๙๖
คำอธิบายรายวิชา ว ๓0๒1๑ ฟิสิกส์ ๑
รายวิชาเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา 6๐ ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ศึกษาธรรมชาติของวิชาฟิสิกส์ปริมาณกายภาพและหนว่ ยการวัดความคลาดเคลื่อนในการวัดและ การทดลอง
ในฟิสิกส์การบอกตำแหน่งของวัตถุความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับ การเคลื่อนที่แนวตรงด้วย
ความเร่งคงตัว แรงและผลของแรงที่มตี ่อสภาพการเคล่ือนที่ของวัตถุกฎการ เคล่ือนทข่ี องนวิ ตัน กฎแรงดึงดูดระหว่าง
มวล และแรงเสยี ดทาน
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การสำรวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ
ความคิด มีความสามารถในการ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ การตัดสินใจ การนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิต
วทิ ยาศาสตรจ์ รยิ ธรรม คุณธรรมและคา่ นิยมที่เหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. สืบค้น และอธิบายการค้นหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา รวมทั้งพัฒนาการของ หลักการและ
แนวคดิ ทางฟสิ ิกส์ท่ีมีผลตอ่ การแสวงหาความรู้ใหมแ่ ละการพฒั นาเทคโนโลยี
๒. วัด และรายงานผลการวัดปริมาณทางฟิสิกส์ ได้ถูกต้องเหมาะสม โดยนำความคลาดเคลื่อน ในการวัดมา
พิจารณาในการนำเสนอผล รวมทั้ง แสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ วิเคราะห์ และแปลความหมาย
จากกราฟเสน้ ตรง
๓. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง ตำแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่ง ของการเคลื่อนที่
ของวัตถุในแนวตรงที่มีความเร่ง คงตัวจากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลองหาค่า ความเร่งโน้มถ่วงของ
โลก และคำนวณปริมาณ ต่าง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง
๔. ทดลอง และอธิบายการหาแรงลพั ธ์ของแรง สองแรงทที่ ำมุมตอ่ กนั
๕. เขียนแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระ ทดลอง และอธิบายกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน และการใช้
กฎการเคลอื่ นทขี่ องนิวตนั กับสภาพการ เคลอ่ื นท่ขี องวตั ถรุ วมทัง้ คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เกีย่ วข้อง
๖. อธบิ ายกฎความโนม้ ถว่ งสากลและผลของ สนามโน้มถ่วงที่ทำใหว้ ตั ถุมนี ้ำหนัก รวมทง้ั คำนวณปรมิ าณต่าง
ๆ ท่เี กี่ยวขอ้ ง
๗. วิเคราะหอ์ ธบิ าย และคำนวณแรงเสียดทาน ระหวา่ งผิวสัมผสั ของวัตถุคหู่ นง่ึ ๆ ในกรณที ว่ี ตั ถุ หยุดน่ิงและ
วัตถุเคลื่อนที่ รวมทั้งทดลองหา สัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหว่างผิวสัมผัส ของวัตถุคู่หนึ่งๆและนำ
ความรเู้ รอ่ื งแรงเสียดทาน ไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน
รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๙๗
คำอธบิ ายรายวิชา ว ๓0๒1๒ ฟสิ ิกส์ ๒
รายวชิ าเพมิ่ เติม กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา 6๐ ชว่ั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
ศึกษาหลักการของกลศาสตร์ในเรื่อง การเคลื่อนที่แบบหมุน ทอร์กและผลของทอร์กที่มีต่อสภาพการหมุน
สภาพ สมดุลและเงื่อนไขที่ทำใหเ้ กดิ สมดุล สภาพยืดหยุน่ ของวัตถแุ ละมอดลุ สั งาน พลงั งาน ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งงาน
และพลังงานจลน์กฎ การอนุรักษ์พลังงาน กำลัง เครื่องกลอย่างง่ายและประสิทธิภาพของเคร่ืองกลโมเมนตัม การชน
กันของวัตถุ และกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ การเคลื่อนที่แบบวงกลมและการเคลื่อนท่ี
แบบฮาร์มอนิกอยา่ งง่าย
โดยใช้กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์การสืบค้นข้อมูลการสำรวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ
ความคิด มีความสามารถ ในการสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้การตัดสินใจการนำความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์
จริยธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มทเี่ หมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. อธบิ ายสมดุลกลของวตั ถโุ มเมนต์และผลรวม ของโมเมนตท์ ีม่ ีต่อการหมุน แรงคู่ควบและผล ของแรงคู่ควบ
ที่มีต่อสมดุลของวัตถุ เขียน แผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุอิสระเมื่อวัตถุ อยู่ในสมดุลกล และคำนวณ
ปรมิ าณตา่ ง ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง รวมท้ังทดลองและอธิบายสมดลุ ของแรงสามแรง
๒. สังเกต และอธิบายสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ เมื่อแรงที่กระทำต่อวัตถุผ่านศูนย์กลางมวลของ วัตถุและ
ผลของศนู ยถ์ ่วงที่มีต่อเสถยี รภาพของ วตั ถุ
๓. วิเคราะห์และคำนวณงานของแรงคงตัว จาก สมการและพื้นที่ใต้กราฟความสัมพันธ์ระหว่าง แรงกับ
ตำแหน่ง รวมท้งั อธิบาย และคำนวณ กำลังเฉลย่ี
๔. อธิบาย และคำนวณพลังงานจลน์พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลองหาความสัมพันธ์ ระหว่างงานกับ
พลังงานจลน์ความสัมพันธ์ ระหว่างงานกับพลังงานศักย์โน้มถ่วง ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงที่ใช้
ดึงสปริง กับระยะที่สปริงยืดออกและความสัมพันธ์ ระหว่างงานกับพลังงานศักย์ยืดหยุ่น รวมทั้ง อธิบาย
ความสมั พันธ์ระหวา่ งงานของแรงลพั ธ์ และพลงั งานจลน์และคำนวณงานท่เี กดิ ขึ้น จากแรงลพั ธ์
๕. อธบิ ายกฎการอนรุ ักษพ์ ลังงานกล รวมท้งั วเิ คราะหแ์ ละคำนวณปริมาณตา่ งๆ ท่ีเก่ียวขอ้ ง กับการเคลื่อนที่
ของวตั ถใุ นสถานการณ์ต่าง ๆ โดยใชก้ ฎการอนรุ กั ษ์พลังงานกล
๖. อธิบายการทำงาน ประสิทธิภาพและการได้ เปรียบเชิงกลของเครื่องกลอย่างง่ายบางชนิด โดยใช้ความรู้
เร่ืองงานและสมดลุ กล รวมท้งั คำนวณประสิทธภิ าพและการไดเ้ ปรยี บเชงิ กล
๗. อธบิ าย และคำนวณโมเมนตมั ของวัตถุ และการดลจากสมการและพืน้ ทใี่ ต้กราฟ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งแรง
ลพั ธ์กับเวลา รวมทั้ง อธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างแรงดลกับ โมเมนตมั
๘. ทดลอง อธิบาย และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการชนของวัตถุในหนึ่งมิติทั้งแบบ ยืดหยุ่น ไม่
ยืดหยุน่ และการดดี ตัวแยกจากกัน ในหน่ึงมติ ซิ ึ่งเป็นไปตามกฎการอนรุ ักษ์ โมเมนตัม
๙. อธิบาย วิเคราะหแ์ ละคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี ก่ียวข้องกับการเคลื่อนทแ่ี บบโพรเจกไทล์ และทดลองการ
เคลือ่ นทแี่ บบโพรเจกไทล
หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๙๘
๑๐.ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง แรงสู่ศูนย์กลาง รัศมีของการเคลื่อนท่ี อัตราเร็วเชิงเส้น
อัตราเร็วเชิงมุม และมวล ของวัตถุในการเคลื่อนที่แบบวงกลมในระนาบ ระดับ รวมทั้งคำนวณปริมาณ
ต่างๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง และประยกุ ตใ์ ชค้ วามรกู้ ารเคลื่อนท่แี บบวงกลม ในการอธบิ ายการโคจรของดาวเทียม
รวมทัง้ หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๙๙
คำอธบิ ายรายวิชา ว ๓0๒1๓ ฟสิ กิ ส์ ๓
รายวิชาเพ่มิ เติม กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา 6๐ ช่วั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ศกึ ษาลักษณะการเคล่ือนที่แบบฮาร์มอนิกอยา่ งง่าย ปริมาณท่เี กี่ยวข้องกับการเคล่ือนท่แี บบ ฮาร์มอนิกอย่าง
ง่าย แรงกับการสั่นของมวลติดปลายสริงและลูกตุ้มอย่างง่าย ความถี่ธรรมชาติและการสั่น พ้อง ธรรมชาติของคล่ืน
อัตราเร็วของคลื่น หลักการที่เกี่ยวกับคลื่น พฤติกรรมของคลื่น แนวคิดเกี่ยวกับ แสงเชิงคลื่น การแทรกสอดของแสง
ผา่ นสลติ คู่ การเลย้ี วเบนของแสงผา่ นสลิตเด่ียว การเล้ียวเบนของ แสงผา่ นเกรตติง การสะทอ้ นและการหักเหของแสง
การมองเห็นและการเกิดภาพ ภาพจากเลนส์และ กระจกเงาทรงกลม แสงสีและการมองเห็นแสงสี ปรากฏการณ์
ธรรมชาติและการใช้ประโยชนเ์ ก่ยี วกับแสง
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและ
การแกป้ ญั หา สามารถสือ่ สารสิ่งท่ีเรียนรู้และนำ ความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม
และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม
ผลการเรียนรู้
๑. ทดลองและอธิบายการเคลื่อนทีแ่ บบฮาร์มอนิกอย่างงา่ ยของวัตถตุ ดิ ปลายสรงิ และลูกตมุ้ อยา่ งงา่ ย รวมท้ัง
คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
๒. อธบิ ายความถ่ีธรรมชาติของวัตถแุ ละการเกดิ การส่นั พ้อง
๓. อธบิ ายปรากฏการณ์คลื่น ชนิดของคลนื่ ส่วนประกอบของคลนื่ การแผ่ของหน้าคลนื่ ดว้ ยหลักการของฮอย
เกนส์ และการรวมกันของคลื่นตามหลักการซอ้ นทับ พร้อมทงั้ คำนวณอตั ราเร็ว ความถี่ และความยาว
คลืน่
๔. สังเกตและอธิบายการสะท้อน การหักเห การแทรกสอด และการเล้ยี วเบนของคลื่นผิวน้ำ รวมท้งั คำนวณ
ปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ีเก่ยี วข้อง
๕. ทดลอง และอธบิ ายการแทรกสอดของแสงผา่ นสลิตค่แู ละเกรตตงิ การเล้ียวเบนและการแทรกสอด ของ
แสงผ่านสลิตเด่ียว รวมทั้งคำ นวณปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ยี วข้อง
๖. ทดลอง และอธบิ ายการสะท้อนของแสงท่ผี ิววตั ถุตามกฎการสะท้อน เขียนรังสขี องแสงและ คำนวณ
ตำแหนง่ และขนาดภาพของวัตถุ เมอ่ื แสงตกกระทบกระจกเงาราบและกระจกเงาทรงกลม รวมท้งั อธบิ าย
การนำ ความรเู้ ร่ืองการสะท้อนของแสงจากกระจกเงาราบ และกระจกเงาทรงกลม ไปใช้ประโยชนใ์ น
ชวี ติ ประจำวัน
๗. ทดลอง และอธิบายความสมั พันธ์ระหวา่ งดรรชนหี กั เห มุมตกกระทบ และมุมหักเหรวมท้ังอธบิ าย
ความสัมพันธร์ ะหว่างความลึกจริงและความลกึ ปรากฏ มุมวิกฤตและการสะท้อนกลบั หมดของ แสง และ
คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๑๐๐
๘. ทดลอง และเขยี นรังสขี องแสงเพอื่ แสดงภาพท่เี กดิ จากเลนสบ์ าง หาตำแหนง่ ขนาด ชนิดของ ภาพ และ
ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งระยะวตั ถุ ระยะภาพและความยาวโฟกสั รวมทง้ั คำ นวณปริมาณ ต่าง ๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง
และอธบิ ายการนำ ความรเู้ รื่องการหักเหของแสงผา่ นเลนส์บางไปใช้ประโยชน์ ในชวี ิตประจำวนั
๙. อธบิ ายปรากฏการณธ์ รรมชาตทิ เี่ กยี่ วกบั แสง เช่น รุ้ง การทรงกลด มริ าจ และการเหน็ ท้องฟ้า เปน็ สีตา่ งๆ
ในช่วงเวลาต่างกัน
๑๐.สังเกต และอธบิ ายการมองเหน็ แสงสี สีของวตั ถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสี รวมทั้ง อธิบายสาเหตุ
ของการบอดสี
รวมทง้ั หมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๑๐๑
คำอธบิ ายรายวชิ า ว ๓0๒1๔ ฟิสิกส์ ๔
รายวิชาเพม่ิ เติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา 6๐ ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ
ศกึ ษาการเกิดเสียง การเคลื่อนที่ของเสียง การสะท้อน การหักเห การแทรกสอด และการเล้ียวเบน ของคลื่น
เสยี ง การได้ยินเสยี ง ความเขม้ เสยี ง คณุ ภาพเสยี ง มลพษิ ทางเสียง คลนื่ นงิ่ ของเสียง การสน่ั พอ้ ง ของเสยี ง การเกิดบีต
ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ คลื่นกระแทกของเสียง ธรรมชาติของไฟฟ้าสถิต การเหนี่ยว นำ ไฟฟ้าสถิต กฎของคูลอมบ์
สนามไฟฟา้ ศกั ยไ์ ฟฟ้า ความตา่ งศกั ย์ ความจุและพลงั งานสะสมในตวั เกบ็ ประจุ การตอ่ ตัวเก็บประจุ กระแสไฟฟ้าใน
ลวดตัวนำ กฎของโอห์ม สภาพต้านทาน การต่อตัวต้านทาน อีเอ็มเอฟของแหล่งกำ เนิดไฟฟ้ากระแสตรง พลังงาน
ไฟฟ้า กำ ลังไฟฟ้า การต่อแบตเตอรี่ การวิเคราะห์วงจร ไฟฟ้ากระแสตรง การเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็นพลังงาน
ไฟฟา้ และเทคโนโลยดี ้านพลงั งาน
โดยใช้ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและ
การแก้ปญั หา สามารถสือ่ สารส่งิ ท่เี รียนร้แู ละนำ ความรูไ้ ปใชใ้ นชีวิตของตนเอง มีจติ วทิ ยา ศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม
และคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม
ผลการเรียนรู้
๑. อธบิ ายการเกดิ เสียง การเคลอ่ื นทข่ี องเสียง ความสมั พันธ์ระหวา่ งคลนื่ การกระจัดของอนุภาค กบั คลืน่
ความดนั ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งอัตราเร็วของเสยี งในอากาศท่ขี ้ึนกบั อณุ หภมู ิในหน่วย องศาเซลเซียส การ
สะทอ้ น การหักเห การแทรกสอด การเล้ียวเบน ของคล่นื เสยี ง รวมทัง้ คำนวณ ปริมาณต่าง ๆ ทเี่ กยี่ วข้อง
๒. อธบิ ายความเข้มเสียง ระดบั เสียง องคป์ ระกอบของการได้ยนิ คณุ ภาพเสยี ง และมลพิษทางเสยี ง รวมทงั้
คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง
๓. ทดลอง และอธบิ ายการเกิดการส่ันพ้องของอากาศในทอ่ ปลายเปดิ หนงึ่ ด้าน รวมท้งั สงั เกตและ อธบิ ายการ
เกิดบีต คล่นื น่ิง ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ คลื่นกระแทกของเสยี ง คำนวณปริมาณ ตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวข้อง และ
นำ ความรู้เรื่องเสียงไปใช้ในชีวติ ประจำวนั
๔. ทดลอง และอธบิ ายการทำ วัตถุทเ่ี ป็นกลางทางไฟฟ้าให้มีประจุไฟฟ้าโดยการขดั สีกนั และการ เหน่ยี วนำ
ไฟฟา้ สถติ
๕. อธบิ าย และคำนวณแรงไฟฟา้ ตามกฎของคลู อมบ์
๖. อธิบาย และคำนวณสนามไฟฟ้าและแรงไฟฟา้ ท่ีกระทำ กับอนภุ าคท่ีมีประจุไฟฟ้าที่อยใู่ นสนาม ไฟฟ้า
รวมทั้งหาสนามไฟฟ้าลัพธ์เนอ่ื งจากระบบจดุ ประจุโดยรวมกันแบบเวกเตอร์
๗. อธิบาย และคำนวณพลังงานศักย์ไฟฟ้า ศักย์ไฟฟา้ และความตา่ งศักยร์ ะหวา่ งสองตำแหนง่ ใด ๆ
๘. อธิบายส่วนประกอบของตัวเก็บประจุ ความสัมพันธ์ระหว่างประจไุ ฟฟ้า ความต่างศกั ย์ และความจุของตวั
เก็บประจุ และอธิบายพลงั งานสะสมในตวั เกบ็ ประจุ และความจสุ มมูล รวมท้งั คำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่
เก่ยี วข้อง
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๐๒
๙. นำ ความรเู้ รื่องไฟฟ้าสถิตไปอธบิ ายหลกั การทำงานของเครื่องใชไ้ ฟฟ้าบางชนดิ และปรากฏการณ์ ใน
ชีวติ ประจำวนั
๑๐.อธิบายการเคล่ือนที่ของอิเล็กตรอนอิสระและกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำ ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง
กระแสไฟฟ้าในลวดตวั นำ กบั ความเร็วลอยเลื่อนของอิเล็กตรอนอสิ ระ ความหนาแน่นของ อเิ ล็กตรอนใน
ลวดตัวนำ และพนื้ ท่หี นา้ ตดั ของลวดตวั นำ และคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ที่เก่ยี วข้อง
๑๑.ทดลอง และอธบิ ายกฎของโอห์ม อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งความต้านทานกบั ความยาว พืน้ ทห่ี น้าตัด
และสภาพตา้ นทานของตัวนำ โลหะท่ีอุณหภมู ิคงตวั และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ยี วข้อง รวมทงั้
อธบิ ายและคำนวณความต้านทานสมมูลเมื่อนำ ตัวต้านทานมาต่อกันแบบ อนกุ รมและแบบขนาน
๑๒.ทดลอง อธิบาย และคำนวณอีเอ็มเอฟของแหลง่ กำ เนดิ ไฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้งอธิบายและ คำนวณ
พลังงานไฟฟา้ และกำลงั ไฟฟ้า
๑๓.ทดลอง และคำนวณอเี อ็มเอฟสมมลู จากการต่อแบตเตอร่ีแบบอนกุ รมและแบบขนาน รวมทง้ั คำนวณ
ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องในวงจรไฟฟา้ กระแสตรงซ่งึ ประกอบด้วยแบตเตอรแ่ี ละตัวตา้ นทาน
๑๔.อธิบายการเปลีย่ นพลังงานทดแทนเปน็ พลังงานไฟฟ้า รวมท้ังสบื ค้นและอภิปรายเกยี่ วกบั เทคโนโลยีท่ีนำ
มาแก้ปัญหาหรอื ตอบสนองความต้องการทางด้านพลังงาน โดยเน้นดา้ น ประสทิ ธภิ าพและความคุ้มค่า
ดา้ นค่าใช้จ่าย
รวมทั้งหมด ๑๔ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๑๐๓
คำอธบิ ายรายวิชา ว ๓0๒1๕ ฟสิ กิ ส์ ๕
รายวชิ าเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา 6๐ ช่วั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
ศึกษาสนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็ก โมเมนต์ของแรงคู่ควบกระทำ กับขดลวดที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านเมื่อ อยู่ใน
สนามแม่เหล็ก กระแสไฟฟ้าเหนีย่ วนำ อีเอ็มเอฟเหนี่ยวนำ ไฟฟ้ากระแสสลบั ความร้อน แก๊สอุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของ
แก๊ส ของแข็ง สภาพยดื หยนุ่ ของของแข็ง ความตงึ ผวิ ความหนดื ของของเหลว ความดนั ในของไหล แรงพยุง ของไหล
อดุ มคตสิ มการความต่อเนือ่ ง และสมการแบรน์ ูลี
โดยใชก้ ระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์การสืบเสาะหาความร้กู ารสบื ค้นข้อมลู การสังเกต วิเคราะห์เปรยี บเทยี บ
อธิบาย อภิปราย และสรุปเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจมีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะปฏิบัติการทาง
วิทยาศาสตร์ รวมทง้ั ทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้าน
การสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนำ ความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์จริยธรรม คุณธรรม
และค่านิยมทเี่ หมาะสม
ผลการเรียนรู้
๑. สงั เกตและอธิบายเสน้ สนามแมเ่ หลก็ อธบิ ายและคำนวณฟลกั ซแ์ ม่เหล็กในบริเวณที่กำ หนด รวมท้ังสังเกต
และอธบิ ายสนามแม่เหลก็ ทีเ่ กิดจากกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำ เส้นตรงและโซเลนอยด์
๒. อธิบายและคำนวณแรงแม่เหล็กท่ีกระทำ ต่ออนภุ าคท่มี ีประจไุ ฟฟา้ เคลือ่ นทใี่ นสนามแมเ่ หลก็ แรง
แม่เหล็ก ทก่ี ระทำ ต่อเสน้ ลวดทม่ี กี ระแสไฟฟา้ ผ่านและวางในสนามแม่เหลก็ รัศมีความโค้งของการ
เคลอ่ื นท่ีเมอื่ ประจุ เคลื่อนที่ตั้งฉากกับสนามแม่เหล็ก รวมท้ังอธิบายแรงระหว่างเส้นลวดตัวนำ ค่ขู นานทม่ี ี
กระแสไฟฟ้าผ่าน
๓. อธิบายหลักการทำงานของแกลแวนอมเิ ตอร์และมอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสตรง รวมท้ังคำ นวณปรมิ าณต่างๆ
ทีเ่ ก่ยี วข้อง
๔. สงั เกตและอธิบายการเกดิ อีเอ็มเอฟเหน่ยี วนำ กฎการเหน่ียวนำ ของฟาราเดย์และคำ นวณปรมิ าณต่าง ๆ
ทเี่ กยี่ วข้อง รวมทงั้ นำ ความรเู้ รื่องอีเอม็ เอฟเหน่ียวนำ ไปอธบิ ายการทำ งานของเคร่อื งใช้ไฟฟ้า
๕. อธบิ ายและคำ นวณความต่างศักย์อาร์เอ็มเอส และกระแสไฟฟา้ อารเ์ อ็มเอส
๖. อธิบายหลักการทำ งานและประโยชน์ของเครื่องกำ เนิดไฟฟา้ กระแสสลับ ๓ เฟส การแปลงอเี อ็มเอฟ
ของหม้อแปลง และคำ นวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเกยี่ วข้อง
๗. อธบิ ายและคำ นวณความร้อนทที่ ำ ให้สสารเปล่ียนอุณหภูมคิ วามร้อนทท่ี ำ ให้สสารเปลี่ยนสถานะ และ
ความร้อนที่เกดิ จากการถา่ ยโอนตามกฎการอนรุ ักษ์พลงั งาน
๘. อธิบายกฎของแก๊สอุดมคตแิ ละคำ นวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเี่ กี่ยวขอ้ ง
๙. อธิบายแบบจำ ลองของแก๊สอุดมคติทฤษฎีจลนข์ องแก๊ส และอตั ราเร็วอาร์เอ็มเอสของโมเลกลุ ของแกส๊
รวมทงั้ คำ นวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๐๔
๑๐.อธบิ ายและคำ นวณงานท่ีทำ โดยแกส๊ ในภาชนะปดิ โดยความดนั คงตวั และอธิบายความสัมพนั ธร์ ะหว่าง
ความรอ้ น พลงั งานภายในระบบ และงาน รวมทงั้ คำ นวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเกีย่ วข้อง และนำ ความรเู้ รื่อง
พลังงานภายในระบบไปอธิบายหลกั การทำ งานของเครื่องใช้ในชีวิตประจำ วนั
๑๑.อธบิ ายสภาพยดื หย่นุ และลักษณะการยืดและหดตวั ของวสั ดทุ เี่ ปน็ แท่งเมื่อถูกกระทำ ดว้ ยแรงค่าตา่ ง ๆ
รวมท้งั ทดลอง อธบิ ายและคำนวณความเค้นตามยาว ความเครยี ดตามยาว และมอดุลสั ของยัง และนำ
ความร้เู ร่ืองสภาพยืดหยุน่ ไปใชใ้ นชีวติ ประจำ วนั
๑๒.อธิบายและคำ นวณความดนั เกจ ความดนั สัมบรู ณ์ และความดันบรรยากาศ รวมทั้งอธิบายหลักการ ทำ
งานของแมนอมเิ ตอร์บารอมิเตอรแ์ ละเคร่อื งอดั ไฮดรอลิก
๑๓.ทดลอง อธิบายและคำ นวณขนาดแรงพยุงจากของไหล
๑๔.ทดลอง อธบิ ายและคำ นวณความตึงผิวของของเหลว รวมท้ังสังเกตและอธิบายแรงหนืดของของเหลว
๑๕.อธบิ ายสมบัตขิ องของไหลอดุ มคติ สมการความต่อเนอ่ื ง และสมการแบร์นูลลี รวมทั้งคำ นวณปริมาณ ตา่ ง
ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง และนำ ความร้เู กยี่ วกับสมการความต่อเนือ่ งและสมการแบร์นูลลีไปอธบิ ายหลกั การ ทำ
งานของอุปกรณต์ า่ ง ๆ
รวมท้ังหมด ๑๕ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๐๕
คำอธิบายรายวิชา ว ๓0๒๒๑ เคมี ๑
รายวชิ าเพมิ่ เติม กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นที่ 1 เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
ศกึ ษาวเิ คราะหอ์ ภปิ รายอธบิ ายข้อปฏิบัตเิ บื้องตน้ และปฏบิ ตั ติ นท่แี สดงถงึ ความตระหนักในการทาํ ปฏบิ ตั ิ
การเคมีเพื่อให้มีความปลอดภัย ทั้งต่อตนเอง ผู้อื่นและสิ่งแวดล้อม เลือกและใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือในการทํา
ปฏิบัตกิ าร และวดั ปริมาณต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ระบหุ นว่ ยวัดปริมาณต่าง ๆ ของสาร และเปลย่ี นหน่วยวัดให้เป็น
หนว่ ยในระบบเอสไอดว้ ยการใช้แฟกเตอร์เปลี่ยนหนว่ ย นําเสนอแผนการทดลอง ทดลองและเขยี นรายงาน
การทดลองและเสนอแนวทางแก้ไขเมื่อเกิดอบุ ตั เิ หตุ และเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของแบบจำลองอะตอมแบบต่าง ๆ
ตารางธาตุ ววิ ฒั นาการของการสร้างตารางธาตุ สมบตั ขิ องธาตตุ ามหมูแ่ ละตามคาบ พันธะไอออนิก พนั ธะโคเวเลนต์
พันธะโลหะ สมบัติของธาตุตามหมู่ ตำแหน่งของธาตุไฮโดรเจนในตารางธาตุ ธาตุทรานซิชัน ธาตุกึ่งโลหะ ธาตุ
กัมมนั ตรังสี การทำนายตำแหน่งและสมบัติของธาตใุ นตารางธาตุ ธาตุและสารประกอบในส่ิงมชี ีวิตและสงิ่ แวดลอ้ ม
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย การวิเคราะห์เปรียบเทียบ การสำรวจ
ตรวจสอบ การทำนายและการทดลอง เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถสื่อสารที่เรียนรู้ มีความสามารถในการ
ตัดสนิ ใจ เห็นคณุ คา่ ของการนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจำวัน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และ
คา่ นิยมทเ่ี หมาะสม
ผลการเรียนรู้
1. บอกและอธบิ ายขอ้ ปฏิบัตเิ บอื้ งตน้ และปฏบิ ตั ติ นทีแ่ สดงถึงความตระหนกั ในการทำปฏบิ ัติ
2. การเคมีเพื่อให้มีความปลอดภัย ทั้งต่อตนเอง ผู้อื่นและสิ่งแวดล้อม และเสนอแนวทางแก้ไขเมื่อเกิด
อบุ ตั ิเหตุ
3. เลอื กและใชอ้ ปุ กรณห์ รือเครื่องมือในการทำปฏบิ ตั ิการ และวัดปรมิ าณตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
4. ระบุหน่วยวัดปริมาณต่าง ๆ ของสาร และเปลี่ยนหน่วยวัดให้เป็นหน่วยในระบบเอสไอด้วยการใช้แฟก
เตอรเ์ ปล่ยี นหนว่ ย
5. นาํ เสนอแผนการทดลอง ทดลองและเขยี นรายงานการทดลอง
6. สืบค้นข้อมูล สมมติฐานการทดลองหรือผลการทดลองที่เป็นประจักษ์พยานในการเสนอแบบจําลอง
อะตอมของนักวิทยาศาสตร์ และอธิบายวิวฒั นาการของแบบจําลองอะตอม
7. เขียนสัญลักษณนิวเคลียร์ของธาตุ และระบุจำนวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนของอะตอมจาก
สัญลกั ษณ์นิวเคลยี รร์ วมทง้ั บอกความหมายของไอโซโทป
8. อธบิ ายและเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลงั งานหลกั และระดับพลังงานย่อยเมื่อทราบเลขอะตอม
ของธาตุ
9. ระบุหมู่คาบ ความเป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ของกลุ่มธาตุธาตุเรพรีเซนเททีฟ และธาตุ
แทรนซิชนั ในตารางธาตุ
10.วิเคราะหแ์ ละบอกแนวโนม้ สมบัตขิ องกลุ่มธาตุเรพรีเซนเททีฟ ตามหม่แู ละตามคาบ
11.บอกสมบัตขิ องธาตโุ ลหะแทรนซิชนั และเปรยี บเทียบสมบัติกบั ธาตุโลหะในกลมุ่ ธาตเุ รพรเี ซนเททีฟ
12.อธิบายสมบัติและคํานวณครง่ึ ชีวติ ของไอโซโทปกัมมนั ตรังสี
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๐๖
13.สบื คน้ ขอ้ มลู และยกตวั อย่างการนาํ ธาตมุ าใช้ประโยชน์ รวมทง้ั ผลกระทบตอ่ สงิ่ มชี วี ิตและส่งิ แวดลอ้ ม
14.อธิบายการเกิดไอออนและการเกิดพันธะไอออนิก โดยใช้แผนภาพหรือสัญลกั ษณแ์ บบจุดของลิวอสิ เขียน
สูตรและเรียกช่อื สารประกอบไอออนิก
15.คํานวณพลงั งานที่เก่ียวข้องกบั ปฏิกิริยาการเกิดสารประกอบไอออนิกจากวัฏจกั รบอร์น-ฮาเบอร์
16.อธิบายสมบตั ิของสารประกอบไอออนกิ
17.เขยี นสมการไอออนิกและสมการไอออนกิ สุทธขิ องปฏิกิรยิ าของสารประกอบไอออนิก
18.อธิบายการเกิดพนั ธะโคเวเลนตแ์ บบพนั ธะเด่ียว พนั ธะคู่ และพนั ธะสาม ด้วยโครงสร้างลวิ อิส
19.เขยี นสตู รและเรยี กชอ่ื สารโคเวเลนต์
20. วิเคราะห์และเปรียบเทียบความยาวพันธะและพลังงานพันธะในสารโคเวเลนต์ รวมทั้งคํานวณพลังงานท่ี
เก่ยี วข้องกับปฏิกิรยิ าของสารโคเวเลนต์จากพลังงานพนั ธะ
21.คาดคะเนรูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์โดยใช้ทฤษฎีการผลักระหวา่ งคู่อิเลก็ ตรอนในวงเวเลนซ์และระบุสภาพ
ขั้วของโมเลกุล โคเวเลนต์
22.ระบุชนิดของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ และเปรียบเทียบจุดหลอมเหลวจุดเดือดและการ
ละลายน้ำ ของสารโคเวเลนต์
23.สืบคน้ ขอ้ มลู และอธิบายสมบัตขิ องสารโคเวเลนตโ์ ครงรา่ งตาข่ายชนิดตา่ ง ๆ
24.อธิบายการเกดิ พันธะโลหะและสมบัตขิ องโลหะ
25.เปรียบเทียบสมบัติบางประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะสืบค้นข้อมูล และ
นําเสนอตัวอย่างการใชป้ ระโยชน์ของสารประกอบไอออนกิ สารโคเวเลนต์ และโลหะ ได้อย่างเหมาะสม
รวมทั้งหมด ๒5 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๑๐๗
คำอธบิ ายรายวชิ า ว ๓0๒๒๒ เคมี ๒
รายวิชาเพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
ศึกษา วิเคราะห์ ทดลอง และคำนวณเกี่ยวกับการหาจำนวนโมล บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุ
และคํานวณมวลอะตอมเฉลี่ยของธาตุ มวลโมเลกุล และมวลสูตร อธิบายและคํานวณปริมาณใดปริมาณหนึ่งจาก
ความสัมพันธ์ของโมลจำนวนอนุภาค มวล และปริมาตรของแก๊สที่ STP คํานวณอัตราส่วนโดยมวลของธาตุ
องค์ประกอบของสารประกอบตามกฎสัดส่วนคงที่ คํานวณสูตรอย่างง่ายและสูตรโมเลกุลของสาร คํานวณ
ความเขม้ ขน้ ของสารละลายในหนว่ ยต่าง ๆ อธิบายวิธีการและเตรยี มสารละลายที่มีความเข้มข้นในหนว่ ยโมลาริตี และ
ปริมาตรของสารละลายตามที่กำหนด เปรียบเทียบจุดเดือดและจุดเยือกแข็งของสารละลายกับสารบริสุทธิ์รวมทั้ง
คํานวณจดุ เดือด และจุดเยอื กแข็งของสารละลาย แปลความหมายสญั ลักษณใ์ นสมการเคมเี ขียนและดุลสมการเคมีของ
ปฏิกิริยาเคมีบางชนิด คํานวณปริมาณของสารในปฏิกิริยาเคมีท่ีเกี่ยวข้องกับมวลสาร คํานวณปริมาณของสารใน
ปฏิกิรยิ าเคมที ีเ่ ก่ยี วข้องกับความเข้มข้นของสารละลาย คาํ นวณปริมาณของสารในปฏิกริ ิยาเคมีท่ีเก่ียวข้องกับปริมาตร
แก๊ส คาํ นวณปริมาณของสารในปฏิกริ ยิ าเคมหี ลายขัน้ ตอน ระบสุ ารกำหนดปริมาณ และคาํ นวณปรมิ าณสารตา่ ง ๆ ใน
ปฏกิ ริ ยิ าเคมี คำนวณผลได้รอ้ ยละของผลิตภณั ฑใ์ นปฏกิ ริ ิยาเคมี
โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื ค้นข้อมลู การอภิปราย การวเิ คราะหเ์ ปรียบเทียบ การสำรวจ
ตรวจสอบ การทำนายและการทดลอง เพ่อื ให้เกิดความรูค้ วามเข้าใจ สามารถส่ือสารท่เี รียนรู้ มคี วามสามารถในการ
ตดั สินใจ เห็นคุณคา่ ของการนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และ
ค่านิยมทเ่ี หมาะสม
ผลการเรียนรู้
๑. บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุ และคาํ นวณมวลอะตอมเฉลี่ยของธาตุ มวลโมเลกุล และมวล
สตู ร
๒. อธิบายและคาํ นวณปริมาณใดปรมิ าณหนึง่ จากความสมั พนั ธ์ของโมลจำนวนอนภุ าค มวล และปริมาตร
ของแก๊สที่ STP
๓. คาํ นวณอตั ราส่วนโดยมวลของธาตุองค์ประกอบของสารประกอบตามกฎสดั สว่ นคงที่
๔. คาํ นวณสตู รอย่างง่ายและสูตรโมเลกลุ ของสาร
๕. คาํ นวณความเข้มขน้ ของสารละลายในหนว่ ยต่าง ๆ
๖. อธบิ ายวิธกี ารและเตรียมสารละลายท่ีมีความเขม้ ข้นในหน่วยโมลารติ ี และปริมาตรของสารละลายตามที่
กำหนด
๗. เปรียบเทียบจุดเดือดและจุดเยือกแข็งของสารละลายกับสารบริสทุ ธ์ิรวมท้งั คาํ นวณจดุ เดือด และจดุ เยือก
แขง็ ของสารละลาย
๘. แปลความหมายสญั ลักษณ์ในสมการเคมีเขยี นและดุลสมการเคมขี องปฏกิ ิริยาเคมีบางชนิด
๙. คํานวณปรมิ าณของสารในปฏิกิริยาเคมีที่เกีย่ วข้องกับมวลสาร
๑๐.คํานวณปรมิ าณของสารในปฏิกิริยาเคมีท่ีเกยี่ วข้องกับความเข้มขน้ ของสารละลาย
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๐๘
๑๑.คาํ นวณปริมาณของสารในปฏิกริ ิยาเคมีท่ีเก่ยี วข้องกบั ปริมาตรแก๊ส
๑๒.คาํ นวณปรมิ าณของสารในปฏิกริ ิยาเคมีหลายขน้ั ตอน
๑๓.ระบสุ ารกำหนดปริมาณ และคํานวณปรมิ าณสารตา่ ง ๆ ในปฏิกิริยาเคมี
๑๔.คำนวณผลได้รอ้ ยละของผลิตภณั ฑ์ในปฏกิ ริ ยิ าเคมี
รวมท้ังหมด 14 ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๑๐๙
คำอธิบายรายวชิ า ว ๓0๒๒๓ เคมี ๓
รายวชิ าเพม่ิ เติม กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษาวิเคราะห์ และอธิบายความสัมพันธ์และคํานวณปริมาตร ความดัน หรืออุณหภูมิของแก๊สที่ภาวะต่างๆ
ตามกฎของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกย์-ลูสแซก คํานวณปริมาตร ความดัน หรืออุณหภูมิของแก๊สที่ภาวะต่าง ๆ
ตามกฎรวมแก๊ส คํานวณปริมาตร ความดัน อุณหภูมิ จำนวนโมล หรือมวลของแก๊สจากความสัมพันธ์ตามกฎของ
อาโวกาโดรและกฎแก๊สอุดมคติ คํานวณความดันย่อยหรือจำนวนโมลของแก๊สในแก๊สผสม โดยใช้กฎความดันย่อยขอ
งดอลตัน อธิบายการแพร่ของแก๊สโดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส คํานวณและเปรียบเทียบอัตราการแพร่ของแก๊ส โดยใช้
กฎการแพร่ผ่านของเกรแฮม สืบค้นข้อมูล นําเสนอตัวอย่าง และอธิบายการประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับสมบัตแิ ละกฎ
ต่างๆของแก๊สในการอธิบายปรากฏการณ์ หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน และในอุตสาหกรรม ทดลอง และเขียน
กราฟการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของสารที่ทำ การวัดในปฏิกิริยา คํานวณอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี และเขียนกราฟการ
ลดลงหรอื เพิ่มข้ึนของสารท่ีไม่ไดว้ ัดในปฏิกิริยา เขยี นแผนภาพและอธบิ ายทิศทางการชนกันของอนุภาค และพลังงาน
ที่ส่งผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ทดลองและอธิบายผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น อุณหภู มิ และ
ตัวเรง่ ปฏกิ ิรยิ าที่มีต่ออัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี เปรียบเทยี บอตั รากาเกดิ ปฏกิ ิริยา เมือ่ มกี ารเปลีย่ นแปลงความเข้มข้น
พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น อุณหภูมิและตัวเร่งปฏิกิริยา ยกตัวอย่างและอธิบายปัจจัยที่มผี ลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ในชีวิตประจำวัน หรืออุตสาหกรรม ทดสอบและอธิบายความหมายของปฏิกิริยาผันกลับได้และภาวะสมดุล อธิบาย
การเปลยี่ นแปลงความเข้มข้นของสาร อตั ราการเกดิ ปฏกิ ิริยาไปขา้ งหน้า และอตั ราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าย้อนกลับ เม่ือเริ่ม
ปฏิกิริยาจนกระทั่งระบบอยู่ในภาวะสมดุล คํานวณค่าคงที่สมดุลของปฏิกิริยา คํานวณความเข้มข้นของสารที่ภาวะ
สมดุล คํานวณค่าคงที่สมดุลหรือความเข้มข้นของปฏิกิริยาหลายขั้นตอน ระบุปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุลและค่าคงท่ี
สมดุลของระบบรวมทั้งคาดคะเนการเปลี่ยนแปลงทีเ่ กิดขึ้นเมื่อภาวะสมดุลของระบบถูกรบกวนโดยใช้หลักของเลอชา
เตอลิเอ ยกตัวอย่างและอธิบายสมดุลเคมีของกระบวนการที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต ปรากฏการณ์ในธรรมชาติและ
กระบวนการในอุตสาหกรรม
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื ค้นข้อมลู การอภิปราย การวิเคราะห์เปรยี บเทียบ การสำรวจตรวจสอบ
การทำนายและการทดลอง เพอื่ ใหเ้ กิดความรูค้ วามเข้าใจ สามารถสอ่ื สารสิ่งทีเ่ รียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ
เหน็ คุณค่าของการนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมท่ี
เหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. อธบิ ายความสมั พนั ธ์และคํานวณปริมาตร ความดนั หรอื อุณหภมู ิของแก๊สท่ีภาวะต่างๆ ตามกฎของบอยล์
กฎของชาร์ล กฎของเกย์-ลสู แซก
๒. คํานวณปริมาตร ความดัน หรืออุณหภมู ิของแกส๊ ทภ่ี าวะต่าง ๆ ตามกฎรวมแก๊ส
๓. คํานวณปริมาตร ความดัน อุณหภูมิ จำนวนโมล หรือมวลของแก๊สจากความสัมพันธ์ตามกฎของ
อาโวกาโดรและกฎแกส๊ อุดมคติ
๔. คํานวณความดนั ย่อยหรอื จำนวนโมลของแกส๊ ในแก๊สผสม โดยใชก้ ฎความดนั ยอ่ ยของดอลตัน
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๑๐
๕. อธิบายการแพร่ของแก๊สโดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส คํานวณและเปรียบเทียบอัตราการแพร่ของแก๊ส โดย
ใช้กฎการแพรผ่ า่ นของเกรแฮม
๖. สืบค้นข้อมูล นําเสนอตัวอย่าง และอธิบายการประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับสมบัติและกฎต่างๆของแก๊สใน
การอธิบายปรากฏการณ์ หรือแก้ปญั หาในชีวิตประจำวนั และในอตุ สาหกรรม
๗. ทดลอง และเขยี นกราฟการเพ่มิ ขึ้นหรอื ลดลงของสารท่ีทำ การวดั ในปฏิกริ ิยา
๘. คาํ นวณอตั ราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี และเขียนกราฟการลดลงหรอื เพ่มิ ขนึ้ ของสารที่ไม่ได้วัดในปฏิกริ ยิ า
๙. เขียนแผนภาพและอธิบายทิศทางการชนกันของอนุภาค และพลังงานที่ส่งผลต่ออัตราการเกิด
ปฏิกริ ยิ าเคมี
๑๐.ทดลองและอธิบายผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น อุณหภูมิ และตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีต่อ
อัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี
๑๑.เปรยี บเทยี บอตั รากาเกดิ ปฏิกิรยิ า เม่อื มกี ารเปลย่ี นแปลงความเขม้ ขน้ พืน้ ท่ผี ิวของสารตงั้ ต้น อณุ หภูมิและ
ตวั เร่งปฏิกริ ยิ า
๑๒.ยกตัวอย่างและอธิบายปจั จยั ทม่ี ีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมีในชวี ติ ประจำวนั หรืออุตสาหกรรม
๑๓.ทดสอบและอธิบายความหมายของปฏิกริ ิยาผนั กลับได้และภาวะสมดลุ
๑๔.อธิบายการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของสาร อัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า และอัตราการ
เกิดปฏกิ ริ ิยาย้อนกลบั เมื่อเร่มิ ปฏกิ ิริยาจนกระทั่งระบบอย่ใู นภาวะสมดลุ
๑๕.คํานวณคา่ คงท่สี มดุลของปฏิกริ ยิ า
๑๖.คํานวณความเข้มข้นของสารท่ภี าวะสมดุล
๑๗.คํานวณค่าคงที่สมดลุ หรือความเขม้ ข้นของปฏกิ ริ ยิ าหลายข้ันตอน
๑๘.ระบปุ จั จัยท่มี ผี ลต่อภาวะสมดลุ และค่าคงท่ีสมดุลของระบบรวมท้ังคาดคะเนการเปลย่ี นแปลงท่ีเกิดข้ึนเมื่อ
ภาวะสมดลุ ของระบบถูกรบกวนโดยใช้หลกั ของเลอชาเตอลเิ อ
๑๙.ยกตัวอย่างและอธิบายสมดุลเคมีของกระบวนการที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต ปรากฏการณ์ในธรรมชาติและ
กระบวนการในอตุ สาหกรรม
รวมท้ังหมด ๑๙ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๑๑๑
คำอธบิ ายรายวชิ า ว ๓0๒๒๔ เคมี ๔
รายวิชาเพ่ิมเติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ศึกษาวเิ คราะห์ และอธิบายวา่ สารเปน็ กรดหรือเบส โดยใชท้ ฤษฎีกรด-เบสของอารเ์ รเนียส เบรินสเตด-ลาวรี
และลวิ อสิ ระบคุ กู่ รด-เบสของสารตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรินสเตด-ลาวรี คาํ นวณและเปรียบเทียบความสามารถใน
การแตกตัวหรอื ความแรงของกรดและเบส คํานวณคา่ pH ความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนหรอื ไฮดรอกไซด์ไอออน
ของสารละลาย กรดและเบส เขียนสมการเคมีแสดงปฏิกิริยาสะเทนิ และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายหลัง
การสะเทิน เขียนปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของเกลือ และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายเกลือ ทดลองและอธิบาย
หลักการการไทเทรตและเลือกใช้อนิ ดิเคเตอร์ท่ีเหมาะสมสำหรับการไทเทรต กรด-เบส คํานวณปริมาณสารหรือความ
เข้มข้นของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต อธิบายสมบัติ องค์ประกอบ และประโยชน์ของสารละลาย
บฟั เฟอร์ สืบคน้ ขอ้ มลู และนาํ เสนอตวั อยา่ งการใช้ประโยชน์และการแก้ปญั หาโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับกรด-เบส คาํ นวณ
เลขออกซิเดชันและระบุปฏิกิริยาที่เป็นปฏิกิริยารีดอกซ์ วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันและระบุตัวรีดิวซ์
และตัวออกซิไดส์ รวมทั้งเขียนคร่ึงปฏิกิริยาออกซิเดชันและครึ่งปฏิกิริยารีดักชันของปฏิกิริยารีดอกซ์ ทดลองและ
เปรียบเทียบความสามารถในการเปน็ ตวั รีดวิ ซ์หรือตวั ออกซิไดส์ และเขียนแสดงปฏิกิรยิ ารดี อกซ์ดุลสมการรีดอกซ์ด้วย
การใช้เลขออกซเิ ดชนั และวธิ ีครง่ึ ปฏิกริ ิยา ระบุองคป์ ระกอบของเซลล์ เคมไี ฟฟ้าและเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยาท่ี
แอโนดและแคโทด ปฏิกิริยารวม และแผนภาพเซลล์ คํานวณค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ และระบุประเภทของ
เซลล์เคมีไฟฟ้า ขั้วไฟฟ้า และปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้น อธิบายหลักการทำงานและเขียนสมการแสดงปฏิกิริยาของเซลล์
ปฐมภมู ิและเซลล์ทตุ ิยภมู ิ ทดลองชบุ โลหะและแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า และอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าที่ใช้ใน
การชุบโลหะ การแยกสารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟ้า การทำโลหะให้บริสุทธิ์ และการป้องกันการกัดกร่อนของโลหะ สืบค้น
ข้อมลู และนําเสนอตวั อย่างความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีทเ่ี ก่ยี วข้องกับเซลลเ์ คมีไฟฟา้ ในชวี ิตประจำวนั
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย การวิเคราะห์เปรียบเทียบ การสำรวจ
ตรวจสอบ การทำนายและการทดลอง เพือ่ ให้เกดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจ สามารถส่อื สารสิง่ ทเ่ี รยี นรู้ มคี วามสามารถใน
การตัดสนิ ใจ เหน็ คุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม
และค่านิยมทเี่ หมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. ระบุและอธิบายว่าสารเป็นกรดหรือเบส โดยใช้ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนียส เบรินสเตด- ลาวรี
และลิวอสิ
๒. ระบุคู่กรด-เบสของสารตามทฤษฎกี รด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรี
๓. คํานวณและเปรยี บเทยี บความสามารถในการแตกตัวหรือความแรงของกรดและเบส
๔. คํานวณค่า pH ความเข้มข้นของไฮโดรเนียมไอออนหรือไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลายกรด
และเบส
๕. เขยี นสมการเคมีแสดงปฏิกริ ิยาสะเทิน และระบคุ วามเปน็ กรด-เบสของสารละลายหลงั การสะเทิน
๖. เขียนปฏกิ ริ ิยาไฮโดรลซิ สิ ของเกลือ และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายเกลือ
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๑๒
๗. ทดลองและอธิบายหลักการการไทเทรตและเลือกใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมสําหรับการไทเทรต
กรด-เบส
๘. คํา นวณปริมาณสารหรือความเข้มขน้ ของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต
๙. อธิบายสมบัติ องค์ประกอบ และประโยชน์ของสารละลายบฟั เฟอร์
๑๐.สบื ค้นขอ้ มูลและนํา เสนอตัวอยา่ งการใชป้ ระโยชน์และการแกป้ ัญหาโดยใช้ความรู้เก่ียวกับกรด-เบส
๑๑.คาํ นวณเลขออกซิเดชนั และระบุปฏกิ ิรยิ าท่ีเปน็ ปฏิกริ ิยารีดอกซ์
๑๒.วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันและระบุตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดส์ รวมทั้งเขียนครึ่งปฏิกิริยา
ออกซเิ ดชนั และครึ่งปฏกิ ริ ยิ ารีดกั ชันของปฏิกิรยิ ารดี อกซ์
๑๓.ทดลองและเปรียบเทียบความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์ และเขียนแสดงปฏิกิริยา
รีดอกซ์
๑๔.ดุลสมการรีดอกซด์ ้วยการใชเ้ ลขออกซเิ ดชัน และวิธคี ร่งึ ปฏกิ ริ ยิ า
๑๕.ระบุองค์ประกอบของเซลล์ เคมีไฟฟ้าและเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยาที่แอโนด และแคโทดปฏิกิริยา
รวม และแผนภาพเซลล์
๑๖.คํานวณค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ และระบุประเภทของเซลล์เคมีไฟฟา้ ขั้วไฟฟ้า และปฏิกิริยาเคมี
ท่เี กดิ ข้นึ
๑๗.อธิบายหลักการทำงานและเขียนสมการแสดงปฏิกิรยิ าของเซลล์ปฐมภมู แิ ละเซลลท์ ตุ ยิ ภมู ิ
๑๘.ทดลองชุบโลหะและแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า และอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าทีใ่ ช้ในการชุบโลหะ
การแยกสารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟา้ การทำโลหะใหบ้ รสิ ุทธ์ิ และการปอ้ งกันการกัดกร่อนของโลหะ
๑๙.สืบค้นข้อมูลและนําเสนอตัวอย่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเซลล์เคมีไฟฟ้าใน
ชวี ติ ประจำวนั
รวมทงั้ หมด ๑๙ ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๑๑๓
คำอธิบายรายวชิ า ว ๓0๒๒๕ เคมี ๕
รายวิชาเพ่ิมเติม กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับตัวอย่างสารประกอบอินทรีย์ที่มีพันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรือพันธะสามที่พบใน
ชีวิตประจำวัน เขยี นสูตรโครงสร้างลิวอสิ สูตรโครงสร้างแบบยอ่ และสูตรโครงสร้างแบบเสน้ ของ สารประกอบอินทรีย
วิเคราะห์โครงสร้างและระบุประเภทของสารประกอบอินทรีย์จากหมู่ฟังก์ชัน เขียนสูตรโครงสร้างและเรียกช่ือ
สารประกอบอินทรีย์ประเภทต่าง ๆ ที่มีหมู่ฟังก์ชันไม่เกิน 1 หมู่ ตามระบบ IUPAC เขียนไอโซเมอร์โครงสร้างของ
สารประกอบอินทรีย์ประเภทต่างๆ วเิ คราะหแ์ ละเปรียบเทยี บจุดเดือดและการละลายในน้ำของสารประกอบอินทรีย์ที่
มีหมู่ฟังก์ชันขนาดโมเลกุล หรือโครงสร้างต่างกัน ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภัณฑ์
จากปฏิกิริยาการเผาไหม้ ปฏิกิริยากับโบรมีน หรือปฏิกิริยากับโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต เขียนสมการเคมีและ
อธบิ ายการเกิดปฏกิ ิริยาเอสเทอริฟเิ คชนั ปฏิกริ ยิ าการสงั เคราะหเ์ อไมดป์ ฏกิ ิรยิ าไฮโดรลิซิส และปฏกิ ริ ิยาสะปอนนิฟิเค
ชัน ทดสอบปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส และปฏิกิริยาสะปอนนิฟิเคชัน สืบค้นข้อมูลและนําเสนอ
ตัวอย่างการนาํ สารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน และอุตสาหกรรม ระบุประเภทของปฏกิ ิริยาการ
เกิดพอลิเมอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์หรือพอลิเมอร์ วิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและ
สมบัติของพอลิเมอร์รวมทั้งการนํา ไปใช้ประโยชน์ ทดสอบและระบุประเภทของพลาสติกและผลิตภัณฑ์ยาง รวมทั้ง
การนํา ไปใช้ประโยชน์ อธิบายผลของการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง และการสังเคราะห์พอลิเมอร์ที่มีต่อสมบัติของพอลิ
เมอร์ สืบค้นข้อมูลและนํา เสนอตัวอย่างผลกระทบจากการใช้และการกําจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ และแนวทางแก้ไข
กำหนดปัญหา และนําเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาโดยใช้ความรทู้ างเคมจี ากสถานการณ์ท่ีเกดิ ข้นึ ในชวี ติ ประจำวนั การ
ประกอบอาชีพ หรืออุตสาหกรรม แสดงหลักฐานถึงการบูรณาการความรู้ทางเคมีร่วมกับสาขาวิชาอื่น รวมทั้งทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยเน้นการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาและ
ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจ นําเสนอผลงานหรือชิ้นงานที่ได้ จากการ
แก้ปัญหาในสถานการณ์หรือ ประเด็นที่สนใจโดยใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ แสดงหลักฐานการเข้าร่วมการสมั มนา การ
เข้าร่วมประชุมวิชาการ หรือการแสดงผลงานสง่ิ ประดษิ ฐใ์ นงานนทิ รรศการ
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย การวิเคราะห์เปรียบเทียบ การสำรวจ
ตรวจสอบ การทำนายและการทดลอง เพื่อให้เกิดความร้คู วามเข้าใจ สามารถส่อื สารสง่ิ ทีเ่ รียนรู้ มคี วามสามารถในการ
ตดั สินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้
ผลการเรยี นรู้
๑. สืบค้นข้อมูลและนําเสนอตัวอย่างสารประกอบอินทรีย์ที่มีพันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรือพันธะสามที่พบใน
ชวี ิตประจำวนั
๒. เขยี นสูตรโครงสร้างลิวอสิ สูตรโครงสรา้ งแบบย่อ และสตู รโครงสร้างแบบเส้นของสารประกอบอินทรีย์
๓. วิเคราะหโ์ ครงสร้างและระบปุ ระเภทของสารประกอบอินทรีย์จากหมู่ฟงั กช์ ัน
๔. เขยี นสตู รโครงสรา้ งและเรยี กช่อื สารประกอบอนิ ทรยี ป์ ระเภทต่าง ๆ ท่มี ีหม่ฟู งั กช์ นั ไมเ่ กิน 1 หม่ตู ามระบบ
IUPAC
หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๑๔
๕. เขียนไอโซเมอรโ์ ครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ประเภทตา่ งๆ
๖. วิเคราะห์และเปรียบเทียบจุดเดือดและการละลายในน้ำของสารประกอบอินทรีย์ที่มีหมู่ฟังก์ชันขนาด
โมเลกลุ หรอื โครงสร้างต่างกนั
๗. ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภัณฑ์จากปฏิกิริยาการเผาไหม้ ปฏิกิริยากับ
โบรมนี หรอื ปฏิกิริยากบั โพแทสเซยี มเปอร์ แมงกาเนต
๘. เขียนสมการเคมีและอธิบายการเกิดปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน ปฏิกิริยาการสังเคราะห์เอไมด์ปฏิกิริยา
ไฮโดรลซิ ิส และปฏกิ ิริยาสะปอนนฟิ เิ คชนั
๙. ทดสอบปฏิกิริยาเอสเทอริฟเิ คชัน ปฏิกิรยิ าไฮโดรลซิ ิส และปฏิกิริยาสะปอนนฟิ ิเคชัน
๑๐.สืบค้นข้อมูลและนําเสนอตัวอย่างการนําสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน และ
อุตสาหกรรม
๑๑.ระบปุ ระเภทของปฏกิ ิริยาการเกิดพอลิเมอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์หรือพอลเิ มอร์
๑๒.วิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์รวมทั้งการนํา ไปใช้
ประโยชน์
๑๓.ทดสอบและระบปุ ระเภทของพลาสติกและผลิตภณั ฑย์ าง รวมทั้งการนาํ ไปใชป้ ระโยชน์
๑๔.อธิบายผลของการปรบั เปลยี่ นโครงสร้าง และการสังเคราะห์พอลเิ มอร์ทมี่ ตี ่อสมบัติของพอลเิ มอร์
๑๕.สืบค้นข้อมูลและนํา เสนอตัวอย่างผลกระทบจากการใช้และการกําจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ และแนวทาง
แกไ้ ข
๑๖.กำหนดปัญหา และนําเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ที่เ กิดขึ้นใน
ชวี ิตประจำวนั การประกอบอาชพี หรอื อตุ สาหกรรม
๑๗.แสดงหลักฐานถึงการบูรณาการความรู้ทางเคมีร่วมกับสาขาวิชาอื่น รวมทั้งทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตรห์ รอื กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม โดยเน้นการคดิ วเิ คราะห์ การแกป้ ญั หาและความคิด
สร้างสรรค์ เพื่อแกป้ ญั หาในสถานการณห์ รือประเด็นทีส่ นใจ
๑๘.นําเสนอผลงานหรือชิ้นงานที่ได้จากการแก้ปัญหาในสถานการณ์ หรือประเด็นที่สนใจโดยใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ
๑๙.แสดงหลักฐานการเข้าร่วมการสัมมนา การเข้าร่วมประชุมวิชาการ หรือการแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์ใน
งานนทิ รรศการ
รวมท้ังหมด 19 ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๑๕
คำอธบิ ายรายวิชา ว ๓0๒3๑ ชวี วทิ ยา ๑
รายวชิ าเพ่มิ เติม กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นที่ 1 เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ศึกษา วิเคราะห์ ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ กิจกรรมสะเต็ม
ศึกษาและกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม อะตอม ธาตุและสารประกอบ น้ำ สารประกอบคาร์บอนในสิ่งมีชีวิต
ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์สิ่งมีชีวิต เซลล์และการทำงานของเซลล์ กล้องจุลทรรศน์เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเซลล์
โครงสรา้ งและหน้าที่ของเซลล์ การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ การหายใจระดบั เซลล์ และการแบ่งเซลล์
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การ
อภปิ รายและอธิบาย เพอื่ ใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารสิ่งที่เรยี นร้มู ีความสามารถ
ในการตัดสินใจ มีความตระหนัก รู้คุณค่า และสามารถนำความรไู้ ปใชใ้ ห้เกิดประโยชนต์ อ่ ตนเองและส่งิ มชี ีวติ อืน่ มี
จิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและ คา่ นิยมทเี่ หมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. อธบิ าย และสรปุ สมบตั ิทสี่ ำคัญของส่งิ มชี ีวติ และความสัมพันธข์ องการจดั ระบบในส่ิงมชี วี ิตทที่ ำใหส้ ่ิงมีชีวิต
ดำรงชีวิตอยู่ได้
๒. อภิปราย และบอกความสำคัญของการระบุปัญหา ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหา สมมติฐานและวิธีการ
ตรวจสอบสมมติฐาน รวมทง้ั ออกแบบการทดลองเพื่อตรวจสอบสมมติฐาน
๓. สืบค้นข้อมลู อธิบายเก่ียวกบั สมบตั ิของน้ำและบอกความสำคญั ของน้ำทีม่ ีต่อส่ิงมชี ีวิตและยกตัวอย่างธาตุ
ชนดิ ตา่ ง ๆ ทีม่ คี วามสำคัญตอ่ รา่ งกายส่ิงมชี ีวติ
๔. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างของคาร์โบไฮเดรตระบุกลุ่มของคาร์โบไฮเดรต รวมทั้งความสำคัญของ
คารโ์ บไฮเดรตท่มี ีต่อสิ่งมชี วี ิต
๕. สืบคน้ ข้อมูล อธบิ ายโครงสร้างของโปรตนี และความสำคญั ของโปรตนี ทม่ี ีต่อสิ่งมีชวี ติ
๖. สืบคน้ ข้อมูล อธบิ ายโครงสร้างของลิพิดและความสำคญั ของลิพิดที่มีต่อสิ่งมชี ีวติ
๗. อธิบายโครงสร้างของกรดนิวคลิอิก และระบุชนิดของกรดนวิ คลิอิก และความสำคญั ของกรดนิวคลิอิกท่มี ี
ตอ่ ส่ิงมชี ีวติ
๘. สืบค้นขอ้ มลู และอธิบายปฏกิ ริ ยิ าเคมที ีเ่ กดิ ข้ึนในสง่ิ มีชวี ิต
๙. อธิบายการทำงานของเอนไซม์ในการเร่งปฏิกิริยาเคมีในสิ่งมีชีวิตและระบุปัจจัยที่มีผลต่อการทำงานของ
เอนไซม์
๑๐.บอกวิธีการ และเตรียมตัวอย่างสิ่งมีชีวิตเพื่อศึกษาภายใต้กล้องจุลทรรศน์ใช้แสงวัดขนาดโดยประมาณ
และวาดภาพทปี่ รากฏภายใตก้ ล้อง บอกวธิ กี ารใช้และการดแู ลรักษากล้องจุลทรรศน์ใชแ้ สงทถ่ี ูกตอ้ ง
๑๑.อธิบายโครงสร้างและหนา้ ทข่ี องสว่ นท่ีหอ่ หมุ้ เซลล์ของเซลล์พืชและเซลล์สตั ว์
๑๒.สบื คน้ ข้อมลู อธิบาย และระบุชนดิ และหนา้ ทข่ี องออรแ์ กเนลล์
๑๓.อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของนวิ เคลียส
๑๔.อธบิ าย และเปรยี บเทียบการแพร่ออสโมซิสการแพรแ่ บบฟาซิลเิ ทตและแอกทีฟทรานสปอร์ต
หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๑๖
๑๕.สบื ค้นข้อมูล อธิบาย และเขยี นแผนภาพการลําเลียงสารโมเลกลุ ใหญ่ออกจากเซลลด์ ้วยกระบวนการเอกโซ
ไซโทซสิ และการลาํ เลียงสารโมเลกลุ ใหญเ่ ข้าสู่เซลลด์ ้วยกระบวนการเอนโดไซโทซิส
๑๖.สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและแบบไมโอซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้องจุลทรรศน์พร้อมทั้ง
อธบิ ายและเปรียบเทียบการแบง่ นวิ เคลยี สแบบไมโทซิส และแบบไมโอซสิ
๑๗.อธิบาย เปรียบเทียบ และสรุปขั้นตอนการหายใจระดับเซลล์ในภาวะที่มีออกซิเจนเพียงพอ และภาวะที่มี
ออกซิเจนไมเ่ พยี งพอ
รวมท้ังหมด ๑๗ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๑๗
คำอธบิ ายรายวชิ า ว ๓0๒3๒ ชีววิทยา ๒
รายวิชาเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษา วิเคราะห์ เกี่ยวกับโครโมโซม สารพันธกุ รรม สมบัติของสารพันธกุ รรม การเกิดมิวเทชนั การศึกษา
พันธุกรรมของเมนเดล ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของพันธุศาสตร์ของเมนเดล ยีนบนโครโมโซม
เดียวกัน พันธุวิศวกรรมและการโคลนยีน การหาขนาดของดีเอ็นเอและการหาลำดับนิวคลีโอไทด์ การประยุกต์ใช้
เทคโนโลยีทางดเี อน็ เอ เทคโนโลยที างดีเอ็นเอกบั ความปลอดภยั ทางชวี ภาพและชีวจริธรรม หลกั ฐานและข้อมลู ท่ีใช้
ในการศกึ ษาววิ ฒั นาการของส่ิงมชี วี ิต ภาวะสมดลุ ของฮารด์ ี-ไวนเ์ บิร์ก อนกุ รมวธิ ารและการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
แนวคิดเกย่ี วกับวิวฒั นาการของสิ่งมชี ีวติ พนั ธุศาสตร์ประชากร ปัจจัยทที่ ำใหเ้ กิดการเปล่ยี นแปลงความถ่ขี องแอลลีล
และการกำเนิดสปีชีส์ ระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียนสาร ความหลากหลาย
ของไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ประชากรและรูปแบบการเพิ่มของประชากร
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม ปัญหาและผลกระทบท่ีเกดิ จากการใชป้ ระโยชน์ และแนวทางการแกไ้ ขปัญหา
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล
การอภิปรายและอธิบาย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มี
ความสามารถในการตัดสนิ ใจ มีความตระหนัก รคู้ ณุ คา่ และสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและ
ส่ิงมชี วี ติ อ่นื มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. สบื คน้ ข้อมูล อภิปรายเกี่ยวกับโครโมโซม สารพันธุกรรม และสมบัตขิ องสารพนั ธกุ รรม
๒. สบื ค้นข้อมลู อภปิ รายและสรุปเกี่ยวกับการเกิดมวิ เทชัน
๓. สืบคน้ ข้อมลู อภิปรายและสรุปเก่ียวกบั การศกึ ษาพันธุกรรมของเมนเดล
๔. สืบค้นขอ้ มลู อภิปรายเกีย่ วกับลักษณะทางพนั ธกุ รรมท่เี ป็นสว่ นขยายของพันธศุ าสตร์ของเมนเดล ยนี บน
โครโมโซมเดียวกนั
๕. สืบคน้ ข้อมลู เกยี่ วกบั การหาขนาดของดเี อ็นเอและการหาลำดบั นิวคลโี อไทด์
๖. สบื ค้นข้อมูลเกย่ี วกับพันธวุ ิศวกรรมและการโคลนยีน และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยที างดีเอ็นเอ
๗. สืบค้นข้อมลู อภิปรายเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางดีเอน็ เอกับความปลอดภยั ทางชวี ภาพและชีวจริธรรม
๘. สืบค้นขอ้ มลู อภปิ รายเกี่ยวกับหลกั ฐานและข้อมูลท่ีใชใ้ นการศึกษาววิ ฒั นาการของสิง่ มชี ีวิตแนวคิด
เกย่ี วกับววิ ฒั นาการของส่ิงมีชีวิต
๙. สบื คน้ ข้อมูล อภิปรายเกยี่ วกับ ภาวะสมดลุ ของฮาร์ดี-ไวน์เบิรก์
๑๐.การนำความรูเ้ กย่ี วกบั อนกุ รมวิธารไปใช้ประโยชน์
๑๑.สบื คน้ ข้อมูล อภิปรายเกย่ี วกับพันธศุ าสตรป์ ระชากร ปัจจัยที่ทำใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงความถขี่ องแอลลลี
๑๒.สบื คน้ ข้อมลู อภิปรายเกย่ี วกบั และการกำเนิดสปชี สี ์
๑๓.สืบค้นขอ้ มลู อภปิ รายเกย่ี วกับความหลากหลายของไบโอม
๑๔.สบื คน้ ขอ้ มูล อภิปรายเก่ยี วกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียนสาร
๑๕.สบื ค้นข้อมูล อภิปรายเก่ียวกับการเปลี่ยนแปลงแทนทีข่ องสงิ่ มชี ีวติ ในระบบนเิ วศ
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๑๘
๑๖.สืบคน้ ข้อมลู อภปิ รายเก่ยี วกับประชากรและรปู แบบการเพ่ิมของประชากร
๑๗.สืบค้นข้อมูล อภิปรายเกยี่ วกับทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ปัญหาและผลกระทบทเ่ี กดิ จากการใช้
ประโยชน์ และแนวทางการแกไ้ ขปัญหา
รวมท้ังหมด ๑๗ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๑๑๙
คำอธบิ ายรายวชิ า ว ๓0๒3๓ ชีววิทยา ๓
รายวิชาเพิ่มเติม กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ 1 เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
ศึกษา วิเคราะห์ โครงสร้างของดอกและชนิดของผล วัฎจักรชีวิตแบบสลับของพืชดอก การสืบพันธุ์แบบ
อาศัยเพศของพืชดอก การใช้ประโยชน์จากโครงสร้างต่างๆของผลและเมล็ด เนื้อเยื่อพืช โครงสร้างและการ
เจริญเติบโตของราก โครงสร้างและการเจริญเติบโตของลำต้น โครงสร้างและการเจริญเติบโตของใบ การลำเลียงนำ้
การแลกเปลี่ยนแก๊สและการคายน้ำ การลำเลียงธาตุอาหาร การลำเลียงอาหาร การศึกษาที่เกี่ยวกับการสังเคราะห์
แสง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช โฟโตเรสไพเรชัน การเพิ่มความเข้มข้นของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ปจั จัยบางประการที่มีผลต่อการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง ฮอร์โมนพืช ปัจจัยทีม่ ผี ลตอ่ การงอกของเมล็ด การตอบสนองของ
พืชในลักษณะการเคล่อื นไหว และการตอบสนองของพืชต่อภาวะเครยี ด
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การ
อภิปรายและอธิบาย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารสิง่ ที่เรียนรู้ มีความสามารถ
ในการตดั สินใจ มีความตระหนกั รูค้ ณุ คา่ และสามารถนำความร้ไู ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อตนเองและส่ิงมีชีวิตอื่น มีจิต
วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและคา่ นิยมทเี่ หมาะสม
ผลการเรียนรู้
๑. สบื คน้ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั โครงสร้างของดอกและชนิดของผล
๒. สบื คน้ ขอ้ มูลเก่ยี วกับวฎั จกั รชวี ติ แบบสลบั ของพชื ดอก การสบื พนั ธุ์แบบอาศัยเพศของพชื ดอก
๓. สบื ค้นข้อมลู อภิปรายเก่ยี วกบั การใช้ประโยชนจ์ ากโครงสรา้ งต่างๆ ของผลและเมล็ด
๔. สบื ค้นข้อมูล อภิปรายเกย่ี วกับเนือ้ เยอ่ื พชื
๕. สืบค้นข้อมูล อภิปรายเกย่ี วกบั โครงสรา้ งและการเจรญิ เตบิ โตของราก ลำต้น และใบ
๖. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการลำเลียงน้ำ การแลกเปลี่ยนแก๊สและการคายน้ำ การลำเลียงธาตุอาหาร การ
ลำเลียงอาหาร
๗. อภปิ รายและอธิบายเกี่ยวกับการสงั เคราะหแ์ สง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื โฟโตเรสไพเรชัน
การเพ่มิ ความเข้มข้นของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
๘. สืบค้นข้อมูล อภิปรายและนำเสนอเกี่ยวกับปัจจัยบางประการที่มีผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง ๑๐.
สบื คน้ ขอ้ มูล อภปิ รายเก่ยี วกบั ฮอรโ์ มนพืช
๙. สืบคน้ ขอ้ มลู อภิปรายและอธิบาย เกยี่ วกบั ปัจจยั ที่มผี ลตอ่ การงอกของเมล็ด
๑๐.สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายการตอบสนองของพืชในลักษณะการเคลื่อนไหว และการตอบสนอง
ของพชื ต่อภาวะเครียด
รวมทั้งหมด ๑0 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๒๐
คำอธบิ ายรายวิชา ว ๓0๒3๔ ชวี วทิ ยา ๔
รายวิชาเพ่ิมเติม กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศึกษา วิเคราะห์ เกี่ยวกับการย่อยอาหารของสัตว์ การย่อยอาหารของมนุษย์ การแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์
อวัยวะและโครงสรา้ งในระบบหายใจของมนุษย์ การแลกเปลีย่ นแกส๊ และการลำเลียงแก๊ส การหายใจ การลำเลยี งสาร
ในร่างกายสัตว์ การลำเลียงสารในร่างกายมนุษย์ ระบบน้ำเหลือง ระบบภูมิคุ้มกัน กลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่ง
แปลกปลอม การสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน การขับถ่ายของสัตว์ การขับถ่ายของมนุษย์
การทำงานของหน่วยไต ไตกับการรักษาดลุ ยภาพของน้ำและสารตา่ งๆในรา่ งกาย และความผิดปกติของระบบขับถ่าย
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การ
อภิปรายและอธิบาย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มี
ความสามารถในการตัดสนิ ใจ มีความตระหนัก ร้คู ุณค่า และสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและ
ส่ิงมีชวี ิตอ่นื มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม
ผลการเรียนรู้
๑. สืบคน้ ข้อมลู อภปิ รายเกย่ี วกับการยอ่ ยอาหารของสตั ว์ การยอ่ ยอาหารของมนุษย์
๒. สืบค้นขอ้ มูล อภิปรายเกี่ยวกบั การแลกเปล่ียนแกส๊ ของสตั ว์
๓. สืบค้นข้อมูล อภิปรายเกี่ยวกับอวัยวะและโครงสร้างในระบบหายใจของมนุษย์ การแลกเปล่ียนแก๊สและ
การลำเลยี งแก๊ส และการหายใจ
๔. สืบคน้ ข้อมูล อภปิ รายเกี่ยวกับการลำเลยี งสารในร่างกายสัตว์
๕. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปรายเกี่ยวกับการลำเลียงสารในรา่ งกายมนษุ ย์
๖. สบื ค้นขอ้ มูล อภิปรายเกย่ี วกับการระบบน้ำเหลือง
๗. สบื คน้ ขอ้ มูล อภิปรายเก่ยี วกบั กลไกการต่อต้านหรอื ทำลายสิ่งแปลกปลอม การสร้างเสรมิ ภูมคิ ุ้มกัน
๘. สืบค้นขอ้ มลู อภปิ รายเกย่ี วกบั ความผดิ ปกติของระบบภมู ิคุ้มกนั
๙. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปรายเกี่ยวกับการขับถ่ายของสัตว์
๑๐.สืบค้นข้อมูล อภิปรายเกี่ยวกับการขับถ่ายของมนุษย์ การทำงานของหน่วยไต ไตกับการรักษาดุลยภาพ
ของน้ำและสารต่างๆในร่างกาย
๑๑.สืบคน้ ข้อมลู อภปิ ราย เกีย่ วกบั และความผิดปกตขิ องระบบขับถ่าย
รวมทั้งหมด ๑1 ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๒๑
คำอธิบายรายวิชา ว ๓0๒3๕ ชีววิทยา ๕
รายวิชาเพม่ิ เติม กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรียนท่ี 1 เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ศึกษา วิเคราะห์ เกี่ยวกับลักษณะและชนิดของเซลล์ประสาท โครงสร้างและการทำงานของระบบประสาท
อวัยวะรับความรู้สึก การเคลื่อนที่ของของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและสัตว์ การรับรู้และการตอบสนองของสิ่งมีชีวิต
ระบบต่อมไร้ท่อทผ่ี ลติ ฮอรโ์ มน ฟีโรโมน การรักษาดลุ ยภาพด้วยฮอรโ์ มน ประเภทและกลไกการเกิดพฤติกรรมของสัตว์
ความสัมพันธร์ ะหวา่ งพฤตกิ รรมกบั การพัฒนาการของระบบประสาท
การส่อื สารระหวา่ งสัตว์ การสบื พันธุ์และการเจรญิ เตบิ โตของสตั วน์ ำความรูม้ าใชศ้ กึ ษาแพะเล้ยี งในโรงเรยี น
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การ
อภปิ รายและอธบิ ายเพ่อื ใหเ้ กดิ การเรียนรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอส่ือสารสงิ่ ท่เี รียนรู้ มีความสามารถใน
การตัดสินใจ มีความตระหนัก รู้คุณค่า และสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสิ่งมีชีวิตอื่น มีจิต
วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านิยมท่ีเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
๑. สบื ค้นขอ้ มลู อภปิ รายและสรปุ เกย่ี วกบั การรับร้แู ละตอบสนองของส่ิงมชี ีวิต การทำงานของเซลล์ประสาท
โครงสรา้ งของระบบประสาท
๒. สบื คน้ ข้อมลู อภปิ รายเกี่ยวกบั การรบั ความรูส้ ึกของอวัยวะรบั สมั ผัส
๓. สบื คน้ ข้อมูล อภปิ รายเก่ยี วกบั การเคลอ่ื นท่ขี องสิ่งมชี ีวิตเซลลเ์ ดยี ว สัตวแ์ ละคน
๔. เปรยี บเทียบการทำงานของร่างกายท่ีทำให้เกิดการเคลอ่ื นไหวในสงิ่ มชี ีวิตต่าง ๆกัน
๕. สืบค้นข้อมูล อภิปรายเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ การทำงานของฮอร์โมน การรักษาดุลยภาพด้วยฮอร์โมน และ
การทำงานของฟีโรโมน
๖. สืบค้นข้อมลู อภิปรายเก่ยี วกับการสบื พันธ์ขุ องสิง่ มชี วี ิตเซลล์เดียวและสตั ว์
๗. ๗.สบื คน้ ขอ้ มูล อภิปรายเกีย่ วกับโครงสรา้ งระบบสืบพันธข์ุ องเพศหญงิ และเพศชายในคน
๘. สบื คน้ ขอ้ มูล อภปิ รายการเกิดภาวะมบี ตุ รยากในคนและเสนอวธิ ีการแก้ไขการมีบุตรยาก
๙. สบื ค้นข้อมูล อภปิ รายเก่ยี วกับการเจรญิ เตบิ โตของสิ่งมชี วี ิตเซลลเ์ ดยี ว สัตวแ์ ละคน
๑๐.สืบค้นข้อมูล อภิปรายเกี่ยวกับการพัฒนาการของการเจริญเติบโตและสภาวะบางประการที่มีผลการ
เจริญเติบโตของทารกในครรภ์
๑๑.สำรวจตรวจสอบเกี่ยวกับกลไกการเกิดพฤติกรรมของสัตว์ ประเภทของพฤติกรรม ความสัมพันธ์ระหว่าง
พฤติกรรมกบั การพฒั นาของระบบประสาท
๑๒.สืบค้นข้อมลู เกี่ยวกับรปู แบบและความสำคัญของการสือ่ สารของสิง่ มชี ีวติ
รวมท้ังหมด ๑๒ ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๑๒๒
รายวชิ าพื้นฐานและเพ่ิมเติม กลุม่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
รายวิชาพื้นฐาน
ส ๓๑๑๐๑ สังคมศึกษา ๑ จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกิต
ส ๓๑๑๐๒ สงั คมศึกษา ๒ จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกิต
ส ๓๒๑๐๑ สงั คมศึกษา ๓ จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หนว่ ยกติ
ส ๓๒๑๐2 สังคมศึกษา ๔ จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ
ส ๓๓๑๐๑ สังคมศึกษา ๕ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ
ส ๓๓๑๐2 สังคมศึกษา ๖ จำนวน 40 ช่ัวโมง 1.0 หนว่ ยกติ
ส ๓๒๑๐3 ประวตั ิศาสตร์ไทย จำนวน 40 ช่ัวโมง 1.0 หน่วยกิต
ส ๓2๑๐4 ประวัตศิ าสตรส์ ากล จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกิต
รายวชิ าเพ่ิมเติม พุทธศาสนา ๑ จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกติ
ส ๓1๒๐๑ พุทธศาสนา ๒ จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ
ส ๓1๒๐3 พทุ ธศาสนา ๓ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ
ส ๓2๒๐1 พทุ ธศาสนา ๔ จำนวน 40 ช่วั โมง 1.0 หนว่ ยกติ
ส ๓2๒๐3 พทุ ธศาสนา ๕ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ
ส ๓3๒๐1 พทุ ธศาสนา ๖ จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกิต
ส ๓3๒๐3 อิสลามศึกษา ๑ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกิต
ส ๓1๒๐2 อสิ ลามศึกษา ๒ จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต
ส ๓1๒๐4 อิสลามศึกษา ๓ จำนวน 40 ช่ัวโมง 1.0 หนว่ ยกติ
ส ๓2๒๐2 อิสลามศึกษา ๔ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ
ส ๓๒2๐4 อิสลามศึกษา ๕ จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกติ
ส ๓3๒02 อิสลามศึกษา ๖ จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต
ส ๓3๒04 อรรถธบิ ายอลั -กรุอาน จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต
ส ๓0๒01 ศาสนาบัญญัติ จำนวน 40 ชัว่ โมง 1.0 หน่วยกิต
ส ๓๐๒๐๒ การปกครองไทย จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกิต
ส ๓๐๒๐๓ กฎหมายทป่ี ระชาชนควรรู้ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต
ส ๓๐๒๐๔ การปกครองท้องถิน่ จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต
ส ๓๐๒๐๕ อาเซยี นศึกษา จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกติ
ส ๓๐๒๐๖ เหตุการณ์ปจั จบุ ัน จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ
ส ๓๐๒๐๗ หน้าท่ีพลเมือง 1 จำนวน 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกติ
ส ๓๐๒31 หนา้ ทพ่ี ลเมือง 2 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต
ส ๓๐๒๓๒ หนา้ ที่พลเมือง 3 จำนวน 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกติ
ส ๓๐๒๓๓
หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๒๓
ส ๓๐๒๓๔ หน้าท่พี ลเมือง 4 จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต
ส ๓๐๒41 การป้องกนั การทุจริต 1 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต
ส ๓๐๒๔๒ การปอ้ งกันการทุจรติ 2 จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกติ
ส ๓๐๒๔๓ การปอ้ งกันการทจุ รติ 3 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกติ
ส ๓๐๒๔๔ การป้องกันการทุจรติ 4 จำนวน 20 ช่ัวโมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส ๓๐๒๔๕ การป้องกันการทุจริต 5 จำนวน 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต
ส ๓๐๒๔๖ การปอ้ งกนั การทจุ ริต 6 จำนวน 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๑๒๔
คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๒๕
คำอธบิ ายรายวชิ า ส ๓๑๑๐๑ สงั คมศึกษา ๑
รายวิชาพ้นื ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษาการปฏิบัติตนตามกฎระเบียบ กติกาของสังคม ทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน สังคมระดับประเทศ
ปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติและสังคมโลกมีส่วนร่วมในการคุ้มครอง
ปกปอ้ งตนเองและผูอ้ ่ืนตามหลกั สทิ ธมิ นุษยชน ในสังคมไทยและสงั คมโลก
ศึกษาการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของสถาบันทางสังคม ตามสถานภาพบทบาท อย่างถูกต้อง ตามบรรทัด
ฐาน วฒั นธรรมและเอกลักษณ์ท่สี ำคญั ของชาติ มคี ่านิยมท่ดี งี าม ร่วมมอื กันอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมไทย ภูมปิ ัญญาไทย และ
มีวิจารณญาณในการเลือกรับวฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาต่างชาติอยา่ งเหมาะสม
ศึกษาความเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยในสังคมไทยและสังคมโลก รู้และเข้าใจหลักการและ
คุณลักษณะของสมาชิกที่ดี ในวิถีประชาธปิ ไตยท้ังในระดับตนเอง ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ และในสังคมโลก มี
ส่วนร่วมและปฏิบัติตนตามกระบวนการประชาธิปไตย การส่งเสริมให้ผู้อื่นปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามสถานภาพ
บทบาท สิทธิเสรีภาพในฐานะพลเมืองดี ตลอดจนนำหลักคุณธรรม จริยธรรมของการเป็นพลเมืองมาเป็นพ้ื นฐานใน
การปฏบิ ตั ิ
ศึกษาการสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการเมือง การปกครอง การบริหารงานตามกระบวนการประชาธิปไตย
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในกลุ่มสังคม การใช้อำนาจอธิปไตยในการปกครองประเทศ ความสัมพันธ์ของการใช้
อำนาจอธปิ ไตยในระดับต่าง ๆ ท้งั ระดบั ทอ้ งถิ่น ประเทศและระหว่างประเทศ ความแตกต่างของระบอบการเมืองการ
ปกครอง รูปแบบต่าง ๆ และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเมืองการปกครอง ตามกระบวนการประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษตั ริยเ์ ป็นประมขุ
โดยใชก้ ระบวนการคิด วิเคราะห์ การศึกษาคน้ คว้า และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถนำเสนอสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ใน
ชวี ิตประจำวัน มเี หตุมผี ล คณุ ธรรมจรยิ ธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม
รหัสตวั ชี้วดั
ส ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔ -๖/๒, ม.๔-.๖/๓, ม.๔-.๖/๔, ม.๔-.๖/๕
ส ๒.๒ ม.๔-.๖/๑, ม.๔-.๖/๒, ม.๔-.๖/๓,ม.๔-.๖/๔
รวมท้ังหมด ๙ ตัวชี้วดั
หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๒๖
คำอธิบายรายวชิ า ส ๓๑๑๐๒ สงั คมศึกษา ๒
รายวชิ าพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ
ศกึ ษาระบบเศรษฐกจิ แบบต่าง ๆ ตลาดและประเภทของตลาด การกำหนดราคาตามอปุ สงค์ และอุปทาน
การกำหนดคา่ จ้าง กฎหมายทีเ่ กีย่ วข้อง และอตั ราค่าจ้างแรงงานในสงั คมไทย บทบาทของรฐั ในการแทรกแซงราคา
และการควบคุมราคา เพ่ือการแจกจ่ายและจัดสรรในทางเศรษฐกิจ การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนิน
ชีวิตของตนเองและครอบครัว ทั้งในภาคเกษตร อุตสาหกรรม การค้าและบริการ ปัญหาการพัฒนาประเทศท่ผี ่านมา
โดยศกึ ษาวิเคราะห์แผน พฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมฉบับที่ผ่านมา การพฒั นาประเทศทีน่ ำปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
มาใช้ในการวางแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมฉบบั ปจั จบุ ัน ความหมาย ความสำคัญ และหลักการของสหกรณ์
วิวัฒนาการของสหกรณ์ในประเทศไทย ความสำคัญของระบบสหกรณ์ในการพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชนและประเทศ
ปญั หาและแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชน ตวั อย่างของการรวมกลุ่มท่ีประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาทาง
เศรษฐกิจของชมุ ชน
ศึกษานโยบายการเงิน การคลังในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ รายรับและรายจ่ายของรัฐที่มีผลตอ่
งบประมาณ หนี้สาธารณะ การพัฒนาทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน ความหมาย สาเหตุและ
ผลกระทบที่เกิดจากภาวะทางเศรษฐกิจ แนวทางการแก้ปัญหาของนโยบายการเงิน การคลัง วิวัฒนาการและ
ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อการเปิดเสรที างเศรษฐกิจของประเทศทีม่ ีต่อภาคการเกษตร อุตสาหกรรม การค้าและ
บริการ การค้าและการลงทนุ ระหวา่ งประเทศ บท บาทองค์กรระหวา่ งประเทศในเวทีการเงนิ โลกที่มผี ลต่อประเทศ
ไทย แนวคิดพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ บทบาทองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจทีส่ ำคัญใน
ภมู ิภาคต่าง ๆของโลก ปจั จยั ตา่ ง ๆทน่ี ำไปสู่การพึง่ พา การแข่งขนั การขัดแย้งและการประสานประโยชน์ทาง
เศรษฐกิจไทยกบั ต่าง ประเทศ วิธีการกีดกันทางการคา้ ระหว่างประเทศ
โดยใช้กระบวนการความรู้ความเข้าใจ การอภปิ ราย การคิดวิเคราะห์ และการสงั เคราะห์
เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ และสามารถอภปิ รายผลดีผลเสยี ของระบบเศรษฐกิจแบบตา่ ง ๆ สามารถอภิปราย
การกำหนดราคาและค่าจ้างในระบบเศรษฐกิจ ตระหนักถึงความสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ
ความสำคัญของระบบสหกรณ์ในการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับชุมชนและประเทศ สามารถวิเคราะห์ปัญหาทาง
เศรษฐกิจในชุมชนและเสนอแนวทางแก้ไขได้ อธิบายบทบาทของรัฐบาลเกี่ยวกบั นโยบายการเงนิ การคลังในการ
พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สามารถวิเคราะห์ผลกระทบของการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจในยุคโลกาภิวัฒน์ที่มีผลตอ่
สงั คมไทย วเิ คราะหผ์ ลดีผลเสียของความร่วมมือทางเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศในรปู แบบต่าง ๆ
รหสั ตวั ชี้วดั
ส ๓.๑ ม. ๔-๖/๑ , ม. ๔-๖/ ๒, ม. ๔-๖/ ๓ , ม. ๔-๖/ ๔
ส ๓.๒ ม. ๔-๖/๑, ม. ๔-๖/ ๒, ม. ๔-๖/ ๓
รวมทั้งหมด ๗ ตัวช้ีวัด
หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๑๒๗
คำอธิบายรายวิชา ส ๓๒๑๐๑ สังคมศึกษา ๓
รายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษาเร่ือง การใช้เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนำเสนอภมู ิสารสนเทศอยา่ งมี
ประสิทธภิ าพในการวเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในประเทศไทยและภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลก ซ่ึงได้รบั อทิ ธิพล
จากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ วิเคราะหล์ ักษณะทางกายภาพ ซึ่งทำใหเ้ กิดปัญหาและภยั พบิ ัติทางธรรมชาตใิ นประเทศไทย
และภูมภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก ใช้แผนท่ีและเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วเิ คราะห์และสรปุ ข้อมลู ตาม
กระบวนการทางภูมิศาสตร์ และนำภูมสิ ารสนเทศมาใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจำวัน วิเคราะห์ปฏสิ ัมพันธร์ ะหวา่ ง
สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับกิจกรรมของมนุษย์ในการสร้างสรรค์วถิ ีการดำเนินชีวติ ของท้องถ่นิ ทั้งในประเทศไทยและ
ภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก เห็นความสำคัญของสง่ิ แวดลอ้ มทมี่ ีผลตอ่ การดำรงชีวติ ของมนุษย์ วิเคราะหส์ ถานการณ์ สาเหตุ
และผลกระทบของการเปลยี่ นแปลงด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มของประเทศไทยและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก
ระบุมาตรการป้องกนั และแก้ไขปัญหา กฎหมายและนโยบายดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บทบาทขององค์การ
ท่ีเกี่ยวข้องและการประสานความรว่ มมือท้ังในประเทศและระหวา่ งประเทศ วิเคราะห์แนวทางและการมีสว่ นร่วมในการ
จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมเพ่ือการพัฒนาท่ีย่งั ยนื
โดยการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เน้นการใหป้ ระสบการณท์ ่ีใกล้ตัวผ้เู รียน เพื่อให้เกดิ การเชื่อมโยงประสบการณ์
เดมิ สปู่ ระสบการณใ์ หม่ โดยการใช้ภาพ ข่าว สถานการณ์ หรือเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์
ตา่ ง ๆ ให้ผู้เรียนไดฝ้ ึกการสังเกต ตอบคำถามและหาแนวทางการปฏบิ ัติท่ีถูกต้อง เหมาะสม สง่ เสรมิ การทำงานกลุ่ม
เพอ่ื พฒั นาทักษะทางสงั คม นำไปสกู่ ารยอมรบั และเห็นคุณคา่ ของตนเองและผู้อนื่
เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนเขา้ ใจและตระหนกั ถึงการปฏิบตั ติ นในฐานะที่เปน็ สว่ นหนงึ่ และใช้วธิ ีการท่ีเหมาะสมใน
การศกึ ษาเคร่ืองมือทางภูมศิ าสตร์
รหัสตัวชี้วดั
ส ๕.๑ ม. ๔ – ๖/๑ , ม. ๔ – ๖/๒ , ม. ๔ – ๖/๓
ส ๕.๒ ม. ๔ – ๖/๑ , ม. ๔ – ๖/๒ , ม. ๔ – ๖/๓ , ม. ๔ – ๖/๔
รวมท้ังหมด ๗ ตัวช้ีวดั
หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๑๒๘
คำอธิบายรายวิชา ส ๓๒๑๐2 สงั คมศึกษา ๔
รายวิชาพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษา วเิ คราะห์ สรา้ งความคดิ รวบยอด นำภูมิปญั ญาท้องถ่ิน สภาพปัญหาชวี ติ สภาพสังคม เข้ามาเป็น
ส่วนหน่งึ ของกระบวนการเรียนรู้ ในเรือ่ งต่อไปนี้
ประวัติและความสำคัญของศาสนาหลักทั้ง ๔ คือ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู , ศาสนาพุทธ , ศาสนาคริสต์ ,
ศาสนาอสิ ลาม
หลักธรรมของทง้ั ๔ ศาสนา อนั เป็นหลักปฏิบัติของหมู่ชนที่นบั ถือในทุกระดับชัน้
ศาสนพธิ ีของทั้ง ๔ ศาสนา โดยยดึ พธิ ีกรรมตา่ ง ๆ ท่ีสำคญั และเปน็ เอกลักษณ์ โดดเด่นของแตล่ ะศาสนา
โดยใชก้ ระบวนการสร้างความรู้ ความเข้าใจ การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ เปรียบเทยี บ
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกิดความตระหนัก และสามารถนำความรู้ที่ได้รับมาใช้ในการอยู่ร่วมกันใน
สงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ .
รหสั ตวั ชี้วดั
ส. ๑.๑ ม.4-๖/๑๗ ม.4-๖/๑๘ ม.4-๖/๒๑ ม.4-๖/๒๒
รวมทั้งหมด ๔ ตัวช้ีวดั
หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๒๙
คำอธิบายรายวิชา ส ๓๓๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๕
รายวิชาพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษาระบบการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ลักษณะและ
ความสำคัญ การเป็นพลเมืองดีความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ปลูกฝังค่านิยม
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สิทธิหน้าที่ เสรีภาพ เพื่อให้มีความรู้และสามารถนำไปใช้การดำเนิน
ชวี ติ อย่างสันติสุขในสงั คมไทยและสงั คมโลก
ศึกษาการผลิต การแจกจ่าย และการบริโภคสินค้าและบริการ การบริหารจัดการทรัพยากรที่อยู่อย่างจำกัด
อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ เพือ่ การดำรงชีวติ อย่างมดี ุลยภาพและนำความรู้หลกั เศรษฐกิจพอเพยี งมาใชใ้ นชีวติ ประจำวนั
โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ การนำเสนอข้อมูล การสำรวจ การตีความ และการอภิปรายเพื่อให้เกิด
ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำ
ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวัน มีเหตุ มีผล คณุ ธรรมจริยธรรมและคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม
รหสั ตัวชี้วัด
ส๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔
ส๒.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔
ส๓.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔
ส๓.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓
รวมท้ังหมด ๑๕ ตัวช้ีวัด
หลักสูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๓๐
คำอธิบายรายวิชา ส ๓๓๑๐๒ สังคมศึกษา ๖
รายวิชาพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต
ศึกษาเวลา และยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์ วิธีการทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดีตจนถึง
ปัจจุบัน ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ต่าง ๆ ผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์ในอดีต บุคคลสำคัญที่มี
อิทธิพลต่อการเปล่ียนแปลงต่าง ๆในอดีตความเป็นมาของชนชาติไทย วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย แหล่งอารยะ
ธรรมท่ีสำคญั ของโลก
ศึกษาเรื่อง การใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนำเสนอภูมิสารสนเทศอย่างมี
ประสิทธิภาพในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในประเทศไทยและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ซึ่งได้รับ
อิทธิพลจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ วิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาและภัยพิบัติทางธรรมชาติใน
ประเทศไทยและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์และสรุปข้อมูล
ตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ และนำภูมิสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน วิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
ส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกับกิจกรรมของมนุษยใ์ นการสรา้ งสรรค์วิถีการดำเนินชีวติ ของท้องถ่ิน ท้ังในประเทศไทยและ
ภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลก เห็นความสำคญั ของสิ่งแวดลอ้ มท่ีมผี ลต่อการดำรงชวี ติ ของมนุษย์ วเิ คราะหส์ ถานการณ์ สาเหตุ
และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก
ระบุมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา กฎหมายและนโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บทบาทของ
องค์การทีเ่ ก่ียวข้องและการประสานความรว่ มมือท้ังในประเทศและระหว่างประเทศ วิเคราะห์แนวทางและการมีส่วนร่วม
ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมเพื่อการพฒั นาที่ยัง่ ยืน
โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ การนำเสนอข้อมูล การสำรวจ การตีความ และการอภิปรายเพื่อให้เกิด
ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำ
ความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั มีเหตุ มผี ล คณุ ธรรมจรยิ ธรรมและคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม
รหัสตัวชี้วัด
ส๔.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓
ส๔.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔
ส๔.๓ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕
ส๕.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔
ส๕.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕
รวมท้ังหมด ๒๑ ตัวช้ีวดั
หลักสูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๓๑
คำอธิบายรายวิชา ส ๓๒๑๐3 ประวตั ิศาสตร์ไทย
รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกบั ความสำคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์ทีแ่ สดงถึงการเปลี่ยนแปลงของ
มนุษยชาติ ตัวอย่างการใช้เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในเอกสารทางประวัติศาสตร์ไทยและ
ประวัติศาสตร์สากล โดยใช้ทักษะการสังเกต การวเิ คราะห์ การเปรียบเทียบ การเชื่อมโยง ท้งั น้เี พ่อื ใหม้ คี วามเข้าใจถึง
ลักษณะเฉพาะของสังคมที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงหรือมีผลกระทบที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือมีพัฒนาการในแต่ละ
ช่วงเวลาและพ้นื ท่ที แ่ี ตกต่างกัน
ศึกษาวิเคราะห์ความหมาย คุณค่า และวิธีการทางประวัติศาสตร์ตามลำดับขั้นตอนอย่างเป็นระบบในการ
สืบค้นเรื่องราวทีต่ นสนใจ เข้าใจประโยชนแ์ ละคุณค่าของวิธีการทางประวัติศาสตร์ในโลกยคุ โลกาภิวัตน์ที่มขี ้อมูลข่าว
สารสนเทศที่หลากหลาย จัดทำผลการศึกษาหรือโครงงานทางประวัติศาสตร์ และสร้างองค์ความรู้ใหม่ทาง
ประวัตศิ าสตร์ โดยใช้ทักษะการไต่สวน การตรวจสอบ การวพิ ากษ์ข้อมลู การตีความ การเปรียบเทียบการแปลความ
การสรุปอ้างอิง การให้เหตุผล การสังเคราะห์ และการนำเสนอ ทั้งนี้เพือ่ ฝกึ ฝนทักษะตามวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ใน
การศกึ ษาวิเคราะหข์ อ้ มูลอย่างเป็นระบบ และสามารถประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ
ศึกษาวิเคราะห์ประเด็นและแนวคิดสำคัญของประวัติศาสตร์ไทย เช่น แนวคิดเกี่ยวกับความเป็นมาของชน
ชาติไทย อาณาจักรโบราณในดินแดนไทยและอิทธิพลที่มีต่อสงั คมไทย ปจั จัยที่มีผลต่อการสถาปนาและพฒั นาการของ
อาณาจักรไทยในช่วงเวลาต่าง ๆ สาเหตุและผลของการปฏิรูปการปกครองบ้างเมือง การเลิกทาส การเลิกระบบไพร่
การเสดจ็ ประพาสยุโรปและหัวเมืองตา่ ง ๆ ในสมัยรชั กาลท่ี ๕ การเปลีย่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ บทบาทของ
สตรีไทย การพัฒนาประชาธิปไตยในสังคมไทย ศึกษาวิเคราะห์ความสำคญั ของสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ต่อการพัฒนา
ชาติไทยในด้านต่าง ๆเช่น การป้องกันและรักษาเอกราชของชาติ การสร้างสรรค์วัฒนธรรม การส่งเสริมการศึกษา
และการแกป้ ญั หาเศรษฐกจิ และสังคม ทั้งน้เี พ่อื ใหต้ ระหนกั ในความสำคัญของสถาบันพระมหากษตั ริยท์ ม่ี ีต่อสังคมไทย
ตั้งแต่อดีตจนถงึ ปจั จุบนั
ศึกษาวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งเสริมการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยและวัฒนธรรมไทยซึ่งมีผลต่อสังคมไทยในยุค
ปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยทางภูมิศาสตร์ สิ่งแวดล้อมทางสังคม ความคิด ความเชื่อ และความเป็นมาทาง
ประวัติศาสตร์ รวมทั้งอิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกที่มีต่อสังคมไทย วิถีชีวิตของคนไทยสมัยต่าง ๆ
การสืบทอดและการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมไทย วิเคราะห์แนวทางและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ภูมิ
ปัญญาไทยและวัฒนธรรมไทย วางแผนกำหนดแนวทางและการมีส่วนร่วมการอนุรักษ์ภูมปัญญาไทยศึกษาวิเคราะห์
ปัจจัยและบุคคลที่ส่งเสริมและสร้างสรรค์ ภูมิปัญญาไทยที่มีผลต่อสังคมไทยในปัจจุบัน เช่นพระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หวั ภูมิพลอดุลยเดช และสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ ิกิติ พระบรมราชินนิ าถ
ศึกษาวิเคราะห์ผลงานของบุคคลสำคัญทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มีส่วนสร้างวัฒนธรรมไทยและ
ประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์ชาติไทยในสมัยต่าง ๆ เช่น พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์
จักรี สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษาธริ าชสนิทฯลฯ โดยใช้
ทักษะการอ่าน การสำรวจรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ การเปรียบเทียบ การตีความ การสรุปความ การสังเคราะห์
การนำเสนอประวัติศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อให้เข้าใจประเด็นสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย
วัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาไทย เข้าใจพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ทางด้านต่าง ๆ ที่มีความ
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๑๓๒
เปลี่ยนแปลงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เห็นแบบอย่างในการพัฒนาคน เห็นความมุ่งมั่นและความพยายามของ
พระมหากษัตริย์และบรรพบุรุษไทยในการปกป้องเอกราชและวัฒนธรรมของชาติ ตระหนักในคุณค่าของการใช้ภูมิ
ปัญญาในการแก้ปัญหาเพื่อพัฒนาสังคมและประเทศชาติ เข้าใจเอกลักษณ์ทางสังคมไทยที่เป็นพหุสังคมที่มีความ
หลากหลายทางวฒั นธรรม มีความรักและภาคภมู ิใจ และมีสว่ นรว่ มอนุรักษม์ รดกทางวฒั นธรรมของชาติสบื ต่อไป
รหัสตวั ชี้วัด
ส ๔.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔–๖/๒
ส ๔.๓ ม.๔-๖/๑, ม.๔-ม.๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕
รวมทั้งหมด ๗ ตัวช้ีวดั
หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๑๓๓
คำอธิบายรายวชิ า ส ๓๒๑๐๔ ประวตั ศิ าสตร์สากล
รายวิชาพนื้ ฐาน กล่มุ สาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต
ศึกษาวิเคราะห์อารยธรรมของโลกยุคโบราณที่มีผลต่อพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของโลก ได้แก่อารย
ธรรมลุ่มน้ำไทกริส –ยูเฟรติส แม่น้ำไนล์ แม่น้ำฮวงโห และแม่น้ำสินธุ และอารยธรรมกรีก-โรมัน การติดต่อระหว่าง
โลกตะวันออกกบั โลกตะวนั ตกและอิทธิพลทางวฒั นธรรมทม่ี ีต่อกนั และกัน
ศกึ ษาวิเคราะห์เหตุการณส์ ำคญั ต่าง ๆ ทส่ี ่งผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของโลก
เช่น ระบอบศักดินาสวามิภักดิ์ สงครามครูเสด การฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ การสำรวจทาง
ทะเล การปฏิรูปศาสนา การปฏิวัติอุตสาหกรรม แนวคิดเสรีนิยม แนวคิดจักรวรรดินิยม แนวคิดชาตินิยม การขยาย
อิทธิพลของประเทศยุโรปไปยังทวีปอเมริกา แอฟริกา และเอเชีย การล่าอาณานิคมและผลกระทบ ความร่วมมือและ
ความขดั แย้งของมนุษยชาติในโลกในคริสต์ศตวรรษที่ ๒๐ วเิ คราะหส์ ถานการณ์สำคญั ของโลกในคริสต์ศตวรรษท่ี ๒๑
เช่น เหตุการณ์ระเบิดตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ๑๑ กันยายน ๒๐๐๑ การก่อการร้ายและการต่อต้านการก่อการร้าย
ความขัดแย้งทางศาสนา ตลอดจนถงึ เหตุการณใ์ นโลกปัจจุบนั โดยใชท้ ักษะการสืบค้น การตรวจสอบ การวิพากษ์ การ
เปรยี บเทยี บ การใหเ้ หตผุ ล การวิเคราะห์ การสงั เคราะห์
เพื่อให้เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติที่มีความเปลี่ยนแปลงจากอดีตจนถึงปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง เข้าใจและ
ยอมรับในความหลากหลายทางวัฒนธรรม รวมทั้งเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาคต่าง ๆของโลก ทั้งด้านการเมือง
เศรษฐกิจ และสังคม สามารถวิเคราะห์ถึงสาเหตุ ปัจจัย และผลกระทบท่ีเกิดขึ้น ตระหนักถึงความสำคัญและความ
จำเปน็ ของการรว่ มมือกันสร้างสันติสขุ สามารถปรับตวั ใหด้ ำรงชวี ิตอยใู่ นโลกยุคโลกาภิวตั นไ์ ดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ
รหสั ตวั ชี้วดั ม. ๔-๖/๒
ส ๔.๑ ม. ๔–๖/๑, ม. ๔–๖/๒ , ม. ๔ – ๖/๓, ม.๔ – ๖/๓
ส ๔.๒ ม. ๔ –๖/๑ , ม. ๔ –๖/๒
ส ๔/๓
รวมท้ังหมด ๗ ตัวชี้วัด
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๓๔
คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม
กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๓๕
คำอธบิ ายรายวิชา ส ๓1๒๐๑ พระพุทธศาสนา ๑
รายวิชาเพิ่มเติม กลุม่ สาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
ศึกษา วเิ คราะห์ ฝึกปฏิบัติ สรา้ งความคิดรวบยอด นำภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ปญั หาชวี ิต สภาพ แวดลอ้ ม เข้า
มาเปน็ สว่ นหนง่ึ ของกระบวนการเรยี นรู้ เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั เห็นคุณค่า ในเร่ืองต่อไปนี้
พระพุทธ วิเคราะหส์ ังคมชมพทู วปี และคตคิ วามเชอื่ ทางศาสนาสมยั ก่อนพระพทุ ธเจ้าประวัติและความสำคัญ
ของพระพุทธศาสนา เรื่องพระพุทธศาสนามีทฤษฏี และวิธีการที่เป็นสากล และมีข้อปฏิบัติที่ยึดทางสายกลาง
พระพทุ ธศาสนาเน้นการพฒั นาศรัทธาและปัญญาท่ีถูกต้อง วันสำคญั ทางพระพุทธศาสนา หลักธรรมท่ีเกี่ยวเนื่องใน
วันธรรมสวนะ และเทศกาลสำคัญ
พระธรรม เกี่ยวกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เรื่องอริยสจั ๔ ทุกข์ ( ธรรมที่ควรรู้ ) : ขันธ์๕ นาม-รูป ,
สมุทัย ( ธรรมทคี่ วรละ ) : หลกั กรรมนยิ าม๕ วติ ก ๓ , นโิ รธ ( ธรรมที่ควรบรรลุ) : ภาวนา ๔ , มรรค ( ธรรมที่ควร
เจริญ ) : พระสัทธรรม ๓ ปัญญาวุฒิธรรม ๔ พละ ๕ อุบาสกธรรม ๕ มงคล ๓๘ ในเรื่องการสงเคราะห์บุตร
สงเคราะห์ภรรยา และสันโดษ พุทธศาสนสุภาษิต คือ จิตตํ ทนฺตา สุขาวหํ ( จิตที่ฝึกดีแล้วนำสุขมาให้ ) น อุจฺ
จาวจํ ปณฺฑตา ทสฺสยนฺติ ( บัณฑิตย่อมไม่แสดงอาการขึ้น ๆ ลง ๆ ) คำศัพท์ทางพระพุทธศาสนา คือ ภพ การ
บริหารจติ และการเจริญปัญญา สวดมนตแ์ ปลและแผ่เมตตา วธิ ปี ฏบิ ตั ิ และประโยชน์ของการบริหารจติ เจริญปัญญา
ฝึกการบริหารจิตเจริญปัญญาตามหลักสติปัฎฐาน นำวิธีการบริหารจิตเจริญปัญญาไปใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้
คุณภาพชีวติ และสังคม
พระสงฆ์ เกี่ยวกับประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา เรื่อง พระอัสสชิ พระกีสาโคตรมีเถรี ชาวพุทธตัวอย่าง
เช่น พระนาคเสน – พระยามิลินท์ สมเด็จพระวันรัต ( เฮง เขมจารี ) หลวงปู่แดง ธมฺมโชโต หน้าที่ชาวพุทธเรื่อง
การเข้าใจในกิจของพระภิกษุ เช่น การศึกษา การปฏิบัติธรรม และการเป็นนักบวชที่ดี การศึกษาเรื่องคุณสมบัติ
ของทายกและปฏิคาหก การรักษาศีล ๘ การเข้าร่วมกิจกรรม และเป็นสมาชิกขององค์กรชาวพุทธ การเข้าค่าย
พุทธธรรม การเข้าร่วมพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ พิธีเวียนเทียน มรรยาทชาว
พทุ ธ และการปฏบิ ตั ติ นต่อพระภิกษุ เรือ่ งการปฏิบตั ิตนตอ่ พระภกิ ษุทางกาย วาจา และใจ ท่ีประกอบด้วยเมตตา
สมั มนาพระพทุ ธศาสนากบั การแก้ปัญหา และพัฒนาเร่อื งพระพทุ ธศาสนากบั การศึกษาทีส่ มบูรณ์
โดยใชก้ ระบวนการสร้างความร้คู วามเขา้ ใจ การวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และปฏบิ ตั ิ เพื่อใหเ้ กดิ ศรัทธาอย่างย่ิง
ต่อพระรัตนตรัย การรักการเรียนรู้พระพุทธศาสนา ประพฤติปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี มีคุ ณธรรม
จริยธรรมในการอยู่ร่วมกันในสังคม และสามารถนำหลักธรรมไปใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ การทำงานอย่างมี
คณุ คา่ ตอ่ ชวี ติ ตนเองและสงั คม โดยส่วนรวม.
ผลการเรียนรู้
๑. รเู้ ข้าใจในสภาพสงั คมชมพูทวีป และคติความเช่ือทางศาสนา สมัยกอ่ นพุทธกาล
๒. เข้าใจขอ้ ปฏบิ ัติทางสายกลางในพระพทุ ธศาสนา
๓. รเู้ ขา้ ใจหลกั การพฒั นาศรัทธาและปญั ญาท่ีถกู ต้องในพระพุทธศาสนาหรือแนวคิดของศาสนาทต่ี นนับ ถือ
ตามทีก่ ำหนด
๔. รู้เขา้ ใจหลกั ธรรมในกรอบอริยสจั ๔ หรอื หลักคำสอนของศาสนาท่ตี นนับถอื
หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๓๖
๕. รู้เข้าใจข้อคิดและแบบอย่างการดำเนินชีวิตจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชน ตัวอย่าง
ตามทก่ี ำหนด
๖. สวดมนต์ แผ่เมตตา และบริหารจิต และเจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐาน หรือตามแนวทางของศาสนา
ที่ตนนบั ถือได้
๗. ปฏิบัติตนเป็นศาสนกิ ชนทด่ี ีต่อสาวก สมาชกิ ในครอบครวั และคนรอบข้าง
๘. ปฏิบัตติ นถกู ต้องตามศาสนพธิ ี พธิ กี รรมของพระพุทธศาสนา
๙. แสดงตนเปน็ พุทธมามกะ ตามกระบวนการได้ถกู ต้อง
รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๑๓๗
คำอธบิ ายรายวชิ า ส ๓1๒๐3 พระพทุ ธศาสนา ๒
รายวชิ าเพ่ิมเติม กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ สรา้ งความคดิ รวบยอด นำภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน ปัญหาชีวติ สภาพแวดล้อม เข้า
มาเป็นสว่ นหนงึ่ ของกระบวนการเรียนรู้ เพ่อื ให้มคี วามรู้ ความเข้าใจ ตระหนักเห็นคณุ ค่า ในเรือ่ งตอ่ ไปน้ี พ ร ะ พ ุ ท ธ
เกี่ยวกับเรื่องประวัติและความสำคัญของพระพุทธศาสนา การบริหารและการธำรงรักษาศาสนา และคติความเช่ื อ
ทางศาสนาสมัยก่อนพระพุทธเจ้า พุทธประวัติสรุป และวิเคราะห์พุทธประวัติด้านการตรัสรู้ และการก่อตั้ง
พระพุทธศาสนา ชาดกเรื่องเวสสันดร ศึกษาวิเคราะห์คุณค่าผลงานภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านพระพุทธศาสนา มุ่ง
อนรุ ักษ์ศาสนวัตถุ และศาสนสถานในทอ้ งถนิ่
พระธรรม เกี่ยวกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เรอ่ื งพระรตั นตรัย (วเิ คราะห์ความหมาย และคุณค่าของ
พุทธะ) พุทธศาสนสุภาษิต คือ นตฺถิโลเก อนินทิโต (คนที่ไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก) โกธํ ฆตวา สุขํ เสติ( ฆ่าความ
โกรธได้ย่อมเป็นสุข ) พระไตรปิฏกวิเคราะห์ความสำคัญและคุณค่าของพระไตรปิฏก เรื่องน่ารู้จากพระไตรปิฏก
การครองตนเป็นพลเมืองที่ดี คำศัพท์ทางพระพุทธศาสนา คือ ภูมิ การพัฒนา การเยนรู้ด้วยวิธีคิดแบบโยนิโส
มนสกิ าร ๒ วธิ ี คือวิธีคดิ แบบสามัญลักษณะ และวธิ คี ดิ แบบเปน็ อยใู่ นขณะปัจจบุ ัน ศกึ ษาภมู ิปัญญาท้องถ่ินในการ
นำหลักธรรมไปใช้ในชีวติ ประจำวนั
พระสงฆ์ เกย่ี วกับประวัตพิ ทุ ะสาวก พุทธสาวกิ า เรอ่ื งพระนางมัลลกิ า และหมอชีวกโกมารภจั จ์ ชาวพทุ ธ
ตัวอย่าง พระอาจารย์มั่น ภูริฑตฺโต สุชีพปุญญานุภาพ การเป็นชาวพุทธที่ดีตามหลักทิศเบื้องบนในทิศ ๖ การ
เขา้ ร่วมพิธีกรรมทางพระพทุ ธศาสนา พธิ ีเวยี นเทียน ถวายสังฆทาน ถวายผา้ อาบน้ำฝน พธิ ีทอดกฐนิ พธิ ีปวารณา
ศาสนพิธีที่นำพระพุทธศาสนาไปเกี่ยวเนื่อง เช่น การทำบุญเลี้ยงพระในโอกาสต่าง ๆ มรรยาทชาวพุทธ การ
ปฏิสันถารที่เหมาะสมต่อพระภิกษุในโอกาสต่าง ๆ สัมมนาพระพุทธศาสนากับการแก้ปัญหาและการพัฒนา เรื่อง
พระพุทธศาสนากับการศึกษาท่ีสมบูรณ์
โดยใช้กระบวนการสรา้ งความรู้ ความเข้าใจ การวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และปฏิบัติ
เพ่อื ให้เกดิ ศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา รกั การเรยี นรู้พระพทุ ธศาสนา ประพฤติตนเปน็ พทุ ธศาส
นิกชนที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม ในการอยู่ร่วมกันในสังคม สามารถนำหลักธรรมไปใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้
และทำงานอย่างมีคณุ ค่าตอ่ ชีวิตตนเองและสงั คมโดยสว่ นรวม.
ผลการเรยี นรู้
๑. รู้ เขา้ ใจพุทธประวตั ิดา้ นการบรหิ าร และการธำรงรักษาพระพุทธศาสนาศาสนา
๒. รู้ เขา้ ใจหลกั ธรรมในกรอบอริยสจั ๔
๓. วิเคราะห์ข้อคิดและแบบอย่างการดำเนินชีวิตจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอย่าง
ตามท่ีกำหนด
๔. รู้เข้าใจผลของการทำความดี ความชั่ว สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ที่ต้องเผชิญ และตัดสินใจเลือก
ดำเนินการ หรือปฏิบัติตนได้อย่างมีเหตุผลถูกต้องตามหลักธรรม จริยธรรม และกำหนดเป้าหมาย
บทบาทการดำเนนิ ชีวติ เพอื่ การอยู่ร่วมกันอยา่ งสันตสิ ขุ และอยรู่ ่วมกันเป็นชาตอิ ยา่ งสมานฉันท์
๕. ปฏบิ ตั ิตนเป็นศาสนกิ ชนท่ดี ีตอ่ สมาชกิ ในครอบครวั และคนรอบขา้ ง
หลกั สูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๑๓๘
๖. ปฏิบตั ติ นถูกต้องตามศาสนพิธี พิธกี รรม
๗. วิเคราะห์หลักธรรม คติธรรม ที่เกี่ยวเนื่องกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และเทศกาลที่สำคัญของ
ศาสนา และปฏิบัติตนได้ถกู ต้อง
รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๓๙
คำอธบิ ายรายวชิ า ส ๓2๒01 พระพทุ ธศาสนา ๓
รายวชิ าเพ่มิ เติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ
ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกปฏบิ ัติ สร้างความคดิ รวบยอด นำภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน สภาพปญั หาชีวติ สภาพแวดล้อม
เขา้ มาเป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการเรยี นรู้ เพ่ือให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนกั และเหน็ คุณค่าในเรื่องตอ่ ไปนี้
พระพุทธ เกี่ยวกับประวัติและความสำคัญของพระพุทธศาสนา เรื่องลักษณะประชาธิปไตยใน
พระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาเน้นการฝึกหัดอบรมตน การพึ่งตนเอง และการมุ่งอิสรภาพ วันสำคัญทาง
พระพทุ ธศาสนา หลักธรรม คติธรรมทเ่ี ก่ียวเน่อื งกบั วนั ธรรมสวนะ และเทศกาลสำคัญ
พระธรรม เกี่ยวกับหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา อริยสัจ ๔ ทุกข์ ( ธรรมที่ควรรู้ ) : ขันธ์๕ โลกธรรม ๘ ,
สมุทัย ( ธรรมที่ควรละ ) : กรรมนิยาม – กรรม ๑๒ มิจฉาวณิชชา ๕ , นิโรธ ( ธรรมที่ควรบรรลุ ) : วิมุตติ๕ ,
มรรค ( ธรรมทคี่ วรเจรญิ ) : อปรหิ านิยธรรม๗ ปาปณกิ ธรรม ๓ ทิฎฐธัมมิกัตถสังวตั ตนิกธรรม๔ , โภคอาทิยะ ๕ ,
อริยวัฑฒิ ๕ , มงคล ๓๘ ในเรื่องเมื่อถูกโลกธรรมจิตไม่หวั่นไหว จิตไม่เศร้าโศก จิตไม่หวั่นไหว จิตไม่มัวหมอง
จิตเกษม พทุ ธศาสนสภุ าษติ คือ ปฎริ ูปการี ธุรวา อฎุ ฐาตา วินทฺ เต ธนํ (ตนขยนั เอาการเอางาน กระทำเหมาะสม
ยอ่ มหาทรัพย์ใด)้ วายเมเถว ปุริโสยาว อตถฺ สฺส นิปฺปทา (เกิดเป็นคนควรจะพยายามจนกวา่ จะประสบความสำเร็จ)
คำศัพท์ทางพระพุทธศาสนา คือ โพธิปักขิยธรรม การบริหารจิตและเจริญปัญญา สวดมนต์แปลและแผ่เมตตา วิธี
ปฏิบัติและประโยชนืของการบริหารจิตและเจริญปัญญา ฝึกการบริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลักสติปฏั ฐาน นำ
วิธีการบริหารจิตและเจริญปญั ญาไปใชใ้ นการพฒั นาการเรียนรูค้ ุณภาพชวี ติ และสังคม
พระสงฆ์ เกี่ยวกับประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา เรื่องพระอนุรุทธะ พระองคุลิมาล ชาวพุทธตั วอย่าง
สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช พระธรรมโกศาจารย์ ( พทุ ธทาสภกิ ขุ ) หนา้ ท่ชี าวพุทธเร่ืองการปฏิบัตติ นท่ีเหมาะสมใน
ฐานะผู้ปกครอง และผู้อยู่ในปกครอง ตามหลักทิศเบื้องล่างในทิศ ๖ การเข้าค่ายพุทธธรรม เข้าร่วมพิธีกรรมทาง
พระพุทธศาสนา มรรยาทชาวพุทธ และการปฏิบัติตนต่อพระภิกษุ เรื่องการแสดงความเคารพตามหลัก
พระพุทธศาสนา ต่อพระรัตนตรัย ปูชนียสถาน สัมมนาพระพุทธศาสนา การแก้ปัญหา การพัฒนา เรื่อง
พระพุทธศาสนากบั การเมืองและสันติภาพ
โดยใชก้ ระบวนการสรา้ งความรู้ ความเข้าใจ การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และปฏบิ ตั ิ
เพื่อให้เกิดศรัทธาอย่างยิ่งต่อพระรัตนตรัย และรักการเรียนรู้พระพุทธศาสนา ประพฤติปฏิบัติตนเป็น
พทุ ธศาสนกิ ชนทดี่ ี มีคุณธรรม จรยิ ธรรม ในการอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม และสามารถนำหลกั ธรรมไปใช้เป็นเครื่องมือใน
การเรยี นรู้ การทำงานอย่างมคี ุณค่าตอ่ ชวี ติ ตนเองและสังคมโดยส่วนรวม
ผลการเรียนรู้
๑. รู้ เข้าใจลกั ษณะประชาธปิ ไตย ในพระพทุ ธศาสนา
๒. รู้ เข้าใจหลักการการฝกึ ฝนและพัฒนาตนเอง การพึ่งตนเองและการมงุ่ อสิ รภาพในพระพุทธศาสนา
๓. รู้ เข้าใจความสำคญั ของพระพทุ ธ ศาสนา เกีย่ วกับการศึกษาท่ีสมบูรณ์ การเมือง และสันตภิ าพ
๔. รู้ เขา้ ใจในหลกั ธรรมในกรอบอรยิ สจั ๔
๕. วิเคราะห์ข้อคิด และแบบอย่างการดำเนินชีวิต จากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอย่าง
ตามท่ีกำหนดได้
หลักสูตรโรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๔๐
๖. ปฏิบัตกิ ารสวดมนต์ แผเ่ มตตา และบริหารจิต เจริญปญั ญา ตามหลกั สติปัฏฐานได้
๗. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ศาสนิกชนทดี่ ีต่อสาวก สมาชิกในครอบครัวและคนรอบขา้ ง
รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสุวรรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๔๑
คำอธบิ ายรายวชิ า ส ๓2๒๐3 พระพุทธศาสนา ๔
รายวิชาเพ่มิ เติม กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต
ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ สร้างความคิดรวบยอด นำภูมิปัญญาท้องถิ่น สภาพปัญหาชีวิต
สภาพแวดล้อมเข้ามาเปน็ ส่วนหน่ึงของกระบวนการเรยี นรู้ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักและเห็นคุณค่าใน
เรอื่ งต่อไปน้ี
พระพุทธ เกี่ยวกับประวัติและความสำคัญของพระพุทธศาสนาเรื่องหลักการคิดตามนัยแห่งพระพุทธศาสนา
และวิทยาศาสตร์ หลักการของพระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ พุทธประวัติด้านวิธีการสอน และการเผยแผต่ าม
แนวพุทธจริยา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันธรรมสวนะและ เทศกาลสำคัญ คติธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับวันธรรม
สวนะ และเทศกาลสำคัญ ชาดก เรื่องมโหสถชาดก
พระธรรม เกี่ยวกับพระรัตนตรัย ความหมายและคุณค่าของธรรม พระไตรปิฎก : วิเคราะห์ การสังคายนา
และการเผยแผพ่ ระไตรปิฎก พุทธศาสนสุภาษติ คือ สนฺตุฏฐี ปรมํ ธนํ (ความสันโดษเปน็ ทรัพยอ์ ย่างยิง่ ) อิณาทานํ
ทุกขํ โลเก (การเป็นหนี้ เป็นทุกข์ในโลก)คำศัพท์ทางพระพุทธ ศาสนา คือ วาสนา–บารมี เรื่องน่ารู้จาก
พระไตรปิฎก คือ คนครองเรือนที่ร้ายและที่ดี ๑๐ ประเภท การบริหารจิตและเจริญปัญญา วิธีคิดแบบแยกแยะ
สว่ นประกอบ วิธีคิดแบบวิภชั ชวาท
พระสงฆ์ เกี่ยวกับประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา เรื่องพระธัมมทินนาเถรี จิตตคหบดี ชาวพุทธตัวอย่าง
พระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) ดร. เอ็มเบดการ์ หน้าที่ชาวพุทธเรื่องการบรรพชา อุปสมบทใน
พระพทุ ธศาสนา ประโยชนข์ องการบรรพชาอปุ สมบท การบวชเปน็ แมช่ ี ธรรมจาริณี หรือเนกขมั มนารี การศึกษา
พุทธศาสนาวันอาทิตย์ และธรรมศึกษา การปลูกจิตสำนึก และการมีส่วนร่วมในสังคมพุทธ มรรยาทชาวพุทธและ
ปฏบิ ตั ติ นต่อพระภิกษุ การปฏิสนั ถาร ตามหลักปฏสิ นั ถาร ๒ พระพุทธศาสนากับการเมืองและสันติภาพ
โดยใช้กระบวนการสรา้ งความรู้ ความเข้าใจ การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และปฏิบัติ เพ่ือให้เกิดศรัทธาอย่าง
ย่ิงต่อพระรัตนตรัย และรักการเรียนรู้พระพุทธศาสนา ประพฤติปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี มีคุณธรรม
จริยธรรม ในการอยู่ร่วมกันในสังคม และสามารถนำหลักธรรมไปใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ การทำงานอย่างมี
คุณคา่ ตอ่ ชวี ิตตนเองและสงั คมโดยสว่ นรวม
ผลการเรียนรู้
๑. รู้ เข้าใจในหลักการของพระพุทธศาสนากบั หลักวิทยาศาสตร์
๒. รู้เข้าใจเร่ืองราวหลกั ธรรมในกรอบอริยสจั ๔
๓. รู้ เขา้ ใจในคณุ ค่าและความสำคัญของการสงั คายนาพระไตรปฎิ ก
๔. วิเคราะห์ข้อคิดและแบบอย่างการดำเนินชีวิตจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอย่าง
ตามที่กำหนดได้
๕. รูเ้ ขา้ ใจในหลักการปฏิบตั ติ นเป็นศาสนิกชนทด่ี ีต่อสาวก สมาชกิ ในครอบครวั และคนรอบขา้ ง
๖. ปฏิบตั ิตนถูกตอ้ งตามศาสนพธิ ี พธิ กี รรม ของพระพทุ ธศาสนา
๗. รู้ เข้าใจแนวทางการจัดสัมมนาและเสนอแนะแนวทางในการธำรงรักษา พระพุทธศาสนาอันส่งผลถึง
การพัฒนาตน พัฒนาชาติ และโลก
รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2563)
๑๔๒
คำอธิบายรายวชิ า ส ๓3๒๐1 พระพทุ ธศาสนา ๕
รายวิชาเพิม่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ
ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ สร้างความคิดรวบยอด นำภูมิปัญญาท้องถิ่น สภาพปัญหาชีวิต
สภาพแวดล้อม เข้ามาเป็นสว่ นหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ เพื่อใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักและเหน็ คณุ ค่าใน
เร่อื งต่อไปนี้
พระพุทธ เกี่ยวกับประวัติและความสำคัญของพระพุทธศาสนา เรื่องพระพุทธศาสนาเป็น ศาสตร์แห่ง
การศึกษา พระพุทธศาสนาเน้นความสำคญั ของเหตปุ จั จัย และวธิ กี ารแกป้ ญั หา
พุทธประวัติ สรุปและวิเคราะห์พุทธประวัติด้านการบริหาร และการธำรงรักษาพระพุทธศาสนา วิเคราะห์
พระพุทธเจ้าในฐานะเป็นมนุษย์ผู้ฝึกตนได้อย่างสูงสุด วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ศึกษาวิเคราะห์หลักธรรม คติ
ธรรม
พระธรรม เกี่ยวกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา อริยสัจ ๔ ทุกข์ (ธรรมที่ควรรู)้ : ขันธ์ ๕- จิต , เจตสิก
สมุทัย (ธรรมที่ควรละ) : ธรรมนิยาม–ปฏิจฺจสมุปบาท นิวรณ์ ๕ อุปาทาน ๔ นิโรธ (ธรรมที่ควรบรรลุ) :
นพิ พาน มรรค (ธรรมทคี่ วรเจริญ) มงคล ๓๘ ในเรื่องความเพียรเผากิเลส ประพฤตพิ รหมจรรย์ เห็นอริยสัจ ๔
บรรลุนิพพาน พุทธศาสนสุภาษิต คือ ราชามุขํ มนุสฺสานํ (พระราชาเป็นประมุขของประชาชน) สติ โลกัสฺมิ
ชาคโร (สติเป็นเครื่องตื่นในโลก) คำศัพท์ทางพระพุทธศาสนา คือ มิจฉัตตะ การบริหารจิตและการเจริญปัญญา
สวดมนต์แปลและแผ่เมตตา วิธีปฏิบัติและประโยชน์ของการบริหารจิตและการเจริญปัญญา ฝึกการบริหารจิตและ
การเจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐาน นำวิธีการบริหารจิตและเจริญปัญญา ไปใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้คุณภาพ
ชีวติ และสงั คม
พระสงฆ์ เกี่ยวกับประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา เรื่องพระอานนท์ พระปฏาจาราเถรี ชาวพุทธตัวอย่าง
เรื่องพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระโพธิญาณเถระ หน้าที่ชาวพุทธ เรื่อง วิเคราะห์หน้าที่และ
บทบาทของพระภิกษุในฐานะพระนักเทศน์ พระธรรมทูต พระธรรมจาริก พระวิทยากร พระวิปัสสนาจารย์ และ
พระนักพัฒนา วิเคราะห์บทบาทและหน้าที่ของอุบาสก อุบาสิกาที่มีต่อสังคมไทยในปัจจุบัน วิเคราะห์ทิศเบ้ืองหลงั
ในทิศ ๖ วิเคราะห์เกี่ยวกับการปกป้องคุ้มครอง พระพุทธ ศาสนาของพุทธบริษัทในสังคมไทย มรรยาทชาวพุทธ
และการปฏบิ ตั ิทเ่ี หมาะสมต่อพระภกิ ษุ
โดยใชก้ ระบวนการสร้างความรู้ ความเข้าใจ การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และปฏบิ ตั ิ
เพื่อให้เกิดศรัทธาอย่างยิ่งต่อพระรัตนตรัย และรักการเรียนรู้พระพุทธศาสนา ประพฤติปฏิบัติตนเป็น
พุทธศาสนิกชนท่ดี ี มีคณุ ธรรม จริยธรรม ในการอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม และสามารถนำหลักธรรมไปใชเ้ ป็นเครื่องมือใน
การเรียนรู้ การทำงานอยา่ งมีคุณค่าตอ่ ชวี ติ ตนเองและสงั คมโดยส่วนรวม
ผลการเรียนรู้
๑. รู้ เข้าใจในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในฐานะเปน็ มนษุ ยผ์ ูฝ้ กึ ตนไดอ้ ย่างสูงสดุ ในการตรสั รู้ การกอ่ ตงั้
วธิ ีการสอน และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๑๔๓
๒. รู้เข้าใจในพระพุทธศาสนา ว่าเป็นศาสตร์แห่งการศึกษา ซึ่งเน้นความสัมพันธ์ของเหตุ ปัจจัยกับวิธีการ
แกป้ ัญหา
๓. รู้ เขา้ ใจ หลกั ธรรมในกรอบอรยิ สัจ ๔
๔. วิเคราะห์ขอ้ คดิ และแบบอย่างการดำเนนิ ชีวติ จากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเล่า
๕. ๕. รูเ้ ขา้ ใจในหลกั การ สวดมนต์ แผ่เมตตา และบริหารจติ เจรญิ ปัญญา ตามหลกั สตปิ ัฏฐาน
๖. รู้ เข้าใจ และปฏิบตั ิตนเป็นศาสนกิ ชนท่ีดีต่อสาวก สมาชกิ ในครอบครัวและคนรอบขา้ ง
๗. รู้เข้าใจในหลักการสัมมนาและเสนอแนะแนวทางในการธำรงรักษาพระพุทธศาสนา อันส่งผลถึงการ
พฒั นาตน พฒั นาชาติ และโลก
รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)
๑๔๔
คำอธบิ ายรายวิชา ส ๓3๒๐3 พระพทุ ธศาสนา ๖
รายวิชาเพิ่มเติม กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต
ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ สร้างความคิดรวบยอด นำภูมิปัญญาท้องถิ่น สภาพปัญหาชีวิต
สภาพแวดล้อม เข้ามาเป็นส่วนหนงึ่ ของกระบวนการเรียนรู้ เพอื่ ใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั และเห็นคุณค่าใน
เรือ่ งตอ่ ไปนี้
พระพุทธ เกี่ยวกับประวัติและความสำคัญของพระพุทธศาสนา เรื่องพระพุทธศาสนาฝึกคนไม่ให้ประมาท
พระพุทธศาสนามุ่งประโยชน์สุข และสันตภิ าพแกบ่ ุคคล สงั คม และโลก พระพทุ ธศาสนากับเศรษฐกิจแบบพอเพียง
และการพัฒนาแบบยั่งยืน วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ศึกษาวิเคราะห์หลักธรรมที่เกี่ยวเนื่องในวันสำคัญทาง
พระพุทธศาสนา คติธรรม และชาดกมหาชนก
พระธรรม เกี่ยวกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา พระรัตนตรัย : วิเคราะห์ความหมายและคุณค่า
ของสังฆะ พระไตรปิฎก : วิเคราะห์คุณค่า ความสำคัญของพระไตรปิฎก , เรื่องน่ารู้จากพระไตรปิฎก “ฌาน
สมาบัติ–ผลสมาบัติ–นิโรธสมาบัติ พุทธศาสนสุภาษิต คือ นตฺถิ สนฺติปรํสุขํ (สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี) นิพฺพานํ
ปรมํ สุขํ (นพิ พานเป็นสขุ อย่างยิง่ ) คำศัพท์ทางพระพุทธ ศาสนา คอื สมั มัตตะ การบริหารจติ และการเจริญปัญญา
พัฒนาการเรยี นรู้ดว้ ยวิธคี ดิ แบบโยนโิ สมนสิการ สรปุ ท้งั ๑๐ วิธี
พระสงฆ์ เกี่ยวกับประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา เรื่องจูฬสุภัททา สุมนมาลาการ ชาวพุทธตัวอย่าง เรื่อง
พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต) อนาคาริก ธรรมปาละ หน้าที่ชาวพุทธ เรื่อง การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของ
ครอบครัว ตามหลักทิศเบื้องหลงั ในทศิ ๖ การเข้าค่ายพุทธธรรม การเข้าร่วมพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา การ
แสดงตนเป็นพุทธมามกะ การปฏิบัติตนต่อพระสงฆ์ที่เหมาะสมทางกาย วาจา ใจ ศาสนาพิธี บุญพิธี ทานพิธี
กศุ ลพิธี ประโยชนข์ องศาสนพธิ ี
โดยใช้กระบวนการสร้างความรู้ ความเขา้ ใจ การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และปฏิบตั ิ
เพื่อให้เกิดศรัทธาอย่างยิ่งต่อพระรัตนตรัย และรักการเรียนรู้พระพุทธศาสนา ประพฤติปฏิบัติตนเป็น
พุทธศาสนิกชนท่ีดี มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ในการอย่รู ว่ มกันในสงั คม และสามารถนำหลักธรรมไปใช้เป็นเครื่องมือใน
การเรยี นรู้ การทำงานอยา่ งมีคุณคา่ ตอ่ ชวี ติ ตนเองและสังคมโดยสว่ นรวม.
ผลการเรียนรู้
๑. รู้ เข้าใจหลักการพระพุทธศาสนา ในการฝึกตนไม่ให้ประมาท มุ่งประโยชน์และสันติภาพบุคคล สังคมและ
โลก
๒. รเู้ ข้าใจพระพทุ ธศาสนากบั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และการพัฒนาประเทศแบบยงั่ ยนื
๓. รู้ เขา้ ใจหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาในกรอบอริยสจั ๔
๔. รู้เข้าใจและวิเคราะห์ข้อคิด และแบบอย่างการดำเนินชีวิต จากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชน
ตัวอย่างตามทก่ี ำหนด
๕. รู้ เข้าใจและเห็นคุณค่า เชื่อมั่น และมุ่งมั่น พัฒนาชีวิตด้วยการพัฒนาจิต และพัฒนาการเรียนรู้ ด้วยวิธีคิด
แบบโยนิโสมนสิการ
๖. รู้ เข้าใจและปฏิบัติตนได้ถกู ต้องตามศาสนพิธี พธิ ีกรรมทางพระพุทธศาสนา
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พทุ ธศักราช ๒๕6๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2563)
๑๔๕
คำอธิบายรายวชิ า ส 31202 อิสลามศึกษา ๑
รายวิชาเพ่มิ เติม กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
อธิบายความหมาย ความสำคัญของอิบาดาต มุอามาลาต และวิเคราะห์ อภิปราย สรุป หลักปฏิบัติตาม
ทัศนะของอุลามะอฺฟิกฮฺพรอ้ มหลักฐานอ้างอิงจากอัล-กุรอฺ านและอัล-หะดษี
ผลการเรียนรู้
๑. อธบิ ายความหมาย ความสำคญั และหลกั ปฏบิ ตั ติ ามทศั นะของอลุ ามะอฺฟิกฮฺ เกย่ี วกบั การละหมาด
๒. อธิบายความหมาย ความสำคัญ วเิ คราะห์ อภปิ ราย สรุป ของการถือศีลอด ด้วยยกหลักฐานอา้ งอิง
จากอลั กรุ อานและอัลหะดีษ
๓. อธิบายความหมาย ความสำคัญของการสาธารณกุศล
รวมท้ังหมด ๓ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นสวุ รรณไพบูลย์ พุทธศกั ราช ๒๕6๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2563)