The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสุวรรณไพบูลย์ปลาย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by G_ Nuyah, 2020-12-21 22:18:24

หลักสูตรสุวรรณไพบูลย์ปลาย

หลักสูตรสุวรรณไพบูลย์ปลาย

๒๔๖

คำอธบิ ายรายวชิ า อ ๓๐๒๐๒ ภาษาอังกฤษอ่าน-เขยี น ๒

รายวิชาเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

พัฒนาทักษะทางด้านการเขียนและการอา่ น เพื่อการสื่อสาร โดยใช้คำ วลี สำนวน ประโยค และข้อความที่
ซับซ้อนยิ่งขึ้น และนำไปใช้อย่างมีวิจารณญาณ ในเชิงตีความ วิเคราะห์ แสดงความคิดเห็น ในรูปแบบการสนทนา
แสวงหาความรูท้ ี่เชื่อมโยงกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น เสนอความคิดเห็นในเหตุการณ์ต่าง ๆจากการอ่านและฟัง ด้วย
ภาษาเขียนที่สละสลวย เกี่ยวกับกิจกรรม สินค้าในท้องถิ่น และใช้ภาษาอังกฤษจากสื่อการเรียนรู้ชนิดตา่ ง ๆ ได้อย่าง
เหมาะสมท้ังในสถานศึกษาและชุมชน รักความเป็นไทย และมีจติ สาธารณะ

ผลการเรียนรู้
๑. สามารถอ่านออกเสยี งคำศัพท์ วลี สำนวน ประโยคต่าง ๆทไี่ ม่ซับซอ้ น
๒. อ่านจบั ใจความ ตีความ วเิ คราะห์ และแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับข้อความ ข้อมูลข่าวสารตา่ ง ๆ
๓. อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ ได้ถูกต้องตามหลักการอา่ น
๔. เขียนกรอกข้อมลู ส่วนตัวและข้อมูลตา่ ง ๆตามสถานการณ์
๕. เขยี นเพ่ือขอและใหข้ ้อมูลเก่ียวกับสิง่ ตา่ ง ๆท่ีอ่านได้จากส่อื
๖. เขยี นประโยคและข้อความให้สัมพันธก์ ับสอ่ื ทไี่ ม่ใชค่ วามเรียงรูปแบบต่าง ๆได้

รวมทงั้ หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)

๒๔๗

คำอธิบายรายวชิ า อ ๓๐๒๐๓ ภาษาองั กฤษอา่ น-เขยี น ๓

รายวิชาเพิม่ เติม กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ

ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

ศึกษาคำศัพท์ วลี สำนวน ประโยคอยา่ งง่าย ๆ ในข้อความรปู แบบต่าง ๆ โดยการอ่านพรอ้ มกบั ทำความ
เขา้ ใจ ตีความ วิเคราะห์และแสดงความคิดเหน็ ต่อข้อความทอ่ี ่าน เรียนรรู้ ูปแบบการเขยี น ฝกึ เขียนประโยค ข้อความท่ี
หลากหลาย กรอกข้อมูล นำเสนอขอ้ มูล เพื่อฝกึ ทักษะการเขยี น เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย ใช้ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความรเู้ พ่ิมเตมิ กับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อนื่

ผลการเรยี นรู้

๑. สามารถอา่ นออกเสยี งคำศัพท์ วลี สำนวน ประโยคต่าง ๆทไี่ ม่ซับซ้อน
๒. สามารถอ่านออกเสยี งข้อความ ขา่ ว ประกาศและบทร้อยกรอง
๓. สามารถปฏบิ ตั ติ ามคำส่ัง คำแนะนำ คำช้แี จง คำอธบิ ายจากสื่อในระดบั พ้ืนฐาน
๔. สามารถเข้าใจบทอา่ นทัง้ ทเ่ี ป็นความเรียงและไม่ใชค่ วามเรียง
๕. เขยี นคำศัพท์ วลี สำนวน และประโยคไดถ้ ูกต้องตามหลักการเขยี น
๖. เขยี นกรอกข้อมูลสว่ นตัวและขอ้ มูลตา่ ง ๆตามสถานการณ์
๗. เขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับส่งิ ต่าง ๆท่ีอา่ นได้จากสอื่
๘. เขียนสรุปใจความสำคัญจากส่ือท่ีอา่ น
๙. คน้ ควา้ รวบรวม สรปุ ความรู้ ขอ้ มลู ข้อเทจ็ จรงิ จากกลุ่มสาระการเรยี นรู้อืน่

รวมทง้ั หมด ๙ ผลการเรยี นรู้

หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๔๘

คำอธิบายรายวิชา อ ๓๐๒๐๔ ภาษาองั กฤษอา่ น-เขยี น ๔

รายวชิ าเพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ

ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต

อ่าน เขียน เข้าใจ ตีความ คำศัพท์ วลี สำนวน ประโยคในข้อความรปู แบบตา่ ง ๆ จากสื่อ แสดงความคิดเห็น
เกย่ี วกับ คำช้ีแจง คำบรรยาย คำแนะนำ ขอ้ ความ ข่าวสาร บทความ เร่อื งส้ัน บนั เทงิ คดี จากสอื่ ท่ีเปน็ ความเรียงและ
ไม่ใช่ความเรียง เขียนกรอกข้อมูล สรุปข้อมูล นำเสนอข้อมูล เพื่อฝึกทักษะการเขียนที่ซับซ้อนขึ้น เข้ าใจ
ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและวัฒนธรรมไทย ใช้ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม
กบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ น่ื ๆ

ผลการเรียนรู้
๑. สามารถอ่านออกเสียงคำศัพท์ วลี สำนวน ประโยคต่าง ๆ ที่ซบั ซอ้ นขึ้น
๒. อา่ นออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรอกจากสื่อต่าง ๆ
๓. เขา้ ใจ และสามารถปฏบิ ัติตามคำชีแ้ จง คำบรรยาย คำแนะนำ ขอ้ ความข่าวสาร
๔. สามารถเข้าใจบทอ่านทั้งทีเ่ ป็นความเรียงและไม่ใช่ความเรียงจากส่อื ทั้งหลาย
๕. เขียนกรอกข้อมูลส่วนตวั และข้อมลู ต่าง ๆตามสถานการณ์
๖. เขียนเพ่ือขอและใหข้ ้อมูล แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สง่ิ ต่าง ๆทอ่ี า่ นได้จากสื่อ
๗. เขียนสรปุ ใจความสำคัญเก่ยี วกับขา่ ว เหตกุ ารณ์ ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม
๘. คน้ คว้ารวบรวม สรุปข้อมลู จากการหาความรู้เพิ่มเติมจากกลุม่ สาระการเรยี นรู้อ่นื
๙. เผยแพร่ ประชาสัมพนั ธข์ อ้ มูลข่าวสารของโรงเรียน ชมุ ชนและท้องถิ่น

รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรียนรู้

หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๔๙

คำอธิบายรายวิชา อ ๓๐๒๐๕ ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน ๕

รายวชิ าเพม่ิ เติม กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

อ่าน เขียน เขา้ ใจ ตคี วาม คำศัพท์ วลี สำนวน ประโยคในข้อความ ข่าว ประกาศ รปู แบบตา่ ง ๆ จากส่ือ
แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั คำชแ้ี จง คำบรรยาย คำแนะนำ ข้อความ ข่าวสาร บทความ เร่ืองส้ัน บันเทิงคดี จากส่ือท่ี
เป็นความเรยี งและไมใ่ ช่ความเรยี ง เขียนกรอกข้อมลู สรปุ ข้อมูล นำเสนอข้อมลู ประสบการณ์ สถานการณ์ พร้อมทั้ง
เขียนบรรยายการวิเคราะห์ แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล เพื่อฝึกทักษะการเขียนที่ซับซ้อนขึ้น เข้าใจ
ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและวัฒนธรรมไทย ใช้ภาษาอังกฤษในการค้นคว้า แสวงหาความรู้
เพิ่มเติมกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อนื่ ๆ

ผลการเรยี นรู้
๑. สามารถอ่านออกเสียงคำศัพท์ วลี สำนวน ประโยคตา่ ง ๆ ที่ซบั ซ้อนขนึ้
๒. อ่านออกเสยี งข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรอกจากสือ่ ตา่ ง ๆ
๓. เข้าใจ และสามารถปฏิบัตติ ามคำชี้แจง คำบรรยาย คำแนะนำ ขอ้ ความขา่ วสาร
๔. สามารถเข้าใจบทอา่ นทัง้ ท่ีเป็นความเรียงและไม่ใช่ความเรียงจากสอ่ื ท้ังหลาย
๕. เขียนกรอกข้อมลู สว่ นตัวและขอ้ มูลตา่ ง ๆตามสถานการณ์
๖. เขยี นเพื่อขอและใหข้ ้อมูล แสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับส่ิงต่าง ๆท่ีอ่านไดจ้ ากสื่อ
๗. เขยี นสรปุ ใจความสำคัญเกยี่ วกับขา่ ว เหตกุ ารณ์ ท่อี ยู่ในความสนใจของสงั คม
๘. ค้นควา้ รวบรวม สรุปข้อมลู จากการหาความรู้เพิ่มเตมิ จากกลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื
๙. เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ขอ้ มลู ข่าวสารของโรงเรยี น ชมุ ชนและท้องถิ่น

รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรียนรู้

หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)

๒๕๐

คำอธิบายรายวชิ า อ ๓๐๒๐๖ ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน ๖

รายวชิ าเพิม่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

พัฒนาทักษะด้านการอ่าน เขียน ตีความ คำศัพท์ วลี สำนวน ประโยคในข้อความ ข่าว ประกาศ รูปแบบต่าง
ๆ จากส่อื แสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั คำชีแ้ จง คำบรรยาย คำแนะนำ ขอ้ ความ ข่าวสาร บทความ เรือ่ งสั้น บันเทิงคดี
จากส่อื ทเ่ี ป็นความเรียงและไม่ใช่ความเรียง เขียนกรอกข้อมูล สรุปข้อมลู นำเสนอขอ้ มูล ประสบการณ์ สถานการณ์
พร้อมทั้งเขียนบรรยายการวิเคราะห์ แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล อธิบาย วิถีชีวิต ความคิด ความเช่ือ
ที่มาของขนบธรรมเนียม ประเพณีของเจ้าของภาษากับของไทย โดยใช้ภาษาเขียนที่สละสลวยและถูกต้อง เพื่อฝึก
ทักษะการเขียนที่ซับซ้อนขึ้น เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและวัฒ นธรรมไทย ใช้
ภาษาองั กฤษในการคน้ คว้า แสวงหาความร้เู พ่ิมเตมิ กับกล่มุ สาระการเรียนรอู้ ่ืน ๆ เขา้ ร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทาง
ภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม

ผลการเรยี นรู้
๑. จับใจความสำคญั วิเคราะหค์ วาม สรปุ ความ ตคี วาม และแสดงความคิดเห็นจากการฟงั และการอา่ นเรื่องที่
เป็น บทความ สารคดแี ละบนั เทิงคดีได้
๒. เขยี นบรรยาย อธบิ ายใหข้ ้อมูล เปรียบเทียบ แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ประเด็น/ข่าว/เหตุการณท์ ่ีฟังและอ่าน
ได้
๓. อธบิ ายและเขียนประโยคและขอ้ ความสมั พันธก์ ับสอื่ ที่ไม่ใช่ความเรยี งได้
๔. เขยี นแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับ กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ท้ังในทอ้ งถ่ินและสังคม และโลกได้
๕. อธิบายเปรียบเทยี บความแตกตา่ งระหวา่ งโครงสรา้ งประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิตและบทกลอน
ของภาษาอังกฤษและภาษาไทยได้
๖. วเิ คราะห์ /อธบิ ายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างวิถีชวี ิต ความเช่ือ และวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษา กับ ภาษาไทยได้
๗. ใชภ้ าษาอังกฤษในการสืบคน้ ความรูข้ ้อมูล จากสือ่ และแหล่งเรียนรูต้ า่ ง ๆในการศึกษาต่อและประกอบ
อาชพี
๘. เผยแพรป่ ระชาสัมพันธ์ ขอ้ มูลขา่ วสารของโรงเรียน ชมุ ชน ทอ้ งถน่ิ และประเทศในรปู แบบต่าง ๆ ได้

รวมทั้งหมด ๘ ผลการเรยี นรู้

หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๕๑

คำอธิบายรายวิชา อ ๓๐๒๐๗ ภาษาอังกฤษฟัง-พูด ๑

รายวชิ าเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

ศึกษาเรียนรู้การฟังและการพูดจากคำสั่งคำขอร้องคำแนะนำหรือจากสื่อประเภทต่างๆในแง่มุมเกี่ยวกับ
ตนเองและส่ิงแวดล้อมใกล้ตัวพรอ้ มเรียนรู้และสะลมคำศัพท์จากการฟงั และการพูดใช้ภาษาในการสื่อสารแลกเปล่ยี น
ข้อมูลระหว่างบุคคลพร้อมกับแสดงความคิดเห็นรวบยอดและแสดงความรู้สึกอย่างมีเหตุผลต่อเรื่องใกล้ตัวและเรื่อง
รอบตัวอย่างมีประสทิ ธิภาพเรียนรูแ้ ละนำเสนอความแตกต่าง / ความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทยในแง่มารยาทการสนทนากิจกรรมวนั สำคัญทางภาษาเทศกาล
ทางภาษางานฉลองความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษาใช้ภาษาเพื่อการสร้างสรรค์ทั้งในสถานศึกษาชุมชนและสังคมใน
บริบทการเชอ่ื มโยงความร้ดู า้ นภาษาใหส้ อดคลอ้ งกบั เรอื่ งตา่ งๆท้ังใกล้ตัวและไกลตัวการศึกษาและอาชีพ

โดยกระบวนทกั ษะทางภาษาเชน่ ทักษะการฟังทกั ษะการพูดแลกเปลีย่ นความรู้ความคิดความเข้าใจเห็นคุณค่า
ของภาษา

เพื่อการศึกษาและอาชีพของตนเกิดทักษะการเป็นผู้ฟังและผู้พูดที่ดีเกิดการใฝ่เรียนรู้และมีความเข้าใจในตัว
ภาษาและเทคโนโลยีสาระสนเทศเพื่อการนำไปใช้ในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพสามารถดำรงตนอย่างมี
ประสิทธภิ าพไดด้ ีกับสภาพสงั คมปจั จบุ ัน

ผลการเรียนรู้
๑. ปฏบิ ัตติ ามคำสง่ั คำขอรอ้ งคำแนะนำและคำช้แี จงงา่ ยๆท่ีฟงั
๒. ระบหุ วั ข้อเรื่องใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังบทสนทนานิทานและเร่อื งสัน้
๓. พดู แสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกับเร่ืองตา่ งๆใกล้ตัวกจิ กรรมตา่ งๆพร้อมทั้งให้เหตุผล
สัน้ ๆประกอบอย่างเหมาะสม
๔. พูดและเขียนบรรยายเกีย่ วกบั ตนเองกจิ วัตรประจำวันประสบการณ์และส่ิงแวดล้อมใกล้ตัว

รวมทั้งหมด ๔ ผลการเรยี นรู้

หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๕๒

คำอธิบายรายวชิ า อ ๓๐๒๐๘ ภาษาองั กฤษฟัง-พูด ๒

รายวชิ าเพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

พัฒนาทักษะด้านการฟัง-พูด อธิบายข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง สนทนา โต้ตอบ นำเสนอ
ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่าง ๆใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ต่าง ๆในสังคม พูดขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชี้แจง
ต่าง ๆอย่างคล่องแคล่ว พูดแสดงความต้องการ การตอบรับการปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณจ์ รงิ อยา่ ง
เหมาะสม พูดแสดงความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องประสบการณ์ ข่าวและให้เหตุผลประกอบ นำเสนอ
ข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว เหตกุ ารณ์ ต่าง ๆในสงั คม ใช้ภาษา นำ้ เสียง กรยิ าทา่ ทางเหมาะสมกับระดับ
ของบุคคล โอกาสและสถานที่ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/
สถานการณ์จำลองทีเ่ กิดขนึ้ ในห้องเรยี น เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ขา่ วสารขอ้ มลู ของโรงเรียนและชุมชน เป็นผู้ที่มีความ
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซือ่ สัตย์ สจุ ริต มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรอู้ ยู่อยา่ งพอเพียง มงุ่ มน่ั ในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิต
สาธารณะ

ผลการเรยี นรู้
๑. สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเก่ียวกับตนเองเรอ่ื งตา่ งๆใกลต้ วั และสถานการณ์ต่างๆในชีวติ ประจำวนั
๒. พดู และใหข้ ้อมูลเพื่อบรรยายและแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เรื่องที่ฟงั ได้อย่างเหมาะสม
๓. พดู และแสดงความรสู้ กึ ของตนเองเก่ยี วกับกิจกรรมตา่ งๆ
๔. พูดและแสดงความต้องการเสนอความชว่ ยเหลอื ตอบรับและปฏเิ สธ
๕. พูดและแสดงความคดิ เหน็ และประสบการณก์ บั เร่ืองใกล้ตวั พร้อมท้ังใหเ้ หตุผลประกอบ

รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๕๓

คำอธบิ ายรายวิชา อ ๓๐๒๐๙ ภาษาองั กฤษฟงั -พูด ๓

รายวชิ าเพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ

พฒั นาทกั ษะการฟังและพูด โดยใช้ภาษา น้ำเสยี ง กรยิ าทา่ ทาง สอ่ื สารอยา่ งเหมาะสม ตคี วาม ถา่ ยโอนข้อมูล
สื่อ เช่น กราฟ แผนภูมิ ตาราง อักษรย่อ ด้วยการพดู โดยใช้คำสำนวนได้อย่างถูกต้อง พูดเปรียบเทยี บ ใช้ภาษาแสดง
ความคดิ เห็นจากการฟงั และอ่าน พูดแสดงความรสู้ ึกและแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับเร่ืองประสบการณ์ และให้เหตุผล
ประกอบ นำเสนอข้อมูล ข่าว เหตุการณ์ ประเด็นสังคม เช่น การศึกษา สภาพสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม เข้าร่วม
กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม เป็นผู้ที่มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสั ตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่
เรยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทยและมจี ติ สาธารณะ

ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏบิ ตั ติ ามข้ันตอน กระบวนการฟงั พูดได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
๒. อธบิ ายข้อความให้สมั พันธ์กบั สอื่ ท่ีไม่ใช่ความเรยี ง ถ่ายโอนเป็นภาษาพูดได้
๓. ใชภ้ าษาในการแสดงความรสู้ ึก ความคดิ เหน็ ได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม
๔. ใชภ้ าษาในการสือ่ สารไดท้ ุกสถานการณ์
๕. เผยแพร่ ประชาสมั พนั ธข์ ่าวสารข้อมลู ของโรงเรยี นและชุมชนไดอ้ ย่างถกู ต้อง คล่องแคลว่
๖. จดั กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจและเหมาะสม

รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้

หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๕๔

คำอธิบายรายวชิ า อ ๓๐๒๑๐ ภาษาองั กฤษฟงั -พดู ๔

รายวชิ าเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

พฒั นาทักษะการฟังและพูด โดยใช้ภาษา น้ำเสยี ง กริยาท่าทาง สอ่ื สารอย่างเหมาะสม ตีความ ถา่ ยโอนข้อมูล
สื่อ เช่น กราฟ แผนภูมิ ตาราง อักษรย่อ ด้วยการพูด โดยใช้คำสำนวนได้อย่างถูกต้อง พูดเปรียบเทียบ ใช้ภาษาแสดง
ความคดิ เหน็ จากการฟังและอ่าน พดู แสดงความรู้สึกและแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับเรื่องประสบการณ์ และให้เหตุผล
ประกอบ ใช้ภาษาในการส่ือสารระหว่างบุคคลนำเสนอข้อมูล ข่าว เหตุการณ์ ประเด็นสังคม เช่น การศึกษา สภาพ
สงั คม เศรษฐกิจ เปรียบเทยี บความคิด ความเชือ่ ความแตกตา่ งระหว่างวิถชี วี ิต วัฒนธรรม เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา
และวฒั นธรรมอยา่ งเหมาะสม เป็นผทู้ ่ีมคี วามรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอื่ สตั ย์ สุจริต มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง
มุง่ มน่ั ในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ

ผลการเรียนรู้
๑. ปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอน กระบวนการฟังพูดได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
๒. อธบิ ายขอ้ ความใหส้ ัมพนั ธ์กบั ส่อื ทีไ่ มใ่ ชค่ วามเรียง ถ่ายโอนเปน็ ภาษาพูดได้
๓. ใช้ภาษาในการแสดงความรู้สึก ความคดิ เห็นได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม
๔. ใช้ภาษาในการสอื่ สารได้ทุกสถานการณ์
๕. เผยแพร่ ประชาสัมพนั ธ์ขา่ วสารขอ้ มลู ของโรงเรยี นและชุมชนได้อย่างถูกต้อง คล่องแคลว่
๖. จดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมไดอ้ ยา่ งเข้าใจและเหมาะสม

รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้

หลักสูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๕๕

คำอธิบายรายวิชา อ ๓๐๒๑๑ ภาษาอังกฤษฟัง-พูด ๕

รายวชิ าเพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ

ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต

พัฒนาทักษะการฟังและพูด โดยใช้น้ำเสียง กริยาท่าทาง สื่อสารอย่างเหมาะสม ตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ปฏิบัติตามและใช้คำแนะนำ คำชแ้ี จง คำอธิบาย คำขอรอ้ ง นำเสนอขอ้ มลู เก่ียวกับตนเอง
เรื่องต่าง ๆใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม พูดแสดงความ
ต้องการ ตอบรับ ปฏิเสธ การให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์จริง หรือจำลอง วิเคราะห์ สรุปใจความสำคัญ แสดง
ความคิดเห็น แสดงความรู้สึกจากการฟัง/อ่าน หรือค้นคว้า/สืบค้นจากแหล่งเรียนรู้ต่างและเกี่ยวกับกิจกรรม
ประสบการณ์ สถานการณ์ ทั้งในท้องถิ่น สังคมและโลก ให้เหตุผลและยกตวั อย่างประกอบ เข้าร่วมหรอื จดั กิจกรรม
ทางภาษาและวัฒนธรรมอบ่างเหมาะสม เผยแพร่หรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน ท้องถิ่น
ประเทศชาติ เปน็ ภาษาอังกฤษ เป็นผ้ทู ม่ี ีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจรติ มวี นิ ยั ใฝ่เรียนร้แู ละมจี ิตสาธารณะ

ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏิบัตติ ามขั้นตอนของกระบวนการฟังได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ มีทักษะในการฟัง โดยสามารถตคี วาม
วิเคราะหส์ ง่ิ ท่ีฟัง
๒. ใชภ้ าษา นำ้ เสียง กริยาท่าทาง และสรุปความ ถ่ายโอนเปน็ ภาษาพูดและเขียนได้
๓. ปฏบิ ตั ิตามขน้ั ตอนของกระบวนการพูดได้อย่างถูกต้อง โดยสามารถพดู นำเสนอเรื่องตา่ งในทีช่ ุมชน ได้
อย่างสร้างสรรค์
๔. สรา้ งสรรคภ์ าษาในการสนทนา แลกเปลยี่ นขอ้ มูล และสรา้ งสมั พันธ์ระหวา่ งบคุ คล
a. โดย ใชศ้ ัพท์ สำนวน โครงสรา้ งภาษาให้เหมาะสมกบั สถานการณแ์ ละมารยาทสงั คม
๕. ใชภ้ าษาอังกฤษในการสื่อสารได้ทกุ สถานการณ์
๖. จดั กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมได้อย่างเข้าใจและเหมาะสม

รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้

หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)

๒๕๖

คำอธิบายรายวิชา อ ๓๐๒๑๒ ภาษาองั กฤษฟัง-พูด ๖

รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ

ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

พัฒนาทักษะการฟังและพูด โดยใช้น้ำเสียง กริยาท่าทาง สื่อสารอย่างเหมาะสม ตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ปฏบิ ตั ิตามและใช้คำแนะนำ คำชแ้ี จง คำอธบิ าย คำขอร้อง นำเสนอข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง
เรื่องต่าง ๆใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม พูดแสดงความ
ต้องการ ตอบรับ ปฏิเสธ การให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์จริง หรือจำลอง วิเคราะห์ สรุปใจความสำคัญ แสดง
ความคิดเห็น แสดงความรู้สึกจากการฟัง/อ่าน หรือค้นคว้า/สืบค้นจากแหล่งเรียนรู้ต่างและเกี่ยวกับกิจกรรม
ประสบการณ์ สถานการณ์ ทั้งในท้องถิ่น สังคมและโลก ให้เหตุผลและยกตวั อย่างประกอบ เข้าร่วมหรือจดั กิจกรรม
ทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม เผยแพร่หรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน ท้องถิ่น
ประเทศชาติ เปน็ ภาษาอังกฤษ เปน็ ผู้ที่มคี วามรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซือ่ สัตย์สุจรติ มวี ินยั ใฝ่เรียนรูแ้ ละมจี ติ สาธารณะ

ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏบิ ตั ิตามขัน้ ตอนของกระบวนการฟังได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ มีทักษะในการฟงั โดยสามารถตีความ
วิเคราะห์สงิ่ ท่ีฟัง
๒. ใช้ภาษา น้ำเสียง กรยิ าท่าทาง และสรปุ ความ ถา่ ยโอนเปน็ ภาษาพดู และเขียนได้
๓. ปฏิบัตติ ามข้นั ตอนของกระบวนการพูดได้อย่างถูกต้อง โดยสามารถพูดนำเสนอเร่ืองตา่ งในทช่ี มุ ชน ได้
อย่างสรา้ งสรรค์
๔. สร้างสรรคภ์ าษาในการสนทนา แลกเปลีย่ นขอ้ มลู และสรา้ งสัมพันธร์ ะหวา่ งบุคคล
โดย ใช้ศัพท์ สำนวน โครงสร้างภาษาใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์และมารยาทสงั คม
๕. ใชภ้ าษาอังกฤษในการสื่อสารไดท้ กุ สถานการณ์
๖. จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมได้อยา่ งเข้าใจและเหมาะสม

รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้

หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๕๗

คำอธบิ ายรายวิชา อ ๓๑๒๐๑ องั กฤษเพือ่ การสอื่ สาร ๑

รายวชิ าเพ่ิมเติม โครงการสานฝนั การกีฬาฯ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศกึ ษาวิเคราะหภ์ าษาที่ใช้ในการส่ือสารระหวา่ งบุคคลการทกั ทายกลา่ วลาขอบคณุ ขอโทษชมเชยการพูดแทรก
อย่างสภุ าพการชักชวนการแลกเปลย่ี นข้อมูลเกยี่ วกับตนเองเร่ืองใกล้ตวั สถานการณ์ต่างๆในชวี ติ ประจำวันการสนทนา
ขอ้ มลู เก่ยี วกับตนเองและบคุ คลใกล้ตวั

โดยใช้กระบวนการฟงั การพูดกระบวนการปฏบิ ตั แิ ละกระบวนการกลุม่
เพื่อให้เกิดความรู้ความสามารถในการพูดสื่อสารกับบุคคลและชุมชนปรับตัวเองเข้ากับสังคมได้อย่าง
เหมาะสมมีเจตคติที่ดตี ่อการเรยี นภาษา

ผลการเรียนรู้
๑. สามารถฟัง-พูดเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเองเรื่องใกล้ตัวสถานการณ์ต่างๆใน
ชีวิตประจำวนั
๒. สามารถฟงั -พูดเกี่ยวกับสภาพครอบครวั สังคมและความเปน็ อยู่
๓. สามารถฟัง-พดู ในการนำเสนอกจิ กรรมตา่ งๆ
๔. สามารถฟัง-พูดอธบิ ายสิ่งของได้
๕. สามารถฟงั -พูดเก่ยี วกบั ตำแหนง่ สถานทีว่ ตั ถุได้

รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๕๘

คำอธบิ ายรายวิชา อ ๓๑๒๐๒ อังกฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร ๒

รายวชิ าเพมิ่ เติม โครงการสานฝนั การกฬี าฯ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษา ปฏิบตั ิ พัฒนาทกั ษะทางด้านการฟงั พดู อ่าน เขียน เพ่อื การสอื่ สารในชวี ติ ประจำวัน เพ่ิมพนู การใช้คำ
และสำนวนในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะในงานที่เกี่ยวข้องกับสาขาอาชีพ และการปฏิบัติงาน เข้าใจความเหมือน
ความแตกตา่ งระหว่างวฒั นธรรม ตามมารยาทสังคม ประเพณี และของเจ้าของภาษา ฝกึ การสนทนาในรปู แบบต่าง ๆ
โดยใช้บทบาทสมมติ สถานการณ์จำลอง เปน็ ตน้

ผลการเรียนรู้
๑. สนทนาโต้ตอบเรื่องราวในชีวิตประจำวัน และการทำงานในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ถูกต้องเหมาะสมตาม
วัฒนธรรมสังคม
๒. เลอื กใชส้ ำนวนทางภาษาไดเ้ หมาะสมกับบคุ คลและกาลเทศะ
๓. ใชก้ ลยุทธ์ในการฟังและอ่านเพ่ือความเข้าใจ บอกใจความสำคัญ รายละเอยี ดถ่ายโอนข้อมูลจากเรื่องท่ีฟัง
และอา่ น
๔. เขียนบรรยาย เขียนบนั ทึก เขียนจดหมาย กรอกข้อมลู แบบฟอรม์ โดยใช้โครงสรา้ งทางภาษาท่ีถกู ตอ้ ง
๕. บรู ณาการเรียนรู้ในชั้นเรยี นกับการเรียนรู้ด้วยตนเองในศูนย์การเรียน โดยมหี ลกั ฐานการเรียน บันทึกการ
เรยี นรู้ การประเมินผลความก้าวหน้าของตนเอง

รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรียนรู้

หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๕๙

คำอธิบายรายวิชา อ ๓๒๒๐๑ อังกฤษเพ่อื การสื่อสาร ๓

รายวชิ าเพ่ิมเติม โครงการสานฝันการกฬี าฯ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ

ฟงั และพูดบทสนทนาเกี่ยวกับข้อมลู ข่าวสารเหตุการณ์ต่าง ๆ ในท้องถนิ่ ตลอดจนการใช้ภาษาเพื่อ การ
สือ่ สารได้อย่างต่อเน่ือง โดยใชส้ ื่อ เทคโนโลยี วิธีการ และรูปแบบท่ีหลากหลายในการนำเสนอ แลกเปล่ยี นความรู้
ข้อมูล ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด ความคิดเหน็ การแสดงความรสู้ ึก ความต้องการท่ี เกี่ยวขอ้ งกบั กิจกรรม เร่ืองราว
เหตกุ ารณ์ ทงั้ ของสว่ นตัว ชุมชน และสังคมในอดตี ปัจจบุ ัน หรอื อนาคตได้ อยา่ งสรา้ งสรรค์ มปี ระสทิ ธภิ าพ และ
สุนทรยี ภาพ ถกู ต้องเหมาะสม ตามมารยาทสงั คม และสอดคลอ้ งกับ วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เพ่ือสร้างเสริม
ความรว่ มมือ และความสัมพันธอ์ นั ดรี ะหวา่ งบุคคล ชุมชน และ สังคม ตลอดจนเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้อัน
เปน็ พ้ืนฐานในการพัฒนา และเปิดโลกทัศน์เพ่ือ การศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชีพ และการเรียนรตู้ ลอดชวี ิต

ผลการเรยี นรู้
๑. สนทนาแลกเปล่ียนความคิดเห็นเก่ยี วกบั เหตุการณ์ท่ีเกิดในสังคมได้
๒. เขียนแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่อื งประเดน็ ร้อนในสังคมได้
๓. สนทนาเก่ยี วกับการจองห้องพักและจองตว๋ั เคร่อื งบินได้
๔. สนทนาโตต้ อบเกี่ยวกบั การถามทิศทางได้
๕. สนทนาโตต้ อบเก่ยี วกบั การส่ังอาหารได้

รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรยี นรู้

หลักสูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)

๒๖๐

คำอธบิ ายรายวชิ า อ ๓๒๒๐๒ อังกฤษเพ่ือการสือ่ สาร ๔

รายวชิ าเพมิ่ เติม โครงการสานฝนั การกฬี าฯ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ

อ่าน เขยี น บทอ่าน บทความ ขา่ วสาร คำบรรยาย คำแนะนำ การต์ ูน บทกลอน ป้ายประกาศ สญั ลกั ษณ์
เอกสารนำเท่ยี ว บทโฆษณาต่าง ๆ ได้เขา้ ใจ สามารถตีความขอ้ มูล ข่าวสาร บทความที่เกย่ี วขอ้ ง กับกลมุ่ สาระการ
เรยี นรอู้ ื่น และใช้ภาษาในการนำเสนอ การถ่ายโอนข้อมูลได้ถูกต้องตามสถานการณ์ และ สอดคล้องกับวัฒนธรรม
ของเจา้ ของภาษา สมั พนั ธ์อันดรี ะหวา่ งบุคคล ชุมชน และสังคม เพ่ือเป็นเครื่องมอื ในการแสวงหาความรู้ อนั เป็น
พื้นฐานในการพฒั นา และเปิดโลกทัศน์เพ่ือการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชพี และการเรียนร้ตู ลอดชวี ิต

ผลการเรียนรู้
๑. อ่านประกาศ และโฆษณาแล้วสมารถตอบคำถามได้
๒. พูดบทความส้นั ๆ และพดู แสดงความคดิ เห็นได้
๓. อา่ นข้อความที่เปน็ ความเรยี งและไมเ่ ป็นความเรียงทีเ่ ป็นทางการและไมเ่ ป็นทางการ
๔. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับวฒั นธรรม ทางภาษา ชวี ติ ความเปน็ อยู่ของเจ้าของภาษา
๕. มคี วามเขา้ ใจในภาษาต่างประเทศ สืบคน้ ข้อมูล ความรู้ในวิชาอนื่ ๆ ท่ีเรยี นตามความสนใจ
จากสอ่ื หลากหลาย
๖. ฝกึ ฝนการใชภ้ าษาอังกฤษเพือ่ การแสวงหาความรู้เพิม่ เติมอยา่ งต่อเนื่อง

รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้

หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๖๑

คำอธิบายรายวิชา อ ๓๓๒๐๑ องั กฤษเพื่อการสือ่ สาร ๕

รายวิชาเพ่มิ เติม โครงการสานฝันการกฬี าฯ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ฟังและพดู บทสนทนาเก่ยี วกบั คำสงั่ คำขอรอ้ ง คำอธบิ าย บทสนทนา เพื่อแสดงความคิดเหน็ แลกเปล่ยี น
ความรเู้ กีย่ วกบั ท้องถ่ินที่อย่ใู นความสนใจในชีวติ ประจำวนั ประเด็นเรอ่ื งราว ปญั หาตา่ งๆ โดย ใชส้ ือ่ เทคโนโลยีวิธกี าร
และรูปแบบท่หี ลากหลายในการนำเสนอ แลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสาร เก่ียวกบั เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ กิจกรรม สินค้าหรือ
บรกิ ารในท้องถน่ิ ใช้ประโยคผสมและประโยคตามโครงสร้าง ไวยากรณ์ ที่ใชส้ ือ่ ความหมายตามบรบิ ทตา่ งๆ ในการ
สนทนา ท้งั ท่เี ป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยออก เสียงสระ กลมุ่ คำและประโยคท่ซี ับซ้อนได้ถกู ต้อง รู้และเข้า
ใจความเหมือน วฒั นธรรม ประเพณี ความเชื่อ ของเจ้าของภาษา เข้าใจถึงความแตกต่างระหวา่ งภาษาและ
วฒั นธรรมได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ เหมาะสมกับ บุคคลและกาลเทศะและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และสามารถใช้
ภาษาทีเ่ รยี นเป็นเคร่ืองมือในการเรียน ต่อและประกอบอาชพี

ผลการเรียนรู้
๑. ฟัง คำส่ัง คำขอร้อง และปฏบิ ัติได้
๒. สนทนาโตต้ อบเรือ่ งราวในชวี ิตประจำวันได้
๓. สนทนาโตต้ อบเกีย่ วกับการถามราคาส่งิ ของได้ถูกตอ้ ง
๔. สนทนาโต้ตอบเกยี่ วกับท่ีพัก แหล่งทอ่ งเทยี่ ว และสถานท่ีสำคัญดา้ นประวัติศาสตร์ได้

รวมทั้งหมด ๔ ผลการเรียนรู้

หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๖๒

คำอธบิ ายรายวชิ า อ ๓๓๒๐๒ อังกฤษเพ่ือการส่อื สาร ๖

รายวชิ าเพ่ิมเติม โครงการสานฝันการกฬี าฯ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ

ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ชัว่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ

ฟังและพดู บทสนทนาเกย่ี วกับ คำส่ัง คำขอร้อง คำอธิบาย บทสนทนา เพื่อแสดงความคิดเห็น แลกเปลยี่ น
ความรู้เกี่ยวกับท้องถนิ่ ที่อยใู่ นความสนใจในชีวิตประจำวัน ประเดน็ เรือ่ งราว ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณท์ ้งั ใน
อดตี ปจั จบุ นั และอนาคต โดยใช้ประโยชนจ์ ากสื่อการเรยี นและผลจากการ ฝกึ ทักษะภาษา ใช้ภาษาอังกฤษในการ
แสวงหาความรเู้ พื่อขยายโลกทศั นข์ องตน ดา้ นการศึกษาและการงาน อาชีพ จากแหล่งเรยี นรทู้ ี่หลากหลายในรปู แบบ
ตา่ งๆ ตามความสนใจ สามารถนำเสนอข้อมูลได้อย่างน่าสนใจ ปฏิบัติงานรว่ มกับผอู้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมีความสุข ตระหนักและ
เห็นคุณค่าในการเรียนภาษาอังกฤษ เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
เหมาะสมกบั บุคคลและกาลเทศะและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และสามารถนำ ความรแู้ ละทักษะทางภาษาไปใช้
ในชวี ติ ประจำวนั การศึกษาต่อ และการประกอบอาชพี

ผลการเรียนรู้
๑. ฟัง คำสัง่ คำขอร้อง และปฏบิ ัตไิ ด้
๒. สนทนาโต้ตอบเรือ่ งราวในชีวติ ประจำวนั ได้
๓. พูด เขียน แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั ความเหมอื นและความแตกต่างของวฒั นธรรมไทยและ
เจ้าของภาษาได้อา่ นบทความสัน้ ๆ และพดู แสดงความคิดเห็นได้
๔. ใช้ภาษาเพ่ือแสดงความรู้สึกของตนเก่ียวกบั เหตกุ ารณใ์ นชวี ติ ประจำวัน การศึกษาต่อ และการประกอบ
อาชพี

รวมทั้งหมด 4 ผลการเรียนรู้

หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๖๓

กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน

หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๖๔

กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น

กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน เป็นกิจกรรมท่ีมุง่ ให้ผู้เรยี นพัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อความ
เปน็ มนุษย์ท่ีสมบรู ณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสงั คม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศลี ธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย
ปลกู ฝงั และสรา้ งจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพอื่ สังคม สามารถจัดการตนเองได้ และอยู่รว่ มกับผู้อนื่ ในสังคมอย่างมี
ความสุข โรงเรยี นสุวรรณไพบลู ย์ จัดกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน แบง่ เปน็ 3 ลกั ษณะดังนี้

1. กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนานักเรยี นให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด
และความสนใจ โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ด้วยกระบวนการทางจิตวิทยา การแนะแนว ให้สอดคล้อง
ครอบคลุมด้านการศึกษา อาชีพส่วนตัวและสังคม กิจกรรมสำคัญในการพัฒนาได้แก่ กิจกรรมการรู้จัก เข้าใจ เห็น
คุณค่าในตนเองและผู้อื่น การปรับตัวและดำรงชีวิต การแสวงหาและใช้ข้อมูลสารสนเทศ การตัดสินใจและแก้ปัญหา
ผเู้ รียนทุกคนต้องเขา้ ร่วมกิจกรรมแนะแนว 20 ชว่ั โมงตอ่ ภาคเรียน

แนวการจัดกิจกรรมแนะแนว
1. โรงเรียนจัดกิจกรรมแนะแนว โดยให้ผู้เรียนได้ศึกษาเกี่ยวกับการค้นพบตัวเอง ตามความถนัด

ความสนใจ และรับความรู้ คำแนะนำจากครูผู้สอนหรือ ทั้งนค้ี ำนงึ ถงึ วฒุ ภิ าวะและความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล
2. กำหนดผลการเรียนรู้ คุณลักษณะ และความสามารถในการเข้าร่วมกิจกรรมและออกแบบ

แผนการดำเนินกจิ กรรมแนะแนวใหส้ อดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรดู้ ังกล่าว
3. จัดกิจกรรมให้มีความสอดคล้องกับผลการเรียนรู้อย่างหลากหลาย น่าสนใจโดยเนน้ เวลาการเขา้

รว่ มกจิ กรรม พฤติกรรมการปฏบิ ตั ิและผลงานของผเู้ รียน
4. การทำแบบประเมินด้านสติปัญญาและอารมณ์ เน้นการเรียนรู้ระหว่าง การพัฒนาโรงเรียนกับ

ชมุ ชน เชน่ การเย่ียมบา้ นผู้เรียน กจิ กรรมโฮมรมู การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผูเ้ รียนอย่างเป็นระบบ
2. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี

ความรับผดิ ชอบ การทำงานรว่ มกนั การรจู้ กั แก้ปญั หา การตดั สนิ ใจทีเ่ หมาะสม ความมีเหตุผล การชว่ ยเหลือแบ่งปัน
กัน การประนีประนอม โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถความถนัด และความสนใจของผู้เรียน ได้ปฏิบัติด้วย
ตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทำงาน เน้นการ
ทำงานเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม และสอดคลอ้ งกบั วฒุ ภิ าวะของผูเ้ รียน ความสามารถ ความถนัด ความสนใจ และ
ทอ้ งถนิ่ กิจกรรมนกั เรยี นประกอบดว้ ย

2.1 กิจกรรมชุมนุม ผู้เรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมชุมชน ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 13 ชั่วโมงตอ่
ภาคเรียน และภาคเรียนที่ 2 จำนวน 12 ช่วั โมงตอ่ ภาคเรยี น

แนวการจดั กจิ กรรมชุมนุม
1. โรงเรียนจัดกิจกรรมชุมนุมโดยเน้นถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ผู้เรียนสามารถเลือกเรียน

ชุมนุมคนละ 1 กิจกรรม ได้ตามศักยภาพ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน กิจกรรมชุมนุม เช่น ภาษาไทย
คณติ ศาสตร์ คณิตศาสตรป์ ระยุกต์ คอมพิวเตอร์ เกษตร วิทยาศาสตร์ สิ่งประดิษฐ์วทิ ยาศาสตร์ ห้องสมุดวิทยาศาสตร์
Smart English ภาษาอังกฤษ จิตอาสา วอลเลย์บอล ฟุตบอล สังคมสิ่งแวดล้อม พระพุทธศาสนา แนะแนว ดนตรี
เป็นต้น

หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๖๕

2. กำหนดผลการเรียนรู้ คุณลักษณะและความสามารถในการเข้าร่วมกิจกรรม และออกแบบ
แผนการดำเนนิ กิจกรรมให้สอดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรูด้ งั กล่าว

3. จัดกิจกรรมให้มีความสอดคลอ้ งกับผลการเรียนรูอ้ ย่างหลากหลาย น่าสนใจ โดยเน้นเวลาการเข้า
รว่ มกจิ กรรม พฤติกรรมการปฏบิ ตั ิและผลงานของผ้เู รยี น

2.2 กิจกรรมบำเพญ็ ประโยชน์ ผู้เรยี นทกุ คนต้องเข้าร่วมกิจกรรมชุมชน จำนวน 10 ชัว่ โมงต่อภาค
เรียน

แนวการจัดกจิ กรรมบำเพ็ญประโยชน์
กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่มุ่งส่งเสริม “ให้ผู้เรยี นไดท้ ำตนใหเ้ ป็นประโยชน์ ต่อผู้อื่น

หรือชว่ ย เหลอื ผู้อ่ืน” ท้งั ภายในและภายนอกสถานศึกษา เพ่ือใหผ้ ้เู รียนมีความเอื้ออาทรต่อกนั และต่อสังคม เน้นการ
บำเพ็ญประโยชน์ใกล้ตัวและใกล้ที่ตั้งสถานศึกษา เน้นการทำกิจกรรมง่าย ๆ คือ โครงการทำความสะอาด ซ่อมแซม
และสร้างสาธารณะสมบัติ ไม่เน้นการสร้างอาคารสิ่งก่อสร้าง กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์มีวัตถุประสงค์ กระจายให้
ผเู้ รยี นรวมตวั กนั ทำกจิ กรรมเปน็ กลุม่ ๆ ตามความสนใจและความถนดั ของผเู้ รยี น

3. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้ผู้เรียนได้ทำ
ประโยชน์ตามความสามารถ ความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดี
งาม ความเสียสละต่อสังคม มีจิตใจมุ่งทำประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชนและสังคม กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ กิจกรรม
บำเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม กิจกรรมดำรงรักษา กิจกรรมพัฒนา นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อสังคม
ผเู้ รยี นทุกคนต้องเข้ารว่ มกจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ จำนวน 10 ชั่วโมงตอ่ ภาคเรยี น

แนวการจดั กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์
1. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ให้ผู้เรียนได้เลือกเรียนตามความสนใจ และกิจกรรมท่ี

โรงเรียนไดก้ ำหนดข้นึ โดยสอดแทรกหรือบรู ณาการใน กิจกรรมลกู เสอื เนตรนารี กจิ กรรมชมุ นุม กิจกรรมแนะแนว
หรือในกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กล่มุ สาระ

2. ผู้เรียนสามารถทำกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์นอกเหนือเวลาเรียนก็ได้ โดยจัดทำ
เป็นโครงการท่ีจะชว่ ยเหลอื พัฒนาหรือจติ อาสารว่ มกบั ชมุ ชน

3. กำหนดผลการเรียนรู้ คุณลักษณะและความสามารถในการเข้าร่วมกิจกรรม และออกแบบ
แผนการดำเนินกจิ กรรมให้สอดคล้องกับผลการเรยี นรดู้ ังกล่าว

แนวทางการประเมนิ ผลกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น
1. ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว และกิจกรรมนักเรียน โดยมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อย

กว่าร้อยละ 80 ของแต่ละกิจกรรม และปฏิบัติกิจกรรมดังกล่าวตามแนวทาง การจัดกิจกรรม จึงจะผ่านการประเมิน
กจิ กรรมแนะแนว และกิจกรรมนกั เรยี น

2. ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ โดยมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม 60
ชั่วโมงตลอดปีการศึกษา

หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)

๒๖๖

3. ครูผู้สอนหรือครผู ู้รบั ผิดชอบ ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น จากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน
ของผู้เรียนด้วยวิธีการสังเกตพฤติกรรม การสัมภาษณ์ และประเมินด้วยวิธีการที่หลากหลายและใช้การประเมินตาม
สภาพจริง

เกณฑก์ ารจบหลกั สตู รระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

1. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิม่ เติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วยกิต และรายวิชาเพ่ิมเติม
ตามท่ีสถานศึกษากำหนด

2. ผเู้ รยี นตอ้ งได้หนว่ ยกิต ตลอดหลกั สูตรไมน่ ้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเปน็ รายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วยกิต
และรายวิชาเพ่ิมเติมไม่นอ้ ยกว่า 36 หน่วยกิต

3. ผู้เรยี นต้องมีผลการประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ระดับ “ผา่ น” ข้ึนไป
4. ผู้เรียนตอ้ งมีผลการประเมิน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับ “ผา่ น” ขนึ้ ไป
5. ผู้เรียนตอ้ งเขา้ รว่ มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และไดร้ บั การตดั สนิ ผลการเรยี น “ผา่ น”

ทกุ กจิ กรรม

หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๖๗

\

เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรียน

หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๖๘

ระเบยี บโรงเรยี นสุวรรณไพบลู ย์
ว่าดว้ ยการวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู้ ระดับมัธยมศกึ ษา พุทธศักราช 2561
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

---------------------------------------------
โดยที่โรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ ได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. 1239/2560
ลงวันที่ 8 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2560 เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) จงึ เปน็ การสมควรทจี่ ะกำหนดระเบียบโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ ว่าดว้ ยการ
วัดผลและประเมินผลการเรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
(ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) เพอ่ื ให้สามารถดำเนนิ การไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ ให้สอดคลอ้ งกับคำสงั่ ดังกล่าว
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการ
กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและ
วชิ าการ โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน จึงวางระเบยี บไวด้ งั ต่อไปน้ี
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ ระเบียบโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ ว่าด้วยการวัดผลและประเมินผลการ
เรยี น ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ”
ขอ้ 2 ระเบยี บนใี้ หใ้ ชบ้ ังคับตงั้ แต่ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป
ขอ้ 3 ให้ยกเลิกระเบียบ ข้อบงั คับ ทข่ี ัดแยง้ กับระเบียบน้ี ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ขอ้ 4 ให้ใช้ระเบยี บนค้ี วบคกู่ บั หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบลู ย์ พุทธศกั ราช 2561 (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ.2563) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560)
ขอ้ 5 ให้ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษารักษาการให้เปน็ ไปตามระเบียบนี้

หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๖๙

หมวด 1

หลกั การดำเนินการวัดและประเมนิ ผลการเรียน

ขอ้ 6 การวัดและการประเมนิ ผลการเรียนให้เปน็ ไปตามหลกั การต่อไปน้ี
6.1 สถานศึกษาเป็นผ้รู บั ผดิ ชอบการประเมินผลการเรียนรู้ของผ้เู รียน โดยเปิดโอกาสให้ทุก

ฝา่ ยท่เี ก่ียวขอ้ งมสี ่วนรว่ ม
6.2 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ต้องสอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้/

ตัวชี้วัดตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่กำหนดในหลักสูตรและจัดให้มีการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ตลอดจนกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น

6.3 การประเมินผู้เรียนพิจารณาจากพัฒนาการของผู้เรียน ความประพฤติ การสังเกต
พฤติกรรมการเรียนรู้ การร่วมกิจกรรมและการทดสอบควบคู่ไปในกระบวนการเรียนการสอน ตามความ
เหมาะสมของแต่ละระดบั และรปู แบบการศกึ ษา

6.4 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนการสอน
ต้องดำเนินการด้วยเทคนิควิธีการที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถวัดและประเมินผลผู้เรียนได้อย่างรอบด้านทั้ง
ด้านความรู้ ความคิด กระบวนการ พฤติกรรมและเจตคติ เหมาะสมกับสิ่งทีต้องการวัดธรรมชาติวิชา และ
ระดับช้ันของผู้เรียน โดยต้องอยบู่ นพน้ื ฐานความเที่ยงตรง ยุตธิ รรม และเชอื่ ถอื ได้

6.5 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงพัฒนาผู้เรียน ตัดสินผล
การเรียน และนําผลไปใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการวิจัยที่จะนําไปสู่การปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน
และวางแผนพัฒนาหลักสูตร

6.6 เปิดโอกาสให้ผเู้ รยี นและผู้มสี ่วนเกย่ี วขอ้ งตรวจสอบผลการประเมนิ ผลการเรียนรู้
6.7 ให้สถานศึกษาจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษา เพื่อเป็นหลักฐานการประเมินผลการ
เรยี นรรู้ ายงานผลการเรียน แสดงวฒุ ิการศกึ ษาและรับรองผลการเรียนของผ้เู รียน

ขอ้ 7 การวัดและการประเมนิ ผลการเรยี น จัดแบง่ ออกเป็น ๔ ระดับ คอื
1.1 การวัดและการประเมินผลการเรียนระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและการประเมินผลการ

เรียนที่อยูใ่ นกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอนดำเนินการเป็นปกติ และสม่ำเสมอ ในการจัดการเรยี นการสอน
ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเอง หรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง
เพอื่ นประเมนิ เพอ่ื น ผ้ปู กครองร่วมประเมิน ในกรณที ไี่ มผ่ า่ นตวั ช้ีวัด ให้มีการสอนซ่อมเสรมิ

1.2 การวัดและการประเมินผลการเรียนระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินผลท่ี
สถานศึกษา ดำเนินการเพื่อตัดสินผลการเรียนรู้เป็นรายภาค/รายปี ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และ
เขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกบการจัดการศึกษาของ
สถานศึกษา ว่าส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รว มท้ัง
สามารถนําผลการเรียนของผู้เรยี นเปรยี บเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ และเปน็ ข้อมูลและสารสนเทศเพื่อปรับปรุง

หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)

๒๗๐

นโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนา คุณภาพ
การศึกษาของโรงเรยี น

1.3 การประเมินผลระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพการเรียนในระดับ
เขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการพัฒนา
คุณภาพการศึกษาของเขตพื้นท่ีการศึกษา

1.4 การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติ ตามมาตรฐาน
การเรียนรู้ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน

ข้อ 8 ให้มีการเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณีต่าง ๆ ได้แก่ การย้ายสถานศึกษา การ
เปลี่ยนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ นอกจากนี้ ยัง
สามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จากแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันศาสนา
สถาบนั การฝึกอบรมอาชพี การจัดการศึกษาโดยครอบครัว

การเทยี บโอนผลการเรียน ใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศหรอื แนวปฏิบัติของกระทรวงศึกษาธิการ

หมวด 2

วธิ กี ารวดั และประเมินผล

ขอ้ 9 การประเมินผลสาระการเรยี นรเู้ พอ่ื ปรับปรงุ การเรียน ให้ถือปฏิบัติดังน้ี
9.1 แจ้งให้ผู้เรียนทราบตัวชี้วดั ช้ันปี วิธีการประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑ์การผ่านตัวชี้วัดชนั้

ปแี ละเกณฑข์ ัน้ ต่ำของการผ่านรายวิชา ก่อนสอนรายวชิ าน้นั
9.2 ประเมินผลก่อนเรียน เพื่อศึกษาความรู้พื้นฐานของผู้เรียนประเมินผลระหว่างเรียน

เพอ่ื ตรวจสอบพฒั นาการของผเู้ รียนว่าบรรลุตามตัวชวี้ ัดช้นั ปี เพอ่ื จัดการสอนซอ่ มเสริม และเพ่ือนําคะแนนจาก
การวัดและประเมินผลไปรวมกับการวัดผลปลายปี โดยให้วัดและประเมินตามตัวชี้วัดรายปี การวัดผลและ
ประเมินผลระหว่างเรียน โดยวัดและประเมินผลระหว่างเรียนเป็นระยะ ๆ โดยให้สถานศึกษาใช้ตัวชี้ วัดใน
หลกั สตู รเปน็ เป้าหมายในการประเมิน

9.3 วัดผลปลายปี / ปลายภาค เพื่อตรวจสอบผลการเรียน ตดั สินแบบ ได้ – ตก ให้ใช้ระดับ
ผลการเรียน โดยวัดให้ครอบคลุมและสอดคล้องกับตัวชี้วัดชั้นปีและตัวชี้วัดช่วงชั้น ที่สำคัญตามที่หลักสูตร
สถานศึกษากำหนด

ขอ้ 10 ให้มีการวดั และการประเมนิ ผลการเรียนครอบคลุมมาตรฐานและตัวช้วี ดั ท้ัง ๔ ด้าน ดงั นี้
10.1 การวัดและการประเมนิ ผลสาระการเรียนรูค้ รบทั้ง ๘ กลมุ่ สาระ
10.2 การวัดและการประเมนิ ผลกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
10.3 การวดั และการประเมินผลคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคผ์ ู้เรียน

หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๗๑

10.4 การวดั และการประเมินผลการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และการเขียน
การวัดและการประเมินผลการเรียน ให้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและ
วิชาการเหน็ ชอบ เสนอผ้บู ริหารสถานศึกษาแต่งตง้ั

ข้อ 11 การวดั และการประเมนิ ผลการเรยี นในขอ้ ๑๐ ให้ดำเนนิ การ ดังน้ี
11.1 การประเมินผลการเรียนใน ๘ กลุ่มสาระ ผู้เรียนต้องผ่านเกณฑ์ ได้รับระดับคุณภาพ

โดยใช้ตวั เลขแสดงระดบั ผลการเรยี นเปน็ 8 ระดบั ดังนี้

4 หมายถึง ผลการการเรียนดเี ยย่ี ม ไดค้ ะแนนร้อยละ 80-100
3.5 หมายถึง ผลการการเรียนดีมาก ได้คะแนนร้อยละ 75-79
3 หมายถึง ผลการการเรียนดี ได้คะแนนรอ้ ยละ 70-74
2.5 หมายถึง ผลการการเรียนคอ่ นขา้ งดี ได้คะแนนร้อยละ 65-6
2 หมายถึง ผลการการเรยี นปานกลาง ได้คะแนนรอ้ ยละ 60-64
1.5 หมายถงึ ผลการการเรยี นพอใช้ ไดค้ ะแนนร้อยละ 55-59
1 หมายถงึ ผลการการเรียนผ่านเกณฑข์ ั้นตำ่ ได้คะแนนรอ้ ยละ 50-54
0 หมายถงึ ผลการการเรยี นต่ำกวา่ เกณฑ์ ได้คะแนนร้อยละ 0-49

11.2 การวดั และการประเมินผลกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน เป็นการประเมินความสามารถและ
พัฒนาการของผ้เู รยี น ในการเข้ารว่ มกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นในแตล่ ะภาคเรียน ตามเกณฑ์ของแตล่ ะกจิ กรรม
และตดั สนิ ผลการประเมนิ เปน็ 2 ระดบั ดงั นี้

ผ (ผ่าน ) หมายถงึ ผเู้ รยี นมเี วลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม
มผ (ไม่ผา่ น ) หมายถงึ และมีผลงานตามเกณฑ์ท่สี ถานศกึ ษากำหนด
ผู้เรียนมีเวลาเรียนร่วมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ปฏิบัตกิ จิ กรรม
และมผี ลงานไมเ่ ป็นไปตามเกณฑ์ทสี่ ถานศึกษากำหนด

11.3 การวัดและการประเมินผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็นการประเมิน
พัฒนาทางด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ตามคุณลักษณะท่ี
สถานศึกษากำหนด การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จะประเมินเป็นรายคุณลักษณะทุกภาคเรียน
และตดั สินผลการประเมนิ เป็น 4 ระดับ ดังตอ่ ไปนี้

ดีเย่ยี ม (๓ ) หมายถงึ ผู้เรียนปฏิบัติตนตามคุณลักษณะจนเป็นนิสัยและนำไปใช้ใน
ชีวิตประจำวันเพื่อประโยชน์สุขของตนเองและสังคมโดย
พิจารณาจากผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน ๕-๘
คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่า
ระดบั ดี

หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๗๒

ดี (๒) หมายถงึ ผเู้ รียนมีคุณลกั ษณะในการปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑ์ เพ่อื ให้เป็นการ
ยอมรบั ของสังคม โดยพิจารณาจาก
๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีเย่ยี ม จำนวน ๑-๔คุณลกั ษณะและ
ไมม่ ีคณุ ลกั ษณะใดไดผ้ ลการประเมินต่ำกวา่ ระดบั ดี หรือ
๒. ได้รับการประเมนิ ระดบั ดีท้งั ๘ คณุ ลกั ษณะ หรอื
๓. ได้ผลการประเมนิ ต้งั แตร่ ะดบั ดขี ้ึนไป จำนวน ๕-๗
คุณลักษณะ และมบี างคุณลักษณะได้ผลการประเมนิ ระดบั
ผ่าน

ผา่ น (๑) หมายถึง ผู้เรยี นรบั รแู้ ละปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์ และเงื่อนไขทสี่ ถานศึกษา
กำหนด โดยพจิ ารณาจาก
๑. ได้รบั การประเมนิ ระดบั ผ่านทงั้ ๘ คุณลักษณะ หรอื
๒. ได้ผลการประเมินตง้ั แตร่ ะดับดีข้ึนไป จำนวน ๑-๔

คุณลักษณะ และคุณลกั ษณะที่เหลือได้ผลการประเมินระดับ
ผา่ น

ไมผ่ า่ น (๐) หมายถงึ ผูเ้ รียนรบั ร้แู ละปฏิบตั ไิ ด้ไมค่ รบตามเกณฑแ์ ละเงื่อนไขท่ี
สถานศกึ ษากำหนด โดยพจิ ารณาจากผลการประเมนิ ระดับไม่
ผ่าน ต้งั แต่ ๑ คณุ ลักษณะ

11.4 การวัดและการประเมินผล การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ผ่านช่วงชั้นเป็นการ
ประเมินทกั ษะการคิดและการถ่ายทอดความคิดดว้ ยทักษะการอ่าน การคดิ วเิ คราะห์ และเขียน ตามเง่ือนไข
และวิธกี ารที่สถานศึกษากำหนดและตัดสินผลการประเมนิ เป็น 4 ระดบั ดังต่อไปนี้

ดเี ยีย่ ม (3) หมายถึง มผี ลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และ
เขียนทมี่ ีคุณภาพดเี ลศิ อยเู่ สมอ

ดี (2) หมายถึง มีผลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และ
เขียนทมี่ ีคณุ ภาพเป็นทยี่ อมรับ

ผา่ น (1) หมายถงึ มผี ลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละ
เขียนท่ีมีคุณภาพเปน็ ท่ียอมรับ แตย่ ังมีข้อบกพร่องบางประการ

ไมผ่ ่าน (0) หมายถึง ไม่มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละ
เขยี น หรือถ้ามีผลงาน ผลงานนัน้ ยงั มีข้อบกพรอ่ งทตี่ ้องได้รบั
การปรบั ปรงุ แกไ้ ขหลายประการ

หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๗๓

11.5 การตัดสินผลการเรียนผ่านช่วงชั้น เป็นการนำผลการประเมินในข้อ 11.1 ถึง
11.4 มาประมวลสรปุ เพ่ือตัดสนิ ให้ผเู้ รียนผา่ นช่วงช้นั ตา่ ง ๆ ตามเกณฑก์ ารตดั สินผลการเรยี นแตล่ ะช่วงชน้ั

หมวด 3

การตัดสินผลการเรียน

ข้อ 12 หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕61 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ได้กำหนดโครงสร้าง เวลาเรียน มาตรฐานการ
เรียนรู้ตัวชี้วัด การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ที่สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ มีคุณภาพเต็มตามศักยภาพ โรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ จึงกำหนด
หลักเกณฑก์ ารวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ เพอื่ ตดั สนั ผลการเรยี นของผเู้ รียน ใหถ้ ือปฏบิ ัติ ดังนี้

12.1 การตัดสินผลการเรียน มีการตัดสินในการผ่านรายวิชากำหนดเป็นภาคเรียน
การเลื่อนชั้นปีกำหนดเป็นปีการศึกษา และการจบระดับชั้นกำหนดเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย หลักเกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เพื่อตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนใน
หลกั สตู รโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕61 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช
๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) ใหถ้ ือปฏิบตั ดิ ังน้ี

๑) ตดั สนิ ผลการเรยี นเปน็ รายวิชา ผูเ้ รียนต้องมเี วลาเรยี นตลอดภาคเรียนไมน่ อ้ ยกว่าร้อย
ละ ๘๐ ของเวลาเรียนทงั้ หมดในรายวิชานนั้ ๆ

๒) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์ผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษา
กำหนด

๓) ผเู้ รยี นต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทกุ รายวิชา
๔) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินผานตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา
กำหนดในการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น
12.2 การให้ระดบั ผลการเรียน
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕61 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) กำหนดหลักเกณฑก์ ารใหร้ ะดับผลการเรียน ดังนี้
๑) การตัดสินผลการเรียนรายวิชาของกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ให้ระดับผลการเรียน ๘
ระดับ พิจารณาตัดสินว่าผู้เรียนผ่านเกณฑ์สาระการเรียนรูต้ ามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด ให้ได้ระดับผลการ
เรยี น “๑” ถงึ “๔” เท่าน้นั รายวชิ าท่ีจะนบั หนว่ ยกิต จะต้องไดร้ ะดับผลการเรียนต้งั แต่ ๑ ข้ึนไป

หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๗๔

๒) การตัดสินผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ ให้ระดับผลการประเมินเป็นผ่านและไม่ผ่าน กรณีที่ผ่านให้ระดับผลการเรียนเป็น “ดีเยี่ยม” “ ดี”
“ผ่าน”

๓) การตัดสินผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วม
กิจกรรม การปฏบิ ตั ิกจิ กรรม และผลงานของผูเ้ รยี นตามเกณฑท์ ี่สถานศกึ ษากำหนดและให้ผลการประเมินเป็น
“ผา่ น” และ “ไมผ่ ่าน”

การตัดสินผลการเรียนการผ่านช่วงชั้น (จบการศึกษาภาคบังคับ และจบหลักสูตรการศึกษาข้ัน
พ้ืนฐาน ) ผูเ้ รยี นตอ้ งผา่ นเกณฑ์มาตรฐานครบท้ัง 4 เกณฑ์ ซ่ึงสะสมมาจากการประเมนิ ผลการเรียนปลายภาค

ถ้าผู้เรยี นไมผ่ า่ นช่วงชน้ั ให้ดำเนินการสอนซอ่ มเสริม แล้วทำการประเมินผลจนผเู้ รยี นสามารถผ่าน
เกณฑ์การประเมนิ ท่สี ถานศกึ ษากำหนด

12.3 ผลการเรียนทมี่ เี งือ่ นไข ผลการเรยี นท่ีมีเงื่อนไข ได้แก่ ไมม่ สี ิทธิ์เขา้ รับการประเมินผล
ปลายภาคในรายวิชา และรอการตดั สนิ ให้ใชต้ วั อักษรระบุเง่อื นไขแสดงผลการเรยี น ประกอบดว้ ย

1) ตัวอกั ษรแสดงผลการเรยี นแตล่ ะรายวชิ าใน ๘ กล่มุ สาระการเรียนรู้
“มส” หมายถงึ ไมม่ ีสิทธิเข้ารับการประเมินผลปลายภาคเรยี น โดยผ้เู รยี นทม่ี เี วลา

เรียนไม่ถึงร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนในแต่ละรายวิชาและไม่ได้รับการผ่อนผันให้เข้ารับการวัดผลปลายภาค
เรยี น

“ร” หมายถึง รอการตัดสินและยังตัดสินไมไ่ ด้ โดยผู้เรียนไม่มขี ้อมูลผลการเรียน
รายวิชานนั้ ครบถว้ น เช่น ไม่ได้วัดผลกลางภาคเรียน/ปลายภาคเรยี น ไม่ได้ส่งงานท่ีมอบหมายให้ทำ ซ่ึงงาน
นัน้ เป็นสว่ นหนึ่งของการตดั สินผลการเรียน หรอื มเี หตสุ ดุ วสิ ัยทท่ี ำให้ประเมินผลการเรียนไมไ่ ด้

2) ตัวอักษรแสดงผลการเขา้ ร่วมกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
“ผ” หมายถึง ผ่านเกณฑ์ทีส่ ถานศกึ ษากำหนด
“มผ” หมายถงึ ไมผ่ า่ นเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากำาหนด

12.4 การเปลี่ยนผลการเรียน “๐” จัดให้มีการสอนซ่อมเสริมในมาตรฐานการเรียนรู้/
ตัวชี้วัดที่ผู้เรียนสอบไม่ผ่านก่อน แล้วจึงสอบแก้ตัวได้ไม่เกิน ๒ ครั้ง ทั้งนี้ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปี
การศึกษานน้ั

ถ้าผู้เรียนไม่ดำเนินการสอบแก้ตัวตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นี้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของ
สถานศกึ ษาท่ีจะพจิ ารณาขยายเวลาออกไปอีกไม่เกิน ๑ ภาคเรยี น

ถ้าสอบแก้ตัว ๒ ครั้งแล้ว ยังได้ระดับผลการเรียน “๐” อีก ให้สถานศึกษาแต่งตั้ง
คณะกรรมการดำเนนิ การเกยี่ วกบั การเปล่ียนผลการเรยี นของผู้เรยี น โดยปฏบิ ัติดังนี้

๑) ถ้าเปน็ รายวชิ าพน้ื ฐาน ใหเ้ รียนซำ้ รายวชิ าน้ัน
๒) ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ให้เรียนซ้ำาหรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ โดยให้อยูใน
ดลุ ยพินิจของสถานศกึ ษา

หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)

๒๗๕

รายวชิ าใด ในกรณีที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่าเรียนแทน
12.5 การเปลยี่ นผลการเรยี น “ร” มี ๒ กรณี คอื

๑) มีเหตสุ ุดวิสยั ทำให้ประเมินผลการเรียนไมไ่ ด้ เช่น เจบ็ ปว่ ย เมอ่ื ผู้เรยี นไดเ้ ข้าสอบ
หรือ ส่งผลงานที่ติดค้างอยู่เสร็จเรียบร้อย หรือแก้ปัญหาเสร็จสิ้นแล้ว ให้ได้ระดับผลการเรียนตามปกติ
(ต้ังแต่ ๐ - ๔)

๒) ถ้าสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เมื่อผู้เรียนได้เข้าสอบ หรือ
ส่งผลงานที่ตดิ คา้ งอยูเ่ สร็จเรยี บรอ้ ย หรือแกป้ ัญหาเสร็จสิ้นแล้ว ให้ได้ระดับผลการเรียนไมเ่ กิน “๑”

การเปลี่ยนผลการเรียน “ร” ให้ดำเนินการแก้ไขตามสาเหตุให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษานั้น
ถ้าผู้เรียนไม่มาดำเนินการแก้ “ร” ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ให้เรยี นซ้ำรายวิชา ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย ให้อยู่ใน
ดลุ ยพนิ ิจของสถานศึกษาทจ่ี ะขยายเวลาการแก้ “ร” ออกไปอีกไม่เกนิ ๑ ภาคเรยี น ปฏบิ ัตดิ ังน้ี

1) ถ้าเป็นรายวิชาพื้นฐาน ใหเ้ รยี นซำ้ รายวิชานนั้
2) ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ให้เรียนซ้ำหรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ โดยให้อยูใน
ดลุ ยพินิจของสถานศกึ ษา
ในกรณีที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่าเรียนแทน
รายวชิ าใด
12.6 การเปล่ยี นผลการเรียน “มส” มี ๒ กรณี ดังน้ี
1) กรณีผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ ๘๐ แต่มีเวลา
เรยี นไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรยี นในวิชาน้ัน ใหส้ ถานศึกษาจัดให้เรยี นเพิ่มเติมโดยใช้ช่ัวโมงสอนซ่อม
เสริม หรือใช้เวลาว่าง หรือใช้วันหยุด หรือมอบหมายงานให้ทำ จนมีเวลาเรียนครบตามที่กำหนดไว้สำหรับ
รายวชิ าน้ัน แล้วจงึ ใหว้ ัดผลปลายภาคเปน็ กรณีพเิ ศษ
ผลการสอบแก้ “มส” ให้ได้ระดับผลการเรียนไม่เกิน “๑” การแก้ “มส” กรณีนี้ให้
กระทำให้เสร็จส้ินในปกี ารศกึ ษานัน้
ถ้าผู้เรียนไม่มาดำเนินการแก้ “มส” ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นี้ให้เรียนซ้ำ ยกเว้นมี
เหตุสุดวิสัย ให้อยูในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะขยายเวลาการแก้ “มส” ออกไปอีกไม่เกิน ๑ ภาคเรียน แต่
เมื่อพน้ กำหนดนี้แลว้ ให้ปฏิบัตดิ ังนี้

๑.๑ ถ้าเป็นรายวชิ าพื้นฐาน ใหเ้ รียนซำ้ รายวชิ านน้ั
๑.๒ ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา ให้เรียนซ้ำหรือ
เปลยี่ นรายวิชาเรียนใหม่
2) กรณีผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนน้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของ
เวลาเรยี นท้ังหมด ให้สถานศึกษาจัดให้เรียนซ้ำในรายวิชาพื้นฐานและรายวชิ าเพ่ิมเติม หรือเปล่ียนรายวิชาใหม่
ได้ สำหรบั รายวิชาเพ่มิ เตมิ เท่านน้ั
ในกรณีที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่าเรียนแทน
รายวชิ าใด

หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)

๒๗๖

การเรียนซ้ำรายวิชา ผู้เรียนที่ได้รับการสอนซ่อมเสริมและสอบแก้ตัว 2 ครั้งแล้วไม่ผ่าน
เกณฑ์การประเมนิ ให้เรยี นซำ้ รายวชิ านนั้ ทัง้ นี้ ใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของสถานศึกษาในการจัดให้เรียนซ้ำในช่วงใด
ชว่ งหนึง่ ทีส่ ถานศึกษาเห็นวา่ เหมาะสม เชน่ พักกลางวัน วันหยดุ ชั่วโมงวา่ งหลังเลิกเรียน ภาคฤดรู ้อน เป็นตน้

ในกรณีภาคเรียนท่ี ๒ หากผู้เรียนยังมผี ลการเรียน “๐” “ร” “มส” ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้น
ก่อนเปิดเรียนปีการศึกษาถัดไป สถานศึกษาจะเปิดการเรียนการสอนในภาคฤดูร้อนเพื่อแก้ไขผลการเรียนของ
ผู้เรียนได้ ทั้งนี้ หากสถานศึกษาไม่สามารถดำเนินการเปิดสอนภาคฤดูร้อนได้ให้สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษา/
ต้นสังกัดจะเป็นผู้พิจารณาประสานให้มีการดำเนนิ การเรียนการสอน ในภาคฤดูร้อนเพื่อแก้ไขผลการเรียนของ
ผูเ้ รียน

12.7 การเปลย่ี นผลการเรียน “มผ” ใหถ้ อื ปฏิบตั ิดงั นี้
กรณีที่ผู้เรียนได้ผลการเรียน “มผ” ต้องจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียนทำกิจกรรม เช่น กิจกรรมแนะ
แนว กิจกรรมนักเรียน กิจกรรมชุมนุม กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ อย่างใดอย่าง หนึ่งจนครบ
ตามเวลาที่กำหนด หรือปฏิบัติกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณลักษณะท่ีต้องปรับปรุง แก้ไข แล้วจึงเปล่ียนผลการเรียน
จาก “มผ” เป็น “ผ” ทั้งนี้ดำเนินการให้เสร็จส้ินภายในปีการศึกษานั้น ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจ
ของสถานศึกษา

12.8 การเลื่อนชัน้ ผ้เู รียนจะได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกภาคเรียน และได้รับการเลื่อน
ชนั้ เมอ่ื สน้ิ ปีการศึกษา ต้องมีคุณสมบัตติ ามเกณฑ์ ดังนี้

๑) รายวิชาพ้นื ฐาน ได้รบั การตดั สินผลการเรียนผ่านทุกรายวชิ า
๒) รายวชิ าเพมิ่ เติม ไดร้ บั การตัดสนิ ผลการเรียนผ่านตามเกณฑ์ทส่ี ถานศกึ ษากำหนด
๓) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา
กำหนด ในการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์และกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
๔) ระดับผลการเรยี นเฉลีย่ ในปกี ารศกึ ษาน้นั ควรไดไ้ มต่ ่ำกวา่ ๑.๐๐
ทั้งนี้ รายวิชาใดที่ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ สถานศึกษาสามารถซอ่ มเสริมผู้เรียนให้ได้รับการ
แกไ้ ขในภาคเรียนถดั ไป
12.9 การเรียนซ้ำชั้น ผู้เรียนที่ไม่ผ่านรายวิชาจำนวนมากและมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหา
ต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น ให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้นได้ ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงวุฒิภาวะและ
ความรคู้ วามสามารถของผ้เู รยี นเปน็ สำคญั
การเรยี นซ้ำช้ัน มี ๒ ลักษณะ คือ
1) ผ้เู รยี นมรี ะดบั ผลการเรยี นเฉล่ียในปกี ารศกึ ษานัน้ ต่ำกว่า ๑.๐๐ และมแี นวโนม้ ว่า
จะเปน็ ปญั หาต่อการเรียนในระดบั ชั้นที่สงู ขึ้น
2) ผู้เรียนมีผลการเรียน ๐ , ร , มส เกินครึ่งหนึ่งของรายวิชาที่ลงทะเบียนเรียนในปี
การศกึ ษานั้น
ทั้งนี้ หากเกิดลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือทั้ง ๒ ลักษณะ ให้สถานศึกษาแต่งตั้ง
คณะกรรมการพิจารณา หากเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรก็ให้ซ้ำชั้น โดยยกเลิกผลการเรียนเดิมและให้ใช้ผล

หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๗๗

การเรียนใหม่แทน หากพิจารณาแล้วไม่ต้องเรียนซ้ำชั้น ให้อยูในดุลยพินิจของสถานศึกษาในการแก้ไขผลการ
เรียน

12.10 การสอนซ่อมเสริม การสอนซ่อมเสริมเป็นการสอนเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง กรณีท่ี
ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ กระบวนการ หรือเจตคติ/คณุ ลักษณะ ไม่เป็นไปตามที่สถานศึกษากำหนด ควรจัดการ
สอนซ่อมเสริมเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือไปจากการสอนตามปกติ เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถบรรลุตาม
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ เป็นการให้โอกาสแก่ผู้เรียนได้เรียนรู้และพัฒนา โดยจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ที่หลากหลายและตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล การสอนซ่อมเสริมสามารถดำเนินการได้ใน
กรณี ดังต่อไปน้ี

1) ผู้เรียนมีความรู้/ทักษะพื้นฐานไม่เพียงพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวิชานั้น ควรจัดการ
สอนซอ่ มเสริมปรับความรู้/ทักษะพน้ื ฐาน

2) ผู้เรียนไมส่ ามารถแสดงความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ หรือเจตคติ/คุณลักษณะที่กำหนด
ไวต้ ามมาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั ในการประเมนิ ผลระหว่างเรียน

3) ผูเ้ รียนได้ระดบั ผลการเรียน “๐” ให้จัดการสอนซ่อมเสริมก่อนสอบแกต้ ัว
4) กรณีผู้เรียนมีผลการเรียนไม่ผา่ น สามารถจัดสอนซ่อมเสริมในภาคฤดูร้อน ทั้งน้ีให้อยู่
ในดุลยพินิจของสถานศึกษา
12.11 เกณฑก์ ารจบระดับมัธยมศึกษาตอนตน้

1) ผู้เรียนเรียนรายวชิ าพืน้ ฐานและเพมิ่ เติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 66 หนว่ ยกติ และ
รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ตามทส่ี ถานศกึ ษากำหนด

2) เรียนต้องได้หน่วยกิต ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชา
พื้นฐาน 66 หน่วยกติ และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกวา่ 11 หนว่ ยกิต

3) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับผ่านเกณฑ์การ
ประเมินตามท่ีสถานศกึ ษากำหนด

4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน
ตามทสี่ ถานศึกษากำหนด

5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมิน
ตามท่สี ถานศกึ ษากำหนด

12.12 เกณฑ์การจบระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
1) ผ้เู รียนเรยี นรายวิชาพ้นื ฐานและเพมิ่ เตมิ โดยเปน็ รายวชิ าพ้นื ฐาน 41 หน่วยกิต และ

รายวิชาเพิม่ เตมิ ตามท่ีสถานศึกษากำหนด
2) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิต ตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชา

พ้ืนฐาน 41 หน่วยกิต และรายวิชาเพมิ่ เตมิ ไม่นอ้ ยกวา่ 36 หนว่ ยกิต
3) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การ

ประเมนิ ตามทส่ี ถานศึกษากำหนด

หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๗๘

4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน
ตามทส่ี ถานศกึ ษากำหนด

5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมิน
ตามทส่ี ถานศกึ ษากำหนด

หมวด 4

การเทียบโอนผลการเรียน

ข้อ 13 การเทียบโอนผลการเรียน การเทียบโอนผลการเรียน เป็นการนำผลการเรียนซึ่งเป็น
ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ของผู้เรียนที่เกิดจากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และ
การศึกษาตามอธั ยาศัย มาประเมินเปน็ ส่วนหนึง่ ของการศกึ ษาตามหลกั สตู รใดหลักสูตรหนง่ึ

แนวการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียนให้เป็นไปตามระเบียบสถานศึกษาว่าด้วยการเทียบ
โอนผลการเรยี น ดงั น้ี

13.1 ผู้ขอเทียบโอนต้องขึ้นทะเบียนเป็นนักเรียนของสถานศึกษา ทั้งนี้โดยผู้ขอเทียบโอน
จะตอ้ งไมเ่ ป็นผทู้ ี่กำลงั ศึกษาอยู่ในระบบโดยสถานศึกษาดังกล่าวดำเนินการเทียบโอนผลการเรยี น ในภาคเรียน
แรกทข่ี ้ึนทะเบียนเป็นนักเรยี น ยกเว้นกรณีมเี หตุจำเป็น

13.2 จำนวนสาระการเรียนรู้ รายวิชา จำนวนหน่วยกิตที่จะรับเทียบโอน และอายุของผล
การเรยี นท่จี ะนำมาเทยี บโอน ให้อยู่ในดุลพินจิ ของคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวชิ าการของสถานศึกษา
ทั้งนเี้ ม่ือเทียบโอนแล้วต้องมเี วลาเรียนอยู่ในสถานศกึ ษาทจ่ี ะรบั เทียบโอนไมน่ อ้ ยกวา่ 1 ภาคเรียน

13.3 การเทียบโอนผลการเรียนให้ดำเนินการในรูปของคณะกรรมการการเทียบโอนผลการ
เรยี นจำนวนไมน่ ้อยกว่า 3 คนแตไ่ มเ่ กิน 5 คน

ขอ้ 14 การเทียบโอน ใหด้ ำเนนิ การดงั น้ี
14.1 การเทยี บระดับการศกึ ษา หมายถงึ การนำผลการเรยี น ความรแู้ ละประสบการณ์ท่ไี ด้

จากการศึกษาตามอัธยาศยั และการศึกษานอกระบบ ไม่แบง่ ระดับมาประเมนิ เพ่ือเทียบเท่าการศึกษาระดับ
ใดระดับหนึ่ง มี แนวทางการเทียบระดับการศึกษาดังน้ี

๑) ผู้ขอเทยี บระดับการศกึ ษาจะต้องไม่เป็นผู้ที่กำลังศึกษาอย่ใู นสถานศึกษาในระบบ
หรอื สถานศึกษานอกระบบท่ีจดั การศกึ ษาเป็นระบบเดียวกันกับการศึกษาในระบบ และเปน็ ผ้สู ำเร็จการศึกษา
ตามหลกั สูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ในระดบั ทีต่ ่ำกวา่ ระดบั การศกึ ษาทข่ี อเทยี บ 1 ระดบั ผ้ไู ม่เคยมีวฒุ ิ
การศกึ ษาใดๆ จะขอเทียบระดบั การศึกษาได้ไมเ่ กินระดับประถมศกึ ษา

๒) ใหส้ ถานศกึ ษาซง่ึ เปน็ ทท่ี ำการเทียบระดับการศึกษา ดำเนินการเทียบระดับด้วย
การประเมนิ ความร้คู วามสามารถ และประสบการณ์ของผู้ขอเทียบระดับ ด้วยวิธีการท่ีหลากหลายทง้ั ด้วยการ
ทดสอบ การประเมนิ แฟม้ ผลงาน การสังเกตพฤติกรรมต่างๆ ใหค้ รอบคลุมคุณลกั ษณะของผ้เู รยี นท้ังดา้ น
พทุ ธิพสิ ยั จติ พิสัย และทกั ษะพิสัย ตามเกณฑ์มาตรฐานของหลักสตู รที่ขอเทยี บระดับ

หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๗๙

๓) ผู้ผ่านการประเมินจะได้รับหลกั ฐานแสดงผลการประเมินเทียบระดบั ความรู้และ
ใบประกาศนียบัตรรบั รองระดับความรู้ของกระทรวงศึกษาธิการ

14.2 การเทียบโอนผลการเรียน หมายถงึ การนำผลการเรียนซ่งึ เป็นความรูท้ ักษะ และ
ประสบการณ์ของผเู้ รียนที่เกดิ จากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย และผล
การศกึ ษา จากต่างสถานศึกษามาประเมินเปน็ ส่วนหน่ึงของการศึกษา ตามหลกั สูตรใดหลักสตู รหน่งึ ที่กำลงั
ศกึ ษา มีแนวการดำเนินการดังน้ี

๑) คณะกรรมการบริหารหลกั สตู รและวชิ าการของสถานศกึ ษากำหนดจำนวน
รายวิชา จำนวนหนว่ ยกิต ทส่ี ถานศึกษาจำกดั ใหผ้ ูเ้ รียนสามารถขอเทียบโอนไดใ้ นการศึกษาตามหลักสตู รของ
สถานศึกษาแต่ละชว่ งชัน้ ทั้งนี้ผูเ้ รยี นจะต้องเหลือรายวชิ าทจ่ี ะต้องศึกษาในสถานศึกษาอีกอยา่ งน้อย 1 ภาค
เรยี น พร้อมกับการกำหนดแนวทางและวธิ ีการเทยี บโอนทั้งกรณีเทยี บโอนผลการเรยี นเดมิ ท่ีผู้เรียนศึกษากอ่ น
เขา้ ศึกษาในสถานศึกษา และกรณเี ทยี บโอนผลการเรยี นท่ผี ู้เรียนขออนุญาตไปศึกษาตา่ งสถานศกึ ษา จะต้อง
จดั ทำเป็นระเบยี บการเทียบโอนผลการเรียนของสถานศกึ ษาใหส้ อดคล้องกับกฎกระทรวงวา่ ด้วยการเทียบโอน
ผลการเรยี นดว้ ย

๒) สถานศกึ ษาแต่งตง้ั คณะกรรมการดำเนนิ การเทียบโอนผลการเรียนของ
สถานศึกษาใหป้ ฏิบตั ิหน้าที่กำหนดสาระ จัดสร้างเคร่อื งมือ สำหรับการเทียบโอนผลการเรยี น และ
ดำเนนิ การเทียบโอนผลการเรียน

กรณกี ารเทียบโอนผลการเรียนเดิม ท่ีเรยี นศกึ ษามาก่อนเขา้ ศึกษาในสถานศึกษาให้
ดำเนนิ การดังน้ี

1. ให้ดำเนนิ การให้เสร็จในภาคเรียนแรกทผ่ี เู้ รียนเขา้ ศกึ ษาในสถานศึกษา
2. ใหเ้ ทยี บโอนผลการเรยี นเปน็ รายวชิ า
3. ผเู้ รยี นยน่ื คำร้องเปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษรขอเทยี บความรตู้ ามรายวิชาในหลกั สตู รของ
สถานศกึ ษา ตามจำนวนรายวิชาทีส่ ถานศกึ ษากำหนดไว้ในระเบยี บการเทียบโอนผลการเรียนของสถานศึกษา
ใหผ้ เู้ รยี นย่ืนคำรอ้ ง พรอ้ มเอกสารหลกั สตู รท่นี ำมาขอเทียบ และเอกสารการศึกษาทีไ่ ด้รับมา (ถา้ ผูเ้ รยี นม)ี
4. คณะกรรมการดำเนินการเทยี บโอนผลการเรยี นพจิ ารณาหลักสูตรและหลักฐาน
เอกสารเดิมของผ้เู รียน เพ่ือเปรียบเทียบหลกั สตู รท่ีเรียนมากับหลกั สูตรของสถานศกึ ษาในรายวชิ าทีข่ อเทยี บ
ถ้ามีจดุ ประสงคแ์ ละเนอื้ หาสาระตรงกันไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60 ใหร้ บั เทียบโอนได้ และใหไ้ ดร้ ะดับผลการ
เรยี นตามทไี่ ดม้ าในกรณีทีผ่ เู้ รยี นยา้ ยสถานศึกษา แตถ่ า้ เป็นกรณีเทียบโอนผลการเรยี นจากสถานศึกษาต่าง
ระบบ ใหค้ ณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนพิจารณาว่าควรยอมรบั ผลการเรยี นเดิมหรอื ไม่ ถ้าไม่ยอมรบั ก็
ต้องประเมินใหใ้ หมด่ ้วยวธิ ีการต่างๆ ทเ่ี หมาะสม
5. คณะกรรมการดำเนินการเทยี บโอนผลการเรยี น จดั ให้มีการประเมินความรู้
ความสามารถ และประสบการณ์ของผเู้ รียนใหม่ ตามตวั ช้ีวัดของรายวชิ าที่ผเู้ รยี นขอเทียบในกรณีทผี่ ู้เรยี นไม่มี
เอกสาร หลักฐานการศึกษาเดิมมาแสดง หรือหลักสูตรที่ผู้เรยี นนำมาขอเทียบโอนมคี วามสอดคล้องกับตัวช้ีวดั
และเนอื้ หาสาระของหลกั สูตรท่ขี อเทียบไมถ่ งึ ร้อยละ 60 ผเู้ รียนทีผ่ ่านการประเมินจะได้รบั การเทียบโอนผล

หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)

๒๘๐

การเรยี นได้ โดยได้ระดบั ผลการเรยี นตามท่ีประเมนิ ได้ ส่วนผทู้ ่ีไม่ผ่านการประเมินจะไม่ได้รับการเทียบโอนผล
การเรยี น

กรณผี ู้เรียนขออนญุ าตไปศกึ ษารายวิชาใดรายวิชาหนง่ึ ตา่ งสถานศึกษาหรือขอศึกษาดว้ ย
ตนเองใหด้ ำเนนิ การดังนี้

1. ใหด้ ำเนนิ การโดยผเู้ รยี นยนื่ คำรอ้ งไปศกึ ษาตา่ งสถานท่ีหรอื ต่างรปู แบบต่อ
คณะกรรมการเทยี บโอนผลการเรยี น ซง่ึ จะพจิ ารณาผลการเรยี นและความจำเปน็ ของผูเ้ รยี นตามระเบียบการ
จดั การศกึ ษา 3 รปู แบบ ของสถานศกึ ษาทจ่ี ะจัดการศึกษาในระบบ

2. รายวิชาทผ่ี ้เู รียนขอไปศกึ ษาต่างสถานท่ี หรือตา่ งรูปแบบต้องมีจุดประสงค์และ
เนือ้ หาสาระสอดคล้องกบั รายวชิ าในหลกั สตู รของสถานศกึ ษาทจ่ี ะนำมาเทยี บโอนไม่น้อยกว่า รอ้ ยละ 60

3. กรณผี เู้ รยี นขอไปศึกษาต่างสถานศกึ ษาหรอื ระบบท่ีมสี ถานศึกษาจัดการเรียนการ
สอนแนน่ อน ถา้ เหน็ ควรอนุญาตใหไ้ ปเรยี นได้ให้มกี ารประสานงาน เรอื่ งการจัดการเรยี นการสอน การ
ประเมินผล และการรับโอนผลการเรียนกอ่ น เมื่อไดต้ กลงร่วมกันเรยี บร้อยแล้วจงึ จะอนุญาตเม่ือศึกษาสำเรจ็
ใหร้ ับโอนผลการเรียนได้ทันที

4. กรณีผ้เู รยี นขออนุญาตศึกษาด้วยตนเอง หรือศึกษาในสถานศกึ ษาท่ีไมส่ ามารถ
ติดตอ่ ประสานได้ ถา้ คณะกรรมการพจิ ารณาความจำเป็นแลว้ เหน็ ควรอนญุ าต เมอ่ื ผเู้ รียนมารายงานผลการ
เรียน ใหค้ ณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนผลการเรยี นทำการเทียบโอนผลการเรียนให้ผู้เรยี น เชน่ เดยี วกนั
กรณีการเทียบโอนผลการเรียนเดิมท่ีผเู้ รียนศึกษามาก่อนเข้าศึกษาในสถานศึกษา

5. คณะกรรมการดำเนินการเทยี บโอนผลการเรยี น รายงานผลการเทยี บโอนให้
คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวชิ าการของสถานศกึ ษาใหค้ วามเห็นชอบ และเสนอผบู้ ริหารสถานศึกษา
อนมุ ัติผลการเทียบโอนผลการเรยี น

หมวด 5

เอกสารหลักฐานการศกึ ษา

ขอ้ 15 ใหส้ ถานศึกษาจดั ให้มีเอกสารการประเมนิ ผลการเรยี นตา่ ง ๆ ดงั นี้
15.1 ระเบียนแสดงผลการเรียน (Transcript) (ปพ.1) เป็นเอกสารบันทึกผลการเรียนของ

ผู้เรียนตามสาระการเรยี นร้กู ลุม่ วิชาและกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทีไ่ ดเ้ รียนในแตล่ ะช่วงชน้ั ของหลกั สูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
เพื่อให้เป็นหลักฐานแสดงสถานภาพและความสำเร็จในการศึกษาของผู้เรียนแต่ละคน ใช้เป็นหลักฐานในการสมัคร
เข้าศกึ ษาตอ่ สมคั รทำงานหรือดำเนินการในเรื่องอ่ืนทีเ่ ก่ยี วข้อง

15.2 หลักฐานแสดงวุฒิการศึกษา (ใบประกาศนียบัตร) (ปพ.2) เป็นเอกสารที่สถานศึกษา
ออกให้กับผู้สำเร็จการศึกษาและรับรองวุฒิการศึกษาของผู้เรียน ให้ผู้เรียนนำไปใช้เป็นหลักฐานแสดงระดับวุฒิ
การศึกษาของตน

หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๘๑

15.3 แบบรายงานผู้สำเรจ็ การศึกษา (ปพ.3) เป็นแบบรายงานรายช่ือและข้อมูลของผู้สำเร็จ
การศึกษาภาคบังคับตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับตรวจสอบยืนยันและรับรอง
ความสำเร็จและวุฒกิ ารศกึ ษาของผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษาแต่ละคน ต่อเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาและกระทรวงศึกษาธิการ

15.4 แบบแสดงผลการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ปพ.4) เป็นเอกสารรายงาน
พัฒนาการด้านคุณลักษณะของผู้เรียนเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่
สถานศึกษากำหนดขึ้นเพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นพิเศษ เพื่อการแก้ปัญหาหรือสร้างเอกลักษณ์ให้ผู้เรียนตามวิสัย ทัศน์
ของสถานศึกษา เป็นการรายงานผลการประเมินที่แสดงถึงสภาพหรือระดับคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม หรือ
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรยี นในแตล่ ะชว่ งช้ัน สถานศึกษาต้องจัดทำเอกสารนีใ้ ห้ผูเ้ รียนทุก ๆ คน ควบคู่กับ
ระเบียนแสดงผลการเรียนของผู้เรียนเพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานแสดงคุณลักษณะของผู้เรียนเพื่อประกอบในการ
สมัครศึกษาตอ่ หรือสมคั รทำงาน

15.5 แบบแสดงผลการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน (ปพ.5) เป็นเอกสารสำหรับผู้สอนใช้
บันทึกเวลาเรียน ข้อมูลผลการวัดและประเมินผลการเรียน ข้อมูลการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
แต่ละคนที่เรียนในห้องเรียนกลุ่มเดียวกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ปรับปรุง แก้ไข
ส่งเสริมและตัดสินผลการเรียนของผู้เรียน รวมทั้งใช้เป็นหลักฐานสำหรับตรวจสอบยืนยัน สภาพการเรียน การมี
ส่วนรว่ มในกิจกรรมต่าง ๆ และผลสมั ฤทธข์ิ องผเู้ รียนแต่ละคน

15.6 แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล (ปพ.6) เป็นเอกสารสำหรับ
บันทกึ ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ผลการเรยี น พัฒนาการในดา้ นต่าง ๆและข้อมลู อ่ืน ๆ ของผเู้ รยี น

15.7 ใบรับรองผลการศึกษา (ปพ.7) เป็นเอกสารที่สถานศึกษาออกให้ผู้เรียนเป็นการเฉพาะ
กิจเพื่อรับรองสถานภาพทางการศึกษาของผู้เรียนเป็นการชั่วคราว ทั้งกรณีผู้เรียนยังไม่สำเร็จการศึกษาและสำเร็จ
การศึกษาแล้ว

15.8 ระเบียนสะสม (ปพ.8) เป็นเอกสารสำหรับบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและผลงาน
ด้านตา่ ง ๆ ของผเู้ รยี นท้ังทีส่ ถานศกึ ษาและทบ่ี า้ น เพอ่ื ประโยชน์ในการแนะแนวผเู้ รียนในทุก ๆ ด้าน

15.9 สมุดบันทึกผลการเรียน (ปพ.9) เป็นสมุดบันทึกผลการเรียนรู้ที่สถานศึกษาจัดทำขึ้น
เพื่อบันทึกรายการรายวิชาต่าง ๆ ที่ผู้เรียนจะต้องเรียนในแต่ละช่วงชั้น ตามโครงสร้างหลักสูตรของสถานศึกษา
พรอ้ มด้วยผลการประเมินผลการเรียนของแต่ละรายวชิ า และสถานศึกษา ออกใหผ้ เู้ รียนสำหรับใช้ศึกษาและนำไป
แสดงให้บุคคลหรือหน่วยงานที่สนใจได้ทราบโครงสร้างหลักสูตรและรายละเอียดของรายวิชาต่าง ๆ ของ
สถานศึกษา พร้อมด้วยผลการเรียนของผู้เรียนจากการเรียนแต่ละรายวิชา กรณีที่ผู้เรียนย้ายสถานศึกษาข้อมูลใน
สมดุ บนั ทึกผลการเรยี นรู้จะเป็นประโยชนใ์ นการนำไปใช้เปน็ ข้อมลู ในการเทียบโอนผลการเรียนจากสถานศึกษาเดิม
ไปเป็นผลการเรยี นตามหลกั สูตรของสถานศึกษาใหม่

หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๘๒

หมวด 6

บทเฉพาะกาล

ขอ้ ๑6 ใหม้ บี ทเฉพาะกาลต่อไปน้ี
16.1 ปัญหา การเปลยี่ นแปลง แกไ้ ข เพิ่มเตมิ อนั เกดิ จากระเบียบและแนวปฏบิ ัติน้ี ต้อง

ไดร้ บั การพจิ ารณาหรือให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของคณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตรและวิชาการของโรงเรยี น แลว้
เสนอขอความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พื้นฐานเพื่อประกาศใชต้ ่อไป

16.2 นกั เรียนทีไ่ ด้ผลการเรียน 0, ร, มส และผลการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น มผ
ก่อนการใช้ระเบยี บน้ีใหอ้ ย่ใู นดุลยพินิจของสถานศึกษา

ประกาศ ณ วันที่ 1 เดือน เมษายน พ.ศ. 2561

( นายสุริย์ คงคากลุ )
ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน

หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๘๓

ภาคผนวก

หลักสูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๘๔

คำสง่ั โรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์

ที่ 056/ 2563

เรือ่ ง แตง่ ตั้งคณะกรรมการดำเนินการจดั ทำหลักสูตรสถานศึกษา (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

……………………………………………………………………………………

ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ 1239/2560 เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และ

ตวั ชวี้ ัด กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา

ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช

2551 สั่ง ณ วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560 โรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ ซึ่งต้องจัดการเรียนการสอนในระดับช้ัน

มัธยมศึกษาปีที่ 1 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา2561 เพื่อให้การจัดทำหลักสูตรโรงเรียนสุวรรณ

ไพบูลย์ ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย เสร็จสมบูรณ์ มีสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้และเป็น

หลักสูตรฉบับปรับปรุง พ.ศ.2563 สอดคล้องกับมาตรฐาน/ตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน

พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จึงแต่งตง้ั คณะกรรมการดำเนินการจดั ทำหลักสูตรสถานศึกษา ดังนี้

1. คณะกรรมการอำนวยการ มีหน้าที่วางแผน อำนวยการและประสานงานให้คณะกรรมการ

ดำเนินการได้ ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ดี ้วยความเรยี บร้อย เสร็จสมบูรณ์ ตามภาระหนา้ ทท่ี ่ไี ด้รบั มอบหมาย ประกอบดว้ ย

๑) นายวิทยา อหุ มัน ประธานกรรมการ

๒) นางเมษิณี กนกเหมพนั ธ์ กรรมการ

๓) นางสุทธิ์เฉลียว จนั ทรค์ ง กรรมการ

๔) นางนูรรตั นา หะยีมะ กรรมการ

๕) นายซุฟเฟยี น เจะ๊ มะ กรรมการ

๖) นางสาวนูรยี ะ มะแซ กรรมการ/เลขานกุ าร

2. คณะกรรมการดำเนนิ การ มหี น้าทจี่ ัดทำหลักสตู รสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระวชิ าที่ได้รับมอบหมาย

ทั้ง รายวชิ าพน้ื ฐานและรายวชิ าเพิ่มเติม ระดบั ชั้น ม.1 – ม.6 โดยจดั พมิ พ์เป็นรูปเล่มให้เสร็จเรียบร้อย ภายใน

เวลาท่ีกำหนด ประกอบดว้ ย

2.1 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

๑) นางสาววิลาวรรณ์ สขุ มะแปน้ หวั หนา้

๒) นางสาวทัศนีย์ จลุ เอียด ผู้ชว่ ย

๓) นางฉัตรพร ไชยบญุ แกว้ ผชู้ ว่ ย

2.2 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

๑) นายซฟุ เฟียน เจะ๊ มะ หวั หนา้
ผชู้ ่วย
๒) นายวันอรุ มัร คงพนิ ผู้ชว่ ย
ผ้ชู ว่ ย
๓) ว่าท่ี ร.ต. มุสลีมีน อแี ต

๔) นายอับดุลการีม ระเอะ

หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)

๒๘๕

2.3 กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

๑) นางปาอยี ะห์ หะยมี ะแซ หวั หนา้
ผชู้ ว่ ย
๒) นางเมษิณี กนกเหมพนั ธ์ ผ้ชู ว่ ย
ผู้ช่วย
๓) นางสาวซะรีฟะอ์ อูมา ผชู้ ่วย
ผู้ชว่ ย
๔) นางนูรรตั นา หะยีมะ ผชู้ ่วย
ผู้ชว่ ย
๕) นายอารี มีนา

๖) นางสาวนูรยี ะ มะแซ

๗) นางสาวซาวาตี บือราเฮง

๘) นางสาววลั อสั รี โร๊ะศรี

2.4 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

๑) นายอบั ดุลรอแม ลาเตะ หัวหนา้
ผู้ช่วย
๒) นางสาววไิ ล บัวศรี ผชู้ ่วย

๓) นางสาวบุศรา แวมะ

2.5 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา

๑) นายอนุชา นาคสงั วัจฉระ หัวหน้า
ผชู้ ่วย
๒) นายแวมะรดู ิน หามะ ผู้ช่วย
ผชู้ ่วย
๓) นายบาฮารง เจะหะ ผู้ชว่ ย
ผชู้ ่วย
๔) นายมูฮมั หมัด บญุ ส่ง ผู้ชว่ ย
ผชู้ ่วย
๕) นางสาวยลาลักษณ์ บีรู

๖) นายศรัทธา เจ๊ะสู

๗) นายมาหามะอามนิ เจ๊ะเหง็

๘) นายอามีน เสดี

2.6 กล่มุ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ

๑) นายนพเกา้ ศลิ ปเจริญ หัวหน้า

2.7 กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ

๑) นางเอ้อื มเดือน วงศส์ าโรจน์ หวั หน้า
ผู้ชว่ ย
๒) นายวชั รนิ ทร์ ทองอนิ ทร์

2.8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

๑) นางมัยยุรีย์ ปาแน หัวหน้า
ผชู้ ่วย
๒) นางอัสมะห์ บหู สั ผ้ชู ่วย
ผู้ช่วย
๓) นางสวุ รรณา เพชรชนะ

๔) นางสาวอาอซี ะห์ ซอและ

หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)

๒๘๖

ให้คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งได้ศึกษา วิเคราะห์มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ในหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และปรับปรุงหลักสูตรตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่
สพฐ 1239/2560 อย่ำงเคร่งครัด ประชุมวางแผนการจัดทำหลักสูตรตามที่ได้รับมอบหมาย ให้สำเร็จ
เรียบรอ้ ย ภายในเวลาที่กำหนด หากมีปัญหาให้ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการ

ส่ัง ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2563
( นายวทิ ยา อุหมัน )

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนสวุ รรณไพบลู ย์

หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)

๒๘๗

หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)


Click to View FlipBook Version