The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ddttgr1125, 2021-01-29 23:32:01

การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี

การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี

101

๑๓.การกำจดั วชั พชื

วัชพืชเป็นพืชที่มาแย่งดูดอาหารในดินไปใช้เพื่อการเจริญเติบโต มีผลทำให้กล้วยมีความ
เจริญเตบิ โตช้าลง บางชนิดอาจทำใหก้ ารปฏบิ ัตเิ ป็นไปดว้ ยความยากลำบาก ทอี่ าศยั ของโรคและแมลง
บางชนิด เกษตรกรควรมกี ารกำจดั วชั พชื อย่างเหมาะสม และถกู วธิ ี ซึง่ สามารถแบ่งออกไดด้ ังนี้

๑. วิธีกล ไดแ้ ก่ การถอน ดาย หรอื ถากดว้ ยจอบ ควรทำการกำจัดขณะที่วัชพืชมีต้น
เล็ก ก่อนที่วัชพืชนั้นจะออกดอก ถ้าเป็นพืชที่มีดอก ต้องเก็บภาชนะที่ใส่เมล็ดวัชพืช ร่วงหล่นไปตาม
พื้นดิน มิฉะนั้นจะทำให้วัชพืชมีการระบาดและแพร่กระจายมากยิ่งขึ้น ควรเก็บวัชพืชออกมารวมกัน
แลว้ ทำการเผาหรอื ฝัง หากกองทงิ้ ไวเ้ ฉย ๆ เมล็ดทีแ่ หง้ อาจถูกลมพดั พาไปงอกเปน็ ตน้ ใหม่ไดต้ ่อไป

๒. วิธีเขตกรรม โดยการปลูกพชื แซม เลือกพชื ที่มรี ะบบรากต้ืน และสามารถใช้ลำตน้
เป็นปยุ๋ ได้อีกดว้ ย เชน่ พืชตระกูลถว่ั ตา่ ง ๆ หรอื พืชผกั ชนดิ ต่าง ๆ นอกจากจะชว่ ยลดปรมิ าณวัชพืชใน
แปลงปลูกกลว้ ย ยงั ทำให้เกษตรกรมรี ายได้เพ่ิมข้ึนอีกด้วย

๓. ใช้วิธีคลุมดนิ หลงั จากมีการตดั แตง่ ก่งิ ใบกล้วยแล้ว เกษตรกรก็นิยมใช้ใบกล้วย
ชว่ ยคลมุ หน้าดนิ ไว้ นอกจากจะชว่ ยใหล้ ดปริมาณวัชพชื ลงไดแ้ ลว้ ยงั ชว่ ยป้องกันการชะล้างของหน้า
ดนิ อกี ด้วย

๑๔.การตัดแต่งหน่อ

หลังจากปลูกกลว้ ยไปแลว้ ประมาณ ๕-๖ เดอื น กล้วยจะเจริญเตบิ โตมากขนึ้ ในช่วงนี้จะมี
หน่อกล้วยเจริญขึ้นมาพร้อมกับต้นแม่ จำนวน ๔-๕ หน่อ หรือมากกว่านั้น หน่อขนาดใหญ่เป็นหน่อ
ตาม อยู่ตรงข้ามต้นแม่ จะแย่งอาหารจากต้นแม่ ทำให้เครือกล้วยที่ออกมาจากต้นแม่มีขนาดเล็ก
เกษตรกรทม่ี กี ารดูแลสม่ำเสมอ ควรขดุ แยกออกตง้ั แต่ยังมีขนาดเลก็ อยู่ หากหนอ่ ดังกลา่ วมีขนาดใหญ่
มากแล้ว จะไมส่ ามารถขดุ ออกได้ ทำลายโดยใชน้ ้ำมันกา๊ ดหยอดลงทยี่ อดประมาณ ๑/๒ ชอ้ นชา ส่วน
หน่ออื่น ๆ เก็บไว้ได้ ๑-๒ หน่อ หากมีมากกว่านี้ควรขุดออกบ้าง แต่ไม่ควรขุดหน่อในช่วงกล้วยออก
เครือ เพราะอาจทำให้กล้วย ผลลบี เลก็ เครอื เล็กหรอื ส้นั ลงได้ เกษตรกรควรใชม้ ีดปาดหนอ่ ท่ีเกิดช่วง
ตกเครือใหส้ นั้ ลงได้ จะช่วยลดการแย่งอาหารจากต้นแมไ่ ด้อกี ท้ังยงั สามารถชะลอการเจริญเติบโตของ
หนอ่ และสามารถขุดหนอ่ มาใชป้ ลกู ต่อไป หลังจากทที่ ำการตัดเครอื กล้วยแล้ว

การตัดแตง่ ใบและหน่อ

เมื่อปลูกกล้วยไปประมาณ ๖-๘ เดือน กล้วยจะมีลำตน้ ขนาดใหญ่พร้อมทีจ่ ะออกปลี โดย
กล้วยจะแตกใบยอดสุดท้าย ซึ่งมีขนาดสั้นและเล็กมาก ชูก้านใบขึ้นชี้ท้องฟ้า ซึ่งเรียกว่า "ใบธง"
หลงั จากนนั้ กลว้ ยจะแทงปลีกลว้ ยสีแดงออกใหเ้ ห็นชัด และกาบปลีจะบานต่อไปเร่ือย ๆ จนกระท่ังผล
กล้วยที่อยู่บนหวีเริ่มสั้นและเล็กลง อีกทั้งขนาดแต่ละผลไม่สมำ่ เสมอกัน ซึ่งเรียกว่า "หวีตีนเต่า" ส่วน

102

หวีที่ถัดจากหวตี ีนเต่าลงมาก็จะมีขนาดเลก็ มากเท่ากับก้านดอกในกาบปลีทีก่ ำลังบานอยู่ ถ้าปล่อยให้
หัวปลีบานตอ่ ไปเร่อื ย ๆ กจ็ ะเห็นเพยี งก้านดอกกลว้ ยเลก็ ๆ เรยี งกัน คล้ายหวกี ล้วยขนาดจิว๋ การบาน
ของหัวปลีจะทำใหก้ ารพฒั นาขนาดของผลกล้วยช้าลง ส่งผลให้ผลกลว้ ยมีขนาดเล็ก ๆ ไม่โตเท่าที่ควร

กลว้ ยออกปลี

หลงั จากกล้วยออกปลีมาแล้วระยะหนึง่ ก็จะเห็นผลกล้วยเลก็ จำนวนมาก เป็นหวี ๆ อย่าง
ชัดเจน โดยทกุ หวจี ะมผี ลกลว้ ยขนาดเท่า ๆ กัน ยกเว้นหวีตนี เตา่ และหวีต่อไปกจ็ ะเป็นผลกล้วยขนาด
เล็กมาก ๆ ให้ทำการตัดปลีออกหลังจากปลีบานต่อไปจากหวีตีนเต่าอีก ๒ ชั้น เพื่อไว้สำหรับมือจับ
ปลายเครือ ขณะทำการตัดเครอื กล้วยในช่วงเกบ็ เก่ียว อกี ทงั้ สะดวกในการหยบิ ยกและแบกหาม

การตดั ปลี

การหอ่ ผล หลงั จากทีไ่ ด้ทำการตัดปลกี ล้วยออกไปแล้ว ผลกลว้ ยกจ็ ะเริม่ พฒั นาและขยาย
ขนาดใหญข่ ้ึน ในการผลติ กลว้ ยเปน็ การค้าทีต่ ้องการให้ผิวกลว้ ยสวยงามปราศจากโรคแมลงทำลาย สี
ผวิ นวลขึน้ และน้ำหนักผลเพ่มิ มากขึน้ ควรมกี ารห่อผล

การค้ำกลว้ ย

ต้นกล้วยหลังจากตกเครือแล้ว จะมีการหักกลางต้น (หักคอ) ได้ง่าย เมื่อกล้วยใกล้จะแก่
ท้งั นีเ้ พราะนำ้ หนักผลมีมากขึน้ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในกลว้ ยหอมทอง ซึ่งจะมกี ารหกั ลม้ ได้งา่ ยมาก เพื่อ
ป้องกันการเสียหายจากหักล้ม เกษตรกรควรใช้ไม้ค้ำกล้วยหลงั ตกเครือแล้ว ด้วยไม้รวกที่ผ่านการแช่
น้ำมาแล้วประมาณ ๑ เดือน โดยดำเนนิ การดงั น้ี

๑. นำไม้รวกมาเสี้ยมปลายด้านที่จะใช้ปักลงดินทั้ง ๒ อัน แล้วผูกเชือกปลายไม้ทั้ง
สองอันนี้โดยให้เหลือส่วนปลายไม้ด้านบนอันละ ๓๐ เซนติเมตร เพื่อทำหน้าที่รับน้ำหนักต้นกล้วย
จากนั้นให้ถ่างไม้ท้ังสองไขว้กันเป็นลักษณะคีม แล้วนำไปค้ำต้นกล้วยบริเวณที่ต่ำลงมาจากตำแหน่ง
เครือกลว้ ยประมาณ ๓๐-๕๐ เซนติเมตร

นอกจากใช้ไมร้ วกแล้ว เกษตรกรอาจใชไ้ ม้ทมี่ ีอยู่ในทอ้ งถ่ินทเ่ี ป็นไมง้ ามอยู่แลว้ แทนก็ได้

๑๕.เทคนิคปลกู กล้วยน้ำว้าใหไ้ ด้ผลดี

เคล็ดลับจาก (อาจารย์กัลยาณี สุวิทวัส นักวิจัยชำนาญการพิเศษ สถานีวิจัยปากช่อง
สถาบันอินทรีจันทรสถิตย์เพื่อการค้นคว้าและพัฒนาพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อำเภอ
ปากช่อง จงั หวดั นครราชสมี า)

สำหรับต้นกล้วยน้ำวา้ ปากช่อง ๕๐ ซึ่งมาจากการเพาะเลี้ยงเน้ือเยือ่ ซึ่งเกษตรกรที่นำต้น
พันธ์ุของสถานีไปปลกู นนั้ อาจารย์กลั ยาณีบอกวา่ มเี ทคนิคที่ตอ้ งใส่ใจ ดังน้ี

103

๑. คัดเลือกต้นพันธุ์ที่มีขนาดความสูง ๑๕ เซนติเมตรขึ้นไป หรือมีเส้นรอบวงต้น
มากกวา่ ๓.๕ เซนติเมตร หากตน้ เลก็ กวา่ นจ้ี ะพบปัญหาเร่อื งการดแู ล และอัตราการตายสูง

๒. เตรียมแปลงปลูก ระยะ ๓×๓ หรือ ๔×๔ เมตร ขนาดหลุมปลูก ๕๐x๕๐x๕๐
เซนติเมตรเพื่อให้ระบบรากเดนิ ดี ขึน้ โคนช้า ระยะปลกู ขน้ึ อยกู่ บั การดูแล ถา้ ดูแลดี กอกล้วยใหญ่ ควร
ปลกู ระยะ๔×๔ เมตร ๑ กอ ควรใวเ้ พียง ๔ ตน้ เท่าน้ัน

๓. คลุกเคล้าปุ๋ยคอกผสมดินประมาณหลุมละ ๒ กิโลกรัม รองก้นหลุมขึ้นมา
ประมาณ ๓๐เซนติเมตร แล้วจึงปลูกต้นกล้วยและกลบบริเวณโคนต้นให้แน่น ทำแอ่งดินรอบต้นเพื่อ
เก็บน้ำรักษาความชื้นของดิน และควรรองก้นหลุมด้วยสารป้องกันหนอนกอกล้วยประมาณ ๑ ช้อน
โตะ๊ ต่อหลมุ

๔. ปลูกเสร็จให้น้ำตามทนั ทใี ห้ชุม่ ช้ืนพอเพยี ง ไม่เช่นนั้นต้นจะเหย่ี วเฉา ใบแหง้ และ
ยบุ ตวั บางต้นตาย บางต้นแตกต้นใหม่ข้ึนแทนทำให้อายตุ ้นไม่สม่ำเสมอกัน

๕. ในระยะเดือนแรกต้องใหน้ ้ำอย่างสม่ำเสมอ และดินตอ้ งชมุ่ ชน้ื เพียงพอ เปน็ เดือนท่ีต้อง
เอาใจใส่อยา่ งมาก หากเปน็ การให้นำ้ แบบฝอยหรือมนิ สิ ปริงเกลอร์ จะทำใหต้ น้ ต้ังตัวไดเ้ ร็ว สามารถ
สร้างใบและลำต้นใหม่ได้ดี โอกาสรอดสงู กว่าการลากสายยางรดน้ำ และเร่ิมให้ปุ๋ยสตู ร ๑๕-๑๕-๑๕
หรอื ๑๖-๑๖-๑๖ ประมาณ ๑๐๐-๑๕๐ กรัม ตอ่ ต้น หลงั ปลูกได้ ๑ เดอื น และเดือนที่ ๒ ส่วนเดอื นท่ี
๓ ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุย๋ หมกั แทน

๖. เดอื นท่ี ๒ และ ๓ ต้นกลว้ ยจะมตี ้นและใบใหมท่ ้ังหมด ปัญหาคอื หญ้าขนึ้ คลุมต้น
ต้องถากหญา้ บริเวณโคนตน้ และฉีดยาฆ่าหญา้ พาราควอต ระหว่างแถว ต้องระวงั อยา่ ใหล้ ะอองยาโดน
ต้นกลว้ ย จะทำใหต้ ้นชะงักและตายได้

๗. เดือนท่ี ๔ การเจริญเติบโตเร็วมาก ทง้ั ความสูงและรอบวงต้นใกลเ้ คยี งปลูกจาก
หนอ่ พันธุ์ แต่ท้งั นี้ข้นึ อยู่กับขนาดตน้ ปลูกเรม่ิ แรก ถา้ สูง ๑๕ เซนตเิ มตร ขนึ้ ไป จะโตทันกัน ถอื วา่ เดือน
นเี้ ป็นเดือนที่ตน้ รอดตายทั้งหมด การดแู ลทำเช่นเดยี วกบั การปลูกด้วยหนอ่ โดยใหป้ ุ๋ย ๑๕-๑๕-๑๕
หรือ ๑๖-๑๖-๑๖ ประมาณ ๑๐๐-๑๕๐ กรัม ตอ่ ตน้ ในเดอื นที่ ๔ และ ๕ สว่ นเดือนที่ ๖ ใช้ปุ๋ยคอกหรือ
ปยุ๋ หมักแทนและงดใสป่ ุย๋ จนกวา่ จะแทงปลี ถึงจะใสป่ ุ๋ยเคมีอีกคร้ัง จนกระท่งั หลงั เกบ็ เกี่ยวถงึ จะเรม่ิ ให้
ปุย๋ ในรอบใหม่

๘. เดอื นท่ี ๖ หรือ ๗ กลว้ ยเริ่มแทงหน่อ และสะสมอาหารเพือ่ การตกเครอื

๙. เดือนที่ ๙ กล้วยเร่มิ แทงปลี การแทงปลีหรือตกเครือจะเร็วหรอื ช้ากวา่ หน่อพนั ธ์ุ
ขนึ้ อยู่กับขนาดลำต้นปลูกเริ่มแรกและการดูแลรักษา หากต้นพนั ธ์ทุ ี่มีขนาดความสงู ๑๕ เซนติเมตรขึน้
ไปหรือมีเสน้ รอบวงตน้ มากกว่า ๔ เซนติเมตร การตกเครอื ใกล้เคยี งกบั หน่อพันธุ์ ขนาด ๑ เมตร หาก

104

ตน้ มขี นาดใหญ่กวา่ นี้ การตกเครอื จะเรว็ กวา่ หนอ่ พันธุ์ และหากเลก็ กว่านี้การตกเครือจะช้ากวา่ หน่อ
พันธุอ์ ายุเครือกล้วยจากการแทงปลีจนกระทัง่ เก็บเกยี่ วมีอายุประมาณ ๔ เดือน เท่ากบั หน่อพนั ธุ์กลว้ ย
นำ้ ว้าทัว่ ไป

๒.ดา้ นพน้ื ท่ีนำ้ เปน็ ลักษณะบ่อสระที่ขดุ ลึก ประมาณ ๕ เมตร มี จำนวน ๒ ไร่ ซ่ึงได้
ใช้ประโยชนพ์ นื้ ที่ แบ่งเปน็ ๒ สว่ นคือ

ส่วนท่ี ๑ แหล่งน้ำได้ทำเป็นแหลง่ อาศยั ของปลานานาชนดิ มี .จำนวน
ประมาณ ๒ แสน ตวั กำลงั เจริญเตบิ โตมอี ายุถึง ๑ ปแี ล้ว เมือ่ ปลาเจริญเติบโต กส็ ามารถ
ขายทำรายไดใ้ หแ้ ก่ชมุ ชนได้ แตใ่ นขณะเดยี วกนั ทางชุมชนมองเห็นประโยชนใ์ นการทอ่ งเทย่ี วจึงทำเป็น
สถานท่ี ใหน้ กั ท่องเทีย่ วเล้ยี งอาหารปลา เป็นรายได้ต่อศนู ย์ตอ่ ไป
ส่วนท่ี ๒ แหลง่ น้ำเป็นสถานทใี่ หน้ กั ท่องเทีย่ วได้พายเรอื รอบเกาะเล่น ทำสมนุ ไพรปลา
กบั คนท่ีมาเท่ียว ทำรายได้ให้ชุมชน
ดงั รูปภาพดา้ นล่าง

105

๓.ดา้ นสถานท่ีพกั แหลง่ ท่องเทย่ี วรา้ นค้า ๒ ไร่

106

๔.ด้านพ้นื ทแ่ี หลง่ เรยี นรู้และผลิตภณั ฑ์ของศูนย์อนรุ กั ษ์พันธุ์กลว้ ยสุพรรณบุรี ๒ ไร่

107

108

109

๒.๗ งานวิจยั ที่เกย่ี วข้อง

สรัลรัชน์ กระบาย และชวลีย์ ณ ถลาง41 ทำวิจัยเร่อื ง แนวทางการส่งเสริมการท่องเท่ียว
เชงิ เกษตร จงั หวดั ลพบรุ ี ผลการวจิ ยั พบว่า ๑) ข้อมูลทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถามเปน็ เพศชาย รอ้ ย
ละ ๖๘.๓ อายุระหว่าง ๒๐-๒๙ ปี ร้อยละ ๕๕.๕ สถานภาพโสด ร้อยละ ๖๘.๓ การศึกษาสูงสุดต่ำ
กวา่ ปรญิ ญาตรี ร้อยละ ๖๐.๓ ประกอบอาชีพนักเรยี น/ นกั ศึกษา ร้อยละ๓๙.๓ และมรี ายได้ต่อเดือน
ต่ำกว่า ๑๕,๐๐๐ บาท ร้อยละ ๗๑.๘ ๒) พฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มพูนความรู้ทาง
วิชาชีพมากที่สุด ส่วนใหญ่เดินทางมากับหน่วยงานต่าง ๆ เดินทางมาท่องเที่ยวครั้งแรก เดินทาง
ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ ผู้ร่วมเดินทาง ๔ คนขึ้นไป และใช้จ่ายน้อยกว่า ๑,๐๐๐ บาท ๓) ปัจจัยส่วน
ประสมการตลาด โดยเรียงลำดับจากมากที่สุด ได้แก่ ด้านกระบวนการให้บริการ ด้านการส่งเสริม
การตลาด ด้านบุคลากร ดา้ นลักษณะทางกายภาพ ด้านราคา ด้านผลติ ภณั ฑ์ และด้านชอ่ งทางการจัด
จำหน่าย ตามลำดับ ๔) แรงจูงใจในการเดินทางมา ท่องเที่ยว ด้านปัจจัยผลัก ส่วนใหญ่เพื่อศึกษาหา

41 สรลั รัชน์ กระบาย และชวลีย์ ณ ถลาง. แนวทางการส่งเสริมการทอ่ งเทีย่ วเชงิ เกษตร จงั หวดั ลพบรุ ี.
วารสารวิชาการ สถาบันการพลศกึ ษา ปีท่ี ๑๑ ฉบบั ท่ี ๓ กนั ยายน – ธนั วาคม ๒๕๖๒ Journal Online ๒๖๗๒-
๙๑๓X. หนา้ ๑๗๖.

110

ความร้ใู นแหลง่ ท่องเท่ยี วเชิงเกษตร และด้านปัจจัยดึง สว่ นใหญ่ เพ่อื ทำกิจกรรมในแหล่งท่องเท่ียวเชิง
เกษตร และ ๕) แนวทางการส่งเสริมการทอ่ งเที่ยวเชิงเกษตร จังหวัดลพบรุ ี ควรมีการจัดการเส้นทาง
การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว เช่น การเพิ่มป้ายบอกเส้นทาง ควรเพิ่มระบบการขนส่งสาธารณะ เพื่อให้
ครอบคลุมกับแหล่งท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมทางการเกษตรที่มีความหลากหลายโดดเด่นเป็น
เอกลกั ษณ์ ควรสง่ เสรมิ ให้แหล่งท่องเท่ียวใช้ส่ือออนไลน์ เพื่อการติดต่อสื่อสารไดง้ ่าย สะดวก รวดเร็ว
และควรมีการจัดระบบ สาธารณูปโภคขั้นพ้ืนฐานภายในแหล่งท่องเที่ยวให้พร้อมต่อการรองรับ
นกั ทอ่ งเทีย่ ว

เพ็ญนภา เพ็งประไพ42 ทำวจิ ัยเรอ่ื ง ปจั จัยส่วนประสมทางการตลาดท่ีมีอิทธิพลต่อความ
ต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ในกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสังคมและวัฒนธรรมของ
เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผลวิจัยพบว่า นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญต่อปัจจัยส่วนประสมทาง
การตลาดกิจกรรมการท่องเทย่ี วเชิงสังคมและวัฒนธรรม ในระดับมากท่ีสุดในดา้ นผลิตภณั ฑ์ รองลงมา
ด้านบุคคล ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านการสร้างและนำเสนอลักษณะทางกายภาพ ด้าน
กระบวนการ ด้านราคา และด้านส่งเสริมการตลาด ตามลำดับ โดยนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติให้
ความสำคัญกับปัจจัยทางการตลาดท่องเที่ยวสูงกว่านักท่องเที่ยวชาวไทย และกลุ่มนักท่องเท่ียวชาว
ไทยมีความต้องการเกี่ยวกับกิจกรรมด้านสังคมและวัฒนธรรมของเกาะพะงัน มากกว่านักท่องเที่ยว
ชาวต่างชาติ โดยนักท่องเทยี่ วชาวไทยมีความต้องการสูงสดุ ในกิจกรรมดํานำ้ ดูปะการัง ผลการทดสอบ
สมมติฐานพบว่า ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดการท่องเที่ยว ได้แก่ ด้านผลติภัณฑ์ ด้านบุคคล และ
ด้านส่งเสริมการตลาด มีอิทธิพลเชิงบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อความต้องการในกิจกรรม
กรรมการท่องเที่ยวเชิงสังคมของเกาะพะงัน และ ปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดการท่องเที่ยว ได้แก่
ด้านราคา และด้านกระบวนการ มีอิทธิพลเชิงลบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่อความต้องการใน
กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสังคมของเกาะพะงัน โดยปัจจัยส่วนผสมทางการตลาดการท่องเที่ยวด้าน
บุคคลมีอิทธิพลสงู สุด รองลงมาคือ ดา้ นผลิตภัณฑ์ และ ด้านส่งเสรมิ การตลาด ตามลำดับ และผลการ
ทดสอบความแตกตา่ งพบว่านกั ท่องเท่ียวท่ีมีลักษณะส่วนบุคคล ด้านอายุ สถานภาพ และรายได้เฉลี่ย
ต่อเดือน มีความต้องการในกิจกรรมการทอ่ งเท่ียวเชิงสงั คมและวัฒนธรรมของเกาะพะงันแตกต่างกัน
อย่างมนี ยั สำคญั ทางสถิติ

42เพ็ญนภา เพง็ ประไพ. ปจั จยั สว่ นประสมทางการตลาดท่มี ีอทิ ธิพลต่อความตอ้ งการของนักทอ่ งเทย่ี ว
ชาวไทยและต่างชาติ ในกจิ กรรมการทอ่ งเทย่ี วเชิงสงั คมและวัฒนธรรมของเกาะพะงนั จังหวดั สุราษฎรธ์ านี. ปรญิ ญา
ศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขาวิชาการจัดการอตุ สาหกรรมการบรกิ าร และท่องเที่ยว: (บัณฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลยั
กรุงเทพ), ๒๕๕๙, (บทคัดย่อ).

111

ร้อยโท อภิรักษ์ ส่งสุข,และมูฮัมหมัดอิลยาส หญ้าปรัง.43 ทำวิจัยเรื่อง แนวทางการ
พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ผลการศึกษา
พบว่า ได้เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในกิจกรมทางการเกษตร การเข้าชมบุฟเฟต์ในสวน
ผลไม้ แต่ไม่ มีบริการรถชมแปลงเกษตรและพักแรม แหล่งเรียนรู้ศูนย์สาธิตด้านการเกษตร ได้แก่
ศูนย์สาธิตด้าน การเกษตร ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเกษตร ส่วนการบริการในด้าน
ร้านอาหารและ เครื่องดื่มยังไม่มี มีเพียงจุดบริการขนาดเล็ก ด้านการประชาสัมพันธ์มีน้อย เน้นการ
แนะนำบอกต่อ มี การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์และวิทยุท้องถิ่น สื่อออนไลน์ ด้าน
สาธารณูปโภคและสิ่งอำนวย ความสะดวกแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตำบลตระกาจ เป็นแหล่ง
ท่องเทย่ี วที่เปดิ ใหม่ ยังไม่มรี ะบบการจัดการทีช่ ัดเจน

การมีสว่ นร่วมของชุมชนในการพฒั นาแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วเชิงเกษตร ตำบลตระกาจ โดยชมุ ชน
มีส่วนร่วมในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใน ๕ ด้าน ดังนี้ ๑) ด้านการวางแผน/ตัดสินใจ ๒) ด้านการมี
ส่วนร่วมในการวิเคราะห์ปัญหา ๓) ด้านการมีส่วนร่วมใน การพัฒนาและร่วมกิจกรรม ๔) ด้านการ
แบ่งปันประโยชน์และกระจายรายได้ ๕) ด้านการมีส่วนร่วม ในการติดตามผลการดำเนินงาน แต่
ชาวบ้านยังมีส่วนร่วมน้อย ไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมเท่าที่ควร ยกเว้น
ผู้ประกอบการที่ได้รับผลประโยชน์ ดังนั้นการส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามีส่วนร่วมในกิจกรรม
ตา่ งๆ จะเป็นการสร้างความร้สู ึกรว่ มในการเปน็ เจา้ ของให้เกิดขึ้นกับบุคคล และชมุ ชน เพอ่ื นำไปสู่การ
รักษาทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีเอกลักษณ์ และสิ่งแวดล้อมของตำบลตระกาจ ที่จะ
ก่อใหเ้ กดิ รายได้ให้แก่ชุมชนทั้งปัจจบุ ันและอนาคต

แนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรตำบลตระกาจ ได้รับการสนับสนุนจาก
หน่วยงานรัฐเพื่อพัฒนาและส่งเสริมเป็นศูนย์เรียนรู้ประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) การ
พัฒนาศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร จำนวน ๒ แห่ง การพัฒนาการประชาสัมพันธ์การ
โฆษณาและสื่อประชาสัมพันธ์ การสื่อสารผ่านวิทยุ โทรทัศน์ การพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว
ในด้านสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก ยังคงต้องพัฒนาอีกในหลายๆประเด็น โดยเฉพาะ
อย่างย่ิงการคมนาคม ทพ่ี ัก บรกิ ารห้องสขุ า บรกิ ารโทรศพั ทส์ าธารณะ สญั ญาณอนิ เตอรเ์ น็ต ตู้กดเงิน
สด จุดทิ้งขยะ จุดบริการจำหน่ายอาหาร แนวทางสำคัญคือ การบริหารจัดการของเกษตรกรให้มี
ศักยภาพ มีความพร้อมในการบริการ การนำเที่ยว การสร้างเอกลักษณ์ประจำถิ่น การสร้างเครือข่าย

43 รอ้ ยโท อภิรกั ษ์ ส่งสุข,และมฮู ัมหมดั อลิ ยาส หญา้ ปรัง. แนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร
ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ. หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาสหวิทยาการเพ่อื การ
พัฒนาทองถิน่ มหาวทิ ยาลัยรามคำแหง.

112

เพ่อื การทอ่ งเท่ียวเชงิ เกษตรอยา่ งย่ังยนื ควบคู่ไปกบั การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใน
ชมุ ชนทอ้ งถน่ิ ใหม้ ีความยั่งยนื

จุฬนี วิริยะกิจไพศาล44. ทำการวิจัยเรื่อง กลยุทธ์การตลาดกับการตัดสินใจเลือกเข้า
ศึกษา ในโรงเรียนกวดวิชาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ผลการวิจัยพบว่า ๑) กลยุทธ์
การตลาดของโรงเรียนกวดวิชาในเขตกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยใู่ นระดับมาก และเมือ่ พจิ ารณา
เปน็ รายดา้ นพบว่า อยูใ่ นระดับมากทุกด้าน โดยเรยี งลำดบั คา่ มชั ฌิมเลขคณติ จากมากไปหาน้อย ดังน้ี
กลยุทธ์การตลาดด้านการส่งเสริมการตลาด กลยุทธ์การตลาดด้านช่องทางจัดจำหน่าย กลยุทธ์
การตลาดดา้ นราคา และกลยทุ ธด์ ้านผลติ ภัณฑ์ ตามลำดับ ๒) การตดั สินใจเลือกเข้าศึกษาในโรงเรียน
กวดวิชาของนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย ในภาพรวมอยูใ่ นระดบั มาก และเมอ่ื พิจารณาเป็นราย
ดา้ นพบวา่ อยู่ในระดับมากทกุ ด้าน โดยเรยี งลำดับค่ามัชฌมิ เลขคณิตจากมากไปหาน้อย ดังน้ี ด้านการ
รับรู้ความต้องการ/รับรู้ปัญหา ด้านพฤติกรรมภายหลังการเลือก ด้านการประเมินผลทางเลือก ด้าน
การค้นหาข้อมูล และด้านการตัดสินใจเลือก ตามลำดับ ๓) กลยุทธ์การตลาดมีความสัมพันธ์กับการ
ตัดสนิ ใจเลือกเข้าศึกษาในโรงเรียนกวดวิชาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในภาพรวม อย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ด้านที่มีความสัมพันธ์กันมาก ที่สุดคือ กลยุทธ์การตลาดด้าน
ผลิตภัณฑ์ กับ การตัดสินใจด้านพฤติกรรมภายหลังการเลือก และกลยุทธ์การตลาด ด้านการส่งเสริม
การตลาด กบั การตดั สนิ ใจดา้ นการประเมนิ ทางเลือก

มณี ชินรงค์ และคณะ45 ทำการวิจัยเร่ือง การพัฒนากลยุทธก์ ารตลาดด้านการท่องเท่ยี ว
เชงิ ประวัติศาสตร์ อำเภอเมอื ง จงั หวัดกาญจนบรุ ี ผลการวิจยั พบว่าผลการวิจัยพบว่า ๑) นกั ท่องเท่ียว
มรี ะดบั ความคดิ เหน็ ต่อการพฒั นากลยุทธก์ ารตลาดดา้ นการท่องเทยี่ วเชิงประวตั ิศาสตร์ในภาพรวมอยู่
ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ๔.๒๔ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านช่องทางให้บริการ ณ แหล่ง
ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์มีความคิดเห็นในลำดับสูงสุด เฉลี่ย ๔.๓๘ และความคิดเห็นที่มีต่อ
มาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เฉลี่ย ๔.๒๕ เม่ือ
พิจารณาเป็นรายด้านพบว่า คุณภาพการยอมรับแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มีความคิดเห็นใน

44 จุฬนี วิรยิ ะกจิ ไพศาล. กลยทุ ธก์ ารตลาดกบั การตัดสนิ ใจเลือกเขา้ ศกึ ษาในโรงเรยี นกวดวชิ าของ
นกั เรียน ช้ันมัธยมศกึ ษาตอนปลาย. หลกั สตู รปรญิ ญาศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา ภาค
วิชาการบรหิ ารการศึกษา: (บณั ฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลยั ศิลปากร), ๒๕๕๙, (บทคัดย่อ)

45 มณี ชินรงค์ และคณะ. การพฒั นากลยุทธ์การตลาดด้านการทอ่ งเทีย่ วเชิงประวตั ศิ าสตร์ อำเภอเมือง
จงั หวัดกาญจนบรุ ี หลกั สูตรบรหิ ารธุรกิจ สาขาการตลาด คณะวทิ ยาการจดั การ: (มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั กาญจนบรุ ี
,๒๕๖๓), (บทคดั ยอ่ )

113

ลำดับสูงสุด เฉลี่ย ๔.๒๙ ๒) ความสัมพันธ์การพัฒนากลยุทธ์การตลาดด้านการท่องเที่ยวเชิง
ประวัติศาสตร์ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี มีระดับความสัมพันธ์ในระดับสงู และเป็นไปในทิศทาง
เดยี วกันกบั การพัฒนามาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเท่ยี วทางประวัตศิ าสตร์ โดยมีค่ า่ r เท่ากบั ๐.๙๕๐
มีคา่ Sig เท่ากับ ๐.๐๐ ซึ่งมคี า่ Sig < ๐.๐๕ สอดคลอ้ งกบั สมมติฐานทตี่ งั้ ไว้ สามารถอธิบายไดว้ ่า การ
พฒั นากลยุทธก์ ารตลาดดา้ นการท่องเท่ยี วเชงิ ประวัตศิ าสตรส์ ง่ ผลให้แหล่งทอ่ งเทย่ี วทางประวัตศิ าสตร์
มมี าตรฐานคณุ ภาพ

๒.๘ กรอบในการวิจัย

จากการทบทวนแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สามารถนำมาสรุปเป็น
กรอบแนวคดิ เพ่อื ดำเนินการวิจยั ไดด้ งั นี้

ตวั แปรต้น ตวั แปรตาม

การพฒั นามาตรฐานคณุ ภาพศูนย์ ศูนยก์ ารเรยี นรแู้ ละอนรุ ักษพ์ ันธุ์
การเรียนรแู้ บบมสี ่วนร่วมในการ กล้วย จังหวดั สพุ รรณบุรี เป็นแหลง่
ทอ่ งเที่ยวเชงิ เกษตรที่มีมาตรฐาน
อนรุ ักษพ์ ันธุก์ ลว้ ย จงั หวดั
สุพรรณบุรี คณุ ภาพ

๑) ตัวแปรต้น ได้แก่ การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย
จงั หวัดสพุ รรณบุรี

๒) ตัวแปรตาม ได้แก่ เป็นศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์พันธุ์กล้วยที่มีคุณภาพมาตรฐาน
จงั หวดั สพุ รรณบุรี

114

บทที่ ๓

วิธีดำเนินการวจิ ยั

ในการดำเนินการวิจัยเรือ่ ง การพฒั นาศูนยก์ ารเรียนรู้แบบมีสว่ นรว่ มในการอนุรกั ษพ์ ันธ์ุ
กล้วย จงั หวัดสุพรรณบรุ ี ผวู้ จิ ัยดำเนินการวจิ ัยตามข้ันตอนต่อไปน้ี

๓.๑ รปู แบบการวิจัย
๓.๒ ประชากรและกลมุ่ ตวั อย่างและผู้ให้ข้อมูลสำคญั
๓.๓ เครือ่ งมอื ทีใ่ ช้ในการวจิ ัย
๓.๔ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู
๓.๕ การวิเคราะห์ข้อมูล
เพื่อใหก้ ารวิจัยมปี ระสทิ ธิภาพ และเป็นไปตามวตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัย ผศู้ ึกษาจึงได้
กำหนดวธิ ีดำเนนิ การวิจัยไวต้ ามลำดับดังนี้

๓.๑ รปู แบบการวจิ ัย

๓.๑.๑ การวิจัยเรื่อง “การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย
จังหวัดสุพรรณบุรี ” ใช้วิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ร่วมกับการวิจัยแบบผสานวิธี
(Mixed Methods Research) ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) กับการวิจัย
เชงิ คณุ ภาพ ทำการเก็บขอ้ มูลภาคสนาม (Field Study) เลอื กกลมุ่ ตวั อย่างแบบเจาะจงจากผู้ให้ข้อมูล
สำคัญ (Key Informants) ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ฯ โดยใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึก (In depth Interview)
เป็นแกน และเลือกสุ่มจากกลุ่มประชากรที่มาเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วย ใช้แบบสอบถาม
(Questionnaire) เป็นข้อมูลสนบั สนนุ ผูว้ ิจัยได้กำหนดข้นั ตอนการดำเนินการวิจัยตามลำดับ ดังนี้

๑) ศึกษาหลกั การ แนวคิดทฤษฎี ระเบียบ และผลงานวิจัยทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง
๒) กำหนดกรอบแนวคิด หวั ข้อปญั หา และวตั ถุประสงคใ์ นการวจิ ยั
๓) กำหนดกลมุ่ ประชากร และกลุม่ ตัวอย่างทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั
๔) สร้างเครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูลการวิจัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารศูนย์ฯ
ด้านการตลาดและการอนรุ กั ษพ์ ันธุก์ ล้วย
๕) นำเครื่องมอื เสนอผู้เช่ยี วชาญตรวจสอบเพอื่ ปรบั ปรุงแกไ้ ขใหส้ มบูรณ์
๖) ทดสอบเครื่องมือกบั กลุ่มตวั อย่างที่ไม่ใช่กล่มุ ตวั อยา่ งท่ีใช้ในการวิจัย (Try out)
๗) ดำเนนิ การสัมภาษณ์ และสง่ แบบสอบถามใหก้ ล่มุ ตัวอย่าง จัดเก็บรวบรวมขอ้ มูล
๘) วิเคราะหข์ ้อมลู และแปลผลขอ้ มลู
๙) สรุปผลการศึกษา จัดทำเป็นแนวทางการพัฒนาศนู ย์การเรียนรูแ้ บบมสี ว่ นร่วมในการ
อนุรกั ษ์พันธุก์ ล้วย จังหวัดสพุ รรณบรุ ี

115

๓.๑.๒ งานวจิ ยั ฉบับน้ีใช้รปู แบบการวจิ ยั วิจยั เชิงปฏิบตั กิ ารเปน็ หลัก ตามกรอบแนวคิดของ
ของ เลวิน ซึ่ง Kemmis and McTaggart ได้นำแนวคิดของเลวินมาพัฒนาเป็นการวิจัยปฏิบัติการ
แบบบันไดเวียน46แบ่งการวจิ ยั ออกเป็น ๓ ระยะ คอื

๑) ระยะเตรียมการ (Pre-Research Phase) มีกิจกรรมประกอบด้วย
(๑) รวบรวมข้อมลู พื้นฐานของศนู ย์การเรยี นรู้และการอนรุ ักษ์พันธุ์กลว้ ย ดว้ ยกระบวนการ

มีส่วนรว่ มของชุมชนในจังหวดั สุพรรณบรุ ี ข้อมูลจากหน่วยงานที่เก่ยี วข้อง
(๒) ประสานงานกับชุมชนในพ้ืนที่ ท้ังภาครฐั ภาคเอกชน และภาคีเครือข่าย รวมท้ังคณะ

สงฆ์พระสังฆาธิการในจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าร่วมในโครงการวิจยั และชแ้ี จงวตั ถุประสงค์การจัดตง้ั ศนู ย์การ
เรยี นรแู้ ละการอนรุ ักษ์พนั ธ์ุกล้วยและวธิ ีการดำเนินงานให้ทุกฝา่ ยรับรู้

(๓) สร้างสัมพันธภาพกบั ชุมชนต่างๆ เพื่อสร้างความคนุ้ เคย และสร้างการร่วมมือในการ
ดำเนนิ งานวจิ ยั ที่จะมขี ้ึน โดยการเข้าไปพบปะ พดู คยุ และปรึกษาหารืออยา่ งไม่เป็นทางการ

(๔) จดั เตรียมวัสดุอุปกรณ์ ท่ีจำเป็นต้องใช้ในโครงการวิจัยให้เพยี งพอ

๒) ระยะดำเนนิ การวิจัย (Research Phase) ผวู้ ิจยั ประยกุ ต์ใช้กระบวนการมสี ่วนร่วมของ
ชุมชน47 เป็น ๔ ข้นั ตอน ดังนี้

ข้นั ตอนท่ี ๑ ร่วมกันวางแผน (Planning) จดั ประชุมเชิงปฏิบัติการโดยมีกระบวนการ ดังนี้
(๑) กระบวนการหาและใช้ทุนทางสังคมในการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้และการอนุรักษ์พันธุ์

กล้วย จงั หวดั สพุ รรณบุรี วิเคราะห์ความเป็นไปได้ท่ีจะจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้และการการอนรุ ักษ์พนั ธ์ุกล้วย
โดยศึกษาบริบทของพื้นท่ี ข้อมูลประชากร ศึกษาแผนงาน ศึกษาทรัพยากรการบริหารจัดการศูนย์ฯและ
คุณภาพด้านส่งิ แวดลอ้ ม

(๒) กระบวนการศกึ ษาปัญหาความต้องการของชุมชน ในการพัฒนาให้เปน็ ศูนย์การเรียนรู้
และการอนุรักษ์พันธ์ุกล้วย วเิ คราะหป์ ัญหา สาเหตุ กิจกรรมที่ใชแ้ ก้ปัญหา กำหนดเปา้ หมาย วางแผน
ดำเนินงานร่วมกนั ปรับทัศนคติ วิธคี ิดและการพัฒนาศักยภาพของบุคคล

(๓) กระบวนการออกแบบกิจกรรมของศนู ย์การเรียนรู้และการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย โดยใช้พ้ืนท่ี
เปน็ ตวั ตัง้ สรา้ งสิ่งแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการจัดกิจกรรม และจัดกิจกรรมในการเรยี นรู้ การอนรุ ักษ์ การจัด
จำหนา่ ยผลิตภัณฑ์การเกษตร

ข้ันตอนที่ ๒ ร่วมกันปฏบิ ัติ (Acting)

46ฬิฏา สมบรู ณ์, วจิ ยั เชิงปฏิบตั กิ าร(๔) [ออนไลน์] เข้าถงึ ไดจ้ าก
https://www.gotoknow.org/posts/๓๔๘๗๕ สบื ค้นเมอ่ื วันท่ี ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓.

47ขนิษฐา นันทบตุ ร. บทสังเคราะห์ ข้อเสนอเพื่อการพฒั นาระบบการทำงานของผดู้ ูแล. สถาบันวิจยั
และพัฒนาระบบบริการการพยาบาล, สภาการพยาบาล, สำนกั งานหลกั ประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ, ๒๕๕๑.

116

นำแผนจากข้ันตอนที่ ๑ ไปสู่การปฏบิ ตั ิตามแผนงาน/ โครงการ /กิจกรรม ตามกิจกรรมหลัก
๔ กิจกรรม ได้แก่

(๑) กจิ กรรมการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้
(๒) กิจกรรมการอนรุ ักษ์พนั ธ์ุกล้วย
(๓) กจิ กรรมการตลาดด้านบริการ
(๔) กิจกรรมการสร้างเครือข่าย
ขัน้ ตอนท่ี ๓ ร่วมกนั สังเกตผล (Observing) และประเมินผลการปฏิบตั ิงานตามแผนงาน มีการ
แต่งตัง้ คณะกรรมการการนิเทศ ตดิ ตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนงาน โครงการ กจิ กรรม และ
สนับสนุนการดำเนินงานด้านวิชาการ ด้านการอนรุ ักษ์พันธ์ุกล้วย และการตลาดด้านบริการ
ขั้นตอนท่ี ๔ ร่วมกนั สะท้อนผล (Reflecting)
จัดให้มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถอดบทเรียน สรุปผล ประเมินผลร่วมกันวิเคราะห์ปัญหา
อุปสรรคในการดำเนินงานและวางแผนในการแก้ไขปัญหา ร่วมกันสังเคราะห์ข้อมูล สรุปเป็นแนวทางใน
การพฒั นาโครงการ/กิจกรรมในรอบปีต่อไป เพื่อให้ตรงเป้าหมายการจัดต้ังศูนย์การเรยี นรู้และการอนุรักษ์
พนั ธ์ุกล้วย จงั หวัดสพุ รรณบุรี

ระยะที่ ๓ ประชุมสรุปผลการวิจัยและนำเสนอหนว่ ยงานพร้อมทั้งองค์ความรู้ที่ได้จากการ

วิจัย (Focus Group)

๓.๒ ประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง

ประชากรและกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเรื่อง “การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมใน
การอนุรักษ์พนั ธ์ุกล้วย จงั หวัดสุพรรณบรุ ี ” ผู้ศึกษาดำเนินการ ดงั น้ี

๓.๒.๑ กลมุ่ ประชากร แบ่งเป็น ๒ กลมุ่ คือ
๑) กลมุ่ ประชากรที่เดินทางมาเยย่ี มชมศูนย์อนุรักษ์พนั ธุ์กล้วย จงั หวดั สุพรรณบุรี

ระหว่างเดอื นมิถุนายน ๒๕๖๓ – กรกฎาคม ๒๕๖๓ ประมาณ ๑,๘๐๐ คน
๒) กลุ่มประชากรผู้ใหข้ ้อมลู สำคัญท่มี ีความเกย่ี วข้องกับศูนย์อนรุ ักษ์พนั ธุ์กล้วย จังหวัด

สุพรรณบุรี จำนวน ๑๓ คน
๓.๒.๒ กลุม่ ตัวอยา่ ง
ขนาดของกลุ่มตัวอยา่ ง ทใ่ี ช้ในการวิจัย ผวู้ จิ ัยไดท้ ำการส่มุ ผู้เดินทางมาเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์

พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี ระหว่างเดือนมิถุนายน ๒๕๖๓ – กรกฎาคม ๒๕๖๓ โดยใช้วิธีการสุ่ม
ตัวอย่างแบบใช้วิจารรณญาณ ประเภทไม่ทราบจำนวนประชากร48. โดยใช้สูตรคำนวณขนาดกลุ่ม

48 กมลวรรณ ตังธนกานนท์. ระเบียบวิธีสถิติทางการศึกษา. (กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่ง
จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๕๘). หน้า ๘๓ – ๘๔

117

ตัวอย่างของทาโร ยามาเน่ (Taro Yamane) กรณีไม่ทราบขนาดของประชากรที่แน่นอน ซึ่งใช้ระดับ
ความคลาดเคลือ่ นที่ ๐.๐๕

n = 1 + N
N (e)2

โดย N = จำนวนประชากรทง้ั หมด
e = ความคลาดเคลื่อนทยี่ อมรบั ได้
n = จำนวนกลมุ่ ตวั อยา่ ง

ประชากรท้ังหมด ๑๘๐๐ คน เม่ือแทนค่าในสูตรจะไดด้ งั นี้

แทนคา่ ในสูตร n = ๑,๘๐๐
๑ + ๑,๘๐๐ (๐.๐๕๒)

ดงั นัน้ จงึ ได้ขนาดกลมุ่ ตวั อยา่ งจำนวน ๓๒๗ คน

๓.๒.๓ ผใู้ ห้ขอ้ มลู สำคัญ (Key Informant)

ผู้วิจัยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจงจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการ
อนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติท่ีสัมพันธ์กับ
ศูนยฯ์ จำนวน ๒๒ รูป/คน แบง่ เป็น ๒ กลุม่ ดังน้ี คอื

๑) กลุ่มข้าราชการ เช่น เกษตรจังหวัด พัฒนาการจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด พาณิชย์
จงั หวัด นักวิชาการการเกษตร จำนวน ๑๒ คน

๒) กลุ่มบุคลากรที่ปฏิบัติงานประจำในศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน
๑๐ คน

๓.๓ เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นการวิจัย

การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจยั แบบปฏบิ ตั กิ ารแบบมีส่วนร่วมเชิงผสานวธิ รี ะหว่างการวิจยั เชงิ
ปริมาณ กับการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์เชิงลึกแบบมี
โครงสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง เพื่อศึกษาการพัฒนา
ศูนยก์ ารเรยี นรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พนั ธุ์กล้วย จังหวดั สุพรรณบุรี มลี ำดับการสร้างเคร่ืองมือ
ดังนี้

๑) ข้นั ตอนการสรา้ งเคร่อื งมอื แบบสอบถามประมาณคา่
(๑) ศึกษาทฤษฎี เอกสาร บทความ ตำรา รวมถึงการรวบรวมวรรณกรรม งานวิจัยที่

เกี่ยวข้องกับการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย ผู้วิจัยนำมารวบรวม

118

และเรียบเรียงข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างแบบสอบถามโดยยึดหลักความมีประสิทธิภาพ และความ
เที่ยงตรงเชงิ เน้ือหา (content Validity)

(๒) นำเสนอแบบสอบถามให้ผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบเนื้อหาและความ
เหมาะสมของภาษา (Content Valid) และโครงสร้างแบบสอบถาม (Construct Validity) หลังจาก
น้นั นำมาปรบั ปรงุ ขอ้ คำถามให้มีความเหมาะสมยิ่งข้ึน เพอื่ ใหไ้ ด้คำถามที่ตรงตามวัตถปุ ระสงค์การวิจัย
ทำการประเมนิ ความเที่ยงตรง (Validity) และความน่าเช่ือถอื (Reliability) ดงั นี้

๒.๑ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหวา่ งข้อคำถามกับวัตถุประสงค์ (Index of
item-Objective Congruence: IOC) โดยอาศัยความเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้เชี่ยวชาญ ด้าน
การตลาด หรือผู้ทรงคณุ วฒุ ิท่ีเปน็ นกั วิชาการ จำนวน ๓ ทา่ น โดยใช้เกณฑป์ ระเมินตอ่ ไปนี้

+ ๑ หมายความว่า มีความแนใ่ จวา่ คำถามตรงกบั เน้ือหาหรือวตั ถปุ ระสงค์ในข้อนนั้
๐ หมายความว่า มีความไม่แน่ใจว่าคำถามตรงกับเนื้อหาหรือวัตถุประสงค์ในข้อ
น้นั
- ๑ หมายความว่า มีความแน่ใจว่าคำถามไม่ตรงกับเนื้อหาหรือวัตถุประสงค์ในข้อ
นั้น
๒.๒ นำผลการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้เชี่ยวชาญ ในข้อที่ (๑) มาคำนวณหา
คา่ ความเท่ียงตรงดา้ นเน้ือหา โดยคา่ ที่ยอมรบั ได้จะต้องมากกว่า ๐.๕ ในแตล่ ะคำถาม จึงจะสรุปได้ว่า
คำถามนนั้ ตรงประเดน็ ท่สี ามารถวัดได้ตรงกบั จุดมุ่งหมายของการวจิ ัย ไดค้ า่ ความเที่ยงตรงด้านเนื้อหา
เท่ากับ ๑.๐๐
๒.๓ นำแบบสอบถามที่ได้รบั การตรวจสอบ และปรับปรุงจนมีความเที่ยงตรงแล้ว
นำไปทดลองใช้ (try out) ด้วยการทดลองแจกแบบสอบถาม (Pilot Survey) จำนวน ๓๐ ชุด กับ
บุคคลทั่วไปท่ีมาเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อนำมาหา
ความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบสอบถาม โดยใช้วิธีสัมประสิทธิ์อัลฟ่า (Alpha Coefficient)
ของครอนบาค (Cronbach) และได้คา่ ความเชือ่ มัน่ ฉบบั ท่ีหน่งึ ๐.๙๐๘ ฉบบั ทส่ี อง ๐.๙๑๑ ตามลำดบั
ซึ่งรายละเอียดของแบบสอบถาม มีดงั นี้
ชุดท่ี ๑ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์
พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ เพศ อายุ อาชีพ ระดับ
การศึกษา ถิ่นพำนัก เป็นแบบสอบถามที่มีหลายคำตอบ (multiple choice questions) แต่ให้เลือก
คำตอบท่ีตรงกบั ความเปน็ จรงิ ของผตู้ อบคำถามเพียงคำตอบเดยี ว
ชุดที่ ๒ เป็นแบบสอบถามระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธ์ุ
กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี ท่ีมีต่อการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการ
อนุรกั ษพ์ นั ธกุ์ ลว้ ย จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี

119

ชุดที่ ๓ เป็นแบบสอบถามระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธ์ุ
กลว้ ย จังหวัดสพุ รรณบรุ ี ในการพัฒนากลยทุ ธ์การตลาดดา้ นการบริการการ ได้แก่ ๑) ด้านผลิตภัณฑ์
๒) ด้านการจัดจำหน่าย ๓) ด้านการกำหนดราคา ๔) ด้านการส่งเสริมการตลาด ๕) ด้านบุคคล หรือ
พนกั งาน ๖) ดา้ นกายภาพและการนำเสนอ และ๗) ด้านกระบวนการผลติ ผลติ ภณั ฑ์

๒) การสร้างเครื่องมือเป็นแบบสัมภาษณ์เชิงลึกของผู้ให้ข้อมูลสำคัญ เพื่อเสนอแนะแนว
ทางการการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี ตามกรอบกลยุทธ์
การตลาดดา้ นการบรกิ าร ให้มมี าตรฐานคุณภาพเป็นแหล่งท่องเท่ียวเชิงเกษตร แบง่ เป็น ๒ ตอน ไดแ้ ก่

ตอนท่ี ๑ ข้อมลู ทว่ั ไปของผู้ให้สมั ภาษณ์
ตอนที่ ๒ แนวทางการการพัฒนาศนู ย์การเรียนรูใ้ นการอนุรักษ์พันธ์ุกลว้ ย จังหวัด
สุพรรณบุรี ตามกรอบกลยทุ ธก์ ารตลาดด้านการบริการให้มีมาตรฐานคณุ ภาพเป็นแหล่งท่องเท่ียวเชงิ
เกษตร

๓.๔ การเก็บรวบรวมข้อมูล

ผู้วจิ ยั ไดท้ ำการจำแนกประเภทและแหลง่ ทม่ี าของขอ้ มูลตามลำดับ ดังน้ี
๑) ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) คือข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ (Survey) โดยการใช้
แบบสอบถาม รวบรวมข้อมูลจากผู้มาเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรแู้ บบมีส่วนรว่ มในการอนุรักษ์พันธ์ุกล้วย
จังหวัดสุพรรณบุรี ดำเนินการเกบ็ ขอ้ มลู โดยแจกแบบสอบถาม จำนวน ๓๒๗ ชดุ ใชว้ ธิ ีการสุ่มตัวอย่าง
แบบใชว้ ิจารรณญาณ (Judgment Sampling) ผวู้ จิ ยั จะสอบถามเฉพาะผู้ท่ีมาเย่ยี มชมศูนยก์ ารเรียนรู้
แบบมสี ่วนรว่ มในการอนุรกั ษพ์ ันธ์กุ ล้วย จังหวดั สพุ รรณบุรี
๒) ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) ทำการรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร ตำราวิชาการ
วารสาร บทความ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง จากสำนักงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณวิทยาลัย
และขอ้ มูลใน Internet
การปฏิบัตกิ ารจดั เก็บข้อมูลภาคสนามในคร้ังนี้ เร่ิมดำเนินการในชว่ งกลางเดอื นมถิ นุ ายน –
กรกฎาคม ๒๕๖๓ และทำการจดั เก็บสะสมไว้ทกุ วันจนครบตามขนาดกลุ่มตวั อย่าง

๓.๕ การวิเคราะห์ข้อมลู และสถิตทิ ่ใี ชใ้ นการวจิ ัย

การเกบ็ รวบรวมข้อมลู เพื่อนำมาวิเคราะห์ ผศู้ ึกษาไดด้ ำเนินการตามขน้ั ตอน ดังนี้
๑) ดำเนินการเก็บข้อมลู โดยแจกแบบสอบถาม จำนวน ๓๒๗ ชดุ
๒) ผู้วจิ ัยและผชู้ ว่ ยในการวิจยั จะสอบถามเฉพาะผู้มาเยี่ยมชมศนู ย์การเรียนรแู้ บบมีส่วนร่วม
ในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี เท่านั้น หากพบกลุ่มตัวอย่างดังกล่าวจึงจะทำการแจก
แบบสอบถาม
๓) นำขอ้ มูลทีไ่ ด้กรอกลงในแบบกรอกข้อมลู (coding form)

120

๔) นำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาหาค่าสถิติโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับการวิจัยทาง
สังคมศาสตร์ เพ่ือหาคา่ ความถ่ี ค่ารอ้ ยละ คา่ เฉลีย่ และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน

๕) นำค่าเฉลี่ยที่ได้จากการวิเคราะห์ไปทำการเปรียบเทียบกับเกณฑ์เพื่อใช้ในการแปล
ความหมายเป็นรายขอ้ /รายดา้ น

๖) วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทดสอบสมมติฐานการวิจัยโดยใช้สถิติ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์
เพยี ร์สนั

๗) เสนอผลการวเิ คราะห์ในรปู แบบตารางและสรุปความหมาย
๓.๕.๑ สถิตทิ ใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมูล

ก่อนจะดำเนนิ การวเิ คราะห์ข้อมลู ผศู้ กึ ษาได้ดำเนินการดังนี้
๑) ผู้วจิ ัยทำการตรวจสอบขอ้ มูล (Editing) เพ่อื ตรวจสอบความสมบรู ณ์ และความถูกต้อง
ของแบบสอบถามหลังจากดำเนนิ การเก็บรวบรวมแบบสอบถาม
๒) ทำการลงรหัสแบบสอบถาม (coding) โดยนำแบบสอบถามท่ีถกู ต้อง สมบรู ณ์แลว้ มาลง
รหัสตามท่ีกำหนดไว้
๓) ทำการประมวลผลขอ้ มลู ทีไ่ ดล้ งรหสั แลว้ โดยใช้โปรแกรมสำเรจ็ รูปทางสถติ ิเพื่อการวิจยั
ทางสงั คม และแจกแจงความถีข่ องทุกตวั แปร แลว้ นำมาคำนวณหาคา่ ร้อยละ
ผู้วิจัยได้กำหนดค่าสถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลอธิบายตัวแปรของการศึกษาครั้งนี้ไว้
ดงั นคี้ อื
๑) สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) สำหรับการอธิบายผลการศึกษาในเรื่อง
ต่อไปนีค้ ือ

(๑) การวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลของกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นปัจจัยส่วนบุคคลของกลุ่ม
ตวั อยา่ ง เช่น เพศ อายุ ระดับการศึกษา ลกั ษณะข้อมลู ที่ใช้เป็นมาตรวัดแบบนามบัญญตั ิ ใช้สถิติ การ
หาคา่ ความถ่ี (Frequency) และคา่ รอ้ ยละ (Percentage)

(๒) การวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ เกี่ยวกับการพัฒนา
มาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์พันธุ์กล้วย และเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการตลาดด้าน
บริการ ในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี ใช้
สถิติ การหาค่าความถี่ (Frequency) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard
Deviation)

121

การกำหนดเกณฑ์การแปลความหมายของคะแนน เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการเปรียบเทียบ
ค่าเฉลี่ยความคิดเห็นโดยใช้หลักของลิเคิร์ท (Likert’s Scales) อ้างถึงใน บุญชม ศรีสะอาด49. ซ่ึง
กำหนดค่าเฉล่ียที่ได้นำมาแปลความหมายตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้

มีผลตอ่ ระดับความคิดเห็นมากทส่ี ุด ให้ ๕ คะแนน
มีผลต่อระดบั ความคดิ เหน็ มาก ให้ ๔ คะแนน
มผี ลต่อระดับความคดิ เห็นปานกลาง ให้ ๓ คะแนน
มีผลตอ่ ระดับความคิดเหน็ นอ้ ย ให้ ๒ คะแนน
มผี ลต่อระดับความคิดเห็นนอ้ ยท่ีสุด ให้ ๑ คะแนน

หลังจากนั้นนำคะแนนระดับความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดมารวมกันเพื่อหาระดับ
เฉลี่ย ตามเกณฑ์การกำหนดช่วงคะแนนตามสูตรการหาอันตรภาคชั้นของนิภา ศรีไพโรจน์50
ดงั ตอ่ ไปน้ี

สูตรการหาอันตรภาคช้นั (Class Interval)
เกณฑ์ในการกำหนดช่วง = คะแนนสูงสดุ – คะแนนน้อยสุด

จำนวนชน้ั
แทนค่าสตู ร = ๕ – ๑


= ๐.๘

ท้งั นีจ้ ะนำคะแนนความพงึ พอใจ นำไปวเิ คราะห์ในรปู ของคา่ เฉลี่ย ดังนี้

คา่ เฉลี่ย ๔.๒๑– ๕.๐๐ หมายถึง มผี ลต่อระดับความคดิ เหน็ มากทส่ี ุด
คา่ เฉลี่ย ๓.๔๑ - ๔.๒๐ หมายถงึ มผี ลต่อระดบั ความคดิ เห็นมาก
ค่าเฉลย่ี ๒.๖๑ – ๓.๔๐ หมายถงึ มผี ลต่อระดับความคดิ เหน็ ปานกลาง
ค่าเฉลีย่ ๑.๘๑ – ๒.๖๐ หมายถึง มผี ลต่อระดับความคิดเห็นน้อย
คา่ เฉลย่ี ๑.๐๐ – ๑.๘๐ หมายถงึ มีผลตอ่ ระดับความคดิ เห็นนอ้ ยท่ีสดุ
๒) สถติ เิ ชิงอ้างองิ (Inference Statistics) ผู้วจิ ัยได้ใช้สถติ ิเชิงอา้ งอิง เพ่ือใช้ในการทดสอบ
สมมติฐานการวจิ ยั ดงั น้ี

49 บุญชม ศรสี ะอาด. การวจิ ยั เบอ้ื งต้นฉบับปรบั ปรุงใหม่. (พมิ พ์ครงั้ ที่ ๖.), กรุงเทพมหานคร :: สุวรี ิยา
สาสน์ ,๒๕๔๓,หนา้ ๑๑๗.

50 นภิ า ศรีไพโรจน์. หลกั การวิจัยเบ้ืองต้น, (กรุงเทพมหานคร: บรษิ ทั ศกึ ษาพร จำกดั ๒๕๒๗). หนา้
๑๔๘.

122

การทดสอบสมมติฐานกลยุทธ์ทางการตลาดด้านการบริการที่มีความสัมพันธ์ต่อการพัฒนา
ศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี ไปในทิศทางเดียวกัน
วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทดสอบความสัมพันธ์โดยใช้สถิติค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson
Product Moment Correlation Coefficient) เป็นสถิติที่ใช้หาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ๒ ชุด
โดยที่ตัวแปรทั้ง ๒ ชุดเป็นตัวแปรต่อเนื่อง (Continuous data) การแปลความหมายค่าสัมประสิทธิ์
สหสมั พนั ธ์ (r) ท่ีคำนวณไดจ้ ะพิจารณาจากเกณฑ์51 ดงั นี้

(๑) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์มีค่าเป็น – ๑ แสดงว่า ตัวแปร ๒ ตัวนั้นมีความสัมพันธ์กัน
ทางลบแบบสมบูรณ์

(๒) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์มีค่าเป็น - ๑ ถึง -๐.๘ แสดงว่า ตัวแปร ๒ ตัวนั้นมี
ความสัมพนั ธ์กนั ทางลบในระดับสูง

(๓) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์มีค่าเป็น – ๐.๗ ถึง – ๐.๓ แสดงว่า ตัวแปร ๒ ตัวนั้นมี
ความสัมพนั ธก์ นั ทางลบในระดับปานกลาง

(๔) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์มีค่าเป็น – ๐.๓ ถึง ๐ แสดงว่า ตัวแปร ๒ ตัวนั้นมี
ความสมั พันธก์ นั ทางลบในระดับตำ่

(๕) สมั ประสิทธส์ิ หสมั พนั ธม์ คี ่าเป็น ๐ แสดงวา่ ตวั แปร ๒ ตวั น้ันไมม่ ีความสมั พนั ธ์กัน
(๖) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์มีค่าเป็น ๐ ถึง ๐.๓ แสดงว่า ตัวแปร ๒ ตัวนั้นมี
ความสมั พนั ธก์ นั ทางบวกในระดบั ต่ำ
(๗) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์มีค่าเป็น ๐.๓ ถึง ๐.๗ แสดงว่า ตัวแปร ๒ ตัวนั้นมี
ความสมั พันธ์กนั ทางบวกในระดบั ปานกลาง
(๘) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์มีค่าเป็น ๐.๗ ถึง ๑ แสดงว่า ตัวแปร ๒ ตัวนั้นมี
ความสมั พนั ธก์ นั ทางบวกในระดับสูง
(๙) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์มีค่าเป็น ๑ แสดงว่า ตัวแปร ๒ ตัวนั้นมีความสัมพันธ์กัน
ทางบวกแบบสมบูรณ์
๓) ข้อมูลจากแบบสัมภาษณ์ ทำการสัมภาษณ์จากผู้เกี่ยวข้องกับศูนย์การเรียนรู้และการ
อนุรักษ์พันธุ์กล้วย ใช้วิธีการวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา (Descriptive analysis method) โดย
แบง่ เป็น ๒ สว่ น ตามแบบสอบถาม ดังน้ี
ส่วนที่ ๑ ข้อมูลทั่วไปของผู้ให้สัมภาษณ์ ค่าสถิติที่ใช้คือ ค่าความถี่ (Frequency) และค่า
ร้อยละ (Percentage)

51 กมลวรรณ ต้ังธนกานนท์. (๒๕๕๘). ระเบยี บวิธีสถติ ิทางการศกึ ษา. (กรงุ เทพมหานคร: จฬุ าลงกรณ
มหาวทิ ยาลยั . 2558), หนา้ ๑๔๐.

123

สว่ นท่ี ๒ เปน็ แบบสัมภาษณ์เชิงลึกของผู้ให้ข้อมูลสำคญั เพื่อเสนอแนะแนวทางการพัฒนา
ศนู ย์การเรียนรู้ การอนรุ กั ษ์พันธก์ุ ลว้ ย และการตลาดดา้ นบริการ ให้มมี าตรฐานคุณภาพ ใชว้ ธิ ีการ
วเิ คราะหเ์ ชงิ พรรณนาโดยการสรปุ ใจความสำคญั ทผ่ี ูต้ อบแบบสอบถามใหข้ ้อมลู มา และตัดข้อความที่
ไม่มผี ลต่อการเพิ่มศกั ยภาพในการพัฒนาศนู ย์อนุรักษ์พันธ์กุ ลว้ ย จงั หวดั สพุ รรณบุรี ออกไปเพื่อให้เกดิ
ความกระชบั และไดใ้ จความตรงประเด็นกบั คำถาม

124

บทที่ ๔

ผลการวิจัย

บทนี้เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการอธิบายและการทดสอบสมมุติฐานที่เกี่ยวข้องกับตัว
แปรแต่ละตัว ข้อมูลดังกล่าวผู้วิจัยได้เก็บรวบรวมจากแบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแลว้
จำนวน ๓๒๗ ชุด แล้วทำการวิเคราะห์ด้วยวิธีการทางสถิติตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย ผลการ
วิเคราะหจ์ ะนำเสนอในรูปของการพรรณนาความ ประกอบรูปตาราง แบ่งเป็น ๗ สว่ น ดงั น้ี

ส่วนที่ ๑ การวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบคุ คลของกลุ่มตวั อย่าง
ส่วนที่ ๒ การวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯเกี่ยวกับการพัฒนา
มาตรฐานคณุ ภาพศนู ยก์ ารเรียนรู้และอนุรักษพ์ นั ธ์กุ ลว้ ย จงั หวดั สพุ รรณบุรี
ส่วนที่ ๓ การวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ เกี่ยวกับกลยุทธ์ทาง
การตลาดด้านบริการ ในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัด
สุพรรณบุรี
ส่วนที่ ๔ การทดสอบสมมติฐาน “กลยุทธ์ทางการตลาดด้านการบรกิ ารมีความสัมพันธต์ ่อ
การพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัด
สพุ รรณบรุ ี ไปในทศิ ทางเดยี วกัน
ส่วนที่ ๕ การวิเคราะห์บทสัมภาษณ์ข้อคิดเห็นจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญและข้อเสนอแนะจาก
การประชุมกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญท่ีเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์พันธุ์
กล้วยให้มีมาตรฐานคณุ ภาพแหลง่ ท่องเทีย่ วเชงิ เกษตร จังหวดั สุพรรณบรุ ี
ส่วนที่ ๖ บทสรปุ จากการสมั มนารายงานการวจิ ัย เรื่อง การพฒั นาศูนยก์ ารเรยี นรแู้ บบมี
ส่วนรว่ มในการอนรุ ักษพ์ นั ธก์ุ ลว้ ยจังหวดั สพุ รรณบุรี
ส่วนที่ ๗ บทสรุป การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย
จังหวัด สุพรรณบุรี
ส่วนที่ ๘ การนำเสนอองค์ความรู้ทไี่ ด้จากการวจิ ัย

สัญลักษณ์ในการวิเคราะห์ข้อมูล

เพ่ือความเข้าใจในการแปลความหมาย ผู้วิจัยได้กำหนดสัญลักษณ์ที่ใชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มลู ดังน้ี

n แทน ขนาดกลุ่มตวั อยา่ ง
t แทน ค่าสถิติทใี่ ช้ในการพจิ ารณาการแจกแจงความถี่ แบบที (t-Distribution)
X แทน คา่ สถติ ิทใ่ี ช้พจิ ารณาค่าเฉล่ยี

125

S.D. แทน คา่ สถติ ทิ ่ใี ช้ในการพิจารณาคา่ ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน (Standard
Deviation)
คา่ สถิติสมั ประสทิ ธ์สหสัมพนั ธ์ของเพียรส์ ัน
r แทน คา่ ระดบั นยั สำคัญของสถติ ิทดสอบ (Significant)
Sig แทน ความมีนัยสำคัญทางสถิติทร่ี ะดบั ๐.๐๕ (๙๕เปอร์เซ็นต์)
* แทน

126

ส่วนที่ ๑ การวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบคุ คลของผูต้ อบแบบสอบถาม
ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ

รายได้สว่ นบุคคลเฉล่ยี ต่อเดือน โดยใช้สถิติคา่ ร้อยละ ดังแสดงในตารางตอ่ ไปนี้
ตารางที่ ๔.๑ แสดงจำนวนร้อยละของกลุม่ ตวั อยา่ งจำแนกตามปจั จยั สว่ นบุคคล

ปัจจัยส่วนบุคคล จำนวน(คน) รอ้ ยละ
เพศ
๑๔๕ ๔๓.๕
ชาย ๑๘๒ ๕๔.๗
หญิง ๓๒๗ ๑๐๐
รวม
อายุ ๔๙ ๑๔.๗
ตำ่ กวา่ ๒๐ ปี ๑๒๓ ๓๖.๙
๒๑ – ๓๐ ปี ๑๑๑ ๓๓.๓
๓๑ – ๔๐ ปี ๓๓ ๙.๙
๔๑ – ๕๐ ปี ๑๑ ๓.๓
๕๑ – ๖๐ ปี ๖ ๑.๘
๖๑ ปี ขึ้นไป ๓๒๗ ๑๐๐
รวม
ระดับการศึกษา ๗๙ ๒๓.๗
ตำ่ กวา่ ปรญิ ญาตรี ๑๕๗ ๔๗.๑
ปริญญาตรี ๗๔ ๒๒.๒
สงู กว่าปรญิ ญาตรี ๑๗ ๕.๑
อ่นื ๆ ๓๒๗ ๑๐๐

รวม ๓๘ ๑๑.๔
อาชพี ๑๙๓ ๕๘.๐
๕๘ ๑๗.๔
ข้าราชการ/พนักงานวิสาหกิจ ๑๗ ๕.๑
พนักงานบริษัทเอกชน ๖ ๑.๘
ทำธุรกิจส่วนตัว ๑๒ ๓.๖
นกั เรียน/นกั ศึกษา
แม่บ้าน
เกษตรกร

ปจั จยั ส่วนบุคคล จำนวน(คน) 127
เกษยี ณ ๓
อน่ื ๆ ระบุ ๐ รอ้ ยละ
๐.๙
๐.๐๐

รวม ๓๒๗ ๑๐๐

รายได้ส่วนบุคคลเฉลยี่ ต่อเดือน ๗๑ ๒๑.๓
๑๕.๐๐๐ บาท หรือต่ำกวา่ ๑๒๕ ๓๗.๕
๑๕,๐๐๑ – ๒๕,๐๐๐ บาท ๔๙ ๑๔.๗
๒๕,๐๐๑ – ๓๕,๐๐๐ บาท ๖๙ ๒๐.๗
๓๕,๐๐๑ – ๔๕,๐๐๐ บาท ๙ ๒.๗
๔๕,๐๐๑ – ๕๕,๐๐๐ บาท ๔ ๑.๒
มากกว่า ๕๕,๐๐๐ บาท ข้ึนไป ๓๒๗ ๑๐๐
รวม
๗ ๒.๑
ถ่ินพำนักในปัจจุบัน ๑๕๓ ๔๕.๙
ภาคเหนือ ๗ ๒.๑
ภาคกลาง ๗ ๒.๑
ภาคตะวนั ออก ๕๖ ๑๖.๘
ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ๗ ๒.๑
ภาคตะวนั ตก ๒๖ ๗.๘
ภาคใต้ ๓๒๗ ๑๐๐
กรุงเทพมหานคร
รวม

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๑ พบวา่ ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ลกั ษณะปจั จยั สว่ นบุคคลขอกลุ่มตวั อย่าง
ในการศึกษาคร้ังน้ี จำนวน ๓๒๗ คน จำแนกตามปัจจยั สว่ นบคุ คลได้ ดงั น้ี

เพศ พบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน ๑๘๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๔.๗ เพศชายจำนวน
๑๔๕ คน คดิ เป็นร้อยละ ๔๓.๕

128

อายุ พบวา่ ส่วนใหญ่มีอายุ ๒๑ – ๓๐ ปี จำนวน ๑๒๓ คน คดิ เป็นร้อยละ ๓๖.๙ รองลงมาคือ
อายุ ๓๑ - ๔๐ ปี จำนวน ๑๑๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๓ และมีอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี จำนวน ๔๙ คน
คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๔.๗

ระดับการศึกษา พบว่าสว่ นใหญจ่ บการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน ๑๕๗ คน คิดเป็นร้อย
ละ ๔๗.๑ รองลงมา จบการศกึ ษาระดบั ตำ่ กวา่ ปริญญาตรี จำนวน ๗๙ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๓๒.๗ และ
สูงกวา่ ปริญญาตรีจำนวน ๗๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๒.๒

การประกอบอาชีพ พบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพนักงานเอกชนทำธุรกิจส่วนตัว จำนวน ๑๙๓
คน คิดเป็นร้อยละ ๕๘.๐ รองลงมามีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัว จำนวน ๕๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๗.๔
และรับราชการ/รัฐวสิ าหกจิ จำนวน ๓๘ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๑.๔

รายได้ส่วนบุคคลเฉลี่ยต่อเดือนพบว่า ส่วนใหญ่มีรายได้ตั้งแต่ ๑๕,,๐๐๑ – ๒๕,๐๐๐
๓๕,๐๐๑ – ๔๕,๐๐๐ บาท จำนวน ๑๒๕ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๓๗.๕ รองลงมามีรายไดส้ ่วนบคุ คลเฉลีย่
ต่อเดือน ๑๕,,๐๐๐ บาท หรือต่ำกว่า จำนวน ๗๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๑.๓ และมีรายได้เฉลี่ยต่อ
เดือน ๓๕,,๐๐๑ – ๔๕,๐๐๐ บาท จำนวน ๖๙ คน คดิ เป็นร้อยละ ๒๐.๗

ถิ่นพำนักในปัจจุบันของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ พบว่าส่วนใหญ่มีถิ่นพำนักในปัจจุบันอยู่ที่ภาค
กลาง กรุงเทพมหานคร จำนวน ๑๕๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๙ รองลงมาผู้ที่อยู่ในภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน ๗๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๑.๓ และภาคตะวันตก จำนวน ๕๖ คน คิด
เปน็ ร้อยละ ๑๖.๘

ส่วนท่ี ๒ การวเิ คราะห์ระดบั ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง เกี่ยวกบั การพัฒนามาตรฐานคุณภาพ
ศนู ยก์ ารเรยี นรู้แบบมีสว่ นรว่ มในการอนรุ ักษพ์ นั ธุก์ ล้วย จงั หวดั สุพรรณบุรี

ตารางท่ี ๔.๒ แสดงคา่ เฉล่ยี และคา่ สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ระดบั ความคิดเห็นของผู้มาเยีย่ มชมศูนย์ฯ
ที่มีต่อการพฒั นามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมสี ่วนร่วมในการอนุรักษพ์ ันธ์กุ ลว้ ย
จังหวดั สุพรรณบรุ ี ในภาพรวม

129

การพฒั นาศูนย์การเรียนรู้แบบมสี ่วนร่วมในการอนุรักษ์ คา่ เฉลยี่ (X) คา่ S.D แปลผล
พนั ธ์ุกลว้ ย จังหวัดสพุ รรณบุรี
มากทีส่ ุด
๑. ดา้ นสภาพท่วั ไปของศนู ย์ฯ ๔.๓๗ ๐.๔๘ มากทส่ี ุด

๒. ดา้ นโครงสร้างของศนู ย์ฯ ๔.๓๐ ๐.๕๓ มาก
มากทีส่ ุด
๓. ดา้ นการมสี ว่ นร่วมในการบริหารจัดการศูนย์ฯ ๔.๒๐ ๐.๖๔ มากทส่ี ุด
มากที่สดุ
๔. ดา้ นศักยภาพการบริหารจัดการของศูนยฯ์ ๔.๒๕ ๐.๔๑
มาก
๕. ดา้ นศกั ยภาพการรองรับผู้มาเยี่ยมชมศนู ยฯ์ ๔.๒๙ ๐.๔๗ มากท่สี ดุ

๖. ดา้ นศกั ยภาพการให้บริการแก่ผ้มู าเย่ียมชมศนู ย์ฯ ๔.๓๕ ๐.๕๕

๗. ด้านศกั ยภาพการดึงดูดผู้มาเย่ียมชมศูนย์ฯ ๔.๐๗ ๐.๗๙

รวมเฉลีย่ ๔.๒๖ ๐.๓๖

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๒ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ ที่มีต่อการพัฒนา
มาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรยี นรู้แบบมีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์พันธ์ุกล้วย จังหวดั สพุ รรณบรุ ี พบว่า มี
ความคดิ เหน็ ในภาพรวมท้งั ๗ ด้าน มคี า่ เฉล่ียอยใู่ นระดบั มากทส่ี ุด (X) เทา่ กบั ๔.๒๖

เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ระดับความคิดเห็นที่มีต่อการพัฒนามาตรฐานคุณภาพ
ศูนย์ฯ ด้านสภาพทั่วไปของศูนย์ฯ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในลำดับสูงสุดเท่ากับ ๔.๓๗ รองลงมา ได้แก่ ด้าน
ศกั ยภาพการใหบ้ ริการแกผ่ ู้มาเยย่ี มชมศูนยฯ์ มีค่าเฉล่ียเท่ากบั ๔.๓๕ สว่ นดา้ นทีม่ ีลำดับค่าเฉลี่ยต่ำสุด
ได้แก่ ดา้ นศักยภาพการดงึ ดูดผูม้ าเยย่ี มชมศูนยฯ์ มีค่าเฉล่ียเท่ากับ ๔.๐๗

130

ตารางที่ ๔.๓ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม
ศนู ยฯ์ ทม่ี ีตอ่ การพฒั นามาตรฐานคุณภาพศนู ย์การเรียนร้แู บบมีสว่ นรว่ มในการอนุรักษ์พันธ์ุ
กลว้ ย จังหวัดสุพรรณบรุ ี จำแนกเป็นรายดา้ น “ดา้ นสภาพทว่ั ไปของศูนยก์ ารเรยี นรู้ ฯ”

ด้านสภาพท่วั ไปของศนู ยฯ์ คา่ เฉล่ยี (X) ค่า S.D แปลผล
มากทส่ี ดุ
๑. มีทำเล ที่ตง้ั ที่เหมาะสม ๔.๔๙ ๐.๖๔
มากที่สุด
๒. มีการกำหนดแผนการบริหารจดั การพื้นทอ่ี ยา่ งเปน็
ระบบ เชน่ กำหนดเขต การใช้ประโยชนพ์ ืน้ ทก่ี ารเกษตร มากทีส่ ดุ
พ้นื ทกี่ ารทอ่ งเที่ยว พื้นที่อนุรักษ์ ถนนและลานจอดรถ
มากทส่ี ดุ
๔.๓๗ ๐.๖๖ มากท่สี ดุ

๓. มกี ารอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม
เช่น การรักษาความอดุ มสมบูรณ์ของทรัพยากรการผลติ
ไดแ้ ก่ ดิน น้ำ

๔.๒๕ ๐.๗๖

๔. มกี ารกำจดั ของเสยี ในศนู ย์ฯ เชน่ ขยะ น้ำเสีย มลพิษ
ในอากาศทเ่ี กดิ จากการท่องเที่ยว มกี ารจัดวางทที่ ้ิงขยะ
อย่างเหมาะสมและเพียงพอ

๔.๓๖ ๐.๖๘

รวม ๔.๓๗ ๐.๔๘

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๓ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ ที่มีต่อการพัฒนา
มาตรฐานคณุ ภาพศูนย์การเรยี นรู้แบบมีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์พันธ์ุกลว้ ย จงั หวัดสุพรรณบุรี พบว่า มี
ความคิดเห็นต่อการพัฒนามาตรฐานคุณภาพ ดา้ นสภาพทวั่ ไปของศนู ย์การเรียนรู้ฯ โดยรวมทุกข้อมี
คา่ เฉลี่ยอยู่ในระดับมากท่สี ดุ (X) เทา่ กบั ๔.๓๗

เม่อื พิจารณาเป็นรายข้อ พบวา่ ระดับความคดิ เห็นทีม่ ีต่อการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์
การเรียนร้แู บบมสี ่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธ์ุกล้วย เรยี งตามลำดับได้ ดงั น้ี มีทำเล ท่ีต้ังท่ีเหมาะสม มี
ค่าเฉลี่ยอยู่ในลำดบั สูงสดุ เทา่ กบั ๔.๔๙ รองลงมาไดแ้ ก่ มกี ารกำหนดแผนการบริหารจดั การพน้ื ท่อี ย่าง

131

เป็นระบบ เช่น กำหนดเขต การใช้ประโยชน์พื้นที่การเกษตร พื้นที่การท่องเที่ยว พื้นที่อนุรักษ์ ถนน
และลานจอดรถ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๓๗ ส่วนด้านที่มีลำดับค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ มีการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น การรักษาความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรการผลิต ได้แก่
ดิน นำ้ มีคา่ เฉล่ียเทา่ กับ ๔.๒๕

ตารางที่ ๔.๔ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม
ศนู ยฯ์ ท่ีมตี อ่ การพฒั นามาตรฐานคุณภาพศนู ย์การเรยี นรู้แบบมีสว่ นรว่ มในการอนรุ ักษ์พันธ์ุ
กล้วย จังหวดั สพุ รรณบุรี จำแนกเปน็ รายด้าน“ดา้ นโครงสรา้ งของศนู ยก์ ารเรียนรู้”

ด้านโครงสร้างของศูนย์ฯ คา่ เฉลยี่ (X) คา่ S.D แปลผล
มากที่สุด
๑. มเี อกลักษณ์และมีความโดดเดน่ เฉพาะตัว ๔.๓๒ ๐.๗๖
มากที่สุด
๒. มกี ารจดั การด้านความปลอดภยั สำหรบั ผ้มู าเย่ยี มชม
เชน่ การเตรยี มความพรอ้ มด้านการรกั ษาความปลอดภัย มากที่สุด
การรักษาพยาบาลเบ้ืองต้นเม่ือเกดิ อุบตั ิเหตหุ รือเจ็บป่วย มากทสี่ ุด
มากทส่ี ุด
๔.๒๕ ๐.๗๗

๓. มีการจัดเตรียมส่งิ อำนวยความสะดวกในศูนย์ฯ อยา่ ง
พรอ้ มเพรยี ง เชน่ อปุ กรณ์ห่วงยาง ทน่ี ัง่ พักผ่อน ไฟส่อง
สว่าง

๔.๒๔ ๐.๗๖

๔. มีสิ่งสาธารณูปโภค เชน่ หอ้ งน้ำสะอาด ร้านอาหาร

ลานจอดรถเพียงพอต่อการให้บรกิ าร ๔.๓๙ ๐.๖๔

รวม ๔.๓๐ ๐.๕๓

132

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๔ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ ที่มีต่อการพัฒนา
มาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรยี นรู้แบบมสี ่วนรว่ มในการอนุรักษ์พนั ธุ์กลว้ ย จงั หวัดสุพรรณบุรี พบว่า มี
ความคิดเห็นต่อการพัฒนามาตรฐานคุณภาพ ด้านลักษณะโครงสร้างของศูนย์การเรียนรู้ฯ โดยรวม
ทกุ ข้อมคี า่ เฉลย่ี อยใู่ นระดับมากทีส่ ุด (X) เทา่ กบั ๔.๓๐

เมื่อพจิ ารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระดบั ความคดิ เห็นทม่ี ีต่อการพฒั นามาตรฐานคุณภาพศูนย์
การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียงตามลำดับได้ ดังนี้ มีสิ่งสาธารณูปโภค เช่น
ห้องน้ำสะอาด ร้านอาหาร ลานจอดรถเพียงพอต่อการให้บริการ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในลำดับสูงสุดเท่ากับ
๔.๓๙ รองลงมาได้แก่ มีเอกลกั ษณ์และมคี วามโดดเดน่ เฉพาะตัว มีค่าเฉล่ียเทา่ กับ ๔.๓๒ ส่วนด้านท่ีมี
ลำดับค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ มีการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกในศูนย์ฯ อย่างพร้อมเพรียง เช่น
อุปกรณห์ ว่ งยาง ทน่ี ง่ั พกั ผ่อน ไฟสอ่ งสว่าง มคี ่าเฉลีย่ เท่ากบั ๔.๒๔

ตารางที่ ๔.๕ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม
ศูนยฯ์ ท่มี ตี อ่ การพฒั นามาตรฐานคุณภาพศนู ย์การเรยี นรแู้ บบมสี ว่ นรว่ มในการอนุรักษ์พันธุ์
กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกเป็นรายด้าน “ด้านการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ
ศูนยก์ ารเรียนรู้ฯ”

ด้านการมีสว่ นร่วมในการบริหารจัดการศนู ย์ฯ ค่าเฉลยี่ (X) ค่า S.D แปลผล
๑. มีส่วนร่วมในการวางแผน/ตดั สินใจ ๔.๔๗ ๐.๖๘ มาก
๒. มสี ่วนร่วมในการวเิ คราะห์ปัญหา ๔.๓๘ ๐.๖๖ มากทส่ี ุด
๓. มสี ว่ นร่วมในการพฒั นาและรว่ มกิจกรรมและรว่ ม
แบง่ ปันผลประโยชน์และกระรายได้ ๔.๐๑ ๑.๒๘ มากท่สี ุด
๓.๙๗ ๑.๒๘ มากที่สุด
๔. มสี ว่ นร่วมในการติดตามประเมนิ ผลการดำเนินงาน ๔.๒๐ ๐.๖๔ มากท่สี ดุ
รวม

133

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๕ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ ที่มีต่อการพัฒนา
มาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีสว่ นรว่ มในการอนุรักษ์พนั ธ์ุกล้วย จังหวัดสุพรรณบรุ ี พบว่า มี
ความคิดเห็นต่อการพัฒนามาตรฐานคุณภาพ ด้านการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศูนย์การ
เรียนรู้ฯ”โดยรวมทุกขอ้ มคี า่ เฉล่ยี อยใู่ นระดบั มากทส่ี ุด (X) เทา่ กบั ๔.๒๐

เม่อื พจิ ารณาเป็นรายข้อ พบวา่ ระดับความคดิ เห็นท่มี ีต่อการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์
การเรยี นรแู้ บบมีส่วนร่วมในการอนรุ ักษ์พันธ์ุกล้วย เรยี งตามลำดับได้ ดังนี้ มีสว่ นร่วมในการวางแผน/
ตดั สนิ ใจ มีคา่ เฉลี่ยอยใู่ นลำดบั สงู สดุ เท่ากับ ๔.๔๗ รองลงมาไดแ้ ก่ มสี ว่ นรว่ มในการวเิ คราะหป์ ัญหา มี
คา่ เฉลยี่ เท่ากบั ๔.๓๘ ส่วนด้านทมี่ ลี ำดับคา่ เฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ มสี ่วนร่วมในการตดิ ตามประเมินผลการ
ดำเนินงาน ๓.๙๗

ตารางที่ ๔.๖ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม
ศูนยฯ์ ทีม่ ีตอ่ การพฒั นามาตรฐานคณุ ภาพศูนย์การเรยี นรแู้ บบมีสว่ นรว่ มในการอนุรักษ์พันธุ์
กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกเป็นรายด้าน “ด้านศักยภาพในการบริหารจัดการศูนย์
การเรยี นรู้ฯ”

ศกั ยภาพในการบริหารจดั การศูนยฯ์ ค่าเฉล่ีย (X) คา่ S.D แปลผล
มากท่ีสดุ
๑. มีการประชาสมั พนั ธ์หลายภาษา ส่อื สารเข้าใจง่าย
และมคี วามนา่ สนใจ เชน่ ป้ายโฆษณา ผ่านทางเวบ็ ไซด์ มาก
หนังสือพมิ พ์ ยทู ูป๊ เฟสบคุ๊ โทรทศั น์ มากที่สดุ

๔.๒๑ ๐.๗๑

๒. มีการส่งเสริมการขาย เพิ่มมูลค่าและพัฒนา ๔.๑๒ ๐.๖๖
ผลิตภณั ฑท์ างการเกษตร

๓. มีการสร้างเครอื ข่ายเพ่ือสนบั สนนุ แหล่งทอ่ งเทีย่ ว
เชน่ การเช่ือมโยงกบั แหลง่ ท่องเทีย่ วอืน่ ๆ การสนับสนนุ
จากภาครัฐ/เอกชน

๔.๒๖ ๐.๕๕

๔. มกี ารร่วมมือกับวสิ าหกิจชมุ ชน การรกั ษาวัฒนธรรม
การจ้างงานและสรา้ งรายได้แก่ชมุ ชน

134

๔.๔๐ ๐.๖๑ มากทส่ี ดุ
รวม ๔.๒๕ ๐.๔๑ มากท่สี ดุ

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๖ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ ที่มีต่อการพัฒนา
มาตรฐานคณุ ภาพศูนย์การเรยี นรู้แบบมสี ่วนรว่ มในการอนุรกั ษ์พันธ์ุกลว้ ย จงั หวัดสุพรรณบรุ ี พบว่า มี
ความคิดเห็นต่อการพัฒนามาตรฐานคุณภาพ ด้านศักยภาพในการบริหารจัดการศูนย์การเรียนรู้ฯ
โดยรวมทุกขอ้ มคี า่ เฉลย่ี อยูใ่ นระดบั มากท่ีสดุ (X) เท่ากับ ๔.๒๕

เมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระดบั ความคิดเห็นทม่ี ีต่อการพฒั นามาตรฐานคุณภาพศูนย์
การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียงตามลำดับได้ ดังนี้ มีการร่วมมือกับวิสาหกิจ
ชุมชน การรักษาวัฒนธรรม การจ้างงานและสร้างรายได้แก่ชุมชน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในลำดับสูงสุดเท่ากับ
๔.๔๐ รองลงมาได้แก่ มีการสร้างเครือข่ายเพื่อสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยว เช่นการเชื่อมโยงกับแหล่ง
ท่องเที่ยวอื่นๆ การสนับสนุนจากภาครัฐ/เอกชน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๒๖ ส่วนด้านที่มีลำดับค่าเฉล่ีย
ต่ำสุด ได้แก่ มีการส่งเสริมการขาย เพิ่มมูลค่าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ
๔.๑๒

ตารางที่ ๔.๗ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม
ศนู ยฯ์ ท่มี ตี อ่ การพฒั นามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรูแ้ บบมีส่วนรว่ มในการอนรุ ักษ์พันธ์ุ
กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกเป็นรายด้าน “ด้านศักยภาพในการรองรับผู้มาเยี่ยมชม
ศูนยฯ์ ”

ศกั ยภาพในการรองรับผู้มาเยีย่ มชมศนู ย์ ฯ ค่าเฉล่ยี (X) ค่า S.D แปลผล
มากที่สุด
๑. มีเส้นทางการเดินทางเข้าถึงศนู ยฯ์ สะดวก(พิจารณา
มากที่สุด
จากชว่ งเวลาทส่ี ามารถเข้าถึงศูนย์) และปลอดภยั ๔.๒๕ ๐.๖๗

๒. มีความพรอ้ มในระบบสาธารณปู โภคพืน้ ฐาน เช่น
ถนน ไฟฟ้า ประปา โทรศพั ท์และอินเตอร์เนต็ อยา่ ง
เหมาะสม

๔.๒๘ ๐.๖๘

๓. มีความพร้อมดา้ นอาหารสำหรบั ผมู้ าเย่ียมชมศูนยฯ์

135

อยา่ งเพยี งพอ ๔.๒๙ ๐.๖๔ มากทสี่ ดุ

๔. มีการเตรยี มความพรอ้ มของบุคคลากรในการรองรับ

ผู้มาเยย่ี มชมศนู ย์อยา่ งเหมาะสม ๔.๑๗ ๐.๗๐ มาก

รวม ๔.๒๙ ๐.๔๗ มากทสี่ ดุ

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๗ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ ที่มีต่อการพัฒนา
มาตรฐานคณุ ภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์พันธ์ุกล้วย จังหวัดสุพรรณบรุ ี พบว่า มี
ความคิดเห็นต่อการพัฒนามาตรฐานคุณภาพ ด้านศักยภาพในการรองรับผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ
โดยรวมทกุ ขอ้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากท่สี ุด (X) เทา่ กับ ๔.๒๙

เมอื่ พจิ ารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระดบั ความคดิ เห็นทม่ี ีต่อการพฒั นามาตรฐานคุณภาพศูนย์
การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียงตามลำดับได้ ดังนี้ มีความพร้อมด้านอาหาร
สำหรับผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯอย่างเพียงพอ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในลำดับสูงสุดเท่ากับ ๔.๒๙ รองลงมาได้แก่ มี
ความพร้อมในระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่นถนน ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต อย่าง
เหมาะสมมคี ่าเฉลย่ี เทา่ กับ ๔.๒๘ ส่วนด้านที่มลี ำดบั ค่าเฉลี่ยต่ำสุด ไดแ้ ก่ มกี ารเตรียมความพร้อมของ
บุคคลากรในการรองรับผู้มาเย่ียมชมศนู ย์อย่างเหมาะสม มีคา่ เฉลย่ี เท่ากบั ๔.๑๗

ตารางที่ ๔.๘ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม
ศูนยฯ์ ท่มี ตี ่อการพัฒนามาตรฐานคณุ ภาพศนู ย์การเรียนรู้แบบมสี ่วนรว่ มในการอนรุ ักษ์พันธุ์
กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกเป็นรายด้าน “ด้านศักยภาพการให้บริการแก่ผู้มาเยี่ยม
ชมศูนย์การเรียนรู้ฯ”

136

ศกั ยภาพการใหบ้ ริการแกผ่ มู้ าเยยี่ มชมศูนยฯ์ คา่ เฉลย่ี (X) คา่ S.D แปลผล
มากทสี่ ุด
๑. มเี ส้นทางการเดินทางเขา้ ถึงศนู ย์ฯ สะดวก(พจิ ารณา
มากท่สี ดุ
จากช่วงเวลาทีส่ ามารถเข้าถึงศูนย์) และปลอดภยั ๔.๓๔ ๐.๗๙ มากทส่ี ุด
มากที่สดุ
๒. มคี วามพรอ้ มในระบบสาธารณูปโภคพ้ืนฐาน เช่น มากทส่ี ุด
ถนน ไฟฟา้ ประปา โทรศัพท์และอินเตอรเ์ นต็ อยา่ ง
เหมาะสม

๔.๔๖ ๐.๖๙

๓. มีความพรอ้ มด้านอาหารสำหรับผมู้ าเย่ยี มชมศนู ยฯ์

อย่างเพียงพอ ๔.๓๒ ๐.๗๒

๔. มกี ารเตรยี มความพรอ้ มของบุคคลากรในการรองรับ

ผู้มาเยีย่ มชมศนู ย์อยา่ งเหมาะสม ๔.๒๙ ๐.๗๙

รวม ๔.๓๕ ๐.๕๘

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๘ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ ที่มีต่อการพัฒนา
ศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า มีความคิดเห็นต่อ
การพัฒนามาตรฐานคุณภาพ ด้านศักยภาพการให้บริการแก่ผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ โดยรวมทุกข้อมี
คา่ เฉล่ียอยใู่ นระดบั มากทส่ี ุด (X) เทา่ กับ ๔.๓๕

เมื่อพจิ ารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระดับความคดิ เห็นท่ีมีต่อการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์
การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียงตามลำดับได้ ดังนี้ มีความพร้อมในระบบ
สาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่นถนน ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต อย่างเหมาะสม มีค่าเฉลี่ย
อยู่ในลำดับสูงสุดเท่ากับ ๔.๔๖ รองลงมาได้แก่ มีเส้นทางการเดินทางเข้าถึงศูนย์ฯ สะดวก(พิจารณา
จากช่วงเวลาที่สามารถเข้าถึงศูนย์) และปลอดภัยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๓๔ ส่วนด้านที่มีลำดับค่าเฉลี่ย
ต่ำสุด ได้แก่ มีการเตรียมความพร้อมของบุคคลากรในการรองรับผู้มาเยี่ยมชมศูนย์อย่างเหมาะสม มี
คา่ เฉลี่ยเท่ากบั ๔.๒๙

137

ตารางที่ ๔.๙ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม
ศูนยฯ์ ท่มี ตี ่อการพฒั นามาตรฐานคณุ ภาพศนู ย์การเรียนรู้แบบมสี ่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธ์ุ
กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกเป็นรายด้าน “ด้านศักยภาพในการดึงดูดผู้มาเยี่ยมชม
ศนู ยก์ ารเรียนรู้ฯ”

ศกั ยภาพในการดึงดดู ผมู้ าเย่ยี มชมศนู ย์ฯ คา่ เฉลี่ย (X) คา่ S.D แปลผล

๑. มีความโดดเด่นทางด้านเทคโนโลยีการเกษตรและ มากที่สดุ
องค์ความรเู้ ฉพาะ เชน่ เปน็ ต้นแบบของการทำ
เกษตรกรรม มีการถ่ายทอดความร้ใู หผ้ มู้ าเย่ยี มชม มาก
มาก
๔.๕๕ ๐.๖๙ มาก
มาก
๒. มีความโดดเดน่ ด้านเศรษฐกิจพอเพียงและภูมปิ ญั ญา
ท้องถิ่น เช่น การเกษตรทฤษฎใี หม่ เกษตรแบบ
ธรรมชาติ หรอื เกษตรอนิ ทรีย์ การผลติ สารชีวภาพกำจัด
ศัตรูพชื

๔.๐๕ ๑.๐๓

๓. มีความโดดเด่นหลากหลายของผลติ ภัณฑท์ าง ๓.๘๖ ๑.๑๙
การเกษตร เพื่อจำหนา่ ยสำหรับผู้มาเย่ียมชม

๔. มีความโดดเดน่ และหลากหลายของกิจกรรมในศนู ย์ ๓.๘๐ ๑.๑๘
เช่น การอบ การนวดและประคบสมุนไพร การพายเรอื ฯ

รวม ๔.๐๗ ๐.๗๙

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๙ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ ที่มีต่อการพัฒนา
มาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนรว่ มในการอนุรักษ์พนั ธุ์กล้วย จังหวดั สุพรรณบุรี พบว่า มี
ความคิดเห็นต่อการพัฒนามาตรฐานคุณภาพ ด้านศักยภาพในการดึงดดู ผู้มาเยี่ยมชมศนู ย์การเรยี น
รู้ฯ โดยรวมทกุ ขอ้ มีค่าเฉลยี่ อยใู่ นระดบั มาก (X) เทา่ กบั ๔.๐๗

เมอื่ พิจารณาเป็นรายข้อ พบวา่ ระดับความคิดเห็นท่ีมีต่อการพฒั นามาตรฐานคุณภาพศูนย์
การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียงตามลำดับได้ ดังนี้ มีความโดดเด่นทางด้าน

138

เทคโนโลยีการเกษตรและองค์ความรู้เฉพาะ เช่น เป็นต้นแบบของการทำเกษตรกรรม มีการถ่ายทอด
ความรู้ให้ผู้มาเยี่ยมชม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในลำดับสงู สุดเท่ากับ ๔.๕๕ รองลงมาได้แก่ มีความโดดเด่นด้าน
เศรษฐกจิ พอเพียงและภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่น เชน่ การเกษตรทฤษฎใี หม่ เกษตรแบบธรรมชาติ หรอื เกษตร
อินทรีย์ การผลิตสารชีวภาพกำจัดศัตรูพืช มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๐๕ ส่วนด้านที่มีลำดับค่าเฉลี่ยต่ำสุด
ได้แก่ มีความโดดเด่นและหลากหลายของกิจกรรมในศูนย์ เช่น การอบ การนวดและประคบสมุนไพร
การพายเรอื ฯลฯ มคี า่ เฉลยี่ เท่ากับ ๓.๘๐
ส่วนที่ ๓ การวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ ทางการตลาดด้านบริการ ในการ

พัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย
จังหวดั สุพรรณบรุ ี

ตารางที่ ๔.๑๐ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานระดับความคิดเห็นที่มีต่อกล
ยุทธ์ทางการตลาดด้านการบริการ ในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมใน
การอนรุ กั ษ์พนั ธุ์กล้วย จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี ในภาพรวม

กลยุทธก์ ารตลาดดา้ นบริการในการพัฒนาศูนย์ ฯ ค่าเฉลี่ย (X) ค่า S.D แปลผล
๑. ด้านผลิตภัณฑ์ ณ ศนู ย์การเรยี นร้ฯู ๔.๒๕ ๐.๔๑ มากทีส่ ดุ
๒. ด้านราคา ณ ศนู ยก์ ารเรียนรฯู้ ๔.๒๙ ๐.๔๗ มากทสี่ ดุ
๓. ดา้ นช่องทางให้บริการ ณ ศูนย์การเรยี นรฯู้ ๔.๒๐ ๐.๖๔ มาก
๔. ดา้ นการสง่ เสรมิ การตลาด ณ ศนู ย์การเรยี นรู้ฯ ๔.๑๑ ๐.๗๙ มาก
๕. ด้านเจ้าหนา้ ท่ีผู้ใหบ้ ริการ ณ ศนู ย์การเรียนรู้ฯ ๔.๓๐ ๐.๕๓ มากที่สุด
๖. ดา้ นภาพลกั ษณแ์ ละการนำเสนอลักษณะ ณ ศูนย์ฯ ๔.๓๕ ๐.๕๑ มากทส่ี ุด
๗. ด้านกระบวนการให้บรกิ าร ณ ศูนย์การเรียนร้ฯู ๔.๓๒ ๐.๕๙ มากทสี่ ุด
๔.๒๕ ๐.๔๑ มากที่สุด
รวมเฉลี่ย

139

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๑๐ ระดบั ความคดิ เห็นของผู้มาเย่ียมชมศูนย์ฯ ที่มีต่อกลยุทธ์ทาง
การตลาดด้านการบริการ ในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการ
อนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า มีความคิดเห็นโดยรวมทั้ง ๗ ด้าน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ
มากทสี่ ดุ (X) เทา่ กบั ๔.๒๕

เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ระดับความคิดเห็นที่มีต่อกลยุทธ์ทางการตลาดด้านการ
บริการ ในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียง
ตามลำดับได้ ดังนี้ การพัฒนาด้านภาพลักษณ์และการนำเสนอลักษณะ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในลำดับสูงสุด
เท่ากับ ๔.๓๕ รองลงมา การพัฒนาด้านกระบวนการให้บริการ ณ ศูนย์การเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ
๔.๓๒ สว่ นด้านที่มีลำดบั ค่าเฉล่ยี ต่ำสุด ไดแ้ ก่ การพฒั นาด้านการส่งเสรมิ การตลาด ณ ศูนยก์ ารเรียนรู้
ฯ มีคา่ เฉลยี่ เท่ากบั ๔.๑๑

140

ตารางที่ ๔.๑๑ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม
ศนู ยฯ์ ทมี่ ตี ่อกลยทุ ธ์ทางการตลาดดา้ นการบรกิ าร ในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การ
เรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกเป็นรายด้าน
“การพัฒนาดา้ นผลติ ภณั ฑ์ ณ ศูนยก์ ารเรียนรู้ฯ”

การพฒั นาดา้ นผลติ ภณั ฑ์ ณ ศนู ย์การเรยี นรู้ฯ ค่าเฉล่ีย (X) คา่ S.D แปลผล
มากท่สี ุด
๑. มีผลติ ภัณฑท์ างการเกษตรมีความหลากหลาย มีให้
มาก
เลือกซ้ือ เลือกชม ๔.๒๑ ๐.๗๑ มากที่สดุ
มากทส่ี ุด
๒. มผี ลิตภัณฑจ์ ากผลผลิตจากการเกษตรมีคณุ ภาพตรง มากท่สี ดุ

กบั ความจำเปน็ ในการดำรงชีพ ๔.๑๒ ๐.๖๖

๓. มีผลิตภัณฑม์ คี วามหลากหลายใหเ้ ลือกซ้ืออย่าง ๔.๒๖ ๐.๕๕
เพยี งพอ

๔. มผี ลติ ภณั ฑจ์ ากผลผลติ จากการเกษตรมีมาตรฐาน ๔.๔๐ ๐.๖๑
คณุ ภาพ นา่ เชอ่ื ถือ

รวม ๔.๒๕ ๐.๔๑

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๑๑ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ที่มีต่อกลยุทธ์ทาง
การตลาดด้านการบริการ การพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ ณ ศูนย์การเรียนรู้ฯ”พบว่า โดยรวมทุกข้อมี
คา่ เฉลี่ยอยใู่ นระดับมากมากทีส่ ดุ (X) เทา่ กับ ๔.๒๕

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระดับความคิดเห็นที่มีต่อกลยุทธ์การตลาดด้านการบรกิ าร

การพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียงตามลำดับ

ได้ ดังนี้ ผลิตภัณฑ์จากผลผลิตจากการเกษตรมีมาตรฐานคุณภาพ น่าเชื่อถือ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในลำดับ

สูงสดุ เทา่ กับ ๔.๔๐ รองลงมาได้แก่ ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายให้เลือกซื้ออย่างเพียงพอ มคี ่าเฉลี่ย

141

เท่ากับ ๔.๒๖ ส่วนด้านทีม่ ีลำดับค่าเฉลีย่ ต่ำสุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากผลผลิตจากการเกษตรมีคุณภาพ
ตรงกับความจำเป็นในการดำรงชีพ มีคา่ เฉลี่ยเท่ากบั ๔.๑๒
ตารางที่ ๔.๑๒ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม

ศนู ยฯ์ ที่มีต่อกลยทุ ธ์ทางการตลาดด้านการบรกิ าร ในการพัฒนามาตรฐานคณุ ภาพศูนย์การ
เรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกเป็นรายด้าน
“การพฒั นาด้านราคา ณ ศูนย์การเรยี นรู้ ฯ”

การพฒั นาด้านราคา ณ ศนู ย์การเรียนรู้ฯ ค่าเฉล่ยี (X) คา่ S.D แปลผล

๑. ราคาค่าสนิ ค้ามีความเหมาะสมไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ ๔.๔๒ ๐.๖๗ มากทสี่ ดุ
ผลติ ภัณฑช์ นิดเดียวกนั ตามท้องตลาด
มากทสี่ ุด
๒. มอี าหารเคร่อื งดมื่ ใหบ้ ริการพอเพียงและมรี าคาที่ ๔.๒๘ ๐.๖๘
เหมาะสม มากที่สดุ
มาก
๓. มปี ้ายแสดงราคาสนิ คา้ ของทีร่ ะลกึ ท่ชี ัดเจนและมี ๔.๒๙ ๐.๖๔
ราคาท่เี หมาะสม มากทส่ี ดุ

๔. มคี วามคมุ้ คา่ กบั การเข้าเย่ียมชมศูนยฯ์ ในครง้ั นี้ ๔.๑๗ ๐.๗๐

รวม ๔.๒๙ ๐.๔๗

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๑๒ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ที่มีต่อกลยุทธ์ทาง
การตลาดดา้ นการบริการ การพัฒนาดา้ นราคา ณ ศนู ย์การเรียนรู้ฯ”พบว่า โดยรวมทุกข้อมีค่าเฉล่ีย
อย่ใู นระดับมากทส่ี ุด (X) เท่ากบั ๔.๒๙

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระดับความคิดเห็นที่มีต่อกลยุทธ์การตลาดด้านการบรกิ าร

การพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียงตามลำดับ

ได้ ดังน้ี ราคาคา่ สนิ คา้ มีความเหมาะสมไม่สงู มากเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑช์ นิดเดียวกันตามท้องตลาดมี

ค่าเฉลี่ยอยู่ในลำดับสูงสุดเท่ากับ ๔.๔๒ รองลงมาได้แก่ มีป้ายแสดงราคาสินค้าของที่ระลึกที่ชัดเจน

142

และมีราคาที่เหมาะสมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๒๙ ส่วนด้านที่มีลำดับค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ มีความคุ้มค่า
กับการเข้าเย่ยี มชมศูนยฯ์ ในครง้ั น้ีมีค่าเฉล่ียเทา่ กับ ๔.๑๗
ตารางที่ ๔.๑๓ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม

ศนู ย์ฯ ทีม่ ตี ่อกลยทุ ธ์ทางการตลาดดา้ นการบริการ ในการพัฒนามาตรฐานคณุ ภาพศูนย์การ
เรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกเป็นรายด้าน
“การพัฒนาดา้ นชอ่ งทางให้บรกิ าร ณ ศูนย์การเรียนรู้ฯ”

ด้านการพฒั นาดา้ นชอ่ งทางใหบ้ รกิ าร ณ ศนู ย์การ คา่ เฉลี่ย (X) คา่ S.D แปลผล
เรยี นรฯู้ มากที่สุด

๑. มีการใหบ้ ริการเข้าชมสถานทอี่ ย่างเหมาะสม ๔.๔๗ ๐.๖๘ มากท่ีสุด

๒. มกี ารบริการข้อมลู ดา้ นวชิ าการการอนุรกั ษพ์ ันธุ์ ๔.๓๘ ๐.๖๖ มาก
กล้วยให้เกดิ การเรยี นรู้อย่างเพยี งพอ มาก
มาก
๓. มีความสะดวกหลายชอ่ งทางในการเขา้ ถงึ ๓.๙๗ ๑.๒๘
แหล่งข้อมลู เก่ียวกับการเรียนรฯู้ ผา่ นเวบ็ ไซด์ เป็นต้น

๔. ทีต่ ง้ั ของศนู ยฯ์ ตงั้ อยูใ่ นทำเลทห่ี างา่ ย เดนิ ทางสะดวก ๔.๐๑ ๑.๑๑

รวม ๔.๒๐ ๐.๖๔

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๑๓ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ที่มีต่อกลยุทธ์ทาง
การตลาดด้านการบริการ การพัฒนาดา้ นชอ่ งทางให้บรกิ าร ณ ศนู ย์การเรียนรู้ฯ”พบวา่ โดยรวมทุก
ข้อมคี ่าเฉล่ยี อยู่ในระดบั มาก (X) เท่ากับ ๔.๒๐

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระดับความคิดเห็นที่มีต่อกลยุทธ์การตลาดด้านการบรกิ าร

การพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียงตามลำดับ

ได้ ดังนี้ มีการให้บริการเข้าชมสถานที่อย่างเหมาะสมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในลำดับสูงสุดเท่ากับ ๔.๔๗

รองลงมาได้แก่ มีการบริการข้อมูลด้านวิชาการการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยใหเ้ กิดการเรียนรู้อย่างเพียงพอ

143

มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๓๘ ส่วนด้านที่มีลำดับค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ มีความสะดวกหลายช่องทางในการ
เขา้ ถึงแหล่งขอ้ มูลเกีย่ วกบั การเรยี นรฯู้ ผา่ นเว็บไซด์ เป็นต้น มคี ่าเฉล่ียเทา่ กบั ๓.๙๗
ตารางที่ ๔.๑๔ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม

ศนู ย์ฯ ทีม่ ีต่อกลยุทธท์ างการตลาดดา้ นการบรกิ าร ในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การ
เรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกเป็นรายด้าน
“การพัฒนาดา้ นการสง่ เสรมิ การตลาด ณ ศูนย์การเรียนรู้ฯ”

การพัฒนาด้านการส่งเสรมิ การตลาด ณ ศนู ย์การ คา่ เฉลีย่ (X) คา่ S.D แปลผล
เรียนรู้
มาก
๑. มกี ารประชาสมั พนั ธถ์ ึงผลติ ภณั ฑ์ /ศนู ย์อนรุ ักษ์พันธุ์ ๓.๘๔ ๑.๑๑ มาก
กลว้ ย
มาก
๒. มกี ารประชาสมั พนั ธเ์ ส้นทางดว้ ยภาษาทหี่ ลากหลาย มากที่สดุ

เข้าใจงา่ ย และน่าสนใจ ๔.๐๙ ๑.๐๑ มาก

๓. มกี ารแนะนำศูนย์ ฯ ผ่านส่อื ตา่ ง ๆ เช่น อินเตอรเ์ นต็
แผ่นพบั หนงั สอื นำเทยี่ ว โทรทศั น์ วทิ ยุ ด้วยภาษาท่ี
หลากหลาย

๓.๙๐ ๑.๑๔

๔. มกี ารแนะนำข้อมูลขา่ วสารผ่านนทิ รรศการ หรือการ

จัดกจิ กรรมต่าง ๆ ในสถานท่ีอน่ื ๆ ๔.๕๙ ๐.๖๕

รวม ๔.๑๑ ๐.๙๗

144

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๑๔ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ที่มีต่อกลยุทธ์ทาง
การตลาดด้านการบริการ การพัฒนาดา้ นการสง่ เสรมิ การตลาด ณ ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ฯ”พบวา่ โดยรวม
ทุกขอ้ มคี ่าเฉล่ยี อย่ใู นระดบั มาก (X) เทา่ กบั ๔.๑๑

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระดับความคิดเห็นที่มีต่อกลยุทธ์การตลาดด้านการบรกิ าร
การพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียงตามลำดับ
ได้ ดังนี้ มีการแนะนำข้อมูลข่าวสารผ่านนิทรรศการ หรือการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในสถานที่อื่น ๆ มี
ค่าเฉลี่ยอยู่ในลำดับสูงสุดเท่ากับ ๔.๕๙ รองลงมาได้แก่ มีการประชาสัมพันธ์เส้นทางด้วยภาษาท่ี
หลากหลาย เขา้ ใจง่าย และนา่ สนใจมีค่าเฉล่ียเท่ากับ ๔.๐๙ ส่วนด้านท่มี ลี ำดบั ค่าเฉลีย่ ตำ่ สุด ได้แก่ มี
การประชาสัมพันธถ์ งึ ผลิตภัณฑ์ /ศนู ยอ์ นรุ กั ษ์พนั ธกุ์ ล้วยมคี า่ เฉลี่ยเท่ากับ ๓.๘๔
ตารางที่ ๔.๑๕ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม

ศูนย์ฯ ที่มีต่อกลยทุ ธท์ างการตลาดดา้ นการบริการ ในการพัฒนามาตรฐานคณุ ภาพศูนย์การ

เรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกเป็นรายด้าน

“การพัฒนาด้านเจา้ หนา้ ท่ผี ูใ้ ห้บรกิ าร ณ ศนู ยก์ ารเรียนรู้ฯ”

การพฒั นาดา้ นเจา้ หน้าทผ่ี ใู้ ห้บรกิ าร ณ ศูนยก์ าร ค่าเฉลยี่ (X) คา่ S.D แปลผล
เรยี นรู้ฯ

๑. มีเจา้ หน้าทใ่ี หค้ ำแนะนำ/ให้ข้อมูลด้านการอนรุ ักษ์ ๔.๓๒ ๐.๗๖ มากท่ีสดุ
พันธ์กุ ลว้ ยทกุ มิติ

๒. มเี จ้าหนา้ ทีใ่ ห้บรกิ ารด้วยความสุภาพ/มคี วามเป็น ๔.๒๕ ๐.๗๗ มากที่สดุ
กลั ยาณมติ ร

๓. มเี จ้าหนา้ ทมี่ คี วามร้คู วามสามารถในการตอบขอ้ ๔.๒๔ ๐.๗๖ มากทส่ี ุด
ซักถามและให้ข้อมลู

๔. เจ้าหน้าท่มี มี นษุ ยส์ ัมพนั ธก์ ับผ้มู าเยยี่ มชมศนู ยฯ์ เป็น
อย่างดี ๔.๓๙ ๐.๖๔ มากทส่ี ุด

รวม ๔.๓๐ ๐.๕๓ มากท่สี ดุ

145

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๑๕ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ที่มีต่อกลยุทธ์ทาง
การตลาดด้านการบริการ การพัฒนาดา้ นเจ้าหน้าท่ผี ใู้ หบ้ ริการ ณ ศนู ยก์ ารเรียนรู้ฯ”พบวา่ โดยรวม
ทกุ ขอ้ มีค่าเฉลย่ี อยูใ่ นระดบั มากทีส่ ดุ (X) เทา่ กับ ๔.๓๐

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระดับความคิดเห็นที่มีต่อกลยุทธ์การตลาดด้านการบรกิ าร
การพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียงตามลำดับ
ได้ ดังนี้ เจา้ หนา้ ท่ีมีมนษุ ย์สัมพันธ์กบั ผู้มาเยย่ี มชมศูนย์ฯเป็นอย่างดีมีคา่ เฉลย่ี อยู่ในลำดับสูงสุดเท่ากับ
๔.๓๙ รองลงมาได้แก่ มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ/ให้ข้อมูลด้านการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยทุกมิติมีค่าเฉลี่ย
เทา่ กับ ๔.๓๒ ส่วนดา้ นท่ีมีลำดับคา่ เฉล่ียต่ำสดุ ไดแ้ ก่ มเี จ้าหนา้ ที่มคี วามร้คู วามสามารถในการตอบข้อ
ซักถามและใหข้ อ้ มูลมีคา่ เฉลย่ี เท่ากบั ๔.๒๔

146

ตารางที่ ๔.๑๖ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม
ศนู ยฯ์ ท่ีมีตอ่ กลยทุ ธท์ างการตลาดดา้ นการบริการ ในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การ
เรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกเป็นรายด้าน
“การพฒั นาดา้ นภาพลักษณ์และการนำเสนอลกั ษณะ ณ ศูนย์การเรยี นรู้ ฯ”

การพัฒนาด้านภาพลกั ษณแ์ ละการนำเสนอลกั ษณะ ค่าเฉลี่ย (X) คา่ S.D แปลผล
ณ ศนู ยก์ ารเรียนรู้ฯ
มากที่สุด
๑. มคี วามโดดเดน่ เป็นแหล่งเรียนรแู้ ละการอนรุ กั ษ์พันธ์ุ ๔.๔๖ ๐.๖๔ มากทส่ี ดุ
กล้วย
มากทสี่ ุด
๒. มีความสะอาดเหมาะสมกับการเป็นศนู ย์เรียนรู้ ฯ ๔.๓๖ ๐.๖๖ มากทสี่ ุด
มากทีส่ ดุ
๓. มีส่ิงอำนวยความสะดวกที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และ
เพียงพอต่อความต้องการ เชน่ ท่ีนั่งพัก ที่จอดรถ
ห้องน้ำ ถงั รองรับขยะ

๔.๒๔ ๐.๗๗

๔. มสี ภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสม ไม่รกรุงรัง ไม่มสี ่งิ ๔.๓๕ ๐.๖๘
อันตรายในศูนย์การเรยี นรู้ฯ

รวม ๔.๓๕ ๐.๔๘

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๑๖ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ที่มีต่อกลยุทธ์ทาง
การตลาดด้านการบริการ การพัฒนาด้านภาพลักษณ์และการนำเสนอลักษณะ ณ ศูนย์การเรียน
รู้ฯ”พบวา่ โดยรวมทกุ ข้อมคี ่าเฉลี่ยอยใู่ นระดบั มากทสี่ ดุ (X) เท่ากับ ๔.๓๕

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระดับความคิดเห็นที่มีต่อกลยุทธ์การตลาดด้านการบรกิ าร

การพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียงตามลำดับ

ได้ ดังนี้ มีความโดดเด่นเปน็ แหล่งเรียนรู้และการอนรุ ักษ์พนั ธก์ุ ล้วย มคี า่ เฉลย่ี อยใู่ นลำดับสูงสุดเท่ากับ

๔.๔๖ รองลงมาได้แก่ มีความสะอาดเหมาะสมกับการเป็นศูนย์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๓๖ ส่วนด้านท่ีมี

147

ลำดบั คา่ เฉลยี่ ต่ำสดุ ไดแ้ ก่ มีส่ิงอำนวยความสะดวกที่ครบถว้ นสมบูรณ์ และเพียงพอต่อความต้องการ
เชน่ ทีน่ ง่ั พกั ทีจ่ อดรถ หอ้ งน้ำ ถังรองรบั ขยะ มคี า่ เฉลี่ยเท่ากบั ๔.๒๔
ตารางที่ ๔.๑๗ แสดงค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชม

ศนู ย์ฯ ทมี่ ีตอ่ กลยทุ ธท์ างการตลาดดา้ นการบรกิ าร ในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การ
เรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี จำแนกเป็นรายด้าน
“การพัฒนาดา้ นกระบวนการใหบ้ รกิ าร ณ ศูนยก์ ารเรียนรู้ฯ”

การพฒั นาด้านกระบวนการให้บริการ ณ ศูนย์การ ค่าเฉล่ีย (X) คา่ S.D แปลผล
เรยี นรฯู้
มากทส่ี ดุ
๑. มีการอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาเย่ยี มชมศูนยฯ์ อย่าง ๔.๓๑ ๐.๗๒ มากทส่ี ุด
เหมาะสม
มากทสี่ ุด
๒. มีความปลอดภยั ทง้ั ในและนอกศูนย์ฯ ๔.๔๑ ๐.๖๙ มากท่ีสดุ
มากท่สี ดุ
๓. มีความทนั สมัยและมีความพรอ้ มของระบบ
เทคโนโลยี เช่น เทคโนโลยที ีใ่ ชเ้ พื่อการจัดแสดงให้
ความรู้ มีบริการฟรไี วไฟ

๔.๒๓ ๐.๗๙

๔. มพี ้ืนท่ีเพยี งพอในการรองรับผูม้ าเยีย่ มชมศูนย์การ ๔.๓๓ ๐.๗๙
เรยี นรู้ฯ

รวม ๔.๓๒ ๐.๗๓

ผลการศึกษาตามตารางที่ ๔.๑๗ ระดับความคิดเห็นของผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ที่มีต่อกลยุทธ์ทาง
การตลาดด้านการบริการ การพัฒนาด้านกระบวนการให้บริการ ณ ศูนย์การเรียนรู้ฯ”พบว่า
โดยรวมทุกข้อมีค่าเฉลี่ยอยใู่ นระดับมากทส่ี ุด (X) เทา่ กับ ๔.๓๒

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ระดับความคิดเห็นที่มีต่อกลยุทธ์การตลาดด้านการบรกิ าร

การพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย เรียงตามลำดับ

ได้ ดังนี้ มีความปลอดภัยทั้งในและนอกศูนย์ฯมีค่าเฉลี่ยอยู่ในลำดับสูงสุดเท่ากับ ๔.๔๑ รองลงมา

148

ได้แก่ มีพื้นที่เพียงพอในการรองรับผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๓๓ ส่วนด้านที่มีลำดับ
คา่ เฉล่ียตำ่ สดุ ได้แก่ ความทันสมยั และมีความพร้อมของระบบเทคโนโลยี เชน่ เทคโนโลยที ใ่ี ช้เพ่ือการ
จัดแสดงใหค้ วามรู้ มีบริการฟรไี วไฟมคี า่ เฉลี่ยเท่ากบั ๔.๒๓

ส่วนที่ ๔ การทดสอบสมมติฐาน

สมมติฐานการวิจัย กลยุทธ์ทางการตลาดด้านการบริการ ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา
ด้านช่องทางให้บรกิ าร ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ ด้านภาพลักษณ์และการ
นำเสนอลักษณะสถานท่ี และด้านกระบวนการให้บริการ มีความสัมพันธ์ต่อการพัฒนามาตรฐาน
คณุ ภาพศูนย์การเรยี นรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนรุ ักษ์พนั ธ์กุ ล้วย ได้แก่ ดา้ นสภาพทั่วไป ด้านโครงสรา้ ง
ด้านบทบาทในการบริหารจัดการ ด้านศักยภาพการบริหารจัดการ การรองรับผู้มาเยี่ยมชม การ
ให้บริการแก่ผู้มาเยี่ยมชม และด้านศักยภาพการดึงดูดผู้มาเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมใน
การอนุรักษ์พันธุก์ ล้วย จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี

ซ่งึ สามารถเขยี นเปน็ สมมติฐานทางสถติ ิได้ ดังนี้
H๐ : กลยุทธก์ ารตลาดดา้ นการบรกิ าร ไมม่ ีความสัมพนั ธก์ ับการพฒั นามาตรฐานคุณภาพศูนย์
การเรียนรแู้ บบมสี ว่ นร่วมในการอนรุ กั ษพ์ นั ธ์ุกล้วย จังหวดั สพุ รรณบรุ ี
H๑ : กลยุทธ์การตลาดด้านการบริการ มีความสัมพันธ์กับการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์
การเรยี นร้แู บบมสี ว่ นร่วมในการอนุรักษพ์ ันธก์ุ ลว้ ย จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี
สำหรับสถติ ทิ ี่ใชใ้ นการวิเคราะห์ จะใช้การทดสอบด้วยการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวแปร
สองตวั ท่ีเป็นอิสระตอ่ กนั ท่ีเป็นมาตรอนั ตรภาคชนั้ โดยใช้สถติ ิค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
(Pearson Product Moment Correlation Coefficient) ใช้ระดับความเชื่อมันร้อยละ ๙๕ ดังน้ัน
จะปฏเิ สธสมมตฐิ านหลัก (H๐) ก็ตอ่ เมอ่ื Sig.(๒-tailed) มคี า่ นอ้ ยกว่า ๐.๐๕ ผลการทดสอบสมมติฐาน
ดงั แสดงในตารางที่ ๔.๑๘ – ๔.๒๕

149

ตารางท่ี ๔.๑๘ แสดงผลการวิเคราะห์ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งกลยทุ ธ์การตลาดดา้ นการบริการ
กับ การพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัด
สุพรรณบรุ ี ในภาพรวม

การพัฒนามาตรฐานคณุ ภาพศนู ย์การเรียนรู้ฯ

กลยุทธก์ ารตลาดดา้ นบรกิ าร Pearson Sig. ไปทศิ ทาง มคี วามสมั พันธใ์ น

Correlation(r) (๒-tailed)

ด้านผลติ ภัณฑ์ ณ ศูนย์การเรียนรู้ฯ ๐.๒๒๖ ๐.๐๐ เดียวกนั ระดับตำ่

ด้านราคา ณ ศนู ย์การเรียนรู้ฯ ๐.๒๒๗ ๐.๐๐ เดียวกัน ระดบั ตำ่

ดา้ นชอ่ งทางการให้บริการ ณ ศูนย์

การเรียนรู้ฯ ๐.๕๐๒ ๐.๐๐ เดียวกนั ระดบั ปานกลาง

ดา้ นการส่งเสรมิ การตลาด ณ ศนู ย์

การเรียนรู้ฯ ๐.๕๖๕ ๐.๐๐ เดยี วกัน ระดบั ปานกลาง

ดา้ นเจา้ หนา้ ทผี่ ใู้ หบ้ รกิ าร ณ ศูนย์ ๐.๕๙๑ ๐.๐๐ เดียวกัน ระดับปานกลาง
การเรียนร้ฯู

ดา้ นภาพลักษณส์ ถานท่ี ณ ศูนยก์ าร ๐.๔๗๙ ๐.๐๐ เดยี วกนั ระดบั ปานกลาง
เรียนรฯู้

ดา้ นกระบวนการใหบ้ รกิ าร ณ ศนู ย์

การเรียนร้ฯู ๐.๕๐๘ ๐.๐๐ เดยี วกนั ระดับปานกลาง

รวม ๐.๔๔๓ ๐.๐๐ เดียวกนั ระดบั ปานกลาง

*มีนยั สำคญั ทางสถติ ิทีร่ ะดับ ๐.๐๕

150

ผลการศกึ ษาตามตารางที่ ๔.๑๘ แสดงผลการวิเคราะหค์ วามสมั พันธร์ ะหว่างกลยทุ ธ์การตลาด
ด้านการบริการ กับ การพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์
กลว้ ย จงั หวัดสุพรรณบุรี โดยใช้การวิเคราะห์ทางสถิติคา่ สมั ประสิทธสิ์ หสัมพนั ธ์แบบเพยี ร์สนั

เมื่อพิจารณาในภาพรวม พบว่า กลยุทธ์การตลาดด้านการบริการการ มีความสัมพันธ์กับ
การพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัด
สุพรรณบุรี ในทางบวกระดับปานกลาง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมี่ค่า r เท่ากับ ๐.๔๔๓ มี
ค่า Sig เท่ากับ ๐.๐๐ ซึ่งมีค่าน้อยกว่า ๐.๐๕ นั้นคือ ปฏิเสธสมมติฐานหลัก (HO) และยอมรับสมมติ
ฐานรอง (H๑) หมายความว่า การพัฒนากลยุทธ์การตลาดด้านการบริการทั้ง ๗ ด้าน มีระดับ
ความสัมพันธ์หรือมีผลกับการพัฒนามาตรฐานคุณภาพศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์
พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี ๗ ด้าน ได้แก่ สภาพทั่วไปของศูนย์ฯ ลักษณะโครงสร้างของศูนย์ฯ
บทบาทในการบริหารศูนยฯ์ ศักยภาพการบริหารจดั การศูนย์ฯ ศักยภาพการรองรับผู้มาเยีย่ มชมศนู ย์
ศักยภาพการให้บริการผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ ฯ และศักยภาพการดึงดูดผู้มาเยี่ยมชมศูนย์ฯ อย่างมี
นัยสำคัญทางสถติ ิท่ี ๐.๐๕ ซ่ึงสอดคล้องกบั สมมตฐิ านท่ีตัง้ ไว้

เมื่อพิจารณาเป็นรายดา้ น พบวา่ กลยุทธ์ดา้ นท่มี คี า่ ความสัมพันธใ์ นลำดับสูงสดุ และเป็นไป
ในทิศทางเดียวกัน ได้แก่ ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ ณ ศูนย์การเรียนรู้ฯ มีค่า r เท่ากับ ๐.๕๙๑ มีค่า
Sig เท่ากับ ๐.๐๐ รองลงมาได้แก่ ด้านการส่งเสริมการตลาด ณ ศูนย์การเรียนรู้ฯ มีค่า r เท่ากับ
๐.๕๖๕ มีค่า Sig เท่ากับ ๐.๐๐ ส่วนกลยุทธ์ที่มีค่าระดับความสัมพันธ์ลำดับต่ำสุด ได้แก่ ด้าน
ผลิตภณั ฑ์ ณ ศูนยก์ ารเรยี นรูฯ้ มคี า่ r เท่ากบั ๐.๒๒๖ มคี ่า Sig เท่ากับ ๐.๐๐

สรุปได้ว่า กลยุทธ์ทางการตลาดด้านบริการมีความสัมพันธ์กบั การพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน
ศูนย์การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พันธุ์กล้วย จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีค่าความสัมพันธ์
ทางบวกในระดบั ปานกลาง และเป็นไปในทศิ ทางเดียวกัน เรียงตามลำดบั ดงั นี้

๑) ดา้ นเจ้าหน้าที่ผู้ใหบ้ รกิ าร ณ ศูนย์การเรยี นรฯู้ มคี ่า r = ๐.๕๙๑ มคี ่า Sig = ๐.๐๐
๒) ดา้ นการสง่ เสรมิ การตลาด ณ ศูนย์การเรียนรฯู้ มคี ่า r = ๐.๕๖๕ มคี ่า Sig = ๐.๐๐
๓) ดา้ นกระบวนการให้บรกิ าร ณ ศูนย์การเรียนรฯู้ มคี ่า r = ๐.๕๐๘ มีค่า Sig = ๐.๐๐
๔) ด้านชอ่ งทางการให้บรกิ าร ณ ศูนยก์ ารเรียนรู้ฯ มีค่า r = ๐.๕๐๒ มคี ่า Sig = ๐.๐๐
๕) ด้านภาพลักษณส์ ถานท่ี ณ ศนู ย์การเรียนรูฯ้ มคี า่ r = ๐.๔๗๙ มคี ่า Sig = ๐.๐๐
ส่วนดา้ นด้านผลติ ภัณฑ์ และดา้ นราคา ณ ศูนย์การเรยี นรู้ฯ มีคา่ r = ๐.๒๒๖ และ ๐.๒๒๗
มีคา่ Sig = ๐.๐๐ ตามลำดบั มีค่าความสัมพันธท์ างบวกในระดับต่ำ แตเ่ ป็นไปในทิศทางเดียวกนั


Click to View FlipBook Version