190 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563 โรค อ�าเภอ/ศบส. จังหวดั /กทม. เขต สว่ นกลาง กา� หนดเวลา
ไข้ปวดขอ้ ยุงลาย การสอบสวนโรค
(Chikungunya - พบผู้ปว่ ยสงสยั เป็นกลุม่ ก้อน - พบผู้ปว่ ยสงสัยตอ่ เนอ่ื ง - พบผู้ปว่ ยสงสยั ต่อเนื่อง - ผปู้ ่วยยืนยนั เปน็ กลมุ่ กอ้ น (B=Best practice,
fever) ต้งั แต่ 2 รำยขึ้นไป เปน็ เวลำ 4 สัปดำห ์ เป็นเวลำ 8 สัปดำห ์ ต้งั แต ่ 2 รำยข้นึ ไป ท่ีมี
โรคติดเชื้อไวรัสซกิ า ในตำ� บลเดยี วกนั ในต�ำบลเดียวกนั อำกำรรนุ แรง เชน่ สมอง L=Law)
(Zika virus ใน 2 สัปดำห ์ โดยมผี ู้ป่วย อกั เสบ GBS หรือเสยี ชวี ติ สอบสวนภำยใน 24 ช่ัวโมง
infection) ยืนยนั อย่ำงนอ้ ย 1 รำย - ผู้ป่วยยืนยันกำรตดิ เชือ้ หลงั รบั แจ้ง (อำ� เภอ, B)
- พบผู้ป่วยยนื ยนั รำยใหม่ ดงั ต่อไปน้ี - ผปู้ ่วยยืนยันกำรตดิ เช้อื - ผปู้ ่วยยนื ยันกำรตดิ เชื้อ สอบสวนภำยใน 24 ช่วั โมง
มาลาเรีย ในพื้นท่ที ีไ่ มเ่ คยมีรำยงำน ดงั ต่อไปน้ี ดังตอ่ ไปน้ี หลงั รับแจ้ง (อ�ำเภอ, B)
(Malaria) ผ้ปู ่วย 1) หญิงตง้ั ครรภ์
- ผปู้ ว่ ยสงสัยเปน็ กลมุ่ กอ้ น 2) Microcephaly/ 1) Microcephaly/ 1) Microcephaly/Birth สอบสวนภำยใน 72 ชัว่ โมง
ต้งั แต ่ 2 รำยขน้ึ ไป Birth defect defect ตัง้ แต ่ 2 รำย หลงั รบั แจ้ง (อำ� เภอ, B)
- หญิงต้งั ครรภ์สงสยั ติด Birth defect ข้นึ ไปในอ�ำเภอเดียวกัน
ไวรสั ซิกำทุกรำย 3) GBS/Neuro infection 2) GBS/Neuro infection
- ผปู้ ่วยเปน็ กลุ่มก้อนตั้งแต่ - ผู้ปว่ ยเปน็ กลุม่ ก้อน ตั้งแต ่ 2) GBS/Neuro infection
- ผปู้ ่วยยนื ยนั เปน็ กลุม่
2 รำยขน้ึ ไป ทม่ี ผี ลตรวจ 5 รำยขึน้ ไป ที่มผี ลตรวจ
ยืนยันอย่ำงน้อย 1 รำย ยนื ยนั อยำ่ งนอ้ ย 1 รำย กอ้ นทพี่ บเปน็ กำรระบำด
ตง้ั แต ่ 2 จงั หวัดทีม่ ีพืน้ ท่ีตดิ
กัน ภำยใน 1 สปั ดำห์
- ผปู้ ่วยยนื ยนั ทกุ รำย - ผูป้ ว่ ยยนื ยนั เสียชีวิตทกุ รำย - ผูป้ ่วยยนื ยัน Plasmodium - จงั หวดั ท่มี ผี ้ปู ว่ ยเกิน
- ผู้ป่วยติดเช้อื ในอ�ำเภอ knowlesi ทุกรำย คำ่ มธั ยฐำน 5 ปยี อ้ นหลงั
ตอ่ เนอื่ ง 4 สปั ดำห์
เดียวกันต่อเน่อื ง 4 สัปดำห์ - ผปู้ ว่ ยติดเชอ้ื ในจังหวดั
เดียวกนั ตอ่ เนอ่ื ง 4 สัปดำห์ - ผู้ปว่ ยยนื ยันติดเชือ้ มำลำเรีย
สำยพนั ธ์ุใหม่
โรค อา� เภอ/ศบส. จงั หวดั /กทม. เขต สว่ นกลาง ก�าหนดเวลา
โรคเท้าช้างและผทู้ ี่ - กรณตี ิดเชอ้ื ดว้ ยสปชี ียใ์ หม ่ การสอบสวนโรค
ติดเช้อื ไม่แสดงอาการ - กรณีคนไทยทไี่ ม่แสดงอำกำร - ผ้ปู ่วยคนไทยท่ีไม่แสดงอำกำร - ผู้ป่วยไทยทตี่ รวจพบ (B=Best practice,
(Filariasis) ตรวจพบไมโครฟลิ ำเรยี หรอื ตรวจพบไมโครฟิลำเรียหรือ ไมโครฟิลำเรีย/แอนตเิ จน ทุกรำย
แอนติเจนพยำธิโรคเท้ำชำ้ ง ของพยำธโิ รคเท้ำชำ้ งตง้ั แต่ หมำยเหต ุ : L=Law)
โรคลซิ มาเนียสสิ แอนตเิ จนพยำธโิ รคเทำ้ ชำ้ ง สปีชยี เ์ กำ่ ได้แก่ สอบสวนภำยใน 1 สปั ดำห์
(Leishmaniasis; ทุกรำย W. bancrofti, B. malayi หลงั รับแจง้ (อ�ำเภอ, B)
CL, VL, MCL) - ผูป้ ว่ ยปรำกฎอำกำรท่เี ข้ำได ้
สครบั ไทฟสั กบั อำกำรของโรคเทำ้ ช้ำง ตง้ั แต ่ 2 อ�ำเภอ ในจังหวัด 2 จังหวัด ในเขตเดียวกนั
(และมวิ รีนไทฟัส) (มปี ระวตั เิ ขำ้ พนื้ ที่แพรโ่ รค เดยี วกันและมีควำมเชื่อมโยง และมีควำมเช่ือมโยงทำง
(Scrub typhus/ และประวัติกำรอกั เสบของ ทำงระบำดวิทยำ ระบำดวิทยำ
Murine typhus) ต่อมน้ำ� เหลอื งเปน็ ๆ หำย ๆ)
มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 191 - ผูป้ ่วยสงสัยทกุ รำย - ผู้ปว่ ยยืนยนั ทุกรำย - ผู้ป่วยยนื ยนั ทุกรำย - ผู้ปว่ ยยนื ยันเป็นกลุ่มกอ้ น สอบสวนภำยใน 72 ชั่วโมง
2 รำยข้ึนไป ภำยใน 1 เดือน หลงั รบั แจ้ง (อ�ำเภอ, B)
ท่ีมีควำมเช่ือมโยงทำงระบำด
วิทยำ
- กรณีที่มีผู้ป่วยสงสัยมำกกว่ำ - ผ้ปู ว่ ยสงสัยเสียชีวิตทุกรำย - ผ้ปู ่วยยนื ยันเสียชวี ิตทกุ รำย - พบมีกำรระบำดต่อเน่ือง สอบสวนภำยใน 1 สัปดำห์
คำ่ คำ่ มธั ยฐำน 5 ป ี ยอ้ นหลงั - ผ้ปู ่วยสงสัยเป็นกลุ่มก้อน - กรณที ่ีมีผ้ปู ่วยมำกกวำ่ คำ่ นำนกว่ำ 2 เดือน หลังรบั แจง้ (อ�ำเภอ, B)
ต้ังแต ่ 2 รำย ที่มคี วำม คำ่ มัธยฐำน 5 ปยี ้อนหลงั
เชื่อมโยงทำงระบำดวิทยำ ในจังหวดั เดยี วกัน
- กรณที ี่มผี ู้ปว่ ยสงสัยมำกกว่ำ
ค่ำค่ำมัธยฐำน 5 ปี ย้อนหลัง
ในอำ� เภอเดยี วกนั
192 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563 โรค อา� เภอ/ศบส. จังหวดั /กทม. เขต ส่วนกลาง กา� หนดเวลา
ไข้ด�าแดง - ผปู้ ่วยสงสัยเป็นกลุ่มกอ้ น การสอบสวนโรค
(Scarlet fever) - ผู้ป่วยสงสัยเป็นกลุ่มกอ้ น - เป็นกำรระบำดทีม่ ีภำวะ - เปน็ กำรระบำดท่มี ีภำวะ (B=Best practice,
ตงั้ แต่ 2 รำยขน้ึ ไป ตง้ั แต ่ 2 สถำนทข่ี ึ้นไป แทรกซ้อนตำมมำ เช่น แทรกซอ้ นเปน็ กล่มุ ก้อน
หัด จำกสถำนทเี่ ดยี วกนั เชน่ จำกจังหวัดเดยี วกนั Post streptococcal ตำมมำ เช่น Post L=Law)
(Measles) โรงเรียน ศูนยร์ บั เล้ียงเดก็ ภำยใน 4 สปั ดำห์ glomerulonephritis streptococcal สอบสวนภำยใน 24 ชัว่ โมง
หดั เยอรมนั เปน็ ตน้ ภำยใน 1 สัปดำห์ (PSGN) glomerulonephritis หลังรบั แจ้ง (อำ� เภอ, B)
(Rubella) - ผปู้ ่วยสงสัยทุกรำย (PSGN)
สอบสวนภำยใน 24 ชวั่ โมง
- ผู้ปว่ ยสงสัยทกุ รำย - กำรระบำดเปน็ กลมุ่ กอ้ น หลงั รบั แจ้ง (อำ� เภอ, B)
- ผู้ปว่ ยสงสัย Congenital ภำยใน 4 สัปดำห์ และมี สอบสวนภำยใน 48 ช่ัวโมง
กำรระบำดข้ำมเขต หลงั รบั แจ้ง (อ�ำเภอ, B)
Rubella Syndrome
ทุกรำย - พบผปู้ ่วยสงสยั เปน็ กลุม่ ก้อน - พบผปู้ ่วยสงสัยเป็นกลุ่มกอ้ น - มีกำรระบำด 2 จังหวัด
ต้ังแต ่ 2 รำย ภำยใน 21 วัน ตั้งแต ่ 2 เหตุกำรณ์ทีม่ คี วำม ตดิ กัน ทีม่ ีควำมสมั พันธ ์
ในสถำนที่เดยี วกนั หรอื มี เชอื่ มโยงกนั ทำงระบำดวิทยำ
ควำมเชือ่ มโยงกัน - กรณเี สียชีวติ ทุกรำย - กรณเี สยี ชีวติ ตั้งแต่ 2 รำย/
- กรณเี สียชวี ิตทุกรำย - กรณีควบคุมกำรระบำด จงั หวดั
ไมไ่ ด้ภำยใน 42 วัน
- พบผูป้ ว่ ยสงสยั เปน็ กลมุ่ กอ้ น - พบผู้ปว่ ยสงสัยเปน็ กลุ่มก้อน - พบผปู้ ่วยยืนยนั กำรระบำด
ต้งั แต่ 2 รำยภำยใน 21 วัน ต้งั แต ่ 2 เหตุกำรณท์ ม่ี ีควำม ใน 2 จังหวดั ทม่ี พี ้ืนท ่ี
ในสถำนทเ่ี ดียวกนั หรือมี เชือ่ มโยงกัน ติดต่อกนั
ควำมเช่อื มโยงกนั - ผู้ป่วยยืนยัน Congenital - กรณีเสียชวี ิตต้งั แต ่ 2 รำย/
- ผูป้ ่วยยืนยัน Congenital Rubella Syndrome จงั หวัด
Rubella Syndrome ทกุ รำย ตง้ั แต ่ 2 รำยในจงั หวดั เดยี วกนั
- กรณีเสยี ชีวติ ทกุ รำย ภำยในรอบป ี
- กรณเี สยี ชวี ิตทกุ รำย
- กรณีควบคุมกำรระบำด
ไมไ่ ดภ้ ำยใน 42 วัน
โรค อ�าเภอ/ศบส. จังหวัด/กทม. เขต สว่ นกลาง ก�าหนดเวลา
คอตบี การสอบสวนโรค
(Anterior nasal/ - ผูป้ ่วยสงสยั ทกุ รำย หรอื - ผปู้ ่วยยนื ยันทุกรำยท่พี บเช้อื - ผู้ปว่ ยยืนยนั เป็นกลุ่มก้อน - ผปู้ ว่ ยยนื ยนั 5 รำยข้นึ ไป (B=Best practice,
Pharygotonsilla/ ในกรณีตดิ เชอ้ื Corynebacterium ตงั้ แต่ 2 รำยข้ึนไปในจังหวัด ในจังหวัด เดยี วกนั ภำยใน
Laryngeal Corynebacterium เดียวกัน กรณเี สียชีวิตทุกรำย 14 วัน กรณีมกี ำรเสียชีวิต L=Law)
diphtheria) diphtheriae ทเ่ี ปน็ สำยพันธ์ุ เป็นกล่มุ ก้อน 2 รำยข้นึ ไป สอบสวนภำยใน 24 ชัว่ โมง
คางทมู diphtheriae ทเี่ ป็นสำยพันธ์ุ ทีส่ ร้ำง toxin ภำยใน 14 วัน หลงั รับแจง้ (อำ� เภอ, B)
(Mumps) ท่สี ร้ำง toxin ในกระแส - กรณเี สียชีวติ ทุกรำย
บาดทะยัก เลอื ดทกุ รำย
(Tetanus)
บาดทะยกั - พบผู้ปว่ ยสงสยั เป็นกลุ่มก้อน - พบผู้ป่วยยนื ยันเปน็ กลมุ่ กอ้ น - พบผปู้ ่วยยืนยนั เป็นกล่มุ ก้อน - พบผูป้ ่วยยนื ยนั กำรระบำด สอบสวนภำยใน 72 ช่ัวโมง
ในเด็กแรกเกิด ต้งั แต ่ 2 รำยข้นึ ไป ในสถำนท่ี ตัง้ แต่ 10 รำยขึ้นไป ต้ังแต ่ 2 เหตกุ ำรณท์ ม่ี ีควำม ใน 2 จงั หวดั ท่ีมีพ้ืนท่ีติดตอ่ หลงั รบั แจง้ (อ�ำเภอ, B)
มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 193 (Tetanus เดยี วกันหรอื มีควำมเชือ่ มโยง ในสถำนที่เดยี วกนั หรอื มคี วำม เช่อื มโยงกนั กนั
neonatorum) กนั ภำยใน 1 เดอื น เชือ่ มโยงกนั ภำยใน 1 เดือน สอบสวนภำยใน 7 วัน
- ผปู้ ว่ ยยืนยันท่ีมีภำวะ - พบผปู้ ่วยยืนยนั เปน็ กลุ่มกอ้ น หลังรบั แจ้ง (อ�ำเภอ, B)
แทรกซ้อนทสี่ �ำคัญ ไดแ้ ก ่ ท่ีมคี วำมเช่อื มโยงทำงระบำด สอบสวนภำยใน 7 วัน
หชู ั้นในอักเสบ สมองอักเสบ วทิ ยำของกำรระบำด 2 แหง่ หลังรับแจ้ง (อ�ำเภอ, B)
จำกเชอื้ ไวรสั Mumps ทกุ รำย ข้นึ ไป
(โดยแพทย์วนิ จิ ฉัย)
- ผู้ปว่ ยสงสยั ทุกรำย - ผูป้ ว่ ยยนื ยัน 2 รำยขน้ึ ไป/ - ผ้ปู ว่ ยยืนยนั 5 รำยขึ้นไป/
ตอ่ รอบป ี ต่อรอบปใี นจังหวดั
- กรณีผู้ป่วยสงสยั เสียชวี ิต
ทุกรำย
- ผปู้ ่วยสงสัยทุกรำย - ผู้ป่วยยนื ยันทกุ รำย - ผู้ปว่ ยยนื ยนั 2 รำยขนึ้ ไป - ผปู้ ว่ ยยืนยนั 2 รำยขึน้ ไป
- กรณีผูป้ ่วยสงสยั เสยี ชีวติ ในจงั หวัดเดียวกนั ในจังหวดั เดยี วกนั
ทกุ รำย - กรณีผปู้ ่วยสงสยั เสียชีวิต
ทุกรำย
194 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563 โรค อา� เภอ/ศบส. จังหวัด/กทม. เขต สว่ นกลาง ก�าหนดเวลา
อาการอัมพาต - ผู้ปว่ ยทมี่ ีอำกำร AFP การสอบสวนโรค
กลา้ มเนอ้ื (B=Best practice,
อ่อนปวกเปียก ทุกรำย
เฉียบพลัน L=Law)
(Acute Flaccid
Paralysis: AFP) - ผปู้ ว่ ย AFP 2 รำยขนึ้ ไป - ผ้ปู ่วย AFP 5 รำยข้ึนไป - ผู้ป่วย AFP 5 รำยข้นึ ไป สอบสวนภำยใน 48 ช่ัวโมง
โปลิโอ ท่มี คี วำมเช่ือมโยงทำง ทม่ี ีควำมเช่ือมโยงทำง ท่มี คี วำมเช่อื มโยงทำง หลังรับแจ้ง (อำ� เภอ, B)
(Wild type Polio ระบำดวิทยำ ในเวลำ 1 เดือน ระบำดวิทยำในเวลำ 1 เดอื น
or VDPVs) ระบำดวทิ ยำในเวลำ 1 เดือน หรอื ในอ�ำเภอเดยี วกนั หรอื ในอ�ำเภอเดียวกนั
หรอื ในต�ำบลเดียวกัน
สกุ ใส
(Chickenpox) - ผู้ปว่ ยทม่ี ีอำกำร AFP - ผปู้ ว่ ย AFP เสียชีวติ ทกุ รำย - ผูป้ ่วย VAPP - พบสำยพันธ์วุ ัคซีนทยั ป์ 2 สอบสวนภำยใน 48 ช่ัวโมง
ทุกรำย - ผ้ปู ว่ ย VAPP - พบสำยพนั ธ์วุ คั ซีนทยั ป ์ 2 (Sabin 2) ในผู้ปว่ ย AFP หลงั รบั แจง้ (อำ� เภอ, B)
- พบสำยพนั ธุ์วคั ซีนทัยป ์ 2 (Sabin 2) ในผู้ป่วย AFP หรือสิง่ แวดลอ้ ม ไม่ก�ำหนดเวลำ
(Sabin 2) ในผปู้ ว่ ย AFP หรอื หรอื ส่ิงแวดลอ้ ม
ส่ิงแวดลอ้ ม - ผู้ปว่ ยยืนยันโปลิโอ (Wild - ผปู้ ่วยยืนยนั โปลโิ อ (Wild
- ผปู้ ว่ ยยืนยันโปลิโอ (Wild type Polio or VDPVs) type Polio or VDPVs)
type Polio or VDPVs) ทกุ รำย ทกุ รำย
ทกุ รำย
- พบผู้ป่วยสงสัยเป็นกลุ่มก้อน - พบผู้ป่วยสงสัยเป็นกลุ่มก้อน - มีกำรระบำดในสถำนพยำบำล
ต้ังแต่ 5 รำยข้ึนไป ในสถำนท่ี ตั้งแต่ 2 เหตุกำรณ์ท่ีมีควำม 2 แห่งข้ึนไป ท่ีมีควำมสัมพันธ์
เดียวกันหรือมีควำมเช่ือมโยง เช่ือมโยงกัน ทำงระบำดวิทยำ
กนั ภำยใน 21 วัน - พบผู้ป่วยสงสัยเป็นกลุ่มก้อน - กรณีเสียชีวิตเป็นกลุ่มก้อน
- พบผู้ป่วยสงสัยเป็นกลุ่มก้อน ตั้งแต่ 2 รำยข้ึนไป ท่ีสงสัย ต้ังแต่ 2 รำยขึ้นไป ที่มีควำม
ต้ังแต่ 2 รำยข้ึนไป ที่สงสัย เปน็ กำรตดิ เชอื้ ในสถำนพยำบำล สมั พนั ธท์ ำงระบำดวทิ ยำ
เปน็ กำรตดิ เชอื้ ในสถำนพยำบำล - กรณีเสียชวี ิตทุกรำย
โรค อ�าเภอ/ศบส. จังหวดั /กทม. เขต ส่วนกลาง กา� หนดเวลา
อาการภายหลัง การสอบสวนโรค
ไดร้ บั การสรา้ งเสริม - เป็นเหตกุ ำรณภ์ ำยหลังได้รับ - เปน็ เหตุกำรณ์ภำยหลงั ได้รบั - เปน็ อำกำรหรือภำวะ - เป็นอำกำรหรือภำวะ (B=Best practice,
ภมู คิ มุ้ กันโรค (AEFI) กำรสรำ้ งเสรมิ ภมู ิค้มุ กันโรค กำรสร้ำงเสรมิ ภมู ิคุ้มกนั โรค ที่สรำ้ งควำมกงั วลหรือ ท่สี รำ้ งควำมกังวลหรือ
ทีร่ ำ้ ยแรง (Serious AEFI) ท่ีร้ำยแรง (Serious AEFI) ควำมตระหนกอย่ำงมำกต่อ ควำมตระหนกอยำ่ งมำกต่อ L=Law)
ไอกรน ไดแ้ ก่ เสยี ชวี ติ อำจเปน็ ไดแ้ ก ่ เสียชีวิต อำจเป็น ครอบครัวและชมุ ชน ครอบครัวและชมุ ชน โดย สอบสวนภำยใน 24 ช่วั โมง
(Pertussis) อนั ตรำยถงึ ชวี ิต รบั ไวร้ ักษำ อันตรำยถงึ ชวี ติ รบั ไวร้ กั ษำ - มผี ปู้ ว่ ยเปน็ กลมุ่ ก้อน ผู้บรหิ ำรกรมควบคุมโรค หลงั รบั แจ้ง (อำ� เภอ, B)
ในโรงพยำบำล นำนตัง้ แต ่ ในโรงพยำบำล นำนตง้ั แต ่ - จ�ำนวนกำรเกิด AEFI สูงกว่ำ มอบหมำยให้ลงพื้นท่ี
3 วัน ข้ึนไป พกิ ำรถำวรหรอื 3 วันขึน้ ไป พกิ ำรถำวรหรือ มัธยฐำน 5 ปีทีผ่ ำ่ นมำของ สอบสวนภำยใน 24 ช่วั โมง
ไร้ควำมสำมำรถ มคี วำม ไรค้ วำมสำมำรถ มีควำม พืน้ ที่ - มีผู้ปว่ ยเป็นกล่มุ ก้อน หลงั รบั แจ้ง (อ�ำเภอ, B)
ผิดปกติแต่กำ� เนิด ผิดปกตแิ ต่ก�ำเนิด - อำจจะเกีย่ วข้องกบั กำร - จำ� นวนกำรเกิด AEFI สูงกวำ่
มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 195 - อำจจะเกี่ยวขอ้ งกบั กำร - อำจจะเก่ียวข้องกับกำร จดั กำรใหว้ คั ซีน
บริหำรจัดกำรใหว้ คั ซีน บรหิ ำรจัดกำรให้วคั ซนี มธั ยฐำน 5 ปที ่ผี ่ำนมำของ
พื้นทรี่ ะดบั เขต
- เป็นอำกำรหรือภำวะทีส่ ร้ำง - เป็นอำกำรหรอื ภำวะท่สี ร้ำง
ควำมกงั วลหรอื ควำมตระหนก ควำมกงั วลหรือควำมตระหนก
อยำ่ งมำกตอ่ ครอบครวั และ อย่ำงมำกตอ่ ครอบครวั และ
ชุมชน ชุมชน
- ผู้ปว่ ยเปน็ กลมุ่ ก้อน - ผปู้ ่วยเป็นกลุม่ กอ้ น
- จำ� นวนกำรเกิด AEFI - จ�ำนวนกำรเกดิ AEFI สูงกว่ำ
สูงกว่ำค่ำมัธยฐำน 5 ป ี คำ่ มธั ยฐำน 5 ปีท่ผี ่ำนมำของ
ทผ่ี ำ่ นมำของพื้นท่ี พ้นื ท ี่
- ผปู้ ่วยสงสัยทกุ รำย - พบผู้ป่วยยืนยันเป็นกลุ่มก้อน - พบผู้ป่วยยืนยันเป็นกลุ่มก้อน - พบผปู้ ่วยยืนยนั เปน็
ต้ังแต่ 2 รำยข้ึนไปในสถำนท ่ี ต้ังแต่ 5 รำยข้ึนไปในสถำนท ี่ กลุม่ ก้อน 10 รำยขน้ึ ไป
เดียวกันหรือมีควำมเช่ือมโยง เดียวกันหรือมีควำมเชื่อมโยง ในสถำนทีเ่ ดียวกนั หรือ
กนั ภำยใน 1 เดือน กนั ภำยใน 1 เดอื น มีควำมเชอ่ื มโยงกนั ภำยใน
- กรณีผูป้ ่วยสงสัยเสยี ชวี ติ - กรณีผูป้ ่วยสงสยั เสยี ชวี ติ 1 เดอื น
ทกุ รำย ทุกรำย
196 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563 โรค อา� เภอ/ศบส. จงั หวัด/กทม. เขต ส่วนกลาง ก�าหนดเวลา
- ผ้ปู ว่ ย HIV ดือ้ ยำทกุ รำย - ผ้ปู ่วย HIV ดื้อยำทุกรำย ที่มี การสอบสวนโรค
เอชไอวี - พบกำรตดิ เชอ้ื จำกแมส่ ลู่ กู - พบผ้ปู ่วยดื้อยำตง้ั แต ่ (B=Best practice,
(HIV) ทุกรำย 3 รำยขึ้นไป ท่มี ีควำม ท่มี ีประวตั กิ ำรใช ้ PrEP ประวัตกิ ำรใช ้ PrEP
L=Law)
- ตรวจสอบแบบสอบสวน ไมก่ ำ� หนดเวลำ
เฉพำะรำย และกำรวนิ ิจฉัย
- พบผู้ป่วยยนื ยนั เป็นกลุ่มก้อน เชือ่ มโยงทำงระบำดวิทยำ
ตง้ั แต่ 3 รำยข้นึ ไป ท่มี คี วำม
เช่อื มโยงทำงระบำดวทิ ยำ
ซฟิ ลิ สิ แตก่ �าเนดิ - ผ้ปู ่วยเขำ้ ขำ่ ยทกุ รำย - ตรวจสอบแบบสอบสวน - ตรวจสอบแบบสอบสวน สอบสวนภำยใน 1 เดือน
(Congenital Syphilis) เฉพำะรำย และกำรวนิ จิ ฉัย เฉพำะรำย และกำรวนิ จิ ฉยั หลงั รับแจง้ (อำ� เภอ, B)
ซฟิ ิลสิ - พบผปู้ ว่ ยยืนยันเปน็ กลุ่มกอ้ น - พบผู้ปว่ ยยืนยนั มำกกวำ่ - พบผปู้ ่วยสูงกว่ำ ค่ำมัธยฐำน - พบผู้ป่วยยนื ยนั มำกกวำ่ สอบสวนภำยใน 1 เดือน
(Syphilis) ต้ังแต่ 2 รำย ที่มีควำม 1 อำ� เภอ ทีม่ คี วำมเชอื่ มโยง 5 ปยี อ้ นหลงั ในจงั หวดั 1 จังหวดั ทม่ี คี วำมเชือ่ มโยง หลังรับแจง้ (อำ� เภอ, B)
หนองใน เชื่อมโยงทำงระบำดวิทยำ ทำงระบำดวทิ ยำ เดียวกนั ในรอบรำยเดอื น ทำงระบำดวิทยำ สอบสวนภำยใน 1 สัปดำห์
(Gonorrhea, - เม่อื พบผู้ปว่ ยสงู กวำ่ หลังรับแจง้ (อ�ำเภอ, B)
Gonococcal คำ่ มธั ยฐำน 5 ปยี ้อนหลงั - พบผูป้ ่วยทไ่ี ด้รับกำรรกั ษำ
Urethritis) ในอำ� เภอเดยี วกนั ในรอบ ตำมมำตรฐำนแลว้ ไม่ไดผ้ ล
รำยเดือน และไดร้ ับกำรตรวจทำง
หอ้ งปฏบิ ัติกำรเบ้ืองตน้
- พบผูป้ ว่ ยยนื ยนั เป็นกลุ่มกอ้ น - พบผู้ป่วยยืนยนั เป็นกลุ่มกอ้ น - พบผูป้ ว่ ยท่ไี ดร้ ับกำรรกั ษำ สงสยั ว่ำเปน็ หนองในดอ้ื ยำ
ต้งั แต่ 2 รำย ทม่ี คี วำม ตง้ั แต ่ 2 รำย ทีม่ ีควำม ตำมมำตรฐำนแล้วไมไ่ ดผ้ ล กลมุ่ Azithromycin
เช่ือมโยงทำงระบำดวิทยำ เช่ือมโยงทำงระบำดวิทยำ และไดร้ บั กำรตรวจทำง 3rd generation
ห้องปฏบิ ตั กิ ำรเบอ้ื งต้น Cephalosporin
- พบผู้ปว่ ยสงสยั หนองใน สงสัยว่ำเป็นหนองในดือ้ ยำ
ดอื้ ยำกลุม่ Azithromycin กลมุ่ Azithromycin
3rd generation 3rd generation
Cephalosporin Cephalosporin
โรค อ�าเภอ/ศบส. จงั หวัด/กทม. เขต ส่วนกลาง กา� หนดเวลา
การสอบสวนโรค
(B=Best practice,
L=Law)
ตับอกั เสบ A และ E - พบผ้ปู ่วยสงสยั เป็นกลุ่มก้อน - พบผู้ปว่ ยสงสัยเป็นกลุ่มกอ้ น - พบผู้ป่วยสงสัยเปน็ กลมุ่ กอ้ น - พบผู้ปว่ ยสงสัยเปน็ กล่มุ ก้อน สอบสวนภำยใน 24 ชั่วโมง
(Acute Viral ตั้งแต่ 2 รำยขน้ึ ไป ในอำ� เภอ ตงั้ แต ่ 5 รำยขน้ึ ไป ภำยใน ตง้ั แต ่ 10 รำยข้นึ ไป ภำยใน ตง้ั แต ่ 10 รำยข้ึนไป หลังรบั แจง้ (อำ� เภอ, B)
hepatitis A/E) เดยี วกัน ภำยใน 1 เดอื น 1 เดือน 1 เดอื น ใน 2 อำ� เภอ ภำยใน 1 เดือน
- พบผู้ป่วยสงสยั เปน็ กลุ่มก้อน - พบผปู้ ่วยสงสยั เปน็ กล่มุ ก้อน ท่ีสงสยั แหลง่ โรคเดยี วกนั
ตงั้ แต่ 2 อำ� เภอขึน้ ไป ภำยใน ต้ังแต่ 2 อำ� เภอขึน้ ไป ภำยใน
1 เดอื น 1 เดือน ทส่ี งสัยแหล่งโรค
- กรณที ีห่ ำแหลง่ โรคไมไ่ ด้ เดยี วกนั
- กรณเี สยี ชีวติ ทุกรำย - กรณีเสียชีวติ 2 รำยขึ้นไป
มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 197 ตบั อักเสบ B และ C - พบผปู้ ่วยยนื ยันเปน็ กลมุ่ ก้อน - พบผู้ปว่ ยยืนยันเป็นกลมุ่ ก้อน - พบผู้ป่วยยนื ยนั เปน็ กลมุ่ กอ้ น - พบผปู้ ว่ ยยนื ยันเปน็ กลมุ่ กอ้ น สอบสวนภำยใน 24 ช่วั โมง
(Viral Hepatitis B/C) ตัง้ แต ่ 5 รำยขน้ึ ไป ทีส่ งสยั มำ ตงั้ แต ่ 5 รำยขนึ้ ไป ทส่ี งสยั มำ ตั้งแต่ 5 รำยข้ึนไปที ่ สงสยั มำ ตงั้ แต ่ 5 รำยขึน้ ไป ท่ีสงสัยมำ หลงั รบั แจ้ง (อ�ำเภอ, B)
จำกแหล่งเดียวกัน หรอื ม ี จำกแหล่งเดียวกัน หรือม ี จำกแหล่งเดยี วกนั หรือม ี จำกแหลง่ เดยี วกัน หรอื ม ี
ควำมสมั พันธก์ นั ทำงระบำด- ควำมสมั พนั ธก์ นั ทำงระบำด- ควำมสมั พนั ธ์กันทำงระบำด- ควำมสมั พนั ธ์กนั ทำงระบำด-
วิทยำ (epi-linkage) วทิ ยำ (epi-linkage) วทิ ยำ (epi-linkage) ต้ังแต่ วทิ ยำ (epi-linkage) ต้งั แต ่
2 อ�ำเภอข้ึนไป 2 จงั หวดั ขึน้ ไป
ตับอักเสบไมร่ ะบเุ ชอื้ - พบผปู้ ่วยยืนยนั เปน็ กลุ่มกอ้ น - พบผ้ปู ่วยยืนยันเปน็ กลุ่มก้อน - พบผปู้ ่วยยนื ยันเป็นกลุ่มกอ้ น - พบผปู้ ว่ ยยืนยนั เป็นกลุม่ ก้อน สอบสวนภำยใน 24 ช่วั โมง
สาเหตุ ตัง้ แต่ 2 รำยขึ้นไป ภำยใน ตั้งแต่ 5 รำยข้ึนไป ภำยใน ตง้ั แต ่ 5 รำยขึน้ ไป ภำยใน ตั้งแต ่ 5 รำยขึ้นไป ภำยใน หลงั รับแจ้ง (อำ� เภอ, B)
(Acute Hepatitis, 1 เดอื น ทม่ี คี วำมสัมพันธก์ นั 1 เดือน ทมี่ คี วำมสมั พันธ์กนั 1 เดือน ทม่ี ีควำมสมั พันธก์ ัน 1 เดือน ท่ีมีควำมสมั พนั ธ์กนั
Unspecified) ทำงระบำดวิทยำ ทำงระบำดวทิ ยำ ทำงระบำดวิทยำ ทำงระบำดวทิ ยำ
(epi-linkage) (epi-linkage) (epi-linkage) (epi-linkage)
ตงั้ แต่ 2 อำ� เภอขึ้นไป ตง้ั แต ่ 2 จังหวดั ขน้ึ ไป
198 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563 โรค อ�าเภอ/ศบส. จังหวัด/กทม. เขต ส่วนกลาง ก�าหนดเวลา
สารเคมีรัว่ ไหล การสอบสวนโรค
(B=Best practice,
Pneumoconiosis
(Silicosis, L=Law)
Asbestosis,
Byssinosis, Coal - เหตกุ ำรณท์ เี่ กิดระเบดิ - เหตกุ ำรณท์ ่ีเกิดระเบดิ - เหตกุ ำรณท์ เ่ี กิดระเบิด - กรณสี ถำนกำรณท์ ี่มแี นวโน้ม ตำม พ.ร.บ. ควบคุมโรค
mine) ไฟไหม้ ในสถำนประกอบกำร ไฟไหม้ ในสถำนประกอบกำร ไฟไหม้ ในสถำนประกอบกำร จะรุนแรงมำกข้นึ หรือ จำกกำรประกอบอำชพี
โรคพษิ ตะก่ัว หรือสถำนท่ีท�ำงำนท่ีมีโอกำส หรือสถำนท่ีท�ำงำนท่ีมีโอกำส หรือสถำนทที่ �ำงำนท่ีมีโอกำส ไมส่ ำมำรถควบคุมได้ และโรคจำกสง่ิ แวดลอ้ ม
ท�ำให้สำรเคมีร่วั ไหล ทำ� ใหส้ ำรเคมีรว่ั ไหล ทำ� ให้สำรเคมรี ว่ั ไหล เชน่ พ.ศ. 2562
โรคพิษโลหะหนัก เช่น เหมอื งแร ่ บอ่ ขยะ เช่น เหมอื งแร่ บอ่ ขยะ เหมอื งแร่ บอ่ ขยะ ทที่ ำ� ใหม้ ี
หรือสารตัวทา� ละลาย ผเู้ สียชวี ติ หรือต้องมีกำร
อนิ ทรยี ร์ ะเหยง่าย อพยพประชำกรไปอยู่ศนู ย ์
(VOCs) พกั พิงชั่วครำว
- ผู้ปว่ ยสงสยั ทกุ รำย - ผปู้ ่วยสงสยั ทกุ รำย - ผูป้ ่วยสงสยั ต้งั แต ่ 3 รำย - ผูป้ ว่ ยสงสยั ตัง้ แต่ 5 รำย ตำม พ.ร.บ. ควบคมุ โรค
ขึน้ ไป ขึ้นไป จำกกำรประกอบอำชพี
และโรคจำกส่งิ แวดลอ้ ม
พ.ศ. 2562
- ผปู้ ่วยสงสยั ทุกรำย - ผู้ป่วยสงสยั ทกุ รำย - ผูป้ ่วยสงสัยตั้งแต ่ 2 รำยขึ้นไป - ผู้ปว่ ยสงสยั ตง้ั แต ่ 3 รำยขน้ึ ไป ตำม พ.ร.บ. ควบคมุ โรค
- ผปู้ ่วยสงสยั ทุกรำย - ผปู้ ว่ ยสงสยั ทุกรำย และอยู่ในสถำนท่เี ดียวกันหรือ และอยูใ่ นสถำนท่ีเดียวกนั หรอื จำกกำรประกอบอำชพี
ใกลเ้ คยี งกันในช่วงเวลำ ใกล้เคยี งกันในชว่ งเวลำ และโรคจำกส่งิ แวดล้อม
12 เดอื น หรือในเดก็ อำย ุ 12 เดอื น หรือในเด็กอำยุ พ.ศ. 2562
นอ้ ยกวำ่ 5 ป ี ตง้ั แต่ 2 รำย น้อยกวำ่ 5 ปี ต้ังแต ่ 2 รำย
ขึ้นไป ขนึ้ ไป
- ผ้ปู ว่ ยสงสัยต้ังแต ่ 3 รำยข้ึนไป - ผ้ปู ่วยสงสยั ตั้งแต ่ 5 รำยขึน้ ไป ตำม พ.ร.บ. ควบคมุ โรค
จำกกำรประกอบอำชีพ
และโรคจำกส่ิงแวดลอ้ ม
พ.ศ. 2562
โรค อา� เภอ/ศบส. จังหวดั /กทม. เขต สว่ นกลาง ก�าหนดเวลา
โรคพษิ สาร - ผู้ปว่ ยเปน็ กลุ่มก้อนตงั้ แต ่ - ผปู้ ่วยเป็นกล่มุ กอ้ นตัง้ แต่ การสอบสวนโรค
ก�าจดั ศตั รพู ืช - ผปู้ ่วยท่ีมอี ำกำรรนุ แรง - ผู้ปว่ ยท่มี อี ำกำรรุนแรง (B=Best practice,
(อบุ ตั ิเหตุ เชน่ หกรด (รักษำตวั ในโรงพยำบำล (รักษำตัวในโรงพยำบำล 3 รำย 5 รำย
กระเดน็ เขำ้ ตำ/ หรอื เสียชีวติ ) ทกุ รำย หรอื เสียชวี ติ ) ทกุ รำย - ผ้ปู ่วยทม่ี อี ำกำรรุนแรง - ผปู้ ่วยท่ีมีอำกำรรนุ แรง L=Law)
กำรเจบ็ ป่วยจำก โดยไมร่ วมถงึ กรณีท่เี จตนำ โดยไมร่ วมถึงกรณีท่ีเจตนำ ตำม พ.ร.บ. ควบคุมโรค
พษิ สำรเคมีทำงกำร ฆ่ำตัวตำย ฆำ่ ตัวตำย (รกั ษำตวั ในโรงพยำบำล (รักษำตวั ในโรงพยำบำล จำกกำรประกอบอำชพี
เกษตร) หรือเสียชวี ติ ) ทุกรำย หรอื เสียชวี ิต) ทกุ รำย และโรคจำกสงิ่ แวดล้อม
โดยไมร่ วมถึงกรณที ี่เจตนำ โดยไม่รวมถงึ กรณีที่เจตนำ พ.ศ. 2562
ฆ่ำตัวตำย ฆำ่ ตวั ตำย
มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 199 เหตุอุบตั ิภัยสารเคมี - ผู้บำดเจ็บตงั้ แต ่ 5 รำย - ผบู้ ำดเจบ็ ต้งั แต ่ 5 รำย - ผ้บู ำดเจ็บตง้ั แต่ 10 รำย - ผบู้ ำดเจบ็ ตง้ั แต่ 15 รำย ตำม พ.ร.บ. ควบคมุ โรค
- ผบู้ ำดเจบ็ รนุ แรงตั้งแต่ 3 รำย - ผู้บำดเจ็บรุนแรงตั้งแต ่ 3 รำย - ผูบ้ ำดเจ็บรุนแรงต้ังแต ่ 5 รำย - ผบู้ ำดเจบ็ รนุ แรงตงั้ แต ่ 10 รำย จำกกำรประกอบอำชพี
- ผู้เสียชวี ิตต้งั แต่ 1 รำย - ผเู้ สยี ชีวติ ตงั้ แต ่ 1 รำย - ผเู้ สยี ชวี ติ ต้งั แต ่ 2 รำย - ผู้เสียชีวิตต้งั แต ่ 3 รำย และโรคจำกสง่ิ แวดลอ้ ม
พ.ศ. 2562
รงั สรี ่วั ไหล - เหตกุ ำรณ์ท่สี งสยั วำ่ - เหตกุ ำรณ์ท่สี งสยั ว่ำ - เหตกุ ำรณท์ สี่ งสยั ว่ำ - เหตุกำรณ์ที่สงสยั ว่ำ ตำม พ.ร.บ. ควบคมุ โรค
เกดิ จำกรังสีรว่ั ไหล เกดิ จำกรังสีรั่วไหล เกดิ จำกรงั สีรว่ั ไหล เกิดจำกรงั สรี ่วั ไหล จำกกำรประกอบอำชพี
และโรคจำกส่ิงแวดลอ้ ม
เหตกุ ารณ์อับอากาศ - ผู้ปว่ ยท่ีมีอำกำรรนุ แรง - ผปู้ ว่ ยท่ีมีอำกำรรุนแรง - ผู้ป่วยที่มีอำกำรรุนแรง - ผปู้ ว่ ยท่ีมอี ำกำรรุนแรง พ.ศ. 2562
เช่น ในรถยนต์ เตน็ ท์ (รักษำตวั ในโรงพยำบำล (รักษำตวั ในโรงพยำบำล (รกั ษำตวั ในโรงพยำบำล (รกั ษำตวั ในโรงพยำบำล ตำม พ.ร.บ. ควบคมุ โรค
ถ�ำ้ ท่อ อโุ มงค์ ห้องนำ�้ หรอื เสียชีวิต) ทกุ รำย หรอื เสียชวี ิต) ทกุ รำย หรอื เสยี ชีวิต) หรือเสยี ชวี ติ ) จำกกำรประกอบอำชพี
ทตี่ ดิ ต้ังเครือ่ งทำ� น�ำ้ อุ่น ตั้งแต่ 2 รำย ขึน้ ไป ตัง้ แต ่ 3 รำย ข้นึ ไป และโรคจำกสิ่งแวดลอ้ ม
ระบบแก๊ส โรงเพำะเห็ด พ.ศ. 2562
โรงหมกั ปยุ๋ บ่อน้�ำ
เป็นตน้
200 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563 โรค อ�าเภอ/ศบส. จงั หวัด/กทม. เขต ส่วนกลาง ก�าหนดเวลา
การสอบสวนโรค
(B=Best practice,
L=Law)
ฝุ่นละอองขนาดเล็ก เสียชีวิตโดยไม่ทรำบสำเหตุ ท่ีมี เสียชีวิตโดยไม่ทรำบสำเหตุ ที่มี เสียชีวิตโดยไม่ทรำบสำเหตุ ท่ีมี เสียชีวิตโดยไม่ทรำบสำเหตุ ท่ีมี ตำม พ.ร.บ. ควบคมุ โรค
อำกำรของโรคหอบหดื (Asthma) อำกำรของโรคหอบหดื (Asthma) อำกำรของโรคหอบหดื (Asthma) อำกำรของโรคหอบหดื (Asthma) จำกกำรประกอบอำชีพ
ด�าเนนิ การในพืน้ ทสี่ แี ดง โรคปอดอุดกัน้ เรื้อรัง (COPD) โรคปอดอุดกน้ั เร้ือรงั (COPD) โรคปอดอุดกน้ั เรอื้ รงั (COPD) โรคปอดอุดกัน้ เรอื้ รัง (COPD) และโรคจำกสง่ิ แวดลอ้ ม
ตำมแนวทำงกำร โรคหัวใจขำดเลอื ดเฉียบพลัน โรคหัวใจขำดเลอื ดเฉยี บพลนั โรคหวั ใจขำดเลือดเฉยี บพลัน โรคหัวใจขำดเลือดเฉยี บพลนั พ.ศ. 2562
สอบสวนเหตกุ ำรณ ์ (Acute Coronary Disease: (Acute Coronary Disease: (Acute Coronary Disease: (Acute Coronary Disease:
ทเี่ กีย่ วเน่ืองกับมลพษิ ACD) ACD) ACD) ACD)
อำกำศจำกฝนุ่ ละออง ที่ยนื ยันแลว้ ว่ำไมไ่ ดม้ สี ำเหตุ ท่ียนื ยันแลว้ ว่ำไม่ได้มสี ำเหตุ ท่ียืนยันแลว้ ว่ำไมไ่ ดม้ สี ำเหตุ ทีย่ ืนยนั แล้ววำ่ ไมไ่ ด้มีสำเหตุ
ขนำดเลก็ จำกกำรติดเช้อื จำกกำรตดิ เชอ้ื จำกกำรติดเช้อื จำกกำรติดเช้อื
ผู้ปว่ ยโรคหอบหืด (Asthma) ผปู้ ว่ ยโรคหอบหดื (Asthma) ผปู้ ว่ ยโรคหอบหืด (Asthma) ผู้ปว่ ยโรคหอบหดื (Asthma)
โรคปอดอดุ กนั้ เรอ้ื รัง (COPD) โรคปอดอุดกนั้ เร้ือรงั (COPD) โรคปอดอุดก้ันเรือ้ รงั (COPD) โรคปอดอุดกัน้ เร้ือรงั (COPD)
โรคหวั ใจขำดเลือดเฉยี บพลัน โรคหวั ใจขำดเลือดเฉยี บพลนั โรคหวั ใจขำดเลอื ดเฉียบพลัน โรคหวั ใจขำดเลือดเฉยี บพลัน
(Acute.Coronary Disease:. (Acute. Coronary Disease:. (Acute.Coronary Disease:. (Acute Coronary Disease:.
ACD) ทมี่ อี ำกำรรนุ แรง ACD) ที่มีอำกำรรนุ แรง ACD) ท่มี ีอำกำรรนุ แรง ACD) ที่มีอำกำรรุนแรง
เขำ้ รับกำรรักษำเปน็ ผปู้ ว่ ยใน เข้ำรบั กำรรกั ษำเป็นผปู้ ว่ ยใน เข้ำรับกำรรกั ษำเป็นผปู้ ว่ ย เขำ้ รับกำรรักษำเป็นผปู้ ว่ ยใน
(Inpatient) จ�ำนวน 2 รำย (Inpatient) จำ� นวน 2 รำย ใน (Inpatient) จำ� นวน 2 รำย (Inpatient) จำ� นวน 2 รำย
ขน้ึ ไป ภำยใน 1 วัน ข้ึนไป ภำยใน 1 วนั ขึน้ ไป ภำยใน 1 วนั ข้ึนไป ภำยใน 1 วนั
จำกสถำนท่ีเดียวกัน เชน่ จำกสถำนทเี่ ดียวกัน เชน่ จำกสถำนทเี่ ดียวกัน เช่น จำกสถำนที่เดยี วกนั เช่น
โรงเรียน โรงงำน สถำนท่ี โรงเรียน โรงงำน สถำนท่ี โรงเรยี น โรงงำน สถำนที่| โรงเรียน โรงงำน สถำนท ่ี
ท�ำงำน ชมุ ชน (ระดบั หม่บู ำ้ น) ท�ำงำน ชุมชน (ระดับหมบู่ ำ้ น) ท�ำงำน ชมุ ชน (ระดับหมบู่ ำ้ น) ทำ� งำน ชุมชน (ระดบั หมูบ่ ำ้ น)
โรค อา� เภอ/ศบส. จงั หวัด/กทม. เขต ส่วนกลาง ก�าหนดเวลา
อบุ ตั ิเหตจุ ราจรทางบก การสอบสวนโรค
(B=Best practice,
L=Law)
- ผปู้ ว่ ยกล่มุ อำกำร Allergy - ผปู้ ่วยกลุ่มอำกำร Allergy - ผูป้ ่วยกลุ่มอำกำร Allergy - ผู้ปว่ ยกล่มุ อำกำร Allergy
attack จ�ำนวน 10 รำยข้ึนไป attack จ�ำนวน 10 รำยขน้ึ ไป attack จ�ำนวน 10 รำยขึ้นไป attack จ�ำนวน 10 รำยข้นึ ไป
จำกสถำนทเ่ี ดียวกนั เช่น จำกสถำนท่ีเดียวกัน เช่น จำกสถำนทเี่ ดยี วกัน เช่น จำกสถำนทเ่ี ดียวกนั เช่น
โรงเรียน โรงงำน โรงเรยี น โรงงำน โรงเรยี น โรงงำน โรงเรยี น โรงงำน
สถำนที่ท�ำงำน ชุมชน สถำนทีท่ ำ� งำน ชมุ ชน สถำนทที่ ำ� งำน ชมุ ชน สถำนทที่ ำ� งำน ชุมชน
(ระดบั หม่บู ำ้ น) (ระดบั หมบู่ ำ้ น) (ระดบั หมู่บำ้ น) (ระดับหมบู่ ำ้ น)
- ผปู้ ว่ ยทมี่ ีอำกำร Allergy - ผ้ปู ่วยทม่ี ีอำกำร Allergy
attack รนุ แรง attack รนุ แรง
(รักษำตวั ในโรงพยำบำล (รกั ษำตัวในโรงพยำบำล
มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 201 หรือเสยี ชวี ติ ) หรือเสียชีวติ )
- กรณรี ถรบั ส่งนักเรียน รถทวั ร์ - กรณีรถรบั สง่ นักเรยี น รถทัวร ์ - เหตุกำรณ์กำรท่มี ีผเู้ สียชีวิต - เหตุกำรณ์กำรที่มผี ูเ้ สยี ชวี ติ สอบสวนภำยใน 1 สัปดำห์
รถน�ำเทย่ี ว รถโดยสำร รถน�ำเทย่ี ว รถโดยสำร ณ ทเี่ กิดเหตุ ตง้ั แต่ 5 รำย ณ ทเ่ี กิดเหตุ ต้ังแต่ 10 รำย หลงั รับแจง้ (อำ� เภอ, B)
ประจ�ำทำง/ไมป่ ระจ�ำทำง ประจ�ำทำง/ไม่ประจำ� ทำง ขน้ึ ไป ขน้ึ ไป
ทุกชนิด ที่มีผบู้ ำดเจ็บตัง้ แต ่ ทุกชนดิ ทีม่ ีผบู้ ำดเจบ็ รักษำ - เหตุกำรณ์ทมี่ ผี ้บู ำดเจบ็ รักษำ - เหตกุ ำรณ์ที่มผี บู้ ำดเจ็บ รกั ษำ
5 รำยข้นึ ไป หรือผเู้ สยี ชีวิต แผนกผูป้ ่วยในตั้งแต ่ 4 รำย แผนกผ้ปู ่วยในต้งั แต ่ 10 รำย แผนกผปู้ ว่ ยในตั้งแต่ 20 รำย
ตั้งแต ่ 1 รำยข้นึ ไป หรอื ผู้เสียชวี ิตตงั้ แต่ 2 รำย ข้ึนไป และมผี ้เู สยี ชวี ิต ขน้ึ ไป และมีผู้เสยี ชวี ติ
ข้ึนไป อย่ำงนอ้ ย 3 รำย อยำ่ งนอ้ ย 5 รำย
- กรณอี บุ ตั เิ หตขุ องรถพยำบำล/ - กรณอี บุ ตั เิ หตขุ องรถพยำบำล/ - กรณอี บุ ตั เิ หตขุ องรถพยำบำล/
รถกู้ชีพ/รถกภู้ ยั ขณะปฏิบตั ิ รถก้ชู ีพ/รถกู้ภยั ขณะปฏบิ ัติ รถกชู้ ีพ/รถกภู้ ยั ขณะปฏิบตั ิ
หนำ้ ท ี่ ทีม่ ีผู้บำดเจบ็ หรอื ผู้ หนำ้ ท่ี ทม่ี ผี ้บู ำดเจ็บหรือผู้ หน้ำท่ ี ที่มผี ู้บำดเจ็บหรอื ผู้
เสยี ชีวติ ตงั้ แต ่ 1 รำยข้ึนไป เสยี ชีวิตต้งั แต่ 1 รำยข้นึ ไป เสยี ชีวติ ตงั้ แต่ 1 รำยขึน้ ไป
202 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563 โรค อา� เภอ/ศบส. จงั หวัด/กทม. เขต ส่วนกลาง กา� หนดเวลา
การสอบสวนโรค
(B=Best practice,
L=Law)
การบาดเจบ็ - ผู้ปว่ ยสงสัยทุกรำย - ผูป้ ่วยเป็นกลุม่ กอ้ น ต้งั แต่ - ผู้ป่วยเปน็ กลมุ่ ก้อน ตัง้ แต ่ - ผู้ปว่ ยเปน็ กลุม่ กอ้ น ต้ังแต ่ สอบสวนภำยใน 24 ช่วั โมง
จากแมงกะพรนุ พิษ 2 รำยขน้ึ ไป 5 รำยข้ึนไป ในสัปดำห ์ 10 รำยข้ึนไป ในสัปดำห์ หลังรับแจ้ง (อำ� เภอ, B)
และหมกึ น้�าเงนิ เดียวกัน เดยี วกนั และพน้ื ที่เดียวกนั
- ผู้ป่วยที่มอี ำกำรรุนแรง เช่น หน้ำชำยหำดเดยี วกัน
ตอ้ งใสท่ อ่ ชว่ ยหำยใจทกุ รำย - กรณีเสียชวี ติ ทุกรำย เปน็ ต้น
- ผเู้ สียชีวติ หรอื อำกำร
- รนุ แรงทีต่ ้องใสท่ ่อชว่ ยหำยใจ
ต้งั แต ่ 2 รำยขึ้นไปในพื้นท ี่
เดียวกนั เช่น หนำ้ ชำยหำด
เดยี วกนั เปน็ ตน้
บาดเจ็บจากการ - กรณีเสยี ชีวิตทุกรำย - กรณเี สยี ชวี ติ ในกลมุ่ อำยตุ ำ�่ กวำ่ - กรณเี สยี ชวี ติ ในกลมุ่ อำยตุ ำ�่ กวำ่
ตกนา�้ /จมนา�้ ทุกกลุม่ อำยุ 15 ปี ตั้งแต่ 2 รำยขึ้นไป 15 ปี ตั้งแต่ 5 รำยขึ้นไป
ในเหตกุ ำรณเ์ ดียวกัน ในเหตุกำรณ์เดียวกัน
บหุ รไ่ี ฟฟ้า ผูป้ ่วยปอดอกั เสบ ผ้ปู ่วยปอดอกั เสบ ผูป้ ว่ ยปอดอกั เสบ ผู้ป่วยปอดอักเสบ
จำกกำรสูบบรุ ีไ่ ฟฟ้ำทกุ รำย จำกกำรสูบบรุ ไ่ี ฟฟำ้ ทุกรำย จำกกำรสบู บรุ ี่ไฟฟ้ำทกุ รำย จำกกำรสบู บุรไ่ี ฟฟำ้ ทุกรำย
หมายเหตุ : ควบคมุ กำรระบำดไมไ่ ด ้ หมำยถึง มผี ู้ปว่ ยอย่ำงต่อเนื่องในเวลำ 2 เท่ำของระยะฟักตัวทย่ี ำวที่สุดของโรค
ประเด็นสา� หรบั การเขยี นรายงานสอบสวนโรค
หวั ข้อ ประเดน็ พิจารณา/รายละเอียด
ชือ่ เรอื่ ง - ครบถ้วน : โรคอะไร ท่ีไหน (ต�ำบล อ�ำเภอ จังหวัด) เมื่อไร (ช่วงวันที่ เร่ิมต้นกำรระบำด
บทคัดยอ่ ถงึ สนิ้ สดุ กำรระบำด)
ความเปน็ มา/บทนา� / - ชัดเจน : เช่น สงสัยไขห้ วดั ใหญ ่ ดีกวำ่ ติดเช้ือทำงระบบทำงเดนิ หำยใจ
หลกั การเหตุผล - สอดคล้องกับสรุปผลกำรสอบสวน เช่น ถ้ำสรุปเป็นโรคหัด ให้เขียนชื่อเรื่องว่ำ รำยงำน
วัตถุประสงค์
สอบสวนผูป้ ่วยโรคหดั ไม่ควรเขียนว่ำ “สอบสวนไข้ออกผ่ืน” ตำมทีไ่ ด้รับแจง้
วธิ ีการ - กระชับ ตรงประเด็น (บทคัดย่อไมเ่ กนิ 550 ค�ำ)
- ครบ Item : Background & Objective, Methodology, Result, Conclusion
ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งเขียนเปน็ หวั ข้อ
- ประเดน็ ครบถว้ น : วนั ทแี่ จง้ หนว่ ยรบั แจง้ หนว่ ยงำน/ผแู้ จง้ ขำ่ ว ขอ้ ควำมทแ่ี จง้ (อำกำร
จำ� นวน) วนั ท่ที อ่ี อกสอบสวน
- มคี วำมสอดคลอ้ งกบั ควำมเปน็ มำ มกั พบวำ่ นำ� «วธิ กี ำร» มำเขยี นในวตั ถปุ ระสงค ์ เชน่ เพอื่
คน้ หำผ้ปู ว่ ยเพมิ่ เตมิ
- บำงคร้ังเขียนไม่ถูกต้อง เช่น สอบสวน AEFI เขียนวัตถุประสงค์ว่ำ «เพื่อศึกษำกำร
ถำ่ ยทอดโรค»
- ควรมเี รือ่ ง มำตรกำรกำรควบคมุ โรคทเี่ หมำะสมด้วย
- อำจมเี ร่อื ง เพอื่ หำควำมรใู้ หม่ กรณีเปน็ โรคอุบัติใหม่
1. กำรสอบสวนโรคเชิงพรรณนำ
- ต้องมีนิยำมในกำรค้นหำผู้ป่วยท่ีเขียนได้ครบถ้วนถูกต้อง : อำกำร บุคคล เวลำ
สถำนที่ ซ่ึงที่พบผิดบ่อย คือ กำรใช้นิยำมตำมคู่มือเฝ้ำระวังโรคติดเช้ือ โดยไม่ปรับ
ให้เหมำะสมกับเหตุกำรณ์
2. กำรสอบสวนโรคเชงิ วิเครำะห์
- ต้องมีนิยำมในกำรค้นหำผู้ป่วยที่เขียนได้ครบถ้วนถูกต้อง : อำกำร บุคคล เวลำ
สถำนท่ี ซึ่งท่ีพบผิดบ่อยคือกำรใช้นิยำมตำมคู่มือเฝ้ำระวังโรคติดเชื้อ โดยไม่ปรับ
ใหเ้ หมำะสมกับเหตกุ ำรณ์
- ก�ำหนดนิยำมท่ีใช้ในกำรศึกษำวิเครำะห์ เช่น นิยำม case และ control ใน case
control study
3. สถติ ิที่ใช้
4. วธิ กี ำรเกบ็ ข้อมลู /เครื่องมอื ท่ีใช้
5. วธิ กี ำรเกบ็ ตวั อยำ่ ง/มกี ำรเกบ็ ตวั อยำ่ งตำมควำมเหมำะสมของเหตกุ ำรณ ์ หรอื กำรสำ� รวจ
สง่ิ แวดลอ้ ม วธิ กี ำรตรวจวิเครำะห์
6. ควำมครบถว้ นท่จี ะตอบวตั ถปุ ระสงค์ (ไม่ใชข่ ั้นตอนกำรท�ำงำน เช่น ประสำนพ้ืนท่)ี
มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทีมเฝา้ ระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563 203
ประเดน็ สา� หรบั การเขียนรายงานการสอบสวนโรค (ต่อ)
หวั ข้อ ประเด็นพิจารณา/รายละเอยี ด
ผลการสอบสวน เชิงพรรณนา
- เขยี นเป็นล�ำดบั เขำ้ ใจง่ำย
อภิปรายผล - ครบถว้ น ตอบตำมวัตถุประสงค์
สรปุ ผล - กำรเขียนระบำดวิทยำเชิงพรรณนำ ให้ครอบคลุมเน้ือหำท้ังด้ำนขนำดปัญหำ และ
กำรกระจำยตำมบุคคล เวลำ สถำนท่ี กำรนำ� เสนอทถ่ี ูกตอ้ งเหมำะสม
1. Attack rate, Specific attack rate ตำมเพศ อำยุ
2. Mapping (อำจใช ้ อตั รำปว่ ย จำ� เพำะสถำนท่)ี
3. Epidemic curve หรือ Time line
4. แสดงตัวเลข ตำรำง กรำฟ (รวมกำรใชส้ ถิตทิ ีถ่ กู ต้อง)
5. สำมำรถเชื่อมโยงหำควำมสัมพันธ์ของเชิงพรรณนำ ผลทำงห้องปฎิบัติกำรและ
สงิ่ แวดล้อม ท่ีบ่งบอกสำเหตจุ �ำเพำะและนำ� ไปสู่กำรควบคุมทถ่ี กู ตอ้ งและเหมำะสม
- มีข้อมูลทำงห้องปฎิบัติกำรและกำรส�ำรวจสิ่งแวดล้อม (ไม่ควรลงรำยละเอียดข้อมูล
กำรรกั ษำท่ีเกินควำมจ�ำเป็น แต่ท้งั น้ีตอ้ งขึน้ อยกู่ ับบริบทของโรคน้นั ๆ)
หมำยเหต ุ : Injury & En Occ : กำรศกึ ษำขอ้ มลู เชงิ พรรณนำ ทเี่ กย่ี วขอ้ งจำกระบบเฝำ้ ระวงั
บำดเจ็บ หรืออ่ืน ๆ (ประกอบรำยงำน) ลักษณะกำรบำดเจ็บของผู้รับอุบัติเหตุ วิเครำะห์
ลกั ษณะกำรบำดเจบ็ /แผนผงั จำ� ลองกำรนง่ั กำรชน/ถนน/ตำรำงวเิ ครำะห ์ Haddon matrix
เชิงวิเคราะห์
- เขยี นเป็นล�ำดบั เขำ้ ใจง่ำย
- ครบถ้วน ตอบตำมวตั ถปุ ระสงค์
- กำรเขียนระบำดวิทยำเชิงพรรณนำ ให้ครอบคลุมเนื้อหำท้ังด้ำนขนำดปัญหำ และ
กำรกระจำยตำมบุคคล เวลำ สถำนที่ กำรนำ� เสนอทถ่ี ูกต้องเหมำะสม
1. Attack rate, Specific attack rate ตำมเพศ อำยุ
2. Mapping (อำจใช ้ อตั รำป่วย จำ� เพำะสถำนท)ี่
3. Epidemic curve หรอื Time line
4. แสดงตัวเลข ตำรำง กรำฟ (รวมกำรใชส้ ถติ ทิ ่ถี กู ตอ้ ง)
5. สำมำรถเช่ือมโยงหำควำมสัมพันธ์ของเชิงพรรณนำ ผลทำงห้องปฎิบัติกำรและ
สิ่งแวดล้อม ท่บี ง่ บอกสำเหตุจ�ำเพำะและน�ำไปสู่กำรควบคมุ ทถี่ ูกต้องและเหมำะสม
- มีข้อมูลทำงห้องปฎิบัติกำร และกำรส�ำรวจส่ิงแวดล้อม (ไม่ควรลงรำยละเอียดข้อมูล
กำรรักษำมำกเกินควำมจำ� เป็น)
- ใชว้ ิธีกำรศึกษำระบำดวทิ ยำเชงิ วเิ ครำะหท์ ถี่ กู ต้อง เหมำะสม
- กำรสอบสวนกำรบำดเจบ็ : ตอ้ งอธบิ ำยลกั ษณะของกลมุ่ เปรยี บเทยี บและ measurement
ทีใ่ ช ้ (OR, RR, %95 CI)
- ควำมสอดคล้องหรือไมส่ อดคล้องของอำกำร กำรเกิดโรคแหล่งโรค สำเหต ุ
- กำรเปรียบเทียบกบั รำยงำนกำรสอบสวนในครั้งกอ่ น ๆ หรอื เอกสำรวชิ ำกำร
- สรปุ ไดว้ ำ่ เกิดอะไร กับใคร ทีไ่ หน เมอ่ื ไหร ่ อยำ่ งไร ปัจจัยท่ีท�ำใหเ้ กิดกำรระบำดในครัง้ นี้
แนวโนม้ กำรเกดิ โรค
- สอดคล้องตำมวัตถุประสงค์ สรุปวำ่ เปน็ กำรระบำดของโรคอะไร
- เขยี นไดก้ ระชบั สั้น ชดั เจน ไม่ควรเขยี นเหมอื นผลกำรศึกษำ
204 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ตั งิ านทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563
ประเดน็ สา� หรับการเขยี นรายงานการสอบสวนโรค (ต่อ)
หัวขอ้ ประเดน็ พจิ ารณา/รายละเอียด
มาตรการควบคุมโรค - ต้องสอดคลอ้ งกับผลกำรศกึ ษำ (ไม่ใช ่ ให้สุขศกึ ษำ หรอื เขียนแบบ routine)
ปัญหา/อุปสรรค (ขอ้ จ�ากดั ) - ได้ด�ำเนินกำรควบคุมโรคด้วยวิธีใดไปแล้ว ใครท�ำ ท�ำอย่ำงไร อำจมีมำตรกำรระยะส้ัน
ข้อเสนอแนะ
ระยะยำว
เอกสารอา้ งองิ - เพมิ่ มำตรกำรทีด่ �ำเนนิ กำรไปแล้ว ได้ผลหรือไมไ่ ดผ้ ล มผี ลกำรตดิ ตำมผ้ปู ว่ ยเพ่ิมเติม
- ปญั หำที่พบจำกกำรสอบสวน/ปญั หำที่พบจำกกำรควบคุมโรค
รูปแบบการเขียนรายงาน - ต้องสอดคล้องกับผลกำรสอบสวน ปัญหำและอุปสรรคที่พบ โดยต้องระบุให้ชัดเจนว่ำ
อ่นื ๆ
ต้องกำรให้ใครทำ� อะไร ทำ� อยำ่ งไร เมือ่ ไร
- ควรเปน็ ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื ใหส้ ำมำรถดำ� เนนิ กำรสอบสวน ปอ้ งกนั และควบคมุ กำรระบำด
ในอนำคตได้ดีขนึ้
- ไม่ควรเขียนข้อเสนอแนะที่เป็นมำตรกำรควบคุมป้องกันส�ำหรับกำรระบำดคร้ังที่
สอบสวน เช่น เสนอให้เฝำ้ ระวังตอ่ ไป 2 เทำ่ ของระยะฟกั ตวั ในกำรระบำดในคร้งั น้ัน
- มีเอกสำรอำ้ งอิง
- เป็นรปู แบบเดยี วกนั
- แหล่งข้อมูลเปน็ ที่นำ่ เชอ่ื ถอื (บทควำมวชิ ำกำร วำรสำรที่ได้รับกำรยอมรับ)
- ถ้ำเขียนเป็นบรรณำนุกรมถือว่ำไม่ได้ ต้องมีอ้ำงอิงตำมหมำยเลขท่ีห้อยหรือวงเล็บตำม
เนอื้ หำ
- รปู แบบกำรเขยี นเอกสำรอ้ำงอิง Vancouver
- ผดิ จริยธรรม เชน่ ระบุชอื่ ผปู้ ว่ ย/โรงงำน
- กำรใชภ้ ำษำไม่ถูกตอ้ ง หำ้ มใช้ภำษำพดู
- วำงรปู แบบผดิ ทผี่ ิดทำง
- ทำ� ให้เกิดวิธกี ำรควบคมุ โรคใหม่ ๆ
- มีกำรควบคุมโรคโดยเครอื ขำ่ ยใหม่ ๆ ทีไ่ ม่ใช่หน่วยงำนดำ้ นสำธำรณสุข ที่เข้ำถงึ ยำกและ
สำมำรถสรำ้ งควำมสัมพนั ธ์ระยะยำว
- น�ำผลไปจดั ทำ� รูปแบบ/แนวทำง/มำตรกำรควบคมุ โรคระดับเขต ประเทศ
- ท�ำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงในระบบงำนปกติ เช่น ปรับปรุงรูปแบบ/แนวทำง/มำตรกำร/
ระบบ กำรปฏบิ ัตงิ ำนของหนว่ ยงำน
มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 205
ตัวอยา่ ง รายงานสอบสวนโรค
206 มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทีมเฝา้ ระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสุขภาพ 2563
ตัวอย่าง รายงานสอบสวนโรค (ต่อ)
มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทีมเฝ้าระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 207
ตวั อย่าง รายงานสอบสวนโรค (ต่อ)
208 มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ 2563
ตัวอย่าง รายงานสอบสวนโรค (ต่อ)
มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทีมเฝ้าระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 209
ตวั อย่าง รายงานสอบสวนโรค (ต่อ)
210 มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ 2563
ตัวอย่าง รายงานสอบสวนโรค (ต่อ)
มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทีมเฝ้าระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 211
ตวั อย่าง รายงานสอบสวนโรค (ต่อ)
212 มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติงานทมี เฝา้ ระวังสอบสวนควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ 2563
ตัวอย่าง รายงานสอบสวนโรค (ต่อ)
มาตรฐานและแนวทางปฏบิ ัตงิ านทีมเฝ้าระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 213
คำยอ่
CDCU = หน่วยปฏบิ ัติกำรควบคุมโรคตดิ ต่อ (Communicable Disease Control Unit)
DCIR = เกณฑ์ส�ำหรบั เหตุกำรณท์ ี่มคี วำมส�ำคญั สงู (Director Critical Information Requirement)
EOC = ศนู ยป์ ฏบิ ตั ิกำรภำวะฉุกเฉิน (Emergency Operation Center)
FEMT = หลักสตู รระบำดวทิ ยำ และกำรบรหิ ำรจดั กำรทมี สำ� หรับแพทยห์ วั หน้ำทีมและผ้สู อบสวนหลกั
(Field Epidemiology and Management Training)
FETH = โครงกำรพฒั นำนกั วชิ ำกำรสำธำรณสขุ ดำ้ นระบำดวิทยำภำคสนำม
(Field Epidemiology Training Program for Public Health Officer)
FETP = โครงกำรฝึกอบรมผูเ้ ชีย่ วชำญระบำดวิทยำภำคสนำม
(Field Epidemiology Training Program)
IHR = กฎอนำมยั ระหวำ่ งประเทศ (International Health Regulations 2005)
JIT = ทีมปฏบิ ตั ิกำรสอบสวนควบคมุ โรค (Joint Investigation Team)
PHEIC = ภำวะฉุกเฉนิ ดำ้ นสำธำรณสุขระหว่ำงประเทศ (Public Health Emergency of International Concern)
PI = ผสู้ อบสวนหลกั ของทมี ปฏิบัตกิ ำรสอบสวนควบคุมโรค (Principal Investigator)
PPE = อปุ กรณป์ อ้ งกนั รำ่ งกำยสว่ นบคุ คล (Personal Protective Equipment)
SAT = ทีมตระหนักรู้สถำนกำรณ ์ (Situation Awareness Team)
SRRT = ทีมเฝำ้ ระวงั สอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (Surveillance and Rapid Response Team)
214 มาตรฐานและแนวทางปฏิบตั ิงานทมี เฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภยั สุขภาพ 2563
คา� สงั่ สา� นักระบาดวทิ ยา
มาตรฐานและแนวทางปฏิบตั ิงานทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ 2563 215
คา� สงั่ ส�านกั ระบาดวทิ ยา
216 มาตรฐานและแนวทางปฏิบตั ิงานทีมเฝา้ ระวงั สอบสวนควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ 2563
บนั ทึก
217
บันทึก
218