46 46 ผลผลิต ผลลัพธ์ ตัวชี้วัด ผลผลิต 1) เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรด ไม่น้อยกว่า 50 ราย 2) มีแปลงเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรดคุณภาพ จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 5 ไร่ ผลลัพธ์ 1) เกษตรกรมากกว่าร้อยละ 80 มีการนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการผลิตสับปะรดคุณภาพของตน 2) มีแปลงเรียนรู้ สามารถใช้เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรด คุณภาพ ตัวชี้วัด เชิงปริมาณ 1. เกษตรกร จำนวน 50 ราย ได้รับการอบรมเรื่องการผลิตสับปะรดคุณภาพ 2. มีแปลงต้นแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรดคุณภาพ จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 5 ไร่ สามารถใช้เป็นตัวอย่างให้เกษตรกรและผู้สนใจ จากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เชิงคุณภาพ การผลิตสินค้าเกษตรมีประสิทธิภาพและมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1) เกษตรกรที่ได้รับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจ และนำไปประยุกต์ใช้ในการผลิตสับปะรดคุณภาพ ตรงตามความต้องการของตลาด 2) แปลงต้นแบบสามารถใช้เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรดคุณภาพ ทั้งในพื้นที่ใกล้เคียงและจากเกษตรกรจากภูมิภาคอื่นที่สนใจ 3) เกษตรกรมีการวางแผนการผลิตอย่างเหมาะสม ผลผลิตสับปะรดต่อไร่ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น มีคุณภาพสอดคล้อง ตรงตามความต้องการของตลาด ทำให้มีรายได้และกำไรจากการประกอบอาชีพการปลูก สับปะรดของตน
47 7. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชเคี้ยวมัน (มะคาเดเมีย, มะม่วงหิมพานต์) เพื่อความยั่งยืน หลักการและเหตุผล พืชเคี้ยวมัน หมายถึง พืชที่เน้นบริโภคแต่เมล็ดและมักจะมีเปลือกค่อนข้างแข็ง เคี้ยวแล้วให้รสชาติมันๆ อร่อย เป็นที่นิยมของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ที่เรารู้จักและคุ้นเคยในที่นี้ คือ มะคาเดเมียและมะม่วงหิมพานต์ สำหรับ “มะคาเดเมีย” มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย แพร่ขยายไปยังสหรัฐอเมริกาโดยปลูกมากที่สุด ที่รัฐฮาวาย เข้ามาประเทศไทยเมื่อ 70 ปี มาแล้ว ได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งพืชเคี้ยวมัน เพราะมีรสชาติอร่อย และมี ราคาแพงที่สุดในโลก นอกจากนั้น มะคาเดเมียยังอุดมไปด้วยวิตามินมากมาย และที่สำคัญเต็มไปด้วยน้ำมันพืช ไม่อิ่มตัว ซึ่งน้ำมันพืชไม่อิ่มตัวมีคุณสมบัติที่ดี คือ ช่วยลดคอเลสเตอรอลให้แก่ร่างกาย มีอายุยืนยาวถึง 100 ปี เนื้อไม้ยังมีประโยชน์ใช้สอยโดยนำมาทำเครื่องเรือน เมื่อมีอายุ 30 ปีขึ้นไป เป็นพืชที่ตลาดทั่วโลกมีความต้องการสูง ไม่มีการล้นตลาด มีราคาเป็นมาตรฐานสากลไม่เหมือนพืชเศรษฐกิจตัวอื่นที่มีราคาขึ้นลงไม่แน่นอน ตลาดใหญ่ อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น จึงคาดการณ์ว่าในอนาคตถ้ามีการส่งเสริมอย่างเต็มที่ไม่เกิน 10-20 ปีข้างหน้า ประเทศไทย อาจเป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์มะคาเดเมียออกสู่ตลาดโลกในอันดับต้นๆ สำหรับ“มะม่วงหิมพานต์” เป็นพืช พื้นเมืองของอเมริกาใต้ และได้ขยายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก เข้ามาประเทศไทยโดยพระยารัษฎานุประดิษฐ์ นำมาจากอินเดีย ปี 2444 พร้อมๆ ยางพารา และมีการคัดเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถปลูกให้ได้ผลผลิตสูง ในประเทศไทย เป็นพืชที่ปลูกง่าย ต้านทานโรคแมลงศัตรูพืชได้ดี เจริญเติบโตเร็ว ทนแล้ง ให้ผลผลิตเร็วเพียงแค่ 2 ปี ให้ผลผลิตนานหลายสิบปี ดูแลรักษาง่าย ต้องอิงหลักวิชาการเกษตรเข้าช่วยจะสามารถให้ผลผลิตสูง เป็นพืชที่ปลูกเพื่อเป็นรายได้ได้เป็นอย่างดี ผลิตภัณฑ์เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วโลก เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการ มีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ ที่เปลือกหุ้มเมล็ดจะมี น้ำมันออกฤทธิ์เป็นกรดอย่างแรง ถ้าถูกผิวหนังจะพองเป็นแผลเปื่อย แต่ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทำสีย้อม และ ใช้ทำผลิตภัณฑ์ไม้ป้องกันปลวก มอด ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติก อุปกรณ์รถยนต์ กระเบื้องยางปูพื้น ฉนวนหุ้ม สายไฟฟ้า เป็นต้น ปัจจุบันผลิตภัณฑ์พืชเคี้ยวมัน มะคาเดเมียและมะม่วงหิมพานต์ เป็นที่นิยมของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ตลาดผู้บริโภคมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังพบว่า พื้นพี่ปลูกยังมี วงจำกัด เนื่องจากเกษตรกรยังไม่มีความรู้การผลิตตลอดจนการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าให้สูงขึ้น จึงมีความ จำเป็นต้องมีความรู้แก่เกษตรกรด้านเทคโนโลยี การส่งเสริมพัฒนาการผลิต การแปรรูปและการตลาด เพื่อพัฒนาการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้น กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้จัดทำโครงการส่งเสริม การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชเคี้ยวมันเพื่อความยั่งยืน (มะคาเดเมีย, มะม่วงหิมพานต์) เพื่อเป็นการเพิ่ม ศักยภาพการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ สร้างอาชีพ สร้างรายได้และยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกร ให้มั่นคง และยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมได้ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องและเหมาะสม ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชเคี้ยวมัน (มะม่วงหิมพานต์) ให้แก่เกษตรกร รวมทั้งสนับสนุนให้เกษตรกรนำความรู้ไปปฏิบัติ เพื่อพัฒนาพืชเคี้ยวมัน (มะม่วงหิมพานต์) ให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และเพียงพอต่อความต้องการของประเทศ 2. เพื่อพัฒนาความรู้ของเกษตรกรให้มีความรู้ความสามารถในการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าให้สูงขึ้น และครบวงจร รวมทั้งการตลาดของผลิตภัณฑ์
48 48 3. เพื่อปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแก่เกษตรกร กิจกรรม 1. เป้าหมาย/สถานที่ดำเนินการ เกษตรกรผู้ปลูกพืชเคี้ยวมัน (มะม่วงหิมพานต์) จำนวน 20 ราย ดำเนินการในพื้นที่ อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา 2. งบประมาณ งบประมาณ 51,000 บาท (ห้าหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน) งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร ผลการดำเนินงาน 1. กิจกรรมสร้างการรับรู้และความเข้าใจและส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตพืชเคี้ยวมัน (มะคาเดเมีย, มะม่วงหิมพานต์) จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ผ่านกระบวนการการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาความรู้และศักยภาพของเกษตรกรทางด้านการผลิต การตลาด และการรวมกลุ่ม จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรอำเภอท่าตะเกียบ จังหวัด ฉะเชิงเทรา โดยจัดเวทีวิเคราะห์สภาพพื้นที่ สภาพการผลิต และสภาพการตลาดมะม่วงหิมพานต์ของอำเภอ ท่าตะเกียบ และวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรอำเภอท่าตะเกียบ จังหวัด ฉะเชิงเทรา โดยดำเนินการถ่ายทอดความรู้ ตามประเด็นที่ได้จากการวิเคราะห์สภาพการปลูกพืชเคี้ยวมัน ของกลุ่ม การจัดการผลผลิตมะม่วงหิมพานต์แบบมืออาชีพ และการแปรรูปผลผลิตมะม่วงหิมพานต์ 2. พัฒนาความรู้และศักยภาพของเกษตรกรเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 2.1 ฝึกอบรมและศึกษาดูงานในพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 จัดกิจกรรมอบรมถ่ายทอดความรู้หลักสูตร เทคโนโลยีการผลิต มะม่วงหิมพานต์ โดยวิทยากร นายภานุวัฒน์ เนียมสุวรรณ นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ กลุ่มส่งเสริมไม้ยืนต้น
49 49 สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร และหลักสูตร การทำมาตรฐานสินค้าเกษตร GAP มะม่วงหิมพานต์ โดยวิทยากร นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 นำเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ศึกษาดูงานแปลงพืชเคี้ยวมัน (มะม่วงหิมพานต์) ของนายสมศักดิ์ เดชอุดมไพศาล (Smart Farmer) และศึกษาดูงานจุดรวบรวมผลผลิตและการแปรรูป มะม่วงหิมพานต์ ณ บริษัท สมหวังมะม่วงหิมพานต์ จำกัด หมู่ที่ 3 บ้านคลองพลู อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี โดยศึกษาดูงานกระบวนการต่างๆ ในการแปรรูปมะม่วงหิมพานต์ ได้แก่ กระบวนการต้ม การกระเทาะเมล็ด การอบและคัดขนาด การเก็บเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 2.2 จัดทำแปลงเรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ดำเนินการจัดทำแปลงเรียนรู้ เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะม่วงหิมพานต์พันธุ์ดี ในพื้นที่ 2 ไร่ ของนายณัฐวุฒิ แสงปิติ ตั้งแปลง หมู่ 4 ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา พิกัด X = 772761 Y=1491362 โดยการสนับสนุนต้นพันธุ์และปุ๋ย ดังนี้ 1) ป้ายแปลงเรียนรู้มะม่วงหิมพานต์ โครงเหล็กขนาด 1 นิ้ว ป้ายเหล็กเมทัลชีทติดสติ๊กเกอร์ ขนาด 120 x 70 ซม. พร้อมเสา ขนาด 1.5 นิ้ว สูง 150 ซม. จำนวน 1 ป้าย 2) พันธุ์มะม่วงหิมพานต์ ศรีสะเกษ 3 ขนาดถุง 3 x 8 นิ้ว สูงไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร (ทาบกิ่ง) จำนวน 90 ต้น 3) ปุ๋ยเคมีสูตร 46 – 0 – 0 บรรจุกระสอบละ 50 กิโลกรัม จำนวน 1 กระสอบ 4) ปุ๋ยอินทรีย์/ขี้ไก่อัดเม็ด บรรจุกระสอบละ 50 กิโลกรัม จำนวน 15 กระสอบ
50 50 ผลลัพธ์/ผลสำเร็จของงาน 1) เกษตรกรผ่านการอบรมทั้งหมด 20 ราย มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับศักยภาพและสภาพพื้นที่ สภาพการผลิต และสภาพการตลาดมะม่วงหิมพานต์ของอำเภอท่าตะเกียบ และได้รับความรู้เรื่องการจัดการแปลง และการเพิ่มผลผลิตมะม่วงหิมพานต์และการจัดการผลผลิตมะม่วงหิมพานต์แบบมืออาชีพ 2) เกษตรกรได้ศึกษาเรียนรู้จากการศึกษาดูงานแปลงมะม่วงหิมพานต์ และจุดรวบรวมผลผลิต พืชเคี้ยวมัน (มะม่วงหิมพานต์) ปัญหา/อุปสรรค และข้อเสนอแนะ ปัญหา/อุปสรรค 1) สถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา – 2019 ทำให้มีข้อจำกัดในการดำเนินกิจกรรม 2) การจัดทำแปลงเรียนรู้เกษตรกร เริ่มที่จะปรับเปลี่ยนพืชอื่นแทนการปลูกมะม่วงหิมพานต์ จึงทำให้ มีเกษตรกรที่เข้าร่วมและสนใจในการจัดทำแปลงเรียนรู้น้อย 3) เกษตรกรขาดการจดบันทึก และยังปฏิบัติตามที่เคยทำมา ข้อเสนอแนะ 1) การอบรมเกษตรกรนั้นต้องปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันการแพร่กระจายโรคไวรัสโคโรนา – 2019 อย่างเคร่งครัด 2) เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร (เกษตรตำบล) ให้คำแนะนำการจดบันทึกต่างๆ ในการทำแผนการผลิต ของเกษตรกร
51 8. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตผักแบบครบวงจร หลักการและเหตุผล เกษตรกรผู้ผลิตพืชผักส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย มีพื้นที่ทำการเกษตรขนาดเล็ก รูปแบบการผลิต และการตลาดเป็นแบบต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างขาย ส่วนใหญ่ขายผ่านพ่อค้าคนกลาง ไม่มีการวางแผนการผลิต และเกษตรกรบางรายยังไม่เห็นความสำคัญของการผลิตพืชผักให้ปลอดภัย ในขณะที่ปัจจุบัน ตลาดมีความ ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ และปลอดภัย โดยตลาดต้องการทำการตกลงซื้อขายล่วงหน้ากับกลุ่มเกษตรกร ทั้งในเรื่องของชนิดพืชผัก ปริมาณ และราคา ดังนั้น เกษตรกรจึงมีความจำเป็นในการเรียนรู้การทำงานใน รูปแบบกลุ่ม รู้จักวิธีการบริหารจัดการร่วมกัน ทั้งในเรื่องการวางแผนการผลิตและการตลาด และเรียนรู้วิธี ผลิตพืชผักให้ปลอดภัย เพื่อให้เกษตรกรได้ปรับตัว สามารถทำการซื้อขายกับตลาด ก่อให้เกิดความมั่นคงให้กับ อาชีพทางการเกษตรของเกษตรกรผู้ผลิตพืชผัก กรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชผักครบวงจร โดยมุ่งหวัง ให้เกษตรกรผู้ผลิตพืชผัก ได้เรียนรู้วิธีการผลิตพืชผักที่ปลอดภัย มีคุณภาพตรงตามความต้องการ ของตลาด และเรียนรู้ในด้านต่างๆ ตามที่เกษตรกรมีความสนใจ ผ่านกระบวนการเรียนรู้และการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกษตรกรรู้จักการทำงานในรูปแบบกลุ่ม และมีความพร้อมในการก้าวสู่กระบวนการทำการเกษตร ในรูปแบบแปลงใหญ่ต่อไป วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชผักครบวงจร และสามารถถ่ายทอด ให้กับเกษตรกรได้ 2. เพื่อให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของการผลิตพืชผักให้ปลอดภัย และสามารถผลิตพืชผัก ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ 3. เพื่อให้เกษตรกรเกิดการรวมกลุ่ม สามารถบริหารจัดการการผลิตและการตลาดร่วมกัน และมีความพร้อมในการก้าวสู่กระบวนการทำการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่ต่อไป เป้าหมาย/สถานที่ดำเนินการ เกษตรกรในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม เป้าหมาย จำนวน 25 ราย งบประมาณ งบประมาณ 22,000 บาท (สองหมื่นสองพันบาทถ้วน) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร ระยะเวลาดำเนินการ พฤศจิกายน 2565 – กันยายน 2566
52 52 กิจกรรม และวิธีการดำเนินงาน 1. ถ่ายทอดความรู้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชผักครบวงจร ให้แก่เกษตรกร โดยสำนักงาน เกษตรจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอพนมสารคาม จัดอบรมถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกร หลักสูตรตามที่วิเคราะห์ปัญหาและตามความต้องการของเกษตรกร ได้ดำเนินการจัดอบรมเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 เป้าหมาย 25 ราย ดำเนินการอบรมเกษตรกรผู้ปลูกพืชผัก ณ ที่ทำการองค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองแหน หมู่ที่ 13 ตำบลหนองแหน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเชิญ นายสุชาติ อินทสร ประธานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผักแปลงใหญ่ปลอดภัยสูง ต.หนองยาว เป็นวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้ เรื่อง“การผลิตพืชผักที่เหมาะสมแบบครบวงจร”และ นางทำนอง นามวิชัย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ชำนาญการ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีด้านอารักขาพืช จังหวัดชลบุรี เป็นวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้ เรื่อง“โรคและการป้องกันกำจัดโรคในพืชผัก” และประเมินความรู้ของเกษตรกรหลังจากได้รับการถ่ายทอดความรู้ สำหรับจุดเน้นและองค์ความรู้ที่เกษตรกรต้องการเพื่อกำหนดหลักสูตรในการจัดกระบวนการเรียนรู้ - เกษตรกรมีความรู้และความเข้าใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชผักแบบครบวงจร เรื่อง การผลิตพืชผักที่เหมาะสมแบบครบวงจร โรคและการป้องกันกำจัดโรคในพืชผัก และเรียนรู้โรคและ การป้องกันกำจัดโรคในพืชผักให้ปลอดภัย 2. จัดประชุมเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดพืชผัก โดยสำนักงานเกษตรอำเภอพนมสารคาม จัดประชุมเพื่อเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดผักแบบครบวงจร เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 เป้าหมาย เกษตรกรผู้ปลูกพืชผัก25 ราย ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแหน หมู่ที่ 13 ตำบลหนองแหน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เชิญนายนิรุจน์ ศรีเกษม ประธานกลุ่มเกษตรอินทรีย์ PGS แปดริ้ว บรรยายให้ความรู้เรื่อง การเชื่อมโยงการผลิตและการตลาด การผลิตพืชผักอินทรีย์ ส่งบริษัท ไลน์ไทยฟู้ด แอนด์ โกรเซอรี่ จำกัด และบริษัท เวจจิโอโลจี้จำกัด และเชิญนายดวงจันทร์ ชาบรรทม ประธานวิสาหกิจ ชุมชนแปลงใหญ่ผักท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา มาให้ความรู้เรื่อง การเชื่อมโยง การผลิตและการตลาด การผลิตพืชผักให้ได้มาตรฐาน GAP การเตรียมการ ขั้นตอน และการส่งผลผลิตเข้าสู่ ห้างแม็คโคร และท็อปซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่งผลจากการเชื่อมโยงทำให้เกษตรกร สามารถผลิตพืชผักที่เหมาะสม
53 53 แบบครบวงจรการรวมกลุ่มและการบริหารจัดการกลุ่มให้เข้มแข็ง สามารถยกระดับผลผลิตของตนเองให้ได้ มาตรฐาน การผลิต เชื่อมโยงการตลาดไปสู่ระดับที่สามารถวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าใกล้ชุมชน และ ต่างจังหวัด 3. จัดทำแปลงเรียนรู้การผลิตพืชผักแบบครบวงจร โดยสำนักงานเกษตรอำเภอพนมสารคาม จัดทำ แปลงเรียนรู้การผลิตพืชผักครบวงจร โดยคัดเลือกแปลงเกษตรกรที่เหมาะสมและสมัครใจเป็นแปลงเรียนรู้ และถ่ายทอดความรู้ต่างๆ ตามประเด็นความต้องการของเกษตรกรเป้าหมาย ผ่านรูปแบบโรงเรียนเกษตรกร โดยมีการสาธิต การฝึกปฏิบัติร่วมกันในแปลงเรียนรู้ ซึ่งประเด็นที่เกษตรกรต้องการคือ เรื่อง วัสดุปรับปรุงดินปลูก คุณภาพดีและสนับสนุนวัสดุผลิตสารชีวภัณฑ์พร้อมใช้ 1) กิจกรรม วัสดุปรุงดินปลูก คุณภาพดี
54 54 2) กิจกรรม สนับสนุนวัสดุผลิตสารชีวภัณฑ์พร้อมใช้
55 55 สำหรับผลที่ได้จากการทำแปลงเรียนรู้ 1) กิจกรรม วัสดุปรุงดินปลูกคุณภาพดี เกษตรกรได้รับการถ่ายทอดความรู้ในการเตรียมวัสดุปรุงดิน ให้มีคุณภาพ และวิธีการผสมดินให้เหมาะสมกับการนำไปใช้เพาะปลูกผักในแปลง 2) กิจกรรม สนับสนุนวัสดุผลิตสารชีวภัณฑ์พร้อมใช้ เกษตรกรได้รับการถ่ายทอดความรู้ในการ ขยายสารชีวภัณฑ์ เช่น เชื้อราไตรโครเดอร์มา เมตาไรเซี่ยมและบิวเวอร์เรีย พร้อมใช้ เพื่อสามารถนำไปใช้ ในการป้องกันและกำจัดโรคพืชและศัตรูพืชในแปลงของตนเอง เพื่อช่วยลดต้นทุนในการผลิต ลดการใช้ สารเคมี ผลผลิตปลอดโรค และมีคุณภาพดี ผลผลิต/ผลลัพธ์ ผลผลิต เจ้าหน้าที่สามารถให้ความรู้และคำแนะนำ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชผักครบวงจร ผลลัพธ์ เกษตรกรมีความรู้และสามารถผลิตพืชผักครบวงจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
56 56 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. เจ้าหน้าที่และเกษตรกร มีความรู้และความเข้าใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชผักครบวงจร 2. เกษตรกรรายย่อยมีความสนใจและต้องการผลิตพืชผักในรูปแบบกลุ่ม
57 9. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตปาล์มน้ำมัน หลักการและเหตุผล คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบการทบทวนยุทธศาสตร์การปฏิรูป ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2563 โดยได้กำหนดวิสัยทัศน์ ในการพัฒนา คือ “ พัฒนาปาล์มน้ำมัน น้ำมันปาล์ม ไปสู่อุตสาหกรรมโอเลโอเคมีคอล เพื่อการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจ ในอาเซียน” มีกรอบระยะเวลาเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น ตั้งแต่ปี 2561 –2565 ระยะกลาง ตั้งแต่ปี 2566 –2570 และระยะยาว ตั้งแต่ปี 2571 – 2580 รวมระยะเวลาการปฏิรูป 20 ปี ดำเนินการใน 6 ด้าน ประกอบด้วย (1) ด้านการผลิต (2) ด้านนวัตกรรม (3) ด้านมาตรฐานปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม (4) ด้านพลังงาน (5) ด้านการตลาด (6) ด้านการบริหารจัดการ พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายในการเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมัน เพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศ อุปโภค บริโภค พลังงานทดแทน และการส่งออก ยุทธศาสตร์การปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ ด้านการผลิตดำเนินงานในกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ เพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันของผลปาล์ม เพิ่มผลผลิตต่อไร่ ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้เสริม ให้เกษตรกร ดังนั้น จึงจำเป็นที่เกษตรกรต้องมีการปรับตัวให้สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ตอบสนอง ความต้องการของประเทศ และแข่งขันได้ภายใต้กรอบการค้าเสรี กรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะหน่วยงาน ที่รับผิดชอบในกิจกรรมที่กำหนดไว้ตามแผนปฏิรูปดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สินค้าเกษตร (ปาล์มน้ำมัน) โดยถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ควบคู่ไปกับ การรวมกลุ่มเพื่อผลิตปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสินค้าเกษตร ให้ตรงกับตลาดซื้อขายผลผลิต ปาล์มน้ำมันคุณภาพ เพื่อให้สอดคล้องตามยุทธศาสตร์การปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ วัตถุประสงค์ 1. ถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องและเหมาะสม ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตปาล์มน้ำมันให้แก่ เกษตรกร รวมทั้งสนับสนุนให้เกษตรกรนำความรู้ไปปฏิบัติ 2. เพื่อพัฒนาเกษตรกรให้มีการรวมกลุ่มเป็นกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพดี 3. เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างศักยภาพของกลุ่มเกษตรกรเข้าร่วมโครงการส่งเสริมระบบ เกษตรกรแบบแปลงใหญ่ในอนาคต เป้าหมาย/สถานที่ดำเนินการ เป้าหมาย : เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน 40 ราย สถานที่ดำเนินการ : พื้นที่อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา งบประมาณ งบประมาณ 46,000 บาท (สี่หมื่นหกพันบาทถ้วน) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร
58 58 ระยะเวลาดำเนินการ พฤศจิกายน 2565 – กันยายน 2566 กิจกรรม ผลการดำเนินงาน 1. ถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกร 1.1อบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอท่าตะเกียบ ดำเนินการอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตปาล์มน้ำมันในเขตพื้นที่เหมาะสม ปรับปรุง/ปรับเปลี่ยนการผลิตปาล์มน้ำมัน ในเขตพื้นที่ ไม่เหมาะสม ณ ห้องประชุม สำนักงานเกษตรอำเภอท่าตะเกียบ โดยเชิญ นางทำนอง นามวิชัย นักวิชาการ ส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านการอารักขาพืช จังหวัดชลบุรี มาบรรยายเรื่อง การป้องกันกำจัดแมลงศัตรูปาล์มน้ำมันที่สำคัญ และการป้องกันกำจัดโรคในปาล์มน้ำมัน ที่สำคัญ และนางเนาวรัตน์ ทิพสุวรรณ์ เกษตรอำเภอท่าตะเกียบ บรรยายเรื่อง การรวมกลุ่มและข้อดีของ การรวมกลุ่มของสมาชิก เกษตรกรเป้าหมาย 40 ราย งบประมาณ 8,000 บาท 1.2 จัดทำแปลงถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมัน เพื่อเป็นแปลงเรียนรู้ร่วมกันของสมาชิก กลุ่ม โดยเน้นเรื่อง การให้น้ำ มีการจัดทำแปลงระบบน้ำในปาล์มน้ำมัน เพื่อเป็นการเพิ่มผลผลิตของปาล์มน้ำมัน ให้ออกอย่างสม่ำเสมอไม่ขาดคอ มีผลผลิตออกทั้งปี โดยใช้พื้นที่ของนายสมศักดิ์ พรมพิบาล ตั้งอยู่ หมู่ที่ 1 ตำบล ท่าตะเกียบ อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องจากสภาพแวดล้อมเหมาะสมและไม่มี ช้างป่ามารบกวนทำลายพืชผลทางการเกษตร งบประมาณ 20,000 บาท
59 59 2. ส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันคุณภาพดี และเชื่อมโยงเครือข่ายการซื้อขายผลผลิตปาล์ม น้ำมันคุณภาพ โดยการสนับสนุนให้มีการจัดการผ่านกระบวนการกลุ่มในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน และรวมกลุ่ม เป็นเครือข่าย จัดกระบวนการส่งเสริมและพัฒนากลุ่ม เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในเรื่องการบริหารจัดการกลุ่มให้มี ประสิทธิภาพตามกระบวนการมาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน หรือมาตรฐานอื่นๆ มุ่งเน้นให้กลุ่ม มีการกำหนดข้อตกลงร่วมกัน มีการควบคุมมาตรฐานการผลิตและการเก็บเกี่ยวผลผลิตตามมาตรฐาน ทะลายปาล์ม รวมทั้งติดตามควบคุมคุณภาพผลผลิตอย่างต่อเนื่อง และประสานเชื่อมโยงเครือข่ายการซื้อขาย ผลผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพกับลานเท หรือโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่เกษตรกรนำผลผลิตไปจำหน่าย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอ ท่าตะเกียบ ดำเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันคุณภาพดี และเชื่อมโยงเครือข่าย การซื้อขายผลผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพ โดยเชิญ นายสมชาย สมาน คณะกรรมการแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน อำเภอสนามชัยเขต มาบรรยายเรื่อง การบริหารจัดการกลุ่มให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานการผลิต ปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน เกษตรกรเป้าหมาย 40 ราย งบประมาณ 8,000 บาท เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอ ท่าตะเกียบ ดำเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันคุณภาพดี และเชื่อมโยงเครือข่าย การซื้อขายผลผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพ โดยเชิญ นางอรพรรณ พริพล ผู้จัดการกลุ่มวิสาหกิจและผู้จัดการ ลูกค้าสัมพันธ์สรรหาปาล์ม บริษัท อีสเทิร์น ปาล์ม ออยล์ จำกัด มาบรรยายเรื่อง มาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์ม RSPO การควบคุมมาตรฐานการผลิตและการเก็บเกี่ยวผลผลิตตามมาตรฐานทะลายปาล์ม และการซื้อขาย ผลผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพ รวมทั้งได้เชิญนางเนาวรัตน์ ทิพสุวรรณ์ เกษตรอำเภอท่าตะเกียบและเจ้าหน้าที่ สำนักงานเกษตรอำเภอท่าตะเกียบ ร่วมบรรยายเรื่อง การรวมกลุ่มและการบริหารจัดการกลุ่มให้มี ประสิทธิภาพการกำหนดข้อตกลงร่วมกัน เกษตรกรเป้าหมาย 40 ราย งบประมาณ 8,000 บาท
60 60 ผลลัพธ์/ผลสำเร็จของงาน ผลผลิต เกษตรกร 40 ราย ได้รับการถ่ายทอดความรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในพื้นที่เหมาะสม และการ ปรับปรุงปรับเปลี่ยนการผลิตปาล์มน้ำมันในพื้นที่ไม่เหมาะสม กลุ่มเกษตรกร 1 กลุ่ม ได้รับการส่งเสริม กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันคุณภาพดี ผลลัพธ์ ผลสำเร็จของงาน เกตรกรได้รับการถ่ายทอดความรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสามารถ นำความรู้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในแปลงของตนเอง ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 60 ผลที่คาดว่าจะได้รับ เกษตรกรได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถในการผลิต การจัดการสวนปาล์มน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับผลผลิตต่อไร่และลดต้นทุนการผลิต พร้อมพัฒนาเป็นกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพดี ปัญหา/อุปสรรค และข้อเสนอแนะ - เกษตรกรพบกับปัญหาน้ำไม่เพียงพอในการทำการเกษตร ทำให้ปาล์มน้ำมันขาดคอ ผลผลิตลดลง จึงแนะนำให้จัดหาแหล่งกักเก็บน้ำ
61 10. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าวเพื่อความยั่งยืน หลักการและเหตุผล มะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชากรโลก เป็นพืชยืนต้นที่มีอายุ นานนับร้อยปี หรือเป็นพืชบรรพบุรุษที่เป็นมรดกทั้งต้นมะพร้าวและพื้นที่ที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น จนได้รับการขนานนาม ว่า พืชแห่งชีวิต (Tree for life) เป็นพืชสารพัดประโยชน์จากทุกส่วนของต้น เป็นที่มาของปัจจัยสี่ ได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่โบราณ ประโยชน์ของมะพร้าวจากส่วนต่างๆ เช่น ยอดอ่อนใช้ เป็นอาหาร จั่นมีน้ำหวานทำน้ำตาลหมักทำเหล้าและน้ำส้ม ผลอ่อนทานสด เนื้อมะพร้าวจากผลแก่ใช้ปรุงอาหาร และขนม และสกัดน้ำมัน กากที่เหลือเลี้ยงสัตว์เส้นใยจากเปลือกมะพร้าวทำเชือก วัสดุทำเบาะและที่นอน ขุยมะพร้าวทำวัสดุเพาะชำ กะลาทำภาชนะ เครื่องดนตรี ทำเชื้อเพลิง และถ่านกัมมันต์ (มีคุณสมบัติในการดูดซับสูง) ใบใช้มุงหลังคา เครื่องจักสาน ลำต้นใช้ในการก่อสร้าง เครื่องเรือน รากใช้ทำยา สีย้อมผ้า อย่างไรก็ตาม มะพร้าวโดยทั่วไปก็เพื่อนำเอาเนื้อประกอบอาหารและสกัดน้ำมัน แหล่งปลูกมะพร้าวที่สำคัญของโลก คือ บริเวณกลุ่มประเทศสมาชิกเอเชียและแปซิฟิก (APPC) มีเนื้อที่ ปลูกมากกว่าร้อยละ 80 ของเนื้อที่ปลูกรวมของโลก ประเทศผู้ผลิตสำคัญ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ศรีลังกา บราซิล ปาปัวนิวกินี เม็กซิโก และเวียดนาม โดยประเทศไทยผลิตมะพร้าวเป็นอันดับ 9 ปัจจุบันประเทศไทย มีพื้นที่ปลูกมะพร้าว 0.848 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 0.818ล้านตัน ผลผลิตเฉลี่ย 1,044 กิโลกรัม/ไร่ โดยพื้นที่ปลูก ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคใต้ซึ่งการผลิตมะพร้าวของไทยที่ผ่านมาได้ประสบกับปัญหาสำคัญ ได้แก่ พื้นที่ปลูกลดลง เนื่องจากไปปลูกพืชอื่น ซึ่งให้ผลตอบแทนสูง ต้นมะพร้าวมีอายุมากและเสื่อมโทรมขาดการบำรุงรักษา รวมทั้ง เกิดการระบาดทำลายของศัตรูมะพร้าว คือ แมลงดำหนามและหนอนหัวดำ และมีมะพร้าวราคาถูกที่นำเข้ามา ทดแทนมะพร้าวผลภายในประเทศ ปัจจุบันการผลิตมะพร้าวของไทยได้ปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ มีราคาเพิ่มขึ้น ลงในแต่ละปี ราคามะพร้าวขยับตัวขึ้น อยู่ที่ประมาณผลละ 10-15 บาท สำหรับมะพร้าวน้ำหอม มีปัญหา เรื่องราคาที่ไม่คงที่ และการส่งออกต่างประเทศที่ต้องได้มาตรฐานการส่งออก จากสถานการณ์การผลิตมะพร้าวของประเทศไทยดังกล่าวข้างต้น เกษตรกรมีความจำเป็นจะต้อง พัฒนาคุณภาพผลผลิตโดยใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรม และการบริหารจัดการโดยกระบวนการกลุ่ม การเชื่อมโยงเครือข่าย เพื่อให้เกษตรกรผู้ผลิตมะพร้าวเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ลดความเสี่ยงของ ความผันผวนด้านราคาและสร้างความยั่งยืน ประกอบกับปัจจุบันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมพัฒนา และแก้ไขปัญหาการผลิตมะพร้าว ทั้งระยะเร่งด่วน ปานกลาง และระยะยาว โดยมีคณะกรรมการพืชน้ำมัน และน้ำมันพืชกำกับดูแล และให้ความเห็นชอบ “ยุทธศาสตร์มะพร้าวเพื่ออุตสาหกรรม พ.ศ. 2560–2579” ดังนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าวเพื่อความยั่งยืน ปี 2565 เพื่อให้การพัฒนาการผลิตมะพร้าวของประเทศไทยมีความสอดคล้องและเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร รวมทั้งอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับมะพร้าว เพราะประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่มีแหล่งปลูกมะพร้าวเป็นพืช เศรษฐกิจและมีปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดจำนวนมาก
62 62 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องและเหมาะสม ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าว ให้แก่เกษตรกร รวมทั้งสนับสนุนให้เกษตรกรนำความรู้ไปปฏิบัติ เพื่อพัฒนาคุณภาพมะพร้าวให้เป็นสินค้าที่มี คุณภาพ และเพียงพอต่อความต้องการของประเทศ 2. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าวให้มีปริมาณเหมาะสมเพียงพอกับความต้องการของ ผู้บริโภค 3. เพื่อพัฒนาคุณภาพผลผลิตมะพร้าว ลดความเสี่ยงและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน 4. เพื่อสร้างทางเลือกในการพัฒนาการผลิตมะพร้าวตามความต้องการของแหล่งผลิตอย่างแท้จริง กิจกรรม 1. เป้าหมาย/สถานที่ดำเนินการ เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวในพื้นที่อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 25 ราย 2. งบประมาณ งบประมาณ 57,000 บาท (ห้าหมื่นเจ็ดพันบาทถ้วน) งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร ผลการดำเนินงาน 1. กิจกรรมสร้างการรับรู้และความเข้าใจและส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตมะพร้าว จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ผ่านกระบวนการการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาความรู้และศักยภาพของเกษตรกรทางด้านการผลิต การแปรรูป การตลาด และการรวมกลุ่ม จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ณ สวนลุงแดงมะพร้าวน้ำหอม ม.6 ต.สาวชะโงก อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยวิเคราะห์สภาพพื้นที่ สภาพการผลิต และสภาพการตลาดของกลุ่มทั้งด้านที่เป็นจุดแข็ง และด้านที่เป็นจุดอ่อน และระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดแนวทางในการพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ที่เหมาะสมกับพื้นที่ และกำหนดแนวทางการจัดทำแปลงเรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
63 63 ครั้งที่ 2เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ณ สวนลุงแดงมะพร้าวน้ำหอม ม.6 ต.สาวชะโงก อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยดำเนินการถ่ายทอดความรู้ตามประเด็นที่ได้จากการวิเคราะห์สภาพการปลูกมะพร้าว ของกลุ่ม เพื่อนำไปใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 2. พัฒนาความรู้และศักยภาพของเกษตรกรเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าว 2.1 ดำเนินกิจกรรมจัดอบรมและศึกษาดูงาน โดยอบรมเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าว : เรื่อง การเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าวและการบริหารจัดการมะพร้าว”และศึกษาดูงาน แปลงมะพร้าวที่ประสบผลสำเร็จ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 จัดกิจกรรมอบรมถ่ายทอดความรู้หลักสูตร การปรับปรุงบำรุงดิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าวน้ำหอม โดยวิทยากรจากสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา และการ ปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าวน้ำหอม โดยนายวรพจน์ กุศลสงเคราะห์ประธานศูนย์ ศพก. เครือข่าย อำเภอบางคล้า
64 64 และวันที่ 10 มกราคม 2566 นำเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าว อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ศึกษาดูงาน ณ สหกรณ์ประสานกสิกิจ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร และวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผักและ ผลไม้ปลอดภัยสารพิษเพื่อส่งออกอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี 2.2 จัดทำแปลงเรียนรู้เพื่อเพิ่มการผลิตมะพร้าว ดำเนินการจัดทำแปลงเรียนรู้การเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าว โดยสนับสนุนปัจจัยการผลิต ดังนี้ 1) จัดทำป้ายแปลงเรียนรู้ ขนาด 60 x 90 เซนติเมตร พร้อมเสาเหล็กสูง 2 เมตร พร้อมติดตั้ง จำนวน 1 ป้าย 2) ปุ๋ยเคมี สูตร 13-13-21 จำนวน 2 กระสอบ 3) เชื้อราเมตาไรเซียม ขนาดบรรจุ 500 กรัม จำนวน 7 กระปุก 4) กำมะถันผง ขนาดบรรจุ 1 กิโลกรัม จำนวน 5 กล่อง 5) ถังพลาสติกทรงกลม ขนาด 52 x 89 เซนติเมตร ขนาดบรรจุ 200 ลิตร จำนวน 3 ถัง 6) กากน้ำตาล ขนาดบรรจุ 20 ลิตร จำนวน 3 แกลลอน 7) ปุ๋ยคอก (ขี้วัว) บรรจุกระสอบละ 20 กิโลกรัม จำนวน 10 กระสอบ 8) ขุยมะพร้าว บรรจุกระสอบละ 10 กิโลกรัม จำนวน 10 กระสอบ ผลลัพธ์/ผลสำเร็จของงาน 1. วิเคราะห์พื้นที่ การผลิต การตลาด มะพร้าวน้ำหอม เกษตรกร ได้วิเคราะห์สภาพพื้นที่ การผลิต การตลาด วิเคราะห์ปัญหา ในการผลิตมะพร้าวน้ำหอมของตนเอง โดยผลจากการได้ร่วมจัดทำการวิเคราะห์กับเกษตรกร สรุปได้ดังนี้
65 65 สภาพพื้นที่ ตำบลสาวชะโงกลักษณะดินเป็นดินเหนียวการระบายน้ำค่อนข้างยากน้ำไหลผ่านได้ปานกลาง พื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ เดิมมีปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำเค็มรุกจึงมีการยกร่องเพื่อปลูกพืชและเก็บกักน้ำ สภาพดิน ของตำบลสาวชะโงกผ่านการใช้งานมานานทำให้ความอุดมสมบูรณ์ลดลง การผลิต เกษตรกรในพื้นที่มีการปลูกพืชแบบผสมผสาน ได้แก่ มะม่วง มะพร้าว พืชผักต่างๆ ส่วนใหญ่ จะใช้แรงงานในครัวเรือน เกษตรกรสูงอายุ ไม่มีทายาทสืบทอด ทำให้การพัฒนาคุณภาพของผลผลิตได้ยาก การตลาด สมาชิกส่วนใหญ่จะจำหน่ายผลผลิตเป็นผลสดให้ผู้รับซื้อมาตัดเองเนื่องจากไม่มีแรงงาน และ สามารถกำหนดราคาเองได้ 2. แนวทางการพัฒนากลุ่มสู่การจัดตั้งแปลงใหญ่มะพร้าว ให้ความรู้แก่สมาชิกถึงข้อดีของการจัดตั้งแปลงใหญ่มะพร้าว โดยมีเป้าหมายการดำเนินงาน 5 ด้าน ได้แก่ การลดต้นทุน การเพิ่มผลผลิต การบริหารจัดการ การเพิ่มมูลค่าสินค้าและการตลาดนำการผลิต เพื่อนำมาวางแผนในการพัฒนาให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 5 ด้านต่อไป 3. การปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าวน้ำหอม วิทยากรจากสำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้บรรยายให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับ การปรับปรุงบำรุงดินเพื่อการผลิตมะพร้าวน้ำหอมคุณภาพดี เห็นความสำคัญในการปรับปรุงบำรุงดิน มีการใช้ น้ำหมักชีวภาพ การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อช่วยในการปรับปรุงดิน 4. การเพิ่มมูลค่าของมะพร้าวน้ำหอม เกษตรกรได้รับทราบถึงสถานการณ์และโอกาสที่จะพัฒนาการผลิตและเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ มะพร้าวน้ำหอมของพื้นที่ และทราบถึงความต้องการของผู้บริโภค 5. การไปทัศนศึกษาดูงาน เกษตรกรและเจ้าหน้าที่ ได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ เกี่ยวกับมะพร้าว เช่น วิธีสังเกต มะพร้าวพันธุ์ดี รูปแบบการผลิต การตลาดของเกษตรกรในพื้นที่ การดูแลสวนมะพร้าวตามหลักวิชาการและ ได้เห็นตัวอย่างการจัดการสวนมะพร้าวและการแปรรูปมะพร้าวจากการไปศึกษาดูงานจากเกษตรกรที่ประสบ ความสำเร็จ ปัญหา/อุปสรรค และข้อเสนอแนะ ปัญหา/อุปสรรค 1) ระยะเวลาจัดกิจกรรมติดกันเกินไป เนื่องจากต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ 2) เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวส่วนใหญ่ เป็นเกษตรกรสูงวัย 3) เกษตรกรรุ่นใหม่ก็หันไปประกอบอาชีพอื่นกันมากขึ้น ทำให้ขาดแรงงานในสวนมะพร้าว ข้อเสนอแนะ 1) ควรวางแผนการดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงระยะเวลาในการจัดกิจกรรมให้เหมาะสม และสอดคล้องกับภาระกิจของเกษตรกร 2) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรส่งเสริมให้เกษตรกรรุ่นใหม่หันมาประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยการให้ ความรู้และการสนับสนุนต่างๆ เช่น การให้ทุนดอกเบี้ยต่ำ การให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีการเกษตร เป็นต้น
66 11. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกร หลักการและเหตุผล สถานการณ์การผลิตข้าวของประเทศไทย มีพื้นที่ผลิตข้าวประมาณ 69.41 ล้านไร่ ผลผลิตประมาณ 31.04 ล้านตันข้าวเปลือก มีปริมาณความต้องการใช้เพื่อการส่งออกและบริโภคในประเทศรวม 26.918 ล้านตัน ข้าวเปลือก คิดเป็นพื้นที่ 64.69 ล้านไร่ ปริมาณผลผลิตเกินความต้องการใช้อยู่ประมาณ 2.25 ล้านตัน ข้าวเปลือก คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 3.48 ล้านไร่ สถานการณ์ดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความไม่สมดุลของอุปสงค์ และอุปทาน ดังนั้น คณะกรรมการนโยบายบริหารและจัดการข้าว (นบข.) จึงได้กำหนดแผนการผลิต และการตลาดข้าวครบวงจรเพื่อบริหารจัดการสินค้าข้าวให้มีประสิทธิภาพสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยการลดปริมาณข้าวออกสู่ตลาดในรอบการผลิตฤดูนาปรัง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์สินค้าข้าวแห่งชาติ เพื่อปฏิรูปภาคการเกษตรตามหลักคิด “ตลาดนำการผลิต” บริหารจัดการผลผลิต ให้มีปริมาณสอดคล้อง กับความต้องการของตลาด เพื่อมิให้เกิดปัญหากระทบต่อราคาข้าว กรมส่งเสริมการเกษตรมีบทบาทภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนา ถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้านการเกษตร ระบบการผลิต และการบริหารจัดการสินค้าเกษตร โดยสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกรด้วยการจัดระบบการ ผลิตพืชในพื้นที่นาข้าว มีเป้าหมายในการลดรอบพื้นที่เพาะปลูกข้าวฤดูนาปรัง ด้วยการจัดกิจกรรมทางเลือก พืชที่เหมาะสมทดแทน โดยบริหารจัดการการตลาดและการผลิตให้สมดุล จะช่วยลดปริมาณข้าวเปลือกออกสู่ตลาด ลงได้ กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพ กระบวนการผลิตสินค้าเกษตร ปี 2566 กิจกรรมส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกร เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชอื่นทดแทนข้าวในฤดูนาปรัง เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง พริก แตงโม ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และอื่นๆ ที่มีอายุการเก็บเกี่ยวไม่เกิน 120 วัน ให้เกษตรกรได้เรียนรู้การบริหารจัดการ การผลิตพืชทั้งระบบ ตั้งแต่การผลิต คุณภาพผลผลิต และการตลาด ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม เกิดความมั่นคงและยั่งยืนในอาชีพการเกษตร วัตถุประสงค์ 1. เพื่อส่งเสริมเกษตรกรรายย่อยในการผลิตพืชใช้น้ำน้อย และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สามารถ บริหารจัดการการผลิตและการตลาดร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. เพื่อพัฒนาคุณภาพการผลิตพืชใช้น้ำน้อยให้ได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาด 3. เพื่อให้เกษตรกรมีองค์ความรู้ในการปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนการทำนาปรัง เป้าหมาย/สถานที่ดำเนินการ เป้าหมาย: เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในฤดูนาปรัง จำนวน 60 ราย พื้นที่ปลูกพืชใช้น้ำน้อยเท่ากับหรือมากกว่า 60 ไร่ เงื่อนไข เกษตรกรต้องมีประวัติการขึ้นทะเบียนเกษตรกรทำนาปรัง หากไม่มีประวัติ การขึ้นทะเบียนเกษตรกรการทำนาปรัง ให้มีการรับรองประวัติการทำนาปรังผ่านเวทีชุมชนและเกษตรกร กลุ่มเป้าหมายห้ามซ้ำซ้อนกับโครงการอื่นของกรมส่งเสริมการเกษตร สถานที่ดำเนินการ : อำเภอบางน้ำเปรี้ยวอำเภอสนามชัยเขต และอำเภอราชสาส์น
67 67
68 68 ผลการดำเนินงาน 1. อำเภอบางน้ำเปรี้ยว กิจกรรม จัดเวทีเรียนรู้เชื่อมโยงตลาดสินค้าพืชใช้น้ำน้อยระหว่างเกษตรกรกับผู้ประกอบการ รับซื้อผลผลิตระดับตำบล/อำเภอ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 ณ หอประชุมอำเภอบางน้ำเปรี้ยว หมู่ 2 ตำบลบางน้ำเปรี้ยว อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา
69 69 กิจกรรม จัดเวทีเรียนรู้การบริหารจัดการการเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยสร้างรายได้แก่เกษตรกร จัดทำแผนการผลิต แผนการตลาด ในรูปแบบกลุ่ม รายบุคคล ระดับตำบล เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 ณ หอประชุมอำเภอบางน้ำเปรี้ยว หมู่ 2 ตำบลบางน้ำเปรี้ยว อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา
70 70
71 71 ภาพถ่ายแปลงเรียนรู้การปลูกพืชใช้น้ำน้อย ผลผลิต และเกษตรกร อำเภอบางน้ำเปรี้ยว
72 72 รายงานการเชื่อมโยงตลาด ระบุผู้รับซื้อที่เข้าร่วมการจัดทำเวที ภาพรวมของอำเภอ จังหวัด/อำเภอ/ตำบล ผู้รับซื้อ สินค้าพืชน้ำน้อย ประเด็นในเวทีเรียนรู้ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว นางสุนีย์ ยงสวัสดิ์ นางศิริพร หวังสมัด พืชผัก, แตงโม พืชผัก, แตงโม - ปริมาณและคุณภาพผลผลิต ที่ตลาดต้องการ - การเชื่อมโยงตลาด - แหล่งจำหน่ายสินค้า โดย จำหน่ายในพื้นที่ ตลาด เกษตรกรของจังหวัดฉะเชิงเทรา และหน้าสวน รายงานการจัดทำแผนการผลิต ภาพรวมของอำเภอ ชนิดพืช ใช้น้ำน้อย ที่ผลิต พื้นที่ปลูก (ไร่/ งาน) คาดการณ์ ผลผลิต (กก.) ผลผลิต ออกจริง (กก.) เวลาที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต (ว/ด/ป) แหล่งจำหน่าย (ระบุรายละเอียด แหล่งขาย) 1. แตงโม 2. ถั่วเขียว 3. แฟง 4. ฟักทอง 5. แตงกวา 95 ไร่ 20 ไร่ 2 ไร่ 3 งาน 1 ไร่ 2 งาน 1 ไร่ 190,000 2,000 2,000 2,000 200 235,000 - 1,750 1,500 250 ม.ค. - มี.ค.66 เม.ย. 66 มี.ค. - เม.ย. 66 มี.ค. - เม.ย. 66 มี.ค. - เม.ย. 66 หน้าสวน, ตลาดในชุมชน, ตลาดเกษตรกร รวม 120 ไร่ 1 งาน 196,200 238,500 ม.ค. - เม.ย. 66 หมายเหตุสำหรับถั่วเขียวไม่มีผลผลิตออกจริง เนื่องจากปัญหาน้ำไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกและดินรัดตัว จึงทำให้ต้นถั่วเขียวยืนต้นตาย ทั้งนี้ มีบางแปลงที่ต้นถั่วเขียวเจริญเติบโตดีแต่ยังไม่ได้ทันเก็บผลผลิต เพราะเกษตรกรไถกลบเพื่อเตรียมพื้นที่ทำนา
73 73 สรุปภาพรวมต้นทุนการผลิตข้าวนาปี ข้าวนาปรัง และพืชน้ำน้อย ต้นทุนการผลิตข้าวนาปีต่อ 1 ไร่ (เป็นเงินสด) รายการ ต้นทุนการผลิต (บาท/ไร่) 1. ค่าใช้จ่าย 1.1 ค่าแรงงาน - ค่าเตรียมดิน (ไถดะ/ปั่นหมัก/รูดเทือก) 560 - ค่าปลูก (หว่าน) 70 - ค่าฉีดสารเคมี (ยาคุมหญ้า/สารเคมีกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช/ ฮอร์โมน) 420 รวม......7......ครั้งละ ๆ.......60........บาท - ค่าเก็บเกี่ยว 350 - ค่าขนส่ง 150 1.2 ค่าวัสดุ - ค่าเมล็ดพันธุ์ไร่ละ......25.......กก.ๆละ........16........บาท 400 - ค่าปุ๋ย (รองพื้น/แต่งหน้า)........50.....ก.ก. 1,530 - ค่าสารเคมี ฉีดพ่น.......5......ครั้ง 460 - ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูบน้ำ (ค่าไฟฟ้า) 720 1.3 ค่าเช่าที่นา 500 1.4 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 2. ผลผลิตเฉลี่ย (น้ำหนักข้าวสด)...................800.......................กก./ไร่ 3. ราคาขายผลผลิต.....................................7.6.......................บาท/ กิโลกรัม 4. รายได้...................................................6,080......................บาท/ไร่ (ข้อ 2 x ข้อ 3) 5. ต้นทุนรวม.............................................5,160......................บาท/ไร่ (รวมข้อ 1) 6. เกษตรกรได้กำไร.....................................920.......................บาท/ไร่ (รายได้ (4) - ต้นทุนรวม (5))
74 74 ต้นทุนการผลิตข้าวนาปรัง ต่อ 1 ไร่ (เป็นเงินสด) รายการ ต้นทุนการผลิต (บาท/ไร่) 1. ค่าใช้จ่าย 1.1 ค่าแรงงาน - ค่าเตรียมดิน (ไถดะ/ปั่นหมัก/รูดเทือก) 800 - ค่าปลูก (หว่าน) 70 - ค่าฉีดสารเคมี (ยาคุมหญ้า/สารเคมีกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช/ฮอร์โมน) 420 รวม......6......ครั้งละๆ.......70........บาท - ค่าเก็บเกี่ยว 350 - ค่าขนส่ง 150 1.2 ค่าวัสดุ - ค่าเมล็ดพันธุ์ไร่ละ......25.......กก.ๆละ........16........บาท 400 - ค่าปุ๋ย (รองพื้น/แต่งหน้า)........50.....กก. 850 - ค่าสารเคมี ฉีดพ่น.......6......ครั้ง 830 - ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูบน้ำ (ค่าไฟฟ้า) 720 1.3 ค่าเช่าที่นา 500 1.4 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 150 2. ผลผลิตเฉลี่ย (น้ำหนักข้าวสด)................800.......................ก.ก./ไร่ 3. ราคาขายผลผลิต..................................8.8.......................บาท/กิโลกรัม 4. รายได้.............................7,040......................บาท/ไร่ (ข้อ 2 x ข้อ 3) 5. ต้นทุนรวม......................5,240......................บาท/ไร่ (รวมข้อ 1) 6. เกษตรกรได้กำไร............1,800...............บาท/ไร่ (รายได้ (4) - ต้นทุนรวม (5))
75 75 ต้นทุนการผลิตพืชใช้น้ำน้อยอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ชนิดพืชใช้น้ำน้อย...........แตงโม............... รายการ ต้นทุน (บาท/ไร่) 1. ค่าเตรียมดิน 1.1 ไถดะ (ผาน7) 140 1.2 ปั่นตีดิน 120 1.3 หมักตอซังด้วยน้ำหมัก ปั่นตีดิน 1.4 ยกร่องปลูก 150 2. ค่าพันธุ์ 2.1 ค่าเมล็ดพันธุ์(ไร่ละ....1....กระป๋องๆ ละ.....360......บาท) 360 2.2...................................................................................... 3. ค่าปุ๋ย 3.1 ปุ๋ยรองพื้น (สูตร ...25-7-7............อัตรา.......20........กิโลกรัม/ไร่) 520 3.2 ปุ๋ยใส่ตอนทำรุ่น (สูตร......9-24-24..............อัตรา.......60......กิโลกรัม/ไร่) 2,110 4. ค่าสารเคมีกำจัดวัชพืช/ศัตรูพืช 4.1 ค่าสารเคมีคลุมหญ้า 560 4.2 ค่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ระบุศัตรูพืช...เต่าแตง เพลี้ยไฟ................) 880 5. ค่าสูบน้ำ 5.1 ค่าสูบน้ำด้วยไฟฟ้า (จ่ายกรมชลประทาน) 5.2 ค่าสูบน้ำด้วยน้ำมันเชื่อเพลิงเข้าแปลงปลูก 600 6. ค่าแรงงาน 6..1 ค่าแรงงานหยอดเมล็ด/ปลูก (ไร่....2......คนๆ ละ..........250............บาท) 500 6.2 ค่าแรงงานฉีดพ่นสารเคมีคลุมหญ้า 80 6.3 ค่าแรงงานพรวนดิน.......1.......ครั้ง พร้อมใส่ปุ๋ย 80 6.4 ค่าแรงงานฉีดพ่นสารเคมีกำจัดหนอนและเพลี้ยจั๊กจั่น 100 6.5 ค่าแรงงานเก็บเกี่ยว (ผลผลิต......2,500.........กิโลกรัม/ไร่) 800 7. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ถ้ามี) เช่นวัสดุคลุมดิน ถาดเพาะกล้า ระบบน้ำ หากใช้หลายครั้งให้เฉลี่ย 7.1.......ผ้าคลุม.......................................................... 550 7.2.......เทปน้ำหยด.................................................. 450 7.3.......ถาดและดินเพาะ......................................... 350 รวมต้นทุนการผลิต (รายการ 1+2+3+4+5+6+7) 8,350 รายได้ - ผลผลิตเฉลี่ย..............2,500............................กิโลกรัม/ไร่ (1) - ราคาขาย...................8......................................กิโลกรัม/ไร่ (2) - รายได้รวม.................20,000.........................บาท/ไร่ (1) x (2) - ต้นทุนการผลิต ........8,350...........................บาท/ไร่ (4) เกษตรกรมีรายได้สุทธิ(รายได้รวม - ต้นทุน ).............11,650......................บาท/ไร่
76 76 2. อำเภอราชสาส์น กิจกรรม จัดเวทีเรียนรู้เชื่อมโยงตลาดสินค้าพืชใช้น้ำน้อยระหว่างเกษตรกรกับผู้ประกอบการ รับซื้อผลผลิตระดับตำบล/อำเภอ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 ณ สำนักงานเกษตรอำเภอราชสาส์น อำเภอราชสาส์น จังหวัดฉะเชิงเทรา
77 77 กิจกรรม จัดเวทีเรียนรู้การบริหารจัดการการเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยสร้างรายได้แก่เกษตรกร จัดทำแผน การผลิต แผนการตลาด ในรูปแบบกลุ่ม รายบุคคล ระดับตำบล วันที่ 10 มกราคม 2566 ณ สำนักงานเกษตรอำเภอราชสาส์น อำเภอราชสาส์น จังหวัดฉะเชิงเทรา ภาพถ่ายแปลงเรียนรู้การปลูกพืชใช้น้ำน้อย ผลผลิต และเกษตรกร
78 78 รายงานการเชื่อมโยงตลาด ระบุผู้รับซื้อที่เข้าร่วมการจัดทำเวที ภาพรวมของอำเภอ จังหวัด/ อำเภอ/ตำบล ผู้รับซื้อ สินค้าพืชใช้ น้ำน้อย ประเด็นในเวทีเรียนรู้ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โรงงานผลิต ไอศกรีม เผือก - โรงงานฯ มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง รับซื้อที่ 30 บาท/กก. (ไม่ปอกเปลือก) หรือ 40 บาท/กก. (ปอกเปลือก) - มีเงื่อนไขคือ ต้องปอกและล้างเผือกก่อนนำส่ง จะให้ ราคาสูงกว่า - ไม่มี MOU แต่เป็นการติดต่อผู้รับซื้อเพื่อแจ้งปริมาณ และช่วงเวลาที่จะผลิตเผือกส่งได้ จากนั้นจึงทำ ข้อตกลงการซื้อขาย และนำส่งสินค้า จ.ฉะเชิงเทรา พ่อค้าคน กลาง แตงโม - พ่อค้าคนกลางรับซื้อผลผลิตที่กิโลกรัมละ 7 –8 บาท - เมื่อผลผลิตพร้อม จะมีพ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อที่ แปลงทุกแปลงเพื่อไปจำหน่ายที่ตลาดต่าง ๆ เช่น
79 79 จังหวัด/ อำเภอ/ตำบล ผู้รับซื้อ สินค้าพืชใช้ น้ำน้อย ประเด็นในเวทีเรียนรู้ ตลาดวัดสมานรัตนาราม วัดโสธรวรารามวรวิหาร และตลาดอื่นๆ ภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา - นอกจากนี้เกษตรกรมีหน้าร้านเพื่อจำหน่ายสินค้า ด้วยตนเอง (หน้าสวน) โดยราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 - 12 บาท จ.ฉะเชิงเทรา - บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด - พ่อค้าคน กลาง เมล่อน - บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด ต้องการเมล่อนตั้งแต่ 1 - 2 กก./ลูก โดยให้ราคากิโลกรัมละ 50- 55 บาท - เมื่อผลผลิตพร้อมออกสู่ตลาด จะมีการเสนอราคา ให้กับบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด ในจังหวัด ฉะเชิงเทรา เมื่อได้รับการตอบรับตามข้อตกลง จึงมีการนำส่งผลผลิต - ไม่มีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือทำ MOU เนื่องจากไม่มีผลผลิตตลอดทั้งปีและมีความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น โรคแมลงหรือภัยพิบัติ - มีหน้าร้านจำหน่ายผลผลิตเป็นของตนเอง (บ้าน) โดยราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 65 – 70 บาท รายงานการจัดทำแผนการผลิต ภาพรวมของอำเภอ ชนิดพืชใช้น้ำ น้อยที่ผลิต พื้นที่ ปลูก (ไร่/งาน) คาดการณ์ ผลผลิต (กก.) ผลผลิต ออกจริง (กก.) เวลาที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต (ว/ด/ปี) แหล่งจำหน่าย (ระบุรายละเอียดแหล่งขาย) แตงโม1 10 ไร่ 20,000 18,000 1 ก.พ. 66 พ่อค้าคนกลาง และจำหน่ายเอง แตงโม2 2 ไร่ 4,000 3,500 10 ก.พ. 66 พ่อค้าคนกลาง และจำหน่ายเอง เผือก 5 ไร่ 20,000 16,000 1 ก.ค. 66 บริษัททำไอศกรีม เมล่อน 4 ไร่ 8,000 7,000 1 พ.ค. 66 พ่อค้าคนกลาง และจำหน่ายเอง รวม 21 52,000 44,500 ก.พ.-ก.ค. -
80 80 สรุปภาพรวมต้นทุนการผลิตข้าวนาปี ข้าวนาปรัง และพืชน้ำน้อย ต้นทุนการผลิตข้าวนาปีต่อ 1 ไร่ (เป็นเงินสด) รายการ ต้นทุนการผลิต (บาท/ไร่) 1. ค่าใช้จ่าย 1.1 ค่าแรงงาน - ค่าเตรียมดิน (ไถดะ/ปั่นหมัก/รูดเทือก) .............600.............. - ค่าปลูก (หว่าน) ..............80............... - ค่าฉีดสารเคมี (ยาคุมหญ้า/สารเคมีกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช/ฮอร์โมน) รวม....2...... ครั้งๆ ละ......250....... บาท …........500……........ - ค่าเก็บเกี่ยว - ค่าขนส่ง .............400.............. ..............100.............. 1.2 ค่าวัสดุ - ค่าเมล็ดพันธุ์ไร่ละ .....25......กก. ๆ ละ .....18.....บาท ..........450.......... - ค่าปุ๋ย (รองพื้น/แต่งหน้า)….50……กก. ….......1,200........ - ค่าสารเคมี ฉีดพ่น ........4.......ครั้ง .............240.......... …...........200.......... ................................. 1.3 ค่าเช่าที่นา 1.4 ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ............1,000.......... ................................. 2. ผลผลิตเฉลี่ย (น้ำหนักข้าวสด)………750………………….. กก./ไร่ 3. ราคาขายผลผลิต ...................8.............................. บาท/กิโลกรัม 4. รายได้...............................6,000.................................. บาท/ไร่ (ข้อ 2 x ข้อ 3) 5. ต้นทุนรวม ……………………4,770……………………………. บาท/ไร่ (รวมข้อ 1 ) 6. เกษตรกรได้กำไร ……………1,230…………….………………. บาท/ไร่ (รายได้(4) – ต้นทุนรวม(5))
81 81 ต้นทุนการผลิตข้าวนาปรัง ต่อ 1 ไร่ (เป็นเงินสด) รายการ ต้นทุนการผลิต (บาท/ไร่) 1. ค่าใช้จ่าย 1.1 ค่าแรงงาน - ค่าเตรียมดิน (ไถดะ/ปั่นหมัก/รูดเทือก) .............600.............. - ค่าปลูก (หว่าน) ..............80............... - ค่าฉีดสารเคมี (ยาคุมหญ้า/สารเคมีกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช/ฮอร์โมน) รวม....2...... ครั้งๆ ละ......250....... บาท .............500.......... - ค่าเก็บเกี่ยว - ค่าขนส่ง .............400........... ............100.............. 1.2 ค่าวัสดุ - ค่าเมล็ดพันธุ์ไร่ละ .....25......กก. ๆ ละ .....18.....บาท …..........450.......... - ค่าปุ๋ย (รองพื้น/แต่งหน้า)………50……กก. ..........1,200.......... - ค่าสารเคมี ฉีดพ่น ........4.......ครั้ง ..........240............. - ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูบน้ำ (ค่าไฟฟ้า) - ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ..........400………..... .................................. 1.3 ค่าเช่าที่นา 1.4 ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ............1,000............ .................................... 2. ผลผลิตเฉลี่ย (น้ำหนักข้าวสด)………750………………….. กก./ไร่ 3. ราคาขายผลผลิต ................8.............................. บาท/กิโลกรัม 4. รายได้............................6,000.................................. บาท/ไร่ (ข้อ 2 x ข้อ 3) 5. ต้นทุนรวม ……………………4,970………………………….. บาท/ไร่ (รวมข้อ 1 ) 6. เกษตรกรได้กำไร ……………1,030…………….……………. บาท/ไร่ (รายได้(4) – ต้นทุนรวม(5))
82 82 ต้นทุนการผลิตพืชใช้น้ำน้อย อำเภอราชสาส์น จังหวัดฉะเชิงเทรา ชนิดพืชใช้น้ำน้อย............แตงโม................ รายการ ต้นทุน (บาท/ไร่) 1. ค่าเตรียมดิน 1.1 ไถดะ (ผาน7) 1.2 ปั่นตีดิน 1.3 หมักตอซังด้วยน้ำหมัก ปั่นตีดิน 1.4 ยกร่องปลูก ........250.......... ........250........... ........................... .......250........... 2. ค่าพันธุ์ 2.1 ค่าเมล็ดพันธุ์ (ไร่ละ ...1... กระป๋องๆ ละ ...350... บาท) …..…...350....... 3. ค่าปุ๋ย 3.1 ปุ๋ยรองพื้น (สูตร .....25-7-7.........อัตรา ....100.....กิโลกรัม/ไร่) 3.2 ปุ๋ยใส่ตอนทำรุ่น (...ขี้เป็ด............ อัตรา .....110.... กิโลกรัม/ไร่) .........2,400....... ..........220............ 4. ค่าสารเคมีกำจัดวัชพืช/ศัตรูพืช 4.1 ค่าสารเคมีคลุมหญ้า 4.2 ค่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ระบุศัตรูพืช………เพลี้ย, เชื้อรา……………) ........................... .......2,000........ 5. ค่าสูบน้ำ 5.1 ค่าสูบน้ำด้วยไฟฟ้า (จ่ายกรมชลประทาน) 5.2 ค่าสูบน้ำด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าแปลงปลูก ........................... .......3,000.......... 6. ค่าแรงงาน 6.1 ค่าแรงงานหยอดเมล็ด/ปลูก (ไร่ ………3…คนๆ ละ .....330............. บาท) 6.2 ค่าแรงงานฉีดพ่นสารเคมีคลุมหญ้า 6.3 ค่าแรงงานพรวนดิน ...........ครั้งพร้อมใส่ปุ๋ย 6.4 ค่าแรงงานฉีดพ่นสารเคมีกำจัดหนอน และเพลี้ยจักจั่น 6.5 ค่าแรงงานเก็บเกี่ยว (ผลผลิต …………2000…………… กิโลกรัม/ไร่) ......1,000........... .........120............... ........................... ........120.......... ..........1,300........ 7. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ถ้ามี) เช่น วัสดุคลุมดิน ถาดเพาะกล้า ระบบน้ำ หากใช้หลายครั้งให้เฉลี่ย 7.1 ......ผ้ายาง.......................................... 7.2 ......สายน้ำหยด..................................................................... 7.3 ........ถาดและดินเพาะ............................................................. ......900.......... ........450.......... ..........350....... รวมต้นทุนการผลิต (รายการ 1 + 2 + 3 + 4 + 5 +6+ 7 ) ........12,960...(4) รายได้ - ผลผลิตเฉลี่ย .....2,500.............. กิโลกรัม/ไร่ (1) - ราคาขาย .........8......... บาท/กิโลกรัม (2) - รายได้รวม ........20,000………..บาท/ไร่ (1) x (2) - ต้นทุนการผลิต .........12,960......... บาท/ไร่ (4) เกษตรกรมีรายได้สุทธิ (รายได้รวม – ต้นทุน) ...........7,040................บาท/ไร่
83 83 ต้นทุนการผลิตพืชใช้น้ำน้อย อำเภอราชสาส์น จังหวัดฉะเชิงเทรา ชนิดพืชใช้น้ำน้อย............เผือก............ รายการ ต้นทุน (บาท/ไร่) 1. ค่าเตรียมดิน 1.1 ไถดะ (ผาน7) 1.2 ปั่นตีดิน 1.3 หมักตอซังด้วยน้ำหมัก ปั่นตีดิน 1.4 ยกร่องปลูก .......500....... ........................... ........................... ..........500......... 2. ค่าพันธุ์ 2.1 หน่อเผือก หน่อละ 2 บาท 12000 หน่อ .........24,000...... 3. ค่าปุ๋ย 3.1 ปุ๋ยรองพื้น (ขี้ไก่.........อัตรา ...........200........กิโลกรัม/ไร่) 3.2 ปุ๋ยใส่ตอนทำรุ่น (สูตร ...15-15-15............ อัตรา .......50...... กิโลกรัม/ไร่) 3.2 ปุ๋ยใส่ตอนทำรุ่น (สูตร ...46-0-0............ อัตรา .......50...... กิโลกรัม/ไร่) ........2,000......... .......1,200........ ...1,500......... 4. ค่าสารเคมีกำจัดวัชพืช/ศัตรูพืช 4.1 ค่าสารเคมีคลุมหญ้า 4.2 ค่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ระบุศัตรูพืช………หนอน……………………………) .......500.......... ........500........... 5. ค่าสูบน้ำ 5.1 ค่าสูบน้ำด้วยไฟฟ้า (จ่ายกรมชลประทาน) 5.2 ค่าสูบน้ำด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าแปลงปลูก ........................... ........3,500.......... 6. ค่าแรงงาน 6.1 ค่าแรงงานหยอดเมล็ด/ปลูก (ไร่ ……3……คนๆ ละ ......300...... บาท 4 วัน) 6.2 ค่าแรงงานฉีดพ่นสารเคมีคลุมหญ้า 6.3 ค่าแรงงานใส่ปุ๋ย 6.4 ค่าแรงงานฉีดพ่นสารเคมีกำจัดหนอน และเพลี้ยจักจั่น 6.5 ค่าแรงงานเก็บเกี่ยว (ผลผลิต …………4000…………… กิโลกรัม/ไร่) .....5,000...... ........................... .......2,000......... ........................... ......2,000...... 7. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ถ้ามี) เช่น วัสดุคลุมดิน ถาดเพาะกล้า ระบบน้ำ หากใช้หลายครั้งให้เฉลี่ย 7.1 ....................................................................................... 7.2 ....................................................................................... ........................... ........................... รวมต้นทุนการผลิต (รายการ 1 + 2 + 3 + 4 + 5 + 6 +7) .......43,200......(4) รายได้ - ผลผลิตเฉลี่ย ......4000........ กิโลกรัม/ไร่ (1) - ราคาขาย .......25....... บาท/กิโลกรัม (2) - รายได้รวม .....100,000..... บาท/ไร่ (1) x (2) - ต้นทุนการผลิต ........43,200..... บาท/ไร่ (4) เกษตรกรมีรายได้สุทธิ (รายได้รวม – ต้นทุน) ...........56,800............. บาท/ไร่
84 84 รายงานข้อมูลผลการดำเนินงาน โครงการพัฒนาศักยภาพกระบวนการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรม ส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกร อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา 1. ภาพกิจกรรม โครงการพัฒนาศักยภาพกระบวนการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรม ส่งเสริมการปลูกพืช ใช้น้ำน้อยเสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกร กิจกรรม จัดเวทีเรียนรู้เชื่อมโยงตลาดสินค้าพืชใช้น้ำน้อยระหว่างเกษตรกรกับผู้ประกอบการรับซื้อผลผลิต ระดับตำบล/อำเภอ วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ณ สำนักงานเกษตรอำเภอสนามชัยเขต อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา
85 85 กิจกรรม จัดเวทีเรียนรู้การบริหารจัดการการเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยสร้างรายได้แก่เกษตรกร จัดทำแผน การผลิต แผนการตลาด ในรูปแบบกลุ่ม รายบุคคล ระดับตำบล วันที่ 6 มกราคม 2566 ณ สำนักงานเกษตรอำเภอสนามชัยเขต อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา
86 86 ภาพถ่ายแปลงเรียนรู้การปลูกพืชใช้น้ำน้อย ผลผลิต และเกษตรกร
87 87 รายงานการเชื่อมโยงตลาด ระบุผู้รับซื้อที่เข้าร่วมการจัดทำเวที ภาพรวมของอำเภอ จังหวัด/อำเภอ/ตำบล ผู้รับซื้อ สินค้าพืชใช้น้ำน้อย ประเด็นในเวทีเรียนรู้ ตำบลคู้ยายหมี ตำบลลาดกระทิง ลูกค้าทั่วไปใน ชุมชน - ถั่วเขียว - แตงกวา - ข้าวโพดข้าวเหนียว ผู้เข้าร่วมโครงการมีการเชื่อมโยง ตลาดระหว่างเกษตรกรกับ ผู้ประกอบการ รับซื้อผลผลิตในพื้นที่ใกล้ โดยมี การสำรวจเป้าหมายด้านการตลาด หรือผู้ประกอบการรับซื้อผลผลิตใน พื้นที่และนอกพื้นที่และวางแผน การปลูกและคาดการณ์ด้านการ เก็บเกี่ยวและปริมาณผลผลิต รายงานการจัดทำแผนการผลิต ภาพรวมของอำเภอ ชนิดพืชใช้น้ำน้อย ที่ผลิต พื้นที่ปลูก (ไร่/งาน) คาดการณ์ ผลผลิต (กก.) ผลผลิต ออกจริง (กก.) เวลาที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต (ว/ด/ปี) แหล่งจำหน่าย (ระบุรายละเอียด แหล่งขาย) ถั่วเขียว แตงกวา ข้าวโพดข้าวเหนียว 12 ไร่ 3 ไร่ 5 ไร่ 200 กก./ไร่ 1,000 กก./ไร่ 800 กก./ไร่ 100 กก./ไร่ 1,000 กก./ไร่ 300 กก./ไร่ 30 เม.ย - พ.ค.66 พ.ค. 2566 พ.ค. 2566 ตลาดนัดในชุมชน รวม 20 ไร่ 2,000 กก./ไร่ 1,400 กก./ไร่ 30 เม.ย - พ.ค.66
88 88 สรุปภาพรวมต้นทุนการผลิตข้าวนาปี ข้าวนาปรัง และพืชน้ำน้อย ต้นทุนการผลิตข้าวนาปี ต่อ 1 ไร่ (เป็นเงินสด) รายการ ต้นทุนการผลิต(บาท/ไร่) 1. ค่าใช้จ่าย 1.1 ค่าแรงงาน - ค่าเตรียมดิน (ไถดะ/ปั่นหมัก/รูดเทือก) 1,050 - ค่าปลูก (หว่าน) 100 - ค่าฉีดสารเคมี (ยาคุมหญ้า/สารเคมีกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช/ฮอร์โมน) รวม......1......ครั้งละ ๆ.......100........บาท 100 - ค่าเก็บเกี่ยว 600 - ค่าขนส่ง 100 1.2 ค่าวัสดุ - ค่าเมล็ดพันธุ์ไร่ละ......25.......ก.ก.ๆละ........16........บาท 400 - ค่าปุ๋ย (รองพื้น/แต่งหน้า)........50.....ก.ก. 1,355 - ค่าสารเคมี ฉีดพ่น.......1......ครั้ง 100 - ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูบน้ำ (ค่าไฟฟ้า) 200 1.3 ค่าเช่าที่นา 1,000 1.4 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 100 2. ผลผลิตเฉลี่ย (น้ำหนักข้าวสด)...................900......................ก.ก./ไร่ 3. ราคาขายผลผลิต.....................................9......................บาท/กิโลกรัม 4. รายได้...................................................8,100......................บาท/ไร่ (ข้อ 2 x ข้อ 3) 5. ต้นทุนรวม.............................................5,205......................บาท/ไร่ (รวมข้อ 1) 6. เกษตรกรได้กำไร....................................2,895.......................บาท/ไร่ (รายได้ (4) - ต้นทุนรวม (5)
89 89 ต้นทุนการผลิตข้าวนาปรัง ต่อ 1 ไร่ (เป็นเงินสด) รายการ ต้นทุนการผลิต (บาท/ไร่) 1. ค่าใช้จ่าย 1.1 ค่าแรงงาน - ค่าเตรียมดิน (ไถดะ/ปั่นหมัก/รูดเทือก) 1,050 - ค่าปลูก (หว่าน) 100 - ค่าฉีดสารเคมี (ยาคุมหญ้า/สารเคมีกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช/ฮอร์โมน) 100 รวม......1......ครั้งละ ๆ.......100........บาท - ค่าเก็บเกี่ยว 600 - ค่าขนส่ง 100 1.2 ค่าวัสดุ - ค่าเมล็ดพันธุ์ไร่ละ......25.......ก.ก.ๆละ........24........บาท 600 - ค่าปุ๋ย (รองพื้น/แต่งหน้า)........50.....ก.ก. 1,355 - ค่าสารเคมี ฉีดพ่น.......1......ครั้ง 100 - ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูบน้ำ (ค่าไฟฟ้า) 200 1.3 ค่าเช่าที่นา 500 1.4 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 100 2. ผลผลิตเฉลี่ย (น้ำหนักข้าวสด)..........1,050..............ก.ก./ไร่ 3. ราคาขายผลผลิต.......................8.5.......................บาท/กิโลกรัม 4. รายได้....................................8,925......................บาท/ไร่ (ข้อ 2 x ข้อ 3) 5. ต้นทุนรวม..............................4,545......................บาท/ไร่ (รวมข้อ 1) 6. เกษตรกรได้กำไร...........4,380..............บาท/ไร่ (รายได้ (4) - ต้นทุนรวม (5)
90 90 ต้นทุนการผลิตพืชใช้น้ำน้อย อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ชนิดพืชใช้น้ำน้อย..........ถั่วเขียว.............. รายการ ต้นทุน (บาท/ ไร่) 1. ค่าเตรียมดิน 1.1 ไถดะ (ผาน7) 300 1.2 ปั่นตีดิน 300 2. ค่าพันธุ์ 2.1 ค่าเมล็ดพันธุ์(ไร่ละ....7....กิโลกรัม ๆละ.....45......บาท) 315 3. ค่าปุ๋ย 3.1 ปุ๋ยรองพื้น (มูลไก่อัดเม็ด............อัตรา.......50........กิโลกรัม/ไร่) 200 3.2 ปุ๋ยใส่ตอนทำรุ่น (สูตร......15-15-15..............อัตรา.......25......กิโลกรัม/ไร่) 776 4. ค่าสารเคมีกำจัดวัชพืช/ศัตรูพืช 4.1 ค่าสารเคมีคลุมหญ้า 100 4.2 ค่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ระบุศัตรูพืช...เต่าแตง เพลี้ยไฟ................) 5. ค่าสูบน้ำ 5.1 ค่าสูบน้ำด้วยไฟฟ้า (จ่ายกรมชลประทาน) 5.2 ค่าสูบน้ำด้วยน้ำมันเชื่อเพลิงเข้าแปลงปลูก 6. ค่าแรงงาน 6..1 ค่าแรงงานหยอดเมล็ด/ปลูก (ไร่....1......คนๆละ..........100............บาท) 100 6.2 ค่าแรงงานฉีดพ่นสารเคมีคลุมหญ้า 100 6.3 ค่าแรงงานพรวนดิน.......1.......ครั้ง พร้อมใส่ปุ๋ย 6.4 ค่าแรงงานฉีดพ่นสารเคมีกำจัดหนอนและเพลี้ยจั๊กจั่น 6.5 ค่าแรงงานเก็บเกี่ยว (ผลผลิต......220.........กิโลกรัม/ไร่) 500 7. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ถ้ามี) เช่นวัสดุคลุมดิน ถาดเพาะกล้า ระบบน้ำ หากใช้หลายครั้งให้ เฉลี่ย รวมต้นทุนการผลิต (รายการ 1+2+3+4+5+6+7) 2,591 รายได้ - ผลผลิตเฉลี่ย..............220............................กิโลกรัม/ไร่ (1) - ราคาขาย...................35......................................กิโลกรัม/ไร่ (2) - รายได้รวม.................7,700........................บาท/ไร่ (1) x (2) - ต้นทุนการผลิต ........2,591..........................บาท/ไร่ (4) เกษตรกรมีรายได้สุทธิ(รายได้รวม - ต้นทุน ).............5,109......................บาท/ไร่
91 91 ต้นทุนการผลิตพืชใช้น้ำน้อยอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ชนิดพืชใช้น้ำน้อย...........ข้าวโพดข้าวเหนียว............... รายการ ต้นทุน (บาท/ไร่) 1. ค่าเตรียมดิน 1.1 ไถดะ 230 1.2 ไถแปร 230 2. ค่าพันธุ์ 2.1 ค่าเมล็ดพันธุ์ (ไร่ละ 1 กิโลกรัม ๆ ละ 900 บาท) 900 3. ค่าปุ๋ย 3.1 ปุ๋ยรองพื้น (สูตร 16-0-0 อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่) 1,450 3.2 ปุ๋ยเร่งการเจริญเติบโต (สูตร 46-0-0 อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่) 900 3.3 ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ด (50 กิโลกรัม/ไร่) 200 4. ค่าสารเคมีกำจัดวัชพืช/ศัตรูพืช 4.1 ค่าสารเคมีคลุมหญ้า - 4.2 ค่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ระบุศัตรูพืช...เต่าแตง เพลี้ยไฟ................) - 5. ค่าสูบน้ำ 5.1 ค่าสูบน้ำด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าแปลงปลูก 500 6. ค่าแรงงาน 6..1 ค่าแรงงานหยอดเมล็ด/ปลูก (ไร่ละ 2 คน ๆ ละ 300 บาท) 600 6.2 ค่าแรงงานใส่ปุ๋ย (2 คน ๆ ละ 300 บาท) 600 6.3 ค่าแรงงานเก็บเกี่ยว (ผลผลิต 800 กิโลกรัม/ไร่) 900 7. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ถ้ามี) รวมต้นทุนการผลิต (รายการ 1+2+3+4+5+6+7) 6,510 รายได้ - ผลผลิตเฉลี่ย..............800............................กิโลกรัม/ไร่ (1) - ราคาขาย...................15...............................กิโลกรัม/ไร่ (2) - รายได้รวม.................12,000......................บาท/ไร่ (1) x (2) - ต้นทุนการผลิต ........6,510.........................บาท/ไร่ (4) เกษตรกรมีรายได้สุทธิ(รายได้รวม - ต้นทุน ).............5,490......................บาท/ไร่
92 92 ต้นทุนการผลิตพืชใช้น้ำน้อยอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ชนิดพืชใช้น้ำน้อย...........แตงกวา............... รายการ ต้นทุน (บาท/ไร่) 1. ค่าเตรียมดิน 1.1 ไถดะ 230 1.2 ไถแปร 230 2. ค่าพันธุ์ 2.1 ค่าเมล็ดพันธุ์ (ไร่ละ 50 กรัม) 410 3. ค่าปุ๋ย 3.1 ปุ๋ยอินทรีย์ (อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่) 860 3.2 ปุ๋ยเร่งการเจริญเติบโต (สูตร 15-15-15 อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่) 1,240 4. ค่าสารเคมีกำจัดวัชพืช/ศัตรูพืช 4.1 ค่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ระบุศัตรูพืช เต่าแตง เพลี้ยไฟ ราน้ำค้าง) 1,000 5. ค่าสูบน้ำ 5.1 ค่าสูบน้ำด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าแปลงปลูก 700 6. ค่าแรงงาน 6..1 ค่าแรงงานหยอดเมล็ด/ปลูก (ไร่ละ 2 คน ๆ ละ 300 บาท) 600 6.2 ค่าแรงงานใส่ปุ๋ยและฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืช (2 คน ๆ ละ 300 บาท) 600 6.3 ค่าแรงงานเก็บเกี่ยว (ผลผลิต 2,200 กิโลกรัม/ไร่) 2,400 7. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ถ้ามี) รวมต้นทุนการผลิต (รายการ 1+2+3+4+5+6+7) 8,270 รายได้ - ผลผลิตเฉลี่ย..............2,200............................กิโลกรัม/ไร่ (1) - ราคาขาย.......................18...............................กิโลกรัม/ไร่ (2) - รายได้รวม.................39,600.........................บาท/ไร่ (1) x (2) - ต้นทุนการผลิต ...........8,270...........................บาท/ไร่ (4) เกษตรกรมีรายได้สุทธิ(รายได้รวม - ต้นทุน ).............31,330......................บาท/ไร่
93 93 ผลลัพธ์/ผลสำเร็จของงาน ผลลัพธ์ 1. มีแปลงเรียนรู้การปลูกพืชใช้น้ำน้อยเสริมสร้างรายได้เกษตรกร จำนวน 60 ไร่ 2. เกษตรกร 60 ราย มีความรู้การปลูกพืชใช้น้ำน้อยเสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกร ผลสำเร็จของงาน 1. ร้อยละ 60 ของเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าการทำนาปรัง 2. เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ปลูกพืชใช้น้ำน้อยในฤดูทำนาปรังเสริมสร้างรายได้ ปัญหา/อุปสรรค และข้อเสนอแนะ - ควรเพิ่มงบประมาณในการทำแปลงเรียนรู้การปลูกพืชใช้น้ำน้อย
94 12. โครงการพัฒนาศักยภาพกระบวนการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกร โครงการ สัมมนาเชิงปฏิบัติการเชื่อมโยงตลาดสินค้าพืชใช้น้ำน้อยเพื่อกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานปี 2567 หลักการและเหตุผล กรมส่งเสริมการเกษตรมีบทบาทภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนา ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตร ระบบการผลิต และการบริหารจัดการสินค้าเกษตร โดยสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกรด้วยการจัดระบบ การผลิตพืชในพื้นที่นาข้าว มีเป้าหมายในการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกด้วยการลดรอบการเพาะปลูกข้าว ในฤดูนาปรัง ตัดวงจรการระบาดศัตรูพืช เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน จึงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรียนรู้การบริหารจัดการพื้นที่นาด้วยการปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนการทำนาปรัง ด้วยการเชื่อมโยงตลาดกับ ภาคเอกชนผู้รับซื้อผลผลิต ส่งเสริมเกษตรกรวางแผนการผลิต และผลิตพืชใช้น้ำน้อย ที่มีคุณภาพสอดคล้องกับ ความต้องการตลาด จะเป็นผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดความมั่นคงในอาชีพการเกษตร ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเชื่อมโยงตลาดสินค้าพืชใช้น้ำน้อยเพื่อกำหนด เป้าหมาย การดำเนินงานปี 2567 ตามนโยบายตลาดนำการผลิต สร้างความรู้ความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่ ตลอดจนสร้างการรับรู้ เป็นแนวทางการส่งเสริมการผลิตพืชใช้น้ำน้อยทดแทนการทำนาปรังที่มีผลผลิต สอดคล้องกับความต้องการของตลาด วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเชื่อมโยงตลาดสินค้าเกษตรพืชใช้น้ำน้อยกับภาคเอกชน 2. เพื่อกำหนดเป้าหมายการส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อย ปี 2567 เป้าหมาย/สถานที่ดำเนินการ บุคคลเป้าหมาย จำนวน 20 ราย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการระดับจังหวัด อำเภอ และเกษตรกร 3 อำเภอ คือ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว อำเภอราชสาส์น และอำเภอสนามชัยเขต สถานที่จัดสัมมนาฯ ณ สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา และตลาดไท อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี งบประมาณ งบประมาณ 24,000 บาท (สองหมื่นสี่พันบาทถ้วน) จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร ระยะเวลาดำเนินการ เดือนสิงหาคม – เดือนกันยายน 2566
95 95 กิจกรรม 1. สัมมนาเชิงปฏิบัติการเชื่อมโยงตลาดสินค้าพืชใช้น้ำน้อยเพื่อกำหนดเป้าหมายการดำเนินงาน ปี 2567 วันที่ 17 สิงหาคม 2566 นายดนัย ปัญจพิทยากุล เกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในการเปิด การสัมมนาเชิงปฏิบัติการเชื่อมโยงตลาดสินค้าพืชใช้น้ำน้อยเพื่อกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานปี 2567 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรามีการนำเสนอความต้องการซื้อ ผลผลิต ปริมาณ คุณภาพ และบทบาทในการมีส่วนร่วมกับเกษตรกรในการเชื่อมโยงตลาดของภาคเอกชน และนำเสนอความสามารถในการผลิต การวางแผนการผลิต และการบริหารจัดการผลผลิตที่ตอบสนอง ความต้องการตลาดของเกษตรกร โดยการอภิปรายคณะ เรื่อง การเชื่อมโยงตลาดกับภาคเอกชนดังนี้ บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จํากัด (ตลาดไท) นายมงคลเกียรติ ควรกิจ ผู้จัดการฝ่ายความสัมพันธ์ภาครัฐ และเอกชน (งานลูกค้าสัมพันธ์ภายในและภายนอก) บริษัท สยามแม็คโคร จํากัด (มหาชน) ดร.กิรณา แก้วสุ่น ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อส่วนภูมิภาค (แผนกอาหารสด) และนายดวงจันทร์ ชาบรรทม (ประธานแปลงใหญ่พืชผัก ตำบลท่ากระดาน) เกษตรกรคู่ค้าของ บริษัท สยามแม็คโคร จํากัด (มหาชน) และห้างสรรพสินค้า โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ฉะเชิงเทรา มีการบรรยายเรื่อง การปรับตัวรับมือในการทำการเกษตรในสภาวะสภาพอากาศ เปลี่ยนแปลง โดย นายยงยุทธ เผือกพิบูลย์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาฉะเชิงเทรา รวมทั้งมีการแบ่งกลุ่ม เกษตรกรเพื่อสรุปผลกำหนดเป้าหมายการเชื่อมโยงตลาด ปี 2567 และกำหนดพื้นที่และเกษตรกรเป้าหมาย ดำเนินงานโครงการ ปี 2567 พร้อมนำเสนอเป้าหมายการเชื่อมโยงตลาดและเป้าหมายดำเนินงานโครงการ 1) สรุปรายงานผลการประชุมเชื่อมโยงตลาดเพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดแผนการผลิตปี 2567 ต่อไป ผลการเชื่อมโยงตลาด บริษัท/ร้าน/โรงงาน/... ชนิดพืช ปริมาณ (ตัน) เดือน/ปี กำหนดส่งผลผลิต อ.ราชสาส์น 1. พ่อค้า และ ห้างแม็คโคร แตงโม พันธุ์ซอนญ่า 70 มีนาคม 2567 2. โรงงานผลิตไอศครีม เผือก 6 กรกฎาคม 2567 3. พ่อค้า และ ห้างแม็คโคร เมล่อน (สีทอง) 2 มีนาคม 2567 อ.บางน้ำเปรี้ยว 4. ขายหน้าสวนและตลาดในชุมชน แตงโม 384 กุมภาพันธ์ – เมษายน 2567 5. ขายหน้าสวน ตลาดในชุมชน และตลาดไท ฟักทอง 3 มีนาคม 2567 อ.สนามชัยเขต 6. ตลาดในชุมชน ข้าวโพด 0.8 เมษายน 2567 แตงกวา 2 ธันวาคม 66 - มกราคม 67 ถั่วเขียว 0.2 มีนาคม – เมษายน 2567 ฟักทอง 2 มีนาคม 2567