The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jaruneesbms, 2021-09-24 16:25:44

ilovepdf_merged

ilovepdf_merged

กา

ขั้นตอนที่ 9 การสะทอ้ นผลใหม่ ( Re-reflectin

1 ) การสะทอ้ นผลการปฏิบัติงานโครงการห
รายงานทีแ่ ต่ละทีมได้สรุปและสังเคราะห์ความรู้มาแลว้ ให้ท
หรอื ไมท่ ราบถงึ ส่ิงที่ทาํ สําเร็จทาํ ไมส่ าํ เร็จสิง่ ท่ีควรปรบั ปรุงแ
โดยดําเนนิ การในวันที่ 9 มนี าคม 2559

2) การสะทอ้ นผลการพัฒนากจิ กรรมการเร
ลงสกู่ ารปฏิบตั ิแล้วเสรจ็ มวี ัตถุประสงค์เพื่อนําเสนอผลการ
วิทยาหลงั นําแผนปฏบิ ตั กิ ารลงสู่การปฏิบัตแิ ลว้ เสรจ็ ในวงจ
กิจกรรมการเรียนรู้ของโรงเรยี นศรีจันทร์วิทยา) และนํามาเ
โรงเรียนศรีจนั ทรว์ ทิ ยากอ่ นนําแผนปฏบิ ัติการลงสู่การปฏบิ
รว่ มวิจยั ได้รบั ทราบและลงมติใหค้ วามเห็นชอบโดยดาํ เนินก

กรณีตวั อยา่ ง ท่ี 2

ารวิจยั เชงิ ปฏิบตั ิการที่เกย่ี วข้องกบั การบรหิ ารการศึกษา

ng) ประกอบดว้ ย 2 ข้ันตอนยอ่ ยดังนี้

หลังการปฏบิ ตั แิ ลว้ เสร็จ มวี ตั ถุประสงค์เพือ่ นําเสนอ
ที่ประชมุ ร่วมพิจารณาและรบั รองว่าสาํ เรจ็ จรงิ
แกไ้ ขการเปลย่ี นแปลการเรยี นรู้ใหมร่ วมถึงความรใู้ หม่

รยี นรู้ในโรงเรียนศรีจันทร์วทิ ยาหลงั นาํ แผนปฏิบตั ิการ
รการประเมินกจิ กรรมการเรยี นร้ขู องโรงเรยี นศรจี ันทร์
จรท่ี 2 โดยใชเ้ ครอื่ งมือการวจิ ยั ฉบบั ที่ 3 (แบบประเมิน
เปรียบเทียบกบั ผลการประเมนิ กิจกรรมการเรยี นของ
บัตซิ ่ึงไดด้ าํ เนินการไปตงั้ แต่ข้ันตอนท่ี 3 การปฏบิ ัติให้ผู้
การในวนั ท่ี 11 มนี าคม 2559

การ

ขน้ั ตอนที่ 10 การสรปุ ผล (Conclusion) ประก

การถอดบทเรยี น (lesson distilled) มีวัต
การทาํ งานทีผ่ า่ นมาในแง่มุ่มต่างๆโดยการศึกษาทบทวนผ
ขอ้ สรปุ ในประเดน็ เกีย่ วกบั การเปล่ียนแปลงจากการปฏบิ
จากปฏบิ ตั จิ รงิ โดยดาํ เนินการในวันท่ี 18 มนี าคม 2559

กรณีตวั อยา่ ง ที่ 2

รวจิ ยั เชงิ ปฏิบตั กิ ารท่ีเก่ียวข้องกับการบรหิ ารการศกึ ษา

กอบด้วย 1 กิจกรรม คอื

ตถุประสงคเ์ พื่อร่วมกันทบทวนหรอื สรุปประสบการณ์
ผลการดาํ เนินงานในขนั้ ตอนที่ 1 ถงึ 9 รวมท้ังเพือ่ หา
บตั จิ รงิ การเรียนรู้จากการปฏบิ ตั ิจริงและความรใู้ หม่

กรณีตัวอยา่ ง ที่ 2 การวิจัยเชงิ ปฏบิ ตั ิก

เครอ่ื งมือทีใ่ ชใ้ นการวจิ ัย

ในการวจิ ัยคร้งั นผ้ี ้วู จิ ัยได้กําหนดเคร่อื งมอื เพอื่
(2007) ซ่ึงจําแนกเป็นกลมุ่ ดงั นี้

1 ) แบบสงั เกต (Observation form) มี 1 ฉ
ความก้าวหนา้ ของโครงการ

2) แบบสัมภาษณเ์ ชิงลึก ( In-depth intervi
interview) มี 1 ฉบบั เคร่ืองมือการวจิ ยั ฉบับท่ี 2 แบบสัมภ

3) แบบตรวจสอบหรอื บันทึก (Examining/re
(Maps) เครือ่ งบันทึกเสยี งและบนั ทกึ ภาพ ( Audiotapes v
บันทกึ ภาคสนาม (Field notes) เครือ่ งมือการวจิ ยั ฉบับที่
ฉบบั ที่ 3 แบบประเมินกิจกรรมการเรียนรแู้ บบรายงานควา
ฉบับท่ี 5 แบบประเมนิ โครงการ เครื่องมือการวจิ ยั ฉบับท่ี 6
(Individual Development Plan ;IDP)

การที่เกย่ี วข้องกับการบริหารการศกึ ษา

อใชใ้ นการวิจัยตามกรอบแนวคดิ ของ Mills

ฉบบั คอื เคร่อื งมอื การวิจยั ฉบบั ท่ี 4 แบบรายงาน

iew) และเปน็ แบบสัมภาษณก์ ล่มุ ( Focusgroup
ภาษณ์
ecords) เชน่ บนั ทึกอนทุ นิ ( Journal) แผนท่ี
videotapes) หลกั ฐานส่ิงของ (Artifacts)

1 แบบบันทกึ การประชุมเครอ่ื งมอื การวจิ ยั
ามกา้ วหนา้ ของโครงการเครอ่ื งมือกาวจิ ยั
6 แผนพัฒนาบคุ ลากรรายบคุ คล

กรณตี ัวอย่าง ที่ 2 การวิจยั เชิงปฏิบัตกิ า

การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู

ผวู้ ิจัยและผรู้ ว่ มวิจัยต่างมีบทบาทหน้าทใ่ี นกา
กบั ผู้วิจยั โดยเร่ิมจาการปฎิบตั ิภาคสนามในโรงเรยี นในปีการ
ถงึ วนั ท่ี 31 มีนาคม 2559 โดยแบ่งเวลาในการปฏบิ ัติงานต
ขอ้ เทจ็ จริงทง้ั ในสว่ นท่ีเหน็ ชดั เจนและแฝงเร้นจากขน้ั ตอนก
เครอ่ื งมอื ที่หลากหลายดงั กลา่ วในหัวขอ้ ท่ี 4

ารทเ่ี ก่ียวข้องกบั การบริหารการศกึ ษา

ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ในสว่ นท่เี ก่ียวขอ้ ง
รศกึ ษา 2558 ในชว่ งระหว่างวนั ท่ี 6 มิถุนายน 2558
ตามงานตามตารางกําหนดวนั และเดอื นเพอื่ ใหเ้ หน็ สภาพ
การวจิ ยั เชิงปฏบิ ตั กิ ารแบบมสี ่วนร่วมทัง้ ข้นั ตอนโดยใช้

กรณีตวั อย่าง ท่ี 2 การวิจยั เชิงปฏบิ ัตกิ

การวเิ คราะห์ข้อมูล

ข้อมลู ที่ได้รบั จากเครอ่ื งมอื ท่ีเลอื กใช้ในการวิจยั ทไ่ี ด้รับ
โดยประยกุ ต์ใชแ้ นวคดิ ของ อมรา พงศาพชิ ญ์ (2526) มีดงั นี้

1. จดั ทําขอ้ มลู ให้เป็นหมวดหมตู่ า่ งๆ โดยพิจารณาถ
หาความถ่ขี องปรากฏการณ์ทีเ่ กิดขน้ึ โดยแบง่ ออกเป็น 6 สถานการณ

1.1 การกระทํา (Acts) คือ การใชช้ วี ิตประจําวัน
1.2 กจิ กรรม ( Activities) คือ การกระทาํ หรอื
1.3 ความหมาย (Meaning) คอื คําอธิบายขอ
ความเชอ่ื ทศั นคติของชมุ ชน
1.4 ความสมั พนั ธ์ (Relationship) คอื ความส
ความขดั แย้งความเกย่ี วขอ้ งของบุคลากร
1.5 การมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรม ( Participatio
โครงสรา้ งกจิ กรรมบริการพรอ้ มจะเป็นพวกเดยี วกันจะทราบความข

การท่ีเกยี่ วข้องกบั การบริหารการศกึ ษา

บจาการจดั กจิ กรรมตา่ งๆ ทงั้ ขั้นตอนมาวิเคราะห์ร่วมกันเป็นระยะๆ

ถงึ วัตถปุ ระสงคข์ องการวจิ ัยเป็นหลักในการแบ่งปรากฏการณแ์ ละ
ณ์คอื
น การกระทําหรอื พฤติกรรมตา่ งๆของบุคลากรทใี่ ชใ้ นการวิจัย
อพฤติกรรมทเี่ ป็นกระบวนการที่มขี ้ันตอนและมีลกั ษณะต่อเนือ่ ง
องบุคคลเกยี่ วกบั การกระทําหรอื กจิ กรรมเพ่ือทราบโลกทัศน์

สัมพนั ธร์ ะหว่างบคุ คลในชุมชนท่ีเกีย่ วข้องจะไดท้ ราบความสมั พนั ธ์

on) คอื การปรบั ตวั บคุ คลการให้ความรว่ มมือและยอมเป็นสว่ นของ
ขัดแยง้ และความราบร่นื ได้ชัดเจน

กรณีตวั อย่าง ที่ 2 การวจิ ยั เชงิ ปฏิบตั กิ

1.2 จัดแบ่งข้อมูลจากการบนั ทึกภาคสนา
เหตุการณเ์ ก่ยี วกับกิจกรรมใน 10 ข้ันตอนของการวิจัยเชิงป

1.3 การวิเคราะห์ขอ้ มูลทําให้เปน็ สภาพป
กจิ กรรมในขั้นตอนของการวจิ ยั เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนรว่
ของการวิจัยเชงิ ปฏิบตั ิการแบบมีสว่ นร่วมท่ีวิเคราะหแ์ ล้วไป
ผลวเิ คราะห์และให้คาํ แนะนํา เพ่ือปรบั ปรุงรายงานให้ถูกต้อ
หลายคนในเหตุการณ์ของกิจกรรมส่วนการวิเคราะห์ข้อมูล
คา่ รอ้ ยละ และคา่ เฉลยี่ เพ่อื เปน็ ข้อมลู เพ่อื เปรียบเทยี บกับ

การท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การบริหารการศกึ ษา

ามของการวจิ ัยในส่วนท่เี ป็นขอ้ ความพรรณนา
ปฏิบตั กิ ารแบบมีสว่ นร่วม
ปจั จบุ ัน จากข้อความพรรณนาเหตุการณ์เกีย่ วกบั
วมโดยนาํ รายงานวิเคราะหข์ อ้ มลู ของแตล่ ะวัตถปุ ระสงค์
ปให้บคุ คลที่เกย่ี วขอ้ งได้รับทราบช่วยยืนยนั ตรวจแกไ้ ข
องสมบรู ณม์ ากขน้ึ การตรวจสอบข้อมูลจะใช้บคุ ลากร
ลทเี่ ป็นเชงิ ปรมิ าณผ้วู จิ ยั ก็ใช้ ค่าสถิตพิ ื้นฐาน หรอื
บเปาู หมายหรือแสดงใหเ้ หน็ การเปล่ยี นท่เี กดิ ข้ึน

กรณีตวั อยา่ ง ที่ 2 การวิจยั เชิงปฏิบตั กิ

การเขยี นรายงานการวจิ ยั

เขียนและนําเสนอรายงานการวจิ ัยในรูปแบบองิ แน
ประกอบทง้ั ขอ้ มูลสถติ ิภาพถา่ ยเอกสารหรืออืน่ ๆ ถงึ สิ่งทีไ่ ด
สะทอ้ นผลวา่ ไดผ้ ลเป็นอยา่ งไรท้ังท่ีสําเร็จและไมส่ ําเรจ็ เกิดป
ใหม่อะไรข้ึนมาบา้ ง จาการปฏบิ ัตทิ ัง้ ในระดบั บคุ คลกลมุ่ บคุ
บุคคลอืน่ หรอื หนว่ ยงานอืน่ ท่ีต้องการจะพฒั นาหรือแก้ไขป
เป็นการพรรณาหรอื บรรยายเชงิ วิพากษ์ ( Critical descrip

โดยในชว่ งแรกของแตล่ ะข้ันตอนจะนาํ เสนอเหตกุ า
ตามความเป็นจรงิ และเป็นกลาง ( Factual and neutral
ประสบการณ์การเรยี นรู้จาการปฏิบัติและองคค์ วามรจู้ ากก

การที่เก่ียวข้องกับการบรหิ ารการศกึ ษา

นวคดิ เชิงวิพากษ์ ( Critical approach) แสดงหลักฐาน
ด้รว่ มกนั คิดร่วมกนั ปฏบิ ัติร่วมกันสงั เกตและรว่ มกนั
ประสบการณก์ ารเรยี นรู้หรือมที ฤษฎีใหมห่ รอื องคค์ วามรู้
คคล และโรงเรยี นมขี ้อเสนอแนะอะไรอย่างไรสาํ หรับ
ปัญหางานนนั้ ๆ ดังนั้น การนาํ เสนอผลงานวิจยั มีลักษณะ
ption) จากการปฏิบัติจริงท้งั 2 วงจร 10 ขน้ั ตอน
ารณ์ที่เกดิ ขึน้ ในลกั ษณะการเลา่ เรอื่ ง ( Story telling)
manner) การเปลย่ี นแปลงจาการปฏบิ ัติจริง
การปฏิบตั จิ รงิ

กรณีตวั อย่าง ที่ 2 การวจิ ยั เชิงปฏบิ ัตกิ

ผลการดําเนินการวจิ ัย

คาํ ถามการวิจยั ในครงั้ นคี้ ือ ผลการดาํ เนนิ งานขน้ั ตอนตา่
เป็นอยา่ งไร ? การดาํ เนินงานน้นั กอ่ ใหเ้ กดิ การเปลี่ยนแป

สภาพในปัจจุบัน ด้านอาคารสถานท่แี ละโครงสรา้ ง
มหาวิทยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลัย ยงั ไมเ่ ป็นสดั เปน็ ส่วน ห
เรียนรู้ของครผู ้สู อน นอกจากน้นั ยังมปี ัญหาอนื่ ๆ เช่น ทจ่ี อ
ห้องนา้ํ ไมเ่ พยี งพอ ห้องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ ไม
ไม่มีเคร่อื งบริการน้าํ ด่ืม (เยน็ ) บนอาคารเรียน ไม่มรี ะบบกล
เบือ้ งตน้ ซง่ึ จริง ๆ แล้วมอี ยแู่ ต่อยูใ่ นสภาพท่ใี ช้งานไม่ได้ ไม

ดา้ นวสั ดุ อปุ กรณ์ ที่จาํ เป็นสาํ หรบั การเรียนร้ไู มเ่ พ
โปรเจคเตอร์ และเครอื่ งคาํ นวณ) ไม่มสี ือ่ การสอนสาํ หรบั ค
เซอร์ ( Visualizer) เคร่อื งขยายเสียง ในห้องสอน และเคร่ือ
lab ใช้งานไมไ่ ด้ ไมม่ ีอนิ เตอรเ์ น็ตใหน้ กั เรยี นนักศึกษา ได้สบื

การท่ีเก่ียวข้องกับการบรหิ ารการศกึ ษา

างๆ ของการวิจัยเชิงปฏบิ ัตกิ ารแบบมสี ว่ นร่วมทีก่ ําหนด
ปลงการเรยี นรู้ และความรใู้ หม่ อะไรบา้ ง ?
งพน้ื ฐานมขี อ้ บกพรอ่ งคอื การใชอ้ าคารร่วมกนั กบั
หอ้ งเรียนไม่มเี ครื่องอํานวยความสะดวกในการจัดการ
อดรถของบุคลากร ไมม่ ปี ูายหอ้ งต่าง ๆ รวมถงึ ฝาุ ยต่างๆ
ม่มโี ทรศัพทภ์ ายในท่ใี ชต้ ิดต่อระหวา่ งห้องฝาุ ยตา่ ง ๆ
ล้องวงจรปดิ ไมม่ หี ้องทาํ กิจกรรม ไมม่ ีห้องปฐมพยาบาล
ม่มอี ปุ กรณ์ด้านความปลอดภยั เช่น ถังดับเพลิง
พยี งพอ ไมส่ มบูรณ์ ไม่ทันสมัย (เครือ่ งคอมพวิ เตอร์
ครู เช่น คอมพิวเตอรต์ ั้งโต๊ะและโปรเจคเตอร์ หรอื วิชัวไล
องคอมพิวเตอร์สําหรับใช้งานในห้องพกั ครู ห้อง sound
บค้นข้อมูล

กรณีตวั อยา่ ง ที่ 2 การวจิ ยั เชิงปฏิบตั ิก

ด้านครูผ้สู อน สภาพปญั หาคือ หนว่ ยงานตน้ สงั กัด
วิชาชพี ทุกๆ ปี มีโครงการพาครูไปศกึ ษาดูงานเพือ่ เพ่ิมศักย
ควรให้ความสําคัญต่อการศกึ ษาพระปริยัตธิ รรม แผนกสาม

ด้านนกั เรียน ผลการประเมนิ คุณภาพภายนอกรอบ
คณุ ภาพการศึกษา (สมศ.) พบว่า
มาตรฐานท่ี 1 ผเู้ รียนมีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตท่ีดี
มาตรฐานที่ 2 ผูเ้ รยี นมคี ณุ ธรรมจริยธรรมและคา่ นิยมทีพ่ งึ ป
มาตรฐานที่ 3 ผเู้ รยี นมีมคี วามใฝรุ แู้ ละเรียนรู้อยา่ งตอ่ เน่อื ง
มาตรฐานที่ 4 ผเู้ รียนคดิ เป็น ทําเปน็
มาตรฐานที่ 5 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนของผู้เรียน มีผลการ

การท่ีเก่ียวขอ้ งกับการบรหิ ารการศกึ ษา

ควรจัดสวัสดกิ ารใหแ้ กค่ รู และครคู วรได้รับการพัฒนา
ยภาพและการทํางานของครู รัฐบาลและคณะสงฆไ์ ทย
มญั ศกึ ษาใหม้ ากข้นึ
บทีส่ ามโดยสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน

ประสงค์


รประเมินคุณภาพอยู่ในระดบั “ปรบั ปรุง”

กรณีตัวอย่าง ท่ี 2 การวิจยั เชิงปฏบิ ตั กิ

สภาพที่คาดหวัง

ผรู้ ่วมวจิ ัยได้รว่ มกันกําหนด “สภาพท่คี าดหวังจากก
จากการลงมือปฏิบัตกิ ารเพื่อแก้ปัญหาของโรงเรยี นพระปร
รว่ มกนั จัดทาํ การวเิ คราะหแ์ ละจดั เรียงสภาพของงานที่ตอ้ ง
ระดมสมองอีกคร้งั หนงึ่ เพอื่ จดั กลุม่ ของงานทเี่ ป็นปญั หาและ
พัฒนาทั้งดา้ นการบริหารและการพฒั นาครผู ู้สอนจะทา ให
ธรรมศรีจนั ทรว์ ทิ ยาดีขึน้ และสามารถผา่ นเกณฑก์ ารประเม

การท่ีเกย่ี วขอ้ งกับการบริหารการศึกษา

การแกป้ ัญหา” โดยมีความเหน็ ร่วมกันวา่ สภาพท่คี าดหวงั
รยิ ตั ธิ รรมศรีจันทร์วิทยา หลงั จากท่ีผู้วจิ ัยและผรู้ ่วมวิจยั ได้
งการพฒั นาตามลาํ ดบั ก่อน-หลงั เสรจ็ สนิ้ แลว้ ไดร้ ่วมกัน
ะต้องการพัฒนาโดยภาพรวมคาดหวังว่าการดาํ เนินการ
ห้ผลสมั ฤทธิ์การเรยี นร้ขู องนกั เรียนโรงเรยี นพระปริยตั ิ
มินคณุ ภาพตามเกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ

กรณีตวั อยา่ ง ที่ 2 การวจิ ัยเชิงปฏบิ ัตกิ

ทางเลอื กเพอื่ แก้ปญั หาหรือบรรลสุ ภาพทค่ี าดห

การในการพฒั นาการจดั การเรียนการสอนของโรงเรียนพระ
ผรู้ ว่ มวิจยั ไดร้ ว่ มกันวเิ คราะหท์ างเลอื กที่หลากหลายโดยกา
ภายนอกจาก สมศ. มาเปน็ ตวั ตง้ั แลว้ ร่วมกนั วิเคราะห์ทาง
จดั ทําแผนปฏบิ ตั ิการ ซึ่งผลจากการกระทาํ ดังกล่าวทําให้ได
ท่จี ะนาํ ไปใช้ในการแกป้ ัญหา ซึง่ ไดแ้ ก่

การท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การบริหารการศกึ ษา

หวัง และการเลอื กทางเลือกเพื่อกาํ หนดเปน็ แผนปฏบิ ัติ

ะปริยัตธิ รรมศรจี นั ทร์วทิ ยา ในขนั้ ตอนแรกผวู้ ิจยั และ
ารนําเอามาตรฐานทไี่ มผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ
งเลอื กท่หี ลากหลายในการแก้ปญั หา กอ่ นจะนํามาสู่การ
ด้แผนปฏิบัตกิ ารซึ่งประกอบด้วยโครงการ 4 โครงการ

กรณีตัวอย่าง ท่ี 2 การวจิ ยั เชงิ ปฏิบัติก

1. โครงการสง่ เสรมิ และพัฒนาครผู ู้สอน มวี ิธีการคอื
เกย่ี วกับรูปแบบและวธิ กี ารจัดกระบวนการจัดการเรยี นการ
ไปประยุกตใ์ ช้ในการจัดการเรยี นการสอนในชั้นเรียนได้อย่า
เรยี นรโู้ ดยใช้คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีชว่ ยสอน

2. โครงการจดั สภาพแวดล้อมและแหล่งเรยี นรทู้ เี่ อื้อ
การสอนทีเ่ ออ้ื ตอ่ การเรยี นรูข้ องผู้เรยี น และการจดั สภาพแ

3. โครงการการสรา้ งพลังร่วมเพือ่ การพฒั นาโรงเรยี
สถานศกึ ษาอยา่ งเป็นระบบครบวงจรเพ่ือให้บรรลุเปาู หมาย

4. โครงการการเพิม่ ศกั ยภาพการบริหารจดั การองค
มวี ตั ถปุ ระสงค์เพื่อจดั โครงสรา้ งและบริหารงานของสถานศ
ของการศึกษา โดยมีกจิ กรรมย่อย คอื การพฒั นาระบบการ
บริหารงานโดยใช้โรงเรียนเปน็ ฐาน

การที่เก่ยี วขอ้ งกับการบรหิ ารการศึกษา

อจัดอบรมและพฒั นาครูเพ่อื ให้มคี วามรู้ ความเข้าใจ
รสอนทีเ่ นน้ ผ้เู รียนเปน็ สําคัญ จนสามารถนําความรทู้ ไี่ ด้
างมีประสิทธภิ าพ และการพฒั นากระบวนการจัดการ

อต่อการเรียนรู้ มวี ิธกี ารคอื ผลติ และจดั หาสือ่ การเรียน
แวดล้อมและแหล่งเรยี นรู้ทีเ่ ออ้ื ต่อการเรยี นรู้
ยนมีวธิ ีการคอื จัดโครงสร้างและบริหารงานของ
ยของการศกึ ษา และจดั ทาํ ผ้าปาุ เพอื่ การศึกษา
ค์กรตามแนวทางการใช้โรงเรยี นเป็นฐาน
ศึกษาอย่างเป็นระบบครบวงจรเพ่อื ให้บรรลเุ ปาู หมาย
รบรหิ ารจัดการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน และการพัฒนาการ

กรณีตัวอยา่ ง ที่ 2 การวจิ ัยเชิงปฏบิ ตั ิก

สรปุ ผลเกีย่ วกบั การเปล่ยี นแปลง

การเรยี นรู้จากการกระทาํ ท้งั ระดับตัวบคุ คล ระดบั ก
การเปลยี่ นแปลงจากการปฏิบตั ิ พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงเ
การเปลยี่ นแปลงท่ีไม่คาดหวัง ดังน้ี

การเปลย่ี นแปลงที่คาดหวัง พบว่า จากการจดั กิจกร
การแกป้ ัญหาในการพฒั นาการจดั การเรยี นการสอนของโร
“โดยภาพรวมคาดหวังวา่ การดาํ เนินการพัฒนาท้งั ด้านการ
การเรยี นรขู้ องนักเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรมศรีจนั ทรว์ ทิ
การประเมินคุณภาพ”

การท่ีเกยี่ วข้องกบั การบรหิ ารการศึกษา

กลุ่มบุคคล และระดบั องค์การ และความรู้ใหม่ทเี่ กดิ ข้ึน
เกดิ ข้นึ ทง้ั ที่เป็นการเปลย่ี นแปลงที่คาดหวังและ

รรมเพ่ือกาํ หนดประเดน็ เก่ียวกับสภาพที่คาดหวังจาก
รงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรมศรจี นั ทรว์ ิทยา มขี อ้ สรปุ วา่
รบริหารและการพัฒนาครผู ้สู อนจะทําใหผ้ ลสัมฤทธิ์
ทยาดขี นึ้ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพตามเกณฑ์

กรณีตวั อยา่ ง ท่ี 2 การวิจยั เชงิ ปฏิบัติก

ผลจากการร่วมกนั กําหนดสภาพที่คาดหวงั จาก
ผ้วู จิ ัยและผรู้ ่วมวิจัยจึงไดร้ ่วมกนั จัดทําแผนปฏบิ
โครงการจาํ นวน 4 โครงการ คอื

1) โครงการสง่ เสริมและพฒั นาครูผูส้ อน
2) โครงการจัดสภาพแวดลอ้ มและแหลง่ เรียนรูท้ ่ีเอ
3) โครงการการสรา้ งพลังร่วมเพอื่ การพฒั นาโรงเรีย
4) โครงการการเพิม่ ศกั ยภาพการบรหิ ารจดั การองค

ขัน้ ตอนที่ 6 (การวางแผนใหม่) เป็นการนาํ โครงการเดมิ ท
เพื่อการพัฒนาที่ตอ่ เนอื่ งและเพื่อใหเ้ กิดความยั่งยนื ซ่งึ ได้แ

1) โครงการสง่ เสรมิ และพัฒนาครูผ้สู อน
2) จดั สภาพแวดลอ้ มและแหล่งเรียนรทู้ ีเ่ อื้อต่อก

การท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั การบริหารการศึกษา

กการแกป้ ัญหาในขน้ั ตอนที่ 2 (การวางแผน)
บตั ิการขนึ้ มา 1 ชดุ ซึ่งประกอบด้วย

ออื้ ต่อการเรียนรู้
ยน
คก์ รตามแนวทางการใช้โรงเรยี นเป็นฐาน

ทีป่ รบั ลดลงเหลือ 2 โครงการไปสู่การปฏบิ ตั ิใหม่
แก่

การเรียนรู้

กรณีตวั อย่าง ที่ 2 การวิจัยเชงิ ปฏิบตั กิ

หลังจากที่ได้นําโครงการลงสู่การปฏิบัติแล้วพ
การเรียนรู้ของนักเรียนดีขึ้น ซึ่งผลการประเมินโดยทีม
คุณภาพภายในของสถานศึกษาและผลการสอบ O-N
คาดหวังนั้น เนื่องมาจากการความร่วมมือร่วมใจของผ
นอกชุมชนที่ได้ให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนแ
การ มีแผนปฏิบัติการท่ีมีดีท่ีเกิดขึ้นจากการจัดกระทําร
และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ และที่สําคัญคือเป
อยา่ งจาํ กัดใหเ้ กดิ ประสิทธผิ ลอย่างสงู สุดท้ังในด้านคน เง

การที่เก่ยี วข้องกับการบรหิ ารการศกึ ษา

พบว่าบรรลุความคาดหวังที่ต้ังไว้ คือ ผลสัมฤทธิ์
มประเมินโครงการน้ัน สอดคล้องกับผลการประเมิน
NET ซึ่งสาเหตุที่โครงการทุกโครงการบรรลุความ
ผู้ร่วมวิจัย และการมีส่วนร่วมของทุกฝุายทั้งในและ
และกลุ่มผู้ร่วมวิจัย เป็นอย่างดี รวมทั้งเกิดจาก
ร่วมกันระหว่างผู้วิจัยและผู้ร่วมวิจัยโดยมีการศึกษา
ป็นแผนท่ีมีการใช้ทรัพยากรทางการบริหารที่มีอยู่
งิน วัสดุ อปุ กรณ์ และการบรหิ ารจดั การ

กรณีตวั อย่าง ที่ 2 การวิจัยเชิงปฏบิ ตั ิก

การเปล่ยี นแปลงทไี่ ม่คาดหวัง พบวา่ เกิด

บุคคล และระดับองค์การ ดังน้ี ระดับตัวบุคคล ประก
มีการเปลีย่ นแปลง ท่ีไม่คาดหวงั เกดิ ข้ึนดังน้ี

ครูจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกา
หลักการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 แล้ว ครูยังม

การสอน สังเกตได้จากมีการเตรียมการสอน เตรียมอ
การสอนหรือมีการจดั กระบวนการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป
การทาํ งาน รวมท้ังให้ความเอาใจใส่กับเด็กนักเรียนในช
ดูแลและชว่ ยเหลือมากข้นึ

การท่ีเกี่ยวขอ้ งกับการบริหารการศึกษา

ดข้นึ ใน 3 ระดับ คอื ระดบั ตวั บคุ คล ระดบั กลมุ่
กอบด้วย ครู นักเรียน และ กรรมการสถานศึกษา

ารพัฒนาการ จัดการเรียนการสอนด้วย

มีความสามารถเพิ่มขึ้นในการจัดกิจกรรมการเรียน
อุปกรณ์และสื่อการเรียน การสอนทุกครั้งก่อนทํา
ป็นสําคัญในทุกรายวิชาและมีความกระตือรือร้นใน
ชั้นทุกคนมากข้ึน ให้ความสําคัญเกี่ยวกับระบบการ

กรณีตัวอยา่ ง ที่ 2 การวิจัยเชงิ ปฏบิ ัตกิ

นักเรียนทุกคนมีผลสัมฤทธ์ิทางการ

มคี วามสามารถในการอ่านและเขยี น หรือทเ่ี รียกวา่ อ่าน
ของครูผู้สอน จากการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงการ
รับผิดชอบต่อตนเอง และต่อส่วนรวม เช่น ขยันส่งกา
ทุกคร้ัง ช่วยปิดประตูหน้าต่างและสํารวจความเรียบร้อ
นกั เรยี นในแตล่ ะระดับไดร้ ับรางวัลยกยอ่ งจากหน่วยงาน

การท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั การบริหารการศกึ ษา

รเรียนดีข้ึน และท่ีสําคัญคือนักเรียนทุกคน

นออกเขยี นได้ โดยการแสดงความพอใจอย่างชัดเจน
รเป็นฐาน รวมท้ังนักเรียนยังมีวินัย และมีความ
ารบ้าน และส่งงานที่ได้รับมอบหมายตามกําหนด
อยของห้องเรียนก่อนกลับบ้านทุกคร้ัง และที่สําคัญ
นตา่ งๆ ทั้งระดับภาคและระดับกลุม่ โรงเรยี น

กรณีตัวอยา่ ง ท่ี 2 การวจิ ยั เชิงปฏบิ ัติก

กรรมการสถานศึกษาให้ความร่วมมือในการป
ตนเองมากยิง่ ข้นึ รวมทงั้ ให้การสนับสนุนกจิ กรรมของโร

ระดับตวั กลุ่มบุคคล ประกอบด้วยกล่มุ ครู และกลุ่มคณ
เปล่ยี นแปลงท่ีไมค่ าดหวงั เกดิ ขนึ้ ดงั นี้

ครมู กี ารปรกึ ษาหารอื กันเก่ียวกับการจัดกิจกรร
ประชุมในระดับโรงเรียนเพื่อวางแผนในการจัดการเรีย
เตรียมอุปกรณ์และส่ือการเรียนการสอนทุกครั้งก่อน
กระบวนการเรยี นรูท้ ่ีเนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาํ คญั ในทุกรายวชิ า

กลมุ่ คณะกรรมการสถานศึกษา สมาชิกในกลุ่ม
สมาชกิ ในกลุ่มมากขน้ึ และมกี ารร่วมประชมุ ปรกึ ษาหาร

การที่เกย่ี วขอ้ งกับการบริหารการศกึ ษา

ประชุมมากข้ึน และปฏิบัติตามบทบาทหน้าท่ีของ
รงเรียนทุกกจิ กรรม

ณะกรรมการสถานศกึ ษามีการ

รมการเรียนการสอน มากข้ึน สังเกตได้จากการร่วม
ยนการสอน มีการร่วมมือกันในการเตรียมการสอน
นทําการสอน หรือมีการประสานงานกันในการจัด

มใหค้ วามสําคญั ตอ่ บทบาทและหน้าทขี่ องตนเองและ
รอื ในการดาํ เนินงานตา่ งๆ ของโรงเรียนทุกครงั้

กรณีตวั อยา่ ง ที่ 2 การวิจัยเชงิ ปฏบิ ตั ิก

ระ ดั บ อง ค์ก า ร ป ระ ก อบ ด้วย โร งเรี ย
มกี ารเปลยี่ นแปลง ท่ีไมค่ าดหวังเกดิ ขึ้น

โรงเรียนพระปริยัติธรรมศรีจันทร์วิทยาม
โดยเฉพาะในด้านการพัฒนากิจกรรมการเ
ที่โรงเรียน ครู และนักเรียนได้รับท้ังในร
ในด้านอาคารสถานท่ีก็ได้รบั การพัฒนามากขนึ้

การท่ีเกย่ี วข้องกับการบริหารการศกึ ษา

ยนพ ระ ป ริยั ติธร รมศ รีจั น ท ร์วิ ท ย า

มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในทุกๆ ด้าน
เรียนรู้ สังเกตได้จากผลงานดีเด่นต่าง ๆ
ะดับกลุ่มโรงเรียน เป็นต้น นอกจากน้ี


กรณีตวั อย่าง ที่ 2 การวจิ ัยเชิงปฏบิ ตั ิก

การเรยี นรจู้ ากการกระทาํ

ระดับบคุ คล ประกอบด้วย ผวู้ ิจยั ครู และ
การปฏบิ ัตดิ ังนี้

ครู และกรรมการสถานศึกษา เกดิ การเรยี นรใู้ นลกั
- เกดิ การเรยี นเกี่ยวกบั วธิ กี ารสรา้ งมติ รภาพ และกา
- เกิดการเรยี นร้เู ก่ยี วกับกระบวนการวิจัยเชงิ ปฏบิ ัต
- เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดเชิงเทคนิคต่าง ๆ
สมอง เทคนิคการวางแผนปฏิบัติงาน เทคนิคการเขียน
ถอดบทเรยี น
- เกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับการนําความรู้ใหม่ที่ได้ไป
จนกระทั่งเกิดความรู้ใหม่ข้ึนมา เช่น ความสามารถในก
ความสามารถในการนาเอาหลกั การเรยี นรแู้ บบมีส่วนร่ว

การที่เกีย่ วข้องกับการบริหารการศกึ ษา

ะกรรมการสถานศึกษา เกิดการเรียนรู้จาก

กษณะทค่ี ลา้ ยคลงึ กนั ดังน้ี
ารสร้างเครอื ขา่ ยในการทํางาน
ตกิ ารแบบมสี ่วนรว่ ม
ๆ ท่ีผู้วิจัยได้นําเสนอ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการระดม
นโครงการ เทคนิคการประเมินโครงการ เทคนิคการ

ปเสริมหรือบูรณาการเข้ากับความรู้เดิมของพวกเขา
การวิเคราะห์สภาพของงานออกเป็นรายด้าน และ
วมมาเปน็ แนวคิดในการวางแผนปฏบิ ตั งิ าน เปน็ ต้น

กรณีตวั อยา่ ง ท่ี 2 การวิจัยเชงิ ปฏบิ ตั ิก

การเรียนรู้จากการกระทํา

ผู้วจิ ยั
- เกิดการเรียนรู้ว่าในการที่จะให้ความรู้ความเข้าใจ
เน้ือหา และรปู แบบในการนําเสนอใหง้ ่ายและมคี วามน่า
- เกิดการเรียนรู้วา่ ในการสร้างสมั พนั ธภาพระหว่างก
- เกดิ การเรยี นรวู้ า่ การท่ีจะนาํ เสนอแนวคิดเชิงเทคน
- เกิดการเรียนรู้ว่าในขั้นตอนการปฏิบัตินั้นมีความ
ดําเนนิ การไปพรอ้ ม ๆ กันได้ และไดเ้ รียนร้วู า่ การท่จี ะให
- เกิดการเรียนรู้ว่าในการทํางานกับชุมชนจะต้องศ
ความเชอื่ ของคนในชมุ ชนด้วย

การที่เกี่ยวข้องกับการบรหิ ารการศกึ ษา

จแก่ผู้ร่วมวิจัยในเชิงวิชาการ แล้วจะต้องมีการปรับ
าสนใจหรือเรา้ ใจมากย่งิ ขน้ึ
กลมุ่ ผรู้ ่วมวิจัยนั้น
นคิ ตา่ ง ๆ
มคาบเก่ียวกับกับข้ันตอนการ สังเกตผลจึงสามารถ
หผ้ ู้ร่วมวิจยั เข้ามามีสว่ นร่วม
ศึกษาและเข้าถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี และ

กรณีตวั อยา่ ง ที่ 2 การวจิ ยั เชิงปฏบิ ตั ิก

การเรยี นรจู้ ากการกระทาํ

ระดับกลุ่มบุคคล ประกอบด้วย กลุ่มครู
เรียนรู้จากการปฏบิ ัติจําแนกได้เปน็ 2 ลกั ษณ

กลมุ่ ครู เกดิ การเรยี นรเู้ กย่ี วกับการพัฒนากิจก
เรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ สังเกตได้จากการท่ีครูม
พอใจและผลการเรียนของผเู้ รียน

กลุ่มกรรมการสถานศึกษา เกิดการเรียนรู้เกี่ยว
จากมีการจัดประชุมบ่อยครั้งข้ึน และมีการร่วมกันวา
โรงเรยี นที่มีประสิทธภิ าพมากยง่ิ ข้ึน

ระดับองค์การ ประกอบด้วย โรงเรียนพระปริย
เรียนรู้เก่ียวกับการแก้ปัญหาและพัฒนางานด้วยก
กระบวนการวจิ ยั เชงิ ปฏบิ ัติการแบบมีสว่ นร่วม

การท่ีเก่ยี วขอ้ งกับการบรหิ ารการศกึ ษา

และกลุ่มกรรมการสถานศึกษา เกิดการ
ณะ ดงั น้ี

กรรมการเรยี นรู้ และการจัดการพัฒนากิจกรรมการ
มีทักษะในการจัดการเรียนรู้ สังเกตได้จากความพึง

วบทบาทและหน้าที่ของตนเองมากยิ่งขึ้น สังเกตได้
างแผนและระดมทรัพยากรเพื่อการบริหารจัดการ

ยัติธรรมศรีจันทร์วิทยา เกิดการเรียนรู้ คือ เกิดการ
กระบวนการที่เป็นระบบ ซ่ึงในครั้งน้ีคือ การใช้

กรณีตัวอย่าง ที่ 2 การวจิ ัยเชิงปฏบิ ตั ิก

องคค์ วามรใู้ หมท่ ีเ่ กิดข้นึ

องค์ความรู้ใหม่ที่เกิดข้ึนจากการวิจัยเร่ือง
พระปรยิ ตั ิธรรมศรีจันทรว์ ิทยา: การวิจัยเชิงปฏิบัติการแ
จากการที่ผู้ร่วมวิจัยได้ร่วมมือกันปฏิบัติตามหลักการข
10 ขั้นตอน ที่ได้นําเอาแผนปฏิบัติการ (Action plan)
สอดแทรกหลกั (Main intervention) และการใชห้ ลกั ก
approach) ซ่ึงถือเป็นตัวสอดแทรกเสริม (Addition
ในการลงมอื ปฏบิ ตั ิ ซ่งึ องค์ความรู้ใหม่ทไี่ ด้ผู้ร่วมวจิ ัยได้ร

“SRICHAN

การที่เกี่ยวข้องกบั การบรหิ ารการศึกษา

“การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ของโรงเรียน
แบบมีส่วนร่วม ” ในคร้ังน้ี เป็นความรู้ใหม่ท่ีเกิดขึ้น
ของการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม 2 วงจร
ซ่ึงประกอบด้วยโครงการ 4 โครงการอันถือเป็นตัว
การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Participatory learning
nal intervention) เป็นตัวช่วยขับเคล่ือนแนวคิด
รว่ มกนั ต้ังช่ือว่า

Model”

กรณีตวั อยา่ ง ท่ี 2 การวิจยั เชิงปฏิบัติกา

“SRICHAN Model” เป็นรูปแบบขอกระบ
เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมที่เกิดข้ึนในบริบทเ
โรงเรียนพระปริยัติธรรมศรีจันทร์วิทยา อันเป็นอง
เกดิ จากการนํากรอบแนวคิดการวิจัยท่ีผู้วิจัยได้กําห
การแลกเปลย่ี นเรียนรกู้ ับผู้รว่ มวิจัยในภาคสนามซึ่งม
รว่ มวิจยั ได้เกดิ การเปล่ยี นแปลง การเรียนรู้ และเกิด
จากการลงมือปฏิบัติ ซ่ึงถือเป็นความรู้ใหม่ที่เกิดข
เฉพาะของโรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรมศรจี ันทรว์ ิทยาอย

ารท่ีเก่ียวข้องกบั การบริหารการศึกษา

บวนการวิจัย
เฉพาะของ
งค์ความรู้ที่
หนดไว้มาทํา
มีผลทําให้ผู้
ดความรใู้ หม่
ข้ึนในบริบท
ยา่ งแท้จรงิ

Presen

Jarunee

ntation

Sonjai


Click to View FlipBook Version