไพรของไทยขายไม่ไดร้ าคาเทา่ ทค่ี วร
ข้อเสนอแนะ:
๑. ด้านการบริหารจัดการ ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
ควรบรู ณาการข้อมลู รว่ มกนั แตแ่ ยกการบรหิ ารจัดการตามภารกจิ เช่น
ต้นทาง เน้นการปลูกพืชสมุนไพรอย่างไรให้ได้ผลผลิตที่มีปริมาณ
สารสาคัญสงู ไม่มสี ่ิงปนเป้ือน เปน็ ทตี่ ้องการของตลาดอย่างเพยี งพอ
กลางทาง เพ่ือสนับสนุนผู้แปรรูปในพื้นท่ีควรให้มีโรงงานขนาด
ใหญท่ ่ีได้รบั มาตรฐาน เพอื่ ใช้ในการแปรรปู รว่ มกนั
ปลายทาง การจาหน่าย ต้องเป็นมืออาชีพในทางธุรกิจ มีความ
นา่ เชอ่ื ถือสามารถติดตอ่ ตลาด สรา้ งตลาดท้ังในและต่างประเทศ
๒. ควรให้มีแพลตฟอร์มการซ้ือขายสมุนไพรแบบตลาดล่วงหน้า
โดยใช้กลุ่มอิงแปลงและธรณินทร์อินทรยี ์ทกี่ ดุ แฮด อาเภอกดุ บากเปน็ ตน้ แบบ
(๙.๓) นายบุรี จารุโซตริ ตั นสกลุ
บริษทั สมายล์ กรีน เทค ตาบลแมต่ า อาเภอเมือง จังหวัดพะเยา
ปญั หา/อุปสรรค : งบประมาณหรือเงินทุนในการพัฒนาผลติ ภัณฑ์
สงู มากและระยะเวลากระบวนการในการข้ึนทะเบยี นผลติ ภณั ฑ์ใชเ้ วลานาน

๑๗๔

ข้อเสนอแนะ:
๑. การสนับสนุนการเพ่ิมมูลค่าให้กับสมุนไพรไทยในเร่ืองของ
เทคโนโลยีทเ่ี กยี่ วข้องกับการปลกู การแปรรปู และการผลติ ผลิตภณั ฑ์
๒. ควรมีแหลง่ รับซ้ือสมุนไพรท่ีมีมาตรฐานมีการกาหนดราคาตาม
สารสาคัญของสมนุ ไพร
(๙.๔) นายธญั เทพ โต๊ะปลดั
บริษัท อัลบารอกัต ไทยเฮิร์บ จากัด 185 หมู่ 10 ตาบลท่าแพ
อาเภอท่าแพ จงั หวัดสตูล
ปัญหา/อุปสรรค:
๑. ปัญหาการระบาดของโรคโควิด ทาให้ไม่สามารถเดินทาง
เพ่ือติดต่อลกู คา้
๒. โรงงานผลิตสารสกัดยังไม่ได้รับรองมาตรฐาน GSP ยังคงต้องใช้
โรงงานของ มอ. ในการผลิต
ขอ้ เสนอแนะ:
๑. การปลูกพืชสมุนไพร ควรปลูกหลากหลายชนิดเพื่อรักษาระดับ
ราคาไม่ให้ตกต่า โดยพิจารณาธุรกิจกลางน้าท่ีแปรรูปว่าใช้วัตถุดิบสมุนไพรใดบ้างให้ตรงกับความ
ต้องการของโรงงานและความต้องการของตลาดดว้ ย
๒. การได้รับการสนับสนุนทุน NIA สานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
โครงการนวัตกรรมดี ไมม่ ีดอกเบ้ีย
(๙.๕) เภสัชกรศุภชัย สายบวั
ประธานเจ้าหน้าท่สี ายปฏิบัตกิ าร บริษัท บางกอกแลป็ แอนด์ คอสเมตคิ
จากดั
ปัญหา/อุปสรรค:
๑. การทาวิจัยเพ่ือขึ้นทะเบียนยานวัตกรรมมีค่าใช้จ่ายสูงต้องใช้
งบประมาณอย่างนอ้ ย ๑๐ ลา้ นบาท
๒. การขึ้นทะเบียน อย. ถ้าการแสดงฤทธิ์ทางการรักษาโรคของยาหาก
ระบุไมต่ รง เช่น บารุงร่างกายจะทาให้แพทยจ์ ่ายยาได้ไม่ชัดเจน นอกจากนี้ ยาที่เป็นนวตั กรรมส่วนใหญ่จะ
อย่นู อกบัญชียาหลกั
ขอ้ เสนอแนะ:
๑. การข้ึนทะเบียน การควบคุม กากับดูแลของ อย. เก่ียวกับ
ผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพรควรค่อยเป็นค่อยไปเพ่ือให้ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชนค่อย ๆ ปรับตัว
แล้วจึงเข้มงวดขึ้น เพราะตารับยาแผนไทยส่วนใหญจ่ ะยงั ไม่มีขอ้ มลู สนับสนุน ต้องทาการวิจัย ท้ังด้าน
ความปลอดภยั และผลการรักษา หากจะใช้กฎเกณฑม์ าตรฐานที่เขม้ งวดทนั ที จะเปน็ การทาลายภมู ปิ ญั ญา
แพทยด์ ั้งเดิมเพราะเป็นการยากทจี่ ะปฏบิ ัติ
๒. การใช้กฎ ระเบียบ ที่เคร่งครัดทาให้ไม่เอ้ือต่อการส่งเสริมให้มี
การใช้ยาจากพืชสมุนไพรอย่างเหมาะสม เช่น เจลพริก ใช้แก้ปวดข้อ ซงึ่ เป็นโรคเร้ือรงั จะต้องมีการใช้

๑๗๕

ยาอย่างสม่าเสมอและใชเ้ วลานาน แต่มรี ะเบียบของกระทรวงการคลังให้จ่ายยาไดไ้ ม่เกิน 2 หลอด เป็นต้น
บางกรณีควรใหเ้ ป็นดุลพนิ จิ ของแพทย์ เพือ่ ความสะดวกของผู้ปว่ ยด้วย

๓. ภาครัฐไม่ควรแขง่ ขันกับเอกชน
(๙.๖) ดร.เภสชั กรหญงิ นนั ทกาญจน์ สวุ รรณปฏิ กกลุ องค์การเภสัชกรรม

ปัญหา/อุปสรรค:
๑. ขาดเทคโนโลยเี พอ่ื เพ่ิมประสทิ ธิภาพและลดต้นทนุ
๒. ความน่าเชอื่ ถือของสมุนไพร
๓. ขาดการสร้างความตระหนักรูเ้ ก่ยี วกับการใช้สมุนไพรของประชาชน
๔. การจัดจาหน่ายสินคา้
ขอ้ เสนอแนะ:
๑. ควรมีเทคโนโลยเี พอ่ื เพิม่ ประสทิ ธภิ าพและลดตน้ ทุน
๒. ควรมีการส่ือสารแนะนาคุณประโยชน์และมีการวิจัยรองรับเพื่อสร้าง
ความนา่ เช่อื ถอื ของสมนุ ไพร
๓. ควรสร้างความตระหนักรูเ้ กย่ี วกับการใชส้ มุนไพรใหแ้ ก่ประชาชน
๔. ควรเพิ่มชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ยสนิ ค้า
(๙.๗) คุณยทุ ธเดช เวชพงศา
กรรมการบริหาร บริษทั เวชพงศ์โอสถ (ฮกอนั ต๊งึ ) จากัด
ปัญหา/อปุ สรรค:
๑. วัตถุดิบสมุนไพรไทยมีไม่เพียงพอต่อความต้องการในการส่ง
โรงงานผลิตเพื่อแปรรูปส่งผลให้ต้องมีการนาเข้าวัตถุดิบจากประเทศจีน เชน่ โกฎ โสม ถงั่ เช่า เปน็ ต้น
๒. คุณภาพของวตั ถุดิบยังไมไ่ ด้มาตรฐาน มีสารปนเปื้อน เช่น ตากที่
ลานดนิ เป็นต้น
๓. มาตรฐาน อย. ต้องมกี ารศกึ ษาวจิ ยั จานวนมาก มีคา่ ใช้จา่ ยสูง
ข้อเสนอแนะ:
๑. ควรใหค้ วามรกู้ ับเกษตรกรในการปลูก การเก็บเก่ียว การเก็บวัตถุดิบ
ใหม้ ีคุณภาพ เชน่ การลา้ ง การตาก การอบแหง้ เพือ่ ให้ผลผลิตของเกษตรกรสามารถจาหนา่ ยได้ราคา
๒. ควรกาหนดมาตรฐานยาสมนุ ไพรไทยต่างจากยาแผนตะวนั ตก
๓. กรณที ี่จะพัฒนายาสมุนไพรตามมาตรฐานของตะวันตก รัฐควรมี
ความพร้อมในการสนับสนุนด้านห้องทดลอง ทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ในราคาท่ีเกษตรกร วิสาหกิจ
ชุมชนและผ้ปู ระกอบการสามารถจ่ายได้
๔. ควรมีความพร้อมในการศึกษาวิจัยด้านสมุนไพรและควรเป็นชุดวิจัย
ทีส่ ามารถนาผลการวิจัยไปประยกุ ต์ใชไ้ ดจ้ ริง

๑๗๖

(๙.๘) ดร.วัชรพงษ์ พงษบ์ รบิ รู ณ์
กรรมการผู้จัดการ บรษิ ทั ขาวละออเภสัช จากัด
ปัญหา/อุปสรรค:
๑. การขอจดทะเบยี น อย. ยากมาก มีการใช้เอกสารการทดลองทาง

วิทยาศาสตร์จานวนมาก ทั้งที่เป็นยารักษาแผล สรรพคุณพื้นฐานไม่มาก ไม่สมเหตุสมผลซึ่งทาให้การ
พฒั นายาจากพชื สมนุ ไพรเกิดขนึ้ ไดย้ าก ภูมิปญั ญาด้งั เดิมก็จะคอ่ ย ๆ สญู หายไป

๒. การอนุญาตให้กล่าวอ้างสรรพคุณยาแพทย์แผนไทยสามารถอ้าง
สรรคณุ ได้เพียงหน่งึ อาการเท่านัน้ ขณะทม่ี ีคุณประโยชนม์ ากมาย

๓. การควบคุมกากับท่ียิบย่อยเกินไปจะเป็นผลเสียต่อการเติบโตของยา
สมุนไพรได้ เช่น การแบ่งประเภทของยา เป็นยาสามัญ ยาทั่วไป เพ่ือจากัดช่องทางการจาหน่าย เช่น ยาสามัญ
สามารถจาหนา่ ยทางออนไลนไ์ ด้ แต่ยาท่ัวไปจะต้องจาหน่ายในร้านขายยา เป็นต้น

ขอ้ เสนอแนะ:
๑. ภารกิจเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาการอนุญาต อย. ควรมีเจ้าหน้าที่
การแพทย์แผนไทย เช่น กองผลิตภัณฑ์ จะมีเฉพาะเภสัชกร ศึกษาด้านวิทยาศาสตร์โดยตรงจึงขาด
ความรู้ความเข้าใจศาสตร์ด้านตารับยา ภูมปิ ญั ญาดัง้ เดมิ ทาใหข้ าดมมุ มองดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย การมีเจ้าหน้าที่
ดา้ นการแพทย์แผนไทยร่วมด้วยจะทาให้มีการส่ือสารเข้าใจตรงกันและเป็นการทางานแบบบูรณาการ
ทง้ั แพทยแ์ ผนปจั จบุ นั และแพทย์แผนไทย
๒. ควรมหี น่วยงานใหค้ าปรกึ ษา ให้ความชว่ ยเหลือในการจดทะเบยี น
ยากับต่างประเทศ เช่น ตะวันออกกลาง ยุโรป ตะวันออก และเอเชีย เนื่องจากแต่ละประเทศก็จะมี
มาตรฐานและกฎเกณฑ์ท่ีแตกต่างกัน การมีหน่วยงานรัฐให้การสนับสนุนอานวยความสะดวก ด้าน
ภาษาและกฎระเบยี บจะทาใหเ้ พิม่ ช่องทางและปริมาณการสง่ ออกยงั ต่างประเทศไดม้ ากขน้ึ
๓. ในอนาคต บทบาทของการเกษตรอนิ ทรีย์จะมากข้ึน รัฐควรมีการ
บริหารจัดการควบคุมมลพิษจากขยะท่ีเป็นพิษอย่างจริงจัง เช่น แบตเตอรี่ ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ เป็นต้น
เพราะถ้าหากสารพิษเหล่านี้ถูกแพร่กระจายในดินจะทาให้ดินมีสารพิษจะไม่สามารถปลูกผลิตภัณฑ์ท่ี
ปราศจากสารปนเปอื้ นได้

จากการสัมภาษณส์ ามารถสรปุ ประเด็นปญั หา อปุ สรรคและขอ้ เสนอแนะ ดังน้ี
ปญั หา/อปุ สรรค

๑) ขาดแคลนด้านเครื่องมือในการแปรรูปและสถานท่ีเก็บ ด้านตลาดในการรองรับกลุ่มลูกค้า
และการจาหนา่ ย และเงนิ ทุนสนับสนนุ รวมถงึ ด้านการรบั รองมาตรฐานตา่ ง ๆ

๒) งบประมาณหรือเงินทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และระยะเวลากระบวนการในการ
ขน้ึ ทะเบยี นผลิตภัณฑ์

๓) การสนับสนนุ ระบบไฟฟา้ รองรับโรงงาน และผมู้ ีความรู้ดา้ นการตลาด
๔) การตรวจวัดสารสาคัญควรตรวจวัดในรูปแบบของตารับยามากกว่าตรวจสมุนไพร
เชิงเดีย่ ว
๕) ควรกาหนดมาตรฐานตารับยาไทยเอง เปน็ Thai Pharmacopoeia เพราะคนไทยมี
ความคุ้นเคยและร้จู ักคุณสมบัตขิ องสมุนไพรแต่ละชนดิ ดกี วา่ ต่างชาติ

๑๗๗

๖) การแพทย์แผนไทยควรผลักดันและสนับสนุนอย่างจริงจัง โดยอาจจัดตั้งเป็น
กระทรวงเพื่อขับเคล่อื นอยา่ งเปน็ ระบบ

๗) หน่วยงานหรือมหาวิทยาลัยควรเป็นหน่วยงานให้บริการและความสะดวกในการตรวจ
สารสาคัญของสมนุ ไพร

๘) การขอรับรองมาตรฐาน อย. มีขั้นตอนและใช้ทุนมาก รวมถึงไม่สามารถขอ อย. ได้
เนื่องจากไมม่ ีโรงงานและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน

๙) เร่ืองตลาดกระจายสินค้าเนื่องจากกัญชงยังเป็นที่รู้จักน้อยในกลุ่มผู้บริโภค จึงต้องการ
การยอมรับและแหลง่ กระจายสนิ ค้าให้ถึงมือผู้บริโภค

๑๐) การทดลองขนาดเล็กหรือผูผ้ ลิตขนาดเลก็ ไม่สามารถทาการวิจยั ในคนได้
๑๑) การข้นึ ทะเบยี นผลิตภณั ฑส์ มนุ ไพรเป็นอปุ สรรคต่อการส่งเสรมิ พัฒนาสมนุ ไพร
๑๒) การขอขนึ้ ทะเบยี นกรณีผลติ ภณั ฑย์ าจากสมนุ ไพรใช้เอกสารจานวนมาก
๑๓) การกาหนดราคาของสมุนไพรไมม่ ีความแนน่ อน
๑๔) สมนุ ไพรไมไ่ ด้เปน็ พชื เศรษฐกจิ ที่ถกู สง่ เสรมิ อย่างเป็นรปู ธรรม
๑๕) อุปสรรคทางกฎหมายท่ีเป็นปัญหาต่อการค้าพืชตระกูลกัญชา กัญชง ตลอดสายห่วงโซ่
อุปทาน ส่งผลใหไ้ มม่ ีพันธุ์ทด่ี เี ทา่ ทีค่ วร
๑๖) การกาหนดมาตรฐานที่สูงเกินไปในการจดทะเบียน อย. สาหรับเกษตรกร
ผปู้ ระกอบการ วิสาหกจิ ชุมชน ไม่สามารถพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ใหเ้ ปน็ ที่ยอมรับได้
๑๗) ควรให้ความสาคญั กับแพทยแ์ ผนไทย/แพทยท์ างเลอื ก แพทย์แผนปัจจบุ นั
ขอ้ เสนอแนะ
๑) หนว่ ยงานท่ีเกยี่ วข้องเขา้ มาสนบั สนุนเรอ่ื งการผลิต การแปรรูป และมาตรฐานตา่ ง ๆ
๒) หนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วขอ้ งสนับสนนุ การขอรับรองมาตรฐาน และแหลง่ เงินทุนในการพัฒนา
๓) แหล่งสนับสนุนด้านแหล่งจาหน่ายและการส่งเสริมการปลูกพืชชนิดอ่ืน รวมถึง
สนบั สนุนจัดหาสถานทจ่ี าหน่าย
๔) การประสานระหว่างหน่วยงานของภาครัฐและภาคเอกชน หน่วยงานหลักในการ
สนับสนุนกิจกรรม การสนับสนุนการเพิ่มมูลคา่ ให้กบั สมุนไพรไทยในเรื่องของเทคโนโลยที ่ีเกี่ยวขอ้ งกับ
การปลกู การแปรรปู และการผลิตผลติ ภัณฑ์
๕) สนับสนุนการนาการวิจัยและเทคโนโลยีมาช่วยเพ่ิมมาตรฐานผลิตภัณฑส์ มุนไพร
๖) เปล่ียนความคิดเรื่องกัญชาเป็นยาเสพติดให้มองว่าเป็นสมุนไพรและให้ความรู้เพิ่ม
ความชัดเจนในการนาไปใช้ประโยชนใ์ ห้ถูกตอ้ ง
๗) การตรวจรบั การรับรองสมนุ ไพรมคี า่ ใช้จา่ ยสงู ภาครัฐควรให้การสนับสนุน
๘) หนว่ ยงานทเี่ กี่ยวขอ้ งเขา้ มารับซอื้ ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบการขายแบบประกนั ราคา
๙) ส่งเสริมสนับสนนุ ตง้ั แต่ตน้ ทาง กลางทาง และปลายทางในการใช้ผลติ ภณั ฑส์ มนุ ไพร
๑๐) สง่ เสริมผลิตภัณฑ์ท่ีจดทะเบยี นขึน้ เป็นสินคา้ โอทอปของจงั หวดั
๑๑) การปลูกหรอื ผลติ พืชสมนุ ไพรอะไรตอ้ งพจิ ารณาก่อนว่ามีตลาดรองรับหรือไม่
๑๒) ยาบางชนิดจาหน่ายไม่ได้เพราะไม่ผ่าน อย. ประชาชนที่ปลูกไม่มีทุนในการขอจด
ทะเบยี นมาตรฐาน
๑๓) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้การส่งเสริมสนับสนุนเก่ียวกับพืชสมุนไพรตั้งแต่ต้นทาง
กลางทาง และปลายทางใหเ้ ปน็ รูปธรรมมากยิ่งขึน้ เพอ่ื ให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผบู้ ริโภคได้ใช้

๑๗๘

ประโยชน์พืชสมนุ ไพรท่มี ีมลู ค่าจากคนรุ่นเกา่ ในท้องถ่ิน เพอ่ื การอนรุ ักษ์พืชสมุนไพรและตารบั ยาใหค้ ง
อย่ไู ปถึงรุน่ ตอ่ ไป

๑๔) หน่วยงานรฐั บาล เชน่ โรงพยาบาลจดั ซอ้ื ผลิตภณั ฑ์สมุนไพรและวตั ถุดิบสมนุ ไพรในท้องถ่ิน
๑๕) ภาครฐั ควรสนับสนนุ สถานทีแ่ ละอปุ กรณ์ผลติ ผลติ ภัณฑส์ มนุ ไพรทไ่ี ดม้ าตรฐาน
๑๖) ควรมีการสารวจและให้ความรู้เก่ียวกับสมุนไพรท่ีมีคุณค่าในชุมชนเพื่อเกิดการ
อนรุ ักษแ์ ละรคู้ ณุ ค่าสมุนไพรในทอ้ งถนิ่
๑๗) ภาครัฐควรมีการจัดให้มีหน่วยงานช่วยแนะนาเป็นพี่เล้ียงเกษตรกรในการปลูกพืช
สมนุ ไพรใหม้ ีคุณภาพจะสามารถสร้างรายได้เพม่ิ ให้กบั เกษตรกร
๑๘) ควรมีการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับพืชสมุนไพรในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เหมาะสมกับ
การนามาใช้ประโยชนข์ องสมุนไพรน้ัน ๆ จัดทาตลาดชมุ ชน และมีการสนบั สนนุ การเรียนรู้เกีย่ วกับศนู ยผ์ ลติ
การรักษา การปลูก และวตั ถุดบิ ของหน่วยงานท่เี กย่ี วขอ้ งในพ้ืนท่ี
๑๙) ควรสนับสนุนให้ใช้สมุนไพรมากกว่าพึ่งศาสตร์การแพทย์ตะวันตก เพราะสมุนไพร
แตล่ ะชนิดก็สามารถนามาทาเป็นยาไดแ้ ละช่วยลดคา่ ใชจ้ ่ายจากการซอ้ื ยาจากต่างประเทศ
๒๐) ขอให้สง่ เสรมิ การอบรมหลักสูตรการจัดการ การหาทุนส่งเสริมท่ีเกี่ยวกับสมนุ ไพรที่
สามารถเขา้ ถึงได้
๒๑) ควรมีการสนับสนนุ การใชส้ มนุ ไพรให้มากขน้ึ รวมถึงควรมีการปรับหลกั เกณฑ์วิธกี าร
ทลี่ ดข้ันตอนใหส้ ามารถผลิตและจาหนา่ ยได้มากขนึ้
๒๒) หน่วยงานหรือองค์กรท่ีเกี่ยวข้องควรลงพ้ืนท่ีเพาะปลูกและผลิต เพื่อให้ทราบถึง
สภาพความเป็นจริงของเกษตรกร กลมุ่ เกษตรกร และผู้ประกอบการรายย่อย
๒๓) ควรมีการสนับสนุนขยายตลาดให้แพร่หลายมากข้ึน กาหนดมาตรฐานของ อย.
ให้เหมาะสม และส่งเสรมิ ใหม้ ีการแขง่ ขันของผปู้ ระกอบการด้านสมุนไพรมากขนึ้
๒๔) รว่ มมอื กนั ใหม้ โี รงงานกลางท่ไี ด้มาตรฐาน อย. เพือ่ ผลิตและใชป้ ระโยชน์ร่วมกนั
๒๕) หนว่ ยงานทเี่ ก่ยี วข้องเขา้ มาสนบั สนุนให้ความช่วยเหลอื ใหค้ าแนะนา และรว่ มลงทนุ มากขนึ้
รวมถึงจัดแหล่งจาหนา่ ยใหก้ บั กลุม่ วสิ าหกจิ ขนาดเล็กสามารถพึ่งพาตนเองได้
๒๖) ควรสง่ เสริมสนับสนุนให้วิสาหกิจขนาดเล็กสามารถพ่ึงพาตนเองได้ เพ่ือเป็นการเพ่ิม
รายไดใ้ หก้ บั ชมุ ชน
๒๗) กาหนดให้มีการประกันราคาสมุนไพรไม่ให้ราคาต่าจนเกินไป และให้มีการรับรอง
มาตรฐานของผลติ ภัณฑ์แบบวถิ ีชุมชนทใ่ี ชท้ นุ ในการขอมาตรฐาน อย. และอยากให้ผูม้ หี นา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ
ลงพ้ืนท่ีมาสารวจปัญหาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแต่ละชุมชนและหาทางช่วยเหลือ
และแกไ้ ขปัญหารว่ มกัน
๒๘) ควรพฒั นาธุรกิจกลางนา้ ใหม้ คี วามเขม้ แข็งโดยส่งเสริมดา้ นการวจิ ัยและนวตั กรรม
๒๙) ธุรกิจปลายน้า ควรมีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนว่าสมุนไพรไทยที่มีการวิจัยท่ี
ครบถ้วนเพอ่ื ให้ไดข้ อ้ มลู สนบั สนนุ และสร้างความนา่ เช่อื ถืออันนาไปสกู่ ารยกมาตรฐานให้ถงึ ระดบั สากล
๓๐) ควรมีการสนับสนนุ การตลาดรองรบั พชื สมุนไพรจากหนว่ ยงานท่ีเกี่ยวขอ้ ง
๓๑) ควรมีการสร้างความรู้เร่ืองการแปรรูปผลิตภัณฑ์ การเกบ็ รกั ษาผลผลติ การสร้างแบรนด์
และบรรจภุ ณั ฑ์ทใ่ี ช้ในการจาหน่ายสนิ คา้ เพ่อื ใหส้ นิ ค้าคงคณุ ภาพไดน้ าน จนถึงมอื ผบู้ ริโภค

๑๗๙

๓๒) เร่งผลักดันให้มีกฎหมายกัญชา กัญชงรองรับ และสร้างความรู้เก่ียวกับการบังคับใช้
ใหช้ ัดเจนกับประชาชน

๓๓) สาธารณสุขจังหวัดควรมีนโยบายในการใช้ยาจากพชื สมนุ ไพรมากขนึ้ จะทาให้ปริมาณการ
ใช้ยาสมุนไพร และการรับซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรเพมิ่ ขึ้น และลดการใช้ยาแผนปัจจุบันท่ีมีราคาแพงลงได้
มีการส่งเสริมจากหมอพ้ืนบ้านและให้ความรู้ต่าง ๆ ให้คนปลูกเข้าใจ ต้องการงบประมาณในการพัฒนา
ปรับปรุงโรงงาน อุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ดีข้ึน นโยบายของนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดให้ทุกโรงพยาบาลใน
จงั หวดั ตอ้ งสั่งซื้อยาจากโรงพยาบาลทม่ี กี ารผลติ ผลติ ภณั ฑ์สมนุ ไพร แต่ยังมีปรมิ าณน้อย

๓๔) ควรผลักดันให้ประชาชนใช้ยาสมุนไพรจากสมุนไพรในครัวเรือน สวน หรือบ้าน
มากกวา่ ใชย้ าแผนปจั จบุ ัน และรักษาภูมิปัญญาตารบั ยาแผนโบราณไวใ้ ห้ลูกหลาน

๓๕) การวิจยั สามารถสร้างความเชือ่ มั่นในการใช้ผลิตภัณฑส์ มนุ ไพร
๓๖) เกษตรกรควรมีการรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาต่อยอดในการแปรรูปให้ได้มาตรฐาน ทาให้
มูลคา่ สมุนไพร และรายไดข้ องเกษตรกรเพม่ิ ข้ึน
๓๗) ภาครัฐควรสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้มาตรฐาน Good Manufacturing
Practice (GMP) เพอ่ื สามารถทาการวิจัยในคนได้ (Clinical Trial)
๓๘) ควรนาเครือข่ายทม่ี หาวทิ ยาลัยมีมายกระดับเพือ่ พัฒนาผลติ ภัณฑ์สมนุ ไพร
๓๙) หน่วยงานต่าง ๆ ท่ีไปช่วยเหลือสนับสนุนเกษตรกร ควรร่วมมือจากหลาย ๆ ภาคส่วน
และบรู ณาการร่วมกนั เพ่อื แกไ้ ขปัญหา
๔๐) อย. ควรกาหนดหรือสร้างเกณฑ์ในการขอจดทะเบียน อย. โดยไม่ต้องอ้างอิงเกณฑ์
ของการพัฒนายา หรือ ASEAN Guidelines เพ่ือสะดวก รวดเร็วในการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์
สมุนไพรโดยยงั คานึงถึงคณุ ภาพ มาตรฐานความปลอดภยั เพอ่ื สนับสนนุ (SME)
๔๑) ควรขับเคลื่อนอย่างเปน็ ระบบโดยมีนโยบายคัดเลอื กสมุนไพรท่ีจะผลกั ดัน และสร้าง
องคค์ วามรใู้ ห้แก่เกษตรกร เร่อื งสารปนเปือ้ น สารเคมี
๔๒) ควรนาเรอื่ งกัญชา กัญชงกาหนดเปน็ วาระแห่งชาติ เพื่อระดมความคิดเห็นจากทกุ ภาคสว่ น
ทเ่ี กยี่ วข้องเพือ่ บรู ณาการรว่ มกันในการแกไ้ ขอุปสรรคทางกฎหมายของพชื ตระกูลกัญชา กัญชง
๔๓) ควรมีการสง่ เสริมทง้ั ในระดบั ผู้ประกอบการ และวิสาหกจิ ชุมชน
๔๔) ควรเร่งบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ เอกชน และประชาสังคม
เพอ่ื สรา้ งโอกาสและอนาคตใหพ้ ลิกโฉมสมุนไพรไทยเกดิ ข้ึนไดอ้ ย่างแท้จริง
๔๕) ควรได้รับการสนับสนุน โดยเฉพาะการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี นวัตกรรม
ดา้ นการเกษตร การผลิตและแปรรูปสมุนไพรมูลค่าสงู การมีกองทุนเงินลงทนุ ในกิจการวิสาหกิจชมุ ชน
ดอกเบ้ียต่า พร้อมระบบประเมนิ การลงทุน
๔๖) ควรไดร้ ับขอ้ มลู และสนบั สนนุ ให้แปรรปู เปน็ สนิ ค้าเกษตรแปรรปู มลู ค่าสงู อยา่ งแทจ้ ริง
พร้อมคาแนะนาทางด้านกฎหมาย ข้อบังคบั ตา่ ง ๆ และการสนบั สนุนทางการตลาดและทุนสารอง
๔๗) ควรมีนโยบายท่ีเช่ือมตอ่ กนั และผลกั ดันให้เกิดเป็นรปู ธรรมระหวา่ งมหาวิทยาลัยผลิตคน
ผกู้ าหนดนโยบายและมาตรฐานตงั้ แตป่ ลูกจนกระท่ังการสกดั จากโรงงานสรา้ งสารสกดั
๔๘) ภาครัฐควรสนับสนุนการลงทุนโรงงานสารสกัดตามภูมิภาคต่าง ๆ โดยหน่วยงาน
ทเ่ี กีย่ วขอ้ งบรู ณาการร่วมกัน

๑๘๐

๓.๓.๓ คณะกรรมาธิการวสิ ามญั ได้มมี ตเิ ดินทางไปศึกษาดงู าน จานวน ๑๐ ครง้ั คือ

๑) โรงงานหมอเส็ง จงั หวดั สระบรุ ี เม่อื วันพฤหัสบดที ่ี ๒๓ ธนั วาคม ๒๕๖๔ ในฐานะ
ผู้ผลิต แปรรูป และจาหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรในส่วนของภาคเอกชน

๒) โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันพุธที่ ๒๙
ธันวาคม ๒๕๖๔ ในฐานะผู้ผลิต แปรรูป และจาหน่วยผลิตภัณฑ์สมุนไพร และอาหารเสริมกับ
ผู้รับบริการ

๓) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จงั หวดั เชียงราย เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๑ - วนั เสาร์ที่ ๒๒ มกราคม
๒๕๖๕ ในฐานะผผู้ ลติ แปรรปู และการนาไปใชป้ ระโยชน์ รวมถงึ การวิจยั และนวตั กรรมพชื สมนุ ไพร

๔) วัดเจดีย์หอย จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันศุกร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ในฐานะ
ผู้ผลิต แปรรูปและการนาไปใช้ประโยชน์ในส่วนของชุมชนและประชาชนท่ีสนใจ

๕) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางขุนเทียน) กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันจันทร์ที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๕ ในฐานะผู้วิจัยและนวัตกรรม และการนาเทคโนโลยีมาใช้ในการ
สกัดสารสาคัญจากสมุนไพร

๖) ศูนย์การศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
จงั หวัดสมุทรสงคราม เมือ่ วนั องั คารท่ี ๘ มีนาคม ๒๕๖๕ ในฐานะผูผ้ ลติ แปรรูปการสกัดสารสาคัญ

๗) โรงพยาบาลหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันพุธที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๕
ในฐานะผู้ผลิต แปรรูป การนาไปใช้ประโยชน์ และจาหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรและอาหารเสริมกับ
ผู้รับบริการ

๘) มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรี ในฐานะผู้ดาเนินงาน
เกี่ยวกับการพัฒนาด้านสมุนไพร และโรงพยาบาลดอนตูม จังหวัดนครปฐม วันจันทร์ที่ ๑๔ มีนาคม
๒๕๖๕ ในฐานะผู้ดาเนินงานด้านเมืองสมุนไพรตามโครงการพัฒนาเมืองสมุนไพร

๙) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันอังคารที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๕
ในฐานะผู้ผลิต แปรรูปผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ การสกัดสารสาคัญ และ
การนาไปใช้ประโยชน์ รวมถึงการวิจัยและนวัตกรรมพืชสมุนไพร

๑๐) สมาคมภูมิปญั ญาหมอพ้ืนบ้าน วดั คีรีวงก์ (วดั นา้ ตก) จงั หวดั ชุมพร เม่ือวนั พฤหสั บดที ี่
๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ในฐานะผู้ผลิต แปรรูป และการนาไปใช้ประโยชน์ในส่วนของชุมชนและ
ประชาชนท่ีสนใจ

จากการเดนิ ทางศกึ ษาดูงานสามารถสรปุ ประเดน็ ปัญหา อุปสรรค และขอ้ เสนอแนะ ดังนี้
ปัญหา/อปุ สรรค
๑) อุตสาหกรรมสมุนไพรไทยมีอุปสรรคด้านกฎระเบียบการขึ้นทะเบียนอาหารและยา
ที่มรี ายละเอยี ดมากเกินไปและขั้นตอนท่ีใชเ้ วลานาน
๒) การรักษาแผนปัจจุบนั ร่วมกบั สมนุ ไพรยังขาดการยอมรบั
๓) แพทย์สมัยใหม่ยังไม่มีความเช่ือม่ันในผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพราะผู้บริหารด้าน
สาธารณสุขส่วนใหญ่จะเป็นแพทยแ์ ผนปัจจุบัน โอกาสเข้ามาขบั เคลือ่ นสมุนไพรยงั มีน้อย

๑๘๑

๔) การใช้ฟ้าทะลายโจรยังขาดข้อมูลทางวิชาการและงานวิจัยสนับสนุนเพื่อเกิดความ
เชอื่ มน่ั

๕) การประกาศของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
หรือกองผลิตภัณฑ์สมุนไพร สานักงานคณะกรรมการอาหารและยามีการเตือนเกี่ยวกับการใช้ฟ้าทะลายโจร
แนะนาให้ใช้ในเชิงการป้องกนั ในขั้นต้น แต่รายละเอยี ดของการใช้ของแต่ละแห่งจะไมเ่ หมอื นกันจึงควร
มีการจัดทาเป็นเอกสารวิชาการ (paper) มีตัวเลขสถติ ิท่ีรบั รองจากห้องทดลองหรือจากกลุ่มคนท่ีได้มี
การรักษาจริง ๆ ซึง่ ตอ้ งช่วยกันเพื่อให้มีขอ้ มลู ทีอ่ ้างอิงได้

๖) การใช้กัญชง กัญชา และพืชกระท่อม ยังมีการใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมจึงทาให้
เป็นผลร้ายต่อผู้ใช้ เพราะเป็นการใช้ในลักษณะท่ีไมร่ ู้ทิศทางและไม่มกี ารควบคุม หากมีการประกาศใช้
กฎหมายรองรบั จะทาใหเ้ กิดการควบคมุ ในการใช้ได้ รวมถงึ ปัญหาที่มาของเมล็ดพันธุ์

๗) ปัญหาเร่ืองขาดงบประมาณในการจัดซ้ือเครื่องมือ เคร่ืองจักร และอุปกรณ์ในการ
ผลิตเพ่ิมเติม เพ่ือให้โรงงานผลิตมีมาตรฐานและผลิตได้ในปริมาณมากข้ึน เน่ืองจากปัจจุบันมีความ
ต้องการใช้สมนุ ไพรมากข้นึ

๘) ปัญหาเร่ืองตลาดในการรับซ้ือพืชสมุนไพรจากเกษตรกรมีตลาดรองรับไม่เพียงพอ
เพราะโดยหลกั การตลาด เมื่อมีการผลิตก็ต้องสามารถจาหนา่ ยได้

๙) ปัญหาคลินิกหรือบุคลากรด้านการแพทย์แผนไทยท่ีมีจานวนน้อย เพราะเม่ือ
ประชาชนต้องการรบั การรกั ษาจากแพทยแ์ ผนไทยกไ็ ม่สามารถไดร้ ับการรักษาทเี่ พยี งพอ

๑๐) ปัญหาสมุนไพรกลุ่มเครื่องสาอางมีน้อยกว่าความต้องการท่ีมากขึ้นท้ังในประเทศ
และตา่ งประเทศ

๑๑) ข้อจากัดสาหรับผู้ประกอบการ/เกษตรกร คือ เป็นผ้ปู ระกอบการ/เกษตรกรรายย่อยที่มี
ทุนทรัพย์น้อย อีกทั้งการส่งทดสอบปริมาณสารสาคัญยังมีราคาสูงซ่ึงส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถ
เข้าถึงข้ันตอนนี้ได้ ห้องปฏิบัติการท่ีรับทดสอบและมีมาตรฐาน ยังไม่ครอบคลุมและเพียงพอ
ที่จะให้บริการเกษตรกรท้ังประเทศ และต้องรอนานทาให้เกษตรกรหรือผู้ประกอบการรายย่อย
เขา้ ไมถ่ ึงการบรกิ ารดังกลา่ ว

๑๒) ปัญหาความลา่ ชา้ ของระบบราชการ
๑๓) เกษตรกรส่วนใหญ่ขาดองค์ความรู้ท่ีทาให้ผลผลิตได้มาตรฐานและมีสารสาคัญสูงและขาด
งบประมาณในการสนับสนุน
๑๔) การจาหน่ายยังไม่สามารถทาได้ในทางปฏิบัติ การส่งออกถึงแม้ในกฎหมายอนุญาตให้
ทาได้ แต่ในทางปฏิบัติยังมีข้อจากัดในทางระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกหลายอย่าง กัญชายังไม่
สามารถ นาไปใช้ประโยชนท์ างอาหารและสันทนาการได้
๑๕) การเข้าถงึ ผลติ ภณั ฑจ์ ากสารสกดั กญั ชายังมีความยุ่งยาก และราคาแพง
๑๖) การออกใบอนุญาตใช้ระยะเวลานาน รวมทั้งความล่าช้าในกระบวนทางาน
การออกมาตรฐาน การขออนุญาต การดาเนินการต่าง ๆ ของภาครัฐ และการพัฒนาห รือแก้ไข
กฎหมายตา่ ง ๆ ขาดการเชื่อมโยงกับตน้ ทาง
๑๗) เกษตรกรที่ปลูกสมุนไพรบนท่ีดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ไม่สามารถขอรับการรับรอง
มาตรฐาน GAP ได้ ภาครฐั ควรปรบั ปรงุ กฎระเบียบให้เหมาะสม

๑๘๒

๑๘) สภาพกฎหมายและนโยบายเปล่ียนแปลงตลอด
๑๙) ข้ันตอนการดาเนินงานในการขอ อย.มากเกินความจาเป็นจากคณะทางาน มหาวิทยาลัย
สาธารณสขุ จังหวัด กรรมการอาหารและยาชดุ เล็ก และกรรมการอาหารและยาชุดใหญ่
๒๐) ทศั นคติของคนกล่มุ ใหญ่มองกัญชาเป็นยาเสพติดท้งั ๆ ที่มอี นั ตรายนอ้ ยกวา่ เหลา้ และบุหร่ี
๒๑) นโยบายกัญชง กัญชาของประเทศยังไมช่ ัดเจน ปญั หาการสกัด การผลิต การแปรรูป
เป็นยา อาหาร และเครื่องสาอาง รวมถึงกระแสนยิ มการเรยี นเกย่ี วกบั สมนุ ไพรในมหาวิทยาลยั ลดลง

ข้อเสนอแนะ
๑) สมุนไพรมีประโยชน์ช่วยท้งั การรกั ษา ป้องกัน กระบวนการในการพัฒนาเพ่ือพลิกโฉมสมุนไพร
ควรมคี วามเช่อื มโยงกันต้งั แตต่ น้ ทาง กลางทาง และปลายทาง เพือ่ การทางานอย่างสอดประสานตัง้ แต่
การผลิต การแปรรปู สินค้าและผลติ ภณั ฑ์ ซึ่งสามารถแบง่ ชว่ งหว่ งโซ่ของพืชสมนุ ไพร ดังน้ี

(๑) ต้นทาง เริ่มจากการผลิตสมุนไพรท่ีมีศักยภาพในพื้นท่ีตั้งแต่การปลูก ซึ่งต้อง
ดาเนินการในระบบเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) และเก็บเกี่ยวสมุนไพรแบบถูกต้อง ผู้เก่ียวข้อง คือ
กลมุ่ ผู้ผลติ ได้เสริมศักยภาพ คอื ๑) ด้านการปลกู สมนุ ไพรให้ไดม้ าตรฐาน GAP และ ๒) ให้ความรูด้ า้ น
นวัตกรรมปลูก และการเก็บเกยี่ วสมุนไพร และการใช้การวจิ ยั ในการปลกู จนกระทั่งผลติ สินค้า

(๒) กลางทาง เปน็ ชว่ งนาผลผลิตส่กู ารแปรรปู เพื่อใชป้ ระโยชน์ ผู้ประกอบการควรรับ
ซ้ือผลผลิตทีส่ ะอาด มีสารออกฤทธ์ิทางสมุนไพรสูง โดยใหค้ วามสาคญั กับเกษตรกรและพนักงาน

(๓) ปลายทาง เป็นการสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์สมุนไพร และการส่งเสริม
การตลาดจะตอ้ งสามารถสร้างเป็นนวัตกรรมผลติ ภัณฑ์สมุนไพร มมี าตรฐานระดับสากล ความตอ้ งการ
ของผู้บริโภคหลากหลายประเภททั้งผลิตภัณฑ์อาหารและเคร่ืองด่ืมสมุนไพร เครื่องสาอาง ยาแผน
โบราณ ยาสามัญประจาบ้าน และอาหารเสริม การพัฒนาแผนการตลาดแนวใหม่ การวางแผนการ
ส่ือสารประชาสัมพันธ์ เพื่อตอบรับทุกความต้องการ พัฒนาให้มีความทันสมัยมากขึ้น เข้าถึงได้ทุก
กลุ่มเป้าหมายผ่านตัวแทนจาหน่าย พร้อมท้ังควรมีการพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจสู่ประชาคมเศรษฐกิจ
อาเซียน (AEC) และตลาดต่างประเทศ

๒) การใช้ฟ้าทะลายโจรหากมีข้อมูลทางวิชาการและงานวิจัยสนับสนุนจะทาให้มี
มาตรฐานและเกิดความเช่ือม่ัน หน่วยงานทกุ แห่งทีโ่ รงพยาบาลลงไปเก็บข้อมูลต้องร่วมมือกัน รวมท้ัง
ประชาชนดว้ ย ตอ้ งประกาศให้ทราบว่าฟา้ ทะลายโจรจะป้องกนั และสร้างภมู ิคุ้มกนั ได้หรอื ไม่อย่างไร

๓) ควรเผยแพรห่ นังสือหรอื คมู่ ือต่าง ๆ ของโรงพยาบาล เพื่อใหป้ ระชาชนได้รบั ทราบใน
เบอื้ งต้นสาหรับการเสรมิ ภมู ิคมุ้ กนั สามารถดแู ลรักษาตนเองตามคาแนะนาในเบื้องต้นได้

๔) ควรให้การสนับสนุนในเร่ืองการสร้างความเชอื่ มั่นและการยอมรับของผู้บริโภคตาม
แนวทางขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ยอมรับเรื่องของแพทย์แผน
ไทย ต้องมาวิเคราะห์และกาหนดเป้าหมายร่วมกันโดยควรนางานวิจัยทั้งระบบมาวิเคราะห์ว่าใน
ปัจจุบันมีงานวิจัยท้ังต้นทาง กลางทาง ปลายทาง อย่างไรบ้าง ซึ่งงานวิจัยในเชิงที่เป็นตารับยายังมี
ค่อนขา้ งนอ้ ยแต่งานวิจยั ทเี่ ปน็ เรื่องพชื แตล่ ะชนดิ มีจานวนมากพอสมควรแตย่ ังไมเ่ ชอ่ื มโยงกัน ควรจะมี
การกาหนดเป้าหมายและทางานวิจยั ที่มีอยใู่ หเ้ ชื่อมโยงกนั อยา่ งบูรณาการ

๑๘๓

๕) หลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) จะมี
ขน้ั ตอนตา่ ง ๆ และตารางขอ้ มลู เปรยี บเทียบซง่ึ ใชใ้ นการอ้างอิงเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จะตอ้ ง
ทาเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการขับเคล่ือน แต่ถ้าเป็นเร่ืองการปฏิบัติ (Implement) จะต้องทา
แผนและมีคณะติดตามเพื่อไปร่วมงานกับทางหน่วยงานท่ีปฏิบัติจริงรวมถึงกระทรวงสาธาร ณสุข
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอ่ืน ๆ เพื่อท่ีจะทาให้เกิดการนาไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม
ตอ่ ไป

๖) การส่งเสริมการปลูกต้องมีการบูรณาการร่วมกันของโรงพยาบาล กลุ่มวิสาหกิจ
ชุมชน และกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งต้องมีการกาหนดเป้าหมายท่ีต้องการท่ีชัดเจน คุณภาพและ
คุณสมบตั ิของสมุนไพร เช่น ฟ้าทะลายโจร กัญชง หรือกัญชา

๗) ควรมีการวิจัยด้านความต้องการสมุนไพร เพ่ือที่จะส่งเสริมการปลูกและกระตุ้นการ
ใช้สมุนไพร อีกทั้งต้องสร้างความเชื่อม่ันของการใช้สมุนไพร เม่ือมีความเชื่อม่ันก็จะมีความต้องการใช้
เพิ่มขน้ึ รวมทง้ั ควรมีการประชาสัมพนั ธเ์ พ่อื ให้เกดิ ความต้องการใชส้ มนุ ไพรมากขึ้น

๘) ด้านการตรวจมาตรฐานสมุนไพร ควรมกี ารจัดตั้ง Center of Analysis โดยกาหนด
จุดศูนย์กลางตามภูมิภาคต่าง ๆ ที่สามารถวิเคราะห์ทดสอบพร้อมทั้งออกใบรับรอง เพื่ออานวยความ
สะดวกและสง่ เสริมให้เกษตรกรเข้าถึงการบรกิ ารเพ่อื ยกระดับมาตรฐานสมนุ ไพรมากข้นึ

๙) ควรมีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานรัฐ เช่น กรมวิชาการเกษตร ซ่ึงมีหน้าที่หลัก
ในการให้ความรู้ กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นผู้ดาเนินงานด้านเครือข่ายเกษตรกร ส่วนมหาวิทยาลัย
เปน็ หนว่ ยงานดา้ นการบรกิ ารด้านการตรวจสอบมาตรฐาน สารสาคัญ เป็นตน้

๑๐) การใช้สมุนไพรแม้จะเริ่มจากความเช่ือก่อน แตถ่ ้าเรานาหลักวทิ ยาศาสตร์ซึ่งเป็นสิ่ง
พสิ ูจนไ์ ด้มาชว่ ยในการพัฒนาสมนุ ไพรนั่นกค็ อื งานวิจัยและนวัตกรรม จะช่วยเพม่ิ การยอมรบั และทาให้
มองภาพท่กี วา้ งขนึ้ สมุนไพรก็จะสามารถออกสตู่ ลาดโลกได้ สง่ ผลให้เกิด Demand – Supply เพม่ิ ข้นึ

๑๑) ควรบริหารจัดการโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยให้มีความน่าเชื่อถือ มีการบูรณาการ
การรักษาระหว่างแผนไทยกับแผนปัจจุบัน ซ่ึงข้ึนอยู่กับ Scientific base เช่น ฟ้าทะลายโจร มี
ผลงานวจิ ัยออกมาแล้วว่าสามารถทา viral killing โคโรนาไวรัสสายพันธ์ุ Alpha และ Delta ส่วนสาย
พันธ์ุ Omicron กาลังลังรอผลจากห้องปฏิบัติการ เพราะฉะน้ัน ในส่วนของงานวิจัยท่ีจัดทาโดย
โรงพยาบาลในกระทรวงสาธารณสุขอาจจะไมเ่ ป็นทร่ี จู้ กั แพรห่ ลาย หรือไม่เปน็ ที่นิยม แต่ถา้ เป็นการทา
MOU กับมหาวทิ ยาลยั จะทาให้เพม่ิ ความน่าเชอ่ื ถอื ย่งิ ข้ึน

๑๒) ปัญหาที่พบก็ยังเป็นเร่ืองของพื้นท่ีปลูกสมุนไพรท่ีไม่ได้รับมาตรฐาน เช่น มาตรฐาน
IFOAM

๑๓) การทาให้แผนไทยและแผนปัจจุบันยอมรับการรักษาซึ่งกันและกัน เนื่องด้วยการ
รกั ษาทางแผนไทยยังขาดหลกั ฐานทางวิทยาศาสตร์ ขาดความเช่ือมน่ั จงึ ต้องมีการกาหนดเปน็ นโยบาย
จากนี้ไปเช่ือว่าทุกคนจะเข้าใจเหตุผลในการผลักดันสมุนไพรเพื่อใช้ดูแลสุขภาพ ซึ่งพิจารณาได้จาก
ตวั เลขการใชเ้ งนิ ในส่วนของยานนั้ มากกวา่ อาหาร จงึ มีคาที่วา่ “กนิ ยาเปน็ อาหาร ไม่ใชก่ ินอาหารเปน็ ยา”

๑๔) ควรหาแนวทางทาให้สมุนไพรเป็นท่ียอมรับ และมีมาตรฐาน อย่างกรณีของเกษตร
อินทรีย์ซึ่งมีหน่วยงานที่รับรองน้อย เพราะฉะน้ันควรให้ทางมหาวิทยาลัยและภาคเอกชนช่วยเป็น
หน่วยรับรองเพ่ิมเติม เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นวิสาหกิจชุมชน เป็นชุมชนที่ทาเกษตร ซึ่งใช้

๑๘๔

เวลานานกว่าจะทาให้เกษตรเคมีเป็นเกษตรอินทรีย์ ปัจจุบันน้ีระบบขนส่งเร็วข้ึน ช่วยทาให้กลไกการ
รับรองมาตรฐานสะดวก รวดเร็วขึ้น ถ้า เป็นไปได้ควรมอบหมายให้ ๖ ภูมิภาค เป็นศูนย์กลางรับรอง
มาตรฐาน (๖ แหง่ ) ซงึ่ จะช่วยตอบโจทยแ์ ละสร้าง ความเช่ือมัน่

๑๕) เร่ืองการค้นคว้าเกี่ยวกับสมุนไพร ค่อย ๆ มากขึ้น เมือ่ พบว่าเป็นสง่ิ ท่ีแปลกใหมจ่ ึงมี
การนามาจดสิทธิบัตร จุดประสงค์ของการจดสิทธิบัตรก็เพ่ือนาการวิจัยไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่
ผู้ประกอบการ ปัจจุบันมีงานวิจัยหลายเร่ืองท่ีทางมหาวิทยาลัยไม่ได้จดสิทธิบัตร (Patent) หรือจด
ลขิ สิทธ์ิ (Copyright) เนอื่ งจากเป็นเร่อื งท่ีคลา้ ยกับในท้องตลาด ดงั น้ันผลงานของมหาวทิ ยาลัยจงึ มที ้ัง
มีสิทธิบัตรและไม่มีบางสิทธิบัตรไม่สามารถจาหน่ายได้ เนื่องจากไม่เป็นประโยชน์ทางการค้าแต่เป็น
ประโยชนใ์ นทางวชิ าการ

๑๖) ยอดรวมการจดทรัพย์สินทางปัญญา (IntellecTual Property: IP) นั้นน้อยมาก
เม่อื เทียบกบั ตา่ งประเทศ ดงั น้นั ควรมกี ารหารือเพื่อผลักดันให้มีการจดสิทธิบตั รมากข้นึ

๑๗) งานวิจัยสมุนไพรนนั้ ต้องเป็นงานวิจัยคลินิกซ่ึงมีความยากในข้ันตอนการดาเนินงาน
เช่น การขอจริยธรรมงานวิจัยในมนุษย์ ดังนั้นต้องหาวิธีการท่ีทาให้งานวิจัยสอดคล้องกับสถานการณ์
การระบาดของโรคท่ีรุนแรง และต้องมีการพิจารณาปรับข้อบังคบั ท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือให้งานวิจัยทาได้ง่าย
และรวดเร็วย่งิ ขน้ึ

๑๘) ควรมีการเสริมโมเดลแบบองั กฤษ คอื ใช้ Platform Electronic ในคนไข้กลมุ่ สีเขยี ว
มีคณะกรรมการจริยธรรมพิจารณาว่าปลอดภัยต่อคนไข้ ซึ่งการพิจารณาจริยธรรมงานวิจัยในมนุษย์
ของประเทศไทยจะอนุมัติแบบ Side by side แต่ประเทศอังกฤษใช้ Principle trial โดยให้ทุกคน
ลงทะเบยี นไปยังระบบกลาง แล้วคณะกรรมการจริยธรรมจะอนุมัติให้ทาไดภ้ ายใต้ Protocol เดยี วกัน
มปี ระกาศให้ทราบว่ามีการรักษาแบบใดบ้าง ซงึ่ รายละเอยี ดตา่ งๆ จะมนี กั วิจัยไปอธิบายแก่คนไขแ้ ละคัดเลอื กเข้า
โครงการ จึงเห็นควรว่า ประเทศไทยควรมีกระบวนการหรือกลไกที่อนุมัติการวิจัยได้เร็วขึ้น คิดแบบไดนามิก
ไมว่ ่าจะเกดิ การระบาดทีไ่ หนก็สามารถเอาวธิ กี ารทดลองแบบน้ีไปใชไ้ ด้

๑๙) ควรมีการเชือ่ มลิ้งคข์ อง EC เช่น มีส่วนกลาง หรือส่วนภูมภิ าคที่สามารถสง่ ต่อข้อมูล
เชื่อมกันได้ หรือมีแกนกลางท่ีทางานทั้งส่วนกลางและภูมิภาค หรือมีระบบการให้คาปรึกษา เพราะ
เร่ืองสมุนไพรหรือเร่ืองแพทย์แผนไทยเป็นความสามารถเฉพาะตัวท่ีไม่ได้มีผู้เช่ียวชาญจานวนมาก
เหมือนกบั แผนปัจจุบัน

๒๐) ถา้ จะให้เกิดความเชอ่ื ม่ันต้องมีหลักฐานการทดลองทางคลินิก ซ่ึงจะมีการนัดคุยกัน
ระหว่างผู้ท่ีมีประสบการณ์ด้านน้ีในเรื่องของการวิจัยทางคลินิก เพื่อหาแนวทางการดาเนินงานเกี่ยวกับด้าน
จรยิ ธรรม

๒๑) ตามกฎหมายจะกาหนดให้สานักงานวิจัยแห่งชาติเป็นผู้ดูแลฐานข้อมูลวิจัยทั้ง
ประเทศ แตเ่ น่ืองจากพบปัญหา คือ

(๑) มฐี านข้อมลู หลายแหล่งทาให้ข้อมลู กระจดั กระจายตามฐานข้อมลู ตา่ ง ๆ
(๒) ไม่มีการสังเคราะห์ต่อว่าข้อมูลท่ีมี สามารถนาไปดาเนินการต่ออย่างไรซ่ึงทาง
สกสว. ได้นาขอ้ มลู ท้ังหมดมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และแยกประเดน็ แตล่ ะกลุ่ม

๑๘๕

๒๒) มีสมุนไพรที่อยากแนะนาให้ดาเนินการศึกษาวิจัย คือ ฝิ่น ซึ่งปัจจุบันยังเป็นยาเสพติด
แต่กฎหมายได้ปลดล็อคให้ฝิ่นสามารถวิเคราะห์วิจัยได้ ฝิ่นของไทยมีคุณภาพสูง มีการปลูกท่ีดี ถ้ามี
โอกาสปลูกได้เต็มท่ีจะมีประโยชน์มาก เน่ืองจากปัจจุบันเราซื้อมอร์ฟีนจากอินเดีย ไม่สามารถ
สังเคราะห์เองได้ หากในประเทศสามารถผลิตเองได้จะเป็นประโยชน์มหาศาล โดยนอกจากมอร์ฟีน
หากทาการวิจยั เพิ่มอาจจะพบตวั ยาอน่ื ๆ จากฝิ่นทมี่ ีสว่ นช่วยในการรกั ษา

๒๓) การทาวจิ ัยทสี่ รา้ งความหลากหลายจะต้องตอบโจทย์ความตอ้ งการของตลาดทมี่ งุ่ มนั่
ให้มหาวิทยาลัยร่วมมือกับสถาบันอ่ืน ๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงปัญหาจริยธรรมในมนุษย์ การ
ทางานวิจยั ตา่ ง ๆ ต้องได้มาตรฐาน ไมว่ ่าจะเป็นมาตรฐานห้องปฏิบตั ิการ มาตรฐาน ISO เปน็ ตน้ การ
ทาใหส้ ามารถพัฒนานวัตกรรมทไี่ ดม้ าตรฐาน ไดร้ บั ความนา่ เชอ่ื ถือ เปน็ สากล ใช้ได้ในระดับพาณิชย์น้ัน
คือส่ิงสาคญั ทีร่ ะบบการศกึ ษาต้องเดนิ หน้าตอ่ ไป

๒๔) การสรา้ งความเชอ่ื มน่ั ในการใชผ้ ลิตภัณฑ์สมุนไพร ควรมีการใช้ในลักษณะภูมิปัญญา
ชาวบ้านท่ีต้องสามารถบริหารจัดการแพทย์แผนไทย (แบบโบราณ) กับแพทย์แผนปัจจุบัน ให้ผสม
กลมกลืนกัน ซ่ึงเปน็ การใช้และการรกั ษาต้องใช้แพทย์แผนไทยประยุกต์เขา้ ไปร่วมด้วย

๒๕) การรักษาโดยแพทย์แผนไทยต้องอาศัย “ความไว้เนื้อเช่ือใจ” จากคนไข้เป็นสาคัญ
เม่ือได้รับความไว้เน้ือเชื่อใจและความจรงิ ใจแล้วจะทาให้การเชิญชวนให้นาสมนุ ไพรมาใช้ในการรักษา
ผสมผสานกับการรกั ษาแพทยแ์ ผนปจั จบุ ันในการดูแลรกั ษาคอ่ นข้างประสบผลสาเรจ็

๒๖) การใช้กัญชง กัญชา และพืชกระท่อม การนามาใช้ควรใช้อย่างมีศิลปะจากการ
กาหนดปรมิ าณการใช้ท่ีเหมาะสม ภายใต้ท่ีมีกฎหมายรองรับให้สามารถใช้อยา่ งถูกตอ้ งตามกฎหมาย

๒๗) การใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรควรมีการพัฒนาท่ีต่อเน่ืองจากการกาหนดให้โรงพยาบาล
ทุกแห่งให้มีการส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพร หากดาเนินการได้ดังกล่าวก็จะทาให้เกิดการพัฒนาการใช้
สมนุ ไพรทีย่ ั่งยนื และในอนาคตการรักษาโรคอาจไม่ต้องมารักษาทโ่ี รงพยาบาล แต่เป็นการแนะนาใหใ้ ช้
ยาสมุนไพรในการรกั ษาและตดิ ตามผลได้

๒๘) ควรมีการกาหนดนโยบายจากสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดกาหนดให้ทุก
โรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลสนับสนนุ การใช้ยาสมุนไพร และใชย้ าบางประเภท
แทนการใชย้ าแผนปจั จุบนั

๒๙) ควรร่วมมือกันระหวา่ งภาครฐั และภาคเอกชนเก่ยี วกับการพฒั นาพืชสมุนไพร
๓๐) การประชาสัมพนั ธ์ตอ้ งอาศัยสื่อเอกชนเข้ามาสนบั สนนุ
๓๑) ภาครัฐควรปรบั กฎหมายให้มีความทันสมยั และสอดคล้องกบั สถานการณ์
๓๒) สานักงานคณะกรรมการอาหารและยาควรแนะนาการขออนุญาตผลิตภณั ฑ์สมนุ ไพร
จากสมนุ ไพรไทย
๓๓) ส่งเสริมให้เกิดการวิจัยด้วยการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐ รวมถึงภาครัฐ
ควรสนับสนนุ งบประมาณ รวมทั้งเครอ่ื งมือในการแปรรปู สมุนไพร
๓๔) การขออนุญาต การขนึ้ ทะเบยี นผลิตภัณฑ์สมุนไพรขอให้ลดขัน้ ตอน ลดระยะเวลาใน
การประเมนิ รวมท้ังเอกสารท่ีใชใ้ นการยน่ื ขอข้นึ ทะเบยี น
๓๕) ใหม้ ีหนว่ ยงานแนะนาการเขา้ ถงึ สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา

๑๘๖

๓๖) งานวิจัยเป็นเง่ือนไขสาคัญในการสร้าง “การยอมรับและสร้างความมั่นใจ”
เพื่อเช่ือมต่อไปสกู่ ารนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้จรงิ อย่างกว้างขวาง ดังนนั้ ควรส่งเสริมสนับสนนุ การวิจัยสมนุ ไพรไทย

๓๗) ควรเร่งพัฒนานวัตกรรมท้ังการปลูกสมุนไพรให้ได้คุณภาพสม่าเสมอ ปลอดสารพิษ
ไม่ใช้สารเคมี และต้องมีกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพเป็นท่ียอมรับ มีการวิจัยเพ่ือยืนยันว่าเป็น
ผลติ ภัณฑส์ มนุ ไพรท่ดี จี รงิ ๆ

๓๘) จาเป็นต้องมีการกาหนดและควบคุมมาตรฐานและคุณภาพอย่างเข้มงวด
ผ่านกระบวนการหรือองค์กรต่าง ๆ ท่ีสามารถจะทาได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์การอาหารและยา (อย.)
สมาคมคุม้ ครองผู้บริโภค (สคบ.) กรมวิทยาศาสตร์บริการหรอื กรมโรงงานอุตสาหกรรม

๓๙) ควรมกี ารสอ่ื สารเพ่ือสรา้ งความรู้ทถี่ กู ตอ้ ง ความเขา้ ใจ ความเชือ่ มั่นใหก้ บั ประชาชน
๔๐) ควรเรยี นรู้วา่ ตลาดโลกต้องการอะไร แล้วดาเนินการกาหนดกฎเกณฑ์เพือ่ ผลิตสินค้า
ให้ไดม้ าตรฐาน มีการขนึ้ ทะเบียนตารับยาสมนุ ไพรไทยเพื่อการสง่ ออก
๓.๓.๔ การจัดสัมมนา เรื่อง แนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทยด้วยการวิจัย
และนวัตกรรม

คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรด้วยการวิจัย
และนวัตกรรม วุฒิสภา ได้มีการจัดสัมมนา เร่ือง แนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไยด้วยการวิจัย
และนวัตกรรม เพ่ือรบั ฟงั ความคิดเห็นจากกรรมาธกิ ารวสิ ามัญ ท่ีปรึกษา อนุกรรมาธิการ หน่วยงาน องค์กร
หรือกลุ่มบุคคลท่ีมีส่วนเก่ียวข้องกับการขับเคล่ือนแนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพร ไทยด้วยการวิจัย
และนวัตกรรม โดยมีผู้เขา้ ร่วมประชุม ประกอบด้วย ผ้แู ทนกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนกระทรวงการ
อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทน กระทรวง
อุตสาหกรรม ผู้แทนกระทรวงพาณชิ ย์ ผู้แทนกระทรวงยตุ ิธรรม ผู้ประกอบการ ผู้แทนวิสาหกิจชุมชน
ผแู้ ทนโอทอป ผูแ้ ทนเกษตรกร และประชาชนผสู้ นใจ จานวน ๒ ครง้ั ประกอบดว้ ย

๑) คร้ังที่ ๑ เมอื่ วนั พฤหัสบดีท่ี ๑๗ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๕ ณ ห้องประชุม ๔๐๑ ๔๐๒ - ๔๐๓
ชั้น ๔ อาคารรฐั สภาควบคู่กับการสัมมนาผ่านสอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ (โปรแกรม Cisco Webex Meeting)
สรปุ สาระสาคญั ดงั นี้

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง ประธานคณะกรรมาธิการวสิ ามญั เป็นประธาน
เปิดการสัมมนา โดยได้รับเกียรติจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงสาธารณสุขกล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยกระทรวงสาธารณสุขพร้อมท่ีจะร่วมมือกับทุกภาคส่วน
ในการสนบั สนนุ พืชสมุนไพร โดยเฉพาะการใช้วิจัยและนวตั กรรมมาสร้างมาตรฐาน คุณภาพ และความ
เชือ่ ม่ันให้เกิดความม่ันใจต่อผู้นาไปใช้ประโยชน์ทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศ นอกจากน้ี พลเรือเอกชาญชัย
เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย และนายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมการแพทย์
แผนไทย ได้กล่าวถึงคุณค่าของสมุนไพรไทยในมิติต่าง ๆ และแนวทางการสร้างความเชื่อม่ันและ
ยอมรับการใช้สมุนไพรไทย และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ตระหนักและ
รว่ มกนั ขับเคลือ่ นไปในทศิ ทางและเปา้ หมายเดียวกนั

จากนั้น เป็นการรับฟังความคิดเห็นจากท่ีประชุมกลุ่มย่อยท้ัง ๒ กลุ่ม ทาให้
รับทราบถึงแนวทางการผลิตพืชสมุนไพรตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง การแปรรูป
และการนาสมุนไพรไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านอาหาร อาหารเสริม ยา และเวชสาอาง

๑๘๗

รวมถึงรับทราบปัจจัยสาคัญต่าง ๆ ท้ังด้านคุณภาพ มาตรฐาน กระบวนการท่ีมีผลต่อการพัฒนาพืช
สมุนไพรไทย ตลอดจนรับทราบปัญหา อุปสรรค และกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับต่าง ๆ
ท่ีเอ้ือประโยชน์และเป็นอุปสรรคในการดาเนินงาน รวมท้ังเร่ืองของการสร้างการรับรู้ การโฆษณา
ประชาสัมพันธ์ หรือการสร้างการยอมรับความเช่ือถือ ทัศนคติท่ีดีต่อการใช้ประโยชน์พืชสมุนไพร ทั้ง
ในประเทศและตา่ งประเทศ

๒) ครัง้ ท่ี ๒ เมอื่ วนั พฤหสั บดีท่ี ๒๘ เมษายน ๒๕๖๕ ณ ห้องประชมุ ๔๐๒-๔๐๓ ช้ัน ๔
อาคารรัฐสภาควบคู่กับการสัมมนาผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ (โปรแกรม Cisco Webex Meeting) สาระสาคัญ
สรุปได้ดังนี้

การสัมมนาในช่วงเช้า ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย
ประธานวุฒิสภา เป็นประธานเปิดการสัมมนา โดยมีพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง ประธาน
คณะกรรมาธิการวิสามัญ กล่าวรายงาน จากน้ันเป็นการรับฟังวีดีทัศน์ปาฐกถาพิเศษของพลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ คร้ังที่ ๑๘ เม่ือวันที่ ๒๒
ธันวาคม ๒๕๖๔ และนายสมศักดิ์ เทพสทุ นิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุตธิ รรม ภายหลงั จากการรับฟงั วีดี
ทศั น์และปาฐกถาพเิ ศษแล้ว ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชติ ชลชัย ประธานวุฒสิ ภา คณะกรรมาธิการ
วสิ ามญั และผเู้ ขา้ รว่ มสัมมนา ได้เย่ยี มชมนิทรรศการในบรเิ วณงาน

หลังจากนั้น ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ อุดม คชินทร อดีตรัฐมนตรี
ชว่ ยว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร พลเอก ดนัย มชี ูเวท รองประธานคณะกรรมาธกิ ารวิสามัญ คนท่ีหน่ึง
และพลเอก ไตรโรจน์ ครุธเวโช รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ คนท่ีสอง ได้นาเสนอข้อค้นพบ
ของคณะกรรมาธิการวิสามัญจากการศึกษาสมุนไพรไทยในมิติต่าง ๆ และแนวทางการสร้างความ
เชื่อมั่นและยอมรับการใช้สมุนไพรไทย และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาได้
ตระหนักและร่วมกนั ขบั เคล่ือนไปในทิศทางและเป้าหมายเดยี วกนั

จากน้ัน ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเก่ียวกับแนวทาง
การผลิตพืชสมุนไพรตลอดหว่ งโซ่ ตั้งแตต่ ้นทาง กลางทาง ปลายทาง การแปรรูป และการนาสมนุ ไพร
ไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านอาหาร อาหารเสริม ยา และเวชสาอาง รวมถึงปัจจัยสาคัญต่าง ๆ ทั้ง
ด้านคุณภาพ มาตรฐาน กระบวนการท่ีมีผลต่อการพัฒนาพืชสมุนไพรไทย ตลอดจนปัญหา อุปสรรค
และกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับต่างๆ ท่ีเอ้ือประโยชน์และเป็นอุปสรรคในการดาเนินงาน
รวมท้งั การสรา้ งการรับรู้ การโฆษณา ประชาสมั พันธ์ หรอื การสรา้ งการยอมรับความเช่ือถอื ทศั นคติท่ี
ดตี อ่ การใชป้ ระโยชนพ์ ืชสมนุ ไพร ทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศ

การสัมมนาในชว่ งบ่าย ได้รับเกียรตจิ าก ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง
การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน ประธาน
คณะกรรมการบริหารสานักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวปาฐกถาพิเศษ และรับฟังการ
นาเสนอ หัวข้อ “เจาะลึกการวิจัยและการต่อยอดภูมิปัญญาไทยเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทย”
โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ กรรมาธิการวิสามัญ นาเสนอข้อค้นพบในการ
จัดลาดับความสาคัญของงานวิจัยสมุนไพรไทยและการนาไปใช้ประโยชน์ นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์
รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ คนท่ีสาม นาเสนอข้อกฎหมายท่ีเป็นปัญหา อุปสรรค
และข้อเสนอแนะต่อฝ่ายบริหาร และนายแพทย์กุลธนิต วนรัตน์ ผู้อานวยการสานักงานวิจัย

๑๘๘

การแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นาเสนอการวิจัยต่อยอดภูมิ
ปัญญาไทยเกยี่ วกับการใช้สมุนไพรอยา่ งเปน็ ระบบ

จากนั้น ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้แลกเปล่ียนความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ
ปญั หา อปุ สรรคขอ้ เสนอแนะต่องานวิจัยและกฎหมายท่เี กย่ี วข้องกบั งานวิจัย

ท้ังนี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญได้จัดทาสรุปผลการสัมมนาและนาข้อคิดเห็นและ
ข้อเสนอแนะทไี่ ด้รับจากสมั มนาไปจัดทาเปน็ ขอ้ เสนอเชิงนโยบายในบททีจ่ ะกล่าวถงึ ต่อไป

๓.๔ การรวบรวม วิเคราะห์ และสังเคราะหข์ ้อมูล

คณะกรรมาธิการวิสามัญได้รวบรวมข้อมูลจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวกับ การประชุม
คณะกรรมาธกิ าร การประชมุ คณะอนกุ รรมาธิการ ท้ัง ๒ คณะ การเชญิ ผทู้ รงคณุ วุฒิจากหน่วยงานท่เี กีย่ วข้อง
มาให้ข้อมูล การเดินทางไปศึกษาดูงาน การสัมภาษณ์ผู้แทนกลุ่มชุมชนเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน / โอ
ทอป โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย และภาคเอกชนท่ีมีการดาเนินงานเก่ียวกับการผลิต การแปรรูปพืช
สมุนไพรและการนาไปใชป้ ระโยชน์ รวมทั้งการจัดสัมมนา เรื่อง แนวทางการพลกิ โฉมสมุนไพรไทยด้วยการ
วิจัยและนวัตกรรม เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เก่ียวข้องท้ัง ๒ คร้ัง จากนั้นจึงนา
ข้อมูลท่ีได้รับท้ังหมดมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และจัดทาเอกสารรายงานการพิจารณาศึกษาแนว
ทางการพลิกโฉมพืชสมนุ ไพรไทยด้วยการวจิ ยั และนวตั กรรมตอ่ ไป

๑๘๙

บทท่ี ๔
ผลการพจิ ารณาศกึ ษา

ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบด้านสมุนไพรอย่างมากเน่ืองจากมีภูมิปัญญาด้านสมุนไพรมาช้านาน
กอปรกับมีพืชสมุนไพรกว่า ๑,๘๐๐ ชนิด ที่คาดว่าจะสามารถนาไปใช้ประโยชน์เชิงอุตสาหกรรม
และพาณิชย์ได้ อีกท้ังปัจจุบันกระแสนิยมดูแลรักษาสุขภาพโดยเฉพาะวิถีธรรมชาติได้รับความนิยม
เพ่ิมขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สมุนไพรและผลิตภัณฑ์กลายเป็นที่ต้องการของท่ัวโลก โดยมีมูลค่า
การบริโภคกว่า ๕๔,๙๕๗ ล้านดอลลาร์สหรัฐ แสดงให้เห็นว่าโอกาสทางการตลาดสาหรับสมุนไพร
และผลิตภัณฑ์มีอยู่มากมาย อยา่ งไรก็ตามไทยยังไม่สามารถสร้างรายได้และผลประโยชน์ให้แก่ประเทศ
และผู้ที่เก่ียวข้องตลอดห่วงโซ่ได้เท่าท่ีควร ดังน้ันความท้าทายท่ีสาคัญของไทย คือ ทาอย่างไร
จึงจะพลิกโฉมให้สมุนไพรเป็นอีกตัวขับเคล่ือนหนึ่งท่ีจะทาให้ไทยสามารถปรั บเปล่ียนไปสู่ประเทศ
ทมี่ ีรายไดส้ งู รวมถึงยกระดับมลู คา่ เพ่ิมไปสู่ผมู้ ีส่วนได้ส่วนเสยี ให้มากขนึ้ ครอบคลมุ ทั้งระบบ

ในการพิจารณาศึกษาน้ี คณะกรรมาธิการวิสามญั ศกึ ษาแนวทางการพลิกโฉมพืชสมุนไพรไทยด้วย
การวจิ ยั และนวัตกรรม วุฒิสภา จงึ ได้รวบรวม วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ข้อมูล การอภิปรายกล่มุ ย่อย (Small
Group Discussion) การสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) การสัมมนา และการศึกษาดูงาน
เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา โดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงคุณภาพ ( Qualitative Research)
ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิจากเอกสาร งานวิชาการ และการประชุม
ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องตลอดห่วงโซ่คุณค่าสมุนไพรและผลิตภัณฑ์ต้ังแต่ต้นทาง กลางทาง
และปลายทาง ดังท่ีได้กล่าวถึงในบทที่ ๓ เพื่อให้ทราบถึงปัญหาอุปสรรคและข้อคิดเห็นด้านการผลิต
พืชสมุนไพร วิจัยและนวัตกรรม และการนาไปใช้ประโยชน์ รวมท้ังด้านกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ
ข้อบังคับ มาตรฐานอาหารและยา สิทธิบัตร/สิทธิประโยชน์ การคุ้มครองผู้บริโภค การตลาดและ
การประชาสมั พนั ธ์

จากผลการดาเนินงานพบว่าประเด็นปัญหาสาคัญของสมุนไพรไทยยังคงติดปัญหาหลายประการ
ตัง้ แต่ตน้ ทาง ไดแ้ ก่ กลมุ่ เกษตรกร วสิ าหกจิ ชุมชน สถานศึกษา หนว่ ยงานภาครฐั มูลนิธิ วัด ภาคเอกชน
ที่มีส่วนเก่ียวข้องในการผลิตวัตถุดิบพืชสมุนไพร กระบวนการปลูก การควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน
แหล่งน้า สภาพดิน ความสะอาด การจัดเก็บรักษา การควบคุมความชื้น อุณหภูมิท่ีเหมาะสม ตลอดจน
การควบคุมระบบการปลูกพืชสมุนไพรให้ได้มาตรฐานไม่มีการปนเป้ือนของสารเคมี กลางทาง ได้แก่
ผผู้ ลิต ผู้ประกอบการ หน่วยงานของรฐั รวมถึงหน่วยงานวิจยั สถาบันการศึกษา ทั้งปญั หาด้านกฎหมาย
กฎ ระเบียบในการควบคุม ปัญหาการขาดองค์ความรู้เร่ืองหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีดีในการผลิต
(Good Manufacturing Practices: GMP) การเข้าถึงข้อมูล งานวิจัยและทุนสนับสนุนงานวิจัย
ขาดห้องปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบ เป็นต้น ปลายทาง ได้แก่ ฝ่ายที่ทาการตลาด ผู้ขาย
ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ปัญหาด้านกฎหมาย กฎ ระเบียบในการโฆษณาเกินจริง ขาดความเช่ือมั่น
การควบคุม ปัญหาด้านการยอมรับ ปัญหาด้านความสะดวก การนามาใช้ ปัญหาการแข่งขันทางการค้า
การจดสิทธิบัตร ความเช่ือม่ันขององค์กรทางการแพทย์ สาธารณสุข การถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ
ในการใช้สมุนไพรทถี่ ูกตอ้ ง

๑๙๐
แผนภาพท่ี ๑๖ ปญั หาและการแกไ้ ขปญั หา ดา้ นสมนุ ไพรวิจยั และนวตั กรรม และการนาไปใชป้ ระโยชน์

๑๙๑

ดังนั้น ความท้าทายที่สาคัญของไทย คือ ทาอย่างไรจึงจะพลิกโฉมให้สมุนไพรเป็นตัวขับเคล่ือน
หน่ึงที่จะทาให้ไทยสามารถปรบั เปลี่ยนไปสู่ประเทศท่ีมีรายไดส้ ูง รวมถงึ ยกระดบั มูลคา่ เพิ่มไปสู่ผู้มสี ่วนได้
สว่ นเสยี ใหม้ ากขึน้ ครอบคลุมทั้งระบบด้วยวิจยั และนวัตกรรม

แผนภาพท่ี ๑๗ Road map แนวทางการพลกิ โฉมพชื สมุนไพรไทยด้วยการวจิ ยั และนวัตกรรม

๑๙๒

๔.๑ ผลการพิจารณาศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา
แนวทางการพลิกโฉมพชื สมนุ ไพรดว้ ยการวิจัยและนวัตกรรม วฒุ สิ ภา

๔.๑.๑ ข้อคน้ พบ สภาพปญั หาและอปุ สรรคที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร
๑) ข้อค้นพบ สภาพปัญหาและอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร กลุ่มพืชสมุนไพร

product champion กลุม่ พชื สมนุ ไพรที่มคี วามนา่ สนใจในปัจจุบัน และกลมุ่ พชื สมนุ ไพรที่มีศักยภาพ
กลุ่มที่ ๑ สมนุ ไพรในกลุ่ม Product champion
ประกอบดว้ ยสมุนไพรที่มศี ักยภาพที่โดดเดน่ ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน กระชายขาว

กระชายดา ไพล มะขามป้อม บัวบก กวาวเครือขาว พริก กระเจ๊ียบแดง หญ้าหวาน และว่านหางจระเข้
มีการทาวิจัยและพัฒนาตั้งแต่การปลูก และการวิจัยเพ่ือพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรจานวนมาก
มีการใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางในกลุ่มประชาชนท่ัวไป ซ่ึงผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่วางจาหน่าย
ในรูปวตั ถุดบิ โดยการนาส่วนของพชื สมนุ ไพร เชน่ ใบ ดอก ผล เหงา้ ราก หรอื ตน้ มาทาการหั่น อบ บด
และบรรจุลงในแคปซูล และบางส่วนได้รับการพัฒนาไปเป็นสารสกัดของพืชสมุนไพรนั้น ๆ เพื่อเพ่ิม
ประสทิ ธิผล และขนาดที่รบั ประทานนอ้ ยลง เปน็ การเพ่มิ ความสะดวกในการใช้

แผนภาพที่ ๑๘ ขอ้ คน้ พบจากการพิจารณาศกึ ษา กลุ่มที่ ๑ สมนุ ไพรใน Product Champion

๑๙๓

แต่อย่างไรกต็ าม มี ปัญหาทตี่ อ้ งแก้ไข ดงั นี้
๑. วัตถุดิบสมุนไพร ประเทศไทยยังต้อง นาเขา้ วตั ถุดิบสมนุ ไพรจากตา่ งประเทศ เนือ่ งจาก

๑.๑ ประเทศไทยยังให้ความสาคัญน้อยตอ่ คุณภาพและความปลอดภยั ของวัตถุดิบสมนุ ไพร
ในขณะท่ีวัตถุดิบสมุนไพรจากต่างประเทศได้รับการควบคุมมาตรฐาน ทั้งด้านความสะอาด ปริมาณ
สารสาคญั สารปนเปื้อนจากเชอื้ โรค ยาฆา่ แมลง และโลหะหนกั

๑.๒ ปริมาณผลผลิตวัตถุดิบในประเทศไม่แน่นอน เกษตรกรเน้นการปลูกตามฤดูกาล
และมกี ารเปลี่ยนแปลงการปลกู พืชสมนุ ไพรตามกระแสของผ้ใู ช้ เมือ่ มีความตอ้ งการสมนุ ไพรชนดิ ใดมากข้ึน
กจ็ ะปลูกพืชสมุนไพรชนดิ นน้ั โดยไม่ได้คานึงถึงคุณภาพ นาไปสปู่ ญั หาพืชสมนุ ไพรล้นตลาด

๒. คุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สมุนไพรในท้องตลาด ผู้ประกอบการ
ส่วนใหญ่ยังขาดความเข้าใจในการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพร ทาให้ผลิตภัณฑ์ขาดคุณภาพ และมักผลิต
พืชสมุนไพรเดิม ๆ ที่มีอยู่แล้ว ไม่ทาการวิจัยหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่หรือสมุนไพรชนิดใหม่
ส่งผลใหข้ าดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สมุนไพรในท้องตลาด

๓. การวิจัยและพัฒนาพืชสมุนไพรไปเป็นยา อาหารเสริม เคร่ืองสาอาง ยังมีน้อย และ
ประชาชนยังนิยมที่จะใชน้ อ้ ย ทงั้ ๆ ท่ีสมนุ ไพรหลายชนิดท่มี คี วามน่าสนใจท่ีจะไดร้ บั การพฒั นาศกั ยภาพ

๔. การโฆษณาสรรพคุณเกินจริงของสมุนไพร ทาให้เกิดความเข้าใจผิด และเป็นการลด
ความน่าเชือ่ ถือของสมุนไพรไทย

กลุ่มที่ ๒ กล่มุ พืชสมุนไพรทีม่ ีศักยภาพ
ได้แก่ พลูคาว มะนาว ขิง ข่า มะลิ อัญชัน กระเทียม หอมแดง ฟักทอง พริกไทย
มะกรูด งาขาว งาดา สะเดา ตะไคร้ และมะระขีน้ ก
แผนภาพที่ ๑๙ ข้อคน้ พบจากการพจิ ารณาศกึ ษา กลุ่มที่ ๒ กลมุ่ สมุนไพรท่มี ีศกั ยภาพ

๑๙๔

กลมุ่ น้ีเป็นกลุม่ พชื สมนุ ไพรที่มีความตอ้ งการในตลาดสงู โดยปกติใชเ้ ป็นอาหาร หรืออยู่
ในสว่ นประกอบของอาหาร แตใ่ นปจั จบุ ันมีการนามาแปรรูปเป็นผลิตภณั ฑ์ต่าง ๆ จานวนมาก เกษตรกร
มคี วามร้คู วามเข้าใจเปน็ อยา่ งดี ในเรอื่ งสายพนั ธุ์ วธิ ีการปลกู การดแู ลรักษา และการเกบ็ เก่ียว เนอ่ื งจาก
เป็นพืชสมุนไพรท่ีมีอยู่ในท้องถิ่นของไทยและมีและมีประวัติการใช้มาอย่างยาวนาน บางชนิดมีการใช้
ในโรงพยาบาลและถูกบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปัญหาสาคัญคือ สมุนไพรกลุ่มน้ีมักนิยมใช้ใน
รูปแบบวัตถุดิบบรรจุในแคปซูล ยังไม่มีความหลากหลายของรูปแบบผลิตภัณฑ์ และยังขาดการวิจัย
ในมนุษย์เพ่ือใช้ในการสง่ เสริมสขุ ภาพและรกั ษาโรคเร้อื รงั

กลุม่ ท่ี ๓ กลุม่ สมนุ ไพรที่มีความนา่ สนใจในปจั จบุ นั
คือ กัญชา กัญชง และกระท่อม ปัจจุบันสมุนไพรกลุ่มน้ีมีความต้องการมากทั้งในประเทศ
และต่างประเทศ และมีผู้ให้ความสนใจในการพัฒนาเป็นอย่างมาก พืชสมุนไพรในกลุ่มน้ีเคยเป็นพืช
ทอี่ ยใู่ นพระราชบัญญตั ิยาเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ จงึ มีข้อจากัดในการปลูก และการผลติ ปัจจุบันไดม้ ี
การประกาศใหก้ ัญชา กัญชง และกระทอ่ ม ไม่จดั เป็นสารเสพติดให้โทษ สามารถปลูก จาหน่ายและผลิต
ได้ตามข้อกาหนดของสานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา
พืชสมุนไพรกลุ่มกัญชาและกัญชง มีการใช้ทางการแพทย์ในต่างประเทศ เพ่ือบรรเทา
อาการของโรค เช่น แก้ปวดในผู้ป่วยมะเร็ง หรือรักษาอาการชักจากโรคลมชักชนิด Lennox-Gastaut
syndrome แต่ในประเทศไทยยังมีการศึกษาวิจัยการใช้น้อย นอกจากนี้คุณภาพของวัตถุดิบยังไม่ได้
มาตรฐานตามความต้องการของผู้ท่ีจะนาไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ส่วนในด้านเกษตรกรรม การปลูก
กัญชาและกัญชง ยังขาดสายพันธุ์ที่ให้ปริมาณสารสาคัญสูงและทนทานต่อสภาพแวดล้อมของประเทศไทย
รวมทง้ั เกษตรกรยังขาดทกั ษะในการปลูกและเก็บเกยี่ วทด่ี ี ท่จี ะคงคุณภาพของกัญชาและกญั ชงไว้
ในส่วนของกระท่อมนั้น เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยนิยมใช้
เพ่ือการบรรเทาอาหารปวด ปรับอารมณ์ และลดการเสพติดของยาเสพติดชนิดอื่น นอกจากน้ี
ยังมีสรรพคุณท่ีอยู่ในระหว่างการวิจัย คือการทาให้รู้สึกสดช่ืน ลดระดับน้าตาลในเลือด และต้านอาการ
ซมึ เศร้า แตป่ ญั หาของกระทอ่ มในปัจจบุ นั คอื มีการอนญุ าตใหจ้ าหน่ายในรูปแบบวตั ถุดบิ เท่านนั้ เชน่ ตน้
ใบ ดังน้ันแม้ว่าจะมีงานวิจัยเพ่ือพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกระท่อมมากน้อยเพียงใด แต่หากไม่มีช่องทาง
ในการขนึ้ ทะเบียนเพื่อจาหน่าย ก็จะเปน็ อปุ สรรคสาคญั ในการพฒั นาพชื สมนุ ไพรชนิดนี้

๑๙๕

แผนภาพที่ ๒๐ ขอ้ ค้นพบจากการพจิ ารณาศกึ ษา กล่มุ ที่ ๓ สมุนไพรทมี่ คี วามน่าสนใจในปจั จบุ ัน

๒) ข้อค้นพบ สภาพปัญหาและอุปสรรคท่ีเก่ียวข้องกับสมุนไพร ตั้งแต่การปลูก การแปรรูป
เปน็ ผลติ ภณั ฑส์ มนุ ไพร ตลอดจนการตลาดและการนาเขา้ -ส่งออกวัตถุดิบและผลติ ภณั ฑ์

การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรจะต้องมีการคานึงถึงห่วงโซ่อปุ ทานของธุรกิจสมุนไพร ตั้งแต่
ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยต้องระบุปัญหาและอุปสรรคของแต่ละส่วนให้ได้อย่างชัดเจน
เพอ่ื หาแนวทางในการแกไ้ ขและพฒั นาพืชสมนุ ไพรให้ครบวงจรของหว่ งโซ่

๒.๑ ต้นทาง กลุ่มที่เก่ียวข้อง ได้แก่ กล่มุ เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สถานศึกษา หน่วยงาน
ภาครัฐ มูลนิธิ และภาคเอกชน ท่เี กยี่ วข้องในการผลิตวัตถดุ บิ พืชสมนุ ไพร เช่น การเพาะปลูกพชื สมุนไพร
การคัดเลือกสายพันธ์ุ การเก็บเกี่ยว และการแปรรูปพืชสมุนไพรขั้นต้น ซ่ึงปัญหาสาคัญของ ต้นทาง
ในสว่ นของเกษตรกร และวสิ าหกิจชมุ ชน คอื

๒.๑.๑ การพัฒนาการเกษตรแบบด้ังเดิมไปเป็นการเกษตรรูปแบบใหม่ เกษตรกร
ส่วนใหญ่ยังขาดความพร้อมในการเปลี่ยนแปลง ขาดองค์ความรู้ และขาดความเข้าใจถึงเหตุผลในการ
เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเพาะปลูก การเกษตรแนวใหม่มีการกาหนดมาตรฐานในการคัดเลือกสายพันธ์ุ
การปลูก การดูแล และการเก็บเกี่ยวซ่ึงต้องใช้องค์ความรู้เรื่องมาตรฐาน GxP series industry
standard คอื มาตรฐานการปฏบิ ตั ทิ างการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) มาตรฐาน
การปลูกและการเก็บเกี่ยวรวบรวมที่ดีของพืชสมุนไพร ( Good Agricultural and Collection
Practices: GACP) แนวปฏิบัติในการแปรรูปสมุนไพรท่ีดี (GHPP) ซ่ึงในปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลเร่ือง
มาตรฐานต่าง ๆ สาหรับเกษตรในประเทศไทยยังเป็นเรื่องยาก และยังขาดความเข้าใจเร่ืองมาตรฐาน
เหตุผลและความสาคัญในการปฏิบัติตามมาตรฐาน และนโยบายการส่งเสริมการเกษตรของภาครัฐท่ี

๑๙๖

ไม่แน่นอน ไม่สามารถรับประกันราคาหรือโอกาสในการขายผลผลิตให้กับเกษตรกรได้ ขาดการส่งเสริม
อย่างตอ่ เนอื่ ง จงึ สง่ ผลให้เกษตรกรขาดความเชอื่ ม่นั ในนโยบายที่ภาครัฐกาหนด

๒.๑.๒ ปรมิ าณสารสาคัญในพชื สมนุ ไพร ท่ถี กู กาหนดโดยผปู้ ระกอบการ หรือนายทนุ
เกษตรกรยังขาดความรู้และความเข้าใจเร่ืองสารสาคัญหรือการวิเคราะห์สารสาคัญ นอกจากนี้การส่ง
ตรวจปริมาณสารสาคญั ยงั มรี าคาสูง ซงึ่ สง่ ผลใหเ้ กษตรกรไม่สามารถเข้าถึงขั้นตอนน้ไี ด้

๒.๑.๓ การแปรรูปขั้นต้นของพืชสมุนไพร เช่น การหั่น บด อบ ทาเป็นผงละเอียด
หรอื การบรรจุผลิตภัณฑท์ ี่มคี ุณภาพ อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการแปรรูปมีราคาสูง และการใหบ้ รกิ ารของภาครัฐก็มีน้อย
หรือเคร่ืองมือบางชนิดต้องนาเข้าจากต่างประเทศ และถึงแม้ว่าจะมีการส่งเสริม มีศูนย์กลาง
ท่ีมีเคร่ืองมือการแปรรูปให้ทดลองใช้จากภาครัฐ แต่ก็ไม่ได้ครอบคลุมเกษตรกรทั้งประเทศ ส่งผลให้
เกษตรกรบางกลุ่มไม่สามารถแปรรูปพืชสมุนไพรได้อย่างมีมาตรฐาน นอกจากน้ียังไม่มีการกาหนด
มาตรฐานการปลูกที่ชัดเจน บางท่ีปลูกในพื้นที่ต่างกันเป้าหมายการปลูกต่างกัน และไม่มีมาตรฐาน
แยกเฉพาะพืชสมุนไพรแตล่ ะชนดิ และในกลมุ่

๒.๑.๔ การวิจัยและการใช้ผลงานวิจัยให้เกิดประโยชน์ สถานศึกษาและหน่วยงาน
ภาครัฐเป็นแหล่งผลิตงานวิจัยเกี่ยวกับพืชสมุนไพร มีงานวิจัยจานวนมากท่ีได้รับการตีพิมพ์แต่ไม่ได้รับ
การตอ่ ยอดไปผลิตเป็นผลติ ภัณฑ์ เนอื่ งจากการวจิ ัยขาดเงนิ ลงทุนตอ่ ในขน้ั ตอนการศึกษาความปลอดภัย
และประสิทธภิ าพทั้งในสัตว์และในมนษุ ย์ ขาดความรูใ้ นการขออนุญาตในการวิจัยในมนุษย์ งานวจิ ยั ท่ีทา
ไม่ตรงตามความต้องการของผปู้ ระกอบการ มงี านวิจัยท่ตี ่อยอดไดแ้ ต่ขาดการเช่อื มโยงกบั ผูป้ ระกอบการ
จึงทาให้ผลิตภัณฑ์ในหน่วยงานวิจัยต่าง ๆ เป็นการผลิตท่ีอยู่ในระดับห้องปฏิบัติการ บางคร้ังการวิจัย
ยังใช้วัตถุดิบท่ีนาเข้ามาจากต่างประเทศเนื่องจากมีการควบคุมคุณภาพ ซ่ึงสารสาคัญมักจะแตกต่าง
จากวัตถุดิบในประเทศท่ีขาดคุณภาพ ทาให้ยากต่อการนาผลงานวิจัยไปใช้ นอกจากน้ีการวิจัย
ในห้องปฏิบัติการไม่ได้รับการขยายขนาดไปผลิตในระดับอุตสาหกรรม หรือบางครั้งพบว่า
เมื่อขยายขนาดการผลิตไปเป็นระดับอุตสาหกรรมแล้วไม่ สามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ได้
เน่ืองจากต้องปรับปรุงและแก้ไข และยังขาดองค์ความรู้ด้านธุรกิจ ขาดความเข้าใจเร่ืองการตลาด
ของพืชสมนุ ไพร ขาดความรู้ดา้ นการข้ึนทะเบียนผลิตภัณฑอ์ ีกดว้ ย

๒.๒ กลางทาง กลุ่มท่ีเกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ หน่วยงานของรัฐ รวมถึง
หน่วยงานวิจัย และสถานศึกษา ซ่ึงเป็นผู้รับผลิตผลจากต้นทางมาวิจัยและพัฒนาหรือนามาผลิต
เป็นผลติ ภัณฑ์ตอ่ ปญั หากลางทางสว่ นใหญ่จึงมักเปน็ ปญั หาท่ีตอ่ เนอื่ งมาจากตน้ ทาง คอื

๒.๒.๑ ปัญหาคุณภาพวัตถุดิบพืชสมุนไพรท่ีไม่ตรงตามมาตรฐาน ทาให้ต้องพ่ึงพา
การนาเข้ามากกว่าการใช้สมุนไพรในประเทศ เนื่องจากสมุนไพรที่นาเข้าจากต่างประเทศมีมาตรฐาน
ทต่ี รงตามความต้องการและมีปริมาณสารสาคัญที่แนช่ ัด ง่ายต่อการนามาวจิ ัยและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์
นอกจากนีห้ ากวตั ถดุ ิบทไ่ี ดม้ ามคี ณุ ภาพดีการควบคมุ คณุ ภาพการผลิตก็ทาไดง้ า่ ยขนึ้

๒.๒.๒ ปัญหาถัดไปของผู้ประกอบการ คือ การขาดองค์ความรู้ ความเช่ียวชาญในการ
พัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร จึงเน้นทาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในรูปแบบอาหาร หรือแปรรูปข้ันต้น เช่น
การล้าง ห่ัน อบ และทาเปน็ ผงสมนุ ไพร และนอกจากน้ียงั ขาดองคค์ วามรู้เร่ืองหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีดี

๑๙๗

ในการผลิต (Good Manufacturing Practices: GMP) ทาให้ไม่สามารถสร้างสถานท่ีผลิตท่ีมีมาตรฐาน
และมกี ารผลิตทีค่ วบคุมคุณภาพได้

๒.๒.๓ ปัญหาด้านการใช้ผลงานวิจัย ในส่วนของหน่วยงานวิจัยช่วงกลางทาง
พบปัญหา คือ งานวิจัยพืชสมุนไพรที่ทาการพัฒนาน้ันยังไม่ตรงตามความต้องการ หรือเป็นงานวิจัยท่ีมี
ความซบั ซอ้ น ยากต่อการนามาตอ่ ยอด และขาดการเชอ่ื มโยงกบั ผู้ประกอบการจึงไมส่ ามารถขยายขนาด
การผลิตได้ อีกส่วนคือการเชื่อมโยงระหว่างนักวิจัยหรือหน่วยงานวิจัยกับผู้ประกอบการ มีอุปสรรค
ท้ังเร่ืองการเข้าถึงข้อมูลและการรักษาความลับของงานวิจัย มีปัญหาเร่ืองการให้ทุนสนับสนุนงานวิจัย
ขาดผเู้ ช่ยี วชาญในการพฒั นาและต่อยอดงานวิจยั

๒.๒.๔ ปัญหาด้านนโยบายและการเข้าถึงข้อมูลของรัฐ นโยบายการส่งเสริมสนับสนุน
ผู้ประกอบการยังไม่ชัดเจน แผนการพัฒนามีจานวนมากและขาดการเช่ือมโยง ขาดการประชาสัมพันธ์
ข้อมูลและความรู้ทถี่ ูกต้องให้กับประชาชน การเขา้ ถงึ ขอ้ มูลจากภาครฐั ทาได้ยาก การพัฒนาฐานข้อมลู
ยังไม่ทันสมัยและทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากน้ียังมีความล่าช้ากระบวนทางานของภาครัฐ
มหี ลายขน้ั ตอน เชน่ การออกมาตรฐาน การขออนุญาต การดาเนินการต่าง ๆ นอกจากน้ีการพฒั นาหรอื แก้ไข
กฎหมายต่าง ๆ ยังขาดการเช่ือมโยงกับกลางทางและภาคเอกชนเพื่อสร้างความรว่ มมอื

ดังนั้นภาครัฐ ควรมีการส่งเสริมด้าน สถานท่ีสาหรับตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบ
สมุนไพร พืชสมุนไพร และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ท่ีมีมาตรฐานรองรับ โดยเพิ่มห้องปฏิบัติการท่ีผ่าน
การรับรองมาต รฐานแ ละได้รับการยอมรับจาก สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้สามารถ
นาข้อมูลไปขึ้นทะเบียนได้ โดยหอ้ งปฏิบัติการจะต้องสามารถตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบ ตรวจสอบชนิด
และปริมาณสารสาคัญของสมุนไพร ปัจจุบัน มีห้องปฏิบัติการที่รับทดสอบและมีมาตรฐาน
ยังไม่ครอบคลุมและเพียงพอท่ีจะให้บริการเกษตรกรท้ังประเทศ รวมท้ังค่าใช้จ่ายสูงมีราคาสูง
ทาให้เกษตรกรหรอื ผปู้ ระกอบการรายยอ่ ยไม่สามารถเขา้ ถงึ การบริการดังกล่าว (แผนภาพท่ี ๒๑)

๑๙๘
แผนภาพท่ี ๒๑ สถานท่รี ับทดสอบคณุ ภาพวัตถดุ ิบและผลิตภัณฑส์ มนุ ไพรในประเทศไทย

๒.๓ ปลายทาง กลุ่มท่ีเกี่ยวข้อง ได้แก่ ฝ่ายท่ีทาการตลาด ผู้ขาย ผู้ใช้ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร
ซ่ึงปัญหาท่ีพบคือ สมุนไพรบางชนิดมีการโฆษณาท่ีเกินจริง โอ้อวดสรรพคุณ รักษาได้หลากหลายโรค
ทาให้บุคลากรทางการแพทย์ หรือกลุ่มคนทั่วไปมองภาพลักษณ์ของสมุนไพรเป็นผลิตภัณฑ์ท่ีรักษา
ครอบจักรวาล ไมม่ สี รรพคณุ ทแ่ี น่นอนและไมม่ ีงานวิจัยมาแสดงว่ามีประสทิ ธภิ าพดงั ทโี่ ฆษณา ขาดการสง่ เสรมิ
การสร้างภาพลักษณ์ของสมุนไพรให้ทันสมัย และมีความน่าเชื่อถือนอกจากน้ีในการทาตลาดของผู้ขาย
หากสมุนไพรไม่มีสรรพคุณท่ีชัดเจนก็จะทาการตลาดได้ยาก รวมทั้งการรับรู้เกี่ยวกับเคร่ืองหมาย
มาตรฐานท่ไี ด้รับการรับรองคุณภาพและมาตรฐานสาหรับสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรยังมีอยูอ่ ย่างจากัด
ผู้ใช้ส่วนใหญไ่ ม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรต้องมีมาตรฐานใดบ้างจึงจะได้ช่ือว่ามีคณุ ภาพ ประสทิ ธิภาพ
และความปลอดภัย สาหรับการสนับสนุนจากภาครัฐในสมุนไพรกลุ่ม Product champion ยังขาด
การสนับสนนุ ทเี่ ปน็ รูปธรรม ขาดการกาหนดมาตรการการสนับสนนุ ทเ่ี หมาะสมและตรงกบั สถานการณ์


Click to View FlipBook Version