The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จารุวรรณ เม่นอยู่, 2023-06-10 01:59:41

SAR 65

SAR 65

5. การประชุมประจำเดือน (ระดับโรงเรียน) 6. การประชุมหัวหน้าสายชั้น (ระดับโรงเรียน) 7. การประชุมสภานักเรียน (ระดับโรงเรียน)


2. จำนวนช่องทางการรับฟังความคิดเห็นจากผู้รับผิดชอบเจาะจง / มีหน่วยงานรับผิดชอบเฉพาะ 2. การมีธรรมาภิบาล (Good Governance) โรงเรียนมีช่องทางในการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวหลากหลายช่องทาง และมีผู้รับผิดชอบในการ รับฟังความคิดเห็น รวบรวมข้อมูลและนำเสนอความคิดเห็นให้กับผู้บริหาร เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาการดำเนินงาน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้ 1. เพจโรงเรียน ผู้รับผิดชอบ คือ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน เป็นแอดมินผู้ดูแล ทำหน้าที่รับฟังความคิดเห็น รวบรวมข้อมูลนำเสนอฝ่ายบริหารตามลำดับสายงานที่เกี่ยวข้อง 2. Line Official ผู้รับผิดชอบ คือ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน เป็นแอดมินผู้ดูแล ทำหน้าที่รับฟังความ คิดเห็น รวบรวมข้อมูลนำเสนอฝ่ายบริหารตามลำดับสายงานที่เกี่ยวข้อง


3. Schoology ผู้รับผิดชอบ คือ ทีม Schoology ส่วนกลางเครือโรงเรียน เป็นแอดมินผู้ดูแล ทำหน้าที่รับฟัง ความคิดเห็น และตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับ การใช้งาน Schoology รวบรวมข้อมูลนำเสนอฝ่ายบริหารตามลำดับ สายงานที่เกี่ยวข้อง 4. E-Mail ผู้รับผิดชอบ คือ ฝ่าย ICT ของโรงเรียน เป็นแอดมินผู้ดูแล ทำหน้าที่รับฟังความคิดเห็น รวบรวมข้อมูล นำเสนอฝ่ายบริหารตามลำดับสายงานที่เกี่ยวข้อง 5. ติดต่อโดยตรงที่ห้องธุรการ ผู้รับผิดชอบ คือ ครูธุรการ ทำหน้าที่รับฟังความคิดเห็น รวบรวมข้อมูลนำเสนอ ฝ่ายบริหารตามลำดับสายงานที่เกี่ยวข้อง


3. ผู้ปกครองและนักเรียนเข้าถึงข้อมูลอย่างถูกต้องครบถ้วนโดยมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญขององค์กร 2. การมีธรรมาภิบาล (Good Governance) 6. ติดต่อผ่านครูประจำชั้น โดยครูประจำชั้น จะเป็นผู้รับฟังความคิดเห็นจากนักเรียนและผู้ปกครองโดยตรง รวบรวมข้อมูลนำเสนอฝ่ายบริหารตามลำดับสายงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ปกครองและนักเรียน สามารถเข้าถึงข้อมูลจากทางโรงเรียนได้อย่างถูกต้องครบถ้วนผ่านช่องทางที่หลากหลาย ดังต่อไปนี้ 1. เพจโรงเรียน 2. Line Official/Line กลุ่มห้องเรียน 3. Schoology 4. E-Mail 5. จดหมายแจ้งผู้ปกครอง 6. ติดต่อโดยตรงที่ห้องธุรการ 7. มารีสาร 8. บอร์ดประชาสัมพันธ์


4. ไม่มีการร้องเรียนต่อองค์กรในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น 2. การมีธรรมาภิบาล (Good Governance) ไม่เคยมีการร้องเรียนต่อองค์กรในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งทางโรงเรียนมีส่วนกลางตรวจสอบการ ดำเนินงานต่าง ๆ นอกจากนี้ด้านการเงินมีการชำระเงินค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ผ่าน Bill Payment เพื่อเป็นการ อำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้ปกครอง เป็นเอกสารแจ้งรายละเอียด ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ต้องชำระ ยอดเงินที่ต้อง ชำระ วันครบกำหนดชำระเงิน วิธีการชำระเงิน โดยระบุไว้อย่างชัดเจน - ส่วนกลางเครือโรงเรียนมารีวิทย์มีหน้าที่กำกับติดตาม ดูแลการดำเนินงานของโรงเรียน ทำให้การทำงาน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส ส่วนกลางจะให้คำแนะนำในการทำงานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


- Bill Payment เอกสารแจ้งรายละเอียด ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ต้องชำระ ยอดเงินที่ต้องชำระ วันครบ กำหนดชำระเงิน วิธีการชำระเงิน


5. มีหน่วยงานรับผิดชอบเรื่องการตรวจสอบภายใน และจัดทำรายงานเสนอผู้รับผิดชอบ 2. การมีธรรมาภิบาล (Good Governance) โรงเรียนมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการตรวจสอบภายใน และจัดทำรายงานเสนอผู้รับผิดชอบตามโครงการ/ กิจกรรม/งาน ตามที่ได้รับมอบหมาย โดยสามารถแบ่งผู้รับผิดชอบได้ดังนี้ 1. กลุ่มสาระการเรียนรู้เครือโรงเรียนมารีวิทย์(ระดับเครือโรงเรียน) ประกอบด้วยฝ่ายวิชาการเครือโรงเรียน มารีวิทย์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้เครือมารีวิทย์และครูที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทำหน้าที่ดูแล กำกับ ติดตาม ให้นโยบายกับครูผู้สอนในเรื่องการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รวบรวมข้อมูลจากโรงเรียนในเครือ จัดทำ รายงานเสนอฝ่ายบริหารตามลำดับ


2. คณะกรรมการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา (ระดับโรงเรียน) ประกอบด้วยหัวหน้าโครงการทุกโครงการ ทำหน้าที่ดำเนินงานตามโครงการที่ได้รับมอบหมาย ตรวจสอบ กำกับ ติดตามโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ของ โรงเรียน ให้ดำเนินงานเป็นไปตามแผนงาน และวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ สรุปผลการดำเนินงาน และการจัดทำรายงาน ประเมินตนเองทั้งภายใน และการประเมินภายนอก


3. ฝ่ายวิชาการโรงเรียน (ระดับโรงเรียน) รับนโยบายจากส่วนกลางเครือโรงเรียน แนะนำแนวทางในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ กำกับติดตามนิเทศการสอนภายในโรงเรียนให้เป็นไปอย่างเหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านต่าง ๆ ตรวจสอบการดำเนินงาน รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินการงานวิชาการของโรงเรียน จัดทำรายงานเสนอฝ่ายบริหารตามลำดับ


4. คณะกรรมการดำเนินโครงการ / กิจกรรม ต่าง ๆ (ระดับโรงเรียน) ดำเนินงานตามโครงการ สรุปผลการ ดำเนินงาน จัดการประชุมสรุปงาน / กิจกรรมต่าง ๆ เมื่อเสร็จสิ้น นำผลการดำเนินงาน ข้อเสนอแนะ ข้อดี ข้อควร พัฒนามาเป็นแนวทางจัดทำโครงการในปีต่อ ๆ ไป


6. การชดเชยอย่างเหมาะสมกับผู้เสียหายในกรณีต่าง ๆ 2. การมีธรรมาภิบาล (Good Governance) โรงเรียนมีรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น กับนักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากร โดยการชดเชยนั้นเป็น การชดเชยด้วยเวลา เงิน และการดูแลรับผิดชอบ ซึ่งสามารถแบ่งเป็นการชดเชยได้ดังนี้ 1. ประกันอุบัติเหตุสำหรับนักเรียน และบุคลากร เพื่อดูแลนักเรียนและบุคลากร ชดเชยค่าใช้จ่ายในการรักษา กรณีเกิดอุบัติเหตุ เป็นดูแลแบบอุบัติเหตุกลุ่ม 2. ประกันสุขภาพกลุ่มครูและบุคลากร เป็นการดูแล และชดเชยค่าใช้ให้กับครูและบุคลาการ เมื่อเกิดความ เจ็บป่วย


3. คืนเงินค่าอาหาร /ค่าธรรมเนียมบางส่วนช่วงเรียนออนไลน์เพื่อขดเชยความเสียให้กับผู้ปกครอง ในกรณีที่ นักเรียนเรียนออนไลน์ และไม่สามารถมาเรียนที่โรงเรียนได้ ทางโรงเรียนจึงคืนค่าใช้ค่าอาหาร และค่าบริการอื่น ๆ ที่นักเรียนไม่ได้ใช้บริการ 4. คืนเงินส่วนต่าง ค่าอาหารที่มีการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์เมื่อโรงเรียนมีการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์บางรายการ สำหรับนักเรียน เช่น ค่านม ค่าหนังสือ แล้วเกิดส่วนต่างจากเงินเดิมที่ชำระไปแล้ว โรงเรียนจะคืนเงินส่วนต่าง ดังกล่าวให้กับผู้ปกครอง


5. ชดเชยเวลาเรียน ให้กับนักเรียนที่ติดโควิด ครูผู้สอนจะจัดเวลาหลังเลิกเรียนนัดหมายนักเรียนที่ไม่สามารถ มาเรียนได้ตามปกติ เนื่องจากมีอาการป่วย ต้องพักรักษาตัวเป้นเวลาติดต่อกัน ทำให้ไม่สามารถเรียนได้ต่อเนื่อง ครู จะดูแลและทบทวนบทเรียน ให้นักเรียนสามารถเข้าใจบทเรียน และสามารถเรียนทันเนื้อหาในเวลาเรียนปกติ นแกจากนักเรียนที่ป่วยขาดเรียนจะได้รับการดูแลแล้ว ถ้านักเรียนบางคนไม่เข้าใจเนื้อหาที่เรียนสามารถสอบถาม ขอรับการสอนเพิ่มเติมได้ หรือสามารถพูดคุยสอบทางได้ทางโทรศัพท์ หลังเรียน เพื่อรับการชี้แนะเพื่อสร้างความ เข้าใจ จนนักเรียนสามารถเรียนรู้เนื้อหานั้น ๆ ได้


7. ระบบติดตามผล และการประเมินการทำงาน 2. การมีธรรมาภิบาล (Good Governance) เพื่อให้เกิดความชอบธรรม และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน จึงต้องมีการประเมินผลการดำเนินงาน เพื่อการพัฒนางานต่อไป โรงเรียนจึงมีการประเมินการทำงาน 2 รูปแบบ ดังนี้ 1. การประเมินภายนอก นำเสนอผลการดำเนินงาน เพื่อรับการตรวจสอบ การประเมินผลการดำเนินงานต่าง ๆ จากหน่วยงานภายนอก 2 หน่วยงานหลัก คือ การประเมินจาก สมศ. และ การนิเทศติดตามจากเขตพื้นที่ การศึกษาชลบุรี เขต 3 2. การประเมินภายใน เป็นการรายงานผลการดำเนินงานต่าง ๆ ภายในโรงเรียน ซึ่งจะมีหน่วยงานที่กำกับ ติดตามเพื่อให้การดำเนินงานต่าง ๆ ของโรงเรียนดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย มีการแนะนำ และพัฒนางานเพื่อให้ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กร ทางโรงเรียนจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดูแล กำกับติดตามการดำเนินงานดังนี้ - มีส่วนกลาง ติดตาม/ตรวจสอบงานที่รับผิดชอบ (เครือโรงเรียน) ส่วนกลางเครือโรงเรียนมารีวิทย์ ให้การดูแล แนะนำ กำกับติดตาม มอบหมายนโยบาย ให้กับโรงเรียนในเครือ ให้มีแนวทางปฏิบัติเดียวกัน โดยจะมีการ ตรวจสอบ สุ่มตรวจผลการดำเนินงาน หรือเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานเป็นระยะ ในด้านวิชาการ กิจกรรม อาคาร สถานที่ เอกสารธุรการการเงิน ตลอดจนการการอบรมให้ความรู้บุคลากรภายในองค์กร เพื่อการดูแลนักเรียน อย่างเหมาะสม - มีหัวหน้าฝ่ายต่าง ๆ ตรวจสอบ/ติดตามงานที่รับผิดชอบ (ระดับโรงเรียน) หัวหน้าฝ่าย ๆ ในโรงเรียนได้รับ มอบหมายให้รับนโยบายจากส่วนกลางเครือโรงเรียน เพื่อดำเนินงานต่าง ๆ มีหน้าที่ให้คำแนะนำ กำกับติดตามการ ดำเนินงานของผู้รับผิดชอบโครงการ/งานภายในโรงเรียน เช่น การจัดการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมส่งเสริม การเรียนรู้ การดูแลนักเรียน การจัดการภายในโรงเรียน


- มีหัวหน้าสายชั้น ตรวจสอบ/ติดตามงานที่รับผิดชอบ (ระดับโรงเรียน) หัวหน้าสายชั้น ได้รับมอบหมายให้รับ นโยบายจากผู้รับผิดชอบโครงการ /งานภายในของโรงเรียน มาปฏิบัติ มีหน้าที่ดูแลครู และนักเรียนในสายชั้นดูแล กำกับ ติดตาม ให้ครูประจำชั้นดำเนินงานต่าง ๆ ได้ถูกต้องตามแนวทางการปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย


มิติที่ 3 การดำเนินการที่สอดคล้องกับหลักปรัชญา สังคมอารยะ PRINCIPLE ALIGNMENT โรงเรียนมารีวิทย์สัตหีบ


หลักเกณฑ์การประเมิน โครงการ CNB องค์กรภาคโรงเรียน เกณฑ์ รายละเอียด กิจกรรม / หลักฐานที่เกี่ยวข้อง 3. การดำเนินการที่สอดคล้องกับปรัชญาสังคมอารยะ (Principle Alignment) 1. เสรีภาพ 1.1 การให้เสรีภาพในการ แสดงความคิดเห็น 1.1 มีช่องทางหลากหลายให้ บุคลากรได้แสดงความคิดเห็น 1. การแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางการสื่อสาร ต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่น เพจโรงเรียนมารีวิทย์สัตหีบ / Line Official /โทรศัพท์ /จดหมาย / E Mail 2. โครงการเลือกตั้งประธานสภานักเรียน 3. นักเรียนพบฝ่ายบริหาร เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ พูดคุยโดยตรงกับบอร์ดบริหารเพื่อรับฟังข้อคิดเห็น 4. การประชุมจัดประชุมผู้ปกครอง 5. การพบผู้ปกครองเป็นรายบุคคล 6. เพจสภานักเรียน 2. เสมอภาค 2.1 การไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้มี ส่วนได้ส่วนเสียในองค์กรและ สังคม 2.1 กฎระเบียบเขียนไว้ ชัดเจนหรือไม่ว่า ไม่เลือก ปฏิบัติเรื่องเพศ ศาสนา เชื้อชาติ 1. คู่มือครู /คู่มือนักเรียน 2. เกณฑ์การประเมินการทำงานของบุคลากร (ประเมินตนเอง / ประเมินจากหัวหน้า /ประเมิน จากฝ่ายบริหาร) 2.2 การส่งเสริมให้บุคคลใน องค์กรมีโอกาสก้าวหน้าตาม ความสามารถและศักยภาพ 2.2 กฎระเบียบมีเขียนไว้ ชัดเจนเรื่องหลักเกณฑ์การ เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งว่า พิจารณาคุณสมบัติอะไร มี แนวทางอย่างไร 1. เกณฑ์การประเมินการทำงานของบุคลากร (ประเมินตนเอง / ประเมินจากหัวหน้า /ประเมิน จากฝ่ายบริหาร)


หลักเกณฑ์การประเมิน โครงการ CNB องค์กรภาคโรงเรียน เกณฑ์ รายละเอียด กิจกรรม / หลักฐานที่เกี่ยวข้อง 3. การดำเนินการที่สอดคล้องกับปรัชญาสังคมอารยะ (Principle Alignment) 3. ภราดรภาพ 3.1 การส่งเสริมการสร้าง ความเป็นพี่น้องเป็นน้ำหนึ่งใจ เดียวกันในองค์กรและสังคม 3.1 จำนวนกิจกรรมที่ส่งเสริม ความเป็นพี่เป็นน้อง และ ช่วยเหลือกันภายในองค์กร (ต่อปี) **ระหว่างบุคลากรภายในองค์กร 1. กิจกรรมวันงานครอบครัว 2. งานมุฑิตาจิต (ครูเกษียณอายุ) 3. กิจกรรมอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (ภายใน) 4. กิจกรรมการประชุมทางวิชาการเครือโรงเรียน มารีวิทย์ 5. งานอบรมบุคลากร สร้างจิตสำนึกปลูกฝัง วัฒนธรรมมารีวิทย์ 6. กิจกรรมวิชาการสัญจร 7. กิจกรรมกีฬาเครือโรงเรียนมารีวิทย์ 8. กิจกรรมครูพี่เลี้ยง 9. การประชุมสามัญประจำปีเครือโรงเรียน มารีวิทย์ 10. การร่วมแสดงยินดีในงานมงคล /และร่วม แสดงความเสียใจเป็นเจ้าภาพงานสวดอภิธรรมศพ 11. ทัศนศึกษาครู **ระหว่างนักเรียนภายในโรงเรียน 12. กิจกรรมพี่สอนน้อง / สานสัมพันธ์พี่น้อง 13. กิจกรรมกีฬาสานสัมพันธ์ 14. กิจกรรมปัจฉิมนิเทศ **ระหว่างโรงเรียนกับหน่วยงานภายนอก 15. กิจกรรมส่งการเรียนรู้ให้กับโรงเรียนสัจจศึกษา 16. ให้การสนับสนุนบุคลากรเข้าอบรม และจัด กิจกรรมให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่ 17. เข้าร่วมกิจกรรมกับหน่วยงานภาครัฐและ เอกชนในชุมชน


หลักเกณฑ์การประเมิน โครงการ CNB องค์กรภาคโรงเรียน เกณฑ์ รายละเอียด กิจกรรม / หลักฐานที่เกี่ยวข้อง 3. การดำเนินการที่สอดคล้องกับปรัชญาสังคมอารยะ (Principle Alignment) 3.2 ความสามารถในการ จัดการความขัดแย้ง 3.2 มีแนวทางปฏิบัติชัดเจน กำหนดการแก้ไขในกรณีที่ เกิดความขัดแย้งขึ้นภายใน หน่วยงาน 1. มีการแบ่งสายงานในการปฏิบัติหน้าที่อย่าง ชัดเจน ในระดับสายชั้น ระดับช่วงชั้น ระดับ โรงเรียน และระดับเครือโรงเรียน สามารถดูแล และแก้ปัญหาได้ตามระดับหรือสายงาน 2. งานปกครองเพื่อการดูแลความเป็นระเบียบ เรียบร้อย และลดความขัดแย้งในองค์กร 3. ครูประจำชั้นพบผู้ปกครอง 4. ประชุมประจำเดือน


1.1 มีช่องทางหลากหลายให้บุคลากรได้แสดงความคิดเห็น 3. การดำเนินการที่สอดคล้องกับปรัชญาสังคมอารยะ (Principle Alignment) เสรีภาพ การให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น 1. การแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่น เพจโรงเรียนมารีวิทย์สัตหีบ / Line Official /โทรศัพท์ /จดหมาย / E Mail 2. โครงการเลือกตั้งประธานสภานักเรียน 3. นักเรียนพบฝ่ายบริหาร เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พูดคุยโดยตรงกับบอร์ดบริหารเพื่อรับฟังข้อคิดเห็น


4. การประชุมจัดประชุมผู้ปกครอง 5. การพบผู้ปกครองเป็นรายบุคคล 6. เพจสภานักเรียน


2.1 กฎระเบียบเขียนไว้ชัดเจนหรือไม่ว่า ไม่เลือกปฏิบัติเรื่องเพศ ศาสนา 2.2 การส่งเสริมให้บุคคลในองค์กรมีโอกาสก้าวหน้าตามความสามารถและศักยภาพเชื้อชาติ 3. การดำเนินการที่สอดคล้องกับปรัชญาสังคมอารยะ (Principle Alignment) เสมอภาค การไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในองค์กรและสังคม 1. คู่มือครู /คู่มือนักเรียน 2. เกณฑ์การประเมินการทำงานของบุคลากร (ประเมินตนเอง / ประเมินจากหัวหน้า /ประเมินจากฝ่ายบริหาร) กฎระเบียบมีเขียนไว้ชัดเจนเรื่องหลักเกณฑ์การเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งว่าพิจารณาคุณสมบัติอะไร มีแนวทางอย่างไร


3.1 จำนวนกิจกรรมที่ส่งเสริมความเป็นพี่เป็นน้อง และช่วยเหลือกันภายในองค์กร (ต่อปี)เชื้อชาติ 3. การดำเนินการที่สอดคล้องกับปรัชญาสังคมอารยะ (Principle Alignment) ภราดรภาพ 3.1 การส่งเสริมการสร้างความเป็นพี่น้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในองค์กรและสังคม **ระหว่างบุคลากรภายในองค์กร 1. กิจกรรมวันงานครอบครัว 2. งานมุฑิตาจิต (ครูเกษียณอายุ) 3. กิจกรรมอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (ภายใน) 4. กิจกรรมการประชุมทางวิชาการเครือโรงเรียนมารีวิทย์


5. งานอบรมบุคลากร สร้างจิตสำนึกปลูกฝังวัฒนธรรมมารีวิทย์ 6. กิจกรรมวิชาการสัญจร 7. กิจกรรมกีฬาเครือโรงเรียนมารีวิทย์ 8. กิจกรรมครูพี่เลี้ยง


9. การประชุมสามัญประจำปีเครือโรงเรียนมารีวิทย์ 10. การร่วมแสดงยินดีในงานมงคล /และร่วมแสดงความเสียใจเป็นเจ้าภาพงานสวดอภิธรรมศพ 11. ทัศนศึกษาครู


**ระหว่างนักเรียนภายในโรงเรียน 12. กิจกรรมพี่สอนน้อง / สานสัมพันธ์พี่น้อง 13. กิจกรรมกีฬาสานสัมพันธ์ 14. กิจกรรมปัจฉิมนิเทศ


**ระหว่างโรงเรียนกับหน่วยงานภายนอก 15. กิจกรรมส่งการเรียนรู้ให้กับโรงเรียนสัจจศึกษา 16. ให้การสนับสนุนบุคลากรเข้าอบรม และจัดกิจกรรมให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่ 17. เข้าร่วมกิจกรรมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในชุมชน


3.2 มีแนวทางปฏิบัติชัดเจนกำหนดการแก้ไขในกรณีที่เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในหน่วยงาน 3. การดำเนินการที่สอดคล้องกับปรัชญาสังคมอารยะ (Principle Alignment) 1. การกระจายอำนาจเพื่อการดูแล และลดความขัดแย้งในองค์กร มีการแบ่งสายงานในการปฏิบัติหน้าที่ อย่างชัดเจน ในระดับสายชั้น ระดับช่วงชั้น ระดับโรงเรียน และระดับเครือโรงเรียน สามารถดูแลและ แก้ปัญหาได้ตามระดับหรือสายงาน 2. งานปกครอง ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน หรือการดูแล สภาพจิตใจของนักเรียนและบุคลากรภายในองค์กร สามารถรับคำปรึกษาจากครูแนะนำและจิตวิทยา เพื่อลด ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากสภาวะด้านจิตใจไม่ปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดความขัดแย้งในองค์กร การเข้ารับคำปรึกษาเป็น การป้องกันก่อนเกิดความขัดแย้ง หรือถ้าเกิดความขัดแย้งขึ้นแล้ว การพูดคุยปรึกษาก็จะสามารถช่วยให้ปีญหา ความขัดแย้งคลี่คลาย ครูวรวลัญช์ ทับทิมสุข หัวหน้างานปกครอง ดูแลความเป็นระเบียบ และลดความ ครูกนกเรขา ผิวขำ ครูแนะแนวและจิตวิทยา บริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตให้แก่บุคลากรและนักเรียน


3. กิจกรรมครูประจำชั้นพบผู้ปกครอง เป็นกิจกรรมเพื่อสร้างความเข้าใจอันดี ปรึกษาหารือเรื่องการดูแล นักเรียนเพื่อลดปัญหา และความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นการดูแลนักเรียนร่วมกันระหว่างบ้านกับ โรงเรียน กิจกรรมนี้จัดให้มีโอกาสพบครูประจำชั้นแบบรายบุคคลทุกคน อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง หรือใน กรณีที่มีข้อปรึกษาเพิ่มเติมสามารถพบครูประจำชั้นได้ในช่วงเย็น หรือติดต่อทางไลน์ห้องเรียน 4. ประชุมประจำเดือน เป็นการชี้แจงแนวทางในการปฏิบัติที่ถูกต้องจากฝ่ายบริหาร ทำให้องค์กรสามารถชับ เคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน ตามนโยบาย ONE MARYVIT นอกจากการชี้แจงแนวทางต่าง ๆ แล้วยังเปิดโอกาสให้ ซักถาม ปรึกษาปีญหาที่พบ ช่วยแก้ไชปัญหาและลดความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในการทำงาน


มิติที่ 4 ความยั่งยืน SUSTAINABILITY โรงเรียนมารีวิทย์สัตหีบ


หลักเกณฑ์การประเมิน โครงการ CNB องค์กรภาคโรงเรียน เกณฑ์ รายละเอียด กิจกรรม / หลักฐานที่เกี่ยวข้อง 4. ความยั่งยืน (Sustainability) 1. People (ดีต่อคน) 1.1 องค์กรมีการสร้างผู้นำ หรือ ทายาทเพื่อสานต่องาน และอุดมการณ์เพื่อส่วนรวม 1.1 แผนการสร้างผู้นำที่มี อุดมการณ์ในงานหลักของ องค์กร 1. มีการมองรุ่นน้องที่มีแวว เพื่อฝึกความเป็นผู้นำผู้ตาม 2. ส่งเสริมบุคลากรให้ศึกษาต่อในที่ระดับสูงขึ้น 3. ส่งเสริมและพัฒนาบุคลาการเข้ารับการอบรม 2. Profit (ดีต่อองค์กร) 2.1 การมีรายได้เพียง พอที่จะดำเนินกิจการใน รอบปี 2.1 มีรายได้หรืองบประมาณ เพียงพอสำหรับการดำเนิน กิจการในรอบปี 1. มีการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการ ดำเนินการ สามารถดำเนินโครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ตามแผนงานที่วางไว้ มีการพัฒนาและปรับปรุงอาคาร สถานที่ ตลอดจนปรับภูมิทัศน์บริเวณต่าง ๆ ของโรงเรียน ให้เหมาะสม และน่าอยู่ 2.2 มีเงินสะสมสำหรับการ ดำเนินการโครงการใหม่ตาม แผนงานในปีต่อไป 1. มีการจัดแบ่งสัดส่วนเงินสะสมเพื่อใช้ในการดำเนินการ ในแผนงานปีต่อไป สามารถขยายเครือโรงเรียนเพิ่มเติมอีก 1 สาขา คือ โรงเรียนมารีวิทย์ระยอง (รวม 4 โรงเรียน) 2.3 มีแผนการบริหารจัดการ ความเสี่ยงและนำไปใช้อย่าง เป็นปกติ 1. One Maryvit คือ แผนงานการดำเนินงานเครือโรงเรียน มารีวิทย์ ที่กำหนดแนวทางการปฏิบัติอย่างชัดเจนให้เป็นไป ในทิศทางเดียวกัน แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบลดภาระงาน แต่โรงเรียน (หาร 3) ขณะเดียวกันสามารถแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ ใช้ร่วมกันได้ทั้ง 3 โรง (คูณ 3) 3. Planet (ดีต่อโลก) 3.1 การดำเนินการโดยไม่ สร้างผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมและสังคม 3.1 ถูกร้องเรียนต่อในเรื่อง สิ่งแวดล้อมและสังคม หรือไม่ ไม่เคยถูกร้องเรียนในเรื่องสิ่งแวดล้อมและสังคม มีการ ดำเนินงานเพื่อการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อมและสังคมดังนี้ 1. ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากธรรมชาติ 2. ติดตั้งอ่างล้างมือบริเวณต่าง ๆ ของโรงเรียน เพื่อ สุขอนามัยที่ดีและต่อท่อน้ำทิ้งจากการล้างมือใช้ในการ รดน้ำต้นไม้เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า 3. จัดการการจราจรที่ติดขัดในช่วงเย็น โดยจัดทำแผนผัง การเดินรถ ช่องทางลัด และจัดทำป้ายชื่อนักเรียนติดหน้า รถ ครูเวรประกาศเรียกชื่อนักเรียน กลับบ้านเพื่อความ รวดเร็ว ไม่ต้องวนรถมารับหลายรอบ 4. การจัดการขยะมูลฝอย การแยกขยะก่อนทิ้ง โดยมี จุดพักขยะเพื่อคัดแยกก่อนเทศบาลจะมาจัดเก็บขยะ


1.1 แผนการสร้างผู้นำที่มีอุดมการณ์ในงานหลักขององค์กร 4. ความยั่งยืน (Sustainability) 1. มีการมองรุ่นน้องที่มีแวว เพื่อฝึกความเป็นผู้นำผู้ตาม 2. ส่งเสริมบุคลากรให้ศึกษาต่อในที่ระดับสูงขึ้น


3. ส่งเสริมและพัฒนาบุคลาการเข้ารับการอบรม


2.1 มีรายได้หรืองบประมาณเพียงพอสำหรับการดำเนินกิจการในรอบปี 4. ความยั่งยืน (Sustainability) 2.2 มีเงินสะสมสำหรับการดำเนินการโครงการใหม่ตามแผนงานในปีต่อไป 4. ความยั่งยืน (Sustainability) 1. มีการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการดำเนินการ สามารถดำเนินโครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ตามแผนงานที่วางไว้ มีการพัฒนาและปรับปรุงอาคารสถานที่ ตลอดจนปรับภูมิทัศน์บริเวณต่าง ๆ ของโรงเรียนให้ เหมาะสม และน่าอยู่ 1. มีการจัดแบ่งสัดส่วนเงินสะสมเพื่อใช้ในการดำเนินการในแผนงานปีต่อไป สามารถขยายเครือโรงเรียนเพิ่มเติม อีก 1 สาขา คือ โรงเรียนมารีวิทย์ระยอง (รวม 4 โรงเรียน)


2.3 มีแผนการบริหารจัดการความเสี่ยงและนำไปใช้อย่างเป็นปกติ 4. ความยั่งยืน (Sustainability) 3.1 ถูกร้องเรียนต่อในเรื่องสิ่งแวดล้อมและสังคมหรือไม่ 4. ความยั่งยืน (Sustainability) 1. One Maryvit คือ แผนงานการดำเนินงานเครือโรงเรียนมารีวิทย์ ที่กำหนดแนวทางการปฏิบัติอย่างชัดเจนให้ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบลดภาระงานแต่โรงเรียน (หาร 3) ขณะเดียวกันสามารถ แบ่งปันสิ่งต่าง ๆ ใช้ร่วมกันได้ทั้ง 3 โรง (คูณ 3) ไม่เคยถูกร้องเรียนในเรื่องสิ่งแวดล้อมและสังคม มีการดำเนินงานเพื่อการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อมและสังคมดังนี้ 1. ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากธรรมชาติ 2. ติดตั้งอ่างล้างมือบริเวณต่าง ๆ ของโรงเรียน เพื่อสุขอนามัยที่ดีและต่อท่อน้ำทิ้งจากการล้างมือใช้ใน การรดน้ำต้นไม้เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า


3. จัดการการจราจรที่ติดขัดในช่วงเย็น โดยจัดทำแผนผัง การเดินรถ ช่องทางลัด และจัดทำป้ายชื่อนักเรียนติด หน้ารถ ครูเวรประกาศเรียกชื่อนักเรียนกลับบ้านเพื่อความรวดเร็ว ไม่ต้องวนรถมารับหลายรอบ 4. การจัดการขยะมูลฝอย การแยกขยะก่อนทิ้ง โดยมีจุดพักขยะเพื่อคัดแยกก่อนเทศบาลจะมาจัดเก็บขยะ


มิติที่ 5 การสร้างผลกระทบเชิงบวก IMPACT โรงเรียนมารีวิทย์สัตหีบ


หลักเกณฑ์การประเมิน โครงการ CNB องค์กรภาคโรงเรียน เกณฑ์ รายละเอียด กิจกรรม / หลักฐานที่เกี่ยวข้อง 5. การสร้างผลกระทบทางบวก (Impact) 1. คน 1.1 การพัฒนาคนให้มี สมรรถนะ KSL 1.1 สัดส่วนบุคลากรใน องค์กรที่ผ่านการอบรม (ชม. / คน) 1. การอบรมบุคลากรทั้งภายในและภายนอก สถานศึกษา โดยแบ่งเป็น 3 ด้านดังนี้ 1.ความรู้ เฉลี่ย 21.68 ชม./คน 2.ทักษะ เฉลี่ย 21.23 ชม/คน 3. คุณธรรม จริยธรรม 9.99 ชม/คน 1.2 การปลูกฝังค่านิยม อุดมการณ์ที่ถูกต้อง 1.2.1 สัดส่วนของคนใน องค์กรที่เข้าร่วมการอบรม ด้านการสร้างชาติ 1. การอบรมคุณธรรมจริยธรรมครูและนักเรียน คิดเป็น 100% 2. การทบทวนบทบาทของครู และวัฒนธรรม มารีวิทย์การไหว้เมื่อเจอกัน เคารพผู้อาวุโสกว่า ซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น ตรงต่อเวลา ขยัน และ อดทน คิดเป็น 100% 3. เข้าร่วมอบรมหลักสูตรทุจริตศึกษาของสภา นักเรียนกับสำนักงานศึกษาธิการภาคตะวันออก 4. เข้าร่วมอบรมอารยะสร้างชาติ 5. เข้าร่วมอบรมผู้นำไตรภาวะ: ภาวะการบริหาร ภาวะการนำและภาวะคุณธรรม 6. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมนักศึกษาวิชา ทหาร / กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ส่งสร้างความ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์


หลักเกณฑ์การประเมิน โครงการ CNB องค์กรภาคโรงเรียน เกณฑ์ รายละเอียด กิจกรรม / หลักฐานที่เกี่ยวข้อง 5. การสร้างผลกระทบทางบวก (Impact) 2. ระบบ 2.1 การจัดส่วนงานที่ทำ กิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคม (CSR) เจาะจง 2.1 การจัดตั้งทีม / ส่วนงาน ที่รับผิดชอบงานกิจการเพื่อ ช่วยเหลือสังคมเจาะจง 1. งานอภิบาลโรงเรียน มีการจัดตั้งทีมอภิบาลโรงเรียน เพื่อ ดำเนินการช่วยเหลือชุมชน และสังคม 2.2 การส่งเสริมบุคลากร ในการรวมกลุ่มทำประโยชน์ เพื่อส่วนรวม 2.2.2 สัดส่วนสมาชิกเทียบ กับบุคคลากรทั้งหมด 1. สัดส่วนสมาชิกเทียบกับบุคลากรทั้งหมด ที่ทำประโยชน์เพื่อ ทำบุญ ในการสมทบทุนทำบุญโรงเรียนโสตพัฒนา - บุคลากรจำนวน 205 คน จาก 244 คน คิดเป็นร้อยละ 84.02 - นักเรียนทุกคนเข้าร่วมทำบุญตามจิตศรัทธา 2. บุคลากรและนักเรียนทุกคน ร่วมทำบุญ บริจาคสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้งในกิจกรรมเข้าพรรษา ตลอดจนให้ความ ร่วมมือ ด้วยแรงกาย ประชาสัมพันธ์คิดเป็นร้อยละ 100 3. บุคลากรและนักเรียนทุกคน ร่วมทำบุญบริจาคสิ่งของ ซื้อ บัตรเล่นเกมการกุศล ประชาสัมพันธ์กิจกรรมคริสต์มาสการกุศล คิดเป็นร้อยละ 100 4. บุคลากรและนักเรียน ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย แผ่นดินไหวที่ตรุกีและซีเรีย คิดเป็นร้อยละ 85 2.2 การส่งเสริมบุคลากร ในการรวมกลุ่มทำประโยชน์ เพื่อส่วนรวม 2.2.3 จำนวนกิจกรรมเพื่อ สังคมที่กลุ่มดำเนินการ 5 กิจกรรม 1. MOU กับ โรงเรียนสัจจศึกษา เรื่องการส่งเสริมการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียนโรงเรียนสัจจศึกษา 2. โครงการจิตอาสา : พี่เพื่อน้อง (เล่านิทานให้น้องอนุบาล โรงเรียนใกล้เคียง) 3. โครงการจิตอาสา : พี่สอนน้อง (จัดค่ายวิชาการป.1-6 ให้กับ โรงเรียนใกล้เคียง) 4. โครงการจิตอาสา : สื่อนี้เพื่อน้อง (จัดทำสื่อ On-Hand สำหรับน้องอนุบาลโรงเรียนใกล้เคียง) 5. เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสากับเครือข่ายจิตอาสาในท้องถิ่น Sattahip Beach Defender สโมสรไลออนส์สัตหีบ และ หน่วยงานราชการในเรื่อง การเก็บขยะตามชายหาด / ปลูก ปะการัง


หลักเกณฑ์การประเมิน โครงการ CNB องค์กรภาคโรงเรียน เกณฑ์ รายละเอียด กิจกรรม / หลักฐานที่เกี่ยวข้อง 5. การสร้างผลกระทบทางบวก (Impact) 2.3 การส่งเสริมบุคลากรในการ บริจาคเพื่อส่วนร่วม (ประเพณี) 2.3 สัดส่วนคนที่บริจาค (% ของบุคลากรทั้งหมด) 1. บุคลากรครูและนักเรียน สมทบทุนเพื่อสร้าง อาคารเรียนโรงเรียน โสตพัฒนา 2. บุคลากรครูและนักเรียน ทำบุญในวันสำคัญ ต่าง ๆ 3. บุคลากรครูทุกคนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือ บุคลากร หรือคนในครอบครัวกรณีเสียชีวิต 4. บุคลากรครูร่วมบริจาคเมื่อเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานภายนอก 5. บุคลากรครูร่วมบริจาคเพื่อนำเงินไปทำ กิจกรรมจิตอาสา 6. นักเรียนในระดับชั้นมัธยม ใช้เวลาว่างเล่น ดนตรีเพื่อขอรับบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนการทำ กิจกรรมจิตอาสา 2.4 การส่งเสริมบุคลากรในการ เข้าร่วมกิจกรรมขององค์กรที่ทำ ประโยชน์เพื่อส่วนรวม เช่น หลักสูตร NBI เป็นจิตอาสา 2.4 สัดส่วนคนที่เข้าร่วมกิจกรรม ขององค์กรที่ทำประโยชน์เพื่อ ส่วนรวมอย่างน้อย 1 กิจกรรม 1. ส่งเสริมให้บุคลากรครูและนักเรียนสมทบทุน เพื่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนโสตพัฒนา ตามจิต ศรัทธา 2. ส่งครูเป็นวิทยากรเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการ เรียนรู้ภาษาอังกฤษร่วมกับอบต. พลูตาหลวง 2.5 การร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ ในการสร้างชาติ (ตรีกิจ) 2.5 มีการสร้างความร่วมมือทั้ง 3 ภาคกิจในการทำโครงการเพื่อ สังคมสำเร็จ 1. การเข้าร่วมกิจกรรมแห่เทียนจำนำพรรษา ร่วมกับอำเภอสัตหีบ เพื่อถวายเทียนจำนำพรรษา ณ วัดป่ายุบ และวัดเขาพลอย 2. โครงการสัตหีบเมืองแห่งการแล่นใบ 3. MOU กับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานต่าง


หลักเกณฑ์การประเมิน โครงการ CNB องค์กรภาคโรงเรียน เกณฑ์ รายละเอียด กิจกรรม / หลักฐานที่เกี่ยวข้อง 5. การสร้างผลกระทบทางบวก (Impact) 2.6 การริเริ่ม Unit ใหม่ ที่จะ เป็นประโยชน์ต่อการสร้างชาติ เช่น หน่วยธุรกิจใหม่ ทีมใหม่ 2.6.1 การมีบุคคล / ทีมรับผิดชอบ งานสนับสนุนสถาบันการสร้างชาติ มีบุคลากรรับผิดชอบงานสนับสนุนสถาบันสร้าง ชาติมี 2 คน 2..6.2 สัดส่วนคนที่ให้ ความสามารถและเวลาช่วย สนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวกับการ สร้างและพัฒนาประเทศชาติเช่น สนับสนุนงานสถาบันสร้างชาติ โรงเรียนมีสัดส่วนคนที่ให้ความสามารถและ เวลาช่วยสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวกับการสร้าง และพัฒนาประเทศชาติจำนวน 2 คน อย่าง น้อย 3 ครั้งต่อเดือน ขยายผลในการประชุม ประจำเดือน และขยายผลให้นักเรียนต่อในช่วง กิจกรรมโฮมรูม 2.6 การริเริ่ม Unit ใหม่ ที่จะ เป็นประโยชน์ต่อการสร้างชาติ เช่น หน่วยธุรกิจใหม่ ทีมใหม่ (ความเป็นสถาบัน) 2.6.3 สัดส่วนคนที่บริจาค (เงิน ของ - ตีมูลค่าเงิน) Treasure สนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวกับการ สร้างและพัฒนาประเทศชาติหรือ งานของสถาบันการสร้างชาติ สัดส่วนของคนที่บริจาค เงิน สมทบทุนโรงเรียน โสตพัฒนา คิดเป็น 84.02 เป็นจำนวนเงิน 267,744 บาท 2.7 การกำหนดกฎระเบียบที่ เอื้อต่อบุคลากรในการมีส่วนใน การสร้างชาติ 2.7 มีกฎระเบียบที่อนุญาตให้ บุคลากรร่วมกิจกรรมเพื่อส่วนรวม โดยไม่นับเป็นวันลา 1. โรงเรียนไม่มีกฎระเบียบที่อนุญาตให้บุคลากร ร่วมกิจกรรมเพื่อส่วนรวมโดยไม่นับเป็นวันลา อย่างชัดเจน แต่เอื้อให้กันทุกครั้งที่มีกิจกรรม 3. บริบท 3.1 การเป็นแบบอย่างของ ผู้นำในการสร้างชาติ 3.1 คณะผู้นำสูงสุดเข้าร่วม หลักสูตรสถาบันการสร้างชาติ (%) 1. โรงเรียนมีคณะผู้นำสูงสุดเข้าร่วมหลักสูตร สถาบัน 1 คน และรองหัวหน้า 1 คน เข้าร่วมฟัง อบรม /เข้าร่วมอบรม 3.2 การสอดแทรกแนวคิด เรื่องการสร้างชาติในการ ดำเนินงานขององค์กร 3.2 จำนวนกิจกรรมที่สอดแทรก แนวคิดเรื่องการสร้างชาติ (ครั้ง/เดือน) 1. โรงเรียนมีกิจกรรมที่แทรกแนวคิดการสร้าง ชาติในกิจกรรม อย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน ได้แก่ 1. อบรมครูใหม่ 2. ประชุมประจำเดือน 4. ผลการดำเนินงานของ องค์กร (Performance) โรงเรียน สร้างนักศึกษาคุณภาพ 4. โรงเรียน : ผลการประเมิน มาตรฐานการศึกษา (มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน) 1. โรงเรียนมีผลการประเมินมาตรฐาน การศึกษาด้านคุณภาพผู้เรียนในระดับ ยอดเยี่ยม


1. คน 1.1 สัดส่วนบุคลากรในองค์กรที่ผ่านการอบรม (ชม. / คน) 5. การสร้างผลกระทบทางบวก (Impact) 1.2.1 สัดส่วนของคนในองค์กรที่เข้าร่วมการอบรมด้านการสร้างชาติ(ชม. / คน) 5. การสร้างผลกระทบทางบวก (Impact) 1.1 การพัฒนาคนให้มีสมรรถนะ KSL 1. การอบรมบุคลากรทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา โดยแบ่งเป็น 3 ด้านดังนี้ 1. การอบรมคุณธรรมจริยธรรมครูและนักเรียน คิดเป็น 100% ความรู้ 21.68 ชั่วโมง ทักษะ 21.23 ชั่วโมง คุณธรรม จริยธรรม 9.99 ชั่วโมง ทั งภายในและภายนอกสถานศึกษา โดยแบ่งเป็นด้านดังนี สัดส่วนเฉลี่ยการอบรมของบุคลาการ (ชั่วโมง/คน) การอบรมบุคลากรโรงเรียนมารีวทิยส์ ัตหีบ


2. การทบทวนบทบาทของครู และวัฒนธรรมมารีวิทย์การไหว้เมื่อเจอกัน เคารพผู้อาวุโสกว่า ซื่อสัตย์ต่อตนเอง และผู้อื่น ตรงต่อเวลา ขยัน และอดทน คิดเป็น 100% 3. เข้าร่วมอบรมหลักสูตรทุจริตศึกษาของสภานักเรียนกับสำนักงานศึกษาธิการภาคตะวันออก 4. เข้าร่วมอบรมอารยะสร้างชาติ 5. เข้าร่วมอบรมผู้นำไตรภาวะ: ภาวะการบริหารภาวะการนำและภาวะคุณธรรม


2. ระบบ 2.1 การจัดตั้งทีม / ส่วนงานที่รับผิดชอบงานกิจการเพื่อช่วยเหลือสังคมเจาะจง 5. การสร้างผลกระทบทางบวก (Impact) 6. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมนักศึกษาวิชาทหาร / กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ส่งสร้างความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1. งานอภิบาลโรงเรียน มีการจัดตั้งทีมอภิบาลโรงเรียน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือชุมชน และสังคม


ม.ภาคิน อ้นไชยะ หัวหน้างานอภิบาล


2.2 การส่งเสริมบุคลากรในการรวมกลุ่มทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม 2.2.2 สัดส่วนสมาชิกเทียบกับบุคคลากรทั้งหมด 5. การสร้างผลกระทบทางบวก (Impact) 1. สัดส่วนสมาชิกเทียบกับบุคลากรทั้งหมด ที่ทำประโยชน์เพื่อทำบุญ ในการสมทบทุนทำบุญโรงเรียนโสตพัฒนา - บุคลากรจำนวน 205 คน จาก 244 คน คิดเป็นร้อยละ 84.02 - นักเรียนทุกคนเข้าร่วมทำบุญตามจิตศรัทธา 2. บุคลากรและนักเรียนทุกคน ร่วมทำบุญ บริจาคสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้งในกิจกรรมเข้าพรรษา ตลอดจนให้ ความร่วมมือ ด้วยแรงกาย ประชาสัมพันธ์คิดเป็นร้อยละ 100 3. บุคลากรและนักเรียนทุกคน ร่วมทำบุญบริจาคสิ่งของ ซื้อบัตรเล่นเกมการกุศล ประชาสัมพันธ์กิจกรรม คริสต์มาสการกุศล คิดเป็นร้อยละ 100 4. บุคลากรและนักเรียน ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ตรุกีและซีเรีย คิดเป็นร้อยละ 85


2.2 การส่งเสริมบุคลากรในการรวมกลุ่มทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม 2.2.3 จำนวนกิจกรรมเพื่อสังคมที่กลุ่มดำเนินการ 5 กิจกรรม 5. การสร้างผลกระทบทางบวก (Impact) 1. MOU กับ โรงเรียนสัจจศึกษา เรื่องการส่งเสริมการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียนโรงเรียนสัจจศึกษา 2. โครงการจิตอาสา : พี่เพื่อน้อง (เล่านิทานให้น้องอนุบาลโรงเรียนใกล้เคียง)


3. โครงการจิตอาสา : พี่สอนน้อง (จัดค่ายวิชาการป.1-6 ให้กับโรงเรียนใกล้เคียง) 4. โครงการจิตอาสา : สื่อนี้เพื่อน้อง (จัดทำสื่อ On-Hand สำหรับน้องอนุบาลโรงเรียนใกล้เคียง)


2.3 การส่งเสริมบุคลากรในการบริจาคเพื่อส่วนร่วม (ประเพณี)สัดส่วนคนที่บริจาค (% ของบุคลากรทั้งหมด) 5. การสร้างผลกระทบทางบวก (Impact) 5. เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสากับเครือข่ายจิตอาสาในท้องถิ่น Sattahip Beach Defender สโมสรไลออนส์สัตหีบ และหน่วยงานราชการในเรื่อง การเก็บขยะตามชายหาด / ปลูกปะการัง 1. บุคลากรครูและนักเรียน สมทบทุนเพื่อสร้างอาคารเรียนโรงเรียน โสตพัฒนา 2. บุคลากรครูและนักเรียน ทำบุญในวันสำคัญต่าง ๆ


Click to View FlipBook Version