The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อสร้างสำนึกความเป็นไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by aeffeesocial, 2021-06-28 10:10:31

แนวการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อสร้างสำนึกความเป็นไทย

แนวการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อสร้างสำนึกความเป็นไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

๙๔

สญั ลกั ษณป์ ระจาชาตไิ ทย ประกอบด้วย
๑. สัตวป์ ระจาชาติไทย คอื ชา้ งไทย
๒. ดอกไมป้ ระจาชาตไิ ทย คือ ดอกราชพฤกษ์
๓. สถาปัตยกรรมประจาชาติ คอื ศาลาไทย
ทัง้ น้ีคณะกรรมการเอกลกั ษณ์ของชาติได้มอบหมายใหก้ รมศิลปากรเป็นผูอ้ อกแบบช้างไทย
ส่วนภาพดอกราชพฤกษ์และภาพศาลาไทยได้จากการประกวด อย่างไรก็ตามสัญลักษณ์ท้ัง ๓ สิ่งนี้
โดยเฉพาะชา้ งไทย และศาลาไทย สามารถเชอ่ื มโยงถึงความเปน็ ไทยได้
นอกจากน้ีเรายังมีสัญลักษณ์อ่ืน ๆ ที่แสดงความเป็นชาติท่ีมีประวัติความเป็นมายาวนาน
และความเป็นไทยที่บรรพบุรุษได้ส่ังสมสืบต่อกันมาจนเป็นส่วนหน่ึงในวิถีชีวิตของคนไทย สืบมาถึงจน
ปัจจบุ นั น้ซี ่ึงเยาวชนไทยควรรู้และเขา้ ใจในความสาคญั เพ่อื ให้ชว่ ยกนั อนุรักษ์และสบื สานตอ่ ไป
จุดม่งหมำย : เป้ำหมำยของกำรจัดกำรเรยี นรเู้ ร่ืองน้ี
๑. สร้างความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองสัญลักษณ์ความเป็นไทย ท้ังจากธงชาติไทย และ
เพลงชาตไิ ทย รวมทั้งสญั ลักษณ์อ่ืนๆ ทเ่ี ราควรอนุรักษ์ และสบื สานความเปน็ ไทยสืบต่อไป
๒. มีจิตสานึกและความภูมิใจในความเป็นไทย โดยแสดงผ่านทางสัญลักษณ์ต่าง ๆ
เช่น ธงชาติและเพลงชาติไทยในการเป็นตัวแทนของความเป็นชาติไทยที่มีเอกราชและวัฒนธรรมเป็น
เอกลกั ษณ์และได้รบั การยกย่องจากนานาชาตทิ ่วั โลก
๓. ปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ ตามขนบธรรมเนียมประเพณี
วฒั นธรรมไทย และสามารถสรา้ งความเข้าใจอันดที ถ่ี ูกต้องใหก้ ับผู้อ่นื ได้

ประเด็นสำคญั ท่คี วรรู้ : พ้ืนฐำนควำมรู้ จดุ เน้นที่ควรเช่ือมโยง และสิ่งตอ้ งเสรมิ สร้ำง
ใหเ้ กิดควำมภูมิใจ

การใช้สัญลักษณ์ที่เป็นรูปธรรมในการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพ่ือสร้างสานึกในความ
เป็นไทย ตัวอย่างเชน่

๑) ธงชำตแิ ละเพลงชำตไิ ทย

ธงชาติ และเพลงชาตไิ ทย คือ สัญลกั ษณ์ของความเปน็ ไทย
เราจงรว่ มใจกันยนื ตรงเคารพธงชาติ
เพอ่ื ความภาคภมู ิใจในเอกราชและความเสยี สละของบรรพบุรุษไทย

ข้อความดงั กล่าวน้ีเป็นท่ีคุน้ หูของคนไทยทุกคน และต่างก็รบั รูก้ ันดวี ่าธงชาติและเพลงชาติ
เป็นสัญลักษณ์สากลท่ีแสดงความเป็นชาติเอกราชท่ีมีเกียรติและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันของทุกประเทศ
ในโลก ซ่ึงตามมารยาทหรือธรรมเนียมสากล พลเมืองของทุกชาติควรให้ความเคารพด้วยการยืนตรงอย่าง

แนแวนกวากราจรัดจกัดากราเรรเยี รนียรนปู้ รรปู้ ะรวะัตวศิัตาิศสาตสรต์เพรเ์ ่ือพสือ่ รสา้ รง้าสงาสนำกึนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สญัสญั ลกัลษกั ณษณค์ วค์ าวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย

ÚÖ



óøšĂöđóøĊ÷ÜÖĆî đöČęĂĕéš÷ĉîđóúÜßćêĉĒúąÖćøĂĆâđßĉâíÜßćêĉ×ċĚîÿĎŠ÷Ăéđÿć éĆÜìĊęđøćÝąóïđĀĘîđÿöĂĔî
ÖćøĒ×ÜŠ ×ĆîÖāĊ ć ÖćøêĂîøïĆ ĂćÙĆîêčÖąêćŠ ÜßćêĉĒúąÖćøðøąßöč ĔîøąéïĆ îćîćßćêĉ

Ă÷ŠćÜĕøÖĘêćöđøćöĆÖóïđĀĘîüŠćÙîĕì÷ÝĞćîüîĕöŠîšĂ÷ìęĊúąđú÷ ĒúąĕöŠđĀĘîÙüćöÿĞćÙĆâĔî
ÖćøĒÿéÜÙüćöđÙćøóêŠĂíÜßćêĉĒúąđóúÜßćêĉĕì÷ĒöšüŠćøĆåïćúÝąó÷ć÷ćöøèøÜÙŤĔĀšÙîĕì÷ĒÿéÜĂĂÖ
ëċÜÙüćöøĆÖĒúąÙüćöÿćöĆÙÙĊ×ĂÜÙîĔîßćêĉÙüćöõĎöĉĔÝĔîđĂÖøćßìęĊïøøóïčøčþĕì÷ĕéšóúĊßĊóðÖðŜĂÜ
éĉîĒéîĕì÷ĕüšđðŨîöøéÖ×ĂÜÙîĕì÷ìĚĆÜßćêĉÝîëċÜðŦÝÝčïĆîîĊĚ ēé÷ñŠćîÖćøđÙćøóíÜßćêĉøŠüöÖĆîĔîđüúć
ġĩ.ġġ î. Ēúą Ģĩġġ î. ìčÖüîĆ ÖêĘ ćö ÿćđĀêčÿüŠ îĀîċÜę ĂćÝđðîŨ ñúöćÝćÖÖćø×ćéÙüćöøÙĎš üćöđךćĔÝĔî
ÙüćöđðŨîöćĒúąÙüćöÿĞćÙĆâ×ĂÜÿĆâúĆÖþèŤ éĆÜÖúŠćü ĒúąĒöšüŠćĀúĆÖÿĎêøĒÖîÖúćÜÖćøýċÖþć×ĚĆîóČĚîåćî
öćêøåćîÖćøđøĊ÷îøĎš óčìíýĆÖøćß ģĦĦĢ ÖúŠčöÿćøąÖćøđøĊ÷îøšĎÿĆÜÙöýċÖþć ýćÿîć ĒúąüĆçîíøøö
ÿćøąìĊę ĥ : ðøąüĆêýĉ ćÿêøŤ öćêøåćî ÿ ĥ.Ĥ ìĊęĔĀšîĆÖđøĊ÷îìčÖøąéĆïßĆĚî "đךćĔÝÙüćöđðŨîöć×ĂÜßćêĉĕì÷
üĆçîíøøöĒúąõĎöĉðŦââćĕì÷'' ĒêŠÖĞćĀîéêĆüßĊĚüĆéĕüšđóĊ÷ÜđÞóćąĔĀšîĆÖđøĊ÷îßĚĆîðøąëöýċÖþćðŘìĊę Ģ
“Ăíĉïć÷ÙüćöĀöć÷ĒúąÙüćöÿĞćÙĆâ×ĂÜÿĆâúĆÖþèŤÿĞćÙĆâ×ĂÜßćêĉĕì÷ĒúąðäĉïĆêĉêîĕéšëĎÖêšĂÜ”đìŠćîĚĆî
àċęÜ÷ŠĂöĕöŠÿćöćøëìęĊÝąïøøÝčÿćøąÿĞćÙĆâĒúąÖĉÝÖøøöđÿøĉöÿøšćÜÝĉêÿĞćîċÖĔĀšđÖĉéÙüćöõĎöĉĔÝĒúąíĞćøÜ
ÙüćöđðŨîĕì÷ĕéúš ċÖàĚċÜĀøČĂđóĊ÷ÜóĂìęĊÝąìĞćĔĀšđÖĉéóùêĉÖøøö “÷ČîêøÜđÙćøóíÜßćêĉ” éšü÷đÝêÙêĉ “õĎöĉĔÝ
ĔîđĂÖøćßĒúąÙüćöđÿ÷Ċ ÿúą×ĂÜïøøóïčøčþĕì÷” ĕéš

ĒîüÙĉéĒúąÿćøąÿćĞ ÙâĆ

Ģ.Ģ íÜßćêĉĒúąđóúÜßćêĉđðŨîÿĆâúĆÖþèŤ×ĂÜðøąđìý ĒÿéÜëċÜÙüćöđðŨîđĂÖøćßĒúą
ýĆÖéĉĝýøĊìĊęđìŠćđìĊ÷öÖĆî àęċÜÿĆÜÙöēúÖëČĂđðŨîÿĆâúĆÖþèŤÿćÖúìĊęóúđöČĂÜĕöŠĔߊđÞóćąßćêĉ×ĂÜêîÙüøĔĀš
ÙüćöđÙćøó éšü÷Öćø÷ČîêøÜ éĆÜìęĊđøćĕéšóïđĀĘîđÿöĂĔîÖćøĒ׊Ü×ĆîÖĊāć ĀøČĂóĉíĊÖćøÿĞćÙĆâĔî
øąéĆïðøąđìýĒúąøąĀüŠćÜðøąđìý ĀćÖđøćĕöŠðäĉïĆêĉĂćÝÝąĕéšøĆïÖćøéĎëĎÖđĀ÷Ċ÷éĀ÷ćöüŠćĕöŠøĎšÝĆÖ
öćø÷ćìÿćÖúìóęĊ Üċ ðäĉïêĆ ĉ êŠĂÖĆî

Ģ.ģ íÜßćêĉĒúąđóúÜßćêĉĕì÷đðŨîÿĆâúĆÖþèŤÙüćöđðŨîĕì÷öĊðøąüĆêĉÙüćöđðŨîöć ĒúąöĊ
üĉüĆçîćÖćøðøĆïđðúęĊ÷îđóęČĂĔĀšđĀöćąÿöÖĆïïøĉïììćÜÿõćóĒüéúšĂöĔîöĉêĉ×ĂÜđüúćìęĊöĊÿćîÿĆöóĆîíŤ
ÖĆïîćîćßćêĉìĆĚÜéšćîÖćøÙšćĒúąÖćøđöČĂÜøąĀüŠćÜðøąđìý àęċÜÿąìšĂîëċÜõĎöĉðŦââć×ĂÜýĉúðŗîĕì÷
Öćøðøą÷čÖêŤĒúąñÿöñÿćîìćÜüĆçîíøøöĒúąüĉÿĆ÷ìĆýîŤ×ĂÜóøąöĀćÖþĆêøĉ÷Ťĕì÷ìĞćĔĀšðøąđìýĕì÷öĊ
íÜßćêĕĉ ì÷ĒúąđóúÜßćêĉĕì÷ìéĆ đìĊ÷öÖïĆ îćîćðøąđìý

Ģ.Ĥ íÜßćêĉìĊęĔßšĂ÷ŠĎĔîðŦÝÝčïĆî ÙČĂíÜĕêøøÜÙŤ àċęÜóøąïćìÿöđéĘÝóøąöÜÖčãđÖúšćđÝšćĂ÷ŠĎĀĆü
(øĆßÖćúìęĊ ħ) ĕéšìøÜđðúĊę÷î"íÜßšćÜ"àęċÜđðŨîíÜßćêĉĕì÷Ĕî×èąîĆĚîĔĀšđðŨîíÜĕêøøÜÙŤēé÷îĞćĒëïÿĊ Ĥ ÿĊ ÙČĂ
ÿĒĊ éÜ ÿĊ×ćü ĒúąÿĊîĞĚćđÜĉî öćđðŨîÿĆâúÖĆ þèŤĒìîÿëćïîĆ ĀúÖĆ ×ĂÜßćêĕĉ ì÷ ÙĂČ ÿëćïîĆ ßćêĉ ÿëćïĆîýćÿîć
ĒúąÿëćïĆîóøąöĀćÖþĆêøĉ÷Ť ïøĉïììćÜðøąüĆêĉýćÿêøŤĔîߊüÜđüúćÖĞćđîĉéíÜĕêøøÜÙŤîĚĆî ÙČĂ
ÖćøÿøšćÜÖćø÷ĂöøĆïĔîÙüćöđìŠćđìĊ÷öÖĆïîćîćðøąđìý àęċÜóøąĂÜÙŤĕéšÿŠÜìĀćøĕì÷đ×šćøŠüöÖĆïòść÷

ĒแîนüวÖกćารøจÝดัĆéกÖาćรøเđรøยี÷Ċ นîรøู้ปĎšðรøะąวüตั Ćêิศĉýาćสÿตêรø์เŤđพóือ่ČĂę สÿรø้าšćงÜÿสĞćำîนÖċกึ คÙüวćามöđเðปŨî็นไĕทìย÷ ::ÿสĆâัญúĆÖลþักษèณÙŤ üค์ ćวöาđมðเŨîปĕ็นìไ÷ทย

๙๖

สัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งท่ี ๑ และนาธงไตรรงค์ที่แสดงความเป็นชาติไทยไปร่วมด้วยการเป็นหน่ึง

ในชาติชนะสงคราม ส่งผลให้ไทยมีฐานะทางการเมืองระหว่างประเทศมั่นคงยิ่งขึ้นได้แก้ไขสนธิสัญญาที่

ไม่เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะสิทธิสภาพนอกอาณาเขต (การเสียเอกราชทางการศาล ซ่ึงการเท่าเทียม

ดงั กล่าวน้ีมคี วามพยายามอย่างตอ่ เนื่องจนสาเรจ็ ในสมัยรชั กาลที่ ๘)

ในพระราชนิพนธ์ เครื่องหมายแห่งไตรรงค์ ซ่ึงรัชกาลท่ี ๖ ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ ได้นิยาม

ความหมายของธงไตรรงค์ ความว่า

ขำว คือบริสุทธศิ์ รีสวัสด์ิ หมายพระไตรรัตน์

และธรรมะคมุ้ จิตไทย

แดง คือโลหิตเราไซด์ ซงึ่ ยอมสละได้

เพ่ือรักษาชาติศาสนา

นำ้ เงนิ คอื สีโสภา อันจอมประชา

ธ โปรดเปน็ ของส่วนองค์

จดั ร้วิ เขา้ เป็นไตรรงค์ จ่ึงเป็นสธี ง

ทีร่ ักแหง่ เราชาวไทย

ทหารอวตารนาไป ยงยุทธว์ ิชัย

วิชิตกช็ ูเกยี รติสยามฯ

๑.๔ ธงชาติในอดีตถือเป็นผลิตผลที่สร้างขึ้นจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ

เพ่ือแกป้ ญั หา แตธ่ งไตรรงคเ์ กดิ จากการแกป้ ญั หา และความมุ่งม่นั ท่จี ะสร้างเกียรตภิ มู ทิ ดั เทยี มและได้รับ

การยอมรับจากมหาอานาจ หากได้วิเคราะห์เปรียบเทียบกับธงชาติของชาติตะวันตกท่ีมีอิทธิพลอยู่ใน

ชว่ งเวลาน้ัน(ในระหว่างสงครามโลกครง้ั ที่ ๑) ซ่งึ เราจะพบความหมายดังกล่าว

๑.๕ ความสาคัญของธงชาติไทยในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเอกราช

และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย สะท้อนเด่นชัดในเหตุการณ์ที่ฝร่ังเศสยึดเมืองตราด และปลดธง

ชาติไทยลงจากยอดเสา เม่ือวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๔๖ หรือธงชาติในคดีเขาพระวิหารท่ีใช้เป็น

การอ้างองิ ในคดีพิพาทระหวา่ งประเทศ

๑.๖ ระเบียบการชัก ใช้ และแสดงธงชาติไทย มีระเบียบปฏิบัติอย่างชัดเจน

ปรากฏในพระราชบัญญัติหลายฉบับ ในปัจจุบันยึดถือหลักการตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี

(แกไ้ ขเพ่มิ เติม ๒ คร้ัง เม่ือ พ.ศ.๒๕๔๖ และ พ.ศ. ๒๕๔๗) ทั้งนธ้ี งชาติไทยถอื เป็นสงิ่ ทีค่ นไทยทุกคนต้อง

ใหค้ วามเคารพ การละเมิดถอื เปน็ การกระทาท่ีผิดกฎหมาย

๑.๗ เพลงชำติไทยกาเนิดข้ึนภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบ

สมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นระบอบประชาธิปไตยท่ีมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เม่ือ พ.ศ.๒๔๗๕

ในขณะน้ันไทยใช้ชื่อว่าประเทศสยาม พ.ศ.๒๔๘๒ รัฐบาลได้ประกาศรัฐนิยม ฉบับที่๑ ให้ใช้ช่ือประเทศ

ไทย และคนไทย ทาให้มีการปรับเปลี่ยนเพลงชาตไิ ทย และใชม้ าถึงปจั จบุ นั นี้

แนวการจัดการเรียนรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพือ่ สรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สญั ลักษณค์ วามเป็นไทย
แนวการจัดการเรยี นรูป้ ระวัติศาสตรเ์ พือ่ สร้างสำนึกความเปน็ ไทย : สญั ลักษณ์ความเปน็ ไทย

๙๗

๒) เพลงสรรเสริญพระบำรมี พระบรมฉำยำลกั ษณห์ รอื พระบรมสำทิสลักษณ์

แนวคดิ และสำระสำคญั
๒.๑ เพลงสรรเสริญพระบำรมี พระบรมฉำยำลักษณ์ หรือพระบรมสำทิสลักษณ์ เป็น

สัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ไทย ซ่ึงเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของปวงชนชาวไทย ประเทศไทยดารง
อยู่ก็เพราะมีองค์พระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ ทรงเป็นผู้นาในการปกป้อง รักษาเอกราช และ
พัฒนาประเทศให้เจริญกา้ วหน้า ดังนัน้ ชาวไทยทุกคนควรใหค้ วามเคารพด้วยการยนื ตรงเมื่อได้ยนิ เพลง
สรรเสริญ พระบารมีและเมื่อจบเพลงให้ถวายความเคารพ

ส่วนการถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์
ซ่ึงนับเป็นมารยาทในสังคมไทย ชาย ใช้วิธีการถวายคานับโดยค้อมศีรษะพอสมควร หญิง ใช้วิธีการ
ถวายความเคารพแบบย่อเขา่ (ถอนสายบวั ) ซ่ึงมีท้งั ลักษณะแบบสากลนยิ ม และแบบราชนิยม

๒.๒ เพลงสรรเสริญพระบำรมี มีใช้ในประเทศท่ีมีการปกครองระบอบสมบูรณาญา
สิทธิราชย์ และการปกครองประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใช้บรรเลง ในพระราชพธิ ี
ที่พระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระราชินีนาถ เสด็จมาร่วมงานท้ังมาและกลับ และเป็นมารยาทสากลท่ี
พลเมืองควรแสดงความเคารพดว้ ยการยนื ตรง

๒.๓ เพลงสรรเสรญิ พระบำรมี ของไทยท่ีใช้ในปัจจุบัน มีววิ ัฒนาการและการปรับเปลี่ยนและ
สะท้อนถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย กาเนิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ เพ่ือแก้ปัญหาและแสดงถึงความ
ทัดเทียมในเกยี รตยิ ศและศักด์ิศรีของชาติไทย ในยุคท่ีประเทศไทยต้องเผชิญกับการแผ่ขยายอิทธิพลของ
ชาติตะวันตกท่ีทวีความรุนแรงมากขึ้น พระองค์ได้เสด็จไปประเทศเพ่ือนบ้านของไทยท่ีอยู่ภายใต้การ
ครอบครองของชาติตะวันตก เพือ่ ศึกษาความเจรญิ ทางดา้ นตา่ งๆ เพือ่ ปรบั ใช้ในประเทศไทย ทรงพบว่า
ทุกประเทศมีการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีในการรับเสด็จและขณะน้ันสิงค์โปร์ (ภายใต้การ
ปกครองของอังกฤษ) ได้บรรเลงเพลง God save the king (Queen) เพ่ือแสดงความเคารพต่อ
พระมหากษัตริย์ ตามแบบอย่างของอังกฤษ ซึ่งขณะน้ันไทยก็ใช้ทานองเพลงดังกล่าวเป็นเพลงสรรเสรญิ
พระบารมเี หมือนกัน ท้งั เมือ่ เสดจ็ ไปถงึ เมืองปัตตาเวีย (ปัจจบุ นั อยใู่ นประเทศอนิ โดนีเซยี ) ชาวฮอลนั ดา
ได้ถามถึงเพลงประจาชาติของไทยเพ่ือไปบรรเลงรับเสด็จ รัชกาลท่ี ๕ จึงมีพระราชดาริให้แต่งเพลง
สรรเสรญิ พระบารมีข้ึน โดยทรงเลอื กทานองเปน็ สากลเพ่อื ให้ทดั เทยี มกับชาตติ ะวันตก

๒.๔ เพลงสรรเสริญพระบำรมีน้ีใช้แทนเพลงชาติไทยระหว่าง พ.ศ.๒๔๓๑ - ๒๔๗๕
(เปลี่ยนแปลงการปกครอง) เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศท่ีปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ใน
ขณะน้ัน
แหล่งขอ้ มูลที่ควรศึกษำเพมิ่ เติม

๑. พิพิธภณั ฑธ์ งชาตไิ ทย ตั้งอยทู่ ่ี ๑๕ ลาดพร้าว ๔๓ อาเภอหว้ ยขวาง กรุงเทพมหานคร
๒. ประวตั คิ วามเปน็ มาของธงชาติไทย ของ กรมการทหารชา่ ง
(www.engrder5.com/tananchanglirg/army-tongthai.htm)
๓. หนังสือเรื่องพัฒนาการของธงชาติไทย แต่งโดย กฤษดา ไพรวรรณ์ โครงการจัดพิมพ์
หนังสอื ชุด ร้รู อบ - รอบรู้ คณะอักษรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร พ.ศ. ๒๕๕๓

แนวการจดั การเรียนรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพื่อสรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สญั ลักษณค์ วามเปน็ ไทย
แนวการจดั การเรียนรู้ประวตั ิศาสตร์เพอื่ สร้างสำนกึ ความเปน็ ไทย : สัญลกั ษณ์ความเปน็ ไทย

๙๘

ตัวอยำ่ ง

รำ่ งแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๔

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑

รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ รหัสวิชา.....................

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ สัญลักษณข์ องชาตไิ ทย จานวน ๒ ช่ัวโมง

หน่วยยอ่ ยที่ ๑ เร่ือง ธงชาติและเพลงชาตไิ ทย จานวน ๒ ชั่วโมง

๑.มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด

มำตรฐำนกำรเรยี นรู้
ส ๔.๓ เขา้ ใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มีความรกั ความภูมิใจและธารง

ความเป็นไทย

ตัวชีว้ ัด
ป.๑/๑ อธบิ ายความหมายและความสาคัญของสัญลักษณ์ สาคญั ของชาติไทยและปฏิบตั ิตนได้ถูกต้อง

๒. สำระสำคญั

ธงชาติและเพลงชาติไทยเปน็ สัญลักษณข์ องความเป็นประเทศไทย แสดงถงึ ความเป็นเอกราชและ

แสดงศกั ด์ศิ รขี องประเทศ ทเ่ี ท่าเทยี มกับประเทศอื่น ซึ่งทุกคนควรใหค้ วามเคารพ ดว้ ยการยนื ตรงเคารพ
ธงชาตแิ ละเพลงชาติไทย ทกุ สถานทีท่ ุกเวลาทม่ี กี ารชักธงชาตแิ ละรอ้ งเพลงชาติ

๓. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้

๑) นกั เรยี นบอกได้วา่ ธงชาติและเพลงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยได้อยา่ งถูกตอ้ ง
๒) นกั เรยี นสามารถร้องเพลงชาติไทยได้อย่างถกู ต้อง ท้ังคารอ้ ง ทานองและมคี วามไพเราะ

๓) นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ิตน เม่อื มีการเชญิ ธงธาตขิ ึ้นส่ยู อดเสาธงและลงจากยอดเสาธง

พร้อมทั้งการร้องเสียงเพลงชาติ อยา่ งถูกต้องเหมาะสมตามวาระโอกาสด้วยความภาคภูมิใจ

๔. สำระกำรเรยี นรู้

๑) สัญลกั ษณข์ องความเปน็ ประเทศไทยคือธงชาติและเพลงชาตไิ ทย
๑.๑) ธงชาตไิ ทยในประเด็น ความสาคัญ ความเป็นมา ลักษณะของธง ความหมายของสธี ง

การทาความเคารพธง

๑.๒) เพลงชาติไทย ในประเด็นเหตุที่มีเพลงชาติ ทาไมต้องร้องเพลงชาติ เนื้อหาและ
ความหมายของเพลงชาติ การปฏิบัตติ นเม่อื ได้ยนิ เพลงชาติไทยดังข้นึ

แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพ่ือสรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สัญลักษณ์ความเปน็ ไทย
แนวการจัดการเรียนรู้ประวตั ศิ าสตร์เพ่อื สรา้ งสำนกึ ความเปน็ ไทย : สญั ลักษณ์ความเปน็ ไทย

๙๙

๕. ทกั ษะ/กระบวนกำร

๑) ทักษะการคดิ ๒) ทักษะการตอบคาถาม ๓) ทกั ษะการจาแนก

๖. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์

๗. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

๑) การคิด ๒) การสอ่ื สาร

๘. หลักฐำนกำรเรียนรู้

๘.๑) ชน้ิ งาน

- นักเรียนร้องเพลงชาตไิ ทยและคัดเน้ือเพลงชาติ

- ภาพวาดระบายสีธงชาติไทย

- ภาพวาดภาพการยืนตรงเคารพธงชาติของตนเองในสถานการณท์ ่กี าหนด

๘.๒) ภาระงาน

- ให้นกั เรยี นลาดบั การถอื กาเนิดของธงชาติไทยจากอดีตถึงปัจจบุ ัน

- ให้นักเรยี นวาดภาพระบายสีการปฏบิ ัตติ นเมื่อไดย้ ินเพลงชาติไทยและธงชาติชกั ขึน้ สู่ยอดเสา

๙. กำรวดั และกำรประเมินผล

เปา้ หมาย วิธวี ัด เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ

ความรู้

๑) นกั เรียนบอกไดว้ ่า การสอบถาม ประเดน็ คาถาม ๑. นักเรียนตอบได้

ธงชาติและเพลงชาติ การตรวจผลงาน - แบบฝกึ ท่ี ๑ สีของ ถูกต้องทุกคาถามทุกคน

ไทยเป็นสัญลกั ษณ์ ธงชาติไทย ทปี่ ลิว้ ไสว ๒. ผลงานนกั เรียนมี

ของประเทศไทยได้ สวยงามสง่า คณุ ภาพระดบั ดีขึน้ ไป

อย่างถูกต้อง - แบบฝกึ ที่ ๒ การ

กาเนิดธงชาติไทย

-แบบประเมนิ ผลงาน

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ

๒)นักเรียนสามารถ การตรวจสอบ ๑.แบบประเมนิ การ นักเรียนสามารถร้อง

รอ้ งเพลงชาติไทยได้ รายการ รอ้ งเพลงชาติ เพลงชาตไิ ทยได้อยา่ ง

อยา่ งถูกต้อง ท้ังคา ถูกต้อง ทัง้ คาร้อง

รอ้ ง ทานองและมี ทานองและมีความ

ความไพเราะ ไพเราะ ในระดบั ดีข้นึ ไป

แนวการจัดการเรียนรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพื่อสรา้ งสานึกความเปน็ ไทย : สญั ลักษณค์ วามเปน็ ไทย
แนวการจดั การเรียนร้ปู ระวตั ิศาสตร์เพ่ือสร้างสำนึกความเปน็ ไทย : สัญลกั ษณค์ วามเปน็ ไทย

๑๐๐

เป้าหมาย วิธีวดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมนิ

๓) นักเรียนสามารถ การสังเกตพฤติกรรม ๑.แบบบนั ทึกการ ๑.นักเรียนมีพฤติกรรม

ปฏิบตั ิตน เมอ่ื มีการ การตรวจผลงาน สงั เกตพฤติกรรม การแสดงออกต่อการ

เชิญธงธาติข้ึนส่ยู อด ๒.แบบฝึกท่ี ๓ เราคน ยนื ตรงเคารพธงชาติ

เสาธงและลงจาก ไทยต้องยืนตรงเคารพ และร้องเพลงชาติ อยู่

ยอดเสาธง พร้อมทัง้ ธงชาติ ในระดบั ดีขึ้นไป

การรอ้ งเสยี งเพลง ๒.ผลงานนักเรยี นมี

ชาติ อยา่ งถูกตอ้ ง คุณภาพระดับดีขึ้นไป

เหมาะสมตามวาระ

โอกาสด้วยความ

ภาคภมู ใิ จ

ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

๑) รักชาติ ศาสน์ การตรวจสอบ/การ แบบบนั ทึกพฤติกรรม ๑.ยนื ตรงเคารพธงชาติ

กษัตรยิ ์ สงั เกตการปฏิบตั ิตน ของนักเรยี นเปน็ ร้องเพลงชาติและอธิบาย

ของนักเรยี นเมื่อได้ รายบุคคล ความหมายของเพลงชาติ

ยนื เพลงชาตไิ ทย ได้ถูกต้องทุกคน

๒.เข้าร่วมกจิ กรรมที่

เกี่ยวกบั

พระมหากษัตริย์ตามท่ี

โรงเรียนและชุมชนจัด

ข้นึ ทุกครั้ง

ด้านสมรรถนะทีส่ าคัญของผู้เรยี น

๑) การคิด การสังเกตพฤติกรรม แบบประเมินคณุ ภาพ นกั เรยี นผ่านการประเมิน

๒) การสอ่ื สาร ในระดับดีขึ้นไปทกุ คน

แนแวนกวากราจรดั จกัดากราเรรเยี รนยี รนปู้ รรูป้ ะรวะัตวศิตั าศิ สาตสรต์เพรเ์ อ่ืพส่อื รสา้ รงา้ สงาสนำกึนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สัญสญั ลักลษกั ณษณค์ ว์คาวมาเมปเ็นปไน็ ทไยทย

๑๐๑

๑๐. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ชว่ั โมงท่ี ๑ จุดเน้นธงชำตไิ ทย

กจิ กรรมการเรียนรูเ้ รือ่ ง “รู้จักธง” ใช้เทคนิคการสอนแบบต้ังคาถาม ประกอบการใชส้ อื่ มลี าดบั
การสอน ดงั นี้

ขั้นกระตกุ กระตนุ้

๑) ครูนาธงหรือภาพของ “ธง” ท่ีหลากหลายรูปแบบมาให้นักเรียนได้ดู เชน่ ธงสี ธงประจาโรงเรยี น
ครตู งั้ คาถามว่าสนทนาวา่ : รู้จกั ไหมคะ่ นคี่ ืออะไร
คาตอบของนกั เรียน : ธงคะ่ ธงประจาสี คะ่
คาถาม : ธงสใี ชท้ าอะไรคะ่
คาตอบนักเรยี น : ใช้แบง่ คนเข้าสีตา่ งๆ ค่ะ
ครูเสริมว่า บางครง้ั ก็ใชแ้ บ่งเขตบริการในโรงเรียนของเรา ใชไ่ หมคะ่
คาถาม : นักเรียนว่าธงสี น่ีใชต้ า่ ง ๆ ทใี่ ชใ้ นการแบง่ นักเรียนเป็นประโยชนท์ าอะไรได้บา้ งค่ะ
คาตอบนักเรยี น : แขง่ กีฬาสีค่ะ
ครูสนทนาเสริมวา่ แบง่ นักเรียนออกเป็นกลุม่ ๆ เข้าเป็นสีต่างๆตามธงสี ใช่ไหมค่ะ หากธงสีแดง

ตง้ั อยู่ตรงไหนของสนามกฬี า สมาชกิ ของสแี ดงก็วิง่ ไปรวมกันตรงท่ีธงสีแดงปักอยใู่ ช่ไหมค่ะ
คาตอบนักเรยี น : ใชค่ ะ่
ครูสนทนาเสริมว่า โรงเรียนของเราแบ่งเขตบริการออกเป็นเขตสีต่าง และมีการกาหนดให้

สมาชิกในสีน้ัน ๆ ดูแลพื้นท่ีบริเวณรอบ ๆ โรงเรียน เช่น สนามหญ้า บริเวณรอบ ๆ เสาธง ห้องน้า
สวนสมุนไพร ไม้กระถาง เป็นต้นนักเรียนที่เป็นสมาชิกในสีต่าง ๆ ก็ไปทาหน้าที่ ตามท่ีกลุ่มสีรับผิดชอบ
ใช่มย้ั ค่ะ

ดงั นน้ั ธงสีของเรา กเ็ ปน็ ตัวแทนในการแบง่ คนหรือแยกคนออกเปน็ กลุ่ม ๆ เพอ่ื แขง่ กีฬาสี หรือ
เพื่อแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในเขตบริการต่าง ๆ ของโรงเรียน ใช่มั้ยค่ะ นอกจากนี้ยังมีอีกนะคะ
หากเราไปแข่งกีฬากลุ่มโรงเรียน ซ่ึงมีโรงเรียนหลายโรงเรียนมาทาการแข่งขันด้วยกัน นักเรียนคงเคย
สังเกตนะคะว่า เวลาทาพิธีเปิดกีฬาสีกลุ่มโรงเรียน เราจะเดินสวนสนาม นักเรียนจะรู้ม้ัยค่ะว่าโรงเรียน
ของเราอยตู่ รงไหนของแถวสวนสนามการเปดิ แข่งขันกีฬาสี ใครบอกครไู ด้มั้ยเอย่ ?

คาตอบนักเรยี น : ปา้ ยชอื่ โรงเรยี นคะ่ ครูซักถามตอ่ : มอี ะไรอยา่ งอนื่ อีกม้ัยค่ะ นอกจากปา้ ย
ช่ือโรงเรยี นคาตอบนักเรยี น : …….อาจจะตอบได้หรือไม่ได้…….คาตอบ : ธงโรงเรียน ค่ะ

ครูเสริม : ธงโรงเรียน ก็เช่นเดียวกัน เป็นตัวแทน แบ่งนักเรียนแต่ละโรงเรียนออกจากกัน
ธงโรงเรียนของเรา ตงั้ อยู่ลาดับท่ี...... นนี้ ะ เราก็ตอ้ งไปยืนเข้าแถวหลงั ธงโรงเรียนของเรา ใช่มย้ั คะ่ ดังน้ัน
ธงสี ธงโรงเรยี น เปน็ ตวั แทนของอะไร คะ่

คาตอบ : เปน็ ตัวแทนของสีตา่ ง ๆ ในกีฬาสีของโรงเรียน และกีฬาสกี ลุ่มโรงเรียน

แนแนวกวการาจรดัจัดกการาเรรเยีรียนนรปู้รปู้ระรวะัตวตัศิ ิศาสาสตตร์เรพเ์ พอื่ ื่อสสรา้รง้างสสานำนึกึกคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสัญัญลลกั กัษษณณค์ ์ควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย

๑๐๒

ครูเสริมว่า ในการแบ่งคนออกเป็นสีต่าง ๆ หรือแบ่งโรงเรียนต่าง ๆ ในการแข่งขันกีฬากลุ่ม
โรงเรียนซ่ึงมีนักเรียน โดยใช้ธง เป็นตัวแทน ซึ่งมีนักเรียน มีครู มีผอ. เป็นสมาชิกอยู่ในสีน้ัน ๆ หรือ
โรงเรียน น้ัน ๆ ซึ่งเราถือว่าธงสี ธงโรงเรียน เป็นตัวแทนของสีของโรงเรียน ในการแบ่งคนออกเป็นกลุ่ม
เป็นก้อน เพ่ือทาหน้าที่ในอย่างใดอย่างหน่ึง ท่ีกาหนดข้ึน ในท่ีครูยกตัวอย่างมาคือการแข่งขันกีฬาสี
ในโรงเรยี น การแบ่งเขตบรกิ ารและการแขง่ ขันกีฬากลุ่มโรงเรยี น

๒) ครูนาธงชาตปิ ระเทศสมาชิกอาเซียน ๑๐ ชาติ ให้นักเรยี นดู แลว้ ถามวา่ นักเรยี นรู้จักธงเหลา่ น้ี
หรอื ไม่

คาตอบของนกั เรียน: ธงชาติต่างๆของประเทศสมาชิกอาเซียน รวมท้งั ธงชาตไิ ทย
ครูอธิบายเพิ่มเติมให้ถูกต้องและครบทั้ง ๑๐ ประเทศ : บูรไน กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เมียนม่าม์
มาเลเซีย ไทย อนิ โดนเี ซีย เวียดนาม ลาว สิงคโปร์ พร้อมชูธงชาติประกอบการเอ่ยนามชาตนิ ัน้ ๆ
๓) ให้นักเรียนเลน่ เกมส์ ฉันคือใคร ครอู ธิบายวธิ ีการเลน่ ใหน้ ักเรยี นฟัง ดังน้ี

- นาธงชาติสมาชิกอาเซียน ๑๐ ประเทศ มาตัง้ ปกั หน้าห้องเรียน
- ให้นักเรียนจับสลากคนละ ๑ ใบ ซ่ึงในสลากเขียนช่ือประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้ง ๑๐
ประเทศ จานวนเท่า ๆ กนั
- ครูประกาศช่ือประเทศอะไร ให้นักเรียนท่ีมีสลากช่ือประเทศนั้น ๆ วิ่งไปอยู่ท่ีธงประจาชาติ
ทีค่ รูเอ่ยนามปักอยู่ ขานช่ือครบทกุ ประเทศแล้ว
- ครูให้นักเรียนที่ยืนเป็นสมาชิกของแต่ละประเทศ เอ่ยช่ือประเทศที่ตนเองเป็นสมาชิก
พรอ้ มๆกันทีละประเทศ จนครบทุกประเทศ
๔) ครูถามนักเรียนว่า ทาไมเมื่อครูเอ่ยชื่อประเทศ นักเรียนจึงว่ิงไปอยทู่ ี่ธงชาติของประเทศนั้น ๆ
ปักอยู่
คาตอบนักเรยี น: ก็คนประเทศไหน กต็ ้องวงิ่ ไปอยู่ท่ปี ระเทศ นัน้
คาถาม : นักเรียนว่ิงไปที่ธงของชาติที่นักเรียนจับสลากได้ แสดงว่า ธงชาติ เป็นตัวแทนของ
อะไรค่ะ
คาตอบ : ตัวแทนของประเทศแต่ละประเทศ ค่ะ/ครบั
ครสู รุปวา่ ไมว่ า่ ธงสี ธงประจาโรงเรยี น ธงชาติ นัน้ เราถอื ว่าเปน็ ตวั แทนของคน กลุ่มคน ท่ี
เป็นสมาชิกในสังคม ในดินแดน ในประเทศนั้น ๆ ซ่ึงเราเรียกส่ิงที่เราใช้แทน นั้นว่า สัญลักษณ์ ซ่ึง
สัญลักษณ์จึงหมายถึงส่ิงท่ีเป็นตัวแทนของอะไรก็ตามทั้งในธรรมชาติหรือท่ีสิ่งที่มนุษย์ (คน) สร้างขึ้นมา
และได้รับการยอมรับในสังคมนั้น ๆ มีลักษณะคงทนถาวรแปรเปล่ียนรูปร่างไม่ได้ ซึ่งสัญลักษณ์ ท่ีเป็น
ตัวแทนสิ่งต่าง ๆ มีหลายลกั ษณะไม่ใชเ่ ฉพาะธง อย่างเดยี ว เช่น เครือ่ งหมายทางภมู ศิ าสตร์ (เครือ่ งหมาย
กากบั ทศิ ) เครอ่ื งหมายทางคณิตศาสตร์ (บวก ลบ คูณ และหาร หรอื เคร่ืองหมายเท่ากับ) เปน็ ตน้

แนแวนกวากราจรดั จกัดากราเรรเียรนียรนปู้ รร้ปู ะรวะัตวศิัตาิศสาตสรต์เพรเ์ อ่ืพส่ือรส้ารงา้ สงาสนำกึนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สญัสญั ลักลษักณษณ์ควค์ าวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย

๑๐๓

สาหรับ ธงชาติ ก็เปน็ สญั ลกั ษณอ์ ย่างหนงึ่ ท่ีแทนประเทศไมว่ ่าจะเปน็ คน ดินแดน หรอื อาณา
เขตของประเทศ ซ่ึงแต่ละประเทศที่เรารู้จักไม่ว่าประเทศกลุ่มอาเซียน หรือญ่ีปุ่น จีน หรือประเทศใด ๆ
ในโลกต่างก็มีธงชาติเป็นของตวั เอง

คาถามชวนสนทนา : นกั เรียนว่า ไทยเรามธี งชาติ ใชม้ านานแคไ่ หนแล้ว ใครอยากรบู้ า้ งคะ่
คาตอบของนกั เรียน : ……………………………..อาจหลากหลาย

ขั้นตระเตรียม ตริตรอง ตรวจสอบ

๑) ครนู าธงชาติไทย (ธงไตรรงค์) / ธงแถบขาวแดงหา้ แถบ / ภาพธงช้างเผือก / ภาพธงพนื้ แดง
มจี ักรตรงกลาง /ภาพธงแดง ข้ึนมาใหน้ ักเรียนดู พร้อมๆกัน
คาถาม : ใครเคยเหน็ ธงแบบใดบา้ ง ยกธงไตรรงค์ อันดบั แรก ตามดว้ ยธงอนื่ ๆ ทช่ี าติไทยเคยใชม้ าใน
อดตี (ธงแถบขาวแดงห้าแถบ / ภาพธงช้างเผือก / ภาพธงพื้นแดงมีวงจักรตรงกลาง / ภาพธงแดง)

คาตอบนักเรียน : ………………อาจจะตอบไดห้ รือไม่ได้
ครสู รปุ วา่ ธงที่ครูนามาให้นักเรียนดู ทงั้ หมดน้ี ต่างเปน็ ธงที่ใชแ้ ทนประเทศไทยมาในอดตี จนถึง
ปัจจุบัน ธงแตล่ ะธงกม็ ีความหมายในตัวของมันเอง ว่าทาไมจึงเป็นธงแดง ธงแดงตรงกลางมจี ักร ธงแดง
มีชา้ งเผือกตรงกลาง ธงแถบขาวแดงหา้ แถบ หรือธงไตรรงค์ ใครอยากรู้ความเปน็ มาของธงเหลา่ นี้ ไหมค่ะ
๒) ครูเลา่ ประวตั ิธงชาติไทย ใหน้ กั เรียนฟัง พอสังเขป พรอ้ มนาเสนอภาพธงประกอบ ดังนี้
ประเทศไทยใช้ธงแดง เม่ือกว่า ๖๐๐ กว่าปีมาแล้ว เพราะเม่ือก่อนเรามีการค้าขายทางทะเลกับ
ต่างชาติ เราใช้ธงแดงตดิ หัวเรอื สาเภา เปน็ สัญลกั ษณ์นค่ี ือเรือ ของไทย
คาถาม : ทาไมธงเมื่อแรกก่อน จึงใช้เป็นสีแดง ทาไมใช้สีแดงล่ะคะ ทาไม่ไม่ใช่ธงสีดา สีขาว
สีฟ้า ฯลฯ
คาตอบนักเรยี น:……………………………………………………………..
คาถาม : และทาไม่ ไม่ใชธ่ งสดี า สขี าว สฟี า้ ฯลฯ ล่ะคะ ลองช่วยกันคดิ หาคาตอบดสู คิ ะ
คาตอบนักเรียน :…………………………………………………………………………………………………..
คาถามสนทนา : ใช้สขี าว ก็คงเป้อื นเร็ว สดี าเป็นไงค่ะ ไวท้ ุกชไ์ มเ่ ปน็ มงคล สฟี ้า ก็ไมร่ ู้จะใช้พชื
อะไรมาย้อม……………..
คาตอบครู : เหตุผลว่าทาไมธงเมื่อก่อนเราใช้จึงเป็นธงแดง ครูคิดว่าเม่ือก่อนเรายังไม่มีสี
สังเคราะห์ใช้ที่มีหลากสี สมัยก่อนเราจะใช้พืชธรรมชาติเป็นสีย้อมผ้า และครูคาดว่าสีแดง พืชท่ีใช้ทา
ได้แก่ คร่ัง ชาด อาจจะหาได้ง่ายมีมากในสมัยน่นั และมันโดดเด่นเหน็ ได้ไกลเด่นชัด แต่หลักฐานก็ไม่มี
ปรากฏให้เหน็ ได้ค้นควา้ ทนี่ ามาอ้างองิ ได้ นะคะ

ถัดจากธงแดง ก็ยังมีธงแดงตรงกลางมีวงจักรสีขาว (ครูนาภาพธงธงแดงตรงกลางมี
วงจกั รสขี าว) ให้นักเรียนดู ซง่ึ ใช้ติดท่ีเรือสนิ ค้าของพระมหากษตั ริยท์ ี่ออกไปค้าขายทางทะเลกับต่างชาติ

แนแนวกวการาจรัดจัดกการาเรรเียรียนนรปู้ร้ปูระรวะัตวตัศิ ิศาสาสตตร์เรพเ์ พ่อื ือ่สสรา้รง้างสสานำนกึ ึกคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสัญญั ลลักักษษณณค์ ค์วาวมามเปเป็น็นไทไทยย

๑๐๔

จะได้แยกให้ประเทศท่ีเราไปค้าขายด้วยว่า เรือสาเภาลาใดเป็นของพระมหากษัตริย์ เรือสาเภทใดเป็น
ของเอกชน ซึง่ คงจะมกี ารปฏิบตั ิแตกต่างกนั ในสัญญาค้าขาย ระหว่างเรอื หลวงกับเรอื พอ่ คา้

ต่อมาไทยเปล่ียนเป็นธงช้างเผือก เพราะพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งทรงได้ช้างเผือกมา
๓ ช้าง ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ สง่างาม น่าเกรงขาม ช้างจึงเป็นตัวแทนของความยิ่งใหญ่ แสดงถึงบารมีของ
องค์พระมหากษัตรยิ อ์ งคท์ ี่ไดค้ รอบครองช้างเผอื ก

ต่อมามีเหตุการณ์เกิดขึ้น มีการติดธงช้างเผือก กลับเอาหัวช้างเผือกลง ถือว่าไม่เป็นมงคล
จึงมีการเปลย่ี นธงใหม่ ในรชั กาลท่ี ๖ อีก ๒ ครั้ง

ครั้งแรกทดลองทาเป็นร้ิวห้าร้ิว มีสีแดงสลับสีขาวทางตามยาว ซ่ึงผ้าขาวและผ้าแดง หาได้ง่าย
สามารถเย็บเป็นธงได้สะดวก แต่มันดูจืดชืด ยังไม่พอพระราชหฤทัย จึงได้เปลี่ยนสีธงชาติอีกครั้งหน่ึง
โดยเปลี่ยนแถบห้าแถบ ๒ สี คือ สีแดง สีขาว เป็นห้าแถบ ๓ สี ซ่ึงเป็นสีของประเทศมหาอานาจ ๓
ประเทศ ได้แก่อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา พระองค์จึงปรับธงให้มีสี ๓ สี ๕ แถบ เช่นชาติที่
เจริญแล้ว เพราะประเทศไทยกาลังจะก้าวเข้าสู่ความเป็นสมัยใหม่ ทัดเทียมกับนานาประเทศทางยุโรป
และไดใ้ ช้มาถงึ ปัจจบุ ันน้ี ทรงพระราชทานนามว่า ธงไตรรงค์

๕) ครูเปิดเพลง “ไตรรงค์ธงไทย” นักเรียนฟัง เพ่ืออธิบายความหมายและลักษณะของธงชาติ
ไทย นักเรียนฟงั จบแลว้ ครูต้งั คาถามเกี่ยวกับสีของธงชาติ

คาถาม: แถบสีแดง หมายถงึ อะไร ทาไมหมายถึงชาติ
ครอู ธิบายถึงความเปน็ ชาติว่ากษตั รยิ ไ์ ทยทรงเปน็ ผสู้ รา้ งชาติ รวบรวมคนในชาตใิ หเ้ ปน็

ปกึ แผน่ และสามัคคี ซ่ึงแลกมาด้วยเลือดเนือ้ ชีวติ ของพระมหากษัตรยิ แ์ ละบรรพบุรษุ ของเรา
คาถาม : สีขาว หมายถงึ อะไร
ครูอธิบายว่าหมายถึงความบริสุทธ์ิ สะอาด เหมือนศาสนาซึ่งเป็นส่ิงท่ียึดเหนีย่ วจติ ใจ

ทาให้คนในชาติประพฤติปฏิบัติดี และพระมหากษัตริย์ไทยยังได้ใช้ศาสนาเป็นที่ยึดเหน่ียวจิตใจคนใน
ชาตดิ ว้ ยใหเ้ ป็นคนที่ดี มคี ุณธรรม จริยธรรมในการดาเนนิ ชีวติ และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสขุ

คาถาม : สีน้าเงนิ หมายถึงอะไร
ครูอธิบายวา่ เปน็ สีทรี่ ัชกาลท่ี ๖ ทรงโปรดเป็นการสว่ นพระองค์ จึงใช้เป็นสแี ทนองค์

พระมหากษัตรยิ ์
ครูสรุป : ธงชาติคือส่ิงที่หลอมรวมคนทั้งแผ่นดิน เป็นศูนย์รวมทางด้านจิตใจ และความ

จงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ ดังน้ันเม่ือเรายืนตรงเคารพธงชาติก็เปรียบเสมือนการแสดงความ
เคารพรัก เทิดทูนบูชาต่อศาสนาองค์พระมหากษัตริย์ รู้บุญคุณแผ่นดิน รวมทั้งแสดงออกถึงความ
สามัคคีของคนในชาติ เคารพศาสนา นักเรียนควรให้ความเคารพ ด้วยการยืนตรงเคารพธงชาติด้วย
ความภาคภูมิใจ

แนแวนกวากราจรดั จกดั ากราเรรเยี รนยี รนปู้ รรู้ปะรวะัตวศิตั าศิ สาตสรต์เพรเ์ ่ือพสื่อรส้ารง้าสงาสนำกึนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สญัสญั ลักลษักณษณค์ วค์ าวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย

๑๐๕

ขน้ั ตลบคดิ

๖) ครฉู ายคลปิ วดี ิโอ สถานการณต์ ่างๆ ท่มี ีการเคารพธงชาติ เชน่ กจิ กรรมหน้าเสาธง วันสาคัญ
ทางราชพิธีและรัฐพิธี ต่าง ๆ การเปิดการแข่งขันกีฬาระดับประเทศ ระดับนานาชาติ หรือการขึ้นรับ
รางวัลของนักมวย ที่จะมีธงชาติคลุมไหล่ มีรูปพระบรมยาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวชู
เหนอื ศีรษะ เม่อื ดจู บแล้วครสู นทนานกั เรยี นดว้ ยคาถาม

คาถาม: จากคลปิ วีดโิ อ ทาไมในพิธีการต่าง ๆ การแข่งขนั การข้ึนรับรางวลั ของนักมวย นักกฬี า
จะต้องมกี ารชกั ธงชาติข้ึนสยู่ อดเสาธง นาธงชาตมิ าคลมุ ไหล และภาพที่นักเรยี นเหน็ จากงานในโรงเรียน
หมู่บ้าน จงั หวัดหรือในรายการถา่ ยทอดสด จากโทรทัศน์ นักเรียนคิดว่าธงชาติไทยเป็นตัวแทนของอะไร

คาตอบนักเรยี น:……………………………………………………………………………………………..
ครูอธิบายสรุปว่า ธงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ แสดงให้เห็นถึงสถานะอันเท่า

เทียมกับนานาอารยประเทศ ธงชาติยังมีลักษณะเป็นส่ิงที่ศักด์ิสิทธ์ิ เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นเอก
ราชโดยสมบูรณ์และเป็นส่ิงยึดเหนี่ยวใหช้ าวไทยมีสานึกรักชาติ รวมประชาชนชาวไทยทงั้ หลายไม่ว่าจะ
อาศัยอยู่ ณ แห่งหนตาบลใด ใน หรือนอกประเทศ ให้มีความรู้สึกเป็นหน่ึงเดียวกัน เพราะได้อยู่ภายใต้
ร่มธงผืนเดียวกัน คือ ธงไตรรงค์ คนไทยทุกคนควรให้ความเคารพ ด้วยการยืนตรงเคารพธงชาติและ
เพลงชาตไิ ทย ทกุ สถานทีท่ กุ เวลาทีม่ กี ารชักธงชาติสยู่ อดเสาและรอ้ งเพลงชาติ

คำถำมท้ำยบทเรียน ครูถามนักเรียนก่อนจบบทเรียนว่า…ตอนเช้าก่อนเข้าห้องเรียน เราชักธง
ชาติขึ้นสู่ยอดเสา นอกจากจะเห็นธงชาติไทยโบกสะบัดหรือเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสาธงแล้ว เราจะต้องเพลง
พร้อมกับชักธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาธงของโรงเรียน ทุกๆเช้า เสมอ เพลงน้ันคือเพลงอะไร ค่ะ โดยครูทิ้ง
คาถามเพอื่ เขา้ สบู่ ทเรยี นในช่วั โมงต่อไป

ชั่วโมงท่ี ๒ จุดเน้นเพลงชำตไิ ทย
กิจกรรมกำรเรียนรู้ (เทคนิคการสอนแบบตง้ั คาถามโดยใช้สือ่ )

กจิ กรรมการเรยี นรู้เรื่อง “เพลงชาตไิ ทยภมู ิใจจงั ”
๑) ครูเกร่ินนาต่อเน่ืองจากเร่ือง “รู้จักธง” ในช่ัวโมงแรกแล้วแสดงธงไตรรงค์พร้อมถาม

“ชั่วโมงที่แล้วนักเรียนจาได้ไหมที่ครูถามว่าตอนเช้าก่อนเข้าห้องเรียน เราชักธงชาติข้ึนสู่ยอดเสา
นอกจากจะเห็นธงชาติไทยโบกสะบัดหรอื เชิญธงข้นึ สู่ยอดเสาธงแล้ว เราจะต้องเพลงพรอ้ มกับชักธงชาติ
ขึ้นสู่ยอดเสาธงของโรงเรียน ทุกๆเช้า หรือเมื่อมีการแข่งขันกีฬาระดับชาติ ก่อนการแข่งขันหรือเวลา
นักกีฬาชนะการแข่งขัน นอกจากจะเห็นธงชาติไทยโบกสะบัดหรือเชิญธงข้ึนสู่ยอดเสาธงแล้ว นักเรียน
จะได้ยนิ เพลงอะไรตามมาเสมอ” เพลงนนั้ คอื เพลงชาติ ใชม่ ยั้ คะ

แนแนวกวการาจรดัจดักการาเรรเียรียนนรปู้รปู้ระรวะัตวตัศิ ศิาสาสตตร์เรพ์เพือ่ ่อืสสรา้รงา้ งสสานำนึกกึคควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย::สสญั ญั ลลกั ักษษณณ์ค์ควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย

๑๐๖

ขั้นกระตุ้น กระตกุ
๒) ครูจัดเตรียมบรรยากาศสาหรับที่จะร้องเพลงชาติ คือ มีธงชาติไทย มีพระบรมฉายา

ลกั ษณพ์ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว ต้ังอย่หู น้าหอ้ ง
๓) ครูชวนให้นักเรียน ร่วมกันร้องเพลงชาติในห้องเรียน พร้อมๆกัน โดยครูเปิดเพลงชาติ

ไทย จาก You Tube ครูนารอ้ งเปน็ ต้นเสียงอันดังชัดเจน (กอ่ นทีเ่ พลงชาติไทย จะเริ่มขึ้น หนา้ จอจะมี
ตัวหนังสือข้อความว่า “ธงชาติและเพลงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรง
เคารพธงชาติด้วยความภาคภูมิใจในเอกราชและความเสียสละของบรรพบุรุษไทย” ร้องเพลงชาติจนจบ
(สังเกตปฏกิ ริ ิยานักเรียนเมือ่ ได้ยินเสยี งเพลงชาติ)

๔) ครูกระตุก ด้วยคาถาม : จากคลิปวีดิโอร้องเพลงชาติ ที่นักเรียนได้ร้องร่วมไปด้วย
นกั เรยี นวา่ ในภาพนัน้ มีใครบ้างคะ่

ครูสรุป ว่าพระเจ้าอยู่หัว พระราชินี คนหลากหลายอาชีพ หลายเชื้อชาติ ธงชาติไทย
ทั้งหมดที่นักเรียนเห็นในคลิปวีดิโอ รวมทั้งตัวของนักเรียนเองเป็นส่วนหนึ่งของชาติไทยด้วย ฉะน้ันส่ิงที่
เป็นตัวแทนแสดงออกได้ว่าเราเป็นชาติไทยที่เห็นชัดที่สดุ คือธงชาติและเพลงชาติไทย ซ่ึงเรารวมเรียก
ทง้ั สองส่งิ นี้วา่ สญั ลกั ษณข์ องชำติ
ขนั้ ตระเตรียม ตริตรอง ตรวจสอบ

๕) ครชู วนนกั เรยี นร่วมกนั ฝกึ รอ้ งเพลงชาติใหถ้ กู ต้องชดั เจน โดยครูนาเน้อื เพลงชาติ ฉาย
ขึน้ จอโปรเจคเตอร์

เพลงชาติไทย

เนือ้ ร้องโดย พนั เอกหลวงสารานุประพนั ธ์ นวล ปาจณิ พยัคฆ์
ทานองโดย พระเจนดรุ ยิ างค์ (ปิติ วาทยะกร)

ประเทศไทยรวมเลือดเนอ้ื ชาตเิ ชอื้ ไทย
เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทุกสว่ น
อยูด่ ารงคงไวไ้ ดท้ ง้ั มวล ดว้ ยไทยล้วนหมาย รกั สามัคคี
ไทยนี้รักสงบ แต่ถงึ รบไม่ขลาด เอกราชจะไมใ่ หใ้ ครข่มขี่
สละเลอื ดทุกหยาดเปน็ ชาตพิ ลี เถลิงประเทศชาตไิ ทยทวี มชี ัย ชโย

๖) ครูอธิบายความหมายของเพลงชาติไทยอย่างง่าย แต่ละวรรคตอนของเน้ือร้องให้
นักเรียนฟัง ความหมายโดยสรปุ ดงั น้ี

แนแวนกวากราจรัดจกัดากราเรรเียรนยี รนปู้ รรูป้ ะรวะัตวศิัตาิศสาตสรต์เพร์เือ่พสือ่ รส้ารงา้ สงาสนำกึนคึกวคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สญัสัญลักลษักณษณค์ ว์คาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย

๑๐๗

ประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคน ทุกรัฐ ทุกภาคส่วน ท่ีหลอมรวมด้วยเลือดเนื้อของ
วีรบุรุษชาวไทยจนมาเป็นชาติไทยทุกวันนี้ ประเทศจะอยู่ได้ก็ด้วยคนไทยล้วนหมายสมัครสมานสามัคคี
รกั ใคร่ ปองดอง ช่วยเหลอื เก้ือกลู ซึ่งกนั และกนั ไม่แบง่ ฝกั แบง่ ฝ่าย ไมก่ ดขขี่ ่มเหงกนั เอง คนไทยเปน็ คนท่ี
รกั สงบ แตใ่ นยามรบเราก็ไม่หว่นั เกรงต่อข้าศึก เราพร้อมจะลุกขึ้นสู้ต่อผู้ท่มี ารุกรานประเทศ หรอื ข่มเหง
รังแก โดยไม่เสียดายชีวิต คนไทยพร้อมจะสละเลือดเนื้อทุดหยาดหยดโดยไม่เสียดาย เพื่อดารงไว้ซ่ึง
ความเป็นเอกราชชาตไิ ทยช่ัวลกู ช่ัวหลานตลอดไป

๗) ครูนานักเรยี น และรว่ มกนั รอ้ งเพลงชาติ และยืนตรงเคารพธงชาติ ในห้องเรียน จนร้อง
ไดค้ ลอ่ งออกเสยี งไดช้ ัดเจนถูกตอ้ ง
ข้ันตลบคิด

๘) ให้นกั เรยี นแตล่ ะคนไดอ้ อกมาแสดงความรสู้ กึ ของตนเอง เม่อื ได้ร้องเพลงชาติ ได้ยนิ
เพลงชาติไทย มคี วามร้สู กึ อย่างไร บา้ ง?

ความรสู้ ึกของนกั เรียน:……………………………………………………………………………………….
ครูก็แสดงความรู้สึกของตนเอง : ภาคภูมิใจว่าครูมีแผ่นดินที่อยู่เป็นของตนเอง มี
ศาสนาเป็นเคร่อื งนาทางในการดาเนินชีวิต มอี งค์พระมหากษัตริยเ์ ป็นศนู ยร์ วมจติ ใจทเ่ี คารพเทดิ ทูนเป็น
ท่ีพ่ึงพิง ครูรักและหวงแหนแผ่นดินไทยของครูมากที่สุด ใครจะมารุกรานไม่ได้ ครูจะต้องปกป้องรักษา
แผ่นดินนใ้ี ห้เป็นมรดกของลูกหลานสบื ไป โดยครจู ะทาหนา้ ที่ของครใู หด้ ีท่ีสุด
๙) ครูสรุป : นักเรียนคงมีความรูส้ กึ ว่า ยามที่นักเรียนร้องเพลงชาติ ยนื ตรงเคารพธงชาติ
นัน้ ความรสู้ ึกในขณะนน้ั รูส้ กึ ภาคภมู ใิ จท่เี รามีชาติมีแผน่ ดินท่อี ยู่อาศัย มีศาสนาเป็นเครอ่ื งยึดเหนี่ยว
จติ ใจ มคี วามสุขใตร้ ม่ พระบารมกี ารปกครองขององค์พระมหากษัตริย์ไทย
ดงั น้ัน การมเี พลงชาติ ได้รอ้ งเพลงชาติ เปน็ สิง่ ท่บี ง่ บอกถึงความเปน็ เอกราชของชาติไทย
เพราะเพลงชาติมีเนื้อหาท่ีแสดงถึงความสามัคคี การรวมพลังกันเป็นกลุ่มก้อน มีความเสียสละและมี
คุณธรรม เพ่ือดารงไว้ซึ่งประโยชน์ของประเทศชาติให้มีเอกราชสืบไป ธงชาติและเพลงชาติไทย จึงเป็น
สัญลักษณข์ องชาตไิ ทย ทีท่ าใหเ้ ราภาคภูมใิ จ และต้องแสดงความเคารพทุกคร้ัง เมื่อไดย้ นิ
๑๐) ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ท้ังการร้องและการแสดงความเคารพขณะที่นักเรียน
ร้องเพลงชาตติ ่อหน้าธงชาติ สถานการณ์จาลองในหอ้ งเรียน และหนา้ เสาธงตอนเช้า เปน็ ประจาวนั ทุกวนั
๑๑) ใหน้ ักเรียนระบายสีธงชาตไิ ทย ลงในแบบฝึกที่ ๑ สีของธงชาติไทยท่ปี ล้วิ ไสวสวยงามสง่า
๑๒) ให้นักเรียนโยงเส้นลาดับการถือกาเนิดของธงชาติไทยในอดีตถึงปัจจุบัน ในแบบฝึก
ท่ี ๒ กาเนิดธงชาตไิ ทย
๑๓) ใหน้ ักเรียนระบายสแี ละเตมิ เต็มภาพการแสดงความเคารพต่อธงชาตแิ ละเพลงชาติ
ไทย ลงในแบบฝึกที่ ๓ เราคนไทยต้องยืนตรงเคารพธงชาติ
๑๔) ให้นกั เรียนคัดลายมือ เน้ือเพลงชาติไทย ลงในสมุด

แนแนวกวการาจรัดจัดกการาเรรเียรยีนนรปู้ร้ปูระรวะัตวัตศิ ิศาสาสตตร์เรพ์เพื่อ่ือสสร้ารง้างสสานำนกึ กึคควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย::สสญั ัญลลักักษษณณค์ ค์วาวมามเปเป็นน็ไทไทยย

๑๐๘

สอ่ื /แหล่งเรียนรู้

๑) ธงชาติไทย(ธงไตรรงค)์ ธงชาติประเทศอาเซยี น ธงกีฬาสี ธงประจาโรงเรียน
๒) ภาพธงแดง ภาพธงแดงมวี งจักรตรงกลาง ภาพธงช้างเผือก ธง ๕ แถบ ๒ สี
๓) พระบรมยาลักษณ์พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว รชั กาลท่ี ๙
๔) คลปิ วีดิโอเก่ียวกับสถานการณ์ในการแสดงความเคารพธงชาตแิ ละรอ้ งเพลงชาติ
๕) คลิปวดี ิโอเพลงชาติไทย ทีเ่ ปิดเวลาเช้า-เยน็ คอื ๐๘.๐๐ และ ๑๘.๐๐ น.
๖) แผนภูมเิ นอ้ื ร้องเพลงชาติไทย/ คลิปเสียงเพลง
๗) แผนภมู เิ พลงไตรรงคธ์ งไทย/คลิปเสยี งเพลง
๘) แบบฝึกท่ี ๑-๓
๙) ใบความรสู้ าหรับครู เร่ืองธงชาติและเพลงชาติไทย
๑๐) เกมส์ ฉันคือใคร
บนั ทกึ หลังสอน
๑. ด้านความรู้

๑) นกั เรยี นบอกได้วา่ ธงชาติและเพลงชาติไทยเปน็ สัญลักษณ์ของประเทศไทยได้อย่าง
ถกู ต้อง จานวน........................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…………….

๒. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ
๑) นกั เรยี นสามารถร้องเพลงชาตไิ ทยได้อยา่ งถูกต้อง ท้ังคาร้อง ทานองและมคี วาม

ไพเราะ จานวน .........คน คิดเป็นร้อยละ…………….
๒) นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ิตน เมอื่ มีการเชญิ ธงธาตขิ ้นึ ส่ยู อดเสาธงและลงจากยอดเสาธง

พร้อมทงั้ การรอ้ งเสยี งเพลงชาติ อยา่ งถูกต้องเหมาะสมตามวาระโอกาสด้วยความภาคภูมิใจ จานวน
.......คน คดิ เป็นร้อยละ…………….

๓. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
ตวั ช้วี ดั - พลเมืองดีของชาติ
๑) นกั เรียนยนื ตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติและอธิบายความหมายของเพลงชาตไิ ด้

ถกู ต้อง จานวน……….คน คิดเปน็ ร้อยละ…………….
ตวั ชีว้ ดั - เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
๒) นกั เรยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมท่ีเกี่ยวกบั พระมหากษตั ริยต์ ามท่ีโรงเรียนและชุมชนจัดขน้ึ ทุก

ครง้ั จานวน……….คน คิดเป็นร้อยละ…………….
๔. ด้านสมรรถนะทส่ี าคญั ของผเู้ รยี น
๑) การคิด
๒) การสือ่ สาร

แนแวนกวากราจรัดจกดั ากราเรรเยี รนยี รนปู้ รรปู้ ะรวะัตวศิัตาศิ สาตสรต์เพรเ์ ือ่พส่อื รสา้ รง้าสงาสนำกึนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สัญสัญลกัลษักณษณ์คว์คาวมาเมปเ็นปไน็ ทไยทย

คำขอร้อง ๑๐๙
ไดถ้ ูกต้อง
แบบฝึกที่ ๑
สีของธงชำตไิ ทย ทป่ี ล้ิวไสวสวยงำมสงำ่
ให้นักเรยี นระบายสีธงชาติไทย (ธงไตรรงค)์ และบอกความหมายของสีธงชาติ
(คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน)

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

แนแนวกวการาจรดัจัดกการาเรรเยีรยีนนรปู้ร้ปูระรวะัตวตัศิ ิศาสาสตตร์เรพเ์ พอ่ื อ่ืสสร้ารง้างสสานำนกึ กึคควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย::สสญั ัญลลักักษษณณ์คค์วาวมามเปเป็น็นไทไทยย

๑๑๐

แบบฝึกท่ี ๒
กำรกำเนิดธงชำตไิ ทย
คำขอร้อง ให้นักเรยี น เรยี งลาดบั การกาเนดิ ธงชาติไทย โดยเขียนเลข ๑-๓ กากับบนภาพ
ธงชาติ ดา้ นล่างน้ีให้ถกู ต้อง (คะแนนเต็ม ๓ คะแนน)
เลข ๑ หมายถงึ ธงทปี่ รากฏหลกั ฐานการใช้ธงเปน็ คร้งั แรก
เลข ๒ หมายถงึ ธงที่มีการเปลย่ี นแปลงในรชั กาลท่ี ๒ กรงุ รตั นโกสนิ ทร์
เลข ๓ หมายถงึ ธงทม่ี ีการปรับในรัชกาลที่ ๖ และใชม้ าจนถึงปัจจบุ นั

ธงแดง ธงชำ้ งเผือก

ธงไตรรงค์

แนแวนกวากราจรดั จกดั ากราเรรเยี รนยี รนปู้ รร้ปู ะรวะัตวศิัตาศิ สาตสรต์เพร์เอื่พสื่อรส้ารง้าสงาสนำกึนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สญัสญั ลกัลษกั ณษณค์ ว์คาวมาเมปเ็นปไน็ ทไยทย

๑๑๑

แบบฝกึ ท่ี ๓
เรำคนไทยต้องยืนตรงเคำรพธงชำติ
คำขอร้อง ให้นักเรียนเติมภาพการปฏิบัติตนของตัวนักเรียน ในขณะท่ีได้ยินเพลงชาติและมีการชักธง
ชาตขิ ึ้นและลงจากยอดเสา พร้อมทัง้ ระบายสีให้สวยงาม (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน)
(ใหค้ ณะทำงำนทม่ี ฝี ีมือด้ำนศิลปะวำดภำพลำยเส้นโปร่งของกจิ กรรมหนำ้ เสำธงของโรงเรียน
บริเวณหน้ำเสำธง ที่มีองค์ประกอบ ดงั นี้
อำคำรเรียน แท่นเสำธง เสำธง มีนักเรียนชำย - หญิง กำลังชักธงชำติข้ึนสู่ยอดเสำ ได้
กง่ึ กลำงเสำ ลักษณะธงชำติให้ปลิวไสว ธงคล่ีให้เหน็ ๕ แถบสชี ดั เจน แตเ่ ปน็ พน้ื ขำว เพื่อให้
นกั เรยี นได้ระบายลงไปในธงชาติ นัน้ ให้ถกู ต้อง
ภำพนกั เรยี นชำยหญงิ กำลงั ยืนตรงและปำกอ้ำกวำ้ ง เพ่ือแสดงวำ่ กำลงั ร้องเพลงชำติอย)ู่
จดุ ประสงคค์ ือต้องการใหน้ ักเรยี นวาดภาพตัวเองท่ีมกี ริ ยิ ายืนตรงเคารพธงชาติ เข้าไปใน
ภาพน้ี และระบายสีธงชาติใหถ้ ูกต้อง

แนวแกนาวรจกดัารกจาดัรเกรายี รนเรรียปู้ นรระู้ปวัตระศิ วาตั สิศตารส์เพตอื่ร์เสพรอ่ื ้าสงสร้าางนสึกำคนวกึ าคมวเปามน็ เไปทน็ยไท:ยส:ัญสลญัักษลณกั ษค์ ณวาค์มวเปามน็ เไปทน็ยไทย

๑๑๒

แบบประเมนิ ผลงำน
แบบฝึกท่ี ๑ สีของธงชำติไทย ทปี่ ล้วิ ไสวสวยงำมสงำ่

ท่ี รายการประเมนิ คณุ ภาพผลงาน คะแนนท่ไี ด้

๑ ระบายสีธงชาตไิ ดถ้ ูกต้อง ระบายสีธงชาติได้ถูกต้องครบถ้วนทัง้ ๕ สี อยู่ใน ๕

ขอบเส้นสี ทุกเสน้ สะอาดเรียบรอ้ ย

ระบายสธี งชาตไิ ดถ้ ูกต้องครบถว้ นท้งั ๕ สี ๔

สเี ลอะเกนิ ขอบเสน้ สี สภาพผลงานไมเ่ รยี บรอ้ ย

ไม่สะอาด

ระบายสีธงชาตไิ ดถ้ ูกต้องครบถว้ นทง้ั ๕ สี ๓

สีเลอะเกินขอบเส้นสี สภาพผลงานไมเ่ รยี บร้อย

ไม่สะอาด

ระบายสธี งชาติไม่ถกู ต้อง สเี ลอะเกนิ ขอบเสน้ สี ๒-๑

สภาพผลงานไมเ่ รยี บร้อยสะอาด

๒ เขียนความหมายของสีธง เขียนความเหมายของสีธงชาตไิ ด้ ครบถว้ น ๕

ชาติได้ถูกตอ้ ง ถูกต้องทงั้ เนื้อหาและการเขียนสะกดคา ท้ัง ๓ สี

เขยี นความเหมายของสีธงชาติได้ถูกตอ้ งทงั้ ๓ สี ๔

และการเขยี นสะกดคา มบี างคาเขียนไมถ่ ูกต้อง

เขยี นความเหมายของสีธงชาติไดถ้ ูกต้องทั้ง ๓ สี ๓

แต่เขียนสะกดคาไม่ถูกต้องเป็นสว่ นใหญ่

เขียนความเหมายของสีธงชาติไมถ่ ูกต้อง เป็น ๒-๑

บางสี และเขยี นสะกดคาไม่ถูกต้องเป็นสว่ น

ใหญ่

เกณฑ์กำรตัดสนิ ผลงำน ระดบั ดมี าก
คะแนน ๙ - ๑๐ คะแนน คุณภาพงาน ระดบั ดี
คะแนน ๘-๖ คะแนน คณุ ภาพงาน ระดบั พอใช้
ระดบั ตอ้ งปรบั ปรุง
คะแนน ๖ – ๕ คะแนน คณุ ภาพงาน

คะแนน ๔ - ๑ คะแนน คุณภาพงาน

แนแวนกวากราจรดั จกดั ากราเรรเียรนียรนปู้ รรู้ปะรวะตั วศิัตาศิ สาตสรต์เพร์เอ่ืพสื่อรส้ารง้าสงาสนำึกนคึกวคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สัญสญั ลักลษักณษณ์ควค์ าวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย

๑๑๓

แบบประเมนิ ผลงำน
แบบฝึกท่ี ๓ เรำคนไทยตอ้ งยืนตรงเคำรพธงชำติ

ที่ รายการประเมนิ คณุ ภาพผลงาน คะแนนท่ไี ด้

๑ การยนื ตรงเคารพธงชาติ นกั เรยี นเติมภาพของตนเองยืนตรงเคารพธง ๙-๑๐

และการบอกสีธงชาติ ชาตลิ งในสถานการณห์ น้าเสาธงโรงเรยี น และ

ระบายสีธงชาตไิ ด้ถูกต้อง ผลงานเรียบร้อย

สะอาด สวยงาม

นกั เรยี นเตมิ ภาพของตนเองยืนตรงเคารพธง ๘-๗

ชาติลงในสถานการณห์ นา้ เสาธงโรงเรยี น และ

ระบายสีธงชาติ ได้ถูกต้อง ผลงานไม่

เรียบรอ้ ย ไมส่ ะอาด สวยงาม

นกั เรียนเตมิ ภาพของตนเองในลกั ษณะไมไ่ ด้ ๖-๕

ยืนตรงเคารพธงชาตลิ งในสถานการณห์ นา้ เสา

ธงโรงเรียน และระบายสธี งชาติ ไดถ้ กู ต้อง

ผลงานเรียบรอ้ ย สะอาด สวยงาม

นักเรยี นเติมภาพของตนเองในลักษณะไมไ่ ด้ ๔-๑

ยืนตรงเคารพธงชาติลงในสถานการณ์หนา้ เสา

ธงโรงเรียน และระบายสีธงชาติ ไม่ถูกต้อง

ผลงานไม่เรียบร้อย ไม่สะอาด สวยงาม

เกณฑ์กำรตัดสินผลงำน ระดบั ดีมาก
คะแนน ๙ - ๑๐ คะแนน คณุ ภาพงาน ระดับดี
ระดบั พอใช้
คะแนน ๘-๖ คะแนน คณุ ภาพงาน ระดบั ตอ้ งปรับปรุง
คะแนน ๖ – ๕ คะแนน คุณภาพงาน

คะแนน ๔ - ๑ คะแนน คณุ ภาพงาน

แนวแกนาวรจกดัารกจาดัรเกรายี รนเรรียปู้ นรระู้ปวตัระศิ วาตั สศิ ตารส์เพต่ือร์เสพรือ่ ้าสงสร้าางนสกึ ำคนวกึ าคมวเปามน็ เไปท็นยไท:ยส:ัญสลญัักษลณักษค์ ณวาค์มวเปาม็นเไปทน็ยไทย

๑๑๔

แบบบนั ทึกกำรสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนเป็นรำยบคุ คล

ทแ่ี สดงออกถงึ กำร รกั ชำติ ศำสน์ กษัตรยิ ์

ท่ี รายการประเมิน พฤติกรรมทแี่ สดงออกของนักเรยี น

๑ เปน็ พลเมืองดขี องชาติ ยนื ตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติและอธบิ ายความหมายของ

เพลงชาตไิ ด้ถกู ต้อง

๒ เคารพเทิดทนู สถาบนั เขา้ รว่ มกิจกรรมท่เี กยี่ วกับพระมหากษตั รยิ ต์ ามท่ีโรงเรยี นและ

พระมหากษัตรยิ ์ ชุมชนจัดขึ้น

ที่ ช่อื -สกุล พฤติกรรมทแี่ สดงออกของนักเรยี น

เปน็ พลเมืองดีของชาติ เคารพเทดิ ทูนสถาบัน
พระมหากษัตรยิ ์

ืยนตรงเคารพธง
ชาติ

้รองเพลงชา ิต
อ ิธบาย

ความหมายของ
เพลงชา ิตไ ้ด
ร่วม ิกจกรรมวัน

่พอ
่รวมกิจกรรมวันแ ่ม

่รวมกิจกรรม
วัน……
่ือน…..










๑๐

เกณฑ์การตัดสินคุณลกั ษณะรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
ปฏิบตั ิกิจกรรมครบ ร้อยละ ๑๐๐ ผลการตัดสิน ผ่านระดับดเี ย่ียม
ปฏบิ ตั ิกิจกรรมครบร้อยละ ๘๐-๙๐ ผลการตัดสิน ผ่านระดบั ดี
ปฏิบตั กิ จิ กรรมครบร้อยละ ๗๙ -๖๐ ผลการตดั สิน ผา่ น
ปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ กว่าร้อยละ ๖๐ ผลการตดิ สนิ ไมผ่ า่ น

แนแวนกวากราจรัดจกดั ากราเรรเยี รนียรนปู้ รรูป้ ะรวะัตวศิตั าศิ สาตสรต์เพรเ์ ่ือพสื่อรสา้ รง้าสงาสนำึกนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สัญสญั ลักลษักณษณ์ควค์ าวมาเมปเ็นปไ็นทไยทย

๑๑๕

แนวคดิ ของกำรประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อที่ ๑
ประกอบ

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ เรื่องธงชำติและเพลงชำติไทย เวลำ ๒ ชั่วโมง

นยิ ำมศัพท์ ตัวช้ีวัด พฤติกรรมบง่ ชี้ และเกณฑก์ ำรให้คะแนน
ข้อท่ี ๑ รกั ชำติ ศำสน์ กษตั ริย์
นยิ าม

รักชำติ ศำสน์ กษตั ริย์ หมายถงึ คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดขี องชาติ ธารงไว้
ซึง่ ความเป็นชาติไทย ศรทั ธา ยดึ มั่นในศาสนาและเคารพเทิดทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์

ผ้ทู ่รี ักชำติ ศำสน์ กษตั ริย์ คอื ผ้ทู ่ีมลี ักษณะแสดงออกถึงการเปน็ พลเมืองดีของชาติ มีความ
สามคั คี ปรองดอง ภูมใิ จ เชิดชคู วามเป็นมาของชาติไทย ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาที่ตนนบั ถือและแสดง

ความ จงรักภักดีต่อสถาบันพระมาหากษตั รยิ ์

ตัวชีว้ ดั
๑. เปน็ พลเมืองดีของชาติ

๒. เคารพเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์

ตัวชวี้ ดั พฤติกรรมบ่งชี้
๑. เปน็ พลเมืองดีของชาติ ๑. ยนื ตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาตแิ ละอธบิ ายความหมายของ
เพลงชาตไิ ด้ถกู ต้อง
๒. เคารพเทิดทูนสถาบัน
พระมหากษัตริย์ ๑. เข้าร่วมกิจกรรมท่ีเกย่ี วกับพระมหากษัตริย์ตามทโ่ี รงเรยี นและ
ชมุ ชนจดั ข้ึน

ที่มา : แนวทางการพัฒนา การวดั แปละประเมนิ ผลคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตามหลกั สูตรแกนกลาง
การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา สพฐ. (๒๕๕๔)

แนแวนกวากราจรดัจกดั ากราเรรเยี รนียรนปู้ รปู้ระรวะตัวศิตั าศิ สาตสรต์เรพ์เพื่อสือ่ รส้ารงา้ สงาสนำกึนคึกวคาวมามเปเปน็ ไน็ ทไทยย::สญัสญั ลักลษักษณณ์คว์คาวมามเปเป็นไน็ ทไทยย

๑๑๖

ควำมรูส้ ำหรับครู

ประวตั คิ วำมเป็นมำของธงชำติไทย

ประวัติศาสตร์การใช้ธงเป็น สัญลักษณ์ของ
ประเทศไทย เดิมใช้ธงสาหรับเปน็ เคร่ืองหมายของกองทัพกองละสี
และใช้ ธงสีแดง เป็นเครื่องสาหรับเรือกาปั่นเดินทะเลทั่วไปมาแต่
สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และยังไม่มีธงชาติไว้ใช้ดังท่ีเข้าใจ
ในปัจจบุ ัน

ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒) พระองค์ทรงได้
ช้างเผือกอก ๓ ช้าง ถือเป็นเกียรติยศย่ิงต่อแผ่นดิน จึงทรง
พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เพ่ิมรูปช้างเข้าภายในวงจักรของ
เรือหลวงไว้ด้วย อันมีความหมายว่า พระเจ้ำแผ่นดินอันมี
ช้ำงเผือก แต่ธงช้างอยู่ในวงจักรใช้แต่เรือหลวงเท่านั้น เรือ
พ่อคา้ ยังคงใชธ้ งแดงตามเดมิ

ใ น รั ช ส มั ย พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ จ อ ม เ ก ล้ า
เจ้าอยู่หัว สยามจาเป็นต้องมีธงชาติใช้ตามธรรมเนียมชาติ
ตะวันตก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ ธงพ้ืนสีแดงมีรูป
ชำ้ งเผอื ก เปลา่ อยตู่ รงกลางเปน็ ธงชาตสิ ยาม

ธงไตรรงค์
ธงช้างเผือกเปล่าได้ใช้เป็นธงชาติสยามสืบมาจนกระท่ังในสมัยพระบา ทสมเด็จพระมงกุฏเกล้า

เจ้าอยู่หัวรัชกาลท่ี ๖ แถบสีแดงที่ตรงกลางธงค้าขายได้เปลี่ยนเป็นสีขำบ หรือสีน้าเงินเข้มเจือม่วง
ดงั ปรากฏอยใู่ นปัจจบุ ัน เน่ืองจากเปน็ สปี ระจาวนั พระราชสมภพคอื วนั เสาร์และอีกประการหนง่ึ สีน้าเงิน
ยังแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวของฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ ๑ เช่น ฝร่ังเศส สหราช

อาณาจักรสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซ่ึงใช้สีแดง ขาว น้าเงินเป็นสี
ในธงชาติเป็นส่วนใหญ่ด้วย ธงชาติแบบใหม่นี้ได้รับพระราชทาน
นามว่า "ธงไตรรงค์" และอวดโฉมต่อสายตาชาวโลกครั้งแรกใน
สงครามโลกครั้งที่ ๑ ซึ่งกองทหารอาสาของไทยได้ใช้เชิญไปเป็น
ธงชัยเฉลิมพลประจาหน่วย
ธงไตรรงค์ นับต้งั แต่ พ.ศ. ๒๔๖๐ เป็นตน้ มา

แนแวนกวากราจรัดจกดั ากราเรรเยี รนียรนปู้ รรูป้ ะรวะัตวศิัตาศิ สาตสรต์เพร์เอื่พสอื่ รสา้ รงา้ สงาสนำึกนคึกวคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สญัสญั ลกัลษกั ณษณ์คว์คาวมาเมปเ็นปไน็ ทไยทย

๑๑๗

ต่อมาในสมัยพระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจา้ อยู่หวั รัชกาลที่ ๗ ยงั คงรับรองใหใ้ ช้ธงไตรรงค์
เปน็ ธงชาตอิ ยเู่ ช่นเดมิ จนถงึ ปจั จบุ นั

เพลงชาตไิ ทย

เนอื้ ร้องโดย พันเอกหลวงสารานปุ ระพันธ์ นวล ปาจิณพยัคฆ์
ทานองโดย พระเจนดรุ ยิ างค์ (ปติ ิ วาทยะกร)

ประเทศไทยรวมเลือดเนือ้ ชาติเชอ้ื ไทย
เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทกุ ส่วน
อยดู่ ารงคงไว้ไดท้ ัง้ มวล ดว้ ยไทยลว้ นหมาย รกั สามคั คี
ไทยนร้ี กั สงบ แตถ่ งึ รบไมข่ ลาด เอกราชจะไม่ใหใ้ ครข่มขี่
สละเลือดทุกหยาดเปน็ ชาตพิ ลี เถลิงประเทศชาติไทยทวี มีชัย ชโย

ควำมหมำยของเนอื้ เพลงชำติไทย

ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาตเิ ช้ือไทย เปน็ ประชารฐั ไผทของไทยทุกส่วน
คำแปล: ประเทศไทยเปน็ ของคนไทยทุกคน ทกุ รฐั ทุกภำคส่วน ที่หลอมรวมด้วยเลือดเน้ือของ
วีรบุรุษชำวไทยจนมำเป็นชำติไทยทุกวนั นี้
อยู่ดารงคงไวไ้ ด้ท้ังมวล ดว้ ยไทยลว้ นหมาย รักสามัคคี
คำแปล: ประเทศจะอยู่ได้ก็ดว้ ยคนไทยล้วนหมำยสมัครสมำนสำมคั คี รกั ใคร่ ปอง
ดอง ชว่ ยเหลอื เก้อื กลู ซ่งึ กนั และกนั ไม่แบง่ ฝกั แบ่งฝำ่ ย ไม่กดข่ขี ่มเหงกนั เอง
ไทยนรี้ ักสงบ แต่ถงึ รบไมข่ ลาด เอกราชจะไมใ่ ห้ใครข่มขี่
คำแปล: คนไทยเปน็ คนทร่ี ักสงบ แต่ในยำมรบเรำกไ็ มห่ วน่ั เกรงต่อขำ้ ศึก เรำพร้อมจะลกุ ขน้ึ ส้ตู อ่
ผู้ท่มี ำรกุ รำนประเทศ หรอื ข่มเหงรงั แก โดยไม่เสียดำยชวี ติ
สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี เถลงิ ประเทศชาติไทยทวี มชี ัย ชโย
คำแปล: คนไทยพร้อมจะสละเลอื ดเนอื้ ทดุ หยำดหยดโดยไม่เสยี ดำย เพื่อดำรงไว้ซึง่ ควำมเปน็
เอกรำช ชำติไทยช่วั ลูกช่ัวหลำนตลอดไป ไชโย

แนแนวกวการาจรดัจดักการาเรรเยีรยีนนรปู้รปู้ระรวะัตวตัศิ ศิาสาสตตร์เรพเ์ พื่อื่อสสร้ารงา้ งสสานำนกึ ึกคควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย::สสัญัญลลกั ักษษณณ์ค์ควาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย

๑๑๘

ตัวอยำ่ ง
รำ่ งแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ที่ ๕

กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑
รายวชิ าประวัติศาสตร์ รหสั วิชา.....................
หน่วยการเรยี นรู้ท่.ี .......เรือ่ ง....สถาบันพระมหากษัตริย์ จานวน....๒.....ชว่ั โมง
หนว่ ยย่อยท่ี.....เรือ่ ง...เพลงสรรเสรญิ พระบารมี/พระบรมฉายาลักษณ์ จานวน......๒.......ชว่ั โมง

๑. มำตรฐำนกำรเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวัด
มาตรฐานการเรียนรู้ท่ี

ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาไทย มคี วามรกั ความภูมใิ จและ

ธารงความเป็นไทย
ตวั ช้ีวดั ที่

ป ๑/๑ อธิบายความหมายและความสาคญั ของสญั ลกั ษณ์สาคัญของชาติไทยและปฏบิ ัติตนได้

ถูกต้อง
๒. สำระสำคญั

เพลงสรรเสริญพระบารมีและพระบรมฉายาลักษณ์ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการท่ีประเทศ

ไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขท่ีคู่กับประเทศไทยมายาวนาน คนไทยจึงต้องปฏิบัติด้วยความ

เคารพและความภาคภูมิใจเมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี และการได้พบเห็นพระบรมฉายาลักษณ์
เปรียบเหมือนได้เข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ เช่น เพลงสรรเสริญพระบารมีใช้บรรเลงในพระราชพิธีท่ี

พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เสด็จทรงเป็นประธานทั้งขณะท่ี

เสดจ็ ฯมาและกลับ และทุกคนในพธิ ีต้องแสดงความเคารพดว้ ยการยืนตรง
๓. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้

๑. นักเรียนสามารถบอกความหมายและความสาคัญของเพลงสรรเสริญพระบารมีและ

พระบรมฉายาลกั ษณไ์ ด้อยา่ งถูกตอ้ ง
๒. สามารถปฏิบัติตนเมื่อได้ยินเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีได้อย่างถูกต้องตามวาระ

โอกาสดว้ ยความภาคภมู ิใจ และปฏิบตั ิตนตอ่ พระบรมฉายาลักษณ์ได้อย่างเหมาะสม
๔. สำระกำรเรียนรู้

สถาบนั พระมหากษัตริย์
๕. ทักษะ/กระบวนกำร

- ตอบคาถาม
- แสดงความรูส้ กึ

แนแวนกวากราจรดั จกดั ากราเรรเียรนยี รนปู้ รรปู้ ะรวะัตวศิัตาศิ สาตสรต์เพรเ์ ือ่พสอ่ื รสา้ รงา้ สงาสนำกึนคึกวคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สัญสญั ลกัลษักณษณ์ควค์ าวมาเมปเ็นปไน็ ทไยทย

๑๑๙

๖. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

- ความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์

๗. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

๗.๑ การสือ่ สาร (การอา่ น การพูด การเขยี น การฟัง)

๗.๒ การคดิ วิเคราะห์

๘. หลักฐำนกำรเรียนรู้

๘.๑ ชิน้ งาน

ใบกจิ กรรม - ภาพในหลวงของเรา

- เหตุผลความประทับใจท่ีมีต่อในหลวงของเรา

๘.๒ ภาระงาน

- ใหน้ กั เรียนวาดภาพในหลวงของเรา

- ให้นักเรียนเขียนความประทับใจท่มี ตี ่อในหลวงของเราอย่างส้นั ๆ

๙. กำรวัดและกำรประเมิน

เป้าหมาย วิธวี ดั เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ

ความรู้

การทดสอบการร้อง เพลงสรรเสริญพระบารมี รอ้ งได้ถกู ต้อง ๙๐%

ดา้ นทักษะ/กระบวนการ

ทกั ษะความรู้ความจา การสงั เกต แบบสังเกตพฤติกรรม ยืนตรงร้องเพลง
การร้องเพลงสรรเสริญ ๑๐๐%
พระบารมี

ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น แบบสอบถามความพงึ แบบประเมนิ ความพึง

พอใจ พอใจของผู้เรยี น

มีความรกั ชาติ ศาสนา - ใบกิจกรรมเขยี น ใบกจิ กรรม

พระมหากษัตรยิ ์ เหตผุ ลและความ

ประทบั ใจทีม่ ีต่อใน - ภาพในหลวงของเรา

หลวง

- ให้นักเรยี นภาพวาด

ในหลวงของเรา

ดา้ นสมรรถนะทีส่ าคัญของผ้เู รียน

การสือ่ สาร/การตอบ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม

คาถาม

แนแนวกวการาจรดัจดักการาเรรเยีรยีนนรปู้รปู้ระรวะัตวตัศิ ิศาสาสตตร์เรพ์เพ่ือื่อสสรา้รงา้ งสสานำนึกึกคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสญั ัญลลักกัษษณณ์ค์ควาวมามเปเป็นน็ไทไทยย

๑๒๐

๑๐. กิจกรรมกำรเรียนรู้ (ระบุวธิ ีสอน/เทคนิคกำรสอน)
ชวั่ โมงที่ ๑
(ใช้เทคนคิ การสอนแบบตั้งคาถามโดยใช้สอื่ )
กิจกรรมการเรียนรู้เรือ่ ง “เพลงสรรเสริญพระบารมี/พระบรมฉายาลกั ษณ์”

๑. ขั้นเกร่ินนำ ครูนาพระบรมฉายาลักษณ์ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาตั้ง
แสดงให้นักเรียนดูพร้อมถวายความเคารพ (สังเกตปฏิกิริยานักเรียนเมื่อครูถวายความเคารพ) เปิดส่ือ
You Tube เกี่ยวกับพระราชพิธี พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสต่าง ๆ
หรอื โครงการในพระราชดาริ ในเพลง“ผปู้ ดิ ทองหลังพระ” จาก You tube ให้นกั เรียนดู จากนน้ั เปิดสื่อ
เพลง “รูปทีม่ ีทกุ บ้ำน” จาก You Tube อีกบทเพลง

๒. ข้ันสอน ครูต้ังคาถามว่า “นักเรียนทราบหรือไม่ว่านี่คือภำพของบุคคลใด.....??”
(พระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง)ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า ภาพถ่าย เป็นคาท่ีใช้กับบุคคลท่ัวไป หาก
พระมหากษัตริย์ จะใช้ คาราชาศัพท์ว่า พระบรมฉายาลักษณ์ หากเป็นภาพวาด เรียกว่า พระบรม
สาทสิ ลักษณ์

คาถาม: “นักเรียนเห็นมั้ยว่าตอนแรกพอครนู าภาพในหลวงมาต้งั ไว้แลว้ ครูทาอะไร ต่อจากนั้น?”
(ครโู คง้ คานบั ) ครอู ธิบายว่า การโคง้ คานับเป็นมารยามสากลทุกประเทศในโลกใชก้ ัน
คาถาม: การโคง้ คานบั ต่อพระบรมฉายาลกั ษณข์ องในหลวงแสดงว่าครรู สู้ ึกอย่างไรต่อพระองค์”
(เคารพ)
“นักเรียนทราบหรือไม่วา่ ทาไมครถู ึงเคารพและรักในหลวงมาก” โดยให้นักเรยี นหาคาตอบ หา
เหตุผลจากการดภู าพยนตร์พระราชกรณียกิจของในหลวง จากสอ่ื You Tube เปน็ เวลา ๑๐ นาที
เม่ือนกั เรียนดูภาพยนตร์พระราชกรณยี กจิ ของในหลวงจบแล้ว ครูป้อนคาถามแกน่ ักเรียนทั้งชัน้ วา่
“ในหลวงของเรา ท่านทาอะไรเพ่ือประชาชน บา้ ง”
คาตอบนักเรยี น:………………………………………………………………………………………………………
คาถาม: เราจะตอบแทนพระคุณของในหลวงไดอ้ ยา่ งไร ?
คาตอบนักเรียน:………………………………………………………………………………………………………

๓.ข้ันสรุป ครสู รปุ คาตอบจากคาตอบของนักเรยี น และเตมิ เต็มจากภาพพระราชกรณียกิจ
ต่าง ๆ ท่ีเปิดให้นักเรียนดู และสรุปสุดท้ายว่า เพราะพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทาทุกๆอย่างเพื่อ
ประชาชนของพระองค์ซึ่งก็คือพวกเราใช่หรือไม่” “เพราะพระองค์ทาส่ิงต่างๆ เพื่อพวกเราเช่นน้ีเรา
จึง…………………… (ให้นักเรียนตอบพร้อมๆกนั ) ”

ครูสรุป “ดังนั้นเมื่อเรารักพระองค์ที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ (บุญคุณ)กับพวก
เราอย่างย่ิง เราจึงต้องแสดงออกอย่างถูกต้องด้วยการถวายความเคารพต่อพระองค์เมื่อได้เห็นแม้เพียง
ภาพของพระองคก์ ็ถือว่าเป็นสญั ลักษณ์แทนองค์ของในหลวงดว้ ย”

แนแวนกวากราจรัดจกัดากราเรรเยี รนยี รนปู้ รรู้ปะรวะตั วศิัตาิศสาตสรต์เพรเ์ ่ือพสือ่ รส้ารง้าสงาสนำกึนคึกวคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สญัสญั ลกัลษกั ณษณค์ วค์ าวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย

๑๒๑

ชวั่ โมงท่ี ๒
๑.ขั้นเกริ่นนำ ครเู ปิดเพลง “สรรเสริญพระบารมี” ใหน้ ักเรยี นดูและจากการดู You Tube
คาถาม: ครถู ามวา่ นักเรยี นเห็นอะไรบา้ ง เคยได้ยินเสียงเพลงน้หี รอื ไม่
คาตอบนักเรียน: ………………………………………………………………………………………..
คาถาม: ใครทราบบา้ งวา่ ชอ่ื เพลงอะไร
คาตอบนักเรียน: เพลงสรรเสริญพระบารมี
ครูอธิบายว่าเพลงท่ีได้ยินคือเพลง สรรเสริญพระบำรมี เป็นเพลงประจำสถำบันพระมหำกษัตริย์

ใช้เปดิ ในโอกาสต่าง ๆ ได้แก่ เมือ่ พระองค์เสด็จพระราชดาเนินไป ณ ทแ่ี หง่ ใด หนว่ ยงานทร่ี ับผิดชอบก็
จะเปิดหรือมีการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และใช้เปิดในงานพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์
เช่น พธิ วี ันเฉลิมพระชนมพรรษา และวันสาคัญเกีย่ วกับพระมหากษัตรยิ ์

๒.ข้ันสอน ครตู ิดเนือ้ เพลงสรรเสริญพระบำรมีบนกระดาน บอกชื่อผ้แู ตง่ คาร้องทานอง
คาร้อง : สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจา้ ฟ้ากรมพระยานรศิ รานวุ ัดตวิ งศ์
ทานอง : พระเจนดรุ ิยางวงค์ (ปิติ วาทยะกร)

ขำ้ วรพทุ ธเจ้ำ เอำมโนและศิระกรำน
นบพระภูมบิ ำลบุญดเิ รก เอกบรมจกั รนิ
พระสยำมินทรพ์ ระยศย่ิงยง เยน็ ศิระเพรำะพระบรบิ ำล
ผลพระคณุ ธ รักษำ ปวงประชำเปน็ สขุ ศำนต์
ขอบนั ดำล ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดงั

หวงั วรหฤทัย ดุจถวำยชัย ชโย

- ครอู ่านเนื้อเพลงแล้วใหน้ ักเรยี นอา่ นตามทีละวรรค และอธิบายความหมายของเพลง
สรรเสรญิ พระบารมีพอเข้าใจ (เน้ือหำครูปรับเปล่ียนให้ส้ันและเข้ำใจง่ำยตำมควำมเหมำะสม)

ขำ้ วรพุทธเจำ้
หมายถึง ข้าพเจ้าทั้งหลาย ซึ่งเป็นข้าของพระองค์ผู้ประดุจดังพระพุทธเจ้า โดย

พระพุทธเจ้าในที่นี้ก็คือ เป็นผู้ตรัสรู้และโปรดมวลมนุษย์ให้บรรลุธรรม ให้พ้นจากกิเลส เพราะ
ในมโนทัศนข์ องไทยโบราณถอื ว่ากษัตรยิ ค์ ือพระโพธสิ ัตว์
เอำมโนและศริ ะกรำน...

หมายถึง ขอเอาดวงใจและศรี ษะก้มน้อมกราบ
นบพระภมู ิบำล บุญดิเรก...

หมายถงึ ขอนบไหว้พระผู้ปกครองแผน่ ดนิ ผมู้ ีบุญญาธิการอันใหญห่ ลวง
เอกบรมจักริน...

หมายถงึ ทรงเป็นวงศแ์ หง่ พระจักรีอันประเสริฐ

แนแวนกวากราจรัดจกัดากราเรรเยี รนยี รนปู้ รู้ประรวะัตวศิัตาศิ สาตสรต์เรพเ์ พื่อส่ือรส้ารง้าสงาสนำึกนคึกวคาวมามเปเปน็ ไ็นทไทยย::สญัสญั ลักลษักษณณค์ ว์คาวมามเปเปน็ ไน็ ทไทยย

๑๒๒

พระสยำมนิ ทร.์ ..
หมายถงึ เปน็ ผเู้ ปน็ ใหญ่แห่งสยาม

พระยศย่ิงยง...
หมายถงึ เกียตรยิ ศของพระองค์นั้นย่ิงใหญ่และยนื นาน

เย็นศริ ะเพรำะพระบรบิ ำล...
หมายถงึ พวกเราจึงรม่ เย็นด้วยการปกครองของพระองค์

ผลพระคณุ ธ รกั ษำ ปวงประชำเปน็ สุขศำนต์...
หมายถึง พระคุณของพระองค์มผี ลรกั ษาปวงประชาให้เป็นสขุ

ขอบนั ดำล ธ ประสงค์ใด...
หมายถึง ขอพระคุณน้นั บนั ดาลให้สิ่งที่พระองค์ประสงคส์ าเร็จตามความปรารถนา

จงสฤษฎด์ งั หวังวรหฤทัย...
หมายถึง ขอให้ไดด้ ังใจหวงั

ดจุ ถวำยชัย ชโย...
หมายถึง ดงั ทีไ่ ด้น้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัย

๓. ครูถามวา่ “ เพลงสรรเสริญพระบารมเี ป็นเพลงประจาสถาบันพระมหากษัตรยิ น์ กั เรียน
ทราบหรอื ไม่วา่ ทาไมจงึ เป็นเพลงประจาพระองค์”....

คาตอบนักเรียน:………………………………………………………………………………………………………………
ครูอธิบายความสาคัญของเพลงสรรเสริญพระบารมีว่าเป็นเพลงเกียรติยศสาหรับถวาย

ความเคารพต่อองค์พระประมุขของชาติ ใชบ้ รรเลงประจาองค์พระมหากษัตรยิ ์ เน่ืองในงานพระราชพิธี
ต่าง ๆ เพื่อเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีของพสกนิกรที่มีต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินีและ
พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

๔. ครูถามนักเรียนว่า “ดังน้ันเม่ือได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี นักเรียนต้องทาอย่างไร”
ครูอธิบายสรปุ วา่ เมื่อเราไดย้ ินเพลงสรรเสริญพระบารมีไม่ว่าที่ไหนเราต้องยืนตรงเพ่ือถวำยควำมเคำรพ
ตอ่ องค์พระมหำกษัตริยผ์ ู้เปน็ ทีเ่ ทิดทูนของคนไทย

๕. ครูเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมแี ละให้นักเรียนร่วมรอ้ งถวายต่อหนา้ พระบรมฉายาลักษณไ์ ว้
เพื่อเปน็ การเทดิ ทูนและแสดงความเคารพอย่างถูกตอ้ ง

๖. กจิ กรรมภำพประทับใจ ครนู าภาพทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั เปน็ ตัวอย่าง
ให้นักเรียนดูแล้วให้นักเรียนวาดภาพ “ในหลวงของเรา” (เพื่อสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้าน
ความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ความระลึกได้ จาได้) โดยให้แต่ละคนอธิบายว่าท่ีเลือกวาดภาพ
ดงั กลา่ วเพราะเหตใุ ดอยา่ งส้นั และงา่ ย (คาถามท่ี ๗)

แนวการจดั การเรียนรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพือ่ สรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สญั ลกั ษณ์ความเปน็ ไทย
แนวการจดั การเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพ่อื สรา้ งสำนกึ ความเป็นไทย : สัญลักษณ์ความเปน็ ไทย

๑๒๓

- ครูถามนกั เรียนวา่ ท่ีบ้านของนักเรยี นมีภาพปยู่ า่ ตายายหรือคนที่เคารพบูชาหรือไม่
และถา้ มี คณุ พอ่ คณุ แมข่ องนักเรยี นควรจะนาไปติดต้งั ไวท้ ่ีใด แล้วนกั เรยี นควรนาภาพถา่ ย
หรือภาพวาดของพระองค์ไว้ ณ ท่แี หง่ ใด (คาถามที่ ๘)

คาตอบ: (ไวใ้ นท่ีสูง เช่น ตดิ ผนงั เหนือศรี ษะ เพอ่ื เคารพบูชา ไมน่ ามาตง้ั ไว้ ณ ที่ที่
ไมเ่ หมาะสม)

- เพลงสรรเสริญพระบารมีใชใ้ นวาระโอกาสใด (เวลาเสด็จพระราชดาเนินไปยัง
สถานทต่ี ่าง ๆ ตลอดจนผู้แทนพระองค/์ พิธีต่าง ๆ หรอื ในโอกาสการแสดงความจงรกั ภกั ดี
ดว้ ยความเคารพ)

- เรามกั ไดย้ นิ เพลงสรรเสรญิ พระบารมที ใี่ ดบ้าง (คาถามท่ี ๙) (โรงเรียน/โรงหนัง/
สถานท่รี าชการ/ที่ท่ีพระองคเ์ สด็จฯ)

- เมื่อได้ยินเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมคี วรปฏบิ ัติตนอย่างไร (คาถามท่ี ๑๐)
(ยืนตรง/ถวายคานับ)
๗. ครใู หน้ กั เรียนออกมาพดู แสดงความรู้สกึ ทีม่ ีตอ่ ในหลวงของเราสั้นๆ และครถู ามเหตผุ ลว่า
ทาไมนักเรียนจึงรู้สกึ ต่อพระองคเ์ ช่นน้นั เป็นรายบคุ คล จนครบทกุ คน
๘. ครูสรุป ความรสู้ กึ และเหตผุ ลของนกั เรียน ทกุ คน ใหน้ กั เรียนฟังทง้ั ห้อง เขียนออกเป็นผัง
ความคดิ แบบ WEB
๙. ครสู รปุ ว่าเพอ่ื เติมเตม็ เราจะตอบแทนพระคุณของพระองคท์ า่ นดว้ ยการเปน็ คนดี รู้หน้าท่ี
และแสดงความเคารพต่อพระองค์ทา่ นด้วยการทาความเคารพ เป็นสานวนส้ัน ๆ “พระบรมฉำยำ
ลักษณค์ ือรปู เคำรพ เพลงสรรเสรญิ พระบำรมเี ม่ือพบต้องยืนตรง”
๑๑. สื่อ/แหล่งเรยี นรู้
- เพลงผู้ปิดทองหลังพระ/เพลงรูปท่ีมีทุกบ้าน/เพลงสรรเสริญพระบารมี จาก You Tube
- พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว
- ใบความรู้เพลงสรรเสรญิ พระบารม/ี พระบรมฉายาลักษณ์
๑๒. บันทึกหลงั สอน
๑๒.๑ ด้านความรู้
............................................................................................................................. ................................
.............................................................................................................................................................
๑๒.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ
...................................................................................................... .......................................................
............................................................................................................................. ................................

แนวการจดั การเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพอ่ื สรา้ งสานึกความเปน็ ไทย : สัญลักษณค์ วามเป็นไทย
แนวการจัดการเรียนรู้ประวัตศิ าสตร์เพื่อสรา้ งสำนึกความเปน็ ไทย : สญั ลกั ษณค์ วามเปน็ ไทย

๑๒๔

๑๒.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
............................................................................................................................. ................................
................................................................................................... ..........................................................
๑๒.๔ ด้านสมรรถนะทส่ี าคญั ของผเู้ รียน
............................................................................................................................. ................................
............................................................................................................................. ................................

เพลงสรรเสริญพระบำรมี
คาร้อง : สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
ทานอง : พระเจนดุรยิ างวงค์ (ปิติ วาทยะกร)

ข้ำวรพทุ ธเจำ้ เอำมโนและศิระกรำน
นบพระภูมิบำลบุญดเิ รก เอกบรมจักริน
พระสยำมินทร์พระยศยิง่ ยง เยน็ ศริ ะเพรำะพระบริบำล
ผลพระคุณ ธ รักษำ ปวงประชำเปน็ สุขศำนต์
ขอบนั ดำล ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิด์ ัง

หวงั วรหฤทยั ดุจถวำยชัย ชโย

แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพอื่ สร้างสานึกความเปน็ ไทย : สัญลกั ษณ์ความเปน็ ไทย
แนวการจดั การเรียนรปู้ ระวัติศาสตรเ์ พือ่ สร้างสำนึกความเป็นไทย : สัญลกั ษณ์ความเปน็ ไทย

๑๒๕

ภำพตวั อยำ่ งพระบรมสำทิสลักษณ์

แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพื่อสร้างสานกึ ความเปน็ ไทย : สัญลักษณ์ความเปน็ ไทย
แนวการจัดการเรียนรูป้ ระวตั ิศาสตรเ์ พ่ือสร้างสำนกึ ความเป็นไทย : สัญลกั ษณค์ วามเป็นไทย

๑๒๖
แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพอื่ สร้างสานึกความเปน็ ไทย : สญั ลักษณค์ วามเป็นไทย

แนวการจัดการเรยี นร้ปู ระวัติศาสตร์เพื่อสรา้ งสำนึกความเป็นไทย : สญั ลกั ษณ์ความเปน็ ไทย

๑๒๗

เกณฑ์กำรประเมนิ

เกณฑ์กำรพิจำรณำพฤตกิ รรมกำรทำงำน (rubrics)

เกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ นา้ หนกั
จุดเนน้
การประเมิน ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๑) ควรปรบั ปรงุ (๑)

๑.การตอบคาถาม ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้

ถูกตอ้ ง (๘ -๑๐ ถูกต้อง (๖-๗ (๕ คาถาม) (๐-๔ คาถาม)

คาถาม) คาถาม)

๒.การใหค้ วาม ให้ความรว่ มมือกบั ให้ความร่วมมือ ให้ความ หลีกเล่ยี งที่จะให้

ร่วมมือกับครู ครทู ุกกิจกรรม เกือบครบทกุ ร่วมมอื เป็น ความร่วมมอื

กจิ กรรม ครงั้ คราว

๓.ความต้ังใจใน ทางานครบทกุ งาน ทางานครบทกุ งาน ทางานที่รับ ไม่ทางานทรี่ บั

การทางาน ที่รบั มอบหมาย ท่ีรบั มอบหมาย มอบหมายเป็น มอบหมาย

(กิจกรรม) อยา่ งสวยงาม ส่วนใหญ่

ถกู ตอ้ ง

แบบประเมนิ คุณลักษณ์อนั พึงประสงค์

คาช้ีแจง : ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนแล้วขดี √ ลงในช่องว่างทตี่ รงกบั ระดบั

คะแนน

คุณลกั ษณะ รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ ำ้ น ๔๓๒ ๑

ตัวช้วี ัดที่ ๑.๔เคารพ ๑. ยืนตรงเมอื่ ไดย้ ินเพลงสรรเสรญิ พระบารมี

เทดิ ทนู สถาบันพระ ๒. รอ้ งเพลงสรรเสรญิ พระบารมไี ด้ถูกต้อง

มหากษตั ิรย์

๑.๔.๒ แสดงความ ๓. อธบิ ายความสาคญั ของเพลงสรรเสรญิ พระบารมไี ด้
สานกึ ในพระมหา

กรณุ าธคิ ณุ ของ

พระมหากษตั ริย์ ๔. รคู้ วามหมายและปฏบิ ตั ติ นต่อพระบรมฉายาลกั ษณไ์ ด้
๑.๔.๓ แสดงออกซงึ่ อยา่ งถกู ตอ้ ง
ความจงรกั ภักดตี ่อ

สถาบัน

พระมหากษตั รยิ ์

แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพ่ือสรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สัญลักษณ์ความเป็นไทย
แนวการจดั การเรียนรูป้ ระวตั ศิ าสตรเ์ พอ่ื สร้างสำนึกความเป็นไทย : สัญลกั ษณ์ความเปน็ ไทย

๑๒๘

ตวั อยำ่ ง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓
รำ่ งแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๖ รหสั วิชา.....................
จานวน ๕ ชัว่ โมง
กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม จานวน ๕ ชว่ั โมง
รายวิชาประวัตศิ าสตร์
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ สญั ลกั ษณ์ของชาตไิ ทย
หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ เร่อื ง สญั ลกั ษณ์ของชาติไทย

๑. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสาคัญของเวลา และยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์สามารถ
ใช้วธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์มาวเิ คราะหเ์ หตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งเปน็ ระบบ
ตัวช้วี ดั ม ๓/๒ ใช้วธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเร่ืองราวต่าง ๆ ท่ีน่าสนใจ
มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภมู ิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจ
และธารงความเป็นไทย
ตวั ชีว้ ดั ม.๓/๒ วเิ คราะหป์ ัจจยั ท่สี ง่ ผลต่อความมั่นคงและความเจรญิ รุง่ เรืองของไทยในสมัย
รัตนโกสนิ ทร์
ม.๓/๓ วิเคราะห์ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ และอิทธิพลต่อ
การพัฒนาชาติไทย
ม.๓/๔ วเิ คราะหบ์ ทบาทของไทยในสมัยในสมัยประชาธปิ ไตย

๒. สำระสำคัญ

สัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไทยอาจอยู่ในองค์ประกอบของศิลปกรรม และวัตถุต่าง ๆ
สัญลักษณ์ท่ีได้ยอมรับในสากล คือ ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย ส่วนเพลง
สรรเสริญพระบารมี พระบรมฉายาลักษณ์ และพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระบรมราชินีนาถ นับเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็น
สัญลกั ษณ์ที่ใครจะล่วงละเมิดไม่ได้ คนไทยจึงตอ้ งปฏิบัตดิ ้วยความเคารพดว้ ยความภาคภูมใิ จ

๓. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้
๑. สร้างความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองสัญลักษณ์ความเปน็ ไทย ทั้งจากธงชาติไทย และเพลง

ชาติไทย รวมทั้งสัญลักษณอ์ น่ื ๆ ท่เี ราควรอนุรักษ์ และสืบสานความเปน็ ไทยสืบตอ่ ไป
๒.ปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ ตามขนบธรรมเนียมประเพณี

วฒั นธรรมไทย และสามารถสร้างความเข้าใจอันดีท่ถี ูกต้องให้กับผู้อืน่ ได้

แนแวนกวากราจรัดจกดั ากราเรรเยี รนียรนปู้ รรปู้ ะรวะัตวศิตั าศิ สาตสรต์เพร์เื่อพสอื่ รส้ารงา้ สงาสนำึกนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สัญสญั ลักลษักณษณ์ควค์ าวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย

๑๒๙

๓. มีจิตสานึกและความภูมิใจในความเป็นไทย โดยแสดงผ่านทางสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น
ธงชาติและเพลงชาติไทยในการเป็นตัวแทนของความเป็นชาติไทยที่มีเอกราชและวัฒนธรรมเป็น
เอกลกั ษณแ์ ละไดร้ ับการยกยอ่ งจากนานาชาตทิ ั่วโลก

๔. สำระกำรเรียนรู้
๔.๑ ความเป็นไทย
ประเพณไี ทย
วัฒนธรรมไทย
๔.๒ สญั ลกั ษณ์ของชาตไิ ทย
ธงชาติและเพลงชาติไทย
๔.๓ สถาบันพระมหากษัตรยิ ์
เพลงสรรเสริญพระบารมี พระบรมฉายาลักษณห์ รอื พระบรมสาทสิ ลกั ษณ์
พระราชกรณยี กิจของพระมหากษตั รยิ ์ไทย

๕. ทกั ษะ/กระบวนกำร
๕.๑ ทักษะการอ่าน
๕.๒ ทกั ษะการเขียน
๕.๓ ทกั ษะการสืบค้นข้อมลู
๕.๔ ทักษะการมเี หตผุ ล
๕.๕ ทักษะการนาเสนอข้อมูล
๕.๖ กระบวนการกลมุ่

๖. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๖.๑ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๖.๒ รกั ความเปน็ ไทย
๖.๓ ใผ่เรยี นรู้
๖.๔ มุ่งม่นั ในการทางาน

๗. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
๗.๑ สมรรถนะด้านการสอื่ สาร
๗.๒ สมรรถนะดา้ นการคิดวิเคราะห์

๘. หลกั ฐำนกำรเรยี นรู้
๘.๑ ชน้ิ งำน
๑) รายงานการสืบค้นเร่ือง ความเปน็ ไทย

แนแนวกวการาจรดัจัดกการาเรรเยีรยีนนรปู้รูป้ระรวะัตวัตศิ ศิาสาสตตร์เรพ์เพือ่ ่ือสสรา้รง้างสสานำนกึ ึกคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสัญัญลลักกัษษณณค์ ค์วาวมามเปเป็น็นไทไทยย

๑๓๐

๒) รายงานการสบื คน้ เรอ่ื ง ววิ ัฒนาการของธงชาติไทย
๓) แผ่นพบั ประชาสมั พนั ธ์และรณรงค์ เร่อื งธงชาตไิ ทยและเพลงชาติไทย
๔) นทิ รรศการสานึกในพระมหากรุณาธิคณุ ในองค์พระมหากษตั รยิ ์ไทย สมัยกรงุ รัตนโกสินทร์
๕) รายงานการสืบค้น เรื่องวิวัฒนาการของเพลงสรรเสริญพระบารมี

๘.๒ ภำระงำน
๑) ให้นักเรยี นทาเส้นเวลาของวิวฒั นาการของธงชาตไิ ทย
๒) ใหน้ ักเรียนออกแบบแผ่นพบั ประชาสัมพนั ธแ์ ละรณรงค์ใหเ้ ยาวชนไทยเห็นความสาคัญ
ของธงชาตไิ ทยและเพลงชาตไิ ทย
๓) ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นในประเด็นการทาความเคารพต่อพระบรมฉายาลักษณ์
พระบรมสาทิสลกั ษณ์และเพลงสรรเสรญิ พระบารมี
๔) ใหน้ กั เรียนหาแนวทางในการส่งเสริมใหค้ นไทยแสดงความจงรกั ภกั ดีต่อสถาบัน
พระมหากษัตริย์

๙. กำรวดั และกำรประเมนิ

เปา้ หมาย วิธีวดั เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน
แบบประเมินผลงาน
ความรู้ ๑.ผลงานนักเรียนมี
๑.แบบประเมนิ คณุ ภาพระดบั ดีข้นึ ไป
อธบิ ายความหมาย การสอบถาม พฤติกรรมที่
แสดงออกเมื่อมี นักเรียนสามารถร้อง
คุณค่าและ การตรวจผลงาน เหตกุ ารณ์ การร้อง เพลงชาตไิ ทยได้อย่าง
เพลงชาติ การเคารพ ถูกต้อง ทง้ั คารอ้ ง
ความสาคัญของความ ธงชาติ การเคารพ ทานองและมีความ
ไพเราะ ในระดบั ดขี ้นึ ไป
เป็นไทยในสังคมไทย ๑.นักเรยี นมีพฤติกรรม
การแสดงออกตอ่ การ
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ยืนตรงเคารพธงชาติ
และรอ้ งเพลงชาติ เพลง
2. วเิ คราะห์และ การตรวจสอบ สรรเสริญพระบารมี อยู่
ในระดบั ดีขน้ึ ไป
ความสาคัญของ รายการ

สัญลักษณ์ความเป็น

ไทย โดยวิธกี ารทาง

ประวัตศิ าสตร์

2. ตระหนักใน การสงั เกตพฤติกรรม

ความสาคญั ของ การตรวจผลงาน

สญั ลกั ษณค์ วามเป็น

ไทย

แนแวนกวากราจรัดจกัดากราเรรเียรนยี รนปู้ รรปู้ ะรวะตั วศิัตาิศสาตสรต์เพรเ์ ่อืพสอื่ รสา้ รงา้ สงาสนำกึนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สัญสญั ลกัลษักณษณค์ วค์ าวมาเมปเ็นปไ็นทไยทย

๑๓๑

เป้าหมาย วิธีวดั เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน

พระบรมฉายาลักษณ์ ๒.ผลงานนักเรยี นมี

และเพลงสรรเสริญ คณุ ภาพระดับดีขน้ึ ไป

พระบารมี

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

๑) รักชาติ ศาสน์ การตรวจสอบ/การ แบบบนั ทกึ ๑.ยนื ตรงเคารพธงชาติ

กษัตรยิ ์ สงั เกตการปฏิบตั ติ น พฤติกรรมของ รอ้ งเพลงชาติและ

ของนักเรียนเม่ือได้ นกั เรยี นเป็น อธบิ ายความหมายของ

ยินเพลงชาติไทย รายบคุ คล เพลงชาตไิ ด้ถูกต้องทุก

คน

๒.เข้าร่วมกิจกรรมที่

เกย่ี วกบั

พระมหากษัตรยิ ์ตามท่ี

โรงเรียนและชุมชนจัด

ขึ้นทกุ ครง้ั

๖.๒ รักความเปน็ ไทย

๖.๓ ใผเ่ รยี นรู้

๖ .๔ มุ่ ง ม่ั น ใ น ก า ร

ทางาน

ด้านสมรรถนะทีส่ าคญั ของผ้เู รียน

๑) การคิด การสังเกตพฤติกรรม แบบประเมิน นักเรียนผา่ นการ

คุณภาพ ประเมินในระดับดีขน้ึ

ไปทุกคน

๒) การส่ือสาร การสังเกตพฤติกรรม แบบประเมิน นกั เรยี นผ่านการ

คุณภาพ ประเมนิ ในระดับดีข้ึน

ไปทุกคน

๓) การใช้เทคโนโลยี การสังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ นักเรยี นผา่ นการ

คุณภาพ ประเมินในระดับดีข้ึน

ไปทุกคน

แนแนวกวการาจรัดจดักการาเรรเียรียนนรปู้รปู้ระรวะตัวตัศิ ิศาสาสตตร์เรพ์เพือ่ ือ่สสรา้รง้างสสานำนกึ กึคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสัญญั ลลักกัษษณณค์ ค์วาวมามเปเปน็ ็นไทไทยย

๑๓๒

๑๐. กิจกรรมกำรเรยี นรู้
ชวั่ โมงท่ี ๑ – ๒ เรื่องควำมเป็นไทย

๑. กระตุ้นควำมสนใจจำกนักเรียนด้วยกิจกรรม “คิดจำกภำพ” โดยมีเป้าหมาย เพ่ือให้

นักเรียนเข้าใจเก่ียวกับสภาพปัญหาของความเป็นไทยของสังคมปัจจุบัน (ข้อ ๑-๒) ครูนาตัวอย่างภาพ

เหตุการณ์จากหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ เพ่ือให้นักเรียนเห็นแบบอย่างการอธิบายภาพท่ีดีว่า ควรระบุ
ให้ชัดเจนวา่ ภาพอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ และสาคญั อยา่ งไร

ตัวอย่างครูอธิบายภาพเหตกุ ารณส์ าคญั ท่ีเกิดในสมยั
รัตนโกสินทร์

ใหน้ ักเรยี นฟัง ตามประเด็น
ภาพอะไร ท่ีไหน เมื่อไหร่ และสาคัญอย่างไร

๑.๑ ครูนาภาพที่แสดงพฤติกรรมของคนในสังคมไทย ให้นักเรียนพิจารณาและอธิบายภาพ

ตามตัวอย่าง ท้ังน้ีครูควรใช้คาถามกระตุ้นให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ด้วยเป้าหมายที่
ต้องการใหค้ ดิ เช่อื มโยงถึงสถานการณ์ในสังคมไทยทีเ่ กี่ยวกบั ความเปน็ ไทยในปัจจบุ ัน เช่น

๑) ภาพผู้คนแต่งกายในสถานที่ต่าง ๆ เช่น หน้าโรงภาพยนตร์ ในวัดใน
พระบรมมหาราชวัง ฯลฯ (ท้ังเหมาะสม และไม่เหมาะสม)

๒) ภาพการแสดงความเคารพของคนไทยในสถานการณ์ต่าง ๆ ระหว่างเด็ก ผู้ใหญ่
นักเรียนกับครู ชาวพุทธกับศาสนสถาน ศาสนวัตถุ ศาสนบุคคล (อาจมีภาพการทาความเคารพของ
คนไทยกับศาสนาอื่น ๆ ท่ีตนนับถือด้วย โดยเฉพาะในพ้ืนท่ีที่มีผู้นับถือศาสนาอื่นเป็นจานวนมาก)
ชาวไทยกับการเคารพสญั ลักษณข์ องชาติ เชน่ ธงชาตแิ ละเพลงชาตไิ ทย ชาวไทยกับการเคารพสัญลักษณ์
ของพระมหากษัตริย์ เช่น เพลงสรรเสริญพระบารมี พระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์
ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชินีนาถ

๓) ภาพการเข้าร่วมกิจกรรมในประเพณีไทย เช่น วันสงกรานต์ วันลอยกระทง
การแห่เทียนเข้าพรรษา วันปีใหม่ กิจกรรมตามความคิด ความเช่ือ เช่น การแห่นางแมว กิจกรรม
ในท้องถ่นิ เชน่ ผตี าโขน

๔) ภาพชาวต่างชาติในแหล่งท่องเท่ียวทางวัฒนธรรมไทย หรือเข้าร่วมในกิจกรรม
ประเพณี การรับประทานอาหารไทย การนวดไทย

แนแวนกวากราจรดั จกดั ากราเรรเยี รนยี รนปู้ รร้ปู ะรวะัตวศิตั าศิ สาตสรต์เพรเ์ ่ือพสอื่ รสา้ รงา้ สงาสนำึกนคึกวคาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย: :สญัสญั ลักลษกั ณษณค์ ว์คาวมาเมปเน็ปไน็ ทไยทย

๑๓๓

๑.๒ ครูนาภาพท้ังหมดติดบนกระดานหรือบอร์ด แล้วให้นักเรียนช่วยกันสรุปว่า ถ้าจะ

อธิบายภาพท้ังหมดรวมกันด้วยข้อความสั้น ๆ ควรเป็นอย่างไร โดยครูพยายามช่วยนักเรียนใช้คาว่า
“สังคมไทย, วัฒนธรรมไทย, ความเป็นไทย” ในการบรรยายภาพ

๒. สรำ้ งควำมตระหนักในควำมสำคัญในเร่ืองทเี่ รียนด้วยกิจกรรม “วพิ ำกษ์ สังคมไทย” ใน
ปัจจุบันท่ีเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมไทย โดยครูต้ังคาถามให้นักเรียนช่วยกันคิดและแสดงความคิดเห็นว่า
เป็นอย่างไร เพราะเหตุใด (สาเหตุอาจมาจากปจั จัยทางเศรษฐกิจ ปัจจยั ทางสังคม เชน่ การเลยี นแบบ
ดาราหรือชาวต่างชาติหรืออื่น ๆ) วัฒนธรรมไทยใดท่ีต่างชาติยกย่อง สมญาของชาติไทยท่ีต่างชาติยก
ย่องไว้ (เช่น สยามเมืองย้ิม) สะท้อนแนวคิดเก่ียวกับความเป็นไทยอย่างไร วัฒนธรรมไทยใดที่เราควร
อนุรกั ษ์ และสืบสานตอ่ ไป

ที่สาคัญคือ การใช้คาถามเพื่อให้นาไปสู่การวิพากษ์ว่า อะไรคือความเป็นไทยท่ีเราควร
ภาคภูมิใจ และควรธารง “ความเป็นไทยสืบต่อไป” เพ่ือให้นักเรียนเชื่อมโยงกับวิถีการดาเนินชีวิตของ
คนไทย ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย ดินแดนไทยที่บรรพบุรุษได้ปกป้องจนถึงปัจจุบัน สถาบัน
พระมหากษตั รยิ ท์ มี่ คี วามสาคัญตอ่ สังคมไทย ฯลฯ

๒.๑ ครูสร้างแผนผังความคิดสะท้อนความเป็นไทยบนกระดานดา ตามข้อมูลท่ีนักเรียนคิด
และวพิ ากษ์วิจารณ์ไว้ เชน่

วถิ ีไทย ภำษำไทย ศลิ ปกรรมไทย

- มารยาทไทยทั้งทางกาย ควำมเปน็ ไทย
วาจา ทัง้ ต่อสถานท่ีและ
บุคคล
- ความกตญั ญูกตเวที
- การชว่ ยเหลือเก้ือกูล

ประเพณไี ทย

แนแนวกวการาจรดัจัดกการาเรรเยีรียนนรปู้ร้ปูระรวะตัวัตศิ ิศาสาสตตร์เรพ์เพือ่ ่อืสสร้ารง้างสสานำนึกึกคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสญั ัญลลักกัษษณณ์คค์วาวมามเปเป็น็นไทไทยย

๑๓๔

๒.๒ ครแู บ่งกลมุ่ ให้นกั เรยี นสืบคน้ เรอ่ื ง “ความเป็นไทย” ในสังคมไทยดว้ ยการสอบถาม การ

สังเกต การศกึ ษาจากเอกสารเพิม่ เติมในประเดน็ ดังนี้
๑) แนวความคดิ ในเรอื่ ง “ความเปน็ ไทยของคนไทยในปจั จบุ นั ” หมายถงึ อะไรบ้าง
๒) สภาพปจั จุบนั และปัญหาของความเป็นไทย เปน็ อยา่ งไร
๓) ความเป็นไทยมีประโยชน์หรอื คณุ คา่ ต่อสังคมไทยหรือไม่ อยา่ งไร
๔) แนวทางการอนุรกั ษห์ รือสืบสานความเป็นไทยควรเป็นอยา่ งไร

๒.๓ ครูให้แต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานการสืบค้น จากน้ันจึงเปิดโอกาสให้นักเรียนอภิปราย

เพื่อแสดงความคิดเห็น (เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย รวมทั้งเพิ่มเติม) ครูเช่ือมโยงและเพ่ิมเติมเก่ียวกับ
ปัจจัยทางธรรมชาติและทางสังคมท่ที าให้เกิด “ความเปน็ ไทยในสังคมไทย” ในปจั จุบนั เช่น ปัจจยั ด้ำน
ท่ีตั้ง ทาให้ประเทศรับและผสมผสานวัฒนธรรมจากชาติต่าง ๆ ท้ังตะวันตกและตะวันออก กำรนับถือ
พุทธศำสนำ ทาให้เกิดประเพณีและวัฒนธรรมทางศาสนา ควำมอุดมสมบูรณ์ของทรัพยำกรธรรมชำติ
ทาใหค้ นไม่มีความเอ้ือเฟื้อ ชว่ ยเหลอื กนั ) คณุ ค่าของความเป็นไทยท่ีมีต่อสังคมและประเทศชาติ รวมทงั้
แนวทางการอนุรกั ษแ์ ละสืบสานต่อไป

ชวั่ โมงที่ ๓-๔ เรื่องสญั ลกั ษณ์ของชำติไทย

ธงชำติและเพลงชำติไทย
๓. ครนู าภาพสัญลกั ษณส์ ากล เช่น เคร่อื งหมายทางคณิตศาสตร์ เครอ่ื งหมายในแผนท่ี

เครอ่ื งหมายจราจร ใหน้ กั เรยี นบอกวา่ เคร่ืองหมายเหล่านีแ้ ทนอะไร เพ่ืออธบิ ายเชอื่ มโยงความหมาย
ของคาวา่ สญั ลกั ษณ์

๓.๑ ครนู าภาพทส่ี ามารถเป็นสัญลกั ษณท์ ่ีเชื่อมโยงจิตสานึก ความเปน็ ชาติไทยได้ และ
ให้นกั เรียนตอบวา่ แต่ละภาพเป็นสัญลกั ษณแ์ ทนความหมายใด สาคญั อย่างไร

๑) พระบรมราชานสุ าวรียพ์ ระมหากษตั รยิ ์ในอดีต
๒) อนุสาวรยี บ์ รรพบุรษุ ไทยในอดีต
๓) ธงฉพั พรรณรังสี ธงธรรมจักร
๔) พระบรมฉายาลักษณ์ และพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเดจ็ พระจาอยู่หัว

และพระบรมราชินีนาถ
๕) ธงชาตไิ ทย (ช่ือเพลงชาตไิ ทย ช่อื เพลงสรรเสรญิ พระบารม)ี
๓.๒ ครใู ชค้ าถามเพ่ือให้เด็กได้เกดิ ความเข้าใจท่ีถกู ต้อง วา่ ธงชาติและเพลงชาติเป็น
สัญลักษณข์ องประเทศทุกประเทศและแสดงความเคารพด้วยการยนื ตรง เช่น
๑) ในการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ หรือการประชุมนานาชาติ ใช้สัญลักษณ์ใด
แทนความเป็นประเทศ (ธงชาติและเพลงชาติ) มีการใช้สัญลักษณ์อื่นแทนประเทศได้หรือไม่ (นักเรียน

แนแวนกวากราจรดั จกัดากราเรรเยี รนียรนปู้ รรปู้ ะรวะตั วศิตั าิศสาตสรต์เพรเ์ ือ่พสอื่ รส้ารงา้ สงาสนำกึนคึกวคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สญัสญั ลักลษกั ณษณ์ควค์ าวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย

๑๓๕

อาจตอบว่า การแต่งกายประจาชาติ ครูอาจยกตัวอย่างการแต่งกายของชาวมาเลเซีย ชาวบรูไน
ชาวอินโดนีเซียที่ไม่แตกต่างกัน) ครูสรุปว่า ในทางสากล ธงชาติและเพลงชาติเปน็ สญั ลักษณ์ความเปน็
ประเทศ

ครถู ามต่อวา่ การทาความเคารพธงชาติและเพลงชาติของทุกประเทศทากนั อย่างไร (ยืนตรง
ด้วยอาการสารวม) หากไมป่ ฏิบตั จิ ะเป็นอยา่ งไร (.............) ครูเพ่มิ เตมิ ดว้ ยวา่ ถ้าหากเราไม่ปฏิบตั ิ
เราอาจจะได้รบั การดูถูก เหยียดหยามว่าไมร่ ้จู ักมารยาทที่พงึ ปฏบิ ัติต่อกนั

๒) นกั เรียนควรปฏิบัติอยา่ งไรต่อธงชาติไทยและเพลงชาติไทย เพราะเหตุใด
๓) โดยท่ัวไปเราแสดงความเคารพธงชาติและเพลงชาติไทย ในโอกาสใดบ้าง (ตอน
เช้าประมาณ ๐๘.๐๐ น. และตอนเย็นเวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น.) และเพราะเหตุใด (นักเรียนอาจตอบ
ตามความเข้าใจของนกั เรยี น) ครูอธิบายเชอ่ื มโยงถึงนโยบายของรฐั บาลและแนวปฏิบัติที่ถกู ตอ้ ง
๔. ครจู ัดกิจกรรมเพ่ือให้ความรู้ เร่ือง ววิ ัฒนาการของธงชาติไทย บอกความสาคัญของธงไทยใน
สมัยโบราณ สาเหตุการปรับเปลี่ยนรูปแบบของธงในแต่ละครั้ง จนถึงสมัยรัชกาลที่ ๖ ที่ทรงปรับเปล่ียน
ธงเป็นธงไตรรงค์ ดว้ ยกจิ กรรมใดกจิ กรรมหน่งึ ดังนี้
๔.๑ แบ่งกล่มุ มอบหมายให้นักเรียนศกึ ษาความรู้ดว้ ยตนเอง แลว้ จัดทาสรปุ รายงานส่ง
พรอ้ มภาพของธงชาติไทยในแต่ละชว่ งเวลาตา่ งๆ หลงั จากน้ันครจู งึ ต้ังประเดน็ ใหน้ ักเรียนอภปิ ราย เพื่อ
ตรวจสอบความรู้ความเขา้ ใจของนักเรยี น เชน่
๑) ธงแดงเร่มิ ใชใ้ นสมัยใด เพ่ือกจิ การใด
๒) สาเหตุใดจึงมีการปรับเปลี่ยนธงแดง เป็นอยา่ งไรและเม่ือไร
๓) ใครเป็นผปู้ รบั เปล่ียนธงช้าง เปน็ ธงแถบสี เพราะเหตใุ ดจึงปรบั เปลยี่ น และใช้
แนวคดิ อยา่ งไร เก่ยี วข้องกับบทบาทฐานะของไทยในการเมืองระหว่างประเทศอย่างไร
๔) ธงไตรรงค์ หมายถึงอะไร สาคัญอยา่ งไร
๕) เหตุการณ์ใดท่ีแสดงถึงว่า ธงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์ถึงเอกราชประเทศไทย และ
ความเป็นเจา้ ของดนิ แดนไทย
๖) ธงชาตไิ ทยมีความสัมพนั ธก์ ับสงครามโลกครง้ั ที่ 1 อยา่ งไร
๔.๒ ครอู ธบิ ายววิ ัฒนาการของธงชาติไทย ประกอบกบั เสนอภาพธงชาติไทยต้ังแต่อดีตจนถึง
ปัจจุบัน และภาพเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องตามลาดับ จากนั้นจึงใช้คาถาม ข้อ ๑-๖ (ใน ๔.๑) ตรวจสอบ
ความรู้ของนกั เรยี น
๕. ภายหลังการทากิจกรรม ๔.๑ หรือ ๔.๒ (อยา่ งใดอย่างหนึ่ง) ครมู อบหมายให้นกั เรยี นทาเส้น
เวลา (time line) แสดงวิวัฒนาการของธงชาติไทย ครูเพิ่มเติมหรือเสนอแนะให้นักเรียนศึกษาเพิ่มเติม
เกี่ยวกบั กฎหมายที่เก่ยี วข้องกับธงชาตไิ ทย เพอ่ื ท่จี ะไดป้ ฏิบัติตนไดถ้ กู ตอ้ ง
๖. ครูให้นักเรียนร้องเพลงชาติไทย และแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเพลง และ
ความรู้สกึ ของการทาความเคารพธงชาติไทย และเพลงชาตไิ ทย

แนแนวกวการาจรดัจัดกการาเรรเยีรยีนนรปู้รปู้ระรวะตัวตัศิ ิศาสาสตตร์เรพ์เพ่อื ือ่สสร้ารงา้ งสสานำนึกกึคควาวมามเปเปน็ น็ไทไทยย::สสัญัญลลักกัษษณณ์คค์วาวมามเปเป็นน็ไทไทยย

๑๓๖

๗. มอบหมายให้นกั เรยี นออกแบบแผ่นพบั เพ่ือประชาสมั พันธแ์ ละรณรงค์ให้เยาวชนไทยเหน็
ความสาคัญของธงชาติไทย และเพลงชาติไทย

ช่วั โมงที่ ๕ –๖ เร่อื ง สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ในประเดน็ เพลงสรรเสริญพระบารมี
พระบรมฉายาลกั ษณ์ หรอื พระบรมสาทสิ ลักษณ์

๑. กิจกรรมหำข้อมูลมำอธิบำยภำพ ครูเชื่อมโยงเรอื่ งสญั ลกั ษณข์ องพระมหากษตั รยิ ์ไทยที่
เรียนมาแล้ว อาจด้วยการต้งั คาถาม หรอื นาภาพหลายๆ ภาพ มาให้นักเรียนพจิ ารณาว่าเปน็ สัญลกั ษณ์
ของพระมหากษตั ริย์ไทยหรือไม่

๑.๑ ครูนาภาพแสดงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ
พระบรมราชินีนาถ เพื่อใหน้ กั เรยี นหาขอ้ มลู วา่ ภาพเหล่านแ้ี สดงถึงบทบาทและพระราชกรณยี กิจของทั้ง
สองพระองค์ว่า ทรงทาอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ (ภาพท่นี ามาครอบคลุมพระราชกรณียกิจทางดา้ นการเมือง
การปกครอง การทานุบารุงพระศาสนา ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ โครงการพระราชดาริทั้งด้าน
การเกษตร ส่ิงแวดล้อม พระอัจฉริยภาพของพระองค์) โดยครูเลือกภาพท่ีเห็นวา่ นักเรียนอธิบายได้เพอ่ื
เปน็ ตัวอยา่ งการอธิบายภาพที่ถกู ต้อง

๑.๒ แบ่งกลุ่มนักเรียน และมอบหมายภาพ ในการสืบค้นข้อมูล เพ่ือบรรยายภาพตามท่ีครู
เสนอแนะเป็นตัวอย่าง (ครูควรระบุแหล่งท่ีมาของภาพ หรือจัดหาหรือระบุแหล่งค้นคว้าของข้อมูล
ดงั กลา่ วด้วย) โดยใหน้ กั เรียนเขยี นคาอธิบายภาพ ลงในกระดาแล้วเยบ็ ติดกบั ภาพนน้ั ท้ังน้คี รอู าจเปล่ียน
สือ่ จากรปู ภาพ เปน็ ส่ือภาพทีไ่ ดบ้ ันทกึ ในไฟล์ภาพแทน

๑.๓ ครูให้กลมุ่ นาเสนอผลงาน “การอธบิ ายภาพแสดงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชินีนาถ” แล้วให้นักเรียนจัดกลุ่มภาพแยกออกเป็นประเด็นตามพระราช
กรณียกิจ แล้วช่วยกันสรปุ ความสาคัญของพระมหากษัตริย์ไทยทีม่ ีต่อสังคมไทยที่ครอบคลมุ ทุกด้าน อัน
เปน็ ผลให้นานาประเทศและหนว่ ยงานต่างๆ ถวายรางวลั และพระเกยี รติคุณแกท่ ้งั สองพระองค์

๒. กจิ กรรมกำรแสดงออกถงึ ควำมจงรกั ภกั ดี เพื่อสานึกในพระมหากรณุ าธิคณุ ของ
พระมหากษัตริย์ไทยอาจทาได้หลายวธิ ี เช่น

๒.๑ ใหน้ ักเรยี นระดมความคิดเห็นว่า นกั เรยี นและปวงชนชาวไทยควรแสดงออกหรือปฏิบัติ
ตนอย่างไรท่ีจะแสดงถึงสานึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ จากน้ันให้นักเรียนนาข้อมูลไป
ออกแบบจดั นทิ รรศการ หรอื แผน่ พบั เพอื่ เผยแพร่ตอ่ ไป

๒.๒ ให้นักเรียนเขียนเรียงความ เพื่อแสดงถึงสานึกในพระกรุณาธิคุณดังกล่าว ครูอาจจัดให้
มกี ารคัดเลือกผลงานทีด่ ีเด่น แล้วประชาสมั พันธ์

๒.๓ แบ่งกลุ่มให้นักเรียนสืบค้นเกี่ยวกับการแสดงความเคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย
ในสถานการณต์ า่ งๆ และฝึกปฏบิ ัติใหถ้ กู ตอ้ ง

แนวการจัดการเรียนรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพ่อื สรา้ งสานึกความเปน็ ไทย : สญั ลกั ษณค์ วามเปน็ ไทย
แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพอ่ื สรา้ งสำนึกความเปน็ ไทย : สัญลักษณ์ความเป็นไทย

๑๓๗

๓. กจิ กรรมสรำ้ งควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ และควำมสำคญั ของเพลงสรรเสริญพระบำรมี ครู
อาจเลอื กวธิ ีการ ดงั น้ี

๓.๑ ทาเอกสาร “ใบความรู้” ใหน้ ักเรียนศึกษาดว้ ยตนเอง
๓.๒ ครูอธบิ ายเรื่องวิวฒั นาการและความสาคัญของเพลงสรรเสริญพระบารมีในบริบท
ภายในประเทศ และตา่ งประเทศ
๓.๓ มอบหมายใหน้ ักเรยี นสืบค้นความรู้
ท้งั นี้ครคู วรจัดกจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจสาระสาคัญดงั กล่าว ดว้ ยการตอบคาถามหรือ
แสดงความคิดเหน็ เชน่
๑. ทาไมเพลงสรรเสริญพระบารมี จงึ ใช้แทนเพลงชาติไทยในช่วงระยะเวลาหนึง่
๒. ทาไมเพลงสรรเสริญพระบารมี จึงใชท้ านองเพลงสากล
๓. เน้ือเพลงสรรเสรญิ พระบารมี มีความหมายอยา่ งไร
๔. กจิ กรรมสรา้ งความตระหนกั ในความสาคัญของการแสดงความเคารพต่อพระบรมฉายา
ลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ และเพลงสรรเสริญพระบารมี ด้วยการให้นกั เรียนเขยี นอธบิ ายแสดงความ
คิดเห็นว่า “เพราะเหตุใดจึงควรแสดงความเคารพต่อพระบรมฉายยาลกั ษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ และ
เพลงสรรเสริญพระบารมี” รวมทัง้ การหาแนวทางท่ีจะสง่ เสริมให้คนไทยร่วมแสดงความจงรักภักดี

สื่อ/แหลง่ เรียนรู้

๑) ธงชาติไทย(ธงไตรรงค)์ ธงชาติประเทศอาเซียน ธงกฬี าสี ธงประจาโรงเรียน
๒) ภาพธงแดง ภาพธงแดงมีวงจกั รตรงกลาง ภาพธงช้างเผอื ก ธง ๕ แถบ ๒ สี
๓) พระบรมฉายาลกั ษณ์พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว รัชกาลที่ ๙
๔) คลปิ วดี โิ อเกย่ี วกบั สถานการณ์ในการแสดงความเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติ
๕) คลปิ วีดิโอเพลงชาติไทย ท่ีเปิดเวลาเชา้ -เยน็ คอื ๐๘.๐๐ และ ๑๘.๐๐ น.
๖) แผนภูมเิ น้อื ร้องเพลงชาติไทย/ คลปิ เสียงเพลง
๗) แผนภมู ิเพลงไตรรงคธ์ งไทย/คลิปเสยี งเพลง
๘) แผนภูมเิ พลงสรรเสรญิ พระบารมี/คลิปเสียงเพลง
๙) ใบความรู้ เร่อื งธงชาติและเพลงชาติไทย เพลงสรรเสรญิ พระบารมี
๑๐) คลิปวีดิโอพระราชกรณียกจิ ของพระมหากษัตริย์ไทย สมยั กรุงรัตนโกสินทร์
๑๑) ภาพหรือคลิปวีดโิ อเก่ยี วกับ เหตกุ ารณส์ าคญั ๆที่เกดิ ขึ้นในสมัยรัตนโกสนิ ทร์

แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพ่อื สรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สญั ลกั ษณ์ความเปน็ ไทย
แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรเ์ พอื่ สร้างสำนกึ ความเปน็ ไทย : สัญลกั ษณ์ความเปน็ ไทย

๑๓๘

๑๒. บนั ทึกหลังสอน
๑๒.๑ ดำ้ นควำมรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………
๑๒.๒ ดำ้ นทักษะ/กระบวนกำร
……………………………………………………………………………………………………………………………………
๑๒.๓ ด้ำนคุณลักษณะอันพึงประสงค์
๑. รักชำติ ศำสน์ กษัตริย์
ตัวชวี้ ดั - พลเมอื งดีของชาติ
๑)นักเรยี นยนื ตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติและอธบิ ายความหมายของเพลงชาติได้ถูกตอ้ ง

จานวน……….คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ…………….
๒) ฯลฯ……………………………………………………….
ตวั ช้วี ัด- เคารพเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตริย์
๑) นกั เรยี นเข้ารว่ มกิจกรรมท่ีเกยี่ วกบั พระมหากษตั ริย์ตามที่โรงเรียนและชมุ ชนจัดข้นึ ทุกครงั้

จานวน……….คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ…………….
๒) ฯลฯ…………………………………………
๒. รกั ความเป็นไทย
………………………………………………………………………………………………………………………………
๓. ใผ่เรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………..
๔. มุ่งม่ันในการทางาน
……………………………………………………………………………………………………………………………..

12.4 ด้ำนสมรรถนะท่ีสำคัญของผเู้ รียน
๑) การคดิ
๒) การส่อื สาร

แนแวนกวากราจรดั จกัดากราเรรเียรนียรนปู้ รรู้ปะรวะัตวศิตั าิศสาตสรต์เพร์เอ่ืพส่ือรส้ารงา้ สงาสนำึกนคกึ วคาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย: :สญัสัญลกัลษักณษณ์คว์คาวมาเมปเน็ปไ็นทไยทย

๑๓๙

สถาบันพระมหากษตั ริย์ในสงั คมไทย

เกริน่ นำ : ทำไมจงึ ต้องเรียนเรื่องน้ี
สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันสูงสุดของคนในชาติ เป็นสถาบันที่แสดงให้เห็นความมี

เอกราชและความจงรักภักดี ซ่ึงในประเทศไทยนั้น สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ไทยมีประวตั ิความเปน็ มาอย่าง
ยาวนาน มัน่ คง ทรงปกครองประเทศไทยดว้ ยธรรมะและด้วยประโยชน์ของประชาชนเปน็ ทตี่ ง้ั เสมอมา ทา
ใหค้ นไทยผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ มีความจงรักภักดีย่ิงชีพและยอมสละชีพของตนแทนท่ีพระเจ้า
แผ่นดิน หรอื ไมย่ อมใหใ้ ครลว่ งเกนิ พระเจา้ แผน่ ดนิ ได้

ในประวัติศาสตร์ไทย ความภาคภูมิใจท่ีสาคัญท่ีสุดของคนไทยคือการมีพระเจ้าแผ่นดิน
ปกครองมาโดยตลอด ไม่มีขาดช่วงขาดตอน และเป็นพระเจ้าแผ่นดินท่ีทรงธรรมเป็นท่ีต้ัง ทรงเอา
พระราชหฤทัยใส่ความเป็นอยู่ของประชาชนเสมอกันสิ้น ทรงอานวยความสุขให้เกิดแก่ประชาชนโดยไม่
ทรงเห็นแก่เวลาส่วนพระองค์ พระราชกรณียกิจดังกล่าวส่งผลให้สถาบันพระมหากษัติรย์ไทยได้รับ
การยกย่องจากสังคมนานาชาติ ไม่เฉพาะแต่ประเทศเพ่ือนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้
ประเทศที่เจริญด้วย เทคโนโลยี และประเทศมหาอานาจต่างก็เชิดชูพระเกียรติยศเป็นที่ประจักษ์ทั่วกัน
ความภาคภูมิใจน้ีเป็นส่ิงที่คนไทยต้องตระหนักและหวนแหน ต้องเคารพเทิดทูน และปลูกฝังความรัก
สถาบนั พระมหากษัตรยิ ใ์ ห้เกดิ ขนึ้ ในใจของทุกคน

จุดมงุ่ หมำย : เป้ำหมำยของกำรจดั กำรเรียนรู้เรือ่ งน้ี
๑. เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ท้ังด้านแนวคิด

พระราชฐานะที่มีพัฒนาการต่อเนื่องมายาวนาน และบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยใน
ดา้ นการเมอื งการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมไทย

๒. ตระหนักในความสาคัญ และภูมใิ จในสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยที่มตี ่อสังคมไทย และมี
ความสานกึ ในพระมหากรุณาธิคุณดังกลา่ ว

๓. ปฏิบัติตนในการแสดงความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยได้ถูกต้องเหมาะสม
รวมท้ังเผยแพรแ่ นวคิดทถ่ี กู ต้อง เพ่ือปกป้องสถาบนั พระมหากษตั รยิ ไ์ ทยให้คงอยใู่ นสงั คมไทยสบื ต่อไป

ประเดน็ สำคญั ท่คี รคู วรรู้ พื้นฐำนควำมรู้ จุดเน้นที่ควรเช่ือมโยง และสิ่งทตี่ ้อง
สรำ้ งเสริมให้เกิดควำมภูมใิ จ

สถาบันพระมหากษัตริย์ในประเทศไทยมีพัฒนาการยาวนาน นับแต่ที่มีผู้คนมาอาศัยในดินแดน
สุวรรณภูมิและพัฒนาข้ึนเป็นบ้านเมือง มีศาสนา ความเชื่อจากอินเดียเข้ามาตามลาดับ ทาให้แนวคิด
เกี่ยวกบั พระมหากษัตริยข์ องไทยผูกพนั กบั แนวคดิ ของอนิ เดยี อยมู่ าก

แนแนวกวากราจรดัจกัดากราเรรเยีรียนนรู้ปรปู้ระรวะัตวัตศิ ศิาสาสตตรเ์รพ์เพื่อสื่อสร้ารงา้ สงสำนากึนคกึ ควาวมามเปเปน็ ไน็ ทไทยย::สสถาถบาบันพนั พระรมะมหหากาษกษตั ัตรยิริย์ใน์ใสนสังคงั มคมไทไทยย

๑๔๐

สถาบันพระมหากษัตริย์ประกอบด้วยคา ๒ คา คือ สถาบัน และพระมหากษัตริย์ คาว่าสถาบัน
น้ัน พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานปี พ.ศ.๒๕๔๒ ให้ความหมายว่า “ส่ิงซ่ึงคนในส่วนรวม คือ สังคม
จัดต้ังให้มีขึ้น เพราะเห็นประโยชน์ว่ามีความต้องการและจาเป็นแก่วิถีชีวิตของตน เช่น สถาบันครอบครัว
สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันการศึกษา สถาบันการเมือง สถาบัน การเงิน เป็นต้น”
หมายความว่าสถาบันเป็นสิง่ สาคญั ในสังคม เพราะมีหนา้ ท่ยี ึดเหนี่ยวคนในสงั คมใหม้ ีทิศทางใน การดาเนิน
ชีวิตไปในแบบเดียวกัน หรือมีความสุขเสมอกัน นอกจากน้ีสถาบันจะบังเกิดขึ้นได้ก็ด้วยคนในสังคมที่มี
ความเหน็ พร้องกนั ว่าจาเป็นต้องมี หรอื มแี ลว้ จะสามารถอานวยประโยชน์ให้บังเกดิ ขึน้ ได้

อีกคาหนึ่งที่มีความสาคัญ คือ คาว่าพระมหากษัตริย์ หรือคาอ่ืนท่ีเรียกกัน เช่น พระเจ้า
แผ่นดิน แม้ว่ารากฐานเดิมของคาน้ีจะมาจากอินเดียท่ีใช่ส่ือถึงวรรณะของคนในสังคมอินเดีย คนใน
วรรณะ ท่ี ๒ แห่งสังคมฮินดู ซ่ึงมีอยู่ ๔ วรรณะ ได้แก่ วรรณะพราหมณ์ วรรณะกษัตริย์ วรรณะแพศย์ และ
วรรณะศูทร. แต่คาว่ากษตั รยิ ์น้ีก็มีพืน้ ฐานคาสนั สกฤต “กฺษตรฺ ิย” ท่แี ปลวา่ ผปู้ อ้ งกันภัย ชาตินกั รบ ดังนั้น
ในความหมายเดิมจึงหมายถึงบุคคลผู้มีหน้าท่ีป้องกันข้าศึกและทาการรบหรือเป็นหันหน้าในการรบ
นอกจากน้ีคาว่ากษัตริย์ยังสื่อถึงคาว่าเกษตร หรือเขตท่ีแปลว่าพ้ืนท่ีเขตแดน แว่นแคว้นด้วย สรุปได้ว่า
ยังคงมีความหมายที่คล้ายคลงึ กนั

ความสาคัญของกษัตริย์หรือระบบที่เกิดข้ึนในสถาบันกษัตริย์นั้น อาจพิจารณาเห็นได้ว่าเป็น
ลักษณะการปกครองแบบลับดับขึ้น คือมีผู้ปกครองและผู้อยู่ใต้ปกครอง แต่สถาบันกษัตริย์จะสามารถ
บังคับดูแลผู้อยู่ใต้ปกครองหรือไม่ มิใช่อยู่ท่ีการใช้อานาจหรือการกดขี่ให้อยู่ภายใต้อานาจแต่เป็น
การยอมรับอานาจ สถานภาพ และบทบาทของกษัตริย์ที่นอกเหนือจากการรบหรือการต่อสู้เพื่อดินแดน
เพยี งอย่างเดียว และหากผู้ทอี่ ย่ใู ตบ้ ังคับบัญชา (ประชาชน) เห็นว่ากษตั ริยพ์ ระองคน์ ีส้ ามารถดูแลชวี ิตของ
ตนได้น้ันกจ็ ะมีความจงรกั ภักดีและยอมรบั อานาจหรือบทบาทนนั้ ๆ

คาสาคญั เก่ียวกับสถาบนั พระมหากษัตริย์ที่คนไทยควรตระหนกั รู้ คอื
กษัตริย์, เกษตร, เขต ย่อมมีความหมายโดยแรกว่านักรบหรือผู้ท่ีมีความสามารถใน

การต่อสู้ขยายดนิ แดน เปน็ นักรบผู้กลา้ หาญท่ีสามารถรวมจติ ใจของผคู้ นให้เปน็ หนึ่งเดยี วได้
พระเจ้ำแผ่นดิน คือ ความหมายท่ีว่ากษัตริย์พระองค์น้ันทรงครอบครองดินแดน และมี

พระราชอานาจเหนือดนิ แดนนัน้ ๆ
พระเจ้ำอยู่หัว หมายถึง การยอมรับสถานะภาพของพระเจ้าแผ่นดินว่าทรงเป็นประดุจ

พระพทุ ธเจ้า ของพทุ ธศาสนา
รำชธรรม เป็นธรรมะที่องค์พระเจ้าแผ่นดินทรงปฏิบัติ ซ่ึงแบ่งเป็น ๒ กลุ่ม คือ ธรรมะท่ี

ทรงปฏิบัติเพ่ือพระองค์เอง ให้ทรงอยู่ในศีล ธรรม คือ ทศพิธราชธรรม ๑๐ ประการ และกลุ่มที่ ๒ คือ
ธรรมะที่ทรงปฏิบัติเพ่ือความผาสุกของประชาชน เช่นจักรวรรดิวัตร ๑๒ ประการ ราชสังคหะวัตถุ ๔
ราชนีตธิ รรม ราชวจิ ารณธรรม เปน็ ตน้

แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพ่ือสรา้ งสานึกความเปน็ ไทย : สถาบันพระมหากษัตริย์ในสงั คมไทย
แนวการจัดการเรยี นรู้ประวตั ิศาสตร์เพอ่ื สร้างสำนกึ ความเป็นไทย : สถาบันพระมหากษัตริย์ในสงั คมไทย

๑๔๑

ควำมจงรักภักดี คือ สิ่งที่ประชาชนทั่วไปต้องตระหนักเป็นหน้าท่ีสาคัญ เพราะเป็นการ
แสดงให้เห็นว่ายอมรับและได้รับความสุขในการดารงชีวิตจากพระราชกรณียกิจท้ังปวงท่ีพระมหากษัตริย์
ทรงปฏิบัติ

พระปฐมบรมรำชโองกำร เป็นเสมือนคาสัญญาของพระมหากษัตริย์เม่ือแรกขึ้น
ครองราชย์ และพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จะทรงปฏิบัติตามพระราชโองการนั้น เพื่อประโยชน์ของ
มหาชน มิใช่เพือ่ พระองคเ์ อง

๑. พฒั นำกำรของสถำบัน
นับแต่อดีตท่ีผ่านมา สถาบันพระมหากษัตริยเ์ ป็นของประเทศของประชาชน ไม่ว่าผู้ใดก็ตาม

ย่อมสามารถอธิบายสถาบันพระมหากษัตริย์ของตนได้ ดังเช่นปรากฏหลักฐานในคู่มือทูตในรัชกาลสมเด็จ
พระนารายณ์มหาราชว่าพระมหากษัตริย์พระองค์แรกตัง้ ขน้ึ เม่ือ พ.ศ. ๑๓๐๐ เพราะฉะนัน้ หากนบั มาจนถึง
ปัจจุบนั นกี้ ็เป็นเวลาติดตอ่ มาถึง ๑, ๒๕๗ ปใี นปนี ้ี ซึ่งกเ็ ปน็ สิง่ ท่ีน่าภาคภมู ใิ จท่สี ดุ สาหรับประเทศ ของเรา

ในประเทศไทยแต่โบราณ เร่ืองของพระพุทธศาสนากับสถาบันพระมหากษัตริย์มี
ความเกี่ยวข้องกันอย่างลึกซ้ึง ก่อนหน้าท่ีเราจะรับพระพุทธศาสนาคร้ังสาคัญคือสมัยสุโขทัยโดย
พ่อขุนรามคาแหงมหาราช ที่ทรงรับพุทธศาสนามาจากลังกา พระพุทธศาสนาเข้ามาเป็นแม่บทใหญ่ใน
การดาเนินวิถีชีวิตในสังคมของรัฐสุโขทัย เราอาจพิจารณาว่าหากประชาชนต้องการมีผู้นาสูงสุด คือ
พระมหากษัตริย์แล้ว ผู้คนจะคิดเหน็ อย่างไรและรู้ถึงธรรมชาติของพระมหากษัตริย์พุทธวา่ เป็นอย่างไร ผม
คิดว่าในพุทธศาสนานิกายเถรวาทมีข้อมูลพร้อมอยู่ในพระไตรปิฎกซึ่งจะบรรจุเรื่องนี้ไว้ ดังในพระสูตร
ชื่อขัตติยาธิปปายสูตร ว่าด้วยความประสงค์ของคน ๖ จาพวกระบุว่า “ธรรมดากษัตริย์ท้ังหลายย่อม
ประสงค์โภคทรพั ย์ นยิ มปัญญา ม่ันใจในกาลังทหาร ต้องการในการไดแ้ ผ่นดิน มีความเป็นใหญ่ในที่สุด” น้ี
คือ ความเป็นธรรมชาติของพระมหากษัตริยต์ ้งั แตส่ มยั พุทธกาล

สาหรับพระสูตรช่ือจักกสูตรกล่าวถึงองค์คุณ ๕ ประการหรือเรียกว่าคุณสมบัติของ
พระมหากษัตริย์กาหนดว่าพระเจ้าจักรพรรดิในโลกนี้เป็นผู้ท่ีทรง “รู้ผล รู้เหตุ รู้ประมาณ รู้จักกาล รู้จัก
บริษัท” คือต้องรู้จักประชุมชนหรือที่ในปัจจุบันเรียกว่าเข้าถึงประชาชนทุกหมู่เหล่า เหล่านี้เป็นลักษณะ
ของพระมหากษัตรยิ ์ การท่ีพระจกั รพรรดิทรงรู้ประมาณนีย้ ังสบื ทอดมาจนถึงทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของ
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวรัชกาลปจั จบุ นั นน่ั เอง

ในพระสตู รชือ่ ราชสูตรระบุพระราชกิจหน้าท่ขี องพระมหากษัตรยิ ไ์ ว้ ๓ ประการคือ
๑) มหี น้าที่รกั ษาหรืออารักขา
๒) หน้าทปี่ ้องกัน และ
๓) หน้าทคี่ ้มุ ครองท่เี ปน็ ธรรม

แม้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงปฏิบัติในภาระท้ัง ๓ น้ีเช่นกัน พระราชภารกิจของ
พระมหากษัตริย์ท้ัง ๓ ประการนี้คือพระราชกรณียกิจหลัก ซ่ึงอาจมีเพ่ิมเติมหรือปรับเปล่ียนไป
อย่างไรก็แล้วแต่พระมหากษัตริย์พระองค์นั้นทรงกาหนดเพ่ิมเติมขึ้น เช่น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า

แนวการจดั การเรียนรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพ่ือสร้างสานึกความเปน็ ไทย : สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ในสังคมไทย
แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพ่อื สร้างสำนึกความเปน็ ไทย : สถาบนั พระมหากษตั ริย์ในสังคมไทย

๑๔๒

จุฬาโลกมหาราชทรงต้ังพระราชหฤทัยไว้ว่า “ต้ังใจจะอุปถัมภก ยอยกวรพุทธศาสนา ป้องกันขอบ

ขัณฑเสมา รักษาประชาชนแลมนตรี” หมายความว่ารัชกาลที่ ๑ ก็ยังมีพระราชดาริท่ีดารงอยู่ในเกณฑ์

ข้างต้น แนวทางน้ีไม่เคยเปลี่ยนเลยต้ังแต่ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไวใ้ นราชสูตรนั้น และเป็นการแสดงให้

เหน็ ว่ากอ่ นทส่ี ุโขทัยจะรบั คติกษัตรยิ ์พุทธเข้ามาคงจะต้องดูเหมือนกนั วา่ คุณลักษณะของพระมหากษัตริย์ท่ี

ดจี ะต้องประกอบด้วยสิ่งใดบา้ ง

ในสยามประเทศ อิทธิพลพราหมณ์ฮินดูมีบทบาทมากเช่นเดียวกับพุทธศาสนาส่วนอีก

อทิ ธพิ ลหน่งึ เป็นความเชือ่ พ้ืนถิ่นหรือพื้นบ้าน ทง้ั ๓ ปัจจยั น้จี ะผสมผสานกันเมอื่ ๓ สว่ นน้ีผสมกลมกลืนกนั

แล้วจะกลายเป็นระบบความเชื่อเก่ียวกับพระมหากษัตริย์ของสังคมไทย คือ พราหมณ์ พุทธ และพ้ืนถ่ิน

ของเราเอง ทางด้านพราหมณ์เป็นความเชื่อเร่ืองอวตารของพระเป็นเจ้าของศาสนาพราหมณ์ เช่นเรียก

พระรามาธิบดีคือการอวตารลงมาของพระวิษณุ หรือพระราเมศวรบ้าง ส่วนด้านพระพุทธศาสนาก็

เกิดความคิดและความเชอื่ วา่ พระมหากษัตรยิ ์จะทรงเป็นอะไรได้บ้าง ทรงเป็นเทพ หรือเป็นพระโพธสิ ตั วก์ ็

ได้ ในคมั ภีรพ์ ระพุทธศาสนากลา่ วไว้ว่า พระโพธิสตั ว์จะลงมาเป็นพระจักรพรรดิก็ได้ เปน็ พระมหากษัตริย์ก็

ได้ บางครง้ั พระโพธสิ ตั วก์ ไ็ ปเสวยพระชาตเิ ปน็ พระอนิ ทร์ถงึ ๓๖ ครัง้ บางพระสตู รไปเปน็ ท้าวมหาพรหม ๗

คร้ัง พระโพธิสัตว์เองเคยเสวยพระชาติเป็นพราหมณ์ ฤๅษี ดาบส มาก่อนหลายครั้งเช่นกัน คร้ันเป็น พระ

โพธสิ ตั ว์ กจ็ ะมงุ่ ให้ตรัสรูเ้ ป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล

สมัยสุโขทยั ในจารึกหลักท่ี ๑ เปน็ ตน้ มคี าวา่ “พระขพุงผี” ซงึ่ เปน็ เทวดาสาคัญของพื้นถ่ินท่ี

นับถือกันอย่างสูง แต่ถ้าหากเป็นเทวดาทางพระพุทธศาสนาก็จะต้องเป็นเหล่าเทวดาบนสวรรค์บ้าง ใน

พรหมโลกบ้าง ในที่น้ีจะกล่าวถึงแนวคิดท่ีสาคัญอีกประการหน่ึง คือเทวะตามคติของพระพุทธศาสนาซึ่งมี

๓ ประเภทคือสมมติเทพ หมายถึงพระมหากษัตริย์ถือเป็นเทวดาท่ีสมมติขึ้นให้เหมือนเป็นเทวะหรือที่

เรียกวา่ เปน็ มนุษยเ์ ทพ และรวมถงึ พระราชเทวี พระราชโอรสธดิ า ก็นับเปน็ สมมติเทพด้วย ในรัชกาลพระ

บาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราชให้ทรงรวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ แสดงวา่ ต้งั แต่ หมอ่ มเจ้า

ขน้ึ ไปเปน็ สมมตเิ ทพ เพราะเจ้าคือเทวดานัน่ เอง ประเภทท่ี ๒ อุปบัตเิ ทพคอื เทพแทอ้ ยู่บนสวรรค์ เชน่ พวก

พระอินทร์ พระพรหม พระอิศวร พระนารายณ์หรือว่าเทวดาอื่น ๆ เป็นอุปบัติเทพ ประเภทสุดท้ายคือวิ

สุทธิเทพ คือเทพที่ทรงความบริสุทธ์ิหมายถึงพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระขีณาสพ พระปัจเจก

พุทธ การจาแนกประเภทเทวดาไว้ ๓ ชนิดน้ี จึงเป็นเหตุผลว่าทาไมเราจึงใช้ราชาศัพท์กับ ท้ังทาง

สถาบนั พระมหากษัตริย์ พระเจา้ แผ่นดินกใ็ ช้ราชาศพั ท์ อปุ บตั เิ ทพเชน่ พระอินทร์ พระพรหม พระอศิ วร

พระนารายณ์ กใ็ ช้ราชาศัพท์ วสิ ุทธเิ ทพที่เรานับถือหรือให้ความยกย่อง ก็ใชร้ าชาศัพทเ์ ช่นกันอาทิ สมเด็จ

พระสัมมาสมั พุทธเจ้า ท้ังนีเ้ พราะเทวะหรือเทวดา เป็นส่งิ ที่เราให้ความเคารพสกั การะอยา่ งสูงนัน่ เอง

ในประเทศไทยนับแต่สมัยสุโขทัยน้ัน ความสัมพันธ์ระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชน

และพระพุทธศาสนามีความใกล้ชิดกันมากกว่าก่อน ปรากฏข้อความในศิลาจารึกหลักท่ี ๑ ของ

พ่อขุนรามคาแหงมหาราช ซึ่งเป็นท่ีทราบกันดีอยู่แลว้ เปน็ ส่วนใหญ่ แต่สิ่งท่ีมีความสาคญั และมักจะไม่ค่อย

กล่าวถึงกันคือวัฒนธรรมการปกครองในระบบกษัตริย์ของสุโขทัยนั้นเป็นการปกครองโดยมีมนุษยธรรม

จารกึ สโุ ขทัยหลักท่ี ๓๘ วัดพระมหาธาตวุ ัดสระศรี พทุ ธศกั ราช ๑๙๔๐ ว่าพระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย

แนวการจดั การเรยี นรปู้ ระวัตศิ าสตร์เพอ่ื สรา้ งสานึกความเปน็ ไทย : สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ในสังคมไทย
แนวการจัดการเรยี นรปู้ ระวัติศาสตรเ์ พ่ือสรา้ งสำนึกความเปน็ ไทย : สถาบนั พระมหากษัตริยใ์ นสงั คมไทย

๑๔๓

“จกั ใคร่ขดั พระราชสีมานีด้ งั มนุษยธรรม (อยา่ ง) พระยารามราช” หมายความว่า กษัตรยิ ์ในกรุงสุโขทยั ทรง
มุ่งปกครองบ้านเมืองและประชาชนอยา่ งมีมนษุ ยธรรมเชน่ เดียวกับพ่อขุนรามคาแหงมหาราช ความหมาย
ของมนุษยธรรมซึ่งกษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัยต้องเอาพระทัยใส่คือไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินตามท่ีไตรภูมิพระร่วง
กล่าวไว้ว่า “รู้จักผิดแลชอบ แลรู้จักที่อันเป็นบาปแลบุญ แลรู้จักประโยชน์ในชั่วนี้ชั่วหน้า แลรู้จักกลัว แก่
บาปแลละอายแก่บาป รู้จักว่ายากว่าง่าย แลรู้รักพี่รักน้อง แลรู้เอ็นดูกรุณาต่อผู้เข็ญใจ แลรู้ยาเกรง พ่อแม่
ผู้เถ้าผู้แก่ สมณพราหมณาจารย์อันอยู่ในสิกขาบทของพระพุทธิเจ้าทุกเม่ือ และรู้จักคุณแก้ว ๓ ประการ”
อันแสดงให้เหน็ ความผูกพันระหว่างกษัตริย์ในฐานะของบิดาบุตร ในการสอนให้ประชาชน ทาความดี ให้
รจู้ ักบาปบุญคุณโทษและศีลธรรมอน่ื ๆ ลกั ษณะของสงั คมได้รบั อทิ ธิพลของพระพทุ ธศาสนาเช่นน้ียังปรากฏ
ในดนิ แดนลา้ นนาและบรเิ วณใกลเ้ คยี งอีกดว้ ย

ต่อมา สถาบันพระมหากษัตริย์สุโขทัยในยุคกลางและปลายสังเกตได้ว่าพระมหากษัตริย์
สุโขทัยนับตั้งแต่พระมหาธรรมราชาลิไทย ทุกพระองค์ทรงเป็นธรรมราชาเป็นพระมหากษัตริย์ท่ีไม่ใช้
อาชญาและอาวุธในการปกครอง ซึง่ เปน็ ทฤษฎีธรรมรำชำซ่ึงปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกว่าพระจักรพรรดิที่
ถือธรรมทรงธรรมดีแล้วก็เป็นธรรมราชา ไม่ใช้อาชญาหรืออาวุธแต่ปกครองโดยธรรมใช้ธรรมเป็นที่ตั้ง
พ่อขุนรามคาแหงมหาราชประทับบนพระแท่นมนังคศิลาบาตรแล้วอบรมขุนนางและประชาชน ซึ่งต่อมา
พระยาลิไทก็ทรงปฏิบัติอย่างเดียวกันดังปรากฏในจารึกสุโขทัยหลายหลัก ส่ิงน้ีเป็นทฤษฎีบาเพ็ญธรรม
ราชาบนเส้นทางของพระโพธิสัตว์เพ่ือที่ต่อไปจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ธรรมราชาก็แปลว่า ผู้ถือ
ธรรม หรอื ทรงธรรม หมายถงึ พระพทุ ธเจา้

พระเจ้าลิไทท่านก็ต้องผ่านข้ันตอนเป็นพระมหาสมมติราชก่อน หมายถึงว่าราษฎรหรือ
มหาชนสมมติต้ังพระองค์ขึ้นให้เป็นผู้ปกครองเป็นประมุข ในคัมภีร์พุทธศาสนารวมถึงไตรภูมิกถาของ
พระเจ้าลิไทแห่งกรุงสุโขทัย และในพระธรรมศาสตร์ของกฎหมายตราสามดวง เมื่อกล่าวถึงพระโพธิสัตว์
ของชาวเราท้ังหลายเม่ือต้นกัลป์ว่าได้รับอภิเษกด้วยพระนาม ๓ อย่างคือ “มหาสมมติราช” ประชาชน
ท้ังหลายยอมตง้ั ท่านใหเ้ ปน็ ใหญ่ คอื เป็นประมุขและ “ขัตตยิ ะ” เพราะคนทง้ั หลายใหท้ ่านแบ่งปันไรน่ าข้าว
น้าแก่คนทั้งหลาย ส่วนคาว่า “ราชา” เพราะพระโพธิสัตว์ถูกเน้ือพึงใจคนทั้งหลาย (ปกครองโดยธรรม)
แล้วก็พัฒนาขัตติยะขึ้นเป็นวรรณะตามอย่างพราหมณ์ฮินดูคือวรรณะกษัตริย์ เป็นผู้ปกครองและนักรบ
อนึ่ง คาว่าขัตติยะยังแปลว่าเขต แล้วกลายเป็นเกษตรคือผู้มีอานาจเหนือที่ดิน จึงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
จัดการแบง่ ปันท่ีดนิ ไรน่ าให้ราษฎรซึ่งสังคมไทยทง้ั สมยั อยุธยาและกรุงเทพฯ ล้วนกาหนดขึน้ เปน็ ระบบศักดิ
นากาหนดท่ีดินให้ราษฎรทุกช่อชั้นซ่ึงนับเป็นการปฏิบัติตามแนวทางของพระโพธิสัตว์ซึ่งกล่าวมาแล้ว
ข้างต้นอยา่ งแท้จริง แมใ้ นกจิ การพระพทุ ธศาสนาตง้ั แต่โบราณมาทุกยคุ สมัย กม็ ีกลั ปนาอทุ ศิ ที่ดินไร่นาให้
เป็นนาสัดนาสงฆ์ข้ึนอย่างแพร่หลาย ส่วนคาว่าราชาหมายความว่าคนที่ราษฎรพึงพอใจยินดี ปกครอง
ด้วยธรรม แม้แต่ในจารึกพระยาลิไทก็บอกว่าบ่ข้าบ่ตีไม่ข้าไม่ตีใครจะทาผิด มีโทษเท่าไรก็ปล่อยหมด คือ
ปกครองอย่างธรรมราชา หรอื ธรรมราช ไม่ใชอ้ าชญาและอาวุธ จนท้ายท่สี ุดกจ็ ะทรงบาเพ็ญเป็นมหาธรรม
ราชาเพอื่ บรรลพุ ระโพธิสตั ว์ และเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลดังในจารึกสโุ ขทัยหลักท่ี ๖ ของพระเจา้ ลิไท

แนวการจัดการเรียนรปู้ ระวตั ศิ าสตร์เพอ่ื สรา้ งสานกึ ความเปน็ ไทย : สถาบนั พระมหากษัตริย์ในสังคมไทย
แนวการจดั การเรยี นรูป้ ระวัตศิ าสตรเ์ พอ่ื สร้างสำนกึ ความเป็นไทย : สถาบันพระมหากษตั ริย์ในสงั คมไทย


Click to View FlipBook Version