The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลการดำเนินงานโครงการ ประจำปีงบประมาณ 2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by พรเพ็ญ สมจิตร์, 2024-02-14 07:45:52

รายงานผลการดำเนินงานโครงการ ประจำปีงบประมาณ 2566

รายงานผลการดำเนินงานโครงการ ประจำปีงบประมาณ 2566

1


I คำนำ รายงานผลการดำเนินงานโครงการประจำปีงบประมาณ 2566 ฉบับนี้ เป็นการสรุปผลการดำเนินงาน โครงการส่งเสริมการเกษตร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (โครงการตามตัวชี้วัด) กรมส่งเสริมการเกษตร ที่จังหวัดฉะเชิงเทราได้รับจัดสรรงบประมาณ เพื่อใช้ในการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนเกษตรกรให้ตรงกับ สภาพพื้นที่และความต้องการของเกษตรกร โดยมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ ยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร สู่เกษตรมูลค่าสูง พัฒนาเกษตรกรสู่ผู้ประกอบการ ภายใต้หลักการ เกษตรนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ มีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้จะเป็นสื่อข้อมูลในการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงาน และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานราชการ องค์กรภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา กุมภาพันธ์ 2567


I สารบัญ หน้า ผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการเกษตร ประจำปีงบประมาณ 2566 1. โครงการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร..................................................................................1 กิจกรรมส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรทดแทนแรงงานเกษตร......................................................1 2. โครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร.......................................................................................6 กิจกรรมพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน GAP................................................................................6 3. โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน............................................................................................................18 กิจกรรมพัฒนาการผลิตเกษตรอินทรีย์.....................................................................................................18 4. โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปี 2566.............................................................................26 5. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร......................................................................................34 กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง......................................................................................34 6. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร......................................................................................40 กิจกรรมส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรด ปี 2566............................................................40 7. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร......................................................................................47 กิจกรรมส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชเคี้ยวมัน (มะคาเดเมีย, มะม่วงหิมพานต์) เพื่อความยั่งยืน.........................................................................................................................................47 8. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร......................................................................................51 กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตผักแบบครบวงจร................................................................................51 9. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร......................................................................................57 กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตปาล์มน้ำมัน........................................................................................57 10. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร....................................................................................61 กิจกรรมส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าวเพื่อความยั่งยืน.................................................61 11. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร....................................................................................66 กิจกรรมส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกร.....................................................66 12. โครงการพัฒนาศักยภาพกระบวนการผลิตสินค้าเกษตร.........................................................................94 กิจกรรมส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกร.....................................................94


II II สารบัญ หน้า 13. โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น....................................................................101 กิจกรรมส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรตามอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่น .........................................101 14. โครงการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร...........................................................................111 กิจกรรมขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร............................................................................111 15. โครงการส่งเสริมการจัดตั้งและบริหารจัดการวิสาหกิจเกษตรฐานชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น ..........115 กิจกรรมส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนต้นแบบในการพัฒนาสินค้าและบริการจากฐานชีวภาพ .......................115 16. โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร......................................................................126 กิจกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร.......................................................................126 17. โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร..................................................................................134 18. โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร.............................................................................................................................139 19. โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภาคตะวันออก....................157 20. โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์.................................................................................................................161 21. โครงการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ.................................................................167 22. โครงการพัฒนาเครือข่ายงานส่งเสริมการเกษตร (ระบบส่งเสริมการเกษตร) ........................................170 23. โครงการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร..........................................................206 กิจกรรมศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร...........................................................206 กิจกรรมย่อยพัฒนาเกษตรกร..........................................................................................................206 24. โครงการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร..........................................................236 กิจกรรมศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร...........................................................236 กิจกรรมย่อยการพัฒนาศูนย์เครือข่าย.............................................................................................236 พัฒนาศักยภาพการดำเนินงานและการให้บริการศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.).....................236


III III สารบัญ หน้า 25. โครงการ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) .............................................287 กิจกรรมศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร...........................................................287 กิจกรรมย่อยการพัฒนาศูนย์เครือข่าย.............................................................................................287 บริหารจัดการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ......................287 ภาคผนวก.....................................................................................................................................293 สำเนาหนังสืออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (โครงการตามตัวชี้วัด) ครั้งที่ 1.294 สำเนาหนังสืออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (โครงการตามตัวชี้วัด) ครั้งที่ 2.301 สำเนาหนังสืออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (โครงการตามตัวชี้วัด) ครั้งที่ 3.306 สำเนาหนังสือขออนุมัติดำเนินการโครงการส่งเสริมการเกษตร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1..310


1 1. โครงการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร กิจกรรมส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรทดแทนแรงงานเกษตร หลักการและเหตุผล ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ ต้องใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตร เข้ามาทดแทนแรงงาน ลดความเหนื่อยยากของการทำการเกษตรทำให้ลูกหลานเกษตรกรจำนวนมาก ไม่ยึดอาชีพเกษตรกรรมสืบต่อจากพ่อแม่ จำนวนเกษตรกรมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบัน เหลือเพียงร้อยละ 35 ของประชากรทั้งประเทศ นอกจากนี้เกษตรกรส่วนใหญ่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยสูงอายุคาดการณ์ได้ว่าอีก 10 ถึง 20 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะมีโอกาสสูงในการเกิดปัญหา วิกฤติทางการเกษตร อันเนื่องมาจากการขาดแคลนเกษตรกร และแรงงานภาคการเกษตร ประเทศเพื่อนบ้านกำลังเร่งพัฒนาการเกษตรกันอย่างจริงจัง รวมถึงมีการลงทุนโครงการ พัฒนาการเกษตรจากต่างชาติจำนวนมาก ทั้งเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยมีการนำเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในการผลิตอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพืชเศรษฐกิจและพืชวัตถุดิบของอุตสาหกรรม ทั้งปริมาณและคุณภาพในอนาคต จึงจะเกิดการแข่งขันการค้าและราคาสินค้าเกษตรอย่างรุนแรงในภูมิภาคอาเซียน การใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรให้เป็นกลไกในการพัฒนาการเกษตรยุคใหม่ของประเทศ เพื่อทดแทนแรงงาน ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพทางการเกษตรทั้งเชิงปริมาณ คุณภาพ และเวลา และเพื่อยกระดับความก้าวหน้าในการใช้เทคโนโลยีทางการผลิตสินค้าเกษตรของประเทศ กระทรวงเกษตร และสหกรณ์จึงกำหนดยุทธศาสตร์การส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรขึ้น มีแนวทางการพัฒนา ให้ชุมชนที่เป็นแหล่งผลิตหลักทางการเกษตรได้มีเครื่องจักรกลการเกษตรใช้เป็นอุปกรณ์สำคัญในการผลิต ลดความเหนื่อยล้า และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกรโดยจะมุ่งเป้าไปที่การดำเนินงานในพืชเศรษฐกิจ ของประเทศเป็นอันดับแรก เพื่อให้เกิดผลตอบสนองกลับมายังเศรษฐกิจของประทศได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ทิศทางการส่งเสริม สนับสนุนและลงทุนในการพัฒนา มีเป้าประสงค์ให้เกิดการยกระดับการใช้ เครื่องจักรกลการเกษตรในการทำการเกษตรของประเทศในทิศทางที่สอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนพัฒนาการเกษตรด้านอื่นๆ ให้บรรลุผลได้อย่างชัดเจนควบคู่กัน ทั้งนโยบายการบริหารจัดการพื้นที่ เกษตรกรรม (Zoning) การทำการเกษตรแปลงใหญ่ ให้ภาคเกษตรของไทยสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อการแข่งขันระดับโลก ในรูปแบบการให้บริการสาธิตเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตโดยหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้เกษตรกรได้มีโอกาสเรียนรู้การใช้เครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัย ในการผลิต และศูนย์เรียนรู้ชุมชนด้านเครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อเป็นศูนย์นำร่องในการเรียนรู้และให้บริการ เครื่องจักรกลการเกษตร โดยสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพให้เป็น โครงสร้างพื้นฐานทางการผลิตให้กับชุมชน อาทิ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ฯลฯ ที่มีการผลิตพืชเศรษฐกิจเป้าหมายในพื้นที่การประกาศเป็นเขต ที่มีความเหมาะสมในการผลิต (Zoning) รวมถึงบ่มเพาะองค์ความรู้ทางเทคนิค ให้คำแนะนำ/คำปรึกษา แก่เกษตรกร โดยจะมีการเตรียมความพร้อมทั้งด้านองค์ความรู้ ทักษะทางเทคนิคและการบริหารจัดการ รวมทั้งเครื่องจักรอุปกรณ์ที่เหมาะสมต่อการพัฒนาในแต่ละแหล่งผลิต โดยให้องค์กรเกษตรกรในชุมชน มีหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการงานในศูนย์เรียนรู้ชุมชนด้านเครื่องจักรกลการเกษตรดังกล่าว และเกษตรกรผู้ที่


2 2 เข้ามาใช้บริการจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการใช้บริการให้แก่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนด้านเครื่องจักรกล การเกษตรให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างยั่งยืนต่อไปเองได้ ในภาพรวมของการผลิตภาคเกษตรปัจจุบันได้มีการปรับตัวเองโดยการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร เพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่ยังคงเป็นเครื่องจักรการเกษตรขนาดเล็กที่มีต้นทุนต่ำสำหรับใช้เฉพาะในครัวเรือนและ พื้นที่ขนาดเล็ก เพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว จำเป็นจะต้องมีการพัฒนาบุคลากรทางเทคนิคในท้องถิ่น ในการสนับสนุนให้เกษตรกรได้พัฒนาทักษะและเทคนิคการซ่อมแซมเครื่องยนต์เกษตรที่เป็นต้นกำลัง ของเครื่องจักรกลการเกษตร ที่ปัจจุบันมีการถือครองอยู่ประมาณ 2.9 ล้านเครื่อง ให้แก่ช่างในท้องถิ่น ให้รองรับการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างเพียงพอรวมทั้งพัฒนาศักยภาพ การให้บริการเครื่องจักรกลเกษตรในชุมชนแก่องค์กรเกษตรกร และผู้ประกอบการทั่วไปที่ดำเนินธุรกิจ การให้บริการเครื่องจักรกลเกษตรในชุมชน เพื่อให้มีความพร้อมทั้งด้านองค์ความรู้ ทักษะทางเทคนิค และการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุนปัจจัยการผลิตและเพิ่มรายได้สุทธิ ให้กับเกษตรกร วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาความรู้ทักษะในด้านเทคนิคการใช้และการบำรุงรักษาเครื่องจักรกลการเกษตร สามารถลด ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจักรกลของตนเองได้ เป้าหมาย/สถานที่ดำเนินการ เกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ส่งเสริมการทำการเกษตรแปลงใหญ่ หรือศูนย์เรียนรู้การเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) หรือเกษตรกร Young smart farmer หรือเกษตรกร Smart farmer หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน หรือศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) หรือเกษตรกรในเขตพื้นที่องค์การบริหาร ส่วนตำบล (อบต.) หรือเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ เป้าหมายจำนวน 75 ราย สถานที่ดำเนินการ ดังนี้ - อำเภอบางปะกง จำนวน 25 ราย - อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จำนวน 25 ราย - อำเภอราชสาส์น จำนวน 25 ราย งบประมาณ งบประมาณ 44,550 บาท (สี่หมื่นสี่พันห้าร้อยห้าสิบบาทถ้วน) งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร ระยะเวลาดำเนินการ เดือนพฤศจิกายน 2565 – เดือนกันยายน 2566 กิจกรรม และวิธีการดำเนินงาน กิจกรรมส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร : สร้างช่างเกษตรท้องถิ่นประจำแปลงใหญ่ หลักสูตร ช่างเกษตรท้องถิ่นหลักสูตรพื้นฐาน ระยะเวลาการถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีด้านการเกษตร ระยะเวลา 1 วันต่อรุ่น รุ่นละ 25 ราย เป้าหมายจำนวน 75 ราย เพื่อพัฒนาทักษะและเทคนิคที่ถูกต้อง ในด้านการใช้และบำรุงรักษาเครื่องยนต์ต้นกำลังเกษตร และเครื่องจักรกลการเกษตรตัวอย่าง เช่น รถไถเดินตาม


3 3 เครื่องตัดหญ้า เครื่องพ่นปุ๋ย รถอีแต๋น เครื่องสูบน้ำ เครื่องยนต์เบนซิน เป็นต้น ดำเนินการโดยสำนักงาน เกษตรจังหวัด คุณสมบัติผู้เข้ารับการถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีด้านการเกษตรช่างเกษตรท้องถิ่นหลักสูตรพื้นฐาน คือ เป็นเกษตรกรที่เป็นสมาชิกแปลงส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่หรือศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) หรือเกษตรกร Young smart farmer หรือเกษตรกร Smart farmer หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน หรือศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) หรือเกษตรกรในเขตพื้นที่องค์การบริหาร ส่วนตำบล (อบต.) หรือเป็นผู้ที่มีความสนใจที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่มีความสามารถด้านการซ่อมแซม และบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตรและเครื่องจักรกลการเกษตรโดยตัวอย่างหลักสูตรการถ่ายทอดความรู้ เทคโนโลยีด้านการเกษตร ดังนี้ 1) การใช้งานเครื่องยนต์เกษตรและเครื่องจักรกลการเกษตร 2) การบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตรก่อนและหลังการใช้งาน 3) การเลือกใช้น้ำมันเครื่อง 4) การจำแนกและเลือกใช้อะไหล่แท้จากบริษัทผู้ผลิต 5) อื่นๆ พิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรสามารถนำความรู้ทักษะไปปฏิบัติเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม เครื่องจักรกลของตนเองได้ ตลอดจนสามารถถ่ายทอดความรู้เรื่องการใช้และบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตร ให้กับเกษตรกรข้างเคียงได้ ภาพกิจกรรมการอบรมเกษตรกร วันที่ 7 ธันวาคม 2565 สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอบางปะกง จัดอบรมเกษตรกร กิจกรรม สร้างช่างเกษตรท้องถิ่นประจำแปลงใหญ่ หลักสูตร ช่างเกษตรท้องถิ่นหลักสูตร พื้นฐาน เป้าหมาย 25 ราย โดยเชิญ เจ้าหน้าที่จากกองส่งเสริมโครงการพระราชดำริ การจัดการพื้นที่และ วิศวกรรมเกษตร มาบรรยายให้ความรู้เทคนิคที่ถูกต้อง ในด้านการใช้และบำรุงรักษาเครื่องยนต์ต้นกำลังเกษตร และเครื่องจักรกลการเกษตร ณ หมู่ที่ 4 ตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา


4 4 วันที่ 8 ธันวาคม 2565 สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอราชสาส์น จัดอบรมเกษตรกร กิจกรรม สร้างช่างเกษตรท้องถิ่นประจำแปลงใหญ่ หลักสูตร ช่างเกษตรท้องถิ่นหลักสูตร พื้นฐาน เป้าหมาย 25 ราย โดยเชิญเจ้าหน้าที่จากกองส่งเสริมโครงการพระราชดำริ การจัดการพื้นที่และ วิศวกรรมเกษตร มาบรรยายให้ความรู้เทคนิคที่ถูกต้อง ในด้านการใช้และบำรุงรักษาเครื่องยนต์ต้นกำลังเกษตร และเครื่องจักรกลการเกษตร ณ หมู่ที่ 2 ตำบลบางคา อำเภอราชสาส์น จังหวัดฉะเชิงเทรา


5 5 วันที่ 9 ธันวาคม 2565 สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอ บางน้ำเปรี้ยว จัดอบรมเกษตรกร กิจกรรม สร้างช่างเกษตรท้องถิ่นประจำแปลงใหญ่ หลักสูตร ช่างเกษตร ท้องถิ่นหลักสูตรพื้นฐาน เป้าหมาย 25 ราย โดยเชิญเจ้าหน้าที่จากกองส่งเสริมโครงการพระราชดำริ การจัดการพื้นที่และวิศวกรรมเกษตร มาบรรยายให้ความรู้เทคนิคที่ถูกต้อง ในด้านการใช้และบำรุงรักษา เครื่องยนต์ต้นกำลังเกษตร และเครื่องจักรกลการเกษตร ณ หมู่ที่ 13 ตำบลโพรงอากาศ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ผลที่คาดว่าจะได้รับ เกษตรกรที่เข้ารับการอบรมหลักสูตร ช่างเกษตรท้องถิ่นหลักสูตรพื้นฐาน มีความรู้และทักษะ สามารถใช้และบำรุงรักษาเครื่องยนต์เกษตรเบื้องต้น และถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรข้างเคียงได้ และ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจักรกลของตนเอง


6 2. โครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร กิจกรรมพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน GAP หลักการและเหตุผล การส่งเสริมสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพและมาตรฐานเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีความห่วงใยสุขภาพให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสินค้าเกษตรที่มีความปลอดภัย ได้คุณภาพและมาตรฐาน ในขณะเดียวกันการค้าสินค้าเกษตรระหว่างประเทศได้นำมาตรการด้านสุขอนามัยพืช (SPS) และความปลอดภัยด้านอาหารมาเป็นเงื่อนไขทางการค้ามากขึ้น อีกทั้งขณะนี้มีการรวมตัวเป็นประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน ทำให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้าเกษตรอย่างมีเสรีมากขึ้น ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการค้าระหว่าง ไทยกับประเทศอาเซียนด้วยกันและกับประเทศอื่นๆ โดยประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตร ที่มีคุณภาพและมาตรฐานเทียบเท่ากับมาตรฐานสากล เพื่อให้ผลผลิตสินค้าเกษตรเป็นที่น่าเชื่อถือและยอมรับ ด้วยการส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรผู้ผลิตเข้าสู่ระบบรับรองมาตรฐาน GAP ระดับฟาร์มมากขึ้น กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ ทักษะ และความชำนาญให้สามารถผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและได้มาตรฐาน จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนา ให้กระบวนการผลิตสินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นทางมีคุณภาพและได้มาตรฐานตามความต้องการของตลาดทั้งใน และต่างประเทศ เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าเกษตรตามระบบการจัดการคุณภาพ GAP เพิ่มขึ้น ด้วยการขับเคลื่อนส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรผู้ผลิตพืชในแปลงใหญ่และพื้นที่ที่มีศักยภาพทางการผลิต และการตลาดสินค้าเกษตร ให้มีการพัฒนาระบบการผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดภัยทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป วัตถุประสงค์ 1. พัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการผลิตตามระบบมาตรฐาน GAP 2. เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรเข้าสู่ระบบมาตรฐาน GAP เพิ่มมากขึ้น เป้าหมาย/สถานที่ดำเนินการ เป้าหมาย : เกษตรกรผู้ผลิตพืช (ยกเว้น ข้าว) จำนวน 39 ราย ดังนี้ ลำดับที่ ตำบล อำเภอ ชนิดพืช ชนิดแปลง จำนวน (ราย) 1 คู้ยายหมี สนามชัยเขต เห็ด แปลงใหญ่ 3 2 ลาดกระทิง สนามชัยเขต เงาะ แปลงทั่วไป 3 3 ลาดกระทิง สนามชัยเขต พืชผัก แปลงทั่วไป 1 4 ทุ่งพระยา สนามชัยเขต มะละกอ แปลงทั่วไป 1 5 คู้ยายหมี สนามชัยเขต เงาะ แปลงทั่วไป 1 6 คู้ยายหมี สนามชัยเขต พุทรา แปลงทั่วไป 1 7 คู้ยายหมี สนามชัยเขต ไผ่ แปลงทั่วไป 1 8 บ้านซ่อง พนมสารคาม พืชผัก แปลงใหญ่ 3 9 หนองยาว พนมสารคาม พืชผัก แปลงทั่วไป 1 10 ท่าถ่าน พนมสารคาม พืชผัก แปลงทั่วไป 8 11 ท่าตะเกียบ ท่าตะเกียบ พืชผัก แปลงทั่วไป 10


7 7 ลำดับที่ ตำบล อำเภอ ชนิดพืช ชนิดแปลง จำนวน (ราย) 12 บางขนาก บางน้ำเปรี้ยว มะเขือเทศ แปลงทั่วไป 5 13 บางน้ำเปรี้ยว บางน้ำเปรี้ยว ฝรั่ง แปลงทั่วไป 1 รวม 39 สถานที่ดำเนินการ : ในพื้นที่ อำเภอพนมสารคาม อำเภอสนามชัยเขต อำเภอท่าตะเกียบ และอำเภอ บางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา งบประมาณ งบประมาณ 69,420 บาท (หกหมื่นเก้าพันสี่ร้อยยี่สิบบาทถ้วน) งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร ระยะเวลาดำเนินการ พฤศจิกายน 2565 – กันยายน 2566 กิจกรรม และวิธีการดำเนินงาน 1. ยกระดับการผลิตและคุณภาพผลผลิตสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน GAP จำนวน 39 ราย 1.1 กิจกรรมอบรมเกษตรกรเข้าสู่ระบบมาตรฐาน GAP และศึกษาดูงาน จำนวน 39 ราย เพื่อให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจ สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติในการผลิต สินค้าเกษตรตามระบบมาตรฐาน GAP พืชได้ โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติงานในระบบ E-project กรมส่งเสริมการเกษตร ดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการของโครงการ สำนักงานเกษตรอำเภอเป้าหมาย ดำเนินการจัดอบรมพัฒนาเกษตรกรเป้าหมายซึ่งสามารถดำเนินการในรูปแบบปกติ (Onsite) พร้อมจัดศึกษา ดูงานในแปลงตัวอย่างหรือสถานประกอบการที่มีศักยภาพด้านการผลิตและการตลาดสินค้าเกษตร ให้กับ เกษตรกรเป้าหมายโครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร กิจกรรมพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร สู่มาตรฐาน GAP ปี พ.ศ. 2566 รายละเอียดหลักสูตร “การพัฒนาเกษตรกรเข้าสู่ระบบคุณภาพและมาตรฐาน สินค้าเกษตร GAP” จำนวน 2 วัน (อบรม 1 วันและศึกษาดูงาน 1 วัน) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 อำเภอท่าตะเกียบ ดำเนินการอบรมเกษตรกรเป้าหมายที่เป็น แปลงทั่วไป รวม 10 ราย ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรอำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเชิญ นายยสวัฒน์ ฟังเสียง นักวิชาการเกษตร จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรฉะเชิงเทรา กรมวิชาการเกษตร มาบรรยายให้ความรู้เรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตร GAP พืชอาหาร


8 8 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 อำเภอท่าตะเกียบ นำเกษตรกร จำนวน 10 ราย ศึกษาดูงาน ณ กลุ่มแปลงใหญ่เห็ดตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี นางกัญญาภัค สกุลศรี ประธานแปลงใหญ่เห็ด ร่วมให้การต้อนรับและนำเกษตรกรศึกษาดูงานแปลงต้นแบบด้าน GAP และศึกษาดูงาน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกผักปลอดสารพิษของ นางสาวจุฑามาศ ทับทอง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 อำเภอสนามชัยเขต ดำเนินการอบรมเกษตรกรเป้าหมาย ที่เป็นแปลงใหญ่และแปลงทั่วไป จำนวน 11 ราย ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรอำเภอสนามชัยเขต


9 9 จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเชิญนายยสวัฒน์ ฟังเสียง นักวิชาการเกษตร จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร ฉะเชิงเทรา มาบรรยายให้ความรู้เรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตร GAP พืชอาหาร เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 อำเภอสนามชัยเขต นำเกษตรกร จำนวน 11 ราย ศึกษาดูงาน ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศูนย์เครือข่าย) ทุเรียน ของนายชง ยมหา ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ และกลุ่มแปลงใหญ่ไผ่อำเภอท่าตะเกียบ ของนายประสิทธิ์ รูปต่ำ ร่วมให้การต้อนรับและนำเกษตรกรศึกษาดูงานแปลงต้นแบบด้าน GAP


10 10 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ดำเนินการอบรมเกษตรกรเป้าหมาย ที่เป็นแปลงทั่วไป จำนวน 6 ราย ณ ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศูนย์เครือข่าย) หมู่ 4 ตำบลบางขนาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเชิญนายยสวัฒน์ ฟังเสียง นักวิชาการเกษตร จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรฉะเชิงเทรา มาบรรยายให้ความรู้เรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตร GAP พืชอาหาร เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 อำเภอบางน้ำเปรี้ยว นำเกษตรกร จำนวน 6 ราย ศึกษาดูงาน ณ ศูนย์เรียนรู้ กลุ่ม 1 ตำบล กลุ่ม 1 ทฤษฎีใหม่ ของนางสุนีย์ ยงสวัสดิ์ หมู่ที่ 11 ตำบลโพรงอากาศ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมให้การต้อนรับและนำเกษตรกรศึกษาดูงานแปลงต้นแบบด้าน GAP


11 11 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 อำเภอพนมสารคาม ดำเนินการอบรมเกษตรกรเป้าหมาย ที่เป็นแปลงใหญ่และแปลงทั่วไป จำนวน 12 ราย ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเชิญนายยสวัฒน์ ฟังเสียง นักวิชาการเกษตร จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร ฉะเชิงเทรา มาบรรยายให้ความรู้เรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตร GAP พืชอาหาร เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 อำเภอพนมสารคาม นำเกษตรกร จำนวน 12 ราย ศึกษาดูงาน ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ของนายชัยพิสิษฐ์สอนศรีตำบลบ้านซ่อง อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมให้การต้อนรับและนำเกษตรกรศึกษาดูงานแปลงต้นแบบด้าน GAP


12 12 1.2 กิจกรรมติดตามให้คำปรึกษาแนะนำและตรวจประเมินแปลงเบื้องต้น จำนวน 39 ราย/แปลง สำนักงานเกษตรอำเภอพื้นที่เป้าหมายโดยเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาเกษตรกร (นักวิชาการส่งเสริม การเกษตรระดับตำบล) จัดทำแผนออกติดตามให้คำปรึกษาแนะนำเกษตรกรและดำเนินการตรวจประเมิน แปลงเบื้องต้นให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ และจัดทำเอกสารสนับสนุนตามระบบการจัดการคุณภาพ และมาตรฐาน GAP ให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ โดยให้เน้นแนะนำเกษตรกรเป้าหมายในเรื่องการจดบันทึก การจัดเก็บสารเคมี การจัดเก็บอุปกรณ์และความสะอาดภายในแปลงของตนเอง การรักษามาตรการ ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ภาพกิจกรรมการตรวจติดตามประเมินแปลง อำเภอสนามชัยเขต


13 13 อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอพนมสารคาม


14 14 อำเภอบางน้ำเปรี้ยว 1.3 กิจกรรมสนับสนุนการจัดการและพัฒนาผลิตผลสินค้าเกษตร GAP ในขั้นต้น จำนวน 39 ราย สำนักงานเกษตรอำเภอเป้าหมาย จัดประชุมรับฟังความเห็นเพื่อให้ทราบความต้องการ พัฒนาผลิตผลทางการเกษตรของเกษตรกรหรือของกลุ่มเกษตรกรเพื่อให้ตรงตามความต้องการ โดยการสนับสนุนให้เน้นในรูปแบบกลุ่มเกษตรกร มีการดำเนินการร่วมกัน และแนวทางการสนับสนุนสามารถ เป็นการให้วัสดุและหรือการให้ความรู้ทางวิชาการด้านการตลาด การแปรรูปผลผลิต บรรจุภัณฑ์ (packaging) แบรนด์/โลโก้สินค้า การทำ QR-Codeแนะนำประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตร GAP ของกลุ่ม ประสานเชื่อมโยง กับตลาดในขั้นต้นได้ เป็นต้น ภาพการสนับสนุนการจัดการและพัฒนาผลิตผลสินค้าเกษตร GAP ในขั้นต้น อำเภอท่าตะเกียบ


15 15 อำเภอสนามชัยเขต อำเภอพนมสารคาม


16 16 อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ผลการดำเนินงาน สำนักงานเกษตรอำเภอพื้นที่เป้าหมายได้ดำเนินการกิจกรรมทั้ง 3 กิจกรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเป้าหมายเกษตรกร จำนวน 39 ราย ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP ครบ 39 ราย และกรมวิชาการเกษตร โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรฉะเชิงเทรา ได้นำใบรับรอง GAP นำส่งให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ที่เกี่ยวข้องแจกให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ต่อไป ภาพการได้รับใบรับรองมาตรฐาน GAP


17 17 ผลที่คาดว่าจะได้รับ เกษตรกรผู้ผลิตมีการผลิตสินค้าเกษตรตามระบบคุณภาพและมาตรฐาน GAP ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผล ให้เกษตรกรผู้ผลิตมีการจัดการระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยต่อทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม และเป็นที่ต้องการของตลาด


18 3. โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน กิจกรรมพัฒนาการผลิตเกษตรอินทรีย์ หลักการและเหตุผล เกษตรอินทรีย์เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องเร่งขับเคลื่อน การดำเนินงานให้เกิดเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อปรับทิศทางการผลิตของภาคเกษตรให้สอดรับกับสถานการณ์โลก ปัจจุบันประชากรโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยด้านอาหาร กระบวนการผลิตที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม และสวัสดิภาพของผู้ผลิต การผลิตตามแนวทางเกษตรอินทรีย์เป็นทางเลือกหนึ่งของเกษตรกร ในการผลิตสินค้าเกษตรด้วยหลักธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการใช้ปัจจัยการผลิตจากการสังเคราะห์ ไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี ฮอร์โมนสังเคราะห์ และไม่ใช้พืชที่มีการดัดแปรพันธุกรรม (GMOs) มีการจัดการผลผลิต และแปรรูป เพื่อรักษาสภาพและคุณภาพเกษตรอินทรีย์ในทุกขั้นตอน ในปัจจุบันตลาดมีความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ มากขึ้น เกิดกระแสความตื่นตัวในการดูแลสุขภาพเพื่อหลีกเลี่ยงโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยหันมาบริโภคสินค้า ที่ปลอดภัยไม่มีสารเคมีปนเปื้อน ส่งผลให้สินค้าเกษตรอินทรีย์ไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค รวมถึง การขยายพื้นที่การผลิต การเพิ่มจำนวนเกษตรกร เป็นไปได้ช้า เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่มีความเคยชิน กับการผลิตสินค้าเกษตรแบบใช้สารเคมี และปุ๋ยเคมีทั่วไป ดังนั้นแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว และจะ นำพาเกษตรกรไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ควรมีการส่งเสริมการผลิตในระบบเกษตรอินทรีย์ให้มีประสิทธิภาพ ตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ และทักษะในการผลิตสินค้าเกษตร ให้มีคุณภาพ ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ซึ่งจะทำให้มีอาหารที่ปลอดภัย ต่อผู้บริโภค ดูแลสุขภาพของเกษตรกรผู้ผลิต รักษาสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน กิจกรรมพัฒนาการผลิตเกษตรอินทรีย์ขึ้น เพื่อพัฒนาเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรให้มีความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ ในเชิงลึกเพื่อเป็นวิทยากรหลักในการถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรได้อย่างถูกต้อง มีการอบรมให้ความรู้แก่ เกษตรกรเข้าสู่ระยะปรับเปลี่ยนและเข้าสู่การรับรองตามระบบมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ โดยเน้นในพื้นที่ มีการบูรณาการบริหารจัดการสินค้าเกษตรในแปลงใหญ่ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.), Young Smart Farmer, Smart Farmer และเกษตรกรที่มีความต้องการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ ในพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์แบบบูรณาการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายมีการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้ ในการผลิตเกษตรอินทรีย์ ให้สอดคล้องกับบริบทของชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ มีภูมิคุ้มกัน เกิดความ เข้มแข็ง ต้นทุนการผลิตลดลง มีแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ สินค้ามีคุณภาพตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ มีตลาดและช่องทางในการจำหน่ายผลผลิตมากขึ้น เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความมั่นคงในอาชีพ และสามารถบริหารจัดการทรัพยากรทางการเกษตรอย่างสมดุลและยั่งยืน วัตถุประสงค์ 1. พัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ด้านการผลิตและกระบวนการจัดการสินค้าเกษตรอินทรีย์ บนพื้นฐาน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ 2. เกษตรกรเข้าสู่ระบบมาตรฐานเกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น และสามารถบริหารจัดการทรัพยากร ทางการเกษตรอย่างสมดุลและยั่งยืน


19 19 เป้าหมาย/สถานที่ดำเนินการ เป้าหมาย : เกษตรกรรายเดิมที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ปี 2565จำนวน 40 ราย ลำดับที่ สถานที่ดำเนินการ เป้าหมาย (ราย) หมายเหตุ 1 อำเภอท่าตะเกียบ 20 รายเดิม ปี 2565 2 อำเภอสนามชัยเขต 20 รายเดิม ปี 2565 สถานที่ดำเนินการ : ในพื้นที่ อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา งบประมาณ งบประมาณ 46,800 บาท (สี่หมื่นหกพันแปดร้อยบาทถ้วน) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร ระยะเวลาดำเนินการ พฤศจิกายน 2565 – กันยายน 2566 กิจกรรม และวิธีการดำเนินงาน 1. พัฒนาเกษตรกรเข้าสู่มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และศึกษาดูงาน (รายเดิม ปี 2565) จำนวน 40 ราย โดยสำนักงานเกษตรอำเภอเป้าหมาย ดำเนินการจัดอบรมพัฒนาเกษตรกรเป้าหมาย โดยเน้นหนักให้กับ เกษตรกรที่ผ่านการอบรมเมื่อ ปี 2565 เพื่อผลักดันให้เกษตรกรได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และจัดการศึกษาดูงานในแหล่งที่ประสบความสำเร็จ เพื่อจูงใจให้เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน เกษตรอินทรีย์ได้ จำนวน 1 ครั้ง ทั้งนี้ สามารถดำเนินการถ่ายทอดความรู้ โดยพิจารณารูปแบบและวิธีการ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ภาพกิจกรรมการอบรมและศึกษาดูงาน เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 สำนักงานเกษตรอำเภอท่าตะเกียบดำเนินการจัดอบรมและศึกษาดูงาน ณ ศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต้นแบบ บ้านวังหิน ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ โดยมีวิทยากร คือ นายชัยพิสิษฐ์ สอนศรี YSFจังหวัดฉะเชิงเทรา มาให้ความรู้เรื่องแนวทางการผลิตพืชผักอินทรีย์ และสำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยกลุ่มอารักขาพืช มาให้ความรู้เรื่องการผลิตสารชีวภัณฑ์ไว้ใช้ ในแปลงของตนเอง ช่วงบ่ายศึกษาดูงาน โดยมีนายรุ่งโรจน์ จูเฮี้ยง เกษตรกรต้นแบบการทำเกษตรอินทรีย์ นำศึกษาดูงานในแปลง


20 20


21 21 ภาพกิจกรรมการอบรมและศึกษาดูงาน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 สำนักงานเกษตรอำเภอสนามชัยเขตดำเนินการจัดอบรมและศึกษาดูงาน ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองใหญ่ หมู่ 14 ตำบลทุ่งพระยา อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีวิทยากร คือ นายนิรุจน์ ศรีเกษม เกษตรกรเกษตรอินทรีย์ต้นแบบ มาให้ความรู้เรื่องแนวทางการผลิต พืชผักอินทรีย์ การทำเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม PGS และช่วงบ่ายศึกษาดูงาน โดยมีนายถวัลย์ สุจริต นำศึกษาดูงานในศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองใหญ่


22 22 2. ติดตาม ให้คำปรึกษา และประเมินแปลงเบื้องต้น จำนวน 40 แปลง โดยสำนักงานเกษตร อำเภอเป้าหมาย ดำเนินการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทำการนัดหมายเกษตรกรเป้าหมายครบทุกราย


23 23 3. สนับสนุนปัจจัยการผลิตเกษตรอินทรีย์ จำนวน 40 แปลง โดยสำนักงานเกษตรอำเภอเป้าหมาย ดำเนินการจัดประชุมรับฟังความเห็นเพื่อให้ทราบความต้องการและความจำเป็นของเกษตรกร โดยการ สนับสนุนปัจจัยการผลิตเกษตรอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยอินทรีย์ สารชีวภัณฑ์ เมล็ดพันธุ์ และท่อนพันธุ์อินทรีย์ เป็นต้น ภาพสนับสนุนปัจจัยอำเภอท่าตะเกียบ ภาพสนับสนุนปัจจัยอำเภอสนามชัยเขต


24 24


25 25 ผลการดำเนินงาน สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอที่เกี่ยวข้อง ดำเนินกิจกรรม ทั้ง3 กิจกรรม เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้มีเกษตรกรที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ปี 2566 จำนวน 1 ราย คือ นายประสิทธิ์ รูปต่ำ เกษตรกรผู้ปลูกไผ่ ตำบลท่าตะเกียบ อำเภอท่าตะเกียบ พื้นที่ 16 ไร่ และได้รับ ใบรับรองจากกรมวิชาการเกษตรเรียบร้อยแล้ว ผลที่คาดว่าจะได้รับ เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายมีการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้ในการผลิต เกษตรอินทรีย์ ให้สอดคล้องกับบริบทของชุมชน สามารถพึ่งพาตนเองได้ และเข้าสู่ระบบมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์มากขึ้น สินค้ามีคุณภาพตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ มีตลาดและช่องทางในการจำหน่าย ผลผลิตมากขึ้น ทำให้เกษตรกรมีความมั่นคงในอาชีพ และสามารถบริหารจัดการทรัพยากรทางการเกษตร อย่างสมดุลและยั่งยืน ปัญหาอุปสรรค พื้นที่เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นที่เช่า พื้นที่ที่ขอการรับรองไม่มีแนวกันชนและบริเวณโดยรอบยังมีการใช้ สารเคมีอยู่อีกทั้งเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีบ่อพักน้ำ มีการใช้น้ำทำการเกษตรโดยนำน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะ มาใช้โดยตรงซึ่งอาจมีการปนเปื้อน จึงทำให้ไม่ผ่านการรับรองเกษตรอินทรีย์


26 4. โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปี 2566 หลักการและเหตุผล ระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ เป็นการดำเนินงานซึ่งเน้นการรวมกลุ่มของเกษตรกรรายย่อย ในพื้นที่ โดยวางระบบการผลิตและการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกัน เพื่อประหยัดต้นทุนและเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตโดยเน้นการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตามนโยบายการตลาดนำการผลิต นำไปสู่การจัดการสินค้าเกษตรสู่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน สร้างเสถียรภาพของราคาสินค้าเกษตรได้อย่าง มั่นคงในอนาคต ตามแผนปฏิรูปการเกษตร โดยเกษตรกรยังคงเป็นเจ้าของพื้นที่และร่วมกันดำเนินการบริหาร จัดการการผลิต ทั้งนี้ การกำหนดพื้นที่เป้าหมายของเกษตรแปลงใหญ่ ดำเนินการในพื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่ ในเขตชลประทาน พื้นที่ปฏิรูปที่ดิน พื้นที่ในเขตสหกรณ์นิคม และพื้นที่เกษตรทั่วไป โดยเกษตรกรสมาชิก แปลงใหญ่จะร่วมกันกำหนดเป้าหมายการผลิต การถ่ายทอดเทคโนโลยี การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทุกขั้นตอน จนถึงการเชื่อมโยงตลาดกับภาคเอกชนแบบประชารัฐ การปรับระบบส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ จะก่อให้เกิดความร่วมมือในการผลิต โดยเกษตรกรหรือองค์กรเกษตรกรในพื้นที่ที่มีการดำเนินกิจกรรม ที่ใกล้เคียงกันหรือติดต่อกันเป็นแปลงใหญ่ทำให้เกิดขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้น (Economy of Scale) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งมีภารกิจในการส่งเสริมและ ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรของเกษตรกรให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่ม ขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตร และเพิ่มรายได้ของเกษตรกร ตลอดจนดูแลคุณภาพชีวิต ของเกษตรกร จัดทำโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ที่มีการบริหารจัดการร่วมกัน ให้เกษตรกรเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงาน ผลักดันให้เกษตรกรรวมกลุ่มในการผลิตเพื่อร่วมกันจัดหาปัจจัย การผลิตที่มีคุณภาพดี ราคาถูก และการใช้เทคโนโลยีการเกษตรที่เหมาะสม เช่น เครื่องจักรกลการเกษตร (Motor Pool) เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ตลอดจนการจัดการด้านการตลาด ช่วยพัฒนาเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีการพัฒนาเชิงพื้นที่ตามศักยภาพ สู่การพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร ตามความต้องการของตลาด ด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วน โดยหน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุนและ อำนวยความสะดวก เป็นการเพิ่มอำนาจการต่อรองของเกษตรกรตลอดกระบวนการผลิต ตลอดโซ่อุปทาน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มทำการผลิตสินค้าเกษตร ด้านสินค้าพืช ปศุสัตว์ และ ประมง มีการบริหารจัดการร่วมกัน เพื่อให้เกิดการรวมกันผลิตและรวมกันจำหน่ายโดยมีตลาดรองรับ ที่แน่นอน 2. เพื่อให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตและมีผลผลิตต่อหน่วยเพิ่มขึ้น รวมทั้งผลผลิตมีคุณภาพ ได้มาตรฐานภายใต้การบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 3. พัฒนาสมาชิกแปลงใหญ่สู่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนขนาดย่อม (SME) กิจกรรม 1. เป้าหมาย/สถานที่ดำเนินการ แปลงใหญ่ จำนวน 5 แปลง ในพื้นที่ดำเนินการ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอพนมสารคาม อำเภอสนามชัยเขต และอำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา ดังนี้


27 27 1) แปลงใหญ่ ปี 2564 จำนวน 3 แปลง -แปลงใหญ่หมากและมะพร้าว ตำบลบางตีนเป็ด อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัด ฉะเชิงเทรา - แปลงใหญ่เห็ด ตำบลคู้ยายหมี อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา - แปลงใหญ่ยางพารา ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา 2) แปลงใหญ่ปี 2565 จำนวน 1 แปลง - แปลงใหญ่มะพร้าวน้ำหอม ตำบลบางเล่า อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา 3) แปลงใหญ่ปี 2566 จำนวน 1 แปลง - แปลงใหญ่มันสำปะหลัง ตำบลบ้านซ่อง อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา 2. งบประมาณ งบประมาณ 247,400 บาท (สองแสนสี่หมื่นเจ็ดพันสี่ร้อยบาทถ้วน) งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร ผลการดำเนินงาน 1. การบริหารจัดการการถ่ายทอดความรู้(เน้นการพัฒนาคุณภาพ การเชื่อมโยงการตลาด และ การบริหารจัดการกลุ่ม) เป็นการสนับสนุนการรวมกลุ่ม มีการบริหารจัดการร่วมกัน รวมกันผลิต และรวมกัน จำหน่ายโดยมีตลาดรองรับที่แน่นอน โดยใช้แนวทางการพัฒนา Smart Group ของกรมส่งเสริมการเกษตร ทั้งนี้ สามารถปรับวิธีการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร 1) แปลงใหญ่หมากและมะพร้าว ตำบลบางตีนเป็ด อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา - วันที่ 11 มกราคม 2566 การจัดเวทีวิเคราะห์จัดทำแผนและปรับปรุงข้อมูล - วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ถ่ายทอดความรู้ เน้นการพัฒนาคุณภาพ การเชื่อมโยงการตลาด และการบริหารจัดการกลุ่ม


28 28 2) แปลงใหญ่เห็ด ตำบลคู้ยายหมี อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา - วันที่ 28 ธันวาคม 2565 การจัดเวทีวิเคราะห์จัดทำแผนและปรับปรุงข้อมูล - วันที่ 13 มกราคม 2566 ถ่ายทอดความรู้ การพัฒนาคุณภาพ การเชื่อมโยงการตลาดและ การบริหารจัดการกลุ่ม 3) แปลงใหญ่ยางพารา ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา - วันที่ 26 ธันวาคม 2565 การจัดเวทีวิเคราะห์จัดทำแผนและปรับปรุงข้อมูล - วันที่ 10 มกราคม 2566 ถ่ายทอดความรู้ การพัฒนาคุณภาพ การเชื่อมโยงการตลาดและ การบริหารจัดการกลุ่ม


29 29 4) แปลงใหญ่มะพร้าวน้ำหอม ตำบลบางเล่า อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา - วันที่ 26 ธันวาคม 2565 การจัดเวทีวิเคราะห์จัดทำแผนและปรับปรุงข้อมูล - วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ถ่ายทอดความรู้ การพัฒนาคุณภาพ การเชื่อมโยงการตลาดและ การบริหารจัดการกลุ่ม 5) แปลงใหญ่มันสำปะหลัง ตำบลบ้านซ่อง อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา - วันที่ 9 ธันวาคม 2565 การจัดเวทีวิเคราะห์จัดทำแผนและปรับปรุงข้อมูล - วันที่ 23 ธันวาคม 2565 ถ่ายทอดความรู้ การพัฒนาคุณภาพ การเชื่อมโยงการตลาดและ การบริหารจัดการกลุ่ม


30 30 2. ส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร (แปลงปี 2564 และ ปี 2565) 1) แปลงใหญ่หมากและมะพร้าว ตำบลบางตีนเป็ด อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ ในการดำเนินกิจกรรมการทำผ้ามัดย้อมจากสีน้ำหมาก เพื่อเป็นการเพิ่ม มูลค่าให้แก่หมากแห้ง ตามความต้องการของสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่หมากและมะพร้าวตำบลบางตีนเป็ด ดังนี้ 1. เสื้อยืดแขนสั้น สีขาว ผ้าคัทตอน 100% จำนวน 88 ตัว 2. เสื้อคอจีนผ้าฝ้ายแขนสั้น ชาย สีขาว จำนวน 35 ตัว 3. หม้อต้มสแตนเลสทรงสูง ขนาด 40 x 40 ซม. มีหูจับ พร้อมฝาปิด จำนวน 1 ใบ 4. กะละมังเคลือบสีขาว ขอบน้ำเงิน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 70 ซม. จำนวน 2 ใบ 5. กะละมังพลาสติก มีหูเหล็ก สีดำ เบอร์ 6, 10, 14 จำนวน 9 ใบ 6. อ่างผสมปูนพลาสติก สีดำ ขนาดบรรจุ 220 ลิตร จำนวน 2 ใบ 7. กล่องพลาสติกใสมีล้อพร้อมฝาปิด ขนาดบรรจุ 100 ลิตร จำนวน 5 ใบ 8. ยางวงเล็ก สีแดง แพคละ 500 กรัม จำนวน 2 แพค


31 31 2) แปลงใหญ่เห็ด ตำบลคู้ยายหมี อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา สนับสนุนวัสดุการเกษตร เพื่อส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร ด้านการเพิ่มคุณภาพ การผลิต โดยใช้โรงเรือนกลางของกลุ่มที่จะทำขึ้นเพื่อทำเห็ดฟางโรงเรือน โดยมีการใส่ธาตุอาหารสำหรับเห็ด เพื่อเพิ่มคุณภาพของเห็ดฟางให้มีน้ำหนักมากขึ้นและมีปริมาณมากขึ้น โดยการสนับสนุนปัจจัยการผลิต ดังนี้ 1. กากมัน จำนวน 24 ตัน 2. ก้อนเชื้อเห็ดฟาง จำนวน 600 ก้อน 3. กากน้ำตาล จำนวน 12 แกลอน 4. ขี้วัว จำนวน 30 กระสอบ 5. ธาตุอาหารเห็ดสำหรับเห็ด จำนวน 12 กระสอบ 6. อีเอ็ม จำนวน 1 แกลอน 3) แปลงใหญ่มะพร้าวน้ำหอม ตำบลบางเล่า อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา สนับสนุนปัจจัยการผลิต เพื่อพัฒนาผลผลิตและผลิตภัณฑ์ เพื่อให้กลุ่มแปลงใหญ่สามารถทำ การตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ได้ และมีตราสัญญาลักษณ์สินค้าที่สามารถใช้ร่วมกันและสามารถบริหาร จัดการปัจจัยได้โดยสนับสนุนปัจจัยการผลิต ดังนี้ 1. สติ๊กเกอร์ตราสัญลักษณ์ ขนาด 3 เซนติเมตร จำนวน 104 แผ่น แผ่นละ 20 ดวง 2. ปุ๋ยเคมี สูตร 18-46-0 บรรจุกระสอบละ 50 กิโลกรัม จำนวน 10 กระสอบ 3. ปุ๋ยเคมี สูตร 0-0-60 บรรจุกระสอบละ 50 กิโลกรัม จำนวน 8 กระสอบ 4. เข่งพลาสติก ขนาดไม่น้อยกว่า 60×50 เซนติเมตร จำนวน 30 ใบ 5. ขวดพลาสติกพร้อมฝา บรรจุแพ็คละ 150 ขวด ขนาดบรรจุขวดละ 180 มิลลิลิตร


32 32 3. ส่งเสริมการจัดทำแปลงเรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (แปลงปี 2566) 1) แปลงใหญ่มันสำปะหลัง ตำบลบ้านซ่อง อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดทำแปลงเรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยจุดเน้น การจัดทำแปลงการเพิ่มประสิทธิภาพ ผลผลิต และเปอร์เซ็นต์แป้งที่สูง โดยการใช้ปุ๋ยคอก (มูลไก่) ซึ่งมูลไก่ เป็นแหล่งกำเนิดอินทรีย์ให้กับดิน มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ช่วยให้ดินร่วนซุย ทำให้หัวมันสำปะหลัง สามารถลงหัวและเพิ่มขนาดของหัวได้ดียิ่งขึ้น ร่วมกับการบริหารจัดการแปลง การเตรียมดินให้พร้อม ทำการเพาะปลูกและกำจัดวัชพืชให้หมด เนื่องจากมีผลทำให้มันสำปะหลังที่ปลูกมีเปอร์เซ็นต์การงอกสูง ลงหัวได้ลึก สามารถดูดซับธาตุอาหารในดินและสะสมแป้งได้ดี ส่งผลให้ได้หัวมันน้ำหนักดีตามไปด้วย โดยสนับสนุนปัจจัยการผลิต ดังนี้ 1. สารเคมีป้องกันกำจัดแมลงหวี่ขาว (อิมิดาโคลพริด) (ขนาด 1 ลิตร) จำนวน 15 ลิตร 2. สารเคมีแช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง (ไทอะมิโทแซม) (ขนาด 100 กรัม) จำนวน 10 ซอง 3. มูลไก่บรรจุกระสอบๆ ละ 15 กิโลกรัม จำนวน 1,050 กระสอบ


33 33 4. จัดประชุมเชื่อมโยงการดำเนินงานคณะกรรมการเครือข่าย ศพก. และ แปลงใหญ่ ระดับอำเภอและจังหวัด ระดับละ 4 ครั้ง ผลลัพธ์/ผลสำเร็จของงาน - เกษตรกรในพื้นที่แปลงใหญ่มีการรวมกลุ่มผลิตสินค้าเกษตรตามแนวทางระบบส่งเสริมเกษตร แบบแปลงใหญ่โดยมีส่วนร่วมในกระบวนการดำเนินงานที่เน้นการลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มผลผลิต มีตลาดรองรับ ภายใต้การบริหารจัดการที่ดี สามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันสินค้าเกษตรและสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร - เกษตรกรได้รับการสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มทำการผลิตสินค้าเกษตร มีการบริหารจัดการร่วมกัน เพื่อให้เกิดการรวมกันผลิตและรวมกันจำหน่ายโดยมีตลาดรองรับที่แน่นอน - เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตและมีผลผลิตต่อหน่วยเพิ่มขึ้น รวมทั้งผลผลิตมีคุณภาพ ได้มาตรฐานภายใต้การบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ปัญหา/อุปสรรค และข้อเสนอแนะ ปัญหา/อุปสรรค 1) สมาชิกแปลงใหญ่ส่วนมากเป็นผู้สูงวัย มีข้อจำกัดทางการใช้เทคโนโลยี 2) ตลาดส่วนใหญ่ของสมาชิกคือพ่อค้าคนกลาง ทำให้ยากต่อการควบคุมราคาผลผลิตได้ 3) ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เนื่องจากปุ๋ยและปัจจัยการผลิตมีราคาสูงขึ้น ข้อเสนอแนะ 1) จัดทำแผนการผลิตและเพิ่มช่องทางการตลาด 2) เปิดรับสมาชิกที่เป็นคนรุ่นใหม่และให้ความรู้ด้านสื่อและเทคโนโลยีอย่างง่ายแก่สมาชิกที่สูงวัย


34 5. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง หลักการและเหตุผล มันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถเจริญเติบโต ให้ผลผลิตได้แม้อยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งยังเป็นพืชเศรษฐกิจตามยุทธศาสตร์สินค้าของประเทศ โดย คณะกรรมการมันสำปะหลังแห่งชาติ ได้กำหนดยุทธศาสตร์มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ปี 2564 –2567 โดยมีวิสัยทัศน์คือ ให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านการผลิตและการค้ามันสำปะหลังคุณภาพอันดับหนึ่ง ของโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายสำคัญ คือ สร้างมูลค่าการส่งออก ให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 3 % ทุกปี ดำเนินการให้ราคามันสำปะหลังของเกษตรกรในประเทศมีเสถียรภาพและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และ ดำเนินการให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงต้นพันธุ์ที่ต้านทานโรค เปอร์เซ็นต์แป้งสูง และสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ในปี 2567 ไม่ต่ำกว่า 5 ตันต่อไร่ ในปีการผลิต 2563/64 ประเทศไทยมีพื้นที่เก็บเกี่ยวมันสำปะหลังจำนวนทั้งสิ้น 10.41 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 35.09 ล้านตัน โดยมีผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 3.372 ตันต่อไร่ ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายยุทธศาสตร์ มันสำปะหลังที่กำหนด นอกจากนี้ปริมาณผลผลิตยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ และการแปรรูป เพื่อการส่งออก จึงต้องมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และหัวมันสดจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม อีกทั้งในช่วงปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้ประสบปัญหาการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลัง และอุทกภัยฝนตกหนัก ส่งผลทำให้ผลผลิตเกิดความเสียหาย และขาดแคลนท่อนพันธุ์ดี สำหรับการเพาะปลูก ในฤดูกาลถัดไปอีกด้วย ฉะนั้น เพื่อให้การดำเนินงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เป็นไปตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และ เพื่อให้การดำเนินการมีความต่อเนื่อง กรมส่งเสริมการเกษตรซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการส่งเสริมและ พัฒนาเกษตรกรผู้ผลิตมันสำปะหลังให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ จึงได้จัดทำ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง โดยมุ่งหวังเพื่อพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรให้มี ความสามารถในการผลิตมันสำปะหลังที่ตอบสนองกับยุทธศาสตร์และนโยบาย ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่งผลให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนในอาชีพ ของเกษตรกรผู้ผลิตมันสำปะหลังต่อไป วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้มีความรู้และทักษะในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง สอดคล้องกับความต้องการของตลาด 2. เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง มีแปลงต้นแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต มันสำปะหลังเพื่อใช้เป็นแหล่งพันธุ์ดี และเป็นแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่สำหรับสมาชิกกลุ่ม และเกษตรกรพื้นที่ใกล้เคียง 3. เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการ สำหรับเป็นกลไก เชื่อมโยงการผลิตและการตลาดของเกษตรกร


35 35 กิจกรรม 1. เป้าหมาย/สถานที่ดำเนินการ เกษตรกร จำนวน 60 ราย สถานที่ดำเนินการ ในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอแปลงยาว และอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา 2. งบประมาณ งบประมาณ 110,000 บาท (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร ผลการดำเนินงาน 1. ถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกร 1.1 การบริหารจัดการถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกร ดำเนินกิจกรรมเพิ่มศักยภาพเกษตรกรให้มีความรู้และทักษะในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต มันสำปะหลัง เหมาะสมตามความต้องการของเกษตรกร และตามความเหมาะสมของพื้นที่ โดยดำเนินการ ในพื้นที่อำเภอแปลงยาว จำนวน 30 ราย และอำเภอสนามชัยเขต จำนวน 30 ราย อำเภอละ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ดำเนินการวิเคราะห์และวางแผนการผลิตมันสำปะหลังที่เหมาะสมกับพื้นที่และความ ต้องการของตลาด จัดตั้งกลุ่มพัฒนาศักยภาพการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง และรับสมัคร สมาชิก/จัดทำระเบียบข้อบังคับกลุ่ม และให้ความรู้เรื่องการลดต้นทุนการผลิต ด้วยการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ สาธิตการเก็บตัวอย่างดิน และการวิเคราะห์ดินในแปลงมันสำปะหลัง (1) อำเภอแปลงยาว เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ณ ศาลาประชาคม หมู่ 13 ตำบลแปลงยาว อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา


36 36 (2) อำเภอสนามชัยเขต เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ณ ศาลากลางบ้านหมู่ 12 บ้านโคกผาสุก ตำบลทุ่งพระยา อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ครั้งที่ 2 ดำเนินการอบรมถ่ายทอดให้เกษตรกรตามประเด็นที่เกษตรกรต้องการ ดังนี้ (1) อำเภอแปลงยาว เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 ณ ศาลาประชาคม หมู่ 13 ตำบลแปลงยาว อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา หลักสูตรโรคและแมลงศัตรูพืช และกิจกรรมฝึกให้เกษตรกร จำแนกโรคและแมลงศัตรูพืชในแปลงมันสำปะหลัง การป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชด้วยวิธีผสมผสาน การเพิ่มผลผลิต ด้วยการใช้พันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ การจำแนกพันธุ์มันสำปะหลัง การไถระเบิดดินดาน การปรับปรุงบำรุงดินที่ถูกต้อง และการทำแปลงพันธุ์และการเก็บท่อนพันธุ์มันสำปะหลังสะอาดไว้ใช้เอง


37 37 (2) อำเภอสนามชัยเขต เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 ณ ศาลากลางบ้านหมู่ 12 บ้านโคกผาสุก ตำบลทุ่งพระยา อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา หลักสูตรการคัดเลือกพันธุ์มันสำปะหลังดีที่เหมาะสม การป้องกันกำจัดโรคและแมลงในมันสำปะหลัง การเตรียมดินสำหรับปลูกมันสำปะหลัง การลดต้นทุน การผลิตในการปลูกมันสำปะหลัง และการทำปุ๋ยสั่งตัดใช้ในแปลงมันสำปะหลัง 1.2 กิจกรรมสนับสนุนวัสดุจัดทำแปลงขยายผลแปลงต้นแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต มันสำปะหลัง (10ไร่) (1) อำเภอแปลงยาว : แปลงเรียนรู้ของ นางสาวจำปา แย้มเสนาะ พื้นที่ 10 ไร่ ที่ตั้งแปลง หมู่ที่ 13 ตำบลแปลงยาว อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา ปลูกพันธุ์ระยอง 9 พิกัด X : 754346 Y : 1500120 สนับสนุนปัจจัยการผลิต ดังนี้ 1) ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง ระยอง 9 จากศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง จำนวน 200 มัด 2) ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ตรามงกุฏ บรรจุกระสอบๆ ละ 50 กิโลกรัม จำนวน 10 กระสอบ 3) ขี้ไก่แกลบ จำนวน 450 กระสอบ 4) สารปรับปรุงดินชนิดน้ำที่ประกอบด้วย แคลเซียมคาร์บอเนต และแมกนิเซียมคาร์บอเนต ขนาด 10 ลิตร จำนวน 5 ถัง


38 38 (2) อำเภอสนามชัยเขต : แปลงเรียนรู้ของ นายบุญจันทร์ สายแก้ว จำนวน 10 ไร่ ปลูกพันธุ์ระยอง 72 ที่ตั้งแปลงหมู่ 19 ตำบลทุ่งพระยา อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา พิกัด X: 795717 Y:1516267 สนับสนุนปัจจัยการผลิต ดังนี้ 1) พันธุ์มันสำปะหลัง ระยอง 72 (โดย ศูนย์วิจัยและ พัฒนาการเกษตรฉะเชิงเทรา) 2) ขี้ไก่แกลบ, ปูนขาว, แม่ปุ๋ย 3) สารแช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง 4) สารป้องกันกำจัดวัชพืชและแมลงศัตรูพืช 2. เชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตและการตลาด 2.1 พัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ปลูกมันสำปะหลัง


39 39 ผลลัพธ์/ผลสำเร็จของงาน 1. เกษตรกรได้รับการพัฒนาศักยภาพ โดยได้รับความรู้และทักษะในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต มันสำปะหลังสอดคล้องกับความต้องการของตลาด 2. เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง มีแปลงต้นแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลังเพื่อใช้เป็น แหล่งพันธุ์ดี และเป็นแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่สำหรับสมาชิกกลุ่ม และเกษตรกรพื้นที่ใกล้เคียง 3. ให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการ สำหรับเป็นกลไกเชื่อมโยง การผลิตและการตลาดของเกษตรกร ปัญหา/อุปสรรค และข้อเสนอแนะ ปัญหา/อุปสรรค - เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ใช้วิธีการจ้างในการปลูกมันสำปะหลังทุกขั้นตอน - เกษตรกรปลูกมันสำปะหลังมานาน ทำให้ไม่ยอมปรับเปลี่ยนวิธีการผลิต - การกำหนดช่วงปลูกต้องรอน้ำฝนในการเตรียมดินและการปลูก -แปลงข้างเคียงเป็นโรคใบด่างมันสำปะหลัง ทำให้แปลงเรียนรู้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคใบด่างมันสำปะหลัง -สภาพอากาศร้อนและฝนตกน้อย ทำให้การปลูกล่าช้ากว่าทุกปี เปอร์เซ็นต์การงอกของต้นมันสำปะหลังลดลง และเสี่ยงทำให้แมลงศัตรูพืช เช่น ไรแดง แมลงหวี่ขาว ระบาดได้ - แปลงต้นแบบเป็นแปลงที่ติดกับเกษตรกรทั่วไปรอบด้าน ทำให้มีการระบาดของโรคไวรัสใบด่างเข้ามา ในแปลงได้ตลอด ควบคุมได้ยาก - ในพื้นที่ขาดเครื่องมือที่ใช้ในการระเบิดดินดาน (ริปเปอร์) ปรับปรุงสภาพดิน ข้อเสนอแนะ 1) จัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับภาระกิจของเกษตรกร 2) การกำหนดวันจัดกิจกรรมควรปรึกษากับผู้นำเกษตรกรเพื่อเลือกวันที่เหมาะสม 3) ควรส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่


40 6. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรด ปี 2566 หลักการและเหตุผล สับปะรดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ สร้างรายได้ให้แก่ประเทศถึง 23,000 -25,000 ล้านบาทต่อปี มีเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดมากกว่า 40,000 ครัวเรือน กระจายอยู่ในพื้นที่เกือบทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคตะวันตก อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมสับปะรดไทยยังมีปัญหา อยู่อีกหลายประการ โดยปัญหาที่ถือว่ามีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมสับปะรดอย่างมาก ก็คือ ปัญหาสารไนเตรทตกค้างในผล สับปะรด ซึ่งเกิดจากการที่เกษตรกรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตในปริมาณที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้ มีปริมาณสารไนเตรทตกค้างในผลสับปะรดเกินกว่ามาตรฐานที่โรงงานแปรรูปสับปะรดกำหนด ทำให้โรงงาน มีการกดราคาผลผลิตหรือปฏิเสธในการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร เนื่องจากหากนำผลผลิตที่มีสารไนเตรท ตกค้างเกินมาตรฐานไปแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง สารไนเตรทในเนื้อสับปะรดจะละลายออกมา ทำปฏิกิริยากับดีบุกที่เคลือบอยู่ภายในกระป๋อง ส่งผลให้ผู้ซื้อในต่างประเทศส่งสินค้าคืนกลับประเทศไทย สร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมสับปะรดกระป๋องไทยเป็นอย่างมาก และอีกปัญหาหนึ่งคือการกระจุกตัว ของผลผลิต ในช่วงเวลาเดียวกันในทุกพื้นที่ ทำให้อาจมีบางช่วงที่โรงงานไม่สามารถรับซื้อผลผลิตที่เกษตรกร เก็บเกี่ยวมาส่งเข้าโรงงานได้ทั้งหมดแบบวันต่อวัน จึงเกิดปัญหามีผลผลิตตกค้างอยู่หน้าโรงงานจนเน่าเสียหาย อีกทั้งกรณีเกษตรกรที่ปลูกสับปะรดในพื้นที่ห่างไกลจากโรงงาน ทำให้ต้องรับภาระต้นทุนค่าขนส่งสูง ทำให้ เสี่ยงต่อการขาดทุนเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่กรมส่งเสริมการเกษตรจะต้องจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตสับปะรด ปี 2566 เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการผลิตของเกษตรกรดังที่กล่าวข้างต้น โดยผ่านกระบวนการ เรียนรู้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่และเกษตรกรมีความรู้ด้านการผลิตที่ถูกต้องเหมาะสม เน้นผลผลิตที่มีคุณภาพดี และเป็นที่ต้องการของตลาด ลดปัญหาโรคเหี่ยวในสับปะรด ส่งเสริมให้เกษตรกรมีการวางแผนการผลิต สับปะรด โดยหากเป็นการผลิตเพื่อส่งป้อนโรงงาน ให้เน้นหนักลดสารไนเตรทตกค้างในผลสับปะรด และกรณี เกษตรกรที่มีพื้นที่สับปะรดห่างไกลจากโรงงาน ให้ปรับสัดส่วนไปผลิตสับปะรดเพื่อการบริโภคผลสด ส่งตลาด ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อการสร้างชื่อเสียงและนำเงินตราเข้าสู่ประเทศ รักษาความเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ สับปะรดอันดับ 1 ของโลกได้ต่อไปและที่สำคัญเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถ ประกอบอาชีพการปลูกสับปะรดต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ความสามารถในการผลิตสับปะรดตามระบบเกษตรดีที่เหมาะสม เพื่อให้ ได้ผลผลิตคุณภาพดีตามความต้องการของตลาด เน้นการลดสารไนเตรทตกค้างในผลผลิต การป้องกันกำจัด โรคเหี่ยวในสับปะรด และทดสอบการใช้จุลินทรีย์ PGPR ปรับปรุงบำรุงดิน เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน การผลิตในไร่สับปะรด 2. เพื่อส่งเสริมและเตรียมความพร้อมศักยภาพของกลุ่มเกษตรกรในการพัฒนาเข้าสู่โครงการระบบ ส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่


41 41 เป้าหมาย/สถานที่ดำเนินการ เป้าหมาย เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด จำนวน 50 ราย ดำเนินการในพื้นที่ อำเภอแปลงยาวอำเภอสนามชัยเขต และอำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา งบประมาณ งบประมาณ 44,250 บาท (สี่หมื่นสี่พันสองร้อยห้าสิบบาทถ้วน) งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร ระยะเวลาดำเนินการ เดือนพฤศจิกายน 2565 – เดือนกันยายน 2566 กิจกรรม และวิธีการดำเนินงาน 1. ถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกร ดำเนินการอบรมถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกร เรื่องการผลิตสับปะรดคุณภาพให้แก่เกษตรกร เน้นลดการป้องกันโรคเหี่ยว และการควบคุมปริมาณสารไนเตรทตกค้างในผลสับปะรดให้น้อยที่สุดหรืออยู่ใน เกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด เป้าหมาย 50 ราย โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอแปลงยาว อำเภอสนามชัยเขต อำเภอท่าตะเกียบ และเกษตรกรเป้าหมายรวม 50 ราย เข้าร่วมศึกษาดูงาน ณ บริษัทอาหารสยาม (2513) จำกัด เพื่อดูขั้นตอนกระบวนการการแปรรูปสับปะรด ทั้งนี้ นายกฤษฎา ฉิมอินทร์ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริม เทคโนโลยีการเกษตร ด้านอารักขาพืช จังหวัดชลบุรี มาถ่ายทอดความรู้เรื่องโรคและแมลงศัตรูพืชที่สำคัญ ในสับปะรดให้แก่เกษตรกรและเจ้าหน้าที่ด้วย


42 42 1.1 จัดทำแปลงเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรดคุณภาพ โดยเน้นทดสอบการเพิ่ม ผลผลิต และลดต้นทุนการผลิต โดยใช้จุลินทรีย์ PGPRจำนวน 1 แปลง แปลงละ 5 ไร่ ได้แก่ - ดำเนินการในแปลงเดิมของปี 2564 (ปีที่ 3) คือ แปลงของนายสมชาย สมาน เกษตรกรอำเภอ สนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา กรณีแปลงเดิม ให้ดำเนินการทดสอบเช่นเดิมเพื่อเก็บข้อมูลผลการทดสอบตามแบบฟอร์ม ที่กำหนดเป็นปีที่ 2 และ ปีที่ 3


43 43


44 44 2. ประชุมบริหารจัดการ การผลิตและการตลาดสินค้าสับปะรด จำนวน 3 ครั้ง วิธีดำเนินงาน : จังหวัดจัดประชุมหารือเจ้าหน้าที่อำเภอและผู้แทนเกษตรกรชาวไร่สับปะรด และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์สับปะรด และจัดทำตัวเลขประมาณการ ผลผลิต เพื่อนำไปพิจารณาในเวทีการประชุมในภาพรวมของภาค ที่จัดโดยสำนักงานส่งเสริมและพัฒนา การเกษตรเขตต่อไป สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินการจัดประชุมบริหารจัดการการผลิตและการตลาดสินค้า สับปะรด จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2565 สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทราดำเนินการจัดประชุมร่วมกับ สำนักงานเกษตรอำเภอแปลงยาว อำเภอสนามชัยเขต อำเภอท่าตะเกียบ เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อจัดทำข้อมูลสับปะรด ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรอำเภอ สนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทราดำเนินการจัดประชุมร่วมกับ สำนักงานเกษตรอำเภอแปลงยาว อำเภอสนามชัยเขต อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอพนมสารคาม เกษตรกร ผู้ปลูกสับปะรด ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรอำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อจัดทำข้อมูล สับปะรดนำเข้าประชุมบริหารจัดการการผลิตและการตลาดสินค้าสับปะรด ระดับเขต ต่อไป


45 45 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทราดำเนินการจัดประชุมร่วมกับ สำนักงานเกษตรอำเภอแปลงยาว อำเภอสนามชัยเขต อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอพนมสารคาม เกษตรกร ผู้ปลูกสับปะรด ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรอำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อจัดทำข้อมูลสับปะรด นำเข้าประชุมบริหารจัดการการผลิตและการตลาดสินค้าสับปะรด ระดับเขต ต่อไป


Click to View FlipBook Version