๔๖
คำอธิบายรายวิชา ท ๓๐๒๐๓ การแต่งคำประพันธ์
รายวชิ าเพ่มิ เติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๔-6 ภาคเรียนท่ี ๑-2 เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศึกษาลักษณะบังคับของคำประพันธ์ชนิดต่าง ๆ ฝึกแต่งคำประพันธ์ประเภท กาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ ร่าย
โดยคำนึงถึงลกั ษณะบังคบั ความไพเราะ เนอื้ หาสาระ และความคดิ สร้างสรรค์
เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับฉันทลักษณ์ สามารถแต่งคำประพันธ์ชนิดต่าง ๆ ได้ เห็นคุณค่าของงานประพันธ์
ประเภทรอ้ ยกรอง อนั จะนำไปสู่การอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาการแต่งคำประพนั ธ์
ผลการเรียนรู้
๑. มคี วามรู้ และมีความเขา้ ใจคำตา่ ง ๆ ทใ่ี ชใ้ นคำประพันธป์ ระเภทตา่ ง ๆ
๒. มีความรู้เกย่ี วกับหลักเกณฑ์หรอื ฉันทลกั ษณ์ของคำประพันธท์ ่ีกำหนด
๓. รทู้ ม่ี า วิวฒั นาการและขอบข่ายของคำประพนั ธช์ นดิ ตา่ ง ๆ โดยสงั เขป
๔. สามารถแต่งคำประพันธบ์ างชนดิ ท่ีกำหนดได้
๕. สามารถในการอ่านคำประพันธบ์ างชนิดเปน็ ทำนองเสนาะได้
๖. เลอื กอา่ น วเิ คราะห์ พจิ ารณา และวจิ ารณบ์ ทกวที ี่ปรากฏท่ัวไปได้
รวมทงั้ หมด ๖ ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๔๗
คำอธิบายรายวชิ า ท ๓๐๒๐๔ วรรณคดมี รดก
รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔-6 ภาคเรียนท่ี 1-๒ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
อ่านรามเกียรติ์ (ฉบับรัชกาลที่ ๑ ) ขุนช้างขุนแผน อิเหนา พระอภัยมณี ให้รู้เรื่องตลอดโดยสังเขปและ
อ่านเฉพาะตอนที่สำคัญในเชิงวรรณศิลป์ ตอนที่ทำให้เห็นสภาพชีวิตในสมัยบรรพบุรุษ ตอนที่ทำให้เข้าในธรรมชาติ
ของมนุษย์และตอนที่เกี่ยวกับศิลปะใน สาขาต่าง ๆ เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัว
ละครที่สำคัญ แนวคิดในเนื้อเรื่องโดยเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในชีวิตปัจจุบัน เกิดความประทับใจในศิลปะการ
ประพนั ธ์ สามารถนำไปกล่าวอ้างได้
ผลการเรียนรู้
๑. อธิบายความหมายของวรรณคดี ประเภทของวรรณคดี บอกประโยชน์ และวิเคราะห์คุณค่าของงาน
ประพนั ธ์ได้
๒. ศึกษาชีวติ และผลงานของรชั กาลที่ ๑ จบั ใจความสำคญั แปลความ ตีความ วเิ คราะห์ลกั ษณะนิสัยของ
ตวั ละคร และวเิ คราะหค์ ุณคา่ ของงานประพนั ธ์ได้
๓. ศกึ ษาชีวติ และผลงานของสุนทรภู่ จบั ใจความสำคัญ แปลความ ตคี วาม วเิ คราะห์ลักษณะนสิ ยั ของตวั
ละคร และวิเคราะห์คุณค่าของงานประพนั ธไ์ ด้
๔. ศึกษาชวี ิตและผลงานของรัชกาลท่ี ๒ จับใจความสำคัญ แปลความ ตคี วาม วเิ คราะหล์ ักษณะนิสยั ของ
ตวั ละคร และวเิ คราะหค์ ณุ คา่ ของงานประพันธ์ได้
๕. แปลความ ตคี วาม วิเคราะห์ลกั ษณะนสิ ยั ของตวั ละคร และวเิ คราะห์คณุ คา่ ของงานประพันธไ์ ด้
รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๔๘
คำอธบิ ายรายวิชา ท ๓๐๒๐๕ ทักษะทางภาษา
รายวชิ าเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๔-6 ภาคเรยี นที่ 1-๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศึกษาลักษณะของภาษาไทย เสียง อักษรที่ใช้แทนเสียง เพื่อวิเคราะหค์ ุณลกั ษณะของภาษา สังเกตคำยมื
ภาษาต่างประเทศที่เขา้ มารปะปนในภาษาไทย เพ่ือนำความรูม้ าใชใ้ นการสอ่ื สารในชวี ิตประจำวนั
ศกึ ษาวธิ กี ารสรา้ งคำ กลมุ่ คำ จำแนกประโยค การใช้ประโยคในการสื่อสาร คำราชาศัพท์ เพอ่ื ให้มีความรู้
ความเข้าใจไวยากรณ์ไทย นำความรู้ไปวิเคราะห์ วิจารณ์ และใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง เป็นการอนุรักษ์และพัฒนา
ภาษาไทย
ผลการเรยี นรู้
๑. อธบิ ายลักษณะของภาษาไทยแลว้ วิเคราะหค์ ุณลักษณะของภาษา
๒. อธบิ ายการยืมคำภาษาตา่ งประเทศมาใช้ในภาษาไทยเพือ่ นำความรู้มาใช้ในการสือ่ สารในชวี ิตประจำวัน
๓. ใชค้ ำ กลุม่ คำ จำแนกประโยคในการส่ือสาร
๔. ใชร้ าชาศพั ท์ไดถ้ ูกต้องตามฐานะและบุคคล
๕. เขยี นเรียงความ เขียนสื่อสารในรูปแบบตา่ ง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์
รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๔๙
คำอธิบายรายวชิ า ท ๓๐๒๐๖ ภาษาเพอ่ื การแสดง
รายวิชาเพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔-6 ภาคเรยี นท่ี 1-๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษาการพูดเล่าเรื่อง การเล่านิทาน การเล่าเรื่องขบขันและเรื่องที่มีข้อขำ การเล่าเรื่องตื่นเต้น การพูด
บรรยาย พรรณนา การทำหน้าที่พิธีกร โฆษก อธิบายการแสดงละคร วิเคราะห์วิจารณ์การแสดงละครวิทยุ และ
โทรทัศน์ การเขียนบทละครสั้น ๆ เพื่อการแสดง และการแต่งกลอนได้
ผลการเรียนรู้
๑. สามารถอธบิ ายความหมายของการเล่าเรื่อง การเล่านทิ าน การเลา่ เรอื่ งขบขนั และเรื่องท่มี ีขอ้ ขำ การเล่า
เรื่อที่ตื่นเต้น จุดประสงค์ในการเล่าเรื่อง คุณสมบัติของผู้เล่า ประเภทของเรื่องเล่าและเล่าเรื่องประเภท
ต่าง ๆ ได้
๒. สามารถพดู บรรยายหรอื พรรณนาเหตุการณใ์ นกิจกรรมการแสดงได้
๓. สามารถทำหนา้ ท่ีเปน็ พธิ กี รและโฆษกได้
๔. อธบิ ายการแสดงละคร ชนดิ ของละคร องค์ประกอบ โครงสรา้ ง แนวคดิ ของ ตัวละครและฝกึ ทักษะในการ
แสดงได้
๕. สามารถวิเคราะห์วิจารณก์ ารแสดงละครวิทยุและละครโทรทศั น์ได้
๖. สามารถเขียนบทละครส้ัน ๆ เพอ่ื การแสดงได้
๗. สามารถแตง่ กลอน การเลน่ กลอนสดและบทสักวาได้
รวมทั้งหมด 7 ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๕๐
คำอธิบายรายวชิ า ท ๓๐๒๐๗ ภาษากับวัฒนธรรม
รายวิชาเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๔-6 ภาคเรยี นท่ี 1-๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ
ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ กลวิธีการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ ตามเงื่อนไขทาง
วัฒนธรรม โดยกระบวนการแปลความ ตคี วาม ขยายความ และสรุปความ พจิ ารณาตามเกณฑข์ องระดับของภาษา คำ
ราชาศัพท์ คำภิกษุศัพท์ คำสุภาพชน สำนวน สุภาษิต คำพังเพย วัฒนธรรมในการใช้ภาษาไทย ความสัมพันธ์ระหว่าง
ภาษากับวัฒนธรรมที่เกี่ยวโยงหรือมีความสัมพันธ์กับวรรณคดี วรรณกรรม และศิลปกรรมไทย ความสัมพันธ์ระหว่าง
ภาษาและวัฒนธรรมกับประเพณีไทยโดยทั่วไป และเฉพาะท้องถิ่น ความสำคัญของภาษาไทยในฐานะเป็นสมบัติอัน
ทรงคณุ ค่าทางวฒั นธรรมของชาตเิ พือ่ สนุ ทรยี ชน จรรโลงชาติ และธำรงสังคมไทย
ผลการเรียนรู้
๑. วิเคราะห์ลักษณะสำคัญของภาษาที่สัมพันธ์กับวัฒนธรรม และรูปแบบของการใช้ภาษาเป็นเครื่องมือใน
การสืบทอดและบันทกึ ข้อมูลทางวฒั นธรรม
๒. วิเคราะห์รูปแบบ กลวิธีการใช้ภาษา และค่านิยมในสังคมไทยที่สะท้อนระบบวัฒนธรรม ความคิด ความ
เชื่อ ประเพณี พิธีกรรม ศาสนา โบราณคดีศึกษา อารยธรรม วถิ ชี ีวิต และศลิ ปกรรมไทยได้
๓. ๓. วิเคราะห์ลักษณะความสัมพันธ์กันระหว่างภาษา วรรณคดี และศิลปกรรมไทย (สถาปัตยกรรม
จิตรกรรม ประตมิ ากรรม (ปฏิมากรรม) ดรุ ยิ างคกรรม และนาฏกรรม)
๔. มีความเข้าใจในคุณค่าและตระหนักถึงความสำคัญของวรรณคดี วรรณกรรม โบราณคดี วัฒนธรรม
ประเพณี และคติชนวิทยา มีจิตสำนึกรักษ์ หวงแหน ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการอนุรักษ์ สืบทอด
และเผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ทางภาษาและวัฒนธรรมอนั งดงามของชาติ
๕. ออกแบบขั้นตอนการสร้างองค์ความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรม โดยใช้กระบวนการสืบเสาะทาง
วทิ ยาศาสตรด์ ้วยการบริหารจดั การทำงานทมี่ ีระบบ
๖. เขยี นความเรยี งข้ันสูง (Extended Essay) และรายงานการค้นคว้าอิสระ (Independent Study Project
Report) ตามความสนใจของนักเรียนเป็นลักษณะรายงานเชิงวิชาการโดยอาศัยรูปแบบระเบียบวิธีวิจัย
เบ้อื งตน้
๗. สงั เคราะหข์ ้อความรู้และผลการศึกษาค้นคว้าท่ีได้รบั จากกระบวนการผลติ ผลงาน และนำเสนอองค์ความรู้
ทางภาษาและวฒั นธรรมตอ่ สาธารณชนได้
๘. มมี ารยาทในการอ่าน การเขยี น และการพดู
รวมท้งั หมด 8 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๕๑
คำอธิบายรายวชิ า ท ๓๐๒๐๘ หลักภาษาไทย
รายวชิ าเพิ่มเติม กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔-6 ภาคเรียนท่ี 1-๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ
ศกึ ษาธรรมชาติของภาษา พลังภาษาและลักษณะของภาษา จำแนกเสยี งในภาษา ส่วนประกอบของภาษา
สร้างคำในภาษาไทย ใช้คำและกลุ่มคำสรา้ งประโยคและจำแนกชนดิ ของประโยค ใชภ้ าษาเหมาะสมแกโ่ อกาส
กาลเทศะ และบุคคล ใชค้ ำราชาศัพท์ วเิ คราะห์อิทธิพลของภาษาต่างประเทศทม่ี ใี นภาษาไทยและภาษาถิ่นได้
โดยใช้กระบวนการเรียนความรู้ความเข้าใจ คิดอย่างมีวิจารณญาณ ความสามารถในการสื่อสาร มี
ความสามารถในการคดิ ตระหนกั และเหน็ คุณค่าของการใช้ภาษาไทย ชื่นชมและใช้เลขไทยอยูเ่ สมอ
ผลการเรยี นรู้
๑. อธิบายธรรมชาติของภาษา พลงั ภาษาและลกั ษณะของภาษาได้
๒. จำแนกและอธิบายเสยี งในภาษา สว่ นประกอบของภาษาได้
๓. ใช้คำและกลุ่มคำสร้างประโยคและจำแนกชนดิ ของประโยค ได้
๔. ใชภ้ าษาเหมาะสมแกโ่ อกาส กาลเทศะ และบุคคล รวมทั้งคำราชาศัพท์ได้อยา่ งถูกต้อง
๕. วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของภาษาต่างประเทศท่ีมีในภาษาไทยและภาษาถน่ิ ได้
รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๕๒
คำอธบิ ายรายวิชา ท ๓๐๒๐๙ วรรณกรรมปจั จบุ ัน
รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔-6 ภาคเรียนท่ี 1-๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศึกษาวรรณกรรมปัจจุบนั โดยเน้นลักษณะ ประเภท และสภาพทวั่ ไป ของวรรณกรรมปจั จุบันกบั วรรณกรรม
รว่ มสมัยเพือ่ ให้มีความรู้ความเขา้ ใจ เหน็ คณุ ค่า พิจารณา วิเคราะห์ วจิ ารณ์ ประเมินคุณค่า และร่วมมือในการอนุรักษ์
วรรณกรรมปัจจุบนั กับวรรณกรรมร่วมสมัย
ผลการเรยี นรู้
๑. บอกความหมาย ลักษณะ ประเภทและสภาพทั่วไปของวรรณกรรมปัจจุบันและวรรณกรรมร่วม
สมยั ได้
๒. บอกความหมาย ความเปน็ มา ของวรรณกรรมรอ้ ยกรองประเภทตา่ ง ๆ ได้
๓. บอกความเป็นมา ลกั ษณะ และองคป์ ระกอบของเร่ืองสน้ั ได้
๔. บอกความเป็นมา ลักษณะ ประเภท และองคป์ ระกอบของนวนยิ ายได้
๕. บอกความหมาย ความเป็นมา ลกั ษณะ ประเภท และองค์ประกอบของละครได้
๖. บอกความหมาย จุดมงุ่ หมาย ความเปน็ มา องคป์ ระกอบและประเภทของสารคดีได้
๗. ๗.บอกความหมาย องค์ประกอบและประเภทของบทความได้
๘. วเิ คราะห์ วจิ ารณ์และประเมินคณุ คา่ ของรอ้ ยกรอง เร่ืองส้ัน นวนยิ าย บทละคร สารคดี บทความ ทางดา้ น
ภาษา และสงั คม เกดิ ความตระหนัก สามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ บั วถิ ชี ีวติ ของตนเองได้อย่างเหมาะสม
รวมทง้ั หมด ๘ ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๕๓
คำอธบิ ายรายวิชา ท ๓๐๒๑๐ ศลิ ปะการพูด
รายวิชาเพม่ิ เติม กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๔-6 ภาคเรยี นท่ี 1-๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศึกษาความหมาย ความสำคัญของการพดู องค์ประกอบในการพดู ปจั จยั ที่ชว่ ยใหก้ ารพดู สมั ฤทธิผ์ ลจำแนก
ประเภทของการพูด การเตรยี มตัวในการพูด ร้จู ักวิเคราะห์ผฟู้ งั สถานการณก์ ารพูด ฝึกทักษะการพดู สนทนา การ
สมั ภาษณ์ การอภิปราย การพูดในโอกาสต่าง ๆ รวมทั้งการอ่านบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองในทปี่ ระชุม
ใช้กระบวนการทางภาษา การคิดวิเคราะห์ ทักษะกระบวนการฝึกปฏิบัติและกระบวนการคิดอย่างมี
วิจารณญาณ เสริมสร้างให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ มีความมุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะที่
จะพูดสรา้ งสรรค์เพ่ือสื่อสารใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อสงั คมและประเทศชาติต่อไป
ผลการเรียนรู้
๑. นักเรียนตระหนกั ถึงความสำคญั ของการพูด
๒. นักเรียนมคี วามรู้เบือ้ งต้นเกีย่ วกับการพดู เทคนคิ การพูดตา่ ง ๆ
๓. นักเรียนมีความรู้ความสามารถในการพดู สนทนา
๔. นักเรียนมีความรูค้ วามสามารถในการสมั ภาษณเ์ พอ่ื ให้ได้ข้อมลู ทตี่ อ้ งการได้
๕. นกั เรยี นมีความรคู้ วามสามารถในการพูดอภปิ ราย
๖. นกั เรียนมคี วามรคู้ วามสามารถพดู ในโอกาสต่าง ๆ ได้
๗. นักเรยี นมคี วามรคู้ วามสามารถในการอ่านบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองในทีป่ ระชมุ ได้
รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๕๔
คำอธบิ ายรายวิชา ท ๓๐๒๑๑ ประวัตวิ รรณคดี ๑
รายวชิ าเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔-6 ภาคเรียนท่ี ๑-2 เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษาวรรณคดีสำคัญสมัยสุโขทัยและอยุธยาเก่ียวกับ ประวัติความเป็นมา ประวัติกวี เนื้อหาโดยสังเขป
การชำระหนังสือวรรณคดี เพื่อให้รู้ความเป็นมาของวรรณคดีไทย เข้าใจความสัมพันธ์ต่อเนื่องระหว่างสมัย เข้าใจ
ค่านิยมและลักษณะชีวิตของคนในสมัยนั้น และเหน็ คุณคา่ ของวรรณคดีสำคัญในฐานะท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม
ผลการเรียนรู้
๑. อธบิ ายความหมายของคำว่าวรรณคดี วรรณกรรมและสามารถจดั ประเภทของวรรณคดีตามเกณฑต์ า่ งๆ ได้
๒. อธิบายวิวัฒนาการของวรรณคดี คุณคา่ และประโยชน์ของการเรียนวรรณคดีได้
๓. บอกประวตั ิและผลงานของกวพี ร้อมอธิบายความสำคัญ หรอื คณุ คา่ คา่ นยิ มของวรรณคดี แตล่ ะเร่อื งในดา้ น
สำนวนภาษา ขนบธรรมเนยี มประเพณี ความรู้ตา่ ง ๆ เกย่ี วกบั วรรณคดี สมยั สโุ ขทยั และสมัยอยธุ ยาได้
๔. แสดงความคิดเหน็ และเปรยี บเทียบเนือ้ เร่ือง ลกั ษณะของวรรณคดสี มยั สุโขทัย กับสมัยอยธุ ยาแตล่ ะเรือ่ งได้
๕. อธบิ ายและแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั เน้อื เร่ือง ลกั ษณะคำประพันธ์ ลักษณะเดน่ ของวรรณคดสี มัยอยธุ ยา
และเปรยี บเทียบกับวรรณคดีสมยั สโุ ขทยั ได้
๖. วิจารณแ์ ละแสดงความคิดเห็นด้านคณุ ค่า ค่านิยมทางสงั คมและอธบิ ายรสของวรรณคดีสมัยอยธุ ยาท่ีมผี ลต่อ
วรรณคดีในยุคต่อมา
๗. อธบิ ายวิวฒั นาการของลกั ษณะการประพันธ์ของผ้แู ต่งวรรณคดสี มัยสโุ ขทยั จนถงึ สมยั อยุธยาได้
รวมทง้ั หมด ๗ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๕๕
คำอธิบายรายวิชา ท ๓๐๒๑๒ ประวัตวิ รรณคดี ๒
รายวิชาเพม่ิ เติม กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๔-6 ภาคเรยี นที่ 1-๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ
ศึกษา ค้นควา้ สรปุ เนื้อหา ความหมาย ความสำคญั ประเภท ลกั ษณะ และภูมหิ ลงั ของวรรณคดีไทยสมยั
ธนบุรจี นถึงสมัยรตั นโกสนิ ทร์ โดยแบ่งการศึกษาออกเปน็ ยุคตา่ ง ๆ ตามพฒั นาการของวรรณคดีไทยในสมัยธนบรุ ีและ
สมัยรัตนโกสินทร์ ประกอบด้วย วรรณคดใี นยคุ ฟืน้ ฟู (สมยั ธนบุรี – สมัยรัตนโกสินทร์ รชั กาลท่ี ๑) วรรณคดีในยคุ ทอง
ของวรรณคดี (รชั กาลท่ี ๒ – ๓) วรรณคดใี นยุคแรกรบั วฒั นธรรมตะวนั ตก (รัชกาลที่ ๔ – ๕) และวรรณคดใี นยุค
ปรบั เปลยี่ นสู่สยามสมยั ใหม่ (รัชกาลท่ี ๖ - ๗) คุณค่าของวรรณคดี กวแี ละผลงานสำคัญในสมัยธนบุรแี ละสมัย
รตั นโกสนิ ทร์ โดยการเขียนหรือพูดอธิบาย เพื่อใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกบั ลักษณะวรรณคดีสมยั ธนบุรีและสมยั
รัตนโกสนิ ทร์ เปน็ พนื้ ฐานในการศึกษาต่อในระดับชั้นทีส่ งู ขึ้น เกิดความซาบซ้งึ ตระหนักรักความเป็นไทย รคู้ ุณคา่ มี
ความภาคภูมใิ จในภมู ิปัญญาของภาษาไทย อันเป็นมรดกทางวฒั นธรรมท่ีสบื ทอดมาแตบ่ รรพบุรุษ
ผลการเรยี นรู้
๑. อธิบายลักษณะ ภมู ิหลงั รปู แบบของวรรณคดสี มยั ธนบรุ แี ละสมัยรตั นโกสินทร์
๒. วเิ คราะห์ จำแนก และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับลักษณะของสมัยธนบรุ ีและสมัยรตั นโกสนิ ทร์
๓. วิเคราะห์เช่อื มโยงวรรณคดีกับการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวิถีชีวติ ของคนไทยในอดีต
๔. มีสว่ นรว่ มในการอนุรักษ์และเผยแพรว่ รรณคดีไทยในสมัยธนบรุ ีและสมัยรัตนโกสินทร์
รวมทั้งหมด 4 ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๕๖
คำอธิบายรายวิชา ท ๓๐๓๑๓ ห้องสมุดเพ่อื การศึกษาคน้ คว้า
รายวิชาเพมิ่ เติม กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔-6 ภาคเรยี นที่ 1-๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศึกษากฎระเบียบ วิธีการใช้บริการแหล่งการเรียนรู้และห้องสมุด ลักษณะและวิธีใช้ทรัพยากรสารนิเทศเพื่อ
การศึกษาค้นคว้าความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร โดยใช้กระบวนการศึกษา สำรวจ สังเกต การใช้ห้องสมุด การอ่าน และการ
ค้นหา สารนิเทศจากแหล่งข้อมลู ตา่ ง ๆ
เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ วธิ กี ารแสวงหาความรู้ การศึกษาคน้ คว้าด้วยตนเอง เปน็ ผู้ใฝ่รูใ้ ฝ่เรียน สามารถ
นาไปประยุกต์ใช้กบั การเรียนและชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างมีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม
ผลการเรียนรู้
๑. อธบิ ายประเภทและลักษณะของหนงั สอื ได้
๒. เลอื กอ่านสารนเิ ทศที่มีประโยชน์ได้
๓. อธิบายระบบการจัดหมวดหมู่หนงั สือได้
๔. บอกเลขหมู่ของหนังสือที่ต้องการคน้ หาได้
๕. ค้นหาหนังสอื ภายในห้องสมุดได้
๖. อธิบายวิธีสบื คน้ สารนเิ ทศในห้องสมดุ ได้
๗. สืบคน้ สารนเิ ทศทตี่ ้องการได้
รวมทั้งหมด 7 ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๕๗
รายวชิ าพ้ืนฐานและเพม่ิ เติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
รายวิชาพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์พนื้ ฐาน ๑ จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกติ
ค ๓๑๑๐๑ คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน ๒ จำนวน 40 ช่วั โมง 1.0 หนว่ ยกติ
ค ๓๑๑๐๒ คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน ๓ จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกติ
ค ๓๒๑๐๑ คณิตศาสตร์พื้นฐาน ๔ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ
ค ๓๒๑๐๒ คณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ๕ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ
ค ๓๓๑๐๑ คณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ๖ จำนวน 40 ชัว่ โมง 1.0 หนว่ ยกติ
ค ๓๓๑๐๒
คณิตศาสตร์เพิ่มเตมิ ๑ จำนวน 80 ชั่วโมง 2.0 หน่วยกติ
รายวชิ าเพิ่มเติม คณิตศาสตร์เพม่ิ เตมิ ๒ จำนวน 80 ชว่ั โมง 2.0 หน่วยกติ
ค ๓๐๒๐๑ คณิตศาสตร์เพิ่มเตมิ ๓ จำนวน 80 ชั่วโมง 2.0 หน่วยกติ
ค ๓๐๒๐๒ คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ๔ จำนวน 80 ช่ัวโมง 2.0 หนว่ ยกติ
ค ๓๐๒๐๓ คณิตศาสตร์เพม่ิ เติม ๕ จำนวน 80 ช่ัวโมง 2.0 หน่วยกติ
ค ๓๐๒๐๔ คณติ ศาสตร์เพมิ่ เติม ๖ จำนวน 80 ชั่วโมง 2.0 หน่วยกติ
ค ๓๐๒๐๕ เสรมิ ทกั ษะคณติ ศาสตร์ ๑ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกติ
ค ๓๐๒๐๖ เสริมทกั ษะคณติ ศาสตร์ ๒ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกติ
ค ๓๐๒๑1 เสรมิ ทกั ษะคณิตศาสตร์ ๓ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกติ
ค ๓๐๒๑๒ เสริมทกั ษะคณติ ศาสตร์ ๔ จำนวน 60 ชัว่ โมง 1.5 หน่วยกติ
ค ๓๐๒๑๓ เสรมิ ทกั ษะคณิตศาสตร์ ๕ จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ
ค ๓๐๒๑๔ เสรมิ ทักษะคณิตศาสตร์ ๖ จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ
ค ๓๐๒๑๕
ค ๓๐๒๑๖
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๕๘
คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน
กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๕๙
คำอธิบายรายวิชา ค ๓๑๑๐๑ คณติ ศาสตรพ์ ื้นฐาน ๑
รายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศึกษา และฝกึ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์อันไดแ้ ก่ การแก้ปัญหา การให้เหตผุ ล การสื่อสาร การ
สอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชือ่ มโยงความร้ตู า่ ง ๆทางคณิตศาสตร์ และเช่อื มโยง
คณติ ศาสตร์กับศาสตร์อนื่ ๆ และมคี วามคดิ ริเริม่ สรา้ งสรรค์ ในสาระต่อไปนี้
เซต ความรเู้ บ้ืองตน้ และสัญลกั ษณ์พื้นฐานเกยี่ วกับเซต ยูเนยี น อนิ เตอรเ์ ซกชัน และคอมพลีเมนต์ของเซต
ตรรกศาสตร์เบื้องต้น ประพจน์และตัวเช่อื ม (นิเสธ และ หรอื ถา้ ...แลว้ ... ก็ตอ่ เมื่อ)
โดยนำความรู้ ทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตรท์ ี่หลากหลายมาใชใ้ นการแกป้ ญั หาในสถานการณ์ตา่ งๆได้
อยา่ งเหมาะสม มเี หตุผลประกอบในการตดั สินใจ และสรปุ ผลไดอ้ ย่างเหมาะสม ใชภ้ าษาและสญั ลกั ษณ์ทาง
คณิตศาสตร์ในการส่ือสาร สอื่ ความหมาย และนำเสนอไดอ้ ย่างถกู ต้องชดั เจน เช่อื มโยงความรู้ต่างๆในคณิตศาสตร์
และนำความรู้ทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ไปเชื่อมโยงกับศาสตร์อ่นื ๆและมีความคดิ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์
เพื่อให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทำงานอย่างมีระบบระเบียบ รอบคอบ รับผิดชอบมี
วิจารณญาณ มีความเช่ือมั่นในตนเอง มีความซ่ือสตั ย์สุจรติ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิต
สาธารณะ พร้อมทง้ั ตระหนกั ในคณุ คา่ และมเี จตคติที่ดตี ่อคณิตศาสตร์
รหัสตัวชี้วัด
ค ๑.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๒
รวมทั้งหมด ๒ ตัวช้วี ดั
หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๖๐
คำอธิบายรายวิชา ค ๓๑๑๐๒ คณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน ๒
รายวิชาพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศกึ ษา และฝึกทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์อนั ไดแ้ ก่ การแกป้ ัญหา การให้เหตผุ ล การสอ่ื สาร การ
สอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการนำเสนอ การเช่ือมโยงความรู้ตา่ ง ๆทางคณติ ศาสตร์ และเชอ่ื มโยง
คณติ ศาสตร์กับศาสตร์อืน่ ๆ และมคี วามคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ในสาระต่อไปน้ี
หลักการนบั เบือ้ งตน้ หลักการบวกและการคณู การเรียงสับเปล่ียนเชิงเสน้ กรณที ี่สงิ่ ของแตกต่างกนั ท้งั หมด
การจดั หมูก่ รณที สี่ ิ่งของแตกต่างกันทงั้ หมด
ความนา่ จะเปน็ การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ ความน่าจะเปน็ ของเหตุการณ์
โดยนำความรู้ ทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ท่หี ลากหลายมาใชใ้ นการแก้ปญั หาในสถานการณ์ตา่ งๆได้
อยา่ งเหมาะสม มีเหตุผลประกอบในการตดั สนิ ใจ และสรุปผลได้อยา่ งเหมาะสม ใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทาง
คณติ ศาสตร์ในการส่ือสาร สื่อความหมาย และนำเสนอไดอ้ ย่างถกู ต้องชดั เจน เช่ือมโยงความรู้ต่างๆในคณิตศาสตร์
และนความร้ทู ักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ไปเชอ่ื มโยงกบั ศาสตร์อื่นๆและมีความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์
เพือ่ ให้เกดิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สามารถทำงานอย่างมรี ะบบระเบยี รอบคอบ รบั ผิดชอบมีวิจารณญาณ
มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริตมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ
พรอ้ มทง้ั ตระหนกั ในคุณคา่ และมีเจตคติท่ดี ีต่อคณิตศาสตร์
รหสั ตัวช้ีวัด
ค ๓.๒ ม.๔/๑, ม.๔/๒
รวมทั้งหมด ๒ ตวั ชีว้ ัด
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๖๑
คำอธบิ ายรายวชิ า ค ๓๒๑๐๑ คณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ๓
รายวชิ าพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศกึ ษา และฝึกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์อนั ได้แก่ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การ
ส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการนำเสนอ การเชือ่ มโยงความรู้ตา่ ง ๆทางคณติ ศาสตร์ และเช่ือมโยง
คณิตศาสตร์กับศาสตร์อ่นื ๆ และมีความคดิ รเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ ในสาระต่อไปนี้
เลขยกกำลงั รากที่ n ของจำนวนจริง เมอ่ื n เป็นจำนวนนับทีม่ ากกวา่ ๑ เลขยกกำลงั ท่ีมีเลขชกี้ ำลงั เปน็
จำนวนตรรกยะ
ฟังก์ชัน ฟงั กช์ ันและกราฟของฟังก์ชัน (ฟงั กช์ นั เชิงเสน้ ฟังก์ชันกำลงั สอง ฟงั ก์ชันขนั้ บันได ฟงั กช์ นั เอกซ์
โพเนนเชียล)
โดยนำความรู้ ทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ทีห่ ลากหลายมาใชใ้ นการแก้ปัญหาในสถานการณ์ตา่ งๆได้
อย่างเหมาะสม มเี หตุผลประกอบในการตัดสินใจ และสรปุ ผลไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ใชภ้ าษาและสญั ลักษณท์ าง
คณติ ศาสตร์ในการส่ือสาร ส่ือความหมาย และนำเสนอได้อย่างถกู ต้องชดั เจน เช่ือมโยงความรตู้ ่างๆในคณิตศาสตร์
และนความร้ทู ักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ไปเช่อื มโยงกบั ศาสตร์อืน่ ๆและมคี วามคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์
เพื่อให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทำงานอย่างมีระบบระเบียบ รอบคอบ รับผิดชอบมี
วิจารณญาณ มีความเช่อื มั่นในตนเอง มคี วามซือ่ สตั ยส์ ุจรติ มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มั่นในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย มีจิต
สาธารณะ พร้อมทงั้ ตระหนกั ในคณุ คา่ และมเี จตคติทด่ี ีต่อคณติ ศาสตร์
รหัสตวั ช้ีวัด
ค ๑.๑ ม.๕/๑
ค ๑.๒ ม.๕/๑
รวมท้ังหมด ๒ ตวั ชว้ี ัด
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๖๒
คำอธิบายรายวิชา ค ๓๒๑๐๒ คณติ ศาสตร์พื้นฐาน ๔
รายวิชาพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษา และฝกึ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์อนั ไดแ้ ก่ การแก้ปญั หา การให้เหตผุ ล การสือ่ สาร การ
สอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชอื่ มโยงความรู้ต่าง ๆทางคณติ ศาสตร์ และเช่ือมโยง
คณติ ศาสตร์กบั ศาสตร์อนื่ ๆ และมคี วามคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ในสาระต่อไปนี้
ลำดับและอนกุ รม ลำดับเลขคณติ และลำดบั เรขาคณิต อนุกรมเลขคณิตและอนุกรมเรขาคณิต
โดยนำความรู้ ทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ทีห่ ลากหลายมาใชใ้ นการแกป้ ัญหาในสถานการณ์ต่างๆได้
อยา่ งเหมาะสม มเี หตผุ ลประกอบในการตัดสนิ ใจ และสรุปผลได้อยา่ งเหมาะสม ใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทาง
คณติ ศาสตร์ในการสื่อสาร สื่อความหมาย และนำเสนอได้อยา่ งถกู ต้องชัดเจน เชือ่ มโยงความรู้ตา่ งๆในคณิตศาสตร์
และนความร้ทู ักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ไปเชือ่ มโยงกับศาสตร์อืน่ ๆและมคี วามคดิ ริเรม่ิ สรา้ งสรรค์
เพื่อให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทำงานอย่างมีระบบระเบียบ รอบคอบ รับผิดชอบมี
วจิ ารณญาณ มีความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง มคี วามซอ่ื สตั ย์สุจริตมีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย มีจิต
สาธารณะ พร้อมท้ังตระหนักในคณุ ค่าและมีเจตคตทิ ด่ี ตี ่อคณิตศาสตร์
รหสั ตวั ช้ีวดั
ค ๑.๒ ม.๕/๒
รวมทั้งหมด ๑ ตัวชี้วัด
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๖๓
คำอธบิ ายรายวชิ า ค ๓๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน ๕
รายวชิ าพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต
ศกึ ษา และฝึกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์อันได้แก่ การแกป้ ญั หา การใหเ้ หตผุ ล การสอื่ สาร การ
ส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการนำเสนอ การเชอ่ื มโยงความรตู้ า่ ง ๆทางคณิตศาสตร์ และเช่อื มโยง
คณติ ศาสตร์กับศาสตร์อน่ื ๆ และมคี วามคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์ ในสาระต่อไปน้ี
สถิติ ขอ้ มลู ตำแหน่งท่ีของข้อมูล ค่ากลาง (ฐานนิยม มัธยฐาน คา่ เฉลยี่ เลขคณิต) ค่าการกระจาย (พสิ ยั สว่ น
เบีย่ งเบนมาตรฐาน ความแปรปรวน) การนำเสนอข้อมูลเชิงคณุ ภาพและเชิงปรมิ าณ การแปลความหมายของคา่ สถติ ิ
การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมลู เชงิ คณุ ภาพ
โดยนำความรู้ ทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่หลากหลายมาใชใ้ นการแกป้ ญั หาในสถานการณ์ต่างๆได้
อย่างเหมาะสม มเี หตผุ ลประกอบในการตดั สินใจ และสรปุ ผลได้อย่างเหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลักษณท์ าง
คณิตศาสตร์ในการส่ือสาร สอ่ื ความหมาย และนำเสนอได้อย่างถกู ต้องชัดเจน เชอื่ มโยงความรตู้ า่ งๆในคณิตศาสตร์
และนความร้ทู ักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเชือ่ มโยงกับศาสตร์อนื่ ๆและมคี วามคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์
เพื่อให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทำงานอย่างมีระบบระเบียบ รอบคอบ รับผิ ดชอบมี
วจิ ารณญาณ มคี วามเช่อื มน่ั ในตนเอง มีความซ่ือสัตย์สจุ รติ มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจิต
สาธารณะ พร้อมทงั้ ตระหนกั ในคุณคา่ และมเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อคณติ ศาสตร์
รหัสตัวช้ีวดั
ค ๓.๑ ม.๖/๑
รวมท้ังหมด ๑ ตัวชีว้ ดั
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๖๔
คำอธิบายรายวชิ า ค ๓๓๑๐๒ คณิตศาสตรพ์ ื้นฐาน ๖
รายวชิ าพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ
ศึกษา และฝึกทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์อนั ได้แก่ การแก้ปัญหา การใหเ้ หตผุ ล การสอ่ื สาร การ
สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชอื่ มโยงความรูต้ า่ ง ๆทางคณิตศาสตร์ และเชื่อมโยง
คณิตศาสตร์กบั ศาสตร์อ่ืน ๆ และมีความคิดริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ ในสาระต่อไปนี้
สถิติ ข้อมลู ตำแหนง่ ท่ีของข้อมลู คา่ กลาง (ฐานนิยม มธั ยฐาน ค่าเฉล่ยี เลขคณติ ) ค่าการกระจาย (พิสยั ส่วน
เบย่ี งเบนมาตรฐาน ความแปรปรวน) การนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปรมิ าณ การแปลความหมายของคา่ สถิติ
การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเชิงปรมิ าณ
โดยนำความรู้ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตรท์ ี่หลากหลายมาใช้ในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ตา่ งๆได้
อยา่ งเหมาะสม มีเหตุผลประกอบในการตดั สินใจ และสรปุ ผลไดอ้ ย่างเหมาะสม ใชภ้ าษาและสญั ลกั ษณ์ทาง
คณิตศาสตร์ในการสื่อสาร สื่อความหมาย และนำเสนอไดอ้ ยา่ งถูกต้องชดั เจน เชื่อมโยงความรู้ตา่ งๆในคณติ ศาสตร์
และนความรทู้ ักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับศาสตร์อืน่ ๆและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
เพื่อให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทำงานอย่างมีระบบระเบียบ รอบคอบ รับผิดชอบมี
วิจารณญาณ มีความเช่ือมั่นในตนเอง มีความซ่อื สัตย์สุจรติ มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน รกั ความเป็นไทย มีจิต
สาธารณะ พรอ้ มทงั้ ตระหนักในคุณค่าและมเี จตคติท่ดี ตี ่อคณติ ศาสตร์
รหสั ตัวชี้วดั
ค ๑.๑ ม.๕/๑
รวมท้ังหมด ๑ ตวั ชี้วัด
หลักสูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๖๕
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๖๖
คำอธิบายรายวชิ า ค ๓๐๒๐๑ คณติ ศาสตรเ์ พิม่ เติม ๑
รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกติ
ศกึ ษา และฝกึ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในเน้ือหาของสาระ ดงั นี้
เซต เซต การดำเนินการระหวา่ งเซต การแก้ปัญหาโดยใช้เซต
ตรรกศาสตร์เบื้องตน้ ประพจน์ การตัวเชือ่ ม (นิเสธ และ หรือ ถ้า...แลว้ ... ก็ตอ่ เม่ือ) การหาค่าความจรงิ
ของประพจน์ การสรา้ งตารางค่าความจรงิ รูปแบบของประพจน์ท่สี มมลู กนั สจั นริ ันดร์ การอา้ งเหตุผล ประโยคเปดิ
ตวั บง่ ปรมิ าณ คา่ ความจรงิ ของประโยคทมี่ ีตัวบง่ ปรมิ าณตวั เดียว สมมูลและนเิ สธของประโยคที่มตี วั บง่ ปรมิ าณ
จำนวนจรงิ จำนวนจรงิ ระบบจำนวนจรงิ พหุนามตวั แปรเดยี ว การแยกตัวประกอบของพหุนาม สมการ
พหุนามตัวแปรเดยี ว เศษส่วนของพหนุ าม สมการเศษส่วนของพหนุ าม การไมเ่ ท่ากันของจำนวนจรงิ อสมการพหุ
นามตัวแปรเดยี ว คา่ สมั บรู ณ์ สมการและอสมการ คา่ สัมบูรณข์ องพหุนามตัวแปรเดยี ว
โดยจัดประสบการณ์ให้ผเู้ รยี นได้พฒั นาทักษะแบะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ อันได้แกก่ ารแก้ปญั หา การ
สื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ การเช่ือมโยง การใหเ้ หตุผลและการคิดสร้างสรรค์
การใช่สื่อ อุปกรณ์ เทคโนโลยี และแหล่งข้อมูล และนำประสบการณ์ ตลอดจนทกั ษะและกระบวนการทีไ่ ด้
ไปใช้ในการเรยี นรู้สิ่งต่าง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวันอย่างสรา้ งสรรค์รวมทัง้ เหน็ คณุ คา่ และมเี จตคติทด่ี ตี ่อคณิตศาสตร์
สามารถทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ มีความรอบคอบและมีวจิ ารณญาน
การวัดและประเมนิ ผล ใช้วิธกี ารที่หลากหลายตามสภาพความเปน็ จรงิ ใหส้ อคลอ้ งกับเน้ือหาและทักษะที่
ต้องการวดั
ผลการเรยี นรู้
๑. เข้าใจและใชค้ วามรู้เกี่ยวกับเซต ในการสื่อสารและสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
๒. เขา้ ใจและใช้ความร้เู ก่ยี วกบั ตรรกศาสตรเ์ บอ้ื งตน้ ในการสือ่ สาร สื่อความหมาย และอา้ งเหตผุ ล
๓. เขา้ ใจจำนวนจริง และใช้สมบัติของจำนวนจริงในการแก้ปัญหา
๔. แก้สมการและอสมการพหุนามตัวแปรดกี รไี มเ่ กินส่ี และนำไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา
๕. แกส้ มการและอสมการเศษสว่ นของพหุนามตัวแปรเดยี่ ว และนำไปใช้ในการแก้ปญั หา
๖. แก้สมการและอสมการคา่ สมบรู ณข์ องพหนุ ามตวั แปรเดยี ว และนำไปใช้ในการแกป้ ัญหา
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๖๗
คำอธบิ ายรายวิชา ค ๓๐๒๐๒ คณิตศาสตร์เพมิ่ เติม ๒
รายวิชาเพม่ิ เติม กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๘๐ ช่วั โมง จำนวน ๒ หน่วยกิต
ศึกษา และฝกึ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์อันได้แก่ การแกป้ ญั หา การให้เหตุผล การสื่อสาร การ
สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆทางคณิตศาสตร์ และเชื่อมโยง
คณิตศาสตร์กบั ศาสตรอ์ น่ื ๆ และมคี วามคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ ในสาระต่อไปนี้
ฟงั กช์ นั ความสัมพันธ์ ผลคณู คาร์ทีเซียน ความสมั พันธ์ โดเมนและเรนจ์ของความสัมพนั ธ์ ตัวผกผันของ
ความสมั พันธ์ ฟังก์ชัน ความหมายของฟงั กช์ นั การดำเนินการของฟังก์ชัน ฟงั กช์ ันผกผนั เทคนิคการเขยี นกราฟ
ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็ม รากที่ n ใน
ระบบจำนวนจริงและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์ เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ ฟังก์ชันเอกซ์โพเนน
เชียล ฟังก์ชันลอการิทึม การหาค่าลอการิทึม การเปลี่ยนฐานลอการิทึม สมการเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชัน
ลอการทิ ึม การประยุกตข์ องสมการเอกซโ์ พเนนเชยี ลและฟังกช์ นั ลอการิทมึ
โดยการจัดกิจกรรม จัดประสบการณห์ รือสรา้ งสถานการณท์ ใ่ี กลต้ ัวให้ผู้เรียนได้ศกึ ษา คน้ ควา้ และค้นพบดว้ ย
ตนเอง ด้วยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปและรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล สื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ มีความคิดรวบยอด มี
ความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบ มีระเบียบวนิ ยั ซอ่ื สตั ย์ สุจริต มีความรับผดิ ชอบ มุ่งมนั่ ในการ
ทำงาน มีวิจารณญาณ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ตระหนักเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ และมีจิต
สาธารณะ
ผลการเรียนรู้
๑. เขียนผลคณู คาร์ทีเซยี นของเซตทีก่ ำหนดให้ได้ และเขยี นความสมั พันธใ์ นรปู เซต
๒. หาโดเมนและเรนจ์ ตัวผกผนั ของความสมั พนั ธ์ และเขียนกราฟ
๓. บอกความสัมพนั ธท์ ี่เป็นฟังก์ชัน บอกชนดิ ของฟังกช์ ัน
๔. หาการดำเนนิ การของฟงั ก์ชนั ฟังกช์ ันประกอบ ฟงั กช์ นั ผกผนั
๕. มีความคิดรวบยอดเกยี่ วกับฟงั กช์ นั เอกซ์โพเนนเชยี ลและฟังก์ชันลอการทิ ึม และเขียนกราฟได้
๖. นำความรู้เกย่ี วกบั ฟงั กช์ ันเอกซโ์ พเนนเชยี ลและฟงั กช์ นั ลอการิทึม ไปใชแ้ ก้ปัญหา
รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๖๘
คำอธบิ ายรายวชิ า ค ๓๐๒๐๓ คณติ ศาสตร์เพิม่ เติม ๓
รายวิชาเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๘๐ ชั่วโมง จำนวน ๒ หน่วยกติ
ศกึ ษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณ และฝึกการแกป้ ญั หาเรอื่ ง
ฟังก์ชันตรโี กณมิติ ฟังก์ชันไซนแ์ ละโคไซน์ ค่าของฟังกช์ ันไซน์และโคไซน์ ฟังก์ชันตรีโกณมิติอ่ืนๆ ฟังก์ชัน
ตรีโกณมิติของมุม การใช้ตารางค่าฟังก์ชันตรีโกณมิติ ฟังก์ชันตรีโกณมิติของผลบวกและผลต่างของจำนวนจริงหรอื
มุม ตวั ผกผันของฟังกช์ ันตรีโกณมิติ เอกลักษณ์และสมการตรโี กณมิติ กฎของโคไซนแ์ ละไซน์ การหาระยะทางและ
ความสูง กราฟของฟงั กช์ นั ตรโี กณมิติ
เมทริกซ์ การบวกและการคูณของเมทริกซ์กับจำนวนจริง การคูณระหว่างเมทริกซ์ การหาเมทริกซ์สลับ
เปลี่ยน ดีเทอร์มิแนนต์ของเมทริ กซ์ ตัวผกผันการคูณของเมทริกซ์ การแก้ระบบสมการเชิงเส้น
โดยใช้เมทรกิ ซ์
เวกเตอร์ในสามมิติ ระบบพิกัดฉากสามมิติ เวกเตอร์ เวกเตอร์ในระบบพิกัดฉาก การบวกและ
การลบของเวกเตอร์ การคูณเวกเตอรด์ ว้ ยสเกลาร์ การหาผลคณู เชงิ สเกลาร์และผลคูณเชิงเวกเตอร์
โดยการจดั กิจกรรม จัดประสบการณ์หรอื สร้างสถานการณท์ ใ่ี กล้ตัวให้ผูเ้ รียนได้ศกึ ษา คน้ ควา้ และคน้ พบด้วย
ตนเอง ด้วยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปและรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล สื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ มีความคิดรวบยอด มี
ความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ สามารถทำงานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบวนิ ัย ซือ่ สตั ย์ สุจริต มีความรบั ผดิ ชอบ มุง่ มน่ั ในการ
ทำงาน มีวิจารณญาณ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ตระหนักเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ และมีจิต
สาธารณะ
ผลการเรียนรู้
๑. มคี วามคดิ รวบยอดเกยี่ วกับฟังกช์ ันตรโี กณมิตแิ ละลักษณะกราฟของฟังก์ชนั ฟงั กช์ ันตรโี กณมติ ิ
๒. นำความรเู้ ก่ยี วกบั ฟังก์ชันตรีโกณมติ ไิ ปประยุกต์ใชใ้ นแก้ปญั หาได้
๓. มีความคดิ รวบยอดเกี่ยวกบั เมทริกซ์
๔. นำความรู้เกี่ยวกับเมทริกซไ์ ปใชแ้ กร้ ะบบสมการเชงิ เส้นได้
๕. มีความคิดรวบยอดเกย่ี วกับเวกเตอรใ์ นสามมิติ
๖. หาผลบวกและลบของเวกเตอร์ ผลคูณเวกเตอร์ด้วยสเกลาร์ และหาผลคูณเชิงสเกลาร์
ผลคูณเชิงเวกเตอร์ได้
๗. นำความรเู้ กีย่ วกบั เวกเตอรใ์ นสามมติ ไิ ปใชใ้ นแกป้ ญั หาได้
รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๖๙
คำอธิบายรายวิชา ค ๓๐๒๐๔ คณติ ศาสตรเ์ พ่ิมเติม ๔
รายวิชาเพม่ิ เติม กล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๘๐ ชั่วโมง จำนวน ๒ หน่วยกติ
ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแกป้ ัญหาเรือ่ ง
จำนวนเชิงซ้อน จำนวนเชิงซ้อน กราฟและค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเชิงซ้อน จำนวนเชิงซ้อน
ในรูปเชิงขั้ว สมการพหุนามตัวแปรเดยี วดีกรีไม่เกินสี่ท่มี ีสมั ประสิทธ์ิเปน็ จำนวนเต็ม
หลกั การนบั เบ้อื งต้น หลกั การบวกและการคณู วธิ เี รียงสบั เปล่ยี น วธิ ีจัดหมู่ ทฤษฎบี ททวินาม
ความน่าจะเปน็ ความน่าจะเปน็ และกฎทสี่ ำคญั บางประการของความน่าจะเป็น
โดยการจดั กจิ กรรม จดั ประสบการณ์หรอื สรา้ งสถานการณ์ทใี่ กล้ตวั ใหผ้ เู้ รยี นได้ศึกษา ค้นคว้า และค้นพบด้วย
ตนเอง ด้วยการปฏิบัติจรงิ ทดลอง สรุปและรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล สื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ มีความคิดรวบยอด มี
ความคดิ ริเร่มิ สร้างสรรค์ สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบ มีระเบยี บวนิ ยั ซื่อสตั ย์ สจุ รติ มีความรับผิดชอบ มงุ่ มนั่ ในการ
ทำงาน มีวิจารณญาณ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ตระหนักเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ และมีจิต
สาธารณะ
ผลการเรียนรู้
๑. มีความคดิ รวบยอดเกย่ี วกับจำนวนเชงิ ซ้อน
๒. นำสมบัตติ า่ งๆ เกี่ยวกบั จำนวนเชิงซ้อนการดำเนนิ การไปใช้แกป้ ญั หาได้
๓. หารากที่ n ของจำนวนเชิงซ้อน เมื่อ n เปน็ จำนวนนบั ท่ีมากกว่า ๑ ได้
๔. นำความรู้เก่ยี วกบั จำนวนเชิงซ้อนไปแก้สมการพหุนามตัวแปรเดยี วดีกรีไมเ่ กนิ สี่ทมี่ ีสมั ประสิทธ์ิ
เป็นจำนวนเต็ม
๕. แกโ้ จทย์ปัญหาโดยใช้หลักการการนับเบือ้ งต้น วธิ เี รยี งสบั เปลี่ยนและวิธจี ดั หมู่
๖. นำความรู้เรอื่ งทฤษฎีบททวนิ ามไปใช้ได้
๗. หาความนา่ จะเปน็ ของเหตกุ ารณ์ทก่ี ำหนดใหไ้ ด้
๘. นำความร้เู กีย่ วกับความนา่ จะเปน็ ไปใช้
รวมท้ังหมด ๘ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๗๐
คำอธบิ ายรายวชิ า ค ๓๐๒๐๕ คณติ ศาสตร์เพมิ่ เติม ๕
รายวชิ าเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๘๐ ช่วั โมง จำนวน ๒ หน่วยกติ
ศึกษา วเิ คราะห์ อธิบาย ฝกึ ทกั ษะการแกป้ ัญหาในสาระต่อไปน้ี
ลำดับและอนุกรม ลำดับจำกัดและลำดบั อนนั ต์ ลำดับเลขคณิตและลำดบั เรขาคณิต ลมิ ิตของลำดับอนนั ต์
อนุกรมจำกดั และอนุกรมอนันต์ อนกุ รมเลขคณิตและอนกุ รมเรขาคณิต ผลบวกของอนุกรมอนนั ต์ การนำความรู้
เกยี่ วกับลำดบั และอนุกรมไปใชใ้ นการแกป้ ญั หามลู คา่ ของเงินและค่ารายงวด
สถติ ิ ข้อมลู ตำแหนง่ ที่ของข้อมลู ค่ากลาง(ฐานนิยม มธั ยฐาน คา่ เฉลยี่ เลขคณติ ) คา่ การกระจาย (พสิ ยั สว่ น
เบ่ียงเบนมาตรฐาน ความแปรปรวน)
โดยการจัดกิจกรรม จัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณท์ ่ใี กลต้ วั ใหผ้ ู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และค้นพบด้วย
ตนเอง ด้วยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปและรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล สื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ มีความคิดรวบยอด มี
ความคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ สามารถทำงานอย่างเป็นระบบ มีระเบยี บวนิ ยั ซ่อื สัตย์ สุจรติ มีความรบั ผดิ ชอบ มุ่งม่นั ในการ
ทำงาน มีวิจารณญาณ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ตระหนักเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ และมีจิต
สาธารณะ
ผลการเรยี นรู้
๑. ระบไุ ดว้ า่ ลำดับทก่ี ำหนดใหเ้ ปน็ ลำดับล่เู ข้าหรอื ลอู่ อก
๒. หาผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเลขคณิตและอนุกมเรขาคณติ ได้
๓. หาลิมติ ของลำดบั อนนั ต์ โดยอาศัยทฤษฎเี ก่ยี วกับลิมติ ได้
๔. หาผลบวกของอนกุ รมอนันตไ์ ด้
๕. เขา้ ใจและนำความรู้เก่ียวกบั ลำดับและอนกุ รมไปใช้ได้
๖. เขา้ ใจและใช้ความรู้ทางสถิติในการนำเสนอขอ้ มูล
๗. แปลความหมายของค่าสถติ เิ พอื่ ประกอบการตดั สนิ ใจได้
๘. เลือกวิธวี ิเคราะหเ์ บือ้ งตันและอธบิ ายผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ได้ถูกตอ้ ง
๙. นำความรู้เรอื่ งการวเิ คราะหข์ ้อมูลไปใช้แกป้ ัญหาบางประการได้
รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๗๑
คำอธบิ ายรายวชิ า ค ๓๐๒๐๖ คณิตศาสตรเ์ พิ่มเติม ๖
รายวชิ าเพม่ิ เติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๘๐ ช่วั โมง จำนวน ๒ หนว่ ยกติ
ศกึ ษา วเิ คราะห์ อธิบาย ฝกึ ทักษะการแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปนี้
การแจกแจงความน่าจะเปน็ เบื้องตน้ การแจกแจงเอกรปู การแจกแจงทวนิ าม การแจกแจงปกติ
แคลคูลสั เบ้ืองต้น ลิมติ ของฟงั ก์ชน่ั ความต่อเน่อื งของฟงั ก์ช่ัน อนพุ นั ธข์ องฟงั ก์ชั่น การหาอนุพนั ธข์ องฟังก์ช่ัน
พีชคณิตโดยใช้สูตรอนุพันธ์ของฟังก์ช่ันคอมโพสิท อนุพันธ์อันดับสูง การประยุกต์ของอนุพันธ์ ปริพันธ์ไม่จำกัดเขต
ปริพันธจ์ ำกัดเขต พน้ื ท่ที ี่ปดิ ล้อมดว้ ยเสน้ โคง้
โดยการจดั กจิ กรรม จัดประสบการณ์หรอื สร้างสถานการณท์ ใี่ กล้ตัวให้ผเู้ รยี นได้ศึกษา ค้นควา้ และค้นพบดว้ ย
ตนเอง ด้วยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปและรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล สื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ มีความคิดรวบยอด มี
ความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์ สามารถทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ มีระเบียบวนิ ยั ซื่อสัตย์ สุจรติ มคี วามรับผดิ ชอบ มุ่งมน่ั ในการ
ทำงาน มีวิจารณญาณ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ตระหนักเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ และมีจิต
สาธารณะ
ผลการเรยี นรู้
๑. หาความนา่ จะเปน็ ของเหตุการณ์ท่เี กิดจากตัวแปรสุ่มท่มี ีการแจกแจงเอกรูปและนำไปใช้แกป้ ญั หาได้
๒. หาความน่าจะเปน็ ของเผตุการณ์ทเ่ี กิดจากตัวแปรสุ่มที่มีการแจกแจงทวินามและนำไปใชแ้ กป้ ญั หาได้
๓. หาความนา่ จะเปน็ ของเหตุการณ์ทีเ่ กิดจากตวั แปรส่มุ ท่ีมกี ารแจกแจงทวินามและนำไปใช้แกป้ ัญหาได้
๔. หาความน่าจะเปน็ ของเหตกุ ารณ์ทีเ่ กดิ จากตัวแปรส่มุ ท่ีมกี ารแจกแจงปกติและนำไปใช้แก้ปัญหาได้
๕. หาลิมติ ของฟังก์ชันทกี่ ำหนดให้ได้
๖. ตรวจสอบความตอ่ เนอ่ื งของฟังก์ชันท่กี ำหนดให้ได้
๗. หาอนพุ นั ธ์ของฟังก์ชันพชี คณิตทกี่ ำหนดให้และนำไปใช้แก้ปญั หาได้
๘. นำความรู้เรอ่ื งอนุพนั ธข์ องฟงั กช์ นั ไปประยุกตใ์ ช้ได้
๙. หาปริพนั ธ์ไม่จำกัดเขตและนำไปใช้แก้ปัญหาได้
๑๐.หาปริพนั ธ์จำกดั เขตบนช่วงท่ีกำหนดให้และนำไปใช้แก้ปญั หาได้
๑๑.หาที่ปิดล้อมด้วยเส้นโค้งบนชว่ งท่ีกำหนดให้ได้
รวมทั้งหมด ๑๑ ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๗๒
คำอธบิ ายรายวชิ า ค ๓๐๒๑1 เสริมทักษะคณติ ศาสตร์ ๑
รายวชิ าเพิ่มเติม โครงการสานฝนั การกีฬาฯ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา 6๐ ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต
ศึกษา และฝึกทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ในเนื้อหาของสาระ ดังนี้
เซต เซต การดำเนินการระหวา่ งเซต การแก้ปญั หาโดยใชเ้ ซต
ตรรกศาสตร์เบอื้ งต้น ประพจน์ การตวั เช่อื ม (นเิ สธ และ หรอื ถา้ ...แล้ว... ก็ตอ่ เมื่อ) การหาคา่ ความจรงิ
ของประพจน์ การสร้างตารางค่าความจรงิ รปู แบบของประพจนท์ สี่ มมลู กัน สัจนิรันดร์ การอา้ งเหตุผล ประโยคเปิด
ตวั บง่ ปริมาณ คา่ ความจรงิ ของประโยคทม่ี ีตวั บ่งปรมิ าณตัวเดยี ว สมมูลและนิเสธของประโยคท่มี ีตวั บ่งปรมิ าณ
จำนวนจริง จำนวนจรงิ ระบบจำนวนจรงิ พหนุ ามตวั แปรเดียว การแยกตวั ประกอบของพหุนาม สมการ
พหนุ ามตวั แปรเดยี ว เศษส่วนของพหุนาม สมการเศษส่วนของพหุนาม การไม่เทา่ กันของจำนวนจริง อสมการพหุ
นามตัวแปรเดียว ค่าสัมบรู ณ์ สมการและอสมการ คา่ สัมบรู ณข์ องพหุนามตัวแปรเดยี ว
โดยจัดประสบการณ์ใหผ้ ูเ้ รยี นได้พฒั นาทกั ษะแบะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ อนั ได้แก่การแก้ปัญหา การ
ส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ การเช่ือมโยง การใหเ้ หตุผลและการคิดสร้างสรรค์
การใช่สอ่ื อปุ กรณ์ เทคโนโลยี และแหล่งข้อมลู และนำประสบการณ์ ตลอดจนทักษะและกระบวนการทีไ่ ด้
ไปใชใ้ นการเรยี นรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชวี ิตประจำวันอยา่ งสรา้ งสรรคร์ วมทงั้ เหน็ คณุ คา่ และมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์
สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบ มีความรอบคอบและมีวิจารณญาน
การวัดและประเมินผล ใชว้ ธิ ีการทห่ี ลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงให้สอคล้องกับเนื้อหาและทักษะท่ี
ต้องการวดั
ผลการเรยี นรู้
๑. เขา้ ใจและใช้ความรเู้ กยี่ วกบั เซต ในการสอ่ื สารและส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์
๒. เขา้ ใจและใชค้ วามรเู้ ก่ยี วกบั ตรรกศาสตรเ์ บ้ืองต้น ในการสอื่ สาร ส่ือความหมาย และอา้ งเหตุผล
๓. เข้าใจจำนวนจริง และใชส้ มบัตขิ องจำนวนจรงิ ในการแก้ปัญหา
๔. แก้สมการและอสมการพหนุ ามตัวแปรดีกรไี มเ่ กินสี่ และนำไปใช้ในการแก้ปญั หา
๕. แก้สมการและอสมการเศษส่วนของพหนุ ามตัวแปรเดีย่ ว และนำไปใช้ในการแกป้ ญั หา
๖. แก้สมการและอสมการค่าสมบรู ณข์ องพหุนามตวั แปรเดียว และนำไปใช้ในการแก้ปญั หา
รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๗๓
คำอธิบายรายวิชา ค ๓๐๒1๒ เสรมิ ทักษะคณติ ศาสตร์ ๒
รายวิชาเพิม่ เติมโครงการสานฝนั การกีฬาฯ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา 6๐ ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต
ศกึ ษา และฝกึ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์อันได้แก่ การแกป้ ัญหา การให้เหตผุ ล การส่อื สาร การ
สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆทางคณิตศาสตร์ และเชื่อมโยง
คณติ ศาสตร์กับศาสตร์อ่นื ๆ และมคี วามคดิ รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ ในสาระตอ่ ไปน้ี
ฟังก์ชนั ความสมั พันธ์ ผลคณู คารท์ ีเซียน ความสมั พนั ธ์ โดเมนและเรนจ์ของความสัมพนั ธ์ ตัวผกผันของ
ความสัมพันธ์ ฟงั ก์ชัน ความหมายของฟงั ก์ชัน การดำเนินการของฟงั กช์ นั ฟังกช์ นั ผกผัน เทคนิคการเขยี นกราฟ
ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็ม รากที่ n ใน
ระบบจำนวนจริงและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์ เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ ฟังก์ชันเอกซ์โพเนน
เชียล ฟังก์ชันลอการิทึม การหาค่าลอการิทึม การเปลี่ยนฐานลอการิทึม สมการเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชัน
ลอการิทึม การประยกุ ต์ของสมการเอกซ์โพเนนเชียลและฟังกช์ ันลอการิทมึ
โดยการจัดกจิ กรรม จดั ประสบการณ์หรอื สรา้ งสถานการณท์ ี่ใกลต้ วั ใหผ้ ้เู รียนได้ศึกษา ค้นคว้า และค้นพบด้วย
ตนเอง ด้วยการปฏิบัติจรงิ ทดลอง สรุปและรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล สื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ มีความคิดรวบยอด มี
ความคิดรเิ ริม่ สร้างสรรค์ สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบ มรี ะเบียบวนิ ัย ซ่อื สตั ย์ สุจริต มีความรับผดิ ชอบ มงุ่ มั่นในการ
ทำงาน มีวิจารณญาณ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ตระหนักเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ และมีจิต
สาธารณะ
ผลการเรียนรู้
๑. เขียนผลคณู คาร์ทเี ซยี นของเซตท่กี ำหนดให้ได้ และเขยี นความสัมพนั ธ์ในรปู เซต
๒. หาโดเมนและเรนจ์ ตัวผกผันของความสัมพันธ์ และเขยี นกราฟ
๓. บอกความสมั พันธ์ท่เี ปน็ ฟงั ก์ชนั บอกชนิดของฟงั ก์ชัน
๔. หาการดำเนนิ การของฟังกช์ ัน ฟงั ก์ชันประกอบ ฟังก์ชนั ผกผนั
๕. มคี วามคดิ รวบยอดเก่ยี วกับฟังก์ชนั เอกซโ์ พเนนเชยี ลและฟงั ก์ชนั ลอการทิ ึม และเขียนกราฟได้
๖. นำความรเู้ กีย่ วกบั ฟังกช์ นั เอกซ์โพเนนเชยี ลและฟงั กช์ นั ลอการทิ ึม ไปใชแ้ ก้ปัญหา
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๗๔
คำอธิบายรายวชิ า ค ๓๐๒1๓ เสริมทกั ษะคณติ ศาสตร์ ๓
รายวชิ าเพ่ิมเติมโครงการสานฝันการกฬี าฯ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา 6๐ ช่วั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ
ศึกษา ฝกึ ทกั ษะการคิดคำนวณ และฝกึ การแก้ปญั หาเรือ่ ง
ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ ฟังกช์ นั ไซน์และโคไซน์ คา่ ของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ ฟังก์ชันตรโี กณมิติอ่ืนๆ ฟังก์ชัน
ตรีโกณมิติของมุม การใช้ตารางค่าฟังก์ชันตรีโกณมิติ ฟังก์ชันตรีโกณมิติของผลบวกและผลต่างของจำนวนจริงหรือ
มุม ตัวผกผันของฟังกช์ ันตรีโกณมิติ เอกลักษณ์และสมการตรโี กณมิติ กฎของโคไซนแ์ ละไซน์ การหาระยะทางและ
ความสงู กราฟของฟังกช์ ันตรโี กณมิติ
เมทริกซ์ การบวกและการคูณของเมทริกซ์กับจำนวนจริง การคูณระหว่างเมทริกซ์ การหาเมทริกซ์สลับ
เปลี่ยน ดีเทอร์มิแนนต์ของเมทริกซ์ ตัวผกผันการคูณของเมทริกซ์ การแก้ระบบสมการเชิงเส้น
โดยใชเ้ มทรกิ ซ์
เวกเตอร์ในสามมิติ ระบบพิกัดฉากสามมิติ เวกเตอร์ เวกเตอร์ในระบบพิกัดฉาก การบวกและ
การลบของเวกเตอร์ การคณู เวกเตอร์ด้วยสเกลาร์ การหาผลคูณเชงิ สเกลาร์และผลคณู เชิงเวกเตอร์
โดยการจดั กจิ กรรม จดั ประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณท์ ่ใี กล้ตัวใหผ้ เู้ รยี นได้ศกึ ษา ค้นคว้า และคน้ พบด้วย
ตนเอง ด้วยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปและรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล สื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ มีความคิดรวบยอด มี
ความคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์ สามารถทำงานอยา่ งเป็นระบบ มรี ะเบยี บวินัย ซ่ือสัตย์ สจุ ริต มีความรับผิดชอบ มุ่งมัน่ ในการ
ทำงาน มีวิจารณญาณ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ตระหนักเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ และมีจิต
สาธารณะ
ผลการเรยี นรู้
๑. มีความคิดรวบยอดเกยี่ วกับฟังก์ชันตรโี กณมติ ิและลกั ษณะกราฟของฟังก์ชันฟังก์ชันตรโี กณมติ ิ
๒. นำความรู้เกีย่ วกับฟงั ก์ชนั ตรีโกณมิตไิ ปประยุกต์ใช้ในแก้ปัญหาได้
๓. มีความคิดรวบยอดเกีย่ วกับเมทริกซ์
๔. นำความรเู้ ก่ียวกับเมทรกิ ซไ์ ปใช้แก้ระบบสมการเชงิ เสน้ ได้
๕. มีความคิดรวบยอดเก่ยี วกบั เวกเตอรใ์ นสามมติ ิ
๖. หาผลบวกและลบของเวกเตอร์ ผลคูณเวกเตอร์ด้วยสเกลาร์ และหาผลคูณเชิงสเกลาร์
ผลคูณเชิงเวกเตอรไ์ ด้
๗. นำความรู้เก่ียวกับเวกเตอรใ์ นสามมิติไปใช้ในแก้ปญั หาได้
รวมท้ังหมด ๗ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๗๕
คำอธบิ ายรายวชิ า ค ๓๐๒1๔ เสริมทักษะคณติ ศาสตร์ ๔
รายวชิ าเพิ่มเติมโครงการสานฝนั การกีฬาฯ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา 6๐ ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคดิ คำนวณ และฝึกการแกป้ ัญหาเรอ่ื ง
จำนวนเชิงซ้อน จำนวนเชิงซ้อน กราฟและค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเชิงซ้อน จำนวนเชิงซ้อน
ในรูปเชิงข้วั สมการพหุนามตัวแปรเดยี วดกี รไี ม่เกินส่ที มี่ ีสัมประสทิ ธเิ์ ป็นจำนวนเต็ม
หลกั การนับเบื้องตน้ หลกั การบวกและการคณู วิธเี รยี งสบั เปล่ยี น วธิ จี ดั หมู่ ทฤษฎีบททวนิ าม
ความน่าจะเปน็ ความนา่ จะเป็น และกฎท่ีสำคญั บางประการของความนา่ จะเป็น
โดยการจดั กิจกรรม จดั ประสบการณห์ รือสรา้ งสถานการณ์ที่ใกลต้ วั ใหผ้ ูเ้ รียนได้ศกึ ษา ค้นควา้ และค้นพบด้วย
ตนเอง ด้วยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปและรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล สื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ มีความคิดรวบยอด มี
ความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ สามารถทำงานอยา่ งเป็นระบบ มรี ะเบยี บวนิ ัย ซ่ือสตั ย์ สุจริต มีความรับผดิ ชอบ มุ่งม่ันในการ
ทำงาน มีวิจารณญาณ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ตระหนักเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ และมีจิต
สาธารณะ
ผลการเรียนรู้
๑. มคี วามคิดรวบยอดเก่ียวกบั จำนวนเชงิ ซ้อน
๒. นำสมบัตติ ่างๆ เกี่ยวกบั จำนวนเชงิ ซ้อนการดำเนินการไปใช้แก้ปญั หาได้
๓. หารากที่ n ของจำนวนเชิงซ้อน เม่อื n เป็นจำนวนนับท่ีมากกว่า ๑ ได้
๔. นำความรู้เก่ยี วกบั จำนวนเชิงซ้อนไปแกส้ มการพหนุ ามตวั แปรเดยี วดีกรีไมเ่ กินสีท่ ี่มสี ัมประสทิ ธิ์
เป็นจำนวนเต็ม
๕. แกโ้ จทยป์ ญั หาโดยใช้หลกั การการนบั เบอ้ื งตน้ วิธีเรียงสบั เปล่ียนและวธิ ีจัดหมู่
๖. นำความรเู้ รือ่ งทฤษฎบี ททวินามไปใช้ได้
๗. หาความน่าจะเปน็ ของเหตกุ ารณท์ ่กี ำหนดให้ได้
๘. นำความรู้เกยี่ วกบั ความนา่ จะเป็นไปใช้
รวมทั้งหมด ๘ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๗๖
คำอธิบายรายวชิ า ค ๓๐๒๐๕ เสรมิ ทกั ษะคณติ ศาสตร์ ๕
รายวชิ าเพิม่ เติมโครงการสานฝนั การกฬี าฯ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ศกึ ษา วเิ คราะห์ อธบิ าย ฝกึ ทักษะการแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปน้ี
ลำดับและอนกุ รม ลำดับจำกัดและลำดบั อนันต์ ลำดบั เลขคณติ และลำดับเรขาคณิต ลิมิตของลำดบั อนันต์
อนุกรมจำกัดและอนุกรมอนนั ต์ อนุกรมเลขคณิตและอนกุ รมเรขาคณิต ผลบวกของอนุกรมอนันต์ การนำความรู้
เกย่ี วกับลำดับและอนุกรมไปใชใ้ นการแก้ปัญหามูลคา่ ของเงินและค่ารายงวด
สถติ ิ ขอ้ มลู ตำแหนง่ ที่ของข้อมูล คา่ กลาง(ฐานนยิ ม มัธยฐาน ค่าเฉล่ยี เลขคณิต) ค่าการกระจาย (พิสัย ส่วน
เบี่ยงเบนมาตรฐาน ความแปรปรวน)
โดยการจัดกจิ กรรม จดั ประสบการณ์หรือสร้างสถานการณท์ ี่ใกลต้ วั ให้ผูเ้ รียนได้ศกึ ษา ค้นควา้ และค้นพบด้วย
ตนเอง ด้วยการปฏิบัติจรงิ ทดลอง สรุปและรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล สื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ มีความคิดรวบยอด มี
ความคดิ รเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ สามารถทำงานอยา่ งเป็นระบบ มีระเบียบวินัย ซอ่ื สตั ย์ สุจรติ มีความรับผดิ ชอบ มงุ่ ม่ันในการ
ทำงาน มีวิจารณญาณ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ตระหนักเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ และมีจิต
สาธารณะ
ผลการเรียนรู้
๑. ระบไุ ด้วา่ ลำดับท่กี ำหนดใหเ้ ปน็ ลำดับลู่เขา้ หรือลู่ออก
๒. หาผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเลขคณติ และอนกุ มเรขาคณิตได้
๓. หาลมิ ติ ของลำดบั อนนั ต์ โดยอาศยั ทฤษฎเี กี่ยวกบั ลมิ ิตได้
๔. หาผลบวกของอนกุ รมอนันตไ์ ด้
๕. เข้าใจและนำความรเู้ กยี่ วกบั ลำดบั และอนุกรมไปใชไ้ ด้
๖. เขา้ ใจและใชค้ วามรู้ทางสถติ ิในการนำเสนอข้อมูล
๗. แปลความหมายของคา่ สถติ ิเพอื่ ประกอบการตดั สนิ ใจได้
๘. เลอื กวิธวี เิ คราะหเ์ บือ้ งตันและอธบิ ายผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ไดถ้ ูกต้อง
๙. นำความรูเ้ รอ่ื งการวเิ คราะห์ขอ้ มูลไปใช้แกป้ ัญหาบางประการได้
รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๗๗
คำอธบิ ายรายวิชา ค ๓๐๒1๖ เสริมทกั ษะคณิตศาสตร์ ๖
รายวชิ าเพ่มิ เติมโครงการสานฝันการกฬี าฯ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา 6๐ ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
ศกึ ษา วิเคราะห์ อธบิ าย ฝกึ ทักษะการแกป้ ญั หาในสาระต่อไปนี้
การแจกแจงความนา่ จะเปน็ เบอื้ งตน้ การแจกแจงเอกรูป การแจกแจงทวินาม การแจกแจงปกติ
แคลคูลัสเบอ้ื งต้น ลิมิตของฟงั ก์ชนั่ ความต่อเนอ่ื งของฟังกช์ นั่ อนุพันธข์ องฟังกช์ นั่ การหาอนพุ นั ธ์ของฟงั ก์ชั่น
พีชคณิตโดยใช้สูตรอนุพันธ์ของฟังก์ชั่นคอมโพสิท อนุพันธ์อันดับสูง การประยุกต์ของอนุพันธ์ ปริพันธ์ไม่จำกัดเขต
ปรพิ ันธ์จำกดั เขต พนื้ ที่ทีป่ ดิ ล้อมดว้ ยเสน้ โคง้
โดยการจดั กิจกรรม จดั ประสบการณ์หรือสร้างสถานการณท์ ่ีใกล้ตัวให้ผ้เู รียนได้ศกึ ษา คน้ ควา้ และคน้ พบด้วย
ตนเอง ด้วยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุปและรายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา
การให้เหตุผล สื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ การนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ มีความคิดรวบยอด มี
ความคดิ รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ สามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบ มรี ะเบียบวนิ ยั ซือ่ สัตย์ สุจรติ มคี วามรบั ผิดชอบ มุ่งม่นั ในการ
ทำงาน มีวิจารณญาณ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ตระหนักเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ และมีจิต
สาธารณะ
ผลการเรยี นรู้
๑. หาความนา่ จะเปน็ ของเหตกุ ารณท์ ี่เกิดจากตัวแปรสุ่มทม่ี ีการแจกแจงเอกรปู และนำไปใช้แก้ปญั หาได้
๒. หาความน่าจะเป็นของเผตุการณท์ ี่เกิดจากตัวแปรสมุ่ ทม่ี กี ารแจกแจงทวนิ ามและนำไปใชแ้ ก้ปญั หาได้
๓. หาความน่าจะเปน็ ของเหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ จากตวั แปรสุ่มที่มกี ารแจกแจงทวนิ ามและนำไปใชแ้ ก้ปญั หาได้
๔. หาความนา่ จะเป็นของเหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ จากตวั แปรสุ่มทม่ี กี ารแจกแจงปกติและนำไปใช้แกป้ ัญหาได้
๕. หาลมิ ิตของฟงั ก์ชันที่กำหนดให้ได้
๖. ตรวจสอบความตอ่ เน่ืองของฟังก์ชนั ท่กี ำหนดให้ได้
๗. หาอนุพนั ธข์ องฟงั กช์ ันพชี คณิตท่กี ำหนดให้และนำไปใช้แก้ปญั หาได้
๘. นำความรู้เร่อื งอนพุ นั ธ์ของฟังก์ชันไปประยุกต์ใช้ได้
๙. หาปรพิ ันธ์ไม่จำกัดเขตและนำไปใช้แก้ปัญหาได้
๑๐.หาปริพันธ์จำกดั เขตบนชว่ งท่ีกำหนดให้และนำไปใช้แก้ปญั หาได้
๑๑.หาท่ีปิดล้อมด้วยเส้นโค้งบนชว่ งที่กำหนดให้ได้
รวมท้ังหมด ๑๑ ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๗๘
รายวิชาพ้นื ฐานและเพมิ่ เตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
รายวิชาพน้ื ฐาน
ว 30101 วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หนว่ ยกิต
ว 30102 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ(เคมี) จำนวน 60 ช่วั โมง 1.5 หน่วยกิต
ว 30103 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ(ฟิสกิ ส)์ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกติ
ว 30104 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต
ว 30105 การออกแบบและเทคโนโลยี จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกิต
ว 30106 วิทยาการคำนวณ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกิต
รายวชิ าเพิ่มเติม ประมวลผลคำ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกิต
ว 30201 โปรแกรมสำนกั งาน จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ
ว 30202 การเขียนโปรแกรมเกมส์ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกิต
ว 30203 คอมพวิ เตอร์สร้างสรรค์ 1 จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ
ว 30204 คอมพิวเตอร์สร้างสรรค์ 2 จำนวน 40 ช่วั โมง 1.0 หนว่ ยกติ
ว 30205 ออฟฟิศออนไลน์ จำนวน 40 ช่ัวโมง 1.0 หน่วยกิต
ว 30206 งานนำเสนอข้อมูล จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ
ว 30207 คอมพิวเตอร์กราฟฟิก จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ
ว 30208 ฟสิ ิกส์ ๑ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต
ว 30211 ฟสิ ิกส์ ๒ จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต
ว 30212 ฟสิ ิกส์ ๓ จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หนว่ ยกติ
ว 30213 ฟสิ ิกส์ ๔ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต
ว 30214 ฟิสกิ ส์ ๕ จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ
ว 30215 เคมี ๑ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกติ
ว 30221 เคมี ๒ จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หนว่ ยกิต
ว 30222 เคมี ๓ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต
ว 30223 เคมี ๔ จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ
ว 30224 เคมี ๕ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต
ว 30225 ชวี วทิ ยา ๑ จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ
ว 30231 ชีววทิ ยา ๒ จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หนว่ ยกติ
ว 30232 ชวี วทิ ยา ๓ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกติ
ว 30233 ชวี วิทยา ๔ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต
ว 30234 ชีววิทยา ๕ จำนวน 60 ชั่วโมง 1.5 หนว่ ยกติ
ว 30235
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๗๙
คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หลักสูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๘๐
คำอธบิ ายรายวชิ า ว ๓0๑๐๑ วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ
รายวชิ าพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔-6 ภาคเรียนท่ี ๑-2 เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ศึกษาวิเคราะห์อธิบายหลักการแบ่งโครงสร้างโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาคของโลก
กระบวนการเกิดภูเขา รอยเลือ่ น รอยคดโคง้ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดทีท่ ำใหเ้ กดิ ปรากฏการณท์ างธรณวี ิทยา ซง่ึ
ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม การลำดับชั้นหิน ซากดึกดำบรรพ์และโครงสร้างทางธรณีวิทยาเพื่ออธิบายประวัติ
ความเป็นมาของพื้นที่ ประโยชน์ของข้อมูลทางธรณีวิทยา ศึกษาวิเคราะห์อธิบายการกำเนิดเอกภพ กาแล็กซี
วิวัฒนาการของดาว การเกิดดาวฤกษ์ความสว่างและอันดับความสว่างของดาวฤกษ์ สีและอุณหภูมิ ผิวของดาวฤกษ์
รวมทั้งระยะห่างของดาวฤกษ์ การกำเนิดระบบสุริยะ ดาวเคราะห์ ดาวหาง และดวงอาทิตย์ เทคโนโลยีอวกาศ
ดาวเทียมและยานอวกาศ การใชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยีอวกาศ ดาวเทยี ม กล้องโทรทรรศน์ และสถานอี วกาศ
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การ
อภิปราย และการสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารและเชื่อมโยง
สิ่งที่เรียนรู้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่
เหมาะสม
รหสั ตัวช้ีวดั
ว ๓.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗, ม.๖/๘, ม.๖/๙, ม.๖/๑๐
ว ๓.๒ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗, ม.๖/๘, ม.๖/๙, ม.๖/๑๐
ม.๖/๑๑, ม.๖/๑๒, ม.๖/๑๓, ม.๖/๑๔
รวมท้ังหมด ๒๔ ตวั ชี้วดั
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๘๑
คำอธิบายรายวิชา ว ๓0๑๐2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ(เคมี)
รายวชิ าพ้นื ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๔-6 ภาคเรยี นท่ี ๑-2 เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษาวิเคราะห์ และอธิบายว่าสารเป็นธาตุหรือสารประกอบ และอยู่ในรูปอะตอม โมเลกุล หรือไอออนจาก
สตู รเคมี เปรยี บเทียบความเหมือนและความแตกต่างของแบบจําลองอะตอมของโบร์กบั แบบจําลองอะตอมแบบกลุ่ม
หมอก ระบุจํานวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนของอะตอม ไอออนที่เกิดจากอะตอมเดียว เขียนสัญลักษณ์
นิวเคลียร์ของธาตุและระบุการเป็นไอโซโทป ระบุหมู่และคาบของธาตุ และระบุว่าธาตุเป็นโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ
กลุ่มธาตุเรพรีเซนเททีฟ หรือกลุ่มธาตุแทรนซิชันจากตารางธาตุ เปรียบเทียบสมบัติการนําไฟฟ้า การให้และรับ
อเิ ลก็ ตรอนระหว่างธาตุในกลมุ่ โลหะกับอโลหะ สืบค้นขอ้ มลู และนําเสนอตวั อยา่ งประโยชน์และอันตรายท่ีเกิดจากธาตุ
เรพรีเซนเททีฟและธาตุแทรนซิชัน ระบุว่าพันธะโคเวเลนต์เป็นพันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรือพันธะสามและระบุจํานวนคู่
อิเล็กตรอนระหว่างอะตอมคู่ร่วมพันธะ จากสูตรโครงสร้าง ระบุสภาพขั้วของสารที่โมเลกุลประกอบด้วย 2 อะตอม
ระบุสารที่เกิดพันธะไฮโดรเจนได้จากสูตรโครงสร้าง อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างจุดเดือดของสารโคเวเลนต์กับแรง
ดึงดูดระหว่างโมเลกุลตามสภาพขั้วหรือการเกิดพันธะไฮโดรเจน เขียนสูตรเคมีของไอออนและสารประกอบไอออนิก
ระบุว่าสารเกิดการละลายแบบแตกตัวหรือไม่แตกตัว พร้อมให้เหตุผลและระบุว่าสารละลายที่ได้เป็นสารละลายอิเลก็
โทรไลต์ หรือนอนอิเล็กโทรไลต์ ระบุสารประกอบอินทรีย์ประเภทไฮโดรคาร์บอนว่าอิ่มตัวหรือไม่อิ่มตัวจากสูตร
โครงสร้าง สืบค้นข้อมูลและเปรียบเทียบสมบัติทางกายภาพระหว่างพอลิเมอร์และมอนอเมอร์ของพอลิเมอร์ชนิดน้ัน
ระบุสมบัติความเปน็ กรด-เบสจากโครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ อธิบายสมบตั กิ ารละลายในตวั ทาํ ละลายชนดิ ต่าง
ๆ ของสารวิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างกับสมบัติเทอร์มอพลาสติกและเทอร์มอเซตของพอลิ
เมอร์ และการนําพอลิเมอร์ไปใช้ประโยชน์ สืบค้นข้อมูลและนําเสนอผลกระทบของการใช้ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ที่มีต่อ
สิ่งมีชีวิตและสิง่ แวดล้อมพรอ้ มแนวทางป้องกนั หรอื แก้ไข ระบุสูตรเคมีของสารตั้งต้น ผลิตภัณฑ์ และแปลความหมาย
ของสัญลักษณ์ในสมการเคมีของปฏิกิริยาเคมี ทดลองและอธิบายผลของ เข้มข้น พื้นที่ผิว อุณหภูมิ และตัว เร่ง
ปฏิกิริยาที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สืบค้นข้อมูลและอธิบายปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ใช้
ประโยชน์ในชีวิตประจําวัน หรือในอุตสาหกรรม อธิบายความหมายของปฏิกิริยารีดอกซ์ อธิบายสมบัติของสาร
กัมมันตรังสี และคํานวณครง่ึ ชวี ิตและปริมาณของสารกัมมันตรังสี สืบค้นข้อมูลและนําเสนอตัวอยา่ งประโยชน์ของสาร
กัมมันตรงั สีและการปอ้ งกนั อันตรายทเ่ี กิดจากกัมมนั ตภาพรังสี
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นขอ้ มูล การอภิปราย การวิเคราะห์เปรียบเทียบ การสำรวจ
ตรวจสอบ การทำนายและการทดลอง เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจ สามารถสือ่ สารสง่ิ ท่ีเรยี นรู้ มคี วามสามารถใน
การตดั สนิ ใจ เหน็ คุณคา่ ของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และ
คา่ นยิ มที่เหมาะสม
รหัสตัวชี้วัด
ว ๒.๑ ม.๔-5/๑, ม.5/๒, ม.5/๓, ม.5/๔, ม.5/๕, ม.5/๖, ม.5/๗,
ม.5/๘, ม.5/๙, ม.5/๑๐, ม.5/๑๑, ม.5/๑๒, ม.5/๑๓, ม.5/๑๔,
ม.5/๑๕, ม.5/๑๖, ม.5/๑๗, ม.5/๑๘, ม.5/๑๙, ม.5/๒๐, ม.5/๒๑,
ม.5/๒๒, ม.5/๒๓, ม.5/๒๔, ม.5/๒๕
รวมทั้งหมด 25 ตวั ชี้วัด
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๘๒
คำอธบิ ายรายวชิ า ว ๓0๑๐3 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ(ฟิสิกส)์
รายวชิ าพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 ภาคเรียนที่ 1-๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษาหลักการพื้นฐานของแรงและการเคลื่อนที่ในเรื่อง ระยะทาง การกระจัดอัตราเร็วความเร็ว ความเร่ง
การเคลื่อนท่แี นวตรง การเคล่ือนท่ีแบบโพรเจกไทลก์ ารเคล่อื นที่แบบวงกลมและการเคลอ่ื นท่ี แบบฮารม์ อนกิ อยา่ งง่าย
แรงท่กี ระทำตอ่ วตั ถใุ นสนามโน้มถ่วงและการเคลอื่ นท่ขี องวัตถุในสนามโน้มถ่วง แรงทก่ี ระทำตอ่ อนภุ าคท่ีมปี ระจุไฟฟ้า
ในสนามไฟฟา้ และสนามแม่เหล็กรวมทั้งแรงนิวเคลียร์ในนิวเคลยี ส และการใช้ประโยชนจ์ ากแรงและการเคลื่อนท่ีแบบ
ต่างๆ ศกึ ษาหลกั การพ้นื ฐานของพลงั งานในเร่ือง องคป์ ระกอบของคล่ืน สมบตั ิของคล่นื เสยี งและการได้ยนิ ความเข้ม
เสยี ง มลพิษทางเสียง การมองเหน็ สีของวตั ถุ ตากบั การเห็นสี การบอดสี แผ่นกรองแสงสี การผสมสารสี การมองเห็นสี
ของวัตถุภายใต้แสงสีต่างๆ การนำไปใช้ประโยชน์ของสารสีและแสงสี สเปกตรัมคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า กัมมันตภาพรงั สี
รังสีในชีวิตประจำวัน ปฏิกิริยานิวเคลียร์พลังงานนิวเคลียร์และการใช้ประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ผลกระทบต่อ
ส่งิ มีชวี ติ และสง่ิ แวดลอ้ ม
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การสำรวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ
ความคดิ มคี วามสามารถในการ สอ่ื สารสิ่งทเี่ รียนรู้การตัดสินใจการนำความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์
จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม
รหัสตวั ช้ีวัด ม.5/๑, ม.5/๒, ม.5/๓, ม.5/๔ , ม.5/๕, ม.5/๖, ม.5/๗, ม.5/๘, ม.5/๙, ม.5/๑๐
ว ๒.๒ ม.5/๑, ม.5/๒, ม.5/๓, ม.5/๔, ม.5/๕, ม.5/๖, ม.5/๗, ม.5/๘, ม.5/๙, ม.5/๑๐,
ว ๒.๓ ม.5/๑๑, ม.5/๑๒
ม.5/๑, ม.5/๒, ม.5/๓, ม.5/๔, ม.5/๕, ม.5/๖, ม.5/๗, ม.5/๘, ม.5/๙, ม.5/๑๐
ว ๒.๒ ม.5/๑, ม.5/๒, ม.5/๓, ม.5/๔, ม.5/๕, ม.5/๖, ม.5/๗, ม.5/๘, ม.5/๙ ม.5/๑๐,
ว ๒.๓ ม.5/๑๑, ม.5/๑๒
รวมทั้งหมด ๒๒ ตัวช้ีวดั
หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๘๓
คำอธบิ ายรายวิชา ว ๓0๑๐๔ วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ
รายวิชาพน้ื ฐาน กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔-6 ภาคเรยี นท่ี ๑-2 เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศึกษา วิเคราะห์ อภิปรายเพื่อเข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ
ส่งิ มีชวี ิตและ ความสมั พันธร์ ะหว่างส่ิงมชี วี ิตกับส่ิงมีชีวติ ต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลง
แทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไข ปัญหาสง่ิ แวดล้อมรวมทัง้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน
เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของ
โครงสรา้ ง และหนา้ ที่ของระบบตา่ ง ๆ ของสตั ว์และมนษุ ยท์ ่ีทางานสัมพนั ธก์ ัน ความสมั พันธข์ องโครงสรา้ ง และหน้าท่ี
ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้ง นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ เข้าใจกระบวนการและความสำคัญ
การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความ
หลากหลายทางชีวภาพและววิ ัฒนาการ ของส่งิ มีชีวติ รวมทั้งนำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบคน้ ขอ้ มูล การ
อภปิ รายและอธบิ าย เพื่อใหเ้ กิดการเรยี นรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนำเสนอสื่อสารส่ิงทีเ่ รียนรู้ มคี วามสามารถ
ในการตัดสนิ ใจ มีความตระหนัก รู้คุณค่า และสามารถนำความรูไ้ ปใช้ให้เกดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเองและสง่ิ มชี วี ติ อนื่ มจี ิต
วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านิยมท่ีเหมาะสม
รหัสตวั ช้ีวดั
ว ๑.๑ ม. ๔/๑ , ม. ๔/๒ , ม. ๔ /๓ , ม. ๔ /๔
ว ๑.๒ ม. ๔ /๑, ม. ๔ /๒ , ม. ๔ /๓ , ม. ๔ /๔, ม. ๔ /๕, ม. ๔/๖, ม. ๔ /๗ ,
ม. ๔ /๘ , ม. ๔ /๙, ม. ๔ /๑๐, ม. ๔ /๑๑ , ม. ๔ /๑๒
ว ๑.๓ ม. ๔ /๑, ม. ๔ /๒ , ม. ๔ /๓ , ม. ๔ /๔, ม. ๔ /๕ , ม. ๔/๖
รวมท้ังหมด ๒๒ ตัวช้ีวัด
หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๘๔
คำอธบิ ายรายวชิ า ว ๓0105 การออกแบบและเทคโนโลยี
รายวิชาเพ่ิมเติม กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔-6 ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 4๐ ชั่วโมง จำนวน 1.๐ หนว่ ยกติ
ศึกษาแนวคิดหลักของเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยีที่เกิดข้ึน และความสัมพันธ์
ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น ออกแบบ สร้าง หรือพัฒนาผลงานสำหรับแก้ปัญหาที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมใน
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการบริการโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ซ่ึงใช้ความรู้ ทักษะ และ
เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย
คำนงึ ถึงทรัพย์สินทางปัญญา ใช้ซอฟต์แวรช์ ่วยในการออกแบบและนำเสนอผลงาน
ศึกษาและวิเคราะหสถานการณหรือความตองการที่คํานึงถึงผูใชดวยการคิดเชิงออกแบบ และความรูทางดา
นวิทยาศาสตร คณติ ศาสตร และศาสตรอน่ื ๆ เพ่อื ทำความเขาใจปญหาอยางลึกซึ้ง และรอบดาน เพื่อพัฒนาวิธกี ารแก
ปญหาที่ตรงความตองการ พัฒนาโครงงานเพื่อแกปญหาจากสถานการณที่ตนเองสนใจโดยใชกระบวนการออกแบบ
เชิงวิศวกรรม ศึกษาการพัฒนาผลงาน การสรางประโยชนจากผลงาน และการคุมครองทรัพยสินทางปญญาเพื่อนำ
ความรูไปประยุกตใชในการพัฒนาหรือสรางประโยชนจากผลงานของตนเองและเผยแพรประชาสัมพันธผลงานของ
ตนเองใหเปนท่ีรูจกั และกอใหเกิดประโยชน
ผลการเรียนรู้
ว 4.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4, ม.4/5, ม.5/1
รวมทัง้ หมด 6 ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๘๕
คำอธบิ ายรายวิชา ว ๓0106 วทิ ยาการคำนวณ
รายวชิ าเพิม่ เติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔-6 ภาคเรียนท่ี 1-2 เวลา 4๐ ชัว่ โมง จำนวน 1.๐ หน่วยกติ
ศึกษาหลักการของแนวคิดเชิงคำนวณ การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา การหารูปแบบ การคิดเชิง
นามธรรม ตัวอยา่ งและประโยชนข์ องแนวคิดเชิงคำนวณเพอ่ื แกป้ ัญหาในชีวติ ประจำวัน ประยกุ ต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณ
ในการออกแบบขน้ั ตอนวธิ สี ำหรับแก้ปัญหา การแก้ปญั หาดว้ ยคอมพิวเตอร์ การระบุขอ้ มลู เขา้ ข้อมลู ออก และเงื่อนไข
ของปัญหา การออกแบบขั้นตอนวิธี การทำซ้ำ การจัดเรียงและค้นหาข้อมูล ตัวอย่างการออกแบบขั้นตอนวิธีเพื่อ
แก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การศึกษาตัวอย่างโครงงานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การกำหนดปัญหา ศึกษา วางแผน
ดำเนินงาน สรุปผลและเผยแพรใ่ นการพัฒนาโครงงานท่ีมกี ารบูรณาการรว่ มกบั วิชาอ่ืนและเชือ่ มโยงกับชวี ิตจริง
ศึกษาหลกั การของวิทยาการข้อมลู และหลักการคดิ เชงิ ออกแบบเพ่ือเพิ่มมูลคา่ ให้บริการหรือผลิตภัณฑ์วิธีการ
เก็บข้อมูลและเตรียมข้อมลู การวิเคราะหข์ ้อมลู การประมวลผลข้อมูล เครื่องมือทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการ
ประมวลผลข้อมูล การจัดเก็บข้อมูล การน าเสนอข้อมูล การแปลงข้อมูลให้เป็นภาพการเลอื กใชข้ ้อมูลจากฐานข้อมูล
ขนาดใหญ่ การใช้ประโยชน์จากข้อมลู และตัวอย่างกรณีศึกษา
ศึกษาการใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอและแบ่งปันข้อมลู อย่างปลอดภัยและมีจริยธรรม การสร้างชิ้นงานและ
เผยแพร่ผ่านสื่อต่าง ๆ ที่คำนึงถึงจริยธรรม ลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา และกฎหมาย หลักการของปัญญาประดิษฐ์
และเทคโนโลยีในอนาคต กรณีศึกษาเกี่ยวกบั นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีทีเ่ กี่ยวข้องกบั ชีวิตประจำวัน อาชีพที่เกี่ยวข้อง
กบั งานทางด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศ ตัวอย่างผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลการเรยี นรู้
ว 4.2 ม.4/1, ม.5/1, ม.6/1
รวมทงั้ หมด 3 ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๘๖
คำอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๘๗
คำอธิบายรายวชิ า ว ๓0๒๐๑ ประมวลผลคำ
รายวชิ าเพมิ่ เติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔-6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 4๐ ช่วั โมง จำนวน 1.๐ หน่วยกิต
ศึกษาและฝึกปฏบิ ตั ิการใช้คอมพวิ เตอร์ การเปิด-ปิดเครื่อง การใชแ้ ป้นพิมพ์ ระบบปฏิบัติการ การจดั ทำ
สำเนาแผ่นบันทกึ การขอดูสารระบบแฟ้มข้อมูล การแก้ไขข้อมลู คำสงั่ ตา่ ง ๆ ในการพิมพ์แฟม้ ข้อมลู เอกสาร การ
จัดเกบ็ แฟม้ ข้อมลู เอกสารและการเรยี กแฟม้ ข้อมูลมาแกไ้ ข การกำหนดรูปแบบเอกสาร การสร้างตาราง การคน้ หา
และการเปล่ยี นแปลงข้อความ คำสงั่ พเิ ศษในการสัง่ พิมพ์ การประยกุ ต์ในงานพมิ พ์เอกสารตา่ ง ๆ
โดยทักษะกระบวนการปฏิบัติ การใช้แป้นพิมพ์ มีทักษะการใช้ระบบปฏิบัติการ จัดทำสำเนา การแก้ไข
ข้อมูล การเรียกใช้คำสั่งต่าง ๆ การสร้างตาราง การกำหนดรูปแบบเอกสาร มีทักษะในการค้นหา การเปลี่ยนแปลง
ขอ้ ความ การสั่งพิมพ์เอกสาร และประยกุ ตใ์ นงานพิมพ์เอกสารต่าง ๆ
ปฏิบัติการใช้โปรแกรมประมวลผลคำ นำไปประยุกต์ใช้ในการจัดทำเอกสารในรูปแบบต่างๆ ในการสร้าง
ชิ้นงานโดยค้นหาข้อมูลจากห้องสมุดหรืออินเทอร์เน็ตมาช่วยในการนำเสนอ โดยใช้กระบวนการทางเทคโนโลยี
สารสนเทศและภูมิปัญญาท้องถิ่น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการฝึกปฏิบัติ กระบวนการออกแบบ
กระบวนการจัดการ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการคิดวิเคราะห์ มีนิสัยรักการทำงาน รักการค้นคว้า มีความ
รับผิดชอบ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข มีสมาธิในการทำงานจนสามารถนำทักษะปฏิบัติงานไปใช้ใน
ชีวติ ประจำวันได้
ผลการเรยี นรู้
๑. มีความรู้เบ้ืองต้นและสามารถเรยี กใช้งานโปรแกรม Microsoft Word
๒. สามารถใช้คำส่งั ในการสรา้ งและจัดแตง่ เอกสารได้
๓. สามารถใช้คำส่ังในการแทรกรูปภาพและวาดรูปร่างได้
๔. สามารถใช้คำสง่ั ในการสรา้ งตารางและจัดการเกย่ี วกบั ตารางได้
๕. สามารถพิมพง์ านเอกสารออกทางเครื่องพิมพ์ได้
๖. สามารถประยุกตใ์ ชค้ ำสง่ั ต่าง ๆ เพื่อประมวลผลคำในการสร้างชิ้นงานได้
รวมทง้ั หมด 6 ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๘๘
คำอธบิ ายรายวชิ า ว ๓0๒๐2 โปรแกรมสำนักงาน
รายวชิ าเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๔-6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 4๐ ชัว่ โมง จำนวน 1.๐ หน่วยกิต
ศกึ ษาความรพู้ ืน้ ฐานในการใช้โปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word) ในการสร้างเอกสาร รายงาน
ตาราง นำเสนอผลงานผา่ นทางขอ้ ความและรูปภาพ รวมทง้ั โปรแกรมการคำนวณ (Microsoft Excel) ในการสร้าง
แผน่ งาน ตาราง นำเสนอแผนภูมแิ ละใชส้ ูตรหรือฟังก์ชัน่ ในการคำนวณ เพ่ือใชใ้ นการทำงานต่างๆ
โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทำงานท่ีมุ่งเน้นการฝกึ วิธีการทำงานอย่างสม่ำเสมอ เป็นรายบุคคล และการ
ทำงานเป็นกลุ่ม มที กั ษะกระบวนการในการสร้างสรรค์ ทำงานด้วยความม่งุ มนั่ ขยนั อดทน ซอ่ื สตั ย์ เสียสละ มี
ระเบียบวินยั ทำงานตามข้นั ตอนมีจติ สาธารณะ เหน็ คณุ ค่าภูมิปญั ญาท้องถ่ินและใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด ค้มุ ค่า
นำหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาเปน็ แนวทางในการปฏิบตั ิงาน ในการเรยี นรู้ พร้อมท้ังสอดแทรกมาตรฐาน
อุตสาหกรรมเพื่อนำไปใชใ้ นการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข ในฐานะพลเมืองของประชาคมอาเซียนและสงั คมโลก
ผลการเรียนรู้
๑. มีความรูค้ วามเขา้ ใจในความหมาย,ประโยชนข์ องโปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word 2013)
๒. มีความรูค้ วามเข้าใจในการใช้งานโปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word 2013)
๓. มีความรูค้ วามเขา้ ใจในส่วนประกอบของโปรแกรม
๔. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในการสร้างไฟล์เอกสาร
๕. มีความรคู้ วามเขา้ ใจในการจดั การกบั ไฟล์เอกสาร
๖. มีความรคู้ วามเข้าใจในการพิมพ์ แก้ไข และตั้งคา่ หน้ากระดาษ
๗. มีความรู้ความเข้าใจในการตกแตง่ ไฟล์เอกสาร
๘. มีความรู้ความเข้าใจในความหมาย คณุ สมบัติของโปรแกรมสเปรตชีดหรอื ตารางคำนวณ
๙. มีความรคู้ วามเขา้ ใจในการสร้างแผ่นงาน
๑๐.มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในการสร้างและตกแตง่ ตารางงาน
๑๑.มคี วามรคู้ วามเข้าใจในการจดั การแผน่ งานและตาราง
๑๒.มคี วามรคู้ วามเข้าใจในการใช้สตู รคำนวณเบื้องตน้
๑๓.มคี วามรูค้ วามเข้าใจในการใช้ฟงั กช์ ัน
๑๔.มีความรคู้ วามเขา้ ใจในการสร้างแผนภูมิ (Chart) อยา่ งง่าย
รวมท้ังหมด 14 ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๘๙
คำอธิบายรายวชิ า ว ๓0๒๐3 การเขยี นโปรแกรมเกมส์
รายวชิ าเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔-6 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 4๐ ชวั่ โมง จำนวน 1.๐ หนว่ ยกติ
ฝึกทักษะการสร้างเกมคอมพวิ เตอร์ดว้ ยโปรแกรม Construct 2 การใชง้ านโปรแกรม Construct 2 เบอื้ งตน้
ความรเู้ บ้อื งต้นเกย่ี วกบั การสร้างเกมคอมพวิ เตอรค์ อมพิวเตอร์ ส่วนประกอบและเครื่องมอื การใช้งานพนื้ ฐานใน
โปรแกรม Construct 2 การสรา้ งเกมคอมพิวเตอร์แบบคลิกเลือกและเกมประเภท Platform และการประยุกตแ์ ละ
การสง่ ออก สรา้ งชนิ้ งานโดยค้นหาขอ้ มลู จากหอ้ งสมดุ หรืออินเทอร์เนต็ มาชว่ ยในการสรา้ งเกมคอมพวิ เตอร์ โดยใช้
กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศและภูมิปัญญาท้องถิ่น กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด กระบวนการฝึก
ปฏบิ ตั ิ กระบวนการออกแบบ กระบวนการจดั การ กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการคดิ วเิ คราะห์
มีนสิ ยั รักการทำงาน รักการค้นคว้า มคี วามรบั ผดิ ชอบ ทำงานร่วมกบั ผู้อ่นื ได้อย่างมีความสขุ มสี มาธิในการ
ทำงานจนสามารถนำทักษะปฏบิ ตั งิ านไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้
ผลการเรยี นรู้
๑. บอกความหมายของเกมคอมพิวเตอร์ได้
๒. จำแนกประเภทของเกมคอมพวิ เตอร์ได้
๓. บอกองค์ประกอบของเกมคอมพิวเตอร์
๔. อธิบายขัน้ ตอนในการพัฒนาเกมได้
๕. บอกลกั ษณะและคณุ สมบัติเด่นของโปรแกรม Construct 2
๖. สามารถดาวนโ์ หลด ติดตงั้ และเปิดโปรแกรมได้
๗. สร้างโปรเจกต์ใหม่ได้
๘. อธบิ ายแถบคำส่งั มาตรฐาน (Menu Bar) ได้
๙. อธบิ ายความหมายของตัวแปรได้
๑๐.สามารถสรา้ งงานใหมไ่ ด้
๑๑.สามารถเปดิ ไฟลท์ ี่มอี ยู่แล้วในเคร่อื งได้
๑๒.สามารถบันทึกไฟล์ได้
๑๓.สามารถปดิ โปรแกรมได้
๑๔.ปรบั ขนาด Layout และ Windows Size ได้
๑๕.สร้าง Object หรอื นำเขา้ Object แบบ Sprite
๑๖.ทดสอบรันผลงานได้
๑๗.สรา้ งเกมแนว Platform ได้
๑๘.สรา้ งปุม่ เชอ่ื มโยงไปหนา้ Layout อ่ืนได้
๑๙.กำหนดให้ Sprite หันหนา้ ตามทิศทางลกู ศรซา้ ย-ขวา
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๙๐
๒๐.แทรกเสยี งได้
๒๑.สามารถกำหนดเงือ่ นไขให้กบั เกมได้
๒๒.สร้างหน้า Layout และ Event sheet จบเกมได้
๒๓.สามารถกำหนดเวลาในการเล่นได้
๒๔.ส่งออกไฟล์แบบ HTML5 ได้
ทัง้ หมด ๒๔ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๙๑
คำอธบิ ายรายวิชา ว ๓0๒๐4 คอมพิวเตอร์สร้างสรรค์ 1
รายวชิ าเพ่ิมเติม กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔-6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 4๐ ชัว่ โมง จำนวน 1.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษาและเล็งเห็นความสำคัญของอินเตอร์เน็ตที่มีบทบาทต่อธุรกิจในปัจจุบัน สรุปความเป็นมาของ
อินเตอร์เน็ต บอกวิธีการเชื่อมต่ออินเตอรเ์ น็ตในรูปแบบต่าง ๆได้อย่างถูกต้อง เข้าใจหลักการประยุกต์ใช้อินเตอร์เนต็
เพื่อดำเนินงานต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม อธิบายคำศัพท์สำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ต และ
เว็บเบราเซอร์ (Web Browser)ในการท่องอินเตอร์เน็ตได้ อธิบายถึงปุ่มใช้งานต่าง ๆ บนเว็บ เบราเซอร์
(Web Browser)ได้อย่างถูกต้อง บอกชื่อเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ได้
ฝึกฝนการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตได้ บอกผลดีและผลเสียของอินเทอร์เน็ต สังเกตพฤติกรรมของบุคคลที่ติด
อินเทอร์เน็ตได้ รู้แนวทางในการป้องกันภัยร้ายจากอินเทอร์เน็ต บอกจรรยาบรรณและจริยธรรมในการเข้าใช้งาน
อินเทอร์เนต็ ได้ เห็นความสำคัญต่อพระราชบญั ญัติว่าดว้ ยการกระทำความผิดเกีย่ วกับคอมพิวเตอร์ ทที่ กุ คนต้องศึกษา
และทำความเข้าใจ
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ และมีคุณธรรม จริยธรรม เจตคติที่ดี ในการทำงานเกี่ยวกับการใช้งาน
อนิ เตอรเ์ นต็ เบอ้ื งต้น และใช้เปน็ พน้ื ฐานในการศกึ ษาตอ่ หรือใชเ้ ป็นแนวทางในการประกอบอาชีพได้
ผลการเรียนรู้
๑. มคี วามรพู้ นื้ ฐานเกยี่ วกบั ระบบอินเทอร์เนต็ ทั้งดา้ นฮาร์ดแวร์ (Hardware) และ ซอฟต์แวร์ (Software)
๒. สามารถศึกษาแหล่งข้อมลู ตา่ ง ๆ จากเว็บไซต์ในอนิ เทอร์เน็ตได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
๓. มที ักษะการสบื คน้ ข้อมลู ที่ถูกต้อง
๔. มีจรรยาบรรณในการใชง้ านอินเทอรเ์ นต็
๕. สามารถนำข้อมลู ต่าง ๆ ทไ่ี ด้จากการสืบค้นข้อมลู มาประยกุ ต์ใชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ นการเรียนกลุม่ สาระ
การเรียนรตู้ ่าง ๆ ได้
รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๙๒
คำอธบิ ายรายวชิ า ว ๓0๒๐5 คอมพิวเตอรส์ ร้างสรรค์ 2
รายวชิ าเพิ่มเติม กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔-6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 4๐ ชวั่ โมง จำนวน 1.๐ หน่วยกิต
ศกึ ษาและมีทักษะการใช้เป็นเคร่ืองมือต่าง ๆ ในการคน้ หาข้อมลู บนเว็บไซต์ สามารถคน้ หาข้อมูลตา่ ง ๆในวิกิ
พเี ดีย และสบื ค้นข้ันสูงบนอนิ เทอร์เน็ตได้ ลงทะเบยี นเพื่อใช้งาน และส่ือสารดว้ ยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล์ได้
อธิบายความหมายของบล็อก (Block) และสามารถสร้างบล็อก (Block) ส่วนตัวด้วยตนเองได้ เข้าถึงเพื่อใช้งานสื่อ
ออนไลน์ชนดิ ต่าง ๆได้
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ และมีคุณธรรม จริยธรรม เจตคติที่ดี ในการทำงานเกี่ยวกับการใช้งาน
อนิ เตอร์เน็ตเบือ้ งต้น และใชเ้ ปน็ พื้นฐานในการศึกษาตอ่ หรอื ใชเ้ ปน็ แนวทางในการประกอบอาชีพได้
ผลการเรยี นรู้
๑. มีทักษะการสบื คน้ ข้อมูลข้นั สงู
๒. อธบิ ายความหมาย และมีทกั ษะการสร้างเว็บบล็อก (Web Block) ได้อยา่ งถูกต้อง
๓. มที กั ษะการเขา้ ถงึ งานสื่อออนไลนช์ นดิ ต่าง ๆ ในชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
๔. สามารถนำความรู้และทักษะการใช้งานต่าง ๆ บนอนิ เทอร์เนต็ มาประยุกต์ใชใ้ หเ้ กิดประโยชนใ์ น
ชวี ิตประจำวนั ได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
รวมท้งั หมด 4 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๙๓
คำอธิบายรายวชิ า ว ๓0๒06 ออฟฟิศออนไลน์
รายวิชาเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔-6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 4๐ ช่วั โมง จำนวน 1.๐ หนว่ ยกิต
ศกึ ษาและปฏิบัติการใช้ Google Drive เก็บข้อมลู ออนไลน์บนอนิ เทอรเ์ นต็ แบบฟรๆี เปิดไฟลเ์ อกสารท่ีเกบ็
ไว้ แชร์ไฟลใ์ หก้ ับผอู้ ่ืน เปน็ ต้น การใช้ Google Docs จัดทำเอกสารเพือ่ งานอาชพี โดยเน้นการพมิ พเ์ อกสารดว้ ยระบบ
สัมผัสและตรวจแกไ้ ขความถกู ต้อง การใช้ Google Sheets ทำการเพื่องานอาชีพโดยเน้นการคำนวณ เช่น ตน้ ทุน
ราคาสินคา้ บญั ชรี ายการวัสดุ ฯลฯ การใช้ Google slide เน้นการสร้างกราฟและตารางและสร้างภาพเคล่อื นไหว
การใช้อินเทอร์เน็ตสบื ค้นข้อมูลเพอื่ งานอาชีพและการรบั -สง่ จดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์ จริยธรรมและความรบั ผดิ ชอบใน
การใช้คอมพิวเตอรก์ บั ระบบสารสนเทศ โดยใช้กระบวนการการทำงาน กระบวนการสืบค้น กระบวนการปฏบิ ตั ิ
กระบวนการคดิ วเิ คราะห์
มีระเบียบวนิ ัย ตรงต่อเวลา มคี วามรับผดิ ชอบ มีความซื่อสตั ย์ ใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น กระตือรือร้น มคี วามม่งุ ม่ันใน
การทำงาน สามารถทำงานรว่ มกับผ้อู นื่ ไดอ้ ย่างมีความสุขและนำทักษะปฏิบตั ิงานไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้
ผลการเรยี นรู้
1. มีความรคู้ วามเขา้ ใจองคป์ ระกอบและหลกั การทำงานพ้นื ฐานของ Google Drive
2. มคี วามรคู้ วามเข้าใจในการใชโ้ ปรแกรม Google Docs สร้างเอกสาร
3. มีความร้คู วามเข้าใจในการสร้างตารางคำนวณด้วย Google Sheets
4. มีความรคู้ วามเขา้ ใจในการสร้างกราฟและตารางดว้ ย Google Sheet
5. มคี วามเข้าใจสว่ นประกอบของโปรแกรม Google Slide
6. มคี วามรู้ความเขา้ ใจในการจดั การและปรับแต่งแผ่นสไลด์
7. มีความรคู้ วามเข้าใจในการใช้งานอนิ เทอรเ์ นต็
รวมทัง้ หมด ๗ ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๙๔
คำอธบิ ายรายวชิ า ว ๓0๒07 งานนำเสนอข้อมลู
รายวิชาเพิม่ เติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔-6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 4๐ ช่วั โมง จำนวน 1.๐ หน่วยกิต
ศึกษา ความหมาย ขอบข่าย และประเภท ของงานนำเสนอข้อมูล ฝึกทักษะการนำเสนองานดว้ ยโปรแกรม
Microsoft PowerPoint การใชง้ านโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 เบ้ืองตน้ การเรยี กใชโ้ ปรแกรม สร้าง
งานนำเสนอผลงาน การเรียกดูสไลด์ในมุมมองต่างๆ การใส่ข้อความลงในสไลด์ การตกแต่งข้อความ การจัดการกับ
ข้อความในภาพนิ่ง จัดการกับรายการย่อย การจัดการกับรูปร่างและการสร้างตาราง การแทรกรูปภาพ แทรกไฟล์
เสียง และไฟล์ การสร้างอักษรศลิ ป์ แผนผงั องค์กร และแผนภมู ิ การออกแบบงานนำเสนอ และเทคนคิ การจัดการ
ภาพนิ่ง การเชื่อมโยง การนำเสนอและการพิมพ์ภาพนิ่ง สร้างชิ้นงานโดยค้นหาข้อมูลจากห้องสมุดหรือ
อินเทอรเ์ นต็ มาชว่ ยในการนำเสนอ
โดยใช้กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศและภูมิปัญญาท้องถิ่น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด
กระบวนการฝึกปฏบิ ัติ กระบวนการออกแบบ กระบวนการจดั การ กระบวนการแกป้ ญั หา กระบวนการคิดวิเคราะห์ มี
นิสัยรักการทำงาน รักการค้นคว้า มีความรับผิดชอบ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข มีสมาธิในการทำงานจน
สามารถนำทักษะปฏบิ ัตงิ านไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้
ผลการเรียนรู้
๑. ความหมายและความสำคญั ของการนำเสนอข้อมลู
๒. สามารถใช้งานโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 เบ้อื งตน้ ได้อยา่ งถูกต้อง
๓. สามารถใช้คำสง่ั ในการจดั การกับข้อความในภาพนิ่งได้
๔. สามารถใช้คำสง่ั ในการจัดการรูปรา่ งในภาพน่ิงได้
๕. สามารถใช้คำสง่ั ในการสร้างตารางและจัดการเกี่ยวกบั ตารางได้
๖. สามารถใชค้ ำสง่ั ในการแทรกรูปภาพ เสียง และจดั การไฟล์รปู ภาพได้
๗. สามารถใชค้ ำสงั่ ในการแทรกไฟลม์ ลั ติมเี ดยี และจัดการไฟล์มลั ติมีเดียได้
๘. สามารถใช้คำสง่ั ในการสร้างอักษรศลิ ป์ ผงั องค์กร และแผนภูมไิ ด้
๙. สามารถใช้คำสั่งในการออกแบบงานและจดั การภาพน่งิ ได้
๑๐.สามารถใช้คำสั่งการเชื่อมโยงภาพนิ่งได้
๑๑. สามารถใชค้ ำสงั่ พิมพภ์ าพน่ิงออกทางเครือ่ งพิมพ์ได้
๑๒. สามารถใชค้ ำสงั่ การเชอ่ื มโยงภาพน่ิงได้
๑๓. สามารถใช้คำส่ังในการนำเสนอภาพน่งิ ได้
๑๔. สามารถใชค้ ำสงั่ ในการพิมพ์ภาพน่ิงออกทางเครื่องพิมพไ์ ด้
๑๕. สามารถประยุกต์ใชค้ ำสงั่ ต่างๆ เพ่ือสรา้ งชิ้นงานอย่างง่ายได้
รวมทั้งหมด 15 ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๙๕
คำอธบิ ายรายวชิ า ว ๓0๒08 คอมพิวเตอรก์ ราฟฟกิ
รายวิชาเพ่มิ เติม กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔-6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 4๐ ชว่ั โมง จำนวน 1.๐ หน่วยกิต
ศึกษาความเป็นมาและความหมาย คณุ สมบัติ บทบาทและความสำคัญของงานกราฟิก การออกแบบ การ
สร้างภาพหรอื รูปกราฟิกพนื้ ฐาน การใช้เทคนิคต่างๆ สำหรบั การแตง่ ภาพ และการใช้ซอฟตแ์ วร์ในการสร้างงาน
ปฏิบัติการสร้างภาพด้วยโปรแกรมกราฟิก ออกแบบ ตกแต่งผลงานเพื่อนำไปใช้กับงานนำเสนอ งาน
ออกแบบและเวบ็ ไซต์ และงานด้านศิลปะอื่น ๆ
เพอื่ ให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจและมที ักษะเกี่ยวกบั การสรา้ งงานกราฟิกสามารถนำไปประยุกต์ใชอ้ ยา่ งมีจติ สำนึก
และรบั ผดิ ชอบ
ผลการเรียนรู้
๑. รู้และเข้าใจบทบาทและประโยชน์ของงานคอมพวิ เตอร์กราฟกิ
๒. ร้แู ละเข้าใจหลักการออกแบบกราฟิกและปกหนงั สอื
๓. นักเรยี นสามารถใช้เครื่องมือพน้ื ฐานของโปรแกรม Photoshopได้
๔. นกั เรยี นสามารถสรา้ งงานกราฟกิ ได้
๕. นกั เรยี นสามารถปรบั แตง่ ภาพได้ดว้ ยตนเอง
๖. นักเรยี นสามารถใช้โปรแกรม Photoshop ออกแบบปกหนังสือได้
๗. นกั เรยี นสามารถสรา้ งกราฟิกสำหรบั เวบ็ ไซตไ์ ด้
๘. นกั เรียนสามารถนำเสนอผลงานสู่สาธารณะได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
รวมท้งั หมด ๘ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)