The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รูปเล่มหนังสือ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by fern.22game, 2022-03-05 23:31:19

รูปเล่มหนังสือ

รูปเล่มหนังสือ

1

2

รายวชิ า 1123708 การพฒั นาหน่วยการเรียนรู้สาหรับบทเรียนภาษาองั กฤษ
หน่วยการเรียนรู้ เร่ือง The Easy Conjunctions Style by You
นาเสนอโดย
นางสาววริศรา พลายสายทอง
รหัสนักศึกษา 61111596020
ช้ันปี ท่ี 4 ห้อง 1 สาขาวชิ าภาษาองั กฤษ
อาจารย์ท่ีปรึกษา ผู้ช่วยศาสตราจารย์วนั วิสาข์ พลู ทอง
ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศึกษา 2564
คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์

3

คานา

หน่วยการเรียนรู้ เร่ือง The Easy Conjunctions Style by You เป็ นส่วนหน่ึงของรายวิชา
การพฒั นาหน่วยการเรียนรู้สาหรับบทเรียนภาษาองั กฤษ รหัสวิชา 1123708ภาคเรียนที่ 2 ปี
การศึกษา 2564 ท่ีจดั ทาข้ึนเพ่ือให้ผูเ้ รียนไดศ้ ึกษาเน้ือหาสาระทางภาษาองั กฤษที่อยู่รอบ ๆ ตวั
ผูเ้ รียนเพิ่มเติมจากการเรียนการสอนในช้ันเรียน โดยการวิเคราะห์มาจากสาระ มาตรฐานการ
เรียนรู้และตวั ช้ีวดั ในหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง
พ.ศ.2560) เพื่อนามาใชใ้ นการออกแบบแผนการจดั การเรียนรู้ตามแนวการสอนภาษาเพื่อการ
สื่อสาร 5 ข้นั เนน้ ให้ผูเ้ รียนไดร้ ับท้งั ความรู้และฝึ กปฏิบตั ิจริง ท้งั ในเร่ืองของคาศพั ท์ ประโยค
หลกั ไวยากรณ์ บทสนทนาภาษาองั กฤษ เพ่ือสามารถนาไปใชไ้ ดจ้ ริง และเพ่ือพฒั นาทกั ษะการ
ส่ือสารภาษาองั กฤษที่เป็นประโยชนใ์ นการนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั

ผูจ้ ดั ทาหวงั เป็ นอย่างย่ิงว่า การจดั ทาหน่วยการเรียนรู้สาหรับบทเรียนภาษาองั กฤษใน
คร้ังน้ีจะเป็นประโยชนส์ าหรับผทู้ ี่เรียนในรายวชิ าภาษาองั กฤษ หากมีขอ้ แนะนาที่เป็นประโยชน์
ต่อการปรับปรุงหน่วยการเรียนรู้เล่มน้ีกรุณาแจง้ ผูจ้ ดั ทา จกั เป็ นพระคุณอย่างย่ิง และหากมี
ขอ้ ผดิ พลาดประการใด ผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรับและจะนาไปปรับปรุงแกไ้ ขใหด้ ีข้ึน ในโอกาสต่อไป

ผจู้ ดั ทา
นางสาววริศรา พลายสายทอง
วนั ที่ 26 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2565

สารบัญ 4

เร่ือง หน้า
1. โครงสร้างรายวชิ าหน่วยการเรียนรู้เร่ือง The Easy Conjunctions Style by You 1
2. แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 9
23
- ใบความรู้เร่ือง Me “AND” You 25
- ใบงานท่ี 1 Choose the best answer for each of the following sentences 26
- ใบงานท่ี 2 Rewrite the sentences using the paired conjunctions given in brackets. 27
3. แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 44
- ใบความรู้เร่ือง “BUT” style for you 47
- ใบงานที่ 1 Choose the best answer for each of the following sentences. 48
- ใบงานท่ี 2 Choose the most meaningful option. 49
4. แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 66
- ใบความรู้เรื่อง Style “OR” for fun 68
- ใบงานท่ี 1 Choose the best answer for each of the following sentences. 69
- ใบงานที่ 2 Rewrite the sentences using the paired conjunctions given in brackets. 70
- ใบงานที่ 3 Choose the most meaningful option. 71
5. แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 89
- ใบความรู้เรื่อง “SO” cool 93
- ใบงานที่ 1 Choose the best answer for each of the following sentences. 94
- ใบงานท่ี 2 Choose the most meaningful option. 95
- ใบงานท่ี 3 Choose the most meaningful in the box option. 96
6. แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 119
- ใบความรู้เร่ือง Variety of Subordinating I 122
- ใบงานท่ี 1 Choose the best answer for each of the following sentences. 123
- ใบงานท่ี 2 Choose the subordinate conjunction that creates the best relationship. 124
- ใบงานท่ี 3 Circle the subordinating conjunction in the sentences below. 125
7. แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 141
- ใบความรู้เรื่อง Variety of Subordinating II 143
- ใบงานที่ 1 Circle the subordinating conjunction in the sentences below. 144
- ใบงานท่ี 2 Choose the most meaningful option.

5

สารบญั หน้า
145
เรื่อง 162
8. แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 165
166
- ใบความรู้เร่ือง Variety of Subordinating III 167
- ใบงานท่ี 1 Circle the subordinating conjunction in the sentences below. 188
- ใบงานท่ี 2 Choose the most meaningful option. 196
9. แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 197
- ใบความรู้เรื่อง Did you know Error in Conjunctions?
- ใบงานที่ 1 Choose the best answer for each of the following sentences. 198
- ใบงานที่ 2 Combine the following simple sentences to form a complex sentence. Use the
list of subordinate conjunctions in the box below to help you 199
- ใบงานท่ี 3 Circle the subordinating conjunction in the sentences below and write the 200
meaning.
10. ภาคผนวก
- แบบประเมินหน่วยการเรียนรู้

การออกแบบโคร

ช่ือ นางสาววริศรา พลายสายทอง เลขที่ 02

หน่วยการเรียนรู้ ช่ือแผนการจัดการ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาร
เรียนรู้
The Easy Conjunctions ตวั ชี้วดั
Style by You Me “AND” You
ต 1.1 ม.3/1 Principles o

ต 1.1 ม.3/3 Structure of

ต 1.2 ม.3/2 Vocabulary

not only…bu

besides, likew

Grammar: S

Example: Ja

year, and De

1

รงสร้างรายวชิ า

20 สาขาวชิ า ภาษาองั กฤษ ปี 3 ห้อง 1

ระสาคัญ/สาระการเรียนรู้ เวลา (ช่ัวโมง) นา้ หนักคะแนน (100 คะแนน)

of Coordinating Conjunction: 1 10
Coordinating Conjunction “And”
y: and, both…and, as well as, nor,
ut also, furthermore, moreover,
wise, again
S + V, CC S + V
anuary is the first month of the
ecember is the last.

หน่วยการเรียนรู้ ช่ือแผนการจัดการ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาร

The Easy Conjunctions เรียนรู้ ตัวชี้วดั
Style by You
“BUT” style for you ต 1.1 ม.3/1 Principles o

ต 1.1 ม.3/3 Structure of

ต 1.2 ม.3/2 Vocabulary

however, nev

all that

Grammar: S

Example: Ja

ระสาคัญ/สาระการเรียนรู้ 2
เวลา (ช่ัวโมง) นา้ หนักคะแนน (100 คะแนน)

of Coordinating Conjunction: 1 10
Coordinating Conjunction “But”
y: but, while, yet, still, whereas,
vertheless, on the other hand, for

S + V, CC S + V
ane is rich, but Tom is poor.

หน่วยการเรียนรู้ ช่ือแผนการจัดการ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาร
เรียนรู้
The Easy Conjunctions ตวั ชี้วดั Principles o
Style by You Style “OR” for fun Structure of
ต 1.1 ม.3/1 Vocabulary
ต 2.2 ม.3/1 neither…nor
ต 4.1 ม.3/1 Grammar: S
Example: Y
bus.

ระสาคัญ/สาระการเรียนรู้ 3
เวลา (ชั่วโมง) นา้ หนักคะแนน (100 คะแนน)

of Coordinating Conjunction: 1 15
Coordinating Conjunction “Or”
y: or, or else, otherwise, either…or,
r
S + V, CC S + V
You should go now, or you'll miss a

หน่วยการเรียนรู้ ช่ือแผนการจัดการ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาร
เรียนรู้
The Easy Conjunctions ตัวชี้วดั
Style by You “SO” cool
ต 1.2 ม.3/5 Principles o

ต 2.2 ม.3/1 Structure of

ต 4.1 ม.3/1 Vocabulary

accordingly,

Grammar: S

Example: M

he bought it.

ระสาคัญ/สาระการเรียนรู้ 4
เวลา (ช่ัวโมง) นา้ หนักคะแนน (100 คะแนน)

of Coordinating Conjunction: 1 15
Coordinating Conjunction “So”
y: so, for, therefore, consequently,
, hence
S + V, CC S + V
My boyfriend liked the necktie, so
.

หน่วยการเรียนรู้ ช่ือแผนการจัดการ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาร
เรียนรู้
The Easy Conjunctions ตวั ชี้วดั
Style by You Variety of
Subordinating I ต 1.2 ม.3/5 Principles o

ต 1.3 ม.3/3 Structure of

ต 2.2 ม.3/1 Reason, Purp

Vocabulary

due to, becau

Grammar: 1

Ex.: I love V

color so brill

2. SC + S + V

Ex.: While I

Tom.

ระสาคัญ/สาระการเรียนรู้ 5
เวลา (ช่ัวโมง) นา้ หนักคะแนน (100 คะแนน)

of Subordinating Conjunction: 1 10
Subordinating Conjunction “Time,
pose”
y: till, after, because, as, that, lest,
use of
1. S + V + SC + S + V
Vincent’s work because he uses
liantly.
V, S + V
I was walking in the market, I met

หน่วยการเรียนรู้ ชื่อแผนการจัดการ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาร
เรียนรู้
The Easy Conjunctions ตัวชี้วดั
Style by You Variety of
Subordinating II ต 1.2 ม.3/2 Principles o

ต 1.2 ม.3/5 Structure of

ต 2.2 ม.3/1 “Result, Con

Vocabulary

assuming tha

Grammar: 1

Ex.: I hope t

that I pass m

2. SC + S + V

Ex.: If you c

for you.

ระสาคญั /สาระการเรียนรู้ 6
เวลา (ช่ัวโมง) นา้ หนักคะแนน (100 คะแนน)

of Subordinating Conjunction: 1 10
Subordinating Conjunction
ndition, Concession”
y: that, if, unless, though, although,
at, in spite of, despite
1. S + V + SC + S + V
to go to college next year assuming
my exams.
V, S + V
come here tomorrow, I will cook

หน่วยการเรียนรู้ ชื่อแผนการจัดการ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาร
เรียนรู้
The Easy Conjunctions ตัวชี้วดั
Style by You Variety of
Subordinating III ต 1.2 ม.3/5 Principles o

ต 3.1 ม.3/1 Structure of

ต 4.1 ม.3/1 “Comparison

Vocabulary

how, as if, so

Grammar: 1

Ex.: He taug

ระสาคัญ/สาระการเรียนรู้ 7
เวลา (ช่ัวโมง) นา้ หนักคะแนน (100 คะแนน)

of Subordinating Conjunction: 1 10
Subordinating Conjunction
n, Manner, Apposition”
y: that, as…as, than, as, so far as,
o…that, as though
1. S + V + SC + S + V
2. SC + S + V, S + V
ght her how to play the piano.

หน่วยการเรียนรู้ ช่ือแผนการจัดการ มาตรฐานการ สาร
เรียนรู้
The Easy Conjunctions เรียนรู้/ตัวชี้วดั Principles o
Style by You Did you know? Subordinatin
Error in Conjunctions ต 1.1 ม.3/1 Vocabulary
ต 2.2 ม.3/1 but that, inas
ต 3.1 ม.3/1 because, bec
ต 4.2 ม.3/1 Grammar: 1

Ex.: Jack did
was ill.
Ex.: He cann

ระสาคญั /สาระการเรียนรู้ 8
เวลา (ชั่วโมง) นา้ หนักคะแนน (100 คะแนน)

of Conjunction: Structure of 1 20
ng and Coordinate Conjunction
y: so that, in order to, in order that,
smuch as, till, until, in case,
cause of
1. S + V + SC + S + V
2. SC + S + V, S + V
d not come to school because he

not work because of his illness

9

แผนการจดั การเรียนรู้
กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ รายวิชาภาษาองั กฤษ
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 The Easy Conjunctions Style by You

เร่อื ง Me “AND” You ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ชว่ั โมง
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 นา้ หนกั คะแนน 10 คะแนน

มาตรฐานการเรยี นรู้
ต 1.1 ต 1.2

ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาขอรอ้ ง คาแนะนา คาชแี้ จง และคาอธิบายท่ีฟังและอา่ น
ต 1.1 ม.3/3 ระบุและเขียนส่อื ทไ่ี ม่ใช่ความเรียง รปู แบบตา่ ง ๆ ให้สัมพนั ธก์ ับประโยค และข้อความที่
ฟงั หรอื อา่ น
ต 1.2 ม.3/2 ใชค้ าขอร้อง ให้คาแนะนา คาชีแ้ จง และคาอธิบายอยา่ งเหมาะสม

สาระสา้ คญั
การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร เป็นการใช้ภาษาในชีวิตประจาวัน นักเรียนจาเป็นต้องฟัง พูด อ่านและ

เขียนอย่างเข้าใจเป็นการสอนทักษะทางภาษาด้วยวิธีการท่ีเข้าใจง่าย เหมาะสมกับวัยและความสามารถของ
ผู้เรียนในการส่ือสารกับเจ้าของภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเรียนรู้ โครงสร้างประโยค รูปย่อต่าง ๆ
เพื่อใหส้ ามารถใช้ภาษาในการส่อื สารไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. นักเรียนมีสามารถบอกความหมายเกี่ยวกับคาสันธานได้อย่างถกู ต้อง (K)
2. นกั เรยี นสามารถเขยี นเช่ือมประโยคโดยใชค้ าสันธานได้อยา่ งถูกต้อง (P)
3. นักเรียนมีความรบั ผิดชอบต่อการทางาน (A)

สาระการเรียนรู้/เนอื้ หา
Function: Structure of Coordinating Conjunction “And”
Structure: S + V, CC S + V
Vocabulary: and, both…and, as well as, nor, not only…but also, furthermore,

moreover, besides, likewise, again

10

สมรรถนะส้าคญั
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1.ใฝ่เรียนรู้
2.มงุ่ มัน่ ในการทางาน

ช้นิ งานหรือภาระงาน
- ใบกจิ กรรมที่ 1 Choose the best answer for each of the following sentences
ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องทส่ี ดุ
- ใบกิจกรรมที่ 2 Rewrite the sentences using the paired conjunctions given in brackets.
ให้นักเรยี นเขียนประโยคโดยใช้คาสันธานในวงเลบ็ ให้สมบรู ณ์

กิจกรรมการเรยี นรู้

ขั้นนา้ (Warm up)

1. ครูสนทนากันนักเรียนในเร่ืองส่ิงต่าง ๆ รอบตัว จากนั้นให้นักเรียนร่วมเติมประโยคท่ีครูกาหนดให้

สมบูรณ์ เพื่อครูจะได้หัวข้อเร่ืองท่ีจะนาเสนอในหน่วยเรียนเร่ือง Coordinating Conjunction

“And” ดงั น้ี 1. Smile usually practices the piano, ………..she plays a game at weekend.

2. January is the first month of the year, ……….December is the last.

ข้ันนา้ เสนอ (Presentation)

2. ครูสอนนักเรียนถึงหลักการใช้คาสันธานมาเชื่อมในประโยคต่าง ๆ ให้สมบูรณ์และเหมาะสมกับรูป

ประโยคน้นั ๆ ดังนี้

And-type รวมทั้งคาท่ีมีความหมายคล้าย and นามาใช้เชื่อมคาท่ีมี “เน้ือความต่อเน่ืองและเชื่อมโยง

กนั ” (Cumulative หรือ Copulative) ได้แก่ Conjunction ตอ่ ไปนี้

and = และ

both…..and = ท้ัง…..และ…..

not only…..but also = ไม่เพียงแต่…..ยัง…..อีกด้วย

as well as = และ, เช่นเดยี วกับ

nor = และ…..ไม่ (= and…..not)

furthermore = ยิ่งกว่านน้ั ยัง…..อีกด้วย

11

moreover = ยง่ิ กว่านนั้ ยัง…..อกี ด้วย

besides = นอกจากนัน้ ยัง…..

likewise = ยิง่ กวา่ นน้ั ยัง…..อีกดว้ ย

again = ย่ิงกวา่ นั้น ยัง…..อกี ดว้ ย

- หลักเกณฑ์ในการนา Conjunctions เหลา่ น้ีมาเช่อื มก็คือ คาเหล่านนั้ ตอ้ งเปน็ คาประเภทเดียวกัน และมี

เน้ือความเชื่อมโยงสอดคล้องซ่งึ กนั และกนั เชน่

= Daeng was tired and hungry. แดงเหนอื่ ยและหวิ

= Daeng was tired as well as hungry. แดงเหน่ือยและหวิ ด้วย

= Daeng was both tired and hungry. แดงเหนอ่ื ยและยังหวิ อกี ด้วย

= Daeng was not only tired but also hungry. แดงไมเ่ พียงแต่เหน่ือยและยงั แถมหิวอกี ดว้ ย

การใช้ Nor

Nor แปลว่า “และก็ไม่…..” (= and not) สันธานคานี้มีไว้สาหรับเช่ือมประโยคซ่ึงมี not ทั้งสอง

ประโยค (เป็นการเชอื่ มประโยคปฏเิ สธท้ัง 2 ใหเ้ ป็นประโยคเดยี วกนั ) เชน่ :-

He is not a coward. + He is not a fool.

= He is not a coward nor a fool. (หรอื He is not a coward and not a fool.)

เขาไม่ใช่คนขี้ขลาดและกไ็ มใ่ ช่คนโง่

หมายเหตุ : ถ้าข้อความที่ตามหลัง nor เป็นประโยค มักนิยมใช้ในรูปประโยคเป็น Inversion (คือเรียงคา

อยา่ งประโยคคาถาม) เช่น :-

I haven’t any time to do it. I haven’t any money.

= I haven’t any time to do it nor do I have any money.

ผมไมม่ เี วลาทจ่ี ะทาและไม่มีเงินด้วย

She doesn’t like this dress. She doesn’t want it.

= She doesn’t like this dress nor does she want it.

หล่อนไม่ชอบเส้ือผา้ ชดุ น้ที ง้ั ยงั ไมต่ อ้ งการอีกด้วย

การใช้ moreover, furthermore, besides, likewise, และ again

ทั้ง 5 ตัวนี้มีความหมายคล้าย and แต่วิธีใช้ต่างกันกับ and เพราะคาสันธานเหล่าน้ีมีไว้เพ่ือ “บอก

ข้อความเพ่ิมเติม หรือกล่าวเสริม จากข้อความท่ีได้บอกไปแล้ว” ท้ังนี้ในกรณีที่ผู้พูดได้พูดจบประโยคไป

แล้ว แตม่ านึกเพิม่ ข้ึนไดอ้ ีก จงึ ใช้คาสันธานเหลา่ นี้กลา่ วข้นึ ตน้ ประโยคที่บอกเพิ่ม เช่น

He is tired and hungry. เขาเหนอื่ ยและหวิ

12

ผู้พูดได้พูดออกไปแล้วแต่นึกข้ึนได้ทีหลังวา่ “เขายังหนาวอีกด้วย” ข้อความตอนหลังนี้ เป็นข้อความกล่าว

เสรมิ จึงตอ้ งใช้คาสนั ธานทัง้ 5 ตวั นี้ ตัวใดตัวหนึ่งมาเชื่อม จึงได้ประโยคดงั น้ี :-

“เขาเหนอื่ ยและหิว แถมยงั หนาวอกี ด้วย”

He is tired and hungry ; moreover,

furthermore,

besides, he is cold.

likewise,

again,

หมายเหตุ : ประโยคที่ว่างข้างหน้าคาสันธานทั้ง 5 ตัวน้ี ต้องใส่เคร่ืองหมาย Semicolon คือ ; ทันที และหลัง

คาทั้ง 6 ตอ้ งใส่เครือ่ งหมาย comma คือ , อกี ดว้ ย

ข้ันฝกึ (Practice)

3. ครูใหน้ ักเรยี นทาใบกิจกรรมที่ 1 Choose the best answer for each of the following

sentences ใหน้ ักเรียนเลอื กคาตอบทีถ่ ูกตอ้ งทีส่ ุด ผา่ น Quiz Application

Task 1 Choose the best answer for each of the following sentences

1. I have ………….. a dog …………. a cat.

a. and-or b. either-or c. not only-but also d. or-and

2. In the end, the company didn’t make money …… did it lose money.

a. for b. nor c. so d. or

3. Seoul is a large city, ……. it is located in Asia.

a. but b. and c. so d. or

4. I have some free time … an extra ticket. Do you want to see a movie?

a. and b. for c. yet d. but

5. Prachuab..............his friends is doing his exercises.

a. furthermore b. moreover c. as well as d. both….and

6. Suphat is..............writing..............speaking.

a. and also b. besides c. as well as d. not only…..but also

7. Can you buy me some food ………..drink.

a. for b. and also c. moreover d. yet

8. The capital city of the United States not New York, …..is it Los Angeles.

a. and b. nor c. yet d. besides

13

9. He has no friends ………..me. d. as well as
a. besides b. moreover c. and also d. as well as

10.His wife speaks Spanish ………….English.
a. besides b. moreover c. and also

ข้นั น้าไปใช้ (Production)
4. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบกิจกรรมที่ 2 Rewrite the sentences using the paired conjunctions given

in brackets. ให้นักเรยี นเขียนประโยคโดยใชค้ าสันธานในวงเล็บให้สมบูรณ์
Task 2 Rewrite the sentences using the paired conjunctions given in brackets.

1. Fred likes helping his friends. So does Linda. (both...and)
= Both Fred and Linda like helping their friends.

2. We should learn to accept our weaknesses and our strengths. (not only...but also)
= We should learn to accept not only our weaknesses but also our strengths.

3. I've betrayed your trust. I've betrayed your love for me. (not only...but also)
= I've betrayed not only your trust but also your love for me.

4. He felt disappointed. He felt misunderstood. (both...and)
= He felt both disappointed and misunderstood.

5. A true friend is someone who is caring and loving. (both...and)
= A true friend is someone who is both caring and loving.

ขั้นสรุป (Wrap up)
5. ครูสรุปบทเรียนและทบทวนคาศัพท์อีกคร้ัง โดยให้นักเรียนแต่งประโยค และใช้คาสันธาน and หรือ
คาทีม่ คี วามหมายคลา้ ย and มาเชอื่ มประโยค คนละ 1 ประโยค

สื่อการเรยี นรู้
1. Power Point เรอ่ื ง Me “AND” You
2. ใบกจิ กรรมท1ี่ Choose the best answer for each of the following sentences
(ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบท่ถี กู ตอ้ งท่ีสดุ ) ผ่าน Quiz Application
3. ใบกจิ กรรมที่ 2 Rewrite the sentences using the paired conjunctions given in
brackets. (ใหน้ กั เรียนเขียนประโยคโดยใช้คาสนั ธานในวงเลบ็ ให้สมบรู ณ์)

14

การวดั ผลประเมินผล วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์การวดั
- ใบกจิ กรรม
สงิ่ ที่วดั การสงั เกตจากการทาใบ นกั เรียนผา่ นเกณฑ์
1. นักเรียนมสี ามารถบอก กิจกรรม ระดับ ดี ข้นึ ไป
ความหมายของคาศัพท์ คะแนนตั้งแต่ 13-16
เกี่ยวกบั คาสันธานได้อย่าง
ถกู ต้อง

2. นักเรยี นสามารถเขยี น การสงั เกตจากการทาใบ - แบบประเมินทกั ษะ นกั เรียนผ่านเกณฑ์
เช่อื มประโยคโดยใช้ กจิ กรรม
คาสนั ธานไดอ้ ย่างถูกต้อง ด้านการเขยี น ระดบั ดี ขึ้นไป

- ใบกิจกรรม คะแนนตั้งแต่ 13-16

3.นกั เรียนมีความ - สงั เกตจากการให้ความ แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนผา่ นเกณฑ์
รับผิดชอบต่อการทางาน รว่ มมอื ในการเรียน คุณลักษณะองั พงึ ขน้ึ ไป คะแนนตงั้ แต่
- สงั เกตจากการทางานที่ ประสงค์ 6-10
ได้รับมอบหมาย

เกณฑ์การประเมนิ
นักเรียนทม่ี ีคะแนน 17 - 20 อยู่ในระดบั ดมี าก
นักเรียนที่มีคะแนน 13 - 16 อยใู่ นระดบั ดี
นกั เรยี นทม่ี ีคะแนน 9 - 12 อย่ใู นระดับ ปานกลาง
นกั เรียนทม่ี ีคะแนน 5 - 8 อยู่ในระดับ พอใช้
นักเรียนทีม่ ีคะแนน 0 - 4 อยู่ในระดบั ควรปรับปรงุ แก้ไข

เกณฑ์การประเมนิ 15

เคร่อื งมอื และเกณฑก์ ารประเมินทกั ษะทางภาษา รวมคะแนน
20
1. การเขยี น

แบบบนั ทึกการประเมินการเขยี น

ประเด็น/คะแนน

การใชภ้ าษา เนอ้ื หา ความถกู ต้อง

เลขท่ี ชือ่ – สกุล 88 4

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20

ลงชื่อ.........................................................ผปู้ ระเมนิ
(................................................................)

วันท.่ี .........เดอื น.................................พ.ศ. .................

16

เกณฑ์การใหค้ ะแนนการเขยี น

ประคระเะดดแับ็นนน 4 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน นา้ หนกั / คะแนน
32 1 ความส้าคัญ รวม
ประเด็น

การประเมนิ

การใช้ การสะกด การสะกด สะกดคาผดิ มาก สะกดคาผิดมาก 3 8
ภาษา คาศัพท์ถกู ตอ้ ง คาศพั ท์ผดิ แต่พอเดา เขยี นรปู ประโยค
เลก็ น้อย พอเดา
การเลือกใช้คา ความหมายได้ ความหมายไดร้ ปู ไม่
ตรงกับเน้อื หา เขยี นรูปประโยค ประโยคผดิ พลาด ถกู ตอ้ ง ไมม่ ี
ประโยคถกู ต้อง เครือ่ งหมายวรรค
มเี คร่อื งหมาย ผดิ มาก
วรรคตอนท่ี หลักไวยากรณ์ เครือ่ งหมาย ตอน
วรรคตอนไม่
ถูกตอ้ ง เล็กน้อย ครบหรอื ไม่
เครอ่ื งหมาย
วรรคตอนผิด ถกู ตอ้ ง
เลก็ นอ้ ย

เนอื้ หา มรี ายลพเอยี ด รายละเอยี ดของ มรี ายละเอียดของ มรี ายละเอียดของ

เน้อื หาตรงกบั เนือ้ หามาก เนอื้ หาน้อย เนื้อหาน้อยมาก 2 8
1 4
ลักษณะทีก่ าหนด ครอบคลมุ ทงั้ หมด

มาทส่ี ุด

ความ เขยี นประโยคบท เขยี นประโยคบท เขียนประโยคบท เขยี นประโยคบท
ถกู ตอ้ ง สนทนาถูกต้อง สนทนาถกู ต้อง สนทนาถูกต้องตาม สนทนาถกู ตอ้ ง

ตามตัวอยา่ ง ตามตวั อย่างปาน ตัวอย่างไดน้ ้อย ตามตวั อยา่ งได้

กลาง น้อยมาก

รวม 5 20

17

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น เพ่ือการประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
นักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

ค้าช้ีแจง การบันทกึ ให้กาเคร่ืองหมาย √ ลงในช่องท่ีตรงกับพฤติกรรมที่เกิดข้นึ จริง

1. ใฝ่เรียนรู้ พฤติกรรม ระดับการปฏิบตั ิ
ที่
เป็น บางครง้ั นอ้ ย ไมท่ าเลย/ไม่
ประจา ครั้ง ชดั เจน (0)

(2)
(3) (1)

1 ต้งั ใจเอาใจใส่และมคี วามเพียรพยายามในการเรยี นรู้
2 สนใจเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ต่าง ๆ
3 ศึกษาค้นคว้าหาความรจู้ ากหนังสือ เอกสาร

สงิ่ พมิ พ์ ส่ือเทคโนโลยตี ่าง ๆ แหลง่ เรียนร้ทู ้งั ภายใน
และภายนอกโรงเรียน และเลือกใช้ส่อื ได้อยา่ ง
เหมาะสม
4 สามารถบนั ทึกสรปุ ความรู้ วเิ คราะห์ ข้อมลู จากสงิ่ ท่ี
เรียนรสู้ รปุ เป็น องคค์ วามรู้
5 แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ดว้ ย วิธีการต่าง ๆและ นาไปใชใ้ น
ชวี ิตประจาวัน

รวมคะแนน/ระดบั คุณภาพ

ผูป้ ระเมิน ……. ครู …….. พ่อแม/่ ผปู้ กครอง ……… ตนเอง ………. เพื่อน

ลงช่อื ……………………………… ผู้ประเมิน
()

18

เกณฑ์การประเมิน

ระดบั เกณฑก์ ารตัดสนิ
คุณภาพ
ดีเย่ยี ม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 13-15 คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดข้อหนงึ่ ตา่
กว่า 2 คะแนน
ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 9-12 คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึ่งต่า
กวา่ 0 คะแนน
ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง 5-8 คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินขอ้ ใดข้อหน่ึงตา่
กว่า 0 คะแนน
ไม่ผา่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง 0-4 คะแนน

19

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น เพื่อการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
นกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564

คา้ ชีแ้ จง การบันทกึ ให้กาเครื่องหมาย √ ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมทเ่ี กดิ ขึ้นจรงิ
2 . มุ่งมั่นในการทางาน

ระดบั การปฏบิ ตั ิ

ที่ พฤติกรรม เป็นประจา บางคร้งั น้อยครั้ง ไมท่ าเลย/ ไม่
(3) (2) (1) ชดั เจน (0)

1 มคี วามรบั ผดิ ชอบในหน้าทก่ี ารงาน

2 ตงั้ ใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏิบตั ิหน้าทีท่ ่ี
ไดร้ บั มอบหมาย

3 ทางานด้วยความเพียรพยายาม

4 รู้จกั แก้ปญั หาในการทางานเม่ือมี
อปุ สรรค

5 อดทนเพ่อื ให้งานสาเรจ็ ตามเป้าหมาย

6 ปรับปรงุ และพัฒนาการทางานใหด้ ขี ้ึน
ดว้ ยตนเอง

7 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออุปสรรค
เพื่อใหง้ านสาเรจ็
รวมคะแนน/ระดบั คุณภาพ

ผปู้ ระเมิน …….. ครู …….. พอ่ แม่/ผ้ปู กครอง ……… ตนเอง ………. เพ่ือน

ลงชือ่ …………………………………. ผู้ประเมนิ
()

20

เกณฑ์การประเมิน

ระดับ เกณฑก์ ารตัดสนิ
คุณภาพ
ดเี ย่ียม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 15-18 คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหนงึ่ ต่า
กวา่ 2 คะแนน
ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง 11-14 คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหน่งึ ต่า
กวา่ 0 คะแนน
ผา่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง 6-10 คะแนน และไมม่ ีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหนงึ่ ต่า
กวา่ 0 คะแนน
ไมผ่ ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง 0-5 คะแนน

3.ภาระงาน/ช้ินงาน 21

แบบบันทึกการประเมนิ คณุ ภาพชน้ิ งาน/ภาระงาน รวมคะแนน
20
ความสมบรู ณ์ ความคิดสรา้ งสรรค์
เลขที่ ของชนิ้ งาน 8

12

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21

ลงชือ่ …………………………. ผู้ประเมิน
( ……………………………………….. )
วันท่ี ………. เดอื น………….. พ.ศ. ………..

22

ระดับ เกณฑ์การให้คะแนนคณุ ภาพชนิ้ งาน / ภาระงาน น้าหนกั / คะแนน
ประเด็นคะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ความส้าคญั รวม
ประเด็น
4 3 21
การประเมนิ

ความสมบรู ณ์ ชนิ้ งานมีราย ชิน้ งานมรี าย ชนิ้ งานมีราย ชน้ิ งานมรี าย 3 12
ของ ละเอียดครอบ ละเอียดครอบ ละเอียดครอบ ละเอียดครอบ
ชิน้ งาน คลุมวงคาศัพท์ คลุมวงคาศัพท์ คลมุ วงคาศพั ท์ คลมุ วงคาศัพท์ 2 8
ท่เี รยี นสมบรู ณ์ ทเี่ รียนเป็น ที่เรียนน้อย 5 20
ความคดิ ทีเ่ รยี นพอ
สร้างสรรค์ เปน็ ชน้ิ งาน ส่วนใหญ่ สมควร
ท่แี ปลกใหม่
คดิ ข้นึ เอง เป็นช้ินงาน เปน็ ชน้ิ งาน เป็นช้ินงานที่
ไม่เหมอื น ทแ่ี ปลกใหม่ ท่ปี รับปรงุ เหมอื นกบั
ตวั อย่าง แต่มีบางสว่ น ดัดแปลง ตวั อย่าง
คลา้ ยกบั เลก็ นอ้ ยจาก
ตัวอยา่ ง ตัวอยา่ ง

รวม

บนั ทึกผลหลงั การสอน
- ผลหลังการสอน

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

-ปัญหา/อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

-ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชือ่ …………………………………….. ผปู้ ระเมิน

()

วันที่ …… เดอื น………. พ.ศ. ……….

23 23

2424

2255

2266

27

แผนการจัดการเรียนรู้
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ รายวิชาภาษาองั กฤษ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 The Easy Conjunctions Style by You
เรอ่ื ง “BUT” style for you ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ชวั่ โมง

ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 นา้ หนักคะแนน 10 คะแนน

มาตรฐานการเรียนรู้
ต 1.1 ต 1.2

ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ม.3/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาขอรอ้ ง คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธบิ ายทีฟ่ ังและอา่ น
ต 1.1 ม.3/3 ระบุและเขยี นส่อื ที่ไม่ใช่ความเรียง รปู แบบต่าง ๆ ให้สัมพันธก์ บั ประโยค และข้อความท่ี
ฟงั หรอื อา่ น
ต 1.2 ม.3/2 ใชค้ าขอร้อง ให้คาแนะนา คาชีแ้ จง และคาอธิบายอยา่ งเหมาะสม

สาระสา้ คัญ
การใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสาร เป็นการใช้ภาษาในชีวิตประจาวัน นักเรียนจาเป็นต้องฟัง พูด อ่านและ

เขียนอย่างเข้าใจเป็นการสอนทักษะทางภาษาด้วยวิธีการที่เข้าใจง่าย เหมาะสมกับวัยและความสามารถของ
ผู้เรียนในการส่ือสารกับเจ้าของภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเรียนรู้ โครงสร้างประโยค รูปย่อต่าง ๆ
เพ่ือใหส้ ามารถใชภ้ าษาในการสื่อสารไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นกั เรยี นมสี ามารถบอกความหมายเก่ียวกับคาสันธานไดอ้ ยา่ งถูกต้อง (K)
2. นักเรยี นสามารถเขียนเชื่อมประโยคโดยใช้คาสนั ธานไดอ้ ย่างถูกต้อง (P)
3. นักเรียนสามารถพูดสอ่ื สารเช่ือมประโยคโดยใชค้ าสันธานไดอ้ ย่างถกู ต้อง (P)
4. นกั เรยี นมคี วามรับผดิ ชอบต่อการทางาน (A)

สาระการเรียนรู้/เนอ้ื หา
Function: Structure of Coordinating Conjunction “But”
Structure: S + V, CC S + V
Vocabulary: but, while, yet, still, whereas, however, nevertheless, on the other hand,

for all that

28

สมรรถนะส้าคญั
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1.ใฝ่เรยี นรู้
2.มงุ่ มั่นในการทางาน

ชิ้นงานหรือภาระงาน
- ใบกจิ กรรมท่ี 1 Choose the best answer for each of the following sentences.
ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถกู ต้องท่ีสดุ
- ใบกิจกรรมท่ี 2 Choose the most meaningful option.
ให้นกั เรียนเลอื กตวั เลอื กท่มี คี วามหมายมากท่ีเหมาะสมที่สดุ

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั น้า (Warm up)

1. ครูให้นักเรียนร่วมกันตอบคาถามโดยเติมคาศัพท์ประโยคท่ีครูกาหนดให้สมบูรณ์ เพื่อครูจะได้ทบทวนจาก
เร่ืองที่เรียนและหัวข้อเร่ืองท่ีจะนาเสนอในหน่วยเรียนเร่ือง Coordinating Conjunction “And และ But”
ดังนี้ ผา่ น Vonder Go Application

1. I like cartoon, ________ my brother likes scary movie. (but)
2. I got some apples, bananas, _______________ oranges. (and)
3. They like to play basketball, football, ______________ table tennis. (and)
4. He is very handsome, ______________ he cannot see anything. (but)
5. The chair is made from wood ___________ metal. (and)
6. She has a lot of money _____________ not happy. (but)

ขน้ั น้าเสนอ (Presentation)
2. ครูสอนนักเรียนถึงหลักการใช้คาสันธานมาเช่ือมในประโยคต่าง ๆ ให้สมบูรณ์และเหมาะสมกับรูปประโยค
น้นั ๆ ดังนี้
But-type รวมท้ังคาท่ีมีความหมายคล้าย but นาไปใช้เชื่อมประโยคท่ีมีเนื้อความขัดแย้งกันหรือตรงกันข้าม
(Adversative) ไดแ้ ก่ Conjunction ต่อไปนี้

29

but = แต่

while = แต่ว่า, ในขณะที่ (ทัง้ ๆ ที่)

yet = แม้กระน้ัน (แต่วา่ )

still = แมก้ ระนั้น, แต่กระนนั้

whereas = แต่วา่ , ในขณะที่

however = อยา่ งไรก็ตาม, แม้กระน้ัน

nevertheless = แม้กระนน้ั (แต่วา่ )

on the other hand = แต่วา่ , แม้กระน้นั , ตรงกันขา้ ม

for all that = แมก้ ระน้นั , แต่ว่า, แต่กระน้นั

(คาท่กี ลา่ วมาทัง้ หมดน้มี ีลักษณะคล้าย but มาก จะต่างกันบ้างกเ็ ป็นเพยี งส่วนนอ้ ย)

ข้อความหรือประโยคที่จะใช้ Conjunction หรือ Conjunctive Adverb เหล่าน้ีไปเชื่อมได้ ข้อความของ

ประโยคนนั้ ต้องมีลกั ษณะขัดแยง้ หรือตรงกันข้าม เชน่ :-

ตัวอยา่ ง : He has plenty of money. He is unhappy.

เขามเี งนิ มาก เขาไมม่ ีความสุข

= He has plenty of money, but he is unhappy.

= He has plenty of money, yet he is unhappy.

= He has plenty of money, still he is unhappy.

= He has plenty of money, however he is unhappy.

= He has plenty of money, while he is unhappy.

= He has plenty of money, nevertheless he is unhappy.

= He has plenty of money, for all that he is unhappy.

เขามีเงนิ มาก แต่เขาก็ไม่มีความสุข

วิธใี ช้ Conjunction รายตัว

but : ถ้าเป็นประโยคข้างหน้า but มีข้อความเป็นประโยคสั้น ๆ ไม่ต้องใช้ comma ก็ได้ แต่จะใช้ comma

เสมอ เมือ่ จ้อความข้างหนา้ but ยาว เช่น :-

He never works hard but he gains all prizes.

เขาไมเ่ คยทางานหนัก แตเ่ ขาก็ไดร้ ับรางวัลท้งั หมด

(ไม่ตอ้ งใช่ comma กไ็ ด้ เพราะประโยคหน้า but สัน้ )

He waited many hours for her to come to the party.

เขา้ ไดค้ อยเธออย่หู ลายชัว่ โมงทีม่ างานเลย้ี งสงั สรรค์ แต่แล้วในท่สี ดุ เธอกไ็ ม่ได้มา

30

(ใส่ comma หน้า but เพราะเป็นประโยคยาว)
while และ whereas : มีวิธีใชเ้ ช่นเดยี วกบั but ทกุ อย่าง เช่น :-

This hat costs 20 baht, while (หรอื whereas) that one costs 15.
หมวกใบนรี้ าคา 20 บาท แตใ่ บน้ันราคา 15 บาท
however : (อย่างไรก็ตาม) ใช้ในกรณีท่ขี อ้ ความของประโยคนั้นไมข่ ัดแยง้ กันมากนัก เช่น :-
I told him not to send those books by airmail; however, I now think that he had better
do so. ฉันบอกเขาว่า อย่าส่งหนังสือเหล่านั้นทางไปรษณีย์อากาศ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ฉันคิดว่า เขาควรส่ง
ทางไปรษณยี อ์ ากาศดกี ว่า
yet : (แม้กระนัน้ ) ใช้กบั ข้อความทขี่ ัดแย้งกันอย่างเหน็ ได้ชัด เช่น :-
To drink much whisky makes a man die of cirrhosis of the liver; yet many people
disobey it. การดื่มสรุ ามากทาใหค้ นตาย เพราะเป็นมะเรง็ ตบั ได้ แม้กระนั้น (แต)่ คนจานวนมากกไ็ ม่เช่ือฟัง
on the other hand : (แต่กระน้ัน) ใช้กับข้อความท่ีขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด และมีความหมายหนักแน่น
กวา่ yet อกี เชน่ :-
Games are very good for me; on the other hand, one must not play too much.
กฬี าเป็นของดมี ากสาหรับเรา แมก้ ระน้ันเราก็ต้องไม่เล่นมากเกนิ ไป (เพราะจะทาให้เสยี สขุ ภาพได้)
for all that : (แต่ถึงกระน้ัน, ทั้ง ๆ เช่นน้ัน) คานี้ใช้กับข้อความท่ีขัดแย้งกับความเห็นของผู้อ่ืน (ไม่ใช่แย้งกับ
ข้อเทจ็ จริงดงั 3 ขอ้ แรก) เช่น :-
Many people prefer the instalment plan; for all that, I would better wait and pay for
cash. ผคู้ นจานวนมากชอบโครงการท่ีเป็นลักษณะเงินผ่อน แตถ่ ึงกระนั้น ฉันก็ยงั ชอบทจ่ี ะคอยและจา่ ยเงินสด
(ซ้ือเสมอ)
nevertheless : (แม้กระนัน้ ) ใช้กบั ขอ้ ความทบ่ี อกเหตุ แต่ผลสรปุ ไมต่ รงเหตุ (ดูคลา้ ย ๆ กบั yet) เช่น :-
The sun is shining; nevertheless, I’m sure it’ll rain.
พระอาทิตย์กาลงั ส่องแสง แมก้ ระนนั้ ฉนั ก็แน่ใจว่าฝนจะตก
ขัน้ ฝกึ (Practice)
3. ครูให้นกั เรยี นทาใบกจิ กรรมท่ี 1 Choose the best answer for each of the following sentences
ให้นักเรียนเลอื กคาตอบท่ีถูกต้องทส่ี ดุ ผ่านแอปพลเิ คชนั Quizizz
Task 1 Choose the best answer for each of the following sentences

1. I fell asleep …………….I was watching TV
a. but b. while c. yet d. however

31

2. He has plenty of money, ………he is unhappy.
a. but b. while c. yet d. however

3. I was very angry, ………….. I didn’t argue.
a. but b. however c. while d. still

4. I wanted to eat Japanese food…………………. My wife wanted to eat Chinese food.
a. whereas b. however c. so d. still

5. John can’t speak Japanese, ……..he can speak Spanish.
a. so b. nor c. but d. while

6. My classmate didn’t study for the test, ………she still passed.
a. yet b. nor c. or d. still

7. I’m not really hungry, ………..that apple pie looks delicious!
a. yet b. so c. and d. nor

8. My brother likes maths …………he doesn’t like history.
a. yet b. but c. still d. while

9. Competition was tough last year; …………………., our sales increased.
a. whereas b. however c. on the other hand d. nevertheless

10. We had a small drop in sales last month. We are, ………, still above the plan.
a. whereas b. however c. on the other hand d. nevertheless

ข้นั น้าไปใช้ (Production)
4. ครูให้นักเรียนทาใบกิจกรรมท่ี 2 Choose the most meaningful option. ใหน้ ักเรียนเลือกตวั เลอื กท่มี ี
ความหมายมากท่เี หมาะสมท่ีสุด
Task 2 Choose the most meaningful option

nevertheless on the other hand however
for all that yet but whereas
while

1. He waited many hours for her to come to the party, but eventually she didn’t come.
2. This hat costs 20 bath, while that one costs 15.
3. Tom thinks we´re ready to begin whereas Lisa thinks we have to wait.

32

4. I told him not to send those books by airmail; however, I now think that he had
better do so.

5. To drink much whisky makes a man die of cirrhosis of the liver; yet many people
disobey it.

6. Games are very good for one; on the other hand, one must not play too much.
7. Many people prefer the instalment plan; for all that, I would better wait and pay for

cash.
8. The sun is shining; nevertheless, I’m sure it’ll rain.

ข้นั สรุป (Wrap up)
5. ครูสรุปบทเรียนและทบทวนคาศัพท์อีกครั้ง โดยให้นักเรียนแต่งประโยค และใช้คาสันธาน but หรือคาที่มี
ความหมายคลา้ ย but มาเชอื่ มประโยค คนละ 1 ประโยค

สื่อการเรยี นรู้
4. Power Point เรอ่ื ง “BUT” style for you
5. Vonder Go Application
6. ใบกจิ กรรมท1่ี Choose the best answer for each of the following sentences
(ให้นกั เรียนเลอื กคาตอบทถี่ กู ต้องท่สี ุด) ผ่าน Quiz Application
7. ใบกิจกรรมที่ 2 Rewrite the sentences using the paired conjunctions given in
brackets. (ให้นกั เรยี นเขียนประโยคโดยใชค้ าสนั ธานในวงเลบ็ ใหส้ มบูรณ์)

การวดั ผลประเมนิ ผล วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์การวัด
- ใบกจิ กรรม
สงิ่ ท่ีวัด การสังเกตจากการทาใบ นกั เรียนผ่านเกณฑ์
1. นักเรียนมสี ามารถบอก กจิ กรรม ระดับ ดี ขึ้นไป
ความหมายของคาศัพท์ คะแนนตั้งแต่ 13-16
เกี่ยวกบั คาสนั ธานไดอ้ ยา่ ง
ถูกต้อง

2. นักเรยี นสามารถเขียน การสังเกตจากการทาใบ - แบบประเมนิ ทกั ษะ นักเรยี นผ่านเกณฑ์
เชอื่ มประโยคโดยใช้ กจิ กรรม
คาสนั ธานไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ด้านการเขยี น ระดบั ดี ข้นึ ไป

- ใบกจิ กรรม คะแนนต้ังแต่ 13-16

33

3. นกั เรียนสามารถพดู - สงั เกตจากการให้ความ แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนผา่ นเกณฑ์
สื่อสารเช่อื มประโยคโดยใช้ รว่ มมือในการเรยี น คุณลักษณะอังพึง ระดับ ดี ข้นึ ไป
คาสนั ธานไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ประสงค์ คะแนนต้ังแต่ 13-16

4. นกั เรียนมีความ - สังเกตจากการใหค้ วาม แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนผา่ นเกณฑ์
รบั ผิดชอบต่อการทางาน รว่ มมอื ในการเรยี น คณุ ลักษณะองั พงึ ขึ้นไป คะแนนต้ังแต่
- สังเกตจากการทางานที่ ประสงค์ 6-10
ไดร้ บั มอบหมาย

เกณฑ์การประเมนิ
นกั เรียนทม่ี ีคะแนน 17 - 20 อยู่ในระดบั ดีมาก
นักเรยี นทม่ี ีคะแนน 13 - 16 อยูใ่ นระดบั ดี
นักเรียนท่มี ีคะแนน 9 - 12 อย่ใู นระดบั ปานกลาง
นักเรยี นทม่ี ีคะแนน 5 - 8 อยใู่ นระดบั พอใช้
นกั เรียนทีม่ ีคะแนน 0 - 4 อยู่ในระดับ ควรปรับปรงุ แกไ้ ข

เกณฑ์การประเมนิ 34

เคร่อื งมอื และเกณฑก์ ารประเมินทกั ษะทางภาษา รวมคะแนน
20
2. การเขยี น

แบบบนั ทึกการประเมินการเขยี น

ประเด็น/คะแนน

การใชภ้ าษา เนอ้ื หา ความถกู ต้อง

เลขท่ี ชือ่ – สกุล 88 4

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20

ลงชื่อ.........................................................ผปู้ ระเมนิ
(................................................................)

วันท.่ี .........เดอื น.................................พ.ศ. .................

35

เกณฑ์การใหค้ ะแนนการเขยี น

ประคระเะดดแับ็นนน 4 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน นา้ หนกั / คะแนน
32 1 ความส้าคัญ รวม
ประเด็น

การประเมนิ

การใช้ การสะกด การสะกด สะกดคาผดิ มาก สะกดคาผิดมาก 3 8
ภาษา คาศัพท์ถกู ตอ้ ง คาศพั ท์ผดิ แต่พอเดา เขยี นรปู ประโยค
เลก็ น้อย พอเดา
การเลือกใช้คา ความหมายได้ ความหมายไดร้ ปู ไม่
ตรงกับเน้อื หา เขยี นรูปประโยค ประโยคผดิ พลาด ถกู ตอ้ ง ไมม่ ี
ประโยคถกู ต้อง เครือ่ งหมายวรรค
มเี คร่อื งหมาย ผดิ มาก
วรรคตอนท่ี หลักไวยากรณ์ เครือ่ งหมาย ตอน
วรรคตอนไม่
ถูกตอ้ ง เล็กน้อย ครบหรอื ไม่
เครอ่ื งหมาย
วรรคตอนผิด ถกู ตอ้ ง
เลก็ นอ้ ย

เนอื้ หา มรี ายลพเอยี ด รายละเอยี ดของ มรี ายละเอียดของ มรี ายละเอียดของ

เน้อื หาตรงกบั เนือ้ หามาก เนอื้ หาน้อย เนื้อหาน้อยมาก 2 8
1 4
ลักษณะทีก่ าหนด ครอบคลมุ ทงั้ หมด

มาทส่ี ุด

ความ เขยี นประโยคบท เขยี นประโยคบท เขียนประโยคบท เขยี นประโยคบท
ถกู ตอ้ ง สนทนาถูกต้อง สนทนาถกู ต้อง สนทนาถูกต้องตาม สนทนาถกู ตอ้ ง

ตามตัวอยา่ ง ตามตวั อย่างปาน ตัวอย่างไดน้ ้อย ตามตวั อยา่ งได้

กลาง น้อยมาก

รวม 5 20

36

3. การพูด เกณฑ์การประเมิน

เคร่อื งมือและเกณฑก์ ารประเมินทักษะทางภาษา

แบบบันทกึ การประเมนิ การพดู

ประเดน็ /คะแนน ความถูกตอ้ ง ความ การแสดงทา่ ทาง/ รวมคะแนน
8 คล่องแคล่ว นา้ เสียง 20
เลขที่ ชือ่ – สกุล
8 ประกอบการพูด
1 4
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20

ลงช่ือ.........................................................ผูป้ ระเมนิ
(................................................................)

วนั ที.่ .........เดอื น.................................พ.ศ. .................

37

เกณฑ์การให้คะแนนการพดู

ระดับ 4 เกณฑ์การใหค้ ะแนน น้าหนกั / คะแนน
ประเด็น คะแนน 32 1 ความส้าคญั รวม
การประเมิน

ความถกู ต้อง ออกเสียง ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสียงคา/
คาศัพทแ์ ละ คาศพั ท์และ คาศพั ท์และ ประโยคผดิ
ประโยคได้ ประโยคได้ถกู ตอ้ ง ประโยคได้ หลักการออกเสยี ง 2 8
ถกู ต้องตามหลกั ตามหลักการออก ถกู ต้องเป็น
การออกเสยี ง เสยี ง มเี สยี ง ส่วนใหญ่ ทาให้
ได้อยา่ งสมบูรณ์ เน้นหนักในคา/ ขาดการออก สอ่ื สารไมไ่ ด้
ประโยคเป็นส่วน เสยี งเน้นหนกั

ใหญ่

ความ พดู ตอ่ เน่ือง พดู ตะกุก พูดเปน็ คาๆ พดู ไดบ้ างคา
คล่องแคลว่ ไม่ตดิ ขัด ตะกักบ้าง แต่ หยุดเป็นชว่ งๆ ทาใหส้ ื่อ
พูดชดั เจน ยงั พอสอ่ื สารได้ ความหมาย
ทาให้ส่ือสารได้ เพ่อื ทาให้ ไมไ่ ด้ 2 8
ส่ือสารไดไ้ ม่
1 4
ชัดเจน 5 20

การแสดง แสดงท่าทาง พดู ด้วยนา้ เสียง พดู เหมอื นอ่าน พดู ไดน้ ้อยมาก
ทา่ ทาง/ และพูดด้วย เหมาะสมกับ ไม่เป็นธรรมชาติ
น้าเสยี ง บทบรรยาย
ประกอบ นา้ เสียง แต่ไมม่ ีทา่ ทาง ขาดความ
การพูด เหมาะสมกบั บท ประกอบ นา่ สนใจ

บรรยาย

รวม


Click to View FlipBook Version