The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sasit Pinkaew, 2022-10-02 23:00:22

รส.90-10-1 รวมเล่ม

รส.90-10-1 รวมเล่ม

บทนาํ สารบัญ หน้า
บทที ๑
กล่าวนาํ ๑
บทที ๒ ตอนที ๑ ความเป็นมา ๑

๑ – ๑ การรบอากาศพืนดิน ๑
๑ – ๒ คาํ จาํ กดั ความ ๒
๑ – ๓ มหานคร ๕
๑ – ๔ ภยั คกุ คามสาํ หรบั การรบในพืนทีสิงปลูกสร้าง ๕
ตอนที ๒ คุณลกั ษณะและประเภทของพนื ทีสิงปลูกสรา้ ง ๕
๑ – ๕ คุณลกั ษณะ ๖
๑ – ๖ ประเภทของพืนทีสิงปลกู สร้าง ๖
ตอนที ๓ ขอ้ พจิ ารณาพเิ ศษ ๖
๑ – ๗ การรบในเมืองจะเกิดขึนเมือ ๗
๑ – ๘ เป้ าหมายในพืนทีสิงปลูกสร้าง ๗
๑ – ๙ การรบของหนว่ ยขนาดเล็ก ๗
๑ – ๑๐ อาวธุ กระสุน และยทุ โธปกรณ์พิเศษ ๗
๑ – ๑๑ การติดต่อสือสาร ๘
๑ – ๑๒ ความเครียด ๘
๑ – ๑๓ ขอ้ จาํ กัด ๘
๑ – ๑๔ การหลีกเลียงการยงิ จากฝ่ายเดียวกนั ๑๐
การวิเคราะห์พืนทีสิงปลกู สร้าง ๑๐
ตอนที ๑ รูปแบบของพืนทีสิงปลกู สร้าง ๑๐
๒ – ๑ คณุ ลกั ษณะของพืนทีสิงปลูกสร้างทีคลา้ ยคลึงกนั
ทุกภมู ิภาค ๑๑
๒ – ๒ ลกั ษณะเฉพาะของพืนทีสิงปลูกสร้างในภูมิภาคต่างๆ ๑๒
๒ – ๓ คุณลกั ษณะของพนื ทีสิงปลูกสรา้ งในเมือง ๑๖
ตอนที ๒ การวิเคราะห์ภูมิประเทศและลมฟ้ าอากาศ ๑๖
๒ – ๔ ขอ้ พจิ ารณาพิเศษดา้ นภมู ิประเทศ ๑๗
๒ – ๕ ขอ้ พิจารณาพเิ ศษเกียวกบั ลมฟ้ าอากาศ ๑๘
ตอนที ๓ การประเมินคา่ และการกําหนดภยั คุกคาม ๑๙
๒ – ๖ ปัจจยั ปฏิบตั ิการ

บทที ๓ ๒ – ๗ การตอ่ ตา้ นการก่อความไมส่ งบ สงครามกองโจร หน้า
๒๐
และการก่อการร้ายในเมือง
๒ – ๘ การประมาณขีดความสามารถของภัยคกุ คาม ๒๒
๒๔
การรบด้วยวิธีรกุ ๒๔
ตอนที ๑ ขอ้ พจิ ารณาในการรบดว้ ยวิธีรุก ๒๔
๒๔
๓ – ๑ เหตผุ ลในการเขา้ ตีพนื ทีสิงปลกู สร้าง ๒๕
๓ – ๒ เหตุผลในการไมเ่ ข้าตีพนื ทีสิงปลูกสรา้ ง ๒๕
ตอนที ๒ คุณลกั ษณะของการรบดว้ ยวิธีรุกในพนื ทีสิงปลูกสร้าง ๒๖
๓ – ๓ ความต้องการกําลงั ทหาร ๒๖
๓ – ๔ การดําเนินกลยทุ ธ์ ๒๖
๓ – ๕ ยทุ โธปกรณ์ ๒๖
ตอนที ๓ แบบของการรบดว้ ยวิธีรุก ๒๗
๓ – ๖ การเขา้ ตีเร่งด่วน ๓๑
๓ – ๗ การเข้าตีประณีต ๓๑
ตอนที ๔ ปัจจยั METT – T ๓๒
๓ – ๘ ภารกิจ ๓๒
๓ – ๙ ขา้ ศึก ๓๓
๓ – ๑๐ ภมู ิประเทศ ๔๒
๓ – ๑๑ กาํ ลงั ทีมีอยู่ ๔๒
๓ – ๑๒ เวลา ๔๒
ตอนที ๕ การบงั คบั บญั ชาและการควบคมุ ๔๒
๓ – ๑๓ การบังคบั บญั ชา ๔๓
๓ – ๑๔ การควบคมุ ๔๓
ตอนที ๖ หนว่ ยเฉพาะกิจกองพนั ทหารราบ เขา้ ตีในเมือง ๔๔
๓ – ๑๕ การเขา้ ตีประณีต ๔๕
๓ – ๑๖ การยึดทีหมายสําคญั ๔๖
๓ – ๑๗ การแทรกซึม
๓ – ๑๘ การระวงั ป้ องกนั เสน้ ทาง

บทที ๔ ตอนที ๗ กองร้อยชุดรบเขา้ ตีพืนทีสิงปลกู สร้าง หน้า
๓ – ๑๙ การเขา้ ตีทีหมายในชว่ งอาคาร ๔๘
๔๘
๓ – ๒๐ การเขา้ ตีทีตรวจการณ์ข้าศึก
๓ – ๒๑ การเขา้ ยึดพืนทีเครือข่ายการจราจร ๕๐
๓ – ๒๒ การเขา้ ยึดภมู ิประเทศสําคญั ๕๐
๓ – ๒๓ การลาดตระเวน ๕๒
ตอนที ๘ หมวดปื นเลก็ เขา้ ตีพืนทีสิงปลูกสร้าง ๕๓
๓ – ๒๔ การเขา้ ตีอาคาร ๕๕
๓ – ๒๕ การเคลือนทีตามถนน ๕๕
๓ – ๒๖ การตีโตต้ อบ ๕๖
๕๘
การปฏบิ ัติการตังรับ ๕๙
ตอนที ๑ การพิจารณาการตงั รับ ๕๙
๕๙
๔ – ๑ เหตุผลในการตงั รบั ในพืนทีสิงปลูกสร้าง ๖๐
๔ – ๒ เหตผุ ลทีไมท่ าํ การตงั รับในพืนทีทีมีสิงปลูกสรา้ ง ๖๑
ตอนที ๒ ลกั ษณะพเิ ศษของพนื ทีทีมีสิงปลกู สรา้ ง ๖๑
๔ – ๓ เครืองกีดขวาง ๖๒
๔ – ๔ เส้นทางเข้า - ออก ๖๒
๔ – ๕ ภูมิประเทศสําคัญ ๖๓
๔ – ๖ การตรวจการณ์และพืนการยิง ๖๓
๔ – ๗ การกาํ บงั และการซ่อนพราง ๖๓
๔ – ๘ อนั ตรายจากการยงิ ๖๓
๔ – ๙ ขอ้ จาํ กดั ของการติดตอ่ สือสาร ๖๔
ตอนที ๓ ปัจจยั METT - T ๖๔
๔ – ๑๐ ภารกิจ ๖๔
๔ – ๑๑ ขา้ ศึก ๖๔
๔ – ๑๒ ลกั ษณะภูมิประเทศ ๖๙
๔ – ๑๓ กาํ ลงั ทีมีอยู่ ๗๓
๔ – ๑๔ เวลาทีมีอยู่ ๗๖
ตอนที ๔ การควบคมุ บังคบั บญั ชา ๗๖
๔ – ๑๕ สิงอาํ นวยความสะดวกของทีบงั คบั การ ๗๖
๔ – ๑๖ การจดั กาํ ลงั ในการตงั รับ

บทที ๕ ๔ – ๑๗ การตีโตต้ อบ หน้า
๗๙
๔ – ๑๘ การตังรบั ภายใตท้ ศั นวิสยั จาํ กดั
ตอนที ๕ แผนการตังรับของกองพนั ๗๙
๘๐
๔ – ๑๙ การตังรับในหมบู่ ้าน ๘๐
๔ – ๒๐ การตังรับในเขต ๘๑
๔ – ๒๑ การรบหนว่ งเวลาในพืนทีสิงปลกู สรา้ ง ๘๓
ตอนที ๖ แผนการตังรับของกองร้อย ๘๔
๔ – ๒๒ การตงั รบั ในหมบู่ า้ น ๘๔
๔ – ๒๓ การตังรบั ในพืนทีแออดั ของเมือง ๘๗
๔ – ๒๔ กองรอ้ ยรบหนว่ งเวลา ๘๘
๔ – ๒๕ การตงั รับทีวงเวียน ๘๙
ตอนที ๗ แผนการตังรับของหมวด ๙๐
๔ – ๒๖ การตังรบั เป็นจดุ ตา้ นทาน ๙๐
๔ – ๒๗ การตงั รบั ต่อตา้ นยานเกราะ ๙๑
๔ – ๒๘ การปฏิบตั ิการซุ่มโจมตีดว้ ยยานเกราะ ๙๔
๙๖
ทกั ษะพืนฐานในการรบ ๙๖
ตอนที ๑ การเคลือนที ๙๖
๙๗
๕ – ๑ การขา้ มกาํ แพง ๙๗
๕ – ๒ การเคลือนทีบริเวณมมุ ตึก ๙๙
๕ – ๓ การเคลือนทีผา่ นช่องหนา้ ต่าง ๑๐๐
๕ – ๔ การใชป้ ระตูทางผา่ น ๑๐๒
๕ – ๕ การเคลือนทีขนานไปกบั อาคาร ๑๐๒
๕ – ๖ การขา้ มพืนทีโล่งแจง้ ๑๐๓
๕ – ๗ การใชช้ ุดยิง ๑๐๕
๕ – ๘ การเคลือนทีระหว่างทีตงั ๑๐๘
๕ – ๙ การเคลือนทีภายในอาคาร ๑๐๘
ตอนที ๒ เทคนิคการเขา้ ในอาคาร ๑๐๙
๕ – ๑๐ การปฏิบตั ิในชนั บนของอาคาร ๑๑๐
๕ – ๑๑ การใชบ้ นั ไดพาด ๑๑๑
๕ – ๑๒ การใช้โยทะกา
๕ – ๑๓ การไตผ่ นงั กาํ แพง

บทที ๖ ๕ – ๑๔ การไต่เชือกลงทางดิง หน้า
บทที ๗ ๕ – ๑๕ การเขา้ จากชนั ล่าง ๑๑๓
๕ – ๑๖ การใชร้ ะเบิดมือ ๑๑๓
ตอนที ๓ ตาํ แหน่งทีตงั ยิง ๑๑๖
๕ – ๑๗ ทีตงั ยิงเร่งดว่ น ๑๒๐
๕ – ๑๘ การเตรียมทีตงั ยิง ๑๒๐
๕ – ๑๙ การคน้ หาเป้ าหมาย ๑๒๓
๕ – ๒๐ การใชเ้ พลิง ๑๓๓
๕ – ๒๑ การใช้พลซุ่มยิง ๑๓๖
ตอนที ๔ เครืองมือนําทางในพนื ทีสิงปลกู สรา้ ง ๑๓๗
๕ – ๒๒ แผนทีทางทหาร ๑๓๘
๕ – ๒๓ ระบบหาพกิ ดั ดว้ ยดาวเทียม ๑๓๙
๕ – ๒๔ ภาพถ่ายทางอากาศ ๑๔๐
ตอนที ๕ การพราง ๑๔๐
๕ – ๒๕ ขอ้ มลู ทีเป็นประโยชน์ ๑๔๐
๕ – ๒๖ การใช้ร่มเงา ๑๔๐
๕ – ๒๗ สีและลวดลาย ๑๔๑
๑๔๓
การสนับสนุนการรบ ๑๔๖
๖ – ๑ เครืองยงิ ลกู ระเบิด (ค.) ๑๔๖
๖ – ๒ ปื นใหญส่ นาม ๑๔๘
๖ – ๓ ปื นเรือ ๑๕๐
๖ – ๔ ยทุ ธวิธีทางอากาศ ๑๕๑
๖ – ๕ การป้ องกันภยั ทางอากาศ ๑๕๑
๖ – ๖ การบินทหารบก ๑๕๒
๖ – ๗ เฮลิคอปเตอร์ ๑๕๓
๖ – ๘ ทหารช่าง ๑๕๕
๖ – ๙ สารวตั รทหาร ๑๕๖
๖ – ๑๐ การติดต่อสือสาร ๑๕๗
๑๕๙
การสนบั สนนุ การช่วยรบ และลักษณะทางกฎทหารของการรบ ๑๕๙
ตอนที ๑ การสนบั สนนุ การชว่ ยรบ ๑๕๙

๗ – ๑ แนวทาง

บทที ๘ ๗ – ๒ หนา้ ทีหลกั หน้า
๑๖๐
๗ – ๓ การส่งกาํ ลงั และงานการเคลือนยา้ ย ๑๖๒
๗ – ๔ เสนารกั ษ์ ๑๖๕
๗ – ๕ การบริการกาํ ลังพล ๑๖๗
ตอนที ๒ สถานะทางกฎหมายของการรบ ๑๖๘
๗ – ๖ ผลกระทบจากประชาชนในพนื ทีการรบ ๑๖๘
๗ – ๗ อาํ นาจบงั คบั บัญชา ๑๖๙
๗ – ๘ แหล่งการใชป้ ระโยชน์ ๑๖๙
๗ – ๙ สุขภาพและความผาสุข ๑๖๙
๗ – ๑๐ กฎหมายและระเบียบ ๑๖๙
๗ – ๑๑ ความสมั พนั ธ์ระหว่างนายทหารกิจการพลเรือนกบั สือ ๑๖๙
๗ – ๑๒ หน่วยงานกิจการพลเรือน และการปฏิบตั ิการจิตวิทยา ๑๗๐
๗ – ๑๓ ฝ่ายการสารวตั ร ๑๗๑
๗ – ๑๔ อํานาจตามกฎหมายของผบู้ งั คบั บญั ชา และหน้าที ๑๗๑

ความรบั ผิดชอบ ๑๗๕
๑๗๕
การใช้อาวธุ และผลของอาวธุ ๑๗๗
๘ – ๑ ประสิทธิผลของอาวุธและการทําลาย ๑๗๙
๘ – ๒ ปลย.เอ็ม.๑๖ (M16) และ ปก.เอม็ .๒๔๙ (M249)
๘ – ๓ ปื นกลขนาดกลางและปื นกลหนกั ๑๘๓
(กวา้ งปากลาํ กลอ้ ง ๗.๖๒ มม. และ .๕๐ นิว)
๘ – ๔ เครืองยิงลูกระเบิด ๔๐ มม. เอ็ม.๒๐๓ (M203) ๑๘๕
และ เอม็ เค ๑๙ (MK19) ๑๙๘
๘ – ๕ อาวธุ ไรแ้ รงสะทอ้ นถอยหลงั ขนาดเบาและขนาดกลาง ๒๐๓
๘ – ๖ อาวธุ นาํ วิถีต่อสูร้ ถถัง ๒๐๖
๘ – ๗ อาวุธเพลิง ๒๐๘
๘ – ๘ ลกู ระเบิดขวา้ ง ๒๑๑
๘ – ๙ เครืองยิงลกู ระเบิด ๒๑๕
๘ – ๑๐ ๒ ปื นกล ขนาด ๒๕ มม. ๒๑๙
๘ – ๑๑ ปื นใหญร่ ถถงั ๒๒๐
๘ – ๑๒ อาวุธทาํ ลายของรถรบทหารช่าง
๘ – ๑๓ ปื นใหญ่และปื นเรือ

ผนวก ก ๘ – ๑๔ อาวุธทางอากาศ หน้า
ผนวก ข ๘ – ๑๕ ระเบิดทาํ ลาย ๒๒๒
๒๒๔
ผนวก ค การพจิ ารณาใช้นวิ เคลียร์ ชีวะ เคมี (นชค.) ๒๒๕
ก – ๑ การป้ องกนั นิวเคลียร์ ชีวะ เคมี (นชค.) ๒๒๕
ก – ๒ การปฏิบตั ิการโดยใชค้ วนั ๒๒๗
ก – ๓ สารควบคุมการจลาจล ๒๒๗
๒๒๘
รถสายพานลําเลียงพล (แบลคลีย์) ๒๒๘
ตอนที ๑ การใช้ ๒๒๘
๒๒๘
ข – ๑ การโจมตีเป้ าหมาย ๒๒๙
ข – ๒ รสพ. (แบลคลีย์) และรถถงั ๒๓๐
ตอนที ๒ การรุก ๒๓๒
ข – ๓ ภารกิจ ๒๓๕
ข – ๔ ชุดทหารราบ (ปื นเล็ก) ๒๓๕
ข – ๕ การติดต่อสือสาร ๒๓๖
ข – ๖ การกวาดลา้ งอาคาร ๒๓๖
ตอนที ๓ การตังรับ ๒๓๗
ข – ๗ ภารกิจ ๒๓๘
ข – ๘ การพฒั นาการตงั รับ ๒๓๙
ข – ๙ แผนทีตงั ยิง ๒๔๑
ข – ๑๐ กองรอ้ ย รสพ. (แบลคลีย์) ๒๔๑
๒๔๑
เครืองกดี ขวาง ทุ่นระเบิด และระเบิดทาํ ลาย ๒๔๖
ตอนที ๑ เครืองกีดขวาง ๒๔๖
๒๔๗
ค – ๑ ชนิดของเครืองกีดขวาง ๒๕๐
ค – ๒ การสรา้ งเครืองกีดขวาง ๒๕๒
ตอนที ๒ ทุ่นระเบิด ๒๕๒
ค – ๓ ชนิดของทนุ่ ระเบิด ๒๕๓
ค – ๔ ทุ่นระเบิดและกบั ระเบิดฝ่ายขา้ ศึก ๒๕๘
ตอนที ๓ การใชร้ ะเบิดทําลาย
ค – ๕ การใช้ระเบิดทาํ ลายในการเขา้ ตี
ค – ๖ การใชร้ ะเบิดทําลายในการตงั รับ
ค – ๗ ความปลอดภยั

ผนวก ง การปฏิบัตกิ ารใต้ดิน หน้า
ผนวก จ ง – ๑ คณุ คา่ ทางยทุ ธวิธี ๒๕๙
ผนวก ฉ ง – ๒ การปฏิเสธการใชข้ องขา้ ศึก ๒๕๙
ผนวก ช ง – ๓ เทคนิคการลาดตระเวนใตด้ ิน ๒๖๐
ง – ๔ ขอ้ พจิ ารณาทางจิตวิทยา ๒๖๑
ผนวก ซ ๒๖๔
ทีมัน ๒๖๖
จ – ๑ ขอ้ พิจารณา ๒๖๖
จ – ๒ การเตรียมการ ๒๖๗
จ – ๓ ทีมันสําหรับยานเกราะ ๒๗๕
จ – ๔ ทีตงั ยงิ อาวุธนาํ วิถีต่อสู้รถถัง ๒๗๗
จ – ๕ ทีมนั สําหรบั พลซุ่มยิง ๒๗๘
๒๘๐
การเข้าตีและกวาดล้างอาคาร ๒๘๐
ฉ – ๑ ความตอ้ งการต่างๆ ๒๘๐
ฉ – ๒ การยิงสนบั สนุน ๒๘๑
ฉ – ๓ การเคลือนที ๒๘๒
ฉ – ๔ การโจมตี ๒๘๔
ฉ – ๕ การกวาดลา้ งอาคาร ๒๙๒
ฉ – ๖ การจดั ระเบียบใหม่ ๒๙๓
๒๙๓
การปฏิบัตกิ ารทางทหารในเมือง (MOUT) ภายใต้สภาวะจํากัด
ช – ๑ ความรุนแรงระดบั สูง ความถูกตอ้ ง และการ ๒๙๔
ศลั ยกรรมการปฏิบตั ิการทางทหารในเมือง ๒๙๗
ช – ๒ กฎการปะทะ ๒๙๘
ช – ๓ ผลกระทบจากประชาชนในปฏิบัติการทางทหารในเมือง ๒๙๘
ช – ๔ พลเรือนมีอิทธิพลตอ่ การปฏิบัติของฝ่ายขา้ ศึกและฝ่ ายเรา
ช – ๕ การใชอ้ าวุธทีไม่มีผลในการสงั หารระหว่างปฏิบตั ิการ ๓๐๑
ทางทหารในเมือง ๓๐๑
๓๐๔
การวเิ คราะห์อาคารในเมือง ๓๑๐
ซ – ๑ ชนิดของอาคารสิงกอ่ สร้างขนาดใหญ่ ๓๑๐
ซ – ๒ ชนิดของอาคารระบบเฟรม
ซ – ๓ แบบแผนผงั
ซ – ๔ พืนทีอยอู่ าศัย

ผนวก ด ซ – ๕ ลกั ษณะพิเศษของอาคาร หน้า
ซ – ๖ การแจกแจงชนิดของอาคาร ๓๑๒
ผนวก ต ๓๑๓
ผนวก ถ การปฏิบัติการทางทหารในเมอื งภายใต้สภาวะทัศนวิสัยจํากัด ๓๑๕
ด – ๑ ขอ้ ดี ๓๑๕
ด – ๒ ขอ้ เสีย ๓๑๕
ด – ๓ การหลีกเลียงการสังหารทหารฝ่ายเดียวกัน ๓๑๖
ด – ๔ สภาพแวดลอ้ มในเมืองทีส่งผลกระทบต่อเครืองมือ ๓๑๖
ช่วยการมองเหน็ ในเวลากลางคืน
ด – ๕ ขอ้ พิจารณา ๓๑๗
ด – ๖ เครืองมือพเิ ศษ ๓๑๘
ด – ๗ การสนบั สนุนการรบ ๓๑๙
ด – ๘ การสนบั สนนุ การช่วยรบ ๓๒๑
ด – ๙ ขอ้ พจิ ารณาในการรุก ๓๒๒
ด – ๑๐ ขอ้ พจิ ารณาในการตงั รับ ๓๒๓
๓๒๔
การต่อต้านพลซุ่มยงิ ในเมือง ๓๒๔
ต – ๑ ชนิดของพลซุ่มยิง และขีดความสามารถ ๓๒๖
ต – ๒ กฎของการรบภาคพืนดินเกียวกบั พลซุ่มยงิ ๓๒๗
ต – ๓ การระมดั ระวงั ภยั คกุ คามจากพลซุ่มยิง ๓๒๗
ต – ๔ การวางแผนต่อตา้ นพลซุ่มยิง ๓๒๙
ต – ๕ กลยทุ ธ์ตอ่ ตา้ นพลซุ่มยิง เทคนิค และระเบียบปฏิบตั ิ ๓๓๕
๓๓๕
เทคนคิ การรบใกล้ทีพักอาศัย ๓๓๕
ถ – ๑ การฝึ กทาํ นองรบและการรบใกลท้ ีพกั อาศัย ๓๓๖
ถ – ๒ หลกั การรบใกลท้ ีพกั อาศยั ๓๓๗
ถ – ๓ หลักพืนฐานการรบใกลท้ ีพกั อาศัย ๓๓๗
ถ – ๔ การปฏิบตั ิขนั ต้นในการกวาดล้างอาคาร ๓๓๗
ถ – ๕ การประกอบกําลงั ของชุดกวาดลา้ ง ๓๓๙
ถ – ๖ การเจาะผา่ น ๓๔๒
ถ – ๗ จดุ ทีทาํ การเจาะ ๓๔๓
ถ – ๘ การเคลือนทีเป็นรายบุคคลและการควบคุมการใชอ้ าวธุ ๓๔๕
ถ – ๙ การปฏิบตั ิด้านนอกจดุ ผา่ นเขา้
ถ – ๑๐ การปฏิบตั ิ ณ จดุ ผา่ นเขา้

ผนวก ท ถ – ๑๑ การยิงแบบไตร่ตรอง หน้า
ผนวก น ถ – ๑๒ ลกั ษณะแตกต่างของเป้ าหมาย ๓๕๕
ผนวก บ ถ – ๑๓ ความปลอดภยั และการป้ องกนั กาํ ลงั พล ๓๕๘
ถ – ๑๔ การรบใกลท้ ีพกั อาศยั ในเวลากลางคืน ๓๕๘
การใช้เฮลคิ อปเตอร์ตดิ อาวุธในพืนทีสิงปลูกสร้าง ๓๕๙
ท – ๑ ภารกิจของเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธในการสนบั สนุน ๓๖๑
๓๖๑
ปฏิบตั ิการทางทหารในเมือง
ท – ๒ ขอ้ พิจารณาในการวางแผนใช้ ฮ. ติดอาวุธ ๓๖๒
ท – ๓ การปฏิบตั ิการของ ฮ. ติดอาวธุ ในทศั นวิสัยจาํ กดั ๓๖๔
การเจาะฉากขัดขวางในเมือง ๓๖๕
น – ๑ การป้ องกนั กองกาํ ลงั ๓๖๕
น – ๒ การเจาะผนังดา้ นนอกทีเสริมความแขง็ แรง ๓๖๕

และไม่เสริมความแข็งแรง ๓๖๖
น – ๓ การเจาะผนังในอาคารและฝากนั ๓๖๘
น – ๔ ดินระเบิดเจาะประตู ๓๗๔
หน่วยทหารราบและยานเกราะขนาดเล็กปฏิบัติการทางทหารในเมือง ๓๗๔
บ – ๑ จุดแข็ง จดุ ออ่ น และการพิจารณาใชก้ าํ ลงั ในการสนธิ
๓๗๕
กาํ ลงั ขนาดเล็กของหน่วยกาํ ลงั รบ
บ – ๒ การสนธิกาํ ลงั ทหารราบ-รถถงั / ยานรบแบลคลีย์

คาํ นํา

ค่มู ือราชการสนามเลม่ นี กาํ หนดขอบเขตและเทคนิคใหก้ บั ทหารราบในการตอ่ สูก้ บั ขา้ ศึกใน
พืนทีสิงปลกู สร้างทีอาจจะอยูร่ ่วมกนั หรือแยกออกจากประชาชน เทคนิคบางอยา่ งใชร้ ่วมกบั การก่อ
ความไม่สงบ กองโจร และผูก้ อ่ การร้าย แตอ่ ยา่ งไรก็ตาม ควรใช้คมู่ ือราชการสนามเลม่ นีร่วมกบั
รส.๗-๙๘ มีความน่าจะเป็นไปไดอ้ ยา่ งมากทีกาํ ลงั ทหารจะถูกดึงเขา้ ไปมีส่วนร่วมกบั ประชาชนโดย
ฝ่ายข้าศึก ดงั นนั ให้หนว่ ยใชเ้ ทคนิคทีกาํ หนดไวใ้ นคมู่ ือราชการสนามเล่มนีภายใตส้ ภาวการณ์เหล่านี
ซึงจาํ เป็น ตอ้ งปฏิบัติตามกฎการปะทะทีสงั การโดยกองบญั ชาการหนว่ ยเหนือ และตามกฎของ
สงครามภาคพืนดิน ผบู้ ังคบั บัญชาทหารราบและฝ่ายอาํ นวยการควรมุ่งเนน้ ไปทีทกั ษะทีมีอยใู่ น
บทที ๓ – บทที ๕ ใชฝ้ ึ กหนว่ ย

เมืองทีไดเ้ ติบโตทุกพืนทีของโลกไดเ้ ปลียนโฉมหนา้ ของสนามรบ การปฏิบตั ิการทางทหารใน
พืนทีสิงปลกู สร้าง (MOUT) สถาปนาสนามรบขึนในภาคพืนยโุ รปและเอเชีย ซึงประกอบดว้ ย
โครงสร้างทีมนษุ ยส์ ร้างขึนทงั หมด (นคร เมือง หม่บู า้ น) เช่นเดียวกบั ภมู ิประเทศตามธรรมชาติ การ
ต่อสูใ้ นพืนทีสิงปลูกสร้างเนน้ ทีการต่อสูใ้ หเ้ หมาะกบั ในนคร เมือง และหมู่บ้านเหลา่ นนั

หากผใู้ ชค้ ่มู ือราชการสนามเล่มนี สงสยั ขอ้ ความตอนใดหรือประสงคท์ ีจะเสนอแนะเพอื การ
แกไ้ ขปรบั ปรุงและพฒั นาใหท้ นั สมยั ยงิ ขึน ขอไดส้ ่งขอ้ มลู โดยระบเุ ลขหนา้ หวั ขอ้ และบรรทัดของ
ขอ้ ความในคมู่ ือราชการสนามเลม่ นี พร้อมดว้ ยเหตุผลประกอบ ส่งมายงั กองวิทยาการ
ศูนยก์ ารทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อาํ เภอปราณบรุ ี จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ รหสั ไปรษณีย์ ๗๗๑๖๐

ศูนย์การทหารราบ

-๑-

บทที ๑

กล่าวนาํ
จาํ นวนประชากรทีเพมิ ขึนอย่างต่อเนือง และชมุ ชนเมืองทีเติบโตอยา่ งรวดเร็ว ทาํ ใหป้ ัญหา
ของการรบในพืนทีสิงปลูกสร้าง กลายเป็นปัญหาสําคัญเร่งด่วนของกองทพั บก เนืองจากการรบใน
พืนทีสิงปลูกสร้างจะเป็นการรบทีไม่อาจหลีกเลียงได้ พนื ทีสิงปลูกสร้างขนาดเล็กทีอยภู่ ายใน หรือ
ตอ่ เนืองออกไปจากตวั เมืองขนาดใหญน่ นั หากข้าศึกสามารถยดึ ไวไ้ ดเ้ พียงไม่กีแห่งจะกลายเป็นทีมนั
หรือทีตังยิงทีแขง็ แรง ซึงฝ่ ายเราจะตดั การยิงสนบั สนุนของฝ่ายขา้ ศึกไดย้ ากมาก คาดไดว้ ่าสนามรบ
ในอนาคต สาํ หรบั ประเทศในยโุ รปและเอเชียนนั จะอยใู่ นพืนทีสิงปลกู สร้าง โดยการรบจะใชก้ าํ ลงั
ขนาดกรมและใหญก่ วา่
ค่มู ือฉบบั นีเสนอ ยทุ ธวิธี เทคนิค และระเบียบปฏิบตั ิ จากหลกั นิยมปัจจุบนั วา่ ดว้ ยการรบใน
พืนทีสิงปลกู สร้าง สําหรับผบู้ งั คบั กองพนั และตํากวา่

ตอนที ๑
ความเป็ นมา
หลกั นิยมของฝ่ายตรงข้ามและฝ่ ายเรา ตา่ งใหค้ วามสําคญั ของการรบในพืนทีสิงปลกู สร้างมาก
ขึน เนืองจากการขยายตวั ของชมุ ชนเมือง มีผลกระทบตอ่ ปฏิบตั ิการทางทหารเสมอเหมือนกบั ความ
เปลียนแปลงของลกั ษณะภมู ิประเทศนนั เอง แมห้ ลกั นิยมจะยงั คงเดิม แต่การปฏิบตั ิการทีไม่ใช่
สงคราม การก่อการร้าย และการก่อความไมส่ งบ ทีมีมากขึนเรือยๆ ในเมืองนนั เป็นการยืนยนั ไดว้ ่า
การรบในเมืองจะเป็นสิงทีไมอ่ าจหลีกเลียงได้
๑ - ๑ การรบอากาศพืนดิน
หลกั นิยมการรบอากาศพืนดิน คือหลกั นิยมของกองทพั บกในการสร้าง และใชอ้ าํ นาจกาํ ลงั รบ
ในระดบั ยทุ ธการและยทุ ธวิธี พืนฐานของหลกั นิยมนีอยทู่ ีการยึดและรักษาไวซ้ ึงความริเริม และใช้
ความริเริมนันอย่างรุกรบ เพอื การบรรลุภารกิจ หลกั การพืนฐานทงั ๔ ประการ ไดแ้ ก่ ความริเริม
ความวอ่ งไว ความลึก และความประสานสอดคล้องยงั คงไมเ่ ปลียนแปลง และระหว่างปฏิบตั ิการรบ
ในพืนทีสิงปลูกสรา้ ง กย็ งั คงใชห้ ลกั นิยมการรบอากาศพืนดินเหมือนเดิม เพียงแต่ลักษณะภมู ิประเทศ
บริเวณทีจะทาํ การรบเท่านนั ทีเปลียนแปลง
๑ - ๒ คาํ จํากดั ความ
การรบในพืนทีสิงปลูกสร้าง หมายถึง การรบทีมีการวางแผน และปฏิบัติการในภูมิประเทศที
มนุษยส์ รา้ งขึน และมีผลกระทบตอ่ หนทางเลือก ทางยทุ ธวิธีของผบู้ ังคบั หน่วย ความมุ่งหมายของการ
รบคือ เพือเอาชนะขา้ ศึกซึงอาจปะปนอยกู่ บั ประชาชน จึงจํากดั การใชอ้ ํานาจกําลังรบ และตอ้ งปฏิบตั ิ
การภายใต้กฎการปะทะทีเขม้ งวดกว่าการปฏิบตั ิการทางทหารภายใตส้ ภาพเงอื นไขอืนๆ ความเปลียน
แปลงทางการเมือง ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี และบทบาทของประเทศมหาอาํ นาจในการรักษากฎ
ระเบียบของโลก ทาํ ใหก้ ารรบในพืนทีสิงปลูกสร้างขยายขอบเขตไปยงั มิติใหม่ๆ อยา่ งทีไมเ่ คยมีมา
กอ่ น เงอื นไขและมิติใหม่ๆ เหล่านีเองทีมีผลกระทบตอ่ วิธีการรบ และวิธีการบรรลภุ ารกิจของหน่วย

-๒ -
คาํ จาํ กัดความต่อไปนี กาํ หนดขึนเพอื ความชดั เจนและเนน้ เรืองสาํ คญั สาํ หรับผบู้ งั คบั หน่วยที
จะวางแผนการปฏิบตั ิทางยทุ ธวิธีในการรบในพนื ทีสิงปลกู สร้าง
คาํ ว่า “การปฏิบัตกิ าร MOUT เพอื ช่วยเหลือ” และ “การปฏิบัติการ MOUT ทีแม่นยํา”นนั
ไม่แตกต่างกันทางหลกั นิยม แตก่ าํ หนดขึนเพอื แสดงความแตกต่างกนั โดยลกั ษณะของการปฏิบัติ
เท่านนั
ก. พืนทสี ิงปลกู สร้าง หมายถึง พืนทีทีหนาแน่นไปดว้ ยสิงกอ่ สร้าง สิงอาํ นวยความสะดวก
และประชาชน ซึงรวมตวั กนั เป็นศูนยก์ ลางกิจกรรมทางเศรษฐกิจและวฒั นธรรมของพนื ทีโดยรอบ
พืนทีสิงปลูกสร้างแบ่งออกเป็น ๔ ประเภท ไดแ้ ก่ มหานคร เมืองและนครเลก็ หม่บู า้ น และย่าน
ชมุ ชน
ข. การปฏิบัติการ MOUT เพอื ช่วยเหลอื มกั เป็นปฏิบตั ิการพิเศษร่วมของหน่วยรบพิเศษ ใน
ภารกิจการตีโฉบฉวย ปฏิบตั ิการฟื นฟู การกภู้ ยั และปฏิบัติการพิเศษอืนๆ (เช่น การชิงตวั ประกนั
เป็นตน้ )
ค. การปฏิบัติการ MOUT ทแี ม่นยํา ปฏิบตั ิโดยหนว่ ยกาํ ลงั ตามแบบ เพอื เอาชนะขา้ ศึก ซึง
ปะปนอยกู่ บั ผูไ้ ม่เกียวขอ้ งกบั การรบ ตอ้ งปฏิบตั ิดว้ ยความระมดั ระวงั เพือจาํ กดั ความสูญเสียทีอาจเกิด
แก่ ผูไ้ ม่เกียวขอ้ งกบั การรบ และความสูญเสียข้างเคียงอืนๆ การปฏิบตั ิเป็นบุคคลและเป็นหน่วย
จาํ เป็นตอ้ งถูกจาํ กดั อยภู่ ายใตค้ วามควบคุมโดยกฎการปะทะทีเขม้ งวด นอกจากนนั ยงั จาํ เป็นตอ้ งใช้
ยทุ ธวิธี เทคนิค และระเบียบปฏิบตั ิ สาํ หรับการใชอ้ าํ นาจกาํ ลงั รบอย่างเหมาะสม เช่น Operation Just
Cause (รายละเอียดใน ผนวก ช)

๑ - ๓ มหานคร
โดยปกติ เมืองใหญ่เป็นศนู ยก์ ลางทางการเงิน การเมือง การขนส่ง การติดตอ่ สือสาร การ

อตุ สาหกรรมและวฒั นธรรม ดงั นนั จึงมกั กลายเป็นพืนทีการรบทีสําคญั อยบู่ ่อยครงั ตามตารางที ๑- ๑

เมือง ปี เมอื ง ปี

RICA 1917 BUDAPEST 1956

MADRID 1936 BEIRUT 1958

WARSAW 1939 SANTO DOMINGO 1965

ROTTERDAM 1940 SAIGON 1968

MOSCOW 1942 KONTUM 1968

STALINGRAD 1942 HUE 1968

LENINGRAD 1942 BELFAST 1972

ตารางที ๑ - ๑ มหานครทีเคยเป็ นสนามรบ ระหว่างความขัดแย้ง ในศตวรรษที ๒๐

เมือง -๓ - ปี
WARSAW 1972
PALERMO ปี เมือง 1972
BREST 1943 MONTE VIDEO 1972
WARSAW 1944 QUANGTRI CITY 1975
AACHEN 1944 ANLOC 1975
ORTONA 1944 XUANLOC 1975-1978
CHERBOURG 1944 SAIGON 1978
BRESLAU 1944 BEIRUT 1981
WEISSENFELS 1944 MANAGUA 1982
BERLIN 1945 ZAHLE 1983
MANILA 1945 TYRE 1989-1990
SAN MANUEL 1945 BEIRUT 1989-1990
SEOUL 1945 PANAMA CITY 1991
1945 COLON
1950 SUWAIT CITY

ตารางที ๑ - ๑ มหานครทเี คยเป็ นสนามรบ ระหว่างความขัดแย้ง ในศตวรรษที ๒๐ (ต่อ)

ก. ความมุ่งหมายของปฏิบตั ิการทางทหารในพนื ทีสิงปลกู สร้าง คือเพอื ใหไ้ ดม้ าซึง ความ
ไดเ้ ปรียบทางยทุ ธศาสตร์และยทุ ธวิธีจากตวั เมืองใหม้ ากทีสุด และเพือขดั ขวางไมใ่ ห้ขา้ ศึกสามารถ
เขา้ ถึงความไดเ้ ปรียบเหล่านนั ฝ่ายทีสามารถควบคุมเมืองใหญ่ได้ มกั เป็นฝ่ ายทีไดเ้ ปรียบทางจิตวิทยา
ซึงยอ่ มเกือกลู ต่อการปฏิบตั ิการทางทหารต่อไปทีใหญ่กว่าในอนาคต

ข. แมแ้ ตใ่ นการก่อความไมส่ งบ การสูร้ บก็มกั เกิดขึนในเมืองใหญ่ ในประเทศทีกําลงั พฒั นา
การควบคมุ เมืองใหญเ่ พยี งไม่กีเมือง อาจส่งผลใหส้ ามารถควบคุมทรพั ยากรของชาติไดท้ งั หมด การ
จลาจลทีเกิดขึนในเมืองใหญๆ่ ในหว้ งทศวรรษที ๖๐ สงครามกองโจรและการก่อการร้ายใน Santo
Domingo, Caracas, Belfast, Managua และ Beirut แสดงใหเ้ ห็นว่าสถานการณ์ทีสําคญั ๆ ของโลกใน
หว้ งนัน ลว้ นเป็นผลสืบเนืองมาจากการสูร้ บในพนื ทีสิงปลูกสร้าง

ค. ภูมิประเทศทีถกู เปลียนแปลงไปตามลกั ษณะของพืนทีสิงปลูกสร้าง ยอ่ มมีผลกระทบตอ่
การปฏิบตั ิการทางทหารอืนๆ ดว้ ย ในหว้ งเวลา ๔๐ ปี ทีผา่ นมา เมืองใหญๆ่ มีการขยายตวั ออกไปใน
ภูมิประเทศโดยรอบจนไมม่ ีเส้นเขตทีชดั เจนใหเ้ ห็นอีกตอ่ ไป ข่ายถนนใหม่ๆ เปิ ดผา่ นเขา้ พืนที ซึงเดิม
ไมส่ ามารถเขา้ ถึงหรือผา่ นได้ ทางหลวง คลอง และทางรถไฟ ถูกสร้างขึนเรือยๆ เพือเชือมโยงแหล่ง
ศนู ยก์ ลางของประชากรต่างๆ เขา้ ดว้ ยกัน สิงทีติดตามมาคือ การอุตสาหกรรมทีเจริญเติบโตขึนตาม

-๔ -
แนวเชือมโยงดงั กลา่ ว เกิดเป็นแนวยา่ นชุมชน ส่วนพนื ทีชนบทซึงโดยปกติแมว้ า่ จะยงั คงเอกลกั ษณ์
ความเป็นพืนทีไร่นาไวไ้ ด้ แตก่ จ็ ะตอ้ งถกู เชือมโยงเขา้ กบั เมืองดว้ ยข่ายเส้นทางรอง

ง. ความเป็นไปดงั กลา่ วนีเกิดขึนทวั โลก แต่มากทีสุดในยโุ รปตะวนั ตก แนวโนม้ คือ บรรดา
เมืองใหญ่ๆ ในยโุ รปต่างเติบโตพรอ้ มๆ กนั และเชือมโยงกนั เป็นพืนทีสิงปลูกสร้างทีกวา้ งใหญ่มาก
พืนทีสิงปลกู สร้างทวั ทังภูมิภาคจะมีลกั ษณะเหมือนกนั คือเป็นพนื ทีต่อเนืองถึงกนั ไม่ขาดตอน ดงั เช่น
พืนทีตามแนวแม่นาํ รูห์ และแมน่ าํ ไรน์ เป็นต้น ลักษณะเช่นนียอ่ มขดั ขวางและเปลียนแปลงแนวทาง
เคลือนทีของยานเกราะตามทีเคยเป็นมาในประวตั ิศาสตร์ หรือลดจาํ นวนภูมิประเทศเปิ ด ซึงจาํ เป็น
ตอ้ งใชใ้ นการเคลือนทีของฝ่ายเขา้ ตีโดยสินเชิง คาดไดว้ ่า ภายในพืนทีปฏิบตั ิการของหน่วยเพียงขนาด
กรมเทา่ นนั จะครอบคลุมตวั เมืองขนาดยอ่ มๆ ถึง ๒๕ เมือง และเมืองเหล่านนั ส่วนใหญ่จะวางตวั ตาม
แนวทางการเคลือนทีเปิ ด (รูปที ๑ - ๑)

รูปที ๑ – ๑ พืนทีสิงปลูกสร้างขัดขวางพืนทดี ําเนนิ กลยทุ ธ์
จ. พืนทีสิงปลูกสร้างหนาแนน่ จะเกือกลู แก่ฝ่ ายตงั รบั มากกว่าฝ่ายเขา้ ตี หากวางกาํ ลงั ทีมีความ
คลอ่ งแคล่วในการเคลือนทีไวใ้ นบริเวณภมู ิประเทศทีเป็นชอ่ งว่าง ประกอบกบั วางระบบอาวุธตอ่ สู้
รถถงั ในบริเวณสิงกอ่ สรา้ ง จะทาํ ใหฝ้ ่ายตงั รบั สามารถควบคุมแนวทางการเคลือนทีได้ และจะเพมิ คา่
ความตา้ นทานในการตงั รับโดยรวมอยา่ งเห็นไดช้ ัด
ฉ. กาํ ลังทีเขา้ ปฏิบตั ิการอาจมีส่วนต่างๆ แยกไปอยใู่ นพืนที ทงั ทีเป็นภูมิประเทศเปิ ด ใน
หมู่บา้ น ในเมือง ในนครเลก็ และในนครใหญ่ กาํ ลงั ทีปฏิบตั ิการในพืนทีทีแตกต่างกนั เหล่านนั ยอ่ ม
จาํ เป็นตอ้ งใช้ ยทุ ธวิธี การจดั เฉพาะกิจ การยงิ สนบั สนุน และการช่วยรบทีแตกตา่ งกนั ออกไป

-๕-

๑ - ๔ ภัยคกุ คามสําหรับการรบในพืนทีสิงปลกู สร้าง
บรรดารัฐเครือจกั รภพ และประเทศทีใช้หลกั นิยมของอดีตสหภาพโซเวียตต่างใหค้ วามสาํ คัญ

ของการฝึ กทําการรบในพืนทีสิงปลูกสร้างมาจนถึงปัจจุบนั เนืองจากมีแนวโนม้ ทีทาํ ใหป้ ระเทศ
เหล่านันเชือว่า ความขดั แยง้ ในอนาคต การรบดงั กล่าว จะเป็นสิงทีไมอ่ าจหลีกเลียงได้ แต่ประเทศทีจะ
เป็นภยั คกุ คามสําหรบั การรบในพนื ทีสิงปลูกสร้าง ไม่จาํ กดั อยแู่ ต่เฉพาะกลมุ่ ประเทศทีใชห้ ลกั นิยม
อดีตสหภาพโซเวียตเทา่ นนั แตม่ ีความเป็นไปไดก้ บั ประเทศในโลกทีสามดว้ ย ในรูปของการก่อความ
ไมส่ งบ สงครามกองโจร และการก่อการร้าย

ตอนที ๒
คุณลกั ษณะ และประเภทของพืนทสี ิงปลูกสร้าง
สิงสําคญั ประการแรกของการรบในพนื ทีสิงปลูกสร้างคือ ความเขา้ ใจคุณลกั ษณะร่วม และ
วิธีการแบ่งประเภทของพนื ทีสิงปลูกสรา้ ง

๑ - ๕ คุณลักษณะ
พืนทีสิงปลกู สร้างประกอบดว้ ยสิงต่างๆ ทีมนุษยส์ รา้ งขึนเป็นหลกั เช่น อาคารซึงเกือกลู ต่อ

การกําบงั และซ่อนพราง ขณะเดียวกนั เป็นสิงจาํ กดั การตรวจการณ์และพนื การยิง ตลอดจนขดั ขวาง
การเคลือนทีของกาํ ลังทหาร โดยเฉพาะอยา่ งยิง หน่วยทหารยานเกราะ อาคารทีมีผนังหนาสามารถใช้
เป็นทีมนั แข็งแรงไดท้ นั ที ขณะเดียวกันอาคารทีมีผนงั บาง หากสามารถตรวจการณ์ได้ดีก็นบั ว่ามีความ
สําคญั คุณลกั ษณะสําคญั อีกประการหนึงของพนื ทีสิงปลูกสรา้ งคือ ความซับซ้อนของโครงสรา้ ง
อาคารและตวั เมืองจะช่วยเพมิ ความยงุ่ ยาก สับสน และลดประสิทธิภาพ ในการบงั คบั บญั ชาและการ
ควบคมุ ของฝ่ ายขา้ ศึก

ก. แนวทางเคลือนที จาํ เป็นตอ้ งใชถ้ นนเป็นหลกั ซึงจะถกู บังคบั ทิศทางไปตามแนวสิงปลูก
สรา้ ง และมีพืนทีดาํ เนินกลยทุ ธ์นอกถนนจาํ กัด ดงั นนั การวางเครืองกีดขวางบนถนนในเมืองจะไดผ้ ล
มากกว่าการวางบนเส้นทางในภูมิประเทศเปิ ด เพราะการออ้ มผา่ นทําไดย้ ากกว่า

ข. ระบบใตด้ ิน เช่น รถไฟใตด้ ิน ท่อระบายนาํ อโุ มงค์ หอ้ งใตด้ ิน และทอ่ สาธารณูปโภคที
วางไวใ้ ตด้ ินเป็นสิงทีมีความสาํ คัญตอ่ ปฏิบตั ิการทางทหาร ซึงมกั ถกู มองขา้ ม (รูปที ๑ - ๒)

-๖-

อาคาร

รูปทางขวาง
ห้องใตด้ ิน

รถไฟใต้ดิน ทอ่ ระบายนาํ และ
ทอ่ สาธารณปู โภค

รูปที ๑ – ๒ ระบบใต้ดิน

๑ - ๖ ประเภทของพืนทสี ิงปลกู สร้าง
มี ๔ ประเภท ได้แก่
หมบู่ า้ น (ประชากรน้อยกว่า ๓,๐๐๐ คน)
ยา่ นชมุ ชน (พนื ทีสิงปลูกสร้างตามแนวถนนเชือมโยงระหว่างเมืองหรือนคร)
เมือง หรือ นครขนาดเล็ก (ประชากรประมาณ ๑,๐๐๐,๐๐๐ คน และไม่เป็นส่วนหนึงของ

นคร)
มหานครและปริมณฑล (ประชากรหลายลา้ นคน ครอบคลุมพืนทีหลายร้อยตารางกิโลเมตร)

แต่ละประเภทมีผลต่อปฏิบตั ิการทางทหารแตกต่างกนั หมบู่ ้านและย่านชมุ ชนมักเป็นพนื ทีการ
รบของหน่วยระดบั กองร้อยและกองพนั เมืองหรือนครเลก็ สาํ หรบั ปฏิบตั ิการทางทหารระดบั กรม
หรือกองพล ส่วนนครใหญ่และปริมณฑล มกั เป็นพนื ทีปฏิบัติการของหน่วยระดบั กองทพั นอ้ ยขึนไป

ตอนที ๓
ข้อพจิ ารณาพิเศษ
๑ – ๗ การรบในเมอื งจะเกิดขึนเมอื
ตวั เมืองตงั อยรู่ ะหว่างสิงกีดขวางตามธรรมชาติสองแห่ง ซึงไม่สามารถเคลือนทีออ้ มผ่านได้
หากยึดตวั เมืองได้ จะส่งผลใหส้ ามารถบรรลภุ ารกิจโดยรวม
ตวั เมืองตงั บนแนวทางรุกหลกั ซึงไมส่ ามารถปิ ดลอ้ มหรือออ้ มผ่านได้
มีความจาํ เป็นทางการเมืองหรือทางดา้ นมนษุ ยธรรมทีตอ้ งยึดหรือควบคุมตวั เมืองไว้

-๗ -

๑ - ๘ เป้ าหมายในพืนทสี ิงปลกู สร้าง
ระยะการตรวจการณ์และการยิง ภายในตวั เมืองจะถกู จาํ กัดดว้ ยโครงสร้างของอาคารและฝ่ ุน

ควนั จากการรบ เป้ าหมายจะเกิดขึนเพียงระยะเวลาสนั ๆ ในระยะทางเพียงประมาณ ๑๐๐ เมตรหรือ
นอ้ ยกว่า ทาํ ใหก้ ารรบในเมืองเป็นการรบระยะประชิดและรุนแรง อาวธุ ทีส่วนใหญ่เป็นของหน่วย
ทหารราบ ไดแ้ ก่ อาวธุ ต่อสูร้ ถถงั ขนาดเบาและกลาง ปื นเลก็ กล ปื นกล และระเบิดขว้าง โอกาสทีจะ
ใชจ้ รวดนาํ วิถีตอ่ สูร้ ถถงั มีนอ้ ยมาก เนืองจากมีระยะยิงใกล้ และมีสิงกีดขวางวิถีของขีปนาวธุ จาํ นวน
มาก

๑ - ๙ การรบของหน่วยขนาดเล็ก
หน่วยทีทาํ การรบในพืนทีสิงปลูกสร้างมกั ตอ้ งปฏิบตั ิการโดดเดียวจากหน่วยเหนือ ทาํ ใหก้ ารรบ

ถูกแบ่งออกเป็นส่วนยอ่ ยๆ โดยหนว่ ยขนาดเลก็ หลายๆ หน่วยดว้ ยกัน ดงั นันทหารและผบู้ งั คบั หนว่ ย
ทหารขนาดเลก็ ทุกคนจาํ เป็นต้องมีความริเริม ทกั ษะ และความกลา้ หาญ จึงจะบรรลภุ ารกิจทีตอ้ ง
ปฏิบตั ิการอย่างโดดเดียวได้ เนืองจากในการรบแบบนี ฝ่ ายตงั รบั ทีผา่ นการฝึ กมาอยา่ งดี ยอ่ มมีความ
ไดเ้ ปรียบทางยทุ ธวิธีเหนือฝ่ายเข้าตีเป็นอยา่ งมาก เพราะฝ่ ายตงั รบั ไดเ้ ขา้ ประจาํ ในทีมนั ตงั รบั ที
แข็งแรงอยู่ก่อนแลว้ แตก่ ารเคลือนทีของฝ่ายเขา้ ตีนนั เป็นการเปิ ดเผยตนเองตอ่ การตรวจการณ์ทุกครัง
ระยะเสน้ เล็งทีสนั ลง จาํ นวนสิงกีดขวางทีมากขึนและภูมิประเทศซึงถกู แบง่ เป็นส่วนๆ ดว้ ยสิงปลูก
สรา้ งทาํ ใหจ้ าํ เป็นตอ้ งเพมิ จาํ นวนทหารมากขึน ตอ่ กวา้ งดา้ นหน้าทีเท่ากนั กบั การรบในภูมิประเทศเปิ ด
ถึงประมาณ ๓ ถึง ๕ เทา่ ทหารเป็นบุคคลตอ้ งได้รับการฝึ กและเตรียมความพรอ้ มทางจิตวิทยาสาํ หรบั
การรบแบบนีเป็ นการเฉพาะ

๑ - ๑๐ อาวธุ กระสุน และยุทโธปกรณ์พเิ ศษ
การรบในเมืองตอ้ งใชก้ ระสุนจาํ นวนมาก เพราะตอ้ งใชใ้ นการลาดตระเวนดว้ ยการยิงเป็นหลกั

เนืองจากมีทศั นวิสยั และระยะยิงจาํ กัด กระสุนทีมกั ใชม้ าก ไดแ้ ก่ กระสุนต่อสู้รถถงั ขนาดเบา หรือ
กระสุน เอที – ๔ (AT–4) กระสุนปื นเลก็ และปื นกล กระสุนเครืองยิงลกู ระเบิดขนาด ๔๐ มิลลิเมตร
ลูกระเบิดขวา้ งและดินระเบิดต่างๆ ยทุ โธปกรณ์พิเศษทีตอ้ งใช้ ไดแ้ ก่ โยทะกา เชือก หว่ งนิรภยั
บนั ไดทีพบั ได้ บนั ไดเชือก เครืองมือกอ่ สร้าง ขวาน และกระสอบทราย เครืองมือดงั กล่าวตอ้ งมีให้
หน่วยใชไ้ ดท้ นั ที โดยอาจรวบรวมไว้ ณ แหลง่ เกบ็ หรือนาํ ไปกบั หนว่ ยดว้ ยตามคาํ ร้องขอ

๑ - ๑๑ การติดต่อสือสาร
การรบในพืนทีสิงปลกู สร้างต้องการการวางแผนแบบรวมการ ปฏิบตั ิแบบแยกการ ดงั นนั การ

ติดต่อสือสารจึงเป็นหวั ใจสําคญั ของการปฏิบตั ิ ผบู้ งั คบั บญั ชาตอ้ งไวใ้ จในความริเริมและเชือมนั ใน
ทกั ษะของหน่วยรอง ซึงไม่มีหนทางอืนใดทีจะไดม้ าซึงสิงนี นอกเหนือไปจากการฝึ กเทา่ นนั ระดบั
คุณภาพของการฝึ กทีไดร้ ับ คือปัจจยั สําคญั ยงิ ทีชีขาดความสําเร็จของการรบในเมือง

ก. การสือสารทางสาย เป็นวิธีทีดีสาํ หรบั ควบคุมการตงั รับ และการระวงั ป้ องกนั ในเมือง แต่
จะเป็นอนั ตรายหากถูกขา้ ศึกตรวจพบ

-๘ -
ข. การสือสารทางวิทยุ มกั ถูกจาํ กดั ดว้ ยโครงสร้างอาคาร และสายส่งกระแสไฟฟ้ าแรงสูง
ถึงแมว้ ่าจะมีวิทยรุ ุ่นใหม่ๆ ทีสามารถแกป้ ัญหาเหล่านนั ได้ แตไ่ ม่สามารถจะมีวิทยุดงั กลา่ วนนั ไดท้ ุก
หนว่ ย ดังนันการสือสารทางวิทยจุ ึงใชเ้ ป็นเพียงวิธีการสาํ รองเทา่ นนั
ค. ทศั นสัญญาณอาจใชไ้ ด้ แต่มกั ถกู จํากดั ดว้ ยฉากหลงั ซึงเป็นอาคาร กาํ แพง และอืนๆ ทศั น-
สัญญาณทีจะใช้ ตอ้ งมีการวางแผนทีดี มีการแจกจ่ายทวั ถึง และเป็นทีเขา้ ใจกันทงั หมด เสียงสัญญาณ
กใ็ ชไ้ ดอ้ ย่างจาํ กดั เนืองจากในเมืองมีเสียงอืนๆ รบกวนจาํ นวนมาก
ง. การใชพ้ ลนาํ สาร เป็นอีกวิธีหนึงทีใช้ร่วมกบั วิธีการสือสารอืนๆ

๑ - ๑๒ ความเครียด
ความเครียดของกาํ ลังพล เป็นอีกปัญหาหนึงของการรบในพืนทีสิงปลกู สร้าง การรบประชิด

ความกดดนั ยอดความสูญเสียทีสูง เป้ าหมายทีเกิดขึนและหายไปอยา่ งเร็ว ตลอดจนการยิงของขา้ ศึก
จากทีตงั ทีมองไม่เหน็ ซึงเป็นอยอู่ ยา่ งตอ่ เนืองยอ่ มก่อใหเ้ กิดความเครียดทางจิตวิทยา และความอ่อนลา้
ทางร่างกายแก่ทหารทีสะสมมากขึนเรือยๆ ดงั นันผบู้ งั คบั บญั ชาตอ้ งพจิ ารณาสภาพขวญั และความ
เป็นปึ กแผน่ ของผบู้ งั คบั หนว่ ยและทหารทีเขา้ ปฏิบตั ิการดว้ ย การลดปัจจยั ความเครียดอาจทาํ ไดโ้ ดย
การผลัดเปลียนหนว่ ยทีทําการรบหนกั ใหม้ ีเวลาพกั นานขึน

๑ - ๑๓ ข้อจํากดั
กฎการทําสงคราม ไดจ้ าํ กดั ความสูญเสียแกผ่ ทู้ ีไมเ่ กียวขอ้ งกบั การรบ และแก่ทรพั ยส์ ินทีไม่

เกียวขอ้ ง ซึงเป็นการจาํ กดั เสรีของผบู้ งั คบั หนว่ ยในการใชอ้ าวุธและยทุ ธวิธีทีจาํ เป็น แมจ้ ะเป็นปัจจยั ที
ไม่เกือกลู แต่เป็นสิงจําเป็นต่อการรักษาสถาบนั และวัตถทุ ีมีค่าทางวฒั นธรรม และเพือใหไ้ ดร้ ับการ
สนบั สนุนจากประชาชน หนว่ ยทหารทีเข้าปฏิบตั ิการตอ้ งมีวินยั ทีดียิง จึงจะรกั ษากฎการสงครามและ
กฎการปะทะในการปฏิบตั ิได้ ผบู้ งั คบั บญั ชาตอ้ งเขม้ งวดกวดขนั ตอ่ การป้ องกนั หรือลงทณั ฑ์ กรณี
การฉกชิงทรพั ยส์ ินและกรณีกระทาํ ผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญาทหาร

๑ - ๑๔ การหลกี เลยี งการยงิ จากฝ่ ายเดียวกนั
แมจ้ ะเป็นทียอมรับกนั วา่ ขอ้ พิจารณาทีสาํ คญั ทีสุดในการวางแผนการปฏิบตั ิทางยทุ ธวิธีคือ

การบรรลภุ ารกิจก็ตาม แต่ผบู้ งั คบั บญั ชาตอ้ งไม่มองขา้ มมาตรการป้ องกนั อนั ตรายจากการยงิ ของฝ่ าย
เดียวกนั ซึงจะมีเกณฑ์เสียงสูงในการปฏิบัติแบบแยกการ แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม การระวงั อนั ตรายจากฝ่าย
เดียวกนั ตอ้ งไม่เป็นการเพมิ อนั ตรายจากการยิงของฝ่ ายตรงขา้ ม การหลีกเลียงอันตรายจากฝ่ าย
เดียวกนั นนั ทําไดโ้ ดยการปฏิบัติตามหลกั นิยม ยทุ ธวิธี เทคนิค และระเบียบปฏิบตั ิทีเหมาะสม
ตลอดจนการฝึ ก ดงั นี

ก. หลกั นิยม จะให้แนวทางซึงเป็นโครงร่างพืนฐาน ของการปฏิบตั ิเพอื บรรลภุ ารกิจ ผบู้ งั คบั
บญั ชาทุกระดบั ชนั ตอ้ งเขา้ ใจหลักนิยมของชาติและของพนั ธมิตรเป็นอยา่ งดี

ข. ยุทธวธิ ี เทคนิค และระเบียบปฏิบัติ จะบอกวิธีการปฏิบตั ิซึงทกุ คนสามารถเขา้ ใจได้ โดย
ปกติจะปรากฏอยใู่ นคู่มือหลกั นิยม และระเบียบปฏิบตั ิประจาํ

-๙-
๑) ยทุ ธวิธี หมายถึงการใชห้ น่วยในการรบ หรือในการปฏิบตั ิตามลาํ ดบั ทีกาํ หนด และ
หมายถึงการดาํ เนินกลยทุ ธ์ใหส้ ัมพนั ธ์กนั กบั หน่วยทหารฝ่ ายเรา กบั ฝ่ายข้าศึก หรือกบั ทงั สองฝ่าย
๒) เทคนคิ หมายถึงคําอธิบายวิธีการทงั อย่างกว้างๆ และอยา่ งละเอียด หนึงในหลายๆวิธีการ
ทีแนะนาํ ใหห้ น่วยและผบู้ งั คบั หน่วยนาํ ไปใชป้ ฏิบตั ิภารกิจและหนา้ ที ทีไดร้ ับมอบ (โดยปกติแลว้ มกั
จะหมายถึงวิธีการใช้คนและอาวุธ) โดยไมจ่ าํ กดั เพียงวิธีการเดียวเท่านนั
๓) ระเบียบปฏิบัติ หมายถึงหนทางปฏิบตั ิทีเป็นมาตรฐานและมีรายละเอียด ซึงอธิบาย
วิธีการปฏิบตั ิกิจใหส้ าํ เร็จ
๔) การวางแผน แผนการดาํ เนินกลยทุ ธ์ทีมีความงา่ ยและออ่ นตวั และแจกจ่ายจนถึงหนว่ ย
ตาํ สุดจะชว่ ยป้ องกันอนั ตรายจากฝ่ ายเดียวกนั ได้ ในการวางแผนตอ้ งอาํ นวยใหห้ น่วยสามารถนํา
ระเบียบปฏิบตั ิประจํา และการฝึ กทาํ นองรบทีไดฝ้ ึ กไวม้ าใชใ้ หไ้ ดม้ ากทีสุด มีมาตรการควบคุมที
เพยี งพอและสนธิเขา้ กบั แผนการยิงสนบั สนนุ และมาตรการประสานการยิงสนบั สนุนของหนว่ ยอย่าง
เหมาะสม ใหส้ ามารถประกันความปลอดภยั ของหนว่ ยฝ่ ายเรากบั ใหส้ ามารถเปลียนแปลงไดต้ ลอด
เวลานบั ตงั แตเ่ ริมตน้ การปฏิบัติ
๕) การปฏิบัติ ระหว่างการปฏิบตั ิตามแผนตอ้ งมีการเฝ้ าติดตามตลอดเวลา โดยเฉพาะอยา่ ง
ยิงการติดตามทีตงั และการยิงของหน่วยทหารฝ่ายเรา และผบู้ งั คบั หนว่ ยรองทกุ หน่วย ตอ้ งใหค้ วาม
สําคญั ตอ่ ความถูกตอ้ งในการรายงานทีตงั หน่วยของตน
ค. การฝึ ก ปัจจยั สาํ คญั ทีสุดในการป้ องกันอนั ตรายจากฝ่ายเดียวกนั จะไดม้ าจาก การฝึ กทงั
เป็นบคุ คลและเป็นหนว่ ยในการปฏิบตั ิกิจเฉพาะของการรบในพนื ทีสิงปลกู สร้าง
๑) การติดตามสถานการณ์ ทหารทีผา่ นการฝึ กมาเป็นอยา่ งดีแลว้ นนั จะสามารถปฏิบตั ิบรรลุ
กิจตา่ งๆ ทีเป็นงานประจําเกือบจะโดยสัญชาติญาณ หรืออยา่ งเป็นอตั โนมตั ิ ซึงจะทาํ ใหม้ ีเวลา
สําหรับการติดตาม เฝ้ าฟงั สถานการณ์ต่างๆ ทีเกิดขึนในสนามรบอยา่ งตอ่ เนืองและสามารถติดตาม
รับรู้ทีตังหน่วยทงั ของฝ่ ายเราและฝ่ ายขา้ ศึกตลอดเวลา
๒) การซักซ้อม หมายถึงการฝึ กทีมงุ่ เนน้ โดยเฉพาะเจาะจงตอ่ ภารกิจหนึงๆ กอ่ นหน้าการ
ปฏิบตั ินนั เอง ซึงผบู้ งั คบั บัญชาทกุ ระดบั ชนั ต้องจดั สรรเวลาเพือการฝึ กทีสําคญั ยงิ นีเสมอทกุ ครัง
๓) การฝึ กเพือมาตรฐาน ทหารทีได้รบั การฝึ กจนถึงระดบั มาตรฐานของกองทัพบกแลว้
ยอ่ มเป็นทีคาดหวงั ไดว้ ่าจะปฏิบตั ิการดว้ ยมาตรฐานเดียวกนั ไม่ว่าจะอยภู่ ายใตก้ ารบงั คบั บญั ชาของ
นายทหารหรือนายสิบคนใด ณ เวลาใดก็ตาม หรือเพยี งแค่สังเกตจากการดําเนินกลยทุ ธ์ก็สามารถ
พสิ ูจน์ฝ่ายได้

- ๑๐ -

บทที ๒

การวิเคราะห์ พืนทีสิงปลูกสร้ าง
การเตรียมสนามรบดา้ นการขา่ ว (IPB) คือหัวใจสาํ คัญของปฏิบตั กิ ารในพืนทสี ิงปลูกสร้าง ข่าว
กรองคอื ส่วนสําคญั สาํ หรับการตกลงใจในการรบทกุ ครงั ชยั ชนะจะไดม้ าจากความรอบรู้ธรรมชาติของ
พืนทสี ิงปลกู สรา้ ง ผูบ้ งั คับหนว่ ยทกุ ระดบั ชนั ตอ้ งสามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบตอ่ ฝ่ ายเราและฝ่ ายขา้ ศึกได้
เนือหาในบทนีจะมงุ่ เน้นการวเิ คราะห์พืนทสี ิงปลูกสร้าง ซึงผูบ้ งั คบั หนว่ ยและฝ่ ายอาํ นวยการ ตอ้ งทราบ
กอ่ นดาํ เนินการจดั เตรียมสนามรบด้านการข่าว (IPB) (ดรู ายละเอียดใน รส.๓๔-๑๓๐)

ตอนที ๑
รูปแบบของพืนทีสิงปลูกสร้าง
พืนทีสิงปลกู สรา้ งแตล่ ะรูปแบบจะมลี กั ษณะเฉพาะทแี ตกตา่ งกนั อย่างชดั เจน แตม่ ีลกั ษณะ
โดยทวั ไปทคี ลา้ ยคลึงกนั (ตามรูปที ๒ - ๑ พืนทีสิงปลกู สรา้ งโดยทวั ไป)

ยา่ นทีอยูอ่ าศยั พืนที ใจกลางเมือง
แนวขอบใจกลางเมือง แนวยา่ นการคา้

ยา่ นพืนทีอตุ สาหกรรม
พืนทีทีมีอาคารสูงใหญม่ าก

รูปที ๒ – ๑ พืนทีสิงปลกู สร้างโดยทวั ไป

๒ - ๑ คุณลักษณะของพืนทสี ิงปลกู สร้างทคี ล้ายคลึงกนั ทุกภมู ภิ าค
คุณลกั ษณะโดยทวั ไปของนครใหญๆ่ ในโลกคือ ความหนาแนน่ ของสิงปลูกสรา้ งและประชากร

รูปแบบของโครงขา่ ยถนน การแบง่ ส่วนพืนทีตวั เมือง ความแตกตา่ งระหวา่ งพืนทีส่วนทีมงั คังกบั ส่วนที
ยากจน ความทนั สมยั และรูปลกั ษณข์ องระบบสิงอาํ นวยความสะดวก โดยพืนทีสิงปลูกสรา้ งภายในนคร
ใหญ่เหล่านนั จะมีความแตกตา่ งกนั ก็แต่เพียง ขนาด ระดบั การพฒั นา และรูปแบบเท่านนั

- ๑๑ -
ก. ผลจากยคุ อาณานิคมทาํ ใหน้ ครใหญๆ่ เกอื บทวั โลกมีคณุ ลกั ษณะแบบยโุ รป คือ มโี ครงข่ายถนนที
เชือมโยงกนั มีพืนทีแยกส่วนเศรษฐกิจและส่วนของชนกลุ่มนอ้ ย เหน็ ไดช้ ัดเจน และมีพืนทสี ่วนทีกอ่ สร้าง
แบบชัวคราว ทงั หมดนนั คือสิงกีดขวางสําหรับการใชย้ านพาหนะและในขณะเดยี วกนั ผนงั ของอาคารสูง
ซึงทาํ ดว้ ยคอนกรีตและแผ่นเหล็กจะเป็นสิงกีดขวาง ซึงกนั หรือจาํ กดั การทะลผุ ่านของคลืนวิทยทุ ีใชใ้ น
การติดต่อสือสารอีกดว้ ย
ข. ความแตกตา่ งกนั ของนครใหญ่ทงั หลายจะขึนอยกู่ บั พฒั นาการทางเศรษฐกิจและวฒั นธรรมของ
แตล่ ะภมู ิภาคทีแตกตา่ งกนั เมืองและนครในประเทศทีพฒั นาแลว้ กบั ประเทศทีกาํ ลงั พฒั นาจะแตกต่างกนั
ดว้ ยระดบั และรูปแบบของการพฒั นามากกว่าทีจะแตกต่างกนั ดว้ ยโครงสรา้ งและการใช้งานของสิงปลกู
สร้าง แนวโนม้ ทีสาํ คญั ไดแ้ ก่ ตึกสูงระฟ้ า สิงก่อสร้างด้วยคอนกรีตอดั แรง โรงงานอตุ สาหกรรมและ
ระบบการขนส่ง ศูนยก์ ารคา้ อาคารหอ้ งแถว ชานเมือง และกล่มุ อาคารทีอยอู่ าศยั
ค. การขยายเนือทีของนครใหญ่ๆ ทวั โลกในหว้ ง ๓ ทศวรรษทีผา่ นมาก่อให้เกิดปญั หาเพิมขึนสําหรับ
การรบในพืนทีสิงปลกู สร้าง การใชค้ อนกรีตอดั แรงในการก่อสรา้ งมากขนึ คือตวั อยา่ งหนึงของแนวโนม้
การใชว้ สั ดทุ เี บาลงกวา่ เดิม ซึงจะมผี ลตอ่ การเขา้ ตีหรือตงั รับในพืนทีเหลา่ นนั ตวั อย่างอืนๆ ไดแ้ ก่ การ
ขยายตวั ของกลุ่มอาคารทอี ยอู่ าศยั ศูนยก์ ารคา้ และยา่ นโรงงานอุตสาหกรรม/ระบบการขนส่ง ซึงมกั อยู่
ตามขอบชานเมือง ความเปลียนแปลงในรูปแบบเหล่านีมีผลใหก้ ารรบดว้ ยวิธีรุกทาํ ไดย้ ากลําบาก แต่
เกือกลู การรบด้วยวิธีรับ
๒ - ๒ ลักษณะเฉพาะของพนื ทีสิงปลูกสร้างในภูมภิ าคต่างๆ

พืนทีสิงปลูกสรา้ งในภูมิภาคตา่ งๆ มีลกั ษณะเฉพาะทแี ตกต่างกนั โดยสังเขป ดงั นี
ก. ตะวนั ออกกลางและแอฟริกาเหนือ ทุกประเทศมีทางออกสู่ทะเล และมอี ตั ราเร็วในการพฒั นา
สงั คมเมอื งสูง ทวั ภมู ิภาคมฤี ดูร้อนทแี หง้ แล้ง รอ้ นจดั และยาวนาน หว้ งฤดหู นาวไมย่ าวนาน ลกั ษณะ
ดงั กล่าวทาํ ใหก้ ารอยอู่ าศยั นอกเขตเมอื งเป็ นไปด้วยความยากลาํ บาก แมจ้ ะมพี ืนทเี ป็นทะเลทรายอนั กวา้ ง
ใหญ่แตม่ ีความหนาแนน่ ของเมอื งมากขึนเรือยๆ นครเกา่ ทางประวตั ิศาสตร์ขยายตัวเป็ นนครสมยั ใหม่
ขณะเดียวกนั มีเมอื งและนครใหม่ๆ เกิดเพิมมากขึน ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมนาํ มนั โดยเฉพาะ
อยา่ งยิงรอบอ่าวเปอร์เซีย อิทธิพลของวฒั นธรรมยโุ รปและรายไดจ้ ากนํามนั ส่งผลให้บริเวณศนู ยก์ ลางของ
นครใหญๆ่ มีลกั ษณะเป็นอาคารสูงและทนั สมยั
ข. อเมริกาใต้ สามารถเขา้ ถึงศนู ยก์ ลางของเมอื งและนครส่วนใหญไ่ ดท้ างทะเล มเี มืองทีเป็นท่าเรือ
หลายแห่ง มีภมู ิอากาศแบบร้อนชืน ไดร้ ับอิทธิพลทางวฒั นธรรมส่วนใหญ่จากสเปน โดยจะเห็นไดจ้ าก
เครือข่ายถนนทีมีผิวกวา้ งแผ่กระจายเป็นรัศมีออกไปจากศนู ยก์ ลางเมือง ซึงเป็นลานกวา้ ง มีโบสถใ์ หญ่
และศาลกลางอยบู่ ริเวณใกลเ้ คียง ทอี ยู่อาศยั ของชนชนั สูงและชนั กลาง จะอยรู่ วมกนั ในยา่ นศนู ยก์ ลางเมือง
โดยชนชนั ทตี ํากวา่ จะอยูใ่ นวงรอบนอกถดั ออกไป ส่วนคนยากจน มกั อาศยั อยตู่ ามสลมั ตามขอบรอบนอก
ของตัวเมอื ง

- ๑๒ -
ค. ตะวนั ออกไกล ทกุ ประเทศเวน้ มองโกเลียสามารถติดตอ่ ไดท้ างทะเล สงั คมเมอื งมคี วามหนาแน่น
โดยเฉพาะอยา่ งยิงเมอื งตามชายฝังทะเล ซึงประกอบด้วย ศนู ยก์ ลางทางการคา้ ทีทนั สมยั ลอ้ มรอบด้วย
พืนทพี ฒั นาอตุ สาหกรรมทีกวา้ งใหญ่และยา่ นทอี ยอู่ าศยั
ง. เอเชียใต้ เป็นภูมภิ าคทไี ดร้ ับอิทธิพลทางวฒั นธรรมจากยโุ รปสูงมาก เหน็ ไดจ้ ากถนนทีมีความ
กวา้ ง การสัญจรขวกั ไขว่ และผูค้ นแออดั แตย่ า่ นกลางของตวั เมอื งมกั เป็นยา่ นทอี ยอู่ าศยั ของชาวพืนเมือง
ซึงยากจนและขาดแคลนบริการสาธารณะทางเดินผ่านภายในทอี ยอู่ าศยั มีกวา้ งเพียงไมเ่ กนิ ๑ หลา
จ. เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นภมู ภิ าคทีไดร้ ับอิทธิพลทางวฒั นธรรมจากยโุ รปเช่นเดียวกนั ดงั เห็น
ไดจ้ ากเมืองหลวงของทกุ ประเทศและนครใหญๆ่ จะเป็นเมอื งทา่ ทางทะเลไปด้วย ยา่ นกลางของตัวเมือง
เป็นทีอยอู่ าศยั ของชาวพืนเมอื ง ซึงมีทงั อาคารแบบเกา่ และอาคารแบบใหมท่ ีสูงและหนาแน่น รวมทงั วดั
และศาสนสถาน ตลอดจนยา่ นทนั สมยั ดว้ ยถนนกวา้ ง สวนสาธารณะ และคลงั สินคา้
ฉ. ภูมภิ าค (ย่านกลางซาฮารา) ตรงกันขา้ มกบั ภมู ิภาคอืนๆ คือ เป็นภูมิภาคทีไมม่ ีทางออกสู่ทะเล
ลกั ษณะภูมิประเทศยากลาํ บากในการเดินทาง เกือบทกุ ประเทศกวา่ จะมสี ังคมเมืองกต็ อ่ เมอื หลงั การเขา้ มา
ของชาวยโุ รปแลว้ เทา่ นนั ดงั นนั รูปแบบพืนทสี ิงปลกู สร้างจึงเป็ นแบบสมยั ใหม่ ไมม่ ีอาคารแบบเกา่ อยเู่ ลย
ในขณะทหี ลายๆ ประเทศ ยงั คงปรากฏให้เห็นตวั เมอื ง ซึงกอ่ สร้างดว้ ยมาตรฐานตาํ อย่เู ป็นจาํ นวนมาก
๒ - ๓ คุณลักษณะของพืนทสี ิงปลูกสร้างในเมอื ง
พืนทีสิงปลูกสรา้ งในเมอื งโดยทวั ไป ประกอบดว้ ย พืนทใี จกลางเมือง พืนทยี ่านการคา้ ซึงมลี กั ษณะ
เป็นแนวยาว แนวขอบพืนทใี จกลางเมือง ยา่ นทอี ยอู่ าศยั ซึงมอี าณาเขตไมแ่ นน่ อน แนวยา่ นพืนที
อตุ สาหกรรมและย่านพืนทอี าคารสูง
ก. ในเมืองส่วนใหญพ่ ืนทีใจกลางเมืองจะไดร้ ับการพฒั นามากกวา่ บริเวณตามแนวขอบ ซึงจะเหน็
ความแตกต่างไดช้ ัดเจน พืนทใี จกลางเมอื งโดยทวั ไปในปจั จบุ นั มกั จะประกอบดว้ ยอาคารสูงทีมรี ะดบั
ลดหลันผสมผสานกนั สาํ หรับเมืองทีมีการวางผงั แบบสมยั ใหม่ พืนทใี จกลางเมอื งและตามแนวขอบของ
ใจกลางเมอื งจะมพี ืนทีวา่ งระหวา่ งสิงปลูกสร้างมากกว่าในเมอื งสมยั เกา่ โดยเฉพาะในแถบย่านพืนทีทมี ี
อาคารสูงใหญ่มากๆ จะมพี ืนทีเปิดกวา้ งระหว่างอาคารมากกวา่ บริเวณในกลางเมอื ง (รูปที ๒ - ๒ และ
รูปที ๒ - ๓)

- ๑๓ -

รูปที ๒ – ๒ พืนทีในกลางเมือง

รูปที ๒ – ๓ พืนทีทมี ีอาคารสูงใหญ่มากๆ
ข. แนวยา่ นการคา้ หมายถึงแนวอาคารหอ้ งแถวซึงมีการกอ่ สรา้ งขึนตลอดแนว ทงั สองฝังถนนสาย
หลกั ของเมอื งเป็นทีขายของ ร้านค้า และรา้ นอาหาร โดยทวั ไปถนนเหลา่ นีมกั มีความกวา้ งประมาณ ๒๕
เมตรหรือมากกวา่ ตวั อาคารมกั สูงประมาณ ๒ ถึง ๓ ชนั หรือ สูงกวา่ อาคารบา้ นเรือน บนถนนสายอืนๆ
๑ ชนั (รูปที ๒ – ๔)

- ๑๔ -

รูปที ๒ – ๔ แนวย่านการค้า
ค. แนวขอบใจกลางเมือง ประกอบด้วยถนนกวา้ ง ๑๒ ถึง ๒๐ เมตร โครงสร้างของอาคารดา้ น
หนา้ ทีติดกับถนนจะเป็นอิฐหรือคอนกรีต ในเมืองเล็กๆ อาคารเหล่านีมคี วามสูงประมาณ ๒ ถึง ๓ ชนั
ส่วนในเมอื งใหญจ่ ะสูงประมาณ ๕ ถึง ๑๐ ชนั (รูปที ๒-๕)

รูปที ๒ – ๕ แนวขอบใจกลางเมอื ง
ง. ยานทอี ย่อู าศยั และแนวยา่ นพืนทอี ตุ สาหกรรม ประกอบดว้ ยกลุ่มอาคารทีมรี ะดบั ตาํ (สูง ๑ ถึง ๓
ชนั ) รวมตวั กนั เป็นกลุ่มตามแนวถนน รูปแบบไมแ่ นน่ อน มีพืนทีโล่งสลับ โดยตัวอาคารจะตงั แยกจากกนั
เป็นหลงั ๆ (รูปที ๒ - ๖ และรูปที ๒ – ๗)

- ๑๕ -
รูปที ๒ – ๖ ย่านทีอยู่อาศยั
รูปที ๒ – ๗ ย่านพืนทีอุตสาหกรรม

- ๑๖ -
ตอนที ๒

การวิเคราะห์ภมู ิประเทศและลมฟ้ าอากาศ
การวิเคราะหภ์ ูมิประเทศสําหรบั การรบในพนื ทีสิงปลกู สร้าง มีความแตกต่างกนั อยา่ งมากกบั การ
รบในภมู ิประเทศเปิ ด แตก่ ารวเิ คราะหล์ มฟ้ าอากาศนนั ไมแ่ ตกต่างกนั แมว้ า่ ในสภาวะแวดลอ้ มของพนื ที
สิงปลูกสรา้ งนนั มีปัจจยั ทีตอ้ งพิจารณาเป็นพิเศษอยหู่ ลายประการ แต่ปัจจยั ดา้ นลมฟ้ าอากาศยงั คงพิจารณา
เชน่ เดียวกนั กบั การปฏิบตั ิในพนื ทอี ืนๆ ทวั ไป (รายละเอียดตามผนวก ด)
๒ - ๔ ข้อพิจารณาพเิ ศษด้านภมู ปิ ระเทศ
ในการวางแผนทางยทุ ธวิธีเพือการรบในพืนทีสิงปลกู สรา้ ง มขี อ้ พิจารณาพิเศษทเี กียวขอ้ งกับการ
วิเคราะห์ภมู ปิ ระเทศอยหู่ ลายประการ และจาํ เป็ นตอ้ งมเี ครืองมือพิเศษสําหรับช่วยในการวางแผนด้านภมู ิ
ประเทศ เช่น แผน่ บริวารและแผนทเี ฉพาะเรือง แผนผงั ภาพถ่ายทางดงิ หรือภาพถ่ายด้วยมอื ถือบนพืนดิน
การแสดงลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ผ่านได,้ ผา่ นไดช้ า้ และผ่านไมไ่ ด้ เครืองกดี ขวาง แนวทางการเคลือนที
ภมู ปิ ระเทศสําคัญ การตรวจการณ์และพนื การยิง และการกาํ บงั และซอ่ นพราง ตอ้ งไดม้ าจากผลการ
วเิ คราะห์ภมู ิประเทศ
ก. แผนทีทางทหาร ซึงเป็ นเครืองมอื หลกั ในการวิเคราะหภ์ มู ิประเทศทางยุทธวิธีนนั ไมส่ ามารถให้
ขอ้ มูลรายละเอียดเพียงพอ สาํ หรับการวเิ คราะห์ภมู ิประเทศในพืนทีสิงปลูกสร้างได้ การทีเมอื งและนคร
ใหญ่ๆ มีการขยายตวั อยา่ งตอ่ เนืองทาํ ใหบ้ รรดาแผนที แผนผงั ทผี ลติ ขึนโดยเมอื ง รัฐ หรือประเทศก็ตาม
จะขาดความถกู ตอ้ งและลา้ สมยั อยตู่ ลอดเวลา เพราะไมอ่ าจติดตามแกไ้ ขให้ทนั กบั อตั ราเร็วในการกอ่ สร้าง
อาคารใหมๆ่ และการรือถอนสิงปลูกสร้างเก่าๆ ได้
ข. ในการรบหว้ งระยะเวลาสันๆ การปรบั ปรงุ ลักษณะภูมิประเทศเพอื การรบได้ แตก่ ารระเบดิ
ทาํ ลายสิงก่อสร้างทงั โดยตังใจและไมไ่ ดต้ งั ใจ ยอ่ มส่งผลใหร้ ูปแบบของผงั เมอื งเปลียนแปลงไป ตาํ บลที
ใชอ้ า้ งอิงถูกทาํ ลาย เกิดเครืองกีดขวาง และเพิมทีมนั ใหแ้ กฝ่ ่ายตงั รับ
ค. แผนทีและแผนผงั ของระบบทางระบายนาํ เสียใตด้ ิน รถไฟใตด้ ิน ทางส่งนาํ ใตด้ ิน ทางรถไฟ
ยกระดบั ระบบขนส่งมวลชน สถานีบริการกา๊ ซและเชือเพลิงและแหลง่ เกบ็ สถานีไฟฟ้ าและแหลง่ ระบบ
ไฟฟ้ าสาํ รอง ตลอดจนสิงอาํ นวยความสะดวกของระบบสือสารมวลชน (วิทยุ, โทรศพั ท์) นบั เป็นเครืองมือ
ชว่ ยทสี ําคัญยิงสําหรบั ปฏิบตั ิการทางทหารในพนื ทีสิงปลกู สรา้ ง ทอ่ ระบายนาํ เสียและทางรถไฟใตด้ ิน
เป็นเครืองกาํ บงั การแทรกซึม และเป็นเส้นทางเคลือนทีของหน่วยทหารขนาดเล็ก ทางรถไฟยกระดบั และ
ระบบขนส่งมวลชน ช่วยเพิมความคลอ่ งแคล่วในการเคลือนทไี ปยงั ยา่ นอนื ๆ ของเมอื งและเป็นเครืองชว่ ย
คาดการณ์ถึงบริเวณทีจะมเี ครืองกีดขวาง สิงอํานวยความสะดวกของบริการสาธารณะต่างๆ มกั เป็น
เป้าหมายการทาํ ลายของผูก้ ่อความไมส่ งบ กองโจร และผ้กู อ่ การร้าย หากถกู ทาํ ลาย จะลดขีดความสามารถ
ของฝ่ ายตังรบั

- ๑๗ -
ง. การเตรียมสนามรบดา้ นการข่าว ในขนั การวิเคราะห์ภมู ิประเทศตอ้ งพิจารณาทีตงั ของอาคาร
เฉพาะบางแหง่ เป็นกรณีพิเศษ เช่น โรงพยาบาล สถานพยาบาล และสิงอาํ นวยความสะดวกทางดา้ น
ศลั ยกรรมเพราะตามกฎการสงคราม กาํ หนดหา้ มทาํ ลายอาคารเหล่านี ตราบใดทไี มถ่ กู ใชน้ อกเหนือไปจาก
การใหบ้ ริการทางการแพทยเ์ ทา่ นนั โรงพยาบาลจะกลายเป็ นสถานทีใหบ้ ริการทางการแพทยห์ ลกั สําหรับ
กาํ ลงั รบโดยอตั โนมตั ิ หากการควบคุมบงั คบั บญั ชาขาดตอนลงในระหวา่ งการรบและเชน่ เดียวกนั กบั ใน
ระหวา่ งการปราบปรามผกู้ ่อความไม่สงบ กองโจร หรือผูก้ ่อการรา้ ยในเมือง การจดั สถานทีทีปลอดภยั จาก
การรบ ทหี ลบภยั ทางอากาศ และตาํ บลแจกจา่ ยอาหารและนาํ เป็นงานทีมคี วามสําคญั ยงิ ในดา้ นกิจการพล
เรือน
จ. สนามกีฬา สวนสาธารณะ ลานกีฬาต่างๆ และสนามของโรงเรียน มคี วามสําคญั ตอ่ การรบใน
เมอื งทงั ตามแบบและไมต่ ามแบบ เพราะสามารถใชเ้ ป็ นทรี วบรวมพลเรือน ศนู ยซ์ กั ถาม ตาํ บลทใี ชส้ าํ หรบั
กระจายกาํ ลงั แยกปฏิบตั ิการของผกู้ อ่ ความไม่สงบ และใชเ้ ป็นตาํ บลรวบรวมเชลยศกึ นอกจากนนั ยงั อาจ
ใชเ้ ป็ นสนาม ฮ., ทตี งั ทางการส่งกาํ ลงั บาํ รุงและการสง่ กาํ ลังทางอากาศ เนอื งจากสถานทเี หลา่ นีโดยปกติ
มกั ตงั อยบู่ ริเวณยา่ งกลางเมืองหรือชุมชน
ฉ. บริเวณทีกาํ ลงั กอ่ สร้างและสถานดาํ เนินงานธรุ กิจบางอยา่ ง เช่น โรงเลือยไม้ โรงงานอิฐ โรงงาน
เหล็กและโรงซอ่ มบาํ รุงรถไฟ คือแหล่งทีสามารถจดั หาช่างและวสั ดุ สาํ หรับใชส้ ร้างเครืองกีดขวางได้ ทงั
รถถงั และยานยนต์ ในกรณีทีไมส่ ามารถหาเศษวสั ดหุ ักพังหลงเหลือในพืนทหี รือมีเศษวสั ดเุ หล่านนั จาํ กดั
ช. ถนน แมน่ ํา คลอง และสะพาน สามารถใชเ้ ป็นเส้นทางเคลือนทีทีมคี วามเร็วสูง และตามเสน้ ทาง
เคลอื นทเี หลา่ นี มกั จะมีทีตงั สาํ นกั งานทางการชา่ งของหนว่ ยงานทีรับผิดชอบ ซึงสามารถใหข้ ้อมลู สาํ หรับ
การวิเคราะห์เป้ าหมายทีจะระเบดิ ทาํ ลาย และการคาํ นวณวตั ถรุ ะเบดิ ทีจะตอ้ งใช้
ซ. หอ้ งนาํ สาธารณะ สระวา่ ยนาํ และถงั เก็บนาํ ทงั บนดินและใตด้ ิน สามารถใชเ้ ป็ นสิงอาํ นวยความ
สะดวกสําหรับการอาบนาํ ของทหาร และใชเ้ ป็นแหลง่ นาํ สํารอง เมือระบบส่งนาํ ของเมอื งลม้ เหลว
ด. ควรจดั ระบบติดต่อประสานงาน และระบบปฏิบตั ิงานร่วมกนั ระหวา่ งผู้แทนฝ่ ายทหารกบั หน่วย
งานพลเรือนอย่างใกลช้ ิด เพอื ใหไ้ ด้มาซึงขา่ วสารและความร่วมมอื ไมเ่พียงแตใ่ นเรืองทีจาํ เป็นเร่งด่วน
เทา่ นัน แตเ่ พือให้ไดข้ ่าวสารและความร่วมมืออนื ๆ ทีเกียวขอ้ งในรายละเอียด ไดแ้ ก่ ประชากร ขนาดและ
ความหนาแน่นของพนื ทแี ตล่ ะบริเวณ ขอ้ จาํ กดั อาํ นาจการยิง ทีตงั อาคารทีมีวสั ดอุ นั ตราย ขีดความสามารถ
ของกําลงั ตาํ รวจและกําลงั รักษาความปลอดภยั ของเมอื ง แผนการอพยพประชาชน และสถานทตี งั ของ
อาคารทสี ําคญั ๆ ของเมือง ตลอดจนถึงลา่ มภาษาทอ้ งถินหากจาํ เป็น
๒ - ๕ ข้อพิจารณาพเิ ศษเกียวกับลมฟ้ าอากาศ
ผลกระทบของลมฟ้ าอากาศ ทีเป็นลกั ษณะเฉพาะ ต่อพืนทีสิงปลกู สร้าง มีดงั ต่อไปนี
ก. ฝน หรือหิมะละลายมกั ไหลทว่ มบริเวณพืนทลี ุ่ม หรืออโุ มงค์รถไฟใตด้ ิน โดยเฉพาะอยา่ งยิง
เมือระบบสูบนาํ จากทลี มุ่ และใตด้ ินไม่ทาํ งานเนืองจากถกู ตัดพลงั งาน ฝนอาจทาํ ให้นาํ เสียจากใตด้ ิน

- ๑๘ -
ไหลท่วมจนเป็นอันตรายหรือไมส่ ามารถเคลือนทีผา่ นได้ สารเคมอี าจถูกพดั พาไหลลงสรู่ ะบบตา่ งๆ ทีอยู่
ใตด้ ินจนเป็นทีรวมตวั ของสารพิษ ซึงจะมอี นั ตรายมากกวา่ บนพืนดินและจะมผี ลยาวนานหากสารพิษ
เหล่านนั แทรกซึมผ่านช่องระหวา่ งอิฐหรือผนังของทอ่ ระบายนาํ เสีย ทไี ม่มีการป้องกนั การไหลซึมทีดี

ข. นครใหญ่ๆ ส่วนมาก มกั อยใู่ กลแ้ มน่ ํา หรือคลองหลายสาย ซึงจะส่งผลให้มหี มอกปกคลุมบริเวณ
พืนทลี ่มุ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ บริเวณย่านอุตสาหกรรมและระบบการขนส่ง มกั จะไดร้ ับผลกระทบจากหมอก
มาก เนอื งจากส่วนใหญ่ตงั อยใู่ กล้แนวลาํ นาํ

ค. สภาพอากาศเหนือนครใหญๆ่ โดยเฉพาะอย่างยิงนครทีตงั อยบู่ ริเวณแอ่งทีลุ่ม หรือในหุบเขามกั
จะสงบนิงเป็นทสี ะสมของฝ่ ุนละออง สารเคมี และมลพิษตา่ งๆ ตกค้างอยใู่ นอากาศ ทาํ ใหท้ ศั นวสิ ัยจาํ กดั
และมกั ทาํ ใหเ้ กิดภาวะเรือนกระจก ซึงส่งผลใหอ้ ุณหภมู สิ ูงขึนทงั บนพืนดินและในอากาศ

ง. ความรอ้ นจากการใชเ้ ครืองปรับอากาศในฤดูหนาว และจากการดดู และคลายความรอ้ นของตัว
อาคารในฤดรู อ้ นจะทาํ ใหบ้ ริเวณพนื ทีปลูกสร้างมีอุณหภมู ิสูงกวา่ บริเวณพืนทีโลง่ โดยรอบ ทงั ในฤดรู ้อน
และฤดูหนาว ความแตกตา่ งของอุณหภมู อิ าจมากถึง ๑๐ หรือ ๒๐ องศาเซลเซียส ซึงอาจทาํ ใหเ้ กิดความ
ตอ้ งการด้านการส่งกาํ ลงั บาํ รุงทีเกียวขอ้ งมากขึน

จ. กระแสลมในพืนทีสิงปลกู สรา้ งมกั ไม่รูส้ ึกไดเ้ ดน่ ชดั ขึนอยู่กบั ลกั ษณะโครงสร้างของถนน
โดยเฉพาะอยา่ งยิง ถนนในพืนทีสิงทีมีปลูกสร้างหนาแน่นและพืนทยี กสูงขนึ จะมีการเปลียนแปลงทิศทาง
ลมตามทิศทางของแนวถนน ซึงจะส่งผลใหม้ ลี มพดั ตามแนวพืนถนนแต่ในแนวตงั ฉากกับถนน กระแสลม
จะค่อนขา้ งนิง

ฉ. ขอ้ มลู รายการแสงสวา่ ง มคี วามสําคญั มากสําหรับการปฏิบตั ิการในพนื ทสี ิงปลูกสร้าง เวลา
กลางคนื และขณะทีมีทศั นวิสัยจาํ กดั คือหว้ งเวลาทีพึงประสงคส์ ําหรับการจโู่ จม การแทรกซึม การ
ลาดตระเวนอย่างละเอียด การเขา้ ตีผ่านพืนทีโลง่ การเข้ายึดทมี นั ดดั แปลงแข็งแรง และการรือถอน/ทาํ ลาย
เครืองกดี ขวางทมี ีการระวงั ป้ องกนั แตข่ ณะเดียวกันกเ็ ป็ นอุปสรรคต่อฝ่ ายเราในการรักษาทิศทางการ
เคลือนทใี นพืนทอี นั ตรายซึงไมม่ ีจดุ อ้างชดั เจนและเมอื ใกลข้ า้ ศึก สิงทีจาํ เป็นคือตอ้ งมีแผนการดาํ เนิน
กลยทุ ธ์ทีง่าย และมีทีหมายทสี ามารถสงั เกตเห็นไดง้ ่าย

ตอนที ๓
การประเมินค่าและการกําหนดภัยคกุ คาม
การประเมินค่าภยั คุกคามสําหรับการรบในเมือง มี ๓ ขนั ตอน ไดแ้ ก่ การจดั ทาํ ฐานขอ้ มลู การ
ประเมินค่าขีดความสามารถของขา้ ศึก และการจดั ทาํ แผน่ ภาพหลกั นยิ ม ซึงเป็นการประเมินคา่ ภยั คกุ คาม
จากการปฏบิ ตั ิของขา้ ศกึ ทเี ป็นไปไดใ้ นภูมิประเทศเปิด ดว้ ยลกั ษณะเฉพาะของการรบในเมอื ง มีสิงสําคญั
ทีจาํ เป็นต้องพิจารณาเป็ นการเฉพาะ ก่อนการจดั ทาํ แผ่นภาพสถานการณ์ภยั คุกคาม ไดแ้ ก่ ปัจจยั ดา้ นการ
ปฏิบตั ิการ และขีดความสามารถภยั คกุ คามในอนาคต

- ๑๙ -
๒ - ๖ ปัจจัยดา้ นการปฏิบัตกิ าร

หลกั การพืนฐานประการหนึงของหลกั นิยมการรบอากาศ – พืนดิน คือ การเขา้ วางกาํ ลังอยา่ งรวดเร็ว
ในการปฏิบตั ิการทุกรูปแบบ เพอื ใหบ้ รรลุวตั ถปุ ระสงคข์ องชาติและเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ จากแนว
ความคดิ ตามหลกั นิยมดงั กล่าว (ของสหรัฐอเมริกา) และความเปลียนแปลงของสภาวะแวดลอ้ มดา้ นความ
มนั คงระหวา่ งประเทศสามารถคาดการณ์ไดว้ า่ โอกาสทีจะเกิดความขดั แยง้ ทตี อ้ งเผชิญหนา้ กบั ภัยคกุ คาม
ในระดบั ภมู ิภาคมีสูงขึน ซึงภยั คกุ คามดงั กลา่ วอาจหมายถึง กาํ ลงั รบตามแบบของประเทศโลกทีสาม หนึง
ประเทศหรือมากกวา่ รวมถึงมีความเป็นไปได้ทีจะเกดิ สงครามในระดบั ภูมภิ าค หรือตํากว่านนั คือ การ
ปฏิบตั ิการรบต่อตา้ นกําลงั ฝ่ ายก่อความไมส่ งบ และจากลกั ษณะโครงสรา้ งทางการเมอื ง เศรษฐกิจ และ
สังคมของประเทศโลกทีสามทเี ป็นอยใู่ นปัจจบุ นั ทาํ ใหค้ าดการณไ์ ดว้ า่ การรบในเมอื งจะมีโอกาสสูงขนึ ใน
อนาคต

ก. กาํ ลงั กองทพั บกโดยทวั ไปของทกุ ประเทศ จะเนน้ จดั กาํ ลงั ผสมเหล่าทาํ การรบในพนื ทสี ิงปลกู
สร้าง โดยลกั ษณะโครงสรา้ งการจดั กาํ ลงั รบตามแบบของประเทศตา่ งๆ ยิงเป็ นประเทศทยี ากจนจะยิงเป็น
ไปได้นอ้ ยมากทจี ะสามารถวางกาํ ลงั ดาํ เนินกลยทุ ธ์ หรือดํารงสภาพหน่วยทหารได้ ในพืนทีทีไกลเกินกวา่
ศนู ยก์ ารส่งกําลงั บาํ รุง ทีมแี ละเชน่ เดียวกนั กบั ในภมู ิภาคทีมีสภาพแวดลอ้ มของภมู ิประเทศและลมฟ้ า
อากาศรุนแรง กาํ ลงั รบตามแบบจะไม่สามารถปฏิบตั ิการไปไดไ้ กลเกินกวา่ เขตตวั เมอื ง

ข. ลกั ษณะโครงสรา้ งของเมืองยอ่ มเป็นไปตามปัจจยั ทางสังคม วฒั นธรรม และเศรษฐกิจของแตล่ ะ
ชาติ ซึงย่อมทาํ ใหห้ ลกั นิยมและยุทธวิธีการรบในพืนทีสิงปลกู สร้าง ของแตล่ ะประเทศแตกต่างกนั
นอกจากนีลกั ษณะเฉพาะของตวั เมอื งซึงมีลกั ษณะจาํ กดั การดาํ เนินกลยทุ ธ์ตา่ งกนั จะยงิ ทาํ ใหห้ ลกั นิยม
และยุทธวิธีแตกตา่ งกนั มากยิงขึน แต่ปัจจยั ทีทาํ ใหก้ ารรบในเมอื งมีความแตกตา่ งกนั มากทีสดุ คือความ
กา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยชี นั สูง ระบบอาวธุ ยงิ ทีแมน่ ยาํ มีผลต่อการปรับปรุงและพฒั นาหลกั นิยมและ
ยทุ ธวิธีของแต่ละประเทศ รวมทงั ผลของการวิจยั ทางเทคโนโลยี ทาํ ใหท้ ราบถึงปจั จยั สาํ คญั ต่างๆ ทีมีส่วน
เกียวขอ้ งกบั การวางแผนและการปฏิบตั ิ มากขึนตามลาํ ดบั ดงั ตัวอยา่ งตอ่ ไปนี

๑) การรบในเมอื งเป็นเพียงการรบในลกั ษณะภมู ิประเทศทีแตกตา่ งแบบหนึง เป็นการรบทตี อ้ ง
การเวลามากฝ่ายตงั รบั ทีมกี ารวางแผนอยา่ งดี แมจ้ ะไมม่ ีหรือขาดแคลนอาวธุ ยิงสนับสนุนทางอากาศ ยาน
เกราะ หรือปื นใหญ่ ก็ยงั คงสามารถตา้ นทานการเขา้ ตีของฝ่ ายรุกไดเ้ ป็ นเวลานาน

๒) ความสามารถควบคุมบงั คบั บญั ชาการรบทีปฏิบตั ิแบบแยกการอยา่ งกวา้ งขวาง เป็นปัจจยั
สาํ คัญ ทีมคี วามเร่งด่วนเป็นลําดบั แรกของทงั ฝ่ายตงั รับและเขา้ ตี การฝึ กและการจงู ใจของกาํ ลงั พลยงั คงมี
ความสาํ คญั เท่าเทียมกนั กบั ยุทโธปกรณ์

๓) ขนาดกาํ ลงั ทีตอ้ งการของฝ่ ายเขา้ ตีจะขนึ อยกู่ ับคณุ ภาพของข่าวกรอง ความสามารถในการจู่
โจม และความเหนือกวา่ ของอาํ นาจการยิง ของฝ่ ายเขา้ ตีมากกวา่ ทีจะพิจารณาจากความสลบั ซับซอ้ น ของ
การวางกาํ ลงั ตงั รบั ในเมืองของฝ่ ายขา้ ศกึ

- ๒๐ -
๔) ระดับความต้านทานทตี อ้ งการของฝ่ ายตงั รับ จะขึนอยูก่ บั ความเป็นไปได้ทฝี ่ายตงั รับจะถกู ตัด
ขาดจากประชาชน การตดั ขาดทงั หมดหรือบางส่วนทีจะรับการสนบั สนนุ จากภายนอกหรือประสิทธิภาพ
ของระบบการสือสาร
๕) ความเชอื วา่ ยานเกราะไม่เหมาะสมทีจะใชใ้ นการรบในเมือง เป็นความเชือทีผิดรถถงั และรถ
สายพานลําเลียงพลไดร้ ับการพิสูจน์แลว้ วา่ มีความสําคญั ยงิ สําหรับการรบในเมอื ง แต่จาํ เป็นต้องไดร้ ับการ
คุม้ ครองจากทหารราบเดินเทา้ ตลอดเวลา
๖) ขอ้ จาํ กดั ของฝ่ ายเขา้ ตี ยิงมากเทา่ ใด จะยิงเพิมความยดื เยอื ในการรบ และเพิมโอกาสแห่งชยั ชนะ
ของฝ่ายตังรับ กบั เพิมความสูญเสียแกฝ่ ่ ายเขา้ ตีมากขึนเทา่ นนั
๗) ฝ่ ายตงั รบั สามารถเลือกแบบการตงั รับได้ ๓ แบบ คือ การตงั รับทางลึก การตงั รบั ในเขต และ
การตงั รับแบบเคลือนที การตงั รับทางลึกเป็ นการผสมผสานมาตรการตงั รับซึงครอบคลุมพืนทีทงั ภายนอก
และภายในเขตเมอื ง การตงั รับในเขตเป็นการตงั รับในทมี นั ดดั แปลงแข็งแรง เพอื ป้ องกนั ทตี ังสําคญั โดย
ปกติ ไดแ้ ก่ ทีมนั ทีสามารถควบคุมแนวทางเคลือนทีหลกั ส่วนการตงั รับแบบเคลือนที เป็นการตงั รับทีมี
การตีโต้ตอบ
๘) การแทรกซึมและการเคลือนทอี อกจากเมืองของหน่วยทหารขนาดเล็ก สามารถทาํ ไดง้ ่ายใน
เวลากลางคนื
๙) การป้ องกนั ไมใ่ หข้ า้ ศึกกลับเขา้ มาใช้ประโยชน์ใหม่ จากอาคารทฝี ่ ายเราไดท้ าํ การกวาดลา้ งแลว้
สามารถทาํ ไดย้ ากทงั ฝ่ ายตงั รับและเข้าตี
๑๐) เครืองยงิ ลกู ระเบิด ใชไ้ ดผ้ ลมากกวา่ ปื นใหญ่ เนอื งจากตอบสนองไดเ้ ร็ว และสามารถยงิ ดว้ ย
มมุ ใหญ่
๑๑) ใชพ้ ลซมุ่ ยงิ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ทงั ฝ่ ายตังรับและฝ่ ายเขา้ ตี โดยทวั ไปมกั วางตัวอยบู่ ริเวณ
๒ หรือ ๓ ชนั ตาํ ลงมาจากชนั สูงสุดของอาคาร
๑๒) อตั ราความสินเปลืองกระสุน ประมาณ ๕ ถึง ๑๐ เทา่ ของการรบในภมู ิประเทศเปิ ด
(รายละเอียด บทที ๗)
๒ - ๗ การต่อต้านการก่อความไม่สงบ สงครามกองโจร และการก่อการร้ายในเมือง
การประเมินคา่ ภยั คุกคามในการตอ่ ตา้ นการก่อความไมส่ งบ สงครามกองโจร และการกอ่ การร้าย
คงดาํ เนนิ การแบบเดียวกนั กบั การประเมินคา่ ภยั คกุ คามในความขดั แยง้ ระดบั ตํา ซึงมีหลกั การสําคญั ๕
ประการ ไดแ้ ก่ ขอ้ พิจารณาทางการเมอื ง เอกภาพของความพยายาม ความสามารถในการปรับตวั ความ
ชอบธรรม และความมงุ่ มนั (รายละเอียด รส.๗-๙๘)
ก. การทาํ แผน่ บริวารประชากร จะช่วยให้ทราบบริเวณทีอยขู่ องบคุ คลฝ่ายตรงขา้ ม ทีหลบซอ่ น
ของผูก้ อ่ ความไมส่ งบหรือผูก้ อ่ การร้าย พืนทีปฏิบตั ิการ จุดติดตอ่ และแหล่งซุกซอ่ นอาวุธ รวมทงั ทีตังของ
ตวั อาคารทีทราบ หรือทีคาดวา่ จะถูกใชเ้ ป็นสถานทีเก็บรวบรวมอาวธุ กระสุน และวตั ถุระเบดิ

- ๒๑ -
ข. เสน้ ทางใต้ดนิ คือแนวทางเคลือนทแี ละเสน้ ทางติดต่อทีสาํ คญั ของผูก้ อ่ ความไมส่ งบและ
ผูก้ อ่ การรา้ ย ทางรถไฟใตด้ ิน อุโมงค์ ถงั เก็บนาํ ใตด้ ิน และหอ้ งใตด้ ินจะเกือกูลแกค่ วามคล่องแคลว่ ในการ
เคลือนที การกาํ บงั และสามารถใช้เป็นสถานทีเก็บรวบรวมสิงอปุ กรณข์ องผกู้ อ่ ความไมส่ งบและผู้กอ่ การ
รา้ ยได้ ส่วนทางรถไฟยกระดบั สะพานเดินข้ามถนน หลงั คา ทางหนไี ฟ หนา้ มขุ และบนั ไดอาคาร จะ
เกือกลู ความคล่องแคล่วในการเคลือนที การซ่อนพราง และสามารถใชเ้ ป็นทีวางกาํ ลงั ตงั รบั หรือเป็นที
วางตวั ของพลซุ่มยงิ ได้
ค. ในการต่อตา้ นการก่อความไมส่ งบและการก่อการร้าย จะไม่สามารถจดั แผ่นภาพหลกั นิยม แต่
จะใช้การวิเคราะห์รูปแบบการปฏิบตั ิแทน เพือใหท้ ราบวา่ ฝ่ ายตรงขา้ มน่าจะใช้วธิ กี ารอยา่ งไร และมีที
หมายสาํ คญั เป็นอะไรบา้ ง หลงั จากนนั จะสามารถจดั ทาํ แผนทีสถานการณก์ ารกอ่ ความไมส่ งบ ซึงจะ
แสดงตาํ บลทีเป็ นเป้ าหมายการกอ่ วนิ าศกรรม เป้าหมายการลกั พาตวั หรือลอบสังหาร ตาํ บลทคี าดว่าจะถูก
ซุ่มโจมตีและระเบดิ ทาํ ลาย ในการทาํ แผนทสี ถานการณก์ ารกอ่ ความไมส่ งบ ใหถ้ ือวา่ สถานทดี ังตอ่ ไปนี
เป็นเป้ าหมายสําคญั ของการกอ่ ความไมส่ งบและการกอ่ การรา้ ยดว้ ย ไดแ้ ก่ สถานีผลิตไฟฟ้ าและระบบส่ง
พลงั งานไฟฟ้ า สถานทผี ลิตและเก็บรักษาก๊าซเชือเพลิง ระบบการสูบนาํ และบาํ บดั นาํ เสีย ระบบโทรศพั ท์
ตลอดจนสถานีวิทยุและโทรทศั น์
ง. มาตรการการควบคุมบงั คบั บญั ชาจะตอ้ งเพิมมากขึน หากผูก้ อ่ ความไมส่ งบปะปนแทรกตัวอยู่
กบั ประชาชนทวั ไป การพิสูจน์ทราบตวั บคุ คลทาํ ไดย้ ากลาํ บาก และฝ่ ายตรงขา้ มทีปะปนอยู่กบั ประชาชน
นนั อาจเป็นไดท้ งั ผูก้ อ่ ความไมส่ งบ ผูก้ อ่ การร้าย หรือกองโจร
๑) ภายใต้สภาพการณด์ งั กล่าวไมว่ ่าจะเป็นการปฏิบตั ิการ ต่อตา้ นการกอ่ ความไมส่ งบ การก่อการ
ร้าย หรือกองโจรกต็ าม ถือวา่ ขา่ วกรองมีความสําคัญเหนือกว่ากาํ ลงั ตอ้ งดาํ เนินการตอ่ ตัวการ ผูใ้ หก้ าร
สนบั สนุนและขบวนการใตด้ ินด้วยการพิสจู น์ทราบ จบั กุม หรือแยกยา้ ยออกไปจากชุมชน ยดึ ถือหลกั การ
ใชก้ าํ ลงั น้อยทีสดุ และเป็ นวิธีการสดุ ทา้ ยอาจจาํ เป็นตอ้ งปิดลอ้ ม – ตรวจคน้ บริเวณทีสงสัย หากจาํ เป็นแต่
เป็นวิธีทีไมพ่ ึงประสงค์ เนอื งจากอาจกอ่ ใหเ้ กิดความสูญเสีย ถึงขนั ปานกลางหรืออยา่ งหนกั ตอ่ ทงั กาํ ลงั
ฝ่ ายเราและประชาชนทวั ไป
๒) ตอ้ งตดั การสนบั สนนุ และแยกฝ่ ายตรงข้ามออกจากประชาชนให้ได้ ไมว่ า่ ประชาชนจะให้
การสนบั สนนุ โดยสมคั รใจหรือถูกบงั คบั ก็ตาม ประชาชนอาจจาํ เป็นตอ้ งใหส้ นับสนุนฝ่ ายตรงขา้ มดว้ ย
เทคนิคการกอ่ การร้ายหลายๆ อยา่ งรวมกนั (เช่น การบีบบงั คบั หรือการข่มขู่ ดว้ ยวิธีการตา่ งๆ) และทาํ รา้ ย
ผูท้ ขี ดั ขนื เป็นตน้ ผูบ้ งั คบั หนว่ ยตอ้ งมีความสังเกตและมีความเขา้ ใจอยา่ งรวดเร็วตอ่ ความรู้สึกของ
ประชาชนจงึ จะหาวิธกี ารทีจะไดร้ ับความร่วมมอื สนบั สนนุ ฝ่ ายเราอย่างเต็มใจ
๓) การสนบั สนุนทางการส่งกาํ ลงั บาํ รุงของฝ่ ายตรงขา้ ม จะเป็นลกั ษณะรายยอ่ ยและการแจกจา่ ย
สิงอุปการณข์ ึนอยู่กับการสนับสนนุ ของประชาชน ดงั นนั การพิสูจนท์ ราบและทาํ ลายแหลง่ การส่งกาํ ลงั
บาํ รุงจึงทาํ ไดโ้ ดยยาก เพียงเพือหยดุ การส่งกาํ ลังเพิมเติมของฝ่ายตรงขา้ มเทา่ นนั ฝ่ ายเราจะต้องหา้ มการ

- ๒๒ -
เคลือนทีทงั สินในเขตเมือง ซึงเป็ นสิงทไี ม่สมควรปฏิบตั ิ ดงั นนั ความเร่งด่วนของความตอ้ งการขา่ วกรอง
ในลาํ ดบั แรกๆ คือ เพือการพิสูจน์ทราบและทาํ ลายแหล่งสง่ กําลังบาํ รุงของฝ่ายตรงข้าม

๔) ทหารตอ้ งเขา้ ใจผลกระทบทางการเมืองและจิตวทิ ยา ซึงเกิดจากการปฏิบตั ิหนา้ ทีของตนเมือมี
การใช้กาํ ลงั ประชาชนอาจวางตวั เป็นกลางหรือไม่เหน็ ดว้ ยกบั ฝ่ ายเรามากนกั แตก่ ารใช้กาํ ลงั ทีเกนิ ความ
จาํ เป็น อาจทาํ ให้ประชาชนเปลียนไปสนับสนนุ ฝ่ ายตรงขา้ มได้ ปัจจยั ทตี อ้ งระมดั ระวงั เป็นพิเศษคือ สือ
มวลชน (ผูส้ ือข่าวหนงั สือพิมพ์ โทรทศั น์ และนิตยสาร เป็นตน้ ) จากการทีมีชา่ งภาพและผูส้ ือขา่ วจาก
สือมวลชนต่างๆ จาํ นวนมาก ในพืนทปี ฏิบตั ิการทงั ทีเป็นมืออาชีพและสมคั รเลน่ อาจเป็นไปได้ทีภาพการ
ปฏิบตั ิบางอย่างทีเป็นเชิงลบของฝ่ายเราอาจถูกเผยแพร่ออกไปได้ ภาพเหล่านนั อาจมผี ลทางลบตอ่ ความ
รูส้ ึก ความคิดเหน็ ของประชาชน และผลประโยชน์ทางการเมืองของชาติ ในทางตรงกนั ขา้ ม การเผยแพร่
ภาพเชิงบวก จะมผี ลช่วยส่งเสริมการปฏิบตั ิและขวญั ของฝ่ ายเราเป็นอยา่ งยงิ และยงั อาจทาํ ใหป้ ระชาชนใน
พืนทเี ลกิ สนบั สนุนฝ่ ายตรงขา้ ม และหนั มาสนบั สนนุ ฝ่ ายเรามากขึน ดงั นนั หน่วยตอ้ งใหค้ วามสนใจ และ
ติดตามการปฏิบตั ิงานของสือมวลชนทกุ คนในพนื ที

๕) แมจ้ ะไมเ่ ป็นหลกั นิยมแต่ทหารราบมีความเหมาะสมมาโดยตลอด ทีจะใชเ้ ป็นส่วนหนึงของ
ความพยายามในการตดั ขาดฝ่ ายตรงขา้ มออกจากประชาชน โดยอาจไดร้ บั มอบภารกิจการชว่ ยเหลือหรือ
บริการสาธารณะต่างๆ เช่น บริการสายตรวจ บริการเก็บขยะ การซอ่ มแซม หรือปรนนบิ ตั ิบาํ รุงระบบ
ไฟฟ้ า ประปา และโทรศพั ท์ เป็นตน้
๒ - ๘ การประมาณขีดความสามารถของภยั คกุ คาม

ประเทศโลกทีสามบางประเทศ มีความมงั คงั ทางเศรษฐกิจพอทีจะเสริมสร้างความทนั สมยั ของ
กองทพั ดว้ ยการจดั หายุทโธปกรณ์ทีมเี ทคโนโลยีสูงมาใชไ้ ด้ ความขดั แยง้ ในอนาคตจงึ อาจเป็นการเผชิญ
หนา้ กบั กาํ ลงั รบของประเทศโลกทีสาม ซึงอาจมีระบบอาวธุ ทมี ีความทนั สมยั เทา่ กนั หรือมากกวา่ ของ
กองทพั อีกฝ่ายหนึง ขีดความสามารถของกาํ ลงั ทีคาดวา่ จะเป็นภยั คกุ คามในอนาคต นา่ จะมดี งั ต่อไปนี

มรี ะบบอาวธุ – กระสุน แบบใหม่ เช่น ระเบิดเชือเพลิงอากาศ ( FAE) การระเบิดรุนแรงขึน
ความเขม้ ของแสงสูงขึน และระบบขีปนาวุธทใี ช้ จะมีความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีสงู ขึน

มีขีปนาวธุ ทีสามารถใชห้ วั ระเบิด ไดห้ ลายประเภท และมีทถี ูกออกแบบมาเพือใชส้ ําหรับการรบ
ในเมืองโดยเฉพาะ

มีระบบอาวธุ นาํ วธิ ีทแี มน่ ยาํ
มีการใชห้ ุ่นยนต์ทางทหาร
มีเครืองมือคน้ หาเป้ าหมายทีปฏิบตั ิการไดท้ งั ในเวลากลางวนั และกลางคืน
มีปื นใหญ่มมุ ยิงสูง
ขีดความสามารถของทหารชา่ งในการเจาะ หรือวางเครืองกีดขวางมีสูงขึน
มีอาวธุ ต่อสูร้ ถถงั หรือระเบดิ เพลิงทีสามารถพกพาและใชไ้ ด้โดยคนคนเดียว

- ๒๓ -
กาํ ลังรบตามแบบอาจมกี ารใชส้ ารเคมีหรือชีวะ ทีไมม่ ีอาํ นาจการทาํ ลายลา้ งเพียงเพอื ลดขีด
ความสามารถฝ่ ายตรงข้าม
กาํ ลังผกู้ อ่ ความไมส่ งบอาจมีการใชส้ ารเคมหี รือชีวะทีมีอาํ นาจการทาํ ลายลา้ งสูง
มีการป้องกนั ตนสูงขนึ (มียานเกราะ)
ระบบการติดตอ่ สือสาร มีประสิทธิภาพสูงขึน

- ๒๔ -

บทที ๓

การรบด้วยวธิ ีรุก

ธรรมชาติของเมอื งซึงเกือกูลแก่การกาํ บังและซ่อนพราง ทาํ ให้ฝ่ ายตังรับเป็ นฝ่ ายได้เปรียบ
ฝ่ ายรุกต้องเข้าตจี ากภายนอก ในสภาพทีเปิ ดเผยเข้าสู่ทมี ันซึงข้าศึกได้เตรียมการไว้แล้วอย่างดี
แม้ว่าการตดั สินใจเข้าตีพืนทีสิงปลกู สร้าง จะขึนอยู่กับหน่วยระดับสูงกว่ากองพัน แต่ผู้บังคบั หน่วย
ทกุ ระดบั ชันต้องพร้อมเสมอทีจะเข้าทําการรบในพืนทีดังกล่าว

ตอนที ๑
ข้อพจิ ารณาในการรบด้วยวิธีรุก
เพอื การบรรลภุ ารกิจ ผบู้ งั คบั หน่วยจะตัดสินใจเขา้ ตีพืนทีสิงปลูกสร้างหรือไม่ ควรพิจารณาเรือง
ต่างๆ ดงั นี
๓ - ๑ เหตผุ ลในการเข้าตีพืนทสี ิงปลกู สร้าง
ก. ตวั เมืองเป็นปมควบคุมข่ายเสน้ ทางการคา้ ทงั สินซึงหากสามารถควบคมุ ได้ จะเกือกลู ให้
ไดเ้ ปรียบทางยทุ ธวิธี การควบคุมตาํ บลต่างๆ ในเมือง เชน่ สะพาน ทางรถไฟ และข่ายถนน จะมีผล
เกือกลู แก่การปฏิบตั ิในอนาคตอยา่ งเห็นไดช้ ัด ในระหว่างปฏิบัติการอาจจาํ เป็นตอ้ งใชส้ นามบินหรือ
ท่าเรือเป็นฐานการส่งกาํ ลังบาํ รุง
ข. ความสําคญั ทางการเมืองของพืนทีสิงปลูกสร้างบางแห่ง ใชเ้ ป็นเหตุผลทีชอบธรรมในการ
ทุ่มเทเวลาและทรัพยากรเขา้ แย่งชิง การยึดเมืองอาจทาํ ใหไ้ ดม้ าซึงความเหนือกวา่ ฝ่ ายตรงขา้ มอยา่ ง
เดด็ ขาดทางจิตวิทยาและขวัญของประชาชนในเมือง
ค. เมือภมู ิประเทศโดยรอบตวั เมืองเกือกลู ใหส้ ามารถอ้อมผา่ นได้ แต่ขา้ ศึกทีอยภู่ ายในเมือง
ขดั ขวางการใชเ้ ส้นทางคมนาคมของฝ่ ายเรา หรือเมือตวั เมืองตงั อยภู่ มู ิประเทศทีขม่ และขดั ขวางการ
เคลือนทีออ้ มผา่ นของส่วนสนบั สนนุ การรบ และสนบั สนุนการช่วยรบของฝ่ายเรา
ง. เมือภารกิจกาํ หนดใหเ้ ขา้ ตีพืนทีสิงปลูกสร้าง การออ้ มผา่ นอาจเป็นส่วนหนึงของการเขา้ ตี
๓ - ๒ เหตุผลในการไม่เข้าตพี ืนทีสิงปลกู สร้าง
นอกจากภารกิจจะเปิ ดโอกาสใหเ้ คลือนทีออ้ มผา่ นเมืองไดแ้ ลว้ ผบู้ งั คบั หนว่ ยตอ้ งพิจารณา
เหตผุ ลต่างๆ ตอ่ ไปนีประกอบดว้ ย ไดแ้ ก่
ก. ผบู้ งั คบั หน่วยอาจตดั สินใจออ้ มผา่ นหากพิสูจน์ทราบไดว้ า่ ภายในเมืองไม่มีภยั คุกคามพอที
จะขดั ขวางการบรรลภุ ารกิจของหนว่ ยได้หรือเมือเจตนารมณ์ของผบู้ งั คบั บญั ชา ม่งุ เนน้ ทีความ เร็วใน
การเคลือนทีอาจตอ้ งตัดสินใจออ้ มผ่าน เพราะหากทาํ การรบในเมืองจะตอ้ งใชเ้ วลามาก
ข. ระหว่างการแสวงขอ้ ตกลงใจ ผบู้ งั คบั หนว่ ยและฝ่ ายอํานวยการตอ้ งตระหนกั ว่า โดยปกติ
จะไมม่ ีกาํ ลังเพยี งพอทีจะเขา้ ยดึ และกวาดลา้ งทีหมายไดท้ งั หมด หรือแมบ้ างสถานการณ์อาจมีกาํ ลงั

- ๒๕ -
มากพอทีจะปฏิบัติการได้ แต่จะไม่สามารถใหก้ ารสนบั สนุนทางการส่งกําลงั บาํ รุงแก่กาํ ลงั ทงั หมดได้
ดงั นันหากสถานการณ์ทางยทุ ธวิธี และทางการเมืองเกือกลู ควรหลีกเลียงการเขา้ ตีพืนทีสิงปลกู สร้าง

ค. ตามกฎการสงครามทางบกการเขา้ ยดึ เมืองจะตอ้ งกาํ หนดใหเ้ ป็น “เมอื งเปิ ด” เพือป้ องกัน
การสูญเสียทีจะเกิดแก่ประชาชนและสถานทีทางประวตั ิศาสตร์และวฒั นธรรม คาํ ว่า เมืองเปิ ด
หมายถึง หา้ มใชเ้ มืองไมว่ ่าเพือการตงั รับหรือเขา้ ตี ฝ่ายตังรับตอ้ งถอนตวั ออกจากเมืองทันที และห้าม
แจกจา่ ยอาวุธแก่ประชาชนในเมือง ฝ่ายเขา้ ตีจะเขา้ ควบคุมอาํ นาจการบริหารชวั คราว และตอ้ งปฏิบตั ิ
ต่อประชาชนในฐานะผไู้ ม่เกียวข้องกบั การรบ

ตอนที ๒

คุณลกั ษณะของการรบด้วยวธิ ีรุกในพืนทสี ิงปลกู สร้าง
การรบดว้ ยวิธีรุกในพืนทีสิงปลกู สร้าง คงมีพืนฐานจากหลกั นิยมการรบดว้ ยวิธีรุก แตม่ ีการ
ปรับปรุงใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะของพนื ที การรบในเมืองเป็นการรบทีตอ้ งการการสนบั สนนุ สูง
และมีปัญหาดา้ นตา่ งๆ จาํ นวนมาก ซึงแตกตา่ งจากการรบในภูมิประเทศเปิ ดทวั ไป เชน่ ความ
ตอ้ งการกําลงั การดาํ เนินกลยทุ ธ์ และการใชย้ ทุ โธปกรณ์ สิงทีเหมือนกนั กบั การปฏิบตั ิการรุกทวั ไป
คือผบู้ งั คบั หนว่ ยจะตอ้ งดํารงขีดความสามารถในการตรึงกําลัง และดาํ เนินกลยทุ ธ์ต่อทีมนั ขา้ ศึกให้
ไดต้ ลอดเวลา

๓ - ๓ ความต้องการกําลังทหาร
ธรรมชาติของการรบในพืนทีสิงปลกู สร้าง จะตอ้ งใชก้ ําลงั มากกวา่ การรบในสถานการณ์อืนๆ

เนืองจากตอ้ งใชก้ ําลงั ในการกวาดลา้ งอาคารต่างๆ ภายในทีหมายหรือในเขตทีได้รับมอบ การควบคมุ
พืนทีพกั พงิ ผูอ้ พยพ และมีแนวโนม้ การสูญเสียกาํ ลงั ฝ่ ายเราสูง

ก. เนืองจากความจาํ เป็นในการกวาดลา้ งอาคาร และการระวงั ป้ องกันในขณะเข้าตีจึงตอ้ งใช้
กาํ ลงั จํานวนมาก กาํ ลงั บางส่วนอาจตอ้ งคงไวใ้ นอาคารทีฝ่ ายเราไดก้ วาดลา้ งผา่ นไปแลว้ เพือป้ องกนั
ขา้ ศึกตีโตต้ อบหรือกลบั เข้ามาใชอ้ าคารเหลา่ นนั อีก

ข. ผบู้ ังคบั หนว่ ยตอ้ งคาํ นึงถึงความออ่ นลา้ ของทหาร เนืองจากเทคนิคในการกวาดลา้ งอาคาร
นนั ตอ้ งใชก้ ําลงั กายอยา่ งมากทาํ ใหท้ หารเหน็ดเหนือยเร็ว จึงจาํ เป็นตอ้ งจดั เวลาใหท้ หารไดผ้ ลดั
เปลียนกนั พกั ผอ่ น โดยทีไมป่ ล่อยใหเ้ หนือยล้าจนไมส่ ามารถปฏิบตั ิภารกิจได้

ค. อาจจาํ เป็นตอ้ งมีกาํ ลงั เพิมเติม สาํ หรบั ปฏิบัติตอ่ ประชาชนโดยเฉพาะ ไดแ้ ก่ การป้ องกนั ภยั
การรักษาพยาบาล และป้ องกนั การรบกวน กีดขวางการรบ

ง. การรบในเมืองมีแนวโนม้ การสูญเสียกาํ ลงั ฝ่ ายเรามากกว่าการรบทวั ไป เมือเทียบกบั การรบ
ในภูมิประเทศเปิ ดโอกาสตรวจการณ์เห็นข้าศึกมีเพียงชวั เวลาสันๆ และในระยะประชิดเทา่ นนั และ
ปัญหาสําคญั คือ มีโอกาสเกิดความสูญเสียจากการกระทาํ ของฝ่ ายเดียวกันสูง ผบู้ งั คบั หน่วยจึงตอ้ ง
กาํ หนดมาตรการป้ องกนั อย่างละเอียด นอกจากนีการส่งกลบั สายแพทยใ์ นเมืองก็กระทาํ ได้ยากลาํ บาก
กวา่ เช่นเดียวกัน

- ๒๖ -

๓ - ๔ การดําเนินกลยทุ ธ์
การรบในพืนทีสิงปลกู สร้างจะมีการเคลือนทีและจงั หวะการรบชา้ และในแต่ละภารกิจจะมี

วิธีการปฏิบตั ิทีละเอียดอ่อนและต้องการความประสานสอดคลอ้ งสูง ความหนาแน่นของสิงปลูกสร้าง
ทาํ ให้ไม่สามารถดําเนินกลยทุ ธ์ อยา่ งรวดเร็วไดเ้ หมือนในภมู ิประเทศเปิ ด ความจาํ เป็นตอ้ งกวาดลา้ ง
อาคารหลงั ต่อหลงั และตอ้ งระมัดระวงั การถูกซุ่มโจมตีดว้ ยอาวธุ ตอ่ สูร้ ถถงั ยิงทาํ ใหก้ ารเคลือนทีเป็น
ไปอยา่ งล่าช้า ซึงจะยิงเป็นการเพิมเวลาและโอกาสทีจะปะทะกบั ขา้ ศึกมากขึน นอกจากนีสภาพ
แวดลอ้ มทีแออดั คบั แคบในเมืองจะจาํ กัดการใชอ้ าวธุ ทีมีอยู่ ทาํ ให้ยากแก่การปฏิบตั ิใหป้ ระสาน
สอดคลอ้ งกนั นบั เป็นอุปสรรคทีทา้ ทายผบู้ งั คบั หนว่ ยทีเข้าตีเป็นอยา่ งยิง

๓ - ๕ ยุทโธปกรณ์
ผบู้ งั คบั หน่วยจําเป็นตอ้ งทราบ ขอ้ จาํ กดั ในการใชเ้ ครืองมือและยทุ โธปกรณ์ต่างๆ เป็นอยา่ งดี
ก. โดยทวั ไป การรบในเมือง จะมีขอ้ จาํ กัดในการใชอ้ าวธุ เลง็ จาํ ลองมากกว่าในภมู ิประเทศเปิ ด

เพราะตอ้ งพจิ ารณาผลของการยิงทีจะมีต่อสิงปลกู สร้างและประชาชน การยิงทีจะบรรลุผลตาม
ตอ้ งการมกั ตอ้ งใชก้ ระสุนจาํ นวนมากทาํ การยิงอย่างหนาแนน่ ต่อทีหมาย และเศษหกั พงั ของสิง
กอ่ สร้างทีถกู ทาํ ลายจากการยิงกอ่ นการเขา้ ตี จะกลายเป็นเครืองกีดขวางการดาํ เนินกลยทุ ธ์ของหน่วย
เองในภายหลัง

ข. สิงกอ่ สร้างทีหนาแน่น และสภาพแวดลอ้ มทีแออดั ในเมือง จะทาํ ใหเ้ ครืองมือสือสารไม่
สามารถใชง้ านไดเ้ ต็มตามขีดความสามารถ สิงสําคญั ยิงทีมีผลต่อความสําเร็จคือ การกาํ หนดมาตรการ
ควบคุม โดยใชส้ ญั ลกั ษณ์ทางทหาร และความเขา้ ใจในเจตนารมณ์ของผบู้ งั คบั บญั ชาทุกระดบั

ค. ผบู้ งั คบั หน่วยและฝ่ ายอาํ นวยการ ตอ้ งเขา้ ใจผลกระทบของแสงไฟฟ้ า เปลวเพลิง และแสงที
สะทอ้ นกลบั จากฉากหลงั ของเมืองทีมีต่อการใชเ้ ครืองมือตรวจการณ์ในเวลากลางคืน ผลกระทบ
ดงั กล่าวจะทาํ ใหก้ ารใช้กลอ้ งตรวจการณ์ พร่ามวั และการตรวจจบั ดว้ ยรงั สีความร้อน ทาํ ได้ยากลาํ บาก

ตอนที ๓

แบบของการรบด้วยวธิ รี ุก
การวางแผนและการปฏิบตั ิการรบดว้ ยวิธีรุกในพืนทีสิงปลกู สร้าง คงมีพนื ฐานจากการพิจารณา
ปัจจยั METT – T และหลกั นิยมทีใชใ้ นขณะนนั การรบดว้ ยวิธีรุกในระดบั กองพนั แบ่งเป็น ๒ แบบ
คือ การเขา้ ตีเร่งดว่ น และการเขา้ ตีประณีต ซึงมีความแตกตา่ งกนั เพียงความละเอียดในการวางแผน
การลาด ตระเวน และการประสานงาน เท่าทีเวลา และสถานการณ์จะอาํ นวยให้กระทาํ ไดม้ ากนอ้ ย
เพียงใดเทา่ นนั

๓ - ๖ การเข้าตีเร่งด่วน
ในระดบั กองพนั และกองร้อย การเขา้ ตีเร่งด่วน เป็นผลจากการเคลือนทีเขา้ ปะทะ การรบปะทะ

หรือการปะทะ ในระหว่างการเคลือนที เชน่ หลังบรรลุภารกิจการตงั รบั หรือขณะเป็นส่วนหนึงของ
การตังรบั หรือในสถานการณ์ ซึงหน่วยมีโอกาสทีจะเขา้ ตีจุดออ่ นของข้าศึกได้ ทนั ทีทีปะทะกบั ข้าศึก
ผบู้ งั คบั หนว่ ยจะใช้กาํ ลงั ส่วนหนึงสําหรบั การขม่ ขา้ ศึกและอีกส่วนหนึงเข้าตีผ่านช่องวา่ ง ปี ก หรือ

- ๒๗ -
จดุ อ่อนของขา้ ศึก แลว้ รายงานใหผ้ บู้ ังคบั หน่วยเหนือทราบ การเตรียมการเข้าตีเร่งด่วน คงคลา้ ยกนั กบั
การเขา้ ตีประณีต เพียงแต่ตอ้ งใชเ้ วลาและทรพั ยากรเท่าทีมีอยใู่ นขณะนนั เท่านนั การเขา้ ตีเร่งด่วนใน
พืนทีสิงปลกู สร้าง แตกต่างจากการเขา้ ตีเร่งดว่ นในภูมิประเทศเปิ ด คือ การบงั คบั บัญชา การควบคมุ
และติดต่อสือสาร รวมทงั การรวบอาํ นาจการยงิ เพือขม่ ขา้ ศึกทาํ ไดย้ ากลาํ บากกวา่

ก. เนืองจากการข่าวกรองไมเ่ พียงพอ และการซ่อนพรางทาํ ไดย้ ากส่วนดาํ เนินกลยทุ ธ์ อาจ
จาํ เป็นตอ้ งเคลือนทีผา่ นส่วนทีกาํ ลังยิงตรึงข้าศึกโดยทีไมส่ ามารถออ้ มผา่ นได้ ในการเคลือนทีผ่าน
จาํ เป็นตอ้ งมีมาตรการควบคมุ และประสานงานระหวา่ งหนว่ ยอยา่ งใกลช้ ิด เพอื ป้ องกันการแออดั ของ
กาํ ลงั ณ บริเวณดงั กล่าว

ข. หลงั จากยึดทีหมายไดแ้ ลว้ กาํ ลงั ทีเขา้ ตีเร่งดว่ น ควรไดร้ บั มอบภารกิจ “เมือสัง” ภารกิจ
“พร้อมปฏิบัติ” หรือคาํ สังเป็นส่วนๆ เพือใหส้ ามารถตอบโตส้ ถานการณ์เผชิญเหตุได้

๓ - ๗ การเข้าตปี ระณีต
การเข้าตีประณีต เป็นการเขา้ ตีขา้ ศึกทีกาํ ลงั ตังรบั โดยผสมผสานการใชเ้ ครืองมือทงั สินทีมีอยู่

อยา่ งประสานสอดคลอ้ ง ฝ่ ายเราจาํ เป็นตอ้ งเขา้ ตีประณีต เมือขา้ ศึกจดั เตรียมทีมนั ตังรับอยา่ งดี พืนที
สิงปลกู สร้างมีขนาดใหญ่และหนาแน่นมาก หรือเมือไมส่ ามารถรักษาการจู่โจมได้ คณุ ลกั ษณะสําคญั
ของการเขา้ ตีประณีต คือตอ้ งการ การวางแผนทีแม่นยาํ บนพนื ฐานของขา่ วสารทีมีรายละเอียดมีการ
ลาดตระเวน การเตรียมการ และการซกั ซ้อมอยา่ งเพียงพอ ในแงค่ ิดดา้ นลกั ษณะภมู ิประเทศของพนื ที
สิงปลกู สรา้ ง การเข้าตีประณีตจะใชเ้ ทคนิคคลา้ ยคลึงกนั กบั การเขา้ ตีทีมนั ดดั แปลงแข็งแรง คือ
หลีกเลียงจดุ แข็งและรวบรวมอาํ นาจกาํ ลงั รบ ณ จดุ อ่อนของข้าศึก โดยแบ่งขนั การเขา้ ตีไดด้ งั นี

ก. การลาดตระเวนทหี มาย
ข. การเคลอื นทสี ู่ทีหมาย
ค. การแยกทีหมาย อาจทาํ ไดด้ ว้ ยการเขา้ ยึดภูมิประเทศซึงสูงข่มบริเวณทีหมายทีสามารถ
ขดั ขวางการเพมิ เติมกําลงั หรือการส่งกาํ ลงั บาํ รุงใหก้ บั กําลงั ทีตงั รบั ของขา้ ศึกได้ ขนั ตอนนีอาจปฏิบตั ิ
พรอ้ มๆ กนั กบั การเขา้ ยดึ พืนทีเริมต้น หากปฏิบัติในขนั การแยกทีหมายกอ่ น การปฏิบตั ิอืนๆ ในขนั
ตอ่ ไป ตอ้ งรีบดาํ เนินการโดยไม่ชกั ชา้ เพอื ไม่ให้ขา้ ศึกมีเวลาตอบโตไ้ ดท้ นั (รูปที ๓-๑ การแยกพนื ที
ใหโ้ ดดเดียว โดยหน่วยเฉพาะกิจกองพนั ทหารราบ)

- ๒๘ -

จะไม่หยุดหน่วย
หลงั จากการแยกโดดเดยี ว

รูปที ๓ – ๑ การแยกพืนทีให้โดดเดียว โดยหน่วยเฉพาะกจิ กองพนั ทหารราบ
ง. การเข้ายดึ พืนทีเริมต้น เป็นการเขา้ ยึดทีหมายระหว่างทาง เพอื เริมตน้ การเข้าตี ซึงเป็นพนื ที
ทีใหก้ ารกําบงั จากการยิงของขา้ ศึก และกวา้ งพอสําหรบั กาํ ลงั ทีเขา้ ตีสามารถเขา้ วางตวั และเคลือนที
เขา้ ตีตอ่ ไปยงั ทีหมายได้ ปกติจะมีขนาดประมาณ ๑ หรือ ๒ ชว่ งอาคาร และถือว่าเป็นทีหมายระหว่าง
ทางของกองร้อย ระหว่างการเขา้ ยึดพืนทีเริมตน้ กองรอ้ ยควรไดร้ บั การคุม้ ครองดว้ ยควนั หรือการยงิ
ข่ม จากหนว่ ยเหนือ (รูปที ๓–๒ พืนทีเริมตน้ การเขา้ ตีของกองพนั )

- ๒๙ -

สนับสนุนดว้ ยการยงิ

สนับสนุนดว้ ย
การยิงขม่ และควนั

สนบั สนุนดว้ ยการยิง การยิงขม่ ดว้ ยกระสุนระเบิด
แรงสูงและควนั

รูปที ๓ – ๒ พืนทเี ริมต้นการเข้าตีของกองพนั

จ. การกวาดล้างพืนทสี ิงปลกู สร้าง ความละเอียดในการเขา้ กวาดลา้ งอาคารจะทาํ มากนอ้ ย
เพียงใดขึนอยกู่ บั การพจิ ารณาปัจจยั METT– T โดยในสถานการณ์ตอ่ ไปนี ผบู้ ังคบั หน่วยอาจตกลงใจ
ใหเ้ ขา้ กวาดลา้ ง เฉพาะอาคารทีพจิ ารณาแลว้ เห็นว่าอาจจะขดั ขวางการบรรลุภารกิจเท่านนั

เมือตอ้ งการยึดทีหมายใหไ้ ดโ้ ดยเร็ว
เมือการตา้ นทานของข้าศึกเบาบาง หรือกระจดั กระจาย
เมือลกั ษณะของสิงปลกู สร้างไม่แข็งแรง และมีพนื ทีโล่งระหว่างอาคารเลา่ นนั ในกรณี
ดงั กล่าว อาจกวาดลา้ งเฉพาะอาคารทีวางตวั ตามแนวทางการเคลือนทีเข้าสู่ทีหมาย หรืออาคารทีมี
ความจาํ เป็นตอ้ งใชเ้ พือการระวังป้ องกนั เท่านนั (รูปที ๓- ๓ การกวาดลา้ งอาคารตามเสน้ ทางการเข้าตี)

- ๓๐ -

รูปที ๓ – ๓ การกวาดล้างอาคารตามเส้นทางการเข้าตี
บางหน่วยอาจไดร้ บั มอบภารกิจใหก้ วาดล้างข้าศึกทงั สินในพืนทีรบั ผิดชอบ จากการวิเคราะห์
ภารกิจโดยละเอียด ผบู้ งั คบั หนว่ ยสามารถจะคาดการณ์ ถึงความเป็นไปไดท้ ีจะถกู ขา้ ศึกต้านทานอยา่ ง
หนกั ดว้ ยกาํ ลงั ทีตงั รบั อยา่ งดี หรือดว้ ยพืนทีทีมีสิงปลกู สร้างแข็งแรงอยอู่ ยา่ งหนาแน่น ดงั นนั อาจ
ตอ้ งใชก้ าํ ลงั ๑ หรือ ๒ กองรอ้ ย เขา้ ตีบริเวณจุดอ่อนทีสุดของข้าศึก ดว้ ยกวา้ งดา้ นหนา้ แคบ โดย
เคลือนทีผา่ นไปอย่างชา้ ๆ เพอื กวาดลา้ งอาคารทีละหอ้ งตอ่ หอ้ ง หลงั ตอ่ หลงั ในขณะทีกองร้อยอืน
เป็นส่วนสนบั สนุน และเตรียมเขา้ ผลดั เปลียนการกวาดลา้ งต่อไป (รูปที ๓ - ๔ การกวาดลา้ งอาคารใน
พืนทีรับผิดชอบ)

- ๓๑ -

พืนทกี วาดลา้ งของกองร้อย

รูปที ๓ – ๔ การกวาดล้างอาคารในพืนทีรับผดิ ชอบ
ตอนที ๔

ปัจจัย METT – T
การวางแผน การเตรียมการ และปฏิบตั ิการรบดว้ ยวิธีรุกในพืนทีสิงปลูกสร้าง คงเหมือนกบั
การรบดว้ ยวิธีรุกอืนๆ แผนการเขา้ ตีตอ่ ทีมนั ตงั รับทีมีการเตรียมการอยา่ งดีในเมือง ต้องอยบู่ นพืนฐาน
ของปัจจยั METT –T การบรรลภุ ารกิจขึนอยกู่ บั ความประสานสอดคลอ้ งระหวา่ ง แผนการดําเนิน
กลยทุ ธ์กบั แผนการยิงสนบั สนุน รวมทงั แผนการสนบั สนุนการรบ และการสนบั สนุนการชว่ ยรบ
(รายละเอียด บทที ๖ และบทที ๗)
๓ - ๘ ภารกจิ
ในการประมาณสถานการณ์ ผบู้ งั คบั หน่วยและฝ่ายอาํ นวยการตอ้ งพจิ ารณา เจตนารมณ์ของ
ผบู้ งั คบั บญั ชาโดยรวมทีมีตอ่ การปฏิบัติการ ในแงข่ องการกวาดลา้ งทีหมายว่ามงุ่ เน้นการกวาดลา้ งทุก
หลงั ทกุ ช่วงตึกหรือ มงุ่ ยึดทีหมายสําคัญ ซึงอาจกวาดล้างเฉพาะอาคารทีตงั อยบู่ นเสน้ หลกั การรุก
เทา่ นนั

- ๓๒ -

๓ - ๙ ข้าศึก
การวิเคราะห์ขา้ ศึกอย่างละเอียด ทําไดโ้ ดยดําเนินการตามขนั ตอนการเตรียมสนามรบดา้ นการ

ข่าว ( ใน รส. ๓๔-๑๓๐) ปัจจยั สาํ คญั ยงิ ทีผบู้ งั คบั หน่วยต้องกาํ หนดใหไ้ ดก้ อ่ นสินสุดกระบวนการ
IPB คือ ประเภทของภยั คุกคามทีหน่วยกําลงั จะเขา้ ตีตอ้ งระบุไดว้ า่ เป็นกาํ ลงั รบตามแบบหรือไมต่ าม
แบบ ซึงจะเป็นเครืองกาํ หนดแนวทางการจดั เฉพาะกิจของกองพนั และกองรอ้ ย และวิธีการประสาน
สอดคลอ้ งอํานาจกาํ ลังรบเพือใหบ้ รรลภุ ารกิจต่อไป

ก. กาํ ลงั รบตามแบบ ในประเทศโลกทีสามทกุ ประเทศใชห้ ลกั นิยมการรบในเมืองของ
สหรฐั อเมริกาหรือเครือจกั รภพรัสเซีย อยา่ งใดอยา่ งใดอยา่ งหนึงเป็นหลกั ดงั นนั กําลงั ทีคาดวา่ จะใช้
ทาํ การรบในเมืองสาํ หรบั อนาคต น่าจะเป็นหน่วยกองพนั ทหารราบยานเกราะหรือยานยนต์ เพราะเป็น
กาํ ลงั ทีประสิทธิภาพมากทีสุด ทงั ในด้านของความคลอ่ งแคล่วในการเคลือนที การมีเกราะป้ องกันตน
และสามารถปรับตวั ใชป้ ระโยชน์จากอาคารและสิงปลกู สรา้ งในเมืองเพือการตงั รับไดเ้ ร็ว

๑) การตงั รบั ของขา้ ศึกจะแบง่ เป็นสองแนว เพือใหม้ ีความลึกและมีพนื ทีของกองหนุน
กองร้อยจะตงั รบั เป็นส่วนหนึงของกองพนั ในทีมนั ดัดแปลงแขง็ แรงและเป็นการตงั รับแบบวงรอบ
กองหนนุ จะอยู่ ณ ทีมันดดั แปลงแข็งแรง ซึงแยกต่างหาก ตาํ บลซุ่มโจมตีจะวางไวต้ ามบริเวณชอ่ งว่าง
ระหวา่ งทีมนั ดดั แปลงแขง็ แรงและมีการจดั เตรียมทีมนั ลวงไวด้ ว้ ย นอกจากนีขา้ ศึกจะวางกาํ ลงั เป็น
ส่วนๆ เพอื ยึดหรือป้ องกนั บริเวณชอ่ งทางทีสามารถผา่ นเขา้ สู่ หรือออกจากทางใตด้ ิน และถนนกบั มี
การวางกาํ ลงั ส่วนระวงั ป้ องกนั ไวด้ า้ นหน้าของพืนทีตงั รบั แนวแรก

๒) กองรอ้ ยทหารราบยานเกราะหรือยานยนต์ อาจวางกาํ ลงั ตงั รบั ในอาคารหลายหลงั ภายใต้
การยงิ สนบั สนนุ ร่วมกนั หรือในอาคารขนาดใหญ่เพียงหลังเดียว ส่วนหมวดปื นเล็กจะวางกําลงั ตงั รับ
ในอาคาร ๑ ถึง ๒ หลงั หรือ ๑ ถึง ๒ ชนั ภายในอาคารหลงั เดียวกัน

ข. กําลงั รบไม่ตามแบบ วิธีการคงคล้ายกันกบั การวิเคราะห์กาํ ลงั ขา้ ศึก สําหรบั การป้ องกนั และ
ปราบปรามการกอ่ ความไมส่ งบ การตอ่ ตา้ นสงครามกองโจรและการตอ่ ตา้ นการกอ่ การรา้ ย ในสภาพ
ความขดั แยง้ ระดบั ตาํ (รายละเอียด รส. ๓๔-๑๓๐ และ รส. ๗-๙๘ IPB ในการปฏิบตั ิการตอ่ ต้านการ
กอ่ ความไม่สงบ)

๓ - ๑๐ ภูมิประเทศ
การปฏิบัติ จาํ เป็นตอ้ งปรับใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพแวดล้อมเฉพาะของเมือง โดยการวิเคราะห์

ลกั ษณะภูมิประเทศของตวั เมือง ประเภทของสิงปลกู สร้าง และรูปแบบโครงสร้างของเมืองอย่าง
ละเอียด (รายละเอียดการวิเคราะห์ภมู ิประเทศในเมือง รส.๓๔-๑๓๐) ผบู้ งั คบั หนว่ ยทุกระดบั ชนั ตอ้ ง
ผสมผสานขอ้ พิจารณาพเิ ศษในการวางแผนการรบดว้ ยวิธีรุกภายใตส้ ภาพแวดลอ้ มเฉพาะของเมือง
ดงั นี

แผนทีทางทหารไมส่ ามารถใหร้ ายละเอียดเพียงพอสาํ หรบั การวิเคราะห์ภมู ิประเทศในเมือง
และไมส่ ามารถแสดงทีตงั ระบบบาํ บดั นาํ เสีย ระบบทอ่ ส่งนาํ ถนนหรือทางรถไฟ หรือเครืองกาํ เนิด
พลงั งานตา่ งๆ ทีอยู่ ใตด้ ิน

- ๓๓ -
ภมู ิประเทศทีลอ้ มรอบตวั เมือง คงเป็นภมู ิประเทศโดยทวั ไปตามธรรมชาติ
ภมู ิประเทศสาํ คญั ได้แก่ สนามกีฬาหลกั สนามกีฬาประเภทตา่ งๆ สวนสาธารณะ สนาม
ของโรงเรียน อาคารทีทาํ การต่างๆ ของเมืองและโรงงานอุตสาหกรรม
พืนทีเฉพาะซึงจาํ กัดการตรวจการณ์ การยงิ และการดาํ เนินกลยทุ ธ์ ขณะเดียวกนั ป้ องกนั การ
รวมอาํ นาจการยิงมายงั จุดทีสาํ คญั ดว้ ย
เส้นทางไปยงั พืนทีสิงปลูกสร้าง ทีมีการกําบงั และซ่อนพราง
เสน้ ทางภายในพืนทีสิงปลูกสร้าง ทีมีการกําบงั และซ่อนพราง
ไมส่ ามารถใช้อาํ นาจกาํ ลงั รบไดส้ ูงสุด เนืองจากความจําเป็นตอ้ งจาํ กดั ความสูญเสีย และ
ผลกระทบจากสิงกีดขวางจาํ นวนมากในเมือง
ความตอ้ งการกระสุนและเสบียงมากกวา่ การรบทวั ไป จะเพิมภาระแก่ส่วนส่งกาํ ลงั บาํ รุงเป็น
อยา่ งมาก
การลาดตระเวนในการรบตามแบบ กระทําไดย้ าก วิธีการทีมีประสิทธิภาพคือ การลาด
ตระเวนดว้ ยกาํ ลงั คือการเคลือนทีคน้ หาและเขา้ ตีขา้ ศึกโดยมีกําลงั ส่วนติดตามมากขึนเรือยๆ จนกวา่
จะสามารถคลีคลายสถานการณ์ เปิ ดเผยทีตงั ข้าศึก เข้าตี และเขา้ ยึดทีหมายไดต้ รงกนั ขา้ มกบั การรบไม่
ตามแบบ ซึงส่วนลาดตระเวนหรือระวงั ป้ องกนั ไม่ว่าจะเป็นของฝ่ ายรุกหรือฝ่ายรบั สามารถใช้
ปฏิบตั ิการจนบรรลุภารกิจแตกหกั โดยฝ่ ายตรงขา้ มมกั จะไมส่ ามารถขดั ขวางได้

๓ - ๑๑ กาํ ลงั ทมี อี ยู่
ในการเขา้ ตีพืนทีสิงปลูกสร้างขนาดใหญ่ กองพนั อาจเขา้ ตีเป็นส่วนหนึงของกรม ในกรณี

ดงั กล่าวกองพนั อาจจาํ เป็นตอ้ งแบ่งทีหมายเป็นส่วนๆ หรือตอ้ งกาํ หนดและเขา้ ยดึ พนื ทีเริมตน้ แต่หาก
เป็นการเขา้ ตีพืนทีขนาดเลก็ กองพนั หรือกองร้อยอาจเขา้ ตีเป็นอิสระ โดยแบง่ กิจเฉพาะลงไปใหก้ บั
กองรอ้ ยหรือหมวด ไมว่ ่ากรณีใดหมวดปื นเลก็ ทีเป็นส่วนดาํ เนินกลยทุ ธ์คงปฏิบตั ิการแบบเดียวกัน
คือเคลือนทีเขา้ สู่ และกวาดลา้ งทีหมาย รายละเอียดตามทีอธิบายไวใ้ นผนวก จ

ก. ในการเข้ายึดพืนทีเริมตน้ กองพนั มกั จะกาํ หนดใหส้ ิงปลกู สร้างในช่วงแรกเป็นทีหมายแรก
ของกองรอ้ ยนํา หากบางส่วนของทีหมายครอบคลมุ ถึงถนน ใหร้ บั ผดิ ชอบเพียงขอบถนนดา้ นใกลท้ ี
หมายสุดทา้ ยของกองรอ้ ยมกั จะเป็นสิงปลูกสร้างทีอยูด่ า้ นไกลสุดของพนื ที หรือภูมิประเทศสาํ คญั ที
อยดู่ า้ นฝังไกล อาคารหรือกลุม่ อาคารทีสาํ คญั อืนๆ อาจกาํ หนดเป็นทีหมายระหว่างทาง อาคารทีตงั อยู่
ตามเส้นทางการเขา้ ตีควรกาํ หนดรหสั เป็นหมายเลข เพอื ให้งา่ ยแก่การพิสูจนท์ ราบและรายงาน (รูปที
๓ - ๕ มาตรการควบคุม และตวั อย่างการกาํ หนดหมายเลขอาคาร)

- ๓๔ -

ทหี มายระหวา่ งทาง

ทหี มาย

สว่ นเขา้ ตีหลกั

ทีหมายระหวา่ งทาง

รูปที ๓ – ๕ มาตรการควบคุม และตวั อย่างการกําหนดหมายเลขอาคาร

ข. การออ้ มผ่านสิงปลูกสร้างจะเสียงตอ่ การถูกขา้ ศึกเขา้ ตีทางดา้ นหลังหรือปี ก ดังนันหนว่ ยที
เป็นส่วนกวาดลา้ ง ตอ้ งเขา้ สู่ คน้ หา และกวาดลา้ งทกุ อาคารทีอยภู่ ายในเขตปฏิบตั ิการ อาคารเดียว
อาจกาํ หนดใหเ้ ป็นทีหมายของหมู่ปื นเล็ก แตถ่ า้ มีขนาดใหญ่ อาจกําหนดเป็นทีหมายของหมวดหรือถึง
ระดบั กองรอ้ ย ในกรณีทีแผนของผบู้ งั คบั หน่วยเหนือเนน้ ทีความรวดเร็วหรือเมือเขา้ ตีเร่งดว่ น กองพนั
อาจไดร้ ับคาํ แนะนาํ ไม่ตอ้ งกวาดลา้ งสิงปลกู สร้างทงั หมดในเขตปฏิบตั ิการ

ค. แนวฝังใกลข้ องถนนสายหลกั แมน่ าํ ทางรถไฟ หรือพืนทีโล่งเหมาะทีจะกาํ หนดเป็นขนั
การเคลือนที เพอื ใชค้ วบคมุ และรายงานความคืบหน้าของการรุกหน่วยอาจไดร้ ับมอบภารกิจใหก้ วาด
ลา้ งสิงปลูกสร้างทงั หมดในเขตปฏิบัติการจนถึงแนวขนั การเคลือนที ในกรณีดงั กล่าวผบู้ งั คบั หน่วยจะ
กาํ หนดทีหมายของหนว่ ยเองรวมทงั แบ่งมอบภารกิจใหก้ บั หน่วยรอง

ง. การกาํ หนดเส้นแบง่ เขตของกองพนั และกองร้อยมกั ใชแ้ นวช่วงอาคาร เพือใหถ้ นนถูก
รวมอยภู่ ายในเขตปฏิบตั ิการของหน่วยดว้ ย (รูปที ๓ - ๖ เขตปฏิบตั ิการ และเส้นแบง่ เขต)

ทหี มาย - ๓๕ - * เขตจาํ กดั การรุก
ส่วนเขา้ ตหี ลกั
แนวขนั

* เขตจํากดั การรุก แนวขนั เขตจํากดั การรุก

รูปที ๓ – ๖ เขตปฏิบัตกิ าร และเส้นแบ่งเขต

จ. จุดตรวจสอบ และจดุ ติดต่อจะกาํ หนดบริเวณมุมถนน อาคาร ทางรถไฟตัดกบั ถนน
สะพาน หรือสิงปลูกสรา้ งทีสังเกตเห็นไดง้ า่ ยจุดตรวจสอบชว่ ยในการรายงานทีตงั และควบคมุ การ
เคลือนที ส่วนจดุ ติดตอ่ ใชเ้ พือการติดตอ่ ประสานงานระหวา่ งหน่วยดว้ ยตวั บุคคล

ฉ. ฐานออกตี เป็นพืนทีสําหรบั หน่วยนาํ ใชเ้ ตรียมการและประสานงานในขนั สุดท้าย กอ่ นการ
เขา้ ตี มกั กาํ หนดบริเวณดา้ นหลงั หรือภายในอาคารใหญ่แห่งสุดท้าย ก่อนถึงแนวออกตีส่วนแนวออก
ตีควรเป็นแนวฝังใกลข้ องถนนหรือทางรถไฟ

ช. กวา้ งดา้ นหนา้ ของหนว่ ยเขา้ ตี ขึนอยกู่ บั ขนาดของสิงปลูกสร้างและการตา้ นทานของขา้ ศึกที
คาดคิด โดยปกติ กวา้ งด้านหน้าของกองรอ้ ย ประมาณ ๑ หรือ ๒ ชว่ งอาคาร กองพนั ประมาณ ๒ ถึง
๔ ช่วงอาคาร โดยช่วงตึกในเมืองทวั ไป จะมีความกวา้ งเฉลียประมาณ ๑๗๕ เมตร

ซ. การเขา้ ตีควรเริมต้นในหว้ งทศั นวิสยั จาํ กดั รวมทงั ในระหวา่ งการเคลือนทีผ่านพนื ทีโลง่
การเคลือนทีขึนสู่หลงั คา การแทรกซึมเขา้ พนื ทีข้าศึกและการเขา้ สู่พืนทีเริมตน้ ควรใชป้ ระโยชน์จาก
ทศั นวิสยั จาํ กดั ใหม้ ากทีสุด หากจาํ เป็นตอ้ งเขา้ ตีในระหวา่ งทศั นวิสัยดี ควรใชค้ วนั กาํ บังการเคลือนที

ด. รูปขบวนการเขา้ ตีขึนอยกู่ บั ความกวา้ งและความลึกของพนื ทีทีตอ้ งกวาดลา้ ง ลกั ษณะของ
พืนที การตา้ นทานของขา้ ศึก และรูปขบวนของหน่วยเหนือ

ต. กองหนนุ ตอ้ งมีความคลอ่ งแคล่วในการเคลือนทีและพร้อมรับภารกิจ เนืองจากสภาพใน
เมืองเกือกลู แก่การกาํ บังและซ่อนพราง จึงสามารถวางกําลงั กองหนุนไวใ้ กลก้ บั หนว่ ยในแนวหน้า
กองหนนุ ของกองพนั อาจอยหู่ ่างจากกองร้อยนาํ ประมาณ ๑ ถึง ๒ ช่วงอาคาร กองหนนุ ของกองรอ้ ย
(ถา้ มี) ควรเคลือนทีตามหนว่ ยนาํ ในระยะภายในชว่ งอาคารเดียวกัน เพือใหส้ ามารถสนบั สนุนกันได้
ทนั ที กองหนนุ อาจตอ้ งปฏิบตั ิกิจอยา่ งใดอยา่ งหนึงหรือมากกว่า ดงั นี

- ๓๖ -
เขา้ ตีจากทิศทางอืน
ขยายผลความสําเร็จของฝ่ ายเรา หรือบริเวณจุดออ่ นของขา้ ศึก
กวาดล้างขา้ ศึกทีฝ่ ายเราออ้ มผา่ น
ระวังป้ องกนั หลงั และปี ก
รักษาการติดต่อกบั หน่วยขา้ งเคียง
สนบั สนุนดว้ ยการยิง หรือตีโตต้ อบดว้ ยการยิง
ถ. หมวดลาดตระเวนมกั ได้รบั มอบภารกิจ ลาดตระเวนดา้ นปี กหรือดา้ นหลังของกองพนั
โดยปกติสภาพแวดลอ้ มของเมืองจะลดขีดความสามารถในการลาดตระเวนลง แต่อาจใชใ้ นการแยก
และโดดเดียวหมู่บา้ นหรือเมืองเลก็ ได้ หน่วยตอ้ งสามารถเดินดว้ ยเทา้ เขา้ สู่อาคารเพือการลาดตระเวน
หรือจดั ตงั ทีตรวจการณ์ได้ หมวดและหม่ปู ื นเล็กอาจตอ้ งปฏิบตั ิการลาดตระเวนและเข้าประจาํ ที
ตรวจการณ์ เพอื เพิมเติมขีดความสามารถใหก้ บั หมวดลาดตระเวนของกองพนั
ท. กองร้อยนาํ อาจไดร้ บั ทหารช่าง มาสมทบ เพือใหก้ ารสนบั สนุนไดท้ นั ที รถรบทหารชา่ ง
(CEV) สามารถกวาดลา้ ง รือถอนเครืองกีดขวางไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ดว้ ยเครืองถากถาง หรือเครืองยิง
ระเบิดทาํ ลาย ขนาด ๑๖๕ ม.ม. กิจอืนๆ ทีอาจมอบใหก้ บั หน่วยทหารช่าง ไดแ้ ก่

เตรียมและใชว้ ตั ถรุ ะเบิดในการเจาะกาํ แพงหรือเครืองกีดขวาง
คน้ หา ทาํ ลาย หรือเกบ็ กทู้ ุ่นระเบิด
ทาํ ลายทีมนั ขา้ ศึก ในระยะไกลสุดไดถ้ ึง ๙๒๕ เมตร โดยใชย้ านรบทหารช่าง
กวาดล้างเครืองกีดขวางถนนและเศษวสั ดุ เพอื เพมิ ความคลอ่ งแคลว่ ในการเคลือนทีของ
ฝ่ ายเรา
ทําลายพืนผวิ ถนน และลดความคล่องแคล่วในการเคลือนทีของขา้ ศึกดว้ ยวิธีการต่างๆ
น. การระวงั ป้ องกนั เป็นปัญหาทีสําคญั ยงิ ซึงทหารทกุ คนตอ้ งตืนตวั และระมดั ระวงั อยู่
ตลอดเวลา ต่อการปรากฏตวั ของขา้ ศึก ทงั จากด้านขา้ ง ดา้ นบน และใตด้ ิน (รูปที ๓ - ๗ การยงิ ของ
ขา้ ศึกจากดา้ นขา้ ง)

- ๓๗ -

รูปที ๓ – ๗ การยงิ ของข้าศึกจากด้านข้าง
บ. แผนการยิงสนบั สนนุ อาจจาํ เป็นตอ้ งมีการโจมตีทางอากาศ และการยงิ ดว้ ยปื นใหญอ่ ย่าง
รุนแรง กอ่ นการเขา้ ตีทางพนื ดิน เพือขม่ ระบบการยงิ ในการตงั รบั ของข้าศึก จาํ กดั การเคลือนทีของ
ขา้ ศึกและอาจทาํ ลายทีมนั ของขา้ ศึกได้ อย่างไรก็ตามอาํ นาจการยิงทีรุนแรงตอ่ บริเวณทีมีสิงปลูกสร้าง
หนาแน่น จะทาํ ใหเ้ กิดเศษซากวสั ดุต่างๆ จาํ นวนมากซึงอาจใชเ้ ป็นทีกาํ บงั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี แตใ่ น
ขณะเดียวกนั จะกลายเป็นเครืองกีดขวางการเคลือนทีเขา้ ตีของหนว่ ยดว้ ย ดงั นันการยิงควรใชเ้ วลา
สันๆ แตใ่ หผ้ ลรุนแรง กาํ ลงั ทีเขา้ ตีตอ้ งรีบเคลือนทีติดตามอยา่ งใกล้ชิด เพอื ขยายผลของอาํ นาจการยิง
ฝ่ายเราทีมีตอ่ ขา้ ศึกใหไ้ ดม้ ากทีสุด การยงิ สนบั สนุนตอ้ งสามารถข่มขา้ ศึกใหไ้ ดต้ ลอดเวลา ในขณะที
ฝ่ายเราเคลือนทีจนกว่าจะถึงแนวประสานงานขนั สุดทา้ ย และเลือนฉากการยิงเมือฝ่ายเราเข้าประชิด
ทีหมาย เพอื ชว่ ยป้ องกนั การถอนตวั หรือเพิมเติมกาํ ลงั ของขา้ ศึก
ป. ตอ้ งมีการประสานงานลว่ งหนา้ ระหวา่ งส่วนตา่ งๆ ทีเกียวขอ้ ง เพอื ตกลงกําหนดเทคนิค และ
ระเบียบการปฏิบตั ิทีจะใชใ้ นการติดตอ่ สือสาร การกําหนดเป้ าหมายและการเลือนฉากการยิง และตอ้ ง
พจิ ารณาเป็นพิเศษเกียวกบั ผลกระทบทีจะมีต่อประชาชน สถานทีทีประชาชนเคารพนบั ถือ สถาน
พยาบาล โรงเรียน สถานทีใหบ้ ริการสาธารณะต่างๆ และอนุสรณ์สถานทางประวตั ิศาสตร์ แผนการ
ยิงสนบั สนุนอาจมีการผสมผสานการยงิ ของอาวุธต่างๆ เหล่านีเขา้ ร่วมดว้ ย เชน่ อาวธุ ของรถถังและ
ทหารราบ ปื นใหญ่ รถรบทหารช่าง และการยิงจากอาวุธของทหารทีรบเดินดิน การยิงสนบั สนนุ
แบง่ เป็น การยิงเลง็ จาํ ลองและการยิงเล็งตรง

- ๓๘ -
๑) ระบบอาวธุ เลง็ จาํ ลอง ทาํ การยิงตามบทบาทของการสนบั สนุนหน่วยดาํ เนินกลยทุ ธ์

ก) ปื นใหญ่วางแผนการยิงเพอื แยกทีหมาย ป้ องกนั การเพิมเติมกาํ ลงั และส่งกาํ ลงั บาํ รุง
เพิมเติม ทาํ ลายทีตงั ทีบงั คบั การและทีตรวจการณ์ทีทราบและสงสยั และเพือข่มระบบการตงั รับของ
ขา้ ศึก ดว้ ยลกั ษณะบงั คบั ของเมือง ทําใหป้ ื นใหญ่ต้องยิงดว้ ยมุมสูง

ข) เครืองยิงลูกระเบิด เป็นอาวุธเลง็ จาํ ลองทีตอบสนองไดด้ ีทีสุด ต่อเป้ าหมายทีเกิดขึน
ตามเหตุการณ์ ในระยะใกล้ ซึงเป็นลกั ษณะปกติของการรบในเมือง ผตู้ รวจการณ์หน้าอาจตอ้ ง
เคลือนทีไปกบั หนว่ ยนาํ เพอื รอ้ งขอและปรับการยิงต่อเป้ าหมายโดยใกลช้ ิด ตามทีหนว่ ยรับการ
สนบั สนุนรอ้ งขอ

๒) ระบบอาวุธยิงเล็งตรง มีประสิทธิภาพสูงสุดในการยงิ สนบั สนนุ การรบในเมือง เมือ
สามารถกําหนดทีตงั เป้ าหมายในสิงปลกู สรา้ งไดแ้ ลว้ การใชอ้ าวธุ ยิงเล็งตรงเพียงหนึงหรือสองนดั
เท่านนั กอ็ าจบรรลุภารกิจยิงไดด้ ีกว่าการใชอ้ าวุธเลง็ จาํ ลองอืนๆ ระดมยงิ ดว้ ยกระสุนจาํ นวนมาก
ดงั นันการยิงสนบั สนนุ ดว้ ยอาวธุ ยิงเล็งตรงจึงเป็นหวั ใจของความสําเร็จในการรบในเมือง การยิง
สนบั สนนุ ทีดีทีสุดไดม้ าจากการยิงของ รถสายพานลาํ เลียงพล แต่ก็สามารถทดแทนไดด้ ว้ ยอาวธุ อืนๆ
เชน่ รถถงั ปื นใหญย่ ิงเล็งตรง และรถรบทหารชา่ ง (บทที ๘ - รายละเอียดแสดงผลการยิงของอาวธุ
แตล่ ะชนิด) แต่ผลของการใชอ้ าวุธเหล่านีมกั ก่อใหเ้ กิดเศษซากวสั ดุ และเกิดความเสียหายแกอ่ าคาร
และถนน ทําให้กีดขวางการเคลือนทีในการเข้าตี

ก) ในขณะทีหน่วยนําในการเข้าตีกําลงั เข้ายึดพืนทีเริมตน้ รถถงั อาจใชใ้ หเ้ ป็นส่วน
สนบั สนนุ ดว้ ยการยิงในระหว่างการเขา้ ตี รถถงั ใหค้ วามคมุ้ ครองทหารราบตงั แต่ขนั เริมเขา้ ประชิด
จนกระทงั เข้ายึดทีหมาย ในระหว่างการเคลือนทีไปยงั ทีตงั ยิงอืนๆ รถถังจาํ เป็นตอ้ งไดร้ ับการยิง
สนบั สนุนจากอาวธุ ในอตั ราของทหารราบ เพือขม่ ขา้ ศึกในทีมนั ดดั แปลงแข็งแรงและต้องไดร้ ับการ
คุม้ ครองจากอาวธุ ตอ่ สู้รถถังของฝ่ายเรา ผบู้ งั คบั หน่วยต้องใชร้ ถถงั ใหไ้ ดเ้ ปรียบจากระยะยิงของอาวุธ
หลกั ทีมีอยใู่ หม้ ากทีสุด ดว้ ยการใชร้ ถถงั ปฏิบตั ิการจากภายนอกพืนทีสิงปลกู สร้าง บริเวณทีสามารถ
คุม้ ครองเสน้ ทางเคลือนทีความเร็วสูงของยานเกราะไดต้ ลอดหว้ งการเขา้ ตี โดยเฉพาะทีสาํ คญั ยิงคือ
ในระหว่างขนั การแยกทีหมาย

ข) ในการรบบริเวณถนนและอาคารหลงั ตอ่ หลงั รถถงั และรถสายพานลาํ เลียงพล (BFV) จะ
เคลือนทีตามถนนโดยมีทหารราบระวงั ป้ องกันและกวาดล้างอาวธุ ต่อสู้รถถงั ของข้าศึก ขณะเดียวกัน
รถถงั และรถสายพานลาํ เลียงพล (BFV) สนบั สนุนทหารราบดว้ ยการยงิ ของปื นใหญ่หลกั และปื นกล
ประจาํ รถ จากทีตงั ซึงปลอดภยั และมีระยะยงิ ทีไดเ้ ปรียบรถถังมีประสิทธิภาพสูงสุด สําหรับการยงิ
อยา่ งหนักหนว่ งต่อโครงสร้างทีแข็งแรง และอาจใชใ้ นการกวาดลา้ งเศษซากวสั ดตุ า่ งๆ ดว้ ยเครืองมือ
ถากถางทีติดตงั กบั ตวั รถ (รูปที ๓ - ๘ ) ส่วนรถสายพานลาํ เลียงพล (BFV) สามารถยิงข่มขา้ ศึกอยา่ ง
ตอ่ เนืองและแม่นยาํ ดว้ ยอาวุธหลกั คือปื นขนาด ๒๕ ม.ม.

- ๓๙ -

รูปที ๓ – ๘
ค) กระสุนปื นใหญ่ขนาดหนกั ยิงเล็งตรง มีประสิทธิภาพสูงในการยงิ ทาํ ลายเป้ าหมาย
ภายในอาคารปื นใหญอ่ ตั ราจรขนาด ๑๕๕ ม.ม. (ถา้ มี) สามารถใชย้ ิงเล็งตรง เพือทาํ ลายหรือรบกวน
บงั เกอร์ ทีมนั ขนาดใหญ่หรือทีมนั ขา้ ศึกทีอยูใ่ นอาคารคอนกรีต (รูปที ๓-๙ ) หรืออาจใชใ้ นการกวาด
ลา้ งเครืองกีดขวาง หรือเปิ ดเสน้ ทางการเคลือนทีให้กบั ฝ่ายเราก็ได้ ปื นใหญ่อตั ตาจรขนาด ๑๐๕ มม.
และ ๒๓๐ มม. คงสามารถใชใ้ นบทบาทดังกล่าวไดเ้ ช่นเดียวกนั อยา่ งไรกต็ ามมกั ไม่นิยมใชป้ ื นใหญ่
อตั ตาจรดงั กลา่ วยิงเล็งตรงในการรบในเมือง เนืองจากมีจุดอ่อนคือการเปิ ดเผยทีตงั ของพลประจาํ ปื น
แต่หากมีความจาํ เป็นต้องใช้ ตอ้ งมีทหารราบใหก้ ารระวงั ป้ องกนั ทีตงั ยงิ และพลประจาํ ปื นอย่าง
ใกลช้ ิด ตอ้ งประสานงานกนั ใหเ้ สร็จก่อนทีหน่วยทหารปื นใหญจ่ ะเริมใชก้ ระสุนระเบิดเป็นหลัก

รูปที ๓ - ๙


Click to View FlipBook Version