The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

B10 มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ปี 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by E-Library DAS, 2021-08-25 02:35:56

มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ปี 2563

B10 มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ปี 2563

Keywords: B10,มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ปี 2563

DDC 64012

มาตรฐานและแนวทางปฏิบตั งิ าน
ทมี เฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ
โรคและภยั สุขภาพ 2563

มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั ิงานทมี เฝ้าระวงั สอบสวนควบคุมโรคและภัยสขุ ภาพ 2563 ไดผ้ ่านการตรวจประเมิน
และรบั รองมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ เพ่อื การเฝา้ ระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภยั สุขภาพ กรมควบคมุ โรค
Suggested Citation: Division of Epidemiology, Department of Disease Control. Standard Operating
Procedures for Surveillance and Rapid Response Team, Thailand, 2020. Nonthaburi: Division
of Epidemiology, Department of Control (TH); 2020.

มาตรฐานและแนวทางปฏิบัตงิ าน
ทีมเฝ้าระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ

2563

ISBN : 978-616-11-4467-8

คณะผู้จัดทำ

หวั หนา้ กองบรรณาธิการ ผอู้ �ำนวยกำรกองระบำดวทิ ยำ
แพทยห์ ญงิ วลัยรัตน ์ ไชยฟู

กองระบาดวทิ ยา นำงสำวปรำงคศ์ ิร ิ นำแหลม
นำงสำวนิภำพรรณ สฤษดิอ์ ภริ ักษ์ นำงสำวอรทัย สวุ รรณไชยรบ
นำงสำวนิรนั ดร ยิ้มจอหอ นำงสำวภทั รำวดี ภกั ดแี พง
นำงสำวภทั รธ์ นี นั ท ์ ทองโสม  นำงสำวเพ็ญศิร ิ ยะหวั ดง 
นำยแพทยช์ ำโล สำณศลิ ปิน
นำงสำววชิ ญำภรณ ์ วงษ์บ�ำหร ุ

กองนวตั กรรมและวิจัย
นำยแพทย์ปณิธี ธมั มวิจยะ 

กองดา่ นควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ
นำยแพทย์โรม บวั ทอง

พสิ ูจนอ์ ักษร นำงสำวณฐวด ี ศรีวรรณยศ
นำงสำวบริมำศ ศกั ดศิ์ ิริสมั พนั ธ์ ดร.อรัฐำ รงั ผ้ึง
นำงสำวดนยำ สเุ วททนิ

จัดพิมพแ์ ละเผยแพร่
ผลติ และเผยแพร ่ : กองระบำดวิทยำ กรมควบคุมโรค กระทรวงสำธำรณสุข ถนนติวำนนท์
อ�ำเภอเมอื ง จงั หวดั นนทบุร ี 11000
https://ddc.moph.go.th/doe/

พิมพค์ ร้งั ที่ 1 : กนั ยำยน 2563 

จา� นวน : 3,000 เล่ม

พมิ พ์ที่ : หจก.แคนนา กราฟฟคิ
19/323 หมูบ่ ้ำนธำรทอง ถนนบำงแวก เขตภำษีเจริญ กรงุ เทพฯ 10700
โทร. 02 865 8454 - 55

คำนำ

  ประเทศไทยมีกำรเตรียมควำมพร้อมของทีมเฝ้ำระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภำพ 
ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2548 ซ่ึงประกอบด้วยทีมระดับส่วนกลำง เขต จังหวัด อ�ำเภอ ทีมดังกล่ำว 
มคี วำมสำ� คญั ตอ่ กำรรบั มอื กบั โรคและภยั คกุ คำมทเ่ี ปน็ ปญั หำสขุ ภำพตอ่ ประชำชน ทง้ั ในภำวะปกต ิ
และภำวะฉุกเฉินทำงสำธำรณสุข กำรจัดท�ำมำตรฐำนมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทีมมีแนวทำง 
ในกำรพัฒนำและยกระดับคุณภำพ เปรียบเทียบสมรรถนะระหว่ำงทีม และเพ่ือเป็นกลไก 
ในกำรพัฒนำขีดควำมสำมำรถด้ำนกำรเฝ้ำระวังและตอบสนองภำวะฉุกเฉินทำงสำธำรณสุข 
ตำมขอ้ ก�ำหนดในกฎอนำมัยระหว่ำงประเทศ 
  ในระยะ 5 ปีที่ผ่ำนมำ ประเทศไทยมีโรคติดต่ออุบัติใหม่–อุบัติซ�้ำเกิดขึ้นบ่อยครั้ง 
เช่น ปี พ.ศ 2558–2559 พบผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์ส 3 รำย ในประเทศไทย เป็นผู้ท่ีเดินทำงจำก 
ประเทศแถบตะวันออกกลำง  ปี พ.ศ. 2559 พบกำรระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสซิกำในหลำย 
พื้นที่ ปี พ.ศ. 2561 พบกำรระบำดของโรคหัดท�ำให้มีผู้เสียชีวิตจ�ำนวนมำก และปี พ.ศ. 2563 
พบกำรระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 เหตุกำรณ์ต่ำง ๆ สำมำรถจัดกำรได้ดี เนื่องจำก 
มี ที ม เ ฝ ้ ำ ร ะ วั ง ส อ บ ส ว น ค ว บ คุ ม โ ร ค ท่ี มี คุ ณ ภ ำ พ   ซึ่ ง จ ำ ก ผ ล ก ำ ร ป ร ะ เ มิ น ม ำ ต ร ฐ ำ น ใ น 
ปี พ.ศ. 2560–2562 พบว่ำ ทีมระดับอ�ำเภอผ่ำนเกณฑ์มำตรฐำนระดับพื้นฐำนมำกกว่ำ 
ร้อยละ 90 กำรปรับปรุงมำตรฐำนใหม่จัดท�ำข้ึนเพ่ือพัฒนำขีดควำมสำมำรถให้สำมำรถวัดได้เป็น 
รูปธรรมมำกย่ิงข้ึน โดยเฉพำะสมรรถนะท่ีจ�ำเป็นต่อกำรสอบสวนและควบคุมโรค
  กองระบำดวิทยำหวังว่ำ มำตรฐำนทีมเฝ้ำระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภำพ 
ฉบับปี พ.ศ. 2563 จะช่วยเพิ่มคุณภำพของทีม ช่วยพัฒนำทีมให้เป็นมืออำชีพ และสร้ำงเครือข่ำย 
ที่เข้มแขง็ ย่งั ยืน

ผ้จู ดั ทา�
กันยายน 2563

กติ ตกิ รรมประกาศ

1.  ด้วยควำมเคำรพอย่ำงสูง แด่ อำจำรย์นำยแพทย์สุชำติ เจตนเสน ผู้บุกเบิกงำนระบำดวิทยำภำคสนำม 
  ในประเทศไทย และผู้อ�ำนวยกำรกองระบำดวิทยำคนแรก ซ่ึงกรุณำให้ค�ำช้ีแนะในกำรพัฒนำทีมเฝ้ำระวัง 
  สอบสวนควบคุมโรคและภัยสขุ ภำพตลอดมำ
2.  ด้วยควำมเคำรพอย่ำงสูง แด่ นำยแพทย์ค�ำนวณ อึ้งชูศักด์ิ และนำยแพทย์ภำสกร อัครเสวี อดีตผู้อ�ำนวยกำร 
  กองระบำดวทิ ยำ ทง้ั สองทำ่ นเปน็ ผนู้ ำ� ทใี่ หค้ วำมสำ� คญั และสนบั สนนุ กำรพฒั นำเครอื ขำ่ ย ทมี เฝำ้ ระวงั สอบสวน 
  ควบคมุ โรคและภัยสขุ ภำพอยำ่ งจรงิ จงั ต่อเน่อื ง 
3.  ขอขอบพระคุณ นำยแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ท่ีมีนโยบำยให้พื้นที่มีแนวคิดในกำร 
  เปิดศูนย์ปฏิบัติกำรรับมือกับกำรระบำดใหญ่หรือภัยคุกคำมที่ต้องระดมสรรพก�ำลัง เน้นให้มีทีมตระหนักรู ้
  สถำนกำรณ์ที่มีบทบำทชัดเจน และทีมปฏิบัติกำรสอบสวนควบคุมโรค ซ่ึงสองทีมน้ีต้องแยกจำกกัน 
  โดยเดด็ ขำดเมอ่ื ตอ้ งรบั มอื กบั ภำวะฉกุ เฉนิ ทำงสำธำรณสขุ  และมนี โยบำยพฒั นำศกั ยภำพทมี เฝำ้ ระวงั สอบสวน 
  ควบคุมโรคและภยั สุขภำพ ให้มที ีมทสี่ ำมำรถรับมอื กบั โรคตดิ ต่ออันตรำยอย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพครบทุกจงั หวัด
4.  ขอขอบพระคุณ แพทย์หญิงวลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อ�ำนวยกำรกองระบำดวิทยำ ท่ีให้ข้อคิดเห็นในกำรพัฒนำ 
  ทีมเฝ้ำระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภำพ และสนับสนุนงบประมำณในกำรจัดพิมพ์มำตรฐำนและ 
  แนวทำงปฏบิ ัติงำนทีมเฝ้ำระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสขุ ภำพ
5.  ขอขอบคุณทีมส�ำนักงำนป้องกันควบคุมโรคที่ 1–12 ทีมอ�ำเภอเกำะคำ จังหวัดล�ำปำง และทีมจังหวัด 
  อุบลรำชธำนี ท่ีให้ข้อเสนอแนะท่ีเป็นประโยชน์ส�ำหรับกำรจัดท�ำแนวทำงปฏิบัติ เพื่อพัฒนำศักยภำพ 
  ทีมเฝำ้ ระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภำพ

D มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสขุ ภาพ 2563

“ ทุกส่ิงทุกอย่างในโลกนี้มันเปลี่ยน ไม่มีอะไรอยู่กับที่
ตัวเชื้อโรคเองก็เปล่ียน เพ่ือความอยู่รอดของตัวเช้ือโรค
มันก็ต้องปรับตัวตามสภาพแวดล้อมท่ีเปลี่ยนไป
เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าเราศึกษาทีเดียวแล้วใช้วิธีน้ีไปตลอดชาติไม่ได้
ถ้าจะสู้กับเขา เราต้องติดตามดูว่าเปลี่ยนไปยังไง
ต้องรู้เขา รู้เรา ตามให้ทัน ”
“ การบิดเบือนความจริงเพื่อให้ผลทางอ่ืน จะมีผลกระทบ
ต่อการเฝ้าระวัง และควบคุมโรคอย่างมาก
ขอให้นักระบาดวิทยาวิเคราะห์ และนำเสนอแต่ความจริง ”

– อำจำรย์นำยแพทยส์ ชุ ำต ิ เจตนเสน –

มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทีมเฝ้าระวงั สอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภาพ 2563 E

สารบัญ

ค�ำน�ำ หน้า
กิตติกรรมประกำศ
สำรบัญ C
บทท่ี 1 บทน�ำ D
- วิวัฒนาการทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภาพ
- ความหมายของช่ือเรียกต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง 1
- ผลงานการพัฒนาทีม SRRT 1
4
5

บทท่ี 2 มำตรฐำน SAT & JIT ส�ำหรับทีมระดับจังหวัด เขต และส่วนกลำง 13
- แนวคิดการจัดท�ามาตรฐาน 13
- การผ่านเกณฑ์ และการยกระดับมาตรฐาน 13
- ตัวช้ีวัดมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงาน SAT และ JIT 14
- รายละเอียดตัวช้ีวัดมาตรฐาน SAT 15
- รายละเอียดตัวชี้วัดมาตรฐาน JIT 24

แบบประเมินตนเองตำมมำตรฐำน 40
- แบบประเมินตนเองตามมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (SAT) 41
- แบบประเมินตนเองตามมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทีมปฏิบัติการ 44
สอบสวนควบคุมโรค (JIT)
- แบบสรุปผลการประเมินมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (SAT) 49
และทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค (JIT)

บทท่ี 3 มำตรฐำนทีมเฝ้ำระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภำพ (SRRT) ระดับอ�ำเภอ 50
- แนวคิดการจัดท�ามาตรฐาน 51
- การผ่านเกณฑ์ และการยกระดับมาตรฐาน 51
- ตัวชี้วัดมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงาน ทีม SRRT ระดับอ�าเภอ 52
- รายละเอียดตัวช้ีวัด 53

แบบประเมินตนเองตำมมำตรฐำนระดับอ�ำเภอ 70
- แบบประเมินตนเองตามมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรค 71

และภัยสุขภาพ ระดับอ�าเภอ 76
- แบบสรุปผลการประเมินมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรค
และภัยสุขภาพ ระดับอ�าเภอ

สารบัญ (ต่อ)

หน้า

บรรณำนุกรม 77

ภำคผนวก 81
ภำคผนวก ก 82
1. การอบรมระบาดวิทยาพ้ืนฐาน : หลักสูตรระบาดวิทยา 20 ช่ัวโมง 86
2. ตัวอย่าง ค�าส่ังแต่งตั้งทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภาพระดับอ�าเภอ

ภำคผนวก ข 87

1. ตัวอย่าง ค�าสั่งแต่งต้ังทีมตระหนักรู้สถานการณ์ 88

2. ตัวอย่าง บทบาทหน้าท่ีทีมตระหนักรู้สถานการณ์ กรมควบคุมโรค 89

(Situation Awareness Team: SAT)

3. ตัวอย่าง เกณฑ์การตรวจสอบข่าวของกรมควบคุมโรค 99

(ฉบับปรับปรุง ณ วันท่ี 23 กรกฎาคม 2563)

4. ตัวอย่าง รายงานการรับแจ้งและตรวจสอบเหตุการณ์ ทีมตระหนักรู้สถานการณ์ประจ�าสัปดาห์ 121

5. ตัวอย่าง การสรุปการรับแจ้งข่าวประจ�าสัปดาห์ 123

6. ตัวอย่าง การประเมินระดับความเส่ียง (Single overall risk level) 125

7. ตัวอย่าง แบบฟอร์มรายงานการประเมินความเสี่ยง (Rapid Risk Assessment) 126

8. ตัวอย่าง แนวทางการเขียนรายละเอียดของรายงานเหตุการณ์เบ้ืองต้นเสนอผู้บริหาร 127

(Spot Report: Spotrep)

9. ตัวอย่าง การจัดท�ารูปแบบมาตรฐานรายงานเหตุการณ์เบื้องต้นเสนอผู้บริหาร 129

(Spot report)

สารบัญตาราง

หน้า

ภำคผนวก ค 131
1. ตัวอย่าง บทบาทหน้าท่ีทีมปฏิบัติการสอบสวนโรค กรมควบคุมโรค 132
(Joint Investigation Team: JIT)
2. ตัวอย่าง วัสดุอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ ท่ีจ�าเป็นต่อการสอบสวนโรค 136
3. โรคติดต่ออันตราย : ตารางแสดงเช้ือสาเหตุ อาการ ระยะฟักตัว 137
และหลักการควบคุมโรคติดต่ออันตราย
4. แนวทางการตรวจทางห้องปฏิบัติการส�าหรับโรคติดต่ออันตราย 149
5. แนวทางการเก็บส่ิงส่งตรวจส�าหรับโรคติดต่ออันตราย 153
6. การเก็บตัวอย่าง Throat Swab 154
7. การเก็บตัวอย่าง Nasopharyngeal Swab 155
8. การป้องกันตนเองของผู้สอบสวนโรค Covid-19, SARS, MERS 156
9. การสวมและถอดอุปกรณ์ป้องกันการติดเช้ือแบบสารคัดหลั่ง 157
10. การสวมและถอดอุปกรณ์ป้องกันการติดเช้ือแบบละอองฝอย 159
11. ตัวอย่าง การจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น 161
กรณีการระบาดของโรคมือเท้าปาก
12. การเก็บรักษาและน�าส่งสิ่งส่งตรวจ 163
13. การสนับสนุนค่าตรวจวิเคราะห์ โดยกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค 164
14. เกณฑ์ในการเฝ้าระวัง รายงาน และสอบสวนโรค 167
(Patients under investigated: PUI)
ส�าหรับโรคติดต่ออันตราย และโรคติดต่อระหว่างประเทศ 180
ข้อมูลปรับปรุง ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2562
15. เง่ือนไขการออกสอบสวนโรคของทีมปฏิบัติการสอบสวนโรค 203
(Joint Investigation Team: JIT) กองระบาดวิทยา (ฉบับปรับปรุง มกราคม 2563) 206
16. ประเด็นส�าหรับการเขียนรายงานสอบสวนโรค 214
17. ตัวอย่าง รายงานสอบสวนโรค 215
18. ค�าย่อ
19. ค�าสั่งส�านักระบาดวิทยา



บทที่ 1

บทนำ

บทที่ 1

บทนำ

วิวฒั นาการทีมเฝ้าระวงั สอบสวนควบคุมโรคและภัยสขุ ภาพ

  ในอดีตเมื่อมีกำรระบำดของโรค เจ้ำหน้ำที่ระบำดวิทยำจังหวัดจะท�ำหน้ำท่ีในกำรสอบสวนโรค หำกเป็นโรคระบำด 
ท่ีมีขนำดค่อนข้ำงใหญ่ เช่น กำรระบำดของอหิวำตกโรค ส�ำนักงำนสำธำรณสุขจังหวัดจะจัดต้ังศูนย์ปฏิบัติกำรเฉพำะกิจ 
ควบคุมโรค ประกอบด้วย เจ้ำหน้ำท่ีระบำดวิทยำ เจ้ำหน้ำที่ควบคุมโรค และเจ้ำหน้ำที่สุขำภิบำล ซึ่งปกติสังกัดคนละฝ่ำย/ 
กลมุ่ งำนใหม้ ำปฏบิ ตั งิ ำนเปน็ ทมี ปฏบิ ตั กิ ำรรว่ มกนั  เมอ่ื ภำรกจิ เสรจ็ สน้ิ ทมี ดงั กลำ่ วจะแยกยำ้ ยไปปฏบิ ตั ภิ ำรกจิ ประจำ� ของตนเอง 
ในช่วงไตรมำสแรกของปี พ.ศ. 2547 ได้เกิดกำรระบำดของอหิวำตกโรคในประเทศไทย มีรำยงำนผู้ป่วย 1,003 รำย เสียชีวิต 
4 รำย จำก 42 จงั หวดั  เปน็ กำรระบำดใหญ ่ 3 จงั หวดั  คอื  กรงุ เทพมหำนคร นนทบรุ  ี และสกลนคร ในเวลำเดยี วกนั มกี ำรระบำด 
ของไข้หวัดนก ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ พบผู้ป่วยยืนยัน 12 รำย เสียชีวิต 8 รำย ใน 9 จังหวัด เน่ืองจำกใกล้เทศกำลสงกรำนต ์
ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข (นำยแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ) ได้มอบนโยบำยให้ทุกจังหวัดจัดทีมเฝ้ำระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว 
(Surveillance and Rapid Response Team; SRRT) โดยมีนำยแพทย์ด้ำนเวชกรรมป้องกันของแต่ละจังหวัดเป็นหัวหน้ำทีม 
ทำ� กำรเฝำ้ ระวงั  สอบสวนและควบคมุ โรค ใหม้ ที มี  SRRT ขยำยลงไปถงึ เครอื ขำ่ ยระบบบรกิ ำรสขุ ภำพระดบั ปฐมภมู  ิ (CUP) ซง่ึ ให้ 
ผูอ้ ำ� นวยกำร CUP ใชง้ บประมำณ Prevention and Promotion (P&P) ในกำรป้องกนั ควบคมุ โรค 
  กระทรวงสำธำรณสุขก�ำหนดนโยบำยให้มีทีม SRRT ระดับอ�ำเภอ จังหวัด เขต ส่วนกลำง รวม 1,030 ทีม และต่อมำ 
ในป ี พ.ศ. 2554–2555 กรมควบคมุ โรคมนี โยบำยจดั ตงั้ และพฒั นำทมี  SRRT เครอื ขำ่ ยระดบั ตำ� บลครบทกุ พน้ื ท ่ี โดยมโี รงพยำบำล
สง่ เสริมสุขภำพต�ำบล (รพ.สต.) เปน็ ศูนยก์ ลำงในกำรรับแจง้ ขำ่ ว (รูปท่ ี 1) 

ทมี  SRRT ส่วนกลำง/ดำ่ นสุวรรณภมู ิ NC–aStiRoRnTa l( 1le ทveีมl)*** 

ทมี  SRRT เขต NR–aStiRoRnTa l( 1le2v ทelมี *)** 

ทีม SRRTจังหวัด, กทม. PIn–tSeRrmRTe d(7ia7t eท มีle)*vel** 

ทีม SRRT อ�ำเภอ, ศบส.กทม. PDr–imSRaRryT  l(e9v4e6l *ท*ีม  )* หมายเหตุ : 
ทมี  SRRT เครือขำ่ ยระดับต�ำบล/ทอ้ งถ่ิน ** Surveillance and public health response 
  level ตำมกฎอนำมยั ระหว่ำงประเทศ (IHR 2005)
– เจำ้ หน้ำทด่ี ำ่ นควบคุมโรคสำมำรถอยู่ในทีม SRRT 
LLo–ScRalR Tco (m9,8m8u2n ทitีมy) *le  vel**    ทุกระดับตำมพ้นื ทแ่ี ละสงั กดั

รปู ที่ 1 ระดับและจ�ำนวนทมี เฝำ้ ระวงั สอบสวนโรคและภยั สขุ ภำพ

มาตรฐานและแนวทางปฏิบตั งิ านทีมเฝา้ ระวงั สอบสวนควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ 2563 1

  บทบำทภำรกจิ ของทมี  SRRT มดี ังนี้
    1.  เฝำ้ ระวงั โรคติดต่อทแ่ี พรร่ ะบำดรวดเร็วรุนแรง 
    2.  ตรวจจับภำวะฉุกเฉินทำงสำธำรณสขุ  (Public health emergency) 
    3.  สอบสวนโรคอยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพทันสถำนกำรณ ์
    4.  ควบคมุ โรคขัน้ ต้น (Containment) ทันท ี
    5.  แลกเปล่ียนข้อมูลเฝ้ำระวังโรคและร่วมมือกันเป็นเครือข่ำย ทั้งภำยในและต่ำงประเทศ ผ่ำนจุดประสำนงำน 
      กฎอนำมัยระหว่ำงประเทศ 
  ภำรกิจของทีม SRRT ในกำรตอบสนองเหตุกำรณ์ เน้นกำรเฝ้ำระวัง หยุดหรือจ�ำกัดกำรแพร่ระบำดของโรคโดยเร็ว 
ทีม SRRT ไม่ได้มีภำรกิจในกำรควบคุมโรคจนเสร็จสมบูรณ์ ตัวอย่ำงเช่น กรณีโรคไข้หวัดนก ทีม SRRT เริ่มด�ำเนินกำร 
ภำยใน 24 ชั่วโมงแรกท่ีพบผู้ป่วย เพื่อควบคุมกำรแพร่กระจำยโรคในเบ้ืองต้น (Outbreak Containment) และทีม SRRT 
ไม่ได้มีภำรกิจในกำรกู้ชีพ รักษำพยำบำล บรรเทำทุกข์ หรือฟื้นฟูสภำพท้ังกำย ใจ และส่ิงแวดล้อม แต่ทีม SRRT ท�ำหน้ำที่ 
ให้ขอ้ เสนอแนะ ประสำนและปฏบิ ตั ิงำนร่วมกับทีมหรอื หนว่ ยงำนท่มี ีหนำ้ ท่ีเฉพำะได้ 
  กลยุทธก์ ำรบริหำรจัดกำรเพอ่ื พฒั นำทีม SRRT ในหน่วยงำนสำธำรณสุขทุกระดบั  ไดแ้ ก่ 
  1.  กำรมภี ำพเปำ้ หมำย แผนทีน่ �ำทำง และเป้ำหมำยผลงำนท่ีชดั เจน (รูปที ่ 2) 
  2.  กำรจดั ท�ำแผนยทุ ธศำสตรป์ ระกอบด้วย 
    -  กำรพัฒนำนโยบำยและกำรจดั กำร 
    -  กำรพฒั นำบุคลำกร 
    -  กำรพัฒนำกระบวนกำรปฏิบัติงำนโดยจัดท�ำมำตรฐำนและแนวทำงกำรปฏิบัติงำนท่ีสอดคล้องกับกฎอนำมัย 
      ระหวำ่ งประเทศ (International Health Regulations 2005; IHR) 
    -  กำรพัฒนำเครือขำ่ ยทมี  SRRT 
  3.  กำรผลกั ดันตัวชว้ี ัด SRRT ให้เปน็ ตัวช้วี ดั ผลกำรปฏบิ ัตงิ ำนของหน่วยงำน 
  4.  สนับสนุนงบประมำณพิเศษ เป็นงบประมำณโครงกำรจำกต่ำงประเทศที่จัดให้กับทีมทุกระดับ เพื่อใช้ในกิจกรรม 
    ท่ีไมไ่ ด้รบั งบประมำณปกติ 
  5.  กำรสรำ้ งเครอื ขำ่ ยและพฒั นำรปู แบบทมี ใหม ่ ๆ ไดแ้ ก ่ กำรพฒั นำทมี  SRRT ระดบั เขต รว่ มกบั  กรมอนำมยั  ทมี  SRRT 
    พื้นทช่ี ำยแดน ทมี  SRRT ของเทศบำล และทมี  SRRT ทหำร

SRRT Roadmap IHR Timeline

2554–59 : One province – One district profession SRRT * 2556–59 : ประเทศไทยขอขยายเวลาการพฒั นา

2552–53 : One district – One successful operation 2553–55 : ทกุ ประเทศพฒั นาความสามารถใหไ้ ดต้ ามเกณฑ์

2550–51 : One province – One successful operation 2551–52 : วางแผน, ประเมินความสามารถแต่ละประเทศ

2549 : One SRRT – One operation 15 มิถนุ ายน 2550 : IHR2005 มผี ลบงั คับใช้

2548 : One district – One SRRT พฤษภาคม 2548 : WHO รบั รองร่าง IHR
* Professional SRRT หมำยถึง ทมี ที่ผำ่ นมำตรฐำนระดับดีเยยี่ ม

รปู ที่ 2 แผนท่นี ำ� ทำงกำรพฒั นำทมี  SRRT และกำ� หนดเวลำในกฎอนำมัยระหว่ำงประเทศ (IHR 2005) 

2 มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทมี เฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ 2563

    กิจกรรมเนน้ หนกั ทสี่ ำ� คญั ของกำรพฒั นำทีม SRRT ไดแ้ ก ่
    ปี พ.ศ. 2548 จัดอบรมทีมระดับอ�ำเภอ (รวมศูนย์บริกำรสำธำรณสุข กรุงเทพมหำนคร) ทั่วประเทศ 941 ทีม และ 
ทีมระดับจงั หวัด (รวมสำ� นกั อนำมยั  กทม.) 76 ทมี  จดั ทำ� และใชม้ ำตรฐำนทีม SRRT ฉบบั แรก 
    ปี พ.ศ. 2549 ส่งเสริมสนับสนุนให้ทีม SRRT ระดับอ�ำเภอมีปฏิบัติกำรอย่ำงน้อยอ�ำเภอละ 1 ครั้ง (One Team One 
Operation) โดยเริ่มให้รำงวัลกำรส่งผลงำนสอบสวนโรค ปรับวิธีส่งรำยงำนสอบสวนโรคทำงอิเล็กทรอนิกส์ และสนับสนุน 
กำรเรียนรูจ้ ำกผลงำนในกำรประชุมเชิงปฏบิ ตั กิ ำรเครอื ข่ำยระดับเขตและจังหวัด 
    ปี พ.ศ. 2550 ส่งเสริมสนับสนุนให้แต่ละจังหวัดมีผลงำนท่ีมีคุณภำพ โดยกำรสนับสนุนงบประมำณจำกต่ำงประเทศ 
ใหท้ กุ จงั หวดั จดั อบรมผสู้ อบสวนหลกั ของทมี ระดบั จงั หวดั  พฒั นำระบบสนบั สนนุ กำรสง่ ตรวจวตั ถตุ วั อยำ่ ง และใชผ้ ลกำรประเมนิ  
มำตรฐำนทมี  SRRT เป็นตัวช้วี ดั หน่ึงของกำรตรวจรำชกำร 
    ปี พ.ศ. 2551 จัดอบรมด้ำนบริหำรจัดกำรและจัดประชุมเชิงปฏิบัติกำรให้กับหัวหน้ำทีม SRRT ระดับจังหวัด หรือ 
นำยแพทย์ผู้เช่ียวชำญด้ำนเวชกรรมป้องกัน เร่ิมพัฒนำรูปแบบทีม SRRT ระดับท้องถิ่น (เทศบำลนคร) ใช้ผลงำนสอบสวนโรค
ของทมี  SRRT ระดบั อำ� เภอเป็นตัวชี้วดั หนง่ึ ของกำรตรวจรำชกำร 
    ปี พ.ศ. 2552 ปรับใช้มำตรฐำนและแนวทำงปฏิบัติงำนทีมเฝ้ำระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ฉบับท่ี 2 เพื่อเพ่ิม 
ขีดควำมสำมำรถใหส้ อดคลอ้ งกับกฎอนำมยั ระหวำ่ งประเทศ และเริม่ จดั ประกวดรำงวลั คนดศี รรี ะบำด 
    ปี พ.ศ. 2553 เปิดตัวนโยบำยอ�ำเภอควบคุมโรคเข้มแข็งและกำรพัฒนำ SRRT เครือข่ำยระดับต�ำบล ณ ห้องประชุม 
อมิ แพ็ค เมอื งทองธำน ี ศกึ ษำดูงำนกำรเฝ้ำระวงั เหตุกำรณท์ ่ีมณฑลยนู ำน สำธำรณรัฐประชำชนจนี
    ปี พ.ศ. 2554 ก�ำหนดงำน SRRT เป็นหนึ่งในคุณลักษณะของอ�ำเภอควบคุมโรคเข้มแข็ง จัดอบรม SRRT เครือข่ำย 
ระดบั ต�ำบล (เจ้ำหน้ำท ่ี รพ.สต. อสม. อปท.) 2,775 แห่ง โดยผำ่ นครู ก. (เจำ้ หน้ำท่รี ะบำดวทิ ยำระดับจงั หวดั และอำ� เภอ) 
    ปี พ.ศ. 2555 ขยำยควำมครอบคลุมกำรเฝ้ำระวังเหตุกำรณ์แก่ SRRT เครือข่ำยระดับต�ำบลทุกพ้ืนท่ีท่ัวประเทศ 
และมกี ำรปรับปรงุ คูม่ อื มำตรฐำน SRRT ระดบั สว่ นกลำง เขต จังหวัดและอำ� เภอ ฉบบั ท่ ี 3
    ป ี พ.ศ. 2556–2557 บรรจเุ รอื่ งกำรพฒั นำทมี  SRRT รว่ มกบั ทมี รกั ษำพยำบำล ทมี สขุ ภำพจติ  เปน็ ตวั ชวี้ ดั ตำมคำ� รบั รอง 
ปฏิบัติรำชกำรของกระทรวงสำธำรณสุข ซึ่งทุกจังหวัดต้องปฏิบัติ คือ “ร้อยละของอ�ำเภอมีทีม SRRT, DMAT (Disaster 
Medical Assistance Team) และ MCATT (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team) 
ไม่ต�่ำกวำ่ ร้อยละ 80” กำรวัดคณุ ภำพของทีม SRRT ใชว้ ธิ ีวดั โดยกำรผำ่ นรับรองมำตรฐำนทปี่ รับปรงุ ใหมฉ่ บบั ที่ 3
    ปี พ.ศ. 2558 จัดอบรมหลักสูตรระบำดวิทยำส�ำหรับ SRRT ชำยแดน 5 จังหวัดต้นแบบ คือ หนองคำย เชียงรำย ตำก 
สระแก้ว และระนอง ผู้เข้ำรับกำรอบรมเป็นผู้ปฏิบัติงำนระบำดวิทยำอ�ำเภอละ 2 คน ระยะเวลำครั้งละ 1 สัปดำห ์
จำ� นวน 3 คร้ัง มกี ำรบ้ำน 2 ช้นิ  คือ 1. กำรวิเครำะหข์ ้อมูล 5 มิติและกำรประเมนิ ควำมเส่ยี ง และ 2. กำรสอบสวนโรค
    ปี พ.ศ. 2559 เริ่มจัดอบรมฟื้นฟูควำมรู้และทักษะด้ำนกำรสอบสวนโรคเพ่ิมเติม (Refresh course) แก่ผู้ผ่ำนหลักสูตร 
ระบำดวทิ ยำ และกำรบรหิ ำรจดั กำรทมี สำ� หรบั แพทยห์ วั หนำ้ ทมี และผสู้ อบสวนหลกั  (Field Epidemiology and Management 
Training; FEMT) 
    ปี พ.ศ. 2560 กรมควบคุมโรคเร่ิมมีกำรก�ำหนดกำรจัดต้ังศูนย์ปฏิบัติกำรตอบโต้ภำวะฉุกเฉินทำงสำธำรณสุขทุกจังหวัด 
โดยมีโครงสร้ำงกำรแบ่งงำนในภำวะฉุกเฉินที่ชัดเจน เจ้ำหน้ำที่ในทีม SRRT เดิม ต้องเลือกว่ำจะอยู่ในกล่องทีมตระหนักร ู้
สถำนกำรณ์ (Situation Awareness Team; SAT) หรือจะอยู่ในกล่อง Operation เป็นทีมปฏิบัติกำรสอบสวนควบคุมโรค 
(Joint Investigation Team) 
    ปี พ.ศ. 2561–2562 พัฒนำหลักสูตรอบรมหน่วยปฏิบัติกำรควบคุมโรคติดต่อเพ่ือสอบสวนโรคติดต่ออันตรำย 
ตำม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 จ�ำนวน 10 รุ่น รวม 77 จังหวัด ระยะเวลำกำรอบรม 5 วัน ผู้เข้ำรับกำรอบรมแต่ละจังหวัด 
ประกอบด้วยแพทย์ พยำบำล เจ้ำหน้ำท่ีห้องปฏิบัติกำร และเจ้ำหน้ำท่ีระบำดวิทยำ รวม 7 คน เนื้อหำกำรอบรม เน้นฝึกปฏิบัติ 
กำรปอ้ งกนั ตนเอง กำรเกบ็ สง่ิ สง่ ตรวจ กำรบงั คบั ใชก้ ฎหมำย พ.ร.บ. โรคตดิ ตอ่  พ.ศ. 2558 และศกึ ษำดงู ำนสถำบนั บำ� รำศนรำดรู  
เกี่ยวกับห้องแยกโรค กำรคัดกรองผู้ป่วยสงสัยโรคอุบัติใหม่ กำรก�ำจัดขยะติดเช้ือ กำรท�ำลำยเชื้อในรถรับส่งผู้ป่วยท่ีสงสัย 
โรคติดตอ่ อนั ตรำย 

มาตรฐานและแนวทางปฏิบตั งิ านทีมเฝ้าระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563 3

    ปี พ.ศ. 2563 เร่ิมใช้มำตรฐำนทีมเฝ้ำระวังสอบสวนควบคุมโรคระดับอ�ำเภอ ฉบับที่ 4 โดยปรับเปล่ียนให้มีกำร 
วัดทักษะ และผลงำนทเ่ี ป็นรปู ธรรมชดั เจนขึ้น แตย่ งั คงไวซ้ งึ่ สมรรถนะทก่ี ฎอนำมัยระหว่ำงประเทศก�ำหนด

ความหมายของชื่อเรียกตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง
  “SRRT” คือ ค�ำที่ย่อมำจำก Surveillance and Rapid Response Team ภำษำไทยใช้ค�ำว่ำ “ทีมเฝ้ำระวังสอบสวน 
เคล่ือนท่ีเร็ว” เป็นค�ำดั้งเดิมที่กระทรวงสำธำรณสุขใช้อย่ำงเป็นทำงกำรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ท�ำหน้ำที่ตรวจจับควำมผิดปกติ 
ของโรค/ภัยสุขภำพ สอบสวนหำสำเหตุ และควบคุมโรคข้ันต้นในภำวะปกติ ซ่ึงข้อตกลงตำมพันธะสัญญำกฎอนำมัย 
ระหวำ่ งประเทศ กำ� หนดให้ทมี ระดับพ้นื ท ่ี (Local level) ตอ้ งมสี มรรถนะ 3 ข้อ คอื  Detect Report และ Response

“SAT” และ “JIT” เป็นค�ำใหม่ที่กรมควบคุมโรคเริ่มน�ำมำใช้ในปี พ.ศ. 2559 เน่ืองจำกเดือนกันยำยน 2557 รัฐมนตรี 
ว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุข (ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนำวิน) ร่วมประชุมหำรือควำมม่ันคงด้ำนสุขภำพของโลก (Global Health 
Security; GHSA) 3 ยุทธศำสตร์ ได้แก่ กำรป้องกันโรคระบำดที่ป้องกันได้ (Prevent) กำรตรวจจับสัญญำณภัยคุกคำม 
กำรระบำด (Detect) และกำรตอบโต้ภัยคุกคำมอย่ำงรวดเร็ว (Response) ประเทศไทยได้บูรณำกำร GHSA และ IHR 
ก�ำหนดเป้ำหมำย 12 เรื่อง ซ่ึง 1 ใน 12 เป้ำหมำย คือ กำรพัฒนำศูนย์ปฏิบัติกำรภำวะฉุกเฉิน (Emergency Operation 
Center; EOC) กรอบกำรท�ำงำนของ EOC มีผปู้ ฏิบัติงำนเฝ้ำระวังสอบสวนควบคุมโรค คอื  ทีม SRRT เดิมอยู่

จาก SRRT สู...SAT & JIT

Verification Criteria & DCIR

SAT Event Detection Outbreak Verification Summary Detect
& Verification

E&vNenottifAicsasteiosnsment Spot Report

S RR T IHR, PHEM / ICS / EOC
GHSA,
CD Act BCP/BCM, AHP,
HSP/SOP, IAP

JIT Investigation Investigation Report Respond Prevent
Containment PrReleimpoinratry ReFpuollrt

SME InvestOiguattbiorenaCkriteria Program Report & Indicator
Control & Prevention Situation Report
Situation Analysis & Risk Assessment
& Risk Assessment

รปู ที่ 3 ผงั บทบำทหน้ำทขี่ องทีม SAT & JIT 

4 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสุขภาพ 2563

  แตใ่ นภำวะฉกุ เฉนิ มคี วำมจำ� เปน็ ตอ้ งแบง่ ภำรกจิ ใหช้ ดั เจน ทมี  SRRT เดมิ มคี วำมจำ� เปน็ ตอ้ งแบง่ ภำรกจิ ใหช้ ดั เจน จงึ มกี ำร 
จัดทีมใหม่เป็น 1. ทีมตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (Situation Awareness Team; SAT) หมำยถึง ทีมปฏิบัติกำรที่มีควำมสำมำรถ 
ในกำรรวบรวมข้อมูล เพ่ือติดตำม ตรวจจับ วิเครำะห์ และประเมินสถำนกำรณ์ พร้อมท้ังแจ้งเตือนแก่ผู้บริหำรและหน่วยงำน 
ท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อพิจำรณำตอบสนองต่อสถำนกำรณ์น้ัน ๆ ท�ำหน้ำท่ีรับแจ้งเหตุกำรณ์ ตรวจสอบ กำรตรวจสอบยืนยัน (Verify) 
วิเครำะห์สถำนกำรณ์ และประเมินควำมเสี่ยง (Situation analysis & Risk assessment) กำรรำยงำนต่อ (Reporting/ 
notification) สรุปและเขียนรำยงำน และ 2. ทีมปฏิบัติกำรสอบสวนควบคุมโรค (Joint Investigation Team; JIT) หมำยถึง 
ทีมปฏิบัติกำรท่ีมีควำมสำมำรถในกำรเฝำ้ ระวัง สอบสวน ควบคุมโรคหรือภัยสุขภำพ ค้นหำสำเหตุ และแหล่งรังโรค เพื่อน�ำไปส ู่
กำรควบคมุ และปอ้ งกนั  พรอ้ มทงั้ สง่ ตอ่ ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ำกกำรปฏบิ ตั กิ ำรกลบั ไปยงั ผบู้ รหิ ำร และผเู้ กยี่ วขอ้ งอยำ่ งทนั ทว่ งท ี (รปู ท ่ี 3) 
  “CDCU” คอื  คำ� ทย่ี อ่ มำจำก Communicable Disease Control Unit ภำษำไทยใชค้ ำ� วำ่  “หนว่ ยปฏบิ ตั กิ ำรควบคมุ โรค 
ติดต่อ” ตำมกฎหมำย พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งก�ำหนดให้ทุกอ�ำเภอต้องมีกำรจัดตั้งหน่วยน้ีขึ้นอย่ำงน้อย 
อ�ำเภอละ 1 หน่วย หน้ำท่ีเหมือนกับทีม JIT แต่แตกต่ำงท่ีมีอ�ำนำจในกำรบังคับใช้กฎหมำย เช่น เจ้ำพนักงำนควบคุมโรคติดต่อ 
ในหน่วย CDCU ออกค�ำส่งั ให้ผูส้ ัมผสั เสย่ี งสูงของผปู้ ว่ ยยืนยนั โรคตดิ เช้อื ไวรสั นิปำห์ตอ้ งถูกกกั กนั ในห้องแยกโรค เปน็ ต้น

ผลงานการพัฒนาทีม SRRT
1. การจัดท�ามาตรฐาน SRRT 3 ฉบบั
  ฉบับท่ี 1 พ.ศ. 2548–2551 มีองค์ประกอบ 4 ด้ำน 14 ตัวช้ีวัด (ตำรำงท่ี 1) ตัวชี้วัดแต่ละตัว มีคะแนนเต็ม 10 คะแนน 
กำรผ่ำนเกณฑ์เป็นรำยตัวชี้วัดต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่ำ 5 คะแนน กำรผ่ำนเกณฑ์มำตรฐำนทีม SRRT ต้องได้คะแนนเฉล่ีย 
รวม 14 ตวั ชวี้ ดั  ไม่นอ้ ยกวำ่ ร้อยละ 60

ตารางที่ 1 ตัวชว้ี ดั มำตรฐำน SRRT ฉบับท่ี 1 พ.ศ. 2548–2551

มาตรฐาน ตวั ช้วี ัด วิธคี ิดระดับคะแนน หมายเหตุ

1. มำตรฐำน 1)  กำรจดั ต้งั ทมี  SRRT ก. มีค�ำสง่ั แต่งต้ังทมี ณ เวลำ
  ทีมงำน  ข. มจี ำ� นวนสมำชิกทีมต้งั แต่ 4 คน ขนึ้ ไป  ปจั จบุ ัน
  (2 ตวั ชว้ี ดั )  ค. มอี งค์ประกอบของทีมครบ 3 ส่วนตำมเกณฑท์ ่กี �ำหนด 
  คอื  หัวหน้ำทมี  แกนหลกั  และสมำชิกทมี
ง. มีรำยชอื่ ทีมท่เี ปน็ ปัจจบุ ันร้อยละ 80 ข้ึนไป 
ระดบั คะแนน 
  0  คะแนน ไม่มขี อ้  ก.
  4  คะแนน มีข้อ ก.
  7  คะแนน มขี อ้  ก. กับข้ออน่ื  1–2 ข้อ
10  คะแนน มคี รบทุกขอ้

2)  ศกั ยภำพ ก. สมำชกิ ทีมเคยผ่ำนกำรอบรมทำงระบำดวิทยำ  รอบ 12 เดือน
  ทำงวิชำกำร   ร้อยละ 80 ข้นึ ไป
  ของทมี ข. ทมี มผี ลงำนสอบสวนกำรระบำดของโรคในรอบ 12 เดอื น
ค. ทีมมผี ลงำนกำรนเิ ทศ หรือกำรประเมิน หรือกำรเป็น
  วทิ ยำกร หรือให้ค�ำปรกึ ษำ หรอื ให้กำรสนบั สนนุ
  เครอื ข่ำยโดยร่วมปฏบิ ตั ิงำนหรอื มีกำรนำ� เสนอผลงำน
  วิชำกำรทำงดำ้ นกำรเฝ้ำระวังสอบสวนโรคในรอบ
  12 เดอื น 

มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ 2563 5

มาตรฐาน ตัวช้วี ัด วิธคี ดิ ระดับคะแนน หมายเหตุ
2. มำตรฐำน
  ควำมพร้อม ระดับคะแนน 
  (2 ตัวช้ีวัด)    0  คะแนน ไมม่ ที กุ ขอ้  
  4  คะแนน ม ี 1 ข้อ 
3. มำตรฐำนกำร   7  คะแนน มี 2 ข้อ 
  เฝ้ำระวังและ 10  คะแนน มีครบทุกขอ้
  เตอื นภัย
  (5 ตัวช้วี ดั )  3) ควำมพรอ้ มของทีม ก. มีแผนปฏิบัติงำนในภำวะฉกุ เฉนิ  ท้งั ในและนอกเวลำ ณ เวลำ
  ในภำวะปกติ   รำชกำร ปัจจุบัน
ข. มีกำรจัดงบประมำณเพื่อใช้ในกำรสอบสวนโรคและ
  สง่ วตั ถุตวั อยำ่ งทเ่ี พยี งพอ 
ค. มวี ัสดอุ ุปกรณ์พร้อมใชต้ ำมเกณฑ์ทีก่ ำ� หนด
ง. มยี ำนพำหนะที่สำมำรถน�ำออกปฏิบตั ิงำนได้ทันที
จ. มีกำรจดั เวรผปู้ ฏิบตั งิ ำนทีเ่ ปน็ จรงิ
ฉ. มเี ลขโทรศพั ท์หรอื กำรสอื่ สำรอ่ืนท่ีสำมำรถติดตอ่
  สมำชกิ ทั้งหมดได้ตลอดเวลำ 
ระดบั คะแนน 
  0  คะแนน ไมม่ ีขอ้  ก.
  4  คะแนน ม ี 1–2 ข้อ 
  7  คะแนน ม ี 3–4 ขอ้  
10  คะแนน มีครบทุกขอ้

4) ควำมรวดเร็ว ในกำร จำกรำยชอ่ื ผู้ปว่ ยตำมเกณฑ ์ รอบ 12 เดือน
  ออกปฏิบตั งิ ำน    0  คะแนน ไมส่ ำมำรถสอบสวนไดภ้ ำยใน 48 ชัว่ โมง 
  (Response time)      นับจำกวนั รับรักษำ

  3  คะแนน สอบสวนภำยใน 48 ชม. < รอ้ ยละ 40
  7  คะแนน สอบสวนภำยใน 48 ชม. ร้อยละ 40–59
10  คะแนน สอบสวนภำยใน 48 ชม. รอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป

5) จดั ทำ� สถำนกำรณ์   0  คะแนน ไมม่ กี ำรจดั ทำ� สถำนกำรณ์ รอบ 12 เดือน
  โรคท่ีสำ� คัญและ   4  คะแนน จัดทำ� สถำนกำรณ์โรคและเผยแพร่ 
  เผยแพร่อยำ่ ง     1–24 สปั ดำห์ หรอื  1–5 เดือน
  ต่อเนื่อง   7  คะแนน จัดทำ� สถำนกำรณโ์ รคและเผยแพร่ 
    25–48 สัปดำห์ หรอื  6–10 เดอื น
10 คะแนน จดั ท�ำสถำนกำรณ์โรคและเผยแพร่ 
    49–52 สปั ดำห์ หรอื  11–12 เดือน

6) ควำมครอบคลมุ พจิ ำรณำควำมครอบคลุมของหนว่ ยงำนในพื้นท่ีรับผิดชอบ ชว่ ง 3 เดือน
  ของหนว่ ยงำนท่สี ง่ ระดับรองลงไป 1 ระดบั
  รำยงำนผปู้ ว่ ย   0  คะแนน มคี วำมครอบคลมุ  < รอ้ ยละ 40
  โรคตดิ ต่อทต่ี ้อง   3  คะแนน มีควำมครอบคลุม รอ้ ยละ 40–59 
  เฝำ้ ระวงั อยำ่ ง   7  คะแนน มคี วำมครอบคลมุ  ร้อยละ 60–79 
  ต่อเน่อื งตำมเกณฑ์ 10  คะแนน มคี วำมครอบคลุม รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป
  ที่ก�ำหนด

6 มาตรฐานและแนวทางปฏิบตั ิงานทีมเฝา้ ระวงั สอบสวนควบคุมโรคและภยั สุขภาพ 2563

มาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด วิธคี ิดระดับคะแนน หมายเหตุ
4. มำตรฐำนกำร ชว่ ง 3 เดือน
  สอบสวนโรค 7) ควำมทันเวลำของ พจิ ำรณำกำรรำยงำนผปู้ ว่ ยทง้ั หมดในพนื้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ ช่วง 3 เดอื น
  (5 ตวั ชีว้ ัด)    กำรรำยงำนผปู้ ว่ ย   0  คะแนน มบี ัตรรำยงำนส่งทนั เวลำ < รอ้ ยละ 40 ช่วง 3 เดือน
  โรคตดิ ตอ่ ท่ีตอ้ ง   3  คะแนน มีบัตรรำยงำนสง่ ทันเวลำ ร้อยละ 40–59 
  เฝำ้ ระวงั อยำ่ งตอ่ เนอื่ ง   7  คะแนน มีบตั รรำยงำนส่งทนั เวลำ ร้อยละ 60–79  ชว่ ง 3 เดือน
  ตำมเกณฑท์ ีก่ ำ� หนด 10  คะแนน มบี ตั รรำยงำนส่งทันเวลำ ร้อยละ 80 ขึ้นไป ช่วง 3 เดือน
ชว่ ง 3 เดอื น
8) กำรแจง้ เตือนภัย   0  คะแนน ไม่มกี ำรแจง้ เตือน รอบ 12 เดอื น
  จำกกำรตรวจสอบ   3  คะแนน มกี ำรเสนอเฉพำะผบู้ รหิ ำรในหน่วยงำน 
  สถำนกำรณโ์ รค   7  คะแนน มกี ำรแจง้ บคุ คล หนว่ ยงำน และเครอื ขำ่ ย
    ทเ่ี ก่ียวข้อง 
10  คะแนน มีกำรแจ้งเตือนภยั ให้ประชำชนทรำบ

9) กำรทรำบขำ่ วเตอื นภยั พิจำรณำ 3 องค์ประกอบคือ
  และองค์ควำมรู้ ก. คะแนน เป็นสมำชกิ เครือขำ่ ยระดับจังหวดั
  ทำงเครอื ขำ่ ย ข. คะแนน เป็นสมำชกิ เครือขำ่ ยระดับภูมิภำค
  อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ค. คะแนน เป็นสมำชกิ เครือขำ่ ยระดับประเทศ
ระดบั คะแนน
  0  คะแนน ไม่มีทุกขอ้
  4  คะแนน ม ี 1 ข้อ 
  7  คะแนน ม ี 2 ข้อ 
10  คะแนน ม ี 3 ขอ้

10)  ควำมครบถว้ นของ   0  คะแนน มกี ำรสอบสวนผูป้ ่วย < รอ้ ยละ 40
    กำรสอบสวนผปู้ ว่ ย   3  คะแนน มีกำรสอบสวนผูป้ ว่ ย ร้อยละ 40–59
    เฉพำะรำยในพื้นที่   7  คะแนน มกี ำรสอบสวนผปู้ ว่ ย รอ้ ยละ 60–79 
    รบั ผดิ ชอบ 10  คะแนน มกี ำรสอบสวนผ้ปู ว่ ย ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป

11)  ควำมทันเวลำของ   0  คะแนน ได้รบั แจ้งทันเวลำ < รอ้ ยละ 40
    กำรไดร้ บั แจ้งข่ำว   3  คะแนน ไดร้ บั แจ้งทันเวลำ รอ้ ยละ 40–59 
    กำรระบำด   7  คะแนน ได้รบั แจ้งทันเวลำ ร้อยละ 60–79 
10  คะแนน ได้รบั แจ้งทนั เวลำ รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป

12)  ควำมครบถว้ นของ   0  คะแนน มีกำรสอบสวนกำรระบำด < รอ้ ยละ 40
    กำรสอบสวนกำร   3  คะแนน มกี ำรสอบสวนกำรระบำด รอ้ ยละ 40–59 
    ระบำดในพน้ื ที่   7  คะแนน มีกำรสอบสวนกำรระบำด ร้อยละ 60–79 
    รบั ผิดชอบ 10  คะแนน มีกำรสอบสวนกำรระบำด รอ้ ยละ 80 ขึน้ ไป

13)  กำรสอบสวนโรค พิจำรณำ 2 องคป์ ระกอบคือ
    ท่มี ีคุณภำพ ก. หำสำเหตไุ ด ้ หรอื ยนื ยันไดด้ ้วยผลกำรตรวจทำงหอ้ ง
  ปฏิบตั ิกำร และ
ข. สำมำรถหำแหลง่ โรค หรอื รงั โรคทม่ี ำของกำรระบำดได้
ระดับคะแนน
  0  คะแนน ไม่มีกำรสอบสวนทีเ่ ข้ำเกณฑ์
  3  คะแนน มกี ำรสอบสวนทีเ่ ข้ำเกณฑ ์ < รอ้ ยละ 40

มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝ้าระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 7

มาตรฐาน ตวั ชวี้ ัด วิธคี ดิ ระดบั คะแนน หมายเหตุ

  7  คะแนน มีกำรสอบสวนท่ีเข้ำเกณฑ ์ รอ้ ยละ 40–59 
10  คะแนน มีกำรสอบสวนทเี่ ข้ำเกณฑ ์ ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป

14)  กำรเขยี นรำยงำน พิจำรณำจำก 3 องค์ประกอบคือ รอบ 12 เดือน
    สอบสวนโรคท่ีมี ก. รปู แบบกำรเขยี นรำยงำนถูกตอ้ ง
    คุณภำพ ข. มขี อ้ เสนอแนะในกำรควบคมุ โรคทส่ี อดคลอ้ งกับ
  ผลกำรสอบสวนโรค และ
ค. ส่งรำยงำนทนั เวลำตำมเกณฑท์ ี่ก�ำหนด
ระดับคะแนน
  0  คะแนน ไม่มรี ำยงำนกำรสอบสวนทเี่ ข้ำเกณฑ์
  3  คะแนน มรี ำยงำนกำรสอบสวนทเ่ี ขำ้ เกณฑ ์ < รอ้ ยละ 40
  7 คะแนน มรี ำยงำนกำรสอบสวนทเี่ ขำ้ เกณฑ ์ รอ้ ยละ 40–59
10 คะแนน มรี ำยงำนกำรสอบสวนทเี่ ขำ้ เกณฑ ์ รอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป

  ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2552–2555 มีองค์ประกอบ 4 ด้ำน 17 ตัวชี้วัด (รูปที่ 4) ทีมแต่ละระดับมีจ�ำนวนตัวช้ีวัดแตกต่ำงกันไป 
(ตำรำงท่ี 2) แต่ละตัวชี้วัดจะมีตัวชี้วัดย่อยแบ่งเป็นระดับพื้นฐำนและระดับดี ทีมท่ีผ่ำนมำตรฐำน หมำยถึง ต้องผ่ำนระดับ 
พ้นื ฐำนทกุ ตวั ชี้วัดยอ่ ย ทีมทผี่ ่ำนมำตรฐำนมีผลใช้ไดน้ ำน 3 ปี

INPUT PROCESS OUTPUT
ดา้ นความเป็นทีม ดา้ นความสามารถการปฏบิ ตั งิ าน ดา้ นผลงาน
1.  จัดต้งั ทมี  6.  กำรเฝำ้ ระวัง/เตอื นภยั 12. ผลงำนแจ้งเตอื น/รำยงำน
2.  ศกั ยภำพวชิ ำกำร   (Detect events) 13. ผลงำนสอบสวนโรคครบถ้วน
3.  บริหำรทีมงำน  7.  ประเมนิ สถำนกำรณ/์ รำยงำน/ 14. ผลงำนสอบสวนโรคและ
  แจ้งเหต ุ (Verify, Assess,    ควบคมุ คุณภำพ
ด้านความพรอ้ ม   Notification) 15. ผลงำนสอบสวนโรคเร็ว
 8.  สอบสวนโรคและภัยสุขภำพ   (Response time)
4.  คนและสิ่งสนบั สนนุ  9.  ควบคมุ โรคข้นั ตน้  (Containment) 16. เขยี นรำยงำนสอบสวนโรคดี
  (Logistics) 10. สนบั สนนุ ด้ำนอนำมยั ส่งิ แวดลอ้ ม 17. มผี ลงำนวชิ ำกำรจำกกำรสอบสวนโรค
5.  แผนและกำรฝกึ ซ้อม 11. สนบั สนนุ ควบคมุ โรคและตอบสนอง
  ทำงสำธำรณสุข

รปู ที่ 4 แผนผงั โครงรำ่ งมำตรฐำน SRRT

8 มาตรฐานและแนวทางปฏิบัตงิ านทีมเฝา้ ระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสขุ ภาพ 2563

ตารางที่ 2 ตวั ชีว้ ัดมำตรฐำน SRRT ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2552–2555 ระดบั ทีม SRRT
ทอ้ งถน่ิ อา� เภอ จงั หวดั เขต สว่ นกลาง
องคป์ ระกอบ/ตัวชวี้ ัด
X X XX X
องคป์ ระกอบดำ้ นควำมเปน็ ทีม X X XX X
1.  กำรจัดตงั้ ทีม SRRT 
2.  ทีมมีศกั ยภำพทำงวชิ ำกำร  X  X X X
3.  ทมี มีศกั ยภำพดำ้ นกำรบริหำรทีมงำน X X XX X
องค์ประกอบดำ้ นควำมพร้อม
4.  ทมี มีควำมพรอ้ มในกำรปฏบิ ตั งิ ำน  X XX X
5.  ทมี มีแผนปฏิบตั กิ ำรกรณเี ร่งด่วนและกำรฝึกซอ้ ม X X XX X
องค์ประกอบดำ้ นควำมสำมำรถกำรปฏิบตั งิ ำน
6.  กำรเฝำ้ ระวงั และเตือนภัย XX X
7.  กำรประเมินสถำนกำรณแ์ ละรำยงำน  X X XX X
8.  กำรสอบสวนโรคและภยั สุขภำพ XX
9.  กำรควบคมุ โรคขัน้ ต้น 
10.  กำรสนับสนนุ มำตรกำรดำ้ นอนำมัยส่งิ แวดล้อม XX
11.  กำรสนบั สนนุ มำตรกำรควบคมุ โรคและตอบสนองทำงสำธำรณสขุ   XX X
องค์ประกอบดำ้ นผลงำน X X XX X
12.  ผลงำนกำรแจ้งเตอื นและรำยงำนเหตกุ ำรณท์ ันเวลำ  X XX X
13.  ผลงำนด้ำนควำมครบถว้ นของกำรสอบสวนโรค X X XX X
14.  ผลงำนด้ำนคุณภำพกำรสอบสวนและควบคมุ โรค XX
15.  ผลงำนด้ำนควำมรวดเรว็ ในกำรสอบสวนโรค  X X XX X
16.  ผลงำนดำ้ นคุณภำพกำรเขียนรำยงำนสอบสวนโรค XX X
17.  ผลงำนกำรนำ� เสนอควำมรจู้ ำกกำรสอบสวนโรค หรอื กำรตอบสนอง 10 13 14 15 15
  ทำงสำธำรณสขุ  ทเ่ี ผยแพรใ่ นวำรสำร เวทวี ิชำกำร เว็บไซต ์ ฯลฯ 

รวมจา� นวนตวั ชี้วัด

  ฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2556–2561 มีองค์ประกอบ 4 ด้ำน 17 ตัวชี้วัด มีเนื้อหำคล้ำยฉบับที่ 2 แต่มีกำรปรับระดับตัวช้ีวัดย่อย 
ยกระดบั คำ่ เป้ำหมำยเพิม่ ข้ึน

2. ผลการประเมินมาตรฐาน SRRT
  กำรประเมินรับรองมำตรฐำน SRRT ระดับอ�ำเภอ โดยส�ำนักงำนป้องกันควบคุมโรคเขต ซึ่งทีมที่ผ่ำนกำรรับรองจะมีอำย ุ
ได้ 3 ปี พบว่ำ หลังมีกำรปรับใช้มำตรฐำนฉบับปรับปรุง ปี พ.ศ. 2555 ในแต่ละปีมีทีมท่ีผ่ำนกำรประเมินรับรองมำกกว่ำ 
รอ้ ยละ 95 (รูปที่ 5) 

มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั ิงานทมี เฝา้ ระวงั สอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภาพ 2563 9

100 98.1 98.52 97.36 95.36 97.67
80 2561
ร้อยละ 60
40
20 2558 2559 2560
0 2557 ป ี พ.ศ.

รปู ท่ี 5 ร้อยละของทีม SRRT ระดบั อ�ำเภอ ท่ผี ่ำนกำรประเมนิ รบั รองมำตรฐำน ปี พ.ศ. 2557–2561
3. การพฒั นาเครอื ข่ายแบบ on the job training
  กองระบำดวิทยำจัดอบรมหลักสูตรระบำดวิทยำและกำรบริหำรจัดกำรทีมส�ำหรับแพทย์หัวหน้ำทีมและผู้สอบสวนหลัก 
(Field Epidemiology and Management Training; FEMT) ด�ำเนินกำรปีละ 1 รุ่น ประกอบด้วย แพทย์หัวหน้ำทีม และ 
ผ้สู อบสวนหลกั  คอื  นักวิชำกำรสำธำรณสุข หรอื พยำบำลท่ปี ฏิบตั งิ ำนระบำดวทิ ยำ มีอำจำรย์ทป่ี รึกษำให้แก่ทีม มอบงำน 2 ชิน้  
คอื  กำรประเมนิ ระบบเฝำ้ ระวงั ทำงระบำดวทิ ยำและกำรสอบสวนโรค/ภยั  ระยะเวลำกำรอบรม 8–9 เดอื น แตใ่ ชเ้ วลำในหอ้ งเรยี น 
3 ครง้ั  ครัง้ ละ 1 สปั ดำห ์ ต้งั แตป่ งี บประมำณ 2548–2562 มีผ้ผู ่ำนหลักสตู รนีท้ ้งั ส้ิน 700 คน (ตำรำงท ่ี 3) 

ตารางท่ี 3 จ�ำนวนผผู้ ำ่ นหลกั สตู รระบำดวทิ ยำภำคสนำมระดบั กลำง (FEMT) ประจำ� ปีงบประมำณ 2548–2562

ปงี บประมาณ พ.ศ. รุ่นที่ ผู้ผ่านการอบรม รวม
แพทย์ นวก./พยบ.

2548 1 15 – 15
2549 2 18 – 18
2550 3 22 21 43
2551 4 20 20 40
2552 5 23 23 46
2553 6 16 26 42
2555 7 17 24 41
2556 8 23 33 56
2557 9 18 30 48
2558 10 6 36 42
2559 11 21 30 51
2560 12 27 40 67
2561 13 31 44 75
2562 14 40 63 103
399 700
รวม 301

10 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทมี เฝ้าระวงั สอบสวนควบคุมโรคและภัยสขุ ภาพ 2563



บทที่ 2

มาตรฐาน SAT & JIT
สำหรับทีมระดับจังหวัด เขต
และส่วนกลาง

บทที่ 2

มาตรฐาน SAT & JIT สำหรบั ทมี ระดบั จังหวดั เขต และสว่ นกลาง

แนวคิดการจัดทา� มาตรฐาน

  กำรจดั ทำ� มำตรฐำนทมี ตระหนกั รสู้ ถำนกำรณ ์ (SAT) และทมี ปฏบิ ตั กิ ำรสอบสวนควบคมุ โรค (JIT) ในครง้ั น ้ี ไดใ้ ชแ้ นวทำง 
กำรวัดผลกำรด�ำเนินงำนจำกมำตรฐำน SRRT เดิมมำปรับให้เหมำะสมกับบทบำทหน้ำท่ีที่ควรพัฒนำ กำรประเมินผล 
ใช้องค์ประกอบ 2 ส่วน ได้แก ่
  1.  กำรประเมนิ ผลสมั ฤทธ์ขิ องงำน ใช้ตัวชี้วัดดำ้ นผลงำนน�ำมำกำ� หนด ดังน ี้
    -  ตัวช้ีวดั เชงิ ปริมำณ เช่น จำ� นวนหรอื รอ้ ยละควำมครบถว้ นของกำรสอบสวนโรค 
    -  ตัวชว้ี ัดเชิงคณุ ภำพ เชน่  รอ้ ยละของกำรสอบสวนโรคที่มคี ณุ ภำพ 
    -  ตวั ช้วี ัดเชิงเวลำ เช่น รอ้ ยละของกำรสอบสวนโรคทันเวลำ 
  2.  กำรประเมนิ สมรรถนะ เช่น ควำมสำมำรถในกำรเก็บส่ิงส่งตรวจ กำรสวมชดุ ปอ้ งกันตนเอง 

การผ่านเกณฑ์ และการยกระดบั มาตรฐาน

  เกณฑ์ หมำยถงึ  เกณฑต์ ำมมำตรฐำน ตัวชีว้ ดั  และตวั ช้วี ดั ย่อย ส่วนกำรผ่ำนเกณฑจ์ ำ� แนกเป็น “ผำ่ น และไม่ผ่ำน” 

  การผ่านเกณฑ์ตัวช้ีวัดย่อย ส่วนใหญ่พิจำรณำจำกเอกสำรต่ำง ๆ เช่น ค�ำสั่ง แฟ้มประวัติ แผนงำน ตำรำงเวร รำยกำร 
สิ่งสนับสนุน เกณฑ์/เง่ือนไขที่ทีมก�ำหนด ทะเบียน/รำยงำน ฯลฯ บำงตัวชี้วัดย่อยอำจพิจำรณำจำกหลักฐำนอื่น เช่น 
ยำนพำหนะ วัสดุอุปกรณ์ เปน็ ตน้  ตัวช้วี ัดยอ่ ยม ี 2 ชนดิ  
    -  ตวั ชีว้ ัดย่อยระดบั พนื้ ฐำน (Basic requirement, B) เปน็ รำยกำรหรอื ขอ้ ก�ำหนดขัน้ ต�่ำของทมี  
    -  ตัวชว้ี ัดยอ่ ยระดบั ดี (Special requirement, S) แสดงศักยภำพและประสทิ ธภิ ำพท่เี พมิ่ ขึ้นของทมี  

  การผ่านเกณฑ์ตวั ชีว้ ัด พิจำรณำจำกจำ� นวนตวั ชว้ี ดั ยอ่ ยทผ่ี ่ำนเกณฑ์ ซ่งึ แบง่ เป็น 2 ระดับ 
    -  ผำ่ นเกณฑต์ ัวช้ีวัดระดับพื้นฐำน หมำยถึง มีตวั ชี้วดั ย่อยระดับพื้นฐำนผำ่ นเกณฑ์ทั้งหมด 
    -  ผำ่ นเกณฑต์ ัวชี้วัดระดับด ี หมำยถงึ  ทกุ ตวั ช้ีวัดย่อยผำ่ นเกณฑ์ทงั้ หมด 

  การผา่ นเกณฑ์มาตรฐาน พิจำรณำจำกจำ� นวนตวั ช้ีวดั ที่ผ่ำนเกณฑ ์ ซงึ่ แบง่ เปน็  3 ระดับ 
    -  ผำ่ นเกณฑ์มำตรฐำนระดับพืน้ ฐำน หมำยถงึ  ทุกตวั ช้ีวัดผำ่ นเกณฑอ์ ยำ่ งนอ้ ยระดบั พ้ืนฐำน 
    -  ผำ่ นเกณฑ์มำตรฐำนระดับดี หมำยถงึ  ทกุ ตวั ช้ีวดั ผำ่ นเกณฑร์ ะดับด ี
    -  ผ่ำนเกณฑ์มำตรฐำนระดับดีเย่ียม หมำยถึง ผ่ำนเกณฑ์มำตรฐำนระดับดีติดต่อกันโดยมีระยะห่ำงจำกคร้ังก่อน 
      ไม่ต�ำ่ กวำ่  1 ป ี และมที มี สว่ นกลำงเปน็ ผ้ปู ระเมนิ

ทีมรับการประเมิน ทีมผปู้ ระเมนิ

ระดบั จงั หวัด/ส�ำนักอนำมยั  กทม. สคร./สปคม.
ระดับเขต ทมี ส่วนกลำง
ระดับสว่ นกลำง แตง่ ตง้ั กรรมกำรจำกทีมจงั หวดั /เขต ท่ผี ่ำนกำรประเมินระดบั ดีเย่ยี ม

มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัติงานทมี เฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภาพ 2563 13

  ผลกำรผ่ำนเกณฑ์แต่ละระดับใช้ได้ 3 ปี แต่ทีมสำมำรถประเมินใหม่ได้ทุกปี เพ่ือพัฒนำมำตรฐำนตนเองให้สูงข้ึน 
สำ� หรบั ทมี ทผ่ี ำ่ นกำรประเมินมำตรฐำน SRRT สำมำรถใช้ผลกำรรบั รองได้หลังประเมนิ  3 ปี

ตัวชวี้ ดั มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั ิงาน
ทมี ตระหนกั รู้สถานการณ์ (SAT) และทมี ปฏิบตั ิการสอบสวนควบคมุ โรค (JIT)

องคป์ ระกอบ/ตวั ชว้ี ัด ระดับทมี
จงั หวดั เขต สว่ นกลาง
มำตรฐำน SAT 5 ตัวชวี้ ดั
มำตรฐำน SAT ด้ำนควำมเป็นทีม XX X
1.  กำรจัดตงั้  SAT XX X
2.  ทีมมศี กั ยภำพทำงวชิ ำกำร XX X
มำตรฐำน SAT ด้ำนควำมพรอ้ มและกำรปฏิบตั ิงำน XX X
3.  ทมี มคี วำมพรอ้ มในกำรปฏิบัตงิ ำน XX X
มำตรฐำน SAT ด้ำนควำมสำมำรถกำรปฏบิ ัตงิ ำน
4.  กำรเฝ้ำระวัง เตือนภยั  ประเมินสถำนกำรณ ์ และรำยงำน XX X
มำตรฐำน SAT ด้ำนผลงำน XX X
5.  ผลงำนดำ้ นคุณภำพกำรเขยี นรำยงำนขำ่ วกำรระบำด XX X
มำตรฐำน JIT 11 ตัวชวี้ ดั XX X
มำตรฐำน JIT ด้ำนควำมเปน็ ทมี XX X
1.  กำรจัดตง้ั  JIT XX X
2.  ทีมมศี กั ยภำพทำงวิชำกำร XX X
มำตรฐำน JIT ด้ำนควำมพรอ้ มและกำรปฏบิ ตั งิ ำน XX X
3.  ทีมมศี ักยภำพด้ำนกำรบรหิ ำรทีมงำน XX X
4.  ทีมมคี วำมพร้อมในกำรปฏิบตั ิงำน XX X
5.  ทมี มกี ำรฝกึ ซ้อมทักษะท่ีจำ� เปน็ ต่อกำรสอบสวนโรค XX X
มำตรฐำน JIT ด้ำนควำมสำมำรถกำรปฏิบตั ิงำน 16 16 16
6.  กำรสอบสวนโรคและภัยสุขภำพ และกำรควบคุมโรคขนั้ ตน้  (ทดสอบ) 
มำตรฐำน JIT ด้ำนผลงำน
7.  ผลงำนดำ้ นควำมครบถว้ นของกำรสอบสวนโรค
8.  ผลงำนด้ำนคุณภำพกำรสอบสวนและควบคมุ โรค
9.  ผลงำนดำ้ นควำมรวดเร็วในกำรสอบสวนโรค
10.  ผลงำนดำ้ นคณุ ภำพกำรเขยี นรำยงำนสอบสวนโรค
11.  ผลงำนกำรน�ำเสนอควำมรูจ้ ำกกำรเฝ้ำระวัง สอบสวนโรคหรอื กำรตอบสนอง
  ทำงสำธำรณสุข ทเี่ ผยแพรใ่ นวำรสำร เวทวี ิชำกำร

รวมจ�านวนตวั ชวี้ ดั

14 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563

รายละเอยี ดตัวชี้วัดมาตรฐาน SAT

มาตรฐาน SAT ดา้ นความเป็นทีม
ตวั ชีว้ ัดท่ี 1 การจัดตั้ง SAT

หัวข้อ รายละเอียด

ความหมาย หน่วยงำนมีกำรจัดต้ังทีมตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (Situation Awareness Team: SAT) ที่ชัดเจน 
วตั ถปุ ระสงค์ สำมำรถระบผุ ู้เปน็ หวั หน้ำและสมำชิกทีมทั้งหมดได้ 
ของตัวช้วี ดั
องค์ประกอบ เพอื่ ใหห้ นว่ ยงำนทมี่ พี น้ื ทรี่ บั ผดิ ชอบในกำรปอ้ งกนั ควบคมุ โรค มกี ำรกำ� หนดตวั บคุ คลหรอื จดั ตง้ั ทมี งำน 
ของตัวช้วี ดั รบั ผิดชอบกำรเฝำ้ ระวงั โรคเป็นกำรประจำ�  

ค�าอธิบาย 1)  มีค�ำส่ังแต่งต้ังทีมตระหนักรู้สถำนกำรณ์ (Situation Awareness Team: SAT) ที่มีรำยช่ือ  [B]
  เปน็ ปจั จบุ นั รอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป และกำ� หนดหนำ้ ทคี่ วำมรบั ผดิ ชอบของสมำชกิ ทมี อยำ่ งชดั เจน
2)  หัวหนำ้ ทมี ตระหนักรู้สถำนกำรณ ์ เปน็ นกั ระบำดวทิ ยำ  [B]
3)  ทีมตระหนักรู้สถำนกำรณ์ มีจ�ำนวนสมำชิกตั้งแต่ 3 คน ข้ึนไป โดยในแต่ละช่วงเวลำต้องมี  [B]
  สมำชกิ อยำ่ งนอ้ ย 1 คน ปฏิบัติหนำ้ ท่ี

หมายเหตุ :
ในภาวะปกติ สมำชิก SAT และ JIT ที่ได้รับกำรแต่งตั้งในค�ำสั่งสำมำรถเป็นบุคคลเดียวกันได้ แต่ใน 
ขณะทป่ี ฏบิ ตั งิ ำนจรงิ แตล่ ะคนตอ้ งปฏบิ ตั งิ ำนเพยี งหนำ้ ทใี่ ดหนำ้ ทห่ี นง่ึ ในแตล่ ะชว่ งเวลำ (ยกเวน้ หวั หนำ้  
SAT อำจเป็นคนเดยี วกับ supervisor ของ JIT ในเวลำเดียวกนั ได)้  
ในภาวะฉกุ เฉนิ  กำรจดั โครงสรำ้ ง SAT ใหย้ ดึ ตำมแนวทำงปฏบิ ตั งิ ำน/เกณฑม์ ำตรฐำนของศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ำร 
ตอบโตภ้ ำวะฉกุ เฉนิ  (EOC) (ตำมกรอบแนวทำงกำรพฒั นำศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ำรภำวะฉกุ เฉนิ และระบบบญั ชำกำร 
เหตุกำรณใ์ นภำวะฉกุ เฉินทำงสำธำรณสขุ  กรมควบคุมโรค พ.ศ. 2559–2564) 

1.  ทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (Situation Awareness Team: SAT) หมำยถึง ทีมปฏิบัติกำรท่ีมี 
ควำมสำมำรถในกำรรวบรวมขอ้ มลู  เพอ่ื ตดิ ตำม ตรวจจบั  วเิ ครำะห ์ และประเมนิ สถำนกำรณ ์ พรอ้ มทงั้  
แจ้งเตอื นแกผ่ ้บู ริหำรและหน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องเพ่อื พิจำรณำตอบสนองตอ่ สถำนกำรณน์ ้นั  ๆ 
มีบทบำทหนำ้ ท่ ี ดงั น้ี
  หวั หนำ้ ทมี  ทำ� หนำ้ ท ่ี วำงแผนกำรทำ� งำน อำ� นวยกำรใหท้ มี สำมำรถปฏบิ ตั งิ ำนไดต้ ำมแผน ประเมนิ  
  ควำมสำ� คญั ของเหตกุ ำรณห์ รอื สถำนกำรณท์ งั้ ในและตำ่ งประเทศ ทสี่ มำชกิ ทมี ไดต้ รวจสอบวเิ ครำะห ์
  และเป็นผู้ตัดสินใจในกำรรำยงำนต่อผู้บริหำรหรือผู้เกี่ยวข้อง แจ้งทีมปฏิบัติกำรสอบสวน 
  ควบคุมโรคออกปฏิบัติงำนในพื้นที่เกิดเหตุ เสนอให้เปิด EOC หรือปิด EOC เป็นท่ีปรึกษำทำง 
  วชิ ำกำร พร้อมขอ้ เสนอแนะในกำรตอบโตส้ ถำนกำรณร์ ว่ มกับทีมยุทธศำสตร์ 
  สมำชิกทีม ทำ� หนำ้ ท ่ี
  -  เฝ้ำระวังและตรวจจับเหตุกำรณ์ผิดปกติ รับแจ้งเหตุกำรณ์ ตรวจสอบยืนยันข่ำวกำรระบำด 
    (Verify) ติดตำมสถำนกำรณโ์ รคและภยั สุขภำพท่สี ำ� คัญท้ังในและต่ำงประเทศ
  -  ประสำนข้อมูลสถำนกำรณ์ กำรควบคุมป้องกันกำรระบำด ระหว่ำงทีมตระหนักรู้สถำนกำรณ์ 
    กับหนว่ ยงำนทีเ่ กี่ยวขอ้ ง
  -  วิเครำะห์สถำนกำรณ์ และประเมินควำมเส่ียง (Situation analysis & Risk assessment, 
    Rapid risk assessment) กำรรำยงำนตอ่  (Reporting/ notification) สรปุ และเขียนรำยงำน

มาตรฐานและแนวทางปฏิบตั งิ านทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ 2563 15

มาตรฐาน SAT ดา้ นความเปน็ ทีม
ตวั ชว้ี ัดท่ี 1 (ตอ่ ) การจดั ตงั้ SAT

หวั ข้อ รายละเอยี ด

ค�าอธบิ าย 2.  ค�าสั่งแต่งตั้งทีม มีกำรระบุรำยช่ือสมำชิกทีมชัดเจน อำจเป็นค�ำสั่งที่แต่งต้ัง SAT โดยตรง หรือ 
เป็นค�ำส่งั แตง่ ต้ังคณะกรรมกำรป้องกนั ควบคมุ โรค หรือค�ำสงั่ อน่ื  ๆ ทีม่ ี SAT เป็นส่วนหนึ่งของค�ำสงั่  
แนวทาง 3.  นกั ระบาดวทิ ยา หมำยถงึ  บคุ คลทผ่ี ำ่ นกำรฝกึ อบรมระบำดวทิ ยำพน้ื ฐำน ประกอบดว้ ย กำรบรรยำย 
การประเมิน  และฝึกปฏิบัติด้ำนกำรเฝ้ำระวัง สอบสวน ควบคุมโรค พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และกำรเก็บ 
ขอ้ มลู /หลักฐาน สิ่งส่งตรวจทำงห้องปฏิบัติกำร เป็นระยะเวลำไม่ต�่ำกว่ำ 20 ชั่วโมง และมีประสบกำรณ์ด้ำนเฝ้ำระวัง 
สอบสวนควบคมุ โรค อยำ่ งนอ้ ย 2 ปี

1.  ประเมนิ ส่ิงทค่ี วรกำ� หนดหรอื ควรมีเปน็ ปจั จุบนั  ณ วันทที่ ำ� กำรประเมนิ  
2.  ประเมินจำกส�ำเนำค�ำส่ังแต่งต้ัง SAT ของหน่วยงำน ตรวจสอบจ�ำนวน รำยช่ือ ควำมเป็นปัจจุบัน 
  และองค์ประกอบอ่นื  ๆ ตำมตวั ชีว้ ัดยอ่ ย 

คำ� สงั่ แตง่ ตงั้  SAT 

มาตรฐาน SAT ดา้ นความเป็นทีม
ตัวชี้วัดท่ี 2 ทีมมีศักยภาพทางวชิ าการ

หวั ข้อ รายละเอยี ด

ความหมาย ศักยภำพทำงวิชำกำรของ SAT หมำยถึง สมำชิก SAT ทุกคนมีควำมรู้ควำมสำมำรถที่เพียงพอ 
ต่อกำรปฏิบัติงำนร่วมกัน รวมถึงได้รับกำรพัฒนำควำมรู้อย่ำงต่อเน่ือง นอกจำกนี้ควรมีสมำชิก SAT 
อยำ่ งน้อย 1 คน ท่ีมีควำมรคู้ วำมช�ำนำญในระดบั ท่สี ำมำรถเป็นหลกั ให้กับผู้รว่ มทีมได ้

วัตถปุ ระสงค์ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สมำชิก SAT ได้รับกำรพัฒนำศักยภำพทำงวิชำกำร โดยกำรฝึกอบรม 
ของตวั ชว้ี ดั กำรเรยี นรรู้ ะหวำ่ งปฏิบัติงำน และกำรจดั กำรควำมรู ้  

องค์ประกอบ 1)  สมำชิกทีมร้อยละ 80 ข้ึนไป ได้เข้ำร่วมกิจกรรมพัฒนำบุคลำกร หรือจัดกำรควำมรู ้ [B]
ของตัวช้ีวดั   ของ SAT อยำ่ งนอ้ ยปลี ะ 1 ครัง้
2)  สมำชิกทีมทุกคน ได้รับกำรอบรม SAT orientation เม่ือเข้ำมำปฏิบัติงำนครั้งแรก หรือ  [B]
  ทกุ ครงั้ ท่ีมกี ำรปรับเปลย่ี นรปู แบบกำรท�ำงำน

คา� อธิบาย 1. กิจกรรมพัฒนาบุคลากร หรือจัดการความรู้ของ SAT หมำยถึง กิจกรรมทช่ี ่วยพฒั นำควำมร้แู ละ 
  ทกั ษะระหวำ่ งกำรปฏบิ ตั งิ ำน เชน่  กำรประชมุ วชิ ำกำร หรอื เชงิ ปฏบิ ตั กิ ำร หรอื ประชมุ ถอดบทเรยี น 
  ในกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ภำรกจิ ของ SAT ไดแ้ ก ่ กำรรบั แจง้ เหตกุ ำรณ ์ (Notification) กำรตรวจสอบ 
  และยืนยัน (Verification) วิเครำะห์สถำนกำรณ์ (Situation analysis) กำรประเมินควำมเสี่ยง 
  (Risk assessment) กำรรำยงำนต่อ (Reporting) และอ่ืน ๆ 
2. การอบรม SAT orientation หมำยถึง กำรท�ำควำมเข้ำใจและกำรช้ีแจงก่อนเริ่มต้นปฏิบัติงำน 
  เพอื่ ใหแ้ นวทำงกำรปฏบิ ตั ติ น และใหข้ อ้ มลู พนื้ ฐำนทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั กจิ กรรมของ SAT ซง่ึ ประกอบดว้ ย 
  กำรรบั แจง้ เหตกุ ำรณ ์ (notification) กำรตรวจสอบและยนื ยนั  (Verification) วเิ ครำะหส์ ถำนกำรณ์ 
  (Situation analysis) กำรประเมินควำมเสี่ยง (Risk assessment) กำรรำยงำนต่อ (Reporting) 
  และอนื่  ๆ 

16 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัติงานทมี เฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563

มาตรฐาน SAT ด้านความเปน็ ทมี
ตัวช้วี ัดที่ 2 (ต่อ) ทมี มศี กั ยภาพทางวชิ าการ

หัวขอ้ รายละเอยี ด

แนวทาง 1.  ประเมินสง่ิ ท่ีควรกำ� หนดหรอื ควรม ี รอบ 12 เดือน ย้อนหลงั ขนึ้ ไป (ไม่นับเดือนท่ที ำ� กำรประเมนิ ) 
การประเมิน  2.  ประเมนิ จำกข้อมูลกำรพัฒนำบคุ ลำกร หรือจัดกำรควำมรู้ของ SAT 
3.  ประเมินจำกข้อมูลกำรอบรม SAT orientation 
ข้อมลู /หลักฐาน -  คำ� สั่งแตง่ ตัง้  SAT
-  รำยงำนกำรพัฒนำบุคลำกร หรอื จดั กำรควำมร้ขู อง SAT 
-  ทะเบียนรำยช่ือผู้ผ่ำนกิจกรรมพัฒนำบุคลำกร หรือจัดกำรควำมรู้ของ SAT และกำรอบรม SAT 
  orientation

มาตรฐาน SAT ด้านความพร้อมและการปฏบิ ตั ิงาน
ตัวชว้ี ดั ท่ี 3 ทมี มคี วามพร้อมในการปฏบิ ัติงาน

หัวขอ้ รายละเอยี ด

ความหมาย สมำชิก SAT มีส่ิงสนับสนุนต่ำง ๆ ท่ีจ�ำเป็นและเพียงพอต่อกำรปฏิบัติงำน เช่น แบบพิมพ์คอมพิวเตอร ์
เครอื่ งพมิ พ ์ คูม่ ือ/แนวทำงปฏบิ ัติงำน ท�ำเนยี บเบอรโ์ ทรศัพท์ อปุ กรณ์สอื่ สำร และงบประมำณ เปน็ ตน้  

วัตถุประสงค์ เพอ่ื ให้ทีมมคี วำมพร้อมในกำรปฏิบตั งิ ำนไดท้ ันที สะดวก ปลอดภัย และมปี ระสทิ ธภิ ำพ 
ของตัวชว้ี ัด

องคป์ ระกอบ 1)  มชี อ่ งทำงกำรติดต่อสอ่ื สำรกบั เครือขำ่ ย เช่น หมำยเลขโทรศพั ท ์ ไลน์ หรืออ่ืน ๆ  [B]
ของตวั ช้ีวดั   ได้ตลอดเวลำ
2)  มเี ครื่องมือ และอุปกรณ์ท่ีจำ� เปน็ ตอ่ กำรปฏิบัติงำน ตำมเกณฑ์ที่ก�ำหนด  [B]
3)  มีคู่มือ แนวทำงปฏิบัติงำน โปรแกรมหรือแบบฟอร์มกำรบันทึกข้อมูล เพื่อกำรเฝ้ำระวัง  [B]
  ตรวจสอบขำ่ ว ตำมเกณฑ์ที่กำ� หนด
4)  มีฐำนขอ้ มลู ที่จ�ำเปน็ ต่อกำรปฏบิ ัติงำน  [B]

คา� อธิบาย 1. เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่จ�าเป็นต่อการปฏิบัติงาน ตามเกณฑ์ท่ีก�าหนด หมำยถึง เคร่ืองมือ 
  วสั ดอุ ปุ กรณ ์ ทจ่ี ำ� เปน็ ตอ่ กำรปฏบิ ตั งิ ำน ดงั น ้ี เครอื่ งคอมพวิ เตอร ์ อนิ เทอรเ์ นต็  เครอื่ งพมิ พ ์ โทรศพั ท ์
  เครื่องโทรสำร อปุ กรณส์ ำ� นักงำน และอ่ืน ๆ 
2. คมู่ อื แนวทางปฏบิ ตั งิ าน โปรแกรมหรอื แบบฟอรม์ การบนั ทกึ ขอ้ มลู เพอ่ื การเฝา้ ระวงั ตรวจสอบขา่ ว

ตามเกณฑท์ กี่ า� หนด หมำยถึง คู่มือ แนวทำงปฏิบัติงำน โปรแกรมหรือแบบฟอร์มกำรบันทึกข้อมูล 
  ที่จำ� เปน็ ต่อกำรปฏิบัติงำน ดังน ี้
  -  รำยช่ือ และนิยำมของโรค ภำวะทำงสุขภำพ หรือเหตุกำรณท์ จี่ ำ� เป็นต้องเฝำ้ ระวัง เช่น
    โรคตำม พ.ร.บ. โรคตดิ ตอ่  พ.ศ. 2558
  -  เกณฑข์ องเหตกุ ำรณ์ที่ต้องทำ� กำรตรวจสอบข่ำว
  -  เกณฑ์ Director Critical Information Requirement (DCIR) 
  -  เกณฑข์ องเหตุกำรณ์ทีต่ อ้ งทำ� กำรสอบสวนโรค 
  -  แนวทำงกำรประเมินควำมเสี่ยง 
  -  แนวทำงกำรจัดท�ำ spot report 

มาตรฐานและแนวทางปฏิบัตงิ านทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 17

มาตรฐาน SAT ด้านความพรอ้ มและการปฏิบตั งิ าน
ตัวช้ีวดั ท่ี 3 (ตอ่ ) ทมี มีความพร้อมในการปฏิบัตงิ าน

หวั ข้อ รายละเอยี ด

ค�าอธิบาย   -  โปรแกรมตรวจสอบขำ่ วกำรระบำด/แบบฟอรม์ รับแจง้ ข่ำว/ทะเบยี นรับแจ้งขำ่ ว
  -  แนวทำงปฏิบัติงำนของทีม SAT เอกสำรดังกล่ำวอยู่ในรูปแบบใดก็ได้ เช่น คู่มือ แนวทำง 
แนวทาง     หนงั สอื มำตรฐำน SOP ไฟล์อิเล็กทรอนิกส ์ แฟ้มเอกสำร ฯ
การประเมนิ   3. ฐานข้อมูลท่ีจ�าเป็นต่อการปฏิบัติงาน หมำยถึง ข้อมูลท่ีพร้อมใช้ในกำรประมวลผล เพ่ือประเมิน 
ข้อมูล/หลักฐาน   สถำนกำรณ์และประกอบกำรตัดสินใจ ได้แก่ ข้อมูลเฝ้ำระวังโรคและภัยสุขภำพ 5 กลุ่มโรค 5 มิต ิ
  (ได้แก่ ป่วย/ตำย สำเหตุหรือปัจจัย พฤติกรรม มำตรกำร กำรเฝ้ำระวังเหตุกำรณ์) ข้อมูลทรัพยำกร 
  สขุ ภำพทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั กำรปอ้ งกนั ควบคมุ โรค (ไดแ้ ก ่ จำ� นวนสถำนพยำบำล จำ� นวนบคุ ลำกร เตยี งผปู้ ว่ ย 
  รถฉุกเฉิน วคั ซนี  เคร่อื งพน่ ยำ และอืน่  ๆ) และขอ้ มลู อ่นื  ๆ เชน่  ข้อมลู ภมู ิศำสตร์ ประชำกร ฯลฯ

1.  ประเมนิ สิ่งทค่ี วรมี หรอื ทำ� ใหพ้ รอ้ มเปน็ ปจั จบุ ัน ณ วนั ทท่ี �ำกำรประเมิน 
2.  ส�ำรวจช่องทำงกำรสือ่ สำร
3.  สำ� รวจรำยกำรเคร่ืองมือ อปุ กรณ์ คูม่ ือ แนวทำง ฯลฯ ทีม่ ีอยจู่ รงิ ขณะประเมนิ เปรยี บเทยี บกบั
  รำยกำรที่กำ� หนดไวต้ ำมเกณฑ์ 
4.  ตรวจสอบฐำนข้อมูลทใ่ี ช้ในกำรปฏิบัติงำน

-  รำยกำรเครอ่ื งมอื  อุปกรณ ์ คูม่ ือ แนวทำง ฯลฯ ในกำรปฏิบตั ิงำนของ SAT ท่ีมีอยู ่
-  แบบพิมพ,์  วสั ดุอปุ กรณ,์  เอกสำรคูม่ ือ/แนวทำง 
-  แนวทำงกำรสื่อสำร ประสำนงำนกับเครอื ขำ่ ย หนว่ ยงำนท่ีเก่ียวขอ้ งทงั้ ภำครฐั และเอกชน 

มาตรฐาน SAT ดา้ นความสามารถการปฏิบัติงาน
ตวั ชีว้ ดั ท่ี 4 การเฝา้ ระวัง เตือนภยั ประเมินสถานการณ์ และรายงาน

หัวข้อ รายละเอยี ด

ความหมาย -  กำรเฝำ้ ระวงั โรคของ SAT เปน็  “กำรเฝำ้ ระวงั เหตกุ ำรณ ์ (Event–based surveillance)” เนน้ กำร 
  รับรู้ข่ำวสำรเหตุกำรณ์ (Events) จำกทุกแหล่งข้อมูลข่ำวสำร ต่ำงจำกกำรเฝ้ำระวังโรคในระบบ 
วัตถุประสงค์   รำยงำน (Indicator–based surveillance) ที่เน้นกำรได้รบั ขอ้ มูล (Data) จำกสถำนพยำบำล 
ของตวั ชี้วดั -  ระบบเฝ้ำระวังเหตกุ ำรณ์ ใชข้ ำ่ วสำรจำกสรปุ รำยงำนสถำนกำรณ์หรือรำยงำนผ้ปู ว่ ย/ตำยทผี่ ดิ ปกติ 
องคป์ ระกอบ   จำกระบบรำยงำนโรคทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ขำ่ วสำรสำธำรณะ ขำ่ วลอื ตำ่ ง ๆ นำ� มำกรองขำ่ ว (Filter) ตรวจสอบ 
ของตวั ชีว้ ัด   (Verify) เพ่ือให้ตรวจจับ (Detect) กำรป่วย/ตำย ที่ผิดปกติ กำรระบำด รวมถึงภำวะฉุกเฉิน 
  ทำงสำธำรณสขุ ไดอ้ ยำ่ งรวดเรว็  สำมำรถแจง้ เตอื นภยั เสนอผบู้ รหิ ำร บคุ คลและหนว่ ยงำนทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 
  ไดท้ ันเหตกุ ำรณ์ เรยี กอีกอยำ่ งว่ำ ระบบเตือนภยั ลว่ งหนำ้  (Early warning system) 

เพ่ือพัฒนำขีดควำมสำมำรถของ SAT ในกำรตรวจจับเหตุกำรณ์ผิดปกติท่ีมีผลกระทบต่อสุขภำพ 
ได้อยำ่ งมีประสทิ ธิผลและรวดเรว็  
1)  มีกำรก�ำหนดรำยช่ือโรค ภำวะทำงสุขภำพ หรือเหตุกำรณ์ที่จ�ำเป็นต้องเฝ้ำระวัง เช่น  [B] 
  โรคตำม พ.ร.บ. โรคติดตอ่  พ.ศ. 2558 หรอื โรคและภยั สขุ ภำพท่มี ีควำมสำ� คญั ในพืน้ ที่
2)  มีกำรจัดท�ำทะเบียนรับแจ้งข่ำวหรือรับรำยงำนกำรเกิดโรค/ภัย/เหตุกำรณ์ผิดปกติ  ที่เป็น  [B]
  ปัญหำส�ำคญั  

18 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั ิงานทมี เฝา้ ระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563

มาตรฐาน SAT ด้านความสามารถการปฏิบตั ิงาน
ตัวชี้วัดที่ 4 (ต่อ) การเฝา้ ระวัง เตือนภยั ประเมนิ สถานการณ์ และรายงาน

หวั ข้อ รายละเอียด

องค์ประกอบ 3)  มีกำรค้นหำและตรวจจบั ควำมผดิ ปกติของโรคหรือภยั [B]
ของตวั ชวี้ ดั 4)  มกี ำรตรวจสอบขำ่ ว (verify) เพ่อื แยกขำ่ วไมม่ ีมลู   [B]
5)  มีกำรประเมินควำมเสี่ยงของโรคหรือภัยสุขภำพท่ีมีควำมส�ำคัญจำกกำรเฝ้ำระวังหรือ  [B]
คา� อธิบาย   ตรวจสอบข่ำว อยำ่ งน้อยเดือนละ 1 คร้ัง 
6)  มกี ำรแจง้ เตอื นภยั โดยกำรสง่ ขำ่ ว หรอื รำยงำนเบอ้ื งตน้ ไปยงั ผบู้ รหิ ำรและหนว่ ยงำนในพนื้ ที่  [B]
  ท่ีเกีย่ วขอ้ ง 

1. โรคและภัยสุขภาพที่มีความส�าคัญในพ้ืนท่ี (Priority diseases) หมำยถึง โรคหรือภัยสุขภำพ 
  ท่ีกรมควบคุมโรคพิจำรณำว่ำมีควำมส�ำคัญสูงซึ่งทุกพื้นที่ที่ในประเทศจ�ำเป็นต้องมีกำรเฝ้ำระวัง 
  อย่ำงใกล้ชิด เพ่ือตรวจจับ สอบสวน และควบคุมกำรระบำดอย่ำงทันท่วงที รวมถึงโรคหรือ 
  ภยั สขุ ภำพทเี่ ปน็ ปญั หำสำ� คญั เฉพำะพน้ื ทซ่ี ง่ึ ไดม้ ำจำกกำรประเมนิ ควำมเสยี่ ง (Risk assessment) 
  และจัดล�ำดบั ควำมส�ำคัญของปญั หำโดยพืน้ ที่เอง
2. การค้นหาและตรวจจับความผิดปกติของโรคหรือภัย หมำยถึง กำรค้นหำควำมผิดปกติของโรค 
  หรือเหตุกำรณ ์ จำกขอ้ มูล 4 แหลง่
  2.1 ระบบเฝ้ำระวังผู้ป่วย (เช่น รง.  506 EIDSS รำยงำน 43 แฟ้ม ฐำนข้อมูลกำรให้บริกำรของ 
      โรงพยำบำล และอ่ืน ๆ) ทกุ สัปดำห์ 
  2.2 ระบบเฝ้ำระวงั เหตุกำรณ์จำกเครอื ขำ่ ย
  2.3 ระบบเฝำ้ ระวงั โรคและภยั สขุ ภำพจำกหนว่ ยงำนภำยนอก เชน่  กรมปศสุ ตั ว ์ กรมควบคมุ มลพษิ  
      กรมอุตนุ ยิ มวิทยำ 
  2.4 แหล่งข่ำวอนื่  ๆ เช่น เวป็ ไซต์ 
3. ทะเบียนรับแจ้งข่าว ให้รวมถึงแฟ้มจัดเก็บข่ำวสำรแบบอ่ืนท่ีใช้เสมือนรับแจ้งข่ำว เช่น แฟ้มรับ 
  รำยงำนผู้ป่วยโรคที่ส�ำคัญหรือเร่งด่วน แฟ้มรับรำยงำนสถำนกำรณ์โรค แฟ้มข่ำว 
  หนังสือพิมพ์ฯ โปรแกรมอิเล็กทรอนิกส์ (ยกเว้น application ต่ำง ๆ ซึ่งไม่สำมำรถจัดกำรข้อมูล 
  วิเครำะห์ และประมวลผลได้โดยง่ำย เช่น social media) 
4. การตรวจสอบขา่ ว (Verification) หมำยถงึ  
  -  ตรวจสอบขำ่ ววำ่ เปน็ เหตุกำรณจ์ ริงหรือข่ำวลอื  
  -  ตรวจสอบวำ่ เข้ำเกณฑข์ องเหตกุ ำรณ์ทีต่ ้องทำ� กำรตรวจสอบข่ำวหรือไม่
  -  ตรวจสอบยืนยันควำมถูกต้องของข้อมูลเบื้องต้นท่ีได้รับ เพศ อำยุ อำชีพ เวลำเริ่มป่วย สถำนท ี่
    เร่ิมป่วย วันท่ีเข้ำรับกำรรักษำ สถำนที่ท่ีเข้ำรับกำรรักษำ อำกำรและอำกำรแสดง ผลกำรตรวจ 
    ทำงห้องปฏิบัติกำร และกำรรักษำ จ�ำนวนผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต กำรวินิจฉัย พื้นที่เกิดโรค สำเหต ุ
    ทส่ี งสัยฯ กำรด�ำเนินงำนเบือ้ งต้น และอ่ืน ๆ 
  -  ตรวจสอบเหตุกำรณ์ว่ำเข้ำเกณฑ์ DCIR หรือไม่ ถ้ำเข้ำเกณฑ์จ�ำเป็นต้องประเมินควำมเสี่ยง 
    และรำยงำนให้ผู้บรหิ ำรรับทรำบ 
  -  ตรวจสอบเหตุกำรณ์ว่ำเข้ำเกณฑ์กำรสอบสวนโรคท่ีจ�ำเป็นต้องแจ้ง JIT สอบสวนหรือไม่ 
    ถำ้ เขำ้ เกณฑ์ใหแ้ จ้ง JIT ทันที
  -  ในกรณีท่ีพบเหตุกำรณ์ท่ีไม่เป็นควำมจริง ให้แจ้งให้กับผู้เกี่ยวข้องเพื่อพิจำรณำด�ำเนินกำร 
    ก�ำจดั ขำ่ วลือทเ่ี ห็นชดั เจนวำ่ ไมถ่ ูกต้อง ขำ่ วหลอกลวง หรือแหลง่ ข่ำวไม่น่ำเชือ่ ถือ

มาตรฐานและแนวทางปฏิบตั งิ านทมี เฝา้ ระวงั สอบสวนควบคุมโรคและภัยสขุ ภาพ 2563 19

มาตรฐาน SAT ด้านความสามารถการปฏิบตั งิ าน
ตัวช้วี ัดท่ี 4 (ตอ่ ) การเฝา้ ระวงั เตือนภัย ประเมินสถานการณ์ และรายงาน

หัวขอ้ รายละเอยี ด

ค�าอธิบาย 5. ประเมินความเสี่ยง (Risk assessment) หมำยถึง กำรประเมินเหตุกำรณ์หรือสถำนกำรณ ์
  โดยควรพจิ ำรณำประเดน็ ตำ่ ง ๆ ดงั ต่อไปนี้
แนวทาง   -  โรคหรอื ภัยสุขภำพที่ก�ำลงั เผชญิ มีควำมรุนแรงมำกนอ้ ยเพยี งใด มโี อกำสทจี่ ะขยำยตัวหรือสง่ ผล 
การประเมนิ       กระทบในวงกว้ำงหรอื ไม ่
  -  มีประชำชนกลุ่มท่ีสัมผัสหรือมีควำมเส่ียงที่จะสัมผัสโรคหรือภัยสุขภำพมำกน้อยเพียงใด 
    และมโี อกำสเกิดกำรเจบ็ ปว่ ย/รุนแรงหรือไม่
  -  สภำพอำกำศ ภูมิประเทศ เอื้ออำ� นวยตอ่ กำรขยำยตวั ตอ่ โรคหรือปัญหำหรอื ไม่
  -  ศกั ยภำพ JIT/SRRT ในพน้ื ทเี่ ปน็ อยำ่ งไร หนว่ ยงำนเครอื ขำ่ ยทเ่ี กย่ี วขอ้ งสำมำรถใหค้ วำมรว่ มมอื  
    ในกำรควบคมุ โรคมำกน้อยเพียงใด
  -  ระบบบริกำรสขุ ภำพมคี วำมพรอ้ มในกำรรับมือกับโรคหรอื ปัญหำน้ัน ๆ หรอื ไม่
  -  เมอื่ พจิ ำรณำแลว้ ควรสรปุ ผลกำรประเมนิ ควำมเสย่ี งใหไ้ ดว้ ำ่  ปญั หำทกี่ ำ� ลงั เผชญิ เปน็ ภำวะฉกุ เฉนิ  
    ด้ำนสำธำรณสุขระหว่ำงประเทศ (Public Health Emergency of International Concern; 
    PHEIC) หรือเป็นภำวะฉุกเฉินทำงสำธำรณสุขในระดับพ้ืนทีห่ รือไม่ (IHR 2005 Anex 2) 
  -  ปัญหำที่ก�ำลังเผชิญก่อให้เกิดควำมเสี่ยงในด้ำนใด (มีแนวโน้มที่จะขยำยตัว อำจมีผู้เสียชีวิต 
    อำจทำ� ใหเ้ กดิ ควำมตนื่ ตระหนก และอน่ื  ๆ) และมรี ะดบั ควำมเสยี่ งมำกนอ้ ยเพยี งใด (สงู  กลำง ตำ่� ) 
    (ภำคผนวก ตัวอยำ่ ง กำรประเมนิ ระดบั ควำมเสย่ี ง (Single overall risk level) ) 
  ข้อเสนอแนะท่สี �ำคญั จำกกำรประเมินควำมเสย่ี ง ไดแ้ ก่
  -  มำตรกำรควบคุมโรคทีต่ ้องด�ำเนนิ กำรโดยเรง่ ด่วนคืออะไร 
  -  จ�ำเป็นต้องให้กำรช่วยเหลอื สนับสนุนหรือไมอ่ ยำ่ งไร
  -  จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ำรเปิด EOC ระดบั พนื้ ท่หี รอื ไม่ 
6. เครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นการประเมนิ ความเสย่ี งทส่ี า� คญั  เชน่  “IHR decision instrument” ในกฎอนำมยั  
  ระหวำ่ งประเทศ (IHR 2005) ซง่ึ ชว่ ยประเมนิ วำ่ โรคหรอื ภยั สขุ ภำพทเี่ กดิ ขน้ึ เขำ้ ขำ่ ยเปน็ ภำวะฉกุ เฉนิ  
  ทำงสำธำรณสุขระหวำ่ งประเทศหรอื ไม ่ Risk Matrix เปน็ ตน้  
7. การแจ้งเตือนภัยโดยการส่งข่าว หรือรายงานเบ้ืองต้นไปยังผู้บริหารและหน่วยงานในพ้ืนท่ี

ท่ีเก่ียวข้อง หมำยถึง กำรด�ำเนินกำรต่อเม่ือมีควำมผิดปกติหรือเข้ำเกณฑ์ DCIR ซ่ึงสำมำรถท�ำได้ 
  หลำยรปู แบบ แตท่ กุ รปู แบบควรระบวุ นั /เวลำทแ่ี จง้ เตอื นไว ้ ตวั อยำ่ งของกำรแจง้ เตอื น เชน่  บนั ทกึ  
  แจ้งผู้บริหำร/หัวหน้ำหน่วยงำน/ผู้เกี่ยวข้อง กำรแจ้งทำง E-mail group/short message 
  ใชท้ ะเบยี นรับแจ้งข่ำวฯ ในกำรสง่ ขำ่ ว หรือใช้แบบฟอร์มทหี่ น่วยงำนออกแบบใชเ้ อง
8. การรายงานต่อ (Reporting) หมำยถึง กำรรำยงำนต่อไปยัง
  -  หน่วยงำนระดับเหนือขึ้นไปอีก ภำยหลังที่ประเมินสถำนกำรณ์แล้ว พบว่ำมีควำมเร่งด่วน 
    ตำมเกณฑ ์ DCIR หรอื เขำ้ ข่ำยเป็น PHEIC 
  -  JIT/SRRT เพ่ือดำ� เนนิ กำรสอบสวนโรค
  -  ผู้มีหนำ้ ท่รี บั ผิดชอบกำรปอ้ งกนั ควบคุมโรคและภยั สขุ ภำพนน้ั  ๆ ในหน่วยงำน

ประเมนิ ส่ิงที่ควรทำ� ได้ในแต่ละขนั้ ตอน/กิจกรรม

20 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทมี เฝ้าระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ 2563

มาตรฐาน SAT ดา้ นความสามารถการปฏิบตั ิงาน
ตวั ชี้วัดที่ 4 (ต่อ) การเฝ้าระวงั เตือนภัย ประเมนิ สถานการณ์ และรายงาน

หัวขอ้ รายละเอยี ด

ข้อมูล/หลักฐาน -  รำยช่ือโรค ภำวะทำงสุขภำพ หรือเหตุกำรณ์ที่จ�ำเป็นต้องเฝ้ำระวัง เช่น โรคตำม พ.ร.บ. โรคติดต่อ 
  พ.ศ. 2558 หรือโรคและภยั สขุ ภำพทีม่ ีควำมสำ� คัญในพื้นท่ ี
-  ทะเบยี นรบั แจง้ ข่ำว หรอื รบั รำยงำนกำรเกิดโรค/ภัยฯ 
-  เอกสำรหลกั ฐำนในกำรแจง้ เตือน ส่งขำ่ ว หรอื  รำยงำนเหตกุ ำรณ์เบื้องต้นเสนอผบู้ รหิ ำร 
  (Spot Report) 
-  เอกสำรเครอื่ งมอื ท่ใี ชใ้ นกำรประเมินสถำนกำรณ ์ ได้แก่ เกณฑข์ องเหตกุ ำรณท์ ่ตี อ้ งท�ำกำร
  ตรวจสอบขำ่ ว เกณฑ ์ DCIR ของหนว่ ยงำน เกณฑก์ ำรสอบสวนของหนว่ ยงำน และ IHR 2005
  Anex 2 

มาตรฐาน SAT ดา้ นผลงาน
ตวั ช้วี ดั ที่ 5 ผลงานด้านคุณภาพการเขยี นรายงานขา่ วการระบาด

หวั ข้อ รายละเอยี ด

ความหมาย SAT สำมำรถเขียนรำยงำนข่ำวกำรระบำดได้อย่ำงมีคุณภำพ ซ่ึงหมำยถึงมีรูปแบบกำรเขียนรำยงำน 
ถูกตอ้ ง มขี ้อเสนอแนะในกำรควบคมุ โรคทีส่ อดคลอ้ งกับผลกำรตรวจสอบข่ำว 

วตั ถุประสงค์ เพอื่ พฒั นำคุณภำพของกำรเขียนรำยงำนข่ำวกำรระบำด
ของตัวชี้วัด

องค์ประกอบ 1)  มีรำยงำนกำรตรวจสอบข่ำวกำรระบำดประจ�ำสัปดำห์ (Outbreak Verification Report) 
ของตวั ชวี้ ดั   หรอื ประเมินสถำนกำรณ์ประจ�ำทุกสัปดำห์
  ร้อยละ 60–79 [B]
  รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป [S]
2)  มรี ำยงำนเหตุกำรณ์เบ้ืองต้นเสนอผูบ้ ริหำร (Spot Report) ที่มคี วำมครบถว้ น
  ร้อยละ 60–79 [B]
  รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป [S]
3)  รำยงำนเหตกุ ำรณ์เบ้อื งตน้ เสนอผบู้ รหิ ำร (Spot Report) ที่มีคุณภำพ
  ร้อยละ 60–79 [B]
  รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป [S]

การคา� นวณ จำ� นวนรำยงำนกำรตรวจสอบขำ่ วกำรระบำดประจำ� สปั ดำห์ (Outbreak Verification Report) 
                              หรือประเมินสถำนกำรณป์ ระจำ� ทกุ สัปดำห ์ x 100                          

จำ� นวนสปั ดำห์ทงั้ หมดในรอบ 1 ปี

จำ� นวนรำยงำนเหตุกำรณ์เบ้อื งต้นเสนอผ้บู รหิ ำร (Spot Report) ในรอบ 1 ปี x 100
จ�ำนวนเหตกุ ำรณท์ เี่ ขำ้ เกณฑ ์ DCIR ทง้ั หมดในรอบ 1 ปี

จำ� นวนรำยงำนเหตกุ ำรณ์เบ้อื งตน้ เสนอผู้บริหำร (Spot Report) ที่มีคณุ ภำพ x 100
จำ� นวนรำยงำน spot report ทง้ั หมดในรอบ 1 ปี

มาตรฐานและแนวทางปฏิบตั งิ านทีมเฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563 21

มาตรฐาน SAT ด้านผลงาน
ตัวช้วี ดั ท่ี 5 (ต่อ) ผลงานด้านคณุ ภาพการเขยี นรายงานขา่ วการระบาด

หวั ขอ้ รายละเอยี ด

ค�าอธิบาย 1. รายงานการตรวจสอบขา่ วการระบาดประจา� สปั ดาห์ (Outbreak Verification Report) หมำยถงึ  
  รำยงำนทีม่ รี ำยละเอยี ดของเหตุกำรณ์ท่มี สี ำระสำ� คญั ตำมตัวช้วี ดั ที ่ 4
2. รายงานประเมินสถานการณ์ประจ�าสัปดาห์ หมำยถึง รำยงำนสรุปเหตุกำรณ์ท้ังหมดที่เกิดข้ึน 
  ในรอบสัปดำห์ อำจมีข้อมูลอื่นเพิ่มเติม เช่น กำรประเมินควำมเสี่ยง กำรพยำกรณ์โรค และ 
  ข้อเสนอแนะ
3. รายงานเหตุการณ์เบ้ืองต้นเสนอผู้บริหาร (Spot Report) ท่ีมีความครบถ้วน หมำยถึง จ�ำนวน 
  รำยงำนเหตุกำรณ์เบ้ืองต้นเสนอผู้บริหำร (Spot Report) เปรียบเทียบกับจ�ำนวนเหตุกำรณ์ 
  ทเี่ ขำ้ เกณฑ ์ DCIR ทั้งหมดในรอบ 1 ปีที่ผ่ำนมำ
4. รายงานเหตกุ ารณเ์ บอ้ื งตน้ เสนอผบู้ รหิ าร (Spot Report) ทม่ี คี ณุ ภาพ หมำยถงึ  กำรเขยี นรำยงำน 
  เหตกุ ำรณเ์ บอ้ื งต้นเสนอผู้บริหำร (Spot Report) ตำมแนวทำงกำรเขียนรำยงำน ดงั น้ ี
  4.1 รำยละเอียดของเหตุกำรณ์
      4.1.1 สถำนกำรณ์หรือปัญหำที่พบในพ้ืนที่ ซึ่งควรมีข้อมูลท่ีครบถ้วน รอบด้ำน (5 มิติ) 
              จำกแหลง่ ข้อมูลต่ำง ๆ ทีน่ ำ่ เช่ือถอื  เช่น
              -  ขอ้ มลู ดำ้ นกำรปว่ ย ตำย บำดเจบ็  ผไู้ ดร้ บั ผลกระทบ และกำรกระจำยตำมบคุ คล เวลำ 
                สถำนท่ี
              -  ประชำกรกลุ่มเส่ียง ปัจจัยเสี่ยง แหล่งโรค วิธีกำรถ่ำยทอดเช้ือ ข้อมูลเกี่ยวกับกำร 
                แพร่กระจำยของเช้ือก่อโรค พฤติกรรมเส่ียงของประชำชน สำเหตุของปัญหำหรือ 
                ตัวก�ำหนดของปญั หำ 
              -  ผลตรวจทำงห้องปฏบิ ัติกำร ชนดิ ของเช้ือกอ่ โรค สำรเคมี หรอื สำเหตุของปัญหำ
              -  ข้อมูลจำกกำรระบบเฝำ้ ระวังต่ำง ๆ หรอื ผลกำรศึกษำวจิ ัยทีน่ ำ่ เชอ่ื ถอื ท่ีเกยี่ วขอ้ ง 
              -  ขอ้ มูลดำ้ นสิง่ แวดลอ้ มและบริบททำงสงั คมตำ่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวข้อง เปน็ ตน้
      4.1.2 สถำนกำรณห์ รือปญั หำท่พี บนอกพนื้ ที่
      4.1.3 มำตรกำรควบคุมป้องกันโรคท่ีแต่ละประเทศด�ำเนินกำรไปแล้ว ท�ำอะไร อย่ำงไร 
              ที่ไหนบ้ำง ไดผ้ ลดีอย่ำงไร เนอื่ งจำกอะไร ได้ผลไมด่  ี อยำ่ งไร เนือ่ งจำกอะไร
  4.2 ผลกำรประเมนิ ควำมเสีย่ งเบอื้ งต้น ควรประกอบด้วย
      4.2.1 ข้อมูลด้ำนปจั จัยเสี่ยง ปจั จัยเอือ้ ตำ่ ง ๆ เชน่  
              1)   ลักษณะของเชื้อหรือสำรเคมีก่อโรคนั้น มีควำมรุนแรงหรือมีควำมสำมำรถในกำร 
                  แพรก่ ระจำยไปไดม้ ำกน้อยแค่ไหน ก่อให้เกิดผลกระทบอยำ่ งไรบำ้ ง
              2)   พฤติกรรมของประชำชน กิจกรรมทำงสังคม กำรเดินทำง และส่ิงแวดล้อม รวมทั้ง 
                  ควำมรู้และทัศนคติของประชำชนกลุ่มเส่ียงเป็นอย่ำงไร ส่งผลกระทบกับกำร 
                  แพรร่ ะบำดของเชื้ออยำ่ งไร
      4.2.2 ปจั จยั ปอ้ งกนั ตำ่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งทรี่ ะดบั พน้ื ทที่ รี่ บั ผดิ ชอบหรอื หนว่ ยงำนตำ่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง 
              ได้ด�ำเนินกำรไปแลว้
              1)   มีอะไรบ้ำง ไดผ้ ลด ี หรอื ไดผ้ ลอย่ำงไรบำ้ ง 
              2)   ยงั ขำดอะไรที่ยงั ไมไ่ ด้ท�ำ และได้ก�ำหนดจะทำ� ต่อไปเมื่อไร
              3)   มีอะไรควรท�ำแต่ท�ำไม่ได้ เช่น ที่ระดับพื้นท่ีท่ีรับผิดชอบไม่สำมำรถตรวจตัวอย่ำง 
                  ไดเ้ องตอ้ งสง่ ไปตรวจต่ำงประเทศ
      4.2.3 ขอ้ จำ� กัดต่ำง ๆ ทีม่ อี ย่ใู นปจั จบุ ัน หรือปญั หำ อปุ สรรค

22 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภาพ 2563

มาตรฐาน SAT ดา้ นผลงาน
ตัวชีว้ ัดที่ 5 (ตอ่ ) ผลงานดา้ นคณุ ภาพการเขยี นรายงานข่าวการระบาด

หัวข้อ รายละเอยี ด

ค�าอธบิ าย       4.2.4 ประมวลข้อมูล วเิ ครำะห์สถำนกำรณ์ ระบุควำมเสย่ี งและกลุ่มเสย่ี ง เชน่
              1)   เหตุกำรณ์ผิดปกติแบบน้ีจะมีโอกำสเกิดขึ้นในประเทศไทย หรือในพ้ืนที่รับผิดชอบ 
                  ของเรำหรอื ไม่ อยำ่ งไร
              2)   เหตกุ ำรณแ์ บบนมี้ โี อกำสทจี่ ะแพรก่ ระจำยไปไนวงกวำ้ ง มำกนอ้ ยแคไ่ หน ใครจะเปน็  
                  ผู้ไดร้ ับผลกระทบบำ้ ง ทัง้ ทำงตรงและทำงออ้ ม
              3)   เหตุกำรณ์แบบน้ีหน่วยงำนเรำสำมำรถควบคุมกำรระบำดหรือผลกระทบได้หรือไม ่
                  อย่ำงไร
  4.3 ข้อเสนอแนะหรอื สง่ิ ที่ควรด�ำเนนิ กำรตอ่ ไปเพือ่ กำรปอ้ งกนั  ควบคมุ  หรือลดผลกระทบ
      -  เชงิ ระบบ/เชงิ นโยบำย
      -  เฉพำะกลุม่ เป้ำหมำย กล่มุ เสย่ี ง 
      -  มำตรกำรทัว่  ๆ ไป

แนวทาง 1.  ประเมินจ�ำนวนผลงำนท่ีท�ำได้ตำมเกณฑ์ในรอบ 1 ปี โดยนับจำกเดือนก่อนเดือนที่ท�ำกำรประเมิน 
การประเมิน    ยอ้ นหลงั ขนึ้ ไป 
2.  นบั จำ� นวนรำยงำนกำรตรวจสอบขำ่ วกำรระบำดประจำ� สปั ดำห ์ (Outbreak Verification Report) 
  หรือประเมินสถำนกำรณ์ประจ�ำทุกสัปดำห์ หรือรำยงำน spot report ทั้งหมด โดยไม่จ�ำกัดโรค 
  แยกรำยงำน spot report ที่มีกำรเขียนรำยงำนได้อย่ำงมีคุณภำพตำมเง่ือนไข หำกรำยงำน 
  มีจ�ำนวนมำก ผปู้ ระเมณิ สำมำรถสมุ่ ตรวจไดไ้ ม่ต่�ำกวำ่  10 เรอื่ ง

ข้อมลู /หลักฐาน รำยงำนกำรตรวจสอบขำ่ วกำรระบำดประจ�ำสัปดำห ์ (Outbreak Verification Report) หรอื ประเมิน 
สถำนกำรณ์ประจำ� ทุกสัปดำห์ หรือรำยงำนเหตกุ ำรณเ์ บอ้ื งต้นเสนอผบู้ รหิ ำร (Spot Report) 

มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัติงานทีมเฝา้ ระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภาพ 2563 23

รายละเอยี ดตวั ชีว้ ัดมาตรฐาน JIT

มาตรฐาน JIT ดา้ นความเป็นทีม
ตวั ชีว้ ดั ท่ี 1 การจัดตง้ั JIT

หวั ขอ้ รายละเอียด

ความหมาย หน่วยงำนมีกำรจัดตั้งทีมปฏิบัติกำรสอบสวนควบคุมโรค (Joint Investigation Team: JIT) ท่ีระบ ุ
ผเู้ ป็นหัวหนำ้ และสมำชิกทีมทง้ั หมด 

วัตถุประสงค์ เพ่ือให้หน่วยงำนที่มีพ้ืนที่รับผิดชอบในกำรป้องกันควบคุมโรค มีกำรก�ำหนดตัวบุคคลหรือจัดต้ัง 
ของตวั ชี้วัด ทมี งำนรบั ผิดชอบสอบสวนควบคมุ โรคเปน็ กำรประจำ�  

องค์ประกอบ 1)  มีค�ำสั่งแต่งตั้งทีมปฏิบัติกำรสอบสวนควบคุมโรค (Joint Investigation Team: JIT)  [B] 
ของตวั ชีว้ ัด   แต่ละทีมท่ีมีรำยชื่อเป็นปัจจุบันร้อยละ 80 ขึ้นไป และก�ำหนดหน้ำท่ีควำมรับผิดชอบ 
  ของสมำชกิ ทีมอยำ่ งชัดเจน
2)  หัวหน้ำทีมปฏิบัติกำรสอบสวนควบคุมโรค (Joint Investigation Team: JIT) เป็นแพทย์  [B]
  หรือหวั หนำ้ หนว่ ยงำน 
3)  ผสู้ อบสวนหลกั ของทมี ปฏบิ ตั กิ ำรสอบสวนควบคมุ โรคในพนื้ ท ี่ (Principal Investigator, PI)  [B]
  เปน็ นักระบำดวิทยำท่ีมีประสบกำรณด์ ำ้ นระบำดวิทยำภำคสนำม
4)  จ�ำนวนและคุณสมบัติของสมำชิกทีมปฏิบัติกำรสอบสวนควบคุมโรค (Joint Investigation  [B]
  Team: JIT) มีจ�ำนวนสมำชิกต้ังแต่ 4 คนขึ้นไป ประกอบด้วย ผู้ปฏิบัติงำนแบบสหสำขำ/ 
  วชิ ำชพี  
5)  มีท�ำเนียบผู้เช่ียวชำญเฉพำะด้ำนในพ้ืนท่ี เช่น ปศุสัตว์ พยำบำลโรคติดเช้ือในโรงพยำบำล  [B]
  นกั กฏี วทิ ยำ ฯลฯ

หมายเหตุ :
ในภาวะปกติ สมำชิกในทีม SAT และ JIT ที่ได้รับกำรแต่งตั้งในค�ำสั่งสำมำรถเป็นบุคคลเดียวกันได ้
แต่ในขณะท่ีปฏิบัติงำนจริงผู้ปฏิบัติงำนแต่ละคนต้องปฏิบัติงำนเพียงหน้ำที่ใดหน้ำท่ีหนึ่งในแต่ละ 
ชว่ งเวลำ 
ในภาวะฉุกเฉิน กำรจัดโครงสร้ำง JIT ให้เป็นไปตำมแนวทำงปฏิบัติงำน/เกณฑ์มำตรฐำนของ 
ศูนย์ปฏิบัติกำรตอบโต้ภำวะฉุกเฉิน (EOC) และกรอบแนวทำงกำรพัฒนำศูนย์ปฏิบัติกำรภำวะฉุกเฉิน 
และระบบบัญชำกำรเหตุกำรณใ์ นภำวะฉกุ เฉินทำงสำธำรณสุข กรมควบคุมโรค พ.ศ. 2559–2564

คา� อธิบาย ทมี ปฏบิ ตั กิ ารสอบสวนควบคมุ โรค (Joint Investigation Team: JIT) หมำยถงึ  ทมี ปฏบิ ตั กิ ำร 
ทม่ี คี วำมสำมำรถในกำรเฝำ้ ระวงั  สอบสวน ควบคมุ โรคหรอื ภยั สขุ ภำพ โดยสำมำรถอธบิ ำยกำรกระจำย 
กำรเกดิ โรคตำมบคุ คล เวลำ สถำนท ่ี สำมำรถคน้ หำสำเหต ุ และแหลง่ รงั โรค เพอ่ื นำ� ไปสกู่ ำรควบคมุ และ 
ป้องกัน พร้อมทั้งส่งต่อข้อมูลท่ีได้จำกกำรปฏิบัติกำรกลับไปยังผู้บริหำร และทีมตระหนักรู้สถำนกำรณ์
ได้อยำ่ งทนั ทว่ งท ี ตวั อย่ำงกำรจัดบทบำทหน้ำท่ใี น JIT เปน็ เวรประจ�ำสัปดำห์ ประกอบดว้ ย
1. หัวหน้าทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค เป็นนำยแพทย์หรือหัวหน้ำหน่วยงำนท่ีสำมำรถ 
  ใหค้ ำ� ปรึกษำ และช่วยแก้ปัญหำในกำรออกสอบสวนได ้ มหี นำ้ ท่ี 
  1)  ให้ค�ำปรึกษำและช่วยแก้ไขปัญหำต่ำง ๆ เพื่อให้กำรสอบสวนกำรระบำดด�ำเนินกำรได้อย่ำง 
    มีประสิทธภิ ำพ
  2)  ติดตำมผลกำรสอบสวนเพือ่ ใหบ้ รรลุวัตถปุ ระสงค์

24 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทีมเฝ้าระวงั สอบสวนควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ 2563

มาตรฐาน JIT ด้านความเปน็ ทีม
ตัวช้วี ดั ที่ 1 (ตอ่ ) การจดั ต้งั JIT

หัวข้อ รายละเอียด

ค�าอธิบาย   3)  พจิ ำรณำร่วมออกสอบสวนตำมควำมเหมำะสม (เช่น เหตุกำรณท์ เ่ี ร่งดว่ น (Urgent), 
    มคี วำมรนุ แรง (Intensive) 
2. ผสู้ อบสวนหลกั ของทมี (Principal Investigator, PI) มีหนำ้ ท่ี 
  1)  ก�ำหนดวัตถุประสงค์ กลยุทธ์ วำงแผน กิจกรรม อ�ำนวยกำรให้กำรสอบสวนเป็นไปตำม 
    วัตถปุ ระสงค ์
  2)  มอบหมำยงำนใหแ้ ก่สมำชกิ ในทมี
  3)  น�ำทีมออกสอบสวน และติดตำมผลข้อมูลท่ียังไม่ได้รับ พร้อมสรุปผลและเขียนรำยงำน 
    กำรสอบสวนโรค
  4)  นำ� เสนอผลกำรสอบสวนแกผ่ ูบ้ ริหำรและผู้เก่ยี วขอ้ ง
3. ผู้ประสานงาน (Logistics) มหี น้ำท่ ี
  1)  ประสำนผรู้ ว่ มทีมเพอ่ื ออกสอบสวนกำรระบำด 
  2)  ประสำนเจ้ำหนำ้ ท่ีในพ้ืนทเี่ พ่อื วำงแผนดำ� เนนิ งำน 
  3)  ประสำนหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องเพ่ือสนับสนุนกำรสอบสวน (เช่น กรมวิทยำศำสตร์กำรแพทย์ 
    ปศสุ ตั ว์จังหวดั  ฯลฯ) 
  4)  จัดเตรยี มวัสดอุ ุปกรณ์ทีจ่ ำ� เป็นให้พรอ้ มใชอ้ ยู่เสมอ
  5)  ตรวจเชค็ อุปกรณท์ ี่ใช้แล้วหลงั กลบั จำกพน้ื ท่ี โดยท�ำควำมสะอำดใหป้ ลอดเชื้อ 
    (Sterile technique) 
  6)  จดั กำรด้ำนธุรกำร เชน่  หนังสืออนุมัติ เงนิ  ยำนพำหนะ
  7)  จดั ท�ำบัญชีกำรรับจำ่ ยเงินทใี่ ช้ส�ำหรบั กำรสอบสวนโรค
  8)  ปฏบิ ตั ิงำนอ่ืน ๆ ตำมทไี่ ดร้ ับมอบหมำยจำกหวั หน้ำทีม

4. สมาชิกทมี  มหี น้ำที่ดงั นี้
  1)  ทบทวนวรรณกรรมตำ่ ง ๆ ท่จี �ำเปน็ กบั กำรสอบสวนโรค
  2)  จัดเตรียมเอกสำรท่ีตอ้ งใช ้ เชน่  แนวทำงกำรด�ำเนินงำน
  3)  นักระบำดวิทยำ หรือเจำ้ หน้ำทส่ี ำธำรณสขุ  ท�ำหน้ำที่ คดั กรอง คน้ หำผูป้ ่วย ผู้สมั ผสั  สมั ภำษณ ์
    และรวบรวมข้อมูลต่ำง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง เก็บตัวอย่ำง วิเครำะห์ข้อมูลหำสำเหตุหรือปัจจัยเสี่ยง 
    ของโรคภัยสุขภำพอยำ่ งนอ้ ย 1 เรือ่ ง
  4)  ดำ� เนินมำตรกำรควบคุมโรคเบ้อื งตน้  และร่วมเขยี นรำยงำนสอบสวนโรค
  5)  ผู้ปฏิบัติงำนในหน่วยงำนท่ีรับผิดชอบโรคและภัยสุขภำพเฉพำะด้ำน ท�ำหน้ำที่ร่วมกับ 
    นักระบำดวิทยำ รวบรวมข้อมูลต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เก็บตัวอย่ำง วิเครำะห์หำสำเหตุหรือ 
    ปัจจยั เส่ยี ง รวมท้งั ด�ำเนนิ มำตรกำรควบคมุ โรคเบ้อื งต้นและระยะยำว 
  6)  ปฏิบตั งิ ำนอน่ื  ๆ ตำมทีไ่ ดร้ บั มอบหมำยจำกหัวหน้ำทีม
หมายเหตุ : 1 คน อำจท�ำไดม้ ำกกวำ่  1 หนำ้ ที่
ค�าสั่งแต่งตั้งทีม มีกำรระบุรำยช่ือสมำชิกทีมและบทบำทหน้ำท่ีที่ชัดเจน อำจเป็นค�ำสั่งที่แต่งตั้ง JIT 
โดยตรง หรอื เปน็ คำ� สง่ั แตง่ ตงั้ คณะกรรมกำรปอ้ งกนั ควบคมุ โรค หรอื คณะกรรมกำรตอบโตภ้ ำวะฉกุ เฉนิ  
ทำงสำธำรณสขุ  ทีม่ ี JIT เป็นสว่ นหนึ่งของคำ� สงั่  
สมาชิกทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค (Joint Investigation Team: JIT) มีจ�ำนวนสมำชิก 
ตงั้ แต ่ 4 คนขน้ึ ไป ประกอบดว้ ยผปู้ ฏบิ ตั งิ ำนแบบสหสำขำ/วชิ ำชพี  เชน่  แพทย ์ พยำบำล นกั ระบำดวทิ ยำ 
และผ้ปู ฏิบตั งิ ำนในหนว่ ยงำนทรี่ บั ผดิ ชอบโรคและภัยสขุ ภำพเฉพำะดำ้ น

มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัติงานทีมเฝ้าระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 25

มาตรฐาน JIT ดา้ นความเป็นทีม
ตัวชี้วัดที่ 1 (ตอ่ ) การจดั ตง้ั JIT

หวั ขอ้ รายละเอยี ด

ค�าอธบิ าย ผสู้ อบสวนหลกั (Principal Investigator: PI) เปน็ นกั ระบำดวทิ ยำทมี่ ปี ระสบกำรณด์ ำ้ นระบำดวทิ ยำ 
ภำคสนำม คือ บุคคลท่ีผ่ำนกำรฝึกอบรมหลักสูตรระบำดวิทยำที่มีกำรบรรยำยและฝึกปฏิบัติด้ำนกำร 
เฝ้ำระวัง สอบสวน ควบคุมโรคและกำรเก็บส่ิงส่งตรวจทำงห้องปฏิบัติกำร เป็นระยะเวลำไม่ต่�ำกว่ำ 
20 ช่วั โมง และเปน็ ผมู้ คี ณุ สมบตั ิอย่ำงน้อย 1 ข้อ ดงั ต่อไปน ้ี
  1. ปฏบิ ตั ิงำนเฝ้ำระวังสอบสวนควบคุมโรค ไมน่ อ้ ยกวำ่  3 ปี 
  2. ปฏิบัติงำนสอบสวนควบคุมโรค อยำ่ งน้อย 3 เหตุกำรณ ์
  3. ผำ่ นหลักสตู ร FETP หรือ FEMT หรอื  FETH ของกองระบำดวทิ ยำ

แนวทาง 1.  ประเมนิ สงิ่ ท่คี วรก�ำหนดหรอื ควรมีเป็นปจั จุบัน ณ วันท่ีท�ำกำรประเมิน 
การประเมนิ   2.  ประเมินจำกส�ำเนำค�ำส่ังแต่งตั้ง JIT ของหน่วยงำน ตรวจสอบจ�ำนวน รำยช่ือ ควำมเป็นปัจจุบัน 
  และองค์ประกอบอื่น ๆ ตำมตัวช้ีวดั ย่อย 

ขอ้ มูล/หลักฐาน -  ค�ำสง่ั แตง่ ต้งั  JIT

มาตรฐาน JIT ด้านความเปน็ ทมี
ตวั ชี้วดั ที่ 2 ทีมมีศักยภาพทางวชิ าการ

หวั ข้อ รายละเอียด

ความหมาย ศักยภำพทำงวิชำกำรของ JIT หมำยถึง สมำชิก JIT ทุกคนมีควำมรู้ควำมสำมำรถท่ีเพียงพอต่อกำร 
ปฏิบัติงำนร่วมกัน รวมถึงได้รับกำรพัฒนำควำมรู้อย่ำงต่อเน่ือง นอกจำกน้ีควรมีสมำชิก JIT 
อยำ่ งนอ้ ย 1 คน ทีม่ ีควำมร้คู วำมชำ� นำญในระดบั ที่สำมำรถเปน็ หลกั ให้กบั ผู้รว่ มทมี ได้ 

วัตถุประสงค์ เพ่ือส่งเสริมสนับสนุนให้สมำชิก JIT ได้รับกำรพัฒนำศักยภำพทำงวิชำกำร โดยกำรฝึกอบรม 
ของตัวชว้ี ดั กำรเรยี นร้รู ะหวำ่ งปฏิบัติงำน และกำรจดั กำรควำมร ู้

องคป์ ระกอบ 1)  ทีมมีแผนงำน/โครงกำรพัฒนำบุคลำกร JIT อย่ำงนอ้ ยปลี ะ 1 ครง้ั [B] 
ของตวั ชวี้ ัด 2)  สมำชิกทีมร้อยละ 80 ขึ้นไป ได้รับกำรฝึกอบรมอย่ำงน้อยในหลักสูตรระบำดวิทยำท่ีมีกำร  [B]
   บรรยำยและฝึกปฏิบัติด้ำนกำรเฝ้ำระวัง สอบสวนควบคุมโรค และเก็บส่ิงส่งตรวจทำง 
   ห้องปฏบิ ัติกำร ระยะเวลำไมต่ �ำ่  20 ชวั่ โมง 
3)  สมำชิกของ JIT ร้อยละ 50 ข้ึนไป ได้เข้ำร่วมกิจกรรมพัฒนำบุคลำกร หรือจัดกำรควำมรู้  [B]
   หรือประชุมเชิงปฏิบัติกำร ฟื้นฟูควำมรู้ หรือสัมมนำวิชำกำรด้ำนกำรเฝ้ำระวัง สอบสวน 
   และควบคมุ กำรระบำด ภำยใน 1 ปี

ค�าอธบิ าย 1.  ทีมมีแผนงาน/โครงการ หมำยถึง แผนงำน/โครงกำรในกำรพัฒนำบุคลำกร หรือแผนกำรจัดกำร 
ควำมรู้ของ JIT ที่เกิดจำกกำรประเมินตนเองของทีมแล้วก�ำหนดเป็นกิจกรรมที่จะพัฒนำ ซ่ึงอำจ 
ท�ำได้หลำยรูปแบบ เช่น ท�ำเป็นโครงกำรของหน่วยงำนเอง หรือร่วมท�ำโครงกำรกับหน่วยงำนอื่น 
หรอื เปน็ เอกสำรท่แี สดงกิจกรรมกำรพฒั นำ ซง่ึ ไมจ่ ำ� เป็นต้องเขียนในรูปแบบโครงกำร

2.  หลักสูตรระบาดวิทยา 20 ชั่วโมง หมำยถึง หลักสูตรระบำดวิทยำท่ีมีกำรบรรยำยและฝึกปฏิบัติ 
ด้ำนกำรเฝ้ำระวัง สอบสวน ควบคุมโรค และกำรเก็บส่ิงส่งตรวจทำงห้องปฏิบัติกำร ระยะเวลำ 
ไม่ต่�ำกว่ำ 20 ช่ัวโมง หำกมีกำรอบรมหลักสูตรสอบสวนกำรบำดเจ็บ หรือสอบสวนโรคจำกกำร

26 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝ้าระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภัยสุขภาพ 2563

มาตรฐาน JIT ด้านความเปน็ ทมี
ตวั ชีว้ ัดท่ี 2 (ตอ่ ) ทมี มีศักยภาพทางวชิ าการ

หัวข้อ รายละเอียด

ค�าอธบิ าย   ประกอบอำชพี และสง่ิ แวดลอ้ ม ควรมีเน้ือหำของหลักระบำดวิทยำ กำรเฝ้ำระวงั กำรสอบสวน และ 
กำรเกบ็ ตวั อย่ำง/หลกั ฐำนที่เกี่ยวข้อง

3.  กิจกรรมพัฒนาบุคลากร หรือจัดการความรู้ หมำยถึง กิจกรรมท่ีช่วยพัฒนำควำมรู้และทักษะ
ระหว่ำงกำรปฏิบัติงำน เช่น กำรประชุมวิชำกำร หรือเชิงปฏิบัติกำร หรือประชุมถอดบทเรียน 
ในกิจกรรมที่เกีย่ วข้องกับภำรกจิ ของทมี เฝำ้ ระวังสอบสวนควบคุมโรคและภยั สุขภำพ

แนวทาง 1. ประเมินสง่ิ ท่ีควรก�ำหนดหรือควรมีเป็นปจั จุบัน ณ วนั ที่ทำ� กำรประเมิน 
การประเมิน  2. ประเมินจำกข้อมลู กำรฝึกอบรมและผลงำน จำกแฟม้ ประวัติและผลงำนของทีม 
3. ประเมนิ จำกแผนงำน/โครงกำรพฒั นำบคุ ลำกรประจำ� ปี 

ข้อมลู /หลักฐาน -  แฟม้ ประวตั ยิ ่อของสมำชกิ ทีม หรือหลกั ฐำนแสดงกำรผ่ำนกำรฝึกอบรม 
-  ผลงำนของผูม้ ปี ระสบกำรณ์ด้ำนระบำดวิทยำภำคสนำม 
-  โครงกำรพฒั นำบคุ ลำกรของ JIT

มาตรฐาน JIT ด้านความพรอ้ มและการปฏบิ ตั ิงาน
ตวั ชว้ี ดั ท่ี 3 ทมี มีศักยภาพดา้ นการบรหิ ารทีมงาน

หัวข้อ รายละเอยี ด

ความหมาย ศกั ยภำพดำ้ นกำรบรหิ ำรทมี งำนของ JIT หมำยถงึ  ควำมสำมำรถในกำรบรหิ ำรจดั กำรเพอื่ ใหส้ มำชกิ ทมี
วัตถปุ ระสงค์ สว่ นใหญม่ สี ่วนร่วมในกำรปฏบิ ตั งิ ำนของทมี  
ของตัวชว้ี ัด
องค์ประกอบ เพ่ือสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ให ้ JIT มีกำรท�ำงำนเป็นทมี ได้จริง 
ของตัวชี้วัด
1)  มีกำรจดั ตำรำงเวรผ้ปู ฏิบตั งิ ำน JIT  [B] 
คา� อธิบาย 2)  จดั ประชมุ สมำชกิ  JIT อยำ่ งนอ้ ย 1 ครง้ั ตอ่ ป ี โดยมสี มำชกิ ทมี เขำ้ รว่ ม ไมน่ อ้ ยกวำ่ รอ้ ยละ 80 [B]
3)  ท่ปี รึกษำ JIT มีสว่ นรว่ มในกำรบริหำรจดั กำรทีม  [B]
4)  สมำชิก JIT ไม่นอ้ ยกวำ่ รอ้ ยละ 50 เคยเขำ้ รว่ มปฏิบัตงิ ำนสอบสวนโรค ในรอบ 1 ปี [B]
5)  จดั กจิ กรรมหรือสิง่ สนับสนุนทีส่ ร้ำงขวัญกำ� ลงั ใจให้กบั สมำชิกทีมทอี่ อกปฏิบัติงำน  [S]

1.  การประชมุ ทมี  หมำยถงึ  กำรประชมุ สมำชกิ  JIT ซง่ึ ปกตคิ วรมกี ำรประชมุ ทกุ ตน้ ปงี บประมำณ หรอื  
เม่ือมีค�ำส่ังแต่งต้ังทีมฉบับใหม่ หรือกรณีมีกำรระบำดใหญ่และเชิญสมำชิกท้ังหมดร่วมซักซ้อม 
กำรรับมือสถำนกำรณ์

2. การบริหารจัดการของที่ปรกึ ษาทีม แสดงออกได้หลำยลักษณะ เชน่  
  -  เป็นประธำนในกำรประชุมทมี  
  -  จัดกำรแก้ไขปญั หำใหก้ บั ทมี  
  -  จดั สรรสงิ่ สนบั สนุนใหก้ บั ทีม 
  -  น�ำทีมออกสอบสวนโรค (แล้วแต่กรณ)ี  
  -  อำ� นวยกำรและควบคมุ กำ� กับขณะทมี ออกปฏบิ ตั ิงำน รวมถงึ กำรระดมทีมเสรมิ  
  -  ขอทรำบผลกำรสอบสวน

มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทมี เฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563 27

มาตรฐาน JIT ด้านความพรอ้ มและการปฏิบัตงิ าน
ตวั ชี้วัดท่ี 3 (ตอ่ ) ทมี มศี ักยภาพด้านการบริหารทมี งาน

หวั ขอ้ รายละเอียด

ค�าอธิบาย     หลักฐานด้านบริหารจัดการ ดูได้จำกรำยงำนกำรประชุม และหนังสือรำชกำรที่เก่ียวข้องกับกำร 
  ระบำด เช่น กำรเกษียณ หรือ ส่ังกำรในบันทึกเสนอข่ำวกำรระบำดและรำยงำนสอบสวนโรค 
  เปน็ ตน้  

3.  กจิ กรรมหรอื สงิ่ สนบั สนนุ ทสี่ รา้ งขวญั กา� ลงั ใจใหส้ มาชกิ ทมี ทอ่ี อกปฏบิ ตั งิ าน เชน่  จดั เงนิ คำ่ ใชจ้ ำ่ ย 
ให้ทีมเป็นค่ำโทรศัพท์มือถือ ค่ำอำหำร และค่ำใช้จ่ำยอ่ืน ๆ ขณะปฏิบัติงำนในพื้นที่ จัดท�ำเส้ือทีม 
ประกำศยกยอ่ งกรณที ี่เสยี่ งอนั ตรำยหรือเมื่อมผี ลงำนดี เปน็ ต้น 

แนวทาง 1.  ประเมนิ สิง่ ทีค่ วรก�ำหนดหรอื ควรมีเปน็ ปจั จบุ นั  ณ วนั ทีท่ �ำกำรประเมนิ  
การประเมนิ   2.  ประเมนิ จำกเอกสำรแสดงหนำ้ ทค่ี วำมรบั ผดิ ชอบของสมำชกิ ทมี  ผลงำนสอบสวนโรคของทมี  รำยงำน 
  กำรประชมุ ทีม และส�ำเนำเอกสำรดำ้ นบริหำรจัดกำรจำกแฟม้ ประวัตแิ ละผลงำนของทมี  
3.  สอบถำมสมำชิกทีมเก่ียวกบั ขวัญกำ� ลงั ใจในกำรปฏิบัติงำน 

ขอ้ มูล/หลกั ฐาน -  ตำรำงเวร 
-  รำยงำนสอบสวนโรค และบันทึกเสนอขำ่ วกำรระบำดทมี่ กี ำรเกษียณหนังสือและส่ังกำร
-  รำยงำนกำรประชมุ ของหนว่ ยงำน และรำยงำนกำรประชมุ  JIT
-  ระเบียบ ประกำศ หรอื เอกสำรหลกั ฐำนของหน่วยงำนท่ีสนับสนนุ กำรสร้ำงขวัญก�ำลังใจ

มาตรฐาน JIT ดา้ นความพรอ้ มและการปฏบิ ตั งิ าน
ตัวช้วี ดั ที่ 4 ทมี มีความพร้อมในการปฏิบตั ิงาน

หัวข้อ รายละเอียด

ความหมาย สมำชิก JIT พร้อมออกปฏิบัติงำน และมีสิ่งสนับสนุนต่ำง ๆ ท่ีจ�ำเป็นและเพียงพอต่อกำรปฏิบัติงำน 
เชน่  แบบพมิ พ ์ วสั ดอุ ปุ กรณ ์ อปุ กรณป์ อ้ งกนั ตนเอง คมู่ อื /แนวทำงปฏบิ ตั งิ ำน ยำนพำหนะ งบประมำณ 
และอปุ กรณ์สือ่ สำร เปน็ ต้น 

วัตถุประสงค์ เพื่อให้ทมี มีควำมพร้อมในกำรปฏิบตั ิงำนได้ทนั ที สะดวก ปลอดภยั  และมีประสทิ ธิภำพ 
ของตัวชว้ี ดั

องค์ประกอบ 1)  มีผู้ประสำนงำน JIT ตลอดเวลำ เพ่ือรับสง่ ขำ่ วสำรหรือปฏิบัติงำนกรณีเร่งดว่ น  [B]
ของตัวชีว้ ดั 2)  มีหมำยเลขโทรศพั ทห์ รอื กำรส่ือสำรอื่นทสี่ ำมำรถตดิ ตอ่ สมำชิก JIT ทงั้ หมดไดต้ ลอดเวลำ [B]
3)  มียำนพำหนะทส่ี ำมำรถน�ำออกปฏิบตั งิ ำนได้ทนั ที [B]
4)  มวี สั ดอุ ปุ กรณ์ เวชภณั ฑ์ ท่ีจ�ำเปน็ ต่อกำรสอบสวนโรค ตำมเกณฑท์ ีก่ �ำหนด และพร้อมใช้ [B]
5)  มอี ุปกรณป์ ้องกันรำ่ งกำยส่วนบคุ คล (PPE) ตำมเกณฑท์ กี่ �ำหนด และพร้อมใช้ [B]
6)  มีคูม่ อื  แนวทำงปฏบิ ตั งิ ำน เพอ่ื กำรสอบสวนและควบคุมโรคตำมเกณฑท์ ก่ี �ำหนด  [B]
7)  มกี ำรจัดงบประมำณ เพือ่ ใชใ้ นกำรสอบสวน ควบคุมโรค หรอื ส่งวัตถุตวั อย่ำง  [S]
  หรอื กำรสอ่ื สำร หรือคำ่ ตอบแทนปฏบิ ตั ิงำนนอกเวลำรำชกำร 

ค�าอธบิ าย 1.  ผู้ประสานงานทีม หมำยถึง ผู้แทนของทีมในกำรติดต่อสื่อสำรทั้งในและนอกเวลำรำชกำร ในกำร 
ประสำนงำนกำรจัด JIT ออกปฏบิ ัติงำน

28 มาตรฐานและแนวทางปฏิบัตงิ านทีมเฝา้ ระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสขุ ภาพ 2563

มาตรฐาน JIT ด้านความพรอ้ มและการปฏิบัติงาน
ตวั ช้ีวัดท่ี 4 (ต่อ) ทีมมคี วามพร้อมในการปฏบิ ตั ิงาน

หวั ข้อ รายละเอยี ด

คา� อธิบาย 2.  ยานพาหนะที่สามารถน�าออกปฏิบัติงานได้ทันที พิจำรณำจำกระเบียบหรือหลักเกณฑ์กำรใช ้
ยำนพำหนะท่ีหน่วยงำนควรก�ำหนดให้กำรสอบสวนและควบคุมกำรระบำดเป็นกรณีเร่งด่วนท่ีต้อง 
ใช้รถยนต์ พร้อมพนักงำนขับรถโดยไม่ต้องขออนุญำตใช้รถล่วงหน้ำตำมล�ำดับปกติหรืออ�ำนวย 
ควำมสะดวกในกำรเบิกคำ่ ใชจ้ ำ่ ยสำ� หรับยำนพำหนะส่วนตวั ทีน่ �ำมำใช้ในงำน 

3.  มีวัสดุอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ ที่จ�าเป็นต่อการสอบสวนโรค ตามเกณฑ์ที่ก�าหนด ทั้งวัสดุอุปกรณ ์
เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกันร่ำงกำยส่วนบุคคล เป็นเกณฑ์ท่ีหน่วยงำนก�ำหนดข้ึนเองจำกปัญหำ 
โรคภยั ทสี่ ำ� คญั  (Priority diseases) อาจพจิ ารณารว่ มกบั รายการทก่ี รมควบคมุ โรค และหนว่ ยงาน
ต่าง ๆ ได้จดั ท�าขนึ้ กไ็ ด้ (ตวั อยำ่ งในภำคผนวก) 

4.  มอี ปุ กรณป์ อ้ งกนั รา่ งกายสว่ นบคุ คล (PPE) ตามเกณฑท์ ก่ี า� หนด หมำยถงึ มอี ปุ กรณป์ อ้ งกนั รำ่ งกำย 
ส่วนบคุ คล (PPE; ชดุ หมี หรือชุดกำวนก์ ันน้�ำ) level C สำ� หรับสมำชกิ ทมี (ตัวอย่ำงในภำคผนวก) 

5.  มีคู่มอื แนวทางปฏิบตั งิ าน เพ่อื การสอบสวนและควบคมุ โรค ขนั้ ต่�ำ ดงั น้ี
  1)  ดำ้ นกฎหมำย (พระรำชบญั ญตั โิ รคตดิ ตอ่  พ.ศ. 2558 และอนบุ ญั ญตั  ิ กฎอนำมยั ระหวำ่ งประเทศ) 
    หนงั สอื แนวทำงกำรรำยงำนโรคตดิ ตอ่ อนั ตรำยและโรคตดิ ตอ่ ทต่ี อ้ งเฝำ้ ระวงั ตำมพระรำชบญั ญตั ิ 

  โรคตดิ ตอ่  พ.ศ. 2558 
  2)  หนงั สือพนื้ ฐำนระบำดวิทยำ
6.  พร้อมใช้ หมำยถึง มีส่ิงของหรือเอกสำรที่น�ำมำใช้ได้ทันที โดยเฉพำะส่ิงของท่ีต้องจัดซื้อจัดหำตำม 

ระเบยี บพสั ด ุ และสงิ่ ของหำยำก บำงรำยกำรอำจไมต่ อ้ งจดั เตรยี ม แตค่ วรมวี ธิ กี ำรใหน้ ำ� มำใชไ้ ดท้ นั ท ี
เช่น ขอเบิกขวดเก็บวัตถุตัวอย่ำงพร้อมอำหำรเลี้ยงเช้ือจำกห้องปฏิบัติกำรท่ีใกล้ที่สุดได้ทันที และ 
ไม่หมดอำยุ สืบค้นควำมรู้และแนวทำงจำกเว็ปไซต์ท่ีรู้จักและสำมำรถเข้ำถึงได้ทันทีท่ีต้องกำรใช้ 
เปน็ ตน้  
7.  การจัดสรรงบประมาณ พิจำรณำจำกแผนงำนประจ�ำปี ซ่ึงควรมีโครงกำรควบคุมกำรระบำดและ 
แกไ้ ขเหตกุ ำรณท์ เี่ ปน็ ภำวะฉกุ เฉนิ ทำงสำธำรณสขุ  อยำ่ งนอ้ ยควรมงี บประมำณสำ� หรบั สอบสวนโรค 
สง่ วตั ถุตัวอยำ่ ง และควบคมุ โรคเบือ้ งต้น

แนวทาง 1.  ประเมินสงิ่ ท่คี วรม ี หรือทำ� ให้พร้อมเปน็ ปัจจบุ นั  ณ วันที่ทำ� กำรประเมิน 
การประเมิน  2.  ส�ำรวจรำยกำรสิ่งสนับสนุนกำรปฏิบัติงำนท่ีมีอยู่จริงขณะประเมินเปรียบเทียบกับรำยกำรท่ีจ�ำเป็น 
ขอ้ มูล/หลักฐาน   ต้องใช้ ซงึ่ ได้จดั ท�ำไวล้ ่วงหนำ้  
3.  สอบถำมผู้ควบคุมยำนพำหนะ เพื่อขอทรำบรถยนต์ของหน่วยงำนหรือยำนพำหนะอื่นท่ีสำมำรถ 
  นำ� ออกปฏบิ ัติงำนสอบสวนและควบคุมกำรระบำดได้ทันท ี
4.  สอบถำมผู้รับผิดชอบแผนงำนและงบประมำณ เพ่ือขอทรำบจ�ำนวนเงินท่ีสำมำรถยืมทดรองหรือ 
  เบิกจ่ำยได ้ ส�ำหรบั กำรปฏิบตั ิงำนสอบสวนและควบคุมกำรระบำด 
5.  ขอดตู ำรำงเวรปฏบิ ตั งิ ำน ซง่ึ อำจมเี ฉพำะชว่ งทมี่ กี ำรระบำด หรอื เฉพำะวนั หยดุ รำชกำร หรอื เอกสำร 
  อ่ืนใด  ที่ระบุให้บุคคลผู้รับผิดชอบออกปฏิบัติงำนได้ทันที เช่น ค�ำส่ัง บันทึกขออนุมัติไปรำชกำร 
  เปน็ ตน้  
6.  ประเมินจำกแผนกำรส่ือสำรหรืออย่ำงน้อยจำกรำยชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของสมำชิกทีมท้ังหมด 
  ทดสอบกำรติดตอ่ กบั หวั หนำ้ ทมี  แกนหลัก และสมำชกิ ทมี อยำ่ งน้อย 1 คน 
-  รำยกำรสิ่งสนบั สนนุ กำรปฏบิ ัตงิ ำนของ JIT ท่หี น่วยงำนจดั ทำ� ขนึ้  
-  แบบพิมพ ์ วสั ดุอปุ กรณ์ เอกสำรคูม่ ือ/แนวทำง ฯ 
-  ระเบียบ/หลกั เกณฑ์ในกำรขอใช้ยำนพำหนะของหน่วยงำน 

มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทมี เฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ 2563 29

มาตรฐาน JIT ด้านความพร้อมและการปฏบิ ตั งิ าน
ตัวชวี้ ัดท่ี 4 (ต่อ) ทมี มคี วามพร้อมในการปฏบิ ัติงาน

หวั ข้อ รายละเอียด

ข้อมลู /หลักฐาน -  แผนงำนโครงกำรกำรควบคมุ กำรระบำดและแก้ไขภำวะฉกุ เฉนิ ทำงสำธำรณสขุ  
-  แผนกำรสอ่ื สำร หรอื ท�ำเนยี บรำยชื่อสมำชิก JIT และบุคคล, หนว่ ยงำนทเ่ี ก่ยี วขอ้ งทง้ั ภำครัฐ
  และเอกชน 
-  ตำรำงเวร หรือคำ� สง่ั ให้ทีม/สมำชกิ  JIT ปฏิบตั งิ ำน 

มาตรฐาน JIT ด้านความพรอ้ มและการปฏบิ ัติงาน
ตัวชวี้ ัดท่ี 5 ทีมมกี ารฝกึ ซ้อมทกั ษะท่ีจ�าเป็นตอ่ การสอบสวนโรค

หัวขอ้ รายละเอียด

ความหมาย JIT มีกำรจัดเตรียมแผนปฏิบัติกำรของทีม ส�ำหรับกำรปฏิบัติงำนในกรณีเร่งด่วน/ฉุกเฉินฯ 
ทั้งกำรปฏิบัติงำนเป็นเอกเทศ และเมื่อต้องประกอบทีมร่วมกับทีมเฉพำะกิจด้ำนอ่ืนหรือหน่วยงำนอ่ืน 
นอกจำกนี้ยังควรมีแผนกำรฝึกซ้อมด้ำนต่ำง ๆ โดยเฉพำะเรื่องท่ีเป็นจุดอ่อนของทีม และกำรน�ำ 
แผนปฏบิ ัติกำรสำ� หรับเหตุกำรณ์หนึ่งไปใชจ้ ริงกบั เหตกุ ำรณ์อืน่ ทีใ่ กลเ้ คยี งกัน 

วตั ถุประสงค์ เพ่ือให้ทีมมีควำมพร้อมในกำรปฏิบัติงำนกรณีเร่งด่วน หรือเม่ือเกิดภำวะฉุกเฉินฯ ได้ทันทีและ 
ของตวั ชี้วัด มีประสทิ ธิภำพ ใหท้ ีมมคี วำมพรอ้ มในกำรปฏบิ ตั งิ ำนไดท้ ันท ี สะดวก ปลอดภัย และมีประสทิ ธภิ ำพ 

องคป์ ระกอบ 1)  มกี ำรฝกึ ปฏบิ ัตทิ กั ษะท่จี �ำเป็นในกำรสอบสวนโรคจริง อย่ำงน้อย 1 ครั้งต่อปี [B] 
ของตวั ช้วี ัด 2)  มกี ำรฝกึ ซอ้ มแผนกำรสอบสวนโรคของหน่วยงำน อยำ่ งน้อย 1 คร้ังต่อปี  [B]
3)  ไดร้ ว่ มซอ้ มแผนตอบโตภ้ ำวะฉุกเฉนิ ทำงสำธำรณสุขกบั หน่วยงำนอ่นื  โดยแสดงบทบำท [S]
  ของ JIT อยำ่ งชัดเจน ภำยใน 2 ปี

คา� อธบิ าย 1. การฝกึ ปฏบิ ตั ทิ กั ษะทจี่ า� เปน็ ในการสอบสวนโรค หมำยถงึ  กำรพฒั นำทกั ษะของ JIT อำจเปน็ กำร 
  ฝึกซ้อมจุดอ่อนของทีม เช่น ซ้อมตรวจสอบควำมพร้อมของสิ่งสนับสนุน ซ้อมเก็บวัตถุตัวอย่ำง 
  ซอ้ มสวม/ถอดอปุ กรณป์ อ้ งกนั รำ่ งกำยสว่ นบคุ คล (PPE) ซอ้ มตดิ ตอ่ สอ่ื สำร และฝกึ ซอ้ มรบั เหตกุ ำรณ ์
2. การฝึกซ้อมแผนการสอบสวนโรคหรือภัยสุขภาพท่ีส�าคัญของหน่วยงาน เป็นกำรทดสอบควำม 
  เหมำะสมของกำรสอบสวนโรคหรือภัยสุขภำพ และหำจุดอ่อนท่ีต้องปรับปรุง อำจเป็นกำรฝึกซ้อม 
  แผนบนโต๊ะ (The Table Top Exercise) กำรฝึกซ้อมเฉพำะหน้ำท่ี (Functional Exercise) 
  กำรฝกึ ซ้อมเตม็ รปู แบบ (Full–Scale Exercise)

3. ร่วมซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขกับหน่วยงานอ่ืน หมำยถึง กำรร่วมกิจกรรม 
  ในกำรฝกึ ซอ้ มตำมบทบำทของ JIT ทงั้ ทมี หรอื บำงสว่ น เชน่  กำรซอ้ มแผนรบั มอื อบุ ตั เิ หต ุ ตอ้ งแสดง 
   บทบำทของกำรสอบสวนกำรบำดเจบ็  และประเมนิ ผลกำรปฏบิ ตั งิ ำนของ JIT โดยเฉพำะ
    หน่วยงำนอ่ืน หมำยถึง 1) หน่วยงำนด้ำนสำธำรณสุขที่ไม่ใช่หน่วยงำนของ JIT เอง หรือ 
   2) หนว่ ยงำนกระทรวงอนื่ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง

แนวทาง 1.  ประเมินส่ิงทีค่ วรม ี หรือทำ� ใหพ้ ร้อมเป็นปัจจุบัน ณ วันทที่ �ำกำรประเมนิ  
การประเมนิ   2.  ประเมินจำกแผนปฏิบตั กิ ำรกรณีเร่งดว่ น/ฉุกเฉินฯ และแผนฝกึ ซ้อมประจำ� ปขี อง JIT
3.  ประเมนิ จำกรำยงำนกำรซ้อมแผนฯ 
4.  กรณีทเ่ี ข้ำรว่ มกำรซอ้ มแผนกับหนว่ ยงำนอนื่  ให้เขียนผลกำรประเมินกำรปฏิบัตงิ ำนของ JIT 
  โดยเฉพำะ

30 มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคุมโรคและภัยสุขภาพ 2563

มาตรฐาน JIT ดา้ นความพร้อมและการปฏบิ ัตงิ าน
ตัวชว้ี ัดท่ี 5 (ตอ่ ) ทีมมีการฝกึ ซ้อมทกั ษะท่ีจ�าเป็นตอ่ การสอบสวนโรค

หวั ข้อ รายละเอียด

ขอ้ มูล/หลกั ฐาน -  แผนฝึกซ้อมประจ�ำปี ของ JIT
-  รำยงำนกำรซ้อมแผนกำรสอบสวนโรคหรอื ภยั สุขภำพทีส่ �ำคัญของหนว่ ยงำน

มาตรฐาน JIT ด้านความสามารถการปฏิบตั ิงาน
ตัวชวี้ ดั ที่ 6 การสอบสวนโรคและภยั สุขภาพ และการควบคุมโรคขั้นต้น

หวั ขอ้ รายละเอยี ด

ความหมาย -  ทีมปฏิบัติกำรสอบสวนควบคุมโรค (Joint Investigation Team: JIT) สำมำรถสอบสวนโรค 
  จนท�ำให้ได้ข้อมูลสำระส�ำคัญครบถ้วนและมีคุณภำพ สำมำรถน�ำไปใช้อธิบำยกำรเกิดโรคและ 
วตั ถุประสงค์   ภยั สขุ ภำพ กำรประเมินสถำนกำรณ์ และกำรควบคุมโรคอย่ำงถกู ตอ้ ง
ของตวั ช้วี ดั -  JIT สำมำรถด�ำเนินกำรควบคุมโรคขั้นต้น (Preliminary control measures) ได้อย่ำงรวดเร็ว 
องค์ประกอบ   มีประสิทธิภำพ เพื่อจ�ำกัดกำรระบำด หำสำเหตุและแหล่งโรคท่ีแท้จริง ส�ำหรับกำรควบคุมโรค 
ของตัวชี้วดั   จนเสรจ็ สมบูรณค์ วรด�ำเนนิ กำรต่อโดยหนว่ ยงำนท่เี กีย่ วข้อง

ค�าอธบิ าย เพ่ือพฒั นำขดี ควำมสำมำรถของทีม JIT ในกำรสอบสวนโรคได้ตำมวธิ กี ำรและขัน้ ตอนที่ถูกตอ้ ง 

1)  มกี ำรก�ำหนดเกณฑ์ของทีมในกำรออกสอบสวนโรค ควบคมุ กำรระบำดหรือตอบโต้ [B] 
  ภำวะฉกุ เฉนิ ทำงสำธำรณสขุ [B]
2)  สำมำรถเก็บตัวอย่ำงและน�ำส่งตวั อยำ่ งไดถ้ กู ตอ้ งและเหมำะสม (ทดสอบ)  [B]
3)  มีกระบวนกำรสอบสวนโรคและควบคุมโรคขั้นต้นท่มี ีคุณภำพ (ทดสอบ)  [B]
4)  มกี ำรจดั กำรดำ้ นอนำมัยส่ิงแวดลอ้ มเบอ้ื งตน้ เพอื่ ควบคมุ กำรแพร่กระจำยเชอ้ื จำกผ้ปู ว่ ย [B]
  และพำหะในชุมชน ขณะที่มีกำรระบำดได้อยำ่ งเหมำะสม (ทดสอบ) 
5)  สวมใสแ่ ละถอดอุปกรณป์ ้องกันรำ่ งกำยสว่ นบคุ คล (PPE) ส�ำหรับโรคติดต่ออนั ตรำย
  ไดอ้ ย่ำงถกู ต้อง (ทดสอบ) 

1.  เกณฑ์การออกสอบสวนควบคุมโรค/ภัยสุขภาพ หมำยถึง เกณฑ์ที่ JIT ใช้เป็นแนวทำงตัดสินใจ 
  ออกปฏิบัติงำน อำจพิจำรณำจำกเง่ือนไขท่ีกองระบำดวิทยำก�ำหนด หรือบทบำทภำรกิจของ 
  หน่วยงำน หรือนโยบำยของผูบ้ รหิ ำร หรือเกณฑ์ทำงวิชำกำรอ่ืน ๆ (ตวั อยำ่ งในภำคผนวก) 
    เกณฑ์ที่ก�ำหนดข้ึน จะต้องทรำบและตรวจสอบได้ว่ำโรคหรือกรณีใดท่ีจะออกสอบสวน เช่น 
  โรคตำมนโยบำยของผูบ้ รหิ ำรหรือท่ีผู้บริหำรสนใจ หมำยถึง โรคใหม่ทไ่ี มเ่ คยพบมำกอ่ น

2. การเกบ็ ตวั อยา่ งและนา� สง่ ตวั อยา่ งไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม หมำยถงึ  กำรเกบ็ ตวั อยำ่ งไดเ้ หมำะสม 
  กบั กำรตรวจหำเช้อื โรคหรือสำเหตุท่สี งสยั  ปริมำณตัวอยำ่ งเพยี งพอ และวิธกี ำรน�ำสง่ ถกู ตอ้ ง 

3. กระบวนการสอบสวนโรคทีม่ ีคณุ ภาพ
  -  มกี ำรรวบรวมข้อมูลทำงระบำดวทิ ยำของผปู้ ่วย ไดข้ ้อมูลสำระส�ำคัญครบถว้ น
  -  มกี ำรเกบ็ และนำ� สง่ วัตถตุ วั อยำ่ งไดถ้ กู ตอ้ งและเหมำะสม
  -  มกี ำรก�ำหนดนยิ ำมผปู้ ว่ ย และผู้สมั ผสั ได้อย่ำงถูกตอ้ ง
  -  มีกำรเลือกใชว้ ธิ ีกำรศกึ ษำทำงระบำดวิทยำทีเ่ หมำะสมกบั เหตกุ ำรณ์
  -  มกี ำรใช้สถิต ิ รวมถงึ กำรน�ำเสนอข้อมูลและกำรแปลผลทถ่ี ูกต้อง

มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัติงานทีมเฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 31

มาตรฐาน JIT ดา้ นความสามารถการปฏิบัตงิ าน
ตัวชีว้ ดั ท่ี 6 (ตอ่ ) การสอบสวนโรคและภยั สุขภาพ และการควบคมุ โรคขัน้ ต้น

หัวข้อ รายละเอียด

ค�าอธบิ าย   3.1 ข้อมูลสำระส�ำคัญ (Essential information) ตำมข้อก�ำหนดในกฎอนำมัยระหว่ำงประเทศ 
      (IHR 2005) ประกอบดว้ ย
      -  ลักษณะทำงคลนิ กิ  (clinical descriptions) หรอื อำกำร/อำกำรแสดง 
      -  ผลกำรชนั สูตรทำงหอ้ งปฏบิ ตั ิกำร (laboratory results) 
      -  แหล่งและชนดิ ของควำมเสี่ยง (sources and type of risk) 
      -  จำ� นวนผปู้ ว่ ยและผเู้ สยี ชวี ิต (numbers of human cases and deaths) 
      -  เง่อื นไขทที่ �ำให้มกี ำรระบำด (conditions affecting the spread of the disease) 
      -  มำตรกำรทำงสำธำรณสขุ ที่ด�ำเนินกำร (the health measures employed) 
  3.2 กำรรวบรวมข้อมูลทำงระบำดวิทยำของผู้ป่วยได้ถูกต้องครบถ้วน หมำยถึง มีข้อมูลตัวแปร 
      “บุคคล เวลำ สถำนที่” และข้อมูล “กำรป่วยตำมล�ำดับเหตุกำรณ์ ต้ังแต่เร่ิมมีอำกำร 
      กำรด�ำเนินโรค ผลกำรตรวจทำงห้องปฏิบัติกำร และกำรรักษำ” ซ่ึงในรำยงำนกำรสอบสวน 
      ผู้ป่วยเฉพำะรำยแสดงด้วย “บันทึกรำยงำน” ไม่ใช่ “แบบสอบสวนผู้ป่วยเฉพำะรำย” 
      ส่วนในรำยงำนสอบสวนกำรระบำด แสดงด้วยข้อมูลผู้ป่วยรำยแรก และ/หรือผู้ป่วยที่เป็น 
      Index case
  3.3 กำรก�ำหนดนิยำมผู้ป่วยและผู้สัมผัสที่ถูกต้อง หมำยถึง กำรตั้งนิยำมได้ถูกต้อง นิยำมท่ีก�ำหนด 
      สำมำรถน�ำไปใช้ค้นหำผู้ป่วยในชุมชนเพิ่มเติมได้ดี สำมำรถแยกผู้ป่วยและผู้สัมผัสท่ีไม่มีอำกำร 
      ได้ชัดเจน และน�ำไปสูก่ ำรวเิ ครำะหห์ ำปัจจยั เส่ียงที่เปน็ สำเหตุได้
  3.4 กำรเลอื กใชว้ ธิ กี ำรศกึ ษำทำงระบำดวทิ ยำทเี่ หมำะสมกบั เหตกุ ำรณ ์ ในทน่ี ห้ี มำยถงึ  วธิ กี ำรศกึ ษำ 
      เชิงวิเครำะห์เพ่ือพิสูจน์หำปัจจัยเสี่ยงท่ีเป็นสำเหตุกำรระบำด ซ่ึง JIT เลือกใช้วิธีกำรท ่ี
      เหมำะสมกับกลุ่มผู้สัมผัสโรค สอดคล้องกับลักษณะทำงระบำดวิทยำของกำรระบำด และ 
      ใชจ้ �ำนวนกลุ่มตัวอยำ่ งท่ีศึกษำเพียงพอ
  3.5 กำรใชส้ ถติ ทิ ถี่ กู ตอ้ ง หมำยถงึ  กำรเรยี กชอื่  กำรคำ� นวณ กำรนำ� เสนอดว้ ยแผนภมู  ิ ภำพ หรอื ตำรำง 
      และกำรแปลผลถกู ต้อง รำยงำนสอบสวนโรคทว่ั ไปควรให้ควำมสำ� คัญกบั สถติ ิ ดงั น้ี
      -  อตั รำป่วย (Incidence rate) และอัตรำผูป้ ่วยตำย (Case fatality rate) 
      -  คำ่ เฉลย่ี  (Mean) และคำ่ มธั ยฐำน (Median) 
      -  กรำฟทใ่ี ชย้ นื ยนั กำรระบำด และกำรกระจำยผปู้ ว่ ยตำมวนั /เวลำ เรม่ิ ปว่ ย Epidemic curve 
      -  ตำรำงแสดงอัตรำปว่ ยเฉพำะกลุ่ม (Specific attack rate) 
      -  แผนทีเ่ กิดโรคแบบจดุ  (Spot map) 
      -  กำรทดสอบสมมติฐำนและกำรหำควำมสมั พนั ธต์ ำมรปู แบบกำรศึกษำ

4. การป้องกนั ควบคุมโรคขัน้ ต้น หมำยถงึ กจิ กรรม ดังนี้ 
  4.1 การควบคุมการระบาด แบบ Disease containment หมำยถึง กำรท�ำให้กำรแพร่ระบำด 
        ของโรคหยุด ช้ำลง หรืออยู่ในเขตจ�ำกัด โดยมีหลักกำรส�ำคัญ คือ กำรจัดกำรท่ีแหล่งโรค 
        และกล่มุ เส่ียงสงู  ได้แก่
      4.1.1  การจัดการแหล่งโรคแพร่กระจาย (propagated source) เป็นกำรป้องกันกำร 
            แพร่กระจำยเช้ือจำกผู้ป่วย และพำหะ โดยกำรคัดกรอง เพ่ือแยกผู้ป่วยและพำหะ 
            ออกจำกกลุ่มคนปกติ มีท้ังมำตรกำรต่อบุคคล (กำรแยกกัก กำรจัดกำรผู้สัมผัส) 
            และต่อกลุ่มคนหรือชมุ ชนทอี่ ำจสัมผสั โรค (กำรพกั อยู่กับบ้ำน ปดิ สถำนท่ฯี ) 
      4.1.2  การจัดการแหล่งโรคร่วม (common source) โดยใช้กลวิธีเฉพำะตำมชนิดของ 
            แหล่งโรคร่วม (เช่น อำหำร น้�ำ สัตว์ฟันแทะ) ได้แก่ กำรท�ำลำยเชื้อในส่ิงแวดล้อม

32 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัติงานทมี เฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ 2563

มาตรฐาน JIT ดา้ นความสามารถการปฏิบัติงาน
ตัวช้วี ัดที่ 6 (ต่อ) การสอบสวนโรคและภัยสขุ ภาพ และการควบคมุ โรคขน้ั ตน้

หวั ข้อ รายละเอียด

คา� อธบิ าย             กำรปรับปรุงสุขำภิบำลอำหำรและน�้ำ กำรปิดโรงงำนอำหำรท่ีมีควำมเส่ียงสูงหรือ 
            ไม่ผำ่ นเกณฑม์ ำตรฐำน
      4.1.3 การจัดการพาหะนา� โรค เชน่  กำรจดั กำรยงุ  หรอื แมลงนำ� โรค 
      4.1.4 การป้องกันกลุ่มเสี่ยงขณะท่ีมีการระบาด หมำยถึง กำรด�ำเนินกำรเพื่อป้องกัน 
            กำรปว่ ยให้กบั กลมุ่ เสยี่ ง เชน่  กำรใหว้ ัคซีน กำรใหย้ ำปอ้ งกนั  กำรใหส้ ขุ ศึกษำเพอ่ื กำร 
            ปรบั พฤติกรรมเสี่ยง 
5.  ปอ้ งกนั ตนเองจากการตดิ เชอ้ื และอนั ตรายขณะสอบสวนโรค หมำยถงึ  JIT ทรำบหลกั กำรปอ้ งกนั  
  กำรแพรก่ ระจำยเชอื้  (Precautions) และประยกุ ตใ์ ชก้ บั ตนเองได ้ สำมำรถสวมใสแ่ ละถอดอปุ กรณ ์
  ปอ้ งกันรำ่ งกำยส่วนบคุ คล (PPE) ไดอ้ ยำ่ งถกู ต้อง
6.  การจัดการอนามยั สิ่งแวดล้อมเบ้ืองต้น ตัวอยำ่ งเชน่  
  -  กำรตรวจหำคลอรนี อิสระคงเหลอื ในนำ้� บรโิ ภคของชมุ ชน เชน่  ประปำหมบู่ ้ำน ฯ 
  -  กำรใชค้ ลอรีน 2% (หยดทิพย)์  ในน้ำ� ดมื่ แก่ประชำชน 
  -  กำรปรับปรงุ คุณภำพนำ้� ทำงกำยภำพ เชน่  กำรใช้สำรส้ม กำรกรอง 
  -  กำรใชช้ ดุ ทดสอบภำคสนำมของกรมอนำมยั หำกำรปนเปอ้ื นของโคลฟิ อรม์ แบคทเี รยี ในอำหำร/ 
    น�้ำดื่ม ภำชนะอุปกรณ์ ผปู้ รงุ  ผูเ้ สริ ์ฟ ผู้สมั ผัสอำหำร
  -  กำรจัดกำรขยะตดิ เชอื้
  -  กำรจัดกำรแหลง่ เพำะพันธ์สุ ตั วแ์ ละแมลงน�ำโรคเบื้องต้นโดยใชป้ นู ขำว 
7. ส�ารวจความเส่ียงด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม หมำยถึง กำรส�ำรวจปัจจัยด้ำนอนำมัยสิ่งแวดล้อม 
  ท่ีสนับสนุนให้เกิดกำรระบำดแบบแหล่งโรคร่วม เช่น ส่ิงแวดล้อมด้ำนอำหำร น�้ำด่ืม น้�ำใช้ ส้วม 
  แหล่งเพำะพันธ์ุยุงและสัตวน์ �ำโรค และอื่น ๆ 
  -  สำมำรถสรปุ  วเิ ครำะห ์ เพอื่ ก�ำหนดพ้นื ทท่ี ี่เป็นปญั หำหรอื แหล่งรงั โรคได้ชัดเจน
  -  สำมำรถใชช้ ุดทดสอบทำงห้องปฏิบตั กิ ำรเพอ่ื ทดสอบกำรปนเปอ้ื นในภำคสนำมได้

แนวทาง 1.  ประเมินส่งิ ทีค่ วรทำ� ได้ในแต่ละประเด็น
การประเมนิ 2.  กำรประเมินองค์ประกอบตัวช้ีวัดที่ 2 กำรเก็บตัวอย่ำงและน�ำส่งตัวอย่ำงได้ถูกต้องและเหมำะสม 
  โดยใหส้ มำชิก JIT ปฏิบัติหรือสำธิตใหด้ ทู ุกรำยกำร ดังน ้ี
  2.1  Nasopharyngeal swab
  2.2  Throat swab
  2.3  Rectal swab
  2.4  กำรเก็บตัวอย่ำงนำ�้ และอำหำร 
3.  กำรประเมินองค์ประกอบตัวชี้วัดท่ี 3 กระบวนกำรสอบสวนโรคและควบคุมโรคขั้นต้นท่ีมีคุณภำพ 
  โดยให้สมำชิก JIT ปฏิบัติ หรือสำธิตให้ดู ผู้ประเมินมี scenario ของเหตุกำรณ์กำรเกิดโรคหรือ 
  กำรระบำดของโรคหรือภัยสุขภำพ 1 เหตุกำรณ์ โดยผู้ประเมิน ประเมินกระบวนกำร สัมภำษณ ์
  JIT สมั ภำษณค์ วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจของผปู้ ฏบิ ตั งิ ำน เลำ่ /อธบิ ำยได ้ กจิ กรรมเหมำะสมกบั สถำนกำรณ์ 
  (scenario จำกผู้ประเมิน เช่น Severe EV71, Botulism, Avian Influenza, MERS, Ebola 
  เป็นตน้ )
4.  กำรประเมินองค์ประกอบตัวชี้วัดที่ 4 มีกำรจัดกำรด้ำนอนำมัยส่ิงแวดล้อมเบ้ืองต้นได้ถูกต้องและ 
  เหมำะสม ทดสอบโดยให้ JIT ผสมคลอรีน น้�ำยำไฮเตอร์ กำรล้ำงของเล่น/ของใช้ กรณีกำรระบำด 
  ของมือ เท้ำ ปำก กำรจดั กำรขยะติดเชื้อ กำรตรวจหำคลอรนี อสิ ระคงเหลอื ในนำ้�  

มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทีมเฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 33

มาตรฐาน JIT ด้านความสามารถการปฏบิ ตั งิ าน
ตัวช้ีวดั ที่ 6 (ต่อ) การสอบสวนโรคและภยั สุขภาพ และการควบคุมโรคขน้ั ตน้

หัวข้อ รายละเอยี ด

แนวทาง 5.  กำรประเมินองค์ประกอบตัวชี้วัดที่ 5 มีกำรป้องกันตนเองจำกกำรติดเชื้อและ/หรืออันตรำย 
การประเมิน    ขณะสอบสวนโรค ทดสอบโดยให้ใส่ชุด PPE 2 แบบ คือ ชุดหมี และกำวน์กันน้�ำ ดูข้ันตอนกำรใส ่
  และถอดวำ่ ถกู ตอ้ งหรอื ไม ่ และหรอื ทดสอบพรอ้ มกบั ขอ้  3 กระบวนกำรสอบสวนโรคและควบคมุ โรค 
  ขัน้ ตน้ ทมี่ ีคุณภำพ

ข้อมูล/หลักฐาน -  เกณฑ์กำรออกสอบสวนควบคมุ โรค/ภัยสขุ ภำพของทีม 
-  ถ่ำยภำพ ขณะฝึกปฏิบัติ กำรตอบค�ำถำม กระบวนกำรสอบสวนโรคจำกตัวอย่ำงสถำนกำรณ์โรค/ 
  ภัยสุขภำพ

มาตรฐาน JIT ดา้ นผลงาน
ตัวช้วี ัดที่ 7 ผลงานด้านความครบถว้ นของการสอบสวนโรค

หวั ข้อ รายละเอียด

ความหมาย ผลงำนด้ำนครบครบถ้วนของกำรสอบสวนโรคเป็นผลงำนเชิงปริมำณด้ำนกำรสอบสวนโรคของ JIT 
โดยวัดจ�ำนวนผลงำนกำรสอบสวนโรคเปรียบเทียบกับเหตุกำรณ์ท่ีควรสอบสวนตำมข่ำวกำรเกิดโรค 
ที่ตรวจจับได้ ทีมที่มีผลงำนสอบสวนโรคแสดงว่ำทีมยังมีควำมพร้อมในกำรปฏิบัติงำน พ้ืนที่ท่ีมีกำร 
สอบสวนโรคของ JIT สมำ�่ เสมอ แสดงวำ่ พน้ื ทน่ี นั้ ยงั มกี ำรเฝำ้ ระวงั โรคทดี่  ี และมหี นว่ ยรบั ผดิ ชอบตดิ ตำม 
ดแู ลเพอ่ื สอบสวนควบคุมกำรระบำดของโรคและภัยสขุ ภำพ 

วัตถุประสงค์ เพ่ือสนับสนุนให้ JIT มีกำรตอบสนอง (response) ต่อปัญหำกำรระบำดในพื้นท่ีอย่ำงสม�่ำเสมอ 
ของตวั ชี้วัด และต่อเนื่อง 

องค์ประกอบ มกี ำรสอบสวนโรคครบถว้ น   
ของตัวชว้ี ัด 1)  มรี ำยงำนสอบสวนโรคครบถ้วน ร้อยละ 60–79 [B]
2)  มรี ำยงำนสอบสวนโรคครบถ้วน รอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป  [S]

การค�านวณ           จ�ำนวนรำยงำนสอบสวนโรคของทีม x 100       
       จ�ำนวนเหตุกำรณท์ ี่เข้ำเกณฑต์ อ้ งออกสอบสวนโรคของทีม

ค�าอธิบาย 1. ผลงานการสอบสวนโรค เป็นผลงำนท่ีเกดิ จำกกำรปฏบิ ตั ิงำนตำมตัวชีว้ ัดที่ 6 
2. ผลงานที่ใช้ในการประเมิน เป็นผลงานการสอบสวนโรคทั้งหมด ทั้งกำรสอบสวนผู้ป่วยเฉพำะรำย 
  และสอบสวนกำรระบำด ซ่ึงออกสอบสวนตำมเหตุกำรณ์ที่เข้ำเกณฑ์ต้องออกสอบสวนโรคของทีม 
  ทั้งที่ออกด�ำเนินกำรเองหรือร่วมด�ำเนินกำรกับทีมอื่น (จ�ำนวนเหตุกำรณ์ท่ีเข้ำเกณฑ์ฯ = 100 %) 
  กำรสอบสวนผู้ป่วยเฉพำะรำยในที่นี้เป็นกำรสอบสวนผู้ป่วยเฉพำะรำยตำมโรคที่กองระบำดวิทยำ 
  ก�ำหนด ซึ่งต้องมีกำรสอบสวนโรคในพื้นท่ี และมีกำรเขียนรำยงำนสอบสวนโรค พร้อมแบบ 
  สอบสวนผู้ป่วยเฉพำะรำยที่สมบรู ณ์ 
3. ผลงานที่ไม่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ กำรเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบสวนผู้ป่วยเฉพำะรำยท่ีเป็นกำร 
  เก็บข้อมูลในโรงพยำบำลและสถำนบริกำรสำธำรณสุขอ่ืน ๆ และไม่รวมแบบสอบถำม หรือแบบ 
  รวบรวมข้อมูลท่ใี ช้ในกำรสอบสวนกำรระบำด

34 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทีมเฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563

มาตรฐาน JIT ดา้ นผลงาน
ตัวชวี้ ดั ที่ 7 (ต่อ) ผลงานดา้ นความครบถ้วนของการสอบสวนโรค

หวั ขอ้ รายละเอยี ด

คา� อธิบาย 4. เหตกุ ารณท์ เ่ี ขา้ เกณฑต์ อ้ งออกสอบสวนโรคของทมี  หมำยถงึ  กำรนำ� ขำ่ วกำรระบำดทตี่ รวจสอบหรอื  
  ประเมนิ สถำนกำรณแ์ ลว้ สมควรแจง้ เตอื น/รำยงำน มำเปรยี บเทยี บกบั เกณฑท์ ตี่ อ้ งออกสอบสวนโรค

แนวทาง 1. ประเมินผลงำนรอบ 12 เดือน นับจำกเดอื นก่อนเดอื นทที่ ำ� กำรประเมินย้อนหลังขึน้ ไป 
การประเมิน  2. นับจ�ำนวนเหตุกำรณ์ท่ีเข้ำเกณฑ์ต้องออกสอบสวนโรค จำกทะเบียนรับแจ้งข่ำว และ/หรือเอกสำร 
  ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง นับจ�ำนวนรำยงำนสอบสวนโรคที่เปน็ ผลงำนของทมี ทงั้ หมด 
3. คำ� นวณตำมสตู รทีก่ �ำหนด

ข้อมลู /หลกั ฐาน -  ส�ำเนำรำยงำนสอบสวนโรค ทะเบยี นรบั แจง้ ขำ่ ว หรอื แฟม้ จดั เก็บขำ่ วสำรแบบอืน่ ท่ีใช้ร่วมกัน 

มาตรฐาน JIT ดา้ นผลงาน
ตวั ชว้ี ัดที่ 8 ผลงานดา้ นคุณภาพการสอบสวนและควบคุมโรค

หัวขอ้ รายละเอียด

ความหมาย ผลงำนดำ้ นคณุ ภำพกำรสอบสวนและควบคมุ โรค เปน็ ผลงำนเชงิ คณุ ภำพดำ้ นกำรสอบสวนโรคของ JIT 
โดยวัดควำมสำมำรถของทีมในกำรสอบสวนหำสำเหตุหรือที่มำของกำรระบำด รวมถึงควำมสำมำรถ 
วตั ถุประสงค์ ในกำรควบคุมกำรระบำด (Containment) ผลงำนกำรสอบสวนโรคเชิงคุณภำพเป็นตัวชี้วัดส�ำคัญ 
ของตวั ช้ีวัด ท่ีแสดงถงึ ศักยภำพ และควำมรู้ควำมสำมำรถของทมี ในกำรปฏบิ ตั ิงำน 
องค์ประกอบ
ของตัวชี้วดั เพือ่ เพ่มิ คณุ ภำพผลงำนของ JIT ในกำรออกสอบสวนและควบคมุ โรค
ค�าอธิบาย
มีกำรสอบสวนและควบคมุ โรค ทม่ี คี ณุ ภำพ ตำมเกณฑ์ที่กำ� หนด [B]
1)  มรี ำยงำนสอบสวนโรคท่ีมคี ุณภำพ จ�ำนวน 1–2 ฉบับ  [S] 
2)  มรี ำยงำนสอบสวนโรคท่ีมคี ณุ ภำพ จ�ำนวน 3 ฉบับ ขึน้ ไป 

1. ผลงานการสอบสวนโรค เป็นผลงำนทีเ่ กดิ จำกกำรปฏิบัติงำนตำมตัวชว้ี ดั ท่ี 6

2. ผลงานท่ีใช้ในการประเมิน ใช้เฉพำะผลงำนกำรสอบสวนกำรระบำด ซึ่งออกสอบสวนตำมเกณฑ์ 
   ท่ีก�ำหนด ท้ังที่ด�ำเนินกำรเองหรือร่วมกับทีมอ่ืน โดยต้องเป็นผู้เขียนรำยงำนเอง ในกรณ ี
   ทไ่ี ม่มเี หตกุ ำรณ์ระบำดให้ใชผ้ ลงำนกำรสอบสวนผปู้ ว่ ยเฉพำะรำยแทน

3. การสอบสวนและควบคุมโรคทม่ี คี ณุ ภาพตามเกณฑ ์ หมำยถงึ  ไดผ้ ลตำม 2 ใน 3 ข้อ ได้แก่
   ก.  หำสำเหตุได้ หรือ ยืนยันได้ด้วยผลกำรตรวจทำงห้องปฏิบัติกำร หรือ สรุปสำเหตุได้จำกกำร 
        เชือ่ มโยงทำงระบำดวิทยำ
   ข.  อธิบำยปัจจัยเสี่ยงของกำรเกิดโรค กำรบำดเจ็บ หรือกำรระบำดได้ ถ้ำเป็น common 
        source สำมำรถหำแหลง่ โรค หรือรังโรค หรอื ทม่ี ำของกำรระบำดได ้
   ค.  สำมำรถดำ� เนนิ มำตรกำรทเี่ หมำะสม สอดคลอ้ งกบั สำเหตกุ ำรเกดิ โรคและมำตรฐำนทำงวชิ ำกำร 
        ของโรคน้นั  ๆ 

มาตรฐานและแนวทางปฏิบัตงิ านทีมเฝา้ ระวงั สอบสวนควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ 2563 35

มาตรฐาน JIT ด้านผลงาน
ตัวชีว้ ัดที่ 8 (ตอ่ ) ผลงานด้านคุณภาพการสอบสวนและควบคมุ โรค

หวั ข้อ รายละเอยี ด

ค�าอธบิ าย 4. การเช่ือมโยงทางระบาดวิทยา (Epidemiological linkage) หมำยถึง บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป 
   มีกำรสัมผัสโรคเก่ียวข้องกัน บำงคนได้แสดงให้เห็นว่ำมีกำรติดเชื้อ และอย่ำงน้อย 1 คน ได้รับกำร 
   ตรวจสอบยนื ยันทำงห้องปฏบิ ัติกำรวำ่ มีกำรติดเชอื้ จรงิ
   -  ผลกำรสอบสวน หมำยถึง กำรสรุปผลโดยใช้กำรตรวจทำงห้องปฏิบัติกำร หรือกำรทดสอบ 
      ทำงสถิติ หรือหลกั ฐำนเชงิ ประจักษ์

แนวทาง 1.  ประเมินจ�ำนวนผลงำนท่ีท�ำได้ตำมเกณฑ์ในรอบ 12 เดือน โดยนับจำกเดือนก่อนเดือนที่ท�ำกำร 
การประเมนิ      ประเมนิ ย้อนหลงั ขึ้นไป 
2.  นับจ�ำนวนรำยงำนสอบสวนกำรระบำดทั้งหมด โดยไม่จำ� กดั โรค 
3.  แยกรำยงำนสอบสวนกำรระบำดที่มผี ลกำรสอบสวนตำมเกณฑ์ทกี่ ำ� หนด 

ข้อมูล/หลักฐาน สำ� เนำรำยงำนสอบสวนกำรระบำด

มาตรฐาน JIT ดา้ นผลงาน
ตัวชว้ี ัดท่ี 9 ผลงานดา้ นความรวดเร็วในการสอบสวนโรค

หวั ขอ้ รายละเอยี ด

ความหมาย ผลงำนด้ำนควำมรวดเร็วในกำรสอบสวนโรค เป็นผลงำนเชิงเวลำด้ำนกำรสอบสวนโรคของ JIT 
โดยวดั เวลำทใ่ี ชใ้ นกำรตอบสนองตอ่ เหตกุ ำรณ ์ (Response time) ตง้ั แตท่ รำบวำ่ มผี ปู้ ว่ ยหรอื กำรระบำด 
จนถึงเวลำท่ีออกปฏิบัติงำน ซึ่งแตกต่ำงกันตำมควำมส�ำคัญของโรค โดยท่ัวไปก�ำหนดให้ต้อง 
สอบสวนโรคภำยใน 24 ชั่วโมงนับจำกวันรับแจง้ ขำ่ วกำรระบำด 

วัตถุประสงค์ เพ่ือเพิ่มขีดควำมสำมำรถในกำรออกปฏิบัติงำนภำคสนำมของ JIT ให้มีควำมรวดเร็วได้มำตรฐำน 
ของตวั ชวี้ ดั ตำมที่กำ� หนด 

องค์ประกอบ มกี ำรสอบสวนโรคทนั เวลำตำมทก่ี ำ� หนด [B]
ของตัวชว้ี ัด 1)  มกี ำรสอบสวนโรคทนั เวลำ รอ้ ยละ 60–79  [S]
2)  มีกำรสอบสวนโรคทันเวลำ รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป [B]
มกี ำรเขยี นรำยงำนสอบสวนโรคเบ้อื งตน้  ภำยใน 48 ชวั่ โมง [S]
1)  มกี ำรเขียนรำยงำนสอบสวนโรคเบอื้ งตน้ ทนั เวลำ ร้อยละ 60–79 
2)  มีกำรเขียนรำยงำนสอบสวนโรคเบอ้ื งต้นทันเวลำ รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป

การคา� นวณ จำ� นวนรำยงำนสอบสวนโรคทมี่ ีกำรสอบสวนทนั เวลำที่กำ� หนด x 100
จำ� นวนรำยงำนสอบสวนโรคทั้งหมด

จำ� นวนรำยงำนสอบสวนโรคเบ้ืองตน้ ท่เี ขียนทนั เวลำท่กี �ำหนด x 100
จ�ำนวนรำยงำนสอบสวนโรคเบือ้ งตน้ ทงั้ หมด

36 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสุขภาพ 2563

มาตรฐาน JIT ด้านผลงาน
ตวั ชี้วดั ที่ 9 (ต่อ) ผลงานด้านความรวดเร็วในการสอบสวนโรค

หวั ขอ้ รายละเอยี ด

คา� อธบิ าย 1. ผลงานการสอบสวนโรค เป็นผลงำนท่ีเกิดจำกกำรปฏิบัติงำนตำมตัวชี้วัดที่ 6 (ยกเว้นสงสัย 
  โรคตดิ ตอ่ อันตรำย ตอ้ งสอบสวนภำยใน 12 ช่วั โมง) 
แนวทาง 2. ผลงานที่ใช้ในการประเมิน เป็นผลงานการสอบสวนโรคทั้งหมด ท้ังกำรสอบสวนผู้ป่วยเฉพำะรำย 
การประเมนิ     และสอบสวนกำรระบำด (ตำมตวั ชี้วัดที่ 7) 
ข้อมลู /หลกั ฐาน 3. ผลงานทไ่ี มใ่ ชใ้ นการประเมนิ  ไดแ้ ก ่ กำรเกบ็ ขอ้ มลู โดยใชแ้ บบสอบสวนผปู้ ว่ ยเฉพำะรำย ทเี่ ปน็ กำร 
  เก็บข้อมูลในโรงพยำบำลและสถำนบริกำรสำธำรณสุขอื่น ๆ และไม่รวมแบบสอบถำม หรือแบบ 
  รวบรวมข้อมูลท่ีใช้ในกำรสอบสวนกำรระบำด
4. การสอบสวนโรคทันเวลาทก่ี า� หนด หมำยถงึ  
  4.1  โรคหรอื กล่มุ อำกำรทีม่ คี วำมสำ� คญั สงู ของประเทศไทย กองระบำดวทิ ยำกำ� หนดให้ต้อง
      สอบสวนโรคภำยใน 48 ชว่ั โมงนบั จำกวนั รับรักษำ
  4.2  กำรระบำดอื่นก�ำหนดให้สอบสวนโรคภำยใน 48 ช่ัวโมงนับจำกวันรับรักษำ หรือภำยใน 
      24 ช่ัวโมงนบั จำกวันที่ไดร้ ับแจ้งขำ่ วกำรระบำด ตำมขอ้ มลู ในทะเบียนรับแจ้งขำ่ ว 
5. Response time เปน็ ระยะเวลำตงั้ แตท่ รำบวำ่ มผี ปู้ ว่ ยหรอื กำรระบำดจนถงึ เวลำทอ่ี อกปฏบิ ตั งิ ำน 
  กำรเฝำ้ ระวงั ท่ีดีเพิ่มโอกำสใหท้ รำบกำรป่วยต้ังแตว่ ันที่ผ้ปู ่วยรับกำรรักษำจนถึงกำรรำยงำน
6. รายงานการสอบสวนเบื้องต้น (Preliminary Report) เป็นรำยงำนที่ผู้สอบสวนโรคจัดท�ำไว ้
  เสนอต่อผู้บริหำรงำนสำธำรณสุขโดยเร็ว เพื่อที่จะรำยงำนเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นในทันทีภำยหลังจำก 
  ที่ได้ท�ำกำรสอบสวนโรคจนได้ข้อมูลเบื้องต้นท่ีส�ำคัญ รำยงำนกำรสอบสวนเบ้ืองต้นมักจะ 
  ประกอบด้วย 6 หัวข้อหลัก ได้แก่ ควำมเป็นมำ ผลกำรสอบสวนที่เน้นประเด็นส�ำคัญ ๆ ท่ีพบ 
  ในกำรสอบสวนโรค แนวโนม้ ของกำรระบำด กจิ กรรมควบคมุ โรคทไ่ี ดด้ ำ� เนนิ ไปแลว้  สรปุ ควำมสำ� คญั  
  และเร่งด่วน และข้อเสนอเพ่ือพิจำรณำด�ำเนินกำรต่อไป ควรจะจัดท�ำทันทีเมื่อกลับมำจำกกำร 
  สอบสวนในพ้ืนท่ี รำยงำนกำรสอบสวนเบ้ืองต้น อำจจะขำดควำมสมบูรณ์ในด้ำนเนื้อหำ แต่ม ี
  ควำมส�ำคัญอย่ำงยิ่งต่อกำรด�ำเนินงำนควบคุมและป้องกันโรคให้ทันท่วงทีต่อสถำนกำรณ์โรค 
  ในขณะนั้น และควำมยำวของรำยงำนมักจะไม่เกนิ  2 หนำ้ กระดำษ

1. ประเมินจ�ำนวนผลงำนท่ีท�ำได้ตำมเกณฑ์ในรอบ 12 เดือน โดยนับจำกเดือนก่อนเดือนท่ีท�ำกำร 
  ประเมนิ ยอ้ นหลงั ขน้ึ ไป 
2. นับจ�ำนวนรำยงำนสอบสวนโรคทั้งหมด ยกเว้นแบบสอบสวนผู้ป่วยเฉพำะรำยหรือแบบรวบรวม 
  ข้อมลู กำรระบำด 
3. รำยงำนแต่ละฉบับ เปรียบเทียบระยะเวลำระหว่ำงวัน/เวลำท่ีออกสอบสวนโรคกับวัน/เวลำที่รับ 
  รกั ษำ/วนิ จิ ฉยั  หรอื วนั /เวลำท่รี ับแจง้ ขำ่ วกำรระบำดตำมระยะเวลำท่กี ำ� หนด 
4. แยกรำยงำนสอบสวนโรคท่ีมกี ำรสอบสวนทันภำยในเวลำท่ีก�ำหนด
5. ค�ำนวณตำมสตู ร

-  ส�ำเนำรำยงำนสอบสวนโรค 
-  ทะเบียนรับแจง้ ข่ำว หรอื แฟ้มจัดเก็บขำ่ วสำรแบบอน่ื ทีใ่ ชร้ ่วมกัน 

มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัติงานทมี เฝา้ ระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ 2563 37

มาตรฐาน JIT ดา้ นผลงาน
ตวั ชี้วดั ที่ 10 ผลงานดา้ นคุณภาพการเขยี นรายงานสอบสวนโรค

หวั ข้อ รายละเอียด

ความหมาย JIT สำมำรถเขียนรำยงำนสอบสวนโรคได้อย่ำงมีคุณภำพ ซ่ึงหมำยถึง มีรูปแบบกำรเขียนรำยงำน 
วตั ถปุ ระสงค์ ถูกต้อง มีข้อเสนอแนะในกำรควบคุมโรคท่ีสอดคล้องกับผลกำรสอบสวนและส่งรำยงำนทันเวลำ 
ของตัวชวี้ ัด ตำมเกณฑท์ ีก่ �ำหนด รำยงำนฉบบั สมบรู ณ์ (Full report) หรอื  manuscript 
องค์ประกอบ
ของตัวชว้ี ัด เพือ่ พฒั นำคณุ ภำพของกำรเขยี นรำยงำนสอบสวนโรค 
การค�านวณ
ค�าอธบิ าย มกี ำรเขยี นรำยงำนสอบสวนกำรระบำดทีม่ ีคณุ ภำพตำมเกณฑ์ทกี่ ำ� หนด [B]
1)  มกี ำรเขยี นรำยงำนสอบสวนโรคที่มคี ณุ ภำพ 1–2 เรื่อง  [S]
แนวทาง 2)  มกี ำรเขียนรำยงำนสอบสวนโรคทีม่ ีคุณภำพ 3 เรือ่ ง ขนึ้ ไป
การประเมนิ  
จ�ำนวนรำยงำนสอบสวนโรคทมี่ กี ำรสอบสวนทนั เวลำที่กำ� หนด x 100
ขอ้ มลู /หลักฐาน จำ� นวนรำยงำนสอบสวนโรคทัง้ หมด

1.  ผลงานการสอบสวนโรค เปน็ ผลงำนทเ่ี กดิ จำกกำรปฏิบัตงิ ำนตำมตวั ชว้ี ัดท่ี 6 
2.  ผลงานทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ ใชเ้ ฉพาะรายงานการสอบสวนการระบาด ทงั้ ทอี่ อกดำ� เนนิ กำรเอง หรอื  
  ร่วมด�ำเนินกำรกับทีมอื่น กรณีไม่มีเหตุกำรณ์ระบำดในรอบ 1 ปี ให้ใช้ผลงำนย้อนหลัง 2 ปี และ 
  กรณีไม่มเี หตุกำรณร์ ะบำดในรอบ 2 ป ี ให้ใช้รำยงำนกำรสอบสวนผปู้ ว่ ยเฉพำะรำยแทน
3.  การเขยี นรายงานสอบสวนโรคทม่ี คี ณุ ภาพ หมำยถงึ  รำยงำนฉบบั สมบรู ณ ์ (Full report) มหี วั ขอ้  
  ที่ส�ำคัญครบถ้วน ได้แก่ ชื่อเรื่อง ผู้สอบสวน บทคัดย่อ ควำมเป็นมำ วัตถุประสงค์ วิธีกำร ผลกำร 
  สอบสวน อภิปรำยผล สรุปผล มำตรกำรป้องกันควบคุมโรค ปัญหำอุปสรรค ข้อจ�ำกัด 
  ข้อเสนอแนะ กิตติกรรมประกำศ เอกสำรอ้ำงอิง และมีเนื้อหำได้คุณภำพตำมเกณฑ์กำร 
  เขยี นรำยงำนกำรสอบสวนโรคของกรมควบคุมโรค (ตวั อยำ่ งเกณฑ์ ในภำคผนวก) 

1.  ประเมินจ�ำนวนผลงำนท่ีท�ำได้ตำมเกณฑ์ในรอบ 1 ปี โดยนับจำกเดือนก่อนเดือนท่ีท�ำกำรประเมิน 
  ย้อนหลังขึ้นไป กรณีไม่มีเหตุกำรณ์ระบำดในรอบ 1 ปี ให้ใช้ผลงำนย้อนหลัง 2 ปี และกรณี 
  ไมม่ เี หตกุ ำรณร์ ะบำดในรอบ 2 ป ี ใหใ้ ช้รำยงำนกำรสอบสวนผู้ป่วยเฉพำะรำยแทน
2.  นับจ�ำนวนรำยงำนสอบสวนกำรระบำดทงั้ หมด โดยไมจ่ ำ� กัดโรค 
3.  แยกรำยงำนสอบสวนกำรระบำดทมี่ กี ำรเขยี นรำยงำนไดอ้ ยำ่ งมีคณุ ภำพตำมเง่อื นไข

ส�ำเนำรำยงำนสอบสวนกำรระบำด รำยงำนฉบบั สมบรู ณ ์ (Full report) 

38 มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทมี เฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ 2563

มาตรฐาน JIT ด้านผลงาน
ตวั ช้วี ดั ท่ี 11 ผลงานการน�าเสนอความรจู้ ากการเฝา้ ระวงั สอบสวนโรค หรอื การตอบสนอง

ทางสาธารณสุข ท่เี ผยแพรใ่ นวารสาร เวทวี ิชาการ

หัวขอ้ รายละเอยี ด

ความหมาย JIT มีกำรจัดท�ำผลงำนใหม่ ที่ต่อเน่ืองจำกผลงำนกำรสอบสวนโรคหรือกำรตอบสนองทำงสำธำรณสุข 
วตั ถุประสงค์ เหตกุ ำรณเ์ ดยี วหรอื หลำยเหตุกำรณ ์ จดั ทำ� เปน็ ผลงำนวชิ ำกำรและเผยแพร่ในวำรสำรเวทวี ิชำกำร 
ของตวั ชีว้ ดั
องค์ประกอบ เพ่ือพัฒนำ JIT ด้ำนกำรจัดกำรควำมรู้ ทั้งกำรถ่ำยทอดควำมรู้และประสบกำรณ์ที่เป็นควำมรู้ภำยใน 
ของตัวชวี้ ัด (Tacit knowledge) และกำรสังเครำะหค์ วำมรู้ 
การค�านวณ
คา� อธบิ าย มีกำรเผยแพร่ควำมรู้ท่ีเป็นผลงำนวิชำกำรต่อเนื่องจำกกำรสอบสวนโรคหรือกำรตอบสนอง 
ทำงสำธำรณสุข 
แนวทาง 1)  เผยแพรใ่ นวำรสำรระดับเขต หรืองำนสัมมนำวชิ ำกำร ระดับจังหวดั   [B]
การประเมิน  2)  เผยแพรใ่ นวำรสำรหรือเวทวี ิชำกำร ระดบั ภมู ิภำค/ประเทศ/ภำยนอกประเทศ [S]

ขอ้ มลู /หลักฐาน จ�ำแนกเป็นระดับทีน่ �ำเสนอ

ผลงานการน�าเสนอความรู้ เป็นผลงำนวิชำกำรจำกกำรเฝ้ำระวัง สอบสวนโรคหรือกำรตอบสนอง 
ทำงสำธำรณสุข ตัวอยำ่ งผลงำนอำจแสดงไดด้ งั นี้ 
1.  บทควำมวิชำกำร หรือบทวิจำรณ์ ในวำรสำรวิชำกำรในระดับจงั หวัดขนึ้ ไป 
2.  รำยงำนวิชำกำรฉบบั สมบูรณท์ ไี่ ด้รับกำรตีพิมพ์เผยแพร่ 
3.  บทคัดยอ่  ของผลงำนที่ไดร้ บั กำรตีพิมพ์ในเอกสำรประกอบกำรสัมมนำวิชำกำร 

1.  ประเมินระดับผลงำนที่ท�ำได้ตำมเกณฑ์ในรอบ 2 ปี โดยนับจำกเดือนก่อนเดือนท่ีท�ำกำรประเมิน 
  ย้อนหลังขน้ึ ไป 
2.  ประเมินจำกกิจกรรมของ JIT ที่ด�ำเนินกำรต่อเนื่องหรือสังเครำะห์จำกผลงำน กำรสอบสวนโรค 
  หรอื กำรตอบสนองทำงสำธำรณสขุ  เชน่  กำรสงั เครำะหค์ วำมร ู้ กำรประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ ำรเพอ่ื ศกึ ษำ 
  กำรระบำด (Outbreak conference) ชุมชนนักปฏิบัติ (Community of practice, CoP) 
  กำรวิจำรณร์ ำยงำนสอบสวนโรค ฯลฯ 
3.  ประเมินจำกผลงำนวชิ ำกำรของสมำชิก JIT ท่จี ัดท�ำและเผยแพร่ 

-  ส�ำเนำบทควำม หรือ Reprint
-  ส�ำเนำบทคัดย่อทต่ี ีพิมพใ์ นหนังสอื บทคัดยอ่ ของกำรประชุมวิชำกำร 
-  รำยงำนฉบบั สมบูรณ ์ (Full Report) 
-  บนั ทึก/หนงั สอื ตอบรับกำรเผยแพร่เอกสำร 

มาตรฐานและแนวทางปฏิบตั ิงานทีมเฝ้าระวงั สอบสวนควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ 2563 39


Click to View FlipBook Version