The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sasit Pinkaew, 2022-10-02 23:00:22

รส.90-10-1 รวมเล่ม

รส.90-10-1 รวมเล่ม

- ๔๐ -
ง) รถถงั ปื นใหญ่อตั ตาจร และรถสายพานลาํ เลียงพล (BFV) ลว้ นมีความลอ่ แหลมสําหรับ
ทาํ การรบในเมือง ซึงถนนและช่องทางเคลือนทีต่างๆ อาจถูกขา้ ศึกเตรียมการเป็นชอ่ งการยิงไวแ้ ลว้
การใชถ้ นนของหนว่ ยยานยนต์ มีความเป็นไปไดส้ ูงทีจะถูกขดั ขวาง หรือหนั เหไปยงั บริเวณที
ล่อแหลมต่อการซุ่มโจมตี ในระยะประชิด รถถงั จะยิงเสียเปรียบมากกวา่ ยานยนตอ์ ืนๆ เนืองจากใน
ระยะใกล้ มุมยิงของปื นใหญ่รถถงั จะไมส่ ามารถกดตาํ ลงเพือทําการยิงเป้ าหมายระดบั ใตด้ ิน หรือยก
สูงขึนเพือทาํ การยิงเป้ าหมายทีอยชู่ นั บนของอาคารได้ (รูปที ๓ – ๑๐ พืนทีอบั การยงิ ของรถถงั )

รถถงั ไม่สามารถมองเหน็

พืนทอี บั การยิงของรถถงั

พืนทอี บั การยงิ ของรถถงั รถถงั ไม่สามารถมองเหน็

รูปที ๓ – ๑๐ พืนทีอบั การยิงของรถถงั
จ) ในการเคลือนทีตามถนนกวา้ งหรือแคบก็ตาม หากมีทางเดินและเศษซากวสั ดตุ ามราย
ทาง ทหารราบตอ้ งเคลือนทีนาํ เพอื กวาดลา้ งอาคารทงั สองขา้ งถนนทีจะผา่ นไป การเคลือนทีของ
ทหารราบผา่ นพืนทีโลง่ ตอ้ งเป็นไปตามแผนทีวางไว้ ประกอบดว้ ยทีหมายของการเคลือนทีในแตล่ ะ
ขนั การยิงข่มทีมนั ขา้ ศึก และการใชค้ วนั กาํ บงั การเคลือนที รถถงั อาจตอ้ งเคลือนทีเขา้ ตงั ยิง ณ ตาํ บล
ตา่ งๆ ทีทหารราบยึดไวแ้ ลว้ เพือทาํ การยงิ ตอ่ เป้ าหมายตามเหตุการณ์ทีมีความจาํ เป็น เมือสามารถกวาด
ลา้ งพืนทีใดไดแ้ ลว้ ทหารราบจะเคลือนทีเขา้ กวาดล้างพนื ทีขา้ งหน้าตอ่ ไป จากความจาํ เป็นตอ้ งปิ ด
ป้ อมปื นทาํ ใหพ้ ลประจาํ รถถงั ตรวจการณ์ไดอ้ ย่างจาํ กดั รวมทังความลําบากในการเคลือนทีของรถถงั
ทหารราบตอ้ งใหค้ วามช่วยเหลือดว้ ยการกวาดลา้ ง ตลอดเสน้ ทางรุกของรถถงั เทคนิคการเคลือนที

- ๔๑ -
ร่วมกนั ระหว่างทหารราบกบั รถถงั ทีเหมาะสมคือ การเดินทางเฝ้ าตรวจ การติดต่อสือสารระหวา่ ง
ทหารราบกบั พลประจาํ รถถงั ทีเหมาะสมคือ ทศั นสัญญาณมือและแขน และวิทยุ

ฉ) ในการเคลือนทีเขา้ ตีตามถนนทีมีความกวา้ ง โดยปกติแลว้ หมวดปื นเลก็ จะได้รับตอน
รถถงั จากหมวดรถถงั ทีขึนสมทบกบั กองรอ้ ย มาขึนสมทบกบั หมวด ตอนรถถงั ดังกล่าวจะเคลือนทีทงั
สองขา้ งถนน ขา้ งละหนึงคนั โดยจะไม่ใชเ้ ป็นตอนเรียงเดียวโดยรถถงั อืนๆ ส่วนใหญ่ของหมวดรถถงั
จะเคลือนทีติดตามทหารราบและทาํ การยิงเป้ าหมาย ทีอย่ชู นั บนขึนไปของอาคาร ในการเคลือนทีเขา้ ตี
ตามถนนพืนผิวกวา้ งความเร็วสูง ผบู้ งั คบั หน่วยอาจใชก้ าํ ลังหนึงหมวดรถถงั กบั ทหารราบหนึงหมวด
หรือมากกว่า โดยทหารราบจะระวงั ป้ องกนั การเคลือนทีของรถถังส่วนนาํ ส่วนรถถงั ทีเหลือซึงติดตาม
อยดู่ า้ นหลัง จะคุม้ ครองการเคลือนทีใหก้ บั หนว่ ยทีอยขู่ า้ งหน้า

ช) หากหนว่ ยทหารราบตอ้ งเคลือนทีตามถนนซึงแคบ จนไมส่ ามารถใชร้ ถถังในลกั ษณะ
ดงั กล่าวไดจ้ ะเปลียนเป็นรูปขบวนแถวตอนเรียงเดียว โดยรถถังแตล่ ะคันจะเคลือนทีและยงิ เพอื ให้
ความคุม้ ครองการรุกซึงกันและกนั ส่วนทหารราบจะสนบั สนุนดว้ ยการวางอาวธุ ต่อสูร้ ถถงั ไวต้ าม
อาคาร

ซ) หากทาํ ได้รถถงั อาจเคลือนทีภายในอาคารหรือดา้ นหลงั กาํ แพง เพือใชอ้ าคารหรือกาํ แพง
ดงั กล่าวเป็นเครืองป้ องกันการถูกยิงจากจรวดตอ่ สูร้ ถถงั โดยทหารราบตอ้ งเข้ากวาดลา้ งอาคารก่อน
และตอ้ งตรวจสอบชนั ของอาคารในระดบั พืนดินก่อนว่าสามารถรบั นาํ หนกั ของรถถังไดห้ รือไม่ และ
มีชนั ใตด้ ินหรือไม่ ซึงอาจเป็นกบั ดกั หากพืนทรุด ทาํ ให้รถถงั ตกลงไปชนั ใตด้ ิน ขณะเคลือนทีตอ้ ง
ตรวจคน้ ทุน่ ระเบิดและทุ่นระเบิดแสวงเครืองบริเวณสะพานและสะพานลอยขา้ มถนนทงั หมด รวมทัง
ตรวจสอบความสามารถในการรบั นาํ หนกั ของสะพานเหล่านนั ดว้ ย กบั ควรจดั หนว่ ยทหารราบส่วน
หนึง ทาํ หนา้ ทีระวงั ป้ องกันรถถังส่วนใดส่วนหนึงเป็นการเฉพาะดว้ ย

ด) ระบบอาวธุ ยิงเล็งตรงในอตั ราของกองพนั ทหารราบหลกั ๆ ได้แก่ จรวดตอ่ สูร้ ถถัง ปื นไร้
แรงสะทอ้ นถอยหลงั และอาวุธตอ่ สู้รถถงั ขนาดเบา ในขนั ตน้ มกั จะใชเ้ พือสนบั สนุนการเขา้ ยดึ พนื ที
เริมตน้ หลงั จากนนั หากจาํ เป็นจะนําไปใชใ้ นส่วนหน้าเพือต่อสูก้ บั ยานเกราะขา้ ศึกภายในเมือง การ
ตงั ยิงอาวุธต่อสู้รถถงั ในอาคารตอ้ งใหม้ ีพนื ทีเพียงพอสาํ หรบั แรงระเบิดด้านหลงั อาวุธยิง อาํ นาจการ
ยงิ ของอาวธุ ตอ่ สู้รถถงั ไม่มีประสิทธิภาพในการยิงต่อเป้ าหมายทีอยดู่ า้ นหลงั กาํ แพงเทา่ กบั กระสุนปื น
ใหญ่รถถงั เวน้ แตเ่ ป้ าหมายจะตงั อยดู่ ้านหลงั ซึงตรงกบั ตําบลกระสุนตกพอดีเท่านนั จรวดนาํ วิถีต่อสู้
รถถงั ยิงเป็นอาวุธทีเสียเปรียบ เนืองจากระยะการทาํ งานของจรวดตอ้ งไม่นอ้ ยกวา่ ๖๕ เมตร และความ
เป็นไปไดส้ ูงทีลวดนําวิถีอาจจะเกียวพนั กบั วสั ดตุ ่างๆ บนผวิ พืน ปัจจยั เหล่านีเป็นขอ้ จํากดั ในการรบ
ระยะใกล้ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ การรบในเมือง

ต) พลซุ่มยงิ เป็นเครืองมือทีมีคณุ ค่ายงิ สําหรบั การรบในเมือง ในสถานการณ์ทีกฎการปะทะ
อาํ นวยแก่การใชก้ ําลงั ทีมีอํานาจทาํ ลายล้าง พลซุ่มยิงสามารถใชเ้ ป็นส่วนหนึงของกาํ ลังระวงั ป้ องกนั
เพือทาํ การยิงตอ่ เป้ าหมายทีตอ้ งการความแม่นยาํ สูง และอยใู่ นระยะไกล พลซุ่มยงิ อาจไดร้ บั มอบหมาย
ภารกิจตอ่ ตา้ นการซุ่มยิงของขา้ ศึก หรือไดร้ ับมอบเป้ าหมายตามลาํ ดบั ความเร่งดว่ นขึนอยกู่ บั

- ๔๒ -
เจตนารมณ์ของผบู้ งั คบั บญั ชา แต่ในสถานการณ์ทีกฎการปะทะจาํ กดั การใชก้ าํ ลงั ทีมีอํานาจทาํ ลายลา้ ง
พลซุ่มยิงอาจเป็นเครืองมือทีดีทีสุดของกองพนั หรือกองรอ้ ย ในการป้ องกนั ความสูญเสียขา้ งเคียง
นอกจากนนั ยงั อาจได้รบั มอบหมายใหค้ ุม้ ครองการเจาะผา่ นและรอ้ งขอการยิงเลง็ จาํ ลอง ไมว่ า่ จะเป็น
ภารกิจใดก็ตาม พลซุ่มยงิ ตอ้ งไดร้ บั มอบเครืองมือตรวจการณ์ทีมีประสิทธิภาพ และเขา้ ทีตงั บริเวณ
พืนทีสําคญั จึงจะสามารถปฏิบตั ิการอยา่ งไดผ้ ล (รายละเอียด การใชพ้ ลซุ่มยิงในการรบดว้ ยวิธีรุก รส.
๗๑-๒ แกไ้ ขครงั ที ๑, รส.๗-๒๐ และ คจ.๒๓-๑๔)

๓ - ๑๒ เวลา
การรบดว้ ยวิธีรุกในพืนทีสิงปลูกสร้างมีขนั การปฏิบตั ิและจงั หวะการรบเป็นไปอยา่ งชา้ ๆ ใน

การวิเคราะหเ์ วลาทีมีอยู่ ควรพิจารณาปัจจยั ทีสําคญั ดงั ต่อไปนี
ก. สภาพแวดลอ้ มทีหนาแนน่ ของพืนทีสิงปลูกสรา้ งจาํ เป็นต้องใชเ้ วลามากในการกวาดลา้ ง

อาคาร ช่วงตึก และเสน้ หลกั การรุก
ข. ทหารจะเหนือยเร็วเนืองจากความเครียด และการใชก้ ําลงั กายมากกว่าในการยทุ ธ์แบบอืน
ค. ตอ้ งการเวลามากในการลาดตระเวนและซักซ้อมการปฏิบตั ิอยา่ งละเอียด เพือประหยดั เวลา

ทีจะใชใ้ นขนั การปฏิบตั ิ

ตอนที ๕

การบังคบั บัญชาและการควบคุม
การรบในเมือง เป็นการรบซึงหนว่ ยตา่ งๆ ตอ้ งแยกและโดดเดียวจากกนั เป็นการรบทีวางแผน
แบบรวมการและปฏิบตั ิแบบแยกการ

๓ - ๑๓ การบังคบั บัญชา
คาํ สังทีเหมาะสมกบั ทหารและหนว่ ยทหารทีทาํ การรบในเมืองคือ คําสังแบบมอบภารกิจซึง

เป็นคาํ สงั ทีมีลกั ษณะบงั คบั อย่แู ลว้ โดยการใชม้ าตรการควบคมุ ทีมีรายละเอียด ช่วยลดความยุ่งยาก
ของการปฏิบตั ิแบบแยกการ ยิงการบงั คบั บญั ชา การควบคุม และการติดตอ่ สือสาร ในระดบั หน่วย
เหนือ มีมากขึนเพียงใดยิงตอ้ งการความรบั ผิดชอบ และความริเริมจากหนว่ ยรองมากขึนเพยี งนัน

๓ - ๑๔ การควบคุม
ในการติดต่อสือสารในเมือง วิทยมุ ีประสิทธิภาพตํากวา่ โทรศพั ทส์ นาม และพลนาํ สาร

หน่วยอาจตอ้ งทาํ การรบ โดยไมส่ ามารถดาํ รงการติดต่อสือสารกบั หนว่ ยเหนืออยา่ งต่อเนืองได้
เนืองจากระบบการติดตอ่ สือสารหลกั ในระดบั เหนือกว่ากองรอ้ ยขึนไปมกั ไมม่ ีความแน่นอน การใช้
ทศั นสัญญาณจะมองเหน็ ไดย้ าก เนืองจากควันและอาคารส่วนการสังการดว้ ยวาจาหรือเสียงสญั ญาณ
จะถูกรบกวนดว้ ยเสียงอืนๆ ภายในหรือรอบๆ อาคารดงั กลา่ ว

- ๔๓ -
ตอนที ๖
หน่วยเฉพาะกจิ กองพนั ทหารราบเข้าตีในเมอื ง
ทีจะกล่าวตอ่ ไปนีคือ เทคนิคตา่ งๆ ทีกองพนั ทหารราบอาจนาํ มาใช้ ซึงโดยปกติมกั เขา้ ตีเป็น
ส่วนหนึงของกรมทหารราบ แตอ่ าจเขา้ ตีเป็นอิสระก็ได้

๓ - ๑๕ การเข้าตีประณตี
เนืองจากกองร้อยชดุ รบ หรือหลายกองร้อยชุดรบอาจจาํ เป็นตอ้ งถูกตดั ขาดในระหว่างการเขา้

ตี ผบู้ งั คบั หนว่ ยเฉพาะกิจจึงควรมอบส่วนสนบั สนนุ ต่างๆ ใหข้ ึนสมทบเพอื ประกนั ความสาํ เร็จใน
การปฏิบตั ิตามแผน ยานเกราะต่างๆ เช่น รถถงั ปื นใหญ่อตั ตาจร รถสายพานลาํ เลียงพลแบรดลีย์
(BFV) และเครืองยิงจรวดโทว์ (TOW) ทีขึนสมทบกบั หนว่ ยทหารราบ ตอ้ งมีเครืองมือส่งกาํ ลังบาํ รุง
ของตนเอง รถถงั รถสายพานลาํ เลียงพล (BFV) และเครืองยิงจรวดโทว์ (TOW) สามารถใชใ้ นการ
กวาดลา้ ง หรือแยกทีหมายแข็งแรง ซึงไดร้ ับการกาํ บงั โดยอาคารหรือเศษซากวสั ดทุ ีแขง็ แรง ทหารช่าง
สามารถลดทอนค่าความตา้ นทานของเครืองกีดขวางทีขัดขวางการเขา้ ตี การปฏิบัติของส่วนสนบั สนนุ
ดงั กล่าว สามารถปรับใช้ไดก้ บั ทหารราบทุกประเภท แผนการเขา้ ตีประณีต ควรประกอบดว้ ยการ
ปฏิบตั ิต่างๆ ดงั นี

ก. การลาดตระเวนทีหมาย ความสมบูรณ์ของแผนอยทู่ ีผบู้ ังคบั หน่วยเฉพาะกิจและผบู้ งั คบั
หนว่ ยรองไดม้ ีโอกาสลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศทีหมายอยา่ งละเอียดร่วมกนั

ข. การเคลือนทเี ข้าสู่ทีหมาย หนว่ ยเคลือนทีโดยใชเ้ สน้ ทางทีให้การกาํ บงั และซ่อนพราง ไปยงั
รอยตอ่ หรือบริเวณทีขา้ ศึกวางกาํ ลงั เบาบาง ทางดา้ นปี กหรือด้านหลงั ส่วนลาดตระเวนและระวงั
ป้ องกนั ทาํ หน้าทีคน้ หากาํ ลัง ทีตงั และเครืองกีดขวางข้าศึก เพือไม่ใหร้ บกวนการเขา้ ตีเครืองกีด
ขวางทีพบ อาจเจาะผา่ น หรือออ้ มผ่าน ส่วนขา้ ศึกทีพบระหวา่ งทาง ตอ้ งกําจดั โดยส่วนต่างๆ ของ
หน่วยรอง

ค. การแยกทหี มาย ผบู้ งั คบั หนว่ ยกาํ หนดทีตงั ยงิ ของอาวุธ ทงั ยิงเลง็ ตรงและเล็งจาํ ลอง ให้
สามารถสนบั สนุนการเขา้ ตีไดด้ ีทีสุด มีมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิการ เพือลวงข้าศึก
เกียวกบั เวลา ทีตงั และกาํ ลงั ในการเขา้ ตี ส่วนสนบั สนุนของกองพนั ใหก้ ารสนบั สนุนส่วนโจมตี
อาวุธยิงสนบั สนุนใชเ้ พือข่มและสังหารข้าศึก เป็นฉากกาํ บังส่วนโจมตี คุม้ ครองการเจาะเครืองกีด
ขวางและแยกกาํ ลงั ขา้ ศึก โดยขัดขวางการเพมิ เติมกาํ ลงั และการตีโตต้ อบ

ง. การเข้ายดึ พืนทเี ริมต้น ส่วนโจมตีจะเขา้ สังหาร จบั ขา้ ศึก ทาํ ลายพืนทีหรือบีบบงั คบั ให้
ขา้ ศึกทงั หมด ตอ้ งถอนตวั ออกจากทีหมายตา่ งๆ ทีฝ่ายเราตอ้ งการตามเจตนารมณ์ของผบู้ งั คบั บญั ชา

จ. การกวาดล้างพืนทีสิงปลูกสร้าง ส่วนโจมตี และส่วนอืนๆ ทีกาํ หนดจะเขา้ กวาดลา้ งสิงปลูก
สรา้ งต่างๆ ดว้ ยเทคนิคทีเหมาะสมกบั เจตนารมณ์ของผบู้ งั คบั บญั ชา

- ๔๔ -

๓ - ๑๖ การยึดทหี มายสําคัญ
สิงปลูกสร้างต่างๆ ซึงเป็นทีหมายสาํ คัญภายในตวั เมือง เช่น ปมคมนาคม สะพาน หรือ

สะพานขา้ มแม่นาํ มกั ลอ้ มรอบดว้ ยอาคารและสิงปลูกสร้างจาํ นวนมาก การเขา้ ตีประณีตทวั ไปจะไม่
อาจบรรลุภารกิจ เนืองจากข้าศึกจะมีเวลามากพอทีจะทาํ ลายสิงเหลา่ นนั เสียกอ่ นทีฝ่ายเราจะสามารถ
เขา้ ยดึ ได้ ดงั นนั ผบู้ ังคบั หน่วยตอ้ งวางแผนการรุกผา่ นพนื ทีสิงปลูกสรา้ งอยา่ งรวดเร็วและตรงไปยงั ที
หมายสาํ คญั โดยใหก้ ําลงั ส่วนทีติดตามเขา้ ดําเนินการกวาดล้างภายหลงั (รูปที ๓ – ๑๑ การยึดทีหมาย
สาํ คญั )

ทม.

หลีกเลยี งการตงั
รับของขา้ ศึก

รูปที ๓ – ๑๑ การยดึ ทีหมายสําคัญ
ก. การปฏิบตั ิจะมีโอกาสสาํ เร็จสูงสุด เมือขา้ ศึกไมม่ ีเวลาพอทีจะเตรียมการตงั รับไดท้ นั และ
เนืองจากทีหมายมีความสําคญั ต่อฝ่ายเรา ดังนนั ขอ้ พจิ ารณาคือ ฝ่ ายเราตอ้ งเคลือนทีผ่านไดก้ ่อนที
ขา้ ศึกจะตอบโต้และตอ้ งยึดทีหมายไดใ้ นสภาพทียงั ไม่ถูกทาํ ลาย
ข. หน่วยตอ้ งหลีกเลียงการปะทะกบั ขา้ ศึก หากถกู ขา้ ศึกตา้ นทานตอ้ งออ้ มผา่ นและตอ้ ง
หลีกเลียงการรบทีใชเ้ วลามาก เพือใหถ้ ึงทีหมายโดยเร็วทีสุดทีจะทาํ ได้
ค. เพือความออ่ นตวั ในการตอบโตเ้ มือปะทะกบั ขา้ ศึก ผบู้ งั คบั หน่วยควรจดั กาํ ลังเขา้ ตีโดยมี
เสน้ หลกั การรุกสองแนว ในขณะเคลือนทีหน่วยส่วนนาํ บนเสน้ หลกั การรุกทงั สองทาํ หน้าที
ลาดตระเวนคน้ หาข้าศึก ตรึงไวด้ ว้ ยการยิง แลว้ ออ้ มผา่ นอยา่ งรวดเร็ว
ง. โดยปกติหนว่ ยจะเคลือนทีดว้ ยยานยนต์เขา้ สู่พืนทีสิงปลูกสร้าง เมือถึงชายขอบของพนื ที
แลว้ ทหารจะยงั คงอยบู่ นรถ จนกว่าจะพบการตา้ นทานจากขา้ ศึกจึงจะลงจากรถ เพือไมใ่ หล้ า่ ชา้ ใน
การรุก หมวดปื นเลก็ ลงจากรถแลว้ จะเขา้ ประจาํ ทีมนั เพือระวังป้ องกนั การรุกของหน่วยเหนือต่อไป

- ๔๕ -
จ. เมือยดึ ทีหมายไดแ้ ลว้ หนว่ ยเฉพาะกิจกองพนั ทหารราบจะวางกาํ ลงั ตงั รบั วงรอบ โดย
กองรอ้ ยจะกวาดลา้ งอาคารทีอยรู่ อบนอกทีหมาย เพอื ขยายขอบเขตการตงั รบั วงรอบของกองพนั
ออกไป จนกวา่ จะกวา้ งพอสาํ หรับการป้ องกนั ทีหมายสําคญั ใหพ้ น้ จากขีดความสามารถในการปฏิบตั ิ
ของข้าศึก ทหารชา่ งทีมาสมทบทําหน้าทีตรวจคน้ และทาํ ลายทุ่นระเบิดบริเวณทีหมาย (รูปที ๓ - ๑๑)

๓ - ๑๗ การแทรกซึม
ทีจะกล่าวตอ่ ไปนี เป็นตวั อยา่ งของกองพนั ทหารราบปฏิบตั ิการแทรกซึม โดยมีทหารช่างขึน

สมทบ ซึงสามารถใชไ้ ดก้ บั กองพนั ทหารราบยานเกราะลงรบเดินดิน โดยมีการปรบั ปรุงวิธีการปฏิบตั ิ
เพียงเล็กนอ้ ย

ก. บริเวณขอบนอกของเมืองอาจไม่มีการตงั รบั ทีแข็งแรง ขา้ ศึกอาจวางกาํ ลงั เพียง ทีตงั ยิงของ
อาวธุ ต่อสู้รถถังเรียงรายทางลึก ทีตงั ส่วนระวงั ป้ องกนั ตามเสน้ ทางหลกั หรือทีมนั สาํ หรับขดั ขวางการ
เคลือนทีเขา้ สู่ทีหมายสาํ คญั ในเมือง ส่วนทีมนั ดดั แปลงแข็งแรงและกองหนุนจะตงั อยลู่ ึกเขา้ ไป
ภายในตวั เมือง

ข. กองพนั ทหารราบสามารถเขา้ ยึดบางส่วนของเมืองไดด้ ว้ ยการใชห้ มวดและกองรอ้ ยแทรก
ซึมผา่ นช่องว่างระหว่างทีตงั ของขา้ ศึกบริเวณขอบนอกเมือง ดว้ ยการเคลือนทีแบบลกั ลอบตามถนน
สายรอง โดยอาศยั การกาํ บงั และซ่อนพรางจากช่องทางเดินและอาคารทีอย่ดู า้ นหลัง กองพนั อาจจะ
สามารถเขา้ ยดึ ปมคมนาคมบนถนนหรือภมู ิประเทศสาํ คัญ ซึงทาํ ใหส้ ามารถโดดเดียวทีมนั ขา้ ศึกและ
ชว่ ยเหลือการเคลือนทีผา่ นของหนว่ ยต่างๆ ในส่วนติดตาม การแทรกซึมควรปฏิบตั ิในหว้ งทศั นวิสัย
จาํ กดั และไมม่ ีประชาชนอยใู่ นพนื ที

ค. กองพนั ทหารราบมีความเหมาะสมทีสุด ในการจดั กําลงั ปฏิบตั ิการแทรกซึมเป็นระดบั
กองร้อย โดยแต่ละกองรอ้ ยมีหมวดทหารช่างขึนสมทบ และจดั กาํ ลงั กองหนนุ ทีเหมาะสมกบั ปัจจยั
METT – T แต่ละกองร้อยไดร้ บั การกําหนดช่องทางแทรกซึม ตามผลของการประมาณสถานการณ์
ช่องทางแทรกซึมอาจมีความกว้างประมาณ ๕๐๐ ถึง ๑,๕๐๐ เมตร ขึนอยกู่ บั ลกั ษณะโครงสรา้ งของสิง
ปลูกสรา้ งและถนน

ง. กองร้อยทีปฏิบตั ิการแทรกซึมเคลือนทีดว้ ยการเดินเทา้ แบบลกั ลอบ โดยใชเ้ ครืองชว่ ยใน
การกําบงั และซ่อนพรางทีมีอยู่ อาจใชก้ ารยงิ ของเครืองยงิ ลกู ระเบิดหรือปื นใหญ่ เพือหันเหความ
สนใจของขา้ ศึกหรือเพอื กลบเกลือนเสียงซึงเกิดจากหนว่ ยทีกาํ ลังแทรกซึม

จ. รถสายพานลาํ เลียงพล (BFV) และจรวด โทว์ (TOW) จะเขา้ ทีตงั ยงิ คุม้ ครองเส้นทางทีอาจมี
การใชย้ านเกราะของขา้ ศึก หากไมม่ ีอาวุธดงั กลา่ วผบู้ งั คบั กองพนั อาจใชอ้ าวุธต่อสูร้ ถถงั ในอตั ราแทน
หมวดลาดตระเวนจะระวงั ป้ องกนั ปี กด้านทีลอ่ แหลม หมวดอาวธุ หนกั อาจสนบั สนนุ ดว้ ยการยิง หาก
สถานการณ์อาํ นวยใหม้ ีทีตงั ยิงเพียงพอ

ฉ. ขณะเคลือนทีเขา้ สู่ตวั เมือง กองรอ้ ยต้องระวงั ป้ องกนั ปี กของตนเอง อาจวางส่วนระวงั
ป้ องกนั ไวต้ ามรายทาง เพือคอยแจง้ เตือนการโจมตีของขา้ ศึกทางปี ก ทหารช่างใหค้ วามช่วยเหลือใน

- ๔๖ -
การเจาะหรือออ้ มผา่ นทุ่นระเบิด หรือเครืองกีดขวางตามช่องทางแทรกซึม เมือพบทีมนั ขา้ ศึกตอ้ งออ้ ม
ผา่ นและรายงานหนว่ ยเหนือทกุ ครงั

ช. กองรอ้ ยทีแทรกซึม รักษาการเคลือนทีจนกว่าจะถึงทีหมาย ซึง ณ ทีนนั ตอ้ งเสริมความ
มนั คง จดั ระเบียบใหม่และจดั ใหม้ ีการสนบั สนุนซึงกนั และกนั กองร้อยตอ้ งลาดตระเวนทงั ทาง
ดา้ นหน้าและดา้ นปี ก เพอื จัดตงั และดาํ รงการติดต่อกบั หนว่ ยอืนๆ ผบู้ งั คบั กองรอ้ ยอาจกาํ หนดเขต
จาํ กดั การรุก เพือลดโอกาสทีจะปะทะขา้ ศึก หรือเพอื ป้ องกนั อนั ตรายจากฝ่ายเดียวกนั

ซ. หากพบว่าขา้ ศึกอยู่ในลกั ษณะทีไม่พรอ้ มทาํ การตังรับและกาํ ลงั จะถอนตวั กาํ ลงั ที
เหลือของกองพนั ทังหมดจะเคลือนทีไปขา้ งหน้าและปฏิบตั ิในขนั ถดั ไปไดเ้ ลย แต่หากขา้ ศึกยงั ไม่
ถอนตวั หนว่ ยจะตอ้ งกวาดลา้ งพนื ทีกอ่ น จึงจะปฏิบตั ิการเขา้ ตีในขนั ถดั ไปได้ (รูปที ๓ – ๑๒ การ
แทรกซึม)

ทม.

รูปที ๓ – ๑๒ การแทรกซึม
๓ - ๑๘ การระวงั ป้ องกันเส้นทาง

กองพนั ทหารราบอาจตอ้ งกวาดลา้ งอาคาร เพือใหส้ ามารถคุม้ ครองถนนทีตดั ผา่ นเขา้ สู่เมือง
ความเร็วในการกวาดลา้ งขึนอยกู่ บั การต้านทานของชา้ ศึกกบั ขนาดและจาํ นวนของอาคาร หากเป็น
พืนทีรอบนอกเมือง หน่วยนาํ จะเคลือนทีแบบกบกระโดด จากทางแยกหนึงไปยงั ทางแยกหนึง หมวด
ปื นเลก็ อืนๆ จะระวงั ป้ องกนั ทางปี กดว้ ยการเคลือนทีตามถนนในแนวขนาน และโดยการกวาดลา้ ง
ขา้ ศึกทางปี ก

- ๔๗ -
ก. ทหารราบจะเคลือนทีดว้ ยเทา้ หรือยานยนต์ ขึนอยู่กบั ความเร็วทีตอ้ งการและสถานการณ์
ขา้ ศึก หมวดปื นเลก็ ทุกหมวดจะใชถ้ นนทีกวา้ งทีสุดหลีกเลียงถนนแคบ โดยวางนาํ หนกั ใหก้ บั หมู่ปื น
เลก็ ทีเป็นหมูน่ าํ ดาํ รงการเฝ้ าตรวจฝงั ตรงขา้ มของถนน จดั การติดต่อทางปี กใหส้ นบั สนนุ ซึงกันและ
กนั ได้ ยานรบทีทาํ หนา้ ทีคุม้ ครองและเฝ้ าตรวจการเคลือนทีควรมีกาํ ลงั ทีเดินเทา้ ใหก้ ารระวงั ป้ องกนั
กาํ ลงั ทหารราบทีเหลือทงั หมด ควรอยบู่ นยานยนต์ เพือใหม้ ีความคล่องแคลว่ สูงสุดและมีอาํ นาจ
ทาํ ลายขวญั โดยจะลงจากยานยนต์ ต่อเมือสถานการณ์ขา้ ศึกบงั คบั หรือเมือถึงทีหมาย
ข. เมือปะทะข้าศึก การสนบั สนุนหลกั คือรถถงั การยิงสนบั สนนุ ตอ้ งตรึงและตดั การสนบั สนุน
ระหวา่ งทีมนั ข้าศึก โดยกาํ ลงั ส่วนทีลงรบเดินดินจะเขา้ ดาํ เนินกลยทุ ธ์ตอ่ ไป
ค. อาจกาํ หนดแนวขนั การเคลือนที เพอื ควบคมุ ความเร็วในการรุกและการปฏิบัติอืนๆ ของ
กองรอ้ ย ตวั อยา่ งเช่น เมือกองร้อยนาํ เคลือนทีถึงแต่ละแนวขนั อาจจะสถาปนาการติดต่อระหวา่ ง
หนว่ ยขึนใหม่ จดั ระเบียบใหม่ และกวาดลา้ งต่อไป (รูปที ๓ – ๑๓ การกวาดลา้ งตามแนวถนน)

แนวขนั นําเงนิ แนวขนั แดง แนวขนั เขยี ว

แนวขนั นําเงิน แนวขนั เขยี ว
แนวขนั แดง

รูปที ๓ – ๑๓ การกวาดล้างตามแนวถนน

- ๔๘ -

ตอนที ๗

กองร้อยชุดรบเข้าตพี ืนทีสิงปลูกสร้าง
ตอ่ ไปนีเป็นเทคนิคต่างๆ ทีกองรอ้ ยอาจนาํ มาใช้ ซึงอาจเป็นการปฏิบตั ิโดยอิสระกไ็ ด้ แตส่ ่วน
ใหญ่จะปฏิบัติการเป็นส่วนหนึงของหนว่ ยเหนือ และเทคนิคเหล่านีใช้ไดก้ บั ทหารราบทุกประเภท

๓ – ๑๙ การเข้าตีทีหมายในช่วงอาคาร
การเขา้ ตีทีหมายบริเวณชว่ งอาคารในเมือง กองร้อยควรไดร้ บั การเพิมเติมกําลงั ดว้ ยรถถงั และ

ทหารช่าง
ก. ลักษณะของการปฏิบตั ิคือการใชห้ มวดปื นเลก็ เขา้ ตี โดยมีการยิงสนบั สนุนทงั เลง็ ตรงและ

เลง็ จาํ ลอง ความสําเร็จขึนอยกู่ บั การตัดขาดทีมนั ข้าศึกออกจากกนั เป็นส่วนๆ (ซึงโดยปกติจะกําหนด
เป็นทีหมายของหมวด) การยิงข่มอาวุธข้าศึก การยึดพืนทีเริมตน้ ภายในช่วงอาคาร และการกวาดลา้ ง
อาคารหอ้ งต่อหอ้ ง

๑) การจดั เฉพาะกิจกองร้อยชุดรบ จะแตกต่างกนั ตามลักษณะทางธรรมชาติของสิงปลกู
สรา้ ง ตวั อยา่ งเช่น บริเวณรอบนอกเมือง กองรอ้ ยซึงไม่มียานเกราะ อาจมีการจดั เฉพาะกิจ ดังนี

สองหมวดปื นเลก็ และทหารช่าง เป็นส่วนโจมตี
หนึงหมวดปื นเล็ก เป็นกองหนุน
หมวดรถถัง สนบั สนุนสองหมวดปื นเล็กทีเป็นส่วนโจมตี
๒) พืนทีใจกลางเมืองหรือโดยรอบใจกลางเมือง กองร้อยดงั กลา่ วอาจมีการจดั ดงั นี
สองหมวดปื นเลก็ แตล่ ะหมวดมีทหารช่าง และรถถงั ขึนควบคุมทางยทุ ธการ เป็นส่วน
โจมตี (ทหารช่างและรถถงั ขึนควบคมุ ทางยทุ ธการตอ่ ผบู้ ังคบั หมวด เพราะอาจจาํ เป็นตอ้ งปฏิบตั ิการ
เป็นอิสระ หรือโดดเดียวจากหมวดปื นเลก็ )
หนึงหมวดปื นเล็กเป็นกองหนนุ
อาวุธยิงเลง็ ตรงและเลง็ จาํ ลองทงั หมดทีมีอยู่ ควรใชใ้ นการแยกทีหมายใหข้ าดจากกัน
โดยใชอ้ าวธุ ยงิ เล็งตรง ยิงตามแนวถนนและใชอ้ าวธุ เล็งจาํ ลอง ยิงบริเวณพืนทีโล่งระหว่างอาคาร
ข. รถถงั ปื นกล และอาวุธสนบั สนนุ ยิงเลง็ ตรงอืนๆ ทําการยิงจากทีตงั ทีมีการกาํ บงั ไม่ควร
ยงิ ต่อเนืองเป็นเวลานานจากทีตงั ยิงเดียว พลประจําอาวธุ ควรเปลียนยา้ ยทีตงั ยิงหลายๆ แห่ง เพือให้ได้
พืนการยิงทีดีกว่า และป้ องกนั การตกเป็นเป้ าหมายการยิงจากข้าศึก กิจทีอาจมอบหมายใหอ้ าวุธ
สนบั สนุนยงิ เล็งตรง ไดแ้ ก่
ปื นกลทําการยิงตามแนวถนน ประตู หนา้ ตา่ ง และช่องอืนๆ
รสพ., รถถงั , จรวดโทว์ (TOW) และดรากอน (DRAGON) ทาํ การยงิ รถถงั และยาน
เกราะขา้ ศึก
รถถังทาํ การยงิ ต่อทีหมายทีอยหู่ ลงั กําแพง ยิงเจาะช่องผา่ นเขา้ อาคารและเป็นส่วน
ต่อตา้ นรถถังข้าศึก เมือจาํ เป็น
พลปื นเลก็ ทาํ การยิงตอ่ ทีหมายตามเหตกุ ารณ์

- ๔๙ -
ค. กอ่ นการโจมตี ผบู้ งั คบั กองรอ้ ยควรใชค้ วนั กําบงั การเคลือนทีของส่วนโจมตี และระวงั
ป้ องกนั ทางปี กดว้ ยอาวธุ ยงิ เลง็ ตรง หรือใชก้ องหนุน เมือจาํ เป็น

๑) ดว้ ยควนั กาํ บังและการยงิ สนบั สนุนจากอาวธุ ยงิ เลง็ ตรง หมวดปื นเล็กซึงเป็นส่วนโจมตี
เขา้ ตีตอ่ ทีหมายอาคารหลังแรกทีถูกตดั ขาด โดยเขา้ ประชิดทีหมายโดยเร็วในขณะทีขา้ ศึกกาํ ลังตก
ตะลึงจากการยิงสนบั สนนุ ของฝ่ายเรา ผบู้ ังคบั กองร้อยตอ้ งประสานการปฏิบตั ิระหว่างการโจมตีกบั
การยิงสนบั สนุนตลอดเวลา เพือใหส้ ามารถเลือนฉากการยิงต่อเมือถึงจังหวะท้ายทีสุดเทา่ ทีจะทาํ ได้

๒) หมวดและหมู่ปื นเล็ก กวาดลา้ งอาคารหลังตอ่ หลงั ตามรายละเอียดในผนวก หลงั จาก
ยดึ ทีหมายภายในช่วงอาคารไดแ้ ลว้ ผบู้ งั คบั กองร้อยเสริมความมันคง และจดั ระเบียบใหม่เพือตอ่ ต้าน
การตีโต้ตอบ และเขา้ ตีต่อไป

๓) ชุดรบทหารราบยานเกราะ อาจมีการจดั เฉพาะกิจคลา้ ยคลึงกนั กบั ทีกล่าวมาแลว้ แต่
หมวดปื นเลก็ ส่วนโจมตีตอ้ งลงรบเดินดิน โดยมี รสพ, และรถถงั สนบั สนุนดว้ ยการยิง (รูปที ๓ - ๑๔
กองรอ้ ยเขา้ ตีทีมนั ดัดแปลงแข็งแรง)

๔) ผบู้ งั คบั กองร้อยอาจใชเ้ ทคนิคการกําหนดหมายเลขอาคารในพืนทีการเขา้ ตีดว้ ยหรือไม่
ก็ได้ สาํ หรบั อาคารทีเป็นทีมนั ดดั แปลงแข็งแรง อาจใชห้ มายเลขอาคารทีมีอยู่แลว้ กไ็ ด้

รูปที ๓ – ๑๔ กองร้อยเข้าตีโต้ตอบและเข้าตีต่อไป

- ๕๐ -
๓ - ๒๐ การเข้าตที ตี รวจการณ์ข้าศึก

ตอ่ ไปนี เป็นเทคนิคในการเข้าตีเร่งดว่ นต่อทีตรวจการณ์ขา้ ศึก ซึงผบู้ งั คบั กองรอ้ ยตอ้ ง
ประเมินค่าสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ดว้ ยปัจจยั METT – T ใหส้ ามารถตอบโตส้ ถานการณ์อยา่ ง
รวดเร็วเพือสนองตอบเจตนารมณ์ของผบู้ งั คบั บัญชา

ก. ผบู้ ังคบั กองรอ้ ยยงั คงใช้รูปแบบ การยิงและการดาํ เนินกลยทุ ธ์ โดย รถถงั , รสพ., เครืองยิง
ลกู ระเบิดอตั โนมตั ิ ติดตงั บนยานยนต์ และจรวดโทว์ (TOW) สนบั สนนุ ดว้ ยการยงิ ไปยงั ทีตรวจการณ์
ขา้ ศึก เพอื ป้ องกนั การหลบหนีและการเพมิ เติมกาํ ลงั

ข. หมวดปื นเลก็ เคลือนทีตอ่ ไปตามเส้นทางทีมีการกาํ บัง ไปยงั บริเวณจุดอ่อนของขา้ ศึก ขณะ
เขา้ ใกลท้ ีหมาย จะใชค้ วนั กําบงั และเลือนฉากการยงิ เมือถึงทีหมายจะทาํ การกวาดลา้ งอย่างรวดเร็ว
และเสริมความมนั คง เพือใหก้ องร้อยสามารถเขา้ ตีตอ่ ไป (รูปที ๓ - ๑๕ )

ควนั

ทหารลงรถรบ

รูปที ๓ - ๑๕
๓ - ๒๑ การเข้ายดึ พืนทเี ครือข่ายการจราจร

กองร้อยอาจจาํ เป็นต้องเขา้ ยึดพืนทีเครือข่ายการจราจรเพือใหก้ าํ ลงั ฝ่ ายเราเขา้ ใชป้ ระโยชน์
หรือขดั ขวางไมใ่ หข้ ้าศึกใชป้ ระโยชน์ อยา่ งใดอยา่ งหนึง (รูปที ๓ - ๑๖) การปฏิบัติประกอบดว้ ยการ
เขา้ ยดึ และกวาดลา้ งอาคารทีสามารถควบคมุ พืนที และใชอ้ าวธุ ยงิ เล็งตรงเขา้ ทีตงั ยิงเพือคุม้ ครองพืนที
โดยตอ้ งทาํ การกวาดลา้ งทุ่นระเบิดตามแนวถนนทีไปยงั ทีตงั อาวธุ ยงิ เล็งตรงและวางทุ่นระเบิดตาม
แนวถนนทีขา้ ศึกอาจใชเ้ ขา้ มาทางปี ก

- ๕๑ -
ก. หลงั จากรวบรวมขา่ วกรองภมู ิประเทศ ขา้ ศึก และประชาชนแลว้ ผบู้ งั คบั หนว่ ยจะวาง
แผนการปฏิบตั ิตามขนั ตอน ดงั นี

การแยกทีหมาย
เขา้ ยึดและกวาดล้างอาคารตามเสน้ ทางในพนื ทีเครือข่ายการจราจร ภายใตก้ ารยิง
สนบั สนุนของรถถงั อาวธุ ต่อสู้รถถัง และปื นกล
เสริมความมนั คง และเตรียมตอ่ ตา้ นการตีโตต้ อบ
ข. ยงั ไม่ควรเสียงเข้าใช้พืนทีเครือขา่ ยการจราจร จนกวา่ กาํ ลงั ฝ่ายเราจะสามารถเขา้ ควบคมุ ได้
เนืองจากโดยปกติมกั ถกู ใชเ้ ป็นพนื ทีสงั หาร
ค. การจัดเฉพาะกิจของกองร้อย ควรเป็นดงั นี
ส่วนระวงั ป้ องกนั (รับผดิ ชอบการแยกพนื ทีเครือขา่ ยการจราจร)
ส่วนโจมตี เพิมเติมกาํ ลงั ดว้ ยทหารช่าง
ส่วนสนบั สนนุ (ยิงสนบั สนนุ ดว้ ยอาวุธยิงเลง็ ตรงแก่ส่วนโจมตี) ประกอบดว้ ย
รสพ., จรวดโทว์ (TOW), เครืองยิงลูกระเบิดอตั โนมตั ิ ติดตงั บนยานยนต์ และรถถงั ทีขึนสมทบเขา้
ทีตงั สนบั สนุนดว้ ยการยิง
กองหนุน (รูปที ๓ - ๑๖ การเขา้ ยึดพนื ทีเครือข่ายการจราจร)

ส่วนระวงั ป้ องกนั

กองร้อยจดั กาํ ลงั
เป็ นส่วนๆ

สว่ นโจมตี สว่ นสนับสนุน

กองหนุนสามารถเขา้
ส่วนโจมตีได้

รูปที ๓ – ๑๖ การเข้ายึดพืนทเี ครือข่ายการจราจร

- ๕๒ -
ง. การปฏิบตั ิของแตล่ ะส่วนในขนั ตอนตา่ งๆ อาจเปลียนแปลงได้ ตวั อย่างเช่น ส่วนโจมตีอาจ
กวาดลา้ งอาคารไปจนกว่าส่วนสนบั สนนุ ไมส่ ามารถใหก้ ารสนบั สนุนไดอ้ ีกต่อไป หลงั จากนนั อาจใช้
กองหนุนทาํ หนา้ ทีเป็นส่วนโจมตี หรือหากส่วนโจมตีอยใู่ นทีซึงสามารถทาํ การตดั ขาดทีหมายไดด้ ี
กว่ากาํ ลังทีทาํ หน้าทีตดั ขาดทีหมายจะกลายเป็นส่วนหนึงของส่วนโจมตี

๓ - ๒๒ การเข้ายึดภูมิประเทศสําคญั
ภมู ิประเทศสาํ คญั คือ บริเวณทีข่มแนวทางการเคลือนที หรือ บริเวณซึงหากฝ่ ายข้าศึกหรือ

ฝ่ายเราควบคมุ ไวไ้ ดจ้ ะส่งผลกระทบตอ่ การปฏิบตั ิโดยตรง สะพานหรือทางทอดข้ามลาํ นาํ กลุ่ม
อาคาร หรือในบางกรณี ประชาชนเองถือว่าเป็นภมู ิประเทศสาํ คญั ในเมือง ดงั นนั เป็นไปไดส้ ูงที
กองรอ้ ยจะไดร้ บั ภารกิจเขา้ ยึดสะพานและทางทอดข้ามต่างๆ ดงั กล่าว โดยทีตอ้ งยงั อยใู่ นสภาพดีให้
ฝ่ายเราสามารถเขา้ ใชป้ ระโยชน์ได้

ก. ในภารกิจดงั กล่าว กองร้อยตอ้ งปฏิบตั ิดงั นี
กวาดลา้ งอาคารฝังใกล้ เพอื ใหไ้ ดต้ าํ บลซึงตรวจการณ์เหน็ สะพานไดด้ ี และใหพ้ ืนการ

ยงิ ดีสําหรบั อาวธุ ยงิ สนบั สนนุ
รีบทาํ การยิงข่มขา้ ศึกบนฝงั ไกลดว้ ยอาวุธยิงเล็งตรง
ใชค้ วนั กาํ บงั เพอื จาํ กดั การตรวจการณ์ของขา้ ศึก และเพือลดผลกระทบจากการยิงเลง็

ตรงของฝ่ ายเรา
ยึดหวั สะพาน (อาคารทีสูงขม่ สะพาน) บนฝังไกล ดว้ ยการเขา้ ตีขา้ มสะพาน
ระวงั ป้ องกันรอบสะพาน เพือใหท้ หารช่างกวาดลา้ งเครืองกีดขวาง และเกบ็ กวู้ ตั ถุ

ระเบิดจากตวั สะพาน
ข. ขนั ตอนแรกของการยึดสะพานคือ การกวาดลา้ งอาคารบนฝังใกล้ ผบู้ ังคบั หน่วยตอ้ งกวาด

ลา้ งอาคารทีขม่ แนวทางเคลือนทีสู่สะพาน อาคารทีจะใชเ้ ป็นทีตงั ยิงอาวุธต่อสูร้ ถถังขนาดเบา จรวด
นาํ วิถี ดรากอน (DRAGON) ปื นกลและพลปื นเล็ก ขณะเดียวกนั อาวธุ ยิงสนบั สนุนทําการยิงป้ องกนั
การเพิมเติมกาํ ลังของขา้ ศึกบนฝงั ไกล และสกดั กนั ชุดทําลายสะพานของขา้ ศึก

ค. ลําดบั ความเร่งดว่ นในการยิงขม่ ขา้ ศึกบนฝังไกล ไดแ้ ก่ทีตงั ยงิ ต่างๆ ซึงขา้ ศึกสามารถทาํ
การยงิ มายงั สะพาน อาวธุ ทีเหมาะสมสําหรับการยิงขม่ ขา้ ศึก ไดแ้ ก่ รถถัง, รสพ., จรวดโทว์ (TOW)
และปื นกลติดตงั บนยานยนต์ จรวดโทว์ (TOW), ดรากอน (DRAGON) หรืออาวุธต่อสู้รถถงั ขนาดเบา
ใชต้ อ่ สู้รถถงั ขา้ ศึกทีจะเขา้ มาทางสะพาน ผูต้ รวจการณ์หนา้ ประจํากองรอ้ ยควรวางแผนการยิง
สนบั สนุนดว้ ยปื นใหญ่และเครืองยิงลูกระเบิด เพอื ยิงข่มอาวธุ ต่อสู้รถถงั และทหารราบข้าศึกดว้ ย

ง. ทีหมายของหมวดปื นเลก็ ทีทําหนา้ ทีส่วนโจมตีคือ อาคารซึงสูงข่มแนวทางเคลือนทีเขา้ สู่
สะพาน หนึงหรือสองหมวดปื นเล็ก โจมตีขา้ มสะพานดว้ ยการกาํ บงั ทีมีอยู่ และพรางการเคลือนทีดว้ ย
ควนั โดยการสนบั สนุนของทุกส่วนทีเหลือของกองรอ้ ยและรถถงั ทีขึนสมทบ ทันทีทีถึงฝังไกลจะขอ
เลือนฉากการยิงและเริมเขา้ กวาดลา้ งอาคาร เมือกวาดลา้ งอาคารกลมุ่ แรกไดแ้ ลว้ จะขอเลือนฉากการ
ยิงอีกครัง แลว้ กวาดลา้ งต่อไปทกุ อาคารทีมีอยใู่ นพนื ที

- ๕๓ -
จ. ในขณะเดียวกนั ทหารช่างทําการกวาดลา้ งทนุ่ ระเบิด วัตถุระเบิด และเครืองกีดขวางทงั สิน
บริเวณสะพานและเส้นทางไปยงั สะพาน ผบู้ งั คบั กองรอ้ ยอาจขยายวงรอบการระวงั ป้ องกนั ออกไป
เพอื เตรียมต่อตา้ นการตีโตต้ อบตอ่ ไป หลังจากกวาดล้างสะพานแลว้ รถถงั และยานยนต์อืนๆ จะข้าม
สะพานตามไปยงั ฝังไกล (รูปที ๓ - ๑๗ การยดึ สะพาน)

อาคารทสี ูงขม่ แนวทาง
เคลือนทแี ละทีหมาย

แนวขนั แดง ทม.๑ ก-ข แนวขนั แดง ทม.๑ ก-ข
ทม.๒ ทม.๒
แนวขนั นําเงนิ แนวขนั นําเงิน
ค-ก ก-ข ค-ก สนับสนุน สนับสนุน
ก-ข

สนบั สนุน สนับสนุน

รูปที ๓ – ๑๗ การยดึ สะพาน

๓ – ๒๓ การลาดตระเวน
ในสถานการณ์ทีตอ้ งการความเร็วในการเคลือนที กองรอ้ ยอาจตอ้ งเคลือนทีเข้าปะทะตาม

เสน้ ทางทีผา่ นเขา้ ไปในเมือง หรือในสถานการณ์ทีคลา้ ยกนั คือ กองรอ้ ยอาจต้องลาดตระเวนเส้นทาง
ดงั กล่าวเพือเตรียมการสําหรับการเขา้ ตีของกองพนั ภารกิจเหล่านีสามารถใชก้ องร้อยทหารราบแบบ
ใดก็ไดเ้ ขา้ ปฏิบตั ิการโดยสมทบดว้ ยรถถงั ถา้ มี

ก. ลักษณะการปฏิบัติ คือ กองร้อยเคลือนทีโดยใชห้ ว้ งเวลาและระยะทางแตกตา่ งกนั ในการ
เคลือนทีเพอื ใหไ้ ดร้ ะยะทางนนั จะตอ้ งใชค้ วามเร็วสูง ส่วนการเคลือนเพอื ระวงั ป้ องกนั จะเป็นไปอยา่ ง
ชา้ ๆ ความเร็วทีใช้ ขึนอยกู่ บั ภูมิประเทศ และสถานการณ์ขา้ ศึก

ข. ในภมู ิประเทศเปิ ด ซึงอํานวยใหใ้ ชค้ วามเร็วได้ ควรใหร้ ถถงั เคลือนทีนาํ ในภูมิประเทศปิ ด
ควรใหท้ หารราบนาํ โดยอีกหนึงหมวดปื นเลก็ กบั หนึงตอนรถถัง เคลือนทีขนานบนเส้นทางอืน มีแผน

- ๕๔ -
การยงิ สนบั สนนุ ดว้ ยปื นใหญต่ ามเสน้ ทางเคลือนที และทหารช่างเคลือนทีไปกบั หมวดปื นเลก็ นาํ เพอื
ชว่ ยกวาดลา้ งเครืองกีดขวางและท่นุ ระเบิด

ค. กองรอ้ ยชุดรบควรยึดตาํ บลสําคญั ตามถนน (ทางแยก, สะพาน, ทางยกระดบั และอืนๆ)
โดยปฏิบัติดงั นี

การเคลือนทีระหว่างตําบลสําคญั ทหารราบควรบรรทกุ บนยานยนต์ เมือการปะทะยงั
ไมน่ า่ จะเกิดขึน

ณ ตาํ บลสําคญั หรือเมือคาดว่าอาจเกิดการปะทะกบั ขา้ ศึก ทหารราบลงจากรถเพอื กวาด
ลา้ งทีมนั ขา้ ศึกหรือเพือเขา้ ยึดตาํ บลสาํ คญั โดยรถถังและยานรบอืนๆ ใหก้ ารสนบั สนุนทหารราบ

ง. บริเวณรอบนอกตวั เมืองควรเคลือนทีดว้ ยเสน้ หลกั การรุก ๑ แกน โดยหน่วยนําเคลือนที
ล่วงหนา้ และส่วนระวงั ป้ องกนั เขา้ ตรวจสอบบริเวณขอบถนนทีเคลือนทีผา่ น ในบริเวณใจกลางเมือง
ควรเคลือนทีโดยใชเ้ ส้นหลกั การรุก ๒ หรือ ๓ แกน ประสานกนั เพือเพิมการระวงั ป้ องกนั ทางปี ก

จ. กองร้อยชุดรบอาจเขา้ ทาํ ลายทีมันข้าศึกเองหรือหากจําเป็นตอ้ งเคลือนทีโดยเร็ว จะออ้ ม
ผา่ นรายงานเพอื ใหห้ นว่ ยทีติดตามมาด้านหลงั เขา้ ดําเนินการ

ฉ. หน่วยรองของกองรอ้ ยชดุ รบทุกหนว่ ยตอ้ งประสานการปฏิบตั ิ ผบู้ งั คบั กองร้อยชดุ รบตอ้ ง
รายงานข่าวสารทีรวบรวมได้ไปยงั กองพนั (รูปที ๓ – ๑๘ การลาดตระเวนเส้นทางเพือเคลือนทีเขา้
ปะทะ ตามเสน้ ทางหลวง ผ่านยา่ นการคา้ ในเมือง)

รูปที ๓ – ๑๘ การลาดตระเวนเส้นทาง เพือเคลอื นทีเข้าปะทะ
ตามเส้ นทางหลวง ผ่านย่านการค้าในเมือง

- ๕๕ -

ตอนที ๘

หมวดปื นเล็กเข้าตีพืนทีสิงปลูกสร้าง
โดยปกติ หมวดปื นเลก็ จะไมป่ ฏิบตั ิการเป็นอิสระในการรบในเมือง แต่โดยลกั ษณะของ
การรบ อาจทาํ ใหห้ มวดปื นเลก็ ตอ้ งถกู ตดั ขาด หรือเสมือนกบั โดดเดียวจากหน่วยเหนือ ตอ่ ไปนีเป็น
เทคนิคซึงหมวดปื นเล็กอาจนาํ ไปใชเ้ มืออยใู่ นสภานการณ์ดงั กล่าว แต่ยงั คงตอ้ งปฏิบตั ิการเป็นส่วน
หนึงของกองร้อย

๓ - ๒๔ การเข้าตีอาคาร
ส่วนใหญแ่ ลว้ ภารกิจของหมวดปื นเล็กในการเข้าตีในเมือง คือการเข้าตีอาคารซึง

ประกอบดว้ ยการสังหารฝ่ ายตงั รับ และการเขา้ ยึดอาคาร
ก. การเข้าตีประกอบดว้ ย การแยกโดดเดียวอาคาร เพอื ป้ องกันการหลบหนีหรือเพิมเติม

กาํ ลงั (ปกติจะประสานการปฏิบตั ิในระดบั กองร้อย) ยงิ ข่มขา้ ศึกดว้ ยยานเกราะ รถถงั ปื นกล และ
เครืองยิงลกู ระเบิด เขา้ สู่อาคาร ณ บริเวณทีมีการป้ องกนั น้อยทีสุดหรือ ณ ช่องทีทําการยิงเจาะดว้ ย
รถถงั และการกวาดล้างอาคาร โดยจะขึนชันบนสุดก่อนแลว้ กวาดล้างจากบนลงล่างจะตอ้ งมีการ
ประสานงานอยา่ งใกล้ชิดระหวา่ งส่วนโจมตีและส่วนสนบั สนนุ โดยใชว้ ิทยุ โทรศพั ท์ สญั ญาณมือ
และแขนหรือพลสุ ัญญาณ

๑) หากหมวดปื นเล็กเข้าตีเป็นอิสระควรจดั กาํ ลงั ประกอบดว้ ย ส่วนโจมตี ส่วนสนบั สนุน
และส่วนระวงั ป้ องกนั เพือคุม้ ครองดา้ นปี กและหลงั นอกจากส่วนสนบั สนนุ ของหมวดเองแลว้ อาจ
ไดร้ ับการสนบั สนุนจากยานเกราะหรือรถถัง หรือส่วนอืนๆ ของกองร้อย

๒) หากเขา้ ตีภายใตก้ ารสนบั สนุนจากส่วนใหญ่ของกองร้อย ส่วนระวงั ป้ องกนั อาจจดั โดย
หมวดปื นเล็กอืน การเขา้ ตีจะแบ่งเป็น ๓ ขนั ดังนี

ขันที ๑ แยกโดดเดียวอาคาร
ขันที ๒ เขา้ สู่อาคาร (ยดึ พนื ทีเริมต้น)
ขันที ๓ กวาดลา้ งอาคารตามวิธีการมาตรฐานหอ้ งตอ่ หอ้ งชนั ต่อชัน
๓) การกวาดลา้ ง ดาํ เนินการดว้ ยหม่ปู ื นเล็ก เมือกวาดล้างแต่ละหอ้ งและแต่ละชนั สําเร็จ
แลว้ จะเคลือนทีผ่านกนั เป็นขนั ๆ (กบกระโดด) และควรมีทหารช่าง สนบั สนนุ การกวาดล้างวตั ถุ
ระเบิด (รูปที ๓ - ๑๙)

- ๕๖ -

รูปที ๓ – ๑๙ การโจมตีอาคาร
๓ - ๒๕ การเคลอื นทีตามถนน

การเคลือนทีในพืนทีสิงปลูกสรา้ ง คงใชห้ ลกั การเคลือนทีเช่นเดียวกนั กบั ในพนื ทีอืนๆ
เพียงแต่ตอ้ งปรับปรุงเทคนิคการเคลือนทีบางประการใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะเฉพาะของพนื ทีสิงปลกู
สรา้ ง ตอ่ ไปนี เป็นหลกั การเคลือนทีของหมวดปื นเล็กซึงเป็นหนว่ ยนําของกองรอ้ ย ทังทหารราบยาน
เกราะ และไม่ใช่ยานเกราะ

ก. ทุกคนในหมวดตอ้ งพร้อมยิงตอบโตท้ นั ที ตืนตวั ตลอดเวลาตอ่ สิงบอกเหตเุ กียวกบั
ขา้ ศึกและรายงานทันทีทีทราบขา่ วสาร

ข. ความเร็วในการเคลือนทีขึนอยกู่ บั แบบของปฏิบัติการ ภมู ิประเทศ และระดบั การ
ตา้ นทานของขา้ ศึก ในพืนทีห่างไกล หรือพืนทีทีมีการตงั รับเบาบาง ทหารราบยานเกราะเคลือนทีบน
ยานเกราะ โดยมีส่วนเดินเทา้ เคลือนทีล่วงหนา้ เพือลาดตระเวนตาํ บลสาํ คัญ (สะพาน, ทางแยก) บริเวณ
ใจกลางเมืองหรือในสถานการณ์การรบรุนแรง หมวดปื นเล็กจะเคลือนทีดว้ ยการเดินเทา้ ดว้ ย ๒ หมู่

- ๕๗ -
ปื นเล็กนาํ สองขา้ งถนน โดยใช้การกาํ บังทีมีอยู่ และหากทาํ ได้ จะเดินทะลุผา่ นอาคารเป็นหลกั เพือลด
อนั ตรายจากการเปิ ดเผยตนเองบนถนนแต่ละหมจู่ ะใหก้ ารสนบั สนุนซึงกนั และกนั

ค. การตอ่ ตา้ นของข้าศึกอาจประกอบดว้ ย การซุ่มโจมตีบนถนน การยิงตามแนวถนน การ
ยิงของพลซุ่มยงิ จากชนั บนของอาคาร ปื นใหญ่หรือเครืองยิงลกู ระเบิด

ง. เพอื หลีกเลียงอนั ตรายดงั กล่าว หมวดปื นเล็กควรเคลือนทีผา่ นตวั อาคาร หรือตามกําแพง
ใชร้ ถถังสนบั สนนุ และวางกําลงั ไวบ้ นหลงั คาหรือชนั บนอาคาร เพือใหส้ ามารถเฝ้ าตรวจและคน้ หา
ขา้ ศึกไดท้ งั สามมิติ

จ. หมวดปื นเลก็ ควรเคลือนทีเป็นสองส่วนคือ ส่วนดําเนินกลยทุ ธ์ (ประกอบดว้ ยหนึงหม่ปู ื น
เล็กเมือถนนแคบและสองหมปู่ ื นเล็กเมือถนนกวา้ ง) ซึงจะเคลือนทีล่วงหนา้ ตรวจสอบพืนทีอนั ตราย
และเขา้ ประชิดขา้ ศึก กบั อีกส่วนหนึงคือ ส่วนเฝ้ าตรวจ ประกอบดว้ ยส่วนทีเหลือทงั หมดของหมวด
และอาวธุ ยิงสนบั สนุน เคลือนทีติดตาม เพือระวงั ป้ องกนั ปี กและหลงั และยิงสนบั สนุน ทงั สองส่วน
สามารถสับเปลียนหน้าทีกนั ได้ (รูปที ๓ – ๒๐ การเคลือนทีตามถนน)

ส่วนเฝ้ าตรวจเคลอื นที
ดา้ นหลงั ส่วนนาํ

รูปที ๓ – ๒๐ การเคลือนทีตามถนน

- ๕๘ -

๓ – ๒๖ การตโี ต้ตอบ
มีเหตุผลหนึงในสองประการทีหมวดอาจไดร้ ับภารกิจในการตีโตต้ อบ คือ เพอื ทีจะยึดทีมนั ตัง

รับหรือจุดสาํ คัญกลบั คืนมา เพือการทาํ ลายหรือการผลกั ดนั ขา้ ศึกทีพืนทีเริมต้น หรือเพือหยดุ การ
โจมตีขา้ ศึกโดยการเขา้ ตีดา้ นปี ก การบีบบังคบั ใหข้ า้ ศึกหยดุ และทาํ การตงั รบั เร่งดว่ น

ก. ในระดบั กองร้อยจะวางแผนการตีโตต้ อบของหมวดตามการเข้าตีเจาะของขา้ ศึกทีอาจจะ
เป็นไปได้ ซึงจะตอ้ งประสานกันอยา่ งดีและปฏิบตั ิไดอ้ ย่างรุนแรง แตก่ ารตีโตต้ อบก็ควรทีจะเขา้ ตี
โดยตรงทางปี กของขา้ ศึก และไดร้ ับการสนบั สนนุ จากการยิงเล็งตรงและการยิงเล็งจาํ ลองจะเหมาะสม
มากกวา่

ข. ในพืนทีรอบนอกทีเป็นภูมิประเทศทีคอ่ นข้างจะเปิ ด หมวดทหารราบยานเกราะพรอ้ มรถถงั
สามารถรบบนรถเขา้ ตีโตต้ อบทีหมายโดยใชค้ วามเร็วได้ รถถงั ทําลายรถถงั ขา้ ศึกและอาวุธหนกั
ขณะเดียวกนั ทหารราบลงรถรบเขา้ กวาดลา้ งทีหมายในพนื ทียา่ นกลางหรือพืนทีแออัดมากกว่านี
รถถงั เคลือนทีไปขา้ งหนา้ จากจุดหนึงไปยงั อีกจุดหนึงอยา่ งระมัดระวงั ดว้ ยการใชก้ ารสนบั สนุนอยา่ ง
ใกลช้ ิดกบั ทหารราบลงรถรบ ดังนนั การตีโตต้ อบตอ้ งการสิงตอ่ ไปนี

วิเคราะห์ แนวทางเคลือนทีของขา้ ศึกทีคาดวา่ จะเป็นไปได้
ลาดตระเวนและซกั ซอ้ มตามเส้นทางการตีโตต้ อบแตล่ ะเสน้ ทาง และทีมนั เฝ้ าตรวจที
กาํ หนดไวใ้ นแต่ละที
การสร้างเครืองกีดขวาง และทีมนั ตอ่ สู้เพอื บีบบงั คบั หรือสกดั กนั ขา้ ศึก
ช่องวา่ งหรือช่องทางต่างๆ ทีไปยงั เครืองกีดขวางเหลา่ นี ถ้าการตีโตต้ อบเร็วพอทีจะมีผล
ต่อการปฏิบตั ิ
ผนู้ ําจะตอ้ งกาํ หนดตวั อย่าง การปฏิบตั ิการเชิงรุกและรวดเร็ว
ความออ่ นตวั ในการตอบโตก้ ารปฏิบตั ิต่อสถานการณ์ต่างๆ ทีไมค่ าดคิด
วิเคราะห์เส้นทางการตอบโต้ การตีโตต้ อบทีอาจจะเป็นไปไดจ้ ากขา้ ศึก
แผนการยิงสนบั สนุนสําหรับการตีโตต้ อบและการตอบโต้การตีโตต้ อบทีอาจจะเป็นไปได้

- ๕๙ -

บทที ๔

การปฏบิ ัตกิ ารตังรับ

รูปแบบของการตงั รับ ๒ รูปแบบ ไดแ้ ก่ การตงั รับแบบยึดพืนที และการตงั รับแบบคล่องตวั ซึงการ
ตงั รับแบบยึดพืนทีเป็นรูปแบบทีใชใ้ นพนื ทีในเมอื ง ดว้ ยเหตผุ ลสาํ คญั ในการป้องกนั รกั ษาภมู ิประเทศ
สาํ คัญทมี ีอยู่ สําหรับการตงั รับแบบคลอ่ งตัวเป็นแผนทีม่งุ เนน้ ตอ่ การปฏิบตั ขิ องขา้ ศกึ ซึงอาจพิจารณา
ใชไ้ ด้ ทงั นีขึนอยกู่ บั การประมาณสถานการณข์ องผูบ้ งั คับบญั ชา ในพืนทีทีมีสิงปลูกสรา้ ง ฝ่ ายตงั รับตอ้ ง
แสวงประโยชนจ์ ากทกี ําบงั ทีมจี าํ นวนมากเพอื การซอ่ นพราง และตอ้ งพิจารณาขอ้ จาํ กดั ขีดความสามารถ
ในการดาํ เนินกลยทุ ธ์และการตรวจการณ์ของฝ่ ายเขา้ ตี โดยใชภ้ ูมิประเทศและการสูร้ บทีมกี ารเตรียมการ
อยา่ งดี รวมทงั เลือกทีตงั ทีสามารถใหก้ ารสนับสนุนซึงกนั และกนั ได้ อนั จะทาํ ใหฝ้ ่ ายเขา้ ตีประสบกบั ความ
สูญเสียอยา่ งหนกั ก่อให้เกิดความลา่ ชา้ ขดั ขวางการเคลือนทีและสามารถหยุดยงั กาํ ลงั ของฝ่ ายเขา้ ตีได้

ตอนที ๑
การพิจารณาการตังรับ
ผูบ้ งั คับบญั ชาตอ้ งตดั สินใจว่าจะทาํ การตงั รบั ในพืนทปี ลกู สรา้ งหรือไม่ เพือใหภ้ ารกิจของหนว่ ย
บรรลผุ ลสําเร็จ โดยพิจารณาจากเหตผุ ล ตอ่ ไปนี
๔ – ๑ เหตผุ ลในการตังรับในพืนทีปลกู สร้าง ไดแ้ ก่
ก. ในพืนทีปลกู สรา้ งนนั มีอตุ สาหกรรมทีเกียวขอ้ งกบั ทางยทุ ธศาสตร์ การขนส่งมวลชน ระบบ
เศรษฐกิจแบบครบวงจรทีตอ้ งทาํ การป้องกนั รวมทงั เมืองหลวงและแหล่งทเี ป็นศนู ยก์ ลางทางวฒั นธรรม
ทีตอ้ งป้องกนั ดว้ ยเหตุผลทางจติ วิทยาและศลี ธรรมของคนในชาติ และด้วยเหตุผลการกระจายความเจริญ
ของเมืองจาํ เป็นตอ้ งใชก้ าํ ลังทหารสําหรับการป้องกนั ซึงอาํ นาจการตดั สินใจสามารถกาํ หนดโดยผูม้ ี
อาํ นาจในระดบั นโยบายจนถึงระดบั ผู้บงั คบั หนว่ ยในสนาม
ข. ฝ่ ายตงั รับตอ้ งการเคลอื นยา้ ยกาํ ลงั เพือรวมอาํ นาจกาํ ลงั รบ และขนยา้ ยเสบียงจาํ นวนมากเขา้ พนื ที
การรบ โดยตอ้ งการศนู ยก์ ลางการขนสง่ ขนาดใหญ่ ทีมีพนื ทกี วา้ งขวาง จึงจาํ เป็นตอ้ งทาํ การตงั รับในพืนที
ทีมสี ิงปลูกสร้างเพือใชเ้ ป็นศนู ยก์ ลางในการควบคุม
ค. การสรา้ งความเจริญทแี พร่การกระจายออกไปทกุ พืนทอี ยา่ งกวา้ งขวาง ทาํ ใหก้ ารปฏิบตั ิการรบมี
ความยงุ่ ยากทจี ะหลีกเลียงสภาพความเป็นเมอื ง ซึงถนนทกุ เส้นทใี ช้สญั จรจะมีเมอื งเล็กๆ เกดิ ขึนทงั สอง
ขา้ งทาง ในระยะทกุ ๒-๓ กม. และจะตอ้ งไดร้ ับการควบคุมโดยกาํ ลงั ฝ่ ายตงั รับ เพอื ใช้เป็นทมี นั รบหรือจดุ
ตา้ นทาน การปิ ดกนั ถนน ภายใตก้ ารยงิ คุ้มครองของ ค. และ ป. สามารถบงั คับทิศทางเคลือนทขี องหนว่ ย
หุ้มเกราะฝ่ ายเขา้ ตีใหเ้ ขา้ สูส่ นามทุ่นระเบิด หรือพืนทีทีวางอาํ นาจการยงิ ของอาวธุ เจาะเกราะ หากฝ่ ายเข้าตี

- ๖๐ -
พยายามทีจะออ้ มผ่านพืนทีทีมีสิงปลูกสร้างจะถกู ต้านทานขบวน ด้วยอาวธุ สงั หารจากรถถงั เป็นผลใหฝ้ ่ าย
เขา้ ตีตอ้ งลดความเร็วและนาํ หนกั ในการเคลือนที รวมทงั ตอ้ งใช้ทรพั ยากรมากขนึ ทําใหส้ ภาพเมือง
กลายเป็นสิงกดี ขวางทีสําคัญ

ง. การรวมกาํ ลงั ในพืนทีวกิ ฤต เป็นเทคนิคในการแสวงความไดเ้ ปรียบของฝ่ ายตงั รับ ซึงกาํ ลงั พลที
ไดร้ ับการฝึ กการตังรบั ในพืนทีทีมสี ิงปลกู สรา้ งเป็นอย่างดี สามารถสรา้ งความสญู เสียใหก้ ับฝ่ายเขา้ ตีได้
อยา่ งมหนั ต์ ฝ่ ายตงั รับจงึ สามารถออมกาํ ลงั ส่วนใหญ่ ไวใ้ ชใ้ นภมู ิประเทศโลง่ แจง้ ได้ สําหรับกาํ ลงั ฝ่ ายตงั
รับทีเหลือไวใ้ นพืนทสี ิงปลกู สร้างยงั คงปฏิบตั ิตามกฎของการใชก้ าํ ลงั อยา่ งประหยดั

จ. พืนทีสิงปลกู สรา้ งเป็นทซี อ่ นพรางของกองกาํ ลงั เป็นอย่างดี ไมส่ ามารถตรวจพบจากการถ่ายภาพ
ทางอากาศ รวมทงั การถ่ายภาพและเครืองมอื ตรวจจบั ไมส่ ามารถตรวจพบการวางกําลงั ในเมืองได้ รวมทงั
ใชเ้ ป็ นทีตงั หน่วยบงั คับบญั ชา กองหนนุ และหนว่ ยสนับสนนุ การช่วยรบ เนืองจากยากตอ่ การตรวจพบ
๔ – ๒ เหตผุ ลทีไม่ทําการตังรับในพืนทที ีมสี ิงปลกู สร้าง ไดแ้ ก่

ก. ทีตงั พืนทีสิงปลกู สรา้ งไมส่ นบั สนนุ การปฏิบตั ิในแผนตงั รับในภาพรวม อาจอยไู่ กลไปขา้ งหน้า
หรือลึกไปขา้ งหลงั ของพืนทีปฏิบตั ิการของหนว่ ยตงั รับ ทาํ ใหถ้ กู แยกโดดเดียวหรือทีตงั ไม่ครอบคลุม
เสน้ ทางทีคาดวา่ ข้าศกึ จะเขา้ มา ผู้บงั คับหน่วยอาจไมเ่ลือกใชเ้ ป็นพืนทีตงั รับ

ข. ลกั ษณะภูมปิ ระเทศใกล้เคยี งมเี สน้ ทางทขี า้ ศกึ สามารถใชเ้ คลือนทีออ้ มผ่านภายใตก้ ารกาํ บงั ซอ่ น
พราง ซึงพบเหน็ อยทู่ วั ไป ในพืนทที ีมสี ิงปลูกสร้างขนาดเล็กทีมีเสน้ ทางหลกั หรือทางรองออ้ มผ่าน

ค. ลกั ษณะโครงสรา้ งในพืนทสี ิงปลูกสร้างไมแ่ ขง็ แรงพอทจี ะป้องกนั ฝ่ ายตงั รบั มีพืนทกี วา้ งสิง
ปลกู สร้างอยกู่ ระจดั กระจาย โครงสร้างติดไฟง่าย รวมทงั สิงปลกู สรา้ งทอี ยใู่ กลแ้ หล่งวตั ถไุ วไฟหรือพืนที
อตุ สาหกรรมทีมอี ันตราย เชน่ โรงกลนั นํามนั โรงงานผลิตสารเคมี จะไมใ่ ชเ้ ป็ นพืนทีตงั รับ

ง. มีภมู ิประเทศสูงขม่ ใกลพ้ ืนทีทีมีสิงปลกู สร้าง ซึงข้าศกึ อาจเขา้ ยึดและควบคุมพืนทีสูงข่ม ผูบ้ งั คบั
หนว่ ยอาจเลือกใชพ้ ืนทีภมู ิประเทศสูงขม่ ในการตงั รับแทนการตงั รบั ในพืนทีทีมีสิงปลูกสรา้ ง มกั ใชก้ บั ใน
พืนทปี ลูกสร้างเล็กๆ เชน่ หมบู่ า้ น

จ. มีพืนการยงิ จากภายนอกพืนทที ีมีสิงปลกู สรา้ งดีกวา่ ผู้บงั คับหนว่ ยอาจเลือกพนื ทีบางส่วนหรือ
ทงั หมดทีมีพืนการยิงไกล ทาํ การตงั รับนอกพืนทีทีมสี ิงปลูกสร้าง มกั ใชก้ ับหน่วยยานเกราะขนาดเล็ก
เพิมเติมเครืองมือทาํ การตงั รับในพืนทีสิงปลกู สรา้ งทลี อ้ มรอบโดยพืนทไี ร่นา

ฉ. พืนทสี ิงปลกู สร้างทีมคี วามสําคัญทางวฒั นธรรม ศาสนา หรือทางประวตั ิศาสตร์ และถูก
ประกาศวา่ เป็นเมอื งเปิ ดตามกฎหมายสากล และถกู กาํ หนดใหเ้ ป็ นเป็ นพืนทปี ลอดทหารจะต้องไมท่ าํ การ
ตงั รับหรือโจมตี โดยกาํ ลงั ฝ่ ายเขา้ ตีจะถกู กล่าวหาวา่ เป็ นผใู้ ชอ้ าํ นาจกดขีประชาชนพลเมอื งทีไม่เกียวขอ้ ง
กบั การรบในประเทศทีถูกยึดครอง ซึงฝ่ ายตงั รับจะตอ้ งถอนกาํ ลงั ทนั ทแี ละไม่สามารถติดอาวธุ ใหก้ บั
ประชาชน ตามปกติการประกาศว่าเป็ นเมืองเปิ ดจะกระทาํ ก่อนการถูกโจมตี และเป็นทีอยอู่ าศยั ของ

- ๖๑ -
ประชาชนทไี มเ่ กียวขอ้ งกบั การรบเป็ นจํานวนมาก เป็นทีตงั โรงพยาบาล มีเจา้ หนา้ ทีทีได้รบั บาดเจ็บ ทีอาจ
ส่งผลกระทบต่อการตดั สินใจของผูบ้ งั คบั หน่วยทีจะไมท่ าํ การตังรบั ในพืนทีดงั กล่าว

ตอนที ๒
ลักษณะพิเศษของพืนทีทมี ีสงิ ปลูกสร้าง
การตงั รบั ในพืนทีทีมีสิงปลูกสรา้ งจะวางกาํ ลังรอบๆ ภมู ิประเทศสําคญั อาคาร พืนทรี ักษาความ
มนั คงของฝ่ ายตงั รบั ซึงมชี ่องทางเคลือนทีอย่างสะดวก ฝ่ายตงั รับตอ้ งรวบรวมจดั ทาํ แผนการตงั รับโดย
พิจารณาปัจจยั OCOKA ไดแ้ ก่ การตรวจการณแ์ ละพืนการยิง การกาํ บงั และการซ่อนพราง เครืองกีดขวาง
ภูมปิ ระเทศสําคญั และแนวทางเคลือนที รวมทงั พิจารณาอนั ตรายจากการยิง และขอ้ จาํ กดั ของการติดตอ่
สือสาร ดงั นี
๔ - ๓ เครืองกีดขวาง
สภาพของเมืองจดั ว่าเป็นเครืองกีดขวางทีสามารถบงั คบั ทศิ ทางและขดั ขวางการเขา้ ตี โดยการปิ ดกนั
เสน้ ทางเขา้ ออกด้วยเครืองกีดขวางทีคุ้มครองด้วยอาํ นาจการยิง ฉากขัดขวางและเครืองกดี ขวาง ควรจดั ไว้ ๓
แนว คือ
ก. เครืองกดี ขวางแนวแรกจะวางไวใ้ กลอ้ าคารดา้ นทีมนั ตังรับหลกั โดยวางแนวขนานกบั ทีมนั ตงั
รบั หลกั ซึงแนวนีประกอบด้วย ลวดหนามและฉากขดั ขวางเรง่ ด่วน ตลอดทงั ภายในตวั อาคาร ทางเขา้ ใต้
ดิน และพืนทีโลง่ ดา้ นนอกอาคารในพนื ทีอนั ตราย และชอ่ งวา่ งทเี วน้ ระยะไว้ ซึงฉากขัดขวางและเครือง
กีดขวางนีมลี กั ษณะเป็ นของหนกั คานไวเ้ หนือบานประตแู ละวางอาํ นาจการยิงคุม้ ครองระยะไกลไวอ้ ยา่ ง
เหมาะสม เพือขดั ขวางความพยายามในการเขา้ ตีของข้าศกึ โดยทาํ ให้รูปขบวนการเขา้ ตี เสียระเบียบ และ
เกิดความสูญเสีย
ข. เครืองกดี ขวางแนวที ๒ วางไวร้ ะหวา่ งแนวแรกกบั อาคารแนวตงั รับหลกั เกินระยะของการขวา้ ง
ระเบิดมอื จากแนวตงั รับ เพือขดั ขวางความพยายามของขา้ ศึกและบงั คบั ขา้ ศกึ ใหเ้ ขา้ สู่พืนทกี ารยงิ ของฝ่ าย
เรา ทาํ ให้ขา้ ศึกเสียรูปขบวนการเขา้ ตีและเกดิ ความสูญเสีย เครืองกีดขวางแนวนไี ม่มคี วามมงุ่ หมายเพอื
ยบั ยงั การเจาะหรือหยดุ การเคลือนทีของขา้ ศึกอยา่ งถาวร ซึงเครืองกีดขวางแนวนีประกอบดว้ ย ลวดหนาม
เป็นหลกั รวมทงั ฉากขดั ขวางเร่งดว่ น หลุมบนถนน และสนามทนุ่ ระเบิดหรืออาจใชก้ บั ระเบิด (ร่วมกับ
ลวดสะดุดระเบิดเคลย์โม) ลวดหีบเพลง ๓ ชนั จะถกู วางตลอดแนวป้องกนั ขนั สุดทา้ ย ร่วมกบั การใช้ ปก.
(วางโดยทหารช่าง) เพอื หน่วงเหนียวขา้ ศกึ ใหช้ า้ ลงบริเวณแนวป้องกนั ขนั สุดทา้ ย และช่วยใหส้ ามารถใช้
ปก.อยา่ งไดผ้ ล
ค. เครืองกีดขวางแนวที ๓ อยบู่ ริเวณแนวป้องกนั ทีมนั ตงั รับ ประกอบดว้ ยแนวเครืองกีดขวางลวด
หนามลอ้ มรอบและผา่ นเขา้ ในอาคารสิงปลกู สรา้ งของฝ่ ายตงั รับ และวางใกลก้ บั สนามทนุ่ ระเบิด เสน้
ทางเขา้ ออกใตด้ นิ โดยใชส้ ําหรับขดั ขวางความสามารถในการรุกคืบหนา้ และสร้างความยงุ่ ยากใหข้ า้ ศกึ ที

- ๖๒ -
เดินเทา้ ในพืนทตี งั รับ ซึงประกอบด้วย กับระเบดิ เพิมเติมดว้ ยลวดสะดุดระเบิดเคลย์โมและลวดสะดดุ
ระเบดิ แสวงเครือง โดยจะตอ้ งวางในจุดทีไมก่ ่อให้เกิดอนั ตรายกบั ฝ่ ายเดียวกนั

ง. ขดั ขวางการใชเ้ สน้ ทางเขา้ ออกทกุ เส้นทาง (ทงั บนดนิ และใตด้ ิน) โดยใชเ้ ครืองกีดขวางทีหาได้
ง่ายในพืนที เชน่ รถยนต์ เสาไฟ การวางทนุ่ ระเบดิ สงั หารบคุ คลและทุ่นระเบดิ ดกั รถถงั และอืนๆ (รูปที
๔-๑)

วตั ถุระเบดิ ทีซอ่ นอยู่ เครืองกี ดขวางลวดหนาม

ทีคุ้มครองด้วยอาํ นาจการยงิ

วตั ถรุ ะเบดิ ทซี ่อนในอาคาร

วตั ถรุ ะเบดิ ทซี ่อนในทอ่ ระบายนาํ ทงิ ผูกตดิ กบั อาคารหรือเครืองกดี ขวางอนื

การปิ ดกันถนน ขอบหลุมตอ้ งกวา้ งพอ หลุมบนถนน

เครืองปิดกนั บรรจเุ ศษอิฐเศษหิน เพอื ป้ องกนั การออ้ มผ่าน

สนามทนุ่ ระเบดิ ดกั รถถงั /สงั หารบคุ คล
ทพี รางดว้ ยเศษอิฐเศษหินรอบๆหลมุ

เสน้ ทางเคลอื นทขี องขา้ ศกึ เครืองกดี ขวางชนิดนตี อ้ งไดร้ บั
ความช่วยเหลอื จากทหารชา่ ง

รูปที ๔-๑ ตวั อย่างของเครืองกีดขวางทีหาได้สะดวกในพืนที

๔ – ๔ เส้นทาง เข้า - ออก
ฝ่ ายตงั รบั ไมเ่ พียงพิจารณาเส้นทางเขา้ -ออกทีสะดวกในเมืองเทา่ นนั แตต่ อ้ งพิจารณาเส้นทางใน

พืนทสี ิงปลกู สรา้ ง ทงั บนพืนดินและทางใตด้ ินทที าํ ใหฝ้ ่ ายตงั รับมคี วามไดเ้ ปรียบ ในการเคลือนทผี ่าน
อาคารหรือใต้ดินจากจุดหนึงไปยงั อีกจดุ หนึงไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว
๔ - ๕ ภมู ิประเทศสําคญั

ภูมิประเทศสาํ คญั ไดแ้ ก่ สถานทใี ดๆ ทฝี ่ายยึดครองหรือควบคุมในหว้ งเวลานนั จะเป็นฝ่ าย
ได้ เปรียบ เช่น สะพาน อาคารสูง แหล่งสาธารณูปโภคของชุมชน สถานทีราชการ และสวนสาธารณะ
รวมทงั แหล่งทีเป็นทีอยอู่ าศยั ของประชาชน จดั วา่ เป็นภูมปิ ระเทศสาํ คัญในพืนทสี ิงปลูกสร้าง ซึงลกั ษณะ
ของภูมิประเทศสําคัญเป็นเครืองช่วยฝ่ ายตงั รับในการเลือกทีมนั ตงั รับ และช่วยประเมินเป้ าหมายของ
ขา้ ศกึ ได้

- ๖๓ -
๔ – ๖ การตรวจการณ์และพืนการยิง

ฝ่ ายตงั รบั จะตอ้ งวางตาํ แหนง่ ของอาวธุ ยิงใหเ้ กิดผลสงู สุด และสามารถยงิ สนบั สนุนซึงกนั และกนั
ได้ ซึงใชใ้ นการรบปะทะในระยะไกลทเี กินระยะยิงหวงั ผลสูงสุด โดยใชผ้ ูต้ รวจการณ์หนา้ ป. ปฏิบตั ิการ
เหนือระดบั พืนผิวทาํ การปรับการยงิ ไปยงั ขา้ ศึกทรี ะยะยิงไกลสุด ซึงแผนการยิงและการยงิ ฉากป้ องกนั ขนั
สุดทา้ ย ตอ้ งกาํ หนดเป้ าหมายลว่ งหน้าเพือความรวดเร็วในการยา้ ยจดุ ยิงไปยงั พืนทีทีตอ้ งการขม่ ขวญั
๔ - ๗ การกาํ บงั และการซ่อนพราง

ฝ่ ายตงั รบั จะตอ้ งเตรียมทีมนั โดยอาศัยการกาํ บงั จากผนงั กาํ แพง พืนอาคาร และเพดาน ซึงกาํ ลงั พล
ตอ้ งทาํ การปรบั ปรุงทีมนั โดยใชว้ สั ดุทีหาไดใ้ นบริเวณนนั และในขณะเคลือนทีจะตอ้ งระวงั การเปิ ดเผย
ตวั โดย

การใชช้ อ่ งเจาะทีเตรียมไวเ้คลือนผา่ นอาคาร
การเคลือนทผี ่านจดุ ทลี าดตระเวนไวแ้ ลว้ และจดุ สงั เกตในการเคลือนทใี ตด้ นิ
การใช้คสู นามเพลาะและระบบทอ่ นาํ ทงิ
การใช้ควนั และความมดื เคลือนทีผา่ นพืนทโี ล่ง
ซึงความสําเร็จของการตงั รับ เกิดขึนเมอื ฝ่ ายเข้าตีเปิ ดเผยตวั ขณะทาํ การรกุ คืบหนา้ โดยการขา้ มถนน
หรือพืนทีโลง่ แจง้ ระหวา่ งอาคารและตกเป็ นเป้ าอาวุธยิงของฝ่ายตงั รับทีซอ่ นตวั อยู่
๔ - ๘ อันตรายจากการยิง
ความรอบรูภ้ ูมิประเทศอยา่ งละเอียดของฝ่ ายตงั รับช่วยใหส้ ามารถหลีกเลียงพืนทที ีเป็นอนั ตราย
จากการยิง ซึงเมืองส่วนใหญ่เป็นจดุ ออ่ นสําหรับการยิง โดยเฉพาะอาคารสิงปลกู สรา้ งทีทาํ ดว้ ยไม้ ดงั นนั
ฝ่ ายตงั รับจะตอ้ งทาํ การยิงอยา่ งรอบคอบ
เพือใหฝ้ ่ ายเขา้ ตีกระจดั กระจายเสียระเบยี บ
เพอื บีบบงั คบั ฝ่ ายเขา้ ตีใหเ้ข้าไปยงั พืนทีทีต้องการ
เพอื ลดความสามารถในการตรวจการณข์ องฝ่ ายเข้าตี
๔ – ๙ ข้อจาํ กัดของการติดต่อสือสาร
การควบคุมการตงั รับในเมืองทีตอ้ งการความปลอดภยั จะใชก้ ารสือสารทางสายเป็นวิธีแรก แต่มี
ขอ้ เสียทขี า้ ศกึ อาจตรวจพบและทาํ ลายระบบไมใ่ ห้สามารถใชง้ านได้ ส่วนการสือสารทางวิทยใุ นพืนทีมี
สิงปลูกสรา้ งจะถกู ลดประสิทธิภาพลง จากโครงสรา้ งของอาคารและถกู รบกวนจากสายไฟฟ้ า แรงสูง
ปัจจุบนั วิทยสุ ือสารรุ่นใหมๆ่ ทใี ชต้ ามบา้ นสามารถแก้ปัญหานีได้ ซึงหน่วยในพืนทีสิงปลกู สรา้ งบาง
หนว่ ยไม่มีวิทยชุ นิดนี ทาํ ใหก้ ารใชว้ ิทยเุ ป็นวิธีสํารองทีสามารถใชส้ ลบั กบั การสือสารวธิ ีอนื สําหรับการ
ใชพ้ ลนาํ สารเป็ นวิธีทใี ชไ้ ดผ้ ลดีพอๆ กบั การติดตอ่ สือสารวธิ ีอนื นอกจากนีการใช้ทศั นสญั ญาณสามารถ
เลือกใชไ้ ด้ แต่มกั ไมค่ อ่ ยไดผ้ ลเนืองจากการบดบงั ของอาคาร ผนงั กาํ แพง และอืนๆ มากมาย ดงั นนั ทหาร

- ๖๔ -
สือสารตอ้ งวางแผนในการใชเ้ ครืองมือสือสารใหใ้ ชไ้ ดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง โดยเขา้ ใจหนา้ ทีและสภาพของ
หน่วยเข้าตี เพราะเสียงทดี งั เพิมขึนจะเป็นอุปสรรคต่อการใช้เสียงสญั ญาณ

ตอนที ๓
ปัจจัย METT-T
ระเบียบปฏิบตั ิและหลกั การในการวางแผนและการดาํ เนนิ การตงั รบั ในพืนทีทีมสี ิงปลกู สรา้ งคง
เหมอื นกบั การวางแผนการตงั รับทวั ไป ซึงในขนั การจดั ทาํ แผน ฝ่ ายตงั รับจะตอ้ งพิจารณาปจั จยั METT-T
ซึงจะเนน้ ในเรืองการยงิ สนับสนุน การวางแผนการใช้เวลา การจดั ลาํ ดับความเร่งด่วนของงาน และ
มาตรการควบคุม ซึงแผนการตงั รับในเมืองตอ้ งประกอบดว้ ยรายละเอียดทสี ําคัญ ดงั นี
๔ - ๑๐ ภารกิจ
ผูบ้ งั คับบญั ชาเมอื ไดร้ ับมอบภารกิจ จะตอ้ งวิเคราะห์และทาํ ความเขา้ ใจในภารกิจก่อนเริมการ
วางแผน ซึงอาจไดร้ ับมอบในรูปแบบคาํ สังเป็ นส่วนๆ หรือในรูปแบบของคาํ สงั ยทุ ธการ โดยทาํ การ
วเิ คราะหอ์ อกมาเป็นกิจเฉพาะและกิจแฝง
๔ - ๑๑ ข้าศึก
ผู้บงั คับบญั ชาจะตอ้ งวิเคราะห์ชนิดของข้าศกึ ทีเผชิญหนา้ ถา้ ฝ่ ายเขา้ ตีเป็นทหารราบลงรบเดินดิน
จะมีอนั ตรายจากความไดเ้ ปรียบในการเดินเทา้ ถา้ เป็นทหารราบยานเกราะ/บรรทกุ ยานเกราะจะมีอนั ตราย
จากการรวมอาํ นาจการยิงทาํ ลายทมี นั ตงั รับ การรวบรวมข่าวสารสําหรับการตงั รับนอกจากใช้ประโยชน์
ในการวิเคราะหข์ า้ ศึกแลว้ ผูบ้ งั คับบญั ชาควรใหค้ วามสําคญั ในการหาขา่ วและใช้ประโยชน์จากข่าวสารที
มีอยู่ ซึงหวั ขอ้ ข่าวสารสาํ คญั สาํ หรบั การรบในพนื ทีทมี ีสิงปลูกสรา้ ง ทกี ล่าวไวใ้ นบทที ๒ ประกอบดว้ ย
ถนน แหล่งนาํ และผงั ระบบกาํ จดั นาํ เสีย
การเชือมตอ่ ติดตงั สาธารณูปโภคทสี าํ คญั และระบบสาธารณูปโภค
ประชาชนทเี ป็ นบคุ คลสําคญั
แหล่งอาหาร
ตาํ รวจชุมชนและกาํ ลงั กึงทหาร
ระบบอาํ นวยความสะดวกในการติดต่อสือสารและแผนผงั
สถานีจา่ ยกาํ ลงั
๔ - ๑๒ ลักษณะภูมปิ ระเทศ
ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศในพืนทีทมี ีสิงปลูกสร้างมีลกั ษณะเป็นสามมิติ คือ ระดับพืนดิน (ถนน และ
สวนสาธารณะ) เหนือระดบั พืนดิน (อาคารสิงปลกู สร้าง) และตาํ กวา่ ระดับพืนดิน (ทางเดินใต้ดนิ และ
ระบบทอ่ นาํ ทิง) การวิเคราะหล์ กั ษณะภมู ิประเทศทงั ตามธรรมชาติและทีมนษุ ยส์ รา้ งขึน ต้องใชค้ วาม

- ๖๕ -
ระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษ เมือทาํ การวางแผนการตงั รับในภูมิประเทศทมี ีสิงปลกู สรา้ ง ซึงแผนการตงั รับของ
ผูบ้ งั คับบญั ชาขึนอยกู่ บั ชนิดของสิงปลกู สรา้ งในการปฏิบตั ิการนนั (ดูรายละเอียดในบทที ๑) ไดแ้ ก่

ก. หมู่บ้าน
๑) หมบู่ า้ น ทีพบบอ่ ยมกั สร้างในหุบเขาปิ ด มีลกั ษณะทีสําคญั คือมีถนนทผี ่านเข้าไปในหมบู่ า้ น

อยา่ งสะดวก ถา้ อาคารสิงปลูกสร้างมีการสรา้ งอยา่ งแข็งแรงและสามารถป้ องกันทงั การยงิ เล็งตรงและเล็ง
จาํ ลอง การตงั รบั ทแี ข็งแรงกระทาํ ไดโ้ ดยการวางกาํ ลังขนาดกองร้อยในหมู่บา้ น ขณะทใี ชก้ าํ ลงั ส่วนหนึง
ของกองพนั ควบคุมภมู ปิ ระเทศสูงขม่ ใกลห้ มู่บา้ น

๒) ภูมปิ ระเทศทงี ่ายต่อการออ้ มผ่านและบริเวณภูมิประเทศทีจะตงั รับ ไม่มหี มบู่ า้ นในระยะที
สามารถใหก้ ารสนับสนนุ ซึงกนั และกนั ได้ หนว่ ยจะไมต่ งั รับ รวมทงั กาํ ลงั ฝ่ ายเราทีออ้ มผา่ นจะถูกตดั ขาด
ไดง้ ่าย (รูปที ๔-๒)

รูปที ๔-๒ หมู่บ้าน
๓) หมบู่ า้ นบนเส้นทางเขา้ ออกเมอื งใหญ่ อาจใชเ้ พือเพิมความลึกในการตงั รบั หรือใชป้ ้ องกนั
ทางปีก ซึงมลี ักษณะพิเศษคืออาคารบา้ นเรือนก่อสร้างจากหิน อิฐกอ่ หรือคอนกรีต ทีมนั รบของกองร้อย
สามารถวางกําลงั ในหมบู่ า้ นขนาดเล็ก เพือขดั ขวางการเขา้ ไปยงั ทีมนั ตงั รับหลกั
ข. พืนทีลักษณะทางยาว
๑) พืนทีลกั ษณะทางยาว ประกอบดว้ ย บา้ นทีอยอู่ าศยั หา้ งร้าน และโรงงานทีสรา้ งตามแนว
ถนนแนวหุบเขาทเี ชอื มระหวา่ งเมืองและหมบู่ า้ น ฝ่ ายตงั รับสามารถใชป้ ระโยชน์ไดเ้ ช่นเดียวกับหมู่บา้ น

- ๖๖ -
๒) ถ้าทศั นวิสัยดีพอและมีพืนการยิง หน่วยทีทาํ หนา้ ทีเป็นหน่วยป้ องกนั จะเข้ายดึ พนื ทีเฉพาะใน
จดุ ทีแข็งแรงแล้วกระจายกาํ ลงั ตามพืนทที างยาว ซึงเป็นการลวงใหข้ า้ ศึกทีทาํ การรบปะทะระยะไกลให้
เขา้ ใจวา่ พืนทลี กั ษณะยาวเป็นแนวตงั รับทขี ยายออกไป นอกจากนีพืนทลี กั ษณะดงั กลา่ วมกั ใชค้ ุม้ ครอง
เสน้ ทางการถอนตวั ไปทางปี ก เมอื ฝ่ ายเขา้ ตเี ริมปรับรูปขบวนหนา้ กระดาน และก่อนทหี น่วยคุม้ กนั จะทาํ
การรบขนั แตกหกั (รูปที ๔-๓)

รูปที ๔-๓ พืนทลี ักษณะทางยาว
ค. เมอื งและเมอื งใหญ่

๑) กองกาํ ลงั ขนาดเล็กสามารถสร้างความไดเ้ ปรียบของอํานาจกาํ ลังรบเมือทาํ การตงั รับในเมอื ง
ทีมลี กั ษณะเป็ นจดุ ทีปิด โดยเสริมกาํ ลงั ดว้ ยรถถงั รถสายพานลาํ เลียงพล จรวดโทว์ (TOW) จรวดดรากอน
(DRAGON) ใกล้จดุ ทีมคี วามล่อแหลม เพือป้ องกนั ขา้ ศึกออ้ มผ่านเมือง โดยฝ่ ายตงั รับจะตอ้ งควบคุมภมู ิ
ประเทศสาํ คญั และกองหนนุ จะตอ้ งวางกาํ ลงั ใหส้ ามารถเพิมเติมกาํ ลงั ในพืนทีลอ่ แหลมไดอ้ ยา่ งรวดเรว็
รวมทงั การใช้เครืองกดี ขวางและสนามทุ่นระเบิดช่วยในการรงั หน่วงและบงั คับทิศทางเคลือนทีของฝ่ าย
เขา้ ตี

๒) การคน้ หาทมี นั ในเมอื งทีมีทงั พืนการยิงดีและปกปิ ดกาํ บงั กระทาํ ได้ยาก ซึงพืนทเี ขตดา้ นหน้า
ของเมืองมกั มีพืนการยงิ ดี แต่มกั เป็นเป้าหมายอาวุธยิงสนบั สนนุ ทขี ้าศึกกําหนดไว้ พืนทีดงั กลา่ วจะเป็น
แหล่งทอี ยู่อาศยั ทีมีการก่อสรา้ งด้วยวสั ดุทีติดไฟงา่ ย สําหรับโรงงาน อาคารเทศบาลและสิงกอ่ สร้างที
มนั คงแขง็ แรงเพยี งพอในการกาํ บงั และการตงั รบั จะอยลู่ ึกเข้าไปในเมืองและมกั จาํ กดั พืนการยิงและ
เสน้ ทางเคลือนที

- ๖๗ -
๓) เนอื งจากเขตดา้ นหนา้ ของเมืองเป็นพืนทีทีสังเกตเหน็ การวางกาํ ลงั ของฝ่ ายตงั รับไดช้ ดั เจน จึง
สมควรหลีกเลียง แตถ่ า้ ภมู ิประเทศจาํ กดั ความสามารถในการรบปะทะของขา้ ศกึ และสิงปลูกสร้างทีมนั คง
แขง็ แรงพอในการป้ องกนั หนว่ ย ฝ่ายตงั รับสามารถวางกาํ ลังในพืนทีดงั กลา่ วได้
๔) กองกาํ ลงั อาจถกู กําหนดใหต้ ังรับเป็นทมี นั รบ ณ พืนทีเขตดา้ นหนา้ ของเมือง ตงั แตเ่ ริมแรก
เพือภารกิจในการแจง้ เตือนล่วงหนา้ ถึงการรุกคืบหนา้ ของข้าศกึ และทาํ การรบปะทะกบั ขา้ ศึกในระยะไกล
ทงั เป็นการลวงขา้ ศึกใหเ้ ขา้ ใจวา่ เป็นพืนทีตังรับจริง ซึงกาํ ลงั ดงั กลา่ วควรจะถอนตวั ตามเวลาทกี าํ หนดเพือ
หลีกเลยี งการรบขันแตกหกั กรณีทเี ขตดา้ นหนา้ ของเมอื งมขี อ้ จาํ กดั ในการตรวจการณ์ กองกาํ ลงั อาจเลอื ก
ทตี งั ทีลกึ เขา้ ไปหรือเลือนไปทางปีก เพือเพิมอาํ นาจในการตรวจการณ์และทาํ การรบปะทะกับข้าศกึ ไดใ้ น
ระยะไกล
๕) การป้องกนั การเคลือนทีทางอากาศและการส่งทางอากาศลงพนื ทใี นเมอื งและเมอื งใหญ่
ผูบ้ งั คบั บญั ชาจะต้องพิจารณาให้ครอบคลุมพืนทีทีมีความเป็นไปไดท้ ีขา้ ศกึ จะใชเ้ ป็ นพืนทีรับขึน (LZs)
หรือพืนทีสง่ ลง (DZs) ไดแ้ ก่ สวนสาธารณะ สนามกีฬา หลังคาขนาดใหญ่ หรือ สนาม ฮ. โดยการวาง
เครืองกีดขวางหรือใชอ้ ํานาจการยิง (รูปที ๔-๔)

รูปที ๔-๔ เมืองและเมืองใหญ่

จ. พืนทีสงิ ปลูกสร้างขนาดใหญ่
๑) ในพืนทสี ิงปลูกสร้างขนาดใหญ่ ผูบ้ งั คบั บญั ชาจะตอ้ งพิจารณาภูมปิ ระเทศทถี ูกจาํ กดั
เนอื งจากอาคารสิงปลูกสรา้ งทีมขี นาดใหญแ่ ละอยู่ใกลก้ นั จงึ ตอ้ งการกาํ ลงั ทีมีความหนาแนน่ สูงมาก และ
พืนทปี ฏิบตั ิการตงั รับทีมขี นาดเลก็ ลง ซึงตา่ งจากการปฏิบตั ิในพืนทีโลง่ แจง้ หนว่ ยจะรับผิดชอบการวาง
กาํ ลงั ตงั รับกวา้ งดา้ นหนา้ ขนาด ๑ ใน ๓ ของพืนทีโล่ง โดย ๑ กองร้อยทหารราบ รับผิดชอบกวา้ งด้านหนา้
๑,๕๐๐ – ๒,๐๐๐ เมตร ในพืนทโี ล่ง จะถูกจาํ กดั กวา้ งด้านหนา้ ๓๐๐ – ๘๐๐ เมตร ในพืนทีสิงปลกู สรา้ ง

- ๖๘ -
ซึงความหนาแนน่ ของอาคาร เศษอิฐเศษหิน รูปแบบของถนน จะเป็นตวั กาํ หนดกวา้ งดา้ นหนา้ ในการวาง
กาํ ลงั ของหน่วย (รูปที ๔-๑)

ขนาดหน่วย กว้างด้ านหน้ า ความลึก

กองพนั หรือ กองพนั เฉพาะกิจ ๔-๘ ช่วงตึก ๓-๖ ชว่ งตึก

กองรอ้ ย ๒-๔ ชว่ งตึก ๒-๓ ชว่ งตึก

หมวด ๑-๒ ช่วงตึก ๑ ชว่ งตึก

หมายเหตุ : ๑ ชว่ งตึก มีระยะเฉลีย ๑๗๕ เมตร ซึงตารางนใี ชก้ บั พืนทีทมี คี วามหนาแน่น

ของสิงปลกู สร้างสูง มีโครงสร้างเป็นตกึ หลายแบบผสมผสาน และมกี ารขนส่งใตด้ ิน

ตารางที ๔-๑ กว้างด้านหน้าและความลึกโดยประมาณในพืนทีสิงปลูกสร้างขนาดใหญ่

๒) ในพืนทสี ิงปลูกสร้างขนาดใหญ่ เมอื กองพนั ไดร้ บั มอบพืนทีปฏิบตั ิการในการตงั รับจะทาํ
การจดั ลาํ ดบั ของทีมนั ตงั รับ ซึงต่างจากการตงั รับในหมบู่ า้ นหรือในเมือง โดยลกั ษณะภูมปิ ระเทศตาม
ธรรมชาติใกล้กับสิงปลกู สร้างไม่มใี หผ้ ูบ้ งั คบั บญั ชารวบรวมเข้าไวใ้ นแผน แมจ้ ะมกี ารสนับสนุนซึงกนั
และกนั ระหวา่ งทมี นั ขา้ ศกึ มกั ใช้เป็นเส้นทางแทรกซึมผา่ นระหวา่ งทีมนั ในภมู ิประเทศของพืนทีสิงปลกู
สร้าง ดงั นนั ฝ่ ายตังรบั จะตอ้ งพจิ ารณาในเรือง ตอ่ ไปนี

ทีมนั ทีสามารถทาํ การยิงขา้ ศึกทีทาํ การแทรกซึมแบบไมใ่ หร้ ู้ตวั
เสน้ ทางเคลอื นทรี ะหว่างทีมนั ของฝ่ ายเราทีมกี ารกําบงั และการซอ่ นพราง (ทางใตด้ นิ และ
ระบบทอ่ ระบายนาํ )
โครงสร้างตึกสูงข่มพนื ทีขนาดใหญ่
พืนที เช่น สวนสาธารณะ ถนนทีมีตน้ ไมส้ องขา้ ง แมน่ าํ ทางหลวง และทางรถไฟทีมีพืน
การยิงของอาวุธเจาะเกราะ
มีทตี งั ยงิ ค.
มีทตี งั ทก.ทีมกี ารกาํ บงั และการซ่อนพราง และง่ายในการควบคมุ บงั คบั บญั ชาหน่วย
มีพืนทเี ก็บเสบียงทีไดร้ ับการป้องกนั
๓) อาคารทอี ยใู่ นแผนการตังรับจะถูกเลอื กให้ทาํ การยึดครอง การใหก้ ารสนบั สนุนซึงกนั และกนั
ระหวา่ งทีมนั เป็นมาตรการเพือความอยรู่ อดทีมีความสาํ คญั ในการป้ องกนั ฝ่ายเขา้ ตีจากการดาํ เนินกลยทุ ธ์
และการโอบทีมนั ตังรับจนไมส่ ามารถป้องกนั ได้ โดยอาคารทถี กู เลือกให้ทาํ การยึดครอง ควรจะมี
ลกั ษณะต่อไปนี
มีการป้องกนั ทดี ี

- ๖๙ -
มีพืนทีแข็งแรงสามารถรกั ษาโครงสรา้ งใหร้ ับนาํ หนกั ซากปรกั หกั พงั จากการยุบตวั ได้
มผี นงั กาํ แพงหนา
สรา้ งดว้ ยวสั ดทุ ีไมต่ ิดไฟ (หลกี เลยี งไม)้
เป็นทีตงั ทางยุทธศาสตร์ (อาคารหวั มมุ และโครงสร้างเด่น)
อยตู่ ิดถนน ตรอก ซอย มีพืนทีวา่ ง และทีจอดรถ (อาคารลกั ษณะนีจะมพี ืนการยงิ ดี และการ
เชือมโยงไปยงั อาคารอืนทาํ ไดง้ ่าย)
๔ - ๑๓ กําลังทมี อี ยู่
การใชก้ าํ ลงั ในพืนทีทีมีสิงปลกู สรา้ งขึนอยกู่ ับภารกิจ และปัจจยั หลายประการทเี กียวเนืองกบั
METT-T ไดแ้ ก่
ก. การใช้กาํ ลังขนาดหมู่ จะใชว้ างกําลงั เป็นหนา้ กระดานเพือใหท้ กุ คนสามารถทาํ การยงิ ไปยงั
ทิศทางทคี าดวา่ ขา้ ศึกจะเขา้ ตี โดยอาจแบง่ การวางกาํ ลังในแต่ละหอ้ งหรือแต่ละอาคาร ซึงแตล่ ะทีตงั
จะตอ้ งสามารถใหก้ ารสนบั สนนุ ซึงกนั และกนั ได้ โดยเขตการยิงตอ้ งทาบทบั กนั แมจ้ ะอยแู่ ยกหอ้ งหรือ
แยกอาคารก็ตาม (รูปที ๔-๕)
ข. การใช้กาํ ลังขนาดหมวด เมือผูบ้ งั คับบญั ชาตดั สินใจทีจะเลือกทาํ การตงั รับเป็ นทีมนั รบของ
หมวด หรือเป็นพืนทีทาํ การขัดขวางหรือจาํ กดั ขีดความสามารถของขา้ ศึกในการดาํ เนินกลยทุ ธ์และ
ควบคุมพืนทีสาํ คญั กวา้ งด้านหนา้ ของหมวดประมาณ ๑-๒ ช่วงตกึ ผู้บงั คบั หมวดนอกจากจะเลือกทีมนั
หลกั และทีมนั สาํ รองจะเลอื กทีมนั เพิมเติมขนึ อีก ๑ แหง่ เพือความพร้อมในการตงั รับกรณีศกึ เขา้ ตีใน
ทิศทางอืน

เขตการยิงทที าบทบั กนั

รูปที ๔-๕ เขตการยงิ

- ๗๐ -
ค. การใช้กาํ ลังขนาดกองร้อย ผู้บงั คบั กองพนั จะวางกาํ ลงั กองร้อยตงั รับเป็นทีมนั รบหรือตังรับใน
เขต โดยทีมนั ตงั รับของกองรอ้ ยในพืนทสี ิงปลกู สร้างมกี วา้ งดา้ นหน้าประมาณ ๒-๔ ช่วงตึก (๓๐๐ – ๘๐๐
เมตร) ทงั นีขึนอยกู่ บั ชนิดของสิงปลกู สรา้ งในพืนที และอาจวางกําลงั ลาํ ไปข้างหนา้ ทางปี ก เพือบงั คบั ให้
ขา้ ศกึ ปรับรูปขบวนหน้ากระดานแต่เนินกอ่ นการรบขนั แตกหกั ดว้ ยการลวงใหข้ า้ ศกึ เขา้ ใจวา่ เป็นทีมนั จริง
ในส่วนตงั รับหลกั สาํ หรบั กองร้อยอืนทาํ การวางกําลงั ลดหลนั ณ จดุ ต้านทาน ยา่ นกลางของเมอื ง ซึง
กองรอ้ ยควรจะเลือกทีมนั สํารองและทมี นั เพิมเติมไวด้ ้วย
ง. การใช้กองหนุน แผนการตังรับของผูบ้ งั คบั บญั ชาจะตอ้ งพิจารณาใชก้ องหนุน ในการตีโตต้ อบ
เพือสถาปนาทีมนั ใหม่ ยบั ยงั การเจาะ และป้องกนั ทางปี ก รวมทงั ทาํ การยิงชว่ ยเหลือการผละจากการ
ปะทะ และการถอนตวั จากทีมนั ทีมอี นั ตราย ซึงการรบในพืนทสี ิงปลกู สร้าง กองหนนุ ควรมีลกั ษณะ ดงั นี

ปกติจะใชท้ หารราบเป็นหลกั
มคี วามคล่องแคลว่ ในการเคลอื นทสี ูง
เป็นหมวดหรือหมู่ในกรอบของกองรอ้ ย หรือหนึงหมวดในกรอบของกองพนั
มกี ารยงิ สนบั สนนุ โดย ถ.
จ. การใช้รถถังและรถสายพานลําเลยี งพล ผู้บงั คบั บญั ชาจะตอ้ งพิจารณาใช้ ถ. และรถสายพาน
ลาํ เลียงพล (BFV) เพือความไดเ้ ปรียบในการยิงระยะไกลและความคล่องแคล่วในการเคลอื นที ซึงในพนื ที
สิงปลูกสรา้ งจะจาํ กดั การเคลือนทขี อง ถ. และรถสายพานลาํ เลียงพล (BFV) และเป็นจดุ ออ่ นในการถกู
โจมตีจากอาวธุ ตอ่ สู้รถถงั ของทหารราบข้าศกึ จงึ ควรพิจารณาใช้ ดงั นี
๑) การใช้ ถ. และรถสายพานลาํ เลียงพล (BFV) ในการตงั รับในเมือง ตอ้ งจดั ชุดทหารราบคุ้มกนั
เพือทาํ หนา้ ทคี น้ หาเป้ าหมายใหก้ บั ถ. และป้องกนั การยิงของอาวุธตอ่ สู้รถถงั ในระยะใกล้ โดย ถ.และรถ
สายพานลาํ เลียงพล (BFV) จะตอ้ งเลือกทีมนั หลกั ทีมนั สาํ รอง และทีมนั เพิมเติมไวด้ ว้ ย โดยเฉพาะในที
มนั หลกั และทีมนั สํารองจะใชร้ ถสายพานลาํ เลียงพล (BFV) และอาวุธตอ่ สู้รถถงั เสริมอาํ นาจการยงิ ของ ถ.
๒) รถถงั และรถสายพานลําเลียงพล (BFV) จะตอ้ งเข้าทีมนั ตามเส้นทางทคี าดวา่ ขา้ ศกึ จะเข้ามา
เพอื ชิงความไดเ้ ปรียบในการยิงระยะไกล โดยปฏิบตั ิ ดงั นี
เขา้ ทีมนั รอบนอกของเมืองทีสามารถใหก้ ารสนบั สนนุ ซึงกนั และกนั
เขา้ ทีมนั บนภมู ิประเทศสําคญั ทางปีกของหมบู่ า้ นหรือเมือง
ใชย้ ิงคุม้ ครองเครืองปิ ดกนั และเครืองกีดขวาง
ใชเ้ ป็ นส่วนหนึงของกองหนนุ
๓) รถถงั และรถสายพานลาํ เลียงพล (BFV) ปกติจะใชใ้ นระดบั หมวด แตอ่ าจสมทบใหก้ บั หมวด
หรือหมทู่ หารราบในการสนบั สนุนอยา่ งใกล้ชิด ซึงรถถังและรถสายพานลาํ เลียงพล (BFV) จะชว่ ย
ผูบ้ งั คบั บญั ชาในการเคลือนยา้ ยกาํ ลงั ทาํ การตอบโตก้ ารรกุ ของขา้ ศึกทเี ขา้ มาในทิศทางอืน

- ๗๑ -
ฉ. การใช้การยงิ สนบั สนุน แผนการยิงจะตอ้ งครอบคลุมเป้ าหมายทอี ยู่ใกลก้ บั สิงปลูกสรา้ ง และ
ระยะยิงตําสุดทีเป็นอนั ตรายใกลฝ้ ่ายเรา รวมทงั การยา้ ยทีตงั ยงิ ซึง ป. และ ค. จะวางแผนการยงิ สนบั สนุน
อยา่ งใกล้ชิดในกรณีฉุกเฉินโดยรอบทมี นั ตงั รับและเหนือทีมนั ตังรับ ดงั นี

๑) การยิงสนบั สนุนของ ป. ใชก้ ารยงิ แบบเลง็ จาํ ลอง เพือ
ยิงข่มและลดการมองเห็นของส่วนเฝ้ าระวงั ของข้าศกึ
ยบั ยงั ทาํ ลายการโจมตี
ทาํ การยงิ ต่อตา้ น ป.
ยิงสนบั สนุนการตีโตต้ อบ
ทาํ การยงิ เลง็ ตรงเมือจาํ เป็น

๒) การใช้ ค. ของกองร้อยและกองพนั ใชผ้ ลการยงิ สูงสุดจากการยงิ มุมสูง ทาํ การยงิ ต่อเป้าหมาย
ทีตงั ส่วนเฝ้ าระวงั ของขา้ ศกึ
ทหารราบขา้ ศกึ กอ่ นเดินเทา้ เขา้ ยดึ ทีหมาย
เป้ าหมายบนหลงั คา
ขา้ ศึกทเี พิมเติมกาํ ลังในระยะยงิ

๓) การยิงป้องกนั ขนั สุดทา้ ย เป็นแผนการหยดุ ยงั การโจมตีหน้าทมี นั ตงั รับ ซึงการยงิ ในเมอื งเป็ น
การขยายผลเพือยบั ยงั การเจาะของขา้ ศกึ

๔) ในระดบั กองพนั ผูบ้ งั คบั บญั ชาตอ้ งจดั ลาํ ดบั ความเร่งด่วนของการยงิ ตามเสน้ ทางการ
เคลอื นทแี ละรูปแบบของภยั คกุ คามทีจะกอ่ ใหเ้ กิดอนั ตรายสูงสุดตอ่ การตงั รบั ในขณะนนั เช่น ในระหวา่ ง
การรุกคืบหนา้ ของฝ่ ายเขา้ ตีโดยรถถงั รถสายพานลาํ เลียงพลหุม้ เกราะ และส่วนเฝ้ าระวงั ของขา้ ศกึ ทีเป็น
ภยั คกุ คามสูงสุดตอ่ การตงั รับตามลาํ ดบั จรวดนาํ วถิ ีตอ่ สู้รถถังจะตอ้ งรวมอาํ นาจการยิงตอ่ เป้ าหมายรถถงั
เป็นอนั ดบั แรก ตอ่ มาคือรถสายพานลาํ เลียงพลห้มุ เกราะ สาํ หรับ ป. และ ค. จะทาํ การยิงข่มและทาํ ลาย
อาวธุ นาํ วถิ ีตอ่ สูร้ ถถงั รวมทงั ส่วนเฝ้ าระวงั ของขา้ ศึก ถา้ รูปขบวนขา้ ศกึ ปรบั เป็นการเดินเทา้ ความเร่งดว่ น
จะเปลียนเป็นการทาํ ลายขา้ ศึกทีทาํ การเจาะ

๕) หากการโจมตีของขา้ ศกึ ในเมอื งมีความคืบหนา้ จะตอ้ งเพิมอาํ นาจการยิงเพือแยกทหารราบ
ออกจากรถถงั และรถรบ โดย ป.ฝ่ ายเราตอ้ งรวมกาํ ลังยิงไปยงั ทหารราบของฝ่ ายเข้าตี ในภารกิจการยิง
ตอ่ ตา้ นการยิง และทาํ ลายการเพิมเติมกาํ ลงั ทมี ุง่ หนา้ เขา้ มาในเมอื ง

๖) การเป็นฝ่ ายริเริมได้กาํ หนดความเร่งด่วนในการยิงสนับสนนุ ให้กบั การตีโตต้ อบ โดยเมือทาํ
การยิงจะตอ้ ง เตรียมพรอ้ มทาํ การเปลียนทีตงั ยิงเขา้ ทตี งั ยงิ สาํ รองทเี ตรียมไว้เพือหลีกเลียงการยงิ ต่อต้าน
ป.ของขา้ ศึก

๗) หมวดเครืองยิงลูกระเบดิ ของกองพนั อาจวางลําไปขา้ งหนา้ เพอื สนบั สนุนหมวดลาดตระเวน
และเมอื หมวดลาดตระเวนทาํ การถอนตวั จะเขา้ ทีตงั ยงิ ทีสามารถใหก้ ารสนบั สนนุ ไดท้ งั กองพนั

- ๗๒ -
๘) ในระดบั หมวดและระดบั กองรอ้ ย แผนการยิงประกอบดว้ ย การยงิ สงั หารบคุ คล สิงอปุ กรณ์
และอาวธุ ยิงสนบั สนนุ ซึงผูบ้ งั คับกองร้อยจะวางแผนการยงิ ป. และ ค. ในกรณีฉุกเฉินรอบทมี นั ตังรับ
และเหนอื ทมี นั ตงั รับสาํ หรับการสนบั สนุนอยา่ งใกลช้ ิด
๙) ผูบ้ งั คับกองร้อยจะตอ้ งมอบหนา้ ทีใหผ้ ูบ้ งั คบั หมวดทีมีทีมนั ใกลเ้ สน้ ทางการรุกคืบหนา้ ของ
ขา้ ศึกกาํ หนดการยิงป้องกนั ขนั สุดทา้ ยใหก้ บั อาวุธภายในหมวด กาํ หนดเขตการยงิ ของปื นกลและแนว
ป้ องกนั ขันสุดทา้ ย ซึงทีมนั เหล่านีจะเลือกไวส้ ําหรับการยงิ กวาดในเขตและสนบั สนนุ ซึงกันและกนั ใหก้ ับ
หน่วยขา้ งเคียง สาํ หรบั แนวป้ องกนั ขนั สุดทา้ ยจะทาํ การยงิ เมอื ไดร้ บั สัญญาณตามแผนจากยามคอยเหตุ
ของหมวดทอี ยขู่ า้ งหน้า การทดสอบแนวป้ องกนั ขนั สุดทา้ ยจะตอ้ งร่วมกระทาํ พร้อมกันเพือขยายผลการยิง
อดุ ช่องวา่ งพืนทอี ับกระสุน โดยเพิมอาํ นาจการยงิ จาก

การยิงของพลซ่มุ ยิง
เครืองยงิ ลกู ระเบดิ จากปื นเล็ก
ทนุ่ ระเบิดและกบั ระเบิด
การยิงเล็งจาํ ลอง
๑๐) ผูบ้ งั คบั บญั ชาจะตอ้ งวางแผนในการป้ องกนั ภยั ทางอากาศ เช่นการใชส้ ติงเกอร์ และวลั แคน
ทาํ การป้ องกนั ภยั ทางอากาศเป็นวงรอบ ซึงตาํ แหน่งทตี งั ยิงสําหรับการยิงป้องกนั ภยั ทางอากาศระยะไกล
ในพืนทีสิงปลูกสร้างเป็นข้อจาํ กดั การเคลือนยา้ ยระบบอาวธุ เขา้ ทมี นั ในการตงั รับอาจใชก้ วา้ นลากเขา้ ไป
หรือใชก้ ารขนส่งทางอากาศ โดยทตี งั ยงิ ทเี หมาะสม อาจใชห้ ลงั คาของอาคารหรือโรงจอดรถเพราะช่วยให้
เห็นเป้ าหมายไดด้ ีกวา่ ซึงการใช้สติงเกอร์และวลั แคน อาจไดร้ ับมอบภารกจิ ในการชว่ ยโดยตรง หรือช่วย
ส่วนรวมใหก้ บั กองพนั
ช. การใช้ทหารช่าง ทหารชา่ งภายใตก้ ารควบคุมของกองพนั อาจไดร้ ับมอบใหไ้ ปสมทบกับ
กองร้อยหรือหมวด ซึงตามปกติหนว่ ยขนาด ๑ หมวด/กองร้อยทหารช่าง จะสนบั สนนุ ใหก้ ับกองพนั /กอง
พนั เฉพาะกิจ โดยผูบ้ งั คบั บญั ชาจะพิจารณางานทางการชา่ งในการเพิมความสามารถในการอยรู่ อด การ
เคลอื นที และยบั ยงั ขดั ขวางการเคลือนที ซึงงานของทหารช่างในการตงั รับในพืนทสี ิงปลกู สรา้ ง
ประกอบดว้ ย
การสรา้ งเครืองกีดขวางและดาํ เนินการตอ่ ซากปรักหกั พงั
ถากถางพืนยงิ
วางทุ่นระเบดิ
เตรียมเสน้ ทางดา้ นหลงั
เตรียมทีมนั รบ
ซ. การใช้กองร้อยต่อสู้รถถงั ตามปกติจะใช้ รอ้ ย.ตถ. สนบั สนนุ ใหก้ ับส่วนระวงั ป้ องกนั ของกอง
พนั โดยทาํ การยงิ ต่อสู้รถถงั ในระยะไกลบริเวณหน้าแนวตงั รบั หลกั ซึงอาจแบ่งมอบใหก้ บั กองร้อย

- ๗๓ -
ทาํ การคุม้ กนั เสน้ ทางทีคาดวา่ รถรบหุ้มเกราะของขา้ ศึกจะเข้ามา และเมอื ส่วนระวงั ป้องกนั ทาํ การถอนตวั
รอ้ ย.ตถ. จะทาํ การสนบั สนุนส่วนรวมใหก้ บั กองพนั หากภยั คกุ คามมใิ ช่รถรบหุม้ เกราะ หรือภมู ปิ ระเทศ
จาํ กดั การใชร้ ะบบจรวดนาํ วถิ ีโทว์ (TOW) หมวด ตถ. และกองร้อยส่งทางอากาศรวมทงั หน่วยโจมตีทาง
อากาศ จะใชเ้ ครืองยงิ ลูกระเบดิ เอ็ม.เค.๑๙ (MK19) และ ปก. .๕๐ นิว ทาํ การยงิ สนบั สนุนให้กบั หนว่ ย
ตงั รับ

ด. การใช้หมวดลาดตระเวน ขึนอยกู่ บั สถานการณแ์ ละภมู ิประเทศ โดยหมวดลาดตระเวนของกอง
พนั อาจถกู จดั เป็นส่วนระวงั ป้องกนั ดา้ นหนา้ ของพืนทีสิงปลกู สรา้ งเพือทาํ การแจง้ เตือนการกระทาํ ของ
ขา้ ศึกแต่เนิน หลงั จากส่วนระวงั ป้ องกนั ถอนตัว หมวดลาดตระเวน อาจไดร้ บั ภารกิจให้วางกําลงั ทางทาง
ปี ก หรือเป็ นกองระวงั หลงั หรือปฏิบตั ิการตงั รับในเขตหรือเป็นทมี นั รบของกองพนั หรือใชเ้ ป็นกองหนุน

ต. การใช้เรดาห์เฝ้ าตรวจภาคพืนดิน จะไดผ้ ลดีเมอื วางไวร้ อบนอกของพืนทีสิงปลูกสร้างเพือลด

ขอ้ จาํ กดั ในการตรวจคน้ เป้ าหมายในพนื ที ในขณะทีทศั นวสิ ัยไมด่ ี หากมีเสน้ ทางทเี หมาะสม เรดาห์เฝ้ า
ตรวจภาคพืนดินสามารถใชเ้ ฝ้ าตรวจพนื ทีปฏิบตั ิการตงั รับได้และเนืองจากระยะปฏิบตั ิการในพืนทสี ิง
ปลกู สรา้ งถกู จาํ กดั ใหแ้ คบลง เรดาห์เฝ้ าตรวจจึงมีจดุ ออ่ นง่ายต่อการถูกตรวจพบและการยิงเลง็ ตรง
๔ - ๑๔ เวลาทีมีอยู่

ผู้บงั คับบญั ชาจะตอ้ งจดั ลาํ ดบั ความเร่งด่วนของงานตามเวลาทีมีอยู่ และมีหลายงานสามารถ
ปฏิบตั ิให้สาํ เร็จไดใ้ นเวลาเดียวกนั ทงั นีความเร่งด่วนในการเตรียมการขึนอยกู่ บั การสังการของ
ผูบ้ งั คบั บญั ชา ซึงในการตงั รับ ความเร่งด่วนในการปฏิบตั ิมลี าํ ดบั ดังนี

ก. จัดการระวังป้ องกัน หนว่ ยจะต้องจดั การระวงั ป้ องกนั โดยรอบอย่างรวดเร็ว โดยการวางกาํ ลงั
ในทิศทางทคี าดวา่ ข้าศกึ จะเขา้ มา อยา่ งนอ้ ยทีมนั ละ ๑ คน ในขณะจดั เตรียมทีมนั รวมทงั ใหค้ วามสําคญั
และมงุ่ เน้นต่อแผนการลาดตระเวนและการต่อตา้ นการลาดตระเวน

ข. การแบ่งมอบพืนทรี ับผิดชอบ กาํ หนดเขตพืนทีปฏิบตั ิการตงั รับ รวมถึงพืนทีการยงิ และการ
ดาํ เนินกลยทุ ธ์ของหน่วยโดยไม่รบกวนขดั ขวางหน่วยข้างเคียงและมีการประสานความร่วมมอื กันระหวา่ ง
หนว่ ย และมคี วามรับผิดชอบตอ่ เสน้ ทางหลกั ในการเคลือนทเี ขา้ มาของขา้ ศกึ ร่วมกนั สาํ หรับพืนที
สิงก่อสรา้ งติดๆ กนั ซึงไมจ่ าํ กดั การตรวจการณ์และการเคลือนที เสน้ แบง่ เขตควรกาํ หนดตามถนนหรือ
ซอย โดยหนว่ ยรับผิดชอบทงั สองดา้ นของถนน แต่ถา้ มีอาคารทึบแขง็ แรง ดา้ นหนา้ ถนน เสน้ แบ่งเขตควร
กาํ หนด ขยายไปดา้ นหนึงของถนน (รูปที ๔-๖)

ค. การถากถางพืนยงิ ในพืนทีสิงปลูกสร้าง ผู้บงั คับบญั ชาตอ้ งการอาคารทมี ีเศษซากหกั พัง
พอควร รวมทงั โครงสร้างทีมีการป้องกนั ทีดีกวา่ และมพี ืนการยิงสําหรบั ฝ่ ายตงั รับ กรณีทีเพดานชนั ลา่ ง
สามารถรบั นาํ หนักได้ดีควรพงั ทลายพนื ของชนั บนก่อนเริมการรบเพือเพิมการป้องกนั การยงิ ของอาวธุ เลง็
จาํ ลอง อาคารทีพังทลายสามารถเพิมพืนการยิงและสร้างเป็นเครืองกีดขวางการเคลือนทขี องขา้ ศกึ ได้

- ๗๔ -
แตถ่ า้ มกี ารพงั ทลายมากเกินไปจะลดการกาํ บงั จากการยงิ เล็งตรง จงึ ควรรวมอาคารทีพงั ทลายไวใ้ นแผน
เสน้ ทางการถอนตัวและการตโี ต้ตอบ

เส้นแบ่งเขต

รูปแบบการแบ่งเขตแบบกาํ กึง
รูปที ๔-๖ เส้นแบ่งเขตในพืนทีสิงปลูกสร้าง

ง. การเลือกและการเตรยี มทมี นั สู้รบขันตน้ ผู้บงั คับบญั ชาควรเลือกทีมนั ในทางลึก ซึงหน่วยควร
จดั เตรียมทีมนั ในไมช่ า้ ทีกาํ ลงั มาถงึ และทาํ การปรับปรุงตลอดเวลาทีทาํ การตงั รับ การเคลือนยา้ ยกาํ ลงั /
เพิมเติมกาํ ลงั ของขา้ ศกึ บางครงั เกิดขึนในพืนทรี ะหวา่ งทีมนั หรือดา้ นหลงั ทีมนั ของฝ่ ายเรา ดังนนั แต่ละที
มนั จะตอ้ งจดั ใหม้ กี ารตงั รบั แบบรอบตวั รวมทงั การปฏิบตั ิดงั นี

๑) หลีกเลียงการเปิดเผยตัวนอกอาคารเมือเขา้ ทีมนั ตงั รับแลว้
๒) ปกปิ ดหรืออดุ ช่องหน้าตา่ งและช่องเปิ ดอืนๆ เพือป้ องกนั มใิ หข้ ้าศกึ ตรวจพบและใชร้ ะเบดิ มือ
รวมทงั ขา้ ศึกตอ้ งไม่รูว้ ่าชอ่ งเปิดใดมีฝ่ ายตงั รับซ่อนอยู่
๓) เคลอื นยา้ ยวสั ดุทตี ิดไฟไดเ้ พือลดอนั ตรายจากการยิง เนืองจากเพลิงและควนั ไฟจะส่งผลต่อ
ฝ่ ายตงั รับในการซอ่ นพรางตอ่ กาํ ลงั ทีโจมตี รวมทงั รวบรวมเครืองมอื ดบั เพลิงไวด้ ว้ ยกัน นอกจากนี
อนั ตรายจากเพลิงจะส่งผลกระทบตอ่ กระสุนทใี ชใ้ นการตงั รับ ซึงกระสนุ ส่องวถิ ีและกระสุนเพลิงไม่
สามารถใชไ้ ดเ้ มอื เกิดเพลิงไหม้

- ๗๕ -
๔) ปิ ดไฟและแกส๊ ซึงทงั ก๊าซหุงตม้ และก๊าซธรรมชาติสามารถระเบิดได้ โดยก๊าซธรรมชาติจะ
เป็นพิษถา้ ไม่สวมหนา้ กากป้ องกนั ส่วนก๊าซหุงตม้ ไมเ่ ป็ นพิษแต่หนกั กว่าอากาศ เมือมกี ารรวั จะไปแทนที
ออกซิเจน ในพืนทีปิดจะทาํ ใหส้ าํ ลกั หายใจไมอ่ อก ดงั นนั ทอ่ ส่งกา๊ ซและไฟฟ้ าควรถกู ตดั จากแหลง่ จ่าย
สาธารณูปโภคของเมอื ง
๕) เลือกทมี นั แบบไมด่ ัดแปลง ควรหลกี เลยี งการยิงจากทสี งั เกตเหน็ ไดง้ ่าย เชน่ หอคอยของ
โบสถ์
๖) ทาํ การพรางทีมนั
๗) เสริมความแข็งแรงทีมนั จากวสั ดุทหี าได้เชน่ เตียงนอน เฟอร์นิเจอร์ และอืน ๆ
๘) อุดชอ่ งบนั ไดและประตู ดว้ ยลวดหนามหรือวสั ดุเพือจาํ กดั การเคลอื นทขี องขา้ ศกึ รวมทงั ทาํ
การเจาะช่องระหวา่ งพืนและระหวา่ งหอ้ งเพอื ใชเ้คลือนทใี นอาคารภายใตก้ ารกาํ บงั
๙) เตรียมแผ่นระยะยงิ แผนการยิง และภาพร่างเขตการยิง
๑๐) ติดตงั ฐานยงิ ปก. ในหอ้ งชนั ล่างใตถ้ ุนอาคาร และปิ ดเพือป้ องกนั ขา้ ศึกเมือไมใ่ ชง้ าน
๑๑) เพิมเติมเสบยี งและเวชภณั ฑ์ เป็นพเิ ศษ
จ. การสถาปนาการติดต่อสือสาร ผู้บงั คับบญั ชาตอ้ งพิจารณาผลกระทบของพนื ทสี ิงปลูกสร้างต่อ

การติดต่อสือสารเมอื ทาํ การแบง่ เวลาในการสรา้ งข่ายการติดตอ่ สือสาร เช่น ขอ้ จาํ กดั การมองเห็นจะส่งผล
กระทบต่อทศั นสญั ญาณและวิทยุสือสาร ส่วนการวางสายบนถนนเสียงตอ่ ความเสียหายจากการถกู ทบั ถม
และยานพาหนะทีสัญจร รวมทงั เสียงทเี กิดจากการรบในพนื ทีสิงปลูกสรา้ งจะดงั กวา่ ปกติทาํ ใหก้ ารใช้
เสียงสัญญาณไดย้ ินไมช่ ดั เจน ดงั นนั เวลาทใี ชใ้ นการสถาปนาการตดิ ตอ่ สือสารในภมู ิประเทศทีมอี ุปสรรค
ตอ้ งใชเ้ วลามากกวา่ จงึ ตอ้ งใชเ้ ทคนิคในการวางแผน ดงั นี

๑) วางสายผ่านอาคารใหม้ ากทีสุด เพอื ความปลอดภยั สงู สุด
๒) ใชร้ ะบบโทรศพั ทท์ ีมอี ยู่จะปลอดภยั เมือสายเคเบลิ อยใู่ ตด้ นิ
๓) วางระบบวิทยแุ ละระบบสง่ กระแสไฟฟ้ าสาํ รองไวท้ ีชนั ๒ หรือชนั ๓ ของอาคาร
๔) ใชพ้ ลนาํ สารทกุ ระดบั ตราบเทา่ ทีมีความปลอดภยั สูงสุด
ฉ. การวางเครืองกีดขวางและทุ่นระเบดิ เพอื ประหยดั เวลาและทรพั ยากรในการตงั รับ
ผูบ้ งั คบั บญั ชาตอ้ งใหค้ วามสําคญั ในการสรา้ งเครืองกีดขวางจากวสั ดุทหี าได้ เชน่ รถยนต์ รถราง เศษอิฐ
เศษหิน ซึงเครืองมือกอ่ สร้างของพลเรือนและวสั ดุทใี ชต้ อ้ งจดั ทาํ รายการควบคมุ ใชส้ ําหรับงานทางการ
ช่างและทดแทนเครืองมอื ทีเสียหาย โดยประสานความร่วมมือกบั เจา้ หนา้ ทฝี ่ ายพลเรือนทเี กียวขอ้ งกอ่ น
การใช้งาน รวมทงั ทหารชา่ งตอ้ งจดั เตรียมทรพั ยากรและใหค้ าํ แนะนําในการวางเครืองกีดขวางและทุน่
ระเบดิ ซึงหลกั การในการใช้ทนุ่ ระเบดิ ไม่เปลียนแปลงในพืนทสี ิงปลูกสร้างเวน้ เทคนิคการใช้ เชน่ การวาง
ทนุ่ ระเบิดบนถนนลาดยางและคอนกรีตมคี วามยงุ่ ยาก อีกทงั เครืองกีดขวางตอ้ งผูกติดกับอาคารและซาก

- ๗๖ -
ปรักหกั พังเพือเพิมประสิทธิผลในการบงั คบั ขา้ ศกึ เขา้ ไปในทิศทางทีตอ้ งการ โดยเฉพาะทนุ่ ระเบดิ ชนิด
โปรยหวา่ นจะไดผ้ ลบริเวณรอบนอกของเมอื งหรือในสวนสาธารณะซึงมกั มีพืนทีจาํ กดั (ดผู นวก ช)

ช. การปรับปรงุ ทีตังยิง เมอื มีเวลาในทกุ ทีมนั รวมทงั ทีมนั สํารองและทีมนั เพิมเติม จะตอ้ งเสริม
ความแข็งแรงโดยใชถ้ ุงทรายและจดั ทาํ ทกี าํ บงั เหนือศีรษะ ซึงใชท้ หารชา่ งเป็นผชู้ ่วยให้ปฏิบตั ิไดถ้ กู ตอ้ ง
ทนั เวลา (ดผู นวก จ)

ซ. การเลือกเสน้ ทางและทาํ เครืองหมายระหว่างทีมนั โดยการลาดตระเวนของฝ่ ายตงั รับจะชว่ ยใน
การเลือกเสน้ ทางเคลอื นทรี ะหว่างทีมนั ของฝ่ ายตงั รับ ซึงการเคลือนทีเป็นหวั ใจสําคญั ของการสู้รบใน
พืนทีสิงปลกู สรา้ ง ดงั นนั การเลือกและทาํ เครืองหมายเส้นทางแตเ่ นนิ จะเพิมความไดเ้ ปรียบของฝ่ายตงั รับ

ตอนที ๔

การควบคมุ บังคบั บัญชา
ผู้บงั คับบญั ชาจะตอ้ งอยใู่ นจุดทีสามารถควบคุมการปฏิบตั ิของหนว่ ยไดท้ กุ สถานการณ์ของการตงั
รบั โดยเฉพาะในสิงแวดลอ้ มพืนทปี ลกู สรา้ งจะมคี วามยงุ่ ยาก เนืองจากเครืองกีดขวาง ทศั นวสิ ัยทจี าํ กดั
ปัญหาการตดิ ตอ่ สือสาร รวมทงั สภาพการรบทีรนุ แรง มาตรการควบคุมโดยใช้แผ่นภาพ เป็นเทคนิคที
สามารถนาํ มาใชไ้ ดใ้ นพืนทีสิงปลกู สร้าง โดยแนวคิดการใชเ้ สน้ ทางถนนเป็นตวั กาํ หนดพิกดั ทีตงั ซึงเป็น
มาตรการควบคุมทีนิยมใชก้ นั ทกุ สายการบงั คบั บญั ชา
๔ - ๑๕ สิงอํานวยความสะดวกของทีบังคับการ
สิงอาํ นวยความสะดวกของทีบงั คบั การจะตงั ไวอ้ ยา่ งซ่อนเรน้ ซึงมีจดุ ออ่ นทีตอ้ งทาํ การ รปภ.
โดยรอบ โดยจะตงั ไวใ้ กลก้ ับกองหนุนเพือความปลอดภยั แตเ่ มอื ตงั ไวร้ ะหวา่ งหน่วย จะตอ้ งทาํ การระวงั
ป้ องกนั สิงอาํ นวยความสะดวกของทีบงั คบั การเอง อีกทงั การประกอบกาํ ลงั ของทบี งั คบั การตอ้ งไม่
ซับซอ้ น เพอื ความง่ายในการเคลือนยา้ ย และเนืองจากซากปรกั หกั พงั จะกีดขวางการเคลือนทตี ิดตาม
ร่องรอยเทา้ และยานพาหนะ ทก.รอ้ ย. และ ทก.พัน จะต้องเตรียมเครืองมอื สือสารและสิงอปุ กรณ์ทีจาํ เป็น
สาํ หรับการปฏิบตั ิการติดหลังไปกบั กาํ ลงั พลของหนว่ ย
๔ - ๑๖ การจดั กําลังในการตังรับ
สนามรบแบง่ พืนทีปฏิบตั ิการ ออกเป็น ๓ ส่วน ไดแ้ ก่ พืนทีทางลึก พืนทรี ะยะใกล้ พืนทีเขตหลงั
ซึงในหนว่ ยระดบั กองพนั จะปฏิบตั กิ ารในระยะใกล้ โดยฝ่ ายตงั รับแบง่ กาํ ลงั ออกเป็น ๓ พืนที คือ พืนที
ระวงั ป้องกนั พืนทีการรบหลัก และพืนทีส่วนหลงั สาํ หรับการตงั รับในพืนทีสิงปลูกสร้างกองพนั จะไดร้ ับ
มอบภารกิจในพืนทีดงั กลา่ ว (รูปที ๔-๗) ตามภารกิจของกรมหรือกองพล คือ

ขนพร. - ๗๗ - พืนทที างลกึ

พืนที ขนพร.
ระวังป้ องกัน
พืนทรี ะยะใกล้
พืนที
การรบหลัก

พื นที ส่ วน พืนทเี ขตห ลงั
หลัง

รูปที ๔-๗ แผนภาพสนามรบ

ก. การปฏบิ ัตกิ ารระวังป้ องกนั สงครามการตงั รบั จะเริมจากการประกอบกาํ ลงั ทหารปฏิบตั ิการ
เพอื ความปลอดภยั ไปขา้ งหนา้ ของกาํ ลงั หลกั การปฏิบตั ิการระวงั ป้องกนั จะประกอบดว้ ยการปฏิบตั ิการ
ป้ องกนั การคุ้มกนั การสนบั สนุนการรบ การสนบั สนุนการชว่ ยรบ และการปฏิบตั ิการเป็นส่วนกาํ บงั ซึง
ผูบ้ งั คบั บญั ชาตอ้ งตดั สินใจใชก้ าํ ลงั ใหเ้ หมาะสมบนพนื ฐานของปจั จยั METT-T โดยการใชอ้ าํ นาจกาํ ลงั
รบทีมีอยเู่ ขา้ ทาํ ลายขา้ ศกึ และชะลอความหนนุ เนืองในการเขา้ ตีของขา้ ศึกใหช้ า้ ลง ไดแ้ ก่ การใช้ ป.,
ยทุ ธวิธีทางอากาศ รวมทงั ฮ.โจมตี ในการสูร้ บเมือเริมเขา้ สู่สงคราม

๑) การปฏิบตั ิการระวงั ป้องกนั เพิมเติมใหก้ ับการตงั รับ โดย
ทาํ การแจง้ เตือนฝ่ ายตงั รับเกียวกบั กาํ ลัง ทีตงั ทิศทาง และการสนับสนนุ การเข้าตีของ

ขา้ ศึก
ทาํ การหน่วงเหนียวขา้ ศึกในระลอกแรก
ชิงความริเริมในการปะทะแต่เนินตอ่ กาํ ลงั ขา้ ศกึ
ทาํ การลวงขา้ ศึกใหเ้ ขา้ ใจวา่ เป็นทีตงั จริงของกาํ ลงั ตงั รับหลกั

๒) การถอนตวั ของส่วนระวงั ป้ องกนั ตอ้ งปฏิบตั ิภายใต้สภาวะข้าศึกไม่กดดนั ซึงในสภาพ
แวดลอ้ มของพืนทีสิงปลกู สรา้ งอาจมีความยงุ่ ยากในการส่งมอบของส่วนระวงั ป้องกนั ใหก้ ับกาํ ลงั รบหลกั
ในพืนที แตต่ อ้ งทาํ การส่งมอบใหส้ าํ เร็จอยา่ งราบรืนเพือป้ องกนั ความหนุนเนืองในการเขา้ ตีของขา้ ศกึ

ข. พืนทีการรบหลัก การบแตกหกั จะเกิดขึนในพืนทีการรบหลัก โดยผู้บงั คบั กองพนั จะพิจารณาภยั
คกุ คามในการกาํ หนดใหก้ องรอ้ ยวางกาํ ลังทขี อบดา้ นหนา้ ของเมือง หรือ ณ ทมี นั รบในทางลกึ ซึงทงั สอง
กรณีจะทาํ ให้เพิมความเขม้ แขง็ ใหก้ บั ฝ่ ายป้ องกนั ทีทาํ การตงั รบั ตามแผนในภูมิประเทศใกล้เคยี งและทาง
ปี ก ทงั นีผูบ้ งั คบั กองพนั ตอ้ งจดั กาํ ลงั ส่วนระวงั ป้องกนั ในพืนทขี า้ งหนา้ เพือทาํ หน้าทีแจง้ เตือนแต่เนิน

- ๗๘ -
และต่อตา้ นข่าวกรองของขา้ ศกึ ในพืนทกี ารวางกาํ ลงั ตงั รับของกองพนั (การต่อตา้ นการลาดตระเวน) (รูป
ที ๔-๘) ไดแ้ ก่

ขนม./ขนพร. ขนม./ขนพร.

ทีมนั
ทางลกึ

รูปที ๔-๘ พืนทกี ารรบหลัก

๑) ขนาดและทีตงั ของทมี นั รบในพืนทีปฏิบตั ิการของกองพนั ขึนอยกู่ บั ชนิดการตอ่ ตา้ นขา้ ศกึ
และความสามารถในการเคลือนทรี ะหว่างทมี นั ไปยงั พืนทีสกดั กนั การรุกของขา้ ศึก ซึงอาจตอ้ งวางชุด ตถ.
ทีคุม้ กันโดยทหารราบบริเวณขอบหนา้ ในขณะการตงั รับหลกั วางกาํ ลังในทางลกึ

๒) กําลงั ทจี ดั ในทีมนั รบบริเวณขอบหนา้ ของเมอื ง ควรจะ
ทาํ การแจง้ เตือนการเขา้ มาของขา้ ศกึ ล่วงหนา้
ทาํ การรบปะทะกบั ขา้ ศกึ ในระยะไกล
ทาํ การลวงขา้ ศกึ ใหเ้ ขา้ ใจวา่ เป็นพืนทีตงั รบั จริง

๓) เมือกาํ ลงั ขา้ ศกึ เขา้ มาและดาํ เนินกลยุทธ์เขา้ ยดึ ทีหมายขนั ต้น ฝ่ายป้องกนั ตอ้ งใชอ้ าํ นาจการยิง
ทีมอี ยยู่ ิงทาํ ลายกาํ ลังขา้ ศกึ และยงิ ขม่ อาวธุ ยงิ เล็งตรงทใี หก้ ารสนบั สนนุ การเขา้ ตีทางภาคพนื ดนิ โดย ถ.
และรถสายพานลาํ เลียงพล (BFV) จะเข้าทาํ การรบในทนั ทีทอี ยใู่ นระยะยงิ หวงั ผลของอาวุธตอ่ สูร้ ถถงั

๔) เมอื การเข้าตีของขา้ ศกึ ขยายผลมากขึน การเพิมคณุ ลกั ษณะผูน้ าํ หน่วยทหารขนาดเลก็ เป็ น
สิงจาํ เป็น ซึงผูบ้ งั คบั หมแู่ ละผูบ้ งั คบั หมวดจะตอ้ งรับผิดชอบการสู้รบโดยอิสระ ดงั นนั ผนู้ ําหน่วยจงึ ตอ้ งมี
ความเขา้ ใจเกียวกับแนวความคิดของผูบ้ งั คบั บญั ชาในการตงั รับ

ค. พืนทีส่วนหลัง จะอยหู่ ลงั ของพืนทกี ารรบหลกั เป็นพืนทีใหส้ นบั สนนุ การส่งกาํ ลงั และซ่อม
บาํ รุงไปขา้ งหน้า ซึงในระดบั กองพนั พนื ทีสิงอํานวยความสะดวกส่วนหลังจะอยใู่ นพืนทกี ารรบหลกั โดย
ไมจ่ ดั เป็นส่วนกาํ ลังรบแต่เป็นส่วนของการตงั รบั ในสภาวะฉุกเฉินทาํ การป้องกนั เพือความอยรู่ อด

- ๗๙ -
๔ – ๑๗ การตีโต้ตอบ โดยใชท้ หารราบหนกั ทีเป็นกองหนุนสนบั สนุน โดยรถสายพานลาํ เลียงพล (BFV )
หรือ ถ. เตรียมการตโี ตต้ อบเพือสถาปนาทีมนั ใหม่ ยบั ยงั การเจาะของขา้ ศึก และป้ องกนั ทางปีก รวมทงั
สนบั สนุนการยิงใหก้ บั กาํ ลังทผี ละจากการปะทะ และการถอนตัวจากทมี นั ทีมีอนั ตราย ซึงเมอื กองหนนุ
ไดร้ ับมอบภารกิจใหท้ าํ การตีโตต้ อบกับหน่วยทเี พิมเติมกาํ ลงั จะทาํ การโจมตีในพืนทขี องตน หรือใชก้ าร
ตีโต้ตอบเป็นความพยายามหลกั ทาํ ใหง้ า่ ยตอ่ การประสานความร่วมมอื โดยเฉพาะเมอื ทาํ การตีโตต้ อบ
ผา่ นทีมนั ของหนว่ ย
๔ - ๑๘ การตังรับภายใต้ทัศนวิสัยจํากัด

ผบ.หนว่ ย เฉพาะกิจและผู้บงั คับชุดสามารถคาดเดาไดว้ า่ ฝ่ ายเขา้ ตีจะใชส้ ภาวะจาํ กดั การมองเหน็
ในการปฏิบตั ิการทีจาํ เป็ นเพือดํารงความหนนุ เนืองใหก้ บั การเขา้ ตใี นเวลากลางวนั (ดขู อ้ มลู เพิมเติมจาก
ผนวก ด)

ก. ผู้บงั คับหนว่ ยจะตอ้ งใชม้ าตรการตงั รับต่อตา้ นการโจมตีในเวลากลางคนื ไดแ้ ก่
๑) ทาํ การโยกยา้ ยทมี นั ตงั รับและยทุ โธปกรณก์ อ่ นคาํ มืด เพือลวงขา้ ศึกใหเ้ ขา้ ใจวา่ เป็นทมี นั

ใหม่ (หมหู่ รือชุดยิง สามารถเปลียนทีตงั ไปเรือยๆ ตามอาคารใกล้เคียง โดยยงั คุ้มครองเสน้ ทางเดิมที
ขา้ ศึกจะเขา้ มา)

๒) พืนทีว่างระหวา่ งหนว่ ย ทคี ุม้ ครองจากการยิงทีมกี ารตรวจการณ์ในเวลากลางวนั จะตอ้ งทาํ
การยดึ ครองหรือลาดตระเวนเฝ้ าตรวจในเวลากลางคนื

๓) เรดาห์ เครืองมอื เฝ้ าตรวจระยะไกล และเครืองมอื ตรวจการณใ์ นเวลากลางคนื จะตอ้ งวาง
การตรวจตราบนถนนและพืนทีโล่งแจง้

๔) ทนุ่ ระเบิดรบกวน อุปกรณ์ทาํ เสียงเทียม ลวดหนามกีดขวางเทา้ และทีตรวจการณ์ เหมาะที
จะใช้ในเส้นทางรองทีคาดวา่ ขา้ ศกึ จะเขา้ มาเพือทาํ การจา้ งเตือนแตเ่ นิน

๕) ทีตรวจการณ์ แผนการยิงเล็งตรง การลาดตระเวน และเครืองมอื ต่อต้านการบกุ รกุ ควร
นาํ มาใชเ้ พือป้ องกนั การเพิมเติมกาํ ลัง

๖) ควรวางแผนการส่องสวา่ ง รวมทงั การใช้ประโยชน์จากไฟทาง ไฟสนามกีฬา และอืนๆ
๗) ใชก้ ารยิงเลง็ จาํ ลอง เครืองยงิ ลูกระเบิดจากปื นเลก็ และระเบิดมอื เมอื ขา้ ศึกหยงั กาํ ลงั การตงั
รับเพือหลีกเลียงการเปิ ดเผยทีมนั ตงั รับ
ข. เมือขา้ ศกึ เริมการโจมตีในเวลากลางคืน การยิงฉากป้องกนั ขนั สุดทา้ ยจะเริมต้นทาํ การยิงเมอื
ไดร้ ับสญั ญาณตามแผน อาวุธทกุ ชนดิ ทีหน่วยได้รบั แจกจา่ ย รวมทงั อาวธุ รถถงั และอาวุธปืนเลก็ ยาว
ประจาํ กายจะทาํ การยงิ ในเขตทีไดร้ ับมอบหมาย ระเบดิ มือและทนุ่ ระเบดิ สังหารควรนาํ มาใชเ้ พิมเติม
นอกจากการยงิ ไปยงั ขา้ ศึกทีเขา้ มายงั ทมี นั

- ๘๐ -
ค. ฝ่ ายตงั รบั ควรเคลือนยา้ ยไปยงั ทีมนั ในเวลากลางวนั กอ่ นเริมแสงทางทหาร นอกจากนีการโจมตี
ขณะทีมีหมอกลง ฝนตก มพี ายุหิมะ สามารถประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคนคิ จากการตงั รับในเวลากลางคืนเป็นจาํ นวน
มาก ทงั นีผู้บงั คับบญั ชาจะต้องมคี วามเชือมนั ในผูต้ รวจการณ์หนา้ และการลาดตระเวนในทุกๆสถานการณ์

ตอนที ๕
แผนการตังรับของกองพัน
แผนการตงั รับของกองพนั ในพืนทสี ิงปลูกสร้าง ขึนอยกู่ บั ขนาดและทีตงั ซึงตอ้ งพิจารณาปัจจยั
หลายประการก่อนการจดั ทาํ แผน
๔ - ๑๙ การตังรบั ในหมู่บ้าน
พืนทีปฏิบตั กิ ารของกองพนั เฉพาะกิจ อาจประกอบดว้ ยหมู่บา้ นทใี ชเ้ ป็นจดุ ตา้ นทานในการตงั รับ
ซึงนิยมใชใ้ นพืนทีสิงปลูกสรา้ งในกรณหี มบู่ า้ นตงั อยบู่ นเสน้ ทางทีสามารถใช้ความเร็วในการเคลือนทเี ขา้
มาและอยรู่ ะหว่างเครืองกดี ขวางทเี ป็นอปุ สรรค โดยการใชห้ มบู่ า้ นดังกลา่ ว กองพนั เฉพาะกิจจะตอ้ ง
ควบคุมในพืนทดี ้านสูงของหมบู่ า้ นเพือป้ องกันข้าศึกใชเ้ ป็นทีตงั ยงิ ทาํ การยิงเขา้ มาในหมบู่ า้ น
ก. กาํ ลัง ถ. และรถสายพานลาํ เลียงพล(BFV) ส่วนใหญ่ของ พนั .ฉก. จะวางกาํ ลงั ในพนื ทีวา่ งที
กวา้ งทีสุดสาํ หรับการดาํ เนินกลยทุ ธ์ ( ณ ภมู ิประเทศสําคญั ทางปีกของหมบู่ า้ น) ร่วมกับการวางกาํ ลังของ
รถ ตถ. พนั .ฉก. (รถสายพานลาํ เลยี งพล และ/หรือ รสพ.ตดิ จรวดโทว)์ เมอื ส่วนระวงั ป้ องกันทาํ การถอน
ตวั และกองรอ้ ยและชุดปฏิบตั ิการรบตดิ พนั กบั ขา้ ศกึ รถสายพานลาํ เลียงพล และ/หรือ รสพ.ติดจรวดโทว์
จะทาํ หน้าทสี นับสนนุ การยงิ ณ ทีมนั ทางลึก
ข. แมว้ า่ การวางกาํ ลงั ของกองพนั เฉพาะกิจ จะช่วยป้ องกาํ ลังส่วนใหญข่ องขา้ ศกึ ทีคกุ คามทางดา้ น
หลงั และทางปี กของหมูบ่ า้ น อนั ตรายจากการเพิมเติมกําลงั ของหน่วยทหารขนาดเล็กทาํ ให้หมู่บา้ นจะตอ้ ง
เตรียมการสาํ หรบั การตงั รับรอบตวั
ค. ทหารชา่ งมคี วามจาํ เป็นสาํ หรับปฏิบตั ิการเคลือนทขี องชุด โดยจดั สมทบใหก้ บั กองรอ้ ยหรือชดุ
ปฏิบตั ิการของกองรอ้ ยในเมอื งเพือใหก้ ารสนับสนุนทางการช่างอยา่ งตอ่ เนอื ง เมอื กองร้อยหรือชุด
ปฏิบตั ิการของกองรอ้ ยถกู แยกใหโ้ ดดเดยี ว สําหรับทหารชา่ งทสี นบั สนนุ การสรา้ งทพี กั ใหห้ นว่ ยเฉพาะกิจ
ควรควบคุมแบบรวมการโดยผูบ้ งั คบั หน่วยเฉพาะกิจ นอกจากนีประโยชนข์ องทหารช่างอาจจดั ให้
สนบั สนนุ โดยตรงใหก้ ับกองรอ้ ยอืนหรือชดุ ปฏิบตั ิการของกองรอ้ ย รวมทงั จดั วสั ดุทมี คี วามเร่งด่วนใน
การสร้างเครืองกีดขวาง ระเบดิ ทาํ ลาย และทนุ่ ระเบิด ร่วมไปกับกองรอ้ ยหรือชุดปฏิบตั ิการของกองร้อย
ในหมู่บา้ น
ง. ผูบ้ งั คบั หนว่ ยเฉพาะกิจจะตอ้ งใชภ้ มู ิประเทศสําคญั ทางปีกของหมบู่ า้ นสําหรับดาํ เนินกลยทุ ธ์ใน
การป้องกนั การตงั รับของหม่บู า้ นจากการถกู แยกใหโ้ ดดเดียว รวมทงั จดุ ต้านทานในเมืองจะตอ้ งมคี วาม
มนั คงในการหยดุ ยงั ขา้ ศึกทีทาํ การโอบลอ้ มโดยใช้การตีโตต้ อบ (รูปที ๔-๙)

- ๘๑ -

รูปที ๔-๙ กองพนั ตังรบั ในหมู่บ้าน
๔ - ๒๐ การตังรับในเขต

ดว้ ยวิธีการตงั รับในหม่บู า้ น กองพนั เฉพาะกิจอาจไดร้ ับมอบภารกิจเป็นส่วนหนึงของพืนทีตงั รับ
ในเมือง (รูปที ๔-๑๐) จงึ ควรชิงความไดเ้ ปรียบจากโครงสรา้ งทีตงั อยู่ภายนอกชุมชนทาํ การแจง้ เตือน
การเขา้ มาแต่เนินและหนว่ งเหนียวขา้ ศกึ รวมทงั ใชค้ วามแข็งแรงภายในอาคารทาํ การตงั รบั อยกู่ บั ที ซึงจะ
ครอบคลุมพืนทีสีเหลียมขนาด ๔ – ๑๒ ช่วงตึก

รูปที ๔-๑๐ การตังรับในเขตของพืนทีสิงปลูกสร้าง

- ๘๒ -
ก. การเคลือนยา้ ยเขา้ วางกาํ ลงั ของกองพนั เฉพาะกิจ เริมจากหมวดลาดตระเวนทาํ การสาํ รวจพืนที
สิงปลูกสรา้ ง เพือเตรียมการลาดตระเวนหาทตี งั ของขา้ ศึก โดยบริเวณขอบนอกของพืนทซี ึงมพี ืนการยิงดี
ทีสุด กองพนั เฉพาะกิจควรวางกําลงั รสพ. (BFV ) และ รสพ.ติดจรวดโทว์ (TOW) รวมทงั ระบบอาวุธ
ตอ่ สู้รถถงั เพือทาํ การป้ องกนั ต่อสูร้ ถถงั ในระยะไกล
ข. บริเวณขอบหนา้ ทีมนั ควรประกอบด้วยอาคารทใี หญโ่ ต และกองพนั เฉพาะกจิ ควรจดั กาํ ลงั
ป้ องกนั ดา้ นหนา้ ของขอบหนา้ ทีมนั จากกองร้อยทีใชเ้พิมเติมกาํ ลงั โดยมุ่งกระทาํ ต่อรูปขบวนของขา้ ศกึ
และไมท่ าํ การรบปะทะกับขา้ ศกึ ในขนั แตกหกั ซึงความสาํ เร็จเกิดจากการซุ่มโจมตี การใชเ้ ครืองกีดขวาง
และการใชเ้ สน้ ทางทีมกี ารกําบงั และการซ่อนพรางเคลือนทผี า่ นอาคารในการผละจากการปะทะ แมว้ า่ การ
กระทาํ ของกําลงั ระวงั ป้ องกนั บริเวณขอบหน้าทีมนั กอ่ ใหเ้ กิดความสูญเสียและหน่วงเหนยี วขา้ ศกึ โดยไม่
ทาํ การรบแตกหกั แต่มิไดห้ มายถึงชยั ชนะของฝ่ ายตงั รับ เป็ นเพียงการคน้ หาส่วนเข้าตีหลกั ของขา้ ศกึ
หลงั จากนนั จะถกู ใชเ้ ป็นกองหนุนหรือใช้เพิมเติมกําลังใหก้ ับกองพนั หรือทาํ การตีโตต้ อบเพอื ทาํ ลายจดุ
ตา้ นทานของขา้ ศึก
ค. ฝ่ ายตงั รับบริเวณขอบหนา้ ทีมนั มีการจดั ทีมนั ลกั ษณะเดียวกับการตงั รับในหมู่บา้ น (ดูขอ้ ๔-๑๘)
ซึงภูมิประเทศสําคญั ได้แก่ อาคารทีแขง็ แรง ทางแยก โดยทีมนั ทีมพี ืนการยิงดี ควรจะอยยู่ า่ นกลางของจดุ
ตา้ นทานในการตงั รับ ทงั นีขึนอยู่กบั การพิจารณาปัจจยั METT-T ซึงการตงั รับในเขต อาจประกอบดว้ ย
การตงั รับเป็นจดุ ตา้ นทานหรือการตงั รับเป็นทีมนั รบ โดยเฉพาะทีตงั จดุ ตา้ นทานทอี ยบู่ นภูมิประเทศสําคญั
ยิงหรือมีการกําบงั จากภูมปิ ระเทศสาํ คัญยงิ จะส่งผลดียิงในการตงั รับ โดยอาคารทเี หมาะแก่การเตรียมการ
ตงั รับควรอยู่ขอบรอบนอกของเมืองตาม ผนวก ง
ง. รสพ. (BFV) ใชส้ าํ หรับ ต่อสูก้ บั รสพ.บีเอ็มพี, ยานรบล้อหุม้ เกราะของโซเวียตและยานยนต์
ลอ้ บีอาร์ดีเอ็ม ยิงคุม้ กนั เครืองกีดขวาง ตอ่ สู้กับการตีโตต้ อบดว้ ยรถถงั รวมทงั ใช้เคลือนยา้ ยกาํ ลงั พลและ
สิงอุปกรณ์เพือทาํ การรบและจากการสูร้ บ
จ. กองพนั สมทบดว้ ยรถถงั ใชส้ าํ หรับต่อสูก้ บั ถ. ขา้ ศึก, ยงิ คุม้ กนั เครืองกีดขวาง และใชท้ าํ การตี
โตต้ อบ ซึงโดยปกติจะใชเ้ ป็ นหนว่ ยขนาดหมวด แตใ่ นพนื ทแี ออดั อาจใชเ้ ป็นชดุ ปฏิบตั ิการ
ฉ. การยิง ป. และ ค. ใชส้ ําหรับยิงข่มและลดการมองเหน็ ของส่วนเฝ้ าระวงั ของขา้ ศกึ ทาํ การยิงตอ่
ทหารราบขา้ ศกึ ทเี ข้าประชิด ทาํ การยงิ ตอ่ ต้าน ป. และสนบั สนนุ การตีโตต้ อบโดยการยิงเล็งตรงและการ
ยงิ เล็งจาํ ลอง
ช. ทหารช่างใชส้ มทบใหก้ บั กาํ ลงั ส่วนรบหน่วงเวลา ในการวางทนุ่ ระเบิดและสรา้ งเครืองกีดขวาง
ถากถางพืนการยงิ เตรียมวางเสน้ ทางไปขา้ งหลงั และวางเครืองกีดขวาง นอกจากนีทหารช่างใชส้ นบั สนนุ
กาํ ลงั ในจุดตา้ นทานเพือช่วยในการจดั เตรียมทีมนั สาํ หรับการตอ่ สู้

- ๘๓ -
๔ - ๒๑ การรบหน่วงเวลาในพืนทสี ิงปลูกสร้าง

การรบหน่วงเวลามีวตั ถุประสงค์เพอื ถ่วงเวลาข้าศึก ทาํ ใหข้ า้ ศกึ สูญเสียลม้ ตาย และหยดุ ยงั ขา้ ศึก
โดยไมท่ าํ การรบแตกหกั หรือทาํ ใหข้ า้ ศกึ เสียกลยุทธ์ นอกจากนียงั สามารถหนั เหทิศทางตามขา้ ศึกหรือภมู ิ
ประเทศเฉพาะ เชน่ อาคารสาํ คัญหรือนิคมโรงงาน

ก. ความสาํ เร็จในการรบหนว่ งเวลาในพืนทสี ิงปลกู สร้างเกิดจากการซมุ่ โจมตี และการตงั รับเป็ น
ทีมนั รบ (รูปที ๔-๑๑)

๑) การซุ่มโจมตี เป็นแผนร่วมกบั การใชเ้ ครืองกีดขวางและการประสานอยา่ งใกล้ชิดแตป่ ฏิบตั ิ
แบบแยกการ โดยการวางกาํ ลงั ของกองพนั เฉพาะกิจจะวางเป็นแนวขา้ มเสน้ ทางถนนสายสําคญั ทงั นีการ
ซุ่มโจมตีสามารถใชร้ ่วมกบั การเขา้ ตีทีหมายจาํ กดั ทางปี กของขา้ ศกึ ซึงมกั ไดผ้ ลบริเวณขอบของทีโล่งแจง้
สวนสาธารณะ ถนนกวา้ ง เป็นต้น โดยใชป้ ฏิบตั ิการของรถถงั และ รสพ. (BFV )ทีคุม้ กนั โดยทหารราบ

๒) การตงั รับเป็นทมี นั รบ จะตอ้ งวางอาวุธหนกั ไดแ้ ก่ รถถัง รสพ. (BFV) จรวดโทว์ (TOW)
อาวุธตอ่ สู้รถถัง และปื นกล ในทีทมี ีพืนการยิงดีทีสุด บริเวณทางแยกถนนหลกั ตดั กนั ซึงทีมนั รบจะตอ้ งมี
การเตรียมการอยา่ งระมดั ระวงั ด้วยความประณีต เพิมเติมดว้ ยเครืองกีดขวางและอาคารทถี กู ทาํ ลายและ
สนบั สนนุ การยิงคุม้ ครองดว้ ย ป.และ ค. ทีสร้างความสูญเสียในการจดั รูปขบวนเขา้ ตีประณีตใหก้ บั ขา้ ศกึ

ข. รถถงั รสพ. (BFV) และอาวธุ ตอ่ สู้รถถงั จะตอ้ งจดั เตรียมไวใ้ นทีมนั หลกั และทมี นั สํารองเพือ
เติมความแขง็ แรง และประสานความร่วมมือตงั แตก่ ารถอนตวั จากการซุ่มโจมตี จนกระทงั มคี วาม
ปลอดภยั ในทีมนั รบ

ค. พัน ฉก. ใชไ้ ดผ้ ลดีทสี ุดเมอื วางกาํ ลังรบหน่วงเวลาเป็นสองระลอก โดยเลือกใชว้ ิธีใดวธิ ีหนึง
ระหวา่ งการซุ่มโจมตีกบั การตอ่ สูใ้ นทีมนั รบ เมอื ขา้ ศกึ บกุ เข้าทีมนั รบ กองร้อยจะผละจากการปะทะและ
ทาํ การรบหน่วงเวลาไปยงั ทีมนั รบขนั ต่อไป และเมือผ่านกองรอ้ ยดา้ นหลงั จะทาํ การสถาปนาทีมนั ใหม่
โดยใชค้ วนั กําบงั และการทาํ ลายช่วยในการผละจากการปะทะ ขณะทีสว่ นระวงั ป้ องกันทางปีกทาํ การ
ป้ องกนั การโอบทางปี กส่วนหน่วงเวลาและกองหนุนขนาดเลก็ ทาํ การโตต้ อบการกระทาํ ทีไมไ่ ดค้ าดคดิ
ของขา้ ศกึ รวมทงั ดาํ รงความหนุนเนืองในการเขา้ ตีทางปีกของขา้ ศกึ

ง. ความมงุ่ หมายการใชค้ วามพยายามทางการชา่ ง ได้แกก่ ารสนับสนนุ แบบรวมการในการจดั
เตรียมทีมนั รบหรือใชส้ นบั สนุนแบบแยกการใหก้ ับกาํ ลังส่วนซุ่มโจมตี

จ. เขตความกวา้ งของกองพนั เฉพาะกิจ ขึนอยกู่ บั สภาพของสิงปลกู สร้างและเครืองกีดขวางตาม
ถนน รวมทงั เวลาทีตอ้ งการในการรบหน่วงเวลา

- ๘๔ -

รูปที ๔-๑๑ กองพันรบหน่วงเวลาในพนื ทสี ิงปลูกสร้าง
ตอนที ๖

แผนการตังรั บข องกองร้ อย
แผนการตงั รับของกองร้อยในพืนทีสิงปลูกสร้าง ขึนอยกู่ บั ขนาดและทตี งั ของพืนที ซึงตอ้ ง
พิจารณาปัจจยั หลายประการกอ่ นการจดั ทาํ แผน
๔ - ๒๒ การตังรับในหมู่บา้ น
หลงั จากทีผูบ้ งั คบั กองร้อยเสรจ็ สินการลาดตระเวนหม่บู า้ น จะทาํ การสอดแนมภมู ิประเทศ
โดยรอบ และรวบรวมขา่ วสาร เพือใชพ้ ฒั นาแผนการตงั รับ (รูปที ๔-๑๒) ซึงการในขนั ตน้ จะตอ้ ง
พิจารณาใชท้ หารราบ ทาํ การตงั รับบริเวณขอบนอกของหมู่บา้ นหรือถอยลกึ เขา้ ไปในหมบู่ า้ น

- ๘๕ -

รูปที ๔-๑๒ กองร้อยตังรับในหมู่บ้าน

ก. มีปัจจยั จาํ นวนมากทสี ่งผลกระทบตอ่ การตัดสินใจของผู้บงั คบั บญั ชา ได้แก่ กองรอ้ ยตอ้ งรูช้ นิด
ของขา้ ศกึ ทีจะทาํ การตงั รับ หากฝ่ ายเขา้ ตีเป็นทหารราบทลี งรบจากรถเป็นหลกั จะเป็ นอนั ตรายจากความ
ไดเ้ ปรียบในการเดินเทา้ เขา้ พืนทีในเมือง ถา้ เป็นทหารราบยานเกราะ/บรรทกุ ยานเกราะจะมีอนั ตรายจาก
การรวมอํานาจการยงิ ทาํ ลายทมี นั ตงั รับของกองร้อย นอกจากนีผู้บงั คับกองร้อยจะตอ้ งพิจารณาภูมิ-
ประเทศไปขา้ งหนา้ และทางปีกของหมบู่ า้ นซึงขา้ ศกึ สามารถใช้ทาํ การยงิ เลง็ ตรงมายงั ทีมนั

ข. หมวดจะไดร้ ับมอบพืนทอี าคารกลมุ่ เลก็ ๆเพือเตรียมการตงั รับ โดยใหอ้ าํ นาจผูบ้ งั คับหมวดใน
การกาํ หนดทีตงั ของหมู่ทีสามารถใหก้ ารสนบั สนุนซึงกันและกนั เป็นการเพิมพืนทีของหมวดในการ
ควบคุมและขดั ขวางขีดความสามารถของขา้ ศกึ ในการแยกหมวดให้โดดเดยี ว หรือทาํ การออ้ มผ่านพืนที
ของหมวด โดยหนึงหมวดจะรับผิดชอบเส้นทางผ่านหมูบ่ า้ น ส่วนหมวดทีเหลือจะเขา้ ทีมนั ทาํ การป้ องกนั
รอบตัวและตงั รับในทางลึก

ค. ทตี งั ค. ของกองรอ้ ยจะเลือกให้ปลอดภยั จากการยงิ เล็งตรงและไมม่ ีสิงกีดขวางเหนือศีรษะ และ
รสพ. (BFV) และรถสายพานลาํ เลยี งพลหุม้ เกราะ (รสพ.) ของกองรอ้ ยจะเขา้ ทีมนั ดา้ นหลงั ของอาคารและ
สนามหญา้ ในบา้ น ทซี ึงระบบอาวธุ สามารถเพิมการป้องกนั ด้านหลงั และทางปี กใหก้ บั ส่วนระวงั ป้องกนั

- ๘๖ -
ซึงยานรบทไี ดร้ บั มอบภารกิจในทมี นั หลกั ทีมนั สํารอง และทีมนั เพิมเติมจะตอ้ งกําหนดเขตการยงิ หลกั
และเขตการยิงรองไวด้ ว้ ย โดยกาํ หนดทีมนั ภายใตก้ ารกาํ บงั ของกาํ แพงและเศษซากปรักหกั พงั รสพ.
(BFV) และ รสพ. ภายใตก้ ารควบคมุ ของผูบ้ งั คบั หมวดตอ้ งการการส่งกาํ ลังเพิมเติม การส่งกลบั สาย
แพทย์ และการเปลียนทีตงั เร่งด่วนในระหวา่ งการรบ

ง. ผู้บงั คบั กองร้อยจะกาํ หนดทีตงั ขบวนสมั ภาระของกองร้อยลาํ ไปขา้ งหน้า ใกลก้ บั ทางหลวงเพอื
ความง่ายในการปฏิบตั กิ ูซ้ อ่ มและการซอ่ มบาํ รุง และกาํ หนดทีตงั ทีตรวจการณ์ในทีทีมีพืนการตรวจการณ์
ไดด้ ีทีสุด

จ. ผูบ้ งั คบั กองร้อยจะตดั สินใจวา่ อาคารใดควรจะทาํ ลาย เพอื สร้างพืนการยงิ ทดี ีในการเอาชนะ
ขา้ ศึก แต่การทาํ ลายอาคารเร็วเกนิ ไปหรือมากเกินไป อาจเปิ ดเผยทตี งั และทาํ ลายสิงกาํ บงั จากการยิงเลง็
ตรง ซึงจรวดโทว์ (TOW) ของกองร้อยจะเขา้ ทีตงั ยิงในทสี ูงในพืนทรี อบๆ เมือง เพือใหม้ ีพืนการยิงไป
ขา้ งหนา้ และทางปี ก

ฉ. ถ้า มว.ถ.ไดร้ ับมอบจากกาํ ลงั เฉพาะกิจ ผู้บงั คบั กองรอ้ ยจะวางกําลงั บริเวณขอบหน้าซึงสามารถ
สนธิการยิง กบั จรวดโทว์ (TOW) และจรวดดรากอน (DRAGON)ไดอ้ ย่างรวดเร็ว โดย ผบ.มว.ถ. จะเลือก
ทตี งั ยิงและกาํ หนดเขตการยิง และเมือเผชิญหนา้ กับทหารราบข้าศึก รถถังจะเคลอื นทเี ขา้ ทีมนั สํารอง
ภายใตก้ ารคุม้ ครองของทหารราบ และในทีมนั สาํ รอง ถ. จะทาํ การรบปะทะทางดา้ นหนา้ และทางปี กโดย
เคลอื นทีใหน้ อ้ ยทีสุด และหลงั จากถอนตัวจากขอบหนา้ ของเมือง ถ.จะแปรสภาพเป็นกองหนนุ เคลือนที
เร็วใหก้ บั ชุดปฏิบตั ิการ

ช. การยิงป้องกนั ขนั สุดทา้ ย ได้วางแผนเตรียมไวส้ าํ หรับภยั คุกคามขนาดใหญข่ องหมวด จากทหาร
ราบขา้ ศึก สาํ หรบั ในพืนทีสิงปลูกสร้าง ค. จะใชไ้ ดผ้ ลมากกวา่ ป. เนืองจากสามารถยิงมุมสูงไดด้ กี ว่าและ
มีโอกาสมากกวา่ ในการกระทบเป้ าหมายบนทอ้ งถนน

ซ. เครืองกีดขวาง ทใี ชก้ ดี ขวางยานพาหนะเป็ นหลกั จะสรา้ งได้ง่ายในพืนทีสิงปลกู สร้าง ซึงผู้
บงั คบั กองรอ้ ยจะตอ้ งหยดุ ยานพาหนะขา้ ศกึ โดยไมร่ บกวนการเคลอื นทีในหมบู่ า้ นของฝ่ายเรา โดยการวาง
หลุมระเบิดบนถนนหลกั ตามลาํ ดับ และวางทนุ่ ระเบิดรอบนอกของเมืองและตลอดเสน้ ทางทกี องรอ้ ยไม่
ใชเ้ คลือนที

ด. การสนบั สนนุ ของทหารช่าง โดยใชด้ ินระเบดิ พลาสติก ซี๔ (C4) และวตั ถรุ ะเบิดชนิดอืนๆ เพอื
เจาะช่องยิง และทาํ ลายเครืองกีดขวาง ซึงขึนอยกู่ บั ความเร่งด่วนของงานทีผูบ้ งั คบั บญั ชาไดส้ งั การใหห้ มู่
ทหารชา่ งสมทบหมวดทหารราบในการเตรียมการตงั รับในหมบู่ า้ นรวมทงั การจดั ทาํ แผนเครืองกีดขวาง
โดย ผบ.หมู่ ทีไดร้ ับมอบภารกิจจะใหค้ าํ แนะนาํ ทหารราบเกียวกบั สถานทีวางระเบิดทาํ ลายและผลที
ตอ้ งการ ตลอดจนใหค้ วามช่วยเหลือในการวางและบนั ทกึ สนามทนุ่ ระเบดิ อีกทงั ใหค้ วามช่วยเหลอื ในการ
เตรียมทตี งั ยงิ

- ๘๗ -
ต. การใชก้ ระสนุ ในพืนทสี ิงปลูกสร้างจะมอี ัตราสูง จึงตอ้ งสะสมกระสุนไวใ้ นทีมนั ของหมแู่ ละ
หมวด เพือหลีกเลียงการเคลือนยา้ ยเพือส่งกาํ ลังกระสนุ เพิมเติมในระหวา่ งการรบ
นอกจากนีจะตอ้ งสะสมยทุ โธปกรณ์ อาหาร นาํ ดืม เครืองมือปฐมพยาบาลใหเ้ พียงพอในทีมนั ของ
แตล่ ะหมู่ รวมทงั ปัจจยั ทผี ูบ้ งั คบั กองรอ้ ยจะตอ้ งพิจารณาเพิมเติม ไดแ้ ก่

การส่งกาํ ลงั เพิมเติม
การส่งกลับสายแพทย์
การติดตอ่ สือสาร
การยิงตอ่ สู้
แผนการพกั ผอ่ นและการเตรียมพรอ้ ม
การรักษาความปลอดภยั
ทศั นวิสยั จาํ กดั
การควบคุมพลเรือน
ถ. เพือเป็นหลกั ประกันการติดตอ่ สือสารทเี พียงพอ กองร้อยจะตอ้ งวางเครือขา่ ยทางสาย และ
พฒั นาแผนการใชพ้ ลสุ ญั ญาณ และการวางสายสํารองเพอื แกป้ ัญหาเมือสายหลักถูกตดั ขาดโดยยาน
พาหนะ ไฟ หรือข้าศึก รวมทงั ตอ้ งวางแผนการใชพ้ ลนาํ สารภายในหมบู่ า้ นดว้ ย
๔ – ๒๓ การตังรับในพืนทแี ออัดของเมอื ง
กองรอ้ ยในในพืนทีสิงปลกู สร้างอาจทาํ การตงั รบั ในพืนทีแออดั ของเมอื ง ใจกลางพืนทีอยอู่ าศยั
ซึงกาํ หนดการปฏิบตั กิ ารตามแผนการตงั รับของกองพนั และตอ้ งประสานสอดคลอ้ งกับการปฏิบตั ิการ
โจมตีของส่วนระวงั ป้องกนั ในการรบหน่วงเวลาหนา้ ทีมนั ของกองรอ้ ย โดยฝ่ ายตังรบั จะตอ้ งอาศยั ความ
ไดเ้ ปรียบจากอาคารทมี ีการป้ องกนั เป็นอย่างดีเพอื ใชใ้ นการควบคมุ เส้นทาง
ก. การจดั การตงั รับทีดีของกองรอ้ ย จะตอ้ ง

หยดุ การเข้าตีของข้าศกึ บนถนน โดยใชเ้ ครืองกดี ขวางและการยิงกราด
ทาํ ลายขา้ ศึกโดยการซุ่มโจมตีและการยงิ เล็งตรงจากทีมนั ทีเตรียมไว้
ขบั ไลข่ า้ ศึกออกจากการรบ หรือบงั คับใหอ้ ยใู่ นทีทกี องพนั จะทาํ การตีโต้ตอบ
ข. การปฏิบตั ิการของกองรอ้ ยจะไดผ้ ลดียิงขึน ถา้ มเี วลาลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศ จดั เตรียม
เครืองกดี ขวางและชอ่ งยงิ ซึงยานพาหนะทไี มใ่ ชใ้ นการตังรับจะไปรวมอยกู่ บั ขบวนสัมภาระรบของ
กองพนั สําหรับทีตรวจการณเ์ พิมเติมทจี ดั โดยหน่วยลาดตระเวน จะปฏิบตั ิการเวลากลางคืน โดยใชก้ าร
ติดต่อสือสารทางสายเป็นหลกั ทงั นีกองรอ้ ยจะตอ้ งจดั ลาํ ดบั ของทตี รวจการณ์ การตงั รับ และจดั กองหนุน
สาํ หรับการตีโตต้ อบ
ค. กาํ ลงั ตงั รับจะทาํ การซุ่มโจมตีตามเส้นทางทขี า้ ศึกจะเข้ามา ทาํ การยงิ คุม้ ครองเครืองกีดขวาง
และเตรียมการตงั รับอย่างแข็งแรงในอาคาร (ผนวก ง) ซึงกองหนนุ มกี ิจเฉพาะ ดงั นี

- ๘๘ -
เพิมเติมกาํ ลงั ยิงใหก้ ับการตงั รับ
ตอบโตอ้ นั ตรายทางปี ก
ตีโตต้ อบใหข้ ้าศกึ เสียการทรงตัว
ง. ทหารช่างควรควบคุมรวมการระดบั กองรอ้ ยในการสร้างเครืองกีดขวาง จดั เตรียมเส้นทาง
และช่วยเหลือในการเตรียมทีมนั ตงั รับ รวมทงั กองร้อยหรือชุด ถ. ทขี ึนสมทบจะตอ้ งเตรียมการยงิ
สนบั สนุนการยิงเล็งตรงอยา่ งหนัก ทาํ การสู้รบกบั ถ. ขา้ ศึก และใหก้ ารสนับสนนุ การตีโตต้ อบ
๔ – ๒๔ กองร้อยรบหน่วงเวลา
กองร้อยในการรบหน่วงเวลาปฏิบตั ิการเป็ นส่วนหนึงของกองพันในการตงั รับ (รูปที ๔-๑๓)
ปฏิบตั ิการทาํ ลายชดุ ลาดตระเวนของขา้ ศึกไกลออกไปบริเวณรอบนอกของเมอื ง และป้ องกนั การเจาะใน
พืนทสี ิงปลกู สรา้ ง รวมไปถึงการเกาะขา้ ศึกเพือหยงั กาํ ลงั และคน้ หาทีตงั ของส่วนเขา้ ตีหลกั

แนวขัน แนวขัน

แนวขัน แนวขัน

รูปที ๔-๑๓ กองร้อยรบหน่วงเวลาในพืนทสี ิงปลูกสร้าง

ก. เขตปฏิบตั ิการของกองรอ้ ย ควรจดั เตรียมเครืองกีดขวางเพือเพิมผลสาํ เร็จในการรบหน่วงเวลา
โดยทหารชา่ งจะจดั เตรียมเครืองกีดขวางบนเส้นทางหลกั แต่จะหลีกเลียงเสน้ ทางทีมีการกาํ บงั และซ่อน
พรางไวส้ ําหรบั การเคลือนทีของฝ่ายเราในการเพิมเติมกาํ ลงั การยา้ ยทีตงั และการส่งกาํ ลงั เพิมเติม ซึงเส้น
ทางเหลา่ นีจะถูกทาํ ลายเมอื ไมใ่ ชง้ าน

ข. ระบบอาวธุ ต่อสูร้ ถถงั จะถกู วางไวข้ อบนอกของเมอื งสําหรับทาํ ลายขา้ ศกึ ในระยะยิงไกลสุด
โดยวางไวใ้ นทีทมี กี ารกําบงั หรือจดั เตรียมไวใ้ นทกี าํ บงั และจะทาํ การยิงไปยงั เป้าหมายทีมองเห็นแลว้
ถอนตวั กลับหรือยา้ ยเขา้ ทตี งั ยงิ สาํ รอง ซึงในระดบั หมวดจะรับผิดชอบกวา้ งดา้ นหนา้ ประมาณ ๕๐๐-๗๐๐
เมตร (๑-๒ ช่วงตึก) นอกจากนีควรได้รับการสนบั สนุนเพิมเติมดว้ ยเครืองมือตรวจจบั หรือการชว่ ยส่วน
รวม-เพิมเติมกาํ ลงั ยิง โดยทาํ การติดตงั ไวบ้ ริเวณขอบนอกหรือทีสูง สําหรบั การรบหน่วงเวลาของหมวดจะ
ใชเ้ ทคนคิ การลาดตระเวนทีตรวจการณ์ การซุ่มโจมตี และอาศยั ความไดเ้ ปรียบจากเครืองกีดขวางทงั มวล

- ๘๙ -
เพือทาํ การผละจากการรบปะทะ และการถอนตวั โดยในเวลากลางวนั จะกระจายกาํ ลงั ออกไป ส่วนใน
เวลากลางคืนจะรวมกาํ ลงั เขา้ ดว้ ยกนั โดยการประสานอยา่ งใกลช้ ิดเป็นสิงสําคญั ยงิ เพอื ความอยรู่ อด

ค. รถถงั ใหก้ ารสนบั สนนุ หมวดโดยการรบปะทะกบั ถ. ขา้ ศึก เพิมเติมกําลงั ยงิ ช่วยในการผละจาก
ขา้ ศึก และทาํ การยิงคุม้ ครองเครืองกีดขวาง

ง. รสพ.(BFV) สนับสนุนหมวดในลกั ษณะเดียวกบั ถ. ยกเวน้ การเขา้ ทาํ การรบปะทะกบั ยานรบลอ้
หุม้ เกราะของโซเวยี ต, รสพ.บีเอ็มพี (BMP) และยานยนต์ลอ้ บีอาร์ดีเอ็ม (BRDM)
๔ – ๒๕ การตังรับทวี งเวยี น

กองรอ้ ยปื นเล็ก หรือชุดของกองรอ้ ยอาจไดร้ ับมอบภารกิจใหท้ าํ การตงั รับทวี งเวียนจราจรที
สาํ คัญในพืนทีสิงปลกู สรา้ ง เพือป้องกนั การยึดครองของข้าศกึ (รูปที ๔-๑๔)

รูปที ๔-๑๔ การตังรับในวงเวียนจราจร
ก. ผู้บงั คับกองร้อยทีไดร้ ับมอบภารกิจนีจะตอ้ งวิเคราะหเ์ สน้ ทางเข้าของขา้ ศึก และอาคารสําคญั ที
ใชค้ วบคุมเสน้ ทาง รวมทงั วางแผนการใชอ้ าํ นาจการยงิ ทงั หมดทีมอี ยทู่ งั ในวงเวยี นและจากภายนอก
นอกจากนีจะตอ้ งวางแผนการตงั รบั รอบตัวบริเวณอาคารสําคญั ทีใชค้ วบคุมพืนทีวงเวียนเพือป้องกนั การ
โอบลอ้ ม ผูบ้ งั คบั บญั ชาจะตอ้ งเตรียมเส้นทางทีมกี ารกําบงั ซ่อนพรางระหวา่ งอาคารใหม้ ากทีสดุ เทา่ ทีจะ
ทาํ ได้ เพือความง่ายในการรวมอํานาจการยิงหรือยา้ ยการยิง และการปฏิบตั ิการตีโตต้ อบ
ข. เครืองกดี ขวางสามารถจะกนั มใิ หข้ า้ ศึกใชว้ งเวียนจราจร ซึงแผนเครืองกีดขวางในกรณีนีจะตอ้ ง
พิจารณาหากฝ่ ายเราตอ้ งการใชป้ ระโยชน์จากวงเวียน การใช้จรวดโทว์ (TOW) และจรวดดรากอน
(DRAGON) สามารถทาํ การยิงขา้ มวงเวียนไดถ้ า้ พืนการยงิ มคี วามยาวเพียงพอ สาํ หรบั ถ. จะใชต้ อ่ สู้กบั


Click to View FlipBook Version